Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore LK-002หนังสือศรีลังกาว่าด้วยประวัติศาสตร์ (ครั้งที่ ๒)

LK-002หนังสือศรีลังกาว่าด้วยประวัติศาสตร์ (ครั้งที่ ๒)

Description: LK-002หนังสือศรีลังกาว่าด้วยประวัติศาสตร์ (ครั้งที่ ๒)

Search

Read the Text Version

ศรีลังกา 419 เหล่าน้ีมิใช่ร่องรอยท่ีผิดพลาดต่ออิทธิพลอย่างล้นเหลือของลัทธิฮินดู เพราะความจริง แล้วเกิดมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างราชวงศ์ลังกากับกษัตริย์แห่งอินเดียตอนใต้มา เนิ่นนาน พวกพราหมณ์ต่างเข้ามาสู่ส�ำนักเป็นจ�ำนวนมาก แลศึกษาภายใต้การดูแล ของพระสงฆ์ บางคนหันมานับถือพระพุทธศาสนา๒๗ จากนั้นศาสนสถานได้ถูกสร้าง ข้ึนเพ่ือเป็นสถานที่สถิตของเทพเจ้าฮินดู ดังเช่น เทพนาถะ เทพสุมนะ เทพวิษณุ และเทพศิวะ ซึ่งทัดเทียมกับวิหารของพุทธศาสนา พระศรีราหุลสังฆราชเป็นผู้มี ความรู้ลึกซ้ึงในค�ำสอน และมีความคิดอิสระต่อพิธีกรรมของลัทธิฮินดู ยุคนี้แสดงให้ เห็นถึงการประนีประนอมระหว่างลัทธิฮินดูกับพระพุทธศาสนา ซึ่งด�ำรงอยู่คู่กันมา ตั้งแต่ยุคแรกเร่ิมครั้งอดีต พระเจ้าปรากรมพาหุท่ี ๖ ทรงสนบั สนุนเหลา่ นักปราชญ์ราชบัณฑติ ผูท้ �ำหน้าที่ สร้างความรุ่งโรจน์ด้านการศึกษา แม้พระธิดานามว่าอุลักกุฑยเทวีและพระสวามีนาม ว่านัลอุรุตุลล้วนด�ำเนินรอยตามพระองค์ส้ิน แต่น่าเสียดายว่าพระประวัติของสอง พระองค์มีกล่าวถึงเพียงน้อยนิด ยกเว้นบันทึกไว้ในงานเขียนของพระองค์เอง พระเจ้า แผ่นดินทรงนิพนธ์ศัพทานุกรมภาษาสิงหลนามว่ารุวันมละ ทรงแต่งข้ึนตามแบบอย่าง คัมภีร์อมรสิงหะ ส่วนพระราชบุตรเขยนัลอุรุตุลมินิสันหัส ได้นิพนธ์คัมภีร์ภาษาสิงหล นามว่านามาวลิยะ แต่น่าเสียดายไม่แล้วเสร็จตามเจตนาประสงค์ จอมปราชญ์ศรีราหุลเถระ บรรดาปราชญ์น้อยใหญ่แห่งยุคที่ถือว่าเป็นดวงดาวอันสุกสกาวเด่นสุด คือ พระศรีราหุลสังฆราช ผู้ดูแลวิชัยพาหุปริเวณะ ณ โตฏคามุวะ ท่านเป็นศิษย์ส�ำนัก อุตตรมูลนิกาย หลักฐานระบุว่าเม่ือมีอายุ ๑๕ ปี ได้รับพรจากพระหัตถ์ของเทพเจา้ กา รตั ตเิ กยะ ซงึ่ บนั ดาลใหท้ า่ นเปน็ เจา้ แหง่ หกศาสตร์ (ศฑั ภาษาปรเมศวร)๒๘ งานเขียนของ ท่านส่วนใหญ่เป็นภาษาสิงหล ท่านร้ังต�ำแหน่งส�ำคัญในฐานะกวีเอกของลังกา ๒๗ e.g. Sri Ramacandra Bharati, author of the Bhakti-hataka. ๒๘ Sala-lihini Sandesa colophon; หกศาสตร์ ได้แก่ ภาษาสันสกฤต ภาษามาคธี (บาลี) ภาษาอปภรังสะ ภาษาไพศาจี ภาษาเสารเสนี และภาษาทมิฬ 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 419 1/18/20 1:17 PM

420 รุ่งเรืองก่อนเข้าสู่ยุคมืด คัมภีร์กาพยเศขระหรือมงกุฎแห่งคีตะ สร้างช่ือเสียงอันเป็นอมตะให้แก่ท่านจนกระท่ัง ถึงบัดนี้ ท่านได้รับยกย่องว่าเป็นเอกอุด้านร้อยแก้วเชิงกวี งานเขียนของท่านได้รับการ เลยี นแบบสบื ตอ่ โดยอนชุ นรนุ่ หลงั กวชี าวสงิ หลทง้ั มวลลว้ นยกยอ่ งและยดึ ทา่ นเปน็ ตน้ แบบน�ำทาง ยุคน้ีโคลงสิงหลประเภทหนึ่งเรียกว่าสันเดสะหรือสาส์น กลายเป็นแถวหน้า ในฐานะยอดแห่งศิลปะเชิงกวี โคลงเหล่านี้มีพื้นฐานมาจากคัมภีร์เมฆทูตของกาลิทาส หรือเมฆาสาส์น โดยร้อยเรียงข่าวสาส์นฝากนกถึงเทวาลัยของเทพเจ้า อ้อนวอนให้ เทพผู้เป็นใหญ่ประสิทธิประสาทพรแก่พระเจ้าแผ่นดินและเชื้อพระวงศ์ หรือวิงวอน ขอความช่วยเหลือให้เหล่าเทพเทวาบันดาลให้กษัตริย์มีชัยเหนืออริราชศัตรู ระยะทาง ท่ีนกส่งสาส์นเดินทางนั้นมักร้อยเรียงเป็นโคลง โดยพยายามบรรยายถึงเหตุการณ์ ส�ำคัญเพื่อแสดงถึงความชาญฉลาดของผู้นิพนธ์ ส�ำหรับพระศรีราหุลเถระนั้นแต่งสันเดสะสองเล่ม ช่ือว่าแสฬลิหิณิสันเดสะ และคมั ภรี ป์ รวสิ นั เดสะ อาจจะรวมถงึ แปแรกมุ พาสริ ติ สนั เดสะดว้ ย ซง่ึ กลา่ วสรรเสรญิ พระเจ้าแผ่นดิน ส่วนงานเล่มอื่นอีกคือสีมาสังกรเฉทนี ว่าด้วยเขตสีมาส�ำหรับท�ำ สังฆกรรมของสงฆ์ คัมภีร์โตฏคามุวนิมิตตา มีลักษณะเหมือนงานเขียนของนโปเลียน นามว่าบันทึกแห่งโชคชะตา (Book of Fate) และคัมภีร์จตุรอารยสัตยกาพยะเป็น กวีด้านศาสนา นอกจากนั้นท่านยังแตกฉานด้านงานเขียนเกี่ยวกับผีสางเทวดา (Demonology)๒๙ ส�ำหรับผู้สนใจศึกษาวรรณคดีภาษาบาลีของพระศรีราหุลเถระ สมควรศึกษา งานเขียนส�ำคัญอีกสองเล่ม กล่าวคือคัมภีร์โมคคัลลานปัญชิกาประทีปะ และคัมภีร์ ปทสาธนฏีกา ซ่ึงเป็นขุมปัญญาท่ีหลากหลายและส�ำคัญย่ิง โดยเขียนเป็นไวยากรณ์ ภาษาบาลี เล่มแรกเป็นหนังสือสรุปคัมภีร์ไวยากรณ์ภาษาบาลีเท่าที่มีอยู่ในลังกา เนื้อหา เขียนเป็นภาษาบาลีส่วนหน่ึงและภาษาสิงหลอีกส่วนหนึ่ง เป็นอรรถกถาแต่งแก้คัมภีร์ ๒๙ Hugh Nevill's MS. Catalogue and JRAS. (C.B.), passim. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 420 1/18/20 1:17 PM

ศรีลังกา 421 ปญั ชกิ าหรอื ตำ� ราไวยากรณบ์ าลขี องพระโมคคลั ลานเถระ ผแู้ ตง่ คมั ภรี ป์ ญั จกิ าประทปี ะ ได้ใช้ประโยชน์จากความคงแก่เรียน และความแตกฉานด้านวิชาการของท่าน เพื่อ สร้างความร�่ำรวยต่อเติมรายละเอียดที่อธิบายกฎทั้งปวงของพระโมคคัลลานเถระ ซ่ึง เช่ือว่ามีความขรุขระด้วยหลักฐานอ้างอิงและถ้อยค�ำ ท่ีคัดมาจากภาษาสันสกฤตบาลี สิงหลและภาษาทมิฬหลากหลายเล่ม สมัยส�ำนักโมคคัลลานะแตกต่างจากส�ำนัก กัจจายนะ ส่วนใหญ่ไม่ปรากฏว่ามีในลังกาแล้ว พระศรีราหุลเถระได้ตรวจสอบ หลักฐานอ้างอิงความจริงแท้ของคัมภีร์เหล่านั้น แล้วสรุปเชิงวิเคราะห์อย่างฉลาด เฉียบแหลม โดยไม่ท�ำให้เสียรูปตามประเพณีและอิสระปราศจากอคติ หนงั สอื นามมาลาของพระวสั กาดเุ วศรสี ภุ ตู สิ ภุ ตู เิ ถระไดก้ ลา่ วถงึ จำ� นวนหนงั สอื โดยอ้างอิงมาจากผลงานของพระศรีราหุลเถระ๓๐ ท�ำให้ทราบถึงรายช่อื คัมภีรม์ ากหลาย ซ่ึงใช้เป็นหลักสูตรศึกษากันสมัยน้ัน ดังต่อไปนี้ กัจจานะ นยาสะ สยาสประทีปะ นิรุตติมญั ชสู า รูปสิทธิและสันเน (ค�ำร้อยกรอง) พร้อมท้ังแกฏปทะ (อภิธานศัพท์) พา ลาวตารและสันเน สัททนีติ จูลนิรุตติ นิรุตติปิฏกะ สุตตนิทเทส สัมพันธจินตา ปทสัทธนะและสันเน ปัญชิกาฎีกา ปโยคสิทธิ ทิคสังคีฎีกา (ฎีกาแห่งทีฆนิกาย) เภสัชชมัญชูสาและสันเน อภิธานัปปทีปิกา จันทราพยากรณะ มหาภาศยะ ภาศย- ประทีปะ ลฆุวรัตติ ทุรคสิงหจินตา สารัสวตะ กาศิกา กาศิกาวรัตติ วารติกา ภาควิตติ สารสังครหะ ศรีธระ ไวชยันตี อภิธรรมโกศะ ปรากรตประกาสะ เวทะ รามายณะ ภาหฏะ ภรตสาสตระ อมรโกศะ เมทนิ โี กศะ ชาตกสนั เน อมุ ันดาแคฏปทะ รตั นสูตรแคฏปทะ เทมลชาตกแกฏปทะ และวิริตสันเน รายช่ือเหล่าน้ีบ่งบอกถึงการ ตีความปัญหาจ�ำนวนมาก ซึ่งผู้เขียนต้องใช้ข้อมูลอ้างอิงจากคัมภีร์หลายเล่ม อีกทั้ง สบื คน้ จากผลงานหลายดา้ น แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความชาญฉลาดลำ้� ลกึ ของพระศรรี าหลุ เถระ หลายต่อหลายปีที่วรรณคดีเหล่าน้ีถูกทอดท้ิงอย่างน่าเสียดาย ต่อมาพระ สิริธัมมารามเถระ ผู้เป็นอาจารย์ใหญ่แห่งวิทยาลังการปริเวณะ ได้สะสมเก็บต้นฉบับ จริงไว้ ต่อมาเป็นผู้มีบทบาทส�ำคัญในการคัดลอกส�ำเนาต้นฉบับเหล่านั้น ถือว่าท่าน ได้ท�ำงานเพื่อเป็นประโยชน์ต่อวงการศึกษาภาษาบาลีของลังกา ๓๐ Subhuti, nama-mala, Colombo, 1876. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 421 1/18/20 1:17 PM

422 รุ่งเรืองก่อนเข้าสู่ยุคมืด ผลงานด้านไวยากรณ์เล่มอ่ืนของพระศรีราหุลเถระคือคัมภีร์ปทสาธนฎีกา เป็นหนังสืออธิบายความตามคัมภีร์ปทสาธนะของพระปิยทัสสีเถระ อีกเล่มหนึ่งเป็น ตำ� ราฎกี าช่ือว่าพทุ ธปิ ปสาทนี ตน้ ฉบับของคมั ภรี ์ดังกลา่ วหาได้ยากนัก ความจรงิ คมั ภีร์ เล่มนี้ไม่เป็นท่ีรู้จักของนักปราชญ์บาลีมาหลายปี จนกระท่ังท่านมุดาริยะร์เดอซอยซา ได้ค้นพบ เม่ือ พ.ศ.๒๔๑๖ ณ วัดริทิวิหาร๓๑ หลักฐานในคัมภีร์พุทธิปปสาทนียืนยัน ว่าเป็นผลงานของพระศรีราหุลเถระ เพราะในหนังสือเล่มน้ีท่านเรียกตัวเองว่าพระ สังฆราช ในขณะที่ต�ำราเล่มอื่นท่านเรียกตัวท่านเองว่าอาจารย์ใหญ่แห่งวิชัยพาหุ ปริเวณะ จากการตรวจสอบสภาพของคัมภีร์พบว่าเสียหายโดยมากหากเปรียบเทียบ กับต้นฉบับด้ังเดิมกล่าวคือคัมภีร์ปัญจิกาประทีปะ สันนิษฐานว่าน้ีคงเกิดจากการ ตกหล่นลืมเลือน เพราะขาดการสนใจของนักศึกษาภาษาบาลียุคหลัง ประกายแห่ง ความสว่างไสวจึงได้มัวหมองลดลง ความส�ำคัญจึงถูกเก็บซุกซ่อนไว้อย่างน่าเสียดาย นักปราชญ์รุ่นหลัง นักปราชญ์รูปอื่นที่มีชีวิตอยู่ยุคน้ีหรืออาจจะภายหลังเล็กน้อยต่างพากันแต่ง คัมภีร์เป็นภาษาสิงหล นอกจากคัมภีร์ท่ีกล่าวถึงเบ้ืองต้นแล้ว อาจารย์ใหญ่แห่งอิรุกัล กุลปริเวณะแห่งมุลคิริคละ ได้แต่งคัมภีร์โกวุลสันเดสะ พระแวตแตวเถระแต่ง คมั ภรี ค์ ตุ ตลิ ชาตกยะ นกั ปราชญน์ ริ นามทา่ นหนง่ึ แตง่ คมั ภรี ค์ ริ าสนั เดสะและตสิ รสนั เดสะ ซึ่งท้ังสองเล่มมีหลักฐานระบุว่าเป็นนักกวีสมัยอาณาจักรโกฏเฏ ส่วนศิษย์ของ พระศรีไมตรียมหาสามีแห่งรยคาม ได้แปลคัมภีร์อัตตนคลุวังสะ ตามค�ำอาราธนา ของกษัตริย์ลังกา พระธัมมทินนวมิ ลกติ ติเถระหรืออีกช่อื หน่ึงว่าสทิ ธัตถะ ได้แต่งคมั ภรี ์สทั ธรรม รัตนากระ พระมหาเนตราปรสารทมูลวีทคามเถระ ภิกษุผู้มีนามอุโฆษด้านกวีนิพนธ์ เทียบเท่าพระศรีราหุลเถระ ได้แต่งคัมภีร์บุดุคุณาลังการะ ซึ่งเป็นโคลงสรรเสริญ พระพุทธคุณ (พ.ศ.๒๐๑๕) คัมภีร์โลแวทสังครา เป็นโคลงเชิงเทศนาโวหาร และคัมภีร์ ๓๑ De Zoysa, Catalogue, p. 26. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 422 1/18/20 1:17 PM

ศรีลังกา 423 กิวิลคุณุมิณิมาลา อันเป็นขุมทรัพย์แห่งฉันทลักษณ์ภาษาสิงหล นอกจากน้ัน พระ รนัสคัลลเถระแห่งโตฏคามุวิหารได้แต่งโคลงเพ่ือจริยธรรมนามว่าโลโกปการยะ๓๒ ส่วนคัมภีร์ภาษาบาลีของยุคน้ีคือวุตตมาลาหรือวุตตมาลาสันเดสสตกะ เป็นโคลงภาษาบาลีประกอบด้วย ๑๐๒ พระคาถา หลากหลายด้วยฉันท์ท่ีงดงาม อลังการ แต่งโดยภิกษุนามว่าคตาราปริเวณะอุปตปัสสิ ในบทสรุปผู้แต่งระบุว่าตัวเอง เป็นหลานของพระสรสิคามมูลมหาสามี เจ้าอาวาสวัดชาติคาม๓๓ ค�ำว่าสรสิคามมูละ ในภาษาสิงหลคือวิลคัมมูละ วิลคัมก็คือเสรุวาวิละ ปัจจุบันเรียกว่าโธปุระ สันนิษฐาน ว่าผู้แต่งเป็นภิกษุฝ่ายสโรคามะ กล่าวกันว่าส�ำนักแห่งน้ีมีพระนักปราชญ์นามอุโฆษ จ�ำนวนมาก ว่าตามหลักฐานคัมภีร์เล่มนี้แต่งในสมัยพระเจ้าปรากรมพาหุที่ ๖ ผู้เขียน บรรยายความงดงามของนครนามว่าชาติคาม สรรเสริญพระเจ้าปรากรมพาหุและ พระราชมารดานามว่าสุเนตราเทวี จากน้ันอธิบายวัดใหญ่ซึ่งมากมายด้วยภิกษุสงฆ์ ผู้จ�ำพรรษา พระนักปราชญ์เหล่าน้ันอาจจะเป็นอาจารย์ปรัมปราเหมือนผู้แต่งคัมภีร์ ก็เป็นได้ พระสงฆ์นักปราชญ์ที่ได้รับการสดุดีเกียรติ คือ พระอุปลันตรมูลเถระ พระเสนาปติมูลเถระ พระมหาเนตตาปาสาทมูลเถระ พระสโรคามมูลเถระ พระ วนรัตนเถระ พระธรรมกิตติเถระ พระภูวเนกพาหุเถระ (อาจจะเป็นอาจารย์ของผู้แต่ง คัมภีร์อนาปัตติทีปนี) พระสังฆราช และพระคตาปริเวณะราอุปตปัสสิเถระ ผู้เป็นศิษย์ ของพระสังฆราชกล่าวคือผู้เขียนเอง เนวิลล์เช่ือมั่นว่าพระอุปตปัสสิหมายถึงต�ำแหน่งพระอนุนายกะ หลังจากจบฉันท์สรรเสริญเกียรติคุณพระเถระนักปราชญ์เหล่านั้นแล้ว ผู้เขียนได้อธิบายถึงวัดแกลาณียะ อันเป็นที่สถิตของเทพเจ้าวิภีศณะ ซึ่งผู้เขียนได้ อ้อนวอนให้ประสิทธิประสาทพรแก่พระเจ้าปรากรมพาหุและราชอาณาจักร ๓๒ เก่ียวกับนักเขียนเหล่าน้ีและหนังสือผลงานดูใน Wickremasinghe's Catalogue, passim. ๓๓ อาจเป็นแดดิคามะในเบลิคัลโกฬเล และกษัตริย์ขึ้นครองราชย์ไม่เป็นท่ีรู้จัก See Bell's Archaeological Report on the Kegalle District, pp. 81-5. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 423 1/18/20 1:17 PM

424 รุ่งเรืองก่อนเข้าสู่ยุคมืด คัมภีร์วุตตมาลาน่าจะแต่งขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์แก่นักเรียนท่ีก�ำลังศึกษาการ ออกเสียงที่ถูกต้อง และการออกเสียงสูงต่�ำเมื่อท่องฉันท์๓๔ ส่วนใหญ่เป็นคู่มือใน ปริเวณะ คัมภีร์แปลถอดความยังมีอยู่ถึงปัจจุบัน เป็นลักษณะโคลงเก่ียวกับกิริยาใน ภาษาสิงหลโดยนักเขียนนิรนาม หรืออาจจะเป็นคนเดียวกันท่ีเขียนกวีนิพนธ์เล่มน้ี ก็เป็นได้ ท้ังกวีนิพนธ์และโคลงต่างได้รับการตีพิมพ์เรียบร้อยแล้ว๓๕ วิกรมสิงหะระบุว่ายุคน้ีวรรณคดีนามว่าธาตุวังสะได้เขียนเป็นภาษาสิงหลแล้ว เพราะข้อความท้ายสุดของเอกสารรวบรวมคัมภีร์ของท่านระบุถึงพระเถระนามว่า กกสุ นั ธะ แตไ่ มม่ ขี อ้ มลู สว่ นอนื่ เกย่ี วกบั ผเู้ ขยี น๓๖ และไมบ่ อกวา่ ฉบบั ภาษาสงิ หลเปน็ ตน้ ฉบับที่ท่านแต่งเองหรือแปลมาจากภาษาบาลี ผู้เขียนจึงสมัครใจท่ีจะเห็นด้วยกับ ศาสตราจารย์ไกเกอร์ ซึ่งวิจารณ์ว่าคัมภีร์ธาตุวังสะเป็นการถอดแปลเป็นภาษาสิงหล เช่นเดียวกับคัมภีร์มหาโพธิวังสะและคัมภีร์ถูปวังสะ๓๗ อีกทั้งส�ำเนาภาษาบาลีที่ระบุช่ือ วา่ คมั ภรี ล์ ฬาฏธาตวุ งั สะหรอื คมั ภรี ล์ ฬาฎวงั สะ ตา่ งมลี กั ษณะวธิ กี ารแตง่ เกา่ กวา่ สำ� หรบั ผู้แต่งและวันเวลาน้ันไม่ทราบแน่นอน ต้นฉบับก็ยากท่ีจะค้นหา๓๘ ยังมีงานเขียนในสมัยเดียวกันเรียกช่ือว่าลฬาฏธาตุวังสวัณณนา แต่ผู้เขียน ไม่ทราบว่าต้นฉบับยังมีอยู่ในลังกาหรือไม่ รีส เดวิสด์ กล่าวว่าหอสมุดแห่งชาติที่นคร ปารีสมีต้นฉบับของคัมภีร์เล่มนี้อยู่ ซ่ึงเขียนลงใบลานประมาณ ๒๗ แผ่น๓๙ คัมภีร์ลฬาฏธาตุวังสะเป็นต�ำราเก่ียวกับประวัติศาสตร์ แบ่งเป็น ๕ บท กล่าวถึงพระนลาฏธาตุของพระพุทธเจ้า ต�ำราเล่มนี้เป็นของเก่าแก่แน่นอน มีหลักฐาน ระบุวา่ เปน็ นทิ านปรัมปราของแคว้นโรหณะและแคว้นมลยะ บรรจุนิทานพ้นื บา้ นทนี่ ยิ ม เล่าขานไว้เป็นจ�ำนวนมาก ซ่ึงไม่พบท่ีใดเลย โดยเฉพาะประวัติครอบครัวของพระเจ้า กากวัณณติสสะ ผู้เป็นพระราชบิดาของพระเจ้าทุฏฐคามณี ๓๔ D'Alwis, Sidat-sangara, p. 225. ๓๕ Colombo, 1871-96. ๓๖ Ibid., p, xx. ๓๗ Dipa-vamsa and Maha-vamsa, p. 91. ๓๘ The G.V., p. 62 อ้างถึงคัมภีร์นฬาตธาตุวัณณนา แต่ไม่ระบุนามผู้แต่ง ๓๙ JRAS., N.S., vol. vi, p. 171. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 424 1/18/20 1:17 PM

ศรีลังกา 425 คัมภีร์เล่มนี้ไม่กล่าวถึงนามผู้แต่งคัมภีร์มหาวงศ์และตำ� ราฎีกาเลย อีกท้ังหา หลักฐานอ้างอิงได้ยากนัก เน้ือหาเป็นลักษณะเหมือนคัมภีร์วังสะทั่วไป กล่าวคือมีรูป แบบเดียวกัน เริ่มต้นด้วยพระประวัติของพระพุทธเจ้าทีปังกร จากนั้นผ่านเลยไปถึง พระพุทธเจ้าโคดมเสด็จมาเยือนเกาะลังกา เหตุการณ์เม่ือคราวปรินิพพาน และการ แจกพระบรมสารีริกธาตุ บทท่ี ๓ กล่าวถึงประวัติพระนลาฏของพระพุทธเจ้า ต้ังแต่ เจ้ามัลละได้รับแจกพระธาตุหลังเหตุการณ์พุทธปรินิพพาน จนถึงการน�ำเข้ามาเกาะ ลังกาสมัยพระเจ้ามหานาคะผู้ครองเมืองมหาคามะ ครั้งแรกได้รับการบูชากราบไหว้ โดยคหบดีม่ังค่ังนามว่ามหากาละ ภายหลังต่อมากษัตริย์ทรงทราบข่าวจึงโปรดให้ อัญเชิญมาเก็บรักษาภายในพระราชวัง ต้ังแต่น้ันเป็นต้นมาพระนลาฏธาตุสถิตอยู่แคว้นโรหณะ ภายใต้การดูแลรักษา ของเจ้าชายแห่งโรหณะ ส่วนบทสุดท้ายกล่าวถึงครอบครัวของพระเจ้ากากวัณณติสสะ ประวัติการก่อสร้างสถูปท่ีเสรุวิละเพ่ือบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ การถวายอุทิศและ การบรรจุพระสารีริกธาตุ สันนิษฐานว่าหลักฐานจากสองบทสุดท้ายคัดลอกมาจาก ข้อมูลที่รู้จักกันดีและเป็นเร่ืองเล่าของชาวบ้าน ด้วยเหตุดังกล่าวจึงไม่เป็นที่รู้จักของผู้ แต่งคัมภีร์มหาวงศ์ จึงไม่ระบุถึงคัมภีร์เล่มน้ี การอธิบายวิธีสร้างสถูปเป็นต้นส่วนใหญ่ น�ำมาจากคัมภีร์มหาวงศ์เป็นการถอดความค�ำต่อค�ำ วิธีการท่ีคล้ายคลึงกันระหว่าง คัมภีร์ลฬาฏธาตุวังสะและคัมภีร์มหาโพธิวังสะชวนให้นึกว่า คัมภีร์ท้ังสองเล่มเป็น วรรณกรรมภาษาบาลีเขียนในยุคเดียวกัน กล่าวคือประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๐-๑๑ ส่วนคัมภีร์กกุสันธะฉบับภาษาสิงหลเป็นงานแปลจากภาษาบาลี บรรจุด้วย รายละเอียดมากหลายท่ีไม่พบในคัมภีร์บาลีเล่มใด ตัวอย่างเช่น การอธิบายเหตุการณ์ คราวพระพุทธเจ้าเสด็จมาลังกา๔๐ คัมภีร์กกุสันธะฉบับภาษาสิงหลได้เรียบเรียงและ ตีพิมพ์โดยพระคินโตฏะ ธัมมักขันธเถระ เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๓ ผู้เขียนเข้าใจว่าฉบับ ภาษาบาลีรวมอยู่ในการพิมพ์คร้ังนั้นด้วย ๔๐ For fuller description see Geiger, op. cit., pp. 91-93. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 425 1/18/20 1:17 PM

426 รุ่งเรืองก่อนเข้าสู่ยุคมืด กษัตริย์รามัญฟื้นฟูพระศาสนา สมัยพระเจ้าภูวเนกพาหุท่ี ๖ แห่งอาณาจักรโกฏเฏนั้น กษัตริย์แห่งรามัญ ประเทศพระนามว่าพระเจ้าธรรมเจดีย์ ได้ฟื้นฟูพระพุทธศาสนาครั้งใหญ่ กษัตริย์มอญ พระองค์นี้ครองราชย์ประมาณ พ.ศ.๒๐๑๓-๒๑๓๔๔๑ รัชสมัยของพระองค์เป็นยุคแห่ง การจดจ�ำคร้ังหนึ่งของพม่ารามัญ เพราะกิตติศัพท์ของพระองค์ในฐานะนักปกครอง และทรงเมตตากรุณา ได้แพร่หลายไปไกลภายนอกราชอาณาจักร เป็นที่รู้จักตลอด วงการพุทธศาสนาถึงความศรทั ธาม่ันคง เดิมทีนน้ั ทรงเปน็ พระภิกษตุ ่อมาลาสิกขา เพอ่ื ร้ังต�ำแหน่งเสนาบดีของพระมเหสีชินเสบู สมัยต่อมาพระองค์ได้รับแต่งต้ังเป็น พระราชบุตรบญุ ธรรมและครองราชย์สืบตอ่ พระองค์มิได้เป็นเพียงกษตั รยิ ์ท่ีมีพระราช หฤทัยสูงล�้ำ แต่เป็นผู้น�ำปกป้องคณะสงฆ์ที่พระองค์เคยผนวช ทรงฟื้นฟูพระศาสนา ด้วยความพยายามอย่างย่ิง เพราะทรงเลียนแบบพระเจ้าอโศกมหาราชและพระเจ้า ปรากรมพาหุมหาราช ส่ีทศวรรษที่ครองราชย์อาณาจักรรามัญร่มเย็นเป็นสุขไพร่ฟ้า หน้าใส พระองค์ทรงทราบว่าพระศาสนาได้ถูกทอดท้ิงยาวนานจนเส่ือมโทรม เหตุ เพราะความวุ่นวายทางการเมือง การสืบทอดคติเถรวาทปรัมปราในรามัญประเทศได้ หยุดชะงัก เพื่อที่จะรักษาคณะสงฆ์รามัญให้ด�ำเนินรอยตามผู้สืบทอดพระศาสนา เฉกเช่นพระมหินทเถระ พระองค์จึงได้จัดส่งคณะราชทูตมายังลังกาประเทศ ประกอบ ด้วยเสนาบดีสองท่านและพระสงฆ์ ๒๒ รูป พร้อมกับเครื่องราชบรรณาการอันมีค่า เพ่ือมอบถวายแก่พระเจ้าแผ่นดินลังกาและพระเถระผู้ใหญ่ พร้อมกันนี้ได้มอบถวาย พระราชสาสน์บันทึกในใบลานทองค�ำแก่กษัตริย์ลังกาด้วย คณะสงฆ์รามัญได้รับการต้อนรับอย่างย่ิงใหญ่สมเกียรติ และการร้องขอ ของพระองค์ได้รับการสนองตอบอย่างฉันท์มิตร พระสงฆ์รามัญเหล่านั้นได้รับการ อปุ สมบทภายใตก้ ารดูแลของคณะสงฆ์ฝ่ายมหาวหิ าร ในนทีสีมากลางแมน่ ำ้� แกลาณยี ะ ๔๑ Phayre, History of Burma, p. 290. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 426 1/18/20 1:17 PM

ศรีลังกา 427 หลังจากเดินทางกลับมาตุภูมิแดนรามัญประเทศแล้ว พระเจ้าธรรมเจดีย์โปรดให้จัด ท�ำสีมาขึ้นท่ีเมืองหงสาวดี เป็นท่ีรู้จักกันในนามกัลยาณีสีมา ครั้งเฉลิมฉลองศิลาจารึก กัลยาณีที่เมืองเชียงคเนียงนั้น พระเจ้าธรรมเจดีย์โปรดให้บันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับการ อุปสมบท เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่คนรุ่นหลังที่ต้องการทราบความเป็นมา น่าเสียดาย ว่าศิลาจารึกได้ถูกท�ำลายโดยโจรนอกศาสนานามโปรตุเกส แต่สมัยต่อมาได้รับการ บูรณะข้ึนมาใหม่เหมือนดังเดิม ข้อความบันทึกในศิลาจารึกได้แต่งเป็นหนังสือ บรรยายเกี่ยวกับการเท่ียว จาริกไปยังวัดน้อยใหญ่ในลังกา โดยเฉพาะวัดสังกัดคณะสงฆ์อมรปุรนิกายภายใต้ชื่อ ว่าคัมภีร์กัลยาณีปปกรณะ ประเด็นหน่ึงเก่ียวกับวรรณคดีท่ีน่าสนใจระบุไว้ในคัมภีร์ กัลยาณีปปกรณะ ท�ำให้ทราบมาตรฐานด้านความรู้เกี่ยวกับพระวินัยของคณะสงฆ์ ยุคนั้นเป็นอย่างดี เช่นเดียวกับหลักฐานในคัมภีร์อีกหลายเล่ม กล่าวคือ คัมภีร์ วินยัตถกถา คัมภีร์สารัตถทีปนี คัมภีร์วิมติวิโนทนี คัมภีร์วินยวินิจฉัย คัมภีร์ วินยสังคหะ คัมภีร์สีมาลังการสังคหะ และคัมภีร์วชิรพุทธิฏีกา กล่าวตามความจริง คัมภีร์เหล่านี้ทั้งหมดเป็นผลงานของนักปราชญ์ชาวสิงหล๔๒ หนังสือกัลยาณีปปกรณะ ถือว่าเป็นคัมภีร์ทรงคุณค่า เพราะมีนัยบอกว่ามีความส�ำคัญเหนือกว่าคัมภีร์ท่ีเหลือ ซึ่งกล่าวอ้างโดยพระสงฆ์ผู้อุปสมบทจากคณะสงฆ์ลังกาโดยตรง ๔๒ เก่ียวกับจารึกกัลยาณีดูใน Preliminary Study by Taw Sein Ko in the Indian Antiquary, vol. xxii. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 427 1/18/20 1:17 PM

428 รุ่งเรืองก่อนเข้าสู่ยุคมืด (บนซ้าย) คัมภีร์กาวยเสขระ ภาษาสิงหล (บนขวา) คัมภีร์โลแวฑสังคราวะ ภาษาสิงหล (ล่างซ้าย) คัมภีร์ปเรวิสันเดศยะ ภาษาสิงหล และ (ล่างขวา) คัมภีร์บุดุคุณอลังการยะ ภาษาสิงหล 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 428 1/18/20 1:17 PM

ศรีลังกา 429 (บน) โกฏเฏราชมหาวิหาร เดิมเป็นพระอารามหลวงภายในพระราชวัง และ (ล่าง) เจดีย์ภายใน เวเหระคันดะ ภายในพระราชวังโกฏเฏ (คัดลอกภาพจาก www.google.co.th/maps) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 429 1/18/20 1:17 PM

430 รุ่งเรืองก่อนเข้าสู่ยุคมืด รปู ปน้ั พระวที าคมไมตรยี เถระแหง่ สำ� นกั วทิ คี ามะวหิ าร ปราชญเ์ อกอกี รปู หนงึ่ สมยั อาณาจกั รโกฏเฏ 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 430 1/18/20 1:17 PM

ศรีลังกา 431 (บน) พระเจ้าธรรมเจดีย์ทรงประชุมคณะสงฆ์เพ่ือปฏิรูปพระศาสนา และ (ล่าง) พระมอญเข้าพิธี อุปสมบทท่ีแม่น�้ำกัลยาณี ใกล้วัดแกลาณียราชมหาวิหาร ภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดแกลาณียราช มหาวิหาร (คัดลอกภาพจาก www.photodharma.net) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 431 1/18/20 1:17 PM

432 ยุคเสื่อม 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 432 1/18/20 1:17 PM

ศรีลังกา 433 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 433 1/18/20 1:17 PM

ภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดศรีสุโพธาราม เขตเดหิวาละ เมืองหลวงโคลัมโบ 1/18/20 1:17 PM 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 434

บทท่ี ๑๔ ยุคเส่ือม ชะตากรรมอาณาจักรโกฏเฏ สองศตวรรษภายหลังการสวรรคตของพระเจา้ ปรากรมพาหุที่ ๖ ผู้เป็นกษตั ริย์ มหาราชพระองค์สุดท้ายของเกาะลังกา ถือว่าเป็นยุคเสื่อมโทรมเลวร้ายท่ีสุดของ ประวัติศาสตร์ลังกา บ้านเมืองเดิมเคยรุ่งเรืองย่ิงใหญ่ไพศาลก็ถอยหลังตกต�่ำหมด อ�ำนาจ ชายฝั่งทะเลรอบเกาะตกอยู่ภายใต้การครอบครองของพวกมุสลิม บรรดา หัวเมืองใหญ่น้อยเดิมเคยรวมเป็นหน่ึงเดียวก็แยกตัวปกครองกันเองเป็นเอกเทศ เหตุเพราะขาดการบริหารที่มีประสิทธิภาพจากส่วนกลาง เจ้าเมืองน้อยใหญ่เหล่านั้น ต่างกดขี่ข่มเหงประชาชนจนเป็นเหตุเร่งบ้านเมืองให้เสื่อมโทรมเร็วข้ึน ส่วนการ พระศาสนาก็ถูกละเลยทอดทิ้งขาดการพัฒนาสืบต่อ ยุคนี้เต็มไปด้วยความพยาบาท แย่งชิงความเป็นใหญ่กันเองระหว่างชาวสิงหล จนกลายเป็นความวุ่นวายไร้ที่สิ้นสุด แม้อาหารเคร่ืองยังชีพส�ำหรับอุดหนุนเล้ียงดูบ้านเมืองก็หมดส้ินไป ท้ังที่บรรพชนได้ เสียสละทุ่มเทรักษาเอาไว้เป็นอย่างดี บัดน้ีกลายเป็นว่าลังกาประเทศต้องอาศัยอินเดีย เพื่อส่ิงจ�ำเป็นส�ำหรับด�ำรงชีพ เรมิ่ ตน้ พทุ ธศตวรรษท่ี ๒๑ โชครา้ ยกม็ าเยอื นเกาะลงั กา เมอื่ บรรดาชาตติ ะวนั ตก ได้เข้าครอบครองประเทศตะวันออกเพื่อยึดครองเส้นทางการค้า ยุคนี้เองโปรตุเกสคน เถ่ือนมาเยือนลังกา๑ ตรงกับสมัยพระเจ้าธรรมปรากรมพาหุ พระเจ้าแผ่นดินพระองค์ นเี้ ปน็ กษตั รยิ อ์ อ่ นแอโงเ่ ขลาเบาปญั ญา ทรงครอบครองอาณาเขตเพยี งนอ้ ยนดิ โปรตเุ กส ให้สัญญากษัตริย์ลังกาว่าจะให้ความช่วยเหลือทางทหาร เพ่ือท�ำสงครามกับเจ้าเมือง ๑ เฉพาะสมัยโปรตุเกสในศรีลังกา See Emerson Tennent, Ceylon, vol. ii, chap. 1, and หนังสืออันทรงคุณค่าดู Pieris, Ceylon and the Portuguese (1920), passim. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 435 1/18/20 1:17 PM

436 ยุคเสื่อม น้อยใหญ่ที่แยกตัวออกห่าง อีกทั้งสร้างความร่�ำรวยจากการค้า หากกษัตริย์ลังกายินดี อนุญาตให้สร้างป้อมปราการ ด้วยเหตุผลเช่นน้ีโปรตุเกสจึงเหยียบแผ่นดินลังกาและ สร้างป้อมปราการขึ้นใกล้ชายทะเล จากน้ันด�ำเนินการติดต้ังปืนใหญ่น�ำเรือเดินทะเล มาจอดเรียงรายเพ่ือข่มขู่กษัตริย์ลังกา แม้เมืองหลวงของอาณาจักรโกฏเฏก็อยู่ภายใต้ แนวปืนใหญ่ของโปรตุเกส ประชาชนชาวสิงหลต่างไม่พอใจพระเจ้าแผ่นดินของตนที่ แสดงความเป็นมิตรกับชาวต่างชาติจนออกนอกหน้า จึงพากันข่มขู่ว่าจะก่อจลาจล โปรตุเกสน้ันเป็นพวกตีสองหน้าพยายามสร้างเพทุบายให้ชาวสิงหลทะเลาะ เบาะแว้งเข่นฆ่ากันเอง เม่ือม่ันใจว่ากษัตริย์ลังกาไม่กล้าปฏิเสธความช่วยเหลือ โปรตุเกสจึงบีดรัดทุกวิถีทางเพื่อให้กษัตริย์ลังกาอยู่ในก�ำมือ เพียงช่ัวระยะเวลาอันส้ัน หลังจากเข้ามาเยือนลังกา โปรตุเกสก็สามารถต้ังมั่นสถานีการค้าได้อย่างถาวรตลอด ทุกหัวระแหงตามหัวเมืองชายฝั่งทะเล ตราบระยะเวลายาวนานเกินศตวรรษจนกระทั่ง ถูกฮอลันดาขับไล่ให้พ้นเกาะ โปรตุเกสใช้อ�ำนาจบีบบังคับให้ชาวสิงหลละทิ้งหัวเมือง ชายทะเล ขณะท่ีเมืองหลวงถูกปิดล้อมยึดครองจนไม่สามารถปฏิเสธได้ บรรดาขุนนาง น้อยใหญ่ท่ีจงรักภักดีต่อพระเจ้าแผ่นดินต่างพยายามทุกวิถีทางเพ่ือขับไล่คนนอก แต่เพทุบายอันแยบยลของโปรตุเกสมีประสิทธิภาพมากกว่า ด้วยการเติมไฟให้ ชาวสิงหลขัดแย้งกันเองและเส้ียมสอนให้เกิดความอิจฉาริษยาซ่ึงกันและกัน การ จลาจลที่เกิดข้ึนหลายต่อหลายคร้ังตามหัวเมืองชายทะเล ล้วนเป็นฝีมือการปลุกปั่น ของโปรตุเกสท้ังสิ้น พ.ศ.๒๑๘๓ แผนการณ์สร้างความบาดหมางระหว่างกษัตริย์ลังกาและไพร่ฟ้า ประชาราษฎร์ก็ประสบความส�ำเร็จ พระเจ้าภูวเนกพาหุที่ ๗ ผู้เป็นกษัตริย์ลังการู้ว่า พระองค์จะเป็นอยู่ได้เพราะความเมตตาของคนนอกเท่าน้ัน จึงร้องขอโปรตุเกสให้ช่วย สนับสนุนการสืบราชบัลลังก์สิงหล เพ่ือแสดงเจตนาว่ายินยอมทุกส่ิงอย่าง พระองค์ โปรดให้ช่างแกะสลักรูปปั้นของพระราชนัดดานามว่าธรรมปาละ ด้วยงาช้าง ทอง และ เงิน จากน้ันส่งรูปปั้นและมงกุฎอัญมณี พร้อมท้ังเพชรนิลจินดาอันมีค่าราคาแพงไป เปน็ บรรณาการมอบถวายแดพ่ ระจกั รพรรดแิ หง่ โปรตเุ กส เพราะเชอื่ วา่ เปน็ ทพ่ี งึ่ สดุ ทา้ ย ทส่ี ามารถรบั ประกนั ไดว้ า่ เจา้ ชายธรรมปาละจะไดข้ นึ้ ครองบลั ลงั กล์ งั กาสบื แทนพระองค์ 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 436 1/18/20 1:17 PM

ศรีลังกา 437 ครั้นเมื่อราชทูตกลับมาถึงลังกา พระราชนัดดาในฐานะทายาทอันถูกต้องชอบธรรม แห่งบัลลังก์ลังกา ก็ได้การรับรองสถานภาพดังค�ำร้องขอ ต่อมาเจ้าชายธรรมปาละได้ละท้ิงศาสนาประจ�ำชาติเสียหันไปเข้ารีตเป็นคริสต์ มีพระนามใหม่ว่า ดอน ฮวน เปริยบัณฑาระ เพราะกษัตริย์โปรตุเกสต้องการให้เป็น ผู้สืบทอดอ�ำนาจแท้จริงตามคติของคริสต์ศาสนา จากน้ันพวกบาทหลวงคณะฟรานซิส ซ่ึงร่วมเดินทางมาพร้อมกับคณะราชทูตลังกา ได้ออกเดินทางเผยแผ่ค�ำสอนของ พระเยซูเจ้าท่ัวเกาะลังกา โดยการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากกษัตริย์สิงหล กลุ่มชาว คริสต์ได้รวมตัวกันเป็นครั้งแรกตามหัวเมืองชายทะเล๒ น้ีคือจุดเร่ิมต้นแห่งการ ท�ำลายล้างพระพุทธศาสนา ซ่ึงเป็นเพียงสถาบันเดียวที่ยังม่ันคงเหลืออยู่ ถือว่าเป็น ท่ีพ่ึงทางจิตใจของชาวบ้านและเป็นศูนย์กลางการศึกษา๓ เร่ิมต้นพุทธศตวรรษที่ ๒๒ โปรตุเกสสามารถครอบครองหัวเมืองชายทะเล ได้รอบเกาะ รวมถึงอาณาจักรจัฟฟ์นาตอนเหนือ จากน้ันพยายามขยายดินแดนเข้าไป ภายในเกาะลังกา เพ่ือต้องการบีบอาณาจักรแคนดีให้มีอาณาเขตเหลือน้อยที่สุด๔ โปรตุเกสคนเถื่อน ทกุ สงิ่ อยา่ งทโี่ ปรตเุ กสวางแผนเอาไว้ ลว้ นเตม็ ไปดว้ ยความโหดรา้ ยไรม้ นษุ ยธรรม ความโหดร้ายป่าเถ่ือนเห็นได้จากพฤติกรรมพาลของบรรดาทหารน้อยใหญ่ ด้วยการ รื้อเผาท�ำลายอาคารบ้านเรือนชาวบ้านทุกหนแห่ง ส�ำหรับลูกเด็กเล็กแดงถูกเสียบไว้ บนปลายหอก แล้วบังคับบิดามารดาให้จ้องดูภาพอันน่าสังเวชด้วยน�้ำตานองหน้า บางครั้งจับเด็กยัดใส่เครื่องโม่แป้งก่อนบดขยี้ทรมานให้ตาย ส่วนผู้ชายถูกจับโยนลง สะพานเพ่ือเป็นเครื่องบันเทิงของเหล่าทหาร บางคร้ังโยนให้เป็นเหยื่อจระเข้๕ ๒ Tennent, Christianity in Ceylon, chap. i. ๓ Pieris, op.cit, p. 78. ๔ Tennent, Ceylon, vol. ii, p. 26. ๕ Faris Y Souza, Asia Portuguese (Lisbon, 1666-75), Stevens' translation, vol. iii, pt. iii, chap. xv, p. 279. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 437 1/18/20 1:17 PM

438 ยุคเส่ือม เหล่าขุนนางผู้บริหารบ้านเมืองสูญเสียอ�ำนาจหมดส้ิน ประชาชนถูกกดข่ีห่มเหงด้วย การเพ่ิมภาษีอย่างหนัก และควบคุมด้วยกฎหมายอันโหดร้ายทารุณ ขุนนางท่านใด กล้าแสดงตัวว่าจงรักภักดีต่อบ้านเมือง ล้วนถูกถอดยศริบทรัพย์สมบัติจนหมดสิ้น หากต้องการมีชีวิตอยู่ต้องเลือกที่จะอยู่ข้างโปรตุเกส ขุนนางมากหลายล้วนยินดีกับต�ำแหน่งที่โปรตุเกสหยิบย่ืนให้ เพราะสามารถ บังคับชาวสิงหลพวกเดียวกันได้ โปรตุเกสมีอ�ำนาจสิทธิ์ขาดเหนือชาวสิงหล และ พร้อมท่ีจะก�ำจัดคนท่ีไม่ยอมเชื่อพระเยซูเจ้า ชาวนาผู้ยากจนเช่าที่ท�ำกินถูกกดข่ีข่มเหง อย่างหนัก จนกระทั่งต้องขายลูกเพื่อแลกกับการมีชีวิต พวกเจ้าหน้าท่ีของโปรตุเกส เองกไ็ มต่ ่างอะไรกบั มหาโจรเพราะคดโกงตอ่ หนา้ ท่ี การบรหิ ารของโปรตเุ กสจงึ ลม้ เหลว ไพร่ฟ้าประชาชนต่างทุกข์ทรมานจากการกดขี่ข่มเหงของชาติตะวันตกคนนอก ไม่ว่า ผลิตผลทางการเกษตรจะเป็นทีพ่ อใจหรือไม่ แต่จ�ำนวนพลเมอื งกลบั หดหายลดลงเป็น จ�ำนวนมาก ที่ดินถูกทิ้งร้างไร้ผู้คนรักษาท�ำกิน ความสามัคคีของชาวสิงหลถูกตัดขาด จนหมดก�ำลังอ่อนล้า เหนือสิ่งอ่ืนใด โปรตุเกสได้ท�ำลายศาสนาของชาวลังกาจนเสื่อมโทรมสิ้นสูญ พระเจ้าดอมฮวนที่ ๓ (Dom Joan III) ผู้เป็นจักรพรรดิแห่งโปรตุเกส สมยั นน้ั เปน็ กษตั รยิ ผ์ ศู้ รทั ธาศาสนาอยา่ งซอ่ื สตั ย์ คลง่ั ไคลต้ อ่ การเปลยี่ นแปลงคนนอก ศาสนาอย่างบ้าคลั่ง แม้พวกบาทหลวงก็ช่ืนชอบการท�ำลายล้างดุจเดียวกัน พ.ศ.๒๐๗๗ อิกนะติอุสแห่งโลโยละ (Ignatius of Loyola) ได้ก่อต้ังสมาคม พระเยซูเจ้าข้ึน ณ นครปารีส อีกสองปีต่อมาได้ก่อตั้งศาลไต่สวนข้ึน (Inquisition) ศาลดังกล่าวจัดต้ังท่ีโปรตุเกสมีพระมหากษัตริย์เป็นผู้น�ำ ใกล้กับปีท่ีพระเจ้าภูวเนก พาหุที่ ๗ ร้องขอให้พระราชนัดดาธรรมปาละเป็นรัชทายาทแห่งบัลลังก์ลังกา เม่ือ ค�ำร้องขอของพระเจ้าแผ่นดินลังกาได้รับการยอมรับจากโปรตุเกสเรียบร้อยแล้ว ค�ำส่ัง จากพระจักรพรรดิโปรตุเกสที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ก็ตามมา กล่าวคือ กษัตริย์สิงหล แห่งอาณาจักรโกฏเฏต้องอนุญาตให้พวกมิชชันนารีเผยแผ่คริสต์ศาสนาได้อย่างเสรีทั่ว ราชอาณาจักร จากน้ันพวกบาทหลวงได้เริ่มงานเผยแผ่ค�ำสอนของพระเยซูเจ้าทันที ตามค�ำขวัญของโปรตุเกสว่า ไมตรี การค้า และศาสนา (Amity, Commerce and 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 438 1/18/20 1:17 PM

ศรีลังกา 439 Religion) พวกบาทหลวงมุ่งมั่นตั้งใจประกาศค�ำสอนของพระเยซูเจ้าอย่างไม่รู้จัก เหน็ดเหนื่อย หากไม่ได้ผลตามท่ีคาดหมายกันไว้ก็ตัดสินใจใช้ดาบขู่บังคับ๖ พ.ศ.๒๐๘๙ พระจักรพรรดิแห่งโปรตุเกสส่งหนังสือถึงอุปราชผู้ท�ำหน้าที่ แทนพระองค์ ณ ประเทศอินเดีย รับส่ังว่าท่านจงค้นหารูปปั้นแล้วเผาท�ำลายให้ ส้ินซาก ผู้ใดกล้าสลัก ปั้น ทาสี หรือท�ำรูปปั้นด้วยเงิน ทองแดง ไม้ ดินเหนียว หรือวัตถุอื่นใด จงลงโทษอย่างเด็ดขาด ส่วนผู้ใดกล้าจัดพิธีกรรมในที่ลับหรือท่ีแจ้ง อันจะเป็นการเปิดโอกาสให้คนนอกศาสนาพากันเอาใจออกห่าง หรือยุยงส่งเสริมให้ พวกคนนอกศาสนากล้าท้าทายอ�ำนาจ ท่านจงลงโทษอย่างรุนแรงอย่าได้ปรานี๗ พระด�ำรัสของพระองค์ได้ถูกน�ำมาปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ผู้ใดก็ตามที่กล้า ท้าทายการท�ำงานของชาวคริสต์จะต้องถูกลงโทษโดยไม่ต้องลังเล ผู้ใดกล้าคัดค้านการ เป็นชาวคริสต์ล้วนถูกลงโทษเด็ดขาด ความส�ำเร็จของพวกบาทหลวงฟรานซิสมา ประสบความส�ำเร็จสูงสุด เม่ือพระเจ้าธรรมปาละหันมาเข้ารีตเป็นคริสต์ แม้พระมเหสี ก็หันมานับถือคริสต์เช่นกัน โดยเปลี่ยนพระนามใหม่ว่าโดนะแคธลีนา ตามนามของ พระจักรพรรดินีแห่งโปรตุเกส เม่ือพระสันตะปาปาทราบข่าวได้ส่งสมณสาสน์แสดง ความยินดีอย่างใหญ่หลวง เพราะถือว่าเป็นประโยชน์มหาศาลต่อการเผยแผ่คริสต์ ศาสนา พร้อมกันนั้นได้แต่งต้ังพระจักรพรรดิแห่งโปรตุเกสให้ทำ� การอารักขากษัตริย์ สิงหลเป็นกรณีพิเศษ๘ พระเจ้าธรรมปาละแสดงความขอบคุณพวกบาทหลวงที่ดึง พระองค์ออกจากความมืดให้พบกับแสงสว่างอย่างแท้จริง จึงมอบทรัพย์สมบัติของวัด พระเข้ียวแก้วแก่พวกมิชชันนารี อีกทั้งทรัพย์สมบัติของวัดกัลยาณีอันเป็นวัดส�ำคัญคู่ อาณาจักรโกฏเฏ และวัดทั้งหลายบรรดามีบนเกาะลังกามอบให้เป็นกรรมสิทธ์ิของ พวกมิชชันนารีหมดส้ิน จากนั้นพวกบาทหลวงเร่ิมประกาศชวนเชื่อดึงคนให้หันมา ยอมรับศาสนาใหม่โดยไม่มีใครกล้าปฏิเสธขัดขืน ๖ Faria Y Souza, op. cit., vol. i, pt. i, ch. v, p. 53. ๗ Pieris, op. cit., p. 58. ๘ Ibid., p. 77. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 439 1/18/20 1:17 PM

440 ยุคเส่ือม พระจักรพรรดิแห่งโปรตุเกสได้ส่งสาสน์ถึงอุปราชแห่งอินเดียอีกครั้งย้�ำว่า หากคนนอกศาสนายอมจ�ำนนต่อค�ำสอนของพระเยซูเจ้าแล้วไซร้ ไม่ควรมีการตัดสิน ลงโทษ แต่ควรสร้างความมั่นใจเพื่อให้คนเหล่านั้นม่ันคงต่อชีวิตในโลกหน้า (Eternal Life) คนเหล่าน้ีสมควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ท่านควรซื่อสัตย์ต่อตัวท่าน เองที่เห็นว่าชาวคริสต์ใหม่เวลานี้ก้าวหน้ายอมรับเสรีภาพ ย่ิงกว่านั้นพวกชาวคริสต์ ควรได้สิทธิพิเศษและได้รับการยกย่อง๙ ค�ำส่ังดังกล่าวกลายเป็นค่านิยมต่อการยอมรับคนเข้ารีตคริสต์ศาสนา ตัวอย่างคนแรกก็คือพระเจ้าธรรมปาละ วัฒนธรรมคริสต์ศาสนาเริ่มต้นมีใช้ภายใน พระราชวังแล้วลุกลามออกมาภายนอก ภาษาและกริยามารยาทแบบโปรตุเกสได้รับ ความนิยมแพร่หลายอย่างรวดเร็ว คร้ันโปรตุเกสครอบครองเหนือเกาะทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว (ยกเว้นอาณาจักร แคนดี) พวกมิชชันนารีเร่ิมแสดงพฤติกรรมอันน่ารังเกียจไร้วัฒนธรรม ด้วยการรื้อเผา ท�ำลายวัดวาอารามท่ีชาวลังการักษาสืบต่อมายาวนานกว่า ๒,๐๐๐ ปี เพราะคิดว่าไม่ เห็นมีประโยชน์ส่ิงใดในพระพุทธศาสนา นอกจากงานสร้างสรรค์ของซาตาน พวกบาทหลวงไม่เคยถามว่าอะไรคือหลักค�ำสอนของพระพุทธเจ้า หรือว่าอะไรคือ แนวความคิดเพ่ือต่อสู้ดิ้นรนทางปรัชญา ชาวคริสต์เช่ือกันว่าวิญญาณสามารถหลบ เลี่ยงค�ำสาปแช่งและไฟนรกได้ เป็นภาระหน้าท่ีของพระเจ้าท่ีจะต้องท�ำลายพระพุทธ ศาสนาทุกวิถีทาง พระเจ้าไม่เคยถามชาวลังกาว่าพร้อมท่ีจะรับไวน์หรือไม่ หรือว่าการ ร้ือท�ำลายความเชื่อด้ังเดิมอาจจะมิใช่การท�ำลายจิตวิญญาณทั้งปวง ความคิดของ พระเจ้าคือพระพุทธศาสนาต้องถูกลบออกจากแผนท่ีลังกาเท่าน้ัน๑๐ การด�ำเนินการทกุ สิง่ อย่างของพวกบาทหลวงไมม่ อี ปุ สรรคขดั ขวางแต่อย่างใด วัดวาอารามอันเป็นมรดกของบรรพชนถูกร้ือเผาท�ำลายจนเหลือแต่ซาก ทรัพย์สินของ ศาสนาถูกร้ือค้นปล้นชิง ห้องสมุดหลายแห่งถูกร้ือเผาทำ� ลาย เศษกระดาษปลิวว่อน ๙ Pieris., pp. 58-9. ๑๐ Ibid., op.cit., p. 80. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 440 1/18/20 1:17 PM

ศรีลังกา 441 ตามกระแสลม ผู้ใดกล้าแสดงตนด้วยการกราบไหว้บูชาต่อหน้าสาธารณชนหรือห่มผ้า เหลือง ต้องประสบความตายในบัดดล สถาบันการศึกษาของคณะสงฆ์อันยิ่งใหญ่ท่ี โตฏคามุวะและแคระคะละ ซ่ึงสืบสายประเพณีมาจากตักสิลาและนาลันทาถูกรื้อเผา ท�ำลายจนหมดส้ิน เจ้าอาวาสถูกรุมแทงด้วยหอกและดาบอย่างไร้ปรานี แผ่นดินร้อง ระงมด้วยความเจ็บปวดทรมาน เมื่อคนแล้วคนเล่าถูกปลิดชีวิตเหมือนผักปลา ทหารโปรตุเกสไล่ฆ่าชาวลังกาอย่างโหดร้ายทารุณตามค�ำสั่งของพวก มิชชันนารีผู้บ้าคล่ัง วัฒนธรรมอันดีงามทางพุทธศาสนาท่ีรักษาสืบต่อเรื่อยมาจากรุ่นสู่ รุ่นถูกท�ำลายจนสิ้นซาก อารยธรรมอันรุ่งเรืองงดงามถูกร้ือท�ำลายด้วยวิธีการอัน ป่าเถ่ือน ผลงานท่ีบรรพบุรุษส่ังสมมานานหลายร้อยปีถูกโค่นท�ำลายเพียงชั่วข้ามปี เหล่าน้ีทั้งหมดหมายรวมถึงอารยธรรมอันยิ่งใหญ่ที่เป็นมรดกอันทรงคุณค่าเหนือ ค�ำบรรยาย ความสูญเสียดังกล่าวไม่สามารถหาค�ำใดมาเปรียบเทียบได้ ชาวสิงหล ทั้งปวงต่างลุกขึ้นต่อสู้กับคนต่างชาติด้วยการเรียกร้องอิสรภาพ การเข้ารีตเป็นคริสต์ ของพระเจ้าธรรมปาละผู้ทรยศพร้อมท้ังมอบสิทธิพิเศษแก่พวกบาทหลวง สร้าง ความโกรธแค้นชิงชังแก่ชาวสิงหลทั้งแผ่นดิน กอบกู้อิสรภาพ การรวมตัวกันต่อสู้กับนักผจญภัยชาวยุโรปผู้ป่าเถื่อน เกิดข้ึนคร้ังแรกท่ีเมือง เสนกะฑะคะละ (เมืองแคนดี) ผู้กล้าเหล่าน้ันพร้อมพลีชีพเพ่ือขับไล่คนต่างถิ่นผู้ บุกรุก พร้อมมุ่งม่ันพยายามต่อสู้ไม่หยุดยั้งตราบใดท่ีโปรตุเกสยังไม่ถูกขับไล่ออกจาก ลังกา ความเกรี้ยวโกรธต่อกษัตริย์ผู้ทรยศและโปรตุเกสคนเถ่ือน ท�ำให้เกิดผู้กล้าหาญ น�ำชาวลังกาออกต่อสู้ กล่าวคือพระเจ้ามายาดุนเนแห่งอาณาจักรสีตาวะกะ ผู้มีสาย เลือดแห่งวีรกษัตริย์ และพระราชโอรสนามว่าเจ้าชายติกิริบัณฑาระ ผู้เข้าร่วมสมรภูมิ ด้วยวัยเพียง ๑๓ พรรษา ความกล้าหาญเด็ดเด่ียวของเจ้าชายติกิริบัณฑาระนั้น โด่งดังไปไกลสร้างความม่ันใจให้กับเหล่าทหารหาญ ต่างพากันขนานนามพระองค์ว่า ราชสิงหะ (พระยาราชสีห์) พระนามน้ีสามารถหลั่งเลือดโปรตุเกสไหลชโลมพ้ืนพสุธา ลังกาหลายคร้ังหลายครา๑๑ จนเป็นท่ีหวาดกลัวเกรงขามของเหล่าปรปักษ์เหมือนหน่ึง ๑๑ Rajavali (Upham), p. 297. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 441 1/18/20 1:17 PM

442 ยุคเส่ือม กองเรือรบและเรือสินค้าอันทรงพลานุภาพของโปรตุเกสสมัยอดีต (คัดลอกภาพจาก https://en.wikipedia.org) ทหารโปรตเุ กสแตล่ ะแผนกสมยั โบราณ (คดั ลอกภาพจาก https://weaponsandwarfare. com) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 442 1/18/20 1:17 PM

ศรีลังกา 443 (บน) ขุดแต่งตัวของชาวโปรตุเกสสมัยโบราณ และ (ล่าง) การต่อสู้กันระหว่างทหารสิงหลกับ โปรตุเกส (คัดลอกภาพจาก https://commons.wikimedia.org) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 443 1/18/20 1:17 PM

444 ยุคเสื่อม ปัทมาวตีปริเวณะหรือศูนย์กลางการศึกษาส�ำคัญแห่งหน่ึงสมัยอาณาจักรโกฏเฏก่อนท่ี จะถูกโปรตุเกสรื้อเผาท�ำลาย ภาพจิตรกรรมวัดตุนโพธิวิหาร เขตมาตะละ (คัดลอกภาพจาก www.photodharma. net) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 444 1/18/20 1:17 PM

ศรีลังกา 445 วิชัยพาหุปริเวณะหรือศูนย์กลางการศึกษาส�ำคัญแห่งหน่ึงสมัยอาณาจักรโกฏเฏ ก่อน ถูกโปรตุเกสรื้อเผาท�ำลาย ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในวิหารวิชัยพาหุปริเวณะ เขตมาตะละ (คัดลอกภาพจาก www.photodharma.net) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 445 1/18/20 1:17 PM

446 ยุคเสื่อม พบพระยามัจจุราช ความกล้าหาญและความต้ังใจแน่วแน่ของพระองค์ ผสมกับ ความเสียสละทุ่มเทของเหล่าทหารหาญ ท�ำให้พระองค์สามารถมีชัยเหนือเหล่า อรริ าชศตั รู นอกจากครอบครองอาณาจกั รแดนใตแ้ ลว้ พระองคย์ งั สามารถบกุ ขนึ้ เหนอื เข้ายึดครองอาณาจักรแคนดีได้อีกด้วย ก่อนหน้านั้นกษัตริย์แห่งแคนดีนามว่าพระเจ้า ชัยวีระ ได้เชิญพวกบาทหลวงให้เข้าไปเผยแผ่คริสต์ศาสนา แม้พระองค์ก็เข้ารีตเป็น คริสต์อย่างเปิดเผย๑๒ แต่ชัยชนะของพระเจ้าราชสิงหะท่ี ๑ ด�ำรงอยู่ได้เพียงระยะเวลาอันสั้น เพราะ พระองค์ลุ่มหลงชัยชนะอย่างโง่เขลามืดบอด ความโหดร้ายจึงเข้าสิงในจิตท�ำให้คิดร้าย ปลงพระชนม์พระบิดาและยึดอ�ำนาจครองราชย์สืบแทน๑๓ คร้ันต่อมาทรงเกรงกลัวผล แห่งกรรมช่ัวจึงได้ทูลถามพระสงฆ์ถึงวิธีแก้ไข พระสงฆ์กราบทูลตามสัจจริงว่าปิตุฆาต น้ันไซร้เป็นอนันตริยกรรมน�ำสู่นิรยภูมิ มิอาจแก้ไขได้ด้วยการสร้างกรรมใหม่มาล้าง กรรมเก่า ครน้ั ทรงสดบั ตรับฟังเช่นนัน้ พระองค์ทรงกร้ิวโกรธาเหมอื นพญานาคราชต้อง ยาพิษแล้วถูกตีซ้�ำด้วยท่อนไม้ หลกั ฐานบางแหง่ แยง้ วา่ พระสงฆบ์ างกลมุ่ รว่ มมอื กบั พวกกบฏเขา้ ชงิ ราชบลั ลงั ก์ จึงพยายามเบี่ยงเบนความสนใจไปทางอ่ืน๑๔ แต่ความจริงคือพระเจ้าราชสิงหะทรงพิโรธโกรธเคืองย่ิงนัก รับส่ังลงโทษ พระสงฆ์เหล่านั้นด้วยวิธีการอันรุนแรง พระเถระผู้เป็นหัวหน้าส่ังให้ลงโทษด้วยการ ขว้างด้วยหินจนถึงมรณภาพ พระสงฆ์ท่ีเหลือส่ังให้ฝังลงในหลุมเหลือเพียงศีรษะจาก นั้นให้ไถด้วยผาลเหล็ก ผู้เข้าร่วมกบฏที่เหลือถูกประหารชีวิตแขวนคอประจาน หมดสน้ิ จากนนั้ ทรงปฏเิ สธสนบั สนนุ พระพทุ ธศาสนาหนั ไปนบั ถอื ฮนิ ดนู กิ ายไศวะแทน ส่วนคัมภีร์ส�ำคัญมากมายถูกร้ือเผาท�ำลายเสียสิ้น กล่าวกันว่าพระองค์ทรงเผาคัมภีร์ เหล่านั้นด้วยพระหัตถ์ คัมภีร์ล้�ำค่าท่ีสืบทอดมาแต่โบราณกาลสูญหายกลายเป็น ๑๒ Tennent, Ceylon, ii, pp. 20-1. ๑๓ Chapter, xciii. ๑๔ See JRAS. C.B. vol. xviii, No. 56, pp. 382 foll. and Pieris, op. cit., p. 94. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 446 1/18/20 1:17 PM

ศรีลังกา 447 เถ้าถ่านผงธุลี๑๕ ท่ีดินอันอดีตพระมหากษัตริย์มอบถวายแก่วัดถูกแย่งชิงครอบครอง อย่างไร้ปรานี แม้กระทั่งบุณยสถานส�ำคัญดังเช่นศรีปาทะอันเป็นที่ประดิษฐานรอย พระพุทธบาท ก็มอบถวายแด่นักบวชชาวอินเดียผู้แต้มทาร่างกายด้วยข้ีเถ้า พระราช กรณียกิจคร้ังสุดท้ายของพระองค์เหมือนการเดินถอยหลัง ดินแดนที่พระองค์เคย ครอบครองก็หมดสิ้น แต่ความรักชาติของพระองค์ได้จารึกไว้ในใจของชาวสิงหลทุกรูปนาม สมัยนี้มีผลงานด้านวรรณคดีเกิดขึ้นเช่นเดียวกัน โดยนักกวีนามว่าอลคิยวัน นะโมโหฏฏาละหรือมุกแวฏิ ผู้เป็นบุตรของปราชญ์นามอุโฆษชื่อว่าธรรมธวชบัณฑิต งานเขยี นของอลคยิ วนั นะนนั้ พยายามบรรยายใหเ้ หน็ ถงึ ความรงุ่ เรอื งงดงามของพระราชวงั แห่งอาณาจักรสีตาวะกะ โดยแต่งเติมจินตนาการว่าอาณาจักรชาวสิงหลมีชัยเหนือฝร่ัง โปรตุเกส ปราชญ์ท้ังหลายต่างยอมรับว่าอลคิยวันนะเป็นกวีนามอุโฆษอีกท่านหนึ่งของ ลังกา นอกจากนั้นแล้ว อลคิยวันนะยังแต่งหนังสืออีกสองเล่มนามว่ากุสชาดกและ สุภาศิตยะ ซ่ึงใช้สวดทุกแห่งหนหากคนรู้จักเข้าใจภาษาสิงหลเป็นอย่างดี และคัมภีร์ เล่มอื่นอีกคือแสวุลสันเดสะ แต่น่าเสียดายว่าข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับคัมภีร์เล่มนี้มี น้อยนัก พบเพียงค�ำบรรยายในงานของพระศรีราหุลเถระเท่านั้น ยังมีกวีอีกหลายท่าน ท่ีแต่งโคลงสรรเสริญวีรกรรมอันกล้าหาญของเหล่าทหารชาวสิงหล ผู้พลีชีพต่อสู้กับ โปรตุเกสคนเถื่อน โคลงดังกล่าวเรียกว่าฉันท์หฏนะหรือกวีแห่งการรณรงค์สงคราม เป็นฉันท์ผสมผสานกันระหว่างภาษาสันสกฤตกับภาษาสิงหล ส่วนใหญ่กวีเหล่านั้นคือ ผู้ติดตามพระเจ้าราชสิงหะเข้าสู่สมรภูมิ นอกจากน้ียังเกิดมีกวีนิพนธ์เชิงกาม ซึ่งได้ อิทธิพลบางส่วนมาจากโปรตุเกสและความเจ้าชู้ของเสนาบดีแห่งอาณาจักรแคนดี นามว่ากาสคอน (Gascon Adigar)๑๖ ๑๕ M.V., xcii, vv. 14-15. ๑๖ See D'Alwis, Sidat-sangara, Introduction and Wickremasinghe's Catalogue for details about these works. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 447 1/18/20 1:17 PM

448 ยุคเส่ือม เริ่มต้นพุทธศตวรรษท่ี ๒๑ พระภิกษุนามว่าธัมมรัตนเถระ ได้แต่งคัมภีร์ ร้อยแก้วเก่ียวกับค�ำกริยานามในมหาสุทัสสนสูตร แห่งคัมภีร์ทีฆนิกาย ผู้รจนาบอกว่า แต่งเสร็จ พ.ศ.๒๐๔๘๑๗ อาณาจักรสุดท้ายของลังกา กษัตริย์ผู้สืบทอดบัลลังก์ต่อจากพระเจ้าราชสิงหะคือพระเจ้าวิมลธรรม สูริยะที่ ๑ เดิมมีนามว่าดอนฮวน เคยเข้ารีตเป็นคริสต์อาศัยอยู่กับโปรตุเกสมาก่อน ต่อมาสละศาสนาคริสต์ท้ิงเสีย ครั้นข้ึนครองราชย์แล้วเปลี่ยนนามใหม่ว่าวิมลธรรม สูริยะ พระองค์และพระมเหสีชื่นชอบวิถีชีวิตแบบยุโรปย่ิงนัก๑๘ ซ่ึงสมัยน้ันมีอิทธิพล สูงสุดเหนือราชบัลลังก์สิงหล เล่ากันว่าวัฒนธรรมแบบยุโรปโปรตุเกสเร่ิมต้นจาก ราชส�ำนักฝ่ายใน แล้วลุกลามแพร่หลายกลายเป็นท่ียอมรับเหนือประเพณีสิงหล ภาษาโปรตุเกสมีใช้พูดกันดาษด่ืนทุกหนแห่งตั้งแต่พระราชวังจนถึงร้านขายของริมทาง เสื้อผ้าอาภรณ์และหมวกทรวดทรงแบบโปรตุเกส ได้รับการปรับเปลี่ยนเป็นเครื่องแต่ง กายตามงานประเพณี เป็นที่รู้จักแพร่หลายจากแคนดีเมืองหลวงจนถึงหัวเมืองน้อย ใหญ่รอบนอก ค่านิยมโปรตุเกสกลายเป็นต้นแบบในราชส�ำนัก แม้เป็นเรื่องเสียหาย แต่กลายเป็นต�ำนานสืบมาจนถึงปัจจุบัน พระเจ้าวิมลธรรมสูริยะนั้นมิได้เปิดเผยความยินดีวัฒนธรรมเหล่าน้ีต่อ ประชาชนภายนอก พระองคท์ รงหนั ไปรบั ผดิ ชอบตอ่ การเรยี กรอ้ งของอาณาประชาราษฎร์ เพื่อท�ำสงครามขับไล่อริราชศัตรูให้พ้นไปจากเกาะลังกา เม่ือใดพระองค์ว่างจากภารกิจ บ้านเมืองจะโปรดให้ซ่อมแซมบูรณะศาสนสถานท่ีเสื่อมโทรมมาต้ังแต่สมัยพระเจ้า ราชสิงหะที่ ๑ กล่าวกันว่าความเกลียดชังศัตรูโปรตุเกสนั้นพระองค์ได้รับอิทธิพลมาจาก พระสงฆ์ ๑๗ Wickremasinhe, p. 4. ๑๘ Pieris, op. cit., p. 152. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 448 1/18/20 1:17 PM

ศรีลังกา 449 สมัยน้ันตลอดแว่นแคว้นแดนลังกาไม่สามารถหาพระภิกษุมาประกอบพิธี อุปสมบทกรรมได้ เพ่ือฟื้นฟูพระศาสนาให้รุ่งเรืองเหมือนคร้ังอดีต พระเจ้าวิมลธรรม สูริยะจึงได้จัดส่งราชทูตไปยังอาณาจักรรักขังคะ (รัฐอรกันของประเทศพม่าปัจจุบัน) เพื่อขอคณะสงฆ์มาท�ำพิธีอุปสมบทแก่กุลบุตรชาวลังกา ภารกิจคร้ังน้ันประสบความ ส�ำเร็จด้วยดี พระองค์โปรดให้จัดพิธีอุปสมบทกรรมขึ้น ณ อุทกเขปสีมาท่าแคฏัมเบ มหาแวฬิคังคา ใกล้นครแคนดี โดยมีพระนันทิจักกเถระเป็นประธาน๑๙ (พ.ศ.๒๑๓๘) มีกุลบุตรจากตระกูลช้ันสูงเข้าร่วมพิธีเป็นจ�ำนวนมาก สร้างความปลาบปลื้มยินดีให้แก่ ชาวสิงหลเป็นอย่างย่ิง อีกอย่างหน่ึงพระเขี้ยวแก้วที่พระสงฆ์น�ำไปหลบซ่อนเมื่อ คราวเกิดภัยสงครามก็ได้อัญเชิญกลับมายังนครแคนดี พระเจ้าแผ่นดินลังกาโปรดให้ สร้างวิหาร ๓ ชั้น ส�ำหรับเป็นท่ีประดิษฐานพระทันตธาตุ นอกจากน้ัน ได้มอบวัด ศรีปาทะจากการดูแลของพวกพราหมณ์ถวายคืนแก่พระสงฆ์ ภายหลังการสวรรคตของพระเจ้าวิมลธรรมสูริยะ พระนางโดนะแคธลีนา พระมเหสหี มา้ ยมสี ทิ ธโิ ดยชอบธรรมทจี่ ะขน้ึ ครองบลั ลงั ก์ แตพ่ ระนางไดม้ อบราชสมบตั ิ แก่บุรุษคนหนึ่งนามว่าเสนารัต ซ่ึงเป็นผู้ฉลาดหลักแหลมเชี่ยวชาญด้านพระศาสนา อีกท้ังเป็นท่ีเคารพรักศรัทธาของอาณาประชาราษฎร์ กล่าวกันว่าพระองค์ทรงเข่น ฆา่ พระญาตวิ งศผ์ ปู้ ระสงคร์ าชสมบตั เิ ปน็ จำ� นวนมาก ครน้ั ขน้ึ ครองราชยแ์ ลว้ ทรงอภเิ ษก สมรสกับพระนางโดนะแคธลีนา พระองค์เป็นนักปกครองที่เข้มแข็ง สมัยของพระองค์ น้ันบ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุข ตลอดรัชสมัยของพระองค์ทรงคิดอยู่เสมอว่าทำ� ไฉนจึงจะ ขับไล่โปรตุเกสออกจากเกาะลังกาได้ เดือนสิงหาคม พ.ศ.๒๑๗๓ สงครามระหว่างอาณาจักรแคนดีกับโปรตุเกส เกิดข้ึนอีกคร้ัง และเป็นคร้ังแรกท่ีโปรตุเกสพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ จนจอมทัพนามว่า ดอน คอนสแตนติน เดอ เซย์ โนโรญา (Don Constantine de Say Norona) เสียชีวิตในสนามรบพร้อมกับทหารเป็นจ�ำนวนมาก ๑๙ M.V., xciv, vv. 15-21. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 449 1/18/20 1:17 PM

450 ยุคเส่ือม พระโอรสผู้ครองราชย์สืบต่อจากพระองค์คือพระเจ้าราชสิงหะที่ ๒ พระองค์ เปน็ สญั ลกั ษณแ์ หง่ วรี กษตั รยิ ผ์ กู้ อบกบู้ า้ นเมอื งพระองคส์ ดุ ทา้ ยของลงั กา คมั ภรี บ์ รรยาย ไว้ว่าพระองค์ประสูติใต้ร่มเงาแห่งมหิยังคณเจดีย์ อันเชื่อว่าเป็นสถานที่พระพุทธเจ้า เสด็จมาลังกาคร้ังแรก ในวันประสูติน้ัน นายทัพโปรตุเกสนิมิตฝันว่า ได้เห็นเปลวไฟ สุกสว่างใสใหญ่กว่าตัวหม่อน พุ่งเข้ามาจากทิศตะวันตกแล้วขยายใหญ่ขึ้นเมื่อเข้า มาใกล้ จากนั้นกลายเป็นเปลวไฟลูกใหญ่มหึมาพุ่งเข้าป้อมปราการโคลัมโบโหมไหม้ ทกุ อยา่ งจนเปน็ จณุ วจิ ณุ นมิ ติ ดงั กลา่ วไมม่ หี ลกั ฐานยนื ยนั แนน่ อน แตส่ มยั ของพระองค์ นั้นโปรตุเกสได้ถูกขับไล่ออกจากลังกาเป็นผลส�ำเร็จ ต้ังแต่น้ันเป็นต้นมาชาวลังกา ท้ังมวลสามารถหายใจได้อย่างโล่งอก เพราะแผ่นดินที่ชุ่มด้วยหยาดเลือดยาวนาน ได้ถูกชโลมล้างด้วยหยดเลือดแห่งความกล้าของเหล่าทหารหาญ สมรภูมิคร้ังใหญ่ครั้งสุดท้ายระหว่างชาวสิงหลกับโปรตุเกสเกิดขึ้น เมื่อ ๒๘ มีนาคม ๒๑๘๑ ระหว่างช่องเขาบริเวณคันโนรุวะ ใกล้มหาแวฬิคังคา กวีนิพนธ์ ไรน้ ามผเู้ หน็ สงครามครง้ั ประวตั ศิ าสตรค์ รานนั้ ไดบ้ นั ทกึ เปน็ หลกั ฐานนามวา่ ปรงั คหี ฏเน หรอื สมรภมู กิ บั โปรตเุ กส งานเขยี นเลม่ นเ้ี ปน็ กวภี าษาสงิ หลวา่ ดว้ ยมหายทุ ธค์ รงั้ ยง่ิ ใหญ่ นักปราชญ์ยอมรับกันว่าเป็นคัมภีร์ท่ีแต่งด้วยวิญญาณของกวีโดยแท้ เนื้อหาของกวี ร้อยกรองสอดคล้องระหว่างเสียงระฆังและกลิ่นบุปผชาติหลากหลายพันธุ์ เยินยอ ความสวยงามของสตรีสะคราญตาและความล�้ำค่าแห่งอัญมณี ส่ันไหวด้วยเสียงกรีด ร้องขนลุกพองด้วยเสียงโหยหวนเรียกหาผู้วายชนม์ เกล่ือนกล่นคลุกเคล้าด้วยเสียง หัวเราะร่าของเหล่าทหารกล้าผู้มีชัยเหนือกองทัพโปรตุเกส๒๐ โปรตุเกสพ่ายแพ้ เดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๒๐๑ ความเสื่อมโทรมโรยราของโปรตุเกสเริ่มปรากฏ เค้าลางให้เห็น กลายเป็นยุคแห่งสันติสุขร่มเย็นอาณาประชาราษฎร์อบอุ่นใจ หลังจาก ทุกข์ยากแสนสาหัสกับการถูกล้างผลาญเข่นฆ่ามายาวนาน ชาวบ้านเริ่มต้นท�ำไร่ไถนา อีกครา บ้านช่องเคหสถานที่ถูกท�ำลายเพราะภัยสงครามก็ซ่อมแซมดัดแปลงเสียใหม่ ๒๐ Pieris, op. cit., p. 223. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 450 1/18/20 1:17 PM

ศรีลังกา 451 บุคลกิ ลกั ษณะของพระเจา้ ราชสิงหะน้ัน เหมาะสำ� หรับเปน็ วรี กษัตริย์ผูเ้ กง่ กล้า กลางสมรภูมิมากกว่าเป็นสุภาพบุรุษผู้รักสันติ พระองค์เป็นกษัตริย์หย่ิงยโสและมาก ด้วยโทสจริต มีพระนิสัยพิถีพิถันและเกลียดชังการหมิ่นเกียรติ ทรงอาศัยเวลาว่าง ประทบั ทา่ มกลางปา่ บนิ เตน็ นะดว้ ยความสนกุ สนานกบั การลา่ สตั ว์ กฬี าทที่ รงโปรดปราน มากท่ีสุดคือการล่านกด้วยเหย่ียว๒๑ ด้านการพระศาสนานั้น นอกจากมอบถวายที่ดิน ของบูรพกษัตริย์แก่คณะสงฆ์แล้ว พระองค์มิได้ทำ� สิ่งใดอีกเลย๒๒ ทรัพย์สมบัติจาก ชัยชนะเหนือโปรตุเกสที่คันโนรุวะครานั้น โปรดให้ถวายแด่เทพเจ้าแห่งสงคราม ณ โดฑันวะละเทวาลัยหมดสิ้น อีกทั้งทรงให้สร้างชฎาหุ้มทองและดาบเหล็กอย่างดี ถวายเป็นเทวตาพลี๒๓ พระองค์ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยวิธีเข้มงวดดุดัน๒๔ ประชาชนชาวแคนดี ทนต่อการบีบบังคับไม่ไหวจึงพากันก่อจลาจลข้ึน หวังกันว่าหากจับพระเจ้าแผ่นดิน ปลงพระชนม์เสียแล้ว จะอัญเชิญพระโอรสผู้เยาว์วัยของพระองค์ขึ้นเป็นกษัตริย์ สืบแทน (พ.ศ.๒๒๐๗) คร้ันพระเจ้าราชสิงหะทรงทราบกลอุบายของพวกกบฏสิ้นแล้ว โปรดให้สืบค้นหาและจองจำ� ดว้ ยข่ือคาแล้วประหารชวี ติ หมดส้ิน ส่วนพระโอรสใหป้ ้อน ด้วยยาพิษ๒๕ จึงไม่ประหลาดใจหากผลงานด้านวรรณคดีไม่เกิดมีในยุคสมัยของ พระองค์เลย เมื่อครั้งพระเจ้าราชสิงหะทรงตระเตรียมกองทัพ เพื่อขับไล่โปรตุเกสออกจาก เกาะลังกาคราน้ัน พระองค์ได้ขอความช่วยเหลือจากพ่อค้าฮอลันดา ซ่ึงก�ำลังทอดสมอ อยู่ไม่ไกลจากเกาะลังกามากนัก๒๖ ๒๑ Tennent, Ceylon, vol. ii, pp. 47 foll. ๒๒ Maha-vamsa, xcvi, v. 41. ๒๓ Peiris, op. cit., p. 225. ๒๔ Tennent, op. cit., p. 49. ๒๕ Knox, History of Ceylon, p. ii, ch. 6, p. 58. ๒๖ รายละเอียดคัดลอกมาจากหลายแห่ง ส่วนใหญ่มาจากผลงาน Tennent's Ceylon, vol. ii, chap. ii. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 451 1/18/20 1:17 PM

452 ยุคเส่ือม ฮอลันดานั้นก่อตั้งบริษัทเพื่อการค้ากับต่างประเทศแดนไกลข้ึน (Het Maatschappy Van Verre Landes) เมื่อ พ.ศ.๒๑๓๘ และคอร์เนลิอัส เฮาต์แมน (Cornelius Houtman) เป็นชาวฮอลันดาคนแรกที่เดินเรืออ้อมแหลมกูดโฮปล่องมา ประเทศตะวันออก เพื่อต้องการยึดเขตอิทธิพลการค้าของโปรตุเกส ซ่ึงขณะน้ันเป็น ผู้ควบคุมการค้าแถบประเทศตะวันออกท้ังหมด เรือของฮอลันดาขึ้นเทียบฝั่งลังกาเป็นครั้งแรกที่ท่าเรือบัตติคาโลว์ทางชายฝั่ง ตะวันออก ภายใต้การน�ำของนายพลเรือสปิลเบิรก์ (พ.ศ.๒๑๔๕) สมัยนั้นกษัตริย์แห่ง แคนดีคือพระเจ้าวิมลธรรมสูริยะท่ี ๑ คร้ังแรกที่ผู้แปลกหน้าเข้าเฝ้าได้รับการต้อนรับ ด้วยความหวาดระแวง นายพลเรือสปิลเบิร์กได้แสดงพระราชสาส์นของเจ้าชาย แห่งออเรนท์ (The Prince of Orange) เพ่ือขอท�ำสัมพันธไมตรีกับอาณาจักร แคนดี ด้วยความหวาดระแวงป้องกันภยันตราย พระเจ้าวิมลธรรมสูริยะเสด็จออก ต้อนรับนายพลฮอลันดาพร้อมด้วยทหารอารักขาหนึ่งพันนาย พระราชสาส์นของ กษัตริย์ฮอลันดาได้รับการตอบรับด้วยความเป็นมิตร คร้ังนั้นกษัตริย์ลังกาอนุญาตให้ ฮอลันดาสร้างป้อมปราการทุกแห่งรอบอาณาจักรแคนดี คร้ันต่อมาพระเจ้าเสนารัตข้ึนครองราชย์เหนืออาณาจักรแคนดี ความไว้ใจ ใกลช้ ิดระหวา่ งลังกาและฮอลนั ดากป็ ระสบความสำ� เร็จ เมอื่ มารเ์ ซลลุส เดอ โบโชวเวอร์ (Marcellus de Boschouwer) ตัวแทนของเจ้าชายเมาริสซ์แห่งนัซเซา (Prince Maurice of Nassau) น�ำพระราชสาส์นมามอบถวายแด่พระเจ้าแผ่นดินลังกา ผลแห่งมิตรไมตรีอันดีงามคร้ังนั้นน�ำมาสู่การท�ำสนธิสัญญา โดยฮอลันดาพร้อมให้ ความช่วยเหลือกษัตริย์สิงหลทุกส่ิงอย่าง ไม่ว่าเรือ ก�ำลังทหารหรือเสบียงอาหาร หากกรณีโปรตุเกสรุกรานอาณาเขตแคนดี กษัตริย์ลังกาตอบแทนมิตรไมตรีด้วยการ อนญุ าตใหฮ้ อลนั ดาสรา้ งปอ้ มปราการทค่ี อตเตยี รใกลอ้ า่ วตรนิ โคมาลี อกี ทงั้ มอบอำ� นาจ สามารถควบคุมการค้าอบเชย อัญมณี และหอยมุกได้อย่างเสรี สมัยพระเจ้าราชสิงหะที่ ๒ สนธิสัญญาระหว่างกษัตริย์ลังกาและฮอลันดา ได้เขียนขึ้นอีกคร้ัง คราวนี้ฮอลันดาแจ้งว่าพร้อมแล้วท่ีจะเปิดศึกกับโปรตุเกส 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 452 1/18/20 1:17 PM

ศรีลังกา 453 พ.ศ.๒๑๘๑ สมรภูมิระหว่างชาติมหาอ�ำนาจยุโรปท้ังสองเริ่มปะทุขึ้น สองทศวรรษตอ่ มาโปรตเุ กสออ่ นลา้ หมดแรงยอมแพถ้ อนตวั ออกจากเกาะลงั กา ฮอลนั ดา ผู้พิชิตกลายเป็นเสือตัวใหม่เข้าครอบครองดินแดนชายทะเลสืบแทน แต่นโยบายของ ฮอลันดาน้ันแตกต่างจากโปรตุเกสอย่างส้ินเชิง เพราะเห็นว่าเกาะลังกาเป็นศูนย์กลาง พักเก็บสินค้าของอินเดียตะวันออก จึงไม่บีบบังคับข่มเหงสร้างอิทธิพลเหนือชาวสิงหล อีกทั้งไม่กระหายต่อชัยชนะหรือเผยแผ่คริสต์ศาสนาด้วยวิธีโหดร้ายป่าเถื่อนเหมือน โปรตุเกส ต้องการเพียงควบคุมเขตการค้าเท่านั้น เพราะการขยายอิทธิพลด้านการค้า เป็นจุดประสงค์หลักของฮอลันดา ด้วยเหตุน้ีเองความสงบสุขจึงบังเกิดมีขึ้นท่ัว เกาะลังกา แม้จะมีเหตุการณ์ยั่วยุสร้างปัญหาหลายคร้ัง ฮอลันดาก็พร้อมที่จะเจรจา มากกว่าระดมกองก�ำลังทหารเข้าต่อสู้ ฮอลันดาจึงกอบโกยผลประโยชน์จากการค้าได้ นานแสนนาน ส่วนชาวสิงหลก็เป็นอยู่ด้วยความผาสุกไร้อันตรายมาแพ้วพาน ฟื้นฟูพระพุทธศาสนาอีกครา คร้ันพระเจ้าราชสิงหะท่ี ๒ สวรรคตส้ินแล้ว พระราชโอรสนามว่าวิมล- ธรรมสูริยะท่ี ๒ ขึ้นครองราชย์สืบแทน กล่าวกันว่าพระองค์ทรงศรัทธามั่นคงใน พระพทุ ธศาสนายง่ิ นกั เพยี บพรอ้ มดว้ ยคณุ ธรรมและสมาทานยดึ มนั่ ในพระรตั นตรยั ๒๗ สมยั พระองคโ์ ปรดใหม้ ปี ระเพณปี าทยาตราขนึ้ เขาศรปี าทะ เพอื่ นมสั การรอยพระพทุ ธบาท ประเพณีดีงามเช่นน้ีรักษาสืบทอดเร่ือยมาจนตราบเท่าเข้าปัจจุบันสมัย พระองค์ทรง ทราบว่าพระสงฆ์บนผืนเกาะลังกาไม่เพียงพอต่อการท�ำพิธีอุปสมบทได้ จึงให้จัดส่ง คณะราชทูตออกเดินทางไปยังอาณาจักรรักขังคะ พร้อมนิมนต์พระสงฆ์มาด้วย ๓๓ รูป โดยการน�ำของพระสันตานเถระ จากน้ันโปรดให้จัดพิธีอุปสมบทข้ึน มีกุลบุตร จากตระกูลสูงออกบวช ๓๓ รูป๒๘ ๒๗ M.V., xcvii, v. 1. 1/18/20 1:17 PM ๒๘ Ibid., xcvii, vv. 8-15. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 453

454 ยุคเสื่อม (บนซ้าย) ภาพวาดพระเจ้าวิมลธรรมสูริยะท่ี ๑ และ (บนขวา) ภาพวาด Afonso de Albuquerque ข้าหลวงโปรตุเกสประจ�ำศรีลังกา (คัดลอกภาพจาก https://en.wikipedia.org) ภาพทหารโปรตุเกสเข้าท�ำลายวัดแกลาณียราชมหาวิหาร (ภาพวาดโดย Prasanna Weerakkody) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 454 1/18/20 1:17 PM

ศรีลังกา 455 ซากพระราชวังของกษัติรย์แห่งอาณาจักรสีตาวะกะ เขตรัตนปุระ พิธีแห่แหนขุนนางแคนดี (คัดลอกภาพจาก https://en.wikipedia.or) 1/18/20 1:17 PM 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 455

456 ยุคเสื่อม (บนซ้าย) รูปหล่อพระอุบาลีมหาเถระ และ (บนขวา) รูปหล่อพระสรณังกรสังฆราช ภายในวัดมัลลวัตตมหาวิหาร เมืองแคนดี ภาพการอปุ สมบทของพระสงฆส์ ยามนกิ าย (คดั ลอกภาพจาก www.photodharma.net) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 456 1/18/20 1:17 PM

ศรีลังกา 457 พระเจ้ากีรติศรีราชสิงหะพระราชทานต�ำแหน่งพระสังฆราชให้แด่พระสรณังกรเถระ (คัดลอกภาพ จาก www.photodharma.net) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 457 1/18/20 1:17 PM

458 ยุคเส่ือม หลงั จากพระองคส์ วรรคตสน้ิ แลว้ พระโอรสนามวา่ ศรวี รี ปรากรมนเรนทรสงิ หะ ขึ้นครองราชย์สืบแทน พระนามเดิมของพระองค์เรียกขานกันว่ากุณฑสาละ ตามนาม แห่งบ้านเขตชานเมืองแคนดีใกล้แม่น�้ำมหาแวฬิคังคา ต่อมาพระองค์โปรดให้สร้าง สถานท่ีแห่งนั้นเป็นสวนมะพร้าวขนาดใหญ่ บรรดางานท่ีพระองค์ทรงอุทิศเพ่ือพระ พุทธศาสนานั้น ที่ส�ำคัญโดดเด่นคือโปรดให้สร้างวิหาร ๒ ช้ัน ส�ำหรับประดิษฐาน พระเขี้ยวแก้ว แลตามฝาผนังวิหารโดยรอบโปรดให้ช่างวาดภาพจิตรกรรมบรรยาย เรื่องราวนิทานชาดก กล่าวกันว่าพระองค์ไม่ทรงสนใจค�ำแนะน�ำของคณะสงฆ์มากนัก สมัยนี้พฤติกรรมผิดเพ้ียนของพระสงฆ์หลายอย่างปรากฎมีขึ้น ตัวอย่าง เช่น พวกภิกษุ (คณินนานเส) เที่ยวขออาหารจากบ้านน้ันสู่บ้านโน้น พากันฉันอาหาร นอกบาตรอย่างน่าละอาย ไม่ใส่ใจต่อพุทธบัญญัติ๒๙ อาหารท่ีชาวบ้านปรุงแต่งถวายก็ ล้วนแล้วแต่เป็นอาหารเลิศรสเช่นเดียวกับเหล่าขุนนาง ความจริงแล้วคนเหล่านี้มิใช่ พระสงฆ์ เป็นพระภิกษุเพียงนามเรียกขานกันเท่านั้น กษัตริย์ผู้ครองราชย์สืบต่อจากพระเจ้านเรนทรสิงหะคือพระเจ้าศรีวิชัย- ราชสิงหะ พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ผู้ฉลาดหลักแหลมชอบสังสรรค์เสวนากับเหล่า นักปราชญ์ ทรงรักษาประเพณีของกษัตริย์พระองค์ก่อน กล่าวคืออภิเษกสมรสกับ พระราชธดิ าของกษตั รยิ ท์ มฬิ จากเมอื งมถรุ าแหง่ อนิ เดยี ตอนใต้ พระองคไ์ มท่ รงชนื่ ชอบ พระมเหสีจากราชวงศ์สิงหลเพราะเช่ือว่าสูงส่งทางตระกูล พระมเหสีชาวทมิฬเหล่าน้ัน แสดงตัวเปิดเผยว่านับถือศาสนาฮินดู แต่ต่อมาเปลี่ยนมานับถือพระพุทธศาสนา ต่างพากันท�ำความดีอุทิศตนต่อพระศาสนาโดยสร้างศาสนสถานหลายแห่ง อีกทั้ง แสดงความเมตตาต่อชาวสิงหลทั้งมวลเหมือนมารดาดูแลบุตร๓๐ พระมเหสีเหล่านั้น ๒๙ Translation of the Vimana-vatthu (A.D. 1770), see below. 1/18/20 1:17 PM ๓๐ M.V., chap. xcviii, v. 18. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 458

ศรีลังกา 459 ช่วยแนะน�ำกุลบุตรชาวลังกาเข้าบรรพชาอุปสมบทศึกษาพระธรรมวินัย และบริจาค ปัจจัยส่งเสริมให้คัดลอกคัมภีร์ส�ำคัญอีกเป็นจ�ำนวนมาก๓๑ พระเจา้ ศรวี ชิ ยั ราชสงิ หะโปรดใหจ้ ดั งานเทศกาลสง่ เสรมิ พทุ ธศาสนาหลายครง้ั บรรดางานเหล่านั้นคือโปรดให้จุดประทีปตามวัดวาอารามน้อยใหญ่ตลอดอาณาจักร แคนดี โดยเชอ่ื วา่ ทำ� ใหส้ วา่ งไสวตลอดดนิ แดนแควน้ ลงั กา เหมอื นทอ้ งฟา้ เปลง่ ประกาย เจดิ จา้ ดว้ ยดวงดาราใหญน่ อ้ ย๓๒ นอกจากนน้ั โปรดใหส้ รา้ งศาลาแสดงธรรมอกี หลายแหง่ จัดหาผู้รู้แสดงธรรมแนะน�ำชาวบ้านให้ประพฤติดีงามตามหลักธรรมค�ำสอน พระองคท์ รงปรารถนาอยา่ งแรงกลา้ ทจี่ ะฟน้ื ฟพู ระพทุ ธศาสนาใหม้ นั่ คงรงุ่ เรอื ง ดังอดีต ครนั้ ตอ่ มาทรงทราบขา่ วจากฮอลนั ดาวา่ อาณาจกั รหงสาวดี อาณาจกั รรกั ขงั คะ และอาณาจักรสยาม มีพระสงฆ์ผู้เพียบพร้อมแลงดงามด้วยศีลาจารวัตร พระพุทธ ศาสนาเจริญรุ่งเรืองแพร่หลายย่ิงนัก พระองค์จึงโปรดให้จัดส่งคณะราชทูตออกเดิน ทางไปยังเมืองอโยธยาแห่งอาณาจักรสยาม เพ่ือน�ำพระสงฆ์มาฟื้นฟูพระพุทธศาสนา บนเกาะลังกา ฮอลันดาให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี ด้วยการเป็นธุระจัดเรือน�ำส่ง คณะราชทตู ไปยงั สยามประเทศ๓๓ แตค่ ณะราชทตู ลงั กาโชครา้ ยประสบหายนะครง้ั ใหญ่ เมื่อเรือสินค้าฮอลันดาแตกระหว่างทางเหลือรอดข้ึนฝั่งเมืองหงสาวดีเพียงคนเดียว ต่อมาได้เดินทางกลับมาตุภูมิเพื่อแจ้งข่าวร้ายแก่พระเจ้าแผ่นดินลังกา๓๔ แม้ต้องพบ กับความล้มเหลวสูญเสียผู้คน แต่กษัตริย์ลังกาหาได้ท้อแท้พระทัยไม่ โปรดให้จัดส่ง คณะราชทูตชุดใหม่ไปสยามประเทศอีกคร้ัง โดยได้รับความช่วยเหลือด้วยดีจาก ฮอลันดาเช่นเดิม ๓๑ M.V., vv. 13-17. ๓๒ Ibid., xcviii, v. 64. ๓๓ Tennent, vol. ii, p. 61. ๓๔ Turnour,'s Epitome, pp. 53-5. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 459 1/18/20 1:17 PM

460 ยุคเส่ือม เม่ือคณะราชทูตลังกาเดินทางถึงเมืองปัตตาเวียได้ฝากเคร่ืองราชบรรณาการ ไว้กับฮอลันดา จากน้ันเดินทางเข้าไปยังสยามประเทศเพื่อสืบข่าวดูว่า พระสงฆ์ไทยมี ศีลาจารวัตรงดงามกอปรด้วยคุณธรรมพอที่จะน�ำไปลังกาประเทศหรือไม่ เมื่อเห็น ความงดงามและความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาในสยามประเทศแล้ว มีความยินดี ตกลงพร้อมใจกันว่า สมควรน�ำเครื่องราชบรรณาการมาเข้าเฝ้ากษัตริย์แห่งสยาม ประเทศ แต่ครั้นเดินทางกลับถึงเมืองปัตตาเวีย ฮอลันดาได้แจ้งข่าวว่าพระเจ้าแผ่น ดินแห่งอาณาจักรแคนดีได้สวรรคตส้ินแล้ว พวกคณะราชทูตจึงมิกล้าตัดสินใจ เพราะไม่ทราบพระราชหฤทัยของกษัตริย์พระองค์ใหม่ จึงได้ชักชวนกันเดินทางกลับ ลังกา ความตั้งใจที่จะฟื้นฟูพระพุทธศาสนาก็ล้มเหลวอีกครา ยิ่งกว่านั้นระหว่างเดิน ทางกลับเรือได้ถูกคลื่นใหญ่ซัดตี จนลูกเรือถูกทะเลกลืนเสียชีวิตเป็นจ�ำนวนมาก เหลือเพียงคนหยิบมือเดียวเท่าน้ันท่ีน�ำเนื้อความมากราบบังคมทูลรายงานต่อพระเจ้า แผ่นดินลังกาพระองค์ใหม่ ฟื้นฟูพระพุทธศาสนาครั้งใหญ่ กษัตริย์ผู้ครองราชย์สืบต่อมาคือพระเจ้ากีรติศรีราชสิงหะ พระองค์ทรงเป็น ผู้ปรีชาฉลาดหลักแหลมย่ิง ทรงศึกษาธรรมะด้วยความบากบ่ันขยันหม่ันเพียร และ โปรดให้มีการแสดงธรรมเทศนาตลอดทั่วราชอาณาจักร ด้วยความมุ่งม่ันท่ีจะให้ พระธรรมค�ำสอนเป็นท่ีรู้จักแพร่หลาย พระองค์โปรดให้รวบรวมคัมภีร์ส�ำคัญและ คัดลอกแจกจ่ายตามวัดทั่วเกาะลังกา๓๕ กล่าวกันว่าเมื่อไรก็ตามที่พระองค์ได้รับคัมภีร์ ส�ำคัญทางพระพุทธศาสนา พระองค์จะจ่ายพระราชทรัพย์ซ้ือหนังสือเหล่านั้นแล้ว แจกจ่ายไปตามวัดวาอารามน้อยใหญ่ แต่ผลงานอันเป็นอมตะคือการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาบนเกาะลังกา ครั้นพระองค์ขึ้นครองราชย์แล้วไม่นาน สถานการณ์พระศาสนาบ่งช้ีว่า พระสงฆ์ท่ีเข้ารับการอุปสมบทสมัยพระเจ้าวิมลธรรมสูริยะท่ี ๒ พากันลาสิกขา ๓๕ M.V., xcix, v. 31. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 460 1/18/20 1:17 PM

ศรีลังกา 461 หมดสิ้น๓๕ มีแต่เหล่าสามเณรมากหลาย (สมัยนั้นเรียกกันว่าคณินนานเส) ซ่ึงดูแล ทรัพย์สินอันเป็นมรดกตกทอดมาจากอาจารย์ ความเป็นสมณะหาเป็นท่ียอมรับของ ชาวบ้านทั่วไปไม่ พระรัตนปาลเถระผู้แปลคัมภีร์วิมานวัตถุเป็นภาษาสิงหล บรรยายถึงการ พระศาสนากอ่ นทพี่ ระเจา้ กรี ตศิ รรี าชสงิ หะจะฟน้ื ฟไู วว้ า่ ๓๖ สมยั พระเจา้ เทวานมั ปยิ ตสิ สะ ครองราชย์เหนือบัลลังก์ลังกา พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ท่ีเฉลียวฉลาดและ ศรัทธาม่ันคงในบวรพระพุทธศาสนา อีกทั้งเหล่าเสนาอ�ำมาตย์ต่างให้ความช่วยเหลือ ด้วยดีตลอดมา พระเจ้าแผ่นดินหลายต่อหลายพระองค์พยายามส่งเสริมให้พระสงฆ์ ศึกษาพระธรรมวินัย และขับไล่ไต่สวนพระสงฆ์ที่มีหลักค�ำสอนและวัตรปฏิบัติ แตกต่างจากค�ำสอนด้ังเดิม แต่ปรัตยุบันสมัยการขาดหายไปของพระเจ้าแผ่นดินและ เสนาอ�ำมาตย์เช่นนั้น ต่อเนื่องด้วยพวกนอกศาสนาคือทมิฬและโปรตุเกสเข้าปล้นชิง ปัจจัยเครื่องจ�ำเป็นของพระสงฆ์หมดสิ้น แม้ลูกหลานจากตระกูลสูงที่เข้าบรรพชา อปุ สมบทกม็ ไิ ดต้ งั้ ใจเรยี นรศู้ กึ ษาพระไตรปฎิ ก อำ� นาจสว่ นใหญจ่ งึ อยใู่ นมอื ของพระสงฆ์ วรรณะต่�ำท่ีมีชีวิตเหมือนฆราวาส เช่นนี้แล้วช่ือว่าเป็นการท�ำลายพระพุทธศาสนา การสบื ต่อคณะสงฆน์ น้ั เร่ิมต้นจากพระอบุ าลเี ถระ พระทาสกเถระ พระโสณก เถระ พระสิคควเถระ พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ และพระมหินทเถระ การคัดเลือก ผู้มีศรัทธาเข้ามาบวชไม่มีความแตกต่างทางวรรณะ ประเพณีสืบทอดจากอาจารย์สู่ลูก ศิษย์ได้ถูกละเลยทอดท้ิง เพราะกลัวต่อความสับสนทางเครือญาติ พวกคณินนานเส เหล่าน้ันจึงไม่อนุญาตให้ลูกหลานจากตระกูลอ่ืนออกบวช ต่างครอบครองดูแลที่ดิน และทรัพย์สมบัติที่บูรพกษัตริย์ศรัทธามอบถวาย ท�ำราวกะว่าทรัพย์สินเหล่านั้นเป็น มรดกเฉพาะครอบครัวตัวเอง ด้วยเหตุฉะน้ีแลพวกคณินนานเสเหล่านั้นจึงได้บวช ๓๖ M.V., v. 175. ๓๖ การแปลครั้งน้ีได้เสริมค�ำเล็กน้อย ซึ่งคัดลอกมาจากบทความเก่ียวกับคณะราชทูต ของพระเจ้ากีรติศรีราชสิงหะไปสยามประเทศ ตีพิมพ์ในสมาคมเอเชียในพระบรมราชูปถัมภ์ สาขา ศรีลังกา โดยพอล อี เพียริส ดูใน vol. xviii, No. 54, pp. 17 foll. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 461 1/18/20 1:17 PM

462 ยุคเส่ือม ลูกหลานว่านเครือของตัวเอง เพ่ือเสพสุขจากความอุปถัมภ์ของพระมหากษัตริย์ โดยแสร้งท�ำทีว่าประเพณีเช่นน้ีเป็นการสืบต่อพระศาสนาที่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย แม้ต่อมาจะมีการบังคับพวกคณินนานเสให้ลาสิกขา โดยอ้างว่าสร้างความเสื่อมเสีย แก่พระศาสนาแล้วบวชกุลบุตรจากตระกูลสูงทดแทนก็ตามที น้ีช่างเป็นเร่ืองน่าหัวเราะ เสียกระไร การคุ้มครองพระสงฆ์ที่ดีมีจ�ำนวนน้อย ขณะพระสงฆ์จ�ำนวนมากเปรอะเปื้อน เสียหายเหมือนเถ้าถ่านอันร้อน แลเหมือนวางอัญมณีไว้หน้าคนเขลา แม้มีพระธรรม วินัยวางเป็นเข็มทิศน�ำทาง แต่พระสงฆ์เหล่าน้ันกลับหันไปชื่นชอบเดรัจฉานวิชา กล่าวคือ โหราศาสตร์ การแพทย์ การไหว้บูชาเทพเจ้า วิชาทั้งหลายเหล่านั้นได้ เฟื่องฟูแพร่หลายท้ังภายในพระนครและหัวเมืองรอบนอก จนกำ� ชัยเหนือกษัตริย์และ เหล่าเสนาอ�ำมาตย์ พวกคณินนานเสพากันเสพสุขด้วยทรัพย์สินเงินทองและยินดี ต�ำแหน่งทางบ้านเมือง เป็นอยู่ด้วยโลกียวิสัยละเลยค�ำสอนของพระพุทธเจ้า ท�ำการ ค้าขายสะสมแก้วแหวนเงินทอง เลี้ยงดูครอบครัวและลูกหลานด้วยทรัพย์สินของวัด จ�ำนวนคณินนานเสอลัชชีเหล่านี้บวกกับการกดข่ีข่มเหงของทมิฬหินชาติและโปรตุเกส การพระศาสนาจึงจมดิ่งสู่เหวลึกท�ำให้หมดสิ้นจากผืนแผ่นดินลังกา แตค่ วามหวงั เพอ่ื ฟน้ื ฟพู ระศาสนาไดเ้ กดิ ขน้ึ อกี ครงั้ หนงึ่ พรอ้ มกบั การขนึ้ ครอง ราชย์เหนือบัลลังก์ลังกาของกษัตริย์ผู้กล้าหาญพระนามว่ากีรติศรีราชสิงหะ คร้ันข้ึน ครองราชย์เรียบร้อยแล้ว พระเจ้ากีรติศรีราชสิงหะทรงต้ังพระทัยแน่วแน่ท่ีจะฟื้นฟู พระศาสนา จึงโปรดให้จัดส่งคณะราชทูตเดินทางไปยังสยามประเทศอีกคร้ังหนึ่ง เพอ่ื นมิ นตค์ ณะสงฆม์ าประกอบพธิ อี ปุ สมบทกรรม คราวนน้ั ฮอลนั ดาใหค้ วามชว่ ยเหลอื จัดส่งคณะราชทูตด้วยเรือสินค้าเช่นเดิม คณะราชทูตประสบความส�ำเร็จอย่างดีย่ิง กษัตริย์แห่งสยามประเทศพระนามว่าพระเจ้าธรรมิกราช (พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ) ผู้ฉลาดหลักแหลมมีศรัทธาแน่วแน่ในพระบวรพุทธศาสนา ทรงให้ความอุปถัมภ์สมณ ชพี ราหมณต์ ลอดพระชนมช์ พี พระองคโ์ ปรดใหก้ ารตอ้ นรบั คณะราชทตู ชาวสงิ หลอยา่ ง สมพระเกีรยติ คร้ันทราบจุดประสงค์ของกษัตริย์ลังกาแล้ว พระเจ้าแผ่นดินแห่งสยาม ประเทศโปรดให้คณะสงฆ์ประชุมพร้อมกัน มอบหมายให้สมเด็จพระสังฆราชเป็นผู้คัด 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 462 1/18/20 1:17 PM

ศรีลังกา 463 เลือกพระสงฆ์มากกว่าสิบรูป เพื่อเดินทางไปประดิษฐานพระพุทธศาสนา ณ ลังกา ประเทศ คณะสมณทตู ไทยชดุ นนั้ มพี ระอบุ าลมี หาเถระเปน็ หวั หนา้ นอกจากนนั้ พระเจา้ แผ่นดินแห่งสยามประเทศยังโปรดให้คัดลอกคัมภีร์พระไตรปิฎกและคัมภีร์ส�ำคัญ จ�ำนวนมากฝากมอบถวายแด่กษัตริย์ลังกาด้วย กล่าวกันว่าคัมภีร์เหล่าน้ันไม่ปรากฏว่ามีในลังกาประเทศ เมื่อชาวสิงหลทราบข่าวว่าคณะสมณทูตสยามเดินทางถึงเมืองหลวงแคนดี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่างปลาบปลื้มยินดีออกมาต้อนรับคณะสมณทูตสยามกันท่ัวหน้า แม้พระเจ้าแผ่นดินลังกาและเหล่าเสนาอ�ำมาตย์ ล้วนเดินทางมาต้อนรับด้วยขบวนช้าง และมา้ อยา่ งย่ิงใหญ่ เหตกุ ารณค์ รง้ั นั้นเกดิ ขนึ้ หลงั พทุ ธปรินิพพานลว่ งแล้ว ๒,๒๙๙ ปี ตรงกับเดือนอาสาฬห์๓๗ จากน้ันพิธีอุปสมบทกรรมได้ถูกจัดขึ้นท่ีเมืองแคนดีท่ามกลาง บรรยากาศแหง่ ความปลาบปลม้ื ยนิ ดพี รอ้ มประเพณแี หแ่ หนอยา่ งยง่ิ ใหญ่ เหลา่ สามเณร ท้ังหลายต่างได้รับการอุปสมบทจนหมดสิ้น จากนั้นพระเถระจากอโยธยาได้ช่วยกัน ส่ังสอนพระธรรมวินัยอีกท้ังจารีตปฏิบัติของพระสงฆ์ อันเป็นแบบอย่างถูกต้องดีงาม ตามประเพณีพุทธศาสนาสืบทอดต่อมาจากสมัยพุทธกาล ต่อมาพระเจ้าแผ่นดินลังกา ได้ออกกติกาวัตรควบคุมพระสงฆ์ให้ประพฤติปฏิบัติถูกต้องดีงามตามครรลองแห่ง ค�ำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสรณังกรสังฆราช ความส�ำเร็จจากการฟ้นื ฟพู ระพทุ ธศาสนาของพระเจา้ กีรตศิ รรี าชสิงหะครง้ั นน้ั ได้รับความช่วยเหลือด้วยดีจากพระภิกษุผู้ทุ่มเทอุทิศชีวิตเพื่อพระพุทธศาสนานามว่า แวลวิ ฏิ ะสรณงั กร ผสู้ รา้ งชอื่ เสยี งใหแ้ ดพ่ ระศาสนาและเปน็ แบบอยา่ งอนั ดงี ามแกอ่ นชุ น รุ่นหลัง ประวัติของท่านเหมือนเอกดวงดาราเปล่งประกายเจิดจ้าเหนือท้องนภากาศ โชติช่วงรุ่งเรืองท่ามกลางความมืดมนอนธกาลของพระศาสนาในลังกา ชื่อเสียงของ ท่านได้รับการกล่าวขานอย่างชื่นชมของบรรดาชาวสิงหลตราบจนถึงปัจจุบัน ๓๗ M.V., chap. c, vv. 60 foll. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 463 1/18/20 1:17 PM

464 ยุคเส่ือม ท่านเกิดท่ีหมู่บ้านแวลิวิฏะใกล้เมืองหลวงแคนดี บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อ อายุย่างเข้า ๑๖ ปี ภายใต้การอบรมดูแลของพระสูริยโกฎเถระ พระอุปัชฌาย์นั้นเห็น ความมุ่งม่ันศรัทธาของสามเณรจึงให้คำ� แนะน�ำ จนสามเณรสามารถเรียนรู้เข้าใจคัมภีร์ ทางพระพุทธศาสนาเป็นเบื้องต้น แต่การศึกษาเพื่อเข้าใจพระธรรมค�ำสอนอย่าง แทจ้ รงิ จำ� ตอ้ งอาศยั ภาษาบาลี ซงึ่ ยคุ นน้ั ตกตำ�่ ถงึ ขดี สดุ ไมม่ ใี ครสามารถแนะนำ� สามเณร ได้ ไม่มีแม้แต่หนังสือไวยากรณ์ท่ีจะสืบค้นเสาะหาเพื่อแสวงหาโอกาสที่ดีให้แก่ตนเอง แม้จะพบอุปสรรคมากมายเพียงใด สามเณรหนุ่มผู้กระหายต่อความรู้หาได้ย่อท้อไม่ กลับมุ่งมั่นเดินทางเสาะแสวงหาครูอาจารย์จากบ้านน้ันสู่ต�ำบลโน้น สะสมความรู้ ทีละเล็กละน้อย ต่อมาได้ศึกษาคัมภีร์พาลาวตารกับเลอุเก ราฬหามิ และพระปัลกุมบุเร อัตถทัสสีเถระ จนเช่ียวชาญแตกฉานมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นท่ีรู้จักกันในนามสามเณรคุรุ ด้วยความมุ่งมั่นแน่วแน่ที่จะฟื้นฟูพระศาสนาที่เสื่อมโทรมโรยราให้รุ่งเรืองดังเดิม สามเณรจึงออกเดินทางจาริกตลอดคามนิคมเขต เทศน์แสดงธรรมส่ังสอนชาวบ้านให้ ต่ืนตัวรับผิดชอบพระศาสนา จนช่ือเสียงของสามเณรหนุ่มนักปฏิบัติลามไปเหมือนไฟ ไหม้ทุ่ง มีกุลบุตรเข้ามาสมัครเป็นศิษย์จ�ำนวนมากจากทุกส่วนของเกาะลังกา กลุ่มของ สามเณรสรณังกรเป็นอยู่ด้วยชีวิตเรียบง่าย สลัดทิ้งเสียซึ่งความฟุ่มเฟือยท้ังปวง สันโดษด้วยปัจจัยที่ได้รับจากการบิณฑบาต ด้วยเหตุน้ีท่านจึงมีอีกนามหน่ึงว่า ปิณฑปาติกสรณังกร สมัยพระเจ้าวิมลธรรมสูริยะท่ี ๒ สามเณรสรณังกรได้รับความเคารพนับถือ และไว้วางพระทัยจากพระเจ้าแผ่นดิน สังเกตได้จากโปรดให้สร้างผอบสูงประมาณนิ้ว ครึ่งประดับด้วยอัญมณีเจ็ดร้อยชิ้นมอบถวาย พร้อมทั้งคัมภีร์ส�ำคัญอีกจ�ำนวนมาก๓๘ สมัยพระเจ้าศรีวิชัยราชสิงหะ สามเณรสรณังกรได้ทูลแนะน�ำพระองค์ให้จัดส่ง คณะราชทูตไปยังสยามประเทศ เพื่อขอคณะสงฆ์มาประกอบพิธีอุปสมบทกรรม ต่อมาครั้นเม่ือพระเจ้ากีรติศรีราชสิงหะข้ึนครองราชย์ ทรงได้รับการกระตุ้นเตือนจาก ๓๘ M.V., xcvii, vv. 54-7. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 464 1/18/20 1:17 PM

ศรีลังกา 465 สามเณรสรณังกรอีกคร้ังหน่ึง คราวน้ันสามเณรสรณังกรได้เขียนลิขิตภาษาบาลีมอบ ถวายแด่พระเจ้าแผ่นดินและพระสังฆราชแห่งสยามประเทศด้วย คณะราชทูตท่ีเดิน ทางไปคร้ังนั้นล้วนมาจากการคัดสรรและได้รับค�ำแนะน�ำจากท่าน ต่อมาหลังจากคณะ สมณทูตสยามประกอบพิธีกรรมอุปสมบทแก่กุลบุตรชาวสิงหลจนหมดสิ้น พระเจ้า- แผน่ ดนิ ลงั กาไดป้ ระชมุ สงฆข์ นึ้ เพอ่ื ยกยอ่ งสรรเสรญิ ผทู้ ำ� คณุ ประโยชนต์ อ่ ประเทศชาติ และพระศาสนา พระสรณงั กรไดร้ บั การพจิ าณาเปน็ ทา่ นแรก ในฐานะผนู้ ำ� ฟน้ื ฟพู ระพทุ ธ ศาสนาจนประสบความส�ำเร็จ โดยโปรดแต่งต้ังท่านให้เป็นพระสังฆราชแห่งลังกา คัมภีร์มหาวงศ์บรรยายเกียรติคุณของท่านไว้ว่า๓๙ พระสังฆราชสรณังกร เป็นจอมปราชญ์ผโู้ ดง่ ดงั พยายามอย่างแรงกลา้ ทีจ่ ะรักษาพระศาสนาของพระชนิ สหี ์ ท่านอุตสาหะแน่วแน่มุ่งมั่นท่ีจะฟื้นฟูพระศาสนาของพระศาสดาเจ้าให้รุ่งเรืองม่ันคง บนแผ่นดินลังกา ซึ่งทรุดโทรมเส่ือมสูญมานานหลายร้อยปี ท่านได้รับการยกย่อง เชดิ ชใู นฐานะผมู้ ปี ญั ญาฉลาดหลกั แหลมตลอดทวิ าราตรี มสี ตปิ ญั ญาแตกฉานสามารถ แทงทะลุค�ำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านเปล่งประกายสุกสว่างเย็นจิตด้วย เมตตา ในฐานะครูสอนเหล่าศิษยานุศิษย์ด้วยพระธรรมค�ำสอน มีปฏิภาณศรัทธา มุ่งมั่นท่ีจะรักษาศาสนาขององค์พระศาสดาบนเกาะลังกาให้รุ่งเรืองสถาพรยาวนาน มีชีวิตบริสุทธ์ิงดงามเพียบพร้อมด้วยศีลาจารวัตร ท่านกอปรด้วยคุณธรรมและ จรยิ ธรรมเหมอื นกระจกสะทอ้ นใหพ้ ทุ ธบตุ รชาวลงั กาพฒั นาตนเอง เพอื่ รกั ษาคำ� สอน ของพระศาสดาเจ้าสืบไป พระสรณังกรได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระสังฆราชแห่งลังกา ซึ่งถือว่าเป็นต�ำแหน่ง สูงสุดทางคณะสงฆ์ เม่ืออยู่ในต�ำแหน่งดังกล่าวก็เสมือนเป็นตัวแทนแห่งคณะสงฆ์ ท้ังปวง ท่านได้เสียสละอุทิศแรงกายแรงใจท�ำงานเพ่ือพระศาสนาเป็นเวลายาวนาน จนกระทั่งส้ินพระชนม์เม่ือพระชนมายุได้ ๘๑ พรรษา๔๐ พระศพของท่านได้รับเกียรติ ๓๙ Chap. c, vv. 102-8. ๔๐ เน้ือหาเกี่ยวกับพระประวัติของพระสรณังกรสังฆราชน้ันพอเป็นสังเขป ส่วนใหญ่คัดลอก มาจากกวีนิพนธ์ช่ือว่าสังฆราชวะตะและสังฆราโชตตมสาธุจริยาวะตะ ซ่ึงแต่งเป็นภาษาสิงหลโดยศิษย์ ของพระสังฆราช See Wickremasinhe's Catalogue under these titiles. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 465 1/18/20 1:17 PM

466 ยุคเสื่อม อย่างสูง โดยท�ำการฌาปนกิจท่ีอัมปิติยวิหาร ใกล้เมืองแคนดี แม้อนุสรณ์สถานยังคง ปรากฏเห็นจนถึงปัจจุบัน ผลงานด้านวรรณกรรม ความพยายามรวมคณะสงฆ์เป็นหน่ึงเดียวของพระสังฆราชสรณังกรและ พระเจ้ากีรติศรีราชสิงหะกลายมาเป็นผลส�ำเร็จด้านวรรณกรรม พระสังฆราชเองได้ นิพนธ์หนังสือส�ำคัญหลายเล่ม สมัยน้ันคู่มือส�ำหรับศึกษาภาษาบาลีหายากยิ่งนัก พระสรณังกรจึงรจนาหนังสือขึ้นมาเล่มหน่ึงช่ือว่ารูปมาลา เป็นต�ำราคู่มือเรียนภาษา บาลีว่าด้วยศัพท์ พร้อมทั้งยกตัวอย่างประกอบสามารถเข้าใจได้ง่ายเหมาะส�ำหรับผู้เริ่ม ต้นเรียนภาษาบาลี เลม่ ต่อมาเป็นตำ� ราภาษาบาลเี ชน่ เดยี วกันช่อื ว่าอภิสมั โพธิอลงั การะ เปน็ คำ� รอ้ ยกรองประกอบดว้ ย ๑๐๐ พระคาถา บรรยายพระประวตั ขิ องพระสมณโคดม เริ่มตั้งแต่เป็นสุเมธดาบส จนกระท่ังประสูติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะและบรรลุสัมมาสัม- โพธิญาณ เป็นที่น่าสังเกตว่าภาษาและรูปแบบของกวีนิพนธ์มิใช่เป็นงานช้ันครู อ่อนด้อยด้วยส�ำนวนลีลา อีกทั้งอุปมาอุปไมยก็เลียนแบบมาจากคัมภีร์เล่มอ่ืน มีของ จรงิ แทเ้ พยี งนอ้ ยนดิ คมั ภรี อ์ กี เลม่ หนง่ึ แตง่ เปน็ โคลงภาษาสงิ หลชอ่ื วา่ มธรุ ารถประกาศนี เป็นหนังสือแต่งแก้อรรถกถาภาษาบาลีชื่อว่ามหาโพธิวังสะ ผสมผสานกันระหว่างภาษา สิงหลกับภาษาสันสกฤต ต่อมานิพนธ์คัมภีร์ชื่อว่าสารารถสังครหะ เป็นต�ำราบรรจุ หลักค�ำสอนหลากหลายถ่ายทอดจากพระสูตรมากมาย เพ่ือใช้เป็นแนวทางส�ำหรับสวด พระปริตร ส่วนคัมภีร์มุนิคุณาลังการะ เป็นโคลงภาษาสิงหลสรรเสริญพระพุทธคุณ สุดทา้ ยเปน็ สันเนภาษาสิงหลอธบิ ายความตามคมั ภรี ์เภสัชชมัญชสู า สนั นษิ ฐานวา่ เขียน ตามคำ� ทลู นมิ นตข์ องพระเจา้ กรี ตศิ รรี าชสงิ หะ เพอื่ เสรมิ สรา้ งความเขา้ ใจเกย่ี วกบั สขุ ภาพ พลานามัยของพระสงฆ์ คัมภีร์มหาวงศ์อธิบายขยายความว่า๔๑ โลกใบน้ีมีโรคอยู่สองชนิดที่พระสงฆ์ ควรรู้ไว้ น่ันคือโรคทางกายและโรคทางจิต บรรดาโรคสองอย่างน้ันการรักษาโรคทาง จิต พระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นแพทย์เหนือแพทย์ ได้ทรงแสดงรายละเอียดชัดเจนแล้วใน ๔๑ Chap. xcix, vv. 179 foll. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 466 1/18/20 1:17 PM

ศรีลังกา 467 พระวินยั ปฎิ กและพระสุตตันตปฎิ ก เมื่อศกึ ษาสาระในพระวินยั ปฎิ กและพระสุตตันต- ปิฎกจนแจ่มแจ้งแล้ว พระสงฆ์จ�ำต้องรู้จักวิธีรักษาเยียวยาโรคทางกายให้หายขาด และท�ำลายราคะซึ่งเป็นโรคทางจิตให้ดับส้ินไป แต่เป็นเรื่องยากนักส�ำหรับพระสงฆ์ท่ี จะฝึกฝนตามหลักค�ำสอนและประพฤติดีงามตามพระวินัย พระเจ้ากีรติศรีราชสิงหะ ได้ทรงคิดค้นวิธีและหาหนทางท�ำลายโรคร้าย เพ่ือความยั่งยืนนานแห่งสมณภาวะ สนั นษิ ฐานวา่ ความสนใจแบบใหมเ่ กยี่ วกบั ยา อาจจะกระตนุ้ ใหพ้ ระสรณงั กรฟน้ื ฟศู กึ ษา คัมภีร์เภสัชชมัญชูสา ซ่ึงเชื่อว่าเป็นคัมภีร์เล่มเดียวที่บรรยายเกี่ยวกับเรื่องยาและ เขียนขึ้นโดยพระสงฆ์ลังกา นอกจากนนั้ ศษิ ยานศุ ษิ ยท์ แี่ วดลอ้ มพระสรณงั กรสงั ฆราช ลว้ นเปน็ นกั ปราชญ์ แตกฉานสรรพวิชาทั้งทางโลกและทางธรรม พระสงฆ์และฆราวาสระดับผู้น�ำแนวหน้า เหล่านั้น ต่างได้รับการศึกษาภายใต้การส่ังสอนของพระสังฆราชสรณังกรท้ังสิ้น ครั้นจบการศึกษาตามหลักสูตรแล้วพระสงฆ์เหล่าน้ันได้เดินทางกลับบ้านเกิด พร้อม ก่อต้ังปริเวณะขึ้นตามหัวเมืองน้อยใหญ่ท่ัวเกาะลังกา ท�ำหน้าที่แนะน�ำส่ังสอนกุลบุตร กุลธิดาผู้สนใจใฝ่เรียนรู้ ด้วยความพากเพียรเสียสละทุ่มเทของพระสงฆ์เหล่านั้น พุทธศาสนาได้ฟื้นฟูข้ึนมาใหม่หลังจากเสื่อมสูญหายไปเพราะการท�ำลายของชาว ต่างชาติ บรรดาศิษย์ของพระสรณังกรเหล่าน้ัน มีศิษย์คฤหัสถ์คนหนึ่งนามว่าอตั ตรคม บณั ฑารราชครุ ุ ไดแ้ ตง่ หนงั สอื ไวยากรณภ์ าษาบาลี ๓ เลม่ เลม่ แรกชอ่ื วา่ สธุ รี มขุ มณั ฑนะ เป็นคัมภีร์เล่มเล็กว่าด้วยสมาส ผู้เขียนต้องการให้เป็นคู่มือศึกษาบาลีไวยากรณ์ เฉพาะสมาส พร้อมท้ังน�ำกฎเกณฑ์ยกมาอธิบายเป็นตัวอย่าง เล่มต่อมาช่ือว่า การกปุปผมัญชรี ต�ำราเล่มนี้ผู้เขียนอ้างหลักฐานมาจากไวยากรณ์ภาษาบาลีและภาษา สันสกฤตเป็นจ�ำนวนมาก พร้อมท้ังแปลออกเป็นภาษาสิงหล๔๒ ต�ำราอีกเล่มคือสัททมาลาเป็นคัมภีร์สรุปไวยากรณ์ภาษาบาลีอาศัยคัมภีร์ กัจจายนะเป็นต้นแบบ แต่ผู้แต่งใช้วิธีเขียนด�ำเนินตามแบบคัมภีร์รูปสิทธิ เนื้อหาแบ่ง ๔๒ See Subhuti, Nama-mala, p. xciv. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 467 1/18/20 1:17 PM

468 ยุคเสื่อม ออกเป็น ๗ กัณฑ์ ได้แก่ สัญญาและสังหิตา นาม สมาส ตัทธิต อาขยาต กิบบิธาน (ปัจจัย) และการก ส่วนบทว่าด้วยอุณาทิ (อุปสรรค) รวมเข้าเป็นหมวดเดียวกันกับ กิบบิธานเหมือนคัมภีร์รูปสิทธิ เป็นที่น่าสังเกตว่าไม่ว่าจะเป็นคัมภีร์รูปสิทธิและ คัมภีร์กัจจายนะ บทว่าด้วยการกมักต่อจากบทว่าด้วยนามเสมอ แต่คัมภีร์สัททมาลา กลับน�ำมาเขียนเป็นบทท้ายสุด ผู้เขียนอาจเห็นว่าเน้ือหาบทการกเข้าใจยากสุด เน้ือหาต�ำราประกอบด้วย ๗๒๕ กฎ แต่ละบทมีค�ำแปลภาษาสิงหลก�ำกับ ไว้ด้วย ซ่ึงส่วนใหญ่เขียนโดยอัตตรคมบัณฑาระเอง ส่วนค�ำพังเพยส�ำคัญมากหลาย ถอดความมาจากคัมภีร์กัจจายนะ ขณะท่ีกฎย่อยท�ำหน้าที่อธิบายค�ำพังเพยและบรรจุ ส่วนบกพร่องเสริมเข้ามาใหม่ ส�ำหรับเนื้อหาในบทสุดท้ายส่วนใหญ่น�ำมาจากคัมภีร์ รูปสิทธิ หนังสืออ้างอิงส่วนมากน�ำมาจากต�ำราไวยากรณ์ของพระสังฆรักขิตเถระ ช่ือว่าสัมพันธจินตาและสุสัททสิทธิ เน้ือความบรรทัดสุดท้ายระบุว่า หนังสือเล่มน้ี เขียนเสร็จเดือนแอศเลศะ ปีศกะ ๒๒๔๔ นอกจากนั้น อัตตรคมบัณฑาระยังได้ เขียนต�ำราทางการแพทย์เป็นโศลกสันสกฤตชื่อว่าสารสังกเศปะ๔๓ ศิษย์อีกรูปหน่ึงนามว่าพระติบโบตุวาเว สิทธัตถเถระ ได้เขียนคัมภีร์มหาวงศ์ ตอ่ จากฉบบั เดมิ เรมิ่ ตน้ ตง้ั แตส่ มยั พระเจา้ ปรากรมพาหทุ ่ี ๔ แหง่ อาณาจกั รกรุ แุ ณคะละ จนถึงยุคอาณาจักรแคนดี๔๔ ตามค�ำทูลนิมนต์ของพระเจ้ากีรติศรีราชสิงหะ อีกรูปหนึ่ง นามว่าพระสิตินามลุเว ธัมมโชติเถระ ได้เขียนคัมภีร์พาลาวตารสังครหะ และคัมภีร์ พาลาวตารลิยนสันเนหรือโอโกณทโปลสันเน ส่วนพระสิทธัตถะ พุทธรักขิตเถระ เขียนหนังสือช่ือสิยาโมปสัมปทาวตะ บรรยายเหตุการณ์คราวคณะราชทูตลังกา เดินทางไปขอพระสงฆ์จากสยามประเทศ เพื่อน�ำมาประกอบพิธีกรรมอุปสมบท อีกเล่มหน่ึงชื่อว่าคัมภีร์ศรีสัทธรรโมวาทสังครหะ มีเน้ือหาว่าด้วยหลักค�ำสอนแนะน�ำ ชาวบ้านให้มีศีลธรรมและหลีกพ้นจากสังสารวัฏ ๔๓ Subhuti, Nama-mala, p. xciv. ๔๔ M.V., xcix, vv. 80-83, and Wickremasinghe, Catalogue, p. xxi. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 468 1/18/20 1:17 PM