นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คีตะธารา - อยา่ งคนทีขีเกียจมาก ๆ เอาแต่กินแลว้ นอน เป็นพวกสนั หลงั ยาว ก็สามารถใชพ้ ิจารณาดว้ ยปัญญาเกียวกบั เรืองของจิตเดิมไดว้ ่า คนๆ นีอาจเคยเป็น งู ทีมีชีวิตอยเู่ พือกินแลว้ นอนหลายชาติมาแลว้ ความทรงเดิมจึงยงั ไม่หมดสิ นไปมาในชาตินีก็ยงั มีนิสยั ของงู อยา่ งนนั อีก ใครเป็นเอามากก็แสดงว่าชาติใกลๆ้ นีแหละทียงั เป็น งูอยู่ - คนทีแสดงกิริยาอาการในการรับประทานอาหารอยา่ งมมู มาม และกินจุ กินเท่าไรกไ็ ม่อิมทงั ๆ ทีไม่ไดเ้ ป็นโรคอะไร ก็น่าจะมา จากชาติหนึงชาติใดเคยเกิดเป็นหมู จึงยงั มีนิสยั เดิมไม่ต่างไปจาก หมู ยิงเป็นคนทีไม่สนใจตวั เองปลอ่ ยปละละเลยไม่ทะความ สะอาดตวั เอง ชอบนอนแบบไม่อาบนาํ อาบท่าทาํ อะไรก็ชอบ เลอะเทอะเปรอะเปื อน ครูบาอาจารยท์ ่านบอกว่า ใช่เลยตอ้ งเคย เกิดเป็นหมมู าก่อนแน่นอน - คนทีซุกซนอยเู่ ฉย ๆไม่ได้ชอบเดินไปเดินมา ขยกุ ขยกิ ตลอดเวลา เวลานงั ก็เขยา่ เทา้ หรือเขยา่ มือ เหมือนคนซุกซน ก็เชือ ว่าในอดีตชาติตอ้ งเคยเกิดเป็น “ลิง” หรือในตรกูลของพวกลิง ค่าง ทงั หลาย หนา้ 551 จาก 551
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คตี ะธารา - คนทีชอบทะเลาะวิวาทต่อยกนั ตีกนั เห็นหนา้ ใครแลว้ ก็ตอ้ งมี อารมณ์โมโหตอ้ งจิกตอ้ งตกี นั อยรู่ ําไปก็มีจิตเดิมมาจาก “ไก่ชน” หรือสตั วต์ วั ใหญ่ๆ ทีชอบตอ่ สู้กนั ไม่ว่าดว้ ยมาจากจะแยง่ ตวั เมีย หรือข่มเหงสตั วท์ ีตวั เลก็ กว่า หรือคนไปจบั เอามาสู้กนั - คนทีมีนิสยั เจา้ ชู้ มกั มากในกาม วนั ๆ ครุ่นคิดแต่เรืองเพศ และไม่ เลือกหนา้ ไหนทงั นนั ขอเป็นไม่มีหางก็พอ ในชาติก่อนๆ อาจจะ เคยเกิดเป็น “หมา” และถา้ เป็นเอามากในเรืองนี ครูบาอาจารย์ ท่านบอกว่า อาจจะเป็นหมาหลายชาติติดต่อกนั ดว้ ย - คนทีมีนิสยั เรียบร้อย ชอบทาํ อะไรเงียบๆ และชอบอยกู่ บั คน และอาจจะเกลยี ดหมาดว้ ยนนั ครูบาอาจารยท์ ่านว่า อาจจะเคย เป็น” แมว” มาหลายชาติ - คนทีมีนิสยั สูง้ าน ชอบทาํ งานหนกั ยิงแบบใชก้ าํ ลงั มากๆ ปัญญา นอ้ ยๆ ไม่ชอบคิดมากและไม่บ่นครูบาอาจารยท์ ่านวา่ อาจจะเคย เกิดเป็น “ววั ” หรือ “ควาย” มาก่อน ยงั คงมีนิสยั อดทน อดกลนั เหนือคนอืน ๒. แบ่งไปตามลกั ษณะของ “ ศีล ” คาํ ว่า “ศีล” แปลว่า ปกติหรือความเป็นปกติ คนทีรักษาศีล ๕ ได้ หนา้ 552 จาก 552
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คีตะธารา อยา่ งเป็นปกติวิสยั กค็ ือ จิตฐานเดิมอาจมีวิสยั ความเป็น มนุษยธรรมดา (หรือสูงกว่านนั ) ในภพชาติปัจจุบนั จึงไดเ้ กิดมา เป็นมนุษยอ์ ีกและยงั คงรักษาความเป็นปกติวิสยั เดิมของตนไวไ้ ด้ แต่หากมนุษยค์ นใดทีศีลขาดบกพร่องไปมาก ๆแมจ้ ะไดช้ ือว่าเกิด มาเป็นมนุษย์ ก็ไม่อาจจะเรียกไดว้ ่าเป็นมนุษยแ์ ต่จะเรียกว่าเป็น “คน” ทีแปลว่า ยงุ่ แทน คนทีมีความประพฤติผิดศีลแต่ละขอ้ จึงอาจสนั นิษฐานถึงจิตเดิม ว่าในอดีตชาติอาจเคยเกิดเป็นสิงมีชีวิตอยา่ งอืนมาก่อนดงั ต่อไปนี ๑. คนทีมีจิตใจโหดเหียมชอบทาํ ร้ายหรือฆ่าผอู้ ืน ความเป็นปกติของมนุษยเ์ รา เราจะไม่ฆ่ากนั ไม่ทาํ ร้ายกนั ต่างจาก พวกสตั วเ์ ดรจั ฉานอยา่ งเช่น “เสือ”หรือ “สิงโต” เวลาหิวทีไรกจ็ ะ ไล่ล่าสตั วอ์ ืนกินทนั ที หากมนุษยผ์ ใู้ ดทีชอบทะเลาะวิวาททาํ ร้าย ร่างกายซึงกนั และกนั หรือมีจิตใจทีโหดเหียมไม่รู้สึกถึงความ ผิดปกติของจิตใจเวลาทีไดล้ งมือทาํ ร้ายหรือสงั หารใคร คนผนู้ นั ก็ มีจิตฐานเดิมไม่ต่างจากสตั วท์ ีมีนิสยั ดุร้าย อยา่ ง เสือ สิงโต หรือ สตั วท์ ีมีอุปนิสยั ดรุ ้ายชนิดอืน ๆ หนา้ 553 จาก 553
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คตี ะธารา ๒. คนทีมีนิสยั ชอบลกั เลก็ ขโมยนอ้ ย หรือ แมแ้ ต่เป็นหวั ขโมยมือ อาชีพ ธรรมชาติของมนุษยเ์ ราจะไม่ลกั ขโมยทรัพยส์ ินของใคร เพราะ โดยธรรมชาติเราจะมีความรู้ในเรืองความเป็นกรรมสิทธิ ความเป็นเจา้ ของอยแู่ ลว้ ว่านีคือของ ๆเขา นีคือของๆเรา แต่ถา้ เป็นสตั วเ์ ดรัจฉานมนั จะไม่รู้ เช่น เวลาที สุนขั เห็นแมวกาํ ลงั กิน ขา้ วหรือกินปลาอยมู่ นั ก็จะตรงเขา้ ไปแยง่ เลยทนั ที ดงั นนั ถา้ มนุษยผ์ ใู้ ดทีไม่รู้จกั ประพฤติศีลในขอ้ นี ชอบไปจีปลน้ ทรัพยส์ ิน ของคนอืนก็แสดงว่าจิตฐานเดิมของคนๆนนั อาจเคยเป็น “แมว” หรือแมแ้ ต่สตั วเ์ ลือยคลานอยา่ ง “ตวั เงินตวั ทอง”ทีมีลกั ษณะนิสยั ของขโมยของกินของกนั และกนั หรือแมแ้ ต่ของสตั วป์ ระเภทอืน ๆ ๓. ผทู้ ีมีนิสยั มกั มากในกามคณุ ปกติแลว้ มนุษยจ์ ะรู้จกั ควบคุมความตอ้ งการของตนเอง รู้ว่าการ ครองคู่แบบใดทีควรและไม่ควร แต่คนทีมีลกั ษณะนิสยั ชอบผิด ศีลขอ้ ที 3 คือ มวั เพศหรือมกั มากในกามคณุ ก็จะมีลกั ษณะนิสยั เดิมทีเป็นไปทางสตั วเ์ ลือดเยน็ และสตั วเ์ ลอื ดอุ่นบางชนิด กรณีเป็นหญิง ทีมีนิสยั มกั มากในกามคุณ ก็จะมีลกั ษณะนิสยั จิต เดิมมาจาก “ปลา” โดยเฉพาะปลาตะเพียนตวั แม่ทีเวลาผสมพนั ธ์ หนา้ 554 จาก 554
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คตี ะธารา เสร็จแลว้ ก็จะมีนิสยั ทอดทิ งตวั ผไู้ ปหาตวั ผตู้ วั ใหม่สมสู่ต่อไป เรือย ๆ หรือ อยา่ ง “ปลาหมึก” ซึงตามธรรมชาติของปลาหมึกตวั เมียแลว้ สามารถนอนรอใหห้ มึกตวั ผมู้ าสมสู่ไดโ้ ดยไม่สนใจคือ ขอให้เป็นตวั ไหนก็ไดก้ ็พอ คนทีมีลกั ษณะนิสยั เช่นนีก็อาจมีจิต ฐานเดิมมาจากสตั วเ์ ลือดเยน็ เหล่านีและสตั วเ์ ลอื ดเยน็ อยา่ งปลา หรือปลาหมึกเวลาผสมพนั ธ์ก็จะออกลกู เป็น “ไข่” เมือออกวางไข่ แลว้ ก็จะปล่อยใหไ้ ข่ฟักไปตามธรรมชาติของมนั เองไม่ยอมดแู ล ดงั นนั จึงไม่ตอ้ งแปลกใจกบั คาํ เปรียบเปรยโบราณกบั หญิงที ทอดทิ งลูกของตวั เองว่า“ไดท้ ิ งไข่เอาไวใ้ ห้คนอืนเลียง” ว่า เปรียบเทียบลกั ษณะนิสยั ของคน ๆ นนั ไดต้ รงกบั สตั วเ์ ดรจั ฉาน อยา่ งไม่น่าเชือ กรณีทีเป็นชาย คนทีมีนิสยั มกั มากในกามคณุ ก็อาจจะมีลกั ษณะ นิสยั จิตเดิมมาจาก “หมู” เพราะหมนู นั เป็นสตั วม์ กั มากในกามคณุ มากดงั จะเห็นไดว้ ่า เวลาหมตู วั ผจู้ ะขึนขีหลงั นางหมู (คือจะผสม พนั ธุ)์ ทงั ๆ ทีนางหมูกาํ ลงั จะกินอาหารและเดินไประยะทางที ค่อนขา้ งไกล เจา้ หมูตวั ผกู้ ็จะไม่เลิกราสามารถตามไปผสมพนั ธ์ ไดท้ งั ทีแม่หมยู งั กินอาหารหรือทาํ อยา่ งอืนอยู่ หนา้ 555 จาก 555
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คตี ะธารา กรณีเรืองลกั ษณะนิสยั ทีเป็นคนมกั มากในกามคุณนีเราเห็นไดช้ ดั จากกรณีบุคคลทีมีชือเสียงหลายคนในสงั คมโดยเฉพาะใน ต่างประเทศทเี ขาหรือเธอเหล่านนั มีอาการ “ติดเซ็กซ์” จนตอ้ งไป เขา้ รับการบาํ บดั รักษาอยา่ งจริงจงั กอ็ าจเป็นเพราะมีจิตเดิมมาจาก สตั วเ์ ดรัจฉานเหล่านีหลงเหลืออยมู่ ากนนั เอง และคนทีเป็น” กระเทย” คาํ ว่า กะเทยในทีนีหมายถึงทงั ทอม ทงั ดี ทงั เกยค์ ิงและเกยค์ วีน และบรรดาเสือใบ ฯลฯ ทงั หลาย คนทีเกิด มาเป็นกระเทยในความหมายนีในอดีตชาติตอ้ งเคยประพฤติผดิ ในกามมาอยา่ งไม่ตอ้ งสงสยั และอาจจะทาํ บ่อยๆ ซาํ ๆ กนั จน กรรมไม่ดีนนั สะสมไวม้ าก เมือตายจากชาตินนั จะมาเกิดใหม่อาํ นาจฝ่ ายกรรมดีนนั ไม่มีกาํ ลงั มากพอทีจะใหจ้ ิตนนั มีกาํ ลงั ทีจะส่งเกิดเป็นหญิงแท้ชายแทไ้ ด้ ตอ้ งกลายมาเป็นคนสองเพศในชาติต่อมา ในทางพระพุทธศานา บอกว่า คนทีมีจิตตกมากๆ เพราะทาํ กรรมไม่ดีในเรืองของกามมา มาก จะไปเกิดเป็นเทวดาชนั สูงก็ไม่ไดต้ อ้ งเป็นชนั ตาํ จะไปเกิด เป็นมนุษยท์ ีสูงส่งทางจิตใจก็ไม่ได้เรียกจิตชนิดนีว่า “อุเบกขาสนั ตีรณกศุ ลวิบาก” หนา้ 556 จาก 556
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คตี ะธารา เพราะกศุ ลนาํ เกิดแต่กศุ ลนีมีกาํ ลงั ออ่ นดว้ ยมีบาปผดิ ในกามเป็น บริวาร กศุ ลคือบญุ นาํ เกิดแต่เป็นมนุษยแ์ ละเทวดาชนั ตาํ จึงชือจิต ว่า อุเบกขาสนั ตีรณกุศลวิบาก (เป็นกะเทยมาตงั แต่การเกิด) สาํ หรับพวกทีบุญไม่พอจะมาเกิดเป็นคนอาจจะเกิดเป็นสตั ว์ เดรัจฉาน กลายเป็นสตั วก์ ระเทย ถา้ ตาํ ไปกว่านนั อีกก็ไปเป็นเปรต กระเทย จนกว่าบุญจะมากพอเกิดเป็นคนอีกแต่ก็ตอ้ งเป็นกระเทย ในภพภูมิชนั ตาํ อีก จนกว่ากรรมนนั จะยตุ ิลงหรือมีกรรมฝ่ ายดี มากพาหนีออกไปไดร้ ะยะหนึง สาํ หรับคนทีเกิดมาไม่มีไม่มีอวยั วะเพศหรือมีแต่นิดหน่อยไม่ พอทีจะเกิดประโยชน์ได้ อาจจะในอดีตชาติไดเ้ คยไปตอนสตั ว์ โดยตดั อวยั วะเพศของสตั วต์ ่างๆ เขาจะตอ้ งมีอวยั วะเพศพิกล พิการหรือไม่มีอวยั วะเพศ ครูบาอาจารยท์ ่านหนึง เล่าใหฟ้ ังถึงเหตุผลทีว่า ทาํ ไมกระเทยบาง คนถึงสวย บางคนถึงดูน่าเกลียด บางคนทาํ ไมถึงมีนิสยั ดี แต่ หนา้ 557 จาก 557
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คตี ะธารา ทาํ ไมกระเทยอีกคนถงึ เป็นคนเลวทรามเสียเหลือเกิน ครูบา อาจารยท์ ่านบอกว่า เหตุทีกระเทยบางคนสวย หนา้ ตาหล่อเหลา เพราะเขาอยใู่ นช่วงชาติสุดทา้ ยแลว้ ของกรรมทีจะทาํ ให้เกิดมา เป็นกระเทยอีก และทาํ กรรมดีไวม้ าก อาจจะเป็นเรืองของการ ถวายดอกไมห้ อม เครืองบูชาต่อพระสงฆท์ ีประณีต ดว้ ยจิตใจที สวยงามมนั คง และทีกระเทยพวกนีมีเงิน มีคนนบั หนา้ ถือตามาก เพราะเคยทาํ ทานมาก่อน และทานนนั เป็นประโยชนต์ ่อคนหมู่ มาก จึงทาํ ให้คนนิยมชมชอบรักใคร่ แมช้ าตินีจีกรรมแต่งใหเ้ กิดมาเป็นกระเทยอีก แต่ก็เป็นกระเทยรูป งาม นาํ ใจดี มีเงินทอง เก่งในเรืองใดเรืองหนึง สาํ หรับความเก่ง ของกระเทยทียอมรับกนั มากในเรืองงานฝีมือ เยบ็ ปักถกั ร้อยหรือ มีพรสวรรคด์ า้ นสวยๆ งาม ในอดีตชาติตอ้ งเคยเป็นมีความ เชียวชาญในดา้ นนนั ๆ มาก่อน ซึงก็เป็นความทรงจาํ เดิมติดตวั มา บางคนเคยเกิดเป็นผหู้ ญิงทีเก่งการบา้ นการเรือนมาก แต่ก็ยงั มกั มากในกาม กรรมในเรืองกามแต่งให้มาเกิดเป็นกระเทยเสีย แต่ กรรมหรือการกระทาํ ทีเก่งในอดีตก็ตามมาดว้ ย แต่สาํ หรับคนที เกิดมาเป็นกระเทยทีรูปทราม ใจทรามในชาตินี หนา้ 558 จาก 558
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คีตะธารา ครูบาอาจารยท์ ่านบอกว่าเป็นแค่การเกิดมารับกรรมในเรืองนี เบืองตน้ เท่านนั เหมือนเพิงเริ มตน้ รับกรรมทยี งั อีกยาวไกลและ เชือว่าอาจจะยงั ตอ้ งเกิดมาเป็นกระเทยอกี หลายชาติ ทงั ทีเป็นสตั ว์ กระเทย หรือคนกระเทยอีก ท่านฝากเตือนไวด้ ว้ ยความหวงั ดีว่า ถา้ ยงั ไม่รีบสร้างกรรมดี ยงั ประมาทในเรืองบญุ และยงั ไม่เลิกทีจะ ทาํ ความผดิ ในเรืองของกาม ก็ยงั คงตอ้ งรับกรรมไปเกิดเป็นกระ เทยอกี หลายชาติ ๔. ผทู้ ีมีนิสยั ทางการพูดในทางไม่ดีไม่ว่าจะเป็นพดู เทจ็ พดู คาํ หยาบ พดู ส่อเสียด หรือพดู เพอ้ เจอ้ คนทีมีลกั ษณะนิสยั ชอบทาํ ร้ายหรือก่อความเดือดร้อนให้คนอืน ดว้ ยคาํ พดู ก็จะมีลกั ษณะวิสยั เดิมไปทางสตั วอ์ ยา่ ง “สุนขั ” อยา่ งเช่นเวลาที สุนขั ตวั ทีอยใู่ นบา้ นพอมีสุนขั ตวั อืนหรือคนอืน ๆผา่ นมา มนั ก็จะเห่าหรือข่ทู นั ที แต่มนุษยป์ กติเราไมไ่ ดเ้ ป็น เช่นนนั เพราะเวลาปกติเราจะไม่ด่าว่าหรือหลอกลวงใครหากใคร ทีชอบใชค้ าํ พดู ทาํ ใหผ้ อู้ ืนเดือดร้อนก็แสดงว่า ก็ใกลเ้ คียงกบั ความ หนา้ 559 จาก 559
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คีตะธารา เป็นสตั วเ์ ดรัจฉานเช่น สุนขั หรือสตั วท์ ีใชเ้ สียงทาํ ใหผ้ อู้ ืน เดือดร้อน ๕. ผทู้ ีมีนิสยั ชอบดืมสุราเมรัย หรือติดสิงเสพติด คนทีมีลกั ษณะนิสยั ชอบมึนเมารักในการดืมและการเสพสิงทที าํ ใหเ้ พลิดเพลินทางจิตกจ็ ะมีจิตหนั เหไปทางสตั วเ์ ดรัจฉานทีมี ลกั ษณะเช่นนี อยา่ งเช่น หมีทีแมจ้ ะเป็นสตั วต์ วั ใหญแ่ ต่กช็ อบมวั เมากินนาํ ผึง หรือ จระเขท้ ีมวั เมาเรืองการกินไม่เลือกและเดินส่าย ไปสตั วเ์ หล่านนั จะไม่สามารถบงั คบั ทิศทางไดเ้ พราะไม่มีสติคอย ควบคมุ ดงั นนั สตั วเ์ ดรัจฉานทงั หลายจึงไม่สามารถทีจะเปลียนกาํ ลงั กาย ของตนเองใหเ้ ป็นคุณงามความดีหรือนึกคิดอะไรไดซ้ ึงแตกต่าง จากมนุษยค์ นชอบกินเหลา้ ทาํ ใหจ้ ิตของตนตกอยใู่ นสภาพของ โมหะ ความโง่ ความหลง ขาดความสาํ นึกรู้สึกตวั และบุญบาปก็ มิไดเ้ อาใจใส่แลว้ มีโมหะคือ ความโง่ ความหลงเขา้ ครอบงาํ ไม่ เชือเรืองบญุ เรืองบาป ผลของกรรม ตลอดจนการตายการเกิดใหม่ ดงั นนั เวลาใกลจ้ ะตายก็มีโมหะร่วมดว้ ย ปะปนกบั อารมณ์อืนๆ อารมณ์ทีดีก็นาํ เกิดเป็นเทวดาชนั ตาํ และเป็นมนุษยเ์ พราะเขามีบญุ หนา้ 560 จาก 560
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คตี ะธารา มาบา้ ง แต่อารมณ์บาปทีเคยกินเหลา้ เมายา ก็เป็นบริวารเกิดเมือ ตอนใกลจ้ ะตายดว้ ย ในชาติต่อมาจึงกลายเป็นคนปัญญาอ่อน แทนทีจะเกิดเป็นเทวดาและมนุษยท์ ีสมบรู ณ์ กลายเป็นปัญญา มากหรือนอ้ ย กลายเป็นคนพิกลพิการทางจิตใจ แต่ถา้ ได้ เบียดเบียนสตั ว์ เช่น ฆ่าสตั วบ์ ่อยๆเกิดขึนมาแลว้ ก็จะพิการทงั ร่างกายดว้ ย... เมือพดู ถึงจิตวิญญาณทีท่องเทียวในวฏั สงสารไม่ว่าจะเป็นภพภมู ิ ใด เคยเป็นอะไรมาก่อนไม่ว่างู ไสเ้ ดือน ลิง มนุษย์ เปรต ยกั ษ์ สตั วน์ รก เทวดา หรือพรหมใดก็ตามถา้ ก่อนตายจิตนนั เป็นทาง บญุ กศุ ล ก็มีสิทธิทีจะไปเกิดใหม่ในภพภมู ิทีดีและกล่าวไดว้ ่าใน ภพมนุษยน์ ีถือเป็นภพภมู ิทีดีและประเสริฐทีสุด ซึงแมแ้ ต่พวก เทวดา นางฟ้ ายงั อยากจุติมาเกิดเลย คาํ ว่า “ มนุษย์ ” ถา้ ว่ากนั ตามศพั ทแ์ ลว้ แปลว่า สตั วท์ มี ีจิตใจสูง คือสูงกว่าสตั วเ์ ดรัจฉาน เปรต ยกั ษ์ สตั วน์ รกใด ๆ เพราะมนุษยท์ ี แทจ้ ริงจะรู้จกั ผดิ ชอบชวั ดี รู้จกั ว่าสิงใดเป็นประโยชน์และไร้ ประโยชน์ มีความละอายและเกรงกลวั ในการกระทาํ บาปกรรม หนา้ 561 จาก 561
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คตี ะธารา และดว้ ยวิสยั แลว้ จะประพฤติตนใหอ้ ยใู่ นกรอบของกฎระเบียบ ของความดีต่างจากสตั วอ์ ืน ๆ ทีมา : ธมั มปทฏั ฐกถาภาคที ๒ สามาวดี หนา้ 562 จาก 562
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คีตะธารา \" บทสุดทา้ ยสถานทีทรงดบั ขนั ธปรินิพานขององคพ์ ระพทุ ธเจา้ ในอดีตทีผา่ นมา \" * สถานทีทรงดบั ขนั ธปรินิพานขององคพ์ ระพทุ ธเจา้ ทีผา่ นมานนั องคห์ ลวงป่ จู าม (มหาปญุ โญ) ไดบ้ อกกล่าวเอาไวว้ ่า... * พระพทุ ธเจา้ ตณั หงั กโร - เชียงใหม่ พระพทุ ธเจา้ เมธงั กโร - พิษณุโลก พระพุทธเจา้ สรณงั กโร - มกุ ดาหาร บา้ นโคกสว่าง คาํ ชะอี พระพทุ ธเจา้ ทีปังกร - เสฉวน พระพทุ ธเจา้ โกณฑญั โญ - พาราณสี พระพทุ ธเจา้ สุมงั คโล - ตะวนั ออก ดอยสะเก็ด เชียงใหม่ พระพทุ ธเจา้ สุมโน - ตะวนั ออก ดอยสะเก็ด เชียงใหม่ พระพุทธเจา้ เรวโต - แม่หอพระ พร้าว เชียงใหม่ พระพทุ ธเจา้ โสภิตะ - ห้วยนาํ จาง พร้าว เชียงใหม่ พระพทุ ธเจา้ อโนมทสั สี - พิษณุโลก พระพทุ ธเจา้ ปทุโม - มกุ ดาหาร พระพุทธเจา้ นารโท - ทุ่งเศรษฐี กาํ แพงเพชร พระพทุ ธเจา้ ปทุมตุ ตโร - บา้ นทุ่งเสียว-เกิดแม่มาลยั -ตรัสรู้ ดอย คาํ หนา้ 563 จาก 563
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คตี ะธารา พระพทุ ธเจา้ สุเมโธ - นาลนั ทา พระพุทธเจา้ สุชาโต - ยนู หนาน พระพุทธเจา้ ปิ ยะทสั สี - เชียงใหม่ พระพุทธเจา้ อตั ถทสั สี - เชียงใหม่ พระพุทธเจา้ ธมั มทสั สี - เชียงใหม่ พระพุทธเจา้ สิทธตั โถ - นาลนั ทา พระพุทธเจา้ ติสสะ - เพชรบรู ณ์ พระพุทธเจา้ ปุสสะ - กุกุราษฎร์เรวดี อินเดีย พระพุทธเจา้ วิปัสสี - กรุงโกสมั พี อินเดยี พระพุทธเจา้ สิขี - คุณหมิง จีน พระพุทธเจา้ เวสภู - ทุ่งเศรษฐี กาํ แพงเพชร พระพุทธเจา้ กกุสนั โธ - กุสินารา พระพทุ ธเจา้ โกนาคมโน - สาเกต พระพุทธเจา้ กสั สปะ - พาราณสี พระพทุ ธเจา้ โคตมะ - กุสินารา พระพุทธเจา้ ศรีอาริยะ - อินเดีย -เรวดี * อนาคตพทุ ธวงศ์ ๑๐ พระองค์ * ๑. พระศรีอาริยเมตไตรย์ จะมาตรัสรู้ เมืองอินเดีย หนา้ 564 จาก 564
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คตี ะธารา ๒. พระรามจะ จะมาตรัสรู้ เมืองจีน ๓. พระธรรมสามี จะมาตรัสรู้ เมืองเวียงจนั ทร์ ๔. พระธรรมราชา พระเจา้ ปัสเสนทิโกศล พระบาทสเดจ็ พระจอม เกลา้ เจา้ อยหู่ วั รัชกาลที ๔ จะมาตรัสรู้ เมืองอินเดีย ๕. พระนารโท จะมาตรัสรู้ เมืองอินเดีย ๖. พระสุภะ จะมาตรัสรู้ เมืองเวียงจนั ทร์ ๗. พระเทวเทพ จะมาตรัสรู้ เมืองคุณหมิง จีน ๘. พระนรสีหะ จะมาตรัสรู้ เมืองอินเดีย ๙. พระติสสะ - ชา้ งนาฬาคิลิงค์ ครูบาขาวปี - จะมาตรัสรู้ เมือง อินเดีย ๑๐.พระสุมงั คละ - ชา้ งป่ าเลไลย ครูบาศรีวิชยั - จะมาตรัสรู้ เมือง เชียงใหม่ * หากจะเป็นพระพทุ ธเจา้ ก็ใหน้ บั จาํ นวนองคพ์ ระพทุ ธเจา้ ให้ได้ นบั ตงั แต่เกิดมา เช่น... * - พระโพธิสตั วพ์ ระศรีอาริยฯ์ เกิดผา่ นองคพ์ ุทธะมาได้ ๓๐๐ ลา้ น + ๕ แสน + ๒ หมืน + ๒๕๔๗ องคพ์ ทุ ธะ หนา้ 565 จาก 565
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คตี ะธารา - พระรามจะ ๔๐๐ ลา้ น + ๕ แสน + ๒ หมืน + ๕๕๔๘ องคพ์ ุทธะ เทวดาบนสวรรคม์ าถามว่าในโลกเดียวนี ใครอายยุ นื ทีสุด พระ โพธิสตั วพ์ ระอาจารยป์ ระสิทธิ สิทฺธิญาโณ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๒ - พระโพธิสตั วส์ ิริธรรมเมธี รัชกาลที ๕ พระพุทธเจา้ หลวง พระ โพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๑๖ ผา่ นพระพุทธเจา้ มาแลว้ ๓๐๐ ลา้ น + ๕ แสน + ๒ หมืน + ๒๕๘๐ องค์ * หากจะนบั อสงไขยกปั ก็นบั ไดด้ งั นี * พระปัญญาธิกะ ๙ - ๗ - ๔ อสงไขย ปลายแสนมหากปั พระสทั ธาธิกะ ๑๘- ๑๔ - ๘ อสงไขย ปลายแสนมหากปั พระวริ ิยาธิกะ ๓๖ - ๒๘ - ๑๖ อสงไขย ปลายแสนมหากปั ขนั นึกในใจ ๙ - ๑๘ - ๓๖ อสงไขย ขนั ออกปากลนั วาจา ๗ - ๑๔ - ๒๘ อสงไขย ขนั รับพุทธพยากรณ์ ๔ - ๘ - -๑๖ อสงไขย พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๒ สว่างแจง้ หมดโลก พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๘ ขา้ วสาลีธญั พืชเกิดทวั โลก พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๑๖ และ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๒๑ ไม่มีเดียรถีย์ การออกบวชพระโพธิสตั วใ์ นวนั จะบาํ เพญ็ เพียรเพอื การตรัสรู้ ๑. เดินมากทีสุด หนา้ 566 จาก 566
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คตี ะธารา ๒. ขีชา้ ง ขีมา้ รองลงมา ๓. คานหาม นอ้ ยทีสุด จาํ นวนองคพ์ ุทธะชนั เอก ดงั นี.. ๒๕ องคพ์ ุทธะ โลกสว่างได้๑ พระองค์ ๓๖ องคพ์ ุทธะ โลกหมดเดียรถีย์ ๑ พระองค์ ๕๐ องคพ์ ทุ ธะ กฏุ ินิรมิต ไปมาบนอากาศ ๑ พระองค์ * จาํ นวนสาวกขององคพ์ ทุ ธะ * วิริยะที ๑ จาํ นวนสาวก ๑,๐๐๐ ลา้ น ๖ ลา้ น ๘ แสน ๕ หมืน วิริยะที ๒ จาํ นวนสาวก ๑,๐๐๐ ลา้ น ๓ ลา้ น ๘ แสน ๕ หมืน วิริยะที ๓ จาํ นวนสาวก ๙๐๐ ลา้ น - ๘ แสน ๕ หมืน สทั ธาที ๑ จาํ นวนสาวก ๔๕ ลา้ น ๘ แสน ๕ หมืน สทั ธาที ๒ จาํ นวนสาวก ๔๐ ลา้ น ๘ แสน ๕ หมืน สทั ธาที ๓ จาํ นวนสาวก ๓๕ ลา้ น ๘ แสน ๕ หมืน ปัญญาที ๑ จาํ นวนสาวก ๓๐ ลา้ น ๘ แสน ๕ หมืน ปัญญาที ๒ จาํ นวนสาวก ๒๕ ลา้ น ๘ แสน ๕ หมืน ปัญญาที ๓ จาํ นวนสาวก ๒๐ ลา้ น ๘ แสน ๕ หมืน * เรืองราวของพระศรีอาริยฯ์ * จะเกิดอีก ๓๐,๐๐๐ ชาติ ไปนรก ๓๐๐ ชาติ หนา้ 567 จาก 567
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คีตะธารา ชาติสุดทา้ ย เกิดเมืองหงสาวดี อินเดีย ออกบวช ๑๓,๕๐๐ ปี ทาํ ความเพียร ๗ วนั อายุ ๑๓๕,๐๐๐ ปี จึงเสดจ็ ปรินิพพาน ประกาศศาสนาอยอู่ ินเดีย ๒๐,๐๐๐ ปี มาอยไู่ ทย พิษณุโลก ๘๐,๐๐๐ ปี รัศมีเหมือนแสงเปลวไฟไหมก้ ลางคืน เหลอื งแดงขาว เลอื มพราย ฟ้ าเขียว * ภิกษสุ งฆม์ ากกว่าภิกษณุ ีสงฆ์ * ๑. พระพุทธเจา้ สุมคํ โล และ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๘ พระเตยยะ พุทธะ ๒. พระพุทธเจา้ สุมโน และ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๑๐ พระสุมงั คละ (ครูบาศรีวิชยั ) ๓. พระพทุ ธเจา้ ปทมุ มุตตโร และ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๑๕ พระ ราชเถรโพธินนั โพธิสตั ว์ ๔. พระพทุ ธเจา้ ธมฺมทสฺสี และ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๑๖ พระสิริ ธรรมเมธีพทุ ธะ พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รัชกาลที ๕ พระพุทธเจา้ หลวง ๕. พระพุทธเจา้ วิปสฺสี และ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๒๑ (พระพุทธเจา้ หนา้ 568 จาก 568
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คตี ะธารา พระองคเ์ ดียวในกปั ป์ นนั ) ๖. พระพทุ ธเจา้ กกุสนั ธะ ๗. พระพทุ ธเจา้ กสั สปะ * พระอรหนั ตม์ ากกว่าพระอริยะ ๓ ชนั ตน้ * ๑. พระพทุ ธเจา้ สุมคํ โล และ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๘ พระเตยยะ พุทธะ ๒. พระพุทธเจา้ ธมฺมทสฺสี และ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๑๕ พระราช เถรโพธินนั โพธิสตั ว์ ๓. พระพุทธเจา้ วิปสฺสี และ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๑๖ พระสิริธรรม เมธีพทุ ธะ พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รัชกาลที ๕ พระพทุ ธเจา้ หลวง ๔. พระพทุ ธเจา้ กกุสนั โธ และ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๒๑ (พระพุทธเจา้ พระองคเ์ ดียวในกปั ป์ นนั ) * ผชู้ ายเกิดมากกว่าหญิง * ๑. พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๘ พระเตยยะพุทธะ ๒. พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๑๐ พระสุมงั คละ (ครูบาศรีวชิ ยั ) ๓. พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๑๕ พระราชเถรโพธินนั โพธิสตั ว์ ๔. พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๑๖ พระสิริธรรมเมธีพุทธะ หนา้ 569 จาก 569
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คตี ะธารา พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รัชกาลที ๕ พระพทุ ธเจา้ หลวง ๕. พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๑๗ พระเจา้ ไชยเชษฐาธิราช ผปู้ กครอง ราชอาณาจกั รลา้ นชา้ ง เมืองเวียงจนั ทร์ และอาณาจกั รลา้ นนา เมืองเชียงใหม่ ๖. พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๒๑ (พระพทุ ธเจา้ พระองคเ์ ดียวในกปั ป์ นนั ) * จาํ นวนพระปัจเจกก์พระพทุ ธเจา้ จะมาตรัสรู้ต่อไปขา้ งหนา้ ตาม ยคุ สมยั กปั ป์ ก่อนทีพระพทุ ธเจา้ จะมาตรัสรู้ * พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๑ พระปัจเจกก์พระพุทธเจา้ จะมาตรัสรู้ก่อน จาํ นวน ๒๐๑,๐๐๐ องค์ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๒ พระปัจเจกก์พระพทุ ธเจา้ จะมาตรัสรู้ก่อน จาํ นวน ๓๐๐,๐๐๐ องค์ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๓ พระปัจเจกก์พระพุทธเจา้ จะมาตรัสรู้ก่อน จาํ นวน ๔๐๐,๐๐๐ องค์ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๔ พระปัจเจกก์พระพทุ ธเจา้ จะมาตรัสรู้ก่อน จาํ นวน ๒๐๐,๐๐๐ องค์ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๕ พระปัจเจกก์พระพุทธเจา้ จะมาตรัสรู้ก่อน หนา้ 570 จาก 570
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คีตะธารา จาํ นวน ๒๐๐,๐๐๐ องค์ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๖ พระปัจเจกก์พระพทุ ธเจา้ จะมาตรัสรู้ก่อน จาํ นวน ๒๐๐,๐๐๐ องค์ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๗ พระปัจเจกก์พระพทุ ธเจา้ จะมาตรัสรู้ก่อน จาํ นวน ๒๐๐,๐๐๐ องค์ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๘ พระปัจเจกก์พระพทุ ธเจา้ จะมาตรัสรู้ก่อน จาํ นวน ๗๐๐,๐๐๐ องค์ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๙ พระปัจเจกก์พระพทุ ธเจา้ จะมาตรัสรู้ก่อน จาํ นวน ๒๐๐,๐๐๐ องค์ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๑๐ พระปัจเจกก์พระพทุ ธเจา้ จะมาตรัสรู้ก่อน จาํ นวน ๙๕๐,๐๐๐ องค์ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๑๑ พระปัจเจกก์พระพทุ ธเจา้ จะมาตรัสรู้ก่อน จาํ นวน ๓๐๐,๐๐๐ องค์ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๑๒ พระปัจเจกกพ์ ระพุทธเจา้ จะมาตรัสรู้ ก่อน จาํ นวน ๗๕๐.๐๐๐ องค์ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๑๓ พระปัจเจกก์พระพุทธเจา้ จะมาตรัสรู้ ก่อน จาํ นวน ๕๐,๐๐๐ องค์ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๑๔ พระปัจเจกก์พระพทุ ธเจา้ จะมาตรัสรู้ หนา้ 571 จาก 571
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คีตะธารา ก่อน จาํ นวน ๕๐,๐๐๐ องค์ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๑๕ พระปัจเจกกพ์ ระพุทธเจา้ จะมาตรัสรู้ ก่อน จาํ นวน ๖๐,๐๐๐ องค์ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๑๖ พระปัจเจกก์พระพทุ ธเจา้ จะมาตรัสรู้ก่อน จาํ นวน ๑,๑๕๐,๐๐๐ องค์ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๑๗ พระปัจเจกก์พระพุทธเจา้ จะมาตรัสรู้ ก่อน จาํ นวน ๒๕,๐๐๐ องค์ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๑๘ พระปัจเจกก์พระพทุ ธเจา้ จะมาตรัสรู้ ก่อน จาํ นวน ๓๕,๐๐๐ องค์ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๑๙ พระปัจเจกกพ์ ระพทุ ธเจา้ จะมาตรัสรู้ก่อน จาํ นวน ๑๐๐,๐๐๐ องค์ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๒๐ พระปัจเจกกพ์ ระพทุ ธเจา้ จะมาตรัสรู้ ก่อน จาํ นวน ๒๕๐,๐๐๐ องค์ พระโพธิสตั วอ์ งคท์ ี ๒๑ พระปัจเจกกพ์ ระพุทธเจา้ จะมาตรัสรู้ ก่อน จาํ นวน ๓๐๐,๐๐๐ องค์ * อายกุ ารตกนรกอเวจีของครูทงั ๖ * ๑. นิครนถ์ ๑๐,๐๐๐ พทุ ธะมาตรัสรู้ในโลก ๒. สญชยั ๑,๐๐๐ พุทธะมาตรัสรู้ในโลก หนา้ 572 จาก 572
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คีตะธารา ๓. กสั สปะ ๑๐๐,๐๐๐ พุทธะมาตรัสรู้ในโลก ๔. วคั ลิโคสาล ๑๐,๐๐๐ พุทธะมาตรัสรู้ในโลก ๕. ปกกุกจั จายนะ ๑๐,๐๐๐ พทุ ธะมาตรัสรู้ในโลก ๖. เกสกมั พล ๑๐,๐๐๐ พุทธะมาตรัสรู้ในโลก * อายกุ ารหล่มของแผน่ ดิน * ๑. บึงโขงหลง ๑,๕๔๒ ปี ๒. หนองหาน สกลนคร ๑,๕๔๒ ปี ๓. หนองหาน กมุ ภวาปี (กุมภวดี) ๑,๐๔๒ ปี ๔. หนองแส ๑,๕๔๒ ปี ๕. กว๊านพะเยา ๑,๕๔๒ ปี ๖. บึงบรเพต็ ๑,๐๔๒ ปี ...ให้บวกเพิมทกุ ปี พ.ศ.บนั ทึก สิงหาคม ๒๕๔๒ * นาํ หนกั ของพระบรมสารีริกธาตขุ องวดั ป่ าวิเวกวฒั นาราม (วดั ป่ าบา้ นหว้ ยทราย) ชงั แห้งก่อนอญั เชิญสรงนาํ * ชงั ในวนั วิสาขะ บชู า ปี พ.ศ.๒๕๔๒ พระบรมสารีริกธาตขุ องพระพทุ ธเจา้ ๑๓.๖๕ กิโลกรัม พระธาตพุ ระสาวก ๑.๐๐ กิโลกรัม พระธาตพุ ระสีวลี ๐.๓๕ กิโลกรัม หนา้ 573 จาก 573
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คตี ะธารา พระธาตุพระอปุ คุต ๐.๓๕ กิโลกรัม พระพุทธเจา้ มีอยู่๙ ระดบั พระพุทธเจา้ ปัญญาธิกะที ๑ อายุ ๑๐,๐๐๐ ปี พระพทุ ธเจา้ ปัญญาธิกะที ๒ อายุ ๕,๐๐๐ ปี พระพุทธเจา้ ปัญญาธิกะที ๓ อายุ ๑๐๐ ปี พระพุทธเจา้ สทั ธาธิกะที ๑ อายุ ๔ หมืนปี พระพุทธเจา้ สทั ธาธิกะที ๒ อายุ ๓ หมืนปี พระพทุ ธเจา้ สทั ธาธิกะที ๓ อายุ ๒ หมืนปี พระพุทธเจา้ วิริยาธิกะที ๑ อายุ ๑ แสนปี พระพุทธเจา้ วิริยาธิกะที ๒ อายุ ๙ หมืนปี พระพทุ ธเจา้ วิริยาธิกะที ๓ อายุ ๘ หมืนปี ...พระชนมายขุ องพระพทุ ธเจา้ มีอายขุ ยั ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ ปี และ ไม่ตาํ กว่า ๑๐๐ ปี เหตุผลเพราะว่า...อายตุ าํ กว่า ๑๐๐ ปี บาปธรรม ราคะ - โทสะ - โมหะ มีมากเกินกว่าการสะสางในขนั ธสนั ดาน หากอายมุ ากเกิน ๑๐๐,๐๐๐ ปี ชาติ ชรา มรณะ จะไม่ค่อยปรากฏ ขนั ธสนั ดานห่างจากการปรากฏของไตรลกั ษณะ... ผบู้ าํ เพญ็ เป็นพทุ ธะแบบปัญญาธิกะ ตอ้ งเรียงลาํ ดบั พทุ ธะเพือรบั พทุ ธพยากรณ์...ผา่ นพระพทุ ธเจา้ ๓ องค์ หนา้ 574 จาก 574
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คีตะธารา ผบู้ าํ เพญ็ เป็นพทุ ธะแบบสทั ธาธิกะ ตอ้ งเรียงลาํ ดบั พทุ ธะเพือรบั พุทธพยากรณ์...ผา่ นพระพุทธเจา้ ๔ องค์ ผบู้ าํ เพญ็ เป็นพุทธะแบบวิริยาธิกะ ตอ้ งเรียงลาํ ดบั พทุ ธะเพือรับ พทุ ธพยากรณ์...ผา่ นพระพทุ ธเจา้ ๖ องค์ * การบาํ เพญ็ เรืองลาภสกั การะขององคพ์ ทธะ มีอยู่๔ ระดบั * ๑. หีนลาภ อดยาก พอไดอ้ ยไู่ ดใ้ ช้อาศยั อยา่ งขอไปที ผคู้ นหยาบ คาย ตระหนี ไม่ชอบการแบ่งปัน ๒. มชั ฌิมลาภ ลาภสกั การะปานกลาง ไม่ขาดแคลน ใชส้ ะดวกให้ อาํ นวยสบายได้ แต่ไม่มากไป ผคู้ นปานกลาง หยาบมี มีนิสสยั ละ เอียดบา้ ง ผคู้ นเอือเฟื อกนั ดี ๓. อุตตมลาภ อุดมสมบรู ณ์ เหลือใชเ้ หลือสอย ผคู้ นละเอียด สิกขาบทนอ้ ย พืชพนั ธุธ์ ญั ญาหารสมบูรณ์ ๔. มหาลาภ วตั ถใุ นโลกมีมาก มากจนผคู้ นมีความโลภในเรือง วตั ถุนอ้ ยทีสุด พวกรัตนชาติเกิดมากมีทวั ไปในโลก สิกขาบทมีแต่ ปาราชิก ๔ เพราะผคู้ นละเอียด ทีหยาบก็มีแต่สงั ฆาทิเสส ๑๓ ขอ้ “ การบาํ เพญ็ ทีแตกต่างกนั ของพระโพธิสตั วพ์ ุทธภมู ิ ทีแตกต่าง กนั มีดงั นี ๑. อายุ ขององคพ์ ุทธะ มาก ปานกลาง นอ้ ย หนา้ 575 จาก 575
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คีตะธารา ๒. สาวก ขององคพ์ ุทธะ มาก ปานกลาง นอ้ ย ๓. สาวกแวดลอ้ ม ขององคพ์ ุทธะ มาก ปานกลาง นอ้ ย ๔. ความสูง ของพระวรกายขององคพ์ ทุ ธะ มาก ปานกลาง นอ้ ย ๕. อโุ บสถ ขององคพ์ ทุ ธะ มาก ปานกลาง นอ้ ย ๖. การเทศน์ ขององคพ์ ุทธะ มาก ปานกลาง นอ้ ย ๗. รัศมีรูปกาย ขององคพ์ ุทธะ มาก ปานกลาง นอ้ ย ๘. เดียรถีย์ เกิดในยคุ สมยั ขององคพ์ ทุ ธะ มาก ปานกลาง นอ้ ย (หมายความรวมถึงตงั แต่อุบตั ิขึนขององคพ์ ทุ ธะจนถึงอนั ตราน ไปของอายศุ าสนาของแต่ละพระองค)์ ๙. ลาภสกั การะ ขององคพ์ ุทธะ มาก ปานกลาง นอ้ ย ๑๐. การไปอเวจี ขององคพ์ ุทธะ มาก ปานกลาง นอ้ ย (แลว้ แต่การ สร้างบารมีขององคพ์ ทุ ธะทีปราถนาต่างกนั ไปตามทีปราถนา ปราถนาแบบวิริยะกะ ก็ตอ้ งทาํ ให้มากกว่าแบบศรัทธาธิกะ และ แบบปัญญาธิกะ เพราะตอ้ งขนสตั วโ์ ลกมากกว่าแบบทงั ๒ แลว้ ยงั ตอ้ งมีระดบั อีก ระดบั ๑ ระดบั ๒ และระดบั ๓ ก็แตกต่างกนั ไป ในการบาํ เพญ็ บารมีขององคพ์ ทุ ธะ) ๑๑. จาํ นวนพระปัจเจกก์มาตรัสรู้ในช่วงจงั หวะก่อนตรัสรู้เป็น องคพ์ ระพทุ ธเจา้ จาํ นวน มาก ปานกลาง นอ้ ย ” หนา้ 576 จาก 576
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คตี ะธารา “พระพุทธเจา้ แบบพิเศษ มีอยู่ ๓ ระดบั ชนั ตรี ๒๕ องคพ์ ทุ ธะ ได้ ๑ องคพ์ ุทธะ ทาํ โลกให้สวา่ ง ชนั โท ๓๖ องคพ์ ทุ ธะ ได้ ๑ องคพ์ ุทธะ ไม่มีเดียรถีย์ ชนั เอก ๕๐ องคพ์ ทุ ธะ ได้ ๑ องคพ์ ุทธะ กฏุ ีนิมิตไปในอากาศหมด เดียรถยี ์” “ หากยงั ไม่พน้ ทุกข์ อยา่ ให้ไดไ้ ปเกิดในยคุ สูญญกปั ป์ เพราะเป็น ยคุ คนมืดหนา ไม่มีความดี คนเหมือนสตั ว์ คนในยคุ นนั ตณั หา พยาบาทแรงกลา้ โทสะแรงกลา้ คาํ ว่าญาติไม่มี คาํ ว่าธรรมไม่มี ในทีสุดก็ถึงแก่พินาศดว้ ยอาหาร ดว้ ยการประหตั ประหารฆ่าฟัน ดว้ ยโรคภยั หากเราไม่รักษาความดี ไม่ทาํ ความดีเดียวนี เมือไป เกิดในยคุ สมยั ดงั ว่ามานี มนั สูญเปล่า ล่าชา้ เสียชาติเกิด ”.... ธรรมะประวตั อิ งคห์ ลวงป่ จู าม มหาปญุ โญ ผมู้ ากมีบุญ วดั ป่ าวิเวก วฒั นาราม ตอนที ๑๙๓ (วดั ป่ าบา้ นห้วยทราย) บา้ นหว้ ยทราย ต.คาํ ชะอี อ.คาํ ชะอี จ. มุกดาหาร ๒๖ กนั ยายน ๒๕๕๙ หนา้ 577 จาก 577
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คตี ะธารา “ อนาคตวงศพ์ ระนิยตโพธิสตั ว์ ๓๐ พระองค์ ” เรานีถือว่าเป็นหนา้ ทีของเราเอง มนั ตอ้ งผา่ นสิงเหล่านีต่อๆไป เกิดมาแลว้ มนั ตอ้ งมีภยั ไม่ภยั อยา่ งหนึง ก็ภยั อีกอยา่ งหนึง ความติ ฉิน ความนินทาเป็นภยั ความยกยอ่ งสรรเสริญเป็นภยั สิงเหล่านี แปลว่าตืนพยาธิโรคา เป็นภพ ภพไปสู่สวรรค์ไปสู่พรหมโลก เรานีแปลว่าหนา้ ทีของทกุ คนนนั เอง มนั ตอ้ งผา่ นพบปะสิงเหล่านี ตลอดไป ใหเ้ ราทุกคนฟังแลว้ ใหค้ ิดอ่านพิจารณาตวั ของตนต่อไป จะไดเ้ ป็นปัจจยั เป็นเครืองเตือนตวั ของเราต่อไปภายเมือหนา้ หนา้ ทีนรกไป หนา้ ทีสวรรคไ์ ป หนา้ ทีเป็นผไี ป หนา้ ทีเป็นเปรต ไป เอากนั อยอู่ ยา่ งนีตลอดเป็นนิตย์ กลบั ไปกลบั มา ให้นึกถึงคุณ งามความดีของตนต่อ เมือพบปะอนั ตรายใดๆ บคุ คลทีมีเวรต่อกนั แลว้ กทู าํ ร้ายมึง มึงทาํ ร้ายกู ชีวิตนีชีวิตหนา้ ไม่ใหพ้ น้ ภยั ไปไดง้ ่ายๆ ใหเ้ รามีความอดทน ในการทาํ ความดี เก็บเลก็ ผสมนอ้ ย เราจึงจะไดข้ ยบั เขา้ ใกลก้ บั บณั ฑิตในภายภาคหน้า จึงใหก้ นั พอใจสะสมสมบตั ิความดีของตน บญุ ของพวกเราใน อดีตไดท้ าํ มาดีแลว้ แต่ก็ให้เพิมความดีของตนจึงจะไดช้ ยั ชนะ ภายในวนั ขา้ งหนา้ จึงจะไดส้ าํ เร็จมรรคผลเป็นพระอริยะบุคคล หนา้ 578 จาก 578
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คีตะธารา พระอริยะบุคคลทีท่านไดส้ าํ เร็จสิงความชวั ไดเ้ ดด็ ขาดในใจของ ท่านจึงไดส้ าํ เร็จเป็นพระอริยะบุคคล พน้ จากบญุ พน้ จากบาป มี ธรรมะเป็นทีอยใู่ นใจของตน ถึงเวลาวาระแลว้ ทีจะทาํ ความดีของตน ถึงเวลาแลว้ ก็ตงั ใจใหแ้ น่ แน่ว สูยงั สิไดเ้ กิดอยนู่ ีจกั เท่าภพเท่าไหร่กลั ป์ เท่าไหร่กปั เท่าไหร่ ชาติ จึงจะไดไ้ ปสู่พระนิพพาน มนั ยงั จะไดเ้ กิดในโลกนีนบั บ่ไดล้ ่ะ ตายเกิด ตายเกิด อยจู่ น ตลอดไป ชีวิตทีอายยุ าว ก็อสงไขยปี ตาย ชีวิตทีอายสุ นั ๆ ก็ ๑๐ ปี ตาย มนั จะผา่ นต่อไปเมือหนา้ พระศรีอารียะฯ ต่อแต่นีจะไปตรัสรู้เป็น พระศรีอาริยะเมตไตรโย พทุ ธเจา้ ๒ กปั ๑ คนอายุ ๑๐๐ ปี ลง เมือครบรอบ ๑ ปี อายลุ ดลง ๑ ปี ๑๐๐ปี เมือรอบหลุด ๑ ปี จนถึงอายไุ ขยมนุษยถ์ ึง ๑๐ ปี ตาย ปี ทุกๆ ๑๐๐ ปี อายมุ นุษยจ์ ะลดลง ๑ ปี (อายเุ ฉลียปัจจบุ นั ๗๕ ปี อายนุ อ้ ยลง คนก็จะตวั เลก็ ลง อายมุ ากขึน คนก็ตวั ใหญ่ขนึ ) เรียกว่า กปั ไขยขึน แลว้ ๑๐๐ ปี อายขุ องมนุษยเ์ พิมขึน๑ ปี ทุกๆ ๑๐๐ ปี อายมุ นุษยจ์ ะ เพิม๑ ปี จนถึง อสงไขยปี คาํ ว่าอสงไขยปี แปลว่านบั ไม่ได้ร้อย หนา้ 579 จาก 579
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คตี ะธารา ลา้ น พนั ลา้ น หมืนลา้ น แสนลา้ น หลายแสนลา้ น จนนบั ลา้ น ไม่ได้อนั นนั เรียก อสงไขยปี เรียกว่า กปั ไขยลง เมือถึงอสงไขยปี แลว้ ๑๐๐ ปี รอบหลุด ๑ ปี จนถึงอายมุ นุษยย์ คุ นนั ถึง ๘ หมืนปี พระศรีอาริยะฯ จึงจะไดล้ งมาตรัสรู้ในโลก เมือ พระองคอ์ ายุ ๑๓,๕๐๐ ปี เจา้ ออกบวชบาํ เพญ็ ๗ วนั จกั ไดต้ รัส เป็นพุทธเจา้ เทศนส์ อนธรรมอยู่ ๘๐,๐๐๐ ปี อายุ ๑๐๓,๕๐๐ ปี เสดจ็ เขา้ สู่พระปรินิพพาน พระศรีอาริยะฯ ยงั จะตอ้ งเกิดอีก ๓ หมืนชาติ ยงั จะไปตกนรกอีก ๓๐๐ ชาติ พวกสูอยา่ เขา้ ใจว่าตวั ของตนดี ขนาดเพินบารมีแก่ขนาดนนั ยงั จะตอ้ งไปนรกอีก ๓๐๐ ชาติ ยงั จะเกิดอีก ๓ หมืนชาติ หมดจากนนั ไปแลว้ พระพุทธเจา้ เทศน์สอนธรรมะอยอู่ ีก ๘ หมืน ปี สาวกองคพ์ ระอรหนั ต์ เทศน์สอนธรรมอีก ๘๐,๐๐๐ ปี อุบาสก อบุ าสิกา สาํ เร็จธรรม เป็นพระโสดาบนั สกทาคามี อนาคามี เทศน์ สอนธรรม อีก ๘๐,๐๐๐ ปี อบุ าสก อบุ าสิกา รักษาศีล ๕ ศีล ๘ เทศนส์ อนธรรม อีก ๘๐,๐๐๐ ปี หนา้ 580 จาก 580
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คีตะธารา หมดจากนนั ไปแลว้ เป็นสูญกปั จนถึง ๑ แสนกปั คนอายสุ นั ๑๐ ปี ตาย ๕ หมืนครัง คนอายยุ าวถึงอสงไขยปี ตาย ๕ หมืนครัง จึงจะไดต้ งั ภทั รกปั ของพระรามพทุ ธเจา้ ภทั รกปั นนั มี ๘ กปั คน อายสุ นั ๑๐ ปี ตาย ๔ ครัง คนอายยุ าวถึงอสงไขยปี ตาย ๔ ครัง ครัน กปั สุดทา้ ย พระรามฯ จึงจะไดล้ งมาตรัสรู้เป็นพระรามพทุ ธเจา้ ในตน้ ปี จนตลอดไปนนั จะมีพระฤาษีโยคีเกิดขึน จะมีพระยา จกั รพรรดิตราธิราชเกิดขึน จะมีพระปัจเจกพุทธเจา้ เกิดขึน คน ทงั หลายจะไดท้ าํ บญุ กบั พระปัจเจกก์ ทาํ บญุ กบั พระฤาษีโยคี และ จะไดฟ้ ังธรรมจากพระยาจกั รพรรดิตาธิราช จนกปั สุดทา้ ย พระรามฯ จึงจะไดล้ งมาตรัสรู้เป็นพระรามพุทธเจา้ มี พระพทุ ธเจา้ พระองคเ์ ดียวในภทั รกปั นนั หมดจากนนั ไปอีก ๑ แสนกปั นาราธิราช ตงั ภทั รกปั ขึนอีก ๘ กปั จึงจะไดล้ งมาตรัสรู้เป็นพระพทุ ธเจา้ มีพระพทุ ธเจา้ พระองคเ์ ดียว ในภทั รกปั นนั หมดจากนนั ไปอีกสูญกปั ไปอีก ๑ แสนกปั พระเจา้ ปเสนทิโกศล (พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รัชกาลที ๔ ผเู้ พินตงั พระ หนา้ 581 จาก 581
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คีตะธารา คณะธรรมยตุ ิขึนในเมืองไทยเราเป็นพระองคแ์ รก) กบั พระ อินทราธิราช จึงจะไดล้ งมาตรัสรู้ ในภทั รกปั นนั มีพระพุทธเจา้ ๒ องค์ หมดจากนนั ไปอีกสูญกปั ไปอีก ๑ แสนกปั พระสุภะ จึงจะไดล้ ง มาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจา้ มีพระพทุ ธเจา้ พระองคเ์ ดียวในภทั รกปั นนั หมดจากนนั ไปอีกสูญกปั ไปอีก ๑ แสนกปั พระโสณะ มาตรัส รู้เป็นพระพทุ ธเจา้ มีพระพทุ ธเจา้ พระองคเ์ ดียวในภทั รกปั นนั หมดจากนนั ไปอีกสูญกปั ไปอกี ๑ แสนกปั พระเตยยะ มาตรัสรู้ เป็นพระพทุ ธเจา้ มีพระพทุ ธเจา้ พระองคเ์ ดียวในภทั รกปั นนั หมดจากนนั ไปอีกสูญกปั ไปอกี ๑ แสนกปั กบั อีก ๑ หมืนกปั กบั อีก ๕ พนั กปั พระนาฬาคิลิงค์ ครูบาขาวปี (พญาชา้ งนาฬาคิลิงค)์ จึงจะไดล้ งมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจา้ มีพระพุทธเจา้ พระองคเ์ ดียว ในภทั รกปั นนั หมดจากนนั ไปอีกสูญกปั ไปอกี ๑ แสนกปั พระพุทธเจา้ องคท์ ี ๑๐ จึงจะไดล้ งมาตรัสรู้เป็นพระพทุ ธเจา้ พระปาลิไลยโย ครูบาศรี หนา้ 582 จาก 582
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คตี ะธารา วิชยั (พญาชา้ งปาลิไลย)์ มีพระพทุ ธเจา้ พระองคเ์ ดียวในภทั รกปั นนั หมดจากนนั ไปอีกสูญกปั ไปอกี ๑ แสนกปั พระพทุ ธเจา้ องคท์ ี ๑๑ จึงจะไดล้ งมาตรัสรู้ องคท์ ี ๑๑ ตอนนียงั บาํ เพญ็ บารมีอยู่ เกิดเป็น โคสภราชวดั ศรีจอมทอง เชียงใหม่ ลากจูงขนไมข้ นของอยวู่ ดั ศรี จอมทอง องคท์ ี ๑๒ ตอนนียงั ไปตกนรกอยู่ ในภทั รกปั นนั มี พระพุทธเจา้ มาตรัสรู้เพยี ง ๒ พระองค์ หมดจากนนั ไปอีกสูญกปั ไปอกี ๑ แสนกปั มหาตมา คานธี กบั สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถ หรือ สมเดจ็ พระราเมศวรบรมไตร โลกนาถบพิตร หรือ สมเดจ็ พระราเมศวร ทีเพินไดเ้ สวยราช สมบตั ิเป็นกษตั ริยไ์ ทยในอดีต จกั ไดล้ งมาตรัสรู้เป็นพระพทุ ธเจา้ องคท์ ี ๑๓ กบั องคท์ ี ๑๔ ในภทั รกปั นนั มีพระพทุ ธเจา้ มาตรัสรู้ เพียง ๒ พระองค์ หมดจากนนั ไปอีกสูญกปั ไปอกี ๑ แสนกปั พระราชเถรโพธินนั จึงจะไดล้ งมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจา้ องคท์ ี ๑๕ มีพระพทุ ธเจา้ พระองคเ์ ดียวในภทั รกปั นนั หนา้ 583 จาก 583
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คีตะธารา หมดจากนนั ไปอีกสูญกปั ไปอกี ๑ แสนกปั กบั อกี ๒ หมืนกปั พระปิ ยะมหาราช ทีเพินไดเ้ สวยราชสมบตั ิเป็นกษตั ริยใ์ น เมืองไทย พระปิ ยะมหาราช รัชกาลที ๕ จกั ไดล้ งมาตรัสรู้เป็น พระพทุ ธเจา้ องคท์ ี ๑๖ มีพระพุทธเจา้ พระองคเ์ ดียวในภทั รกปั นนั หมดจากนนั ไปอีกสูญกปั ไปอกี ๑ แสนกปั พระเจา้ ไชยเชษฐาธิ ราช ผปู้ กครองราชอาณาจกั รลา้ นชา้ ง เมืองเวยี งจนั ทร์ ได้ สถาปนาพระธาตหุ ลวงเวยี งจนั ทร์ ไดส้ ร้างพระพุทธรูปพระเจา้ องคต์ ือ ตอนนีอยวู่ ดั ศรีชมภอู งคต์ อื ตาํ บลนาํ โมง อาํ เภอท่าบ่อ จงั หวดั หนองคาย เป็นพระพทุ ธรูปทีประชาชนจากสองฝังโขงให้ความเคารพและ เลือมใสศรัทธามาก หลวงพอ่ พระไชยเชษฐาธิราช วดั พระไชย เชษฐาธิราช บา้ นกวนวนั ใหญ่ ตาํ บลกวนวนั อาํ เภอเมือง จงั หวดั หนองคาย สร้างโดยพระเจา้ ไชยเชษฐาธิราช เมือครังโบราณ กษตั ริยล์ าวทุกพระองคจ์ ะเสดจ็ มากราบนมสั การทุกปี อนั แสดงถึงความสาํ คญั ของพระพทุ ธรูปองคน์ ี ไดส้ ร้างพระธาตุ หนา้ 584 จาก 584
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คีตะธารา ศรีสองรัก ตอนนีอยเู่ มืองเลย และเคยเป็นกษตั ริยป์ กครอง อาณาจกั รลา้ นนา เมืองเชียงใหม่ในอดีต จกั ไดล้ งมาตรัสรู้เป็น พระพทุ ธเจา้ องคท์ ี ๑๗ กบั พระอาจารยด์ ี ฉนฺโน (หลวงป่ ดู ี ฉนั โน วดั ภเู ขาแกว้ ต.พิบูล อ. พิบูลมงั สาหาร จ.อบุ ลราชธานี ท่านเป็นศิษยข์ องหลวงป่ ใู หญ่ เสาร์ กนฺตสีโล และหลวงป่ ใู หญ่มนั ภูริทตฺโต จกั ไดล้ งมาตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจา้ องคท์ ี ๑๘ ในภทั รกปั นนั มีพระพุทธเจา้ ๒ พระองค์ หมดจากนนั ไปอีกสูญกปั ไปอกี นานทีสุด องคท์ ี ๑๙ กบั องคท์ ี ๒๐ จึงจะไดล้ งตรัสรู้ มีพระพุทธเจา้ ๒ พระองคใ์ นภทั รกปั นนั หมดจากนนั ไปอีกสูญกปั ไปอกี ๑ แสนกปั องคท์ ี ๒๑ จึงจะไดล้ ง ตรัสรู้ มีพระพุทธเจา้ ๑ ในภทั รกปั นนั หมดจากนนั ไปอีกสูญกปั ไปอีกนานทีสุด องคท์ ี ๒๒ กบั องคท์ ี ๒๓ เป็นประเภทปัญญาธิกะที ๒ กบั ปัญญาธิกะที ๓ จกั ไดล้ งมา ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจา้ ในภทั รกปั นนั มีพระพุทธเจา้ ๒ พระองค์ หมดจากนนั ไปอีกสูญกปั ไปอกี ๑ แสนกปั องคท์ ี ๒๔ จึงจะไดล้ ง ตรัสรู้ มีพระพุทธเจา้ ๑ ในภทั รกปั นนั หนา้ 585 จาก 585
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คีตะธารา หมดจากนนั ไปอีกสูญกปั ไปอีก ๑ แสนกปั องคท์ ี ๒๕ กบั องคท์ ี ๒๖ จึงจะไดล้ งตรัสรู้ มีพระพุทธเจา้ ๒ ในภทั รกปั นนั หมดจากนนั ไปอีกสูญกปั ไปอกี ๑ แสนกปั องคท์ ี ๒๗ กบั องคท์ ี ๒๘ จึงจะไดล้ งตรัสรู้ มีพระพทุ ธเจา้ ๒ ในภทั รกปั นนั หมดจากนนั ไปอีกสูญกปั ไปอีก ๑ แสนกปั องคท์ ี ๒๙ กบั เจา้ เมืองนครพนม เจา้ คณุ จนั ทร์ เขมิโย วดั ศรีเทพประดิษฐาราม อ. เมือง จ.นครพนม องคท์ ี ๓๐ แบบพระวิริยะที ๑ อายแุ สนปี เพิน เป็นอาจารยข์ องอปุ ัชฌายผ์ ขู้ า้ ฯ เจา้ คณุ ธรรมเจดีย์ ท่านเจา้ คุณจูม พนั ธุโล วดั โพธิสมภรณ์ เมืองอุดร ในภทั รกปั นนั มีพระพุทธเจา้ ๒ พะองค์ จกั ลงมาตรัสรู้ อนั นีหมายถึงการจะลงมาตรัสรู้ของพระพุทธเจา้ ไปในภายภาค หนา้ ห่างไกลทีสุด ๑ แสนกปั ตงั แต่พระปทุมุตตะโรพุทธเจา้ พระสุชาตะโรพทุ ธเจา้ มี พระพุทธเจา้ ๑๖ พระองค์ นบั ตงั แต่พระทีปังกรพุทธเจา้ มาตรัสแลว้ นบั จากนนั ไปสูญกปั อีก ๕ หมืนกปั พระโกณฑญั ญะพทุ ธเจา้ มา ตรัส หนา้ 586 จาก 586
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คตี ะธารา ต่อจากนนั ไปสูญกปั ไปอีก ๑ แสนกปั พระมงั คะละพุทธเจา้ มา ตรัสสูญกปั ไปอีก ๑ แสนกปั พระมุนีสุมงั คะละพทุ ธเจา้ , พระ สุมะนะพุทธเจา้ , พระเรวะตะพทุ ธเจา้ , และพระโสภิตะพุทธเจา้ มาตรัสสูญกปั ไปอีก ๑ แสนกปั พระอโนมะทสั สีพุทธเจา้ , พระ ปะทมุ ะพุทธเจา้ , และพระนาระทะพทุ ธเจา้ มาตรัส สูญกปั ไปอกี ๓ หมืนกปั พระปทมุ ุตตะโรพุทธเจา้ พระสุชาตะโร พทุ ธเจา้ มาตรัสตงั แต่นนั พระพทุ ธเจา้ พระปทุมุตตะโรพทุ ธเจา้ จนมาถึงพระโคตมะพทุ ธเจา้ องคป์ ัจจุบนั ทีพวกเรากราบไหวอ้ ยู่ บดั เดียวนี ๑ แสนกปั อนั นีนบั ว่าดีทีสุด ๑ แสนกปั มีพระพทุ ธเจา้ ถึง ๑๖ พระองค์ ต่อไป เมือหนา้ นานทีสุด จึงจะมีพระพทุ ธเจา้ มาตรัสรู้ในโลก อนั นีหมายถึงบคุ คลทีจะตอ้ งเกิดตายอยใู่ นสมยั สูญกปั อายสุ นั อายยุ าว เท่าไหร่กปั เท่าไหร่กลั ป์ จนตลอดกนั ไป อยอู่ ยา่ งนี หนา้ ทีนรกไป หนา้ ทีเป็นเปรตไป หนา้ ทีเป็นเดรจั ฉานไป หนา้ ที เป็นผีไป หนา้ ทีสวรรคไ์ ป หนา้ ทีผเู้ ป็นฤาษีไปสู่พรหมโลกเอาอยู่ อยา่ งนีตลอดเป็นนิตย์ หนา้ 587 จาก 587
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คีตะธารา อนั นีท่านเรียกว่า สุคโต แปลว่าผมู้ าดี สุคโตแปลว่า ผไู้ ปดี ทกุ ข โต แปลว่า มาไม่ดี ทุกขโต แปลว่า ไปไม่ดี พวกเกิดในสมยั พุทธเจา้ ของพวกเรา พวกนนั เขาถือกาเจละกะ ผา้ ไม่นุ่ง ทุกขโต ไปไม่ดีไปสู่นรก หมู่พระของพระเทวทตั ๕๐๐ ยงั ติเตียนว่าพระพทุ ธเจา้ ไม่มีเมตตา บนั ดลบนั ดาลใหแ้ ผน่ ดินสูบลง ไปอเวจีนรก ติเตียนว่าเป็นคนขาดเมตตา เป็นคนไม่สงสารสตั ว์ ทงั หลายในโลก ทาํ ตวั เป็นคนสอนคนไปทวั โลกก็ยงั ไม่มีเมตตา พระเทวทตั ยอมตวั แลว้ ทกุ อยา่ งจึงมาขอขมาอดโทษ ผลจึงดล บนั ดาลใหไ้ ปสู่อเวจีมหานรก อนั นีผลของการติฉินนินทาองค์ พระพุทธเจา้ นางจิญจมานวิกา ก็เบียดเบียนพระพุทธเจา้ เอาไมม้ ดั กอบทอ้ ง หา ว่ามีทอ้ งมารขึน อา้ งว่าพระพทุ ธเจา้ โคตมะ ทาํ ใหต้ วั เองทอ้ งมารมี ลกู กบั พระพุทธเจา้ แต่ก่อนตวั เองสวย บดั ดลบนั ดาลพระอินทาธิราช เป็นหนูทนั ที มากดั เชือกขาดทีมดั ตุมไวเ้ ป็นทอ้ ง ท่อนไมต้ กลงไปทบั ตีนของตน พวกชาวบา้ นรุม เขา้ ไปจะฆ่ามนั มนั ก็วิงหนีออกไปประตูวดั พระเชตวนั แผน่ ดินก็ สูบลงอเวจีมหานรก อนั นีละนางจิญจมานวิกา หนา้ 588 จาก 588
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คตี ะธารา อนั นีใหเ้ ราคิดนึก อนั บุคคลไม่ไดค้ ิดพิจารณาประการใด มีแต่ เรืองความเบียดเบียนกนั ไปตลอดเป็นนิตย์ เห็นว่าเพินไดท้ าํ ความ ดีประการใด มีลาภเกิดขึนอยา่ งใด รูปงามอยา่ งใด เทศน์สอน ธรรมะอยา่ งใด คนนบั ถืออยา่ งใด แลว้ ตนของตนก็มีแต่เรืองอิจฉา อยตู่ ลอดเป็นนิตยอ์ นั เพินเรียกว่าบคุ คลไม่ฝึกฝนในบณั ฑิต ประการใด ๆ ใหเ้ ราทุกคนจงเขา้ ใจในตวั ของตนบดั ในการเดียวนี ใหส้ ะสมคณุ งามความดี จกั ไดพ้ บปะกบั พระพทุ ธเจา้ ไปในภาคเมือหนา้ แต่นีต่อไปก่อนจะถงึ พระศรีอาริยะฯจกั ไดม้ าลงมาตรัสรู้ จะมี ปัจเจกพุทธะลงมาตรัส ๒๐๑,๐๐๐ องค์ แต่จะไม่ไดล้ งมาพร้อม กนั ทีเดียว สุดแลว้ แต่ยคุ เพินจะลงมา๑๐๐, ๒๐๐, ๕๐๐, ๑ พนั , ๒ พนั , ๕ พนั , หมืน สองหมืน ตลอดกนั ไปเป็นนิตย์ ฤาษีไม่ตอ้ งพูดถึงมีมากมาย มีทงั ชาย ทงั หญิง ไปบาํ เพญ็ อยตู่ าม ภูเขาเหล่ากา พวกเหล่านีทาํ องคฌ์ าณให้ถึงก็ไปสู่พรหมโลก หนา้ 589 จาก 589
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คีตะธารา นีละไดเ้ ราคิดนึกแกไ้ ขตวั ของเจา้ ของ อยา่ ให้ไปตกนรก อยา่ เขา้ ใจว่านรกไม่มี เปรตไม่มี ผไี ม่มี ในวนั นีผีบางตนปี หนึงไดก้ ินขา้ วครังหนึง วนั นีดีใจพากนั โฮ่ร้อง สนนั หวนั ไหวอนั นีนบั ว่าผที ีไดร้ ับบุญกศุ ลยงั พอมีโอกาสไดร้ ับ บา้ ง ตามกรรมดีกรรมชวั ทีเคยทาํ มา ผีทงั ร้อยปี ไม่ไดก้ ินอาหาร ผีพนั ปี ไม่ไดก้ ินอาหาร ผีทงั พระพุทธเจา้ ไม่ไดก้ ินอาหารเหล่านีมีอยใู่ นโลก บางตนบ่ไดก้ ิน ขา้ วเลยตายแย่ อนั นีใหพ้ วกเราคิดนึกในตวั ของพวกเราตลอดไป อนั นีให้พวกเราคิดนึก ตวั ของเรามนั เป็นใครก็ ใจ นนั เอง ร่างกาย นีมนั เหมือนบา้ น มนั เหมือนเสือผา้ ของพวกเรา ออกจากร่างนนั ไปสู่ร่างนี แต่ใจไม่เคยตาย ร่างกายนีเป็นขา้ รับใชข้ องใจ จิตใจผมู้ ีปัญญา เขา ก็ทาํ ใหเ้ กิดประโยชน์เกิดบุญเกิดกุศล จิตใจผไู้ ม่มีปัญญาเขาก็ทาํ ให้ร่างกายนีเกิดบาปอกุศล พาใจดวงนีไปสู่นรก อนั นีให้พวกเราไดค้ ิดพิจารณาว่า ในตวั ของเรานีไดเ้ กิดเป็นคนได้ พบปะแลว้ พระพทุ ธเจา้ พระอรหนั ตท์ งั หลาย แต่บญุ กุศลของ หนา้ 590 จาก 590
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คตี ะธารา พวกเรายงั บท่ นั เพียงพอ จึงไม่ไดส้ าํ เร็จมรรคผล จึงไดพ้ ากนั มา เกิด เมือไดท้ าํ ความดีเกิดความยนิ ดีในความดี พอใจในใจของตน ยอมเสียสละแรงกาย ยอมเสียสละทรัพยส์ ิน ตลอดจนการทาํ ความดีไหวพ้ ระสวดมนต์ ไปจนกว่าคนงามความดีทีตนเองได้ สร้างบาํ เพญ็ มาจึงจะไดพ้ บประกบั พระพุทธเจา้ พระองคใ์ ด พระองคห์ นึงในภายภาคหนา้ จึงจะไดส้ าํ เร็จมรรคผล ตอนพระพุทธเจา้ ยงั มีชีวิตท่านเทศน์สอนธรรมบคุ คลสาํ เร็จมรรค ผลนิพพานกนั มากมาย บคุ คลยงั ไม่สาํ เร็จกอ็ ดั ขึนอดั ขึนเมือง สวรรค์ พระสาวกอรหนั ตท์ ่านก็เทศนส์ อนธรรม เมืองสวรรคก์ ็ อดั ขึนอดั ขึน พอไปอยสู่ วรรคแ์ ลว้ ความดีไม่เกิดมีแต่ความ สนุกสนานกนั ไปมือๆ วนั ๆหนึง ..เอา้ ตอนนีศาสนายงั มีเวย้ เอา้ พวกเฮาพากนั ลงมาเกิดสร้างบาํ เพญ็ กนั ดีกนั เถอะ.. บดั ลงมาแลว้ ก็หลงลืมกนั ไปแหล๋ว... ใหจ้ าํ เอาไวใ้ หพ้ ากนั ประกอบคุณงามความดีต่อไปจนกว่าจะหมดลมหายใจจากร่างนี ... หนา้ 591 จาก 591
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คีตะธารา ธรรมะประวตั ิองคห์ ลวงป่ จู าม มหาปุญโญ ผมู้ ากมีบุญ วดั ป่ าวิเวก วฒั นาราม ตอนที ๑๙๒ (วดั ป่ าบา้ นห้วยทราย) บา้ นหว้ ยทราย ต.คาํ ชะอี อ.คาํ ชะอี จ. มุกดาหาร ๒๖ กนั ยายน ๒๕๕๙ หนา้ 592 จาก 592
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คีตะธารา ไฟนรก เหล่านายนิรยบาลกล่าวกะสตั วน์ นั อยา่ งนีว่าดูกรพอ่ มหาจาํ เริญ เจา้ ตอ้ งการอะไร สตั วน์ นั บอกอยา่ งนีว่า ขา้ พเจา้ กระหาย เจา้ ขา้ เหล่านายนิรยบาลจึงเอา ++ ขอเหลก็ ร้อนมีไฟติดทวั ลกุ โพลง โชติช่วง ++ เปิ ดปากออกแลว้ เอานาํ ทองแดงร้อนมีไฟติดทวั ลกุ โพลง โชติ ช่วงกรอกเขา้ ไปในปาก ++ นาํ ทองแดงนนั จะไหมร้ ิมฝีปากบา้ ง ปากบา้ ง คอบา้ ง ทอ้ งบา้ ง ของสตั วน์ นั ++ พาเอาไสใ้ หญ่บา้ ง ไส้นอ้ ยบา้ ง ออกมาทางส่วนเบืองล่าง สตั ว์ นนั ยอ่ มเสวยเวทนาอนั เป็นทุกขก์ ลา้ เจบ็ แสบ อยู่ ณ ทีนนั และยงั ไม่ ตายตราบเท่าบาปกรรมนนั ยงั ไม่สิ นสุดดกู รภิกษทุ งั หลาย เหล่านายนิรยบาลจะโยนสตั วน์ นั เขา้ ไปในมหา นรกอีก ฯ [๕๒๔] ดกู รภิกษุทงั หลาย เรืองเคยมีมาแลว้ พระยายมไดม้ ีความ ดาํ ริอยา่ งนีว่า หนา้ 593 จาก 593
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คีตะธารา พ่อเจา้ ประคุณเอ๋ย เป็นอนั ว่า เหล่าสตั วท์ ีทาํ กรรมลามกไวใ้ นโลก ยอ่ ม [ ถูกนายนิรยบาลลงกรรมกรณ์ ต่างชนิดเห็นปานนี ] โอหนอ ๑.) ขอเราพึงไดค้ วามเป็นมนุษย์ ๒.) ขอพระตถาคตอรหนั ตสมั มาสัมพุทธพึงเสดจ็ อบุ ตั ิในโลก ๓.) ขอเราพึงได้ นงั ใกล้พระผมู้ ีพระภาคพระองคน์ นั ๔.) ขอพระผมู้ ีพระภาคพระองคน์ นั พึงทรง แสดงธรรมแก่เรา และ ๕.) ขอเราพึงรู้ทวั ถึงธรรมของพระผมู้ ีพระภาคพระองคน์ นั เถิด ฯ ดูกรภิกษทุ งั หลาย กเ็ รืองนนั เรามิไดฟ้ ังต่อสมณะหรือพราหมณ์ อืนๆ แลว้ จึงบอก ก็แล เราบอกเรืองทีรู้เอง เห็นเอง ปรากฏเองทงั นนั ฯ [๕๒๕] พระผมู้ ีพระภาคไดต้ รัสไวยากรณภาษิตดงั นี ครันแลว้ พระสุคตผศู้ าสดา ก็ได้ ตรัสคาถาประพนั ธ์ต่อไปอีกดงั นีว่า นรชนเหล่าใดยงั เป็นมาณพ อนั เทวทตู ตกั เตือน แลว้ ประมาทอยู่ นรชนเหล่านนั จะเขา้ ถึงหมู่สตั วเ์ ลวเศร้าโศกสิ นกาลนาน หนา้ 594 จาก 594
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คีตะธารา ส่วนนรชนเหล่าใด เป็นสตั วบ์ รุ ุษผสู้ งบระงบั ในโลกนี อนั เทวทตู ตกั เตือนแลว้ ยอ่ มไม่ประมาทในธรรมของพระอริยะ ในกาลไหนๆ เห็นภยั ในความถือมนั อนั เป็นเหตแุ ห่งชาติและ มรณะแลว้ ไม่ถือมนั หลดุ พน้ ในธรรมเป็นทีสิ นชาติและมรณะ ได้ นรชนเหล่านนั เป็นผถู้ ึงความเกษม มีสุข ดบั สนิทใน ปัจจุบนั ลว่ งเวรและภยั ทงั ปวงและเขา้ ไปล่วงทกุ ขท์ งั ปวงได้ฯ หนา้ 595 จาก 595
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คีตะธารา แหล่งอ้างองิ HTTP://WWW.THAIFABLE.COM/ HTTP://WWW.THAIFABLE.COM/?P=316 HTTP://BOARD.PALUNGJIT.ORG/F9/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0% B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%99%E0 %B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E 0%B8%8B%E0%B8%99-%E7%A6%85-%E3%81%9C%E3%82%93- 294200.HTML HTTPS://WWW.FACEBOOK.COM/SHORTZENSTORIES/ HTTP://WWW.WHATAMI.NET/ZEN/ZEN23.HTML HTTPS://WWW.FACEBOOK.COM/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8 %B0%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0 %B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C- %E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8 %A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0% B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99- 238296179593402/?FREF=NF หนา้ 596 จาก 596
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คตี ะธารา ขอขอบคุณทกุ ท่านทีติดตามผลงานของพีเจียบ ไม่วา่ กี เล่มทีวางขายในรูปแบบ ebook และในรูปเล่มของหนงั สือ ขอขอบคุณจากใจ ไม่มีสิงใดจะมอบให้นอกจากจะ พยายามนาํ เสนอแต่สิงทีดีเพือเป็นเพอื นคลายเหงาใหก้ บั ทกุ ท่าน ค่ะ ขอขอบคุณทุกการดาวโหลดนะคะ สามารถติดต่อพดู คยุ กบั พีได้ เพียงแค่เขา้ ไปใน google แลว้ คียค์ าํ ว่า “คตี ะธารา” ก็จะ สามารถติดตามผลงานและเขา้ ไปพดู คุยกนั ใน เฟสบคุ ไดแ้ ลว้ ค่ะ https://www.facebook.com/keetatara https://www.facebook.com/fukukorean https://www.facebook.com/khainiyai หนา้ 597 จาก 597
นิทานคติ และธรรมทศั นะ เรียบเรียงโดย คีตะธารา หนา้ 598 จาก 598
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 598
Pages: