แผนการจัดการเรียนรู้ Close up 3

283 283 - ครูตรวจสอบความเขาใจโดยใหน กั เรยี นอานคําทข่ี ีดเสน ใตพ รอมกัน ไดต วั ชแี้ นะคาํ ตอบ ดังน้ี ตัวชีแ้ นะคําตอบ 4. a holiday 5. the sights 6. a short trip 1. suitcase 2. at 3. around 7. sightseeing 8. a lot of photos - ครูใหนักเรยี นนําตวั ชแ้ี นะคาํ ตอบไปชวยตดั สนิ ใจเลือกคาํ ตอบจากตัวเลอื กท่ีกําหนดให 8. take - ครตู รวจสอบโดยใหน ักเรียน Read aloudคําตอบในแตละประโยค และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. pack 2. stayed 3. wander 4. taking 5. see 6. go on 7. go 3. กิจกรรม G ใหนักเรียน Read aloud คําสั่ง และครูทบทวนคําสั่งและอธิบาย What are clues? How important are the clues? How can we find out the clues? ครอู ธิบาย Looking for Clues ใน Exam Close-up - นกั เรียน Read aloud the Exam Close-up - ครูชี้แนะวิธคี ดิ คาํ ตอบโดยใหน ักเรียนอาน Description ขอ 1-5 ทีก่ ําหนดให แลว ขดี เสน ใตค าํ สําคัญเพื่อนํามาใชเปน ตวั ชแ้ี นะคาํ ตอบ - ครตู รวจสอบความเขา ใจโดยใหนกั เรยี นอา นคําที่ขีดเสนใตพรอ มกนั ไดต วั ช้แี นะคําตอบ ดงั นี้ ตัวชีแ้ นะคําตอบ 1. hot, time of the year 2. activity, sleep outside 3. pay to stay there 4. water all around it 5. fresh air and grass - ใหน ักเรียนใชตวั ชีแ้ นะคาํ ตอบดงั กลาวน้ีไปใชในการตัดสินใจเลือกคําตอบท่ีถูกตองครูตรวจสอบความถูกตองโดยให นักเรียนอา นคาํ ตอบพรอ มกนั และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. summer 2.camping 3.hotel 4. island 5. countryside 4. กจิ กรรม H ครใู หนกั เรยี น Read aloud คาํ สงั่ และครูทบทวนคําส่ังและอธิบาย - ใหนกั เรียนอานประโยคเพ่อื คน หาตัวชีแ้ นะคําตอบและขดี เสนใตค าํ วลี ประโยคยอยท่ีเปน ตวั ช้ีแนะคาํ ตอบ จากน้ันให นกั เรยี นใชต ัวช้แี นะคําตอบชวยในการคาดเดาคาํ ศัพทท่ีมีอักษรตัวแรกตามที่กําหนดให - ครูตรวจสอบความถูกตอ งโดยใหนักเรียนอานคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. postcard 2. tourist 3. passport 4. surfing 5. sunglasses  Production กจิ กรรม Ideas Focus ใหน ักเรียนประยุกตใ ชความรูท่ีเรยี นมาในช่ัวโมงนท้ี ํากิจกรรม ครอู ธิบายคําส่งั ชีแ้ นะวิธคี ดิ และ การตอบคําถาม โดยใหน กั เรียน Discuss and share ดงั น้ี คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศึกษาปที่ 3

284 284 - ครใู หนกั เรยี น Read aloud คาํ สั่ง และพดู บอกส่ิงท่ีนกั เรียนตอ งปฏบิ ัตใิ นกิจกรรมนี้ - นักเรยี นตอบคําถามโดยใชค ําศพั ทและโครงสรางประโยค Explaining Why or Why not /because - ครูทบทวนการใชก ริยาเปน Present simple และ Future simple ครูใหเวลานักเรียนทํากิจกรรม ครูสังเกต แนะนํา ชว ยเหลอื และแกปญหา ถา เวลาไมพอใหนักเรียนทําตอเปน การบานและนาํ มาสงในวนั ตอไป - ครูยอมรับทกุ คาํ ตอบที่มเี หตุผล - ครูตอบขอ ซักถามของนกั เรียน สรปุ สงิ่ ทีเ่ รยี นในช่ัวโมงน้ี เฉลยคําตอบ Students’ own answers 6. การวดั และประเมนิ ผล เครือ่ งมอื คะแนน เกณฑ แบบประเมนิ การสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน 18-20 วิธีการ 15-17 ผลการประเมนิ 1. สงั เกต 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมนิ ทักษะ แบบประเมนิ ทกั ษะการฟง-การพดู คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดมี าก การใชภ าษา แบบประเมนิ ทักษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. ส่อื /แหลง การเรียนรู หนังสอื เรียน Close-up 3 Unit 5 Take a Break เร่อื ง Vocabulary กิจกรรม E-H และ Ideas Focus หนา 61 8. บันทึกหลงั การจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท่ี 3

285 285 หนวยการเรียนรทู ี่ 5 เรือ่ ง Take a Break แผนการจัดการเรยี นรูท ่ี 5 เร่ือง Vocabulary 3: Planning Holidays รหสั วิชา................. รายวิชาพืน้ ฐานภาษาองั กฤษ ช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 3 กลุม สาระการเรียนรูภ าษาตางประเทศ ปก ารศกึ ษา 25……….. ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 1 ชั่วโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวช้ีวดั ต 1.1 ม.3/4 เลอื ก/ระบหุ วั ขอ เรือ่ ง ใจความสําคญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับเร่อื งที่ฟง และ อา นจากสือ่ ประเภทตางๆ พรอมทงั้ ใหเหตุผลและยกตัวอยางประกอบ ต 1.3 ม.3/2 พดู และเขยี นสรุปใจความสาํ คญั /แกนสาระ หวั ขอเร่ืองที่ไดจ ากการวเิ คราะหเร่ือง/ขาว/เหตกุ ารณ/สถาน- การณท อี่ ยูในความสนใจของสงั คม ต 2.1 ม.3/2 อธบิ ายเกย่ี วกับชีวิตความเปนอยู ขนบธรรมเนยี ม และประเพณีของเจา ของภาษา 2. จดุ ประสงคการเรียนรู อานบทความเก่ยี วกบั Planning Holidays แลว พดู และเขียนสรุปใจความสําคัญ วิเคราะห เปรียบเทียบ อธิบาย และแสดง ความคดิ เหน็ โดยใชค ําศพั ทแ ละโครงสรา งภาษาที่กําหนดใหไ ดถ กู ตองเหมาะสม 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูและกิจกรรมฝกทักษะการคิด บทความ (articles) ที่มีคําศัพทเกี่ยวกับสํานวนภาษาเกี่ยวกับ Planning Holidays และโครงสรางภาษา Explaining why /because และ Reading skills: Scanning reading and Skimming reading และ Exam Strategies: Focusing on words before and after a gap โดยผานการฝกทักษะการอาน การเขียน และกระบวนการสอน ภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสารทําใหผูเรียนสามารถสอ่ื ความไดอ ยางมปี ระสิทธิภาพ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Vocabulary: agents, guide, parks, resorts, tourist, weekend, amusement park, passport, sunglasses, surfing - Grammar: Explaining why/because - Reading strategy: Scanning reading and Skimming reading 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรียนภาษาทั้ง 4 ทักษะ การฟง การพูด การอา น และการเขยี น - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มปี ระสิทธภิ าพในการสื่อความ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูนําความสนใจของนักเรยี นเขา สูบ ทเรยี นในชัว่ โมงเรียนนี้โดยใชภาพในหนงั สอื Workbook Close-up 3 และ คาํ ถามดงั นี้ Q: Do you think where teenagers would go on holiday ? Explain why. 2. นักเรยี นใหคาํ ตอบและใหเ หตผุ ลอยา งหลากหลาย ครูเชอ่ื มโยงเขา สูกจิ กรรม คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3

286 286  Presentation 1. ครูสอนคําศัพทใ นบทอาน โดยใหนกั เรียนมสี ว นรว มดังนี้ - ใหน ักเรยี นทั้งช้นั ชว ยกันคน คําศพั ททไ่ี มร ูความหมาย ขดี เสน ใตกํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of Speech ของ คําศัพทจากตําแหนงภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝกใหระบุ Parts of speech ทุกคร้ังที่สอนความหมายของ คาํ ศพั ท) - นักเรยี นบอกหมวดหมูของคาํ ศัพทเ หลาน้ี โดยครูเขยี นลงใน Word Box บนกระดาน - ใหน ักเรียน Read aloud คําศพั ทบนกระดาน - ใหนกั เรียนแบง กัน/ชวยกันคนหาความหมายของคําศพั ทเหลานี้ แลวพดู บอกความหมาย - ครเู ขียนความหมายของคาํ ศพั ทท ีน่ กั เรียนบอกและเพ่ิมเติมความหมายของคําศัพทบ างคําใหสมบูรณ ครูเลือกคํา/วลี/ ประโยคที่มีความหมายนา สนใจ มาอธิบาย - ใหนักเรยี นอา นออกเสียงดงั พรอมกัน ถา คําใดนักเรียนอา นไมไ ด ใหครชู วยอา นนําและนักเรยี นอานตาม - ใหนกั เรียนคดั ลอก Word Box และคําศัพทท่ีเกี่ยวของลงในสมุดคําศัพทของตนเอง (ครูกําหนดใหนักเรียนทุกคนมี สมุดคาํ ศพั ทแ ละสมุดแบบฝกหัด) 2. ครทู บทวนเทคนคิ การทาํ ขอสอบ Focusing on words before and after a gap โดยใหนกั เรยี นมสี วนรวม  Practice ครใู หนกั เรียนเปดหนังสอื Workbook Close-up 3 หนา 33-34 นักเรียนปฏิบตั กิ ิจกรรมตอไปน้ี 1. กจิ กรรม A ใหน กั เรยี นทบทวนคําศัพทเกย่ี วกับทวีปตา งๆ (continents) - ใหนักเรยี น Read aloud ชอื่ ประเทศในขอ 1-6 แลวบอกช่ือทวปี - ครูตรวจสอบความถูกตองโดยใหน ักเรยี นอานคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. Asia 2. Europe 3. South America 4. Africa 5. North America 6. Oceania 2. กจิ กรรม B ใหนักเรียนอานประโยคเพอ่ื คน หาตัวชแ้ี นะคาํ ตอบแลวขดี เสน ใตกํากบั และนําตวั ชีแ้ นะคําตอบดงั กลาวนี้ ไปใชใ นการคิดคาดเดาคาํ ในชอ งวางโดยใชอ ักษรตัวแรกทก่ี ําหนดให - เมื่อไดคําตอบแลว ครใู หน ักเรียนนําคําตอบไป Compare and Share กับเพอื่ นในหอง - ครูตรวจสอบความถูกตอ งโดยใหนักเรียนอานคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. campsite 2. youth hostel 3. bed, breakfast 4. villa 3. กจิ กรรม C ครใู หน ักเรยี น Read aloud คําศัพททเี่ ปน ตัวเลือก และบอกความหมาย - ครใู หน ักเรียนทํากจิ กรรมเปนคู ครูอธิบายกิจกรรม Cloze passage ครูทบทวนเทคนิคการทําขอสอบ Cloze test และเทคนคิ การทาํ ขอสอบ Focus on words before and after a gap - ใหนักเรียนคนหาตัวชแ้ี นะคาํ ตอบที่อยูห นา และหลงั ชอ งวา ง โดยขีดเสนใตก ํากบั ไว - ครตู รวจสอบตวั ช้ีแนะคาํ ตอบโดยใหน ักเรยี นอานตวั ชแี้ นะคาํ ตอบของทุกประโยคไดค ําตอบดังน้ี ตวั ชีแ้ นะคาํ ตอบ 2. go to see travel, their advice 1. they’re too full of people 4. stay at caravan, cook and eat there 3. stops at, information centres 6. to show us the sights 5. take us to Edinburgh for a long คูมือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที่ 3

287 287 - ใหน ักเรียนนําตวั ชี้แนะคาํ ตอบดังกลาวนี้ไปใชในการตดั สินใจเลือกคําตอบที่ถูกตอง - ครใู หเวลานักเรยี นคน หา คดิ วิเคราะห ไตรต รอง และใหค าํ ตอบ - ครตู รวจสอบความถูกตองโดยใหน ักเรียนอานคาํ ตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคําตอบ - ครตู รวจสอบความถูกตอ งโดยใหน ักเรยี นอานคาํ ตอบพรอ มกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. resorts 2. agents 3. tourist 4. parks 5. weekend 6. guided 4. กจิ กรรม D ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมเปนคู ครอู ธิบายกิจกรรม Cloze sentence ครูทบทวนเทคนคิ การทาํ ขอสอบ Cloze test ใหน กั เรยี นคนหาตัวชแ้ี นะคาํ ตอบทอ่ี ยูห นาและหลังชองวา ง โดยขีดเสน ใตก ํากบั ไว - ครตู รวจสอบตัวชแี้ นะคาํ ตอบโดยใหน ักเรียนอานตัวชีแ้ นะคําตอบของทุกประโยคไดค าํ ตอบดังนี้ ตัวชีแ้ นะคาํ ตอบ 3. bag, we’re leaving for the airport 4. photos 5. along the beach 1. holiday 2. all the sights 6. at this hotel - ใหนกั เรียนนําตัวชแี้ นะคําตอบดงั กลาวนี้ไปใชในการตดั สินใจเลือกคําตอบทถ่ี ูกตอง - ครูใหเวลานกั เรียนคน หา คิดวิเคราะห ไตรตรอง และใหคาํ ตอบ - ครตู รวจสอบความถูกตอ งโดยใหนักเรยี นอา นคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. take 2. see 3. pack 4. taking 5. wandered 6. stay 5. กิจกรรม E ครใู หนักเรียน Read aloud คําสงั่ จบั คภู าพกบั คําศพั ท จากน้นั ใหนกั เรียนตอบคําถามและครูเฉลยคําตอบ - จากนั้นใหนักเรียนทํากิจกรรมเพ่ิมเติมทค่ี รูกําหนดข้ึนเก่ียวกบั ภาพ ดงั นี้ Q: Do you think where the man in Photo No.1 should be ? What is he doing? - ครใู หเวลานกั เรยี นคดิ วิเคราะห สรางจนิ ตนาการตามภาพ แลวใหคําตอบ ครูตรวจสอบความถูกตองโดยใหนักเรียน อา นคําตอบพรอมกนั เฉลยคําตอบ 1. surfing 2. amusement park 3. sunglasses 4. passport 6. กิจกรรม F ครูใหน ักเรยี น Read aloud the Exam Reminder และคําสั่ง Exam Task และพูดบอกสง่ิ ทต่ี องปฏบิ ัติ ในกิจกรรมน้ี - ครูทบทวนคําส่ังและอธิบาย แนะวิธกี ารคิดคาํ ตอบโดยใหน ักเรียนอานประโยค 1-5 ทก่ี ําหนดให คน หาคําสําคญั (คาํ วลี ประโยคยอ ย) ทชี่ ีแ้ นะความหมายของคาํ ศพั ทท ่ตี องคาดเดา แลว ขีดเสน ใตเ สน ใตค าํ สําคัญดังกลาวไว - ครตู รวจสอบความแมนยําในการคน หาตัวชี้แนะคําตอบโดยใหนักเรียนอานคํา วลี ประโยคยอ ยทน่ี กั เรียนขดี เสน ใตไ ว พรอมกัน ไดคําตอบดังน้ี คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ี่ 3

288 288 ตวั ช้แี นะคาํ ตอบ 1. you travel to a country for a holiday 2. People often stay in, while on holiday 3. write to your friends and show them where you are 4. pay someone to show you round a place and tell you about it 5. visit a large town for short period of time, you’re having this - ใหน กั เรยี นนําตวั ชแ้ี นะคําตอบดังกลาวนไี้ ปใชใ นการตัดสนิ ใจคาดเดาคาํ ศัพทท ี่ถูกตอง - ครใู หเ วลานกั เรียนคน หา คดิ วเิ คราะห ไตรต รอง และใหคาํ ตอบ - ครูตรวจสอบความถูกตองโดยใหน ักเรียนอานคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. tourist 2. hotel 3. postcard 4. guided tour 5. city break  Production กิจกรรม Expand your Ideas: Tell a story with photos. ซึง่ ครูประยุกตจ ากกิจกรรม E ใหน กั เรียนทํากจิ กรรมกลุม แบงกลมุ กลุมละ 4-6 คน ตอบคาํ ถามและทาํ กิจกรรมเลาเรือ่ งเก่ยี วกับภาพ Work in groups of 4-6. Tell the story from all the photos in activity E. Imagine you are the young man in the photo No.1 and is going on holiday somewhere.Write the first draft .Then proof the correctness of spelling and sentence structures. Reread what you write to check and revise it. Practice telling your story with a group member.Take turns.Then share and compare with students in your class. - ใหนักเรยี น Read aloud คาํ สัง่ และพดู บอกส่ิงท่ีนักเรยี นตองปฏบิ ตั ิ - ครูทบทวนคาํ สั่ง ใหน ักเรียนทํากิจกรรมเปนกลุม กลุมละ 4-6 คน ชวยกันสรางเร่ืองราวที่นาสนใจจากภาพทั้ง 4 ภาพ โดยสมมติตนเองวาเปนบุคคลในภาพอยูระหวางการไปเที่ยวพักผอนทํากิจกรรมชวงวันหยุดโดยในเร่ืองของนักเรียนตองกลาวถึง เรอ่ื งราวท่ีเกี่ยวขอ งกับภาพท่เี หลอื อีก 3 ภาพ จนิ ตนาการผูกเปน เร่อื งท่นี าสนใจแลวเขียนและพูดบรรยายโดยใชคําศัพท สํานวนภาษา และโครงสรางท่ีเรยี นมา ความยาวประมาณ 8-10 ประโยค โดยครูกําหนดเวลาในการทํากิจกรรมนี้ - นักเรียนชวยกันสรางสรรคเร่ืองราวจากรูปภาพที่กําหนดให ปรึกษา ชวยกันคิดไตรตรอง โดยเขียนบรรยาย 8-10 ประโยค โดยใชคําศัพท สํานวนภาษาและโครงสรางที่เรียนมาแลวนักเรียนชวยกันตรวจสอบความสมบูรณและความถูกตองของ ขอเขยี นในเรือ่ ง spelling, sentence structure และอา นทบทวนแกไขเพ่ิมเติมขอมลู ใหนาสนใจและฝกพูดดวยกันใหคลองกอนนําไป share and compareกับเพอื่ นในหอ ง - ครสู ังเกต ชวยเหลือ แนะนํา และแกปญหา - ครตู รวจสอบความถูกตองโดยเลอื กนกั เรียน 3-4 คขู นึ้ มาอานคาํ ตอบพรอมกันครูอาจใหเพ่ือนในหองชวยกันเติมเต็มคํา บรรยายใหมีความสมบรู ณ หรือนาสนใจยง่ิ ข้นึ และครูยอมรับทกุ คําตอบ - ครแู นะนําใหนักเรยี นเผยแพรผลงาน Tell a story with photos โดยนําขอเขียนท่ี Revised แลวไปพิมพลงกระดาษ A4 และแนบรูปภาพท่ีบรรยาย (ถา ยเอกสาร) โดยจัดวางไวในหนากระดาษเดียวกันกับคําบรรยาย แลวนําไปติดไวที่ Billboard หนา หอ งเรยี น หรอื ทอ่ี ื่นๆ ตามความเหมาะสม เฉลยคาํ ตอบ Students’ own answers คูมือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3

289 289 6. การวดั และประเมินผล เคร่อื งมอื คะแนน เกณฑ แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมนักเรยี น 18-20 วธิ ีการ 15-17 ผลการประเมิน 1. สังเกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมนิ ทักษะ แบบประเมนิ ทักษะการฟง -การพดู คะแนน ผลการประเมนิ การใชภ าษา แบบประเมินทกั ษะการอาน-การเขยี น 18-20 ดมี าก 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 7. สอ่ื /แหลงการเรยี นรู หนงั สอื Workbook Close-up 3 Unit 5 Take a Break เรอ่ื ง Vocabulary กิจกรรม A-F หนา 33-34 8. บันทึกหลังการจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท่ี 3

290 290 หนวยการเรียนรูท่ี 5 เรื่อง Take a Break แผนการจัดการเรียนรทู ี่ 6 เรอ่ื ง Grammar 1: Relative Pronouns รหัสวิชา................. รายวิชาพนื้ ฐานภาษาอังกฤษ ชั้นมธั ยมศึกษาปที่ 3 กลุมสาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรียนที่ 2 เวลา 1 ชัว่ โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวช้ีวัด ต 1.1 ม.3/1 ปฏิบตั ิตามคําขอรอ ง คาํ แนะนํา คาํ ชแี้ จง และคาํ อธิบายท่ฟี ง และอาน ต 2.1 ม.3/1 เลอื กใชภ าษา นํ้าเสียง และกิรยิ าทา ทางเหมาะกับบุคคลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของ เจา ของภาษา ต 4.1 ม.3/1 ใชภ าษาสื่อสารในสถานการณจริง/สถานการณจ ําลองทเี่ กดิ ขึน้ ในหองเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสงั คม 2. จดุ ประสงคการเรียนรู อาน เขียน ส่ือสารอยา งมปี ระสิทธิภาพ โดยใชคําศพั ทและโครงสรา งทเี่ กยี่ วกบั Relative Pronouns 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรเู กยี่ วกบั การใชภาษาสือ่ สารอยางมีประสทิ ธภิ าพ โดยการใชค ําศพั ทและโครงสรา งท่ีเก่ียวกบั Relative Pronouns ทกั ษะเรยี นภาษาทั้ง 4 ดาน ไดแ ก การฟง การพูด การอาน และการเขียน และกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพอื่ การส่ือสาร ทาํ ให การสื่อสารบรรลุผลตามวัตถุประสงค ผูเรียนมเี จตคตทิ ีด่ ตี อภาษาอังกฤษ ใชภ าษาอังกฤษอยา งมีประสทิ ธภิ าพ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Grammar: Relative Pronouns 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรยี นภาษาทง้ั 4 ทักษะ การฟง การพูด การอา น และการเขียน - ทักษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มีประสิทธิภาพในการสื่อความ - มีเหตุผล มวี ิจารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูนาํ ความสนใจของนักเรยี นเขา สูบทเรียนในช่ัวโมงเรยี นนี้ โดยครเู ขียนประโยคตอไปนบ้ี นกระดาน ดงั น้ี Q: Do the words ‘who’ and ‘that’ in these sentences have the same or different meaning? Why?/Why not? 1. who: a. Who is that man ? b. The man who gave us help is our dinner guest today. 2. that: a. Could you ride to that house? b. This is the house that Jack built. 2. ใหน ักเรยี นทงั้ ชัน้ Read aloud 3. ครใู หนกั เรยี นคิดคําตอบและบอกคําตอบพรอมกบั ใหเ หตผุ ล โดยครูเขยี นทุกคําตอบของนักเรียนบนกระดาน คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศึกษาปที่ 3

291 291 4. นกั เรียนใหค ําตอบอยางหลากหลาย ซ่งึ คาํ ตอบท่ีถูกตองคือ different meaning โดยครอู ธิบายและเชือ่ มโยงเขา สู บทเรียนเรื่อง Relative pronouns  Presentation 1. ครสู อนคําศพั ทในบทอาน โดยใหนกั เรียนมีสว นรว มดังน้ี - ใหนักเรียนทงั้ ชัน้ ชว ยกันคนคาํ ศพั ทท ี่ไมรคู วามหมาย ขีดเสน ใตกํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of Speech ของ คําศัพทจากตําแหนงภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝกใหระบุ Parts of speech ทุกครั้งที่สอนความหมายของ คําศพั ท) - นักเรียนบอกหมวดหมขู องคําศพั ทเ หลาน้ี โดยครูเขียนลงใน Word Box บนกระดาน - ใหน ักเรียน Read aloud คําศัพทบ นกระดาน - ใหน ักเรียนแบงกนั /ชวยกันคน หาความหมายของคําศพั ทเ หลานี้ แลว พูดบอกความหมาย - ครเู ขยี นความหมายของคาํ ศัพทท ่ีนักเรยี นบอกและเพมิ่ เตมิ ความหมายของคาํ ศพั ทบ างคําใหสมบูรณ ครูเลือกคํา/วลี/ ประโยคทม่ี คี วามหมายนาสนใจ มาอธิบาย - ใหน กั เรียนอา นออกเสยี งดังพรอมกัน ถาคําใดนักเรียนอา นไมได ใหครชู วยอานนําและนักเรียนอานตาม - ใหน ักเรียนคดั ลอก Word Box และคําศัพทที่เก่ียวของลงในสมุดคําศัพทของตนเอง (ครูกําหนดใหนักเรียนทุกคนมี สมดุ คาํ ศัพทและสมดุ แบบฝกหดั ) 2. ครูสอน Grammar เรอ่ื ง Relative pronouns ใน Grammar Focus หนา 112 โดยอธิบาย Forms and Usages of Relative pronouns ดงั น้ี - ครใู หน ักเรียน Read aloud Relative Pronouns ยอหนาท1ี่ แลว ครูอธบิ ายใหน ักเรยี นเขาใจและยกตัวอยางเพิ่มเติม จากในหนงั สือ จากน้ันใหน กั เรียน Read aloud Relative Pronouns ในยอ หนา ท่ี 2 - ครูอธิบายใหนักเรียนเขาใจและยกตัวอยางเพิ่มเติมจากในหนังสือ ครูใหนักเรียนชวยสรุป Forms and Functions (Usages) of Relative pronouns ยกตวั อยางของประโยคท่ีใช Relative pronouns โดยใหนักเรียนมีสวนรวม ครูชี้แจงวาประโยค ยอ ยทนี่ ําหนา ดวย Relative Pronouns เรียกวา Relative Clauses or Adjective Clauses ซึ่งมีประเด็นเกี่ยวของอีกหลายเร่ืองที่จะ กลาวถึงในบทเรียนอ่นื Relative Functions/ Nouns Examples pronouns Usages preceding people He’s the man who/that gave us direction. who subject people She’s the guide whom/who/that we met on the train. whom object things/animals Is this the suitcase which/that you’ve lost. which subject & object people/ These are the most wonderful photos that we took that subject & object things/animals on holiday.  Practice ครูใหนกั เรียนเปดหนังสอื Close-up 3 หนา 62 นกั เรียนปฏิบตั ิกิจกรรมตอไปนี้ 1. กจิ กรรม A ครูใหน กั เรียน Read aloud คาํ สงั่ และพดู บอกสง่ิ ที่นกั เรียนตองปฏิบัติในกิจกรรมน้ี - ครูทบทวนคําสง่ั อธิบายจุดประสงคของกิจกรรมนี้คอื ใหน กั เรียนทบทวนเรอื่ ง Personal Pronouns และ Relative Pronouns ใหน ักเรียนขีดเสน ใต Pronoun ของประโยค a-f แลวพูดบอก Pronoun ของแตละประโยค - ครูสรุปคาํ ตอบเกี่ยวกบั Forms of pronouns และใหน ักเรยี นชว ยกันบอกชนดิ ของ Pronouns ดงั นี้ คูมอื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศึกษาปที่ 3

292 292 a. Personal Pronoun ไดแก He, It (ขอ a, d) b. Relative Pronouns ไดแก who, that, which, that (ขอ b, c, e, f) เฉลยคาํ ตอบ b. who c. that d. It e. which f. that 2. กิจกรรม B ใหนักเรยี น Read aloud และพูดบอกส่ิงทน่ี กั เรียนตองปฏบิ ตั ใิ นกิจกรรมน้ี - ครทู บทวนคาํ สงั่ อธบิ ายจุดประสงคข องกจิ กรรมน้ีคือใหนักเรียนทบทวนเรื่องชนิดของ Pronouns และเกณฑการใช Relative Pronouns โดยครใู หนักเรียนยอ นกลับไปดปู ระโยค a-f ในกิจกรรม A เพื่อตอบคําถามขอ 1-4 - ครูใหเวลานักเรียนคิดคาํ ตอบ เมอื่ ไดคําตอบแลว ใหนักเรียนนาํ คําตอบไป Compare and Share กับเพือ่ น - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียนอานคําตอบแตละขอ และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. He, It 2. who, that, which 3. who, that 4. which, that 3. กจิ กรรม C ครใู หนกั เรยี น Read aloud คาํ สัง่ และพดู บอกสง่ิ ท่ีนักเรยี นตองปฏิบัตใิ นกิจกรรมน้ี - ใหนักเรียนทบทวนการใช Relative Pronouns ในกจิ กรรม B - ใหน กั เรียน Read silently the rule of Relative Pronouns และคิดหาคํามาเตมิ คาํ ในชองวาง - ใหนกั เรียนนาํ คําตอบท่ีไดไป Discuss and share กับเพอื่ นในหอง - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรยี นอานคําตอบและยอ หนาที่เปน Rule และครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ personal, who, which - ครใู หน ักเรยี น Read aloud the completed rule of Relative Pronouns 4. กิจกรรม D ครูใหนักเรียน Read aloud คาํ สงั่ และพดู บอกสิง่ ที่นักเรียนตองปฏิบัติในกจิ กรรมนี้ - ใหน กั เรียนขีดเสน ใต Pronouns ในแตละประโยคของขอ 1-2 - ครูอธบิ ายจุดประสงคของกจิ กรรมนีค้ ือใหน ักเรียนทบทวนการใช Relative Pronouns และสรุปเปน rule เพ่มิ เตมิ ตอ จากกิจกรรม C - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรยี นอา นคาํ ตอบ และครูเฉลยคําตอบ 1. a. him, b. who, c. that, d. - เฉลยคําตอบ 2. a. it, b. which, c. that, d. - 5. กิจกรรม E ครใู หนกั เรยี น Read aloud คาํ สั่ง และพูดบอกสิ่งที่นกั เรียนตองปฏิบตั ิในกจิ กรรมนี้ - ครูใหนกั เรยี น Read aloud the question 1-3 ครูอธิบายคําถามและกระตุนใหน ักเรียนตอบคําถามพรอมกันทง้ั หอ ง ครูชวยช้แี นะและเพิ่มเตมิ คําตอบ ไดคาํ ตอบดงั น้ี เฉลยคําตอบ 1. object 2. 1b and 1c 3. 1d and 2d คูมือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ่ี 3

293 293 6. กิจกรรม F ครูใหนกั เรียน Read aloud คําส่ังและพูดบอกส่ิงที่นกั เรียนตองปฏบิ ัติในกจิ กรรมนี้ - ใหน กั เรยี นอาน Rule of Relative pronouns ซ่ึงอยูในรูปของ Cloze passage เพ่ือคนหาตัวชี้แนะคําตอบของคํา ในชอ งวาง และขดี เสน ใตต วั ชีแ้ นะคาํ ตอบ - ครตู รวจสอบคาํ ตอบความแมนยําในการระบตุ วั ชีแ้ นะคาํ ตอบโดยใหนกั เรียนอา นคํา วลี ประโยคยอ ยท่ีนักเรียนขีดเสน ใตไ ว พรอ มกัน - ใหนักเรียนนาํ ตวั ช้ีแนะคําตอบดังกลาวนไี้ ปใชในการตัดสินใจคาดเดาคําศัพทมาเตมิ ในชองวา ง - ครูใหเ วลานักเรยี นคนหา คดิ วเิ คราะห ไตรตรอง และใหค ําตอบ - ครตู รวจสอบความถูกตองโดยใหน ักเรยี นอานคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ object, which, object - ครูใหนกั เรียน Read aloud the completed rule of Relative Pronouns 7. กิจกรรม G ครูใหนักเรียน Read aloud คําส่งั และพดู บอกส่ิงท่ีนักเรยี นตองปฏิบัตใิ นกิจกรรมน้ี - ใหน ักเรยี นอานประโยค 1-6 และขีดเสน ใต Relative Pronouns - ครตู รวจสอบความแมน ยําในการคนหาโดยใหนกั เรยี นอา น Relative Pronouns ทีข่ ีดเสนใต ไดค าํ ตอบดงั น้ี 1. that 2. which 3. who 4. who 5. that 6. that - ครูใหนักเรียนทบทวน Rules of Relative Pronouns โดยใหนักเรียนยอนกลับไปอาน Rules ในกิจกรรม C และ กจิ กรรม F - ครูตรวจสอบความเขาใจของนักเรียนโดยครูถามนักเรียนวา When can we omit or leave out the relative pronoun? - นักเรียนใหคําตอบโดยใชประโยคสุดทายของกิจกรรม F: We can also leave out relative pronouns when they are the object of the verb. - ใหนักเรียนยอนกลบั ไปวเิ คราะห Pronoun ตามคําส่ัง โดยใหน ักเรยี นตอบคําถาม 2 ขอดังน้ี Q 1: Which pronouns are incorrect? Q 2: Which relative pronouncan be left out? - ครูใหเวลานักเรยี นคนหา คิดวิเคราะห ไตรตรอง และใหคาํ ตอบ - ครตู รวจสอบความถูกตองโดยใหนักเรยี นอานคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. that 2. it 3. who 4. he 5. it 6. they  Production 1. กิจกรรม H และกิจกรรม I ครใู หนักเรียน Read aloud คําสั่ง และพดู บอกสิง่ ท่ีนักเรียนตองปฏิบัตใิ นกิจกรรมน้ี แลว ใหน กั เรยี นจบั คทู ํากิจกรรมอยางเปน อิสระ โดยครูกาํ หนดเวลาในการคิดคาํ ตอบ จากนัน้ ใหนักเรยี นนําคาํ ตอบทีไ่ ดไ ป Discuss and share กบั เพือ่ นในหอ ง 2. ครูตรวจสอบคาํ ตอบโดยใหน ักเรยี น Read aloud คาํ ตอบของกิจกรรม H และกจิ กรรม I และครเู ฉลยคําตอบ คมู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3

294 294 กจิ กรรม H เฉลยคําตอบ 6. who/that 1. which/that 2. – 3. who/that 4. – 5. – กจิ กรรม I Students’ own answers 6. การวดั และประเมินผล เครือ่ งมอื เกณฑ แบบประเมนิ การสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น วิธกี าร คะแนน ผลการประเมนิ 1. สงั เกต 18-20 ดีมาก 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 2. ประเมนิ ทกั ษะ แบบประเมินทกั ษะการฟง -การพูด คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดีมาก การใชภ าษา แบบประเมนิ ทักษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 7. ส่อื /แหลงการเรียนรู หนงั สอื เรยี น Close-up 3 Unit 5 Take a Break เรอื่ ง Grammar กิจกรรม A-I หนา 62 Grammar Reference for Unit 5 หนังสอื เรยี น Close-up 3 หนา 112 8. บันทึกหลงั การจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศึกษาปท ี่ 3

295 295 หนว ยการเรยี นรทู ่ี 5 เรอ่ื ง Take a Break แผนการจัดการเรยี นรูท ี่ 7 เรอื่ ง Grammar 2: Adverbs รหัสวิชา................. รายวชิ าพน้ื ฐานภาษาองั กฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 3 กลุมสาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 1 ชวั่ โมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชี้วดั ต 1.1 ม.3/1 ปฏิบัติตามคําขอรอง คาํ แนะนํา คาํ ช้แี จง และคาํ อธบิ ายที่ฟง และอาน ต 2.1 ม.3/1 เลอื กใชภ าษา นาํ้ เสยี ง และกริ ิยาทาทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของ เจาของภาษา ต 4.1 ม.3/1 ใชภ าษาสอื่ สารในสถานการณจ ริง/สถานการณจ าํ ลองทีเ่ กิดขน้ึ ในหอ งเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม 2. จดุ ประสงคการเรยี นรู อา น เขียน และสื่อสารอยางมปี ระสิทธิภาพ โดยใช Adverbs 3. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรูเก่ียวกับการใชภาษาสื่อสารอยาง มีประสิทธิภาพ โดยการใช Adverbs ทักษะเรียนภาษาทั้ง 4 ดาน ไดแก การฟง การพดู การอาน และการเขียน และกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพอ่ื การส่ือสาร ทาํ ใหก ารส่อื สารบรรลุผลตามวัตถุประสงค ผูเรียน มเี จตคตทิ ่ีดีตอ ภาษาอังกฤษ ใชภ าษาองั กฤษอยา งมีมารยาท ถูกตองตามกาลเทศะและบคุ คล 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Grammar: Adverbs 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรียนภาษาทงั้ 4 ทักษะ การฟง การพูด การอา น และการเขยี น - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มปี ระสิทธภิ าพในการส่ือความ - มีเหตผุ ล มีวจิ ารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครนู ําความสนใจของนักเรียนโดยใหน ักเรียนรจู ัก Adverbs โดยใชกจิ กรรม J โดยใหนักเรยี นท้ังชน้ั Read aloud คาํ ส่ัง และขีดเสน ใต Adverbs 2. ครใู หน กั เรยี นบอกคําตอบพรอ มกับใหเ หตผุ ล โดยครูเขยี นคาํ ตอบของนักเรยี นบนกระดาน 3. ครเู ชือ่ มโยงเขา สูบทเรยี นเร่ือง Adverbs  Presentation 1. ครสู อนคาํ ศพั ทในบทอาน โดยใหนักเรียนมีสวนรวมดงั น้ี - ใหน ักเรียนทงั้ ชน้ั ชวยกนั คน คําศัพทท ี่ไมรคู วามหมาย ขีดเสน ใตกํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of Speech ของ คําศัพทจากตําแหนงภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝกใหระบุ Parts of speech ทุกคร้ังท่ีสอนความหมายของ คาํ ศัพท) คูม อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศึกษาปท ่ี 3

296 296 - นักเรียนบอกหมวดหมขู องคาํ ศพั ทเหลาน้ี โดยครูเขยี นลงใน Word Box บนกระดาน - ใหนกั เรยี น Read aloud คําศัพทบ นกระดาน - ใหนักเรยี นแบง กนั /ชวยกันคนหาความหมายของคําศัพทเ หลานี้ แลวพดู บอกความหมาย - ครูเขยี นความหมายของคําศัพททน่ี ักเรยี นบอกและเพิม่ เติมความหมายของคาํ ศัพทบ างคําใหสมบูรณ ครูเลือกคํา/วลี/ ประโยคทีม่ ีความหมายนา สนใจ มาอธบิ าย - ใหนกั เรียนอานออกเสยี งดงั พรอมกัน ถาคําใดนักเรยี นอานไมไ ด ใหค รชู วยอา นนําและนักเรียนอานตาม - ใหน ักเรยี นคดั ลอก Word Box และคําศัพทท่ีเกี่ยวของลงในสมุดคําศัพทของตนเอง (ครูกําหนดใหนักเรียนทุกคนมี สมุดคําศัพทแ ละสมดุ แบบฝก หดั ) 2. ครูสอน Grammar เรอ่ื ง Adverbs โดยใชกจิ กรรม Grammar Focus หนา 112 ดังนี้ 2.1 Forms of Adverbs ไดแ ก 1) Regular adverbs ไดแ ก adjective + ly ตัวอยา งเชน quickly = quickly, happy + ly = happily, terrible + ly =terribly เปนตน 2) Irregular adverbs ไดแก adjectives and adverbs are the same form ตัวอยางเชน hard, late, straight, fast, well 3) Not all –ly ending are the adverbs. They are adjective not the adverbs. ตัวอยางเชน friendly, lovely, silly, ugly 2.2 Usages of adverbs: Adverbs describe verbs. We place adverb after the verb which it describes or modifies. ตวั อยางเชน They run quickly.  Practice ครูใหนกั เรียนเปดหนังสือ Close-up 3 หนา 63 นกั เรียนปฏบิ ัติกิจกรรมตอไปนี้ 1. กจิ กรรม J ใหน กั เรยี น Read aloud คาํ สง่ั และพดู บอกสง่ิ ท่ีนักเรยี นตอ งปฏบิ ตั ิในกิจกรรมน้ี - ครใู หน กั เรียนชว ยกันทบทวนรปู และตําแหนงของ adverbs and adjectives - ใหน ักเรียนอานและวิเคราะหต วั เลือกเพ่ือคน หา adverb and adjectives ในประโยค 1-5 โดยขีดเสน ใต adverb and adjective - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรยี นบอกคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ Adjectives: careful, easy, slow, fast, good Adverbs: carefully, easily, slowly, fast, well 2. กจิ กรรม K ใหนกั เรียน Read aloud คาํ สงั่ และพดู บอกสิ่งท่ีนักเรยี นตอ งปฏบิ ัติในกจิ กรรมนี้ - ใหน ักเรยี นอา น rule of adverbs ซ่งึ อยใู นรูปของ Cloze sentences เพ่ือคนหาตัวชี้แนะคําตอบของคําในชองวาง และขดี เสน ใตตัวช้ีแนะคําตอบ - ครูตรวจสอบคําตอบความแมน ยําในการระบตุ วั ชแ้ี นะคาํ ตอบโดยใหน กั เรยี นอานคํา วลี ประโยคยอ ยที่นักเรียนขีดเสน ใตไว พรอ มกนั - ใหนักเรยี นนําตวั ชีแ้ นะคําตอบดังกลาวน้ีไปใชในการตัดสนิ ใจคาดเดาคําศพั ทเพ่อื นํามามาเติมในชอ งวา ง - ครใู หเวลานักเรยี นคน หา คดิ วิเคราะห ไตรต รอง และใหค ําตอบ - เมอื่ ไดค าํ ตอบแลวใหนกั เรียนนาํ คําตอบไป Compare and Share กับเพื่อนในหอ ง - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรียน Read aloud และครเู ฉลยคําตอบ คมู อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที่ 3

297 297 เฉลยคาํ ตอบ 1. verbs 2. -ly 3. i 4. same 5. well 6. adjectives - ครูใหนักเรยี น Read aloud the completed rule of adverbs 3. กิจกรรม L ครูใหนักเรียน Read aloud คาํ สัง่ และพูดบอกสง่ิ ท่ีนักเรียนตองปฏบิ ตั ใิ นกิจกรรมนี้ - ครใู หนักเรยี นชว ยกันทบทวนกฎการเปลี่ยน adjective ใหเ ปน adverb แลว เขียน adverb ในชองวาง - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนักเรยี นบอกคําตอบ และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ beautifully, fast, happily, loudly, well, healthily 4. กิจกรรม M ใหน กั เรยี น Read aloud คําสงั่ และพูดบอกสิ่งที่นักเรียนตองปฏบิ ัติในกิจกรรมน้ี - ใหนกั เรยี นอานประโยค Cloze sentence ขอ 1-6 เพือ่ คนหาคํา วลี ประโยคยอ ยท่ีเปน ตัวช้แี นะคําตอบ - ครตู รวจสอบความเขาใจในการอานของนักเรยี นโดยใหน ักเรยี น Read aloud ตัวชแ้ี นะคาํ ตอบ - ใหนกั เรยี นเลอื ก Adverb เติมลงในประโยค โดยพจิ ารณาจากตัวช้ีแนะคาํ ตอบ - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรยี น Read aloud ประโยค และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. fast 2. beautifully 3. loudly 4. happily 5. healthily 6. well 5. กจิ กรรม N ใหนกั เรียน Read aloud คําสั่ง และพูดบอกสิง่ ที่นกั เรยี นตองปฏิบตั ิในกิจกรรมน้ี - ครูใหน ักเรียนชว ยกนั ทบทวนการใช adverbs describe verbs - ใหน ักเรียน Read aloud verbs 1-6 และ adverbs a-f และจับคู verbs กบั adverbs - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรียน Read aloud ประโยค และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. b 2. f 3. c 4. e 5. a 6. d 6. กจิ กรรม O ใหนักเรียน Read aloud คาํ สง่ั และพดู บอกส่งิ ท่ีนกั เรยี นตองปฏิบัตใิ นกิจกรรมน้ี - ใหนักเรียน Read aloud Exam Close–up ครูอธิบายและยกตวั อยางประกอบโดยใหน ักเรียนคน หา adverbs, adjectives and relatives pronouns ใน the Exam Task - ครตู รวจสอบคาํ ตอบโดยใหนักเรยี น Read aloud คําตอบ และครูเฉลยคาํ ตอบ 1. adverbs and adjectives เฉลยคาํ ตอบ 3. relative pronouns 4. adverbs and adjectives 2. relative pronouns 6. adverbs and adjectives 7. adverbs and adjectives 5. adverbs and adjectives 8. adverbs and adjectives คมู อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที่ 3

298 298  Production กจิ กรรม P ใหนกั เรยี น Read aloud Exam Task - ครอู ธบิ าย Cloze passage และทบทวนเทคนคิ การทําขอสอบ Cloze test โดยใหนักเรยี น Focus on words before and after a gap ใหน ักเรยี นคน หาตวั ช้แี นะคําตอบท่ีอยหู นาและหลงั ชอ งวาง แลวเลือกคําตอบ - ใหนกั เรียนจับคทู ํากิจกรรมนี้อยางอิสระ โดยครูกาํ หนดเวลาหลังจากน้นั ใหนักเรยี นนําคาํ ตอบที่ไดไ ป Discuss and share กับเพอื่ นในหอง - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรยี น Read aloud passage และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. A 2. C 3. C 4. B 5. B 6. B 7. C 8. B 6. การวัดและประเมนิ ผล เครือ่ งมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน 18-20 วิธกี าร 15-17 ผลการประเมิน 1. สังเกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมินทักษะ แบบประเมินทกั ษะการฟง -การพูด คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดีมาก การใชภ าษา แบบประเมนิ ทักษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 7. ส่อื /แหลงการเรยี นรู หนงั สอื เรยี น Close-up 3 Unit 5 Take a Break เรือ่ ง Grammar กิจกรรม J-P หนา 63 Grammar Reference for Unit 5 หนังสือเรียน Close-up 3 หนา 112 8. บันทกึ หลังการจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที่ 3

299 299 หนว ยการเรยี นรทู ่ี 5 เรื่อง Take a Break แผนการจัดการเรียนรูที่ 8 เร่ือง Grammar 3: Relative Pronouns & Adverbs รหัสวิชา................. รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาองั กฤษ ช้ันมัธยมศึกษาปท ่ี 3 กลุม สาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ ปก ารศึกษา 25……….. ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 1 ช่วั โมง ผูส อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวช้ีวดั ต 1.1 ม.3/1 ปฏบิ ตั ติ ามคําขอรอง คาํ แนะนาํ คาํ ช้ีแจง และคําอธบิ ายทฟ่ี ง และอาน ต 2.1 ม.3/1 เลอื กใชภ าษา น้าํ เสยี ง และกิริยาทา ทางเหมาะกับบคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของ เจา ของภาษา ต 4.1 ม.3/1 ใชภ าษาสือ่ สารในสถานการณจริง/สถานการณจ ําลองทเ่ี กิดขึ้นในหอ งเรยี น สถานศึกษา ชุมชน และสงั คม 2. จดุ ประสงคการเรียนรู อา น เขยี น และสื่อสารอยางมปี ระสทิ ธภิ าพโดยใชโครงสราง Relative Pronouns & Adverbs 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูเก่ียวกับการใชภ าษาสื่อสารอยางมมี ารยาท มปี ระสิทธภิ าพ โดยการใช Relative Pronouns & Adverbs ทักษะเรยี น ภาษาท้งั 4 ดา น การฟง การพดู การอาน และการเขียน และกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพอื่ การส่ือสาร ทาํ ใหการสื่อสารบรรลุผล ตามวตั ถปุ ระสงค ผูเรยี นมเี จตคติท่ดี ตี อ ภาษาองั กฤษ ใชภ าษาอังกฤษอยา งมีมารยาท ถกู ตองตามกาลเทศะและบุคคล 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Grammar: Relative Pronouns & Adverbs 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรียนภาษาทง้ั 4 ทกั ษะ การฟง การพูด การอาน และการเขียน - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มีประสทิ ธิภาพในการส่ือความ - มเี หตผุ ล มวี จิ ารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูทบทวนบทเรียนในชั่วโมงทีแ่ ลวเรือ่ ง Relative Pronouns and Adverbs โดยครเู ขยี น Nursery Rhyme ตอ ไปน้ี บนกระดาน ดงั นี้ Row, row, row your boat Gently down the stream, Merrily merrily, merrily, merrily Life is but a dream 2. ใหน กั เรยี นท้ังช้นั Read aloud ประโยค ครูใหนักเรยี นบอกวา นกั เรยี นพบ adverbs กคี่ ําอะไรบางและ adverbs ดงั กลาวน้ีใชขยายคาํ ใดในบทเพลงน้ี 3. ครูเชื่อมโยงเขา สูบ ทเรียน คมู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 3

300 300  Presentation 1. ครูทบทวนเรอ่ื ง Relative Pronouns and Adverbs โดยใหนักเรยี นมีสวนรวม 2. ครูทบทวนเทคนคิ การทาํ ขอสอบ ไดแก 2.1 Focus on words before and after a gap. 2.2 Justifying the answers 3. ครูอธิบายพรอมท้งั ยกตวั อยางประกอบและใหนักเรียนฝก ปฏิบตั ิในกิจกรรมตอ ไป  Practice ครูใหนกั เรยี นเปดหนงั สือ Workbook Close-up 3 หนา 35-36 นักเรียนปฏิบตั ิกจิ กรรมตอไปน้ี 1. กิจกรรม A ใหน ักเรยี นจับคูทาํ กิจกรรมโดย Read aloud คาํ สงั่ และประโยค 1-6 - ใหน ักเรยี นทบทวนการใช Relative Pronouns ถา นักเรยี นสวนใหญจ าํ ไมไ ด ครูใหน ักเรยี นยอนกลับไปดู Rules ใน กิจกรรม C, F หรือ Grammar Focus: Relative Pronouns - ใหนักเรียนอานคํานามที่อยูหนาชองวางในประโยค 1-6 ซึ่งเปนตัวชี้แนะคําตอบกําหนด Relative pronoun ที่ ตามหลังมา - ใหนกั เรียนเลอื ก Relative pronoun ทีส่ มั พนั ธกบั คํานามท่ีนําหนา - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนักเรยี น Read aloud ประโยค และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. that 2. who 3. which 4. that 5. - 6. who 2. กิจกรรม B ครใู หนักเรยี น Read aloud คาํ ส่งั และพูดบอกสง่ิ ที่นกั เรียนตองปฏิบัตใิ นกิจกรรมน้ี - ครูใหน ักเรียนทบทวนเทคนิคการทาํ ขอสอบ ไดแ ก Focus on words before and after a gap. - ใหนกั เรยี นอานประโยค Cloze passage ขอ (1)-(8) เพ่ือคน หาคํา วลี ประโยคยอยที่เปนตัวช้ีแนะคําตอบท่ีอยูหนา และหลงั ชอ งวา ง แลวขดี เสน ใตกํากบั - ครูตรวจสอบความเขาใจในการอานของนักเรียนโดยใหนักเรียน Read aloud ตัวช้ีแนะคําตอบท่ีอยูหนาและหลัง ชอ งวาง ไดคาํ ตอบดงั น้ี ตวั ชีแ้ นะคาํ ตอบ ขอ คาํ ท่ีนําหนาชอ งวา ง คําที่ตามหลงั ชอ งวาง (1) friends have travelled (2) the mountains are (3) friends I’ve known (4) people aren’t (5) people live (6) The Sherpas Mark and James’sfamily hired (7) equipment is the best (8) the place I want - ใหนกั เรียนเลือกคํามาเติมลงในประโยค โดยพิจารณาจากตวั ชแี้ นะคาํ ตอบที่นาํ หนาและตามหลังชอ งวาง - ครูตรวจสอบความถูกตอ งโดยใหนักเรียนอานคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคําตอบ คมู อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3

301 301 เฉลยคําตอบ (1) who/that (2) which/that (3) whom/that/who (4) who/that (5) who/that (8) that/which (6) whom/that/who (7) that/which - ครใู หนักเรยี น Read aloud the passage เพ่ือเนนยํ้าความเขาใจเรื่อง Forms of Relative clauses และตาํ แหนง ของ Relative clauses 3. กจิ กรรม C ใหน ักเรยี น Read aloud คําส่ัง และพูดบอกสิ่งที่นักเรยี นตองปฏบิ ตั ิในกิจกรรมน้ี - ใหน ักเรียน Read aloud the Exam Reminder และครอู ธบิ ายพรอมท้ังยกตัวอยางประกอบโดยใหนักเรียนมีสวน รว ม เชน ใหน ักเรียนยกตัวอยาง word ending with-ly, words ending with-er, est เปนตน - เมือ่ นกั เรียนสว นใหญเ ขา ใจแลวใหน กั เรยี น Read aloud คาํ สัง่ ใน the Exam Task. - ใหน ักเรียน Read silently ประโยค Cloze passage เพ่ือคนหาตัวช้ีแนะคําตอบท่ีอยูหนาและหลังชองวาง โดยให นักเรียนปฏิบัติตามขั้นตอนของ the Exam Reminder: Choosing the correct word type ไดแก Read the whole sentence to find out what kind of word the gap needs. - ครูใหเ วลานักเรียนคน หาตัวชี้แนะคาํ ตอบและตดั สินใจเลือกคาํ ตอบ - ครูตรวจสอบตวั ช้แี นะคาํ ตอบโดยใหน ักเรียน Read aloud ไดคําตอบเกี่ยวกับตวั ชแ้ี นะคาํ ตอบดังนี้ - เฉลยตวั ช้แี นะคาํ ตอบกิจกรรม C ดังน้ี ตวั ช้แี นะคําตอบ ขอ คาํ ท่ีนําหนา ชองวา ง คําทต่ี ามหลังชอ งวาง 1 this day trip 2 day trip I took 3 the forest to look at 4 It was really ! 5 walked through the woods. 6 any animals! 7 the forest looked quite ; very green 8 drives quite , even though - เมอ่ื ไดตัวช้ีแนะคาํ ตอบท่ีถกู ตอง ครบถวนแลว ครูใหนกั เรยี นทบทวนคําตอบทีไ่ ดเ ลอื กไปแลวกอนหนา นี้ และนาํ คาํ ตอบที่ไดทบทวนแลวไป Compare and Share กบั เพอื่ นในหอง - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรยี นRead aloud คําตอบและเหตผุ ลทีเ่ ลอื กคําตอบนั้นๆ ครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. c 2. a 3. a 4. b 5. c 6.a 7. c 8. b 4. กจิ กรรม D ใหนกั เรียน Read aloud คําสงั่ และพูดบอกสิง่ ที่นักเรียนตองปฏิบตั ใิ นกจิ กรรมน้ี - ใหนักเรยี นทบทวน Adverbs and Adjective โดยใหน กั เรยี นยอ นกลับไปอานที่ Grammar Focus: Adverbs - ใหน กั เรียน Read aloud Adjectives และ Adverbs ของคําศัพทที่กําหนดให ตวั อยางเชน loud-loudly เปน ตน คมู อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3

302 302 - ในการตดั สินใจเลอื กคาํ ตอบครใู หน ักเรยี น Read silently ประโยค Cloze passage เพอื่ คนหาตัวช้ีแนะคําตอบที่อยู หนาและหลังชองวาง โดยใหนักเรียนปฏิบัติตามขั้นตอนของ the Exam Reminder ไดแก Read the whole sentence to find out what kind of word the gap needs. - ครใู หเวลานักเรยี นคน หาตัวชี้แนะคาํ ตอบและตัดสินใจเลือกคําตอบ - ครูตรวจสอบตัวชีแ้ นะคําตอบโดยใหนกั เรียน Read aloud ไดค าํ ตอบเกย่ี วกบั ตัวชี้แนะคาํ ตอบดังนี้ - เฉลยตวั ชีแ้ นะคาํ ตอบกิจกรรม D ดังนี้ ตวั ชีแ้ นะคาํ ตอบ ขอ คําท่ีนาํ หนา ชอ งวา ง คาํ ที่ตามหลังชองวาง 1 shouted to get 2 Michelle looked when (she found) 3 asked the teacher if (she could help) 4 travelled so that (they arrived) 5 felt that (she forgot) 6 welcomed their guests when (they got to) - เม่ือไดตวั ชแี้ นะคาํ ตอบท่ีถูกตอง ครบถวนแลวครูใหนักเรียนทบทวนคาํ ตอบทไี่ ดเลือกไปแลวกอนหนาน้ี และนําคําตอบ ที่ไดทบทวนแลวไป Compare and Share กบั เพื่อนในหอ ง - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรียนRead aloud คําตอบและเหตผุ ลที่เลือกคาํ ตอบนั้นๆและครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. loudly 2. angry 3. politely 4. fast 5. bad 6. warmly  Production กิจกรรม Expand Your Ideas ซง่ึ ครกู าํ หนดขน้ึ เองโดยประยุกตใชก จิ กรรม C และกิจกรรม D ดังน้ี Write 5 sentences with relative clauses and 5 sentences with adverbs.You can find out from any page of you textbook and copy them. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมวิเคราะหไวยากรณเร่ือง Relative clauses and Adverbs ในหนังสือเรียนโดยคนหาและ คัดลอกลงสมุดและนาํ มาสง ครภู ายในเวลาท่ีกําหนด ครสู รุปบทเรยี นและตอบขอซักถามของนกั เรยี น 6. การวดั และประเมนิ ผล เครอื่ งมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน 18-20 วิธกี าร 15-17 ผลการประเมนิ 1. สงั เกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผาน คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชนั้ มัธยมศึกษาปที่ 3

303 303 วิธีการ เครือ่ งมือ คะแนน เกณฑ 18-20 2. ประเมนิ ทกั ษะ แบบประเมินทักษะการฟง-การพดู 15-17 ผลการประเมนิ การใชภาษา แบบประเมนิ ทักษะการอาน-การเขยี น 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผาน 7. สอื่ /แหลง การเรียนรู หนงั สือ Workbook Close-up 3 Unit 5 Take a Break เรอ่ื ง Grammar กจิ กรรม A-D หนา 35-36 8. บนั ทกึ หลังการจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มธั ยมศึกษาปท่ี 3

304 304 หนวยการเรยี นรูท ่ี 5 เร่ือง Take a Break แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 9 เร่ือง Listening: Getting Ready to Listen รหัสวชิ า................. รายวชิ าพ้ืนฐานภาษาองั กฤษ ช้นั มัธยมศกึ ษาปท่ี 3 กลุมสาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชวั่ โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม.3/1 ปฏบิ ัตติ ามคําขอรอ ง คาํ แนะนํา คาํ ชแ้ี จง และคาํ อธบิ ายทฟ่ี ง และอา น ต 1.1 ม.3/4 เลอื ก/ระบหุ วั ขอ เร่ือง ใจความสาํ คญั รายละเอียด สนับสนุน และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เรื่องทีฟ่ งและ อาน จากส่อื ประเภทตา งๆ พรอ มทง้ั ใหเ หตผุ ลและยกตวั อยา งประกอบ ต 1.2 ม.3/4 พูดและเขียนเพือ่ ขอและใหขอ มูล อธิบาย เปรยี บเทียบ และแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับเรอ่ื งทีฟ่ งหรืออาน อยา งเหมาะสม 2. จดุ ประสงคก ารเรียนรู พดู ใหข อมูล อธบิ ายเกี่ยวกบั Travelling โดยใชส าํ นวนภาษาและโครงสรา งภาษาเกีย่ วกบั ไดอ ยา งถกู ตองเหมาะสม 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูและกจิ กรรมฝกทักษะการฟงการพดู สํานวนภาษาโครงสรางภาษาเกยี่ วกับการถามและตอบคําถาม กระบวนการฝก ทกั ษะทางภาษาท้งั 4 ดา นโดยเฉพาะอยางยงิ่ ทกั ษะการฟง การพูด โดยใชก ระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร ทําใหผูเรียน สอ่ื สารไดอยา งมปี ระสิทธิภาพ มีเจตคตทิ ่ดี ตี อ การเรยี นภาษาองั กฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Vocabulary: สาํ นวนภาษาทใี่ ชในการสนทนาเกี่ยวกับ Travelling 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรียนภาษาทั้ง 4 ทกั ษะ การฟง การพดู การอา น และการเขยี น - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการส่อื สาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มีประสิทธิภาพในการส่อื ความ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูนําความสนใจของนักเรียนโดยใหน กั เรียนดภู าพในกิจกรรม A และครูใชค าํ ถามดงั นี้ Q: Do you think which pictures in A. can tell about taking a break? Why 2. นักเรียนใหค าํ ตอบและบอกเหตผุ ล 3. ครเู ชือ่ มโยงเขา สูก ิจกรรมการเรียนการสอน  Presentation 1. ครสู อนคําศพั ทใ นกิจกรรม A-F โดยใหนกั เรียนมีสวนรว ม ดังนี้ - ใหนักเรียนทงั้ ชัน้ ชว ยกันคน คําศัพทท ไ่ี มรูความหมาย ขีดเสนใตก ํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของ คําศัพท จากตําแหนงภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝกใหระบุ Parts of speech ทุกครั้งที่สอนความหมายของ คาํ ศัพท) นักเรยี นบอกหมวดหมขู องคําศัพทเ หลาน้ี โดยครูเขยี นลงใน Word Box บนกระดาน คูมือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3

305 305 - ใหนักเรยี น Read aloud คาํ ศัพทบ นกระดาน และใหน กั เรยี นแบง กัน/ชวยกันคนหาความหมายของคําศพั ทเ หลานี้ แลว พูดบอกความหมาย - ครูเขยี นความหมายของคําศพั ทท ี่นักเรยี นบอกและเพิม่ เตมิ ความหมายของคาํ ศัพทบ างคําใหสมบูรณ - ใหนกั เรยี นอา นออกเสียงดังพรอมกนั ถาคําใดนักเรียนอานไมไดใ หค รูชวยอานนําและนักเรียนอา นตาม - ใหน กั เรยี นคดั ลอก Word Box และคาํ ศัพทท เี่ กี่ยวของลงในสมดุ คําศพั ทข องตนเอง 2. ครูสอน Listening Strategies: Getting ready to listen 3. ครอู ธิบายวิธีการเรยี นระหวา งฟงซีดี แนะวิธฟี งอยางมปี ระสิทธิภาพ ครูชี้แจงวานักเรียนจะไดฟงเสียงพูดสนทนาท่ีเปน การพดู อยางเปน ธรรมชาติ (naturally speaking) ทม่ี ีความเรว็ พอประมาณใหนักเรียนฟงเพ่ือจับประเด็นสําคัญโดยต้ังใจฟงคําสําคัญ (content words) ไดแ ก nouns, main verbs, adjectives, adverbs ในระหวา งทฟี่ งใหนกั เรยี นงดทํากิจกรรมใดๆไมพดู คยุ กนั 4. ครูช้แี จงการฟงซีดวี านักเรียนจะไดฟงซดี ี 3-4 ครั้ง ดังนี้ - ฟงครง้ั ท่ี 1 เพ่ือใหเ ขาใจเรอ่ื งและจับประเด็นสําคัญเบอ้ื งตน - ฟง ครง้ั ท่ี 2-3 เพื่อเลือกคําตอบ - ฟง ครง้ั ที่ 3-4 เพอื่ ทบทวนคาํ ตอบหรือเฉลยคําตอบ (สําหรบั ชน้ั ท่ีนกั เรยี นสว นใหญออ นภาษาอังกฤษ ครูควรใหฟง หลายครั้ง เพอื่ ใหน ักเรียนประสบความสาํ เร็จในการฟง)  Practice ครูใหนักเรียนเปด หนงั สอื Close-up 3 หนา 64 นักเรียนปฏบิ ัติกจิ กรรมตอไปนี้ 1. กิจกรรม A ใหนักเรียน Read aloud คําสั่ง และใหน กั เรยี นจบั คูกบั เพ่ือนพูดบอกเกยี่ วกบั รูปภาพตามจนิ ตนาการของ นักเรยี นเอง โดยใช Speaking Model ตอ ไปนี้ I think I can see a/an/the ………….. in picture ………….. It is ………….. - ครสู ังเกต แนะนาํ ชว ยเหลือ แกป ญหา - ครูตรวจสอบโดยเลือกใหนกั เรียน 3-4 คู พูดเกย่ี วกบั รูปภาพตามจินตนาการ ครยู อมรับทุกคําตอบ เฉลยคําตอบ Students’ own answers 2. กจิ กรรม B ใหนกั เรยี น Read aloud คาํ สัง่ ครูทบทวนคําส่ังและอธิบายแนะวิธีการตอบคําถามวานักเรยี นควรให คําตอบท้ังประเด็นทเี่ หมือนกันและแตกตา งกัน โดยครูกําหนด Speaking Model ดังนี้ I think that ………….. - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรยี น Read aloud คําตอบ เฉลยคําตอบ Students’ own answers 3. กจิ กรรม C ใหน ักเรียน Read aloud คําสงั่ ครูทบทวนคําสงั่ ช้แี จงกิจกรรมการฟงและใหน ักเรยี นดรู ูปภาพทัง้ หมด เพอื่ คาดเดาเกย่ี วกบั เรือ่ งท่ีจะไดยินลวงหนา คูมอื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศึกษาปท ่ี 3

306 306 - จากน้ันครใู หนักเรียนฟง ซีดี Track 5.1 1-2 คร้ัง นกั เรียนเลือกภาพท่ีตรงกบั เร่ืองทไ่ี ดยิน ครตู รวจสอบคาํ ตอบโดยให นักเรียน บอกคาํ ตอบท่ีเลือก - ครใู หนักเรยี นฟงซีดซี ้ํา เพือ่ ใหน ักเรียนตรวจสอบคาํ ตอบ และปรับปรงุ คําตอบกอ นท่ีครูจะเฉลยคาํ ตอบ - ครเู ฉลยคําตอบและใหน กั เรียนฟง ซดี เี ปน คร้ังสดุ ทา ย เพ่ือยืนยันคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. C 2. B 3. A 4. กิจกรรม D ใหน กั เรียน Read aloud คําสั่ง และบอกความหมายเปนภาษาไทย - ครทู บทวนคาํ สัง่ และใหนักเรยี น Read aloud the Exam Close-up ครูอธบิ ายและยกตวั อยางประกอบ - จากนน้ั ใหนักเรียนสังเกตภาพท่ีกาํ หนดใหแลวพยายามคาดเดาเกยี่ วกบั สถานท่ีในการสนทนานั้นๆ - ครู Walk around สงั เกต ชแ้ี นะ สนบั สนุน และแกป ญ หา เฉลยคําตอบ Students’ own answers 5. กจิ กรรม E ใหนกั เรยี น Read aloud คําสั่ง และ Exam Task และพูดบอกส่ิงทีต่ องปฏิบัติ - ครอู ธบิ ายกจิ กรรม Exam Task เปนกิจกรรมการฟง นักเรียนจะไดฟงบทสนทนาส้ันๆ จํานวน 5 เร่ือง แตละเร่ืองมี คําถามเร่ืองละ 1 ขอโดยใหน กั เรียนเลือกคําตอบซ่ึงเปน รปู ภาพ - ครูใหนกั เรียนเตรียมรบั ขอ มลู ที่จะไดฟงลวงหนา โดยครูใหนักเรียน Read aloud คําถามและสังเกตรูปภาพท้ังหมด และใหคิดคาํ ศพั ทท ีเ่ กย่ี วกบั รปู ภาพ - เมือ่ นกั เรียนพรอ ม ครูเปดซีดี Track 5.2 ใหนักเรียนฟง 1-2 ครั้งโดยหยุดเสียงเปนบางชวงเพ่ือใหเวลานักเรียนฟง คิดตามและเขยี นคําตอบ - ครตู รวจสอบคาํ ตอบ โดยใหน กั เรยี นบอกคําตอบพรอมกันครูเขียนคําตอบของนักเรียนบนกระดาน และยังไมเฉลย คําตอบ 6. กิจกรรม F ครูใหนกั เรยี นฟงซดี ี Track 5.3 ซํา้ เพื่อตรวจสอบคําตอบและยืนยันคําตอบ และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. A 2. B 3. C 4. B 5. A  Production ครูใหน ักเรียนเปด หนังสอื Workbook Close-up 3 หนา 36 นกั เรียนปฏบิ ัติกจิ กรรมตอไปน้ี 1. กิจกรรม A ใหน ักเรยี น Read aloud the Exam Reminder - ครอู ธบิ ายวธิ ีการเตรียมความพรอมกอนฟง พรอ มท้งั ยกตัวอยางประกอบ - ใหนกั เรยี น Read aloud คําสัง่ และคาํ ถามพรอมทง้ั ใหค ําตอบ - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียน Read aloud คาํ ตอบ และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ There will be two speakers in each conversation. คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศึกษาปท ี่ 3

307 307 2. กจิ กรรม B ใหน ักเรยี น Read aloud คําสงั่ และคําชี้แจงใน Exam Task - ครูทบทวนคําส่ัง คาํ ชี้แจงอธิบายเพือ่ ใหนกั เรียนเขาใจและปฏบิ ัติตาม the Exam Reminder ไดถกู ตอง - ใหนักเรยี นสังเกตภาพที่กาํ หนดให พิจารณาความเหมือนความตางของทกุ ภาพ แลว Read aloud คําถามเพื่อให นักเรยี นมี Back up of information ไดแก ทาํ ความเขา ใจคําถาม ดูทศิ ทางการตอบคําถามไวลว งหนา และคาดเดาเร่ืองทีจ่ ะไดย ินจาก เน้อื ความในคาํ ถาม ทาํ ใหการตัดสินใจเลือกคาํ ตอบขณะทฟ่ี ง มีความแมนยํามากย่ิงข้ึน - เม่ือนกั เรยี นพรอมครเู ปดซีดีใหนักเรยี นฟง 1-2 ครั้งโดยครูเปดซีดี แลวหยดุ เลน เปนชว งๆเพ่อื ใหนักเรียนมเี วลาคิดและ ตัดสนิ ใจ - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียน Read aloud คาํ ตอบและครเู ขียนคําตอบของนกั เรยี นบนกระดานและให นักเรียนฟง ซดี ี Track 5.1 ซํา้ เฉลยคาํ ตอบ 1. a 2. b 3. c 4. c 5. a 3. กจิ กรรม C หลงั จากที่ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรียน Read aloud คาํ ตอบแลว ครใู หนกั เรียนฟงซดี ี Track 5.2 ซาํ้ อีกครัง้ เพือ่ ใหนักเรยี นยืนยันคาํ ตอบ 6. การวัดและประเมินผล เครื่องมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมนิ การสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี น 18-20 วธิ ีการ 15-17 ผลการประเมนิ 1. สงั เกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี 2. ประเมนิ ทกั ษะ แบบประเมนิ ทักษะการฟง-การพูด พอใช คะแนน ผา น การใชภ าษา แบบประเมินทักษะการอาน-การเขยี น 18-20 15-17 ผลการประเมนิ 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผาน 7. สอื่ /แหลงการเรยี นรู หนงั สือเรยี น Close-up 3 Unit 5 Take a Break เรือ่ ง Listening กิจกรรม A-F หนา 64 หนังสอื Workbook Close-up 3 Unit 5 Take a Break เรื่อง Listening กจิ กรรม A-C หนา 36 Audio CD Track 5.1, 5.2 และ 5.3 8. บนั ทึกหลงั การจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศึกษาปท ่ี 3

308 308 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที่ 3

309 309 หนว ยการเรยี นรทู ี่ 5 เร่อื ง Take a Break แผนการจัดการเรียนรทู ี่ 10 เรอื่ ง Speaking: Asking about and Describing a Holiday รหสั วิชา................. รายวชิ าพ้ืนฐานภาษาอังกฤษ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปการศึกษา 25……….. ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ชว่ั โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชว้ี ัด ต 1.2 ม.3/4 พูดและเขียนเพ่ือขอและใหขอมูล อธิบาย เปรยี บเทียบ และแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกับเรื่องท่ีฟง หรอื อานอยาง เหมาะสม 2. จุดประสงคก ารเรียนรู ฟง พูด อาน และเขียนเพื่อขอและใหขอมูล อธิบาย Asking about and Describing a Holiday และพูดตรวจสอบความ เขาใจ โดยใชสํานวนภาษาและโครงสรา งภาษาทก่ี ําหนดใหไดอ ยา งถูกตอง เหมาะสมกบั ระดับชั้นเรยี น 3. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรูเกี่ยวกับสํานวนภาษาโครงสรางภาษาในบทสนทนาเกี่ยวกับ Asking about and Describing a Holiday และ กิจกรรมฝกทักษะการคิด กระบวนการฝกทักษะทางภาษาทั้ง 4 โดยเฉพาะอยางย่ิงทักษะการฟงการพูด โดยใชกระบวนการสอน ภาษาองั กฤษเพอ่ื การส่ือสาร เจตคตทิ ่ีดีตอการเรียนภาษาอังกฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Vocabulary: สาํ นวนภาษาเก่ยี วกบั Asking about and Describing a Holiday - Speaking strategy: Understanding what people say 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรียนภาษาทงั้ 4 ทักษะ โดยเฉพาะอยา งยิ่งทักษะการฟง การพูด - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการสอ่ื สาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มีเหตผุ ล มวี จิ ารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครนู าํ ความสนใจของนกั เรียนเขาสูบทเรียนในชัว่ โมงนด้ี ว ยคําถามตอ ไปนีบ้ นกระดานใหนกั เรยี นอา นออกเสยี งดงั ๆ พรอ มกัน แลว ใหนกั เรียนตอบคําถามประโยคบนกระดาน Q 1: Do you like having holidays? Q 2: Where would you like to go on holidays? 2. นักเรียนใหคําตอบอยางหลากหลาย 3. ครยู อมรับทุกคาํ ตอบ และเช่อื มโยงเขาสกู ิจกรรมการเรยี นการสอน  Presentation 1. ครสู อนสาํ นวนภาษาใน Useful Expressions: Asking about and Describing a Holiday ดังน้ี - ใหน กั เรียน Read aloud Useful Expressions โดยครอู ธิบายพรอ มทง้ั ยกตัวอยางประกอบใหนักเรียนชวยกันคดิ หาคาํ มาเตมิ ในประโยคตัวอยา ง ไดแ ก คูม อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศึกษาปที่ 3

310 310 1.1 Asking about a holiday ไดแ ก - Where did you go? - Where did you stay? - What was the weather like? - What activities did you do? - Do you enjoy the holiday? 1.2 Describing a holiday ไดแก - We went to a place called Trapani/….. . - It was in the countryside/near the beach/in the city. - It was a really modern/noisy/busy city. - It was really quiet and boring. - It was amazing! - ครใู หน กั เรียนจับคูฝกพูดประโยค โดยผลัดกนั เปนผถู ามและผูตอบคําถาม - ครใู หเวลานักเรยี นไดฝ กพดู โดยครสู งั เกต ชวยเหลอื แนะนาํ แกปญหา 2. ครทู บทวน Speaking Strategies: understanding what people say สํานวนพดู เพื่อใหค สู นทนารูวา ผูพ ูดไมเ ขาใจ ฟงไมชัดเจน หรือรูสึกไมแ นใจ ไดแ ก - Could you repeat that, please? - I’m sorry I don’t understand. - Do you mean….? - So I got right at the bank? - I’m not sure what you mean. 3. ครูสอนคําศัพทสํานวนในเร่ือง Speaking กิจกรรม A-E โดยใหนักเรียนมีสวนรวมครูใหนักเรียนสํารวจคําศัพทใน กิจกรรมแลวขีดเสนใตคําท่ีนักเรียนไมรูความหมาย จากน้ันใหนักเรียนบอกคําศัพทท่ีไมรูความหมาย โดยครูเขียนบนกระดาน ถา นักเรยี นอา นไมไดใหสะกดตัวอักษร - ครูใหน ักเรยี นจดั กลมุ คําศพั ทเ หลานี้โดยครูแนะวาควรจดั ตามหนาทีข่ องคํา - ครูใหนักเรียนชวยกันคนหาความหมายของคําศัพทเหลานี้โดยคนหาจาก Dictionary หรือ นักเรียนอาจสืบคน online จากโทรศพั ทม ือถือของนกั เรยี นเอง - ใหน ักเรียน Read aloud คาํ ศัพทบนกระดาน และใหนกั เรียนแบง กนั /ชว ยกนั คน หาความหมายของคําศัพทเหลาน้ี แลว พูดบอกความหมาย - ครเู ขยี นความหมายของคาํ ศพั ทท ่ีนักเรยี นบอกและเพม่ิ เติมความหมายของคําศัพทบางคําใหสมบรู ณ - ใหนกั เรยี นอา นออกเสียงดังพรอมกนั ถาคําใดนักเรยี นอา นไมไ ดใ หครูชว ยอา นนําและนักเรยี นอานตาม - ใหนักเรยี นคัดลอก Word Box และคาํ ศัพทท ่เี กี่ยวขอ งลงในสมดุ คําศพั ทของตนเอง  Practice ครใู หนักเรยี นเปด หนังสอื เรียน Close-up 3 หนา 65 นกั เรียนปฏิบตั ิกจิ กรรมตอ ไปนี้ 1. กิจกรรม A ใหนกั เรียน Read aloud คําสัง่ คาํ ศพั ทใ นขอ 1-6 และตวั เลอื ก a-f พรอมท้ังพูดบอกความหมายของ คาํ ศพั ทและตวั เลือก a-f แลว จับคคู าํ ศพั ทกบั ตวั เลือก - ครตู รวจสอบโดยใหนกั เรียนพูดบอกคขู องคาํ ศพั ทแ ละความหมาย และเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. e 2. f 3. a 4. d 5. c 6. b คูม อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท่ี 3

311 311 - ครใู หนกั เรียนทาํ กจิ กรรมเพิม่ เตมิ โดยชวยกันคดิ หาคาํ ตรงขามอนื่ ๆ พรอมท้ังพูดบอกความหมาย โดยครูเขียนคําตอบ ของนกั เรียนบนกระดานและเม่อื ไดจํานวนมากเพียงแลวครใู หน ักเรียน Read aloud คาํ ศัพทบนกระดานและคัดลอกลงในสมดุ คาํ ศัพท 2. กจิ กรรม B ใหนักเรยี น Read aloud คําส่งั - ครูทบทวนคําสั่งโดยครูเนนย้ําและอธิบายขอความบางตอนในคําสั่ง ไดแก the correct answer หมายถึง Being correct in the content (เน้ือหา) and correct in the sentence construction (โครงสรางไวยากรณ) และครูยกตัวอยาง ประกอบ - ครูใหนกั เรียนสํารวจคําถามขอ1-6 โดยสังเกตเนอ้ื หาในคาํ ถาม (content) และโครงสรา งประโยคไวยกรณใ น - คาํ ถาม (sentence construction) ใหนักเรียนขีดเสน ใต Question words และ verbs เพ่อื การคาดเดาทิศทางของ คําตอบที่แมนยาํ ย่ิงข้ีน ตวั อยางเชน คาํ ถามขอ 1 ใหนักเรียนขดี เสนใตทคี่ ํา Where, did เปนตน - จากน้ันใหน ักเรยี น Read aloud คําถามและตัดสินใจเลือกคําตอบอยางมที ศิ ทาง และบอกเหตผุ ลในการเลือกคาํ ตอบ หรอื ไมเ ลอื กคําตอบขอนัน้ ๆ (Explain why) - ครูตรวจสอบคาํ ตอบ และเหตผุ ล และครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. A 2. B 3. B 4. C 5. A 6. B 3. กิจกรรม C ใหนักเรียนจับคูกับเพื่อนพูดคําถาม และใหคําตอบ โดยสลับบทบาทกันเปนผูถามและผูตอบ ครูสังเกต สนบั สนนุ แนะนํา ชวยเหลือ แกปญ หา 4. กจิ กรรม D ใหนักเรยี น Read aloud คําสั่ง และ Exam Close-up - ครูทบทวนคําสั่ง อธิบายหลักการใหขอมูลอยางนาสนใจเกี่ยวกับสถานท่ี (Exam Close-up: Giving information about places) พรอ มทั้งยกตวั อยางประกอบโดยเลอื กบางขอจากกิจกรรมใน Exam Task โดยครูใหนักเรียน Read aloud ประโยคที่ ใชพ ูดเกีย่ วกับ Favourite holiday and the worst holiday - ใหน กั เรยี นจบั คทู ํากิจกรรม Speaking ใน Exam Task โดยนักเรียนปฏิบัตติ ามขัน้ ตอนดังนี้ ชวยกันอานประโยค/วลี ท่ีกําหนดให แลวใหนักเรียนแตละคนพูดเก่ียวกับ Favourite holiday and the worst holiday ของตนเองใหเพ่ือนฟงโดยสลับ บทบาทกันเปน ผูถ ามและผูใ หคําตอบ และเปลยี่ นคสู นทนาใหห ลากหลาย - ครูใหเ วลานักเรียนทํากิจกรรมโดยครูสังเกต แนะนํา ชว ยเหลอื แกป ญหา - ครเู ลอื กนักเรียน 3-4 คู ขึ้นมาพูดครูยอมรับทุกคําตอบ เฉลยคําตอบ Students’ own answers 5. กจิ กรรม E ใหนกั เรียน Read aloud คาํ ส่งั และคําช้ีแจงการทาํ กิจกรรม Exam Task ครูอธิบายพรอมทั้งยกตวั อยาง ประกอบโดยเลือกบางขอ จากกิจกรรมใน Exam Task - ใหน ักเรียนทบทวนสํานวนพูดทเ่ี ก่ียวของโดย Read aloud Useful Expressions - ใหนักเรียนจับคูทํากิจกรรม Speaking ใน Exam Task โดย ครูใหเวลานักเรียนทํากิจกรรมโดยครูสังเกต แนะนํา ชวยเหลือ แกปญหา - ครูเลือกนักเรียน 3-4 คู ขึ้นมาพดู ครูยอมรบั ทุกคาํ ตอบและใหน ักเรียนคัดลอกยอหนาส้ันๆ หรือ Speaking Model เก่ยี วกบั My favourite holiday and the worst holiday ลงสมุดแบบฝก หดั คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มธั ยมศึกษาปท ่ี 3

312 312  Production กจิ กรรม Ideas Focus ใหนักเรยี น Read aloud คําสงั่ และพดู บอกสง่ิ ทตี่ อ งทําในกจิ กรรมนี้ ครูทบทวนคาํ สงั่ และชีแ้ นะวิธกี ารโดยใหนักเรยี นมสี วนรว มในการคดิ กิจกรรมในขัน้ ตอนของการเตรียมเรื่องที่จะพดู ให นักเรยี นทํากจิ กรรมเปนกลมุ กลมุ ละ 4-6 คน และครกู าํ หนดข้ันตอนของกิจกรรมการพูดดังน้ี ขั้นที่ 1 Pre-Speaking  Focus ideas ครูแนะใหน กั เรียนทุกกลุมเริม่ กจิ กรรมจากการอานคาํ ถาม แลว Discuss อยางหลากหลายแลวเขียน ความคิดเหน็ ของสมาชิกทุกคนลงในกระดาษ จากน้นั ชวยกันวิเคราะหแ ละสังเคราะหม าเปน กรอบในการเขียนคําตอบของกลุม  Make a draft of Speaking Model ใหนกั เรียนเขียนคําตอบตามกรอบในการเขียนคําตอบที่ไดจากข้ัน Focus ideas โดยใชคําศัพท สํานวนพูดโครงสรางภาษา Explaining Why และสํานวนภาษาจาก Exam Close-up, Useful Expression ที่ เกี่ยวของ  Revise the draft ใหน ักเรยี นตรวจสอบทบทวนสงิ่ ทเี่ ขียน ความถกู ตอ ง ความสอดคลอ ง ความครบถวน และความ เหมาะสมของ a draft of Speaking Model  Compare and Share ใหนักเรียนนํา Speaking Model ที่เขียนไปเปรียบเทียบกับเพื่อนและปรับปรุงคําตอบ เพ่ือใหไ ด Speaking Model ท่คี รบถว นถูกตอ งและเหมาะสม แลวคัดลอก Speaking Model ลงสมุดแบบฝก หัดของนกั เรยี น  Practice ใหนักเรยี นใช Speaking Model ของตนฝกพูดกบั เพ่ือน ขน้ั ที่ 2 While-Speaking  ใหนกั เรียนใช Speaking Model ของตนพูดกบั เพอื่ นโดยผลัดกันเปนผูพูดและผฟู ง ทดี่ ี  ครูใหเ วลานักเรียนทํากิจกรรมโดยครสู งั เกต แนะนํา ชว ยเหลือ แกป ญหา ขนั้ ที่ 3 Post-Speaking  ครกู ําหนดเวลา และใหนกั เรยี นทาํ กิจกรรมนอี้ ยางอสิ ระ เมื่อหมดเวลาครูตรวจสอบคําตอบโดยเลือกนักเรียนจํานวน 3-4 กลมุ ออกมาพูด ถา หากมเี วลาไมเ พียงพอ ครูใหน กั เรยี นทาํ กิจกรรมน้ใี นชวั่ โมงตอ ไป หรอื นัดหมายใหท าํ นอกช้ันเรยี น  ครูสรปุ บทเรยี น ตอบขอซักถามของนักเรียน 6. การวดั และประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ 1. สงั เกต แบบประเมนิ การสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดีมาก 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 2. ประเมนิ ทักษะ แบบประเมนิ ทกั ษะการฟง -การพดู คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดมี าก การใชภาษา แบบประเมินทักษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 3

313 313 7. ส่ือ/แหลงการเรยี นรู หนังสอื เรียน Close-up 3 Unit 5 Take a Break เรอ่ื ง Speaking กิจกรรม A-E และ Ideas Focus หนา 65 8. บันทึกหลังการจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศึกษาปท ่ี 3

314 314 หนว ยการเรียนรูที่ 5 เร่อื ง Take a Break แผนการจัดการเรยี นรูท ่ี 11 เร่ือง Writing 1: A Social Media Post รหสั วิชา................. รายวชิ าพ้ืนฐานภาษาอังกฤษ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที่ 3 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ปการศึกษา 25……….. ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชั่วโมง ผูส อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชวี้ ัด ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขยี นเพือ่ ขอและใหข อมลู อธิบาย เปรยี บเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับเร่อื งทีฟ่ งหรอื อา นอยา ง เหมาะสม ต 2.1 ม.3/1 เลอื กใชภาษา นา้ํ เสียง และกิริยาทาทางเหมาะกับบุคคลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของ เจาของภาษา ต 4.1 ม.3/1 ใชภ าษาสอื่ สารในสถานการณจ รงิ /สถานการณจําลองที่เกิดข้ึนในหอ งเรยี น สถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม 2. จุดประสงคการเรยี นรู อา น เขียน A Social Media Post /Blog ใหขอมลู อธบิ าย เกี่ยวกบั Places to visit โดยใหข อ มูลอยา งตอเนื่อง สํานวน ภาษามีความสอดคลอ งและกลมกลืน (Coherence) ใชค าํ ศพั ทแ ละโครงสรางภาษากําหนดใหอ ยางถกู ตอง เหมาะสม 3. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรูเกยี่ วกบั การอาน เขยี น A Social Media Post/Blog ใหข อ มูล อธบิ าย เกี่ยวกับ Places to visit อยางตอ เน่ือง สํานวนภาษา Making your writing flow ใชคําศัพทแ ละโครงสรา งภาษากําหนดใหอ ยา งถูกตอ ง เหมาะสม กระบวนการฝก ทักษะทาง ภาษาทง้ั 4 ดา นโดยเฉพาะอยา งยง่ิ ทักษะการฟง การพูด โดยใชก ระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร ทําใหผูเรยี นส่ือสารได อยา งมปี ระสทิ ธิภาพ มเี จตคตทิ ี่ดตี อ การเรียนภาษาอังกฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Grammar: Past Simple, Past continuous tenses, Adverbs, Adjectives - Writing strategy: A Social Media Post /Blog 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรยี นภาษาทงั้ 4 ทักษะ การฟง การพดู การอาน และการเขยี น - ทักษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มีเหตผุ ล มวี ิจารณญาณ 5. กิจกรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครนู าํ ความสนใจของนกั เรียนในชั่วโมงน้ดี วยคาํ ถามตอไปนี้โดยครูเขยี นบนกระดานใหนักเรยี นอา นออกเสียงดงั ๆ พรอ ม กัน Q: Do you think what a social media post is? 2. นักเรียนใหคาํ ตอบอยางหลากหลาย 3. ครูเขยี นทุกคาํ ตอบของนักเรียนบนกะดาน และเชื่อมโยงเขาสกู ิจกรรมการเรยี นการสอน คูมอื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3

315 315  Presentation 1. ครสู อนความรูเ ก่ียวกบั คาํ ศัพทในกิจกรรม A-E โดยใหน ักเรียนมีสวนรว มดังน้ี - ครสู อนคําศพั ทใหมท อ่ี ยใู นกิจกรรม A-E โดยใหน ักเรยี นมสี ว นรวม - ครใู หน ักเรียนสาํ รวจคําศพั ทในกจิ กรรม A-E แลวขดี เสนใตค ําทน่ี ักเรียนไมร ูค วามหมาย จากนนั้ ใหนักเรียนบอกคําศัพทท่ี ไมร ูค วามหมาย โดยครูเขียนบนกระดาน ถา นักเรียนอานไมไดใหส ะกดตวั อักษร - ครูใหนักเรยี นจัดกลุมคาํ ศพั ทเหลานีโ้ ดยครแู นะวาควรจดั ตามหนา ทข่ี องคาํ - ครูใหน ักเรียนชวยกันคนหาความหมายของคําศัพทเหลานี้โดยคนหาจาก Dictionary หรือนักเรียนอาจสืบคน online จากโทรศพั ทมอื ถอื ของนักเรียนเอง - ครูใหน ักเรียนอา นออกเสียงคาํ ศัพทแ ตล ะคําพรอมกับบอกความหมาย โดยครชู ว ยเพ่มิ เติมความหมายของศัพทบางคําให ครอบคลุมการใชง านในบทเรียนน้ี - ใหนกั เรยี น Read aloud คําศพั ทบนกระดาน และใหน ักเรียนแบง กัน/ชว ยกนั คน หาความหมายของคําศัพทเหลานี้ แลว พดู บอกความหมาย - ครเู ขยี นความหมายของคําศัพทท่ีนักเรยี นบอกและเพม่ิ เติมความหมายของคําศัพทบางคําใหสมบูรณ - ใหนกั เรียนอานออกเสยี งดังพรอมกัน ถา คาํ ใดนกั เรียนอานไมไ ดใหครชู วยอานนําและนักเรียนอานตาม - ใหน ักเรียนคดั ลอก Word Box และคําศพั ทท เ่ี ก่ยี วของลงในสมุดคําศัพทข องตนเอง 2. ครูสอนโครงสรางเรอื่ ง Past Simple, Past continuous tenses describing an event that happened in the past 2.1 Forms of Past Simple, Past continuous tenses - Past Simple tense: Subject + verb in the past + … ตวั อยางเชน The gymnasts performed brilliantly. - Past continuous tense: Subject + was/were + verb + ing + … ตวั อยางเชน Everyone there was looking forward to a great race. 2.2 Adverbs: A word that describes or gives more information about a verb, adjective, adverb, or phrase ตวั อยา งเชน Everyone was truly amazed. ตาํ แหนงของ Adverbs ภายในประโยค ไดแ ก - ตดิ กบั verb ของประโยค เชน Their team play brilliantly. - หนา adjectives เชน Barcelona won and I was really upset. - หนา adverbs เชน Their players could run very quickly. - หนาประโยค เชน Again, our team played againt Arsenal. 2.3 Adjectives: A word that describes a noun or pronoun ตวั อยางเชน I saw a great race yesterday. ตําแหนง ของ Adjectives ภายในประโยค ไดแ ก - หลัง Verb to be or Linking verbs (look, seem, become, smell, get, sound, keep, stay) เชน You must be polite. - หนา คาํ นามเพื่อขยายคาํ นามนั้น เชน This is the incredible match. 3. ครูทบทวน Writing Strategy ใน Learning Focus: Making your writing flow ครอู ธบิ ายและยกตัวอยางประกอบ โดย ใหน ักเรยี นมีสว นรวมในการยกตวั อยางประกอบการอธิบาย  Practice ครใู หนกั เรยี นเปด หนังสอื Close-up 3 หนา 66 นกั เรียนปฏิบัตกิ ิจกรรมตอไปนี้ 1. กจิ กรรม A ใหน ักเรียน Read aloud คําสงั่ และพูดบอกสิ่งท่ีนักเรยี นตอ งปฏบิ ตั ิในกิจกรรมนี้ คมู ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศึกษาปท ่ี 3

316 316 - ใหน ักเรียนทบทวนกฎขอ 2 ของการเขยี นอยางเล่ือนไหล (Making your writing flow) ไดแก One way to do this is to avoid repetition in your writing. Try to think of other ways to express some words you have already written. This will make your writing more interesting and enjoyable for the reader. - ใหนักเรียนจับคูกับเพื่อน Read the two social media posts แลวพิจารณาวาบทอานใดท่ีใชคํา วลีซํ้าๆ แลว เปรยี บเทยี บบทอา นทั้งสอง โดยนักเรยี นปรกึ ษาและ ลงความเหน็ วา บทอา นใดดีกวา - ครูใหน กั เรียนนาํ คําตอบทีไ่ ดไปDiscuss and share the answers - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียนอานคําตอบพรอ มกัน และใหเ หตุผล ครูอธบิ าย และเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ Text 2 is better because it isn’t repetitive. 2. กจิ กรรม B ใหน ักเรยี น Read aloud คาํ ส่ัง และพดู บอกสิ่งที่นักเรียนตอ งปฏบิ ัติในกจิ กรรมนี้ - ใหน ักเรียนยอนกลับไปอา นบทอานที่ 2 ในกิจกรรม A เพื่อพิจารณาวาการใชคํา วลีที่หลีกเลี่ยงไมใหเกิดการใชขอมูล ซ้าํ ๆ - ครตู รวจสอบคาํ ตอบโดยใหนกั เรียนอานคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบและสรุปประเด็นในการ Making your writing flow ตามกฎขอ 2 ใน Learning Focus เฉลยคาํ ตอบ Here, the first is, that 3. กิจกรรม C ใหน ักเรียน Read aloud คาํ สงั่ และพูดบอกสิง่ ท่ีนักเรียนตองปฏบิ ัตใิ นกจิ กรรม - ใหนักเรียนอาน Social Media Post ทก่ี าํ หนดให วเิ คราะหเนอ้ื หาภายในบทอา น พิจารณาการใชขอมูลซํ้าแลวขีดเสน ใตก าํ กบั แลว พิจารณาวาควรเปลี่ยนไปใชคาํ หรือวลหี รอื ประโยคใดแทนหรอื ตัดทงิ้ เพื่อลดความซํา้ ซอน - ครูตรวจสอบคาํ ตอบโดยใหนักเรียนบอกจํานวนขอ มลู ที่ใชซํ้าวา มีกแี่ หง อะไรบาง ใหนักเรียนพูดบอกคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ There are 3 words /phrases of repetition: 1.Lisbon-Lisbon 2.arrived-arrived 3.sunny-Because it’s sunny 4. กจิ กรรม D ใหนักเรียน Read aloud the post ครูอธิบายและใหนักเรยี นพิจารณาการใชขอมูลซ้ําท่ีนักเรียนไดขีดเสน ใตก ํากบั ไว และพจิ ารณาวา ควรเปลี่ยนไปใชคําหรือวลีหรือประโยคใดแทนหรือตัดท้ิงเพื่อลดความซํ้าซอน โดยกําหนดตัวเลือกมาให นกั เรียนตัดสนิ ใจไดง ายข้ึน - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรยี นอานคาํ ตอบพรอมกันและครูเฉลยคําตอบ จากนั้นใหนักเรียนชวยกันอานและพูด บอกความหมายของเนอ้ื ความใน post เฉลยคําตอบ (1) It’s (2) got here (3) so คมู ือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที่ 3

317 317  Production กจิ กรรม Expand Your Ideas (ครกู ําหนดเอง) Write a post to describe your impressive place in your province. - ครชู ้ีแนะวิธีการเขียน ใหเ วลานักเรยี นเขียนอยา งอิสระ - ครสู รุปบทเรียนและกาํ หนดนดั หมายใหน ักเรยี นการสงงาน 6. การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี าร เคร่อื งมอื คะแนน เกณฑ 1. สังเกต แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน 18-20 15-17 ผลการประเมิน 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผาน 2. ประเมินทกั ษะ แบบประเมินทักษะการฟง -การพดู คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดีมาก การใชภ าษา แบบประเมนิ ทักษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. สือ่ /แหลงการเรยี นรู หนังสอื เรยี น Close-up 3 Unit 5 Take a Break เรื่อง Writing กิจกรรม A-D หนา 66 8. บันทกึ หลังการจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมอื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท่ี 3

318 318 หนวยการเรยี นรูที่ 5 เรอ่ื ง Take a Break แผนการจดั การเรียนรูท ี่ 12 เรอ่ื ง Writing 2: Interesting Places รหัสวิชา................. รายวชิ าพนื้ ฐานภาษาอังกฤษ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปก ารศึกษา 25……….. ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ชว่ั โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชี้วัด ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขียนโตตอบขอมูลเกีย่ วกบั ตนเอง เรอ่ื งตางๆ ใกลต ัว สถานการณ ขา ว เรอื่ งท่ีอยูในความสนใจ ของสังคมและส่อื สารอยา งตอ เนื่องและเหมาะสม ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขียนเพอื่ ขอและใหข อ มูล อธบิ าย เปรียบเทยี บ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเร่อื งท่ีฟงหรืออาน อยางเหมาะสม 2. จดุ ประสงคก ารเรียนรู เขียนและอา น Post เพ่ือแสดงความคิดเห็น อธิบาย ขอและใหขอมูลเก่ียวกับ Interesting places โดยใชคําศัพท สํานวน ภาษา และโครงสรางภาษา ทก่ี าํ หนดใหไดอ ยางถกู ตอง เหมาะสม 3. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) การเขียนและการอาน Post เก่ยี วกบั Interesting places และกิจกรรมฝก ทักษะการคิดกระบวนการฝกทักษะทางภาษาท้ัง 4 ดานโดยเฉพาะการอานและการเขียน โดยใชกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ทําใหผูเรียนสื่อสารไดอยางมี ประสิทธภิ าพ มีเจตคติท่ีดีตอ การเรยี นภาษาองั กฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Grammar: สํานวนภาษาใน Post และโครงสรางภาษาเกี่ยวกบั Interesting places 4.2 ดา นทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรียนภาษาทัง้ 4 ทักษะ การฟง การพดู การอาน และการเขียน - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการสอ่ื สาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มีประสทิ ธภิ าพในการส่ือความ - มเี หตผุ ล มวี จิ ารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูนําความสนใจของนักเรยี นเขาสูบทเรียนในชั่วโมงนโ้ี ดยครูใหน ักเรียนตอบคําถาม ดังน้ี Q: Can you tell the most interesting place to visit? 2. ครเู ขยี นทกุ คาํ ตอบของนกั เรยี นบนกระดาน และเช่ือมโยงเขาสกู ิจกรรมการเรียนการสอน  Presentation 1. ครูสอนความรูเกี่ยวกับคําศพั ทใ นกิจกรรม E-G โดยใหน กั เรียนมีสวนรวมดงั นี้ - ครสู อนคําศัพทใหมทอี่ ยูในกิจกรรม E-G โดยใหน ักเรียนมสี ว นรวม คมู ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3

319 319 - ครใู หน กั เรียนสํารวจคาํ ศพั ทในกจิ กรรม E-G แลว ขีดเสน ใตค ําทีน่ ักเรียนไมรคู วามหมาย จากนั้นใหนักเรียนบอกคําศัพท ที่ไมร คู วามหมาย โดยครเู ขียนบนกระดาน ถา นกั เรยี นอา นไมไ ดใ หสะกดตัวอกั ษร - ครใู หนักเรยี นจดั กลมุ คําศพั ทเหลานโ้ี ดยครแู นะวา ควรจดั ตามหนาท่ขี องคํา - ครใู หน ักเรียนชวยกนั คนหาความหมายของคําศัพทเหลานี้โดยคนหาจาก Dictionary หรือนักเรียนอาจสืบคน online จากโทรศัพทม ือถือของนกั เรียนเอง - ครใู หนักเรยี นอา นออกเสียงคําศัพทแ ตละคําพรอ มกับบอกความหมาย โดยครูชวยเพิ่มเติมความหมายของศัพทบางคํา ใหค รอบคลุมการใชง านในบทเรยี นนี้ - ใหนักเรียน Read aloud คําศพั ทบ นกระดาน และใหน กั เรียนแบง กนั /ชวยกนั คนหาความหมายของคาํ ศพั ทเหลานี้ แลว พูดบอกความหมาย - ครูเขยี นความหมายของคาํ ศัพทท ่ีนกั เรียนบอกและเพม่ิ เติมความหมายของคําศัพทบางคําใหส มบูรณ - ใหนักเรยี นอา นออกเสียงดังพรอ มกนั ถา คําใดนักเรยี นอานไมไดใ หค รชู วยอานนําและนักเรยี นอานตาม - ใหน ักเรียนคัดลอก Word Box และคาํ ศพั ทท ่เี กย่ี วขอ งลงในสมุดคําศพั ทข องตนเอง 2. ครสู อนสํานวนภาษาใน Exam Close-up และ Useful Expressions โดยใหน กั เรยี นมีสว นรวม  Practice ครูใหน กั เรียนเปดหนังสอื Close-up 3 หนา 79 นกั เรยี นปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตอไปนี้ 1. กิจกรรม E ใหน ักเรยี น Read aloud คาํ สงั่ และบอกส่งิ ท่นี กั เรยี นตองปฏิบัติในกจิ กรรมน้ี - ครูทบทวนคาํ สง่ั อธิบายวิธกี ารเขยี นในแตล ะหัวขอ ที่กาํ หนดใหน ักเรยี นเขาใจและมีความมน่ั ใจในการเขียน - ครใู หเวลานกั เรยี นเขียนคําตอบตามหัวขอท่ีกําหนด โดยครูสังเกต ชว ยเหลอื แนะนํา แกปญ หา - ใหนักเรยี นนําคําตอบทไ่ี ดไ ปแลกเปล่ียนกนั ตรวจสอบความถูกตองของ การเลือกใชค ําศัพท ตัวสะกด เคร่ืองหมาย และ โครงสรางประโยค (Tenses) - จากน้ันใหน ักเรียนปรบั ปรุงงานเขียนกอนนําไป Compare and Share กับเพื่อนในหอง - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรียนพูดบอกคําตอบพรอมกัน และเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ Students’ own answers 2. กจิ กรรม F ใหนกั เรยี น Read aloud คาํ สง่ั และพูดบอกสง่ิ ทน่ี ักเรยี นตอ งปฏบิ ัติ - ครูทบทวนคําสัง่ อธบิ ายและใหน กั เรยี น Read aloud the Exam Close-up: Using correct punctuation and the punctuation rules. - ครูอธบิ าย Using correct punctuation and the punctuation rules โดยใหนกั เรยี นมีสว นรว มในการยกตัวอยา ง - เมื่อนักเรียนทุกคนเขาใจกฏการใชเคร่ืองหมายภายในประโยคแลว ครูใหนักเรียนอานประโยคที่ 1-6 เพื่อคนหา ขอ ผดิ พลาดในการใชเครือ่ งหมาย ใหน กั เรียนวงกลมและแกไขใหถกู ตอ ง - ครูใหเ วลานักเรยี น คิดและเขียน โดยครูสังเกต แนะนาํ ชว ยเหลอื แกปญหา - ครูตรวจสอบคําตอบโดยเลือกนักเรยี นพดู บอกคําตอบ ครูเขียนคาํ ตอบบนกระดาน คูมือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศึกษาปท ี่ 3

320 320 เฉลยคําตอบ 1. Rome’s (Rome is), Angela’s (possessive), she’s (she has) 2. If (start of sentence), comma after Paris (conditional), you’ll (you will) 3. didn’t (did not), grandparents’ (possessive plural), Spain (capital letter for place name) 4. Helen (name of a person), Great Wall of China (name of a place) 5. They’re (They are), plane’s (plane is), full stop at the end of sentence 6. Greek (nationality adjective), tourists’ (possessive plural) 3. กจิ กรรม G ใหนักเรียน Read aloud คาํ สั่ง และพดู บอกสงิ่ ท่นี ักเรียนตอ งปฏิบตั ิ - ใหนกั เรยี น Read aloud Exam Task แลว ทาํ กิจกรรมเขยี น Social media post ตอบกลบั โดยครูวธิ กี ารเขยี นและแนะ ใหใช Useful Expression - ครใู หเวลานักเรยี น คดิ และเขยี น โดยครูสังเกต แนะนํา ชว ยเหลือ แกปญหา - ใหนักเรียนจับคูกับเพ่ือนเพ่ือนําคําตอบท่ีไดไปแลกเปลี่ยนกันตรวจสอบความถูกตองของการสะกดคําและการใช เครื่องหมายกอ นนําไป Compare and Share กบั เพื่อนในหอง - ครูตรวจสอบคําตอบโดยเลอื กนักเรยี นพดู บอกคําตอบ ครเู ขียนคาํ ตอบบนกระดาน เฉลยคําตอบ (Suggested answer) Hi all I’m in Berlin. I arrived three days ago. It’s really cold here, but we still went sightseeing this morning. Tomorrow we’re going to go shopping. It’s a really interesting city!  Production กจิ กรรม Expand Your Ideas (ครูกําหนดเอง) ครูใหนักเรียนเขียน Social media post ถึงเพ่ือนเลาเร่ืองเก่ียวกับการ เขา รว มกจิ กรรมทัศนศึกษาของโรงเรียน เลา เหตุการณ และบอกความรูส กึ โดยเขียน ดังน้ี Write a social media post. Describe some places you visited during the school field trip. Write 45 -50 words. - ครูช้ีแนะวิธีการเขียน แนะกรอบในการเขียนใหครอบคลุมประเด็นและการเลือกใช Adjectives เพื่อใหเรื่องมีความ นาสนใจย่ิงข้ึน ใหนักเรียนจับคูกับเพื่อนเพื่อนําคําตอบที่ไดไปแลกเปล่ียนกันตรวจสอบความถูกตองของการสะกดคําและการใช เครือ่ งหมายกอ นนําไป Compare and Share กับเพอื่ นในหอง - ครูตรวจสอบคําตอบโดยเลือกนักเรียนพดู บอกคาํ ตอบ ครเู ขียนคาํ ตอบบนกระดาน ครูสรุปบทเรยี น 6. การวัดและประเมินผล วธิ กี าร เครื่องมอื คะแนน เกณฑ 1. สงั เกต แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน 18-20 15-17 ผลการประเมิน 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผาน คมู ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ 3

321 321 วธิ ีการ เครื่องมือ คะแนน เกณฑ 18-20 2. ประเมนิ ทักษะ แบบประเมนิ ทักษะการฟง-การพูด 15-17 ผลการประเมิน การใชภาษา แบบประเมินทักษะการอาน-การเขียน 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผาน 7. ส่ือ/แหลงการเรยี นรู หนงั สอื เรียน Close-up 3 Unit 5 Take a Break เร่อื ง Writing กิจกรรม E-G หนา 67 8. บันทึกหลังการจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3

322 322 หนว ยการเรยี นรูท่ี 5 เรื่อง Take a Break แผนการจัดการเรียนรู้13 เรือง Writing 3: A Post for your Social Media Page รหสั วิชา................. รายวชิ าพ้ืนฐานภาษาองั กฤษ ช้ันมธั ยมศึกษาปท่ี 3 กลุมสาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ ปการศึกษา 25……….. ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ชั่วโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชีว้ ดั ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขียนโตตอบขอมูลเกี่ยวกบั ตนเอง เร่ืองตางๆ ใกลต ัว สถานการณ ขาว เรอื่ งท่ีอยใู นความสนใจ ของสังคมและส่ือสารอยางตอ เนื่องและเหมาะสม ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขียนเพ่ือขอและใหข อ มูล อธบิ าย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกบั เรื่องทฟี่ ง หรืออาน อยา งเหมาะสม 2. จดุ ประสงคการเรียนรู เขียนและอาน เพื่อขอและใหขอมูล อธิบายโดยใชสํานวนภาษาและโครงสรางภาษาท่ีกําหนดใหถูกตอง เหมาะสมกับ ระดบั ช้ันเรียน 3. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรเู กีย่ วกับคําศพั ทส ํานวนภาษาใน Comment on a Blog โครงสรางภาษาท่ใี ชใ นการเขียน และกิจกรรมฝกทักษะการคิด กระบวนการฝก ทกั ษะทางภาษาท้ัง 4 ดา นโดยเฉพาะการอา นและการเขียนโดยใชกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ทําให ผูเ รียนสอื่ สารไดอ ยางมปี ระสิทธิภาพ มเี จตคตทิ ีด่ ตี อ การเรียนภาษาอังกฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Grammar: โครงสรา งภาษาทใ่ี ชใ นการเขียน Comment on a Blog - Writing strategy: Explaining why 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรียนภาษาท้งั 4 ทักษะ การฟง การพดู การอา น และการเขียน - ทักษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - ใชภ าษาอังกฤษอยางมีมารยาท ถกู ตองตามกาลเทศะและบุคคล - มีเหตผุ ล มีวจิ ารณญาณ 5. กิจกรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครนู าํ ความสนใจของนักเรียนเขาสบู ทเรียนในชัว่ โมงนี้โดยครเู ขยี นประโยคคาํ ถามตอไปนบี้ นกระดาน Q : What do you think about your school Sports Day? 2. ใหน ักเรียน Read aloud ประโยคบนกระดาน 3. ใหน ักเรยี น Discuss and give the answers. 4. นกั เรยี นใหค าํ ตอบอยางหลากหลาย และครูยอมรบั ทุกคาํ ตอบ 5. ครูเชอ่ื มโยงเขา สบู ทเรียนเร่อื งการเขียนเพื่อแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั เรอ่ื งราวใน Blog คมู ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศึกษาปที่ 3

323 323  Presentation 1. ครูสอนความรูเกี่ยวกับคําศัพท ทบทวนโครงสรางและสํานวนภาษาท่ีใชในการเขียน เปรียบเทียบการเขียน blog, messages, email messages ดังน้ี - ครสู อนคาํ ศพั ทใ หมทอี่ ยใู นกจิ กรรม A-D โดยใหน กั เรยี นมีสว นรว ม - ครใู หนกั เรยี นสํารวจคําศัพทใ นกจิ กรรม A-D แลว ขดี เสน ใตค าํ ที่นกั เรยี นไมร คู วามหมาย จากนั้นใหนักเรียนบอกคําศัพท ที่ไมรูความหมาย โดยครูเขียนบนกระดาน ถานกั เรยี นอานไมไดใหสะกดตวั อักษร - ครใู หนักเรยี นจดั กลุม คําศพั ทเหลานโ้ี ดยครูแนะวา ควรจดั ตามหนาท่ีของคํา - ครใู หน กั เรียนชวยกนั คน หาความหมายของคําศัพทเหลาน้ีโดยคนหาจาก Dictionary หรือนักเรียนอาจสืบคน online จากโทรศัพทมือถอื ของนกั เรียนเอง - ครใู หนกั เรียนอา นออกเสยี งคําศัพทแตละคาํ พรอ มกบั บอกความหมาย โดยครูชวยเพ่ิมเติมความหมายของศัพทบางคํา ใหค รอบคลุมการใชง านในบทเรยี นนี้ - ใหนักเรียน Read aloud คําศัพทบนกระดาน และใหนักเรียนแบงกัน/ชวยกันคนหาความหมายของคําศัพทเหลานี้ แลว พูดบอกความหมาย - ครูเขยี นความหมายของคาํ ศัพทท ่ีนักเรียนบอกและเพิม่ เตมิ ความหมายของคําศัพทบางคําใหส มบรู ณ - ใหน กั เรยี นอานออกเสยี งดังพรอมกนั ถา คําใดนกั เรียนอา นไมไ ดใ หครูชว ยอานนําและนักเรยี นอานตาม - ใหน ักเรียนคดั ลอก Word Box และคําศพั ทท่เี ก่ียวของลงในสมดุ คําศพั ทข องตนเอง 2. ครูทบทวนสํานวนภาษาใน Learning Reminder: Making your writing flow โดยใหนักเรียนมีสวนรวม โดยให นกั เรียน Read aloud กฎการเขียน Making your writing flow 3. ครทู บทวนสาํ นวนภาษาใน the Useful Expressions on page 67 of your Student’s Book. โดยใหนกั เรยี นมีสว น รวม ใหน กั เรยี น Read aloud สาํ นวนภาษาใน the Useful Expressions 4. ครูทบทวนการใชเคร่อื งหมายทถี่ ูกตอ งภายในประโยคโดยใหน ักเรยี นมสี วนรวม ดงั น้ี Using correct punctuation - When you write, you must use correct punctuation such as capital letters, commas, full stops, question marks and apostrophes. - Check these carefully because you lose marks for silly mistakes.  Practice ครูใหนักเรยี นเปดหนังสอื Workbook Close-up 3 หนา 37 ปฏิบัติกิจกรรมดังนี้ 1. กจิ กรรม A ใหนักเรียน Read aloud คาํ สง่ั และพูดส่งิ ท่นี ักเรยี นตอ งปฏบิ ตั ใิ นกิจกรรมน้ี - ครูทบทวนคําสั่ง อธิบายและใหนักเรียนทบทวนกฎการเขียนขอ 2 To help to do this and make your writing more interesting for your reader, make sure you don’t repeat the same words too often. Try to use different words. - ครใู หนกั เรยี นอานประโยค1-3 เพ่ือคนหา words/phrases of repetition แลวขีดเสนใตกํากับและคิดหาคําอ่ืนมาใช แทน - ครใู หเ วลานักเรียนคิดและปรึกษาคําตอบกับเพอื่ น เม่อื ไดคาํ ตอบใหนักเรียน Compare and share คําตอบกบั เพื่อน ครูตรวจสอบคาํ ตอบโดยใหน กั เรยี น Read aloud คําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ คมู อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มธั ยมศึกษาปท ่ี 3

324 324 เฉลยคําตอบ (Suggested answers) 1. I’ve been in Spain for a week now, and it’s a great place. I’m happy to be here. 2. Our guided tour yesterday was quite fun. We went on the excursion to Machu Picchu, which is an amazing place! 3. I’m quite disappointed in Venice. The weather has been very rainy here, which is a shame. 2. กิจกรรม B ใหน กั เรียน Read aloud คาํ สง่ั และพูดสง่ิ ทีน่ ักเรียนตองปฏบิ ัติในกิจกรรมน้ี - ครูทบทวนคําสงั่ อธิบาย และใหนักเรยี นเขาใจและสามารถทํากจิ กรรมตามคาํ สง่ั ไดสําเร็จ - ใหนักเรียนเร่ิมตนโดย Read aloud the post and the given instructions - จากน้นั นักเรียนอานประโยค 1-3 อยางระมัดระวังเพ่ือตรวจหาขอมูลท่ีคลาดเคล่ือนไปจาก the given instructions ขา งตน และขดี เสน ใตกาํ กบั ไว - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียนบอกขอ มูลท่ีคลาดเคล่ือนไปจาก the given instructions พรอมกัน ไดแก 1. an email 2. you did yesterday 3. is - เมื่อรตู าํ แหนง ขอ มูลทีไ่ มถกู ตอ งหรอื คลาดเคล่อื นแลว ครใู หนกั เรียนเขยี นคํา/ขอ ความใหมท ่ถี ูกตอ ง และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. You should write a social media post. 2. You will write about what you’re going to do tomorrow. 3. Philip isn’t in Bangkok. 3. กจิ กรรม C ใหน ักเรยี น Read aloud คาํ สงั่ และพดู สงิ่ ที่นกั เรียนตองปฏบิ ตั ใิ นกิจกรรมนี้ - ครทู บทวนคําส่ัง อธบิ าย และใหนกั เรียนเขาใจและสามารถทํากจิ กรรมตามคาํ สัง่ ไดสําเร็จ - ใหนกั เรียนเริ่มตน โดยทบทวนกฎการใชเ ครื่องหมายภายในประโยค - หลงั จากน้ันใหนักเรียน Read carefully the post เพื่อคนหาขอผิดพลาดในการใชเครื่องหมายภายในประโยค และ เขียนใหมใหถ ูกตอ ง - ครูใหเ วลานกั เรียนคนหา คิดวเิ คราะห ไตรต รอง และคน หาขอมูล/เครอื่ งหมายทีไ่ มถ ูกตอง นับจํานวนความผิดพลาดวา เกดิ ขึ้นก่ตี ําแหนงและเกิดทใ่ี ด จากนั้นเขียนแกไ ขใหมใหถกู ตอ งแลวใหน ักเรียนนาํ ไป Compare and Share กับเพ่ือนในหอง - ครตู รวจสอบความถูกตองโดยใหนักเรียนอา นคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ Bangkok is an interesting place. It is in Southeast Asia. I’ve never visited this region before, so this is an amazing experience. We are visiting some ancient sites tomorrow. Who wants to see a video of it? I’ll post one as soon as I get back.  Production กจิ กรรม D ใหนักเรยี นปฏิบัตดิ งั น้ี คมู ือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ 3

325 325 1. Read aloud the ExamTask: the post on a social media site from your friend, Shannon. และพูดบอก ความหมาย 2. เขยี น post for your social media page ตอบกลบั Shannon 3. ใหนักเรียนจับคูกับเพ่ือนเพ่ือนําคําตอบที่ไดไปแลกเปล่ียนกันตรวจสอบความถูกตองของการสะกดคําและการใช เครอื่ งหมายกอนนําไปCompare and Share กับเพื่อนในหอง 4. ครตู รวจสอบคําตอบโดยเลือกนักเรียนพูดบอกคําตอบ ครูเขียนคําตอบบนกระดาน 5. ครูสรุปบทเรยี นตอบขอซักถามนักเรียน เฉลยคาํ ตอบ (Suggested answer) I got to my hotel a few minutes ago, and I’m in my room now. My flight was fine, but I ‘m glad it’s over. The weather here is sunny and warm, which is great! 6. การวดั และประเมนิ ผล เครอื่ งมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียน 18-20 วิธกี าร 15-17 ผลการประเมนิ 1. สงั เกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมนิ ทักษะ แบบประเมินทักษะการฟง-การพูด คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดีมาก การใชภ าษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 7. สอ่ื /แหลง การเรียนรู หนงั สอื Workbook Close-up 3 Unit 5 Take a Break เรื่อง Writing กจิ กรรม A-D หนา 37 8. บันทึกหลงั การจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มธั ยมศึกษาปท่ี 3

326 326 หนวยการเรียนรูท่ี 5 เร่ือง Take a Break แผนการจดั การเรียนรทู ี่ 14 เร่ือง Video: The Travelling Photographer รหัสวชิ า................. รายวิชาพน้ื ฐานภาษาองั กฤษ ชน้ั มัธยมศึกษาปท่ี 3 กลมุ สาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ชัว่ โมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชี้วัด ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขยี นโตตอบขอมลู เก่ียวกับตนเอง เรือ่ งตา งๆ ใกลตัว สถานการณ ขาว เร่อื งที่อยใู นความสนใจของ สงั คมและสื่อสารอยางตอเนื่องและเหมาะสม ต 1.3 ม.3/2 พดู และเขียนสรปุ ใจความสาํ คัญ/แกน สาระ หวั ขอเร่อื งทไ่ี ดจ ากการวิเคราะหเร่อื ง/ขาว/เหตกุ ารณ/สถานการณ ท่อี ยูในความสนใจของสงั คม ต 2.1 ม.3/2 อธบิ ายเก่ียวกบั ชีวิตความเปนอยู ขนบธรรมเนยี ม และประเพณีของเจาของภาษา ต 2.2 ม.3/1 เปรยี บเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกตางระหวางการออกเสียงประโยคชนิดตางๆ และการ ลําดับคําตามโครงสรา งประโยคของภาษาตางประเทศและภาษาไทย ต 3.1 ม.3/1 คน ควา รวบรวม และสรุปขอ มูล/ขอเท็จจรงิ ท่เี ก่ยี วขอ งกบั กลมุ สาระการเรยี นรูอืน่ จากแหลง การเรียนรแู ละนํา เสนอดว ยการพดู และการเขยี น ต 4.1 ม.3/1 ใชภาษาส่ือสารในสถานการณจ ริง/สถานการณจําลองท่ีเกิดขึน้ ในหองเรียน สถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม ต 4.2 ม.3/1 ใชภ าษาตา งประเทศในการสืบคน/คนควา รวบรวม และสรุปความรู/ขอมูลตางๆ จากสือ่ และแหลงการเรียนรู ตางๆ ในการศกึ ษาตอและประกอบอาชีพ 2. จุดประสงคการเรียนรู ฟง พดู อา นเขียน จากการดูชมสารคดเี ก่ียวกับ The Travelling Photographer แลวสรปุ ใจความสาํ คัญ แสดงความคิดเหน็ โดยใชสาํ นวนภาษาและโครงสรางภาษาทีก่ ําหนดใหไ ดอ ยางถูกตอง เหมาะสม 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูเกย่ี วกบั สํานวนภาษา โครงสรางภาษาในสารคดเี กยี่ วกบั The Travelling Photographer กจิ กรรมการเรียนรูผานสื่อ วดิ ีโอ (processed watching) สือ่ ส่ิงพมิ พ ทกั ษะการเรียนภาษาท้งั 4 ดาน ไดแก ทักษะการฟง ทักษะการพูด ทักษะการอาน ทักษะ การเขียน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ทําใหการสื่อสารบรรลุเปาหมายอยางมีประสิทธิภาพ ผูเรียนมีความ สามารถ มเี จตคติท่ดี ตี อภาษาองั กฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Grammar: Documentary films เรอ่ื ง The Travelling Photographer 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะการการดชู มอยา งเปน ขั้นตอนมีเปาหมาย (processed watching) - ทักษะการคิดวเิ คราะห คิดสงั เคราะห และประเมินคา - ทกั ษะเรยี นภาษาท้ัง 4 ทักษะ การฟง การพูด การอาน และการเขยี น - ทักษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที่ 3

327 327 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มีประสทิ ธภิ าพในการสื่อความ - มเี หตผุ ล มีวจิ ารณญาณ 5. กิจกรรมการเรียนรู  Lead-in ครูนําความสนใจของนักเรียนเขาสูบทเรียนในชั่วโมงน้ีโดยครูใหนักเรียน Read aloud ชื่อเรื่อง The Travelling photographer แลวใหนักเรยี นแปลชอ่ื อาชพี นีเ้ ปน ภาษาไทย นักเรยี นชวยกันใหคําตอบ โดยครยู อมรบั ทุกคําตอบ  Presentation กอนดูวิดโี อครูสนับสนุนใหนักเรยี นเตรยี มความรเู กยี่ วกับเรือ่ งท่ใี นวดิ ีโอ โดยทํากจิ กรรมตอ ไปนี้ 1. กจิ กรรมพดู เลาตามจนิ ตนาการ (ครูกําหนดขึ้นเอง) ดงั น้ี Work in groups. From the title ‘The Travelling Photographer’, imagine what the video is about. Do you think that the a travelling photographer is your ideal job? Why?/Why not? - ครใู หนักเรยี นแบงกลุม กลุม ละ 4-6 คน พดู เลา ตามจนิ ตนาการจากชื่อเรื่องในวิดีโอใหนักเรียน Read aloud ชื่อเร่ือง The Travelling Photographer’ แลวใหนักเรียนจินตนาการเก่ียวกับเรื่องวานาจะเปนร่ืองเกี่ยวกับอะไร และตอบคําถามขอ 2 นกั เรยี นคิดวาอาชีพ a travelling photographer เปน อาชีพในอดุ มคตขิ องนักเรียนหรือไม ครูตรวจสอบความคดิ เห็นของนักเรียนโดย ใหนักเรียนบอกคําตอบพรอมกัน ครูเขียนคาํ ตอบของนกั เรียนบนกระดาน โดยครูยอมรับทุกคาํ ตอบ - ครสู รุปเรอ่ื งราวตามจินตนาการของนกั เรียน และใหนักเรียนสานตอความคิดสรางสรรคและจินตนาการของนักเรียน จากการปฏิบตั ิกจิ กรรม A และการชมวดิ โี อในกจิ กรรม B 2. กิจกรรม Before you watch: กิจกรรม A ครูใหนักเรียน Read aloud คําสั่งและบอกสิ่งท่ีนักเรียนตองปฏิบัติใน กิจกรรมนี้ - ครูทบทวนคําสง่ั และอธบิ าย และครูใหน ักเรียน Read aloud คําถาม จากน้ันใหนักเรยี นจับคูกับเพอ่ื นอภปิ รายคําถาม และคดิ หาคําตอบรวมกนั - จากนั้นใหน ักเรียนนําคาํ ตอบที่ไดไป Discuss and share กบั เพื่อนในหอง - ครูตรวจสอบคาํ ตอบโดยเลอื กนักเรยี น3-4 คูใ หบอกคําตอบและครูยอมรับทุกคําตอบ เฉลยคําตอบ Students’ own answers - ครูชแ้ี จงกจิ กรรมการเรยี น แนะนําการเรียนดวยวดิ ีโอ ช้ีแนะ มารยาทในการดูชม  Practice 1. กจิ กรรม While you watch: กจิ กรรม B ครูบอกนักเรียนวานักเรียนจะไดดูหนังสารคดีส้ันเกี่ยวกับงานของ Steve McCurry ซ่งึ เปน ชา งภาพของนติ ยสาร National Geographic และขณะท่ีดูนักเรยี นตอ งตดั สนิ ใจวาใจความในประโยคท่ี 1-6 เปนจริง หรือไมเปนจริงตามเรื่องในวิดีโอ ดังนั้นกอนดูวิดีโอใหนักเรียนอานประโยคใหเขาใจ ซ่ึงจะชวยใหนักเรียนเขาใจและคาดเดาเร่ือง ลวงหนา ได - นกั เรียนอานประโยคทกี่ าํ หนดใหและขีดเสนใตคําสาํ คัญซึ่งจะชว ยในการคิดคาํ ตอบ - เมอ่ื นักเรียนพรอ ม ครูเปด วดิ ีโอใหน กั เรียนดู คูม ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศึกษาปท่ี 3

328 328 - ครูเปดวดิ ีโอและหยุดเลน ช่วั ขณะ หลงั จากนัน้ ครตู รวจสอบคําตอบของประโยคที่ 1-2 หากพบวานักเรียนสวนใหญ เลอื กคําตอบถูก ครูเปดวดิ โี อตอและหยุดเลนเปน ระยะเพอ่ื ใหน กั เรยี นไดมเี วลาคดิ ทบทวนและประเมินคําตอบ แตถานักเรียนสวนใหญ เลือกคาํ ตอบไมถ กู ตอ ง ครคู วรเริ่มเลน ใหมและเปดซา้ํ หลายคร้งั เพอ่ื ใหน ักเรยี นประสบความสําเรจ็ ในการดูชม - เมอ่ื ดจู บแลวครใู หนักเรยี นตรวจคําตอบ แตถ านกั เรยี นสว นใหญยังไมสามารถหาคําตอบได ครูควรใหนักเรียนดูซ้ํา หลายรอบ กอนเฉลยคาํ ตอบ - ครูเฉลยคาํ ตอบ โดยใหน กั เรยี นอานคําตอบพรอ มกัน โดยครูใหน ักเรียนบอกเหตผุ ลทเี่ ลือก เฉลยคาํ ตอบ 1. T 2. T 3. F 4. F 5. T 6. T 2. กจิ กรรม After you watch: กิจกรรม C ครูใหน ักเรียนทํากจิ กรรมหลังดวู ดี โิ อ ดังน้ี - ครูทบทวนเทคนิคการทําขอสอบ Cloze test โดยใหนักเรียนใชเทคนิคการทําขอสอบ Focus on words before and after a gap - ใหนกั เรยี นคนหาตวั ชแี้ นะคําตอบท่อี ยูห นาตัวเลือก โดยขดี เสน ใตก ํากับไวแ ลวเลือกคําตอบ - ครูตรวจสอบตัวช้ีแนะคาํ ตอบโดยใหน ักเรยี นอานตวั ช้แี นะคาํ ตอบของทกุ ประโยค - ครูใหนกั เรยี น Read aloud คําศัพทท ่เี ปนตวั เลือกและบอกความหมายของคําศัพทดังกลาว - นักเรยี นลงมืออาน Cloze passage กิจกรรม C ใหน ักเรยี นคดิ วเิ คราะหค าํ ตอบ และเลือกคําตอบและนําคําตอบที่ได ไป Discuss and share กับเพื่อนในหอง ครูใหเวลานักเรยี น - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรียนบอกคําตอบพรอมกัน - ครูใหน กั เรยี นไดด วู ดิ ีโอซํ้าอกี คร้ังหนง่ึ เพ่ือตรวจสอบคําตอบ และปรบั ปรุงคําตอบ และเฉลยคาํ ตอบ 1. photographer เฉลยคําตอบ 5. music 2. places 3. colour 4. village 6. people 7. interested 8. face  Production กจิ กรรม Ideas Focus ครใู หน ักเรยี นเขา แบงกลุม กลุมละ 4-6 คนทาํ กจิ กรรม Ideas Focus - ใหน กั เรียน Read aloud คาํ ถาม และพดู บอกสิ่งทตี่ อ งปฏบิ ตั ใิ นกจิ กรรมนี้ - ครทู บทวนคําถามและชี้แนะวิธีคิดและเขยี นคาํ ตอบโดย Expaining why และใหเ วลานักเรียนทํากิจกรรมน้ีอยา งอิสระ โดยครูกําหนดเวลาสังเกต แนะนํา ชวยเหลอื แกปญหา - เมือ่ ครบกาํ หนดเวลาครตู รวจสอบคําตอบโดยเลือกนกั เรียน 3-4 กลุม ข้นึ มาใหค ําตอบ ครูยอมรับทุกคาํ ตอบที่ใหเ หตผุ ล (Explaining why) เฉลยคําตอบ Students’ own answers - ครูสรุปบทเรยี น ซักถามเพ่ือประเมนิ ความคิดเหน็ และใหนักเรียนแสดงความคดิ เหน็ ตอวดิ ีโอท่ดี ใู นชั่วโมงน้แี นะนําให นกั เรียนดูชมสารคดี รายการใหความรแู ละคน ควา ศกึ ษาหาขอมูลเพ่ิมเติมจากสอื่ อิเลกทรอนิกสเพ่ือขยายโลกทัศน และประโยชนใ น การแกไ ขปญหา การดํารงชีวิต การศึกษาตอและการเลือกอาชพี คูมือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที่ 3

329 329 6. การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื คะแนน เกณฑ แบบประเมนิ การสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียน 18-20 วธิ ีการ 15-17 ผลการประเมิน 1. สงั เกต 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมินทักษะ แบบประเมนิ ทกั ษะการฟง-การพูด คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดีมาก การใชภ าษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. ส่อื /แหลง การเรียนรู หนงั สือเรียน Close-up 3 Unit 5 Take a Break กิจกรรม A-C และ Ideas Focus หนา 68 สื่อ VCD Unit 5 เรอ่ื ง The Travelling Photographer 8. บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที่ 3

330 330 หนวยการเรยี นรู Road Trip! ชั้นมธั ยมศึกษาปท่ี 3 เวลา 14 ชว่ั โมง 6 รหัสวชิ า …………… รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาองั กฤษ กลมุ สาระการเรยี นรภู าษาตา งประเทศ ปก ารศกึ ษา 25........ ภาคเรียนท่ี 2 ผูสอน ................................. 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ช้วี ัด ต 1.1 ม.3/1 ปฏบิ ตั ติ ามคาํ ขอรอง คาํ แนะนาํ คาํ ชี้แจง และคาํ อธบิ ายทีฟ่ ง และอาน ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุหัวขอเรอื่ ง ใจความสาํ คัญ รายละเอียดสนับสนนุ และแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกับเรื่องท่ีฟงและอาน จากสอื่ ประเภทตา งๆ พรอ มทั้งใหเหตผุ ลและยกตัวอยา งประกอบ ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขยี นโตตอบขอมูลเกี่ยวกับตนเอง เร่ืองตางๆ ใกลต วั สถานการณ ขา ว เรอ่ื งที่อยใู นความสนใจของ สังคมและสื่อสารอยา งตอเนื่องและเหมาะสม ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขียนเพ่ือขอและใหขอมูล อธิบาย เปรยี บเทียบ และแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกบั เรอ่ื งที่ฟง หรอื อานอยาง เหมาะสม ต 1.2 ม.3/5 พูดและเขยี นบรรยายความรูสกึ และความคดิ เห็นของตนเองเก่ียวกับเร่ืองตางๆ กิจกรรม ประสบการณ และ ขาว/เหตุการณ พรอ มท้ังใหเหตผุ ลประกอบอยางเหมาะสม ต 1.3 ม.3/2 พูดและเขยี นสรุปใจความสําคญั /แกนสาระ หัวขอเรื่องทไ่ี ดจ ากการวิเคราะหเรอ่ื ง/ขา ว/เหตกุ ารณ/สถานการณ ทีอ่ ยใู นความสนใจของสังคม ต 2.1 ม.3/1 เลือกใชภาษา นํ้าเสียง และกิริยาทาทางเหมาะกับบุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของ เจาของภาษา ต 2.1 ม.3/2 อธิบายเกี่ยวกบั ชีวิตความเปนอยู ขนบธรรมเนยี ม และประเพณีของเจาของภาษา ต 3.1 ม.3/1 คนควา รวบรวม และสรุปขอมูล/ขอเท็จจริงที่เกี่ยวของกับกลุมสาระการเรียนรูอ่ืนจากแหลงการเรียนรูและ นําเสนอดว ยการพดู และการเขยี น ต 4.1 ม.3/1 ใชภาษาส่ือสารในสถานการณจ ริง/สถานการณจาํ ลองที่เกดิ ข้นึ ในหองเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสงั คม ต 4.2 ม.3/1 ใชภ าษาตางประเทศในการสืบคน/คน ควา รวบรวม และสรุปความรู/ขอมลู ตา งๆ จากส่ือและแหลง การเรยี นรู ตางๆ ในการศึกษาตอและประกอบอาชีพ 2. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูคําศัพทเก่ียวกับTravel & Transport-related words, Phrasal verbs, Collocations สํานวนภาษาเก่ียวกับ Asking for & giving travel information, asking about & describing holoday โครงสรางภาษาเกี่ยวกับPassive voices: Present simple & Past simple กิจกรรมฝก ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห สังเคราะห การใหเหตุผล เร่ือง Road Trip! ส่ือสิ่งพิมพและสื่อ อเิ ลก็ ทรอนกิ สท ม่ี ปี ระสทิ ธิภาพ ทักษะการเรียนภาษาทั้ง 4 ดาน ไดแก ทักษะการฟง ทักษะการพูด ทักษะการอาน ทักษะการเขียน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพือ่ การสอื่ สาร ทาํ ใหก ารสือ่ สารบรรลุเปาหมายอยางมีประสิทธิภาพ ผูเรียนมีความสามารถ มีเจต คตทิ ่ีดีตอ ภาษาองั กฤษ คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ่ี 3

331 331 3. สาระการเรยี นรู (Learning Contents) 3.1 ดานความรู (Knowledge) ความรูดานคําศัพทเกี่ยวกับ Travel & Transport-related words, Phrasal verbs, Collocations สํานวนภาษา เก่ียวกับ Asking for & giving travel information, asking about & describing holoday โครงสรางภาษาเกี่ยวกับ Passive voices: Present simple & Past simple กจิ กรรมฝก ทกั ษะการคิดวิเคราะห สังเคราะห การใหเหตุผล เร่ือง Road Trip! ในบทอาน ประเภทตางๆ ไดแก บทความ (Articles) บทสนทนา (Conversations) งานเขียนท่ีเปน articles, postcards, social media post, emails, blogs, multiple choice cloze, Exam Close-up และ Exam Tasks 3.2 ดา นทักษะกระบวนการ (Process/Skill) ทกั ษะการเรยี นภาษาทงั้ 4 ดาน ไดแก การฟง การพดู การอา น การเขยี น ทกั ษะกระบวนการคิด และทักษะ กระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 3.3 ดา นเจตคติ (Attitude/Desired Character) ใชภาษาองั กฤษอยา งมมี ารยาท ถูกตอ งตามกาลเทศะและบคุ คล มีประสทิ ธิภาพในการส่ือความ 4. สมรรถนะสําคัญของผเู รียนตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551  ความสามารถในการสอ่ื สาร  ความสามารถในการคดิ  ความสามารถในการแกปญหา  ความสามารถในการใชทักษะชวี ิต  ความสามารถในการใชเทคโนโลยี 5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551  รักชาติ ศาสน กษตั ริย  ซื่อสตั ย สจุ รติ  มวี นิ ัย  ใฝเ รียนรู  อยูอ ยางพอเพียง  มงุ มน่ั ในการทํางาน  รักความเปน ไทย  มจี ติ สาธารณะ 6. ภาระงาน/ชิน้ งาน ใหนักเรียนพูดบรรยายภาพหนาช้ันเรียน เลือกภาพตามความสนใจ มีความเหมาะสม มีเนื้อหาเก่ียวกับ Travelling activities โดยประยุกตใชความรูแ ละทกั ษะการใชภาษาทเ่ี รียนมาใน Unit 6 จดั ทาํ เปน แผน รายงานกระดาษ A4 7. การวัดและประเมนิ ผล (ภาระงาน/ช้ินงาน) วธิ ีการ เครือ่ งมือ คะแนน เกณฑ 1. ประเมนิ แบบประเมินคุณภาพช้ินงาน/ภาระงาน 18-20 คุณภาพ 15-17 ผลการประเมนิ 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผาน คมู ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3

332 332 วิธกี าร เคร่อื งมือ คะแนน เกณฑ 2. ประเมิน แบบประเมนิ ทักษะ-การพูด 18-20 ทกั ษะทางการใช แบบประเมินทักษะ-การเขยี น 15-17 ผลการประเมิน ภาษา 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผา น 8. กิจกรรมการเรียนรู ความรแู ละกจิ กรรมฝก ทักษะการคิดวเิ คราะหสงั เคราะหก ารใหเหตผุ ล ทกั ษะการเรียนภาษาทง้ั 4 ดาน ไดแก การฟง การพูด การอาน และการเขียนเร่ือง Road Trip! ประกอบดวย articles, postcards, social media post, emails, blogs, multiple choice cloze, Exam Close-up และ Exam Tasks สื่อรูปภาพ (pictures) ส่ือเสียง (audio CD) ส่ือวิดีโอ (DVD) ท่ีมีคําศัพท เกยี่ วกบั Travel & Transport-related words, Phrasal verbs, Collocations สาํ นวนภาษาเกี่ยวกับ Asking for & giving travel information, asking about & describing holoday โครงสรางภาษาเกี่ยวกับ Passive voices: Present simple & Past simple กิจกรรมฝกทักษะการเรียนภาษาทั้ง 4 ดาน ไดแก การฟง การพูด การอาน การเขียน ทักษะการคิดวิเคราะห สังเคราะห การให เหตุผล และทกั ษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการสอ่ื สาร เจตคติที่ดตี อภาษาอังกฤษ 9. สือ่ /แหลงเรยี นรู  หนงั สือเรียน Close-up 3 Unit 6 เรอ่ื ง Road Trip! หนา 69-80  หนงั สือ Workbook Close-up 3 Unit 6 เรื่อง Road Trip! หนา 38-43  Audio CD Track 6.1, 6.2, 6.3  Video เรอ่ื ง Travelling in India หนา 80 คูม อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที่ 3