๕๙๗ คำอธบิ ายรายวิชา พ ๓๒๑๐๒ สขุ ศกึ ษา กลุ่มสาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพละศึกษา ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๒๐ ชว่ั โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความร้เู กย่ี วกบั อิทธพิ ลของสื่อโรษณาเกย่ี วกับสุขภาพ การเลอื กบริโภคตามสทิ ธขิ องผู้บรโิ ภค และบทบาทความรับผดิ ชอบของบคุ คลทม่ี กี ารสร้างเสรมิ สขุ ภาฬในการป้องกันการเจ็บปว่ ยและการตายของ คนไทย โดยการปอ้ งกนั และหลกี เสยี่ งพฤติกรรมเสี่ยงต่อสขุ ภาพ จากอบุ ัตเิ หตุ การใช้ยา สารเสพตดิ และความ รนุ แรงโดยใช้ทกั ษะการตัดสนิ ใจแก้ปญั หาในสถานการณส์ ่ียงต่อสขุ ภาพและการปฏบิ ัตชิ ่วยฟนื้ คืนชพี อยา่ ง เพือ่ ใหร้ ู้การปฏิบัตติ นเพื่อสรา้ งความปลอดภัยและสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ รหสั ตวั ช้ีวดั พ ๔.๑ ม. ๔ -๖ / ๑, ม. ๔ - ๖ / ๒, ม.๔ - ๖/ ๓. ม. ๔ -๖/๔ พ ๕.๑ ม. ๔ - ๖ / ๑, ม. ๔ - ๖/ ๕, ม. ๔ - ๖/ ๖, ม.๔-๖/๗ รวม ๘ ตวั ชว้ี ัด
๕๙๘ คำอธบิ ายรายวิชา พ๓๓๑๐๑ สขุ ศกึ ษา กล่มุ สาระการเรียนรูส้ ขุ ศกึ ษาและพละศกึ ษา ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๖ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาเพ่ือใหร้ ้กู ระบวนการเสริมสรา้ งและดำรงประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาทต่อมไรท้ อ่ ระบบสบื พันธุ์ การวางแผนดา้ นสุขภาฬของตนเอง สาเหตุของความขัดแยง้ ผลกระทบตลอดจนแนวทางในการ แก้ปัญหาที่อาจเกดิ จากความขัดแยง้ ของนักเรยี นหรือเยาวชนในชมุ ชน การวางแผน กำหนดแนวทางลด อบุ ตั เิ หตุ และสรา้ งเสริมความปลอดภัยในชมุ ชน การมีส่วนรว่ มในการสง่ เสรมิ และพัฒนาสุขภาพของบุคคลใน ชุมชน โดยมีการสังเกตอธบิ ายนำเสนอ วเิ คราะห์ สืบคนั โดยเนน้ การปฏิบัตแิ ละกระบวนการกล่มุ เพ่อื ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจ ตระหนกั และเห็นคณุ คา่ สามารถนำไปใชใ้ นการรักษาสุขภาพตนเองและ ปรบั ใชใ้ ห้เกิดประโยชนไ์ ดใ้ นชวี ติ ประจำวนั รหัสตัวช้วี ดั พ ๑.๑ ม๔-๖/๑, ม๔-๖/๒ พ ๒.๑ ม๔-๖/๔ พ ๔.๑ ม๔-๖/๒ พ ๕.๑ ม๔-๖/๔ รวม ๕ ตัวข้วี ัด
๕๙๙ คำอธบิ ายรายวิชา พ๓๓๑๐๒ พลศกึ ษา(เทเบลิ เทนนิส) ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ภาคเรยี นที่ ๒ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา เวลา ๒๐ ช่วั โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาใหม้ คี วามรู้ ความเขา้ ใจในการเล่นกีฬาเทเบิลเทนนิส และเกม เร่ืองความรู้ท่วั ไป การดูแลรกั ษา สถานท่ี และอปุ กรณ์ หลักการและรปู แบบการเคลอ่ื นไหว การนำหลักการทางวิทยาศาสตรก์ ารเคลอื่ นไหวไป ใชใ้ นการออกกำลงั กาย และเลน่ เกมกีฬาเทเบิลเทนนิสตามกฎกติกาและความปลอดภยั กลวิธกี ารเลน่ และการ แขง่ ขนั โดยรจู้ ักวางแผน เลือกปฏบิ ตั ิ ปรับปรุงแก้ไข และพัฒนาสมรรถภาพทางกาย ทางจติ ใจ และทางกลก โดยใชก้ ฬี าเทเบลิ เทนนิส และเกมเปน็ ส่อื เพอ่ื ใหเ้ ปน็ ผู้ท่มี ีสมรรถภาพทางกายและจติ ใจยอมรับและเหน็ คณุ ค่าของการออกกำลังกาย ในการ เล่นกฬี าเทเบิลเทนนสิ และเกม มีความรับผิดชอบตามบทบาท และหน้าที่ท่ีได้รบั มอบหมาย ใหม้ ีความรว่ มมือ มีนำ้ ใจนักกีฬา ชนื่ ชมในการเลน่ และดกู ารแขง่ ชนั เปน็ ประจำ รหสั ตวั ชวี้ ัด พ ๓.๑ ม๔-๖/๓ พ ๓.๒ ม๔-๖/๑, ม๔-๖/๒, ม๔-๖/๓, ม๔-๖/๔ รวม ๕ ตวั ขี้วัด
๖๐๐ คำอธบิ ายรายวิชา พ๓๐๒๐๓ วอลเลย่ ์บอล กล่มุ สาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพละศกึ ษา ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒๐ ชว่ั โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาให้มีความรู้ ความเขา้ ใจในการเลน่ เกมและกฬี าวอลเลย่ บ์ อล เรอื่ งความร้ทู ว่ั ไปเก่ยี วกับการเล่น เกมและกีฬาวอเลยบ์ อล หลกั การรูปแบบการเคลอ่ื นไหวแบบตา่ ง ๆ ตลอดจนการนำหลักการทางวทิ ยาศาสตร์ การเคลือ่ นไหวไปใชใ้ นการออกกำลงั กายและเลน่ เกมกีฬาวอลเล่ยบ์ อล ตามกฎกติกาความปลอดภัยและกลวธิ ี การเล่นการแขง่ ขนั ยอมรบั และเห็นคุณค่าของการออกกำลงั กาย เล่นกมและกฬี าวอลเลย่ ์บอล โดยปฏิบตั ิตนตามสทิ ธิกฎ กตกิ า ความรบั ผดิ ชอบตามบทบาทหนา้ ท่ที ่ไี ด้รบั มอบหมายให้ความรว่ มมอื เปน็ เปน็ ผมู้ ีน้ำใจนักกฬี า ชน่ื ชม สนุ ทรยี ภาพในการเลน่ การดลู ากรแขง่ ขนั เป็นประจำสม่ำเสมอ มีความรู้ ความเข้าใจ รจู้ ักวางแผน เลือกปฏบิ ตั ิ ปรบั ปรุงแกไ้ ขและพัฒนาสมรรถภาพทางกาย สมรรถภาพทางจิตและสมรรถภาพทางกลไกลโดยใช้กฬี า วอลเล่ย์บอลและเกมเปน็ ส่ือ เพอ่ื ใหเ้ ปน็ ผมู้ ีสมรรถภาพทางกายและทางจิตท่ีดี ผลการเรยี นรู้ ๑. มคี วามรแู้ ละเข้าใจหลักการ รปู แบบการเล่นกีฬาประเภททมี (วอลเลยบ์ อล) และประวตั คิ วามเป็นมา ๒. ประยกุ ตท์ กั ษะการเคล่อื นไหวของกีฬาวอลเลยบ์ อล นำไปใชใ้ นการออกกำลงั กาย ๓. ปฏบิ ัตทิ กั ษะพ้ืนฐาน และการเคลอ่ื นไหวเบือ้ งตันได้ ๔. รู้ และปฏบิ ัตทิ ักษะการเลน่ ลูกสองมอื บนได้
๖๐๑ ๕. รูแ้ ละปฏิบตั ทิ ักษะการเลน่ ลกู สองมือลา่ งได้ ๖. รู้ และปฏิบตั ิทกั ษะการสกดั ก้นั ได้ ๗.รู้และปฏิบตั ทิ กั ษะการเลน่ ลูกเสรฟิ ได้ ๘. ประยุกต์หลักการรกุ การป้องกนั และการใหค้ วามรว่ มมอื ในการแข่งชันกฬี าวอลเลย์บอล ๙. รูเ้ ข้าใจเกีย่ วกับสทิ ธิ กฎ กตกิ า ความปลอดภยั และกลวิธีในการเล่น และการแข่งขนั ๑๐. เหน็ คุณคา่ และนำทกั ษะกฬี าวอลเลยบ์ อลไปใช้ในชวี ติ ประจำวันได้ รวมท้ังหมด ๑๐ ผลการเรียนรู้ คำอธบิ ายรายวิชา
๖๐๒ พ๓๐๒๐๔ เทนนิส ๑ กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษาและพละศกึ ษา ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๔ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาหลกั การเก่ยี วกบั กจิ กรรม การดูแลรักษาอปุ กรณ์ หลักการและรูปแบบการเคล่ือนไหวเปน็ การ นำไปใช้ในการฝกึ ทักษะกฬี าเทนนิสในลกั ษณะต่าง ๆ ท่ีนำไปสู่การเลน่ กฬี าเทนนสิ ภายใต้กฎกติกาการแชง่ ขัน โดยจดั กจิ กรรมส่งเสริมพัฒนาทักษะ ฝึกปฏิบัติ อบรมสง่ั สอน ทดสอบ วิเคราะห์ สงั เกต อธิบาย นำเสนอ เพ่ือใหเ้ กิดความเข้าใจ มีระเบียบวนิ ยั รบั ผิดชอบ มีนำ้ ใจ สามคั คี ซอ่ื สัตย์ มคี ุณธรรมจรยิ ธรรม รกั ษา สขุ ภาพตนเอง นำความรไู้ ปประยกุ ต์ใช้ในการดำรงชีวิตไดอ้ ย่างมคี วามสุขและมเี จตคติทดี่ ตี ่อวิชาเทนนิส ผลการเรยี นรู้ ๑. อธิบายความร้ทู ว่ั ไปเกี่ยวกบั กฬี าเทนนสิ ได้ ๒. อธิบายและปฏบิ ัติการเลอื กและดแู ลรักษาสถานทแี่ ละอปุ กรณ์ได้ ๓. อธบิ ายและปฏบิ ตั ิการทรงตวั และการเคล่อื นทีใ่ นกฬี าเทนนิสได้ ๔. อธบิ ายและปฏิบตั ิทกั ษะการตีลกู หนา้ มือได้ ๕. อธิบายและปฏบิ ัติทกั ษะการตีลูกหลังมอื ได้ ๖. อธิบายและปฏิบัตทิ ักษะการตลี ูกตบได้ ๗. อธบิ ายและปฏบิ ตั ิทกั ษะการเสิร์ฟได้ ๘. อธิบายและปฏบิ ตั ทิ ักษะการตีลกู หยอดได้ รวมทัง้ หมด ๘ ผลการเรยี นรู้ คำอธบิ ายรายวชิ า
๖๐๓ พ๓๐๒๐๗ เทนนสิ ๒ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพละศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาวธิ กี ารรุกและการรบั ในรปู แบบตา่ ง มารยาทของการเป็นผูเ้ ล่นท่ดี ี รูห้ นา้ ที่ของผูเ้ ล่นแตล่ ะ ประเภท การเล่นและการแขง่ ขนั เป็นทมี่ กฎกติกาและการแขง่ ขนั กีฬาเทนนสิ โดยจดั กิจกรรมสง่ เสริมการพฒั นาทกั ษะ ฝกึ ปฏบิ ตั ิ อบรมสัง่ สอน ทดสอบ วเิ คราะห์ สังเกต อธิบาย นำเสนอ เพอื่ ใหเ้ กิดความเข้าใจ มรี ะเบียบวจิ ยั รบั ผิดชอบ สามัคคี ซ่ือสตั ย์ มีคณุ ธรรมจริยธรรม รักษาสขุ ภาพ ตนเอง นำความรู้ไปประยุกตใ์ ช้ในการดำรงชีวติ ได้อยา่ งมีสุขและมีเจตคตทิ ่ดี ีต่อวิชาเทนนสิ ผลการเรยี นรู้ ๑. อธิบายและปฏบิ ัตกิ ารรุกรูปแบบตา่ ง ๆ ได้ ๒. อธบิ ายและปฏิบัตกิ ารรับรูปแบบต่าง ๆ ได้ ๓. อธบิ ายและปฏิบตั มิ ารยาทการเปน็ ผ้เู ล่นกีฬาเทนนิสทดี่ ีได้ ๔. อธิบายและปฏิบตั หิ นา้ ท่ีของผู้เล่นเทนนิสแตล่ ะประเภทได้ ๕. อธบิ ายและปฏิบตั กิ ารแขง่ ขันเทนนิสประเภทเด่ยี วได้ ๖. อธิบายและปฏิบัติการแข่งขันเทนนิสประเภทคูไ่ ด้ ๗. อธบิ ายและปฏิบตั กิ ารแขง่ ขันเทนนสิ ประเภทค่ผู สมได้ ๘. อธิบายและปฏบิ ตั ิตามกฎ กติกาการเลน่ และการแชง่ ขนั เทนนสิ ประเภทตา่ ง ๆ ได้ ๙. ตดั สนิ การแข่งขันเทนนสิ ประเภทต่าง ๆ ได้ รวมท้ังหมด ๙ ผลการเรยี นรู้ คำอธบิ ายรายวชิ า
๖๐๔ พ๓๐๒๐๒ แบดมินตนั ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษาและพละศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาใหม้ ีความรคู้ วามเข้าใจในการเล่นกฬี าแบดมินตัน และเกม เรอ่ื งความรูท้ ว่ั ไป หลกั การและ รูปแบบการเคลอื่ นไหวแบบตา่ ง ๆ การนำหลกั การทางวิทยาศาสตร์การเคลือ่ นไหวไปใช้ในการออกกำลงั กาย และเลน่ เกมกฬี าแบดมนิ ตนั ตามกฎ กตกิ า และความปลอดภัย กลวิธีการเลน่ และการแขง่ ขนั ยอมรบั และเหน็ คุณคา่ ของการออกกำลงั กาย เล่นกีฬาแบดมนิ ตัน และเกม มคี วามรับผิดชอบตาม บทบาท และหนา้ ท่ีที่ไดร้ บั มอบหมาย ให้ความร่วมมือ มนี ำ้ ใจนักกีฬา ช่นื ชมในการเลน่ และดกู ารแขง่ ชนั เป็น ประจำมีความรู้ ความเข้าใจ รูจ้ กั วางแผน เลือกปฏิบัติปรับปรุงแก้ไข และพัฒนาสมรรถภาพทางกาย ทางจิต และทางกลไก โดยใช้กฬี าแบดมินตัน และเกมเปน็ สือ่ เพ่ือให้เป็นผู้ท่ีมสี มรรถภาพทางกาย และทางจิตทดี่ ี ผลการเรียนรู้ ๑. ผเู้ รียนมคี วามรทู้ วั่ ไปเกย่ี วกบั กีฬาแบดมินตนั ๒. ผ้เู รียนรูว้ ธิ กี ารบรหิ ารรา่ งกาย และเสริมสรา้ งสมรรถภาพร่างกายได้ ๓.ผูเ้ รียนปฏบิ ัตทิ กั ษะพืน้ ฐาน และการเคลอ่ื นไหวเบือ้ งตันได้ ๔.ผเู้ รียนปฏบิ ตั กิ าร รบั ลูก-ส่งลูกชนไกได้ ๕. ผเู้ รียนปฏบิ ัติการเสรฟิ ลกู ได้ ๖. ผเู้ รียนปฏบิ ตั ิการตีลูกโดง่ ได้ ๗. ผเู้ รียนปฏบิ ัตกิ ารตีลูกดาดได้ ๘. ผเู้ รยี นปฏบิ ตั กิ ารตบลูกได้ ๙. ผู้เรยี นปฏบิ ัตกิ ารตลี ูกหยอดได้ ๑๐. ผู้เรยี นรูก้ ติกาการแข่งขันแบดมินตนั ๑๑. ผู้เรียนปฏบิ ตั กิ ารเลน่ เปน็ ทีมได้ รวมท้งั หมด ๑๑ ผลการเรยี น คำอธบิ ายรายวชิ า
๖๐๕ พ ๓๐๒๑๐ วา่ ยนำ้ ๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพละศึกษา ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๔ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความเปน็ มา ประโยชนข์ องกฬี าว่ายนำ้ การอบอุ่นรา่ งกาย ฝกึ ทกั ษะเบอ้ื งตันของการวา่ ยน้ำ การวา่ ยน้ำทา่ ฟรสี ไตส์ (Free Stye) การดูแลรกั ษาอุปกรณ์ ลอดจนมารยาท และความปลอดภัยในการใช้สระ วา่ ยนำ้ โดยปฏิบตั กิ ารเคล่ือนไหว การออกกำลงั กายและเลน่ กฬี าท่เี หมาะสมกับตนเอง และปฏบิ ัติเกยี่ วกับกฎ กตกิ า มารยาทตา่ งๆในการเล่นกฬี า เพ่อื นำกิจกรรมการออกกำลังกายไปเปน็ แนวทางปฏบิ ตั ใิ นการออกกำลงั กายในชีวิตประจำวนั อย่างมี ประสิทธิภาพ ผลการเรียนรู้ ๑. บอกประวตั ขิ องกฬี าว่ายน้ำได้ ๒. บอกประโยชน์ของกฬี าว่ายน้ำได้ ๓. ปฏิบัติการอบอนุ่ รา่ งกาย Worm up และ Cooldow ได้ ๔. มคี วามรูแ้ ละปฏิบัตทิ ักษะเบอ้ื งตนเก่ียวกบั กฬี าวา่ ยน้ำได้ ๕. ปฏบิ ตั กิ ารว่ายน้ำทา่ ฟรสี ไตส์ได้ ๖. ปฏิบัตกิ ารออกตวั การกลบั ตวั การเขา้ เส้นชยั ทำฟรสี ไตส์ได้ ๗. มีความรแู้ ละปฏบิ ตั เิ กี่ยวกับการดูแลรกั ษาอปุ กรณ์ได้ ๘. มีความรูแ้ ละการปฏิบัติตนเก่ยี วกับมารยาทการใชส้ ระวา่ ยน้ำและความปลอดภยั ในการใชส้ ระวา่ ยน้ำ รวมท้ังหมด ๘ ผลการเรียนรู้ คำอธบิ ายรายวิชา
๖๐๖ พ ๓๐๒๑๑ วา่ ยนำ้ ๒ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพละศึกษา ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๔ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มีความรูค้ วามเข้าใจและสามารถปฏบิ ัติการวา่ ยนำ้ ทา่ กบ รวมทั้งการออกตัว การกลบั ตวั การเขา้ เสน้ ชัยท่ากบไดเ้ ป็นอยา่ ดี โดยปฏิบตั ิการเคล่อื นไหว การออกกำลงั กายและเลน่ กฬี าที่เหมาะสมกับตนเอง และปฏบิ ัติเกย่ี วกบั กฎ กตกิ า มารยาทต่างๆในการเลน่ กฬี า เพอ่ื นำกจิ กรรมการออกกำลังกายไปเปน็ แนวทางปฏิบัติในการออกกำลงั กายในชีวิตประจำวันอย่างมี ประสทิ ธภิ าพ ผลการเรยี นรู้ ๑. มคี วามรูแ้ ละปฏบิ ตั ิการใช้เทา้ ทา่ กบได้ ๒. มคี วามร้แู ละปฏบิ ตั ิการใช้แขนท่ากบได้ ๓. มคี วามรู้และปฏิบตั ิการหายใจทา่ กบได้ ๔. สาธิตความสมั พนั ธ์ของการใช้เท้า ใชแ้ ขนและการหายใจสำหรับว่ายทา่ กบได้ ๕. สาธิตวิธกี ารออกตัวท่ากบได้ ๖. สาธติ วิธีการกลับตวั ท่ากบได้ ๗. สาธติ วธิ ากรเข้าเส้นชยั ทา่ กบได้ รวมทง้ั หมด ๗ ผลการเรยี นรู้ คำอธบิ ายรายวิชา
๖๐๗ พ ๓๐๒๑๒ วา่ ยนำ้ ๓ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ กลมุ่ สาระการเรียนร้สู ุขศึกษาและพลศึกษา เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มีความรคู้ วามเข้าใจและสามารถปฏบิ ัติการว่ายน้ำท่ากรรเชยี ง (Back Stroke) รวมทั้งการออกตัว การกลบั ตัว การเขา้ เส้นชัย ท่ากรรเชยี งได้เป็นอยา่ ดี โดยปฏบิ ตั กิ ารเคลอื่ นไหว การออกกำลงั กายและเล่นกีฬาท่เี หมาะสมกบั ตนเอง และปฏิบัติเก่ียวกบั กฎ กตกิ า มารยาทต่างๆในการเลน่ กีฬา เพอื่ นำกจิ กรรมการออกกำลังกายไปเปน็ แนวทางปฏิบัติในการออกกำลังกายในชวี ิตประจำวันอย่างมี ประสิทธภิ าพ ผลการเรียนรู้ ๑. มคี วามรู้และปฏิบตั ิการใช้ขาท่ากรรเชียงได้ ๒. มคี วามร้แู ละปฏิบตั ิการใช้แขนทา่ กรรเชยี งได้ ๓. มคี วามรู้และปฏบิ ัตกิ ารหายใจทา่ กรรเชยี งได้ ๔. สาธิตความสมั พันธ์ของการใช้ขา ใช้แขนและการหายใจสำหรับวา่ ยท่ากรรเชียงได้ ๕. สาธติ วิธกี ารออกตัวทำกรรเชียงได้ ๖. สาธติ วธิ กี ารกลบั ตวั ทา่ กรรเชยี งได้ ๗. สาธติ วิธกี ารเข้าเส้นชยั ทา่ กรรเชียงได้ รวมท้งั หมด ๗ ผลการเรยี นรู้ คำอธบิ ายรายวิชา
๖๐๘ พ ๓๐๒๑๓ วา่ ยน้ำ ๔ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ุขศึกษาและพลศกึ ษา เวลา ๑ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มีความรูค้ วามเข้าใจและสามารถปฏิบตั กิ ารว่ายน้ำทำผเี สื้อ (Battelle troke) รวมทัง้ การออกตวั การ กลับตวั การเขา้ เส้นชยั ทา่ ผเี สอ้ื ไดเ้ ป็นอยา่ ดี โดยปฏิบตั กิ ารเคลอ่ื นไหว การออกกำลังกายและเล่นกีฬาที่เหมาะสมกับตนเอง และปฏบิ ัตเิ กย่ี วกบั กฎ กติกา มารยาทตา่ งๆในการเล่นกีฬา เพ่ือนำกิจกรรมการออกกำลงั กายไปเป็นแนวทางปฏิบัตใิ นการออกกำลังกายในชีวิตประจำวนั อย่างมี ประสิทธิภาพ ผลการเรยี นรู้ ๑. มคี วามรู้และปฏิบตั ิการใช้ขาทำผเี ส้อื ได้ ๒. มีความรู้และปฏิบัติการใช้แขนทา่ ผีเสื้อได้ ๓. มคี วามรู้และปฏิบตั กิ ารหายใจทา่ ผไี ด้ ๔. สาธิตความสัมพนั ธ์ของการใช้ขา ใช้แขนและการหายใจสำหรับว่ายท่าผีเส้ือได้ ๕. สาธติ วธิ ีการออกตวั ท่าผีเสอื้ ได้ ๖. สาธิตวิธีการกลบั ตวั ท่าผีเสอ้ื ได้ ๗. สาธิตวธิ ีการเขา้ เสน้ ชยั ท่าผเี สื้อได้ ๘. มคี วามรคู้ วามเข้าใจเกีย่ วกับกติกาการแขง่ ขันว่ายนำ้ เบ้ืองตัน รวมท้ังหมด ๗ ผลการเรยี นรู้ คำอธบิ ายรายวชิ า
๖๐๙ พ๓๐๒๐๖ มวยไทยเพื่อชวี ิต กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพละศกึ ษา ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๒๐ ช่วั โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ฝึกออกกำลงั กายและเลือกเข้าร่วมเลน่ กีฬา ตามความถนัด และความสนใจ ยอมรบั และเหน็ คุณค่า ของการออกกำลังกาย และการเล่นกฬี าเป็นประจำสม่ำเสมอ มีวิถชี วี ิตทีม่ ีสุขภาพดี จำแนก และปฏบิ ัตติ ากฎ กตกิ า ปฏบิ ตั ติ ามชน้ั ตอนและตดั สนิ ใจ เข้าร่วมแข่งชนั กฬี าทีช่ น่ื ชอบ ใช้กลวธิ กี ารรกุ การปอ้ งกัน และการให้ ความรว่ มมอื ในการแขง่ ขัน และการทำงานเป็นทมี ม่งุ มนั่ ในการเล่น ปฏิบัตหิ น้าท่ตี ามกลุ่มมอบหมายในการ เล่นกฬี าเป็นทีมจนประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย แสดงความสำคญั ของการปฏิบัตหิ น้าทีค่ วามรับผิดชอบ อยา่ งสร้างสรรค์ในสถานการณก์ ฬี าต่าง ๆ อยา่ งสนุกสนานช่นื ชม เพื่อความปลอดภัย และความสันตใี นการเล่น และการแขง่ ขันกีฬาด้วยความมีนำ้ ใจเปน็ นกั กีฬา และ เหน็ ประโยชนข์ องการทำงานเป็นทมี และส่งเสรมิ การกระทำทีแ่ สดงถึงความมีนำ้ ใจนักกฬี า และยึดเป็นแนว ปฏบิ ตั ใิ นการทำงานและดำเนินชีวิต ผลการเรียนรู้ ๑. มคี วามรู้ ความเข้าใจ ประวตั คิ วามเปน็ มาของมวยไทย ๒. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และปฏิบัติการเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกายได้ ๓. มีความรู้ ความเข้าใจ และปฏิบัตทิ กั ษะมวยไทยได้ ๔. มีความรู้ ความเขา้ ใจ หลักการต่างๆ และแบบฝึกทกั ษะมวยไทยได้ ๕. มคี วามรู้ ความเข้าใจ ปฏบิ ตั ศิ ลิ ปะมวยไทย แม่ไมแ้ ละลูกไมไ้ ด้ ๖. มีความรู้ ความเข้าใจ การป้องกันและการปฐมพยาบาลได้ ๗. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ กตกิ ามวยไทย รวมทั้งหมด ๗ ผลการเรยี นรู้ คำอธบิ ายรายวชิ า
