Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ✍️ พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ โดย อ.ป.

✍️ พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ โดย อ.ป.

Description: ✍️ พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ โดย อ.ป.

Search

Read the Text Version

ปทานุกรม ๖๕๓ ผลทโ่ี ลกได้รบั จากการเกิดข้ึนของ- ผวิ หนังละเอยี ดละอองจับไม่ตดิ ๓๒/๓๖ -พระองค์ ๒๓๘ ผดุ ข้นึ และดําลงในแผน่ ดนิ ๙๘/๑๙๐/๑๙๗/๓๓๘ ผลสุดท้ายของพรหมจรรย์ ๔๓๓ ผุสดี (กษตั ริย)์ ๖๐๗/๖๐๘ ผลแห่งการดําเนนิ ตามหนทางเกา่ ๑๒๒ ผกู้ วาดล้างมาร ๑๖๘ ผลแห่งสวากขาตธรรมอันดบั ๑- ผู้เกดิ กอ่ นใครท้ังหมด ๕๐๑ -(อรหตั ตผล) ๒๘๒ ผเู้ กิดโดยธรรมเปน็ ธรรมทายาท ๒๐๑ ผลแห่งสวากขาตธรรมอันดบั ๒- ผเู้ กดิ ตามตถาคต ๒๑๖ -(อนาคามผิ ล) ๒๘๒ ผเู้ กิดในโลก แต่ครอบงําโลก ๑๔ ผลแหง่ สวากขาตธรรมอันดับ ๓- ผู้ขนสตั ว์ดว้ ยยาน ๒๒๓ -(สกทาคามผิ ล) ๒๘๒ ผู้ข่มอนิ ทรีย์ ๑๓๔ ผลแห่งสวากขาตธรรมอันดบั ๔- ผู้คงท่เี ปน็ ปรกติไดใ้ นสงิ่ ทัง้ ปวง ๑๕๗ -(โสดาป๎ตติผล) ๒๘๓ ผคู้ รอบงําได้หมด ๒๒๘ ผลแห่งสวากขาตธรรมอันดับ ๕- ผู้ควรแก่การกราบไหว้ ๒๙๖ -(ธมั มานุสารี-สทั ธานุสาร)ี ๒๘๓ ผเู้ คารพต่อธรรม ๒๕๗ ผลแห่งสวากขาตธรรมอันดบั ๖- ผู้ฉลาดตอ่ วฎั ฎะ-ววิ ฎั ฎะ ๑๓/๑๗๔ -(สวรรค์) ๒๘๓ ผู้ฉลาดในฐานะและอฐานะ ๗ ผอมเหลอื งสะพรั่งด้วยจุดเมล็ดงา ๓๗๐ ผฉู้ ลาดในเรื่องโลกน้ีโลกอนื่ ๑๓/๑๗๔ ผัสสะ ๘๔/๘๖/๘๗/๘๘/๙๐/๙๑/๙๒/๑๒๒/ ผู้ฉลาดในเรื่องหนทาง ๒๗๐ ๑๔๓/๑๕๔/๒๕๒/๒๖๕/๒๗๙/๔๒๗/๔๖๘ ผชู้ นะ ๒๒๘ ผัสสายตนะ ๑๒๒/๑๒๓/๒๘๕/๓๕๕/๔๒๖ ผู้ชาํ นาญการฝกึ ม้า ๒๘๘ ผัสสายตนิกนรก ๑๘๕ ผเู้ ชื่อฟง๎ พระตถาคต ๑๓ ผสั สายตนกิ สวรรค์ ๑๘๕ ผซู้ ่ึงไมม่ ีใครซ้ําสอง ๘/๒๑๕ ผ้าทอด้วยผมคน ๔๑๘ ผซู้ งึ่ ไม่มใี ครเป็นสหายด้วยได้ ๒๑๕ ผ้าย้อมฝาด ๑๑/๔๖/๔๗/๑๕๘/๑๙๗ ผู้ดับแลว้ เยน็ สนิท ๒๒๘ ผาลและปฏกั ๓๘๐ ผู้ดาํ รงจิตให้ตั้งมน่ั อยู่ ๑๐๐ ผาสกุ ยงิ่ นักเมอ่ื ทรงอยใู่ น- ผู้เดียวแปลงรปู เปน็ หลายคน ๙๘/ -อนมิ ิตตเจโตสมาธิ ๓๕๘ ๑๙๐/๑๙๗/๓๓๘ ผิวพรรณเหมอื นมหาพรหม ๕๒๗ ผู้ใดวัตถุอนั ควรแกส่ มณะ ๓๕

๖๕๔ พทุ ธประวัติจากพระโอษฐ์ \"ผู้ใดเหน็ ธรรม : ผนู้ ั้นเชื่อวา่ - ผเู้ ทยี่ งแท้ตอ่ การตรสั รู้ ๔๓๐ -เหน็ ปฏจิ จสมุปบาท\" ๓๑๔ ผู้เที่ยงแท้มสี ัมโพธเิ ปน็ ที่ไปในเบ้ืองหน้า \"ผู้ใดเหน็ ธรรม : ผนู้ ้นั เห็นเรา;- ๒๘๓ -ผู้ใดเหน็ เรา : ผนู้ ้นั เห็นธรรม\" ๓๑๔ ผู้นอนเปน็ สุข ๓๗๐ ผตู้ ดิ ตามดูพุทธองคถ์ งึ ๗ เดือน ๕๓๐ ผนู้ ้อมไปแล้วดว้ ยความรสู้ กึ วา่ \"งาม\"- \"ผู้ถากหญ้าทง้ิ \" ๓๘๐ -(ทิศที่ ๓ ของบรุ ุษผฝู้ ึกมาแลว้ ) ๒๐๙ ผถู้ งึ ทับซง่ึ โพธญิ าณ ๑๖๗ ผนู้ ําสุขมาให้แก่มหาชน ๓๔ ผถู้ งึ แลว้ ซงึ่ ความส้นิ ไปแห่งกรรมทั้งปวง ผู้บรรลุปฐมฌานขึ้นไปจะไม่มปี ๎ญหาว่า- ๕๒๐ -'ชีพอันน้ัน-สรรี ะอนั นน้ั ' หรือว่า- ผทู้ ํากายสังขารให้สงบรํางับ ๙๙ -'ชพี อันอ่ืน-สรรี ะอันอ่ืน' ๔๙๔ ผทู้ าํ จิตตสังขารให้สงบรํางับ ๑๐๐ ผู้บรสิ ทุ ธิส์ ะอาดหมดจดมาทเี ดยี ว ๒๙ ผทู้ ําจิตให้ปราโมทย์ ๑๐๐ ผบู้ อกศิลปวิทยา ๓๕ ผู้ทําจติ ให้ปลดปล่อยอยู่ ๑๐๐ ผบู้ ากบั่นในกศุ ล ๓๓/๕๘๔ ผทู้ ี่ควรถกู เรียกวา่ \"บตุ รตถาคต\" ๒๐๑ ผู้บาํ เพ็ญตบะ มชี วี ิตอย่างปอน ๓๙๙ ผทู้ ่ีใคร ๆ ยอมรับว่าเลิศกว่าสรรพสตั ว์ ผปู้ ฏบิ ัติเกอื้ กูลแก่มหาชน ๒๑๓/๕๑๙ ๒๑๔ ผู้ปฏิบัติตามคําสอน ๓๒๘ ผทู้ ี่ต้องตาตอ้ งใจของชนมาก ๓๘ ผปู้ ระกอบอยู่ดว้ ยกิเลส (สยํ ตุ โฺ ต) ๑๓๘ ผทู้ ่เี ทวดาถือเปน็ สรณะมอบชีวติ ๕๒๘ ผู้ประกาศธรรมจกั ร ๓๔๑ ผทู้ ม่ี หาชนใกลช้ ดิ ๓๘ ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ไม่บริสุทธ์ิ ๑๖๙ ผทู้ มี่ หาชนประพฤติตาม ๓๘ ผปู้ ระเสรฐิ กวา่ เทวดาและมนุษย์ ท. ๕๑๓/๕๑๗ ผู้ทีม่ ีความเหน็ ผิด ๓๘๙ ผู้ประเสรฐิ แห่งเทวดาและมนษุ ย์ ๔๕๙ ผู้ทไ่ี มค่ วรนับว่าเปน็ พระสงฆ์- ผู้ปรารถนาความบรสิ ุทธ์ิโดยภายนอก -ในธรรมวนิ ัยน้ี (เพราะถือ- ๔๖๔ -สัสสตวิญญาณ) ๒๖๔ ผปู้ รารภความเพียร ๒๗๖/๓๓๖/๓๓๗ ผู้ทไี่ มท่ รงคบ ๕๔๗ ผปู้ ราศจากกิเลส (วิสยํ ุตฺโต) ๑๓๘/๑๓๙ ผู้ทไ่ี มร่ บั การฝกึ ๓๐๖ ผู้เป็นเนอื้ นาบุญของโลก ๒๙๖ ผู้ทีศ่ ตั รภู ายในภายนอกกาํ จดั ไมไ่ ด้ ๓๙ ผเู้ ป็นย่งิ ๑๙๙

ปทานกุ รม ๖๕๕ ผเู้ ปน็ สหชาตกิ ับด้วยพระองค์ ๕๔๖ ผมู้ ีธรรมเป็นสรณะคือผู้มสี ติป๎ฎฐานส่ี ๔๖๗ ผู้เป็นหมอผ่าตัด ๓๔๑ ผมู้ ีบริวารมาก ๓๔ ผูเ้ ป็นหัวหนา้ ของชน ๓๘ ผู้มีบริวารสะอาด ๔๐ ผเู้ ผาผลาญ ๔๔๙ ผมู้ ีบรษิ ทั ไมก่ ระจัดกระจาย ๓๙ ผพู้ น้ บ่วงมารและกวาดล้างมาร ๓๓๕ ผู้มีบตุ รคือสาวกมาก ๓๖ ผมู้ องเหน็ ความไมเ่ ที่ยง ๑๐๑ ผู้มปี รกติกล่าวต้องรับเช้ือเชิญ ๕๒๘ ผมู้ องเห็นธรรมเปน็ ความจางคลาย ๑๐๑ ผู้มปี วิเวก (ความสงบสงัด)- ผมู้ องเห็นธรรมเปน็ ความดับสนทิ ๑๐๑ -เป็นที่มายนิ ดี ๓๘๒ ผมู้ องเหน็ ธรรมเป็นความสลัดกลับหลงั ผมู้ ีป๎ญญาใหญ่ ๓๖ ผมู้ ีฝาุ มอื เปียกอยตู่ ลอดเวลา ๓๓๖ ๑๐๑ ผู้มีภัคยธรรมในโลก ๕๒๐ ผมู้ กั มาก ๒๒๙ ผู้มีรปู ยอ่ มเห็นรปู - ผู้มวั เมาในปาฏิหารยิ ์ ๔๙๐ -(ทศิ ที่ ๑ ของบุรุษผฝู้ กึ แลว้ ) ๒๐๘ ผู้มาเปน็ สาวกของพระองค์ ๓๔๙ ผมู้ ฤี ทธ์ิ ศกั ด์ิ อานุภาพมาก ๑๔๗ ผมู้ กี รรมทางกายอนั บรสิ ุทธิ์ ๙๕ ผู้มีวาจาที่ผูอ้ ืน่ เอือ้ เฟอื้ เชอ่ื ฟ๎ง ๓๙ ผู้มีกายอนั อบรมแล้ว- ผู้มีศรทั ธา ๑๙๗/๒๗๖/๕๔๗/๕๗๗/ ผมู้ สี ัญญาในอรูป- -(เกยี่ วกบั เวทนา) ๑๕๘ -(ทิศที่ ๒ ของบรุ ษุ ผู้ฝึกแลว้ ) ๒๐๘ ผู้มคี วามไม่เบียดเบียนเป็นท่ีมายนิ ดี ๓๘๒ ผมู้ สี ัมโพธิเป็นที่ไปในเบอ้ื งหนา้ ๒๘๓ ผู้มคี วามไมห่ ลงอยู่เปน็ ปรกติ- ผู้มีอาทิพรหมจรรย์เปน็ อัธยาศัย ๕๒๕ ผ้มู อี าพาธนอ้ ย ๓๗/๒๗๖/๓๖๒/๓๗๘/๕๒๕ -(คอื ตถาคต) ๑๐ ผมู้ คี วามสุข ๓๗๐ ผู้มอี ํานาจสูงสุดโดยธรรมผู้เดยี ว ๑๙๙ ผมู้ จี ิตอันอบรมแล้ว- ผมู้ อี าํ นาจเหนอื จิต ๑๕๕/๒๑๓/๕๑๙ ผไู้ มต่ อ้ งเชอื่ ตามบุคคลอื่น- -(เกย่ี วกับเวทนา) ๑๕๘ -ในคาํ สอนแหง่ ศาสนาตน ๓๒๘ ผมู้ ีชาติแหง่ บุคคลผอู้ ดกลั้น ๒๙๖ ผไู้ มต่ อ้ งเทีย่ วถามใคร ๓๒๘ ผู้มีตนเปน็ ประทีปเปน็ สรณะ ๔๖๖ ผู้มีถอ้ ยคําถกู ตอ้ งทกั ทายกอ่ น ๕๒๘ ผู้มธี รรมเป็นประทปี เปน็ สรณะ ๔๖๖

๖๕๖ พทุ ธประวัตจิ ากพระโอษฐ์ ผู้ไมถ่ ลึงตา ๓๗/๕๘๖ ผยู้ ง่ิ ในอธวิ มิ ุตติ ๑๖๓ ผู้ไม่เท่ียงสาํ คัญว่าเปน็ ผ้เู ทยี่ ง ๑๔๗ ผู้ยิ่งในอธิศีล ๑๖๓ ผู้ไม่เบียดเบียน ๓๗/๕๘๖ ผู้ยินดใี นการนอนหลับ ๕๕๗ ผู้ไม่มกั โกรธ ๓๖/๕๘๕ ผยู้ นิ ดใี นการพูดคยุ ๕๕๗ ผไู้ มม่ ใี ครซ้าํ สอง ๘ ผู้ยนิ ดีในนวกรรม ๕๕๗ ผไู้ ม่มีด้ายตนี ชายเหลือ ๓๙๖ ผู้รองลําดับตถาคต ๓๔๑ ผไู้ มม่ ีตา (: ผ้ดู ูหมน่ิ คนไมค่ วรดหู มน่ิ ) ผรู้ ู้กาลอันสมควรเพอื่ พยากรณ์ ๒๐๐ ๕๒๒ ผรู้ ู้จบหมด ๒๒๘ ผรู้ ูจ้ กั คนทุศลี ไมจ่ าํ เป็นต้องเปน็ คนทศุ ีล ผู้ไมม่ ีประโยชนเ์ กย่ี วข้องดว้ ยเรือน ๔๖ ผู้ไม่มภี ยั แต่ที่ไหน ๆ ๓๔๑ ๔๔๖ ผไู้ มร่ จู้ ักผดุ รู้จักเกิด ๔๔๙ ผู้รชู้ ดั ทที่ ่ีมารไปไมถ่ งึ ๑๓ ผู้ไม่เส่ือมเปน็ ธรรมดา ๓๗ ผู้รู้พร้อมเฉพาะซ่ึงกายทงั้ ปวง ๙๙ ผไู้ ม่ใส่ใจทั้งสงิ่ ไมป่ ฏิกลู และปฏกิ ลู ผ้รู ู้สกึ พรอ้ มเฉพาะซ่ึงจติ ๑๐๐ ๑๐๒/๓๙๑ ผู้รู้สึกพรอ้ มเฉพาะซ่ึงจิตตสังขาร ๑๐๐ ผไู้ ม่หมุนกลบั มาสู่กามอีก ๔๔ ผรู้ ้สู กึ พรอ้ มเฉพาะซง่ึ ปีติ ๑๐๐ ผไู้ มห่ วน่ั ข้าศึกทั้งภายในภายนอก ๓๔ ผู้รสู้ ึกพร้อมเฉพาะซึ่งสุข ๑๐๐ ผู้ไม่อาจนําไปได้ดว้ ยบ่วงแห่งราคะ ๕๕๐ ผูล้ ะมจิ ฉาชีพ ๓๙/๕๘๗ ผู้ไมโ่ ออ้ วด ๒๗๖ ผลู้ ะเว้นวาจาส่อเสียด ๓๙/๕๘๖ ผู้ยังไม่ถงึ ความแน่ใจในพระรัตนตรยั - ผู้ละเวน้ การกลา่ วคําหยาบ ๓๙/๕๘๖ ผลู้ ะเวน้ การพดู เพ้อเจอ้ ๓๙/๕๘๖ -(ผู้แมบ้ รรลุเพียงรปู ฌานสี)่ ๓๑๗ ผู้ละเว้นจากมสุ าวาท ๓๘/๕๘๖ ผู้กาํ ลงั จะถงึ อยู่ซึ่งความแนใ่ จ- ผู้ละอาสวะทท่ี ําใหเ้ ปน็ มนษุ ย์ ๑๔ -ในพระรัตนตรัย (ผู้แมก้ าํ ลงั บรรลุ- ผู้ลากแอก ๓๘๐ -วิชาที่สาม) ๓๑๘ ผู้เลศิ กว่าบรรดาเจ้าลทั ธิทั้งหลาย ๕๒๘ ผถู้ งึ แลว้ ซ่ึงความแน่ใจในพระรัตนตรัย- ผเู้ ลิศกวา่ บรรดาสัตว์สองเท้า ๒๑๕ -(ผูม้ ีญาณรวู้ ่าหลุดพ้นแลว้ ) ๓๑๘ ผู้เลิศกว่าสตั ว์ ๒๑๔ ผยู้ ง่ิ ในอธิเชคุจฉะ ๑๖๓ ผู้ย่งิ ในอธิป๎ญญา ๑๖๓

ปทานุกรม ๖๕๗ ผเู้ ลศิ ประเสริฐกวา่ สตั ว์ท้งั หลาย ๓๕ แผน่ ดินไหวเมื่อพระเวสสันดร- ผู้เลอื่ มใสในบุคคลเลศิ ๒๑๕ -ให้ทานลูก ๖๑๐ ผวู้ างเครอื่ งดกั มนุษย์ ๔๑๙ แผน่ ดนิ ไหวเมื่อพระเวสสันดร- ผู้วิมุตติดีแลว้ เพราะไม่มีเช้อื เหลอื ๔๗๙ -ใหท้ านภรรยา ๖๑๐ ผู้เวน้ จากปาณาตบิ าต ๒๗/๓๔/๓๑๒/๕๘๔ แผน่ ดินไหวเพราะเหตุแปด ๕๗๕ ผ้สู งเคราะหบ์ ริษัท ๓๕ แผ่นดินไหวเม่ือโพธิสตั ว์จุติ ๒๖ ผู้สงเคราะหผ์ ู้อื่นด้วยสังคหวตั ถุ ๓๕ แผน่ ดินไหวเมื่อโพธิสัตว์ประสูติ ๓๐ ผู้สมานมิตร ๓๖ แผน่ ดินไหวเม่ือแสดงธรรมจักร ๒๓๔ ผสู้ งั เกตชน้ั เชิงของมหาชน ๓๖ แผ่นดินไหวเมื่อปลงอายุสงั ขาร ๕๖๒/๕๖๔ ผสู้ งั่ งานบูชายัญญ์ของ- แผน่ ดนิ ไหวเม่ือปรินพิ พาน ๕๗๕ -พระเจา้ มหาวิชติ ราช ๕๙๖ แผ่โอภาสไปก่อนแล้วบันลอื เสียง ๑๙๔ ผู้สพั พัญํู ๒๑๑ ผู้สพั พทัสสาวี ๒๑๑ ฝ ผู้หนกั ในธรรม ๒๕๗ ผู้หนง่ึ ในบรรดาผนู้ อนเป็นสขุ ๓๗๐ ฝน (เกีย่ วกบั การทํานา) ๓๘๐ ผู้หมนุ กลับจากกามไม่ได้ ๔๔ ฝก๎ ฝุายแหง่ ความคับแค้น ๗๒/๗๓ ผู้หยดุ เลกิ เสียในระหวา่ ง ๕๕๗ ฝาุ เท้ามจี ักรเกิดแล้ว ๓๑ ผู้เหยียบย่ําเสียซึ่งมารและเสนา ๓๔๑ ฝาุ มือฝุาเท้าออ่ นละมุน ๓๒ ผู้ให้ทาน ๓๔/๓๖/๕๘๔/๕๘๕/๖๐๖ ฝืนใจประพฤติพรหมจรรย์ ๕๔๑ ผอู้ ยดู่ ว้ ยความหลง ๑๐ ฝูงเนอ้ื ฝงู ใหญ่ (อปุ มาทใี่ ช้กับสตั ว)์ ๒๖๘ ผอู้ ย่ใู นโลก โลกไม่แปดเป้อื น ๑๔ พ ผอู้ ยู่ไม่มีทีเ่ คารพ ๒๑๗ ผู้อยเู่ หนอื ความมืด ๔๖๖ พญาสัตว์ชือ่ สหี ะ ๑๔๖/๒๕๖ ผอู้ ันกิเลสจะทาํ ใหก้ ลับแพ้อกี มไิ ด้ ๖๐๕ พน้ คําสาปเพราะศีลคุ้มครองไว้ ๖๑๑ แผ่นดินไหวเม่ือพระเวสสนั ดร- พบการเจริญอิทธบิ าทด้วยวธิ ีคดิ คน้ ๘๒ -ให้ทานชา้ ง ๖๐๘

๖๕๘ พุทธประวตั ิจากพระโอษฐ์ พยาบาท ๒๙๐/๒๙๕/๔๖๙ พรหมจรรยพ์ อเพยี งสําหรบั - พยาปาทวติ ก ๗๑/๗๒/๗๓/๗๔ -สตั วเ์ หล่านัน้ ๕๕๕ พยายามด้วยกําลงั มอื เท้าทั้งหมด ๒๖๗ พรหมจรรย์ไม่บรสิ ุทธ์ิ ๑๖๙/๑๗๐/๑๗๑ พรสบิ ประการ ๖๐๗ พรหมจรรย์อัตตกิลมถานุโยค ๕๖ พรหม ๓๔๑ พรหมจรรยอ์ ปุ มาด้วย- พรหมกาย (ไวพจน์แหง่ ตถาคต) ๒๐๑ -การบชู ายัญของพราหมณ์ ๔๖๔ พรหมจรรย์ ๑๑ พรหมจักร ๑๓๕/๑๓๗/๑๔๑/๑๔๒ พรหมจรรย์ของพระองค์ ๑๖๘ พรหมจกั ร (: เร่อื งเบญจขันธ์และ- พรหมจรรยค์ ืออรยิ มรรค ๕๙๙ -อิทปั ปจ๎ จยตา) ๑๔๒ พรหมจรรยจ์ บแลว้ ๑๑๗/๒๙๖ พรหมจารี ๑๖๙ พรหมจรรย์ชนิดท่ีทรงกลา่ วไว้ดีแล้ว ๔๓๔ พรหมทัณฑ์ทีส่ งฆ์ลงแก่ภิกษุฉนั นะ ๕๗๔ พรหมจรรยซ์ งึ่ สมบรู ณโ์ ดยอาการทงั้ ปวง พรหมบริษทั ๔๒๑/๔๒๒ ๔๓๕ พรหมภูต (ไวพจน์แห่งตถาคต) ๒๐๑ พรหมจรรย์ทง้ั หมด ๓๘๘/๔๙๙ พรหมโลก ๑๘๖ พรหมจรรยท์ เ่ี ทวดามนุษย์ประกาศได้ พรหมโลกปฏปิ ทา ๑๘๗ ๒๗๘ พรหมวมิ านอนั ว่างเปล่า ๕๘๗ พรหมจรรยท์ ี่น่าดื่มเหมือนมณั ฑะ ๒๗๙ พรหมวิหาร ๓๕๙ พรหมจรรย์ท่นี กึ รงั เกียจตัวเอง ๔๘๕ พรหมวิหารธรรมเพ่ือผลเพียง- พรหมจรรย์ท่ีบรสิ ทุ ธ์บิ ริบรู ณต์ ลอดชีวติ -พรหมโลก ๕๙๘ ๕๔๐ พรหมายุพราหมณ์ ๕๐๐/๕๓๔ พรหมจรรย์น้ี ๒๓๗/๒๘๐/๓๘๘/๔๓๑-๒-๓ พระกายบัดน้ีครา่ํ คร่า- พรหมจรรย์ในลักษณะที่- -เหมอื นเกวยี นซ่อมดว้ ยไมไ้ ผ่ ๕๖๑ -บรรพชาจกั ไม่เปน็ โมฆะ ๔๓๔ พระโคดมผ้ชู กั ชวน ๓๐๙ พรหมจรรย์บริบูรณเ์ มื่อบริษทั - พระโคดมผมู้ ีอายุ ๒๒๙/๓๕๖/๓๕๗ -ท้ัง ๖ จําพวกมคี วามพอใจ ๕๐๔ พระเจา้ โกศล ๒๒/๕๔๖ พรหมจรรย์ปรารถนาไปเป็นเทพ ๑๗๑ พระชนนที ิวงคต ๔๐ พระติสสะ ๒๗๐/๒๗๑

ปทานุกรม ๖๕๙ พระนามวา่ ตถาคต ๑๙๘ พราหมณคาม (ตําบล) ๓๖๓/๓๗๙ พระประวตั เิ บ็ดเตล็ด ๔๙๙ พราหมณบรษิ ัท ๔๒๑/๔๒๒ พระปจ๎ เจกพทุ ธเจ้า ๖๐๕ พราหมณบณั ฑิต ๓๐๕-๖/๕๑๔/๕๔๓ พระพทุ ธเจ้าท้งั ปวงเคารพธรรม ๒๑๘ พราหมณสัจจ์ ๑๘๓/๑๘๔ พระมหากัปปนิ ะ ๙๘ พราหมณสจั จอ์ ย่างพทุ ธศาสนา ๑๘๓ พระรตั นตรยั ที่แท้จริงและถงึ ท่สี ดุ ๓๑๕ พลญาณ ๑๓๕/๑๓๗/๑๔๐/๑๔๒/๑๔๘ พระราชาของพระเจ้าจักรพรรดิ ๒๓๖ พลหิ รณไพรสณฑ์ ๓๓๓ พระราชาโดยธรรม ๓๑/๕๘๗ พลกี รรมทีป่ ระกอบด้วยธรรม ๔๖๖ พระราชาผสู้ มาทานอโุ บสถศลี ๕๙๖ พวกที่ไดแ้ ตน่ กึ ๆ เอา ๓๘๙ พระศาสดาในฐานะผถู้ ูกทดสอบ ๑๖๗ พวกท่ที ําบาปแล้วตายไปส่นู รก ๔๐๘ พระสมณโคดม ๖๖/๖๗/๑๔๘/๒๑๑/ พวกท่ีทําบาปแล้วตายไปสู่สวรรค์ ๔๐๙ พวกทม่ี ีความใครใ่ นสกิ ขา ๔๖๖ ๒๘๖/๓๔๙/๕๐๐ พวกทไี่ ม่มีสตคิ ุ้มครองตน ๔๑๒-๓-๔ 'พระสมณโคดมมีวชิ ชาสาม' ๒๑๓ พวกที่ \"เราจะกระทาํ อะไรกะเขาได้\" พระสารีบตุ รเป็นธรรมโอรส- ๑๗๕ -ท่ีสามารถหมนุ ธรรมจักร ๓๔๓ พวกทเ่ี ว้นจากบาปแลว้ ตายไปสู่นรก ๔๑๐ พระสาํ เนียงมอี งค์แปด ๕๓๔ พวกทเี่ วน้ จากบาปแลว้ ตายไปส่สู วรรค์ พระสคุ ตคอื ใคร ๙ ๔๑๐ พระสูตรที่กล่าวถึงหวั ใจของพทุ ธศาสนา- พวกมลิ กั ขะ ๔๖๙ พวกฤาษภี ายนอก ๓๓ -(เม่ือเทียบกับลัทธิอื่น) ๓๘๖ พระเหมน็ คาว ๔๖๙ พวกสมณศากยปุตติยะมีสขุ ลั ลกิ านุโยค- พระองค์อยู่ที่ธรรม- -เฉพาะของตน ๑๘๓ -ท่ีกําลังมีอยูใ่ นใจของเรา ๓๑๔ พวกสากยะอย่ใู ต้อํานาจพระเจา้ โกศล ๒๒ พระอรหันต์ ๔๐๑ พระอรหันต์ ๖๐ รปู ชดุ แรก ๒๔๓ พวกเหน็ โทษปรโลกวา่ เป็นภยั ๒๒๓ พราหมณ์ไตรเพท ๒๑๑ พวกอภชิ าติแหง่ กัณหโคตร ๔๓๔ พราหมณ์ (วรรณะ) ๓๑๐ พหุปตุ ตกเจดีย์ ๔๙๐ พราหมณ์ (ไวพจนแ์ ห่งตถาคต) ๒๐๑ พหุสูต ๒๑๒/๒๒๑/๕๖๗

๖๖๐ พุทธประวตั ิจากพระโอษฐ์ พอใจในกามคุณ ๘ แพะแกะ (ในฐานะ- พอใจในการถอื ตัว ๘ -ส่ิงทม่ี นษุ ยห์ ลงแสวงหา) ๔๕ พอใจในความวนุ่ วายไม่สงบ ๙ โพชฌงค์ (การปรากฏ) ๔๓๑ \"พอแลว้ เพือ่ หน่าย- โพชฌงครัตนะ ๔๓๑ โพธิราชกุมาร ๔๗/๕๑/๕๓/๕๕/๖๑/ -คลายกําหนดั -หลดุ พ้น\" ๕๙๓ ๖๓/๖๘/๖๙/๑๑๕/๒๒๑/๒๒๒/๒๒๓/ พาราณสี ๑๕/๑๘๑/๒๐๔/๒๒๗/๒๒๘/ ๒๒๖/๒๒๙/๒๗๖/๒๗๘ ๒๒๙/๒๓๓/๓๓๔/๔๖๙/๕๙๑/๖๐๐/๖๑๒ โพธิสัตว์ ๒๓/๒๔/๒๕/๒๖/๒๗/๒๘/๒๙/ พาวรีพราหมณ์ ๕๒๐ ๓๐/๓๑/๔๐/๔๔/๔๖/๔๗/๖๙/๗๑/๗๕/ พิมพสิ าร (พระราชา) ๒๓/๓๕๖/๓๕๗/ ๘๐/๘๑/๘๒/๘๓/๘๖/๘๙/๙๓/๙๕/๙๗/ ๑๐๑/๑๐๓/๑๑๓/๑๑๔/๕๖๒/๕๗๕ ๕๒๙/๕๔๔ โพธิสัตวก์ ําลังกา้ วลงสคู่ รรภ์ ๒๖ พี่เลี้ยงของสาวก ๓๔๐ พี่ใหญ่กวา่ เขาท้ังหมด ๒๙ ฟ พืช (อุปมาศรทั ธา) ๓๘๐ ฟ๎งธรรมแล้วพอใจเกนิ คาดหมาย ๓๐๓ ฟ๎น ๔๐ ซ่ีบรบิ ูรณ์ ๓๒ พืชคาม ๔๕๓/๔๕๔ ฟ๎นเรยี บเสมอกันทุกซ่ี ๓๒ พนื้ เท้าสมํ่าเสมอ ๓๑ ฟ๎นสนทิ ชดิ กนั ตอลด ๓๒ พทุ ธคุณตามทัศนะของ- ไฟข้ีววั ๓๑๑ ไฟทเี่ กิดจากฟืน ๓๑๑ -ผเู้ คยเป็นเดยี รถยี ์มากอ่ น ๕๓๕ ไฟสะเก็ดไม้ ๓๑๑ พุทธคุณตามทัศนะของอุบาลีคหบดี ๕๓๕ ไฟหญ้าแหง้ ๓๑๑ พุทธจกั ขุ ๒๒๓ พทุ ธบริษทั ไหลไปหยุดอยทู่ ่ีนิพพาน ๕๐๔ ภ พุทธประสงค์ให้กระทํากะพระองค์- ภฏะ (อบุ าสก) ๕๖๐ -อย่างมิตร ๓๒๖ ภพ (เป็นปจ๎ จัย)๘๖/๘๘/๘๙/๙๑/๔๒๘ ภยูปรตั (ผยู้ นิ ดใี นสงิ่ ที่เปน็ ภยั ) ๑๖๕ 'พุทธะ' ๑๓/๑๔/๓๔๑ พดู จาเลน่ หวั สัพยอกกบั มาตุคาม ๑๖๙ พูดเหมือนนกการวิก ๓๓ เพียงระลึกวา่ นน่ั ธรรมทง้ั หลาย ๗๕ แพ้ภยั ตัวเอง ๔๑๙

ปทานุกรม ๖๖๑ ภวาสวะ ๑๑๗/๓๑๘/๕๕๗ ภิกษุบริษทั มรี ปู ลักษณะท่คี วรจะไปดู- ภคั ควโคตตปรพิ พาชก ๑๙๔/๓๗๒/๔๔๑/ -แมด้ ้วยความพยายามมาก ๓๒๐ ๔๘๒/๔๙๐ ภกิ ษุบริษทั มรี ูปลักษณะท่ี- ภัคคะ (แคว้น) ๒๗๖ -ใหท้ านน้อยได้ผลมาก ๓๒๐ ภัญญะปรพิ พาชก ๔๒๕ ภกิ ษุบริษัทมีรูปลักษณะนา่ บูชา ๓๒๐ ภณั ฑคาม (หมบู่ ้าน) ๕๖๕ ภิกษบุ ริษทั มีรปู ลกั ษณะ- ภทั ทกปั ป์ ๑๖ -ยากที่ชาวโลกจะไดเ้ ห็น ๓๒๐ ภยั ทจ่ี ะเกดิ เพราะอวหิ ิงสาวิตก ๗๔ ภิกษุผชู้ ื่อวา่ มีมิตรดี ๓๘๗ ภาชนะดนิ (เปรียบดว้ ยกาย) ๕๖๕ ภกิ ษุผถู้ งึ ความเป็นเทพ (มีรปู ฌาน) ๓๒๑ ภารทวาชโคตร ๔๒/๓๗๐ ภิกษุผถู้ งึ ความเป็นพรหม- ภารทวาชสามเณร ๒๐๑ -(มพี รหมวหิ าร) ๓๒๑ ภาวะความสน้ิ สดุ ของกรรม ๑๗๒ ภิกษผุ ู้ถงึ ความเปน็ อริยะ- ภาวะแห่งผ้ไู มอ่ ยากจากไป ๕๓๔ -(เห็นอริยสัจสี่) ๓๒๑ ภิกษุ ๖๙/๘๑ ฯลฯ ภกิ ษผุ ู้ถึงความเปน็ อาเนญชา- ภกิ ษณุ ี ๓๒๒ ฯลฯ -(มีอรูปฌาน) ๓๒๑ ภกิ ษุณอี นาคามีผู้มชี ่ือเสียงแห่ง- ภิกษุผู้ถึงฝ่ง๎ ๔๘๗ -นาทกิ ะคาม ๕๕๙ ภิกษุผเู้ ถระ ๒๙๖ ภกิ ษุโดยทัว่ ไปแบ่งเปน็ ๓ ภมู ิ ๓๒๙ ภกิ ษผุ ้ปู นู กลาง ๒๙๖/๕๕๖ ภิกษทุ ่ชี อื่ ว่าอยูไ่ กลตถาคต ๓๑๔ ภกิ ษุผใู้ หม่ ๒๙๖/๕๕๖ ภิกษทุ ่ีช่ือว่าอยู่ใกลต้ ถาคต ๓๑๕ ภกิ ษุผยู้ งั ไม่ได้สมาธิ ๙๕ ภิกษทุ ่ที รงเจตนาไม่สรรเสรญิ ๓๒๔ ภกิ ษผุ ู้ \"สมาทาน\"* ในสกิ ขา ๓๒๕ ภิกษุทท่ี รงเจตนาสรรเสรญิ ๓๒๕ ภิกษภุ ิกษณุ ีบรรลุธรรมสูงสุดได้ถึง- ภกิ ษบุ ริษัททตี่ ง้ั อยใู่ นธรรม- -ข้ันอรหัตตผล ๓๒๒ -อนั มีสาระล้วน ๓๒๐ ภิกษอุ ปริหานิยธรรม ๕๕๖ ----------------------------------------------------------------------------------------------------- * สมาทาน ในที่น้ี มไิ ดห้ มายถงึ การทําสัญญารบั ปฏิบตั สิ ิกขากับผใู้ ดผ้หู นงึ่ เชน่ สมาทานศีล ของบคุ คลท่วั ไป, แต่หมายถึงการปฏิบัตสิ กิ ขาอย่างดีท่สี ุดเท่าทจี่ ะทาํ ได.้

๖๖๒ พทุ ธประวตั จิ ากพระโอษฐ์ ภิกษอุ รหันตผ์ มู้ ชี ่อื เสียงแห่ง- มนุษย์เข้ารบั ตอ่ ภายหลงั ๒๘ -นาทิกะคาม ๕๕๙ มนุษย์ธรรมดา ๑๕๓ มนุษย์มีอายุแปดหมื่นปี ๓๒๓ ภกิ ษุอลชั ชี ๓๕๑ มโนกรรมไม่บริสทุ ธ์ิ ๙๖ ภิสกั โก (หมอผ่าตดั , ไวพจนแ์ หง่ ตถาคต) มโนปวิจาร ๔๒๖ มรรคอนั ประเสรฐิ ๘๔ ๒๐๑ มรรยาททางกาย ๑๗๓ ภูตคาม ๔๕๓/๔๕๔ มรรยาททางวาจา ๑๗๓ ภูตปฏิปทา ๕๑๒ มรรยาททางใจ ๑๗๓ ภตู วาที (คือตภาคต) ๒๐๐/๒๐๑/๒๘๑ มรรยาทเป็นสงา่ ๕๓๑ ภมู ภิ าคอันสม่ําเสมอน่าร่ืนรมย์- มรรยาทแหง่ ความเงียบในหม่สู งฆ์ ๕๔๒ มหาโควินทพราหมณ์ ๕๙๙ -(อุปมาท่ใี ชก้ ับพระนิพพาน) ๒๗๑ มหาทานของพระจันทกมุ าร ๖๐๔ โภคนคร ๕๖๖ มหาทานของพระเจ้ามหาสุทศั น์ ๕๘๑ โภชนะแตใ่ นท่นี งั่ แหง่ เดียว ๓๖๒ มหาทานของพระเวสสนั ดร ๖๐๘ โภชนะทท่ี ายกถวายดว้ ยศรทั ธา ๔๕๔/ มหาทานของเวลาพราหมณ์ ๖๐๕ ๔๕๕/๔๕๖/๔๕๗/๔๕๘ มหาทานท่ีไม่มีผู้ควรแก่ทักขิณา ๖๐๖ โภชบุตร (สกลุ ) ๔๘๑ มหานาค (ตระกูลชา้ งพลาย) ๓๑๕/๓๑๖ ม มหานามสากยะ ๔๔/๓๕๖/๔๗๑ มหาบุรษุ (แบบพราหมณ)์ ๒๑๒ มคธ ๕๕/๒๒๓/๒๔๕/๓๒๓/๓๒๔/๓๕๖/ มหาบุรุษ (แบบพทุ ธ) ๒๑๓ ๓๕๗/๓๗๙/๔๖๕/๕๑๙/๕๒๙/๕๙๔ มหาบุรษุ (ผ้จู ะเป็นพระพทุ ธเจ้า) ๓๑ มหาปเทส ๕๖๖ มฆเทวราช ๕๙๖ มหาปราชญ์ (แบบพราหมณ์) ๒๑๒ มฆเทวัมพวัน (สวนปาุ ) ๕๙๖/๕๙๗/๕๙๘ มหาปราชญ์ (แบบพทุ ธ) ๒๑๓/๕๑๙ มณีรตั นะ ๕๙๓ มหาปรุ ิสลกั ขณะ ๓๑-๓๙/๕๒๘/๕๓๐ มตทิ ีข่ ัดกันเก่ียวกับนรกและสวรรค์ ๑๘๖ มหาภตู ๔๘๓/๔๘๔ มนต์มหาปุรสิ ลกั ขณะ ๓๓ มนสากตคาม (หมู่บา้ น) ๑๘๖ มนษุ ย์ ๑๘๘ ฯลฯ

ปทานกุ รม ๖๖๓ มหายัญญ์ (แบบสมั มาทฎิ ฐิ) ๕๘๔ มา้ ตระกลู วลาหก ๕๙๓ มหาราชทัง้ ส่ี ๔๘๙ มาตงั คชฎลิ ๖๑๑ มหาลิลิจฉวีผ้ปู ากแขง็ ๔๙๕ ม้าเป็นพาหนะ (ออกบวช) ๑๕ มหาวัน (สวนปุา) ๑๕๗/๒๔๖/๒๖๑/๒๘๗/ มายาเทวี ๑๕/๑๗ ๓๒๘/๓๘๑/๔๓๙/๔๗๐ มาร ๓๓๐/๓๘๕ ฯลฯ ๔๙๐/๔๙๒/๕๖๔ มาร (พ่อ) ๕๔๙/๕๕๐ มหาวกิ ฎโภชนวัตร ๕๙ มาร (ลกู ) ๕๔๙/๕๕๐ มหาวิชติ ราช ๕๙๔/๕๙๖ มารคอื ผ้ไู ม่มีวันรจู้ กั ทางของพระองค์ ๔๕๑ มหาวยิ หู ะ (ปราสาท) ๕๙๒ มารดาบิดาไมป่ รารถนาใหบ้ วช ๔๗ มหาสุทัศน์ (จกั รพรรด)ิ ๕๗๒/๕๙๑/๕๙๒ มารดาแห่งโพธิสัตว์ ๒๖/๒๗/๒๘/๔๐ มหาสุบนิ (๕ ข้อ กอ่ นตรสั รู้)๑๑๓/๑๑๔ มารบรษิ ทั ๔๒๑/๔๒๒ มหี (แม่นาํ้ ) ๓๓๕ มารผ้มู ีบาป ๑๓/๑๖๘/๑๗๔/๒๒๐/๒๖๘/๓๓๕/ มกั ขลิโมฆบุรษุ ๔๑๘/๔๑๙ ๓๖๔/๓๖๘/๓๖๙/๔๕๑/๕๔๙/๕๖๒ มัคคโกวโิ ท (ฉลาดในมรรค) ๒๐๖ มาลุงกยะ (ภกิ ษุ) ๒๙๗/๓๐๓ มัคควิทู (รู้แจ้งมรรค) ๒๐๖ มาสู่โลกนอ้ี กี คราวเดียว ๔๓๐/๕๖๐ มคั คญั ํู (รู้มรรค) ๒๐๖ มจิ ฉามรรค ๒๖๘/๒๗๐ มคั คานุคา (ผเู้ ดนิ ตามมรรค) ๒๐๖ มิจฉาทฎิ ฐิ (ในฐานะป๎จจัย- มัชฌิมศีล ๔๕๗ -ของเวทนา) ๑๒๕/๑๒๖ มัณฑะยอดโอชาแหง่ โครส- มิจฉาสังกัปปะ (ในฐานะปจ๎ จัย- -(อุปมาแห่งพรหมจรรย)์ ๒๘๐ -ของเวทนา) ๑๒๕/๑๒๖ มทั ทกจุ ฉิมคิ ทายวัน ๓๖๗/๕๒๒ มิจฉาวาจา (ในฐานะป๎จจัย- มัททรี (กษตั รีย์เวสสันดร) ๖๐๙/๖๑๐ -ของเวทนา) ๑๒๕/๑๒๗ มลั ลกษัตริย์ ๕๖๘/๕๖๙/๕๗๐/๕๗๒ มิจฉากัมมันตะ (ในฐานะปจ๎ จัย- มาคัณฑิยะปรพิ พาชก ๔๒/๑๓๔ -ของเวทนา) ๑๒๕/๑๒๗ ม้าชนิดทีอ่ าจฝกึ ได้ ๒๘๘ มจิ ฉาอาชวี ะ ๒๖๙/๒๗๐/๔๕๗/๔๕๘ มาตรฐานทท่ี รงใช้ในการปฏิบัติ- มจิ ฉาอาชวี ะ (ในฐานะปจ๎ จยั - -ต่อสาวก ๓๒๗ -ของเวทนา) ๑๒๕/๑๒๗

๖๖๔ พทุ ธประวัตจิ ากพระโอษฐ์ มิจฉาวายามะ (ในฐานะปจ๎ จยั - มธี รรมเปน็ ประทีปมีธรรมเปน็ สรณะ- -ของเวทนา) ๑๒๕/๑๒๗ -ดว้ ยสติปฎ๎ ฐานส่ี ๓๕๘ มีธรรมเปน็ อธิปไตย ๒๓๖/๒๓๗ มิจฉาสติ (ในฐานะปจ๎ จัย- มีปรกติกล่าวคาํ ตอ้ นรับเชอื้ เชิญ ๕๒๘ -ของเวทนา) ๑๒๕/๑๒๗ มีเปลอื กไม้เปน็ ภักษา ๕๗ มีพระพกั ตร์ทางทิศเหนือ ๒๙ มจิ ฉาสมาธิ (ในฐานะป๎จจัย- -ของเวทนา) ๑๒๕/๑๒๗ มรี ปู ผึ่งผาย ๕๒๗ มีลาภเป็นอานสิ งส์ ๕๓๓ มใิ ช่มลี าภสกั การะเป็นอานสิ งส์- มีศีล ๒๘๘/๒๙๓ ฯลฯ -(พรหมจรรย์) ๔๓๓ มีสาหร่ายเปน็ ภักษา ๕๗ มหี ญ้าเปน็ ภักษา ๕๗ มใิ ชม่ ีความถงึ พรอ้ มแห่งศีล- มอี ภิชฌามาก ๙๖ -เป็นอานิสงส์ (พรหมจรรย์) ๔๓๓ มีอัตตาซ่งึ มสี ุขโดยส่วนเดียว ๔๑๕ มิใชม่ ีความถึงพร้อมแห่งสมาธิ- มทุ ธาธบิ าต (วิชชาอนั ประกอบ- -เปน็ อานิสงส์ (พรหมจรรย)์ ๔๓๓ -ด้วยสทั ธา ฯลฯ) ๕๒๐ มุทธา (อวชิ ชา) ๕๒๐ มิใชม่ ีความถงึ พร้อมด้วยญาณทสั สนะ- มทุ ิตาเจโตวิมตุ ติ (ในพทุ ธศาสนา) ๓๙๑ มุทิตาเจโตวิมุตตมิ วี ิญญาณณัญจายตนะ- -เปน็ อานสิ งส์ (พรหมจรรย)์ ๔๓๓ -เปน็ อย่างย่งิ ๓๙๔ มิได้ลบหลู่ดูถกู สตรี ๔๖๖ มนุ ีท่ไี ม่ละกาม ๔๘๕ มิถลิ า (เมือง) ๕๙๖ มนุ ผี ู้ขวนชวายหาความบริสทุ ธ์ิ ๕๙ มิทธสุข (สขุ ของคนนอนซบ) ๓๕๓/๓๕๔ มลิ กั ขะ (ชนนน้ั ) ๔๖๙ มตู รและกรีสเปน็ อาหาร ๕๙ มิฬหสุข (สุขอนั เกิดจากท่อปส๎ สาวะ) เมตตาเจโตวมิ ตุ ติ ๑๘๘ เมตตาเจโตวมิ ุตติ (ในพุทธศาสนา) ๓๕๓/๓๕๔ มีกายตรงดจุ กายพรหม ๓๒/๓๔ ๓๙๑/๓๙๒ เมตตาเจโตวิมุตติมีสภุ วโิ มกข์เป็นอย่างยิ่ง มีกเิ ลสเครอ่ื งปกปิดอนั เปดิ แล้ว ๓๑ มีขนอันตกราบ ๓๒๖/๕๔๒ ๓๙๑ มโี คมัย (ขวี้ วั ) เปน็ ภกั ษา ๕๗ มีชีวิตอยู่ด้วยสุราและเน้ือ ๔๙๐ มีตนเปน็ ประทปี มีตนเป็นสรณะ- -ด้วยสติป๎ฎฐานส่ี ๓๕๘ มธี รรมเปน็ ธงชยั ๒๑๖/๒๑๗/๓๒๖

ปทานุกรม ๖๖๕ เมตเตยยะ (พระพุทธเจ้าในอนาคต) ไมต่ ิดจมหมกใจในลาภ ๑๑๔ ๓๒๓/๓๒๔ ไมถ่ ือการพูดคําสจั จเ์ ปน็ เหตถุ อื ตัว ๑๘๓ เมถนุ ธรรมดว้ ยภรรยาเก่า ๒๖๑ ไมท่ รงกล่าวขัดแย้งผ้ทู ก่ี ลา่ วขัดแย้ง- เมทฬุปะ (นคิ ม) ๕๔๐/๕๔๖ -พระองค์ ๒๘๕ เม่อื กาํ ลังแสวงหานายช่างผปู้ ลูกเรือน ๖๑๓ ไม่ทรงทําอุโบสถอีกต่อไป ๓๕๑ เมืองขนึ้ แห่งโกศล ๒๓ ไม่ทรงยึดมน่ั การรู้สง่ิ ท่ีสมมตกิ นั วา่ เลิศ เมืองแห่งชาวกาสี ๒๒๘ ๓๗๒ เมอื่ งานแรกนาได้ปฐมฌาน ๖๘ ไม่ทรงรับร้พู วกท่ถี อื วา่ - เมอ่ื พบนายช่างผปู้ ลูกเรือนแล้ว ๖๑๓ -\"ถกู แตข่ องเรา\" ๔๐๕ เม่อื ไม่มีความกังวลใจ- ไมท้ เ่ี กียรติไดน้ ามวา่ ไมโ้ พธิ์ ๑๖ -กม็ ปี ีตเิ ปน็ ภักษา ๓๖๔ ไม่น่งั จมทนี่ ่ัง ๕๓๑ เม่อื ยังไม่ได้ให้ทาน- ไม่น่ังยนั คางดว้ ยมือ ๕๓๑ -กย็ งั ไม่บรโิ ภคอาหาร ๖๐๔ ไม้ปทุมกะ ๓๑๓ แม้ทรงหลบั อยกู่ ็ยังชื่อว่า- ไมป่ ระมาทมีเพียร มีตนส่งไปอยู่ -ผเู้ อน็ ดูสรรพสัตว์ ๓๖๗/๓๖๘ ๗๒/๗๙/๙๓ แม้ธรรมก็ควรละ จะปุวยกล่าวไปไย- ไมเ่ ปน็ วสิ ัยท่ีจะตรึกหยงั่ ลงงา่ ย ๆ ๒๒๑ -ถึงสงิ่ ไมใ่ ช่ธรรม ๒๕๘ ไมม่ ีความลบั ท่ีตอ้ งช่วยปิด ๑๕๑ แมลงวนั ๕๗/๔๖๙ ไม่มีธรรมเหลือไว้ในกาํ มือของตถาคต โมคคัลลานะ ๑๗/๑๕๑/๑๕๒/๓๕๑/๔๕๙/ ๕๖๑ ๔๖๐/๔๗๙/๕๐๒ ไม่มภี ิกษุแม้รปู เดียวมีความเคลือบแคลง- โมฆบุรุษ ๒๖๑/๒๙๗/๓๒๖/๓๕๑/๔๑๘/๔๙๑ -ในพระพุทธศาสนา ๕๗๔ โมหะ ๓๔/๓๙/๒๘๒/๒๙๖/๓๒๐/๓๕๕/๓๗๒/ ไม่มีอะไรทเี่ ป็นของเรา ๑๘๔ ๓๗๔/๔๓๐/๔๔๘-๙/๕๓๕/๕๓๗/๕๖๐/๕๖๙ ไมม่ อี ะไรทเ่ี ปน็ ตวั เรา ๑๘๔ ไมเ่ ข้าท่ีมงุ ทีบ่ งั ปลี ะแปดเดือน ๓๔๗ ไมย่ กขาสูงเหมือนเดินในนํา้ ๕๓๐ ไม่เคยทรงบังเกดิ ในสุทธาวาส ๕๘๒ ไม่ยันกายด้วยมือแล้วจงึ นั่ง ๕๓๑ ไมจ้ นั ทนะ ๓๑๓ ไม่รบั อาหารทเ่ี ขาร้องเชิญ ๕๖ ไมต่ อ้ งปิดประตูเรือนในเวลาค่ําคืน- ไม่เสพเมถุนจนตลอดชวี ิต ๔๙๐ -(สัญญลกั ษณส์ นั ตภิ าพ) ๕๙๕

๖๖๖ พทุ ธประวตั จิ ากพระโอษฐ์ ไม่หมุนกายนง่ั ๕๓๑ ยักษช์ ั้นสงู ๔๘๘ ไม้สดชมุ่ ยาง แช่อยู่ในน้ํา ๖๑ ยักษช์ ัน้ กลาง ๔๘๘ ไม้สดชุ่มยาง วางอยูบ่ นบก ๖๒ ยักษ์ช้นั ตํ่า ๔๘๘ ไม้สลฬะ ๓๑๓ ยกั ษแ์ ละรากษส (อุปมาท่ีใช้กบั - ไมส้ ากะ ๓๑๓ -เพศตรงข้าม) ๒๖๗ ไมส้ าละ ๓๑๓/๓๘๓/๓๘๔/๕๐๒ ยักษส์ ่วนมาก ๔๘๘ ไม้สีไฟ ๖๑/๖๒/๖๓/๓๑๓ ยังไม่บวชเพราะตอ้ งเลย้ี งมารดาบิดา- ไมส้ ีสปา (ประดลู่ าย) ๒๘๔/๓๗๐ -แกแ่ ละตาบอด ๕๙๑ ไมแ้ หง้ สนิท วางอยู่บนบก ๖๒ ยัญญ์ ๔๐๐ ไมอ้ โศก ๒๘๔ ยญั ญ์ที่ทาํ สืบสกุลกนั มาลงมา ๔๐๑ ไมอ่ าจตรสั รเู้ พราะทกุ กรริ ิยา ๖๗ ยญั ญ์ทส่ี ําเรจ็ ด้วยเนยใส่นา้ํ มัน ฯลฯ ๕๙๖ ยามเฝูาตลงิ่ ให้ปวงสัตว์ ๒๖๗ ย ยนื กระหยง่ ๕๗ ยถาภูตญาณทท่ี ําใหแจ้งอธมิ ุตติบท ๑๔๐ ยถาวาทตี ถาการี ยถาการีตถาวาที ๕๒๔ ยืนแก้ความขลาด ๙๗ ยมนุ า (แม่นํ้า) ๓๓๕/๕๒๔ ยืนคลอด ๒๘ ยโสธรา ๑๕ ยืนเดินบนหนาม ๕๘ ยอดคน ๒๙ ยนื ไม่ยอ่ ตวั แตะเข่าได้ ๓๒ ยอดเรือน (คืออวิชชา) ๖๑๔ ยธุ ัญชยะ (เจา้ ชาย) ๖๑๒ ยอดแห่งแกน่ ไมห้ อม ๕๐๔ โยคกั เขมธรรม ๑๑๒/๓๓๓/๓๕๙ ยอดแห่งดอกไมห้ อม ๕๐๔ โยคกั เขมี (ผูก้ ระทาํ ความเกษม- ยอดแห่งรากไม้หอม ๕๐๔ -ท้งั แก่ตนและผอู้ น่ื ด้วยโยคะ) ๒๑๐ ยอดแหง่ ปรมัตถธรรม ๕๐๕ ยอดแหง่ พรหมจรรย์ ๒๒๙/๒๓๐/๒๓๑ โยคกั เขมี (ไวพจนแ์ หง่ ตถาคต) ๒๐๙ ยักษ์ ๔๘๗/ฯลฯ โยนโิ สมนสิการา- -(การทาํ ในใจโดยแยบคาย) ๓๓๕ โยนโิ สสมฺมปปฺ ธานา ๓๓๔

ปทานุกรม ๖๖๗ ราตรเี ป็นท่ีตรัสรู้- ร -อนตุ ตรสัมมาสัมโพธญิ าณ ๕๖๘ รมณียสถานมีชัฎปุาเยือกเยน็ ๕๕ ราตรเี ป็นทปี่ รินพิ พานด้วย- ร่มไมห้ วา้ มีเงาเยน็ สนทิ ๖๘ -อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ ๕๖๘ รสอรอ่ ยของรูป ๘๒/๘๕ รามบุตร (อุทกรามบุตร) ๕๓/ รสอรอ่ ยของเวทนา ๘๒/๘๔/๘๕ ๕๔/๕๕/๑๕๘/๒๒๖/๒๒๗ รสอรอ่ ยของอุปาทานขันธ์ ๘๒/๘๓ รามะรทู้ วั่ ถงึ ธรรมใด ทา่ นร้ธู รรมนน้ั ๕๔ รสอรอ่ ยในโลก ๖๙/๗๐ ราวปุาหนาทบึ (อปุ มาทใี่ ช้กบั อวชิ ชา) ๒๗๑ ร้องขานชื่อและโคตรของตน ๔๘๘ ราหุล ๑๕ ร้องเจยี๊ บ ๆ ๑/๕๐๗ รจู้ กั พระรัตนตรัยถึงท่สี ุดเมอ่ื รู้- รอ่ งรอยแหง่ มชั ฌิมาปฏิปทา ๒๕๓ -ผลแห่งความส้ินอาสวะของตน ๓๑๕ รอยทางเกา่ (อัฎฐังคกิ มรรค) ๑๒๑/๑๒๒/ รแู้ จง้ กระทาํ ให้เปน็ ญาณ ๑๘๐/๑๘๑ ๒๗๘/๒๗๙ รแู้ ตไ่ ม่ตดิ ในความรู้ (ของพระองค)์ ๓๗๒ รอยเทา้ อฐู ๖๐ รปู นมิ ติ ๗๘ ระบบวนิ ัย ๓๐ ระบบ ๒๖๑ รู้ประมาณในโภชนะ ๒๘๙/๒๙๓/๒๙๔ ระเบยี บวนิ ยั ของพระสุคตคืออะไร ๙ รปู สัญญา ๑๐๗/๑๐๘/๑๐๙/๒๐๙/๓๙๓ ระยะเวลาทสี่ ตจิ ะกลบั เกิดข้นึ ๑๓๘ รปู ปานํ อตินิชฌายิตัตตะ ๗๘ รว้ั นา ๓๘๐ ร้สู ึกถงึ โทษทรามของการต้องเกิด ๔๖ รากษส ๒๖๗ รูส้ กึ ปวดท่ัวทัง้ ศีรษะเหลือประมาณ ๖๔ ราคะ ๓๗๔ ฯลฯ 'เรากฆ็ ่าเขาเสีย' ๓๐๘ ร่างกายท่ยี าววาหนงึ่ นีเ่ อง ๔๘๑ เราเปน็ แต่ผู้บอกทางเท่าน้นั ๓๑๐ ราชคฤห์ ๑๒/๑๔๙/๑๕๕/๒๑๒/๒๔๕ \"เราไม่ขยหี้ ัวใจเราอกี ตอ่ ไป\" ๕๑๕/๕๔๔ ๒๗๓/๒๙๑/๓๐๓/๓๐๙/๓๒๑/๓๒๔/ 'เราไมใ่ หผ้ ่าลูกศรออก' ๒๙๗ ๓๕๑/๓๖๐/๓๖๓/๓๖๗/๔๐๑/๔๐๓/ เราเหน็ พระองคช์ ่วั เวลา- ๔๒๓/๔๓๓/๔๔๔/๔๕๑/๔๖๗/๔๗๑/ -ปรากฏพระกาย ๕๗๕ ๔๘๗/๕๐๓/๕๑๙/๕๒๒/๕๕๖/๕๗๕/ เรยี นธรรมได้ไวช่วั เวลาโต้ตอบ ๕๒ ๕๙๙ เรื่องกอ่ นประสตู ิ ๒๑

๖๖๘ พทุ ธประวตั ิจากพระโอษฐ์ เรื่องกอ่ นตรัสรู้ ๔๔/๔๖/๔๗/๖๙/๗๑/ ฤ ๗๕/๘๐/๘๑/๘๒/๘๓/๘๕/๘๖/๘๙/ ฤดูหนาวระหวา่ งแปดวัน ๕๙/๓๗๑ ฤทธิ์ (เพราะอิทธบิ าทส)่ี ๑๘๙ ๙๓/๙๕/๙๗/๑๐๑/๑๐๓/๑๑๓/๑๑๔ ฤษี ชอ่ื คันธาระ ๑๙๗ เร่ืองก่อนหนา้ ปรนิ พิ พาน ๕๕๖ ฤาษี ชือ่ โรหิตัสส์ ๔๘๑ เรื่องจรงิ และประกอบด้วยประโยชน์- ฤาษีภายนอก ๓๓ -ก็ไม่ใชเ่ รอื่ งควรกลา่ วโดยสว่ นเดียว ล ๒๐๐/๒๔๕ ลมกล้าแทงเซาะขนึ้ กระหม่อม ๖๔ เรื่องความทกุ ข์ ๑๑๘/๒๕๐/๒๘๗ ลมกล้าหวนกลับลงแทงพนื้ ทอ้ ง ๖๕ เรื่องฉนั ปลาฉันเน้อื ๔๔๔ ลมเวรัมพา ๓๗๑ ลมออกทางช่องหูทงั้ สอง ๖๔/๑๕๙ เรื่องซึง่ พน้ วสิ ัยโลก ๑๗๔ ละท้ิงศาสนาบวชเปน็ ปริพพาชก ๑๔๔ ลกั ษณะการประกาศพรหมจรรย์- เรื่องที่ควรเช่อื ควรฟง๎ ๑๓/๑๗๔ -ของตถาคต ๑๑ เรือ่ งทเ่ี ชอ่ื แลว้ จะได้ประโยชนส์ ขุ ๑๓ ลกั ษณะการแสดงธรรมองตถาคต ๑๑ เรอ่ื งทรงแจม่ แจ้งแทงตลอด ๑๗๒ ลกั ษณะของการพดู เพ้อเจอ้ ๓๙ เรื่องที่ทรงพยากรณ์ ๒๐๑/๓๐๓ ลกั ษณะของธรรมทที่ รงนาํ มาสอน ๒๘๕ เรื่องทไ่ี ม่ทรงพยากรณ์ ๒๐๑/๒๙๗ ลักษณะของธรรมที่ไม่ทรงนํามาสอน ๒๘๔ เรอ่ื งท่สี ุดในโลก ๔๘๐ ลกั ษณะของบุคคลผู้เป็นเสขะ ๒๗๒ 'เรื่องน้ีควรฟ๎งควรเชอื่ ' ๑๓/๑๗๔ ลักษณะของภกิ ษุผู้ใคร่ในการศกึ ษา ๓๒๕ เรอื่ งยอ่ ทค่ี วรทราบก่อน- ลกั ษณะของภกิ ษผุ ู้ไม่ใครใ่ นการศกึ ษา ๓๒๔ -(ในการศึกษาพทุ ธประวตั )ิ ๑๕ ลักษณะทบี่ รรพชาจกั ไม่เปน็ โมฆะ ๔๓๔ เรือ่ งย่อท่คี วรทราบกอ่ น- -(อกี หมวดหนึ่ง) ๑๖ เรือ่ งเวทนาโดยละเอยี ด ๘๓ เรือน (คืออัตตภาพ) ๖๑๓ แรกถงึ กระแสแหง่ นพิ พาน ๔๓๐ โรงบูชาไฟ ๔๒/๑๓๔ โรสกิ พราหมณ์ ๕๒๕ โรหติ ัสส์ (เทวบตุ ร) ๔๘๑

ปทานกุ รม ๖๖๙ ลักษณะแห่งกถาทส่ี าวกควรตดิ ตาม- ลทั ธนิ ตั ถกิ ทฎิ ฐิ ๔๒๕ -ศาสดาเพอ่ื จะฟ๎ง ๓๓๑ ลทั ธมิ ักขลวิ าท ๔๑๘ ลักษณะแหง่ กรรมท่ไี มอ่ าจเปลี่ยนได้- ลทั ธอิ กิริยทิฎฐิ ๔๒๕ -ดว้ ยอุปก๎ กมะและปธานะของ- ลทั ธอิ เหตุกทฎิ ฐิ ๔๒๕ -นิครนถ์ ๑๐ อย่าง ๔๗๕ ลทั ธิ\"อศิ วรสร้างขน้ึ -พรหมสร้างข้นึ \" ลักษณะแห่งการทาํ ความเปน็ มิตร- ๔๘๒ -กะพระศาสดา ๓๒๗ ลัทธิอืน่ ๔๒๙ ลกั ษณะแหง่ การทาํ ความเป็นศัตรู- ลาภของภกิ ษุ(เกยี่ วกบั นรกสวรรค์ทางใจ) ๑๘๕ -กะพระศาสดา ๓๒๗ ลายฝุามือฝุาเทา้ ดุจตาข่าย ๓๒/๓๕ ลักษณะแห่งการแสดงธรรม- ลาํ ดับแห่งพฤตขิ องจติ ในการเสด็จ- -โดยสายกลาง (เจด็ นยั ) ๒๔๗ -ปรินิพพาน ๕๗๕ ลกั ษณะแหง่ วญิ ํูชนผู้ควรร้ไู ดเ้ อง- ลจิ ฉวที ุมมุข ๕๐๖ -เหน็ ได้เอง ๒๗๓/๒๗๕/๒๗๖ ลิจฉวบี ุตร ผมู้ ัวเมาปาฏิหารยิ ์ ๔๙๐ ลทั ธกิ รรม ๕๒๗/๕๘๕ ลิ้นเพียงพอ ๓๒ ลัทธิเกยี่ วกับกรรมของพวกนคิ รนถ์- ลลี าศสง่างดงาม ๕๓๐ -(ซ่ึงตา่ งจากพทุ ธศาสนา) ๔๗๔ ลุกไดก้ ระปร้ีกระเปร่า ๕๒๕ ลัทธิของพระองค์ ๓๘๕/๓๘๙ ล่มุ นาํ้ ใหญ่มีเปอื กตม (อุปมาทีใ่ ชก้ ับ- ลทั ธิซ่งึ สมมติกันว่าเลิศตามแบบแห่ง -กามทง้ั หลาย) ๒๗๑ -อาจารย์ตน ๔๘๒ ลูกไกเ่ จ๊ียบ ๕๐๗ ลัทธิเดยี รถยี ์อน่ื ๖๐/๒๙๙/๓๕๙/๓๘๔ ลกู ไกต่ ัวพ่ีที่สดุ ๑๓๓ ๔๔๐/๔๖๗/๔๗๑/๔๗๓/ ลูกโซ่แหง่ ทกุ ข์ ๘๖/๘๙ ๔๗๔/๔๘๒/๕๘๒/๕๘๓ ลูกสาวทเ่ี ปน็ หม้ายมีลูกติดรงุ รัง ๓๗๐ ลทั ธทิ าํ ลายโลก ๔๑๘ ลขู วตั ร (วัตรในการเศร้าหมอง) ๕๘ ลทั ธทิ ี่วา่ สุขทุกข์เพราะกรรมเก่า ๔๑๑ ลู่ทางทจ่ี ะช่วยเหลอื ปวงสัตว์ ๒๒๕ ลัทธิทว่ี า่ สุขทกุ ข์เพราะการบันดาล ๔๑๓ ลูบคลําดวงจนั ทรด์ วงอาทติ ย์ ๙๘ ลทั ธทิ ีว่ า่ สขุ ทกุ ขไ์ ม่มีเหตุป๎จจัย ๔๑๔ เลน่ หัวสพั ยอกกับมาตุคาม ๑๖๙/๑๗๐/๑๗๑ เลาะลัดจากปาุ นสี้ ู่ปาุ โน้น ๕๘/๕๙

๖๗๐ พุทธประวตั จิ ากพระโอษฐ์ โลก ๔๘๑ ฯลฯ ว โลกจะไมว่ า่ งจากพระอรหันต์ ๕๗๓ วจกี รรมไม่บริสทุ ธ์ิ ๙๖ โลกจกั ฉบิ หาย ๒๒๒ วนสัณฑ์ ๕๖/๕๘๒/๕๘๓ โลกซ่งึ มีสขุ โดยสว่ นเดียว ๔๑๕ วรรณะสีจ่ ําพวก ๑๑๔ โลกที่กาํ ลังมัวเมา ๘ วัจฉโคตร ๒๑๑/๒๙๙/๓๐๐/๓๐๑/๓๐๒/ โลกธรรม ๑๗๔/๑๗๕ ๓๒๑/๓๙๘/๓๙๙/๔๓๖/๕๐๑/๕๐๒/๕๐๓ โลกธรรมในโลก (ในความหมายพเิ ศษ) วจั ฉายนะโคตร ๕๑๒ ๑๗๕ วชั ชิยมาหิตคหบดี ๒๕๓/๕๑๐/๕๑๑ โลกธาตหุ น่งึ มีพระพทุ ธเจา้ องค์เดียว ๗ วชั ชี ๑๗๔/๔๖๕/๔๖๖/๕๘๒ โลกนี้โลกอื่น ๑๓/๑๗๔ วชั ชีคาม ๔๙๐ โลกในสมัยทด่ี วงจันทร์และดวงอาทติ ย์- วัชชธี รรม ๔๖๕ -บงั เกิดขน้ึ แลว้ ๒๓๙ วัฏฏสงสารของพระองค์ ๕๘๒ โลกในสมัยที่ดวงจันทรแ์ ละดวงอาทติ ย์- วัฏฏะอนั เปน็ ที่อยขู่ องมฤตยู ๑๓/๑๗๔ -ยงั ไม่บงั เกิด ๒๓๘ วฏั ฏะอนั เปน็ ที่อยูข่ องมาร ๑๓/๑๗๔ โลกในสมัยท่พี ระองค์บงั เกิดข้ึนแล้ว ๒๓๙ วัตตบท (๗ ประการ) ๔๙๐ วตั ถกุ าม ๖๒/๖๓ โลกในสมัยทพี่ ระองค์ยังไมบ่ งั เกิด ๒๓๘ วัตรของเดยี รถยี ์ ๕๖/๖๑ โลกมจี ํานวนพนั หนึ่ง ๑๙๓ วัตรท่เี ศร้าหมอง (ภกิ ษุประพฤตผิ ิด) ๔๘๕ โลกไมฉ่ าบทาแปดเปอื้ น ๑๔/๑๗๕ วัตรในการอยู่อุเบกขา ๖๐ โลกนั ตริกนรก ๒๕/๓๐/๑๒๓/๒๓๔ วัตรในความเปน็ ผรู้ ังเกียจ ๕๘ โลกายตกิ พราหมณ์ ๒๕๒ วัตรในความเปน็ ผเู้ ศร้าหมอง ๕๘ โลกุตตรธรรมมสี ําหรบั คนท่วั ไป ๓๑๐ วตั รในความเปน็ ผ้สู งัดทั่วแลว้ ๕๘ โลง่ โถงไม่มอี ะไรกนั้ แต่มดื มน ๒๕/๓๐/ วตั รในบาตร ๕๓๒ ๑๒๓/๒๓๔ วัตรเพอ่ื ความเปน็ ผู้มตี บะ ๕๘ โลหิจจพราหมณ์ ๒๗๒/๕๒๕ วัตรเพือ่ มตี บะ ๕๖ วัตรยืนอย่างเดียว ๔๗๑

ปทานกุ รม ๖๗๑ ววั หายไม่พบ ๖ วันแล้ว ๓๗๐ วิชชาที่ ๒. ๑๑๖/๑๖๒ วัสสการพราหมณ์ ๑๕๕/๒๑๒/๒๑๔/๒๔๕/ วชิ ชาท่ี ๓. ๑๑๗/๑๖๒ ๔๖๕/๕๑๙ วิชาชื่อคนั ธารี ๑๙๗ วสั สะปรพิ พาชก ๔๒๕ วิชาช่ือมณิกา ๑๙๘ วาจาคร้งั สุดทา้ ยของตถาคต- วญิ ญาณ (ในปฏิจจสมุปบาท) ๘๗/๘๘/ -(ป๎จฉิมโอวาท) ๕๗๔ ๙๐/๙๒/๔๒๘ วาจาเคร่ืองพรํา่ สอนสาวกของพระองค์ วญิ ญาณ (ของพระองค์) เปน็ เพียง- ๒๖๙ -ปฏจิ จสมุปปน๎ นธรรม ๒๖๔ วาจาจรงิ มีประโยชน์ นา่ ฟ๎ง ๒๔๕ วิญญาณ (ตามความหมายของภกิ ษสุ าติ) วาจาจรงิ มปี ระโยชน์ ไมน่ า่ ฟ๎ง ๒๔๔ ๒๖๓ วาจาจริง ไรป้ ระโยชน์ แต่นา่ ฟง๎ ๒๔๔ วิญญาณท่ีเวียนว่ายตายเกดิ - วาจาจริง ไรป้ ระโยชน์ ไม่นา่ ฟ๎ง ๒๔๔ -ไมม่ ีในหลกั พระศานา ๒๖๓ วาจาไม่จรงิ ไร้ประโยชน์ แต่นา่ ฟ๎ง ๒๔๔ วญิ ญาณอันแลน่ ตามความระลกึ ๖๘ วาจาไม่จริง ไร้ประโยชน์ ไมน่ า่ ฟง๎ ๒๔๔ วิญญาณัญจายตนะ (ฌานท่ี ๖) ๑๐๒/ วาจาที่ต้องเลอื กให้เหมาะกาล ๒๔๔ ๑๐๘/๑๐๙/๑๑๐/๓๔๓/๓๙๔/๓๙๕ วาจาเป็นทีช่ อบใจแหง่ ชาวเมือง ๕๒๗ วิญญาณัญจายตนะ (ในฐานะทิศท่ี ๕- วา่ ยทวนกระแสกลับมา ๒๖๗ -ของบุรุษทฝี่ กึ แล้ว) ๒๐๙ วาทานุวาทะของนิครนถ์ ๑๐ ประการ วติ ก (มคี วามหมายพิเศษ) ๑๒๖ ๔๗๗ วเิ ทหะ ๕๐๐ วามนกิ า (ตระกูลช้างพัง) ๓๑๕ วธิ กี ารใช้หนังสอื เล่มน้สี ําหรบั - วาเสฏฐโคตร ๕๗๒ -นกั ประพันธ์ ๔ วาเสฏฐสามเณร ๒๐๑ วิธีการใชห้ นังสอื เล่มนี้- วาเสฎฐะมาณพ ๒๒/๑๘๖/๑๘๗ -สาํ หรบั อุบาสกอุบาสิกา ๔ วาหุนะ (ภิกษุ)(ตรสั เร่อื งหัวคนั นา) ๓๗๙ วิธกี ารทดสอบความเป็นสมั มา- วิจกิ จิ ฉา ๗๕/๗๖/๗๗/๗๘/๗๙/๒๙๐/ -สมั พุทธะของพระองค์ สาํ หรับผู้- ๒๙๕/๓๒๒/๓๒๓/๔๓๗/๕๒๔ -ไม่มเี จโตปรยิ ญาณ ๑๖๓ วิชชา (อริยสจั จ์) ๘๗/๘๙/๙๑/๙๓/๑๑๗/๑๑๙ วธิ ีการทําสงั คายนา ๔๓๒ วชิ ชาท่ี ๑. ๑๑๖/๑๖๒ วิธีการพิทักษ์พรหมจรรย์ (ศาสนา) ๔๓๒

๖๗๒ พทุ ธประวัตจิ ากพระโอษฐ์ วิธเี ข้าถงึ สญุ ญตาวิหาร (ตามที่- วปิ ๎สสนาในธรรมตามลําดบั ของ- -ทรงแนะ) ๓๗๖ -พระสารีบุตร ๓๔๒/๓๔๓ วปิ ๎สสพี ทุ ธะ ๔๘๙ วิธฆี ่าอย่างดีในวินัยพระอรยิ ะ ๓๐๘ วภิ ัชชวาที ๒๕๓ วธิ ีทีท่ รงปฏบิ ัตติ อ่ ภกิ ษุ (เก่ยี วกับสิกขา) วิภัชชวาทีที่เปน็ การจําแนกว่า- -ควรตหิ รอื ไมค่ วรติ ๕๑๐ ๓๒๔ วธิ ีน้อมจิตออกจากกาม ๗๔ วิมโล (ไวพจน์แหง่ ตถาคต) ๒๐๒ วมิ ุตติของภกิ ษณุ ี ๔๗๙ วิธบี ันลือธรรมให้แผ่กวา้ งไป ๑๙๔ วมิ ตุ ติญาณทสั สนะชน้ั อเสขะ ๔๓๗ วิธีฝึกทร่ี ุนแรง ๓๐๗ วมิ ุตติวาที ๑๖๓ วิธฝี ึกท่ลี ะมนุ ละไม ๓๐๗ วมิ ุตโต (ไวพจน์แห่งตถาคต) ๒๐๒ วธิ ีฝกึ ที่ละมุนละไมและรนุ แรง ๓๐๗ วิริยพละ (ท่ีเป็นของตถาคต) ๑๓๒ วิธี 'รุก' ข้าศกึ ให้แพภ้ ัยตัว ๑๔๔ วิวัฏฏกัปป์ ๑๐๗ วิธลี ะและบรรเทากามวิตก ๗๒ วิธลี ะและบรรเทาพยาปาทวิตก ๗๒ วิวฏั ฏะอันไม่เปน็ ท่อี ยขู่ องมฤตยู ๑๓/๑๗๔ ววิ ัฏฏะอนั ไม่เป็นท่อี ยู่ของมาร ๑๓/๑๗๔ วธิ ีละและบรรเทาวหิ งิ สาวติ ก ๗๒ วิธลี ัดสําหรบั นกั ธรรมหรอื นักเทศน์ ๑ วิสสุกมั ม์ (เทวบุตร) ๖๑๐ วิธลี ัดสําหรบั นักปฏบิ ตั ิธรรมทางใจ ๒ วหิ ารธรรม ๓๕๗ วธิ ีสกัดสแกงพวกทถ่ี อื วา่ มอี ัตตา ๔๑๕ วิหารธรรมชนดิ ทท่ี าํ ให้รูแ้ จ้งชัด- วธิ ีสาํ หรับนกั ศึกษาท่ัวไปที่ไม่คุ้นกับวัด ๓ วธิ แี หง่ มหายัญญ์ ๕๙๕ -ตอ่ เวทนา ๑๒๕ วิธีแหง่ อิทธบิ าท ๘๑ วหิ ารธรรมทีท่ รงสรรเสรญิ มากคือ- วนิ ยวาที (คอื ตถาคต) ๒๐๑/๒๘๑ -อานาปานสติสมาธิ ๓๕๙ วินัยของพระสุคต ๙/๑๐ วินัยของพระอริยเจา้ ๓๐๘ วิหารธรรมท่ีทรงอย่มู ากท่ีสุด ๙๘ วบิ ากของบุคคลผู้เล่อื มใสใน- วิหารธรรมท่ีทรงอยมู่ ากตลอดพรรษา ๓๕๘ วิหารธรรมทีท่ รงอยเู่ มื่อตรัสรแู้ ลว้ ใหม่ ๆ -พระพุทธเจา้ ๒๑๕ วบิ ากชนั้ เลศิ ๒๑๕/๓๑๙ ๑๒๕ วหิ ารธรรมที่ทรงอยมู่ ากที่สดุ - -คอื สุญญตาวหิ าร ๓๗๕

ปทานุกรม ๖๗๓ วิหารธรรมอันสงบราํ งับ ๓๘๗ เวสารัชชญาณ ๑๓๕/๑๔๑/๑๔๒/๔๒๑ วิหงิ สาวติ ก (ในวิตกสาม) ๗๑/๗๒/๗๓/๗๔ เวสาลี ๒๖/๓๐/๕๖/๖๗/๑๒๔/๑๓๕/ เวขณสปริพพาชก ๒๗๕ ๑๕๗/๑๘๘/๑๙๓/๒๓๔/๒๔๖/๒๖๑/ เวชยันตรถ ๕๙๓ ๒๘๗/๓๒๘/๓๕๘/๓๘๑/๔๒๑/๔๓๙/ เวทคู (ผจู้ บเวท, ไวพจน์แห่งตถาคต) ๒๐๑ ๔๖๕/๔๖๖/๔๙๐/๔๙๒/๕๕๓/ เวทนา (เกยี่ วกับปฏจิ จสมปุ าท) ๘๓/๘๔/ ๕๖๑/๕๖๔/๕๖๕/๕๘๒/๕๘๓ ๘๖/๘๘/๙๐/๙๒/๔๒๗/๔๒๘ เวฬุวคาม (หมู่บ้าน) ๓๕๘/๔๖๖/๕๖๑ เวทนาเก่า (เกยี่ วกับอาหาร) ๒๘๙/๒๙๔/๕๓๒ เวฬวุ ัน ๒๑๒/๒๔๔/๒๔๕/๒๕๐/๓๒๑ เวทนาท้ังหลายมิใชผ่ ลแหง่ กรรม ๔๖๗/๕๐๓/๕๑๙ -ในกาลก่อน ๔๗๓ ศ เวทนา (เกย่ี วกับสัมมามรรค-มจิ ฉามรรค) ศรัทธา ๑๑/๓๗/๕๒/๕๔/๑๙๗/๒๐๑/ ๑๒๕/๑๒๘ ๒๒๔/๒๗๖/๒๙๓/๓๑๖/๓๔๑/๔๕๔-๕-๖/ เวทนาใหม่ (เกยี่ วกับอาหาร) ๒๘๙/๒๙๔/๕๓๒ ๔๕๗/๔๕๘/๕๔๗/๕๗๗/๕๗๘/๕๘๕ เวนยิโก (ผู้นําไปกระทาํ ใหว้ ินาศ) ๕๑๑ ศรัทธา (อปุ มาเปน็ พืช) ๓๘๐ เวนาคปุระ (หมบู่ ้าน) ๓๗๒ ศัตรไู ม่อาจปลงชวี ติ ในระหวา่ ง ๓๔ เวภฬิคะ (นคิ ม) ๕๘๘ ศาสดาของพวกเธอ ๕๗๓ เวรัญชพราหมณ์ ๑๓๓/๒๑๕/๔๔๗/๕๐๑ ศาสดาท่ไี มม่ ีใครท้วงติงได้ ๒๗๒ เวรัญชา (เมือง) ๒๑๕/๒๕๘/๔๔๗/๕๐๑ ศาสดาประเภทท่ีตรสั รู้เอง ๒๑๐ เวลาชั่วทเี่ จรจาโต้ตอบ ๕๒ ศาสดาผูถ้ ึงแลว้ ซึ่งลาภและยศสงู สุด ๔๓๕ เวลาทีค่ วรบัญญัตวิ นิ ัย ๒๕๘ ศาสดาพวกทตี่ รัสรู้ด้วยปญ๎ ญาเครอ่ื งรู้- เวลาปรนิ ิพพาน ๕๖๒ -ยง่ิ ด้วยตนเอง (สมมฺ าสมพฺ ุทธฺ ) ๒๑๑ เวลามพราหมณ์ ๖๐๕/๖๐๖ ศาสดาพวกท่ีฟ๎งตามๆกันมา (อนสุ สฺ วกิ า) ๒๑๑ เวลาสมควรปรนิ พิ พาน ๒๒๐ ศาสดาพวกทอ่ี าศัยสทั ธาอย่างเดียว- เวสส์ (วรรณะ) ๑๑๔/๒๙๗/๓๑๐/๓๑๔/๓๓๕ -(เกวลํ สทฺธามตฺตกา) ๒๑๑ เวสสภพู ุทธะ ๔๘๙ ศษิ ย์ที่ดือ้ ๓๒๖ เวสสวณั (มหาราช) ๔๘๘/๔๘๙ ศษิ ย์ทีไ่ ม่ดื้อ ๓๒๖ เวสสนั ดร (ราชา) ๖๐๗/๖๐๘/๖๐๙ ศรี ษะรบั กบั กรอบหนา้ ๓๓

๖๗๔ พทุ ธประวตั จิ ากพระโอษฐ์ ศีลขันธอ์ ย่างยงิ่ ๓๔๙ สถานการณ์ท่ีแม้พระองค์กต็ อ้ งทรงอดทน ศีลชัน้ อเสขะ ๔๓๗ ๓๕๓ ศีลบรสิ ทุ ธิ์ ๑๕๑/๑๖๐ ส้นเท้ายาว ๓๒ ศลี วบิ ัติ ๕๕๘ สบตาดว้ ยตากบั มาตุคาม ๑๖๙ ส สพพฺ ปาณภตู หิตานุกมฺปี (พระพทุ ธเจ้า) ๓๖๕ สกทาคามี ๒๘๒/๓๐๔/๓๒๐/ สมณบรษิ ัท ๔๒๑/๔๒๒ ๓๒๑/๔๓๐/๕๖๐ สมณบณั ฑิต ๓๐๕/๓๐๖/๕๑๕/๕๔๓ สกุลจักสาน ๓๑๓ สมณพราหมณ์ปรพิ พาชก ท. ผเู้ ปน็ - สกลุ จณั ฑาล ๓๑๓ -เดียรถีย์อ่นื ตอ่ พระองค์ ๓๖๗ สกุลเทหยากเยอื่ ๓๑๓ สมณพราหมณ์ทีเ่ ป็นผู้รู้ ๔๒๓/๔๒๕ สกลุ ทาํ รถ ๓๑๓ สมณพราหมณ์ท่ีสอนเร่อื งกรรม ๔๖๗ สกุลพวกพราน ๓๑๓ สมณพรหมณผ์ ู้อยู่ด้วยความหลง ๑๐ สกุลทุ ายิปริพพาชก ๓๔๖/๓๔๙/๓๖๓ สมณสากยะปุตตยิ ะ ๓๓๕/๔๙๑ สคารวะพราหมณ์ ๔๖/๒๑๐ สมณะของลัทธิอื่น ๔๒๙/๔๓๐ สงฆ์จํานวนร้อยเปน็ อเนก ๓๒๔ สมณะที่ ๑. ๔๒๙/๕๗๓ สงฆป์ ระกอบดว้ ยคุณอันใหญ่ ๒๑๙ สมณะท่ี ๒. ๔๒๙/๕๗๓ สงฆห์ มู่ใหญเ่ พราะต้งั มานาน ๒๕๙ สมณะท่ี ๓. ๔๒๙/๕๗๓ สงฆ์หมู่ใหญ่เพราะแผ่ไปไมเ่ ต็มท่ี ๒๕๙ สมณะท่ี ๔. ๔๒๙/๕๗๓ สงฆห์ มู่ใหญ่เพราะมีลาภมาก ๒๕๙ สมณะในธรรมวินยั นี้ ๔๒๙ สงบราํ งับแลว้ จากธรรมเป็นเครือ่ ง- สมณะท่แี ท้จริงมีแตใ่ นศาสนานี้ ๕๗๒ -ให้ราํ คาญ (พระอรหันต)์ ๓๖๒ สมณะ (ไวพจนแ์ ห่งตถาคต) ๒๐๑ สตานุสาริญาณ (ของตถาคต) ๓๙๘ สมณะสุขุมาล ๓๗๗/๓๗๘ สติ (อุปมาผาลแลปฏกั ) ๓๘๐ สมณะหวั โลน้ ๕๘๘/๕๘๙ สติปฏ๎ ฐาน ๒๒๕/๒๗๔/๒๙๕/ สมณะอยา่ งชอบธรรม ๔๑๒/๔๑๓/ ๓๒๑/๓๕๐/๔๙๖ ๔๑๔ สตปิ ๎ฎฐานส่ีขจัดทฎิ ฐินสิ สัยท้ังสองประเภท สมสกู่ บั ภคนิ ขี องตนเอง ๒๒ ๒๗๔ สมัยใดสมาธิมาก จกั ขกุ ม็ าก ๗๙

ปทานุกรม ๖๗๕ สมาคมอย่างสนิทสนมกับบริษัท ๔๒๒ สระ ๓ สระ ๔๐ สมาบัติทัง้ เจ็ด ๕๓ สระโบกขรณีข้างภูเขาหิมพานต์ ๒๑/๒๒ สมาบัตทิ ั้งแปด ๕๕ สมาธิเคล่ือน ๗๕/๗๖/๗๗/๗๘ สว่ นสดุ และมชั ฌมิ า ๑๘๐ สมาธเิ จ็ดอย่าง ๗๙/๘๐ สวรรค์คือผลอันดับต่ําสุดของ- สมาธชิ ้ันอเสขะ ๔๓๗ -สวากขาตธรรม ๒๘๑ สวรรคท์ ผ่ี สั สยตนะ ๑๘๕ สมาธิโดยวิธสี ามอย่าง ๗๙ สมาธินอ้ ย ๗๙ สวากขาตธรรมที่มผี ล ๖ อนั ดับ ๒๘๑ สมาธินมิ ิต ๗๕/๒๔๖/๒๔๗ สหัสสจี ฬู นกิ าโลกธาตุ ๑๙๓/๑๙๔ สมาธินิมิต (ในขณะท่ที รงแสดงธรรม) สหัมบดพี รหม ๒๑๘/๒๑๙/๒๒๒/ ๒๔๖ ๒๒๓/๒๒๔/๒๒๕ สมาธใิ นถ้อยคาํ ท่ีตรสั สลับกบั สมาธิ- สหายกบั เหลา่ เทพในดาวดึงส์ ๔๓ สฬายตนะ (ปฏิจจฯ) ๘๗/๘๘/๙๐/๙๒/๔๒๘ -เนือ่ งดว้ ยสุญญตา (ในการแสดง- สอนตอนเช้า เยน็ ลงกบ็ รรลุ ๒๗๘ -ธรรม) ๒๔๗ สอนตอนเยน็ รงุ่ เช้ากบ็ รรลุ ๒๗๘ สมาธอิ าศัยฉนั ทะเป็นปธานกิจ ๘๑/๙๘/ สอนแต่เรอ่ื งความทุกข์เท่านัน้ ๒๘๗ สักกะ(จอมเทพ) ๔๕๙/๔๘๓/๕๒๒/๖๐๓ ๑๙๐/๑๙๑/๒๐๗ สกั กายะ ๑๔๗/๑๕๔ สมาธอิ าศัยวริ ิยะเป็นปธานกจิ ๘๒/๙๘/ สังขพราหมณ์ ๖๐๕ สงั ขาร (ในปฏจิ จสมุบาท) ๘๗/๘๘/๔๒๘ ๑๙๐/๑๙๒/๒๐๗ สังขารท้ังปวงเป็นทุกข์ ๔๖๒ สมาธิอาศัยจิตตะเปน็ ปธานกจิ ๘๒/๙๘/ สังขารทั้งปวงไมเ่ ท่ียง ๔๖๒ ๑๙๐/๑๙๒/๒๐๗ สังขารท้งั หลายเปน็ เช่นน้ีเอง ๕๔๓ สมาธอิ าศัยวิมังสาเป็นปธานกิจ ๘๒/๙๘/ สงั คหวตั ถุ ๓๕ สงั คารวพราหมณ์ ๓๓๘ ๑๙๐/๑๙๒/๒๐๗ สังฆบริษัททเ่ี งียบเสียง ๕๔๒ สยัมภู ๖๐๕ สงั ฆสันนบิ าตลว้ นเป็นขีณาสพ ๑๗ สรภะปรพิ พาชก ๑๔๔/๑๔๕/๑๔๖/๕๐๗ สังวัฏฏกปั ป์ ๑๑๕ สรภู (แมน่ ้ํา) ๓๓๕ สังเวชนยี สถาน ๕๗๗ สรรเสรญิ ยัญญ์ ๔๐๐/๔๐๑ สรสกํ ปฺปา ๑๓๗

๖๗๖ พทุ ธประวตั ิจากพระโอษฐ์ สั่งสมบารมีสอ่ื สงไขยแสนกปั ป์ ๖๐๓ สัตวด์ จุ ดอกบัว ๓ เหล่า ๒๒๓ สงั สารวัฏ ๓๓๘/๕๘๒/๖๑๓ สตั ว์ทั่วไปเหน็ ตถาคตแต่ทกี่ ายของตถาคต สจั จกะอัคคเิ วสนะนิครนถบุตร ๑๕๗/ ๕๗๖ ๒๔๖/๒๘๗/๓๒๘/๔๑๙/ สตั วท์ ่ีมคี วามไม่หลงเป็นธรรมดา- ๔๓๙/๕๐๕/๕๐๖ -ผเู้ ดยี วในโลก ๕๕๔ สจั จวาที (คือตถาคต) ๒๐๑/๒๘๑ สตั ว์ท่มี ีธุลใี นดวงตาแตน่ ้อย ๒๒๒/๒๔๔ สัจจะอันบคุ คลพึงเห็นในเบญจขันธ์ ๓๐๒ สัตว์ทมี่ ีสัญญาในอรูปอันเป็นภายใน ๔๔๓ สัญชัย (บิดาพระเวสสันดร) ๖๐๗ สตั ว์นอ้ ย ๆ ทม่ี ีคติไม่เสมอกัน ๕๘ สัญชาติแห่งคนตรง ๒๗๓/๒๗๕/๒๗๖ สัตว์ผเู้ กิดข้นึ เก้ือกลู ชนเปน็ อันมาก ๑๐ สัญญมะ (การสาํ รวมระวัง) ๔๓๘/๕๘๘ สตั วผ์ ู้เกลอ่ื นกลน่ ด้วยโศก ๒๒๓ สญั ญา (ปจ๎ จยั ของเวทนา) ๑๒๖ สตั ว์ผู้มีความไม่หลงเป็นปรกติ- สญั ญา (ความร้สู กึ ) ๓๘๗ -(คือตถาคต) ๑๐ สญั ญาทางกามเกิดแทรกแซง ๑๐๔ สตั ว์ผู้ยงั มีเวทนาอยู่ ๔๒๗ สญั ญาในวติ กเกิดแทรกแซง ๑๐๕ สัตว์ผูร้ ทู้ ่ัวถึงธรรม ๒๒๒/๒๒๓/๒๔๔ สญั ญาว่าปฏิกลู ต่อสิง่ ไม่ปฏิกลู ๑๐๒/๓๙๑ สตั วผ์ ้อู ยู่ด้วยความหลง ๑๐ สัญญาว่าปฏกิ ลู ต่อสงิ่ ไม่ปฏิกูลและปฏิกูล สัตวพ์ วกทจี่ ะเส่ือมจากคุณ ๒๔๔ ๑๐๒/๓๙๒ สทั ธาท่ีมนั่ คงที่ใคร ๆ ในโลกขักจงู ไป สัญญาว่าไม่ปฏิกลู ต่อสง่ิ ปฏกิ ูล ๑๐๒/๓๙๒ -ไมไ่ ด้ ๑๖๗/๒๐๑ สัญญาวา่ ไมป่ ฏิกูลทัง้ ตอ่ ส่ิงปฏกิ ลู - สทั ธาทมี่ ูลรากและฐานท่ีต้งั ๑๖๗ -และไม่ปฏกิ ูล ๑๐๒/๓๙๒ สทั ทานสุ ารี (เตรียมโสดาบนั ) ๒๘๓ สัญญาเวทยติ นิโรธ ๑๑๑/๑๑๒/๓๔๓/๓๔๔/๕๗๕ สทั ธาพละ (ทีเ่ ปน็ ของตถาคต) ๑๓๗ สัญญาเวทยิตนโิ รธ (ในฐานะทศิ ที่ ๘ สันตสุ ิตะ (จอมเทพ) ๔๘๓ -ของบุรุษทีฝ่ ึกแลว้ ) ๒๐๙ สปั ป๎ญญัตติโก (ผ้มู ีบัญญตั ิ) ๕๑๑ สัญญีวาท-วา่ มีสัญญา ๑๗๘ สัปปินี (แมน่ าํ้ ) ๑๔๔/๑๘๓/๕๐๗ สัญญีสัตว์ที่เกิดจากวญิ ญาณกสณิ ๔๔๓ สัพพัญํูทุกอิรยิ าบถ ๒๑๑ สญั โญชน์ในภพ ๒๗๒/๒๘๒/๒๙๑/ สมั พุทธะ ๒๑๖/ฯลฯ ๓๒๐/๓๒๙/๓๖๐ สัมพุทธะผ้เู ป็นหมอผ่าตัด ๓๓๖/๓๔๑ สตั ตัมพเจดีย์ ๔๙๐

ปทานุกรม ๖๗๗ สมั โพชฌงคท์ ี่สหรคตดว้ ยอปั ปปญ๎ ญา ๓๙๑ สมั มาสัมพทุ ธะสององค์เกิดข้ึนพร้อมกนั ๗ สัมมาปฏปิ ทา ๑๘๐ สัมมาสัมโพธิญาณอนั สูงสดุ ๑๕ สมั มาทิฎฐิหรือมิจฉาทฎิ ฐิในเวลาจะตาย- สัสสตวาท-เท่ยี งทกุ อย่าง ๑๗๖ -มีความสาํ คัญมาก ๔๐๘/๔๑๑ 'สากยะ' ๒๒ สัมมาทฏิ ฐิ (ฐานะป๎จจยั ของเวทนา) สากยะ (แคว้น) ๓๗๕/๔๗๓/๕๔๐/๕๔๖ ๑๒๕ สากยะโดยชาติ ๒๓ สัมมาสงั กัปปะ (ฐานะป๎จจัยของเวทนา) สากยะตระกูล ๑๕/๕๐๐ ๑๒๕ สาเกต (เมือง) ๑๕๖/๔๙๕ สมั มาวาจา (ฐานะป๎จจัยของเวทนา) สาติเกวฏั ฏบตุ ร (ภกิ ษุ) ๒๖๓ ๑๒๕ สามัคคี ๓๖/๓๕๔/๓๕๕/๕๘๕ สมั มากมั มนั ตะ (ฐานะป๎จจัยของเวทนา) สามัญญคุณ ๕๔๘ ๑๒๕ สารันททเจดยี ์ ๔๖๕ สัมมาวายามะ (ฐานะป๎จจยั ของเวทนา) สารีบตุ ร ๑๗/๕๖/๖๗/๑๓๕/๑๘๘/๒๑๖/ ๑๒๕ ๒๕๘/๓๓๖/๓๔๐/๓๔๑/๓๙๕/๔๒๑/ สมั มาสติ (ฐานะปจ๎ จยั ของเวทนา) ๑๒๕ ๔๘๗/๕๕๓/๕๘๒/๕๘๓/ฯลฯ สมั มาสติ (ในฐานะบทหนึ่งแหง่ - สาละ(ต้นไม้) ๑๕๕/๓๑๓/๓๘๓/๕๐๒/ -ธรรมบทส)่ี ๔๒๓ ๕๖๙/๕๗๗/๕๙๒ (ดูไมส้ าละเพ่ิม) สัมมาสมาธิ (ในฐานะปจ๎ จัย- สาวกของพระผมู้ พี ระภาค ๔๘๘/ฯลฯ -ธรรมบทส่ี) ๔๒๓ สาวกของพระองค์ทุกเพศล้วนบรรลุ- สัมมาสมาธิ (ฐานะปจ๎ จัย- -ธรรมชน้ั สงู สุดสําหรบั เพศ- -ของเวทนา) ๑๒๕ -ของตน ๆ จาํ นวนร้อย ๆ ๓๒๒ สมั มาสัมพุทธเจ้าช่ือโคตมะ ๑๕ สาวกเดียรถีย์ ๕๒๑ สมั มาสัมพุทธเจ้าทง้ั หลาย ๑๒๑/๑๒๒/ สาวกตั้งมั่นในศาสนาเหมอื นการไม่ลม้ - ๒๑๘/๒๗๘/๒๗๙/๔๑๘ -ของลอ้ รถทท่ี าํ อย่างประณีต ๖๐๒ สมั มาสัมพุทธะ ๑๔๑/ฯลฯ สาวกตัวอย่างทีป่ ระสบความสําเรจ็ - สัมมาสัมพุทธะภาวะมีได้ท้งั ในขณะทาํ - -ในอินทรยี ภาวนา ๓๓๖ -และไม่ทาํ หน้าท่ี ๓๖๙ สาวก ท. เปน็ บตุ รของพระองค์ ๓๓๖

๖๗๘ พุทธประวัตจิ ากพระโอษฐ์ สาวกทเ่ี ข้มงวดกว่าพทุ ธองค์ ๓๔๖ สิขีพทุ ธะ (พระพทุ ธเจ้าองค์หนงึ่ ) ๔๘๙ สาวกทส่ี ามารถข่มข่ถี ้อยคําของข้าศึก ๕๕๖ สิ่งควรสาํ เหนียกตามพุทธดํารสั ๖๐๒ สาวกแท้ รูปทีล่ ้าหลังเขาทส่ี ดุ ๒๕๙ สิ่งซงึ่ มีรูปเป็นที่ยินดี ๑๓๔ สาวกปฏบิ ตั ิไดเ้ ลิศกวา่ พวกอ่ืน ๕๐๙ สิ่งซง่ึ มเี สียงเปน็ ทย่ี นิ ดี ๑๓๔ สาวกผกู้ ระทาํ กะพระศาสดาในฐานะ- สิ่งซง่ึ มกี ล่นิ เปน็ ทยี่ นิ ดี ๑๓๔ -แหง่ มิตร ๓๒๗ สิ่งซึ่งมรี สเปน็ ท่ียินดี ๑๓๔ สาวกผู้กระทาํ กะพระศาสดาอย่าง- สิ่งซึ่งมีโผฏฐัพพะเปน็ ทย่ี ินดี ๑๓๕ -กะวา่ เป็นศคั รู ๓๒๗ สง่ิ ซง่ึ มีธรรมารมณ์เป็นท่ยี นิ ดี ๑๓๕ สาวกผูฟ้ ง๎ ดว้ ยดี ๓๒๗ สิ่งทัง้ ปวงไม่ควรเขา้ ไปยึดถือ ๔๕๙ สาวกผู้ไมฟ่ ๎งดว้ ยดี ๓๒๗ สง่ิ ที่เกอ้ื กูลแกช่ นเปน็ อันมาก ๙ สาวกและพระศาสดากล่าวหลัก- ส่ิงทคี่ น ท. สมมติกนั วา่ เลศิ ๑๙๕/๑๙๖/๓๗๒ -ปฏจิ จสมุปบาทตรงกันเสมอ ๓๔๕ สง่ิ ทค่ี นในโลกมัวหลงแสวงหา ๔๕ สาวกสนั นิบาตสงฆ์ ๑๒๕๐ รูป ๑๗ สิง่ ทค่ี วรกลา่ ว ๒๔๕/๒๔๖ สาวกหลน่ จากศาสนาเหมอื นการล้ม- สิ่งท่ีควรกาํ หนดรู้ ๑๑๙ -ของล้อรถทที่ ําไม่ดี ๖๐๒ ส่งิ ทค่ี วรละเสีย ๑๑๙ สาวกองค์สุดทา้ ย ๕๗๓ สิ่งที่ควรทําใหแ้ จง้ ๑๒๐/๑๔๐ สาวัตถี ๔๔/๒๔๘/๒๕๕/๒๖๓/๒๖๘/๒๘๘/ สง่ิ ทคี่ วรทําให้เกิดมี ๑๒๐ ๓๐๒/๓๐๘/๓๓๐/๓๓๕/๓๕๑/๓๙๕/๔๐๕/ สิ่งที่ใครจะไดง้ ่าย ๆ เป็นไม่มี ๔๗ ๔๕๙/๔๖๘/๕๒๑/๕๔๔/๕๕๔/๕๘๔ สิ่งที่ใคร ๆ ทําไดโ้ ดยยาก ๑๕ สาเหตทุ หี่ มุนกลบั จากกามไม่ได้ ๔๔ สิ่งทต่ี ถาคตกาํ หนดรู้ทัว่ ถงึ แล้ว ๑๕๖ สาฬหะ (ภกิ ษ)ุ ๕๕๙ สิ่งทตี่ ถาคตกําหนดรู้รอบแล้ว ๑๑๙ สํานักปริพพาชก ๔๒๓ สิ่งท่ตี ถาคตละได้แล้ว ๑๑๙ สาํ รวมในอนิ ทรยี ท์ ้ังหลาย ๒๘๘/๒๙๓ สง่ิ ท่ีตถาคตได้ทาํ ให้แจ้งแลว้ ๑๒๐/๑๕๗ สิกขาบท ท. ทีเ่ คยกระจัดกระจาย- สิ่งทตี่ ถาคตไดท้ าํ ให้เกิดมแี ลว้ ๑๒๐ -กลายเป็นปาติโมกขุทเทส ๓๕๑ ส่งิ ทต่ี ถาคตไม่ได้ยนิ ได้ฟ๎งมาก่อน ๑๑๙ สิกขาบทเล็กนอ้ ย (ทรงอนุญาตให้ถอน) สง่ิ ทต่ี รัสรู้ ๑๑๗ ๕๗๓ ส่ิงที่ตรสั รู้ แต่ไมท่ รงนาํ มาสอน ๒๘๔

ปทานุกรม ๖๗๙ สง่ิ ทถ่ี ูกตู่ว่าสอนเหมอื นกัน- สิง่ ที่มไี ด้ยากในโลก ๘ -(กาม-รูป-เวทนา) ๔๔๐ สง่ิ ทมี่ ผี ลมาก ๔๘๕ สง่ิ ทท่ี รงตวั อยไู่ ด้เอง ๔๖๑/๔๖๓ สิ่งทไี่ ม่ควรกลา่ ว ๒๔๕ สิ่งที่ทาํ ได้เปน็ สักขีพยานทันชาติน้ี ๙๘ สง่ิ ที่ไม่เปน็ ไปไดง้ า่ ยสําหรบั - สิ่งที่นา่ อัศจรรย์ ๒๔-๓๐/๑๒๔/๑๕๒/๒๓๕/ -ผู้อย่คู รองเรือน ๑๑ ๓๓๐/๓๓๖/๓๕๑/๓๖๑/๓๘๗ สิ่งทไ่ี มอ่ าจทําใหต้ ถาคตตดิ ใจ ๑๕๗ สง่ิ ทน่ี ่าอศั จรรย์ยงิ่ กว่าปาฏหิ าริยเ์ กี่ยวกับ- สง่ิ ที่ยงั มองไม่เห็น และยังไม่ได้นาํ มา- -พระองค์ ๑๕๒ -ทําการคิดนกึ ให้มาก ๑๐๓ สิง่ ทีน่ ่าอศั จรรย์อนั แทจ้ ริงของพระองค์ สง่ิ ทย่ี งั ไม่เคยได้รู้รสเลย ๑๐๓ ๑๕๒ สง่ิ ที่เราพยากรณ์ ๓๐๓ ส่งิ ทบี่ ัณฑติ รู้เหมือน ๆ กนั วา่ มี ๒๘๖ สิ่งทเ่ี ราไม่พยากรณ์ ๓๐๓ สิ่งที่บณั ฑิตรู้เหมอื น ๆ กนั ว่าไม่มี ๒๘๖ สง่ิ ที่เรยี กว่านามรปู ๔๒๗ สิ่งที่บัณฑติ ลงเหน็ พรอ้ มกันวา่ ดี ๕๘๘ สงิ่ ทแ่ี ล่นดิ่งไปสุดโตง่ ๑๑๗/๑๘๐/๒๔๗ ส่ิงที่เป็นไปเพอื่ ความเก้ือกูล- สิ่งท่แี ล่นด่ิงไปสุดโตง่ - -แกช่ นเป็นอันมาก ๙ -(คทู่ ี่ ๑ : กาม-อตั ตกิลมถา) ๒๔๗ สิ่งที่ผู้มีกลั ยาณมิตรพึงหวังได้- สิ่งทแ่ี ลน่ ดิ่งไปสุดโต่ง- -(พรหมจรรยท์ งั้ ส้ิน) ๔๖๙ -(คทู่ ่ี ๒ : มี-ไม่ม)ี ๒๔๘ สง่ิ ท่พี ระอริยเจา้ ว่าเป็นสุข ๑๕๕ สง่ิ ที่แลน่ ด่ิงไปสุดโต่ง- สง่ิ ที่มนุษย์เขา้ ไปเทิดทนู เอาไว้ ๔๕ -(คู่ที่ ๓ : น้นั -อ่นื ) ๒๘๘ สิง่ ท่มี ใิ ช่บุญเกี่ยวกับกับการฆา่ สัตวท์ ําบุญ ส่งิ ทแี่ ลน่ ไปสดุ โตง่ - ๓๖๐ -(คูท่ ี่ ๔ : เอง-อน่ื ) ๒๔๘ สิ่งท่มี คี วามเกิดเป็นธรรมดา ๔๔/๔๕ สง่ิ ที่แลน่ ดิ่งไปสุดโตง่ - สง่ิ ที่มีความแกเ่ ปน็ ธรรมดา ๔๔ -(คู่ท่ี ๕ : เอง-อื่น, อกี นัยหนึง่ ) ๒๕๐ สิ่งทมี ีความเจบ็ ไข้เป็นธรรมดา ๔๔ ส่ิงที่แล่นด่ิงไปสุดโต่ง- สง่ิ ที่มคี วามตายเปน็ ธรรมดา ๔๔ -(คู่ท่ี ๖ : ใด-อนื่ ) ๒๕๑ สิ่งทม่ี คี วามโศกเป็นธรรมดา ๔๕ สง่ิ ที่แล่นดิ่งไปสุดโตง่ ส่ิงที่มคี วามเศร้าหมอง- -(คทู่ ี่ ๗ : เหมือน-ตา่ ง) ๒๕๒ -โดยรอบดา้ นเป็นธรรมดา ๔๕:

๖๘๐ พุทธประวตั ิจากพระโอษฐ์ ส่งิ ทแ่ี ล่นดิ่งไปสุดโต่ง (เจด็ คู่) ๒๔๗ สนิ ปี รุ ะ (ราชกมุ าร) ๒๑ สง่ิ น่ารกั น่าเพลิดเพลนิ (อุปมาท่ีใชก้ ับ- สิเนรุ (ภเู ขา) ๑๙๔/๖๐๘/๖๐๙/๖๑๐ -อายตนะภายในหก) ๒๖๗ สกี ายดุจทอง ๓๒ สง่ิ น่าอัศจรรยท์ ที่ รงกาํ ชับให้ชว่ ยกนั จาํ ไว้ สีพี (เมอื ง) ๖๐๘/๖๐๙ ๑๕๒ สีลวาที ๑๖๒ สง่ิ นา่ อัศจรรยท์ ่ีทรงยืนยนั วา่ สีสปา (ไมป้ ระดูลาย) ๒๘๔/๓๗๐ -น่าอัศจรรย์โดยแท้จริง ๑๕๒ สีหราชา (ไวพจน์แหง่ ตถาคต) ๒๕๗ สง่ิ เปน็ ที่ต้ังแห่งการกลา่ วว่าควร- สหี นาท (คําอุปมาใช้กับการประกาศ- -หรือไม่ควร ๒๕๓ -พรหมจกั รของพระองค์) ๑๔๘ สง่ิ ไหลออกของการตามเห็นความต้งั ข้ึน- สีหนาทโดยชอบ ๔๒๙/๔๓๐ -และความเส่ือมไป (ปฏกิ ูล- สหี มคิ ราชา (คําอุปมาใช้กับพระองค์) -ในอปุ าทาน) ๓๕๕ ๑๔๗/๑๔๘ สง่ิ ไหลออกของการเหน็ ความไมเ่ ท่ียง- สหี เสยยาคร้งั สุดทา้ ย ๕๖๙ -ทีผ่ สั สายตนะ (ปฏิกูลในผสั สะ) ๓๕๔ สีหะ(สตั ว)์ ๓๗/๑๔๖/๑๔๗/๒๕๖/๓๖๔ สง่ิ ไหลออกของการอนุโยคในอสุภนมิ ติ - สขุ เกิดจากลาภสกั การะและ- -(ปฏิกลู ในอสภุ นมิ ิต) ๓๕๔ -เสยี งสรรเสรญิ ๓๕๓ สิ่งไหลออกของความแปรปรวนแหง่ - สุขเกิดแตค่ วามรู้พรอ้ ม (สัมโพธิสุข) ๓๕๓ -สิ่งเปน็ ท่ีรัก (โสกะปริเทวะ ฯลฯ) สขุ เกิดแตค่ วามรู้สงบรํางับ (อุปสมสุข) ๓๕๓ ๓๕๔ สขุ เกิดแตเ่ นกขัมมะ (เนกขมั มสขุ ) ๓๕๓ สิ่งไหลออกของสิง่ ที่กินแลว้ - สุขเกิดแต่ปวเิ วก (ปวิเวกสุข) ๓๕๓ (-อจุ จาระป๎สสาวะ) ๓๕๔ สุขเกิดแตว่ เิ วกของญาณ ๓๘๑ สิ่งอนุโลมใหเ้ กิดญาณวา่ - สขุ เกิดจากความรู้สกึ ทางท่อปส๎ สาวะ (มิฬ๎หสขุ )๓๕๓ -\"สพั เพ ธมั มา อนัตตา\" ๓๙๙ สขุ ของคนนอนซบ (มทิ ธสขุ ) ๓๕๓ ส่งิ อัศจรรยเ์ มอื่ ประทบั สีหไสยา- สขุ ที่ตํ่าทราม ๑๘๐ -คร้ังสดุ ทา้ ย ๔ อย่าง ๕๖๙ สขุ ทุกข์เพราะกรรมในกาลกอ่ น- สิทธใิ นการประกาศศาสนามีแม้แก่- -(นิครนถวาท) ๔๗๗ -ผยู้ งั ตอ้ งปฏิบัตอิ ยู่ ๓๔๘ สุขทุกขเ์ พราะการเกิดอันย่ิง- -(นิครนถวาท) ๔๗๗

ปทานุกรม ๖๘๑ สขุ ทุกขเ์ พราะการช้บี ง่ ของอศิ วร- สทุ สั สา (สุทธาวาส) ๓๘๓ -(นิครนถวาท)๔๗๗ สทุ สั สี (สุทธาวาส) ๓๘๓ สทุ ินน์ (ภกิ ษ)ุ ๒๖๑/๒๖๓ สุขทกุ ข์เพราะความบากบนั่ ใน- สุนทรกิ ภารทวาชพราหมณ์ ๔๖๔ -ทิฏฐธรรม (นิครนถวาท) ๔๗๘ สนุ ทรกิ า (แมน่ ํา้ ) ๔๖๔ สนุ ักขัตตล์ จิ ฉวีบุตร ๑๙๖/๔๙๐/๔๙๑ สุขทกุ ขเ์ พราะภาวะทางสงั คม- -(นิครนถวาท) ๔๗๗ สนุ ขั จิ้งจอก ๕๐๗ สนุ ิมมิตะ (จอมเทพ) ๔๘๓ สุขและโทมนสั ๖๙/๙๒ สุภควัน ๑๕๕/๓๘๔ สขุ วหิ ารในทิฏฐธรรม ๓๗๘ สภุ วนั (สวนปุา) ๓๘๓ สขุ โสมนสั ที่อาศัยเวทนาเกิดขึ้น ๘๔ สุภวิโมกข์ ๓๙๒/๔๔๑/๔๔๒ สุขอยา่ งยิ่งทีจ่ ะถงึ ได้เมื่อยงั มี- สุภัททะปริพพาชก ๔๗/๕๗๓ สภุ ทั ทาเทวี ๕๙๓ -ชวี ติ อยู่ ๓๙๑ สขุ อันเกิดจากความรู้สกึ ทางทอ่ ปส๎ สาวะ- สยุ ามะ (จอมเทพ) ๔๘๓ สกู รมัททวะ (มิใชเ่ นอื้ สุกรออ่ น) ๕๖๗ -(มฬิ หสขุ ) ๓๕๓ สงู ด้วยคณุ ธรรมกว่าเขาท้ังหมด ๒๙ สทู ท์ (วรรณะ) ๑๑๔/๒๙๗/๓๑๐/ สุขอนั เกิดแตพ่ รหมจรรย์ ๕๑๕ สุขขัลลกิ านโุ ยคของ- ๓๑๑/๓๑๒/๓๑๔/๓๓๖ เสขะ ๒๗๒/๒๙๑/๓๔๘/๓๕๙/๕๒๔ -พวกสมณศากยปุตติยะ ๑๘๒ เสขะ (ธรรมทผ่ี ูต้ ้องปฏิบัติต่อ) ๒๙๑ สขุ ลั ลกิ านุโยคทีเ่ ปน็ ไปเพอ่ื นพิ พาน ๑๘๒ เสดจ็ ทวิ าวหิ ารท่ีปาวาลเจดยี ์ ๕๖๒ สุคตโิ ลกสวรรค์ ๓๓/๔๓/๑๑๖/๔๐๐-๔๑๐ ฯลฯ สจุ ันทะ (ปราสาท) ๑๕ เสด็จบา้ นโกฏิคาม ๕๕๙ สชุ าตา (อบุ าสิกา) ๕๖๐ เสดจ็ บ้านปาฏลคิ าม ๕๕๘ สุญญตาวหิ ารเปน็ วหิ ารธรรม- เสดจ็ บา้ นภณั ฑคาม ๕๖๕ เสดจ็ บ้านเวฬุวคาม ๕๖๑ -ทที่ รงอยมู่ ากทีส่ ุด ๓๗๕ เสด็จบา้ นหตั ถิคาม ๕๖๖ สญุ ญตาวิหารมไี ดแ้ ม้ในขณะ- เสดจ็ ปุามหาวนั ๕๖๔ เสดจ็ เมอื งกุสนิ ารา ๕๖๗ -แห่งธรรมกถา ๓๗๖ สทุ โธทนะ ๑๕/๑๗ สุทตั ตะ (อุบาสก) ๕๖๐

๖๘๒ พทุ ธประวตั ิจากพระโอษฐ์ เสด็จเมืองนาลนั ทา ๕๕๙ แสงสวา่ งอันโอฬารหาประมาณมไิ ด้ ๒๕ เสดจ็ เมืองปาวา ๕๖๗ แสดงอาํ นาจทางกายไปพรหมโลก ๙๘ เสดจ็ เมืองเวสาลี ๕๖๑ แสวงหาวา่ อะไรเป็นกุศล ๆ ๔๗ เสด็จสวนอัมพลฏั ฐิกา ๕๕๗ โสณทัณฑพราหมณ์ ๕๒๖ เสด็จหม่บู า้ นนาทิกะ ๕๕๙ โสดาบัน ๒๘๓/๓๐๔/๓๒๑/๔๓๐/๕๖๐/ เสนากุมภณั ฑ์ ๔๘๗ ๕๗๓/๕๗๔ เสนาคนธรรพ์ ๔๘๗ เสนานาค ๔๘๗ ห เสนายักษ์ ๔๘๗ หงายของทคี่ วา่ํ อยู่ ๓๐๔/๕๐๑/๕๐๕ เสนาสนะยากท่จี ะเสพได้ ๙๕ หญา้ กุสะทจี่ บั ไม่ดีแล้วดึง ๔๘๕ เสนาสนะอันสงัด ๙๕/๑๘๗/๒๙๐/๓๑๖/ฯลฯ หญ้าคางอกข้นึ จากสะดือ ๑๑๓ เสพเมถนุ ด้วยภรรยาเก่า ๒๗๑ หญิงงามในความฝ๎นเปน็ อปุ มาแหง่ อัตตา เสพเสนาสนะอนั สงัด ๒๙๐/๒๙๔/๓๕๒/๔๙๔ ๔๑๖ เสลพราหมณ์ ๒๑๖/๓๔๐/๓๔๑/๔๓๔ หนทางเก่า (ทีเ่ ดินแล้วรู้- เสวยสุขดว้ ยนามกาย ๑๐๕/๑๐๖/๑๑๕/๓๖๕/ฯลฯ -ปฏจิ จสมปุ บาท) ๑๒๒/๒๗๙ เสยี งกล่าวสรรเสริญพระโคดม ๕๐๐ หนทางเครือ่ งไปทางเดยี ว ๒๒๕ เสียงคนนอกทกี่ ล่าวถงึ พระองค์ ๔๙๗/๔๙๙ หนทางท่ีทําให้พวกเรารู้จกั - เสยี งดจุ เสยี งนกการวิก ๓๓ -พระองค์ถึงทสี่ ดุ ๒๘๑ เสียงดุจเสยี งพรหม ๓๓ หนทางที่ผปู้ ฏิบตั ิตามเห็นได้เอง- เสยี งท่ไี ด้ยินตลอดทกุ โลกธาตุ ๑๙๓ -ว่าถกู ตอ้ ง ๒๘๑ เสียงเล่าลืออันมีแก่พระโคดม ๕๓๐ หนทางและโคจรของตถาคต ๑๖๖ เสียชีพไม่เสียศีล ๓๓๐ หนทางแหง่ การตรสั รู้ ๖๘ แสงสว่างเน่ืองด้วยการจตุ ิ ๒๕ หนทางอันเกษม ฯลฯ (อุปมาท่ใี ช้กับ- แสงสว่างเนอื่ งด้วยการประสตู ิ ๓๐ -อรยิ อฎั ฐังคิกมรรค) ๒๖๙ แสงสวา่ งเนื่องดว้ ยการตรสั รู้ ๑๒๓ หนทางอนั ประเสรฐิ ประกอบด้วยองค์- แสงสว่างเนอื่ งด้วยแสดงธรรมจกั ร ๒๓๔ -แปด (ดูที่คาํ ว่า อฏั ฐังคิกมรรค- แสงสว่างและการเหน็ รูปหายไป ๗๕ -ด้วย ๑๑๘

ปทานกุ รม ๖๘๓ หนอนคลานขนึ้ มาตามเท้าถงึ เข่า ๑๑๓ หลักมหาปเทส (อย่างสุตตนั ตะ) ๕๖๖ หนงั ทอ้ งกบั กระดูกสนั หลังชดิ กนั ๖๐ หลักลัทธิเก่ยี วกับอัตตา (ระหว่างศาสนา) หน้าทีพ่ ระพทุ ธเจ้า ๕๕๕ หน้าท่รี ่วมกนั ของพระศาสดาและสาวก ๓๙๘ หลังเต็มไม่มรี ่อง ๓๒ ๓๔๘ หลายคนแปลงรูปเป็นคนเดียว ๙๘ หนา้ ทส่ี าํ หรับท่านทย่ี ังไม่คุ้นเคย- หลิททวสนะ (นคิ ม) ๒๖๕/๓๙๐ -กบั หนงั สอื เลม่ นี้ ๑ หลดุ จากกาม ๔๔ หนกู ระโดดโลดเต้นในย้งุ เปล่า ๓๗๐ หลุดพน้ เพราะพจิ ารณาอนตั ตา- หมดกจิ ควรทํา ๒๗๒ -ในเบญจขนั ธ์ ๓๒๘ หมอผ่าตดั (ไวพจนแ์ หง่ ตถาคต) ๒๐๑/ หลุมถ่านเพลิง ๖๕/๑๖๐/๒๖๒ หวงพระอรหัตตคุณ ๔๙๑ ๓๓๖/๓๔๑/๔๓๔ หว้ งนาํ้ ลกึ (อปุ มาท่ใี ชก้ ับ- หมอผทู้ าํ การผา่ ตดั ไมม่ ีหมออ่นื ย่ิงกว่า -สญั โญชน์เบอ้ื งตํ่าห้าอย่าง) ๒๖๗ ๓๓๖ หอกปาก ๓๕๕ หตั ถกเทวบุตร ๕๒๑ หมน่ื โลกธาตหุ วัน่ ไหว ๒๕ หัตถกะ อาฬวกะ ๓๗๐ หมู่คณะที่เลศิ กวา่ หมู่คณะใดในโลก ๓๑๙ หตั ถาฬวกะ (อุบาสก) ๑๕ หมู่ชนชาวกรุ ุ ๔๒ หตั ถิคาม (หมูบ่ ้าน) ๕๖๖ หยกิ ภูเขาด้วยเล็บ ๕๕๐ หัตถนิ กี ะ (ราชกมุ าร) ๒๑ หลงกาม ๔๔ หัวใจพระธรรม ๑๙๒/๒๖๑ หลงกอ้ นหนิ ว่าก้อนมนั ข้น ๕๔๙ หวั ใจแห่งพทุ ธศาสนาทเ่ี หนอื กวา่ พรหม หลักกรรมทีท่ รงทาํ ใหแ้ จง้ ดว้ ยป๎ญญา- ๓๘๕ -อนั ยิ่งเอง ๒๖๖ หัวหนา้ ในทางเชือนแช ๕๔๗ หายใจเขา้ ก็มีสติ ๙๙ หลักกรรมท่เี ป็น \"พทุ ธศาสนาแท้\" ๒๖๕ หายใจเขา้ ยาว-เข้าสั้น ๙๙ หลกั เกณฑก์ ารฝกึ ตามลําดับ ๒๘๘ หายใจออกก็มสี ติ ๙๙ หลักคิดของภกิ ษใุ นศาสนาน้ี ๔๕๙ หายใจออกยาว-ออกส้นั ๙๙ หลักที่ทรงใช้ในการพยากรณ์หรือ- -ไม่พยากรณ์ (ในกาลทงั้ สาม) ๒๐๐ หลกั ในการตรัส ๒๔๔

๖๘๔ พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ หิ่งหอ้ ย ๓๘๘/๓๘๙ เหตทุ ี่ทําใหไ้ ด้พระนามว่า- หิรัญญวดี (แมน่ ้ํา) ๕๖๙ -\"อรหนั ตสัมมาสัมพุทธะ\"- หริ ิ (เปน็ งอนไถ) ๓๘๐ -(นัยหนึ่งอีก) ๒๐๗ หริ ิพละ (ที่เป็นของตถาคต) ๑๓๗ เหง่ือไหลจากรักแร้ ๔๒๑ เหตทุ ีท่ าํ ใหท้ รงพระนามวา่ - เหตเุ กิดของโลก ๔๘๒ -\"ตถาคต\" ๒๐๐ เหตขุ องความเจริญ ๔๖๕ เหตุทท่ี ําใหแ้ ผน่ ดินไหว ๕๖๒/๕๗๕ เหตตุ อ้ งท่องเทย่ี ว ๕๘๒ เหตทุ ไี่ ด้ชือ่ ว่า 'สากยะ' ๒๒ เหตทุ ท่ี าํ ให้พระองค์ไม่บัญญัติ- เหตทุ ีท่ ําให้เกิดกระทําอุโบสถกรรม -อันตคาหิกทฎิ ฐิ ๒๙๘ ๓๕๑ เหตทุ ี่ไม่ทรงบัญญัตวิ า่ - เหตทุ ี่ทาํ ใหเ้ กิดการแสดงปาติโมกข์ ๓๕๑ -อัตตามหี รอื ไม่มี ๓๙๘ เหตทุ ท่ี ําใหเ้ กดิ ความเข้าใจผดิ - เหตทุ ไ่ี ม่ทรงพยากรณ์- -ว่ามีผู้สร้างผ้เู นรมิต ๔๘๒ -อันตคาหิกทิฏฐิ ๒๙๙ เหตุทท่ี ําใหเ้ ดียรถยี ์อ่ืนบัญญัติ- เหตทุ ่ไี ม่ทรงพยากรณ์- -อันตคาหกิ ทิฏฐิ ๒๙๙ เหตุทท่ี ําใหไ้ ด้ชื่อว่าเปน็ พระอรหนั ต์ ๓๒๙ อนั ตคาหกิ ทฏิ ฐิ (อกี นยั หน่งึ ) ๓๐๑ เหตทุ ีท่ าํ ให้ได้พระนามว่า- เหตเุ ป็นทบ่ี ังเกิดแหง่ กาม ท.๔๒ เหตุผลทรงทรงสรรเสริญหรือ- -\"โยคักเขมี\" ๒๐๙ เหตุที่ทาํ ใหไ้ ด้พระนามว่า- -ไมส่ รรเสรญิ ภิกษุบางรูป ๓๒๔ เหตผุ ลที่ทาํ ให้ทรงบัญญัตริ ะบบวินัย ๒๕๙ -\"อนุตตรปรุ สิ ทมั มสารถิ\" ๒๐๘ เหตุแห่งความยากลาํ บาก- เหตุที่ทาํ ใหไ้ ด้พระนามว่า- -ในการเข้าถงึ ลัทธิอ่ืน ๔๔๒ -\"อรหนั ตสมั มาสัมพทุ ธะ\" ๒๐๕ เห็นแจง้ กระทําให้เป็นจักษุ ๑๘๐/๑๘๑ เหตทุ ท่ี ําให้ได้พระนามว่า- -\"อรหนั ตสมั มาสมั พทุ ธะ\"- เห็นธรรมคือเหน็ พระพุทธเจ้า ๓๑๔/๓๑๕ -(อกี นัยหน่ึง) ๒๐๖ เห็นรปู แต่จําแสงสว่างไม่ได้ ๗๘ เหน็ ภยั ในโทษแม้เลก็ น้อย ๒๘๘/๒๙๓ เห็นอย่างดีด้วยป๎ญญา ๗๐ เหมาะแกก่ ารลับของมนุษย์ ๔๘๘ เหลา่ สัตว์ถกู ตัณหาในกามเคยี้ วกิน ๔๓ เหลย่ี มคูของราชสีห์ ๒๕๗

ปทานกุ รม ๖๘๕ เหลยี วทัง้ กาย ๕๓๐ อดทนเหมือนสัตวส์ ําหรบั ออกศึก- เหวโกรกขัน( (อุปมาที่ใช้กับ- -ทีฝ่ กึ ดีแล้ว ๕๒๒ -ความโกรธคับแค้นใจ) ๒๗๑ อดทนเหมือนสหี ะ ๕๒๒ แหง้ รอ้ นแล้วแต่ผู้เดียวในปาุ ๕๙ อดอาหารโดยประการทัง้ ปวง ๖๖ แหลง่ ซือ้ ขายโคของพวกมลิ กั ขะ ๔๖๙ อตัปปา (สุทธาวาส) ๓๘๓ ให้ทานเพ่อื ทาํ ใจทีพ่ รอ่ งใหเ้ ต็ม ๕๙๒ อตมั มโย ๓๙๖ อตลิ นี วริ ยิ ะ (เพียรหยอ่ น) ๗๗/๗๘ อทุกขมสุข (ฌานที่ ๔) ๑๐๖/๑๐๗ อ อธิกุศลธรรม ๓๓/๓๘/๕๘๔/๕๘๖ อกนิฏฐา (สุทธาวาส) ๓๘๓ อธิจจสมุปป๎นนิกวาท-เกดิ เองลอย ๆ ๑๗๗ อกติ ติดาบส ๖๐๓ อธิเชคจุ ฉะ (คืออธิจติ ) ๑๖๓ องคชาตตง้ั อยใู่ นฝก๎ ๓๒ อธิเทวญาณทัศนะ ๙๓ องคชาตแห่งมาตุคาม ๒๖๒ อธปิ ๎ญญา ๑๖๓/๑๔๐/๓๔๙ องค์อวัยวะของพระราชา ๒๙๒ อธิมุติ (คือฉันทะและอัธยาศัย) ๑๓๖ องคุลิมาลโจร ๕๔๔ อธิมุตติบท ๑๔๐ อจิรวตี (แมน่ าํ้ ) ๓๓๕ อธิวิมตุ ติ ๑๖๓ อจีรวตะ (สามเณร) ๒๙๑ อธศิ ลี ๑๖๓/๓๔๙ อเจละ (นักบวชเปลอื ย) ๔๙๐/๔๙๑ อธษิ ฐานความเพยี ร ๑๑๒ อเจลกัสสปะ ๑๔๘/๑๖๒/๒๕๐/๒๘๑/๓๐๓/ อนภชิ ฌา ๔๒๓ อนยะ (ความทกุ ข์นานาแบบ) ๓๗๒ ๓๘๙/๓๙๙/๔๐๓/๕๐๗/๕๐๙ อนตั ตลักขณสูตร ๒๓๑ อชปาลนิโครธ ๒๑๙/๕๔๘ อนัตตานปุ ๎สสนาไมเ่ ป็นเหตแุ ห่ง- อญาณทัสสนะนานาอยา่ ง- -อนั ตคาหิกทฏิ ฐิ ๓๐๐ -(ของเดียรถยี ์อนื่ ) ๓๙๘ อนัตตาในเบญจขนั ธ์ ๓๒๘ อดทนเหมอื นโคจา่ ฝูง ๕๒๒ อนาถปิณฑกิ คหบดี ๔๘๖/๔๘๗/๖๐๕ อดทนเหมือนโคลากเข็น ๕๒๒ อนาถปิณฑิกเทพบุตร ๔๘๖ อดทนเหมือนช้าง ๕๒๒ อนาวฏญาณทสั สนะ ๕๓๐ อดทนเหมือนมา้ อาชาไนย ๕๒๒

๖๘๖ พทุ ธประวตั ิจากพระโอษฐ์ อนิมิตตเจโตสมาธิดับเวทนาบางพวก ๓๕๙ อภยราชกมุ าร ๒๔๔/๓๐๕ อนุตตรธรรมจกั ร ๒๓๓-๔/๓๔๑/๕๗๗-๘ อภยปู รัต ไม่ดหู ม่นิ ใคร ๆ ในทกุ รูปแบบ- อนุตตรวิมุตติทําให้แจง้ ได้ดว้ ย- -(ทง้ั ดแี ละช่ัว) ๑๖๕ -ความแยบคาย ๒ อยา่ ง ๓๓๔ อภิชฌา๖๙/๒๒๕/๒๗๔/๒๘๙/๒๙๐/ อนตุ ตรสัมมาสัมโพธิญาณ ๗๐/๗๑/๘๓/๙๔/ ๒๙๕/๓๑๑/๓๑๔/๓๕๐/๓๕๘/๔๖๙ฯลฯ ๙๕/๑๒๐/๑๒๓/๑๒๔/๑๕๖/๑๗๒/๒๐๒/ อภชิ ฌาและโทมนัสในโลก ๒๙๕/๓๕๐ ๒๐๓-๔/๒๘๕/๕๖๘/๕๖๙/๕๗๗/๕๗๘ อภิชัปปา (กระสนั อยาก) ๗๗/๗๘ อนุปาทเิ สสนิพพาน ๒๘๕/๕๖๘/๕๖๙/ อภิญญา ๓๔๔ ๕๗๕/๕๗๗/๕๗๘ อภิญญาเทสิตธรรม ๕๖๔ อนปุ ุพพวิหารสมาบัติ ๑๐๓/๒๐๒/๓๔๓/ อภญิ ญาโวสานบารมี ๑๓๗/๓๕๐ ๓๔๔ อภสิ มั พทุ ธะ ๒๐๒/๒๐๓/๒๐๔ อนรุ ุทธะ (ภิกษุ) ๗๕/๗๘/๗๙/๓๐๔ อภสิ ัมพุทธะเพราะทรงคล่องแคลว่ - อนุศาสนีปาฏหิ าริย์ ๑๙๗/๑๙๘/๓๓๘/๓๓๙ -ในอนปุ ุพพวิหารสมาบตั ิ ๒๐๒ อนุสาสนที เี่ ปน็ ไปมากในสาวกทงั้ หลาย ๒๘๗ อภสิ มั พุทธะเพราะทรงทราบการพน้ - อนสุ ฺสวกิ า (เปน็ ศาสดาเพราะ- -จากเมถนุ สัญโญค ๒๐๔ -ฟ๎งตาม ๆ กันมา) ๒๑๑ อภสิ มั พทุ ธะเพราะทรงทราบ- อเนกังสิกธรรม (ธรรมท่ไี มค่ วรแสดง- -ธาตุ ๔ โดยฐานะ ๓. ๒๐๕ -บัญญัติโดยสว่ นเดยี ว : อนั ตคา- อภสิ มั พทุ ธะเพราะทรงทราบ- -หกิ ทิฏฐิ) ๒๕๕ -ป๎ญจปุ าทานขนั ธโ์ ดยฐานะ ๓ ๒๐๔ อบรมกายมีอํานาจเหนอื สขุ - อภสิ มั พุทธะเพราะทรงทราบ- -อบรมจิตมีอํานาจเหนือทกุ ข์ ๑๕๘ -ป๎ญจุปาทานขนั ธ์โดยปริวฏั ฏส์ ี่ ๒๐๓ อบายทคุ ตวิ นิ บิ าตนรก ๒๖๒/๓๙๙/๔๐๔/ อภิสมั พทุ ธะเพราะทรงทราบ- ๔๐๕/๔๐๗-๔๐๘/๔๐๙/๔๑๐/๔๑๑/๔๔๗ -โลกโดยฐานะ ๓. ๒๐๔ อปรปริยายะ (เวลาตอ่ อีก) ๑๗๒/๔๐๙-๑๐-๑๑ อภสิ มั พทุ ธะเพราะทรงทราบ- อปรปูรวนสณั ฑ์ ๖๗ -วา่ มญี าณทสั สนะทเ่ี ปน็ ไปทบั ซึ่ง- อปรหิ านิยธรรม ๔๗๙/๕๕๖/๕๕๗ -เทวดามีปรวิ ฎั ฎ์แปด ๒๐๕ อปฺปคพฺโภ ๔๔๙ อภิสัมพุทธะเพราะทรงทราบอริยสัจจ์- อพยาบาท ๔๒๓ -สิ้นเชิง ๒๐๔

ปทานกุ รม ๖๘๗ อภสิ มั พุทธะเพราะทรงทราบอายตนะ- อรหนั ตสัมมาสัมพทุ ธะมีได้เพราะ- -ภายนอก ๖ โดยฐานะ ๓. ๒๐๕ -ทราบอริยสัจจ์ ๒๐๕ อรหันตสาวกนบั ร้อยเป็นอเนก ๑๕๐ อภิสมั พทุ ธะเพราะทรงทราบอายตนะ- อริยเจา้ กล่าวโดยความเป็นทกุ ข์ ๑๕๕ -ภายใน ๖ โดยฐานะ ๓. ๒๐๕ อรยิ ญายธรรม ๑๕๕/๒๑๓/๒๑๔/๕๑๙ อริยมรรค ๑๖๗ ฯลฯ อภสิ มั พุทธะเพราะทรงทราบอนิ ทรีย์- -(อายตนะภายใน) โดยฐานะ ๕. อรยิ วิหาร ๓๕๙ อรยิ สจั จ์ ๒๐๔/๔๒๗/๕๘๒ ฯลฯ ๒๐๕ อริยสัจจก์ ําหนดท่ีกเิ ลสวฎั ( : สมทุ ัยสัจจ์) อภสิ ัมพุทธะเพราะทรงทราบอินทรีย์ ๕- ๑๑๗/๑๔๗/๒๘๔ อริยสจั จ์กาํ หนดท่ีวปิ ากวัฏ ( : ทกุ ขสัจจ)์ -โดยฐานะ ๕. ๒๐๔ ๑๑๗/๑๔๗/๒๘๔ อมตะ (คือความไม่ตาย) ๓๘๑ อรยิ สจั จ์วา่ ดว้ ยความทกุ ข์ ๔๒๗ อมนสิการ ๗๖/๗๗/๗๘ อมนุษย์ ๒๖/๓๓๙/๕๒๘ อรยิ สัจจ์วา่ ด้วยเหตใุ ห้เกิดทุกข์ ๔๒๘ อมราวิกเขปกิ วาท-พดู ไม่ใหต้ ายตวั ๑๗๗ อรยิ สัจว่าดว้ ยความดับสนทิ ของความทกุ ข์ อมติ รผู้ทําอันตราย ๔๓๖ ๔๒๘ \"อยากมีพระพทุ ธเจา้ อย่างน้สี ัก ๔ องค์\" อรยิ สจั จว์ า่ ด้วยข้อปฏิบัติใหถ้ งึ ความ- ๕๒๕ -ดับสนทิ ของความทุกข์ ๔๒๙ อยา่ วิวาทกันเพราะธรรม ๓๓๓ อริยสจั จ์อธิบายด้วยปฏิจจสมุปบาท ๔๒๗ อยู่หลีกเรน้ ตลอดเวลาก่ึงเดือน ๓๘๑ อรหัตตผลชว่ั เวลา ๗ วนั ๒๗๔ อริยอัฏฐงั คกิ มรรค ๑๒๑ อรหันตคุณลักษณะ ๒๗๒/๒๘๒/๒๙๑/ อรปู พรหมท่ี ๓ (ผลแห่งอากิญจัญญายตนะ) ๓๒๐/๓๒๙/๓๔๘/๓๖๐ ๕๓ อรปู พรหมที่ ๔ (ผลแหง่ เนวสัญญานา- อรหันตสมั มาสัมพุทธะ ๑๕๔/ฯลฯ อรหนั ตสมั มาสัมพุทธะมีไดเ้ พราะทรง- -สัญญายตนะ) ๕๕ อลมรยิ ญาณทสั สนวิเศษ ๖๗/๖๘/๒๓๐ -เจริญทาํ ใหม้ ากซึง่ อทิ ธิบาท ๒๐๗ อวิชชา (ในปฏิจจสมุปบาท) ๘๗/๘๘/๔๒๘ อรหนั ตสัมมาสัมพทุ ธะมีไดเ้ พราะทรง- อวชิ ชาเป็นดจุ เปลือกฟองไข่ ๑๓๔ -หลดุ พ้นจากเบญจขนั ธ์ ๒๐๖

๖๘๘ พทุ ธประวตั ิจากพระโอษฐ์ อวิชชาสวะ ๑๑๗/๓๑๘/๕๕๗ อปั ปนาสมาธปิ ระกอบด้วยเมตตา ๑๘๘ อวติ กธรรม (ฌานที่ ๒) ๑๐๔ อัปปมัญญาของเดียรถยี ์อน่ื ๓๙๐ อวหิ า (สวรรคช์ นั้ สทุ ธาวาส) ๓๘๓ อัปปมัญญาทัว่ ไปต่างจากอปั ปมัญญา- อวิหิงสาวติ ก ๗๑/๗๓/๗๔ อสญั ญีวาท-ไม่มสี ัญญา ๑๒๒/๑๗๘ -เจโตวิมตุ ติ ๓๙๐ อสัทธรรม ๒๖๒ อปั ปมัญญาธรรมท่ีสงู กวา่ เดียรถยี ์อน่ื ๓๙๐ อสิพนั ธกปุตตะ (นายบ้าน) ๓๖๕/๔๓๗ อปั ป๎ญญัตตโิ ก (ผ้ไู ม่มีบัญญัติ) ๕๑๑ อสรู ๓๔/๓๕/๓๘/๓๙/๔๐ อหงั การมมังการมานานุสัย ๓๐๓ อพั ยาปาทวิตก ๗๑/๗๓/๗๔ ออกบวชจะปรารถนากามก็หามิได้ ๒๓ อมั พคาม (หมู่บ้าน) ๕๖๖ อัคคิเวสะโคตร ๒๙๑ อมั พปาลหี ญงิ คณิกาผู้ชนะการชิงนมิ นต์ อคั รสาวกคู่เลิศ ๑๗ อังคะ (แควน้ ) ๓๓๖ ๕๖๑ อมั พลฏั ฐกิ า (สวนปาุ ) ๑๗๕/๔๕๑/๕๕๗/ อังครี สะพุทธะ ๔๘๙ อังคตุ ตราปะ (แควน้ ) ๑๓๗/๒๑๖/๓๒๖/ ๕๗๕/๕๙๔ อัมพฏั ฐะมาณพ ๒๑ ๓๔๐ อัจจารทั ธวิริยะ (เพยี รจดั ) ๗๗/๗๘ อศั จรรย์อย่างของพวกเรา- อจั ฉริยมนษุ ย์ ๑๕๓ -อัศจรรยอ์ ย่างของพระพุทธเจ้า อัญญาณและสัมโมหะของนิครนถ์ ๔๗๕ ๑๕๒ อดั เพดานปากดว้ ยลิ้น ๖๓ อตั ตกิลมถานโุ ยค ๕๖/๒๔๗ อัสสตั ถะ (ต้นไม้) ๑๕/๑๖ อัสสตั โถ (ขอ้ กล่าวหาพระองค์วา่ ทํา- อัตตานปุ ส๎ สนาเป็นเหตุแหง่ อันตคาหิกทิฏฐิ ๓๐๐ -อะไรอยา่ งใจเบาชยุ่ ๆ) ๔๕๐ อาการมาตรวา่ ทอ่ งดว้ ยปาก ๕๒/๕๔ อัตถกามเทพ ๕๒๐ อาการแหง่ การตรสั รู้ ๑๑๕ อตั ถวาที (คือตถาคต) ๒๐๑/๒๘๑ อันตานันตกิ วาท ๑๗๖ อากาสนัญจายตนะ ๑๐๗/๑๐๘ อากาสานญั จายตนะ (ในฐานะทศิ ที่ ๔- -ของบรุ ษุ ทฝ่ี กึ แลว้ ) ๒๐๙ อากญิ จัญญายตนะ ๕๒/๑๐๒/๑๐๙/ ๑๑๐/๑๑๑/๓๔๓/๓๙๕ อากิญจัญญายตนะ (ในฐานะท่ี ๖- -ของบุรษุ ทีฝ่ ึกแล้ว) ๒๐๙

ปทานุกรม ๖๘๙ อากญิ จัญญายตนภพ ๕๓ อาเนญชะ ๒๙๑/๒๙๒ อาจารย์ (พระสมณโคดม) ๕๒๗ อาปณนิคม ๑๓๗/๒๑๖/๓๒๖/๓๓๖/๓๔๐/ อาชีวะบริสทุ ธิ์ ๑๕๑/๔๙๔ ๔๓๔ อาชวี ะไม่บริสุทธ์ิ ๙๖ อาภัสสรพรหม ๔๔๓/๕๘๗ อาฏานาฏิยรักขมนต์ ๔๘๘/๔๘๙ อามิสทายาท ๓๓๑/๓๓๒/๓๓๖/๓๔๓ อาตุมา (เมือง) ๓๘๖ อายตนะภายในและเบญจขนั ธเ์ ป็นท่ตี งั้ - อาทติ ย์ (เปรยี บหิง่ หอ้ ย) ๓๘๙ -แห่งการบญั ญตั ิอันตคาหิกทิฏฐิ ๒๙๙ อาทิตยโ์ ดยโคตร ๒๓ อายุขัยแหง่ สัตวใ์ นยคุ นี้ ๑๖ อาเทสนาปาฏหิ ารยิ ์ ๑๙๗/๑๙๘/๓๓๘/๓๓๙ อายุขยั แหง่ สัตว์ในยุคเมตเตยยะ ๓๒๓ อานนท์ ๗/๑๕/๑๗/๒๓-๔-๕-๖-๗-๘-๙/ อายุไดส้ ามสิบหยอ่ นหน่ึงโดยวัย ๔๗ ๓๐-๑/๔๐/๑๐๓-๔-๕-๖-๗-๘-๙-๑๐-๑๑-๑๒/ อายุสังขาร ๕๖๒/๕๖๓/๕๖๔/๕๗๖ ๑๒๔/๑๔๐/๑๕๒-๓/๑๙๓-๔/๒๐๒/๒๒๐/ อารามของปริพพาชก ๑๔๔/๔๖๗ ๒๓๔/๓๕๒-๓/๓๕๘/๓๗๕-๖-๗/๓๘๘-๙/ อาวรณยิ ธรรม ๒๘๙/๒๙๔ ๓๙๗-๘-๙/๔๐๔-๕-๖-๗-๘-๙-๑๐-๑๑/๔๒๒/ อาสนะทิพย์ ๓๗๓ ๔๖๕-๖-๗-๘-๙/๔๘๗/๕๕๔/๕๕๖-๗-๘-๙/ อาสนะพรหม ๓๗๔ ๕๖๐-๑-๒-๓-๔-๕-๖-๗-๘-๙/๕๗๐-๑-๒-๓-๔-๕/ อาสนะอริยะ ๓๗๕ ๕๗๗-๘/๕๘๘-๙/๕๙๐-๑-๒-๓/๕๙๖-๗-๘ อาสภิวาจา ๒๙ อานาปานสตสิ มาธิ ๙๙/๑๐๑-๒/๓๕๙-๖๐ อาสวฐานิยธรรม ๒๕๘/๒๕๙/๓๗๖ อานาปาสติเปน็ ทางสิน้ อาสวะ- อาสวะ ๑๑๗/ฯลฯ -ของพระเสขะ ๓๕๙-๖๐ อาสวะที่ทาํ ให้เปน็ คนธรรพ์ ๑๔ อานาปานสตเิ ป็นสขุ ในทิฏฐธรรม- อาสวะที่ทาํ ใหเ้ ป็นเทวดา ๑๔ -ของพระอเสขะ ๓๖๐ อาสวะทท่ี ําใหเ้ ปน็ มนุษย์ ๑๔ อานาปานสตสิ มาธคิ อื อริยวิหาร- อาสวะท่ีทําใหเ้ ป็นยกั ษ์ ๑๔ -พรหมวิหาร-ตถาคตวิหาร ๓๕๙ อาสวักขยญาณ ๑๑๗/๑๓๔/๑๖๒/ อานาปานสตสิ มาธิภาวนา ๙๙ ๓๑๗/๓๑๘/๓๔๔/๔๙๕ อานาปานสตสิ มาธภิ าวนา ๑๖ ขน้ั ๓๕๙ อาสีติกบรรพ (เถาวลั ย์) ๖๐/๖๖ อานิสงสใ์ นการหลีกออกจากกาม ๑๐๓ อาหารที่เกดิ ข้ึนเพราะคําขับ ๓๖๑ อานภุ าพของอทิ ธิบาท ๕๖๒

๖๙๐ พุทธประวตั จิ ากพระโอษฐ์ อาหารบริสุทธิ์แมท้ เ่ี ก่ียวกับ- อินทรียค์ ือวริ ิยะสมบูรณ์เม่อื มี- -การฆา่ สตั ว์ ๓๖๐ -สทั ธาบากบัน่ ในกศุ ลธรรม ท. ๓๓๗ อาหารเพยี งโกสะหน่งึ ๓๔๖/๓๔๗ อินทรีย์คือสตสิ มบรู ณเ์ มื่อมีสตเิ ครอ่ื งรกั ษา- อาหารวันหนง่ึ เทา่ เยอ่ื ถ่ัวพู ๖๖ -และสติเครอ่ื งตามระลึก ๓๓๗ อาหารวันหนึง่ หนเดยี ว ๓๖๒/๕๔๔ อินทรีย์คือสมาธสิ มบรู ณ์เมอ่ื มี- อาหารหยาบ ๖๗/๖๘/๖๙/๑๑๕/๑๖๑ -โวสสัคคารมณ์และเอกัคคตาจิต ๓๓๗ อาหารอนั สมควรหาโทษมไิ ด้ ๓๖๑ อนิ ทรยี ์คอื สทั ธาสมบูรณ์ได้หลงั จาก- อาหุเนยบุคคล ๒๘๖ -ถูกต้องธรรมด้วยนามกาย ๓๓๘ อาฬารดาบส ๕๑/๕๓/๑๕๘/๒๒๖/๓๘๖ อริ ิยา (เครอื่ งออกไปจากกเิ ลส) ๖๗/๒๓๐ อาํ นาจการบําเพญ็ ตบะกรรม ๖๐๓ อิสิคลิ ิ (ภูเขา) ๔๗๑ อาํ นาจพระเจา้ โกศล ๒๒ อสิ ิทันตะ (ช่างไม)้ ๕๔๖ อาํ นาจแห่งพระเวสสนั ดร ๖๐๙ อิสปิ ตนมฤคทายวัน ๑๕/๑๑๗/๑๘๑/๒๒๗/ อิจฉานังคละ (เมอื ง) ๓๕๙ ๒๒๙/๒๓๓/๒๔๓/๒๔๗/๓๓๔/๔๖๙/๖๐๐ อิจฉานงั คละ (สวนปุา) ๒๑/๓๕๓/๓๕๙ อกุ กเวลา (เมอื ง) ๑๓/๑๗๔ อิทธิบาท๘๑-๒/๙๗/๑๘๙/๑๙๐-๑-๒-๓/๒๐๗ ฯลฯ อกุ กัฏฐนคร ๑๕๕/๓๘๓ อิทธบิ าทเพอื่ อยู่ได้ถงึ กัปป์ ๑๙๓ อกุ กามุข (ราชกมุ าร) ๒๑ อิทธิบาทอนั ประกอบดว้ ยธรรม- อุกกากราช (พระราชา) ๒๑ -เคร่ืองปรุงแตง่ ๑๙๑ อุจจากเณรุกา (ตระกูลชา้ งพัง) ๓๑๖ อิทธปิ าฏิหาริย์ ๑๕๒/๑๙๔-๕/๑๙๗/๓๓๘/๔๙๒ อุจจากฬารกิ า (ตระกูลช้างพัง) ๓๑๕ อิทธปิ าฏิหารยิ ์ที่ยงิ่ กว่าธรรมดา- อจุ เฉทวาท-ตายแลว้ สูญ ๑๗๙ -แหง่ มนุษย์ ๑๙๔/๑๙๕ อชุ ชยพราหมณ์ ๔๐๐ อทิ ธิวิธี ๙๘/๑๙๐/๑๙๗/๓๓๘/๓๔๔ อชุ ญุ ญา (เมือง) ๑๔๘/๑๖๒/๒๘๑/๓๐๓/ อทิ ธวิ ิธีมีอยา่ งต่าง ๆ ๙๘/๑๙๐/๑๙๗/๓๓๘ ๓๙๙/๕๐๗/๕๐๙ อิทัปปจ๎ จยตา ๔๖๓/๕๑๒ อณุ าโลมหวา่ งคว้ิ ขาวออ่ น ๓๓/๓๘ อนิ ทรยี ภาวนา ๓๓๖ อุตตรนิคม ๔๔๔ อนิ ทรีย์คอื ป๎ญญาสมบรู ณ์เมอื่ รู้แจง้ อตุ ตรมาณพ ๕๐๐/๕๓๐ -สงั สารวัฏฏแ์ ละนิพพาน ๓๓๗ อุตตรา (อัครอปุ ๎ฏฐายิกา) ๑๕

ปทานุกรม ๖๙๑ อตุ ตริมนุสสธรรม ๔๙๒ อุบาสกอนาคามีผู้มชี อื่ เสียงแหง่ - อุทกดาบส ๕๓/๑๕๘/๒๒๖ -นาทกิ ะคาม ๕๖๐ อทุ ธจั จะกุกกุจจะ ๒๙๐/๒๙๕ อบุ าสกิ าสกทาคามี-โสดาบัน ๓๒๓ อทุ าน ๓๗๙ อบุ าสกิ าโสดาบันผู้มชี ื่อเสียงแหง่ - อุทานของผู้เลือ่ มใส (นโม ตสฺส ฯลฯ) -นาทิกะคาม ๕๖๐ ๕๑๖/๕๑๘ อุบาสิกาอนาคามี ๓๒๒ อทุ ายิ (ภกิ ษุ) ๑๓๗-๘-๙/๓๒๖/๓๔๖ ฯลฯ อเุ บกขาเจโตวิมุตติ (ในพทุ ธศาสนา) ๓๙๔ อุทุมพริกาปรพิ พาชการาม ๒๗๓/๔๐๑ อุเบกขาเจโตวมิ ุตติมอี ากิญจญั ญายตนะ- อเุ ทนเจดีย์ ๔๙๐ -เปน็ อย่างยง่ิ ๓๙๕ อุบล (บวั เขียว) ๔๐ อุปกาชีวก ๒๒๗ อบุ ลวัณณา (อัครสาวิกา) ๑๕ อปุ กเิ ลสแหง่ จิต ๗๘/๗๙ อุบายเคร่ืองออกจากกาม ท. ๔๒ อุปติสสะ (อัครสาวก(พระสารีบตุ ร)) ๑๕ อบุ ายเครื่องออกจากโลก ๖๙/๗๐ อปุ มาดว้ ยการตามรอยช้าง ๓๑๘ อุบายเครื่องออกไปพน้ จากรูป ๘๒/๘๕ อปุ มาที่น่าอัศจรรยเ์ ปรียบด้วยเต่าตาบอด อุบายเครอื่ งออกไปพน้ จากทุกข์ ๘๖/๘๙ ๔๖๑ อบุ ายเคร่อื งออกไปพ้นจากเวทนา ๘๒/๘๔ อุปมาสามข้อ ๖๑ อุบายทคี่ วรทํา (สําหรบั กษตั รยิ ์ผปู้ กครอง) อปุ วาณะ (ภกิ ษ)ุ ๕๗๐ ๕๙๕ อุปะป๎ชชะ (เวลาตอ่ มา) ๑๗๒/๔๐๙ อุบาลีคหบดี ๕๓๕ อปุ ๎กกมะและปธานะ (ของนิครนถ์) ๔๗๕-๖-๗-๙ อบุ าสก ๕๑๐ คน เปน็ โสดาบนั ๕๖๐ อปุ ๎ฎฐากผใู้ กล้ชดิ ๑๕/๑๗ อุบาสก ๕๐ กว่าคน เปน็ โอปปาตกิ ะ ๕๖๐ อุปฎ๎ ฐากอันเลิศ ๑๗/๕๘๘ อุบาสก ๙๖ คน เปน็ สกทาคามี ๕๖๐ อุปฎ๎ ฐานศาลา ๕๕๖ อุบาสกสกทาคามีผู้มีช่ือเสยี งแหง่ - อุป๎ททวะสําหรับอาจารย์ ๓๕๒/๓๕๓ -นาทกิ ะคาม ๕๖๐ อุปาทาน (ในปฏิจจสมปุ บาท) ๘๖/ ๘๘/๙๐/๙๑/๔๒๘ อบุ าสกสกทาคามี-โสดาบนั ๓๒๒ อุพพิละ (ตนื่ เต้น) ๗๖/๗๗/๗๘ อบุ าสกอนาคามี ๓๒๒ อุรุเวลกปั ปนคิ ม ๑๐๓

๖๙๒ พุทธประวตั ิจากพระโอษฐ์ อุรเุ วลา ๕๕/๒๑๗/๒๑๙/๒๒๐/๒๒๕/ เอสกุ ารพี ราหมณ์ ๓๑๐ ๒๒๗/๒๔๔ เอาอกกระแทกตอ ๕๕๐ แอก ๓๙๐/๕๓๐ เอกบุณฑรกิ (อาราม) ๒๑๑ โอกาส (คือทีโ่ ปรง่ โลง่ ) อนั ย่ิง ๒๙๒ เอกํสวาที ๒๕๓/๕๑๐ โอกาสประพฤติใหบ้ ริสุทธบิ์ รบิ รู ณ์ ๑๑ เอกงั สวาทีในการถอื วา่ ควรตหิ รือ- โอกาสวา่ ง ๑๑/๔๖/๔๙๓ -สรรเสรญิ โดยสว่ นเดียว ๕๑๐ โอชาอันเป็นทิพย์ ๖๖ โอฏฐัทธลิจฉวี ๔๙๒ เอกงั สิกธรรม ๒๕๕/๕๑๑ โอตตัปปพละ (ท่เี ปน็ ของตถาคต) ๑๓๗ เอกังสกิ ธรรม (ของเดียรถยี อ์ ่ืน)- โอภาสนมิ ิต ๗๘ โอรสเกิดจากปากของพระผมู้ พี ระภาค ๒๐๑ -เปน็ อเนกังสิกธรรมต่อพุทธ ๕๑๒ โอวาทของพระโคดมเป็นยอด ๕๐๔ เอกังสกิ ธรรม (ของเดียรถีย์อืน่ : อันต- -คาหกิ ทฏิ ฐสิ ิบ ) ๕๑๑ เอกังสกิ ธรรม (ธรรมที่ควรแสดงบัญญัติ- -โดยส่วนเดยี ว : อรยิ สจั จส์ ี)่ ๒๕๖ เอกจั จสัสสตวาท-เท่ียงบางอย่าง ๑๗๖

ลาดับหมวดธรรม ในหนงั สอื พทุ ธประวัตจิ ากพระโอษฐ์ (เรยี งลาดบั จากน้อยไปหามากและตามตามลาดบั อักษรไทย) (จานวน ๓๗๒ หมวด) ๑ ความไมป่ ระมาทเปน็ เหตุให้ถงึ ทบั ซ่ึง- นันทิ (ทกุ ชนดิ ) เปน็ มูลแหง่ ความทุกข์- -ธรรม สอง ๓๓๓ -(ในความหมายพเิ ศษ) หน่ึง ๑๕๖ ฉววี รรณผดุ ผ่องในกาล สอง ๕๖๘ ผลแหง่ ความทุกข์ (โวหารพิเศษ)- ญาณ (ทีท่ ําให้สามารถประกาศ- -คือ นนั ทิ หนึ่ง ๑๕๖ -พรหมจักร) มีหมวด สอง ๑๔๒ ไวพจน์ของมูลเหตุแหง่ ความทกุ ข์- ฐานะทไ่ี มอ่ าจจะมีได้ของพระองค์- -(โวหารพิเเศษ) ไดแ้ ก่ธรรม- -( : นนั ทิ) หนงึ่ ๑๕๖ -(เกี่ยวกบั เวทนา) สอง ๑๕๘ ฐานะอนั จะพงึ กระทาํ ตอ่ กันระหว่าง- สิ่งทไ่ี ม่เคยทรงฟง๎ มาแต่ก่อน (ในกรณี- -แห่งปฏจิ จฯ นโิ รธวาร) หนึ่ง ๘๙/ -ศาสดากบั สาวก สอง ๓๒๗ ๙๓ ทรงพยากรณ์หรือไม่พยากรณข์ ้นึ อยูก่ บั - สง่ิ ท่ไี มเ่ คยทรงฟง๎ มาแต่กอ่ น (ในกรณี- -คา่ แหง่ ธรรม สอง ๒๐๐ -แห่งปฏิจจฯ สมุทยวาร) หนึ่ง ๘๗/ ท่อนํา้ จากอากาศ สอง ๒๙ ๙๑ ทฏิ ฐนิ สิ สยั มีประเภท สอง ๒๗๔ ทายาท สอง ๓๓๑ ๒ โทษของความมที ิฏฐิ (วา่ \"โลกเทย่ี ง\"- กฎอทิ ัปปจ๎ จยตา มีวาระ (: สมุทยวาร- -เปน็ ต้น) เป็นไปโดยปริยาย สอง -และนโิ รธวาร) สอง ๑๔๓ ๓๐๒ ความปรวิ ิตกกอ่ นตรัสรู้ (ปรารภสตั วโ์ ลก- ธรรมของมหาบรุ ษุ สอง ๑๑๒/๓๓๒ -และการออกจากทุกข์) สอง ๘๖/๘๙ ธรรมเปน็ ท่ีตัง้ แหง่ การบัญญัติ- -อันตคาหิกทฎิ ฐิ มหี มวด สอง ๒๙๙-๓๐๐ ๖๙๓

๖๙๔ พุทธประวตั จิ ากพระโอษฐ์ บ่วงทีส่ ัตวต์ อ้ งพ้น มีชนิด สอง ๒๔๓/๓๓๕ อนุตตรวมิ ุตตทิ ําให้แจง้ ไดด้ ้วยความ- บณิ ฑบาตที่มีผลมาก สอง ๕๖๙ -แยบคาย มอี ยา่ ง สอง ๓๓๔ ปฏญิ ญาตําแหน่งจอมโลกด้วยญาณ- อคั รสาวก สอง ๑๕ -(: พลญาณและเวสารัชชญาณ)- อคั รสาวกิ า สอง ๑๕ -สอง ๑๔๒ อคั รอุปฎ๎ ฐาก สอง ๑๕ ประโยชน์แห่งการเสพเสนาสนะปาุ สอง อคั รอุปฏ๎ ฐายกิ า สอง ๑๕ ๓๕๕ ภกิ ษุทาํ กาละ มปี ระเภท สอง ๒๙๖ พรหมจกั รประกอบด้วยหมวดธรรม- ๓ -(: เบญจขนั ธ์และอิทัปปจ๎ จยตา)- กรรมวิบากท่ีทาํ ใหท้ รงมฤี ทธ์ิมาก สาม สอง ๑๔๒ ๕๘๗ พระอเสขะอาศัยอานาปานสติสมาธิ- การทาํ ลาย \"เปลือกฟองไข\"่ สาม ๑๓๔ -เพอ่ื ประโยชน์ สอง ๓๖๐ การเห็นอนัตตาอย่างสมบณู ณ์- มหาบรุ ุษย่อมมีคติ สอง ๓๑ -โดยความหมาย สาม ๓๒๘ ยญั ญ์ สอง ๔๐๑ กจิ กรรมท่ีทรงกระทาํ เพ่ือประโยชน์- วติ กทร่ี บเรา้ ตถาคตอย่างมาก มีอย่าง สอง -ตอ่ สัตว์โลก สาม ๑๓ ๓๘๑ กเิ ลส สาม ๓๗๔ วติ กมีส่วน สอง ๗๑ กุศลวิตก สาม ๗๑/๓๕๖ สงิ่ ที่ควรกล่าว มีองค์ สอง ๒๔๖ คนเกียจคร้านย่อมได้รบั โทษ- สิง่ ทต่ี ้องอบรม สอง ๑๕๘ -มีประการ สาม ๒๘๐ สง่ิ ทเ่ี ปน็ ไปเพื่อความเกอื้ กลู แกช่ น- คนปรารภความเพยี รรับผล- -เป็นอนั มาก สอง ๙ -มปี ระการ สาม ๒๘๐ สง่ิ ท่ไี ม่ควรกลา่ ว มอี งค์ สอง ๒๔๕ ความมัวเมา สาม ๔๑ สง่ิ ทแี่ ล่นไปสุดโตง่ สอง ๑๑๗/๒๔๗ จุดมุง่ หมายแห่งการปรารภความเพยี ร- หลักเกณฑใ์ นการกล่าวส่ิงที่ควรกล่าว- -สาม ๒๘๐ -หรือไม่ควรกล่าว สอง ๒๔๕-๒๔๖ ญาณ สาม ๑๑๕/๑๖๑/๒๑๒ อธิจจสมปุ ปน๎ นิกทิฏฐิ สอง ๑๗๗ ญาณในอิทธิบาทสี่ มปี ริวัฏฏ์ สาม ๑๙๑

ลาดบั หมวดธรรม ๖๙๕ ฐานะลาํ บาก สาม ๑๔๕ บคุ คลทเ่ี กิดขนึ้ มาเพอ่ื ประโยชนแ์ ก่โลก- ตถาคตต้องมีข้นึ ในโลกเพราะเหตุ- -มีจําพวก สาม ๓๔๘ -แห่งธรรมชาติ สาม ๑๒ ปราสาทของพระสิทธิธตั ถะ สาม ๑๕/๔๐/ ตถาคตแสดงธรรมเพื่อผล สาม ๑๒ ๔๒ ตระกลู ม่ังคงั่ เพราะประกอบด้วยธรรม- ปาฏหิ ารยิ ์สาม ๑๙๗/๓๓๘ -มีอย่าง สาม ๔๓๔ ผทู้ าํ อันตรายส่งิ สาม ๕๓๖ ทปี่ ระทมของตถาคต สาม ๓๗๓ ผู้มีสัมโพธเิ ปน็ ที่ไปในเบือ้ งหน้า- ทกุ ขปรวิ ัฏฏ์ สาม ๑๑๙ -มีจาํ พวก สาม ๒๘๓ ทกุ ขสมุทยปรวิ ฏั ฏ์ สาม ๑๑๙ ภมู แิ หง่ ภิกษทุ ั่วไป มปี ระเภท สาม ๓๒๔ ทุกขนโิ รธคามนิ ปี ฏิปทาปรวิ ัฏฏ์ สาม ๑๒๐ มาตรฐานท่ีต่างกนั ของศาสดา สาม โทษแหง่ การงานอนั เป็นไปทางกาย สาม ๒๑๐-๒๑๑ ๑๗๒ ไม่อมิ่ ไมเ่ บ่ือ จนตาย ในของสาม ๕๒๑ โทษแหง่ การงานอนั เป็นไปทางใจ สาม ยัญญส์ มบรู ณ์ดว้ ยความไมต่ ระหน่ี- ๑๗๓ -ในขณะ สาม ๕๙๕ ธรรมของตถาคตมีความไพเราะ- ลักษณะแหง่ วิญํชู นผู้ควรรู้ไดเ้ อง- -โดยสถาน สาม ๕๐๐ -เหน็ ได้เอง มีองค์ สาม ๒๗๓/ (และดูทค่ี ําว่า \"ตถาคตเกดิ ข้ึนในโลก\" ดว้ ย) ๒๗๕/๒๗๖ ธรรมทีพ่ ากันและเสีย สาม ๓๕๖ ลทั ธิเกยี่ วกบั สุขและทกุ ข์ สาม ๔๑๑/๔๒๕ ธรรมท่พี ากันทาํ มาก สาม ๓๕๖ โลกธาตุ สาม ๑๙๓ ธรรมวนิ ยั ต้องมขี ้นึ ในโลกเพราะเหตุ- วาระแหง่ การให้ผลของกรรม- -แห่งธรรมชาติ สาม ๑๒ -มีอย่าง สาม ๑๗๒/๔๐๙ ธิดามาร มีชอื สาม ๕๔๙/๕๕๐ วชิ ชา สาม ๑๑๖/๑๖๒/๒๑๒/๓๑๗ เนอื้ ควรบรโิ ภค เหตุ สาม ๔๔๔ วิธีฝึก สาม ๓๐๗ เนือ้ ไม่ควรบริโภค เหตุ สาม ๔๔๔ เวทนา สาม ๘๔ บุคคล (เก่ยี วกับตถาคต) มีประเภท- สมาธิโดยวิธี สาม ๗๙ -สาม ๒๒๔ สระสําหรับพระสทิ ธตั ถะ สาม ๔๐ สังขาร (อนั เปน็ ไปเพอ่ื ทุกข)์ สาม ๒๖๕

๖๙๖ พุทธประวตั จิ ากพระโอษฐ์ สังขาร (อันเปน็ ไปเพื่อสุข) สาม ๒๖๕ ส่ิงท่นี ่าอัศจรรย์ยง่ิ กวา่ ปาฏิหารยิ ์- สังขาร (อันเปน็ ไปเพื่อสุขบา้ งทุกข์บ้าง)- -อันแจ่มแจ้งแก่พระองค์โดยอาการ -สาม ๑๕๒ -สาม ๒๖๖ สัจจะที่ควรรู้เกี่ยวกบั ขนั ธ์ มีอย่าง สาม ๘๒ สง่ิ ทเี่ ปน็ ไปได้ยาก มอี ยา่ ง สาม ๔๖๑ สัจจะท่คี วรรเู้ ก่ยี วกับธาตุ มอี ย่าง สาม ๘๓ ส่งิ ที่มไี ด้ยากได้มีแลว้ มีอยา่ ง สาม ๔๖๑ สจั จะทค่ี วรเู้ ก่ยี วกบั อายตนะภายนอก- สง่ิ นา่ อัศจรรย์ท่ที รงกําชบั ใหช้ ว่ ยกนั - -มอี ย่าง สาม ๘๓ -จาํ ไว้ สาม ๑๕๓ สจั จะท่คี วรรเู้ ก่ยี วกับอายตนะภายใน- แสดงธรรมให้งดงาม สาม ๒๔๔ -มอี ย่าง สาม ๘๓ อกศุ ลวิตก สาม ๗๑/๓๕๖ สจั จะอนั บคุ คลพึงเห็นในเบญจขนั ธ์- อนตุ ตรยิ ะ สาม ๓๒๙ อนตุ ตรยิ ภาพของผูห้ ลุดพน้ แล้ว- -มนี ัย สาม ๓๐๒ สตั ว์ดุจดอกบัว สาม ๒๒๓ -ประกอบดว้ ยองค์ สาม ๓๒๙ สง่ิ ที่ควรสําเหนียกตามพุทธดํารสั มีหมวด- อาการที่ทรงแสดงธรรม สาม ๒๔๖/๓๔๙ -สาม ๖๐๒ อาสวะสาม ๑๑๗/๓๑๘/๕๕๗ ส่ิงที่ใครไม่ทว้ งตงิ ตถาคตได้ สาม ๑๕๐ อาสวฐานิยะธรรมมีเหตุ สาม ๒๕๘ สิ่งทท่ี รงแสวงหาเพ่ือการตรสั รู้เก่ยี วกบั - อปุ มาเปน็ อศั จรรย์ สาม ๖๑ -ขนั ธ์ มีประเภท สาม ๘๕ ๔ สิ่งทท่ี รงแสวงหาเพ่ือตรัสร้เู กีย่ วกบั - กรรม (เกย่ี วกบั ควรทาํ ไมค่ วรทํา) -ธาตุ มปี ระเภท สาม ๘๕ -มอี ย่าง ส่ี ๔๑๑ สง่ิ ทท่ี รงแสวงหาเพ่ือตรัสรู้เก่ยี วกับ- การนอนมีชนิด สี่ ๓๖๔ การรปู้ ฏิจจฯ โดยวธิ แี ห่งอริยสจั จ์ สี่ ๑๒๒ -อายตนะภายนอก มีประเภท สาม ๘๕ ของสูงสุดในชีวติ สี่ ๔๘๖ สิ่งท่ที รงแสวงหาเพ่ือตรัสร้เู กีย่ วกบั - -อายตนะภายใน มีประเภท สาม ๘๕ สิ่งทนี่ ่าอศั จรรย์ย่งิ กว่าปาฏหิ าริย์- -อันแจ่มแจง้ แก่พระองค์ สาม ๑๕๒

ลาดบั หมวดธรรม ๖๙๗ ของอศั จรรย์ทีไ่ ม่เคยมี สี่ ๘ ธรรมบทซง่ึ มมี านาน ส่ี ๔๒๓ ความจรงิ อนั ประเสรฐิ ส่ี ๑๑๘/๑๘๑/ ธรรมปฏิบัติของตถาคต ส่ี ๕๑๙ ๒๓๓/๒๓๙/๓๕๐/๔๒๗/๔๖๑/๔๘๒/๕๘๒ บคุ คล (เก่ยี วกบั ความยิ่งหย่อน- ความองอาจของตถาคต สี่ ๔๒๑ -แห่งอินทรีย์) มพี วก ส่ี ๑๓๗ เครือ่ งยนื ยนั คุณ ของพระสมณโคดม สี่ บคุ คลควรแก่การก่อสถูป สี่ ๕๗๒ ๕๑๔ ปรวิ ัฏฏส์ ามแห่งอทิ ธิบาท สี่ ๑๙๑-๑๙๒ เจโตวิมุตตใิ นพุทธศาสนา (เนอ่ื งดว้ ย- ผู้มธี รรมเปน็ สรณะ คือผูม้ สี ติป๎ฎฐาน- -อปั ปมัญญา) มีอย่าง สี่ ๓๙๐-๓๙๕ -มีอย่าง สี่ ๔๖๗ ฌาน (รูป) สี่ ๗๕/๑๐๔/๑๑๕/๑๓๔/๑๖๑/ พรหมจรรย์อตั ตกิลมถานโุ ยค ส่ี ๕๖ ๑๘๒/๒๗๒/๒๙๐/๓๑๗/๓๔๓/ พรหมวหิ าร สี่ ๑๘๗/๓๗๔/๓๙๐/ ๓๔๔/๓๖๕/๓๗๓/๔๙๔ ๕๙๗/๕๙๙ ฌานเม่อื จะตรสั รู้ ส่ี ๑๑๕ พราหมณสัจจ์ ส่ี ๑๘๓ ทรงเป็นทีพ่ งึ่ แก่สาวก โดยอาการ ส่ี ๓๖๖ ภิกษปุ ระพฤติต่อพระองค์ มีลกั ษณะ ส่ี ทรพั ย์ของวรรณะ สี่ ๓๑๐ ๓๗๘ ทางท่ถี ูกยันด้วยคําของตนเอง สี่ ๔๒๕ มหาบรุ ุษอยา่ งพราหมณ์ มลี ักษณะ สี่ ๒๑๒ โทษแหง่ การงานอนั เป็นไปทางวาจา สี่ มหาบรุ ษุ อยา่ งพทุ ธ มีลกั ษณะ ส่ี ๒๑๓ ๑๗๓ มหาปราชญ์อย่างพราหมณ์ มีลักษณะ ส่ี ธรรมทค่ี วรทาํ ใหเ้ กดิ มี (ในกรณี- ๒๑๒ -แหง่ อิทธิบาท) สี่๑๙๑-๑๙๒ มหาปราชญ์อยา่ งพทุ ธ มีลกั ษณะ สี่ ๒๑๓ ธรรมท่ตี ้องรเู้ กีย่ วกบั การทําใหเ้ กดิ มี- มหาปเทส ส่ี ๕๖๖ -(ในกรณีแห่งอทิ ธิบาท) สี่ มหาภูต ส่ี ๔๘๓ ๑๙๑-๑๙๒ โยคกรรมท่ีทรงชกั ชวนใหก้ ระทาํ - ธรรมทที่ าํ ใหเ้ กดิ มีได้แล้ว (ในกรณี- -เพอื่ ร้อู รยิ สจั จ์ ส่ี ๒๓๘/๔๖๑ -แหง่ อทิ ธบิ าท) สี่ ๑๙๑-๑๙๒ ราชกมุ ารทีถ่ ูกขับ สี่ ๒๑ ธรรมท่เี ปน็ ประทปี เป็นสรณะ- ลักษณะธรรมที่ตถาคตแสดง สี่ ๘ -คอื สตปิ ๎ฏฐาน มีอย่าง ส่ี ๓๕๘ ลกั ษณะผ้เู ป็นมหาบุรษุ ส่ี ๑๒๔

๖๙๘ พุทธประวตั ิจากพระโอษฐ์ ลักษณะผู้เปน็ มหาปราชญ์ สี่ ๒๑๔ หลกั กรรมที่เปน็ พุทธศาสนาแท้- วรรณะเปรยี บดว้ ยนก ส่ี ๑๑๔ -มีวิภาค ส่ี ๒๖๕-๒๖๖ วาที (ผู้ยนื คาํ พดู ) สี่ ๑๖๒ หลักเกณฑใ์ นการกล่าวของคนท่ัวไป ส่ี เวสารัชชญาณ สี่ ๑๔๑/๔๒๑ ๒๔๕ สงเคราะหด์ ว้ ยสงั คหวตั ถุ สี่ ๓๕ สติปฏ๎ ฐาน สี่ ๒๒๕/๒๗๔/๒๙๕/๓๕๐/ อมราวิกเขปิกวาท-พูดไม่ใหต้ ายตวั สี่ ๑๗๗ ๓๕๘/๔๖๗ อรหันตสมั มาสัมพุทธะมีไดเ้ พราะ- สมณะ สี่ ๔๒๙ -ทรงเจรญิ ทาํ ให้มากซ่งึ อิทธบิ าท ส่ี สมณะสุขุมาล สี่ ๓๗๗ ๒๐๗ สักกายะแสดงโดยนัยแห่งอริยสจั จ์ สี่ ๑๔๗ อรหันตสัมมาสัมพุทธะมีไดเ้ พราะ- สงั เวชนยี สถาน สี่ ๕๗๑/๕๗๗ -ทราบอริยสัจจ์ ส่ี ๒๐๕ สสั สตวาท-เที่ยงทุกอย่าง สี่ ๑๗๖ อรยิ ธรรม สี่ ๓๔๓/๕๘๒ สง่ิ ท่ตี ถาคตไมต่ ้องสํารวมอีก ส่ี ๑๗๓ อริยบุคคล สี่ ๒๗๒/๒๘๒/๓๒๐/๓๒๑ ส่ิงทที่ รงพยากรณ์เอง ส่ี ๓๐๓ อรยิ ผล สี่ ๒๓๗ สิ่งที่เปน็ เหตใุ ห้เกิดการกล่าว สี่ ๒๔๕ อรยิ สัจจ์ ส่ี ๑๑๘/๑๑๙/๑๘๑/๒๐๕ สง่ิ ทีอ่ ยใู่ นกามยาววานี้ สี่ ๔๘๑ ๒๓๓/๒๓๙/๒๘๔/๓๐๓/๓๕๐/ สขุ ทที่ รงไดโ้ ดยง่าย มอี ย่าง สี่ ๓๕๓ ๔๒๗/๔๖๑/๔๘๒/๕๘๒ สิงท่ปี ถุ ชุ นทั่วไปไมอ่ าจไดต้ าม- อันตคาหกิ ทฏิ ฐเิ ก่ียวกับตถาคต ส่ี ๓๐๑ -ปรารถนา มอี ย่าง ส่ี ๓๕๓ อนั ตานนั ตกิ วาท เกยี่ วด้วยมที ส่ี ดุ - สขุ ัลลกิ านุโยคของพวก- -และไม่มที ี่สดุ สี่ ๑๗๖ -สมณศากยปตุ ติยะ มีอย่าง ส่ี ๑๘๒ อัปปมัญญาธรรมทส่ี งู กวา่ เดียรถียอ์ ่นื - สขุ ัลลกิ านโุ ยคท่เี ปน็ ไปเพื่อนิพพาน- -มีอย่าง สี่ ๓๙๐-๓๙๕ -มีอยา่ ง ส่ี ๑๘๒ อทิ ธิบาท ส่ี ๘๑/๑๙๐/๑๙๑/๒๐๗ เสนา ส่ี ๔๘๗ เอกังสกิ ธรรม (ธรรมทีค่ วรแสดง- หลกั ธรรมที่ทรงทาํ ให้แจ้งด้วยป๎ญญา- -บัญญัตโิ ดยส่วนเดียว) ส่ี ๒๕๖ -อนั ยงิ่ เอง ส่ี ๒๖๕-๒๖๖ เอกัจจสสั สตวาท-เท่ยี งบางอย่าง สี่ ๑๗๖

ลาดบั หมวด ๖๙๙ ๕ ธรรมจกั ษุ มไี วพจน๎ ห้า ๘๔/๘๗/๘๙/ กามคุณ ห้า ๔๒ ๙๑/๙๓ การฆ่าสัตว์อทุ ิศปฏิคคาหก ย่อมประสบ- ธรรมทโี่ พธสิ ัตว์อบรมมาก หา้ ๙๗ ธรรมที่มีได้เพราะทางสายกลางมอี ย่าง หา้ -สง่ิ มิใชบ่ ญุ โดยฐานะ หา้ ๓๖๐-๓๖๑ การรู้แจ้งผัสสะายตนะหก โดยอาการ ห้า ๔๖๕ นวิ รณ์ หา้ ๒๙๐/๒๙๕/๔๓๗ ๑๒๓ ผปู้ ระกอบอยู่ดว้ ยองค์ ห้า ๔๓๗ ขอ้ ทีอ่ าจถกู ระแวงจากคนตา่ งลัทธิ- ผลู้ ะองค์ หา้ ๔๓๗ ผ้หู ลุดพน้ แล้วย่อมมีความร้สู ึก- -มีอย่าง หา้ ๔๐๑-๔๐๒ ข้อปฏิบัติท้ังหมดเกยี่ วกับส่งิ ปฏิกูล- -ในพระผู้มพี ระภาค โดยอาการ -มีคู่ หา้ ๓๒๙ -และไม่ปฏกิ ูล มีคู่ ห้า พืช ห้า ๔๕๔ ๑๐๒/๓๙๑-๓๙๕ มหาสุบนิ หา้ ๑๑๓ ขนั ธ์หา้ ๘๒/๘๕/๑๗๕/๒๐๓/๒๐๖/ แมน่ ํ้าใหญ่ ห้า ๓๓๕ ๒๘๖/๒๘๗/๓๐๐/๓๐๑/๓๐๒/ เรือ่ งเกย่ี วกับกาม หา้ ๒๖๒ ๓๒๘/๓๒๙/๓๗๙ ลักษณะแห่งอาสวะ มขี ้อควรสงั เกต หา้ คติ หา้ ๑๘๘ ๓๖๙/๔๓๙ ความหมายของคําวา่ ทิฏฐิ (วา่ \"โลกเท่ียง\" โลกธรรมในโลก (ในความหมายพเิ ศษ)- -เปน็ ตน้ ) มนี ัย หา้ ๓๐๒ -หา้ ๑๗๕ เครื่องทาํ กิจในกุศลธรรม ห้า ๓๔๐ วชิ ชา (ทเ่ี ปน็ มทุ ธาธบิ าต)- จักรพรรดริ าช ทีป่ ระกอบไปด้วยองค์ ห้า -ประกอบดว้ ยธรรม มีอย่าง ห้า ๕๒๐ ๒๓๕ ไวพจน์ (ของกันและกนั )- ตถาคตธรรม หา้ ๒๓๕ -แห่งธรรมในประเภทป๎ญญา ห้า ตถาคตพล ห้า ๑๓๗ ๘๔/๘๗/๘๙/๙๑/๙๓ ทรงมีปรกตกิ ล่าว โดยอาการ ห้า ๒๘๑ สทั ธาในเบ้อื งต้นให้เกิดอินทรยี ์ หา้ ทิฏฐธมั มนิพพานวาท- ๓๓๖-๓๓๘ -นพิ พานในป๎จจบุ นั ห้า ๑๗๙ โทษของศีลวบิ ัติ หา้ ๕๕๘

๗๐๐ พทุ ธประวัติจากพระโอษฐ์ สิ่งทไ่ี ม่ทรงให้ใครช่วยปกปิด หา้ ๑๕๑ ทรงเป็นโยคักเขมเี พราะละเสียไดซ้ ึง่ - ส่ิงเป็นท่ีต้ังแห่งการกลา่ วว่าควร- -ธรรม (อายตนะภายนอก) หก ๒๑๐ ทกุ ขเวทนาแม้แก่กลา้ กไ็ ม่ครบงําจิต -หรือไม่ควร หา้ ๒๕๓-๒๕๔ สิ่งไหลออกทคี่ วรแก่การสนใจ- -พระองคต์ ้งั อยู่ มีชนดิ หก ๑๕๙-๑๖๑ -มีอย่าง ห้า ๓๕๔ ธรรมเป็นไปเพื่อความไม่เส่อื ม- สุทธาวาส ห้า ๓๘๓ -มอี ย่าง หก ๔๘๐ หลกั มองคุณสมบัตใิ นบคุ คล ห้า ๓๐๔ ธรรมเป็นไปเพื่อความไม่เส่ือมมีอย่าง- เหตุทคี่ นมาเป็นพุทธสาวก หา้ ๓๔๙ -หก (อกี นัยหนึ่ง) หก ๔๘๐ เหตแุ ห่งความยากลาํ บากในการเขา้ - ธรรมเป็นไปเพื่อความไม่เสอื่ มมีอย่าง- -หก (อีกนยั หนึง่ ) หก ๔๘๐ -ถึงลัทธอิ ืน่ มอี ย่าง หา้ ๔๔๒ ธาตุ หก ๔๒๖ องคข์ องผ้หู มนุ จักรตามบิดา หา้ ๓๔๑ นรกที่ผสั สายตนะ หก ๑๘๕ องค์อนั ควรแกก่ ารประกอบ- บคุ คล (เกีย่ วกับความย่ิงหยอ่ นแหง่ - -อินทรีย)์ มีพวก หก ๑๓๙ -ความเพยี ร ห้า ๒๗๗ ผสั สายตนะ หก ๔๒๖ อนัตตาในเบญจขนั ธ์ ห้า ๓๒๘ พรหมจรรย์บรบิ ูรณเ์ มือ่ มคี วามพอใจ- อรหนั ตสมั มาสัมพุทธมีไดเ้ พราะ- -ของบรษิ ทั มจี าํ พวก หก ๕๐๔ วธิ กี ารทดสอบความเปน็ สมั มาสัมพุทธะ- -ทรงหลดุ พ้นจากขนั ธ์ หา้ ๒๐๖ -ของพระองค์สาํ หรับผูไ้ ม่มี- อินทรยี ภาวนา มีวภิ าค หา้ ๓๓๖-๓๓๘ อุปมาแก่ผเู้ อาชนะพระโคดม ห้า ๕๕๐ -เจโตปริยญาณ มีลําดับ หก ๖ ๑๖๔-๑๖๕ สวรรค์ที่ผสั สายตนะ หก ๑๘๕ ความอดทนซงึ่ เป็นท่รี จู้ ักกันดี มชี นิด หก สวากขาตธรรมทม่ี ีอนั ดับแห่ผล หก ๕๒๒ ๒๘๑-๒๘๓ ตถาคตเปน็ ผูฉ้ ลาดในสถาน หก ๑๓ สิ่งที่ตถาคตทาํ ให้แจง้ หก ๑๑ ตถาคตพลญาณ (ทเ่ี วน้ ข้อ ๓-๔-๕-๖แห่ง- สง่ิ ท่ีมัวหากนั โดยฝืนธรรมดา หก ๔๔ -ตถาคตพลญาณสิบเสยี ) หก ๑๓๗

ลาดับหมวดธรรม ๗๐๑ หลักทท่ี รงใช้ในการตรสั หก ๒๔๔ เนื้อนนู หนาเป็นแหง่ ๆ เจด็ ๓๔ อภิญญา หก ๓๔๔ โพชฌงครตั นะ เจด็ ๔๓๑ อนิ ทรยี ์ หก ๑๓๔ ภกิ ขุอปริหานยิ ธรรม เจ็ด ๕๕๗ รตั นะ เจด็ ๔๓๑ ๗ ลักษณะแห่งการแสดงธรรมโดย- การเกยี่ วพันด้วยเมถุน เจด็ ๑๖๙ -สายกลาง โดยนัย ๒๔๗-๒๕๓ แก้ว (มีประการ) เจด็ ๓๑ ทรพั ย์ของตถาคต เจ็ด ๓๗ วัชชีอปริหานยิ ธรรม เจด็ ๔๖๕ ทุกรกิริยามีวาระ เจ็ด ๖๓ วตั ตบทของอเจลกะ เจ็ด ๔๙๐ ธรรมทที่ รงหวงั ใหส้ าวกสามัคคกี ัน- ไวพจนข์ องวธิ กี ารแสดงธรรม เจด็ -แล้วศึกษา มหี มวด เจ็ด ๓๓๔ ๑๗๕/๒๓๙/๔๖๒ ธรรมที่เปน็ ตวั ศาสนพรหมจรรย์- สมาธิ เจด็ ๗๙ สขุ เวทนาแม้สงู สุดกไ็ ม่ครอบงาํ จิต- -มหี มวด เจด็ ๔๓๒ ธรรมทีแ่ สดงแล้วดว้ ยป๎ญญาอนั ยิ่ง เจด็ - -พระองค์ตัง้ อยู่ มชี นิด เจด็ ๑๖๑-๑๖๒ -(หมวด) ๓๓๔/๔๓๒/๕๖๔ อภิญญาเทสิตธรรม เจ็ด (หมวด) ธรรมเปน็ ไปเพ่ือความไม่เสอ่ื ม เจ็ด ๔๘๐ ๓๓๔/๔๓๒/๕๖๔ ธรรมเป็นไปเพ่ือความไม่เส่อื มเจด็ - อุจเฉทวาท-ตายแล้วสูญ เจ็ด ๑๗๘ -(อกี นัยหน่ึง) เจ็ด ๔๘๐ ๘ ธรรมเปน็ ไปเพ่ือความไม่เสอื่ มเจ็ด- กิรยิ าฉนั อาหาร- -(อีกนัยหน่งึ ) เจ็ด ๔๘๐ -ประกอบดว้ ยองค์ แปด ๕๓๒ ธรรมเพ่อื ความไม่เสอื่ มของพวกวชั ชี- ข้อปฏิบัตมิ อี งค์ แปด ๑๑๘ -เจ็ด ๔๖๕ ความถูกต้องมีประการ แปด ๘๔ นามพระพุทธเจ้า เจ็ด ๔๘๙ แงท่ ่เี ขากล่าวหาพระองค์อย่างผิด ๆ- นิททสวัตถุ มอี ยา่ ง เจ็ด ๓๙๖ นทิ ทสวัตถุ (อีกนยั หน่ึง) มอี ยา่ ง เจ็ด -มแี ง่ แปด ๔๔๗-๔๕๐ ๓๙๗

๗๐๒ พทุ ธประวตั ิจากพระโอษฐ์ แง่ทเ่ี ขากล่าวหาพระองคอ์ ย่างผดิ ๆ- องคล์ กั ษณะเมือ่ ทรงบนั ลือธรรม แปด -(อกี นัยหน่งึ ) มแี ง่ แปด ๔๕๐ ๑๔๙ ญาณทสั สนะมปี ริวฏั ฏ์ แปด ๙๔ อริยมรรคมอี งค์ แปด ๑๒๑/๑๘๑/ ทิศภายในสําหรับบุรษุ ท่ีฝกึ แล้ว แปด ๓๘๗/๕๙๘/๕๙๙ ๒๐๘-๒๐๙ อสัญญวี าท-ไม่มีสัญญา แปด ๑๗๘ เนวสัญญนี าสัญญีวาท แปด ๑๗๘ ๙ บรษิ ัทสมาคม แปด ๔๒๑/๔๒๒ คาํ พดู ของเถรพาลมอี งค์ เก้า ๒๒๐ พทุ ธลักษณะตามทศั นะของท้าวสักกะ- คําพูดของเถรบัณฑิตมอี งค์ เกา้ ๒๒๐ -มีอย่าง แปด ๕๒๓-๕๒๕ บนั ไดแหง่ ปรมานุตตรสุญญตา- มรรคมีองค์ แปด ๘๔/๑๑๘/๔๒๙ -มีอันดบั เก้า ๓๗๕-๓๗๖ มิจฉามรรคประกอบดว้ ยองค์ แปด ภกิ ษุสงฆห์ มู่น้ีมีภกิ ษุทจี่ ําแนกได้- ๒๖๘/๒๗๐ -โดยลักษณะ เกา้ ๓๒๐-๓๒๑ โรคสมุฏฐาน แปด ๓๗๘ สรรพสัตว์มีประเภท เก้า ๒๑๔ สจั จะควรรูเ้ กยี่ วกบั เวทนา มีอย่าง แปด เสนาสงัด เก้า ๒๙๐/๒๙๔/๓๕๒ องคแ์ ห่งการพูดท่ไี ม่เพ้อเจ้อ เกา้ ๓๙ ๘๔ อนุปุพพวหิ ารสมาบัติ เก้า ๑๐๓/ เสยี งของพระสมณะโคดม มอี งค์ แปด ๓๔๓--๓๔๔/๕๗๕ ๕๓๔ หนทางท่ีทําใหพ้ วกเรารู้จกั พระองค์- ๑๐ -ถึงทส่ี ดุ มอี งค์ แปด ๒๘๑ กถาท่เี ป็นไปเพอื่ นิพพาน มีประการ สิบ ๓๓๑ หนทางประกอบดว้ ยองค์ แปด ๑๑๘/ กุศลกรรมบถ สบิ ๓๑๑/๔๐๖ ๑๑๙/๑๒๑/๑๘๑/๒๖๖/๒๖๙/ ความฉงนและความรู้แจ้งเก่ียวกบั - ๒๗๑/๒๗๙/๒๘๑/๓๘๗/๔๒๙ -ปฏิจจฯ นิโรธวาร มอี าการ สบิ ๙๑ เหตุป๎จจยั ทใ่ี ห้แผน่ ดนิ ไหว แปด ๕๖๒/๕๗๕ เหตุเพือ่ การสลายตวั แห่งสกุล- -มอี ย่าง แปด ๔๓๘