Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เรื่องควรรู้ คู่มือนักปกครอง

เรื่องควรรู้ คู่มือนักปกครอง

Description: เรื่องควรรู้ คู่มือนักปกครอง

Search

Read the Text Version

592 เรื่องควรรู้ ค่มู อื นักปกครอง

เร่อื งควรรู้ คู่มอื นกั ปกครอง 593

594 เรื่องควรรู้ ค่มู อื นักปกครอง

เร่อื งควรรู้ คู่มอื นกั ปกครอง 595

596 เรื่องควรรู้ ค่มู อื นักปกครอง

เร่อื งควรรู้ คู่มอื นกั ปกครอง 597

598 เรื่องควรรู้ ค่มู อื นักปกครอง

เร่อื งควรรู้ คู่มอื นกั ปกครอง 599

600 เรื่องควรรู้ ค่มู อื นักปกครอง

เร่อื งควรรู้ คู่มอื นกั ปกครอง 601

602 เรื่องควรรู้ ค่มู อื นักปกครอง

เร่อื งควรรู้ คู่มอื นกั ปกครอง 603

604 เรื่องควรรู้ ค่มู อื นักปกครอง

เร่อื งควรรู้ คู่มอื นกั ปกครอง 605

606 เรื่องควรรู้ ค่มู อื นักปกครอง

เร่อื งควรรู้ คู่มอื นกั ปกครอง 607

608 เรื่องควรรู้ ค่มู อื นักปกครอง

การส่งเสริมความสมั พนั ธก์ บั ต่างประเทศ



การสง่ เสริมความสัมพันธก์ ับต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทยซง่ึ มหี นา้ ทแ่ี ละภารกจิ หลกั ในการรกั ษาความสงบเรยี บรอ้ ย และความมน่ั คง ภายใน ได้มีการปฏิบัติภารกิจท่ีให้การสนับสนุนนโยบายด้านการต่างประเทศของรัฐบาล โดยเฉพาะ อย่างย่ิงการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีในระดับจังหวัด และระดับท้องถ่ินกับประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าหน้าท่ีผู้เก่ียวข้องจึงต้องมีความรู้ในการปฏิบัติงานให้เป็นไป อย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม สอดคล้องกับพธิ ีการและแนวทางปฏิบัติตามหลกั สากล แนวปฏิบตั ิด้านพิธีการทตู ๑. การเตรยี มการเพอื่ อา� นวยความสะดวกแกป่ ระมขุ /ผนู้ า� /บคุ คลสา� คญั ชาวตา่ งประเทศ ในการ เยือนประเทศไทย ในฐานะพระราชอาคันตุกะหรือแขกของรัฐบาล หากมีภารกิจที่เก่ียวข้องในพื้นที่ จงั หวัด ตอ้ งมกี ารด�าเนินการ ดังนี้ - ผ้วู า่ ราชการจงั หวดั หรือผู้แทนร่วมพธิ ีตอ้ นรับและสง่ ณ ทา่ อากาศยาน/พนื้ ทตี่ ้อนรับ - ประสานการรกั ษาความปลอดภยั และอา� นวยความสะดวกตลอดระยะเวลาทพ่ี กั ในเขตพน้ื ท่ี - จดั เตรยี มป้ายตอ้ นรบั ประดับธง ณ สถานท่สี �าคัญทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับการเยอื นเพ่อื เปน็ เกยี รติ แกค่ ณะ - อา� นวยความสะดวกอน่ื ๆ ตามท่ีได้รบั มอบหมาย เช่น การเปน็ เจา้ ภาพจดั งานเล้ียงรบั รอง ท้งั น ้ี กองการต่างประเทศ ส�านกั งานปลดั กระทรวงมหาดไทย จะทา� หนา้ ท่เี ป็น Focal Point ในการประสานหนว่ ยงานในจงั หวดั สา� หรบั คา่ ใชจ้ า่ ยตา่ งๆ ทเ่ี กดิ ขนึ้ จงั หวดั จะตอ้ งดา� เนนิ การเสนอขอ เบกิ จา่ ยค่าใช้จ่าย ใหก้ องคลัง ส�านกั งานปลัดกระทรวงมหาดไทยโดยเร็ว และน�าสง่ เอกสารสรุปการใช้ เงนิ ไปยังกองคลัง ภายใน ๑๕ วัน หลงั เสร็จสิน้ การเยอื น เรอื่ งควรรู้ คมู่ อื นักปกครอง 611

ทั้งนี้ กองการต่างประเทศ สานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย จะทาหน้าท่ีเป็น Focal Point ในการ ประสานหน่วยงานในจังหวัด สาหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้น จังหวัดจะต้องดาเนินการเสนอขอเบิกจ่ายค่าใช้จ่าย ใหก้ องคลงั สานักงานปลดั กระทรวงมหาดไทยโดยเร็ว และนาสง่ เอกสารสรุปการใชเ้ งินไปยังกองคลงั ภายใน 15 วัน หลังเสรจ็ ส้นิ การเยอื น การดาเนินการเพื่ออานวยความสะดวกประมุขและผนู้ าตา่ งประเทศ ทเี่ ดินทางเยอื นประเทศไทยในฐานะพระราชอาคนั ตกุ ะ หรอื แขกรฐั บาล สานกั เลขาธิการนายกรฐั มนตรี - แจง้ กาหนดการเบื้องตน้ - นดั หมายประชมุ หารือและมอบหมายงาน หน่วยราชการตา่ งๆ ที่เกี่ยวข้อง กองการตา่ งประเทศ สานกั งานปลดั กระทรวงมหาดไทย รับมอบหมายงานเพ่ือประสานงานหน่วยงานภายในสงั กดั พิจารณาดาเนินการ กองคลงั เตรียมการเบกิ จา่ ยตรงจาก สานกั งบประมาณ ปลดั กระทรวงมหาดไทยลงนามเพอ่ื สง่ั การหนว่ ยงานในสงั กดั จงั หวดั กฟน./กปน. กฟภ./กปภ. สถ. ปภ. ปค. - เตรยี มการต้อนรบั - ดูแลความ - ดูแลความ - การประสาน - สนับสนุนการจัด - การอนญุ าตมี - รปภ. เรยี บรอ้ ยของระบบ เรียบรอ้ ยของระบบ อปท. สนบั สนนุ ใน รถดับเพลิง รถ อาวุธปนื - การแพทย์ฉกุ เฉนิ ไฟฟา้ และประปาใน ไฟฟา้ และประปาใน การเตรยี มการ อปุ กรณ์กูภ้ ัย รถ - การอานวยความ - ตกแต่งสถานที่ สถานทพ่ี ัก ณ กทม. สถานทพี่ ัก ณ พน้ื ท่ี ตอ้ นรบั กระเชา้ อุปกรณ์ สะดวกในการจัด (ตามแต่กรณ)ี และสถานท่ีใน ต่างจังหวัดและ ฉุกเฉนิ ตลอดจน คลน่ื ความถว่ี ทิ ยุ กาหนดการ สถานทใี่ น แผนป้องกนั ภยั และอนญุ าตให้ใช้ กาหนดการ เครอื ข่ายสอ่ื สาร ตลอดตลอดการ เยือน (แลว้ แตก่ รณี) ๒. การเตรียมการเพื่ออ�านวยความสะดวกแก่บุคคลส�าคัญชาวต่างประเทศที่เดินทางไปเยือน จงั หวัดต่างๆ ในการเดินทางมาเยือนประเทศไทยของบุคคลส�าคัญชาวต่างประเทศ อาจมีการเดินทางไป ยงั พ้นื ทีจ่ ังหวดั ตา่ งๆ นอกจากกรงุ เทพมหานคร ดงั นน้ั หนว่ ยงานตา่ งๆ ของไทยทีใ่ หก้ ารตอ้ นรับมกั มี คา� ร้องขอความอนุเคราะหใ์ ห้กระทรวงมหาดไทยประสานไปยงั จงั หวัดเพื่ออา� นวยความสะดวก ตลอด จนการรักษาความปลอดภัย ในระหว่างการเยือนในต่างจังหวัด กระทรวงมหาดไทยจะด�าเนินการ ประสานแจง้ รายละเอยี ดเกยี่ วกบั คณะ และกา� หนดการเยอื นตา่ งๆ เพอื่ ใหจ้ งั หวดั ทเ่ี กยี่ วขอ้ งไดพ้ จิ ารณา ดา� เนินการตามความเหมาะสม ซ่งึ จังหวัดสามารถขอรับทราบขอ้ มลู รายละเอียดเพิ่มเตมิ ไดจ้ ากหนว่ ย งานเจ้าของเร่ือง/สถานเอกอัครราชทูตนั้นโดยตรง 612 เร่อื งควรรู้ คมู่ อื นกั ปกครอง

(๑) ประสาน รวบรวมขอ้ มลู และการไดร้ บั แจง้ จากหนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ งใหจ้ งั หวดั ทราบ โดย จะท�าการรวบรวมข้อมูลและรายละเอียดที่ส�าคัญ อาทิ บุคคลส�าคัญท่ีจะไปเยือน รายชื่อคณะ ก�าหนดการเดินทาง วัตถุประสงค์ในการเยือน ตลอดจนการเตรียมการต่างๆ ที่จังหวัดสมควรด�าเนิน การ ฯลฯ (๒) การมอบหมายการด�าเนินการ เพื่อให้จังหวัดจัดเตรียมการต้อนรับและอ�านวยความ สะดวกให้แก่บุคคลส�าคัญชาวต่างประเทศและคณะ ตามความเหมาะสมแล้วแต่กรณี รวมถึงการแจ้ง ผลการดา� เนินการให้กระทรวงมหาดไทยทราบดว้ ย (๓) เมอ่ื จงั หวดั รายงานผลการดา� เนนิ การ กองการตา่ งประเทศจะไดน้ า� ผลการเยอื นมาใชเ้ ปน็ ข้อมูลในการศึกษา วิเคราะห์แนวทางการด�าเนินการ เพื่อน�าเรียนผู้บังคับบัญชาและพิจารณาใช้ ประโยชน์จากผลการเยือนจังหวัดต่างๆ รวมทั้งใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงการด�าเนินงานให้มี ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ล ตลอดจนใชใ้ นการขยายผลเพอ่ื การเจรญิ ความสมั พนั ธใ์ นระดบั กระทรวง และจงั หวัดตอ่ ไป ๓. แนวทางปฏบิ ัติในการเดนิ ทางเยอื นตา่ งประเทศ กระบวนการเยือนตา่ งประเทศจะเกดิ ขึน้ ใน ๒ กรณ ี คือ ประเทศเจ้าภาพจะมหี นงั สอื เชญิ หน่วยราชการให้เดินทางไปเยือนอย่างเป็นทางการ หรือหน่วยราชการมีหนังสือทาบทามเพ่ือขอ ไปเยอื นเองซงึ่ เมอื่ ทงั้ สองฝา่ ยเหน็ สอดคลอ้ งกนั ในหลกั การแลว้ กระบวนการตดิ ตอ่ ประสานงานในเรอ่ื ง องคป์ ระกอบของการเดนิ ทาง ซง่ึ จะประกอบดว้ ย คณะเดนิ ทาง กา� หนดการเยอื น สารตั ถะ และเงอื่ นไข ต่างๆ จงึ จะเกดิ ข้นึ เพอื่ ความชดั เจนและสะดวกต่อการศกึ ษาจะแบง่ ออกเปน็ ๓ ขนั้ คือ ข้นั เตรยี มการเดนิ ทาง ขน้ั เดินทาง เร่อื งควรรู้ คมู่ อื นกั ปกครอง 613

ขน้ั เสรจ็ ส้นิ การเดินทาง ๓.๑ ขัน้ เตรียมการเดินทาง จะประกอบด้วยกิจกรรมหลัก ดงั นี้ (๑) การขออนมุ ตั ิตัวบุคคลเพ่ือเดินทางไปราชการต่างประเทศ (๒) การจดั ท�าประมาณการและขออนมุ ัตงิ บประมาณ (๓) การตรวจสอบเอกสารเพื่อเดินทางออกนอกประเทศ (๔) การประสานหนว่ ยงานต่างๆ เช่น สถานเอกอตั รราชทตู ของประเทศต่างๆ ประจา� ประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศเพ่ือเตรียมการ อ�านวยความสะดวกให้คณะตามความเหมาะสม หน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง เพ่ือขอข้อมูล การหารือข้อราชการ (๕) การเตรยี มขอ้ มลู /คูม่ ือการเยอื น (๖) การจดั เตรียมของที่ระลกึ ๓.๒ ข้ันเดินทาง ๓.๒.๑ การปฏบิ ตั ทิ ี่ทา่ อากาศยาน ๓.๒.๒ การดา� เนนิ การกอ่ นเครอ่ื งบินถึงที่หมาย ๓.๒.๓ การดา� เนนิ การเม่อื เขา้ สู่ก�าหนดการเยอื นอยา่ งเป็นทางการ (๑) การผ่านพิธกี ารตรวจคนเข้าเมอื งและการตอ้ นรบั (๒) การรวบรวมสมั ภาระ (๓) ติดตอ่ เจ้าหน้าทป่ี ระสานสานของฝา่ ยตา่ งประเทศ (๔) ยานพาหนะ (๕) ท่พี ัก (๖) การเขา้ เยย่ี มคารวะและการหารอื ขอ้ ราชการ การนดั หมาย การแตง่ กาย สถานที่ รปู แบบการหารอื การจดั ทีน่ งั่ ในการหารอื ภาษาที่ใช้ ประเด็นการหารือ การจดบนั ทกึ ขอ้ ราชการ การบนั ทกึ ภาพ การมอบของท่ีระลึก 614 เรื่องควรรู้ คมู่ อื นกั ปกครอง

(๗) การร่วมงานเลี้ยงรับรอง (๘) การเดนิ ทางเปลีย่ นเมือง การรวบรวมสัมภาระ การคนื ห้องพกั กระบวนการเดินทางเยอื นเมืองตา่ งๆ (๙) การเดนิ ทางกลับ ๓.๓ ขั้นเสรจ็ ส้ินการเดนิ ทาง และการสรปุ ผลการเยอื น ๔. การเขา้ เยย่ี มคารวะและหารอื ข้อราชการ การเข้าเย่ียมคารวะและหารือข้อราชการ เป็นภารกิจหลักท่ีมีความส�าคัญอย่างที่สุดในการ เยอื น เพราะเปน็ ชว่ งเวลาทไี่ ดท้ า� ความรจู้ กั เพอ่ื พฒั นาความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งกนั อยา่ งใกลช้ ดิ และหารอื ในประเดน็ ตามท่ีตง้ั เป้าไว ้ การเจรจาน้ีจะเป็นโอกาสให้ทั้งสองฝา่ ยได้แสดงท่าทีของตนให้อีกฝ่ายได้รบั ทราบในเร่ืองต่างๆ ท้ังความร่วมมือ การแสวงหาทางออกในข้อขัดข้องต่างๆ การค้า การลงทุน การทอ่ งเที่ยว และหากผลเจรจาเป็นเรอ่ื งท่สี มประโยชน์ต่อทง้ั สองฝ่ายแล้ว ย่อมจะเป็นการสนับสนุน และส่งเสรมิ ความสมั พนั ธ์ในระดับอืน่ ๆ ใหด้ ียิง่ ขึ้น กระบวนการเข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการน้ัน ในด้านรูปแบบมักจะปฏิบัติตาม ธรรมเนียมพิธีการทูตเป็นหลัก รูปแบบการหารือเจ้าหน้าที่จะต้องประสานกันอย่างใกล้ชิด เน่ืองจาก เป็นเรอ่ื งท่ลี ะเอยี ดอ่อนเกย่ี วโยงไปถงึ บรรยากาศและสารัตถะท่จี ะหารือ โดยทั่วไปมักจะเปน็ แบบเตม็ คณะ หรอื แบบกลุ่มเล็ก ฝ่ายละไมเ่ กิน ๕ คน สา� หรับการหารือแบบ four eyes meeting อาจเกิดจาก การร้องขอเปน็ พเิ ศษและคเู่ จรจาไม่ขดั ขอ้ ง การหารอื แบบนี้เป็นการหารือสองต่อสองระหว่างหวั หนา้ คณะเทา่ น้นั ๕. การจัดงานเลีย้ ง การจัดงานเลี้ยงรับรอง การเลี้ยงรับรองมีความส�าคัญและจ�าเป็นอย่างย่ิงโดยเฉพาะในการ ให้การต้อนรับบุคคลส�าคัญชาวต่างประเทศอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะต้องใช้ความละเอียดอ่อนและ ประณีต พิถีพิถันในการเตรียมการและปฏิบัติตัว ความส�าคัญของงานเล้ียงรับรองน้ันช่วยสร้างความ สัมพันธ์ท่ีดีต่อกันและแสดงถึงการยกย่องให้เกียรติซ่ึงกันและกัน เป็นการส่งเสริมการทูตแบบส่วนตัว (Personal Diplomacy) อกี ทง้ั เปน็ เครอ่ื งชว่ ยลดความตงึ เครยี ดและยงั เปน็ เวทแี ลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ เผยความในใจและแมแ้ ตก่ ารหาฝา่ ยพนั ธมิตรและฝา่ ยตรงขา้ มอกี ดว้ ย ๕.๑ ประเภทของงานเล้ยี งรบั รอง สามารถแบ่งออกไดเ้ ปน็ (๑) งานเลยี้ งรบั รองทวั่ ไป (Reception) เปน็ งานเลย้ี งทสี่ ามารถเชญิ แขกไดเ้ ปน็ จา� นวน มากและไม่ต้องยุ่งยากนักในเรื่องของอาหารและเคร่ืองดื่ม บางครั้งเรียกว่างาน Cocktail หรือ เรื่องควรรู้ คมู่ ือนักปกครอง 615

Vin d Honneur ขน้ึ อยกู่ บั ขนาดจา� นวนแขกทเี่ ชญิ หรอื ชว่ งเวลาทจี่ ดั สว่ นใหญจ่ ะเปน็ ชว่ งกลางวนั หรอื ชว่ งเย็นระหวา่ งเวลา ๑๘.๐๐ – ๒๐.๐๐ น. (๒) การเล้ียงอาหารกลางวัน (Lunch) งานอาหารกลางวันจะเป็นทางการมากข้ึน มพี ธิ ีรตี องมากกวา่ งาน Reception แตน่ ้อยกว่างาน Dinner แขกผมู้ าร่วมงานมักจะแตง่ กายดว้ ยชดุ สากลสีด�า นา้� เงนิ แก่ หรือ ชดุ สากลทมี่ ีสีเข้มซ่ึงดูสุภาพและเป็นทนี่ ิยมกันอย่างแพร ่ (๓) การเลยี้ งอาหารคา่� (Dinner) ถอื วา่ เปน็ งานทเี่ ปน็ ทางการและมพี ธี รี ตี องมากจะตอ้ ง ดูแลเร่ืองการจัดโต๊ะ การจัดเตรียมอาหาร พิธีการต่างๆ การแต่งกายในงานน้ีส่วนมากจะแต่งกาย ในชุดราตรสี โมสรที่เรยี กว่า Black-tie หรือชดุ สากลทีม่ ีสีเข้มแล้วแต่ความส�าคญั และลักษณะของงาน ๕.๒ การเตรียมการจัดงานเลี้ยงมีความส�าคัญมาก จะต้องมีการก�าหนดประเภทงานเลี้ยง/ สถานที่จัดงาน การเตรียมรายชื่อแขกที่จะเชิญร่วมงานเลี้ยง การเตรียมบัตรเชิญ/บัตรวางโต๊ะ การจดั ผงั ทนี่ ง่ั การเลอื กรายการอาหาร (เมนอู าหาร) การจัดผงั ทนี่ ั่งส�าหรับงานเลยี้ งอย่างเป็นทางการ และการจดั และประดบั โตะ๊ อาหารใหด้ ดู เี หมาะสม ของทรี่ ะลกึ ทจี่ ะมอบภายหลงั จากการกลา่ วตอ้ นรบั หรอื ตามที่ได้มีการตกลงกนั ๖. การลงนามความตกลง การลงนามความตกลงควรมีการเจรจาทาบทามล่วงหน้าไม่นอ้ ยกวา่ ๑๕ วัน กอ่ นการเยอื น โดยมีรายละเอยี ดทีส่ �าคญั คือ ๖.๑ การจัดเตรยี มสถานที่ - โตะ๊ ลงนามพรอ้ มอปุ กรณ์ - เกา้ อ้สี �าหรับประธาน สักขพี ยาน และเก้าอ้ีส�าหรับผูล้ งนาม - ธงเลก็ ตัง้ โตะ๊ สองฝ่าย (ต้งั ตามท่ีนัง่ ของผู้ลงนาม) - ธงชาตสิ องฝา่ ย ตง้ั ตามระเบยี บส�านกั นายกรัฐมนตรวี ่าด้วยการใช ้ การชกั หรอื การ แสดงธงชาตแิ ละธงของต่างประเทศในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๒๙ ๖.๒ ล�าดับพิธลี งนาม อาจมลี �าดับขัน้ ตอน ดังน้ี - เจ้าหน้าท่ีพิธีการเชิญผู้ลงนาม สักขีพยาน พร้อมด้วยผู้เข้าร่วมพิธีเข้าประจ�าท่ี ณ หอ้ งลงนาม - เรยี นเชญิ รฐั มนตรแี ละอาคนั ตกุ ะไปยงั หอ้ งลงนามและนง่ั ในทนี่ ง่ั ประธาน ณ โตะ๊ ลงนาม - พธิ กี รประกาศเรม่ิ พธิ ีลงนาม - เจา้ หนา้ ทพี่ ธิ กี ารเชญิ ผลู้ งนามทงั้ สองฝา่ ยเขา้ ประจา� ท ี่ ณ โตะ๊ ลงนาม และพธิ กี รประกาศ การลงนาม - ผูล้ งนามทัง้ สองฝา่ ยลงนามและแลกเปล่ยี นความตกลงหรอื บันทกึ ความเข้าใจ 616 เร่ืองควรรู้ ค่มู ือนักปกครอง

- ประธานสมั ผัสมอื แสดงความยินดีกับผู้ลงนามทัง้ สองฝ่าย - ประธานในพิธี ผู้ลงนามและสักขีพยานดื่มแสดงความยินดี และถ่ายภาพร่วมกัน เป็นการเสร็จพิธี การสถาปนาความสมั พนั ธ์เมืองพีเ่ มืองนอ้ ง (Sister Cities) กับนานาประเทศในระดบั จังหวัด การสถาปนาความสมั พนั ธเ์ มอื งพเี่ มอื งนอ้ งในสว่ นทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั กระทรวงมหาดไทยนนั้ หมายถงึ ความสมั พันธ์ระหว่างจงั หวดั ของไทยกบั จังหวัด (หรอื เมอื งของต่างประเทศ หรอื ช่อื เรียกอ่ืนท่ีมีฐานะ เทียบเท่าจังหวัดของไทย) ซ่ึงหน่วยงานที่เก่ียวข้องได้เคยหารือร่วมกันแล้ว และเห็นสมควรให้ด�าเนิน การในระดับจงั หวัด เพื่อใหเ้ กดิ ความเป็นเอกภาพ และสะดวกในการตดิ ตามผลการด�าเนินการจนเกดิ ผลสัมฤทธติ์ ามเป้าหมาย ในขณะทีค่ วามสมั พันธ์อ่ืนๆ ในระดบั ทต่ี า่� กว่าจงั หวัด เชน่ อา� เภอ เทศบาล อาจท�าในกรอบอื่นๆ ท่ีมิใช่ความสัมพันธ์เมืองพ่ีเมืองน้อง อย่างไรก็ตาม การสถาปนาความสัมพันธ์ฯ กบั เมอื งตา่ งๆ ของสาธารณรฐั ประชาชนจนี อาจอนโุ ลมเปน็ รายกรณไี ป โดยกระทรวงการตา่ งประเทศ จะเป็นผู้พิจารณา เนอื่ งจากมีความแตกต่างในเร่อื งขนาดของจงั หวัด/เมือง สา� หรบั หลกั เกณฑข์ องการสถาปนาความสมั พนั ธเ์ มอื งพเ่ี มอื งนอ้ ง จงั หวดั ของไทยสามารถดา� เนนิ การตดิ ตอ่ ในเรอื่ งของการสถาปนาความสมั พนั ธเ์ มอื งพเี่ มอื งนอ้ งกบั จงั หวดั ของตา่ งประเทศในเบอื้ งตน้ ได้ แตก่ ารตดิ ตอ่ ดงั กลา่ วจะตอ้ งไมถ่ งึ ขน้ั ประกาศเจตนารมณใ์ นทา� นองเหน็ ดว้ ยทจ่ี ะสถาปนาความสมั พนั ธ์ หรอื ร่วม ลงนามเป็นเอกสารกับจงั หวดั ของต่างประเทศ เชน่ หนงั สอื แสดงเจตจ�านง หรอื พิธสี ารกอ่ น ที่จะได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงมหาดไทย ในขณะเดียวกัน จงั หวดั ของไทยสมควรเตรยี มพร้อม ในดา้ นตา่ งๆ ดว้ ย โดยคา� นงึ ถงึ พนั ธะตา่ งๆ ทจี่ ะมผี ลตอ่ การจดั สรรงบประมาณ และจดั เตรยี มบคุ ลากร ทจี่ ะรองรบั การตดิ ตอ่ และการแลกเปลยี่ นความรว่ มมอื ในสาขาตา่ งๆ กบั จงั หวดั ของตา่ งประเทศทเ่ี ปน็ เมอื งพเี่ มอื งนอ้ ง โดยอาจจดั ทา� แผนปฏบิ ตั กิ าร แผนกจิ กรรม และแผนงบประมาณทจ่ี ะดา� เนนิ งาน เพอื่ ใหเ้ กดิ ความชัดเจนในทางปฏิบตั ิ เรื่องควรรู้ คมู่ ือนกั ปกครอง 617

-- ขั้นตขอันนตกอนารกสาถรสาถปานปานคาวคาวมาสมัมสัมพพันันธธ์เมเ์ มืออื งงพพ่เี เ่ีมมอืืองงนนอ้อ้ งง การเสนอขอ การหารอื กับกระทรวง ยกร่างบันทกึ ความเข้าใจ สถาปนาเมืองพี่ การตา่ งประเทศ เมอื งน้อง กร ใี ช้ร่างบันทก บับมาตรฐาน กร ีไม่ใชร้ ่างบันทก บับมาตรฐาน การแจง้ จงั หวัด นาเสนอ รมว.มท. และ นาเสนอคณะรฐั มนตรี ทราบ รมว.กต.พิจารณา พจิ ารณา การลงนามใน การนาส่งบนั ทกึ ความตกลง การรายงานผลการ บันทกึ ความตกลง ใหค้ ณะรฐั มนตรีเพ่อื ทราบ ดาเนินการเป็นระยะ ๆ แนวทางปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั เรอ่ื งการสถาปนาความสมั พนั ธเ์ มอื งพเี่ มอื งนอ้ งในปจั จบุ นั เปน็ ไปตามมติ คณะรัฐมนตรเี มื่อวนั ที่ ๑๗ สงิ หาคม ๒๕๔๗ และวันท่ ี ๑๐ มกราคม ๒๕๔๙ และมติทป่ี ระชุมหารือ ระหว่างหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง ซ่ึงสรุปสาระส�าคัญได้ว่า ในการสถาปนาความสัมพันธ์ในระดับจังหวัด ขสไคหขดัองณอนแ้คงง่วกะไมปยท่ รนงสรัฐยาิยะมากนมธเนับทแทเาตวจี่เนรศกรียังณวเีเ่ียดหพมทรวนว่ือื่าอขัฐัดางวนป้อปมัขนงบร ฏอทะ้ซาสงิบ่ีชน่ึง1ปาัตาสธรธิเรรากะิปุปวรสี่ยเมสไทณิงวตาทหศกรรยั้างัเบะัฐปพคปสปเรมรื่อราระื่อะคนะชงเัญบชาทก5ไ้าาชาศดนชนรท้วสน ล่า่ีมรถจาแีใเวาวีนลนขมป ะกตรทนสวาแา้ังาัารนชดปคสธทอนวราถ่ีาาตะรา1ณมณป่เอทสนาเรศนัมจมาัฐทื่คักพอกอวรี่มงันรินากกาีเธเมขคััมบด์เสตมมพีปยัมืแอ ูชรพดงสาะพ5ันน าเ่ีเธเทตธมม์ใา่อศนือยี รเเรงนนณแพะนมลื่อื่อดร้อะางับันฐง มกปใจบมตันบังร้าาิทหปปะเนี่ปลวจชรัดเรจะไาซขะดุบเชยีทชอ้แันน ุมงศกเสบไหปเ่ทาพังส็านธยกื่อราไากลือปนธรับาราณตบจเะรทา้าังรหณมหนศฐั วมวร ่าัตัดฐงิ สปารธะาชรณาธริปฐั ไอตนิ ยโปดรนะเี ซชยีาช สนาลธาาวรณรราฐัชสองิาคณโปาจรัก ์ สรากธัมารพณูชารฐั เฟมลิียปินปมนิา สม ์ แาเลละเบซีรยไู นสดาธาารรสุ ณซารลัฐาสมัง คใหมถ้นอืิยเมปเน็ วหียดลนกั าม กสาารธวา่าร ณเรรื่อัฐงปในระทช�าานชอนงนจีน้ ใหส้ราัฐธมารนณตรัฐีว่อากินาเรดกียรสะทาธราวรงณการรัฐตป่ารงะปชราะชเทนศบรังับกลไปาพเทิจศารสณาธารา่วรมณกรับฐรอัฐินมโนดนตีรเซี ีย คควสใคกา่ววหวารกาา้รธาะามมัฐมารทมเเรเกขหหนณรร้า็น็นวตะใรชชรงจัทฐอีวอกฉสร่าบบบาิงวกแกครงับามาลโตรมปรหว้่กาาสร ารงตหถ์ ดะปสราลทไฐารปทงั รธาะจนยวานเาาง รทแทกกคณลานวศี่ยว้รรากัน้ไตัใฐมปร ห่าฟสก่าไค้งัมลรงดปวะโพิป้ราดทันปโะมยดรธเนเกทวห์แยสรศงลน็ถ์ มะระแืชอัทบหกลอวไราาะบ่ปาวดรบกพคลงไรากทงิจณูไรนาายนสะรราคดถณมตรอ่าาัใฐ่าารยนปงรมุสนรปน่วนซ่า�ามารางเตคกะสบลรับวเนันาทีาไรมอทดมศัฐคึก้สมไใใณปคหหมันว้ไ้ถพตคะดาือรรนัวม้ ีวเัฐาธเโป่ามขดแ์มก็น้นาลยเาหใตหะถรจลรกก็ือฉนักเีราวบพชกะร่าับือ่อลทาคมรโงบรณปานววแต่ารงะาลรมดมรเฐ้หวทัฐรใานื่อามรนหดรงานทา่ใไบลตทนงี่ยัคงรบยทกจรีไนัราดาแา่านทว้ใลกงหอกึๆ้โวนดง้ ใั้หนนย้ี้ ไกประทรวงมหาดไทยค่อยนาเสนอคณะรัฐมนตรีเพือ่ โปรดทราบคราวๆ ไป เนเื่อนงื่อจงจาากกกกาารรสสถถาาปนาคววาามมสสัมัมพพันันธธ์เม์เืมองือพง่ีเพม่ีเือมงือนง้อนงเ้อปง็นเปเร็นื่อเงรท่ือี่จงะทสี่จงผะลสผ่งูกผพลันผตูก่อพจันังตห่อวัดจทังี่หเกว่ียัดวทข้อี่ ง เเสสดใกกมถนัังาบยี่ือารกมวจงปะลาขังพยน่ราหอ้ ะ่ีเวถางมวยคป ัดโือใาวดรนวขงาะยรอนมจเจะงม้อสังังยตหินงมหั ะ่ากวผพวยงัดับลัดปนัาขกอจวรธอาา ังะฯ์จงรจหเ ไงัดดทกทวหางัาศัยดวกเหจนดขั มลนึงินขอา่าคดอกงวกวใตง าหกรโไร่ดามว้มทใงยุ่่งาีแนยปเปจผนแจรงัรน้นงตึ หะิมคกป่ลเวาวิจทะรดัณรกะปศอมโจรว ยางุ่รัง่ามจชเมหนกานมวน้หกา�์สีคัดหปรกูงวขือสนรวาอุแดะม่าดงผทโปคใตยนหี่จืบร่าชะกม้ิมงหนไาปแีาดนส์รผรณ้ร้าดงู ะนับอสาจเกกยดเุทังนจิา่าทหศินรกงจี่ทวสไโระัดรคี่ปถรไขรามรแดงปอะ ลร้กหนสงบัะารตางบกรอืคค่าทารแว์จงรร่ีชผาปะสลัดมนสรถุเเสปกถจะาัมา้านาเปพทรปหในดันนศนมาา�ธแทาาคเ์เตยคนี่มปว่ลทวานือิระาี่มตงะโมปพค้ัสงสสเรไ่ีเมั งพมวัมงพค้ื่อหือกพ์นัจจงารันนะธระือธ์้อไไ์ดมง้่ ทเพี่ชอื่ัดเเปจ็นนขในอ้ มแูลตป่ลระะปกีเอพบื่อกจาะรพไดจิ ้สาราณมาารดถาเปนรินะกเามรินในผอลนกาาครตด�าเนินการในแต่ละปีว่า มีความคืบหน้าอย่างไร และบรรลเุ ป้าหมายทต่ี งั้ ไวห้ รือไม ่ เพือ่ เปน็ ขอ้ มลู ประกอบการพจิ ารณาด�าเนนิ การในอนาคต 618 เร่ืองควรรู้ ค่มู อื นักปกครอง

การดา� เนนิ ความสัมพันธ์กับประเทศเพอ่ื นบา้ น ๑. แนวทางปฏบิ ัตใิ นการเปดิ จดุ ผ่านแดน การเปิดจุดผ่านแดนเป็นงานเสริมสร้างความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย กบั ประเทศเพอ่ื นบา้ น เปน็ รปู แบบความสมั พนั ธ ์ ในลกั ษณะทวภิ าค ี โดยการประสานความรว่ มมอื และ ความช่วยเหลือระหว่างกันเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ซ่ึงจะเป็นประตูทางออก ส�าคัญท่ีจะน�าไปสู่การค้าชายแดน การส่งเสริมความสัมพันธ์ในระดับท้องถิ่น การเดินทางผ่านแดน ระหว่างกนั อนั จะนา� มาซ่ึงความสมั พนั ธ์ที่ย่งั ยนื ระหวา่ งประเทศไทยกบั ประเทศเพ่ือนบ้านในอนาคต ๑.๑ คา� จา� กัดความ จุดผ่านแดน หมายถึง ช่องทางที่เปิดระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพ่ือนบ้านที่มี พรมแดนตดิ ตอ่ กนั โดยสามารถจา� แนกได้ ดงั น้ี (๑) จดุ ผา่ นแดนถาวร คือ ชอ่ งทางเข้า-ออก ท่ีรัฐบาลทั้งสองประเทศเปิดเพือ่ อนุญาต ให้ประชาชนท้ังสองประเทศ นักท่องเที่ยวและยานพาหนะสามารถสัญจรไป - มา เพ่ือการค้า การท่องเท่ียว และอน่ื ๆ (๒) จดุ ผา่ นแดนช่วั คราว คือ ชอ่ งทางเขา้ - ออก ท่เี ปิดเพือ่ ผ่อนผนั ใหม้ กี ารผา่ นแดน สา� หรบั วตั ถปุ ระสงคเ์ ฉพาะ ภายในหว้ งเวลาทกี่ า� หนดไวแ้ นน่ อนเพอื่ ประโยชนใ์ นทางเศรษฐกจิ หรอื เพอ่ื กจิ กรรมใดกิจกรรมหนึ่งทเ่ี ป็นความร่วมมอื ระหว่างประเทศ (๓) จดุ ผอ่ นปรนการคา้ และการทอ่ งเทย่ี ว คอื ชอ่ งทางทเ่ี ปดิ เพอ่ื ผอ่ นปรนใหม้ กี ารคา้ ขาย สินค้าอุปโภคบริโภค โดยคณะอนุกรรมการพิจารณาการเปิดจุดผ่านแดนได้มอบหมายให้กระทรวง มหาดไทยพิจารณาความเหมาะสม ซงึ่ ในทางปฏิบตั ิจงั หวดั จะเสนอขอเปิดจุดผอ่ นปรนมายงั กระทรวง มหาดไทยเพอื่ พจิ ารณาเสนอคณะอนกุ รรมการพจิ ารณาการเปดิ จดุ ผา่ นแดน หากมมี ตเิ หน็ ชอบกระทรวง มหาดไทยจะเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้ความเห็นชอบอีกครั้งหน่ึง และแจ้งจังหวัด จัดทา� ประกาศจงั หวดั เปดิ จดุ ผ่อนปรน (๔) ชอ่ งทางอนมุ ตั ติ ามกฎหมายศลุ กากร คอื ชอ่ งทางผา่ นแดนทฝี่ า่ ยไทยเปดิ เพอ่ื อา� นวย ความสะดวกใหก้ บั ผู้ประกอบการสามารถขนส่งสินค้าผ่านแดนได้ตลอดแนวชายแดน ๑.๒ กลไกพิจารณาการเปดิ จุดผ่านแดนและผ้รู ับผิดชอบ (๑) คณะอนกุ รรมการพจิ ารณาการเปดิ จดุ ผา่ นแดนมรี องเลขาธกิ ารสา� นกั งานสภาความ มน่ั คงแห่งชาตเิ ป็นประธาน มีอา� นาจหน้าทใ่ี นการกา� หนดหลกั เกณฑ์ แนวทาง วิธีการ และการปฏิบัติ ในการเปิดชอ่ งทางผา่ นแดนประเภทตา่ งๆ รวมทั้งพิจารณาความพร้อมและความเหมาะสมในการเปิด จุดผ่านแดน (๒) นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีอ�านาจในการเปิด จุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่านแดนชว่ั คราว เร่ืองควรรู้ คู่มือนักปกครอง 619

(๓) ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั มอี า� นาจในการเปดิ จดุ ผอ่ นปรน โดยความเหน็ ชอบจากกระทรวง มหาดไทย ในบางกรณีหากสถานการณ์บริเวณชายแดนตรงข้ามพ้ืนที่ที่จะขอเปิดจุดผ่อนปรนยัง ปรากฎปญั หาตา่ งๆ กระทรวงมหาดไทยจะนา� เสนอคณะอนกุ รรมการพจิ ารณาการเปดิ จดุ ผา่ นแดน ของ สา� นักงานสภาความมัน่ คงแห่งชาติพิจารณากอ่ น ๑.๓ ระเบียบปฏิบตั ิ (ข้ันตอน) ๑.๓.๑ ขั้นตอนการเปิดจดุ ผา่ นแดนถาวร ขั้นตอนท่ี ๑ ประชาชน หน่วยงาน องค์กรระดับท้องถิ่นของทั้งสองฝ่ายมีความ พร้อมในด้านต่างๆ เช่น ความพร้อมด้านสภาพพื้นท่ี สาธารณูปโภค เจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติงาน อุปกรณ์ เครือ่ งใชข้ องหน่วยงานที่เก่ียวข้อง และมีความเห็นชอบใหม้ กี ารเปิดจดุ ผ่านแดนถาวรรว่ มกนั ขนั้ ตอนที่ ๒ จังหวดั รวบรวมข้อมลู ความเหน็ และความตอ้ งการเปิดจุดผ่านแดนสง่ ให้กระทรวงมหาดไทย ขนั้ ตอนท ี่ ๓ เสนอไปยงั คณะอนกุ รรมการพจิ ารณาการเปดิ จดุ ผา่ นแดน สภาความ มั่นคงแหง่ ชาต ิ ขน้ั ตอนท ี่ ๔ หากคณะอนกุ รรมการพจิ ารณาการเปดิ จดุ ผา่ นแดนพจิ ารณาใหค้ วาม เหน็ ชอบ สภาความมั่นคงแหง่ ชาตจิ ะนา� เสนอคณะรัฐมนตรพี ิจารณา ขน้ั ตอนท ่ี ๕ หากเหน็ ชอบกระทรวงมหาดไทยจะจดั ทา� รา่ งประกาศเปดิ จดุ ผา่ นแดน แล้วน�าเสนอนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยลงนาม โดยอาศัยอ�านาจตาม พระราชบญั ญตั คิ นเขา้ เมือง พ.ศ.๒๕๒๒ ๑.๓.๒ ขนั้ ตอนการเปดิ จดุ ผา่ นแดนช่วั คราว ขน้ั ตอนท ่ี ๑ องคก์ รหรอื หนว่ ยงานเอกชนสง่ เรอ่ื งมายงั กระทรวงมหาดไทยโดยตรง หรือผา่ นจังหวดั ขน้ั ตอนท ี่ ๒ กระทรวงมหาดไทยตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารทอ่ี งคก์ รหรอื หน่วยงานเอกชนย่ืนค�าขอเปิดจุดผ่านแดนชั่วคราว ประกอบด้วย สัญญาทางการค้าที่บริษัทท�ากับ ประเทศเพ่อื นบ้าน ระยะเวลาทข่ี อเปิด ชนิดหรือประเภทสนิ ค้าท่ีน�าเขา้ - ส่งออก ขั้นตอนท่ี ๓ เสนอไปยังสภาความม่ันคงแห่งชาติเพ่ือน�าเข้าพิจารณาในคณะ อนกุ รรมการพิจารณาการเปดิ จดุ ผ่านแดน โดยหนว่ ยงานทีเ่ ก่ยี วขอ้ งตรวจสอบข้อมูลตามข้นั ตอนท ่ี ๒ โดยครง้ั น ้ี จะพจิ ารณาตามวตั ถปุ ระสงคข์ ององคก์ รระหวา่ งประเทศและการขอเปดิ จดุ ผา่ นแดนชว่ั คราว ตอ้ งเปน็ ไปเพอ่ื เหตฉุ กุ เฉนิ จา� เปน็ และมนษุ ยธรรมเทา่ นน้ั กรณที ป่ี ระชมุ คณะอนกุ รรมการพจิ ารณาการ เปิดจุดผ่านแดน สภาความมั่นคงแห่งชาติมีมติเห็นชอบ จะน�าเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความ เห็นชอบและแจง้ องค์กรหรอื หน่วยงานน้นั ๆ 620 เรอ่ื งควรรู้ ค่มู อื นกั ปกครอง

ขน้ั ตอนท ่ี ๔ นายกรฐั มนตรแี ละรฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย อาศยั อา� นาจ ตามพระราชบญั ญตั คิ นเข้าเมอื ง พ.ศ.๒๕๒๒ ออกประกาศเปดิ จดุ ผา่ นแดนชว่ั คราวและน�าเสนอคณะ รัฐมนตรที ราบ ขน้ั ตอนท ี่ ๕ กระทรวงมหาดไทยแจง้ ผลการพจิ ารณาใหห้ นว่ ยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ งทราบ ๑.๓.๓ ขั้นตอนการเปดิ จุดผ่อนปรนการคา้ และการท่องเทย่ี ว ขั้นตอนการเปิดจุดผ่อนปรนฯ ด�าเนินการเช่นเดียวกับการเปิดจุดผ่านแดนถาวร แตกต่างกันตรงที่การเปิดจุดผ่อนปรนฯ เป็นอ�านาจของผู้ว่าราชการจังหวัด โดยความเห็นชอบของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และเพ่ือให้การด�าเนินการเป็นไปโดยรอบคอบ เนื่องจากอาจส่ง ผลกระทบด้านความมน่ั คง กระทรวงมหาดไทยจะน�าเสนอคณะอนกุ รรมการพิจารณาการเปดิ จุดผ่าน แดนของสภาความมั่นคงแห่งชาติพิจารณาดว้ ย ในการประกาศเปิดจุดผ่อนปรนของผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ด�าเนินการก�าหนดใน เร่อื ง ดงั น้ี ๑) ประเภทสินค้า ให้ผ่อนปรนการซื้อขายสินค้าอุปโภค – บริโภค เท่าที่จ�าเป็น (ยกเว้นไม้) และสินค้าประเภทไมต่ อ้ งหา้ มตามกฎหมายอ่นื ใด ๒) การกา� หนดบรเิ วณพนื้ ทท่ี ที่ า� การซอื้ ขายแลกเปลยี่ นสนิ คา้ ใหพ้ จิ ารณาถงึ สภาพ ความปลอดภัยและความพร้อมของเจา้ หนา้ ทที่ ่ีเกี่ยวข้องในการปฏบิ ตั งิ าน ๓) ก�าหนดระยะเวลาท่ีเหมาะสมในการซอ้ื ขายแลกเปลี่ยนสินคา้ ๔) จัดท�าหลักฐานการควบคุมการเข้าออก ส�าหรับบุคคลที่จะเข้ามาซื้อขายแลก เปลี่ยนสนิ ค้าและให้ส่วนราชการทเ่ี กี่ยวขอ้ งตรวจสอบดูแลดว้ ย เร่ืองควรรู้ ค่มู อื นกั ปกครอง 621

แผนผงั นโยบายและแนวทางปฏบิ ตั ใิ นการเปิดจุดผ่านแดนถาวร แผนผังนโยบายและแนวทางปฏิบตั ใิ นการเปิดจุดผา่ นแดนชัว่ คราว 622 เรื่องควรรู้ คู่มอื นกั ปกครอง

แผนผงั นโยบายและแนวทางปฏบิ ตั ิในการเปิดจดุ ผอ่ นปรนเพ่อื การค้าและการท่องเทยี่ ว กองการต่างประเทศ สา� นักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ๐-๒๒๔๓-๑๗๐๑ เร่อื งควรรู้ ค่มู อื นักปกครอง 623



บทท่ ี ๔ รวมกฎหมายสา� คญั



กฎหมายกลางที่สา� คญั ท่ใี ชใ้ นการบริหารราชการแผน่ ดนิ



กฎหมายกลางท่สี า� คญั ท่ีใช้ในการบริหารราชการแผน่ ดิน .......................... “กฎหมายกลาง” หรือ “กฎหมายทว่ั ไป” หมายถึง กฎหมายทม่ี ีผลบังคบั ใชค้ วบคู่ไปพรอ้ มกัน กบั กฎหมายฉบับอื่นทีใ่ ช้บังคับ โดยเข้าไปเสริมการบงั คบั ใชก้ ฎหมายฉบบั ตา่ งๆ มใิ ช่กฎหมายท่ีเข้าไป แทนทกี่ ารบงั คบั ใชก้ ฎหมายฉบบั อน่ื ๆ ในการดา� เนนิ การในเรอ่ื งนนั้ ๆ แตอ่ ยา่ งใด โดยมกี ฎหมายทส่ี า� คญั ท่ีใชใ้ นการบรหิ ารราชการแผ่นดิน เช่น ๑. พระราชบัญญัติระเบยี บบริหารราชการแผ่นดนิ พ.ศ. ๒๕๔๕ การจดั ระเบยี บบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ ของไทยในปจั จบุ นั เปน็ ไปตามพระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บ บริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ประกอบดว้ ยการบรหิ ารราชการส่วนกลาง สว่ นภมู ิภาค และสว่ น ท้องถ่ิน ๑. ระเบยี บบรหิ ารราชการส่วนกลาง ประกอบด้วย ๑.๑ ส�านกั นายกรัฐมนตรี ๑.๒ กระทรวงหรอื ทบวง ซงึ่ มีฐานะเทียบเทา่ กระทรวง ๑.๓ ทบวง ซงึ่ สังกดั สา� นักนายกรฐั มนตรีหรอื กระทรวง ๑.๔ กรม หรือส่วนราชการท่ีเรียกช่ืออย่างอ่ืน และมีฐานะเป็นกรม ซ่ึงสังกัดหรือไม่ สังกัด ส�านกั นายกรัฐมนตร ี กระทรวง หรอื ทบวงทั้งหมดมีฐานะเปน็ นติ ิบุคคล การจัดตั้ง หรือยุบตอ้ ง ตราเป็นพระราชบญั ญัติ ๒. ระเบียบบริหารราชการสว่ นภูมิภาค ประกอบดว้ ย ๒.๑ จงั หวดั รวมท้องทห่ี ลาย ๆ อ�าเภอต้ังข้นึ เป็นจงั หวัด มีฐานะเป็นนติ บิ ุคคล การตั้ง ยบุ และเปลยี่ นแปลงเขตจังหวดั ใหต้ ราเป็นพระราชบญั ญัติ ๒.๒ อา� เภอ เป็นหน่วยงานราชการรองจากจังหวดั ไมม่ ีฐานะเป็นนติ บิ คุ คล การตัง้ ยุบ และเปลีย่ นแปลงเขตอา� เภอ ใหต้ ราเปน็ พระราชกฤษฎีกา ๓. ระเบยี บบริหารราชการสว่ นท้องถน่ิ ประกอบด้วย ๓.๑ องคก์ ารบริหารส่วนจังหวดั ๓.๒ เทศบาล ๓.๓ องค์การบริหารสว่ นตา� บล ๓.๔ ราชการส่วนทอ้ งถนิ่ อืน่ ตามที่มีกฎหมายกา� หนด (กรงุ เทพมหานคร,เมืองพทั ยา) เรื่องควรรู้ คมู่ อื นักปกครอง 629

๒. พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ เนื่องจากระบบราชการนั้น เป็นกลไกส�าคัญของประเทศในอันที่จะผลักดันให้แนวทางการ บริหารประเทศตามท่ีก�าหนดไว้ในรัฐธรรมนูญและกฎหมายต่าง ๆ รวมทั้งการด�าเนินการตามแนว นโยบายของรัฐเกิดผลส�าเร็จเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนส่วนรวม การจัดกลไกของ ระบบราชการจงึ เปน็ เรอ่ื งสา� คญั ทจ่ี ะตอ้ งปรบั ตวั ใหส้ อดคลอ้ งกบั สภาพความเปน็ ไปของสงั คม ซง่ึ ทผ่ี า่ น มาแมว้ า่ จะมกี ารปรบั ปรงุ การแบง่ สว่ นราชการหลายครงั้ แตย่ งั คงใหม้ กี ารปฏบิ ตั ริ าชการตามโครงสรา้ ง การบริหารท่ีไม่แตกต่างจากรูปแบบเดิมซึ่งเป็นผลให้การท�างานของข้าราชการเป็นไปด้วยความล่าช้า เพราะมีข้นั ตอนการปฏิบตั งิ านคอ่ นขา้ งมาก และส่วนราชการต่าง ๆ มิไดก้ า� หนดเปา้ หมายรว่ มกนั และ จดั กลไกการปฏบิ ตั งิ านใหม้ คี วามสมั พนั ธก์ นั จงึ เปน็ ผลทา� ใหก้ ารปฏบิ ตั งิ านเกดิ ความซา้� ซอ้ นและกระทบ ต่อการให้บริการแก่ประชาชน แนวทางแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้จ�าเป็นต้องมีการปรับปรุงระบบราชการ ท้ังระบบ โดยการปรับอ�านาจหน้าท่ีของส่วนราชการข้ึนใหม่ และปรับปรุงการบริหารงานโดยการจัด ส่วนราชการทปี่ ฏบิ ตั งิ านสมั พนั ธ์กันรวมไว้เป็นกลุ่มงานเดยี วกนั ซึง่ จะเปน็ พื้นฐานทีส่ �าคัญในการปรบั ระบบการทา� งานในรปู กลมุ่ ภารกจิ เพอื่ ใหส้ ามารถกา� หนดเปา้ หมายและทศิ ทางการปฏบิ ตั งิ านของสว่ น ราชการทม่ี ีความเกยี่ วข้องกันให้สามารถทา� งานร่วมกันได้อย่างมเี อกภาพ และเกิดประสิทธภิ าพ รวม ทง้ั จะเปน็ การลดคา่ ใชจ้ า่ ยในสว่ นงานทซี่ า�้ ซอ้ นกนั เมอื่ จดั สว่ นราชการใหมใ่ หส้ ามารถปฏบิ ตั งิ านไดแ้ ลว้ จะมีผลท�าให้แนวทางความรับผิดชอบของส่วนราชการต่าง ๆ มีเป้าหมายท่ีชัดเจน ซ่ึงจะสามารถ ปรับปรุงการท�างานของข้าราชการให้มีประสิทธิภาพในระยะต่อไปได้ ตราพระราชบัญญัติฉบับนี้ข้ึน และได้มีแก้ไขปรับปรุงล่าสุด คือ พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับท่ี ๗) พ.ศ. ๒๕๕๒ ๓. พระราชบญั ญตั ริ ะเบียบขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นกฎหมายท่ีใช้ในการบริหารงานบุคคล ก�าหนดภารกิจของคณะกรรมการข้าราชการพล เรือนและส�านักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนให้เหมาะสม และเพื่อให้การบริหารทรัพยากร บุคคลภาครัฐสอดคล้องกับทิศทางการบริหารราชการ โดยปรับบทบาทของคณะกรรมการข้าราชการ พลเรือน จากเดิมที่ เป็นท้ัง ผู้จัดการงานบุคคลของฝ่ายบริหาร ผู้พิทักษ์ระบบคุณธรรม และผู้จัด โครงสรา้ งสว่ นราชการ ใหเ้ ปน็ เพยี ง ผจู้ ดั การงานบคุ คลของฝา่ ยบรหิ าร โดยมใิ หซ้ า�้ ซอ้ นกบั บทบาทของ คณะกรรมการพฒั นาระบบราชการ สว่ นบทบาทในการพทิ กั ษร์ ะบบคณุ ธรรมใหเ้ ปน็ ของคณะกรรมการ พิทักษ์ระบบคุณธรรม ปรับบทบาทของ ส�านักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนจากเดิมที่ เปน็ เจา้ หนา้ ท่เี ก่ียวกบั การดา� เนินงานของคณะกรรมการ ข้าราชการพลเรอื น ใหเ้ ปน็ เจา้ หน้าทเ่ี กี่ยวกับ การด�าเนินงานของคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนและ คณะกรรมการพิทกั ษ์ระบบคุณธรรม และ มใิ หซ้ ้�าซอ้ นกบั บทบาทของสา� นักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ปรับปรงุ ระบบตา� แหนง่ ของ 630 เร่อื งควรรู้ คูม่ อื นักปกครอง

ขา้ ราชการพลเรอื นสามญั ใหจ้ า� แนกตามกลมุ่ ลกั ษณะงาน ตลอดจนกระจายอา� นาจ การบรหิ ารทรพั ยากร บคุ คลภาครัฐให้ส่วนราชการเจา้ สังกดั ดา� เนนิ การมากขึ้น ๔. พระราชบัญญัติวิธีปฏบิ ตั ิราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ เปน็ กฎหมายทวี่ างหลกั เกณฑท์ วั่ ไปวา่ ดว้ ยกระบวนการพจิ ารณาทางปกครองของเจา้ หนา้ ที่ ของรัฐฝ่ายปกครอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการออกค�าส่ังทางปกครองโดยก�าหนดเป็นขั้นตอนตั้งแต่ การเตรียมการ การพิจารณา การออกค�าสั่งทางปกครอง การอุทธรณ์ค�าสั่งทางปกครอง และการ บังคับการตามค�าส่ังทางปกครองเพ่ือให้การด�าเนินงานเป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย คุ้มครองสิทธิ ของประชาชน และดูแลรกั ษาประโยชน์สาธารณะ พระราชบญั ญัตคิ วามรบั ผิดทางละเมดิ ของเจา้ หน้าท ่ี พ.ศ. ๒๕๓๙ เหตผุ ลทป่ี ระกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ไิ ดแ้ ก ่ การทเี่ จา้ หนา้ ทดี่ า� เนนิ กจิ การตา่ ง ๆ ของหนว่ ยงาน ของรฐั น้ัน หาไดเ้ ป็นไปเพ่อื ประโยชน์อันเปน็ การเฉพาะตัวไม่ การปลอ่ ยใหค้ วามรบั ผดิ ทางละเมดิ ของ เจา้ หนา้ ท ่ี ในกรณที ปี่ ฏบิ ตั งิ านในหนา้ ทแี่ ละเกดิ ความเสยี หายแกเ่ อกชนเปน็ ไปตามหลกั กฎหมายเอกชน ตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ยจ์ งึ เปน็ การไมเ่ หมาะสมกอ่ ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจผดิ วา่ เจา้ หนา้ ทจ่ี ะ ต้องรับผิดในการกระท�าต่าง ๆ เป็นการเฉพาะตัวเสมอไป เม่ือการที่ท�าไปท�าให้หน่วยงานของรัฐต้อง รับผิดต่อบุคคลภายนอกเพียงใดก็จะมีการฟ้องไล่เบ้ียเอาจากเจ้าหน้าที่เต็มจ�านวนน้ัน ทั้งท่ีบางกรณี เกดิ ขึน้ โดยความไม่ตง้ั ใจหรือความผิดพลาดเล็กน้อยในการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ นอกจากนนั้ ยงั มีการนา� หลัก เรอ่ื งลกู หนร้ี ว่ มในระบบกฎหมายแพง่ มาใชบ้ งั คบั ใหเ้ จา้ หนา้ ทตี่ อ้ งรว่ มรบั ผดิ ในการกระทา� ของเจา้ หนา้ ที่ ผอู้ ืน่ ด้วย ซ่ึงระบบนน้ั มงุ่ หมายแตจ่ ะได้เงนิ ครบโดยไม่คา� นงึ ถึงความเปน็ ธรรมทีจ่ ะมตี ่อแต่ละคน กรณี เป็นการก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมแก่เจ้าหน้าที่และยังเป็นการบ่ันทอนก�าลังขวัญในการท�างานของ เจา้ หนา้ ทด่ี ว้ ย จนบางครงั้ กลายเปน็ ปญั หาในการบรหิ ารเพราะเจา้ หนา้ ทไ่ี มก่ ลา้ ตดั สนิ ใจดา� เนนิ งานเทา่ ท่คี วร เพราะเกรงความรับผดิ ชอบท่ีจะเกดิ แกต่ น อนึ่ง การใหค้ ณุ ให้โทษแก่เจา้ หนา้ ที่เพือ่ ควบคมุ การ ทา� งานของเจา้ หนา้ ทยี่ งั มวี ธิ กี ารในการบรหิ ารงานบคุ คลและการดา� เนนิ การทางวนิ ยั กา� กบั ดแู ลอกี สว่ น หน่ึงอันเปน็ หลกั ประกันมิให้เจา้ หน้าทีท่ า� การใด ๆ โดยไมร่ อบคอบอยูแ่ ล้ว ดังนั้น จึงควรก�าหนดให้เจา้ หนา้ ทต่ี อ้ งรบั ผดิ ทางละเมดิ ในการปฏบิ ตั งิ านในหนา้ ทเี่ ฉพาะเมอื่ เปน็ การจงใจกระทา� เพอ่ื การเฉพาะตวั หรือจงใจให้เกิดความเสียหายหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงเท่านั้น และให้แบ่งแยกความรับผิด ชอบของแต่ละคนมิให้น�าหลักลูกหนี้ร่วมให้เกิดความเป็นธรรมและเพ่ิมพูนประสิทธิภาพในการปฏิบัติ งานของรัฐ จึงจา� เปน็ ตอ้ งตรากฎหมายฉบบั นข้ี ้ึน ๖. พระราชบญั ญัตขิ ้อมูลขา่ วสาร พ.ศ. ๒๕๔๐ เหตุผลท่ีประกาศใช้พระราชบัญญัติได้แก่ การให้ประชาชนมีโอกาสกว้างขวางในการได้รับ ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการด�าเนินการต่าง ๆ ของรัฐเป็นส่ิงจ�าเป็น เพ่ือท่ีประชาชนจะสามารถแสดง ความคดิ เหน็ และใชส้ ทิ ธทิ างการเมอื งไดโ้ ดยถกู ตอ้ งกบั ความเปน็ จรงิ อนั เปน็ การสง่ เสรมิ ใหม้ คี วามเปน็ เรือ่ งควรรู้ คมู่ ือนกั ปกครอง 631

รฐั บาลโดยประชาชนมากยงิ่ ขน้ึ สมควรกา� หนดให ้ ประชาชนมสี ทิ ธไิ ดร้ ขู้ อ้ มลู ขา่ วสารของราชการ โดย มีข้อยกเว้นอันไม่ต้องเปิดเผยท่ีแจ้งชัดและจ�ากัดเฉพาะข้อมูลข่าวสารท่ีหากเปิดเผยแล้วจะเกิดความ เสยี หายตอ่ ประเทศชาตหิ รอื ตอ่ ประโยชนท์ สี่ า� คญั ของเอกชน ทงั้ น ี้ เพอื่ พฒั นาระบอบประชาธปิ ไตยให้ มั่นคงและจะยังผลให้ประชาชนมีโอกาสรู้ถึงสิทธิหน้าท่ีของตนอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะปกปักรักษา ประโยชนข์ องตนไดอ้ กี ประการหนงึ่ ดว้ ย ประกอบกบั สมควรคมุ้ ครองสทิ ธสิ ว่ นบคุ คลในสว่ นทเ่ี กย่ี วขอ้ ง กบั ข้อมูลข่าวสารของราชการ ไปพรอ้ มกัน จึงจา� เป็นต้องตรากฎหมายฉบบั นข้ี นึ้ ๗. พระราชบัญญัติการอ�านวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๘ พระราชบญั ญตั กิ ารอา� นวยความสะดวกในการพจิ ารณาอนญุ าตของทางราชการ พ.ศ.๒๕๕๘ เปน็ ความพยายามลดความยงุ่ ยากซบั ซอ้ นทางกฎหมายและกฎระเบยี บ ทใ่ี ชเ้ วลานานเกนิ ความจา� เปน็ หรอื ทเี่ รยี กกนั วา่ “เทปสแี ดง” (Red tape) ในระบบราชการ โดยคณะรฐั มนตรมี มี ตเิ มอ่ื วนั ท ่ี ๔ มกราคม ๒๕๕๕ มอบหมายใหส้ า� นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี าพจิ ารณาปรบั ปรงุ กฎหมายและกฎระเบยี บ เพอื่ ลดขั้นตอนและลดการขออนุญาตท่ีไม่จ�าเป็นเพื่อให้เหมาะสมกับภาคธุรกิจ ต่อมาส�านักงาน คณะกรรมการกฤษฎกี าไดย้ กรา่ ง พ.ร.บ.ดงั กลา่ ว และเปดิ รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของประชาชนในชว่ งกลาง ปี ๒๕๕๖ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเม่ือวันท่ี ๒๒ มกราคม ๒๕๕๘ (มีผลใช้บังคับในวันท่ี ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๘) มสี าระส�าคัญประกอบดว้ ย ๑) หน้าทข่ี องผอู้ นญุ าตและการพจิ ารณาอนญุ าต โดยมหี นา้ ทที่ ่ีสา� คญั ดังน้ี จดั ท�าคูม่ ือส�าหรบั ประชาชน (มาตรา ๗) ซ่ึงอยา่ งน้อยต้องประกอบดว้ ย ๑) หลัก เกณฑ์ วิธีการและเง่ือนไข (ถ้าม)ี ในการยื่นค�าขออนญุ าต ๒) ขัน้ ตอนและระยะเวลาในการพจิ ารณา อนญุ าต และ ๓) รายการเอกสารหรอื หลกั ฐานที่ต้องใช้ประกอบการอนุญาต ท้ังน้ี ผ้อู นุญาตต้องจดั ทา� คู่มือส�าหรับประชาชนดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน ๑๘๐ วัน นับแต่วันท่ี พ.ร.บ.น้ีประกาศใน ราชกจิ จานเุ บกษา พิจารณาปรบั ปรงุ กฎหมายท่ใี ห้อ�านาจในการอนุญาตทุก ๕ ป ี เพือ่ ยกเลกิ หรือจัดให้ มีมาตรการอื่นแทนการอนญุ าต และเสนอผลการพิจารณานน้ั ต่อ ครม. (มาตรา ๖) ขน้ั ตอนอนญุ าตนนั้ เจา้ หนา้ ทร่ี บั คา� ขอตอ้ งตรวจสอบคา� ขอและเอกสารหลกั ฐาน หาก ไมถ่ กู ต้องครบถว้ นตอ้ งแจ้งผู้ขออนุญาตทนั ท ี (มาตรา ๘) ถ้าแกไ้ ขหรอื เพ่ิมเตมิ ได้ในขณะนน้ั ใหผ้ ขู้ ออนุญาตดา� เนนิ การใหค้ รบถ้วน ถ้าไม่สามารถแกไ้ ขหรือเพม่ิ เติมไดใ้ นขณะน้ัน ใหบ้ นั ทกึ รายการเอกสารทจ่ี ะตอ้ งย่ืน เพิ่มเติม และก�าหนดระยะเวลาทจ่ี ะต้องแก้ไขหรือเพ่มิ เตมิ ไว้และมอบส�าเนาใหผ้ ขู้ ออนุญาตเกบ็ ไว้เปน็ หลักฐาน 632 เร่ืองควรรู้ คู่มอื นกั ปกครอง

เม่ือผู้ย่ืนขออนุญาตย่ืนค�าขอและรายการเอกสารหรือหลักฐานถูกต้องครบถ้วนตามท่ี ก�าหนดในคู่มือส�าหรับประชาชนแล้ว เจ้าหน้าท่ีไม่สามารถเรียกเอกสารเพิ่มเติมหรือปฏิเสธค�าขอนั้น โดยอ้างว่าเอกสารหรือหลักฐานไม่ครบถ้วน เว้นแต่เกิดจากความประมาทเลินเล่อ หรือทุจริตของเจ้า หนา้ ท่ ี ซ่งึ ผ้อู นญุ าตจะต้องดา� เนนิ การทางวนิ ยั หรอื ด�าเนินคดกี บั เจ้าหนา้ ทน่ี น้ั (มาตรา ๘ วรรคสาม) ผอู้ นญุ าตตอ้ งดา� เนนิ การอนญุ าตตามกา� หนดเวลาทร่ี ะบไุ วใ้ นคมู่ อื สา� หรบั ประชาชน และ แจง้ ผู้ขออนญุ าตภายใน ๗ วันนับแตพ่ ิจารณาแลว้ เสรจ็ หากครบกา� หนดเวลายงั พิจารณาไม่แลว้ เสร็จ ต้องแจ้งเปน็ หนังสือให้ผู้ขออนญุ าต และคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการทุก ๗ วัน (มาตรา ๑๐) หากไม่แจ้งท้ังกรณีแล้วเสร็จ/ล่าช้ามีโทษเท่ากับกระท�า/ละเว้นกระท�าการท�าให้เกิดความเสียหาย ตอ่ ผอู้ ื่น ๒) หน้าท่ีของคณะกรรมการพฒั นาระบบราชการ และคณะรฐั มนตรี หนา้ ที่ของคณะกรรมการพฒั นาระบบราชการ ตรวจสอบข้ันตอนและระยะเวลาในการพิจารณาอนุญาตในคู่มือส�าหรับประชาชน และเสนอคณะรัฐมนตรีเพอ่ื พจิ ารณาส่ังการหากเหน็ วา่ ควรดา� เนินการแก้ไข (มาตรา ๗ วรรคสาม) รายงานตอ่ คณะรฐั มนตร ี พรอ้ มทงั้ เสนอแนะการพฒั นาหรอื ปรบั ปรงุ หนว่ ยงานหรอื ระบบการปฏิบัติราชการ ในกรณีท่ีผู้อนุญาตด�าเนินการพิจารณาอนุญาตล่าช้ากว่าท่ีก�าหนดในคู่มือ ส�าหรับประชาชนเกนิ สมควร หรือลา่ ช้าเพราะขาดประสทิ ธภิ าพ (มาตรา ๑๐ วรรคสาม) หารือเรื่องการช�าระค่าธรรมเนียมต่อใบอนุญาตแทนการยื่นค�าขอต่อใบอนุญาตกับ หน่วยงานที่เก่ียวข้องกบั การออกใบอนญุ าต เพ่ือเสนอคณะรัฐมนตร ี (มาตรา ๑๔ วรรคส่ี) ให้ความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีต่อการยกเลิกการอนุญาต หรือจัดให้มีมาตรการอ่ืน แทนการอนุญาต (มาตรา ๖ วรรคสอง) หนา้ ท่ีของคณะรฐั มนตรี ออกพระราชกฤษฎีกาเพื่อก�าหนดให้ผู้รับใบอนุญาตช�าระค่าธรรมเนียมการต่อใบ อนญุ าตแทนการยื่นค�าขอต่อใบอนุญาต (มาตรา ๑๒ วรรคแรกและวรรคสอง) พิจารณายกเลิกการอนุญาตหรือจัดให้มีมาตรการอื่นแทนการอนุญาต (มาตรา ๖ วรรคสอง) จดั ต้ังศนู ย์รับคา� ขออนญุ าต (มาตรา ๑๔) ๓) ศนู ยร์ บั ค�าขออนุญาต ศูนย์รับค�าขออนุญาตเป็นหน่วยงานใหม่ท่ีออกแบบมาเพื่ออ�านวยความสะดวกแก่ ประชาชนในการขออนุญาตจากหน่วยงานราชการ พ.ร.บ.ฯ ก�าหนดให้คณะรัฐมนตรีสามารถออก พระราชกฤษฎีกาเพื่อจัดตั้งศูนย์รับค�าขออนุญาตซึ่งมีฐานะเป็นส่วนราชการตามมาตรา ๑๘ วรรคส่ี เร่ืองควรรู้ คมู่ ือนกั ปกครอง 633

แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบรหิ ารราชการแผน่ ดิน พ.ศ. ๒๕๓๕ ซง่ึ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.ระเบยี บบรหิ าร ราชการแผน่ ดนิ (ฉบบั ท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ โดยอยูใ่ น สา� นักนายกรฐั มนตร ี (มาตรา ๑๔) ซึง่ ก�าหนดหน้าท่ี คล้ายตัวกลางระหว่างผู้ขออนุญาตกับหน่วยงานผู้อนุญาต เช่น การรับค�าขออนุญาตและ ชา� ระคา่ ธรรมเนยี ม การใหข้ อ้ มลู ชแี้ จง และแนะนา� เกย่ี วกบั หลกั เกณฑว์ ธิ กี าร และเงอ่ื นไขในการอนญุ าต ซง่ึ คา� ขอจากผยู้ น่ื คา� ขอพรอ้ มเอกสารหลกั ฐานทเี่ กย่ี วขอ้ งใหห้ นว่ ยงานทเี่ กย่ี วขอ้ งและคอยตดิ ตามเรง่ รดั หนว่ ยงานดังกลา่ วเป็นตน้ (มาตรา ๑๖) โดยให้ประชาชนสามารถยื่นค�าขอ ส่งเอกสารหลักฐาน หรือ ค่าธรรมเนียม ณ ศนู ยร์ ับค�าขออนญุ าต แทนหน่วยงานอนุญาตได้ (มาตรา ๑๕) ๘. พระราชกฤษฎกี าวา่ ด้วยหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารบรหิ ารกิจการบา้ นเมืองท่ดี ี พ.ศ.๒๕๔๖ เปน็ กฎหมายทก่ี า� หนดหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารบรหิ ารกจิ การบา้ นเมอื งทดี่ ี โดยมคี วามประสงค์ จะให้ใช้บังคับกบั สว่ นราชการในทุกกระทรวง ทบวง กรม ทั้งท่ีเปน็ ราชการสว่ นกลางและราชการส่วน ภูมิภาค รวมท้ังหน่วยงานอ่ืนท่ีอยู่ในก�ากับของราชการฝ่ายบริหารท่ีมีการจัดต้ังขึ้นและมีการปฏิบัติ ราชการเช่นเดยี วกบั กระทรวง ทบวง กรม ดงั มี รายละเอียดของหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารบรหิ ารกจิ การ บ้านเมอื งทด่ี ี และกรอบแนวทางการดา� เนนิ การท่สี �าคญั ดงั นี ้ หมวดท ี่ ๑ เป็นการก�าหนดขอบเขตความหมาย หมวดที่ ๒ ก�าหนดแนวทางการบริหารราชการ หมวดท ่ี ๓ กลา่ วถึง “การบรหิ ารราชการเพอ่ื ใหเ้ กิดผลสัมฤทธติ์ ่อภารกจิ ของรฐั ” หมวดท ่ี ๔ การบริหารราชการอย่างมีประสทิ ธภิ าพและเกดิ ความคมุ้ คา่ หมวดที่ ๕ การลดข้นั ตอนการปฏบิ ตั งิ าน หมวดท่ ี ๖ การปรับปรุงภารกจิ ของส่วนราชการ หมวดที่ ๗ การอ�านวยความสะดวกและการตอบสนองความตอ้ งการของประชาชน หมวดที่ ๘ การประเมินผลการปฏบิ ตั ิราชการ ๙. ระเบียบว่าดว้ ยการรกั ษาความลับทางราชการ พ.ศ. ๒๕๔๔ ตามระเบยี บว่าดว้ ยการรักษาความลบั ของทางราชการ พ.ศ.๒๕๔๔ ก�าหนดให้หวั หน้าส่วน ราชการ มีหน้าทรี่ ักษาข้อมลู ขา่ วสารลับในหนว่ ยงานของตน และอาจมอบหมายหน้าท่ดี ังกลา่ วได้ตาม ความจ�าเป็นให้ผู้ใต้บังคับบัญชา หรือแก่ราชการส่วนภูมิภาค ในกรณีที่สามารถมอบอ�านาจได้ตาม กฎหมาย โดยกา� หนดใหส้ า� นกั ขา่ วกรองแหง่ ชาต ิ สา� นกั นายกรฐั มนตร ี เปน็ องคก์ ารรกั ษาความปลอดภยั ฝา่ ยพลเรอื น และกา� หนดใหศ้ ูนย์รักษาความปลอดภยั กองบญั ชาการกองทัพไทย กระทรวงกลาโหม เปน็ องคก์ ารรกั ษาความปลอดภยั ฝา่ ยทหาร โดยใหอ้ งคก์ ารรกั ษาความปลอดภยั ทงั้ สองหนว่ ย ประสาน การปฏบิ ัติในการจดั ให้มีหลกั เกณฑ์ วิธกี าร และค�าแนะนา� การปฏิบตั ิตามระเบียบนี้ รวมท้งั การอบรม บุคลากรท่ีเก่ยี วข้องตามความจา� เป็นและงบประมาณ 634 เร่อื งควรรู้ ค่มู อื นกั ปกครอง

ชนั้ ความลบั ของข้อมูลขา่ วสารลับ แบง่ ออกเปน็ ๓ ช้ัน ดงั น้ี ๑. ลับทีส่ ุด (TOP SECRET) หมายความถงึ ข้อมลู ข่าวสารลับซ่ึงหากเปิดเผยทง้ั หมดหรือ เพยี งบางส่วน จะกอ่ ใหเ้ กิดความเสียหายแกป่ ระโยชนแ์ หง่ รัฐอยา่ งรา้ ยแรงท่ีสุด ๒. ลบั มาก (SECRET) หมายความถงึ ขอ้ มูลขา่ วสารลบั ซงึ่ หากเปิดเผยทัง้ หมดหรอื เพียง บางส่วน จะก่อให้เกิดความเสยี หายแกป่ ระโยชนแ์ ห่งรัฐอย่างรา้ ยแรง ๓. ลบั (CONFIDENTIAL) หมายความถงึ ขอ้ มลู ขา่ วสารลบั ซงึ่ หากเปดิ เผยทงั้ หมดหรอื เพยี ง บางส่วน จะก่อให้เกดิ ความเสยี หายแกป่ ระโยชนแ์ หง่ รฐั ระเบยี บวา่ ดว้ ยการรกั ษาความลบั ของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๔๔ กา� หนดใหห้ วั หนา้ หนว่ ยงาน ของรฐั เปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบ และตอ้ งใหเ้ หตผุ ลประกอบดว้ ยวา่ เปน็ ชนั้ ลบั ทสี่ ดุ ลบั มาก หรอื ลบั เพราะเหตใุ ด แต่หวั หนา้ หนว่ ยงานของรฐั อาจมอบหมายหน้าทีก่ ารก�าหนดช้นั ความลับใหแ้ ก่ผู้ใต้บงั คับบัญชา หรอื ให้แก่ราชการส่วนภูมิภาค ในกรณีท่ีสามารถมอบอ�านาจได้ โดยหน่วยงานของรัฐจะต้องออกค�าสั่ง เรอื่ งการมอบหมายหน้าทกี่ �าหนดช้ันความลับเปน็ ลายลักษณ์อักษร กรณีการปฏิบัติงานในรูปคณะกรรมการ และต้องด�าเนินการเกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารลับ ของราชการ เมอ่ื คณะกรรมการมมี ตใิ หก้ า� หนดชน้ั ความลบั ไวเ้ ชน่ ใด ใหเ้ ลขานกุ ารคณะกรรมการดา� เนนิ การไปตามนั้น และใหห้ น่วยงานของรฐั เจ้าสงั กัดของผทู้ ี่เปน็ เลขานกุ ารดา� เนินการตอ่ ไปใหถ้ กู ต้องตาม ระเบียบด้วยแต่ถ้าคณะกรรมการใดมีฝ่ายเลขานุการ ซึ่งไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐให้ ประธานคณะกรรมการทา� หนา้ ทเี่ ปน็ หวั หนา้ หนว่ ยงานของรฐั และใหน้ า� ระเบยี บนมี้ าบงั คบั ใชโ้ ดยอนโุ ลม องคป์ ระกอบของชั้นความลบั ประกอบดว้ ย ๑. ความสา� คญั ของเนื้อหา ๒. แหล่งที่มาของขอ้ มลู ขา่ วสาร ๓. วิธกี ารนา� ไปใช้ประโยชน์ ๔. จา� นวนบุคคลท่ีควรรบั ทราบ ๕. ผลกระทบหากมกี ารเปดิ เผย ๖. หนว่ ยงานของรฐั ทร่ี ับผดิ ชอบในฐานะเจ้าของเรื่อง ...................................................... ส�านกั กฎหมาย สา� นักงานปลดั กระทรวงมหาดไทย โทร. ๐-๒๒๒๒-๒๘๔๙ เรือ่ งควรรู้ คมู่ อื นกั ปกครอง 635



กฎหมายในความรบั ผดิ ชอบ ของกระทรวงมหาดไทย



กฎหมายในความรับผดิ ชอบของกระทรวงมหาดไทย จ�านวนกฎหมายหลกั (พระราชบัญญัติ พระราชกา� หนด ประมวล ประกาศคณะปฏิวตั )ิ จา� นวน ๑๓๑ ฉบบั จ�านวนกฎหมายรอง (พระราชกฤษฎกี า กฎกระทรวง ประกาศกระทรวง ระเบยี บ ข้อบงั คบั ) จา� นวน ๑,๙๐๔ ฉบับ สา� นักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กฎหมายหลกั – ฉบับ กฎหมายรอง – ฉบับ กรมการปกครอง กฎหมายหลัก ๘๘ ฉบับ กฎหมายรอง ๔๖๒ ฉบับ ๑. กฎเสนาบดวี า่ ด้วยท่กี ุศลสถานชนดิ ศาลเจ้า พ.ศ. ๒๔๖๓ ๒. ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย ์ บรรพ ๑ ลักษณะ ๒ หมวด ๒ ส่วนท ่ี ๒ - ๓ สมาคม มลู นธิ ิ ๓. ประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา ๓.๑ พระราชกฤษฎีกา (๑) พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. ๒๕๔๒ (๒) พระราชกฤษฎกี าพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. ๒๕๔๗ ๓.๒ กฎกระทรวง (๑) กฎกระทรวง (พ.ศ. ๒๕๔๓) ออกตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (๒) กฎกระทรวงมหาดไทยออกตามความในมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวล กฎหมายวิธพี จิ ารณาความอาญา พุทธศักราช ๒๔๗๗ ๓.๓ ระเบยี บ (๑) ระเบียบกระทรวงยุติธรรม ว่าด้วยการจ่ายค่าตอบแทนแก่นักจิตวิทยาหรือนักสังคม สงเคราะหฯ์ ตามมาตรา ๑๒ ทว ิ พ.ศ. ๒๕๔๓ (๒) ระเบียบกระทรวงยตุ ิธรรม ว่าดว้ ยการจา่ ยคา่ ตอบแทนฯ ของแพทย์และเจา้ พนักงานฯ ตามมาตรา ๑๕๐ (ฉบบั ท ่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๓ (๓) ระเบยี บกระทรวงยตุ ธิ รรม วา่ ด้วยการจา่ ยค่าตอบแทนฯ ของแพทยแ์ ละเจ้าพนักงานฯ ตามมาตรา ๑๕๐ พ.ศ. ๒๕๔๓ เร่อื งควรรู้ คู่มอื นักปกครอง 639

๓.๔ ขอ้ บงั คบั (๑) ข้อบังคับกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยระเบียบการปฏิบัติหน้าที่ชันสูตรพลิกศพของ พนักงานฝา่ ยปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๓ ๔. ประมวลกฎหมายอาญา ๔.๑ ระเบียบ (๑) ระเบยี บขา้ ราชการฝา่ ยตลุ าการวา่ ดว้ ยการกา� หนดจา� นวนชว่ั โมงทถี่ อื เปน็ การทา� งานหนงึ่ วนั ฯ พ.ศ. ๒๕๔๖ (๒) ระเบยี บกระทรวงยตุ ธิ รรมวา่ ดว้ ยหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารประหารชวี ติ นกั โทษ พ.ศ. ๒๕๔๖ ๕. ประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๔๕ (จ�ากัดเวลาส�าหรับการเล่นและการจ�าหน่ายในสถานโบลล่ิง สถานเล่นสเกต็ รา้ นขายอาหารและเคร่ืองดม่ื ) ลงวันท่ี ๑๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๕ ๖. ประกาศคณะปฏิวัต ิ ฉบับที่ ๕๐ (สถานบรกิ าร) ลงวันท ่ี ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๒ ๗. ประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ (การควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือ ผาสุกแหง่ สาธารณชน) ลงวันท ่ี ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๕ ๘. ประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๒๕๓ (ก�าหนดเวลาการจ�าหน่ายสุราและดื่มสุรา) ลงวันที่ ๑๖ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๑๕ ๙. พระราชกา� หนดการกู้ยมื เงนิ ท่ีเปน็ การฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๗ ๑๐. พระราชบญั ญัตกิ องอาสารกั ษาดนิ แดน พ.ศ. ๒๔๙๗ ๑๐.๑ พระราชกฤษฎีกา (๑) พระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน พ.ศ. ๒๔๙๗ บังคับใน ท้องท่ีทกุ จงั หวดั ทวั่ ราชอาณาจกั ร พ.ศ. ๒๕๓๗ ๑๐.๒ กฎกระทรวง (๑) กฎกระทรวง (พ.ศ.๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน พ.ศ. ๒๔๙๗ (๒) กฎกระทรวง ฉบับท่ ี ๒ (พ.ศ.๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิกองอาสารกั ษา ดินแดน พ.ศ. ๒๔๙๗ (๓) กฎกระทรวง ฉบับท่ ี ๓ (พ.ศ.๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติกองอาสารักษา ดินแดน พ.ศ. ๒๔๙๗ (๔) กฎกระทรวง ฉบับท ี่ ๔ (พ.ศ.๒๔๙๘) ออกตามความในพระราชบญั ญัติกองอาสารกั ษา ดนิ แดน พ.ศ. ๒๔๙๗ 640 เรือ่ งควรรู้ คมู่ ือนกั ปกครอง

(๕) กฎกระทรวง ฉบบั ที ่ ๕ (พ.ศ.๒๕๐๐) ออกตามความในพระราชบญั ญตั กิ องอาสารักษา ดินแดน พ.ศ. ๒๔๙๗ (๖) กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๖ (พ.ศ.๒๕๐๐) ออกตามความในพระราชบญั ญัตกิ องอาสารักษา ดินแดน พ.ศ. ๒๔๙๗ (๗) กฎกระทรวง ฉบับที ่ ๗ (พ.ศ.๒๕๒๗) ออกตามความในพระราชบญั ญตั กิ องอาสารกั ษา ดนิ แดน พ.ศ. ๒๔๙๗ ๑๐.๓ ระเบยี บ (๑) ระเบียบกองอาสารักษาดินแดนว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลของสมาชิก กองอาสารักษาดินแดน พ.ศ. ๒๕๓๓ (๒) ระเบยี บกองอาสารกั ษาดินแดนวา่ ด้วยการเบิกจ่ายเงินฯ (ฉบบั ท ่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๓๖ (๓) ระเบียบกองอาสารักษาดินแดนวา่ ด้วยการเบกิ จา่ ยเงินฯ (ฉบับท ่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๓๘ ๑๑. พระราชบัญญัตกิ ารเกณฑ์ชว่ ยราชการทหาร พ.ศ. ๒๕๓๐ ๑๒. พระราชบญั ญตั ิการเชา่ ทีด่ ินเพอื่ เกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๒๔ ๑๒.๑ กฎกระทรวง (๑) กฎกระทรวง (พ.ศ.๒๕๒๗)ออกตามความในพระราชบญั ญตั กิ ารเชา่ ทด่ี นิ เพอ่ื เกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๒๔ (๒) กฎกระทรวง ฉบบั ท ่ี ๒ (พ.ศ.๒๕๒๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติการเช่าทีด่ นิ เพอื่ เกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๒๔ ๑๒.๒ ระเบียบ (๑) ระเบียบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการเลือกตั้งหรือ คดั เลอื กผแู้ ทนผเู้ ชา่ และผแู้ ทนผใู้ หเ้ ชา่ ในคณะกรรมการการเชา่ ทดี่ นิ เพอ่ื เกษตรกรรมประจา� จงั หวดั และ ประจ�าตา� บล พ.ศ. ๒๕๒๔ ๑๓. พระราชบัญญตั กิ ารเนรเทศ พ.ศ. ๒๔๙๙ ๑๔. พระราชบญั ญตั กิ ารเลน่ แชร์ พ.ศ. ๒๕๓๔ ๑๔.๑ กฎกระทรวง (๑) กฎกระทรวง (พ.ศ. ๒๕๓๔) ออกตามความในพระราชบัญญตั กิ ารเลน่ แชร ์ พ.ศ. ๒๕๓๔ (๒) กฎกระทรวง ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๓๔) ออกตามความในพระราชบัญญัติการเล่นแชร ์ พ.ศ. ๒๕๓๔ เรื่องควรรู้ คมู่ ือนกั ปกครอง 641