๖๑๐ พ๓๐๒๐๕ บาสเกตบอล ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๖ ภาคเรยี นท่ี ๑ กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา เวลา ๒๐ ชว่ั โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาหลักการเก่ียวกบั กิจกรรมบาสกตบอล รูจ้ ักวิธกี ารบรหิ ารร่างกาย และเสริมสรา้ งสมรรถภาพ รา่ งกาย มกี ารเคลอ่ื นไหวพ้ืนฐาน เปน็ การนำไปใช้ในกรฝกึ ทักษะบาสเกตบอลในลกั ษณะต่าง ๆ ทนี่ ำไปสู่การ ใช้ในการเล่นเปน็ ทมี ภายใตก้ ฎ กติก๑ การแขง่ ชันโดยเน้นการปฏบิ ตั แิ ละกระบวนการกลมุ่ เพอื่ ความตระหนักในคุณธรรม และการพัฒนาทกั ษะนำไปใช้ในชีวิตประจำวนั ผลการเรียนรู้ ๑. ผเู้ ลน่ มีความรู้เกย่ี วกับกีฬาบาสเกตบอล ๒. ผู้เรยี นรจู้ กั วิธกี ารบรหิ ารร่างกาย และเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพ ๓. ผู้เรียนรแู้ ละปฏบิ ัติทกั ษะพื้นฐานในการเคล่อื นไหวของกฬี าบาสเกตบอลได้ ๔. ผ้เู รียนรู้ และปฏบิ ตั ิการเลี้ยงบอลลักษณะต่าง ๆ ได้ ๕. ผ้เู รยี นรู้ และปฏบิ ัติการรบั -สง่ บอลลักษณะตา่ ง ๆ ได้ ๖. ผูเ้ รยี นรู้ และปฏิบัติการยิงประตลู ักษะตา่ ง ๆ ได้ ๗. ผเู้ รยี นรู้ และปฏิบัตกิ ารเล่นบาสเกตบอลเป็นทมี ได้ ๘. ผู้เรยี นรกู้ ตกิ าการแข่งขนั บาสเกตบอล รวมทงั้ หมด ๘ ผลการเรียนรู้
๖๑๑ คำอธบิ ายรายวชิ า พ๓๐๒๑๔ สขุ ศกึ ษาเพ่อื สขุ ภาพ กลุม่ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพละศกึ ษา ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๖ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๒๐ ช่วั โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาเพอ่ื ใหเ้ หน็ ความสำคญั และมคี วามรู้เกย่ี วกบั การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ และการปอ้ งกนั โรคของ ชมุ ชนของตนเองและครอบครวั การป้องกนั โรคท่มี สี าเหตจุ ากพฤติกรรม ส่ิงแวดลอ้ ม สมารถวเิ คราะห์ปัญหา สงิ่ แวดล้อมทีส่ ำคญั ของประเทศท่ีส่งผลกระทบต่อสขุ ภาพ รวู้ ธิ แี ก้ปญั หาและการวางแผนเพอ่ื ส่งเสรมิ สุขภาพ ของสว่ นรวม และตัวเอง ร้วู จิ ดั การกับความเครียดได้อย่างเหมาะสม สามารถปฏบิ ัตติ นในการดำรงสมรรถภาพ ทางกาย และทางจติ กระบวนการสร้างความปลอดภยั และวางแผนในการชว่ ยเหลอื ผ้ปู ระสพภัยไดร้ ้สู าเหตุ และหาทางป้องกนั ปญั หาความรุนแรง ยาเสพตดิ และการใชย้ าได้ โดยมกี ารสงั เกตอธิบาย นำเสนอ วิเคราะห์ สบื ค้นโดยเนน้ การปฏบิ ตั ิและกระบวนการกล่มุ เพื่อใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจ ตระหนกั และเห็นคุณคา่ สามารถนำไปใช้ในการรักษาสุขภาพตนเองและ ปรบั ใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ไดใ้ นชวี ติ ประจำวนั ผลการเรียนรู้ ๑. รู้จกั ความสำคัญของการเสรมิ สรา้ งสุขภาพ และการป้องกันโรคในชมุ ชน ๒. รจู้ กั การปอ้ งกันโรคที่มีสาเหตมุ าจากพฤติกรรม และสงิ่ แวดลอ้ ม ๓. เขา้ ใจ และรู้จักการวางแผนเพอื่ กำหนดกลวธิ ลี ดความเสยี่ งดา้ นสุขภาพ ๔. เข้าใจ วิเคราะหป์ ญั หาสง่ิ แวดล้อมที่มผี ลกระทบตอ่ สขุ ภาพ ๕. รวู้ ธิ แี ก้ปัญหา และวางแผนเพ่อื ส่งเสรมิ สขุ ภาพของสว่ นรวม/ตนเอง ๖. รู้วิธี การจัดการกับความเครียดไดเ้ หมาะสม ๗. เข้าใจกระบวนการสรา้ งความปลอดภยั และวางแผนชว่ ยผู้ประสพภยั ได้ ๘. รู้สาเหตุ และหาทางป้องกนั ความรุนแรงทเ่ี กดิ จากยาเสพตดิ , การใชย้ า รวมทงั้ หมด ๘ ผลการเรยี นรู้
๖๑๒ คำอธบิ ายรายวิชา พ๓๐๒๑๕ ฟุตซอล ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนท่ี ๑ กลมุ่ สาระการเรียนร้สู ุขศึกษาและพลศกึ ษา เวลา ๒๐ ชว่ั โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาเพ่อื ใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจ มีเจตคติ ตลอดจนมที กั ษะปฏบิ ตั ทิ ีเ่ กี่ยวกบั การสรา้ งเสรมิ และ พัฒนาการเคลอ่ื นไหวแบบตา่ งๆ สามารถนำไปใช้ในการเล่นกฬี าฟตุ ซอลไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ โดยร่วมเล่นและแข่งขนั อยา่ ง สนุกสนานและปลอดภัย ปฏบิ ัติไดต้ ามกฎ กติกา หลกั การรุก การปอ้ งกัน มนี ้ำใจนกั กฬี า จติ วิญาณในการแข่ง ชนั มีสนุ ทรยี ภาพของกฬี า ทั้งในการเลน่ การดู การแช่งชัน แสดงออกถงึ ความรว่ มมือ ความรับผิดชอบใน ตนเองในการร่วมกิจกรรม มกี ารวางแผนในการออกกำลงั กาย และเลน่ กฬี า เพอื่ ให้นักเรียนพฒั นาบคุ ลิกภาพและสมรรถภาพของตนเองเปน็ ประจำสม่ำเสมอ รวมทั้งรจู้ กั การสรา้ ง เสริมสขุ ภาพ และสามารถมคี ุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ผลการเรยี นรู้ ๑. มีความรู้ ความเข้าใจประวตั คิ วามเปน็ มาและประโยชนข์ องกฬี าฟตุ ซอล ๒. มีความรทู้ ั่วไปเก่ียวกบั กีฬาฟุตซอล ๓. มีทักษะในการเลน่ ฟุตซอล ๔. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจในเกมรุก ๕. มคี วามรู้ ความเข้าใจในเกมรบั ๖. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจกตกิ าการแข่งขันฟตุ วอล ๗. มีความรู้ ความเข้าใจรบั ผดิ ชอบตนเองในระหว่างการเข้ารว่ มกิจกรรมและเล่นกฬี าฟุตซอลเป็นทีมได้ รวมท้ังหมด ๗ ผลการเรยี นรู้
๖๑๓ คำอธิบายรายวิชาพืน้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาตอนต้น
๖๑๔ โครงสรา้ งกลุม่ สาระการเรียนรู้ ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาตอนตน้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ รายวชิ าพนื้ ฐาน ศ ๒๑๑๐๑ นาฏศลิ ป์ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกติ ศ ๒๑๑๐๒ ดนตรี จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หนว่ ยกติ ศ ๒๑๑๐๓ ทศั นศิลป์ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หนว่ ยกติ ศ ๒๒๑๐๑ ทศั นศิลป์ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ศ ๒๒๑๐๒ ดนตรี จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต ศ ๒๒๑๐๓ นาฏศิลป์ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หนว่ ยกิต ศ ๒๓๑๐๑ ดนตรี จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ศ ๒๓๑๐๒ ทศั นศิลป์ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต ศ ๒๓๑๐๓ นาฏศลิ ป์ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต รายวชิ าเพ่มิ เตมิ ศ ๒๐๒๐๑ ดนตรสี ากลปฏิบตั ิตามความถนดั ๑ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ศ ๒๐๒๐๒ ดนตรีสากลปฏบิ ตั ติ ามความถนัด ๒ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ศ ๒๐๒๐๓ ดนตรไี ทยปฏิบตั ิตามความถนดั ๑ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกติ ศ ๒๐๒๐๔ ดนตรีไทยปฏบิ ตั ติ ามความถนดั ๒ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ศ ๒๐๒๐๕ ชา่ งเขยี นการ์ตนู ๑ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ศ ๒๐๒๐๖ ชา่ งเขยี นการต์ นู ๒ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ศ ๒๐๒๐๗ โครงงานศลิ ปะ ๑ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ศ ๒๐๒๐๘ โครงงานศลิ ปะ ๒ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ศ ๒๐๒๐๙ จิตรกรรม ๑ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต
ศ ๒๐๒๑๐ จิตรกรรม ๒ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๖๑๕ ศ ๒๐๒๑๑ ออกแบบ ๑ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ๑.๐ หน่วยกิต ศ ๒๐๒๑๒ ออกแบบ ๒ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต ๑.๐ หน่วยกิต ศ ๒๐๒๑๓ นาฏศิลปไ์ ทย ๑ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ๑.๐ หน่วยกติ ศ ๒๐๒๑๔ นาฏศลิ ป์ไทย ๒ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ๑.๐ หนว่ ยกิต ศ ๒๐๒๑๕ นาฏศลิ ป์พ้นื เมือง ๑ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ๑.๐ หน่วยกิต ศ ๒๐๒๑๖ นาฏศิลปพ์ น้ื เมอื ง ๒ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต ๑.๐ หนว่ ยกติ ศ ๒๐๒๑๗ ขบั รอ้ งเพลงสากล- ลูกทุ่ง๑ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ๑.๐ หน่วยกติ ศ ๒๐๒๑๘ ขบั รอ้ งเพลงสากล- ลกู ทงุ่ ๒ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกติ ๑.๐ หนว่ ยกติ ศ ๒๐๒๑๙ ดนตรสี ากลปฏบิ ตั ติ ามความถนดั ๓ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกติ ๑.๐ หนว่ ยกิต ศ ๒๐๒๒๐ ดนตรีสากลปฏบิ ตั ิตามความถนัด๔ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ๑.๐ หน่วยกิต ศ ๒๐๒๒๑ ดนตรีไทยปฏบิ ตั ติ ามความถนัด๓ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ๑.๐ หนว่ ยกิต ศ ๒๐๒๒๒ ดนตรไี ทยปฏบิ ตั ติ ามความถนดั ๔ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ศ ๒๐๒๒๓ ชา่ งเขียนการ์ตูน๓ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ศ ๒๐๒๒๔ ช่างเขยี นการต์ ูน๔ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ศ ๒๐๒๒๕ โครงงานศิลปะ๓ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ศ ๒๐๒๒๖ โครงงานศลิ ปะ๔ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ศ ๒๐๒๒๗ จติ รกรรม๓ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ศ ๒๐๒๒๘ จิตรกรรม๔ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ศ ๒๐๒๒๙ ออกแบบ๓ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ศ ๒๐๒๓๐ออกแบบ๔ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ศ ๒๐๒๓๑ นาฏศิลป์ไทย๓ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ศ ๒๐๒๓๒ นาฏศลิ ปไ์ ทย๔ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง
ศ ๒๐๒๓๓ นาฏศิลป์พื้นเมอื ง๓ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๖๑๖ ศ ๒๐๒๓๔ นาฏศิลป์พืน้ เมอื ง๔ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ๑.๐ หน่วยกติ ศ ๒๐๒๓๕ ขบั ร้องเพลงสากล- ลกู ทุ่ง๓ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ๑.๐ หนว่ ยกิต ศ ๒๐๒๓๖ ขบั ร้องเพลงสากล- ลูกทุง่ ๔ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ๑.๐ หนว่ ยกติ ศ ๒๐๒๓๗ การเขยี นสโี ปสเตอร๑์ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต ๑.๐ หนว่ ยกิต ศ ๒๐๒๓๘ การเขยี นสีโปสเตอร๒์ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ศ ๒๐๒๓๙ ดนตรพี ืน้ เมอื ง จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ศ ๒๑๒๐๑ ทฤษฎคี วามรู้ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง
๖๑๗ รหัสวิชา ๒๑๑๐๑ วชิ า นาฎศลิ ป์ คำอธบิ ายรายวชิ า กล่มุ สาระการเรียนรู้ศิลปะ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต ศึกษาและฝกึ ปฏบิ ัตกิ ารแสดงนาฎศิลป์ ในเรื่องนาฏยศพั ท์หรือศพั ทท์ างการละครในการแสดง นาฎศลิ ปแ์ ละละครในรปู แบบงา่ ยๆ โดยใชท้ กั ษะการทำงานเปน็ กลมุ่ และกระบวนการผลติ การแสดงมีความรู้ ความเข้าใจ สามารถอธบิ ายเกยี่ วกบั อิทธพิ ลของนักแสดงช่ือดังท่มี ีผลต่อการโน้มนา้ วความคดิ ของผชู้ ม ใช้เกณฑ์ งา่ ยๆ ในการพจิ ารณาคณุ ภาพการแสดงทชี่ ม โดยเน้นการใชเ้ สียง การแสดงทา่ และการเคล่ือนไหว สามารถ ระบุละบรรยายประเภทของละครไทยในแต่ละยคุ สมยั ตลอดจนปจั จัยที่มผี ลต่อการเปลีย่ นแปลงของนาฎศลิ ป์ นาฏศิลป์พื้นบา้ น ละครไทยและละครพ้นื เมอื ง เพอ่ื ใหม้ คี วามรูค้ วามเขา้ ใจพืน้ ฐาน มีวนิ ัย ใฝ่รใู้ ฝ่เรียน มุ่งม่นั ในการทำงาน รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ รกั ความเปน็ ไทย สามารถปฏิบตั งิ านนาฏศิลปไ์ ด้อยา่ งชื่นชมและเหน็ คณุ คา่ รหสั ตวั ช้วี ดั ศ ๓.๑ ม.๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม.๑/๔,ม.๑/๕ ศ ๓.๒ ม.๑/๑,ม.๑/๒ รวมทัง้ หมด ๙ ตัวชีว้ ัด
รหสั วิชา ศ๒๑๑๐๒ วชิ า ดนตรี คำอธบิ ายรายวชิ า ๖๑๘ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๒๐ ชัว่ โมง กล่มุ สาระการเรยี นรศู้ ิลปะ จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ศกึ ษาและปฏบิ ตั ิเกย่ี วกบั การอ่าน การเขียน การร้องโนต้ ไทยและโน้ตสากล สามารถเปรยี บเทยี บ เสยี งรอ้ งและเสยี งของเครือ่ งดนตรที ี่มาจากวฒั นธรรมท่ีตา่ งกัน รวมถึงอารมณ์ ความรสู้ ึกในการฟังดนตรแี ต่ละ ประเภทแสดงความคดิ เหน็ ที่มตี อ่ อารมณข์ องบทเพลงทม่ี ีความเร็วของจงั หวะและความดัง - เบาแตกต่างกนั สามารถขับร้องเพลงและใช้เคร่อื งดนตรบี รรเลงประกอบการรอ้ งเพลงดว้ ยบทเพลงท่หี ลากหลาย รูปแบบนำเสนอตัวอยา่ งเพลงทตี่ นเองชืน่ ชอบ และอภปิ รายลักษณะเดน่ ท่ที ำให้งานนั้นนา่ ชืน่ ชม จัดประเภท ของวงดนตรไี ทยและวงดนตรีสากลทม่ี าจากวัฒนธรรมต่างๆ อธบิ ายบทบาทความสมั พนั ธแ์ ละอทิ ธพิ ลของ ดนตรีทมี่ ตี อ่ สังคมไทยระบุความหลากหลายขององคป์ ระกอบดนตรใี นวฒั นธรรมตา่ งกนั ใช้เกณฑ์ สำหรบั ประเมินคณุ ภาพงานดนตรหี รือเพลงท่ีฟงั มคี วามร้แู ละความเขา้ ใจการใช้และบำรงุ รักษาเครอ่ื งดนตรี อย่าง ระมดั ระวังและรบั ผดิ ชอบ เพ่ือให้มีความร้พู ืน้ ฐาน ความเขา้ ใจ มวั ินยั ใฝ่รู้ใฝเ่ รียน สามารถวิเคราะหว์ จิ ารณแ์ ละเปรียบเทยี บ ม่งุ มนั่ ในการทำงาน รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ รักความเป็นไทย สามารถปฏบิ ตั งิ านด้านดนตรีได้อย่างช่นื ชมและ เหน็ คุณคา่ ตัวชว้ี ดั ศ ๒.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖,ม.๑/๗,ม.๑/๘,ม.๑/๙ ศ. ๒.๒ ม.๑/๑,ม.๑/๒ รวมทงั้ หมด ๑๑ ตัวชี้วัด
คำอธบิ ายรายวิชา ๖๑๙ รหสั วิชา ศ.๒๑๑๐๓ วิชา ทัศนศลิ ป์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๒๐ ชัว่ โมง กลมุ่ สาระการเรยี นร้ศู ิลปะ จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ ศกึ ษาและฝกึ ปฏบิ ตั งิ านทัศนศิลป์ในเร่อื งทศั นธาตุ ทัศนียภาพ งานป้นั หรือสอื่ ผสม หลักการ ออกแบบงานทัศนศลิ ป์ รูปแบบ สัญลกั ษณ์ หรอื กราฟิกอ่นื ๆ โดยเน้นการสงั เกตุ ความแตกตา่ งความคล้ายคลงึ ของงานทัศนศลิ ป์ ความป็นเอกภาพ ความกลมกลนื และความสมดลุ เรอ่ื งราวมติ ิ เทคนคิ การนำเสนอความคิด และขอ้ มูล เพอ่ื สอ่ื ความหมายและเรอ่ื งราวงานทัศนศิลป์ได้อย่างมคี ุรภาพ ประเมนิ ครุ คา่ และบอกวธิ กี าร ปรับปรงุ งานทัศนศลิ ปข์ องตนเองและผอู้ ืน่ โดยใช้เกณฑ์ท่กี ำหนดอย่างเหมาะสม สามารถออกแบบรปู ภาพ สญั ลกั ษณ์ กราฟกิ ในการนำเสนอข้อมลู วาดภาพแสดงระยะใกล้ไกลเป็น ๓ มิติ รวบรวมงานปัน้ หรอื สื่อผสมสร้างเป็นเรือ่ งราว ๓ มติ ิ มีความรู้ความเขา้ ใจ สามารถบรรยายเปรยี บเทียบ และจำแนก ความแตกตา่ งของจุดประสงค์ในการสรา้ งงานระหว่างวฒั นธรรมไทยและสากลรูปแบบงาน ทัศนศิลปข์ องชาตแิ ละทอ้ งถ่ินจากอดตี ถึงปัจจุบันในภาคตา่ งๆ ของประเทศไทย เพื่อใหม้ คี วามรพู้ ืน้ ฐาน ความเขา้ ใจ มวี ินยั ใฝ่รู้ใฝเ่ รยี น มุ่งมั่นในการทำงาน รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ รกั ความเป็นไทย สามารถปฏบิ ตั ิงานทัศนศลิ ปไ์ ด้อย่างชื่นชมและเหน็ คณุ ค่า รหสั ตวั ชวี้ ดั ศ ๑.๑ ม.๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม.๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖ ศ ๑.๒ ม.๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓ รวมท้ังหมด ๙ ตวั ช้ีวัด
คำอธบิ ายรายวิชา ๖๒๐ รหัสวิชา ศ.๒๒๑๐๑ วิชา ทัศนศิลป์ ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ ๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต ศกึ ษาและอภิปรายเก่ียวกบั ทศั นธาตใุ นด้านรปู แบบ และแนวคดิ ของงานทัศนศิลป์ที่เลอื กมา สามารถระบุ และบรรยายเกยี่ วกับความเหมอื นและความแตกต่างของรูปแบบการใชว้ ัสดอุ ปุ กรณใ์ นงาน ทศั นศลิ ปข์ องศลิ ปิน วธิ ีการใช้งานทศั นศลิ ป์ ในการโฆษณาเพื่อโนน้ น้าวใจและนำเสนอตวั อยา่ งประกอบ ตลอดจนวัฒนธรรมตา่ งๆ ทสี่ ะทอ้ นถงึ งานทศั นศลิ ป์ในปัจจบุ ัน การเปลย่ี นแปลงของงานทัศนศิลปข์ องไทยใน แต่ละยุคสมยั โดยเน้นถงึ แนวคดิ และเน้ือหาของงาน สามารถวาดภาพแสดงบคุ ลกิ ลกั ษณะของตัวละคร ด้วยเทคนคิ ที่หลากหลาย ในการสื่อความหมาย และเรือ่ งราวต่างๆ สร้างเกณฑ์ในการประเมนิ และวจิ ารณง์ านทัศนศลิ ป์ นำผลการวจิ ารณไ์ ปปรบั ปรงุ แก้ไขและ พฒั นางาน เปรียบเทียบแนวคิดในการออกแบบงานทศั นศลิ ป์ทมี่ าจาก วัฒนธรรมไทยและสากล บรู ณาการ เชื่อมโยงความรแู้ ละทกั ษะตา่ งๆ ดว้ ยการสรา้ งภาพตัดต่อโดยโปรแกรม Photo shop ภายใตห้ วั ข้อ “ครรลอง เอกลักษณ์” โดยเชือ่ มโยงความรทู้ ศั นศิลปท์ างภมู ปิ ัญญาและวฒั นธรรมของจงั หวดั อ่างทองโดยนำความรู้ บรู ณาการกับกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อ่ืน ๆ เพื่อให้มีความรพู้ ืน้ ฐาน ความเข้าใจ มวี นิ ยั ใฝ่รใู้ ฝเ่ รยี น ม่งุ ม่นั ในการทำงาน รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ รกั ความเปน็ ไทย สามารถปฏบิ ตั ิงานทัศนศิลป์ได้อยา่ งชื่นชมและเหน็ คณุ ค่า รหัสตัวช้ีวดั ศ ๑.๑ ม.๒/๑,ม.๒/๒,ม.๒/๓,ม.๒/๔,ม.๒/๕,ม.๒/๖,ม.๒/๗ ศ ๑.๒ ม.๒/๑,ม.๒/๒,ม.๒/๓ รวมทั้งหมด ๑๐ ตวั ชี้วัด
รหัสวชิ า ศ๒๒๑๐๒ วชิ า ดนตรี คำอธบิ ายรายวิชา ๖๒๑ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๒๐ ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ิลปะ จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ ศึกษาและสามารถ อ่าน เขยี นร้องโนต้ ไทย และโนต้ สากลทีม่ ีเครื่องหมายแปลงเสยี ง รอ้ งเพลง เลน่ ดนตรเี ด่ียวและรวมวง สามารถประเมิน พฒั นาการทักษะทางดนตรขี องตนเอง หลังจากการฝกึ ปฏบิ ตั ิ ระบุ และบรรยายเกย่ี วกับ ปจั จยั สำคญั ทีม่ อี ทิ ธิพลตอ่ การสรา้ งสรรคง์ านดนตรี อารมณข์ องเพลงและความรสู้ ึกทม่ี ี ต่อบทเพลงทฟ่ี งั สามารถระบุงานอาชพี ต่างๆ ที่เก่ยี วข้องกับดนตรแี ละบทบาทของดนตรีในธรุ กจิ บนั เทงิ บรรยาย บทบาทและอทิ ธิพลของดนตรีในวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ รวมถงึ อิทธพิ ลของวฒั นธรรมและเหตุการร์ใน ประวตั ศิ าสตร์ทม่ี ตี อ่ รูปแบบของดนตรใี นประเทศไทย ตลอดจนเปรยี บเทียบการใชอ้ งคป์ ระกอบดนตรีท่ีมาจาก วฒั นธรรมต่างกนั เพอ่ื ให้มีความรู้พ้ืนฐาน ความเข้าใจ มัวนิ ยั ใฝร่ ใู้ ฝเ่ รียน สามารถวเิ คราะหว์ ิจารณ์และเปรยี บเทียบ มุ่งมัน่ ในการทำงาน รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ รกั ความเปน็ ไทย สามารถปฏบิ ตั งิ านด้านดนตรีไดอ้ ย่างชื่นชมและ เห็นคุณค่า ตัวชว้ี ัด ศ ๒.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔,ม.๒/๕,ม.๒/๖,ม.๒/๗ ศ. ๒.๒ ม.๒/๑,ม.๒/๒ รวมท้ังหมด ๙ ตัวชีว้ ัด
๖๒๒ รหสั วชิ า ๒๒๑๐๑ วิชา นาฎศิลป์ คำอธบิ ายรายวชิ า กลมุ่ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ ๒ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ ศกึ ษาและฝกึ ปฏิบัติเกี่ยวกบั องค์ประกอบนาฏศลิ ปแ์ ละการละคร การแสดงนาฏศลิ ป์ นาฏศลิ ป์ พน้ื บ้าน ละครไทย ละครพนื้ บา้ น หรือมหรสพอ่ืนๆท่ีเคยนยิ มกันในอดตี นาฏยศพั ทห์ รอื ศพั ทท์ างการละคร เพอื่ นำมาอธิบายและสรา้ งสรรคก์ ารแสดงโดยใช้องคป์ ระกอบนาฏศลิ ป์และการละคร มาบรู ณาการกับศลิ ปะ แขนงอน่ื ๆ เชอื่ มโยงการเรียนรรู้ ะหวา่ งนาฏศลิ ปแ์ ละการละครกับสาระการเรียนรอู้ ่ืน ๆ สามารถวเิ คราะหก์ ารแสดงของตนเองและผอู้ ่นื โดยใช้นาฏยศพั ทห์ รือศัพทท์ างการละครที่เหมาะสม เสนอข้อคิดเหน็ ในการรปรบั ปรงุ การแสดง อธิบายและเปรยี บเทียบลักษณะเฉพาะของการแสดงนาฎศิลปจ์ าก วัฒนธรรมตา่ งๆ อิทธิพลของวัฒนธรรมท่มี ีผลตอ่ เนื้อหาของละคร ตลอดจนระบุหรือแสดงนาฏศิลป์ นาฏศลิ ป์ พนื้ บา้ น ละครไทย ละครพืน้ บา้ น หรอื มหรสพอน่ื ทเ่ี คยนิยมกนั ในอดตี เพ่ือใหม้ ีความรคู้ วามเขา้ ใจพืน้ ฐาน มวี ินยั ใฝ่ร้ใู ฝเ่ รยี น มุ่งม่ันในการทำงาน รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ รกั ความเป็นไทย สามารถปฏิบัติงานนาฏศลิ ปไ์ ด้อยา่ งช่ืนชมและเห็นคุณคา่ รหัสตวั ชว้ี ดั ศ ๓.๑ ม.๒/๑,ม.๒/๒,ม.๒/๓,ม.๒/๔,ม.๒/๕ ศ ๓.๒ ม.๒/๑,ม.๒/๒,ม.๒/๓ รวมทง้ั หมด ๘ ตัวชว้ี ัด
คำอธบิ ายรายวิชา ๖๒๓ รหัสวชิ า ศ.๒๓๑๐๒ วิชา ทัศนศลิ ป์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๒๐ ชัว่ โมง กล่มุ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ศกึ ษาและอภิปรายเกย่ี วกับทัศนศิลป์ ท่ีสะท้อนคุณค่าของวัฒนธรรม ส่ิงแวดล้อม และงาน ทศั นศิลป์ทีเ่ ลือกมา โดยใชค้ วามร้เู รือ่ งทัศนธาตุ และหลกั การออกแบบ ระบแุ ละบรรยายเทคนิค วิธกี ารของ ศลิ ปนิ ในการสรา้ งงาน ทัศนศลิ ป์ วเิ คราะห์ บรรยายและอภิปราย วธิ กี ารใชท้ ัศนธาตุและหลกั การออกแบบใน การสรา้ งทัศนศิลปข์ องตนเองใหม้ คี ณุ ภาพ รูปแบบ เน้ือหาและคณุ ค่าในงานทัสนศิลป์ ของตนเอง และผู้อืน่ หรอื ของศิลปิน มที กั ษะในการสรา้ งงานทศั นศิลป์อยา่ งน้อย ๓ประเภท สามารถผสมผสานวสั ดตุ ่างๆ ในการสรา้ งงาร ทศั นศลิ ป์โดยใชห้ ลักการออกแบบ สรา้ งสรรคง์ านทศั นศิลป์ ทงั้ ๒ มิติและ ๓ มติ ิ เพ่อื ถา่ ยทอดประสบการณ์ และจนิ ตนาการ สร้างสรรคง์ านทัศนศิลปน์ ส่ือความหมายเปน็ เร่ืองราวบรรยายเหตกุ ารณต์ า่ งๆ โดยใช้เทคนคิ ที่ จำเปน็ ในการประกอบอาชีพน้นั ๆ เลอื กงานทัศนศิลป์โดยใช้เกณฑ์ท่ีกำหนดข้ึนอยา่ งเหมาะสม และนำไปจัด นทิ รรศการ เปรยี บเทยี บความแตกต่างของงานทัศนศลิ ปใ์ นแต่ละยคุ สมัยของวฒั นธรรมไทยและสากล เพือ่ ใหม้ คี วามรพู้ ้ืนฐาน ความเข้าใจ มีวินยั ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มุ่งมั่นในการทำงาน รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ รักความเป็นไทย สามารถปฏบิ ตั งิ านทศั นศิลป์ไดอ้ ยา่ งช่ืนชมและเหน็ คณุ คา่ รหัสตวั ช้วี ัด ศ ๑.๑ ม.๓/๑,ม.๓/๒,ม.๓/๓,ม.๓/๔,ม.๓/๕,ม.๓/๖,ม.๓/๗,ม.๓/๘,ม.๓/๙,ม.๓/๑๐,ม.๓/๑๑ ศ ๑.๒ ม.๓/๑,ม.๓/๒ รวมทัง้ หมด ๑๓ ตัวช้วี ดั
๖๒๔ รหัสวิชา ๒๓๑๐๓ วิชา นาฎศิลป์ คำอธบิ ายรายวชิ า กลุ่มสาระการเรียนรูศ้ ิลปะ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๒๐ ช่วั โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ ศึกษาและอธบิ ายเกี่ยวกบั องค์ประกอบนาฏศิลป์ โครงสร้างของบทละคร นาฏยศพั ท์ ความสำคญั และบทบาทของนาฏยศลิ ป์และการละครในชวี ติ ประจำวัน การออกแบบและสรา้ งสรรค์เครอ่ื งแต่งกาย และฝกึ ทักษะเก่ยี วกบั การใชค้ วามคดิ ในการพัฒนารูปแบบการแสดง ในการแปลความและการส่ือสารผา่ นการแสดง ระบโุ ครงสรา้ งของบทละครโดยใชศ้ ัพท์ทางการละคร ใช้นาฏยศพั ท์หรอื ศพั ทท์ างการละครท่เี หมาะสม บรรยายวิจารณแ์ ละเปรยี บเทียบงานนาฏยศลิ ป์ท่ีมี ความแตกต่างกนั โดยใช้ความรูเ้ รือ่ งองคป์ ระกอบนาฏศลิ ป์ การแสดงอากปั กิริยาของผู้คนในชวี ิตประจำวนั และ ในการแสดง รว่ มจัดงานการแสดงในบทบาทหนา้ ทีต่ ่างๆ สามารถนำเสนอแนวคิดจากเน้ือเรอ่ื งของการแสดงที่ สามารถนำไปปรับใชใ้ นชวี ิตประจำวัน ออกแบบ สร้างสรรค์อปุ กรณแ์ ละเครอ่ื งแตง่ กาย เพื่อแสดงนาฏศิลป์ และละครท่ีมาจากวฒั นธรรมต่างๆ เพ่อื ใหม้ คี วามรคู้ วามเข้าใจพ้ืนฐาน มวี นิ ยั ใฝ่รู้ใฝเ่ รยี น มุ่งม่ันในการทำงาน รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ รัก ความเปน็ ไทย สามารถปฏบิ ัตงิ านนาฏศิลป์ไดอ้ ย่างช่นื ชมและเหน็ คุณค่า รหัสตัวช้วี ัด ศ ๓.๑ ม.๓/๑,ม.๓/๒,ม.๓/๓,ม.๓/๔,ม.๓/๕,ม.๓/๖,ม.๓/๗ ศ ๓.๒ ม.๓/๑,ม.๓/๒,ม.๓/๓ รวมทง้ั หมด ๑๐ ตวั ชีว้ ัด
๖๒๕ คำอธบิ ายรายวชิ า (เพิม่ เติม) รหสั วชิ า ศ ๒๐๒๔๐ รายวชิ า กลองยาว ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ การละเลน่ กลองยาวเป็นศิลปวัฒนธรรมของไทย ท่นี ิยมเลน่ กันท่วั ทุกภาคของประเทศไทยจงึ กลา่ ว ได้วา่ การเลน่ กลองยาวเปน็ เอกลกั ษณป์ ระจำชาติไทยสามารถนำมาเป็นองคค์ วามรใู้ หเ้ ยาวชนไทยและบุคคล ทว่ั ไปทีม่ คี วามสนใจเรยี นรแู้ ละปฏบิ ัตไิ ด้ง่ายกลองยาวช่วยสง่ เสรมิ ให้ผู้ที่เรยี นร้แู ละปฏบิ ตั เิ กิดความรื่นเริง บันเทงิ ใจมสี ตสิ มาธิพัฒนาทางด้านการคดิ และนำไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้มีความใฝ่รู้ มุ่งม่นั อดทนใน การทำงาน มีความคดิ รเิ รมิ่ สร้างสรรค์ มคี วามรับผิดชอบ และตรงต่อเวลา ผลการเรียนรู้ 1. มีความรเู้ บ้ืองต้นเกี่ยวกับประวัติกลองยาว 2. สามารถใช้ทักษะกลองยาวเบอ้ื งตน้ ได้ 3. สามารถแสดงออกทางดา้ นการแสดงกลองยาวได้ 4. นกั เรยี นมคี วามตระหนกั สามารถสง่ เสรมิ อนรุ กั ษม์ จี ติ ใจรกั และสบื ทอดศลิ ปวฒั นธรรม การเล่นกลองยาวได้ รวมทงั้ หมด ๔ ผลการเรยี นรู้
๖๒๖ คำอธบิ ายรายวชิ า (เพิม่ เตมิ ) รหสั วชิ า ศ ๒๐๒๔๑ รายวชิ า กลองยาว ๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๔๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ การละเลน่ กลองยาวเป็นศิลปวัฒนธรรมของไทย ท่นี ิยมเลน่ กันท่วั ทุกภาคของประเทศไทยจงึ กลา่ ว ได้วา่ การเลน่ กลองยาวเปน็ เอกลกั ษณป์ ระจำชาติไทยสามารถนำมาเป็นองคค์ วามรใู้ หเ้ ยาวชนไทยและบุคคล ทว่ั ไปทีม่ คี วามสนใจเรยี นรแู้ ละปฏบิ ัตไิ ด้ง่ายกลองยาวช่วยสง่ เสรมิ ให้ผู้ที่เรยี นร้แู ละปฏบิ ตั เิ กิดความรื่นเริง บันเทงิ ใจมสี ตสิ มาธิพัฒนาทางด้านการคดิ และนำไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้มีความใฝ่รู้ มุ่งม่นั อดทนใน การทำงาน มีความคดิ รเิ รมิ่ สร้างสรรค์ มีความรับผิดชอบ และตรงตอ่ เวลา ผลการเรียนรู้ 1. มีความรเู้ บ้ืองต้นเกี่ยวกับประวัติกลองยาว 2. สามารถใชท้ ักษะกลองยาวเบอ้ื งตน้ ได้ 3. สามารถแสดงออกทางดา้ นการแสดงกลองยาวได้ 4. นกั เรยี นมคี วามตระหนกั สามารถสง่ เสรมิ อนรุ กั ษม์ จี ติ ใจรกั และสบื ทอดศลิ ปวฒั นธรรม การเล่นกลองยาวได้ รวมทงั้ หมด ๔ ผลการเรยี นรู้
๖๒๗ คำอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ศลิ ปะ ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
๖๒๘ โครงสรา้ งกลุ่มสาระการเรยี นรู้ ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาตอนปลาย กลุม่ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ รายวชิ าพนื้ ฐาน ศ ๓๑๑๐๑ นาฏศิลป์ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หนว่ ยกติ ศ ๓๑๑๐๒ นาฏศิลป์ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หนว่ ยกติ ศ ๓๒๑๐๑ ทศั นศลิ ป์ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หนว่ ยกติ ศ ๓๒๑๐๒ ทศั นศิลป์ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หนว่ ยกติ ศ ๓๓๑๐๑ ดนตรีศึกษา จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกติ ศ ๓๓๑๐๒ ดนตรศี กึ ษา จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกติ รายวชิ าเพมิ่ เตมิ ศ ๓๐๒๐๑ ดนตรสี ากลปฏบิ ตั ิตามความถนัด ๑ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ศ ๓๐๒๐๒ ดนตรสี ากลปฏิบัตติ ามความถนัด ๒ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกติ ศ ๓๐๒๐๓ ดนตรไี ทยปฏบิ ัติตามความถนดั ๑ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ศ ๓๐๒๐๔ ดนตรีไทยปฏิบัตติ ามความถนัด ๒ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกติ ศ ๓๐๒๐๕ ชา่ งเขยี นการ์ตนู ๑ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกติ ศ ๓๐๒๐๖ ชา่ งเขียนการ์ตูน ๒ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ศ ๓๐๒๐๗ จิตกรรม ๑ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ศ ๓๐๒๐๘ โครงงานศิลปะ ๑ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ศ ๓๐๒๐๙ โครงงานศลิ ปะ ๒ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ศ ๓๐๒๑๐ จติ รกรรม ๒ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ศ ๓๐๒๑๑ ศลิ ปะการออกแบบ ๑ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกติ ศ ๓๐๒๑๒ ศลิ ปะการออกแบบ ๒ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ
ศ ๓๐๒๑๓ นาฏศิลป์ไทย ๑ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๖๒๙ ศ ๓๐๒๑๔ นาฏศิลป์ไทย ๒ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ๑.๐ หน่วยกติ ศ ๓๐๒๑๕ นาฏศลิ ป์พื้นเมือง ๑ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ๑.๐ หน่วยกิต ศ ๓๐๒๑๖ นาฏศลิ ป์พืน้ เมือง ๒ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ๑.๐ หนว่ ยกิต ศ ๓๐๒๑๗ ขบั รอ้ งเพลงสากล - ลูกท่งุ ๑ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ๑.๐ หน่วยกิต ศ ๓๐๒๑๘ ขบั ร้องเพลงสากล - ลกู ทงุ่ ๒ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ศ ๓๐๒๑๙ ดนตรสี ากลประเภทเครือ่ งสาย ๑ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ศ ๓๐๒๒๐ ดนตรีสากลประเภทเคร่อื งสาย ๒ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ศ ๓๑๒๐๑ ทฤษฎีความรู้ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง
คำอธบิ ายรายวิชา ๖๓๐ รหัสวชิ า ศ ๓๒๑๐๑ วชิ า ทัศนศลิ ป์ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒๐ ช่วั โมง กลุม่ สาระการเรยี นร้ศู ิลปะ จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต ศกึ ษาวิเคราะห์วจิ ารณท์ ัศนศิลป์ ในเรือ่ งการใชท้ ศั นธาตุ ศพั ทท์ างทัศนศลิ ป์ ทกั ษะพน้ื ฐานการใช้ วัสดอุ ุปกรณ์ เทคนคิ ของศิลปินในการสรา้ งสรรค์และออกแบบงานทศั นศิลป์ โดยเน้นหลกั การออกแบบและจัด องค์ประกอบศิลป์ท่เี หมาะกับโอกาสและสถานที่ วาดภาพลอ้ เลยี นหรือภาพการ์ตนู สะท้อนสังคมในปัจจบุ นั โดยใชก้ ระบวนการสบื คน้ ข้อมูล กระบวนการทำงานการฝึกปฏบิ ตั ิ กระบวนการคิดวิเคราะหว์ ิจารณ์ และกระบวนการออกแบบ เพอ่ื ให้เกดิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ และนำทกั ษะไปใช้ในการสรา้ งผลงานทศั นศิลป์ด้วย ตนเองบรู ณการเชือ่ มโยงความรแู้ ละทักษะตา่ งๆ ใชเ้ ทคโนโลยีสร้างผลงานภายใต้หัวข้อ “คำขวญั จังหวัด อ่างทอง” เพอื่ ใหม้ คี วามรพู้ ้ืนฐาน ความเข้าใจ มีวนิ ัย ใฝร่ ้ใู ฝ่เรียน มุ่งมนั่ ในการทำงาน รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ รกั ความเปน็ ไทย สามารถปฏบิ ตั งิ านทัศนศิลป์ไดอ้ ย่างชื่นชมและเห็นคณุ ค่า รหัสตัวช้ีวดั ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๑,ม.๔-๖/๒,ม.๔-๖/๓,ม.๔-๖/๔,ม.๔-๖/๕,ม.๔-๖/๖,ม.๔-๖/๗,ม.๔-๖/๑๑ รวมท้งั หมด ๘ ตวั ช้ีวัด
คำอธบิ ายรายวชิ า ๖๓๑ รหัสวิชา ศ ๓๒๑๐๒ วชิ า ทัศนศิลป์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๒๐ ช่วั โมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ ศกึ ษาวิเคราะห์วจิ ารณ์ ประเมินงานทสั นศลิ ป์โดยใชท้ ฤษฎกี ารวิจารณศ์ ิลปะ จำแนกกลมุ่ งาน ทศั นศิลปเ์ พอื่ สะท้อนพัฒนาการและความกา้ วหนา้ ของตนเอง สรา้ งสรรค์งานทศั นศลิ ปไ์ ทย และสากลจาก แนวคดิ ของศลิ ปินท่ีตนชน่ื ชอบ อธบิ ายจดุ มงุ่ หมายของศลิ ปนิ ในการเลือกใช้วสั ดุอุปกรณ์ เทคนิคและเนือ้ หาใน การสร้างสรรค์ผลงานเปรียบเทียบรูปแบบงานทศั นศลิ ปต์ ะวนั ตกและตะวันออก ตลอดจนสามารถระบุศลิ ปิน และบรรยายผลตอบรบั ของสงั คมตอ่ งานทศั นศลิ ป์ โดยใชก้ ระบวนการสบื ค้นขอ้ มูล กระบวนการทำงานการฝกึ ปฏิบัติ กระบวนการคดิ วิเคราะหว์ จิ ารณ์ และกระบวนการออกแบบ เพ่ือให้เกดิ ความรคู้ วามเข้าใจ และนำทักษะไปใช้ในการสรา้ งผลงานทศั นศลิ ปด์ ้วย ตนเอง เพ่อื ให้มคี วามรู้พนื้ ฐาน ความเข้าใจ มีวนิ ยั ใฝ่รใู้ ฝ่เรยี น มุง่ มั่นในการทำงาน รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ รักความเปน็ ไทย สามารถปฏบิ ตั งิ านทัศนศิลป์ไดอ้ ยา่ งช่ืนชมและเห็นคณุ คา่ รหัสตัวชวี้ ัด ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๘ ,ม.๔-๖/๙ ,ม.๔-๖/๑๐ ศ ๑.๒ ม.๔-๖/๑ ,ม.๔-๖/๒ ,ม.๔-๖/๓ รวมทงั้ หมด ๖ ตัวชีว้ ัด
๖๓๒ คำอธบิ ายรายวิชา (เพิม่ เติม) รหสั วชิ า ศ ๓๐๒๒๑ รายวชิ า กลองยาว กลมุ่ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต การละเลน่ กลองยาวเป็นศลิ ปวัฒนธรรมของไทย ท่ีนยิ มเลน่ กันทว่ั ทุกภาคของประเทศไทยจงึ กลา่ ว ไดว้ า่ การเล่นกลองยาวเป็นเอกลักษณป์ ระจำชาตไิ ทยสามารถนำมาเป็นองค์ความรใู้ ห้เยาวชนไทยและบุคคล ท่วั ไปท่ีมีความสนใจเรียนรู้และปฏิบตั ิได้งา่ ยกลองยาวชว่ ยส่งเสรมิ ใหผ้ ู้ทเ่ี รียนรแู้ ละปฏิบัตเิ กิดความรื่นเริง บันเทงิ ใจมสี ตสิ มาธิพัฒนาทางด้านการคดิ และนำไปประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจำวันได้มคี วามใฝร่ ู้ มุง่ ม่นั อดทนใน การทำงาน มีความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ มคี วามรับผิดชอบ และตรงต่อเวลา ผลการเรยี นรู้ 1. มีความรเู้ บ้ืองตน้ เกยี่ วกับประวัตกิ ลองยาว 2. สามารถใช้ทักษะกลองยาวเบ้อื งตน้ ได้ 3. สามารถแสดงออกทางด้านการแสดงกลองยาวได้ 4. นกั เรยี นมคี วามตระหนกั สามารถสง่ เสรมิ อนรุ กั ษม์ จี ติ ใจรกั และสบื ทอดศลิ ปวฒั นธรรม การเล่นกลองยาวได้ รวมทงั้ หมด ๔ ผลการเรียนรู้
๖๓๓ คำอธบิ ายรายวชิ า (เพิ่มเตมิ ) รหสั วชิ า ศ ๓๑๒๑๗ รายวชิ า ดนตรสี ากลพน้ื ฐาน ๑ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๑๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๓.๐ หน่วยกิต ศึกษาทฤษฎีดนตรสี ากลเบ้อื งต้น ประวตั ิดนตรสี ากล ระยะชนั้ คเู่ สียง บันไดเสยี ง ศพั ทส์ ังคีต หลักการอ่านโน้ตสากลเบอ้ื งต้น โครงสรา้ งทำนองเพลง ฝกึ เขยี นระยะคู่เสยี ง สรา้ งบันไดเสียง เขียนอตั ราจงั หวะผสม เขยี นโน้ต สากลและการอ่านโน้ตสากล ฝกึ ปฏบิ ตั ิเครื่องดนตรีเบ้อื งตน้ เพอื่ ใหม้ ีความเข้าใจเกย่ี วกบั ดนตรี ยอมรบั และเหน็ คุณคา่ ของดนตรี สากล ผลการเรียนรู้ 1. มคี วามรู้เบอื้ งตน้ เกยี่ วกบั ทฤษฎดี นตรสี ากล 2. สามารถฝึกหัดดนตรีเบือ้ งต้นได้ ขับร้องเบอ้ื งตน้ 3. สร้างผลงานด้านดนตรี ตามหลกั สากล 4. สามารถวิเคราะห์ วิจารณ์ และประเมนิ ผลงานดนตรีได้ รวมทง้ั หมด ๔ ผลการเรยี นรู้
๖๓๔ คำอธบิ ายรายวชิ า (เพิ่มเตมิ ) รหสั วชิ า ศ ๓๑๒๑๘ รายวชิ า ดนตรสี ากลพน้ื ฐาน ๒ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๑๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๓.๐ หน่วยกิต ศึกษาทฤษฎีดนตรสี ากลเบ้อื งต้น ประวตั ิดนตรสี ากล ระยะชนั้ คเู่ สียง บันไดเสยี ง ศพั ทส์ ังคีต หลักการอ่านโน้ตสากลเบอ้ื งต้น โครงสรา้ งทำนองเพลง ฝกึ เขยี นระยะคู่เสยี ง สรา้ งบันไดเสียง เขียนอตั ราจงั หวะผสม เขยี นโน้ต สากลและการอ่านโน้ตสากล ฝกึ ปฏิบตั ิเครื่องดนตรีเบ้อื งตน้ เพอื่ ใหม้ ีความเข้าใจเกย่ี วกบั ดนตรี ยอมรบั และเหน็ คุณคา่ ของดนตรี สากล ผลการเรียนรู้ 1. มคี วามรู้เบอื้ งตน้ เกยี่ วกบั ทฤษฎดี นตรีสากล 2. สามารถฝึกหัดดนตรีเบือ้ งต้นได้ ขับร้องเบอ้ื งตน้ 3. สร้างผลงานด้านดนตรี ตามหลกั สากล 4. สามารถวิเคราะห์ วิจารณ์ และประเมนิ ผลงานดนตรีได้ รวมทง้ั หมด ๔ ผลการเรยี นรู้
๖๓๕ คำอธบิ ายรายวิชา (เพมิ่ เตมิ ) รหัสวชิ า ศ ๓๒๒๑๗ รายวชิ า ดนตรสี ากลปฏบิ ัติตามความถนัด ๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๕ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๑๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๓.๐ หนว่ ยกติ ศึกษาทฤษฎดี นตรีสากลเบ้อื งตน้ ประวตั ิดนตรสี ากล ระยะชนั้ คูเ่ สียง บนั ไดเสียง ศพั ทส์ ังคีต หลกั การอ่านโนต้ สากลเบ้อื งตน้ โครงสรา้ งทำนองเพลง ฝึกเขียนระยะคู่เสยี ง สรา้ งบนั ไดเสียง เขยี นอตั ราจงั หวะผสม เขียนโนต้ สากลและการอา่ นโนต้ สากล ฝึกปฏบิ ัติเครอ่ื งดนตรีเบอ้ื งต้น เพ่อื ใหม้ ีความเข้าใจเกย่ี วกับดนตรี ยอมรับและเหน็ คุณคา่ ของดนตรี สากล ผลการเรยี นรู้ 1. มคี วามรู้เบ้อื งตน้ เกี่ยวกับทฤษฎีดนตรีสากล 2. สามารถฝกึ หดั ดนตรเี บ้ืองตน้ ได้ ขับรอ้ งเบอ้ื งต้น 3. สรา้ งผลงานดา้ นดนตรี ตามหลักสากล 4. สามารถวิเคราะห์ วจิ ารณ์ และประเมินผลงานดนตรไี ด้ รวมท้งั หมด ๔ ผลการเรียนรู้
๖๓๖ คำอธบิ ายรายวิชา (เพมิ่ เตมิ ) รหสั วชิ า ศ ๓๒๒๑๘ รายวชิ า ดนตรสี ากลปฏบิ ัติตามความถนัด ๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๕ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๑๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๓.๐ หนว่ ยกติ ศึกษาทฤษฎีดนตรีสากลเบ้อื งตน้ ประวตั ิดนตรสี ากล ระยะชนั้ คูเ่ สียง บนั ไดเสียง ศพั ทส์ ังคีต หลกั การอ่านโนต้ สากลเบื้องตน้ โครงสรา้ งทำนองเพลง ฝึกเขียนระยะคู่เสยี ง สรา้ งบนั ไดเสียง เขยี นอตั ราจงั หวะผสม เขียนโนต้ สากลและการอา่ นโน้ตสากล ฝึกปฏบิ ัตเิ ครือ่ งดนตรีเบอ้ื งต้น เพ่อื ใหม้ ีความเข้าใจเกย่ี วกับดนตรี ยอมรับและเหน็ คุณคา่ ของดนตรี สากล ผลการเรยี นรู้ 1. มคี วามรู้เบ้อื งตน้ เกี่ยวกับทฤษฎีดนตรีสากล 2. สามารถฝกึ หดั ดนตรเี บ้ืองตน้ ได้ ขับรอ้ งเบอ้ื งต้น 3. สรา้ งผลงานดา้ นดนตรี ตามหลักสากล 4. สามารถวิเคราะห์ วจิ ารณ์ และประเมินผลงานดนตรไี ด้ รวมท้งั หมด ๔ ผลการเรียนรู้
๖๓๗ คำอธบิ ายรายวชิ า (เพม่ิ เตมิ ) รหัสวิชา ศ ๓๓๒๑๗ รายวชิ า ดนตรสี ากลปฏิบัติตามความถนดั ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรูศ้ ิลปะ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๖ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๑๒๐ ช่วั โมง จำนวน ๓.๐ หน่วยกติ ศึกษาทฤษฎีดนตรสี ากลเบื้องตน้ ประวัติดนตรีสากล ระยะชั้นคเู่ สียง บันไดเสียง ศพั ทส์ ังคีต หลักการอา่ นโน้ตสากลเบือ้ งต้น โครงสร้างทำนองเพลง ฝกึ เขียนระยะคู่เสียง สรา้ งบนั ไดเสยี ง เขยี นอตั ราจังหวะผสม เขยี นโน้ต สากลและการอ่านโนต้ สากล ปฏิบตั จิ ากบทเพลงศกึ ษาทฤษฎดี นตรีสากลเบอ้ื งต้น ประวัติดนตรสี ากลระยะชน้ั คูเ่ สียง บนั ไดเสยี ง ศพั ท์สงั คตี หลกั การอา่ นโน้ตสากลเบ้อื งต้น โครงสร้างทำนองเพลงฝึกเขียนระยะคเู่ สียง สรา้ งบนั ไดเสียง เขียนอัตราจังหวะผสม เขียนโน้ตสากล และการอ่านโนต้ สากล ฝึกปฏบิ ัติเครือ่ งดนตรีเบื้องตน้ เพอ่ื ให้มีความเข้าใจเก่ียวกบั ดนตรี ยอมรบั และเหน็ คุณค่าของ ดนตรสี ากล ผลการเรยี นรู้ 1. มคี วามรเู้ บื้องตน้ เกีย่ วกับทฤษฎีดนตรีสากล 2. สามารถฝกึ หดั ดนตรีเบื้องตน้ ได้ ขับรอ้ งเบ้อื งต้น 3. สรา้ งผลงานด้านดนตรี ตามหลกั สากล 4. สามารถวิเคราะห์ วิจารณ์ และประเมินผลงานดนตรไี ด้ รวมทง้ั หมด ๔ ผลการเรียนรู้
๖๓๘ คำอธิบายรายวชิ า (เพิม่ เตมิ ) รหสั วิชา ศ ๓๓๒๑๘ รายวชิ า ดนตรสี ากลปฏิบัติตามความถนดั ๔ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๖ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๑๒๐ ชัว่ โมง จำนวน ๓.๐ หน่วยกติ ศกึ ษาทฤษฎีดนตรีสากลเบ้ืองตน้ ประวัติดนตรสี ากล ระยะชน้ั คู่เสยี ง บนั ไดเสียง ศัพทส์ งั คีต หลักการอ่านโนต้ สากล อ่านโนต้ เพลงสากล โครงสร้างทำนองเพลง ฝกึ เขยี นระยะคูเ่ สยี ง สร้างบันไดเสยี ง เขียนอัตราจงั หวะผสม เขยี นโน้ต สากลและการอา่ นโนต้ สากล ปฏบิ ตั ิเคร่อื งดนตรีโดยการอา่ นโนต้ สากล ฝกึ ปฏบิ ตั เิ ครือ่ งดนตรเี บ้อื งตน้ เพือ่ ใหม้ คี วามเข้าใจเกยี่ วกับดนตรี ยอมรบั และเหน็ คุณคา่ ของ ดนตรีสากล ผลการเรยี นรู้ 1. มีความรู้เบอื้ งต้นเก่ยี วกับทฤษฎดี นตรีสากล 2. สามารถฝึกหัดดนตรเี บ้อื งต้นได้ ขบั ร้องเบือ้ งต้น 3. สรา้ งผลงานดา้ นดนตรี ตามหลกั สากล 4. สามารถวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และประเมนิ ผลงานดนตรีได้ รวมทัง้ หมด ๔ ผลการเรียนรู้
๖๓๙ คำอธบิ ายรายวชิ าพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาตอนต้นและปลาย
๖๔๐ โครงสร้างกลุ่มสาระการเรียนรู้ ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ าพืน้ ฐาน ส ๒๑๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม จำนวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หนว่ ยกิต ส ๒๑๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกติ ส ๒๑๑๐๓ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หนว่ ยกติ ส ๒๑๑๐๔ ประวัตศิ าสตร์ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หนว่ ยกติ ส ๒๒๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกิต ส ๒๒๑๐๒ ประวัติศาสตร์ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หนว่ ยกิต ส ๒๒๑๐๓ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม จำนวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หนว่ ยกิต ส ๒๒๑๐๔ ประวตั ศิ าสตร์ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต ส ๒๓๑๐๑ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกิต ส ๒๓๑๐๒ ประวัติศาสตร์ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต ส ๒๓๑๐๓ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม จำนวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หน่วยกิต ส ๒๓๑๐๔ ประวัติศาสตร์ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต รายวชิ าเพมิ่ เติม ส ๒๑๒๐๑ ทอ้ งถิน่ ของเรา ๑ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกติ ส ๒๑๒๐๒ ทอ้ งถ่นิ ของเรา ๒ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หนว่ ยกติ ส ๒๑๒๐๓ กฎหมายเบื้องตน้ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกติ ส ๒๑๒๖๑ ทอ้ งถ่ินของเรา จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต ส ๒๒๒๐๑ โลกศกึ ษา จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ส ๒๒๒๐๒ กฎหมายในชวี ิตประวัน จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกติ
ส ๒๒๒๐๓ อาเซียนศึกษา (เปดิ ๑/๕๕) จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๖๔๑ ส ๒๒๒๐๔ กฎหมายมหาชน จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกติ ๐.๕ หนว่ ยกติ ส ๒๒๒๐๕ อาเซยี นศึกษา (ป๕ี ๖) จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกติ ๐.๕ หน่วยกติ ส ๒๓๒๐๑ เศรษฐศาสตร์ ๑ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หนว่ ยกติ ๐.๕ หนว่ ยกติ ส ๒๓๒๐๒ เศรษฐศาสตร์ ๒ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หนว่ ยกติ ๐.๕ หนว่ ยกติ ส ๒๓๒๐๓กฎหมายแพง่ และพานิชย์ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกติ ๑ หนว่ ยกิต ส ๒๓๒๐๔ กฎหมายอาญา จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง ๑ หนว่ ยกิต ๐.๕ หน่วยกิต ส ๒๐๒๐๑ โลกศึกษา ๑ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ๐.๕ หนว่ ยกิต ส ๒๐๒๐๒ โลกศกึ ษา๒ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หนว่ ยกิต ๐.๕ หน่วยกิต I๒๐๒๐๑ IS ๑ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกติ I๒๐๒๐๒ IS ๒ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง ส ๒๑๒๒๑ หนา้ ที่พลเมอื ง ๑ (ม.๑เทอม๑) จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ส ๒๑๒๒๒ หน้าทพี่ ลเมอื ง ๒ (ม.๑เทอม๒) จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ส ๒๒๒๒๓ หน้าทพ่ี ลเมือง ๓ (ม.๒เทอม๑) จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง ส ๒๒๒๒๔ หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง ๔ (ม.๒เทอม๒) จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง ส ๒๓๒๒๕ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๕ (ม.๓เทอม๑) จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง ส ๒๓๒๒๖ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๖ (ม.๓เทอม๒) จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง
๖๔๒ คำอธบิ ายรายวชิ า กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต รหัสวิชา ส ๒๑๑๐๑ วิชา สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง ศกึ ษาความสำคัญของพระพทุ ธศาสนา การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาเขา้ สูป่ ระเทศไทย พุทธประวัติการ ประพฤตติ นตามแบบอย่างการดำเนินชวี ิตและข้อคิดจากประวตั ิสาวกชาวพทุ ธตวั อย่าง ชาดก ศึกษาพุทธคุณ อรยิ สจั ๔ และปฏบิ ัตติ นตามหลกั ธรรมการพฒั นาจิตด้วยวธิ ีคดิ แบบโยนโิ สมนสกิ าร การสวดมนต์ แผเ่ มตตา บริหารจติ และเจริญปัญญาด้วยอานาปานสติ ศึกษาความจำเปน็ ท่ที กุ คนตอ้ งเรยี นรศู้ าสนาอื่น การปฏิบตั ติ อ่ บคุ คลอน่ื และศาสนกิ อนื่ ไดเ้ หมาะสม การบำเพญ็ ประโยชนต์ ่อศาสนสถาน ศึกษาพิธกี รรม ประวตั คิ วามสำคัญและการปฏิบัตติ นในวนั สำคัญในศาสน พธิ ีไดถ้ กู ต้อง ศึกษาการปฏบิ ตั ิตนตามกฎหมายในการคมุ้ ครองสิทธขิ องบุคคล การทำประโยชน์ต่อสังคมและ ประเทศชาตวิ ัฒนธรรมท่ีสรา้ งความสมั พนั ธท์ ีด่ ี การเคารพสทิ ธิของตนเองและผู้อ่ืนศึกษาสาระสำคัญการ ถว่ งดุลอำนาจและปฏิบตั ิตนตามบทบญั ญตั ขิ องรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย ฉบับปจั จุบันได้ เพอ่ื ใหส้ ามารถอธิบาย ระบุวเิ คราะห์ ปฏบิ ัติตนและพัฒนาโดยแสดงออกและอภิปรายได้ ตามหลกั การของพระศาสนาและพลเมอื งดีของประเทศชาติทำให้เกดิ การใฝ่เรียนรู้ มวี นิ ัย ซื่อสตั ย์ สจุ รติ รจู้ ัก รับผดิ ชอบ มุ่งมัน่ ในการทำงาน มีมารยาท มีความสัมพันธท์ ี่ดตี ่อสังคมมีความรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ และรัก ความเป็นไทย
๖๔๓ รหสั ตัวช้ีวดั ส ๑.๑ ม.๑/๑ , ม.๑/๒, ม.๑/๓ , ม.๑/๔ , ม.๑/๕ , ม.๑/๖ , ม.๑/๗ , ม.๑/๘, ม.๑/๙ , ม.๑/๑๐, ม.๑/๑๑ ส ๑.๒ ม.๑/๑, ม.๑/๒ , ม.๑/๓ , ม.๑/๔ , ม.๑/๕ , ม.๑/๖ ส ๒.๑ ม.๑/๑ , ม.๑/๒ , ม.๑/๓, ม.๑/๔ ส ๒.๒ ม.๑/๑ , ม.๑/๒, ม.๑/๓ รวมท้งั หมด ๒๔ ตวั ชีว้ ัด
๖๔๔ คำอธบิ ายรายวชิ า รหสั วิชา ส ๒๑๑๐๒ วชิ า ประวตั ศิ าสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต (K)ศกึ ษาความสำคัญของเวลาในการศกึ ษาประวัตศิ าสตร์ การเทยี บศกั ราชและการนำวธิ ีทาง ประวัติศาสตร์มาใชศ้ กึ ษาเหตุการณท์ างประวตั ศิ าสตร์ พัฒนาการทางสังคมเศรษฐกิจและการเมือง ความสำคัญของแหล่งอารยธรรมในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ (P)โดยใชว้ ิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์ กระบวนการคดิ กระบวนการสืบคน้ ขอ้ มลู กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการทางสงั คม กระบวนการเผชญิ สถานการณ์ กระบวนการแก้ปญั หา กระบวนการกลมุ่ (A)เพอ่ื ใหเ้ กิดความร้คู วามเข้าใจตระหนักในความสำคัญของการศกึ ษาประวัติศาสตรช์ าตไิ ทย เกิดความ รักความภาคภูมใิ จและธำรงความเป็นไทยมคี ุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ในดา้ นรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซอื่ สัตย์ สจุ ริต มวี ินัยใฝ่เรียนรู้ รักความเปน็ ไทย มุ่งมน่ั ในการทำงาน รหสั ตัวชว้ี ัด ส ๔.๑ ม.๑/๑ , ม.๑/๒ , ม.๑/๓ ส ๔.๒ ม.๑/๑, ม.๑/๒ รวมทั้งหมด ๕ ตัวชี้วัด
๖๔๕ คำอธบิ ายรายวชิ า กลุม่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต รหสั วิชา ส ๒๑๑๐๓ วิชา สังคมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม ศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๖๐ ชั่วโมง ศึกษาความหมายและความสำคัญของเศรษฐศาสตร์ ค่านิยม และพฤติกรรมการบรโิ ภคทม่ี ีผลตอ่ เศรษฐกจิ ของชุมชนและประเทศ ความเปน็ มาของหลกั การและความสำคัญของปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง บทบาทหน้าทข่ี องสถาบนั การเงิน การพ่ึงพาอาศยั กันและการแขง่ ขนั กันทางเศรษฐกิจ ปจั จยั ทมี่ อี ิทธพิ ลต่อ การกำหนด อุปสงค์ อุปทาน ผลของการมีกฎหมายเก่ียวกบั ทรัพย์สินทางปัญญา ศกึ ษาเลอื กใชเ้ คร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ และเส้นแบง่ เวลาและเปรยี บเทยี บวนั เวลาของประเทศไทยกับ ทวีปต่าง ๆ ศกึ ษาการเชื่อมโยงและแนวทางปอ้ งกันภัยธรรมชาตแิ ละการระวังภัย ผลกระทบจากการเปลยี่ นแปลง ทางธรรมชาติ ความร่วมมือกนั ต่อปัญหาสงิ่ แวดล้อมทางธรรมชาติ ศึกษาทำเลทตี่ ัง้ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ และ สังคมปจั จยั ทางกายภาพและสังคมท่ีมผี ลตอ่ การเลื่อนไหลของความคิด เทคโนโลยี สนิ คา้ และประชากร ของ ประเทศไทยและทวีปเอเชยี ออสเตรเลยี เพ่ือให้มคี วามสามารถในการเลือกใช้เครื่องมือทางภมู ศิ าสตร์ และอธิบายระบวุ เิ คราะห์ ยกตวั อยา่ ง อภปิ รายและสำรวจตามหลักการทางเศรษฐศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ทำให้ใชเ้ ครอ่ื งมอื ไดถ้ กู ต้อง เกดิ การใฝเ่ รยี นรู้ อยู่อยา่ งพอเพียง รักสิง่ แวดลอ้ ม มีจติ สาธารณะ และรักความเป็นไทย รหัสตัวช้วี ัด ส ๓.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒ , ม.๑/๓ ส ๓.๒ ม.๑/๑ , ม.๑/๒ , ม.๑/๓ , ม.๑/๔ ส ๕.๑ ม.๑/๑ , ม.๑/๒ , ม.๑/๓ ส ๕.๒ ม.๑/๑ , ม.๑/๒ , ม.๑/๓ , ม.๑/๔ รวมท้ังหมด ๑๔ ตวั ช้วี ัด
๖๔๖ คำอธบิ ายรายวชิ า รหสั วิชา ส ๒๑๑๐๔ วิชาประวัตศิ าสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ (K)ศึกษาเรอ่ื งราวทางประวตั ศิ าสตร์สมัยก่อนสุโขทยั ในดนิ แดนไทย การพฒั นาการของอาณาจักรสโุ ขทยั ในดา้ นต่างๆ อทิ ธพิ ลของวฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาไทยสมัยสุโขทยั และสงั คมไทยในปัจจบุ นั (P)โดยใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการสืบคน้ ข้อมูล กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการกลุ่ม กระบวน การเรยี นรูแ้ บบบรู ณาการกระบวนการแก้ปัญหาและวิธกี ารทางประวัตศิ าสตร์ (A)เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจถึงความสำคัญของเหตกุ ารณท์ างประวัติศาสตร์ สามารถใชว้ ิธกี ารทาง ประวตั ศิ าสตร์มาวเิ คราะห์เหตุการณต์ ่าง ๆ อยา่ งเป็นระบบเขา้ ใจความเปน็ มาของชาติไทย พฒั นาการด้านต่าง ๆ วฒั นธรรมไทย ภูมิปญั ญาไทย มีคุณลักษณะอนั พงึ ประสงคด์ ้านรกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่อื สัตยส์ ุจรติ มวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มนั่ ในการทำงาน รกั ความเปน็ ไทย และมจี ติ สาธารณะ รหัสตัวชีว้ ัด ส ๔.๓ ม.๑/๑, ม.๑/๒ ,ม.๑/๓ รวมทง้ั หมด ๓ ตัวชวี้ ดั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 652
- 653
- 654
- 655
- 656
- 657
- 658
- 659
- 660
- 661
- 662
- 663
- 664
- 665
- 666
- 667
- 668
- 669
- 670
- 671
- 672
- 673
- 674
- 675
- 676
- 677
- 678
- 679
- 680
- 681
- 682
- 683
- 684
- 685
- 686
- 687
- 688
- 689
- 690
- 691
- 692
- 693
- 694
- 695
- 696
- 697
- 698
- 699
- 700
- 701
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 700
- 701 - 701
Pages: