Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสัตตบงกช

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสัตตบงกช

Published by BA_ LON, 2021-12-26 09:09:46

Description: หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสัตตบงกช

Search

Read the Text Version

๒๔๗ คำอธบิ ายรายวชิ า รหสั วชิ า ค๓๓๒๐๒ ช่ือรายวิชา คณิตศาสตร์ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๖ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๓ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๕หน่วยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาความรเู้ ก่ียวกับเรอ่ื ง หลักการนบั เบอื้ งตันหลักการบวกและการคูณการเรียงสับเปลีย่ นการเรียง สับเปลยี่ นเชงิ เสน้ การเรียงสบั เปล่ยี นเชิงวงกลมกรณีที่สิง่ ของแตกตา่ งกนั ทงั้ หมดการจัดหมู่กรณีทสี่ งิ่ ของ แตกตา่ งกนั ท้ังหมด ทฤษฎีบททวินาม ความน่าจะเปน็ กฎเกณฑเ์ บ้อื งตน้ เกย่ี วกบั การนับแฟคทอเรียล ก วธิ ี เรียงสับเปลย่ี น วิธจี ัดหมู่ ทฤษฎีบททวินาม ความน่าจะเป็น และ กฎท่สี ำคญั บางประการของความนา่ จะเป็น การทดลองสุม่ และเหตกุ ารณค์ วามนา่ จะเป็นของเหตกุ ารณ์ การแจกแจงเอกรปู การแจกแจงทวนิ าม การแจก แจงปกติ โดยจดั ประสบการณ์ กจิ กรรม หรือ โจทยป์ ญั หาทีส่ ง่ เสรมิ การพฒั นาทกั ษะกระบวนการทาง คณิตศาสตรใ์ นการคดิ คำนวณการให้เหตุผลกรวิเคราะห์ การแก้ปญั หา การสื่อสาร การสื่อความหมาย และ การนำเสนอ เพื่อให้เกดิ ความรคู้ วามเข้าใจความคิดรวบยอด ใฝร่ ูใ้ ฝเ่ รียน มีระเบยี บวินัยมุ่งมั่นในการทำงานอย่างมี ระบบ ประหยดั ซือ่ สัตย์ มีวิจารณญาณ รูจ้ กั นำความรู้ไปประยกุ ต์ใชใ้ นการดำรงชวี ติ ไดอ้ ยา่ งพอเพยี ง รวมท้งั มี เจตคติทด่ี ตี อ่ คณิตศาสตร์ ผลการเรยี นรู้ ๑. เข้าใจและใช้หลักการบวกและการคูณการเรียงสบั เปลยี่ นและการจดั หมใู นการแกป้ ญั หาได้ ๒. หาความน่าจะเปน็ และนำความรเู้ กย่ี วกับความนา่ จะเปน็ ไปใช้ได้ ๓. หาความนา่ จะเปน็ ของเหตกุ ารณ์ท่ีเกดิ จากตวั แปรสุ่มท่มี กี ารแจกแจงเอกรูปการแจกแจงทวนิ ามและการ แจกแจงปกติและนำไปใช้ในการแกป้ ญั หาได้ รวมทงั้ หมด ๓ ผลการเรยี นรู้

๒๔๘ คำอธบิ ายรายวิชา รหัสวิชา ค๓๓๒๐๓ ชอื่ รายวชิ า คณติ ศาสตร์ กลุม่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๑๐๐ ชวั่ โมง จำนวน ๒.๕หน่วยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความรเู้ กย่ี วกับเรอื่ งลำดบั และอนกุ รม ความหมายของลำตบั ลำดบั เลขคณิต ลำดบั เรขาคณติ การหาพจนท์ ่วั ไปของลำดบั จำกดั ลำดบั เลขคณิต ลำดับเรขาคณิต การหาพจน์ตา่ ง ๆ ของลำดบั เลขคณิต ลำดบั เรขาคณติ และการนำไปใชอ้ นกุ รมเลขคณติ และอนกุ รมเรขาคณติ ความหมายของผลบวก n พจนแ์ รก ของอนุกรมเลขคณติ และ อนกุ รมเรขาคณติ การหาผลบวก ก พจน์แรกของอนุกรมเลขคณิต อนุกรมเรขาคณติ โดยใชส้ ูตรและการนำไปใช้ ดอกเบ้ยี และมลู คา่ ของเงิน ดอกเบ้ยี และมลู คำของเงินในการแกป้ ญั หา ลำดบั และ อนกุ รมอนนั ต์ มิตของลำดบั ผลบวกของอนกุ รมอนนั ต์ แคลคูลสั เบอื้ งตน้ ลมิ ติ ของฟงั ก์ชนั ความตอ่ เนอ่ื งของ ฟังกช์ นั อนุพันธ์ของฟังก์ชัน ความชันของเส้นโคง้ การหาอนพุ นั ธ์ของฟังก์ชันพีชคณติ โดยใชส้ ตู รอนพุ ันธข์ อง ฟงั ก์ชันคอมโพสทิ อนุพันธอ์ นั ดับสงู การประยุกต์อนพุ นั ธ์ปรพิ นั ธ์ไม่จำกดั เขตปริพันธ์จำกดั เขต พน้ื ที่ปิดลอ้ ม ดว้ ยเสน้ โค้ง โดยจดั ประสบการณ์ กิจกรรม หรือ โจทย์ปญั หาทส่ี ่งเสริมการพฒั นาทักษะกระบวนการทาง คณติ ศาสตร์ในการคิดคำนวณการให้เหตผุ ลการวเิ คราะห์ การแกป้ ัญหา การสอ่ื สาร การสือ่ ความหมาย และ การนำเสนอ เพื่อให้เกดิ ความรูค้ วามเขา้ ใจความคดิ รวบยอด ใฝ่รใู้ ฝ่เรียน มีระเบียบวนิ ยั มุ่งมัน่ ในการทำงานอย่างมี ระบบ ประหยดั ซอ่ื สัต มีวจิ ารณญาณ รู้จกั นำความรู้ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดำรงชวี ติ ได้อย่างพอเพยี ง รวมทัง้ มี เจตคติที่ดีต่อคณติ ศาสตร์ ผลการเรยี นรู้ ๑. เข้าใจและนำความรเู้ ก่ียวกับลำดับและอนกุ รมไปใชไ้ ด้ ๒. ระบุไดว้ า่ ลำดับทกี่ ำหนดให้เป็นลำดบั ลูเ่ ขา้ หรอื ลู่ออก ๓. หาผลบวก พจน์แรกของอนุกรมเลขคณติ และอนุกรมเรขาคณติ ได้ ๔. เขา้ ใจและใชค้ วามรเู้ กี่ยวกับดอกเบ้ียและมูลคำของเงินในการแกป้ ญั หา ๕. หาผลบวกอนุกรมอนันตไ์ ด้

๒๔๙ ๖. เข้าใจและนำความรเู้ กีย่ วกับลำดบั และอนกุ รมไปใช้ได้ ๗. ตรวจสอบความต่อเนอื่ งของฟังกช์ นั ทกี่ ำหนดใหไ้ ด้ ๘. หาอนุพนั ธข์ องฟงั กช์ ันพืชคณิตท่ีกำหนดใหแ้ ละนำไปใชแ้ กป้ ญั หาได้ ๙. หาปรพิ ันธไ์ มจ่ ำกดั เขตและจำกัดเขตของฟังก์ชนั พชี คณติ ท่กี ำหนดใหแ้ ละนำไปใชแ้ กป้ ญั หาได้ รวมท้ังหมด ๙ผลการเรียนรู้

๒๕๐ คำอธบิ ายรายวชิ า รหสั วิชา ค๓๓๒๐๔ ชอื่ รายวชิ า คณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๖ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๕ ชว่ั โมง จำนวน ๒.๕หน่วยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาความรเู้ กี่ยวกบั เร่ือง หลักการนบั เบอื้ งตน้ หลกั การบวกและการคูณการเรียงสบั เปลีย่ นการเรยี ง สบั เปล่ียนเชิงเส้นการเรยี งสับเปล่ียนเชิงวงกลมกรณที ี่สง่ิ ของแตกต่างกันทง้ั หมดการจัดหมกู่ รณีท่ีสงิ่ ของ แตกตา่ งกันทงั้ หมด ทฤษฎีบททวนิ าม ความนำจะเปน็ การทดลองสมุ่ เหตกุ ารณ์ความน่าจะเปน็ ของเหตุการณ์ การนำผลท่ไี ดไ้ ปใชค้ าดการณ์การแก้ปัญหาและการตดั สนิ ใจ กฎเกณฑเ์ บอ้ื งต้นเกย่ี วกบั การนับแฟคทอเรยี ล n วธิ ีเรยี งสับเปล่ยี น วธิ ีจดั หมู่ ทฤษฎีบททวนิ าม ความนา่ จะเป็น และ กฎทส่ี ำคัญบางประการของความน่าจะ เปน็ การทดลองสุ่มและเหตกุ ารณค์ วามนา่ จะเปน็ ของเหตุการณ์ การแจกแจงเอกรปู การแจกแจงทวนิ าม การ แจกแจงปกติ โดยจัดประสบการณ์ กจิ กรรม หรือ โจทย์ปัญหาทสี่ ง่ เสรมิ การพฒั นาทกั ษะกระบวนการทาง คณติ ศาสตรใ์ นการคดิ คำนวณ การให้เหตผุ ล การวิเคราะห์ การแกป้ ญั หา การส่ือสาร การสื่อความหมาย และ การนำเสนอ เพือ่ ใหเ้ กดิ ความร้คู วามเขา้ ใจ ความคดิ รวบยอด ใฝ่ร้ใู ฝเ่ รยี น มีระเบยี บวินัยมงุ่ มั่นในการทำงานอย่าง มรี ะบบ ประหยัดซอื่ สัตยม์ วี จิ ารณญาณ รู้จกั นำความรไู้ ปประยุกต์ใช้ในการดำรงชวี ิตได้อย่างพอเพียง รวมทงั้ มี เจตคตทิ ่ีดตี อ่ คณิตศาสตร์ ผลการเรยี นรู้ ๑. เข้าใจและใชห้ ลกั การบวกและการคูณการเรียงสบั เปลยี่ นและการจดั หมู่ในการแกป้ ญั หาได้ ๒. หาความน่าจะเปน็ และนำความรู้เก่ียวกับความนา่ จะเป็นไปใช้ไดไ้ ด้ ๓. หาความน่าจะเปน็ ของเหตุการณ์ทเี่ กิดจากตวั แปรสุ่มท่มี กี ารแจกแจงเอกรูปการแจกแจงทวนิ ามและการ แจกแจงปกตแิ ละนำไปใช้ในการแกป้ ัญหาได้ รวมทั้งหมด ๓ ผลการเรียนรู้

๒๕๑ คำอธบิ ายรายวิชา รหสั วิชา ค๓๐๒๐๕ ชอื่ รายวชิ า คณติ ศาสตร์ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่๔ ภาคเรยี นที่ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐หนว่ ยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความร้เู ก่ียวกบั เร่อื งพหนุ าม การแยกตัวประกอบของพหนุ ามดีกรสี องโดยวธิ ีการทำเปน็ กำลัง สองสมบูรณ์ การแยกตัวประกอบของพหุนามตีกรีสองทม่ี สี มั ประสทิ ธิเ์ ปน็ จำนวนเตม็ โดยอาศยั วธิ ที ำเปน็ กำลงั สองสมบูรณ์ หรือใช้ทฤษฎีเศษเหลือ สมการกำลงั สอง การแก้สมการกำลงั สองตวั แปรเดียวโดยใช้สูตร x=−������±√๒������������๒−๔������������ การแก้โจทย์ปญั หาเกีย่ วกบั สมการกำลงั สองตัวแปรเดียว ระบบสมการ การแก้ระบบ สมการสองตวั แปรที่มีตกึ รไี มเ่ กนิ สองตัวแปรทีม่ ตี ีกรีไม่เกนิ สอง เศษส่วนของพหนุ าม การบวก การลบ การคูณ การหารเศษสว่ นของพหนุ ามการแกส้ มการเศษส่วนของพหุนาม การแกป้ ญั หาเกย่ี วกับเศษสว่ นพหุนาม โดยจัดประสบการณ์ กิจกรรม หรือ โจทยป์ ัญหาที่ส่งเสรมิ การพัฒนาทักษะกระบวนการทาง คณติ ศาสตรใ์ นการคิดคำนวณรใหเ้ หตผุ ลรวเิ คราะห์ การแกป้ ัญหา การสอื่ สาร การสื่อความหมาย และการ นำเสนอ เพอ่ื ให้เกิดความรู้ความเข้าใจความคิดรวบยอด ใฝร่ ใู้ ฝ่เรยี น มีระเบยี บวนิ ยั มุ่งมน่ั ในการทำงานอย่าง มีระบบ ประหยัด ซอ่ื สตั ย์ มวี จิ ารณญาณ รจู้ ักนำความร้ไู ปประยุกตใ์ ช้ในการดำรงชีวิตไดอ้ ย่างพอเพยี ง รวมทงั้ มีเจตคตทิ ดี่ ตี อ่ คณิตศาสตร์ ผลการเรียนรู้ ๑. แยกตัวประกอบของพหุนามตีกรีสองได้ ๒. แกส้ มการกำลังสองตัวแปรเดยี วโดยใช้การแยกตัวประกอบได้ ๓. แก้โจทยป์ ญั หาเกย่ี วกบั สมการกำลังสองตวั แปรเดยี วโดยใชก้ ารแยกตวั ประกอบ รวมท้ังหมด ๓ ผลการเรยี นรู้

๒๕๒ อธิบายรายวชิ า รหสั วชิ า ค๓๐๒๐ ๑ ช่อื รายวชิ า คณติ ศาสตร์โปรแกรมเสรมิ ๑ กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๖ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๒๐ ช่วั โมง จำนวน ๐.๕หน่วยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาความรูเ้ ก่ยี วกับเรือ่ งตรรกศาสตร์เบือ้ งตันและการพสิ ูจน์ ตรรกศาสตรเ์ บอื้ งตนั วิธีการพิสูจน์ p → ������ การพสิ จู น์ P → ๙ การพสิ ูจนโ์ ดยการแจงกรณี การพสิ จู น์ P V ๙ การพิสจู นโ์ ดยข้อขดั แย้งการ พิสูจนก์ ารเปน็ ไปไดเ้ พียงอย่างเดยี ว การพิสูจนโ์ ดยอุปนัยเชงิ คณติ ศาสตร์ โดยจดั ประสบการณ์ กิจกรรม หรือ โจทยป์ ญั หาท่สี ่งเสริมการพฒั นาทักษะกระบวนการทาง คณติ ศาสตร์ในการคิดคำนวณการให้เหตผุ ลกรวิเคราะห์ การแก้ปญั หา การสื่อสาร การส่อื ความหมาย และการ นำเสนอ เพอื่ ให้เกิดความรู้ความเขา้ ใจความคิดรวบยอด ใฝ่รู้ใฝเ่ รียน มรี ะเบยี บวนิ ยั มงุ่ มนั่ ในการทำงาน อย่างมรี ะบบ ประหยดั ซ่ือสตั ย์ มีวิจารณญาณ รจู้ กั นำความรไู้ ปประยุกตใ์ ชใ้ นการดำรงชวี ิตได้อย่างพอเพียง รวมทั้งมีเจตคติที่ดตี ่อคณติ ศาสตร์ ผลการเรยี นรู้ ๑. นำความรู้เรื่องตรรกศาสตรเ์ บื้องตันไปใชใ้ นการพสิ ูจนใ์ นแบบตา่ ง ๆ ได้ รวมทงั้ หมด ๑ ผลการเรียนรู้

๒๕๓ คำอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐานและเพ่มิ เตมิ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาตอนต้น

๒๕๔ รายวชิ าพ้นื ฐานและเพม่ิ เตมิ กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น รายวชิ าพนื้ ฐาน ว๒๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ จำนวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หนว่ ยกิต ว๒๑๑๐๒ วทิ ยาศาสตร์ จำนวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หนว่ ยกิต ว๒๐๑๐๗ วิทยาการคำนวณ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ว๒๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกิต ว๒๒๑๐๒ วิทยาศาสตร์ จำนวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หนว่ ยกิต ว๒๐๑๐๘ วิทยาการคำนวณ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต ว๒๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์ จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกิต ว๒๓๑๐๒ วทิ ยาศาสตร์ จำนวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หนว่ ยกิต ว๒๐๑๐๙ วทิ ยาการคำนวณ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต รายวชิ าเพิ่มเตมิ ว๒๑๒๐๕ ของเลน่ เชิงวทิ ยาศาสตร์ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ๑.๐ หนว่ ยกิต ว๒๐๒๐๑ เทคโนโลยสี ารสนเทศ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ๑.๐ หนว่ ยกติ ว๒๑๒๐๖ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกติ ๑.๐ หนว่ ยกติ ว๒๒๒๐๑ เรมิ่ ต้นกับโครงงานวิทยาศาสตร์ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกติ ๑.๐ หนว่ ยกิต ว๒๐๒๐๒ การออกแบบและเทคโนโลยี จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ว๒๓๒๐๕ เชื้อเพลิงเพือ่ การคมนาคม จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ว๒๐๒๐๓ การออกแบบและเทคโนโลยี จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ว๒๓๒๐๖ พลงั งานทดแทนกับการใช้ประโยชน์ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง

ว๒๐๒๐๔ โปรแกรมเบ้อื งตน้ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๒๕๕ ว๒๑๒๐๗ เคมเี บอื้ งตน้ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ว๒๒๒๐๕ วทิ ยาศาสตรโ์ ลกท้ังระบบ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกติ ว๒๐๒๐๕ IPST MicroBox จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ว๒๒๒๐๖ วทิ ยาศาสตรโ์ ลกทั้งระบบ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ว๒๓๒๐๓ ฟสิ กิ สเ์ บื้องตน้ ๑ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต ว๒๓๒๐๔ ฟสิ กิ สเ์ บอ้ื งตน้ ๒ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกติ ๑.๐ หน่วยกิต ๑.๐ หน่วยกิต

๒๕๖ คำอธิบายรายวิชา(พืน้ ฐาน) รหสั วิชา ว ๒๑๑๐๑ วชิ า วทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ ศกึ ษาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ วิทยาศาสตร์กายภาพ เก่ียวกับรูปร่าง โครงสร้างและหน้าทขี่ องเซลล์ พืชและเซลล์สตั ว์ การใช้กล้องจลุ ทรรศน์ศกึ ษาเซลล์และโครงสร้างต่างๆภายในเซลล์ความสมั พนั ธ์ ระหว่างรูปร่างกบั การทําหน้าทีข่ องเซลล์การจดั ระบบของสง่ิ มชี ีวติ กระบวนการแพร่และออสโมซสิ การ สังเคราะหด์ ้วยแสงของพืชและผลผลิตทเี่ กดิ ขน้ึ ความสาํ คญั ของกระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสงของพืช ต่อสง่ิ มชี วี ติ และสงิ่ แวดล้อม ลักษณะหน้าที่และทิศทางการลําเลียงสารในไซเลม็ และโฟลเอ็มของพืช การ สบื พนั ธ์ุและขยายพันธ์ุพชื สมบัติทางกายภาพบางประการของธาตุโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ ผลการใช้ ธาตุโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ และธาตกุ ัมมันตรงั สตี ่อสงิ่ มีชีวิต การเปรียบเทียบจุดเดือดจุดหลอมเหลว ความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสารผสม ความสมั พนั ธ์ระหว่างอะตอม ธาตแุ ละสารประกอบ โครงสร้างอะตอม โดยใช้ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ และทกั ษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ สบื ค้นขอ้ มูล และอภิปราย เพ่อื ฝึกทกั ษะเปรียบเทียบ ใช้กลอ้ งจุลทรรศน์อธบิ าย ยกตวั อย่าง ระบใุ ช้หลกั ฐานเชงิ ประจักษบ์ รรยายเขียนแผนภาพ สังเกต ทดสอบ ใช้สารสนเทศวิเคราะห์เสนอแนวทางใชเ้ ครอื่ งมือสร้าง แบบจาํ ลองแปลความหมายคํานวณใชส้ มการนําเสนอผล ออกแบบ ตัดสนิ ใจแก้ปัญหาและประเมินผล เชอื่ มโยงความรู้เก่ยี วกับคุณสมบตั ิทางกายภาพของธาตุโลหะ อโลหะ และก่ึงโลหะสําหรับใช้ สร้างองคพ์ ระภายในจงั หวัดอ่างทองตามคาํ ขวญั จงั หวัดและนาํ ความรู้บรู ณาการกับกลุ่มสาระอื่น เพ่อื ให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ได้อย่างถูกต้อง ตระหนกั ดูแล รกั ษาเหมาะสม ปลอดภยั และคุ้มค่า เกิดความสามารถในการคดิ ส่ือสาร ตัดสินใจ การแก้ปัญหานํา ความรไู้ ปใช้ในชวี ิตประจาํ วัน ใช้เทคโนโลยีอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ มีจิตวทิ ยาศาสตร์จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมท่ีหมาะสม

๒๕๗ รหสั ตวั ชี้วัด ว ๑.๒ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ม.๑/๗ ม.๑/๘ ม.๑/๙ ม.๑/๑๐ ม.๑/ ๑๑ม.๑/๑๒ ม.๑/๑๓ ม.๑/๑๔ ม.๑/๑๕ ม.๑/๑๖ ม.๑/๑๗ ม.๑/๑๘ ว ๒.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ม.๑/๗ ม.๑/๘ รวมทง้ั หมด ๒๖ ตัวชวี้ ัด

๒๕๘ คำอธิบายรายวชิ า(พน้ื ฐาน) รหัสวิชา ว ๒๑๑๐๒ วิชา วทิ ยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๖๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ ศึกษาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ และเทคโนโลยี เกี่ยวกับการวัดอณุ หภูมขิ องสาร พลงั งานความร้อนต่อการเปล่ียนอุณหภูมิและเปล่ียนแปลงสถานะของ สาร การแบ่งช้นั บรรยากาศ ความสมั พันธ์ระหว่างความดนั อากาศกับความสูงจากพน้ื โลก ปัจจัยทมี่ ผี ล ต่อการเปล่ยี นแปลงองค์ประกอบของลม ฟ้า และอากาศการพยากรณ์อากาศ ผลกระทบการ เปลยี่ นแปลงอุณหภมู บิ รรยากาศโลกเทคโนโลยีในชีวิตประจําวัน โดยใช้ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษที่๒๑ สืบคน้ ข้อมูล และอภปิ ราย เพอื่ ฝึกทักษะเปรยี บเทยี บ อธิบาย ยกตวั อย่าง ระบใุ ช้หลักฐานเชิงประจกั ษบ์ รรยาย เขียน แผนภาพสงั เกต ทดสอบ ใช้สารสนเทศวิเคราะห์เสนอแนวทางใชเ้ คร่อื งมือสร้างแบบจําลองแปล ความหมาย คํานวณใช้สมการ ใช้เทอร์โมมเิ ตอร์นาํ เสนอผล ออกแบบ ตดั สนิ ใจแก้ปัญหาและประเมินผล อธบิ ายกระบวนการการนําธาตุโลหะแต่ละชนิด มาสร้างองคพ์ ระและอธบิ ายคุณสมบัตขิ องธาตุ โลหะนน้ั เพอ่ื ให้เกิดความรู้ความเขา้ ใจ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ได้อย่างถูกต้อง ตระหนัก ดแู ล รักษาเหมาะสม ปลอดภยั และคุ้มค่า เกดิ ความสามารถในการคดิ ส่ือสาร ตัดสนิ ใจ การแก้ปญั หา นาํ ความรไู้ ปใช้ในชีวิตประจําวัน ใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสทิ ธภิ าพมีจติ วทิ ยาศาสตร์จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มท่หี มาะสม

๒๕๙ รหสั ตวั ช้ีวัด ว ๒.๑ ม.๑/๙ ม.๑/๑๐ ว ๒.๒ ม.๑/๑ ว ๒.๓ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ม.๑/๗ ว ๓.๒ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ม.๑/๗ ว ๔.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ รวมทง้ั หมด ๒๒ ตวั ชีว้ ัด

๒๖๐ คำอธิบายรายวชิ า(พื้นฐาน) รหัสวชิ า ว ๒๐๑๐๗ วิชา วทิ ยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๔๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ ศกึ ษาแนวคดิ เชิงนามธรรม การคัดเลือกคณุ ลกั ษณะท่จี าํ เป็นต่อการแกป้ ญั หาช้ันตอนการ แก้ปญั หา การเขียนรหสั ลําลองและผงั งาน การเขยี นออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างง่ายท่ีมีการใช้ งานตัวแปร เง่ือนไขและการวนซ้ําเพ่ือแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์หรือวทิ ยาศาสตร์การรวบรวมข้อมลู ปฐมภมู ิการประมวลผลข้อมลู การสร้างทางเลือกและประเมินผลเพื่อตดั สนิ ใจซอฟต์แวร์และบริการบน อินเทอร์เนต็ ท่ีใช้ในการจัดการขอ้ มูล แนวทางการใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศให้ปลอดภัย การ จัดการอตั ลักษณ์การพิจารณาความเหมาะสมของเนอ้ื หา ขอ้ ตกลงและข้อกาํ หนดการใช้สื่อและ แหลง่ ขอ้ มลู ศึกษาอธิบายความหมายของเทคโนโลยวี ิเคราะห์สาเหตุหรือปัจจัยทีส่ ่งผลต่อ การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยีการทํางานของระบบทางเทคโนโลยี นําแนวคิดเชงิ นามธรรมและขัน้ ตอนการแก้ปัญหา ไปประยุกต์ใช้ในการเขียนโปรแกรม หรอื การ แก้ปญั หาในชวี ติ จรงิ รวบรวมข้อมลู และสร้างทางเลือก ในการตัดสินใจได้อย่างมีประสทิ ธิภาพและ ตระหนกั ถงึ การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เกิดประโยชน์ต่อการเรยี นรู้และไม่สร้าง ความเสียหายให้แก่ผู้อ่ืนการประยกุ ต์ใชค้ วามรทู้ ักษะและทรพั ยากรโดยวิเคราะห์เปรยี บเทยี บและเลอื ก ขอ้ มูลทีจ่ ําเป็นเพื่อออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหาในชวี ติ ประจำวนั ในด้านการเกษตรและอาหารและสร้าง ชน้ิ งานหรือพัฒนาวิธีการโดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม รวมท้งั เลอื กใช้วสั ดุอุปกรณ์ เคร่ืองมือในการก้ปัญหาได้อย่างถกู ตอ้ งเหมาะสมและปลอดภัย รหสั ตัวช้วี ัด มาตรฐาน ว ๔.๑ ม.๑/๑-๔ มาตรฐาน ว ๔.๒ ม.๑/๑-๔ รวมทง้ั หมด ๘ ตวั ชีว้ ดั

๒๖๑ คำอธิบายรายวิชา(พน้ื ฐาน) รหสั วชิ า ว ๒๒๑๐๑ วชิ า วทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๒ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๖๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต ศึกษา วิเคราะห์ อวยั วะและบรรยายหน้าที่ของอวยั วะทีเ่ กย่ี วข้องในระบบหายใจ กลไกการ หายใจเขา้ และออก โดยใช้แบบจําลอง กระบวนการแลกเปลี่ยนแก๊ส ความสาํ คัญของระบบหายใจ แนวทางในการดูแลรกั ษาอวัยวะในระบบหายใจให้ทาํ งานเปน็ ปกติ หน้าทข่ี องอวัยวะในระบบขบั ถ่ายใน การกําจัดของเสยี ทางไต ความสําคญั ของระบบขบั ถ่ายในการกําจดั ของเสียทางไต แนวทางในการปฏบิ ตั ิ ตนทีช่ ่วยใหร้ ะบบขบั ถ่ายหน้าท่ไี ด้อย่างปกติ โครงสร้างและหน้าท่ีของหัวใจ หลอดเลอื ด และเลอื ด การ ทาํ งานของระบบหมนุ เวยี นเลอื ดโดยใช้แบบจาํ ลอง อัตราการเตน้ ของหวั ใจ ขณะปกติและหลงั ทาํ กจิ กรรม ความสาํ คญั ของระบบหมนุ เวียนเลอื ดแนวทางในการดูแลรกั ษาอวยั วะในระบบหมุนเวยี นเลือด ใหท้ าํ งานเป็นปกติ อวัยวะและหน้าทข่ี องอวยั วะในระบบประสาทส่วนกลางในการควบคุมการทาํ งาน ต่างๆ ของร่างกาย ความสําคัญของระบบประสาท แนวทางในการดูแลรกั ษาป้องกันการ กระทบกระเทือนต่อสมองและไขสนั หลงั หน้าทีข่ องอวยั วะในระบบสืบพนั ธุ์ของเพศชายและหญิง ผล ของฮอร์โมนเพศชายและเพศหญงิ การเปลี่ยนแปลงของร่างกายเมื่อเข้าสวู่ ัยหนุ่มสาว การตกไข่ การมี ประจาํ เดอื นการปฏิสนธแิ ละการพฒั นาของไซโกต วิธีการคุมกําเนดิ ผลกระทบของการตั้งครรภ์ก่อนวัย อันควร การแยกสารผสมโดยการระเหยแห้ง การตกผลึก การกลั่นอย่างง่าย โครมาโทกราฟีแบบ กระดาษ การสกดั ด้วยตัวทาํ ละลาย ชนิดของตวั ทําละลายและผลของอณุ หภมู แิ ละความดนั ที่มีต่อสภาพ ละลายได้ของสาร ระบุปรมิ าณตัวละลายในสารละลาย ในหน่วยความเข้มขน้ เปน็ ร้อยละ ปรมิ าตรต่อ ปรมิ าตร มวลต่อมวล และมวลต่อปริมาตรการนําความรู้เรอื่ งความเข้มขน้ ของสารไปใช้ การเคลอื่ นที่ ของวตั ถุทีเ่ ป็นผลของแรงลัพธ์ท่ีเกดิ จากแรงหลายแรงท่ีกระทําตอ่ วตั ถุในแนวเดียวกนั จากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ ปจั จยั ทมี่ ีผลต่อความดันของของเหลว แรงพยงุ และการจมการลอยของวตั ถใุ นของเหลว แรงที่ กระทําตอ่ วัตถใุ นของเหลว แรงเสยี ดทานและแรงอื่น ๆท่ีกระทําต่อวัตถุแรงเสยี ดทานสถติ และแรงเสยี ด ทานจลน์ ปจั จยั ทมี่ ผี ลต่อขนาดของแรงเสยี ดทาน วิธีการลดหรือเพิ่มแรงเสียดทานทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อ การทํากจิ กรรมในชวี ติ ประจําวนั โมเมนต์ของแรง

๒๖๒ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในการสืบเสาะหาความรู้ สาํ รวจตรวจสอบ สืบค้นข้อมลู วเิ คราะห์เปรียบเทียบ คํานวณ เขยี นแผนภาพ ออกแบบการทดลองปฏิบัติการทดลองแก้ปัญหาและการ อภปิ ราย เพือ่ ให้เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม เกิดกระบวนการคดิ สามารถสือ่ สารสงิ่ ที่เรยี นรู้ มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจ การใช้เทคโนโลยี การ แก้ปญั หา เห็นคณุ ค่าของการนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจําวัน มจี ติ วิทยาศาสตร์ มคี ณุ ลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ สามารถอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนสื่อความได้ รหสั ตวั ช้ีวดั ว๑.๒ ม. ๒/๑-๑๗ ว๒.๑ ม. ๒/๑-๖ ว๒.๒ ม. ๒/๑-๑๐ รวมทง้ั หมด ๓๓ ตัวชี้วดั

๒๖๓ คำอธบิ ายรายวชิ า(พน้ื ฐาน) รหัสวิชา ว ๒๒๑๐๒ วิชา วิทยาศาสตร์ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต ศกึ ษา วเิ คราะห์ อธบิ าย เปรียบเทียบแหล่งของสนามแม่เหล็ก สนามไฟฟ้า และสนามโน้มถว่ ง และทิศทางของแรงท่ีกระทําต่อวตั ถทุ ่ีอยใู่ นแต่ละสนาม แรงแม่เหลก็ แรงไฟฟ้า และแรงโน้มถ่วงท่ี กระทําตอ่ วัตถคุ วามสัมพนั ธ์ระหว่างขนาดของแรงแม่เหล็ก แรงไฟฟ้า และแรงโน้มถว่ งทกี่ ระทําต่อวตั ถทุ ่ี อยู่ในสนามนน้ั ๆ กับระยะห่างจากแหล่งของสนามถงึ วัตถุ อัตราเร็วและความเร็วของการเคลื่อนที่ของ วตั ถกุ ารกระจัด งานและกําลังที่เกดิ จากแรงทกี่ ระทําต่อวตั ถคุ วามรู้และหลักการทาํ งานของเครอื่ งกล อย่างง่าย ปัจจัยท่มี ผี ลต่อพลงั งานจลนแ์ ละพลงั งานศักย์โน้มถว่ ง การเปลีย่ นพลงั งานระหว่างพลังงาน ศกั ยโ์ น้มถ่วงและพลงั งานจลน์ของวตั ถโุ ดยพลังงานกล ของวตั ถมุ ีคา่ คงตัว การเปลีย่ นแปลงพลังงานและการถ่ายโอนพลงั งานโดยใช้กฎการอนรุ ักษ์พลังงาน กระบวนการเกดิ สมบตั ิของเชือ้ เพลิงซากดึกดําบรรพ์การใช้ประโยชน์และผลกระทบจากการใช้เช้อื เพลงิ ซากดึกดําบรรพ์ ข้อดีและข้อจาํ กดั ของพลงั งานทดแทนแต่ละประเภท การใช้พลงั งานทดแทนท่ี เหมาะสมในท้องถน่ิ โครงสร้างภายในโลกตามองค์ประกอบทางเคมี กระบวนการผพุ งั อยู่กบั ทก่ี ารกรอ่ น และการสะสมตัวของตะกอน ผลของกระบวนการดงั กล่าวทท่ี าํ ให้ผวิ โลกเกดิ การเปลยี่ นแปลง ลักษณะ ของชน้ั หน้าตดั ดนิ และกระบวนการเกิดดินปัจจัยท่ีทาํ ให้ดนิ มลี ักษณะและสมบัติแตกต่างกัน สมบัตบิ าง ประการของดิน แนวทางการใช้ประโยชน์ดินจากขอ้ มูลสมบตั ิของดิน ปัจจยั และกระบวนการเกิดแหล่ง น้ําผิวดินและแหล่งนํ้าใต้ดิน การใชน้ ํา้ อย่างยง่ั ยืนในท้องถนิ่ ของตนเอง กระบวนการเกดิ และผลกระทบ ของนํา้ ท่วม การกดั เซาะชายฝ่ัง ดนิ ถล่ม หลมุ ยบุ แผ่นดินทรุด แนวโน้มเทคโนโลยที ่จี ะเกดิ ขน้ึ โดย พจิ ารณาจากสาเหตุหรือปัจจยั ท่สี ่งผลต่อการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี การเลือกใช้เทคโนโลยโี ดย คาํ นงึ ถึงผลกระทบที่เกิดขน้ึ ต่อชวี ติ สังคมและสง่ิ แวดล้อม ปัญหาหรือความต้องการในชุมชนหรือท้องถ่ิน การสรปุ กรอบของปัญหา แนวคดิ ทีเ่ กีย่ วข้องกับปญั หาวิธีการแก้ปัญหา เลอื กข้อมูลทจ่ี ําเปน็ ภายใต้ เง่ือนไขและทรพั ยากรทีม่ ีอยู่ แนวทางการแก้ปัญหาให้ผู้อ่นื เข้าใจ ขั้นตอนการทํางานและดาํ เนินการ แก้ปญั หาอย่างเปน็ ขนั้ ตอน ภายใต้กรอบเงอื่ นไขพร้อมทง้ั หาแนวทางการปรับปรงุ แก้ไข ผลของการ แก้ปญั หา การใช้วสั ดุอปุ กรณ์เครอื่ งมอื กลไก ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์เพื่อแก้ปัญหาหรือพฒั นางาน

๒๖๔ โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ในการสบื เสาะหาความรู้ สาํ รวจตรวจสอบ สืบคน้ ข้อมลู วเิ คราะห์ เปรียบเทยี บ คาํ นวณ เขียนแผนภาพ ออกแบบการทดลอง ปฏบิ ตั กิ ารทดลอง แปลความหมายข้อมลู สร้างแบบจําลอง แก้ปัญหา และการอภิปราย เพ่อื ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม เกิด กระบวนการคดิ สามารถสื่อสารส่งิ ที่เรียนรู้มคี วามสามารถในการตัดสนิ ใจ การใช้เทคโนโลยี การ แก้ปญั หา เห็นคุณค่าของการนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจาํ วัน มจี ติ วิทยาศาสตร์ มีคณุ ลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ สามารถอ่าน คิด วเิ คราะห์ และเขียนสื่อความได้ รหสั ตัวชว้ี ดั ว ๒.๑ ม.๒/๓ ว๒.๒ ม.๒/๑๑-๑๕ ว๒.๓ ม.๒/๑-๖ ว๓.๒ ม.๒/๑-๑๐ ว๔.๑ ม.๒/๑-๕ รวมทง้ั หมด ๒๗ ตวั ชี้วัด

๒๖๕ คำอธิบายรายวิชา(พน้ื ฐาน) รหสั วิชา ว ๒๐๑๐๘ วชิ า วิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๒ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ คาดการณ์แนวโน้มเทคโนโลยีที่จะเกดิ ข้ึนโดยพจิ ารณาจากสาเหตุหรอื ปัจจยั ทสี่ ่งผลต่อการ เปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยีและวเิ คราะห์เปรียบเทยี บ ตัดสินใจเลือกใช้เทคโนโลยีโดยคํานงึ ถึงผลกระทบ ทเ่ี กดิ ขนึ้ ต่อชีวิต สังคมและสิง่ แวดล้อม ศกึ ษาปญั หาหรือความต้องการในชุมชนหรือท้องถ่ิน กรอบของ ปญั หา รวบรวม วเิ คราะห์ขอ้ มลู และแนวคิดทีเ่ ก่ยี วข้องกบั ปญั หา ศึกษาแนวคิดเชิงคาํ นวณ การ แก้ปญั หาโดยใช้แนวคดิ เชงิ คํานวณ การเขยี นโปรแกรมทม่ี กี ารใช้ตรรกะและฟังก์ชนั องคป์ ระกอบและ หลกั การทํางานของระบบคอมพวิ เตอร์ เทคโนโลยสี อ่ื สารแนวทางการปฏบิ ตั ิเมอ่ื พบเน้ือหา ทไี่ ม่ เหมาะสม การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมคี วามรบั ผิดชอบ วิธกี ารสร้างและกาํ หนดสิทธคิ วามเป็น เจา้ ของผลงาน ออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหาในชีวติ จรงิ โดยวเิ คราะห์เปรียบเทยี บ ทดสอบ ประเมินผล วเิ คราะห์ และตดั สินใจเลอื กข้อมูลภายใต้เง่ือนไขและทรพั ยากรทม่ี ีอยู่และดําเนินการแก้ปัญหาอย่างเป็นขัน้ ตอน โดยใช้แนวคิดเชิงคํานวณไปประยุกต์ใชใ้ นการเขียนโปรแกรมทใ่ี ช้ตรรกะและฟังกช์ ันในการแก้ปัญหา และอย่างเข้าใจองค์ประกอบและหลกั การทํางานของระบบคอมพวิ เตอร์ เทคโนโลยีการสอ่ื สาร การ ประยกุ ต์ใชง้ านและนําเสนอแนวทางการแก้ปัญหาใหผ้ ู้อ่ืนเข้าใจ รวมถึงการสร้างและกําหนดสิทธิ รหสั ตวั ชี้วัด ว ๔.๑ ม.๒/๑-๔ ว ๔.๒ ม.๒/๑-๔ รวมทง้ั หมด ๘ ตัวช้ีวดั

๒๖๖ คำอธิบายรายวิชา(พ้นื ฐาน) รหัสวชิ า ว ๒๓๑๐๑ วชิ า วทิ ยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๓ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ ศกึ ษาวิเคราะห์ปฏสิ ัมพนั ธ์ขององค์ประกอบของระบบนเิ วศ รปู แบบความสัมพันธ์ระหว่าง ส่งิ มีชวี ิตกับสง่ิ มชี วี ิตรปู แบบต่าง ๆ การถ่ายทอดพลงั งานในสายใยอาหาร ความสัมพนั ธ์ของผู้ผลิต ผู้บริโภค และผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์ในระบบนิเวศ การสะสมสารพิษในสงิ่ มีชวี ติ ในโซ่อาหาร ความสมั พันธ์ของสงิ่ มชี วี ติ และสง่ิ แวดล้อมในระบบนเิ วศ โดยไม่ทําลายสมดุลของระบบนิเวศ ความสมั พันธ์ระหว่าง ยนี ดเี อ็นเอ และโครโมโซม โดยใช้แบบจาํ ลอง การถ่ายทอดลักษณะทาง พันธกุ รรม การเกิดจโี นไทป์และฟีโนไทป์ของลูกและคํานวณอตั ราส่วนการเกิดจีโนไทป์และ ฟีโนไทป์ของ รุ่นลกู ความแตกต่างของการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสและไมโอซสิ การเปล่ยี นแปลงของยีนหรอื โครโมโซม อาจทาํ ให้เกิดโรคทางพนั ธกุ รรม ประโยชน์ของความรู้เรอ่ื งโรคทางพนั ธุกรรม การใช้ประโยชน์จาก สิง่ มชี วี ิตดดั แปรพนั ธุกรรม และผลกระทบที่อาจมตี ่อมนุษย์และส่ิงแวดล้อม ประโยชน์และผลกระทบ ของสง่ิ มีชีวิตดัดแปรพนั ธุกรรมท่อี าจมตี ่อมนุษย์และส่ิงแวดล้อม ความหลากหลายทางชีวภาพในระดับ ชนิดสิ่งมีชวี ติ ในระบบนิเวศต่าง ๆ ความสําคญั ของความหลากหลายทางชีวภาพที่มตี ่อการรักษาสมดลุ ของระบบนิเวศและต่อมนษุ ย์สมบัติทางกายภาพและการใช้ประโยชน์วัสดปุ ระเภทพอลิเมอร์เซรามกิ และวัสดุผสม การเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมีรวมถงึ การจดั เรียงตัวใหม่ของอะตอมเม่อื เกดิ ปฏิกริ ิยาเคมีกฎทรงมวล ปฏกิ ริ ยิ าดูดความรอ้ น และปฏิกิริยาคายความร้อน ปฏิกิริยาการเกิดสนิมของเหล็ก ปฏิกริ ยิ าของกรดกับ โลหะ ปฏิกิรยิ าของกรดกับเบส และปฏิกริ ยิ าของเบสกับโลหะ ปฏิกิริยาการเผาไหมการเกดิ ฝนกรด การ สังเคราะหด์ ้วยแสง ประโยชน์และโทษของปฏกิ ริ ิยาเคมีที่มตี ่อสิง่ มชี วี ิตและสง่ิ แวดล้อม โดยใช้ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบคน้ ขอ้ มลู การสังเกต การสํารวจ การ อภปิ รายการวิเคราะห์ การเปรียบเทยี บ การทํานาย การทาํ โครงงาน และการทดลอง โดยศึกษาปัญหาสภาพแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติในท้องถนิ่ และแหล่งท่องเท่ยี วใน จังหวัดอ่างทองพร้อมท้ังเสนอแนะแนวทางปอ้ งกันและแก้ไขปัญหาส่ิงแวดล้อมทเ่ี กดิ ขน้ึ เพื่อให้เกิดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรยี นรู้ มคี วามสามารถในการ ตดั สินใจนําความรู้ไปใช้ในชีวติ ประจําวนั มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและค่านยิ มที่เหมาะสม

๒๖๗ รหัสตวั ชว้ี ัด ว๑.๑ ม.๓/๑-๖ ว๑.๓ ม.๓/๑-๑๑ ว๒.๑ ม.๓/๑-๘ รวมทง้ั หมด ๒๕ ตัวช้ีวัด

๒๖๘ คำอธบิ ายรายวิชา(พน้ื ฐาน) รหัสวิชา ว ๒๓๑๐๒ วิชา วทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๓ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต ศกึ ษาวเิ คราะห์ความสมั พนั ธ์ระหว่างความต่างศักยก์ ระแสไฟฟ้า และความต้านทาน และ คาํ นวณปรมิ าณทเ่ี กย่ี วข้องโดยใช้สมการ V = IR ความสมั พันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้าและความต่าง ศักยไ์ ฟฟ้า การใช้โวลต์มเิ ตอร์แอมมเิ ตอร์ ความต่างศักย์ไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้าเมือ่ ต่อตัว ต้านทานหลายตวั แบบอนกุ รมและแบบขนาน การต่อตวั ต้านทานแบบอนุกรมและขนาน การทํางานของ ชิ้นส่วนอเิ ล็กทรอนิกส์อย่างงา่ ยในวงจร การต่อชนิ้ ส่วนอเิ ล็กทรอนิกส์อย่างง่ายในวงจรไฟฟ้า คาํ นวณ พลงั งานไฟฟ้าโดยใช้สมการ W = Pt รวมทงั้ คาํ นวณค่าไฟฟ้าของเคร่ืองใช้ไฟฟ้าในบ้าน การใช้ เคร่อื งใช้ไฟฟ้าอยา่ งประหยัดและปลอดภยั การเกดิ คลนื่ และส่วนประกอบของคลื่น คลืน่ แม่เหลก็ ไฟฟ้า และสเปกตรัมคลืน่ แม่เหล็กไฟฟ้า อนั ตรายจากคลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟ้า กฎการสะท้อนของแสงการเคลอ่ื นที่ ของแสง การเกิดภาพจากกระจกเงา การหักเหของแสง การกระจายแสงของแสงขาวเมอื่ ผ่านปริซึมการ เคลื่อนท่ีของแสงแสดงการเกิดภาพจากเลนส์ ปรากฏการณ์ทเี่ ก่ยี วกบั แสง และการทาํ งานของทศั น อุปกรณ์การเคลือ่ นท่ีของแสง แสดงการเกดิ ภาพของทัศนอปุ กรณ์และเลนส์ตา ผลของความสว่างทีม่ ีตอ่ ดวงตา การใช้อปุ กรณ์วัดความสว่างของแสง การโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ด้วยแรงโน้มถว่ ง จากสมการF = (Gm๑m๒)/r๒ การเกดิ ฤดูและการเคล่ือนที่ปรากฏของดวงอาทติ ย์การเกิดขา้ งข้ึน ข้างแรม การเปลี่ยนแปลงเวลาการขึ้นและตกของดวงจนั ทร์ และการเกดิ นํ้าข้ึนนํ้าลง การใช้ประโยชน์ ของเทคโนโลยีอวกาศ ความกา้ วหน้าของโครงการสํารวจอวกาศ ปัจจัยท่สี ่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของ เทคโนโลยี และความสมั พันธ์ของเทคโนโลยีกบั ศาสตร์อืน่ โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรอื คณิตศาสตร์ ระบปุ ัญหาหรือความต้องการของชุมชนหรือท้องถิ่น เพ่ือพัฒนางานอาชีพ สรุปกรอบของปัญหา รวบรวม วิเคราะห์ข้อมลู และแนวคดิ ทเี่ กย่ี วข้องกบั ปญั หา วเิ คราะห์เปรยี บเทยี บ และตดั สนิ ใจเลอื ก ข้อมลู ทีจ่ าํ เป็นภายใต้เงอื่ นไขและทรัพยากรที่มอี ยู่ วิเคราะห์และให้เหตผุ ลของปัญหาหรือข้อบกพร่องท่ี เกดิ ขึ้นภายใต้กรอบเง่ือนไข ใช้ความรู้ และทักษะเก่ียวกับวสั ดุ อุปกรณ์เครอ่ื งมือ กลไก ไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนกิ ส์ใหถ้ ูกต้องกับลกั ษณะของงาน และปลอดภัย

๒๖๙ โดยใช้ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์การสบื ค้นขอ้ มูล การสงั เกต การระบุปัญหา การ สร้างแบบจําลอง การใช้อุปกรณ์ การเขียนแผนภาพ การสํารวจ การอภปิ ราย การวิเคราะห์การ เปรียบเทยี บ การทํานายการทําโครงงาน การทดลอง และการออกแบบ เพื่อให้เกดิ ความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถสอื่ สารสิง่ ที่เรยี นรู้ มคี วามสามารถในการ ตดั สนิ ใจนําความรู้ไปใช้ในชีวิตประจําวนั มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรมและค่านิยมทเี่ หมาะสม รหัสตัวชว้ี ัด ว๑.๑ ม.๓/๑-๖ ว๑.๓ ม.๓/๑-๑๑ ว๒.๑ ม.๓/๑-๘ รวมทง้ั หมด ๓๐ ตวั ชี้วดั

๒๗๐ คำอธบิ ายรายวชิ า(พ้นื ฐาน) รหสั วิชา ว ๒๐๑๐๙ วชิ า วิทยาการคำนวณ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ ศกึ ษาขนั้ ตอนการพัฒนาแอปพลเิ คชัน Internet of Things (IoT) การเขยี นโปรแกรมเพื่อ พัฒนาแอปพลิเคชนั ซึ่งวเิ คราะห์สาเหตุหรือปัจจยั ทีส่ ่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และ ความสัมพันธ์ของเทคโนโลยที มี่ กี ารบรู ณาการกบั วชิ าอื่นอย่างสรา้ งสรรค์ โดยเฉพาะวทิ ยาศาสตร์ หรอื คณิตศาสตร์ การสบื ค้นหาแหล่งต้นตอของข้อมลู เหตุผลวิวตั ิ ผลกระทบจากข่าวสารทีผ่ ดิ พลาด การรู้เทา่ ทันสือ่ กฎหมายทีเ่ กี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เพอื่ เปน็ แนวทางการแกป้ ัญหาหรือพฒั นางานตามความต้องการ ของชมุ ชนหรอื ท้องถ่นิ ออกแบบวธิ กี ารแก้ปญั หา วิเคราะห์เปรยี บเทียบและตัดสินใจเลอื กข้อมลู ท่จี ําเปน็ และ ดาํ เนินการแก้ปัญหาอย่างเป็นขัน้ ตอน จากการรวบรวมข้อมูลปฐมภมู แิ ละทตุ ิยภูมิ การประมวลผลข้อมลู การสร้างทางเลือกและประเมินผล ซอฟต์แวร์หรอื บรกิ ารบนอนิ เทอร์เนต็ ที่ใช้ในการจัดการข้อมูล การ ประเมนิ การความนา่ เช่อื ถอื ของข้อมูล บูรณาการเชอ่ื มโยงความรู้และทักษะต่าง ๆ รวบรวมข้อมูล ประมวลผล ประเมนิ ผล นําเสนอ ขอ้ มูลและสารสนเทศตามวัตถปุ ระสงค์โดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รือบริการบนอินเทอร์เน็ตทห่ี ลากหลายใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย และมีความรบั ผิดชอบต่อสังคม ปฏบิ ัติตามกฎหมายเก่ียวกับ คอมพวิ เตอร์ใชล้ ขิ สิทธิ์ของผอู้ ่นื โดยชอบธรรม นําเสนอผลงานผ่านหนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์(E-book ) ประจกั ษถ์ ่ินกาํ เนดิ โดยนําความรู้บูรณาการกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อนื่ การใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัย และมคี วามรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม ปฏบิ ตั ิตามกฏหมายเกย่ี วกับ คอมพิวเตอร์ ใชล้ ขิ สทิ ธิ์ของผู้อืน่ โดยชอบธรรม รหสั ตัวชว้ี ัด ว ๔.๑ ม.๓/๑-๔ ว ๔.๒ ม.๓/๑-๔ รวมทง้ั หมด ๘ ตวั ชว้ี ัด

๒๗๑ คำอธบิ ายรายวชิ า (เพมิ่ เติม) รหสั วิชา ว ๒๑๒๐๕ วชิ าของเล่นเชงิ วิทยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ ศกึ ษา วิเคราะห์ออกแบบสร้างของเลน่ อย่างง่ายตามแบบท่กี าํ หนดให้ ดดั แปลงหรอื ประดิษฐ์ ของเล่นท่ีใช้เคร่ืองกลอย่างง่ายหรอื หลักการทางไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์อย่างง่าย และอธิบายการ ทาํ งานของเล่น ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ สามารถใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ การแก้ปัญหา สามารถส่อื สารสิง่ ท่ี เรียนรสู้ ามารถตัดสินใจ นาํ ความรู้ไปใช้ในชีวติ ประจําวนั มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรมและค่านยิ มทีเ่ หมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. ตงั้ คาํ ถามเกีย่ วกับหลกั การทางวิทยาศาสตร์ท่สี งั เกตุได้จากการเล่นของเล่น ๒. สังเกตและอธิบายหลักการทาํ งานของเครือ่ งกลอย่างง่ายวงจรไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์อย่างงา่ ย ที่ ประกอบข้นึ ในของเล่น ๓. และแก้ไขข้อบกพร่องของเคร่อื งกลอย่างง่าย วงจรไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์อย่างง่ายที่ประกอบขึ้น ในของเลน่ ทก่ี ําหนด ๔. ออกแบบและประดษิ ฐ์ของเล่นโดยใช้เคร่อื งกลอย่างง่าย และไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์อย่างง่าย ๕. มีเจตคตทิ ดี่ ตี ่อหลักการทางวิทยาศาสตร์ในของเล่น รวมทง้ั หมด ๕ ผลการเรยี นรู้

๒๗๒ คำอธบิ ายรายวชิ า (เพ่มิ เติม) รหสั วิชา ว ๒๐๒๐๑ วิชา เทคโนโลยสี ารสนเทศ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ ๑ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑ หนว่ ยกติ ศกึ ษาความรู้เกยี่ วกับการรวบรวม การตรวจสอบความถูกต้อง การจดั เก็บ การจดั การ การ กระทาํ ขอ้ มูลข่าวสาร โดยใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สํานักงานต่างๆ ในการปฏิบตั งิ านเพือ่ ให้ ได้สารสนเทศหรือความรทู้ ี่นาํ มาใช้ในการตดั สินใจหรอื เป็นประโยชน์ต่อการดาํ เนนิ ชีวิตอธิบายหลักการ เบื้องต้นของการส่ือสาร ข้อมูล และเครือข่าย คอมพิวเตอร์ หลกั การและวิธีการแก้ปัญหาด้วย กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ การทาํ โครงงานทมี่ ีการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศเขียนโปรแกรมภาษา ขัน้ พ้นื ฐาน การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนําเสนองาน การใช้คอมพวิ เตอร์สร้างชิน้ งาน โดยจัดประสบการณ์จัดกิจกรรมหรือโจทย์ปญั หาที่ส่งเสรมิ การพฒั นาทกั ษะกระบวนการ เทคโนโลยสี ารสนเทศ การติดต่อสอ่ื สาร การค้นหาขอ้ มลู การใช้ขอ้ มลู และสารสนเทศ การแก้ปญั หา หรือการสร้างงานคมุ้ ค้าและผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สารวิเคราะห์ อภิปราย หลกั การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศเขียนโปรแกรมภาษาขนั้ พ้ืนฐาน การนาํ เสนองาน และการสร้างชิน้ งาน เพือ่ ให้เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ เหน็ คุณค่าและอาชีพอย่างมปี ระสิทธภิ าพ ประสทิ ธผิ ลและมี คณุ ธรรมจริยธรรมในการใช้สารสนเทศ ให้มีทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ในการสื่อสาร ข้อมลู การแก้ปัญหา ด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ สร้างชิน้ งานโดยใช้คอมพิวเตอร์ โดยอาศัยความมุ่งมนั่ ในการ ทาํ งาน มวี ินยั คุณธรรมและค่านยิ มมีจติ เปน็ สาธารณะ ผลการเรยี นรู้ ๑. อธบิ ายหลักการรวมรวมข้อมูล การตรวจสอบความถูกต้อง การจดั เก็บ การจัดการ การกระทาํ ข้อมูล ขา่ วสาร โดยใช้อุปกรณ์คอมพวิ เตอร์และอปุ กรณส์ ํานกั งานต่างๆได้ ๒. ออกแบบโครงงานท่มี กี ารใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ และใช้คอมพวิ เตอร์ในการสร้างชิ้นงานได้

๒๗๓ ๓. ใช้ทกั ษะกระบวนการเทคโนโลยสี ารสนเทศ การตดิ ต่อส่ือสาร การค้นหาขอ้ มูลและสารสนเทศ มา แก้ปญั หาในชีวติ ประจาํ วันได้อย่างเหมาะสม มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม ๔. วเิ คราะห์ อภปิ รายหลักการ และประยุกต์ใชโ้ ปรแกรมสําเรจ็ รปู ในงานอาชพี ได้ รวมทง้ั หมด ๔ ผลการเรียนรู้

๒๗๔ คำอธบิ ายรายวชิ า (เพ่ิมเติม) รหัสวชิ า ว ๒๑๒๐๖ วิชา เทคโนโลยสี ารสนเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต ศึกษาวเิ คราะห์ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ๑๓ ทกั ษะ การแบ่งเปน็ ทักษะชน้ั พื้นฐาน ๘ ทักษะการบอกความหมายและการฝึก ทักษะการสังเกต ทกั ษะการวดั ทกั ษะการจาํ แนก ประเภท ทักษะการหาความสัมพันธ์เก่ยี วกับสเปส ทักษะการคํานวณ ทักษะการจดั กระทาํ และสื่อ ความหมายของข้อมูล ทกั ษะการลงความคิดเหน็ จากข้อมลู และทักษะการพยากรณ์ การแบ่งเป็นทกั ษะ ชนั้ บูรณาการ ๕ ทักษะ การบอกความหมายและการฝึก ทักษะการตั้งสมมตฐิ าน ทกั ษะการกําหนด นิยามเชิงปฏบิ ัตกิ าร ทักษะการกาํ หนดและควบคมุ ตัวแปร ทักษะการทดลอง ทักษะการแปลความหมาย และลงขอ้ สรุป โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสาํ รวจตรวจสอบ การสืบค้น ข้อมลู และการอภปิ ราย เพื่อให้เกดิ ความรู้ ความเข้าใจ สามารถส่อื สารสงิ่ ทเี่ รยี นรู้ มีความสามารถ ใน การตัดสนิ ใจ นําความรไู้ ปใช้ในชีวิตประจาํ วัน มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านิยม ท่ี เหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. อธบิ ายความหมายและฝึกทกั ษะการสงั เกตพุ ร้อมบอกประโยชน์การใช้ทกั ษะการสังเกตใน ชวี ติ ประจําวนั ๒. อธิบายความหมายและฝึกทักษะการวดั โดยเลอื กใช้อปุ กรณ์พ้ืนฐานในห้องปฏิบตั กิ ารวทิ ยาศาสตร์ได้ เหมาะสมกับสง่ิ ทว่ี ัดพร้อมทัง้ ระบหุ น่วยทีว่ ัด ๓. อธบิ ายความหมายและฝึกทักษะการจาํ แนกประเภท โดยเลือกใช้เกณฑแ์ ละอธิบายเหตผุ ลเกณฑ์ท่ี ใชไ้ ด้อย่างเหมาะสม

๒๗๕ ๔. อธบิ ายความหมายและฝึกทักษะการหาความสัมพันธ์เกีย่ วกับสเปส ความสมั พันธ์ระหว่างวตั ถุ ๒ มิติ กบั ๓ มิติ ความสมั พันธ์ของการเปล่ียนแปลงตําแหน่งของวตั ถกุ บั เวลาและความสัมพันธ์ของการ เปลย่ี นแปลงขนาดปริมาณของวตั ถุกับเวลา ๕. อธิบายความหมายและฝึกทักษะการคาํ นวณ โดยบอกวธิ คี ํานวณ แสดงวธิ คี าํ นวณ และวธิ ีคิดคาํ นวณ ได้อย่างถูกตอ้ ง ๖. อธิบายความหมายและฝึกทักษะการจดั กระทําและสื่อความหมายข้อมลู สามารถเลอื กรูปแบบในการ เสนอข้อมลู ทีเ่ หมาะสมและสอ่ื ความหมายให้ผู้อื่นเข้าใจได้งา่ ย ๗. อธบิ ายความหมายและฝึกทักษะการลงความคิดเห็น สรปุ ประเด็นของการเพ่ิมความคดิ เหน็ ของตน ต่อข้อมลู ท่ไี ดม้ าพรอ้ มแสดงเหตผุ ล ๘. อธิบายความหมายและฝึกทกั ษะการพยากรณ์ ทาํ นายผลท่ีอาจจะเกดิ ขน้ึ จากข้อมลู บนพนื้ ฐาน หลกั การ กฎ หรอื ทฤษฎีท่มี ีอยู่ ท้ังภายในขอบเขตของข้อมลู และภายนอกขอบเขตของข้อมูลเชงิ ปริมาณ ๙. อธบิ ายความหมายและฝึกทกั ษะการตงั้ สมมตฐิ าน ตง้ั คําถามหรือคิดหาคําตอบล่วงหน้าจาก ความสมั พนั ธ์ระหว่างตวั แปรต่างๆไดก้ ่อนทําการทดลอง ๑๐. อธิบายความหมายและฝึกทักษะการกาํ หนดนยิ ามเชงิ ปฏบิ ัตกิ าร บอกความหมายและขอบเขตของ คาํ หรอื ตัวแปรต่าง ๆทเ่ี ก่ยี วข้องกบั การศึกษาของตัวแปรต้นและตัวแปรตาม ๑๑. อธบิ ายความหมายและฝึกทักษะทกั ษะการกาํ หนดและควบคุมตวั แปร โดยกําหนดตวั แปรต้น ตวั แปรตาม และตัวแปรควบคมุ ในการทดลองได้ ๑๒. อธิบายความหมายและฝึกทกั ษะการทดลอง ออกแบบการทดลอง ปฏิบัติการทดลองและบันทกึ ผล การทดลองโดยเลอื กใช้อุปกรณ์ในการทดลองอย่างเหมาะสม พร้อมบอกประโยชน์ในการใชท้ ักษะการ ทดลองในชวี ติ ประจําวัน ๑๓. อธิบายความหมายและฝึกทักษะการแปลความหมายและลงข้อสรปุ สามารถสรปุ ประเด็นสาํ คัญ รวมถงึ การแปลความหมายหรอื บรรยายลกั ษณะความสมั พันธ์ของข้อมูล รวมทง้ั หมด ๑๓ ผลการเรียนรู้

๒๗๖

๒๗๗ คำอธิบายรายวิชา (เพ่ิมเตมิ ) รหัสวชิ า ว ๒๒๒๐๑ วิชาเร่ิมตน้ กบั โครงงานวทิ ยาศาสตร์ กลุม่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต ศึกษา วิเคราะห์ทํากิจกรรม สร้างแรงบันดาลใจ ในการทําโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ลักษณะสําคัญ ของโครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทต่างๆ การเรมิ่ ต้นทําโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ด้วยการต้ังคําถามและการ สืบคน้ ขอ้ มลู การกําหนดและควบคมุ ตวั แปร กาํ หนดนยิ ามเชงิ ปฏบิ ตั ิการ การวางแผนและการออกแบบ โครงงานวิทยาศาสตร์ การเขียนเค้าโครงของโครงงานวิทยาศาสตร์ การทําโครงงานวทิ ยาศาสตร์ การ เขยี นรายงาน และการนาํ เสนอโครงงานวทิ ยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ วางแผนการสาํ รวจตรวจสอบ สืบคน้ ขอ้ มลู ตั้งคําถาม ออกแบบการทดลอง ทดลอง วิเคราะห์ อธบิ าย เขยี นรายงานและนําเสนอข้อมลู เพอื่ ให้เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม สามารถ สอ่ื สารส่งิ ที่เรยี นรู้ มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ นําความรไู้ ปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาํ วนั มจี ิต วิทยาศาสตร์ จริยธรรมคุณธรรมและค่านยิ มท่เี หมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. ตงั้ คาํ ถามจากสถานการณ์ต่างๆ ตามความสนใจ โดยมีประเด็นหรือตัวแปรที่สาํ คัญในการสาํ รวจ ตรวจสอบหรอื ศกึ ษาไดอ้ ย่างครอบคลมุ และเช่ือถือได้ ๒. ออกแบบและวางแผนการสาํ รวจตรวจสอบ โดยมกี ารกาํ หนดและควบคุมตัวแปรต่างๆ กําหนดนิยาม เชิงปฏบิ ัตกิ าร เลือกวธิ ีการสาํ รวจตรวจสอบเชงิ ปริมาณ เชงิ คุณภาพทไี่ ด้ผลเที่ยงตรงและปลอดภยั โดย ใชว้ สั ดุและเคร่ืองมอื ทเี่ หมาะสม ๓. วเิ คราะห์และอธิบายผลการทดลองเชื่อมโยงกับสมมตฐิ าน และสถานการณ์ในชีวิตประจาํ วนั ได้ ๔. วเิ คราะห์โครงงานวิทยาศาสตร์ และมีแนวคิดในการวางแผนการทดลอง รวมถึงจดั ทาํ เค้าโครงของ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ได้

๒๗๘ ๕. ทําโครงงานวิทยาศาสตร์ ตามความสนใจ โดยมีชน้ั ตอนของกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในการ แก้ปญั หา และนาํ เสนอได้อย่างเหมาะสม รวมทง้ั หมด ๕ ผลการเรียนรู้

๒๗๙ คำอธิบายรายวชิ า (เพิม่ เตมิ ) รหัสวิชา ว ๒๐๒๐๒ วิชาการออกแบบและเทคโนโลยี กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๒ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต ศึกษาการออกแบบสามมติ ิสร้างงานสามมิตกิ ารวาดเขยี นแบบสามมติ แิ ละสร้างโมเดลสามมิติให้ มีความเหมาะสมต่อการเรยี นรู้ของนกั เรียนเลอื กใช้งานโปรแกรมสําเร็จรูปในการสร้างงานสามมิติ ฝึกปฏบิ ัตอิ อกแบบโครงร่างช้ินงานสามมติ ิ การทํารปู ทรงสามมติ ิ การออกแบบทางด้าน วศิ วกรรมสถาปัตยกรรม การออกแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ออกแบบชิน้ งานเอนเิ มช่ันตามความคดิ ของ ผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนทํางานบนพื้นฐานความเข้าใจ ความหมาย ความสาํ คญั และประโยชน์ วิธกี ารและ ขัน้ ตอนการทํางานท่ีรบั ผดิ ชอบการจดั การและการใช้เทคโนโลยี เพื่อให้ผู้เรยี นปลูกฝังนสิ ยั รกั ทํางานและปฏิบตั ไิ ด้ด้วยตนเองเพ่ือนาํ ไปพัฒนาและประยกุ ต์ใช้ งานการสร้างผลติ ภณั ฑ์ทีเ่ กดิ จากความคิดสร้างสรรค์ของนกั เรยี นเอง รู้จักรบั ผิดชอบ ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน ตรงต่อเวลาและมวี ินัย ผลการเรยี นรู้ ๑. สามารถอธิบายเกีย่ วกบั รปู ทรงสามมิตไิ ด้ ๒. สามารถวาดเขยี นแบบสามมิติได้ ๓. สามารถอธิบายหลกั การทาํ งานของโปรแกรมออกแบบวตั ถสุ ามมติ ิได้ ๔. สามารถใช้เครอื่ งมอื ต่างๆสร้างชนิ้ งานสามมิตไิ ด้ ๕. สามารถสร้างชนิ้ งานตามแบบทก่ี าํ หนดได้ ๖. สามารถนําช้นิ งานไปประยุกต์ใชร้ ว่ มกับงานอืน่ ๆ ได้ ๗. สามารถออกแบบและสร้างช้นิ งานของตนเองได้อย่างสร้างสรรค์ ด้วยความรับผิดชอบ ขยัน ซ่ือสัตย์ อดทน ตรงต่อเวลาและมีวินัย

๒๘๐ รวมทง้ั หมด ๗ ผลการเรยี นรู้

๒๘๑ คำอธบิ ายรายวิชา (เพิม่ เติม) รหัสวิชา ว ๒๓๒๐๕ วชิ าเชือ้ เพลิงเพือ่ การคมนาคม กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ ศกึ ษา วิเคราะห์ทดลอง องคป์ ระกอบและประเภทของปิโตรเลยี ม หินต้นกําเนิดและแหล่ง กักเกบ็ ปโิ ตรเลยี ม การสาํ รวจและแหล่งปิโตรเลียม ผลกระทบและแนวทางแกไ้ ขที่เกดิ จากการสํารวจ และการผลติ ปิโตรเลียม การแยกก๊าซธรรมชาติ การกลัน่ นํา้ มนั ดิบ ผลิตภณั ฑ์จากก๊าซธรรมชาติและจาก การกล่ันน้ํามนั ดิบ และการใช้ประโยชน์ ผลกระทบจากกระบวนการผลิต ผลิตภณั ฑ์จากปิโตรเลียมและ แนวทางแกไ้ ขสถานการณ์พลงั งานของโลกและของประเทศไทย การใช้พลังงานด้านการคมนาคมของ ประเทศไทย การกําหนดราคาน้าํ มนั เชื้อเพลงิ ผลกระทบและแนวทางการแก้ไขผลจากการใช้เช้ือเพลงิ เพอ่ื การคมนาคมเช้อื เพลงิ ท่ีเป็นพลังงานทดแทน โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ในการสบื เสาะหาความรู้ สํารวจตรวจสอบ สบื ค้น ข้อมลู อธิบายและนําเสนอข้อมลู เพื่อให้เกดิ ความรู้ ความเข้าใจกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม สามารถสอ่ื สารส่ิงทเ่ี รียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นําความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจําวนั มี จติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและค่านยิ มที่เหมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. อธบิ ายความสําคัญ และการกําเนิด ของปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และหนิ นาํ้ มัน ๒. อธิบายแหล่ง การสํารวจ และปรมิ าณสํารองของปิโตรเลยี ม และ แก๊สธรรมชาติ ๓. อธบิ ายผลิตภณั ฑ์ปิโตรเลยี มและการนาํ ไปใช้ประโยชน์ ๔. นาํ เสนอแนวทางการใช้ปิโตรเลียม และแก๊สธรรมชาติ อย่างประหยดั และถกู วิธี

๒๘๒ ๕. อธิบายโครงสร้างราคาและวิเคราะห์สถานการณ์การใช้นํ้ามนั เช้ือเพลงิ เพ่ือการคมนาคม ๖. อธบิ ายประเภทและการใช้ประโยชน์ จากเชื้อเพลิงทเ่ี ป็นพลงั งานทดแทน รวมทง้ั หมด ๖ ผลการเรียนรู้

๒๘๓ คำอธบิ ายรายวชิ า (เพิ่มเตมิ ) รหัสวชิ า ว ๒๐๒๐๓ วิชาการออกแบบและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต ศึกษาความรู้พ้นื ฐานเกย่ี วกบั อินเทอร์เน็ต การสร้างเว็บไซต์การพฒั นาเวบ็ ไซด์หลกั การ ออกแบบเวบ็ ไซต์ศึกษาและใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สําหรับสรา้ งเว็บไซด์ทสี่ ามารถนําไปประยกุ ต์ใชใ้ น ชีวติ ประจาํ วัน ปฏบิ ัติการใช้งานโปรแกรมสําหรับสร้างเว็บไซต์การเรียกใช้โปรแกรมสาํ หรับสร้างเว็บไซต์ทํา ความรจู้ ักกบั โปรแกรมความรู้เบื้องต้นเกย่ี วกับการสร้างเวบ็ ไซต์การเร่มิ ต้นสร้างเว็บไซต์การสร้าง Site การสร้างขอ้ ความการตกแต่งเว็บเพจด้วยรปู ภาพการสร้างตารางการเชือ่ มโยง (Link) ในเว็บไซต์แบบ ต่างๆ การแทรกสื่อมลั ตมิ ีเดีย(Multimedia) และเพ่มิ ลกู เลน่ ในหน้าเวบ็ เพจ ๆ พร้อมทงั้ การเผยแพร่ เว็บไซต์บนอินเทอร์เนต็ เพอ่ื ให้เกดิ ความรู้ความเขา้ ใจ มีความมุ่งมน่ั ในการทาํ งานมเี จตคติทด่ี แี ละเห็นความสาํ คัญและ ประโยชน์ของการจัดทาํ เวบ็ ไซต์และตระหนกั ถึงผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศในด้านต่างๆใช้ คอมพวิ เตอร์อย่างรคู้ ุณค่ามีความมุ่งมนั่ ในการทาํ งานและสามารถสร้างสรรคผ์ ลงานเว็บไซต์ของตนเองได้ อย่างมปี ระสิทธภิ าพมคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรมในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ ผลการเรียนรู้ ๑. อธิบายเก่ียวกับความรู้เบอ้ื งต้นเกีย่ วกับการสร้างเว็บไซต์ได้ ๒. อธิบายความหมายและส่วนประกอบของโปรแกรมสําหรบั สร้างเวบ็ ไซต์ได้ ๓. สามารถเตรียมความพร้อมก่อนการสร้างเวบ็ ไซต์และการสร้าง Site ได้ ๔. มคี วามเข้าใจและสามารถประยุกต์ใชง้ านเกีย่ วกบั การใส่ข้อความลงในเว็บเพจได้ ๕. มีความเข้าใจและสามารถประยกุ ต์ใชง้ านเกี่ยวกับการใส่รปู ภาพลงในเว็บเพจได้

๒๘๔ ๖. มีความเข้าใจและสามารถประยุกต์ใชง้ านเกี่ยวกบั การใส่ตารางลงในเวบ็ เพจได้ ๗. มีความเข้าใจและสามารถประยกุ ต์ใชง้ านเกี่ยวกับการเช่ือมโยงแบบต่าง ๆ ได้ ๘. มีความเข้าใจและสามารถประยุกต์ใชง้ านเกย่ี วกบั การออกแบบเว็บเพจด้วยเฟรม ๙. มีความเข้าใจและสามารถประยุกต์ใชง้ านเก่ียวกับการเพ่ิมลูกเล่นและมลั ติมีเดียลงในเว็บ ๑๐. สามารถเผยแพร่เว็บไซต์สู่อนิ เทอร์เนต็ ได้ รวมทง้ั หมด ๑๐ ผลการเรียนรู้

๒๘๕ คำอธิบายรายวชิ า (เพ่มิ เติม) รหัสวิชา ว ๒๓๒๐ วิชาพลังงานทดแทนกับการใช้ประโยชน์ กลุม่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ ศกึ ษาวิเคราะห์ทดลอง ตรวจสอบ เกี่ยวกบั ความสาํ คญั ของพลงั งานและพลงั งานทดแทนและ การนําพลงั งานทดแทนมาใช้ประโยชน์หลกั การทางวทิ ยาศาสตร์ ของพลงั งานนํ้า พลงั งานลม พลงั งาน แสงอาทติ ย์พลงั งานชีวมวล และพลงั งานนวิ เคลียร์ รวมทัง้ การนาํ มาใช้ประโยชน์เป็นพลังงานทดแทน ข้อดี ข้อจํากัดและแนวทางการพฒั นาในการนําพลงั งานเหล่าน้ันมาใช้ประโยชน์บทบาทและผลกระทบ ของพลงั งานเหล่าน้นั ทีม่ ตี ่อมนุษย์และสิง่ แวดล้อม โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในการสืบเสาะหาความรู้ สํารวจตรวจสอบ สบื ค้นขอ้ มูล ทดลอง อธบิ าย เขียนบรรยายสรปุ และยกตวั อย่าง เพื่อให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม สามารถ สอ่ื สารสิ่งท่ีเรยี นรู้ มีความสามารถในการตัดสนิ ใจ นําความรไู้ ปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจําวนั มจี ิต วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรมคณุ ธรรมและค่านิยมท่ีเหมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. อภปิ รายและเขียนบรรยายความสําคัญของพลงั งานและพลังงานทดแทนและการนําพร้อม ยกตวั อย่างและการนําพลังงานทดแทนมาใช้ประโยชน์ ๒. ทดลองและเขยี นสรปุ หลักการทางวิทยาศาสตร์ ในการนําพลังงานน้ํา พลังงานลม พลงั งานแสง อาทติ ย์พลังงานชวี มวล และพลังงานนวิ เคลียร์ ไปใช้ประโยชน์ ๓. เขียนบรรยายและยกตัวอย่างการใช้ประโยชน์พลังงานนํ้า พลงั งานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลงั งาน ชวี มวลและพลังงานนิวเคลียร์ในประเทศไทย

๒๘๖ ๔. เขยี นสรปุ ข้อดี ข้อจาํ กดั และแนวทางการพฒั นาในการนําพลังงานน้าํ พลงั งานลม พลงั งาน แสงอาทิตย์พลังงานชีวมวล และพลังงานนิวเคลยี ร์ ไปใช้ประโยชน์ รวมทง้ั หมด ๔ ผลการเรยี นรู้

๒๘๗ คำอธิบายรายวิชา (เพมิ่ เติม) รหสั วชิ า ว๒๐๒๐๔ วิชาการเขยี นโปรแกรมเบือ้ งตน้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต ศึกษากระบวนการทาํ งานของเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ใหเ้ กิดความเข้าใจการส่งั การทาํ งานใดๆกับ เครื่องคอมพวิ เตอร์ศกึ ษาประเภทของภาษาคอมพิวเตอร์ประเภทของข้อมลู และตวั แปล หลักการ วเิ คราะห์และออกแบบกระบวนการทํางานในการเขียนโปรแกรมภาษาซี เพื่อฝึกกระบวนการคดิ วิเคราะห์อย่างเปน็ ช้นั ตอน ใหส้ ามารถออกแบบกระบวนการทาง ความคิดใหเ้ ป็นแผนผังของอลั กอริทึม (Algorithm)และผงั ความคดิ (Flow chart)ในรูปแบบต่างๆ ปลูกฝังจรรยาบรรณและค่านยิ มท่ีพึงประสงค์ในการนําความรู้ไปใช้แก้ปญั หาในทาง สร้างสรรค์ อย่างมคี ุณธรรม จริยธรรมและมีประโยชน์ ผลการเรยี นรู้ ๑. สามารถอธิบายหลกั การทาํ งานของโปรแกรมกับเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ได้ ๒. สามารถอธบิ ายชนั้ ตอนการพัฒนาโปรแกรมได้ ๓. สามารถออกแบบการทํางานของโปรแกรมตามกระบวนการทางคณติ ศาสตร์และวทิ ยาศาสตร์ได้ ๔. สามารถอธบิ ายโครงสร้างภาษาซีได้ ๕. สามารถเก็บข้อมลู ของตัวแปลได้ ๖. สามารถรับ-ส่งขอ้ มลู ได้ ๗. สามารถเขียนคําส่ังการต้ังเง่อื นไข และการทาํ ซ้ําได้

๒๘๘ รวมทง้ั หมด ๗ ผลการเรยี นรู้ คำอธิบายรายวิชา (เพิ่มเตมิ ) รหัสวชิ า ว๒๐๒๐๔ วิชาการเขียนโปรแกรมเบือ้ งตน้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ ศกึ ษาข้อควรปฏบิ ตั ใิ นการใช้ห้องปฏบิ ตั ิการเคมี ช่อื อุปกรณ์วทิ ยาศาสตร์ ความหมายของ ตัวอักษรตัวเลข และสญั ลักษณ์ความปลอดภัยท่ปี รากฏบนอปุ กรณ์และสารเคมี ชอื่ ของธาตุและ สารประกอบในชวี ติ ประจาํ วนั หน่วยพน้ื ฐาน และการเปลย่ี นหน่วยทางวิทยาศาสตรห์ ลักการแยกสาร ด้วยวธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์ สามารถใช้ห้องปฏิบตั กิ ารเคมี อุปกรณ์ทางวทิ ยาศาสตร์ คํานวณและเตรียมสารละลายทมี่ ี ความเขม้ ขน้ ในหน่วยของร้อยละโดยมวล ร้อยละโดยปรมิ าตร และส่วนในล้านส่วน (ppm) เลอื กวธิ ีที่ เหมาะสมและใช้อปุ กรณ์ในการแยกสาร เห็นคณุ ค่าของการนาํ ความรู้ไปใช้ในชวี ิตประจําวนั มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และ คา่ นิยมท่เี หมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. บอกข้อควรปฏิบตั ิในการใช้หอ้ งปฏิบตั ิการเคมแี ละสามารถปฏิบัตไิ ด้อย่างถกู ต้อง ๒. บอกชื่ออปุ กรณ์วทิ ยาศาสตร์ และสามารถใช้ได้อย่างถกู ต้อง ๓. อธิบายความหมายของตวั อกั ษร ตัวเลข และสัญลกั ษณค์ วามปลอดภัยทปี่ รากฏบนอปุ กรณ์และ สารเคมที ใี่ ช้ในห้องปฏบิ ตั ิการเคมี ๔. บอกชือ่ ของธาตแุ ละสารประกอบในชีวิตประจําวนั ๕. บอกหน่วยพ้ืนฐานทางวิทยาศาสตร์ และการเปลีย่ นหน่วยทางวิทยาศาสตร์

๒๘๙ ๖. คํานวณและเตรียมสารละลายที่มีความเข้มขน้ ในหน่วยของร้อยละโดยมวล ร้อยละโดยปริมาตร และ ส่วนในล้านส่วน (ppm) ๗. อธบิ ายหลักการแยกสารด้วยวิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ ๘. สามารถเลือกวิธที ี่เหมาะสมและใช้อุปกรณ์ในการแยกสารไดอ้ ย่างถูกต้อง ๙. เห็นคุณค่าของการนําความรู้ไปใช้ในชีวติ ประจาํ วนั มจี ิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และ คา่ นยิ มที่เหมาะสม รวมท้ังหมด ๙ ผลการเรยี นรู้

๒๙๐ คำอธบิ ายรายวชิ า (เพ่ิมเตมิ ) รหัสวิชา ว๒๑๒๐๗ วชิ าเคมีเบื้องตน้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑ หน่วยกติ ศึกษาข้อควรปฏบิ ตั ใิ นการใช้ห้องปฏบิ ัติการเคมี ชอ่ื อปุ กรณ์วทิ ยาศาสตร์ ความหมายของ ตัวอกั ษรตวั เลข และสัญลักษณ์ความปลอดภยั ท่ีปรากฏบนอปุ กรณ์และสารเคมี ชื่อของธาตุและ สารประกอบในชีวติ ประจาํ วัน หน่วยพื้นฐาน และการเปลี่ยนหน่วยทางวทิ ยาศาสตร์ หลักการแยกสาร ด้วยวธิ ีการทางวิทยาศาสตร์ สามารถ ใช้ห้องปฏิบัติการเคมี อปุ กรณ์ทางวิทยาศาสตร์ คาํ นวณและเตรียมสารละลายทม่ี ี ความเขม้ ขน้ ในหน่วยของร้อยละโดยมวล ร้อยละโดยปริมาตร และส่วนในล้านส่วน (ppm) เลอื กวิธีท่ี เหมาะสมและใช้อปุ กรณ์ในการแยกสาร เหน็ คณุ ค่าของการนาํ ความรู้ไปใช้ในชีวติ ประจําวัน มีจติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และ คา่ นยิ มที่เหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. บอกข้อควรปฏบิ ตั ใิ นการใช้หอ้ งปฏิบตั ิการเคมแี ละสามารถปฏบิ ัตไิ ด้อย่างถูกต้อง ๒. บอกชอ่ื อุปกรณ์วทิ ยาศาสตร์ และสามารถใช้ได้อย่างถูกต้อง ๓. อธิบายความหมายของตวั อกั ษร ตัวเลข และสญั ลักษณ์ความปลอดภยั ท่ปี รากฏบนอุปกรณ์และ สารเคมที ใี่ ช้ในห้องปฏิบัตกิ ารเคมี ๔. บอกชอ่ื ของธาตุและสารประกอบในชีวิตประจําวนั ๕. บอกหน่วยพ้ืนฐานทางวิทยาศาสตร์ และการเปลยี่ นหน่วยทางวิทยาศาสตร์ ๖. คาํ นวณและเตรียมสารละลายท่มี ีความเข้มขน้ ในหน่วยของร้อยละโดยมวล ร้อยละโดยปริมาตร และ ส่วนในล้านส่วน (ppm) ๗. อธิบายหลักการแยกสารด้วยวธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตร์

๒๙๑ ๘. สามารถเลือกวธิ ที เี่ หมาะสมและใช้อปุ กรณ์ในการแยกสารไดอ้ ย่างถกู ต้อง ๙. เหน็ คุณค่าของการนําความรู้ไปใช้ในชีวติ ประจําวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และ คา่ นิยมที่เหมาะสม รวมทง้ั หมด ๙ ผลการเรียนรู้

๒๙๒ คำอธบิ ายรายวชิ า (เพิ่มเตมิ ) รหสั วชิ า ว๒๒๒๐๕ วชิ าวิทยาศาสตรโ์ ลกทั้งระบบ๑ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต ศกึ ษา วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบต่างๆ ในสภาพแวดล้อมธรรมชาติได้แก่ ดนิ น้ําบรรยากาศ สิง่ ปกคลุมดนิ และส่งิ มีชีวติ เพ่ือให้เขา้ ใจถงึ รูปแบบความสมั พนั ธ์ปรากฏการณ์รวมทัง้ แนวโน้ม ต่างๆท่อี าจเกิดขึ้น ซ่ึงจะมผี ลต่อการเปล่ียนแปลงของสภาพแวดล้อม และมผี ลต่อเนือ่ งมาถึง คุณภาพชวี ติ และความเป็นอยู่ของมนษุ ย์ โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ในการสืบเสาะหาความรู้ ได้แก่ การสังเกต การ ตง้ั สมมตฐิ าน การสํารวจ การดาํ เนินการตรวจวดั สง่ิ แวดล้อม การวางแผนงานวจิ ัย การนําเสนอ การ วิเคราะห์และแปลความหมายข้อมูล การลงข้อสรปุ และการเขียนเค้าโครงงานวจิ ัย เพ่ือจะนํา ไปสู่การวิจัยแบบนักวิทยาศาสตร์ ได้พฒั นากระบวนการคิดวิเคราะห์และการคิด เปน็ ระบบมีความสามารถในการตดั สนิ ใจ สามารถส่อื สาร ทํางานร่วมกนั เป็นทมี และนํา ความรไู้ ปใช้ ในชีวิตประจําวนั มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและค่านิยมท่เี หมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. ศกึ ษา อธิบาย วิเคราะห์ ความหมายของโลกทั้งระบบ ตลอดจนหาความสัมพันธ์และผลกระทบที่ เกดิ ขนึ้ ในโลกทง้ั ระบบ ๒. สํารวจและบันทกึ องค์ประกอบพร้อมท้งั ทดลอง อธบิ าย อภปิ ราย ถึงความสมั พันธ์ของสภาพ สิ่งแวดล้อมบรเิ วณทศ่ี ึกษาได้ ๓. สบื คน้ ขอ้ มูล วเิ คราะห์ และอธิบายถงึ การเลอื กคําถามพร้อมทงั้ ตดั สนิ ใจในการเลอื กคาํ ถามเพ่อื ใช้ใน การวิจยั

๒๙๓ ๔. วางแผน และเขียนลําดับช้นั ตอนของการทาํ วิจัยได้ ๕. เขยี นเค้าโครง พร้อมทงั้ นาํ เสนอ เค้าโครงของงานวิจยั ได้ รวมทง้ั หมด ๕ ผลการเรยี นรู้

๒๙๔ คำอธบิ ายรายวชิ า (เพม่ิ เตมิ ) รหัสวชิ า ว๒๐๒๐๕ วิชา IPST-MicroBox กล่มุ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๒ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๔๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต ศึกษาหลกั การเขียนโปรแกรม หลักการทํางานของไมโครคอนโทรลเลอร์ หลกั การทํางานของ อปุ กรณ์พอร์ตอินพุต พอร์ตเอาต์พตุ หลกั การทํางานของอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนกิ ส์ เบือ้ งต้น โดยสามารถวิเคราะห์ ออกแบบ สร้างโครงงานอย่างง่ายตามรปู แบบที่กาํ หนดให้ พร้อมทัง้ อธบิ ายการทาํ งานด้วยหลกั การทางวิทยาศาสตร์ ผู้เรยี นสามารถวเิ คราะห์ ออกแบบและเขียนโปรแกรมควบคุมการทํางานของ ไมโครคอนโทรลเลอร์และเช่ือมต่ออปุ กรณ์พอร์ตอนิ พุต พอร์ตเอาต์พุต อุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์ อเิ ล็กทรอนิกส์เบอ้ื งต้น เพื่อให้ผู้เรยี นทาํ การทดลองโครงงานอย่างง่ายตามรปู แบบที่กาํ หนดให้ โดยอาศยั หลกั การทางวิทยาศาสตร์ เพอ่ื ให้เกดิ ความรู้ความเขา้ ใจ ความคิดรวบยอด ใฝ่รู้ใฝเ่ รยี น มีระเบียบวินัยมุ่งมน่ั ในการทํางาน อย่างมรี ะบบ ประหยดั ซือ่ สัตย์ มวี ิจารณญาณ มีคุณธรรม จรยิ ธรรมและค่านยิ มที่พงึ ประสงค์ รู้จักนํา ความรไู้ ปประยกุ ต์ใชใ้ นการดํารงชวี ติ ได้อย่างพอเพยี ง รวมท้ังมีเจตคตทิ ่ดี ีต่อคอมพิวเตอร์ ผลการเรียนรู้ ๑. อธิบายและแสดงปฏิบัติการเขยี นโปรแกรมภาษาซีเบ้อื งต้น ทาํ การตดิ ตั้งโปรแกรมสนบั สนุนและบอก หนา้ ทอ่ี ุปกรณ์ส่วนประกอบของสมองกล IPST-MicroBOX ๒. อธิบายและแสดงปฏิบตั ิการทใี่ ช้อปุ กรณ์รบั ข้อมูลและอุปกรณ์แสดงผล ๓. อธบิ ายและแสดงปฏิบัติการเชอื่ มต่ออปุ กรณ์ชดุ กล่องสมองกล IPST-MicroBOXกบั อปุ กรณ์ไฟฟ้า และอปุ กรณ์อิเลก็ ทรอนกิ ส์เบ้อื งต้น ๔. ปฏิบตั ิการออกแบบ และสร้างโครงงานโดยใช้ชุดสมองกล IPST-MicroBOX

๒๙๕ ๕. มคี วามรับผิดชอบในการใช้งานชุดสมองกล IPST-MIcroBox ๖. มีเจตคติที่ดี มรี ะเบียบวินัยและเหน็ ความสําคัญของชดุ กล่องสมองกล IPST-MicroBOX รวมทง้ั หมด ๖ ผลการเรยี นรู้

๒๙๖ คำอธบิ ายรายวิชา (เพิ่มเติม) รหสั วิชา ว๒๒๒๐๖ วิชาวิทยาศาสตรโ์ ลกทั้งระบบ๒ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๒ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ สืบค้นขอ้ มูล ปฏิบัตกิ าร ทดลอง สํารวจตรวจสอบสมมตุ ิฐาน ดําเนนิ การตรวจวัด สภาพแวดล้อมในท้องถ่ินท้ังดนิ น้ํา อากาศ ส่ิงปกคลุมดนิ และสงิ่ มชี วี ิต เพอ่ื วางแผนงานวิจยั โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ในการสืบเสาะหาความรู้ได้แก่ การตัง้ สมมตฐิ าน การตั้ง คําถามวจิ ัย การวางแผนงานวิจัย และการเขยี นเค้าโครงวจิ ัย การวิเคราะห์และแปลความหมายข้อมูล โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การลงข้อสรปุ การเขียนรายงานการวิจัย และการนาํ เสนองานวจิ ัย ซ่งึ จะ นาํ ไปสกู่ ารวจิ ัยแบบนักวทิ ยาศาสตร์ เพ่ือพัฒนากระบวนการคดิ วิเคราะห์และคดิ เป็นระบบ การสบื เสาะหาความรู้ซ่งึ จะนําไปสู่การ วจิ ยั แบบนกั วิทยาศาสตร์ มีความสามารถในการตดั สินใจ และสามารถสอ่ื สารส่ิงท่ีเรียนรู้ ทํางานร่วมกัน เปน็ ทีมและ นําความรู้ไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจําวัน มีจติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และ คา่ นยิ มทเ่ี หมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. สร้างหรอื ต้งั คําถามท่กี าํ หนดประเดน็ หรอื ตัวแปรท่สี ําคญั ในการสาํ รวจตรวจสอบหรอื ศึกษา ค้นคว้า เรื่องท่สี นใจได้อย่างครอบคลมุ และเชอ่ื ถอื ได้ ๒. สร้างสมมุติฐานทส่ี ามารถตรวจสอบได้และวางแผนการสํารวจตรวจสอบหลากหลายวิธี ๓. เลอื กเทคนิควิธกี ารสาํ รวจตรวจสอบทั้งเชิงปรมิ าณและเชิงคุณภาพท่ไี ด้ผลเทยี่ งตรงและปลอดภัยโดย ใชว้ ัสดุและเครอ่ื งมอื ที่เหมาะสม ๔. รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ และจัดกระทําขอ้ มลู เชงิ ปริมาณและคณุ ภาพ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook