Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ Close up 3

แผนการจัดการเรียนรู้ Close up 3

Published by Teacher Ya Channel, 2021-03-26 14:38:56

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ Close up 3
ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นม.3

Search

Read the Text Version

333 333 หนวยการเรยี นรทู ี่ 6 เร่ือง Road Trip! แผนการจดั การเรียนรูท ่ี 1 เร่อื ง Reading 1: Basket Boat รหสั วชิ า................. รายวชิ าพนื้ ฐานภาษาองั กฤษ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท่ี 3 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ปก ารศกึ ษา 25……….. ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 1 ช่วั โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชว้ี ัด ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุหวั ขอเรอ่ื ง ใจความสาํ คญั รายละเอียดสนบั สนนุ และแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกบั เรอื่ งที่ฟง และ อานจากสื่อประเภทตา งๆ พรอ มทง้ั ใหเ หตุผลและยกตวั อยางประกอบ ต 1.3 ม.3/2 พูดและเขียนสรุปใจความสําคัญ/แกน สาระ หวั ขอ เรอ่ื งท่ีไดจ ากการวิเคราะหเรื่อง/ขา ว/เหตุการณ/สถาน- การณท ่ีอยูในความสนใจของสงั คม ต 2.1 ม.3/2 อธบิ ายเกย่ี วกับชีวิตความเปน อยู ขนบธรรมเนยี ม และประเพณีของเจา ของภาษา 2. จดุ ประสงคก ารเรยี นรู อานบทความเกยี่ วกบั Basket Boat แลว พูดและเขยี นวิเคราะห เปรียบเทยี บ อธิบาย และแสดงความคิดเห็น โดยใชคําศัพท และโครงสรางภาษาที่กาํ หนดใหไดถ ูกตองเหมาะสม 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูและกิจกรรมฝก ทกั ษะการคิดวิเคราะห สงั เคราะห และคาดเดา การใหเ หตผุ ลที่มคี ําศัพทเกี่ยวกับ transport-related words, Phrasal verbs และ Reading skills: Scanning and Skimming reading โดยผานการฝกทักษะการอาน การเขียน และ กระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสารทาํ ใหผ ูเรียนสามารถส่ือความไดอยางมีประสิทธิภาพ มีนิสัยรักการอานมีสุนทรียภาพใน การอา น 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Vocabulary: transport-related words, Phrasal verbs, rickshaw, reed boat, electric car, gear, floating market, waterproof - Grammar: Present Simple using for describing transport - Reading skills: Scanning reading and Skimming reading 4.2 ดา นทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรยี นภาษาท้งั 4 ทกั ษะ การฟง การพดู การอา น และการเขยี น - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มปี ระสิทธภิ าพในการสือ่ ความ - มสี ุนทรยี ภาพในการอาน 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูนําความสนใจของนักเรียนเขาสูบทเรยี นในช่ัวโมงเรียนน้โี ดยใชรูปภาพในหนาแรก (the bottom of the funicular railway) และคาํ ถามดงั นี้ Q 1: What do you see in this picture? คูมือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที่ 3

334 334 Q 2: What type of transport is this? 2. นกั เรยี นใหคําตอบอยางหลากหลาย ครยู อมรับทกุ คาํ ตอบทีส่ มเหตผุ ล 3. ครเู ชือ่ มโยงเขา สูกจิ กรรมการเรยี นการสอน  Presentation ครสู อนคาํ ศพั ท สํานวนภาษา โครงสรา งประโยค และทบทวน Reading skills ที่ก่ยี วของตามขน้ั ตอนดังน้ี 1. ครูสอนคําศัพทใ นบทอานและคําศัพทใ น Word Focus ดงั นี้ 1.1 ครสู อนคาํ ศพั ทในบทอา นในกิจกรรม A-E ดงั น้ี - ใหนกั เรยี นท้ังชน้ั ชว ยกนั คน คําศพั ทที่ไมรคู วามหมายในกจิ กรรม A-E ขดี เสน ใตก าํ กับไว และใหน กั เรยี นระบุ Parts of speech ของคําศัพท จากตําแหนงภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝกใหระบุ Parts of speech ทุกครั้งที่สอน ความหมายของคําศพั ท) - ใหนักเรียนบอกหมวดหมูของคําศัพทเหลาน้ี โดยครูเขียนลงใน Word Box บนกระดาน และนักเรียน Read aloud คําศพั ทบนกระดาน โดยครเู นน ยาํ้ ใหน ักเรยี นปฏบิ ัตติ ามหลักเบ้อื งตนสําหรับวิธกี ารออกเสียงคาํ หลายพยางค เสยี งเนน หนักในคาํ (Word Stress) 1. ในคํา 2 พยางคข นึ้ ไปเสยี งเนนหนกั สดุ (primary stress) มักจะอยทู ี่พยางคต นของคํา ไดแก ricksaw, reed boat, longer, locker, paddle, bamboo, basket boat, fisherman, popular, traditional, battery, floating-market เปน ตน 2. คาํ ทม่ี ักออกเสียงไมถูกตอง ไดแก vegetable (อา นวา “เว็ท-ทะ-เบิล” ไมใ ช “เว็จ-เจ็ท-ทะ-เบิล”) - ใหนักเรยี นแบงกัน/ชวยกนั คนหาความหมายของคําศพั ทเหลา นี้ แลวพดู บอกความหมาย - ครูเขียนความหมายของคําศัพทท่นี ักเรียนบอกและเพมิ่ เตมิ ความหมายของคําศพั ทบ างคําใหส มบรู ณ 1.2 ครสู อนคําศพั ทในWord Focus ดงั น้ี - ใหนกั เรียนอา นออกเสียงดังพรอมกัน ถาคาํ ใดนักเรียนอา นไมไดใหค รูชว ยอานนําและนกั เรยี นอา นตาม - ครูใหนกั เรียนชวยกันบอกความหมายโดยครูใหนักเรียนบอกความหมายของคําท่ีนักเรียนรูจัก ถานักเรียนบอก ความหมายไมไ ด ครูใหนักเรียนดูท่ี Word Focus และใหอา นออกเสียงคาํ ศัพทแ ละคาํ จํากดั ความ วิธีนี้จะชวยใหนักเรียนรูความหมาย ของคาํ ศพั ทม ากขนึ้ ครูอาจใหคาํ อธิบายเพิม่ เติมบา ง - ใหนกั เรยี นคดั ลอก Word Box และคําศัพทท เี่ กี่ยวขอ งลงในสมุดคําศพั ทข องตนเอง (ครูกําหนดใหนักเรียนทุกคน มีสมดุ คาํ ศัพทและสมุดแบบฝก หดั ) 2. ครูทบทวนโครงสรา งที่เก่ียวของกบั บทเรียนในช่ัวโมงนี้ ไดแก Present Simple using for describing transport 3. ครทู บทวน Writing Strategy: Explaining Why คาํ สาํ คัญทใี่ ชใ นการ Explaining Why ไดแก Writing Strategy: Explaining Why คาํ สาํ คญั ทีใ่ ชในการ Explaining Why ไดแ ก - Because + subject + verb ตวั อยา งเชน I didn’t do it because I was ill. - Because of + noun ตัวอยางเชน I didn’t do it because of illness. - that’s why + subject + verb ตวั อยางเชน I was ill, that ’s why I didn’t do it. - that’s because + subject + verb ตัวอยา งเชน I didn’t do it, that ‘s because I was ill. 4. ครูทบทวน Reading skills: Scanning reading and Skimming reading คมู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที่ 3

335 335 Reading skills: Scanning reading and Skimming reading 1. Scanning is reading a text quickly in order to find specific information, e.g. figures or names. When scanning, you look only for a specific fact or piece of information without reading everything. How to scan: 1.1 Read each question completely before starting to scan. Choose your keywords from the question. 1.2 Look for answers to only one question at a time. Scan separately for each question. 2. Skimming is reading a text quickly to get a general idea of meaning. Use skimming in previewing (reading before you read), reviewing (reading after you read), determining the main idea from a long selection. How to skim: 2.1 Read the title, subtitles and subheading to find out what the text is about. 2.2 Look at the illustrations to give you further information about the topic. 2.3 Read the first and last sentence of each paragraph. 2.4 Don't read every word or every sentence. Let you eyes skim over the text, taking in key words. 2.5 Continue to think about the meaning of the text.  Practice ครใู หนกั เรียนเปดหนงั สือ Close-up 3 หนา 70-71 แลว นักเรยี นปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตอ ไปน้ี 1. กจิ กรรม A ครูใหน กั เรียน Read aloud คําสั่ง และพูดบอกสง่ิ ที่นกั เรยี นตองปฏิบตั ใิ นกิจกรรมน้ี - ครูใหนักเรยี นดรู ปู ภาพ Read aloud คาํ ศัพทท เ่ี ปน ตัวเลือกและพูดบอกความหมาย - ครอู ธบิ ายและใหน ักเรียนชวยกนั วเิ คราะหจ ดุ ออนจุดแขง็ ของพาหนะแตล ะชนิด ใหนกั เรียนอานคําถามขอ 1-3 เพื่อ ทําความเขาใจคําถามและคน หาคําสาํ คัญทีเ่ ปน ตัวชีแ้ นะคําตอบโดยขีดเสน ใตกาํ กบั และเลอื กคําตอบท่ีสมั พันธกับคําที่ขดี เสนใต - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรียนบอกคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. electric car 2. rickshaw 3. reed boat 2. กจิ กรรม B ครูใหน ักเรียนจบั คูเพื่อน Read and Discuss the questions - ครูเนน ย้าํ ใหน ักเรยี นอธบิ ายและใหเ หตผุ ลและทบทวนคําสําคัญทีใ่ ชใ นการ Explaining why - ครใู หเ วลานักเรยี น อภปิ ราย คิดและเขยี นคําตอบ จากน้ันใหนักเรียนนําคําตอบไป Compare and share กับเพือ่ นใน หอง ระหวางทนี่ ักเรียนทํากจิ กรรม ครู Walk around เพ่อื สงั เกต สนบั สนุน ขวยเหลือ และแกป ญหา - ครูตรวจสอบคาํ ตอบใหน ักเรยี น Read aloud คําตอบ และครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ Students’ own answers 3. กจิ กรรม C ใหน กั เรยี น Read aloud คาํ สงั่ และพดู บอกส่งิ ทน่ี ักเรียนตองปฏบิ ตั ใิ นกจิ กรรมน้ี - ครูทบทวนคําส่ังอธิบาย และใหนักเรียนสังเกตที่คําถาม What do you think they are made from? และถาม นักเรียนวาการจะหาคําตอบของคําถามน้ี นักเรียนจะตองใชวิธีการอานแบบใด Scanning reading or Skimming reading ซึ่ง คาํ ตอบคือ Scanning reading - ครูใหนกั เรียนทบทวนวธิ ีการอานเพ่ือคนหาคาํ ตอบ (Scanning reading) คูม ือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท่ี 3

336 336 How to scan: 1. Read each question completely before starting to scan. Choose your keywords from the question. 2. Look for answers to only one question at a time. Scan separately for each question. - ใหเ วลานักเรยี น Scanning reading และเขียนคาํ ตอบ - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรยี นพดู บอกคําตอบพรอ มกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ They are made from bamboo. 4. กิจกรรม D ใหนักเรียน Read aloud คําส่ัง แลวพูดบอกส่ิงท่ีนักเรียนตองปฏิบัติในกิจกรรมนี้ ครูทบทวนเนนย้ําให นักเรยี นปฏบิ ัติตามวธิ ีการอา นเพ่ือคนหาคําตอบ (Scanning reading) - ใหนกั เรียนทาํ กิจกรรมเปน คู อานประโยค 1-6 และขีดเสนใตคํา/วล/ี ประโยคยอยทส่ี ําคญั ในแตประโยค เพื่อใชเปนตัว ชแ้ี นะคาํ ตอบ (Contextual Clues) - นักเรียนนําขอมูล คาํ /วล/ี ประโยคยอยทข่ี ดี เสน ใตไปคน หาคําตอบโดยการอานแบบScanning ขอมูลในบทความเรื่อง Basket Boat และตัดสนิ ในใจเลือกคาํ ตอบ - ครูตรวจสอบคาํ ตอบโดยใหนักเรียนพูดบอกคําตอบพรอ มกนั และครูเฉลยคําตอบ - ใหน กั เรยี นฝก ทักษะการอา นออกเสียงประโยคไดถกู ตอ ง เวนวรรคตอนถูกตอง โดยใหน ักเรียน Read aloud ประโยคที่ 1-6 เฉลยคําตอบ 1. sometimes 2. doesn’t take 3. grows 4. different shapes 5. stop water entering them 6. easy 5. กิจกรรม E ครูใหน กั เรียน Read aloud คาํ ส่งั แลว พูดบอกสิง่ ท่ีนกั เรียนตองปฏิบัตใิ นกิจกรรมนี้ - ครเู นนย้าํ ใหนกั เรียนอานคาํ ถามอยางละเอียดเพอ่ื ตีความหมายของประโยคคําถามแลวเลือกคาํ ตอบจากตวั เลือก a-c โดยถาอา นประโยคคาํ ถามแลวยงั ไมเขา ใจ นักเรียนอาจจะยอนกลับไปอา นบางตอนของบทความเร่อื ง Basket Boat และตดั สนิ ในใจ เลือกคําตอบ - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรียนพดู บอกคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคําตอบ - ใหน ักเรียนฝกทกั ษะการอานออกเสยี งประโยคไดถ ูกตอง เวน วรรคตอนถกู ตอง โดยใหนักเรยี น Read aloud - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนักเรยี นพูดบอกคําตอบพรอ มกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. b 2. a 3. b  Production กจิ กรรม Ideas Focus ดังนี้ Work with a partner. What do think about a basket boat? Do you think which is better-a basket boat or an engine boat? Why?/why not? คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3

337 337 - ครูใหน กั เรียน Read aloud คาํ สงั่ แลวพูดบอกสงิ่ ทน่ี ักเรียนตองปฏิบัติในกิจกรรมน้ี - ครูทบทวนคาํ ส่งั แนะนํา อธิบาย วธิ ีการตอบคําถามโดยใหนักเรียน Explain why - ใหนกั เรียนทาํ กิจกรรมเปนคู ครูใหเ วลานักเรียนทาํ กจิ กรรมอยา งอิสระ ครูสงั เกต แนะนาํ ชวยเหลือ และแกปญหา - ครูสุม เลือกนักเรียน 4-5 คขู น้ึ มาพูดใหคาํ ตอบ ครูยอมรบั ทุกคาํ ตอบ และสรปุ บทเรียน เฉลยคาํ ตอบ Students’ own answers 6. การวัดและประเมนิ ผล เครอ่ื งมอื คะแนน เกณฑ แบบประเมนิ การสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น 18-20 วิธกี าร 15-17 ผลการประเมนิ 1. สังเกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมนิ ทกั ษะ แบบประเมนิ ทักษะการฟง -การพูด คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดมี าก การใชภาษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 7. สอ่ื /แหลงการเรยี นรู หนงั สือเรียน Close-up 3 Unit 6 Road Trip! เร่ือง Reading กิจกรรม A-E และ Ideas Focus หนา 70-71 8. บันทกึ หลังการจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3

338 338 หนว ยการเรยี นรูที่ 6 เร่อื ง Road Trip! แผนการจัดการเรียนรทู ี่ 2 เร่อื ง Reading 2: Notices & Signs for Transports รหัสวชิ า................. รายวิชาพ้นื ฐานภาษาอังกฤษ ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ่ี 3 กลมุ สาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ ปก ารศึกษา 25……….. ภาคเรียนที่ 2 เวลา 1 ชั่วโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวช้วี ัด ต 1.1 ม.3/4 เลอื ก/ระบหุ วั ขอ เร่ือง ใจความสาํ คญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับเรื่องทีฟ่ งและ อา นจากสื่อประเภทตา งๆ พรอ มทั้งใหเหตุผลและยกตัวอยางประกอบ ต 1.3 ม.3/2 พดู และเขยี นสรปุ ใจความสําคัญ/แกน สาระ หวั ขอ เรอื่ งทไี่ ดจ ากการวิเคราะหเรื่อง/ขาว/เหตกุ ารณ/สถาน- การณทอ่ี ยใู นความสนใจของสังคม ต 2.1 ม.3/2 อธิบายเก่ียวกับชีวติ ความเปน อยู ขนบธรรมเนียม และประเพณขี องเจา ของภาษา 2. จุดประสงคการเรยี นรู อานบทความ ปายประกาศ (Notices) เครื่องหมาย (Signs) เก่ียวกับ Notices & Signs for Transports แลวพูดและเขียน สรุปใจความสําคัญ วเิ คราะห เปรยี บเทียบ อธิบาย และแสดงความคิดเห็น โดยใชคําศัพทและโครงสรางภาษาท่ีกําหนดใหไดถูกตอง เหมาะสม 3. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรูและกิจกรรมฝกทักษะการคิดวิเคราะห สังเคราะห ตีความ และอนุมานความจากอานบทความ ปายประกาศ (Notices) เคร่ืองหมาย (Signs) เก่ียวกับ Notices & Signs for Transports ท่ีมีคําศัพทและโครงสรางภาษา และ Reading skills: Scanning Reading, Skimming reading, Intensive Reading โดยผานการฝกทักษะการอาน การเขียน และกระบวนการสอน ภาษาองั กฤษเพ่อื การสอื่ สารทําใหผเู รียนสามารถสอ่ื ความไดอ ยา งมปี ระสิทธภิ าพมีนสิ ยั รกั การอา นมีสุนทรยี ภาพในการอา น 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Vocabulary: Notices & Signs for Transports - Grammar: Describing places to visit - Reading skill: Scanning Reading, Skimming reading, Intensive Reading 4.2 ดา นทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรียนภาษาทั้ง 4 ทักษะ การฟง การพูด การอาน และการเขยี น - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มปี ระสิทธิภาพในการส่ือความ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูนาํ ความสนใจของนักเรียนเขาสูบทเรยี นในชั่วโมงเรียนน้โี ดยใชคาํ ถามดงั นี้ Q: Do you think what the title ‘Road Trip!’ should mean in Thai? 2. นกั เรียนใหค าํ ตอบอยา งหลากหลาย ครยู อมรับทุกคําตอบและเชื่อมโยงเขา สูกจิ กรรม Reading คมู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศึกษาปท ี่ 3

339 339  Presentation 1. ครสู อนคาํ ศพั ทใ นบทอาน โดยใหน กั เรยี นมีสว นรว มดังน้ี - ใหนักเรยี นทงั้ ชน้ั ชว ยกนั คน คําศัพทที่ไมร ูค วามหมาย ขดี เสน ใตกํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของ คําศัพท จากตําแหนงภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝกใหระบุ Parts of speech ทุกคร้ังที่สอนความหมายของ คําศพั ท) - นักเรียนบอกหมวดหมขู องคําศัพทเหลา นี้ โดยครูเขียนลงใน Word Box บนกระดาน นักเรียนRead aloud คําศัพท บนกระดาน แบง กัน/ชวยกันคนหาความหมายของคําศัพทเ หลา น้ี แลว พูดบอกความหมาย - ครเู ขียนความหมายของคําศัพทท่ีนักเรยี นบอกและเพมิ่ เติมความหมายของคาํ ศพั ทบางคําใหสมบูรณ ครูเลือกคํา/วลี/ ประโยคทีม่ คี วามหมายนาสนใจ มาอธบิ าย - ใหนกั เรียน Read aloud คําศัพทบนกระดาน ถาคําใดนักเรียนอานไมไดใหครูชวยอานนํา โดยครูเนนยํ้าใหนักเรียน ปฏบิ ัตติ ามหลักเบือ้ งตน สําหรบั วธิ กี ารออกเสียงคาํ หลายพยางค เสียงเนน หนักในคํา (Word Stress) 1. ในคาํ 2 พยางคข้ึนไปเสยี งเนนหนักสุด (primary stress) มักจะอยูทีพ่ ยางคต น ของคํา ไดแ ก ricksaw, reed boat, longer, locker, paddle, bamboo, basket boat, fisherman, popular, traditional, battery, floating-market เปน ตน 2. คาํ ทมี่ ักออกเสยี งไมถกู ตอง ไดแ ก vegetable (อานวา “เวท็ -ทะ-เบลิ ” ไมใ ช “เวจ็ -เจท็ -ทะ-เบิล”) - จากน้นั ใหนกั เรยี นคดั ลอก Word Box และคําศพั ทท่ีเกี่ยวขอ งลงในสมุดคาํ ศัพท 2. ครูสอนเทคนิคการทาํ ขอสอบ Looking for words with similar meanings ใน Exam Close-up ดงั นี้ Looking for words with similar meanings - The sentences often contain key words that are similar to key words in the notices. - Look for such words ( e.g. put back/return,right/correct) and underline them.This will help you to choose the correct notices. 3. ครูทบทวนเทคนิคการทาํ ขอสอบ Using context to understand signs Exam strategies: Using context to understand signs -Notices only use a few words. To help you understand in them,try to decide where you might see each signs. This will help you focus on the possible message of the sign. -You probably won’t be able to understand all the words,but focus on the ones you do understand. -Then look for similar words in the answer choices  Practice ครใู หนกั เรยี นเปด หนงั สอื Close-up 3 หนา 71 แลวนักเรยี นปฏิบตั ิกจิ กรรมตอไปนี้ 1. กจิ กรรม F ครใู หน กั เรยี น Read aloud คาํ สั่ง และ the Exam Close-up - ครูใหน ักเรียนทบทวนเทคนิคการทาํ ขอสอบ Looking for words with similar meanings คูมือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที่ 3

340 340 - ใหนักเรียน Read aloud notices and signs ขอ A-H ใน Exam Task และขีดเสน ใตคาํ สําคัญใน notices and signs และ Read aloud ประโยค 1-5 คน หาคําสําคญั แลวขีดเสน ใตกํากับ - นาํ คาํ ที่ขีดเสนใตใน notices and signs ขอ A-H มาจับคูความหมายกับคําทข่ี ีดเสน ใตใ นประโยค 1-5 - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรยี นอานคคู ําศพั ท และครเู ฉลยคําตอบ 1. leave/depart 2. stand/wait เฉลยคําตอบ 5. wait longer/delayed 3. line/queue 4. take two different trains/change trains 2. กิจกรรม G ใหนักเรียนจับคู notices and signs ขอ A-H กับประโยค 1-5 โดยพิจารณาความสัมพันธระหวางคํา สาํ คญั ท่ไี ดค น หามาแลว ในกจิ กรรม F ครูใหเวลานกั เรียนทาํ กจิ กรรม ครูสงั เกต แนะนํา ชว ยเหลือ และแกป ญ หา - ครูตรวจสอบคาํ ตอบโดยใหนกั เรยี นอา นคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. G 2. E 3. C 4. F 5. H 3. กิจกรรม H ครูใหนกั เรยี น Read aloud คําส่งั แลวพดู บอกสิง่ ท่ีนักเรียนตองปฏิบัตใิ นกจิ กรรมน้ี - ครูชแ้ี นะคําตอบโดยใหนกั เรยี น Read aloud คาํ ศพั ททเี่ ปนตัวเลือกและบอกความหมายของคาํ ศัพททกุ ตัว - ใหนกั เรียนอา นประโยค 1-6 อยา งละเอียดเพื่อคน หาคํา วลี ประโยคยอยทเ่ี ปนตัวชี้แนะความหมายของคําท่ีเขียนดวย ตวั ทบึ แลว ขดี เสนใตกาํ กบั - ครตู รวจสอบความแมนยําในการคนหาตวั ชแี้ นะคาํ ตอบโดยใหน ักเรยี น Read aloud ตวั ชีแ้ นะความหมาย - จากนั้นใหน ักเรียนใชตวั ช้ีแนะคําตอบในการจับคูประโยค 1-6 กับตวั เลอื ก a-f - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรียนพูดบอกคําตอบพรอ มกัน และครูเฉลยคาํ ตอบ - ใหน ักเรยี นฝก ทักษะการอานออกเสียงประโยคไดถ กู ตอ ง เวนวรรคตอนถูกตอง โดยใหนักเรียน Read aloud ประโยค 1-6 ดงั น้ี 1. This box is heavy. Can you give me a hand, please? / Can you help me, please? 2. A gondola is a traditional Venetian rowing boat. / A gondola is an old fashioned Venetian rowing boat. 3. I never use buses or trains at night if I am on my own. / I never use buses or trains at night if I am alone. 4. The most popular form of transport in London is the Underground. / The most well-used form of transport in London is the Underground. 5. Maybe Mum will change her mind and drive us to the concert. / Maybe Mum will make a new decision and drive us to the concert. 6. Don’t forget to remove your luggage from the overhead lockers. / Don’t forget to take out your luggage from the overhead lockers. เฉลยคาํ ตอบ 1. c 2. a 3. b 4. e 5. d 6. f คูมอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3

341 341 ครูใหน กั เรยี นเปดหนังสือ Workbook Close-up 3 หนา 38 นักเรยี นปฏบิ ัติกิจกรรมตอไปน้ี 4. กิจกรรม A ครใู หน ักเรียน Read aloud คาํ ส่ัง และ the Exam Reminder - ครูทบทวนคําสั่ง อธบิ าย และกระตุนดว ยวธิ ีการชี้แนะความหมายทีห่ ลากหลายเพื่อใหนักเรียนชวยกันคิดหาคําศัพทที่ เปน ความหมายเหมอื น (synonym) ของ go out เฉลยคําตอบ The word exit has a similar meaning to go out. 5. กิจกรรม B ใหนักเรียน Read aloud notices and signs ขอ A-H ใน Exam Task และขีดเสนใตคําสําคัญใน notices and signs และ Read aloud ประโยค 1-5 คนหาคําสําคัญแลวขีดเสนใตกํากับ จากนั้นนําคําท่ีขีดเสนใตใน notices and signs ขอ A-H มาจับคูค วามหมายกบั คําทข่ี ีดเสนใตใ นประโยค 1-5 - ครูตรวจสอบคาํ ตอบโดยใหนักเรยี นอานคคู าํ ศพั ท และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. F 2. G 3. A 4. C 5. E 6. กจิ กรรม C ครใู หนกั เรยี น Read aloud คาํ สั่ง แลวพูดบอกสิ่งที่นกั เรียนตองปฏบิ ตั ิในกจิ กรรมนี้ - ครูชี้แนะคําตอบโดยใหนักเรียน Scanning reading บทความเพื่อคนหาคํา วลี ประโยคท่ีชี้แนะเกี่ยวกับการใช เคร่อื งหมาย ปายประกาศในกิจกรรม A - ครูใหเวลานักเรียนคนหา คดิ และตัดสนิ ใจเลือกคําตอบโดยใหน กั เรียน Discuss and share คาํ ตอบกบั เพ่ือน - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียนอา นคําตอบพรอ มกนั และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ Sign C, D and F  Production กจิ กรรม Ideas Focus ดังนี้ ‘All new cars should be electric cars.’ Do you agree? Why?/Why not? Which do you think is the most dangerous to travel in? A basket boat, a helicopter, or a motorbike? Why? - ใหน ักเรียน Read aloud คําสัง่ และพูดบอกสิง่ ท่ีนกั เรียนตองปฏิบัตใิ นกจิ กรรมนี้ - ครูทบทวนคาํ ส่ังอธิบาย ช้แี นะวิธคี ดิ และตอบคําถามโดยใหน กั เรยี น Discuss and share - ใหน ักเรียนจับคทู ํากจิ กรรม ตอบคําถามโดยใชโ ครงสรางประโยค Explaining Why/because และ Present Simple, Future Simple Tenses - ครใู หเ วลานกั เรยี นทํากิจกรรม ครูสังเกต แนะนํา ชวยเหลอื และแกป ญ หา - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรยี นบอกคําตอบ โดยครชู วยเติมเตม็ ครยู อมรบั ทุกคาํ ตอบที่มเี หตผุ ล เฉลยคําตอบ Students’ own answers - ครตู อบขอซักถามของนักเรยี น สรุปส่งิ ทเี่ รียนในชั่วโมงนี้ คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มธั ยมศึกษาปท ี่ 3

342 342 6. การวดั และประเมินผล เคร่ืองมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมนิ การสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี น 18-20 วิธีการ 15-17 ผลการประเมนิ 1. สงั เกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผาน 2. ประเมินทกั ษะ แบบประเมนิ ทักษะการฟง -การพดู คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดมี าก การใชภ าษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 7. สอื่ /แหลง การเรยี นรู หนงั สือเรียน Close-up 3 Unit 6 Road Trip! เรือ่ ง Reading กิจกรรม F-G และ Ideas Focus หนา 73 หนังสือ Workbook Close-up 3 Unit 6 Road Trip! เรอ่ื ง Reading กจิ กรรม A-C หนา 38 8. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 3

343 343 หนว ยการเรยี นรูที่ 6 เรือ่ ง Road Trip! แผนการจดั การเรียนรทู ่ี 3 เร่อื ง Vocabulary 1: Types of Transport รหัสวิชา................. รายวิชาพื้นฐานภาษาองั กฤษ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ปก ารศึกษา 25……….. ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 1 ชวั่ โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชว้ี ัด ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุหัวขอ เรอ่ื ง ใจความสาํ คัญ รายละเอียดสนับสนุน และแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั เร่ืองที่ฟง และ อานจากส่ือประเภทตางๆ พรอมท้งั ใหเหตุผลและยกตวั อยางประกอบ ต 1.3 ม.3/2 พูดและเขยี นสรปุ ใจความสาํ คัญ/แกนสาระ หัวขอเรอ่ื งทีไ่ ดจ ากการวเิ คราะหเ รอื่ ง/ขาว/เหตุการณ/สถาน- การณท อี่ ยใู นความสนใจของสงั คม ต 2.1 ม.3/2 อธิบายเกี่ยวกับชีวิตความเปน อยู ขนบธรรมเนียม และประเพณีของเจาของภาษา 2. จุดประสงคการเรียนรู อานบทบรรยายเกี่ยวกับ Types of Transport แลวพูดและเขียนสรุปใจความสําคัญ วิเคราะห เปรียบเทียบ อธิบาย และ แสดงความคิดเหน็ โดยใชคําศัพทแ ละโครงสรางภาษาท่กี ําหนดใหไ ดถูกตองเหมาะสม 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูแ ละกจิ กรรมฝกทักษะการคิด บทอาน (texts) เกี่ยวกับ Types of Transport ท่ีมีคําศัพท สํานวนภาษา โครงสราง ภาษา Explaining why โดยผานการฝกทักษะการอาน การเขียน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร ทําใหผูเรียน สามารถสือ่ ความไดอยางมีประสทิ ธภิ าพ มีนิสัยรกั การอา น มสี นุ ทรยี ภาพในการอาน 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Vocabulary: plane, coach, ferry, helicopter, motorbike, taxi, lorry, platform, captain, petrol, van, timetable, airport, bus stop, motorway, petrol station, port, train station - Grammar: Parts of speech, Explaining why, Present simple using for describing places - Reading skills: Scanning & Skimming reading 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรยี นภาษาท้งั 4 ทักษะ การฟง การพดู การอา น และการเขียน - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มีประสทิ ธภิ าพในการส่อื ความ - มีเหตุผลมีวิจารณญาณ 5. กิจกรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูนําความสนใจของนักเรยี นเขาสูบ ทเรียนโดยใชภ าพในหนังสอื เรียน Close-up 3 และคาํ ถามดังน้ี Q: What do these pictures tell about? 2. นักเรียนใหคําตอบอยางหลากหลาย ครูยอมรับคําตอบท่ีถูกตอ ง 3. ครูเชอ่ื มโยงเขา สูกจิ กรรม Vocabulary คูมือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3

344 344  Presentation 1. ครูสอนคําศพั ทในบทอาน โดยใหนกั เรียนมสี ว นรวมดงั นี้ - ใหน ักเรยี นทงั้ ช้ันชวยกันคนคําศพั ทที่ไมร ูค วามหมายในบทอานกจิ กรรม A-D ขดี เสน ใตก าํ กบั ไว และให นักเรียนระบุ Parts of speech ของคาํ ศพั ท จากตาํ แหนงภายในประโยค (ครสู อน Parts of speech และฝก ใหระบุ Parts of speech ทุกคร้ังท่สี อนความหมายของคําศัพท) - นกั เรียนบอกหมวดหมขู องคําศพั ทเ หลานี้ โดยครูเขยี นลงใน Word Boxบนกระดาน ใหนกั เรียนRead aloud คาํ ศพั ทบ นกระดาน ถา คาํ ใดนักเรียนอานไมไดใหครูชวยอานนําโดยครูเนน ยาํ้ ใหนักเรียนปฏิบตั ิตามวธิ ีการออกเสยี งคําหลายพยางค เสยี งเนนหนกั ในคํา (Word Stress) 1. คาํ 2 พยางคข ้ึนไป เสยี งเนนหนกั สดุ (primary stress) มักจะอยทู ีพ่ ยางคต นของคํา เชน problem, travel, ready, platform, petrol, passport, journey, captain, magazine, ticket, helmet, taxi, pilot, exit, lorry, licence, picture, engineer, motorway, motorbike, countryside, comfortable เปน ตน 2. คาํ 2 พยางคข ึ้นไป เสียงเนน หนกั สดุ (primary stress) อยทู ่พี ยางคท่ี 2 ของคํา เชน correct, forget, around, annoucement, reporter 3. คาํ ทม่ี กั อา นผดิ และออกเสยี งผดิ เชน comfortable (อานวา “คัมฟ-ทะ-เบิล” ไมใ ช คอม-ฟอรท -เท-เบิ้ล) - ใหน ักเรียนแบง กนั /ชวยกันคน หาความหมายของคาํ ศพั ทเ หลาน้ี แลวพูดบอกความหมาย - ครเู ขยี นความหมายของคาํ ศัพททน่ี ักเรียนบอกและเพ่ิมเติมความหมายของคําศัพทบางคําใหสมบูรณ และเลือกคํา/ วล/ี ประโยคทน่ี าสนใจ มาอธิบาย - ใหนกั เรียนคดั ลอก Word Box และคําศพั ทท ีเ่ กย่ี วของลงในสมดุ คําศพั ทข องตนเอง 2. ครูทบทวนโครงสรางประโยคเก่ียวกบั Explaining why 3. ครทู บทวนเทคนคิ การทําขอสอบ Focusing on words before and after a gap Exam strategies: Focusing on words before and after a gap - Some tasks include a gapped text. Only one word goes in each gap. - This task tests what you know about grammartical structures and vocabulary. - First, look at the gap. What words come before and after? What kind of words are they (e.g. verbs, nouns, prepositions, pronouns)? - Look again at the words around the gaps. Can you think of words that often go together with them? Write your answer in the gap and then read the whole sentence to see if it fits.  Practice ครูใหนักเรียนเปด หนังสือ Close-up 3 หนา 72 แลว นักเรยี นปฏิบตั ิกิจกรรมตอไปนี้ 1. กจิ กรรม A ใหน กั เรียน Read aloud คําสง่ั และพดู บอกสิ่งท่ีนักเรียนตองปฏิบตั ใิ นกิจกรรมนี้ - ครูใหนักเรียนทบทวนเทคนิคการทําขอสอบ Focusing on words before and after a gap (First, look at the gap. What words come before and after? What kind of words are they (e.g. verbs, nouns, prepositions, pronouns)? และปฏิบตั ิตามโดยคน หาตวั ช้ีแนะคําตอบท่นี ําหนา และตามหลังชองวา งและขดี เสนใตกาํ กบั - ครตู รวจสอบความแมน ยําในการคน หาตัวชแ้ี นะคําตอบโดยใหน ักเรยี นพดู บอกพรอมกนั ไดคําตอบดงั นี้ คูมือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3

345 345 ตวั ชแ้ี นะคําตอบ 1. arrived at my place, the driver 2. a traffic report, can see any problems from above 3. travel by, it’s very comfortable, can see the countryside 4. must always wear helmet, when you ride 5. leaves the ground and flies higher and higher 6. travelled around the Greek island, to sit on the deck and enjoy fresh air - ใหนกั เรยี น Read aloud คาํ ศัพทที่เปนตัวเลือกและบอกความหมาย จากน้ันตัดสินใจเลือกคําศัพทท่ีกําหนดใหจาก ตวั ชแ้ี นะคําตอบดงั กลาว - ครตู รวจสอบความถูกตอ งโดยใหนักเรียนอา นคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. taxi 2. helicopter 3. coach 4. motorbike 5. plane 6. ferry 2. กิจกรรม B ใหนักเรียน Read aloud คําสั่ง และออกเสียงคําศัพทท่ีกําหนดให โดยปฏิบัติตามวิธีการออกเสียงคํา หลายพยางค และพดู บอกความหมายของคําศพั ทแ ตละตัว นักเรยี นจับคูคาํ ศัพทกบั ภาพ - ครูตรวจสอบความถูกตอ งโดยใหน ักเรยี นอานคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. timetable 2. petrol 3. lorry 4. captain 5. van 6. platform 3. กจิ กรรม C ใหนกั เรยี น Read aloud คาํ สง่ั และออกเสยี งคาํ ศัพทท ก่ี าํ หนดใหโ ดยปฏิบตั ติ ามวธิ กี ารออกเสียงคาํ หลาย พยางค และพดู บอกความหมายของคําศัพทแ ตละตัว - ใหน กั เรยี น Read silently กลุมคําท่กี าํ หนดใหในขอ 1-6 และคิดวเิ คราะห สังเคราะหความหมาย และจับคูคําศัพท กบั กลุม คาํ ทก่ี าํ หนดให กอ นที่จะนาํ คําตอบทไี่ ดไ ป Compare and Share กบั เพ่อื นในหอง - ครูตรวจสอบความถูกตอ งโดยใหน ักเรียนอา นคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. motorway 2. train station 3. airport 4. bus stop 5. port 6. petrol station 4. กจิ กรรม D ใหน กั เรียน Read aloud คําสง่ั และพูดบอกส่ิงท่ีนักเรยี นตอ งปฏบิ ตั ิในกิจกรรมน้ี - ใหนกั เรียน Read silently ประโยค 1-5 เพอ่ื คน หาตัวช้ีแนะคําตอบและขีดเสน ใตกาํ กบั - นกั เรียนเลือกคําตอบโดยใชตวั ช้แี นะคําตอบ จากนัน้ นําคําตอบท่ไี ดไป Compare and Share กับเพือ่ น - ครตู รวจสอบความถูกตองโดยใหนกั เรียน Read aloud คําตอบและบอกเหตุผลท่ีเลือกใชคําตอบน้ัน (บอกคํา/วลีท่ี เปน ตวั ชแี้ นะคาํ ตอบ) เม่ือไดคาํ ตอบทกุ ประโยคแลว ใหน ักเรียน Read Aloud ประโยคและครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. licence 2. mechanic 3. miss 4. roundabout 5. journey คูมอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที่ 3

346 346  Production กิจกรรม Expand Your Ideas ซึ่งครู applied จากกิจกรรม C ใหนักเรียนประยุกตใชความรูท่ีเรียนมาในชั่วโมงนี้ทํา กิจกรรม ครูอธบิ ายคําส่ัง ชีแ้ นะวิธีคิด และการตอบคาํ ถาม โดยใหนักเรยี น Discuss and share ดงั น้ี Work with a partner. Describe different types of transport in your province. Tell which the typical way for most students to go to school and explain why. - ครใู หนักเรียน Read aloud คําสงั่ และพูดบอกสง่ิ ท่ีนักเรียนตองปฏบิ ัตใิ นกิจกรรมน้ี - นักเรยี นตอบคําถามโดยใชค ําศัพทแ ละโครงสรา งประโยค Explaining Why - ครูใหเวลานักเรียนทํากิจกรรม ครูสังเกต แนะนํา ชวยเหลือ และแกปญหา กอนหมดเวลาครูตรวจสอบโดยเลือก นกั เรียน 3-4 คูขึ้นมาพูดขอ เขยี นของตนเองใหเพอ่ื นฟง โดยครแู ละเพอื่ นชวยเตมิ เต็มใหมคี วามนา สนใจยิ่งขึ้น - ครูตอบขอซักถามของนกั เรยี น สรุปสิง่ ทเ่ี รยี นในช่ัวโมงนี้ เฉลยคาํ ตอบ Students’ own answers 6. การวัดและประเมินผล เครื่องมอื คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น 18-20 วิธกี าร 15-17 ผลการประเมนิ 1. สังเกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผาน 2. ประเมินทกั ษะ แบบประเมินทกั ษะการฟง-การพดู คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดีมาก การใชภ าษา แบบประเมินทักษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. สอื่ /แหลง การเรยี นรู หนงั สอื เรยี น Close-up 3 Unit 6 Road Trip! เรื่อง Vocabulary กจิ กรรม A-D หนา 72 8. บันทกึ หลังการจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูม อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศึกษาปที่ 3

347 347 หนวยการเรยี นรทู ่ี 6 เร่อื ง Road Trip! แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 4 เร่ือง Vocabulary 2: Public Transport รหสั วชิ า................. รายวิชาพืน้ ฐานภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 3 กลุมสาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 1 ช่วั โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชวี้ ดั ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบหุ วั ขอ เรอื่ ง ใจความสาํ คญั รายละเอียดสนับสนุน และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เรอ่ื งท่ีฟงและ อา นจากสอ่ื ประเภทตางๆ พรอมท้ังใหเหตุผลและยกตวั อยา งประกอบ ต 1.3 ม.3/2 พดู และเขียนสรปุ ใจความสาํ คญั /แกน สาระ หวั ขอเรอื่ งทไี่ ดจากการวิเคราะหเ รื่อง/ขา ว/เหตกุ ารณ/สถาน- การณท อ่ี ยูในความสนใจของสังคม ต 2.1 ม.3/2 อธิบายเกีย่ วกับชีวิตความเปน อยู ขนบธรรมเนียม และประเพณีของเจา ของภาษา 2. จุดประสงคการเรียนรู อานบทความเกี่ยวกับ Public Transport แลวสรุปใจความสําคัญ อธิบายและแสดงความคิดเห็น โดยใชคําศัพทและ โครงสรา งภาษาทก่ี ําหนดใหไดถกู ตองและเหมาะสม 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรแู ละกิจกรรมฝกทักษะการคิดท่ีมีคําศัพทเกี่ยวกับ Public Transport โครงสรางภาษาเกี่ยวกับ Explaining why or why not โดยผานการฝกทักษะการเรยี นภาษาทั้ง 4 ดาน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร ทําใหผูเรียนสามารถสื่อ ความไดอ ยา งมปี ระสิทธิภาพ มีเหตุผล มวี ิจารณญาณ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Vocabulary: fare, child, first, cash, destination, adult, standard, return - Grammar: Explaining why or why not 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรียนภาษาทั้ง 4 ทักษะ การฟง การพดู การอาน และการเขียน - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มีประสทิ ธภิ าพในการสื่อความ - มีเหตผุ ล มีวิจารณญาณ 5. กิจกรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูนาํ ความสนใจของนักเรยี นเขาสูบทเรยี นโดยใชภ าพในหนงั สือเรยี น Close-up 3 และคาํ ถามดงั น้ี Q: Do you think where she is now? How do you know? 2. นักเรยี นใหคําตอบอยางหลากหลาย ครูยอมรบั ทุกคาํ ตอบและเชือ่ มโยงเขาสูกจิ กรรม Vocabulary  Presentation ครสู อน Vocabulary และทบทวนเทคนคิ การทําขอสอบตามข้ันตอนดงั น้ี 1. ครสู อนคาํ ศัพทใ นบทอานกจิ กรรม E-H โดยใหน กั เรียนมีสว นรวมดงั นี้ คมู ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3

348 348 - ใหน ักเรยี นทงั้ ชนั้ ชวยกันคนคาํ ศพั ทท่ีไมร คู วามหมาย ขีดเสนใตกํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของ คําศัพท จากตําแหนงภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝกใหระบุ Parts of speech ทุกคร้ังที่สอนความหมายของ คาํ ศพั ท) - ใหนักเรยี นแบงกนั /ชว ยกันคนหาความหมายของคําศัพทเหลา นี้ แลวพูดบอกความหมาย - ครูเขียนความหมายของคาํ ศพั ทท ี่นักเรยี นบอกและเพ่ิมเตมิ ความหมายของคําศัพทบ างคําใหสมบูรณ ครูเลือกคํา/วลี/ ประโยคทม่ี คี วามหมายนา สนใจ มาอธบิ าย - นักเรียนบอกหมวดหมูของคําศัพทเหลาน้ี โดยครูเขียนลงใน Word Box บนกระดาน ใหนักเรียน Read aloud คาํ ศัพทบนกระดาน ถาคาํ ใดนักเรยี นอา นไมไ ดใ หค รูชว ยอานนํา โดยครูเนน ยา้ํ ใหนักเรียนปฏิบัตติ ามวธิ ีการออกเสียงคาํ หลายพยางค เสียงเนนหนกั ในคาํ (Word Stress) 1. คาํ 2 พยางคขึ้นไป เสยี งเนน หนักสดุ (primary stress) มักจะอยูท่พี ยางคต นของคาํ เชน ticket, luggage, transport, public, pilot, properly, station เปนตน 2. คาํ กริยาประสมประเภท Two-word verbs/Phrasal verbs เวลาออกเสยี งจะเนน หนักท่ีคําหลังคอื ท่คี าํ วิเศษณ หรอื บพุ บทน้นั เชน get on, get off, drive off 3. คาํ 2 พยางคข ึน้ ไป เสยี งเนน หนกั สุด (primary stress) อยูท่ีพยางคท ี่ 2 ของคาํ เชน select, tomorrow, machine 4. คาํ ทม่ี ักอา นผิดและออกเสียงผิด ไดแ ก select (อา นวา เซ-เลค็ ไมใ ช ซิ-เล็ค/ซ-ี เล็ค) - ใหน กั เรียนคดั ลอก Word Box และคําศพั ทท เี่ กยี่ วของลงในสมุดคาํ ศัพทของตนเอง 2. ครสู อนเรือ่ ง Phrasal verbs ทีอ่ ยใู นบทอานและกิจกรรม ไดแ ก 1. get ไดแก - get + on = ขึน้ รถขนาดใหญ เชน bus, train; get + off = ลงจากรถขนาดใหญ เชน bus, train - get + into = ขนึ้ รถ/เขา ไปในรถขนาดเล็ก เชน taxi, car; get + out = ลงจากรถ/ออกจากรถขนาดเล็ก เชน taxi, car - get + up = ตนื่ นอน ลุกขนึ้ 2. pick ไดแ ก - pick + someone + up = to go somewhere to collect someone, typically in one's car - pick + someone/something + out = to choose someone or something from a group 3. drop ไดแก - drop + someone/something = to transport someone or something somewhere - ครใู หนักเรียน Read aloud Phrasal verbs ดงั กลาวแลวจดลงในสมดุ คําศพั ท - ครูแนะนําใหนักเรียนไปสืบคน Phrasal verbs เพิ่มเติมคนละ 3-5 คํา พรอมท้ังใหความหมาย คัดลอกลงใน แผน กระดาษสมดุ แลวมา Share กบั เพือ่ นในหอ งโดยนาํ ไปติดไวท ่ี Billboard หนาชั้นเรียน 3. ครูทบทวนเทคนคิ การทําขอสอบ Focusing on words before and after a gap คมู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศกึ ษาปท่ี 3

349 349 Exam strategies: Focusing on words before and after a gap - Some tasks include a gapped text. Only one word goes in each gap. - This task tests what you know about grammartical structures and vocabulary. - First, look at the gap. What words come before and after? What kind of words are they (e.g. verbs, nouns, prepositions, pronouns)? - Look again at the words around the gaps. Can you think of words that often go together with them? Write your answer in the gap and then read the whole sentence to see if it fits. 4. ครทู บทวน Reading Skills: Skimming and Scanning reading โดยใหน ักเรียนมีสวนรวม  Practice ครูใหนกั เรียนเปดหนังสอื Close-up 3 หนา 73 นักเรยี นปฏบิ ตั ิกิจกรรมตอไปนี้ 1. กิจกรรม E ครใู หน กั เรียน Read aloud คําสง่ั และพูดบอกสง่ิ ที่นักเรียนตองปฏบิ ตั ใิ นกิจกรรมน้ี - ใหน กั เรียน Read aloud คาํ ศัพทท่ีเปนตัวเลอื กพรอ มท้งั บอกความหมาย - ครอู ธบิ ายวิธกี ารเลือกคาํ ศัพทไ ปเตมิ ในประโยคและครทู บทวนเทคนิคการทําขอสอบ Cloze test โดยคนหาตัวชี้แนะ คําตอบซงึ่ อยหู นา และหลงั ชองวาง - ใหนักเรียน Read silently ประโยค1-8 และขีดเสนใตคําสําคัญในแตล ะประโยคเพือ่ ใชเ ปนตัวชี้แนะคาํ ตอบ - ครูตรวจสอบความเขาใจโดยใหน ักเรยี นอานตัวชีแ้ นะคาํ ตอบ ตวั ชีแ้ นะคําตอบ 1. so I chose Severn Tunnel 2. a single or a, ticket 3. because it’s cheaper 4. it’s cheaper than, class 5. I’m over 21 6. I’m over 21, not 7. the machine told me the, It was £9.20 8. I didn’t have any, so I paid by card - ใหน กั เรยี นใชตวั ชแ้ี นะคําตอบชวยในการตัดสนิ ใจเลือกคําตอบจากตวั เลอื กทก่ี ําหนดให - ครใู หเ วลานกั เรียนทาํ กิจกรรม ครูสงั เกต แนะนาํ ชวยเหลอื และแกป ญ หา - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรยี นอา นคําตอบพรอ มกนั และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. destination 2. Return 3.standard 4.first 5. adult 6.child 7. fare 8. cash 2. กิจกรรม F ใหนักเรียน Read aloud คําสั่ง ครูอธิบายชี้แนะวิธีการเลือกคําตอบ และใหนักเรียนนํา Preposition ตางๆ ท่กี ําหนดใหม าใชกบั Verb แตล ะตวั และพดู บอกความหมาย - ใหน ักเรียน Read silently ประโยค 1-7 และขีดเสนใตตัวชี้แนะคําตอบ - ครตู รวจสอบความเขาใจโดยใหนักเรยี นอานตัวช้ีแนะคาํ ตอบพรอ มกนั คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ 3

350 350 ตวั ชี้แนะคาํ ตอบ 1. the train, It was packed! There were no free seats 2. and asked her to, pick me, from the station 3. the bus, and walked the rest of the way to school 4. left the restaurant, the first taxi 5. was taking a lot of luggage, so dad dropped me, at the train station 6. to help him get, of our car 7. just drove, and left me there without saying goodbye properly - ใหนักเรยี นใชต วั ชแ้ี นะคําตอบไปชวยในการตดั สนิ ใจเลือกคําตอบจากตัวเลือกท่ีกาํ หนดให - ครูใหเวลานกั เรยี นทํากจิ กรรม ครู สังเกต แนะนํา ชวยเหลือและแกปญหาครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียนอาน คําตอบพรอ มกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. on 2. up 3. off 4. into 5. off 6. out 7. off 3. กจิ กรรม G ใหนักเรยี น Read aloud คาํ สงั่ และครทู บทวนคาํ สง่ั และชี้แนะเร่ืองสํานวนภาษา ตามหลักของการใชคํา รวมกันหรอื ปรากฏรว มกันของคาํ (Collocations) โดยใหนักเรยี นเลือกใชค ํากริยาใหส มั พันธกับคาํ นามท่ีตามหลงั มา - นักเรยี นคดิ คําตอบโดยใหน ักเรียนอา นประโยค 1-6 ทกี่ าํ หนดให แลวขดี เสน ใตค าํ นามทอี่ ยูหลงั ตัวเลือกเพ่ือนใชเปนตัว ชแ้ี นะคาํ ตอบกาํ หนดคาํ รว มกนั หรอื ปรากฏรวมกันของคาํ (Collocations) - ครตู รวจสอบความเขาใจโดยใหน ักเรียนอานคํานามทขี่ ดี เสนใตพรอ มกนั ดังนี้ ตัวชแ้ี นะคาํ ตอบ 1. a car 2. the plane 3. a motorbike 4. many ships 5. a taxi 6. the bus - ใหน ักเรยี นใชตัวชแ้ี นะคาํ ตอบดงั กลา วน้ีไปใชในการตดั สินใจเลือกคําตอบทถี่ กู ตอง ครูตรวจสอบความถูกตองโดยให นกั เรียนอานคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. drive 2. flying 3. rode 4. sail 5. call 6. catch ครใู หนกั เรียนเปด หนงั สือ Workbook Close-up 3 หนา 39 นกั เรียนปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตอไปน้ี 4. กจิ กรรม A ใหนักเรยี น Read aloud คาํ ส่งั และตวั เลอื กในประโยคที่ 1-6 พรอมทง้ั บอกความหมาย - ครทู บทวนคําสง่ั แนะวิธคี ิดคําตอบโดยใหนักเรยี นอานประโยคเพ่อื คนหาตัวชแ้ี นะคาํ ตอบและขีดเสนใตค ํา วลี ประโยค ยอยที่อยหู นาและหลงั ตวั เลือก - ครตู รวจสอบความแมนยําในการระบุตวั ช้แี นะคําตอบโดยใหน ักเรยี นพูดบอกคาํ ทขี่ ีดเสนใตไว ไดค ําตอบดังนี้ คูมือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศึกษาปท ี่ 3

351 351 ตัวชีแ้ นะคาํ ตอบ 1. to find out when the train leave 2. My car hasn’t got, so we can’t go anywhere 3. because he didn’t have enough money to pay the driver 4. of the ship 5. was full of traffic 6. When the ship arrived at - ใหน กั เรยี นใชต ัวชแี้ นะคําตอบชวยในการตัดสินใจเลอื กคาํ ตอบจากคาํ ศัพทท ่ีกําหนด - ครตู รวจสอบความถูกตอ งโดยใหนักเรียนอานคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. timetable 2. petrol 3. taxi 4. captain 5. motorway 6. port 5. กจิ กรรม B ใหน ักเรียน Read aloud คําสงั่ - ครทู บทวนคําสง่ั และใหน ักเรยี นชวยกันบอกวธิ ีการคดิ คําตอบ - ใหนกั เรยี น Read aloud คาํ ศัพทท ี่เปนตัวเลือก พรอมทงั้ บอกความหมายของคําศัพท - ครูใหเวลานกั เรียนคดิ วเิ คราะห สงั เคราะหความหมายของคําศพั ท โดยครูกาํ หนดวานักเรยี นตองใหเหตุผลประกอบการ ตดั สนิ ใจเลอื กคาํ ศัพทท ่ไี มเ ขาพวก - ครูตรวจสอบคําตอบ รบั ฟงเหตผุ ลของนักเรยี นโดยใหน ักเรยี นพดู บอกคําตอบและเหตุผลพรอ มกันและครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. road 2. pilot 3. helicopter 4. reed boat  Production กจิ กรรม Ideas Focus ในหนังสือ Close-up 3 หนา 73 ใหนักเรียนประยุกตใชความรูที่เรียนมาในช่ัวโมงน้ีทํากิจกรรม ครูอธบิ ายคาํ ส่งั ช้แี นะวธิ ีคดิ และ การตอบคาํ ถาม โดยใหนกั เรียน Discuss and share - ครูใหน กั เรียน Read aloud คาํ สง่ั และพดู บอกสง่ิ ทน่ี ักเรียนตองปฏบิ ตั ใิ นกจิ กรรมน้ี - นกั เรยี นตอบคาํ ถามโดยใชคาํ ศัพทแ ละโครงสรางประโยค Explaining Why or Why not /because - ครูทบทวนการใชกรยิ าเปน Present simple และ Future simple ครูใหเวลานักเรียนทํากิจกรรม ครูสังเกต แนะนํา ชวยเหลอื และแกป ญ หา ถาเวลาไมพ อใหนักเรียนทําตอเปนการบา นและนาํ มาสง ในวนั ตอ ไป - ครูยอมรบั ทุกคําตอบท่ีมเี หตุผล - ครตู อบขอ ซักถามของนกั เรยี น สรปุ สงิ่ ที่เรียนในชั่วโมงนี้ เฉลยคาํ ตอบ Students’ own answers คูม อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศึกษาปท่ี 3

352 352 6. การวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมนักเรียน 18-20 วิธีการ 15-17 ผลการประเมนิ 1. สังเกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผาน 2. ประเมนิ ทักษะ แบบประเมินทกั ษะการฟง -การพดู คะแนน ผลการประเมิน การใชภ าษา แบบประเมินทกั ษะการอาน-การเขยี น 18-20 ดมี าก 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. สอ่ื /แหลงการเรยี นรู หนังสือ Close-up 3 Unit 6 Road Trip! เรื่อง Vocabulary กจิ กรรม E-G และ Ideas Focus หนา 73 หนงั สอื Workbook Close-up 3 Unit 6 Road Trip! เรอื่ ง Vocabulary กิจกรรม A-B หนา 39 8. บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมอื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท่ี 3

353 353 หนว ยการเรียนรทู ่ี 6 เรือ่ ง Road Trip! แผนการจัดการเรียนรูท่ี 5 เรื่อง Vocabulary 3: Journey รหัสวชิ า................. รายวิชาพนื้ ฐานภาษาองั กฤษ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3 กลุมสาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปก ารศึกษา 25……….. ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 1 ชว่ั โมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชีว้ ัด ต 1.1 ม.3/4 เลอื ก/ระบุหัวขอเร่อื ง ใจความสาํ คัญ รายละเอยี ดสนับสนนุ และแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับเรอ่ื งท่ีฟงและ อานจากส่อื ประเภทตางๆ พรอ มท้งั ใหเหตุผลและยกตัวอยางประกอบ ต 1.3 ม.3/2 พดู และเขียนสรปุ ใจความสาํ คัญ/แกนสาระ หัวขอเร่ืองทไี่ ดจากการวิเคราะหเรอ่ื ง/ขาว/เหตกุ ารณ/สถาน- การณท อ่ี ยูในความสนใจของสังคม ต 2.1 ม.3/2 อธิบายเกยี่ วกับชีวติ ความเปนอยู ขนบธรรมเนียม และประเพณขี องเจาของภาษา 2. จุดประสงคก ารเรียนรู อานเร่อื งเกี่ยวกับ Journey แลวพูดและเขียนสรปุ ใจความสาํ คญั วเิ คราะห เปรยี บเทยี บ อธบิ าย และแสดงความคิดเห็น โดย ใชคําศัพทและโครงสรา งภาษาที่กาํ หนดใหไ ดถ กู ตอ งเหมาะสม 3. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรูและกิจกรรมฝกทักษะการคิด บทอานที่มีคําศัพทสํานวนภาษาเกี่ยวกับ Journey และโครงสรางภาษา Explaining why /because และ Reading skills: Scanning reading and Skimming reading และเทคนิคการทําขอสอบ Focusing on words before and after a gap โดยผา นการฝกทักษะการอา น การเขียน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร ทําให ผูเ รยี นสามารถสื่อความไดอ ยางมีประสทิ ธภิ าพ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Vocabulary: คาํ ศพั ทเ ก่ยี วกับ Journey - Grammar: Explaining why/because - Reading strategy: Scanning reading and Skimming reading 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรียนภาษาทง้ั 4 ทักษะ การฟง การพดู การอาน และการเขียน - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการส่อื สาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มีประสิทธิภาพในการส่ือความ - มเี หตุผล มีวิจารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูนําความสนใจของนักเรียนเขา สูบทเรียนในชว่ั โมงเรยี นน้ีโดยใหนกั เรยี นเลือกคําศพั ทท่ีไมเขาพวกดังน้ี a. ferry, ship, port, airport b. single, train, motorbike, timetable 2. นักเรยี นใหคาํ ตอบและใหเ หตุผลอยา งหลากหลาย ครูเช่อื มโยงเขาสูกิจกรรม Vocabulary คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3

354 354  Presentation 1. ครูสอนคาํ ศัพทในบทอานกิจกรรม C-G โดยใหนกั เรยี นมีสวนรว มดังนี้ - ใหน กั เรยี นท้ังชนั้ ชว ยกนั คน คาํ ศพั ทท ไ่ี มร คู วามหมาย ขีดเสนใตกํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของ คําศัพทจากตําแหนงภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝกใหระบุ Parts of speech ทุกครั้งท่ีสอนความหมายของ คําศพั ท) - ใหน ักเรยี นแบง กัน/ชวยกันคนหาความหมายของคําศพั ทเ หลาน้ี แลว พดู บอกความหมาย - ครเู ขียนความหมายของคําศัพทท ีน่ ักเรียนบอกและเพิ่มเติมความหมายของคําศพั ทบางคําใหสมบูรณ ครูเลือกคํา/วลี/ ประโยคท่มี คี วามหมายนาสนใจ มาอธิบาย - นักเรียนบอกหมวดหมูของคําศัพทเหลานี้ โดยครูเขียนลงใน Word Box บนกระดาน ใหนักเรียน Read aloud คาํ ศัพทบนกระดาน ถาคําใดนักเรียนอานไมไดใหครูชวยอานนํา โดยครูเนนย้ําใหนักเรียนปฏิบัติตามวิธีการออกเสียงคําหลายพยางค ไดแ ก เสยี งเนนหนกั ในคาํ (Word Stress) 1. คํา 2 พยางคขน้ึ ไป เสียงเนน หนักสดุ (primary stress) มกั จะอยูที่พยางคต นของคาํ เชน ready, travel, lesson, weather, minute, twenty, regular, standard, thirty, heavily, plateform, traffic, passenger, motorway, motorbike, airport, timetable, helicopter, ricksaw, reed boat, pilot, really, captain, interesting เปนตน 2. คาํ 2 พยางคขึ้นไป เสียงเนนหนักสุด (primary stress) อยทู ี่พยางคท ่ี 2 ของคาํ เชน return, arrive, - ใหนักเรยี นแบง กัน/ชวยกันคน หาความหมายของคาํ ศัพทเหลาน้ี แลว พดู บอกความหมาย - ใหน ักเรียนคัดลอก Word Box และคาํ ศัพทท่ีเกีย่ วของลงในสมดุ คําศพั ทข องตนเอง 2. ครูทบทวนเทคนคิ การทาํ ขอสอบ Focusing on words before and after a gap โดยใหนกั เรยี นมีสวนรว ม  Practice ครใู หน กั เรยี นเปด หนงั สอื Workbook Close-up 3 หนา 39-40 นกั เรยี นปฏิบตั กิ ิจกรรมตอ ไปนี้ 1. กิจกรรม C ใหนักเรียน Read aloud คาํ สงั่ และคาํ ศพั ทท่ีเปนตวั เลือกพรอมทง้ั บอกความหมายคําศพั ทแ ตละตวั - ใหนักเรียน Read silently ประโยคสนทนาในขอ 1-4 เพื่อคนหาตัวช้ีแนะคําตอบท่ีอยูหนาและหลังชองวางและ นาํ ไปใชใ นการตัดสินใจเลอื กคําตอบ - ใหน กั เรยี นนาํ คาํ ตอบไป Compare and share กับเพอื่ นในหอง - ครูตรวจสอบความถูกตอ งโดยใหน ักเรยี นอา นคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. fare 2. adult’s 3. destination 4. return 2. กจิ กรรม D ใหนักเรียน Read aloud คาํ สัง่ และคาํ ศพั ททเี่ ปน ตวั เลือกพรอมท้งั บอกความหมายคําศัพทแ ตล ะตวั - ครอู ธิบายชแี้ นะการทาํ ขอ สอบแบบ Cloze Test โดยใหน กั เรียนทบทวนเทคนิคการทําขอสอบ Focusing on words before and after a gap - ใหน กั เรยี น Read silently Cloze passage เพ่ือคนหาตัวชีแ้ นะคําตอบท่ีอยูหนาและหลังชองวางท่ี 1-6 นําไปใชใน การตดั สินใจเลอื กคําตอบ คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ 3

355 355 - ใหน กั เรียนนาํ คําตอบไป Compare and share กบั เพอ่ื นในหอง - ครตู รวจสอบความแมน ยําในการระบตุ ัวช้ีแนะคําตอบโดยใหนกั เรยี นพดู บอกคําที่ขีดเสนใตไว ไดคาํ ตอบดังนี้ ตวั ช้ีแนะคาํ ตอบ 1. I was once visited the island of Jersey, there was interesting 2. and waited for the bus 3. that goes to the island 4. the boat because it was leaving in 45 minutes 5. So I had to buy another 6. the boat and I got to Jersey - ครูตรวจสอบความถูกตองโดยใหนักเรยี นอานคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. journey 2. bus stop 3. ferry 4. miss 5. lose 6. caught 3. กจิ กรรม E ครใู หนกั เรียน Read aloud คาํ ศพั ททีเ่ ปนตวั เลอื ก และบอกความหมาย - ครใู หนักเรยี นทาํ กิจกรรมเปนคู ครูอธิบายกจิ กรรม Cloze sentence ครูทบทวนเทคนิคการทําขอสอบ Cloze test และเทคนิคการทาํ ขอสอบ Focus on words before and after a gap - ใหน กั เรยี นคน หาตัวชี้แนะคําตอบทอี่ ยหู นาและหลงั ชองวาง โดยขดี เสนใตกํากับไว - ครตู รวจสอบตัวชแ้ี นะคาํ ตอบโดยใหน ักเรยี นอา นตัวชี้แนะคําตอบของทกุ ประโยคไดคําตอบดงั น้ี ตัวชีแ้ นะคาํ ตอบ 1. because I wasn’t sure how long I was staying 2. but it will be expensive 3. only six years old 4. because I didn’t have enough money - ใหน ักเรยี นนําตวั ชแ้ี นะคาํ ตอบดังกลาวนี้ไปใชใ นการตัดสนิ ใจเลือกคําตอบทถ่ี ูกตอง - ครูใหเวลานกั เรยี นคน หา คดิ วิเคราะห ไตรตรอง และใหค ําตอบ - ครตู รวจสอบความถูกตอ งโดยใหน ักเรียนอานคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. a 2. c 3. c 4. b 4. กิจกรรม F ใหนกั เรียน Read aloud คําสั่งและประโยคท่ี 1-7 เพื่อคนหาและขีดเสนใตคําสําคัญท่ีเปนตัวชี้แนะและ กาํ หนดคําหรอื วลที เี่ ปนตัวเลือก - จากนัน้ ใหน ักเรียน Read silently ตัวเลอื ก a-g เพือ่ คนหาคําหรือวลีที่สัมพันธกับประโยคที่นําหนาและจับคูคําตอบ และนําคําตอบไป Compare and share กับเพือ่ นในหอ ง - ครูตรวจสอบความถูกตองโดยใหน ักเรียนอา นคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. c 2. f 3. a 4. g 5. b 6. d 7. e คูมือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 3

356 356 5. กจิ กรรม G ครูใหน ักเรยี น Read aloud คําสั่ง และพูดบอกสงิ่ ที่นกั เรียนตองปฏิบัตใิ นกจิ กรรมน้ี - ครทู บทวนวธิ ีการทาํ โจทย Cloze sentence ทบทวนเทคนคิ การทาํ ขอสอบ Cloze test และเทคนิคการทาํ ขอสอบ Focus on words before and after a gap - ใหน กั เรียนคนหาตัวชี้แนะคาํ ตอบทอี่ ยูหนาและหลังชองวา ง โดยขีดเสน ใตก ํากับไว - ครตู รวจสอบตัวชี้แนะคาํ ตอบโดยใหนกั เรยี นอานตัวช้ีแนะคําตอบของทุกประโยคไดค ําตอบดงั น้ี ตัวชี้แนะคาํ ตอบ 1. ; shall I, a taxi to take you home? 2. start running if you want to, that bus! 3. a motorbike 4. to learn how to, a plane 5. learned how to, a boat 6. a car across the country 7. My jacket is completely, so I don’t need to worry about the rain 8. Can you give me, with these bags? There are so many of them! - ใหน กั เรยี นนําตวั ชีแ้ นะคําตอบดังกลาวนไ้ี ปใชใ นการตัดสินใจ คิดหาคําศพั ทท เ่ี กี่ยวขอ งมาเติมในชองวาง - ครูใหเ วลานักเรียน คดิ วเิ คราะห ไตรตรอง และเขยี นคําตอบ - ครูตรวจสอบความถูกตองโดยใหนักเรยี นอานคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. call 2. catch 3. ride 4. fly 5. sail 6. drive 7. waterproof 8. hand  Production กิจกรรม Expand Your Ideas ซ่งึ ครูประยกุ ตจ ากกจิ กรรม D ใหนักเรยี นทํากิจกรรมคาํ ศพั ท Work in pairs. Make a list of Idioms about Transport and Travel and their meanings then compare and share with students in your class. - ใหน ักเรยี น Read aloud คําสง่ั และพดู บอกสิ่งที่นักเรยี นตองปฏบิ ตั ิ - ครูทบทวนคําสั่ง ช้ีแนะวิธีการสืบคน Idioms about Transport and Travel จาก Dictionary หรือ Online Dictionary และยกตวั อยา งประกอบ ใหน กั เรยี นทาํ กิจกรรมเปนคู ครสู งั เกต ชว ยเหลอื แนะนาํ และแกปญ หา - ครูใหนักเรียนทําเปนการบาน แนะนําใหนักเรียนไปสืบคนเพิ่มเติมจาก Dictionary หรือ Online Dictionary ใน หองสมุดโรงเรียน หรือจาก PC, Ipad, Smart phone โดยคัดลอก Idioms about Transport and Travel and their meanings ประมาณ 6 สาํ นวน เขยี นดวยลายมือทอี่ า นงายหรือพมิ พในกระดาษ A4 หลังจากสงใหครูตรวจแลวใหนักเรียนเผยแพรโดย นําไปติด ไวท ่ี Billboard หนาหองเรียน หรอื ที่อืน่ ๆ ตามความเหมาะสม เฉลยคําตอบ Students’ own answers คมู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มัธยมศึกษาปที่ 3

357 357 6. การวัดและประเมนิ ผล เครื่องมอื คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมนักเรยี น 18-20 วิธีการ 15-17 ผลการประเมิน 1. สังเกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมินทกั ษะ แบบประเมนิ ทกั ษะการฟง -การพูด คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดีมาก การใชภ าษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. สอ่ื /แหลง การเรยี นรู หนังสอื Workbook Close-up 3 Unit 6 Road Trip! เรอ่ื ง Vocabulary กจิ กรรม C-G หนา 39-40 8. บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 3

358 358 หนว ยการเรยี นรูท่ี 6 เรือ่ ง Road Trip! แผนการจดั การเรยี นรูท่ี 6 เรือ่ ง Grammar 1: Passive Voice: Present Simple รหัสวชิ า................. รายวชิ าพน้ื ฐานภาษาองั กฤษ ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3 กลมุ สาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ ปก ารศึกษา 25……….. ภาคเรียนที่ 2 เวลา 1 ชั่วโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวช้ีวัด ต 1.1 ม.3/1 ปฏิบัติตามคําขอรอ ง คาํ แนะนาํ คําชแ้ี จง และคาํ อธบิ ายทฟ่ี งและอาน ต 2.1 ม.3/1 เลอื กใชภาษา นํา้ เสียง และกิริยาทา ทางเหมาะกับบุคคลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของ เจาของภาษา ต 4.1 ม.3/1 ใชภ าษาส่อื สารในสถานการณจ รงิ /สถานการณจ าํ ลองทเ่ี กดิ ข้นึ ในหองเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสงั คม 2. จดุ ประสงคการเรียนรู อา น เขียน ส่ือสารอยางมีประสิทธิภาพ โดยใชคําศัพทและโครงสรางทเี่ กยี่ วกบั Passive Voice: Present Simple 3. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูเกี่ยวกับการใชภาษาสื่อสารอยางมีประสิทธิภาพ โดยการใชคําศัพทและโครงสรางที่เกี่ยวกับ Passive Voice: Present Simple ทักษะเรียนภาษาทั้ง 4 ดาน ไดแก การฟง การพูด การอาน และการเขียน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อ การสอื่ สาร ทาํ ใหการสือ่ สารบรรลุผลตามวัตถุประสงค ผูเรียนมีเจตคติท่ีดีตอ ภาษาองั กฤษ ใชภ าษาอังกฤษอยา งมีประสทิ ธภิ าพ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Grammar: Passive Voice: Present Simple 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรียนภาษาทั้ง 4 ทักษะ การฟง การพดู การอา น และการเขียน - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการสอื่ สาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มีประสิทธิภาพในการส่ือความ - มเี หตุผล มวี ิจารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูนาํ ความสนใจของนักเรยี นเขา สบู ทเรียนในชั่วโมงเรียนน้ี โดยใชป ระโยคในกจิ กรรม A ดงั นี้ a. My mum packs my suitcase. b. My suitcase is packed by my mum. 2. ใหนักเรียนทั้งชั้น Read aloud คําส่ัง ครูทบทวนคําส่ัง และกระตุนใหนักเรียนคิดโดยใชคําถามเก่ียวกับรูปกริยาใน ภาษาองั กฤษ 3. ครใู หน กั เรยี นคดิ คําตอบและบอกคําตอบพรอ มกบั ใหเ หตุผล ครูอธบิ ายความแตกตางและเช่ือมโยงเขาสูบทเรียนเร่ือง Passive Voice: Present Simple  Presentation 1. ครูสอนคาํ ศัพทใ นบทอานกจิ กรรม A-F โดยใหน กั เรยี นมีสว นรว มดงั นี้ คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศึกษาปท ่ี 3

359 359 - ใหนักเรยี นคนคาํ ศัพททีไ่ มร ูความหมาย ขีดเสนใตกํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของคําศัพทจาก ตําแหนง ภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝกใหร ะบุ Parts of speech ทุกคร้ังที่สอนความหมายของคาํ ศัพท) - ใหน ักเรยี นแบง กัน/ชว ยกนั คนหาความหมายของคาํ ศัพทเหลา นี้ แลวพดู บอกความหมาย - ครูเขียนความหมายของคําศัพทท ีน่ ักเรียนบอกและเพ่ิมเติมความหมายของคําศัพทบางคําใหสมบรู ณ - ใหน กั เรยี น Read aloud คําศัพทบนกระดาน ถาคําใดนักเรยี นอา นไมไดใหครูชวยอานนํา โดยครูเนนย้ําใหนักเรียน ปฏิบัติตามวิธีการออกเสยี งคาํ หลายพยางค ไดแก เสียงเนนหนกั ในคาํ (Word Stress) 1. คาํ 2 พยางคขึ้นไป เสียงเนน หนักสุด (primary stress) มกั จะอยูทพี่ ยางคตนของคาํ เชน focus, subject, hundred, passport, second, mention, active, weather, factory เปน ตน 2. คาํ 2 พยางคขึ้นไป เสยี งเนนหนกั สุด (primary stress) อยูทพ่ี ยางคท ่ี 2 ของคาํ เชน umbrella, computer, important เปนตน 3. คําทมี่ กั อานผดิ และออกเสยี งผิด ไดแ ก factory (อา นวา แฟก-ทรี ไมใ ช แฟค-ตอ-รี่) - ใหน กั เรยี นคัดลอก Word Box และคําศัพทลงในสมุดคําศัพทข องตนเอง 2. ครสู อน Gramma rเรอ่ื ง Passive Voice: Present Simple ในกจิ กรรม Grammar Focus โดยอธิบาย Forms and Usages of Passive Voice: Present Simple ดงั นี้ - ครูใหนักเรียน Read aloud Passive Voice: Present Simple สวนแรก แลวครูอธิบายใหนักเรียนเขาใจและ ยกตวั อยางเพม่ิ เติมจากในหนงั สือ จากนั้นใหน กั เรียน Read aloud Passive Voice: Present Simple สว นท่ีเหลือ - ครูอธิบายใหน กั เรียนเขาใจและยกตัวอยา งเพ่มิ เตมิ จากในหนงั สือ ครูใหนกั เรียนชวยสรปุ และยกตัวอยางของประโยค ที่ใช Passive Voice: Present Simple โดยใหนักเรียนมีสวนรวม ครูช้ีแจงวาประโยค Passive Voice: Present Simple มีประเด็น เกี่ยวขอ งอีกหลายเรอ่ื งทจ่ี ะกลาวถงึ ภายหลงั  Practice ครใู หน กั เรียนเปด หนังสอื Close-up 3 หนา 74 นักเรียนปฏบิ ตั ิกิจกรรมตอไปน้ี 1. กจิ กรรม A ครูใหน กั เรยี น Read aloud คาํ สั่ง และพดู บอกสิ่งที่นักเรยี นตองปฏิบตั ิในกจิ กรรมนี้ - ครูทบทวนคําส่ัง บอกจุดประสงคของกิจกรรมน้ี ซึ่งตองการใหนักเรียนรูจักรูปกริยา Active voice และ Passive voice สงั เกตโครงสรางภายในประโยค Active voice สังเกตการเปล่ียนแปลงของรูปกริยาและการสลับตําแหนงของ subject กับ object ภายในโครงสรา งประโยค Passive voice และความหมายของประโยคทใี่ ชก รยิ า Active voice และ Passive voice - ใหน กั เรยี นชวยกันสรุปคําตอบเกยี่ วกบั Forms of Passive voice เฉลยคําตอบ a. active voice b. passive voice 2. กิจกรรม B ใหนักเรียน Read aloud คําสงั่ และพดู บอกสงิ่ ที่นักเรียนตอ งปฏบิ ตั ใิ นกิจกรรมน้ี - ใหน กั เรียนยอ นกลบั ไปดูประโยค a-b ในกิจกรรม A เพ่อื ตอบคาํ ถามขอ 1-5 - ครูใหเวลานักเรียนคิดคําตอบ เม่ือไดคาํ ตอบแลวใหน ักเรียนนําคําตอบไป Compare and Share กบั เพ่ือน - ครูตรวจสอบคาํ ตอบโดยใหนกั เรยี นอา นคําตอบแตละขอ และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. my suitcase 2. my mum 3. my suitcase 4. my mum 5. by คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศึกษาปท ่ี 3

360 360 3. กิจกรรม C ครใู หน กั เรียน Read aloud คาํ ส่ังและพดู บอกสงิ่ ที่นักเรยี นตองปฏิบัตใิ นกิจกรรมน้ี - ใหน ักเรยี น Read aloud ตวั เลือก a-d แลว วเิ คราะหโ ครงสรา งภายในประโยค (S + V + O) แลว ใหนกั เรยี นตอบ คาํ ถามประโยคที่ 1-5 โดยครชู ้แี นะการคดิ คําตอบ - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียนอานคําตอบ และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. b, c, d 2. be 3. bad weather 4. the action 5. d 4. กิจกรรม D ใหนักเรียน Read aloud คําสั่ง และพูดบอกสิ่งท่ีนักเรยี นตองปฏิบัตใิ นกิจกรรมน้ี - ใหน ักเรียน Read aloud คําศัพทที่เปนตัวเลือกและประโยค Cloze sentence และขีดเสนใตคําสําคัญท่ีอยูหนา และหลงั ชอ งวา ง เพ่อื ใชเ ปน ตวั ชีแ้ นะคาํ ตอบ ครอู ธิบายวา ประโยคตอไปนี้มีเน้ือหาเกี่ยวกับ Rules of changing the Active voice in Present Simple into the Passive voice in Present Simple และกระตุนใหน กั เรยี นชวยกันคดิ หาคาํ ทเี่ หมาะสมมาเติมในชองวาง โดยพิจารณาจากตัวเลอื ก ครชู วยช้แี นะและเพมิ่ เตมิ คาํ ตอบ ไดค ําตอบดังนี้ เฉลยคําตอบ focus on, be, past, active, by - ครูใหน ักเรียนRead aloud the completed rules of Passive voice in Present Simple 5. กจิ กรรม E ครูใหนักเรยี น Read aloud คาํ สง่ั และพดู บอกส่งิ ที่นักเรียนตองปฏบิ ตั ิในกจิ กรรมน้ี - ใหนักเรียนทบทวน Rules of Passive voice in Present Simple (S + is/am/are + past participle verb + O) ใหน กั เรียนทบทวนการเปลี่ยนรูปกรยิ าเปน รูป Past participle form (กริยาชอ งที่ 3) - ใหเ วลานักเรียนคิดและเขียนคาํ ตอบ - ครตู รวจสอบความถูกตองโดยใหนักเรียนอานคาํ ตอบพรอ มกัน อธิบายคําตอบบางขอ และครูเฉลยคาํ ตอบ 1. are left เฉลยคําตอบ 4. is checked by 5. Are snacks sold 2. are made by 3. are (often) stopped by 6. are checked 6. กิจกรรม F ครูใหนักเรียน Read aloud คาํ สัง่ และพดู บอกสง่ิ ที่นักเรียนตองปฏบิ ัตใิ นกิจกรรมน้ี - ใหนกั เรียนทบทวน Rules of Passive voice in Present Simple (S + is/am/are + past participle verb + O) และทบทวนการเปลยี่ นรปู กรยิ าเปน รูป Past participle form (กริยาชองที่ 3) - ใหเวลานักเรยี นคิดและเขียนคําตอบ - ครูตรวจสอบความถูกตองโดยใหน ักเรียนอา นคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. are made 2. is not always checked 3. are stolen 4. is driven 5. is served 6. is not given  Production กจิ กรรม Expand Your Ideas (ครกู าํ หนดเอง) Write 5 sentences with Passive voice in Present Simple and 5 sentences with Active voice in Present Simple. You can find out from any page of you textbook and copy them. คูมือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศึกษาปท่ี 3

361 361 - ครใู หนักเรียน Read aloud คาํ สัง่ และพูดบอกสิ่งที่นักเรียนตองปฏิบัติในกิจกรรมนี้ แลวใหนักเรียนจับคูทํากิจกรรม วเิ คราะหไ วยากรณเ รือ่ ง Passive voice and Active voice in Present Simple ในหนงั สือเรยี นโดยคนหาและคัดลอกลงสมุด ครูให นักเรียนทํากิจกรรมอยางอิสระ จากนั้นใหน กั เรียนนําคําตอบท่ีไดไป Discuss and share กับเพื่อนในหอง โดยครูกําหนดเวลาทํางาน และนํามาสงครูภายในเวลาทก่ี าํ หนด - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรยี น Read aloud คาํ ตอบและครเู ฉลยคําตอบ - ครูสรุปบทเรียนและตอบขอ ซักถามของนักเรยี น เฉลยคาํ ตอบ Students’ own answers 6. การวัดและประเมนิ ผล เครือ่ งมือ เกณฑ แบบประเมนิ การสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียน วิธีการ คะแนน ผลการประเมิน 1. สังเกต 18-20 ดมี าก 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 2. ประเมินทักษะ แบบประเมินทักษะการฟง -การพดู คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดีมาก การใชภ าษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. สอื่ /แหลงการเรยี นรู หนังสอื เรยี น Close-up 3 Unit 6 Road Trip! เรือ่ ง Grammar กิจกรรม A-F หนา 74 Grammar Reference for Unit 6 หนังสือเรียน Close-up 3 หนา 112 8. บันทกึ หลังการจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ่ี 3

362 362 หนวยการเรียนรทู ี่ 6 เรื่อง Road Trip! แผนการจดั การเรียนรูท่ี 7 เรอ่ื ง Grammar 2: Passive voice in Past Simple รหสั วชิ า................. รายวิชาพนื้ ฐานภาษาอังกฤษ ช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 3 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 1 ชว่ั โมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม.3/1 ปฏบิ ัตติ ามคาํ ขอรอ ง คําแนะนาํ คําชีแ้ จง และคาํ อธบิ ายทฟ่ี ง และอาน ต 2.1 ม.3/1 เลือกใชภ าษา นาํ้ เสียง และกริ ยิ าทาทางเหมาะกบั บคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของ เจา ของภาษา ต 4.1 ม.3/1 ใชภาษาสอื่ สารในสถานการณจรงิ /สถานการณจ ําลองท่เี กดิ ขึน้ ในหองเรยี น สถานศึกษา ชุมชน และสังคม 2. จดุ ประสงคก ารเรียนรู อา น เขียน และส่ือสารอยา งมีประสิทธิภาพ โดยใช Passive voice in Past Simple 3. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรเู กี่ยวกบั การใชภาษาส่ือสารอยา งมปี ระสิทธิภาพ โดยการใช Passive voice in Past Simple ทักษะเรียนภาษาท้ัง 4 ดาน การฟง การพูด การอาน และการเขียน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร ทําใหการส่ือสารบรรลุผลตาม วตั ถุประสงค ผเู รยี นมเี จตคตทิ ่ีดีตอ ภาษาองั กฤษ ใชภ าษาอังกฤษอยา งมีมารยาท ถูกตองตามกาลเทศะและบคุ คล 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Grammar: Passive voice in Past Simple 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรยี นภาษาทงั้ 4 ทักษะ การฟง การพูด การอาน และการเขยี น - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มีประสิทธิภาพในการส่ือความ - มีเหตผุ ล มวี ิจารณญาณ 5. กิจกรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูนาํ ความสนใจของนักเรยี นโดยใหนักเรยี นรจู ัก Passive voice in Past Simple โดยใชกิจกรรม G โดยใหน ักเรยี น ท้ังชนั้ Read aloud คําสงั่ และขดี เสนใต Passive voice in Past Simple 2. ครูใหน กั เรียนบอกคาํ ตอบ โดยครูเขียนคาํ ตอบของนกั เรียนบนกระดาน 3. ครูเชอ่ื มโยงเขา สูบทเรยี นเรอื่ ง Passive voice in Past Simple  Presentation 1. ครูสอนคําศพั ทใ นบทอานกจิ กรรม G-L โดยใหนกั เรยี นมีสว นรวมดงั น้ี - ใหนักเรียนท้ังช้นั ชว ยกันคน คําศัพทท ่ไี มรูค วามหมาย ขีดเสนใตก าํ กับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของ คาํ ศัพท จากตาํ แหนงภายในประโยค นักเรียนบอกหมวดหมูของคําศัพทเหลา น้ี โดยครูเขียนลงใน Word Box บนกระดาน ใหนักเรียน Read aloud คูม อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท่ี 3

363 363 - ใหนกั เรยี นแบงกัน/ชว ยกันคนหาความหมายของคาํ ศัพทเหลานี้ แลว พูดบอกความหมาย - ครูเขยี นความหมายของคําศัพททีน่ ักเรียนบอกและเพ่มิ เติมความหมายของคําศัพทบางคําใหสมบรู ณ - ใหนักเรียนอานคําศัพทบนกระดาน ถาคําใดนักเรียนอานไมไดใหครูอานนํา โดยครูเนนยํ้าใหนักเรียนปฏิบัติตาม วธิ กี ารออกเสียงคาํ หลายพยางค ไดแ ก เสยี งเนนหนกั ในคาํ (Word Stress) 1. คํา 2 พยางคขน้ึ ไป เสยี งเนน หนักสดุ (primary stress) มักจะอยูทพ่ี ยางคตน ของคํา เชน sunglasses, passport, brackets, station, mountainous, common, luggage, accident, terrible, animal, airline, traveler, highland เปนตน 2. คํา 2 พยางคข นึ้ ไป เสยี งเนน หนักสุด (primary stress) อยทู พ่ี ยางคที่ 2 ของคํา เชน important, photographer, connect, adventure, address เปน ตน - ใหน ักเรียนคดั ลอก Word Box และคาํ ศัพทลงในสมดุ คําศัพทข องตนเอง 2. ครสู อน Passive voice in Past Simple โดยใชก จิ กรรม Grammar Focus ดงั น้ี Forms of Passive voice in Past Simple ไดแก Subject + was/were + กรยิ า Past participle form (กริยา ชอ งที่ 3) + by + objective ครใู หน กั เรียนทบทวนการเปลีย่ นรูปกริยาเปน รปู Past participle form (กรยิ าชอ งที่ 3)  Practice ครูใหน ักเรยี นเปด หนงั สือ Close-up 3 หนา 75 นักเรียนปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตอไปน้ี 1. กจิ กรรม G ใหน กั เรียน Read aloud คาํ ส่งั และพูดบอกสง่ิ ท่ีนักเรียนตอ งปฏบิ ัตใิ นกจิ กรรมนี้ - ครใู หน ักเรยี น Read aloud ประโยคสนทนาและขดี เสนใตกํากบั Verb และบอกคําตอบพรอมกนั - ครูอธบิ ายการแปลความหมายกรยิ ารูป Passive voice ใหน ักเรียนบอกความหมายประโยคสนทนาของ John และ Anna ครูสรปุ คําตอบเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ was, taken, was taken 2. กิจกรรม H ใหนกั เรียน Read aloud คําส่งั และพดู บอกสิ่งที่นักเรียนตองปฏิบตั ใิ นกิจกรรมน้ี - ใหน กั เรยี นตอบคาํ ถามเก่ยี วกับกฎการใช Passive voice โดยปฏบิ ตั ิตามขั้นตอนดังน้ี - Read aloud คําถามท่ี 1 แลว ยอนกลับไปอา นประโยคสนทนาของ John แลวใหคําตอบและ Read aloud คําถามท่ี 2 แลว ยอนกลับไปอานประโยคสนทนาของ Anna แลว ใหคําตอบ - ครูอธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนเขาจืแลวใหนักเรียนชวยพูดสรุปเปนกฏเกณฑเกี่ยวกับ by + object ของกริยารูป Passive voice - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรยี น Read aloud และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. the place 2. Who was this photo taken by? / By whom was this photo taken? Or Who took this photo? 3. กิจกรรม I ครูใหน กั เรยี น Read aloud คําสั่งและพูดบอกส่งิ ที่นกั เรยี นตองปฏบิ ตั ใิ นกิจกรรมน้ี - ใหนักเรยี นเตมิ คําในชองวางเก่ียวกบั กฎการใช Passive voice แลว บอกคําตอบและ Read aloud ประโยคท้งั หมด คูมือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท่ี 3

364 364 พรอมกนั และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ be (was/were), past 4. กจิ กรรม J ใหน กั เรยี น Read aloud คําส่ัง และพดู บอกสงิ่ ท่ีนักเรยี นตอ งปฏบิ ัติในกจิ กรรมน้ี - ครอู ธิบายคาํ ถาม the past simple passive form of verbs (รูปกรยิ า Passive voice in Past Simple) โดยครู ใหนักเรียนทบทวนรปู กรยิ า Passive voice in Past Simple ไดแก was/were + past participle verb - ครูใหน กั เรยี นทบทวน past participle verb (กริยาชอ งที่ 3) ของกริยาในวงเลบ็ ในประโยคท่ี 1-8 - นกั เรียนเตมิ คําในชองวา งดว ยกริยารูป Passive voice in Past Simple - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรยี น Read aloud ประโยค และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. was stolen 2. were checked 3. was lost 4. were found 5. were not told/weren’t told 6. was booked 7. was closed 8. was built 5. กิจกรรม K ใหนกั เรยี น Read aloud คาํ สั่ง และพดู บอกส่งิ ที่นักเรียนตองปฏบิ ตั ใิ นกิจกรรมนี้ - ใหนักเรยี น Read silently ประโยคคําถาม 1-6 แลวขดี เสนใตค ําสําคญั ทจี่ ะเปนตัวชี้แนะหรือกําหนดคําตอบแลวให นักเรยี นพูดสรปุ เกี่ยวกบั ชนดิ ของคําถามซึ่งเปน ตัวกาํ หนดคาํ ตอบ ไดแก Yes-No question ไดคําถามขอ 1, 2 และ Question word question ไดแก คาํ ถามขอ 3 – 6 - จากนั้นนักเรียน Read silently ประโยคคําตอบ a-f แลวขีดเสนใตคําสําคัญที่จะเปนตัวชี้แนะหรือกําหนดคําถาม แลว ตัดสินใจเลือกจับคคู าํ ถามกบั คําตอบ - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียน Read aloud ประโยคคําถามและคําตอบ และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. b 2. d 3. e 4. a 5. f 6. c  Production ครูใหนักเรียนปฏิบตั ิกิจกรรม L ดังน้ี - ใหนักเรยี น Read aloud คาํ สัง่ และพูดบอกส่งิ ท่ีนกั เรยี นตองปฏบิ ัตใิ นกิจกรรมนี้ - ครูชแ้ี นะวิธกี ารคิดคาํ ตอบโดยใหนกั เรยี นทบทวนรูปกริยา Passive voice ไดแ ก  Passive voice in Present Simple ไดแ ก is/am/are + past participle verb (กรยิ าชองที่ 3)  Passive voice in Past Simple ไดแ ก was/were + past participle verb (กรยิ าชอ งที่ 3) - ใหนักเรยี นทบทวน past participle verb (กรยิ าชองท่ี 3) ของกริยาในวงเลบ็ ในประโยคที่ 1-10 คูมือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศึกษาปท ี่ 3

365 365 - ใหน กั เรยี นอาน Cloze passage เพื่อตดั สนิ ใจเลอื กใช Present Simple หรอื Past Simple นักเรยี นเติมคําในชองวาง ดวยกริยารปู Passive voice in Present Simple or Passive voice in Past Simple - ครใู หนักเรียนนําคาํ ตอบไป Compare and share กับเพื่อนในหอ ง - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรยี น Read aloud ประโยค และครเู ฉลยคาํ ตอบ 1. are needed 2. are connected เฉลยคาํ ตอบ 4. are killed 5. was built 6. was changed 7. are caused 3. is sometimes called 8. are protected 9. are lost 10. is used 6. การวัดและประเมินผล เครือ่ งมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมนิ การสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน 18-20 วิธกี าร 15-17 ผลการประเมนิ 1. สงั เกต 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมินทักษะ แบบประเมนิ ทกั ษะการฟง -การพดู คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดีมาก การใชภาษา แบบประเมินทกั ษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 7. สอ่ื /แหลง การเรยี นรู หนงั สอื เรยี น Close-up 3 Unit 6 Road Trip! เร่อื ง Grammar กิจกรรม G-L หนา 75 Grammar Reference for Unit 6 หนงั สอื เรยี น Close-up 3 หนา 112 8. บนั ทกึ หลังการจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3

366 366 หนว ยการเรียนรูที่ 6 เร่อื ง Road Trip! แผนการจัดการเรียนรทู ่ี 8 เรอ่ื ง Grammar 3: Passive voice: Present & Past Simple รหัสวิชา................. รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาอังกฤษ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ปก ารศึกษา 25……….. ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 1 ชั่วโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวช้วี ดั ต 1.1 ม.3/1 ปฏิบตั ิตามคําขอรอง คําแนะนาํ คําช้แี จง และคาํ อธบิ ายท่ฟี ง และอาน ต 2.1 ม.3/1 เลือกใชภาษา น้าํ เสียง และกริ ยิ าทา ทางเหมาะกับบคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของ เจาของภาษา ต 4.1 ม.3/1 ใชภาษาสือ่ สารในสถานการณจริง/สถานการณจ าํ ลองที่เกดิ ขนึ้ ในหองเรยี น สถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม 2. จดุ ประสงคก ารเรียนรู อาน เขียน และส่ือสารอยา งมีประสทิ ธิภาพโดยใชโครงสรา ง Passive voice: Present & Past Simple 3. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูเ กย่ี วกบั การใชภ าษาสอ่ื สารอยางมมี ารยาท มีประสทิ ธภิ าพ โดยการใช Passive voice: Present & Past Simple ทักษะเรยี นภาษาท้งั 4 ดา น การฟง การพูด การอา น และการเขียน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร ทาํ ใหก าร สื่อสารบรรลผุ ลตามวัตถปุ ระสงค ผูเรยี นมเี จตคติท่ีดตี อ ภาษาองั กฤษ ใชภ าษาองั กฤษอยา งมีมารยาท ถกู ตอ งตามกาลเทศะและบุคคล 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Grammar: Passive voice: Present & Past Simple 4.2 ดา นทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรยี นภาษาทั้ง 4 ทักษะ การฟง การพดู การอา น และการเขียน - ทักษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มีประสทิ ธิภาพในการส่ือความ - มเี หตผุ ล มีวจิ ารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูทบทวนบทเรียนในชั่วโมงท่ีแลวเรื่อง Passive voices in Present and Past Simple โดยครูเขียนประโยค ตอ ไปนบ้ี นกระดานใหน กั เรียนเตมิ คําตอบ ดงั นี้ a. He ………………. (row) a boat gently down the stream every morning. b. This airport ………………. (build) by a famous architect in 1956. 2. ใหน ักเรยี น Read aloud คาํ ตอบพรอมทั้งใหเ หตผุ ล 3. ครเู ช่อื มโยงเขาสูบทเรยี น Passive voice: Present & Past Simple  Presentation 1. ครูสอนคําศัพทในกิจกรรม A-E ของหนงั สือ Workbook Close-up 3 โดยใหน กั เรียนมีสวนรวมดงั นี้ คูมือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศึกษาปท ่ี 3

367 367 - ใหนักเรียนทั้งชั้นชวยกนั คนคาํ ศพั ทท ี่ไมรคู วามหมาย ขดี เสน ใตกํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของ คําศพั ท จากตาํ แหนงภายในประโยค นกั เรียนบอกหมวดหมูของคาํ ศัพทเ หลาน้ี โดยครูเขียนลงใน Word Box บนกระดาน ใหนักเรียน Read aloud - ใหนกั เรียนแบงกัน/ชว ยกันคนหาความหมายของคาํ ศพั ทเหลานี้ แลว พูดบอกความหมาย - ครเู ขียนความหมายของคําศัพททน่ี ักเรียนบอกและเพม่ิ เตมิ ความหมายของคําศพั ทบ างคําใหสมบูรณ - ใหนกั เรยี นอานคําศพั ทบนกระดาน ถาคําใดนักเรียนอานไมไดใหครูอานนํา โดยครูเนนย้ําใหนักเรียนปฏิบัติตามวิธี การออกเสยี งคําหลายพยางค ไดแก เสียงเนน หนักในคาํ (Word Stress) 1. คาํ 2 พยางคข้นึ ไป เสียงเนนหนักสดุ (primary stress) มกั จะอยูท่พี ยางคต นของคาํ เชน mobile, office, helicopter, moment, normal, suitcase, passport, thousand, necklace เปน ตน 2. คาํ 2 พยางคข ึน้ ไป เสียงเนน หนักสุด (primary stress) อยทู พี่ ยางคท ่ี 2 ของคํา เชน locate, experience, address, take off, unusual, control, destroy เปนตน - ใหน ักเรียนคัดลอก Word Box และคาํ ศพั ทลงในสมดุ คาํ ศัพทข องตนเอง 2. ครูทบทวนเรอื่ ง Passive voice: Present & Past Simple โดยใหนกั เรยี นมสี วนรวม 3. ครูทบทวนเทคนิคการทําขอสอบ Focus on words before and after a gap ครูอธิบายพรอมทั้งยกตัวอยาง ประกอบและใหนักเรียนฝกปฏบิ ัติในกจิ กรรมตอ ไป  Practice ครูใหน กั เรยี นเปด หนงั สอื Workbook Close-up 3 หนา 41-42 นักเรยี นปฏิบัติกิจกรรมตอ ไปน้ี 1. กิจกรรม A ใหนกั เรียนจับคูทํากิจกรรมโดย Read aloud คาํ สัง่ และประโยค 1-6 - ใหนักเรียนทบทวนการใช Present Simple passive form of verbs ถานักเรียนสวนใหญจําไมได ครูใหนักเรียน ยอ นกลบั ไปดู Rules ใน Grammar Focus: Passive voice: Present Simple - ครใู หน กั เรียนทบทวน past participle verb (กริยาชอ งที่ 3) ของกริยาในวงเลบ็ ในประโยคท่ี 1-6 - ใหนกั เรียนอา นคํานามท่ีอยหู นาชองวางในประโยค1-6 เพ่อื ตัดสินใจเลอื ก is/am/are ซ่ึงเปนตวั ชแี้ นะคําตอบ - นกั เรียนเตมิ คําในชองวางดว ยกริยารปู Passive voice in Present Simple - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรยี น Read aloud ประโยค และครเู ฉลยคําตอบ 1. is driven เฉลยคําตอบ 4. are not served /aren’t served 5. is usually delayed 2. are flown 3. are bought 6. is not used/ isn’t used 2. กจิ กรรม B ใหน ักเรียน Read aloud คําส่ัง และพดู บอกส่งิ ที่นักเรียนตองปฏบิ ตั ิในกิจกรรมนี้ - ใหนักเรียนทบทวน Rules of Passive voice in Present Simple (S + is/am/are+past participle + O) การ เปลี่ยนรูปกริยาเปนรูป Past participle form (กริยาชองท่ี 3) และข้ันตอนการเปล่ียนประโยค Active voice เปนประโยค Passsive voice ใหนักเรยี นวเิ คราะหโ ครงสรางภายในแตล ะประโยค (S + V + O) - ใหเ วลานกั เรียนคิดและเขียนคําตอบ ครตู รวจสอบความถกู ตองโดยใหนักเรยี นอา นคําตอบและครเู ฉลยคาํ ตอบ คมู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปท่ี 3

368 368 เฉลยคาํ ตอบ 1. This wall is visited by thousands of people. 2. The ticket office is closed for the moment. 3. The pilots are never scared by storms. 4. Your passport is checked at passport control. 5. Timetables are usually put in the information centre. 6. Mobile phones are not left on during flight. 3. กจิ กรรม C ใหนักเรยี น Read aloud คําสง่ั และพูดบอกสิง่ ท่ีนักเรยี นตอ งปฏิบัติในกจิ กรรมนี้ - ใหนกั เรยี น Read aloud ตัวเลอื กและรูปกรยิ าชองที่ 3 ของตวั เลือกแตล ะตัว - ใหน กั เรียน Read silently ประโยค Cloze sentence โดยสังเกตคํานามท่ีอยูหนาหรือตามหลังชองวางเพื่อกําหนด รูปกรยิ า be: was/were - ครใู หเ วลานักเรยี นคน หา คดิ คาํ ตอบ และตัดสินใจเลือกใช was/were ใหสอดคลองกับพจนของประธาน (ประธาน เอกพจนใ ช was และประธานพหพู จนใ ช were) - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรยี น Read aloud คําตอบและเหตุผลทเ่ี ลือกคําตอบนนั้ ๆ ครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. were hidden 2. was built 3. were sent 4. was stolen 5. were written 6. was filmed 4. กจิ กรรม D ใหน กั เรียน Read aloud คําสั่ง และพูดบอกส่งิ ท่ีนกั เรียนตองปฏบิ ัติในกิจกรรมนี้ - ใหน ักเรียนทบทวนการเปลย่ี นประโยคบอกเลาใหเ ปน ประโยคคําถามแบบ Question word questions - ใหน กั เรียนนาํ Nounทีก่ ําหนดใหในวงเลบ็ มาแทนท่ี Pronoun ในประโยค จากน้นั วเิ คราะหโครงสรางภายในประโยค (S + V + O + adverb) - พจิ ารณาใช Question word ทเี่ หมาะสม มาแทนที่ object หรอื adverb ของประโยค - เปลี่ยนโครงสรา งประโยคบอกเลา ใหเปนประโยคคําถามแบบ Question word questions ทบทวนและตรวจสอบ ความถกู ตอ ง กอนนําคาํ ตอบไป Compare and share กับเพอ่ื นในหอ ง - ครใู หเวลานักเรียนคิด วเิ คราะห และเขียนคาํ ตอบ โดยครสู งั เกต ชวยเหลอื และแกปญ หา - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรยี น Read aloud คําตอบและครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. Wher was this photo taken? 2. Who was this email sent by? / By whom was this email sent? 3. When were these floers bought? 4. How was this chair made? 5. When was this cake cooked? 6. Who were you giventhis necklace by?  Production กิจกรรม E เปนกิจกรรม Cloze passage ครูใหนักเรียนทบทวนรูปกริยา Passive voices in Present and Past Simple - ใหน ักเรยี นอาน Cloze passage เพื่อตัดสินใจเลือกใช Present Simple หรือ Past Simple นักเรยี นเติมคําในชองวาง ดว ยกรยิ ารปู Passive voice in Present Simple or Passive voice in Past Simple - ครูใหน ักเรยี นนําคําตอบไป Compare and share กับเพื่อนในหอง - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียน Read aloud ประโยค และครเู ฉลยคาํ ตอบ คูม อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ี่ 3

369 369 เฉลยคําตอบ 1. c 2. b 3. c 4. b 5. c 6. a - ครสู รุปบทเรียนและตอบขอ ซักถามของนกั เรียน 6. การวัดและประเมินผล วธิ ีการ เครื่องมือ คะแนน เกณฑ 1. สังเกต แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน 18-20 15-17 ผลการประเมิน 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมนิ ทักษะ แบบประเมินทักษะการฟง-การพูด คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดมี าก การใชภ าษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 7. ส่อื /แหลง การเรียนรู หนงั สือ Workbook Close-up 3 Unit 6 Road Trip! เรื่อง Grammar กิจกรรม A-E หนา 41-42 Grammar Reference for Unit 6 หนังสอื เรียน Close-up 3 หนา 112 8. บันทกึ หลังการจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศึกษาปที่ 3

370 370 หนว ยการเรียนรทู ี่ 6 เรือ่ ง Road Trip! แผนการจัดการเรียนรูที่ 9 เร่อื ง Listening: ClockTime รหสั วชิ า................. รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาอังกฤษ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3 กลุม สาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 1 ชัว่ โมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชวี้ ดั ต 1.1 ม.3/1 ปฏิบัติตามคาํ ขอรอ ง คําแนะนํา คําช้ีแจง และคําอธบิ ายที่ฟง และอา น ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุหัวขอเร่อื ง ใจความสาํ คญั รายละเอียด สนับสนุน และแสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกบั เรื่องท่ฟี งและ อาน จากสอ่ื ประเภทตา งๆ พรอ มทั้งใหเหตุผลและยกตวั อยางประกอบ ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขียนเพอื่ ขอและใหขอ มูล อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั เร่อื งทีฟ่ งหรืออาน อยา งเหมาะสม 2. จดุ ประสงคการเรียนรู พูดใหขอ มลู อธบิ ายเก่ียวกับ Clock time โดยใชส าํ นวนภาษาและโครงสรางภาษาเก่ียวกับการถามและตอบคําถามไดอยาง ถกู ตองเหมาะสม 3. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูแ ละกจิ กรรมฝกทกั ษะการฟง การพูด สํานวนภาษาโครงสรางภาษาเกี่ยวกับการถามและตอบคําถาม กระบวนการฝก ทักษะทางภาษาทั้ง 4 ดานโดยเฉพาะอยา งยง่ิ ทกั ษะการฟง การพดู โดยใชกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร ทําใหผูเรียน สอื่ สารไดอ ยา งมีประสทิ ธภิ าพ มีเจตคตทิ ด่ี ตี อ การเรยี นภาษาองั กฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Vocabulary: สํานวนภาษาที่ใชใ นการสนทนาเกย่ี วกับ Clock time 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรียนภาษาทง้ั 4 ทักษะ การฟง การพูด การอา น และการเขียน - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มีประสทิ ธิภาพในการส่อื ความ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูนําความสนใจของนักเรียนโดยใหน ักเรยี นดูภาพในกจิ กรรมA และครูใชค ําถามดงั น้ี Q: Do you think which pictures in B can use with the word ‘a quarter’? Why? 2. นักเรยี นใหค ําตอบและบอกเหตผุ ล 3. ครูอธบิ ายความหมายของคํา a quarter เมื่อใชเ กี่ยวกบั เวลา และเชือ่ มโยงเขา สูกจิ กรรมการเรียนการสอน  Presentation 1. ครสู อนคําศพั ทในกิจกรรม A-F โดยใหนกั เรียนมสี ว นรวม ดงั นี้ - ใหนกั เรยี นท้ังชัน้ ชวยกนั คน คําศัพทท ่ีไมรคู วามหมาย ขดี เสน ใตกํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของ คําศัพท จากตําแหนงภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝกใหระบุ Parts of speech ทุกคร้ังที่สอนความหมายของ คาํ ศัพท) ใหน กั เรียนแบงกัน/ชว ยกนั คน หาความหมายของคําศพั ทเหลา น้ี แลว พูดบอกความหมาย คูมอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศึกษาปท่ี 3

371 371 - ครูเขยี นความหมายของคําศัพททีน่ ักเรียนบอกและเพมิ่ เติมความหมายของคาํ ศัพทบ างคําใหสมบูรณ - นักเรียนบอกหมวดหมูของคําศัพทเหลานี้ โดยครูเขียนลงใน Word Box บนกระดาน ใหนักเรียน Read aloud คําศัพทบนกระดาน ถาคําใดนักเรียนอานไมไดใ หครอู านนํา โดยครเู นนยา้ํ ใหนักเรยี นปฏิบัตติ ามวธิ ีการออกเสียงคาํ หลายพยางค เสยี งเนน หนกั ในคํา (Word Stress) 1. คํา 2 พยางคข นึ้ ไป เสียงเนนหนักสุด (primary stress) อยทู พี่ ยางคต น ของคํา เชน ticket, every, listen, minute, twenty, forty, sixty เปน ตน 2. คํา 2 พยางคขน้ึ ไป เสียงเนนหนักสดุ (primary stress) อยทู ี่พยางคท่ี 2 ของคํา เชน complete, correct, expression, eighteen, fourteen เปนตน 3. คาํ ที่มักอา นผิดและออกเสียงผิด ไดแก every (อานวา เอ็ฟ-รี่ ไมใ ช เอ็ฟ-เวอ-ร่ี) - ใหนักเรียนคัดลอก Word Box และคําศพั ทท่ีเกยี่ วขอ งลงในสมุดคาํ ศพั ทข องตนเอง 2. ครูสอน Telling time or Clock time โดยใหนักเรยี นมีสวนรว ม ประโยคทใ่ี ชบอกเวลาซึ่งนาํ หนาดวย It’s … + มี รปู แบบ ดังนี้ 2.1 It’s … + ตัวเลขท่ีอานจากเข็มยาว + minutes + past + ตัวเลขที่อานจากเข็มสั้น ตัวอยางเชน It’s twenty minutes past eight. ตวั อยางเชน It’s ten minutes past seven. 2.2 It’s … + ตัวเลขท่ีอานจากเข็มยาว + minutes + to + ตัวเลขท่ีอานจากเข็มส้ัน ตัวอยางเชน It’s twenty minutes to eight. ตัวอยา งเชน It’s ten minutes to seven. 2.3 คําศัพทท่ีสําคัญเก่ียวกับตัวเลขท่ีใชบอกเวลา ไดแก a quarter past/to = fifteen minutes past/to, half past/to = thirsty minutes past/to ตัวอยางเชน It’s a quarter past/to seven. = It’s fifteen minutes past/to seven. ให นกั เรียนมสี วนรวมในการยกตัวอยางอ่นื ๆ เพมิ่ เติม 3. ครูสอน Listening Strategies: Predicting the answers before listening ใน Exam Close-up อธิบายและยก ตวั อยา งประกอบใหน กั เรยี นมคี วามมน่ั ใจในการฟงแลว ตอบคาํ ถามเกี่ยวกบั เรอื่ งท่ีไดย ิน 4. ครอู ธบิ ายวิธีการเรียนระหวา งฟงซดี ี แนะวธิ ีฟงอยา งมีประสทิ ธภิ าพ ครูชี้แจงวานักเรียนจะไดฟงเสียงพูดสนทนาท่ีเปน การพดู อยางเปนธรรมชาติ (naturally speaking) ทม่ี ีความเร็วพอประมาณ ใหน กั เรียนฟงเพ่ือจับประเด็นสําคัญโดยต้ังใจฟงคําสําคัญ (content words) ไดแก nouns, main verbs, adjectives, adverbs ในระหวา งท่ีฟงใหนักเรียนงดทํากิจกรรมใดๆ ไมพ ูดคยุ กนั 5. ครูช้แี จงการฟง ซดี ีวานักเรียนจะไดฟ งซีดี 3-4 คร้งั ดังน้ี - ฟงครง้ั ท่ี 1 เพ่อื ใหเ ขา ใจเร่ืองและจับประเด็นสําคัญเบอ้ื งตน - ฟงครง้ั ท่ี 2-3 เพอ่ื เลอื กคําตอบ - ฟงคร้ังที่ 3-4 เพือ่ ทบทวนคําตอบหรือเฉลยคําตอบ (สาํ หรับชัน้ ที่นักเรียนสวนใหญออนภาษาอังกฤษ ครูควรใหฟง หลายคร้ัง เพื่อใหน ักเรยี นประสบความสําเร็จในการฟง)  Practice ครใู หนักเรียนเปดหนังสือ Close-up 3 หนา 76 นกั เรียนปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตอไปนี้ 1. กิจกรรม A ใหน กั เรยี น Read aloud คาํ ส่ัง และบอกสงิ่ ท่ีตองปฏิบัตใิ นกิจกรรมนี้ - ครูช้แี นะวิธีคดิ โดยถามความแตกตางของตวั เลขทบี่ อกเวลากับตวั เลขท่ัวไป - ครูอธิบายเพิ่มเติมคําตอบของนักเรียน เพื่อใหนักเรียนทุกคนเขาใจตรงกัน จากนั้นใหนักเรียน Read aloud วลีท่ี เกี่ยวกับตัวเลขและเวลาในขอ 1-6 และวงกลมลอ มรอบตวั เลขที่บอกเวลา - ครูสังเกต แนะนาํ ชว ยเหลือ แกป ญ หา คูมอื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศึกษาปท่ี 3

372 372 - ครูตรวจสอบโดยใหน กั เรียน พูดคาํ ตอบพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. half past ten 2. five past eight 3. ten minutes to ten 4. a quarter to six 5. a quarter past three 6. twelve/noon 2. กิจกรรม B ใหนักเรียน Read aloud คําส่ัง ครูทบทวนคําสั่ง แนะวิธีการตอบคําถาม ใหนักเรียนตอบเปนประโยค และใหนกั เรียนทบทวนประโยคทใ่ี ชบ อกเวลาซึ่งนําหนา ดวย It’s … - ครตู รวจสอบคาํ ตอบโดยใหนกั เรียน Read aloud คาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. It’s a quarter past three. 2. It’s ten minutes to ten. 3. It’s half past ten. 4. It’s twelve/noon/twelve noon. 5. It’s a quarter to six. 6. It’s five past eight. 3. กจิ กรรม C ใหน ักเรียน Read aloud คําสงั่ ครูทบทวนคําส่ังช้ีแจงกิจกรรมการฟง นักเรียนจะไดฟงบทสนทนาส้ันๆ เกย่ี วกบั เวลา จากนน้ั ครูใหน กั เรยี นฟง ซดี ี Track 6.1 1-2 ครัง้ นักเรียนเขียนตัวเลขบอกเวลา (Clock time) ท่ีตรงกับเร่ืองที่ไดยิน ครู ตรวจสอบคาํ ตอบโดยใหน ักเรียนบอกคําตอบ - ครูใหนกั เรียนฟง ซีดีซํา้ เพ่อื ใหนักเรยี นตรวจสอบคําตอบ และปรับปรงุ คําตอบกอนทคี่ รูจะเฉลยคาํ ตอบ - ครูเฉลยคําตอบและใหน ักเรียนฟงซีดีเปนครง้ั สดุ ทาย เพอ่ื ยนื ยันคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. 8.30 a.m. 2. 5.05 a.m. 3. 5 p.m. 4. 2.15 p.m. 5. 5.55 p.m. - ครูใหน กั เรียน Read aloud ประโยคทัง้ หมด โดยเนนย้ําเรือ่ งการออกเสยี งตัวเลขท่บี อกเวลา (Clock time) อยางถูกตอ งตามหลักการออกเสยี งคําหลายพยางค 4. กจิ กรรม D ใหน กั เรียน Read aloud คาํ สงั่ และบอกส่ิงทตี่ อ งปฏิบตั ิในกิจกรรมน้ี - ครทู บทวนคําสั่ง และใหน กั เรยี น Read aloud the Exam Close-up: Predicting the answers before listening ครอู ธิบายใหนกั เรียนเขาใจและยกตัวอยางประกอบโดยใหนักเรียน Quickly read the Exam Task: Thames River Cruises สังเกต ขอมลู ท่ีอยหู นาชอ งวา งแลว คดิ คาดเดาเกีย่ วกับ missing words วาควรเปนขอมูลเกี่ยวกบั เรอ่ื งใด เชน number,time,price,etc. - ใหนกั เรียนบอกเก่ยี วกับ missing words พรอมทั้งใหเหตผุ ล (Expain why?) - ครู Walk around สังเกต ชแ้ี นะ สนบั สนุน และแกปญหา เฉลยคําตอบ Students’ own answers 5. กจิ กรรม E ใหน ักเรยี น Read aloud คาํ ส่ัง และ the Exam Task และพูดบอกสง่ิ ทต่ี องปฏิบัติ - ครูอธิบายกิจกรรม Exam Task เปนกิจกรรมการฟง นักเรียนจะไดฟงบทสนทนาใหนักเรียนเติมคําตอบซ่ึงเปนตัว เลขท่ีบอกเวลา (Clock time) - ครใู หน ักเรยี นเตรยี มรบั ขอมลู ทีจ่ ะไดฟ ง ลวงหนา โดยครูใหนักเรียน Read the cloze sentence และสังเกตคํา วลี ทีอ่ ยหู นา ชอ งวางเพ่ือใชเปนตวั ชแี้ นะคาํ ตอบ คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศึกษาปท ่ี 3

373 373 - เมือ่ นักเรยี นพรอม ครูเปดซีดี Track 6.2 ใหนักเรียนฟง 1-2 ครั้งโดยหยุดเสียงเปนบางชวงเพื่อใหเวลานักเรียนฟง คดิ ตามและเขียนคาํ ตอบ - ครตู รวจสอบคาํ ตอบ โดยใหน ักเรยี นบอกคาํ ตอบพรอมกนั ครูเขียนคาํ ตอบของนักเรียนบนกระดาน 6. กจิ กรรม F ครใู หน กั เรยี นฟง ซีดี Track 6.3 เพ่อื ตรวจสอบคําตอบและยนื ยันคาํ ตอบ และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. 45 2. London 3. 30 4. 10 a.m. /10 o’clock 5. 9  Production ครูใหนกั เรยี นเปด หนงั สือ Workbook Close-up 3 หนา 42 นกั เรียนปฏิบตั กิ จิ กรรมตอไปน้ี 1. กิจกรรม A ใหน กั เรียน Read aloud the Exam Reminder - ครูอธิบายวิธีการเตรียมความพรอมกอนฟง พรอ มทั้งยกตวั อยา งประกอบ - ใหน กั เรยี น Read aloud คําส่ังและคําถามพรอมท้ังใหคําตอบ ลงมือทํา ครตู รวจสอบคาํ ตอบโดยใหน ักเรยี น Read aloud คาํ ตอบ และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ You should cross it out. 2. กจิ กรรม B ใหน ักเรยี น Read aloud คําส่งั และคําชี้แจงใน Exam Task - ครูทบทวนคาํ ส่ัง คาํ ชี้แจงอธบิ ายเพ่อื ใหนกั เรยี นเขาใจและปฏบิ ัติตาม the Exam Reminder ไดถ กู ตอ ง - ครูใหน กั เรยี นเตรยี มรับขอ มลู ท่ีจะไดฟ งลวงหนา โดยครใู หนักเรียน Read the cloze sentence และสงั เกตคาํ วลที ่ี อยูห นาชองวางเพื่อใชเปน ตัวช้ีแนะคําตอบ - เมือ่ นกั เรยี นพรอมครูเปดซีดใี หนักเรยี นฟง 1-2 ครงั้ โดยครูเปด ซดี ี Track 6.1 แลวหยดุ เลนเปนชว งๆ เพ่ือใหนกั เรียนมี เวลาคิดและตดั สนิ ใจ - ครตู รวจสอบคาํ ตอบโดยใหน ักเรยี น Read aloud คาํ ตอบและครเู ขียนคาํ ตอบของนกั เรียนบนกระดานและใหน ักเรียน ฟงซดี ีซํ้า เฉลยคําตอบ 1. (about) 8/eight 2. 7/seven 3. restaurant 4. 620 5. 23 3. กิจกรรม C หลงั จากทค่ี รูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียน Read aloud คาํ ตอบแลว ครใู หนักเรยี นฟง ซีดีในกิจกรรม B ซ้าํ อีกคร้ัง เพอ่ื ใหนักเรียนยืนยันคําตอบ 6. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครือ่ งมือ คะแนน เกณฑ 1. สังเกต แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน 18-20 15-17 ผลการประเมนิ 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผา น คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศึกษาปท ี่ 3

374 374 วธิ ีการ เครือ่ งมือ คะแนน เกณฑ 18-20 2. ประเมินทกั ษะ แบบประเมินทักษะการฟง -การพูด 15-17 ผลการประเมิน การใชภาษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอาน-การเขียน 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผาน 7. สอื่ /แหลง การเรียนรู หนังสอื Close-up 3 Unit 6 Road Trip! เรื่อง Listening กจิ กรรม A-F หนา 76 หนงั สอื Workbook Close-up 3 Unit 6 Road Trip! เร่อื ง Listening กิจกรรม A-C หนา 42 Audio CD Track 6.1, 6.2 และ 6.3 8. บันทึกหลงั การจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3

375 375 หนวยการเรยี นรูท ่ี 6 เร่อื ง Road Trip! แผนการจัดการเรียนรูท ี่ 10 เรอื่ ง Speaking: Asking for &GivingTravel information รหัสวชิ า................. รายวิชาพนื้ ฐานภาษาองั กฤษ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท่ี 3 กลมุ สาระการเรียนรูภ าษาตางประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 1 ช่วั โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวช้ีวดั ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขยี นเพื่อขอและใหข อ มูล อธบิ าย เปรียบเทยี บ และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เร่ืองท่ฟี ง หรืออาน อยา งเหมาะสม 2. จดุ ประสงคก ารเรียนรู ฟง พูด อาน และเขียนเพ่ือขอและใหขอมูล อธิบาย Asking for & Giving Travel information และพูดตรวจสอบความ เขาใจ โดยใชสาํ นวนภาษาและโครงสรางภาษาท่ีกาํ หนดใหไดอยา งถกู ตอ ง เหมาะสมกบั ระดับช้นั เรยี น 3. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรูเกี่ยวกับสํานวนภาษาโครงสรางภาษาในบทสนทนาเกี่ยวกับ Asking for & Giving Travel information และ กิจกรรมฝกทกั ษะการคดิ กระบวนการฝกทักษะทางภาษาท้ัง 4 ทักษะ โดยเฉพาะอยางยิ่งทักษะการฟง การพูด โดยใชกระบวนการ สอนภาษาองั กฤษเพือ่ การส่อื สาร เจตคติทด่ี ีตอการเรยี นภาษาองั กฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Vocabulary: สาํ นวนภาษาเกีย่ วกับ Asking for & Giving Travel information 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรียนภาษาทั้ง 4 ทกั ษะ โดยเฉพาะอยางยง่ิ ทักษะการฟง การพดู - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสือ่ สาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มเี หตุผล มีวิจารณญาณ 5. กิจกรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูนําความสนใจของนักเรยี นเขาสูบทเรียนในชว่ั โมงนด้ี ว ยคําถามตอไปนีบ้ นกระดาน ใหนักเรยี นอานออกเสยี งดงั ๆ พรอ มกัน แลว ใหนักเรยี นตอบคําถามประโยคบนกระดาน Q 1: Do you like travelling? Q 2: How would you like to travel? 2. นักเรยี นใหค ําตอบอยางหลากหลาย 3. ครูยอมรบั ทกุ คําตอบ และเช่อื มโยงเขา สกู ิจกรรมการเรียนการสอน  Presentation 1. ครูสอนสาํ นวนภาษาใน Useful Expressions: Asking for & Giving Travel information ดังนี้ - ใหนักเรยี น Read aloud Useful Expressions โดยครอู ธบิ ายพรอ มทงั้ ยกตวั อยางประกอบใหนักเรียนชวยกันคิดหา คาํ มาเติมในประโยคตัวอยา ง ไดแก 1.1 Asking for travel information ไดแ ก - What time does the bus leave? คูมอื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศึกษาปท่ี 3

376 376 - Where does it leave from? - Which stop do I need? - How far is … from … ? - How much is the fare for a … ticket? - Which metro line do L need for an airport? 1.2 Giving travel information ไดแ ก - The airport is 30 km away. - The port is 5 km. from the town centre. - Trains run every half hour. - It leaves from gate 22. - It departs at 8 a.m. - The taxi fare is £20. - ครูใหนักเรยี นจับคูฝก พูดประโยค โดยผลดั กันเปนผูถามและผูตอบคาํ ถาม - ครใู หเ วลานกั เรยี นไดฝ กพดู โดยครูสังเกต ชว ยเหลือ แนะนาํ แกป ญ หา 2. ครูสอนการอา น website address จาก Exam Close-up ไดแก www.airporttaxi.com/metro-airport อานวา www dot airporttaxi dot com slash metro dash airport โดยครูใหตวั อยา งเพม่ิ เตมิ เพื่อฝกใหนกั เรียนเขาใจมากข้ึน 3. ครทู บทวน Speaking Strategies: understanding what people say สํานวนพดู เพื่อใหคสู นทนารูวา ผูพดู ไมเ ขาใจ ฟง ไมชัดเจน หรอื รสู ึกไมแ นใ จ ไดแก - Could you repeat that, please? - I’m sorry I don’t understand. - Do you mean … ? - So I got right at the bank? - I’m not sure what you mean. 4. ครสู อนคาํ ศัพทส าํ นวนในกจิ กรรม A-E โดยใหนกั เรยี นมสี ว นรว ม ครใู หนักเรียนสาํ รวจคาํ ศัพทใ นกิจกรรมแลวขีดเสนใต คาํ ทีน่ ักเรยี นไมรูความหมาย จากนน้ั ใหนกั เรยี นบอกคําศัพทท่ีไมรูความหมาย โดยครูเขียนบนกระดาน ถานักเรียนอานไมไดใหสะกด ตัวอักษร - ครูใหน ักเรยี นจัดกลุม คําศพั ทเหลาน้โี ดยครแู นะวาควรจดั ตามหนาทข่ี องคาํ - ครใู หนักเรียนชวยกันคนหาความหมายของคําศัพทเ หลานโี้ ดยคน หาจาก Dictionary หรือนักเรียนอาจสืบคน online จากโทรศัพทม อื ถือของนักเรยี นเอง - ใหนักเรียนแบง กนั /ชวยกันคนหาความหมายของคาํ ศพั ทเหลานี้ แลว พดู บอกความหมาย - ครเู ขียนความหมายของคําศพั ทท่ีนกั เรยี นบอกและเพมิ่ เตมิ ความหมายของคําศพั ทบางคําใหส มบูรณ - นักเรียนบอกหมวดหมูของคําศัพทเหลาน้ี โดยครูเขียนลงใน Word Box บนกระดาน ใหนักเรียน Read aloud คาํ ศพั ทบนกระดาน ถา คําใดนกั เรียนอานไมไดใ หค รอู า นนาํ โดยครเู นน ยํา้ ใหน ักเรียนปฏบิ ัติตามวิธีการออกเสยี งคาํ หลายพยางค เสียงเนนหนกั ในคํา (Word Stress) 1. คํา 2 พยางคขึน้ ไป เสยี งเนน หนักสดุ (primary stress) มักจะอยูท่ีพยางคต น ของคาํ เชน platform, service, ferry, centre, taxi, minute, travel, transport, petrol, thirty, airport เปนตน 2. คํา 2 พยางคข นึ้ ไป เสียงเนน หนกั สุด (primary stress) อยูทพ่ี ยางคท ่ี 2 ของคํา เชน correct, expression, fourteen, depart, machine เปนตน 3. คาํ ที่มกั อา นผดิ และออกเสียงผิด ไดแก Wednesday (อานวา เวนซ-เดย ไมใช เว็ด-เนส-เดย) คมู อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3

377 377 - ใหนกั เรยี นอา นออกเสียงดงั พรอมกัน ถาคําใดนกั เรียนอานไมไ ดใ หครูชวยอานนําและนักเรยี นอานตาม - ใหนักเรียนคดั ลอก Word Box และคาํ ศัพทท่เี กี่ยวขอ งลงในสมุดคําศัพทข องตนเอง  Practice ครูใหน กั เรียนเปดหนงั สือเรียน Close-up 3 หนา 77 นกั เรียนปฏบิ ตั ิกิจกรรมตอไปนี้ 1. กิจกรรม A ใหนักเรียน Read aloud คําสั่งและบอกส่ิงท่ีตองปฏิบัติในกิจกรรมนี้ ครูทบทวนคําสั่ง อธิบาย และ กาํ หนดใหนกั เรยี นทํากจิ กรรม Speaking 2 กจิ กรรม ดงั น้ี 1.1 กจิ กรรม Speaking เกีย่ วกบั รูปภาพทกี่ ําหนดให โดยครูชี้แนะ Speaking Model ครูกระตุนใหนักเรียนพูดโตตอบ และแสดงความคิดเหน็ โดยครูใหนักเรียนสาํ รวจดรู ูปภาพ A-C แลวครูใชค าํ ถาม และใหนกั เรียนคาดเดาเก่ียวสถานที่ที่เก่ียวของ ครูใช คาํ สง่ั และคําถาม ดังนี้ Look at each photo. Ask and answer the questions. Q 1: Do you think what each photo (Photo A/Photo B/Photo C) is about? Explain why. Q 2: Could you guess where each photo was taken place? - ใหนกั เรียนจับคูกบั เพ่อื นพูดโตตอบ ใหขอ มูลเกย่ี วรปู ภาพแตละภาพ และแสดงความคดิ เห็น - ครรู บั ฟงคําตอบ สนับสนนุ คาํ ตอบ และสรุปคาํ ตอบของนักเรยี นเปน Speaking Model ดงั น้ี Question Q 1: Do you think what photo A is about? I think it is a road sign because there are numbers of Suggested answer distance, and place names or destination. Suggested answers for Photo A, B and C: - Photo A: I think photo A/it is a road sign because there are numbers of distance,and place names or destination. - Photo B: I think photo B/it is a timetable because there are tables of clock time, and place names or destination. . - Photo C: I think photo C/it is a picture of the train station or the bus station or the airport because there are many passengers, ticket counters and tables of place names or destination - ครใู หเวลานกั เรียนฝกพูดถามและใหคําตอบกบั เพอ่ื นคนอนื่ ๆ ในหอ ง โดยครู Walk around เพอื่ สังเกต ชวยเหลือ แนะนํา แกปญหา 1.2 กิจกรรม Speaking ตามบทสนทนา 1-6 ที่กาํ หนดให ดงั น้ี - ใหน กั เรียนจบั คกู บั เพื่อนสวมบทบาทของคูสนทนา A และ B อานบทสนทนาที่ 1-6 แลวขีดเสนใตคําสําคัญในบท สนทนาซงึ่ เปน ตัวชแ้ี นะคาํ ตอบ โดยครูยกตัวอยางบทสนทนาท่ี 1 ตัวช้ีแนะคําตอบ เชน depart from gate D34 เปนตน จากน้ันให นกั เรียนใชต ัวชีแ้ นะคําตอบไปใชใ นการตดั สินใจเลือกรปู ภาพท่เี ก่ยี วขอ ง - ครูตรวจสอบโดยใหน ักเรยี นพูดบอกคําตอบ และเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. B 2. C 3. C 4. A 5. B 6. A คมู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที่ 3

378 378 2. กจิ กรรม B ใหน ักเรียน Read aloud คาํ สัง่ และบอกส่ิงท่ตี อ งปฏิบตั ิในกิจกรรมน้ี - ครูทบทวนคําสั่ง และใหนักเรียน Read aloud คําศัพทที่เปนตัวเลือก และพูดบอกความหมายโดยครูเนนย้ําให นกั เรยี นอา นออกเสยี งคาํ ศัพทอยางถกู ตอ งตามหลักการเนน เสียงในคําหลายพยางค (word stressed) - ครใู หนักเรียนอานเพ่ือคนหาตวั ชีแ้ นะคําตอบทอ่ี ยหู นาและหลงั ชอ งวา งแลว ขีดเสน ใตก ํากบั - ครูตรวจสอบตวั ชแ้ี นะคาํ ตอบ และกระตนุ ใหนักเรยี นพูดโดยครใู ชคาํ ถามตาม Speaking model ดงั น้ี Q 1/…: What is the missing word for Question 1 / ….. ? How do you know this? ครู - นกั เรียนใหค าํ ตอบและบอกเหตุผลในการเลือกคําตอบ โดยนักเรยี นใช Speaking model ดังน้ี Answer for Q1/….: It’s ferry because of the words: What time and leave . นกั เรยี น - ครูตรวจสอบคําตอบ และเหตุผล และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. ferry 2. platform 3. gate 4. fare 5. ticket 6. line 7. stop 8. port - จากน้ันใหน ักเรยี น Read aloud คําถามที่สมบรู ณ 3. กิจกรรม C ใหน ักเรยี น Read aloud คําสั่งและบอกสง่ิ ที่ตองปฏิบัติในกิจกรรมนี้ - ครูทบทวนคําสั่ง และใหนักเรียน Read aloud the Exam Close-up ครูอธิบายและใหนักเรียนฝกอาน website address อยางถกู ตอ งตามหลักการวิธีการอา - จากนัน้ ใหนักเรยี น Read aloud the Exam Task ครอู ธิบายใหน ักเรยี นเขา ใจและมีความมนั่ ใจในการปฏิบัติกิจกรรม ที่กาํ หนดอยา งถูกตอง เหมาะสม - ใหนักเรียนจับคูกับเพื่อนสวมบทบาทเปน Student A and Student B ทํากิจกรรม Exam Task โดยกําหนดให นกั เรยี น Read to share the given information about Getting to the Island ดังน้ี 1) Information Student A ใชขอมูลเรื่อง Getting to the Island (ขอมูลดานซายมือของกิจกรรม C) และ Student B ใชข อ มูลเรอื่ ง Getting to the Island ในหนา 124 2) What to do ขั้นที่ 1 เตรียมคําถาม ใหนักเรียน A และ B อานขอมูลของตนเองซงึ่ เปน cloze passage สาํ รวจคํา/วลีที่ หายไป แลวตั้งคาํ ถามเพื่อขอคาํ ตอบสาํ หรบั missing word ของแตละชอ งวาง จากนั้นนําคําถามไปใชถามคูสนทนา ขน้ั ท่ี 2 ถาม-ตอบ และเตมิ คาํ ตอบในชองวา ง ตามขอกาํ หนดใน Task 1 และ Task 2 Task 1: A asks & B answers Student A, ask Student B about each missing word by using the right questions. Student B, listen to what Student A will ask and give the right answers. Task 2: B asks & A answers Student B, ask Student A about each missing word by using the right questions. Student A, listen to what Student B will ask and give the right answers. คูม อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3

379 379 ขั้นที่ 3 ตรวจสอบคําตอบ ใหนักเรียนผลัดกัน Read aloud the completed passage เพื่อทบทวนและ ตรวจสอบคําตอบ - ระหวา งท่นี กั เรยี นทาํ กิจกรรม ครู Walk around ครสู ังเกต สนับสนุน แนะนํา ชว ยเหลือ แกปญ หา - ครูตรวจสอบคําตอบ ครตู รวจสอบโดยเลือกนักเรยี น 3-6 คู ใหน ักเรียนพดู บอกคําตอบ และเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ (Suggested Answers) Task1 Student A Student B What / When time is the last train? It’s at 11.35 p.m. How much is the single fare? It’s £8. How long does the trip take? It’s about 45 minutes Where do I get off? You have to get off at Pireaus. P-I-R-E-A-U-S What time does the ferry to Santorini leave? It leaves at 8 p.m. What is the fare? / How much is the fare? / It’s £31. What does the fare cost? Task 2 Student A Student B They depart every half hour. It’s £14. How often do trains depart? It’s the green line. How much is the return fare? It takes about 30 minutes. Which line do I take from Monastiraki / to Pireaus? It leaves on Wednesdays. How long does this part of the trip take? When / Which days does the ferry to Santorini leave?  Production กจิ กรรม Ideas Focus ใหน ักเรียน Read aloud คาํ สัง่ และพดู บอกสง่ิ ท่ีตองทําในกิจกรรมน้ี ครทู บทวนคําสง่ั และช้ีแนะ วธิ ีการโดยใหนกั เรียนมีสวนรวมในการคิดกิจกรรมในข้ันตอนของการเตรียมเรื่องท่จี ะพดู ใหน กั เรียนทาํ กิจกรรมเปนกลุม กลุมละ 4-6 คน และครกู าํ หนดขัน้ ตอนของกิจกรรมการพูดดังน้ี ขน้ั ท่ี 1 Pre-Speaking  Focus ideas ครูแนะใหนักเรยี นทุกกลุมเรม่ิ กจิ กรรมจากการอา นคาํ ถาม แลว Discuss อยางหลากหลายแลวเขียน ความคิดเห็นของสมาชิกทุกคนลงในกระดาษ จากนน้ั ชวยกันวเิ คราะหแ ละสงั เคราะหม าเปน กรอบในการเขยี นคําตอบของกลุม  Make a draft of Speaking Model ใหน ักเรียนเขียนคาํ ตอบตามกรอบในการเขียนคําตอบที่ไดจากขั้น Focus ideas โดยใชค ําศัพท สํานวนพูดโครงสรางภาษา Explaining Why และสํานวนภาษาจาก Exam Close-up, Useful Expression ที่ เก่ียวขอ ง  Revise the draft ใหน กั เรยี นตรวจสอบทบทวนส่งิ ทเ่ี ขยี น ความถกู ตอง ความสอดคลอง ความครบถวน และความ เหมาะสมของ a draft of Speaking Model คมู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท่ี 3

380 380  Compare and Share ใหนักเรียนนํา Speaking Model ท่ีเขียนไปเปรียบเทียบกับเพื่อนและปรับปรุงคําตอบ เพ่ือใหไ ด Speaking Model ที่ครบถวนถูกตอ งและเหมาะสม แลวคดั ลอก Speaking Model ลงสมุดแบบฝกหัดของนักเรียน  Practice ใหนักเรียนใช Speaking Model ของตนฝกพดู กับเพ่ือน ขน้ั ที่ 2 While-Speaking  ใหนกั เรียนใช Speaking Model ของตนพูดกบั เพือ่ นโดยผลดั กันเปนผพู ูดและผฟู ง ทด่ี ี  ครใู หเ วลานักเรียนทาํ กิจกรรมโดยครูสังเกต แนะนํา ชวยเหลือ แกป ญหา ขั้นท่ี 3 Post-Speaking  ครกู าํ หนดเวลา และใหนักเรยี นทํากิจกรรมน้ีอยางอสิ ระ เมือ่ หมดเวลาครตู รวจสอบคําตอบโดยเลือกนักเรียนจํานวน 3-4 กลุมออกมาพูด ถาหากมเี วลาไมเ พยี งพอ ครใู หนักเรียนทํากิจกรรมนี้ในช่ัวโมงตอ ไป หรือนัดหมายใหท ํานอกชั้นเรยี น  ครสู รุปบทเรยี น ตอบขอซักถามของนักเรยี น 6. การวัดและประเมินผล วธิ ีการ เครือ่ งมอื เกณฑ 1. สังเกต แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี น คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดมี าก 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 2. ประเมนิ ทกั ษะ แบบประเมนิ ทักษะการฟง -การพูด คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดีมาก การใชภ าษา แบบประเมินทักษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 7. สือ่ /แหลง การเรียนรู หนงั สอื เรยี น Close-up 3 Unit 6 Road Trips! เรอ่ื ง Speaking กิจกรรม A-C และ Ideas Focus หนา 77 8. บันทกึ หลังการจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ่ี 3

381 381 หนวยการเรยี นรูท่ี 6 เรอ่ื ง Road Trips! แผนการจัดการเรียนรทู ่ี 11 เรือ่ ง Writing 1: An Invitation รหสั วิชา................. รายวชิ าพื้นฐานภาษาองั กฤษ ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ่ี 3 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปการศึกษา 25……….. ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 1 ชัว่ โมง ผูส อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชี้วดั ต 1.2 ม.3/4 พูดและเขียนเพอ่ื ขอและใหขอมูล อธิบาย เปรยี บเทียบ และแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกบั เรื่องท่ฟี งหรอื อา นอยาง เหมาะสม ต 2.1 ม.3/1 เลือกใชภาษา นา้ํ เสยี ง และกิรยิ าทาทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของ เจา ของภาษา ต 4.1 ม.3/1 ใชภ าษาสอ่ื สารในสถานการณจ ริง/สถานการณจําลองทเ่ี กิดขนึ้ ในหองเรียน สถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม 2. จดุ ประสงคการเรียนรู อานและเขียน An Invitation โดยใชค าํ ศัพท สาํ นวนภาษา และโครงสรางภาษาการเชื้อเชิญและตอบรับหรือปฏิเสธการเช้ือ เชญิ โดยใหเหตุผลอยางเหมาะสม 3. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรูเก่ียวกับการอาน เขียน An Invitation คําศัพท สํานวนภาษา และโครงสรางภาษาการเช้ือเชิญและตอบรับหรือ ปฏเิ สธการเช้อื เชญิ โดยใหเหตุผลอยา งเหมาะสม กระบวนการฝก ทกั ษะทางภาษาทัง้ 4 ทกั ษะโดยเฉพาะอยางยิ่งทักษะการฟง การพูด โดยใชก ระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพอ่ื การสื่อสาร ทําใหผ เู รยี นสือ่ สารไดอ ยา งมปี ระสิทธิภาพ มีเจตคตทิ ด่ี ตี อ การเรียนภาษาองั กฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Grammar: Using Modals to invite, to ask for advice and to make offer, to accept or to decline an invitation, to ask for permission 4.2 ดา นทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรยี นภาษาทงั้ 4 ทักษะ การฟง การพูด การอา น และการเขียน - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการส่อื สาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มีเหตผุ ล มีวจิ ารณญาณ 5. กิจกรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครนู ําความสนใจของนักเรียนในช่วั โมงนี้ดว ยคําถามตอไปน้โี ดยครูเขียนบนกระดานใหน ักเรียนอา นออกเสียงดังๆ พรอม กัน Q: Do you think what an invitation should be like? 2. นกั เรียนใหค าํ ตอบอยางหลากหลาย 3. ครเู ขียนทุกคําตอบของนักเรยี นบนกระดาน และเชอื่ มโยงเขา สูกิจกรรมการเรียนการสอน  Presentation 1. ครสู อนความรเู กี่ยวกับคําศัพทในกจิ กรรม A-D โดยใหน ักเรยี นมีสวนรว มดงั น้ี คูมอื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชนั้ มัธยมศึกษาปท ี่ 3

382 382 - ครูสอนคาํ ศัพทใ หมทีอ่ ยใู นกิจกรรม A-D โดยใหนักเรยี นมสี วนรวม - ครูใหน ักเรียนสํารวจคําศัพทในกิจกรรม A-D แลวขีดเสน ใตคาํ ที่นักเรียนไมร ูความหมาย จากน้ันใหนักเรียนบอกคําศัพท ท่ีไมร ูความหมาย โดยครเู ขียนบนกระดาน ถา นักเรียนอา นไมไดใหสะกดตวั อกั ษร - ครูใหน กั เรียนจัดกลุมคาํ ศพั ทเหลาน้โี ดยครูแนะวาควรจดั ตามหนา ที่ของคํา - ครใู หนกั เรียนชวยกันคนหาความหมายของคําศัพทเหลาน้ีโดยคนหาจาก Dictionary หรือนักเรียนอาจสืบคน online จากโทรศพั ทม อื ถอื ของนักเรียนเอง ใหน กั เรยี นแบงกัน/ชว ยกนั คน หาความหมายของคาํ ศัพทเหลานี้ แลวพูดบอกความหมาย - ครเู ขยี นความหมายของคําศพั ทท่นี ักเรยี นบอกและเพ่มิ เติมความหมายของคําศัพทบางคําใหสมบูรณ - นกั เรียนบอกหมวดหมูของคําศัพทเ หลานี้ โดยครเู ขียนลงใน Word Box บนกระดาน ใหน กั เรียน Read aloud คําศัพท บนกระดาน ถา คาํ ใดนักเรยี นอา นไมไ ดใหค รูอานนาํ โดยครเู นน ยํ้าใหน กั เรียนปฏิบตั ิตามวิธีการออกเสียงคาํ หลายพยางค เสียงเนนหนกั ในคํา (Word Stress) 1. คํา 2 พยางคขน้ึ ไป เสยี งเนนหนกั สุด (primary stress) อยทู ี่พยางคตน ของคํา เชน party, sorry, painting, metro, airport, parents เปน ตน 2. คํา 2 พยางคข น้ึ ไป เสียงเนน หนักสดุ (primary stress) อยทู พ่ี ยางคท่สี องของคํา เชน advice, permission, suggestion, respond, connect, accept เปนตน 3. คําท่ีมักอา นผดิ และออกเสียงผดิ ไดแก Wednesday (อา นวา เวนซเ ดย ไมใช เวด็ เนสเดย) เพราะไมอ อกเสียง d ในคํานี้ ในภาษาอังกฤษพยญั ชนะท่ไี มออกเสียงในบางคํา เรยี กวา Silent letter เชน sign (ไมออกเสยี ง g), often (ไมออกเสียง f) เปนตน - ครใู หนกั เรียนอานออกเสยี งคําศพั ทแ ตละคําพรอมกบั บอกความหมาย โดยครชู ว ยเพิม่ เติมความหมายของศพั ทบางคํา ใหครอบคลุมการใชงานในบทเรียนน้ี - ใหนกั เรียน Read aloud คาํ ศพั ทบนกระดาน และใหน กั เรยี นแบงกนั /ชวยกันคน หาความหมายของคาํ ศัพทเ หลาน้ี แลว พดู บอกความหมาย - ครเู ขียนความหมายของคําศัพทท ่นี ักเรียนบอกและเพิ่มเติมความหมายของคําศัพทบ างคําใหส มบรู ณ - ใหน กั เรยี นอานออกเสยี งดังพรอ มกัน ถา คาํ ใดนักเรยี นอา นไมไดใ หครชู ว ยอา นนําและนักเรียนอานตาม - ใหนกั เรยี นคัดลอก Word Box และคาํ ศัพททีเ่ กี่ยวของลงในสมดุ คาํ ศพั ทของตนเอง 2. ครูสอน Using Modals to invite, to ask for advice and to make offer, to accept or to decline an invitation, to ask for permission ไดแ ก - Could/May/Can I + verb ... ? (Polite permission) - Shall I + verb … ? (Offer) - Would you like to + verb … ? (Invitation) - I would love to + verb … (Accept invitation) - I’m sorry but I can’t make it. (Decline invitation) - Should I + verb … ? (Asking for advice) ครูอธบิ ายและยกตัวอยางประกอบ  Practice ครูใหนักเรยี นเปด หนังสือ Close-up 3 หนา 78 นักเรียนปฏบิ ัติกจิ กรรมตอไปนี้ 1. กิจกรรม A ใหนกั เรยี น Read aloud คําสั่ง และพูดบอกสิง่ ที่นักเรยี นตองปฏิบัติในกจิ กรรมนี้ คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศึกษาปที่ 3


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook