หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสัตตบงกช

๑๙๗ คำอธบิ ายรายวิชา ท ๓๐๒๑๐ การพดู ตอ่ หน้าทปี่ ระชุมชน สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ชวั่ โม จำนวน ๑ หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษารปู แบบต่างๆของการพดู ต่อหน้าที่ประชมุ ฝึกการพูดต่อหนา้ ที่ประชุมทัง้ ทเ่ี ปน็ การบรรยาย พรรณนา ชักชวน ชแี้ จ้ง อภิปราย ดำเนินการอภปิ ราย สมั ภาษณ์ โต้วาที่ ทำหนา้ ที่เปน็ พิธีกรและโฆษก ทง้ั น้ี โดนเนน้ การใช้ถ้อยคำ นำ้ เสียง และท่าทางท่ีเหมาะสม และแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั เร่อื งทีฟ่ ังและดู มี วิจารณญาณในการเลอื กเรอื่ งท่ฟี ังและดู วเิ คราะหว์ ตั ถุประสงค์ แนวคดิ การใช้ภาษา ความน่าเชอื่ ถอื ของเรือ่ ง ที่ฟังและดู ประเมินส่ิงที่ฟงั ดแู ละนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดำเนินชวี ิต มีทักษะในการพดู ในโอกาสตา่ งๆ ท้ังทีเ่ ป็น ทางการไมเ่ ป็นทางการโดยใชภ้ าษาท่ถี กู ต้อง พดู แสดงทรรศนะโตแ้ ยง้ โนม้ นา้ วและเสนอแนวคิดใหมอ่ ย่างมี เหตผุ ล รวมท้ังมีมารยาทในการฟงั ดู และพดู เพื่อให้สามารถพดู ไดอ้ ยา่ งมีเน้ือหาสาระและนา่ สนใจทำใหผ้ ู้ฟังเกดิ ความเขา้ ใจ พอใจหรือคล้อยตาม ผลการเรยี นรู้ ๑. บอกขนั้ ตอนและปฏิบตั ิตนในการเตรียมการพูดใหส้ ัมฤทธผิ์ ลได้ ๒. พดู ให้ความรแู้ ละขอ้ เท็จจรงิ ต่อหน้าท่ปี ระชุมชนได้ ๓. พดู ให้ความบันเทิงในที่ประชุมชนได้ ๔. พดู โนม้ นา้ วใจผู้อ่ืนฟงั ในทางท่ีสรา้ งสรรคไ์ ด้ ๕. อภปิ รายต่อหนา้ ท่ปี ระชมได้ ๖. สนทนาและสมั ภาษณต์ ่อหน้าทป่ี ระชุมได้ ๗. โตว้ าทีต่อหน้าที่ประชุมได้ รวมทง้ั หมด ๗ ผลการเรียนรู้

๑๙๘ คำอธบิ ายรายวิชา ท ๓๐๒๑๑ ประวตั วิ รรณคดี ๑ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑ หน่วยกติ ศึกษาวรรณคดสี ำคญั สมยั สโุ ขทยั อยธุ ยาทเี่ กย่ี วกับประวตั คิ วามเป็นมา ประวัตินกั กวี เนอื้ หา โดยสงั เขป การชำระหนังสอื วรรณคดี วิเคราะห์และวจิ ารณ์วรรณคดีตามหลกั การวจิ ารณ์เบือ้ งตน้ และวิเคราะห์ลักษณะเดน่ ของวรรณคดี เชอ่ื มโยงกับการเรยี นรู้ทางประวตั ิศาสตรแ์ ละวิถชี วี ิตของสงั คมในอดีต เพือ่ ให้รู้ความเป็นมาของวรรณคดไี ทย เข้าใจความสัมพันธ์ตอ่ เนอื่ งระหวา่ งสมัย เขา้ ใจคา่ นยิ มและ ลกั ษณะชีวติ ของคนในสมัยน้ัน มีวินัย ใฝร่ ู้ใฝเ่ รียน มุ่งมนั่ ในการทำงานและเหน็ คุณคา่ ของวรรณคดีสำคัญใน ฐานะท่ีเปน็ มรดกทางวฒั นธรรมไทย ผลการเรยี นรู้ ๑. อธบิ ายความหมายของวรรณคดแี ละวรรณกรรมได้ ๒. อธบิ ายความสำคัญของการเรียนประวตั ิวรรณคดไี ด้ ๓. อธิบายยุคสมยั ของวรรณคดอี ย่างมีหลกั เกณฑ์ ๔. อธบิ ายวธิ ีการศกึ ษาวรรณคดไี ด้ ๕. แสดงทรรศนะและวจิ ารณว์ รรณคดีสมยั สุโขทัยและอยุธยาอย่างมหี ลักเกณฑแ์ ละมีเหตผุ ล ๖. อธบิ ายประวัตคิ วามเปน็ มาของวรรณคดี ประวตั นิ กั กวี เน้อื หาโดยสังเขป ของวรรณคดีสมัยสมัยสุโขทัยและ อยธุ ยาได้อย่างถกู ต้อง ๗. อธบิ ายวิธกี ารและหลกั เกณฑก์ ารชำระหนังสือวรรณคดไี ด้ถูกต้อง ๘. อธิบายถึงความสัมพันธ์ต่อเน่ือง ระหว่างวรรณคดีสมยั สโุ ขทัยและอยธุ ยาได้ ๙. อธิบายคา่ นยิ มและลกั ษณะชีวิตของคนสมยั สุโขทยั และอยุธยาได้ถูกตอ้ ง ๑๐. อธิบายถึงคุณคา่ ของวรรณคดสี ำคัญ ในฐานะท่ีเป็นมรดกทางวัฒนธรรมได้ รวมท้งั หมด ๑๐ ผลการเรียนรู้

๑๙๙ คำอธิบายรายวชิ า ท ๓๐๒๑๒ ประวตั ิวรรณคดี ๒ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทยชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๖ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑ หน่วยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาวรรณคดสี ำคัญสมยั ธนบุรแี ละรตั นโกสนิ ทร์ ท่ีเกีย่ วกบั ประวัตคิ วามเปน็ มา ประวตั ินกั กวี เนอื้ หาโดยสงั เขป การชำระหนังสอื วรรณคดี วเิ คราะห์และวจิ ารณ์วรรณคดตี ามหลักการวจิ ารณเ์ บื้องตน้ วเิ คราะหล์ ักษณะเดน่ ของวรรณคดี เชอ่ื มโยงกบั การเรียนรทู้ างประวตั ิศาสตร์และวิถีชวี ติ ของสงั คมในอดตี และวเิ คราะหป์ ระเมนิ คุณค่าดา้ น วรรณศิลป์ของวรรณคดีและวรรณกรรมในฐานะทเ่ี ป็นมรดกทางวฒั นธรรมของชาติ เพ่อื ให้รู้ความเปน็ มาของรรณดไี ทย เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ตอ่ เน่ืองระหวา่ งสมยั เขา้ ใจคา่ นยิ มและ ลักษณะชีวิตของคนในสมัยน้ัน มีวนิ ยั ใฝร่ ูเ้ รียน มุง่ ม่ันในการทำงานและเหน็ คณุ ค่าของวรรณคดีสำคัญในฐานะ ท่เี ปน็ มรดกทางวฒั นธรรมไทย ผลการเรียนรู้ ๑. อธบิ ายการแบ่งยุคสมัยของวรรณคดีอย่างมีหลักเกณฑ์ ๒. อธิบายวธิ ีการศกึ ษาวรรณคดไี ด้ ๓. วจิ ารณว์ รรณคดีสมัยกรุงธนบุรแี ละกรุงรตั นโกสนิ ทร์ไดอ้ ยา่ งมหี ลกั เกณฑ์และมเี หตผุ ล ๔. อธิบายประวตั ิความเป็นมาของวรรณคดี ประวัตนิ กั กวี เน้อื หาโดยสงั เขป ของวรรณคดสี มยั กรุงธนบุรีและ กรงุ รตั นโกสนิ ทรไ์ ดอ้ ย่างถกู ต้อง ๕. อธิบายถึงความสมั พนั ธต์ อ่ เนอื่ ง ระหว่างสมัยกรงุ ธนบุรีและกรุงรัตนโกสนิ ทรไ์ ด้ ๖. อธบิ ายคา่ นิยมและลกั ษณะชีวติ ของคนสมยั กรุงธนบุรแี ละกรงุ รตั นโกสนิ ทร์ได้ถกู ตอ้ ง ๗. อธิบายคุณคา่ ความสำคญั ในฐานะทเ่ี ปน็ มรดกทางวัฒนธรรมได้ รวมท้งั หมด ๗ ผลการเรยี นรู้

๒๐๐ คำอธบิ ายรายวิชา ท ๓๐๒๑๓ การเขยี นความเรยี งชน้ั สงู ๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๔ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒๐ ช่วั โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษา และฝกึ กระบวนการคน้ คว้าด้วยตนเองอยา่ งอสิ ระเกี่ยวกับเรอื่ งทผี่ เู้ รียนสนใจจากสาระการ เรียนรู้ทต่ี อ้ งการค้นควา้ หาความรเู้ พมิ่ เตมิ การถา่ ยทอด/สอ่ื ความหมาย แนวคิดและขอ้ มลู ลักษณะเป็นความ เรียงทางวชิ าการ การเขียนโครงรา่ ง การเขยี นคำนำ เนือ้ เรอ่ื ง และสรปุ การเขยี นเรยี บเรียงเชอื่ มโยงอยา่ งเป็น ขนั้ ตอน สมเหตสุ มผล สละสลวย ใชค้ ำสำหรบั การเขยี นผลงาน จานวน ๔,๐๐๐ คำ โดยเนน้ กระบวนการศกึ ษา ค้นควา้ ใช้ข้อมลู จากการค้นควา้ เพ่ิมเตมิ จากแหลง่ เรียนรูต้ า่ งๆ กระบวนการโต้แย้งและสนบั สนนุ อยา่ งเปน็ เหตเุ ปน็ ผล เพอ่ื ให้มีความรู้ ความเข้าใจในกระบวนการศึกษา คน้ คว้าทเ่ี หมาะสม มีความคิดสร้างสรรค์ และ การคิดวเิ คราะห์ มวี ธิ ีการและสั่งสมประสบการณใ์ นการคน้ คว้าหาความรู้ด้วยสตปิ ญั ญาของตนเองอย่างมี ประสิทธภิ าพ ผลการเรยี นรู้ ๑. ระบุองค์ประกอบของแตล่ ะองคป์ ระกอบทีใ่ ช้ในการเขยี นความเรยี งขนั้ สูง ๒. สามารถกำหนดชื่อเร่อื งทสี่ ะท้อนให้เหน็ ภาพ และ เรียบเรียงเป็นรูปคำถาม หรอื ประเด็นคน้ คว้า ๓. เขยี นโครงร่าง จากการศึกษาค้นควา้ เรียบเรียงและถ่ายทอดความคดิ ไดอ้ ย่างชัดเจน เที่ยงตรงและ เปน็ เชิง วชิ าการอยา่ งแท้จรงิ ๔. เขียนบทคดั ยอ่ ทีส่ ะท้อนให้เห็นเก่ยี วกับหวั ขอ้ เรือ่ ง และใชค้ ำไมเ่ กนิ ๓๐๐ คำ ๕. เขียนคำนำ สารบัญ ไดค้ รบถ้วนตามที่กำหนด ๖. เขียนสว่ นนำ เน้อื เร่อื ง สรปุ และขอ้ เสนอแนะ ได้ครบถ้วนตามประเด็นท่กี ำหนด ๗. เขียนบรรณานุกรม ท่ีอ้างองิ แหลง่ ข้อมลู โดยใช้รปู แบบทีน่ ยิ มใช้กนั อยา่ งแพร่หลายเป็นสากล ๘. แสดงภาคผนวก ทเ่ี สนอขอ้ มลู และรายละเอียดตา่ งๆ ที่เกี่ยวขอ้ งกับการคน้ ควา้ ได้ครบถว้ น รวม ๘ ผลการเรียนรู้

๒๐๑ คำอธบิ ายรายวชิ า ท ๓๐๒๑๕ การเขยี นความเรียงชน้ั สูง กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาองคป์ ระกอบ การเขยี นช่ือเรอ่ื ง การกำหนดประเด็นปญั หา การเขยี นคำนำ การเขยี นเนื้อ เรือ่ งสำหรับการเขียนความเรยี งชั้นสูง โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การเขยี นบทคัดยอ่ การเขยี น กิตตกิ รรมประกาศ การเขียนสารบัญ การเขยี นเอกสารอา้ งอิง บรรณาณุกรมและภาคผนวก ศึกษาวิธกี าร นำเสนอ การอา้ งองิ การแสดงความคิดเห็น หลกั การวิเคราะห์วจิ ารณ์ฝึกทกั ษะการเขยี นความเรยี งขัน้ สูง วิเคราะหว์ ิจารณ์ เสนอแนะงานผูอ้ ืน่ มีนสิ ัยรักการทำงาน รกั การคน้ ควา้ และมีมารยาทในการพูดและการ เขยี น ฝึกเขียนในรปู แบบต่างๆ โดยเน้นการลำดบั ความใหผ้ ู้อา่ นไดร้ บั สารอยา่ งชดั เจน เลือกใชโ้ วหาร เหมาะสมกบั เนื้อเรอ่ื งและโอกาส เพ่อื ใหเ้ ขียนได้อย่างมเี น้อื หาสาระนา่ อา่ น ใชถ้ ้อยคำสำนวนสละสลวยก่อให้เกดิ ความเพลดิ เพลนิ และชว่ ยพัฒนาความคดิ และเพอื่ เพม่ิ พนู ทักษะการเขยี นในรูปแบบต่าง แสดงความตอ้ งการ ความคิดและ ความรสู้ กึ ได้ถูกต้องตามมารยาทและธรรมเนียมนิยม ผลการเรยี นรู้ ๑. วิเคราะหป์ ระเภทและองคป์ ระกอบของเรียงความขัน้ สูงได้ ๒. เขียนความเรียงขั้นนสงู ได้ครบถว้ นทุกองค์ประกอบ ถูกตอ้ งตามหลกั วิชาการและนำเสนอข้อมลู อย่าง หลากหลาย ๓.วิเคราะหว์ ิจารณ์ ผลงานการเขียนความเรยี งขั้นนสูงของผอู้ นื่ ได้อยา่ งถูกตอ้ งตามหลักวิชา ๔.มนี ิสยั รักการทำงาน การคน้ คว้า และมมี ารยาทในการเขยี น รวมท้งั หมด ๔ ผลการเรียนรู้

๒๐๒ คำอธบิ ายรายวชิ า ท ๓๐๒๒๑ วรรณคดมี รดก กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๔ จำนวนเวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑ หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- อ่านขุนช้างขุนแผน อิเหนา ใหร้ ้เู ร่อื งตลอดโดยสังเขปและอ่านเฉพาะตอนที่สำคญั ในเชงิ วรรณศิลป์ ตอนท่ีทำให้เหน็ สภาพชวี ติ ในสมยั ของบรรพบุรุษ ตอนท่ีทำให้เขา้ ใจธรรมชาติของมนษุ ย์และตอนทเี่ ก่ียวกบั ศิลปะสาขาตา่ งๆ เพอ่ื ใหส้ ามารถวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับตวั ละครที่สำคญั แนวคิดในเนื้อเร่ือง โดยเปรียบเทยี บกบั เหตกุ ารณ์ในชีวิตในปจั จบุ นั เกดิ ความประทบั ใจในศิลปะการประพันธ์ สามาถนำไปกลา่ ว อา้ งได้ ผลการเรยี นร้ทู ่คี าดหวงั ๑. มีความรคู้ วามเขา้ ใจเกี่ยวกับวรรณดไี ทยและเหน็ คุณค่าของวรรณคดไี ทยเรอ่ื งขุนชา้ งขนุ แผน ตอนขนุ แผน ขน้ึ เรอื น ขุนชา้ งไดน้ างแก้วกริ ิยาและพานางวนั ทองหนี , อเิ หนา ในดา้ นวรรณศิลป์ ๒. มคี วามร้คู วามเขา้ ใจเกยี่ วกบั วรรณคดไี ทยและเห็นคณุ คา่ ของวรรณคดีไทยเรอื่ งขนุ ช้างขนุ แผน ตอนขุนแผน ข้นึ เรือนขุนชา้ งได้นางแก้วกริ ยิ าและพานางวนั ทองหนี , อเิ หนา ดว้ นคา่ นิยมรสนิยมทที่ ำให้เห็นสภาพชีวติ ใน สมยั บรรพบรุ ษุ ๓. มคี วามรคู้ วามเข้าใจเกย่ี วกบั วรรณคดีไทยและเห็นคณุ คา่ ของวรรณคดไี ทยเร่ืองขุนช้างขนุ แผน ตอนขนุ แผน ข้นึ เรอื นขนุ ชา้ งได้นางแก้วกิริยาและพานางวนั ทองหนี , อิเหนา ด้านทที่ ำใหเ้ ขา้ ใจธรรมชาติของมนุษย์ เปรียบเทยี บชวี ติ มนษุ ย์ในสมยั ของบรรพบรุ ุษกบั ชวี ิตในสมยั ปัจจบุ ันได้ ๔. มีความรู้ความเขา้ ใจเกีย่ วกับวรรณคดีไทยและเห็นคุณค่าของวรรณคดไี ทยเรือ่ งขนุ ช้างขนุ แผน ตอนขุนแผน ขึน้ เรือนขนุ ชา้ งไดน้ างแกว้ กิรยิ าและพานางวันทองหนี , อิเหนา ด้านศลิ ปะสาขาตา่ งๆ ได้ ๕. สามารถวิเคราะห์ และแสดงความคดิ เห็น เกย่ี วกับตัวละครสำคัญ แนวคิดในเร่อื ง และเปรียบเทยี บกบั เหตุการณ์ในชีวิตปจั จุบนั ได้ ๖. สามารถสงั เคราะหค์ วามร้เู พอื่ นำไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จริง เช่น เน้ือเร่อื งและคณุ ค่าทไี่ ดร้ บั จากวรรณคดีที่ กำหนดได้ รวม ๖ ผลการเรยี นรู้

๒๐๓ คำอธบิ ายรายวิชา รายวิชา ท ๓๐๒๒๒ วรรณคดีมรดก กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๔ จำนวนเวลา ๔๐ ช่วั โม จำนวน ๑ หนว่ ยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- อา่ นรามเกียรติ์ (สมัยรัชกาลท่ี ๑) พระอภยั มณี ได้ร้เู ร่อื งตลอดโดยสังเขปและอา่ นเฉพาะตอนท่ี สำคญั ในเชงิ วรรณศิลป์ ตอนท่ีทำใหเ้ ห็นสภาพชีวิตในสมยั ของบรรพบุรุษ ตอนทท่ี ำให้เขา้ ใจธรรมชาตขิ อง มนษุ ยแ์ ละตอนท่เี กี่ยวกับศลิ ปะสาขาตา่ งๆ เพื่อใหส้ ามารถวิเคราะหแ์ ละแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั ตัวละครที่ สำคัญแนวคิดในเน้อื เรื่อง โดยเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ชวี ติ ในปจั จบุ นั เกดิ ความประทบั ใจในศิลปะการ ประพนั ธ์สามาถนำไปกลา่ วอ้างได้ ผลการเรยี นร้ทู คี่ าดหวงั ๑. มีความรู้ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั วรรณคดไี ทยและเห็นคณุ ค่าของวรรณคดไี ทยเรอื่ งรามเกยี รต์ิ (สมยั รชั กาลที่ ๑) พระอภัยมณีในด้านวรรณศลิ ป์ ๒. มีความรู้ความเข้าใจเกย่ี วกบั วรรณคดีไทยและเห็นคณุ ค่าของวรรณคดีไทยเรือ่ งรามเกยี รติ์ (สมัยรชั กาลท่ี ๑) พระอภยั มณี ด้านคา่ นยิ มรสนยิ มที่ทำใหเ้ ห็นสภาพชีวิตในสมยั บรรพบรุ ษุ ๓. มคี วามรู้ความเข้าใจเก่ียวกบั วรรณคดไี ทยและเหน็ คุณค่าของวรรณคดีไทยเร่อื งรามเกียรติ์ (สมัยรชั กาลท่ี ๑) พระอภยั มณดี ้านท่ีทำให้เข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ เปรียบเทยี บชีวติ มนุษยใ์ นสมยั ของบรรพบรุ ษุ กบั ชวี ิตใน สมัยปจั จุบันได้ ๔. มคี วามรู้ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั วรรณดไี ทยและเห็นคณุ ค่าของวรรณคดไี ทยเร่อื งรามเกยี รต์ิ (สมยั รัชกาลท่ี๑) พระอภัยมณี ด้านศลิ ปะสาขาต่างๆ ได้ ๕. สามารถวิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็น เกยี่ วกบั ตัวละครสำคญั แนวคดิ ในเร่อื ง และเปรียบเทยี บกับ เหตกุ ารณ์ในชีวิตปัจจบุ นั ได้ ๖. สามารถสังเคราะหค์ วามรเู้ พือ่ นำไปประยกุ ตใี ชใ้ นชวี ติ จรงิ เช่น เน้ือเรอ่ื งและคุณค่าท่ีไดร้ บั จากวรรณคดีท่ี กำหนดได้ รวม ๖ ผลการเรียนรู้

๒๐๔ คำอธบิ ายรายวชิ า เพิม่ เตมิ การแต่งคำประพนั ธ์ ๒ ท ๓๐๒๒๔ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔ เวลา ๔๐ ช่วั โมง ๑ หน่วยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา ประวตั คิ วามเปน็ มา ประเภทและวิวัฒนาการของรอ้ ยกรองไทยในอดตี จนถึงปจั จบุ ัน โดยสามารถอธบิ าย ระบุประเภท เปรยี บเทียบ ยกตวั อยา่ งได้และบอกคุณคา่ ของบทร้อยกรอง ศึกษาความหมาย ฉันทลกั ษณ์ ของคำประพันธป์ ระเภท โคลง ฉันท์ และร่าย สามารถ อธบิ ายยกตัวอยา่ งฉันทลักษณ์ของคำประพันธ์แตล่ ะประเภทได้ ฝกึ ทักษะการแต่งคำประพนั ธ์ ประเภท โคลง ฉันท์และรา่ ย โดยคำนึงถึงลกั ษณะบงั คบั ความงาม ความไพเราะของถอ้ ยคำ การแสดงออกทางอารมณ์ เนอ้ื หามคี ุณคา่ ทางความคิดโดยใชก้ ระบวนการ ปฏิบัติ กระบวนการสังเกต กระบวนการคิดสรา้ งสรรค์และกระบวนการกล่มุ เพอื่ ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจและ เกิดทกั ษะในการเขียนเป็นพืน้ ฐานในการศกึ ษาระดับท่ีสงู ข้ึน มคี วามตระหนกั รักความเปน็ ไทย ภมู ใิ จในภูมปิ ัญญาทางภาษาเป็นการสบื ทอดวฒั นธรรมทาง ภาษาอันจะนำไปสกู่ ารอนุรักษแ์ ละพัฒนาการแต่งบทรอ้ ยกรองใหค้ งอยูส่ บื ไป ผลการเรยี นรู้ ๑. อธบิ ายคุณคา่ และความสำคญั ของร้อยกรองประเภทโคลง ฉันท์ และรา่ ยทมี่ ีตอ่ ผแู้ ต่งผอู้ ่าน และสงั คมได้ ๒. สามารถระบุความงามของร้อยกรองประเภทโคลง ฉนั ท์ และร่ายได้ ๓. อธิบายฉนั ทลกั ษณ์หรอื ลกั ษณะบงั คับของรอ้ ยกรองประเภทโคลง ฉนั ท์ และร่ายได้ ๔. สามารถแต่งรอ้ ยกรองประเภทโคลง ฉันท์ และรา่ ยได้ ๕. สามารถวเิ คราะห์ คำประพนั ธ์ของผูอ้ น่ื ได้ ๖. เกดิ ความตระหนัก ภมู ใิ จและมพี ฤตกิ รรมในการอนรุ ักษ์สบื ทอดบทรอ้ ยกรองทต่ี นเองชอบได้ ๗. สามารถวิจารณ์งานประพันธไ์ ดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง รวม ๗ ผลการเรียนรู้

๒๐๕ คำอธบิ ายรายวชิ าพ้นื ฐานและเพ่ิมเตมิ กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาตอนตน้

๒๐๖ โครงสรา้ งกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ รายวชิ าพืน้ ฐาน ค ๒๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ จำนวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หนว่ ยกติ ค ๒๑๑๐๒ คณติ ศาสตร์ จำนวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หนว่ ยกติ ค ๒๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หนว่ ยกติ ค ๒๒๑๐๒ คณิตศาสตร์ จำนวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หน่วยกติ ค ๒๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ จำนวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หน่วยกติ ค ๒๓๑๐๒ คณิตศาสตร์ จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หนว่ ยกติ รายวชิ าเพ่มิ เติม ค ๒๑๒๐๑ คณติ ศาสตร์ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกติ ค ๒๑๒๐๒ คณิตศาสตร์ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ค ๒๒๒๐๑ คณติ ศาสตร์ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ค ๒๒๒๐๒ คณติ ศาสตร์ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ค ๒๓๒๐๑ คณติ ศาสตร์ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ค ๒๓๒๐๒ คณิตศาสตร์ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต I๒๐๒๐๑ IS ๑ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๑ หนว่ ยกิต I๒๐๒๐๒ IS ๒ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง ๑ หน่วยกิต

๒๐๗ คำอธบิ ายรายวิชา รหัสวิขา ค๒๑๑๐๑ ชื่อรายวชิ า คณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๖๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความรู้เกี่ยวกับการเปรยี บเทยี บ การบวก ลบ คณู หารและแกโ้ จทยป์ ัญหาจำนวนเตม็ เศษส่วน และ ทศนิยมความสมั พนั ธข์ องเศษสว่ นและทศนิยม ความหมายและการหาผลลัพธ์ทเ่ี กดิ จากการคณู และการหาร ของเลขยกกำลงั ทีม่ ีเลขช้กี ำลงั เปน็ จำนวนเต็ม การเขียนจำนวนใหอ้ ยู่ในรูปสญั กรณ์วิทยาศาสตร์ พ้นื ฐานการ สรา้ งทางเรขาคณติ โดยใช้วงเวียนและสนั ตรง การมองภาพหน้าตดั ภาพด้านบน ดา้ นหนา้ และด้านข้างของรปู เรขาคณิตสามมติ ิ โดยจดั ประสบการณ์ กจิ กรรม หรือโจทย์ปัญหาทสี่ ่งเสริมการพัฒนาทักษะ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ในการคดิ คำนวณ การแกป้ ัญหา การส่อื สารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ การเช่อื มโยง การให้ เหตผุ ล และการคิดอย่างสรา้ งสรรค์ สามารถมองภาพหนา้ ตัด ภาพดา้ นบน ดา้ นหน้า และดา้ นขา้ งของรูป โบราณสถานที่ต่าง ๆ ของจงั หวดั อ่างทอง เพ่อื ใหเ้ กิดความรคู้ วามเขา้ ใจ ความคดิ รวบยอด ใฝร่ เู้ รยี น มีระเบยี บวินยั มุ่งม่นั ในการทำงานอย่างมีระบบ ประหยัด ซ่ือสตั ย์ มีวจิ ารณญาณ รู้จกั นำความรู้ไปประยกุ ตใ์ ช้ ในการดำรงชีวิตได้อย่างพอเพียง รวมทง้ั มีเจต คตทิ ี่ดตี ่อคณติ ศาสตร์ รหสั ตวั ช้ีวดั ค ๑.๑ ม ๑/๑ , ค ๑.๑ ม ๑/๒ ค ๒.๒ ม ๑/๑ . ค ๒.๒ ม ๑/๒ รวมทง้ั หมด ๔ ตวั ขี้วดั

๒๐๘ คำอธบิ ายรายวิชา รหสั วขิ า ค๒๑๑๐๒ ช่อื รายวชิ า คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความรู้เก่ียวกับเรื่องอัตราส่วน สัดส่วน ร้อยละและการแก้โจทย์ปัญหา การตั้งคำถามทางสถิตกิ าร เก็บรวบรวมข้อมูลและการนำเสนอข้อมูล การแปลความหมายและนำสถิติไปใช้ในชีวิตประจำวัน การแก้ สมการและการนำความรู้เกี่ยวกับการแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวไปใช้ในชีวิตจริง เขียนกราฟของ ความสัมพันธ์เชิงเส้นสมการเชิงเส้นสองตวั แปรการนำความรูเ้ กี่ยวกับสมการเชงิ เส้นสองตวั แปร และกราฟของ ความสมั พนั ธ์เชิงเส้นไปใช้ในชีวติ จริง โดยจัดประสบการณ์ กจิ กรรม หรือโจทยป์ ญั หาทส่ี ง่ เสริมการพฒั นาทักษะ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ การเชื่อมโยง การให้ เหตุผล และการคดิ อยา่ งสรา้ งสรรค์ เพอื่ ใหเ้ กดิ ความร้คู วามเข้าใจ ความคดิ รวบยอด ใฝ่รู้เรียน มีระเบียบวินัยมงุ่ มน่ั ในการทำงานอย่างมีระบบ ประหยัด ชื่อสัตย์ มีวิจารณญาณ รู้จักนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ ในการดำรงชีวิตได้อย่างพอเพียง รวมทั้งมีเจต คตทิ ่ดี ีตอ่ คณิตศาสตร์ รหัสตวั ชว้ี ดั ค ๑.๑ ม ๑/๓ , ค ๑.๓ ม ๑/๑ , ค ๑.๓ ม ๑/๒ , ค ๑.๓ ม ๑/๓ , ค ๓.๑ ม ๑/๑ รวมท้ังหมด ๕ ตัวชี้วดั

๒๐๙ คำอธบิ ายรายวิชา รหัสวชิ า ค๒๒๑๐๑ ช่อื รายวชิ า คณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๒ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๖๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา วเิ คราะห์ อธบิ าย ฝึกทกั ษะการแกป้ ญั หาในสาระต่อไปน้ี จำนวนตรรกยะเลขยกกำลังท่มี เี ลขช้ีกำลงั เป็นจำนวนเตม็ การนำความรู้เก่ยี วกับเลขยกกำลงั ไปใช้ใน การแก้ปญั หา พหุนาม พหนุ าม การบวก การลบ และการคูณของพหนุ าม การหารพหุนามด้วยเอกนามทม่ี ีผลหารเปน็ พหนู าม การแยกตวั ประกอบของพหุนาม การแยกตัวประกอบของพหนุ ามดีกรีสองโดยใช้ สมบตั ิการแจกแจง กำลังสองสมบรู ณ์ ผลต่างของกำลังสอง เป็นตน้ การสรา้ งทางเรขาคณติ การนำความรู้เก่ยี วกบั การสรา้ งทางเรขาคณิตไปใชใ้ นชีวติ จรงิ การแปลงทางเรขาคณิตการเลื่อนขนาน การสะทอ้ น การหมนุ การนำความรเู้ กย่ี วกบั การแปลงทาง เรขาคณติ ไปใช้ในการแกป้ ัญหา การเทา่ กันทุกประการ ความเทา่ กนั ทกุ ประการของรปู สามเหลยี่ ม การนำความรูเ้ กยี่ วกับความเทา่ กัน ทกุ ประการไปใชใ้ นการแกป้ ญั หา โดยนำความรู้ ทกั ษะกระบวนการทางคณิตศาสตรท์ ีห่ ลากหลายมาใช้ในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ ตา่ งๆไดอ้ ยา่ งเหมาะสม มเี หตผุ ลประกอบในการตดั สินใจ และสรปุ ผลไดอ้ ย่างเหมาะสม ใชภ้ าษาและ สญั ลักษณ์ทางคณิตศาสตรใ์ นการสื่อสาร สือ่ ความหมาย และนำเสนอไดอ้ ยา่ งถูกต้องชดั เจน เชอ่ื มโยงความรู้ ตา่ งๆในคณิตศาสตรแ์ ละนำความรทู้ กั ษะกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ไปเชื่อมโยงกบั ศาสตรอ์ น่ื ๆและมี ความคิดรเิ รมิ่ สร้างสรรค์มีการบูรณาการโดยระบรุ ปู ทรงของชิน้ งานเรื่อง ครรลองเอกลกั ษณ์ เพื่อให้เกิดคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ สามารถทำงานอยา่ งมีระบบระเบียบ รอบคอบ รบั ผดิ ชอบมี วจิ ารณญาณ มีความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง มคี วามซือ่ สัตย์สจุ รติ มวี ินยั ใจเรียนรู้ มุ่งมน่ั ในการทำงาน รกั ความเปน็ ไทย มจี ติ สาธารณะ พรอ้ มทั้งตระหนักในคุณค่าและมเี จตคตทิ ่ีดตี ่อคณิตศาสตร์ รหสั และตัวชวี้ ดั

๒๑๐ ค๑.๑ ม.๒/๑ ค๑.๒ ม.๒/๑ ค๑.๒ ม.๒/๒ ค๒.๒ ม.๒/๑ ค๒.๒ ม.๒/๓ค๒.๒ ม.๒/๔ รวมทั้งหมด ๖ ตวั ข้ีวัด

๒๑๑ คำอธบิ ายรายวชิ า รหัสวขิ า ค๒๒๑๐๒ ชอื่ รายวชิ า คณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๖๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา วิเคราะห์ อธบิ าย ฝึกทกั ษะการแกป้ ัญหาจำนวนจรงิ จำนวนอตรรกยะ จำนวนจรงิ รากที่สอง และรากท่ีสามของจำนวนตรรกยะ การนำความรู้เกย่ี วกับจำนวนจรงิ ไปใช้พน้ื ทผ่ี วิ การหาพ้ืนท่ผี วิ ของปริซึม และทรงกระบอก การนำความรู้เก่ยี วกบั พนื้ ทีผ่ วิ ของปรซิ มึ และทรงกระบอกไปใช้ในการแกป้ ัญหาปริมาตรการ หาปริมาตรของปรซิ ึมและทรงกระบอกการนำความรเู้ กยี่ วกบั ปรมิ าตรของปริซึมและทรงกระบอกไปใชใ้ นการ แกป้ ญั หาเสน้ ขนานสมบัตเิ กี่ยวกบั เสน้ ขนานและรูปสามเหลย่ี มทฤษฎีบทพที โกรัสทฤษฎบี ทพีทาโกรัสและบท กลบั การนำความรู้เกย่ี วกับทฤษฎบี ทพที าโกรสั และบทกลับไปใชใ้ นชีวติ จรงิ สถติ ิการนำเสนอและวเิ คราะห์ ข้อมลู ได้แก่ แผนภาพจุด แผนภาพตน้ - ใบฮสิ โทแกรมและคา่ กลางของข้อมลู การแปลความหมายผลลัพธก์ าร นำสถติ ไิ ปใช้ในชีวิตจรงิ โดยนำความรู้ ทกั ษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ท่หี ลากหลายมาใช้ในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ ต่างๆได้อยา่ งเหมาะสม มเี หตผุ ลประกอบในการตดั สนิ ใจ และสรปุ ผลไตอ้ ย่างเหมาะสม ใช้ภาษาและ สัญลกั ษณ์ทางคณติ ศาสตร์ในการสอ่ื สาร ส่ือความหมาย และนำเสนอได้อยา่ งถกู ต้องชดั เจน เชอ่ื มโยงความรู้ ตา่ งๆในคณิตศาสตรแ์ ละนำความรู้ทักษะกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ไปเช่อื มโยงกับศาสตรอ์ นื่ ๆและมี ความคดิ ริเริม่ สรา้ งสรรค์ มกี ารบรู ณาการโดยการเก็บขอ้ มลู ความพงึ พอใจของผลงานนำเสนอ ช้นิ งานเรื่อง ครรลองเอกลักษณ์ เพอื่ ใหเ้ กิดคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ สามารถทำงานอย่างมรี ะบบระเบียบ รอบคอบ รบั ผดิ ชอบมี วิจารณญาณ มีความเชื่อมนั่ ในตนเอง มคี วามซ่อื สตั ยส์ ุจรติ มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมัน่ ในการทำงาน รักความเป็น ไทย มีจิตสาธารณะ พร้อมท้งั ตระหนักในคณุ คา่ และมเี จตคตทิ ด่ี ีตอ่ คณิตศาสตร์

๒๑๒ รหัสและตัวชว้ี ดั ค๑.๑ ม.๒/๒ ค๒.๑ม.๒/๑ค๒.๑ ม.๒/๒ ค๒.๒ ม.๒/๒ค๒.๒ ม.๒/๕ ค๓.๑ ม.๒/๑ รวมท้ังหมด ๖ ตัวชี้วัด

๒๑๓ คำอธบิ ายรายวิชา รหัสวชิ า ค๒๓๑๐๑ ชอ่ื รายวชิ า คณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๖๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาความรูเ้ กี่ยวกบั เร่อื งการหาพนื้ ทผ่ี ิวและปริมาตรของพรี ะมดิ ทรงกรวย และทรงกลม การใช้ ความรู้เก่ยี วกบั พนื้ ที่ และปรมิ าตรแก้ปัญหาในสถานการณต์ า่ ง ๆฟงั กช์ นั กำลงั สอง ความคลา้ ย โดยจดั ประสบการณ์ กิจกรรม หรือ โจทยป์ ัญหาท่ีส่งเสรมิ การพฒั นาทกั ษะกระบวนการทาง คณิตศาสตรใ์ นการคดิ คำนวณการใหเ้ หตผุ ล การวเิ คราะห์ การแก้ปญั หา การสอื่ สาร การส่ือความหมาย และ การนำเสนอ เพอ่ื ให้เกดิ ความรูค้ วามเขา้ ใจความคิดรวบยอด ใฝ่รู้เรียน มีระเบยี บวินัยมงุ่ มนั่ ในการทำงานอยา่ งมี ระบบ ประหยดั ซอ่ื สตั ยม์ วี ิจารณญาณ รู้จกั นำความรูไ้ ปประยกุ ตใ์ ช้ในการดำรงชีวิตไดอ้ ยา่ งพอเพียง รวมท้งั มี เจตคตทิ ด่ี ีต่อคณิตศาสตร์ รหสั ตัวช้ีวดั ค๑.๒ ม ๓/๒ ค ๒.๑ ม.๓/๑ ค ๒.๑ ม.๓/๒ ค ๒.๒ ม.๓/๑ รวม ๔ ตวั ข้วี ัต

๒๑๔ คำอธบิ ายรายวชิ า รหัสวชิ า ค๒๓๑๐๒ ชอื่ รายวชิ า คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาความรูเ้ กี่ยวกับเร่อื งอสมการเชงิ เส้นตวั แปรเดยี วและการแก้ปัญหา สถิติ วิธีการศึกษาและการ ก็รวบรวมข้อมลู ที่เหมาะสม การหาคา่ เฉลีย่ เลขคณติ มธั ยฐาน และ ฐานนยิ มของขอ้ มูลท่ไี มไ่ ดแ้ จกแจงความถี่ การนำเสนอขอ้ มลู ความนำจะเปน็ ของเหตกุ ารณ์จากการทดลองสุม่ ทผ่ี ลแต่ละตัวมีโอกาสเกิดข้ึนเท่าๆ กนั และ นำไปใชใ้ นการคาดการณไ์ ดอ้ ยา่ งสมเหตสุ มผล โดยจัดประสบการณ์ กจิ กรรม หรือ โจทย์ปญั หาท่ีส่งเสริมการพฒั นาทกั ษะกระบวนการทาง คณติ ศาสตร์ในการคิดคำนวณ การให้เหตผุ ล การวเิ คราะห์ การแกป้ ญั หา การส่อื สาร การสอ่ื ความหมาย และ การนำเสนอ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรคู้ วามเข้าใจความคิดรวบยอด ใฝ่รู้เรยี น มรี ะเบยี บวินยั มุ่งม่ันในการทำงานอย่างมี ระบบ ประหยดั ซอื่ สตั ย์ มวี จิ ารณญาณ รูจ้ กั นำความรูไ้ ปประยุกต์ใชใ้ นการดำรงชวี ติ ได้อยา่ งพอเพยี ง รวมท้ังมี เจตคติที่ดตี อ่ คณติ ศาสตร์ เพือ่ ให้นกั เรียนมีความรู้ และเขา้ ใจเกี่ยวกับประวัตคิ วามเปน็ มาของสถานที่และ เอกลักษณข์ อง จงั หวดั อ่างทอง ตระหนกั ถึงความสำคัญ ตลอดจนมสี ว่ นรว่ มในการสืบสานและอนุรักษแ์ หล่งท่องเท่ียวของ จงั หวัดอ่างทองและนำความรทู้ ไ่ี ดไ้ ปประยกุ ต์ใช้ในการดำรงชีวติ ได้อยา่ งเหมาะสม รหสั ตวั ช้ีวัด ค๑.๓ ม.๓/๑ ค ๒.๒ ม.๓/๒ ค ๓.๑ ม.๓/๑ ค๓.๒ ม.๓/๑ รวม ๔ ตวั ขี้วัด

๒๑๕ คำอธบิ ายรายวิชา รหสั วิชา ค๒๑๒๐๑ ชอื่ รายวิชาคณติ ศาสตร์เพ่มิ เตมิ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๐ หน่วย กติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาและฝกึ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์อนั ได้แก่การแก้ปญั หา การใหเ้ หตุผล การสื่อสาร การสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์และการนำเสนอ การเชือ่ มโยงความรูต้ ่างๆ ทางคณิตศาสตร์และ เชอื่ มโยง คณิตศาสตร์กบั ศาสตรอ์ น่ื ๆและความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรคใ์ นสาระต่อไปนกี้ ารประยกุ ต์๑ รูปเรขาคณติ จำนวน นับ ร้อยละในชวี ติ ประจำวัน และปญั หาชวนคิด จำนวนและตัวเลข ระบบตวั เลขโรมัน ระบบตัวเลขฐานต่างๆ และการเปลย่ี นฐานในระบบตวั เลข การประยกุ ต์ของจำนวนเตม็ และเลขยกกำลัง การคิดคำนวณ และโจทย์ ปัญหาการสร้าง การแบง่ สว่ นของเส้นตรง การสรา้ งมุมขนาดต่างๆ และการสรา้ งรูปสามเหลย่ี มและรูปสเ่ี หล่ียม ด้านขนาน โดยจดั ประสบการณ์หรือสร้างสถานการณใ์ นชีวติ ประจำวันทีใ่ กลัตวั ให้ผเู้ รยี นได้ศกึ ษาชวนขวายโดย การปฏบิ ตั จิ ริง ทดลอง สรปุ รายงานเพ่ือพฒั นาทักษะและกระบวนการในการคดิ คำนวณ การ แกป้ ญั หา การ ให้เหตผุ ล การสื่อความหมายทางคณติ ศาสตรแ์ ละนำประสบการณด์ ้านความคดิ รวบยอดทักษะและ กระบวนการทไี่ ดไ้ ปใชใ้ นการเรยี นรูส้ ่ิงตา่ งๆ และใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อยา่ งสรา้ งสรรค์ เหน็ คณุ คา่ และมเี จตคติที่ดีตอ่ คณิตศาสตรส์ ามารถทำงานอย่างเปน็ ระบบระเบียบ มีความรอบคอบมี ความรับผดิ ชอบ มวี ิจารณญาณ และมีความเช่อื ม่นั ในตนเอง ผลการเรียนรู้ ๑. ใชค้ วามรู้และทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตรแ์ ก้ปัญหาต่างๆได้ ๒. ตระหนกั ถงึ ความสมเหตุสมผลของคำตอบทไ่ี ด้ ๓. อา่ นและเขยี นตัวเลขโรมนั ได้ ๔. บอกคำของเลขโดดในตวั เลขฐานตา่ งๆทก่ี ำหนดให้ได้

๒๑๖ ๕. เขียนตัวเลขฐานที่กำหนดให้เป็นตัวเลขฐานๆตา่ งๆได้ ๖. ใชค้ วามรเู้ กยี่ วกับจำนวนเต็มและเลขยกกำลังในการแก้ปัญหาได้ ๗. ใชก้ ารสร้างพ้นื ฐานสร้างมมุ ขนาดตา่ งๆได้ ๘. ใช้การสรา้ งพนื้ ฐานสร้างรูปชบั ซอ้ นขึ้นได้ รวมทั้งหมด ๘ ผลการเรยี นรู้

๒๑๗ คำอธบิ ายรายวิชา รหัสวชิ า A๒๑๒๐๒ ชื่อรายวิชาคณติ ศาสตร์เพม่ิ เตมิ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต ศกึ ษา และฝกึ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์อันไดแ้ กก่ ารแก้ปญั หา การให้เหตุผล การ ส่ือสาร การสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์และการนำเสนอ การเชือ่ มโยงความรตู้ ่างๆทางคณติ ศาสตร์และ เช่ือมโยงคณติ ศาสตรก์ ับศาสตรอ์ น่ื ๆและความรเิ ริม่ สรา้ งสรรค์ในสาระตอ่ ไปนี้ การเตรยี มความพรอ้ มในการให้เหตุผล การให้เหตผุ ลในชีวติ ประจำวนั และการให้เหตผุ ลทาง คณติ ศาสตรอ์ ย่าง ง่ายพหนุ าม เอกนาม การบวก การลบ การคูณ และการหารเอกนาม พหนุ าม การบวก การลบพหุนาม การ คณู และการหารพหุนามอยา่ งงา่ ยการประยุกต์ของจำนวนและพชื คณติ และการประยกุ ตท์ างเรขาคณติ โดยจดั ประสบการณ์หรอื สรา้ งสถานการณ์ในชีวิตประจำวนั ท่ีใกล้ตัวให้ผเู้ รียนได้ศึกษาโดย การปฏิบตั จิ รงิ ทดลอง สรุปรายงาน เพ่อื พัฒนาทกั ษะและกระบวนการในการคิดคำนวณ การ แกป้ ญั หา การใหเ้ หตุผล การสอ่ื ความหมาย ทางคณิตศาสตรแ์ ละนำประสบการณด์ ้านความรคู้ วามคิด ทักษะและกระบวนการทีไ่ ดไ้ ปใชใ้ นการเรยี นรูส้ ่งิ ต่างๆ และใช้ในชีวิตประจำวัน เหน็ คณุ ค่าและมเี จตคตทิ ีด่ ตี อ่ คณติ ศาสตร์สามารถทำงานอย่างเป็นระบบระเบียบ มีความรอบคอบ มี ความรับผิดชอบ มีวจิ ารณญาณ และมคี วามเช่อื มัน่ ในตนเอง ผลการเรียนรู้ ๑. สงั เกตข้อความคาดการณแ์ ละใหเ้ หตุผลทางคณติ ศาสตร์อยา่ งงา่ ยได้ ๒. หาผลบวกและผลลบของเอกนามและพหนุ ามได้ ๓. หาผลคณู และผลหารของเอกนามและพหุนามได้ ๔. ใช้วิธีการท่ีหลากหลายแกป้ ัญหาได้ ๕. ใชค้ วามรแู้ ละทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์แกป้ ญั หาตา่ งๆได้ ๖. ตระหนักถึงความสมเหตสุ มผลของคำตอบทีไ่ ด้ รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรยี นรู้

๒๑๘ คำอธบิ ายรายวิชา รหสั วชิ า ค๒๒๒๐๑ ช่ือรายวชิ า คณติ ศาสตร์เพมิ่ เติม กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑ หนว่ ยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความรเู้ ก่ียวกบั เร่อื งสมบตั ิของเลขยกกำลัง สมบัตขิ องเลขยกกำลัง การดำเนินการของเลขยก กำลังสมบตั อิ ืน่ ๆของเลขยกกำลงั พหนุ ามและเศษส่วนของพหุนาม ทบทวนพหนุ าม การคณู พหุนาม การหาร พหุนามเศษส่วนของพหนุ าม การคูณและการหารเศษส่วนของพหนุ่ าม การบวกและการลบเศษของพหนุ าม การประยุกต์เกย่ี วกับอตั ราส่วนและรอ้ ยละการประยกุ ตเ์ กยี่ วกบั อตั ราส่วน การประยกุ ตเ์ ก่ยี วกบั รอ้ ยละ การ ประยกุ ตเ์ กย่ี วกับอตั ราสว่ นและรอ้ ยละ การประยตุ ข์ องการแปลงทางเรขาคณติ การประยกุ ต์ของการเล่ือน ขนาน การประยุกตข์ องการสะท้อน การประยุกต์ของการหมนุ เทสเซลเลซัน โดยจดั ประสบการณ์ กจิ กรรมหรอื โจทย์ท่สี ง่ เสรมิ การพัฒนาทักษะกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ใน การคิดคำนวณ การให้เหตุผล การวเิ คราะห์ การแกป้ ัญหา การส่อื สาร การสือ่ ความหมาย และการนำเสนอ เพื่อให้เกดิ ความรู้ความเขา้ ใจ ความคดิ รวบยอด ใฝร่ ้ไู ฝ่เรียน มรี ะเบียบวินยั มงุ่ มน่ั ในการทำงานอย่างมี ระบบ ประหยดั ซ่อื สตั ย์ มวี จิ ารณญาณ รู้จกั นำความรไู้ ปประยกุ ตใ์ ช้ในการดำรงชีวติ ได้อยา่ งพอเพียง รวมทัง้ มี เจตคติตอ่ คณิตศาสตร์ ผลการเรยี นรู้ ๑. คูณและหารจำนวนทเ่ี ขียนอยูใ่ นรูปเลขยกกำลังทมี่ เี ลขชก้ี ำลังเป็นจำนวนเต็มได้โดยใช้บทนิยาม ๒. ใช้สมบัติของเลขยกกำลงั ในการแก้ปัญหาได้ ๓. หาผลคณู และผลหารของเลขยกกำลังทีม่ ฐี านอยู่ในรูปการคูณหรือการหารของจำนวนหลายๆจำนวนได้ ๔. คำนวณและใช้เลขยกกำลงั ในการเขยี นแสดงจำนวนท่มี คี ำน้อย ๆ หรอื มาก ๆ ในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตรไ์ ด้ ๕. ตระหนกั ถึงความสมเหตุสมผลของคำตอบไต้ ๖. บวก ลบ คณู หาร พหนุ ามได้ ๗. คณู เอกนามกบั พหนุ าม และหารพหนุ ามด้วยเอกนามได้ ๘. หาผลคูณและหารของเศษสว่ นพหุนามอยา่ งง่าย ในรูปผลสำเรจ็ ได้

๒๑๙ ๙. หาผลบวกและลบของเศษสว่ นพหนุ ามอย่างง่าย ในรปู ผลสำเรจ็ ได้ ๑๐. แกโ้ จทยป์ ัญหาเก่ยี วกบั อตั ราส่วนและร้อยละได้ ๑๑. ใชค้ วามรเู้ กยี่ วกบั อัตราสว่ นและสดั สว่ น และร้อยละ แก้ปัญหาหรือสถานการณ์ต่างๆได้ ๑๒. ใชค้ วามรเู้ กย่ี วกับการเลอ่ื นขนาน การสะท้อนและการหมนุ ไปแก้ปญั หาท่ีกำหนดใหไ้ ด้ ๑๓. ใชค้ วามรเู้ กย่ี วกับการเลอ่ื นขนาน การสะท้อนและการหมนุ ในการสร้างสรรคง์ านศลิ ปะหรือออกแบบ ลวดลายเทสเซลเลชันได้ รวมทง้ั หมด ๑๓ ผลการเรียนรู้

๒๒๐ คำอธบิ ายรายวชิ า รหัสวขิ าค ๒๒๒๐๒ ชื่อรายวชิ า คณติ ศาสตร์เพิม่ เติม กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๒ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑ หน่วยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความรู้เก่ียวกบั เร่ืองการแยกตวั ประกอบของพหนุ ามดีกรสี อง การแยกตัวประกอบโดยใชส้ มบัติ การแจกแจง การแยกตวั ประกอบของพหนุ ามตีกรสี องตัวแปรเตยี ว การแยกตวั ประกอบของพหนุ ามตกี รสี องท่ี เปน็ กำลงั สองสมบูรณ์ การแยกตัวประกอบของพหนุ ามตีกรีสองที่เป็นผลต่างกำลงั สอง สมการกำลังสองตัวแปร เดียวสมการกำลงั สองตัวแปรเตียว โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสมการกำลงั สองตวั แปรเดียว การแปรผนั การแปรผัน ตรง การแปรผกผันการแปรผนั เก่ยี วเน่อื ง โดยจดั ประสบการณ์ กจิ กรรมหรอื โจทย์ท่สี ง่ เสรมิ การพัฒนาทักษะกระบวนการทางคณติ ศาสตรใ์ น การคดิ คำนวณ การใหเ้ หตุผล การวเิ คราะห์ การแก้ปญั หา การสอ่ื สาร การสอ่ื ความหมาย และการนำเสนอ เพอื่ ให้เกิดความร้คู วามเข้าใจ ความคดิ รวบยอต ใฝร่ ูใ้ ฝเ่ รียน มรี ะเบยี บวนิ ยั มุง่ มั่นในการทำงานอย่าง มีระบบ ประหยัด ชือ่ สตั ย์ มวี จิ ารณญาณ รจู้ กั นำความรไู้ ปประยุกตใ์ ชใ้ นการดำรงชีวติ ได้อยา่ งพอเพียง รวมท้ัง มีเจตคติต่อคณติ ศาสตร์ ผลการเรียนรู้ ๑. แยกตวั ประกอบของพหุนามโดยใช้สมบัตกิ ารแจกแจงได้ ๒. แยกตัวประกอบพหนามดีกรีสองตวั แปรเดยี วทม่ี ีสัมประสิทธิข์ องแตล่ ะพจนเ์ ป็นจำนวนเต็มและมี สัมประสิทธข์ิ องแต่ละพจนในพหนุ ามตัวประกอบเปน็ จำนวนเตม็ ๓. แยกตัวประกอบของพหนุ ามดีกรสี องท่เี ป็นกำลงั สองสมบูรณ์และเขียนอย่ใู นรูป ������๒ + ๒AB+������๒หรือ ������๒ - ๒AB +������๒เม่ือ A และ B เป็นพหุนามได้ ๔. แยกตัวประกอบของพหุนามดกี รสี องท่เี ปน็ ผลตา่ งของกำลังสองสมบรู ณ์และเขียนอยใู่ นรปู A' -Bเมื่อ A และ B เป็นพหนุ ามได้ ๕. แกส้ มการกำลังสองตวั แปรเตียวโดยใช้การแยกตัวประกอบได้ ๖. แกโ้ จทย์ปญั หาเก่ียวกบั สมการกำลงั สองตวั แปรเตียวโดยใชก้ ารแยกตวั ประกอบได้

๒๒๑ ๗. ตระหนักถงึ ความสมเหตสุ มผลของคำตอบทไ่ี ด้ ๘. บอกความเกย่ี วขอ้ งของปรมิ าณสองปริมาณท่ีกำหนดใหใ้ นรูปของการแปรผนั เมอ่ื กำหนดความสมั พันธ์ ระหวา่ งสองปรมิ าณนน้ั ได้ ๙. เขียนสมการแสดงการแปรผันระหวา่ งปรมิ าณสองปริมาณใดๆ ท่แี ปรผันตอ่ กันได้ ๑๐. แกป้ ญั หาหรือสถานการณ์ทก่ี ำหนดโดยใช้ความรเู้ ก่ยี วกบั การแปรผันได้ ๑๑. นำความรเู้ ก่ยี วกับการแปรผนั ไปใชแ้ กป้ ญั หาในชวี ติ ประจำวนั ได้ รวมท้งั หมด ๑๑ผลการเรยี นรู้

๒๒๒ คำอธบิ ายรายวชิ า รหสั วิชา ค๒๓๒๐๑ ชอื่ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ฟืน้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ช่วั โมง จำนวน ๑ หนว่ ยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาความรู้เกยี่ วกบั เรื่องกรณฑ์ที่สอง การบวก การลบ การคณู และการหารจำนวนจริงที่อยู่ในรปู √������เม่ือ a≥๐ โดยใช้สมบัติ (๑) √������������=√������√������ เม่อื a≥ ๐ และ b≥๐(๒)√������ -√������ ปรมิ าตรและพน้ื ที่ ������ √������ ผวิ การหาพน้ื ท่ีผวิ ชองพีระมิด กรวย และ ทรงกลม การแก้ปญั หาหรือ สถานการณ์ โดยใช้ความร้เู กย่ี วกบั ปรมิ าตรและพ้ืนที่ผิว การแยกตัวประกอบของพหุนาม การแยกตวั ประกอบของพหุนามตกี รสี องโดยวธิ ีการทำ เป็นกำลังสองสมบูรณ์การแยกตวั ประกอบของพหุนามดีกรีสองทีม่ ี สัมประสทิ ธ์ิเปน็ จำนวนเตม็ โดยอาศัยวิธีทำเปน็ กำลงั สองสมบรู ณ์ หรอื ใช้ทฤษฎีเศษเหลอื สมการกำลังสองการ แกส้ มการกำลงั สองตวั แปรเดียวโดยใช้สตู ร x =−������±√๒−������������๒−๔������������การแกโ้ จทย์ปัญหาเก่ียวกบั สมการกำลงั สอง ตวั แปรเดยี ว พาราโบลา สมการพาราโบลา กราฟของพาราโบลาทอ่ี ยู่ในรปู y = a������๒ +bx +c เมือ่ a≠๐ โดยจดั ประสบการณ์ กจิ กรรม หรอื โจทยป์ ัญหาทีส่ ่งเสรมิ การพฒั นาทักษะกระบวนการทาง คณิตศาสตร์ในการคิดคำนวณ การใหเ้ หตผุ ล การวเิ คราะห์ การแกป้ ญั หา การสอ่ื สาร การส่ือความหมาย และ การนำเสนอ เพือ่ ให้เกิดความรู้ความเข้าใจความคิดรวบยอด ใฝ่รู้ใฝ่เรยี น มีระเบยี บวนิ ัยมงุ่ มนั่ ในการทำงาน อย่างมรี ะบบ ประหยดั ซ่ือสตั ย์ มีวจิ ารณญาณ รจู้ กั นำความรู้ไปประยุกตใ์ ช้ในการดำรงชีวติ ได้อย่างพอเพยี ง รวมท้ังมเี จตคตทิ ดี่ ตี อ่ คณิตศาสตร์ ผลการเรียนรู้ ๑. บวก ลบ คณู และหารจำนวนจรงิ ท่อี ยใู่ นรูป √������ เมอื่ a≥๐ และ b≠๐ √������ -√������เมอื่ a≥ ๐ และ b≥๐ ������ √������ ๒.หาพืน้ ท่ีผิวของพรี ะมดิ กรวย และ ทรงกลมได้ ๓. แกป้ ญั หาหรอื สถานการณท์ ่ีกำหนดใหโ้ ดยใช้ความรเู้ กยี่ วกบั ปริมาตรและพนื้ ที่ผวิ ได้ ๔. ตระหนกั ถึงความสมเหตุสมผลของคำตอบได้

๒๒๓ ๕. การแยกตัวประกอบของพหนุ ามดีกรีสองท่ีอยใู่ นรปู ค่าสมบูรณ์ ๖. แยกตัวประกอบของพหุนามตีกรีสูงทีม่ สี มั ประสทิ ธิ์เปน็ จำนวนเตม็ โดยอาศยั วธิ กี ารทำเปน็ กำลงั สองสมบูรณห์ รือทฤษฎเี ศษเหลือได้ ๗. การแก้สมการกำลงั สองตวั แปรเดยี วโดยใช้สตู ร x=-b:Vb๓ -๔ac ได้ ๘. แกโ้ จทยป์ ญั หาเกีย่ วกบั สมการกำลังสองตัวแปรเดยี วได้ ๙. เขียนกราฟของพาราโบลาทีก่ ำหนดให้ได้ ๑๐. บอกลกั ษณะของกราฟพาราโบลาทก่ี ำหนดให้ได้ รวมทัง้ หมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้

๒๒๔ คำอธบิ ายรายวิชา รหสั วชิ า ค๒๓๒๐๒ ช่ือรายวชิ าคณติ ศาสตร์พนื้ ฐาน กลุม่ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑ หน่วยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความร้เู กยี่ วกับเรอ่ื งการให้เหตผุ ล สมบตั เิ กยี่ วกับวงกลม การใหเ้ หตผุ ลเกย่ี วกับการสรา้ งรูป เรขาคณิต ระบบสมการการแก้ระบบสมการสองตัวแปรท่ีมดี ีกรึไม่เกนิ สอง การแกโ้ จทยป์ ัญหาเก่ียวกับระบบ สมการสองตัวแปรท่ีมีตึกรไี มเ่ กินสอง เศษสว่ นของพหนุ าม การบวก การลบ การคูณ การหารเศษสว่ นของพหุ นาม การแก้สมกรเศษสว่ นของพหนุ าม การแกป้ ญั หาเกีย่ วกับเศษสว่ นพหนุ าม โดยจดั ประสบการณ์ กจิ กรรม หรอื โจทยป์ ญั หาที่สง่ เสรมิ การพฒั นาทักษะกระบวนการทาง คณติ ศาสตร์ในการคิดคำนวณการให้เหตผุ ล การวิเคราะห์ การแกป้ ัญหา การส่อื สาร การส่อื ความหมาย และ การนำเสนอ เพือ่ ให้เกิดความรู้ความเขา้ ใจวามคิดรวบยอด ใฝ่ร้ไู ฝ่เรียนมรี ะเบยี บวินยั ม่งุ มนั่ ในการทำงานอย่างมี ระบบประหยดั ซื่อสัตย์ มีวิจารณญาณ ร้จู ักนำความรไู้ ปประยุกต์ใชใ้ นการดำรงชีวิตไดอ้ ยา่ งพอเพยี ง รวมทง้ั มี เจตคตทิ ่ีดีต่อคณิตศาสตร์ ผลการเรียนรู้ ๑. ใชส้ มบตั ิเกยี่ วกับวงกลมในการให้เหตุผลได้ ๒. สร้างและให้เหตุผลเก่ียวกับการสร้างรูปเหลยี่ มและรปู วงกลมที่กำหนดให้ได้ ๓. แกร้ ะบบสมการสองตวั แปรทมี่ ีดกี รีไม่เกินสองได้ ๔. แกโ้ จทยป์ ญั หาเกยี่ วกบั ระบบสมการสองตวั แปรดีกรไึ มเ่ กินสองไต้

๒๒๕ ๕. ตระหนกั ถึงความสมเหตุสมผลของคำตอบทไ่ี ด้ ๖. การบวก การลบ การคณู การหารเศษสว่ นของพหุนามได้ ๗. แก้สมการเศษสว่ นของพหนุ ามได้ ๘. แก้ปญั หาเกย่ี วกับเศษสว่ นของพหนุ ามได้ ๙. สืบเสาะ สังเกต ใหข้ อ้ ความคาดการณ์และใหเ้ หตผุ ลทางคณติ ศาสตร์อยา่ งง่ายได้ รวมท้ังหมด ผลการเรยี นรู้

๒๒๖ คำอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐานและเพิ่มเตมิ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาตอนปลาย

๒๒๗ โครงสร้างกลุ่มสาระการเรียนรู้ ระดับช้ันมธั ยมศึกษาตอนปลาย กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ รายวชิ าพ้นื ฐาน ค ๓๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกติ ค ๓๑๑๐๒ คณิตศาสตร์ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ค ๓๑๑๐๓ คณิตศาสตร์ จำนวน ๑๒๐ ช่วั โมง ๓.๐ หนว่ ยกติ ค ๓๑๑๐๔ คณิตศาสตร์ จำนวน ๑๒๐ ชว่ั โมง ๓.๐ หนว่ ยกิต ค ๓๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต ค ๓๒๑๐๒ คณติ ศาสตร์ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต ค ๓๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ค ๓๓๑๐๒ คณิตศาสตร์ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต รายวชิ าเพิ่มเตมิ ค ๓๑๒๐๑ คณิตศาสตร์ จำนวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หนว่ ยกิต ๑.๕ หน่วยกิต ค ๓๑๒๐๒ คณติ ศาสตร์ จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกิต ๑.๕ หน่วยกิต ค ๓๒๒๐๑ คณติ ศาสตร์ จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หนว่ ยกติ ๑.๕ หนว่ ยกติ ค ๓๒๒๐๒ คณติ ศาสตร์ จำนวน ๖๐ ชวั่ โมง ๓.๐ หนว่ ยกิต ๓.๐ หน่วยกิต ค ๓๓๒๐๑ คณิตศาสตร์ จำนวน ๖๐ ชวั่ โมง ๒.๕ หนว่ ยกิต ๐.๕ หน่วยกติ ค ๓๓๒๐๒ คณิตศาสตร์ จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง ค ๓๒๒๐๓ คณิตศาสตร์ จำนวน ๑๒๐ ชว่ั โมง ค ๓๒๒๐๔ คณติ ศาสตร์ จำนวน ๑๒๐ ชวั่ โมง ค ๓๓๒๐๓ คณิตศาสตร์ จำนวน ๑๐๐ ช่วั โมง ค ๓๐๒๐๑ คณติ โปรแกรมเสรมิ ๑ จำนวน ๒๐ ช่ัวโมง

๒๒๘ ค ๓๐๒๐๑ คณติ โปรแกรมเสรมิ ๑ จำนวน ๒๐ ช่ัวโมง ๐.๕ หน่วยกิต ค ๓๐๒๐๓ โครงงานคณิตศาสตร์ ๒ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต

๒๒๙ คำอธบิ ายรายวชิ า รหัสวขิ า ค๓๑๑๐๑ ชื่อรายวชิ า คณิตศาสตร์ กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความรู้เก่ยี วกับเร่ืองเซต การดำเนนิ การของเซต แผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ แสดงเชตและนำไปใช้ แกป้ ัญหา ตรรกศาสตร์เบ้อื งต้น ประพจน์ การเชอ่ื มประพจน์ และการหาคำความจริงของประพจน์การสรา้ ง ตารางค่าความจรงิ โดยจดั ประสบการณ์ กิจกรรม หรอื โจทย์ปัญหาทสี่ ง่ เสรมิ การพฒั นาทกั ษะกระบวนการทาง คณติ ศาสตรใ์ นการคดิ คำนวณการให้เหตุผล การวิเคราะห์ การแกป้ ญั หา การสื่อสาร การส่อื ความหมาย และ การนำเสนอ เพ่ือให้เกดิ ความรคู้ วามเข้าใจวามคดิ รวบยอด ใฝ่ร้ไู ฝ่เรยี น มรี ะเบียบวนิ ยั มุ่งมนั่ ในการทำงานอยา่ งมี ระบบ ประหยดั ซ่อื สตั ย์ มีวจิ ารณญาณ รจู้ กั นำความรไู้ ปประยุกต์ใชใ้ นการดำรงชวี ติ ได้อย่างพอเพียง รวมทั้งมี เจตคตทิ ่ดี ีต่อคณิตศาสตร์ รหสั ตัวชีว้ ัด ค๑.๑ ม ๔/๑ ค ๑.๒ ม ๔/๑ ค๑.๓ ม ๔/๑ รวม ๓ ตวั ขว้ี ดั

๒๓๐ คำอธบิ ายรายวชิ า รหัสวิชา ค๓๑๑๐๒ ชื่อรายวชิ า คณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ ๔ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความรเู้ ก่ียวกบั เรื่องความสมั พันธ์และฟงั ก์ชัน กราฟของสมการ อสมการ และ ฟังกช์ ันการ แก้ปญั หาโดยการใช้กราฟของสมการ สมการ และ ฟงั กช์ ัน โดยจดั ประสบการณ์ กจิ กรรม หรอื โจทยป์ ญั หาที่ส่งเสริมการพฒั นาทกั ษะกระบวนการทาง คณติ ศาสตรใ์ นการคดิ คำนวณ การใหเ้ หตผุ ลการวเิ คราะห์ การแก้ปัญหา การส่ือสาร การสอื่ ความหมาย และ การนำเสนอ เพือ่ ใหเ้ กดิ ความรคู้ วามเข้าใจความคิดรวบยอด ใฝร่ ้ใู ฝเรยี นมีระเบยี บวนิ ยั มุ่งม่นั ในการทำงานอยา่ งมี ระบบ ประหยัดซือ่ สตั ย์มีวิจารณญาณ รจู้ ักนำความรู้ไปประยุกตใ์ ช้ในการดำรงชวี ติ ใด้อย่างพอเพียง รวมท้งั มี เจตคตทิ ี่ดีต่อคณิตศาสตร์ รหัสตวั ชี้วัด ค๑.๑ ม ๔/๑ ค๑.๒ ม ๔/๑ ค๑.๓ ม ๔/๑ ค ๒.๒ ม ๔/๑ รวม ๔ ตวั ข้ีวัด

๒๓๑ คำอธบิ ายรายวชิ า รหัสวชิ า ค๓๑๑๐๓ ช่ือรายวชิ า คณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๑๒๐ ช่วั โมง จำนวน ๓.๐ หนว่ ยกิต ศึกษาความรู้เกยี่ วกับเรื่องเซต การดำเนนิ การของเชต แผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ แสดงเซตและ นำไปใช้แก้ปญั หา ตรรกศาสตร์เบอื้ งต้น ประพจน์ การเช่ือมประพจน์ และการหาค่าความจรงิ ของประพจน์ การสรา้ งตารางคำความจรงิ สจั นริ ันร์ รูปแบบของประพจนท์ ่ีสมมูลกัน ขอ้ ความที่มีตวั บง่ ปริมาณ และคา่ ความ จรงิ ของประโยคที่มตี ัวบ่งปรมิ าณ สมมูลและนเิ สธของประโยคทม่ี ีตวั บง่ ปริมาณ การอ้างเหตผุ ลระบบจำนวน จริง จำนวนจรงิ การเทา่ กัน การบวก การลบ การคูณ และการหารในระบบจำนวนจรงิ สมบัติของจำนวนจรงิ การแก้สมการพหุนามตัวแปรเดยี ว สมการการไมเ่ ทา่ กัน ชว่ งและการแกอ้ สมการ คา่ สัมบรู ณ์ การแกส้ มการ และอสมการในรปู คำสมั บรู ณ์ทฤษฎีจำนวนเบ้อื งตน้ สมบตั ขิ องจำนวนเต็ม สมบตั กิ ารหารลงตวั การจำแนก จำนวนเต็มโดยใชส้ มบัตกิ ารหารลงตวั การจำแนกจำนวนเตม็ โดยสมบัตกิ ารหารลงตัว ขนั้ ตอนวิธกี ารหาร จำนวนเฉพาะ การหา ห.ร.ม. และ ค.ร.น. โดยจดั ประสบการณก์ ิจกรรม หรือ โจทยป์ ญั หาทส่ี ง่ สรมิ การพฒั นาทกั ษะกระบวนการทาง คณติ ศาสตร์ในการคดิ คำนวณ รให้เหตุผล การวิเคราะห์ การแกป้ ญั หา การสอื่ สาร การส่ือความหมาย และ การนำเสนอ เพ่อื ใหเ้ กดิ ความรู้ความเข้าใจความคดิ รวบยอด ใฝ่ร้ใู ฝเ่ รียน มีระเบียบวนิ ยั มุ่งม่นั ในการทำงานอยา่ งมี ระบบ ประหยัดซื่อสตั ย์ มีวจิ ารณญาณ รู้จกั นำความรูไ้ ปประยกุ ต์ใช้ในการดำรงชีวติ ได้อย่างพอเพียง รวมทงั้ มี เจตคติที่ดตี ่อคณติ ศาสตร์ รหัสตวั ชว้ี ดั ค ๑.๑ ม ๔/๑, ค ๑.๑ ม ๔/๒, ค ๑.๑ ม ๔/ ๓, ค ๑.๑ ม ๔/๔, ค ๑.๑ ม ๔/๕, ค ๑.๑ ม ๔/๖ ค ๑.๒ ม ๔/๑. ค ๑.๒ ม ๔/๒ ค ๑.๓ ม ๔/๑, ค ๑.๓ ม ๔/๒, ค ๑.๓ ม ๔/ ๓, ค ๑.๓ ม ๔/๔. ค ๑.๓ ม ๔/๕, ค ๑.๓ ม ๔/๖ รวม ๑๔ ตวั ขวี้ ัด

๒๓๒ คำอธบิ ายรายวชิ า รหสั วิขา ค๓๑๑๐๔ ชือ่ รายวชิ า คณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๙๐ ชว่ั โมง จำนวน ๓.๐ หน่วยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาความรูเ้ กีย่ วกับเรือ่ ง ฟังก์ชนั กราฟของสมการ อสมการ และ ฟังก์ชัน การแก้ปัญหาโดยการใช้ กราฟของสมการ สมการ และ ฟังกช์ ัน ฟังก์ชนั คอมโพสทิ ฟังก์ชนั อนิ เวอรส์ พีชคณิตของฟงั ก์ชนั เรขาคณติ วิเคราะห์ เสน้ ตรง ระยะระหว่างจุดสองจดุ จุดก่ึงกลางระหว่างจดุ สองจดุ ความชนั ของเสน้ ตรงเส้นขนาน เสน้ ตั้งฉาก ความสัมพนั ธ์ซึ่งมกี ราฟเป็นเสน้ ตรง ระยะหา่ งระหว่างเสน้ ตัง้ ฉากกบั จดุ วงกลมพาราโบลา วงรี ไฮเพอรโ์ บลา โดยจดั ประสบการณ์ กจิ กรรม หรอื โจทย์ปัญหาทีส่ ่งเสริมการพฒั นาทกั ษะกระบวนการทาง คณิตศาสตร์ในการคดิ คำนวณการให้เหตผุ ล การวิเคราะห์ การแก้ปญั หา การสอื่ สาร การส่อื ความหมาย และ การนำเสนอ เพื่อใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจ ความคิดรวบยอด ใฝ่รู้ใฝเ่ รียน มรี ะเบียบวนิ ัยม่งุ ม่ันในการทำงานอย่างมี ระบบประหยดั ซอื่ สัตย์ มวี จิ ารณญาณ รจู้ กั นำความรู้ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดำรงชีวิตไดอ้ ย่างพอเพียง รวมท้ังมี เจตคติทีด่ ตี อ่ คณิตศาสตร์ รหสั ตวั ชีว้ ัด ค ๑.๑ ม ๔/๑, ค ๑.๑ ม ๔/๒, ค ๑.๑ ม ๔/ ๓, ค ๑.๑ ม ๔/๔ ค ๑.๒ ม ๔/๑, ค ๑.๒ ม ๔/๒. ค ๑.๒ ม ๔/๓ ค ๒.๒ ม ๔/๔ รวม ๘ ตวั ขี้วดั

๒๓๓ คำอธบิ ายรายวิชา รหัสวิชา ค๓๒๑๐๑ ชอ่ื รายวชิ า คณิตศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาความรู้เกย่ี วกับเร่ืองเลขยกกำลงั จำนวนจริงทอ่ี ยใู่ นรูปเลขยกกำลงั ท่มี เี ลขชก้ี ำลงั เปน็ จำนวน ตรรกยะและจำนวนจรงิ ท่อี ยูใ่ นรูปกรณฑ์ การหาผลลพั ธ์ทเี่ กิดจากการบวก การลบ การคูณ การหารจำนวน จรงิ ทอ่ี ยู่ในรูปเลขยกกำลังที่มเี ลขชกี้ ำลังเปน็ จำนวนตรรกยะและจำนวนจรงิ ท่อี ย่ใู นรปู กรณฑ์การหา คา่ ประมาณของจำนวนจริงทีอ่ ย่ใู นรูปกรณฑ์ โดยจดั ประสบการณ์ กิจกรรม หรือ โจทยป์ ญั หาท่ีส่งเสริมการพัฒนาทักษะกระบวนการทาง คณิตศาสตรใ์ นการคิดคำนวณการใหเ้ หตุผล การวิเคราะห์ การแก้ปัญหา การสือ่ สาร การสอ่ื ความหมาย การ นำเสนอและ การใช้เทคโนโลยี เพอ่ื ให้เกดิ ความรคู้ วามเข้าใจความคดิ รวบยอด ใฝร่ ใู้ ฝเ่ รยี น มีระเบยี บวนิ ัยมุ่งม่นั ในการทำงานอย่างมี ระบบ ประหยดั ซอ่ื สัตย์มีวจิ ารณญาณ ร้จู กั นำความรไู้ ปประยุกต์ใช้ในการดำรงชวี ติ ไดอ้ ยา่ งพอเพยี ง รวมทง้ั มี เจตคตทิ ่ีดตี ่อคณิตศาสตร์ รหสั ตวั ชีว้ ัด ค ๑.๑ ม ๕/๑ ค๑.๓ ม ๕/๑ รวม ๒ ตัวข้ีวดั

๒๓๔ คำอธบิ ายรายวชิ า รหัสวิชา ค๓๒๑๐๒ ช่อื รายวชิ า คณติ ศาสตร์ กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๕ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๐ หน่วย กิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาความรเู้ กี่ยวกับเรือ่ งสถิติ การสำรวจความคิดเหน็ อยา่ งง่าย การหาคำเฉลยี่ เลขคณิต มธั ยฐาน ฐานนยิ ม สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน เปอรเ์ ซน็ ไทลข์ องข้อมลู การนำผลจากการสำรวจข้อมูลข่าวสารและคา่ สถิติ ไปใชใ้ นการคาดการณแ์ ละการตดั สินใจ โดยจดั ประสบการณ์ กิจกรรม หรือ โจทย์ปญั หาท่ีส่งเสรมิ การพฒั นาทักษะกระบวนการทาง คณติ ศาสตร์ในการคิดคำนวณการใหเ้ หตุผลการวเิ คราะห์ การแก้ปัญหา การสอื่ สาร การสื่อความหมาย และ การนำเสนอ เพอ่ื ให้เกดิ ความรู้ความเข้าใจความคดิ รวบยอด ใฝร่ ู้ใฝเ่ รยี น มีระเบยี บวนิ ัยมงุ่ มน่ั ในการทำงานอย่างมี ระบบ ประหยัดซือ่ สตั ย์มวี ิจารณญาณ รจู้ ักนำความรไู้ ปประยุกตใ์ ชใ้ นการดำรงชีวิตไดอ้ ยา่ งพอเพียง รวมทั้งมี เจตคติท่ดี ตี ่อคณิตศาสตร์ รหัสตัวชว้ี ดั ค๑.๑ ม ๕/๑ ค๑.๓ ม ๕/๑ ค ๒.๑ ม ๕/๑ รวม ๓ ตัวชี้วดั

๒๓๕ คำอธบิ ายรายวชิ า รหัสวชิ า ค๓๓๑๐๑ ชอื่ รายวชิ า คณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ๖ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความรเู้ ก่ยี วกับเร่อื งลำดบั และอนกุ รม ความหมายของลำดบั ลำดับเลขคณติ ลำดบั เรขาคณติ การหาพจนท์ ่ัวไปของลำดบั จำกัดลำดบั เลขคณลิ ำดบั เรขาคณติ การหาพจนต์ า่ ง ๆ ของลำดบั เลขคณิตลำดับ เรขาคณิต และการนำไปใช้อนกุ รมเลขคณิและอนกุ รมเรขาคณิต ความหมายของผลบวก n พจนแ์ รกของ อนกุ รมเลขคณติ และ อนกุ รมเรขาคณิตการหาผลบวก n พจนแ์ รกของอนกุ รมเลขคณิต อนกุ รมเรขาคณติ โดย ใชส้ ตู รและการนำไปใช้ ดอกเบย้ี และมูลค่าของเงิน ดอกเบย้ี และมลู คา่ ของเงินในการแกป้ ัญหา โดยจดั ประสบการณ์ กิจกรรม หรือ โจทยป์ ญั หาทสี่ ง่ เสรมิ การพัฒนาทักษะกระบวนการทาง คณติ ศาสตรใ์ นการคดิ คำนวณการใหเ้ หตผุ ล การวิเคราะห์ การแก้ปญั หา การสอ่ื สาร การส่อื ความหมาย และ การนำเสนอ เพื่อให้เกดิ ความรู้ความเขา้ ใจความคดิ รวบยอด ใฝ่รใู้ ฝเ่ รียน มรี ะเบียบวนิ ัยมงุ่ ม่นั ในการทำงานอย่างมี ระบบ ประหยัดซอ่ื สตั ย์ มวี จิ ารณญาณ รจู้ กั นำความร้ไู ปประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวติ ไดอ้ ย่างพอเพียง รวมทัง้ มี เจตคตทิ ่ีดตี ่อคณิตศาสตร์ รหสั ตวั ชี้วัด ค ๑.๑ ม ๖/ ๑, ค ๑๑ ม ๖/ ๒ ค ๑.๒ ม ๖/ ๑, ค ๑๒ ม ๖/๒ ค ๑.๓ ม ๖/ ๑, ค ๑.๓ ม ๖/ ๒ รวม ๖ ตัวขี้วัด

๒๓๖ คำอธบิ ายรายวิชา รหัสวิชา ค๓๓๑๐๒ ชือ่ รายวชิ า คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๒ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาความรูเ้ กย่ี วกับเรื่องหลกั การนบั เบื้องตน้ หลักการบวกและการคณู การเรยี งสบั เปลย่ี นเชงิ เส้น กรณีทสี่ งิ่ ของแตกต่างกนั ทั้งหมดการจัดหมกู่ รณที สี่ ่งิ ของแตกตา่ งกนั ทั้งหมดความนา่ จะเป็นการทดลองส่มุ เหตุการณค์ วามนา่ จะเปน็ ของเหตกุ ารณก์ ารนำผลท่ไี ด้ไปใช้คาดการณก์ ารแก้ปัญหาและการตัดสนิ ใจ โดยจดั ประสบการณ์ กจิ กรรม หรือ โจทยป์ ัญหาท่ีสง่ เสรมิ การพัฒนาทกั ษะกระบวนการทาง คณิตศาสตร์ในการคิดคำนวณการใหเ้ หตผุ ลการวเิ คราะห์ การแกป้ ัญหา การสือ่ สาร การส่อื ความหมาย และ การนำเสนอ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรู้ความเขา้ ใจ ความคดิ รวบยอด ใฝ่รู้ใฝเ่ รยี น มรี ะเบียบวนิ ัยมุ่งมัน่ ในการทำงานอย่างมี ระบบประหยัด ซ่ือสตั ย์ มีวจิ ารณญาณ รู้จกั นำความร้ไู ปประยกุ ต์ใชใ้ นการดำรงชวี ติ ไดอ้ ยา่ งพอเพยี ง รวมทงั้ มี เจตตทิ ่ดี ีต่อคณติ ศาสตร์ รหัสตวั ข้วี ดั ค ๑.๑ ม ๖/ ๑, ค ๑.๑ ม ๖/๒ ค ๑.๒ ม ๖/ ๑. ค ๑.๒ ม ๖/๒ ค ๓.๒ ม ๖/ ๑, ค ๓.๒ ม ๖/ ๒ รวม ๖ ตวั ขว้ี ดั

๒๓๗ คำอธบิ ายรายวชิ า รหสั วชิ า ค๓๑๒๐๑ ชอ่ื รายวชิ า คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๔ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๓ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความร้เู ก่ยี วกับเรื่อง เซต การดำเนนิ การของเชต แผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ แสดงเซตและ นำไปใชแ้ กป้ ัญหา ตรรกศาสตรเ์ บ้อื งตัน ประพจน์ การเชอ่ื มประพจน์ และการหาค่าความจรงิ ของประพจน์ การสรา้ งตารางคำความจริง สัจนิรนั ตร์รูปแบบของประพจนท์ ี่สมมูลกนั ขอ้ ความทม่ี ตี วั บง่ ปรมิ าณ และคา่ ความจริงของประโยคท่มี ีตวั บง่ ปริมาณ สมมลู และนเิ สธของประโยคที่มตี ัวบง่ ปริมาณ การอา้ งเหตผุ ลระบบ จำนวนจรงิ จำนวนจรงิ การเท่ากนั การบวก การลบ การคณู และการหารในระบบจำนวนจริง สมบตั ิของ จำนวนจรงิ การแก้สมการพหนุ ามตวั แปรเดียว สมการการไมเ่ ทา่ กนั ชว่ งและการแกอ้ สมการ ค่าสัมบรู ณ์ การ แกส้ มการและอสมการในรปู คำสมั บรู ณ์ทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น สมบตั ิของจำนวนเตม็ สมบัตกิ ารหารลงตัว การ จำแนกจำนวนเต็มโดยใช้สมบตั ิการหารลงตัว การจำแนกจำนวนเต็มโดยสมบัติการหารลงตัว ขัน้ ตอนวธิ ีการ หารจำนวนเฉพาะ การหา ห.ร.ม. และ ค.ร.น. โดยจดั ประสบการณ์ กจิ กรรม หรอื โจทย์ปัญหาทีส่ ง่ เสรมิ การพัฒนาทกั ษะกระบวนการทาง คณิตศาสตร์ในการคดิ คำนวณ รใหเ้ หตผุ ล การวเิ คราะห์ การแก้ปญั หา การส่ือสาร การสอ่ื ความหมาย และ การนำเสนอ เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ความเข้าใจความคดิ รวบยอด ใฝ่รใู้ ฝเ่ รียน มีระเบียบวนิ ยั ม่งุ มัน่ ในการทำงานอยา่ งมี ระบบ ประหยัดซ่อื สัตย์ มวี จิ ารณญาณ รู้จกั นำความรูไ้ ปประยุกตใ์ ชใ้ นการดำรงชีวิตไดอ้ ยา่ งพอเพียง รวมทงั้ มี เจตคตทิ ดี่ ตี อ่ คณติ ศาสตร์ ผลการเรยี นรู้ ๑. เขา้ ใจและใชค้ วามรเู้ กี่ยวกับเซตในการสอื่ สารและสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ ๒. เขา้ ใจและใช้ความร้เู ก่ียวกับตรรกศาสตรเ์ บ้ืองต้นในการสอ่ื สารส่อื ความหมายและอ้างเหตุผล ๓. เข้าใจจำนวนจริงและใชส้ มบตั ขิ องจำนวนจรงิ ในการแกป้ ญั หา

๒๓๘ ๔. แก้สมการและอสมการพหนุ ามตวั แปรเดียวดีกรึไมเ่ กินส่ีและนำไปใช้ในการแก้ปัญหาได้ ๕. แกส้ มการและอสมการเศษส่วนของพหนุ ามตัวแปรเดียวและนำไปใชใ้ นการแกป้ ญั หาได้ ๖. แก้สมการและอสมการคา่ สัมบรู ณข์ องพหุนามตวั แปรเดียวและนำไปใช้ในการแก้ปญั หาได้ รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรียนรู้

๒๓๙ คำอธบิ ายรายวชิ า รหัสวิชา ค๓๑๒๐๒ ช่อื รายวชิ า คณิตศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๕หนว่ ยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความร้เู กีย่ วกบั เรือ่ งฟังก์ชนั ฟังกช์ ันคอมโพสิท ฟงั ก์ชันอินเวอรส์ พชี คณิตของฟงั ก์ชนั เรขาคณิต วิเคราะห์ เสน้ ตรง ระยะระหวา่ งจุดสองจดุ จุดก่ึงกลางระหว่างจุดสองจุด ความชันของเสน้ ตรง เสน้ ขนานเส้น ตงั้ ฉาก ความสมั พนั ธ์ซ่ึงมกี ราฟเปน็ เสน้ ตรง ระยะหา่ งระหว่างเสน้ ตั้งฉากกบั จดุ วงกลม พาราโบลา วงรี ไฮเพอร์โบลา โดยจดั ประสบการณ์ กิจกรรม หรอื โจทย์ปญั หาท่สี ่งเสรมิ การพฒั นาทกั ษะกระบวนการทาง คณิตศาสตรใ์ นการคิดคำนวณการให้เหตุผลกรวเิ คราะห์ การแก้ปญั หา การสื่อสาร การสื่อความหมาย และการ นำเสนอ เพ่ือใหเ้ กดิ ความรู้ความเขา้ ใจ ความคิดรวบยอด ใฝร่ ูใ้ ฝเ่ รียน มรี ะเบียบวินยั มงุ่ มั่นในการทำงานอย่างมี ระบบ ประหยัด ซอ่ื สตั ย์ มีวจิ ารณญาณ รู้จกั นำความรูไ้ ปประยุกต์ใชใ้ นการดำรงชวี ิตได้อยา่ งพอเพียง รวมทงั้ มี เจตคตทิ ี่ดีตอ่ คณติ ศาสตร์ ผลการเรยี นรู้ ๑. หาผลลัพธ์ของการบวกการลบการคณู การหารฟังกช์ ันหาฟังก์ชนั ประกอบและฟังก์ชนั ผกผันได้ ๒. ใชส้ มบัติของฟงั ก์ชันในการแกป้ ญั หาได้ ๓. เข้าใจและใช้ความรเู้ กีย่ วกับเรขาคณิตวิเคราะหใ์ นการแก้ปญั หาได้ รวมทง้ั หมด ๓ผลการเรยี นรู้

๒๔๐ คำอธบิ ายรายวิชา รหัสวิชา ค๓๒๒๐๑ ชอ่ื รายวชิ า คณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๕ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๓ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๕หนว่ ยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความร้เู กยี่ วกับเรอื่ ง ฟังกช์ ันเอกซโ์ พเนนเชียล และฟังก์ชนั ลอกการิทึม ฟังก์ชนั เอกซ์โพเนนเชียล ฟังกช์ ันลอกการีทึม การคำนวณคโ่ ดยประมาณโดยใชล้ อกการทิ มึ สมการเอกซโ์ พเนนเชยี ลและสมการลอการิ ทมี ฟงั ก์ขนั ตรโี กณมติ ิ ฟงั กช์ ันซนแ์ ละโคไชน์ ฟังกช์ ันตรโี กณมิตอิ ื่นๆ กราฟของฟงั ก์ชนั ตรีโกณมติ ิ ฟงั กข์ นั ต โกณมิติของผลบวกและผลตา่ งของจำนวนจริงหรอื มุม อนิ เวอร์สของฟังก์ชนั ตรโี กณมติ เิ อกลกั ษณแ์ ละสมการ ตรโี กณมติ ิ กฎของไชน์และโคไชน์ โดยจดั ประสบการณ์ กิจกรรม หรอื โจทยป์ ญั หาทีส่ ่งเสริมการพฒั นาทักษะกระบวนการทาง คณติ ศาสตรใ์ นการคิดคำนวณกรให้เหตผุ ล วิเคราะห์ การแกป้ ัญหา การสอื่ สาร การสือ่ ความหมาย และการ นำเสนอ เพื่อให้เกิดความรูค้ วามเข้าใจวามคิดรวบยอด ใฝร่ ้ใู ฝ่เรยี น มีระเบยี บวินยั มุ่งมนั่ ในการทำงานอยา่ งมี ระบบ ประหยัด ซ่อื สตั ย์ มีวิจารณญาณ รจู้ กั นำความรไู้ ปประยกุ ตใ์ ช้ในการดำรงชวี ติ ไดอ้ ย่างพอเพยี ง รวมทง้ั มีเจตคตทิ ด่ี ีตอ่ คณิตศาสตร์ ผลการเรยี นรู้ ๑. เข้าใจลกั ษณะกราฟของฟงั กช์ ันเอกซพ์ นนเชียลและฟังก์ชนั ลอการิทมึ และนำไปใชใ้ นการแกป้ ญั หา ๒. แกส้ มการเอกซ์โพนนเชยี ลและสมการลอการิทึมและนำไปใช้ในการแกป้ ัญหาไต้ ๓. เขา้ ใจฟังก็ชันตรโี กณมติ ิและลกั ษณะกราฟของฟังก็ขันตรโี กณมติ ิและนำไปใชใ้ นการแก้ปญั หา ๔. แก้สมการตรีโกณมติ ิและนำไปใช้ในการแกป้ ัญหาได้ ๕. ใช้กฎของโคไขน์และกฎของไชนใ์ นการแก้ปัญหาได้ รวมทง้ั หมด ๕ ผลการเรียนรู้

๒๔๑ คำอธบิ ายรายวิชา รหสั วชิ า ค๓๒๒๐๒ ชื่อรายวชิ า คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่๕ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๓ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๕หนว่ ยกิต ศกึ ษาความรเู้ กีย่ วกบั เร่ืองจำนวนเชิงซอ้ น กราฟและคำสมั บูรณ์ของจำนวนเชิงซอ้ น จำนวนเชิงชอ้ นใน รปู เชงิ ข้ัว สมการพหุนาม เมทริกซแ์ ละดเี ทอร์มินันตส์ ัญลกั ษณข์ องเมทริกซ์ สมบตั ขิ องเมทริกซ์ ดเี ทอรม์ นิ ันต์ การใช้เมทริกซแ์ ก้ระบบสมการเชงิ เส้น โดยวธิ ดี ีเทอรม์ นิ นั ต์ โดยวธิ กี ารดำเนนิ การตามแถวเวกเตอร์ในสามมิติ เวกเตอรก์ ารบวกและการลบเวกเตอร์ การคณู เวกเตอรด์ ้วยสเกลาร์ ผลคณู เชงิ สเกลาร์ ผลคณู เซิงเวกเตอร์ โดยจดั ประสบการณ์ กิจกรรม หรอื โจทย์ปญั หาทีส่ ง่ เสรมิ การพัฒนาทกั ษะกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ในการ คิดคำนวณ การให้เหตุผล การวิเคราะห์ การแกป้ ญั หา การส่ือสาร การสอื่ ความหมาย และการนำเสนอ เพื่อใหเ้ กดิ ความร้คู วามเขา้ ใจความคิดรวบยอด ใฝร่ ู้ใฝ่เรียน มีระเบยี บวนิ ัยมุง่ ม่ันในการทำงานอยา่ งมี ระบบประหยดั ซือ่ สัตย์ มวี จิ ารณญาณ รูจ้ กั นำความรู้ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดำรงชีวิตไดอ้ ย่างพอเพยี ง รวมทัง้ มี เจตคติที่ดีต่อคณติ ศาสตร์ ผลการเรยี นรู้ ๑. เขา้ ใจจำนวนเชิงช้อนและใช้สมบัติของจำนวนเชงิ ซอ้ นในการแก้ปัญหา ๒. หารากท่ี n ของจำนวนเชงิ ซอ้ นเมื่อ n เปน็ จำนวนนบั ท่ีมากกว่าได้ ๓. แกส้ มการพหนุ ามตวั แปรเดียวดกี รไี มเ่ กินสี่ที่มสี ัมประสิทธิ์เปน็ จำนวนเต็มและนำไปใช้ในการแกป้ ัญหาได้ ๔. เข้าใจความหมายหาผลลพั ธ์ของการบวกเมทรกิ ซก์ ารคณู เมทริกซก์ ับจำนวนจริงการคณู ระหว่างเมทริกซ์ และหาเมทรกิ ซ์สลับเปล่ยี นหาดีเทอรม์ แิ นนตข์ องเมทริกซ์ n x n เมือ่ n เป็นจำนวนนบั ที่ไม่เกนิ สาม ๕. หาเมทริกซ์ผกผนั ของเมทรกิ ซ์๒ x ๒ได้ ๖. แก้ระบบสมการเชงิ เสน้ โดยใชเ้ มทริกซผ์ กผนั และการดำเนินการตามแถวได้ ๗. หาผลสพั ธข์ องการบวกการลบเวกเตอร์การคณู เวกเตอร์ด้วยสเกลาร์หาผลคณู เชงิ สเกลารแ์ ละผลคูณเชงิ เวกเตอร์ได้ ๘. นำความรู้เกี่ยวกับเวกเตอร์ในสามมติ ิไปใช้ในการแกป้ ัญหาได้ รวมทัง้ หมด ๘ ผลการเรียนรู้

๒๔๒ คำอธบิ ายรายวชิ า รหสั วชิ า ค๓๒๒๐๓ ช่ือรายวชิ า คณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๑๒๐ ชว่ั โมง จำนวน ๓.๐หนว่ ยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาความร้เู กย่ี วกบั เรอื่ งเลขยกกำลงั จำนวนจริงที่อยใู่ นรูปเลขยกกำลังทีม่ ีเลขช้ีกำลงั เปน็ จำนวน ตรรกยะและจำนวนจริงที่อยู่ในรูปกรณฑ์ การหาผลสัพธท์ เี่ กิดจากการบวก การลบ การคณู การหาร จำนวน จรงิ ทอ่ี ยใู่ นรปู เลขยกกำลงั ที่มเี ลขชี้กำลงั เปน็ จำนวนตรรกยะและจำนวนจริงทอ่ี ยู่ในรปู กรณฑ์การหาคำ ประมาณของจำนวนจรงิ ท่ีอยู่ในรปู กรณฑ์ ฟงั ก์ชันเอกซ์โพเนนเชยี ล และฟงั กช์ นั ลอกการิทึม ฟังก์ชันเอกซ์ โพเนนเชียลฟังก์ชนั ลอกการีทึมการคำนวณค่าโดยประมาณโดยใช้ลอกการทิ มึ สมการเอกซโ์ พเนนเชยี ลและ สมการลอการทิ ึม ฟังก์ขันตรโี กณมติ ิ ฟังกช์ นั ไซนแ์ ละโคไซน์ ฟงั กข์ นั ตรโี กณมิติอื่นๆ กราฟของฟังก์ซันตรโี กณ มิตฟิ งั ก์ชันตรีโกณมิตขิ องผลบวกและผลตา่ งของจำนวนจริงหรอื มมุ อนิ เวอรส์ ของฟงั ก์ชนั ตรโี กณมิติ เอกลักษณ์และสมการตรโี กณมติ ิ กฎของไซน์และโคไชน์ โดยจดั ประสบการณ์ กจิ กรรม หรือ โจทยป์ ัญหาท่สี ง่ เสรมิ การพัฒนาทักษะกระบวนการทาง คณิตศาสตร์ในการคดิ คำนวณ การใหเ้ หตผุ ล การวเิ คราะห์ การแก้ปญั หา การส่อื สาร การสื่อความหมาย และ การนำเสนอ เพ่อื ให้เกดิ ความร้คู วามเขา้ ใจ ความคิดรวบยอด ใฝ่รู้ไฝ่เรียน มีระเบยี บวนิ ยั ม่งุ มน่ั ในการทำงานอยา่ งมี ระบบประหยัด ซ่อื สัตย์ มีวจิ ารณญาณ รจู้ ักนำความรูไ้ ปประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตได้อย่างพอเพียง รวมทงั้ มี เจตคตทิ ี่ดีตอ่ คณิตศาสตร์ ผลการเรียนรู้ ๑. เข้าใจความหมายและใชส้ มบัตเิ ก่ยี วกบั การบวกการคูณการเทา่ กนั และการไม่เท่ากันของจำนวนจริงในรปู กรณฑ์และจำนวนจริงในรปู เลขยกกำลงั ทม่ี เี ลขชกี้ ำลงั เปน็ จำนวนตรรกยะ ๒. เขา้ ใจลกั ษณะกราฟของฟงั กช์ ันเอกซโ์ พนนเชยี ลและฟงั ก์ชันลอการิทึมและนำไปใช้ในการแกป้ ญั หา ๓. แก้สมการเอกซ์พเนนเชียลและสมกรลอการทิ ึมและนำไปใช้ในการแกป้ ัญหาได้

๒๔๓ ๔. เข้าใจฟงั กช์ นั ตรีโกณมิตแิ ละลกั ษณะกราฟของฟังก์ขันตรโี กณมติ แิ ละนำไปใช้ในการแก้ปญั หา ๕. แก้สมการตรีโกณมติ แิ ละนำไปใชใ้ นการแก้ปญั หาได้ ๖. ใชก้ ฎของคไชน์และกฎของไซนใ์ นการแก้ปัญหาได้ รวมทัง้ หมด ๖ ผลการเรยี นรู้

๒๔๔ คำอธบิ ายรายวชิ า รหสั วขิ า ค๓๒๒๐๔ ช่ือรายวชิ า คณิตศาสตร์ กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตรช์ ้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๕ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๑๒๐ ชว่ั โมง จำนวน ๓.๐หนว่ ย กติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความรู้เกี่ยวกับเรอ่ื งสถติ ิ การสำรวจความคิดเหน็ อย่างง่าย การหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต มธั ยฐาน ฐานนิยม ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน เปอรเ์ ซน็ ไทลข์ องข้อมลู การนำผลจากการสำรวจข้อมูลขา่ วสารและค่าสถติ ิ ไปใช้ในการคาดการณแ์ ละการตัดสนิ ใจจำนวนเชงิ ซอ้ น กราฟและคำสมั บรู ณ์ของจำนวนเชงิ ซ้อน จำนวน เชิงซอ้ นในรูปเชงิ ขัว้ สมการพหนุ าม เมทรกิ ซ์และดเี ทอร์มินันต์สัญลักษณ์ของเมทรกิ ซ์ สมบัตขิ องเมทรกิ ซ์ ดี เทอร์มนิ ันต์ การใชเ้ มทริกซ์แกร้ ะบบสมการเชงิ เส้น โดยวธิ ีดเี ทอรม์ ินนั ต์ โดยวธิ กี ารดำเนินการตามแถว เวกเตอรใ์ นสามมติ ิ เวกเตอร์การบวกและการลบเวกเตอร์ การคูณเวกเตอร์ดว้ ยสเกลาร์ ผลคณู เชิงสเกลาร์ ผล คณู เซิงเวกเตอร์ โดยจดั ประสบการณ์ กจิ กรรม หรือ โจทยป์ ญั หาทส่ี ่งเสรมิ การพฒั นาทักษะกระบวนการทาง คณิตศาสตรใ์ นการคิดคำนวณการใหเ้ หตผุ ลการวิเคราะห์ การแก้ปญั หา การส่ือสาร การสอ่ื ความหมาย และ การนำเสนอ เพือ่ ใหเ้ กดิ ความรูค้ วามเข้าใจความคิดรวบยอด ใฝร่ เู้ รยี น มรี ะเบยี บวนิ ยั มงุ่ มน่ั ในการทำงานอยา่ งมี ระบบประหยดั ซ่ือสัตย์ มวี จิ ารณญาณ รจู้ กั นำความรูไ้ ปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดำรงชีวิตได้อย่างพอเพยี ง รวมท้ังมี เจตคตทิ ต่ี ตี ่อคณิตศาสตร์ ผลการเรียนรู้ ๑. เขา้ ใจและใช้ความรทู้ างสถติ ใิ นการนำเสนอข้อมูลและแปลความหมายของคำสถิติเพื่อประกอบการตดั สนิ ใจ ๒. เขา้ ใจจำนวนเชิงซอ้ นและใชส้ มบตั ขิ องจำนวนเชิงซ้อนในการแกป้ ัญหาหารากที่ n ของจำนวนเชิงซอ้ นเมอื่ n เป็นจำนวนนบั ทมี่ ากกว่าตไต้ ๓. แก้สมการพหุนามตวั แปรเดยี วดกี รไึ มเ่ กนิ สท่ี ่ีมสี มั ประสิทธิ์เป็นจำนวนเตม็ และนำไปใชใ้ นการแกป้ ัญหาได้ ๔. เขา้ ใจความหมายหาผลลพั ธ์ของการบวกเมทริกซก์ ารคูณเมทริกซก์ ับจำนวนจรงิ การคูณระหวา่ งเมทรกิ ซ์ และหาเมทริกซ์สลับเปลยี่ น

๒๔๕ ๕. หาดีเทอร์มแิ นนต์ของเมทริกซ์ n x n เมอื่ ! เป็นจำนวนนับทีไ่ มเ่ กนิ สามหาเมทรกิ ขผ์ กผันของเมทริกซ์ ๒ x ๒ได้ ๖. แกร้ ะบบสมการเชิงเสน้ โดยใชเ้ มทรกิ ซผ์ กผนั และการดำเนินการตามแถวได้ ๗. หาผลลัพธข์ องการบวกการลบเวกเตอร์การคณู เวกเตอร์ดว้ ยสเกลารห์ าผลคณู เชิงสเกลาร์และผลคูณเชงิ เวกเตอรใ์ ดน้ ำความรเู้ กย่ี วกบั เวกเตอรใ์ นสามมติ ิไปใชใ้ นการแก้ปญั หาได้ รวมทง้ั หมด ๗ผลการเรียนรู้

๒๔๖ คำอธบิ ายรายวิชา รหสั วิชา ค๓๓๒๐๑ ชื่อรายวชิ า คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๖ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕หน่วยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาความรู้เกีย่ วกับเรอ่ื ง ลำดบั และอนกุ รมอนันต์ ลิมติ ของลำดบั ผลบวกของอนุกรมอนนั ต์ แคลคลู ัสเบ้อื งต้น สมิ ิตของฟงั กช์ ัน ความตอ่ เนือ่ งของฟังกช์ นั อนพุ นั ธ์ของฟงั กช์ นั ความซันของเส้นโคง้ การ หาอนพุ นั ธ์ของฟงั ก์ชันพืชณิโดยใชส้ ตู รอนพุ นั ธ์ของฟงั กช์ นั คอมโพสิท อนพุ นั ธ์อันดบั สงู การประยุกตอ์ นพุ นั ธ์ ปริพนั ธไ์ ม่จำกดั เขต ปริพันธ์จำกดั เขต พน้ื ที่ปดิ ล้อมด้วยเส้นโค้ง โดยจดั ประสบการณ์ กจิ กรรม หรือ โจทย์ปญั หาท่ีสง่ เสรมิ การพฒั นาทักษะกระบวนการทาง คณิตศาสตรใ์ นการคิดคำนวณ รใหเ้ หตุผล การวิเคราะห์ การแกป้ ัญหา การสื่อสาร การสือ่ ความหมาย และ การนำเสนอ เพื่อใหเ้ กิดความรคู้ วามเขา้ ใจความคิดรวบยอต ใฝ่รใู้ ฝ่เรยี น มรี ะเบียบวนิ ยั มุ่งม่ันในการทำงาน อย่างมีระบบ ประหยดั ซื่อสตั ย์ มีวิจารณญาณ รูจ้ ักนำความรูไ้ ปประยุกตใ์ ช้ในการดำรงชีวิตไดอ้ ยา่ งพอเพยี ง รวมท้งั มีเจตคตทิ ี่ดตี ่อคณติ ศาสตร์ ผลการเรยี นรู้ ๑. ระบุได้ว่าลำดบั ทก่ี ำหนดใหเ้ ป็นลำดบั ลูเ่ ข้าหรอื ลู่ออก ๒. หาผลบวก n พจน์แรกของอนกุ รมเลขคณิตและอนุกรมเรขาคณติ ได้ ๓. หาผลบวกอนกุ รมอนันตไ์ ด้ ๔. เขา้ ใจและนำความรเู้ กีย่ วกับลำดับและอนกุ รมไปใช้ได้ ๕. ตรวจสอบความตอ่ เนอ่ื งของฟงั ก์ชันทก่ี ำหนดให้ได้ ๖. หาอนพุ นั ธข์ องฟงั กช์ ันพชี คณติ ทก่ี ำหนดให้และนำไปใชแ้ ก้ปัญหาได้ ๗. หาปริพันธ์ไมจ่ ำกดั เขตและจำกัดเขตของฟังกช์ ันพชี คณติ ท่กี ำหนดใหแ้ ละนำไปใชแ้ กป้ ญั หาได้ รวมทัง้ หมด ๗ผลการเรียนรู้