Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ✍️ พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ โดย อ.ป.

✍️ พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ โดย อ.ป.

Description: ✍️ พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ โดย อ.ป.

Search

Read the Text Version

การบาเพญ็ บารมีในอดตี ชาติ ๖๐๓ คร้งั มพี ระชาติเป็นอกติ ติดาบส๑ บารมีใด ๆ อันเราประพฤติส่ังสมแล้ว ในระยะกาลนับได้ส่ีอสงไขยแสน กลั ป์ บารมีน้ันทั้งหมดเป็นเครอ่ื งบม่ โพธญิ าณใหส้ กุ , บารมที ่เี ราประพฤติแล้วในภพ น้อยใหญ่ ในกัลป์ก่อน ๆ นั้น จักงดไว้ก่อน,จักกล่าวเฉพาะบารมีท่ีเราประพฤติใน กัลปน์ ้ี ท่านจงฟง๎ คําของเรา. ในกาลใด, เราเป็นดาบส นามว่า อกิตติ อาศัยอยู่ในปุาหลวงสงัดเงียบว่าง จากคนไปมา,ในกาลนั้น ด้วยอํานาจการบําเพ็ญตบะกรรมของเรา ท้าวสักกะผู้เป็น ใหญ่ย่ิงในไตรทิพย์ ได้ร้อนใจทนอยู่ไม่ได้แล้ว.๒ เธอแปลงเพศเป็นพราหมณ์เข้ามา ขออาหารกะเรา. เราเห็นพราหมณ์น้ัน ยืนอยู่แทบประตูของเรา จึงให้ใบไม้ อันเรานํามา จากปุา ไม่มีมันและไม่เค็ม๓ ไปท้ังหมด. คร้ังให้แล้ว ก็คว่ําภาชนะเก็บและไม่ออก แสวงหาใหม่ เข้าสูบ่ รรณศาลาแลว้ . ในวันท่ีสอง และท่ีสาม พราหมณ์นั้นได้มาขอกะเราอีก. เรามิได้มีจิต หว่ันไหวไปจากเดิมไม่ได้อ่อนอกอ่อนใจ ได้ให้ไปหมดท้ังภาชนะอย่างเดียวกับวัน กอ่ น. ความทรดุ โทรมแหง่ ผิวพรรณในสรรี ะของเรา จะมเี พราะเหตอุ ดอาหารนน้ั ก็ หาไม,่ เราฆ่าเวลาเปน็ วัน ๆ นัน้ ได้ด้วยความยนิ ดี โดยสุขอนั เกดิ จากปตี .ิ ____________________________________________________________________________ ๑. บาลี อกติ ตจิ ริยา จรยิ า. ข.ุ ๓๓/๕๕๑/๑. ๒. นยั วา่ ขา่ วการบําเพญ็ ตบะอยา่ งสงู สุดของใครกต็ าม ยอ่ มทราบถึงทา้ วสักกะผูม้ ักระแวงอยู่ เสมอว่า จะมีใครบําเพญ็ ตบะเพอ่ื หวงั แย่งบัลลังก์ของตน. ๓. ดาบสน้ี ฉันใบหมากเมา่ ตม้ เปล่า ๆ เป็นอาหาร เพ่อื ตัดความกังวลในเร่อื งน.ี้ กลบั ไปสารบัญ

๖๐๔ พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ - ภาค ๖ หากวา่ เราไดป้ ฏิคาหกอันประเสรฐิ ตลอดเวลาตั้งเดือนหรือสองเดือนเราก็ จะคงเป็นผู้มีจิตไม่หวั่นไหวไปจากเดิม ไม่อ่อนอกอ่อนใจ และให้ทานอันสูงสุดได้ สมาํ่ เสมอ. เมือ่ เราให้ทานแกพ่ ราหมณ์น้นั เราจะไดป้ รารถนายศ หรือลาภก็หามิได้, เราปรารถนาอยซู่ ่ึงสัพพญั ํุตญาณ (อนั จะเกิดได้เพราะการถูกบ่มโดยทานนั้น) จึง ได้ประพฤตแิ ลว้ ซึ่งกรรมทั้งหลายเหล่านน้ั . ครง้ั มีพระชาติเปน็ พระจันทกมุ าร๑ ครั้งอื่นอีก, เราเป็นโอรสของพระราชาเอกในนครบุบผวดี มีนามอันเขา ขนานให้ว่า จันทะ. ในกาลนั้น เรารอดพ้นไปได้จากการถูกฆ่าบูชายัญญ์ (ซ่ึงปุโรหิตผู้อาฆาตทูลยุยงพระราชบิดาให้หลงเชื่อ), เกิดความสลดสังเวชข้ึน ภายในใจ ไดบ้ ําเพญ็ มหาทานแลว้ . เมื่อไม่ได้ทักขิเณยยบุคคลผู้มารับทาน เราก็ยังไม่ดื่ม ไม่เคี้ยว๒ ไม่บริโภค อาหารด้วยตนเอง บางคราว ๖ วันบ้าง ๕ วันบ้าง. พาณิชสะสมสินค้าไว้นําไปขาย ในท่ีทีจ่ ะมีกาํ ไรมาก ยอ่ มมกี ําไรมากฉันใด การงดเวน้ สง่ิ ทจี่ ะบรโิ ภคเองเพื่อบําเพ็ญ ทานแก่ผูอ้ ่ืนก็ฉันน้ัน. เพราะเหตุนั้น ทกุ คนพึงให้ทานแกผ่ ู้อน่ื จกั เป็นความดีเกิดขึ้น ๑๐๐ เท่า.เรา เองมองเห็นอาํ นาจแห่งประโยชน์อยา่ งนน้ี ่ีแลว้ จึงบาํ เพญ็ ทานทุก ๆ ภพ.เราไม่ก้าว ถอยกลับจากการใหท้ าน ก็เพอ่ื การลุถงึ โดยลาํ ดบั ซึ่งปญ๎ ญาเปน็ เครอื่ งร้พู ร้อม. ____________________________________________________________________________ ๑. จันทกุมารจริยา จริยา. ข.ุ ๓๓/๕๕๖/๗. กลบั ไปสารบัญ ๒. เคยี้ ว คือของกนิ เล่น หรอื อาหารว่าง.

การบาเพ็ญบารมใี นอดีตชาติ ๖๐๕ ครง้ั มพี ระชาตเิ ป็นสงั ขพราหมณ์๑ ครั้งอื่นอีก, เม่ือเราเป็นพราหมณ์มีนามว่า สังขะ ได้ไปที่ท่าเรือเพ่ือ เดินทางข้ามสมุทร. ณ ทน่ี น้ั เราได้เห็นท่านผู้ชนะกิเลสได้โดยตนเอง เป็นผู้อันกิเลส จะทําให้กลับแพ้อีกมิได้, ท่านผู้นั้นเดินทางกันดาร ไปในท่ามกลางพ้ืนทรายอันร้อน จัด. เราเห็นท่านสยัมภู๒ ผู้น้ัน ในขณะท่ีท่านเดินทางอยู่, เกิดความคิดข้ึน ภายในใจว่า `นาบุญน้ี อันเราผู้แสวงบุญมาถึงเข้าแล้วโดยลําดับ. ก็เม่ือชาวนาได้ เนื้อนา อย่างดีแล้ว ยังไม่หว่านพืชลงในนานั้น ก็แปลว่าเขามิได้เป็นผู้มีความ ต้องการดว้ ยข้าวเปลอื ก นี่เป็นฉนั ใด เรากจ็ ะเป็นฉนั นั้น ถ้าว่าเราเปน็ ผูต้ อ้ งการบุญ เหน็ นาบญุ อนั สงู สดุ แล้ว ก็หาลงมือประกอบกรรมนั้นไม่ ฯลฯ.' เราคิดด่ังนี้แล้ว ลงจากรองเท้า กราบลงที่บาทของท่านผู้สยัมภูนั้นแล้ว ถวายรม่ และรองเท้าของเราแด่ท่าน. เพราะกรรมนั้น (ในชาตินี้) เราจึงได้เสวยสุข เปน็ สขุ มุ าลชาติยง่ิ กว่าตัง้ รอ้ ยเท่า, และทั้งเป็นการทําทานบารมีของเราให้เต็ม เรา จงึ ให้ทานแดท่ ่านผู้เช่นนัน้ . ครัง้ มพี ระชาตเิ ป็นเวลามพราหมณ์๓ คหบดี ! ในกาลดึกดําบรรพ์ ได้มีพราหมณ์ผู้หน่ึง ชื่อเวลามะ.เวลาม พราหมณน์ นั้ ไดบ้ รจิ าคทานอันเป็นทานอย่างใหญ่หลวง เห็นปานนคี้ อื :- ____________________________________________________________________________ ๑. บาลี สงั ขจรยิ า จรยิ า. ข.ุ ๓๓/๕๕๒/๒. ๒. พระป๎จเจกพุทธเจา้ องค์หน่ึง. ๓. บาลี นวก. อํ. ๒๓/๔๐๖/๒๒๔. ตรสั แก่อนาถปณิ ฑิกคหบดี ที่อารามเชตวัน. กลบั ไปสารบัญ

๖๐๖ พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ - ภาค ๖ ได้ให้ถาดทองจํานวนแปดหม่ืนสี่พัน อันบรรจุเต็มด้วยเงิน. ได้ให้ถาดเงิน จํานวนแปดหมื่นส่ีพัน อันบรรจุเต็มด้วยทอง. ได้ให้ถาดสําริดจํานวนแปดหม่ืนสี่พัน อันบรรจุเต็มด้วยเงิน. ได้ให้ช้างจํานวนแปดหมื่นส่ีพัน ประดับแล้วด้วยเครื่องทอง ธง ก็ทําด้วยทอง ตาข่ายเครื่องปิด ก็ล้วนทําด้วยทอง.ได้ให้รถจํานวนแปดหมื่นสี่ พัน หุ้มบดุ ้วยหนังราชสีห์ ดว้ ยหนังพยคั ฆ์ด้วยหนังเสือเหลือง ด้วยผ้ากัมพลเหลือง ประดับไปแล้วด้วยเคร่ืองทอง ธงก็ทําด้วยทอง ตาข่ายเคร่ืองปิด ก็ล้วนทําด้วย ทอง. ได้ให้แม่โคนมจํานวนแปดหม่ืนสี่พัน ล้วนกําลังมีนมไหลรูดรองได้. ได้ให้ นางสาวน้อยจํานวนแปดหม่ืนสี่พัน ซ่ึงแต่ละนางมีตุ้มหูประดับมณี. ได้ให้บัลลังก์ จํานวนแปดหม่ืนส่ีพัน ซ่ึงลาดด้วยขนเจียม ลาดด้วยสักหบาด ลาดด้วยผ้าป๎ก ลวดลายลาดด้วยเครื่องลาดที่ทําด้วยหนังชะมด มีเพดานแดง มีหมอนข้างแดง. ได้ให้ผ้าจํานวนแปดหมื่นสี่พัน คือผ้าทอด้วยเปลือกไม้อันละเอียดอ่อน ผ้าไหมอัน ละเอียดอ่อน ผ้าฝูายอันละเอียดอ่อน. ฉะนั้น จึงไม่ต้องกล่าวถึงการให้ข้าวให้น้ํา ให้ของเค้ียวของบริโภค ให้เครื่องลูบไล้เคร่ืองทา และให้เครื่องนอน. เวลามพราหมณ์น้ันบริจาคให้ไป ๆ เหมือนแม่นา้ํ ไหลไมข่ าดสาย. คหบดี ! กค็ วามคดิ อาจมีแกท่ า่ นว่าผูอ้ ื่นตา่ งหาก ทเี่ ปน็ เวลามพราหมณ์ผู้ให้ ทานอันใหญ่หลวงในคร้ังน้ัน. คหบดี ! ท่านไม่ควรคิดไปอย่างน้ัน,เราน่ีเองได้เป็น เวลามพราหมณ์ในสมยั นนั้ เราเอง ไดบ้ รจิ าคทานอนั ใหญห่ ลวงนัน้ . คหบด!ี กแ็ ต่ว่า การให้ทานในครั้งกระโน้น ใคร ๆ ที่จะสมควรรับทักษิณาทานมิได้มีเลย, ใคร ๆ ท่ี จะช่วยให้การใหท้ กั ษิณาทานน้ันบริสทุ ธ์ไิ ด้ก็ไมม่ เี ลย. กลบั ไปสารบัญ

การบาเพญ็ บารมีในอดีตชาติ ๖๐๗ ครง้ั มีพระชาติเปน็ พระเวสสันดร๑ กษัตริย์ใดได้เป็นมารดาของเรา มีนามว่า ผุสดี กษัตริย์นั้นเป็นมเหษีของ ทา้ วสกั กะมาแลว้ ในอดตี ชาติ. ทา้ วสักกะผู้จอมเทพทราบอายุขัยของพระมเหษีองค์ นั้นแล้ว ได้ตรัสกะเธอว่า \"เจ้าผู้เลิศงาม เราให้พรแก่เจ้าสิบประการตามแต่เจ้าจะ เลือกเอา\"๒. พระเทวีน้ัน ได้รําพันถามท้าวสักกะว่า \"หม่อมฉันมีความผิดอย่างไรหรือ หนอ, หม่อมฉันเป็นท่ีเกลียดชังของพระองค์แล้วหรือ จึงถูกบังคับให้ละโลกอันน่า ร่นื รมยน์ ีไ้ ป ดจุ พฤกษชาตทิ ่ีถูกลมพดั ถอนขนึ้ ทง้ั รากฉะนัน้ \". ท้าวสักกะผู้อันพระเทวีรําพันเช่นนั้นแล้ว ได้ตรัสแก่เธอว่า \"ใช่ว่าเจ้าจะทํา บาปอันใดลงไปก็หามิได้ ใช่ว่าเจ้าจะไม่เป็นท่ีรักของเราก็หามิได้ แต่ว่าอายุของเจ้า มีเพยี งเท่านี้ บดั น้เี ปน็ เวลาท่เี จา้ จะจตุ ิ ฉะนั้น เจ้าจงรับเอาพรสิบประการอันเราให้ เถดิ \". พระเทวีนั้น จุติแล้ว บังเกิดในตระกูลกษัตริย์ นามว่า ผุสดี ได้สมรสกับ พระราชาสัญชัย ในนครเชตุตดร. ในกาลท่ีเราก้าวลงสู่พระครรภ์แห่งพระมารดา อันเป็นที่รักนั้น มารดาของเราได้เป็นผู้ยินดีในทานตลอดเวลา เพราะเดชของเรา. ทา่ นไดใ้ ห้ทานแกย่ าจกผู้ไร้ทรัพย์ อาดรู ครวญครํา่ และแกส่ มณพราหมณ์ อยา่ งไม่ ย้งั มือ. ____________________________________________________________________________ ๑. บาลี เวสสนั ตรจริยา จรยิ า. ขุ. ๓๓/๕๕๙/๙. ในคัมภีร์จริยาปฎิ ก ซง่ึ เปน็ คมั ภรี ช์ นั้ บาลี มไิ ด้เรียงเร่ืองเวสสันดร ไว้เปน็ เรอื่ งสุดทา้ ยแหง่ เรื่องทงั้ หลาย เหมือนในคัมภีรช์ าดก; ฉะน้ัน ในท่นี ข้ี า้ พเจ้า จึงไม่เรียงเรอื่ งเวสสนั ดรไว้เป็นเร่ืองสดุ ท้ายเหมือนทค่ี นทง้ั หลายเช่อื กนั . ๒. คําพดู เชน่ นี้ นัยว่าเปน็ ประเพณี พดู กับผทู้ จี่ ะต้องจตุ จิ ากสวรรค์. กลบั ไปสารบัญ

๖๐๘ พุทธประวตั ิจากพระโอษฐ์ - ภาค ๖ แม่เจ้าผุสดีดํารงครรภ์ครบสิบเดือน กําลังเที่ยวประพาสท่ัวนครได้ ประสตู เิ รา ณ ถนนแหง่ ชาวรา้ น เพราะกําเนินท่ีถนนแห่งชาวร้าน นามของเรา จึงไม่เก่ียวเน่ืองด้วยมารดาและบิดา, ได้ชื่อว่าเวสสันดร (แปลว่า \"ระหว่างชาว ร้าน\"). เม่อื เราเป็นทารกอายุแปดปี นั่งอยู่ในปราสาท ก็รําพึงแต่จะให้ทาน; \"เรา จะให้ทาน หัวใจดวงตา เนื้อ เลือด ร่างกาย ให้ปรากฏ ถ้าว่าจะมีผู้มาขอกะเรา\", เมอ่ื เรารําพงึ แน่ใจ ไมห่ ว่นั ไหวเชน่ นน้ั แผ่นดนิ ไดไ้ หว ภเู ขาสิเนรสุ ่ันสะเทอื น. ในวนั อโุ บสถก่งึ เดอื น และปลายเดอื น เราขึน้ ส่ชู ้างช่ือ ป๎จจยนาคไปให้ทาน. พวกพราหมณ์ชาวแว่นแคว้นกาลิงค์ เข้ามาหาเรา และได้ขอช้างอันประเสริฐซึ่ง สมมติกันว่าเป็นมงคลนั้น กะเรา เขากล่าวกะเราว่า \"ท่ีชนบทของข้าพเจ้า ฝน ไม่มีตก เกิดทุพภิกขภัยอดอาหารอย่างใหญ่หลวง ขอพระองค์จงประทานช้าง อนั บวร เป็นจอมช้าง มีอวัยวะขาวหมด แก่ข้าพเจา้ เถดิ \". เราตกลงใจว่า เราให้, เราไม่มีหวั่นไหว. เราไม่หวงแหนปกปิดทานวัตถุที่ เรามี เพราะใจของเรายินดีในทาน. การปฏิเสธต่อยาจกที่มาถึงเข้าแล้วน้ัน ไม่ควร แก่เรา, เราอย่าทําลายการสมาทานของเราเสียเลย เราจักให้ช้างอันวิบูลย์ บัดน้ี ละ. เราจับท่ีงวงช้างมือหน่ึง อีกมือหนึ่งหล่อน้ําในเต้าใส่มือพราหมณ์ ให้ช้าง แก่พราหมณ์ไป. เมื่อเราให้ทานช้างเผือกสูงสุดน้ี แผ่นดินได้หว่ันไหว ภูเขาสิเนรุ สน่ั สะเทอื นอกี คร้งั หน่งึ . เมอ่ื เราให้ชา้ งตวั นนั้ ชาวเมอื งสีพีโกรธมาก มาประชมุ กันใหเ้ นรเทศเราจาก นคร ไปอยู่เขาวงก.์ เมอื่ ชนพวกน้ันพากนั กําเริบ เรากย็ ังมคี วาม กลับไปสารบัญ

การบาเพญ็ บารมีในอดีตชาติ ๖๐๙ ไมห่ ว่นั ไหว, ขอร้องกะเขาเพ่ือได้ให้ทานคร้ังใหญ่อีกคร้ังหน่ึง ชาวสีพีถูกขอร้องเข้า แลว้ ก็ยอมให.้ เราให้ปุาวร้องเอิกเกริกวา่ เราจะให้มหาทาน. มีเสียงเล่าลืออย่างใหญ่หลวง เพราะเร่ืองนี้ว่า \"ถูกขับเพราะให้ทาน ยังจะให้ทานอีก !\". เราให้ทานช้าง ม้า รถ ทาสี ทาส โค และทรพั ย.์ คร้ันให้มหาทานแล้ว จึงออกจากนครไป. คร้ันออกไปพ้น เขตนครแล้ว ได้กลับเหลียวดูเป็นการลา แผ่นดินได้ไหว ภูเขาสิเนรุสั่นสะเทือนอีก ในคร้งั น้นั . เมื่อถึงทางส่ีแพร่ง ได้ให้ทานรถเทียมด้วยม้าสี่ไป เราผู้ไร้เพื่อนบุรุษกล่าว กับพระนางมัททรีว่า \"เจ้าจงอุ้มกัณหาลูกหญิงน้อย ค่อยเบาหน่อยเราจักอุ้มชาลี พีช่ ายหนึ่งหนักกวา่ \". เปน็ อันว่าพระนางมทั ทรีได้อุ้มกัณหาชินะ อันงามเหมือนดอก บุฑริก และเราไดอ้ มุ้ ชาลี ซึ่งงามเหมอื นรปู ทองหล่อ; รวมเป็นสี่กษัตริย์สุขุมาลชาติ ได้เหยียบย่าํ ไปตามหนทางตํา่ ๆ สงู ๆ ไปสเู่ ขาวงก์. พบใครในระหว่างทางก็ถามว่า เขาวงก์อยู่ทางไหน ชนเหลา่ นั้นสงสารเรา และบอกวา่ ยงั ไกลมาก. เด็ก ๆ ได้เห็นผลไม้ในปุา ก็ร้องไห้อยากได้ผลไม้น้ัน ๆ.เห็น เด็ก ๆ ร้องได้ ต้นไม้ก็น้อมก่ิงมีลูกดกเข้ามาหาเด็กเอง. พระนางมัททรีเห็นความ อัศจรรยช์ วนสยองขนเช่นน้ี ก็ออกอทุ านสาธกุ าร \"โอหนอของอศั จรรย์ ไม่เคยมี ในโลก นา่ ขนพอง ต้นไมน้ อ้ มกิ่งลงมาเอง ด้วยอาํ นาจแห่งพระเวสสันดร\". พวกยักษ์ ช่วยย่นการเดินทาง เพื่อความอนุเคราะห์แก่เด็ก ๆ, ในวันที่ออก จากนครน่ันเองไดเ้ ดนิ ทางถงึ แวน่ แควน้ ของเจตราช, ญาติในทีน่ ้ันรอ้ งไห้ กลบั ไปสารบัญ

๖๑๐ พุทธประวตั จิ ากพระโอษฐ์ - ภาค ๖ คร่าํ ครวญกลิง้ เกลอื กทั้งผูใ้ หญ่และเด็ก. ออกจากแว่นแคว้นของญาติเหล่านั้นแล้ว กม็ ่งุ ไปเขาวงก์. จอมเทพ สงั่ ให้วสิ สุกัมมผ์ ู้มีฤทธิ์ สรา้ งบรรณศาลา๑ เป็นอาศรมอันร่มย์รื่น, วสิ สุกัมม์ไดส้ รา้ งแล้วเป็นอย่างดี ตามดํารัสของท้าวสักกะ. พวกเราสี่คนก็ลุถึงราว ปุาอันเงียงเหงา ไม่มีวี่แววแห่งมนุษย์, ได้อาศัยอยู่แล้วในบรรณศาลานั้น ใน ระหวา่ งภูเขา. บรรเทาความโศกของกันและกนั ได้แล้ว ณ ที่นั้น. เราดูแลเด็ก ๆ ใน อาศรม พระนางมัททรไี ปเสาะหาผลไมใ้ นปาุ มาเลย้ี งกัน. เม่ือเราอยู่ถึงในปุาสูง ก็ยังมีนักขอไปหาเรา, ได้ขอลูกของเรา คือชาลี และกณั หาชินะ ทั้งสองคน. ความบนั เทงิ ใจเกดิ ขึน้ แก่เรา เพราะไดเ้ ห็นยาจกเข้า ไปหา เราได้ยื่นบุตรทั้งสองคนให้กะพราหมณ์ผู้มาขอน้ันไป. เม่ือเราสละบุตรให้แก่ พราหมณน์ ามว่าชชู กในกาลน้ัน แผ่นดนิ ได้ไหว เขาสิเนรสุ นั่ สะเทือนอีก. ตอ่ มา ท้าวสักกะได้ลงมาโดยเพศพราหมณ์ ขอพระนางมัททรีผู้มีศีลและ มีวัตรในสามี กะเราอีก. เราได้จับหัตถ์มอบหมายให้ และหล่ังนํ้าลงในฝุามือ พราหมณ์ มีจิตเบิกบานผ่องใส ให้พระนางมัททรีไป. ขณะท่ีเราให้ ทวยเทพใน นภากาศก็พลอยอนุโมทนา แผน่ ดินได้ไหว เขาสิเนรสุ ่ันสะเทอื นอกี . เราสละชาลีกัณหา และพระนางมัททรีผู้มีวัตรในสามี, ไม่มีความลังเลใจก็ เพราะเหตุแห่งป๎ญญาเคร่ืองตรัสรู้ (รู้ความดับทุกข์ของสัตว์โลก). ลูกสองคนนั้น จะเป็นที่เกลียดชังของเราก็หาไม่ พระนางมัททรีจะเป็นท่ีเกลียดชังก็หาไม่. สพั พัญํุตญาณเปน็ ทีร่ ักของเรา เราจึงใหข้ องรกั (เพอ่ื สง่ิ ทเ่ี รารัก) ...ฯลฯ. ____________________________________________________________________________ ๑. บรรณศาลา คือศาลามงุ ก้ัน ดว้ ยใบไม้ ใบหญา้ ชนิดใดชนดิ หน่งึ . กลบั ไปสารบัญ

การบาเพญ็ บารมีในอดตี ชาติ ๖๑๑ คร้ังมีพระชาติเป็นมาตังคชฎิล๑ ชาติอ่ืนอีก : เราเป็นชฎิล บําเพ็ญตบะกล้า นามว่า มาตังคะ มีศีล มี สมาธิม่ัน. เรากับพราหมณ์อีกผู้หน่ึง ต่างอาศัยอยู่ริมฝ๎่งแม่นํ้าคงคาด้วยกัน. อาศรมของเราอยู่เหนอื นํ้า ของพราหมณอ์ ยู่ใตน้ ํ้า. พราหมณ์น้ันเดินเลาะฝ่๎งขึ้นมา เห็นอาศรมของเราทางเหนือนํ้า มีความ รังเกียจ ด่าว่าเราแช่งเราให้ศรีษะแตก. ที่จริงถ้าเราโกรธพราหมณ์น้ันขึ้นมา หรือ ศีลของเราไม่ควบคุมเราไว้แล้ว เพียงแต่เรามองดูเท่านั้น ก็อาจทําพราหมณ์ให้ กลายเปน็ ดุจวา่ ขีเ้ ถา้ ไป. พราหมณน์ ้ัน โกรธ คิดประทุษร้าย ว่าเราด้วยคําสาปแช่งอย่างใดอาการน้ัน กลับเปน็ แก่พราหมณ์น้นั เอง เราพ้นไปดว้ ยอํานาจคุณของเรา. เรารักษาศลี ของเรา เราไม่ได้รักษาชีวิตของเรา (หมายถงึ เกียรตยิ ศ), ในกาลนน้ั เรารกั ษาศีล เพราะเหตุ แห่งปญ๎ ญาเครอ่ื งตรัสร้เู ทา่ นั้น. คร้งั มีพระชาติเปน็ จูฬโพธิ๒ ชาตอิ ่นื อกี : เมื่อเราเป็นพราหมณ์ช่ือจูฬโพธิ ผู้มีศีล, มองเห็นภพโดยความ เป็นของน่ากลัว จึงได้ออกบวช. ภริยาเก่าของเราเป็นพราหมณี มีรูปด่ังทําด้วย ทอง. แมเ้ ธอน้นั กไ็ มป่ ระสงค์ต่อการเวยี นว่ายในวัฏฏะ จงึ ออกบวชเสียดว้ ยกัน. ____________________________________________________________________________ ๑. บาลี มาตังคจริยา จรยิ า. ขุ. ๓๓/๕๗๕/๑๗. กลบั ไปสารบัญ ๒. บาลี จูฬโพธิจรยิ า จรยิ า. ข.ุ ๓๓/๕๗๑/๑๔.

๖๑๒ พทุ ธประวัติจากพระโอษฐ์ - ภาค ๖ เราสองคน เป็นผู้ไม่มีที่อาลัย ตัดขาดจากพงศ์พันธ์ุ ไม่มีความมุ่งหมาย อะไรในตระกูล และหมู่ชน เท่ียวไปตามหมู่บ้านและจังหวัด ลุถึงเมืองพาราณสี แล้ว. ณ ท่ีนั้น เราบําเพ็ญป๎ญญา ไม่ระคนด้วย หมู่คณะ อยู่ในราชอุทยานอันไม่มี ผ้คู นเกลื่อนกล่น และเงียบเสยี ง. พระราชาเสด็จมาประพาสสวน ทอดพระเนตรเห็นนางพราหมณี ก็เข้ามา ถามเราว่า หญิงน้นั เปน็ ภรยิ าของทา่ น หรอื ของใคร? เราทูลตอบว่าไม่ใช่ภริยาของ เรา เปน็ เพียงผูป้ ระพฤติธรรมรว่ มกนั คือคาํ สอนอยา่ งเดยี วกัน. พระราชากําหนัดในนางพราหมณีนั้น รับส่ังให้จับและฉุดคร่านางไปโดย พลการ สู่ภายในนคร. เมื่อฉุดคร่านํานางไป ความโกรธได้เกิดข้ึนแก่เรา แต่พร้อม กับความโกรธที่เกิดขึ้นน้ัน เราระลึกขึ้นได้ถึงศีลและวัตร. ในขณะน้ันเอง เราข่ม ความโกรธได้ และไมย่ อมให้เกดิ ข้นึ มาไดอ้ ีก. เรารู้สึกตัวเราว่า แม้ใครจะทําร้ายนางพราหมณีด้วยหอกคมกล้า เราก็ไม่ ทําลายศีลของเรา, เพราะเหตุเห็นแก่โพธิญาณ (มากกว่าเห็นแก่นางพราหมณี). แตใ่ ชว่ ่า นางพราหมณจี ะไมเ่ ป็นที่รักของเรากห็ าไม่ และใช่ว่าเราจะไม่มีกําลังวังชา ก็หาไม่. สพั พัญํตุ ญาณเปน็ ทีร่ กั ของเรา เราจึงตามประคองศลี ไว้. ครงั้ มพี ระชาตเิ ปน็ เจา้ ชายยุธัญชยะ๑ เมื่อเรามีชาติเป็นราชบุตรช่ือ ยุธัญชยะ ย่ิงด้วยยศ ได้เกิดความรู้สึกสลด ต่อชีวิต ในขณะที่มองเหน็ หยาดน้ําคา้ งในเวลาเชา้ เหอื ดแห้งไปเพราะแสงแดด ____________________________________________________________________________ ๑. บาลี ยุธญั ชยจรยิ า จริยา. ข.ุ ๓๓/๕๗๙/๒๑. กลับไปสารบัญ

การบาเพ็ญบารมีในอดตี ชาติ ๖๑๓ เป็นอุปมา. เรายึดเอาความรู้สึกน้ันเป็นอารมณ์อันแน่วแน่ ก็ย่ิงสลดสังเวชมากขึ้น, เข้าไปหาเจ้าแมแ่ ละเจ้าพอ่ ขออนุญาตออกบวช. เจ้าแม่และเจ้าพ่อ พร้อมด้วยชาวนครและชาวแคว้น เข้ามาอ้อนวอนเรา ขอให้คงอยู่ครอบครองแผ่นดินอันม่ังค่ังรุ่งเรือง. เราไม่เอาใจใส่ต่อเจ้าแม่เจ้าพ่อ พระญาตวิ งศ์ พรอ้ มทง้ั ชาวนครและชาวแคว้น, สลดั ท้งิ ไปแล้ว. เราสลัดราชสมบัติ ญาติ ข้าแผ่นดิน ยศ และส่ิงท้ังปวงไปอย่างไม่ลังเล เย่ือใย เพราะเหตุแห่งป๎ญญาเคร่ืองตรัสรู้. ใช่ว่าเจ้าแม่เจ้าพ่อจะไม่เป็นท่ีรักของ เราก็หาไม่ เราจะเกลียดยศก็หาไม่. สัพพัญํุตญาณเป็นที่รักยิ่งของเรา ฉะนั้นเรา จึงสลดั ราชสมบัติเสยี . ท่สี ดุ แหง่ การทอ่ งเทย่ี วของพระองค์๑ เราเมอื่ ยงั คน้ ไมพ่ บแสงสวา่ ง, มัวเสาะหานายชา่ ง ปลูกเรือน (คือตัณหาผกู้ อ่ สรา้ งเรอื นคืออตั ตภาพ) อยู่, ได้ ทอ่ งเทย่ี วไปในสงั สารวัฏ กลา่ วคือ ความเกิดแล้วเกดิ อกี เป็น อเนกชาติ. ความเกดิ เปน็ ทุกข์ร่าไปทกุ ชาต.ิ แน่ะนายช่างผ้ปู ลูกสรา้ งเรอื น ! เรารู้จกั เจ้าเสียแลว้ , เจ้าจักสรา้ งเรอื นให้เราต่อไปอกี ไมไ่ ด้, โครงเรือน (คอื กเิ ลส ____________________________________________________________________________ ๑. พระวาจาเยย้ ตัณหาซง่ึ ทรงเปลง่ ขน้ึ ทันที ในขณะทท่ี รงรูส้ กึ พระองคว์ า่ ไดส้ ิ้นตัณหาแล้ว. บาลี ธ. ข.ุ ๒๕/๓๕/๒๑. กลับไปสารบัญ

๖๑๔ พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ - ภาค ๖ ท่เี หลือเป็นเชอ้ื เกดิ ใหม่) ของเจ้า เราหักเสียยบั เยิน หมดแล้ว. ยอดเรอื น (คอื อวิชชา) เราขยเี้ สยี แลว้ , จิตของเราถึงความ เปน็ ธรรมชาติ ที่อารมณจ์ ะยแุ หย่ยว่ั เยา้ ไม่ไดเ้ สียแลว้ มันได้ ลถุ งึ ความหมดอยากทกุ อย่าง. จบภาค ๖ ________________ พทุ ธประวตั ิจากพระโอษฐ์ จบ

พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ ปทานกุ รม ของพทุ ธประวตั ิจากพระโอษฐ์ ๓,๒๘๖ คา (เรยี งลาดบั ตามหลกั อักษรไทย) ______________ ก กรรมควรทําแสดงตัวเป็นกรรม- กกุธนที (แม่นํ้า) ๕๖๘ -ควรทาํ ๔๑๑ กรรมควรทาํ แสดงตวั เปน็ กรรม- กกสุ ันธพุทธะ ๔๘๙ -ไมค่ วรทาํ ๔๑๑ กฎเกณฑก์ ารศึกษาตามลําดบั ๒๘๘ กรรมดาํ มีวบิ ากดํา ๒๖๕ กฎเกณฑก์ ารกระทาํ ตามลําดับ ๒๘๘ กรรมเดยี วกนั ทาํ แลว้ บางพวกไปนรก- กฎเกณฑก์ ารปฏิบัติตามลําดับ๒๘๘ -บางพวกไปสวรรค์ ๔๐๕ กฎไตรลกั ษณ์ไมข่ น้ึ อย่กู ับการเกิด- กรรมทั้งดําทัง้ ขาว มวี ิบากทัง้ ดาํ ทั้งขาว -หรอื ไมเ่ กดิ ขนึ้ ของพระองค์ ๔๖๑ ๒๖๖ กฎธรรมชาติ ๔๖๑ กรรมทางกายบรสิ ุทธิ์ ๙๕ กฎที่ยกเว้นแกบ่ างคน ๔๐๓ กรรมทางกายไมบ่ ริสทุ ธ์ิ ๙๕ กฎปฏจิ จสมปุ บาทไม่ขึ้นอยู่กบั การเกดิ - กรรมไมค่ วรทําแสดงตัวเปน็ กรรมควรทํา -หรอื ไมเ่ กิดข้ึนของพระองค์ ๔๖๓ ๔๑๑ กฎอิทปั ป๎จจยตาไมเ่ กิดข้ึนอยู่กบั การเกดิ - กรรมไม่ควรทาํ แสดงตวั เปน็ - -หรอื ไม่เกิดขน้ึ ของพระองค์ ๔๖๓ -กรรมไมค่ วรทํา ๔๑๑ กบิลพสั ด์ุ ๑๕/๑๗/๔๔/๓๕๒/๓๕๖/๔๗๐/ กรรมไมด่ าํ ไม่ขาว มวี ิบากไมด่ ําไมข่ าว ๔๗๑ ๒๖๖ กปิสีสะ (ไมเ้ ต้าเหนอื ประต)ู ๕๗๒ \"กรรมไม่ม\"ี (ลัทธิเดียรถยี อ์ ืน่ ) ๔๑๘ ก้มศรี ษะ แลบลิน้ ๔๗๑ กรรมอยา่ งเดยี วกันใหผ้ ลหลงั จากตาย- กรกณั ฑุ (ราชกุมาร) ๒๑ -แล้วไม่เหมอื นกนั ทุกคน ๔๐๕ กรรมขาวมวี ิบากขาว ๒๖๕ ๖๑๕

๖๑๖ พุทธประวตั ิจากพระโอษฐ์ กรรมอันสัตร์กระทาํ ส่ังสมแลว้ ด้วยเจตนา กสภิ ารทว์ าชพราหมณ์ ๓๖๑ ๑๗๒ กฬารมชั ฌกะ (อเจลกะ) ๔๙๐ กระแส ๔๘๕ กองวมิ ตุ ติชนั้ อเสขะ ๔๓๗ กระแสน้ํา (อุปมาทีใ่ ช้กบั ตณั หา) ๒๖๗ กัณณกถล (สวนปุา) ๑๔๘/๑๖๒/๒๘๑/ กระแสแหง่ มารผูม้ บี าป ๑๓/๑๗๔ ๓๐๓/๓๘๙/๓๙๙/๕๐๗/๕๐๙ กรุณาเจโตวมิ ตุ ติ (ในพทุ ธศาสนา) ๓๙๒ กัณหา (ลูกหญงิ ) ๖๐๙ กรุณาเจโตวมิ ุตติมอี ากาสานัญจายตนะ- กันทรกะ (ปรพิ พาชก) ๒๗๑ -เปน็ อยา่ งยิ่ง ๓๙๓ กัมมาสธัมมะ (หมูบ่ า้ น) ๔๒ กลลวงของมาร ๓๖๘ กัลยาณมิตรของพระองค์เอง ๓๘๗ กลองแห่งอมตธรรม ๒๒๘ กลั ยาณมติ รของเรา ๓๘๘ กลอนศาลาอันเกา่ คราํ่ คร่า. ๖๐/๖๗ กัลยาณมติ รท้งั หมดของพรหมจรรย์ กลางคนื กลางวันซง่ึ ไมไ่ ดม้ ีความหมาย- ๓๘๘/๔๖๙ -ตามตวั หนังสือ ๑๐ กัลยาณวตั รทที่ ายาทตอ้ งประพฤติ ๕๙๗ กลางคืนแท้ ๆ เขา้ ใจวา่ กลางวัน ๑๐ กลั ยาณวัตรคอื มักมอี งคแ์ ปด ๕๙๘ กลางคืนเป็นกลางคนื ๑๐ กัลยาณวตั รท่เี ปน็ ไปเพอ่ื นพิ พาน ๕๙๘ กลางวนั แท้ ๆ เขา้ ใจวา่ กลางคืน ๑๐ กัลยาณวัตรเพยี งเพือ่ เขา้ ถึงพรหมโลก- กลางวันเป็นกลางวัน ๑๐ -เท่านัน้ ๕๙๘ กลา่ วตู่พระองคด์ ้วยคําเท็จ ๒๘๖ กสั สปโคตร (ภกิ ษ)ุ ๓๒๔ กล่าวธรรมไดเ้ หมอื นกะท่องไว้ ๕๒ กสั สปพุทธะ ๔๘๙/๕๘๘ กล่าวอย่างใดทรงทําอยา่ งนน้ั ๑๙๙/๒๘๕/ กัสสปะ (เถระ) ๓๔๔ ๕๒๔ กสั สปะ (อเจลกะ) ๑๔๘/๑๖๒/๓๐๓/ กล่ินเหมน็ คาว ๔๖๙ ๓๘๙/๓๙๙/๔๐๓ กษตั ริยโ์ ดยชาติ ๑๖ (ดูคําวา่ อเจลกสั สปะ ด้วย) กษัตริยไ์ ดม้ ุรธาภเิ ษก ๕๔๒/๕๘๓ กาฝากสังคมผทู้ าํ ลายโลก ๔๓๗ กษัตริย์บณั ฑติ ๓๐๕/๕๑๔/๕๔๓ กามคณุ ในอดีต ๘๐ กษตั ริย์ (วรรณะ) ๓๑๐ กามคุณในป๎จจบุ นั ๘๐/๘๑ กามคณุ ในอนาคต ๘๐

ปทานุกรม ๖๑๗ กามคณุ หา้ ๒๗/๔๓/๑๗๙/๒๖๗ การกระทาํ ทเ่ี หน่ือยเปล่า ๖๑ กามคุณหา้ อันเปน็ ทพิ ย์ ๔๓ การกระทําทมี่ ีผลใหญ่แกท่ ายก ๒๘๐ กามที่เป็นทิพย์ ๔๓/๕๙๗ การกระทําท่สี มควรแกต่ น ๒๑๙ กามท่ีเป็นวิสัยอยา่ งมนษุ ย์ ๔๓/๕๙๗ การกระทําทส่ี ดุ แห่งทกุ ข์(เกย่ี วกบั กรรม) กามวิตก ๗๑/๗๒ ๑๗๒ กามสุข ๔๒ การกลา่ วตพู่ ระองค์ (เก่ียวกบั - กามสขุ กับความหน่าย ๔๒ -เรอื่ งวิญญาณ) ๒๖๔ กามสุขลั ลกิ านโุ ยค ๒๔๗ การกล่าวตพู่ ระองค์ (เกย่ี วกับ- กามาสวะ ๑๑๗/๓๑๘/๕๕๗ -เรอ่ื งสพั พัญํ)ู ๒๑๒/๒๖๔ กายก็ไม่ลาํ บาก ตาก็ไม่ลําบาก ๑๐๑ การกลา่ วถ้อยคําแก่งแย่งกนั ๔๕๖ กายกระสับกระสา่ ย ๖๓/๖๔/๖๕/๑๕๙/๑๖๐ การกั้นจติ จากกามคุณในอดีต ๘๐ กายกับวา เท่ากนั ๓๒ การก้าวสูค่ รรภ์ อาศยั ธาตุ ๔๒๗ กายของตถาคตในฐานะตถาคต- การกําหนดรู้กามสัญญา ๒๖๒ -(ภาษาคน) ๕๗๕ การเกดิ ของพระองคก์ บั กฎของธรรมชาติ กายของพระสมณโคดม ๕๓๓ ๔๖๑ กายขา้ งหน้าดจุ ราชสหี ์ ๓๒ การเกิดขน้ึ แหง่ วิญญาณโดยอาการแหง่ - กายตรงดจุ กายพรหม ๓๒/๓๔ -ปฏจิ จสมุปบาท ๒๖๔ กายเมอ่ื ยลา้ ๗๔ การเกดิ ครัง้ นีเ้ ปน็ ครัง้ สุดทา้ ย ๑๒๔ กายยงั ไม่หลีกออกจากวตั ถกุ าม ๖๑/๖๒ การเกิดแผ่นดินไหวเน่ืองดว้ ยการจตุ ิ ๒๖ กายละจากวัตถกุ ามแล้ว- การเกิดแผน่ ดนิ ไหวเนื่องด้วยการประสตู ิ -ทัง้ ใจไมร่ ะดมกิเลสกาม ๖๓ ๓๐ กายสังขาร ๙๙/๒๖๕ การเกดิ แสงสว่างเนอื่ งดว้ ย- กายหลีกจากวตั ถุกาม- -การจุตจิ ากดุสติ ๒๕ -แตใ่ จยงั ระดมกิเลสกาม ๖๒ การเกิดแสงสวา่ งเน่ืองดว้ ยการประสูติ การกระทาํ ของพระองค์ ๑๔๗ ๓๐ การกระทาํ ของสตั ว์ทีอ่ ยเู่ ป็นคู่ ๆ ๒๖๓ การเกดิ แห่งวงศ์สากยะ ๒๑ การกระทาํ ของสหี ะ ๑๔๗/๑๓๐ การเกยี ดกนั กิเลสดว้ ยตบะ ๑๖๓

๖๑๘ พทุ ธประวัติจากพระโอษฐ์ การขมขโี่ ดยชอบธรรม ๒๗๕ การไดฟ้ ๎งพระสัทธรรม ๕๒๑ การขม่ ข่อี ย่างถูกต้องเป็นธรรม ๒๕๓ การได้เหน็ พระอรหนั ต์ ๕๐๐ การขอรอ้ งทา้ วมหาราช ๔๘๙ การไดอ้ ปุ ๎ฏฐากพระสงฆ์ ๕๒๑ การครอบงําของเวทนา ๑๕๗ การตรัสท่ีไม่ขัดแยง้ กบั บัณฑิตชนในโลก การคอยควบคมุ วติ ก ๗๑ ๒๘๕ การคุมกายวาจา-คุมท้องในเร่ืองอาหาร การตรสั ภกิ ษุอปริหานยิ ธรรม ๕๕๖ ๓๘๐ การตรสั รู้ ๑๑๕ การเคารพในพระองค์ย่ิงกว่าใน- การตรัสเรื่อง \"มหาภตู \"- -เจ้านายโดยตรงของตน ๕๔๖ -ไมห่ ย่ังลงในท่ีไหน ๔๘๓ การฆา่ เวลาดว้ ยการสนทนาธรรม- การตรสั หลักมหาปเทส(อยา่ งสตุ ตนั ตะ)- -เกือบคอ่ นรงุ่ (ของพวกช่างไม้) ๕๔๖ -ท่อี านนั ทเจดยี ์ ๕๖๖ การงานท่ยี ่อหย่อน ๔๘๕ การตอบคาํ ถามบรสิ ทุ ธ์ิ ๑๕๑ การงานวิบัตเิ พราะบริหารไม่ดี ๔๓๘ การโต้กนั ระหวา่ งลัทธทิ ีม่ อี าตมัน- การจดั สรีระของพระเจ้าจกั รพรรดิ ๕๗๑ -กบั ไม่มีอาตมนั ๓๘๖ การจับตวั ความขาดความกลัว ๙๗ การโต้ตอบกบั เทวดา ๙๓ การจําพรรษาตามพวกมิตรสหาย- การถึงซึ่งพรหมมีได้เพราะทางสายกลาง -ชาวเกลอ ๕๖๑ ๔๖๕ การจุตจิ ากดสุ ติ ลงสคู่ รรภ์ ๒๔ การถงึ ตัวตถาคตเมือ่ มญี าณร้วู า่ - การชาํ ระจิต ๒๙๐/๒๙๕ -หลุดพน้ แล้ว ๓๑๘ การเชอื้ เชิญของพรหม ๒๑๙ การถึงทบั ซึง่ อรยิ ปญ๎ ญา ๖๗ การใชป้ ทานกุ รมทา้ ยเล่ม- การถูกต่ใู นเร่อื งของสภุ วิโมกข์ ๔๔๑ -เปน็ การออกปญ๎ หาถามท่านเอง ๔ การถกู ตู่วา่ ไม่บญั ญตั สิ ง่ิ ซึง่ ทีแ่ ท้บัญญัติแล้ว การณปาลพี ราหมณ์ ๕๑๖/๕๑๘ ๔๔๓ การเดนิ การยนื บนหนาม ๕๘ การไถนา ๓๘๐ การได้ตามใจตัว ๔๑ การทรงได้รบั การบําเรอ ๔๐ การได้ท่ีดีของภกิ ษุ (เก่ียวกับนรกสวรรค)์ การทรงทราบอินทรยี ์อันยิ่งหย่อนของสัตว์ ๑๘๕ ๑๓๗

ปทานกุ รม ๖๑๙ การทรงปฏิญญาว่าเปน็ อภิสัมพทุ ธะ ๒๐๒ การนอนอย่างเปรต ๓๖๔ การทรงพยายามในอธิเทวญาณทศั นะ- การนอนอยา่ งสีหะ ๓๖๔ -เปน็ ขั้น ๆ ๙๓ การนอนอย่างตถาคต ๓๖๔/๓๖๕ การรู้แจง้ ผสั สายตนะ ๑๒๒ การนอนอยา่ งราชสหี ์ ๒๘๙ การทรงแสดงทัง้ เอกกังสิกธรรมและ- การนอนหลบั ๕๕๗ -อเนกงั สิกธรรม ๒๕๕ การนอนหลับกลางวนั ๔๓๙ การทรงหลงกามและหลุดจากกาม ๔๔ การนาํ ออกเสียซ่ึงความกําหนัดในเวทนา การทรงหลีกเรน้ เป็นพิเศษบางคราว ๘๔ ๓๘๑ การนิรมิตบันดาล ๔๑๓ การทรมานพกพรหม ๓๘๔ การบรรลุถึงฐานะท่ไี ดพ้ ยายาม- การทอ่ งเทยี่ ว ๕๘๒ -เพอื่ จะบรรลถุ ึง ๑๒๖/๑๒๘ การทับรอยแหง่ พระพุทธเจ้าในอดตี ๑๒๑ การบรรลุธรรมอนั เลิศคู่กบั - การทาํ กิเลสให้แหง้ ดว้ ยวิธตี า่ ง ๆ ๕๘ -การกระทาํ อนั เลิศ ๒๘๑ การทาํ ตามอย่างข้นึ อยู่กับการสรรเสริญ การบริโภคสะสม ๔๕๔ -ของบุคคลสงู สดุ ๓๒๔ การบันลอื สีหนาทของตถาคต ๑๙๐/๒๕๗ การทําไฟใหล้ ุกโพลงโดยไมม่ กี ารเผา การบาํ เพ็ญตบะ ๒๕๔/๓๙๙/๔๐๐/๖๐๓ ๔๖๔ การบําเพ็ญบารมีในอดีตชาติ ๕๘๑ การทําลายเปลือกไข่ครั้งแรก ๑๓๔ การบําเรอไฟ ๕๘๓ การทําลายเปลือกไข่คร้ังทีส่ อง ๑๓๔ การบูชายัญญช์ นิดทเี่ ปน็ ภายใน ๔๖๔ การทําลายเปลือกไข่ครงั้ ทีส่ าม ๑๓๔ การบชู ายัญญ์ ๔๐๐ การทําสตั วอ์ ่ืนใหพ้ ลอยทุกข์ ๔๐๑ การบชู ายัญญ์ชนิดทีเ่ ช้ือเพลงิ ไม่ถูก- การเทศน์ดัง่ ช้ที างแกค่ นหลง ๕๐๑ -รวบรวมมา ๕๙๖ การเทศนด์ ัง่ เปิดของที่ปิดไว้ ๕๐๑ การบูชายัญญช์ นิดท่ตี ้นไม้ไม่ถูกตัด ๕๙๕ การแทงตลอดอเนกธาตุ ๒๓๗/๒๓๘ การบชู ายัญญ์ชนิดทีท่ าสกรรมกรไม่ตอ้ ง- การนวดฟ๎้นท่ไี ด้รบั จากมาตุคาม ๑๖๙ -ถกู คุกคาม ๕๙๖ การนอนบนทน่ี อนสูงใหญ่ ๔๕๓/๔๕๕ การบูชายัญญช์ นิดท่ีไม่ต้องมีใคร- การนอนอยา่ งคนบริโภคกาม ๓๖๔ -ร้องไห้ทํางานพลาง ๕๙๖

๖๒๐ พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ การบชู ายัญญ์ชนิดที่สัตว์ไม่ถกู ฆา่ ๕๙๕ การปรากฏแห่งดวงตาอันใหญห่ ลวง- การบชู าสงู สุด ๕๗๐ -ของโลก ๒๓๗ การปฏิบตั ิในสตรี ๕๗๑ การปรากฏแห่งตถาคต ๔๓๑ การประกอบความเพียรทรมารตน ๑๑๘/ การปรากฏแห่งโพชฌงค์ ๔๓๑ การปรากฏแห่งรัตนะท้ังเจด็ ๔๓๑ ๒๔๗ การปรินพิ พาน ๕๖๙ การประกอบตนพวั พันอยู่ในกาม การปรนิ พิ พาน (ดบั เยน็ ) ของโจร ๕๔๕ ๑๑๗/๒๔๗ การปรนิ พิ พานในภพนน้ั ๆ ๔๓๐ การเปน็ ไปตามทํานองแห่งหลกั ธรรม การประกาศพระศาสนา ๒๔๓ การประชมุ ของเทวดาทั้งสบิ ของโลกธาตุ ๕๕๘ การเปล่งเสียงตลอดทกุ โลกธาตุ ๑๙๓ ๕๗๐ การผนวชเมื่อพระชนม์ ๒๙ ๔๗ การประดบั ตกแตง่ ร่างกาย ๔๕๕ การฝกึ เปน็ ลาํ ดับ ๆ ๒๙๑ การประทบั หลีกเรน้ เปน็ เวลาคร่ึงเดอื น การฝึกมา้ ๒๘๘/๓๐๖ ๑๒๕ การพนนั ๔๕๕ การพบรอยแห่งตถาคตเริม่ แต่ปฐมฌาน การประทบั หลกี เรน้ เปน็ เวลาสามเดอื น ๑๒๖ ๓๑๗ การพยายามในเนกขัมมจิต ๑๐๓ การประสูติ ๒๘ การพิจารณาจนหายมวั เมา ๔๑ การประสูติได้ ๗ วันพระชนนที ิวงคต การพิจารณาเหน็ ของกลุ บุตรผู้มีศรัทธา ๔๐ ๑๑ การปรากฏการไหวของแผ่นดนิ ๒๖/ การพดู คุย ๕๕๗ ๓๑/๑๒๔/๒๓๔/๕๖๔/๕๗๕ การเพกิ ถอนสัญญาทัง้ ท่วี ่าไม่ปฏิกูลและ- การปรากฏของผู้ทไ่ี ม่มใี ครซํ้าสอง -ปฏิกลู ๓๙๒ ๘/๒๑๕ การมาเฝูาของจาตุมมหาราช ๔๘๗ การปรากฏของพระตถาคตมีได้ยาก- การมาเฝูาของตายเทพบุตร ๔๘๕ การมาเฝูาของอนาถปิณฑิกเทพบุตร ๔๘๖ -ในโลก ๘ การปรากฏของพระองค์ ๘/๒๓๗ การปรากฏแห่งจกั รพรรดิราช ๔๓๑

ปทานกุ รม ๖๒๑ การมีธรรมอยู่ในโลก ๙ การสนทนากบั มัณฑยิ ปริพพาชก ๔๙๒ การไมท่ รงบญั ญัติอะไรเปน็ อะไร- การสนทนาเรอ่ื งท่สี ดุ โลก ๔๘๐ การสนทนา (เร่อื งลทั ธซิ งึ่ - -โดยส่วนเดียว ๒๕๓-๒๕๔ -สมมุตกิ นั วา่ เลิศ) ๔๘๒ การไม่บรโิ ภคโภชนะทเ่ี กิดขึน้ เพราะ- การสนกุ สนานอยู่ดว้ ยการมีผล- -แห่งวิชชาและวิมุตติ ๔๙๕ -คําขับเป็นธรรมอย่างหนง่ึ ๓๖๑ การยอื้ แย่งกันซอื้ ปลาของชาวประมง การแสดงไตรลักษณ์ ๔๖๑ การแสดงธรรมบริสทุ ธิ์ ๑๕๑ ๓๕๓ การแสดงธรรมมีสว่ นเปรยี บเทยี บ- การรับใชเ้ ปน็ ทูต ๔๕๓/๔๕๗ -ระหวา่ งธรรมดํากับธรรมขาว ๑๖๖ การรบั ทน่ี าที่สวน ๔๕๓ การแสดงแบบครองชีวติ แบบโลก ๑๑ การรับเนอ้ื ดิบ ๔๕๓ การแสดงปฏิจจสมุปบาท ๔๖๓ การรบั สวนอัมพปาลีวันจากหญิงคณิกา การแสดงปฐมเทศนา ๒๒๙ ๕๖๑ การเหน็ พระผมู้ ีพระภาคเจ้า ๕๒๑ การรบั หญิงและเดก็ หญิง ๔๕๓ การเหน็ อนัตตาอย่างสมบูรณ์ ๓๒๘ การเหน็ อานสิ สงคอ์ อกจากกาม ๗๓/๑๐๓ การร้วู ่าเทวดานมี้ าจากไหน ๙๔ การให้ผลของกรรมไมอ่ าจเปลย่ี นได้- การลงนํ้าเป็นเวลาเย็นครั้งที่สาม ๕๘ -ดว้ ยตบะของนิครนถ์ ๔๗๕ การลงสู่ครรภ์ ๒๖ การอดอาหาร ๖๖ การลา้ งผลาญพชื คามภูตคาม ๔๕๓ การอธิษฐานจิตปรารภ- การเลน่ ๔๕๔-๔๕๕ -การกระทาํ ความเพียร ๒๘๐ การเล่นชนิดเปน็ ข้าศึกแกก่ ุศล ๔๕๓ การเลน่ ซ่อนหากนั ระหวา่ งพระพุทธองค์- การอนเุ คราะห์แก่คนชนั้ หลัง ๓๕๕ การอย่ขู องพระอรหันต์ ๖๖ -กับพกพรหม ๓๘๕ การอยูใ่ นครรภ์ ๒๖ การอยู่ในหมเู่ ทพชั้นดุสิต ๒๓ การเล่นเปน็ ที่ตัง้ ความประมาท ๔๕๕ การออกจากทกุ ข์ ๘๖/๘๙ การเลี้ยงชีพบริสทุ ธ์ิ ๑๗๔ การสงเคราะหท์ ัง้ ส่ี ๕๘๔ การสนทนากบั เทวดา- -(เรื่องปรหิ านยิ ธรรม) ๔๗๙ การสนทนากับนิครนถ์ ๔๗๑

๖๒๒ พทุ ธประวตั ิจากพระโอษฐ์ การออกจากสัญญาเวทยิตนโิ รธของ- กริ ิยวาท (ในความหมายท่เี ปน็ สัมมาทฏิ ฐ)ิ -พระสารีบตุ ร ๓๔๓ ๔๑๙/๔๕๐/๕๒๗ การออกผนวช ๔๗ กริ ยิ วาท (สมั มาทฏิ ฐแิ หง่ พทุ ธศาสนา) การอาพาธทางจิต ๑๐๔/๑๐๕/๑๐๖/ ๔๑๙/๔๕๐/๕๒๗ ๑๐๗/๑๐๘/๑๐๙/๑๑๐/๑๑๑ \"กิรยิ าไม่ม\"ี (ลทั ธิเดยี รถีย์อ่ืน) ๔๑๘ การอุบัติ ๕๘๓ กเิ ลสกาม ๖๒ กาลามโคตร ๕๑/๒๒๖/๓๘๖ กเิ ลสเพียงดังน้ําฝาดทางไตรทวาร ๖๐๒ กาลวาที (คือตถาคต) ๒๐๑/๒๘๑ กิเลสอนั ยอ้ มใจดุลนํ้าฝาด ๒๙๖ กาลงิ ค์ (แคว้น) ๖๐๘ กุมภัณฑ์ ๔๘๗ ก้าวเท้าขวาก่อน ๕๓๐ กุมารผอู้ าจหาญ ๒๒ ก้าวไป ๗ กา้ ว ๒๙ กลุ บุตรบวชแล้วดว้ ยสัทธา ๒๘๐ กาสี (เมือง) ๔๐/๒๒๘ กสุ าวดี (ราชธานี) ๕๗๒/๕๙๒ กาฬการาม ๑๕๖ กุสนิ ารา ๓๓๓/๓๘๖/๕๖๗/๕๗๒/๕๙๒ กาฬสิลา ๔๗๑ กฏู ทนั ตพราหมณ์ ๕๙๔ กาฬบรรพ (เถาวัลย์) ๖๐/๖๖ กูฏาคารศาลา ๑๕๗/๒๔๖/๒๘๗/๔๙๒/ กําเนิดเดรจั ฉาน ๑๘๘ ๕๖๔ กาํ หนดการเลิกทํานา ๓๘๐ \"เกพล\"ี (คําท่ีไม่ควรแปลเปน็ ไทย)- กจิ ของพระศาสดาผเู้ อน็ ดู ๒๖๙ -หมายถงึ พระอรหันต์ ๓๖๒/๓๖๙ กิจท่ีเคยทาํ แก่เจดีย์ ๔๖๖ เกวลํ สทธฺ ามตฺตกา (เป็นศาสดาเพราะ- กิจไม่ควรทํา (สําหรบั กษัตริยผ์ ปู้ กครอง) -อาศยั สทั ธาอย่างเดียว) ๒๑๑ ๕๙๔ เกวฏั ฏคหบดีบตุ ร ๑๙๗/๔๘๓ กินกะเบาตําผง ๖๐ เกสกมั พล ๔๑๘ กมิ พลิ ะ (ภกิ ษ)ุ ๗๕ เกสี (คนฝึกม้า) ๓๐๖ กริ ยิ วาท (คาํ สําหรบั กล่าวหาว่าเป็น- เกิดขึ้นเพื่อเกอ้ื กลู ปวงชน ๑๐ -มิจฉาทฏิ ฐอิ กี แง่หนึง่ ) ๔๑๙/๔๕๐/ เกดิ ในโลกแตค่ รอบงาํ โลก ๑๔ ๕๒๗ เกยี ดกันทาน ๔๓๖

ปทานุกรม ๖๒๓ เกยี รติของภิกษผุ ใู้ คร่ในการศกึ ษา ๓๒๕ ขนานนามพระองค์เอง ๑๓ เกียรตยิ ศของพราหณ์ช้ันสูง ๕๒๖ ขบฟน๎ ดว้ ยฟ๎น ๖๓/๑๕๙ เกียรติศพั ท์อนั งามของพระโคดม ๕๒๘ ของน่าอัศจรรยไ์ ม่เคยมี ๘/๒๔/๒๕/ แกว้ ๗ ประการ ๓๑ ๒๖/๒๘/๓๐/๑๒๔/๕๐๑/๕๕๔ แกว้ ไพฑูรย์ ๒๗ ของเน่าพอง ๔๖๙ แกะดําแหง่ ตระกูล ๔๓๘ ของแปลกประหลาดสาํ หรับคนโง่- โกกนทุ ปราสาทของโพธิราชกุมาร ๒๗๖ -(ปาฏหิ ารยิ ์ทเี่ กนิ จําเปน็ ) ๑๙๖ โกกนทุ ะ (ปราสาท) ๑๕ ขอบเขตแหง่ เบญจขันธ์สําหรับ- โกญจะ (ปราสาท) ๑๕ -การพจิ ารณาอย่างทัว่ ถึง ๓๒๘ โกฏิคาม (หมู่บ้าน) ๕๕๙/๕๘๒ ข้อกลา่ วหาของเดียรถ์ ียเ์ กีย่ วกบั - โกนาคมนพทุ ธะ ๔๘๙ -คําว่า \"ญาณ\" ๓๙๘ โกลติ ะ (อคั รสาวก) ๑๕ ข้อกล่าวหาโดยพวกลัทธิอืน่ - โกลยิ ะ (แควน้ ) ๒๖๕/๔๔๔ -(เกีย่ วกบั สุขลั ลกิ านุโยค) ๑๘๒ โกลิยะ (ชนบท) ๓๙๐ ขอ้ ความให้สนใจพทุ ธประวตั ิ ๗ โกศล (แควน้ ) ๒๓/๒๑๐/๓๐๔/๓๒๔/๓๕๓/ ขอ้ ทีจ่ ะทาํ ให้จติ แล่นไปสู่เนกขมั มะ ๑๐๓ ๓๗๐/๓๗๒/๔๖๔/๕๔๖/๕๘๘ ข้อทจี่ ะทําให้จิตเสือมใสในเนกขมั มะ ๑๐๓ โกสัมพี (เมอื ง) ๑๕๑/๒๘๔/๔๙๒ ข้อที่จะทําให้จติ ต้งั อยใู่ นเนกขัมมะ ๑๐๓ ไกวัลย์ ๓๖๒ ขอ้ ทีจ่ ะทําใหจ้ ติ หลุดออกจากเนกขมั มะ ๑๐๓ ไกส่ ุกร (ในฐานะสิง่ ทม่ี นุษยห์ ลงแสวงหา) ข้อที่ถกู กลา่ วหาวา่ เปน็ \"กาฝากสงั คม\" ๔๕ ๔๓๗ ข ข้อท่ถี กู กลา่ วหาวา่ ทรงหลง ๔๓๙ ข้อท่ีมใิ ชฐ่ านะมีได้ ๗ ขณะสําหรบั การประพฤตพิ รหมจรรย์ ๑๘๕ ข้อทอ่ี าจถกู ระแวงระหวา่ งจาก- ขนขุมละเสน้ ๓๒/๓๘ -คนตา่ งลัทธิ ๔๐๑ ขนตกราบ ๓๒๖/๕๔๒ ข้อเทา้ อยูส่ งู ๓๒/๓๔ ขนมีรากเน่าหลุดออกจากกาย ๖๑/๖๗ ขอ้ น้ิวยาว ๓๒/๓๔ \"ข้อนีเ้ ทา่ น้จี รงิ ขอ้ อ่ืนเป็นโมฆะ\" ๔๐๕

๖๒๔ พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ ขอ้ ปฏิบัตทิ งั้ หมดเก่ยี วกับสิ่งปฏกิ ูลและ- เขมา (อัครสาวิกา) ๑๕ -ไมป่ ฏกิ ลู ๓๙๒ เข้ากนั สนิทดังนํ้าเจือกับนมสด ๕๔๑ เขาวงก์ ๖๐๘/๖๐๙/๖๑๐ ขอ้ ปฏบิ ัตทิ ี่ตถาคตได้ตรัสรู้ ๑๑๘/๒๔๘ เข้าสมาธิไม่ไหวติงเป็นนิสยั ๙๘ ขอ้ ปฏบิ ัติท่ที าํ ให้พน้ วเิ ศษสิ้นตณั หา ๔๕๙ เข้ียวสีขาวงาม ๓๒ ขอ้ ปฏบิ ัติที่เป็นทางสายกลาง ๑๑๘ แข้งดจุ แขง้ เนือ้ ทราย ๓๒ ข้อปฏบิ ัติไปสกู่ ําเนิดเดรัจฉาน ๑๘๘ ค ขอ้ ปฏบิ ัติไปสู่เทวโลก ๑๘๙ คงคา (แมน่ ํ้า) ๑๓/๑๗๔/๓๓๕/๕๕๙/๖๑๑ ขอ้ ปฏบิ ัติไปสู่นรก ๑๘๘ คติ ๑๘๘ ข้อปฏบิ ัตไิ ปสู่นิพพาน ๑๘๙ คณกโมคคัลลานะพรามณ์ ๒๘๘/๓๐๘/ ข้อปฏบิ ัตไิ ปสู่เปรตวิสัย ๑๘๙ ๕๐๔/๕๔๗ ข้อปฏบิ ัติไปสู่มนษุ ยโ์ ลก ๑๘๙ คณะสงฆ์ซ่ึงมีคณุ ธรรมสูงสุด ๓๑๙ ข้อปฏิบัตเิ พอ่ื ความเจริญแห่งอิทธิบาท ๘๑ คณะสงฆท์ ี่ชุม่ ชืน่ ผ่องใส ๕๔๑ คณะสงฆ์ทถ่ี งึ แลว้ ซึ่งลาภยศสงู สุด ข้อปฏบิ ัตอิ นั เป็นหนทางอันประเสรฐิ ๑๑๘ \"ขอ้ แม\"้ สําหรับธรรมราชา ๔๐๔ ๔๓๕ ขอ้ สงั เกตในพระผมู้ ีพระภาค ๕๔๐/๕๔๖ คณะสงฆท์ ่ีประพฤติพรหมจรรยต์ ลอดชีวติ ขตั ตยิ บรษิ ัท ๔๒๑/๔๒๒ ขตั ติยบณั ฑิต ๕๑๔/๕๔๓ ๕๔๐ ขน้ั ตอนแห่งอาริยสาวก- คณะสงฆท์ พี่ รอ้ มเพรียง ๕๔๑ -ซึง่ เต็มตามทค่ี วรจะมี ๓๒๑ คณะสาวกซึ่งมปี าฏหิ าริย์ ๓๓๘ คนกลา่ วแต่การไม่ทํา ๔๔๘ ขานุมตั ร (หมู่บ้าน) ๕๙๔ คนกลา่ วแต่ความขาดสูญ ๔๔๘ ข้ามนาํ้ ไดด้ ว้ ยไม่ตอ้ งมอี ะไรเปียก ๔๖๔ คนของพระองค์ ๓๒๕ ข้าวปลายเกรียนกับนาํ้ ส้ม ๔๑ คนคอยกาํ จดั คณุ ของผูอ้ ่ืน ๕๐๕ ข้าวสาลีเจอื ดว้ ยเน้ือ ๔๑ คนคะนองวาจา ๕๐๕ ข้าศึกตัวรา้ ยของผทู้ ่ีเป็นโรคจดั ๑๕๕ คนจงู คนใหเ้ ดินผิดทาง ๒๘๖ ข้าศึกภายใน-ภายนอก ๓๔ ขณี าสพ ๑๔๑ เขมวติ กและวิเวกวติ ก ๓๘๑

๖๒๕ ปทานุกรม คนท่ีพระโคดมคบด้วย ๕๔๗/๕๔๘ ครั้งกอ่ นแต่การตรัสรู้ ๔๔/๔๗/๖๙/๗๑/ คนทพ่ี ระโคดมไมค่ บด้วย ๕๔๗ ๗๕/๘๐/๘๑/๘๒/๘๓/๘๖/๘๙/ คนทจ่ี ัดเปน็ สตั ว์เลวทรามอยู่ ๔๓ ๙๓/๙๕/๙๗/๑๐๓/๑๑๓/๑๑๔ คนธรรพ์ ๑๔/๓๔/๓๕/๓๘/๓๙/๔๐/๔๘๗ คนนําไปทําให้พินาศ ๔๔๙ ครั้งมีพระชาตเิ ปน็ จฬู โพธิ ๖๑๑ คร้งั มีพระชาตเิ ป็นเจา้ ชายยุธัญชยะ ๖๑๒ คนผู้ฝกึ ชา้ ง ๒๙๕ คนผู้รักตน ๒๑๙ คร้ังมีพระชาติเปน็ โชตปิ าลมาณพ ๕๘๘ คนเผาพลาญ ๔๔๙ ครั้งมีพระชาตเิ ปน็ ปโุ รหิตสอนบชู ายัญญ์ คนพูดบ้านํ้าลาย ๙๖ คนมักเกลียด ๔๔๘ ๕๙๔ คนมกั มาก ๖๙/๒๓๐ ครั้งมีพระชาติเปน็ พระจันทกมุ าร ๖๐๔ คนมงุ่ รา้ ยทีเ่ ข้าเฝูา ๕๔๓ คร้ังมีพระชาตเิ ปน็ พระเจา้ มหาสทุ ัศน์ คนไม่เป็นรส ๔๔๗ ๕๙๑ คนไม่มีทผ่ี ุดที่เกิด ๔๔๙ ครง้ั มีพระชาติเปน็ พระเวสสนั ดร ๖๐๗ คนไม่หลง ๔๓๙ ครั้งมพี ระชาตเิ ป็นมฆเทวราช ๕๙๖ คนไรโ้ ภคะ ๔๔๗ คนเลี้ยงโคเพียงแตก่ าํ หนดฝูงโค ๗๕ ครั้งมีพระชาติเปน็ มหาโควินทพราหมณ์ คนเลี้ยงโคตีตอ้ นโคจากขา้ วกลา้ ๗๓ ๕๙๙ คนหลง ๔๓๙ คยา (ตาํ บล) ๒๒๗ ครั้งมีพระชาติเปน็ มาตงั คชฎิล ๖๑๑ คยาสีสะ (ตําบล) ๙๓ ครั้งมพี ระชาตเิ ป็นรถการ ๖๐๐ ครง้ั มีพระชาติเป็นเวลามพราหมณ์ ๖๐๕ ครรภบ์ ริสทุ ธเิ์ จ็ดช่ัวบรรพบรุ ุษ ๕๒๖ ครง้ั มพี ระชาตเิ ปน็ สงั ขพราหมณ์ ๖๐๕ ครรภ์สบิ เดอื นเต็ม ๒๘ ครง้ั มพี ระชาตเิ ปน็ อกติ ติดาบส ๖๐๓ ครองเรอื น ๒๙ ปี ๑๕ คฤหสั ถบ์ ริโภคกามบรรลุธรรมถงึ ข้นั - ครอบครองโดยธรรม ๓๑ -สกิทาคามี-โสดาบนั ๓๒๓ คฤหสั ถ์ประพฤตพิ รหมจรรย์บรรลธุ รรม- -ถึงขนั้ อนาคามี ๓๒๓ คฤหัสถ์ผนู้ งุ่ ขาว ๑๑๔/๓๒๒/๓๒๓ คลองแห่งสสั สตทิฏฐิ ๒๕๑ คลองแห่งอุจเฉททฏิ ฐิ ๒๕๑

๖๒๖ พทุ ธประวตั จิ ากพระโอษฐ์ คล่นื (อุปมาท่ใี ชก้ ับความโกรธ) ๒๖๗ ความเข้าไปสงบรํางับแห่งมิจฉาวาจา ควงแห่งไมอ้ ัสสัตถะ ๑๕/๑๖ ๑๒๗ คว้าชิ้นไม้เศษกระเบอ้ื งกลนื ๓๔๐ ความกระสนั อยาก ๗๗ ความเข้าไปสงบราํ งับแห่งมจิ ฉาวายามะ ความกลมกลืนระหวา่ งนิพพานและ- ๑๒๗ -ปฏิปทาเพ่ือนพิ พาน ๕๒๓ ความเข้าไปสงบรํางับแห่งมจิ ฉาสติ ๑๒๗ ความกลวั อยา่ งอกุศล (โงเ่ ขลา) ๙๕/๙๖ ความกงั วลตอ่ สิง่ ใดหรือในอะไร ๆ - ความเข้าไปสงบราํ งับแห่งมจิ ฉาสมาธิ ๑๒๗ -ก็ไมม่ ีว่าเปน็ ตัวเรา ๑๘๔ ความกังวลในสง่ิ ใด ๆ กไ็ ม่มวี า่ - ความเข้าไปสงบราํ งับแห่งมจิ ฉาสงั กัปปะ ๑๒๖ -เปน็ ของเรา ๑๘๔ ความกําหนดหมายในภาวะตา่ ง ๆ ๑๐๗ ความเข้าไปสงบรํางับแห่งมจิ ฉาอาชีวะ ความกําหนดหมายในรปู ๑๐๗ ๑๒๗ ความเข้าไปสงบรํางับแห่งวติ ก ๑๒๘ ความกําหนดหมายอารมณท์ ่ีกระทบใจ ความเข้าไปสงบราํ งับแห่งสญั ญา ๑๒๘ ๑๐๗ ความเข้าไปสงบราํ งับแห่งสัมมากัมมนั ตะ ความเกิดขน้ึ พร้อมแหง่ ผัสสะ ๘๔ ๑๒๗ ความเกดิ ข้นึ พรอ้ มแหง่ เวทนา ๘๓/๘๔ ความเกดิ ข้นึ แหง่ กองทุกขท์ ัง้ ส้ิน ๘๗ ความเข้าไปสงบราํ งับแห่งสมั มาทฏิ ฐิ ความเกอื้ กลู แหง่ ชนเป็นอนั มาก ๙ ๑๒๖ ความขลาด ๙๕ ความเข้าใจวา่ กลั ยาณมิตรเปน็ - ความเข้าไปสงบนาํ งบั แหง่ สัมมาวาจา ๑๒๗ -ก่ึงหนงึ่ ของพรหมจรรย์ ๓๘๘/๔๖๙ ความเข้าไปสงบรํางับแห่งฉนั ทะ ๑๒๘ ความเข้าไปสงบรํางับแห่งสัมมาวายามะ ความเข้าไปสงบรํางับแห่งมิจฉากัมมันตะ ๑๒๗ ๑๒๗ ความเข้าไปสงบราํ งับแห่งสัมมาสติ ๑๒๗ ความเข้าไปสงบราํ งับแห่งมจิ ฉาทฏิ ฐิ ความเข้าไปสงบรํางับแห่งสัมมาสมาธิ ๑๒๘ ๑๒๖ ความเข้าไปสงบราํ งับแห่งสมั มาสงั กัปปะ ๑๒๖

๖๒๗ ปทานกุ รม ความเข้าไปสงบราํ งับแห่งสัมมาอาชวี ะ ๑๒๗ ความดับสนิทแหง่ สกั กายะ ๑๕๔ ความคงทตี่ ่อวสิ ัยโลก ๑๕๖ ความดบั แห่งป๎ญญา ๗๒ ความคดทางไตรทวาร ๖๐๒ ความดา่ งพร้อยของพรหมจรรย์ ๑๖๙,๑๗๑ ความครุน่ คิดไปทางเหย้าเรอื น ๑๐๒ ความดาํ ริอนั ซา่ นไป ๑๓๗,๑๓๘ ความคลุกคลกี นั เปน็ หมู่ ๒๖๓/๕๕๗ ความดีเกิดขึ้น ๑๐๐ เทา่ เพราะทาน ๖๐๔ ความคะนองหยาบ ๗๖ ความตรงกันทั้งอรรถะและพยัญชนะ ๕๐๒ ความคดิ ท่ีเปน็ อกศุ ลลามก ๔๖๙ ความตัง้ มนั่ แห่งพระสัทธรรม ๒๖๐/๒๖๓ ความเคลม้ิ และงว่ นงุน ๗๖ ความตั้งอยู่ตามธรรมดา ๔๖๑/๔๖๒/๔๖๓ ความเคารพหกเป็นเพ่ือความไมเ่ สอ่ื ม ความตง้ั อย่ไู มไ่ ดแ้ ห่งกาม ท. ๔๒ ๔๘๐ ความต่างกนั ระหวา่ งอรหนั ตสมั มา- ความงาม-ความไม่งาม- -สมั พุทธกบั ป๎ญญาวมิ ุตต์ ๒๐๖ -ไมอ่ าจหย่ังลงในท่ีใด? ๔๘๔ ความต่างแหง่ อนิ ทรยี ์จําพวกที่ ๑ ๑๓๙ ความจรงิ ใดเม่อื รู้แล้วก็ปฏิบัติ ๑๘๔ ความต่างแห่งอนิ ทรยี จ์ ําพวกท่ี ๒ ความจริงอนั ประเสรฐิ ๑๑๘/๑๘๑/๒๐๕/๓๕๐ ๑๓๙,๑๔๐ ความจําเป็นของสตั ว์บางพวก ๒๒๔ ความตา่ งแห่งอนิ ทรยี ์จําพวกที่ ๓ ความเจ็บไขม้ ี (ซอ่ น) อยู่ในความไม่มีโรค ๑๓๙,๑๔๐ ๕๕๔ ความตา่ งแหง่ อินทรยี จ์ ําพวกที่ ๔ ความเจริญแห่งป๎ญญา ๗๓ ๑๓๙,๑๔๐ ความชรา (ซอ่ น) อยใู่ นความหนุ่ม ๕๕๔ ความต่างแห่งอนิ ทรียจ์ ําพวกท่ี ๕ ๑๔๐ ความซบู ผอมของนกั บวช ๕๔๑ ความต่างแห่งอินทรยี ์จําพวกที่ ๖ ๑๔๐ ความซูบผอมอยา่ งย่งิ ๖๐ ความตายมี (ซ่อน) อย่ใู นชีวติ ๕๕๔ ความเฉียบแหลมของพระโคดม ๕๑๓ ความตนื่ เต้น ๗๖ ความดับไม่มเี หลอื ของโลก ๔๘๒ ความท่ีควรจะเปน็ ห่วงของพระองค์ ๓๓๑/๓๓๒ ความดบั ไม่มีเหลอื แห่งกองทกุ ข์ ๘๙/๙๓/๑๑๗ ความทุกขร์ ้อนของมหาชน- ความดบั ไม่มีเหลอื แหง่ ผัสสะ ๘๔ -(คือการปรินิพพาน) ๕๗๖/๕๗๗ ความดบั ไม่มีเหลอื แหง่ เวทนา ๘๔ ความบริสทุ ธิ์มีเพราะการบาํ เรอไฟ- ความดับสนิทของทุกข์ ๒๘๖/๔๒๗ -(พาหิรลัทธ)ิ ๕๘๓

๖๒๘ พทุ ธประวัตจิ ากพระโอษฐ์ ความบริสทุ ธิม์ ีเพราะการอบุ ัติ- ความเปลง่ ปล่งั ของนกั บวช ๕๔๑ -(พาหริ ลทั ธิ) ๕๘๓ ความผิดของคนโงท่ ่ีมองไมเ่ ห็น- -สง่ิ ที่มีอยู่แล้ว ๑๖๙ ความบริสทุ ธิ์มีเพราะทอ่ งเทีย่ วใน- ความผิดพลาดของอานนท์ (เนอ่ื งดว้ ย- -สงั สารวฏฏ์ (พาหริ ลทั ธิ) ๕๘๒ -การปลงอายุสงั ขาร) ๕๖๓ ความบริสุทธิ์มภี พทอ่ี ยู่- ความเผาผลาญกิเลส ๓๘๐ ความฝ๎นครง้ั สาํ คัญ ๑๑๓ -(พาหิรลทั ธ)ิ ๕๘๓ ความพ้นเพราะส้ินตณั หา ๔๕๙ ความบริสทุ ธิ์เพราะอาหาร ความพรอ้ มเพรยี งกัน ๓๕๖ ความพร้อมเพรียงของคณะสงฆ์ ๕๔๑ -(พาหริ ลัทธ)ิ ๖๐ ความเพง่ รปู จนเกนิ ไป ๗๘ ความบรสิ ุทธอิ์ ันเป็นภายนอก ๔๖๔ ความเพียร ๑๑๒/๓๓๒/๓๓๓/๓๘๐ ความบนั เทิงตอ่ กันและกัน ๓๕๖ ความเพียรทป่ี รารภจัดเกินไป ๗๗ ความเบากายกระปรีก้ ระเปร่า ๓๖๒ ความประสงค์ของพระองค์- ความเพียรที่ย่อหย่อนเกินไป ๗๗ ความเพียรนานถงึ ๖ ปี ๑๕/๖๑ -เกยี่ วกับเกยี รติยศ ๓๕๓ ความเพียรเพอ่ื อนุตตรวิมุตติ ๓๓๔ ความเพียรมีประมาณโดยยงิ่ เปน็ ที่หา้ ๙๘ ความปรากฏแสงสว่างใหญห่ ลวง ความเพียรไมถ่ อยหลงั ๑๑๒/๓๓๒ ๒๓๗/๒๓๘/๒๓๙ \"ความเพียรไม่มีความหมาย\"- -(ลัทธเิ ดียรถยี ์อน่ื ) ๔๑๘ ความเป็นกฎตายตวั ของธรรมดา ความมัน่ หมายซ่งึ นิพพาน ๑๕๖ ๔๖๑/๔๖๒/๔๖๓ ความมัน่ หมายโดยความเปน็ นิพพาน ๑๕๖ ความเป็นคนลวงโลก ๔๘๕ ความมั่นหมายในนิพพาน ๑๕๖ ความเปน็ ธรรมชาตทิ ่อี ารมณจ์ ะ- ความมั่นหมายว่านิพพานของเรา ๑๕๖ ความมวั เมาในความเป็นหนุ่ม ๔๑ -ยแุ หย่ยั่วเย้าไมไ่ ดอ้ ีก ๖๑๔ ความมัวเมาในความไม่มีโรค ๔๑ ความเป็นผู้ฉนั นอ้ ย ๓๖๓ ความมัวเมาในชวี ติ ๔๒ ความเป็นผู้มีเพ่ือนดี ๓๘๘ ความเป็นผู้มมี ิตรดี ๓๘๘ ความเปน็ ผู้มีสหายดี ๓๘๘ ความเปน็ มหาบรุ ุษ ๒๑๒ ความเปน็ สมณะทลี่ ูบคลําอย่างเลว ๔๘๕ ความเป็นอยสู่ ่วนพระองค์ ๓๕๒

๖๒๙ ปทานุกรม ความมกี ลั ยาณมิตรชว่ ยทาํ ให้เจริญ- ความระมัดระวงั อยา่ งย่ิง ๒๕๖ -ทําใหม้ ากซ่งึ อริยมรรค ๔๖๙ ความรุ่งเรืองแห่งพรหมจรรย์ (จนเทวดา - ความมขี นชชู นั ๕๓๑ -มนษุ ย์ประกาศตามได้) ๒๗๙ ความมขี นอนั ตกราบแล้ว ๙๕ ความรุมร้อนในวตั ถุกาม ๖๒ ความมขี นอันตกสนทิ แล้ว ๙๕ ความรแู้ จง้ ซึ่งทรงถงึ ทับแล้ว- ความมีศลี ของพระองค์กลับเปน็ เหตุแหง่ - -(เกี่ยวกับนโิ รธวาร) ๙๒ ความรแู้ จง้ ว่าวิญญาณน้ีย่อมเวยี นกลับ- -การรบกวนพระองค์ ๓๕๔ -จากนามรปู ยอ่ มไม่เลยไปอ่ืน- ความมอี าหารนอ้ ย ๖๐/๖๑/๖๗/๓๖๓ -(ปฏิจจฯ อกี นยั หนึง่ ) ๙๐ ความมอี ํานาจเหนือจิต- ความรสู้ กึ ของพระองคเ์ ก่ยี วกับยศ ๓๕๓ ความรสู้ กึ ทเ่ี กิดข้ึนหลงั การ- -ในคลองแห่งวิตกท้ังหลาย ๑๕๕ -ทรงกระทําทกุ รกริ ยิ า ๖๗ ความมืดซ่งึ กระทาํ ความบอด ๒๓๘/๒๓๙ ความรสู้ กึ ทีท่ ําให้ออกผนวช ๔๕-๔๖ ความไม่ตาย ๑๗๔/๓๘๑ ความไมถ่ อยหลงั ในความเพยี ร ความรสู้ กึ ทแ่ี ทจ้ รงิ ของสาวกต่อ- -ศาสดาของตน ๓๓๔ ๑๑๒/๓๓๒ ความลังเล ๗๕/๖๑๐ ความไมท่ าํ ไว้ในใจ ๗๖ ความเล็ก-ความใหญ่ไม่อาจหยง่ั - ความไมป่ ระมาท ๑๑๒/๓๓๓/๕๗๔ -ลงในท่ใี ด ? ๔๘๔ ความไม่ประมาทและสติ ๘๐/๘๑ ความเล่อื มใสอย่างยิ่งในตถาคต- ความไมร่ ้จู กั พอในกศุ ล ๑๑๒/๓๓๒ -ถงึ ที่สุดโดยสว่ นเดียว ๓๓๖ ความไมอ่ ิ่มไม่เบ่ือของบุคคลเข้าถงึ - ความสมบูรณ์ดว้ ยวชิ ชาจรณะ ๕๒๘ ความสัจจ์ ๓๘๐ - พระรตั นตรยั ๕๒๑ ความสะดุ้งหวาดเสียว ๓๔/๗๖/๕๘๔ ความยาว-ความส้นั ไม่อาจหยง่ั - ความสํานกึ ของมารเมื่อยอมแพ้ ๓๖๔/๓๖๘ -ลงในที่ใด? ๔๘๔ ความสาํ เร็จในอนิ ทรียภาวนา ๓๓๖ ความยนิ ดีในพระนิพพาน ๓๘๐ ความรอ้ นกล้าขน้ึ ท่วั กาย ๖๕/๑๖๐ ความรอ้ นรงึ อนั เกิดจากราคะ ๓๗๑/๓๗๒ ความรอบรู้เฉียบแหลมของผอู้ ื่นรไู้ ด้ดี- -เม่อื เปน็ เหมือนผู้น้ันเท่านน้ั ๕๑๖

๖๓๐ พทุ ธประวัติจากพระโอษฐ์ ความสขุ ๔๗/๑๕๔ ครอบครองโดยธรรม ๓๑ ความสขุ ของชนเปน็ อันมาก ๑๐ คฤหบดีหรือบตุ รคฤหบดี- ความสขุ ของโลก ๙ -ผู้ไดร้ ับประโยชน์จากตถาคต ๑๑ ความสขุ ของโลก (อีกอยา่ งหน่ึง) ๑๐ คหบดีบรษิ ทั ๔๒๑/๔๒๒ ความสุขทเี่ วน้ จากกามและอกศุ ล ๖๘ คหบดีบัณฑิต ๓๐๕/๕๑๔/๕๔๓ ความสุขยง่ิ กว่ามหาราชา ๓๕๖ คหปตริ ตั นะ ๕๙๓ คอกลมเกลยี้ ง ๓๒/๓๗ ความสุขอย่างเดียว- คอยชําระจติ จากนวิ รณ์ ๒๙๐/๒๙๕ -ตลอด ๗ วัน ๗ คนื ๓๕๗ คัคครา (สระบวั ) ๒๕๓/๒๗๑/๓๗๙/๕๒๙ คนั ไถ ๓๘๐ ความใสใ่ จไปในสง่ิ ต่าง ๆ ๗๗ คันธาระ ๑๙๗ ความหน่าย ๔๒ คางดจุ คางราชสีห์ ๓๒/๓๙ ความหมายของคําว่า \"ญาณ\"- คาถาน่าเศรา้ ๕๙ คาถาเปน็ ทต่ี ้งั แห่งความเบ่อื หนา่ ย ๕๔๙ -(ในพุทธศาสนา) ๓๙๗ คาถาภิคีตะโภชนะ ๓๖๑ ความหลีกออกจากกาม ๑๐๓ ค่าทไ่ี ม่คุ้มค่าของสตู ร-เคยยะ-ไวยากรณ์ ความหลุดพน้ ที่ทาํ ใหไ้ ด้ช่ือวา่ เป็น- ๓๓๑ -พระอรหนั ต์ ๓๒๘ คาํ กล่าวคุกคามของมาร ๓๓๕ คาํ คุกคามของมาร ๑๖๘ ความหวังของพระองค์- คําตอบต่อคําคุกคามของมาร ๑๖๘ -(เกี่ยวกบั พระศาสนา) ๔๓๒ คําตอบโต้มารของพระองค์ ความหว่นั ไหวโยกโคลงของกาย ๙๘/๙๙ ๓๓๕/๓๖๔/๓๖๗ ความหวนั่ ไหวโยกโคลงของจิต ๙๘/๙๙ ความองอาจ ๔๒๑ คาํ ตขู่ องพวกอ่ืนวา่ - ความอดทนซง่ึ เป็นทร่ี ูจ้ กั กนั ดี ๕๒๒ -เขากส็ อนเหมอื นพระองค์ ๔๔๐ คาํ เตือนภกิ ษุล่วงหนา้ สามเดือน ๕๖๕ ความอยเู่ ป็นสุขทนั ตาเห็น ๓๕๕ คาํ ถามของทัณฑปาณิสักกะ ๔๗๐ ความอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม ๒๙๑ ความอยู่สงัดจากกาม ๑๐๓ ความอร่อยแหง่ กาม ท. ๔๒ ความอกึ ทกึ รบกวนของบุคคลผ้เู ลอ่ื มใส ๓๕๓

ปทานกุ รม ๖๓๑ คําทา้ ทายตอ่ นายชา่ งผู้ปลูกเรอื น ๖๑๓ คณุ ของการนาํ ออกเสียได้ซึ่ง- คาํ ที่ใคร ๆ ไมย่ อมคล้อยตาม- -อนั ตคาหกิ ทฏิ ฐิ ๓๐๒ -(อปปฺ าฏิหริ ิกํ) ๔๑๖ คณุ ธรรมของพระองค์ ๑๖๒ คาํ ทที่ ่านไม่ควรคิดว่าเป็น- คณุ ธรรมสกั วา่ สัทธา-สักวา่ ความรัก- -เร่อื งไมส่ ําคัญ ๑ -(ในตถาคต) ๒๘๓ คําแทนชอ่ื ของตถาคต๑๔๘/๒๐๑/๒๐๒/๒๕๗ คุณเบือ้ งสูง ๔๘๕ คํา 'บรภิ าส' ของพระองค์ ๒๖๑ คุณลักษณะของพระอรหนั ต์ ๒๘๒/๓๒๐ คาํ เยาะเย้ยของมาร ๓๖๓/๓๖๗ คณุ วเิ ศษอันโอฬารในศาสนา ๕๔๒/๕๔๖ คําเยาะเย้ยมารของพระองค์ ๔๕๑ คุณวุฒทิ ีจ่ ะนาํ ไปสรรเสรญิ ตถาคต- คาํ ล้อเลียนของมาร ๔๕๐ -ได้อย่างถกู ตรง ๑๗๖ คาํ ว่าอาวุโส (และวธิ ีใช้) ๕๗๓ เคยทรงผนวชในสาํ นกั กัสสปพทุ ธะ ๕๙๑ คําสอนของนิครนถ์นาฏบตุ ร ๔๗๒ เคี้ยวเหล็กดว้ ยฟน๎ ๕๕๐ คําสอนทที่ รงส่งั สอนมากท่สี ุด ๒๘๗ เครื่องดกั ปลา ๑/๔๑๙ คาํ สอนท่ีปราศจากกระพี้ ๕๐๓ เคร่ืองดับความกระหายในกาม ๒๖๒ คาํ สอนทป่ี ราศจากเปลือกและ- เครื่องถอนเสียซ่ึงกามวิตก ๒๖๒ -สะเกด็ เปลือก ๕๐๓ เครอ่ื งบ่มโพธญิ าณให้สุก ๖๐๓ คาํ สอนทเ่ี ป็นแกน่ แทล้ ว้ น ๕๐๒ เครื่องปูองกันจิต ๘๐/๘๑ คําสอนเปน็ อย่างเดียวกันหมด ๒๘๕ เครอ่ื งผูกรดั ทีม่ กี าํ ลัง ๓๒๖ คําสัจจ์ ๓๘/๑๘๓/๑๘๔ เครื่องยงั ปตี ใิ ห้เกดิ ๔๘๖ คาํ สารภาพของคนเคยมุ่งร้าย ๕๔๔ เครื่องยืนยนั คุณธรรมพระโคดม ๕๑๔ คําสําหรบั พูดสรรเสรญิ ตถาคต ๔๕๙ เครือ่ งรํางับความแผดเผาของกาม ๒๖๒ คําอธบิ ายทสพลญาณข้อท่ีหก ๑๓๗ เครอ่ื งละกาม ๒๖๒ คาํ อธิษฐานจิตเพอ่ื ความไม่ถอยกลับ เครอ่ื งสนุกของพระอริยเจ้า ๔๙๕ ๑๑๒/๓๓๒ เคร่ืองสนุกสนานชอบใจของเดยี รถียอ์ นื่ - คชิ ฌกฏู (ภูเขา) ๑๔๙/๓๐๓/๓๕๑/๔๓๓/ -(คอื การยกวาทะใส่กัน) ๔๙๕ ๔๖๕/๔๗๑/๔๗๙/๔๘๗/๕๒๒/๕๙๙ โคตรมะ ๑๕/๔๖๗/๔๖๘/๔๗๔/๔๙๓/๕๖๖ คณุ ของการฉันวันละหน ๓๖๒ โคตมกเจดีย์ ๒๔๖/๔๙๐

๖๓๒ พทุ ธประวัตจิ ากพระโอษฐ์ โคตมโคตร ๑๕/๑๖ โคนสะเดาชื่อ นเฬรุ ๒๑๕/๔๔๗ จ โครงเรอื น (คอื กเิ ลสท่เี หลือ- จงกรมแก้ความขลาด ๓ /๙๗ -เป็นเช้อื เกิดใหม่) ๖๑๓ จงตดิ ตามฟง๎ แต่เร่อื งเป็นไปเพื่อนิพพาน โคอยใู่ นโรงวา่ งเงยี บตัวเดยี ว ๕๐๗ ๓๓๐ ใครดูหม่นิ ความอดทนของพระโคดม- จงแสดงธรรมให้งดงาม ๒๔๔ -กเ็ ท่ากบั คนไม่มีตา ๕๒๒ จดเข่าข้างขวาทพี่ น้ื ดิน ๒๑๘ ใครท่ปี รากฏมไี ด้ยากในโลก ๘ จบพรหมจรรย์ ๒๗๒/๒๙๑/๓๒๐ ใครมอิ าจทว้ งตงิ ตถาคตได้ ๑๕๐ จอมเขาหิมวนั ตเ์ ปน็ หมอน ๑๑๓/๑๑๔ จกั ขุทิพย์ ๑๑๖/๒๒๗ ฆ จกั ขุนอ้ ย ๗๙ ฆฏายสกั กะ ๓๕๒ จกั รของพระองค์ ๒๓๕ ฆฏกิ าระ (ช่างหม้อ) ๕๘๘/๕๘๙/๕๙๐/๕๙๑ จักรโดยธรรม ๒๑๖/๓๒๕ ฆราวาสคับแคบ ๑๑/๔๖/๒๙๒/๔๙๓ จกั รทใี่ ครตา้ นให้หมนุ กลับไม่ได้ ฆราวาสเปน็ ทางมาแหง่ ธลุ ี ๒๑๖/๒๓๖/๓๔๐ ๑๑/๔๖/๒๙๒/๔๙๓ จกั รท่ีมธี รรมราชาเปน็ เจ้าของ ๒๓๖ ฆา่ เวลาเปน็ วนั ๆ ด้วยสุขอันเกดิ จากปตี ิ- จกั รพรรดผิ ปู้ ระกอบในธรรม ๓๑/๒๓๖ -(โดยไม่มอี าหาร) ๖๐๓ จักรพรรดิราช ๒๓๕/๒๓๖/๓๔๑/๔๓๑ โฆสติ าราม ๑๕๑/๔๙๒ จกั ษุ ๑๑๘-๑๒๐/๑๖๔/๑๖๖/๑๘๑ จัญไรของภกิ ษผุ ู้ไม่ใครใ่ นการศึกษา ๓๒๔ ง จันทกุมาร ๖๐๔ งอนไถ ๓๘๐ จับนกกระจาบหนกั มือเกนิ ๗๗ งานแรกนา ๖๘ จับนกกระจาบหลวมมือเกนิ ๓/๗๗ เงือ่ นตน้ แห่งพรหมจรรย์ ๒๘๔/๒๘๕/๓๐๓/๔๘๖ 'จบั นกตายในมือ' ๓/๗๗ แง่ที่เขากล่าวหาพระองค์ ๔๔๗ จมั ปา(เมือง) ๒๕๓/๒๗๑/๓๗๙/๕๒๖/๕๒๙ แงส่ าํ หรบั ขม่ อยา่ งเป็นธรรม จาตุมมหาราช ๑๙๓/๔๘๓/๔๘๗ ๔๑๓/๔๑๔/๔๑๕ จาตุมมหาราชกิ บรษิ ัท ๔๒๑/๔๒๒

ปทานกุ รม ๖๓๓ จาํ เราไวว้ ่าเป็นพุทธะ ๑๔ จนุ ทะสามเณร ๑๘๒/๒๐๐/๒๗๔/๓๙๗/ จําแสงสวา่ งได้เห็นรูปได้ดว้ ย ๙๓ ๔๓๒/๔๓๕/๕๕๕ จาํ แสงสวา่ งได้แตไ่ ม่เหน็ รปู ๓/๗๘ จุลศลี ๔๕๔ จาํ แสงสวา่ งได้นิดเดยี ว- จูฬโพธิโพธิสตั ว์ ๖๑๑ -เห็นรูปก็นดิ เดียว ๗๙ เจดียสถาน ๕๗๘ จาํ แสงสว่างมากไม่มีประมาณ- เจดยี ์ในเมืองเวสาลี ๔๙๐ -เหน็ รูปก็มากไม่มีประมาณ ๗๙ เจโตวมิ ุตติในพทุ ธศาสนา- จิตด่ืมรสของนิพพานได้แม้ปากกาํ ลังพดู - -(เนือ่ งด้วยอัปปมญั ญา) ๓๙๐ -เรื่องดับทกุ ขท์ ีต่ นถนดั ๓๗๗ เจโตวิมุตติป๎ญญาวมิ ุตติอันหาอาสวะมิได้ จติ ตสังขาร ๑๐๐ ๓๒๑ จิตตะ (อุบาสก) ๑๕ เจโตวมิ ุติ-ป๎ญญาวมิ ุติ ๙๘/๑๓๖/๑๕๐/ จิตทปี่ ราศจากหัวคนั นา ๓๗๙ ๑๕๕/๑๘๙/๒๑๒/๒๑๓/๒๑๔/ จิตไม่มีเวรไม่มพี ยาบาท ๑๘๘ ๓๒๑/๓๗๘/๔๓๐/๕๑๙ จติ เวียนมาสู่วิเวก ๕๓๑ เจโตวิมุตอิ ันไมก่ ําเรบิ ๔๓๓ จติ หา่ งจากสมาธิ ๗๔ เจโตสมาธิไม่มีนิมติ ๓๕๘/๕๖๒ จติ เหมือนเนื้อ ๓๒๖ เจรญิ เมตตาภาวนาตลอด ๗ ปี ๕๘๗ จติ อ่อนเพลีย ๗๔ เจอะพระโคดมแล้วไม่มีทางรอดไปได้ ๕๐๕ จติ อันประกอบดว้ ยเมตตา ๑๘๘/๓๗๔/๕๙๗ เจา้ วัชชี ๔๖๕/๔๖๖ จิตอนั ประกอบด้วยกรณุ า ๑๘๘/๓๗๔/๕๙๘ เจ้าหนี้มาทวงแต่เชา้ ตรู่ ๓๗๐ จิตอันประกอบดว้ ยมุทิตา ๑๘๘/๓๗๔/๕๙๘ แจวเรือบนบก ๑๖๘ จิตอนั ประกอบดว้ ยอุเบกขา ๑๘๘/๓๗๔/๕๙๘ ใจ ๓๘๐ จติ อันยงิ่ ๓๗๘ ใจเปน็ ดจุ มฤค ๕๔๒ จวี รท่คี ลุมกายพระสมณโคดม ๕๓๓ ใจยงั ระคนด้วยกเิ ลสกาม ๖๒ จุตจิ ากหมเู่ ทพช้ันดุสิต ๒๔/๒๖ ฉ จุตปู ปาตญาณ ๑๑๖/๑๓๕/๑๖๒/๓๑๗/๓๔๔ ฉันทะ ๘๑/๙๘/๑๒๕-๖/๑๒๘/๑๓๖/ จนุ ทะกัมมารบตุ ร (ผ้ถู วายป๎จฉิมบิณฑบาต) ฉันทะของนิททสบุคคล- ๕๖๗/๕๖๘ -เป็นไปในธรรม ๗ ประการ ๓๙๖

๖๓๔ พทุ ธประวัติจากพระโอษฐ์ ฉันนะ (ภกิ ษุ) ๕๗๔ ชา้ งตระกูลอโุ บสถ ๕๙๓ ฉนั ใบหมากเม่าต้มเปล่า ๆ ๖๐๓ ช้างที่นําออกจากปุาแล้ว ๒๙๓ ฉันเพียงเพื่อใหก้ ายนีต้ ้ังอยไู่ ด้ ๒๘๙/๒๙๓/๕๓๒ ชา้ ง ม้า โค เท่าท่จี ะฝกึ ได้- ฉนั อาหารหมดบาตร ๓๖๓ - ในฐานะสัตว์ที่ควรฝึก ๒๐๘ ฉัมภติ ัตตะ (สะดุ้งหวาดเสยี ว)๗๖/๗๗/๗๘ ชาณสุ โสณีพราหมณ์ ๑๐/๙๕/๑๖๘/๒๔๘/ ๓๑๕/๓๕๕/๕๑๒/๕๑๖/๕๔๓ ช ชาติ ๘๖/๘๘/๘๙/๙๑/๔๒๘ ชาติส้ินแล้ว ๘๕/๑๑๗/๒๗๕/๒๙๖/๓๑๘/๔๖๐ ชนทง้ั หลายยอ่ มพอใจกามคุณ ๘ ชาติสุดทา้ ย ๒๙/๗๐/๗๑/๘๐/๘๓/๙๕ ชนทง้ั หลายย่อมยินดีในการถอื ตัว ๘ ๑๗๒/๒๐๒/๒๓๔/๓๙๘ ชนท้ังหลายยอ่ มบนั เทงิ - ชาตอิ นั ดที ัง้ สองฝาุ ย ๕๒๖ -ในความว้าวุ่นไมส่ งบ ๙ ชาลี (ลูกชาย) ๖๐๙/๖๑๐ ชนทัง้ หลายยอ่ มบอดมืดด้วยอวชิ ชา ๙ ชาวโกศล ๕๔๖/๕๔๗ ชนบทตรงข้างภูเขาหิมพานต์ ๒๓ ชาวนา ๓๖๖/๓๘๐/๓๘๖/๔๐๕/๖๐๕ ชรามรณะ ๘๖-๙/๙๑/๑๔๓-๔/๒๕๑-๒/๔๒๘ ชาวนิคมยอ่ มเวยี นติดตาม- ช่องทางท่ใี ครจะขนั สู้พระองค์ ๕๐๗ -ผู้ทีเ่ สพเสนาสนะสงัด ๓๕๒ ชอบฟ๎งเสียงของมาตคุ าม ๑๗๐ ชนิ ะ ๑๕/๕๐๒ ชอบระลึกเรอ่ื งเก่าเกี่ยวมาตุคาม ๑๗๐ ชีวกะ (หมอ) ๑๒/๓๖๐/๓๖๑/๔๔๔ ชฏั ปุานา่ สพงึ กลัว ๕๙ ชูชก (พราหมณ์) ๖๑๐ ชัฏปุาเยือกเยน็ ๕๖ เชคุจฉิวตั ร ๕๖/๕๘ ชมั พุคาม (หมบู่ ้าน) ๕๖๖ เชด็ อุจจาระของตนดว้ ยมอื ๕๖ ชา่ งทาํ รถ ๖๐๐/๖๐๑/๖๐๒ เชตวนั ๗/๘/๑๐/๑๑/๑๖/๓๑/๗๑/๘๙/ ช่างผู้ปลูกเรือน ๖๑๓ ๙๕/๙๘/๑๒๑/๑๒๒/๑๒๕/๑๒๖ ช่างไมช้ ื่ออิสิทันตะและปุราณะ ๕๔๖ ๑๔๒/๑๕๒/๑๖๓/๑๘๐/๒๐๓/๒๐๘/ ชา้ งควรทรงสาํ หรับพระราชา ๒๙๒ ๒๑๗/๒๔๘/๒๔๙/๒๕๒/๒๕๕/๒๕๗/ ชา้ ง โค ม้า ลา (ในฐานะ- ๒๖๓/๒๖๘/๒๗๐/๒๗๕/๒๗๘/๒๘๑/ - ส่ิงทม่ี นุษยห์ ลงแสวงหา) ๔๕ ๒๘๕/๒๘๖/๒๙๗/๓๐๑/๓๐๒/๓๐๓/

ปทานุกรม ๖๓๕ ๓๑๐/๓๑๕/๓๓๑/๓๔๒/๓๔๔/๓๔๕/ ญาณทัสสนะมปี ริวฎั ฎส์ าม ๑๒๐/๒๐๔ ๓๕๕/๓๖๒/๓๘๔/๓๘๘/๔๑๕/๔๓๑/ ญาณทัสสนะมอี าการสิบสอง ๑๒๐/๒๐๔ ๔๔๐/๔๖๓/๔๖๘/๔๗๙/๔๘๐/๔๘๕/ ญาณทไ่ี ม่มญี าณอื่นยิง่ กว่า ๑๔๐ ๔๘๖/๕๒๑/๕๔๔/๕๘๔/๖๐๕ ญาณในการจําแนกกรรมของตถาคต ๔๐๕-๖-๗-๘ เชตุตดร (นคร) ๖๐๗ ญาณในอทิ ธิบาทสี่ มปี ริวัฎฎส์ าม- เชอื กชกั ๓๘๐ -อาการสบิ สอง ๑๙๑ โชตปิ าลมาณพ ๕๘๐/๕๘๘/๕๘๙/๕๙๐/๕๙๑ ญาณปรารภอนาคตกาลนานไกล- -(ของตถาคต) ๓๙๘ ฌ ญาณ และทัสสนะ ๑๗๒ ญาณวาท และเถรวาท ๕๒/๕๔ ฌานที่พระอรยิ เจ้าว่าเป็นสขุ ๑๐๕ ญาณี (ไวพจนแ์ หง่ ตถาคต) ๒๐๒ ฌานท่ีหนึ่ง ๑๐๔/๑๑๕/๑๖๑/๑๘๒/๒๙๐/๓๔๔ ญายธรรม ๑๕๕/๒๑๓/๒๑๔/๒๒๕/ ฌานทส่ี อง ๑๐๕/๑๑๕/๑๖๑/๑๘๒/๒๙๑/๓๔๔/๓๖๕ ๒๙๕/๕๑๙ ฐฌานที่สาม ๑๐๕/๑๐๖/๑๑๕/๑๖๑/๑๘๒/๒๙๑/๓๔๔/๓๖๕ ฌานทีส่ ี่ ๑๐๖/๑๐๗/๑๑๕/๑๖๑/๑๘๓/๒๙๑/๓๔๔/๓๖๕ ฌานแนว่ แนช่ ัน้ พิเศษ ๓๘๖ ฐานะชนชาติพราหมณ์ ๑๘๗ ฌานสี่เครอ่ื งอยูเ่ ปน็ สุขในป๎จจุบัน ๒๑๓ ฐานะใดลงกันได้ ฐานน้นั แหละ- ฌานเอาการไมห่ ายใจเป็นอารมณ์ ๖๔ -หยิบข้นึ มาพิจารณา ๕๐๘ ฐานะใดลงกันไม่ได้ ฐานะนน้ั จงยกไว้ ญ ๓๙๐/๕๐๗ ญาณ ๘๔/๘๗/๘๙/๙๑/๙๓/๑๑๙/๑๘๑/ ฐานะทจ่ี ะมีได้ (ฐานะ) ๗ ๑๙๑/๒๐๗ ฐานะทีม่ ไี มไ่ ด้ (อฐานะ) ๗/๓๕๐/๕๖๓ ญาณทสั สนะที่บริสทุ ธิ์ยิ่งข้ึน ๘๓ ฐานะท่ีไมอ่ าจจะมีได้ของพระองค์ - ญาณทัสสนะทเ่ี ปน็ ไปทบั ซงึ่ เทวดา(มีปริวฏั ฏแ์ ปด) ๙๔ -(เกีย่ วกับเวทนา) ๑๕๘ ญาณทสั สนะบริสุทธ์ิ ๑๕๒ ฐานะลําบาก ๑๔๕/๑๔๖ ญาณทัสสนะเป็นข้ัน ๆ ๙๓ ฐานะสบิ ๓๓

๖๓๖ พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ เดนิ บนอจุ จาระกองเท่าภเู ขา ๑๑๔ ด เดียรถยี ์ ๓๗๖/๕๒๑ ดนตรลี ว้ นแต่สตรีไม่มีบุรษุ ๔๒ เดียรถียอ์ ืน่ ๑/๒๙๙/๓๐๐/๓๕๙/๓๖๗/๓๘๙/ ดวงจักษใุ นโลก ๕๗๑ ๓๙๐/๓๙๑/๓๙๕/๓๙๗/๔๐๓/๔๐๔/ ดวงตา ๖๗/๘๗/๙๑/๙๓/๑๓๑/๒๒๒-๓/๒๒๖ ๔๔๐/๔๖๗/๕๖๘/๕๑๐ ดวงตาอันใหญ่หลวงของโลก ๒๓๗ แดนสากยะขึ้นอย่ใู นแคว้นโกศล ๒๐/๒๒/๒๓ ดวงอาทติ ย์กบั ห่งิ ห้อย ๓๘๘ แดนอนั เปน็ ทีเ่ กษมจากโยคะ ๓๘๐ ดอกสาละบานผิดฤดูกาล ๕๗๐ ดบั เย็นเพราะไม่ยึดมนั่ วา่ ตวั รสู้ ิ่งทีเ่ ลศิ ๓๗๒ ดาวดงึ ส์ ๔๓/๑๙๓/๔๘๓/๕๒๒/๕๒๓/๕๒๕ ต ดาวดงึ สบริษัท ๔๒๑/๔๒๒ ดาวที่ปรากฏเงาในบ่อลึก ๖๐/๖๗ ตกกฺ ี วมี ํสี (นึกตรึกนึกตรองแลว้ จงึ เชื่อ) ดาํ รงจิตให้หยุดอยูภ่ ายใน ๗๔ ๒๑๑ ดํารงอยใู่ นหม่เู ทพช้ันดุสิต ๒๔ ตถาคต ๑๐/๑๙๘/๒๐๐/๒๐๑ ดนิ น้าํ ไฟลมไมห่ ยงั่ ลงในทีใ่ ด ? ๔๘๔ ตถาคตเกิดขน้ึ ในโลก ๙/๑๐/๑๑/๑๒/๑๔๖/ ดืม่ น้ําคนั้ จากผลกระเบา ๖๐ ๑๘๗/๒๗๒/๒๗๒/๒๙๒/๓๑๖/๓๒๓/ ดสุ ิต (สวรรค)์ ๑๖/๒๐/๒๓-๔-๕-๖/๔๐/๑๙๓ ๓๔๘/๓๕๒/๔๙๓ ดูการเลน่ ๔๕๓/๔๕๔/๔๕๕ \"ตถาคต\" ทอ่ี ยภู่ ายใต้วสิ ัยแห่งการบัญญัติ เด็ก ๆ รมุ กันตอ่ ยก้ามปู ๕๐๖/๕๔๘ ๓๐๑ เดก็ เลีย้ งโคซัดฝนุ ใส่ ๕๙ \"ตถาคต\" ทอ่ี ยู่เหนือวิสัยแห่งการบัญญัติ- เดก็ เลี้ยงโคถา่ ยมูตรรด ๕๙ - (ตถาคตแท้) ๓๐๑ เดก็ เลี้ยงโคโหร่ ้องใส่หู ๕๙ ตถาคตปรรถนากพ็ ึงอยไู่ ดก้ ปั ปห์ นึง่ ๑๙๓ เดก็ เลย้ี งโคเอาไมท้ ิ่มหู ๕๙ เดรัจฉานกถา ๔๕๖ ตถาคตเปดิ ประตไู วเ้ พ่ือสัตว์ ๑๓ เดรจั ฉานวชิ า ๔๕๖/๔๕๗/๔๕๘/๔๙๔ ตถาคตพละ ๑๓๗/๑๔๘ เดนิ ไดเ้ หนอื นํา้ เหมือนเดินบนดิน ๙๘ ตถาคตพลญาณ ๑๓๐/๑๓๕/๑๓๗/๑๔๐/๑๔๘ เดนิ บนหนาม ๕๘ ตถาคตพลญาณสบิ ๑๓๐/๑๓๕/๑๔๐ ตถาคตมไิ ด้เปน็ 'ตมฺมโย' ๑๖๖

ปทานุกรม ๖๓๗ ตถาคตเมือ่ ถูกอุปมาด้วยดอกบวั ตรกึ อวหิ งิ สามาก- ๑๔/๑๗๕/๓๗๙ -ก็เปน็ อนั ว่าละวหิ ิงสาวิตก ๗๔ ตรกึ ในการทําสตั ว์ใหล้ ําบาก ๗๓ ตถาคตวิหาร ๓๕๙ ตลอดฤดฝู นไม่ลงจากปราสาท ๔๑ ตถาปฏปิ ทา ๕๑๒ ตลอดเวลาทไ่ี ม่ชอื่ วา่ ได้ตรัสรู้ ๖๙/๗๑/ ตน้ งาในไรย่ ับเยิน ๓๗๐ ๘๒/๙๓/๑๒๐/๑๗๒/๒๐๒/๒๐๓/๒๐๔ ต้นไทรทีพ่ ักรอ้ นของเดก็ เลีย้ งแพะ ตจั ฉาปฏปิ ทา ๕๑๒ ๒๑๗/๒๑๙/๒๒๐/๒๒๕ ตณั หา ๘๔/๘๖/๘๘/๙๐/๙๑/๔๒๘ ตน้ โพธ์ิ ๑๖/๓๙๘ ตัวท่ีเน่าพองส่งกล่ิน ๔๖๙ ต้นสาละค่ใู นสวนสาละ ๕๖๘ ตัวอย่างของคาํ ที่ควรนาํ มา - ต้นสาละใหญ่ ๕๐๒ -ทาํ การสากจั ฉา ๓ ตน้ เหตทุ ่ีใหเ้ กิดทิฎฐิตา่ ง ๆ ขน้ึ ๑๗๕ ตัวอยา่ งคําบัญญัติบางคํา- ตบะอ่ืนนอกจากอริยมรรค ๑๖๗ -ทต่ี ้องขบคิดอย่างละเอียด ๓ ตป๎สสี ๔๔๙ ตวั อยา่ งแห่งความสุข ๓๗๐ ตปส๎ สวี ัตร (วัตรเพอ่ื มตี บะ) ๕๖ ตาเขียวสนิท ๓๓/๓๗ ตปสุ สะคหบดี ๑๐๓ ตาดุจตาวัว ๓๓ ตโปชคิ ุจฉวาที ๑๖๓ ตามเสียงกระฉ่อนท่ัว ๆ ไป ๕๐๐ \"ตมฺมโย\" ๑๖๖ ตามเสียงของคณกะโมคคลั ลานพราหมณ์ ตระกลู ม่ังคง่ั เพราะทาน-สจั จะ-สญั ญมะ ๕๐๔/๕๔๗ ตามเสียงของเจ้าลจิ ฉวี ทุมมุขะ ๕๐๖ ๔๓๘ ตามเสียงของทา้ วสกั กะจอมเทพ ๕๒๒ ตรัสเล่าโดยผา่ นพระอานนท์ ๒๓ ตรสั อย่างไรทาํ อย่างน้ัน-ทําอยา่ งไร- ตามเสียงของเทวดาบางคน ๕๒๒ ตามเสียงของปรพิ พาชกคณะแมน่ าํ้ สปั ปีนี -ตรสั อย่างนนั้ ๑๙๙/๕๒๔ ตรึกตามตรองตามนานเกนิ ไปนัก ๓/๗๔ ๕๐๗ ตรกึ เนกขมั มะมาก- ตามเสียงของปริพพาชกวจั ฉโคตร ๕๐๑ -กเ็ ปน็ อนั วา่ ละกามวิตก ๗๔ ตามเสียงของมโี ลติกะปริพพาชก ๕๑๒ ตรึกอัพยาปาทมาก - ตามเสียงของปิงคิยานพี ราหมณ์ ๕๑๖ -ก็เป็นอันว่าละพยาบาทวิตก ๗๔

๖๓๘ พทุ ธประวัตจิ ากพระโอษฐ์ ตามเสียงของโปฏฐปาทปรพิ พาชก ๕๑๑ ไตรทิพย์ ๖๐๓ ตามเสียงของผ้สู รรเสริญธรรมเทศนา ไตรลกั ษณ์ ๔๖๑ ๕๑๐ โตเทยยพราหมณ์ ๒๑๐ ตามเสียงของพระเจ้าปเสนทิโกศล ๕๔๐ โต้วาทะกับเสา ๔๒๑ ตามเสียงของโลหจิ จพราหมณ์ ๕๒๕ ตามเสียงของวัชชยิ มาหิตคหบดี ๕๑๐ ถ ตามเสียงของวสั สการพราหมณ์ ๕๑๙ ตามเสียงของสังคมวิญํูชน ๕๐๗ ถ่อหรือแจวเรือบนบก ๑๖๘ ตามเสียงของสจั จกะนคิ รนถบุตร ๕๐๕ ถ้าเป็นฆราวาสจะเปน็ จักรพรรดิ ๓๑ ตามเสียงของโสณทณั ฑพราหมณ์ ๕๒๖ ถามกลบั ๓๐๕/๓๕๗ ตามเสียงของหัตถกเทวบตุ ร ๕๒๑ ถา้ ออกบวชยอ่ มเป็นสมั มาสัมมพุทธะ ๓๑ ตามเสียงของอตั ถกามเทพ ๕๒๐ ถีนมิทธะ ๗๖/๗๗/๗๘/๙๖/๒๙๐/๒๙๕/๓๕๗ ตามเสียงของอุตตรมาณพ ๕๓๐ ถอื บิณฑบาตเปน็ วัตร ๓๔๖ ตามเสียงของอบุ าลีคหบดี ๕๓๕ ถอื ผา้ บังสกุ ลุ เป็นวตั ร ๓๔๖ ตามเสียงแหง่ มาร ๕๔๘ ถอื อย่โู คนไมเ้ ปน็ วตั ร ๓๔๗ ตายนคาถา ๔๘๖ ถืออยปู่ ุาเปน็ วัตร ๓๔๗ ตายนเทพบตุ ร ๔๘๕ ถือเอาโดยนิมติ ๒๘๘/๒๘๓ ตายเปลา่ ๒๙๗/๒๙๘ ถอื เอาโดยอนุพยัญชนะ ๒๘๙/๒๙๓ ตายไปอย่างไดร้ ับการฝึกแล้ว ๒๙๖ ถูกตัณหาในกามเคย้ี วกนิ อยู่ ๔๓ ตายแล้วทงั้ ทยี่ ังฝกึ ไมเ่ สรจ็ ๒๙๖ ถูกทฎิ ฐคิ รอบทับดงั่ ปลาในอวน ๑๗๙ ตาํ หนิยัญญ์ ๔๐๐ เถรวาท (๒๒)/๕๒/๕๔ ตําแหน่งจอมโลก ๑๓๕/๑๓๗/๑๔๑/๑๔๒/๑๔๘ เถระผู้แกจ่ ริง ๒๒๐ ตเิ ตียนตบะ ๓๙๙/๔๐๐/๕๑๐ เถระผูบ้ ณั ฑติ ๒๒๐ ตมิ พรกุ ขปรพิ พาชก ๒๔๙ เถระผู้พาล ๒๒๐ ติสหัสมมี หาสหัสสโี ลกธาตุ ๑๙๔ เถากาฬบรรพ ๖๐/๖๖ เตียงปรินิพพาน ๕๖๙ เถาวฎั ฎนาวฬี ๖๐/๖๗ แตะหนา้ ผากด้วยนวิ้ สามนว้ิ ๔๗๑ เถาวลั ย์อาสีติกบรรพ ๖๐/๖๖

ปทานกุ รม ๖๓๙ ท ทรงถกู ยกย่องว่าเป็นพรหม- ทมะ (การบบี บงั คับใจ) ๕๘๘ -โดยพวกพราหมณ์ ๔๓๔ ทรงกลบั พระทัย ๖๗ ทรงเกอื้ กลู สรรพสัตวไ์ ม่เหน็ แกห่ น้า ๓๖๕ ทรงทราบมายาแตไ่ มม่ ีมายา ๔๔๔ ทรงทราบมุทธาและมุทธาธบิ าต ๕๒๐ ทรงขนานนามพระองค์เองวา่ \"พทุ ธะ\" ทรงท่องเทีย่ วเพราะไม่รู้อรยิ สจั จ์ ๕๘๒ ๑๓ ทรงทอ้ พระทยั ในการแสดงธรรม ๒๒๑ ทรงทาํ หนา้ ท่บี รบิ ูรณแ์ ล้ว ๕๕๕ ทรงคน้ ลกู โซ่แห่งทกุ ข์ ๘๖ ทรงทําใหศ้ ัตรปู ระสบผล- ทรงคน้ ลกู โซ่แห่งทุกข์ (อกี นยั หนึง่ ) ๘๙ -เหมอื นเอาศีรษะชนภูเขา ๕๕๐ ทรงคบบุคคลทคี่ วรคบ ๕๔๗ ทรงเทย่ี วแสวง ๗๐ ทรงเคยบงั เกดิ เปน็ มหาพรหม ๕๘๗ ทรงนุ่งห่มกระทัดรัด ๕๓๓ ทรงเคยบูชายัญญ์แลว้ เปน็ อย่างมาก ๕๘๓ ทรงบริสทุ ธ์ิใจในการปฏบิ ตั ติ ่อลทั ธิอ่นื ทรงเคยประพฤติวัตรสว่ นสดุ ข้างตงึ ๖๑ ๔๐๑ ทรงจาํ พรรษา ณ บา้ นเวฬุวคาม ๕๖๑ ทรงบญั ญัตริ ะบบวนิ ยั เพราะอาศัย- ทรงฉันภตั ตาหารในหมู่บ้าน ๕๓๑ -อาํ นาจแห่งประโยชน์สิบคู่ ๒๕๙ ทรงฉนั ภัตตาหารเรียบรอ้ ยนัก ๕๓๑ ทรงบญั ญัติเรอื่ ง \"ตถา\" ๕๑๑ ทรงชนะคนท่มี ุง่ ร้ายทีเ่ ข้าเฝูา ๕๔๓ ทรงประกอบดว้ ยคุณ ๑๐๐ ประการ ๕๓๕ ทรงชนะน้ําใจคนโดยทางธรรม ๕๔๖ ทรงประกอบด้วยมหาปุรสิ ลักขณะ- ทรงชราทางกายเหมือนคนท่วั ไป ๕๕๔ -สามสิบสอง ๕๓๐ ทรงดงึ ผมช่วยคนจะตกเหว ๕๒๕ ทรงประดิษฐานศาสนาพรหมจรรย์- ทรงได้รับการบาํ เรอ ๔๐ -ได้บริบูรณ์ ๕๐๓ ทรงปลงอายุสงั ขาร ๕๖๓ ทรงตริตรกึ เพ่ือตรัสรู้ ๖๙ ทรงเปน็ กอ้ นหินให้กาโง่สําคัญวา่ มนั ขน้ ทรงตดั รอนอาํ นาจมาร- ๕๔๙ -เหมอื นเด็กรดิ รอนก้ามปู ๕๔๘ ทรงเป็นกาลาวาทภี ตู วาที ฯลฯ ๒๐๐ ทรงถ่อมพระองคแ์ ละยกฐานะสาวก- ทรงเป็นผู้ทไ่ี มม่ ใี ครนาํ ไปได้ดว้ ยราคะ -ในหนา้ ที่ของพระพทุ ธเจ้า ๓๔๘ ๕๔๙

๖๔๐ พทุ ธประวตั จิ ากพระโอษฐ์ ทรงเป็นวภิ ชั ชวาที (มิใช่เอกสารวาท)ี ๕๑๐ ทรงสนทนากะเทวดา- ทรงเป็นสมั มาสมั พทุ ธะ- -(เร่อื งวิมุตติของภกิ ษณุ ี) ๔๗๙ -ประกาศพรหมจรรย์บริสุทธิ์ ๕๐๐ ทรงสรรเสรญิ ปฏบิ ัตบิ ูชา ทรงพระคณุ ทชี่ อบใจเทวดา ๘ ประการ -ยงิ่ กว่าทพิ ยบูชา ๕๗๐ ๕๒๒ ทรงสอนเฉพาะเร่อื งทกุ ข์ ๒๘๖ ทรงมีคณะสงฆ์ท่ชี ่มุ ชน่ื ผ่องใส ๕๔๑ ทรงสามารถปราบโจร- ทรงมคี ณะสงฆท์ พ่ี ร้อมเพรียง ๕๔๑ -ทมี่ หากษตั ริย์ก็ปราบไม่ได้ ๕๔๔ ทรงมีคณะสงฆป์ ระพฤติพรหมจรรย์- ทรงสามารถสอนให้รู้ได้เองเห็นได้เอง -ตลอดชวี ิต ๕๔๐ ๒๗๕ ทรงมีคาํ สอนท่เี ปน็ แก่นแทล้ ้วน ๆ ๕๐๒ ทรงเสพเสนาสนะปาุ เรอ่ื ยไป ๓๕๕ ทรงมคี ณุ ธรรมลกึ จนผอู้ ่ืนไดแ้ ต่เพยี ง- ทรงเสมอกับพระเจ้าโกศลโดยวัย ๕๔๖ -อนมุ านเอา ๕๑๒ ทรงแสดงธรรมดว้ ยพระสําเนียง- ทรงมีคุณธรรมสูง ๔ ประการ ๕๑๙ -มีองค์แปด ๕๓๔ ทรงมคี ุณสมบัติสงู ทุกประการ ๕๒๖ ทรงแสดงธรรมเพือ่ ปล่อยทางธรรม ๒๕๗ ทรงมตี ถาคตพล ๕ อย่าง ๑๓๗ ทรงแสดงหลักกรรมต่างจากลทั ธิอ่ืน ๔๐๔ ทรงมีธรรมเทศนาเป็นแสงสวา่ ง ๕๐๑ ทรงแสดงหลักสําคัญตรงกบั สาวก ๕๐๑ ทรงมไี ฟในภายในอยู่เนอื งนจิ ๔๖๔ ทรงหกั ลา้ งปรป๎กษ์ได้- ทรงมมี รรยาทเป็นสง่าน่าเลอื่ มใส ๕๓๑ -เหมือนเดก็ ๆ รุมกนั ตอ่ ยก้ามปู ๕๐๖ ทรงมลี ีลาศสง่างดงาม ๕๓๐ ทรงอนุโมทนาเมอื่ เสรจ็ ภตั ตาหาร ๕๓๓ ทรงมีวตั รในบาตร ๕๓๒ ทรงอย่เู หนือการครอบงําของเวทนา ๑๕๗ ทรงมีสติสัมปชัญญะปลงอายุสงั ขาร ๕๖๓ ทรงอยเู่ หนือคําสรรเสริญของคนธรรมดา ทรงมีสังฆบริษทั ท่เี งียบเสียง ๕๔๒ ๕๑๖ ทรงมีอนามัยดี ๕๒๕ ทรงอดั แออยู่ด้วยบริษทั นานาชนิด ๕๒๑ ทรงมงุ่ ความเก้ือกูลสัตว์ ๕๓๓ ทรถา และ ทรถมตตฺ า ๓๗๖ ทรงไม่ตดิ ในรสอาหาร ๕๓๒ ทรมานพระองค์ ๔๙/๕๑ ทรงไม่ตื่นเตน้ พระทัยในบ้าน ๕๓๑ ทรวดทรงดจุ ต้นไทร ๓๒/๓๗ ทรวดทรงเหมอื นมหาพรหม ๕๒๗

ปทานุกรม ๖๔๑ ทรัพย์ของคน ๓๑๑ ทางสองแพร่ง (อุปมาท่ใี ชก้ ับวจิ ิกจิ ฉา) ทรพั ยข์ องตถาคต ๓๗ ๒๗๐ ทวสิ หสั สมี ัชฌิมิกาโลกธาตุ ๑๙๔ ทางสายกลาง ๑๑๘/๒๔๘/๔๖๕ ทสพลญาณ ๑๓๕/๑๓๗/๑๔๒ ทางสายกลาง (ทรงแสดงโดยหลกั - ทองและเงิน (ในฐานะ- -ปฏิจจสมปุ บาท) ๒๔๘/๒๕๓ -ส่งิ ทมี่ นุษย์หลงแสวงหา) ๔๕ ทางสายกลาง (ทรงแสดงโดยหลัก- ทอ่ ธารนา้ํ สองท่อจากอากาศ ๒๙ -อรยิ มรรคมอี งคแ์ ปด) ๒๔๘ ทักขิณาคีรีชนบท ๓๗๙ ทางแหง่ ความสําเรจ็ ๑๐๓ ทกั ขิเณยยบุคคล ๒๙๖ ทางให้ถงึ ความดับไม่เหลือ ๑๔๗/๑๙๙/๓๐๓/๔๘๒ ทัณฑปาณสิ กั กะ ๔๗๐/๔๗๑ ทางอนั ตราย(อปุ มาทใ่ี ช้กับมิจฉามรรค) ทางเกา่ ที่พระพุทธเจ้า ท.- ๒๖๘ -เคยดําเนนิ แล้ว ๑๒๑/๒๗๙ ทาน (การให้) ๕๘๘ ทางขวา (อุปมาทใ่ี ชก้ ับ- ทานท่ีเคยให้ ๔๖๖ -อรยิ อัฏฐงั คิกมรรค) ๒๗๑ ทานท่ีใหแ้ ก่ผู้ทุศีล ๔๓๗ ทางซา้ ย (อุปมาที่ใช้กับมิจฉามรรค) ๒๗๐ ทานท่ีใหแ้ ก่ผมู้ ีศีล ๔๓๗ ทางที่ไมอ่ าจจะเกิดความเหน็ วา่ - ทานวิบาก ๕๘๘ -อัตตาและโลกเปน็ ของเทย่ี ง ๒๗๕ ทา้ วมหาพรหม ๔๘๓ ทางปฏบิ ตั ิเพื่อการเข้าอย่รู ว่ มกบั พรหม ท้าวสักกะจอมเทพ ๔๕๙/๔๘๓/๔๙๘/๕๒๒ ๕๙๙ ทา้ วสักกะผ้มู กั ระแวงอยูเ่ สมอ ๖๐๓ ทางไปสูก่ าํ เนดิ เดรจั ฉาน ๑๘๘ ทาสหญิงทาสชาย (ในฐานะ- ทางไปสู่เทวโลก ๑๘๙ -ส่งิ ท่ีมนุษยห์ ลงแสวงหา) ๔๕ ทางไปสูน่ รก ๑๘๘ ทาํ ทก่ี าํ บังให้เป็นที่แจง้ ๙๘/๑๙๐/๑๙๗/๓๓๘ ทางไปสู่นิพพาน ๑๘๙ ทําทแ่ี จ้งใหเ้ ปน็ ทก่ี ําบัง ๙๘/๑๙๐/๑๙๗/๓๓๘ ทางไปสู่เปรตวิสัย ๑๘๙ ทําวิตกทง้ั หลายให้เปน็ สองสว่ น ๗๑ ทางไปสู่มนษุ ยโ์ ลก ๑๘๙ ทาํ ใหเ้ หมอื นตาลหน่อเน่า ๔๔๙/๔๕๐ ทางเพ่อื ยรู่ ว่ มกับพรหม ท. ๑๘๘ ทําอยา่ งไร กล่าวอย่างน้ัน ๒๘๕ ทางมาแห่งธุลี ๑๑/๔๖/๒๙๒/๒๙๓ ทิฎฐธรรม (ทนั ท)ี ๑๗๒/๔๐๙/๔๑๐/๔๑๑

๖๔๒ พทุ ธประวตั จิ ากพระโอษฐ์ ทิฎฐธัมมนิพพานวาท ๑๒๒/๑๗๙ ทท่ี สี่ มควรตง้ั ความเพียรของกุลบุตร ๕๖ ทฎิ ฐานคุ ติแห่งความดใี นภพก่อน ๆ- ทเ่ี ที่ยวของจิต ๔๒๖ -๒๒ อยา่ ง ๕๘๔ ที่นอกบริเวณชัว่ แอกออกไป ๕๓๐ ทฎิ ฐานคุ ตอิ ันสาวกพงึ ดําเนนิ ตาม ๕๘๑ ทน่ี อนเกล่ือนไปดว้ ยสัตว์ตวั เลก็ ๆ ๓๗๐ ทิฎฐิของพกพรหม ๓๘๔ ทีน่ อนทพิ ย์ ๓๗๓ ทิฎฐทิ ่ีเปน็ เส้ียนหนามยักไปยกั มา ทน่ี อนพรหม ๓๗๔ ๕๐๖/๕๔๘ ท่นี อนอริยะ ๓๗๕ ทฎิ ฐิที่แสดงความไมม่ อี ัตตา- ที่น่งั นอนสูงใหญ่อนั เป็นทิพย์ ๓๗๓ -๔ ความหมาย ๔๔๓ ที่นัง่ นอนสูงใหญ่อันเป็นพรหม ๓๗๔ ทิฎฐินสิ สัยสหรคตดว้ ยปุพพนั ตขันธ์ ๒๗๔ ทน่ี งั่ นอนสูงใหญ่อนั เป็นอรยิ ะ ๓๗๕ ทิฎฐินสิ สัยสหรคตดว้ ยอปรันตขนั ธ์ ๒๗๔ ทป่ี ระทับนัง่ นอนของพระองค์ ๓๗๒ ทิฎฐิลามก ๔๙๑ ที่พึง่ เม่ือทรงลว่ งลบั ไปแล้ว ๔๖๖ ทฎิ ฐิสิบประการ ๒๙๗/๓๐๒ ทพ่ี ึ่งสาํ หรับพระองคเ์ อง ๒๑๗ ทฎิ ฐหิ กสิบสอง ๑๗๕ ท่ยี นื อันเปน็ ทิพย์ ๓๗๓ ทฎิ ฐอิ ันลามก (ของสาติภกิ ข)ุ ๒๖๓ ที่ยนื พรหม ๓๗๔ ท่ิมแทงกนั ดว้ ยหอกปาก ๓๕๕ ทยี่ นื อริยะ ๓๗๕ ทวิ าวิหาร ๕๖๒ ทีร่ าบลุ่มใหญ่ (อุปมาที่ใชก้ บั กาม) ๒๖๘ ทศิ ทง้ั แปดในภายในเท่าท่บี รุ ษุ ทีฝ่ กึ แลว้ - ทส่ี ุดโลก ๔๘๐/๔๘๑ -จะไปถงึ ได้จากที่นง่ั แห่งเดียว ๒๐๘ ทสี่ ุดแห่งการทรงท่องเท่ียว ๖๑๓ ทิศทผ่ี าสกุ แก่พระองค์ ๓๕๖ ทกุ ข์ (ทกุ ข์ในอริยสจั จ) ๑๑๗ ที่จงกรมทพิ ย์ ๓๗๓ ทกุ ขน์ ้ีใครทําให้ ๔๖๗ ทจ่ี งกรมพรหม ๓๗๔ ทุกขเวทนาแก่กล้า ๑๕๙ ทจ่ี งกรมอรยิ ะ ๓๗๕ ทุกขเวทนาอนั กล้าแข็งแสบเผ็ด ๖๘/๔๗๗/๔๗๘ ที่ซงึ่ ไปถงึ แล้วย่อมไม่เศรา้ โศก ๓๘๐ ทุกขอ์ าศัยเหตปุ ๎จจัยเกิดขึ้น ๔๖๘ ที่ที่มฤตยูไปไมถ่ ึง ๑๓/๑๗๔ ทกุ รกริ ิยา ๖๓/๖๗/๖๘/๑๕๙/๑๖๗/๒๓๐/๔๗๑ ที่ท่ีมารไปไม่ถงึ ๑๓/๑๗๔ ทกุ รกิรยิ าอยา่ งเข้มงวด ๑๕๙

ปทานกุ รม ๖๔๓ ทกุ รกรยิ าอนั ไมป่ ระกอบด้วยประโยชน์- โทษของศีลวิบตั ิ ๕๕๘ -กบั การหลดุ พ้น ๑๖๗ โทษตา่ํ ทรามบางอย่าง- -ในกรณีอนั เก่ยี กับยศ ๑๖๔ ทฎุ ฐุลละ (คะนองหยาบ) ๗๖/๗๗/๗๘ โทษในโลก ๖๙/๗๐ ทุมมุขลิจฉวี ๕๐๖ โทษแห่งความเป็นสังขตธรรมของสมาธิ- ทูนหินใหญแ่ ล้วหาทีย่ นื บนน้ําวน ๕๕๐ -(แมอ้ นิมิตตเจโตสมาธิ) ๓๗๖ เทน้ําล้างหมอ้ ลงหลุมน้ําครํา ๔๓๖ โทษอันต่ําทรามแห่งกาม ท. ๔๒ เทพ (ในคติ ๕) ๑๘๘ เทพช้นั ดุสติ ๒๓/๒๔/๒๕/๒๖ โทสะ ๓๔/๓๙/๒๒๒/๒๘๒/๒๙๗/ เทพบุตรผเู้ คยเปน็ เจา้ ลัทธิเดียรถยี ์ ๔๘๕ ๓๒๐/๓๕๕/๓๗๔/๔๓๐/๔๔๘/๔๔๙/ เทพพวกพรหมกายกิ า ๔๘๓ ๔๙๑/๕๖๐/๕๖๙ เทวดาผ้เู ขา้ ถึงโลกอันมสี ุขโดยส่วนเดยี ว ไทยธรรมที่ไม่สมควร ถกู ปฏิเสธแล้ว- ๔๑๖ -ควรนาํ ไปท้งิ โดยสว่ นเดียว ๓๖๒ เทวดาแลมนุษย์มีรูปเป็นท่ียนิ ดี ๑๕๓ ธ เทวดายอ่ มเข้ารับกอ่ น ๒๘ เทวทหนคิ ม ๔๗๓ ธรรมกาย (ไวพจน์แหง่ ตถาคต) ๒๐๑ เทวทัต ๔๓๓/๔๗๐ ธรรมของตถาคตไม่ใหข้ ้องกบั กาม ๘ เทวทูตปรากฏในหงอกเส้นแรก ๕๙๗ ธรรมของตถาคตกาํ จัดการถอื ตัว ๘ เท้าอฐู ๖๐/๖๖ ธรรมของตถาคตเป็นไปเพอ่ื สงบ ๙ เทย่ี วทําลายความเหน็ เขาอ่ืน- ธรรมของตถาคตกําจัดอวิชชา ๙ ธรรมของพระตถาคต ๘/๙ -ด้วยป๎ญญาตน ๓๘๙/๕๑๔/๕๔๓ ธรรมของพวกสมณสากยบตุ ร ๑๔๔ โทณพราหมณ์ ๑๓ ธรรมเครื่องอยู่เป็นสุขในภพปจ๎ จบุ นั ๒๑๓/๕๑๙ โทมนสั ๒๘๙/๒๙๓ ธรรมจกั ร ๑๕/๒๑๖/๒๑๗/๒๒๘/๒๓๓/ โทษการแสดงอาเทสนาปาฏิหาริย์ ๑๙๘ ๒๓๔/๒๓๕/๒๓๗/๓๔๐/๓๔๑/๓๔๓ โทษการแสดงอทิ ธิปาฏหิ าริย์ ๑๙๗ ธรรมจกั รไมม่ อี ืน่ ยง่ิ กว่า ๒๑๖/๒๓๕ โทษของการมีอนั ตคาหิกทฎิ ฐิ ๓๐๒ ธรรมชาตทิ ี่อารมณ์ยัว่ ไม่ได้ ๖๑๔ โทษของรปู ๘๒/๘๕ ธรรมชาติแหง่ อธิมุตติบท ๑๔๐ โทษของเวทนา ๘๔/๘๕

๖๔๔ พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ ธรรมดาของคนท่ีไมเ่ ชอื่ ไม่เล่ือมใส ๑๙๗ ธรรมทท่ี รงแสดงแล้วเปรียบไดก้ ับ- ธรรมดาของพระพทุ ธเจ้าทง้ั หลาย ๒๑๙ -พว่ งแพ ๒๕๘ ธรรมตามธรรมชาติ ๓ อย่างทีท่ ําให้- ธรรมท่ที รงหวังให้สาวกสามัคคีกัน- -ธรรมวินัยต้องรุ่งเรอื งไปในโลก ๑๒ -แลว้ ศกึ ษา ๓๓๔ ธรรมตามธรรมชาติ ๓ อย่างทที่ ําให้- ธรรมที่ทาํ คนใหเ้ ปน็ เถระ ๒๒๐ -พระองคต์ อ้ งเกดิ ข้นึ ๑๒ ธรรมทที่ าํ วิชชาและวมิ ุตติ ฯลฯ- ธรรมทง้ั หลายท้ังปวงเป็นอนตั ตา ๔๖๒ -ให้บรบิ ูรณ์ ๔๙๖ ธรรม ท. ท่ไี ม่เคยฟ๎งมาแตก่ อ่ น- ธรรมที่ทาํ ใหเ้ กิดมีได้แล้ว- -(เวทนา) ๘๔/๒๑๑ -(ในกรณีแห่งอทิ ธิบาท) ๑๙๑ ธรรมทายาท ๓๓๑/๓๓๒/๓๓๖/๓๔๓ ธรรมทป่ี ระกาศไวโ้ ดยพระสุคต ๑๒ ธรรมทายาท (ทายาทแห่งธรรม) ๒๐๑ ธรรมที่ปราศจากส่วนขี้ร้วิ ๒๘๐/๒๘๒ ธรรมทก่ี าํ จดั การถอื ตวั ๘ ธรรมที่เปน็ ไปเพื่อความไมเ่ ส่ือม ๔๖๕ ธรรมทก่ี ําจัดอวิชชา ๙ ธรรมท่ีเป็นไปเพ่ือความสงบ ๙/๑๒ ธรรมทเ่ี กษมจากเคร่ืองร้อยรัด ๔๖ ธรรมทม่ี ีข้ึนมาเพราะตถาคต ๘ ธรรมที่ควรทําใหเ้ กดิ มี- ธรรมที่ไม่เกิด ๒๓๒ -(ในกรณีแห่งอทิ ธบิ าท) ๑๙๑/๑๙๒ ธรรมทไ่ี ม่เกย่ี วขอ้ งกบั กามคุณ ๘ ธรรมที่จะพงึ รูไ้ ดด้ ว้ ยจกั ษแุ ละโสตะ ๑๖๔ ธรรมที่ไมม่ ีความชรา ๒๓๒ ธรรมทเ่ี จอื อยู่ดว้ ยความเศร้าหมอง ๑๖๔/๑๖๖ ธรรมทไ่ี ม่มีความเจบ็ ไข้ ๒๓๒ ธรรมที่ตถาคตแสดงมลี ักษณะสี่ ๘ ธรรมทไ่ี ม่ตาย ๒๓๒ ธรรมทต่ี ถาคตแสดงมีลักษณะสี่- ธรรมท่ีไม่มีความเศรา้ หมอง ๒๓๓ -(อกี นยั หน่ึง) ๑๒ ธรรมทลี่ กึ สตั ว์อน่ื เห็นไดย้ าก ๑๗๕ ธรรมที่ต้องปล่อยวางทุกอยา่ ง- ธรรมที่แสดงเพื่อการสิน้ ทกุ ข์โดยชอบ- -ทกุ ประการ ๑๔๐ -(สาํ คัญยิ่งกวา่ อิทธปิ าฏิหารยิ ์) ๑๙๕ ธรรมทีต่ ้องรู้เกยี่ วกบั การทําให้เกดิ มี- ธรรมท่แี สดงแล้วไม่มีใครข่มขไี่ ด้ -(ในกรณแี ห่งอิทธิบาท) ๑๙๑ ๔๒๕/๔๒๙ ธรรมท่ีทรงรับรอง ๔๒๓ ธรรมเทศนาของพระผู้มีพระภาค ๔๘๘ ธรรมทท่ี รงแสดง ๓๓๓/๔๒๕ ธรรมเทศนาดุจจุดไฟไว้ในท่มี ืด ๕๐๑

ปทานกุ รม ๖๔๕ ธรรมเทศนาดจุ บอกแก่คนหลงทาง ๕๐๑ ธรรมแม้บทเดียวเขา้ ใจแล้วกเ็ ปน็ - ธรรมเทศนาดุจเปดิ ของท่ปี ดิ ไว้ ๕๐๑ -ประโยชนเ์ กื้อกูลตลอดกาลนาน ๓๖๗ ธรรมเทศนาดุจหงายของท่ีคว่ํา ๕๐๑ ธรรมไมท่ ําความคบั แค้น ๑๘๐/๑๘๑ ธรรมธาตุ ๓๐๖/๔๖๑/๔๖๒/๔๖๓ ธรรมไมท่ าํ ความแห้งผากในใจ ๑๘๐/๑๘๑ ธรรมเนรมิต (ผู้เกิดโดยธรรม) ๒๐๑/๓๒๖/๓๔๓ ธรรมไมบ่ รสิ ุทธ์ิ ๒๒๓ ธรรมบท ๔๒๓/๔๒๔/๔๒๕ ธรรมไม่เปน็ ข้าศึก ๑๘๐ ธรรมประเทศ ๕๗๓ ธรรมไมเ่ ป็นที่เทย่ี วของความตรึก ๔๕๘ ธรรมปราสาท ๒๒๓/๕๙๒ ธรรมไม่มวั หมอง ๔๒๕/๔๒๙ ธรรมปริยายช่อื วา่ โยคักเขมี ๒๐๙ ธรรมราชา ๒๑๖/๒๓๖/๓๔๐/๔๘๖ ธรรมเปน็ เครื่องต่นื ๒๘๙/๒๙๐/๒๙๔ ธรรมราชาท่เี คารพธรรม ๒๑๖ ธรรมเป็นทสี่ งบระงับของสังขาร ๒๒๑ ธรรมละเอียด ๑๗๖/๒๒๒/๔๕๘ ธรรมเปน็ ทอ่ี าบของผถู้ ึงเวท ๔๖๔ ธรรมวินัยเป็นองค์ศาสดาแทน ๕๗๓ ธรรมเปน็ ธงชัย ๒๑๖/๒๑๗/๓๒๖ ธรรมเศร้าหมอง ๑๖๔/๔๐๓ ธรรมเป็นไปเพ่ือความไม่เสอื่ ม- ธรรมสารี (คือคนตรงและมีสติ) ๔๖๕ -(เจด็ ประการ) ๔๘๐ ธรรมสหี นาท ๑๔๘ ธรรมเป็นไปเพ่ือความไม่เสอ่ื ม ธรรมสีหนาทท่ที ําเทวโลกสะเทอื น ๑๔๖ -(หกประการ) ๔๘๐ ธรรมเหมอื นหว้ งนํ้าไมข่ ุ่นมวั ๔๖๔ ธรรมเปน็ ไปเพื่อดบั เยน็ สนิท ๑๒ ธรรมอนั ยิ่งของมนุษย์ ๖๘ ธรรมเปน็ ไปเพ่ือรู้ครบถว้ น ๑๒ ธรรมอันให้ถงึ ทีท่ วนกระแส ๒๒๒ ธรรมเปน็ ไปเพ่ือสงบราํ งับ ๙/๑๒ ธรรมโอรส (ช้นั เลิศ) คือ- ธรรมเป็นไปในทางจติ ขนั้ สงู ๒๑๓/๒๑๔/๕๑๙ -พระสารบี ุตร ๓๔๒ ธรรมเป็นลัทธพิ ืน้ ฐานแห่งอาจารย์- ธรรมโอรสยอ่ มเปน็ ธรรมทายาท- -โดยเฉพาะ ๔๔๒ -มิใช่อามิสทายาท ๓๔๓ ธรรมผ่องแผว้ ๑๖๔ ธมั มจกั กปั ปวัตตนสูตร ๒๓๑ ธรรมเพอ่ื ความราํ งับ, ดับ, รู้ ๑๒ ธัมมนิยามตา ๔๖๓/๕๑๒ ธรรมภตู (ไวพจน์แห่งตถาคต) ๒๐๑ ธัมมวาที (คือตถาคต) ๒๐๑/๒๘๑/๒๘๕

๖๔๖ พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ ธัมมฎั ฐติ ตา ๔๖๓/๕๑๓ นกั บวชเปลือย ๔๙๐ ธมั มานุสารี (เตรียมโสดาบนั ) ๒๘๓ นกั บวชอวดดี ๕๔๗ ธาตุ (ธาตุ ๖) ๔๒๖ นกั ล่าช้างผฉู้ ลาด ๕๑๓ ธิดามาร (ตัณหา อรดี ราคา) ๕๔๙/๕๕๐ น่งั แกค้ วามขลาด ๙๗ ธุระในวเิ วก ๕๔๗/๕๔๘ นั่งขดั สมาธิขีดดนิ - ธุลีเกรอะกรงั ท่กี ายเป็นปี ๆ ๕๘ -(อาการของผจู้ นทา่ ) ๕๔๙ นันทมาตา (อคั รอุป๎ฎฐายกิ า) ๑๕ นันทวนั (สวนสวรรค์) ๔๓ น นันทา (ภกิ ษณุ )ี ๕๕๙ นันทิยะ (ภกิ ษ)ุ ๗๕ 'นกตายในมือ' ๓/๗๗ นา (ทาํ นา) ๓๗๙ นกทง้ั หลายกลายเปน็ สีขาวหมด ๑๑๓ นาค ๓๔/๔๘๗ นกสาํ หรบั ค้นหาฝ๎่ง ๔๘๓ นาคิตะ (ภกิ ษุ) ๓๕๓/๓๕๔/๓๕๕ 'นกหลดุ มอื บินไป' ๗๗ นางอัปสร ๔๓ นรก (ในคต๕ิ ) ๑๘๘ นาทิก (หมบู่ ้าน) ๕๕๙/๕๖๐ นรกทผี่ ัสสายตนะ ๑๘๕ นาท่ีมอี มตะเป็นผล ๓๗๙ นวกรรม ๕๕๗ นานัตตสัญญา (ใสใ่ จไปต่าง ๆ) ๗๗/๑๐๗ นอนแกค้ วามขลาด ๙๗ นาบุญ ๒๙๖/๓๑๙/๓๒๐/๖๐๕ นอนชูบตุ รให้ฟูอนอยู่บนอก- นามพระองคเ์ อง ๑๓ -(สัญญลกั ษณส์ นั ตภิ าพ) ๕๙๕ นามรูป๘๗/๙๐/๑๔๓/๒๕๒/๒๗๙/๓๔๕/๔๒๘ นอนตะแคงโดยข้างขวา ๓๖๔ นามรปู ดับสนิทในทีใ่ ด? ๔๘๔ นอนตะแคงโดยข้างซา้ ย ๓๖๔ นายช่างปลูกเรอื น ๖๑๓ นอนในปาุ ช้าทบั กระดกู ซากศพ ๕๙ นาลนั ทา (เมอื ง) ๑๙๗/๓๖๕/๔๓๗/๔๕๑/ นอนบนทีน่ อนทําดว้ ยหนาม ๕๘ นอนหงาย (ท่านอนสอี่ ย่าง) ๓๖๔ ๔๘๓/๕๕๘/๕๗๕ นฬกปานะ (หมบู่ ้าน) ๓๐๔ นาเลิศ-นาปนู กลาง-นาเลว ๓๖๖ นกั จารกิ แสวงบญุ ๔๗ นาํ้ กบั นา้ํ นม ๓๕๖ นาํ้ ล้างบาตร ๕๓๑/๕๓๒/๕๓๓

ปทานกุ รม ๖๔๗ น้ําวน (อุปมาท่ใี ช้กบั กามคุณห้า) ๒๖๗ นงุ่ ห่มหนงั อชนิ ะทัง้ เลบ็ ๕๗ นําอภิชฌาโทมนสั ในโลกออกได้ ๒๙๕ เนกขมั มวิตก ๗๑/๗๓/๗๔ นคิ รนถ์ ๓๕๖ เนกขมั มะ (หลกี ออกจากกาม) ๑๐๓ นคิ รนถานาฎบตุ ร ๔๓๗/๔๗๑/๕๓๕ เนรัญชรา ๒๑๗/๒๑๙/๒๒๐/๒๒๕/๕๔๘ นิครนถม์ ีลทั ธิว่าเพราะสิ้นเวทนา- เนวสัญญานาสัญญายตนภพ ๕๕ -ก็สนิ้ ทุกข์ ๔๗๔ เนวสญั ญานาสัญญายตนะ ๕๔/๑๑๐/ นคิ รนถม์ ลี ทั ธิวา่ เวทนามีเพราะ- ๑๑๑/๑๑๒/๒๐๙/๓๔๓/๓๗๙/๔๔๓ -เหตุแหง่ กรรมในกาลกอ่ น ๔๗๓ เนวสัญญานาสัญญายตนะ (ในฐานะ- นโิ ครธะ (ปรพิ พาชก) ๑๔๙/๒๗๓/๓๐๓/ -ทศิ ที่ ๗ ของบุรษุ ทฝ่ี ึกแลว้ ) ๒๐๙ ๔๐๑/๔๐๒/๔๐๓ เนวสัญญนี าสญั ญวี าท ๑๗๘ นิโครธาราม ๔๔/๓๕๒/๓๕๖/๔๗๐/๔๗๑ เนอ้ื ท่ีเขาทาํ อุทิศเฉพาะ ๔๔๔ นิจจทาน ๔๐๑ เนอ้ื ที่ไม่ควรบรโิ ภค ๔๔๔ นทิ ทสบุคคลในพุทธศาสนา ๓๙๖ เนอื้ นูนหนาในท่ี ๗ แห่ง ๓๒/๓๔ นิททสบคุ คลในลัทธิเดียรถียอ์ นื่ ๓๙๖ เน้ือลอ่ ตัวผู้(อปุ มาที่ใชก้ ับนันทิราคะ)๒๖๘/๒๖๙ นิททสภกิ ขุ ๓๙๖ เนื้อล่อตัวเมีย(อปุ มาทใ่ี ช้กบั อวิชชา)๒๖๘/๒๖๙ นทิ ทสวัตถุ ๗ ประการ ๓๙๖ แนวการสอนทเ่ี ป็นปาฏิหาริย์ ๑๙๘ นปิ ปีตกิ ฌาน (ฌานท่ี ๓) ๑๐๕/๑๐๖ ในภกิ ษุสงฆ์หมู่น้ีมภี ิกษทุ ่จี ําแนกได้- นิพพาน ๔๖/๑๕๕ -เปน็ ๙ ลักษณะ ๓๒๐ นิมมโล (ไวพจน์แหง่ ตถาคต) ๒๐๒ บ นิมติ ทง้ั สี่ (แก่ เจ็บ ตาย สมณะ) ๑๕ บทแหง่ ธรรมอันประเสริฐ ๑๒๓ นยิ ยานกิ ธรรมอนั ประเสริฐ ๖๗ บรรพชา ๑๑/๔๖/๔๗/๒๘๐/๒๙๒/๓๐๔/๔๐๓-๔ นงุ่ หม่ กระทดั รดั ๕๓๓ ๔๓๔-๕/๔๗๓/๔๘๕/๔๙๓/๕๑๕/๕๔๓/๕๗๓/๕๙๑ นุ่งหม่ ปกี นกเค้า ๕๗ บรรพชาทไี่ ม่ตํา่ ทรามและมีกําไร ๒๘๐ นุ่งห่มผา้ กมั พลผมคน ๕๗ บรรพชาที่รบั ถอื ไวห้ ลวมๆ ๔๘๕ นุ่งหม่ แผน่ กระดานกรอง ๕๗ บรรพชาเป็นทีโ่ ปร่งโลง่ อันยง่ิ ๒๙๒ นุ่งห่มแผน่ ปอกรอง ๕๗ บรรลุ ณ ควงไมอ้ สั สัตถุ ๑๖ นงุ่ หม่ แผ่นหญ้าคากรอง ๕๗ บรรลยุ ามแรกแห่งราตรี ๑๑๖

๖๔๘ พทุ ธประวัตจิ ากพระโอษฐ์ บรรลุยามกลางแหง่ ราตรี ๑๑๖ บุคคลผู้ละองค์ห้า- บรรลุยามปลายแห่งราตรี ๑๑๗ -และประกอบด้วยองค์ห้า ๔๓๗ บริโภคดว้ ยความเหน็ โทษ ๑๑๔ บคุ คลเลศิ ๑๐ จาํ พวก- บรวิ ารของตถาคต ๓๔ -(ในความหมายต่าง ๆ กนั ) ๔๔๓ บรษิ ัทนานาชนิด ๕๒๑ บุคคลเอก ๘/๑๕๓/๒๑๕/๒๓๗/๒๓๘/ บริษทั สมาคมแปดชนดิ ๔๒๑/๔๒๒ ๕๗๖/๕๗๗ บริสุทธ์ิเพราะอาหาร ๖๑ บุญของผูม้ ุ่งบุญ (ซงึ่ ตอ้ งระวงั ) ๓๖๒ บริสุทธเ์ิ หมอื นสังข์ท่ีขดั ดีแล้ว ๑๑ บุญฑรกิ ะ (บัวขาว) ๔๐ บว่ งทเี่ ป็นของทิพย์ ๒๔๓ บตุ รเกิดจากปากของพระผ้มู พี ระภาค ๒๐๑ บว่ งทเี่ ปน็ ของมนษุ ย์ ๒๔๓ บุตรผ้กู ล้าหาญตามเสด็จกวา่ พนั คน ๓๑ บว่ งทสี่ ตั ว์ตอ้ งพ้นสองชนดิ ๓๓๕ บุตรและภรรยา (ในฐานะส่ิงท่มี นษุ ย์- บวชแลว้ จากสากยตระกลู ๒๒ -หลงแสวงหา) ๔๕ บงั เกิดข้นึ ในหมู่เทพชนั้ ดุสิต ๒๓/๒๔ บุตรอนั มีศกั ดาใหญ่ ๒๘ บญั ญัติวนิ ัย ๒๕๘ บุถุชน ๔๕๑ บณั เฑาะว์ ๒๙๒ บุถุชนช้ันตา่ํ ทัว่ ไป ๒๕๗ บวั บุณฑรกิ ๑๗๖/๒๒๓/๓๗๙ บุถชุ นที่มไิ ดย้ ินได้ฟ๎ง ๔๑ บัวปทุม ๑๗๖/๒๒๓/๓๗๙ บบุ ผวดี (นคร) ๖๐๔ บัวอุบล ๑๗๖/๒๒๓/๓๗๙ บุพพาราม ๒๐๑/๒๘๘/๓๐๘/๓๑๙/๓๓๐/ บาปกรรมเก่าไมอ่ าจสิน้ ด้วยทุกรกริ ิยา ๓๓๕/๓๕๑/๓๗๕/๔๕๙/๕๕๔ บุพเพนวิ าสานสุ สติญาณ ๑๑๕/๒๑๒ ๔๗๑ บุรพกรรมของการได้มหาปรุ ิสลักขณะ ๓๓ บาปอกุศล ๒๘๙/๒๙๓/๔๔๘/๔๔๙ บรุ ุษคนสุดท้ายแหง่ สกุล (เรอ่ื งมฆะเทวา) ๕๙๗ บาปอกุศลทค่ี วรเผาผลาญ ๔๔๙ บุรุษตอ้ งศรอันอาบยาพิษ ๒๙๗ บารมี (ในอดีต) ๕๘๑ บุรุษทค่ี วรฝึก (วิธีเดยี วกับฝกึ มา้ ) ๓๐๗ บิณฑบาตทัง้ สองมผี ลเสมอกนั ๕๖๙ บุคคลกุลงั คาร (แกะดํา) ๔๓๘ บุรุษท่ีควรฝกึ (ตามฐานทจี่ ะฝึกได)้ ๒๐๘/๒๐๙ บุคคลทไ่ี ม่มใี ครซํา้ สอง ๘/๒๑๕ บรุ ษุ ท่ีพอฝกึ ได้ ๑๔๗/๒๘๘

ปทานกุ รม ๖๔๙ \"บรุ ษุ บณั ฑิตผอู้ ยู่บนฝ่๎ง\" ปฏิบัตเิ พ่อื ความเอน็ ดูสงสารสตั ว์ ๑๘๔ -(ไวพจน์แห่งตถาคต) ๒๖๗ ปฏิบตั เิ พอื่ หน่ายกาม ๑๘๔ \"บุรุษผู้ฉลาดในเร่ืองทาง\"- ปฏบิ ัติเพือ่ หนา่ ยภพ ๑๘๔ -(ไวพจนแ์ หง่ ตถาคต) ๒๗๐ ปฏิบัตใิ ห้เขา้ แนวทีไ่ ม่มกี ังวล ๑๘๕ \"บรุ ษุ ผฉู้ ลาดในเร่ืองทาง\"- ปฏปิ ทาทําให้แจง้ โลก มีสุขโดยส่วนเดียว ๔๑๕ -(อปุ มาท่ีใชก้ ับตถาคต) ๒๗๐ ปฏปิ ทาทําให้ถงึ พรหมโลก ๑๘๗ \"บรุ ุษผู้ปรารถนาความปลอดภยั ฯลฯ\"- ปฏปิ ทาที่บัญญัตไิ ว้ดแี ลว้ ๑๕๐ -(ไวพจน์แห่งตถาคต) ๒๖๙ ปฏปิ ทาให้ถึงความเกดิ ข้ึนพรอ้ มแห่งเวทนา \"บรุ ษุ ผู้ปรารถนาความปลอดภยั ฯลฯ\"- ๘๓/๘๔ -(อุปมาท่ใี ชก้ ับตถาคต) ๒๖๙ ปฏปิ ทาใหถ้ งึ ความดับไม่เหลือแห่งเวทนา \"บรุ ษุ ผปู้ ราถนาความไม่ปลอดภัย ฯลฯ\"- ๘๓/๘๔ -(อุปมาทใี่ ชก้ ับมาร) ๒๖๘ ปฏิภาณในการตอบป๎ญหาของตถาคต ๕๕๔ \"บุรุษผ้ไู ม่ฉลาดในเร่อื งทาง\"- ปฏสิ ลั ลนี ะมีทง้ั อย่างชนดิ กง่ึ เดือน- -(อปุ มาทใ่ี ช้กับปถุ ุชน) ๒๗๐ -และสามเดือน (การหลีกเรน้ ) ๓๘๑ เบญจขันธ์ ๘๒-๓/๘๕/๑๔๒/๑๔๗/๒๐๓/๓๒๘ ปฐมฌาน ๖๘/๗๕/๘๐/๑๐๒/๑๓๔/ เบญจขนั ธ์ในฐานะที่เปน็ โลกธรรม ๑๗๕ ๑๗๙/๒๗๒/๓๔๓/๔๙๔/๕๗๕ แบบแหง่ การครองชีวิตอนั ประเสริฐ- ปฐมเทศนา ๒๒๖/๒๒๙ -(พรหมจรรย์) ๑๑ ปทมุ (บวั หลวง) ๔๐ ปรกตนิ ิสยั ที่เปน็ ปุาเถอ่ื น ๒๙๕ ป ปรกตนิ สิ ัยที่พอใจของมนษุ ย์ ๒๙๕ ปเจตนะ (พระราชา) ๖๐๐/๖๐๑ ปรกตนิ สิ ยั อย่างบา้ น ๆ เรอื น ๆ ๒๙๕ ปชาบดีส่ีคนคอยบําเรอ ๓๗๑ ปรนมิ มิตวสวัตตี ๑๙๓/๔๘๓ ปฏฆิ สัญญา ๑๐๗/๑๐๘/๒๐๙/๓๙๓ ปรมป๎ญญาอันประเสรฐิ ๑๖๓ ปฏิจจสมปุ บาท ๘๖/๘๙/๑๔๒/๒๐๓/๒๒๑/ ปรมยกั ขวิสทุ ธิ (ความบรสิ ุทธิ์- ๒๔๘/๒๔๙/๒๕๐/๒๕๑/๒๕๓/๒๖๔/๒๗๙/ -ท่ีควรบูชาอยา่ งยงิ่ ) ๔๔๓ ๓๑๔/๓๔๕/๔๒๘/๔๖๓/๔๖๔/๔๖๘/๔๙๖ ปรมวิมุตติอันประเสริฐ ๑๖๓ ปฏบิ ตั ิไดเ้ ลิศกว่าพวกอนื่ ๕๐๗/๕๐๙ ปรมศีลอนั ประเสรฐิ ๑๖๒/๑๖๓

๖๕๐ พทุ ธประวัติจากพระโอษฐ์ ปรมานุตตรสุญญตา (ยอดสุดของ- ประโยชน์ของการเช่อื ฟ๎งตถาคต ๑๓ -สุญญตาวหิ าร) ๓๗๖/๓๗๗ ประโยชน์ของตน ๓๒๐/๕๗๑ ประโยชนข์ องปทานุกรม- ปรวาที ๓๘๙ -สาํ หรับนักเทศน์หรือนกั เขียน ๒ ประกอบในธรรมเปน็ เคร่อื งต่ืน ประโยชน์ของสังเวชนยี สถาน ๕๗๗ ประโยชนท์ ี่มุ่งหมาย ๔๓๓ ๒๘๙/๒๙๔ ประกอบพร้อมด้วยสติสัมปชัญญะ ประโยชน์สขุ สน้ิ กาลนาน ๑๓ ประโยชน์อนั บคุ คลจะลุได้- ๒๙๐/๒๙๔ -ดว้ ยกาํ ลงั แห่งบุรุษ ๑๑๒/๒๘๐/๓๓๒ ประกอบอย่ดู ว้ ยอวชิ ชา ๙ ประสาทรบั รสอนั เลิศ ๓๒/๓๗ ประกาศธรรมจกั รทอ่ี สิ ิปตนะ ๑๕ ประสูติได้ ๗ วนั ๔๐ ประกาศพรหมจกั ร ๑๓๕/๑๓๖/๑๓๗/ ปราสาทในความฝ๎น -เป็นอปุ มาแห่งอัตตา ๔๑๗ ๑๔๑/๑๔๒/๑๔๘ ประกาศพระศาสนา ๒๔๓ ปราสาทสงู ๓ ฤดู ๑๕/๔๐ ประตนู ครแห่งความไมต่ าย ๑๓/๑๗๔ ปริณายกรัตนะ ๕๙๓ ปรินพิ พานในทิฎฐธรรม ๑๔๐ ประตนู พิ พานอนั ไม่ตาย ๒๒๓/๒๒๔ ปรินิพพานอย่างลืมตา ๕๖๖ ประเทศ (ความหมายพิเศษ) ๑๒๕ ปริพพาชก ๑๔๔ ประธานอาจารย์ ๕๒๗ ปริพพาชกคณะทารปุ ๎ตติกันเตวาสี ๔๙๒ ประพฤติพรหมจรรยเ์ พือ่ เปน็ เทวดา ๑๗๑ ปรพิ พาชกคณะแม่นํ้าสปั ปนิ ี ๕๐๗ ประพฤติเพ่อื คลายกาํ หนัด ๔๓๒ ปริพพาชกชอ่ื นโิ ครธะ ๓๐๓ ประพฤติเพ่อื ดับทกุ ขส์ นิท ๔๓๒ ประพฤตเิ พือ่ ละ ๔๓๒ ปริพพาชกชอื่ ภญั ญะ ๔๒๕ ประพฤติเพ่อื สํารวม ๔๓๒ ปรพิ พาชกชอื่ มณั ฑยิ ะและชาลิยะ ๔๙๒ ประพฤติมใิ ช่เพอื่ ค้านลัทธิอน่ื ๔๓๑ ปริพพาชกช่ือ วสั สะ ๔๒๕ ประพฤติมิใช่เพื่อได้เปน็ เจ้าลทั ธิ ๔๓๑ ปรพิ พาชกเดียรถยี อ์ ื่น ๒๙๙/๓๐๐/ ประพฤติมิใช่เพ่ือผลเปน็ ลาภสกั การ ๔๓๑ ๓๕๙/๓๙๑/๕๑๐ ประพฤติมิใช่เพื่อลวงคนใหน้ บั ถอื ๔๓๑ ปริวาสสเี่ ดือน ๔๐๓/๔๐๔ ประพฤตมิ ิใช่เพอื่ ให้คนมาเป็นบริวาร ปลงภาระลงได้ ๒๗๒/๓๔๘ ๔๓๑

ปทานกุ รม ๖๕๑ ปลงอายสุ ังขาร ๕๖๒/๕๖๓/๕๖๔/๕๗๖ ป๎ญญาพละ (ที่เป็นของตถาคต) ๑๓๗ ปลอ่ ยปวงสัตว์เหมือนปล่อยฝงู เน้ือ ๒๖๘ ปญ๎ ญาวาที ๑๖๓ ปลาบปล้ืมยนิ ดีท่ถี กู บาํ เรอ ๑๖๙ ปญ๎ ญาวิมุติ ๙๘/๑๓๖/๑๕๐/๑๕๕/๑๘๙/ ปลาบปล้ืมยินดีที่ได้พูดจา ๑๖๙ ๒๑๒/๒๑๓/๒๑๔/๓๒๑/๓๗๘/๔๓๐/๕๑๙ ปลาบปลื้มยินดีที่ได้สบตา ๑๖๙ ป๎ญหาการเกียดกนั บาปอย่างยง่ิ ๑๔๙ ปลาบปล้ืมยนิ ดีทไ่ี ด้ฟ๎งเสียง ๑๗๐ ปากกลา่ วธรรมกถาไดท้ ้ังทีจ่ ติ อยู่ใน- ปลาบปล้ืมยินดีในการเฝูาระลกึ ๑๗๐ -ปรมานุตตรสุญญตา ๓๗๗ ปลาบปล้ืมยนิ ดที เ่ี ห็นเขาบําเรอกนั ๑๗๑ ปากของงูท่ีมีพิษร้าย ๒๖๒ ปลายขนชอ้ นขนึ้ -เวียนขวา ๓๒/๓๕ ปากของงูเห่าดาํ ๒๖๒ ปลกุ ด้วยการถีบเตะท้ังนอนหลบั ๓๗๐ ปาฎลคิ าม (หมบู่ ้าน) ๕๕๘ ปวิวิตตวตั ร ๕๘ ปาฎลิยะ (นายบ้าน) ๔๔๔ ปวเิ วก (อยสู่ งดั จากกาม) ๑๐๓ ปาฏิหารยิ ์ ๑๙๗/๓๓๘/ฯลฯ ปเสนทิโกศล (พระราชา) ๒๒/๓๐๑/๓๘๗/ ปาฏหิ ารยิ ท์ ่คี นเขลามองไมเ่ ห็น- ๔๔๓/๔๖๘/๕๒๙/๕๔๐/๕๔๔/๕๔๕/๕๔๖ -ว่าเป็นปาฏิหาริย์ ๑๙๔ ป๎กขนั ทิกาพาธ (โรค) ๕๖๗ ปาฏหิ ารยิ ์ทภี่ ิกษุพงึ ส่งั สอน ๑๙๘ ป๎จจลกัปป์ (หม่บู ้าน) ๔๖/๒๑๐ ปาฏหิ าริย์สูงสดุ - ปจ๎ จยนาค (ชา้ ง) ๖๐๘ -มีอยูแ่ ลว้ ในธรรมท่ีทรงแสดง ๑๙๖ ปญ๎ จวัคคยี ์ ๖๙/๑๓๓/๒๐๔/๒๒๗/๒๒๙/๒๔๗ ปาติโมกข์ ๓๔๗/๓๕๑/ฯลฯ ป๎ญจสาลา (หมู่บา้ น) ๓๖๓ ปาุ ทองกวาว ๓๐๔ ปญ๎ จสิขเทพบุตร ๕๒๒ ปาุ ไผ่เป็นท่ใี ห้เหย่อื กระแต(เวฬวุ ัน) ๔๖๗ ปญ๎ จสิขะคนั ธัพพบุตร ๕๙๙ ปาุ มะม่วงของหมอชวี ก(สวนมะม่วง)๑๒/๓๖๐/๔๔๔ ป๎ญญา ๘๗/๘๙/๙๑/๙๓/๑๑๙/๓๘๐/ฯลฯ ปาุ ไม้สีสปา (ปุาประดลู่ าย) ๒๘๔/๓๗๐ ปญ๎ ญาขันธอ์ ย่างย่งิ ๓๔๙ ปาุ และปาุ เปลี่ยว ๙๕/๙๖ ป๎ญญาชนิดท่ยี ังไมแ่ ทงตลอดวิมุตติอันยิง่ ปาวา(เมอื ง) ๕๖๗ ๓๙๒/๓๙๓/๓๙๔/๓๙๕ ปาวารกิ ัมพวัน ๑๙๗/๓๖๕/๔๓๗/ ป๎ญญาชั้นอเสขะ ๔๓๗ ๔๘๓/๕๕๘ ปญ๎ ญาดจุ แทงถกู ขนทราย ๓๘๙/๕๑๔/๕๔๓

๖๕๒ พทุ ธประวตั ิจากพระโอษฐ์ ปาวาลเจดีย์ ๒๖/๓๐/๑๒๔/๑๙๓/๒๓๔/ ผ ๕๖๒/๕๖๓/๕๖๔ ปาุ สากใหญ่ ๒๑/๒๒ ผมหงอกเสน้ แรก- ปุาสําหรับให้เหย่อื นกยูง ๓๖๓ -(สัญญลักษณ์แห่งการหยุด) ๕๙๖ ปาหุเนยยบุคคล ๒๙๖ ผลกรรมทีก่ ล่าวาจาชอบ ๓๕ ปิงคยิ านีพราหมณ์ ๕๑๖/๕๑๘ ผลกรรมท่เี ขา้ คบหาสมณพราหมณ์ ๓๕ ปโิ ลตกิ ะปรพิ พาชก ๕๑๒/๕๔๓ ผลกรรมทีใ่ ครต่ อ่ ประโยชนม์ หาชน ๓๗ ปติ ิเป็นภกั ษา(เหมอื นพวกอาภัสสรเทพ) ๓๖๓ ผลกรรมทไ่ี ด้บอกศิลปวทิ ยา ๓๕ ปกุ กุสะมลั ลบุตร ๓๘๖/๕๖๘ ผลกรรมที่ได้บากบัน่ ในกุศล ๓๓ ปุณณโกลิยบุตร ๒๖๕ ผลกรรมที่ไดล้ ะมิจฉาชีพ ๓๙ ปุถสุ มณะ ๔๑ ผลกรรมที่ได้สงเคราะห์ผู้อ่ืน ๓๕ ปพุ พันตะ-อปรนั ตะ ในฐานะสง่ิ ที่ตอ้ งรู้ ๒๗๕ ผลกรรมทไ่ี ดใ้ หท้ าน ๓๔ ปรุ าณะ (ชา่ งไม)้ ๕๔๖ ผลกรรมทน่ี ําสขุ มาให้แก่มหาชน ๓๔ ปรุ ิสินทรยิ ญาณ ๑๓๙ ผลกรรมทเี่ ปน็ หัวแรงในการกุศล ๓๘ 'ปกู ้ามหัก' ๕๐๖/๕๔๘ ผลกรรมทพ่ี ดู คําจริง-คาํ สัจจ์ ๓๘ ปู (อปุ มาผมู้ ีทิฎฐ)ิ ๕๐๖/๕๔๘ ผลกรรมทม่ี องคนดว้ ยสายตารัก ๓๗ เปรตวิสัย ๑๘๘/๑๘๙/๓๐๗/๓๐๘ ผลกรรมท่ไี ม่เบียดเบียนสตั ว์ ๓๗ เปงิ มาง ๒๙๒ ผลกรรมทไ่ี ม่พดู คําหยาบ ๓๙ เปียกแลว้ แต่ผู้เดยี วในปุา ๕๙ ผลกรรมที่ไมพ่ ูดเพ้อเจอ้ ๓๙ เปลือย ๕๖/๕๙/๔๙๐ ผลกรรมทีไ่ มพ่ ดู ยุยงใหแ้ ตกแยก ๓๘ เปลอื ยกายตลอดชวี ิต ๔๙๐ ผลกรรมทไ่ี มม่ กั โกรธไม่พยาบาท ๓๖ แปดสิบปไี ม่ฟ่๎นเฟอื น ๕๕๓ ผลกรรมทเ่ี ว้นจากปาณาตบิ าต ๓๔ โปกขรสาตพิ ราหมณ์ ๒๑/๕๒๙ ผลกรรมท่ีสมานญาติมิตรให้สนทิ กนั ๓๖ โปฎฐปาทปริพพาชก ๒๕๕/๔๑๕/๕๑๑ ผลกรรมทเี่ อือ้ อารรี ้ใู จผู้อ่ืน ๓๖ ไปไดใ้ นอากาศเหมอื นนกมปี ีก ๙๘/๑๙๐/ ผลกะเบา ๖๐/๖๑ ๑๙๗/๓๓๘ ผลท่ีโลกได้รบั จากการเกิดของ- ไปได้ไม่ขอ้ งขดั ผ่านฝาทะลกุ าํ แพง ๙๘/๑๙๐/ -ดวงจันทร์ดวงอาทติ ย์ ๒๓๘ ๑๙๗/๓๓๘