Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสัตตบงกช

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสัตตบงกช

Published by BA_ LON, 2021-12-26 09:09:46

Description: หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสัตตบงกช

Search

Read the Text Version

๑๔๗ คำอธบิ ายรายวชิ า ท ๒๑๑๐๒ ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่๑ ภาคเรยี นท่ี๑ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๕ หน่วย กิต อ่านออกเสียงทั้งร้อยแก้วและร้อยรอง คำประพันธ์ บทความ เรื่องสั้น หรืองานเขียนต่างๆ ทั้งบันเทิง คดี และสารคดี โดยฝึกการอ่านออกเสียงให้ถูกต้องเหมาะกับเรื่องที่อ่าน จับใจความ ระบุเหตุ และผล ข้อเท็จจริงข้อคิดเห็น อธิบายคำเปรียบเทียบ คัดลายมือตามรูปแบบอักษรไทย เขียนสื่อสาร เขียนบรรยาย ประสบการณ์ เขียนเรียงความ ย่อความ เขียนแสดงความคิดเห็นจากส่ือต่างๆ พูดสรุปใจความสำคัญ พูดเล่า เรอ่ื ง พูดแสดงความคดิ เหน็ ประเมนิ ความนา่ เชอ่ื ถือ สามารถใช้ภาษาในการเขียนบรรยายเพื่อสื่อสารเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาแหล่งท่องเที่ยวของ จังหวัดอ่างทองตามคำขวัญโดยใช้ภาษาอย่างมีหลักเกณฑ์เลือกใช้คำอย่าง ถูกต้องเหมาะสมและมีมารยาทใน การใช้ภาษาเพ่ือให้สืบสานและอนรุ ักษ์แหล่งทอ่ งเท่ียวของจงั หวดั อ่างทอง อธิบายเสียงในภาษา การสร้างคำ วิเคราะห์ภาษา พูดและภาษาเขียน ศึกษาเนื้อหาวรรณคดี วรรณกรรมเกี่ยวกบั ศาสนา ประเพณี พิธีกรรม สุภาษิตคำสอน เหตุการณ์ประวัตศิ าสตร์ บันเทิงคดี บันทึกการ เดินทาง วรรณกรรมท้องถิ่น โดยสรุปเนื้อหาวิเคราะห์อธิบาย คุณค่า ท่องจำบทอาขยานและบทร้อยกรองที่ น่าสนใจเพื่อให้เห็นคุณคา่ ของภาษาไทย และนำมาประยุกช้ ในการดำเนินชีวิต และมีมารยาทในการดู การพดู การอา่ น และการเขียน รหัสตัวชีว้ ัด ท ๑.๑ม๑/๑ ม๑/๒ ม๑/๓ ,ม๑/๔ ท ๒.๑ม๑/๑ ,ม๑/๒ ม๑/๓ ,ม๑/๔ ,ม๑/๕ ท ๒.๑ม๑/๖ ท ๓.๑ม๑/๑ ,ม๑/๒ ,ม๑/๓ ,ม๑/๔ ท ๔.๑ม๑/๑ ม๑/๒ ม๑/๓ ,ม๑/๔ ท ๕.๑ม๑/๑ ,ม๑/๒ ,ม๑/๓ รวมท้ังหมด ๒๐ ตวั ช้วี ดั

๑๔๘ คำอธบิ ายรายวชิ า ท ๒๑๑๐๒ ภาษาไทย กลุม่ สาระการเรียนรูภาษาไทย ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่๑ ภาคเรยี นท่ี๒ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ย กติ อา่ นออกเสยี งท้งั ร้อยแกว้ และร้อยกรอง คำประพันธ์ บทความ เร่ืองสนั้ หรอื งานเขียนตา่ งๆ ทง้ั บันเทิง คดี และสารคดี โดยฝึกการอ่านออกเสียงให้ถูกต้องเหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน ตีความคำยากระบุข้อสังเกต อ่าน และปฏิบัติตามคู่มือ วิเคราะห์คุณค่า เขียนจดหมายส่วนตัว และจดหมายกิจธุระ เขียนรายงานการศึกษา คน้ ควา้ และทำโครงงาน พดู รายงาน จากการฟังและสนทนา สามารถใช้ภาษาในการเขียนบรรยายเพื่อสื่อสารเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาแหล่งท่องเที่ยวของ จังหวัดอ่างทองตามคำขวัญโดยใช้ภาษาอย่างมีหลักเกณฑ์เลือกใช้คำอย่างถูกต้องเหมาะสมและมีมารยาทใน การใชภ้ าษาเพ่อื ใหส้ บื สานและอนุรักษแ์ หลง่ ทอ่ งเทยี่ วของจังหวัดอ่างทอง วเิ คราะหช์ นดิ และหน้าท่ี ของคำ แต่งกาพย์ยานี ๑๑ จำแนกและใชส้ ำนวนท่เี ป็นคำพงั เพยและสุภาษิต สรุปข้อคิดจากการอ่าน ศึกษา วรรณคดีวรรณกรรม ท่องจำบทอาขยาน และบทร้อยกรองที่น่าสนใจเพื่อให้ คุณค่าของภาษาไทย ใฝ่ เรียนรู้ นำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตชีวิต มีนิสัยรักการอ่านการเขียน การฟัง การดู และการพดู รหัสตัวขวี้ ดั ท ๑.๑ม๑/๕ ,ม๑/๖ ,ม๑/๗ ,ม๑/๘ ,ม๑/๙ ท ๒.๑ม๑/๗ .ม๑/๘ ม๑/๙ ท ๓.๑ม๑/๕ ,ม๑/๖ ท ๔.๑ม๑/๓ ,ม๑/๕ ,ม๑/๖ ท ๕.๑ม๑/๔ ,ม๑/๕ รวมทง้ั หมด ๑๕ ตัวชว้ี ัด

๑๔๙ คำอธบิ ายรายวชิ า วชิ า ท ๒๒๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ชนั้ มัธยมศึกษาปที่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ย กิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- อ่านออกเสียงทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง คำประพันธ์ บทความ หนังสือ หรืองานเขียนตาง ๆ ท้ัง บันเทิงคดีและสารคดี โดยฝึกการอ่านออกเสียงให้ถูกต้องคล่องแคล้วชัดเจน ตามลักษณะคำประพันธจับ ใจความ สรุปความ อธิบายรายละเอียด เขียนผังความคิด คัดลายมือตามรูปแบบตัวอักษรไทย เขียนบรรยาย เขยี นพรรณนา เขยี นเรียงความ เขียนยอ่ ความ เขียนรายงานจากการศกึ ษาคน้ คว้า เขียนรายงานโครงงาน เขียน วิเคราะห์วิจารณ์แสดงความรู้ความคิดเห็นหรือโต้แย้ง ฟัง ดู ขาว และ เรื่องจากสื่อต่าง ๆ พูดสรุปใจความ สำคัญ พูดรายงาน วิเคราะห์ประโยคสามัญ ประโยครวม ประโยค ซ่อน แต่งกลอนสุภาพ รวบรวมอธิบายคำ ภาษาต่างประเทศภาษาไทยศึกษาเนื้อหาวรรณคดีวรรณกรรม ศาสนาประเพณี พิธีกรรม สุภาษิตคำสอน เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ บันเทิงคดี บันทึกการเดินทาง วรรณกรรม ทอ้ งถิ่น โดยสรุปเนื้อหา อธิบายคุณค่า ท้องจำบทอาขยานและบทร้อยกรองท่ีน่าสนใจ การเขียนรายงาน การศึกษาค้นคว้า ศึกษาเอกลักษณ์ตามคำขวัญของจังหวัดอ่างทอง ตระหนักและเห็นคุณค่าของการเขียน รายงานการศึกษาคน้ ควา้ เพือ่ ใหเ้ ห็นคณุ ค่าของภาษาไทยไฝเรียนรู้ อย่อู ย่างพอเพยี ง มี วนิ ัย มีนิสัยรักการอาน การเขยี น มมี ารยาทการอาน การเขยี น การฟงั การดูและการพดู รหัสตัวชวี้ ัด ท ๑.๑ ม.๒/๑, ท ๑.๑ ม.๒/๔ ท ๑.๑ ม.๒/๓ ท ๑.๑ ม.๒/๖ ,ท ๑.๑ ม.๒/๘ ท ๒.๑ ม.๒/๑ ท ๒.๑ ม.๒/๒ ,ท ๒.๑ ม.๒/๓ , ท ๒.๑ ม.๒/๔ ท ๒.๑ ม.๒/๕ , ท ๒.๑ ม.๒/๖ ท ๒.๑ ม.๒/๗ ท ๒.๑ ม.๒/๘ ท ๓.๑ ม.๒/๑ . ท ๓.๑ ม.๒/๕ ท ๔.๑ ม.๒/๒ .ท ๔.๑ ม.๒/๓ .ท ๔.๑ ม.๒/๕ ท ๕.๑ ม.๒/๑ , ท ๕.๑ ม.๒/๓ ,ท ๕.๑ ม.๒/๕ รวม ๑๙ ตัวขว้ี ดั

๑๕๐ คำอธบิ ายรายวิชา วชิ า ท ๒๒๑๐๒ ภาษาไทย กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชั้นมธั ยมศึกษาปท่ี ๒ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๖๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วย กติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- อ่านออกเสียงทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง คำประพันธ์ บทความ หนังสือ หรืองานเขียนต่าง ๆ ทั้ง บันเทงิ คดีและสารคดี โดยฝึกการอา่ นออกเสียงใหถ้ กู ตอ้ งคล่องแคลว้ ชดั เจน ตามลกั ษณะคำประพันธ์ อภิปราย แสดงความคิดเห็น วิเคราะห์จำแนกข้อเท็จจริง ข้อมูลสนับสนุน ข้อคิดเห็น ระบุขอ สังเกต การชวนเชื่อ ประเมินค่า เขียนจดหมายกิจธุระ พูดวิเคราะห์ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็นและความนาเชื่อถือ วิเคราะห์วิจารณเรื่อง ที่ฟังและดู พูดอวยพร พูดโน้มน้าว พูดโฆษณา สร่างคำสมาส ใช้ราชาศัพท์ศึกษา วรรณคดีวรรณกรรม ศาสนา ประเพณี พิธีกรรม สุภาษิตคำสอน เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ บันเทิงคดี บันทึก การเดนิ ทาง วิเคราะหว์ รรณกรรมท้องถิ่น โดยวเิ คราะห์วจิ ารณสรปุ เนื้อหาความรคู้ วามคดิ เพื่อใหรักษาความเป็นไทยใฝ่เรียนรู้อยู่อย่างพอเพียง มีวินัย มีนิสัยรักการอานการเขียน มี มารยาทการอ่าน การเขยี น การฟงั การดแู ละการพดู รหัสตัวข้ีวัด ท ๑.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๔, ม.๒/๕, ม.๒/๖. ม.๒/๗. ม.๒/๘ ท ๒.๑ ม.๒/๖, ม.๒/๘ ท ๓.๑ ม.๒/๒. ม.๒/๓. ม.๒/๔, ม.๒/๖ ท ๔.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๔, ท ๕.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๔ รวม ๑๗ ตวั ขวี้ ัด

๑๕๑ คำอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน รหสั วิชา ท ๒๓๑๐๑ ชื่อรายวชิ าภาษาไทยพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรยี นท่ี ๓ เวลา ๖๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาประเด็นความรู้ องค์ความรู้ และทฤษฎีความรู้ ความแตกต่างของคำที่มีความหมายโดยตรง และความหมายโดยนยั ระบใุ จความสำคญั ของข้อมูล อ่านเร่อื งตา่ ง ๆ แสดงความคิดเหน็ และประเมินเรื่องจาก การฟังและการดู วิเคราะห์และวิจารณ์เรื่องที่ฟังและดูเพื่อนำข้อคิดมาประยุกต์ใชใ้ นการดำเนินชีวิต ศึกษาการ จำแนกคำและใช้คำภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย วิเคราะห์โครงสร้างประโยคที่ซับซ้อน วิเคราะห์ระดับ ภาษา ใชค้ ำทบั ศพั ทแ์ ละศพั ท์บญั ญตั ิ ศกึ ษาประเด็นความร้ขู องวรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมทอ้ งถน่ิ ใน ระดับที่ยากยิ่งขึ้น วิเคราะห์วิถีไทยและคุณค่าจากวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน สร้างองค์ความรู้โดยใช้ กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการคิด กระบวนการกลุ่ม ฝึกทักษะการฟัง การดูและการพูด การศึกษาค้นคว้า การสืบค้น การอธิบาย การรายงาน การอภิปราย การสาธิต การแสดงบทบาทสมมุติ การ ปฏิบัตจิ รงิ การใชส้ อื่ เทคโนโลยี แหล่งเรียนรู้ การแสดงผลงาน เขยี นกรอบแนวคิด ผังความคิด บนั ทกี ยอ่ ความ และรายงาน วเิ คราะห์ วิจารณ์ เรือ่ งท่ีอ่านโดยใช้ กลวิธีเปรียบเทียบ คัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด เขียนข้อความได้ถูกต้องตามระดับภาษา เขียนชีวประวัติ หรืออัตชีวประวัติของบุคคลสำคัญหรือวีรชนคนกล้าของท้องถิ่น โดยเล่าเหตุการณ์ ข้อคิดเห็นและทัศนคติใน เร่ืองต่างๆ เขียนย่อความ เขียนจดหมายกิจธุระ เขียนรายงานการศึกษาคันคว้า การสืบคัน การอธิบาย การ อภิปราย สาธิต แสดงบทบาทสมมตุ ิ ปฏิบัติจรงิ ใชส้ อ่ื เทคโนโลยี แหลง่ เรียนรู้ แสดงผลงานได้ นักเรียนเขียนชีวประวัติหรืออัตชีวประวัติของวีรชนไทยใจกล้าของจังหวัดอ่างทอง บรรยาย วีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของวีรชนไทยใจกล้า ด้วยความชาบซึ้งและภูมิใจ ซึ่งเป็นวีรซนครั้งศึกบางระจันประมาณ พ.ศ. ๒๓๐๙ สมัยกรุงศรีอยุธยาซึ่งเป็นชาววิเศษชัยชาญ ได้แก่ นายดอก นายทองแก้ว ยังมีนายแท่น นายโชติ นายอิน นายเมืองชาวบ้านสีบัวทอง อำเภอแสวงหา ได้สร้างวีกรรมในศึกบางระจัน โดยมีนักรบจากค่าย บางระจันอกี จำนวน ๕ คน นอกจากนี้ ยังมีนักรบผู้กล้าชาววเิ ศษชัยชาญ อีกอาทิ ขุนรองปลัดชู รวมกำลังซาว บา้ นอีก ๔๐๐ คน อาสาไปสกัดทพั พมา่ และปะทะกันท่อี า่ วหว้าขาว(เหนือที่ต้ังจังหวดั ประจวบคีรีขันธ์ปจั จุบัน) เมอื่ ๓๐๐ ปีเศษมาแลว้ ได้สร้างวดั สีร่ ้อย เป็นอนุสรณ์ได้ถูกตอ้ งชัดเจน

๑๕๒ นักเรียนมีจิตสำนึก รักความเป็นไทย อนุรักษ์ภาษาไทย สามารถใช้ภาษาไทยในการสื่อสารใน ชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ บนพื้น ฐานเศรษฐกจิ พอเพียง ตวั ช้ีวดั ช้ันปี ท ๑.๑ ม ๓/๑, ม ๓/๒, ม ๓/๓, ม ๓/๔, ม ๓/๕, ม๓/๖, ม ๓/๗, ม๓/๘, ม ๓/๙,ม ๓/๑๐ ท ๒.๑ ม ๓/๑, ม๓/๒, ม ๓/๓, ม ๓/๔, ม ๓/๕, ม ๓/๖, ม ๓/๗ , ม ๓/๘, ม.๓/๙, ม ๓/๑๐ ท ๓.๑ ม ๓/๑, ม ๓/๒, ม ๓/๓, ม ๓/๔, ม ๓/๕, ม ๓/๖ ท ๔.๑ ม.๓/๑, ม ๓/๒, ม ๓/๓, ม.๓/๔, ม ๓/๕, ม ๓/๖ ท ๕.๑ ม ๓/๑, ม ๓/๒, ม ๓/๓, ม ๓/๔ รวมทง้ั หมด ๓๖ ตัวชี้วดั

๑๕๓ คำอธบิ ายรายวชิ าพื้นฐาน รหัสวิชา ท ๑๓๑๐๒ ชื่อรายวิชาภาษาไทยพนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ ภาคเรียนที่ ๓ เวลา ๖๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาประเด็นความรู้ องค์ความรู้ และทฤษฎีความรู้ ของการใช้กลวธิ ีเปรียบเทยี บ ประเมินความ ถูกต้องของข้อมลู ท่ีใช้สนบั สนุนในเร่อื งที่อ่าน วจิ ารณค์ วามสมเหตุสมผล การลำดบั ความและความเปน็ ไปได้ ของเรื่องทอ่ี ่าน ตีความ และประเมนิ คุณค่าแนวคิดที่ไดจ้ ากงานเขียนอยา่ งหลากหลาย และมีมารยาทในการ อ่าน เขียนอธิบาย ชี้แจง แสดงความคดิ เหน็ และโต้แยง้ อยา่ งมเี หตผุ ล เขียนวเิ คราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้ ความคิดเหน็ หรือโต้แย้งในเรือ่ งต่างๆ ขอ้ ความ เขียนชวี ประวัตหิ รืออตั ชีวประวัตขิ องบุคคลสำคญั ได้ กรอกแบบ สมคั รงาน พดู รายงาน พูดในโอกาสตา่ งๆไดต้ ามวตั ถุประสงค์ เขยี นรายงานการศึกษาคน้ ควา้ และโครงงาน* มี มารยาทในการเขยี นและนิสยั รกั การเขียน พดู โนม้ นา้ วโดยนำเสนอหลกั ฐานตามลำดับเนอ้ื หาอย่างมเี หตุผลและ นา่ เชอ่ื ถอื มมี ารยาทในการฟัง การดแู ละการพูด ศึกษาการอธบิ ายความหมายคำศพั ท์ทางวิชาการและวิชาชีพ แต่งบทร้อยกรองประเภทโคลงสส่ี ุภาพ และกาพย์ สรปุ ความร้แู ละขอ้ คิดทีไ่ ด้จากการอ่านวรรณคดี และ วรรณกรรม เพื่อนำไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ จริงท่องจำและบอกคณุ คา่ บทอาขยานตามทีก่ ำหนดและบทรอ้ ยกรอง ท่ีมคี ุณค่าโดยใชก้ ระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการคดิ กระบวนการกลุม่ การฝึกทกั ษะการฟัง การดแู ละการพูด การศกึ ษาคนั ควา้ การสบื คัน การอธิบาย การรายงาน การอภปิ ราย การสาธิต การแสดง บทบาทสมมตุ ิ การปฏิบัติจริง การใชส้ ่ือเทคโนโลยี แหล่งเรียนรู้ การแสดงผลงาน เพ่อื ใหเ้ กดิ ความรเู้ ทยี บเคียงระดับมาตรฐานสากล มคี วามคิด ความเข้าใจ มจี ิตสำนกึ รัก ความเป็นไทย อนุรักษภ์ าษาไทย สามารถใชภ้ าษาไทยในการส่ือสารในชีวติ ประจำวนั ได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ มี คุณธรรม จริยธรรม และค่านยิ มทเ่ี หมาะสม รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซอ่ื สัตยส์ จุ ริต มวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ อยู่อย่าง พอเพยี งมงุ่ มัน่ ในการทำงาน รักความเปน็ ไทย มีจิตสาธารณะ บนพื้นฐานเศรษฐกจิ พอเพียง

๑๕๔ รหสั ตวั ชว้ี ัด ท๑.๑ ม.๓/๖ ม.๓/๗ ม.๓/๘ ม.๓/๙ ม.๓/๑๐ ท๒.๑ ม.๓/๓ ม.๓/๖ ม.๓/๗ ม.๓/๘ ม.๓/๙* ม.๓/๑๐ ท ๓.๑ ม.๓/๓ ม.๓/๔ ม.๓/๕ ม.๓/๖ ท๔.๑ ม.๓/๕ ม.๓/๖ ท๕.๑ ม.๓/๔ รวมทง้ั หมด ๑๘ ตัวชว้ี ัด

๑๕๕ คำอธบิ ายรายวิชา ท ๒๑๒๐๑ เสรมิ ทักษะภาษาไทย ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หน่วย กติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาหลักการอ่าน การเขียนคำที่มีเสียงวรรณยุกต์ คำที่ใช้ ใ- ไ- ไอย อัย อำ อำม อัม คำใช้ ณ น ศ ษ ส ช ทร และหลักการใช้ไม้ใตค่ ู้ โดยฝึกทักษะการอ่นออกเสียงและการเขียนคำให้ถูกต้องเพ่ือให้เกิดความรู้และความเข้าใจ ใฝ่ เรียน ใฝร่ ู้ มนี สิ ัยรกั การอ่าน การสอนมีบรรยากาศในการอา่ นและการเขยี นเพอ่ื นำความรู้ไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ ตลอดจนมีเจตคตทิ ่ีดตี ่อภาษาไทย ผลการเรยี นรู้ ๑. มคี วามรูค้ วามเข้าใจในการอา่ นเขียนคำทม่ี วี รรณยกุ ต์ ๒. นกั เรยี นสามารถอา่ นเขยี นคำทมี่ เี สยี งวรรณยกุ ตไ์ ด้ถกู ตอ้ ง ๓. นักเรยี นสามารถอา่ นเขียนคำและออกเสียงคำทใี่ ช้ ใ- ไ- ไอย อัย ไดถ้ กู ตอ้ ง ๔. นักเรยี นสามารถอา่ นเขียนคำทใ่ี ช้ ณ น ศ ษ ส ช ท ร ไมไ้ ตค่ ู้ ไดถ้ กู ต้อง ๕. สามารถนำความรู้ทีไ่ ดร้ ับไปใช้ในการเขียนเรอ่ื งได้ถกู ตอ้ ง ๖. มีมารยาทในการอ่านและเขียน รวมทง้ั หมด ๖ ผลการเรียนรู้

๑๕๖ คำอธบิ ายรายวิชา ท ๒๑๒๐๒ เสริมทกั ษะภาษาไทย ๒ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วย กิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาหลกั การแตง่ คำประพนั ธ์ประเภทกลอนสภุ าพ กาพยย์ านี ๑๑ ศกึ ษาหลักการอา่ นกลอนสุภาพ และกาพยย์ านี ๑๑ ฝึกทกั ษะการอา่ นและการแตง่ กลอนสุภาพและกาพยย์ านี ๑๑ โดยคำนึงถึงลักษณะบงั คบั ความ ไพเราะเน้ือหาสาระ และความคดิ สร้างสรรค์ เพอื่ ใหเ้ ห็นคณุ คา่ ของงานประพนั ธป์ ระเภทกลอนสุภาพ อันจะนำไปสู่การอนุรักษแ์ ละพฒั นาการ แตง่ คำประพันธ์ ๑. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในการแตง่ กลอนสภุ าพและกาพยย์ านี ๑๑ ๒. นกั เรยี นสามารถแตง่ กลอนสภุ าพได้ ๓. นกั เรยี นบอกหลกั เกณฑใ์ นการแตง่ กาพยย์ านี ๑๑ ได้ ๔. นกั เรยี นบอกความแตกตา่ งระหวา่ งกลอนสภุ าพและกาพยย์ านี ๑๑ ได้ ๕. นกั เรียนอา่ นทำนองเสนาะ กลอนสภุ าพ และกาพย์ยานี ๑๑ ได้ ๖. นกั เรยี นมมี ารยาทในการอา่ นและการเขยี นบทประพนั ธ์ รวมท้งั หมด ๖ ผลการเรยี นรู้

๑๕๗ คำอธบิ ายรายวชิ า ท ๒๑๒๐๓ การเขยี นเชิงสรา้ งสรรค๑์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑ หน่วย กิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษารูปแบบของการเขียนบันทึกเหตกุ ารณ์ นทิ าน นยิ าย หลักการเลือกใช้โวหารทีเ่ หมาะสม หลักการเขยี นเชิงสรา้ งสรรค์ และหลกั การวเิ คราะห์ วจิ ารณ์งานเขยี นเชิงสรา้ งสรรค์ ฝึกทักษะการเขียนเชงิ สรา้ งสรรคใ์ นรูปแบบตา่ ง ๆ ทเ่ี ป็นรอ้ ยแกว้ วเิ คราะห์ วจิ ารณ์งานเขยี น ของผ้อู ่นื อย่างมมี ารยาท เพือ่ ให้สามารถพดู และเขียนไดอ้ ย่างมีศิลปะ มีนิสยั รกั การอา่ น การเขยี น และ มมี ารยาทใน การอ่านและเขียน ผลการเรียนรู้ ๑. เขียนบนั ทกึ เหตกุ ารณ์ ได้ ดว้ ยถอ้ ยคำ ทถ่ี ูกต้องและเหมาะสม ๒เขียนวเิ คราะห์ วจิ ารณง์ านเขียนของผอู้ ื่น อย่างมมี ารยาท ๓. เขียนส่อื สารในรูปแบบต่างๆ ไดต้ รงตามวตั ถปุ ระสงค์ ๔. เขยี นนทิ าน นิยาย เร่อื งเลา่ ได้ โดยใชถ้ ้อยคำเหมาะสมนำสนใจ รวมทงั้ หมด ๔ ผลการเรียนรู้

๑๕๘ คำอธบิ ายรายวิชา ท ๒๑๒๐๔ นิทานพื้นบ้าน กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วย กติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษานิทาน นิยายหรือตำนานพื้นบ้าน ที่มีในท้องถิ่นของตนหรือท้องถิ่นอื่น โดยศึกษาเกี่ยวกับ เนื้อเรื่อง สำนวนภาษาและแนวคิดที่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อ ความรู้สึกนึกคิด ความเป็นอยู่และ ขนบธรรมเนียมประเพณีของสังคม ฝกึ อา่ นนทิ าน นิยายหรอื ตำนานพน้ื บ้านในท้องถนิ่ เพอื่ ใหม้ คี วามรู้ความเขา้ ใจ และเหน็ คณุ คา่ ของวรรณกรรมพนื้ บา้ น ในฐานะท่เี ป็นเอกลักษณ์ ของชาตแิ ละทอ้ งถนิ่ สืบสานภมู ปิ ัญญาท้องถิ่นใหด้ ำรงคงอยสู่ บื ไป ผลการเรียนรู้ 1. ศกึ ษาเนอ้ื เรอ่ื ง สำนวนภาษาและแนวคดิ ในนทิ าน นยิ าย หรอื ตำนานพื้นบ้าน ของตน และทอ้ งถน่ิ อน่ื ๒. มีความรคู้ วามเขา้ ใจและเหน็ คุณค่าของวรรณกรรมพน้ื บ้าน รวมท้ังหมด ๒ ผลการเรียนรู้

๑๕๙ คำอธบิ ายรายวชิ า ท ๒๑๒๐๗ หอ้ งสมุดเพื่อการศึกษาคน้ ควา้ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ย กติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาการสืบคน้ คน้ คว้าหาความรู้จากห้องสมุด แหลง่ เรียนรู้ หนงั สอื และส่ืออน่ื ๆ จาก ห้องสมุด และแหลง่ เรยี นรู้ต่าง ๆ สามารถใชเ้ ทคโนโลยเี ปน็ เครื่องมอื สบื คันข้อมูลสารสนเทศจากหนงั สอื และสื่อ ตา่ ง ๆ เพ่ือการเรียนรอู้ ย่างกว้างขวาง ตามความสนใจ ความสามารถ และความถนดั ของตน มจี ติ สำนกึ ทด่ี ี มี มารยาทในการใช้หอ้ งสมุด แหลง่ เรยี นรู้ กรอา่ นและการเขียน มีความกระตอื รือรน้ มคี วามใฝ่รู้ใฝเ่ รยี น รกั การ อา่ น รักการเรยี นรแู้ ละรูว้ ิธีเรยี นรู้ สามารถนำความรู้ไปพัฒนาตนเอง สามารถเขียนรายงานไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง โดยใชก้ ระบวนการอ่าน เขียน คิดวิเคราะห์ กระบวนการเรยี นรจู้ ากากรฝกึ ปฏบิ ัติเขียน บรรณานกุ รมบรรณนิทศั นไ์ ด้ เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถใช้หอ้ งสมดุ แหลง่ เรยี นรู้ สืบคนั ขอ้ มลู ความรู้ และเห็นคุณคา่ ของการนำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจติ สาธารณะ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และ ค่านิยมท่เี หมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. ใช้หอ้ งสมุดและแหล่งเรียนรูเ้ พ่อื การศกึ ษาค้นควา้ และการสบื ค้นข้อมลู ๒. ปฏบิ ัติตามระเบยี บและมมี ารยาทในการใช้หอ้ งสมุดและแหลง่ เรยี นรู้ ๓. ใช้ทรพั ยากรสารสนเทศในห้องสมดุ และแหลง่ เรียนรูไ้ ด้อย่างเหมาะสม ๔. ใชเ้ ครื่องมอื สืบคนั ข้อมลู สารสนเทศในหอ้ งสมดุ ได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ๕. เขยี นบรรณานุกรมจากสือ่ สารสนเทศตา่ ง ๆ ไดอ้ ย่างถูกต้อง ๖. มีมารยาทในการอา่ น รักการอ่าน รักการเรยี นรู้ และการศึกษาค้นคว้าอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ๗. เขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ ไดอ้ ย่างถูกต้อง ๘. นำความร้ไู ปใช้ในการพัฒนาตนเอง และใช้เป็นความรพู้ ้นื ฐานในการศึกษาต่อ รวมทง้ั หมด ๘ ผลการเรยี นรู้

๑๖๐ คำอธบิ ายรายวิชา ท ๒๐๒๐๑ การเขียนความเรียงชนั้ สงู กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ช่วั โมง จำนวน ๑ หน่วย กิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความรพู้ น้ื ฐานหลกั การเขยี นเรยี บเรยี งขอ้ ความการเช่ือมโยงประโยค การจับใจความ สำคญั การเขยี นย่อหนา้ การเขียนเรอ่ื งจนิ ตนาการ จากคำหรือภาพเขยี นแสดงความรู้สึกเขียนแสดงความ คดิ เหน็ อย่างมเี หตผุ ลเขียนคำแนะนำ อธิบายคำเขยี นอธบิ ายแสดงขนั้ ตอนเปน็ ลำดบั สมเหตุสมผลศึกษา โครงสรา้ งและองค์ประกอบของความเรียงช้นั สงู โดยใช้กระบวนการเขียน การอา่ น การคน้ คว้า การคิดวิเคราะห์ สร้างสรรค์อยา่ งมเี หตุผล เพอื่ ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจ มีนิสยั รกั การอา่ น รกั การคน้ คว้า เหน็ คุณค่าของการนำความรู้ ไปใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจำวนั มจี ติ สาธารณะมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยมท่ีเหมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. มีความร้พู นื้ ฐานเรื่องหลักการเขียน ๒. เขียนเรียบเรยี งขอ้ ความโดยใช้คำเช่ือมที่เหมาะสม ๓. จบั ใจความสำคญั ในแต่ละยอ่ หนา้ ได้ ๔. เขยี นย่อหนา้ ได้ถกู ต้องตามหลกั เกณฑ์ ๕. เขียนแสดงความรสู้ กึ เขยี นแสดงความคดิ เห็นได้ ๖. เขียนแนะนำอธบิ ายคำ อธิบายชั้นตอนได้ ๗. บอกองคป์ ระกอบของการเขยี นความเรียงชนั้ สงู ได้ ๘. มีนิสัยรกั การอ่านการคน้ คว้า มคี ุณธรรม จริยธรรม มมี ารยาทในการเขยี น รวมทั้งหมด ๘ ผลการเรียนรู้

๑๖๑ คำอธบิ ายรายวชิ า ท ๒๒๒๐๑ การพดู และการเขยี นในโอกาสต่างๆ ๑ กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๒ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๒๐ ช่ัวโมงจำนวน ๐.๕ หน่วย กติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาการพดู ในโอกาสต่างๆ การเขียนร้อยแก้ว ร้อยกรองและการใช้โวหารประกอบการเขียน ฝึกพูดในโอกาสตา่ ง ๆ และเขียนในรปู แบบต่าง ๆ ทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง โดยเลือกใช้โวหาร ได้อยา่ งเหมาะสม เพื่อให้สามารถพดู เขยี นได้อยา่ งมีศลิ ปะ มีวินัย ช่อื สัตยส์ ุจริต มจี ิตสาธารณะ มงุ่ มนั่ ในการ ทำงานมจี ิตสำนึกรักความเปน็ ไทย มมี ารยาทในการพูดและการเขียน ผลการเรยี นรู้ ๑. มีความรู้ความเขา้ ใจในหลกั การพดู และหลักการเขียน ๒. สามารถพูดและเขยี นในโอกาสต่าง ๆ ได้ถูกตอ้ งเหมาะสม ๓. มีมารยาทในการพูดและการเขยี น รวมทงั้ หมด ๓ ผลการเรยี นรู้

๑๖๒ คำอธบิ ายรายวิชา ท ๒๒๒๐๓ การอ่านและพจิ ารณาวรรณกรรมร่วมสมยั ๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ย กิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาการพิจารณาหนังสอื และฝึกอา่ นหนังสอื ซงึ่ เปน็ ทน่ี ยิ ม หรือเหน็ ว่าเหมาะสมแกน่ ักเรยี น เพอื่ ใหม้ คี วามร้คู วามเขา้ ใจในหลักการพิจารณาหนังสอื สามารถแสดงความคดิ เห็นเชงิ วิจารณเ์ กย่ี วกับหนงั สอื ท่ี เลือกอา่ น เพือ่ ใหม้ จี ิตสำนึกรกั ความเป็นไทย ไฝ่เรยี น รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ และมนี สิ ยั รกั การอ่าน ผลการเรียนรู้ ๑. บอกหลักการอา่ นและการพิจารณาหนังสอื ได้ ๒. บอกประเภทของหนังสือและการเลอื กหนังสอื อา่ นได้ ๓. ปฏิทศั น์หนงั สอื ได้ ๔. พจิ ารณาหนังสอื ประเภทต่างๆได้ ๕. นำความรแู้ ละขอ้ คดิ ท่ีได้จากการอา่ นมาใชใ้ นชวี ิตประจำวันได้ ๖. มนี ิสยั รกั การอ่าน รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรยี นรู้

๑๖๓ คำอธบิ ายรายวิชา ท ๒๒๒๐๔ การอา่ นและพิจารณาวรรณกรรมรว่ มสมัย ๒ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาการพิจารณาหนงั สือ และฝกึ อา่ นหนงั สือซง่ึ เป็นทนี่ ิยม หรอื เห็นวา่ เหมาะสมแก่นกั เรียน เพื่อให้มีความรู้ความเขา้ ใจในหลักการพจิ ารณาหนังสือ สามารถแสดงความคิดเหน็ เชิงวจิ ารณ์ เกีย่ วกับหนงั สอื ทเ่ี ลอื กอา่ น เพ่อื ใหม้ จี ติ สำนกึ รักความเปน็ ไทย ไฝ่เรียน รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ และมนี สิ ยั รกั การอ่าน ผลการเรียนรู้ ๑. มีความร้คู วามเขา้ ใจในหลกั การพิจารณาหนงั สือ ๒. แสดงความคิดเห็นวจิ ารณ์หนงั สอื ท่อี ่าน ๓. นำความรู้และข้อคดิ ทไี่ ดจ้ ากการอ่านหนังสือมาใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ได้ ๔. มนี สิ ัยรักการอา่ น รวมท้ังหมด ๔ ผลการเรียนรู้

๑๖๔ คำอธบิ ายรายวชิ า ท ๒๒๒๐๕ ภาษาไทยเพ่ือการเขียนเชิงวชิ าการ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๒ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาภาษาไทยเพอ่ื ใชใ้ นงานเขียนเชิงวิชาการ เนน้ การเขียนท่ถี กู ตอ้ งเหมาะสม ชัดเจน ท้ังในเร่ืองการใช้คำ คำทบั ศพั ท์ เคร่อื งหมายวรรคตอน การเรียบเรียงประโยค ระดับภาษา การวางโครงเรือ่ ง การเขยี นยอ่ หนา้ คำนำ บทสรุป การเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ การเขียนบทความวิชาการ การอ้างอิงเชิง วิชาการ ผลการเรียนรู้ ๑. ความรูพ้ นื้ ฐานเรอ่ื งการเขียนเชิงวิชาการ ๒. การใชภ้ าษาเชิงวิชาการ ๓. การสืบคน้ ข้อมูลและการอ้างอิงเชิงวิชาการ ๔. การเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ รวมทั้งหมด ๔ ผลการเรยี นรู้

๑๖๕ คำอธบิ ายรายวิชา รายวิชา ท ๒๓๒๐๑ การอา่ นคำประพนั ธเ์ ฉพาะเรือ่ ง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๒๐ ช่วั โมงจำนวน ๐.๕ หนว่ ย กิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษางานประพนั ธเ์ ฉพาะเร่ือง และศึกษาหลกั การวิจารณเ์ บอ้ื งตน้ โดยวิเคราะห์งานประพนั ธท์ ่ี กำหนดให้ ในประเด็นรูปแบบ โครงเรอื่ ง ลักษณะของตวั ละคร ถอ้ ยคำสำนวน วธิ เี สนอเรื่องและคุณคา่ ทไ่ี ดร้ ับ ฝึกแสดงความคดิ เห็นเชงิ วจิ ารณ์ เพอื่ ให้มีความร้คู วามเข้าใจในหลกั การวิจารณ์ และสามารถแสดงความคดิ เห็นเชงิ วิจารณ์ เก่ียวกบั งานประพนั ธ์ รวมทงั้ นำคณุ คา่ ไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตได้ ผลการเรียนรู้ ๑. มีความรูค้ วามเข้าใจในหลกั การวจิ ารณ์งานประพันธ์เบื้องตน้ ได้ ๒. แสดงความคิดเห็นเชงิ วจิ ารณเ์ กีย่ วกบั งานประพนั ธ์ได้ ๓. นำคณุ ค่าไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตได้ รวมทั้งหมด ๓ ผลการเรียนรู้

๑๖๖ คำอธบิ ายรายวชิ า รายวิชา ท ๒๓๒๐๒ การเขยี นเชงิ สร้างสรรค์ ๒ กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วย กิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษารูปแบบการเขียน ทั้งร้อยแกว้ และรอ้ ยกรอง และฝึกการใชโ้ วหารการเขยี นตา่ งๆได้อย่าง เหมาะสม เพือ่ ใหส้ ามารถเขยี นไดอ้ ย่างมคี ณุ ภาพ และมีมารยาทในการเขยี นมีลกั ษณะนสิ ยั มงุ่ ม่นั ในการทำงาน ผลการเรยี นรู้ ๑. อธิบายรูปแบบการเขยี นร้อยแก้วและรอ้ ยกรองได้ ๒. เขียนเร่อื งรอ้ ยแกว้ ร้อยกรองโดยเลือกใชถ้ ้อยคำ โวหารตา่ งๆได้อยา่ งถกู ตอ้ ง เหมาะสม รวมท้ังหมด ๒ ผลการเรียนรู้

๑๖๗ คำอธบิ ายรายวิชา ท ๒๓๒๐๓ นิทานท้องถ่นิ กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๐ หน่วย กติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษานทิ านท้องถ่ิน ๔ ภาคของไทย คำภาษาถิน่ พนื้ ฐานในการสือ่ สารหลักการวิเคราะห์ วจิ ารณ์งานเขยี น ประเภทนทิ าน หลักการพดู เลา่ เรอ่ื ง หลกั การอา่ นออกเสียง บันเทงิ คดี องคค์ วามรู้ เรอ่ื งการ เขยี นนิทาน ฝึกทักษะการวิเคราะห์วจิ ารณง์ านเขยี นที่เปน็ นิทานทอ้ งถิ่น พูดเล่าเรอ่ื งนทิ านโดยใช้ภาษา ถ่ิน อา่ นออกเสยี งบันเทงิ คดี และการเขยี นนิทานโดยใชภ้ าษาท่ีนา่ สนใจ เพอ่ื ให้มีนสิ ยั รกั การอา่ นคน้ คว้ามีมารยาทในการพูดเขียน วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ ๑. วเิ คราะหว์ ิจารณ์นทิ านทอ้ งถน่ิ ที่เลอื กอ่านได้ ๒. เลา่ เร่อื งนทิ านทอ้ งถ่ินโดยใช้ภาษาถ่ินได้ ๓ อ่านออกเสยี งบันเทิงคดไี ด้ชวนฟงั ๔. เขียนนทิ านไดถ้ ูกต้องตามรปู แบบและใชภ้ าษาท่นี า่ สนใจ รวมทงั้ หมด ๔ ผลการเรียนรู้

๑๖๘ คำอธบิ ายรายวชิ า ท ๒๓๒๐๔ เสรมิ ทักษะภาษาไทย กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๐.๕ หน่วย กติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาและฝกึ กระบวนการใชท้ ักษะฟงั พดู อา่ น และเขยี นเพ่มิ เตมิ โดยเน้นกระบวนการ จดั กิจกรรม ในรปู แบบการปฏิบตั จิ รงิ เพื่อให้ สามารถใชภ้ าษาในการส่ือสารได้อยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสมกับกาลเทศะ นา่ ฟงั นา่ อา่ นไดอ้ ย่างคล่องแคล่วมากขน้ึ มีนสิ ยั ใฝเ่ รยี นรูแ้ ละมีมารยาทในการใชภ้ าษา ผลการเรียนรู้ ๑. อ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกบั เรื่องที่อา่ น ๒. อ่านหนังสือ บทความต่างๆอย่างหลากหลายและประเมนิ คุณคา่ หรอื แนวคิดทไี่ ด้จากการอา่ นเพอ่ื นำไปใช้ แกป้ ญั หาตา่ งๆ ๓. เขียนสอ่ื สาร สรุป แบบต่างๆได้ตรงตามวัตถปุ ระสงค์โดยใชภ้ าษาเรยี บเรยี งถูกตอ้ งมขี อ้ มูลสาระสำคญั ชัดเจน ๔. พูดสรุปใจความสำคัญ พูดในโอกาสตา่ งๆไดต้ รงตามวัตถปุ ระสงค์ และมีมารยาทในการฟังและพูด รวมทัง้ หมด ๔ ผลการเรยี นรู้

๑๖๙ คำอธบิ ายรายวชิ า ท ๒๓๒๐๕ เสรมิ หลกั ภาษา ๑ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ย กติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาหลักภาษาเก่ยี วกบั คำและการสรา้ งคำประสม คำชอ้ น คำซำ้ และคำสมาส การสังเกต ลักษณะของคำทีเ่ ป็นคำไทยแทแ้ ละคำท่ีมาจากภาษาอ่นื ผลการเรียนรู้ ๑. มคี วามรคู้ วามเข้าใจในเร่ืองคำและการสร้างคำประสม คำชอ้ น คำซ้ำและคำสมาส ๒. สามารถจำแนกคำตามรปู ลกั ษณ์ นำไปใช้ในการส่อื สารไดอ้ ย่างถกู ต้องเหมาะสม ๓. มคี วามร้คู วามเข้าใจในลักษณะของคำไทยแทแ้ ละคำท่ีมาจากภาษาอื่น ๔. สามารถจำแนกไดว้ า่ คำใดเปน็ คำไทยแทแ้ ละคำใดเป็นคำทม่ี าจากภาษาอ่นื และนำไปส่อื สารไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง เหมาะสม รวม ๔ ผลการเรยี นรู้

๑๗๐ คำอธบิ ายรายวิชา ท ๒๑๒๐๘ ภาษาไทยเพม่ิ เติม(เขียน - อ่าน) กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๑ เวลารวม ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๐๐ หนว่ ย กติ เพือ่ ใหผ้ เู้ รยี นเขยี นตัวอักษรไทย ตัวเลขไทย แบบหวั กลมและแบบอาลกั ษณ์ ตามแบบที่ กระทรวงศกึ ษาธิการกำหนด โดยเน้นการฝกึ คดั ลายมอื และฝกึ ทกั ษะการอา่ น การเขียนสะกดคำการวเิ คราะห์ คำ การรูจ้ กั ใชค้ ำอยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสมตามกาลเทศะ ระดับการใชภ้ าษารู้จกั วิเคราะห์ความหมายของคำตา่ งๆ และมีมารยาทในการเขียน ผลการเรยี นรู้ ๑. คดั ลายมือตามแบบอักษรไทยได้อย่างถูกต้อง ๒. เขียนสะกดคำ และเขียนตามคำบอกได้อยา่ งถูกต้อง ๓. อ่านคำ วเิ คราะห์การใชค้ ำทม่ี ักเขยี นผิด ไดอ้ ย่างถูกต้อง ๔. ใชภ้ าษาเขยี น ภาษาปากได้อยา่ งถูกต้องตามกาลเทศะ ๕. วเิ คราะหค์ วามหมายของคำในภาษาไทยได้ถกู ต้อง รวม ๕ ผลการเรียนรู้

๑๗๑ คำอธบิ ายรายวิชา รหัสวชิ า ท ๒๓๒๐๗ เสรมิ หลักภาษาไทย ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๖๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๕ หน่วย กิต ศึกษาหลักภาษาเกีย่ วกบั คำ กลุ่มคำ การสร้างคำ การสังเกตลกั ษณะของคำที่เป็นคำไทยและ คำทม่ี าจากภาษาอน่ื เพอ่ื ให้เกิดความรคู้ วามเข้าใจ คดิ วเิ คราะห์นำไปใช้ในการสื่อสารได้ ผลการเรียนรู้ ๑. มีความรู้ความเขา้ ใจในเรอื่ งกลุม่ คำ สามารถนำไปส่อื สารไดอ้ ยา่ งถกู ต้องเหมาะสม ๒. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในการสรา้ งคำประสม คำชอ้ น คำชำ้ และคำสมาส สามารถนำไป สื่อสารได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม ๓. มคี วามรู้ความเข้าใจลักษณะของคำไทยแท้และคำท่มี าจากภาษาอ่ืนสามารถนำไป ส่ือสารได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม ๔. สามารถคดิ วิเคราะห์กล่มุ คำ การสรา้ งคำ คำไทยแท้และคำทีม่ าจากภาษาอน่ื ได้ รวม ๔ ผลการเรยี นรู้

๑๗๒ คำอธบิ ายรายวิชา รหัสวิชา ท ๒๓๒๐๘ เสริมหลกั ภาษา ๒ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ย กติ ศึกษาหลักภาษาเกี่ยวกบั คำ ๗ ชนดิ สามารถนำคำมารวมกล่มุ เป็นวลี กล่มุ คำ สร้างประโยค โดยมีส่วนประกอบสำคญั นำมาใชใ้ นประโยคทม่ี ีความชบั ซ้อนได้ถูกต้องและคิดวเิ คราะห์นำไปใชส้ อ่ื สารได้ อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ เพื่อใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ คิดวเิ คราะหน์ ำไปใช้ในการสือ่ สารได้ ผลการเรยี นรู้ ๑. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในเร่อื งชนิดของคำไทย ๒. สามารถนำวลีไปสร้างประโยคทถ่ี ูกต้องเหมาะสมและมปี ระสทิ ธิภาพนำไปใช้ในการส่ือสาร ๓. สามารถนำกลุ่มคำไปสร้างประโยคและเลอื กใชป้ ระโยคทจี่ ะส่ือสารได้ตรงวตั ถปุ ระสงค์ ๔. สามารถคิดวิเคราะหเ์ ลอื กใช้ประโยคในการสือ่ สารไดอ้ ย่างสร้างสรรค์ รวม ๔ ผลการเรียนรู้

๑๗๓ คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐานและเพม่ิ เติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

๑๗๔ โครงสรา้ งกลุ่มสาระการเรยี นรู้ ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาตอนปลาย กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รายวชิ าพืน้ ฐาน ท ๓๑๑๐๑ ภาษาไทย จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกติ ท ๓๑๑๐๒ ภาษาไทย จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกติ ท ๓๒๑๐๑ ภาษาไทย จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกติ ท ๓๒๑๐๒ ภาษาไทย จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกติ ท ๓๓๑๐๑ ภาษาไทย จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกติ ท ๓๓๑๐๒ ภาษาไทย จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกติ รายวชิ าเพิ่มเตมิ ท ๓๐๒๐๑ การเขยี น ๑ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ท ๓๐๒๐๒ การเขยี น ๒ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ท ๓๐๒๐๓ การพดู จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ท ๓๐๒๐๔ ภาษาไทยธุรกิจ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ท ๓๐๒๐๕ หลักภาษาไทย ๑ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ท ๓๐๒๐๖ หลกั ภาษาไทย ๒ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ท ๓๐๒๐๗ วรรณกรรมท้องถน่ิ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ท ๓๐๒๐๘ ภาษากบั วฒั นธรรม จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ท ๓๐๒๐๙ ภาษาเพื่อกิจกรรม จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต การแสดง ท ๓๐๒๑๐ การพูดต่อหน้าที่ประชุม จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกติ ท ๓๐๒๑๑ ประวตั ิวรรณคดี ๑ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกติ

ท ๓๐๒๑๒ ประวัติวรรณคดี ๒ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑๗๕ ท ๓๐๒๑๓ การเขยี นความเรียงชน้ั สูง ๑ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ท ๓๐๒๑๔ การเขียนความเรียงชัน้ สงู ๒ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ท ๓๐๒๑๕ การเขียนความเรยี งชั้นสงู จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกติ ท ๓๐๒๑๖การแต่งคำประพันธ์ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หนว่ ยกติ ท ๓๐๒๑๗ การแต่งคำประพนั ธ์ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ท ๓๐๒๑๘ วรรณกรรมปจั จบุ นั จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกติ ท ๓๐๒๑๙ ภาษาวรรณศิลป์ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ท ๓๐๒๒๐ วรรณคดมี รดก จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกติ ท ๓๐๒๒๑ วรรณคดีมรดก ๑ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต ท ๓๐๒๒๒ วรรณคดมี รดก ๒ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต I๓๐๒๐๑ IS ๑ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต I๓๐๒๐๒ IS ๒ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต ๑ หน่วยกิต ๑ หน่วยกิต

๑๗๖ คำอธบิ ายรายวชิ า ท ๓๑๑๐๑ ภาษาไทย กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑ หนว่ ยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ฝกึ อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและร้อยกรองได้ถกู ต้องและเข้าใจ ตคี วาม แปลความขยายความเรื่องท่ี อ่านได้ วิเคราะหว์ ิจารณเ์ รือ่ งทอี่ ่าน ตอบคำถาม แสดงความคิด โต้แยง้ คาดคะเนเหตุการณ์และเสนอความคิด ใหมจ่ ากการอา่ นอยา่ งมเี หตผุ ล มมี ารยาทและมนี สิ ัยรกั การอ่าน ตงั้ คำถามและแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกับเรือ่ ง ทีฟ่ งั และดู มีวจิ ารณญาณในการเลือกเร่อื งท่ีฟังและดู วเิ คราะหว์ ตั ถปุ ระสงค์แนวคิด การใชภ้ าษา ความ นา่ เช่ือถือของเรอื่ งท่ฟี ังและดู รวมท้งั มมี ารยาทในการฟงั การดู และการพูด ใชค้ ำและกลมุ่ คำ สร้างประโยคได้ ตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ แต่งคำประพันธ์ ใช้ภาษาได้เหมาะสมกับกาลเทศะวเิ คราะหห์ ลกั การสรา้ งคำใน ภาษาไทยและภาษาถน่ิ วเิ คราะห์และประเมินการใชภ้ าษาจากสื่อสงิ่ พิมพ์และส่อื อเี ล็กทรอนกิ ส์ วเิ คราะห์วจิ ารณ์วรรณดแี ละวรรณกรรมตามหลกั การวจิ ารณ์วรรณดีเบอื้ งตัน รู้และเขา้ ใจลักษณะเดน่ ของ วรรณคดี ภมู ปิ ัญญาทางภาษาและวรรณคดพี ื้นบ้าน เชอ่ื มโยงกับการเรยี นรูท้ างประวตั ิศาสตร์และวถิ ไี ทย ประเมนิ ค่าดา้ นวรรณศลิ ป์ ดา้ นสังคมและวฒั นธรรม ท่องจำบทอาขยานและนำขอ้ คดิ จากวรรณคดแี ละ วรรณกรรมไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตจรงิ ฝกึ เขยี นส่อื สารในรูปแบบตา่ งๆ โดยใช้ภาษาไดถ้ กู ตอ้ งตามวัตถุประสงค์ ยอ่ ความจากส่อื ท่ีมรี ูปแบบและเน้ือหา สาระท่หี ลากหลาย เรียงความแสดงความคดิ เชงิ สร้างสรรคโ์ ดยใชโ้ วหารต่างๆ มีมารยาทในการเขยี นโดยการ ทำส่อื /แผ่นพับในเร่อื งเป็นเลศิ การเผยแพร่ เรอ่ื งราวในจงั หวัดอ่างทองโดยเขียนในรปู แบบแผน่ พับ การ นำเสนอจังหวัดอ่างทอง การเชิญชวนในการท่องเท่ยี วจงั หวัดอ่างทอง เพ่อื ให้สามารถใช้ภาษาไดอ้ ย่างรวดเรว็ และคล่องแคลว่ ในการจับใจความสำคญั แยกขอ้ เทจ็ จรงิ จากข้อคิดเหน็ ตีความ แสดงออกได้ตามวัตถปุ ระสงค์ แสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกับส่ิงที่รับร้สู ามารถใชภ้ าษาอยา่ งสภุ าพ ใช้ ภาษาในเชงิ วิจารณ์ไดอ้ ยา่ งสมเหตสุ มผล สามารถเลือกใชถ้ อ้ ยคำสำนวนไดห้ มาะสมกับเนอ้ื หาและความคดิ เหมาะสมกับสภาพการณ์ เห็นคณุ ค่าและความงามของภาษา เกิดจินตนาการ เข้าใจถงึ ความไพเราะ ความ งามของวรรณกรรม และเห็นคุณค่าของวรรณคดี รหสั ตัวช้วี ัด

๑๗๗ ท. ๑.๑ ม.๔/๑, ม.๔/๒, ม.๔/๔, ม.๔/๕, ม๔/๖, ม. ๔/๙ ท. ๒.๑ม.๔/๑, ม.๔/๒, ม.๔/๓, ม.๔/๘, ท. ๓.๑ม.๔/๑. ม.๔/๒, ม.๔/๔. ม๔/๖ ท. ๔.๑ ม.๔/๒. ม.๔/๓, ม.๔/๔, ม.๔/๕, ม๔/๖, ม.๔/๗ ท. ๕.๑ม.๔/๑, ม.๔/๒, ม.๔/๓, ม.๔/๔, ม.๔/๕. ม๔/๖ รวมท้งั หมด ๒๖ ตัวช้วี ดั

๑๗๘ คำอธบิ ายรายวชิ า ท ๓๑๑๐๒ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๔๐ ช่วั โมง จำนวน ๑ หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและร้อยกรองได้ถกู ต้อง เขียนกรอบแนวคิดผงั ความคิด บันทกึ ย่อความ และเขยี นรายงานจากสงิ่ ท่อี ่าน สังเคราะห์ ประเมินคา่ และนำความรูค้ วามคดิ จากการอ่านมา พัฒนาตนเอง พฒั นาการเรยี นและพฒั นาความรู้ทางอาชีพ และนำความรู้ความคิดไปประยกุ ต์ใชแ้ กป้ ัญหาใน การดำเนนิ ชวี ิต มีมารยาทและมีนสิ ยั รกั การอ่าน ฝึกเขียนสอื่ สารในรปู แบบตา่ งๆ โดยใชภ้ าษาได้ถูกต้องตามวัตถปุ ระสงค์ เขียนบันทึก รายงานการศึกษาค้นควา้ ตามหลักการเขยี นเชิงวิชาการ ใชข้ อ้ มลู สารสนเทศในการอ้างอิง ผลิตผลงานขอ ตนเองในรูปแบบสารคดี รวมทงั้ ประเมินงานเขยี นของผ้อู ื่นและนำมาพฒั นางานเขยี นของตนเอง และมี มารยาทในการเขียน ต้ังคำถามและแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกับเรือ่ งท่ีฟงั และดู มวี จิ ารณญาณในการเลอื กเรอ่ื งท่ี ฟังและดู วิเคราะห์วตั ถปุ ระสงค์ แนวคิด การใช้ภาษา ความน่าเชื่อถือของเรอ่ื งที่ฟังและดู ประเมินสง่ิ ที่ฟงั และ ดูและนำไปประยุกตใี ชใ้ นการดำเนินชวี ติ มที ักษะในการพดู ในโอกาสต่างๆ ท้ังทีเ่ ปน็ ทางการไม่เปน็ ทางการโดย ใชภ้ าษาทีถ่ กู ต้อง พูดแสดงทรรศนะโตแ้ ย้ง โน้มนา้ วและเสนอแนวคิดใหม่อย่างมีเหตผุ ล รวมท้งั มมี ารยาทใน การฟงั การดู และการพดู เข้าใจและแตง่ คำประพันธ์ ใชภ้ าษาได้เหมาะสมกบั กาลเทศะวิเคราะห์และประเมินการใช้ ภาษาจากส่ือสิ่งพิมพ์และสอื่ อเี ลก็ ทรอนิกส์ วิเคราะหว์ ิจารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมตามหลกั การวจิ ารณว์ รรณคดีเบ้อื งต้น รู้และเขา้ ใจ ลักษณะเดน่ ของวรรณคดี ภมู ิปัญญาทางภาษาและวรรณคดีพื้นบา้ น เชื่อมโยงกับการเรียนรู้ทางประวัตศิ าสตร์ และวิถไี ทย ประเมินคา่ ด้านวรรณศิลป์ ด้านสังคมและวฒั นธรรม ทอ่ งจำและนำข้อคดิ จากวรรณคดีและ วรรณกรรมไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ จริง

๑๗๙ เพอื่ ใหส้ ามารถใช้ภาษาได้อยา่ งรวดเรว็ และคลอ่ งแคล่วในการจับใจความสำคญั แยกขอ้ เท็จจริง จากข้อคิดเห็น ตีความ แสดงออกไดต้ ามวตั ถปุ ระสงค์ แสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั สง่ิ ท่ีรับรสู้ ามารถใชภ้ าษา อย่างสุภาพ ใช้ภาษาในเชงิ วจิ ารณไ์ ดอ้ ย่างสมเหตสุ มผล สามารถเลือกใชถ้ ้อยคำสำนวนได้เหมาะสมกบั เน้ือหา และความคิดเหมาะสมกับสภาพการณ์ เห็นคณุ คา่ และความงามของภาษา เกิดจนิ ตนาการเข้าใจถึงความ ไพเราะ ความงามของวรรณกรรม และเหน็ คุณคา่ ของวรรณคดี รหัสตวั ชี้วัด ท. ๑.๑ ม.๔/๑, ม.๔/๗, ม.๔/๘, ม. ๔/๙ ท. ๒.๑ม.๔/๑.ม.๔/๔, ม.๔/๕. ม๔/๖.ม. ม.๔/๘ ท. ๓.๑ม.๔/๑,ม.๔/๓, ม.๔/๔, ม๔/๖ ท. ๔.๑ ม.๔/๓, ม.๔/๔, ม.๔/๗ ท. ๕.๑ม.๔/๑, ม.๔/๒, ม.๔/๓, ม.๔/๔, ม.๔/๕, ม๔/๖ รวมท้ังหมด ๒๒ ตัวชีว้ ดั

๑๘๐ คำอธบิ ายรายวิชา ท ๓๒๑๐๑ ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๕ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑ หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ฝึกอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และร้อยกรองได้ถูกต้อง และเข้าใจ ตคี วาม แปลความ และ ขยายความเรือ่ งท่อี า่ นได้ วิเคราะหว์ ิจารณ์เรอ่ื งทีอ่ า่ น ตอบคำถาม แสดงความคดิ โตแ้ ยง้ และเสนอความคดิ ใหม่จากการอา่ นอยา่ งมเี หตผุ ล คาดคะเนเหตกุ ารณ์จากเรือ่ งทอ่ี ่าน มีมารยาทและมีนสิ ยั รักการอา่ น ตงั้ คำถามและแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกับเร่ืองทีฟ่ งั และดู มีวิจารณญาณในการเลอื กเรอื่ งที่ฟงั และดวู เิ คราะห์วตั ถปุ ระสงค์ แนวคดิ การใชภ้ าษา ความน่าเช่ือถือของเร่อื งท่ีฟงั และดู ประเมนิ ส่ิงทฟี่ งั ดูและ นำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต รวมทั้งมีมารยาทในการฟัง ดู และพดู เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษา อิทธพิ ล ของภาษา และลกั ษณะของภาษาไทย แต่งคำประพนั ธ์ วิเคราะหแ์ ละประเมนิ การใช้ภาษาจากสื่อสิง่ พมิ พ์และ สอ่ื อเี ลก็ ทรอนกิ ส์ วิเคราะหว์ จิ ารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวจิ ารณว์ รรณคดีเบือ้ งต้น รู้และเขา้ ใจ ลักษณะเด่นของวรรณคดี ภูมปิ ัญญาทางภาษาและวรรณคดีพ้นื บา้ น เชื่อมโยงกบั การเรยี นรู้ทางประวัติศาสตร์ และวิถีไทย ประเมินค่าด้านวรรณศิลป์ ด้านสงั คมและวฒั นธรรม ทอ่ งจำบทอาขยานและนำขอ้ คดิ จาก วรรณคดแี ละวรรณกรรมไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จริง การเขียนรายงานเชงิ วชิ าการ เกีย่ วกับการศกึ ษาคน้ ควา้ ประวตั สิ ถานที่ท่องเท่ยี วในจังหวดั อ่างทองเปน็ การนำเสนอผลทไี่ ดจ้ ากการศกึ ษาค้นคว้าอยา่ งละเอยี ดและมีแบบแผน แลว้ นำมาเรยี บเรียงตาม ขนั้ ตอนท่ีถกู ต้องของการเขยี นรายงานเชิงวิชาการ เพือ่ ให้สามารถใช้ภาษาไดอ้ ย่างรวดเรว็ และคลอ่ งแคลว่ ในการจับใจความสำคญั แยก ข้อเทจ็ จริงจากข้อคดิ เหน็ ตคี วาม แสดงออกได้ตามวัตถุประสงค์ แสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั สิ่งที่รบั รู้ สามารถ ใชภ้ าษาอย่างสุภาพ ใช้ภาษาในเชิงวจิ ารณ์ได้อย่างสมเหตุสมผล สามารถเลือกใชถ้ ้อยคำสำนวนไดเ้ หมาะสมกับ เนอื้ หาและความคดิ เหมาะสมกับสภาพการณ์ เห็นคุณค่าและความงามของภาษาเกิดจนิ ตนาการ เขา้ ใจถงึ ความไพเราะความงามของวรรณกรรม และเห็นคณุ คา่ ของวรรณคดี

๑๘๑ รหัสตวั ขีว้ ัด ท. ๑.๑ ม.๔/๑,ม.๔/๒,ม.๔/๓, ท. ๒.๑ ม.๔/๑,ม.๔/๒,ม.๔/๓, ท. ๓.๑ ม.๔/๑,ม.๔/๒.ม.๔/๓, ท. ๔.๑ ม.๔/๑,ม.๔/๗ ท. ๕.๑ ม.๔/๑.ม.๔/๒.ม.๔/๓. ม.๔/๔,ม.๔/๕, ม๔/๖, ม.๔/๗, ม. ๔/๙ ม.๔/๘ ม.๔/๔.ม๔/๖ ม.๔/๔.ม.๔/๕. ม๔/๖ รวมทง้ั หมด ๒๕ ตวั ช้ีวัด

๑๘๒ คำอธบิ ายรายวิชา ท ๓๒๑๐๒ ภาษาไทย กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๕ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่วั โมง จำนวน ๑ หนว่ ยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ฝกึ อ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ และร้อยกรองไดถ้ ูกต้องและเขา้ ใจ ตคี วาม แปลความและขยายความเร่อื งท่ีอ่าน ได้ วเิ คราะห์วิจารณเ์ รอ่ื งที่อ่าน บนั ทกี ย่อความ และเขยี นรายงานจากสิง่ ท่อี า่ น สังเคราะหป์ ระเมินคำ และนำ ความรคู้ วามคิดจากการอ่านมาพัฒนาตนเอง พฒั นาการเรียนและพฒั นาความรู้ทางอาชีพและนำความรู้ ความคดิ ไปประยกุ ต์ใชแ้ ก้ปญั หาในการดำเนินชวี ิต มีมารยาทและมีนสิ ยั รกั การอา่ น ฝกึ เขียนสือ่ สารในรูปแบบตา่ งๆ โดยใช้ภาษาได้ถกู ต้องตามวตั ถุประสงค์ เขยี นบันทึก รายงานการศกึ ษาค้นคว้า ตามหลกั การเขียนเชิงวชิ าการ ใช้ขอ้ มลู สารสนเทศในการอา้ งอิง ผลติ ผลงานของตนเองในรูปแบบสารคดี รวมท้ังประเมินงานเขียนของผ้อู น่ื และนำมาพัฒนางานเขียนของตนเอง มมี ารยาทในการเขียน ตง้ั คำถามและแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับเรอ่ื งทฟ่ี งั และดู มวี ิจารณญาณในการเลือกเรอ่ื งที่ฟังและดูวิเคราะห์ วัตถุประสงค์ แนวคดิ การใชภ้ าษา ความน่าเชื่อถอื ของเรื่องที่ฟงั และดู ประเมินสิง่ ที่ฟังและดูและนำไป ประยุกต์ใช้ในการดำเนินชวี ติ มที ักษะในการพูดในโอกาสต่างๆ ทงั้ ท่ีเปน็ ทางการไม่เป็นทางการโดยใชภ้ าษาท่ี ถูกตอ้ ง พดู แสดงทรรศนะโตแ้ ย้ง โนม้ น้าวและเสนอแนวคดิ ใหม่อยา่ งมเี หตผุ ล รวมทงั้ มมี ารยาทในการฟงั ดู และพูด เขา้ ใจธรรมชาติของภาษา อิทธิพลของภาษา และลกั ษณะของ วเิ คราะหแ์ ละประเมินการใช้ภาษาจากสือ่ ส่ิงพมิ พ์และสอ่ื อเี ล็กทรอนกิ ส์ วเิ คราะหว์ จิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมตามหลกั การวจิ ารณว์ รรณคดเี บอ้ื งตน้ ร้แู ละเขา้ ใจลกั ษณะเดน่ ของ วรรณคดี ภมู ิปัญญาทางภาษาและวรรณคดพี น้ื บ้าน เช่ือมโยงกับการเรียนรูท้ างประวตั ิศาสตรแ์ ละวิถไี ทย ประเมินค่าดา้ นวรรณศลิ ป์ ดา้ นสังคมและวฒั นธรรม ทอ่ งจำบทอาขยานและนำขอ้ คิด จากวรรณคดแี ละ วรรณกรรมไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง เพือ่ ให้สามารถใช้ภาษาได้อยา่ งรวดเรว็ และคล่องแคล่วในการจบั ใจความสำคญั แยกขอ้ เท็จจริงจากข้อคดิ เหน็ ตคี วาม แสดงออกไดต้ ามวตั ถปุ ระสงค์ แสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับส่ิงที่รบั รู้ สามารถใชภ้ าษาอยา่ งสภุ าพ ใช้ ภาษาในเชิงวจิ ารณ์ไดอ้ ยา่ งสมเหตสุ มผล สามารถเลอื กใช้ถ้อยคำสำนวนได้เหมาะสมกับเนือ้ หาและความคดิ

๑๘๓ เหมาะสมกบั สภาพการณ์ เห็นคณุ คา่ และความงามของภาษา เกิดจนิ ตนาการ เข้าใจถงึ ความไพเราะความ งามของวรรณกรรม และเหน็ คณุ คา่ ของวรรณคดี รหัสตัวช้วี ดั ท. ๑.๑ ม.๔/๑,ม.๔/๒,ม.๔/๓, ๔/๕ ม๔/๖.ม.๔/๗.ม.๔/๘ ท. ๓.๑ ม.๔/๑,ม.๔/๒,ม.๔/๓, ม.๔/๔.ม.๔/๕.ม๔/๖ ม.๔/๗,ม.๔/๘,ม. ๔/๙ ท. ๒.๑ ม.๔/๑.ม.๔/๔.ม. ท. ๔.๑ ม.๔/๑,ม.๔/๔, ม.๔/๗ ท. ๕.๑ ม.๔/๑,ม.๔/๒,ม.๔/๓ ม.๔/๔.ม.๔/๕.ม๔/๖ รวมทั้งหมด ๒๗ ตวั ชวี้ ดั

๑๘๔ คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน รหัสวิชา ท๓๓๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ คาบ จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาการอ่านออกเสียงรอ้ ยแก้ว รอ้ ยกรอง อ่านงานเขียนประเภทต่าง ๆ อา่ นตีความ แปลความขยายความ วิเคราะห์ วจิ ารณ์ ประเมินคา่ แสดงความคิดเหน็ โต้แยง้ เขยี นกรอบแนวคิด ผังความคดิ เขียนสอื่ ความใน รปู แบบตา่ ง ๆ การอธิบาย บรรยาย พรรณนา การประเมนิ คณุ คา่ งานเขียน รายงานการคน้ คว้า ใชข้ อ้ มูล สารสนเทศอ้างอิง เลอื กฟังและดู อย่างมวี ิจารณญาณ พูดแสดงทรรศนะ โน้มนา้ วใจธรรมชาติของภาษา ลักษณะภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา ระดบั ภาษา ราชาศัพท์ อทิ ธิพลภาษาต่างประเทศ หลกั การ วเิ คราะห์ วจิ ารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทย เชอื่ มโยงเหตกุ ารณ์ทางประวตั ศิ าสตร์และวถิ ชี วี ติ สงั คมไทยใน อดีต ประเมนิ คา่ ด้านวรรณศิลป์ ใชก้ ระบวนการอ่าน การเขยี น ทักษะการฟงั และดู การพูด และกระบวนการคิด ในการอา่ นออกเสยี งร้อยแก้ว รอ้ ยกรอง ตคี วาม แปลความ ขยายความ วเิ คราะหว์ ิจารณ์ ประเมินค่า แสดงความคดิ เหน็ โต้แยง้ มีมารยาท ในการสื่อสาร เพ่ือใหเ้ กดิ ความรู้ ความคดิ สามารถส่อื สารดว้ ยภาษาทีถ่ ูกตอ้ งเหมาะสมนำไปประยกุ ต์ใช้ใน การดำเนินชีวิต สามารถใช้ภาษาในการนำเสนอขอ้ มูลด้านสงิ่ แวดลอ้ ม ศิลปกรรม และวฒั นธรรมภูมปิ ัญญา ของสถานท่ี ทอ่ งเที่ยวตามคำขวญั ในจังหวดั อา่ งทอง โดยใชเ้ ทคโนโลยี ผา่ นการพดู เพอื่ ให้เกิดความรกั ความภาคภมู ิใจ ตระหนกั ถงึ ความสำคญั ของสงิ่ แวดลอ้ ม ศิลปกรรม และวฒั นธรรมภมู ิปญั ญาทอ้ งถิน่ มีแนวทางการประกอบ อาชีพในท้องถ่ิน เหน็ คุณค่าและรักษาภาษาไทย วรรณคดี วรรณกรรมไทย ไวเ้ ป็นสมบตั แิ ละมรดกทางวฒั นธรรมนำความรู้ หลกั การปฏบิ ตั ติ ามปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั

๑๘๕ รหัสตัวข้ีวดั ท ๑.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔ , ม.๔-๖/๕, ม.๔-๖/๖ , ม.๔-๖/๗ , ม.๔-๖/๘, ม.๔-๖/๙ ท ๒.๑ ม.๔-๖/๑ , ม.๔-๖/๒ , ม.๔-๖/๓ , ม.๔-๖/๔ , ม.๔-๖/๕, ม.๔-๖/๖ , ม. ๔-๖/๗ ท ๒.๑ ม. ๔-๖/๘ ท ๓.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒ , ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔ , ม.๔-๖/๕, ม.๔-๖/๖ ท ๔.๑ ม.๔-๖/๑ , ม.๔-๖/๒ , ม.๔-๖/๓ , ม.๔-๖/๔ , ม.๔-๖/๕ , ม.๔-๖/๖ ท ๔.๑ ม.๔-๖/๗ ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒ , ม. ๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔ , ม.๔-๖/๕ , ม.๔-๖/๖ รวม ๓๖ ตวั ชวี้ ดั

๑๘๖ คำอธบิ ายรายวชิ า ท ๓๐๒๐๑ การเขียน ๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑ หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาการเขียนรปู แบต่างๆ และฝกึ ใช้กระบวนการเขียนเพอ่ื พฒั นาการเขียน มคี วามรู้ พ้ืนฐานทางการเขียน เขยี นจดหมายสือ่ สารอยา่ งมีประสิทธภิ าพ เขยี นเรยี งความ ย่อความ และเขียนเสนอ เรอ่ื งราวในรปู แบบต่างๆ ได้ ตามจุดประสงค์ของการเขยี น เขยี นรายงานเชิงวชิ าการตามช้นั ตอนและสามารถ เขยี นรอ้ ยกรองอยา่ งง่ายๆ ได้ ถูกต้องตามฉนั ทลักษณ์ เพอื่ เพม่ิ พูนทกั ษะการเขียนในรูปแบบต่างๆ สามารถเขยี นแสดงความตอ้ งการ ความคิดและ ความรสู้ ึกได้ถูกต้องตามมารยาทและธรรมเนยี มนยิ ม ผลการเรียนรู้ ๑. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจกระบวนการเขียนในลกั ษณะต่างๆ ๒. เขียนจดหมายสอื่ สารได้ ๓. เขียนเรยี งความยอ่ ความได้ ๔. เขยี นเรอ่ื งราวในรปู แบบต่างๆ ได้ ๕. เขียนรอ้ ยกรองอย่างง่ายๆ ได้ รวมท้ังหมด ๕ ผลการเรยี นรู้

๑๘๗ คำอธบิ ายรายวชิ า ท ๓๐๒๐๒ การเขียน ๒ กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง / ภาคเรยี น จำนวน ๑ หนว่ ยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาการเขยี นรูปแบบต่างๆ ฝกึ เขยี นบทสนทนาทแี่ สดงอารมณแ์ ละความรสู้ ึกต่างๆ โดยใช้ จนิ ตนาการหรือกำหนดสถานการณข์ ึ้น ฝกึ เขยี นบทความส้ันๆ แสดงความคิดเหน็ หรืออาจฝึกเขยี นบรรยาย ประสบการณ์พรรณนาทัศนยี ภาพ หรืออาจเขยี นในรปู แบบอืน่ ฝกึ แตง่ คำประพนั ธ์ตามความคดิ และหวั ข้อที่ กำหนดให้เพื่อใหเ้ ขยี นไดอ้ ยา่ งมีเนือ้ หาสาระนา่ อ่าน ใช้ถ้อยคำสำนวนสละสลวยกอ่ ให้เกดิ ความเพลดิ เพลินและ ช่วยพฒั นาความคดิ เพ่ือใหเ้ ขยี นไดอ้ ย่างมเี น้ือหาสาระ น่าอ่าน ใช้ถ้อยคำสำนวนสละสลวยก่อใหเ้ กิดความ เพลิดเพลนิ และชว่ ยพัฒนาความคิด ผลการเรยี นรู้ ๑. มคี วามรูค้ วามเข้าใจการเขยี นบทสนทนา การเขยี นบรรยายประสบการณ์ ๒. มีความร้คู วามเขา้ ใจการเขยี นบทประพันธ์ ประเภทกลอนสภุ าพ นกั เรยี นสามารถบอกหลกั เกณฑ์ในการเขยี นทใ่ี ชจ้ ินตนาการได้ ๔. นกั เรียนบอกหลกั เกณฑ์การเขียนบทความได้ ๕. นักเรียนสามารถเขยี นแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกบั เรอื่ งต่างๆได้ ๖. นักเรยี นสามารถใช้ถอ้ ยคำไดน้ ่าอา่ นขน้ึ รวมทง้ั หมด ๖ ผลการเรยี นรู้

๑๘๘ คำอธบิ ายรายวิชา ท๓๐๒๐๓ การพดู กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑ หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาหลักกร วิธกี ารในการพุดในรปู แบบของการสนทนา การสมั ภาษณ์ การพดู ในทีป่ ระชมุ การ อภิปรายในกลุ่มและในที่ประชุม และการอา่ นในท่ปี ระชุมฟัง ฝึกต้งั คำถามและแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับเรื่องทีฟ่ ังและดู มวี จิ ารณญาณในการเลือกเรอ่ื งที่ฟัง และดูวิเคราะห์วัตถปุ ระสงค์ แนวคดิ การใช้ภาษา ความน่าเช่อื ถอื ของเรอ่ื งที่ฟังและดู ประเมินสิ่งทฟี่ งั และดู และนำไปประยกุ ต์ใชใ้ นการดำเนินชีวติ มีทักษะในการพดู ในโอกาสตา่ งๆ ทั้งทเ่ี ป็นทางการไม่เป็นทางการโดย ใชภ้ าษาท่ถี กู ตอ้ ง พดู แสดงทรรศนะโตแ้ ยง้ โนม้ น้าวและเสนอแนวคดิ ใหมอ่ ย่างมีเหตุผล รวมทง้ั มมี ารยาทใน การฟัง ดู และพูด เพอ่ื พฒั นาสมรรถภาพในการพดู ของตนเองให้ถกู ตอ้ งตามหลกั การและวธิ กี าร มี จรรยาบรรณ ความรับผิดชอบ และคณู ธรมในการพูด ผลการเรียนรู้ ๑. บอกความหมายของการพดู และองค์ประกอบของการพดู ได้ ๒. บอกความสำคญั และปจั จัยที่ทำให้พูดสมั ฤทธผ์ิ ลพรอ้ มท้งั วิเคราะห์ผูฟ้ ัง ๓. อธิบายรูปแบบการพดู ประเภทต่างๆและสามารถเลือกใชร้ ปู แบบการพูดได้อย่างเหมาะสม ๔. เลอื กใช้ถ้อยคำใหเ้ หมาะสมกับกาลเทศะ บคุ คลและมมี ารยาทในการพูด ๕. สนทนาเพ่อื สร้างมนษุ ยส์ มั พนั ธก์ บั บคุ คลตา่ งๆ ได้อย่างเหมาะสม และมีมารยาทในการพดู ๖. สัมภาษณ์บคุ คลตา่ งๆ และให้สมั ภาษณไ์ ดถ้ กู ต้องตามหลักการสัมภาษณ์ ๗. ดำเนินการอภิปรายและเป็นผ้รู ่วมอภปิ รายได้ถกู ต้องตามบทบาท รวมท้ังหมด ๗ ผลการเรยี นรู้

๑๘๙ คำอธบิ ายรายวิชา ท ๓๐๒๐๔ ภาษาไทยธรุ กิจ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑ หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษารูปแบบตา่ งๆของภาษาทีใ่ ชใ้ นธรุ กจิ ต่างๆ โดยฝกึ อา่ นสารประเภทต่างๆ และเขา้ ใจ ตคี วามแปลความ และขยายความเร่ืองทอ่ี ่านได้ วิเคราะหว์ จิ ารณ์เรื่องทอี่ ่าน แสดงความความคิด โต้แย้ง และเสนอความคิดใหม่จากการอา่ นอยา่ งมเี หตผุ ล คาดคะเนเหตุการณ์จากเร่ืองที่อา่ น เขียนกรอบแนวคดิ ผัง ความคดิ บันทกึ ยอ่ ความ และเขียนรายงานจากสิ่งท่อี ่าน สังเคราะห์ ประเมินค่า และนำความรคู้ วามคดิ จาก การอา่ นมาพัฒนาตนเอง พัฒนาการเรยี นและพัฒนาความรทู้ างอาชีพ และนำความร้คู วามคิดไปประยุกต์ใช้ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต มีมารยาทและมนี สิ ัยรกั การอ่าน ฝกึ เขยี นสือ่ สารในรปู แบบต่างๆ โดยใชภ้ าษาไดถ้ กู ต้องตามวัตถปุ ระสงค์ ยอ่ ความจากสือ่ ท่มี ี รปู แบบและเนอ้ื หาสาระท่หี ลากหลาย เรยี งความแสดงความความคดิ เชิงสร้างสรรคโ์ ดยใชโ้ วหารต่างๆ เขยี น บนั ทกึ รายงานการศึกษาค้นคว้าตามหลักการเขยี นเชงิ วิชาการ ใชข้ ้อมลู สารสนเทศในการอ้างองิ ผลติ ผลงาน ของตนเองในรูปแบบสารคดี รวมทั้งประเมนิ งานเขยี นของผู้อื่น และนำมาพัฒนางานเขยี นของตนเอง ฝึกพดู ในโอกาสตา่ งๆและแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกบั เรือ่ งที่ฟงั และดู มีวจิ ารณญาณในการเลือก เรอื่ งทีฟ่ งั และดู วิเคราะหว์ ตั ถปุ ระสงค์ แนวคดิ การใชภ้ าษา ความนา่ เชอื่ ถือของเรอ่ื งทฟ่ี ังและดู ประเมนิ สิ่งท่ี ฟงั และดแู ละนำไปประยกุ ตใิ ชใ้ นการดำเนนิ ชวี ติ มีทักษะในการพดู ในโอกาสตา่ งๆ ทัง้ ทเ่ี ปน็ ทางการไม่เป็น ทางการโดยใช้ภาษาที่ถกู ต้อง พูดแสดงทรรศนะโต้แยง้ โน้มน้าวและเสนอแนวคิดใหมอ่ ย่างมเี หตผุ ล รวมทั้งมี มารยาทในการฟงั ดู และพดู เพือ่ ใช้ภาษาในการติดต่อธุรกิจทเ่ี กย่ี วกับชีวติ ประจำวนั ธรุ กจิ เก่ียวกับอาชีพ ธรุ กจิ ทัว่ ไปเพือ่ ให้ สามารถใช้ภาษาตดิ ต่อธรุ กิจได้อย่าถกู ต้องเหมาะสม และเหน็ ความสำคญั ของการใชภ้ าษาในการตดิ ต่อธุรกิจ

๑๙๐ ผลการเรียนรู้ ๑. อา่ นสารทัว่ ไปและสารทางธุรกจิ ได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ ๒. ฟงั สารทั่วไปและสารทางธุรกจิ ได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ๓. พดู ส่ือสารทางโทรศัพทไ์ ด้อยา่ งมีประสิทธิภาพ ๔. พดู เสนอขายสินคา้ ได้ ๕. เขยี นเรื่องท่วั ไปและเรอ่ื งทางธุรกิจได้ ๖. เขยี นจดุ หมายธรุ กจิ ได้ ๗. เขียนรายงานการประชุมได้ รวมท้งั หมด ๗ ผลการเรียนรู้

๑๙๑ คำอธบิ ายรายวชิ า ท ๓๐๒๐๕ หลกั ภาษาไทย ๑ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ๕ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๔๐ ช่วั โมง จำนวน ๑ หน่วยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาหลกั ภาษาไทย เร่ืองเสยี งในภาษาไทย ท้ังรปู และเสยี ง คำ กลุ่มคำ และความหมายประโยค ชนิดต่าง ๆ รวมทงั้ ประโยคบกพรอ่ ง เพอื่ ให้มคี วามรู้ ความเขา้ ใจหลักภาษาไทย สามารถนำความรไู้ ปใช้ วเิ คราะห์คำ กลุม่ คำ ประโยค การใช้ภาษาไทยได้อย่างถกู ต้อง มีนิสยั รัก การอ่าน การเขยี น เพ่อื นำความรไู้ ปใชว้ ิเคราะหก์ ารใชภ้ าษาไทย และ ตระหนักในวัฒนธรรมการใช้ภาษาและความ เป็นไทยอันจะนำไปสกู่ ารอนรุ กั ษ์และพฒั นาภาษาไทย ผลการเรียนรู้ ๑. อธบิ ายและยกตวั อยา่ ง พยัญชนะต้น สระ พยญั ชนะทา้ ย วรรณยกุ ต์และการนำไปใช้ไดถ้ กู ตอ้ ง ๒. อธบิ าย ยกตัวอย่าง และจำแนก คำมูล คำประสม และมนี สิ ยั รกั การอา่ น การเขยี น ๓. อธบิ ายและยกตัวอย่าง และบอกประโยชนข์ องคำซ้ำ คำซ้อนได้ ๔. สงั เกต อธบิ ายคำเปน็ คำตาย และยกตวั อย่างได้ ๕. สงั เกต อธิบายคำเปน็ คำครุ ลหุ และยกตวั อยา่ งได้ ๖. อธบิ ายความหมายและจำแนกคำไทยจากภาษาอ่ืนได้ ๗. อธบิ ายลกั ษณะคำ ความหมาย และการนำไปใช้

๑๙๒ ๘. อธบิ ายความหมายและยกตวั อย่างคำท่มี ีความหมายเหมอื นกนั ได้ ๙. บอกลักษณะและยกตวั อย่างคำใกลเ้ คยี งและคำตรงขา้ มได้ ๑๐. บอกลกั ษณะ และอธิบายความหมายคำพ้องรปู คำพ้องเสยี งได้ ๑๑. อธบิ ายและยกตัวอย่างคำที่มีความหมายแคบกว้างได้ ๑๒. วเิ คราะหป์ ระโยคบกพรอ่ ง และแกไ้ ขให้ถกู ตอ้ งได้ และมมี ารยาทในการใชภ้ าษา ๑๓. อธบิ ายยกตวั อย่างและจำแนกประโยคความเดยี ว ประโยคความรวม และประโยคความซอ้ นได้ รวมทั้งหมด ๑๓ ผลการเรียนรู้

๑๙๓ คำอธบิ ายรายวชิ า ท ๓๐๒๐๖ หลักภาษาไทย ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทยชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๕ ภาคเรียนที่ ๒ จำนวน ๑ หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาหลักภาษาไทยเรอื่ งการเปลี่ยนแปลงของภาษาไทย รวมท้ังอิทธพิ ลภาษาต่างประเทศทม่ี ตี อ่ ภาษาไทย การใชค้ ำ สำนวน คำราชาศัพท์ การอา่ น การเขียน การศึกษาโวหารการประพนั ธ์ อรรถรสทางการ ประพนั ธ์ เพอ่ื ใหม้ ีความรแู้ ละความเข้าใจหลกั ภาษาไทย สามารถนำความร้ไู ปใชว้ เิ คราะห์คำ กลมุ่ คำ การใชภ้ าษาไดถ้ กู ตอ้ งเหมาะสมกับระดับภาษา มนี สิ ยั รกั การ อา่ น การเขยี น การคดิ ประเมนิ คณุ ค่างานประพันธด์ ้านวรรณศลิ ป์ เพ่ือนำความรู้ไปใชว้ ิเคราะห์การใชภ้ าษาไทย ใชภ้ าษาไดอ้ ย่างถกู ต้อง และตระหนักในวฒั นธรรมการใช้ ภาษาทถ่ี ูกต้องเหน็ คณุ ค่าภาษาไทยซ่ึงเปน็ ภาษาประจำชาติ อนั นำไปสกู่ ารอนุรกั ษล์ ะเชิดชภู าษาไทย ผลการเรยี นรู้ ๑. จำแนกและยกตวั อย่าง คำสมาส สมาสแบบกลนื ( สนธิ ) ได้ บอกลักษณะคำสมาส และยกตัวอย่างได้ ๒. บอกลกั ษณะ จำแนก และยกตวั อยา่ งคำบาลี สนั สกฤต เขมร จนี และภาษาอังกฤษไดถ้ ูกตอ้ ง ๓. ใชร้ าชาศพั ทไ์ ด้เหมาะสมกับบคุ คลและมนี ิสยั รักการอา่ น ๔. ใช้ลกั ษณะนามได้ถูกต้องและมีมารยาทในการใช้ภาษา ๕. อธิบายความหมายและยกตัวอยา่ งสำนวนไทย และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๖. วิเคราะห์งานประพนั ธโ์ ดยใชภ้ าษาภาพพจนไ์ ด้ ๗. วิเคราะห์งานประพันธ์ดา้ นวรรณศิลปไ์ ด้ ๘. อ่านและเขยี นคำได้ถกู ตอ้ ง มีนิสัยรักการอา่ น การเขยี น รวมท้งั หมด ๘ ผลการเรียนรู้

๑๙๔ คำอธิบายรายวชิ า ท ๓๐๒๐๗ วรรณกรรมท้องถนิ่ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทยชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑ หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาเพลงพ้ืนบา้ น ปรศิ นาคำทาย ภาษาและสำนวน ตำนาน นทิ าน เร่ืองเลา่ โดยศึกษา เกยี่ วกบั ทมี่ า และอทิ ธิพลทม่ี ตี อ่ การดำรงชวี ิต วเิ คราะหว์ ิจารณ์วรรณกรรมตามหลักการวจิ ารณ์เบ้อื งตน้ รู้และเข้าใจลักษณะเดน่ ของ วรรณกรรมภมู ปิ ัญญาทางภาษาและวรรณกรรมพ้นื บ้าน เชือ่ มโยงกบั การเรยี นรทู้ างประวัติศาสตร์และวิถไี ทย เพ่ือใหม้ คี วามรู้ ความเข้าใจ ประเมนิ คา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์ ด้านสังคมและวัฒนธรรม นำขอ้ คดิ จากวรรณกรรมไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ จริง และร่วมกนั อนุรกั ษ์วรรณกรรมทอ้ งถ่ิน ผลการเรยี นรู้ ๑. บอกความหมายประเภทและลกั ษณะของวรรณกรรมทอ้ งถน่ิ ได้ ๒. แยกประเภทและยกตวั อย่างปรศิ นาคำทาย และสามารถท่ีเป็น ของเดมิ และที่ปรากฎในปัจจุบนั ได้ ๓. อธิบายความหมายของสำนวนสุภาษิตและใชส้ ำนวนสภุ าษิตในชีวติ ประจำวันได้อยา่ งงถูกต้องเหมาะสม ๔. บอกที่มา ประเภท ของนทิ านและนำขอ้ คดิ จากนิทานไปประยุกต์ใชก้ ับชีวิตประจำวันได้ ๕. อธิบายลกั ษณะและยกตวั อย่างเพลงพ้ืนบา้ น ๖. วเิ คราะหท์ ม่ี าของเพลงพ้ืนบ้านและนำแนวคดิ จากเพลงพ้ืนบ้านเป็นแนวทางในการดำรงชวี ิตได้ ๗. บอกท่มี าและคุณคา่ ของตำนานกับการดำรงชวี ติ ได้ ๘. บอกคุณคา่ และแนวทางในการอนุรกั ษว์ รรณกรรมทอ้ งถ่นิ ได้ รวมทง้ั หมด ๘ ผลการเรียนรู้

๑๙๕ คำอธบิ ายรายวิชา ท ๓๐๒๐๘ ภาษากับวฒั นธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๕ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑ หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาวฒั นธรรมในการใช้ภาษา ความสมั พนั ธร์ ะหว่างวรรณคดกี บั ศิลปะแขนงตา่ งๆ การใชภ้ าษาทสี่ ัมพนั ธ์กับประเพณีไทยโดยทัว่ ไป และเฉพาะทอ้ งถิ่นและความสำคญั ของภาษาในการสืบทอด วฒั นธรรม วิเคราะหว์ จิ ารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมตามหลกั การวิจารณ์วรรณคดเี บอื้ งตน้ รู้และเขา้ ใจ ลักษณะเด่นของวรรณคดี ภูมิปญั ญาทางภาษาและวรรณคดพี ื้นบา้ น เช่ือมโยงกบั การเรียนรู้ทางประวัตศิ าสตร์ และวถิ ไี ทย ประเมนิ ค่าดา้ นวรรณศลิ ป์ ดา้ นสังคมและวฒั นธรรม เพือ่ ให้เขา้ ใจและเห็นคณุ คา่ ของภาษาในฐานะที่เป็นเครอื่ งมอื รักษาสืบทอดวฒั นธรรมไทย และนำขอ้ คดิ จากวรรณคดแี ละวรรณกรรมไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จรงิ ผลการเรียนรู้ ๑. อธิบายความหมาย ลกั ษณะของภาษาและวัฒนธรรมได้ ๒. อธบิ ายความสัมพันธ์ระหวา่ งภาษากับวฒั นธรรมได้ ๓. ใชถ้ ้อยคำให้เหมาะสมกบั กาลเทศะ บคุ คลได้อย่างเหมาะสม ๔. อธบิ ายและยกตวั อยา่ งศิลปะแขนงตา่ งๆได้ ๕. บอกความสมั พันธ์ระหว่างภาษากับศลิ ปะแขนงตา่ งๆได้ ๖. บอกความสัมพันธร์ ะหวา่ งภาษากับประเพณไี ทยโดยทัว่ ไปได้ ๗. อธิบายความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งภาษากับคติชาวบา้ นได้ ๘. อธบิ ายและยกตวั อย่างเรื่องราวเกย่ี วกับวัฒนธรรมประเพณคี ติชาวบ้านในท้องถิน่ ได้ ๙. อธบิ ายความสำคัญของภาษาไทยในการสืบทอดวฒั นธรรมได้ รวมทั้งหมด ๙ ผลการเรียนรู้

๑๙๖ คำอธบิ ายรายวชิ า ท ๓๐๒๐๙ ภาษาเพือ่ กิจกรรมการแสดง สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๖ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๔๐ ช่วั โมง จำนวน ๑ หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาถึงรูปแบบวธิ กี ารเล่าเรอื่ งต่างๆ และ การบรรยายเพื่อกิจกรรมการแสดง ฝกึ การเล่านิทาน การเลา่ เร่ืองท่มี ีขอ้ ขำ การเลา่ เรื่องขบขัน การเล่าเร่อื งทต่ี ื่นเตน้ ฝึกการพูดบรรยายหรอื แนะนำการแสดง ฝึก การทำหน้าทีเ่ ปน็ พิธีกรหรือโฆษก ฝกึ การละเลน่ หรอื การแสดงละคร ฝกึ แตง่ บททใ่ี ช้ในกิจกรรมขา้ งตน้ และ ความคิดเหน็ เกีย่ วกับเร่ืองที่ฟงั และดู มวี ิจารณญาณในการเลอื กเร่อื งทฟ่ี งั และดู วิเคราะหว์ ตั ถปุ ระสงค์แนวคดิ การใชภ้ าษา ความน่าเช่อื ถือของเรอ่ื งที่ฟงั และดู ประเมินสิง่ ทฟ่ี ังดแู ละนำไปประยุกต์ใชใ้ นการดำเนนิ ชีวิต มี ทกั ษะในการพดู ในโอกาสตา่ ง ท้ังทีเ่ ป็นทางการไม่เปน็ ทางการโดยใชภ้ าษาท่ถี กู ต้อง พูดแสดงทรรศนะโต้แยง้ โน้มน้าวและเสนอแนวคดิ ใหมอ่ ย่างมีเหตผุ ล รวมทั้งมมี ารยาทในการฟัง ดู และพดู เพอื่ ใหเ้ กิดความรูค้ วามเขา้ ใจการใช้ภาษาในกิจกรรมการแสดงสามารถใช้ภาษาเป็นเครื่องมือ สรา้ งความบนั เทงิ ได้ ผลการเรียนรู้ ๑. บอกความหมายของการพดู และองค์ประกอบของการใชภ้ าษาเพอื่ กจิ กรรมการแสดงได้ ๒. เล่าเร่ืองให้ผอู้ ื่นฟังและบอกประโยชนข์ องการเล่านิทานได้ ๓. บอกความแตกตา่ งระหว่าโฆษกกบั พิธีกรได้ ๔. ทำหนา้ ท่เี ปน็ โฆษกและพิธกี รได้ ๕. เขยี นบทบรรยายประกอบการแสดงและเปน็ ผู้บรรยายประกอบการแสดงได้ ๖. แสดงบทบาทสมมุตติ ามที่กำหนดไดอ้ ย่างเหมาะสม ๗. เขยี นบทละครสน้ั ๆ เพอ่ื กจิ กรรมการแสดง ๘. เลน่ กลอนสด กลอนสกั ว่า และกลอนดอกสรอ้ ยได้ รวมท้งั หมด ๘ ผลการเรียนรู้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook