ศรีลังกา 469 พระลูกศิษย์อีกรูปหนึ่งนามว่าพระญาณรัตนเถระ เจ้าอาวาสวัดอัตตนคัลล วิหาร ได้แต่งกลอนอาศัยข้อมูลจากคัมภีร์หัตถวนคัลลวังสะเป็นพ้ืนฐาน ส่วนพระฮีนฏิ กุมบุเร สุมังคลเถระ ได้แต่งคัมภีร์มิลินทปัญหาเป็นภาษาสิงหลชื่อว่าศรีธรรมาทาสยะ หรือแว่นแห่งพระสัทธรรม ตามค�ำทูลนิมนต์ของพระเจ้ากีรติศรีราชสิงหะ ผู้แต่งระบุ ว่าเป็นศิษย์ผู้ใหญ่ของอัตตรคมบัณฑาระ โดยแต่งคัมภีร์เล่มน้ีท่ีอุโบสถอารามของ ส�ำนักมหาวิหาร ณ สิริวัฑฒนปุระ (เมืองแคนดี) ในปีพุทธศักราช ๒๓๒๐๔๕ คัมภีร์ มิลินทปัญหาเล่มน้ีเป็นการถอดความมาจากภาษาบาลี ยกเว้นบางส่วนท่ีเพิ่มเข้ามาเพ่ือ ให้เนื้อหาสมบูรณ์ชัดเจนขึ้น บางส่วนได้เพิ่มใส่พระโอษฐ์โดยเฉพาะพุทธพยากรณ์ ซึ่งไม่ปรากฏมีในต้นฉบับภาษาบาลี ดังเช่น คราวเมื่อพระพุทธเจ้าใกล้เข้าสู่ปรินิพพาน ทรงทราบด้วยพระญาณว่าหลังพระองค์ปรินิพพานส้ินแล้ว ๕๐๐ ปี จะมีการโต้วาทะ ระหว่างพระเจ้ามิลินท์กับพระนาคเสนเถระ เป็นต้น พระภิกษุอีกรูปหนึ่งนามว่าพระทรมิฏิโปละ ธัมมรักขิตเถระ ได้แต่งสันเน ภาษาสิงหลชื่อว่ามหาสติปัฏฐานสูตร นอกจากน้ัน ยังมีนักปราชญ์อีกหลายท่านที่ช่วย กนั ผลติ ตำ� ราภาษาสงิ หล บางเลม่ ไดร้ บั การยอมรบั วา่ เปน็ คมั ภรี ม์ สี าระสงู ลำ�้ ๔๖ สนั นษิ ฐาน ว่ายุคนี้อาจจะเป็นยุคของอักขรมาลา (Akkhara-mala) กล่าวคือต�ำราอักษรภาษาบาลี และภาษาสิงหลเล่มเล็ก พระธัมมรักขิตเถระระบุว่าอักษรภาษาบาลีเบื้องต้นแต่งข้ึน โดยบูรพาจารย์ผู้มีชื่อเสียงต้ังแต่เริ่มต้นกัลป์ ประกอบด้วยสระมากมายที่ใช้ในปัจจุบัน และพยัญชนะ ๒๕ ตัว แบ่งเป็น ๕ ชั้น ต�ำราเล่มนี้แต่งเป็นฉันท์ภาษาบาลีพร้อมด้วย สันเนสิงหล ผู้เขียนระบุนามว่าพระนาคเสนเถระ แต่ไม่มีข้อมูลแวดล้อมกล่าวถึงผู้ เขียนเลย สมัยเดียวกันนี้ยังมีต�ำราอีกสองเล่มนามว่ากายวิรติคาถาและศรันคารรส- รัตนมาลา คัมภีร์เล่มแรกแต่งเป็นฉันท์ภาษาบาลี ประกอบด้วย ๒๗๔ พระคาถา ไม่ระบุชื่อผู้แต่ง เน้ือหาแบ่งออกเป็นสองบท บทแรกอธิบายเกี่ยวกับกาย ความสกปรก ๔๕ Colombo Edition, 1878. ๔๖ See Wickremasinghe, Catalogue, p. xxii, introduction and text, passim. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 469 1/18/20 1:17 PM
470 ยุคเส่ือม ทางรา่ งกายทคี่ นโงเ่ ขลาหลงชนื่ ชมวา่ สวยงาม สว่ นบททสี่ องอธบิ ายเรอ่ื งจติ และประโยชน์ จากการพัฒนาจิต จนมนุษย์สามารถบรรลุจุดสูงสุดคือพระนิพพาน๔๗ ฉบับแปลเป็น ภาษาสิงหลเป็นผลงานของผู้เขียนคนเดียวกันกับผู้แต่งฉันท์ภาษาบาลี ฮาร์ดี กล่าวว่ากายวิรติคาถาสันเนเป็นต�ำราเล่มหน่ึง ซ่ึงตัวเองได้ถือเอาเป็น แบบอยา่ ง เพอื่ เตรยี มเขยี นหนงั สอื คมู่ อื พระพทุ ธศาสนา และยำ้� วา่ ควรอา่ นเพอ่ื ประณาม อาชญากรรม เพราะพวกอาชญากรอาจจะไม่รู้สึกโศกเศร้าที่ต้องสละท้ิงความเกี่ยวพัน กับส่ิงช่ัวร้ายนานัปการ๔๘ ส�ำหรับคัมภีร์ศรันคารรสรัตนมาลานั้น เป็นต�ำราเก่ียวกับรูปแบบการเต้นร�ำ แต่งเป็นโคลงภาษาบาลีมีค�ำแปลภาษาสิงหลก�ำกับไว้ด้วย งานเขียนประเภทน้ีมีเล่ม เดียวในลังกา คัมภีร์อธิบายถึงรูปแบบการเต้นร�ำมีท้ังหมด ๘ ท่า ได้แก่ ศรังคาระ (โลภะ) หาสยะ (ความรื่นเริง) กรุณา (ความเศร้าโศก) รุทรา (โมโห) วีระ (กีฬา) ภยานกะ (ความกลัว) พีภัตสะ (ความน่าขยะแขยง) และอัธภูตะ (ศิลปะความสามารถ เกินธรรมดา) ผู้เขียนกล่าวไว้ว่า ต�ำราบางเล่มเพิ่มส่วนท่ีเก้าเข้ามาด้วย เรียกว่า ศยานตะ (ความเพลิดเพลิน) ส�ำหรับต�ำราเล่มนี้ส่วนที่เก้าได้รวมเข้ากับส่วนที่แปดแล้ว ลักษณะของหนังสือเขียนด้วยลีลาหลากหลาย เป็นงานท่ีน่าสนใจมากเล่มหน่ึง แต่ มิใช่เพื่อส่ิงอ่ืนใด เพียงแสดงความพิเศษแตกต่างจากต�ำราเล่มอื่นเท่าน้ัน ๔๗ Published in Colombo, 1881. 1/18/20 1:17 PM ๔๘ Manual of Buddhism, 2nd ed., p. 540. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 470
ศรีลังกา 471 ฮอลันดาโจมตีป้อมปราการเมืองโคลัมโบของโปรตุเกส (คัดลอกภาพจาก http//sing.raremaps. com) ทูตฮอลันดาเข้าเฝ้ากษัตริย์แห่งอาณาจักรแคนดี (คัดลอกภาพจาก http//sing.raremaps.com) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 471 1/18/20 1:17 PM
472 ยุคเส่ือม บ้านพักของขุนนางผู้ใหญ่สมัยอาณาจักรจัฟฟ์นา (คัดลอกภาพจาก www.google.co.th/maps) ป้อมปราการเมืองบัตติคาโลว์ (คัดลอกจาก www.google.co.th/maps) 1/18/20 1:17 PM 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 472
ศรีลังกา 473 การแต่งกายของทหารฮอลันดาสมัยโบราณ (คัดลอกภาพจาก www.theantiquarium.com) ขบวนแห่ของขุนนางแคนดี (คัดลอกภาพจาก htt//en.wikipidia.org) 1/18/20 1:17 PM 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 473
474 ยุคใหม่ภายใต้อังกฤษ 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 474 1/18/20 1:17 PM
ศรีลังกา 475 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 475 1/18/20 1:17 PM
ภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดศรีสุโพธาราม เขตเดหิวาละ เมืองหลวงโคลัมโบ 1/18/20 1:17 PM 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 476
บทที่ ๑๕ ยุคใหม่ภายใต้อังกฤษ ลังกาสูญส้ินอิสรภาพ หลังจากพระเจ้ากีรติศรีราชสิงหะสวรรคตสิ้นแล้ว พระอนุชาธิราชก็ขึ้นครอง ราชย์สืบแทน มีพระนามว่าพระเจ้าราชาธิราชสิงหะ พระองค์ทรงด�ำเนินรอยตาม พระราโชบายของพระเชษฐาธิราชเจ้า ด้วยเป็นองค์เอกอุปถัมภ์พระพุทธศาสนา โปรดให้นิมนตค์ ณะสงฆ์ประชุมพรอ้ มกันออกกตกิ าวัตร๑ เพ่ือสรา้ งความสมานสามคั คี อันจะก่อเกิดมีความดีงามภายในคณะสงฆ์ พระองค์น้ันทรงเป็นนักปราชญ์แตกฉาน ด้านภาษาบาลี ภาษาสันสกฤต และภาษาสิงหล อีกทั้งแวดล้อมด้วยข้าราชบริพารผู้คง แก่เรียน๒ ทรงรจนากวีนิพนธ์ภาษาสิงหลนามว่าอสทิสชาดก ซ่ึงเป็นหนังสือท่ีงดงาม สละสลวยด้วยส�ำนวนภาษา สมบูรณ์ด้วยท่วงท�ำนองแห่งคีตนิพนธ์และร�่ำรวยด้วย จินตนาการ๓ พ.ศ.๒๓๒๕ อังกฤษประกาศสงครามกับฮอลันดาบนผืนเกาะลังกา เพียง ปีเดียวเท่านั้นก็สามารถยึดท่าเรือตรินโคมาลีได้ อังกฤษน้ันค้าขายกับอินเดียสร้าง ความร่�ำรวยมาเกือบ ๒๐๐ ปี การยึดอ�ำนาจจากฮอลันดาถือว่าเป็นผลดีถึงสองทาง กล่าวคือป้องกันเขตการค้าของตนและล้างอายที่ฮอลันดากล้าท�ำการค้าแข่งกับตนมา นานนับสองทศวรรษ ก่อนหน้าน้ีอังกฤษได้ส่งทูตเข้ามาเฝ้าพระเจ้ากีรติศรีราชสิงหะ เพ่ือเจรจาท�ำสัญญาการค้ากับอาณาจักรแคนดี คราวนั้นกษัตริย์ลังกาต้อนรับด้วย มิตรไมตรีอันดียิ่ง แต่การเจรจากลับไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด๔ ๑ Wickremasinghe, p. xxii. ๒ ตีพิมพ์ในลักษณะของกวีนิพนธ์ภาษาสิงหลหลายครั้ง (กวีสังครา) ๓ M.V., Supplement to chapter. c, vv. 13-14. ๔ Tennent, vol. ii, p. 46. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 477 1/18/20 1:17 PM
478 ยุคใหม่ภายใต้อังกฤษ พ.ศ.๒๓๓๘ สงครามยุโรปปะทุข้ึน ผลจากสงครามคร้ังน้ันท�ำให้ฮอลันดา พ่ายแพ้สิ้นแรงแข่งขัน เปิดช่องให้อังกฤษซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ท่ีอินเดีย ถือโอกาสเข้า ยึดครองดินแดนของฮอลันดาบนเกาะลังกาทันที คราวน้ันพระเจ้าราชาธิราชสิงหะแห่ง อาณาจักรแคนดี เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับข้าหลวงอังกฤษแห่งเมืองมัทราส เพ่ือขับไล่ ฮอลันดาพ่อค้าแห่งโคลัมโบให้ออกไปจากเกาะลังกา พ.ศ.๒๓๓๙ พันเอกสจ็วต (Colonel Stuart) น�ำก�ำลังทหารอังกฤษเข้าปิด ล้อมป้อมปราการเมืองโคลัมโบ จากน้ันส่ังให้ทหารฮอลันดายอมจ�ำนนและถอนก�ำลัง ออกจากป้อมเสีย เมื่อเห็นว่าพวกตนตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบยากต่อการต้านทาน ข้าหลวงฮอลันดาจึงได้ท�ำสัญญาลงนามยอมแพ้กับพันเอกสจ็วตผู้พิชิต ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๓๓๙ ธงชาติอังกฤษก็โบกสะบัดเหนือป้อมปราการเมือง โคลัมโบ๕ สองปีต่อมาพระเจ้าราชาธิราชสิงหะสวรรคต อัครเสนาบดีนามว่าปิลิมะ- ตะละอุเว ได้อัญเชิญพระราชนัดดาของพระองค์ ซึ่งมีพระชนมายุเพียง ๑๘ พรรษา ขึ้นครองราชย์สืบแทนมีพระนามว่าพระเจ้าศรีวิกรมราชสิงหะ แท้จริงแล้วอัครเสนาบดี ทา่ นนม้ี แี ผนชวั่ รา้ ยเกบ็ ซอ่ นไวใ้ นใจ ดว้ ยวา่ มคี วามปรารถนาอยา่ งแรงกลา้ ทจี่ ะขน้ึ ครอง บัลลังก์เสียเอง ได้สร้างเพทุบายเกล้ียกล่อมเหล่าเสนาอ�ำมาตย์ให้เอาใจออกห่างจาก ราชวงศ์นายักกร์๖ จากนั้นได้เจรจาเป็นความลับกับเฟรเดอริคก์ นอร์ธ (Frederick North) ผู้เป็นข้าหลวงอังกฤษคนแรกของลังกา ข้าหลวงนอร์ธแทนที่จะปฏิเสธการขายชาติของ อัครเสนาบดี กลับยกย่องยอมรับคนทรยศในต�ำแหน่งช้ันสูง ผลแห่งการเจรจาจบลง โดยข้าหลวงนอร์ธ จะเป็นคนหยิบย่ืนบัลลังก์ให้แก่อัครเสนาบดี ต้ังแต่นั้นเป็นต้นมา พระชนม์ชีพของพระเจ้าศรีวิกรมราชสิงหะก็ตกอยู่ในภยันตราย แม้พระองค์จะทรง ๕ Tennent, ii, p. 68. ๖ Ibid., pp. 76-8. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 478 1/18/20 1:17 PM
ศรีลังกา 479 ทราบแผนการลับน้ันเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่มีอ�ำนาจท่ีจะแตะต้องอัครเสนาบดีผู้ทรยศได้ พระองค์จึงหันไปเสวยน�้ำจัณฑ์ละทิ้งพระราชภารธุระทุกสิ่งอย่างส้ิน สมยั นีม้ ีพระภกิ ษรุ ปู หน่งึ นามวา่ สมุ ังคลกุนกนุ าวเถระชาวเมอื งแคนดี ได้เขียน บทกวีเป็นภาษาบาลีเล่มหน่ึง ท่านระบุว่าตนเองเป็นศิษย์ของพระรัมบุกเวลเลเถระ อีกท้ังเคยศึกษาเล่าเรียนกับพระสังฆราชสรณังกร นอกจากน้ัน ยังมีพระสงฆ์ที่ โดดเด่นอีกหลายรูป ดังเช่น พระโมรโตฏะธัมมขันธเถระ พระมัลวัตเตสิรินิวาสเถระ พระกดุเวลเถระ พระธัมมปาลเถระ พระธัมมานันทเถระ พระสิทธัตถเถระ และ พระสุนันทเถระ เป็นต้น สมัยเดียวกันนี้มีต�ำราฉันทลักษณ์เล่มหน่ึงชื่อว่ารามสันเดสะ แต่งเป็นโคลง ภาษาบาลีเรียงร้อยด้วยส�ำนวนอันวิจิตรบรรจง บรรยายถึงสาส์นน�ำส่งเทพวิษณุที่ราม เทวาลัย เขตหังคุรันเกตะ อ้อนวอนให้เทพวิษณุประพรมน�้ำอมฤตประทานพรแด่ พระเจ้าศรีวิกรมราชสิงหะ เนื้อความตามต�ำราได้บรรยายถึงความรุ่งเรืองของเมือง หลวงแคนดี อันพรั่งพร้อมงามวิลาศด้วยปราสาทราชวังวัดวาอารามและแม่น�้ำ น้อยใหญ่ อีกท้ังสรรเสริญพระเกียรติคุณของพระเจ้าแผ่นดินลังกา ต�ำราระบุว่าเขียน ข้ึนก่อนการร่วงโรยถอยหลังของกษัตริย์ลังกา เป็นเหตุน�ำมาซึ่งความโศกเศร้า สูญเสียทั้งแก่พระองค์เองและบ้านเมือง ผู้เขียนพยายามอธิบายความงามของนครแคนดี โดยใช้จุดเด่นของสระน้�ำ ยกข้ึนเป็นอุปมาสาธก หากศึกษารายละเอียดของหนังสือจะพบว่า ผู้เขียนมีอารมณ์ สุนทรีย์ไม่น้อย สังเกตได้จากการอธิบายความวิจิตรตระการตาของเมืองแคนดีและ ทะเลสาบน�้ำนม ซ่ึงถือว่าเป็นจุดเด่นส�ำคัญของนักจาริกผู้เดินทางมาเยือนนครแห่งน้ี ถือได้ว่าผู้เขียนเป็นผู้สนใจใฝ่เรียนรู้ท่ีโดดเด่นอีกรูปหนึ่ง แต่อีกมุมหนึ่งกลับทราบว่า ความรู้สึกไม่ปลอดภัยไร้ท่ีพ่ึง ซึ่งย่างตามรอยเท้าอย่างกระชั้นชิด ท�ำให้จิตใจของผู้ เขียนยากที่จะสร้างอารมณ์ยินดีตามความเป็นจริงได้ ถึงแม้ผู้เขียนจะพยายามหยุด ความโกรธเคือง และผ่านเลยความเลวทรามตามภาวะวิสัยของสามัญมนุษย์แล้วก็ตาม สมยั ตอ่ มาขา้ หลวงนอรธ์ ใหค้ วามชว่ ยเหลอื อคั รเสนาบดี ดว้ ยการกอ่ การจลาจล ขึ้นท่ัวอาณาจักรแคนดี เพ่ือข่มขู่ให้กษัตริย์ลังกาตอบโต้เสมือนเตือนว่าอังกฤษพร้อม 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 479 1/18/20 1:17 PM
480 ยุคใหม่ภายใต้อังกฤษ แล้วท่ีจะประกาศสงคราม แต่ความปรารถนาของข้าหลวงนอร์ธก็ไม่สัมฤทธ์ิผล เม่ือจ�ำต้องย้ายออกจากลังกาเสียก่อน (พ.ศ.๒๓๔๘) ส�ำหรับผู้สืบแทนอ�ำนาจต่อมาคือโรเบิร์ต บาวนิงค์ (Robert Browning) พ.ศ.๒๓๕๕ อัครเสนาบดีปิลิมะตะละอุเวผู้ทรยศถูกจับได้ กษัตริย์แห่ง อาณาจักรแคนดีรับสั่งให้ประหารชีวิตเสีย ในข้อหาพยายามลอบปลงพระชนม์ พระเจ้าแผ่นดินแห่งตน จากนั้นโปรดให้หลานชายนามว่าแอแฮเลโปละร้ังต�ำแหน่งอัคร มหาเสนาบดีสืบแทน แอแฮเลโปละน้ันไม่ต่างจากลุงของตนมากนัก เหตุเพราะคอยหา ช่องล้มล้างราชวงศ์นายักกร์อยู่เนืองนิตย์ เม่ือความลับถูกเปิดเผยอัครเสนาบดีได้ หลบหนีไปอาศัยอังกฤษคู่ปรปักษ์ ความโกรธาพยาบาทของกษัตริย์ลังกา จึงมาลงที่ ภริยาและบุตรชายหญิงของอัครมหาเสนาบดีแทน กล่าวกันว่าการลงโทษครอบครัว อัครมหาเสนาบดีคราน้ัน โหดร้ายทารุณที่สุดเท่าที่ปรากฏมีในประวัติศาสตร์ลังกา กษัตริย์ลังการับสั่งให้จับผู้ที่เก่ียวข้องเป็นจ�ำนวนมากจากน้ันให้ทรมานประหารชีวิตจน หมดสิ้น อัครมหาเสนาบดีแอแฮเลโปละโกรธแค้นยิ่งนัก จึงขอความช่วยเหลือจาก อังกฤษเพ่ือโค่นล้มราชวงศ์นายักกร์ เดือนมกราคม พุทธศักราช ๒๓๕๘ กองก�ำลังทหารอังกฤษเดินทางเข้า เหยียบเมืองแคนดีตั้งแต่เช้ามืด ท�ำการจุกช่องปิดล้อมเมืองหลวงทุกด้าน เพียงสอง สามอาทิตย์ชาวแคนดีทุกตัวคนก็ยอมจ�ำนนอ่อนน้อมต่ออังกฤษ ๒ มีนาคม ๒๓๕๘ ณ ท้องพระโรงเมืองแคนดี ได้มีการท�ำอนุสัญญา มอบอ�ำนาจทั้งหมดของเกาะลังกาถวายแด่กษัตริย์แห่งอังกฤษ เหตุการณ์เช่นน้ีตรงกัน ข้ามกับความคิดของอัครเสนาบดีแอแฮเลโปละที่ต้องการเป็นกษัตริย์ลังกา เมื่อส้ิน หนทางแกไ้ ขเหลา่ ขนุ นางจำ� ตอ้ งยนิ ยอมยกดนิ แดนใหเ้ ปน็ อาณานคิ มของราชอาณาจกั ร อังกฤษตามอนุสัญญาแคนดี ชาติสิงหลท่ีเคยด�ำรงความเป็นเอกราชมา ๒,๓๕๘ ปี ก็สูญส้ินอิสรภาพกลายเป็นเมืองข้ึนของคนนอกชาวยุโรป ทรัพย์สมบัติของชาติ ถูกครอบครองโดยอังกฤษอย่างสมบูรณ์แบบต้ังแต่บัดนั้นมา มีเพียงพิธีกรรมทาง พทุ ธศาสนาเทา่ นนั้ ทถ่ี กู ยกเวน้ และไดร้ บั สทิ ธคิ มุ้ ครอง แตเ่ ปน็ เพยี งภาวะจำ� ยอมเทา่ นนั้ หาใช่ความจริงใจของอังกฤษไม่ 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 480 1/18/20 1:17 PM
ศรีลังกา 481 พระเจา้ ศรวี กิ รมราชสงิ หะถกู องั กฤษกดขข่ี ม่ เหงไรค้ วามเคารพยำ� เกรง พระองค์ สงสัยว่าเหตุใดไพร่ฟ้าประชาชน จึงยอมก้มหัวศิโรราบมอบอ�ำนาจให้แก่คนต่างถิ่น อีกท้ังเหล่าขุนนางน้อยใหญ่ต่างยินยอมมอบอ�ำนาจด้วยการเคารพสรรเสริญศัตรู เพียงเพราะต้องการปล่อยเวลาให้เป็นเคร่ืองบ่งชี้วัดผล แม้พวกขุนนางได้รู้แจ้งเห็นจริง เกี่ยวกับสถานการณ์ของบ้านเมืองทุกสิ่งอย่าง แต่ความพยายามทั้งปวงก็ล้มเหลว ส้ินเชิง เพราะยากที่จะรวมตัวกันกอบกู้อิสรภาพในระยะเวลาอันสั้น เพียงสองสามปี ผ่านไปสถานการณ์ก็เงียบสงบ ชาวสิงหลที่ต้องการต่อสู้เรียกร้องอิสรภาพก็อ่อนล้า หมดแรง ต่างพากันพอใจอยู่ภายใต้การบริหารอันผ่อนผันของอังกฤษ พากันมุ่งหน้า หันมาเลี้ยงชีพตามปกตินับจากน้ันความสงบสุขก็เกิดขึ้นท่ัวทั้งแผ่นดิน จึงเป็นอีกคร้ังหน่ึงที่ความปรารถนาเพ่ือความผาสุกของบ้านเมืองบังเกิดผล อังกฤษพยายามทุกวิถีทางเพื่อพัฒนาประเทศชาติโดยใช้ทรัพยากรเท่าท่ีมีอยู่ เร่ิมจาก สร้างถนนหนทาง เปิดการค้าเสรี ถากถางป่าไม้ให้โล่งเตียนเพื่อท�ำไร่ชา พัฒนาองค์กร พลเรือนให้มีประสิทธิภาพ ปฏิรูประบบภาษีอากรแบบใหม่ และประยุกต์มาตรการอีก หลายอย่าง เพื่อความก้าวหน้าทางเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ก้าวย่างอีกอย่างหนึ่งคือการสนับสนุนส่งเสริมด้านศาสนาและการศึกษา ยอ้ นถอยหลงั ไปสมยั โปรตเุ กส พอ่ คา้ แหง่ ยโุ รปชาตนิ ดี้ ำ� เนนิ นโยบายบบี บงั คบั ชาวลังกาอย่างบ้าคลั่ง จุดประสงค์แท้จริงมิใช่การค้า แต่ต้องการเปล่ียนชาวพื้นเมือง ให้หันเข้ารีตเป็นคริสต์โดยใช้อ�ำนาจบีบบังคับ อ�ำนาจดังกล่าวหมายถึงเพทุบายทางการ ศึกษาจนต่อมากลายเป็นรูปธรรมน�ำส�ำเร็จผล ส่วนฮอลันดานั้นไซร้ถึงแม้จะใช้วิธี ปกครอง ต้องการเปล่ียนคนเข้ารีตน้อยกว่าโปรตุเกสก็จริง แต่ก็เป็นท่ีรู้กันว่าไม่สนใจ สร้างความผาสุกแก่ชาวลังกาเลย เพราะคิดว่าหากการศึกษาแพร่หลายกว้างขวางออก ไป น้ันหมายความว่าฮอลันดาสามารถลดบทบาทการเอื้อเฟื้อสงเคราะห์กันและกันของ ชาวลังกา เป้าหมายหลักด้านการศึกษาของฮอลันดาคือ เสี้ยมสอนลูกหลานชาวสิงหล ท่ีจงรักภักดีต่อพระเจ้าแผ่นดินของตน ให้หันไปสวามิภักดิ์ความยิ่งใหญ่ของเจ้า อาณานคิ ม๗ ลกั ษณะเหน็ เดน่ ชดั ของฮอลนั ดาคอื ปฏเิ สธชว่ ยเหลอื ลงั กา เหน็ แกป่ ระโยชน์ ๗ Tennent, ii, p. 57. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 481 1/18/20 1:17 PM
482 ยุคใหม่ภายใต้อังกฤษ ส่วนตน อัตตานิยม โง่เขลา และต้องการสืบทอดอ�ำนาจตลอดไป๘ ย่ิงนโยบายด้าน ศาสนาของฮอลันดาแล้ว ย่ิงมีความลับซับซ้อนมากกว่าโปรตุเกสหลายเท่านัก เป็นผลให้ส�ำนักวาติกันแห่งโรมโกรธเคืองย่ิง พ.ศ.๒๒๐๑ รัฐบาลฮอลันดาได้ออกกฎหมายห้ามปรามการทรมานให้ตาย การดำ� เนนิ การเกยี่ วกบั ทา่ เรอื และการฝา่ ฝนื อำ� นาจของพวกบาทหลวงนกิ ายโรมนั คาทอลกิ ๙ สมัยเดียวกันน้ีเองบาทหลวงนิกายเพรสบีเทอเรียน (Presbyterian) สามารถเปลี่ยน ชาวลังกาผู้ไร้ท่ีพึ่งพาให้เข้ารีตเป็นคริสต์มากต่อมาก โดยเฉพาะเขตจัฟฟ์นาตอนเหนือ ประมาณกันว่ามีชาวคริสต์ ๑๘๐,๐๐๐ คน ภายใต้การดูแลของบาทหลวงเพียง สามท่าน การเข้ารีตหันไปนับถือคริสต์แพร่หลายลุกลามไปท่ัวทุกแห่งหน นักเรียน ทุกตัวคนตามโรงเรียนน้อยใหญ่ต่างถูกบังคับให้เข้ารีตกันหมดส้ิน สมัยนี้การศึกษาที่พวกมิชชันนารีหยิบย่ืนให้บังเกิดผลเพียงน้อยนิด เพราะ เน้นให้นักเรียนสามารถอ่านเขียนภาษาพื้นเมืองได้เท่านั้น ท้ังน้ีเพราะถูกกดดันอย่าง หนักจากรัฐบาลฮอลันดาที่เมืองปัตตาเวีย สังเกตได้จากจดหมายส่งถึงพวกมิชชันนารี หลายฉบับ ฮอลันดาได้แสดงความคิดเห็นอย่างรุนแรงว่า การอ่านเขียนไม่มีความ จ�ำเป็นส�ำหรับคนที่ด้อยโอกาส เช่นเดียวกับการสอนคนเหล่านี้ให้เข้าใจหลักค�ำสอน พื้นฐาน ซึ่งสามารถน�ำไปใช้ประโยชน์ได้เพียงน้อยนิด การเสแสร้งว่าเผยแผ่ศาสนา ด้วยการอ่านเขียน จึงถูกครหาจากบริษัทอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์ (Netherlands East India Company)๑๐ เพ่ือให้เป็นการง่ายต่องานเผยแผ่ค�ำสอนพระเยซูเจ้า รัฐบาลฮอลันดาจึง ประกาศต่อสาธารณชนว่าไม่มีใครสามารถข้ึนสู่ต�ำแหน่งมุดาลิยะร์หรือถือครองท่ีดิน ท�ำกินได้ ตราบใดที่ยังไม่เข้ารีตเป็นคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์และศรัทธาค�ำสอนมอบ ๘ M. Burnand, \"The Dutch in Ceylon\", Asiatic Journal, 1821, p. 444. ๙ Tennent, Christianity in Ceylon, pp. 41 foll. ๑๐ จดหมายของข้าหลวงแห่งเมืองปัตตาเวียถึงบัลเสอุส (Baldsenus, 18th Sept., 1662. See Baldsaenus, Descrip. of Ceylon, etc., p. 811.) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 482 1/18/20 1:17 PM
ศรีลังกา 483 กายถวายตัวต่อนิกายเฮลเวติค (Helvetic) ด้วยค�ำสั่งดังกล่าวคริสต์ศาสนิกชนจึง เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว๑๑ เพทุบายหลอกล่อด้วยสินบนเพื่อเหตุผลทางการเมืองเช่นน้ี สามารถชักจูงชาวลังกาให้หันเข้ารีตเป็นครสิ ตก์ ลายเปน็ ผลิตผลแหง่ เลห่ ์กลอันต�ำ่ ทราม ผลแหง่ การกระทำ� ดงั กลา่ วเกดิ ปฏกิ ริ ยิ ายอ้ นกลบั อยา่ งนา่ กลวั สรา้ งความเสยี หายรา้ ยแรง จนรัฐบาลจ�ำต้องหาวิธีการเพ่ือช่วยเหลือเยียวยาอยู่ร�่ำไป คร้ันเมื่อฮอลันดาลาจากเกาะ ลังกาได้ทอดทิ้งโครงสร้างอันเข้มแข็งของคริสต์ศาสนาเอาไว้ แต่กลับไม่เป็นท่ียอมรับ และไร้เสถียรภาพ เพียงไม่ก่ีปีต่อมาความทรงจ�ำอันเจ็บปวดแต่หนหลัง อันเน่ืองมา จากถูกฮอลันดาบีบบังคับกดขี่ข่มเหง ได้ค่อยลบเลือนหายไปจากจิตใจของชาวลังกา นโยบายของอังกฤษ ระยะแรกที่อังกฤษครองลังกาไม่ได้เยียวยาตราบาปท่ีโปรตุเกสเคยท�ำเอาไว้ และวางเฉยกับเล่ห์เพทุบายท่ีฮอลันดาเคยหว่านล้อมด้วยอามิส๑๒ สมัยข้าหลวงไมต์ แลนดไ์ ดอ้ อกกฎหมายล้มเลกิ ความเสียหายท่ีฮอลันดาเคยท�ำเอาไว้ (พ.ศ.๒๓๔๙) และ ต่อมาออกกฎหมายผ่อนผันการนับถือคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิก๑๓ แต่จาก พุทธศักราช ๒๓๗๒-๒๓๙๓ ไม่มีการเปล่ียนแปลงสิ่งใดเลย ชาวพุทธยังเป็นผู้รับใช้ ใตบ้ งั คบั บญั ชาเหมอื นเดมิ เดก็ เกดิ ใหมไ่ มม่ สี ทิ ธติ ามกฎหมายถา้ ยงั ไมเ่ ขา้ รตี เปน็ ครสิ ต์ ค่บู า่ วสาวประสงค์จะแต่งงานหากยังไมผ่ า่ นการเขา้ รีตเสยี กอ่ น พวกบาทหลวงก็ปฏเิ สธ ทีจ่ ะทำ� พิธีให๑้ ๔ ผคู้ นเข้าใจว่าการเขา้ รีตเป็นคริสตเ์ ปน็ เครื่องหมายบง่ บอกถงึ ความแตก ต่างของชนช้ัน ต่างยอมรับโดยทั่วกันว่าน้ีคือรัฐบาลของชาวคริสต์ เหมาะส�ำหรับผู้ ฝักใฝ่คริสต์ศาสนาเท่านั้น๑๕ ด้วยความจริงดังกล่าวชาวลังกาจึงได้ละท้ิงวัฒนธรรม ดั้งเดิมอย่างไม่ยั้งคิด เพราะเช่ือว่าการเป็นชาวคริสต์มิใช่เพียงความสุขในโลกหน้า เท่าน้ัน แต่ส�ำคัญกว่าน้ันคือพันธสัญญาส�ำหรับชีวิตในโลกน้ีน่ันเอง ๑๑ Tennent, Ioc. cit., p. 45. ๑๒ Ibid., p. 77. ๑๓ Ibid., pp. 75 and 91. ๑๔ Ibid., pp. 88-9. ๑๕ Ibid., p. 89. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 483 1/18/20 1:17 PM
484 ยุคใหม่ภายใต้อังกฤษ (บนซ้าย) ข้าหลวงเฟรเดอริคก์ นอร์ธ และ (บนขวา) ข้าหลวงโรเบิร์ต บราวนิงค์ (คัดลอกภาพจากwww.nationalgalleries.org) (ล่างซ้าย) ภาพพระเจ้าราชาธิราชสิงหะ และ (ล่างขวา) พระเจ้าศรีวิกรมราชสิงหะ กษัตริย์แห่งอาณาจักรแคนดี (คัดลอกภาพจาก https://en.wikipedia.org) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 484 1/18/20 1:17 PM
ศรีลังกา 485 (ซ้าย) เคร่ืองแต่งกายของทหารอังกฤษ และ (ขวา) เคร่ืองแต่งกายของทหารประจ�ำ ศรีลังกา (คัดลอกภาพจาก https://weaponsandwarfare.com) ภาพบรรยายการตอ่ สรู้ ะหวา่ งองั กฤษกบั ชาวศรลี งั กา (ภาพวาดโดย Prasanna Weerakkody) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 485 1/18/20 1:17 PM
486 ยุคใหม่ภายใต้อังกฤษ (บน) โรงแรมกอลลเ์ ฟซสมยั องั กฤษยคุ แรก และ (ลา่ ง) ภาพบรรยากาศเมอื งแคนดสี มยั อาณานคิ ม อังกฤษ (คัดลอกภาพจาก www.histecon.magd.cam.ac.uk) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 486 1/18/20 1:17 PM
ศรีลังกา 487 โบสถ์เก่าสมัยฮอลันดา เมืองหลวงโคลัมโบ (คัดลอกภาพจาก www.google.cot.h/maps) โบสถ์คริสต์เซ็นต์เซบาสเตียน เมืองเนกอมโบ (คัดลอกภาพจาก www.google.co.th/maps) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 487 1/18/20 1:17 PM
488 ยุคใหม่ภายใต้อังกฤษ การเปิดกว้างเพ่ือนับถือทุกลัทธินิกายของคริสต์ศาสนาเอง ก็เกิดการ ทับซ้อนต่อการท�ำงานของพวกมิชชันนารีหลากหลายกลุ่ม กล่าวคือ นิกายแบพติสต์ (Baptists) ถือก�ำเนิดข้ึนตั้งแต่อาณานิคมยุคแรก เม่ือ พ.ศ.๒๓๓๕ ติดตามด้วย นิกายเวสยันเมธอดิสต์ (Wesleyan Methodist) เม่ือ พ.ศ.๒๓๕๗ นิกายอเมริกัน (American) เข้ามาเม่ือ พ.ศ.๒๓๕๙ และอิงแลนด์เซิร์ซ (Church of England) เม่ือ พ.ศ.๒๓๖๑ นิกายเหล่านี้ท้ังหมดได้รับการสนับสนุนด้วยดีจากรัฐบาลอังกฤษ ทั้งในลังกาและอังกฤษแผ่นดินแม่ พ.ศ.๒๓๕๑ ข้าหลวงไมต์แลนด์พยายามออกกฎหมาย เพื่อมอบอำ� นาจให้ ชาวคริสต์สามารถควบคุมต�ำแหน่งส�ำคัญในองค์กรของรัฐบาล การกระท�ำดังกล่าวได้ รับการติเตียนจากรัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษ โดยท่านได้แนะน�ำย้�ำว่า การเสียสละทุ่มเทเพื่อพัฒนาการศึกษาเท่านั้น จึงจะถือว่าเป็นเร่ืองส�ำคัญเร่งด่วน มิใช่พิสูจน์ด้วยจ�ำนวนของชาวคริสต์มากหรือน้อย๑๕ ต่อมาพวกมิชชันนารีได้เข้าใจชัดแจ้งว่า การพรมน�้ำที่ใบหน้าและการย้�ำเตือน พิธีกรรมรับศีลล้างบาปน้ัน ไม่สามารถเกิดผลเชิญชวนชาวสิงหลให้หันมานับถือคริสต์ ได้ดังหวัง กลับท�ำให้ชาวสิงหลเกิดความรักหวงแหนวัฒนธรรมของตนมากขึ้น พวกมิชชันนารีจึงหันมาทุ่มเทสร้างโรงเรียนท่ัวเกาะลังกา โดยแบ่งงานออกเป็นแผนก ตามแผนการท่ีจัดเตรียมเอาไว้เป็นอย่างดี ลูกหลานชาวสิงหลจึงได้รับการเสี้ยมสอน ให้เช่ือถือยอมตามค�ำสอนของคริสต์ศาสนา กอ่ นนนั้ อารามวหิ ารตามหมบู่ า้ นคอื โรงเรยี นสำ� หรบั ชาวพทุ ธ พระสงฆท์ ำ� หนา้ ที่ เป็นครูสอนสรรพวิชาทั้งทางโลกและทางธรรม แต่เม่ือพวกคริสต์โรมันคาทอลิกครอง เมืองนานนับเวลาเกือบสองร้อยปี ระบบการศึกษาได้เกิดภาวะไร้กฎเกณฑ์ สมัยนี้แม้ โรงเรียนวัดยังคงมีอยู่เหมือนเก่าก่อน แต่ต�ำแหน่งส�ำคัญด้านการศึกษาพวกมิชชันนารี เขา้ มามบี ทบาทแทนทพี่ ระสงฆห์ มดสน้ิ โรงเรยี นทกุ แหง่ ไดร้ บั การสนบั สนนุ จากกองทนุ ๑๖ Tennent, op. cit., p. 85. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 488 1/18/20 1:17 PM
ศรีลังกา 489 ของพวกมิชชันนารีและงบประมาณของรัฐบาล เพียงแต่ไม่ประกาศเป็นทางการว่าเป็น ของชาวคริสต์ นักเรียนถูกบังคับให้แสดงความภักดีต่อพระเจ้าทุกเช้าเย็น และศึกษา คำ� สอนเกย่ี วกบั ศรทั ธาตอ่ พระผเู้ ปน็ เจา้ นกั เรยี นเหลา่ นน้ั จงึ ไมม่ โี อกาสเขา้ รว่ มพธิ กี รรม ตามศาสนาของตน มีค�ำแนะน�ำส่งถึงพวกมิชชันนารีตามโรงเรียนทุกแห่ง ให้ด�ำเนินการแทรกซึม บ่ันทอนความเช่ืออันงมงายของศาสนาบรรดามีบนเกาะลังกา (พวกมิชชันนารีพอใจ เรียกศาสนาอ่ืนเช่นน้ันยกเว้นศาสนาของตน) โดยโจมตีพิธีกรรมส�ำคัญหรือกิจกรรม ทางศาสนา เพ่ือแสดงให้นักเรียนเห็นถึงความเชื่อถือผิด ในการเคารพรูปปั้นและเปิด เผยความโง่เขลาของศาสนิกเหล่าอื่น จากน้ันชักชวนลูกหลานลังกาให้หันมาเจริญรอย ตามเอาอย่างจารีตของชาวคริสต์ เพทุบายดังว่าพัฒนาเป็นรูปร่างเกิดผลทีละเล็ก ทีละน้อย๑๖ จิตใจของนักเรียนเริ่มต่ืนเต้นช่ืนชอบส่ิงแปลกใหม่ ความเช่ือเดิมกลายเป็น ความสับสน ความสับสนก่อให้เกิดความเข้าใจผิด เม่ือความเข้าใจผิดต่อศาสนาเดิม เกิดขึ้น ค�ำถามเชิงต่อต้านก็ปรากฏมี ตามมาด้วยการปฏิเสธแบบเงียบเฉย เมื่อเช่ือว่า ศาสนาเดมิ เป็นความเชือ่ ผดิ จงึ ตอ้ งการความจริงอย่างอนื่ แทนท่ี ด้วยเพทบุ ายดังกลา่ ว นักเรียนจ�ำนวนมาก จึงหันไปเข้ารีตเป็นคริสต์ยอมรับค�ำสอนของพระเยซูเจ้า๑๗ ส�ำหรับการก่อตั้งโรงเรียนสอนภาษาพ้ืนเมือง (Vernacular School) ได้ สืบทอดโดยองค์กรแผนกโรงเรียนและแผนกจัดเตรียมหลักสูตร เพ่ือจัดการเรียนการ สอนภาษาอังกฤษ จากน้ันโรงเรียนทุกแห่งก็ด�ำเนินการตามนโยบายอันเดียวกัน แม้โรงเรียนส�ำหรับเด็กผู้หญิงก็เช่นเดียวกัน แท้จริงความพยายามเบ้ืองต้นของพวก มิชชันนารีน้ัน ต้องการก่อตั้งโรงเรียนส�ำหรับเด็กผู้หญิงเรียกว่าโรงเรียนกินนอน (Boarding School) โดยคาดหวังว่าเป็นสถานที่ท่ีเด็กผู้หญิงสามารถเรียนรู้งานบ้าน ๑๗ Tennent, op. cit., pp. 142 and 276. ๑๗ Ibid., p. 143. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 489 1/18/20 1:17 PM
490 ยุคใหม่ภายใต้อังกฤษ เม่ือเยาว์วัย รักษาพรหมจรรย์จนกว่าจะถึงวัยอันควรแต่งงาน ด้วยการเห็นชอบของ ผู้ปกครองชาวคริสต์๑๘ หากเป็นเช่นนั้นไซร้ พระพุทธศาสนาในสายตาของนักเรียน เหล่านี้ ก็จะกลายเป็นเพียงส่ิงไร้ค่าน่าดูหม่ินเหยียดหยาม ความพยายามทุกส่ิงอย่าง ท่ีพวกมิชชันนารีท�ำ ล้วนต้องการก�ำชัยเหนือจิตใจผู้ปกครอง อีกท้ังพยายามโจมตี ความงมงายของการเคารพบูชารูปปั้น และเยาะเย้ยดูหมิ่นการปฏิบัติตามค�ำสอน อันไร้สาระ ด้วยเหตุผลท่ีกล่าวมาทั้งหมดแล้วนั้น ความบาดหมางห่างเหินอันน่ากลัว ย่ิงกว่าระบบวรรณะ จึงเร่ิมปรากฏตัวครอบง�ำชาวสิงหลทั้งมวล โรงเรียนท้ังปวงมิได้ เอื้อประโยชน์ต่อการเรียนรู้ภาษาของตน อาจจะเข้าใจกันว่าความเช่ือถืองมงายของชาวลังกา (Superstitions) พบเห็น เด่นชัดที่สุดในวรรณคดี ส่วนประเพณีและหลักค�ำสอนล้วนถูกบิดเบือนและแทนที่ ดว้ ยความกา้ วหนา้ ดา้ นภมู ปิ ญั ญา ซงึ่ พบเหน็ ในหนงั สอื ตำ� ราอนั ดดั แปลงมาจากวรรณคดี ของยุโรป เกล่ือนกล่นด้วยแนวความคิดของคนนอก หมายรวมถึงประเพณีวัฒนธรรม และกระบวนการทางความคิด พวกมิชชันนารีพยายามป้อนข้อมูลแบบใหม่ เพื่อสอน ให้ลูกหลานชาวลังกาเกิดความชื่นชมคุ้นเคยและชาญฉลาดแยกแยะ เพทุบายอ่ืนอีกของชาวคริสต์คือปรับปรุงดัดแปลงให้ชาวลังกาเป็นคนเสพติด ข้อมูล จนต่อมากลายเป็นชัยชนะอันสมบูรณ์แบบ เคร่ืองมือก็คือการแสดงธรรม และการโฆษณาชวนเชอ่ื ดว้ ยวธิ กี ารหลากหลาย กลา่ วคอื การศกึ ษา การโฆษณาชวนเชอ่ื และการพิมพ์หนังสือแจกจ่าย พวกศาสนาจารย์ต่างพากันเดินทางเข้าไปแสดงธรรม ตามหมู่บ้านห่างไกลตามชนบท ส่วนแผนกโฆษณาชวนเช่ือได้จัดพิมพ์หนังสือแจกจ่าย เป็นจ�ำนวนมาก ทั้งท่ีเป็นคัมภีร์ส�ำคัญและค�ำสอนทั่วไป เพ่ือมอมเมาชาวบ้านให้เข้าใจ ว่าการบูชารูปปั้นเป็นความเช่ืองมงายของคนโง่เขลา แล้วประกาศอ�ำนาจสูงสุดและ เทวาก�ำเนิดของคริสต์ศาสนา ผลกระทบบังเกิดแก่ภาษาสิงหลตามหลุมพรางและ การโฆษณาเกินความเป็นจริง การสนทนาที่ยืดหยุ่นของภาษาสิงหล ซึ่งมีการผันไป ตามระบบการออกเสียง สามารถเอ้ือประโยชน์ต่อผู้พูดว่ามีความเคารพหรือไม่ ๑๘ Tennent., p. 159. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 490 1/18/20 1:17 PM
ศรีลังกา 491 ถูกแทนที่ด้วยการพูดเหลวไหล ท�ำให้ขาดความประณีตงดงามสูงล�้ำตามแบบภาษา สิงหลเดิมแท้ หลังจากด�ำเนินการตามเพทุบายจนประสบความส�ำเร็จ เพราะเจตนาต้องการ ให้ชาวพุทธเชื่อถือยอมตาม โดยโจมตีหลักศีลธรรมตามหลักตรรกวิทยา ชี้น�ำชาวพุทธ ให้เห็นถึงความเข้าใจผิด จากน้ันพวกบาทหลวงหันมาสนใจภาษาสิงหลและภาษาบาลี โดยศกึ ษาขอ้ มลู ทำ� ความเขา้ ใจเนอ้ื ความตามพระไตรปฎิ ก บดั นพ้ี วกบาทหลวงไดเ้ ขา้ ใจ ชัดแจ้งว่า เนื้อหาสาระของคัมภีร์พระไตรปิฎกพร่ังพร้อมสมบูรณ์ด้วยคุณลักษณะของ วรรณกรรม ซ่ึงคุณค่าเหล่านั้นยังไม่มีใครสามารถเข้าใจอย่างถ่องแท้ ปรากฏการณ์ คร้ังน้ีเรียกกันว่าการสร้างความเพลิดเพลินแบบใหม่ให้แก่วงวรรณกรรม หลงั จากนน้ั ไมน่ าน นกั วชิ าการรนุ่ ใหมห่ ลายทา่ นหนั มาสนใจคน้ ควา้ วรรณกรรม ของลังกา ดังเช่น ชาร์เตอร์ (Charter) ลัมบริค (Lambrick) คลัค (Clough) สเป็นซ์ ฮาร์ดี (Spence Hardy) และโกเกอร์ลี (Gogerly) นักปราชญ์เหล่านี้ช่วยกัน เขียนต�ำราไวยากรณ์ เพ่ือเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาภาษาหลายหลากอย่างเป็นระบบ และเรียบเรียงพจนานุกรมส�ำหรับนักศึกษารุ่นหลัง๑๙ อีกทั้งช่วยกันแปลคัมภีร์อัน เอื้อประโยชน์ต่อการแสดงธรรมเพ่ือหวังก�ำชัยเหนือชาวพุทธ เหนือสิ่งอ่ืนใดได้ตีพิมพ์ คัมภีร์ส�ำคัญมากมาย เพ่ือให้เป็นท่ีรู้จักในวงกว้าง คัมภีร์บางเล่มได้ส่งถึงยุโรปและ อเมริกา กลายเป็นแรงบันดาลใจให้นักปราชญ์หลายท่านมุ่งมั่นปรารถนาเดินทางมา ศึกษาพุทธศาสนาท่ีลังกา ซึ่งบรรดาบาทหลวงเคยประณามคัมภีร์เหล่าน้ันว่า เป็นเพียงเศษเสี้ยวของวรรณกรรมทั้งปวง ความช่ืนชอบจนเกิดแรงบันดาลใจให้มีการพิมพ์วรรณกรรมเหล่านั้นถือว่า เป็นผลงานอันยิ่งใหญ่ ๑๙ e.g. Charter's Sinhalese Grammar (1815); Clough's Pali Grammar (1824) and Sinhalese Dictionary (1821); Lambrick's Sinhalese Grammar (1834). 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 491 1/18/20 1:17 PM
492 ยุคใหม่ภายใต้อังกฤษ ฮาร์ดี ได้เขียนหนังสือช่ือว่าคู่มือพระพุทธศาสนา (Manual of Buddhism) โดยรวบรวมข้อมูลจากคัมภีร์ภาษาสิงหลหลายเล่ม ระบุว่าหนังสือคู่มือเล่มน้ีเสมือน ธรรมชาติบันดาล สามารถเป็นคู่มือให้ผู้ต้องการข้ามฝั่งมีความเข้าใจมากข้ึนเกี่ยวกับ รูปแบบ ซึ่งบูรพาจารย์พากเพียรด้วยการเข้าใจความจริง ข้าพเจ้าประจักษ์แจ้งด้วย ตนเองว่า การถักทอด้วยเวลาอันยาวนาน และประสบการณ์ที่ส่ังสมมาเนิ่นนานบน แผ่นดินแห่งตะวันออก ถือว่าเป็นส่ิงล�้ำค่า เอิบอิ่มด้วยความสุข ศักด์ิสิทธิ์ และมี อิสรภาพ ข้าพเจ้าไม่สามารถอธิบายให้เห็นภาพชัดเจนมากกว่าน้ี แต่ขอให้เชื่อว่าน้ีคือ ความสุขใจท่ีมีคู่มืออันทรงคุณค่าและสามารถยืดหยุ่น เพื่อน�ำคุณค่าอันสูงส่ง แก่ผู้ต้องการเสพรสวรรณกรรม แต่ทุกอย่างก็สายเสียแล้ว เม่ือความสงสัยด้านความเช่ือของศาสนาอัน หลากหลาย ซึ่งพวกมิชชันนารีมอมเมาชาวสิงหลให้ยอมรับร่างทรงแห่งตน ภายใต้ การปกครองของชาติตะวันตก ท�ำให้เกิดความสับสนกลายเป็นการเพิกเฉยละเลย ศาสนาแหง่ ตน พวกบาทหลวงไดร้ บั การสนบั สนนุ เปน็ อยา่ งดจี ากรฐั บาล อกี ทง้ั มอี ำ� นาจ เต็มที่ในการเชิญชวนชาวสิงหลด้วยการเสนอเงินทองและต�ำแหน่งการงาน ชาวสิงหล จึงพากันละท้ิงศาสนาของตนหันไปเชื่อค�ำแนะน�ำของพวกบาทหลวงสิ้น การกระท�ำ เช่นนี้แสดงถึงความโง่เขลาน�ำไปสู่การโต้เถียงกันในหมู่ชนลังกา พวกคนท่ีเข้ารีต หันไปนับถือคริสต์ศาสนาได้รับการยกย่องว่า ผู้เช่ือถือศาสนาของรัฐบาล (Sopremadagama) พวกเข้ารีตเหล่านี้ต่างภาคภูมิใจกับชนช้ันใหม่ของตนว่า ชื่อเสียง และการปฏิบัตินั้นแลคือการท�ำลายดูหม่ินศาสนาเดิมท่ีตนเคยศรัทธาหวงแหน๒๐ เพทุบายด้านการศึกษา กล่าวตามความจริงการศึกษาได้ถูกละเลยทอดท้ิงมาหลายชั่วอายุคน เป็น ผลให้เกิดภาวะเซื่องซึมถดถอยทางสติปัญญาปราศจากการกระตือรือร้นขวนขวาย โดยเฉพาะการส่งเสริมด้านภูมิความรู้และการบริหารด้านพัฒนาการ สมัยน้ีชาวคริสต์ พยายามบบี บงั คบั มใิ หช้ าวพทุ ธสรา้ งสถานศกึ ษา เพยี งแตท่ ำ� หนา้ ทอี่ ารกั ขาความคมุ้ ครอง ๒๐ Tennent., Christianity in Ceylon, p. 90. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 492 1/18/20 1:17 PM
ศรีลังกา 493 เท่านั้น พฤติกรรมแปลกประหลาดเช่นนี้เป็นท่ีรู้จักกันท่ัวไป พวกมิชชันนารีในฐานะผู้ ควบคุมการศึกษามิได้ช่วยเหลืออ�ำนวยความสะดวกสิ่งใดเลย แต่ตรงกันข้ามกลับ พยายามแสวงหาศรัทธาจากชาวลังกามากขึ้น ด้วยการสอดแทรกอิทธิพลเหนือ ความคิดและนิสัยใจคอของคนลังกา ความเจริญท่ีน�ำเข้ามาหมายถึงการดัดแปลงชีวิต ตามแนวทางของชาวยุโรป รูปแบบของชีวิตเป็นความต้องการจอมปลอม จึงไม่แปลก ใจเลยว่าภายใต้อิทธิพลของอังกฤษ ศิลปะทุกอย่างล้วนขาดการพัฒนาต่อเนื่อง ความส�ำเร็จทางจิตใจถูกตัดขาดสิ้นเชิงโดยเฉพาะด้านวรรณคดี ห้าทศวรรษหลังจากลังกาตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ บรรยากาศได้ เปล่ียนแปลงไปในทางที่ดี มีแต่ความสงบสุขตลอดแว่นแคว้นลังกา ประวัติศาสตร์ บอกไว้ว่าก่อนหน้าน้ีมีการต่อสู้ดิ้นรนมานานกว่าสองร้อยปี เหตุเพราะถูกกดข่ีข่มเหง จากผู้บุกรุกภายนอกเข้าครอบครอง แต่ความใจกว้างกล้าช่วยเหลือของอังกฤษท�ำให้ เกิดการพัฒนา กลายมาเป็นความชื่นชมพอใจของชาวลังกาท้ังมวล ซึ่งแตกต่างโดย สิ้นเชิงสมัยตกเป็นเมืองข้ึนของโปรตุเกสและฮอลันดา เกิดมีอาชีพจ�ำนวนมาก และความพยายามหลายอย่างได้รับการสนองตอบช่วยเหลือ อีกท้ังเกิดการปรับปรุง ด้านอุตสาหกรรม ด้านศาสนาน้ันอังกฤษด�ำเนินนโยบายผ่อนปรนประนีประนอม เพราะศึกษา บทเรียนจากอดีตแล้วพบว่าหากพุทธศาสนาถูกบีบคั้นกดดันอย่างหนัก ชาวพุทธ ทุกตัวตนล้วนกล้าแสดงออกโดยปราศจากความเกรงกลัวการลงโทษ ด้านข้าหลวงนอร์ธผู้มีส่วนร่วมโค่นล้มบัลลังก์ลังกา เป็นคนมีวิสัยทัศน์ กว้างไกลและมีลักษณะนิสัยเหมือนรัฐบุรุษ ได้เปลี่ยนแปลงมาตรการหลายอย่าง เพ่ือสร้างความสมานฉันท์ระหว่างประชาชน เท็นเน็นท์ (Tennent) กล่าวไว้ว่า การบริหารของท่านข้าหลวงนอร์ธประสบความส�ำเร็จหลายอย่าง เพราะบริหารแบบ พลเรือน กล่าวคือ ๑) สนับสนุนด้านศาสนา การศึกษา และการค้า ๒) ก่อต้ังศาล ยุติธรรม ๓) เปล่ียนแปลงการจัดเก็บภาษี และ ๔) ความก้าวหน้าด้านเกษตรกรรม และอุตสาหกรรม๒๑ ๒๑ Tennent, Ceylon, ii, p. 86. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 493 1/18/20 1:17 PM
494 ยุคใหม่ภายใต้อังกฤษ ผลแหง่ การดำ� เนนิ นโยบายสนบั สนนุ ดา้ นการศกึ ษา สามารถเพม่ิ จำ� นวนโรงเรยี น ตามเขตชนบทรอบนอกตลอดเกาะได้ถึง ๑๗๐ แห่ง และได้ก่อตั้งวิทยาลัยขึ้นที่เมือง โคลัมโบ เปิดโอกาสให้คนหนุ่มสาวชาวสิงหลผู้ต้องการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเข้ามาศึกษา มากขึ้น๒๒ วิทยาลัยแห่งนี้ถือว่าเป็นโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษแห่งแรกในลังกา จากนั้นมีโรงเรียนอีกหลายแห่งเกิดข้ึนตามมา บางแห่งเปิดเรียนเป็นภาษาพ้ืนเมือง บางแห่งเปิดสอนเป็นภาษาอังกฤษ โรงเรียนส่วนใหญ่เปิดสอนตามโครงสร้างของพวก มิชชันนารี ซึ่งจุดประสงค์หลักของการรับรองการศึกษาคือแนะน�ำให้นักเรียนเข้ารีต เป็นคริสต์ หากจ�ำนวนผู้เปล่ียนศาสนาไม่เป็นไปตามท่ีคิดกันไว้ก็หมายความว่าความ พยายามของพวกบาทหลวงล้มเหลวส้ินเชิง เป้าหมายสูงสุดของการศึกษาคือการเปลี่ยนชาวลังกาให้เข้ารีตเป็นคริสต์ ซ่ึงฮาร์ดีและเพ่ือนพ้องมิชชันนารีอ้อนวอนถวิลหา แต่ดูเหมือนว่ายังไกลกว่าที่คาดหวัง เอาไว้ นอกจากน้ันแล้ว ปัจจัยส�ำคัญเบื้องต้นส�ำหรับโรงเรียนท่ีเปิดสอนแพร่หลายคือ ความรู้เก่ียวกับสรรพวิชา โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษจึงอ�ำนวยความสะดวกสงเคราะห์ นักเรียนอย่างเต็มที่ ด้วยการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ เปิดกว้างให้นักเรียนก้าวหน้า ด้วยการเรียนรู้ศาสตร์สมัยใหม่และการศึกษาแผนใหม่ โรงเรียนเหล่าน้ีส่งเสริมให้ นักเรียนสามารถแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง นักเรียนต่างได้รับการศึกษาเหมือน ชาวยิวแห่งบีโรเอีย (Jews of Beroea) ด้วยการทดสอบสรรพส่ิงเพ่ือตนเองและ ค้นคว้าคัมภีร์มากมายเท่าท่ีมีอยู่ มีตัวอย่างมากมายของบรรดาศิษย์เก่าโรงเรียนเหล่านั้น แทนที่จะหันไปสนใจ การขยายโรงเรียนช่วยเหลือพวกมิชชันนารีเพ่ือให้มีผู้เปล่ียนศาสนามากข้ึน แต่กลาย เป็นว่าหันมาสนับสนุนชาวพุทธกันเอง ซ่ึงความปรารถนาแท้จริงของพวกเขาเหล่านั้น คือต้องการเผยแพร่ศาสนาที่ตนเองเคยนับถือมาแต่บรรพบุรุษ การศึกษาที่พวกเขาได้ รบั มาจากพวกมชิ ชนั นารี คอื กระบวนการทางความคดิ และการทดลองขดี ความสามารถ ๒๒ Cey. Antiq. and Lit. Reg. ix, pt. ii, p. 145. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 494 1/18/20 1:17 PM
ศรีลังกา 495 ทางภูมิปัญญา เพื่อเข้าใจคุณค่าศาสนาประจ�ำชาติของตน ตอนนี้พวกเขาจึงพากัน มุ่งไปข้างหน้าในฐานะผู้สนับสนุนต่อต้านการรุกคืบของพวกมิชชันนารี ขณะเดียวกันพวกบาทหลวงโดยเฉพาะนิกายเมโธดิส (Methodists) ก�ำลัง วุ่นวายอยู่กับการศึกษาหลักค�ำสอนของพระพุทธศาสนาและคัมภีร์ส�ำคัญมากมาย๒๓ คัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาเหล่าน้ันได้รับการตีพิมพ์เป็นภาษาสิงหล พวกบาทหลวง พยายามชี้แจงว่าค�ำสอนของชาวพุทธมีความผิดพลาด หากเปรียบเทียบกับคัมภีร์ของ ชาวคริสต์ จากนั้นพวกบาทหลวงได้แสดงอ�ำนาจเหนือภาษาสิงหล ด้วยการเที่ยว สั่งสอนตามหมู่บ้านน้อยใหญ่ หลายกลุ่มพากันออกเผยแพร่ค�ำสอน และต้ังค�ำถาม เกี่ยวกับค�ำสอนที่ถูกต้องของพระพุทธศาสนา พระสงฆ์ตามหมู่บ้านชนบทห่างไกล อาศัยความรู้จากการแสดงเทศนาสั่งสอนชาวบ้าน พยายามช่วยกันโต้แย้งค�ำกล่าวหา ของพวกบาทหลวงเหล่านั้น พระสงฆ์บางกลุ่มใจกว้างได้เช้ือเชิญพวกบาทหลวงให้มา สนทนาปัญหาหลักธรรมในอารามแห่งตน เพ่ือพิสูจน์หลักค�ำสอนของพุทธศาสนาว่า เกยี่ วขอ้ งกบั ศาสนาครสิ ตด์ า้ นใด แตค่ ำ� จาบจว้ งพระพทุ ธศาสนายงั คงลกุ ลามเรอ่ื ยไป๒๔ จนกระท่ังมีพระหนุ่มรูปหนึ่งนามว่าโมโหฏฏิวัตเต คุณานันทเถระ ได้ปรากฏ ตัวข้ึนมาท้าทายพวกบาทหลวงอย่างกล้าหาญ ด้วยข้อเสนอให้มีการโต้วาทะต่อหน้า สาธารณชน เบ้ืองต้นพวกบาทหลวงพากันบ่ายเบี่ยงไม่ตอบรับคำ� ท้าพากันแสดงอาการ เหยียดหยาม กล่าวกันว่าพระคุณานันทเถระเคยศึกษาเรียนรู้พระคริสต์ธรรม อีก ทั้งอ่านวรรณคดีของพวกช่ืนชอบเหตุผลมาก่อน (Rationalist) ในโรงเรียนชาวคริสต์ ท่านเป็นพระหนุ่มมีอุดมการณ์มั่นคง มีความมุ่งม่ันแน่วแน่ เล่าลือกันว่าเสียงของท่าน ประหนง่ึ เสยี งคำ� รามแหง่ มหาสมทุ ร นมุ่ ลกึ แตก่ งั วานไดย้ นิ แมท้ ไี่ กล เลอื ดแหง่ วาทศลิ ป์ ๒๓ บาทหลวงนกิ ายเมโธดสิ เปดิ โรงเรยี นกนิ นอนสำ� หรบั เดก็ ชาวพทุ ธ และมวี รรณกรรมศกั ดส์ิ ทิ ธ์ิ ของตนด้วย นอกจากนั้นยังผลิตปราชญ์ชาวพุทธผู้เช่ียวชาญวรรณคดีเก่าและใหม่ของศรีลังกาด้วย e.g. Clough, Gogerly and Spence Hardy. ๒๔ Tennent, Christianity in Ceylon, pp. 307 and 312. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 495 1/18/20 1:17 PM
496 ยุคใหม่ภายใต้อังกฤษ (บนซ้าย) ข้าหลวงโธมัส ไมต์แลนด์ และ (บนขวา) ข้าหลวงจอห์น วิลสัน (คัดลอกภาพจาก www.nationalgalleries.org) โรงแรม Grand Oriental Hotel สมัยอาณานิคมอังกฤษ (คัดลอกภาพจาก https:// theculturetrip.com) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 496 1/18/20 1:17 PM
ศรีลังกา 497 (บนซ้าย) หนังสือบันทึกการโต้วาที ณ เมืองปานทุระ และ (บนขวา) รูปปั้นพระโมโหฏฏิ วัตเต คุณานันทเถระ ณ เมืองปานทุระ ภาพวาดวัดและคณินนานเส สมัยอาณาจักรแคนดีตอนปลาย (คัดลอกภาพจาก https://theculturetrip.com) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 497 1/18/20 1:17 PM
498 ยุคใหม่ภายใต้อังกฤษ (บนซ้าย) วารสารสมาคมเอเซียของอังกฤษและ (บนซ้าย) พระฮิกกดุเว ศรีสุมังคลเถระ และพันเอกเฮ็นรี สตีล ออล์คอตต์ มาดามบลาสกี้และพันเอกเฮ็นรี สตีล ออล์คอตต์ (คัดลอกภาพจาก https://theculturetrip. com) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 498 1/18/20 1:17 PM
ศรีลังกา 499 (บนซ้าย) หนังสือบันทึกการโต้วาทะระหว่างพุทธและคริสต์ท่ีเมืองพัทเพคามะ และ (บนขวา) หนังสืออัตชีวประวัติของอนาคาริกะ ธรรมปาละ แสตมป์ของศรีลังกาตีพิมพ์ตามวาระวันวิสาขบูชา พุทธศักราช ๒๕๔๖ (คัดลอกภาพจาก https:// lanka.com) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 499 1/18/20 1:17 PM
500 ยุคใหม่ภายใต้อังกฤษ เดือดพล่านทั่วสรรพางค์กาย แตกฉานในพระธรรมค�ำสอน และเต็มเปี่ยมด้วย หลักฐานพร้อมตอบโต้ชาวคริสต์๒๕ ท่านได้เดินทางเทศนาไปตามหมู่บ้านน้อยใหญ่ตามชนบทห่างไกล ประกาศ ท้าทายชาวคริสต์โดยไม่หว่ันเกรงผู้ใด จนช่ือเสียงของท่านแพร่กระจายไปไกลเหมือน ไฟลามป่า การบรรยายของท่านแต่ละคร้ังมีผู้ฟังจ�ำนวนเกินพัน ท่านกล่าวโจมตี ค�ำสอนของชาวคริสต์ด้วยวาทะอันเผ็ดร้อนรุนแรง และท้าทายชาวคริสต์คู่ต่อสู้ทุก หนแห่ง ประกาศยืนยันพร้อมแข่งโต้วาทะต่อหน้าสาธารณชน ต่อมาพวกบาทหลวง ยอมรับค�ำท้าจนเกิดมีการโต้วาทะ ๒ ครั้ง กล่าวคือ ท่ีเมืองอุดันวิฏะ (พ.ศ.๒๔๐๙) และที่เมืองคัมโปละ (พ.ศ.๒๔๑๔) แต่จุดเปลี่ยนของศาสนาเกิดข้ึนท่ีเมืองปานทุระ ตรงกับเดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๑๖ การโต้วาทะครั้งน้ันยืดเยื้อเกือบหน่ึงสัปดาห์ คราน้ันพระคุณานันทเถระได้ แย้งวาทะของบาทหลวงชาวคริสต์ ผู้กล่าวหาพระพุทธศาสนาได้หมดสิ้น พร้อมท้ัง ก�ำชัยล้มล้างค�ำสอนของชาวคริสต์จนยอมศิโรราบ พระคุณานันทเถระจึงกลายเป็น ผู้น�ำชัยชนะมาสู่ชาวพุทธทั้งปวง ครั้นชาวคริสต์ถอนตัวเพราะพ่ายแพ้ส้ินหวัง ความ ตื่นตัวของชาวพุทธลังกาได้เกิดขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน นี้เป็นเหตุการณ์สำ� คัญส�ำหรับ การสร้างยุคใหม่ พิธีกรรมทางศาสนาได้จัดข้ึนทุกอารามตลอดเกาะลังกา เพื่อเฉลิม ฉลองชัยชนะให้แก่พระคุณานันทเถระ ชาวบ้านผู้ทราบข่าวต่างพากันแห่แหนรูปปั้น ของท่านไปรอบหมู่บ้าน ท่านกลายเป็นวีรบุรุษของชาวสิงหลต้ังแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้ จากน้ันเกิดมีขบวนการฟื้นฟูพุทธศาสนามากมายหลายองค์กร เหตุเพราะความจริง แห่งค�ำสอนของพระพุทธเจ้าได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว ชาวพุทธท้ังมวลรวมตัวกันต่อสู้ ชาวคริสต์ด้วยอาวุธทรงประสิทธิภาพ กล่าวคือ การศึกษา การโฆษณาชวนเช่ือ และสิ่งตีพิมพ์ ๒๕ พระเถระยังทรงปราชญ์ภาษาสิงหลด้วย Vide his edition of the Kavya- sekhara (Colombo, 1872). 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 500 1/18/20 1:17 PM
ศรีลังกา 501 เมื่อพันเอกออลคอตต์มาเยือนลังกา พันเอก ออลคอตต์ (Olcott) ผู้กอ่ ตงั้ สมาคมญาณสทิ ธิ (The Theosophical Society) ได้สนใจพระพุทธศาสนาเป็นกรณีพิเศษ เหตุเพราะได้อ่านข้อมูลเก่ียวกับ การโต้วาทะ ณ เมืองปานทุระ จากห้องสมุดสาธารณะในประเทศสหรัฐอเมริกา ท่านชอบค้นคว้าแสวงหาความรู้ทุกศาสนาบรรดามี ต่อมาศรัทธาซาบซ้ึงหลักค�ำสอน ของพระพุทธเจ้า เพราะเชื่อว่าสามารถพัฒนาศักยภาพของมวลมนุษย์ได้ ท่านเลือก เดินทางมาประเทศลังกาเป็นแห่งแรก ครั้นเมื่อศึกษาค�ำสอนของพระพุทธศาสนาจน เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งดีแล้ว ได้ปฏิญาณตนเป็นพุทธศาสนิกชนถวายตัวเป็นทาสรับใช้ พระพุทธเจ้า ต้ังแต่น้ันมาท่านกลายเป็นมิตรแท้ของชาวลังกาและทุ่มเทความสามารถ ทุกส่ิงอย่าง เพ่ือช่วยเหลืองานอันยากล�ำเค็ญที่ชาวพุทธลังการอคอยมายาวนาน พ.ศ.๒๔๒๓ พันเอกออลคอตต์ได้แนะน�ำให้ก่อต้ังสมาคมพุทธญาณข้ึน (The Buddhist Theosophical Society) การท่ีท่านเป็นผู้น�ำนั้นเป็นประโยชน์ยิ่ง ต่อขบวนการของชาวพุทธ ผู้น�ำชาวพุทธทั้งหลายต่างแวดล้อมและด�ำเนินงานภายใต้ ค�ำแนะน�ำของท่าน ชาวพุทธเหล่าน้ันเร่ิมก่อต้ังโรงเรียนส�ำหรับชาวพุทธท่ัวเกาะลังกา ปลุกเร้าความกล้าให้คนหนุ่มสาวกระตือรือร้นศึกษาพุทธศาสนาด้วยความเสียสละ ทุ่มเท สมัยน้ีจ�ำนวนโรงเรียนส�ำหรับชาวพุทธท่ีเปิดสอนเป็นภาษาอังกฤษและ ภาษาสิงหล มีจ�ำนวนเกือบ ๕๐๐ แห่ง การเรียนการสอนสามารถเทียบกับโรงเรียน ชาวคริสต์ของพวกบาทหลวงได้อย่างภาคภูมิใจ การระดมทุนเป็นเรื่องส�ำคัญอย่างหนึ่งส�ำหรับการเรียนการสอน พวก อาสาสมัครชายหญิงช่วยกันประกาศข่าวทั่วเกาะลังกา พากันสมัครใจเดินทางแจ้งข่าว แก่พ่ีน้องชาวพุทธจากหมู่บ้านนั้นสู่ต�ำบลโน้น ขอร้องให้ชาวพุทธทั้งปวงช่วยกันบริจาค ทรัพย์ เพ่ือก่อตั้งโรงเรียนส�ำหรับลูกหลานของตนเอง ธรรมชาติของชาวสิงหลน้ัน เป็นคนชอบช่วยเหลือส่งเสริมศาสนาอยู่แล้ว จึงได้ร่วมกันบริจาคปัจจัยเป็นจ�ำนวน มาก ความเสียสละของชาวพุทธต่อศรัทธาของชาติ ซ่ึงจมดิ่งตามกระแสแห่งกาลเวลา เพราะถูกกลั่นแกล้ง เป็นสายเลือดประจ�ำวงศ์ตระกูลท่ีไม่สามารถตัดขาดลบเลือนได้ เม่ือความหวังของชาติปรากฏตัวขึ้น จึงพากันแสดงความภาคภูมิใจในทันที ชาวพุทธ 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 501 1/18/20 1:17 PM
502 ยุคใหม่ภายใต้อังกฤษ ทั้งหญิงชายผู้ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันอันใกล้ สามารถจดจ�ำกันได้เป็นอย่างดี ถึง ความกระตือรือร้นของคนหนุ่มสาวผู้สมัครใจเรี่ยไรทุนปัจจัยเพ่ือลูกหลานลังกา ชาวคริสต์ผู้ครอบครองลังกาด้วยกลอุบายร้อยแปด๒๖ พยายามอ้างเหตุผิด พลาดของพระพุทธศาสนา เพื่อขัดขวางอิทธิพลศาสนาพ้ืนเมือง แล้วสอนลูกหลาน ลังกาให้ศรัทธาฝงั ลึกในศาสนาของตน เมือ่ ทราบเชน่ นน้ั ผู้น�ำชาวพุทธจงึ หนั ความสนใจ ไปยังการผลิตต�ำราทางพระพุทธศาสนา สมัยนั้นการพิมพ์ต�ำราเป็นศิลปะแบบใหม่ไม่เป็นที่รู้จักกว้างขวาง จวบจน กระท่ัง พ.ศ.๒๒๘๐ ฮอลันดาได้พิมพ์หนังสือคริสต์ศาสนาเป็นภาษาสิงหลเป็น ครั้งแรก ต่อมาสมาคมพระคริสต์ธรรมแห่งโคลัมโบได้ด�ำเนินรอยตาม (พ.ศ.๒๓๕๖) ตามมาดว้ ยโรงพมิ พข์ องพวกบาทหลวงนกิ ายเวสเลยนั (พ.ศ.๒๓๕๘) สมาคมมชิ ชนั นารี (พ.ศ.๒๓๖๕) พวกมชิ ชนั แบบตสิ ต์ (พ.ศ.๒๓๘๔) และพวกโรมนั คาทอลกิ (พ.ศ.๒๓๙๒) ส่วนชาวพุทธน้ันยากจนขัดสนเกินกว่าที่จะมีเครื่องพิมพ์เป็นของตนเอง จึง ขอร้องไปยังพระเจ้าแผ่นดินแห่งสยามประเทศ ซ่ึงเป็นกษัตริย์ชาวพุทธพระองค์เดียว ที่สามารถช่วยเหลือได้ พระเจ้าแผ่นดินแห่งประเทศสยามตอบรับด้วยมิตรไมตรีอันดี ย่ิง โดยโปรดให้จัดส่งเคร่ืองพิมพ์มาให้ การพิมพ์คร้ังแรกอยู่ภายใต้การดูแลของชาว พุทธลังกาโดยก่อตั้งท่ีเมืองกอลล์ เม่ือ พ.ศ.๒๔๐๕ ในนามว่าโรงพิมพ์ลังโกปการะ๒๗ ด้านพระโมโหฏฏิวัตเตคุณานันทเถระนั้น ต้ังใจแน่วแน่ท่ีจะต่อสู้กับปฏิปักษ์ ชาวคริสต์ จึงได้ปักหลักสร้างฐานที่เขตโกฏเหนะ เมืองโคลัมโบ ซึ่งสมัยน้ันเป็นเขต อิทธิพลของชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ด้วยการช่วยเหลือของผู้น�ำชาวพุทธหลาย คน ท่านได้ก่อตั้งโรงพิมพ์ข้ึน (พ.ศ.๒๔๐๕) ต้ังช่ือว่าสรวัชญาสาสนาภิวรธิทายกะ ๒๖ เรื่องน่าเศร้าคือภาษาท้ังสองที่ใช้ในการสืบค้นและอ้างอิงชาวพุทธบัญญัติข้ึนถือว่า ห่างไกลจากต้นฉบับจนวิบัติ ศัพท์ที่บัญญัติข้ึนมาเพื่อกล่าวตู่ก็มีการวิจารณ์กันในลักษณะแสดงความ เคารพ ๒๗ ผู้เขียนเป็นหน้ีข้อมูลจาก Hon. W. A. de Silva, of Colombo. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 502 1/18/20 1:17 PM
ศรีลังกา 503 ครั้นเกิดมีตัวอย่างให้เห็นเป็นแบบเช่นนั้น จึงมีโรงพิมพ์ชาวพุทธเกิดขึ้นอีกหลายแห่ง หนังสือท่ียอมรับกันว่าส�ำคัญสูงสุดและตีพิมพ์เป็นครั้งแรกคือมิลินทปรัศนยะ ซ่ึง แปลจากคัมภีร์มิลินทปัญหาฉบับภาษาบาลี เหตุท่ีพิมพ์หนังสือดังกล่าวเพราะเชื่อว่า เปน็ ประโยชนส์ งู สดุ ตอ่ การโตแ้ ยง้ คำ� สอนของศาสนาอนื่ ซงึ่ กำ� ลงั เขม้ ขน้ ดว้ ยการแขง่ ขนั ด้านสื่อ ส่วนค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ได้รับการสนับสนุนจากคหบดีชาวพุทธหลายท่าน ความใจบุญสุนทานเป็นสะพานน�ำพาบุคคลส�ำคัญหลายท่านให้หันมาเป็นชาวพุทธ ดังเช่น กโรลิส ปีริส (Karolis Piris) อับราฮัม ลิเวรา (Abraham Livera) หลุย เม็นดิส (Luis Mendis) เม็นดิส อมรเสกระ (Nandis Mendis Amara- Sekara) และชาร์ลิส อาร์โนลิส เม็นดิส วิชัยรัตนะ อมรเสกระ (Charlis Arnolis Mendis Vijayaratna Amar-Sekara) เป็นต้น หนังสือทุกเล่มของโรงพิมพ์แห่งนี้ล้วนอยู่ภายใต้การดูแลของพระคุณานันท เถระทั้งสิ้น (พ.ศ.๒๔๒๐-๒๔๒๑)๒๘ ก�ำเนิดวิทโยทยปริเวณะ ขบวนการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาคร้ังนั้น ได้ให้ก�ำเนิดผู้น�ำชาวพุทธคนส�ำคัญ หลายท่าน ระบบการศึกษาของวัดที่ด�ำเนินการมาสมัยลังกาครั้งอดีต ได้ทรุดโทรมขาด การบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ บัดน้ีได้แทนที่ด้วยโรงเรียนแบบใหม่ ทุกส่ิงอย่าง ล้วนบริหารโดยฆราวาส ส่วนวัดวาอารามก็ท�ำหน้าที่ดูแลเฉพาะการศึกษาของพระสงฆ์ เมือ่ แยกตัวออกโดดเดี่ยวเปน็ อสิ ระจากการกลนั่ แกลง้ ของคนนอก และสามารถรับการ สนับสนุนทุกสิ่งอย่างจากคฤหัสถ์ พระสงฆ์จึงเริ่มหันมาสนใจศึกษาคัมภีร์โบราณ ท้ังทางโลกและทางธรรม และสามารถรักษารอยร้าวท่ีเกิดจากการกล่ันแกล้งครั้งอดีต เมื่อนักศึกษาได้รับค�ำแนะน�ำถึงอนาคตเพื่อก้าวไปข้างหน้า จึงกลายเป็นคนมุ่งมั่นเสีย สละทุ่มเท ๒๘ Milinda-prasnaya, Kotahena, B.E. 2420 (1877-8 A.D.) pp. 628, 12, v. 83. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 503 1/18/20 1:17 PM
504 ยุคใหม่ภายใต้อังกฤษ บรรดาพระสงฆ์ผู้น�ำชาวพุทธระดับแนวหน้าเหล่านั้น เห็นสมควรกล่าวถึง พระฮิกกะดุเวศรีสุมังคลเถระ ท่านเกิด ณ หมู่บ้านขนาดเล็กใกล้เขตกอลล์ (พ.ศ.๒๓๗๐) เข้าพิธีอุปสมบทต้ังแต่ยังเป็นหนุ่ม ด้วยความอุตสาห์พยายามท่านจึง เช่ียวชาญแตกฉานในพระไตรปิฎกและคัมภีร์อรรถกถา เพราะความเมตตาสั่งสอน ของครูอาจารย์หลายท่าน นอกจากนั้นท่านยังเช่ียวชาญภาษาสันสกฤตเป็นอย่างดี สมัยเป็นเด็กท่านได้พบเห็นความล้มเหลวของพระพุทธศาสนาภายใต้การครอบครอง ของตา่ งชาติ คร้นั บรรพชาเปน็ สามเณรแลว้ ไดต้ ัง้ ใจอยา่ งเด็ดเดี่ยวแน่วแนว่ ่า จะตอ้ งหา วิธีฟื้นฟูเรียกคืนศรัทธาของชาติให้จงได้ จากนั้นได้พยายามเสียสละทุ่มเททุกอย่าง ด้วยความมุ่งม่ัน ต่อมาท่านมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักแพร่หลาย ด้วยการแสดงเทศนาและ ความเป็นพหูสูตแตกฉาน กล่าวกันว่าท่านเป็นก�ำลังส�ำคัญรูปหน่ึงท่ีช่วยเหลือพระคุณา นันทเถระ เมื่อคราวโต้วาทะล้มล้างชาวคริสต์ที่เมืองปานทุระ ด้วยความสามารถใน การเขียนหนังสืออย่างคล่องแคล่วว่องไว ท�ำให้ท่านสามารถแก้ค�ำกล่าวหาของพวก บาทหลวงได้ทันท่วงที หลังจากเหตุการณ์โต้วาทีที่เมืองปานทุระผ่านไปไม่นาน ผู้น�ำ ชาวพุทธหลายท่านที่อาศัยอยู่ในโคลัมโบ ล้วนประจักษ์แจ้งถึงความสามารถของท่าน จึงได้นิมนต์ให้เข้ามาพักอาศัยยังเขตเมืองหลวงและช่วยเหลือก่อตั้งสถาบันการศึกษา ข้ึน เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ส�ำหรับพระสงฆ์และฆราวาส เปิดโอกาสให้ศึกษาภาษา เก่ียวกับวรรณคดี พระศรีสุมังคลเถระรับค�ำนิมนต์ด้วยความยินดีและเริ่มงานของท่าน ณ วิทโยทยปริเวณะ โดยท�ำหน้าท่ีเป็นอาจารย์ใหญ่ เร่ิมต้ังแต่เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๑๗ จนถึงวันมรณภาพ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๕๔ วทิ โยทยปรเิ วณะกลายเปน็ ประกายเลก็ นอ้ ยของสำ� นกั มหาวหิ ารแหง่ อาณาจกั ร อนุราธปุระ ซึ่งสมัยอดีตเป็นสถาบันการศึกษาที่ยิ่งใหญ่แห่งหน่ึงของโลกตะวันออก นักเรียนต่างมุ่งหน้าเดินทางมาคนละทิศละทาง หลังจากส�ำเร็จการศึกษาตามหลักสูตร เรียบร้อยแล้ว ต่างพากันด�ำเนินรอยตามปฏิปทาของครูอาจารย์ เปิดปริเวณะส่ังสอน ลูกหลานลังกาให้ศรัทธารักษามรดกของชาติ เช่ือกันว่าผู้ท่ีมีโอกาสได้รับการส่ังสอน 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 504 1/18/20 1:17 PM
ศรีลังกา 505 จากพระศรีสุมังคลเถระล้วนประสบความส�ำเร็จกลายเป็นท่ีรู้จักทั่วโลก และคงจะมี เพียงคนเดียวเท่านั้นท่ีสั่งสอนลูกศิษย์ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์เป็นเวลายาวนาน ประมาณสองช่ัวอายุคน ลูกศิษย์ของท่านต่างช่วยกันก่อต้ังปริเวณะตามหมู่บ้านแล หัวเมืองน้อยใหญ่ทั่วเกาะลังกา พากันเร่ิมต้นฟื้นฟูการศึกษาซึ่งเส่ือมโทรมโรยรามา ตั้งแต่สมัยพระสังฆราชสรณังกรแห่งยุคอาณาจักรแคนดี ตอ่ มาชอื่ เสยี งของวทิ โยทยปรเิ วณะโดง่ ดงั แพรห่ ลายกลายเปน็ ทร่ี จู้ กั ของนานา อารยวิเทศ นักศึกษาต่างชาติผู้แสวงหาความรู้ต่างทยอยเดินทางมาสู่สถาบันแห่งน้ี มิใช่เพียงอินเดีย พม่าและไทยเท่านั้น แต่จากประเทศแดนไกล กล่าวคือ จีน ญ่ีปุ่น ยุโรป และอเมริกา พระศรีสุมังคลเถระน้ันเป็นผู้มีปกติท�ำงานหนักจนกระท่ังวาระสุดท้าย กล่าวกนั ว่านอกจากเชยี่ วชาญภาษาเอเชยี แลว้ ทา่ นยงั สามารถเข้าใจภาษาของชาวยโุ รป อีกหลายภาษา แม้ย่างเข้าสู่ปัจฉิมวัยท่านก็ยังศึกษาภาษารัสเซียอย่างขะมักเขม้น หลังจากมรณภาพแล้วศิษย์เอกของท่านคือพระมหาโกฎะ สิริญาณิสสรเถระ๒๙ ได้ท�ำ หน้าที่เป็นอาจารย์ใหญ่สืบแทนและสานงานสืบต่อ สมัยนี้ได้บรรจุวิชาภาษาอังกฤษเข้า ในหลักสูตรการเรียนการสอนด้วย พ.ศ.๒๔๖๕ ท่านได้ถึงแก่มรณกรรม หน้าที่การ บริหารสืบต่อจึงเป็นของพระกหาเวศรีสุมังคลรัตนสารมหานายกเถระ ซึ่งยอมรับกัน ว่าเป็นพระนักปราชญ์มากด้วยความสามารถอีกรูปหน่ึง ฟื้นฟูวรรณคดี ต่อไปนี้เห็นสมควรกล่าวถึงการฟื้นฟูวรรณคดีของลังการะหว่างหนึ่งศตวรรษ ผ่านมา อาจจะไม่สมบูรณ์พร้อมหากปราศจากการอ้างถึงความพยายามของชาว ตะวันตกผู้อาศัยอยู่ในลังกา อันได้แก่ พวกบาทหลวง ข้าราชการ และนักปราชญ์ เหล่าอ่ืน การค้นคว้าของผู้คนเหล่านี้ถือว่าเป็นการน�ำช่ือเสียงมาสู่วรรณคดีของลังกา เพราะคัมภีร์ส�ำคัญเหล่านั้นได้ถูกละเลยทอดทิ้งมาเป็นเวลายาวนาน ๒๙ นอกจากการเตรียมเรียบเรียงข้อเขียนเชิงปราชญ์ของคัมภีร์ภาษาบาลีหลายเล่มแล้ว พระ ญาณิสสรเถระยังได้แปลกวีนิพนธ์สมันตกูฏวัณณนาของพระเวเทหเถระเป็นภาษาสิงหลด้วย 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 505 1/18/20 1:17 PM
506 ยุคใหม่ภายใต้อังกฤษ บรรดาผู้มีบทบาทส�ำคัญดังกล่าวนั้น เห็นควรยกย่องพวกบาทหลวงเป็นปฐม กล่าวคือ คลัก (Clough) โกเกอร์รี (Gogerly) ฮาร์ดี (Hardy) และโคเพลสตัน (Copleston) ซึ่งพากันสนใจภาษาและวรรณคดีสิงหลอย่างลึกซึ้ง ถัดมาเป็นข้าราชการ ผู้เห็นอกเห็นใจขนบธรรมเนียมและการศึกษาบรรดาผู้คนที่ถูกทอดท้ิง จึงช่วยกัน รวบรวมผลผลิตซ่ึงอยู่ใกล้แค่เอื้อมมือถึง จากการช่วยเหลือมากมายของนักปราชญ์ เหล่านี้ กล่าวคือ อาร์เมอร์ (Armour) ตอลเฟรย์ (Tolfrey) เทอร์เนอร์ (Turnour) โบรดาย (Brodie) เท็นเน็นท์ (Tennent) อูพัม (Upham) ชิลเดอร์ (Childers) ดี อัลวิส (D’Alwis) และนักปราชญ์ผู้ย่ิงใหญ่นามว่ารีส เดวิดส์ (Rhys Davids) ถือว่าผลงานของนักปราชญ์เหล่าน้ีได้ช่วยเหลือเกื้อกูลวงวิชาการทั่วโลก เหตุที่ท่าน เหล่าน้ันเสียสละทุ่มเทก็เน่ืองด้วยปรารถนาชักจูงจิตใจของเราท่านให้ประณีตย่ิงข้ึน ๗ กุมภาพันธ์ ๒๓๘๘ สมาคมศึกษาเอเชียอังกฤษสาขาประเทศลังกาได้เปิด เป็นทางการ (Royal Asiatic Society) เพ่ือเป็นศูนย์กลางส่งเสริมสนับสนุนการศึกษา ประวัติศาสตร์ ศาสนา วรรณคดี ศิลปะ และปรัชญาธรรมชาติของลังกา พร้อมกับ คน้ ควา้ สถานภาพทางสงั คมปจั จบุ นั และเรอ่ื งราวของชาวพนื้ เมอื งยคุ อดตี สว่ นวารสาร ของสมาคมได้พิมพ์คร้ังแรกในปีเดียวกัน เม่ือเริ่มต้นฟื้นฟูการศึกษาและน�ำเคร่ืองพิมพ์เข้ามาใช้ได้เกิดแรงกระตุ้นแก่ วงการวรรณคดี คัมภีร์ที่ถูกร้ือเผาท�ำลายเม่ือสองศตวรรษผ่านมาได้น�ำมาพิมพ์เป็น จ�ำนวนมาก เพื่อเป็นประโยชน์ต่อวงการศึกษา งานของนักวิชาการครั้งแรกคือท�ำหน้าท่ี เรียบเรียงและพิมพ์หนังสือ ซ่ึงมีความจ�ำเป็นต่อนักศึกษาย่ิงนัก เพราะขาดแคลนต�ำรา ส�ำหรับศึกษาค้นคว้า ชาวสิงหลในอดีตน้ันคุ้นเคยกับระบบราชูปถัมภ์ แต่ปัจจุบัน ความช่วยเหลือดังกล่าวไม่สามารถเกิดมีได้ การพิมพ์หนังสือเป็นเทคโนโลยีแปลกใหม่ ผู้ไม่มีประสบการณ์ด้านศิลปะ และไม่ช�ำนาญการเรียบเรียง แม้ประสงค์จะให้หนังสือสวยงามตามวิธีสมัยใหม่ แต่ หนังสือส่วนใหญ่ปรากฏว่ามีความหละหลวม เต็มไปด้วยความผิดพลาดมากมาย เพราะขาดการพิสูจน์อักษรและขาดองค์กรที่เหมาะสม บรรณาธิการก็หาใช่ผู้มีการ ศึกษาไม่ เพียงอาศัยศรัทธาเป็นแรงหนุนเท่านั้น หนังสือจ�ำนวนมากจึงผิดพลาด 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 506 1/18/20 1:17 PM
ศรีลังกา 507 ทั้งการพิมพ์และการเรียบเรียง ดังตัวอย่างเช่น คัมภีร์พระไตรปิฎกได้พิมพ์ซ�้ำ หลายคร้ังประมาณ ๘๐ แผ่น และพิมพ์ซ้�ำแล้วซ�้ำอีก หากนับจากการพิมพ์ครั้งแรก ใช้เวลาประมาณ ๓๐ ปี จึงแล้วเสร็จ เดอ ซิลวา (De Silva) ได้กล่าวถึงจ�ำนวนรายชื่อหนังสือท่ีพิมพ์เป็นภาษา สงิ หลตงั้ แตเ่ รมิ่ ตน้ จนถงึ ปพี ทุ ธศกั ราช ๒๔๕๓ ซง่ึ ปรากฏในวารสารสมาคมบาลปี กรณ์๓๐ โดยช้ีแจงว่ามีงานสองระดับท่ีพิมพ์เป็นมาตรฐานสามารถรับรองได้ กล่าวคือ หนังสือ ไวยากรณ์ภาษาบาลี และงานแปลพระสุตตันตปิฎกเป็นภาษาสิงหล เหตุผลการรับรอง เช่นน้ีไม่ถือว่าไกลเกินจริง เพราะการศึกษาภาษาบาลีได้ถูกละเลยเพิกเฉยมาเป็นเวลา ยาวนาน เม่ือมีการฟื้นฟูข้ึนมาใหม่ คัมภีร์ไวยากรณ์แบบง่ายส�ำหรับผู้เริ่มต้นจึงเป็นสิ่ง จ�ำเป็นอย่างยิ่ง ฆราวาสผู้สนใจภาษาบาลีมีจ�ำนวนน้อย เพราะขาดความสนใจใน วรรณคดี ยกเว้นบางพระสูตรที่เคยได้ยินจากการเทศนาของพระสงฆ์ การพิมพ์คร้ัง น้ีจึงถือว่าเป็นการฟื้นฟูคัมภีร์ส�ำคัญให้เกิดมีประโยชน์อีกคร้ัง๓๑ หลักฐานตามบัญชีรายชื่อของเดอซิลวาและในบัญชีรายชื่อตามห้องสมุดของ วัดท่ัวไปในลังกา (ด้วยความช่วยเหลือของท่านเดอซอยซา)๓๒ มีประเด็นส�ำคัญอ่ืนอีก ท่ีควรต้ังข้อสังเกต กล่าวคือหนังสือจ�ำนวนมากมาจากพม่าและไทย ซ่ึงน�ำเข้ามายัง ลังกาประมาณพุทธศตวรรษที่ ๒๔ ผู้เขียนทราบว่าหนังสือเหล่าน้ันยังคงมีอยู่ ทราบ แต่ว่าสมัยพระเจ้าวิชัยพาหุแห่งอาณาจักรโปโฬนนารุวะ ได้มีการแลกเปลี่ยนคัมภีร์ ส�ำคัญระหว่างพม่าสยามและลังกา เหตุเพราะพระนักปราชญ์ต่างเดินทางไปมาหาสู่กัน และกัน แต่ครั้นเกิดความวุ่นวายทางการเมืองระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๒๒-๒๓ การ เดินทางไปมาหาสู่ระหว่างนักปราชญ์ลังกาและชาววิเทศต้องยุติลง จึงปรากฏว่าไม่มี ๓๐ 1910-12, pp. 135 ff. ๓๑ สมควรบันทึกตรงน้ีว่า ส่ิงท่ีผู้เขียนอ้างในบทก่อนน้ัน บรรดางานแปลสมัยแรกสุดคือการ รวบรวมพระสูตรท่ีใช้ส�ำหรับสวดพระปริตร ๓๒ Govt., Printing Office, Colombo, 1885. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 507 1/18/20 1:17 PM
508 ยุคใหม่ภายใต้อังกฤษ การน�ำคัมภีร์เข้ามาอีก แต่คร้ันการฟื้นฟูพิธีอุปสมบทของพระเจ้ากีรติศรีราชสิงหะสมัย อาณาจักรแคนดี การเช่ือมสัมพันธไมตรีกับสยามประเทศจึงเกิดข้ึนอีกวาระหนึ่ง หลกั ฐานกลา่ วไวว้ า่ เมอื่ ราชทตู ลงั กาเดนิ ทางกลบั มาตภุ มู พิ รอ้ มกบั สมณทตู สยามครานนั้ ได้น�ำคัมภีร์ส�ำคัญเป็นจ�ำนวนมากมาด้วย ซึ่งไม่ปรากฏว่ามีในลังกาเลย ต่อมาสัมพันธไมตรีคร้ังใหม่กับสยามประเทศได้เกิดข้ึนอีกคร้ัง เม่ือชาวพุทธ ลังกาประสงค์จะก่อตั้งโรงพิมพ์เป็นของตนเอง ได้ร้องขอไปทางพระมหากษัตริย์แห่ง สยามประเทศ ซึ่งก็ได้รับความช่วยเหลือด้วยดี ตน้ พทุ ธศตวรรษท่ี ๒๔ เหตกุ ารณส์ ำ� คญั ดงึ ใหล้ งั กาและพมา่ เกดิ สมั พนั ธไมตรี กันอีกคร้ังหนึ่ง กลายเป็นความผูกพันแน่นแฟ้นยิ่งข้ึน เพราะพระเจ้ากีรติศรีราชสิงหะ ถูกครอบง�ำด้วยอคติแบบพราหมณ์ และยึดติดกับหลักค�ำสอนเชิงพหุเทวนิยมและ วรรณะอยา่ งแนว่ แน่ ครน้ั โปรดใหฟ้ น้ื ฟอู ปุ สมบทกรรมจากสยามประเทศแลว้ พระองค์ ทรงประกาศว่าผู้มีสิทธ์ิเข้าอุปสมบทเป็นสมาชิกแห่งคณะสงฆ์ จะต้องเป็นกุลบุตรจาก วรรณะสูงเท่านั้น (วรรณะโคยิคามะ) พระสงฆ์ตามหัวเมืองชายทะเลซึ่งเป็นคนวรรณะ อื่น ต่างไม่พอใจกับการกีดกันสิทธิเช่นนั้น จึงรวมตัวกันประท้วงติเตียนการบริหารที่ ผิดพลาดของพระเจ้าแผ่นดินแห่งอาณาจักรแคนดี๓๓ พ.ศ.๒๓๔๑ พระสงฆ์ผู้คัดค้านเหล่านั้นได้ส่งพระสงฆ์คณะหน่ึงเดินทางไป พม่า เพ่ือเข้าอุปสมบทตามประเพณีของพม่า น�ำโดยพระอัมพคหปิฏิเย ญาณวิมลติสส เถระ พร้อมด้วยสามเณรอีก ๕ รูป ความตั้งใจของพระสงฆ์คณะนั้นประสบผลส�ำเร็จ อย่างดีย่ิง พระสังฆราชแห่งเมืองอมรปุระต้อนรับคณะสงฆ์จากลังกาด้วยมิตรไมตรี และพระมหากษัตริย์พม่าโปรดให้จัดพิธีอุปสมบทแก่พระสงฆ์ลังกาอย่างยิ่งใหญ่ คร้ันพวกท่านเดินทางกลับมาตุภูมิ มีพระภิกษุพม่าร่วมเดินทางมาด้วย ๕ รูป จากนั้น ได้ก่อต้ังอมรปุรนิกายข้ึน (พ.ศ.๒๓๔๕) ปัจจุบันคณะสงฆ์อมรปุรนิกายเป็นองค์กรท่ี มีอิทธิพลสูง เพราะมีผู้เข้าเป็นสมาชิกเป็นจ�ำนวนมาก พ.ศ.๒๓๕๒ พระภิกษุลังกาอีก ๓๓ M.V., c, vv. 152-3. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 508 1/18/20 1:17 PM
ศรีลังกา 509 คณะหน่ึงน�ำโดยพระดฑัลเล ธัมมรักขิตเถระ พร้อมด้วยเพื่อนสหธรรมิก ๔ รูป ได้เดินทางไปอุปสมบทท่ีพม่าอีกครั้งหน่ึง เพราะการผูกพันเชื่อมโยงระหว่างลังกาและพม่าดังกล่าว เป็นเหตุให้พระสงฆ์ ลังกาเป็นจ�ำนวนมากเดินทางไปพม่า เพราะต่างรู้กันว่าเป็นแหล่งศึกษาพระอภิธรรม อันโด่งดัง คร้ันเดินทางกลับลังกามาตุภูมิ พระสงฆ์เหล่านั้นได้น�ำคัมภีร์ภาษาบาลีของ นักปราชญ์พม่ากลับมาด้วย หนังสือเหล่านั้นส่วนใหญ่ได้เรียบเรียงและพิมพ์ออกเป็น อักษรภาษาสิงหล ส่วนคัมภีร์ส�ำคัญบางเล่มได้แปลเป็นภาษาสิงหล นอกจากงานแปล เหล่านั้นแล้ว งานเขียนต้นฉบับเดิมอีกหลายเล่มยังได้แต่งเป็นภาษาบาลีอีกด้วย พ.ศ.๒๓๗๘ โรงพิมพ์บาทหลวงคณะเวสเลอัน ได้พมิ พพ์ ระคริสตธ์ รรมคมั ภรี ์ เป็นภาษาบาลี การพิมพ์ครั้งน้ันเกิดข้อกังขาแก่ชาวพุทธท้ังปวง ต่างเชื่อว่ามีพระภิกษุ บางรูปช่วยเหลือการแปล แต่หลังจากตรวจสอบเนื้อหาอย่างละเอียดแล้วพบว่า เกล่ือนกล่นไปด้วยค�ำแนะน�ำที่ผิดพลาด อีกท้ังส�ำนวนภาษาการแปลเป็นการแสร้ง ท�ำขึ้น ความกลัวทั้งหลายท้ังมวลของชาวพุทธจึงมลายหายสิ้น คัมภีร์ฉบับน้ันไม่เป็น ที่นิยมแม้แก่ชาวคริสต์เพราะไม่สามารถเข้าใจได้ พ.ศ.๒๔๑๙ พระวัสกาดุเว ศรีสุภูติเถระ ได้พิมพ์ต�ำราไวยากรณ์ชื่อว่า นามมาลา ซ่ึงรวบรวมข้ึนตามความคิดเห็นของลูกศิษย์รุ่นก่อน นามว่าซิลเดอร์ส (Childers) ซ่ึงเป็นผู้เขียนพจนานุกรมภาษาบาลีอังกฤษอันโด่งดัง ต่อมาพระศรีสุภูติ เถระได้มอบถวายหนังสือเล่มน้ีแด่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ ๗ (Edward VII) ผู้เดินทางมา เยือนลังกา ซ่ึงขณะนั้นด�ำรงพระอิสริยศเป็นมกุฎราชกุมารแห่งเวลส์ ส�ำหรับบทน�ำน้ัน ท่านเขียนเป็นภาษาสิงหลและภาษาอังกฤษ หนังสือบรรจุด้วยคัมภีร์ภาษาบาลีอันทรง คุณค่าทางประวัติศาสตร์ และพิมพ์แล้วเสร็จ เม่ือ พ.ศ.๒๔๐๘ ส�ำหรับการเรียบเรียง น้ันท่านได้อาศัยคัมภีร์อภิธานัปปทีปิกาของพระโมคคัลลานเถระเปน็ ตน้ แบบ อกี ทง้ั อธบิ ายความหมายเปน็ ภาษาสงิ หลและภาษาองั กฤษ ตอ่ มา พ.ศ.๒๔๓๖ ท่านได้เขียน ดัชนีศัพท์บาลีท้ังหลายและให้ความหมายภาษาสิงหลประกอบด้วย 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 509 1/18/20 1:17 PM
510 ยุคใหม่ภายใต้อังกฤษ นักปราชญ์รุ่นใหม่ พ.ศ.๒๔๒๐ ท่านข้าหลวงเซอร์ วิลเลียม เฮนรี เกรเกอรี (Sir William Henry Gregory) ได้แนะน�ำให้พระศรีสุมังคลเถระช�ำระคัมภีร์มหาวงศ์ โดยเขียนสืบ ต่อจากสมัยพระเจ้ากีรติศรีราชสิงหะแห่งอาณาจักรแคนดีจนถึงอังกฤษเข้าครอบครอง ลังกา (พ.ศ.๒๓๕๘) การเรียบเรียงคร้ังน้ันได้รับความช่วยเหลือจากท่านบัณฑิตเทว รักขิตะพฏุวันตุทาเว ต่อมาได้แปลเป็นภาษาสิงหลและพิมพ์รวมเป็น ๒ ชุด (พ.ศ.๒๔๒๖)๓๔ นอกจากนั้นพระศรีสุมังคลเถระยังได้รวบรวมเรียบเรียงคัมภีร์ พาลาวตาร พร้อมด้วยบทสรุปจากต้นฉบับคัมภีร์ฎีกาภาษาบาลีด้วย พ.ศ.๒๔๒๓ พระวิมลสารเถระได้พิมพ์หนังสือชื่อว่าสาสนวังสทีปะ ซ่ึงเป็น หนงั สอื ประวตั ศิ าสตรพ์ ระพทุ ธศาสนา แตง่ เปน็ คำ� รอ้ ยกรองภาษาบาลมี เี นอ้ื หารวบรวม มาจากพระไตรปิฎกคัมภีร์อรรถกถาและหนังสือประวัติศาสตร์ท่ัวไป ก่อนหน้านี้ท่าน ได้พิมพ์หนังสือภาษาบาลีนามว่าสีมาลักขณทีปนี เป็นหนังสือเกี่ยวกับข้อสงสัยและ การโต้แย้งเรื่องเขตสีมาส�ำหรับอุปสมบทกรรม หนังสือสาสนวังสทีปะประกอบด้วย ๑๒ บท เริ่มเร่ืองด้วยอดีตชาติของ พระพุทธเจ้าสมัยเป็นสุเมธดาบส จากนั้นอธิบายอดีตพระพุทธเจ้า ๒๔ พระองค์ และพรรณนาพุทธประวัติในชาติสุดท้ายต้ังแต่ก�ำเนิดจนถึงปรินิพพาน บทที่ ๕-๘ พรรณนาถึงการสังคายนาท้ังสามคร้ัง และการส่งพระสมณทูตออกไปเผยแผ่พระ พุทธศาสนายังต่างแดน บทท่ี ๙-๑๐ เล่าเรื่องการประดิษฐานพระพุทธศาสนาบนเกาะ ลังกา การบันทึกพระไตรปิฎกและคัมภีร์อรรถกถาเป็นตัวอักษร บทที่ ๑๑ เป็นบท ส�ำคัญมากเพราะกล่าวถึงรายช่ือผู้แต่งหนังสือ ซึ่งมีชีวิตอยู่ต้ังแต่สมัยพระพุทธ- โฆษาจารย์จนถึงสมัยพระเจ้าปรากรมพาหุมหาราชแห่งอาณาจักรโปโฬนนารุวะ รวม ถึงผลงานที่นักปราชญ์เหล่าน้ันรจนาไว้ แม้จะเป็นการจัดแบ่งหมวดหมู่ตามพงศาวดาร กต็ าม แตก่ ถ็ อื วา่ เปน็ หลกั ฐานอนั ทรงคณุ คา่ อยา่ งยงิ่ สว่ นบทสดุ ทา้ ยบรรยายถงึ ราชวงศ์ ๓๔ Sihala Samaya Press, Colombo, 1883. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 510 1/18/20 1:17 PM
ศรีลังกา 511 น้อยใหญ่สมัยอดีตท่ีถวายความอุปถัมภ์พระพุทธศาสนา เมื่อคราวทรุดโทรมเสื่อมสูญ หลายต่อหลายคร้ัง ซ่ึงล้วนแล้วแต่เป็นข้อมูลน่าสนใจทางประวัติศาสตร์ และสรุปจบ ลงด้วยการน�ำอมรปุรนิกายเข้ามาต้ังม่ันบนเกาะลังกา พ.ศ.๒๔๓๖ พระศรีสิทธัตถะ ธัมมานันทเถระ ผู้เป็นอาจารย์ใหญ่แห่ง ปรมธัมมเจติยปริเวณะ เขตรัตมลานะ ได้พิมพ์หนังสือช่ือว่าโลโกปการะ ซึ่งเป็นโคลง ภาษาบาลีเชิงธรรมะ ประกอบด้วย ๑๐๗ พระคาถา และท่านท�ำหน้าที่แปลเป็น ภาษาสิงหลด้วยตัวเอง หนังสือเล่มน้ีอาศัยคัมภีร์สัทธัมโมปายนะเป็นพ้ืนฐาน พ.ศ.๒๔๔๕ เบอร์โรวส์ (Burrows) หัวหน้าแผนกวิชาการท่ัวไป ได้ต้ังคณะ กรรมการศึกษาภาษาตะวันออกข้ึน เพื่อจัดระบบวิชาความรู้หลากหลายทส่ี อนกนั ตาม ปริเวณะให้เป็นมาตรฐานอันเดียวกัน โดยจัดการเรียนการสอนเป็นระบบแข่งขันเพ่ือ กระตุ้นให้นักเรียนตื่นตัวมากขึ้น ส่วนรัฐบาลได้สนับสนุนทุนการศึกษาแก่ปริเวณะ ท้ังหมด นโยบายของคณะกรรมการศึกษาภาษาตะวันออกระบุว่า เพ่ือท�ำให้ปริเวณะ เป็นแหล่งเรียนรู้ ก้าวหน้าและเกิดประโยชน์ ขณะเดียวกันรูปแบบด้ังเดิมและความ เป็นอิสระก็ยังคงรักษาเอาไว้ โดยไม่เปลี่ยนเป็นโรงเรียนมัธยมตามงบประมาณของ แผ่นดิน แต่น่าเสียดายผลการสอบไม่บังเกิดผลเท่าท่ีควร การกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันท�ำให้นักเรียนรีบเร่ง เพื่อหวังผลด้านการเรียน เป็นหลักจึงประสบความล้มเหลว แม้จะมีนักเรียนจ�ำนวนมากได้รับเหรียญรางวัลและ ประกาศนียบัตรก็ตาม แต่พิสูจน์แล้วนักเรียนว่ามีความรู้ดีเลิศแต่ขาดความรักการ เรียนรู้อย่างแท้จริง เพราะเป็นเพียงความรู้จากการจดจ�ำ อีกประการหน่ึงคือระบบการ ศึกษาแบบใหม่ ให้ความส�ำคัญภาษาสันสกฤตมากกว่าภาษาบาลี จึงเกิดความขัดแย้ง ต่อการแพร่หลายวรรณคดีบาลี พ.ศ.๒๔๕๒ เกิดการโต้แย้งกันข้ึนเกี่ยวกับการฟังธรรม กล่าวคือคนฟังธรรม สมควรนั่งบนพื้นหรือนั่งบนเก้าอี้ นักวิชาการผู้มากด้วยความรู้แนะน�ำว่าควรดัดแปลง ประเพณใี หส้ มสมยั ตามแบบยโุ รป เพอื่ ใหส้ อดคลอ้ งกบั คำ� แนะนำ� ขององั กฤษผปู้ กครอง เน่ืองจากอังกฤษเห็นว่าการสวมเส้ือผ้าแบบยุโรปเป็นการยากต่อการน่ังบนพื้น 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 511 1/18/20 1:17 PM
512 ยุคใหม่ภายใต้อังกฤษ แต่ประเพณีแบบชาวพุทธสิงหลมีมานานเกินศตวรรษ จึงไม่สามารถหาข้อยุติได้เพียง ระยะเวลาอันส้ัน การโต้เถียงแค้นเคืองได้เกิดข้ึนแก่ท้ังสองฝ่าย บางคนเรียกร้องให้ ถือตามแบบประเพณีของพม่า คราวนนั้ พระภกิ ษผุ นู้ ำ� ตอ่ ตา้ นวฒั นธรรมยโุ รปนามวา่ พระโมรฏเุ ว เมธานนั ทเถระ ซ่ึงเคยศึกษาพระอภิธรรมในประเทศพม่า ได้พิมพ์หนังสือภาษาบาลีชื่อว่าธัมม- คารวทีปนี๓๕ อธิบายเก่ียวกับประวัติการโต้แย้งพร้อมกับการต้ังข้อสังเกต อีกท้ัง สอดแทรกข้อคิดเห็นทัศนะวิจารณ์ของพระนักปราชญ์ชาวพม่า ซ่ึงผู้เขียนได้ปรึกษา หารือ จากน้ันการโต้แย้งจึงได้ข้อสรุปอย่างมีเหตุผลว่า ถ้ามีการแสดงพระธรรมเทศนา ตามอารามน้อยใหญ่ ผู้ฟังทั้งหลายสมควรนั่งบนพื้น กรณีแสดงธรรมเทศนานอกวัด ผู้ฟังอาจจะนั่งบนเก้าอ้ีก็ได้แล้วแต่ความเหมาะสม พ.ศ.๒๔๕๔ พระโกดาโคฎะ อุปเสนเถระ ได้เขียนหนังสือช่ือว่าสัมโมหนาสนี เกี่ยวกับพระวินัยอธิบายจุดประสงค์ของสมณบริขาร ดังเช่น บาตร ร่ม และหนังหุ้ม รองเท้า เป็นต้น แต่งเป็นค�ำร้อยแก้วภาษาบาลี แบ่งเน้ือหาออกเป็น ๗ บท นอกจาก น้ันผู้เขียนยังกล่าวถึงหนังสืออีกสองเล่ม ซึ่งบรรยายประวัติศาสตร์ต้ังแต่อดีตจนถึง ปัจจุบัน พ.ศ.๒๔๖๐ พระโมรฎุเว เมธานันทเถระ ได้พิมพ์หนังสืออีกเล่มหน่ึงชื่อว่า ชินวังสทีปนีหรือปพันธสิโรมณี แต่งเป็นคาถาภาษาบาลี ๒,๐๐๐ พระคาถา แบ่งเป็น ๑๓ บท ผู้เขียนระบุในค�ำน�ำว่าต้องการเขียนมหากาพย์ตามรูปแบบคัมภีร์รฆุวังสะ และคัมภีร์กุมารสัมภาวะ๓๖ ส�ำหรับเนื้อหาของคัมภีร์นั้นนอกจากบรรยายพุทธประวัติ แล้ว ยังมีข้อวิจารณ์หลายประเด็นเกี่ยวกับค�ำสอนของพระพุทธเจ้า หนังสือเล่มนี้ได้ รับค�ำชมเชยว่าการร้อยเรียงพระคาถามีมาตรฐานชั้นสูง บางพระคาถาละเอียดประณีต ลึกซ้ึง บางพระคาถาแต่งด้วยส�ำนวนประณีตวิจิตรบรรจง ๓๕ Moratuva, 1910. ๓๖ Ibid., (Colombo), 1917). 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 512 1/18/20 1:17 PM
ศรีลังกา 513 พระเมธานันทเถระน้ันมีความรู้ลึกซึ้งด้านกวีภาษาสันสกฤตเป็นอย่างดี งานเขียนของท่านดาษดื่นด้วยอุปมาอุปไมยกลายเป็นงานช้ันเยี่ยม ภาษาค�ำฉันท์แสดง ให้เห็นว่าท่านได้รับอิทธิพลมาจากภาษาสันสกฤตอย่างมาก ค�ำฉันท์ได้รับการจารึกว่า เป็นงานเขียนภาษาสันสกฤตที่งดงามย่ิง นอกจากนั้นท่านยังแปลคัมภีร์ดังกล่าวเป็น ภาษาสิงหลด้วย ค�ำน�ำของหนังสือเล่มนั้นเป็นการแนะน�ำด้านประวัติศาสตร์อันทรง คุณค่ายิ่งนัก เพราะเก่ียวกับประเด็นส�ำคัญด้านประวัติศาสตร์ของคณะสงฆ์ลังกาท่ี ถูกละเลยทอดทิ้งด้วยกาลเวลา อีกทั้งให้หลักฐานเก่ียวกับนักปราชญ์และงานเขียน ของท่านเหล่าน้ันด้วย เนื้อหาของหนังสือชินวังสทีปนีได้กล่าวถึงความคงแก่เรียนของผู้เขียน ซ่ึง ทุกคนล้วนยกย่องความเป็นปราชญ์ของท่าน กล่าวกันว่าครั้นพิมพ์งานเขียนของ ท่านเสร็จแล้ว ฆราวาสผู้อุปถัมภ์การพิมพ์พากันแสดงความยินดีแห่แหนหนังสือรอบ วัด เพราะต้องการแสดงความเคารพต่ออาจารย์แห่งตน ผู้อุทิศชีวิตให้กับงาน พระศาสนาและวรรณกรรม งานเขียนอื่นอีกคือหนังสือมหากัสสปจริตะ เป็นผลงานของพระวิทุรุโปละ ปิยติสสเถระ ตีพิมพ์ พ.ศ.๒๔๖๗๓๗ หนังสือแต่งเป็นฉันท์ภาษาบาลี ๑,๕๐๐ ฉันท์ แบ่งออกเป็น ๒๐ ตอน กล่าวกันว่าเมื่อท่านอายุได้ ๓๐ ปี ท่านกลายเป็นนักปราชญ์ นามอุโฆษ เพราะสามารถสอบผ่านหลักสูตรช้ันสูงของสมาคมศึกษาภาษาตะวันออก (ท่านเกิด พ.ศ.๒๔๒๓) เช่ือว่าผลงานของท่านเป็นการเติมเต็มความปรารถนาเม่ือตอน เยาว์วัย ส�ำนวนภาษาของหนังสือมีลักษณะเด็ดเด่ียวดุดันแต่แฝงด้วยคารมคมคาย สละสลวย ด้านเน้ือหาถือว่ามีการจัดเรียงอย่างลงตัว ส่วนข้อมูลเก่ียวกับพระ กัสสปเถระนั้น อ้างอิงมาจากคัมภีร์สังยุตตนิกายอรรถกถาและคัมภีร์อังคุตตรนิกาย อรรถกถา ๓๗ Colombo, 1924, Grantha-prakasa Press, iii, 124, 83. 1/18/20 1:17 PM 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 513
514 ยุคใหม่ภายใต้อังกฤษ ข้าหลวงอังกฤษส่งเสริมวรรณคดี พ.ศ.๒๔๕๖ ลอร์ด โรเบิร์ต ชามล์เมอร์ส (Lord Robert Chamlmers) รับหน้าท่ีเป็นข้าหลวงลังกา กล่าวกันว่าท่านมีความสนใจภาษาบาลีและพยายามแบ่ง เวลาศึกษาวรรณคดีภาษาบาลี ก่อนหน้านั้นท่านได้เรียบเรียงเน้ือหาบางตอนของคัมภีร์ มัชฌิมนิกายแล้วตีพิมพ์ในนามสมาคมบาลีปกรณ์ การอุทิศเวลาให้แก่วารสารสมาคม เอเชียของท่านโดยเฉพาะด้านพระพุทธศาสนา ได้รับความสนใจจากผู้อ่านเป็นจ�ำนวน มาก ส่วนงานแปลบางส่วนของคัมภีร์ชาดก ซ่ึงตีพิมพ์โดยมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ก็มี การศึกษาอย่างจริงจัง ครั้นทราบกิตติศัพท์เช่นนั้นชาวลังกาต่างรอคอยท่านด้วยใจ จดจ่อ เม่ือเดินทางมาถึงเกาะลังกาท่านได้ทักทายประชาชนคนลังกาด้วยความเป็น กันเอง ตอ่ มาครน้ั เกษียณอายจุ ากต�ำแหน่งข้าหลวงแลว้ ทา่ นไดป้ ระกาศต่อสาธารณชน ว่าท่านมีความปรารถนาท่ีจะเรียบเรียงอรรถกถาภาษาสิงหล โดยตั้งชื่องานช้ินน้ีว่า การเรียบเรียงอาลุวิหาร ท่านประกาศว่า ข้าพเจ้ามีประสบการณ์จากการศึกษาและเรียบเรียงคัมภีร์ มัชฌิมนิกายภาษาสิงหล รวมทั้งคัมภีร์อรรถกถาฉบับมัณฑเลย์จากหอสมุดหลวงของ พม่า และฉบับพิมพ์โดยกษัตริย์แห่งสยามประเทศ ข้าพเจ้าจึงไม่ต้องเสียเวลาลังเลใจ ในการรับรองคัมภีร์อรรถกถาภาษาสิงหล เพราะรู้ว่านักปราชญ์ผู้เช่ียวชาญด้านภาษา บาลีชาวยุโรปการันตีงานเขียนภาษาสิงหลแล้ว นี้คือเสียงสะท้อนด้านความเป็น นกั ปราชญข์ องลงั กา หรอื ศนู ยก์ ลางแหง่ ความเปน็ เลศิ ของลงั กา แตล่ งั กากพ็ ลาดโอกาส ท่ีจะเชิดชูความเป็นเลิศด้านผู้น�ำทางประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ดังเช่นสยามประเทศที่ ประสบความส�ำเร็จมาแล้ว ภายใต้ราชูปถัมภ์สยามประเทศได้กลายเป็นผู้น�ำด้าน พระไตรปิฎก โดยพิมพ์ออกเป็นเล่มเย็บประณีตสีเหลืองสวยงาม ซึ่งเราท่านทั้งหลาย ต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี นอกจากน้ัน สยามประเทศยังเป็นผู้ริเริ่มพิมพ์คัมภีร์อรรถกถา ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตน ลังกาประเทศเห็นควรด�ำเนินรอยตามเอาแบบอย่าง แต่การ ด�ำเนินรอยตามนั้น เห็นสมควรให้มีการปรับปรุงพัฒนาจากสยามประเทศ วันนี้ลังกา ประเทศต้องการเอกลักษณ์แบบลังกา งานเรียบเรียงพระไตรปิฎกและอรรถกถาจะ กลายเป็นส่ิงมีค่ามหาศาลต่อวงวรรณกรรมของลังกา๓๘ ๓๘ Colombo, Public Hall, 27th February, 1915. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 514 1/18/20 1:17 PM
ศรีลังกา 515 ดว้ ยความมงุ่ มนั่ ดงั กลา่ วจงึ มกี ารกอ่ ตง้ั โรงพมิ พอ์ าลวุ หิ ารขน้ึ แตแ่ ลว้ โครงสรา้ ง ท่ีจัดวางดีเยี่ยมของผู้ปรารถนาดีก็เอนเอียงล้มเหลว หลักการของท่านข้าหลวง ชามล์เมอรส์ก็สูญเปล่า เหตุเพราะสงครามยุโรปเป็นปัจจัยตัดรอน เดือนพฤษภาคม ๒๔๕๘ การจลาจลระหว่างพ่ีน้องมุสลิมและชาวพุทธได้ ปะทุขึ้นท่ีเมืองแคนดี น�ำไปสู่ความวุ่นวายเสียหายเพราะเจ้าหน้าที่ไม่สามารถควบคุม สถานการณ์ได้ จึงฉุดดึงให้ประเทศชาติกลับเข้าไปสู่หายนะอีกครั้ง รัฐบาลจ�ำต้อง ประกาศกฎอัยการศึกเพื่อเข้าปราบปรามอย่างรุนแรงเด็ดขาด โทษานุโทษทั้งหลาย ทั้งปวงถูกลืมเลือนเสียสิ้น โครงการของท่านข้าหลวงชาลม์เมอรส์ผู้ปรารถนาจะฟื้นฟู วงการวรรณกรรมบาลกี ล็ ้มละลายโดยปริยาย ทา่ นลอร์ดได้เดินทางออกจากเกาะลังกา โดยท้ิงหนังสือไว้เป็นท่ีระลึกถึงเพียงเล่มเดียวคือคัมภีร์ปปัญจสูทนี ซ่ึงเป็นคัมภีร์ อรรถกถาอธิบายความตามคัมภีร์มัชฌิมนิกาย พระญาณิสสรเถระและพระธรรมาราม เถระ ได้กล่าวชื่นชมยอมรับผลงานเล่มน้ีว่าเติมเต็มเกินกว่าคาดหมายกันเอาไว้ แต่โชคดีผลงานจากแรงบันดาลใจของท่านข้าหลวงชาลม์เมอรส์มิได้ถูกปล่อยท้ิงเปล่า เพียงแต่เปลี่ยนแปลงจากวิธีหนึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งเท่านั้น ๑๗ มกราคม ๒๔๕๗ สังคมชาวพุทธลังกาได้สูญเสียผู้ศรัทธาแก่กล้า นามว่าไชมอน อเล็กซานเดอร์ เฮวาวิตารเน (Simon Alexander Hewavitarne) ผู้เป็นสมาชิกของตระกูลชั้นสูงนามว่าเฮวาวิตารเน ท่านเป็นศิษย์ของพระศรีสุมังคล เถระ สนใจช่ืนชอบพระอภิธรรมยิ่งนัก สมัยมีชีวิตอยู่ท่านประสงค์จะพิมพ์คัมภีร์ พระไตรปิฎกต้นฉบับทั้งหมด แต่คร้ันได้รับค�ำแนะน�ำจากศาสตราจารย์ลันมันแห่ง มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด จึงเปล่ียนความคิดหันมาเรียบเรียงคัมภีร์อรรถกถาแทน โดยเร่ิมต้นพิมพ์คัมภีร์อรรถกถาสังยุตตนิกายเป็นฉบับแรก ซ่ึงก้าวหน้าพอสมควร ความต้ังใจแน่วแน่ของท่านเพ่ือให้คนอ่ืนสานงานต่อปรากฏเห็นในข้อเขียน ของท่านว่า ข้าพเจ้าได้ให้ค�ำแนะน�ำด้วยความมุ่งหวัง เพ่ือให้มีการพิมพ์คัมภีร์ อรรถกถาภาษาบาลี ปรารถนาให้เป็นงานเรียบเรียงที่ประณีต ต่อมาผู้จัดการมรดก ของท่าน ได้เสียสละเวลาสานต่อความปรารถนาของท่าน จวบจน พ.ศ.๒๔๖๐ จึงได้ 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 515 1/18/20 1:17 PM
516 ยุคใหม่ภายใต้อังกฤษ ตีพิมพ์คัมภีร์อรรถกถาเปตวัตถุของพระธรรมปาลเถระ ส่วนคัมภีร์เล่มอ่ืนได้ตีพิมพ์ ในเวลาต่อมา๓๙ ผลงานการเรียบเรียงที่เกิดข้ึนจากน้�ำพักน�้ำแรงของบรรดาปราชญ์ลังกา และการท�ำงานด้วยความเสียสละทุ่มเทมุ่งมั่นล้วนได้รับการยอมรับของทุกฝ่าย แต่ช่างเป็นเร่ืองท่ีน่าเสียใจย่ิงนัก เพราะขาดการบริหารจัดการด้านการรวบรวมเรียบ เรียงผลงานอันเป็นมรดกของชาติ ซ่ึงบูรพมหากษัตริย์รุ่นแล้วรุ่นเล่าได้ช่วยเหลือ อุปถัมภ์สืบเน่ืองเร่ือยมา ได้แต่หวังว่ารัฐบาลอังกฤษคงไม่ล้มเลิกแบบอย่างอันดีที่ ข้าหลวงรุ่นก่อนเคยท�ำเอาไว้ คร้ังอดีตกษัตริย์ลังกาได้ตรากฎหมายอาศัยรายได้จากภาษีน�ำมาค�้ำชูวัด วาอาราม มิให้ทรุดโทรมเสียหายไปตามกาลเวลา ซ่ึงวิธีการนี้ถือว่าเป็นกุศโลบายอัน ชาญฉลาด แตค่ ำ� ถามกจ็ ะเกดิ ขน้ึ ซำ้� แลว้ ซำ้� เลา่ เกยี่ วกบั การเรยี บเรยี งและพมิ พว์ รรณคดี ซ่ึงเป็นงานเชิงประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่ายิ่งของชาวลังกา หน่ึงศตวรรษเพื่อหนึ่ง ทศวรรษก็คงจะพอเพียงส�ำหรับการเรียบเรียงและพิมพ์คัมภีร์พระไตรปิฎกท้ังหมด หากด�ำเนินตามวิธีการของสมาคมบาลีปกรณ์ แต่แล้วผลแห่งมหาสงครามได้ท�ำลาย ความรุ่งเรืองแห่งยุคใหม่เสีย ได้แต่หวังว่าความตั้งใจมุ่งม่ันจะได้รับการปรับปรุงอย่าง เร่งด่วน เพื่อชื่อเสียงของลังกาในฐานะศูนย์กลางแหล่งก�ำเนิดปราชญ์ของโลก ๓๙ Maha-Bodhi Press, Colombo, 1917. 1/18/20 1:17 PM 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 516
ศรีลังกา 517 รูปขุนนางแคนดีและข้าราชการอังกฤษ (คัดลอกภาพจาก www.villageantiques.ch) ครอบครัวขุนนางชาวแคนดี (คัดลอกภาพจาก www.villageantiques.ch) 1/18/20 1:17 PM 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 517
518 ยุคใหม่ภายใต้อังกฤษ (บน-ลา่ ง) พระสงฆศ์ รลี งั กาสมยั อาณานคิ มองั กฤษ (คดั ลอกภาพจาก www.villageantiques.ch) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 518 1/18/20 1:17 PM
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 580
Pages: