เร่ืองท่ี 2 คุณธรรม จรยิ ธรรม จากคาปฏญิ าณและกฎของลกู เสือ คาช้ีแจง ใหผ ูเรยี นจับคคู าอธิบายความหมายของคุณธรรม จริยธรรมจากคําปฏญิ าณ และกฎของ ลกู เสอื ท่ีมีความหมายตรงกัน ข้อ คุณธรรม จรยิ ธรรม ขอ้ ความหมายของคณุ ธรรม จรยิ ธรรม 1. ความจงรักภกั ดีตอชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ แ ก. ความรักใคร กลมเกลยี วกนั ดวย (ขอ จ ) ความจริงใจ 2. ความรบั ผิดชอบตอหนาท่ี ข. ละเวน พฤติกรรมชัว่ ราย (ขอ ฉ ) 3. ความมรี ะเบยี บ วนิ ัย ค. ปฏบิ ตั ติ นทางกาย วาจา จิตใจ (ขอ ง ) ท่ตี รงไปตรงมา 4. ความซ่อื สตั ยแ ง. เป็นผูรแู ละปฏบิ ตั ิตามแบบแผน (ขอ ค ) 5. ความเสยี สละ จ. ซ่อื สตั ยแตอชาติ ทานบุ ารุงศาสนา (ขอ ช ) เทิดทนู พระมหากษตั รยิ แ 6. ความอดทน ฉ. ปฏบิ ัตกิ จิ การงานของตนเอง ดว ย (ขอ ซ ) ความมานะพยายาม 7. การไมทาบาป ช. ปฏิบตั ิตนโดยการอุทิศกาลังกาย (ขอ ข ) กาลังทรัพยแ กาลงั ปญใ ญา 8. ความสามคั คี ซ. ปฏิบัตติ นเปน็ ผูท ี่มจี ิตใจเขมแขง็ (ขอ ข )
กิจกรรมท้ายเร่ืองที่ 3 การนาคาปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื ทใ่ี ชใ้ นชีวติ ประจาวัน คาชแี้ จง ใหผ ูเรยี นยกตัวอยางการนําคาํ ปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื มาใชในชวี ิตประจําวัน ในประเด็นตอ ไปนี้ คาปฏิญาณและกฎของลกู เสือ ยกตวั อยา่ งการนาคาปฏิญาณและกฎของลกู เสือ มาใชใ้ นชวี ิตประจาวัน ขา จะชว ยเหลือผูอ่ืนทุกเมอื่ ชว ยทาํ งานบาน ชว ยทํางานกลุม ชวยเหลือผูสูงอายุ หรือรวมกิจกรรม ตา ง ๆ ในครอบครัว ชุมชน สังคม ลูกเสือเป็นมิตรกบั คนทุกคนและ มีมนุษยสแ ัมพันธแท่ีดี ยมิ้ แยมแจมใส เอาใจใสผอู ่นื เอื้ออาทร เป็นพนี่ อ งกับลกู เสอื ท่วั โลก แตง กายสุภาพเรยี บรอ ย เหมาะกับกาลเทศะ ลูกเสือเป็นผูสภุ าพเรยี บรอย ลูกเสือมคี วามเมตตากรุณาตอ สตั วแ ไมทารณุ สตั วแ ไมรงั แกสัตวแ ไมฆ าสตั วแ ลูกเสือมีใจราเริง และไมยอทอตอความ คิดเชงิ บวก สามารถปรบั ตัวไดเ รว็ นําวิกฤตเป็นโอกาส ลําบาก ลกู เสือเป็นผูม ัธยสั ถแ ไมฟุูงเฟูอ รูจักการประหยัดและการออม ใชจายดวยความระมัดระวัง ลูกเสือประพฤติชอบดวยกาย วาจา ใจ รอบคอบ ประพฤติปฏิบัติตนดวยการสารวมกาย วาจา ใจ ปูองกันการ กระทบกระท่ัง กอใหเกิดความสุขในชีวิต ตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคม
เรอื่ งท่ี 4 ความสัมพนั ธร์ ะหว่างคณุ ธรรม จริยธรรมในคาปฏิญาณและ กฎของลูกเสือ กบั หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง คาชแ้ี จง ใหผ ูเรียนวิเคราะหคแ าํ ปฏญิ าณ และกฎของลกู เสือวามคี วามสมั พนั ธกแ ับการ ปฏิบตั ติ น ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ในประเด็นตอไปนี้ คาปฏิญาณและกฎของลูกเสือ ยกตัวอย่างการนาคาปฏญิ าณและกฎของลูกเสือ มาใช้ในชวี ติ ประจาวัน ขอ 1 ลกู เสือมีเกียรตเิ ชื่อถอื ได ความซ่อื สัตยแสุจรติ ขอ 2 ลูกเสือมีความจงรักภักดีตอชาติ ความกตญั โกู ตู เวที ศาสนา พระมหากษัตริยแ และซื่อตรงตอผู มีพระคณุ ขอ 3 ลูกเสือมีหนาที่กระทาตนใหเป็น ความมนี ้ําใจและมจี ิตอาสา ประโยชนแแ ละชวยเหลือผูอ่ืน ขอ 4 ลูกเสือเป็นมิตรของคนทุกคนและ ความสามัคคี เปน็ พน่ี อ งกบั ลกู เสืออืน่ ท่วั โลก ขอ 5 ลูกเสือเปน็ ผสู ุภาพเรียบรอย ความสภุ าพ ขอ 6 ลกู เสือมีความเมตตากรุณาตอ สตั วแ ความมนี ้าํ ใจและมจี ิตอาสา ขอ 7 ลกู เสือเช่ือฟใงคาํ ส่งั ของบดิ ามารดา ความมีนา ใจและมีจติ อาสา และผบู ังคบั บัญชาดว ยความเคารพ ขอ 8 ลูกเสอื มใี จราเรงิ และไมย อ ทอตอ ความขยัน ความอดทน ความยากลาํ บาก ขอ 9 ลกู เสือเปน็ ผูมธั ยัสถแ ความประหยัด ขอ 10 ลูกเสือประพฤตชิ อบดวยกาย ความมีวนิ ยั ความสะอาด วาจา ใจ
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น – หลงั เรยี น 1. ก 13. ค 2. ง 12. ค 3. ง 13. ง 4. ง 14. ก 5. ก 15. ก 6. ง 16. ก 7. ก 17. ก 8. ข 18. ง 9. ง 19. ง 10. ง 20. ข
แผนการจัดกจิ กรรมก
การเรยี นรู้คร้งั ท่ี 15
แผนการจดั การเรยี นรู้ สาระความรพู้ ้นื ฐาน ระดับ มธั ยมศึกษาตอนปล ครั้งท่ี วัน/เดอื น/ปี หัวเร่อื ง/ตัวชี้วดั เนอ้ื หาสาระการเรียนรู้ เร่ือง วินัย และความเป็น เร่ือง วินัย และความเป็น ขนั้ ท ระเบียบเรียบร้อย ระเบียบเรยี บรอ้ ย - 1.อธิบายความหมาย และ 1.1 ความหมายของวินัย ผูเรีย ความสําคญั ของวนิ ัย และ แ ล ะ ค ว า ม เ ป็ น ร ะ เ บี ย บ ยกต ความเป็นระเบยี บเรียบรอย เรียบรอย ควา 2. อธิบายผลกระทบจากการ 1.2 ความสาํ คญั ของวินยั วินยั ขาดวินัยและขาดความเป็น และความเป็นระเบียบ ขน้ั ท ระเบียบเรยี บรอ ย เรียบรอย - 3. ยกตัวอยางแนวทางการ 2. ผลกระทบจากการขาด ควา เสริมสรางวินัย และความเป็น วินัย และขาดความเป็น และ ระเบียบเรยี บรอย ระเบียบเรียบรอ ย - 4. อธิบายระบบหมูลูกเสอื 3. แนวทางการเสริมสราง การข 5. อธิบายและยกตวั อยางการ วินัย และความเป็นระเบียบ เรียบ พัฒนาภาวะผูน ํา -ผตู าม เรยี บรอย ผูเ รยี 4. ระบบหมลู กู เสอื - 5. การพัฒนาภาวะผูน ํา –ผู เสรมิ ตาม เรยี บ
รายวชิ าลกู เสอื กศน. รหัสวิชา สค32035 ลาย จานวน 3 หน่วยกิต การจดั กระบวนการเรยี นรู้ สือ่ /แหล่งเรยี นรู้ วัดและประเมินผล ท่ี 1 : กาหนดสภาพปญั หา - หนงั สอื เรยี น - พฤติกรรมการมี - ครนู ําเขา สบู ทเรียน โดยการทกั ทาย รายวิชาลกู เสือ กศน. สว นรว มในการทาํ ยน ใหผูเรียน กอนนําเขาสูบทเรียน ระดบั มัธยมศึกษา กิจกรรม ตัวอยางการจัดของในหองเรียนใหมี ตอนปลาย - การแสดงความ ามเป็นระเบียบเรียบรอย และการมี - ใบความรู เรอ่ื ง คดิ เหน็ ความสนใจ ยในตนเองตอ ความรับผดิ ชอบ วินัย และความเปน็ ในการเรียนการสอน ที่ 2 : แสวงหาความรู้ ระเบียบเรยี บรอ ย การกลา แสดงออก ใหครูเขาสูบทเรียนโดยอธิบาย - วีดีโอจากยทู ปู - ใบงานเรอ่ื ง วนิ ยั ามหมาย และความสําคัญของวินัย เรอ่ื ง ผลกระทบจาก และความเป็น ะความเป็นระเบยี บเรยี บรอ ย การขาดวินัยและขาด ระเบียบเรยี บรอ ย ครูไดนําวิดีโอ เรื่องผลกระทบจาก ความเปน็ ระเบียบ ขาดวินัยและขาดความเป็นระเบียบ เรยี บรอย บรอย พรอมอธิบายเพิ่มเติมเพื่อให ยนเขา มาขนึ้ ครไู ดย กตวั อยา งแนวทางการ มสรางวนิ ัย ความเปน็ ระเบยี บ บรอ ย อธิบายระบบหมูลูกเสอื 362
คร้งั ที่ วนั /เดือน/ปี หวั เร่อื ง/ตัวช้ีวัด เน้อื หาสาระการเรยี นรู้ และ ภาว - คร เน้อื ห - คร ความ ข้ันท - การน และ ยกต ระเบ ไดแ ส - เนอื้ ห ระเบ ขัน้ ท - กิจก
การจัดกระบวนการเรยี นรู้ ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ วดั และประเมนิ ผล ะอธิบายและยกตวั อยา งการพฒั นา วะผูนํา –ผตู าม รเู ปดิ โอกาสใหผ เู รยี นไดซ กั ถามถึง หาท่ีไมเ ขาใจ รูใหผ เู รียนทาํ ใบงาน เร่ือง วินยั และ มเปน็ ระเบยี บเรียบรอย ที่ 3 : การปฏบิ ัตนิ าไปใช้ ครใู หผเู รียนออกมาอธิบายและทาํ นําเสนอหนา ช้นั เรยี น เรือ่ ง วินัย ะความเปน็ ระเบียบเรียบรอย พรอม ตวั อยาง ในวนิ ัย และความเป็น บยี บเรียบรอ ย และใหผ ูเรียนคนอื่นๆ สดงความคดิ เหน็ รวมกนั ในชน้ั เรยี น - ครแู ละผเู รยี นรว มกันสรุปบทเรยี น หา เรอ่ื ง วนิ ัย และความเป็น บยี บเรียบรอย ที่ 4 : การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ พฤติกรรมการมีสว นรว มในการทํา กรรม 363
ครั้งท่ี วัน/เดอื น/ปี หวั เรื่อง/ตัวช้ีวดั เน้อื หาสาระการเรยี นรู้ - ในกา - เป็นร
การจัดกระบวนการเรียนรู้ สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้ วัดและประเมินผล การแสดงความคดิ เห็น ความสนใจ ารเรยี นการสอน การกลาแสดงออก การทาํ ใบงานเร่อื ง วนิ ยั และความ ระเบยี บเรียบรอย 364
ใบความรู เร่อื ง วินยั และความเป็นระเบียบเรยี บรอ ย 1. วนิ ัยและความเปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ย การประกอบกิจกรรมทุกอยางหรือการฝึกอบรมทุกประเภทที่ทํากับคนหมูมากถาขาดวินัยเสียแลวก็ เทา กับเป็นการลมเหลวทุกส่ิงทุกอยางโดยสิ้นเชิง ลูกเสือท่ีมีระเบียบวินัยเชื่อฟใงปฏิบัติตามคําส่ังผูบังคับบัญชา ยอมท่ีจะเป็นพลเมืองดีในอนาคต ลูกเสือที่ไดรับการฝึกอบรมอยางดีสามารถเป็นผูนําได เพราะวาเป็นคนที่ รกั ษาสัตยแ ประพฤตติ นตามกฎกติกาเป็นคนมนี า้ํ ใจเมตตาอารี เสียสละ ส่ิงเหลานี้ยอมติดตัวไปเป็นนิสัยเกิดขึ้น ในตัวเองตลอดเวลา วินัยจึงเป็นสิ่งจําเป็นมากในกองลูกเสือ คนที่มีคุณภาพควรไดรับการฝึกฝนใหมีระเบียบ วินัยทาํ ใหรูจักการทําตนเป็นผูอยูใตบังคับบัญชาของผูท่ีเป็นหัวหนา หรือทําตนในฐานะเป็นผูบังคับบัญชาเป็น แบบอยา งทดี่ ีได ซงึ่ จะนาํ ประโยชนแมาใหตน ทั้งในดานสวนตัวและหนาท่ีการงาน วินัยมีความจําเป็นอยางย่ิงท่ี สรางและสงเสริม เยาวชนจะไดเป็นพลเมืองท่ีมีคุณภาพตั้งแตยังอยูในเยาวแวัยเม่ือเติบใหญจะเป็นกําลังสําคัญ ชว ยพฒั นาประเทศชาติใหเ จริญรงุ เรืองสบื ไป 1.1 ความหมายของวินัยและความเป็นระเบียบเรยี บร้อย วินัยและความเป็นระเบียบเรียบรอย หมายถึง การกระทําหรืองดเวนการกระทําตามระเบียบ กฎเกณฑแ ขอบังคับ สําหรับควบคุมความประพฤติทางกาย วาจา ของคนในสังคมใหเรียบรอยดีงาม เป็นแบบ แผนอันหนึ่งอันเดียวกัน เพ่ือการอยูรวมกันดวยความสุขสบายไมกระทบกระท่ังซ่ึงกันและกัน วินัยและความ เป็นระเบยี บเรยี บรอ ยชวยใหคนในสงั คมหา งไกลความชั่วท้ังหลาย สามารถอยูรวมกันเป็นหมูเหลา ถาขาดวินัย และความเป็นระเบียบเรยี บรอยตา งคนตา งทําตามอาํ เภอใจ ความขัดแยงและลักลั่นก็จะเกิดขึ้น ย่ิงมากคนก็ยิ่ง มากเรอื่ งไมมีความสงบสุข การงานทที่ าํ กจ็ ะเสยี ผล วินยั มี 2 ประการ ก. วินัยภายนอก ซ่ึงเกิดจากการใหกระทําหรืองดเวนการกระทําในการฝึกอบรมตองเขมงวดตาม ลกั ษณะ หรอื กจิ การแตล ะประเภท เพอื่ ทจี่ ะใหปฏิบัติจนเกดิ ลกั ษณะนิสัยวนิ ัยภายนอกไมยั่งยืนอยูไดนาน หาก วาผูท ีไ่ มพ อใจกอ็ าจละเลย หรอื วางเฉย เม่ือไมมีการกาํ หนดไว หรือไมม ีใครรเู หน็ ข. วินัยภายใน เป็นท่ีพึงประสงคแเพราะเป็นวินัยที่จะปฏิบัติดวยความเต็มใจเพราะเห็นคุณคาการ ฝึกอบรมจึงตองเนนหนักในการสรางวินัยภายในดวยการกวดขันการประพฤติปฏิบัติอยางจริงจังและตอเนื่อง วนิ ยั ภายในเป็นสง่ิ ท่ตี องการใหมอี ยใู นทกุ ตวั ตน 1.2 ความสาคัญของวนิ ยั และความเปน็ ระเบียบเรยี บร้อย ความสําคัญของวนิ ยั ในตนเองมีอยา งนอย 2 ประการ ประการท่ีหน่งึ เหตุผลเกี่ยวกับประโยชนแสว นตัวแตละบุคคล ในเร่ืองการแสวงหาความรู เนอ่ื งจาก ปใจจุบนั มอี ยูมากมาย ไมอาจบรรจไุ วในหลกั สตู รไดห มดแตละคนจงึ ควรแสวงหาความรูดวยตนเอง นอกเหนือจากที่ปรากฏในหลักสตู รของสถานศึกษา ฉะนัน้
จึงจําเป็นตองฝึกใหมีการควบคุมตนเอง มีความเฉลียวฉลาด และมีความเป็นอิสระ เพื่อจะไดแสวงหาความรู เพิ่มเติมใหม ากทสี่ ดุ ประการทีส่ อง ชมุ ชนจะเจรญิ และมคี วามมัน่ คงยั่งยืนตอไปได จะตองอาศัยพลเมืองแตละคนทําความ ดแี ละเสียสละใหแ กชมุ ชน ไมแ สวงหาประโยชนแสว นตัวเทานน้ั ลกั ษณะของผู้มีวินยั ในตนเอง พฤติกรรมของผูมีวินยั ในตนเอง มีดงั น้ี 1) มีความเช่ืออาํ นาจภายในตนเอง 2) มคี วามเป็นผนู าํ 3) มีความรบั ผดิ ชอบ 4) ตรงตอเวลา 5) เคารพตอระเบียบกฎเกณฑแทง้ั ตอหนาและลบั หลังผอู ่นื 6) มคี วามซื่อสัตยแสุจรติ 7) รูจักหนาทแ่ี ละกระทาํ ตามหนาท่ีเปน็ อยา งดี 8) รูจกั เสยี สละ 9) มีความอดทน 10) มีความต้งั ใจเพียรพยายาม 11) ยอมรบั ผลการกระทาํ ของตน 2. ผลกระทบจากการขาดวินัยและขาดความเป็นระเบยี บเรียบร้อย การที่บุคคลขาดวินัยและความเป็นระเบียบเรียบรอยในตนเองมีผลทําใหขาดวินัยความเป็นระเบียบ เรียบรอยทางสังคมไปดวยวินัยในตนเองเป็นพื้นฐานของการควบคุมตัวเองใหมีวินัยทางสังคมการมีวินัยใน ตนเองจึงเป็นส่ิงที่ควรไดรับการสงเสริมเพื่อเป็นพ้ืนฐานของการควบคุมตนเองซึ่งจะนําไปสูการสรางวินัยทาง สังคม การมวี ินัยจงึ ถอื เป็นพน้ื ฐานในการดาํ เนินกิจกรรมในสงั คมและการรวมกนั อยูของกลุมการปลูกฝใงวินัยจะ ทําใหบุคคลยอมรับกฎเกณฑแท่ีสังคมกําหนดและวินัยยังเป็นวัฒนธรรมทางสังคมซึ่งจะทําใหเด็กเรียนรู พฤติกรรมที่สังคมยอมรับทําใหพัฒนาตนเองสูความเป็นผูใหญท่ีสามารถควบคุมตนเองได มีมโนธรรมที่ดีและมี ความม่นั คงทางอารมณแ ดว ยเหตนุ ้กี ารปลูกฝงใ ความมีวินัยในตนเองใหแกคนในชาติเพื่อสรางความเจริญรุงเรือง แกบานเมืองน้ันควรเร่ิมตนที่เยาวชนโดยใหประพฤติและฝึกฝนจนเป็นนิสัยเพื่อจะไดเป็นผูใหญท่ีมีวินัยใน อนาคต วนิ ยั ท่ีดเี กดิ จากความรักความเลอื่ มใสศรัทธา เด็ก ๆ ยอ มเชื่อฟใงและเคารพเล่ือมใสผูท่ีฉลาดกวาตน มี อายุมากกวาตน รูปรางใหญกวาตน ผูกํากับลูกเสือจึงเป็นกุญแจดอกสําคัญในการสรางสมวินัยใหเกิดขึ้นในตัว เด็ก ผกู าํ กบั ลูกเสือจึงตอ งวางตวั ใหด ีท่ีสุด มีบุคลกิ ภาพท่นี า นับถอื ย้ิมแยม แจม ใสพดู จากชัดถอยชัดคํา เด็กก็จะ เกิดความสนใจ รักใครนับถือนิยมชมชอบและเล่ือมใสศรัทธา เด็กก็จะใหความรวมมือในอันที่จะปฏิบัติตาม กฎเกณฑแตาง ๆ ซึ่งผลท่ีสุด การปฏิบัติตามคําสั่งหรือปฏิบัติตัวใหอยูในระเบียบวินัยของลูกเสือก็จะดูเป็นของ งายและผูกํากับลูกเสือก็ควรจะกวดขันในเร่ืองวินัย และการเชื่อฟใงปฏิบัติตามคําส่ังดวยความรวดเร็วและ เครง ครดั แมในเรือ่ งเล็ก ๆ นอ ย กไ็ มควรปลอ ยเลยไป กองลูกเสือใดมีระเบียบวินัยท่ีดีแลว กองลูกเสือนั้นก็จะมีความสุข ประสบผลสําเร็จในกิจการตาง ๆ ไดโ ดยงาย สิง่ ทีจ่ ะชวยทําใหล ูกเสือไดมรี ะเบียบวินัยทดี่ ี ไดแก 1. การใชคําส่ังใหปฏิบัติอยางงาย ๆ เป็นคําส่ังตรง ๆ มีจุดหมายท่ีแนนอน ไมใชเป็นคําสั่งท่ีเกิดจาก การขม ขู 2. พิธกี ารตาง ๆ เพราะในพิธกี ารตาง ๆ ทาํ ใหล ูกเสอื อยใู นอาการสาํ รวม
3. การตรวจในการเปิดประชุมกองและปิดประชุมกอง หรือการตรวจการอยูคายพักแรมในตอนเชา เปน็ การชว ยใหลกู เสือไดรกั ษามาตรฐานและระเบยี บวนิ ัยของกองลูกเสอื ใหมีระดับดีข้นึ 4. เครื่องแบบมีความหมายสําหรับช่ือเสียงของขบวนการกองลูกเสือบุคคลภายนอกเขาจะมองและ ตดั สินเราดวยสิง่ ท่ีเขาเห็นเทา นนั้ ผแู ตงเคร่อื งแบบจะตองสาํ รวมกิริยาวาจาไมก ระทําการใดทีจ่ ะทําใหเ สือ่ มเสีย 5. การอยูคา ยพักแรมตอ งทาํ งานรวมกันอยา งมีประสิทธภิ าพ 6. การเดนิ ทางไกล ไดร ับความเหน็ดเหนือ่ ย ตองอดทน เหน็ ใจซ่งึ กันและกนั 7. ระเบียบแถว เปน็ วิธีการฝึกทีจ่ ะตอ งใหปฏบิ ตั ติ ามคาํ บอกคําสั่ง 8. สงิ่ แวดลอ มท่ีมองเหน็ เปน็ แบบอยางท่ีจะกระทําตาม 9. ตัวอยางทีด่ ขี องผูกํากับเปน็ เรอ่ื งสําคัญท่ีสดุ ทีล่ กู เสือจะเกิดศรทั ธายึดถอื เปน็ แบบอยาง 3. แนวทางการเสริมสรา้ งวินัยและความเปน็ ระเบียบเรยี บรอ้ ย การจะพัฒนาวินัยในตนเองจะตองเริ่มตนตั้งแตเด็กในวัยทารกและใหแรงจูงใจทางจริยธรรมแกเด็กท่ี โตแลว การพัฒนาวินัยในตนเองจะตองอาศัยความรวมมือจากสถาบันตาง ๆ ที่แวดลอมตัวเด็กและตองใช วิธกี ารกระตนุ หรือพฒั นาวินยั ในตนเองของเด็กอยางเหมาะสมดว ย วิธีการพฒั นาวินยั ในตนเอง 1. สร้างวนิ ัยด้วยการทาใหเ้ ปน็ พฤตกิ รรมเคยชนิ สรางวินยั ดวยการทาํ ใหเป็นพฤตกิ รรมเคยชนิ วิธีฝึกวินยั ทีด่ ที ่สี ุดตองอาศัยธรรมชาติของมนุษยแที่ดําเนินชีวิตกัน ดวยความเคยชินเป็นสวนใหญ แลวก็ยึดมั่นในความพึงพอใจในพฤติกรรมที่เคยชินน้ัน การฝึกคนตองใช ความสามารถและตองมีระบบตองสอดคลองกับธรรมชาติใหเกิดพฤติกรรมเคยชิน ถือวาตองสรางวินัยใหเป็น พฤตกิ รรมเคยชนิ 2. การสรา้ งวินัยโดยใชป้ ัจจยั อน่ื ช่วยเสรมิ วินัยจะทําใหเกิดความสุขและประพฤติปฏิบัติดวยความพึงพอใจ โดยใชปใจจัยอยางอ่ืนมาชวยอีกก็ได เชน มี กัลยาณมิตร วินัยก็เกิดไดงาย มีศรัทธาและความรักเป็นองคแประกอบเสริม ในการสรางวินัยจากพฤติกรรมที่ เคยชนิ คือ 2.1 เปน็ ตน แบบที่ดขี องพฤตกิ รรม (ศีล) 2.2 มคี วามรัก ทําใหเกิดความอบอุน มคี วามเป็นกันเองพรอมศรัทธาและความสขุ (จติ ใจ) 2.3 มีเหตมุ ีผล เขาใจเหตผุ ลและเหน็ คณุ คาในสิ่งที่ทาํ (ปญใ ญา) 2.4 สรางวนิ ยั ดว ยแรงหนุนของสภาพจิตใจ คอื การตงั้ เปน็ อุดมคติในจิตใจทําใหใจมีความฝใกใฝุมุงม่ัน อยา งแรง มีเปาู หมายอยา งแรง เปน็ อดุ มคติ ใฝตุ ั้งใจจรงิ ปฏิบัตติ ามวินัยมีความภูมิใจรักษาวินยั 3. สรา้ งวินยั โดยใชก้ ฎเกณฑบ์ ังคบั การสรา งวนิ ัยโดยใชกฎหมาย หรือกฎเกณฑแบังคับควบคุมโดยมีการลงโทษวิธีน้ีก็สรางวินัยได บางคร้ังไดผลแต เมอื่ กฎเกณฑแน้นั ไมบ ีบบังคบั รุนแรงเกินไป และมชี ว งเวลายาวพอที่จะใหคนผานเขาสูความเคยชินจนเขาไมรูตัว พอกลายเป็นความเคยชินไปแลวก็เขาสูกฎธรรมชาติตามวิธีแรก คือเป็นวินัยพื้นฐานที่เกิดข้ึนโดยการสราง พฤตกิ รรมเคยชนิ มนั กลายเป็นเร่ืองของความเคยชินตามธรรมชาติท่ีมารับทอดจากการใชอํานาจบีบบังคับ อัน นน้ั ตา งหากท่ไี ดผล 4. การเสรมิ สร้างวินยั ในตนเอง วนิ ัยน้ันเกย่ี วของกับความสมั พันธแระหวางมนษุ ยแกับมนษุ ยแ และความสัมพันธรแ ะหวางมนุษยแกับธรรมชาติ สังคม มนุษยแจําเป็นตองมีวินัยเพื่อทําใหเกิดระบบระเบียบ ซ่ึงเป็นปใจจัยสําคัญในการสรางความสงบสุข และความ เจรญิ กา วหนาแกชีวิตและสังคม วินยั นั้นกอนอ่ืนตองเริม่ จากตนเองกอนเปน็ อันดบั แรก
วินัยในตนเอง หมายถึง ความสามารถของบุคคลในการควบคุมอารมณแและพฤติกรรม โดยเกิดจาก ความรสู ึกมองเหน็ คุณคาในการปฏบิ ตั ดิ วยตนเอง มิไดเกิดจากอิทธิพลภายนอก เชน ระเบียบ คําสั่ง การบังคับ ถึงแมจะมีอปุ สรรคกย็ ังไมเปลี่ยนพฤติกรรมน้นั 4 ระบบหมู่ลกู เสือ ระบบหมูลูกเสือเป็นการเสริมสรางวินัยและความเป็นระเบียบเรียบรอยในการทํางาน และการปฏิบัติภารกิจ ของสมาชิกภายในหมู กอง กลุม เพื่อความกาวหนาของสวนรวมดวยความเต็มใจและพอใจของสมาชิกทุกคน นายหมูล กู เสอื ทุกคนจะดแู ลสมาชิกภายในหมขู องตนเอง เปน็ การกระจายอํานาจ และแบงหนาท่ีกันรับผิดชอบ ตามระบอบประชาธิปไตย การจดั หน้าท่ีภายในหมูล่ กู เสือ 1. นายหมลู ูกเสือ ทาํ หนาทีเ่ ป็นผนู ําของหมู ดแู ลสมาชกิ ภายในหมู 2. รองนายหมูลูกเสอื ทาํ หนา ทชี่ ว ยนายหมู ชว ยดูแลสมาชิกภายในหมู 3. พลาธิการ ทาํ หนาทด่ี ูแลวสั ดุ อปุ กรณแ บญั ชตี า ง ๆ และความเป็นระเบียบเรียบรอ ย 4. คนครวั ทําหนาทแี่ มครวั จัดทาํ เตา หลุมเปยี ก หลุมแหง ท่ลี างและคว่ําจาน 5. ผูชว ยคนครวั ทําหนา ทีช่ วยแมค รัวทุกประการ 6. คนหาฟืน ทําหนา ท่จี ดั หาเชื้อเพลิง หาฟืน เก็บฟืนไมใหเปยี กฝน 7. คนหาน้ํา ทําหนาทีจ่ ัดหาน้ํา สาํ หรบั ประกอบอาหาร น้ําดื่ม นํา้ ใช 8. ผูชวยเหลือทั่วไป ทาํ หนาทชี่ วยงานคนอน่ื ๆ พฒั นาท่ีพกั กําจัดขยะทาํ ราวตากผา (ถามี 8 คนขึ้นไป ใหเ พ่มิ ผชู วยคนหาฟนื หานา้ํ หรอื ตําแหนง อ่ืน ๆ ตามความเหมาะสม) ใหแตละคนรับรูบทบาทในการทํางานภายในหมู ใชระบบหมู ฝึกและพัฒนาการเป็นผูนํา - ผูตาม รับ ฟงใ ความคิดเห็น และการยอมรบั ซง่ึ กนั และกนั กิจกรรมลูกเสือ มีหลักการสงเสริมประชาธิปไตย โดยสมาชิกทุกคนสามารถพูดสามารถแสดงออกได เสมอ เชน การเลอื กเลนเกม เพลง การทาํ ความดี การทาํ กิจกรรมทนี่ า สนใจ เปน็ ตน การประชมุ นายหมู หมายถึง การประชุมนายหมูทุกหมู โดยมีหัวหนานายหมูเป็นประธานในท่ีประชุม ใหน ายหมนู าํ มตหิ รอื ขอ ตกลงจากท่ปี ระชมุ ไปแจง แกลูกหมู การประชุมลูกหมู หมายถึง การประชุมภายในหมู โดยมีนายหมูเป็นประธานในท่ีประชุม นายหมูจะ เปน็ ผกู ระตนุ ใหท ุกคนพดู คุย เสนอความคดิ แสดงเหตุผลในเร่ืองตาง ๆ เชน เสนอวาจะทํากิจกรรมอะไร ไปทํา กิจกรรมที่ไหน ใครมหี นาทีอ่ ะไร เปน็ ตน การพบหมู แตกตางจากการประชุมหมู เพราะจะนัดพบเฉพาะหมูของตนเองเพ่ือนัดหมายไปทํา กจิ กรรมเพอ่ื แสดงความสามารถ การพบกนั ของสมาชิกจะประสบความสาํ เรจ็ คอื การใหโอกาสทกุ คนเปน็ ผนู ํา บทบาทหนา้ ท่ขี องนายหมแู่ ละรองนายหมู่ บทบาทหนาท่ีของนายหมูและรองนายหมู แตละหมูจะมีการเลือกนายหมูและรองนายหมู ตาม ระบอบประชาธิปไตย การเลือกต้ังนายหมูควรมีการสับเปลี่ยนใหสมาชิกคนอ่ืนมีโอกาสเป็นนายหมูและรอง นายหมู เพื่อเป็นการเปลี่ยนกันทํางาน และฝึกความรับผิดชอบในฐานะผูนํา บทบาทของนายหมูและรองนาย หมู มดี งั น้ี 1. บรหิ ารงานในหมู 2. ใหคําปรึกษาแกสมาชกิ 3. เปน็ ผนู ําในการประชุม 4. แบงงานใหสมาชิกทํา 5. เป็นตัวแทนในการประชุมกบั หมูอ น่ื ๆ 6. แจง ผลการประชุม
7. ชว ยเหลอื สมาชิก 8. จดบันทกึ เหตุการณทแ ส่ี าํ คัญ ๆ ของหมู ศกึ ษาบทบาทการทาํ หนาท่ีของนายหมูชวยเหลือนายหมูใน การดูแลสมาชิก และปฏิบัตหิ นา ท่เี มอ่ื นายหมูไมอยู ระบบหมูเป็นการฝึกใหสมาชิกไดรวมกันทํางานอยางเป็นระบบ สรางวินัยและความเป็นระเบียบ เรียบรอยโดยยึดหลักประชาธิปไตย มีนายหมูและรองนายหมูเป็นผูนํา มีการประสานงานกันเป็นอยางดีท้ังใน หมูของตนเองและหมูอื่นๆ มีการรวมแสดงความคิดเห็น การมีสวนรวมในการบริหารงานหมูตลอดจนการ ชว ยเหลอื เกอ้ื กูลกัน 5. การพัฒนาภาวะผ้นู า - ผู้ตาม ผู้นาและภาวะผู้นา หมายถึง บคุ คลที่ไดร บั การแตงตง้ั หรือไดรบั การยกยอ งใหเป็นผตู ัดสินใจ และ สามารถนาํ พาสมาชิกในกลุมรวมมือกันปฏบิ ัติภารกิจดว ยความเต็มใจจรงิ ใจ เพ่ือใหภ าระงานลุลวงไปดวยดี ลักษณะของผนู้ าทดี่ ี ประกอบดว้ ย 1. มนี าํ้ ใจจะพฒั นามงุ เปลีย่ นแปลงคุณภาพชีวติ ใหด ขี ้นึ 2. มีความเชอื่ มั่นในตนเอง 3. เปน็ ผทู ่ีรักการทํางานรวมกับสมาชิกภายในหมแู ละกอง 4. เปน็ ผูท่ีเรียนรูส งิ่ ใหม ๆ และยอมรับเอาแนวความคิดและเทคโนโลยใี หม ๆ มาใช 5. มบี คุ ลิกลกั ษณะของการเป็นผูนํา 6. มีความคดิ รเิ ร่มิ สรางสรรคแ มองเหน็ ความตองการของกลมุ 7. เปน็ ผูเ สียสละมุงทาํ ประโยชนแตอ สว นรวม 8. เป็นผูท มี่ ีความสามารถในการรวมกลมุ 9. เป็นผทู ่มี ีความสามารถในการประสานงานกบั หมอู น่ื ๆ 10. เป็นผูทม่ี ีความสนใจตองาน 11. เปน็ ผูเขาใจในขบวนการเปล่ยี นแปลง 12. เป็นผูที่มมี นุษยแสัมพนั ธทแ ดี่ ี คณุ สมบตั ขิ องผนู้ าทด่ี ี ผนู ําทดี่ ีควรจะประกอบดวยคุณสมบตั ทิ ีส่ ําคญั ดงั นี้ 1. มีความรู้ การเป็นผนู าํ น้ัน ความรูเป็นส่ิงจําเป็นที่สุด เพราะจะเป็นเคร่ืองมือชวยรักษาสถานการณแ ตา ง ๆ ไดเป็นอยางดี 2. มีความคิดรเิ ริ่ม ความคิดรเิ รม่ิ คอื ความตอ งการที่จะปฏิบัตสิ ่ิงใดสิ่งหนึ่งโดยไมต องมีคําสั่งและแสดง ขอคิดเหน็ ทีจ่ ะแกไ ขสิง่ ใดส่ิงหนึง่ ใหด ขี น้ึ หรือเจริญข้ึน 3. มีความกล้าหาญ ความกลาหาญคือลักษณะอาการท่ีไมกลัวตออันตรายความลําบากหรือความ เจ็บปวดใด ๆ โดยสามารถควบคุมความกลัวไวได ความกลาหาญนี้จะตองมีท้ังทางกาย วาจา และจิตใจจึงจะ ปฏบิ ตั เิ ป็นผูน ําท่ีดีได 4. มีความเด็ดขาด ความเด็ดขาดหรือความสามารถท่ีจะตัดสินใจหรือตกลงใจไดทันทีเมื่อตกลงสั่ง การใด ๆ แลว จะส่ังไดอยา งเดด็ ขาด สั้นและชัดเจน 5. มคี วามแนบเนยี น ความแนบเนยี น คือ ความสามารถทีจ่ ะตองตดิ ตอ เกี่ยวของ หรือมีความสัมพันธแ กับผูอ ืน่ ดว ยกิริยาอาการและวาจาทีถ่ ูกตอ งเหมาะสม โดยไมทาํ ใหผูที่เราติดตอดวยเกิดความกระดางกระเดื่อง หรือไมพ อใจแกตนได 6. มคี วามยุติธรรม ความยุติธรรมคือการปฏิบัติตนใหถูกตองตามความยุติธรรมและศีลธรรม วางตน เป็นกลางไมเอนเอียง ในการที่จะกอใหเกิดประโยชนแหรือโทษตอผูหนึ่งผูใดความยุติธรรมน้ีคือความเท่ียงตรง นน่ั เองและไมเกย่ี วกับความยุตธิ รรมทางกฎหมาย
7. ท่าทาง ทาทาง คอื การแสดงออก ซึ่งรูปรา งลกั ษณะของรางกายที่ตองประสงคแ มีกิริยาอาการและ เครือ่ งแตงกายท่ถี กู ตอ งเหมาะสม 8. มีความอดทน ความอดทน คอื ความสามารถของรา งกายและความคิดจิตใจที่อดทนตอการปฏิบัติ กิจการหรือหนาที่อยางใดอยางหนึ่งที่สมเหตุสมผลหรือหนาท่ีอยางใดอยางหน่ึงที่สมเหตุสมผลใหตอเนื่องและ บรรลผุ ลสําเรจ็ ความอดทนนเี้ ปน็ พลังอันหนงึ่ ท่จี ะผลกั ดันงานของเราไปสูจดุ หมายปลายทางไดอยา งแทจ ริง 9. มีความกระตือรือร้น ความกระตือรือรน คือ การมีจิตใจจดจอที่ดีและมีความเอาใจใสตอหนาท่ี หรือกิจการที่จะตองปฏิบัติอยูเสมอซึ่งเป็นคุณสมบัติท่ีจะใหเราติดตอกับบุคคลอ่ืนไดงาย นอกจากน้ีความ กระตอื รือรน ยังชวยใหกิจการตาง ๆ ของหนวยสําเร็จลุลว งไปดวยดี 10. มีความไม่เห็นแก่ตัว ความไมเห็นแกตัว คือ การขจัดเสียซึ่งความสุขหรือผลประโยชนแแหงตน โดยท่ีคนอ่ืนกลับเสียประโยชนแ ซึ่งก็หมายความวาเป็นการขมขืนหรือบังคับ ความโลภ ความหลงและความ อยากไดของตนเอง คนทีไ่ มเ ห็นแกตวั น้นั ยอมเป็นคนที่มคี วามซอ่ื สัตยแ สจุ รติ ตรงไปตรงมาและไมท าํ ลายผูอืน่ 11. มคี วามต่นื ตัว ความต่ืนตัว คอื ความระมัดระวัง ความสุขุมรอบคอบความไมประมาท ไมยืดยาด ทําอะไรทันทที นั ควนั และมีความวองไวปราดเปรียวอยเู สมอ 12. มีความชั่งใจ (ดุลพินิจ) คือ อํานาจแหงความคิดท่ีสามารถพิจารณาสิ่งตาง ๆ หรือเหตุตาง ๆ อยางถูกตอง โดยช่งั นํ้าหนักเหตุผลนนั้ ๆ และสรปุ เป็นขอ ๆ ลงความเห็นหรอื ขอ ตกลงใจอนั เฉยี บแหลม 13. มีความสงบเสงย่ี ม ความสงบเสงี่ยม คือ ความไมหย่ิงยโส จองหองและไมมีความภูมิใจในสิ่งท่ีไร เหตุผล 14. มีความเห็นอกเห็นใจ ความเห็นอกเห็นใจ คือ คุณสมบัติประจําตัวอันเป็นแบบอยางของมนุษยแ คือตองประกอบดวยความเมตตาปราณี ความกรุณา ความสงสารความเห็นอกเห็นใจผูอื่นในลักษณะที่ไมเสีย ผลประโยชนขแ องสวนรวม อันเป็นการแบง เบาความรูส กึ ของผทู อ่ี ยรู ว มกัน 15. มีความจงรักภักดี ความจงรักภักดี คือ สภาพหรือคุณสมบัติประจําตัวของการเป็นบุคคลที่ ซื่อสัตยแสุจริตและซื่อตรงตอผูอื่น ตอหนาท่ี ตอรัฐน่ันเอง การเป็นผูนํานั้นจําเป็นตองมีความจงรักภักดีตอหมู คณะหรือสว นรวม ทั้งน้ีเพือ่ ความไวว างใจ 16. มีการสังคมที่ดี การสังคมที่ดี คือ การมีบุคลิกภาพที่จะเขาสังคมไดอยางถูกตอง หมายความวา การทเี่ ราเป็นผูนําท่ีดีน้ันจะตองปรับตัวเองใหคบคาสมาคมกับเพ่ือนมนุษยแดวยกันอยางถูกตองแนบเนียน และ ตองพยายามศึกษาปรบั ตนใหเขากบั สงั คมตา ง ๆท่เี ราจะไปตดิ ตอ ใหไดแ ละถูกตองอีกดว ย 17. มีการบังคับตนเอง การบังคับตนเอง คือ การบังคับจิตใจโดยผานทางอารมณแซ่ึงรับมาจาก ประสาทท้งั 5 เพอื่ มิใหแ สดงออกซ่งึ กริ ิยาอาการตาง ๆ ท่ีไมเหมาะสมแกผูอื่นไดการบังคับตนเองน้ันนับวาเป็น สง่ิ สําคัญมากของผูนํา เพราะตลอดเวลาผูน าํ มักจะเป็นเปูาสายตาของผรู ว มงานอยูเสมอ ผตู้ าม และภาวะผตู้ าม ผู้ตาม หมายถึง ผูปฏิบัติงานในองคแการที่มีหนาท่ีและความรับผิดชอบท่ีจะตองรับคําสั่งจาก ผบู งั คบั บัญชามาปฏิบัติใหส ําเรจ็ บรรลุวัตถปุ ระสงคแ คณุ ลักษณะพฤตกิ รรมของผ้ตู าม 5 แบบ มดี ังน้ี 1) ผู้ตามแบบห่างเหิน ผูตามแบบนี้เป็นคนเฉ่ือยชาแตมีความเป็นอิสระและมีความคิดสรางสรรคแสูง ผตู ามแบบหางเหินสวนมากเปน็ ผูต ามท่มี ปี ระสทิ ธผิ ล มีประสบการณแและผานอปุ สรรคมากอ น 2) ผู้ตามแบบปรับตาม ผูตามแบบนี้ เรียกวา ผูตามแบบครับผม เป็นผูที่มีความกระตือรือรนในการ ทํางาน แตขาดความคดิ สรา งสรรคแ 3) ผตู้ ามแบบเอาตัวรอด ผตู ามแบบน้ีจะเลือกใชลักษณะผูตามแบบใดข้ึนอยูกับสถานการณแที่จะเอื้อ ประโยชนกแ บั ตัวเองใหมากทส่ี ุดและมีความเส่ยี งนอ ยทสี่ ุด 4) ผตู้ ามแบบเฉ่อื ยชา ผูตามแบบน้ีชอบพึง่ พาผอู น่ื ขาดความอสิ ระ ไมมคี วามคิดรเิ ริม่ สรา งสรรคแ
5) ผู้ตามแบบมีประสิทธิผล ผูตามแบบน้ีเป็นผูท่ีทีความตั้งใจในการปฏิบัติงานสูงมีความสามารถใน การบรหิ ารจดั การงานไดด ว ยตนเอง
ใบงาน เร่ือง วินัย และความเปน็ ระเบียบเรยี บรอ้ ย กิจกรรมเรอ่ื งที่ 1 วนิ ยั และความเป็นระเบียบเรยี บร้อย คาช้ีแจง ใหผเู รยี นตอบคาํ ถาม ดงั ตอไปน้ี 1. วินัย หมายความวา อะไร 2. วินัยมีความสําคัญอยา งไร 3. ความเปน็ ระเบยี บเรยี บรอยหมายความวาอยางไร 1. วนิ ัย หมายความวาอะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. วินัยมีความสําคญั อยา งไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 3. ความเป็นระเบียบเรียบรอ ย หมายความวา อยางไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
กิจกรรมเรือ่ งท่ี 2 ผลกระทบจากการขาดวินยั และการขาดความเป็นระเบยี บเรยี บร้อย คาชีแ้ จง ใหผเู รียนอธิบายผลกระทบจากการขาดวินัย และขาดความเปน็ ระเบยี บ เรยี บรอย ในประเด็นตอไปนี้ ประเด็น คาอธบิ ายผลกระทบ ขาดวนิ ยั และขาดความเปน็ ระเบยี บเรียบรอย ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………
กิจกรรมเรอื่ งที่ 3 แนวทางการเสริมสร้างวินัย และความเป็นระเบียบเรียบรอ้ ย คาชี้แจง ใหผูเรียนยกตัวอยางแนวทางการเสริมสรางวินัยและความเป็นระเบียบเรียบรอย ลงใน ตารางตอไปน้ี แนวทางการเสรมิ สร้างวินยั และความเป็น ยกตวั อย่างวธิ กี ารปฏบิ ตั ติ น ระเบยี บเรียบร้อย การสรา งวนิ ัยในตนเอง ……………………………………………………………………………………. การสรางวินัย โดยใชปใจจยั อื่น ชว ยเสริม ……………………………………………………………………………………. การสรางวนิ ยั โดยใชกฎเกณฑแบงั คบั ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………….
กจิ กรรมเรอื่ งท่ี 4 ระบบหมู่ คาช้ีแจง ใหผูเรียนอธบิ ายหนาทข่ี องตาํ แหนง ลกู เสอื ภายในหมลู ูกเสือ ลงในตารางตอ ไปนี้ ลาดบั ตาแหน่งลูกเสือ หน้าท่ขี องตาแหน่งลูกเสือภายในหมู่ลกู เสือ 1. นายหมลู ูกเสอื ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………… 2. รองนายหมูลกู เสือ ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………… 3. พลาธกิ าร ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………
ลาดบั ตาแหน่งลกู เสือ หน้าท่ีของตาแหน่งลูกเสอื ภายในหมู่ลกู เสือ 4. คนครัว ……………………………………………………………………………………. 5. ผชู วยคนครัว ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. 6. คนหานํ้า ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………
ลาดับ ตาแหนง่ ลกู เสือ หนา้ ที่ของตาแหนง่ ลูกเสอื ภายในหมลู่ ูกเสือ 7. คนหาฟืน ……………………………………………………………………………………. 8. ผูช วยเหลอื ทัว่ ไป ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………
กจิ กรรมเรอ่ื งท่ี 5 การพัฒนาภาวะผู้นา – ผู้ตาม คาชแ้ี จง ใหผูเรยี นอธบิ ายคุณลักษณะของผูน ําทดี่ ี ในประเดน็ ตอไปนี้ คุณลกั ษณะของผนู้ าทด่ี ี คาอธิบาย มคี วามเชือ่ ม่ันในตนเอง ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………… มบี ุคลิกลกั ษณะการเปน็ ผนู าํ ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………… มีความเสยี สละเพื่อประโยชนแสว นรวม ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. มีความคดิ ริเร่ิมสรางสรรคแ ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………….
คุณลักษณะของผ้นู าทด่ี ี คาอธิบาย มคี วามรักในการทํางานรวมกับผูอน่ื ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………….
เฉลยคาตอบ เรื่อง วินัย และความเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ย กิจกรรมเรื่องท่ี 1 วินยั และความเป็นระเบยี บเรียบรอ้ ย คาชแี้ จง ใหผ เู รียนตอบคาํ ถาม ดงั ตอไปนี้ 1. วนิ ยั หมายความวาอะไร 2. วนิ ัยมคี วามสําคัญอยางไร 3. ความเป็นระเบยี บเรยี บรอ ยหมายความวาอยางไร 1. วนิ ยั หมายความวาอะไร ตอบ วนิ ยั หมายถึง การอยูในระเบียบแบบแผนและขอบงั คับ ขอ ปฏบิ ัตทิ ว่ี างไวเ พ่ือใหบ ุคคลปฏิบตั ิ ตาม 2. วินยั มีความสําคัญอยางไร ตอบ ความสําคญั ของวินยั คอื เมอ่ื มีการกําหนดระเบยี บ ขอ บังคับ ขอ ปฏิบัตแิ ลว และทุกคนมีการ ปฏิบัติตามตนเอง และสงั คมก็จะเกดิ ความสงบสุข 3. ความเปน็ ระเบยี บเรยี บรอ ย หมายความวา อยา งไร ตอบ เปน็ ความสามารถของบุคคลในการควบคุมอารมณแแ ละพฤติกรรมของตนเองใหอ ยูในแบบแผน ท่มี ุงหวัง เพื่อใหส ามารถอยนู วมกันไดดวยความสงบสขุ อนั เปน็ คณุ สมบัติทส่ี ําคญั ในการดาเนนิ ชีวติ กจิ กรรมเรื่องท่ี 2 ผลกระทบจากการขาดวินยั และการขาดความเปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย คาชีแ้ จง ใหผ เู รยี นอธิบายผลกระทบจากการขาดวนิ ัย และขาดความเป็นระเบียบเรยี บรอย ในประเดน็ ตอไปนี้ ประเดน็ คาอธบิ ายผลกระทบ ขาดวนิ ัย และขาดความเป็นระเบียบเรยี บรอย จะสง ผลใหส ังคม เกดิ ความวุนวาย แกงแยง เอารัดเอา เปรียบ นาํ ไปสูการขาดความสงบเรียบรอ ย เชน การเขาแถว รบั ส่ิงของ การเขา แถวชาระสินคา กจิ กรรมเรือ่ งท่ี 3 แนวทางการเสริมสรา้ งวนิ ยั และความเป็นระเบยี บเรียบร้อย คาช้ีแจง ใหผูเรยี นยกตัวอยางแนวทางการเสริมสรา งวนิ ัยและความเปน็ ระเบียบเรยี บรอ ย ลงในตารางตอ ไปนี้ แนวทางการเสริมสร้างวินยั และความเปน็ ยกตวั อย่างวิธีการปฏิบัตติ น ระเบยี บเรยี บร้อย การสรางวนิ ยั ในตนเอง 1. การทํางานใหแลวเสรจ็ ตามเวลาทกี่ ําหนด 2. การรักษาความสะอาดทกุ คร้ัง เมอ่ื เขาหอ งนํ้า การสรา งวนิ ยั โดยใชปใจจัยอนื่ ชว ยเสรมิ 1. เหน็ คนอืน่ ทําความดี ก็ปฏบิ ัตติ าม การสรา งวนิ ัย โดยใชกฎเกณฑบแ ังคบั 2. ทํางานดวยความขยัน อดทน จนประสบความสาํ เรจ็ กิจกรรมเรื่องท่ี 4 ระบบหมู่ 1. ปฏิบัติตนตามกฎจราจร 2. การใชอ ุปกรณทแ ่ีถูกตองตามกฎหมาย ในการจับสัตวนแ ํา้
คาชีแ้ จง ใหผูเรยี นอธบิ ายหนาทขี่ องตาํ แหนงลูกเสือภายในหมูลกู เสือ ลงในตารางตอ ไปน้ี ลาดับ ตาแหน่งลกู เสือ หนา้ ทข่ี องตาแหน่งลูกเสอื ภายในหมู่ลกู เสือ 1. นายหมลู ูกเสอื ทําหนาที่เป็นผูนําของหมู แบงงานใหสมาชิก ดูแลสมาชิกใน หมูลูกเสอื เป็นประธานการประชมุ ตัดสนิ ใจแกปใญหาตา ง ๆ 2. รองนายหมูลูกเสือ ทาํ หนา ทชี่ ว ยนายหมลู ูกเสือดแู ลสมาชกิ ในหมูลูกเสอื ทําหนาท่ีแทนนายหมู ตามที่ไดรับมอบหมาย ประสาน สมาชกิ ในหมู ใหเป็นไปใน ทางเดยี วกัน 3. พลาธกิ าร ทําหนาที่ดูแลการเงิน บัญชี พัสดุ และสถานท่ี ในหมูลูกเสือ เชน จัดหา วัสดุ อุปกรณแ จัดทาบัญชีตาง ๆ ที่ตองใชในการ อยูคายพักแรม ไดแก บัญชีวัสดุ อุปกรณแ บัญชีการเงินและ ดูแลความเปน็ ระเบยี บเรยี บรอยในทห่ี มแู ละในคายพักแรม 4. คนครัว ทําหนาท่ีแมครัว ปรุงอาหาร จัดทําเตา หลุมเปียก หลุมแหง ทีค่ ว่าํ จาน ท่ีเกบ็ อาหาร 5. ผชู ว ยคนครัว ทาํ หนาทช่ี วยแมครวั จัดเตรยี มอาหาร ประกอบอาหาร ชว ย ทําเตา หลุมเปียก หลุมแหง ท่ีควํ่าจาน ท่เี กบ็ อาหาร 6. คนหานาํ้ ทาํ หนา ท่ีจดั หาน้ํา สําหรับประกอบอาหาร น้ําดื่ม นาใช 7. คนหาฟืน ทําหนา ที่จดั หาเชอ้ื เพลิง หาฟืน เก็บฟนื ไมใ ห เปียกฝน 8. ผูชว ยเหลือทวั่ ไป ทาํ หนาทช่ี ว ยงานคนอืน่ ๆ พัฒนาที่พักภายในคาย ชวยการ จดั ขยะมูลฝอย ทําราวตากผา ทําร้วั กัน้ ขอบเขตหมรู ะหวา ง หมลู ูกเสือในการ อยูคายพักแรม
กจิ กรรมเร่ืองที่ 5 การพัฒนาภาวะผนู้ า – ผตู้ าม คาชแี้ จง ใหผูเ รียนอธบิ ายคุณลกั ษณะของผูนําทีด่ ี ในประเดน็ ตอไปนี้ คณุ ลักษณะของผนู้ าที่ดี คาอธิบาย มีความเชื่อมน่ั ในตนเอง มบี ุคลิกลักษณะการเป็นผูน าํ มีความรอบรู มีความแนบเนียนในการสรางความสัมพันธแกับ มีความเสยี สละเพอื่ ประโยชนแสว นรวม ผอู ืน่ มีความเด็ดขาด มีความกลา หาญ มคี วามคิดริเร่ิมสรา งสรรคแ มีทาทางสุภาพ มีการใชคําพูดที่ไพเราะเหมาะสม มีการแตง มีความรักในการทํางานรวมกับผูอ ่นื กายทถี่ กู กาลเทศะ มคี วามอดทน อดกล้ัน ไมเห็นแกต วั มคี วามซอื่ สัตยแ สจุ ริต มีความยับยงั้ ช่ังใจ มีความเห็นใจผอู น่ื กลาแสดงความคิดเห็น และสามารถพูด นาวโนมใหสมาชิก เขาใจ และรวมมือกันปฏิบัติงานเป็นกลุม มีความตื่นตัว สุขุม รอบคอบ มีความกระตือร้ือรน จดจอ เอาใจใสตอหนาท่ีหรือภารกิจท่ี ไดรับมอบหมาย มีความสงบเสงี่ยม ไมหย่ิงยโส มีมารยาท สงั คม มกี ารบงั คับจิตใจและอารมณแของตนเอง
แผนการจัดกจิ กรรมก
การเรยี นรู้คร้งั ท่ี 16
แผนการจดั การเรียนรู้ สาระความร้พู ้ืนฐาน ระดับ มธั ยมศึกษาตอนปล คร้งั ที่ วนั /เดอื น/ปี หวั เรอ่ื ง/ตัวช้ีวดั เนอ้ื หาสาระการเรยี นรู้ ลูกเสือ กศน. กับการ ลกู เสือ กศน. กบั การพฒั นา ขนั้ ท พัฒนา - 1.อธิบายความเป็นมา 1.1 ความเป็นมาของลูกเสือ ผูเรีย แ ล ะ ค ว า ม สํ า คั ญ ข อ ง กศน. ยกต ลกู เสอื กศน. 1.2 ความสําคัญของลูกเสือ ประ กศน. ข้นั ท - 2. อธบิ ายลูกเสือ กศน. 2. ลกู เสือ กศน. กบั การพัฒนา เป็น กบั การพฒั นา กศน 3. ระบบุ ทบาทหนาที่ของ 3. บทบาทหนาท่ีของลูกเสือ - ลูกเสือ กศน. ที่มีตอ กศน. ท่ีมีตอตนเอง ครอบครัว อธิบ ตนเอง ครอบครัว ชุมชน ชมุ ชน และสังคม ของ และสงั คม ครอ 4. ระบบุ ทบาทหนาท่ีของ 4. บทบาทหนาทข่ี องลูกเสือ ผเู รีย ลูกเสือ กศน. ท่ีมีตอ กศน. ที่มีตอสถาบันหลกั ของ - สถาบันหลกั ของชาติ ชาติ เนอื้ ห - คร กศน
รายวิชาลูกเสือ กศน. รหัสวชิ า สค32035 ลาย จานวน 3 หนว่ ยกติ การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ส่อื /แหลง่ เรยี นรู้ วดั และประเมนิ ผล ที่ 1 : กาหนดสภาพปัญหา - หนังสือเรยี น - พฤติกรรมการมี - ครูนําเขา สูบ ทเรียน โดยการทกั ทาย รายวชิ าลูกเสอื กศน. สว นรวมในการทาํ ยน ใหผูเรียน กอนนําเขาสูบทเรียน ระดบั มธั ยมศึกษา กิจกรรม ตัวอยางการการพัฒนา เพ่ือใหเกิด ตอนปลาย - การแสดงความ ะโยชนแแกส ว นรวม - ใบความรู เร่ือง คิดเห็น ความสนใจ ที่ 2 : แสวงหาความรู้ ลูกเสือ กศน. กบั การ ในการเรยี นการสอน ใหค รเู ขาสูบทเรียนโดยอธิบายความ พฒั นา การกลาแสดงออก นมา และความสําคัญของลูกเสือ - วดี โี อจากยทู ปู - ใบงานเรือ่ ง น. เ ร่ื อ ง ก า ร พั ฒ น า ลูกเสอื กศน. กับการ ครูไดนําวิดีโอการพัฒนา พรอม เพื่อใหเกิดประโยชนแ พัฒนา บายเพิ่มเติม เร่ืองระบุบทบาทหนาที่ แกส วนรว ม งลูกเสือ กศน. ที่มีตอตนเอง อบครัว ชุมชน และสังคม เพ่ือให ยนเขา มาขึ้น ครูเปดิ โอกาสใหผ เู รียนไดซกั ถามถึง หาที่ไมเขาใจ รูใหผูเรียนทําใบงาน เรื่อง ลูกเสือ น. กับการพฒั นา 384
คร้งั ที่ วนั /เดือน/ปี หัวเร่อื ง/ตัวชี้วดั เนื้อหาสาระการเรยี นรู้ ขั้นท - การน กศน การพ และ แสด - เน้ือห พัฒน ขั้นท - กิจก - ในกา - กศน
การจัดกระบวนการเรยี นรู้ สอื่ /แหล่งเรียนรู้ วดั และประเมินผล ท่ี 3 : การปฏบิ ตั ินาไปใช้ ครูใหผูเรียนออกมาอธิบายและทาํ นําเสนอหนาช้นั เรยี น เรอื่ ง ลูกเสอื น. กบั การพัฒนา พรอ มยกตวั อยาง พฒั นาทีใ่ หเ กิดประโยชนแแ กตนเอง ะสว นรว มและใหผ เู รียนคนอ่ืนๆได ดงความคดิ เห็นรวมกนั ในช้ันเรียน - ครูและผูเ รยี นรวมกนั สรุปบทเรียน หา เรื่อง เรอื่ ง ลกู เสือ กศน. กับการ นา ท่ี 4 : การประเมนิ ผลการเรียนรู้ พฤติกรรมการมสี ว นรว มในการทาํ กรรม การแสดงความคดิ เหน็ ความสนใจ ารเรยี นการสอน การกลาแสดงออก การทาํ ใบงานเร่อื ง เร่อื ง ลูกเสอื น. กบั การพัฒนา 385
ใบงาน เรือ่ ง ลูกเสือ กศน.กับการพัฒนา 1. ลูกเสือ กศน. 1.1 ความเป็นมาของลูกเสือ กศน. การลูกเสือไทย ไดถือกําเนิดข้ึนโดยองคแพระมหากษัตริยแไทย และมีความเจริญรุดหนาสืบมาก วา 107 ปี อยางทรงคุณคา ซึ่งเป็นพระราชมรดกอันล้ําคาย่ิงท่ีพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลาเจาอยูหัว รัชกาลท่ี 6 ไดพระราชทานไวใหแกปวงชนชาวไทย ตอมาสมเด็จพระเจาอยูหัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพ ยวรางกรู รชั กาลท่ี 10 มีพระบรมราโชบายดา นการศกึ ษากบั ความมั่นคงมพี ระราชประสงค์เห็นคนไทยมีวินัย รู้หนา้ ที่มีความรบั ผิดชอบ สรา้ งวนิ ัยโดยกิจกรรมลกู เสือ เนตรนารี 1.2 ความสาคัญของลกู เสือ กศน. สํานักงาน กศน. ไดตระหนักและเห็นคุณคาของกิจการลูกเสือ จึงไดนอมนําพระบรมราโชบาย ดังกลาว มากําหนดเป็นนโยบายหลักสูตรและแนวทางการปฏิบัติ พรอมท้ังสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพของ ผูเรียน กศน. โดยนํากระบวนการลูกเสือ เน้ือหาความรูตาง ๆท่ีเกี่ยวของกับการลูกเสือเป็นหลักในการจัด กิจกรรมสงเสริมประสบการณแใหผูเรียน กศน.มีทักษะชีวิต สามารถดํารงชีวิตอยูในสังคมไดอยางมีความสุข สามารถนําอุดมการณแคําปฏิญาณและกฎของลูกเสือ มาปรับใชในชีวิตประจําวัน มีระเบียบวินัย มีคุณธรรม จริยธรรม และมีความสงางามในการดํารงตนใหเป็นพลเมืองดี บําเพ็ญประโยชนแตอ ชุมชน สังคม และ ประเทศชาติ ลูกเสือ กศน. เป็นลูกเสือท่ีอยูในกองลูกเสือวิสามัญของสถานศึกษา สังกัดสํานักงาน กศน. จึงตองมี ความพรอมในการประพฤติปฏิบัติตนตามคติพจนแของลูกเสือวิสามัญ คือ “บริการ” ลูกเสือ กศน. ตองพรอม และพัฒนาตนเอง ท้ังดานรางกาย ดานสติปใญญาดานจิตใจ ดานศีลธรรม และมีความพรอมในการเป็นผูนําใน การพฒั นาครอบครัว ชมุ ชน สงั คมและประเทศชาติ
2. ลูกเสือ กศน. กบั การพัฒนา ลูกเสือ กศน. เป็นผูมีความสําคัญตอการพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคมและประเทศชาติเป็น อยา งยงิ่ ดังน้ัน ลูกเสือ กศน. ทุกคนพึงนําอุดมการณแ คําปฏิญาณ กฎ และคติพจนแของลูกเสือ เป็นหลักในการ พฒั นาตนเองใหเปน็ พลเมอื งดีในทศั นะของลกู เสือ และมจี ติ อาสาให“บริการ”ชวยเหลือกิจการตาง ๆ ท่ีมีอยูใน ชุมชน สงั คม และสรางความสัมพนั ธอแ ันดีกบั องคแกร หรอื หนวยงานอ่ืน ๆ การพัฒนาตนเองในดานตาง ๆ ดังน้ี 1. พฒั นาทางดานความคดิ เรือ่ งศาสนา ซงึ่ มีวิธกี ารแตกตางกนั ไปตามศาสนาทตี่ นนับถือ มุงเนนยึดม่ัน ในหลักการของศาสนา เพ่อื ใหบรรลผุ ลแหง ความจงรกั ภกั ดีตอ ศาสนา 2. พัฒนาทางดานความรูสึกดานคานิยม มุงเนนการเอาใจใส ระมัดระวังในการเผชิญปใญหา สถานการณปแ ใจจบุ ันเป็นพิเศษ 3. พัฒนาทางดา นรา งกาย มงุ เนน การเขารว มกิจกรรมลกู เสือเพอ่ื ใหม ีสุขภาพแขง็ แรง 4. พฒั นาทางดานสติปใญญา มุงเนนการทํางานอดเิ รก การฝมี อื การรจู ักใชเวลาใหเป็นประโยชนแ 5. พฒั นาทางดา นสงั คม มงุ เนนการปฏิบัติตนใหอยใู นสังคมไดอ ยา งมีความสุข 6. พฒั นาทางดา นการสรางสัมพนั ธภาพทางสงั คม มุงเนนการทํางานเป็นระบบหมูในบทบาทของผูนํา และผตู าม 7. พัฒนาทางดา นความรับผิดชอบตอชุมชน มงุ เนน ความสําคัญของความรับผิดชอบของตนเองท่ีมีตอ ผูอ นื่ ดว ยการบําเพญ็ ประโยชนแ 8. พัฒนาทางดานความรับผิดชอบตอส่ิงแวดลอม มุงเนนความสนใจในสิ่งแวดลอมและอนุรักษแ ธรรมชาติ การพฒั นาชมุ ชน สงั คม ในด้านตา่ ง ๆ เชน่ 1. การเป็นพลเมอื งดี และการใชสิทธเิ ลอื กต้งั (ลูกเสอื กกต.) 2. การดูแลรักษาและอนรุ ักษสแ ิ่งแวดลอ ม (ลกู เสอื อนรุ กั ษแทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ ม) 3. การสรางความตระหนกั ถงึ โทษและพิษภยั ของยาเสพติด (ลกู เสอื ยาเสพติด) 4. การปอู งกนั และชวยเหลอื เม่ือประสบเหตุ (ลกู เสอื บรรเทาสาธารณภัย) 5. การชวยอาํ นวยความสะดวกดานการจราจร (ลกู เสือจราจร) 6. การรว มเฝูาระวงั ปอู งกัน ขอมูลขาวสารท่ีเป็นภยั ออนไลนแ (ลูกเสอื ไซเบอรแ) 7. การเสริมสรา งทศั นคติ คานิยม ความซือ่ สัตยแสุจรติ (ลูกเสอื ชอ สะอาด) 8. การอนุรักษขแ นบธรรมเนยี มประเพณีไทยใหค วามรูส บื ไป (ลูกเสือวัฒนธรรม) 9. การปอู งกนั การทารุณกรรมตอ สตั วแ (ลกู เสอื สวสั ดิภาพสัตวแ) 10. การชว ยดูแล ปูองกันอนรุ ักษปแ าุ ไม (ลูกเสือปุาไม) 11. การสรา งความมรี ะเบียบวินัยตอตนเอง รจู ักสามัคคีในหมคู ณะและสวนรวม(ลูกเสือรฐั สภา) 12. การปูองกันไมใ หเกดิ ความรนุ แรง ลดความเหล่ือมลํ้า (ลูกเสอื สันติภาพ) 13. การสรางโอกาสทางเลือกใหกับชีวิต (ลูกเสือสําหรับผูดอยโอกาส) ลูกเสือ กศน. สามารถเขารวม กิจกรรมดังกลาว หรือคิดรูปแบบกิจกรรม/โครงการข้ึนมาเพ่ือการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง ครอบครัว ชุมชน สงั คม และประเทศชาติ 3. บทบาทหน้าทข่ี องลกู เสือ กศน. ท่มี ตี ่อตนเอง ครอบครวั ชมุ ชนและสังคม ลูกเสือ กศน. มีบทบาทหนาท่ีในการพัฒนาตนเอง ซ่ึงเนนการพัฒนาความสามารถศักยภาพ และ สมรรถนะทท่ี ันตอสภาพความจําเป็น ตามความกาวหนา และการเปลี่ยนแปลงของสังคมเพ่ือใหมีคุณภาพชีวิต ที่ดีขึ้น ดังน้ัน การพัฒนาตนเอง จะตองมีความรู ความเขาใจถึงความสําคัญของการพัฒนาในดานตาง ๆ รู วธิ กี ารวางแผนพัฒนาตนเอง ในบทบาทของผูนาํ และผตู าม
ผูเรียน กศน. ท่ีสมัครเขาเป็นลูกเสือ กศน. เริ่มตนดวยการแสวงหาความรูทั่วไปท่ีเก่ียวกับทักษะการ ดํารงชีวิต โดยใชกระบวนการคิดเป็น ความรูท่ัวไปท่ีเกี่ยวกับทักษะลูกเสือกิจกรรมกลางแจง การคิดวิเคราะหแ การตัดสินใจแกปใญหา และเขาพิธีประจํากองลูกเสือวิสามัญ โดยผูกํากับกองลูกเสือวิสามัญจะเป็นผูประกอบ พิธีประจํากองใหแกลูกเสือ กศน.ใหลูกเสือ กศน. แต่งเครื่องแบบลูกเสือวิสามัญมาพรอมกันท่ี คูหาลูกเสือ วิสามัญ (Rover Den)หรือสถานที่นัดหมายอ่ืนท่ีเหมาะสม เพื่อทบทวนหลักการการเป็นพลเมืองดีในทัศนะ ของลกู เสอื พจิ ารณาคตพิ จนแ คําปฏญิ าณ และกฎของลูกเสือท้ัง 10 ขอ ท่ีจะนําสูการปฏิบัติตนเป็นคนดีสํารวจ ตัวเอง และเขา พธิ ีประจํากองตามลาํ ดับ การปฏิบัติตนตามคติพจนแของลูกเสือ กศน. คือ “บริการ” ซ่ึงเป็นเสมือนหัวใจของลูกเสือ กศน. ที่ จะตองยึดม่ันในการเสียสละดวยการบริการ แตการบริการนี้มิไดหมายถึงเป็นผูรับใชหรือคนงานการบริการใน ความหมายของการลูกเสือน้ี เรามุงท่ีจะอบรมบมนิสัยและจิตใจใหไดรูจักเสียสละ ไดรูจักวิธีหาความรูและ ประสบการณทแ ่เี ปน็ ประโยชนใแ นอนาคต และในที่สุดกจ็ ะทาํ ใหสามารถประกอบอาชพี โดยปกตสิ ุขในสงั คม การบริการ หมายถึง การประกอบคุณประโยชนแใหแกมนุษยชาติ ดวยการถือวาเป็นเกียรติประวัติสูงสุดแหง ชีวิตของเรา ในการที่รูจักเสียสละความสุขสวนตัวเพื่อบําเพ็ญประโยชนแแกผูอ่ืน เพ่ือจุดมุงหมายใหสังคม สามารถดํารงอยูไดโดยปกติ เป็นการสอนใหลูกเสือวิสามัญตั้งตนอยูในศีลธรรมไมเอาเปรียบผูท่ียากจนหรือ ดอ ยกวา นอกจากน้ันการบริการแกผูอื่นเปรียบเสมอื นเป็นการชําระหนี้ที่ไดเกิดมาแลว อาศัยอยูในโลกน้ีก็ดวย ความมุงหวังจะใหทุกคนเขาใจในการใชชีวิตอยูรวมกันในสังคม มองเห็นความจําเป็นของสังคมวาไมมีใคร สามารถดาํ รงชวี ิตอยไู ดโ ดยลาํ พัง ทกุ คนจําเป็นตองพึง่ พาอาศัยกนั ไมวา ดานอาหารการกนิ ดานเคร่อื งนงุ หม ท่อี ยอู าศัย ยารักษาโรค หรืออ่นื ๆ ลูกเสือ กศน. พึงนําคําปฏิญาณ กฎและคติพจนแของลูกเสือ มาเป็นแนวทางการพัฒนาตนเอง ครอบครวั ชุมชน และสงั คม ดงั น้ี 1. พัฒนาทางกาย พฒั นาทางดา นรา งกาย มุงเนนการเขารว มกจิ กรรมลูกเสอื เพือ่ ใหม ีสุขภาพแข็งแรง 2. พัฒนาทางสติปใญญาพัฒนาทางดานสติปใญญา มุงเนนการทํางานอดิเรกการฝีมือ การรูจักใชเวลา ใหเ ปน็ ประโยชนแ 3. พัฒนาทางจิตใจศีลธรรม พัฒนาทางดานความคิดเร่ืองศาสนา ซึ่งมีวิธีการแตกตางกันไปตาม ศาสนาทต่ี นนบั ถือ มุงเนนยึดมั่นในหลกั การของศาสนา เพ่ือใหบ รรลผุ ลแหงความจงรักภักดีตอศาสนา 4. พัฒนาในเรื่องสรางคานิยมและเจตคติพัฒนาทางดานความรูสึกดานคานิยมมุงเนนการเอาใจใส ระมดั ระวงั ในการเผชิญปญใ หา สถานการณแปจใ จบุ ันเป็นพเิ ศษ 5. พฒั นาทางสัมพนั ธภาพระหวา งบคุ คล มงุ เนน การปฏิบตั ติ นใหอ ยใู นสงั คมไดอ ยางมีความสุข 6. พัฒนาสัมพันธภาพทางสังคม สรางสัมพันธภาพทางสังคม มุงเนนการทํางานเป็นระบบหมูใน บทบาทของผนู าํ และผตู ามทีด่ ี 7. พัฒนาสัมพันธภาพตอชุมชน มีความรับผิดชอบตอชุมชน มุงเนนความสําคัญของความรับผิดชอบ ของตนเองทม่ี ตี อ ผูอ ื่นดวยการบําเพญ็ ประโยชนแ 8. พัฒนาทางดานความรับผิดชอบตอส่ิงแวดลอม มุงเนนความสนใจในสิ่งแวดลอมและอนุรักษแ ธรรมชาติ 4. บทบาทหน้าท่ีของลกู เสอื กศน. ท่มี ีต่อสถาบันหลกั ของชาติ ลูกเสอื กศน. พึงตระหนักการนาํ คํา ปฏิญาณและกฎของลกู เสอื มาใชในชีวิตประจําวัน เพ่ือความเป็น พลเมืองดี มีศีลธรรม มีระเบียบวินัย มีความจงรักภักดีตอชาติศาสนา พระมหากษัตริยแ และรักษาไวซ่ึง เอกลักษณแของความเป็นไทย ขนบธรรมเนียมอันดีของประเพณีทองถ่ิน เพื่อใหเกิดความรัก ความสามัคคี ปรองดอง หลกั การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยขั้นพ้ืนฐาน การแลกเปลี่ยนความรู ความคิดเห็นซึ่งกันและ กัน โดยไมเก่ียวของกับลัทธิทางการเมืองใด ๆ และพัฒนาเสริมสรางทักษะการดําเนินชีวิตตามแบบวิถีชีวิต
ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริยแเป็นประมุข เป็นวิถีทางใหเกิดความสงบสุขในการ ดํารงอยูของชาติ ตามเจตนารมณแของลูกเสือชาวบานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา-ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจาสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9ทรงเป็นองคแพระประมุขและทรง รบั กิจการลูกเสือชาวบา นไวในพระบรมราชานุเคราะหแ สมาชกิ ทเี่ ก่ียวของทุกคนจะตองชวยกันดํารงพระเกียรติ ของพระองคแไว
ใบงาน เร่อื ง ลกู เสือ กศน. กับการพัฒนา กิจกรรมเรอ่ื งท่ี 1 ลูกเสือ กศน. คาชี้แจง ใหผูเรียนอธิบายความเป็นมา และความสําคัญของลูกเสือ กศน. ดังตอ ไปนี้ 1. ความเปน็ มาของลูกเสือ กศน. 2. ความสาํ คญั ของลกู เสือ กศน. 1. ความเป็นมาของลูกเสือ กศน. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. ความสําคญั ของลกู เสือ กศน. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
กิจกรรมเร่ืองที่ 2 ลูกเสอื กศน. กบั การพฒั นา คาช้แี จง ใหผ เู รยี นยกตวั อยางกิจกรรมของลกู เสอื กศน. กับการพัฒนา ลงในตารางตอไปนี้ ลูกเสอื กศน. กบั การพฒั นา ยกตวั อย่างกจิ กรรมท่คี าดวา่ จะพฒั นา ตนเอง …………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ครอบครัว …………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ชมุ ชนและสงั คม …………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………….
กจิ กรรมเร่ืองท่ี 3 บทบาทหน้าทข่ี องลูกเสือ กศน. ทม่ี ีต่อตนเอง ครอบครวั ชุมชน และสังคม คาช้ีแจง ใหผ ูเรยี นยกตวั อยา งกจิ กรรมเก่ยี วกับบทบาทหนาทขี่ องลกู เสอื กศน. ที่มีตอ ตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคมลงในตารางตอไปน้ี บทบาทหนา้ ทีข่ องลูกเสือ กศน. ยกตวั อยา่ งกจิ กรรมทีเ่ ก่ียวข้อง ทม่ี ีตอ ตนเอง …………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ที่มีตอครอบครวั …………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ทม่ี ตี อ ชมุ ชนและสังคม …………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………….
กิจกรรมเรอ่ื งท่ี 4 บทบาทของลูกเสือ กศน. ที่มีต่อสถาบันหลกั ของชาติ คาช้แี จง ใหผเู รียนยกตัวอยางกิจกรรมที่เกี่ยวของกบั บทบาทของลกู เสือ กศน. ท่มี ีตอ สถาบันหลัก ของชาติ บทบาทของลูกเสือ กศน. ยกตวั อยา่ งกจิ กรรมที่เกี่ยวข้อง ทีม่ ตี ่อสถาบนั หลักของชาติ ชาติ …………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ศาสนา …………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. พระมหากษัตรยิ แ …………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………….
เฉลยคาตอบ เรื่อง ลกู เสือ กศน. กบั การพัฒนา กจิ กรรมเร่ืองท่ี 1 ลูกเสือ กศน. คาชีแ้ จง ใหผ เู รียนอธบิ ายความเป็นมา และความสําคัญของลูกเสือ กศน. ดงั ตอ ไปน้ี 1. ความเป็นมาของลูกเสอื กศน. 2. ความสําคัญของลูกเสอื กศน. 1. ความเปน็ มาของลกู เสอื กศน. ตอบ การลูกเสอื ไทย ไดถอื กําเนิดขน้ึ โดยองคแพระมหากษัตริยแไทย และมีความเจริญรุดหนาสืบมากวา 307 ปี อยางทรงคุณคา ซ่ึงเป็นพระราชมรดกอันลาคายิ่งท่ีพระบาทสมเด็จ พระรามาธิบดีศรีสินทรมหา วชิราวุธ พระมงกุฎเกลาเจาอยูหัว รัชกาลท่ี 6 ไดพระราชทานไวใหแกปวงชนชาวไทย ตอมาสมเด็จพระ เจาอยูหัวมหาวชิราลงกรณแบดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 30 มีพระบรมราโชบายดานการศึกษากับความ ม่ันคง มีพระราชประสงค์เห็นคนไทยมีวินัย รู้หน้าท่ีมีความรับผิดชอบ สร้างวินัยโดยกิจกรรมลูกเสือ เนตร นารี 2. ความสําคญั ของลูกเสอื กศน. ตอบ ลูกเสือ กศน. ยึดม่ันในอุดมการณแรวมกัน มีวัตถุประสงคแ หลักการ วิธีการ ของการลูกเสือ เป็น ขบวนการเรียนรูรวมกัน การฝึกอบรมรวมกัน การชวยเหลือซ่ึงกันและกัน การมีความพรอมในการประพฤติ ปฏบิ ัติตน ตามคติพจนขแ องลกู เสือวสิ ามญั คอื “บริการ” กจิ กรรมเรื่องท่ี 2 ลกู เสอื กศน. กับการพัฒนา คาช้ีแจง ใหผูเ รียนยกตวั อยางกจิ กรรมของลูกเสอื กศน. กบั การพฒั นา ลงในตารางตอ ไปนี้ ลกู เสือ กศน. กบั การพฒั นา ยกตวั อย่างกิจกรรมท่ีคาดวา่ จะพฒั นา ตนเอง 1. การประหยดั อดออม 2. การมีระเบยี บวนิ ยั การตรงตอเวลา สุภาพเรยี บรอย ครอบครัว 1. การทาความสะอาดบา นเรอื น 2. ดแู ลบุพการเี มอ่ื เกิดอาการเจ็บปุวย ชุมชนและสังคม 1. การเกบ็ ขยะมูลฝอย 2. การอา นหนังสือใหผมู ปี ญใ หาทางสายตาฟใง กจิ กรรมเรอื่ งท่ี 3 บทบาทหนา้ ท่ขี องลูกเสือ กศน. ทมี่ ีตอ่ ตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน และสงั คม คาช้ีแจง ใหผ ูเรยี นยกตวั อยางกิจกรรมเกย่ี วกบั บทบาทหนาที่ของลกู เสอื กศน. ท่ีมีตอ ตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสงั คมลงในตารางตอไปนี้ บทบาทหนา้ ที่ของลกู เสือ กศน. ยกตัวอยา่ งกจิ กรรมทเ่ี ก่ียวข้อง ทม่ี ีตอตนเอง เผยแพรความรูป ระชาธิปไตย ที่มตี อ ครอบครัว เชื่อฟใงคําส่ังของบิดา มารดา ดวยความเคารพและยอมรับไป ปฏบิ ัติ ทมี่ ตี อชมุ ชนและสงั คม ชวยดแู ล ปูองกัน อนรุ ักษแปุาไม
กจิ กรรมเร่อื งท่ี 4 บทบาทของลกู เสือ กศน. ทม่ี ตี อ่ สถาบันหลกั ของชาติ คาชี้แจง ใหผเู รียนยกตวั อยา งกจิ กรรมที่เกย่ี วของกบั บทบาทของลูกเสือ กศน. ทีม่ ตี อสถาบนั หลกั ของชาติ บทบาทของลูกเสอื กศน. ยกตวั อย่างกิจกรรมทเี่ ก่ียวข้อง ท่มี ตี ่อสถาบันหลักของชาติ การเป็นพลเมอื งดี การเสริมสรา งคานยิ ม ความซอ่ื สตั ยแ สุจรติ ชาติ ศาสนา การประพฤติปฏบิ ัตติ นตามหลักศาสนา พระมหากษตั ริยแ การไมลบหลูศาสนาหรอื ลัทธิความเชอ่ื อ่ืน การประพฤตปิ ฏบิ ัติตนตามรอยพระยคุ ลบาท
แผนการจัดกจิ กรรมก
การเรยี นรู้คร้งั ท่ี 17
แผนการจดั การเรียนการสอน แบบพบกลุ่ม ระดบั ม กศน.ตาบลบา้ นโป่ง อาเ ครั้งท่ี วัน/เดอื น/ปี หวั เร่อื ง/ตัวชี้วัด เน้อื หาสาระการเรียนรู้ . 1.บอกความหมายของ 1. หลกั วัสดศุ าสตร ข วัสดุได 1.1 ความหมายของวสั ดุ 1 2. อธิบายประเภทของ ศาสตรและประเภทของวสั ดุ ค วสั ดไุ ด 1.2 สมบตั วิ สั ดศุ าสตร์ ว 3. อธิบายสมบัติของ 2.การใชป้ ระโยชน์และ ศ วสั ดไุ ด ผลกระทบจากวัสดุ อ ป 4. ทดสอบสมบตั ิของ 2.1 การใชป้ ระโยชน์จาก ข วัสดุ ผ วสั ดุได 2.2 มลพษิ จากการผลติ และ ญ 5. นาความรูเร่ืองสมบัติ การใช้งาน ว ของวัสดุไปใชได 2.3 ผลกระทบต่อสง่ิ มีชวี ติ พ และส่งิ แวดลอ้ ม 1 6.อธิบายถึงการใช้ ส ประโยชนจ์ ากวัสดุ 1 ค 7.อธิบายสาเหตขุ อง จ มลพิษจากการผลิตและ ส การใช้งานได้ แ - ต ข
มธั ยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 เภอบา้ นโปง่ จังหวัดราชบรุ ี การจัดกระบวนการเรยี นรู้ สอื่ /แหล่งเรยี นรู้ วดั และประเมินผล ข้ันท่ี 1 การนาเขา้ ส่บู ทเรียน - CD, DVD ที่เกย่ี วข - แบบสังเกต - ใบงาน 1.1 ครูทกั ทายกล่าวนา และอธิบาย อง - แบบทดสอบ ความสาคัญของการศึกษาท่เี ก่ยี วของกับ - ใบความรู้ วัตถุ เปนการนาความรูทางวทิ ยา - แบบทดสอบ ศาสตร และวิศวกรรมศาสตร เพือ่ - แบบสงั เกต อธิบายถึงความสมั พันธระหวางองค - ใบงาน ประกอบพ้ืนฐานของวสั ดุ และสมบัติ - วิชา วสั ดศุ าสตร ของวสั ดุ ซ่ึงความรูดังกลาว จะนามา รหัสวชิ า พว32024 ผลติ หรือสรางเปนผลติ ภณั ฑ เพื่อแกป - หนงั สือเรียน ญหาหรืออธิบายสิ่งตางๆ ที่เกี่ยวเน่ืองกับ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส วัสดุและสมบตั ทิ ่ี สนใจ ไดแก โลหะ กลุมสาระการเรยี นรู พลาสตกิ หรือ พอลิเมอร และเซรามิกส วทิ ยาศาสตร์ 1.2 ครูเปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี นซักถาม ขอ้ สงสยั ก่อนเข้าสู่ขัน้ ตอนต่อไป 1.4 การปฏบิ ตั ติ ัวในการเรียนใหป้ ระสบ ความสาเรจ็ ผูเ้ รยี นตอ้ งใช้ทักษะที่ จาเปน็ ตามที่ได้กลา่ วถึงในขัน้ กาหนด สภาพปญั หา (การพดู การฟัง จดบันทึก แสวงหาความรู้ด้วยตนเอง) เข้ารว่ มกจิ กรรมและแสวงหาขอ้ มลู ตามท่ไี ดร้ ับมอบหมาย ขั้นท่ี 2 การจัดกระบวนการเรียนรู้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 538
Pages: