Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสัตตบงกช

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสัตตบงกช

Published by BA_ LON, 2021-12-26 09:09:46

Description: หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสัตตบงกช

Search

Read the Text Version

๒๙๗ ๕. บนั ทกึ และอธิบายผลการสํารวจตรวจสอบค้นคว้าเพม่ิ เติมจากแหล่งความรู้ต่างๆ ใหไ้ ด้ขอ้ มูลทเี่ ชอื่ ถอื ได้ และยอมรบั การเปลย่ี นแปลงความรู้ทีค่ ้นพบเมอื่ มีข้อมลู และประจกั ษ์พยานใหม่ เพิ่มขน้ึ หรือโต้แย้ง จากเดิม ๖. จดั แสดงผลงาน เขยี นรายงาน และ หรือ อธิบายเกี่ยวกบั แนวคิดกระบวนการและผลของโครงงาน หรอื ช้ินงานให้ผู้อน่ื เข้าใจ รวมทง้ั หมด ๖ ผลการเรยี นรู้

๒๙๘ คำอธิบายรายวชิ า (เพิ่มเตมิ ) รหสั วชิ า ว๒๓๒๐๓ วิชาฟสิ ิกสเ์ บอ้ื งต้น ๑ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ ศึกษา วิเคราะห์อธบิ ายหลกั การและแนวคิดทางฟิสิกส์การวัดปรมิ าณทางฟิสกิ ส์ อธบิ าย ความสมั พันธ์ระหว่างตําแหน่ง การกระจัด ความเร็วและความเร่งของการเคลือ่ นทขี่ องวตั ถใุ นแนวตรงท่ี มีความเรง่ คงตัวจากกราฟและสมการ รวมทัง้ ทดลองหาค่าความเร่งโน้มถว่ งของโลก และคาํ นวณ ปรมิ าณ ต่างๆท่เี ก่ยี วข้อง การหาแรงลัพธ์ของแรงสองแรงท่ีทาํ มุมต่อกนั อธิบายกฎการเคล่ือนทีข่ องนิว ตนั และการใช้กฎการเคล่อื นทข่ี องนิวตันกับสภาพการเคลอื่ นทข่ี องวตั ถุรวมท้ังคาํ นวณปริมาณต่างๆท่ี เกย่ี วขอ้ ง อธิบายกฎความโน้มถว่ งสากลและผลของสนามโน้มถว่ งท่ีทาํ ให้วัตถมุ ีน้ําหนักรวมท้ังคาํ นวณ ปริมาณตา่ งๆ ทีเ่ กย่ี วข้องคํานวณแรงเสียดทาน ระหว่างผวิ สมั ผัสของวัตถุคู่หนึง่ ๆในกรณีทวี่ ัตถุหยดุ นิง่ และวตั ถเุ คลือ่ นท่อี ธบิ ายสมดุลกลของวตั ถุโมเมนต์และผลรวมของโมเมนต์ที่มีต่อการหมุนแรงคู่ควบและ ผลของแรงคู่ควบทีม่ ตี ่อสมดุลของวตั ถเุ ขยี น แผนภาพของแรงที่กระทําต่อวตั ถอุ ิสระเมอ่ื วตั ถอุ ยูในสมดลุ กลและคาํ นวณปริมาณต่างๆท่ีเก่ยี วข้อง รวมทง้ั ทดลองและอธบิ ายสมดลุ ของแรงสามแรง ศึกษาวเิ คราะห์ อธิบาย โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การ สาํ รวจตรวจสอบ การสบื ค้นขอ้ มูล และการอภปิ ราย เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถสอื่ สารสงิ่ ทเี่ รยี นรู้ มีความสามารถ ในการตดั สนิ ใจ นาํ ความรไู้ ปใช้ในชวี ติ ประจาํ วัน มจี ติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มที่เหมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. สบื คน้ และอธบิ ายการค้นหาความรู้ทางฟิสกิ ส์ ประวตั ิความเป็นมารวมทง้ั พัฒนาการของหลกั การ และแนวคิดทางฟิสกิ ส์ท่มี ีผลต่อการแสวงหาความรู้ใหม่และการพัฒนาเทคโนโลยี ๒.วดั และรายงานผลการวดั ปริมาณทางฟิสกิ ส์ได้ถูกต้องเหมาะสมโดยนําความคลาดเคล่อื นในการวดั มา พิจารณาในการนําเสนอผลรวมท้งั แสดงผลการทดลองในรูปของกราฟวเิ คราะห์ และแปลความหมาย จากกราฟเส้นตรง

๒๙๙ ๓. ทดลอง และอธบิ ายความสมั พนั ธ์ระหว่าง ตาํ แหน่งการกระจัดความเรว็ และความเร่งของการ เคลื่อนท่ีของวัตถุในแนวตรง ทมี่ คี วามเร่งคงตัวจากกราฟและสมการรวมทง้ั ทดลองหาค่า ความเร่งโนม้ ถ่วงของโลกและคํานวณปริมาณ ต่างๆทเ่ี กี่ยวข้อง ๔.ทดลอง และอธบิ ายการหาแรงลัพธ์ของแรงสองแรงที่ทาํ มุมต่อกัน ๕. เขยี นแผนภาพของแรงทีก่ ระทาํ ต่อวตั ถอุ สิ ระ ทดลองและอธิบายกฎการเคล่อื นท่ีของนิวตนั และการ ใชก้ ฎการเคล่ือนท่ขี องนิวตนั กับสภาพการเคล่ือนทขี่ องวตั ถุ รวมทัง้ คํานวณปริมาณต่างๆทเ่ี ก่ียวข้อง ๖. อธิบายกฎความโน้มถว่ งสากล และผลของสนามโน้มถว่ งที่ทาํ ใหว้ ัตถมุ ีน้าํ หนักรวมทงั้ คาํ นวณปรมิ าณ ต่างๆทเ่ี ก่ียวข้อง ๗. วิเคราะห์อธบิ ายและคํานวณแรงเสยี ดทาน ระหว่างผวิ สัมผัสของวัตถคุ ู่หน่งึ ๆในกรณีท่วี ัตถุ หยดุ นง่ิ และวตั ถุเคล่ือนทรี่ วมท้ังทดลองหา สัมประสิทธิค์ วามเสยี ดทานระหว่างผิวสมั ผสั ของวตั ถคุ ู่หน่ึงๆและนาํ ความรู้เร่ืองแรงเสยี ดทานไปใช้ในชีวติ ประจําวนั ๘. อธบิ ายสมดุลกลของวัตถุโมเมนต์ และผลรวมของโมเมนต์ทมี่ ีต่อการหมนุ แรงคู่ควบและผลของแรงคู่ ควบทีม่ ตี ่อสมดุลของวตั ถุ เขียนแผนภาพของแรงท่ีกระทําต่อวตั ถุอิสระเม่อื วัตถุ อยู่ในสมดุลกลและ คํานวณปรมิ าณต่างๆทเ่ี ก่ียวข้อง รวมทงั้ ทดลองและอธิบายสมดลุ ของแรงสามแรง รวมทง้ั หมด ๘ ผลการเรยี นรู้

๓๐๐ คำอธบิ ายรายวิชา (เพม่ิ เตมิ ) รหัสวชิ า ว๒๓๒๐๔ วชิ าฟสิ ิกสเ์ บอื้ งตน้ ๒ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต ศึกษา วิเคราะห์ อธิบายสภาพการเคล่ือนท่ีของวตั ถุเมื่อแรงท่ีกระทําต่อวัตถุผ่านศูนยก์ ลาง มวลของวัตถแุ ละผลของศนู ยถ์ ว่ งทม่ี ีต่อเสถียรภาพของวัตถุ คํานวณงานของแรงคงตวั จากสมการและ พืน้ ท่ใี ต้กราฟความสมั พนั ธ์ระหว่างแรงกับตาํ แหน่ง รวมทั้งอธิบายและคาํ นวณกําลงั เฉลย่ี พลังานจลน์ พลังงานศกั ย์พลังงานกลทดลองหาความสัมพนั ธ์ระหว่างงานกับพลงั งานจลน์ งานกับพลังงานศักย์โน้ม ถว่ ง ความสัมพนั ธ์ระหว่างขนาดของแรงที่ใช้ดึงสปรงิ กับระยะที่สปริงยดื ออก และความสมั พันธ์ระหว่าง งานกบั พลงั งานศกั ย์ยดื หยุ่น รวมทงั้ อธิบายความสมั พนั ธ์ระหว่างงานของแรงลัพธ์และพลังงานจลน์ คาํ นวณงานทเี่ กดิ ข้นึ จากแรงลพั ธ์อธบิ ายกฎการอนรุ ักษ์พลังงานกล รวมทั้งวิเคราะห์และคํานวณปรมิ าณ ต่างๆ ท่เี กี่ยวข้องกับการเคลื่อนท่ีของวัตถใุ นสถานการณ์ต่างๆโดยใช้กฎการอนรุ ักษ์พลงั งานกลอธบิ าย การทํางานประสิทธภิ าพและการได้เปรยี บเชิงกลของเครื่องกลอย่างง่ายบางชนิด โดยใช้ความรู้เรอื่ งงาน และสมดลุ กล รวมทัง้ คาํ นวณประสิทธภิ าพและการได้เปรียบเชิงกล อธบิ ายและคาํ นวณโมเมนตมั ของ วัตถุ และการดลจากสมการและพ้ืนทใ่ี ต้กราฟความสัมพันธ์ระหว่างแรงลัพธ์กับเวลา รวมทัง้ อธิบาย ความสมั พนั ธ์ระหว่างแรงดลกบั โมเมนตัม คํานวณปริมาณต่างๆทีเ่ กีย่ วกบั การชนของวัตถใุ นหนงึ่ มติ ิท้ัง แบบยืดหยุ่น ไม่ยดื หยุ่น และการดีดตัวแยกจากกันในหนึง่ มติ ิ ซึง่ เป็นไปตามกฎการอนรุ กั ษ์โมเมนตัม คํานวณปรมิ าณต่างๆท่เี ก่ียวข้องกับการเคลือ่ นทีแ่ บบโพรเจกไทล์ และทดลองการเคลือ่ นทแี่ บบโพรเจก ไทล์ ศกึ ษาวเิ คราะห์ อธิบาย โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสาํ รวจ ตรวจสอบ การสืบค้นขอ้ มูล และการอภิปราย เพื่อให้เกดิ ความเรว็ ความเข้าใจ สามารถสอื่ สารสิง่ ทเ่ี รยี นรู้ มคี วามสามารถ ในการตัดสนิ ใจ นําความรไู้ ปใช้ในชีวติ ประจําวนั มีจติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านยิ มที่เหมาะสม ผลการเรยี นรู้

๓๐๑ ๑. สังเกตและอธิบายสภาพการเคลื่อนทีข่ องวัตถุเมอ่ื แรงทก่ี ระทาํ ต่อวัตถุผ่านศูนยก์ ลางมวลของวตั ถุ และผลของศนู ย์ถ่วงทม่ี ีต่อเสถยี รภาพของวตั ถุ ๒. วิเคราะห์และคํานวณงานของแรงคงตัวจากสมการและพืน้ ทใ่ี ต้กราฟความสัมพันธ์ระหว่างแรงกบั ตําแหนง่ รวมทัง้ อธบิ ายและคํานวณกําลงั เฉล่ีย ๓. อธบิ ายและคํานวณพลงังานจลน์พลงังานศกั ยพ์ ลงังานกลทดลองหาความสมั พันธ์ระหว่างงานกับ พลังงานจลน์ความสมั พันธ์ ระหว่างงานกับพลังงานศักย์โน้มถว่ งความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของแรงท่ีใช้ ดงึ สปริงกับระยะท่ีสปรงิ ยดื ออกและความสมั พันธ์ ระหว่างงานกบั พลงั งานศักย์ยดื หยุ่นรวมทั้งอธบิ าย ความสมั พนั ธ์ระหว่างงานของแรงลพั ธ์ และพลงั งานจลน์และคํานวณงานทีเ่ กดิ ขน้ึ จากแรงลพั ธ์ ๔. อธบิ ายกฎการอนุรักษ์พลงั งานกลรวมทง้ั วิเคราะห์และคํานวณปริมาณต่างๆ ทีเ่ กย่ี วข้องกับการ เคลื่อนทข่ี องวตั ถุในสถานการณ์ต่างๆโดยใช้กฎการอนรุ ักษ์พลังงานกล ๕. อธบิ ายการทาํ งานประสิทธภิ าพและการได้เปรียบเชิงกลของเครอ่ื งกลอย่างง่ายบางชนดิ โดยใช้ความรู้ เรือ่ งงานและสมดลุ กลรวมทัง้ คํานวณประสิทธภิ าพและการได้เปรยี บเชงิ กล ๖. อธบิ ายและคํานวณโมเมนตมั ของวัตถแุ ละการดลจากสมการและพ้นื ท่ีใต้กราฟความสัมพันธ์ ระหว่างแรงลัพธ์กบั เวลารวมทั้ง อธบิ ายความสมั พนั ธ์ระหว่างแรงดลกบั โมเมนตัม ๗. ทดลองอธิบายและคํานวณปรมิ าณต๋างๆทเี่ ก่ยี วกับการชนของวัตถใุ นหนง่ึ มติ ิท้ังแบบยดื หยุ่นไม่ ยดื หยุ่นและการดีดตวั แยกจากกนั ในหน่ึงมิตซิ งึ่ เป็นไปตามกฎการอนรุ ักษ์โมเมนตัม ๘. อธบิ ายวเิ คราะห์และคํานวณปรมิ าณต่างๆทเ่ี ก่ียวข้องกับการเคลอ่ื นทแี่ บบโพรเจกไทล์และทดลอง การเคลอ่ื นท่ีแบบโพรเจกไทล์ รวมทง้ั หมด ๘ ผลการเรยี นรู้

๓๐๒ คำอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐานและเพิม่ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาตอนปลาย

๓๐๓ รายวชิ าพน้ื ฐานและเพิ่มเติม กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย รายวชิ าพื้นฐาน ว๓๐๑๐๕ วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกติ ๐.๕ หนว่ ยกติ ว๓๐๑๐๙ วทิ ยาการคำนวณ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หนว่ ยกิต ๐.๕ หนว่ ยกิต ว๓๐๑๐๗ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ ( ฟสิ ิกส์ ) จำนวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หน่วยกติ ๐.๕ หนว่ ยกติ ว๓๐๑๑๐ วิทยาการคำนวณ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต ว๓๐๑๐๖ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ ( เคมี ) จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง ๒.๐ หน่วยกิต ๒.๐ หนว่ ยกิต ว๓๐๑๑๑ วิทยาการคำนวณ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๒.๐ หนว่ ยกิต ๒.๐ หน่วยกิต ว๓๐๑๐๘ โลกดาราศาสตร์และอวกาศ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๒.๐ หน่วยกิต ๒.๐ หนว่ ยกติ รายวชิ าเพ่มิ เตมิ ๒.๐ หนว่ ยกติ ๒.๐ หน่วยกติ ว๓๐๒๐๑ ฟสิ ิกส์ ๑ จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกติ ๑.๐ หน่วยกติ ว๓๐๒๐๒ ฟสิ ิกส์ ๒ จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง ว๓๐๒๐๓ ฟสิ กิ ส์ ๓ จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง ว๓๐๒๐๔ ฟสิ ิกส์ ๔ จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง ว๓๐๒๐๕ ฟสิ กิ ส์ ๕ จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง ว๓๐๒๐๖ ฟสิ กิ ส์ ๖ จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง ว๓๑๒๒๓ เคมี ๑ จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง ว๓๑๒๒๔ เคมี ๒ จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง ว๓๒๒๒๕ เคมี ๓ จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง ว๓๒๒๒๖ เคมี ๔ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง

๓๐๔ ว๓๒๒๒๗ เคมี ๕ จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หนว่ ยกติ ว๓๒๒๒๘ เคมี ๖ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกติ ว๓๐๒๔๑ ชวี วิทยา ๑ จำนวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หน่วยกิต ว๓๐๒๔๒ ชวี วิทยา ๒ จำนวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หนว่ ยกติ ว๓๐๒๔๓ ชีววิทยา ๓ จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกติ ว๓๐๒๔๔ ชีววทิ ยา ๔ จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หนว่ ยกิต ว๓๐๒๔๕ ชวี วทิ ยา ๕ จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หนว่ ยกิต ว๓๐๒๔๖ ชวี วทิ ยา ๖ จำนวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หนว่ ยกิต ว๓๐๒๘๓ เทคนคิ ปฏิบตั กิ าร จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ว๓๐๒๘๔ เทคนิคปฏิบตั ิการ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ว๓๐๒๘๕ ระเบยี บวธิ วี จิ ยั จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หนว่ ยกิต ว๓๐๒๘๖ ปฏบิ ัตกิ ารฟสิ ิกส์และคอมพิวเตอร์ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ว๓๐๒๘๗ ปฏบิ ตั ิการชีวเคมี จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ว๓๐๒๖๑ เทคโนโลยสี ารสนเทศ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ว๓๐๒๖๒ ระเบยี บวิธีวิจยั ด้านคอมพิวเตอร์ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ว๓๐๒๖๓ การสร้างแอนิเมช่ัน จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หนว่ ยกติ ว๓๐๒๖๔ การสร้างโปรแกรมประยกุ ต์ จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง ๒.๐ หนว่ ยกติ ว๓๐๒๖๕ การออกแบบสามมติ ิ จำนวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หนว่ ยกติ ว๓๐๒๖๖ การตัดตอ่ วดี โี อ จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง ๒.๐ หนว่ ยกิต ว๓๐๒๖๗ คอมพิวเตอร์ ๑ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ว๓๐๒๖๘ คอมพวิ เตอร์ ๒ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หนว่ ยกิต ว๓๐๒๖๙ คอมพิวเตอร์ ๓ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกติ

๓๐๕ คำอธบิ ายรายวชิ า(พน้ื ฐาน) รหสั วชิ า ว ๓๐๑๐๕ วชิ า วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๖๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ ศึกษาการลําเลยี งสารเข้าและออกจากเซลล์ การรักษาดลุ ยภาพของร่างกายมนุษย์ โดยศกึ ษา การรักษาดุลยภาพของนํา้ และสารในร่างกาย การรกั ษาดลุ ยภาพของกรด-เบสของเลอื ด การรักษาดลุ ย ภาพของอณุ หภมู ภิ ายในร่างกาย และศกึ ษาระบบภูมคิ ุ้มกัน ศึกษาการดาํ รงชีวติ ของพืช โดยศกึ ษา สารอนิ ทรยี ์ในพืช ปัจจยั บางประการทม่ี ีผลต่อการเจริญเตบิ โตของพืช การตอบสนองของพชื ต่อสิ่งเรา้ ศึกษาพันธุกรรมและววิ ัฒนาการ การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม ยนี กับการควบคุมลักษณะทาง พนั ธุกรรม การเปลย่ี นแปลงทางพันธกุ รรมเทคโนโลยีทางดีเอน็ เอ วิวัฒนาการและความหลากหลายของ สิ่งมีชวี ิต และชีวติ ในสง่ิ แวดล้อม โดยศึกษาระบบนิเวศ มนษุ ย์กบั ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อม บรู ณาการเชอื่ มโยงความรู้และทักษะต่างๆดว้ ยการออกแบบและใช้เทคโนโลยีในการทํา โครงงานภายใต้หัวขอ้ หลกั คอื “คําขวัญจังหวัดอ่างทอง” โดยเชอื่ มโยงความรู้เกี่ยวกับศึกษาค้นคว้าและ วิเคราะห์ขอ้ มูลของดีและอตั ลกั ษณ์ในจังหวัดอ่างทอง โดยผู้เรยี นตอ้ งร่วมกนั วางแผน สืบค้นและ นําเสนอข้อมูลเพอื่ ให้เผยแพร่และมปี ระโยชน์ต่อไป โดยใช้การสาํ รวจ ตรวจสอบ สบื ค้นขอ้ มลู การใช้ เทคโนโลยี การอภิปรายผลเพอื่ ให้เกดิ ความรคู้ วามเข้าใจสามารถสอ่ื สาร เชือ่ มโยงส่งิ ทีเ่ รียนรู้ เผยแพร่ ความรตู้ ่างๆผ่านสอ่ื เทคโนโลยี โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้การสืบคน้ ขอ้ มลู การ สงั เกต การวิเคราะห์การทดลอง การอภปิ ราย การอธบิ ายและสรุป เพื่อให้เกิดความรคู้ วามคดิ ความ เขา้ ใจ มีความสามารถในการตัดสนิ ใจ ส่อื สารสงิ่ ทเ่ี รยี นรู้และนําความรู้ไปใช้ในชวี ิตของตนเอง มีจิต วทิ ยาศาสตร์จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านิยม

๓๐๖ รหัสตวั ชี้วดั ว ๑.๑ ม.๔/๑-๔ , ว ๑.๒ ม.๔/๑-๑๒ , ว ๑.๓ ม.๔/๑-๖ , ว ๔.๑ ม.๔/๑-๕ (โดยท่ี ว ๑.๒ ม.๔/๙,ว ๔.๑ ม.๔/๑ รวมอยู่ในหน่วยการเรียนรู้บูรณาการ) รวมทง้ั หมด ๒๘ ตวั ชีว้ ัด

๓๐๗ คำอธิบายรายวชิ า(พ้นื ฐาน) รหัสวชิ า ว ๓๐๑๐๙ วชิ า วิทยาการคำนวณ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ ศกึ ษาวิเคราะห์แนวคิดหลักของเทคโนโลยี การเปลีย่ นแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยีที่ เกิดข้นึ และความสัมพนั ธ์ของเทคโนโลยีกบั ศาสตรอ์ ่ืนหลกั การของแนวคดิ เชิงคาํ นวณ การแยก ส่วนประกอบและการย่อยปัญหา การหารูปแบบการคดิ เชิงนามธรรม ตัวอย่างและประโยชน์ของแนวคดิ เชงิ คํานวณเพือ่ แก้ปัญหาในชวี ติ ประจําวัน ออกแบบ สร้าง หรือพฒั นาผลงานสาํ หรบั แก้ปัญหาทค่ี ํานงึ ถงึ ผลกระทบต่อสังคมในประเดน็ ที่ เกี่ยวขอ้ งกับสุขภาพและการบริการ โดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม ซ่ึงใช้ความรู้ ทกั ษะ ประยุกต์ใชแ้ นวคดิ เชงิ คํานวณในการออกแบบช้ันตอนวธิ ีสาํ หรบั แก้ปัญหา การแก้ปัญหาด้วย คอมพวิ เตอร์การระบขุ ้อมูลเขา้ ขอ้ มูลออกและเงอ่ื นไขของปัญหา การออกแบบชัน้ ตอนวธิ ีการทาํ ซํ้า การจดั เรียงและคน้ หาขอ้ มูล ตัวอย่างการออกแบบช้ันตอนวธิ เี พ่อื แก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์ การศึกษา ตัวอย่างโครงงานทางเทคโนโลยีสารสนเทศ บรู ณาการเช่อื มโยงความรู้และทกั ษะต่าง ๆ วเิ คราะห์แนวคิดหลักของเทคโนโลยี ความสัมพนั ธ์กบั ศาสตร์อื่น โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์หรือคณิตศาสตร์ รวมทงั้ ประเมินผลกระทบที่จะ เกิดขึน้ ต่อมนุษย์ สงั คม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม เพอ่ื เป็นแนวทางในการพัฒนาเทคโนโลยี นําเสนอ ผลงานผ่านส่ือวดี ิทศั น์หรือเว็บไซต์เกีย่ วกบั ของดีเมืองอ่างทอง โดยนําความรู้บรู ณาการกับกลุ่มสาระการ เรียนรอู้ ่นื ๆ การกาํ หนดปัญหา ศึกษา วางแผน ดําเนนิ งาน สรปุ ผลและเผยแพร่ ในการพัฒนาโครงงานท่ี มีการบูรณาการร่วมกบั วิชาอนื่ และเช่ือมโยงกับชีวิตจรงิ โดยคํานึงถงึ ทรพั ย์สินทางปัญญา มกี ารใช้ ซอฟต์แวรช์ ่วยในการออกแบบและนําเสนอผลงานและเลือกใช้วสั ดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้าและ อิเลก็ ทรอนิกส์เพ่ือแก้ปัญหาได้อย่างถกู ต้อง เหมาะสม ปลอดภยั

๓๐๘ รหสั ตวั ชี้วัด ว ๔.๑ ม.๔/๑-๕ ว ๔.๒ ม.๔/๑ รวมทง้ั หมด ๖ ตวั ชี้วดั

๓๐๙ คำอธิบายรายวิชา(พนื้ ฐาน) รหสั วชิ า ว ๓๐๑๐๗ วิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ(ฟสิ ิกส)์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕ ภาคเรียนที่ ๑-๒ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต ศกึ ษาข้อมูลความเร็วกบั เวลาของการเคลื่อนที่ของวตั ถุ ความเร่งของวตั ถกุ ารหาแรงลพั ธ์ท่เี กดิ จากแรงหลายแรงทอ่ี ยู่ในระนาบเดยี วกันท่ีกระทําต่อวัตถุโดยการเขียนแผนภาพการรวมแบบเวกเตอร์ ความสัมพนั ธ์ระหว่างความเร่งของวัตถกุ ับแรงลพั ธ์ที่กระทาํ ต่อวัตถแุ ละมวลของวัตถุ แรงกิริยาและแรง ปฏกิ ริ ิยาระหว่างวัตถุคหู่ นง่ึ ๆ ผลของความเร่งที่มตี ่อการเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ ของวตั ถุ ได้แก่ การ เคล่อื นท่แี นวตรง การเคลอื่ นทีแ่ บบโพรเจกไทล์ การเคลือ่ นทแ่ี บบวงกลม และการเคลื่อนท่ีแบบสั่น แรง โน้มถว่ งทีเ่ กีย่ วกบั การเคลือ่ นท่ีของวตั ถตุ ่าง ๆ รอบโลก การเกดิ สนามแม่เหลก็ เนอ่ื งจากกระแสไฟฟ้า แรงแม่เหลก็ ที่กระทําต่ออนุภาคท่มี ปี ระจุไฟฟ้าที่เคล่อื นท่ีในสนามแม่เหลก็ และแรงแม่เหล็กทีก่ ระทาํ ต่อ ลวดตัวนาํ ท่มี กี ระแสไฟฟ้าผา่ นในสนามแม่เหล็ก รวมท้งั อธิบายหลักการทํางานของมอเตอร์ การเกดิ อีเอ็มเอฟ รวมท้ังยกตัวอย่างการนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ แรงเขม้ และแรงอ่อน ศึกษาพลงั งานนวิ เคลียร์ฟิชชนั และฟิวชนั และความสัมพันธ์ระหว่างมวลกับพลังงานท่ี ปลดปล่อยออกมาจากฟิชชันและฟิวชัน การเปลยี่ นพลังงานทดแทนเป็นพลังงานไฟฟ้า เทคโนโลยีที่ นํามาแกป้ ัญหาหรือตอบสนองความต้องการทางด้านพลงั งานโดยเน้นด้านประสิทธิภาพและความคุ้มคา่ ด้านคา่ ใช้จา่ ย การสะท้อน การหกั เห การเลี้ยวเบน และการรวมคล่ืนความถ่ีธรรมชาติ การสั่นพ้อง และ ผลท่ีเกิดขึ้นจากการสนั่ พ้อง การสะท้อน การหักเหการเล้ยี วเบน และการรวมคล่ืนของคล่ืนเสียง ความสัมพนั ธ์ระหว่างความเข้มเสยี งกับระดับเสียงและผลของความถี่กบั ระดบั เสียงที่มตี ่อการได้ยนิ เสยี ง การเกดิ เสียงสะท้อนกลับ บีต ดอปเพลอร์ และการสนั่ พ้องของเสียง การมองเห็นสขี องวัตถแุ ละความ ผิดปกติในการมองเห็นสี การทํางานของแผ่นกรองแสงสี การผสมแสงสี การผสมสารสคี ลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟ้าสว่ นประกอบคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และหลักการทาํ งานของอปุ กรณ์บางชนิดทีอ่ าศยั คล่ืน แม่เหล็กไฟฟ้า การสือ่ สาร โดยอาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการสง่ ผ่านสารสนเทศและปรียบเทียบการ สอ่ื สารด้วยสญั ญาณแอนะลอ็ กกับสัญญาณดิจทิ ัล โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ วิเคราะห์และแปลความหมาย สงั เกตและอธบิ าย วิเคราะห์กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ การสํารวจตรวจสอบ การสืบค้นขอ้ มูล ยกตวั อย่างการนํา

๓๑๐ ความรไู้ ปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจําวนั อภปิ ราย การทดลอง ประยกุ ต์ใชค้ วามรแู้ ละทกั ษะจากศาสตร์ ต่าง ๆ รวมท้ังทรัพยากรในการทําโครงงานเพ่อื แก้ปัญหาหรือพฒั นางาน รหัสตัวชีว้ ัด ว.๒.๒ม.๕/๑-๑๐ , ว๒.๓ม.๕/๑-๑๒ , ว๔.๑ม.๕/๑ รวมทง้ั หมด ๒๓ ตัวช้วี ัด

๓๑๑ คำอธิบายรายวิชา(พน้ื ฐาน) รหสั วชิ า ว ๓๐๑๑๐ วชิ าวิทยาการคำนวณ กล่มุ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๕ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ ออกแบบโครงงานศึกษาความรู้หรือวธิ ีการจากศาสตร์และทรัพยากรต่างๆ เพอื่ ใช้สร้างและ พฒั นาชน้ิ งาน ศึกษาสถานการณป์ ญั หาท่นี ่าสนใจ กาํ หนดหวั ข้อโครงงาน รวบรวมข้อมลู และแนวคิดที่ เกีย่ วขอ้ งกับปัญหาออกแบบแนวทางการแก้ปญั หา วางแผนดําเนินการแก้ปัญหา ศกึ ษาความรู้ด้าน วิทยาการคอมพิวเตอร์ ส่ือดจิ ทิ ัลและสารสนเทศ ศึกษาการเพมิ่ มูลค่าให้บริการหรือผลิตภัณฑ์ ศกึ ษา แนวทางการเก็บข้อมลู และจัดเตรยี มข้อมลู ใหพ้ ร้อมกับการประมวลผล ศกึ ษาการวเิ คราะห์ข้อมลู ทาง สถิตศิ ึกษาวิธีการประมวลผลข้อมลู เครอ่ื งมือท่ีเกย่ี วข้องศกึ ษาวธิ ีการทําข้อมลู ให้เป็นภาพหรอื แผนภูมิ ศึกษาการเลือกใช้แหลง่ ขอ้ มลู ท่ีน่าเช่ือถือ คณุ ค่าของข้อมูลและกรณศี ึกษา ปฏิบัติการจดั ทําโครงงาน นําความรมู้ าประยกุ ต์เพือ่ สร้างหรอื พัฒนาชิ้นงานเพือ่ แก้ปญั หาหรือ อํานวยความสะดวกในการทํางานโดยการสํารวจสถานการณ์ปัญหาทส่ี นใจ ดําเนินการแก้ปญั หา ทดสอบ ประเมนิ ผลปรับปรุงแก้ไขวิธีการแก้ปญั หาหรือชิน้ งาน และนําเสนอวธิ ีการแก้ปญั หา ปฏิบัตกิ าร นําความรู้ทางด้านวิทยาการคอมพวิ เตอร์ สือ่ ดจิ ิทลั และเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใช้แก้ปญั หากับชวี ติ จรงิ ปฏิบตั กิ ารเพิ่มมลู ค่าหรือผลติ ภณั ฑ์ ปฏิบตั ิการเก็บรวบรวมข้อมลู และจัดเตรียมขอ้ มูลให้พร้อมกับการประมวลผล วิเคราะห์ข้อมลู ทางสถติ ิ ประมวลผลข้อมูล ทําข้อมูลใหเ้ ปน็ ภาพ (data visualization) ได้แก่แผนภูมิต่างๆ เช่น bar chart scatter histogram บูรณาการเชื่อมโยงความรู้และทกั ษะต่าง ๆ ประยกุ ต์ใชค้ วามรแู้ ละทักษะจากศาสตร์ต่าง ๆ รวมท้ังทรพั ยากรในการทาํ โครงงานเพ่อื แก้ปัญหาหรอื พฒั นางาน รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และใช้ ความรดู้ ้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ส่อื ดจิ ทิ ัล เทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ปญั หาหรือเพม่ิ มูลค่าให้กับ บริการหรอื ผลิตภณั ฑ์ท่ีใช้ในชีวติ จริงอย่างสรา้ งสรรค์ นําเสนอผลงานผ่าน Clip VDO คาํ ขวัญจังหวัด อ่างทอง โดยนาํ ความรู้บูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อน่ื เพ่ือแก้ปัญหาหรือพฒั นางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ เลอื กใช้เทคโนโลยอี ย่างเหมาะสมโดย คํานึงถงึ ผลกระทบต่อชีวติ สังคม และส่งิ แวดล้อม โดยรู้เทา่ ทนั และมีจริยธรรม

๓๑๒ รหัสตวั ชีว้ ดั ว ๔.๑ ม.๕/๑ ว ๔.๒ ม.๕/๑ รวมทง้ั หมด ๒ ตัวชวี้ ดั

๓๑๓ คำอธบิ ายรายวชิ า(พืน้ ฐาน) รหัสวิชา ว ๓๐๑๐๖ วิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ(เคมี) กลุม่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๖๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต ศกึ ษาเก่ยี วกับธาตุ สารประกอบในรูปอะตอมและโมเลกลุ หรอื ไอออนจากสตู รเคมี ความ เหมอื นและความแตกต่างของแบบจาํ ลองอะตอมของโบร์กับแบบจาํ ลองอะตอมแบบกลุ่มหมอก การ ระบุจาํ นวนโปรตอนนวิ ตรอนและอเิ ลก็ ตรอนของอะตอมและไอออนทเี่ กดิ จากอะตอมเดยี ว การเขยี น สัญลกั ษณ์นิวเคลยี ร์ของธาตุ การระบุไอโซโทป การบอกหมู่และคาบของธาตุ ความเป็นโลหะ อโลหะ กง่ึ โลหะ ธาตุเรพรเี ซนเททีฟ ธาตุแทรนซิชนั จากตารางธาตกุ ารระบุพันธะโคเวเลนต์ชนิดของพนั ธะเดย่ี ว พันธะคู่และพนั ธะสาม การบอกจํานวนคู่อิเล็กตรอนระหว่างอะตอมคู่รว่ มพนั ธะจากสูตรโครงสร้าง การ ระบุสภาพข้วั ของสารท่โี มเลกลุ ประกอบด้วย ๒ อะตอม การเกดิ พนั ธะไฮโดรเจนจากสตู รโครงสร้าง การ อธบิ ายความสมั พนั ธ์ระหว่างจุดเดอื ดของสารโคเวเลนต์กับแรงดงึ ดูดระหว่าง โมเลกุลตามสภาพขวั้ หรือ การเกดิ พนั ธะไฮโดรเจน การเขยี นสูตรเคมีของไอออนและสารประกอบไอออนกิ การระบุสารละลายทไี่ ด้ เปน็ สารละลายอิเล็กโทรไลต์หรือนอนอเิ ล็กโทรไลต์ ความเป็นกรด-เบสจากโครงสรา้ งของสารประกอบ อินทรีย์ สมบัติการละลายในตวั ทําละลายชนิดต่างๆของสาร การบอกประเภทของสารประกอบอินทรีย์ อม่ิ ตวั หรอื ไม่อ่ิมตัวจากสตู รโครงสร้าง การเปรยี บเทยี บสมบตั ทิ างกายภาพระหว่างพอลิเมอร์และมอนอ เมอรก์ ารระบุสตู รเคมีของสารต้งั ต้นสารผลิตภณั ฑ์การแปลความหมายของสญั ลักษณ์ในสมการเคมีของ ปฏิกิริยาเคมีการอธบิ ายผลของความเข้มขน้ พ้นื ท่ผี ิว อุณหภมู ิและตัวเร่งปฏิกริ ยิ าทม่ี ีผลต่ออัตราการ เกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมปี ัจจัยท่มี ผี ลต่ออัตราการเกิดปฏกิ ิริยาเคมีที่ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจําวนั หรือใน อุตสาหกรรม ความหมายของปฏิกิริยารดี อกซ์สมบตั ขิ องสารกมั มันตรังสกี ารคํานวณคร่ึงชวี ิต และ ปริมาณของสารกัมมนั ตรังสปี ระโยชน์ของสารกมั มันตรงั สแี ละการป้องกันอันตรายท่เี กดิ จาก กมั มนั ตภาพรังสี โดยใช้ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพอื่ ฝึกทกั ษะ ระบุ เปรียบเทียบ เขยี น สัญลักษณ์ สบื ค้นขอ้ มูล นําเสนอตวั อย่าง อธบิ าย เขยี นสตู รเคมี วิเคราะห์ และทดลอง

๓๑๔ เพอื่ ให้เกิดความรคู้ วามเข้าใจ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างถกู ตอ้ ง เกดิ ความสามารถในการคดิ สามารถสื่อสารส่ิงทเี่ รยี นรู้ มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ นําความรู้ไปใช้ใน ชวี ติ ประจาํ วัน มจี ติ วิทยาศาสตร์ คุณธรรม และค่านยิ มทเ่ี หมาะสม (มตี อ่ ) รหัสตวั ชวี้ ัด ว ๒.๑ ม.๕/๑, ม.๕/๒, ม.๕/๓, ม.๕/๔, ม.๕/๕ , ม.๕/๖, ม.๕/๗, ม.๕/๘, ม.๕/๙, ม.๕/๑๐, ม.๕/๑๑, ม.๕/๑๒, ม.๕/๑๓, ม.๕/๑๔, ม.๕/๑๕, ม.๕/๖, ม.๕/๑๗, ม.๕/๑๘, ม.๕/๑๙, ม.๕/๒๐, ม.๕/๒๑, ม.๕/๒๒, ม.๕/๒๓, ม.๕/๒๔, ม.๕/๒๕ ว ๔.๑ ม.๕/๑ รวมทง้ั หมด ๒๕ ตัวชี้วัด

๓๑๕ คำอธบิ ายรายวิชา(พื้นฐาน) รหัสวิชา ว ๓๐๑๑๑ วิชาวิทยาการคำนวณ กล่มุ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๖ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๒๐ ช่วั โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ ศกึ ษาเทคโนโลยสี ารสนเทศในการนําเสนอ เทคโนโลยเี กิดใหม่แนวโน้มในอนาคตการ เปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยีนวตั กรรมหรือเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ ท่เี กยี่ วข้องกบั ชีวิตประจําวันเช่น automation robotระบบ smart ต่างๆเทคโนโลยไี ร้คนขับอาชพี เกีย่ วกับเทคโนโลยีสารสนเทศ และ ผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศต่อการดาํ เนนิ ชวี ติ อาชีพ สังคม และวฒั นธรรมความเท่าเทียมทาง สังคมการสอ่ื สารทส่ี ะดวกและดขี ึน้ การเผยแพร่และการกลืน ของวัฒนธรรมพฤติกรรมการอ่าน และการเขยี นที่เปล่ยี นไป ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อ อาชีพอืน่ ๆใช้ความรดู้ ้านการนาํ เสนอและแบ่งปันขอ้ มูล เช่น การเขียนบลอ็ ก อปั โหลดวดิ ีโอ ภาพอนิ โฟ กราฟกิ ในการนําเสนอและแบ่งปันขอ้ มูลอย่างปลอดภัยเช่น ระมดั ระวงั ผลกระทบท่ีตามมา เมื่อมกี าร แบ่งปันขอ้ มูลหรือเผยแพร่ข้อมูล โดยไม่สร้างความเดอื ดร้อนต่อตนเองและผู้อน่ื บูรณาการเช่อื มโยงความรู้และทักษะต่าง ๆ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนาํ เสนอ และ แบ่งปันขอ้ มลู อย่างปลอดภัย มีจริยธรรม และวเิ คราะห์การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยสี ารสนเทศทมี่ ีผลต่อ การดาํ เนนิ ชีวติ อาชีพสงั คม และวฒั นธรรม นาํ เสนอผลงานผ่านวีดที ัศน์ทอ่ งเทีย่ วเชงิ อนรุ ักษ์ จังหวดั อ่างทอง โดยนําความรู้บรู ณาการกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น เหน็ คณุ ค่าและมเี จตคติท่ีดีต่อวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีด้านสารสนเทศ สามารถ ทํางานไดอ้ ย่างเปน็ ระบบ มีระเบียบ รอบคอบมีจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและแบ่งปัน ข้อมูลอย่างปลอดภัย มีจริยธรรม และวิเคราะห์การเปล่ยี นแปลงเทคโนโลยสี ารสนเทศทมี่ ีผลต่อการ ดาํ เนินชีวติ อาชพี สังคม และวัฒนธรรม รหัสตวั ชี้วัด ว ๔.๒ ม.๖/๑ รวมทง้ั หมด ๑ ตวั ช้ีวัด

๓๑๖ คำอธิบายรายวิชา(พื้นฐาน) รหัสวิชา ว ๓๐๑๐๘ วิชาโลกดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ กลุม่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๖ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ อธิบาย ระบสุ าเหตุ การกําเนิดและการเปลี่ยนแปลงพลงั งานสสาร ขนาด อณุ หภมู ขิ องเอก ภพหลังเกิดบิกแบงในช่วงเวลาต่าง ๆ ตามววิ ัฒนาการของเอกภพ หลกั ฐานทีส่ นบั สนุนทฤษฎบี ิกแบง จากความสัมพนั ธ์ระหว่างความเรว็ กับระยะทางของกาแล็กซีรวมทั้งข้อมลู การค้นพบไมโครเวฟพื้น หลงั จากอวกาศ โครงสร้างและองค์ประกอบของกาแล็กซที างช้างเผือก และระบุตําแหน่งของระบบ สรุ ิยะ กระบวนการเกิดดาวฤกษ์ ปัจจัยท่ีส่งผลต่อความส่องสว่างของดาวฤกษ์ความสัมพันธ์ระหว่าง ความสอ่ งสว่างกับโชตมิ าตรของดาวฤกษ์ สีอุณหภมู ิผวิ และสเปกตรัมของดาวฤกษ์ ลําดับวิวัฒนาการที่ สัมพันธ์กบั มวลตั้งต้น และวเิ คราะห์การเปล่ียนแปลงสมบตั ิบางประการของดาวฤกษ์ กระบวนการเกดิ ระบบสรุ ยิ ะ การแบ่งเขตบริวารของดวงอาทิตย์ ลักษณะของดาวเคราะห์ที่เอื้อต่อการดาํ รงชวี ติ โครงสร้างของดวงอาทติ ย์การเกิดลมสรุ ิยะ พายุสุรยิ ะ การแบ่งช้นั และสมบตั ิของโครงสร้างโลก ยกตวั อย่างข้อมลู ทีส่ นับสนุนหลกั ฐานทางธรณีวทิ ยาที่สนบั สนนุ การเคลอ่ื นทข่ี องแผ่นธรณรี ูปแบบแนว รอยต่อของแผ่นธรณีท่ีสัมพันธ์กับการเคลื่อนท่ีของแผ่นธรณี หลกั ฐานทางธรณีวทิ ยาที่พบกระบวนการ เกดิ ภเู ขาไฟระเบดิ แผ่นดนิ ไหว รวมทั้งสบื ค้นขอ้ มลู พืน้ ทเี่ สยี่ งภยั ออกแบบ นําเสนอแนวทางการเฝ้า ระวงั และการปฏิบตั ิตนให้ปลอดภยั ปจั จัยสาํ คญั ทีม่ ผี ลต่อการไดร้ ับพลงั งานจากดวงอาทติ ย์แตกต่างกัน ในแต่ละบรเิ วณของโลกการหมุนเวียนของอากาศ ท่เี ป็นผลมาจากความแตกต่างของความกดอากาศ ทิศ ทางการเคลื่อนที่ของอากาศ ทเ่ี ป็นผลมาจากการหมุนรอบตัวเองของโลก การหมนุ เวียนของอากาศตาม เขตละตจิ ดู และผลท่มี ตี ่อภมู ิอากาศ ปจั จัยท่ที าํ ใหเ้ กิดการหมนุ เวยี นของนํา้ ผวิ หน้าในมหาสมุทร และ รปู แบบการหมนุ เวยี นของนํ้าผวิ หน้าในมหาสมทุ ร ผลของการหมนุ เวยี นของอากาศและน้ําผวิ หน้าใน มหาสมุทรทมี่ ีต่อลักษณะภูมอิ ากาศ ลมฟ้าอากาศ สิง่ มีชวี ติ และสิ่งแวดล้อมปัจจัยท่ีมผี ลต่อการ เปลีย่ นแปลงภูมอิ ากาศของโลก พร้อมท้ังนําเสนอแนวปฏบิ ัตเิ พอ่ื ลดกิจกรรมของมนษุ ย์ท่ีส่งผลต่อการ เปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกแปลความหมายสัญลกั ษณ์ลมฟ้าอากาศทส่ี าํ คญั จากแผนทอี่ ากาศ และนาํ ข้อมลู สารสนเทศต่าง ๆ มาวางแผนการดําเนินชวี ติ ให้สอดคล้องกบั สภาพลมฟ้าอากาศ

๓๑๗ สืบคน้ ขอ้ มลู อธิบายการสํารวจอวกาศ โดยใช้กลอ่ งโทรทรรศน์ในช่วงความยาวคลื่นต่าง ๆ ดาวเทียมยานอวกาศ สถานีอวกาศ และนําเสนอแนวคิดการนําความรู้ทางด้านเทคโนโลยอี วกาศมา ประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจําวนั หรือในอนาคต ข้อมูลพื้นทเี่ สยี่ งภัย ออกแบบและนําเสนอแนวทางการเฝ้า ระวงั และการปฏิบตั ติ นให้ปลอดภยั รหัสตวั ชว้ี ดั ว ๓.๑ ม.๖/๑ , ม.๖/๒ ,ม.๖/๓ , ม.๖/๔ , ม.๖/๕ , ม.๖/๖ , ม.๖/๗ , ม.๖/๘ , ม.๖/๙ , ม. ๖/๑๐ ว ๓.๒ ม.๖/๑ , ม.๖/๒ ,ม.๖/๓ , ม.๖/๔ , ม.๖/๕ , ม.๖/๖ , ม.๖/๗ , ม.๖/๘ , ม.๖/๙ , ม. ๖/๑๐ ม.๖/๑๑ , ม.๖/๑๒ ,ม.๖/๑๓ , ม.๖/๑๔ รวมทง้ั หมด ๒๔ ตวั ชวี้ ัด

๓๑๘ คำอธิบายรายวชิ า(เพ่มิ เติม) รหัสวชิ า ว ๓๐๒๐๑ วิชาฟิสิกส์๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๔ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง จำนวน ๒.๐ หน่วยกิต ศึกษาวเิ คราะห์ประเด็นความรู้ องค์ความรู้ และทฤษฎคี วามรู้ เกี่ยวกบั ธรรมชาตแิ ละ ขอบเขตของวชิ าฟิสกิ ส์ ธรรมชาตขิ องการวัด ความผิดพลาดในการวดั และการฝึกปฏิบัติเบ้อื งต้น เกย่ี วกับการวัด สามารถบอกตําแหน่งวัตถแุ ละวธิ กี ารบอกสภาพการเคลื่อนทข่ี องวตั ถุ ความสัมพันธ์ ระหว่างปริมาณต่างๆ ที่เก่ียวข้องกับการเคล่ือนที่ในหน่ึงมติ ิกฎการเคล่ือนทขี่ องนิวตนั และกฎแรงดงึ ดดู ระหว่างมวล หลักการสมดุลของแรงและเงอื่ นไขที่ทาํ ให้เกิดสมดุล โดยใช้กระบวนทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสงั เกต การวดั การสํารวจ ตรวจสอบการสบื ค้นขอ้ มูล บันทกึ จดั กระทาํ ข้อมลู อภิปรายและสรปุ ผลเพอื่ ให้เกิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถนาํ เสนอสอ่ื สารสง่ิ ทเ่ี รยี นรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจเห็นคณุ ค่าของการนํา ความรไู้ ปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาํ วัน จิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรมคุณธรรมและค่านยิ มทเี่ หมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. สบื คน้ และอธบิ ายการค้นหาความรู้ทางฟิสิกส์ ประวัติความเป็นมา รวมท้ังพฒั นาการ ของหลักการและแนวคิดทางฟิสิกส์ทีม่ ีผลต่อการแสวงหาความรู้ใหม่และการพฒั นาเทคโนโลยี ๒. วัด และรายงานผลการวดั ปรมิ าณทางฟิสิกส์ได้ถูกต้องเหมาะสม โดยนาํ ความ คลาดเคลอื่ นในการวัดมาพจิ ารณาในการนาํ เสนอผล รวมท้ังแสดงผลการทดลองในรูปของกราฟ วเิ คราะห์และแปลความหมายจากกราฟเส้นตรง ๓. ทดลอง และอธิบายความสมั พนั ธ์ระหว่างตาํ แหนง่ การกระจัด ความเรว็ และความเร่ง ของการเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถุในแนวตรงท่มี คี วามเร่งคงตัวจากกราฟและสมการ รวมทงั้ ทดลองหาคา่ ความเรง่ โน้มถ่วงของโลกและคาํ นวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวขอ้ ง ๔. ทดลอง และอธิบายการหาแรงลพั ธ์ของแรงสองแรงท่ที ํามุมต่อกัน

๓๑๙ ๕. เขียนแผนภาพของแรงทีก่ ระทาํ ต่อวัตถอุ ิสระทดลอง และอธิบายกฎการเคลอ่ื นท่ขี องนิว ตนั และการใช้กฎการเคล่อื นท่ีของนวิ ตนั กับสภาพการเคลือ่ นท่ขี องวัตถุ รวมทง้ั คํานวณปริมาณต่าง ๆท่ี เกย่ี วขอ้ ง ๖. อธบิ ายกฎความโน้มถว่ งสากลและผลของสนามโน้มถ่วงทีท่ าํ ใหว้ ัตถุมีน้ําหนัก รวมท้ัง คํานวณปรมิ าณต่าง ๆ ทเ่ี ก่ียวข้อง ๗. วิเคราะห์ อธบิ าย และคํานวณแรงเสยี ดทานระหว่างผวิ สมั ผัสของวตั ถุคู่หน่งึ ๆ ในกรณี ท่วี ตั ถุหยุดน่งิ และวตั ถเุ คลือ่ นที่ รวมทั้งทดลองหาสมั ประสทิ ธ์คิ วามเสยี ดทานระหว์างผวิ สัมผสั ของวตั ถุคู่ หนึง่ ๆ และนําความรู้เรอ่ื งแรงเสียดทานไปใช้ในชวี ติ ประจําวัน ๘. อธิบายสมดุลกลของวตั ถุ โมเมนต์ และผลรวมของโมเมนต์ที่มีต่อการหมุน แรงคู่ควบ และผลของแรงคู่ควบที่มีต่อสมดลุ ของวตั ถุ เขยี นแผนภาพของแรงท่กี ระทาํ ต่อวัตถุอิสระเมอื่ วตั ถอุ ยู่ใน สมดลุ กล และคํานวณปริมาณต่าง ๆทีเ่ ก่ียวข้อง รวมท้ังทดลองและอธิบายสมดุลของแรงสามแรง ๙. สงั เกต และอธบิ ายสภาพการเคล่ือนทข่ี องวัตถเุ มอ่ื แรงทีก่ ระทําต่อวัตถผุ ่านศูนยก์ ลาง มวลของวัตถุ และผลของศูนย์ถ่วงทม่ี ีต่อเสถียรภาพของวตั ถุ รวมทง้ั หมด ๙ ผลการเรียนรู้

๓๒๐ คำอธบิ ายรายวิชา(เพิม่ เติม) รหสั วิชา ว ๓๐๒๐๒ วิชาฟสิ กิ ส์๒ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๘๐ ชั่วโมง จำนวน ๒.๐ หนว่ ยกติ ศกึ ษาวิเคราะห์ประเดน็ ความรู้องค์ความรู้และทฤษฎคี วามรู้ เกีย่ วกบั งาน พลงั งาน กําลัง การ ได้เปรยี บเชิงกลและประสิทธิภาพของเครอ่ื งผ่อนแรง พลังงานกล กฎการอนรุ กั ษ์พลงั งาน โมเมนตัมของ วตั ถุ แรงดลการดล กฎการอนุรกั ษ์โมเมนตัม การเคล่ือนทแ่ี บบโพรเจกไทล์ การเคล่อื นทใ่ี นแนววงกลม โดยใช้กระบวนทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสังเกต การวัด การสาํ รวจ ตรวจสอบการสืบค้นขอ้ มูล บันทกึ จัดกระทาํ ข้อมลู อภปิ รายและสรุปผล เพื่อให้เกดิ ความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถนําเสนอสื่อสารสง่ิ ทเี่ รียนรู้ มคี วามสามารถ ในการตัดสนิ ใจเห็นคณุ ค่าของการนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจาํ วัน จิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและค่านยิ มทเี่ หมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. วิเคราะห์ และคาํ นวณงานของแรงคงตวั จากสมการและพ้นื ทีใ่ ต้กราฟความสัมพันธ์ระหว่าง แรงกับตําแหน่ง รวมทั้งอธิบาย และคํานวณกาํ ลังเฉลย่ี ๒. อธบิ าย และคาํ นวณพลังงานจลน์ พลงั งานศักย์ พลังงานกล ทดลองหาความสมั พันธ์ ระหว่างงานกับพลงั งานจลน์ ความสัมพนั ธ์ระหว่างงานกบั พลังงานศักย์โน้มถ่วง ความสมั พนั ธ์ระหว่าง ขนาดของแรงที่ใช้ดงึ สปรงิ กับระยะทสี่ ปริงยดื ออกและความสมั พันธ์ระหว่างงานกับพลังงานศักย์ยืดหยุ่น รวมท้ังอธบิ ายความสมั พันธ์ระหว่างงานของแรงลัพธ์ และพลังงานจลน์ และคาํ นวณงานทีเ่ กดิ ขึ้นจาก แรงลพั ธ์ ๓. อธิบายกฎการอนุรกั ษ์พลังงานกล รวมทั้งวิเคราะห์ และคํานวณปรมิ าณต่าง ๆ ทีเ่ ก่ยี วข้อง กบั การเคลื่อนที่ของวัตถใุ นสถานการณ์ต่าง ๆ โดยใช้กฎการอนุรักษ์พลังงานกล

๓๒๑ ๔. อธบิ ายการทํางาน ประสิทธิภาพและการได้เปรียบเชิงกลของเคร่ืองกลอย่างงา่ ยบางชนิด โดยใชค้ วามรู้เร่ืองงานและสมดลุ กล รวมท้ังคํานวณประสทิ ธภิ าพและการได้เปรียบเชงิ กล ๕. อธบิ าย และคาํ นวณโมเมนตัมของวัตถุ และการดลจากสมการและพืน้ ที่ใต้กราฟ ความสัมพันธ์ระหว่างแรงลัพธ์กับเวลา รวมท้งั อธิบายความสมั พนั ธ์ระหว่างแรงดลกบั โมเมนตัม ๖. ทดลอง อธบิ าย และคาํ นวณปรมิ าณต่าง ๆ ทีเ่ กี่ยวกับการชนของวัตถุในหน่ึงมติ ิ ท้งั แบบ ยืดหยุ่น ไมย่ ืดหยุ่น และการดีดตวั แยกจากกนั ในหน่ึงมติ ิซงึ่ เปน็ ไปตามกฎการอนุรกั ษ์โมเมนตัม ๗. อธบิ าย วเิ คราะห์ และคาํ นวณปรมิ าณต่าง ๆ ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกับการเคลอ่ื นท่ีแบบโพรเจกไทล์ และทดลองการเคล่อื นทแ่ี บบโพรเจกไทล์ ๘. ทดลอง และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างแรงสู่ศนู ย์กลาง รัศมีของการเคล่ือนทอี่ ัตราเร็วเชงิ เสน้ อตั ราเร็วเชิงมุม และมวลของวัตถุ ในการเคล่อื นที่แบบวงกลมในระนาบระดับ รวมท้งั คํานวณ ปริมาณต่าง ๆ ท่ีเกย่ี วขอ้ ง และประยกุ ต์ใชค้ วามรู้การเคลอ่ื นท่ีแบบวงกลมในการอธบิ ายการโคจรของ ดาวเทียม รวมทง้ั หมด ๘ ผลการเรียนรู้

๓๒๒ คำอธบิ ายรายวิชา(เพ่ิมเติม) รหสั วิชา ว ๓๐๒๐๓ วิชา ฟสิ ิกส์๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๘๐ ชว่ั โมง จำนวน ๒.๐ หน่วยกิต ศกึ ษาวเิ คราะห์การเคล่ือนที่แบบฮาร์มอนกิ อย่างง่ายของวตั ถตุ ดิ ปลายสปรงิ และลกู ตุ้มอย่าง งา่ ย ความถี่ธรรมชาตขิ องวัตถุและการเกิดการสนั่ พ้อง การถ่ายโอนพลงั งานของคลื่นกล คลน่ื ผวิ นํา้ การ ซอ้ นทับของคลืน่ สมบัติของคลื่น คล่ืนน่งิ ธรรมชาติของเสียง อตั ราเร็วของเสยี ง การเคล่ือนทข่ี องคลื่น เสยี ง ความเข้มเสียงและการได้ยนิ เสยี งดนตรี บีตส์และคลน่ื นิ่งของเสียง ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์และ คล่นื กระแทก การประยกุ ต์ความรู้เรอ่ื งเสียง การแทรกสอด การเลย้ี วเบนของแสง เกรตติง การกระเจิง ของแสง การเคลือ่ นทแ่ี ละอตั ราเร็วของแสง การสะท้อนของแสง การหกั เหของแสง เลนส์บาง ปรากฏการณ์ที่เก่ียวขอ้ งกับแสง ทัศนอปุ กรณ์ ความสว่าง การถนอมสายตา ตาและการมองเห็นสี และสี ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในการสบื เสาะหาความรู้ การสาํ รวจตรวจสอบ การสืบคน้ ขอ้ มลู และการอภปิ ราย เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจ นาํ ความรู้ไปใช้ในชีวิตประจําวนั มีจติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรมและค่านิยมทเ่ี หมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. ทดลอง และอธิบายการเคลือ่ นที่แบบฮารม์ อนิกอย่างง่ายของวัตถุติดปลายสปริงและลูกตุ้มอย่างง่าย รวมทง้ั คาํ นวณปรมิ าณต่าง ๆ ที่เกี่ยวขอ้ ง ๒. อธิบายความถ่ีธรรมชาติของวัตถแุ ละการเกิดการสั่นพ้อง ๓. อธบิ ายปรากฏการณ์คล่ืน ชนิดของคล่ืนส่วนประกอบของคล่ืน การแผ่ของหน้าคลนื่ ด้วยหลักการของ ฮอยเกนส์ และการรวมกนั ของคล่ืนตามหลักการซอ้ นทับ พร้อมทั้งคาํ นวณอัตราเรว็ ความถ่ีและความ ยาวคลนื่

๓๒๓ ๔. สงั เกต และอธบิ ายการสะท้อน การหักเหการแทรกสอด และการเลีย้ วเบนของคลื่นผิวนํา้ รวมทงั้ คํานวณปริมาณต่าง ๆ ท่เี กย่ี วข้อง ๕. อธบิ ายการเกิดเสียง การเคล่ือนทขี่ องเสียงความสัมพนั ธ์ระหว่างคลน่ื การกระจัดของอนภุ าคกบั คลน่ื ความดันความสมั พันธ์ระหว่างอตั ราเร็วของเสียงในอากาศทีข่ ึ้นกับอณุ หภูมใิ นหน่วยองศาเซลเซยี ส สมบตั ิของคล่ืนเสยี งได้แก่การสะท้อน การหกั เห การแทรกสอดการเล้ยี วเบน รวมทงั้ คาํ นวณปริมาณต่าง ๆท่ีเกี่ยวขอ้ ง ๖. อธิบายความเข้มเสยี ง ระดบั เสียง องค์ประกอบของการได้ยิน คุณภาพเสยี ง และมลพิษทางเสียง รวมท้งั คํานวณปรมิ าณต่าง ๆ ทีเ่ กี่ยวขอ้ ง ๗. ทดลอง และอธิบายการเกดิ การส่ันพ้องของอากาศในท่อปลายเปิดหน่ึงด้าน รวมท้งั สงั เกตและ อธบิ ายการเกิดบตี ส์ คลนื่ นิ่ง ปรากฏการณด์ อปเพลอร์ คลน่ื กระแทกของเสยี ง คํานวณปรมิ าณต่าง ๆ ที่ เกี่ยวขอ้ งและนําความรู้เร่อื งเสยี งไปใช้ในชวี ติ ประจาํ วัน ๘. ทดลอง และอธบิ ายการแทรกสอดของแสงผ่านสลิตคู่และเกรตติง การเลี้ยวเบนและการแทรกสอด ของแสงผ่านสลติ เด่ยี วรวมทงั้ คาํ นวณปริมาณต่าง ๆ ที่เก่ยี วข้อง ๙. ทดลอง และอธิบายการสะท้อนของแสงทีผ่ วิ วตั ถตุ ามกฎการสะท้อน เขียนรงั สขี องแสงและคํานวณ ตาํ แหน่งและขนาดภาพของภาพ เมอ่ื แสงตกกระทบกระจกเงาราบและกระจกเงาทรงกลมรวมทง้ั อธิบาย การนําความรู้เรือ่ งการสะท้อนของแสงจากกระจกเงาราบ และกระจกเงาทรงกลมไปใช้ประโยชนใ์ น ชวี ิตประจําวนั ๑๐.ทดลอง และอธบิ ายความสัมพันธ์ระหว่างดรรชนีหกั เห มุมตกกระทบ และมุมหกั เหรวมทงั้ อธบิ าย ความสมั พนั ธ์ระหว่างความลกึ จริงและความลึกปรากฏ มมุ วิกฤตและการสะท้อนกลับหมดของแสง และ คาํ นวณปริมาณต่าง ๆ ทเี่ กีย่ วข้อง ๑๑.ทดลอง และเขยี นรงั สขี องแสงเพ่ือแสดงภาพทเ่ี กดิ จากเลนส์บาง หาตาํ แหน่ง ขนาด ชนิดของภาพ และความสัมพันธ์ระหว่างระยะวัตถรุ ะยะภาพและความยาวโฟกสั รวมท้งั คํานวณปริมาณต่าง ๆ ที่ เกี่ยวขอ้ ง และอธิบายการนาํ ความรู้เรื่องการหักเหของแสงผ่านเลนส์บางไปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจําวนั ๑๒. อธบิ ายปรากฏการณ์ธรรมชาติท่เี กีย่ วกับแสง เช่น รุ้ง การทรงกลด มริ าจ และการเห็นท้องฟ้าเปน็ สี ต่าง ๆ ในช่วงเวลาต่างกัน

๓๒๔ ๑๓. สงั เกต และอธบิ ายการมองเห็นแสงสีสขี องวัตถุ การผสมสารสแี ละการผสมแสงสรี วมท้งั อธบิ าย สาเหตุของการบอดสี รวมทง้ั หมด ๑๓ ผลการเรียนรู้

๓๒๕ คำอธบิ ายรายวิชา(เพิม่ เติม) รหสั วิชา ว ๓๐๒๐๔ วิชา ฟิสกิ ส์๔ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๘๐ ชั่วโมง จำนวน ๒.๐ หนว่ ยกิต ศึกษา วเิ คราะห์แรงไฟฟ้าและกฎของคูลอมบ์สนามไฟฟ้า ศักย์ไฟฟ้า ความจไุ ฟฟ้า กระแสไฟฟ้าและกฎของโอห์ม วงจรไฟฟ้ากระแสตรง พลังงานไฟฟ้าและกาํ ลงั ไฟฟ้าการเปลย่ี นพลังงาน ทดแทนเป็นพลงั งานไฟฟ้าสนามแมเ่ หล็ก แรงแม่เหลก็ ท่ีกระทํากับประจุไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้า การ เหนีย่ วนาํ แม่เหล็กไฟฟ้าและกฎของฟาราเดย์ ไฟฟ้ากระแสสลบั คลน่ื แม่เหล็กไฟฟ้าและการส่ือสาร รวมทั้งนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ ใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ในการสืบเสาะหาความรู้ การสาํ รวจตรวจสอบ การสบื ค้น ข้อมลู และการอภิปราย เพ่ือให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสือ่ สารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ นําความรู้ไปใช้ในชวี ิตประจําวนั มจี ติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและค่านยิ มท่ีเหมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. ทดลองและอธบิ ายการทําวัตถทุ ี่เป็นกลางทางไฟฟ้าให้มีประจุไฟฟ้าโดยการขดั สกี ันและการเหนย่ี วนํา ไฟฟ้าสถติ ๒. อธิบาย และคาํ นวณแรงไฟฟ้าตามกฎของคูลอมบ์ ๓. อธบิ าย และคาํ นวณสนามไฟฟ้าและแรงไฟฟ้าที่กระทํากับอนภุ าคที่มีประจุไฟฟ้าท่อี ยู่ในสนามไฟฟ้า รวมท้งั หาสนามไฟฟ้าลัพธ์เนือ่ งจากระบบจดุ ประจุโดยรวมกนั แบบเวกเตอร์ ๔. อธิบาย และคํานวณพลงั งานศักย์ไฟฟ้า ศักยไ์ ฟฟ้าและความต่างศักยร์ ะหว่างสองตําแหน่งใด ๆ ๕. อธิบายส่วนประกอบของตวั เกบ็ ประจุ ความสัมพันธ์ระหว่างประจไุ ฟฟ้า ความต่างศกั ย์และความจุ ของตวั เกบ็ ประจุ และอธิบายพลงั งานสะสมในตวั เก็บประจุ และความจสุ มมลู รวมทั้งคาํ นวณปรมิ าณ ต่าง ๆ ทีเ่ กย่ี วข้อง

๓๒๖ ๖. นําความรู้เรอื่ งไฟฟ้าสถติ ไปอธบิ ายหลักการทํางานของเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด และปรากฏการณ์ใน ชีวติ ประจําวัน ๗. อธิบายการเคลอื่ นที่ของอิเลก็ ตรอนอิสระและกระแสไฟฟ้าในลวดตวั นํา ความสมั พันธ์ระหว่าง กระแสไฟฟ้าในลวดตัวนํากับความเร็วลอยเล่อื นของอเิ ล็กตรอนอิสระ ความหนาแน่นของอิเล็กตรอนใน ลวดตัวนาํ และพืน้ ท่หี น้าตัดของลวดตวั นาํ และคาํ นวณปริมาณต่าง ๆ ทเี่ กย่ี วข้อง ๘. ทดลอง และอธบิ ายกฎของโอห์ม อธบิ ายความสัมพันธ์ระหว่างความต้านทานกับความยาว พืน้ ทห่ี น้าตัด และสภาพต้านทานของตัวนาํ โลหะทอ่ี ณุ หภูมิคงตวั และคํานวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกยี่ วขอ้ ง รวมทงั้ อธิบายและคํานวณความต้านทานสมมูล เม่ือนําตวั ต้านทานมาต่อกันแบบอนกุ รมและแบบขนาน ๙. ทดลอง อธิบาย และคํานวณอีเอม็ เอฟของแหล่งกาํ เนิดไฟฟ้ากระแสตรง รวมทั้งอธบิ ายและคาํ นวณ พลังงานไฟฟ้า และกาํ ลงั ไฟฟ้า ๑๐. ทดลองและคาํ นวณอีเอม็ เอฟสมมลู จากการต่อแบตเตอรแ่ี บบอนุกรมและแบบขนาน รวมทงั้ คํานวณปรมิ าณต่าง ๆ ทีเ่ กย่ี วข้องในวงจรไฟฟ้ากระแสตรงซ่ึงประกอบด้วยแบตเตอรแี่ ละตัวต้านทาน ๑๑. อธบิ ายการเปล่ยี นพลังงานทดแทนเป็นพลงั งานไฟฟ้า รวมทั้งสบื ค้นและอภิปรายเกยี่ วกับ เทคโนโลยี ที่นํามาแก้ปัญหาหรือตอบสนองความต้องการทางด้านพลงั งานไฟฟ้า โดยเน้นด้าน ประสทิ ธภิ าพและความคุ้มค่าดา้ นค่าใช้จา่ ย รวมทง้ั หมด ๑๑ ผลการเรียนรู้

๓๒๗ คำอธิบายรายวิชา(เพ่ิมเติม) รหัสวิชา ว ๓๐๒๐๕ วิชา ฟิสกิ ส์๕ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๘๐ ชว่ั โมง จำนวน ๒ หน่วยกติ ศกึ ษาหลักการและสมบัตขิ องสสาร ความร้อน การเปลีย่ นสถานะของสาร การถ่ายโอน พลังงานความร้อนตามกฎการอนรุ กั ษ์พลังงาน สภาพยืดหยุ่นและลักษณะการยดื ,หดตวั ของวสั ดเุ มอ่ื ถกู แรงกระทํา ความเค่นความเครยี ด มอดลุ สั ของยงั และประยกุ ต์ใชค้ วามรู้เรอื่ งสภาพยดื หยุ่นใน ชีวิตประจาํ วัน ศกึ ษาความดนั ประเภทต่างๆ หลกั การทาํ งานของอุปกรณ์วดั ความดนั และกฎของพาส คลั แรงพยุงจากของไหลและหลกั อาร์คิมดี ีสความตงึ ผวิ การเคลอ่ื นที่ในของไหล และหลักแบร์นูลลีแก๊ส อดุ มคติทฤษฎีจลน์ของแก๊ส กฎของแกส๊ และพลังงานภายในระบบของแก๊ส โดยใช้การสบื เสาะหาความรู้ การสํารวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และ ทกั ษะการเรียนรู้ ในศตวรรษท่ี ๒๑ การสืบคน้ ขอ้ มูลและการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคดิ ความ เขา้ ใจ สามารถสอื่ สารสิ่งทเี่ รยี นรู้ มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจ การแก้ปญั หา การนาํ ความรู้ไปใช้ใน ชีวติ ประจําวัน มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มท่เี หมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. อธบิ ายและคํานวณความร้อนท่ที ําให้สสารเปลี่ยนอณุ หภมู ิ ความร้อนที่ทาํ ใหส้ สารเปล่ียนสถานะ และความรอ้ นทเ่ี กิดจากการถ่ายโอนตามกฎการอนรุ กั ษ์พลังงาน ๒. อธบิ ายสภาพยดื หยุ่นและลักษณะการยดื และหดตัวของวัสดทุ ่เี ป็นแท่งเม่อื ถกู กระทาํ ด้วยแรงคา่ ตา่ ง ๆรวมท้งั ทดลอง อธบิ ายและคาํ นวณความเค้นตามยาว ความเครียดตามยาว และมอดลุ ัสของยงั และ นําความรเู้ ร่ืองสภาพยืดหยุ่นไปใชใ้ นชีวิตประจําวนั ๓. อธิบายและคํานวณความดันเกจ ความดันสัมบรู ณ์ และความดนั บรรยากาศ รวมทง้ั อธบิ ายหลักการ ทํางานของแมนอมิเตอร์ บารอมเิ ตอร์ และเคร่อื งอดั ไฮดรอลกิ ๔. ทดลอง อธบิ ายและคํานวณขนาดแรงพยงุ จากของไหล ๕. ทดลอง อธิบายและคํานวณความตงึ ผิวของของเหลว รวมทงั้ สังเกตและอธิบายแรงหนืดของของเหลว

๓๒๘ ๖. อธบิ ายสมบัติของของไหลอุดมคติ สมการความต่อเนือ่ ง และสมการแบร์นูลลี รวมท้งั คาํ นวณปรมิ าณ ต่าง ๆ ท่เี กยี่ วข้อง และนาํ ความรู้เกีย่ วกับสมการความต่อเนื่องและสมการแบร์นูลลไี ปอธิบายหลักการ ทาํ งานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ๗. อธบิ ายกฎของแก๊สอุดมคตแิ ละคาํ นวณปริมาณต่าง ๆ ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง ๘. อธบิ ายแบบจําลองของแก๊สอุดมคติ ทฤษฎจี ลน์ของแก๊ส และอัตราเร็วอาร์เอม็ เอสของโมเลกุลของ แก๊สรวมทง้ั คํานวณปรมิ าณต่าง ๆ ที่ เก่ียวข้อง ๙. อธบิ ายและคาํ นวณงานทีท่ ําโดยแก๊สในภาชนะปิดโดยความดันคงตัว และอธบิ ายความสมั พันธ์ ระหว่างความร้อน พลงั งานภายในระบบ และงาน รวมท้ังคํานวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวขอ้ ง และนํา ความรู้เรอ่ื งพลงั งานภายในระบบไปอธบิ ายหลักการทํางานของเครือ่ งใช้ในชีวิตประจําวัน รวมท้ังหมด ๙ ผลการเรียนรู้

๓๒๙ คำอธบิ ายรายวิชา(เพ่ิมเติม) รหสั วิชา ว ๓๐๒๐๖ วชิ า ฟสิ กิ ส์๖ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๖ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๘๐ ชั่วโมง จำนวน ๒.๐ หนว่ ยกติ ศึกษาเก่ยี วกับ สมมติฐานของพลงั คี่ทฤษฎอี ะตอมของโบร์และการเกดิ เส้นสเปกตรัมของ อะตอมไฮโดรเจน ปรากฏการณ์โฟโตอเิ ล็กทริกและคํานวณพลงั งานโฟตอนพลังงานจลน์ของโฟโต อเิ ล็กตรอนและฟังกช์ นั งานของโลหะ ทวภิ าวะของคลื่นและอนุภาครวมทง้ั อธบิ ายและคํานวณความยาว คล่ืนเดอบรอยล์กัมมันตภาพรงั สีและความแตกต่างของรังสแี อลฟาบตี าและแกมมา คาํ นวณกมั มนั ตภาพ ของนวิ เคลียสกัมมันตรังสรี วมทัง้ ทดลองอธิบายและคํานวณจํานวนนวิ เคลยี สกัมมนั ตภาพรังสีท่เี หลือ จากการสลายและครงึ่ ชีวติ แรงนิวเคลยี ร์เสถียรภาพของนิวเคลยี สและพลังงานยดึ เหนย่ี ว ปฏกิ ิริยา นวิ เคลียรฟ์ ิชชนั และฟิวชันรวมทงั้ คาํ นวณพลังงานนวิ เคลยี ร์ ประโยชน์ของพลังงานนวิ เคลยี ร์และรงั สรี วมท้งั อันตรายและการป้องกนั รงั สีในด้านต่างๆ การ คน้ คว้าวิจยั ด้านฟิสิกส์อนภุ าคแบบจําลองมาตรฐานและการใช้ประโยชน์จากการค้นคว้าวจิ ัยด้านฟิสกิ ส์ อนุภาค ปรมิ าณต่าง ๆเก่ยี วกับกลศาสตร์ การส่ันและคล่นื กล อุณหพลศาสตร์ ไฟฟ้าแมเ่ หลก็ แสงและ ทัศนอปุ กรณ์ โดยใช้กระบวนการวิเคราะห์สบื เสาะหาความรกู้ ารสํารวจตรวจสอบ การสบื ค้นขอ้ มูล คํานวณปริมาณต่าง ๆ ทเี่ กีย่ วข้อง อธบิ าย ยกตวั อย่างการนาํ ความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจาํ วนั ผลการเรยี นรู้ ๑.อธบิ ายสมมตฐิ านของพลงั คี่ทฤษฎีอะตอมของโบร์และการเกดิ เส้นสเปกตรมั ของอะตอมไฮโดรเจน รวมทงั้ คาํ นวณปริมาณต่างๆทเ่ี กยี่ วข้อง ๒. อธิบายปรากฏการณ์โฟโตอเิ ล็กทรกิ และคํานวณพลงั งานโฟตอนพลังงานจลน์ของโฟโตอิเล็กตรอน และฟังกช์ นั งานของโลหะ ๓. อธิบายทวิภาวะของคลนื่ และอนภุ าครวมทั้งอธิบายและคํานวณความยาวคลื่นเดอบรอยล์ ๔. อธบิ ายกมั มันตภาพรงั สีและความแตกต่างของรังสแี อลฟาบตี าและแกมม่า ๕. อธบิ ายและคํานวณกัมมันตภาพของนวิ เคลียสกัมมันตรงั สรี วมท้ังทดลองอธิบายและคาํ นวณจํานวน

๓๓๐ นิวเคลยี สกมั มันตภาพรังสีท่ีเหลือจากการสลายและคร่งึ ชวี ิต ๖. อธิบายแรงนวิ เคลยี ร์เสถียรภาพของนิวเคลยี สและพลังงานยึดเหน่ียวรวมทัง้ คํานวณปรมิ าณต่างๆที่ เกี่ยวขอ้ ง ๗. อธบิ ายปฏิกริ ิยานิวเคลียร์ฟิชชันและฟวิ ชันรวมท้ังคาํ นวณพลงั งานนิวเคลียร์ ๘. อธิบายประโยชน์ของพลังงานนวิ เคลียร์และรงั สรี วมทั้งอันตรายและการป้องกันรงั สใี นด้านต่างๆ ๙. อธิบายการค้นคว้าวจิ ยั ด้านฟิสกิ ส์อนภุ าคแบบจาํ ลองมาตรฐานและการใช้ประโยชน์จากการ คน้ คว้าวิจยั ด้านฟิสกิ ส์อนภุ าคในด้านต่างๆ ๑๐. อธิบาย คาํ นวณ ปริมาณต่าง ๆ เก่ยี วกบั กลศาสตร์ ๑๑. อธิบาย คาํ นวณ ปริมาณต่าง ๆ เกยี่ วกับการสน่ั และคลื่นกล ๑๒. อธิบาย คาํ นวณ ปริมาณต่าง ๆ เก่ยี วกบั อุณหพลศาสตร์ ๑๓. อธบิ าย คาํ นวณ ปรมิ าณต่าง ๆ เกี่ยวกบั ไฟฟ้าแม่เหล็ก ๑๔. อธิบาย คํานวณ ปรมิ าณต่าง ๆ เกย่ี วกับแสงและทัศนอปุ กรณ์ รวมทง้ั หมด ๑๔ ผลการเรียนรู้

๓๓๑ คำอธิบายรายวชิ า(เพม่ิ เติม) รหสั วิชา ว ๓๑๒๒๓ วชิ า เคมี ๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๘๐ ชั่วโมง จำนวน ๒ หนว่ ยกิต ศกึ ษาเกี่ยวกับข้อปฏบิ ตั เิ บ้ืองต้น และการปฏบิ ตั ิตนในการทําปฏิบัติการเคมี แนวทางแก้ไขเมอื่ เกดิ อบุ ตั ิเหตุ อปุ กรณ์หรือเคร่ืองมอื ในการทําปฏบิ ตั ิการและวดั ปริมาณต่าง ๆ หน่วยวดั ปรมิ าณต่างๆ ของสารและเปล่ยี นหน่วยวัดให้เปน็ หน่วยในระบบเอสไอด้วยการใช้แฟกเตอร์เปล่ยี นหน่วย วธิ กี ารทาง วิทยาศาสตร์ ข้อมลู สมมติฐานการทดลองหรือผลการทดลองท่ีเป็นประจักษ์พยานในการเสนอ แบบจาํ ลองอะตอมของนกั วทิ ยาศาสตร์วิวฒั นาการ ของแบบจาํ ลองอะตอม สัญลกั ษณ์นวิ เคลยี ร์ของ ธาตุและการระบุจาํ นวนโปรตอน นิวตรอนและ อเิ ลก็ ตรอนของอะตอมจากสญั ลักษณ์นิวเคลยี ร์ ไอโซโทป การจดั เรียงอเิ ล็กตรอนในระดับพลังงานหลกั และระดบั พลงั งานยอ่ ย การระบหุ มู่คาบความเป็นโลหะอโลหะและกึง่ โลหะของธาตเุ รพรีเซนเททฟี และ ธาตแุ ทรนซชิ ันในตารางธาตุ แนวโน้มสมบตั ขิ องธาตเุ รพรเี ซนเททฟี ตามหมู่และตามคาบ สมบัติของธาตุ โลหะแทรนซิชนั การเปรียบเทียบสมบตั กิ บั ธาตโุ ลหะในกลุ่มธาตเุ รพรเี ซนเททฟี สมบตั ิและการคํานวณ คร่งึ ชวี ติ ของไอโซโทปกัมมันตรงั สตี ัวอย่างการนําธาตุ มาใช้ประโยชน์รวมทัง้ ผลกระทบต่อสง่ิ มีชวี ิตและ สงิ่ แวดล้อม การเกิดไอออนและพันธะไอออนิก โดยใช้แผนภาพหรอื สัญลกั ษณ์แบบจดุ ของลิวอิส การ เขียนสตู รและการเรียกชื่อสารประกอบไอออนกิ การคํานวณพลงั งานที่เกีย่ วข้อง กับปฏกิ ิรยิ าการเกิด สารประกอบไอออนิกจากวฏั จักรบอร์น-ฮาเบอร์ สมบัติและการเขียนสมการไอออนิกและสมการ ไอ ออนิกสุทธิของปฏิกิรยิ าของสารประกอบไอออนกิ การเกดิ พันธะโคเวเลนต์แบบพันธะเดี่ยว พันธะคู่และ พนั ธะสามด้วยโครงสร้างลวิ อิส การเขียนสตู รและเรยี กชือ่ สารโคเวเลนต์ ความยาวพนั ธะและพลังงาน พนั ธะในสารโคเวเลนต์ การคํานวณพลังงานทเ่ี กยี่ วข้องกบั ปฏิกริ ิยาของสารโคเวเลนต์จากพลงั งานพันธะ รปู ร่างโมเลกลุ โคเวเลนต์สภาพขั้วและชนิดของแรงยึดเหน่ยี วระหว่างโมเลกลุ ของโมเลกลุ โคเวเลนต์จุด หลอมเหลวจดุ เดือดและการละลายนํ้าของสารโคเวเลนต์ สมบตั ิของสารโคเวเลนต์โครงร่างตาข่ายชนิด ต่างๆ การเกดิ พนั ธะโลหะและสมบัตขิ องโลหะ การเปรียบเทียบสมบัตบิ างประการของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์และโลหะ และตวั อย่างการใช้ประโยชน์ของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์และ โลหะ

๓๓๒ โดยใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพ่อื ฝึกทกั ษะ อธบิ าย เลอื กใช้ นําเสนอแผนการ ทดลองทดลอง เขยี นรายงาน ระบุ สบื ค้นข้อมลู เขียนสัญลกั ษณ์ เขยี นการจดั เรียง วเิ คราะห์ บอก แนวโน้ม เปรียบเทยี บ คํานวณ เขยี นสตู ร เขียนสมการ คาดคะเน และนําเสนอตัวอย่าง เพอ่ื ให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ได้อย่างถกู ตอ้ ง ตระหนัก มี ความสามารถ ในการคดิ ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการแก้ปญั หา ความสามารถใน การใช้ทกั ษะชวี ิตความสามารถในการใช้เทคโนโลยไี ด้อย่างมีประสิทธภิ าพ และการนําเสนอตวั อย่างการ ใชป้ ระโยชน์ได้อย่างเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. บอกและอธบิ ายข้อปฏิบัตเิ บอื้ งต้น และปฏิบตั ิตนทีแ่ สดงถงึ ความตระหนักในการทาํ ปฏิบตั ิการเคมี เพอ่ื ให้ มีความปลอดภัยทง้ั ต่อตนเองผู้อนื่ และสง่ิ แวดล้อม และเสนอแนวทางแก้ไขเมอ่ื เกิดอบุ ัติเหตุ ๒. เลือกและใช้อปุ กรณ์หรอื เครอ่ื งมือในการทําปฏิบัตกิ ารและวัดปริมาณต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม ๓. นาํ เสนอแผนการทดลอง ทดลองและเขยี นรายงานการทดลอง ๔. ระบหุ น่วยวดั ปรมิ าณต่างๆของสารและเปลย่ี นหน่วยวัดให้เปน็ หน่วยในระบบเอสไอด้วยการใช้แฟก เตอร์เปล่ียนหน่วย ๕. สบื คน้ ขอ้ มูลสมมติฐานการทดลองหรือผลการทดลองท่ีเป็นประจกั ษ์พยานในการเสนอแบบจาํ ลอง อะตอม ของนกั วิทยาศาสตร์และอธบิ ายวิวฒั นาการของแบบจาํ ลองอะตอม ๖. เขยี นสัญลักษณ์นวิ เคลียร์ของธาตุ และระบจุ าํ นวนโปรตอนนวิ ตรอน และอเิ ลก็ ตรอนของอะตอมจาก สญั ลักษณ์นวิ เคลยี ร์รวมทัง้ บอกความหมายของไอโซโทป ๗. อธิบายและเขียนการจดั เรียงอิเล็กตรอนในระดบั พลังงานหลกั และระดับพลงั งานย่อยเมอ่ื ทราบเลข อะตอมของธาตุ ๘. ระบุหมู่คาบความเป็นโลหะอโลหะและก่งึ โลหะ ของธาตุเรพรเี ซนเททฟี และธาตแุ ทรนซิชันในตาราง ธาตุ ๙. วิเคราะห์และบอกแนวโน้มสมบตั ิของธาตเุ รพรีเซนเททฟี ตามหมู่และตามคาบ ๑๐. บอกสมบตั ิของธาตุโลหะแทรนซชิ นั และเปรียบเทยี บสมบตั ิกับธาตโุ ลหะในกลุ่มธาตเุ รพรีเซนเททีฟ

๓๓๓ ๑๑. อธบิ ายสมบตั ิและคํานวณครงึ่ ชีวติ ของไอโซโทปกมั มนั ตรงั สี ๑๒. สบื คน้ ข้อมูลและยกตัวอย่างการนําธาตมุ าใช้ประโยชน์ รวมทัง้ ผลกระทบต่อสิ่งมชี วี ติ และ ส่ิงแวดล้อม ๑๓. อธิบายการเกิดไอออนและการเกิดพันธะไอออนิก โดยใช้แผนภาพหรือสญั ลักษณ์แบบจดุ ของลวิ อิส ๑๔. เขียนสตู รและเรยี กชอ่ื สารประกอบไอออนกิ ๑๕. คํานวณพลงั งานทเ่ี กย่ี วข้องกับปฏิกิริยา การเกดิ สารประกอบไอออนิกจากวัฏจักรบอร์น-ฮาเบอร์ ๑๖. อธิบายสมบัตขิ องสารประกอบไอออนิก ๑๗. เขยี นสมการไอออนกิ และสมการไอออนิกสุทธขิ องปฏกิ ริ ิยาของสารประกอบไอออนกิ ๑๘. อธิบายการเกดิ พันธะโคเวเลนต์แบบพนั ธะเดีย่ วพนั ธะคู่ และพนั ธะสามด้วยโครงสร้างลวิ อิส ๑๙. เขียนสูตรและเรียกชอ่ื สารโคเวเลนต์ ๒๐. วิเคราะห์และเปรียบเทยี บความยาวพันธะและพลงั งานพันธะในสารโคเวเลนต์รวมท้งั คาํ นวณ พลังงานท่เี กย่ี วข้องกับปฏิกิริยาของสารโคเวเลนต์จากพลังงานพนั ธะ ๒๑. คาดคะเนรปู ร่างโมเลกุลโคเวเลนต์ โดยใช้ทฤษฎีการผลักระหว่างคู่อเิ ล็กตรอนในวงเวเลนซ์และระบุ สภาพขั้วของโมเลกลุ โคเวเลนต์ ๒๒. ระบุชนดิ ของแรงยึดเหนีย่ วระหว่างโมเลกลุ โคเวเลนต์และเปรยี บเทยี บจุดหลอมเหลวจุดเดือดและ การละลาย นํ้าของสารโคเวเลนต์ ๒๓. สบื คน้ ข้อมูลและอธบิ ายสมบตั ขิ องสารโคเวเลนต์โครงร่างตาข่ายชนดิ ต่าง ๆ ๒๔. อธบิ ายการเกิดพันธะโลหะและสมบตั ิของโลหะ ๒๕. เปรียบเทียบสมบัติบางประการของสารประกอบไอออนกิ สารโคเวเลนต์และโลหะสืบค้นข้อมูลและ นําเสนอตวั อย่างการใช้ประโยชน์ของสารประกอบ ไอออนกิ สารโคเวเลนต์และโลหะได้อย่างเหมาะสม รวมทง้ั หมด ๒๕ ผลการเรียนรู้

๓๓๔ คำอธิบายรายวชิ า(เพ่มิ เติม) รหสั วชิ า ว ๓๑๒๒๔ วชิ า เคมี ๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๘๐ ช่วั โมง จำนวน ๒ หน่วยกิต ศึกษาเกยี่ วกับมวลอะตอมของธาตุ การคํานวณมวลอะตอมเฉล่ยี ของธาตุ มวลโมเลกลุ และ มวลสูตรการอธิบายและการคํานวณปริมาณใดปริมาณหนึ่งจากความสัมพนั ธ์ของโมล จํานวนอนภุ าค มวลและปริมาตรของแก๊สที่ STP การคํานวณอตั ราส่วนโดยมวลของธาตุองค์ประกอบของสารประกอบ ตามกฎสดั ส่วนคงที่การคํานวณ สูตรอย่างงา่ ยและสตู รโมเลกุลของสาร การอธบิ ายวิธกี ารและเตรียมสารละลายให้มคี วามเขม้ ข้นใน หนว่ ยโมลารติ ีและปริมาตรสารละลาย การเปรยี บเทียบจุดเดือดและจุดเยอื กแขง็ ของสารละลายกบั สาร บริสทุ ธ์ิการคํานวณจุดเดอื ดและจดุ เยอื กแข็งของสารละลาย การแปลความหมายสัญลักษณ์ในสมการ เคมีเขียนและดุลสมการเคมขี องปฏิกริ ิยาเคมีบางชนดิ การคาํ นวณปริมาณของสารในปฏกิ ริ ยิ าเคมที ี่ เกย่ี วขอ้ งกับมวลสาร การคาํ นวณปรมิ าณของสารในปฏกิ ิรยิ าเคมีที่เกย่ี วข้องกับความเข้มขน้ ของ สารละลาย การคาํ นวณปริมาณของสารในปฏกิ ริ ิยาเคมที เี่ กยี่ วข้องกับปริมาตรแก๊ส การคาํ นวณปริมาณ ของสารในปฏิกิริยาเคมีหลายช้ันตอน การระบุสารกําหนดปริมาณ และคํานวณปริมาณสารต่างๆในปฏิกิริยาเคมี และการคํานวณผลได้ร้อยละของผลิตภัณฑใ์ นปฏิกิรยิ า เคมี โดยใช้ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เพ่ือฝึกทักษะ บอกความหมาย คาํ นวณ อธิบาย เตรียมสารละลาย เปรียบเทียบ แปลความหมาย เขียนและดลุ สมการเคมี และระบุ เพื่อให้เกิดความรคู้ วามเข้าใจ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างถูกตอ้ ง เกิด ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถใน การใช้ทักษะชวี ติ และความสามารถในการใช้เทคโนโลยไี ด้อย่างมีประสิทธภิ าพ มีการนาํ ไปใช้ประโยชน์ ในชีวติ ประจาํ วันได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม ผลการเรียนรู้

๓๓๕ ๑. บอกความหมายของมวลอะตอมของธาตุและคํานวณมวลอะตอมเฉล่ียของธาตุ มวลโมเลกลุ และ มวล สตู ร ๒. อธบิ ายและคํานวณปรมิ าณใดปรมิ าณหนง่ึ จากความสัมพนั ธ์ของโมล จาํ นวนอนภุ าค มวลและ ปริมาตร ของแก๊สท่ี STP ๓. คาํ นวณอัตราส่วนโดยมวลของธาตอุ งค์ประกอบของสารประกอบตามกฎสดั ส่วนคงที่ ๔. คาํ นวณสูตรอย่างง่ายและสูตรโมเลกลุ ของสาร ๕. คาํ นวณความเข้มขน้ ของสารละลายในหน่วยต่าง ๆ ๖. อธบิ ายวิธีการ และเตรียมสารละลายให้มีความเข้มข้นในหน่วย โมลาริตแี ละปรมิ าตรสารละลาย ตามที่กาํ หนดได้อย่างถกู ตอ้ ง ๗. เปรียบเทียบจุดเดือดและจุดเยือกแขง็ ของสารละลายกับสารบริสทุ ธ์ิรวมทั้งคํานวณจุดเดือดและ จดุ เยอื กแขง็ ของสารละลาย ๘. แปลความหมายสัญลกั ษณ์ในสมการเคมีเขียนและดลุ สมการเคมีของปฏิกริ ยิ าเคมบี างชนดิ ๙. คํานวณปริมาณของสารในปฏกิ ิริยาเคมีท่ีเก่ียวข้องกับมวลสาร ๑๐. คํานวณปรมิ าณของสารในปฏกิ ิริยาเคมีที่เกีย่ วข้องกบั ความเข้มข้นของสารละลาย ๑๑. คํานวณปริมาณของสารในปฏิกริ ิยาเคมที ่ีเกย่ี วข้องกับปริมาตรแก๊ส ๑๒. คาํ นวณปริมาณของสารในปฏิกิรยิ าเคมีหลายขนั้ ตอน ๑๓. ระบสุ ารกําหนดปรมิ าณและคาํ นวณปรมิ าณสารต่างๆในปฏิกิรยิ าเคมี ๑๔. คาํ นวณผลได้รอ้ ยละของผลติ ภณั ฑ์ในปฏิกริ ิยาเคมี รวมทง้ั หมด ๑๔ ผลการเรียนรู้

๓๓๖

๓๓๗ คำอธบิ ายรายวชิ า(เพิม่ เติม) รหสั วชิ า ว ๓๒๒๒๕ วิชา เคมี ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๕ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต ศึกษาเกีย่ วกับความสมั พนั ธ์และการคาํ นวณปริมาตร ความดนั หรอื อุณหภูมิของแก๊สที่ภาวะ ต่าง ๆ ตามกฎของบอยล์กฎของชารล์ กฎของเกย์-ลสู แซก กฎรวมแก๊ส การคํานวณปริมาตร ความดนั อุณหภูมิจํานวนโมลหรอื มวลของแก๊ส จากความสมั พันธ์ตามกฎของอาโวกาโดร และกฎแก๊สอดุ มคติ การคํานวณความดันย่อยหรือจาํ นวนโมลของแก๊สในแก็สผสม โดยใช้กฎความดันย่อยของดอลตัน การ แพร่ของแก๊สโดยใช้ทฤษฎีจลน์ของแก๊สอตั ราการแพร่ของแก๊สโดยใช้กฎการแพร่ผ่านของเกรแฮม การ ประยุกต์ใชค้ วามรู้เก่ยี วกับสมบัติและกฎต่าง ๆ ของแก๊สในการอธบิ ายปรากฏการณ์หรือแก้ปญั หาใน ชีวิตประจําวันและในอตุ สาหกรรม ความหมายของปฏกิ ิริยาผนั กลับได้และภาวะสมดลุ การเปล่ียนแปลง ความเขม้ ขน้ ของสาร อตั ราการเกิดปฏิกริ ิยาไปข้างหน้า และอตั ราการเกดิ ปฏิกริ ิยา ย้อนกลบั เมือ่ เริ่ม ปฏิกิรยิ าจนกระท่ังระบบอยู่ในภาวะสมดลุ ค่าคงท่สี มดุลของปฏิกริ ยิ า ความเข้มข้นของสารท่ีภาวะ สมดลุ ค่าคงที่สมดุลหรอื ความเข้มขน้ ของปฏิกิรยิ าหลายช้ันตอน ปัจจัยที่มผี ลต่อภาวะสมดุลและค่าคงท่ี สมดุลของระบบรวมท้ังคาดคะเนการเปล่ียนแปลงทเี่ กิดขึน้ เมือ่ ภาวะสมดุลของระบบถกู รบกวนโดยใช้ หลักของเลอชาเตอลิเอ สมดุลเคมีของกระบวนการทเี่ กิดข้ึนในสิ่งมีชีวติ ปรากฏการณ์ในธรรมชาติและ กระบวนการในอตุ สาหกรรม สารเปน็ กรดหรือเบสโดยใช้ทฤษฎกี รด-เบสของอาร์เรเนียส เบรนิ สเตด- ลาวรีและลวิ อิส คู่กรด-เบสของสารตามทฤษฎกี รด-เบส ของเบรนิ สเตด-ลาวรี ความสามารถในการแตก ตวั หรอื ความแรงของกรดและเบส ค่าpH ความเขม้ ขน้ ของไฮโดรเนียม ไอออนหรือไฮดรอกไซด์ไอออน ของสารละลายกรดและเบส สมการเคมแี สดง ปฏกิ ิรยิ าสะเทนิ ความเป็นกรด-เบสของสารละลายหลังการสะเทนิ ปฏกิ ิริยาไฮโดรลซิ สิ ของเกลอื ความ เปน็ กรด-เบสของสารละลายเกลือ หลักการการไทเทรต และเลอื กใช้อินดเิ คเตอร์ทีเ่ หมาะสมสําหรบั การ ไทเทรตกรด-เบสปริมาณสารหรอื ความเข้มขน้ ของสารละลายกรดหรือเบสจากการไทเทรต สมบัติ องค์ประกอบและประโยชน์ของสารละลายบฟั เฟอร์ การใช้ประโยชน์และการแกป้ ญั หาโดยใช้ความรู้ เกย่ี วกับ กรด-เบส

๓๓๘ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพือ่ ฝึกทักษะ อธบิ าย คาํ นวณ เปรยี บเทียบ สืบค้นขอ้ มลู ทดสอบระบุ ยกตัวอย่าง เขียนสมการเคมี เขยี นปฏิกริ ิยา ทดลอง เลือกใชอ้ ินดเิ คเตอร์ และนาํ เสนอ ตัวอย่างการใช้ประโยชน์ และแก้ปัญหา เพื่อให้เกิดความรู้ความเขา้ ใจ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ได้อย่างถกู ต้อง เกิด ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการสือ่ สาร ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถใน การใช้ทกั ษะชวี ติ ได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ และนําไปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจาํ วันได้อย่างเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. อธบิ ายความสมั พันธ์และคาํ นวณปริมาตร ความดนั หรืออุณหภมู ิของแก๊สที่ภาวะต่าง ๆ ตามกฎของ บอยล์ กฎของชาร์ล กฎของเกย์-ลสู แซก ๒. คํานวณปรมิ าตร ความดนั หรืออุณหภูมิ ของแก๊สทภ่ี าวะต่าง ๆ ตามกฎรวมแก๊ส ๓. คํานวณปรมิ าตร ความดัน อณุ หภมู จิ ํานวนโมล หรือมวลของแก๊ส จากความสัมพันธ์ตามกฎของอาโว กาโดร และกฎแก๊สอุดมคติ ๔. คาํ นวณความดนั ย่อยหรือจํานวนโมลของแก๊สในแก๊สผสมโดยใช้กฎความดนั ย่อยของดอลตนั ๕. อธิบายการแพร่ของแก๊สโดยใช้ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส คาํ นวณและเปรยี บเทียบอตั ราการแพร่ของแก๊ส โดยใช้ กฎการแพร่ผ่านของเกรแฮม ๖. สบื คน้ ขอ้ มูล นาํ เสนอตัวอย่าง และอธบิ ายการประยกุ ต์ใชค้ วามรู้เกี่ยวกับสมบตั แิ ละกฎต่าง ๆ ของ แก๊สในการอธบิ ายปรากฏการณ์หรอื แก้ปัญหาในชวี ิตประจาํ วันและในอุตสาหกรรม ๗. ทดสอบ และอธิบายความหมายของ ปฏิกิริยาผนั กลับได้และภาวะสมดุล ๘. อธบิ ายการเปลีย่ นแปลงความเข้มขน้ ของสาร อัตราการเกิดปฏิกริ ิยาไปข้างหน้า และอัตราการ เกิดปฏิกริ ยิ า ย้อนกลับเม่อื เร่มิ ปฏิกิริยาจนกระทั่งระบบอยู่ในภาวะสมดุล ๙. คํานวณค่าคงที่สมดลุ ของปฏกิ ริ ิยา ๑๐. คํานวณความเข้มขน้ ของสารทภ่ี าวะสมดุล ๑๑. คาํ นวณค่าคงท่สี มดุลหรือความเข้มข้นของปฏกิ ริ ยิ าหลายขนั้ ตอน

๓๓๙ ๑๒. ระบปุ จั จัยทมี่ ผี ลต่อภาวะสมดลุ และค่าคงทส่ี มดลุ ของระบบรวมทงั้ คาดคะเนการเปลีย่ นแปลงที่ เกิดขน้ึ เม่ือภาวะสมดลุ ของระบบถกู รบกวนโดยใช้หลกั ของเลอชาเตอลิเอ ๑๓. ยกตวั อย่าง และอธิบายสมดลุ เคมขี องกระบวนการท่ีเกดิ ขึ้นในสง่ิ มีชวี ิต ปรากฏการณ์ในธรรมชาติ และกระบวนการในอตุ สาหกรรม ๑๔. ระบุและอธิบายว่าสารเปน็ กรดหรอื เบส โดยใช้ทฤษฎกี รด-เบสของอาร์เรเนยี ส เบรินสเตด-ลาวรี และลิวอิส ๑๕. ระบคุ ู่กรด-เบสของสารตามทฤษฎีกรด-เบส ของเบรินสเตด-ลาวรี ๑๖. คํานวณ และเปรยี บเทียบความสามารถในการแตกตัวหรอื ความแรงของกรดและเบส ๑๗. คาํ นวณค่า pH ความเข้มขน้ ของไฮโดรเนยี ม ไอออนหรอื ไฮดรอกไซด์ไอออนของสารละลายกรด และเบส ๑๘. เขยี นสมการเคมีแสดงปฏกิ ริ ิยาสะเทิน และ ระบุความเป็นกรด-เบสของสารละลาย หลังการสะเทนิ ๑๙. เขียนปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสของเกลือ และระบุ ความเปน็ กรด-เบสของสารละลายเกลือ ๒๐. ทดลอง และอธิบายหลกั การการไทเทรต และเลือกใช้อนิ ดิเคเตอร์ท่เี หมาะสมสาํ หรบั การไทเทรต กรด-เบส ๒๑. คํานวณปริมาณสารหรอื ความเข้มข้นของสารละลายกรดหรอื เบสจากการไทเทรต ๒๒. อธิบายสมบตั อิ งค์ประกอบ และประโยชน์ของสารละลายบฟั เฟอร์ ๒๓. สบื คน้ ข้อมูลและนําเสนอตัวอย่างการใช้ประโยชน์ และการแก้ปัญหาโดยใช้ความรู้เกี่ยวกับ กรด- เบส รวมทง้ั หมด ๒๓ ผลการเรียนรู้

๓๔๐ คำอธบิ ายรายวชิ า(เพิม่ เติม) รหสั วิชา ว ๓๒๒๒๖ วิชา เคมี ๔ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑ หน่วยกิต ศกึ ษาเก่ยี วกับการคํานวณอัตราการเกิดปฏิกิรยิ าเคมี แผนภาพทศิ ทางการชนกนั ของอนุภาค และพลงั งานทส่ี ่งผลต่ออตั ราการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี ผลของความเข้มข้น พื้นที่ผิวของสารตง้ั ต้น อณุ หภมู ิ และตัวเรง่ ปฏิกิรยิ าทมี่ ตี ่ออัตราการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี ปัจจยั ท่มี ีผลต่ออตั ราการเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมใี น ชวี ิตประจาํ วนั หรอื อุตสาหกรรม การคํานวณเลขออกซเิ ดชนั ปฏิกริ ยิ ารดี อกซ์ ตวั รดี วิ ซ์ ตัวออกซิไดส์ ครง่ึ ปฏกิ ริ ยิ าออกซิเดชนั ครง่ึ ปฏิกริ ยิ ารดี กั ชนั ของปฏิกิรยิ ารดี อกซ์ความสามารถในการเป็นตัวรีดิวซ์หรอื ตัวออกซไิ ดสก์ ารเขยี นแสดงปฏกิ ิรยิ ารดี อกซ์ ดุลสมการรีดอกซ์ด้วยการใช้เลขออกซิเดชัน และวธิ คี รงึ่ ปฏิกริ ิยา องค์ประกอบของเซลล์เคมไี ฟฟ้าสมการเคมขี องปฏกิ ริ ิยาทีแ่ อโนด แคโทด ปฏิกิรยิ ารวม แผนภาพเซลล์คา่ ศกั ยไ์ ฟฟ้ามาตรฐานของเซลล์ ประเภทของเซลล์เคมีไฟฟ้า ขว้ั ไฟฟ้าและปฏิกิริยาเคมที ่ี เกดิ ข้ึน หลกั การทํางาน สมการแสดงปฏกิ ริ ยิ าของเซลล์ปฐมภมู แิ ละเซลล์ทตุ ยิ ภูมิหลกั การทางเคมไี ฟฟ้า ท่ีใช้ในการชบุ โลหะ การแยกสารเคมดี ้วยกระแสไฟฟ้า การทําโลหะให้บริสุทธ์ิการป้องกนั การกัดกร่อน ของโลหะ และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เกี่ยวขอ้ งกับเซลล์เคมีไฟฟ้าในชวี ติ ประจาํ วัน โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เพอ่ื ฝึกทกั ษะ ทดลอง เขียนกราฟ คาํ นวณ เขยี น แผนภาพ อธบิ ายเปรียบเทียบ ยกตวั อย่าง ระบุ วิเคราะห์ ดลุ สมการรีดอกซ์ เขยี นสมการเคมี สืบค้น ข้อมูล และนาํ เสนอตัวอย่าง เพื่อให้เกิดความรู้ความเขา้ ใจ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ได้อย่างถกู ต้อง เกิด ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการส่อื สาร ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถใน การใช้ทกั ษะชวี ิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ และนาํ ไปใช้ประโยชน์ใน ชวี ิตประจําวนั ได้อย่างเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. ทดลอง และเขียนกราฟการเพิ่มขึ้นหรอื ลดลงของสารทที่ าํ การวัดในปฏิกริ ิยา ๒. คํานวณอัตราการเกิดปฏกิ ิริยาเคมีและเขียนกราฟการลดลงหรอื เพมิ่ ข้ึนของสารท่ไี ม่ได้วดั ในปฏิกริ ิยา

๓๔๑ ๓. เขียนแผนภาพ และอธบิ ายทิศทางการชนกันของอนภุ าคและพลงั งานทส่ี ่งผลต่ออัตราการเกิด ปฏิกริ ยิ าเคมี ๔. ทดลอง และอธบิ ายผลของความเข้มข้น พ้ืนท่ผี ิว ของสารตัง้ ต้น อณุ หภมู ิ และตัวเร้งปฏิกริ ิยาทมี่ ีต่อ อัตราการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี ๕. เปรยี บเทียบอัตราการเกิดปฏกิ ิรยิ าเมอ่ื มกี ารเปลยี่ นแปลงความเข้มข้น พื้นท่ีผิวของสารต้ังต้น อุณหภูมิ และตัวเร่งปฏกิ ิรยิ า ๖. ยกตวั อย่าง และอธบิ ายปัจจัยทีม่ ีผลต่ออตั ราการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมีในชวี ติ ประจําวนั หรืออตุ สาหกรรม อย่างถกู ตอ้ ง ๗. คํานวณเลขออกซิเดชนั และระบปุ ฏิกิรยิ าทเี่ ป็นปฏกิ ิริยารีดอกซ์ ๘. วเิ คราะห์การเปลย่ี นแปลงเลขออกซเิ ดชนั และระบุตวั รีดิวซ์ และตวั ออกซิไดส์รวมทั้งเขยี นครงึ่ ปฏิกิริยา ออกซเิ ดชนั และครึง่ ปฏิกิริยารีดกั ชันของปฏิกิริยารีดอกซ์ ๙. ทดลอง และเปรยี บเทยี บความสามารถในการเป็นตัวรดี ิวซ์หรอื ตวั ออกซิไดส์และเขยี นแสดงปฏกิ ริ ิยา รีดอกซ์ ๑๐. ดลุ สมการรีดอกซ์ด้วยการใช้เลขออกซเิ ดชัน และวธิ ีครึง่ ปฏิกิริยา ๑๑. ระบอุ งค์ประกอบของเซลล์เคมไี ฟฟ้า และเขียนสมการเคมีของปฏกิ ริ ยิ าทแ่ี อโนดและแคโทด ปฏกิ ริ ยิ ารวม และแผนภาพเซลล์ ๑๒. คํานวณค่าศักยไ์ ฟฟ้ามาตรฐานของเซลล์ และระบุประเภทของเซลล์เคมีไฟฟ้า ขวั้ ไฟฟ้า และ ปฏกิ ริ ยิ า เคมที ี่เกดิ ขึ้น ๑๓. อธิบายหลักการทํางาน และเขยี นสมการแสดงปฏิกิริยาของเซลล์ปฐมภมู แิ ละเซลล์ทตุ ิยภมู ิ ๑๔. ทดลองชุบโลหะและแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้า และอธบิ ายหลักการทางเคมีไฟฟ้าที่ใชใ้ นการชุบ โลหะ การแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้า การทําโลหะให้บริสทุ ธแ์ิ ละการป้องกนั การกดั กรอ่ นของโลหะ ๑๕. สบื คน้ ข้อมูลและนําเสนอตัวอย่างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เก่ยี วข้องกับเซลล์เคมไี ฟฟ้าใน ชวี ิตประจาํ วันอย่างถกู ตอ้ ง

๓๔๒ รวมทง้ั หมด ๑๕ ผลการเรียนรู้

๓๔๓ คำอธิบายรายวชิ า(เพมิ่ เติม) รหัสวิชา ว ๓๓๒๒๗ วชิ า เคมี ๕ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๖ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๖๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ ศึกษาเกีย่ วกับสารประกอบอนิ ทรยี ์ที่มีพันธะเดี่ยว พันธะคู่หรือพันธะสาม ทพ่ี บใน ชีวติ ประจาํ วัน การเขยี นสูตรโครงสร้างลวิ อิส สูตรโครงสร้างแบบย่อและสูตรโครงสร้างแบบเส้นของ สารประกอบอนิ ทรีย์ การศึกษาโครงสร้างและประเภทของสารประกอบอินทรีย์จากหมฟู่ ังกช์ นั การ เขยี นสูตรโครงสร้างและเรียกชอ่ื สารประกอบอินทรีย์ประเภทต่าง ๆ ท่มี หี มู่ฟังก์ชันไม่เกิน ๑ หมต่ าม ระบบ IUPAC การเขยี นไอโซเมอร์โครงสร้างของ สารประกอบอนิ ทรีย์ประเภทต่าง ๆ การเปรยี บเทยี บจุดเดือดและการละลายในนา้ํ ของสารประกอบ อนิ ทรยี ์ที่มหี มู่ฟังกช์ ัน ขนาดโมเลกลุ หรือโครงสร้างตา่ งกันปฏิกริ ิยาการเผาไหม้ ปฏิกิริยากับโบรมีนหรือ ปฏกิ ิรยิ ากบั โพแทสเซยี มเปอร์แมงกาเนตของสารประกอบไฮโดรคาร์บอน การเขียนสมการเคมีและ อธบิ ายการเกิดปฏกิ ิริยาเอสเทอรฟิ ์เคชนั ปฏกิ ิริยาการสังเคราะหเ์ อไมด์ปฏกิ ิรยิ าไฮโดรลิซสิ และปฏกิ ิริยา สะปอนนิฟ์เคชนั การทดสอบปฏกิ ิรยิ าเอสเทอริฟ์เค ชัน ปฏิกิริยาไฮโดรลซิ ิส และปฏกิ ริ ยิ าสะปอนนิฟ์เคชัน ประโยชนส์ ารประกอบอนิ ทรยี ์ในชวี ิตประจาํ วัน และอตุ สาหกรรม ประเภทของปฏิกิริยาการเกดิ พอลเิ มอร์จากโครงสร้างของมอนอเมอร์หรือพอลเิ มอร์ ความสมั พนั ธ์ระหว่างโครงสร้างและสมบตั ิของพอลเิ มอร์รวมทั้งการนําไปใช้ประโยชน์การทดสอบและ ระบุประเภทของพลาสติกและผลิตภณั ฑ์ยาง รวมทง้ั การนาํ ไปใชป้ ระโยชน์ผลของการปรับเปลย่ี น โครงสร้างและการสังเคราะห์พอลิเมอร์ทมี่ ีต่อสมบัติของพอลเิ มอร์ ผลกระทบจากการใช้และการกําจดั ผลติ ภัณฑ์พอลิเมอร์และแนวทางแก้ไข โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อฝึกทกั ษะ สบื ค้นข้อมลู นาํ เสนอตัวอย่าง เขยี นสูตร โครงสร้างวเิ คราะห์ ระบุ เขียนไอโซเมอร์ เปรยี บเทียบ เขยี นสมการเคมี อธิบาย ทดสอบ และสืบค้น ข้อมูล เพ่ือให้เกิดความรู้ความเขา้ ใจ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างถูกต้อง เกดิ ความสามารถในการคิด ความสามารถในการส่อื สาร ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถใน

๓๔๔ การใช้ทักษะชวี ิต เหน็ คณุ ค่าในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม และนาํ ความรู้ไปใช้ ประโยชน์ในชีวติ ประจําวันได้อย่างเหมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. สืบคน้ ขอ้ มูลและนาํ เสนอตวั อย่างสารประกอบอินทรยี ์ท่ีมีพันธะเด่ยี ว พันธะคู่หรือพนั ธะสามที่พบใน ชวี ิต ประจาํ วัน ๒. เขยี นสตู รโครงสร้างลิวอิส สตู รโครงสร้างแบบย่อและสตู รโครงสร้างแบบเส้นของสารประกอบอนิ ทรยี ์ ๓. วเิ คราะห์โครงสร้างและระบปุ ระเภทของสารประกอบอนิ ทรยี ์จากหมฟู่ ังกช์ นั ๔. เขียนสตู รโครงสร้างและเรยี กชอื่ สารประกอบอินทรีย์ประเภทต่าง ๆที่มีหมู่ฟังก์ชนั ไม่เกนิ ๑ หมู่ ตาม ระบบ IUPAC ๕. เขียนไอโซเมอร์โครงสร้างของสารประกอบอินทรยี ์ประเภทต่าง ๆ ๖. วิเคราะห์และเปรียบเทียบจุดเดือดและการละลายในนํ้าของสารประกอบอนิ ทรยี ์ทม่ี ีหมู่ฟังก์ชนั ขนาดโมเลกลุ หรอื โครงสร้างตา่ งกนั ๗. ระบปุ ระเภทของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนและเขียนผลิตภัณฑ์จากปฏกิ ิรยิ าการเผาไหม้ปฏิกริ ยิ า กบั โบรมนี หรือปฏกิ ิริยากับโพแทสเซยี มเปอร์แมงกาเนต ๘. เขียนสมการเคมีและอธบิ ายการเกิดปฏิกิรยิ าเอสเทอรฟิ ์เคชัน ปฏิกริ ยิ าการสงั เคราะห์เอไมด์ปฏกิ ิริยา ไฮโดรลซิ ิสและปฏกิ ิริยาสะปอนนิฟ์เคชัน ๙. ทดสอบปฏกิ ิริยาเอสเทอริฟ์เคชนั ปฏกิ ริ ิยาไฮโดรลซิ สิ และปฏกิ ิรยิ าสะปอนนฟิ ์เคชัน ๑๐. สบื คน้ ข้อมูล และนําเสนอตวั อย่างการนําสารประกอบอินทรยี ์ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจําวนั และ อุตสาหกรรม ๑๑. ระบปุ ระเภทของปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์จากโครงสร้างของมอนอเมอร์หรอื พอลิเมอร์ ๑๒. วิเคราะห์และอธบิ ายความสมั พนั ธ์ระหว่างโครงสร้างและสมบัตขิ องพอลเิ มอร์รวมท้งั การนาํ ไปใช้ ประโยชน์ได้อย่างถูกต้อง ๑๓. ทดสอบและระบุประเภทของพลาสตกิ และผลติ ภัณฑ์ยาง รวมท้งั การนาํ ไปใช้ประโยชน์ ได้อย่าง เหมาะสม

๓๔๕ ๑๔. อธบิ ายผลของการปรับเปลย่ี นโครงสร้างและการสงั เคราะห์พอลเิ มอร์ทม่ี ีต่อสมบตั ขิ องพอลเิ มอร์ ๑๕. สบื คน้ ข้อมูลและนําเสนอตัวอย่างผลกระทบจากการใช้และการกําจดั ผลิตภณั ฑ์พอลเิ มอร์และแนว ทางแกไ้ ขได้อย่างเหมาะสม รวมทง้ั หมด ๑๕ ผลการเรียนรู้

๓๔๖ คำอธบิ ายรายวชิ า(เพิม่ เติม) รหสั วชิ า ว ๓๓๒๒๘ วิชา เคมี ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๖ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑ หน่วยกติ ศึกษาเกีย่ วกับการกําหนดปัญหาและการนาํ เสนอแนวทางการแก้ปัญหาจากสถานการณท์ ่ี เกดิ ข้นึ ในชีวติ ประจําวนั การประกอบอาชพี หรืออุตสาหกรรมโดยใช้ความรทู้ างเคมี และการบรู ณาการ ความรทู้ างเคมีร่วมกับสาขา วิชาอ่นื รวมท้ังทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หรอื กระบวนการ ออกแบบเชงิ วศิ วกรรม โดยเน้นการคดิ วิเคราะห์ การแก้ปญั หา และความคดิ สร้างสรรค์เพ่ือแก้ปัญหาใน สถานการณ์หรอื ประเด็นท่ีสนใจ นําเสนอผลงาน หรือชนิ้ งานท่ีได้จากการแก้ปญั หาในสถานการณห์ รือประเดน็ ทส่ี นใจโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศการเข้า ร่วมการสัมมนาการเข้ารว่ มประชุมวชิ าการหรอื การแสดงผลงานสิ่งประดิษฐ์ในงานนทิ รรศการ โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์เพ่อื ฝึกทกั ษะ กาํ หนดปัญหา นําเสนอแนวทาง แสดง หลักฐาน การออกแบบ เชงิ วศิ วกรรม วิเคราะห์ แกป้ ัญหา และนําเสนอผลงาน เพ่ือให้เกิดความรู้ความเขา้ ใจ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ได้อย่างถกู ต้อง เกดิ ความสามารถในการคิด ความสามารถในการสือ่ สาร ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถใน การใช้ทกั ษะชวี ิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ เห็นคณุ ค่าในการดูแล รกั ษาทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมคี วามภาคภมู ิใจในท้องถิ่น และนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ใน ชวี ิตประจําวนั ได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ผลการเรยี นรู้ ๑. กาํ หนดปัญหาและนาํ เสนอแนวทางการแก้ปญั หา โดยใช้ความรู้ทางเคมีจากสถานการณ์ท่เี กิดขึ้นใน ชีวติ ประจําวัน การประกอบอาชพี หรอื อตุ สาหกรรม ๒. แสดงหลักฐานถึงการบรู ณาการความรู้ทางเคมรี ว่ มกับสาขาวชิ าอ่นื รวมทงั้ ทกั ษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ หรอื กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม โดยเน้นการคดิ วเิ คราะห์ การแก้ปญั หา และ ความคดิ สร้างสรรค์เพอ่ื แก้ปัญหาในสถานการณห์ รอื ประเดน็ ทสี่ นใจ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook