Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore HighAreaHighAreaNew-60

HighAreaHighAreaNew-60

Published by Takkey Chaiyasing, 2020-10-26 06:46:28

Description: HighAreaHighAreaNew-60

Search

Read the Text Version

การวิจัยการศึกษาเปรียบเทียบการพฒั นาบนพืน้ ทีส่ ูงในอดีตและปัจจบุ นั 173 จากตาราง 4.7 พบว่าค่าเฉล่ีย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน และระดับของความคิดเห็นเก่ียวกับ สภาพปัญหาของราษฎรบนพื้นท่ีสูง โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.05) เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า ปรัชญ าเศรษฐกิจพอเพียงมีความเหมาะสมกับวิถีชีวิตราษฎรบนพื้นท่ีสูง มีค่าเฉล่ียสู งที่สุด อยู่ในระดับมาก ( =4.57) รองลงมา ภูมิปัญ ญ าพื้นบ้านของราษฎ รบนพ้ืนที่สูงควรได้รับ การส่งเสริมให้มากข้ึน มีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมาก ( =4.51) และข้อท่ีมีค่าเฉลี่ยน้อยท่ีสุด คือ การประกอบอาชีพ เกษตรกรรมของชุมชนยงั คงทาแบบดงั้ เดมิ มคี า่ เฉล่ยี อยู่ในระดับปานกลาง ( =3.53) สรุปได้ว่า ราษฎรบนพื้นท่ีสูงในเขตพ้ืนท่ี สสว.4 ให้ความสาคัญกับปัญหา การพัฒนา ราษฎรบนพื้นทส่ี ูง ดงั นี้ 1. ปัญหาการจัดการด้านการส่งเสริม ปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพยี ง 2. ปัญหาการสง่ เสริมภูมปิ ญั ญาพื้นบา้ นของราษฎรบนพืน้ ท่สี งู 3. ปญั หาการส่งเสริมวฒั นธรรมชุมชนของราษฎรบนพน้ื ทสี่ งู 4. ปัญหาการสนับสนนุ ด้านศลิ ปะ หตั ถกรรมชุมชนราษฎรบนพ้นื ท่สี ูง 5. ปญั หาราษฎรบนพน้ื ทส่ี ูงควรได้รบั สิทธใิ นความเปน็ มนุษย์เสมอภาคกนั กล่าวได้ว่า กลุ่มตัวอย่างในเขตพ้ืนท่ีงานของ สสว.4 เน้นความสาคัญของปัญหาการพัฒนา 5 ลาดับแรกเกี่ยวกับ การจัดการด้านการส่งเสริม ปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงให้ชุมชนมีการปฎิบัติ อย่างเป็นรูปแบบ การส่งเสริมภูมิปัญญาพื้นบ้านของราษฎรบนพ้ืนที่สูง ปัญหาการส่งเสริมวัฒนธรรรม ชุมชน รวมท้ังศิลปะหัตถกรรมท่ีดีของชุมชน ท้ายสุด คือ ประเด็นปัญหาของราษฎรบนพ้ืนท่ีสูงควรได้รับ สิทธิในความเป็นมนุษยเ์ สมอภาคกนั

174 การวจิ ยั การศกึ ษาเปรียบเทยี บการพัฒนาบนพน้ื ท่ีสูงในอดีตและปัจจุบนั ตาราง 4.8 ค่าเฉล่ีย สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน และระดบั ของความคิดเห็นเกีย่ วกบั ประเดน็ ความตอ้ งการ ของชมุ ชน (n=180) ลาดบั ความต้องการของชุมชน ระดับความคดิ เหน็  S.D. การแปลผล 1. ราษฎรบนพืน้ ท่สี ูงยังมคี วามต้องการคณุ ภาพชีวิตทด่ี ขี ึ้น 4.66 .63 มาก ชุมชนบนพ้นื ท่ีสูงควรไดร้ ับการพัฒนาใหเ้ ป็นสงั คม 2. คุณภาพ 4.54 .71 มาก 3. ความเป็นชุมชนชาตพิ ันธุค์ วรได้รับการส่งเสรมิ พัฒนา 4.48 .72 มาก อยา่ งมีอัตลกั ษณ์ ราษฎรบนพ้ืนที่สูงมีความต้องการในการมีสว่ นรว่ มพฒั นา 4. ชมุ ชนใหเ้ ขม้ แข็ง 4.59 .68 มาก 5. ราษฎรบนพนื้ ทส่ี ูงมีความต้องการไดร้ บั การดูแลด้าน 4.61 .65 มาก ระบบสขุ ภาพ เยาวชนของราษฎรบนพนื้ ทสี่ ูงควรได้รบั การศึกษาที่ 6. เพยี งพออย่างมีคณุ ภาพ 4.68 .64 มาก 7. ผูส้ ูงวยั ในชมุ ชนควรได้รบั การเสริมหนนุ ด้านการถา่ ยทอด 4.55 .70 มาก ภมู ปิ ัญญาพ้นื บ้าน ราษฎรบนพื้นที่สูงมีความต้องการการสนบั สนนุ ด้าน มาก 8. ประสทิ ธภิ าพ การประกอบอาชพี ภาคการเกษตรกรรม 4.52 .62 9 ชุมชนราษฎรบนพื้นที่สูงควรมีการจดั การศนู ย์การเรยี นรู้ 4.53 .74 มาก ชาตพิ นั ธุท์ ี่มีคุณภาพ ราษฎรบนพ้ืนที่สงู ควรได้รับการส่งเสรมิ ดแู ล เรอ่ื ง สทิ ธิ 10. ความเป็นพลเมืองมากขึ้น 4.57 .71 มาก 11. วัฒนธรรมชุมชน ประเพณีที่ดีงามต้องการ การอนุรักษ์ 4.76 .63 มาก และส่งเสริมอย่างยง่ั ยืน วถิ ชี วี ิตดงั้ เดิมของราษฎรบนพื้นทสี่ ูงควรไดร้ ับการส่งเสรมิ 12. อย่างเหมาะสมมใิ ช่เป็นเพียงสินคา้ การท่องเทยี่ ว 4.67 .64 มาก ค่าเฉล่ียภาพรวม 4.39 .88 มาก จากตาราง 4.8 พบว่าค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับของความคิดเห็นเก่ียวกับ ประเด็นความต้องการของชุมชนโดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.39) เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า วัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามต้องการอนุรักษ์และส่งเสริมอย่างย่ังยืน มีค่าเฉล่ียสูงท่ีสุด อยู่ในระดับมาก ( = 4.76) รองลงมา คือ เยาวชนของราษฎรบนพื้นที่สูงควรได้รับการศึกษาท่ีเพียงพออย่างมีคุณภาพ

การวิจัยการศึกษาเปรียบเทยี บการพฒั นาบนพนื้ ที่สงู ในอดีตและปัจจุบนั 175 มีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมาก ( =4.68) และข้อที่มีค่าเฉล่ียน้อยที่สุด คือ ความเป็นชุมชนชาติพันธุ์ ควรได้รับการส่งเสรมิ พัฒนาอย่างมีอัตลักษณ์ มีค่าเฉลยี่ อยใู่ นระดับมาก ( =4.48) สรุปไดว้ ่าราษฎรบนพน้ื ท่ี สสว.4 มคี วามต้องการการพฒั นา ใน 5 ประเดน็ หลกั คือ 1. วฒั นธรรมชุมชน ประเพณีอนั ดงี ามตอ้ งอนรุ กั ษแ์ ละส่งเสริมอยา่ งย่งั ยนื 2. เยาวชนควรไดร้ บั การสนบั สนุนการศึกษาอย่างเพยี งพอ 3. วิถีชวี ิตดั้งเดมิ ของราษฎรบนพน้ื ทสี่ งู ควรไดร้ บั การส่งเสรมิ อย่างเหมาะสม 4. การสนบั สนุนคุณภาพชีวติ ทด่ี ขี องราษฎรบนพ้นื ทสี่ งู 5. การดแู ลระบบสขุ ภาพของราษฎรบนพื้นท่สี งู กล่าวได้ว่ากลุ่มตัวอย่างของพ้ืนที่งาน สสว.4 มีความต้องการในการพัฒนาชุมชน ใน 5 ประเด็นแรกคือ การอนุรักษ์ส่งเสริมวัฒนธรรมชุมชนราษฎรบนพื้นที่สูง การสนับสนุนการศึกษา ของเอกชนอย่างพอเพียงไม่ต้องเป็นภาระค่าใช่จ่าย จิปาถะของผู้ปกครอง กาส่งเสริมวิถีชีวิตดั้งเดิมของชนเผ่า ที่เรียบง่าย มีความสงบสุข สนับสนุนให้ราษฎรบนพื้นที่สูงมีคุณภาพชีวิตท่ีดีและมีระบบการดูแลสุขภาพ ราษฎรบนพื้นทสี่ งู อยา่ งใกลช้ ิดและมคี ุณภาพ

176 การวจิ ัยการศึกษาเปรียบเทยี บการพัฒนาบนพื้นท่สี งู ในอดีตและปจั จบุ นั ตาราง 4.9 ค่าเฉล่ีย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน และระดับของความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการจัดการ เชิงนโยบาย (n=180) ลาดบั แนวทางการจัดการเชิงนโยบาย ระดับความคดิ เหน็  S.D. การแปลผล องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินหรือ อบต./เทศบาล ควรมี 1. นโยบายใหก้ ารสนบั สนนุ ความเปน็ ชุมชนชาตพิ นั ธุ์ 4.65 .67 มาก 4.48 .73 มาก 2. ชุมชนควรมีคณะกรรมการจากทุกภาคส่วนร่วมกาหนด 4.55 .69 มาก นโยบายการพฒั นาราษฎรบนพนื้ ที่สูง คนทุกช่วงวัยในความเป็นราษฎรบนพ้ืนที่สูงควรได้รับ 4.57 .70 มาก 3. การดแู ลเชงิ นโยบายดา้ นการศึกษาอบรมที่ดี มาก 4.59 .64 รัฐควรให้การเสริมหนุนระบบการจัดการดูแลสุขภาพ 4.55 .74 มาก 4. แบบคู่ขนานทั้งภูมิปัญญาพื้นบ้านและการสาธารณสุข 4.66 .70 มาก สมยั ใหม่ 4.73 .56 มาก ทุกภาคส่วนควรได้มีแนวทางเชิงนโยบายกาหนดระบบ 4.58 .72 มาก 5. สวสั ดิการสังคมในชุมชนอย่างยงั่ ยนื 4.71 .63 มาก 6. ชมุ ชนควรไดร้ บั การสนับสนุนดา้ นการมีลานวฒั นธรรม คุณภาพหรือเวทแี หง่ การแสดงศลิ ปะราษฎรบนพ้ืนท่ีสูง ควรมีระบบการจัดการเชิงนโยบายสร้างสรรค์ปอ้ งกนั ไม่ 7. ใหร้ าษฎรบนพนื้ ที่สงู เขา้ ไปมีส่วนเกยี่ วขอ้ งกบั ยาเสพติด 8. รฐั ควรใหก้ ารเสริมหนนุ ด้านนโยบายการสร้างเสรมิ ศักยภาพชมุ ชนบนพ้ืนท่ีสงู ให้เขม้ แข็ง รัฐควรสรา้ งนโยบายใหโ้ อกาสกล่มุ ชาตพิ นั ธไุ์ ด้เขา้ ไปมี 9. บทบาทการพฒั นาประเทศทุกระดับ 10. ควรมีผู้แทนราษฎรบนพื้นท่ีสูงได้มีโอกาสเปน็ ตัวแทน กลุม่ ชาตพิ นั ธุ์ในการมบี ทบาทด้านวัฒนธรรมระดบั ชาติ ค่าเฉล่ยี ภาพรวม 4.61 .65 มาก จากตาราง 4.9 พบว่าค่าเฉลี่ย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน และระดับของความคิดเห็นเก่ียวกับ แนวทางการจัดการเชิงนโยบายโดยรวม อยู่ในระดับมาก ( =4.61) เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า รัฐควรให้การเสริมหนุนด้านนโยบายการสร้างเสริมศักยภาพชุมชน บนพ้ืนที่สูงให้เข้มแข็ง มีค่าเฉล่ียสูงที่สุด อยู่ในระดับมาก ( = 4.73) รองลงมา คือ ผู้แทนราษฎรบนพื้นที่สูงควรได้มีโอกาส เป็นตัวแทนกลุ่มชาติพันธ์ุในการมีบทบาทด้านวัฒนธรรมระดับชาติ มีค่าเฉล่ีย อยู่ในระดับมาก ( =4.71)

การวจิ ยั การศึกษาเปรียบเทยี บการพัฒนาบนพื้นทีส่ งู ในอดตี และปจั จุบัน 177 และข้อท่ีมีค่าเฉล่ียน้อยท่ีสุด คือ ชุมชนควรมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนกาหนดนโยบายการพัฒนาราษฎร บนพื้นท่ีสงู มีคา่ เฉลยี่ อย่ใู นระดบั มาก ( =4.48) สรุปได้ว่า ราษฎรบนพื้นที่สูงในเขตพื้นท่ีงาน สสว.4 ให้ความสาคัญกับประเด็นการจัดการ เชงิ นโยบาย 5 ประการ ดงั น้ี 1. นโยบายการสร้างเสรมิ ศักยภาพชุมชนให้เขม้ แขง็ พึ่งพาตนเองได้ 2. ควรใหม้ ตี ัวแทนราษฎรบนพื้นทส่ี ูงมบี ทบาทด้านการส่งเสริมวัฒนธรรมชมุ ชน ระดบั ชาติ 3. ควรมีนโยบายเชิงสร้างสรรค์ ป้องกันราษฎรบนพื้นทสี่ ูงไม่ใหเ้ กย่ี วข้องกบั ยาเสพตดิ 4. อปท.ควรให้การสนบั สนุนความเปน็ ชุมชนชาติพนั ธุ์อย่างครบวงจร 5. ทุกภาคสว่ นควรมนี โยบายสง่ เสริมสวัสดิการสงั คมในชมุ ชนอย่างยั่งยนื กล่าวได้ว่ากลุ่มตัวอย่างของพื้นที่งาน สสว. 4 ให้ความสาคัญกับการจัดการเชิงนโยบาย การพัฒนาชุมชนราษฎรบนพ้ืนที่สูง 5 ลาดับแรกคือการจัดการ เชิงนโยบายเก่ียวกับการสร้างเสริม ศักยภาพชุมชนให้เข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้และเป็นท่ีพ่ึงพาให้กับชาวเขาได้ ควรมีตัวแทนชนเผ่าในการ ส่งเสริมวัฒนธรรมระดับชาติ ควรมีนโบบายเชิงสร้างสรรค์ปัองกันราษฎรบนพื้นท่ีสูง ไม่ให้เก่ียวข้องกับ ยาเสพติดทุกรูปแบบ ควรให้ อปท. สนับสนุนความเป็นชุมชนชาติพันธุ์อย่างเหมาะสมและท้ายสุด คอื การเสริมหนุนให้มรี ะบบสวัสดิการสงั คมในชุมชนอยา่ งยัง่ ยนื

178 การวจิ ยั การศึกษาเปรียบเทยี บการพัฒนาบนพื้นท่ีสูงในอดีตและปัจจบุ ัน กลมุ่ ตัวอย่างในพื้นท่คี วามรบั ผิดชอบของสานักงานสง่ เสริมและสนับสนนุ วิชาการ 8 (สสว.8) ตาราง 4.10 ค่าเฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับของความคิดเห็นต่อการพัฒนาราษฎร บนพืน้ ที่สงู ในอดตี และปัจจบุ นั (n=120) ระดับความคดิ เหน็ การพฒั นาราษฎรบนพ้ืนทสี่ ูงในอดตี และปัจจบุ ัน  S.D. การแปลผล 1. สภาพปญั หาของราษฎรบนพ้นื ทส่ี ูงทีม่ ีอยู่ 3.66 .41 มาก 2. ประเดน็ ความตอ้ งการของชมุ ชน ในการพัฒนา 4.77 .52 มาก 3. ประเด็นแนวทางการจัดการเชิงนโยบาย เพื่อการ 4.70 .40 มาก บรหิ ารการพฒั นา 4.38 .88 มาก ภาพรวม จากตาราง 4.10 พบวา่ ค่าเฉลย่ี สว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน และระดับของความคิดเห็นเก่ียวกับ การพัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงในอดีตและปัจจุบัน โดยรวม อยู่ในระดับมาก ( = 4.38) เม่ือพิจารณา ในแต่ละดา้ น พบว่า ด้านมีคา่ เฉล่ยี สูงสุด คือ ประเดน็ ความต้องการของชุมชนในการพฒั นาอยู่ในระดับมาก ( =4.77) รองมา คือ ประเด็นแนวทางการจดั การเชิงนโยบายอยู่ในระดับมาก ( = 4.70) และด้านท่ีมีค่าเฉลี่ย นอ้ ยท่สี ดุ คอื ประเดน็ สภาพปัญหาของราษฎรบนพืน้ ที่สูง อยู่ใน ระดับมาก ( =3.66) สรุปได้ว่าราษฎรบนพ้ืนท่ีสูงในพ้ืนที่ความรับผิดชอบของ สสว.8 ให้ความสาคัญกับประเด็น ความต้องการของชุมชน การมีแนวทางการจัดการเชิงนโยบายการพัฒนาราษฎรบนพื้นท่ีสูงอย่างชัดเจน เป็นระบบและประเดน็ สภาพปญั าของราษฎรบนพนื้ ที่สูง

การวิจยั การศกึ ษาเปรียบเทยี บการพฒั นาบนพืน้ ทส่ี ูงในอดตี และปจั จบุ ัน 179 ตาราง 4.11 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน และระดับของความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัญหา ของราษฎรบนพ้ืนที่สงู (n=120) ลาดับ สภาพปัญหาของราษฎรบนพ้ืนทสี่ งู ระดบั ความคิดเหน็  S.D. การแปลผล 1. ราษฎรบนพน้ื ท่สี งู ยงั มปี ัญหาด้านคุณภาพชีวิตท่ีเหมาะสม 3.26 1.01 ปานกลาง 2. สภาพปญั หาดา้ นสขุ ภาพยังขาดระบบการดแู ลที่ดี 2.65 1.01 ปานกลาง 3. ราษฎรบนพน้ื ทีส่ ูงยังขาดระบบสวัสดกิ ารสังคมในชุมชน 2.90 1.22 ปานกลาง น้อย 4. ผสู้ งู วัยในชมุ ชนยงั ขาดการดแู ลด้านสุขภาพจติ ใจท่ีดี 2.29 1.31 5. การประกอบอาชีพเกษตรกรรมของชมุ ชนยังคงทาแบบ 2.70 1.42 ปานกลาง ดง้ั เดิม ราษฎรบนพื้นท่สี งู ควรได้รับสิทธใิ นความเปน็ มนุษยอ์ ยา่ ง 6. เสมอภาค 4.42 .96 มาก 7. กระบวนการมีสว่ นร่วมจากประชาชนในการพฒั นาชมุ ชนมี 2.97 1.41 ปานกลาง น้อย วฒั นธรรมชุมชนของความเป็นราษฎรบนพนื้ ที่สูงควรไดร้ ับ 8. การส่งเสรมิ ใหม้ ากข้นึ 4.59 .62 มาก 9. ทุกภาคสว่ นควรให้การเสริมหนนุ ด้านศิลปหตั ถกรรมใน 4.26 .87 มาก ชมุ ชน ทศั นคติของชาวไทยพื้นราบต่อราษฎรบนพนื้ ทส่ี ูงท่ี 10. เหมาะสม 4.35 .76 มาก 11. ปัจจุบันราษฎรบนพ้นื ทสี่ ูงประกอบอาชีพผิดกฎหมายน้อย 3.79 1.15 มาก มาก ปัจจบุ นั ราษฎรบนพนื้ ทส่ี งู ไม่มีพฤติกรรมการทาลาย 12. ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม 3.51 1.13 มาก 13. ราษฎรบนพนื้ ที่สูงมสี ว่ นเกี่ยวข้องกับยาเสพติดนอ้ ยมาก 3.90 1.14 มาก ภูมปิ ญั ญาพน้ื บ้านของราษฎรบนพ้ืนทส่ี งู ควรไดร้ บั การ 14 ส่งเสริมให้มากขนึ้ 4.65 .60 มาก 15. ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงมีความเหมาะสมกบั วถิ ีชวี ิต 4.67 .71 มาก ราษฎรบนพนื้ ที่สงู คา่ เฉล่ียภาพรวม 3.66 .41 มาก

180 การวจิ ัยการศกึ ษาเปรยี บเทียบการพฒั นาบนพื้นที่สงู ในอดีตและปัจจบุ ัน จากตาราง 4.11 พบว่าค่าเฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับของความคิดเห็น เกี่ยวกับสภาพปัญหาของราษฎรบนพื้นท่ีสูง โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( =3.66) เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมีความเหมาะสมกับวิถีชีวิตราษฎรบนพ้ืนท่ีสูง มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด อย่ใู นระดบั มาก ( =4.67) รองลงมา คอื ภูมิปัญญาพื้นบา้ นของราษฎรบนพ้นื ทีส่ งู ควรไดร้ ับการส่งเสริม ให้มากขึ้น มีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมาก ( =4.65 ) และข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ผู้สูงวัย ในชมุ ชนยังขาดการดูแลดา้ นสขุ ภาพจติ ใจท่ดี ี มคี ่าเฉลี่ย อยใู่ นระดบั น้อย ( =2.29) สรุปได้ว่า ราษฎรบนพ้ืนท่ีสูงในพ้ืนที่ความรับผิดชอบของ สสว.8 ให้ความสาคัญ กับประเด็นปญั หาการพฒั นา 5 ลาดับแรก คือ 1. ปญั หาการจัดการตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งได้อย่างเป็นรูปธรรม 2. ปัญหาการสง่ เสรมิ ภูมิปัญญาพ้ืนบ้านให้เข้มแข็ง 3. ปัญหาการส่งเสรมิ วฒั นธรรมชมุ ชนบนพ้ืนทสี่ งู ใหย้ ่งั ยืน 4. ปญั หาการได้รับสิทธิความเป็นมนษุ ย์อย่างเสมอภาค 5. ปัญหาการปรบั ทัศนคติของชาวไทย พืน้ ราบตอ่ ราษฎรบนพืน้ ท่ีสูงทเี่ หมาะสม กล่าวได้ว่ากลุ่มตัวอย่างจากเขตพื้นที่งาน สสว.8 ให้ความสาคัญกับประเด็นปัญหา การจัดการตามหลักด้านปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้มีการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม มีการส่งเสริม ภูมิปัญญาพื้นบ้านให้เป็นทุนทางสังคมในการพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง การส่งเสริมวัฒนธรรมชนเผ่าแต่ละ ชุมชนได้มีคุณค่ามีความสาคัญอย่างยั่งยืน การได้รับสิทธิของการเป็นมนุษย์อย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน และประเด็นปัญหาทัศนคติท่ีเหมาะสมของคนไทยพ้ืนท่ีราบต่อราษฎรบนพ้ืนท่ีสูงเป็นที่สังเกตว่าราษฎร บนพื้นท่สี งู ในเขตพื้นท่ี สสว.8 สนใจประเดน็ ปญั หาการดูแลสขุ ภาพจติ ใจของผูส้ ูงวยั ในชุมชนน้อยทีส่ ุด

การวจิ ยั การศกึ ษาเปรียบเทยี บการพฒั นาบนพ้ืนทส่ี งู ในอดีตและปัจจุบัน 181 ตาราง 4.12 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน และระดับของความคิดเหน็ เก่ียวกับประเด็นความ (n=120) ต้องการของชุมชน ลาดับ ความตอ้ งการของชุมชน ระดบั ความคิดเห็น  S.D. การแปลผล 1. ราษฎรบนพ้นื ท่สี งู ยังมคี วามต้องการคณุ ภาพชีวิตทีด่ ขี น้ึ 4.62 .67 มาก 2. ชมุ ชนบนพืน้ ท่สี ูงควรไดร้ บั การพฒั นาใหเ้ ป็นสังคมคุณภาพ 4.59 .65 มาก ความเปน็ ชุมชนชาติพันธุ์ควรได้รับการสง่ เสรมิ พัฒนาอย่าง 4.79 .48 มาก 3. มีอัตลกั ษณ์ 4. ราษฎรบนพ้นื ทสี่ งู มีความต้องการในการมสี ว่ นร่วมพฒั นา 4.76 .49 มาก ชุมชนใหเ้ ขม้ แข็ง ราษฎรบนพน้ื ทสี่ ูงมีความต้องการได้รบั การดแู ลดา้ นระบบ 4.70 .54 มาก 5. สขุ ภาพ 6. เยาวชนของราษฎรบนพืน้ ท่ีสูงควรได้รบั การศกึ ษาที่เพยี งพอ 4.74 .61 มาก อย่างมีคณุ ภาพ ผสู้ ูงวัยในชมุ ชนควรไดร้ บั การเสรมิ หนุนดา้ นการถ่ายทอดภูมิ 4.80 .43 มาก 7. ปัญญาพื้นบา้ น 8. ราษฎรบนพน้ื ท่ีสงู มีความต้องการสนับสนนุ ดา้ นประสทิ ธิภาพ 4.76 .56 มาก การประกอบอาชีพภาคเกษตรกรรม ชุมชนราษฎรบนพื้นท่สี ูงควรมีการจัดการศนู ย์การเรยี นรู้ชาติ 4.74 .51 มาก 9 พนั ธท์ุ ่มี คี ุณภาพ 10. ราษฎรบนพืน้ ท่สี งู ควรไดร้ ับการส่งเสริมดแู ล เรอ่ื ง สทิ ธคิ วาม 4.68 .53 มาก เปน็ พลเมืองมากขึน้ วฒั นธรรมชุมชน ประเพณที ด่ี ีงามต้องการ การอนุรักษแ์ ละ 4.85 .39 มาก 11. สง่ เสริมอย่างยั่งยืน 12. วิถชี วี ิตดัง้ เดิมของราษฎรบนพ้ืนท่ีสูงควรไดร้ ับการส่งเสริม 4.81 .42 มาก อยา่ งเหมาะสมมใิ ชเ่ ปน็ เพยี งสินคา้ การท่องเทีย่ ว ค่าเฉลย่ี ภาพรวม 4.77 .49 มาก จากตาราง 4.12 พบว่าคา่ เฉล่ยี สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับของความคดิ เห็นเก่ียวกับ ประเด็นความต้องการของชุมชนโดยรวมอยู่ในระดบั มาก ( =4.77) เมื่อพิจารณารายขอ้ พบวา่ วฒั นธรรมชุมชน ประเพณีที่ดีงามต้องการ การอนุรักษ์และส่งเสริมอย่างย่ังยืนมีค่าเฉล่ียสูงท่ีสุด อยู่ในระดับมาก ( =4.85) รองลงมา คือ วิถีชีวิตดั้งเดิมของราษฎรบนพ้ืนท่ีสูงควรได้รับการส่งเสริมอย่างเหมาะสม

182 การวจิ ยั การศึกษาเปรียบเทียบการพฒั นาบนพืน้ ทส่ี งู ในอดตี และปจั จบุ ัน มิใช่เป็นเพียงสินค้าการท่องเที่ยว มีค่าเฉล่ีย อยู่ในระดับมาก ( =4.81) และข้อท่ีมีค่าเฉล่ียน้อยที่สุด คือ ชุมชนบนพืน้ ทส่ี งู ควรได้รบั การพัฒนาใหเ้ ป็นสงั คมคณุ ภาพ มคี า่ เฉล่ียอยู่ในระดบั มาก ( =4.59) สรุปได้ว่า ราษฎรบนพ้ืนท่ีสูง ในเขตพื้นท่ีความรับผิดชอบของสสว.8 มีประเด็น ความต้องการ 5 ลาดับแรกคอื 1. การสง่ เสรมิ วัฒนธรรม ประเพณอี นั ดีงามของชมุ ชนให้เข้มแข็งและยงั่ ยนื 2. การส่งเสริมวถิ ชี ีวิตดัง้ เดิมของราษฎรบนพื้นทสี่ งู อย่างเหมาะสม 3. การถ่ายทอดภูมิปัญญาพ้นื บา้ นของผสู้ งู วยั ใหม้ ีคุณคา่ อยา่ งมีความหมาย 4. การส่งเสริมอตั ลักษณ์ความเปน็ ชุมชนชาตพิ ันธุ์ของราษฎรบนพืน้ ทส่ี งู ให้ชดั เจน 5. การมสี ่วนรว่ มพฒั นาชุมชนใหเ้ ขม้ แข็งของราษฎรบนพ้นื ทีส่ ูง กล่าวได้ว่า กลุ่มตัวอย่างในเขตพื้นที่งาน สสว.8 ให้ความสาคัญกับประเด็นความต้องการ พัฒนาชุมชนราษฎรบนพ้ืนท่ีสูง 6 ประการแรกคือ การส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชุมชน ให้เข้มแข็งและยั่งยืนการสนับสนุนวิถีชีวิตด้ังเดิมของราษฎรบนพื้นท่ีสูง การถ่ายทอดภูมิปัญญาพื้นบ้าน จากผู้สูงวัยให้มีคุณค่ามีความหมาย การส่งเสริมความเป็นอัตลักษณ์ขิงชุมชนชาติพันธุ์ให้มีความเข้มแข็ง ชดั เจน ตลอดจนความต้องการมีส่วนรว่ มการพัฒนาชมุ ชนในกิจกรรมตา่ งๆ

การวิจัยการศึกษาเปรียบเทียบการพฒั นาบนพนื้ ทส่ี ูงในอดตี และปจั จบุ ัน 183 ตาราง 4.13 คา่ เฉลีย่ ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน และระดับของความคิดเห็นเกยี่ วกบั แนวทาง การจัดการเชิงนโยบาย (n=120) ลาดบั แนวทางการจดั การเชิงนโยบาย ระดบั ความคดิ เหน็  S.D. การแปลผล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือ อบต./เทศบาล ควรมี 1. นโยบายใหก้ ารสนับสนุนความเปน็ ชุมชนชาติพนั ธ์ุ 4.67 .59 มาก 2. ชุ ม ช น ค ว ร มี ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร จ าก ทุ ก ภ าค ส่ ว น ร่ ว ม ก า ห น ด 4.69 .54 มาก นโยบายการพัฒนาราษฎรบนพ้ืนที่สูง คนทุกช่วงวัยในความเป็นราษฎรบนพ้ืนที่สูงควรได้รับการ 3. ดูแลเชงิ นโยบายดา้ นการศึกษาอบรมท่ีดี 4.67 .55 มาก 4. รัฐควรให้การเสริมหนุนระบบการจัดการดูแลสุขภาพแบบ 4.67 .52 มาก คขู่ นานทง้ั ภมู ิปญั ญาพ้ืนบ้านและการสาธารณสขุ สมัยใหม่ ทุกภาคส่วนควรได้มีแนวทางเชิงนโยบายกาหนดระบบ 5. สวัสดิการสงั คมในชุมชนอย่างยงั่ ยนื 4.72 .56 มาก 6. ชุมชนควรไดร้ บั การสนบั สนนุ ดา้ นการมีลานวัฒนธรรม 4.63 .66 มาก คุณภาพหรือเวทแี ห่งการแสดงศลิ ปะราษฎรบนพื้นท่ีสูง ควรมรี ะบบการจัดการเชิงนโยบายสร้างสรรค์ป้องกันไมใ่ ห้ 7. ราษฎรบนพ้นื ทส่ี ูงเขา้ ไปมสี ว่ นเกี่ยวข้องกบั ยาเสพติด 4.62 .63 มาก 8. รฐั ควรให้การเสรมิ หนุนดา้ นนโยบายการสรา้ งเสรมิ ศกั ยภาพ 4.80 .47 มาก ชุมชนบนพ้นื ทส่ี งู ให้เข้มแข็ง รฐั ควรสร้างนโยบายให้โอกาสกลุ่มชาตพิ นั ธุ์ได้เข้าไปมบี ทบาท 9. การพัฒนาประเทศทกุ ระดับ 4.73 .48 มาก 10. ควรมีผ้แู ทนราษฎรบนพนื้ ท่ีสูงไดม้ ีโอกาสเปน็ ตวั แทนกลุ่ม 4.75 .48 มาก ชาตพิ นั ธ์ุในการมบี ทบาทด้านวฒั นธรรมระดับชาติ ค่าเฉล่ียภาพรวม 4.70 .56 มาก จากตาราง 4.13 พบว่าค่าเฉลยี่ สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน และระดับของความคดิ เห็นเก่ียวกับ แนวทางการจัดการเชิงนโยบายโดยรวม อยู่ในระดับมาก ( =4.70) เม่ือพิจารณารายข้อพบว่ารัฐควรให้ การเสริมหนุนด้านนโยบายการสร้างเสริมศักยภาพชุมชนชาติพันธุ์ให้เข้มแข็งมีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด อยู่ในระดับมาก ( =4.80) รองลงมา คือ ผู้แทนราษฎรบนพื้นท่ีสูงควรได้มีโอกาสเป็นตัวแทนกลุ่มชาติพันธ์ุในการมีบทบาท ด้านวัฒนธรรมระดบั ชาติ มีค่าเฉลี่ย อยูใ่ นระดับมาก ( = 4.75) และข้อท่ีมีค่าเฉล่ียน้อยท่ีสุด คอื ควรมีระบบ การจัดการเชิงนโยบายสร้างสรรค์ป้องกันราษฎรบนพ้ืนที่สูงไม่ให้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด มคี ่าเฉล่ยี อยู่ในระดับมาก ( =4.62)

184 การวจิ ัยการศึกษาเปรยี บเทียบการพัฒนาบนพืน้ ที่สูงในอดตี และปจั จุบัน สรุปได้ว่า ราษฎรบนพ้ืนท่ีสูง ในเขตพ้ืนที่ สสว.8 ให้ความสาคัญกับประเด็นการจัดการ เชิงนโยบาย 5 ประการ แรกดงั น้ี 1. การสนับสนุนศักยภาพชมุ ชนราษฎรบนพนื้ ท่สี ูงให้เขม้ แขง็ พึง่ พาตนเองได้ 2. การมผี ้แู ทนราษฎรบนพืน้ ทีส่ ูงเป็นตวั แทน ชนชาติพนั ธดุ์ า้ นวัฒนธรรมระดบั ชาติ 3. การสนับสนุนใหร้ าษฎรบนพน้ื ทส่ี ูงได้มโี อกาสเข้าไปมบี ทบาทในการพฒั นาชุมชนทุกระดบั 4. ทกุ ภาคส่วนร่วมกนั กาหนดสวัสดกิ ารสังคมในชมุ ชนอยา่ งยั่งยนื 5. ส่งเสริมให้ชุมชนมีคณะกรรมการจากทุกภาคส่วนร่วมกาหนดนโยบายพัฒนาราษฎร บนพื้นท่สี ูง กล่าวได้ว่ากลุ่มตัวอย่างราษฎรบนพ้ืนที่สูงจากเขตพ้ืนที่ของ สสว.8 ให้ความสาคัญ กับประเด็นการจัดการเชิงนโยบาย 5 ลาดับแรกคือ นโยบายการส่งเสริมศักยภาพชุมชนให้เข้มแข็งพ่ึงพา ตนเองได้ มีนโยบายให้มีผู้แทนชนเผ่าต่างวัฒนธรรมระดับชาติ ให้โอกาสราษฎรบนพ้ืนท่ีสูงเข้าไป มีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนทุกระดับ ทุกภาคส่วนมีนโยบายกาหนดและส่งเสริมสวัสดิการสังคม ในชุมชนได้เป็นระบบและส่งเสริมให้มีคณะกรรมการจากทุกภาคส่วนมาร่วมกาหนดนโยบายการพัฒนา ราษฎรบนพื้นที่สงู

การวจิ ยั การศกึ ษาเปรยี บเทียบการพฒั นาบนพน้ื ทีส่ ูงในอดีตและปัจจุบัน 185 กลุ่มตัวอยา่ งในพื้นทคี่ วามรับผดิ ชอบของสานักงานส่งเสรมิ และสนับสนนุ วชิ าการ 9 (สสว.9) ตาราง 4.14 สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับของความคิดเหน็ ตอ่ การพัฒนาราษฎรบนพน้ื ที่สงู ในอดีตและปจั จุบัน (n=180) ระดบั ความคดิ เหน็ การพฒั นาราษฎรบนพืน้ ทีส่ งู ในอดตี และปัจจบุ นั  S.D. การแปลผล 1. สภาพปัญหาของราษฎรบนพน้ื ที่สูงทม่ี ีอยู่ 3.75 .55 มาก 2. ประเดน็ ความตอ้ งการของชมุ ชนในการพัฒนา 3.98 .60 มาก 3. ประเด็นแนวทางการจัดการเชิงนโยบายเพ่ือการ 3.93 .57 มาก บริหารการพัฒนา 3.88 1.14 มาก ภาพรวม จากตาราง 4.14 พบวา่ ค่าเฉล่ยี สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน และระดับของความคดิ เห็นเก่ียวกับ การพัฒนาราษฎรบนพื้นท่ีสูงในอดีตและปัจจุบัน โดยรวม อยู่ในระดับมาก ( =3.88) เมื่อพิจารณา ในแต่ละด้าน พบว่า ด้านมีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ประเด็นความต้องการของชุมชนอยู่ในระดับมาก ( = 3.98) รองมาคือ ประเด็นแนวทางการจัดการเชิงนโยบายเพื่อการบริหารการพัฒนาคือ อยู่ในระดับมาก ( = 3.93) และดา้ นท่มี ีค่าเฉลย่ี น้อยทีส่ ดุ คอื ประเดน็ สภาพปัญหาของราษฎรบนพืน้ ทส่ี ูง อยใู่ นระดบั มาก ( =3.75) สรุปได้ว่า ราษฎรบนพ้ืนที่สูง ในเขตพื้นที่ของสสว. 9 ให้ความสาคัญกับประเด็นความ ต้องการของชุมชนในการพัฒนา การมีแนวทางการจัดการเชิงนโยบายการบริหารการพัฒนาราษฎร บนพน้ื ท่สี งู และประเด็นสภาพปัญหาของราษฎรบนพื้นท่ีสูง

186 การวจิ ัยการศกึ ษาเปรยี บเทยี บการพัฒนาบนพืน้ ที่สงู ในอดตี และปัจจุบนั ตาราง 4.15 ค่าเฉลี่ย สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับของความคดิ เห็นเก่ยี วกบั สภาพปัญหา ของราษฎรบนพ้ืนท่สี ูง (n=180) ระดบั ความคดิ เห็น ลาดบั สภาพปัญหาของราษฎรบนพ้ืนที่สูง  S.D. การแปลผล 1. ราษฎรบนพื้นท่สี ูงยังมีปัญหาด้านคณุ ภาพชีวติ ทเ่ี หมาะสม 3.84 .82 มาก 2. สภาพปญั หาดา้ นสขุ ภาพยังขาดระบบการดแู ลท่ีดี 3.68 .90 มาก 3. ราษฎรบนพืน้ ทีส่ ูงยังขาดระบบสวัสดกิ ารสังคมในชมุ ชน 3.64 .81 มาก ปานกลาง 4. ผูส้ ูงวยั ในชมุ ชนยงั ขาดการดแู ลดา้ นสขุ ภาพจิตใจทด่ี ี 3.46 .92 มาก 05. การประกอบอาชีพเกษตรกรรมของชุมชนยังคงทาแบบ 3.67 .97 ดัง้ เดิม มาก ราษฎรบนพื้นทส่ี ูงควรได้รับสิทธใิ นความเปน็ มนุษยอ์ ยา่ ง .94 มาก 6. เสมอภาค 3.78 .94 มาก .84 มาก 7. กระบวนการมสี ่วนร่วมจากประชาชนในการพฒั นาชุมชน 3.60 .89 มาก มีน้อย .86 มาก วัฒนธรรมชมุ ชนของความเป็นราษฎรบนพ้ืนที่สูงควร 1.03 มาก 8. ไดร้ ับการสง่ เสรมิ ให้มากขน้ึ 3.95 1.03 มาก 1.14 มาก 9. ทกุ ภาคส่วนควรให้การเสรมิ หนุนดา้ นศิลปหัตถกรรมใน 4.07 ชุมชน มาก ทศั นคติของชาวไทยพืน้ ราบต่อชาวไทยราษฎรบนพืน้ ท่สี งู มาก 10. ที่เหมาะสม 3.69 11. ปจั จบุ นั ราษฎรบนพืน้ ท่สี ูงประกอบอาชีพผดิ กฎหมายน้อย 3.75 มาก ปัจจุบนั ราษฎรบนพืน้ ท่ีสูงไม่มีพฤติกรรมการทาลาย 12. ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม 3.76 13. ราษฎรบนพ้ืนท่สี งู มสี ่วนเก่ยี วขอ้ งกับยาเสพติดน้อยมาก 3.58 14 ภูมิปญั ญาพืน้ บา้ นของราษฎรบนพืน้ ทสี่ งู ควรได้รับการ 3.91 .91 สง่ เสรมิ ให้มากขึ้น 15. ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงมีความเหมาะสมกบั วิถชี วี ิต 3.87 .91 ราษฎรบนพืน้ ทีส่ งู 3.75 1.03 ค่าเฉล่ยี ภาพรวม

การวิจัยการศกึ ษาเปรยี บเทียบการพัฒนาบนพื้นท่สี งู ในอดตี และปัจจบุ นั 187 จากตาราง 4.15 พบว่าค่าเฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับของความคิดเห็น เกี่ยวกับสภาพปัญหาของราษฎรบนพื้นที่สูง โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( =3.75) เม่ือพิจารณารายข้อ พบว่า ทุกภาคส่วนควรให้การเสริมหนุนด้านศิลปหัตถกรรมในชุมชน มีค่าเฉล่ียสูงท่ีสุด อยู่ในระดับมาก ( =4.07) รองลงมา คือ วัฒนธรรมชุมชนของความเป็นราษฎรบนพ้ืนที่สูงควรได้รับการส่งเสริมให้มากขึ้น มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ มาก ( =3.95) และข้อท่ี มีค่าเฉลี่ยน้ อยที่สุด คื อ ผู้สูงวัยใน ชุมช น ยังขาดการดแู ลดา้ นสุขภาพจติ ใจทดี่ ี มีคา่ เฉลยี่ อยูใ่ นระดบั ปานกลาง ( =3.46) สรุปได้ว่า ราษฎรบนพื้นที่สูง ในเขตพื้นท่ีของสสว.9 ให้ความสาคัญกับปัญหาการพัฒนา 5 ประการแรก ดงั นี้ 1. ปญั หาการสนับสนนุ งานศิลปะ หตั ถกรรมพ้นื บา้ นให้มีคณุ คา่ 2. ปญั หาการสง่ เสริมวฒั นธรรมชุมชนใหเ้ ขม้ แข็งอย่างยั่งยืน 3. ปญั หาการส่งเสรมิ ภมู ปิ ัญญาพ้ืนบา้ นให้มีความหมายและมีความสาคัญ 4. ปญั หาการสง่ เสริมปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงให้มีการปฏิบตั ิจรงิ 5. ปัญหาการจดั การคณุ ภาพชีวิตของราษฎรบนพื้นทส่ี งู ทเ่ี หมาะสม กล่าวได้ว่ากลุ่มตัวอย่างจากเขตพ้ืนที่ของ สสว.9 ให้ความสาคัญกับประเด็นปัญหาการพัฒนา ราษฎรบนพื้นที่สูง 5 ลาดับแรก คือ ปัญหาการสนับสนุนงานศิลปหัตถกรรมพ้ืนบ้านให้มีคุณค่าปัญหา การส่งเสริมวัฒนธรรมชุมชนให้เข้มแข็งอย่างย่ังยืนรวมถึงความหมายและมีความสาคัญ การส่งเสรมิ หลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้มีการปฏิบัติจริงและประเด็นปัญหาด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิตราษฎร บนพน้ื ท่ีสูงทีเ่ หมาะสม

188 การวจิ ัยการศกึ ษาเปรียบเทยี บการพัฒนาบนพนื้ ท่สี งู ในอดตี และปัจจุบัน ตาราง 4.16 ค่าเฉล่ยี สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับของความคิดเห็นเกยี่ วกับประเดน็ ความ ตอ้ งการของชุมชน (n=180) ลาดับ ความตอ้ งการของชุมชน ระดับความคิดเห็น  S.D. การแปลผล 1. ราษฎรบนพน้ื ทส่ี ูงยงั มีความต้องการคณุ ภาพชวี ิตท่ีดีขน้ึ 4.07 .81 มาก 2. ชุมชนบนพืน้ ทส่ี ูงควรไดร้ ับการพัฒนาให้เปน็ สังคมคุณภาพ 4.01 .83 มาก 3. ความเป็นชุมชนชาตพิ นั ธุค์ วรไดร้ ับการสง่ เสริมพฒั นาอยา่ ง 3.85 .78 มาก มีอตั ลักษณ์ 3.97 .81 มาก ราษฎรบนพนื้ ทส่ี งู มีความต้องการในการมสี ่วนรว่ มพฒั นา 3.94 .86 มาก 4. ชุมชนให้เขม้ แข็ง 3.92 .84 มาก 3.88 .82 มาก 5. ราษฎรบนพ้ืนที่สูงมีความต้องการไดร้ บั การดแู ลดา้ นระบบ 3.88 .86 มาก สุขภาพ 4.00 .80 มาก เยาวชนของราษฎรบนพน้ื ท่ีสูงควรได้รับการศกึ ษาท่ี 4.01 .77 มาก 6. เพยี งพออย่างมีคุณภาพ 4.13 .85 มาก 4.05 .88 มาก 7. ผ้สู ูงวัยในชมุ ชนควรได้รบั การเสรมิ หนนุ ดา้ นการถา่ ยทอด 3.98 .81 มาก ภูมปิ ัญญาพนื้ บา้ น ราษฎรบนพ้นื ที่สูงมีความต้องการสนบั สนนุ ด้าน 8. ประสทิ ธิภาพการประกอบอาชพี ภาคเกษตรกรรม 9 ชุมชนราษฎรบนพน้ื ทส่ี งู ควรมีการจดั การศนู ย์การเรียนรู้ ชาตพิ นั ธ์ุทมี่ ีคุณภาพ ราษฎรบนพ้ืนที่สงู ควรได้รับการสง่ เสรมิ ดูแล เร่อื ง สิทธิ 10. ความเปน็ พลเมืองมากขึ้น 11. วัฒนธรรมชมุ ชน ประเพณีที่ดีงามต้องการ การอนุรักษแ์ ละ ส่งเสริมอยา่ งยงั่ ยืน วิถีชีวติ ด้งั เดิมของราษฎรบนพ้ืนท่สี ูงควรได้รบั การสง่ เสริม 12. อย่างเหมาะสมมใิ ช่เป็นเพยี งสินคา้ การท่องเทีย่ ว คา่ เฉล่ยี ภาพรวม

การวจิ ัยการศึกษาเปรยี บเทยี บการพฒั นาบนพื้นที่สงู ในอดตี และปจั จุบัน 189 จากตาราง 4.16 พบวา่ คา่ เฉลยี่ สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับของความคดิ เห็นเก่ียวกับ ประเด็นความต้องการของชุมชนโดยรวมอยู่ในระดับมาก ( =3.98) เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า วัฒนธรรมชุมชน ประเพณีที่ดีงามต้องการ การอนุรักษ์และส่งเสริมอย่างย่ังยืนมีค่าเฉล่ียสูงที่สุด อยู่ในระดับมาก ( =4.13) รองลงมา คือ ราษฎรบนพ้ืนที่สูงยังมีความต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีข้ึน มีค่าเฉล่ีย อยู่ในระดับมาก ( =4.07) และข้อที่มีค่าเฉล่ียน้อยท่ีสุด คือ ความเป็นชุมชนชาติพันธ์ุควร ไดร้ บั การสง่ เสรมิ พัฒนาอยา่ งมอี ัตลกั ษณ์ มีค่าเฉลีย่ อยใู่ นระดบั มาก ( =3.85) สรุปได้ว่า ราษฎรบนพื้นที่สูง ในเขตพื้นท่ีของ สสว.9 ให้ความสาคัญกับประเด็นความ ตอ้ งการในการพฒั นา 5 ลาดบั แรก ดงั นี้ 1. การสง่ เสริมวัฒนธรรมประเพณี อันดีงามของชุมชน 2. การพฒั นาคณุ ภาพชีวิตของราษฎรบนพ้นื ทส่ี ูงให้ดีข้นึ 3. การส่งเสรมิ วถิ ชี วี ติ ด้ังเดมิ ของราษฎรบนพ้ืนทีส่ งู อย่างเหมาะสม 4. การได้รับการดแู ลเร่อื งสิทธิความเปน็ พลเมืองท่เี สมอภาคเป็นธรรม 5. มกี ารจัดการศนู ยก์ ารเรียนรชู้ าติพันธุอ์ ย่างมีคณุ ภาพ กล่าวได้ว่ากลุ่มตัวอย่างจากเขตพ้ืนท่ีของ สสว.9 ให้ความสาคัญกับประเด็นความต้องการ การพัฒนาราษฎรบนพ้ืนที่สูง 5 ลาดับแรกคือ ความต้องการส่งเสริมวัตนธรรมประเพณีอันดีงาม ของราษฎรบนพ้ืนที่ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรบนพ้ืนที่สูงให้ดีข้ึน การส่งเสริมวิถีชีวิตดั้งเดิม ให้มีความหมาย การได้รับสิทธ์ความเป็นพลเมืองไทยที่มีความเสมอภาคและเป็นธรรมตลอดจน ให้มกี ารจดั การศูนยก์ ารเรยี นร้ชู าตพิ นั ธท์ุ ่ีมคี ณุ ภาพ

190 การวจิ ยั การศกึ ษาเปรยี บเทียบการพัฒนาบนพื้นที่สูงในอดีตและปัจจุบัน ตาราง 4.17 คา่ เฉลีย่ สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน และระดับของความคิดเห็นเกยี่ วกบั แนวทางการ จดั การเชงิ นโยบาย (n=180) ลาดับ แนวทางการจดั การเชิงนโยบาย ระดบั ความคดิ เหน็  S.D. การแปลผล องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินหรือ อบต./เทศบาล ควรมี 4.00 .86 มาก 1. นโยบายใหก้ ารสนับสนนุ ความเป็นชมุ ชนบนพน้ื ที่สงู 2. ชุมชนควรมีคณะกรรมการจากทุกภาคส่วนร่วมกาหนด 3.91 .73 มาก นโยบายการพัฒนาราษฎรบนพ้นื ทีส่ ูง คนทุกช่วงวยั ในความเป็นราษฎรบนพนื้ ที่สูงควรได้รับการดแู ล 3.77 .88 มาก 3. เชงิ นโยบายดา้ นการศึกษาอบรมท่ีดี 4. รัฐควรให้การเสริมหนุนระบบการจัดการดูแลสุขภาพแบบ 3.78 .75 มาก คูข่ นานท้ังภมู ิปัญญาพน้ื บ้านและการสาธารณสุขสมัยใหม่ ทุกภาคส่วนควรได้มีแนวทางเชิงนโยบายกาหนดระบบ 3.96 .78 มาก 5. สวัสดกิ ารสังคมในชมุ ชนอยา่ งยงั่ ยนื 6. ชุมชนควรได้รับการสนบั สนุนด้านการมีลานวัฒนธรรม 3.91 .93 มาก คณุ ภาพหรือเวทีแห่งการแสดงศิลปะราษฎรบนพ้ืนท่สี ูง ควรมีระบบการจัดการเชงิ นโยบายสร้างสรรคป์ อ้ งกันไม่ให้ 3.89 .90 มาก 7. ราษฎรบนพน้ื ท่ีสูงเข้าไปมีสว่ นเก่ียวข้องกับยาเสพติด 8. รัฐควรใหก้ ารเสริมหนุนดา้ นนโยบายการสรา้ งเสริมศักยภาพ 4.13 .80 มาก ชมุ ชนบนพ้ืนทีส่ งู ให้เข้มแข็ง รฐั ควรสรา้ งนโยบายใหโ้ อกาสกล่มุ ชาติพนั ธ์ุได้เข้าไปมบี ทบาท 3.90 .90 มาก 9. การพฒั นาประเทศทุกระดบั 10. ควรมีผแู้ ทนราษฎรบนพน้ื ทส่ี ูงควรได้มีโอกาสเป็นตวั แทนกลุม่ 4.05 .80 มาก ชาติพนั ธุใ์ นการมบี ทบาทด้านวฒั นธรรมระดับชาติ ค่าเฉลี่ยภาพรวม 3.93 .93 มาก จากตาราง 4.17 พบว่าค่าเฉล่ีย ส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน และระดับของความคิดเห็นเก่ียวกับ แนวทางการจัดการเชงิ นโยบายโดยรวม อยใู่ นระดับมาก ( =3.93) เมื่อพิจารณารายขอ้ พบว่า รัฐควรให้การ เสริมหนุนด้านนโยบายการสร้างเสรมิ ศักยภาพชมุ ชนบนพื้นทีส่ ูงให้เขม้ แขง็ มคี ่าเฉล่ยี สูงที่สุด อยใู่ นระดับมาก ( = 4.13) รองลงมา คือ ผู้แทนราษฎรบนพื้นที่สูงควรได้มีโอกาสเป็นตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ในการมีบทบาท ด้านวัฒนธรรมระดับชาติ มีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมาก ( =4.05) และข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยท่ีสุด คือ คนทุกช่วงวัย ในความเป็นราษฎรบนพื้นท่ีสูงควรได้รับการดูแลเชิงนโยบายด้านการศึกษาอบรมท่ีดี มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =3.77)

การวิจยั การศกึ ษาเปรียบเทยี บการพัฒนาบนพน้ื ท่ีสงู ในอดตี และปัจจบุ นั 191 สรุปได้ว่า ราษฎรบนพ้ืนท่ีสูง ในเขตพ้ืนที่ของ สสว.9 ให้ความสาคัญกับประเด็นการจัดการ เชงิ นโยบาย เพ่อื การพัฒนาราษฎรบนพ้นื ทส่ี งู 5 ประการ คอื 1. การส่งเสริมศกั ยภาพ ชมุ ชน ให้เขม้ แขง็ พง่ึ พาตนเองได้ 2. การมผี ูแ้ ทนราษฎรบนพ้นื ทสี่ งู เปน็ ตวั แทนด้านวฒั นธรรมระดับชาติ 3. อปท.สนบั สนนุ ความเปน็ ชาติพันธุข์ องราษฎรบนพืน้ ทสี่ ูงใหเ้ ปน็ รปู ธรรมและต่อเน่ือง 4. การให้ควรมีนโยบายการให้สวสั ดิการสังคมในชุมชนอย่างเป็นระบบครบวงจร 5. ใหม้ ีลานวฒั นธรรมทมี่ คี ณุ ภาพ เป็นเวทีการนาเสนอศลิ ปะการแสดงชนเผา่ กล่าวได้ว่าหน่วยงานภาครัฐท่ีเกี่ยวข้องควรได้มีแนวทางการจัดการเชิงนโยบายเพื่อการ บริหารการพัฒนาราษฎรบนพ้ืนที่สูง ทั้งในด้านการส่งเสริมศักยภาพชุมชนบนพ้ืนที่สูงให้เข้มแข็งพึ่งพา ตนเองได้มีนโยบายให้ชนเผ่าเข้าไปเป็นตัวแทน ด้านวัฒนธรรมในระดับชาติ นโยบายให้ อปท.สนับสนุน กิจกรรมการเป็นชาติพันธุ์ของทุกชนเผ่า มีนโยบายการจัดการสวัสดิการสังคมในชุมชนอย่างเป็นระบบ ครบวงจรมลี านวฒั นธรรมเพอ่ื การแสดงเผยแพรแ่ ละถ่ายทอดประเพณอี นั ดีงาม

192 การวิจยั การศกึ ษาเปรียบเทยี บการพัฒนาบนพ้ืนท่สี ูงในอดตี และปัจจบุ ัน กลุ่มตัวอย่างในพ้นื ทค่ี วามรับผิดชอบของสานักงานส่งเสริมและสนับสนนุ วิชาการ 10 (สสว.10) ตาราง 4.18 คา่ เฉล่ยี สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานและระดับของความคิดเหน็ ตอ่ การพัฒนาราษฎรบนพืน้ ทสี่ งู ในอดตี และปัจจบุ นั (n=480) ระดบั ความคดิ เหน็ การพฒั นาราษฎรบนพ้นื ทสี่ ูงในอดีตและปัจจุบนั  S.D. การแปลผล 1. สภาพปัญหาของราษฎรบนพนื้ ที่สงู ที่มีอยู่ 3.87 .51 มาก 2. ประเด็นความต้องการของชมุ ชนเพ่ือการพฒั นา 4.38 .59 มาก 3. ประเด็นแนวทางการจัดการเชิงนโยบายเพ่ือการ 4.31 .64 มาก บรหิ ารการพฒั นา 4.18 .87 มาก คา่ เฉลย่ี ภาพรวม จากตาราง 4.18 พบว่าค่าเฉล่ีย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน และระดับของความคิดเห็นเก่ียวกับ การพัฒนาราษฎรบนพ้ืนท่ีสูงในอดีตและปัจจุบัน โดยรวม อยู่ในระดับมาก ( =4.18) เม่ือพิจารณา ในแต่ละด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉล่ียสูงสุด คือ ประเด็นความต้องการของชุมชน อยู่ในระดับมาก ( =4.38) รองมา คือ ประเด็นแนวทางการจัดการเชิงนโยบายอยู่ในระดับมาก ( =4.31) และด้านท่ีมี ค่าเฉลย่ี นอ้ ยทสี่ ดุ คือ ประเดน็ สภาพปัญหาของราษฎรบนพ้นื ทสี่ งู อยู่ในระดับมาก ( =3.87) สรุปได้ว่า ราษฎรบนพ้ืนท่ีสูง ในเขตพื้นท่ี สสว.10 ให้ความสาคัญ ประเด็นความต้องการ ของชุมชนเพื่อการพัฒนาและประเด็นการจัดการเชิงนโยบายการพัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงที่ชัดเจน และประเด็นสภาพปัญหาของราษฎรบนพ้นื ท่ีสงู

การวจิ ัยการศกึ ษาเปรียบเทยี บการพัฒนาบนพนื้ ที่สงู ในอดตี และปัจจุบัน 193 ตาราง 4.19 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน และระดับของความคิดเห็นเก่ียวกับสภาพปัญหา ของราษฎรบนพื้นที่สงู (n=480) ลาดับ สภาพปญั หาของราษฎรบนพน้ื ท่สี งู ระดบั ความคิดเห็น  S.D. การแปลผล 1. ราษฎรบนพน้ื ที่สงู ยังมปี ญั หาดา้ นคุณภาพชวี ติ ทเี่ หมาะสม 3.93 1.10 มาก 2. สภาพปัญหาดา้ นสุขภาพยังขาดระบบการดแู ลท่ีดี 3.47 1.23 มาก 3. ราษฎรบนพ้ืนท่สี ูงยังขาดระบบสวสั ดิการสังคมในชุมชน 3.53 1.23 มาก 4. ผู้สูงวัยในชมุ ชนยังขาดการดแู ลดา้ นสุขภาพจิตใจทด่ี ี 3.32 1.30 ปานกลาง 5. การประกอบอาชพี เกษตรกรรมของชุมชนยังคงทาแบบดัง้ เดิม 3.55 1.02 มาก 6. ราษฎรบนพน้ื ที่สงู ควรได้รบั สิทธใิ นความเปน็ มนุษย์อยา่ งเสมอ 4.02 1.04 มาก ภาค 7. กระบวนการมสี ่วนร่วมจากประชาชนในการพฒั นาชุมชนมีน้อย 3.27 1.28 มาก 8. วฒั นธรรมชุมชนของความเป็นราษฎรบนพ้ืนทีส่ ูงควรไดร้ บั การ 4.37 .83 มาก ส่งเสรมิ ให้มากข้ึน 9. ทกุ ภาคส่วนควรใหก้ ารเสริมหนุนดา้ นศิลปหตั ถกรรมในชุมชน 4.25 .90 มาก 10. ทัศนคติของชาวไทยพน้ื ราบต่อชาวไทยราษฎรบนพ้ืนที่สงู ท่ี 4.13 .86 มาก เหมาะสม 11. ปจั จุบันราษฎรบนพน้ื ทีส่ ูงประกอบอาชีพผิดกฎหมายน้อยมาก 3.97 1.15 มาก 12. ปจั จบุ นั ราษฎรบนพื้นท่สี ูงไม่มีพฤติกรรมการทาลาย 3.96 1.07 มาก ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม 13. ราษฎรบนพืน้ ที่สงู มสี ่วนเกย่ี วขอ้ งกบั ยาเสพติดน้อยมาก 3.75 1.18 มาก 14 ภูมปิ ญั ญาพ้ืนบ้านของราษฎรบนพ้นื ท่ีสงู ควรได้รบั การส่งเสรมิ 4.32 .87 มาก ใหม้ ากข้นึ 15. ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมีความเหมาะสมกับวิถชี ีวิตราษฎร 4.19 .88 มาก บนพืน้ ท่สี งู คา่ เฉล่ียภาพรวม 3.87 1.15 มาก

194 การวิจยั การศกึ ษาเปรยี บเทียบการพัฒนาบนพื้นทส่ี งู ในอดีตและปัจจบุ นั จากตาราง 4.19 พบว่าค่าเฉล่ีย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน และระดับของความคิดเห็น เกี่ยวกับสภาพปัญหาของราษฎรบนพ้ืนท่ีสูง โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( =3.87) เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า วฒั นธรรมชุมชนของความเปน็ ราษฎรบนพ้ืนทีส่ ูงควรได้รับการส่งเสรมิ ให้มากขึ้น มคี ่าเฉลี่ยสูงทีส่ ุด อยู่ในระดับมาก ( =4.37) รองลงมา คือ ภูมิปัญญาพ้ืนบ้านของราษฎรบนพน้ื ท่ีสงู ควรได้รับการส่งเสริม ให้มากขึ้น มีค่าเฉล่ีย อยู่ในระดับมาก ( =4.32) และข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยท่ีสุดผู้สูงวัยในชุมชนยังขาด การดแู ลดา้ นสขุ ภาพจติ ใจท่ีดี มีคา่ เฉลยี่ อยู่ในระดับปานกลาง ( =3.32) สรุปได้ว่า ราษฎรบนพ้ืนท่ีสูง ในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบ สสว.10 ให้ความสาคัญกับ ประเดน็ ปญั หาการพฒั นาราษฎรบนพ้ืนทีส่ ูง 5 ลาดับแรกคือ 1. ปัญหาการส่งเสริมวฒั นธรรมชุมชนใหเ้ ขม้ แขง็ และมีคุณคา่ 2. ปัญหาการสง่ เสริมภูมปิ ัญญาชาวบ้านใหม้ คี วามหมายและทกุ คนเหน็ ความสาคัญ 3. ปัญหาการสง่ เสรมิ ศิลปหัตถกรรมพนื้ บา้ นให้มีมลู ค่าและมีคณุ คา่ 4. ปัญหาการส่งเสริมปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงทปี่ ฏิบตั ิจริงอย่างเปน็ รปู ธรรม 5. ปญั หาทศั นคติของชาวไทยพ้ืนราบตอ่ ชาวไทยราษฎรบนพนื้ ทีส่ ูงทเ่ี หมาะสม กล่าวได้ว่ากลุ่มตัวอย่างให้ความสาคัญกับการพัฒนา 5 ประเด็นแรกเก่ียวกับการส่งเสริม วัฒนธรรมชุมชนให้เข้มแข็งและมีคุณค่าและส่งเสริมภูมิปัญหาชาวบ้าน ให้มีความหมายและทุกคน เห็นความสาคญั ต้องการการส่งเสริมให้ศิลปหัตถกรรมพ้ืนบ้านให้มมี ูลคา่ และมีคุณค่า รวมท้ังการส่งเสริม ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงปฏิบัติจริงอย่างเป็นรูปธรรม และปรับทัศนคติชาวไทยพ้ืนราบต่อชาวไทย ราษฎรบนพน้ื ท่ีสงู

การวิจยั การศกึ ษาเปรยี บเทยี บการพัฒนาบนพื้นทส่ี ูงในอดีตและปจั จบุ ัน 195 ตาราง 4.20 ค่าเฉลีย่ สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับของความคิดเห็นเก่ียวกบั ประเด็นความ ต้องการของชมุ ชน (n=480) ลาดบั ความต้องการของชุมชน ระดับความคดิ เหน็  S.D. การแปลผล 1. ราษฎรบนพ้นื ที่สงู ยงั มคี วามต้องการคุณภาพชวี ติ ท่ีดขี น้ึ 4.45 .80 มาก 2. ชมุ ชนบนพืน้ ที่สงู ควรได้รบั การพัฒนาใหเ้ ป็นสงั คมคุณภาพ 4.37 .74 มาก 3. ความเป็นชุมชนชาติพนั ธุค์ วรไดร้ บั การสง่ เสริมพัฒนาอยา่ งมี 4.33 .78 มาก อัตลักษณ์ 4. ราษฎรบนพนื้ ที่สูงมีความต้องการในการมสี ่วนร่วมพัฒนา 4.40 .76 มาก ชมุ ชนใหเ้ ขม้ แข็ง 5. ราษฎรบนพ้ืนที่สูงมีความต้องการได้รบั การดแู ลด้านระบบ 4.34 .80 มาก สขุ ภาพ 6. เยาวชนของราษฎรบนพืน้ ท่ีสูงควรได้รบั การศึกษาทีเ่ พียงพอ 4.39 .82 มาก อยา่ งมีคุณภาพ 7. ผ้สู งู วยั ในชุมชนควรได้รบั การเสรมิ หนุนด้านการถ่ายทอดภูมิ 4.32 .80 มาก ปญั ญาพ้นื บา้ น 8. ราษฎรบนพ้ืนท่สี ูงมีความต้องการสนบั สนุนประสิทธภิ าพการ 4.34 .77 มาก ประกอบอาชีพภาคเกษตรกรรม 9 ชมุ ชนราษฎรบนพืน้ ที่สูงควรมีการจัดการศนู ยก์ ารเรียนรูช้ าติ 4.34 .82 มาก พันธุท์ ี่มคี ุณภาพ 10. ประชาชนชาตพิ นั ธุค์ วรได้รับการส่งเสริมดแู ล เร่อื ง สิทธคิ วาม 4.37 .76 มาก เป็นพลเมืองมากขึ้น 11. วฒั นธรรมชมุ ชน ประเพณีท่ีดีงามต้องการ การอนุรักษ์และ 4.48 .74 มาก สง่ เสรมิ อยา่ งยงั่ ยนื 12. วิถชี ีวติ ด้งั เดิมของราษฎรบนพื้นท่สี งู ควรได้รบั การสง่ เสรมิ อย่าง 4.38 .82 มาก เหมาะสมมใิ ชเ่ ป็นเพยี งสนิ ค้าการท่องเที่ยว ค่าเฉล่ียภาพรวม 4.38 .82 มาก

196 การวจิ ัยการศึกษาเปรียบเทยี บการพฒั นาบนพื้นทีส่ ูงในอดตี และปจั จุบนั จากตาราง 4.20 พบวา่ ค่าเฉล่ยี ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับของความคิดเห็นเกี่ยวกับ ประเด็นความต้องการของชุมชนโดยรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.38) เม่ือพิจารณารายข้อพบว่า วัฒนธรรมชุมชน ประเพณีท่ีดีงามต้องการ การอนุรักษ์และส่งเสริมอย่างย่ังยืน มีค่าเฉล่ียสูงท่ีสุด อยู่ในระดับมาก ( =4.48) รองลงมา ราษฎรบนพ้ืนท่ีสูงยังมีความต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีข้ึนมีค่าเฉล่ีย อยู่ในระดับมาก ( =4.45) และข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ผู้สูงวัยในชุมชนควรได้รับการเสริมหนุนด้าน การถ่ายทอดภูมปิ ญั ญาพ้ืนบา้ น มคี า่ เฉลี่ย อยู่ในระดับมาก ( =4.32) สรุปได้ว่า ราษฎรบนพื้นท่ีสูง ในเขตพื้นท่ีของ สสว.10 ให้ความสาคัญกับประเด็น ความต้องการการพัฒนา 5 ลาดบั แรกคอื 1. การสง่ เสรมิ วัฒนธรรมชุมชนอยา่ งยั่งยืนและมีความหมายมคี วามสาคญั 2. การสง่ เสริมคณุ ภาพชวี ติ ท่ดี ีให้กบั คนทกุ ช่วงวยั 3. การมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนใหเ้ ข้มแขง็ 4. การมีไดร้ บั การศกึ ษาท่เี พียงพอของเยาวชน 5. การส่งเสรมิ วิถีชีวติ ดัง้ เดมิ ของราษฎรบนพ้นื ท่ีสงู อย่างเหมาะสมและมีความหมาย กล่าวได้ว่ากลุ่มตัวอย่างให้ความสาคัญกับการพัฒนา 5 ประเด็นแรกเกี่ยวกับการส่งเสริม วัฒนธรรมชุมชนอย่างยั่งยืนและมีความหมาย การส่งเสริมให้เกิดคุณภาพชีวิตท่ีดีให้กับคนชนเผ่าทุกช่วงวัย การมีส่วนร่วมเพ่ือการพัฒนาชุมชนของตนเองอย่างแท้จริง รวมถึงต่อการสนับสนุนให้ บุตร หลาน ได้รับการศึกษาที่ดี มีงานทา และต้องการส่งเสริมวิถีชีวิตด้ังเดิมให้กลับคืนมา มีเสน่ห์และเป็นวิถีชีวิต เรยี บงา่ ยดีงาม

การวจิ ัยการศกึ ษาเปรียบเทียบการพฒั นาบนพนื้ ท่ีสงู ในอดีตและปัจจบุ ัน 197 ตาราง 4.21 ค่าเฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดบั ของความคิดเห็นเก่ยี วกบั แนวทางการ จัดการเชิงนโยบาย (n=480) ลาดบั แนวทางการจัดการเชิงนโยบาย ระดับความคดิ เห็น  S.D. การแปลผล 1. องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่นหรือ อบต./เทศบาล ควรมีนโยบายให้ 4.41 .84 มาก การสนบั สนุนความเป็นชุมชนชาตพิ ันธ์ุ 2. ชุม ช น ค ว รมี ค ณ ะกรรม ก ารร่ว ม จ าก ทุ กภ าค ส่ ว น ร่วม ก าห น ด 4.25 .79 มาก นโยบายการพฒั นาราษฎรบนพ้นื ท่สี ูง 3. คนทุกช่วงวัยในความเป็นราษฎรบนพ้ืนที่สูงควรไดร้ ับการดูแลเชิง 4.30 .81 มาก นโยบายดา้ นการศึกษาอบรมท่ีดี 4. รฐั ควรให้การเสริมหนุนระบบการจดั การดแู ลสุขภาพแบบคู่ขนาน 4.36 .80 มาก ท้ังภมู ิปญั ญาพืน้ บ้านและการสาธารณสุขสมยั ใหม่ 5. ทุกภาคส่วนควรได้มีแนวทางเชิงนโยบายกาหนดระบบสวัสดิการ 4.33 .86 มาก สงั คมในชมุ ชนอยา่ งย่งั ยืน 6. ชุมชนควรไดร้ บั การสนับสนนุ ด้านการมลี านวัฒนธรรมคุณภาพ 4.18 .87 มาก หรือเวทีแห่งการแสดงศิลปะราษฎรบนพ้นื ทส่ี ูง 7. ควรมรี ะบบการจัดการเชงิ นโยบายสร้างสรรคป์ อ้ งกันไม่ให้ราษฎร 4.31 .90 มาก บนพ้ืนท่สี งู เข้าไปมสี ว่ นเกี่ยวข้องกับยาเสพตดิ 8. รัฐควรใหก้ ารเสริมหนนุ ดา้ นนโยบายการสร้างเสริมศกั ยภาพ 4.31 .85 มาก ชุมชนชาตพิ นั ธใุ์ หเ้ ขม้ แข็ง 9. รฐั ควรสร้างนโยบายให้โอกาสกลุ่มชาตพิ ันธไ์ุ ด้เขา้ ไปมบี ทบาทการ 4.31 .78 มาก พัฒนาประเทศทุกระดบั 10. ควรมีผแู้ ทนราษฎรบนพ้ืนท่ีสูงควรไดม้ โี อกาสเปน็ ตัวแทนกลมุ่ ชาติ 4.32 .82 มาก พันธ์ุในการมบี ทบาทดา้ นวัฒนธรรมระดบั ชาติ ค่าเฉลีย่ ภาพรวม 4.31 .78 มาก จากตาราง 4.21 พบวา่ คา่ เฉลีย่ สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน และระดับของความคดิ เห็นเก่ียวกับ แนวทางการจัดการเชิงนโยบายโดยรวม อยู่ในระดับมาก ( =4.31) เม่ือพิจารณารายข้อพบว่า องค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ินหรือ อบต./เทศบาล ควรมีนโยบายให้การสนับสนุนความเป็นชุมชนชาติพันธ์ุ มีค่าเฉล่ียสูงท่ีสุด อยู่ในระดับมาก ( =4.41) รองลงมา คือ รัฐควรให้การเสริมหนุนระบบการจัดการ

198 การวิจยั การศกึ ษาเปรยี บเทียบการพัฒนาบนพืน้ ทีส่ งู ในอดตี และปัจจุบนั ดูแลสุขภาพแบบคู่ขนานทั้งภูมิปัญญาพื้นบ้านและการสาธารณสุขสมัยใหม่ มีค่าเฉลี่ย ยู่ในระดับมาก ( =4.36) และข้อท่ีมีค่าเฉลี่ยน้อยท่ีสุด คือ ชุมชนควรมีคณะกรรมการจากทุกภาคส่วนร่วมกาหนด นโยบายการพฒั นาราษฎรบนพ้ืนที่สูง มีค่าเฉล่ยี อยูใ่ นระดบั มาก ( = 4.25) สรุปได้ว่า ราษฎรบนพ้ืนที่สูง ในเขตพื้นที่ของสสว.10 ให้ความสาคัญกับประเด็นการจัดการ เชงิ นโยบาย 5 ลาดับแรกคอื 1. อปท.ควรให้ความสาคญั กับชาติพันธ์รุ าษฎรบนพื้นทสี่ งู อย่างจรงิ จงั เปน็ รปู ธรรม 2. การสนับสนุนส่งเสริมระบบการดูแลสุขภาพแบบคู่ขนานท้ังภูมิปัญญาพ้ืนบ้านและการ สาธารณสขุ สมยั ใหม่ 3. การสง่ เสริมระบบสวสั ดิการสังคมในชุมชนใหอ้ ย่างยง่ั ยืน 4. ควรมผี แู้ ทนราษฎรบนพน้ื ท่สี ูงเปน็ ตวั แทนดา้ นวฒั นธรรมระดับชาติ 5. ให้กลุ่มชาติพันธ์ุเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา และส่งเสริมให้ชุมชนมีศักยภาพเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้รวมท้ังมีนโยบายสร้างสรรค์ป้องกัน ราษฎรบนพื้นที่สูงไม่ให้เกี่ยวข้อง กบั ยาเสพติดทกุ รปู แบบ กล่าวได้ว่าควรให้มีการจัดการเชิงนโยบายจากหน่วยงานดารพัฒนาสังคมบนพื้นท่ีสูงที่ชัดเจน ต่อเนื่องและเป็นรูปธรรมโดย อปท.เห็นความสาคัญของราษฎรบนพ้ืนท่ีสูงอย่างแท้จริง มีการส่งเสริม สวัสดิการสังคมแบบครบวงจรกับคนทุกช่วงวัย มีตัวแทนชนเผ่าระดับชาติด้านวัฒนธรรม มีส่วนร่วม การพฒั นาประเทศทกุ ระดับและมีนโยบายไมใ่ ห้ชนเผ่าเกี่ยวข้องกับยาเสพตดิ

การวิจัยการศกึ ษาเปรยี บเทยี บการพัฒนาบนพ้นื ที่สงู ในอดตี และปัจจบุ ัน 199 สรปุ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปรมิ าณ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณจากแบบสอบถามให้กลุ่มตัวอย่างใน 16 จังหวัด 32 ชุมชน รวม 960 ชดุ สแรลปุ ะผไดล้ดกาาเรนวนิ ิเคกราารวะิเหคข์ รอ้าะมหูลข์เชอ้ ิงมปูลริมในาณ4 ประเดน็ คอื รโวดมยท9แ่ี6ต0่ลชะดุป32ก1ร3421แ...าะ....ลรบเกปปกปปดะวทารรา็นรรไิเรวะะดรคะะมจิเเเจคด้เเรดดีขดัดดรดัาาน็น็้อกา็น็นกะเะคปสนาคปหาหรรวญันิรวญั์ข์คเุปาเกชาหว้อมชหผมางิาามงิตลมานรตกนู้อลกกควโ้อาโงยิเาาเิดงยรคชกรรบเกพหบรวิงพาาาาัฒปน็เิารัฒยรคะยกขรนกเรหนอเาพิมาาพางรข์า่ือาะรรก่อืพรอ้ณหพกาลกาฒัมษา์ขุ่มฒัษจาลูรตฎ้อนราฎนบวัมรบากใราอรบชนลูรแบชยหิ มุเนิหบุมนช่า4าชพางชบิงพรรนปปนื้จกนสืน้กรารรทารอทกาาะิมราสี่รแบษีส่เพาษบพูงดถฎงูณัฒทฎบ็นัฒทารจ่ียสรนมย่ีบนอคาบงั างัในกบามอืนหชมชแพถอี พุม้ีอกามุบยื้นชยมน้ืลชบู่ทในูุ่่มทนนส่ีสรตส่ีสรอูงาังูวว่าบษนษอถฎขยฎาอร่ามรงบงบคในทานนถพง้ั พาื้น19ม้ืน66ทปท0สี่ลจีส่ างูชังูงยหุดเปวิดัด(O3p2enชุมEnชdน) 41..บทปวริเคะรเาดะน็หป์ควัญามหคาดิ ขเหอ็นงกขอางรกพลฒัุ่มตนวั าอรยา่าษงฎจารกบแนบบพสื้นอทบีส่ถาูงมทในี่ยสงั คว่ นงขมอีองยคู่าถามปลายเปิด (Open End) โดยทแี่ ตล่ ะปรผะลเดกน็ ามรขีว้อิเคสรราุปะผหล์คก่าสรวถิเิตคิรแาตะ่หละ์ขร้อามยูลกเชาิงรปขรอิมงาคณาถจากมแทบ่ีมบี สูงอสบุดถาแมตท่ละั้งพ9้ืน60ท่ีชเดุม่ือนามาจัดกลุ่ม ข้อมูลเชิงสังเ1ค.ราปะรหะพ์ เดบน็ว่าปัญมีปหราะขเอดงน็ กปาัญรพหาฒั กนาารพราัฒษนฎารรบานษพฎร้นื บทน่สี พงู ้นืทท่ยี ัง่ีสคงู งม8อี ปยรู่ ะเด็น ดงั นี้ ผลการวิเคราะห์ค่าสถิติ แต่ละรายการข(1อ) งคาถามที่มี สูงสุด แต่ละพ้ืนที่ เมื่อนามาจัดกลุ่ม ขอ้ มลู เชิงสังเคราะหพ์ บว(่า8)มีประเด็นปัญหาการพดัฒานนกาารรสาง ษเสฎรมิ รบนพื้นที่สูง(28) ประเดน็ ดังนี้ ดานทัศนคติของคน วัฒนธรรม ดา นการอนุรักษ พนื้ ราบ ความเชือ (7) ปญหา (3) การนาํ หลัก ดา นภูมปิ ญ ญา เศรษฐกิจพอเพียงสู ชนเผา สิทธ(6คิ )วามเสมอภาค (5) (4) สิทธทิ ดี ินทาํ กิน ดา้ นการสง่ เสริม ดา นคณุ ภาพชวี ิต สทิ ธิความเสมอภาค ดศา ิลนปไมหม ัตกี ถารกสรงรเสมริม ชาวบา น 4.1ดศ:า้ ลิ ปนศปิลกรหปาะตัหรเสถัตด่งถก็นเกรสปรรรรมัญมิมหาการพัฒนาพืน้ ท่สี งู แผนภาพ มีจานวนท้ังสจิ้นาก8แปผรนะภกาาพรขค้าืองแตผป้นนัญภอหธาาพิบดา4้าย.น1ไดก:้วาป่ารรสปะ่งเรเดสะ็นรเดปิม็นัญวัปฒหัญานกหธารารรกพมาัฒกรนพาราัฒพแนตนื้ า่งทรก่ีสาางูษยฎวรัฒบนนพธร้ืนรทมี่สทูงาทง่ีสภาาคษัญา มแทภภแทรภภหลีจููี่มมมวลูู่ีรมมมะาปิมิีปคือะปิิีปคอนัถญอสัวญัญัวญาวึงาูญาญหาญญปนหมญหมาาัญทาาาหดราาหดรชั้งเห้ายชมเ้ฉามสนนฉไานนาพจ้ิาปนพกเดยกเผายาาผ้าาากระ่8ารจะ่นารวจชเแชเกะทกปมกะนทผษนทา้ัถษงทรเน้ังตเรผภาึงะตผภาภปรศ่าใูกมร่าใูมหาทฏิลกหิาทปกิพป้คป่ีมิาบร้ค่ีมัาญรัขญุณีคหัตรุณีคคป้าญปุณัติตญุณคืลองคลถาาค่ตูกาาคู่กามกป่า้ขพนด่าขพรหดัญอืช้ปารอืช้ปลาอผงนมหรผงนักรธสักะทสพักาะิบพเ่ิสงเศ่ิ่ีมดสงิเธดดาิวธดดวรี้คีาก็นยนีีกต็นนษีนตุณรไปค่ราปค่ฐดกรารคัญรงรัญกงม้วาัวม่าๆัวหิๆ่จารบดหบดปสพานั้งไาปน้ังไก่ดงัญเอพกดเพดรเา้ดรเาื้นหส้ระิรมื้พนับิรมัทบราเอทียอดกิดมวี่สนกวี่สงน็นิาถ้าวูงุริาถูงุรนรทัีปฒคักรกีคักกดสี่มัษวญดานษวาูิแทราีกู์คแราห์ธคใมลธาใวมชลรวาชิคเรมา้นเมราชก้นอวมชามม้า่ืาาอา้าบื่เอกแเกกรชมแทชรทลขพ่ืาอลขเ่ีมื่มอะึ้สี่นมรัะโ้ึฒนีโกคบมแีกคศบานปวอราตปวึกรราราาภร่งาไาษรไมณมระกามณมะาาห่ใคเาทห่ใเชดทษดชยใมด่ีดส่มูงน็ี่นดฎ่ส็านาีกาาวคีกาปรยนรับปยัฒรวับบเัตญจเคัปตญาคปนน่อามม่อรหมรหนพกธีะทเกีะทาปวราา้ืเนี่นาเกพี่น็นรนรกพทรับาัณมดบพมาณด่ีวสรวทาราลีอาันูถงีอันเถกาเเันทนล่าันมนล่งแางืมี่ิยนสืองภืมิยนตดเดทาชงเลทา่มชงลคไงีวอืษอาีีคทวอือาัญิตมนดิาตมนนยด หรอื สูญหายไป รวมถึงศิลปหัตถกรรมท่ีมีคุณค่า ปัญหาด้านสิทธิความเสมอภาคในความเป็นพลเมืองไทย รวมถึงปัญหาด้านการปฏิบัติตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ที่มีการอบรม ศึกษาดูงานจานวนมากแต่มีคน

200 การวิจยั การศึกษาเปรยี บเทียบการพัฒนาบนพืน้ ทส่ี งู ในอดตี และปัจจบุ ัน ปฏิบัติจริงค่อนข้างน้อย ปัญหาด้านทัศนคติของคนไทยพ้ืนราบหรือสื่อมวลชนในสังคมไทย อาจยังมี บางส่วนมองในด้านลบว่าเป็นผู้กระทาผิดกฎหมาย ทั้งที่จริงการกระทาความผิดไม่ได้เป็นปัญหาเกิดจาก พฤติกรรมชนเผ่าแต่เป็นการกระทาของบุคคลหรือบุคคลผู้กระทาความผิดเหล่านั้นกระทาตามลาพังตน ไม่ ควรนามาเกีย่ วข้องกับความเป็นชาตพิ ันธุ์ ท้ายสุดคือประเดน็ ปญั หาการพฒั นาคุณภาพชีวิตท่ีเหมาะสม 2. ประเดน็ ความตอ้ งการของการพัฒนาชมุ ชนราษฎรบนพน้ื ทสี่ งู ผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากสถิติค่าเฉล่ียความคิดของกลุ่มตัวอย่างยืนยันการให้ความสาคัญ กบั ประเดน็ ความตอ้ งการการพฒั นาราษฎรบนพน้ื ทีส่ ูง ในระดับมากใน 12 ประการ แรก ดังน้ี 1) ความต้องการให้มีการสง่ เสริมวัฒนธรรมและประเพณีอนั ดงี ามของชนเผ่า 2) การพัฒนาส่งเสริมคุณภาพชีวิตของความเป็นราษฎรบนพ้ืนท่ีสูง ในทุกๆด้าน คือ ดา้ นสุขภาพ ด้านสวสั ดิการสังคมและดา้ นการเข้าถึงบรกิ ารของรัฐ อ่นื ๆ 3) การสร้างสวัสดิการสังคมสาหรับดูแลผู้สูงวัยอย่างครบวงจร ท้ังด้านการเห็นคุณ ค่า ภูมปิ ญั ญาและการให้ความสาคญั กบั ประสบการณ์ชวี ิตท่ีเปน็ แบบอย่างแก่ลูกหลาน 4) การสง่ เสริมการใช้ชวี ติ สมถะ เรียบงา่ ยมคี วามสขุ แบบดงั้ เดมิ ใหค้ งอยู่ ไมต่ อ้ งดิ้นรน แขง่ ขนั และใช้เงนิ เปน็ ปัจจยั สาคัญในการดาเนินชีวิต 5) มีการจัดการเรื่องท่ีดิน ทากิน และที่อยู่อาศัยท่ีชัดเจน ไม่วิตกกังวลด้านการยึดคืนพ้ืนที่ หรือต้องอพยพโยกยา้ ยไปทอี่ ืน่ ใหเ้ กดิ ความมน่ั คงในชวี ติ มีความมนั่ ใจในการทามาหากิน 6) การส่งเสริมและพัฒนาระบบการจัดการน้าให้มีความเพียงพอ ทั้งในเชิงปริมาณน้า เพ่อื การอุปโภค บริโภค และน้าสาหรับการเกษตรในทุกฤดูกาล โดยไมต่ ้องมีชีวติ ตามปริมาณน้าธรรมชาติ แต่ละฤดกู าลในแตล่ ะที่ 7) ความต้องการการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนราษฎรบนพื้นท่ีสูง เพื่อให้ตรงความต้องการ ของชมุ ชนตอบสนองความจาเปน็ ของความเปน็ ราษฎรบนพ้ืนทส่ี งู และสง่ เสริมคณุ ภาพชวี ติ ทีเ่ หมาะสม 8) ความต้องการสนับสนุนกองทุนการศึกษาของ บุตร – หลาน ในชุมชน เพ่ือเป็นค่าใช้จ่าย ในกิจกรรมการศึกษา ทุกอย่าง เช่น ค่าเส้ือผ้า ชุดแต่งกายไปโรงเรียน ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าหอพัก และใชจ้ ่าย ในชวี ิตประจาวนั รวมถึงค่าทากิจกรรมตา่ งๆ ในชนั้ เรยี น หรือในสถานศกึ ษาของ บตุ ร – หลาน 9) การสนับสนุนกจิ กรรมถ่ายทอดภูมิปัญญา ของชุมชนการเรยี นรู้วถิ ีความเชอื่ และพธิ ีกรรมตา่ งๆ ของชุมชน ชนเผ่า ซึ่งปฏิบัติกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ส่งเสริมอัตลักษณ์ชาติพันธุ์และส่งเสริมความรัก ความสามัคคใี นชุมชน 10) การส่งเสริมการประกอบอาชีพการเกษตรและศิลปะ หัตถกรรม ให้มีประสิทธิภาพ ครบวงจรตั้งแต่การผลิต การตลาดและการส่งเสริมการขายให้สินค้ามีคุณภาพให้ได้ราคาขายที่ดี มีรายได้ ไมข่ าดทุน ไม่เป็นหนี้ จากการประกอบอาชพี 11) การส่งเสริมสิทธิความเป็นพลเมืองไทย ที่ได้รับสิทธิ์การเข้าถึงบริการ ได้รับความเสมอ ภาคในการทางานการสอบบรรจุในตาแหน่งงานต่างๆ ที่ยอมรับ ในด้านความรู้ ความสามารถไม่กีดกัน ความเปน็ ชนเผา่ อยรู่ ่วมกนั ทางานรว่ มกันได้ระหว่างคนในพ้นื ราบและราษฎรไทยพน้ื ทส่ี ูง

การวจิ ัยการศกึ ษาเปรียบเทยี บการพัฒนาบนพน้ื ท่สี งู ในอดตี และปจั จบุ ัน 201 12) การส่งเสริมสนับสนุนให้มีการเรียนรู้ วัฒนธรรมชุมชน ศูนย์ถ่ายทอดประเพณีอันดีงาม และเป็นศูนยแ์ สดงสินค้า ศิลปะหัตถกรรมชนเผ่าที่สวยงาม สร้างการรับรู้และเห็นคณุ ค่าของสิ่งดีดีทมี่ ีอยู่ในสังคม บนพนื้ ท่ีสูง กล่าวได้ว่า ประเด็นความต้องการการพัฒนาราษฎรบนพื้นท่ีสูง 12 ลาดับแรก ตามท่ี กลา่ วมาข้างต้น จะเป็นแนวทางการบริหารการพัฒนาที่ทาให้ ศพพ. มจี ุดยนื การทางานมีจุดยนื การพัฒนา และมีแ น วท างการจัดการ เชิงน โยบ ายการจัดการเพ่ื อการพัฒ น าราษ ฎ รบ นพื้ น ที่สูงอย่างเหม าะส ม ตามแผนภาพ แผนภาพ 4.2 : ประเดน็ ความต้องการการพฒั นาราษฎรบนพืน้ ทสี่ ูง

202 การวจิ ัยการศกึ ษาเปรียบเทียบการพฒั นาบนพ้ืนทส่ี ูงในอดตี และปัจจุบัน 4.2 การวเิ คราะหข์ อ้ มลู เชิงคณุ ภาพ หลังจากที่ได้รับข้อมูลจากการศึกษาชุมชน การสัมภาษณ์และการสนทนากลุ่มเวทีวิพากษ์ และการคืนข้อมูลสู่ชุมชนแล้ว ผู้วิจัยได้นาข้อมูลท้ังหมดไปวิเคราะห์ สังเคราะห์ เพื่อให้ได้บทสรุป องค์ความรเู้ พ่อื การพฒั นาชุมชนบนพื้นทีส่ ูง สรุปดงั น้ี 4.2.1 ผลการศึกษาชมุ ชน ผลการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลจากชุมชนในแนวทางของ Community Study ในมิติ ของการศึกษา ภูมิสังคมที่มีอยู่ ตลอดจนวิถีชีวิตดั้งเดิม วิถีชีวิตร่วมสมัยและการปรับตัวต่อสถานการณ์ ทางสังคมในชุมชนปัจจุบัน กล่าวได้เบื้องต้นว่า กรมประชาสงเคราะห์ ในอดีตมีแนวทางเชิงนโยบาย และกาหนดวิธีการพัฒนาชาวเขาท่ีชัดเจนทั้งในลักษณะของรูปแบ บการพัฒนาและเน้ือหาสาระ การส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชุมชนบนพ้ืนที่สูงในปัจจุบันล้วนมีพ้ืนฐานจากการส่งเสริมและสนับสนุน การเปล่ียนแปลงของกรมประชาสงเคราะห์อย่างแท้จริง ความทรงจา ส่วนความประทับใจ และคาขอบคุณ จากราษฎรบนพื้นที่สูงทุกชนเผ่า ทุกพื้นที่ ใน 16 จังหวัด ล้วนช่ืนชมและศรัทธาหน่วยพัฒนาและ สงเคราะห์ชาวเขาเคลื่อนที่ (Mobileunit) อย่างจริงใจ ซึ่งในปัจจุบันคืองานในพันธกิจของกรมพัฒนา สงั คมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่นั คงของมนษุ ย์น้นั เองจากการศกึ ษาชุมชนทั้ง 32 ชุมชน สามารถสรปุ ผลของการศึกษาชุมชนได้ ดงั น้ี 1) คุณลักษณะชุมชนบนพื้นท่ีสูง ยังคงความเป็นอยู่แบบดั่งเดิม ทุกชุมชน มีประวัติศาสตร์มีความเป็นมา และปูมหลังของการต้ังรกรากถิ่นฐานในชุมชนนั้นๆ อย่างชัดเจน และ ราษฎรบนพ้ืนท่ีสูงต่างก็ดารงชีวิตอย่างเรียบง่ายบนพ้ืนฐานของประเพณีและวัฒนธรรมและการใช้ทรัพยากร มนุษย์บนพ้ืนท่ีสูง แต่จากภาวการณ์เพ่ิมขึ้นของประชากร การรับกระแสของการเปล่ียนแปลงทาให้ชุมชน บนพื้นที่สูง ปรับเปล่ียนวิถีจากการยังชีพสู่การผลิตเพ่ือรายได้ ส่งผลตอ่ ความสมดุลของทรัพยากรธรรมชาติและ ระบบนิเวศบนพ้ืนท่ีสูง กระแสของการพฒั นาทาให้ - ชุมชนมีสาธารณปู โภค ไฟฟา้ ประปา และบริการทางสังคมของรฐั เข้าไปในหมู่บ้าน - มอี ปุ กรณ์เคร่อื งใช้ไฟฟ้า ตู้เย็น ทวี ี และโทรศัพท์ ทนั สมยั ไมแ่ ตกต่างจากคนพืน้ ราบ - มีชุดพฤติกรรมการดาเนินชีวิตรูปแบบใหม่ ไม่เหมือนชนเผ่าด่ังเดิม มีการแต่งกาย เหมือนคนพ้ืนราบ ใช้ภาษาการสื่อสารแบบคนพื้นราบ ทานอาหารแบบคนพื้นราบ มีกิจกรรมบันเทิง และอบายมขุ เชน่ เดียวกบั คนพนื้ ราบทวั่ ไป - มีการซึมซับรับเข้าวัฒนธรรม ประเพณี และค่านิยมจากคนพื้นราบเข้าไปในชุมชน ของชนเผา่ มรี ถยนตใ์ ช้ แทบทุกบ้านมีรถจักรยาน มเี ทคโนโลยี มีการดาเนนิ ชีวติ เฉกเช่นเดียวกบั คนพ้ืนราบ - เศรษฐกิจเพื่อการยังชีพสู่เศรษฐกิจการแข่งขัน มีการใช้จ่ายเปล่ียนไป วิถีชีวิตแบบ เรียบง่ายในภูมิประเทศเป็นป่าเขา และมีทรัพยากรธรรมชาติ สวยงามก็เร่ิมเปล่ียนไป ต้องลงมาทางานกับคน พนื้ ราบลงมาเรียนรู้ วถิ กี ารประกอบอาชีพและมกี ารซมึ ซบั คา่ นยิ มคนพืน้ ราบสู่ท่ีสูงวิถีชีวติ ร่วมสมัย 2) ปัญหาสังคม ปัญหาวัยรุ่น ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด ในชุมชนของ สังคมราษฎรบนพื้นที่สูงมีมากข้ึน ครอบครัวไม่เข้มแข็ง ขาดความอบอุ่น พ่อแม่ต้องไปทางานหาเงิน เป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว และเพ่ือการศึกษาของ บุตร- หลานขาดความใกล้ชิดเหมือนก่อน เยาวชน

การวิจยั การศึกษาเปรียบเทยี บการพฒั นาบนพนื้ ท่ีสูงในอดีตและปัจจบุ ัน 203 มุ่งสนแต่กิจกรรมการเรียนรู้ที่สถานศึกษาพ้ืนราบ ใส่ใจแต่เทคโนโลยีมือถือ ขาดความเอาใจใส่ ในวิถีชีวิตด้ังเดิม ห่างเหินผู้อาวุโส ในหมู่บ้าน ห่างไกลครอบครัว แบบเดิม เมื่อจบการศึกษาแล้วท้ังในระดับ ม.6 หรือ ปรญิ ญาตรกี ต็ ้องไปทางานตา่ งถนิ่ อยู่ไกลบ้านเกิด ห่างเหนิ ครอบครวั พ่อแมแ่ ละเครือญาติชาติพันธ์ 3) ปัญหาพ้ืนฐานในวิถีการผลิตและการดารงชีวติ 3.1 สภาพปัญหาด้านท่ีดินทากินและที่อยู่อาศัยซ่ึงไม่เพียงพอ ไม่มีเอกสารสิทธ์ิ ความเป็น เจ้าของและไมส่ ามารถใช้เป็นทุนทางการเงนิ เพ่ือการลงทุนได้ 3.2 ปัญหาการจัดการน้าในชุมชนซ่ึงขาดแคลนแทบทุกหมู่บ้านทุกชนเผ่าอีกท้ังคุณภาพน้า ไม่ดี ไม่มีน้าเพียงพอต่อการอุปโภค บริโภค และการขาดแคลนน้าเพื่อการเพาะปลูก การผลิต พืชสวน เกษตร ทย่ี งั ต้องพงึ่ พาน้าฝนตามฤดกู าล ยังขาดการจัดการน้าทดี่ ี ที่ทาใหม้ ีน้าใช้อยา่ งพอเพียง อย่างย่งั ยืน 3.3 ปัญหาความไม่ต่อเน่ือง และไม่ครบวงจรในการพัฒนาภาครัฐมีเข้าไปในชุมชน ท้ังโครงการด้านสาธารณูปโภค โครงการด้านสุขภาพ โครงการพัฒนาชุมชน โครงการด้านพัฒนาสังคม โครงการแก้ปัญหายาเสพติด และปัญหาหน้ีสินความยากจน รวมท้ังการปรับปรุงการศึกษาของบุตร- หลาน ซ่ึงไม่แน่นอน ไม่เพียงพอและไม่ชัดเจน โครงการ/แผนการที่เข้าไปดาเนินการในชุมชนบนพื้นที่สูงยังไม่ ตอบสนองต่อปัญหาและความต้องการของราษฎรบนพื้นที่สูงได้อย่างแท้จริง ขาดความต่อเนื่องและการบูรณาการ ทเ่ี ปน็ องคร์ วม 3.4 ขาดแผนการส่งเสริม การอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอย่างต่อเนื่องซ่ึงผู้นาชุมชน และผู้นาชนเผ่า ต่างก็ต้องมีการอนุรักษ์ส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของแต่ละชนเผ่า ต้องการ ส่งเสริมศลิ ปหตั ถกรรม และผลงานการเย็บปัก ถกั รอ้ ย สินคา้ ผลิตภัณฑ์งานฝมี ือของคนในชุมชน ผลงานกลมุ่ สตรี อันมีเอกลักษณ์และมคี วามโดดเดน่ สวยงาม ตอ้ งการส่งเสริมสิ่งดีดเี หล่าน้ีให้มอี ยู่อย่างมีคุณภาพ มีคุณค่า และมีมูลค่าอยา่ งเปน็ รูปธรรม มคี วามชดั เจนและจรงิ จัง 3.5 ทัศนคติมุมมองและความเช่ือเชิงลบของคนพื้นราบ เช่น มองว่าราษฎรบนพื้นท่ีสูง ทาลายป่า ทาร้ายส่ิงแวดล้อม บุกรุกป่า เผาป่า ทาให้ระบบนิเวศขาดสมดุล รวมถึงการเก่ียวข้องกับยาเสพติด ซ่ึงเป็นมุมมองที่ไม่สร้างสรรค์และไม่ส่งเสริมให้การอยู่ร่วมกันอย่างมีความสัมพันธภาพที่ดี จาเป็นที่จะต้อง ปรับทศั นคตแิ ละความเชื่อใหม่ ควรกลา่ วโทษเปน็ บุคคลไมค่ วรเหมารวมว่าเปน็ การกระทาของทั้งชนเผ่า 3.6 ขาดการยอมรับจากคนพื้นท่ีราบเร่ือง “วิถชี ีวติ ของคนบนพ้ืนที่สูง” ซึ่งพี่น้องราษฎร บนพ้ืนที่สูงมีความปรารถนาให้ชุมชนสังคมชนเผ่าได้รับการยอมรับจากคนพ้ืนราบ ได้แสดงวิถีชีวิต อันเรียบง่ายตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงอยากให้คนท่ัวไปเห็น ผลงาน ด้านศิลปะ หัตถกรรมงานฝีมือ ด้านการถักทอเสื้อผ้า ชุดแต่งกาย ของใช้ ผ้าปูโต๊ะ ผ้าตกแต่ง บ้านเรือนและงานฝีมืออ่ืนๆ ตลอดจน ต้องการเผยแพรง่ าน ศิลปะการแสดง การขับร้อง การเตน้ รา และการเผยแพรว่ ฒั นธรรมอัตลักษณ์ของแต่ ละชนเผ่า ถ้าราษฎรบนพื้นท่ีสูงได้รับการดูแลส่งเสริมให้พ้ืนท่ีสูงเป็นดินแดนแห่งความมีสีสัน มีความหลากลายความงดงาม มีความเป็นธรรมชาติมีคนอยู่กับป่า ให้ป่าและคนอยู่ร่วมกันได้ อย่างมี ความสุข แบบพอเพียง ชุมชนสังคมชนเผ่าจึงควรเป็นแหล่งท่องเท่ียวอันมีคุณค่า มีความหมาย และเพิ่ม มูลค่า ต่อทุกคน ทุกวัย (ดังรายละเอียดการศึกษาชุมชน 32 ชุมชน ในพื้นท่ี 16 ศูนย์พัฒนาราษฎรบน พน้ื ท่ีสูง ท่ีปรากฎในภาคผนวก)

204 การวิจยั การศึกษาเปรยี บเทียบการพัฒนาบนพื้นท่ีสงู ในอดตี และปัจจุบัน 4.2.2 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูลจากการสมั ภาษณก์ ลมุ่ ผู้ใหข้ อ้ มูลสาคัญ ผ ล ก า ร วิ เค ร า ะ ห์ ข้ อ มู ล ก า ร วิ จั ย จ า ก ก า ร สั ม ภ า ษ ณ์ ที ม งา น ผู้ ให้ ข้ อ มู ล ส า คั ญ ซ่ึงคณะผู้วิจัยจากสานักงานสง่ เสรมิ และสนับสนุนวิชาการ 4,8,9 และ10 และเจ้าหน้าท่ีของศูนย์พัฒนาราษฎร บนพื้นที่สูงท้ัง 16 จังหวัด พร้อมกับ คณะท่ีปรึกษาการวิจัยประจาแต่ละ สสว.โดยดาเนินการสัมภาษณ์ จากกลุ่มผใู้ หข้ ้อมลู การวจิ ัยท่หี ลากหลาย สาขาอาชีพและหลากหลาย บทบาท ในชุมชน อาทเิ ช่น - นกั พัฒนาสังคมของศนู ย์พัฒนาราษฎรบนพน้ื ท่รี าบสูง - เจ้าหน้าท่ีหน่วยงานของรัฐ ผู้นาชุมชน ผู้นาท้องท่ีและผู้นาท้องถ่ิน ผู้นาทางศาสนา และความเชือ่ ฯลฯ รวมทัง้ สิน้ 400 คน โดยดาเนนิ การสมั ภาษณ์ตามประเดน็ คาถามจานวน 11 ประเด็น คาถาม คอื 1) สภาพปญั หา ของการพฒั นาราษฎรบนพืน้ ท่สี ูง (ทง้ั อดตี และปัจจบุ ัน) 2) คุณภาพชวี ิตราษฎรบนพ้นื ทสี่ ูงทั้งอดีตและปจั จุบนั 3) ทศั นคติ ของคนไทยพนื้ ราบต่อราษฎรบนพน้ื ทสี่ งู 4) ทุนทางสงั คมของชุมชนราษฎรบนพนื้ ที่สงู 5) ชุดความคิดในการศึกษาชุมชนบนพ้นื ท่ีสูง (แบบ Out side-in หรอื inside -out) 6) วธิ ีการศกึ ษาชุมชนบนพนื้ ทส่ี ูง (แบบคนขา้ มวัฒนธรรมหรือวัฒนธรรมขา้ มคน) 7) จุดยืนในบทบาทและการทาหนา้ ที่ของศูนย์พฒั นาราษฎรบนพืน้ ทสี่ งู 8) การจัดระบบสวสั ดิการสงั คมพ้ืนบา้ น และสวัสดกิ ารรปู แบบใหม่ของชุมชนพื้นที่สงู 9) การใชป้ รัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของราษฎรบนพ้ืนท่ีสูง 10) กระบวนการศึกษาสถานะความเป็นวัฒนธรรมพ้ืนบ้านของราษฎรบนพ้ืนที่สูง การศกึ ษาแบบหยุดนง่ิ (Static) หรือ พลวัตร (Dynamic) 11) การส่งเสรมิ และพฒั นาสวสั ดกิ ารสงั คมในชมุ ชนราษฎรบนพ้ืนทสี่ ูง คณะทีมงานวจิ ัยได้มีความมุ่งมั่นเพ่ือการรวบรวมข้อมูลผ่านกระบวนการวิจยั ในพื้นท่ี จริงและสมั ผสั กบั ภูมสิ งั คมหรือ บรบิ ทการวิจยั ดว้ ยตนเอง โดยมีผลการวจิ ยั แตล่ ะขอ้ คาถาม สรุปได้ดงั น้ี 11).สสภภาาพพปปัญญั หหาาขขอองงกกาารรพพัฒฒั นนาารราาษษฎฎรรบบนนพพ้นื นื้ ทท่ีส่ีสงู งู 1.1 สภาพปญั หาการพัฒนาในอดีต ผูใ้ หข้ ้อมูลแตล่ ะพ้ืนที่ได้กล่าวถึงปัญหาในอดีต ดังนี้ สภาพปัญหาการพัฒนาในอดีต คนไม่มีสัญชาติ เกิดในประเทศไทย แต่ไม่มี สญั ชาติ ไม่มีบัตร สารวจ 10 ปีแล้ว โดนยึดท่ีดินทากิน เอกสารสิทธ์ิ ไม่มีที่ทากินเป็นหลักแหล่ง มีปัญหา ดา้ นที่อยู่อาศยั ไมม่ ีทท่ี ากิน ท่ที ากินบุกรกุ ท่ีปา่ โดยไม่รตู้ ัว ลกั ลอบตัดไม้ ความเป็นอยู่ไมด่ ี ความเจริญไม่มี ห่างไกลความเจริญ การพัฒนาจากข้างบนสู่ข้างล่างโดยขาดการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมาย ถูกคนพื้นที่ราบ เอารัดเอาเปรียบ สุขภาพไม่ดี ไม่ถูกโภชนาการ อาหารไม่ครบ 5 หมู่ อดีตเด็กไม่ได้รับการรักษา โรงพยาบาลไกล การดูแลรักษาลาบาก เมื่อไปหาหมอส่ือสารภาษาไม่ได้ เด็กขาดสารอาหาร จานวนมาก มีการวิจัย พบว่า ทางภาคเหนือ คนส่วนใหญ่ขาดสารอาหาร (ที่พระบาทห้วยต้ม) เพราะทุกคนกิน มังสวิรัติ ขาดความรู้เร่ืองอาหารท่ีมาทดแทนโปรตีน โรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่ สอนเรื่องโภชนาการ ท่ีถูกต้อง เจ็บป่วยใช้ยาสมุนไพร ด้านเศรษฐกิจผู้ให้ข้อมูลกล่าวถึง การปลูกพืชเศรษฐกิจถ้ามีราคาผลผลิตตกต่า

การวจิ ัยการศึกษาเปรยี บเทียบการพัฒนาบนพนื้ ท่ีสงู ในอดีตและปจั จบุ ัน 205 ไม่มีหน่วยงานมาดูแลอย่างต่อเน่ือง อาหารปลอดภัยหายาก เด็กขาดสารอาหาร กินอาหารไม่ถูกหลัก โภชนาการ เจอปัญหาข้าวไม่พอกิน ไม่มั่นคง ความรู้ด้านการประกอบอาชีพมีน้อย มีหนี้สิน ไม่มีท่ีทากินและไม่มีท่ีอาศัยท่ีมั่นคงถาวร การทามาหากินลาบาก พ้ืนท่ีทากินมีน้อย หาของป่า ไม่ค่อย ปลูกเอง เด็กในชุมชนต้องดูแลกันเอง เพราะ พ่อแม่ไปทางานต่างถ่ิน ขาดการศึกษา ไม่มีที่เรียน ไม่มีท่ีศึกษา ไม่ได้รับการศึกษา เยาวชนมีปัญหา พ่อแม่ไม่ให้เด็กไปโรงเรยี นต้องช่วยพ่อแม่ทางาน ผู้ปกครองไม่ให้เด็ก เข้าเรียน แต่จะให้เด็กทางานบ้าน ไม่มีอุปกรณ์การศึกษามีน้อย ไม่รู้ภาษา – ไม่เก่ง การสื่อสารกับคนภายนอก ไม่ค่อยเข้าใจกันบางท่ีโดนเอารัดเอาเปรียบบ้าง การแต่งกายเส้ือผ้า ต้องรักษาให้นานที่สุด ไม่ค่อยมีเงิน น้าขาดแคลน น้าไม่พอ ต้องเดินไปตักน้าที่ลาห้วยไกลเกือบกิโล ไม่มีแหล่งน้าเพียงพอ ฝนแล้ง น้าไม่พอกิน ไม่พอใช้ ไม่พอทาการเกษตรต้องไปตักน้าไกล ขาดน้าอุปโภค บริโภค ถนนหนทางไม่ค่อยดี การคมนาคม ลาบาก ไปไหนมาไหนลาบาก การเดินทางไม่สะดวก อย่หู ่างไกลอาเภอ ไมม่ ียานพาหนะ ต้องเดินด้วยเท้า ขาดการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐาน ขาดระบบสาธารณูปโภคและบางพ้ืนท่ียังประสบปัญหาท่ีดินทากินที่ไม่ เหมาะสมประกอบกับมาตรการควบคุมการใช้พื้นที่ของราชการจึงทาให้ปัญหาทวีความรุนแรงขึ้นจนบางชุมชน มแี ผนท่ีจะอพยพถ่ินฐาน หน่วยงานนากองทุนหมู่บา้ นเขา้ มาจดั ต้ังแต่ปแี รกหมบู่ ้านปฏิเสธ ปีที่ 2 จึงรับกองทุน พอรับกองทุน 1 ล้าน จึงเป็นหนี้กันหมด ปัจจบุ ันกเ็ ป็นหนี้กันท้ังบ้านถา้ ชุมชนเขา้ ใจก็จะไมเ่ ป็นหนี้ กองทุน เงินล้านเราบริหารไม่ได้ กองทุนเข้ามาทาให้เป็นหน้ี ควรยึดเศรษฐกิจพอเพียง ปัจจุบัน เป็นหนี้กันมาก เม่ือโรงเรียนชั้นประถมเข้ามา คือ กศน.ปกติวันจันทร์-ศุกร์เด็กที่ไปเรียนจะใส่ชุดอะไรไปก็ได้ แต่พอ โรงเรยี นเข้ามาต้องใสเ่ คร่ืองแบบนักเรียน ทาให้เพม่ิ ภารค่าใช้จา่ ยกบั ครอบครวั ไม่มีเงินคนื กองทุนเงินล้าน เพราะส่งลูกเข้าเรียน วิถีชีวิตเปล่ียนไปการส่งข้อมูลทาง line บนดอยต้องซ้ืออุปกรณ์เพ่ิม เพราะสัญญาณไม่มี ลูกหลานต้องลงไปส่งข้อมูลข้างล่าง ควรคานึงถึงฐานะครอบครัว ทาให้คนบนดอยมีหนี้ สินเพ่ิมข้ึน การศึกษาทาให้เราต้องวิ่งแข่ง –ใช้เงิน มีปัญหาเพิ่มข้ึน เด็กจบ ม.3 ต้องเรียนต่อมัธยมตอนปลายก็ต้องมี ภาระค่าใช้จ่ายด้านที่พัก การพัฒนาถ้ากาหนดเพียง อ่านออกเขียนได้ก็อาจเพียงพอ การศึกษาจึงเป็น ภาระหนักสาหรับพี่น้องบนดอย รัฐบาลช่วยการศึกษา ตั้งแต่อนุบาล ถึง ม.3 ฉะน้ัน รัฐควรสนับสนุน หากต้องการเรียนสูงกว่าน้ี ควรส่งเสริมให้ปราชญ์ชุมชน สอนความรู้ให้คนในชุมชน การเรียนต้ังแต่ ม.6 - ปริญญา พ่อแม่ต้องกู้เงินส่งลูกเรียน เรียนจบไม่มีงานทา พ่อ แม่โดนทวงหนี้ ลูกจบการศึกษาแต่พ่อแม่ มหี น้ีเป็นแสน ต้องส่งเรียนตามสังคม รัฐมีนโยบายใหเ้ รยี น อนุบาล – ม.3 หลงั จากน้ัน ไมม่ ีการช่วยเหลือ จึงเป็นภาระหนักของพ่อแม่ การจ้างงานในชุมชนควรเปิดโอกาสให้คนพ้ืนที่ได้ทางาน ถ้าใช้คนในท้องถิ่น จะเข้าใจภาษาเร็วกว่าคนต่างถ่ิน สาหรับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ควรมีแรงจูงใจ ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและควรมีการหารือร่วมกับชุมชนในการจาแนกและกาหนดพื้นท่ีหวงห้าม พื้นท่ีอนุโลมให้ใช้ประโยชน์ พื้นที่ป่าชุมชน พื้นท่ีป่าอนุรักษ์ ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเพาะปลูกและการใช้ ประโยชน์ของชุมชน รวมไปถึงการทาผิดกฎหมาย หรือถูกเวณคืนท่ีดิน เวณคืนพ้ืนท่ีเพาะปลูกท่ีลงทุนไปแล้ว โครงการรัฐที่เข้าดาเนินการในพื้นท่ีสูงควรให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการรับรู้และการตัดสินใจ สาหรับ ด้านการฟ้ินฟูวัฒนธรรม การไปเรียนนอกหมู่บ้านทาให้เด็กได้รับวัฒนธรรมข้างนอก เช่น การแต่งกาย ปจั จบุ ัน หน่วยงานเข้ามากาหนดพ้ืนที่ แต่ยงั ขาดการมีสว่ นร่วมของชุมชน เมื่อสมัย 10 ปี ท่ีผ่านมาหนว่ ยงาน สงเคราะห์ชาวเขาเดมิ มีบญุ คณุ กับบ้านเรา มาสอนหนังสอื ใหค้ วามรู้ การพัฒนาของรฐั มที ั้งดีและเสีย แต่อยาก ให้กลบั มาเหมือน 30-40 ปีแบบก่อน บา้ นมีความอุดมสมบูรณ์ อยู่แบบพอเพียง ลกู เรียนรู้ชวี ติ แบบพ่อแม่ เสียดายท่ีทางราชการนาความรู้แบบเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในหมู่บ้านช้า ถ้าหากนามาใช้แต่ช่วงของการ เปล่ยี นผ่านชุมชนอาจไมต่ อ้ งเปน็ หน้ีเปน็ สนิ เช่นปจั จบุ ัน

206 การวจิ ยั การศึกษาเปรยี บเทยี บการพัฒนาบนพ้นื ทีส่ งู ในอดตี และปจั จุบนั กล่าวได้ว่าสภาพปัญหาของการพัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงมีมากมายในแทบทุกด้านของการ ดาเนินชีวิต โดยมี 10 ประเด็น ปัญหาสาคญั คือ 1. ป่าไม้ เป็นท้ังพ้ืนท่ีอยู่อาศัยเป็นท่ีทากินและเป็นแหล่งอาหารของราษฎรบนพื้นท่ีสูง แต่ยังขาดความลงตัวไม่มีการจัดการท่ีดีให้มีความถูกต้องเหมาะสมทั้งความชั ดเจนว่าคนกับป่าจะอยู่ รว่ มกนั ไดอ้ ยา่ งไร 2. ที่ดิน ในอดีตราษฎรบนพื้นที่สูงใช้ประโยชน์ในที่ทากิน 15 ไร่ พ้ืนที่อยู่อาศัย 1 งาน ก็เพียงพอแต่ปัจจุบันมีลูกหลานเพิ่มมากขึ้นที่ดินทากินจึงไม่พอเพียง ท่ีอยู่อาศัยจึงแออัดไม่มีความพอดี บางพ้ืนที่ ทางราชการก็กาลังจะขอพื้นที่คืนเพ่ือการจัดการสร้างเข่ือนหรือมีนวัตกรรมการอนุรักษ์ป่าดูแล นา้ ตา่ งๆ 3. น้า มีปญั หาในเชิงปริมาณของการใชน้ ้าเพ่อื การอุปโภค บริโภค การดาเนินชีวติ และการ ทาการเกษตรทาให้การทามาหากินการประกอบอาชีพไม่คล่องตัว เพราะต้องพ่ึงแหล่งน้าและปริมาณน้า จากความเป็นธรรมชาติ 4. อาชีพ มีปัญหาในการประกอบอาชีพการเกษตรและขาดน้าท่ีเพียงพอ ขาดที่ดิน ที่เพียงพอ ขาดความรู้ในการดูแลกระบวนการเพาะปลูก การเก็บเกี่ยวและการจดั การตลาด ทีค่ รบวงจร 5. หนสี้ ิน เป็นปัญหาของราษฎรบนพืน้ ท่ีสูงท่ีมีรายจ่ายมากกว่ารายรับ มคี ่าใช้จา่ ยเพม่ิ สงู ข้ึน ท้ังการดาเนินชีวิต การประกอบอาชีพการลงทุนทากินและการศึกษาของลูก-หลาน เหตุท่ีต้องเป็นหนี้สินกู้ยืม เงินกองทุนหมู่บ้าน กองทุนเงินล้าน ที่ภาครัฐนาเข้าไปในชุมชนมีหนี้สินมากขึ้นปัญหาความยากจน ก็ตามมาทุกครวั เรือน 6. คุณภาพชีวิต ในอดีตราษฎรบนพ้ืนท่ีสูง กินอยู่แบบพอเพียงทาได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ปัจจุบันชีวิตท่ีต้องด้ินรนแข่งขันกันมากขึ้น และแข่งขันกันเองในชุมชนต้องแข่งขันกับคนพื้นราบ ทัง้ ในด้านเศรษฐกิจ การทางาน รายได้ การใช้สิ่งอานวยความสะดวก ท่ีมีค่าใช่จ่ายสูง คุณภาพชีวิตลดลง ความสขุ ลดลง 7. สัญชาติ การไม่มีสัญชาติไทยทาให้ขาดโอกาสเข้ารับบริการจากภาครัฐ หรือบริการ ทางสังคมใดๆ ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นท่ีสูงช่วยเหลือด้วยการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม ซ่ึงกส็ ามารถชว่ ยเหลอื ในเบอื้ งตน้ ได้ในระดบั หนึง่ 8. วัฒนธรรม เป็นสภาพปัญหาเชิงปรากฏการณ์ทางสังคมซ่ึงหลากหลายรูปแบบ เช่น คนส่วนใหญ่ ขาดความเอาใจใส่ต่อสังคม ประเพณีดังเดิม ขาดผู้สานต่อสืบทอดอนุรักษ์สู่คนรุ่นหลัง เยาวชนไม่สนใจ เรียนรู้วิถีชีวิตเชิงวัฒนธรรม ความเป็นชนเผ่าชาติพันธุ์ของตนเอง ขาดศูนย์เรียนรู้ถ่ายทอดวัฒนธรรม ประเพณีท่ีเข้มแข็ง จนทาให้มกี ารซึมซับวัฒนธรรมจากภายนอกชุมชนจากสังคมคนพ้ืนที่ราบแพร่สู่สังคม พ้ืนทสี่ ูงอยา่ งต่อเนือ่ ง 9. การเปล่ียนแปลงทางสังคม เป็นสภาพปัญหาของการเผชิญการเปล่ียนแปลง ของสังคมส่ิงแวดล้อม ในทุกด้าน เทคโนโลยีการสื่อสารการคมนาคมการสร้างถนนหนทาง การเผยแพร่ ขยายประเพณีพื้นบ้าน การกิน การแต่งกาย ภาษาและการมั่วสุมอบายมุขของคนรุ่นใหม่ การเท่ียวเตร่ และการเสพยาเสพตดิ จนเสียสขุ ภาพ เสียการเรยี นและเสียโอกาสในการมีชวี ิตทดี่ ี

การวจิ ยั การศกึ ษาเปรียบเทียบการพัฒนาบนพนื้ ทีส่ งู ในอดตี และปจั จบุ นั 207 10. ยาเสพติด เป็นปัญหาทางสังคมทุกระดับตั้งแต่บุคคล ครอบครัว และชุมชน ที่มีความเก่ียวข้อง กับการเสพการซื้อขายและการมีพฤติกรรมการกระทาผิดของเยาวชนด้านยาเสพติด การแพร่ระบาด ในทุก1พ0้ืน. ทย่ีชาุมเสชพนตทิด้องเถป่ิน็นเปป็นัญทหางาผท่าานงเสปัง็นคเสม้นททุการงะลดาับเลตีย้ังแขตน่สบ่งุคยคาลเสพคตริดอมบีทค้ังรัวผู้ผแลลิตะชุมชน ผคู้ ้า ผขู้ ทาย่ีมยีคาวเสามพเตกิด่ียวข้อง กับการเสพการซ้ือขายและการมีพฤติกรรมการกระทาผิดของเยาวชนด้านยาเสพติด การแพจารก่ระสบภาดพปในัญทหุกาพื้นัฒทนี่ชาุมกชานรขทอ้องกงถาิ่นรพเปัฒ็นนทาารงาผษ่าฎนรเปบ็นเพส้ืน้นทท่ีสาูงล1า0เลปียรงะขเนดส็น่งยสาเคสัญพขต้าิดงมตีท้น้ัง ผู้ผลิต มีผลกระผทคู้ บา้ ตผอ่ ู้ขคาวยายมาเปเส็นพรตาิดษฎรบนพื้นท่ีสงู ในรูปแบบดงั น้ี จากสภาพปัญหาพัฒนาการของการพัฒนาราษฎรบนพ้ืนท่ีสูง 10 ประเด็น สาคัญข้างต้น มีผลกระทบต่อความเปน็ ราษฎรบนพืน้ ท่ีสงู ในรูปแบบดงั น้ี แผนภาพ 4.3 : จากสภาพปัญหาสู่ระบบความต้องการสจู่ ดุ ยืน ศูนย์พฒั นาราษฎรบนพื้นทีส่ ูง แผนภาพ 4.3 : จากสภาพปญั หาสู่ระบบความตอ้ งการสู่จุดยืน ศูนยพ์ ฒั นาราษฎรบนพน้ื ทส่ี งู

208 การวิจยั การศกึ ษาเปรยี บเทียบการพฒั นาบนพนื้ ที่สงู ในอดตี และปจั จบุ นั แผนภาพ ความสัมพันธ์ระหว่างสภาพปัญหาของชุมชนและประชาชนกับพื้นที่ท้องถ่ิน ซ่ึงเป็นข้อมูลท่ี ศพพ. ต้องเตรียมการ ในการวิเคราะห์ สภาพปัญหาการพัฒนาอย่างชัดเจนจนมองเห็น ชุดของปัญหาที่มีผลกระทบต่อบุคคล ครอบครัว ชุมชน สังคม และวัฒนธรรมความเป็นชาติพันธุ์แต่ละ ชนเผา่ เปน็ ปญั หาของชมุ ชนส่งผลต่อ คุณภาพชวี ิตราษฎรบนพนื้ ทสี่ งู ตามแผนภาพ ต่อไปนี้ แผนภาพ 4.4 ระบบปัญหาท่ีสง่ ผลตอ่ ชมุ ชนและสังคมชาติพันธ์ุราษฎรบนพ้ืนทสี่ งู

การวิจัยการศึกษาเปรียบเทียบการพัฒนาบนพนื้ ทส่ี ูงในอดีตและปจั จบุ ัน 209 1.2 สภาพปญั หาการพฒั นาราษฎรบนพ้นื ทสี่ ูงในปจั จบุ นั เป็นสภาพปัญหาของชุมชนและสังคมราษฎรบนพ้ืนท่ีสูงท่ีสืบทอดมาต้ังแต่อดีต และยงั ไม่ได้พัฒนาการแก้ไขในสภาพปัญหาเดิม แตก่ ็ได้มีสภาวะปัญหาใหมๆ่ เขา้ มาในชมุ ชน ทั้งด้านการ ประกอบอาชีพ การทามาหากิน การใช้ชีวิต การสาธารณสุข การดูแลลูกหลาน การสงเคราะห์ผู้สูงวัย ในหมู่บ้าน ตลอดจนปัญหาด้านสัญชาติ วัฒนธรรม และยาเสพติด ก็ยังคงมีอยู่ต่อไป ซึ่งผลการวิเคราะห์ และรวมรวมข้อมูล ประเด็นปัญหาการพฒั นาราษฎรบนพ้ืนท่ีสูง มสี าระสาคญั น่าสนใจโดยภาพรวมดังน้ี 1) ปัญหาหลัก คือ ขาดการบริหารที่ดินทากิน และขาดแหล่งน้าเพ่ือการเกษตร การใช้ ประโยชน์จากน้าและดิน น้าขาดแคลน ฤดูร้อนน้าไม่พอ แหล่งน้าดื่มไม่สะอาด แหล่งน้าไม่พอเพียงต่อ การเกษตร สมาชิกองค์การบริหารส่วนตาบนนาแก กล่าวว่าในข้อบัญญัติว่ามีการสร้างถังเก็บน้า ประปา ในหมู่บา้ น แหล่งน้าช่วงหน้าร้อน สรา้ งท่เี กบ็ น้า น้าใช้ระบบประปาภเู ขาแทน ไม่เพียงพอ แหลง่ น้าลดลง ,สัตว์ นา้ ลดลง สภาพพนื้ ป่าน้อยลง ทรพั ยากรจากป่าน้อยลง สัตว์น้าตามธรรมชาติลดลง ชมุ ชนพยายามปรับตัว เป็นกสิกรรมธรรมชาติ การทานาแบบข้ันบันใด มีการพรวนดิน ใช้ปุ๋ยหมักทาเองดาเนินการแล้วได้ผลดี ดินดีขึ้น งดใชส้ ารเคมี ไม่ใชป้ ุ๋ยเคมี ใชส้ ารเคมเี ป็นมลพิษ การปลูกข้าวโพดจะหายไป หันมาปลูกผักปลอดสารพิษ เรามีแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวเป็นการทาการเกษตรแบบยั่งยืนและม่ันคงจากการทาการเกษตรแบบ เศรษฐกิจพอเพียง สามารถช่วยแก้ปัญหาการเกษตรท่ียั่งยืนได้ แต่จากการที่ราษฎรบนพ้ืนที่สูงส่วนใหญ่ ทาการเกษตร ทาไร่ ทานา แต่เน่ืองจากพื้นท่ีทากินมีจากัดเพราะเป็นพ้ืนท่ีราบตามภูเขา แต่เมอื่ มีผลผลิต ออกจาหน่าย การกาหนดราคาเป็นอานาจของพ่อค้าคนกลาง เน่ืองจากให้การสนับสนุนปัจจัยการผลิต ท้ังเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยและยาปราบศัตรูพืช การรวมกลุ่มจึงเป็นหัวใจสาคัญของการสร้างอานาจต่อรอง หรือเปลยี่ นวถิ ีการผลิตเป็นการผลิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกพืชแบบผสมผสานจะไม่ปลูก พืชเชิงเด่ียว ซึ่งมีคนรู้จักผลิตภัณฑ์มากขึ้น ส่วนใหญ่ขายตามงานต่างๆ ปลูกข้าวโพด รอบ 1-2 หลังเก็บ เก่ยี วข้าว ปลูกพชื ผสมผสานทานาข้ันบนั ได พรวนดนิ ไม่เผา ใช้ปุ๋ยหมักทาเองจากมูลสัตว์ น้าหมัก เพื่อไล่แมลง บารุงพืชได้ผล พื้นที่นาดา ปลูกพืชได้ผลดี งดใช้สารเคมี ปลูกทุกอย่างที่กินกินทุกอย่างท่ีปลูก และควรขยาย ไปทุกครัวเรือน และจากพื้นท่ีดังกล่าวสามารถปรับเป็นแหล่งการท่องเที่ยวได้เพราะมีแหล่งธรรมชาติ ทีส่ วยงาม และถ้ามีเกษตรอนิ ทรียก์ ็เสริมกิจกรรมการท่องเท่ียวได้ เป็นหนทางให้ชาวบ้านได้ใช้ชีวิตเกษตร ยั่งยืนมั่นคงได้หากยังมีการปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่นข้าวโพด มันสาปะหลัง ก็จะเพิ่มหน้ีสิน สิ่งสาคัญอีกด้าน หนึ่งของการหนุนเสริมการบริหารจัดการท่ีดินบนพ้ืนท่ีสงู คือการส่งเสริมอาชีพนอกการเกษตรท่ีอยู่บนพ้ืนฐาน ของศิลปหัตถกรรมชนเผ่า ซ่ึงศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูง องค์การบริหารส่วนตาบล หน่วยงานภาครัฐ ระดับอาเภอ องคก์ รพัฒนาเอกชนไดใ้ ห้การสง่ เสริม สนบั สนุนทงั้ การฝึกอบรมทกั ษะ การรวบรวมกล่มุ การ แปรรูปผลิตภัณฑ์ ซง่ึ ปัจจุบันมีอยหู่ ลายชุมชนที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน OTOP ระดบั 4-5 ดาว แต่ก็ยัง มีปัญหาเร่ืองการกากับการผลิต ซ่ึงไม่สามารถทาในลักษณะเชิงพานิชย์ได้อย่างแท้จริง เน่ืองจากยังเป็น การรวมกลุ่มขนาดเล็กและมีทุนหมุนเวียนค่อนข้างน้อย ส่วนกลุ่มสตรีทอผ้า หน่วยงานส่งเสริม คือ ศูนย์พัฒนา ราษฎรบนพื้นที่สูง อบต. ศูนย์สตรีพัฒนากรอาเภอ(จัดอบรม) องค์กรสตรีครสิ เตียนปัจจุบันเป็นกลมุ่ สินค้า OTOP เส่ือกะเหรี่ยงได้ระดับ 5 ดาว ผ้าซิ่น ได้ 4 ดาว มีการรับรองมาตรฐาน สตรีที่เข้ามามีแต่คนแก่ อายุ 50-60 ปี ต่อมารุ่นหลังอายุ 30-60 ปี ปัจจุบันมีเด็กและเยาวชนอบรมให้กลุ่มอนาคตสตรีเยาวชน 15 คน มีปัญหา คือไม่ค่อยมีคนรู้จัก ตอนหลังบังคับให้ใส่ชุด กะเหรี่ยง ขายไม่ค่อยได้ คนซ้ือติว่าราคาแพงทาแต่ละตัว ใช้เอง ใช้เวลาทานานเป็นเดือน ทอใช้เวลา 1 อาทิตย์ ปัจจุบันมีคนรู้จัก ขายได้ ขายตามงาน ฝากขาย

210 การวิจยั การศกึ ษาเปรียบเทยี บการพฒั นาบนพื้นทีส่ ูงในอดีตและปัจจุบัน ที่อาเภองาว ขายได้บ้างถ้าขายราคาถูกจะขาดทุน คนทาเสียเวลาสมาชิกที่ทอผ้า ส่วนใหญ่มีอาชีพ หลักการเกษตร สมัยก่อนทาเพ่ืออนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรม เป็นการส่งเสริมสตรีท่ีว่างงาน ปัจจุบัน งานเกษตรเป็นงานหลักและทาท้ังปีจึงไม่ค่อยมีเวลาว่างทาหัตถกรรม แต่ยังทาได้อยู่ ผลิตภัณฑ์ที่ทาได้ ระดับ 4-5 ดาว ข้ึนทะเบียนถูกต้องกับวิสาหกิจชุมชน รับตามออเดอร์เท่านั้น จะไม่สามารถรับออเดอร์ ใหญ่ได้ เพราะสมาขิกไม่ค่อยมีเวลา ผลิตภัณฑ์ หลักคือ เสื้อ ผ้าพันคอ ของเด็กของผู้ใหญ่ กระเป๋า รับสั่ง ทาได้ 1-2 ตัว มีชุดแซกแบบประยุกต์ กระเปา๋ แปรรูปแบ่งมาขาย” 2) คณุ ภาพชวี ติ ของราษฎรบนพนื้ ที่สงู จากข้อมลู การสัมภาษณ์กล่มุ ผ้ใู ห้ข้อมลู สาคัญทกุ พ้นื ที่วิจัย ผ้ใู ห้ข้อมลู มีความเห็น สรุปได้ว่า “คุณภาพชีวิตในอดีตของราษฎรบนพ้ืนที่สูงอยู่อย่างมีความสุข อยู่อย่างพอเพียง การใช้ชีวิตเป็นแบบ เรยี บง่าย หาเช้ากินค่า อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันในครอบครัว ชีวติ เรียบง่ายมากไมต่ ้องแข่งขัน อยู่กับบุญ ทุกคนมุ่งทาบุญ ทาประโยชน์ให้ครอบครัว สังคม ไม่คิดค่าแรงค่าจ้าง แบ่งของกิน แบ่งของใช้ อยู่ด้วยกัน เห็นกนั และกัน ไม่มีเงนิ ใช้ แต่ค่าครองชพี ถูก จึงหาเงินเพียงซื้อข้าวสาร ปลูกพริกเอง ซื้อเกลือเพียงแค่คน ในครอบครัวมี ปลูกผักเพื่อยังชีพ แต่ก่อน 40 ปีที่แล้วยังไม่มีอาชีพ มีคุณภาพชีวิตที่พ่ึงพาเศรษฐกิจ พอเพียงไม่มีการแข่งขัน ความสุข มีความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวและคนในชุมชน สิ่งอานวยความ สะดวกไม่มี แต่คุณภาพชีวิตดี สังคมมีคุณภาพ แต่ประสบปัญหาการขาดบริการทางสังคมขั้นพื้นฐาน ซึ่งทางด้านสาธารณสุขโดย เฉพาะปัญหาการขาดสารไอโอดีนทาให้มีคนเป็นโรคคอพอกหรือโรคเอ๋อ ค่อนข้างมาก นอกจากนั้นยังประสบปัญหาการขาดการศึกษา เน่ืองจากพ้ืนท่ีห่างไกล ไม่มีการจัดต้ัง โรงเรียนในชุมชน ปัญหาการรบั รู้หนงั สอื จงึ มสี ูง นอกจากนี้ยังประสบปัญหาขาดการได้รับสวัสดิการสังคม แต่ยังไม่นับเป็นปัญหา เน่ืองจากชุมชนยังมีการช่วยเหลือเกื้อกูลซ่งึ กันและกันค่อนข้างสูง แต่ปัจจุบันกลับ พบว่าชุมชนโดยส่วนใหญ่ได้รับบริการข้ันพื้นฐาน ท้ังด้านสาธารณสุข และด้านการศึกษา และจากสภาพ ของสังคมบนพ้ืนท่ีสูงท่ีเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในระยะ 10-20 ปีท่ีผ่านมา ระบบสังคมจากที่มีชีวิตความ เป็นอยู่ที่เรียบง่ายสู่สังคมที่มีการดิ้นรนแข่งขันและระบบเศรษฐกิจท่ียึดติดกับเงินตรา ทาให้ปัญหาสังคม ตามมาอย่างมากมาย ในขณะท่ีด้านสุขภาพอนามัย เม่ือเจ็บป่วยจะได้รับการรักษาพยาบาลจาก สถานพยาบาลของรัฐ มียารักษาโรค หรือไปโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพท่ีต้ังอยู่ในชุมชน นอกจากน้ียังมี สถานศึกษา และบุตรหลานที่สามารถเข้ารับการศึกษาครบทุกคน อ่านออกเขียนได้ เทียบปัจจุบันกับ 10 ปีที่แล้วเปล่ียนไปเยอะมากในทุกด้าน แต่ในขณะเดียวกันสุขภาพของครอบครัวที่อยู่กันอย่างเรียบง่าย พรอ้ มหน้าพร้อมตาก็เปล่ียนไป เด็กและเยาวชนบางส่วนก็ออกไปศึกษาต่อ บางส่วนก็อพยพไปหางานทา คนวัยแรงงานก็ต้องดิ้นรนเพอ่ื หารายได้ให้เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย จากครอบครัวคน 3 วยั เปล่ียนเป็นครอบครัว ท่มี ีแต่เด็กอยู่กับปู่ ยา่ ตา ยายเพิ่มมากขึ้น ปัญหาสมั พันธภาพในครอบครัวก็มีปัญหาช่องว่างระหว่างวยั ก็ก่อ ให้เป็นปัญหาเด็กและเยาวชน ปัญหาครอบครัวยากไร้ ผู้สูงอายุ คนพิการถูกทอดท้ิง ในแต่ละชุมชนเพิ่ม มากข้ึน ระบบการจัดสวัสดิการสังคมจึงกลายเป็นบริการทางสังคมท่ีจาเป็นต่อราษฎรบนพ้ืนท่ีสูง แต่จะ อยู่บนพ้ืนฐานของวิถีชีวิตแต่ละชนเผ่าอย่างไร จะเป็นระบบสวัสดิการท่ีย่งั ยืนอย่างไร ยังเป็นปญั หาที่ต้อง พจิ ารณา

การวิจยั การศึกษาเปรียบเทียบการพฒั นาบนพนื้ ที่สูงในอดีตและปจั จุบนั 211 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากการสัมภาษณ์กลุ่มผู้ให้ข้อมูลทุกพ้ืนท่ี วิจัยสรุปได้ว่าชุดของ ขอ้ มลู ท่อี ธบิ ายคณุ ภาพชวี ติ ราษฎรบนพ้นื ทส่ี ูง มี 3 สว่ นคอื โดยการเช่ือมโยงขอ้ มลู ทง้ั 3 ชดุ ในลักษณะความเปน็ เหตเุ ป็นผล ดงั นี้ อดตี ปัจจยั การ ปจั จบุ นั เปลยี่ นแปลง สถานการณ์คณุ ภาพ สถานการณ์คณุ ภาพ ชีวติ ในอดตี ดา้ นต่างๆ ชวี ิตในปัจจุบนั ในสงั คม 1. ชดุ ขอ้ มูลสถานการณใ์ นอดีตที่อธิบายคุณภาพชีวิตดั้งเดิม 2. ชุดขอ้ มลู อันเปน็ ปัจจยั พื้นฐานของการเปลีย่ นแปลงกล่มุ ชาติพนั ธ์ุชนเผา่ 3. ชุดข้อมูลสภาพการเปน็ คณุ ภาพชวี ติ ในปัจจุบนั โดยทแ่ี ตล่ ะชุดของข้อมูล มีคาอธบิ ายดงั น้ี คณุ ลกั ษณะชีวิตในอดีต เป็นคุณลักษณะของคุณภาพชีวิตชนเผ่าที่ยึดโยงสัมพันธ์กับความเป็นธรรมชาติที่อากาศดี ไม่มีมลพิษ มีอาหารดี หาได้จากธรรมชาติ มีอนามัยดีเพราะมีส่ิงแวดล้อมที่บริสุทธิ์ มีอาชีพแบบเรียบง่าย ไม่ต้องลงทุนด้วยเงินมากนัก มีวิถีชีวิตแบบพอเพียง สมถะ เรียบง่ายกันท้ังชุมชน มีรายได้น้อยแต่มี ความสุขมาก พึ่งพาตนเองได้ มคี รอบครวั ท่ีอบอุ่น อยู่กันพร้อมหน้ามีเงินเหลือก็ทาบุญใช้เวลาว่างปลูกผัก และล่าสัตว์ป่าเปน็ อาหาร ปัจจัยสาเหตุแห่งการเปลย่ี นแปลง จากสถานการณ์ของโลกและสังคมในยุคโลกาภิวัตน์ ทาให้มีเหตุปัจจัยต่างๆมากมาย ในด้านสภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรมภายนอกและวิวฒั นาการด้านเทคโนโลยี สารสนเทศ มีการแข่งขัน การเรียนรู้ มีการลงทุนประกอบการ มีการใช้สื่อสังคมออนไลน์มีการเดินทาง ดว้ ยถนนที่ดีและยานพาหนะทร่ี วดเรว็ เกิดการแก่งแย่งขัดแยง้ แขง่ ขนั กนั ในสงั คมชุมชนโดยท่วั ไป คุณลักษณะคุณภาพชวี ิตในปัจจบุ ัน คุณลักษณะของคุณภาพชีวิตในปัจจุบันเป็นชีวิตแบบคนเมืองวิถีชีวิตแบบคนไทยพ้ืนราบ มีรายจ่ายมาก มีการแข่งขันสูง ด้านเศรษฐกิจ รายได้ อาชีพ การจ้างงาน การสื่อสาร ด้วยเทคโนโลยี สมัยใหม่ มีการเดินทางด้วยพาหนะรถยนต์ปิกอัพราคาแพง ประกอบอาชีพท่ีต้องลงทุน ประกอบธุรกิจ

212 การวจิ ยั การศึกษาเปรยี บเทยี บการพัฒนาบนพนื้ ทีส่ งู ในอดีตและปจั จุบนั และทางานกับคนไทยพน้ื ราบ มีหนส้ี ินมากขนึ้ สภาพครอบครวั ห่างเหินกนั ไม่มีความใกล้ชิดกันเหมือนเก่า ห่างไกลวัฒนธรรมประเพณี อันดี ละเลยศลิ ปหัตถกรรม อตั ลักษณ์ความเป็นชนเผ่าแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์ ปัจจยั ทจ่ี ะสะทอ้ นการเตมิ เตม็ ชวี ติ ผลการวิเคราะห์ทศิ ทางแนวโน้มของชีวติ ที่ดีในชุมชนชาตพิ ันธุ์ แตล่ ะชนเผ่า พบวา่ เสียงสว่ นใหญ่ มีความคาดหวังจากทุกภาคสว่ นราชการ ใหเ้ ข้ามาดูแลสนับสนนุ คุณภาพชีวติ ใหมไ่ ด้ ให้สมบรู ณม์ ากขึน้ แผนภาพ 4.5 ระบบการสนับสนนุ จากภาครัฐ ในการเติมเต็มคุณภาพชีวติ ราษฎรบนพืน้ ที่สงู จากแผนภาพอธิบายได้ว่าชุดของความคิดในการที่จะได้แนวทางการสนับสนุนท่ีเหมาะสม ตอ่ คณุ ภาพชวี ติ ทง้ั ปวง คอื (1) จัดการสนับสนุนชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตแบบพอเพียงเรียบง่ายใช้ชีวิตปกติดั้งเดิม คนื กลับมา (2) มีสิทธิที่ดินทากินอย่างพอเพียงและจัดการให้เป็นโฉนดชุมชนท่ีทุกคนร่วมดูแล เป็นเจา้ ของ (3) การอนุรกั ษ์วัฒนธรรม ประเพณีดีงามทกุ ด้าน (4) การสง่ เสริมอาชีพท่มี ่ันคง การพัฒนาการตลาด สง่ ขายระบายสินค้าครบวงจร (5) การส่งเสรมิ การศกึ ษาใหก้ บั บตุ ร-หลานที่ดมี คี ณุ ภาพและไมม่ ีค่าใชจ้ า่ ย (6) การมีส่วนร่วมดูแลสุขภาพบุคคลและสุขภาพชุมชน ให้ทุกคนตระหนักถึงการสร้าง สขุ ภาพกอ่ นซ่อม สุขภาพซง่ึ อาจสายเกนิ ไป

การวจิ ัยการศึกษาเปรียบเทียบการพัฒนาบนพน้ื ทีส่ งู ในอดีตและปจั จบุ นั 213 3) ทัศนคตขิ องคนไทยพื้นราบตอ่ ชาวไทยราษฎรบนพน้ื ท่ีสงู ผ ล ก าร วิเค ร าะห์ ข้ อมู ล จ า ก ก ารสั ม ภ าษ ณ์ ก ลุ่ ม ผู้ ให้ ข้ อ มู ล ส า คั ญ ทุ ก พื้ น ที่ ก าร วิจั ย ไดบ้ ทสรปุ ผลการวเิ คราะหเ์ ปน็ 2 สว่ น คือ 3.1) ทศั นคติของคนไทยพ้ืนราบต่อชาวไทยราษฎรบนพื้นทส่ี ูงในอดตี ผู้ให้ข้อมูลเห็นวา่ “มองชาวเขาวา่ ไม่มคี วามรู้ ไม่ได้รับการศึกษา ทาให้ขาดโอกาส ทางสังคม เวลาไปข้างนอกหมู่บา้ น เขามองว่าเราขาดการศึกษา ร้เู ท่าไม่ถึงการณ์ ไม่มคี วามรู้ พดู ไม่รู้เร่อื ง ไม่ให้เกียรติ กลัวจะมาแย่งท่ีทากิน แสดงพฤติกรรมว่าไม่ชอบ มองว่าเป็นคนป่า มองว่าเป็นคนต่างด้าว ที่อพยพเข้ามาในประเทศไทย คนบนพ้ืนที่สูง บางคนโดนเอารัดเอาเปรียบ ไม่ยอมรับวัฒนธรรม มองในด้านลบไม่ยอมรับในสังคม ถูกเหยียดหยาม ไม่ค่อยยอมรับ คนพื้นท่ีราบส่วนมากมองเขาเปน็ คนต่างด้าว เป็นคนขาดโอกาส เป็นบุคคลท่ีคุยไม่รู้เรื่อง การใช้ภาษาพูดคุยคนละภาษา แต่ในปัจจุบันคนพื้นราบ เร่ิมยอมรับความเท่าเทียมกันมากย่ิงขึ้น เนื่องจากราษฎรบนพื้นที่สูงมีความรู้ มีการศึกษาท่ีมากขึ้ น การสื่อสารการรับรู้ข่าวสารเท่าเทียมกับคนในสังคม การถูกเอารัดเอาเปรียบก็ลดลง มีการยอมรับซ่ึงกัน และกันมากขึ้น ไม่มีการดูถูกและมองในแง่ดีมากข้ึน ในปัจจุบัน คนพื้นราบและราษฎรบนพื้นทีสูง เท่าเทียมกัน คนพ้ืนเมืองชื่นชม มีการคบค้าสมาคมมากข้ึน มีการยอมรับ ความสามารถกันมากขึ้น “ปัจจุบันคนพ้ืนราบเร่ิมเข้ามาทามาหากินกับชาวเขามาจ้างชาวเขาไปทางานให้เขา ขายท่ีดินให้ชาวเขา ซ่ึงเป็นท่ีดินผิดกฎหมาย มองว่าชาวเขามีเงินเพ่ิมขึ้นเยอะข้ึน ให้เกียรติมากขึ้น ยอมรับในส่ิงที่ชาวเขา ทาได้พ่ึงพาอาศัยมากข้ึน ได้รับการยอมรับเพ่ิมมากขึ้น ยอมรับด้วยผลประโยชน์ ปัจจุบันมองว่าชุมชน พื้นที่สูงดีข้ึน เพราะผู้นาผู้บริหารเป็นคนพ้ืนท่ีสูง ความเข้มแข็ง ความสามัคคีของคนพื้นท่ีสูงได้รับ ผลประโยชน์ในเรื่องเศรษฐกิจ รู้จักทามาหากินมากขึ้น ขยายพ้ืนท่ีทากิน คนพ้ืนที่ราบเร่ิมเข้ามาหากิน กับชาวเขา มาจ้างชาวเขาไปทางาน สามารถติดต่อสื่อสารกับคนพื้นที่ราบได้ สามารถพูดคุยส่ือสารได้ ได้รับการเรยี นร้กู ารใช้ภาษาพื้นเมือง เน่ืองจากส่ือสารกันเข้าใจ เรม่ิ ดีข้ึนจึงได้รับการยอมรับ เป็นคนไทย ทอ่ี ยูบ่ นพื้นทสี่ ูง ได้รับการศกึ ษา ไดเ้ ข้าโรงเรยี น มีโรงเรียน อา่ นออกเขยี นได้ พดู ไทยได้ สามารถอยูก่ ับคน พ้ืนราบได้ มีความรู้มากข้ึนเข้าสังคมเพ่ิมขึ้น ออกไปรับจ้างได้ ออกไปรับจ้างทาไร่ ขาดการสานต่อ หัตถกรรม ได้รับการยอมรับมากขึ้น สามารถลงมาหางานทาในพื้นราบได้ มีหน่วยงานรัฐเข้ามาช่วยเหลือ เขา้ ถึงสวสั ดิการเบอื้ งตน้ ของรัฐได้ เช่นโรงพยาบาล แต่เดมิ ยังมีหลายคนเรียก “ผีตองเหลือง” ปัจจบุ ันไม่มี คนเรียกมากนัก ส่วนมากอาจจะไม่ได้ต้ังใจก็พอมีบ้าง มองในลักษณะสงสาร ซึ่งโดยท่ัวไปถือว่ามีการ พัฒนาขึ้นเยอะ ปัจจุบันดีขึ้นเป็นที่ยอมรับ ไม่มีอคติกับคนบนพื้นท่ีสูง กล่าวได้ว่า คนไทยพื้นราบ มีพัฒนาการทางความคิดมีความเชื่อและทัศนคติในทางดีขึ้น” จากเดิมไม่ค่อยยอมรับว่าเป็นคนไทย ด้วยกัน แม้จะต่างพื้นท่ีก็เป็นคนไทยด้วยกัน นอกจากคนไทยพ้ืนที่สูง ไม่ได้รับการศึกษา ไม่รู้หนังสือ ไม่เข้าใจข่าวสารบ้านเมืองเป็นกลุ่มคนมาจากบนดอย ถูกเรียกรวมๆ ว่า “แม้ว ซ่ึงคนไทยพื้นที่สูงไม่ชอบ ให้เรียกคาน้ี อดีตมองว่าเป็นคนสกปรกน่ารังเกียจเป็นคนป่า มาจากต่างด้าว เป็นคนกลุ่มน้อย อาจถูกหลอก ได้ง่ายเพราะส่ือสารกันไม่เข้าใจ คุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง ประกอบกับมีการแบ่งชนช้ันความเป็นคนพื้นที่สูง กับคนไทยพื้นราบ ยังไม่ค่อยต้อนรับวัฒนธรรมประเพณีของพ่ีน้องชนเผ่าแต่,ละชาติพันธ์ุดูแล้วเป็นคนน่ากลัว ไม่คอยน่าไว้ใจ บางคนมีกลิ่นเหม็นมักมีอาชีพหาของป่า เป็นผู้บุกรุกป่า ทาลายป่า เป็นคนท่ีน่าหวาดระแวง ด้านความเกี่ยวข้องยาเสพติดทั้งเป็นผู้ผลิตเป็นผู้ค้า เป็นผู้ลาเลียงหรือเป็นกลุ่มผู้เสพผู้ขายเป็นแหล่งพักยา”

214 การวจิ ยั การศึกษาเปรียบเทียบการพัฒนาบนพ้นื ที่สงู ในอดีตและปจั จุบัน แต่ทัศนคติคนไทยพื้นราบในปัจจุบันมีมุมมองและความคิดท่ีดีมากข้ึนมองชนเผ่าด้วยความเข้าใจเห็นใจ และมน่ั ใจในความเป็นคนสัญชาติไทย ด้วยกันมากขึ้น ไม่เอาเปรียบกัน ไม่หลอกหลวงกัน เป็นผู้รู้ข่าวสาร บ้านเมืองมากข้ึน มักแต่งกายด้วยชุดสวมใส่ตั้งแต่ศีรษะ จรดปลายเท้า เป็นเอกลักษณ์ประจาตัว ประจาเผ่า ของชาติพันธุ์ท้ังมวล มสี ีสนั การแต่งกายทีส่ วยงามน่าดูชม นา่ สนใจ ปัจจุบนั ได้เข้ารับการศึกษาเรียนสูงข้ึน คนพ้ืนราบไมม่ ีการดถู ูกเหยียดหยาม ไม่ถูกล้อเรียนเร่อื งภาษาและสาเนียงการพดู ทุกคนมีความเท่าเทียม กัน รักกันสามัคคีกันกับคนพื้นที่ราบ มีการทางานร่วมกัน อยู่ร่วมกันและเกื้อกูลกันมากข้ึน สื่อสารพูดจา กนั ง่ายข้ึน ลูกหลานได้เข้าโรงเรียน ได้รับการศึกษา มีวิถีชีวิตแบบคนเมืองปัจจุบันรู้ว่า ชาวเขาไม่ปลูกฝิ่น ไมต่ ดิ ฝนื แตป่ ลกู พืชโครงการหลวง พชื เมืองหนาว และปลกู สวนผลไม้เมอื งหนาว การเรียนรู้ซ่ึงกันและกันระหว่างคนไทย พ้ืนราบ และราษฎรบนพ้ืนที่สูง ทาให้เข้าใจกัน รักกัน สามัคคีกัน ต่างก็เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เช่นเดียวกัน มีศูนย์รวมจิตใจ ณ บุคคลเดียวกัน เกิดผลดีต่อ การพัฒนาชมุ ชนสังคมและความเปน็ วัฒนธรรมชาตพิ ันธุ์แต่ละชนเผ่าอยา่ งชัดเจน ตามแผนภาพ แผนภาพ 4.6 : ชุดความคดิ เชิงทัศนคติที่ดรี ะหว่างคนไทยพ้ืนท่สี ูงกบั คนไทยพน้ื ทร่ี าบ

การวจิ ัยการศึกษาเปรียบเทียบการพัฒนาบนพื้นท่สี ูงในอดตี และปัจจบุ นั 215 4) ทนุ ทางสงั คมของชุมชนราษฎรบนพน้ื ท่ีสงู ผลการวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัยจากผลการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสาคัญทุกพื้นที่ในการ จัดการทุนทางสงั คมของราษฎรบนพ้ืนท่ีสูงในด้านการท่องเทีย่ ว สินคา้ หัตถกรรม วิถีชีวติ ด้ังเดิม สมุนไพร พ้นื บ้าน ชุดประจาเผา่ ศาสนา ความเช่ือ ภาษา ประเพณีวฒั นธรรม ศิลปะการแสดงภูมิปัญญาการเกษตร ซ่ึงควรได้มีแนวทางการจัดการ ตามความเหน็ ของผู้ใหข้ ้อมูล ดังน้ี “มีวิถีชีวิตท่ีดี มีครูบาวงค์ มีศาสนาพุทธ มีกิจกรรมทาบุญร่วมกัน มีที่สักการะบูชา (วัด) มีท่ียึดเหนี่ยวจิตใจ หมู่บ้านมังสวิรัติ มีการแลกเปล่ียน มีการซื้อขายเป็นส่วนใหญ่ ต้องการ ให้ยึดถือคาสอนของหลวงปู่บาชัยยะวงษ์ เพื่อคุณภาพชีวิตท่ีดีข้ึน คาสอนหลวงปู่ เปรียบเหมือนทุน ของชีวิต ทอเส้ือผ้าเองได้ มีการรักษาเอกลักษณ์ของผ้าลายทอ การย้อมสีธรรมชาติ มีการพัฒนาทุน ของลายผ้าให้ครบวงจร กลายเป็นองค์ความรู้ เรื่องลายผ้าดั้งเดิม และประยุกต์ มีการรวมตัวกัน ทาหัตถกรรม เครื่องเงิน ทอผ้า มีการพัฒนากิจกรรมอย่างต่อเน่ือง มีงบประมาณสนับสนุน มีประเพณี การแต่งงาน อยากให้มีการสืบทอด เพราะมีบางอย่างเริ่มเปลี่ยนแปลง การถ่ายทอดภูมิปัญญาจากอดีต มาสู่ปัจจุบัน ยังคงมีการสืบทอดอยู่ อยากให้คงอยู่ไม่ต้องการให้สูญหาย ปลูกข้าวทาไร่ทานา มีการอนุรักษ์ อย่างมั่นคง ไม่เปล่ียนแปลง เอกลักษณ์การแต่งกาย ควรฟื้นให้คนในชุมชนแต่งกายชุนชนเผ่า มีการสืบทอด ภูมิปัญญา ควรมีการจัดการองค์ความรู้ภูมิปัญญา เขียนเป็นหลักสูตร เพื่อถ่ายทอด เช่นการนวด บีบ โบราณจะต้องให้ความสาคัญในการจัดการทุนสังคมเชื่อมโยงด้านต่างๆมีวัฒนธรรม มีประเพณี เป็นของตัวเองที่มีอยู่ ควรรักษาวัฒนธรรมต่อไป ให้สืบทอดไปยังลูกหลานมีวัฒนธรรมของหมู่บ้าน มาตงั้ แตด่ ้ังเดิม มีความเป็นชาติพันธดุ์ ั้งเดิม การรู้จักถงึ ความเปน็ รากเหง้า เดก็ ยังคงมีการสบื ทอดอยู่ตอ่ ไป วถิ ีชีวิตวัฒนธรรม ควรได้รับการปลูกฝังให้แก่คนรุ่นหลังได้อนุรักษ์ไว้ การท่องเท่ียวเป็นส่ือในการอนุรกั ษ์ วัฒนธรรมประเพณีมีดนตรีพ้ืนเมือง มีการขับร้อง เวลามีนักท่องเที่ยวมาจะแสดงให้ดู มีกิจกรรมบริการ การทอ่ งเที่ยว เช่น มกี ารแสดง 1,000 บาท ค่าอาหารขันโตก คนละ180 ค่าทีพ่ ัก 200 บาท ไม่จาเป็นต้อง ทางานท่ีอ่ืน ใช้วิถีชีวิตในชุมชน สร้างมูลค่าเพ่ิมในชุมชน เพ่ิมรายได้ให้ชุมชนทาให้เห็นคุณค่าในวิถีชีวิต ให้เกิดรายได้ คนในหมู่บ้านมี 1,000 กว่าคน มีการแบ่งกลุ่มกัน เช่น ทาการบรรยาย ทาอาหาร อาหารว่าง จัดท่ีพัก และให้ข้อมูลกับแขกนักท่องเท่ียวที่พัก Homestay มีร้านค้าที่เกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้าน เช่น เอาถ่ัวมาทาขนมจีน เต้าหู้เจ มีกลุ่มอาชีพท่ีทาอาหาร ขนมพ้ืนบ้าน ขายให้นักท่องเท่ียว มีภาษาพูด และภาษาเขียนของตัวเองด้วย (ไม่ยอมพูดภาษาตนเอง) มีภูมิปัญญา เช่นเอาถั่วเขียวมาทาขนมจีน ทรัพยากรธรรมชาติฟื้นฟู ป่าต้นน้า – ขยายเขตป่าจิตวิญญาณ มีการช่วยเหลือโดยไม่ต้องรับจ้าง และในชุมชน กระเหร่ียงบ้านพระบาทห้วยต้ม อาเภอลี้ จังหวัดลาพูน ยังมีการนับถือครูบาวงค์ ยังนับถือครูบาวงศ์ เป็นหลัก มีการเปลี่ยนผา้ ครบู าวงค์ ทุกปี มีศาสนาเปน็ ศูนย์กลาง คาสอนของครูบาวิชัย เพื่อเป็นท่ียดึ เหนี่ยวจติ ใจ มีวัฒนธรรมการไปวัด งานบุญต่างๆ ประเพณีวัฒนธรรมไหว้พระ ถือศีลกินเจ มีการปฏิบัติธรรม เข้าวัด ทาบุญใส่บาตร ทุกวันพระ ประเพณีไหว้พระ ควรคงอยู่ในชุมชนตลอดไป ไม่ควรมีการเปลี่ยนแปลง มีวัดที่มีชื่อเสียง มีครูบาวงษ์ หลังจากที่ท่านมรณภาพ มีประเพณีเปล่ียนผ้า วันท่ี 15 –17 พฤษภาคม ของทุกปี เพื่อรวมตัวกัน มีการแห่ ต้นไททาน สูงใหญ่ สูงประมาณ 10 เมตร (มีเคร่ือง อุปโภค บริโภค) ใช้คนแบกต้นละ 10 คน โดยสลับกัน แบกมี 10 กว่าต้น มีท้ังต้นเล็กต้นใหญ่ “ปัจจุบัน วัฒนธรรมด้ังเดิม ถูกละเลยจากรุ่นลูกรุ่นหลาน ประเพณีวัฒนธรรมดั้งเดิมถูกหลงลืมไม่ได้รับการฟ้ืนฟูหรือสืบทอดและขาดการหล่อหลอมการช่วยเหลือ

216 การวิจยั การศึกษาเปรยี บเทียบการพัฒนาบนพื้นทีส่ ูงในอดตี และปจั จบุ นั เก้ือกูลกัน วัฒนธรรมชาวเขา การทอผ้าต้องสืบทอดไว้ สมัยยุคก่อนอยู่กับธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมที่เป็นภูเขา สังคมปิด อยู่ในชุมชนที่เป็นชาวเขาเอง อยู่ในประเพณีมาก ปัจจุบันน่าห่วงมาก สังคมล่มสลาย ในสังคม ชาวเขาเอง เด็กรุ่นใหม่ออกจากบ้าน 10 ปี และกลับมาไม่รู้จักวัฒนธรรมด้ังเดิม เช่นการบูชาเคารพผีน้า ผีป่า ความหล่อหลอมจากวัฒนธรรมไม่มี โยงการมีส่วนร่วมในชุมชน ชุมชนเก้ือกูลควรทาไม่ควรทา วัฒนธรรมประเพณี เรื่องทุน เช่น ประเพณี การให้ความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่กับชาวบ้านทั้งวัฒนธรรม ประเพณีน้ัน นามาซ่ึงการช่วยเหลือ ส่ิงที่ควรปฏิบัติเป็นตัวกาหนดให้บุคคลอยู่ในกรอบของสังคมของชนเผ่า แต่ละเผ่า เช่น พิธีกรรม การไหว้ผีน้า ลายผ้าทอของชาวกะเหร่ียงท่ีหายไป”คนในชุมชนเร่ิมไม่ใช้ทุนทาง สังคม เน่ืองจากมารับวัฒนธรรมใหม่ๆของพ้ืนราบ เช่น เร่ืองญาติพี่น้อง การเคารพผู้สูงอายุ การไปเรียน ในเมืองทาให้ เมื่อกลับบ้านไม่ยอมทาตามประเพณี ควรมาฟ้ืนให้เห็นรากเหง้าให้เข้าใจ ใช้ประโยชน์ วัฒนธรรมตา่ งๆซ่ึงจะทยอยสูญหายไป ไมค่ งเหลือให้เห็นจากสภาพเดมิ เพราะคนรุน่ ใหมเ่ ร่ิมพฒั นาไปไกล (เฟสบุ๊ค ไลน์) คนรุ่นใหม่ ควรอนุรักษ์ส่ิงทีมีอยู่กลับคืนมา จัดต้ังพิพิธภัณฑ์ให้เกิดขึ้น ประเพณีดีๆ ควรคงไว้ เช่น เม่ียนรวมกลุ่มได้ดี มีการลุยไฟ เลี้ยงผีปีใหม่ บางเผ่าวัฒนธรรมเริ่มหายไปเพราะศาสนา อาข่าเปลี่ยนแปลงเร็วมากในการพัฒนาตนเอง เดิมนับถือผี ผีทาให้ครอบครัวไม่สบาย ผิดผีบ่อยๆ โดนคนอ่ืน ว่าไม่สะอาด มิชช่ันนารี เข้ามาจึงเปล่ียนแปลงเร็วมาก ประเพณีหายไปแม้ประตูผีก็ไม่มี เป็นเรื่อง ละเอียดอ่อน น่าจะอนุรักษ์เป็นทุนทางสังคม ควรช่วยให้มีการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมท่ีมีอยู่ต่อไป จะไม่เห็น เช่น เคร่ืองมือดักสัตว์ เป็นภูมิปัญญาที่หายาก น่าจะนามาให้เห็น วัตถุศิลป์ท่ีพิพิธภัณฑ์เรียนรู้ ราษฎรบนพ้ืนท่ีสูงควรนามาเสนอให้เห็น เร่ิมอย่างไร ควรกลับไปคุยกับเขา ให้เกิดการห่วงแหน เกิดการถ่ายทอด ให้ลูกหลานต่อๆ ไป เช่น พ่ีน้องเมี่ยนยิงหน้าไม้เก่ง ภูมิปัญญาความฉลาดต้องการให้เกิดการรักความเป็นชนเผ่า “หลักเศรษฐกิจพอเพียง ชาวเขาทาอยู่แล้ว จากอดีตมีหลักเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกเพื่อกิน เหลือกินจึงนาไป จาหนา่ ยแต่ต้องมาเปล่ยี นเป็นการปลกู เพื่อขาย และใช้เงินไปซ้ือกิน ถ้าจะมกี ารรื้อฟื้นระบบการเพาะปลูก แบบดั้งเดิมน้ีมาอีกคร้ัง นอกจากนี้ จากพื้นท่ีต้ังของชุมชนตั้งอยู่บนเทือกเขาสูง ต้นทุนที่เป็นธรรมชาติ ทั้งภูมิประเทศและภูมิอากาศท่ีเป็นต้นทุนสาคัญของชุมชนท่ีจะเป็นแหล่งสร้างอาชีพและรายได้ ประกอบกับ ทุนท่ีเป็นวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ เป็นอัตลักษณ์ของแต่ละชนเผ่าจนกลายเป็นทุนท่ีสาคัญต่อการดารงชีวิต เป็นทุนท่ีสาคัญต่อการพัฒนาชุมชนบนพื้นท่ีสูง หากรวมทุนที่มีอยู่ในชุมชนมาบริหารจัดการโดยใช้ชุมชน เป็นแกนหลักในการดาเนินงาน เช่น เขตรอยต่อระหว่างจังหวัดพะเยากับจังหวัดน่าน มีชุมชนบนพื้นท่ีสูง ที่เป็นเผ่าเมี่ยนและชนเผ่าม้งอาศัยอยู่และมีน้าตกตากหมอก น้าตกซาววา (20 วา) มีผาจิเป็นจุดชมวิว ต้องการให้พัฒนาต่อไป ทาถนนเข้าไปผาจิ มีป่าหัวน้าน่าเท่ียว เป็นเส้นทางผ่านไป จ.น่าน วัฒนธรรม ประเพณีปีใหม่ม้ง การตีผึ้ง ไร่สตอเบอรร่ี มีสวนองุ่นไร้เมล็ด สินค้า หัตถกรรม เปล เป็นทุนทางสังคม ที่มีมาต้ังแต่เกิด การถักเปลถือว่าคนชุมชนตองเหลืองเก่งและทาได้สวย มีกลุ่มถักเปลญวน การถักย่าม มีการทาถุงย่ามสะพายที่มาจากเถาวัลย์เปลือกไม้ย้อมสี การสืบทอดภูมิปัญญาในการนาหญ้ามาจากป่า มาทาถุงย่ามและย้อมสีธรรมชาติ แต่งชุดชนเผ่าในประเพณีปีใหม่ ผู้หญิงใส่ชุดกระโปรงเย็บมือ มีหมวก เอาเปลอื กไม้มาทาเส้ือผ้า เอาใยไม้มาสานทาเสื้อผ้า มีลายผ้าปักท่ีเป็นเอกลักษณ์ มีวัฒนธรรมการแต่งตัว ที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง ควรแต่งกายประจาชนเผ่าที่สวยงาม ทาเครือ่ งนุ่งห่มเอง การนับถือศาสนามีทั้ง พุทธและศาสนาคริสต์ การนับถือผี การเลี้ยงผี วัฒนธรรมประเพณี ประเพณีปีใหม่ ประเพณีภายในหมู่บ้าน ปีใหม่หมู่บ้าน มีประเพณี วัฒนธรรมท่ีเป็นเอกลักษณ์ ประเพณีพิธีกรรม พิธีศพ งานแต่งงาน มีวัฒนธรรมการถักย่าม มีศิลปะ การเป่าแคน อยากให้มีการสืบทอด มีประเพณีเป่าแคน มีการเต้นโดยไม้ไผ่

การวจิ ัยการศึกษาเปรียบเทยี บการพฒั นาบนพืน้ ทีส่ งู ในอดตี และปจั จบุ ัน 217 ประกอบ ปัจจุบันประเพณีเริ่มหายไป การเต้นกระบอก มีหมอสมุนไพร มีหมอพ้ืนบ้านรักษาโรค อยากให้ยังมีหมอพ้ืนบ้านอยู่ การคลอดลูกโบราณ วิถีชีวิต ความขยัน อดทน ของคนในชุมชน บุคคลภายนอกนายจ้าง มองชาวตองเหลืองว่าเป็นคนซื่อสัตย์ ความสามัคคีของคนในชุมชน เช่น หากมี นัดประชุมหรือพัฒนาหมู่บ้านจะให้ความช่วยเหลือตลอด ความเอ้ืออาทรต่อชมุ ชน เช่นมีหมู 1 ตวั กแ็ บ่งเท่ากัน ทุกครอบครัว มีความรักในชนเผ่า ใช้ชีวิตในป่าได้ ไม่เก่ียวข้องกับยาเสพติดและส่ิงผิดกฎหมาย ถ้ามีคน ตายในบา้ นนน้ั จะถกู รื้อและสรา้ งใหม่ ทาอปุ กรณ์ลา่ สัตวเ์ อง” กล่าวได้ว่า การจัดการทุนทางสังคมในชุมชนราษฎรบนพื้นท่ีสูง สามารถจัดหมวดหมู่ ได้ 3 กลุ่ม ทุนทางสังคม คอื แผนภาพ 4.7 : ระบบการจัดการทนุ ทางสังคมท่มี ีอยู่ในชุมชนอย่างเป็นระบบ

218 การวิจยั การศกึ ษาเปรยี บเทยี บการพฒั นาบนพ้ืนท่ีสงู ในอดีตและปจั จบุ ัน 5) ชุดความคดิ ในการศกึ ษากลุ่มราษฎรบนพ้ืนท่สี ูง แบบ Inside out และ Out side in การมีมุมมองจากจุดยืนท่ีชัดเจนท้ังการมองจากภายในสู่ภายนอก (Inside out) ก็จะได้เห็นวิธีคิดเห็นชุดความคิดจากสายตาหรือการมองเห็นอนาคตภายในเห็นจากตนเองสู่ภายนอก ส่วนอีกมุมมองหนึ่ง มองจากสังคมภายนอกสู่สังคมภายในชุมชนบนพ้ืนที่สูง ชุดความคิดระบบคนนอก เห็นคนภายในจะได้เห็นความแตกต่างกันไป ฉะนั้นถ้าจะให้สมบูรณ์แบบ ก็ควรจะมองให้รู้ดูให้เห็นมอง ท้ังจากภายในสู่ภายนอก (Insideout ) และมองเห็นจากภายนอกเข้าสู่ภายใน (Out side in) ซ่ึงทั้ง 2 มุมมอง ไดข้ อ้ สรุป ดงั นี้ 5.1 มองแบบจากภายในสภู่ ายนอก (Inside out ) ซ่ึงผู้ให้ข้อมูลมีความเห็นว่า “เข้าไปอยู่ในชุมชน มองจากชุมชนเข้าใจคนพื้นราบ เข้าใจชนเผ่า (Insideout) อนุรักษ์เขาให้เหมือนเดิม การพัฒนาที่ยั่งยืน ทาให้เขาเป็นตัวเองมากที่สุด ยืนกับชุมชน สังคม อย่างมีความสุข ให้ตัวเขาอยู่กับสังคมอย่างเป็นผู้มีศักด์ิศรีในความเป็นคนอยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างมี ความสุข ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของพวกเขา เรียนรู้ สืบสานวัฒนธรรม ประเพณีของพวกเขาเอง ทาอย่างไรให้เขารู้ ภูมิใจ ได้คิด เดิมเคยทาอย่างเดิม ปัจจุบันควรให้เขาคิดใหม่ทาใหม่ เกิดแรงกระเพื่อม ให้เขาอยู่ในสังคมได้ ทาอย่างไรให้เขาเกิดความคิดริเร่ิมใหมๆ่ ให้เขาอย่กู ับสังคมและภมู ิภาคได้ การพัฒนา เป็นตัวเองก่อนคิดเองก่อน ช่วยกันคิดช่วยกันทาก่อน ก่อนที่จะให้คนภายนอกเข้ามาช่วยเหลือคนภายใน ไดร้ ว่ มกนั พัฒนาตนเองก่อน ท่จี ะใหค้ นภายนอกเข้ามาชว่ ยเหลือถา้ ไมข่ ัดสนจริงๆ แต่ถา้ เกินกาลังก็ต้องให้ คนภายนอกเข้ามาช่วยเหลือเหมือนกัน โดยการหาข้อมูลในจุดที่ต้องการช่วยเหลือ โดยตรง ลงพ้ืนท่ี หาข้อมูล ในพ้ืนท่ีน้ันโดยตรง คนในชุมชนต้องพัฒนาตัวเอง วางรูปแบบในการพัฒนาตนเอง คนในชุมชน ต้องช่วยเหลือในการพัฒนา ต้องวางรูปแบบการทางาน ยอมรับ แนวทางของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ในเรื่องการยอมขาดทุน คือกาไร ต้องยอมให้คนในชุมชน ออกมาดาเนินการทา สร้างรูปแบบการพัฒนา เพ่ือประโยชน์ของชุมชนเขาเอง เปิดโอกาส เปิดพ้ืนท่ี เปิดเวทีให้กับชุมชน เด็กและเยาวชนให้ได้รับและเข้าถึง ความเป็นเผ่าพันธ์ุวัฒนธรรมของตน ให้คนในชุมชนที่มีวัฒนธรรมดีๆ อยู่แล้ว ไม่ควรนาคนนอกเข้ามาพัฒนาหรือเผยแพร่วัฒนธรรม อยากนาวัฒนธรรมในชุมชนของเรา ออกไปให้ชุมชนภายนอกหรือคนภายนอกได้ศึกษาได้เรียนรู้มากกว่า อยากให้ชุมชนปฏิบัติตามประเพณี วัฒนธรรมให้คงอยู่ตลอดไป การปกครอง ผู้นาชุมชน ผู้ใหญ่บ้านมีคนละเผ่า รักษาสภาพความเป็นอยู่วิถีชีวิต คงอยู่มองจุดเด่นของวิถีความเป็นอยู่พึ่งพาป่า อยู่กับป่าได้อย่างสมดุล มองเรื่องความสามัคคี อยู่ห่างกัน มองเรื่องความเป็นคน มองวิถีความเป็นคนไทย ที่ดินทากิน อยากมีท่ีทากิน การพัฒนาคน ชุมชน พัฒนา ดว้ ยตนเอง คดิ ทาโน่น น่ี นั้น ทาเองในชมุ ชนและพัฒนาแตข่ าดผนู้ า ประชมุ หมบู่ ้าน อยากให้คนในชมุ ชน ช่วยกัน คิดเองทาเอง แก้ปัญหาเอง มองชุมชนในเร่ืองความเป็นอันหน่ึงอันเดียวความสามัคคี ไม่มีการ รวมกลุ่มกัน จะมีแค่รวมกลุ่มกันภายในครอบครัว อยากให้หน่วยงานรัฐเข้ามาช่วยพัฒนาหมู่บ้าน เช่น ทาถนนเข้าหมู่บ้าน ศิลปหัตถกรรม การรวมกลุ่มถักเปลญวน การทาถุงย่ามจากวัสดุธรรมชาติ ไปดูงานไม้กวาด เคร่ืองมือประกอบอาชีพ เคยทาเครื่องมือ แต่ไม่ค่อยทา ไม่มีประเพณี การแต่งกาย เครื่องแต่งกายเปล่ียนไป เมื่อก่อนนุ่งใบไม้ ด้านความช่วยเหลือ ได้รับการสนับสนุนในเร่ือง

การวจิ ัยการศกึ ษาเปรยี บเทยี บการพฒั นาบนพนื้ ทส่ี ูงในอดีตและปจั จบุ ัน 219 ของโครงการต่างๆจากทางศูนย์ฯ ทาให้ได้เรียนรู้ได้รับความรู้ต่างๆที่ทันสมัยมากข้ึน ด้านอาชีพ มีร้านก๋วยเตี่ยว มีการทาร้านค้า รวมกลมุ่ ถักเปลญวน 5.2 มองแบบ (Out side in) จากภายนอกส่ภู ายใน ผู้ให้ข้อมูลมีความเห็นว่า “วิถีชีวิต มองเร่ืองเงินเข้ามาขับเคลื่อนในการดาเนินชีวิต มองเรื่องเคร่ืองอานวยความสะดวก เช่น มอเตอร์ไซต์ ทีวี เคร่ืองซักผ้า ได้รับความรู้และวัฒนธรรมต่างๆ จากภายนอกมากข้ึนทาให้การดารงชีวิตปัจจุบันเปลี่ยนไปมากความสะดวกสบายเพิ่มมากข้ึน ไปนาเอา ของนอกมาใช้เลยด้านการพัฒนาคนชุมชน มองความเปลี่ยนแปลงทางสังคมท่ีตามไม่ทัน อยากให้ เจ้าหน้าที่มาช่วยคิดหรือเสนอตัวอย่างให้คนในชุมชนได้เห็น มีความเปล่ียนแปลงทางสังคมที่ตามไม่ทัน มีคนมาจัดระเบียบให้ ด้านประชาสัมพันธ์ ควรมีประชาสัมพันธ์จากภายนอก เรื่องการท่องเที่ยว แต่ต้อง ไม่เข้ามาทาลายความเป็นชนเผ่า ส่วนเคร่ืองมือประกอบอาชีพ ปัจจุบันซื้ออุปกรณ์ต่างๆมาแทนเร่ืองรายได้ เงินเป็นสิ่งสาคัญ ด้านการช่วยเหลือ หน่วยงานเข้ามาส่งเสริมและให้คาแนะนา อยากให้เจ้าหน้าที่มาช่วยคิด หรือเสนอตัวอย่างให้คนในชุมชนได้เห็น สาหรับอาชีพ มีการรวมกลุ่มประกอบอาชีพ เลี้ยงหมู ปลูกผัก สวนครัว รวมกลุ่มปลูกกาแฟ โดยได้รับความช่วยเหลือจากอาสาสมัครต่างประเทศ มีการร่วมกลุ่มเลี้ยง หมูและไก่ ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์พัฒนาราษฎรบนพ้ืนท่ีสูงจังหวัดแพร่ ให้รวมกลุ่มประกอบอาชีพ ผลิตข้าวไร มีร้านก๋วยเต๋ียว ด้านการเกษตร พ่อค้าเข้ามาขายปุ๋ย ขายยาฆ่าหญ้า ความรู้ มีการอบรม การทาไม้กวาดดอกหญ้า อยากให้มีความรู้เร่ืองสมุนไพร การท่องเที่ยว ต้องการพัฒนาอาชีพเก่ียวกับผ้าทอ พฒั นาคณุ ภาพเก่ียวกับการผลิตสินค้าโดยให้หน่วยงานภายนอกมาให้ความรู้ อยากให้มีหลักในการพัฒนา เพราะมีศูนย์พัฒนาราษฎรบนพ้ืนท่ีสูง มีโครงการหลวง การศึกษาการท่องเที่ยวมีพร้อมแล้วให้คนอ่ืนมา เติมในส่วนที่ขาด ขอรับการสนับสนุนและทากิจกรรมควบคู่กับ Inside out โดยให้คนภายนอก มาชว่ ยเหลือบางกจิ กรรมที่ทาไม่ได้ เพราะบางกลุ่มเป้าหมายพึ่งพาตนเองได้ บางกลมุ่ เป้าหมายไมส่ ามารถ พ่ึงพาตนเองได้ทั้ง 2 กลุ่มน้ีควรได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอก บางกลุ่มจะต้อง ใหค้ วามช่วยเหลอื แต่บางกลุม่ สามารถพัฒนาตนเองได้ จัดแผนจากหน่วยงานภายนอก จัดทางบประมาณ ตามความต้องการของกลุ่ม อยากให้คนในครอบครัวทาการเกษตรเพื่อให้มีรายได้มั่นคงไม่ทาลาย สง่ิ แวดลอ้ ม เช่นการปลกู พืชในพ้นื ที่นอ้ ยแตใ่ หผ้ ลตอบแทนสูง ตอ้ งการพัฒนาเร่ืองสภาพชีวติ ความเป็นอยู่ โดยให้หน่วยงานภายนอกมาสนับสนุน โดยอยู่ในพื้นฐานความจาเป็นของคนในชุมชน ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิต และเคารพวฒั นธรรม กล่าวได้ว่า ชุดของความคิดในการมอง เพียงเพ่ือการเรียนรู้จากการเห็นจากภายใน สู่ภายนอก (Inside out) คือการมองจุดยืนภายในชุมชนราษฎรบนพ้ืนท่ีสูง วิเคราะห์ตนเองจนเข้าใจ ตนเองในความเป็นชุมชนชาติพันธุ์ราษฎรบนพื้นท่สี งู ท่มี ี สาระสาคญั ดังน้ี

220 การวจิ ยั การศกึ ษาเปรยี บเทียบการพัฒนาบนพนื้ ทีส่ ูงในอดีตและปจั จบุ ัน ทาให้เห็นชทมุ าํชในหเหน็ ชมุ ชน ตนเองอยา่ งตชนทดั เาํ อเใจงหนอเ หย็นางชชุมัดชเนจน มองชุมชนอมยอ่างงชุมชนอยา ง ตนเองอยา งชัดเจน รจู้ ักภมู ิสังครมูจขักอภงูมสิ งั คมของ สอดคล้องกสนั อมทดอุกคงมลชิตอมุ ิงชกนันอทยกุางมิติ ตนเองรจู กั ภตมู นิสเังอคงมของ สอดคลอ งกนั ทกุ มติ ิ ตนเอง มองเหน็ ระมบอบงเห็นระบบ การมองเหน็กจารามกองเหน็ จาก พฒั นาตนเอพงฒั จนากาตนเองจาก สวสั ดชิกุมาชรนพสสฒัมววอนััสสงดดาชเิิกกหมุ าาน็ ชรรรนพพะฒฒัั บนนบาา ภายในชสมุ ภู่ชานภภยกาานายยรอใใมกนนชอสสุมงภภููชเหาาน็นยยจนนาออกกก ภายในสภู่ าพภยาฒันยอนใกนาตสนภู เาอยงนจอากก ชุมชน ชุมชน ภายในสูภายนอก พัฒนาชมุ ชพนฒัตอ้ นงาเชกุมิดชนตองเกิด พัฒนาชุมชพนฒัต้อนงาเชกุมดิ ชนตองเกดิ จากคนในพชฒั จมุ นาชกานคชนมุ ใชนนชตุมอชงนเกดิ จากคนในพชัฒจุมนาชกานคชนุมใชนนชตุมอ ชงนเกิด จากคนในชุมชน เหน็ คุณค่า เหน็ คุณคา จากคนในชุมชน ขนบปธรระรเมพเณขขนนนียี เบบมปห/ธธร็นรระครรเมมุณพเเณคนนายีียี มม// ประเพณี แผนภาพ 4.8 : ชุดความคดิ ความเห็นจากภายในสู่ภายนอก (Inside-out) อีกด้านหน่ึงของมุมมอง คือ มีจุดยืนในการดู การรู้ การเห็น จากภายนอกสู่ภายใน จากคนนอก มองเห็นคนภายใน (Out side in) กจ็ ะเหน็ สิ่งทม่ี ากกวา่ สายตามองเห็น จะได้ยนิ มากกว่าได้รบั ฟัง สรุปได้ว่า ทาให้เหน็ ชทุมําชในหเห็นชมุ ชน มองชมุ ชนอมยอา่ งงชุมชนอยาง ตนเองอย่างตชทนดั เําอเใจหงนอเหยน็า งชชุมัดชเนจน สอดคล้องกสันอมทดอุกคงมลชติอมุ ิงชกนนั อทยุกามงิติ ตนเองอยา งชัดเจน รู้จกั ภูมสิ ังครมูจขกั อภงมู สิ งั คมของ สอดคลองกนั ทุกมิติ ตนเองรูจกั ภตมู นิสเงัอคงมของ ตนเอง มองเหน็ ระมบอบงเหน็ ระบบ การมองเหน็กจารามกองเห็นจาก พัฒนาตนเอพงัฒจานกาตนเองจาก สวสั ดชกิ ุมาชรนพสสฒัมววอนัสัสงดดาชเิกิกหมุ าาน็ ชรรรนพพะัฒฒั บนนบาา ภายนชอุมกชสนภู่ภภกาาาายยยรในนมนชอออุมกกงชเสสหนภูภู ็นาาจยยาใใกนน ภายนอกสู่ภภพาาฒั ยยนในนาอตกนสเูภองาจยาในก ชมุ ชน ชุมชน ภายนอกสูภายใน พฒั นาชมุ ชพนัฒตอ้ นงาเชกุมิดชนตองเกิด พฒั นาชมุ ชพนฒัต้อนงาเชกมุิดชนตองเกิด จากคนในพชฒั จุมนาชกานคชนมุ ใชนนชตมุ อชงนเกิด จากคนในพชฒั จุมนาชกานคชนมุ ใชนนชตุมอชงนเกิด จากคนในชมุ ชน เหน็ คุณค่า เหน็ คุณคา จากคนในชมุ ชน ขนบปธรระรเมพเณขขนนนียี เบบมปห/ธธร็นรระครรเมมณุพเเณคนนายยีีี มม// ประเพณี แผนภาพ 4.9 : ชดุ ความคดิ การบรหิ ารการพัฒนาราษฎรและชุมชนบนพ้นื ที่สงู จากภายนอกสภู่ ายใน แผนภาพ 4(.O9u:tชsiดุdคeว–ามinค)ดิ การบรหิ ารการพฒั นาราษฎรและชุมชนบนพน้ื ทส่ี งู จากภายนอกสู่ภายใน (Outside-in)

การวจิ ัยการศกึ ษาเปรยี บเทยี บการพฒั นาบนพื้นทสี่ ูงในอดตี และปัจจบุ นั 221 6) การศึกษาราษฎรบนพ้นื ทีส่ ูง แบบวัฒนธรรมข้ามคน หรือแบบคนข้ามวัฒนธรรม มุมมองชุมชนบนพื้นทส่ี ูงระหว่างคนในชมุ ชนกบั วัฒนธรรมชุมชน ทั้งคนและวัฒนธรรม ความเช่อื อายุในชนเผ่าเดียวกัน และทแี่ ตกต่างกนั ไป ในกลุม่ ของตนเอง ทไี่ ม่มีปฏิสัมพันธ์ต่างกนั แยกกนั ชุดความสัมพันธ์ระหว่างคนกับวัฒนธรรม จึงมีหลักการวิเคราะห์วาทกรรมการพัฒนา ราษฎรบนพืน้ ทีส่ งู ดังน้ี เช่น แบบท1ี่ ปจั จัยแวดล้อม วัฒนธรรม คนของ ชมุ ชน ชุมชน แบบ 2 วัฒนธรรม คนของ ชมุ ชน ชมุ ชน แบบ 3 คนขา้ ม ระบบ วัฒนธรรม นเิ วศน์ นิเวศน์ แบบ 4 วัฒนธรรม ระบบนิเวศน์ ขา้ มคน แผนภาพ 4.10 รูปแบบการวิเคราะหค์ นข้ามวฒั นธรรมของราษฎรบนพน้ื ที่สงู

222 การวิจยั การศกึ ษาเปรยี บเทยี บการพัฒนาบนพ้ืนทีส่ งู ในอดีตและปัจจุบัน บทสรุปของความคิดคนข้ามวัฒนธรรม คือ คนจะไม่ใส่ใจด้านวัฒนธรรมเดิม ด้านการแต่งกาย เปล่ียนไป การแต่งตัว มีการแต่งกายตามแบบคนพื้นราบมากขึ้น เพ่ือความสะดวกในการทางานข้างนอก เน่ืองจากคนภายในหมู่บ้านนาการแต่งกายท่ีเปล่ียนแปลงจากภายนอกชุมชนเข้ามา วัฒนธรรมการแต่งกาย เปล่ียนไปทุกชนเผ่า เพราะคนในชุมชนแต่งกายแบบสมัยใหม่มากข้ึนมีการนาเสื้อผ้าเข้ามาขายให้กับ คนในชุมชน ประกอบกับอากาศท่ีร้อนข้ึนทาให้คนในชุมชนบนพ้ืนที่สูงนาชุดการแตง่ กายพ้ืนราบมาประยุกต์ใช้แทน ชุดชนเผ่าทาให้การแต่งกายในชุดชนเผ่าเริ่มลดลง จะมีการแต่งกายชุดชนเผ่าเฉพาะช่วงมีงานประเพณี ในหมู่บา้ น ด้านการเงิน เร่ิมมองว่าเงินเป็นตัวขับเคลื่อนของชีวิต ซึ่งเดิมเคยมีการช่วยเหลือกันใน ด้านการเกษตร มกี ารลงแขกชว่ ยกันเกบ็ ข้าวโพด เก่ยี วข้าว ปัจจบุ นั กลายเป็นการจ้างงาน ด้านอาหารการกิน ปัจจุบันคนในชุมชนนิยมอาหารสาเร็จรูป เช่น โจ๊กสาเร็จรูป เพราะง่าย เร็วและสะดวกต่อการบริโภค วัฒนธรรมบางอย่างมีการปรับเปลี่ยนไป การแต่งงาน เร่ิมมีการแต่งงานกับคนพื้นราบนอก หมู่บ้านมากย่ิงข้ึน โดยไม่มีการศึกษาพฤติกรรม ความเป็นมากันมาก่อน เมื่อแต่งงานอยู่ในชุมชน นาพฤติกรรมท่ีไม่ดีเข้ามาในชุมชน เช่นการเปิกเพลงเสียงดัง ปรับแต่งมอเตอร์ไซต์ให้เกิดเสียงดัง ทาให้ คนในชุมชนเดือดร้อนตามไปด้วย ซึ่งในอดีตบางชุมชนเม่ือมีพิธีการแต่งงาน เม่ือก่อนจะมีการฆ่าหมู แต่ปจั จุบันคนในชมุ ชนถอื ศลี 5 จึงไมม่ ีการฆ่าหมู อีกแล้ว ด้านส่ือ ปัจจุบันเทคโนโลยีมีมากขึ้น กลุ่มวัยรุ่นสนใจส่ือภายนอก เช่น โทรทัศน์ โทรศัพทม์ ือถือ กลอ้ งถ่ายรปู ฯลฯ ด้านความบันเทิงมีการนาเคร่ืองเสียง เครื่องดนตรี มาใช้มากย่ิงขึ้น มีการจัดงานเล้ียง งานสงั สรรค์ท่เี ปน็ การสนิ้ เปลืองโดยเปล่าประโยชน์ เปน็ ต้น ส่ิ ง เห ล่ า นี้ เกิ ด จ า ก พ ฤ ติ ก ร ร ม ก า ร เลี ย น แ บ บ ท่ี เ ป็ น ไป ต า ม ยุ ค ส มั ย ซึ่ ง ท า ใ ห้ วิ ถี ชี วิ ต ของชนเผา่ ไดส้ ูญหายไป มมุ มองแบบวฒั นธรรมขา้ มคน จากการสัมภาษณ์ผู้ให้สัมภาษณ์ให้ความเห็นว่า “อนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี คนในชุมชน มีวัฒนธรรมของชมุ ชนเองที่ดอี ยู่แลว้ จะตอ้ งนาวัฒนธรรมอื่นๆ เขา้ มาอกี ทาไม วัฒนธรรมดๆี ท่ีมีอนุรักษ์ไว้ เช่น การแต่งกายสวยงาม ภาษาเป็นเอกลักษณ์ ขนบธรรมเนียมด้ังเดิม การเรียกขวัญ วิถีประเพณี วัฒนธรรม ยังคงยึดถือปฏิบัติเหมือนเดิม หาพื้นที่ชุมชน วิถีประเพณีวัฒนธรรม ยังไม่มีการเปล่ียนแปลง มากนัก ยังคงยึดถือเหมือนเดิม เคารพผู้อาวุโสน้อยถอยลง ก่อให้เกิดปัญหาสังคม วิถีชีวิต ยังคงรักษา ความเป็นอยู่แบบเอ้ืออาทร การช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน มีการเล้ียงลูกท่ีเรียบง่าย เล่นดิน เล่นทราย การเล้ียงลูก ผู้หญิงเลี้ยงลูกด้วยนมตัวเองอย่างเดียว การแต่งกายมีเสื้อผ้าคนเมืองใส่ การเกษตร มีการรวมกลุ่มปลูกกาแฟ มีการรวมกลุ่มเล้ียงหมูและไก่ ด้านหัตถกรรม ยังคงรักษาศิลปวัฒนธรรม เชน่ การนาเถาวัลยม์ าถกั กระเป๋า มกี ารรวมกล่มุ กนั ถกั เปลญวน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook