Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ Close up 3

แผนการจัดการเรียนรู้ Close up 3

Published by Teacher Ya Channel, 2021-03-26 14:38:56

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ Close up 3
ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นม.3

Search

Read the Text Version

83 83 Q: Do you think what place this picture is? Why do you think that? 2. นกั เรียนใหคาํ ตอบ ใหเหตผุ ล ครูเช่อื มโยงเขาสกู ิจกรรม เฉลยคาํ ตอบ 1. cinema 2. theatre 3. factory 4. pharmacy  Presentation 1. ครูใหนักเรียนเปดหนังสือ Workbook Close-up 3 หนา 11-12 ครูสอนคําศัพทในบทอานกิจกรรม B, C, D และ E โดยใหนกั เรยี นมสี ว นรว มดังน้ี - ใหน กั เรียนท้งั ชน้ั ชว ยกันคนคําศัพททไี่ มรคู วามหมายขีดเสน ใตกํากบั ไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของ คําศัพทจากตําแหนงภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝกใหระบุ Parts of speech ทุกครั้งที่สอนความหมายของ คําศัพท) - นักเรียนบอกหมวดหมูของคําศพั ทเ หลานี้ โดยครเู ขียนลงใน Word Box บนกระดาน - ใหนักเรยี น Read aloud คาํ ศัพทบ นกระดาน - ใหนกั เรยี นแบงกัน/ชวยกันคน หาความหมายของคาํ ศพั ทเหลานี้ แลวพูดบอกความหมาย - ครูเขยี นความหมายของคาํ ศพั ทท่ีนักเรยี นบอกและเพิ่มเติมความหมายของคําศัพทบ างคําใหสมบรู ณ - ใหนกั เรยี นคดั ลอก Word Box และคาํ ศัพทท เ่ี กยี่ วขอ งลงในสมุดคําศพั ทข องตนเอง (ครูกาํ หนดใหนักเรยี นทกุ คนมี สมุดคําศพั ทแ ละสมุดแบบฝกหดั ) 2. ครทู บทวนเทคนคิ การทําขอสอบ Justify your answers โดยใหน กั เรยี นมีสว นรวม 3. ครูทบทวนโครงสรางประโยค Simple Present using for describing places and others และยกตัวอยาง ประกอบโดยใหน ักเรยี นมสี ว นรว ม  Practice 1. กิจกรรม A ครูใหนกั เรียนทบทวนคําศพั ทช่ือสถานท่ีของแตละรูปภาพ โดยบอกคาํ ศัพทใตภาพและสะกดคาํ - ครูใหนกั เรยี นตอบคาํ ถามเก่ยี วกบั สถานทใ่ี นรปู ภาพโดยครูใชค ําถามดงั น้ี Q1: Do you think what the picture is about? Q2: Do you think what the meaning of the picture is? Q3: Do you think why people visit this place? 2. กิจกรรม B ใหนักเรียนอานคําศัพทท่ีเปนตัวเลือกและบอกความหมาย เน่ืองจากตัวเลือกเปน Phrasal verbs นักเรยี นอาจไมร ูความหมายของตัวเลอื กทกุ ตวั ดังนนั้ จงึ ใหน กั เรยี นสืบคนความหมายของตัวเลอื กบางตวั กอ น - ครูชีแ้ นะวิธีคิดคําตอบโดยใหนักเรยี นคนหาตัวชแ้ี นะคาํ ตอบทอ่ี ยหู นา และหลังตัวเลือก - นกั เรยี นคนหาตัวช้แี นะคําตอบและใชตวั ชแ้ี นะคําตอบดังกลาวนี้ไปใชใ นการตัดสินใจเลอื กคาํ ตอบทีถ่ ูกตอ ง - ครูตรวจสอบความถูกตอ งโดยใหนักเรยี นอานคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. out of 2. dowm 3. up 4. down 5. on 6. up 7. along 8. across 9. past 10. out 3. กิจกรรม C ครูใหน กั เรยี นดูภาพในหนังสือแลวใช adjectives 3-5 คําพดู บรรยายเกย่ี วกับภาพ - ครตู รวจสอบโดยใหน ักเรยี นคําตอบพรอมกัน และครูเขียนคําตอบของนักเรยี นบนกระดาน - ครใู หน กั เรียน Read aloud คําศพั ทข อ 1-6 และบอกความหมาย คูมือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท่ี 3

84 84 - ใหนักเรียนเลอื กคําศัพทที่บรรยายหรอื สะทอนความหมาย ความรูสกึ นึกคดิ เก่ยี วกับรปู ภาพ - ครูตรวจสอบความถูกตองโดยใหน ักเรยี นอานคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 2. crowded 3. noisy 5. polluted 4. กิจกรรม D ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมเปนคู ครอู ธบิ ายกิจกรรม Cloze dialogue - ครทู บทวนเทคนคิ การทําขอ สอบ Cloze test โดยใหน กั เรียน Focus on words before and after a gap - ใหน ักเรยี นคน หาตัวช้แี นะคําตอบท่อี ยูห นาและหลงั ชองวาง โดยขีดเสนใตกํากบั ไว - ครูตรวจสอบตัวชแี้ นะคําตอบ โดยใหน ักเรียนอานตัวช้แี นะคาํ ตอบของทกุ ประโยคไดค ําตอบ ดงั น้ี ตวั ชแ้ี นะคาํ ตอบ 1. to send the letter 2. to put some money in his account 3. attended two morning classes 4. to pick up a book 5. visited his aunt, to see if she was getting better 6. to see an exhibition - ใหนกั เรยี นนําตวั ชีแ้ นะคําตอบดงั กลาวนีไ้ ปใชใ นการตัดสินใจเลือกคําตอบที่ถกู ตอง - ครูใหเวลานกั เรียนคน หา คิดวิเคราะห ไตรต รอง และใหคําตอบ - ครตู รวจสอบความถูกตองโดยใหน ักเรียนอา นคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. post office 2. bank 3. university 4. library 5. hospital 6. museum 5. กจิ กรรม E ครใู หน ักเรยี นทาํ กิจกรรมเปนคู ชว ยกันศึกษาเสนทางในแผนท่ีอยางรอบคอบ แลวพดู บอกเสนทาง (give directions) ตามจุดหมายในแผนท่ี โดยการเลอื กคําตอบสําหรบั ประโยคท่ี1-6 - ครูใหเวลานักเรียน คิดวิเคราะห ไตรตรอง และใหคาํ ตอบ - ครตู รวจสอบความถูกตอ งโดยใหน ักเรียนอา นคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. off 2. cross 3. left 4. get to 5. right 6. Follow  Production 1. ครใู หน กั เรียนทํากจิ กรรม Expand your Ideas: Picture Description โดยครู applied จากกิจกรรม A และ C ดังนี้ Work in pairs. Choose the most interesting picture from any page of your textbook. Describe the chosen picture with 4-6 sentences by writing the first draft. Then proof the correctness of spelling and sentence structures. Reread what you write to check and revise it. Practice speaking with a partner. Take turns. Then share and compare with students in your class. 2. ใหน กั เรยี น Read aloud คําส่งั และพูดบอกสงิ่ ที่นกั เรยี นตอ งปฏบิ ตั ิ 3. ครูทบทวนคําสั่ง ใหน ักเรยี นทาํ กิจกรรมเปนคู ชวยกันเลือกรูปภาพที่นาสนใจ1 ภาพจากหนังสือเรียนบทใดก็ได แลว พิจารณาจดุ เดนของรูปภาพคน หาความหมายทีส่ ะทอ นจากรปู ภาพแลว เขียนและพดู บรรยายเกี่ยวกับภาพโดยใชคําศัพท สํานวนภาษา และโครงสรางทีเ่ รยี นมา ความยาวประมาณ4-6ประโยค โดยครูกาํ หนดเวลาในการทํากจิ กรรมนี้ 4. นกั เรยี นชวยกันเลอื กรปู ภาพ ปรกึ ษา ชวยกนั คิดไตรตรอง สรา งจนิ ตนาการตามภาพและสังเคราะหเปนภาษาเพื่อการ สอ่ื สาร โดยเขียนบรรยาย 4-6 ประโยค โดยใชคําศัพท สํานวนภาษา และโครงสรางที่เรียนมาแลว นักเรียนชวยกันตรวจสอบความ คมู อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศึกษาปท่ี 3

85 85 สมบรู ณและความถูกตองของขอเขียนในเรอื่ ง spelling, sentence structure และอา นทบทวนแกไขเพ่ิมเติมขอมูลใหนาสนใจและฝก พดู ดวยกันใหคลองกอนนาํ ไป share and compareกบั เพอื่ น 5. ครสู ังเกต ชว ยเหลอื แนะนํา แกป ญ หา 6. ครตู รวจสอบความถูกตอ งโดยเลือกนักเรียน 3-4 คขู นึ้ มาอา นคาํ ตอบพรอ มกนั ครูอาจใหเพอ่ื นในหอ งชวยกนั เติมเตม็ คํา บรรยายใหม ีความสมบูรณ หรือนาสนใจย่ิงข้ึนตามจุดเดนในรปู ภาพ และครูยอมรบั ทกุ คําตอบ 7. ครแู นะนําใหนักเรียนเผยแพรผลงาน Picture Description โดยนําขอเขียนท่ี Revised แลวไปพิมพลงกระดาษ A4 และแนบรูปภาพท่ีบรรยาย (ถายเอกสาร) โดยจัดวางไวในหนากระดาษเดียวกันกับคําบรรยาย แลวนําไปติดไวที่ BillBoard หนา หองเรยี น หรอื ทอี่ ื่นๆ ตามความเหมาะสม เฉลยคําตอบ Students’ own answers 6. การวดั และประเมนิ ผล เครอื่ งมอื คะแนน เกณฑ แบบประเมนิ การสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน 18-20 วธิ ีการ 15-17 ผลการประเมนิ 1. สงั เกต 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผาน 2. ประเมนิ ทักษะ แบบประเมินทกั ษะการฟง - การพูด คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดีมาก การใชภ าษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. ส่ือ/แหลง การเรยี นรู หนังสือ Workbook Close-up 3 Unit 2 The Place to Be เรื่อง Vocabulary กจิ กรรม A-E หนา 11-12 8. บันทึกหลงั การจัดการเรยี นรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูม อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3

86 86 หนวยการเรยี นรูท ่ี 2 เร่ือง The Place to Be แผนการจัดการเรียนรทู ่ี 6 เร่ือง Grammar 1: Demonstratives รหัสวชิ า................. รายวชิ าพน้ื ฐานภาษาองั กฤษ ชั้นมธั ยมศึกษาปท่ี 3 กลุมสาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ปก ารศกึ ษา 25……….. ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชว่ั โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ม.3/5 พูดและเขยี นบรรยายความรูสึกและความคิดเหน็ ของตนเองเกย่ี วกับเรือ่ งตางๆ กจิ กรรม ประสบการณ และ ขาว/เหตกุ ารณ พรอมทง้ั ใหเ หตุผลประกอบอยางเหมาะสม ต 2.2 ม.3/1 เปรียบเทยี บและอธิบายความเหมือนและความแตกตางระหวางการออกเสยี งประโยคชนดิ ตา งๆ และการ ลําดับคาํ ตามโครงสรา งประโยคของภาษาตา งประเทศและภาษาไทย 2. จดุ ประสงคการเรียนรู พูดและเขียนโตต อบขอมูลเกยี่ วกบั เรือ่ ง Athen City Tour และส่ือสารอยา งตอเน่ืองและเหมาะสม 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูเ กี่ยวกับการใช Demonstratives ทําใหเ กิดความเชื่อมโยงระหวางขอมูล การเลื่อนไหลของขอมูล มีความสอดคลอง และตอเนอ่ื ง การส่ือสารมีประสิทธิภาพ นักเรียนไดรับความรูโดยผานการฝกทักษะเรียนภาษาท้ัง 4 ดาน การฟง การพูด การอาน และการเขยี น และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร ทําใหการสื่อสารบรรลุผลตามวัตถุประสงค ผูเรียนมีเจตคติที่ดีตอ ภาษาองั กฤษ โดยเฉพาะอยางยิ่งมีนสิ ัยรักการอา น มีสนุ ทรียภาพในการอา น 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Grammar: Demonstratives 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรยี นภาษาทั้ง 4 ทักษะ การฟง การพูด การอาน และการเขียน - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มปี ระสิทธิภาพในการสื่อความ - มเี หตุผล มวี ิจารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูนาํ ความสนใจของนักเรียนเขา สูบทเรียนในชั่วโมงเรยี นนี้ โดยครเู ขยี นประโยคตอ ไปนบ้ี นกระดาน ดงั น้ี Q: Do you think these sentences have the same meaning? Why?/Why not? a. Joe lived in this house when he was born. b. Joe has lived in that house since he was born. 2. ใหน ักเรียนท้งั ชัน้ Read aloud 3. ครูใหน ักเรียนคดิ คําตอบและบอกคําตอบพรอมกบั ใหเหตผุ ล โดยครเู ขียนทุกคาํ ตอบของนักเรียนบนกระดาน คูมือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที่ 3

87 87  Presentation 1. ครสู อน Grammar เรอ่ื ง Demonstratives โดยอธบิ ายพรอ มทัง้ ยกตัวอยางประกอบอธิบาย Forms and Usages of Demonstratives ดงั นี้ 1.1 Forms of Demonstratives: Singular forms: this, that Plural forms: these, those 1.2 Usages of Demonstratives: - We use this, these with something that is/are near the speaker - We use that, those with something that is/are further away from the speaker - In writing strategy, we use this, these, that, those in reference or restatement of word (s), phrase (s) or sentence (s) such as  A sign on it said “No Entry!” ‘That looks interesting,’ thought Lisa. = A sign of “No Entry!” 2. ครูยกตัวอยางของประโยคทใ่ี ช Demonstrativesโดยใหน ักเรียนมีสว นรว ม  Practice ครูใหนักเรยี นเปด หนังสือ Close-up 3 หนา 22 นกั เรียนปฏิบตั กิ ิจกรรมดังตอ ไปน้ี 1. กจิ กรรม A ครทู บทวนรปู คํานามเอกพจนและพหพู จน - ครูใหน กั เรยี นฝก ใช this, that กบั คํานามเอกพจน และใช these, those กับคํานามพหูพจนโดยคํานึงถึงระยะหาง ของสิ่งท่กี ลาวถงึ ถา อยูใกลตวั ใหใ ช this, these และถา อยูหา งตัวผูพูดใหใ ช that, those - ครอู ธิบายและใหน ักเรยี นคิดวเิ คราะหตัวเลือกและ Justifying the answers - ครูตรวจสอบความถูกตอ งโดยใหน ักเรยี นอา นคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ a. This, that b. These, those c. This, these d. That 2. กิจกรรม B ครูใหนกั เรียนทบทวนกฎการใช Demonstratives (Usages): this, that, these, those - ครูอธิบายและใหนักเรียนคิดวิเคราะหต ัวเลือก และ Justifying the answers - นกั เรยี นคน หา คิด และใหค าํ ตอบโดยการจบั คปู ระโยคกับ Usages ในกจิ กรรม A - ครูตรวจสอบความถูกตองโดยใหน ักเรยี นอานคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. b 2. a 3. d 4. c 3. กจิ กรรม C ครใู หนักเรยี น Read aloud คาํ สง่ั และพดู บอกส่งิ ท่ีนักเรยี นตองปฏิบตั ใิ นกิจกรรมนี้ - ใหน กั เรียน Read aloud ประโยคสนทนาระหวาง A และ B พรอมทัง้ เลือกใช this, that, these, those ไปดว ย - ครูใหเ วลานักเรียนคนหา คิด และใหค ําตอบโดยขดี เสนใต - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรยี นอา น Demonstrative ในแตละขอ และครูเฉลยคําตอบ คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 3

88 88 เฉลยคําตอบ this these that those 4. กจิ กรรม D ครใู หนกั เรียนชวยกันทบทวนการใช this, that, these, those. - ใหน กั เรียน Read aloud ประโยคสนทนาระหวาง A และ B พรอมท้งั เลือก this, that, these, those ไปดว ย - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรยี นอา นประโยค Demonstratives ในแตละขอ และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. A. this B. These, Those 2. A. This B. that 3. A. this, these B. This, that 4. A. this B. that 5. กิจกรรม E ครูใหน ักเรยี น Read aloud คําส่งั และพูดบอกสิง่ ที่นกั เรียนตองปฏบิ ัติในกิจกรรมนี้ - ใหนกั เรียนทบทวนการใช Demonstratives: this, that, these, those ภายในประโยค - ใหน ักเรียนคน หาตวั ชีแ้ นะคําตอบทอี่ ยหู นาและหลัง Demonstratives โดยขีดเสนใตก ํากับไว ครูตรวจสอบตัวช้ีแนะ คําตอบโดยใหนักเรียนอานตัวชแ้ี นะคาํ ตอบของทกุ ประโยค - ใหน ักเรยี นนําคาํ ตอบทไ่ี ดไป Discuss and share กับเพือ่ นในหอง - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียนอานประโยคในแตละขอ และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. Can you see those that street number on the building opposite? … That This house here is number 24, and we know the office is in that this street. 2. Does that this bus go to the centre, driver? No, you want this that bus on the other … 3. Can you bring me these those keys …? Are this these keys yours? … 4. These This information … Yes, that this phone app …  Production กิจกรรม F เปนกิจกรรม Cloze pssage ท่เี ก่ียวกบั โครงสราง Demonstratives (Forms and Usages) ดงั น้ี 1. ครใู หน กั เรียน Read aloud คําสงั่ และพูดบอกส่งิ ท่นี ักเรยี นตองปฏบิ ตั ใิ นกจิ กรรมนี้ 2. ครูใหนักเรียนทบทวน ทบทวนการใช Demonstratives: this, that, these, those ภายในประโยค ครูใหนักเรียน ทบทวนรูปเอกพจนแ ละรูปพหูพจนข องคํานามทวั่ ไป 3. ใหนักเรียนอาน Cloze passage และตัดสินใจเลือกใช Demonstratives: this, that, these, those ครูใหเวลา นกั เรียนคิดและเขียนคาํ ตอบ 4. ใหนกั เรยี นนําคําตอบท่ไี ดไป Discuss and share กบั เพ่อื นในหอง 5. ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรยี น Read aloud passage และครเู ฉลยคําตอบ คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที่ 3

89 89 (1) this (2) This (3) That เฉลยคาํ ตอบ (7) That (8) those (9) This (4) This (5) This (6) those (10) This (11) This (12) these 6. การวัดและประเมินผล วธิ กี าร เครือ่ งมือ คะแนน เกณฑ 1. สังเกต แบบประเมนิ การสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียน 18-20 15-17 ผลการประเมนิ 2. ประเมินทกั ษะ แบบประเมินทกั ษะการฟง-การพดู 12-14 ดีมาก 10-11 ดี การใชภ าษา แบบประเมินทกั ษะการอาน-การเขยี น พอใช คะแนน ผาน 18-20 15-17 ผลการประเมนิ 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผาน 7. ส่อื /แหลง การเรียนรู หนังสอื เรียน Close-up 3 Unit 2 The Place to Be เร่ือง Grammar กิจกรรม A-F หนา 22 Grammar Reference for Unit 2 หนังสือเรียน Close-up 3 หนา 110 8. บันทกึ หลงั การจัดการเรยี นรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ่ี 3

90 90 หนว ยการเรยี นรูที่ 2 เร่ือง The Place to Be แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 7 เรือ่ ง Grammar 2: Articles รหสั วิชา................. รายวิชาพืน้ ฐานภาษาองั กฤษ ช้ันมธั ยมศึกษาปท ี่ 3 กลุมสาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ปก ารศึกษา 25……….. ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ชวั่ โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชีว้ ัด ต 1.2 ม.3/5 พูดและเขียนบรรยายความรสู กึ และความคิดเหน็ ของตนเองเกี่ยวกับเร่อื งตา งๆ กจิ กรรม ประสบการณ และ ขา ว/เหตกุ ารณ พรอ มทัง้ ใหเ หตุผลประกอบอยางเหมาะสม ต 2.2 ม.3/1 เปรยี บเทียบและอธบิ ายความเหมือนและความแตกตางระหวา งการออกเสียงประโยคชนิดตา งๆ และการ ลําดบั คาํ ตามโครงสรา งประโยคของภาษาตางประเทศและภาษาไทย 2. จดุ ประสงคการเรียนรู พดู และเขียนโตต อบขอ มูลเกี่ยวกบั Sailor rescued after 80 days และสอื่ สารอยางตอเน่ืองและเหมาะสม โดยใชคําศัพท และ articles ท่ถี กู ตอง 3. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรเู กยี่ วกับการใช articles ทําใหเกิดความเชือ่ มโยงระหวา งขอ มลู การเล่ือนไหลของขอ มูลมีความสอดคลองและตอเนื่อง การสือ่ สารมีประสทิ ธภิ าพ นักเรียนไดรับความรูโดยผานการฝกทักษะเรียนภาษาท้ัง 4 ดาน การฟง การพูด การอาน และการเขียน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร ทําใหการส่ือสารบรรลุผลตามวัตถุประสงค ผูเรียนมีเจตคติที่ดีตอภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอยา งยง่ิ มีนิสยั รกั การอาน มีสนุ ทรยี ภาพในการอา น 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Grammar: articles 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรียนภาษาทง้ั 4 ทกั ษะ การฟง การพูด การอา น และการเขยี น - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มีประสิทธิภาพในการส่ือความ - มเี หตผุ ล มีวจิ ารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครนู าํ ความสนใจของนักเรยี นเขาสูบทเรยี นในชวั่ โมงเรียนนี้ โดยครูเขยี นประโยคตอ ไปนีบ้ นกระดาน ดังน้ี Q: Do you think these sentences are correct? Why?/Why not? a. There are 60 minutes in a hours. b. This is not a house, it is a ancient castle. c. They asked about a university with a unreasonable question. d. All of the tourists are from U.S.A. not from United Kingdom. คมู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศกึ ษาปท่ี 3

91 91 2. ใหน ักเรยี นท้งั ชน้ั Read aloud 3. ครูใหนักเรียนคิดคําตอบและบอกคําตอบพรอมกับใหเหตุผล โดยครูเขยี นทกุ คาํ ตอบของนักเรียนบนกระดาน 4. ครเู ช่ือมโยงเขา สูบทเรยี นเรอ่ื ง Articles  Presentation 1. ครูสอน Grammar: Articles โดยใชก จิ กรรม Grammar Reference หนังสอื เรยี น Close-up 3 หนา 110 ดงั นี้ 1.1 Indefinite Articles: A, An - Use a/an+ singular countable noun when it is mentioned for the first time - Use a before a consonant sound and use an before a vowel sound 1.2 Definite Articles: The - Use the before the following nouns: unique noun, names of cinemas, theatres, ships, hotels, rivers, desserts, mountain ranges, nationalities, musical instrument, contries or groups of countries whose names are plural, duration of time and specific nouns as well as nouns with modifiers. 2. ครูทบทวนเทคนิคการทําขอสอบทเ่ี กี่ยวของ ไดแ ก Justifying your answers (จาก Unit 1) ครอู ธิบายพรอ มทัง้ ยกตวั อยางประกอบและใหนักเรยี นฝกปฏบิ ัติ Exam Strategy: Justifying your answers (from Unit 1) 1. When you think you have found the answer, try to justify it, i.e. explain to yourself why it is correct and the other options are not. 2. If you cannot do this then your chosen answer is probably wrong. 3. Look at the options again and try to find out that you can justify.  Practice ครูใหน กั เรียนเปดหนังสือ Close-up 3 หนา 23 นักเรียนปฏบิ ัติกิจกรรมดงั ตอ ไปน้ี 1. กจิ กรรม G ใหนกั เรยี นทบทวนรูปของ indefinite articles และ definite articles - ใหน กั เรยี นอานประโยคที่ 1-6 คนหา indefinite articles และ definite articles แลว ทําเคร่อื งหมายกาํ กับ - ครูตรวจสอบโดยใหนักเรียนอานคําตอบพรอ มกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 2. Is there a river in London? 3. The river in London is called the Thames. 4. There’s an old bridge across the river. 5. Traffic is terrible in the mornings. 6. The traffic in London moves slowly. 2. กิจกรรม H ใหนักเรียน Read aloud คาํ สงั่ และพูดบอกสิง่ ที่นกั เรยี นตองปฏิบัตใิ นกิจกรรมนี้ - ใหน กั เรยี นทบทวน indefinite articles และ definite articles โดยเตมิ a, an, the ลงในชองวางของประโยค 1-7 - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรียน Read aloud ประโยค 1-7 และครเู ฉลยคําตอบ คมู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศึกษาปท ี่ 3

92 92 เฉลยคําตอบ 1. an/the/no article 2. a/an 3. a/an 4. the 5. the 6. no article 7. a/an/the 3. กจิ กรรม I ครูใหนักเรยี น Read aloud ประโยคที่ 1- 2 แลวขดี เสนใต articles (a, an, the) - ครูใหนกั เรยี นชว ยกนั ทบทวนการใช articles (a, an, the) - ใหนักเรยี น Read aloud ขอ a และ b และจบั คูค าํ ตอบกับประโยคที่ 1- 2 - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรียนบอกคําตอบ และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ a. 2 b. 1 4. กิจกรรม K ใหน กั เรียน Read aloud คาํ ส่ัง และพูดบอกสง่ิ ที่นักเรียนตองปฏบิ ตั ิในกิจกรรมนี้ - ใหนักเรยี นคนหาตวั ชแ้ี นะคาํ ตอบท่ีอยูหลังชองวาง โดยขดี เสนใตกํากบั ไวแ ลว เลือกเตมิ a/an, an, the, หรอื – (no article) - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรยี นอานประโยคที่ 1-6 และa-fครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. - 2. - 3. - 4. - 5. the 6. the, the a. the, a b. an, the c. -,- d. the, the e. - , the f. the, a 5. กิจกรรม L ใหนกั เรียน Read aloud คาํ ส่งั และพดู บอกส่งิ ที่นักเรียนตอ งปฏบิ ตั ใิ นกจิ กรรมน้ี ครทู บทวน และครูฝกให นักเรยี นคิดเชอื่ มโยงคาํ ตอบระหวางประโยคกับตวั เลอื ก โดยใหน ักเรียนปฏบิ ตั ิตามขน้ั ตอนตอไปนี้ - ใหนักเรยี น Read aloud ประโยคที่ 1-6 แลว ขีดเสนใตคาํ สําคญั ในแตละประโยค - จากน้ันใหน ักเรียน Read aloudตวั เลือก a-f. และขีดเสนใตคําสําคัญในตวั เลือกแตล ะขอ - นกั เรยี นเชือ่ มโยงคาํ สาํ คญั ระหวางตวั เลือกกับประโยค  Production กจิ กรรม J เปนกจิ กรรม Cloze pssage ทีเ่ กี่ยวกบั โครงสราง Articles ครใู หน ักเรียนปฏบิ ัตดิ ังตอ ไปน้ี - ครใู หน กั เรยี น Read aloud คาํ สงั่ และพูดบอกสง่ิ ท่ีนักเรยี นตอ งปฏบิ ตั ใิ นกจิ กรรมน้ี - ใหนักเรียน Read aloud ทบทวนการใช Articles ครูอธิบาย Cloze passage และทบทวนเทคนิคการทําขอสอบ Cloze test โดยใหนกั เรียน Focus on words before and after a gap - ใหน กั เรียนคนหาตวั ช้ีแนะคาํ ตอบท่ีอยหู นาและหลงั ชองวา ง โดยขดี เสน ใตก าํ กบั ไวแลวเลือกคําตอบ - ครตู รวจสอบตัวช้ีแนะคาํ ตอบโดยใหน กั เรียนอา นตวั ชี้แนะคาํ ตอบของทุกประโยคไดคําตอบ โดยครูใหเวลานักเรียนคิด และเขยี นคาํ ตอบ - ใหนักเรยี นนาํ คําตอบที่ไดไ ป Discuss and share กบั เพื่อนในหอง - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรียน Read aloud passage และครูเฉลยคาํ ตอบ 1. this 2. This 3. That เฉลยคาํ ตอบ 6. those 7. That 8. those 9. This 4. This 5. This 12. these 10. This 11. This คูมือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศกึ ษาปท่ี 3

93 93 6. การวัดและประเมินผล เครื่องมอื คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน 18-20 วิธีการ 15-17 ผลการประเมนิ 1. สงั เกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมนิ ทกั ษะ แบบประเมินทักษะการฟง -การพดู คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดีมาก การใชภาษา แบบประเมินทักษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 7. ส่ือ/แหลงการเรยี นรู หนังสอื เรียน Close-up 3 Unit 2 The Place to Be เรือ่ ง Grammar กิจกรรม G-L หนา 23 Grammar Reference for Unit 2 หนงั สอื เรยี น Close-up 3 หนา 110 8. บันทกึ หลังการจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3

94 94 หนวยการเรยี นรทู ี่ 2 เร่ือง The Place to Be แผนการจัดการเรยี นรูท ่ี 8 เร่อื ง Grammar 3: Demonstratives & Articles รหสั วชิ า................. รายวชิ าพนื้ ฐานภาษาองั กฤษ ชน้ั มธั ยมศึกษาปท่ี 3 กลุม สาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชั่วโมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชว้ี ดั ต 1.2 ม.3/5 พูดและเขียนบรรยายความรสู ึกและความคดิ เห็นของตนเองเกย่ี วกบั เร่อื งตา งๆ กิจกรรม ประสบการณ และ ขา ว/เหตกุ ารณ พรอมทั้งใหเหตุผลประกอบอยา งเหมาะสม ต 2.2 ม.3/1 เปรยี บเทียบและอธบิ ายความเหมือนและความแตกตางระหวา งการออกเสยี งประโยคชนิดตา งๆ และการ ลาํ ดบั คําตามโครงสรา งประโยคของภาษาตา งประเทศและภาษาไทย 2. จุดประสงคการเรยี นรู พูดและเขยี นโตต อบขอมูลเกีย่ วกบั Visiting South Africa และ Sailing across the Atlantic Ocean และสื่อสารอยาง ตอเนอื่ งและเหมาะสมโดยใช Demonstratives และ Articles 3. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรูเ กีย่ วกบั คาํ ศพั ทใ นบทสนทนาและบทอานเรื่อง Visiting South Africa, Sailing across the Atlantic Ocean การใช ภาษาและโครงสราง Demonstratives และ Articles ทําใหเกิดความเช่ือมโยงระหวางขอมูล การเล่ือนไหลของขอมูลมีความ สอดคลองและตอ เนอื่ ง การสื่อสารบรรลุผลตามวตั ถุประสงค นกั เรียนไดรับความรโู ดยผา นการฝกทักษะเรยี นภาษาทั้ง 4 ดาน การฟง การพูด การอา น และการเขยี น และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพือ่ การสื่อสาร ผเู รยี นมีเจตคตทิ ี่ดีตอภาษาอังกฤษ มีประสิทธิภาพ ในการสอ่ื ความ มเี หตผุ ล มีวจิ ารณญาณ 4. สาระการเรยี นรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Grammar: Demonstratives และ Articles 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรียนภาษาทงั้ 4 ทักษะ การฟง การพดู การอาน และการเขยี น - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มปี ระสทิ ธภิ าพในการส่ือความ - มเี หตุผล มีวิจารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรยี นรู  Lead-in 1. ครนู ําความสนใจของนักเรียนเขาสูบ ทเรียนในชว่ั โมงเรียนนี้ โดยครเู ขยี นประโยคตอ ไปน้บี นกระดาน ดังนี้ Can you find and correct the mistakes in the following sentences? a. That homes look like tent. b. Do you like this shoes? c. That man is studying in one of an oldest university in UK. คมู อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3

95 95 2. ใหน ักเรยี นทง้ั ช้นั Read aloud ประโยค 3. ครูใหนักเรียนคิดคําตอบและบอกคําตอบพรอมกับใหเหตุผล โดยครูเขียนทุกคําตอบของนักเรียนบนกระดาน ครู เช่ือมโยงเขาสูบทเรียนเรื่อง Demonstratives และ Articles  Presentation 1. ครูทบทวน Demonstratives และ Articles โดยใหน ักเรยี นมีสวนรวม 2. ครทู บทวนเทคนคิ การทาํ ขอ สอบ ไดแ ก 2.1 Focus on words before and after a gap. 2.2 Justifying the answers 3. ครูอธิบายพรอมท้งั ยกตวั อยา งประกอบและใหนักเรียนฝกปฏบิ ตั ิในกจิ กรรมตอ ไป  Practice ครูใหน กั เรยี นเปดหนงั สือ Workbook Close-up 3 หนา 13-14 นกั เรียนฝกปฏิบตั ใิ นกิจกรรมตอไปน้ี 1. กิจกรรม A ใหนักเรียนคนหาตัวชี้แนะคําตอบโดยใชเทคนิคการทําขอสอบ Focus on words before and after a gap และขดี เสนใตต วั ชี้แนะคําตอบของแตละประโยค - ครูตรวจสอบความแมน ยําในการคนหาตวั ชี้แนะคําตอบโดยใหน ักเรยี นอา นคําที่ขีดเสนใตพรอ มกัน - ใหนักเรยี นนําตัวชแ้ี นะคาํ ตอบไปประกอบการตัดสนิ ใจเลอื กคาํ ตอบของประโยคท่ี 1-6 และคิดวิเคราะหตัวเลือก โดย ใชเ ทคนคิ การทําขอ สอบ Justifying the answers - ครูใหเ วลานกั เรยี นคนหา คดิ และเขยี นคาํ ตอบ โดยครูสงั เกต ชวยเหลอื แนะนํา และแกปญ หา - ครตู รวจสอบความถูกตองโดยใหน ักเรียนอานคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. a 2. c 3. a 4. c 5. b 6. c 2. กจิ กรรม B ครใู หนกั เรียน Read aloud คําสง่ั และพดู บอกสงิ่ ที่นกั เรยี นตองปฏิบตั ใิ นกจิ กรรมน้ี - ครูใหนักเรยี นทบทวนการใช Demonstratives: this, that, these หรอื those - ครอู ธบิ ายวิธกี ารหาคาํ ตอบสําหรบั Cloze Conversation และใหนักเรยี นคนหาตัวชีแ้ นะคําตอบโดยใชเทคนิคการทาํ ขอ สอบ Focus on words before and after a gap และขดี เสน ใตต ัวชแี้ นะคาํ ตอบ - ครตู รวจสอบความแมนยําในการคน หาตวั ช้แี นะคําตอบโดยใหน ักเรียนอา นคาํ ท่ีขีดเสนใตพรอ มกัน - ใหน ักเรยี นนําตัวช้แี นะคําตอบไปประกอบการตดั สินใจเลือกคําตอบของประโยคท่ี 1-6 และคิดวเิ คราะหต วั เลอื ก โดย ใชเ ทคนิคการทําขอ สอบ Justifying the answers - ครูใหเ วลานักเรยี นคน หา คดิ และเขียนคาํ ตอบ โดยครูสังเกต ชว ยเหลือ แนะนํา และแกป ญ หา - ครตู รวจสอบความถูกตอ งโดยใหนักเรียนอา นคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ (1) This (2) that (3) those (4) these (5) that (6) those 3. กิจกรรม C ครใู หนักเรยี น Read aloud คําสงั่ และพูดบอกส่งิ ที่นกั เรยี นตองปฏิบตั ใิ นกิจกรรมนี้ - ครูใหน กั เรียนทบทวนการใช Definite articles (the) - ใหน กั เรียน Read aloud คําศัพทท่เี ปนตัวเลือกและตัดสนิ ใจเลือกจัดกลมุ คําศัพทเตมิ ลงในตารางโดยแบง คําศัพทเปน 2 กลมุ ไดแ ก กลุมท่ใี ช Definite articles (the) และกลุมที่ไมใช articles (no article) คมู อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศึกษาปที่ 3

96 96 - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียน Read aloud คําตอบและเหตุผลทีเ่ ลือกคาํ ตอบนัน้ ๆ ครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ the no article Amazon, earth, Himalayas, moon, Nile, Egypt, London, lunch, Mali, Paris, Pacific spaghetti 4. กจิ กรรม D ใหน ักเรียน Read aloud คําสั่ง และพูดบอกส่ิงท่ีนักเรียนตองปฏบิ ตั ใิ นกิจกรรมนี้ - ใหนกั เรียนชว ยกันทบทวนการใช indefinite articles และ definite articles - ใหนักเรียน focus on the noun in each sentence then check the mistakes with Definite and Indefinite articles in each sentence . - ใหน กั เรียนขดี เสน ใตค ํานามที่ใช article ไมถูกตอ ง และแกไขใหถกู ตองตามกฎการใช Articles - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนักเรยี นบอกคําตอบ และครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 2. a the 3. an a 4. a an 1. the a 6. an the 7. a an 8. the Texas Texas 5. the Europe Europe  Production 1. ครใู หนักเรียนทาํ กจิ กรรม E เปน กิจกรรม Cloze passage ท่เี กี่ยวกับโครงสรา ง 2. ใหน ักเรียน Read aloud คําส่งั และทบทวนกฎการใช Articles: a, an, the 3. ครูทบทวนเทคนิคการทําขอสอบ Cloze test โดยใหนักเรียนใชเทคนิคการทําขอสอบ Focus on words before and after a gap 4. ใหนักเรียนคนหาตวั ชีแ้ นะคําตอบที่อยหู นาตวั เลือก โดยขีดเสน ใตกาํ กับไวแลวเลือกคาํ ตอบ 5. ครตู รวจสอบตวั ชี้แนะคาํ ตอบโดยใหนักเรียนอา นตวั ช้ีแนะคาํ ตอบของทุกประโยค 6. ใหน กั เรียนคดิ และวิเคราะหคําตอบ และนาํ คําตอบที่ไดไป Discuss and share กบั เพื่อนในหอง 7. ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรยี น Read aloud passage และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. an 2. the 3. a 4. the 5. an/the 6. a 7. the 8. a 9. The 10. the 11. a 12. - คูมือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที่ 3

97 97 6. การวดั และประเมนิ ผล เครอ่ื งมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียน 18-20 วธิ ีการ 15-17 ผลการประเมิน 1. สังเกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผาน 2. ประเมินทกั ษะ แบบประเมินทกั ษะการฟง-การพูด คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดีมาก การใชภาษา แบบประเมนิ ทักษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 7. สอ่ื /แหลง การเรยี นรู หนังสือ Workbook Close-up 3 Unit 2 The Place to Be เรือ่ ง Grammar กจิ กรรมA-E หนา 13-14 8. บันทกึ หลังการจัดการเรยี นรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูม อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศึกษาปท ี่ 3

98 98 หนว ยการเรียนรูที่ 2 เรอื่ ง The Place to Be แผนการจัดการเรยี นรูท่ี 9 เรอื่ ง Listening: Museum of Childhood รหสั วชิ า................. รายวิชาพื้นฐานภาษาองั กฤษ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ปการศึกษา 25……….. ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ช่วั โมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ช้วี ดั ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขียนเพือ่ ขอและใหขอมูล อธบิ าย เปรียบเทยี บ และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรอื่ งทฟ่ี งหรืออานอยาง เหมาะสม ต 1.2 ม.3/5 พูดและเขียนบรรยายความรูสกึ และความคิดเหน็ ของตนเองเก่ียวกับเร่อื งตางๆ กิจกรรม ประสบการณ และ ขาว/เหตกุ ารณ พรอมทง้ั ใหเ หตุผลประกอบอยางเหมาะสม 2. จุดประสงคการเรยี นรู พูดใหขอมูลอธิบายเก่ียวกับ Museum of Childhood โดยใชสํานวนภาษาและโครงสรางภาษาเก่ียวกับ days, time, numbers ไดอยางถกู ตอ งเหมาะสมกบั ระดับชัน้ เรียน 3. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรูและกจิ กรรมฝกทักษะ สํานวนภาษาเกี่ยวกับ days, time, numbers โครงสราง กระบวนการฝกทักษะทางภาษาท้ัง 4 ดา น โดยเฉพาะอยางย่ิงทักษะการฟง การพูด โดยใชกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร ทําใหผูเรียนส่ือสารไดอยางมี ประสทิ ธภิ าพ มีเจตคติทดี่ ตี อการเรียนภาษาองั กฤษ 4. สาระการเรยี นรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Vocabulary: สาํ นวนภาษาเกย่ี วกับ days, time, numbers - Grammar: - Listening strategy: 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรียนภาษาทั้ง 4 ทักษะ การฟง การพูด การอาน และการเขียน - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการสอื่ สาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มีประสทิ ธิภาพในการสื่อความ 5. กจิ กรรมการเรยี นรู  Lead-in 1. ครนู าํ ความสนใจของนักเรียนเขา สูบทเรียนในชัว่ โมงนี้ โดยใหนักเรียนบอกช่อื สิง่ ของในรูปภาพโดยครใู ชคําถามดงั นี้ Q1: What items do you see on this page? Q2: Do you think where these items should be kept? Why? 2. นกั เรยี นใหคําตอบหลากหลาย 3. ครูยอมรับทุกคาํ ตอบ คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 3

99 99  Presentation 1. ครูสอนคําศพั ทใ นกิจกรรม A-E โดยใหนกั เรยี นมสี ว นรว ม ดังน้ี - ใหนักเรียนท้ังช้ันชวยกนั คนคําศัพทท ไ่ี มร คู วามหมาย ขีดเสนใตกํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของ คําศัพทจากตําแหนงภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝกใหระบุ Parts of speech ทุกครั้งที่สอนความหมายของ คําศพั ท) นกั เรียนบอกหมวดหมขู องคําศัพทเ หลา น้ี โดยครเู ขียนลงใน Word Box บนกระดาน - ใหน กั เรียน Read aloud คําศัพทบ นกระดาน และใหนักเรียนแบงกัน/ชวยกันคนหาความหมายของคําศัพทเหลาน้ี แลวพดู บอกความหมาย - ครูเขียนความหมายของคําศัพทท่ีนกั เรียนบอกและเพิ่มเตมิ ความหมายของคําศัพทบางคําใหสมบรู ณ - ใหน กั เรยี นอา นออกเสยี งดังพรอมกนั ถา คําใดนักเรยี นอา นไมไ ดใ หครชู ว ยอานนําและนักเรียนอานตาม - ครูเลือกคําศัพทบางตัวมาอธิบาย ไดแก Compound nouns (noun+noun): a garage key, a desk drawer, a kitchen cupboard, a bathroom shelf, a bedroom, a bathroom เปน ตน - ใหน กั เรยี นคัดลอก Word Box และคําศพั ทท เี่ ก่ยี วขอ งลงในสมดุ คําศัพทข องตนเอง 2. ครูสอน Listening Strategies ผูฟงควรแสดงความสนใจ รับรู เขาใจส่ิงไดฟง มีการใชภาษากายประกอบ การสบตา ผูฟงขณะที่พูดเลา และฟง เหตุการณ ใชว ลตี อ ไปนีเ้ ปนครั้งคราวเพื่อแสดงการรับรูเขาใจส่ิงไดฟงตอไปน้ี Uh-huh./Okay./Yeah./Got it./I see./Ah, I see./I get that. 3. ครูอธบิ ายวธิ กี ารเรียนระหวางฟง ซีดี แนะวธิ ีฟง อยางมีประสิทธิภาพ ครูชีแ้ จงวานักเรียนจะไดฟงเสียงพูดสนทนาท่ีเปน การพดู อยางเปนธรรมชาติ (naturally speaking) ทีม่ ีความเร็วพอประมาณใหนักเรียนฟงเพ่ือจับประเด็นสําคัญโดยตั้งใจฟงคําสําคัญ (content words) ไดแ ก nouns, main verbs, adjectives, adverbs ในระหวา งท่ีฟง ใหนักเรียนงดทาํ กิจกรรมใดๆ ไมพูดคุยกนั 4. ครูชีแ้ จงการฟง ซดี ีวานักเรียนจะไดฟงซีดี 3-4ครง้ั ดังนี้ - ฟง คร้ังที่ 1 เพือ่ ใหเขาใจเรอ่ื งและจับประเดน็ สําคัญเบื้องตน - ฟง ครัง้ ท่ี 2-3 เพอ่ื เลือกคาํ ตอบ - ฟง ครัง้ ท่ี 3-4 เพอื่ ทบทวนคําตอบหรอื เฉลยคําตอบ (สาํ หรับชัน้ ทนี่ กั เรยี นสวนใหญอ อนภาษาองั กฤษ ครคู วรใหฟ ง หลายคร้งั เพ่อื ใหน ักเรียนประสบความสาํ เร็จในการฟง)  Practice ครูใหนักเรียนเปด หนงั สือเรียน Close-up 3 หนา 24 ใหนักเรยี นปฏิบตั ิกิจกรรมตามข้ันตอนดงั น้ี 1. กจิ กรรม A ใหน ักเรียน Read aloud ประโยคท่ี 1-9 และตวั เลือก a-i พรอ มทั้งบอกความหมาย - ใหน ักเรยี นคนหาคําตอบและเลือกคาํ ตอบโดยจบั คูประโยคท่ี 1-9 และตัวเลอื ก a-i - ใหน กั เรยี นนาํ คาํ ตอบท่ไี ดไป Discuss and share กบั เพือ่ นในหอง - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรยี น Read aloud ประโยคและคําตอบและครเู ฉลยคาํ ตอบ - ใหน กั เรียนฝกพดู คาํ ศพั ทเหลาน้ีกับเพอ่ื น ครสู ังเกต แนะนาํ ชวยเหลือ และแกป ญ หา เฉลยคําตอบ 1. i 2. f 3. c 4. b 5. e 6. a 7. h 8. g 9. d 2. กิจกรรม B ครชู ้แี จงการทาํ กิจกรรม และใหน ักเรยี นบอกเกี่ยวกับภาพ A-F โดยตอบคําถามตอไปน้ี Q1: What is in the picture? Q2: What do we call all these items? Q3: What kind of museum that displays toys? คมู อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 3

100 100 - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียน Read aloud คําตอบ และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ (possible answers) Toy Museum, Children Museum, Museum of childhood 3. กิจกรรม C ใหนักเรียน Read aloud คําส่ังและคําศัพท (คํานาม) ในตัวเลือกท่ี 1-6 พรอมกับบอกความหมายเปน ภาษาไทย ครทู บทวนคําสัง่ จากนน้ั ครูใหนักเรยี นฝกการฟงและการพูด ดงั นี้ 3.1 ใหนักเรียนนาํ คาํ ศพั ท (คํานาม) ในตัวเลือกท่ี 1-6 ไปใชสรางประโยคคําถาม Which picture is …?/Which is a picture of…? และในการนค้ี รูใหน กั เรยี นไดทบทวนการใช Article ในประโยคคําถามเหลานด้ี วย โดยครูอาจกําหนดโครงสรา ง ดังน้ี Q1: Which picture is a/an + คํานามนับไดและเปน เอกพจน? Q2: Which is a picture of + คํานามนบั ไดแ ละเปนพหูพจน? 3.2 ใหนักเรียนจับคูผลัดกันใชคําถามและใหคําตอบ โดยครูสังเกต แนะนํา ชวยเหลือ และแกปญหา ครูตรวจสอบ คําตอบโดยใหน กั เรียน Read aloud คําตอบ และครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. D 2. C 3. F 4. E 5. B 6. A 4. กจิ กรรม D ใหนกั เรยี น Read aloud คาํ สัง่ และบอกความหมายเปนภาษาไทย - เมื่อนกั เรยี นพรอ มครเู ปด ซีดีใหน กั เรียนฟง 1 ครัง้ เพ่ือใหเขา ใจเร่ืองและจับประเด็นสําคัญเบ้อื งตน - ครตู รวจสอบความเขาใจในการฟง ใหนักเรียนฟงซีดีซ้ําเพ่อื เลือกคําตอบ - ใหนักเรยี นนําคําตอบที่ไดไป Discuss and share กับเพ่อื นในหอง - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรยี น Read aloud คําตอบ และครเู ขยี นคําตอบของนักเรยี นบนกระดาน - ใหน กั เรียนฟง ซดี ซี ํ้าเพื่อยนื ยันคําตอบและเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. tricycle 2. marbles 3. doll 4. robot 5. กิจกรรม E ใหน กั เรยี น Read aloud คาํ สง่ั และ Exam Close-up ครูอธบิ ายพรอ มท้ังยกตวั อยางประกอบ - ใหนักเรียนฟงซดี ีเร่ือง Museum of Childhood 2 คร้ังแลวเติมขอความท่ีหายไป โดยครูเปดซีดี แลวหยุดเลนเปน ชว งๆ เพอ่ื ใหนักเรียนไดมีเวลาคดิ และตัดสินใจ - ใหน ักเรียน Compare and share the answers กบั เพ่ือนในหอ ง 6. กจิ กรรม F ครูตรวจสอบคาํ ตอบ โดยใหน ักเรยี นบอกคําตอบพรอมกัน ใหนักเรยี นฟงซดี ีซํ้าเพื่อยืนยันคาํ ตอบและเฉลย คําตอบ 1. 5.45 2. weekends/the weekend เฉลยคาํ ตอบ 4. September 6th/6th September 3. 300/three hundred 5. 060 8983 5204 คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 3

101 101  Production ครูใหน ักเรยี นเปดหนงั สือ Workbook Close-up 3 หนา 14 นกั เรียนปฏิบตั กิ ิจกรรมตอไปน้ี 1. กิจกรรม A ใหน กั เรยี น Read aloud the Exam Reminder ครอู ธิบายพรอ มทง้ั ยกตัวอยางประกอบ - ใหน ักเรยี น Read aloud คาํ สง่ั และคาํ ถามพรอมทัง้ ใหคําตอบ - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรียน Read aloud คําตอบ และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ No, we should write phone numbers using numbers. 2. กิจกรรม B ใหนักเรียน Read aloud คาํ สัง่ และคาํ ชี้แจง ครอู ธบิ ายพรอมทัง้ ยกตัวอยางประกอบ - เมอ่ื นักเรียนพรอม ครเู ปด ซีดีใหนกั เรียนฟง 1 คร้งั เพ่ือจบั ประเดน็ สาํ คัญของเรื่อง - ครูตรวจสอบความเขาใจในการฟง โดยใชคาํ ถามเกย่ี วกบั Forms of the missing words - ใหนักเรียนฟงซีดีซ้ําเพื่อเติมขอความท่ีหายไป โดยครูเปดซีดี แลวหยุดเลนเปนชวงๆ เพื่อใหนักเรียนมีเวลาคิดและ ตดั สินใจ - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรยี น Read aloud คาํ ตอบและครเู ขยี นคาํ ตอบของนักเรยี นบนกระดานและตรวจสอบ คาํ ตอบโดยใหน กั เรยี นฟงซีดีซํ้า 3. กิจกรรม C หลงั จากทค่ี รตู รวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียน Read aloud คําตอบแลว ครูใหนักเรียนฟงซีดีในกิจกรรม B ซาํ้ อีกคร้งั เพอ่ื ใหน ักเรียนยนื ยนั คําตอบ เฉลยคําตอบ 1. 11/11.00 2. 0446728731 3. 126 4. 35/thirty-five 5. 6th/sixth 6. การวัดและประเมินผล เคร่อื งมอื คะแนน เกณฑ แบบประเมนิ การสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน 18-20 วิธีการ 15-17 ผลการประเมิน 1. สงั เกต 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมนิ ทกั ษะ แบบประเมนิ ทกั ษะการฟง-การพูด คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดีมาก การใชภ าษา แบบประเมินทกั ษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3

102 102 7. สอ่ื /แหลงการเรียนรู หนังสือเรียน Close-up 3 Unit 2 The Place to Be เรื่อง Listening กิจกรรม A-F หนา 24 หนังสอื Workbook Close-up 3 Unit 2 The Place to Be เร่อื ง Listening กิจกรรม A-C หนา 14 Audio CD Track 2.1, 2.2 และ 2.3 8. บันทกึ หลังการจดั การเรยี นรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศึกษาปที่ 3

103 103 หนว ยการเรียนรทู ่ี 2 เรื่อง The Place to Be แผนการจัดการเรยี นรทู ่ี 10 เร่ือง Speaking: Asking for and Giving Directions รหสั วชิ า................. รายวชิ าพ้นื ฐานภาษาองั กฤษ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที่ 3 กลุมสาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ปการศึกษา 25……….. ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ช่วั โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชี้วัด ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขยี นเพื่อขอและใหขอมลู อธบิ าย เปรียบเทียบ และแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกบั เรอื่ งทฟ่ี ง หรืออานอยาง เหมาะสม 2. จุดประสงคการเรยี นรู ฟง พดู อานและเขยี นเพื่อขอและใหขอมูล อธบิ ายเกยี่ วกับทศิ ทาง (Asking for and Giving Directions) และพดู ตรวจสอบ ความเขาใจ โดยใชส าํ นวนภาษาและโครงสรา งภาษาที่กาํ หนดใหไดอ ยางถกู ตอง เหมาะสมกับระดับช้นั เรียน 3. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรูเก่ียวกับสํานวนภาษาโครงสรางภาษาในบทสนทนาเก่ียวกับ Asking for and Giving Directions และกิจกรรมฝก ทักษะการคิด กระบวนการฝกทักษะทางภาษาท้ัง 4 ทักษะโดยเฉพาะอยางย่ิงทักษะการฟง การพูด โดยใชกระบวนการสอนภาษา องั กฤษเพ่ือการส่ือสาร เจตคตทิ ดี่ ตี อ การเรยี นภาษาอังกฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Vocabulary: สาํ นวนภาษาเกย่ี วกับ Asking for and Giving Directions - Grammar: Asking for directions, Giving directions, Checking understanding - Speaking strategy: Understanding what people say 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรยี นภาษาท้ัง 4 ทักษะ การฟง การพดู การอาน และการเขียน - ทักษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการสือ่ สาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มเี หตุผล มวี ิจารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูนาํ ความสนใจของนักเรียนเขาสูบทเรียนในช่ัวโมงน้ีดวยคําถามตอไปนี้บนกระดาน ใหนักเรียนอานออกเสียงดังๆ พรอ มกนั แลว ใหนักเรียนตอบคาํ ถามประโยคบนกระดาน Q: What do you think about the map? 2. นกั เรยี นใหค ําตอบอยางหลากหลาย 3. ครูยอมรบั ทกุ คําตอบ และเชอ่ื มโยงเขาสูกิจกรรมการเรียนการสอน  Presentation 1. ครูใหนักเรียนเปดหนังสือ Close-up 3 หนา 25 ครูสอนสํานวนภาษาใน Useful Expressions ใหนักเรียน Read aloud Useful Expressions โดยครอู ธบิ ายพรอมท้งั ยกตัวอยา งประกอบใหน ักเรียนชวยกนั คดิ หาคํามาเตมิ ในประโยคตัวอยาง ไดแ ก คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศึกษาปท่ี 3

104 104 1.1 Asking for directions ไดแก - Where is the…?/I’m looking for… - Is there a bank near here? - Where is it exactly? 1.2 Giving directions ไดแก - It’s at the end of the road. - It’s opposite/next to/behind the school. - It’s at the crossroads. - Go straight on. - Go/Turn right/left (at the traffic lights/ at the roundabout) - Take the first (turning on your) right/left. 1.3 Checking understanding ไดแก - Did you say ‘turn right’? - I’m sorry. I didn’t understand. - Could you repeat that, please? - I’m not sure what you mean. 2. ครูใหน กั เรียนจับคูฝกพูดประโยค Asking for directions and Giving directions โดยผลัดกันเปนผูถามและผูตอบ คาํ ถาม โดยครกู าํ หนดใหผถู ามเลือกใชประโยคเพือ่ ตรวจสอบความเขา ใจในคาํ ตอบทไี่ ดรบั (Checking understanding) 3. ครูใหเวลานักเรยี นไดฝ กพูด โดยครสู งั เกต ชว ยเหลอื แนะนํา และแกปญ หา 4. ครูสอนเทคนิคการพูดเรื่อง understanding what people say สํานวนพูดเพื่อใหคูสนทนารูวาผูพูดไมเขาใจ ฟงไม ชดั เจน หรอื รูส กึ ไมแนใจ - Could you repeat that, please? - I’m sorry I don’t understand. - Do you mean….? - So I got right at the bank? - I’m not sure what you mean. 5. ครูสอนคําศัพทสํานวนในเร่ือง Speaking กิจกรรม A-D โดยใหนักเรียนมีสวนรวมครูใหนักเรียนสํารวจคําศัพทใน กิจกรรมแลวขีดเสนใตคําท่ีนักเรียนไมรูความหมาย จากนั้นใหนักเรียนบอกคําศัพทท่ีไมรูความหมาย โดยครูเขียนบนกระดาน ถา นักเรยี นอานไมไ ดใ หสะกดตวั อกั ษร 5.1 ครใู หน กั เรียนจัดกลุมคําศพั ทเหลา นโี้ ดยครแู นะวา ควรจดั ตามหนาทข่ี องคํา 5.2 ครูใหนักเรียนชวยกันคนหาความหมายของคําศัพทเหลาน้ีโดยคนหาจาก Dictionary หรือนักเรียนอาจสืบคน online จากโทรศพั ทมอื ถือของนักเรยี นเอง 5.3 ใหนกั เรียน Read aloud คาํ ศพั ทบนกระดาน และใหนกั เรยี นแบงกัน/ชว ยกนั คน หาความหมายของคําศัพทเหลานี้ แลวพูดบอกความหมาย 5.4 ครูเขยี นความหมายของคําศพั ทท ่ีนักเรยี นบอกและเพิ่มเติมความหมายของคําศพั ทบางคําใหส มบรู ณ 5.5 ใหนักเรียนอานออกเสียงดังพรอมกัน ถาคําใดนักเรียนอานไมได ใหค รชู ว ยอา นนําและนักเรียนอานตาม 5.6 ครเู ลือกคําศัพทบางตัวมาอธิบาย ไดแก Compound nouns (noun+noun): a garage key, a desk drawer, a kitchen cupboard, a bathroom shelf, a bedroom, a bathroom เปน ตน คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที่ 3

105 105 5.7 ใหน กั เรยี นคดั ลอก Word Box และคาํ ศพั ททเ่ี กย่ี วของลงในสมุดคาํ ศพั ทของตนเอง  Practice ครใู หนักเรียนเปด หนงั สือ Close-up 3 หนา 25 ใหน กั เรียนปฏบิ ตั ิกิจกรรมดังน้ี 1. กจิ กรรม A กอนทํากิจกรรมครใู หเวลานักเรียนชว ยกันอภิปรายเกี่ยวกับ places in towns และเตรียมคําตอบโดยครู เนน ใหนักเรียนบอกเหตผุ ล Explain why - ใหนกั เรยี นจบั คพู ดู ถามตอบโดยใชคําถามทกี่ าํ หนดให 3 ขอ โดยใหน ักเรยี นสลับบทบาทกัน - ครูสังเกต แนะนาํ ชวยเหลอื และแกปญหา - ครูตรวจสอบคําตอบโดยเลอื กนักเรยี น 3-4 คูข้นึ มาพดู คาํ ถามและใหคําตอบ - ครยู อมรบั ทกุ คําตอบท่บี อกเหตุผล Explain why เฉลยคําตอบ Students’ own answers 2. กจิ กรรม B ครใู หนักเรยี น Read aloud ประโยค1-5 และตัวเลอื ก a-e พรอ มทง้ั บอกความหมาย - ใหนักเรียนคนหาตัวชี้แนะคําตอบทม่ี คี วามเกี่ยวขอ งระหวางประโยคกับตัวเลือก โดยขดี เสน ใตก ํากับไวแลวตดั สินใจ เลอื กคาํ ตอบ - ครูสังเกต แนะนํา ชว ยเหลือ และแกปญ หา - ครเู ลือกนักเรยี น 3-5 คู ขนึ้ มาพดู คําตอบ และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. e 2. b 3. d 4. c 5. a 3. กิจกรรม C กอนทํากิจกรรมครูใหเวลานักเรียนชวยกันอภิปรายภาพและเตรียมคําตอบโดยครูเนนใหนักเรียนบอก เหตุผล Explain why - ใหน ักเรียนจบั คพู ูดถามตอบเก่ยี วกบั ภาพ โดยใหนักเรียนสลบั บทบาทกัน - ครูชี้แนะคําตอบโดยใหน กั เรียน Read aloud Exam Close-up และ Useful Expressions - ครูสังเกต แนะนํา ชวยเหลอื และแกป ญ หา - ครเู ลือกนกั เรยี น 3-5 คู ข้นึ มาพดู บรรยายเกยี่ วกบั ภาพ - ครยู อมรบั ทกุ คาํ ตอบท่บี อกเหตุผล Explain why เฉลยคําตอบ Students’ own answers. 4. กิจกรรม D ใหนักเรียน Read aloud คาํ สง่ั ในกิจกรรม D และคําชีแ้ จงใน Exam Task - ครอู ธิบายพรอ มทัง้ ยกตวั อยางประกอบโดยเลอื กบางขอจากกิจกรรมใน Exam Task - ใหนกั เรยี น ทบทวนสํานวนพดู ทเ่ี กยี่ วขอ งโดย Read aloud Useful Expressions - ใหนกั เรียนจับคูทํากจิ กรรม Speaking ใน Exam Task โดย Student A ใชแผนที่ในหนา 123 Student B ใชแผนท่ี ในหนา 124 คูมือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศึกษาปท ่ี 3

106 106 - ครใู หเวลานักเรยี นทํากิจกรรมโดยครูสงั เกต แนะนาํ ชวยเหลอื แกปญหา - ครูเลือกนักเรยี น 3-4 คนขึ้นมาพูด - ครูยอมรับทุกคําตอบและใหนักเรียนคัดลอกยอหนาส้ันๆ หรือ Speaking Model เกี่ยวกับ Directions to Places ลงสมดุ แบบฝกหัด เฉลยคําตอบ Students’ own answers.  Production - ครใู หน ักเรียนทํากิจกรรม Ideas Focus โดยใหนักเรียน Read aloud คําส่ังและพดู บอกสิ่งทต่ี องทําในกิจกรรมนี้ - ครูทบทวนคําสัง่ และชี้แนะวิธีการโดยใหน ักเรียนมีสวนรว มในการคิดกิจกรรมในขั้นตอนของการเตรียมเร่ืองท่ีจะพดู ให นกั เรียนทํากิจกรรมเปนกลมุ กลมุ ละ 4-6 คน และครกู ําหนดข้ันตอนของกจิ กรรมการพูดดังนี้ ข้ันที่ 1 Pre-Speaking - Focus ideas: ครแู นะใหนักเรียนทกุ กลุมเร่ิมกิจกรรมจากการอานคําถาม แลว Discuss อยางหลากหลาย แลวเขียน ความคิดเหน็ ของสมาชกิ ทกุ คนลงในกระดาษ จากนัน้ ชว ยกนั วเิ คราะหและสังเคราะหม าเปนกรอบในการเขียนคําตอบของกลมุ - Make a draft of Speaking Model: ใหนักเรียนเขียนคําตอบตามกรอบในการเขียนคําตอบที่ไดจากขั้น Focus ideas โดยใชค ําศัพท สํานวนพูดโครงสรางภาษา Explaining Why และสํานวนภาษาจาก Exam Close-up, Useful Expression ที่ เก่ียวของ - Revise the draft ใหน ักเรียนตรวจสอบทบทวนส่ิงท่ีเขียน ความถูกตอง ความสอดคลอง ความครบถวน และความ เหมาะสมของ a draft of Speaking Model - Compare and Share ใหน ักเรียนนํา Speaking Model ท่ีเขียนไปเปรยี บเทียบกับเพอ่ื นและปรับปรุงคําตอบเพ่ือให ได Speaking Model ที่ครบถวนถูกตองและเหมาะสม แลว คดั ลอก Speaking Model ลงสมุดแบบฝกหดั ของนกั เรยี น - Practice ใหน กั เรียนใช Speaking Model ของตนฝกพดู กบั เพ่ือน ขนั้ ที่ 2 While-Speaking - ใหนกั เรยี นใช Speaking Model ของตนพูดกบั เพ่ือนโดยผลัดกันเปน ผพู ูดและผฟู งทด่ี ี - ครใู หเวลานกั เรยี นทาํ กิจกรรมโดยครูสงั เกต แนะนํา ชวยเหลอื และแกป ญหา ขั้นที่ 3 Post- Speaking - ครกู ําหนดเวลา และใหน กั เรียนทํากจิ กรรมน้ีอยางอิสระ เมื่อหมดเวลาครูตรวจสอบคําตอบโดยเลือกนักเรียนจํานวน 2-3 กลุม ออกมาพูด ถาหากมีเวลาไมเพยี งพอ ครูใหนกั เรียนทํากจิ กรรมนี้ในชัว่ โมงตอไป หรอื นัดหมายใหทํานอกชนั้ เรยี น - ครสู รุปบทเรยี น ตอบขอ ซกั ถามของนักเรียน 6. การวัดและประเมนิ ผล เครอื่ งมอื คะแนน เกณฑ แบบประเมนิ การสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน 18-20 วธิ ีการ 15-17 ผลการประเมิน 1. สังเกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผา น คูม อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศึกษาปที่ 3

107 107 วธิ กี าร เครอ่ื งมือ คะแนน เกณฑ 18-20 2. ประเมินทกั ษะ แบบประเมินทักษะการฟง -การพดู 15-17 ผลการประเมนิ การใชภ าษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอาน-การเขยี น 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผาน 7. ส่ือ/แหลง การเรียนรู หนงั สือเรยี น Close-up 3 Unit 2 The Place to Be เรื่อง Speaking กิจกรรม A-D และ Ideas Focus หนา 25 Speaking Information for Student A for Unit 2 หนังสือเรยี น Close-up 3 หนา 123 Speaking Information for Student B for Unit 2 หนงั สอื เรยี น Close-up 3 หนา 124 8. บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ี่ 3

108 108 หนวยการเรยี นรทู ี่ 2 เรอื่ ง The Place to Be แผนการจัดการเรยี นรทู ่ี 11 เรอ่ื ง Writing 1: A Formal Email to Winstone Hotel รหสั วิชา................. รายวิชาพ้นื ฐานภาษาอังกฤษ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3 กลมุ สาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชวี้ ัด ต 1.2 ม.3/4 พูดและเขียนเพ่อื ขอและใหข อมลู อธบิ าย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกบั เร่อื งที่ฟงหรอื อา นอยาง เหมาะสม ต 2.1 ม.3/1 เลอื กใชภาษา นา้ํ เสียง และกริ ิยาทาทางเหมาะกับบุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของ เจา ของภาษา ต 4.1 ม.3/1 ใชภ าษาสือ่ สารในสถานการณจ ริง/สถานการณจําลองทีเ่ กดิ ขึ้นในหอ งเรียน สถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม 2. จุดประสงคการเรยี นรู เขียน Formal emails ใหข อมูล อธิบายเกย่ี วกับ directions and places โดยใหข อ มูลอยางมีลาํ ดบั ขั้นตอน ใชคําศัพทและ โครงสรา งภาษากําหนดใหอ ยางถกู ตอง เหมาะสม 3. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูเก่ียวกับการเขียน Formal emails ใหขอมูล อธิบายเกี่ยวกับ directions and places โดยใหขอมูลอยางมีลําดับ ขนั้ ตอน ใชค ําศัพทแ ละโครงสรางภาษากําหนดใหอ ยา งถูกตอง เหมาะสม กระบวนการฝกทักษะทางภาษาท้ัง4 ดานโดยเฉพาะอยางย่ิง ทกั ษะการฟง การพูด โดยใชกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพอื่ การสือ่ สาร ทําใหผูเรียนสื่อสารไดอยางมีประสิทธิภาพ มีเจตคติท่ีดีตอ การเรียนภาษาอังกฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Grammar: การใหขอ มูลอยางมีลําดับข้นั ตอน (Sequences) - Writing strategy: Explaining why 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรียนภาษาทัง้ 4 ทกั ษะ การฟง การพดู การอา น และการเขียน - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มีเหตผุ ล มวี ิจารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูนาํ ความสนใจของนักเรยี นในช่วั โมงนีด้ ว ยคาํ ถามตอไปนโ้ี ดยครูเขยี นบนกระดานใหนักเรียนอานออกเสียงดังๆ พรอม กนั Q1: Do you think what an email is? Q2: Do you think what the difference between a formal email and an informal email? 2. นกั เรียนใหคําตอบอยางหลากหลาย 3. ครูเขยี นทุกคําตอบของนกั เรยี นบนกะดาน และเชอ่ื มโยงเขาสกู จิ กรรมการเรยี นการสอน คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศึกษาปท ี่ 3

109 109  Presentation 1. ครูใหน กั เรยี นเปดหนงั สอื Close-up 3 หนา 26-27 ครูสอนความรูเก่ียวกับคําศัพทในเร่ือง Writing กิจกรรม A-E โดย ใหน กั เรยี นมีสวนรว มดงั น้ี - ครูสอนคาํ ศพั ทใหมท ่ีอยูในกิจกรรม A-E โดยใหน ักเรยี นมสี วนรวม - ครูใหนักเรียนสํารวจคําศัพทในกิจกรรม A-E แลวขีดเสนใตคําที่นักเรียนไมรูความหมาย จากนั้นใหนักเรียนบอก คําศัพททไ่ี มร คู วามหมาย โดยครูเขยี นบนกระดาน ถานักเรยี นอา นไมไ ดใ หส ะกดตวั อกั ษร - ครูใหน กั เรียนจัดกลมุ คําศัพทเหลานโ้ี ดยครูแนะวา ควรจดั ตามหนาที่ของคํา - ครใู หน กั เรียนชว ยกันคนหาความหมายของคาํ ศัพทเหลาน้ีโดยคนหาจาก Dictionary หรือนักเรยี นอาจสบื คน online จากโทรศัพทมือถือของนกั เรียนเอง - ครใู หน กั เรยี นอานออกเสยี งคาํ ศัพทแตละคาํ พรอ มกับบอกความหมาย โดยครูชว ยเพม่ิ เติมความหมายของศพั ทบ างคาํ ใหครอบคลมุ การใชงานในบทเรียนน้ี 2. ครูสอนเทคนิคการเขียนใน Learning Focus ครอู ธิบาย Thinking about sequence และยกตวั อยางประกอบ โดยให นกั เรยี นมีสวนรว มดงั น้ี 2.1 Thinking about sequence whenyou explain how to do something or how to go somewhere 2.2 You can do this by using words that show the sequence of the actions such as after, before, then, next, ... etc. 2.3 These words usually go at the start of a sentence and are followed by certain structures:  Before/after+sentence:  Before/after+noun/verb+ing:  First/Then/Next/After that+imperative:  First/Then/Next/After that/Eventually/Finally+sentence: 3. ใหน ักเรียนมีสวนรวมในการยกตัวอยางประกอบการอธบิ าย  Practice ครูใหนักเรียนปฏิบตั ิกจิ กรรมดังนี้ 1. กิจกรรม A ครใู หน กั เรียนทบทวนการใช words that show the sequence of the actions - นักเรียนอานประโยคเพื่อคนหา words that show the sequence of the actions ซ่ึงเปนตัวชี้แนะคําตอบ (Context clues) โดยนกั เรยี นขีดเสน ใตก าํ กับ - นักเรียนนําตัวช้ีแนะคําตอบ (Context clues) หรือ words that show the sequence of the actions ไปใชใน การตัดสนิ ใจเลอื กคาํ ตอบโดยตรวจสอบ forms of the following words, phrases or clauses - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียนอานประโยคท่ีถูกตองพรอมกันและแกไขประโยคท่ีไมถูกตอง โดยครูใหนักเรียน Discuss and share the answers - ครตู รวจสอบการแกไขประโยคทีไ่ มถูกตอ ง โดยครใู หน ักเรยี นอานคําตอบพรอ มกันและครูเฉลยคาํ ตอบ 1. First, taking take … เฉลยคําตอบ 4. Next walking walk … 2. √ 3. After you to leave leave/After leaving … 5. √ 6. √ คูม ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3

110 110 2. กิจกรรม B ใหนกั เรยี น Read aloud ประโยค 1-3 และตวั เลอื ก a-c - ใหนักเรียนคนหาความเชื่อมโยงระหวางประโยค1-3 กับตัวเลือก a-c โดยครูอธิบายวิธีการ ไดแก การพิจารณา ความสมั พนั ธระหวา งโครงสรา งประโยคคาํ ถามกับคาํ ตอบทคี่ วรเปน โดยครูใหอ าจใหน ักเรียนวิเคราะหชนิดของประโยค ไดแก ประโยค คําถามที่นําดวย Verb/คําถามแบบ Yes-No Question และประโยคคําถามท่ีนําดวย Question ไดแก How far … ?, How can I get to … ? - นักเรียนเลอื กคําตอบสําหรบั ประโยคที่ 1-4 - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรียนอานคาํ ตอบพรอ มกนั และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. c 2. a 3. b 3. กิจกรรม C กิจกรรมนี้ครูควรสอนรูปแบบและโครงสราง (construction) ภายใน email โดยใหนักเรียนเช่ือมโยงกับ ประสบการณตรงของนักเรียน เริ่มตนจากการสํารวจจํานวนนักเรียนที่เคยเขียนหรือเคยอาน email มากอน จากน้ันใหนักเรียนดู รูปแบบของ email ในกิจกรรมน้ีและเปรียบเทียบรูปแบบวามีความเหมือนหรือตางกันอยางไร จากน้ันจึงเริ่มเขาสูขั้นตอนการสอน ดังนี้ - ใหน ักเรียน Read aloud the email - ใหน กั เรยี นวเิ คราะห โครงสราง/สวนประกอบของ email วา แบงเปนกส่ี วนอะไรบาง - ใหน กั เรียน Compare emai lนก้ี บั email ทน่ี ักเรียนเคยเขยี น - ครูอธิบายโครงสรา ง/สวนประกอบของ email และใหน ักเรียนอานแตละสว นของ email นีพ้ รอมกัน - เม่ือนกั เรยี นเขาใจโครงสรา งของ email น้ีแลว ครูใหนักเรยี นดู content ของ email โดยใหเวลานักเรียนอานและพูด สรปุ ประเดน็ ใน email - ใหน ักเรียนอา นคาํ ถาม คดิ และเขียนคาํ ตอบ - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียนอา นคาํ ตอบพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. how to get from the train station to the hotel/ how to get to the hotel from the train station 2. No. 3. Dear Sir/Madam, I look forward to hearing from you., Kind regards 4. กจิ กรรม D ครอู ธบิ ายความเกี่ยวขอ งระหวาง email นก้ี บั email ในกจิ กรรม C โดยใหน กั เรยี นสังเกตท่คี ําขึ้นตนและ content ของ email นจ้ี ากนั้นจึงเรมิ่ เขาสูขนั้ ตอนการสอน ดังน้ี - ใหน กั เรียน Read aloud the email - ครอู ธิบายและใหนกั เรยี นชวยกันบอกความหมายของเนอ้ื ความใน email - ครูใหนักเรียนสังเกตการอธิบายใหขอมูลอยางเปนลําดับขั้นตอน และใหนักเรียน Read silently พรอมกับวงกลม ลอมรอบ the words that show sequence - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรียนอาน the words that show sequence พรอมกนั และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ After, Then, Eventually คมู อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที่ 3

111 111 5. กิจกรรม E ใหน กั เรียน Read aloud และพูดบอกส่ิงที่นักเรียนตองปฏิบัตใิ นกิจกรรมนี้ - ใหน กั เรยี น Read aloud คําถามขอ 1-4 เพื่อเปน clue ในการอา นเพือ่ คน หาคําตอบใน email - ครใู หเวลานกั เรยี นอานคําถาม คดิ และเขยี นคําตอบ โดยครสู งั เกต แนะนํา ชวยเหลอื และแกป ญหา - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรยี นอา นคาํ ตอบพรอ มกัน และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. Turn left, walk along, take the first right, go straight ahead, you will see the hotel on your right. 2. Dear Mr.McKay 3. We look forward to seeing you at the weekend. 4. Best regards  Production 1. ครูกําหนดกิจกรรมเอง Write an email to Winstone Hotel to ask for directions to the hotel from the airport. 2. ครูช้แี นะวิธีการเขียน ใหเวลานกั เรียนเขยี นอยางอิสระ 3. ครสู รุปบทเรยี นและกาํ หนดนัดหมายใหน ักเรียนการสงงาน 6. การวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น วิธกี าร คะแนน ผลการประเมิน 1. สงั เกต 18-20 ดีมาก 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 2. ประเมินทักษะ แบบประเมินทักษะการฟง -การพดู คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดีมาก การใชภาษา แบบประเมินทกั ษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. สอ่ื /แหลงการเรียนรู หนังสือเรยี น Close-up 3 Unit 2 The Place to Be เรอ่ื ง Writing กิจกรรม A-E หนา 26-27 8. บนั ทกึ หลังการจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมอื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศึกษาปท ี่ 3

112 112 หนวยการเรียนรทู ่ี 2 เร่อื ง The Place to Be แผนการจัดการเรยี นรูท ี่ 12 เรอื่ ง Writing 2: A Formal Email to Bodmin Youth Hostel รหัสวิชา................. รายวิชาพื้นฐานภาษาองั กฤษ ช้นั มธั ยมศึกษาปท ี่ 3 กลุม สาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ ปก ารศกึ ษา 25……….. ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ช้ีวัด ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขยี นโตตอบขอมูลเก่ยี วกับตนเอง เรอ่ื งตางๆ ใกลตัว สถานการณ ขา ว เรอื่ งที่อยูในความสนใจ ของสงั คมและส่ือสารอยา งตอ เนื่องและเหมาะสม ต 1.2 ม.3/4 พูดและเขียนเพ่อื ขอและใหขอมูล อธบิ าย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกบั เรือ่ งที่ฟง หรืออา นอยาง เหมาะสม 2. จดุ ประสงคการเรียนรู เขยี นและอานเพอื่ แสดงความตอ งการ ขอและใหข อมลู อธิบาย โดยใชส ํานวนภาษาและโครงสรางภาษา directions and places ท่ีกําหนดใหไ ดอ ยางถกู ตอง เหมาะสมกบั ระดบั ชน้ั เรียน 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรเู กี่ยวกบั คําศัพทส าํ นวนภาษาและโครงสรา งภาษาเร่ือง Formal email และกิจกรรมฝกทักษะการคดิ กระบวนการฝก ทักษะทางภาษาท้งั 4 ดา นโดยเฉพาะการอานและการเขยี น โดยใชกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ทาํ ใหผเู รยี นสื่อสาร ไดอยา งมีประสทิ ธิภาพ มเี จตคติที่ดีตอการเรยี นภาษาองั กฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Grammar: Sequencing, Asking for directions, Giving directions, Describing a route, Formal email greetings - Writing strategy: Explaining why 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรียนภาษาทงั้ 4 ทกั ษะ การฟง การพูด การอาน และการเขยี น - ทักษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มปี ระสทิ ธภิ าพในการส่ือความ - มีเหตผุ ล มวี จิ ารณญาณ 5. กิจกรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครนู ําความสนใจของนักเรยี นเขาสบู ทเรียนในชัว่ โมงน้ีโดยครเู ขียนประโยคตอ ไปนบ้ี นกระดาน ใหนักเรียนจัดเรยี งลําดบั ประโยคใหถูกตอ งตามหลกั เหตผุ ล คมู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที่ 3

113 113 a. I’m writinging to find out how to get to your hotel from the City Hall. b. Can you tell me if there is the parking lot available for a long stay? c. I will be travelling by car. d. Also can you tell me if there is a beauty saloon around the hotel? e. Best regards, f. DearSir/Madam, 2. นกั เรียนใหค ําตอบ 3. ครูเขียนทุกคาํ ตอบของนักเรยี นบนกะดาน และเชือ่ มโยงเขา สูกจิ กรรมการเรยี นการสอน  Presentation 1. ครูสอนการเขียน Formal email โดยใชกิจกรรม Writing Reference: Formal email ในหนังสือ Close-up 3 หนา 114 2. ครูสอนสาํ นวนภาษาทเ่ี ปนทางการใน Exam Close-up โดยใหน ักเรยี นมสี วนรวม ดังนี้ 3. ครูสอนสํานวนภาษาใน Useful Expressions เกี่ยวกับ sequencing, Asking for directions, Giving directions, Describing a route, Formal email greetings โดยใหน ักเรียนมสี ว นรวม  Practice ครใู หน ักเรยี นเปด หนังสือ Close-up 3 หนา 27 ใหน ักเรยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมดังนี้ 1. กิจกรรม F ใหน กั เรยี น Read aloud คําส่งั และบอกสิ่งที่นักเรยี นตองปฏิบตั ใิ นกิจกรรมนี้ - ครูใหน ักเรียน Read aloud the useful expressions: Giving directions - ใหน ักเรียนจับคูช ว ยกันกําหนดสถานทีแ่ ละเขียน Giving directions - ครใู หเวลานกั เรยี นเขยี น โดยครสู ังเกต ชว ยเหลอื แนะนํา และแกปญหา - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียนพดู บอกคําตอบพรอมกัน ครูเขยี นคําตอบบนกระดานและเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ Students’ own answers 2. กจิ กรรม G ใหน กั เรยี น Read aloud the Exam Close-up - ครูทบทวนคําส่ัง อธิบาย และใหน ักเรียน Skim through the email - ครอู ธิบายโครงสรางสวนประกอบของ email โดยใหนักเรียนมสี วนรวมในการบอกสวนประกอบแตล ะสวนของ email - ใหน กั เรยี น Read aloud email และบอกความหมายของประโยคใน email - ครูทบทวนความหมายและอธบิ ายบางประโยค - ครูใหนักเรียนเขียน Formal email ตอบกลับ โดยใชโครงสรางและสํานวนภาษาจาก Writing Reference: Formal email และ Useful Expressions - ครูใหเ วลานักเรยี นอา นคําถาม คิดและเขียนคาํ ตอบ โดยครสู ังเกต แนะนาํ ชวยเหลือ และแกปญ หา - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียนพดู บอกคําตอบพรอ มกัน ครูเขยี นคาํ ตอบบนกระดานและเฉลยคําตอบ คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3

114 114 เฉลยคาํ ตอบ (Suggested Answer) Dear Mr. Cook Thanks for your email. The hostel isn’t far from the station so you can walk. After yiu leave the station, turn right and walk past the bank. Eventually, you’ll see the hostel on your left. You can have breakfast at the hostel. It’s £3.00 per person. We look forward to seeing you next week. Best regards  Production 1. ครกู ําหนดใหน กั เรยี นเขยี น email ถงึ ครูบอกการเดนิ ทางจากโรงเรยี นไปบานของนักเรียน โดยเขียนดงั นี้ 1.1 Write a formal email 1.2 Giving directions, Describing a route 2. ครูชีแ้ นะวิธีการเขยี น ครูใหเ วลานักเรียนเขยี นอยางอิสระ 3. ครูสรปุ บทเรียนตอบขอ ซักถามนักเรียน นดั หมายการสงงาน 6. การวดั และประเมินผล วิธกี าร เครอื่ งมอื คะแนน เกณฑ 1. สังเกต แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน 18-20 15-17 ผลการประเมิน 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผาน 2. ประเมินทกั ษะ แบบประเมนิ ทกั ษะการฟง -การพดู คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดมี าก การใชภาษา แบบประเมินทักษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. สอ่ื /แหลงการเรยี นรู หนงั สอื เรยี น Close-up 3 Unit 2 The Place to Be เร่อื ง Writing กจิ กรรม F-G หนา 27 Writing Reference for Unit 2 หนงั สือเรียน Close-up 3 หนา 114 8. บันทึกหลงั การจดั การเรยี นรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศึกษาปที่ 3

115 115 หนว ยการเรียนรทู ี่ 2 เร่ือง The Place to Be แผนการจัดการเรยี นรทู ี่ 13 เรื่อง Writing 3: Formal Emails to Sherman Theatre รหัสวชิ า................. รายวิชาพ้ืนฐานภาษาองั กฤษ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3 กลุมสาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ ปการศึกษา 25……….. ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชวั่ โมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ช้ีวัด ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขียนโตต อบขอมูลเกย่ี วกบั ตนเอง เร่อื งตางๆ ใกลตัว สถานการณ ขาว เรือ่ งท่ีอยใู นความสนใจ ของสงั คมและสอ่ื สารอยา งตอ เน่ืองและเหมาะสม ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขียนเพอื่ ขอและใหข อมูล อธบิ าย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกบั เรือ่ งที่ฟงหรอื อาน อยา งเหมาะสม 2. จุดประสงคการเรยี นรู เขียนและอาน formal email เพื่อขอและใหขอมูล อธิบายโดยใชสํานวนภาษาและโครงสรางภาษาที่กําหนดใหถูกตอง เหมาะสมกับระดับชั้นเรยี น 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูเกี่ยวกับคําศัพทสํานวนภาษาใน formal email messages โครงสรางภาษาท่ีใชในการ Asking for and giving directions และกิจกรรมฝกทักษะการคิดกระบวนการฝกทักษะทางภาษาท้ัง 4 ดานโดยเฉพาะการอานและการเขียนโดยใช กระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่อื การสอื่ สาร ทําใหผ เู รยี นส่อื สารไดอ ยา งมีประสิทธิภาพ มีเจตคติทด่ี ีตอการเรียนภาษาองั กฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Grammar: โครงสรางภาษาที่ใชในการเขียน formal email messages สํานวนภาษาท่ีใชในการ Asking for and giving directions email messages - Writing strategy: Explaining why 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรยี นภาษาทั้ง 4 ทักษะ การฟง การพดู การอาน และการเขยี น - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - ใชภาษาอังกฤษอยางมีมารยาท ถกู ตอ งตามกาลเทศะและบคุ คล - มเี หตผุ ล มีวจิ ารณญาณ 5. กิจกรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูนําความสนใจของนักเรยี นเขาสบู ทเรยี นในช่ัวโมงนโ้ี ดยครเู ขยี นประโยคตอไปนบ้ี นกระดาน Write the direction to your school from the main road. ใหนกั เรียน Read aloud ประโยคบนกระดาน 2. ใหน กั เรียน Discuss and share the answers 3. นกั เรยี นใหค ําตอบอยางหลากหลาย และครยู อมรับทกุ คาํ ตอบ 4. ครูเช่อื มโยงเขาสบู ทเรียน คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 3

116 116  Presentation ครทู บทวนความรเู กยี่ วกับคําศพั ทสํานวนภาษา โครงสรางการเขียน email messages ไดแ ก 1. สํานวนภาษาเกยี่ วกับ Sequencing, Asking for directions, Giving directions, Describing a route 2. Patterns of formal email: Formal greetings+Messages+Ending note+Formal sign-off+name  Practice ครใู หน ักเรยี นเปด หนงั สือ Workbook Close-up 3 หนา 15 ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมดงั นี้ 1. กจิ กรรม A ครใู หน กั เรยี นคน หาตวั ชีแ้ นะคาํ ตอบท่ีบอกเกีย่ วกบั Sequencing และขีดเสนใตก ํากับ - ใหน กั เรียนจัดเรยี งลาํ ดับประโยคทีก่ ําหนดใหเลือกคําตอบจากตวั ช้ีแนะคําตอบ - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรยี นบอกคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 2, 4, 1, 3 2. กจิ กรรม B ใหน ักเรียน Read aloud email from Amy Miller - ครอู ธิบายและใหนกั เรยี นพูดเลาขอ ความใน email - ใหน กั เรียนอา นคําถามและคนหาคาํ ตอบ - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรียนบอกคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. No. 2. 3/three 3. formal 3. กิจกรรม C ครูใหนักเรียน Read silently email message and recall what Miller wants 2 และ Read aloud the words - ครูทบทวนเทคนิคการทําขอสอบ Cloze test โดยใหนักเรียน Focus on words before and after a gap ให นกั เรียนคนหาตัวชี้แนะคําตอบท่อี ยูหนา และหลังชองวาง โดยขดี เสน ใตกาํ กบั ไว - ใหน ักเรียนนําตวั ชีแ้ นะคาํ ตอบดงั กลาวนไ้ี ปใชในการตัดสนิ ใจเลือกคาํ ตอบทถี่ ูกตอง - ครูใหเวลานักเรียนคนหา คิดวเิ คราะห ไตรต รอง และใหค าํ ตอบ - ครตู รวจสอบความถูกตอ งโดยใหนักเรียนอา นคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. Dear 2. Take 3. get 4. Then 5. After 6. regards  Production ใหนักเรียนปฏบิ ตั ิกจิ กรรม D ดงั นี้ 1. Read aloud Victor Wright ’s email and underline what Victor Wright wants. 2. เขียน email ตอบกลบั เพ่ือใหขอมูลเกี่ยวกับเสนทางและตอบคําถาม 3. ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนักเรยี นบอกคําตอบพรอมกนั และครูเฉลยคําตอบ คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที่ 3

117 117 เฉลยคาํ ตอบ (Suggested answer) Dear Victor, It is easy to get to the stadium from the city centre. Drive down Oak Street, and turn left at Duke street. Go straight on, and the car park for the stadium is on your right. You cannot bring food into the stadium, but there are places you can buy snacke. GKienrdry4reT. gaคayรrlูสdoรsrุป, บทเรยี นตอบขอซกั ถามนักเรยี น นดั หมายการสง งาน Bolton Stadium 6. การวัดและประเมนิ ผล เครอื่ งมอื คะแนน เกณฑ แบบประเมนิ การสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน 18-20 วธิ กี าร 15-17 ผลการประเมิน 1. สังเกต 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผาน 2. ประเมินทักษะ แบบประเมินทกั ษะการฟง-การพดู คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดีมาก การใชภ าษา แบบประเมินทักษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. สือ่ /แหลง การเรยี นรู หนงั สอื Workbook Close-up 3 Unit 2 The Place to Be เร่ือง Writing กจิ กรรม A-D หนา 15 8. บันทกึ หลังการจดั การเรยี นรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมอื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3

118 118 หนวยการเรยี นรูท่ี 2 เรอ่ื ง The Place to Be แผนการจัดการเรยี นรทู ่ี 14 เร่อื ง Video: One of a Kind รหัสวิชา................. รายวิชาพ้นื ฐานภาษาอังกฤษ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ปก ารศึกษา 25……….. ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ชั่วโมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชวี้ ดั ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขยี นโตต อบขอ มูลเกี่ยวกับตนเอง เรือ่ งตา งๆ ใกลต วั สถานการณ ขา ว เร่ืองที่อยูในความสนใจของ สงั คมและสื่อสารอยางตอเน่ืองและเหมาะสม ต 1.3 ม.3/2 พดู และเขียนสรปุ ใจความสําคัญ/แกน สาระ หัวขอ เรอ่ื งที่ไดจากการวิเคราะหเร่ือง/ขา ว/เหตกุ ารณ/สถานการณ ท่อี ยูในความสนใจของสังคม ต 2.1 ม.3/2 อธบิ ายเกี่ยวกบั ชีวิตความเปน อยู ขนบธรรมเนยี ม และประเพณีของเจา ของภาษา ต 2.2 ม.3/1 เปรยี บเทยี บและอธิบายความเหมือนและความแตกตา งระหวางการออกเสียงประโยคชนิดตา งๆ และการ ลําดบั คาํ ตามโครงสรางประโยคของภาษาตา งประเทศและภาษาไทย ต 3.1 ม.3/1 คน ควา รวบรวม และสรุปขอมลู /ขอ เทจ็ จริงที่เกย่ี วของกบั กลุม สาระการเรียนรูอื่นจากแหลง การเรยี นรแู ละนํา เสนอดว ยการพดู และการเขยี น ต 4.1 ม.3/1 ใชภาษาส่ือสารในสถานการณจ ริง/สถานการณจําลองทีเ่ กิดขน้ึ ในหองเรยี น สถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม ต 4.2 ม.3/1 ใชภ าษาตา งประเทศในการสบื คน/คนควา รวบรวม และสรุปความรู/ขอ มลู ตางๆ จากส่ือและแหลง การเรยี นรู ตางๆ ในการศึกษาตอและประกอบอาชพี 2. จดุ ประสงคก ารเรียนรู พูด/เขียนสรุปใจความสําคัญ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสารคดีเก่ียวกับการออกแบบอาคารสูงโดยใชสํานวนภาษาและ โครงสรา งภาษาท่ีกาํ หนดใหไดอ ยางถกู ตอง เหมาะสม 3. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูเกี่ยวกับสํานวนภาษา โครงสรางภาษาในสารคดีเก่ียวกับการออกแบบอาคารสูง กิจกรรมการเรียนรูผานสื่อวิดีโอ (processed watching) สือ่ สิ่งพมิ พ ทักษะการเรียนภาษาท้ัง 4 ดาน ไดแก ทักษะการฟง ทักษะการพูด ทักษะการอาน ทักษะการ เขียน และกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร ทาํ ใหก ารสื่อสารบรรลุเปาหมายอยางมีประสิทธิภาพ ผูเรียนมีความสามารถ มเี จตคติท่ีดตี อ ภาษาอังกฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Grammar: Documentary films เร่ือง One of a Kind เกี่ยวกับการออกแบบประหยัดพลังงานที่เปนอาคารสูงที่มี รูปรางคลา ยใบเรือ 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะการการดูชมอยางเปนขั้นตอนมีเปา หมาย (processed watching) - ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห คดิ สังเคราะห และประเมนิ คา - ทกั ษะเรียนภาษาทง้ั 4 ทักษะ การฟง การพูด การอาน และการเขยี น - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร คูมือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3

119 119 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มีประสทิ ธิภาพในการสอื่ ความ - มีเหตุผล มีวจิ ารณญาณ 5. กิจกรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครนู ําความสนใจของนกั เรียนเขา สบู ทเรียนในชว่ั โมงนโ้ี ดยครูใหนักเรียนดูรปู ภาพ ในหนังสือเรยี น Close-up 3 หนา 28 แลวใชคาํ ถามตอ ไปนี้ Look at the picture. What do you think about the picture? 2. นักเรยี นชวยกันใหค ําตอบ โดยครูยอมรบั ทุกคําตอบ  Presentation 1. ครกู ําหนดกิจกรรมใหน ักเรยี นพูดเลา ตามจินตนาการ ดังน้ี Work in groups. From the title ‘One of a Kind’, imagine what the video is about. Do you think what the green skyscraper look like? - ครใู หน ักเรียนแบงกลมุ กลุมละ 4-6 คน พดู เลาตามจนิ ตนาการจากช่อื เรือ่ งในวิดีโอใหนักเรียน Read aloud ช่ือเรื่อง One of a Kind แลวใหนกั เรยี นจนิ ตนาการเกี่ยวกบั เร่อื งวา นา จะเปนรอ่ื งเกี่ยวกับอะไร ครูตรวจสอบความคิดเห็นของนักเรียนโดยให นักเรียนบอกคําตอบพรอ มกนั ครูเขียนคาํ ตอบของนกั เรยี นบนกระดาน โดยครยู อมรับทุกคําตอบ - ใหน กั เรียนตอบคาํ ถามตามจนิ ตนาการ Do you think what the green skyscraper look like? - ครูใหเวลานกั เรยี นทํากิจกรรม และตรวจสอบคําตอบโดยเลือกนักเรียน 2-3 กลุมขึ้นมาพูดเลาเรื่องตามจินตนาการ โดยครยู อมรับทกุ คาํ ตอบ - ครสู รปุ เรอื่ งราวตามจินตนาการของนักเรยี น และใหนักเรยี นสานตอความคิดสรางสรรคและจินตนาการของนักเรียน จากการปฏิบัติกิจกรรม A และการชมวดิ โี อในกิจกรรม B 2. กจิ กรรมตอบคาํ ตอบกอนดูวดิ โี อ Before you watch: กิจกรรม A ครูใหนักเรียน Read aloud คําสั่งและบอกส่ิงที่ นกั เรยี นตองปฏบิ ัตใิ นกิจกรรมนี้ - ครูทบทวนคําสั่งและอธิบาย และใหความรูเกี่ยวกับเรือใบและประเด็นสําคัญของเรือใบกับการออกแบบอาคารสูง ประหยดั พลังงานในวิดโี อเรอื่ งน้ี - ใหนกั เรยี น Read aloud the sentence แลว จับคคู าํ /วลีกับรปู ภาพ - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรยี นบอกคําตอบพรอมกันและครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. sail 2. yacht 3. sailor - ครูแนะนําการเรยี นดว ยวดิ ีโอ ชี้แนะ มารยาทในการดชู ม  Practice 1. กิจกรรม While you watch: กิจกรรม B ครูบอกนักเรียนวานักเรียนจะไดดูหนังสารคดีส้ันเกี่ยวกับเรือใบและ ประเด็นสาํ คัญของเรือใบกับการออกแบบอาคารสูงประหยัดพลังงาน และขณะที่ดูนักเรียนตองตัดสินใจเลือกคําศัพทที่เก่ียวของกับ ประโยค ดงั นนั้ กอ นดวู ดิ ีโอใหนกั เรยี นอานประโยคใหเ ขาใจ ซึง่ จะชวยใหน กั เรยี นเขา ใจและคาดเดาเร่ืองลวงหนาได - นกั เรยี นอา นประโยคทกี่ ําหนดใหและขดี เสนใตคาํ สําคัญซึ่งจะชวยในการคดิ คาํ ตอบ - เมอื่ นักเรยี นพรอ ม ครเู ปดวิดีโอใหน กั เรยี นดู คูมือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที่ 3

120 120 - ครูเปดวิดีโอและหยุดเลนช่ัวขณะ หลังจากนั้นครูตรวจสอบคําตอบของประโยคที่1-2 หากพบวานักเรียนสวนใหญ เลอื กคาํ ตอบถกู ครูเปดวิดโี อตอ และหยดุ เลนเปนระยะเพือ่ ใหนกั เรยี นไดม ีเวลาคดิ ทบทวนและประเมินคําตอบ แตถานักเรียนสวน ใหญเลอื กคาํ ตอบไมถกู ตอง ครูควรเริ่มเลน ใหมแ ละเปด ซาํ้ หลายครัง้ เพ่อื ใหน กั เรยี นประสบความสําเร็จในการดชู ม - เมื่อดูจบแลว ครใู หนกั เรียนตรวจคําตอบ แตถานักเรียนสวนใหญยังไมสามารถหาคําตอบได ครูควรใหนักเรียนดูซํ้า หลายรอบ กอ นเฉลยคาํ ตอบ - ครูเฉลยคําตอบ โดยใหน กั เรียนอานคําตอบพรอมกัน โดยครใู หนักเรยี นบอกเหตผุ ลท่เี ลือก เฉลยคําตอบ 1. Africa 2. sailor 3. wind 4. design 5. tall 6. team 2. กิจกรรม After you watch: กิจกรรม C ครูใหนกั เรยี นทาํ กจิ กรรมหลังดวู ิดีโอขอ C ดงั นี้ - ครูทบทวนเทคนิคการทําขอสอบ Cloze test โดยใหนักเรียนใชเทคนิคการทําขอสอบ Focus on words before and after a gap - ใหน กั เรียนคนหาตวั ชีแ้ นะคําตอบทอ่ี ยูหนาตัวเลือก โดยขีดเสน ใตกํากบั ไวแลวเลือกคําตอบ - ครูตรวจสอบตัวชีแ้ นะคาํ ตอบโดยใหน ักเรยี นอานตวั ชแ้ี นะคําตอบของทุกประโยค - นักเรียนลงมืออาน Cloze passage ขอ C ใหนักเรียนคิดวิเคราะหคําตอบ และเลือกคําตอบและนําคําตอบท่ีไดไป Discuss and share กบั เพอ่ื นในหอ ง ครใู หเ วลานักเรยี น - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรียนบอกคําตอบพรอมกัน - ครูใหน ักเรยี นไดดูวิดีโอซาํ้ อีกครงั้ หน่งึ เพือ่ ตรวจสอบคําตอบ และปรับปรุงคาํ ตอบ และเฉลยคาํ ตอบ 1. first 2. windy 3. use เฉลยคาํ ตอบ 5. special 6. enough 7. make 4. find 8. true  Production 1. ครใู หน ักเรียนเขา แบง กลมุ กลมุ ละ 4-6 คนทํากิจกรรม Ideas Focus 2. ใหน กั เรยี น Read aloud คําถาม และพดู บอกส่ิงท่ตี องปฏบิ ัติในกิจกรรมนี้ 3. ครูทบทวนคําถามและช้ีแนะวิธีคิดและเขียนคําตอบโดย Expaining why และใหเวลานักเรียนทํากิจกรรมนี้อยาง อสิ ระ โดยครูกาํ หนดเวลาสงั เกต แนะนาํ ชวยเหลอื และแกปญ หา 4. เมอ่ื ครบกําหนดเวลาครูตรวจสอบคําตอบโดยเลือกนักเรียน 3-4 กลุมขึ้นมาใหคําตอบ ครูยอมรับทุกคําตอบที่ให เหตุผล (Explaining why) เฉลยคาํ ตอบ Students’ own answers 5. ครูสรุปบทเรียน ซักถามเพื่อประเมินความคิดเห็นและใหนักเรียนแสดงความคิดเห็นตอวิดีโอท่ีดูในช่ัวโมงนี้แนะนําให นกั เรยี นดูชมสารคดี รายการใหค วามรแู ละคนควา ศึกษาหาขอมูลเพิ่มเติมจากส่ืออิเลกทรอนิกสเพื่อขยายโลกทัศน และประโยชนใน การแกไ ขปญ หา การดํารงชวี ติ การศกึ ษาตอ และการเลือกอาชพี คูมือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3

121 121 6. การวดั และประเมนิ ผล เครือ่ งมือ คะแนน เกณฑ วิธกี าร แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมนักเรยี น 18-20 15-17 ผลการประเมิน 1. สังเกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผาน 2. ประเมนิ ทักษะ แบบประเมินทักษะการฟง-การพูด คะแนน ผลการประเมิน การใชภ าษา แบบประเมินทกั ษะการอาน-การเขียน 18-20 ดมี าก 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. สอ่ื /แหลง การเรยี นรู หนงั สือเรยี น Close-up 3 Unit 2 เร่อื ง The Place to Be กิจกรรม A-C, Ideas Focus หนา 28 ส่ือ VCD Unit 2 เร่ือง One of a Kind 8. บันทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมอื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศึกษาปท่ี 3

122 122 Review 1 Unit 1-2 Home &Town and Country Review รหัสวชิ า …………… รายวชิ าพนื้ ฐานภาษาองั กฤษ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที่ 3 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ เวลา 2 ชั่วโมง 1 ปก ารศึกษา 25........ ภาคเรียนท่ี 1 ผูสอน ................................. 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชี้วัด ต 1.1 ม.3/4 เลอื ก/ระบุหวั ขอ เรอื่ งใจความสําคัญ รายละเอยี ดสนบั สนนุ และแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกบั เร่ืองท่ีฟงและอา น จากสื่อประเภทตา งๆ พรอ มทง้ั ใหเหตุผลและยกตัวอยา งประกอบ ต 1.3 ม.3/2 พดู และเขียนสรุปใจความสาํ คัญ/แกน สาระ หวั ขอ เรอื่ งทไ่ี ดจ ากการวเิ คราะหเรอ่ื ง/ขา ว/เหตุการณ/สถานการณ ที่อยูในความสนใจของสงั คม ต 2.2 ม.3/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกตางระหวา งการออกเสียงประโยคชนดิ ตา งๆ และการ ลาํ ดบั คาํ ตามโครงสรางประโยคของภาษาตา งประเทศและภาษาไทย ต 4.2 ม.3/1 ใชภ าษาตา งประเทศในการสืบคน/คนควา รวบรวม และสรุปความรู/ขอมลู ตางๆ จากสือ่ และแหลงการเรียนรู ตา งๆ ในการศกึ ษาตอและประกอบอาชพี 2. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรูดานคําศัพทเก่ียวกับ home & places and direction-related words; phrasal verbs สํานวนภาษาเก่ียวกับ Describing different rooms, Making excuses, Giving directions โครงสรางประโยคเกี่ยวกับ Present Perfect Simple, for, since, possessives, Demonstratives, Articles ทักษะการเรียนภาษาทั้ง 4 ดาน ไดแก การฟง การพูด การอาน และการเขียน ทักษะการคิดวิเคราะห สังเคราะห การใหเหตุผล และทักษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร ทําใหการสื่อสารบรรลุ เปาหมายอยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ ผูเรียนมคี วามสามารถ มเี จตคตทิ ี่ดตี อภาษาองั กฤษ 3. สาระการเรยี นรู (Learning Contents) 3.1 ดา นความรู (Knowledge) ความรูดานคําศัพทเก่ียวกับ home & places and direction-related words; phrasal verbs สํานวนภาษาเกี่ยวกับ Describing different rooms, Making excuses, Giving directions โครงสรางประโยคเก่ียวกับ Present Perfect Simple, for, since, possessives, Demonstratives, Articles 3.2 ดา นทักษะกระบวนการ (Process/Skill) ทกั ษะการเรยี นภาษาท้งั 4 ทกั ษะ ไดแ ก การฟง การพูด การอา น การเขียน ทักษะกระบวนการคิด และทักษะกระบวน การสอนภาษาอังกฤษเพอ่ื การส่ือสาร 3.3 ดานเจตคติ (Attitude/Desired Character) ประยุกตใ ชภ าษาอังกฤษเพ่ือการดํารงชีวติ การทาํ งาน การอาชพี และการพฒั นาบุคลิกภาพ คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ี่ 3

123 123 4. สมรรถนะสําคญั ของผูเรียนตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกปญหา ความสามารถในการใชท ักษะชีวิต ความสามารถในการใชเทคโนโลยี 5. คุณลักษณะอันพึงประสงคตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 รักชาติ ศาสน กษัตรยิ  ซอื่ สตั ย สุจรติ มวี นิ ยั ใฝเรยี นรู อยอู ยางพอเพยี ง มุง มน่ั ในการทํางาน รักความเปนไทย มจี ติ สาธารณะ 6. ภาระงาน/ชิน้ งาน ใหนักเรียนทําแบบทดสอบท่ี 1.1 และ 1.2 ซ่ึงเปนแบบทดสอบ Multiple choices 4 ตัวเลือก ประกอบดวย แบบทดสอบ Vocabulary จํานวน 20 ขอ และแบบทดสอบ Gramma จาํ นวน 20 ขอ มีเน้อื หาครอบคลุมดา นคําศัพท สาํ นวนภาษา และโครงสราง ภาษา โดยใชค วามรูและทกั ษะการใชภ าษาทเี่ รียนมาใน Unit 1 และ Unit 2 7. การวดั และประเมินผล วิธีการ เคร่อื งมือ คะแนน เกณฑ ทดสอบ 1. แบบทดสอบ Vocabulary แบบ Multiple 18-20 choices 4 ตัวเลือก จํานวน 20 ขอ 15-17 ผลการประเมิน 2. แบบทดสอบ Grammar แบบ Multiple 12-14 ดมี าก choices 4 ตัวเลือก จํานวน 20 ขอ 10-11 ดี พอใช ผา น 8. กจิ กรรมการเรยี นรู ความรูเกี่ยวกับเรื่องคําศัพทเกี่ยวกับ home & places and direction-related words; phrasal verbs สํานวนภาษา เกี่ยวกับ Describing different rooms, Making excuses, Giving directions โครงสรางประโยคเก่ียวกับ Present Perfect Simple, for, since, possessives, Demonstratives, Articles ทักษะการเรียนภาษาทั้ง 4 ดาน ไดแก การฟง พูด อาน และเขียน ทักษะการคดิ วิเคราะห สังเคราะห การใหเ หตผุ ล และทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพอ่ื การสื่อสาร เจตคตทิ ด่ี ีตอภาษาอังกฤษ 9. ส่อื /แหลงเรียนรู  หนังสือเรยี น Close-up 3 Review 1: Unit 1-2 Vocabulary กจิ กรรม A-D และ Grammar กจิ กรรม A-C  หนังสอื Workbook Close-up 3 Review 1: Unit 1-2 Vocabulary กิจกรรม A และ Grammar กิจกรรม B คมู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ่ี 3

124 124 หนวยการเรียนรู Review 1 Unit 1-2 เร่อื ง Home & Town and Country แผนการจัดการเรยี นรู Review 1.1 เรือ่ ง Vocabulary รหสั วิชา................. รายวิชาพน้ื ฐานภาษาองั กฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปท ี่ 3 กลมุ สาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ ปก ารศึกษา 25……….. ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ช่วั โมง ผูส อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชี้วดั ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบหุ ัวขอ เรื่อง ใจความสําคัญ รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั เรือ่ งที่ฟงและ อา นจากสื่อประเภทตา งๆ พรอ มท้ังใหเหตผุ ลและยกตัวอยางประกอบ ต 2.2 ม.3/1 เปรียบเทยี บและอธิบายความเหมือนและความแตกตา งระหวา งการออกเสียงประโยคชนดิ ตา งๆ และการ ลาํ ดบั คาํ ตามโครงสรางประโยคของภาษาตา งประเทศและภาษาไทย ต 4.2 ม.3/1 ใชภ าษาตางประเทศในการสบื คน /คนควา รวบรวม และสรุปความรู/ขอมูลตางๆ จากส่อื และแหลง การเรียนรู ตางๆ ในการศึกษาตอ และประกอบอาชพี 2. จดุ ประสงคการเรยี นรู อานและเขียนวิเคราะหเปรียบเทียบ อธิบายและแสดงความคิดเห็น โดยใชคําศัพทเกี่ยวกับ home & places and direction-related words; phrasal verbs สํานวนภาษาเก่ียวกับ Describing different rooms, Making excuses, Giving directions ที่กําหนดใหไดถ ูกตองเหมาะสม 3. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรแู ละกจิ กรรมฝกทักษะการคิดวิเคราะห สังเคราะห และคาดเดาการใหเหตุผลที่มีคําศัพทเกี่ยวกับ home & places and direction-related words; phrasal verbs สํานวนภาษาเก่ียวกับ Describing different rooms, Making excuses, Giving directions และเทคนิคการทําขอสอบ โดยผานการฝกทักษะการอาน การเขียน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร ทาํ ใหผูเรียนสามารถสือ่ ความไดอ ยางมีประสทิ ธภิ าพ มีนิสยั รักการอา น มสี ุนทรยี ภาพในการอา น 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Vocabulary: home & places and direction-related words; phrasal verbs สํานวนภาษาเกี่ยวกับ Describing different rooms, Making excuses, Giving directions 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรยี นภาษาทั้ง 4 ทักษะ โดยเฉพาะอยา งยงิ่ ทกั ษะการอานและการเขียน - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - ประยุกตใ ชภาษาอังกฤษเพื่อการดํารงชวี ิต การทํางาน การอาชีพ และการพฒั นาบุคลกิ ภาพ 5. กิจกรรมการเรยี นรู  Lead-in 1. ครูนําความสนใจของนกั เรียนโดยใหนักเรียนบอกความหมายของคาํ ศพั ทตอไปนี้ - a shed = …………………… - a duvet = …………………. - to go ahead = ………………… คูมอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ่ี 3

125 125 - to run out of = …………………… 2. ครสู นับสนุนคาํ ตอบถูก และเชือ่ มโยงเขา สูกิจกรรมการเรยี นการสอน  Presentation 1. ครูใหนกั เรียนเปดหนังสอื Close-up 3 หนา 29 ใหน กั เรียนทบทวนคาํ ศัพทในบทอา นของกิจกรรม A-D ดังน้ี - ใหนักเรยี นทั้งช้ันชวยกันคนคาํ ศพั ทสาํ นวน ท่ีนา สนใจ - ใหน กั เรยี นแบงกัน/ชวยกันคนหาความหมายของคําศัพทเ หลานี้ พูดบอกความหมายครูเลอื ก คาํ วลี ประโยคทม่ี ี ความหมายนาสนใจ มาอธบิ าย 2. ใหนักเรยี นทบทวนเทคนิคการทาํ ขอสอบ Focusing on words before and after a gap ไดแก Exam strategies: Focusing on words before and after a gap: - First, look at the gap. What words come before and after? What kind of words are they (e.g. verbs, nouns, prepositions, pronouns)? - Look again at the words around the gaps. Can you think of words that often go together with them? Write your answer in the gap and then read the whole sentence to see if it fits.  Practice ครใู หนกั เรียนเปด หนงั สือ Close-up 3 หนา 29 นกั เรยี นตองปฏบิ ตั ิในกจิ กรรมตอไปนี้ 1. กจิ กรรม A ใหนกั เรยี น Read aloud คาํ สงั่ และพูดบอกสิง่ ท่ีนักเรยี นตอ งปฏิบตั ใิ นกิจกรรมน้ี - ใหนกั เรยี นทบทวนวิธีคดิ คําตอบสาํ หรับ Cloze sentences ทกี่ าํ หนดคาํ ศัพทม าใหน ักเรยี นเลือกดังน้ี a. คน หาคําสําคญั ท่ีอยูหนาและหลังชอ งวางเพอื่ ใชเปนตัวชี้แนะคําตอบ b. คิดและตัดสนิ ใจเลือกคําตอบอยางมเี หตผุ ล โดยใชต วั ชแี้ นะคําตอบท่อี ยูหนาและหลังชอ งวาง - ครตู รวจสอบคําตอบใหนกั เรียนRead aloud คําตอบและครเู ฉลยคําตอบ 1. flat 2. bathroom เฉลยคาํ ตอบ 4. cooker 5. dining table 6. blanket 7. sofa 3. washing machine 9. lamp 10. painting 8. shed 2. กจิ กรรม B ครใู หน ักเรียน Read aloud คําสง่ั และพูดบอกสิ่งทีน่ กั เรียนตองปฏบิ ัติในกิจกรรมนี้ - ใหนักเรยี นทบทวนความหมายของ Phrasal verbs ทกี่ าํ หนดใหโดยชวยกันคนหาความหมายจากหนังสือเรียน Unit 1-2 หรือสืบคน จาก Dictionary/Online dictionary แลวนาํ ความหมายมาแบง ปนกนั - นกั เรียนคนหาคําสาํ คัญทีอ่ ยูหนา และหลังชองวา งเพื่อใชเ ปน ตัวชี้แนะคําตอบและตัดสินใจเลือกคําตอบอยางมีเหตุผล (โดยใชต วั ช้แี นะคาํ ตอบ) - ครูตรวจสอบคําตอบใหน ักเรยี น Read aloud คําตอบและครเู ฉลยคําตอบ 1. put away 2. put up เฉลยคําตอบ 4. looking for 5. work out 6. take up 3. fill up 8. run out of 7. looking forward to คูมือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ 3

126 126 3. กิจกรรม C ใหน ักเรียน Read aloud คําสัง่ และคําศัพทที่เปนตวั เลอื ก พดู บอกสิง่ ที่นักเรียนตองปฏบิ ัติในกิจกรรมน้ี - ใหน กั เรยี นทบทวนวิธีคิดคําตอบสําหรับ Cloze sentences ทกี่ ําหนดอกั ษรตวั แรกของคําศพั ทม าให ดงั น้ี a. คน หาคําสําคญั ที่อยูห นา และหลังชอ งวางเพ่ือใชเปนตวั ช้แี นะคําตอบ b. คดิ และตัดสินใจเลือกคําศพั ททมี่ ีอกั ษรตัวแรกถูกตอ งตามที่กําหนดอยางมเี หตุผล (โดยใชตัวชแ้ี นะคําตอบ) - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรียนบอกคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคาํ ตอบ 1. museum 2. corner เฉลยคําตอบ 5. library 6. centre 3. university 4. post 7. hospital 8. police 4. กิจกรรม D ใหนักเรยี น Read aloud คาํ ส่ังและพดู บอกส่ิงที่นักเรยี นตอ งปฏิบัตใิ นกิจกรรมน้ี - ใหน กั เรยี นทบทวนการใช Preposition และวิธีคดิ คําตอบสาํ หรับ Cloze sentences ท่กี าํ หนดคําศพั ทมาให ดงั นี้ a. คน หาคาํ สําคญั ท่ีอยหู นา และหลงั ชอ งวาง ไดแก verb และ nouns เพ่อื ใชเปน ตัวช้แี นะคาํ ตอบ b. คิดและตดั สนิ ใจเลือกคําตอบอยางมีเหตผุ ล (โดยใชตวั ชแี้ นะคาํ ตอบ) - ครตู รวจสอบคาํ ตอบโดยใหน ักเรียนบอกคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคําตอบ 1. cross 2. on เฉลยคําตอบ 5. straight on 6. over 3. follow 4. through 7. under 8. off  Production 1. ครูใหนักเรียนเปดหนังสือ Workbook Close-up 3 หนา 16 ครูใชเปนแบบทดสอบยอยประเมินความรูดาน Vocabulary ใน Unit 1 และ Unit 2 เพื่อใหนกั เรยี นรูระดับการพัฒนาของตนเองเปนระยะ ครูใหนักเรียน Read aloud คําสั่ง แลว พูดบอกสิ่งท่ีนกั เรียนตองปฏบิ ัติในกจิ กรรมนี้ 2. ครูทบทวนคําส่ัง กําหนดเวลาในการแบบทดสอบยอยประเมินความรูดาน Vocabulary โดยใหนักเรียนทําใน กระดาษคําตอบท่ีครจู ัดให 3. เมือ่ หมดเวลาทําตอบนักเรียนสงคืนกระดาษคําตอบ 4. ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียนพดู บอกคําตอบพรอ มกัน และครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. d 2. a 3. c 4. b 5. d 6. a 7. a 8. c 9. c 10. d 11. c 12. a 13. d 14. b 15. c 16. d 17. a 18. b 19. d 20. c 5. ครแู จง เกณฑการประเมนิ ผลเพื่อใหรูร ะดับการพฒั นาของนกั เรยี นดังน้ี คะแนน 18-20 = ดีมาก; คะแนน 15-17 = ดี; คะแนน 12-14 = พอใช; คะแนน 10-11 = ผาน; คะแนนต่าํ กวา 10 = ไมผา น คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศกึ ษาปท่ี 3

127 127 6. การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื คะแนน เกณฑ แบบทดสอบ Vocabulary แบบ Multiple 18-20 วธิ กี าร choices 4 ตัวเลือก จํานวน 20 ขอ 15-17 ผลการประเมนิ ทดสอบ 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผาน 7. สอ่ื /แหลง การเรียนรู หนงั สือเรียน Close-up 3 Review 1: Unit 1-2 เรอ่ื ง Vocabulary กิจกรรม A-D หนา 29 หนงั สือ Workbook Close-up 3 Review 1: Unit 1-2 เร่ือง Vocabulary กจิ กรรม A หนา 16 8. บนั ทกึ หลงั การจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูม ือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ช้นั มธั ยมศึกษาปท ี่ 3

128 128 หนว ยการเรียนรู Review 1 Unit 1-2 เรือ่ ง Home&Town and Country แผนการจดั การเรียนรู Review 1.2 เรื่อง Grammar รหัสวิชา................. รายวชิ าพ้ืนฐานภาษาอังกฤษ ชนั้ มธั ยมศึกษาปท ่ี 3 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปก ารศกึ ษา 25……….. ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ช่วั โมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชีว้ ดั ต 1.3 ม.3/2 พดู และเขียนสรุปใจความสาํ คัญ/แกนสาระ หัวขอ เรือ่ งทไ่ี ดจากการวเิ คราะหเรอ่ื ง/ขา ว/เหตุการณ/สถานการณ ทอี่ ยใู นความสนใจของสังคม ต 2.2 ม.3/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมอื นและความแตกตางระหวางการออกเสยี งประโยคชนิดตางๆ และการ ลาํ ดับคําตามโครงสรา งประโยคของภาษาตางประเทศและภาษาไทย ต 4.2 ม.3/1 ใชภาษาตา งประเทศในการสบื คน /คนควา รวบรวม และสรปุ ความรู/ขอ มูลตางๆ จากส่ือและแหลง การเรียนรู ตา งๆ ในการศกึ ษาตอ และประกอบอาชพี 2. จดุ ประสงคการเรียนรู อานและเขียนวิเคราะห เปรียบเทียบ อธิบาย และแสดงความคิดเห็น โดยใชโครงสรางภาษาเก่ียวกับ Present Perfect Simple, for, since, possessives, Demonstratives, Articles ไดถ ูกตอ งเหมาะสม 3. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรแู ละกิจกรรมฝกทักษะการคิดวิเคราะห สังเคราะห และคาดเดาการใหเหตุผล ความรูดานโครงสรางภาษาเกี่ยวกับ Present Perfect Simple, for, since, possessives, Demonstratives, Articles โดยผานการฝกทักษะการอานการเขียนและ กระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่อื การส่ือสาร ทําใหผูเรยี นสามารถส่ือความไดอยา งมปี ระสิทธิภาพ มีนิสัยรักการอาน มีสุนทรียภาพใน การอาน 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Grammar: Present Perfect Simple, for, since, possessives, Demonstratives, Articles 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรียนภาษาท้งั 4 ทกั ษะ โดยเฉพาะอยา งย่ิง ทกั ษะการอานและการเขยี น - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - ประยกุ ตใ ชภ าษาอังกฤษเพื่อการดํารงชีวิต การทํางาน การอาชีพ และการพฒั นาบุคลกิ ภาพ 5. กิจกรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูนาํ ความสนใจของนักเรียนโดยใหน ักเรยี นเลือกคําตอบตอไปน้ีอยา งมเี หตุผล - This is my (sister’s, sister) room. - I think this pencil box is (your, yours) - Don’t forget to take a cruise along ( -, the) Chao phraya river. 2. ครูสนับสนนุ คาํ ตอบถูกและเหตผุ ลทถ่ี ูกตองตาม Grammar และเชอ่ื มโยงเขาสูกิจกรรมการเรยี นการสอน คูมอื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท่ี 3

129 129  Presentation 1. ใหนักเรียนทบทวนความรดู า นโครงสรางภาษาเกี่ยวกับ Present Perfect Simple, for, since, possessives, Demonstratives, Articles เร่ือง Grammar กิจกรรม A-C 2. ใหน ักเรียนทบทวนเทคนคิ การทําขอสอบ Focusing on words before and after a gap ไดแก Exam strategies: Focusing on words before and after a gap: - First, look at the gap. What words come before and after? What kind of words are they (e.g. verbs, nouns, prepositions, pronouns)? - Look again at the words around the gaps. Can you think of words that often go together with them? Write your answer in the gap and then read the whole sentence to see if it fits.  Practice ครใู หน กั เรียนเปด หนังสอื Close-up 3 หนา 30 นักเรียนปฏิบัตกิ ิจกรรมดังนี้ 1. กจิ กรรม A ใหน ักเรยี น Read aloud คําสัง่ และพูดบอกสงิ่ ท่ีนักเรียนตองปฏบิ ตั ใิ นกจิ กรรมนี้ - ใหน กั เรียนทบทวน Present Perfect Simple และ Time expression of Present Perfect Simple - ใหน กั เรยี นทบทวนวิธคี ิดคําตอบสําหรับ Cloze sentences ทก่ี าํ หนดคาํ ศัพทม าใหเลือก ดังน้ี  คนหาคาํ สําคัญท่ีอยูหนาและหลงั ตัวเลือก/ชองวาง เพ่อื ใชเปนตัวช้แี นะคําตอบ  คิดและตดั สินใจเลือกคําตอบอยา งมีเหตุผล - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรียนตอบพรอมกนั และครูเฉลยคําตอบ 1. just 2. for 3. still เฉลยคาํ ตอบ 5. never 6. since 7. ever 4. already 8. yet 2. กิจกรรม B ครใู หนกั เรียน Read aloud คาํ สัง่ และพดู บอกสิ่งที่นกั เรียนตองปฏิบัตใิ นกิจกรรมนี้ - ใหน ักเรียนทบทวน Possessives: Possessive Adjectives and Possessive Pronoun - ใหน ักเรยี น Read carefully ประโยค 1-12 คนหา Possessives และคาํ สาํ คัญที่อยูหนาและหลัง Possessives เพื่อ ใชเ ปนตวั ช้ีแนะคําตอบ นักเรียนคดิ และตดั สนิ ใจเลอื กคําตอบอยา งมีเหตผุ ล - ครตู รวจสอบคําตอบใหน ักเรยี น Read aloud คําตอบและครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. hers–her 2. my–mine 3. you’re–your 4. ours–our 5. him–his 6. theirs–their 7. cats–cat’s 8. Les–Les’ 9. childrens–children’s 10. grandparents–grandparents’ 11. sofa’s –sofas 12. hospitals’–hospital’s 3. กจิ กรรม C ใหนกั เรียน Read aloud คําส่ัง แลวพูดบอกส่ิงที่นักเรียนตองปฏิบตั ิในกจิ กรรมน้ี - ใหน ักเรยี นทบทวนเร่ืองการใช Articles ใหน ักเรยี นทบทวนวิธีคดิ คําตอบสาํ หรับ Cloze sentences โดยคน หาคํา สําคัญทอี่ ยูหนา และหลังชองวา งเพื่อใชเปนตวั ชแ้ี นะคําตอบ จากน้ัน คดิ และตัดสินใจเลอื กคําตอบอยางมีเหตผุ ล คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที่ 3

130 130 - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรียนพูดบอกคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. a, the 2. -, the 3. an, - 4. the, - 5. -. the 6. a, - 7. The, a 8. -, -  Production 1. ครใู หนักเรยี นเปดหนังสอื Workbook Close-up 3 หนา 17 ครใู ชเ ปนแบบทดสอบยอยประเมินความรูดานGrammar ใน Unit 1 และ Unit 2 เพ่อื ใหน กั เรียนรูระดับการพัฒนาของตนเองเปนระยะ 2. ครใู หน ักเรียน Read aloud คาํ สงั่ แลว พดู บอกสงิ่ ทนี่ ักเรยี นตอ งปฏิบัติในกจิ กรรมน้ี 3. ครูทบทวนคําส่ัง กําหนดเวลาในการแบบทดสอบยอยประเมินความรูดาน Grammar โดยใหนักเรียนทําใน กระดาษคาํ ตอบทค่ี รูจดั ให 4. เม่ือหมดเวลาทาํ ตอบนักเรยี นสงคืนกระดาษคําตอบ 5. ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรยี นพูดบอกคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. b 2. c 3. c 4. d 5. b 6. d 7. d 8. d 9. d 10. c 11. a 12. c 13. d 14. a 15. c 16. b 17. c 18. d 19. c 20. c 6. การวดั และประเมนิ ผล เครอื่ งมือ คะแนน เกณฑ แบบทดสอบ Grammar แบบ Multiple 18-20 วิธีการ choices 4 ตัวเลือก จาํ นวน 20 ขอ 15-17 ผลการประเมนิ ทดสอบ 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผาน 7. ส่ือ/แหลง การเรยี นรู หนังสอื เรียน Close-up 3 Review 1: Unit 1-2 เรอื่ ง Grammar กิจกรรม A-C หนา 30 หนังสือ Workbook Close-up 3 Review 1: Unit 1-2 เร่อื ง Grammar กิจกรรม B หนา 17 8. บนั ทึกหลงั การจดั การเรยี นรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 3

131 131 หนวยการเรยี นรู Time Out! ชนั้ มัธยมศึกษาปที่ 3 เวลา 14 ช่วั โมง 3 รหัสวชิ า …………… รายวชิ าพน้ื ฐานภาษาองั กฤษ กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ปก ารศึกษา 25........ ภาคเรยี นท่ี 1 ผูส อน ................................. 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวช้ีวดั ต 1.1 ม.3/1 ปฏิบตั ติ ามคาํ ขอรอ ง คําแนะนํา คาํ ช้ีแจง และคําอธิบายทฟ่ี งและอาน ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบหุ วั ขอเรือ่ ง ใจความสําคัญ รายละเอยี ดสนับสนนุ และแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับเรื่องทีฟ่ ง และอาน จากสอ่ื ประเภทตา งๆ พรอ มทง้ั ใหเหตุผลและยกตัวอยางประกอบ ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขยี นโตตอบขอมลู เก่ยี วกบั ตนเอง เรือ่ งตา งๆ ใกลต ัว สถานการณ ขา ว เรือ่ งที่อยใู นความสนใจของ สังคมและสือ่ สารอยา งตอเน่ืองและเหมาะสม ต 1.2 ม.3/4 พูดและเขียนเพือ่ ขอและใหขอมลู อธิบาย เปรยี บเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรอื่ งทฟี่ งหรอื อา นอยาง เหมาะสม ต 1.2 ม.3/5 พดู และเขียนบรรยายความรูส ึกและความคดิ เหน็ ของตนเองเกี่ยวกับเรอื่ งตา งๆ กิจกรรม ประสบการณ และ ขา ว/เหตุการณ พรอมท้ังใหเ หตผุ ลประกอบอยางเหมาะสม ต 1.3 ม.3/1 พูดและเขยี นบรรยายเก่ยี วกบั ตนเอง ประสบการณ ขาว/เหตุการณ/เร่อื ง/ประเด็นตา งๆท่ีอยใู นความสนใจของ สงั คม ต 1.3 ม.3/2 พดู และเขยี นสรุปใจความสําคญั /แกนสาระ หัวขอเร่ืองที่ไดจ ากการวิเคราะหเ รอื่ ง/ขา ว/เหตุการณ/สถานการณ ทีอ่ ยูในความสนใจของสังคม ต 2.1 ม.3/1 เลอื กใชภ าษา น้าํ เสยี ง และกริ ยิ าทา ทางเหมาะกับบคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของ เจา ของภาษา ต 2.1 ม.3/2 อธิบายเก่ียวกบั ชีวิตความเปนอยู ขนบธรรมเนยี ม และประเพณีของเจา ของภาษา ต 2.2 ม.3/1 เปรียบเทียบและอธบิ ายความเหมือนและความแตกตา งระหวางการออกเสียงประโยคชนดิ ตา งๆ และการ ลาํ ดับคาํ ตามโครงสรา งประโยคของภาษาตา งประเทศและภาษาไทย ต 3.1 ม.3/1 คน ควา รวบรวม และสรปุ ขอมูล/ขอ เท็จจรงิ ท่เี กี่ยวของกับกลมุ สาระการเรยี นรอู ืน่ จากแหลงการเรียนรูและ นําเสนอดว ยการพดู และการเขียน ต 4.1 ม.3/1 ใชภ าษาสื่อสารในสถานการณจรงิ /สถานการณจําลองทีเ่ กดิ ข้ึนในหองเรียน สถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม ต 4.2 ม.3/1 ใชภ าษาตา งประเทศในการสืบคน/คน ควา รวบรวม และสรปุ ความรู/ขอมูลตางๆ จากส่อื และแหลงการเรยี นรู ตางๆ ในการศกึ ษาตอและประกอบอาชพี คมู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศึกษาปท ี่ 3

132 132 2. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรเู กย่ี วกับสํานวนภาษา โครงสรา งภาษา Conditionals: Zero & First, Gerund, Infinites, Prepositions กิจกรรมฝก ทักษะการคิดวเิ คราะห สงั เคราะห การใหเ หตุผล เร่อื ง Time Out! ส่อื สิง่ พิมพแ ละส่ืออิเลกทรอนิกสที่มีประสิทธิภาพ ทักษะการเรียน ภาษาท้ัง 4 ดาน ไดแ ก ทักษะการฟง ทักษะการพูด ทกั ษะการอาน ทักษะการเขยี น และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร ทาํ ใหก ารสื่อสารบรรลุเปา หมายอยางมีประสิทธภิ าพ ผูเรียนมคี วามสามารถ มเี จตคติทด่ี ตี อ ภาษาองั กฤษ 3. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 3.1 ดา นความรู (Knowledge) คาํ ศัพท สํานวนภาษา โครงสรางภาษาเกี่ยวกับกิจกรรมยามวางท่ีมีความเปนสากล (Free-time activities) ในบทอาน ประเภทตางๆ ไดแก บทสนทนา (Conversations) บทความแฝงโฆษณา (Adverts/Advertorials) โฆษณา (Adverts/Ads./ Advertisements) บทความเรื่อง Hiking teens lucky to be alive งานเขยี นท่เี ปน e-mails, Notes, สํานวนภาษาและโครงสราง ภาษาทใ่ี ชพ ดู สนทนาเพอ่ื แสดงความเหน็ คิด การยอมรบั การปฏิเสธอยา งสุภาพ มีมารยาท ใหการแนะนํา (Suggesting) การชักชวน (Persuading) ประโยคเขียนใหขอขอมูล (Giving detailed information) โครงสราง Conditionals: Zero & First, Verb+noun Collocation, Gerunds, Infinitives, prepositions, Exam Close-up และ Exam Tasks 3.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) ทักษะการเรียนภาษาท้ัง 4 ดาน ไดแก การฟง การพูด การอาน การเขียน ทักษะกระบวนการคิด และทักษะ กระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการสอ่ื สาร 3.3 ดานเจตคติ (Attitude/Desired Character) มีความมั่นใจในการใชภาษาอังกฤษในการสื่อสาร มีประสิทธิภาพในการส่ือความ ใชภาษาอังกฤษอยางมีมารยาท ถูกตอ งตามกาลเทศะและบคุ คล มเี หตผุ ล มีวิจารณญาณ 4. สมรรถนะสําคัญของผเู รียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกป ญหา ความสามารถในการใชทักษะชีวิต ความสามารถในการใชเ ทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงคตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 รักชาติ ศาสน กษตั รยิ  ซ่ือสัตย สจุ รติ มวี นิ ยั ใฝเรียนรู อยูอยางพอเพียง มุงมั่นในการทํางาน รกั ความเปนไทย มีจติ สาธารณะ คมู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook