Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ Close up 3

แผนการจัดการเรียนรู้ Close up 3

Published by Teacher Ya Channel, 2021-03-26 14:38:56

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ Close up 3
ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นม.3

Search

Read the Text Version

433 433 เฉลยคาํ ตอบ (1) in (2) is (3) no (4) of (5) any (6) for (7) the (8) why (9) between (10) like  Production กิจกรรม Expand Your Ideas ซ่งึ ครูประยกุ ตจากกิจกรรม D ใหน กั เรยี นทํากิจกรรมคาํ ศพั ท Work in pairs. Make a list of Idioms about weather and their meanings. Then compare and share with students in your class. - ใหนักเรียน Read aloud คําสงั่ และพูดบอกส่งิ ที่นักเรยี นตองปฏิบัติ - ครูทบทวนคําส่ัง ชี้แนะวิธีการสืบคน Idioms about weather จาก Dictionary หรือ Online Dictionary และ ยกตวั อยางประกอบ ใหนกั เรียนทํากิจกรรมเปน คู ครูสงั เกต ชว ยเหลือ แนะนํา แกปญ หา - ครูใหนักเรียนทําเปนการบาน แนะนําใหนักเรียนไปสืบคนเพ่ิมเติมจาก Dictionary หรือ Online Dictionary ใน หองสมุดโรงเรียน หรือจาก PC, Ipad, Smart phone โดยคัดลอก Idioms about weather and their meanings ประมาณ 6 สํานวน เขียนดวยลายมือที่อานงาย หรือพิมพในกระดาษ A4 แลว หลังจากสงใหครูตรวจแลวใหนักเรียนเผยแพรโดยนําไปติดไวท่ี Billboard หนา หอ งเรียนหรอื ทอี่ ่ืนๆ ตามความเหมาะสม เฉลยคาํ ตอบ Students’ own answers 6. การวัดและประเมนิ ผล เครอื่ งมอื คะแนน เกณฑ แบบประเมนิ การสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี น 18-20 วิธกี าร 15-17 ผลการประเมิน 1. สังเกต 12-14 ดีมาก 10-11 ดี 2. ประเมินทกั ษะ แบบประเมนิ ทักษะการฟง -การพูด พอใช คะแนน ผา น การใชภาษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอาน-การเขยี น 18-20 15-17 ผลการประเมนิ 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผาน 7. สือ่ /แหลงการเรยี นรู หนังสอื Workbook Close-up 3 Unit 6 Road Trip! เร่อื ง Vocabulary กิจกรรม A-E หนา 47-48 คูม ือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ี่ 3

434 434 8. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้นั มธั ยมศึกษาปท ่ี 3

435 435 หนวยการเรียนรูที่ 7 เรื่อง It’s Raining Cats & Dogs แผนการจัดการเรยี นรูที่ 6 เร่อื ง Grammar 1: Comparative Adjectives & Adverbs รหัสวชิ า................. รายวชิ าพน้ื ฐานภาษาอังกฤษ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท่ี 3 กลมุ สาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ ปก ารศึกษา 25……….. ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 1 ชัว่ โมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชว้ี ัด ต 1.1 ม.3/1 ปฏบิ ตั ติ ามคําขอรอง คําแนะนํา คาํ ช้แี จง และคําอธบิ ายท่ฟี ง และอาน ต 2.1 ม.3/1 เลอื กใชภาษา นํา้ เสียง และกิรยิ าทาทางเหมาะกับบุคคลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของ เจา ของภาษา ต 4.1 ม.3/1 ใชภ าษาสอ่ื สารในสถานการณจ ริง/สถานการณจําลองทีเ่ กดิ ขึน้ ในหอ งเรียน สถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม 2. จดุ ประสงคการเรยี นรู อา น เขยี น ส่อื สารอยา งมีประสิทธิภาพ โดยใชค าํ ศพั ทแ ละโครงสรางท่เี กี่ยวกบั Comparative Adjectives & Adverbs 3. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรเู กีย่ วกับการใชภ าษาสื่อสารอยางมีประสิทธภิ าพ โดยการใชค ําศัพทแ ละโครงสรา งท่ีเกยี่ วกับ Comparative Adjectives & Adverbs ทกั ษะเรยี นภาษาทัง้ 4 ดาน ไดแก การฟง การพูด การอาน และการเขียน และกระบวนการสอภาษาองั กฤษ เพือ่ การสื่อสาร ทาํ ใหก ารส่ือสารบรรลผุ ลตามวัตถุประสงค ผเู รยี นมเี จตคตทิ ดี่ ีตอ ภาษาอังกฤษ ใชภ าษาองั กฤษอยางมปี ระสทิ ธภิ าพ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Grammar: Comparative Adjectives & Adverbs 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรียนภาษาทัง้ 4 ทักษะ การฟง การพูด การอาน และการเขยี น - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการส่อื สาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มีประสิทธิภาพในการสื่อความ - มีเหตุผล มวี จิ ารณญาณ 5. กิจกรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูนาํ ความสนใจของนักเรยี นเขาสบู ทเรยี น ดังนี้ Which is hotter 100 degree celcius or 190 degree Fahrenheit? How do you know? 2. ใหนักเรียนทั้งชั้น Read aloud คําถาม ครูกระตุนใหนักเรียนคิดคําตอบและบอกคําตอบพรอมกับใหเหตุผล ครู อธบิ ายความแตกตางและเชือ่ มโยงเขาสบู ทเรียนเรือ่ ง Comparative Adjectives & Adverbs  Presentation 1. ครูสอนคาํ ศพั ทใ นบทอานกจิ กรรม A-J โดยใหน ักเรยี นมีสวนรวมดงั น้ี - ใหนักเรยี นทงั้ ชั้นชวยกนั คนคําศัพทท ี่ไมร ูค วามหมาย ขีดเสน ใตกํากับไว และใหนกั เรยี นระบุ Parts of speech ของ คําศัพท จากตําแหนงภายในประโยค แลว นักเรยี นบอกหมวดหมขู องคําศัพทเหลาน้ี โดยครเู ขียนลงใน Word Box บนกระดาน คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศึกษาปท่ี 3

436 436 - ใหนักเรียนแบง กัน/ชวยกันคนหาความหมายของคาํ ศัพทเหลา นี้ พดู บอกความหมายครเู ขียนความหมายของคําศัพทท่ี นักเรียนบอกและเพม่ิ เติมความหมายของคาํ ศพั ทบางคําใหส มบูรณ ครเู ลอื กคาํ /วลี /ประโยคท่มี ีความหมายนาสนใจมาอธบิ าย - ใหน กั เรยี น Read aloud คาํ ศพั ทบ นกระดาน ถา คําใดนักเรียนอานไมไดใหครูชวยอานนํา โดยครูเนนย้ําใหนักเรียน ปฏบิ ตั ิตามวิธีการออกเสยี งคําหลายพยางค ไดแก เสยี งเนนหนักในคาํ (Word Stress) 1. คํา 2 พยางคข นึ้ ไป เสยี งเนน หนกั สดุ (primary stress) มกั จะอยูทพี่ ยางคตนของคาํ เชน climate, faster, southern, travel, jungle, cyclist, mountain, motorbike, temperature เปนตน 2. คาํ 2 พยางคขน้ึ ไป เสียงเนนหนักสดุ (primary stress) อยูทีพ่ ยางคที่ 2 ของคํา เชน important, correct, continue, irregular, comparative, superlative เปน ตน 3. คําที่มักอา นผดิ และออกเสยี งผิด ไดแก temperature (อานวา เทม-เพอ-เชอะ ไมใ ช เทม-เพอเร-เจอ) - ใหน กั เรียนคดั ลอก Word Box และคาํ ศพั ทท เี่ กยี่ วของลงในสมุดคาํ ศพั ทข องตนเอง 2. ครสู อน Grammar เรอื่ ง Comparative Adjectives & Adverbs ในกิจกรรม Grammar Focus โดยอธบิ าย Forms and Usages of Comparative Adjectives & Adverbs ดงั น้ี - ครูใหนักเรียน Read aloud Grammar Focus เร่ือง Comparative Adjectives & Adverbs ขอ 7.1 (ใหนักเรียน Focus ท่ยี อ หนา ที่ 1 และยอ หนา ที่ 3) และขอ 7.2 - ครอู ธบิ ายเร่อื งการเปรยี บเทียบโดยใช Adjectives, Adverbs และโครงสรางประโยคเปรียบเทียบทั้ง 3 ขั้นของการ เปรียบเทียบ ไดแ ก 1) การเปรียบเทยี บแบบขนั้ ธรรมดา เทา กันหรือไมเ ทา กัน (Positive degree) ไดแ ก (1) Subject (Noun 1/Pronoun 1) + verb to be + as + adjective + as + Noun 2/Pronoun 2 ตัวอยา งเชน Fog is as dangerous as snow for drivers. (2) Subject (Noun 1/Pronoun 1) + verb to be + not + so/as + adjective + as + Noun 2/Pronoun 2 ตวั อยา งเชน UK summer is not so/as hot as Thailand summer. (3) Subject (Noun 1/Pronoun 1) + main verb + as + adverb + as + Noun 2/Pronoun 2 ตัวอยา งเชน That car goes as slowly as a bus (4) Subject (Noun 1/Pronoun 1) + helping verb + not + main verb + so/as + adverb + as + Noun 2/Pronoun 2 ตวั อยางเชน That car can’t go so/as quickly as a motorcycle. 2) การเปรยี บเทียบแบบขนั้ กวา มากกวาหรอื นอยกวา (Comparative degree) ไดแ ก (1) Subject (Noun 1/Pronoun 1) + verb to be + comparative adjective + than + Noun 2/Pronoun 2 ตวั อยางเชน Fog is more dangerous than snow for drivers. (2) Subject (Noun 1/Pronoun 1) + main verb + comparative adverb + than + Noun 2/Pronoun 2 ตวั อยา งเชน That car goes more slowly than a bus. 3) การเปรียบเทยี บแบบขั้นสูงสุด (Superlative degree) ไดแ ก (1) Subject (Noun/Pronoun) + verb to be + the + superlative adjective + Noun (+ modifier) ตวั อยางเชน The rain caused the most serious damage in the countryside. (2) Subject (Noun/Pronoun) + main verb + the + superlative adverb คมู ือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ช้นั มธั ยมศึกษาปที่ 3

437 437 ตัวอยางเชน The rain damaged the countryside the most seriously. - ครูอธิบายใหนักเรียนรูจักรูป comparative adjective และ comparative adverbs ใหนักเรียนดูตัวอยางที่ หลากหลายแลวสรปุ เปน กฎเกณฑก ารเปลี่ยนรูป adjective และ adverb ใหเ ปนรูป comparative ดงั น้ี rules comparative adjectives comparative adverbs 1. เติม -er ทา ยคํา  เตมิ -er หลัง Adjective ทีเ่ ปนคําพยางคเดียว  เตมิ -er หลงั Adverbs ท่ีเปน คาํ ๆ 2. เติม more หนาคํา - เพิ่มพยัญชนะทาย 1 ตัวกรณที เ่ี ปนคําพยางคเดียวเสียงสัน้ เดียว และถา มี e อยูแลวใหเ ติม r 3. เปลย่ี นรปู สระเดี่ยว ตัวสะกดเด่ียว ตัวอยา งเชน big-bigger ตัวอยางเชน fast - faster, late - - Adjectives ทลี่ งทา ยดวย e อยแู ลว ใหเติม r ตวั อยางเชน later large - larger - Adjectives ทลี่ งทา ยดวย y และหนา y ไมม สี ระให เปล่ียน y เปน i แลว er ตวั อยางเชน dry - drier - นอกน้ันเตมิ er ตวั อยางเชน smart - smarter  Adjective ท่ีเปน คาํ หลายพยางค ตัวอยา งเชน  เติม more หนา Adverbs ทีล่ ง popular - more popular ทายดวย -ly ตวั อยางเชน  Adjective ท่มี าจาก verb และอยใู นรูป Present slowly - more slowly Participle (กรยิ า -ing), Past Participle (กรยิ าชอ งที่ 3) ตวั อยา งเชน bored - more bored, boring - more boring  เปลี่ยนรปู ไดแ ก  เปล่ียนรปู ไดแก many, much, a lot of - more well - better little - less badly - worse good - better bad - worse far - farther/further - ใหน ักเรยี นชวยกันสรปุ คําตอบเกีย่ วกบั Forms of comparative adjective และ comparative adverbs  Practice ครูใหนักเรยี นเปดหนังสือ Close-up 3 หนา 88 นักเรียนปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตอไปน้ี 1. กจิ กรรม A ใหนกั เรยี น Read aloud คําสัง่ และพดู บอกสง่ิ ท่ีนักเรียนตอ งปฏิบตั ิในกิจกรรมนี้ - ครูทบทวนคําสัง่ อธิบายใหน ักเรียนรจู กั Adjective และcomparative adjective - ใหนักเรียน Read carefully ประโยค a-e เพื่อ Underline the adjectives and circle the comparative adjectives. ครูใหเ วลานักเรียนคิดคําตอบ เม่ือไดค ําตอบแลว ใหน ําคาํ ตอบไป Compare and Share กับเพอ่ื น - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรียนอานคําตอบแตละขอ และครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. dangerous, more dangerous 2. warm, warmer 3. wet, wetter 4. dry, drier 5. good, better คมู อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ี่ 3

438 438 - ครใู หน กั เรยี นนําคาํ ตอบมาสรุปเปน กฎการเปล่ียน adjectives เปน comparative adjectives - ใหนกั เรียน Read aloud กฎการเปลย่ี น adjectives เปน comparative adjectives 2. กจิ กรรม B ครใู หน กั เรียน Read aloudคําส่งั และพูดบอกสงิ่ ที่นักเรียนตองปฏบิ ตั ิในกิจกรรมน้ี - ใหน กั เรยี น Read carefully ขอ 1-5 แลววิเคราะหโครงสรางและความหมาย แลวใหนักเรียนตอบคําถามประโยคท่ี 1-5 โดยครูชแ้ี นะการคิดคาํ ตอบ - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรียนอานคําตอบ และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. c 2. d 3. a 4. b 5. e 3. กจิ กรรม C ใหน ักเรียน Read aloud คาํ ส่งั และพดู บอกส่ิงที่นักเรยี นตอ งปฏิบตั ิในกจิ กรรมน้ี - ใหน ักเรียน Read aloud คําศัพทท่ีเปนตัวเลือกและประโยค Cloze sentences และขีดเสนใตคําสําคัญท่ีอยูหนา และหลังชองวาง/ตัวเลือก เพ่ือใชเปนตัวช้ีแนะคําตอบ ครูอธิบายวาประโยคตอไปน้ีมีเน้ือหาเกี่ยวกับ Rules of changing the adjectives into comparative adjectives และกระตุนใหนักเรียนชวยกันเลือกคําตอบท่ีเหมาะสมสําหรับแตละชองวาง โดย พิจารณาจากตัวเลือก ครูชว ยช้แี นะและเพิ่มเตมิ คาํ ตอบ ไดค าํ ตอบดงั น้ี เฉลยคําตอบ 1. adjective 2. -y 3. last 4. before 5. irregular - ใหน กั เรยี น Read aloud the rules of changing the adjectives into comparative adjectives 4. กิจกรรม D ครูใหน กั เรียน Read aloud คาํ สง่ั และพดู บอกสิง่ ท่ีนักเรยี นตองปฏิบัตใิ นกจิ กรรมนี้ - ใหนักเรยี นทบทวน rules of changing the adjectives into comparative adjectives - ใหน ักเรียน Read aloud ประโยค a-c และขีดเสน ใตขอ ความทีแ่ สดงการเปรียบเทียบ - ใหน กั เรียนอา นคาํ ถาม 1-2 แลว คิดและเลือกคาํ ตอบ - ครตู รวจสอบความถูกตองโดยใหนักเรยี นอานคําตอบพรอมกัน อธิบายคาํ ตอบบางขอ และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. c 2. a and b 5. กิจกรรม E ครูใหน กั เรยี น Read aloud คาํ สง่ั และพูดบอกส่งิ ที่นักเรยี นตองปฏิบตั ใิ นกจิ กรรมน้ี - ใหนักเรียน Read carefully the rule แลวเติมคําในชองวาง จากนั้นครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียน Read aloud the completed rule และครูสรุปประเดน็ และขน้ั ของการเปรียบเทยี บและเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ as, adjective 6. กิจกรรม F ครูใหนักเรียน Read aloud คาํ ส่งั และพูดบอกสิง่ ท่ีนักเรยี นตองปฏิบัตใิ นกิจกรรมน้ี - ใหน ักเรยี นทบทวน adverbs และรปู ของ Comparative adverbs - ใหเ วลานักเรียน Read silently ประโยค a-e เพ่ือคน หา adverbs และ Comparative adverbs โดยขีดเสนใต adverbs และวงกลมลอมรอบ Comparative adverbs - ครูตรวจสอบความถูกตอ งโดยใหนักเรยี นอานคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคาํ ตอบ คูม ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศึกษาปท ่ี 3

439 439 1. slowly, more slowly เฉลยคาํ ตอบ 3. slowly 4. more slowly 2. fast, faster 5. slowly 7. กิจกรรม G ครูใหนักเรียน Read aloud คําถาม 1-4 แลวยอนกลับไป Read carefully ประโยค a-e เพ่ือเลือก คําตอบ - ครใู หเ วลานักเรยี นคิดคําตอบแลว นําคาํ ตอบไป Discuss, Compare and Share กบั เพ่อื นในหอ ง - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรียนอา นคําตอบพรอ มกนั และครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. b 2. c 3. e 4. b 8. กจิ กรรม H ใหน กั เรยี นทบทวนรปู Comparative adjectives and Comparative adverbs - ใหนกั เรียน Read carefully the rules และตวั เลือกที่กาํ หนดใหแ ละตดั สนิ ใจเลือกคําตอบอยางมเี หตผุ ล - ครูใหเวลานักเรียนคิดคําตอบแลวนําคําตอบไป Discuss, Compare and Share กับเพ่ือนในหอง ครูตรวจสอบ คาํ ตอบโดยใหนักเรียนอานคาํ ตอบพรอ มกันและครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ more, than, the same, as  Production 1. กิจกรรม I ใหนักเรยี น Read aloud คําสง่ั และพดู บอกสิ่งท่ีนักเรยี นตองปฏบิ ัตใิ นกิจกรรมนี้ - ครูชี้แนะวิธีการคิดคําตอบและใหเวลานักเรียนเขียน Comparative Adjectives & Adverbs ลงในตารางท่ี กําหนดให จากน้นั ใหนักเรยี นนาํ คาํ ตอบทไ่ี ดไป Discuss and share กับเพ่อื นในหองโดยครูกําหนดเวลาทํางานและนํามาสงครูภายใน เวลาท่ีกําหนด - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรียน Read aloud คําตอบและครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ Adjectives Comparative Adjectives Adverbs Comparative Adverbs slow more slowly fast slower slowly faster careful more carefully easy faster fast more easily good better bad more careful carefully worse strong more strongly easier easily better well worse badly stronger strongly คูมือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ 3

440 440 2. กิจกรรม J ใหน กั เรยี น Read aloud คําสัง่ และพูดบอกส่ิงที่นักเรยี นตองปฏิบัติในกิจกรรมนี้ - ครูทบทวนวิธีการทําโจทย Cloze sentence ทบทวนเทคนิคการทําขอสอบ Cloze test และ Focus on words before and after a gap and Decide what kind of word is missing - ใหนกั เรียนคนหาตัวชแ้ี นะคาํ ตอบที่อยหู นาและหลังชอ งวา ง โดยขดี เสน ใตก ํากับไว แลวคาดเดาชนิดของคําในชองวาง (Decide what kind of word is missing) - ครูตรวจสอบคาํ ตอบโดยใหน กั เรยี นบอกชนดิ ของคําท่ีหายไปในชองวา ง และบอกคําตอบ ครเู ฉลยคําตอบ ขอ kinds of missing words เฉลยคําตอบ คําตอบ 1 adverbs คาํ ตอบ ขอ kinds of missing words better 2 adjectives faster 3 adverbs more slowly 4 adjectives bad stronger 5 adverbs more easily 6 adjectives - ครสู รปุ บทเรยี นและตอบขอซักถามของนักเรียน 6. การวดั และประเมินผล เครอ่ื งมอื เกณฑ แบบประเมนิ การสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี น วิธกี าร คะแนน ผลการประเมิน 1. สังเกต 18-20 ดมี าก 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 2. ประเมนิ ทักษะ แบบประเมนิ ทกั ษะการฟง-การพูด คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดมี าก การใชภ าษา แบบประเมินทกั ษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 7. ส่อื /แหลง การเรียนรู หนังสือเรยี น Close-up 3 Unit 7 It’s Raining Cats & Dogs เรือ่ ง Grammar กจิ กรรม A-J หนา 88 Grammar Reference for Unit 7 หนงั สือเรยี น Close-up 3 หนา 113 8. บันทกึ หลังการจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูม อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที่ 3

441 441 หนวยการเรียนรูท ่ี 7 เรือ่ ง It’s Raining Cats & Dogs แผนการจดั การเรียนรทู ี่ 7 เรอื่ ง Grammar 2: Superlative Adjectives & Adverbs รหัสวิชา................. รายวชิ าพน้ื ฐานภาษาองั กฤษ ชั้นมธั ยมศึกษาปที่ 3 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 1 ช่ัวโมง ผูส อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชว้ี ัด ต 1.1 ม.3/1 ปฏิบตั ิตามคาํ ขอรอ ง คาํ แนะนํา คําช้ีแจง และคําอธิบายที่ฟงและอาน ต 2.1 ม.3/1 เลือกใชภ าษา นาํ้ เสียง และกิรยิ าทา ทางเหมาะกับบุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของ เจา ของภาษา ต 4.1 ม.3/1 ใชภาษาสื่อสารในสถานการณจริง/สถานการณจําลองท่ีเกดิ ข้ึนในหองเรยี น สถานศึกษา ชุมชน และสงั คม 2. จดุ ประสงคการเรยี นรู อา น เขยี น และส่ือสารอยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ โดยใช Superlative adjective & adverbs 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรเู ก่ยี วกับการใชภาษาสอ่ื สารอยางมปี ระสิทธิภาพ โดยการใช Superlative adjective & adverbs ทกั ษะเรียนภาษา ทั้ง 4 ดา น ไดแก การฟง การพดู การอา น และการเขยี น และกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร ทาํ ใหก ารส่ือสารบรรลผุ ล ตามวตั ถุประสงค ผูเรียนมีเจตคติทด่ี ตี อภาษาอังกฤษ ใชภาษาอังกฤษอยา งมีมารยาท ถกู ตอ งตามกาลเทศะและบุคคล 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Grammar: Superlative adjective & adverbs 4.2 ดา นทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรียนภาษาท้ัง 4 ทักษะ การฟง การพูด การอา น และการเขยี น - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการสอื่ สาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มีประสทิ ธภิ าพในการสื่อความ - มเี หตผุ ล มีวจิ ารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูนาํ ความสนใจของนักเรยี นโดยใหนักเรียนรจู ัก superlative adjectives & adverbs ดงั น้ี Q: Which sentences contain superlative adjective and superlative adverb? a. The heaviest rain falls during the monsoon season. b. The rain falls the most heavily during the monsoon season. c. The rain falls heavily during the monsoon season. 2. ใหน ักเรียนทัง้ ชั้น Read aloud คําถาม และตวั เลือก a-c นกั เรียนบอกคาํ ตอบ 3. ครูสนบั สนุนคาํ ตอบ อธบิ ายและเช่ือมโยงเขาสบู ทเรียน  Presentation 1. ครูสอนคําศพั ทใ นบทอานกิจกรรม K-Q โดยใหน กั เรียนมีสวนรว มดังน้ี คูมอื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท่ี 3

442 442 - ใหน ักเรียนท้งั ชั้นชว ยกนั คนคําศัพทท ไ่ี มร ูความหมาย ขดี เสนใตกํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของ คาํ ศพั ท แลวนักเรียนบอกหมวดหมูของคําศัพทเ หลา นี้ โดยครูเขียนลงใน Word Box บนกระดาน - ใหนกั เรียนแบง กัน/ชว ยกนั คน หาความหมายของคําศัพทเหลา น้ี พูดบอกความหมายครูเขียนความหมายของคําศัพทที่ นกั เรียนบอกและเพม่ิ เติมความหมายของคาํ ศัพทบางคาํ ใหส มบูรณ ครูเลือกคาํ /วล/ี ประโยคทีม่ ีความหมายนาสนใจมาอธบิ าย - ใหนักเรยี น Read aloud คาํ ศพั ทบ นกระดาน ถาคําใดนักเรียนอานไมไดใหครูชวยอานนํา โดยครูเนนยํ้าใหนักเรียน ปฏบิ ัตติ ามวิธกี ารออกเสยี งคําหลายพยางค ไดแ ก เสยี งเนนหนักในคาํ (Word Stress) 1. คาํ 2 พยางคขนึ้ ไป เสียงเนน หนักสดุ (primary stress) มกั จะอยทู ี่พยางคต น ของคาํ เชน season, serious, damage, ocean, planet, climate, heatwave, problem, happen, hotter, wetter, stronger, warming, acting, often, heavy, rainstorm, dangerous, difficult, hurricane, sunshine, midday, during, title, global, atmosphere , syllable เปนตน 2. คํา 2 พยางคขึน้ ไป เสียงเนน หนักสดุ (primary stress) อยูท ีพ่ ยางคท่ี 2 ของคํา เชน occur, become, across, because, evaporate, condition, correctly, monsoon, extreme 3. คาํ พองรปู คือ คาํ ทเ่ี ขียนอยางเดียวกันแตอานตา งกัน ถาอานออกเสยี งผดิ แลวความหมายผดิ ไดแ ก record (เปน คาํ นาม อานวา เรค็ คอรท แปลวา สถติ ิ), record (เปน กริยา อานวา รีคอรท แปลวา จดบันทึก) - ใหน ักเรียนคัดลอก Word Box และคําศัพทท เี่ กย่ี วของลงในสมุดคําศัพทข องตนเอง - ครูใหน กั เรยี นทกุ คนไปคน ควา หาคําพอ งรปู เพิ่มเติมคนละ 5-10 คํา พรอ มท้ังใหความหมายโดยเขียน ใสแผนกระดาษ สมุด แลวนาํ มาเผยแพรในหองเรยี นโดยนําไปตดิ ไวท่ี Billboards หนา หอ งเรียน 2. ครสู อน Superlative adjective & adverbs โดยใชก จิ กรรม Grammar Focus Unit 7 ดังน้ี - ครูใหนักเรยี น Read aloud Grammar Focus เรือ่ ง Superlative Adjectives & Adverbs ขอ 7.1 (ใหน ักเรยี น Focus ทยี่ อหนาท่ี 2) - ครูทบทวนโครงสรา งประโยคเปรียบเทยี บท้งั 3 ขนั้ ของการเปรียบเทยี บโดยใช Adjectives & Adverbs ไดแก 1) การเปรยี บเทยี บแบบข้ันธรรมดา เทา กันหรอื ไมเ ทากัน (Positive degree) ไดแก (1) Subject + verb to be + as + adjective + as + (2) Subject + main verb + as + adverb + as + 2) การเปรยี บเทียบแบบขั้นกวา มากกวาหรอื นอ ยกวา (Comparative degree) ไดแก (1) Subject + verb to be + comparative adjective + than + (2) Subject + main verb + comparative adverb + than + 3) การเปรยี บเทียบแบบขั้นสูงสุด (Superlative degree) ไดแก (1) Subject + verb to be + the + superlative adjective + Noun (+ modifier) ตัวอยางเชน The rain caused the most serious damage in the countryside. (2) Subject + main verb + the + superlative adverb. ตัวอยางเชน The rain damaged the countryside the most seriously. - ครตู รวจสอบความเขา ใจการเปรยี บเทยี บทง้ั 3 ขน้ั โดยใช Adjectives & Adverbs โดยครูเขียนประโยคตอไปน้บี น กระดาน ใหนักเรยี น Read aloud แลวบอกวา เปนการเปรยี บเทียบข้ันใดและใช Adjectives หรือ Adverbs ดงั นี้ a. That car is as slow as a bus. b. That car goes as slowly as a bus. คูมือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศึกษาปท ี่ 3

443 443 c. Fog is more dangerous than snow for drivers. d. That car goes more slowly than a bus. e. What is the hottest month of the year? f. The storm affected the fishing village the most seriously. - ครูอธิบายคําตอบใหนักเรียนเขาใจตรงกัน และช้ีแนะใหนักเรียนสังเกต verb ที่นําหนาซึ่งเปนตัวกําหนดวาคําที่ ตามหลังมาตองเปน Adjective หรอื เปน adverb - ใหนักเรียนดูตัวอยางที่หลากหลายแลวสรุปเปนกฎเกณฑการเปลี่ยนรูป Adjective และ Adverb ใหเปนรูป Superlative ดงั น้ี rules comparative adjectives comparative adverbs 1. เติม -er ทา ยคํา  เติม -er หลัง Adjective ท่ีเปน คําพยางคเดียว  เติม -est หลัง Adverbs ทีเ่ ปน - เพม่ิ พยัญชนะทาย 1 ตวั กรณที ี่เปน คําพยางคเ ดียวเสียงสนั้ คําๆ เดยี ว และถามี e อยแู ลว ใหเตมิ สระเด่ยี ว ตวั สะกดเดย่ี ว ตัวอยา งเชน big-biggest st ตัวอยางเชน fast - fastest, late - Adjectives ทล่ี งทา ยดวย e อยแู ลวใหเ ตมิ st - latest ตัวอยา งเชน large - largest - Adjectives ทลี่ งทายดว ย y และหนา y ไมม ีสระให เปล่ียน y เปน i แลว est ตวั อยา งเชน dry - driest - นอกนั้นเติม est ตวั อยางเชน smart - smartest 2. เติม more หนา คาํ  Adjective ท่ีเปนคาํ หลายพยางค ตวั อยางเชน  เตมิ more หนา Adverbs ท่ีลง popular - most popular ทายดว ย -ly ตวั อยางเชน  Adjective ท่ีมาจาก verb และอยใู นรปู Present slowly - most slowly Participle (กริยา -ing), Past Participle (กริยาชอ งท่ี 3) ตัวอยางเชน bored - most bored, boring - most boring 3. เปล่ียนรูป  เปลย่ี นรปู ไดแก  เปลย่ี นรูป ไดแ ก many, much, a lot of - most well - best little - least badly - worst good - best bad - worst far - farthest/furthest 3. ครูทบทวนเทคนิคสาํ คัญในการทําขอ สอบ Cloze test ไดแ ก Focusing on words before and after a gap ดังนี้ Exam strategies: Focusing on words before and after a gap - Some tasks include a gapped text. Only one word goes in each gap. - This task tests what you know about grammartical structures and vocabulary. - First, look at the gap. What words come before and after? What kind of words are they (e.g. verbs, nouns, prepositions, pronouns)? - Look again at the words around the gaps. Can you think of words that often go together with them? Write your answer in the gap and then read the whole sentence to see if it fits. คมู ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 3

444 444  Practice ครูใหนกั เรยี นเปดหนงั สือ Close-up 3 หนา 89 นักเรยี นปฏบิ ตั ิกิจกรรมตอไปนี้ 1. กิจกรรม K ใหน กั เรียน Read aloud คาํ ส่ัง และพูดบอกส่งิ ที่นักเรยี นตอ งปฏบิ ตั ใิ นกจิ กรรมน้ี - ครูใหนักเรียน Read silently ประโยค a-e และขีดเสนใตกํากับ superlative adjectives & adverbs และบอก คําตอบพรอ มกนั - ครูอธิบายการใชและการแปลความหมาย superlative adjectives & adverbs ใหนักเรียนบอกความหมาย ประโยค a-e ครูสรุปคําตอบ และเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ a. The hottest b. the most frightening c. The best d. The earliest e. the coldest 2. กจิ กรรม L ใหนกั เรียน Read aloud คําสัง่ และพูดบอกสิ่งที่นักเรยี นตอ งปฏิบตั ิในกจิ กรรมน้ี - ใหน กั เรียนตอบคําถามเกย่ี วกบั กฎการเปล่ยี นadjectives เปน superlative adjective โดยปฏิบัตติ ามขนั้ ตอนดังนี้  Read carefully กฎขอที่ 1-5 ทีละขอ แลวยอนกลับไปอานประโยค a-e ในกิจกรรม K เพ่ือเลือกคําตอบ  เม่ือไดคําตอบครบทง้ั 5 ประโยคแลว ใหน ักเรยี นตรวจสอบคาํ ตอบโดย Read aloud ประโยค 1-5 - ครูอธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนเขาใจแลวใหนักเรียนทบทวนโดยพูดสรุปเก่ียวกับกฎการเปลี่ยน adjectives เปน superlative adjective แลว เลือกคําตอบ - ครูตรวจสอบคาํ ตอบ และเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. e 2. d 3. a 4. b 5. c 3. กิจกรรม M ครใู หนักเรยี น Read aloud คําสงั่ และพดู บอกสง่ิ ท่ีนักเรียนตองปฏบิ ัตใิ นกจิ กรรมนี้ - ใหน กั เรยี น Read carefully กฎการเปลยี่ น adjectives เปน superlative adjective แลวเลอื กคาํ ตอบท่ีกําหนดให และเมอ่ื ไดคําตอบครบทง้ั หมดแลวใหนกั เรียน Read aloud ทกุ ประโยคพรอ มกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ the, the most 4. กิจกรรม N ใหนกั เรยี น Read aloud คาํ สง่ั และพูดบอกสิ่งที่นกั เรยี นตองปฏบิ ัตใิ นกิจกรรมนี้ - ครูใหนักเรียนทบทวนรูป superlative adverbs และกฎการเปลย่ี น adverbs ใหเ ปนรูป superlative adverbs - นกั เรยี น Read carefully ประโยคท1่ี -8 เพ่ือคน หา และขดี เสน ใตsuperlative adverbs - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรียน Read aloud ประโยคท่ีมี superlative adverbs ครเู ฉลยคาํ ตอบและอธิบาย ประโยคทเ่ี หลอื (ไมใ ชค ําตอบ) เฉลยคาํ ตอบ Sentence 2, 4, 6, 8 5. กจิ กรรม O ใหน ักเรยี น Read aloud คําสง่ั และพูดบอกส่งิ ที่นักเรยี นตองปฏิบัตใิ นกิจกรรมนี้ - ใหน กั เรียน Read carefully the rule แลวเติมคําในชองวาง - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรียน Read aloud the rule และครูเฉลยคําตอบ คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ี่ 3

445 445 เฉลยคําตอบ the, most 6. กจิ กรรม P ใหน ักเรยี น Read aloud คําสั่ง และพูดบอกสงิ่ ที่นักเรยี นตอ งปฏบิ ัตใิ นกิจกรรมนี้ - ใหนักเรียนทบทวนกฎการเปล่ียน adjectives เปน superlative adjective แลวเปลี่ยน adjectives ในวงเล็บของ ประโยค 1-8 ใหเปนรปู superlative adjective และใช the นาํ หนา - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรยี น Read aloud ประโยค 1-8 และครูเฉลยคําตอบ 1. the deepest เฉลยคาํ ตอบ 4. the sunniest 5. the longest 2. the worst 3. the heaviest 8. the coldest 6. the shortest 7. the most difficult  Production กจิ กรรม Q ใหน กั เรยี น Read aloud คาํ ส่งั และพดู บอกส่งิ ทน่ี ักเรียนตอ งปฏบิ ัตใิ นกจิ กรรมน้ี - ใหน กั เรียน Read aloud the Exam Colse-up และครูอธบิ ายพรอมท้ังยกตัวอยา งประกอบโดยเลือกจากบางสวนของ กจิ กรรมทีผ่ า นมาและกจิ กรรม Exam Task - ครูช้ีแนะวิธีการคิดคําตอบโดยใหนักเรียนทบทวนเทคนิคสําคัญในการทําขอสอบ Cloze test ไดแก Focusing on words before and after a gap - ใหน กั เรยี น Read carefully the Cloze passage เพอื่ คนหาตัวช้ีแนะคําตอบที่อยูหนาและหลังชองวาง เพื่อนําไปใช ในการคดิ คาํ ตอบ - ใหนักเรยี นนําคาํ ตอบไป Compare and share กบั เพ่อื นในหอง - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรียน Read aloud ประโยค และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. more 2. heaviest 3. hottest/warmest 4. worse 5. drier 6. as 7. than 8. most 9. the 10. quickly 6. การวดั และประเมนิ ผล เครอ่ื งมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน 18-20 วิธกี าร 15-17 ผลการประเมนิ 1. สังเกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผาน คูมือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มัธยมศึกษาปท่ี 3

446 446 วธิ ีการ เครอ่ื งมือ คะแนน เกณฑ 18-20 2. ประเมนิ ทักษะ แบบประเมินทักษะการฟง-การพดู 15-17 ผลการประเมิน การใชภาษา แบบประเมินทกั ษะการอาน-การเขียน 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผาน 7. สอื่ /แหลง การเรยี นรู หนังสอื Close-up 3 Unit 7 It’s Raining Cats & Dogs เร่อื ง Grammar กิจกรรม K-Q หนา 89 Grammar Reference for Unit 7 หนงั สือเรยี น Close-up 3 หนา 113 8. บนั ทึกหลงั การจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศึกษาปที่ 3

447 447 หนวยการเรียนรทู ี่ 7 เรือ่ ง It’s Raining Cats & Dogs แผนการจดั การเรยี นรูท่ี 8 เรื่อง Grammar 3: Comparison of Adjective & Adverbs รหัสวิชา................. รายวชิ าพ้ืนฐานภาษาองั กฤษ ช้นั มธั ยมศึกษาปที่ 3 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปก ารศึกษา 25……….. ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 1 ชั่วโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชว้ี ัด ต 1.1 ม.3/1 ปฏบิ ตั ติ ามคําขอรอง คําแนะนาํ คาํ ช้แี จง และคาํ อธบิ ายทฟ่ี งและอาน ต 2.1 ม.3/1 เลอื กใชภาษา นํา้ เสยี ง และกริ ิยาทา ทางเหมาะกบั บคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของ เจา ของภาษา ต 4.1 ม.3/1 ใชภ าษาสอ่ื สารในสถานการณจริง/สถานการณจําลองท่ีเกิดขน้ึ ในหอ งเรยี น สถานศึกษา ชุมชน และสงั คม 2. จุดประสงคการเรยี นรู อา น เขยี น และสื่อสารอยางมปี ระสิทธิภาพโดยใชโ ครงสราง Comparison of Adjective & Adverbs 3. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรูเกี่ยวกับการใชภาษาส่ือสารอยางมีมารยาท มีประสิทธิภาพ โดยการใช Comparison of Adjective & Adverbs ทกั ษะเรยี นภาษาท้งั 4 ดา น ไดแก การฟง การพดู การอาน และการเขียน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร ทําให การสือ่ สารบรรลผุ ลตามวตั ถปุ ระสงค ผเู รียนมีเจตคติท่ีดีตอภาษาอังกฤษ ใชภาษาอังกฤษอยางมีมารยาท ถูกตองตามกาลเทศะและ บคุ คล 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Grammar: Comparison of Adjective & Adverbs 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรียนภาษาทั้ง 4 ทักษะ การฟง การพูด การอาน และการเขียน - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการสอ่ื สาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มปี ระสิทธภิ าพในการสื่อความ - มเี หตุผล มวี ิจารณญาณ 5. กิจกรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูทบทวนบทเรียนในชั่วโมงท่ีแลวเรื่อง Comparison of Adjective & Adverbs โดยครูเขียนประโยคตอ ไปนี้บน กระดาน ใหน ักเรยี นเตมิ คําตอบ ดังนี้ a. I think July is the …………….. (hot) month of the year. b. Is today …………….. (cold) than it was yesterday? c. When it is a fullmoon, the moon shines …………….. (brightly). 2. ใหน ักเรยี น Read aloud คําตอบพรอมท้ังใหเหตผุ ล 3. ครเู ชื่อมโยงเขาสูบทเรียน Comparison of Adjective & Adverb คูมือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที่ 3

448 448  Presentation 1. ครูทบทวนเรอ่ื ง Comparison of Adjective & Adverbs โดยใหน กั เรยี นมีสว นรวม 2. ครูทบทวนเทคนิคการทําขอสอบ Focus on words before and after a gap ครูอธิบายพรอมท้ังยกตัวอยาง ประกอบและใหนักเรียนฝก ปฏบิ ัติในกิจกรรมตอ ไป  Practice ครใู หนักเรยี นเปด หนังสือ Workbook Close-up 3 หนา 49-50 นักเรยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตอ ไปน้ี 1. กจิ กรรม A ใหนกั เรียน Read aloud คําส่ัง และพูดบอกส่ิงท่ีนักเรยี นตองปฏบิ ัตใิ นกิจกรรมนี้ - ใหนกั เรยี น Read carefully ประโยคที่ 1-6 เพ่อื คน หาและขดี เสนใตก ํากับตัวชีแ้ นะคําตอบทอี่ ยูห นาและหลงั ชอ งวา ง - ครูตรวจสอบความแมน ยําในการคนหาตัวชแี้ นะคาํ ตอบโดยใหน ักเรียน Read aloud คาํ ทีข่ ีดเสน ใตไว ดังนี้ ตัวชี้แนะคาํ ตอบ 1. than 2. most of the team 3. than 4. as 5. not, as 6. than - นกั เรยี นใชตัวชแ้ี นะคําตอบในการคิดและใหค ําตอบ - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรียน Read aloud ประโยค และครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. hardest 2. stronger 3. better 4. fast as 5. so/as cold 6. more slowly 2. กจิ กรรม B ใหนักเรยี น Read aloud คาํ สัง่ และพดู บอกส่งิ ที่นักเรยี นตองปฏิบตั ิในกิจกรรมน้ี - ใหนักเรยี นสังเกตรปู แบบและชนิดของตัวเลือก และใหนักเรียนคนหาและขีดเสนใตกํากับตัวชี้แนะคําตอบท่ีอยูหนา และหลงั ชองวา ง - ครตู รวจสอบความแมน ยําในการคน หาตวั ช้แี นะคาํ ตอบโดยใหน กั เรยี น Read aloud คาํ ที่ขีดเสน ใต ครเู ฉลยตัวช้ีแนะ คาํ ตอบดงั นี้ ตวั ช้ีแนะคาํ ตอบ 1. as 2. than 3. than 4. than 5. than 6. than - ใหน กั เรยี นใชต วั ชแ้ี นะคําตอบในการคดิ และเลอื กคําตอบ - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรยี นอา นคาํ ตอบพรอมกันและครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. not so warm 2. colder 3. foggier 4. sunnier 5. more quickly 6. more heavily 3. กจิ กรรม C ใหนักเรยี น Read aloud คาํ สัง่ และพูดบอกสิ่งท่ีนักเรยี นตองปฏบิ ัติในกจิ กรรมนี้ - ใหนักเรียน Read carefully ประโยค Cloze sentence โดยสังเกตคํานามที่อยูหนาหรือตามหลังชองวางเพื่อ กําหนดชนิดของคําที่กําหนดใหในวงเล็บวาควรใช adjectives หรือ adverbs และกําหนดรูปหรือข้ันของการเปรียบเทียบท่ีใช adjectives หรอื adverbs นัน้ - ครูใหเ วลานักเรยี นคน หาตัวชี้แนะคาํ ตอบ คดิ วิเคราะหและเขยี นคาํ ตอบ - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรยี น Read aloud คาํ ตอบและเหตผุ ลท่เี ลือกคาํ ตอบน้ันๆ ครูเฉลยคาํ ตอบ คมู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที่ 3

449 449 เฉลยคาํ ตอบ 1. rainiest 2. best 3. heaviest 4. most difficult 5. most strongly 6. most brightly 4. กิจกรรม D ใหนักเรียน Read aloud คาํ สัง่ และพดู บอกสง่ิ ท่ีนกั เรียนตองปฏิบตั ใิ นกิจกรรมนี้ - ใหนักเรียน Read carefully ประโยคท่ี 1-6 เพื่อคนหาและขีดเสนใตกํากับตัวชี้แนะคําตอบที่อยูหนาและหลัง ตวั เลอื ก และครูตรวจสอบความแมน ยําในการคนหาตัวชแี้ นะคาํ ตอบโดยใหน กั เรียน Read aloud คําทข่ี ดี เสนใต ดงั น้ี ตัวช้แี นะคําตอบ 1. is, than 2. is the, day of the year 3. the 4. shines the most 5. is the most 6. is not the, - ทบทวนและตรวจสอบความถูกตอง กอนนําคาํ ตอบไป Compare and share กบั เพ่อื นในหอง - ครใู หเ วลานักเรยี นนาํ ตัวชีแ้ นะคําตอบไปคดิ วเิ คราะห คําตอบและตัดสนิ ใจเลือกคาํ ตอบ - ครตู รวจสอบคาํ ตอบโดยใหนักเรยี นRead aloud คาํ ตอบและครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. colder 2. longest 3. most 4. brightly 5. beautiful 6. sunniest  Production กิจกรรม E ใหนกั เรยี น Read aloud the Exam Reminder - ครูอธิบาย the Exam Reminder และยกตัวอยา งประกอบโดยเลือกจากบางขอของกจิ กรรม Exam Task - ใหนักเรียน Read carefully the Cloze passage เพื่อคนหาและขีดเสนใตกํากับตัวชี้แนะคําตอบที่อยูหนาและหลัง ชองวา งและนาํ ตวั ชีแ้ นะคําตอบไปใชประกอบการตัดสินใจคิดหาคาํ ตอบ และนาํ คําตอบไป Compare and share กบั เพื่อนในหอ ง - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรยี น Read aloud ประโยคและบอกเหตผุ ล และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. the 2. windier 3. than 4. as 5. an 6. more 7. most 8. the 9. not 10. as - ครูสรุปบทเรียนและตอบขอ ซักถามของนกั เรียน 6. การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีการ เครื่องมือ คะแนน เกณฑ 1. สงั เกต แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน 18-20 15-17 ผลการประเมนิ 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผา น คมู ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศึกษาปท่ี 3

450 450 วิธกี าร เครอื่ งมอื คะแนน เกณฑ 18-20 2. ประเมินทักษะ แบบประเมินทกั ษะการฟง-การพดู 15-17 ผลการประเมนิ การใชภาษา แบบประเมินทกั ษะการอาน-การเขยี น 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผาน 7. ส่อื /แหลง การเรยี นรู หนังสือ Workbook Close-up 3 Unit 7 It’s Raining Cats & Dogs เร่ือง Grammar กจิ กรรม A-E หนา 49-50 8. บันทกึ หลังการจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูม อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3

451 451 หนวยการเรยี นรูท่ี 7 เรอ่ื ง It’s Raining Cats & Dogs แผนการจัดการเรียนรทู ่ี 9 เรอื่ ง Listening: Weather Report รหัสวชิ า................. รายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ ช้นั มธั ยมศึกษาปท ่ี 3 กลุมสาระการเรียนรูภ าษาตา งประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 1 ชว่ั โมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชี้วดั ต 1.1 ม.3/1 ปฏิบตั ติ ามคําขอรอ ง คาํ แนะนํา คาํ ชี้แจง และคาํ อธบิ ายทฟี่ ง และอาน ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบหุ ัวขอ เรอื่ ง ใจความสาํ คญั รายละเอียด สนบั สนนุ และแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกับเร่ืองทฟี่ งและ อาน จากสอื่ ประเภทตา งๆ พรอมท้ังใหเ หตุผลและยกตัวอยา งประกอบ ต 1.2 ม.3/4 พูดและเขียนเพอื่ ขอและใหขอ มูล อธบิ าย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับเรอ่ื งทฟี่ งหรืออาน อยางเหมาะสม 2. จดุ ประสงคก ารเรยี นรู พูดใหขอมลู อธบิ ายเกย่ี วกบั Weather Report โดยใชสาํ นวนภาษาและโครงสรา งภาษาไดอ ยางถูกตองเหมาะสม 3. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรแู ละกจิ กรรมฝกทักษะการฟง การพูด สํานวนภาษาโครงสรา งภาษาเกีย่ วกับ Weather Report กระบวนการฝก ทักษะ ทางภาษาท้ัง 4 ดา นโดยเฉพาะอยางยิ่งทกั ษะการฟง การพูด โดยใชกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการสอ่ื สาร ทําใหผเู รียนสื่อสาร ไดอยางมปี ระสิทธิภาพ มเี จตคติที่ดตี อการเรยี นภาษาองั กฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Vocabulary: สาํ นวนภาษาท่ีใชในการสนทนาเกี่ยวกับ Weather Report 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรียนภาษาท้งั 4 ทกั ษะ การฟง การพดู การอาน และการเขียน - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการสือ่ สาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มปี ระสทิ ธภิ าพในการสอ่ื ความ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูนาํ ความสนใจของนักเรียนโดยใชกจิ กรรม A ดังน้ี Look at the pictures 1-3. Q 1: What are they? Q 2: What do they have in common? 2. นักเรียนใหคําตอบอยางหลากหลายและบอกเหตุผล 3. ครูอธบิ ายและเช่ือมโยงเขาสูกิจกรรมการเรยี นการสอน Weather Report  Presentation 1. ครูสอนคําศพั ทในกิจกรรม A-G โดยใหนักเรียนมสี วนรว ม ดังนี้ - ใหน กั เรยี นทง้ั ชน้ั ชว ยกนั คน คําศัพททีไ่ มรคู วามหมาย ขีดเสนใตกํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของ คําศพั ทจากตาํ แหนง ภายในประโยค แลวนักเรยี นบอกหมวดหมขู องคาํ ศัพทเหลา น้ี โดยครเู ขยี นลงใน Word Box บนกระดาน คูม ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ี่ 3

452 452 - ใหนกั เรยี นแบง กนั /ชวยกันคน หาความหมายของคําศัพทเ หลาน้ี พูดบอกความหมายครูเขยี นความหมายของคําศัพทที่ นกั เรยี นบอกและเพม่ิ เติมความหมายของคาํ ศพั ทบางคาํ ใหส มบูรณ ครูเลอื ก คาํ /วล/ี ประโยคท่ีมคี วามหมายนา สนใจมาอธิบาย - ใหน กั เรียน Read aloud คําศัพทบนกระดาน ถา คําใดนักเรียนอานไมไดใหครูชวยอานนํา โดยครูเนนยํ้าใหนักเรียน ปฏบิ ตั ติ ามวิธกี ารออกเสียงคําหลายพยางค ไดแก เสียงเนนหนกั ในคํา (Word Stress) 1. คาํ 2 พยางคขึ้นไป เสยี งเนนหนกั สุด (primary stress) มักจะอยทู พ่ี ยางคตนของคํา เชน common, compass, freezing, heavy, listen, sunglasses, desert, temperature, distance, minus, ninety forty, sixty, colour, sandstorm, report Celcius เปน ตน 2. คาํ 2 พยางคข ึน้ ไป เสียงเนน หนกั สุด (primary stress) อยทู ีพ่ ยางคท ่ี 2 ของคํา เชน degree, complete, describe, correct, expression, unusual, expect, eighteen, fourteen, surround เปน ตน 3. คาํ ท่ีมกั อานผดิ และออกเสยี งผดิ ไดแก temperature (อา นวา เทม-เพอ-เชอะ ไมใ ช เทม-เพอเร-เจอ) - ใหนักเรียนคัดลอก Word Box และคําศัพทท ี่เกี่ยวของลงในสมุดคาํ ศัพทของตนเอง 2. ครสู อน Exam Close-up ใหน กั เรียน Read aloud Exam Close-up - ครอู ธบิ ายและยกตวั อยา งประกอบใหนกั เรยี นอา นออกเสียงตามครู โดยครูใหความสําคัญกับการออกเสียงเนนหนักใน คาํ หลายพยางคอยา งถูกตอง เพอ่ื ฝกทกั ษะเบ้ืองตน ในการฟง และการพูดอยา งมีประสทิ ธภิ าพ ตวั อยางเชน 20 °c อานวา twenty degree Celcius -5°c อานวา minus five degree Celcius 3. ครูทบทวน Listening Strategies: Predicting the answers before listening ใน Exam Close-up อธิบายและ ยกตัวอยา งประกอบใหนักเรียนมคี วามมนั่ ใจในการฟง แลวตอบคาํ ถามเก่ยี วกับเรอ่ื งท่ีไดย นิ 4. ครทู บทวนวธิ ีการเรียนระหวางฟงซีดี แนะวธิ ฟี ง อยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ ครูช้แี จงวานักเรียนจะไดฟงเสียงพูดสนทนาท่ีเปน การพดู อยางเปนธรรมชาติ (naturally speaking) ทม่ี คี วามเร็วพอประมาณ ใหน กั เรยี นฟงเพื่อจับประเด็นสําคัญโดยต้ังใจฟงคําสําคัญ (content words) ไดแ ก nouns, main verbs, adjectives, adverbs ในระหวา งทฟ่ี ง ใหนักเรียนงดทํากจิ กรรมใดๆ ไมพ ดู คยุ กัน 5. ครูช้แี จงการฟงซดี วี านักเรียนจะไดฟงซีดี 3-4 ครงั้ ดังน้ี - ฟงครั้งที่ 1 เพอื่ ใหเขา ใจเร่ืองและจับประเดน็ สาํ คัญเบ้ืองตน - ฟง ครั้งที่ 2-3 เพอื่ เลอื กคําตอบ - ฟงครั้งท่ี 3-4 เพอ่ื ทบทวนคาํ ตอบหรอื เฉลยคาํ ตอบ (สาํ หรับช้นั ทน่ี กั เรยี นสวนใหญออนภาษาอังกฤษ ครูควรใหฟ ง หลายคร้ัง เพ่อื ใหนักเรยี นประสบความสําเรจ็ ในการฟง )  Practice ครูใหนกั เรียนเปด หนังสือ Close-up 3 หนา 90 นักเรยี นปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตอ ไปนี้ 1. กิจกรรม A ใหนักเรยี น Read aloud คาํ สั่ง และบอกสิ่งทต่ี อ งปฏิบัตใิ นกิจกรรมนี้ - ครูอธบิ ายคําถาม ชแี้ นะวิธคี ดิ โดยใหนกั เรยี นตอบคาํ ถามดังน้ี Q: What causes the windmill/the kite/the kite tube move? - นกั เรียนใหคาํ ตอบ ไดแก wind ครูอธบิ ายเพ่ิมเตมิ คาํ ตอบของนกั เรียน เพื่อใหนักเรียนทกุ คนเขาใจตรงกัน - ครูสรุปคาํ ตอบโดยใหน ักเรียนใหคําตอบเปน ประโยค และพูดคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ They are all connected to wind. 2. กิจกรรม B ใหนักเรียน Read aloud คําส่ัง และบอกสง่ิ ที่ตอ งปฏบิ ัติในกิจกรรมน้ี คมู ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท่ี 3

453 453 - ครูทบทวนคําส่ังและอธิบาย ช้ีแนะวิธีคิด และใหนักเรียนจับคูกับเพ่ือน Read carefully ขอ1-6 เพ่ือคนหา คิด วิเคราะหสังเคราะหความสมั พันธ ของคาํ ศัพทตามหวั ขอ เร่อื งท่ีกําหนดให และระบุคาํ ศัพททีไ่ มเขา พวก - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรยี น Read aloud คําตอบ และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. light 2. north 3. heavy 4. strong 5. west 6. dark 3. กิจกรรม C ใหนักเรียน Read aloud คาํ สง่ั และบอกสงิ่ ทีต่ องปฏิบตั ิในกิจกรรมน้ี - ใหน ักเรียน Read aloud คําศพั ทท เ่ี ปน ตวั เลือกและบอกความหมาย - ครอู ธบิ ายเกี่ยวกบั เข็มทิศ โดยใชค ําถาม ไดแก Q 1: What is the compass used for? Q 2-Q 5: What direction is it when the compass is at 0 degree/90 degree/180 degree/270 degree? - ครูใหน ักเรยี นจับคูกบั เพ่ือน และพูดประโยคเกย่ี วกบั การอานเข็มทิศโดยใช Speaking Model ตอ ไปนี้ Student A What direction is it when the compass is at …………. degree? It is …………. Student B - ใหนกั เรยี นเลือกคําศัพทไ ปเตมิ ในรูปภาพเข็มทิศ - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรยี นบอกคําตอบและครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 0° = north, 90° = east, 180° = south, 270° = west 4. กิจกรรม D ครูทบทวนคาํ สั่งช้ีแจงกิจกรรมการฟง นักเรียนจะไดฟงประโยคที่มีเนื้อหาเก่ียวกับพยากรณอากาศและ ขา วเกย่ี วกับสภาพฝนฟา อากาศ - จากนั้นใหนกั เรียนฟงซดี ี Track 7.1 1-2 ครั้ง นักเรียนเลอื กคําตอบท่ีตรงกับเรื่องท่ไี ดย นิ ครูตรวจสอบคําตอบโดยให นกั เรียนบอกคาํ ตอบ - ใหน ักเรยี นฟงซดี ีซา้ํ เพ่ือใหนักเรยี นตรวจสอบคําตอบ และปรับปรงุ คาํ ตอบกอ นทีค่ รจู ะเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. 30°c 2. west 3. cool 4. 1 m 5. rain 6. bright 5. กจิ กรรม E ใหนักเรยี น Read aloud คาํ สัง่ และบอกส่ิงทีต่ อ งปฏิบตั ิในกจิ กรรมนี้ - ครูทบทวนคําส่ัง และใหนักเรียน Read aloud the Exam Close-up ครูอธิบายใหนักเรียนเขาใจและยกตัวอยาง ประกอบโดยใหนกั เรยี น Quickly read the Exam Task สังเกตขอมลู ท่ีอยหู นา ชองวางแลวคิดคาดเดาเกี่ยวกับ missing words วา ควรเปน ขอ มลู เก่ียวกับเรือ่ งใด เชน number, distance, direction, area, month, adjective, etc. - ใหน ักเรยี นบอกเกยี่ วกบั missing words พรอมท้งั ใหเ หตุผล (Expain why?) ไดคาํ ตอบดงั น้ี เฉลยคําตอบ 1. month 2. temperature 3. area 4. adjective 5. number/distance คูม ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศึกษาปท ี่ 3

454 454 6. กิจกรรม F ใหน ักเรยี น Read aloud คาํ ส่งั และ the Exam Task และพูดบอกสิ่งท่ตี องปฏบิ ัติ - ครอู ธิบายกิจกรรม Exam Task เปนกิจกรรมการฟง นักเรียนจะไดฟง Weather report ใหนักเรียนเติมคําตอบซึ่ง เกย่ี วกบั number, distance, direction, area, month, adjective, etc. - ใหนักเรียนเตรียมความพรอมเพ่ือการฟงอยางมีประสิทธิภาพ โดยใหนักเรียน Read carefully the cloze sentence และใชค ําตอบจากกิจกรรม E เปนตัวชแ้ี นะคําตอบ - เมื่อนกั เรียนพรอ ม ครูเปดซีดี Track 7.2 ใหนักเรียนฟง 1-2 คร้ัง โดยหยุดเสียงเปนบางชวงเพื่อใหเวลานักเรียนฟง คดิ ตามและเขียนคาํ ตอบ - ครูตรวจสอบคําตอบ โดยใหน ักเรยี นบอกคาํ ตอบพรอมกนั ครเู ขยี นคาํ ตอบของนกั เรยี นบนกระดาน โดยครูใหนักเรียน ฟง ซีดีซา้ํ เพือ่ ตรวจสอบคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. April 2. 20°c 3. south 4. orange 5. 2,000 7. กิจกรรม G โดยครใู หนักเรยี นฟง ซดี ี Track 7.3 ซ้าํ เพือ่ ตรวจสอบคําตอบ ใหโอกาสนักเรยี นปรับปรุงคําตอบหรอื ยืนยัน คําตอบเดมิ และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. April 2. 20°c 3. south 4. orange 5. 2,000  Production ครูใหน กั เรยี นเปด หนงั สือ Workbook Close-up 3 หนา 50 นกั เรยี นปฏิบัตกิ ิจกรรมตอ ไปน้ี 1. กจิ กรรม A ใหนกั เรยี น Read aloud the Exam Reminder - ใหน กั เรียน Read aloud คาํ ส่ังและคําถามพรอมทงั้ ใหค ําตอบ - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรยี น Read aloud คาํ ตอบ และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ You might hear the word degree. 2. กิจกรรม B ใหน ักเรยี น Read aloud คาํ ส่ังและคาํ ช้ีแจงใน Exam Task - ครูทบทวนคําสัง่ คาํ ชแ้ี จง อธบิ ายเพ่ือใหนักเรียนเขาใจและปฏบิ ัติตาม the Exam Reminder - ครูใหนักเรียนเตรียมความพรอมเพ่ือการฟงอยางมีประสิทธิภาพ โดยครูใหนักเรียน Read carefully the cloze sentence และสังเกตคาํ /วลีทอ่ี ยูหนา ชองวางเพื่อใชเปน ตัวชแี้ นะคําตอบ - เม่อื นกั เรียนพรอ มครูเปด ซดี ี Track 7.1 ใหน กั เรยี นฟง 1-2 ครัง้ โดยครูเปด ซดี ีแลว หยุดเลนเปนชว งๆ เพ่ือใหนักเรียน มีเวลาคดิ และตดั สนิ ใจ - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียน Read aloud คําตอบและครูเขียนคําตอบของนักเรียนบนกระดานและให นกั เรยี นฟงซดี ซี า้ํ เฉลยคาํ ตอบ 1. northeast 2. 28 3. long 4. 2,600 5. wettest คูม ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศึกษาปท ่ี 3

455 455 3. กจิ กรรม C หลังจากทค่ี รูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียน Read aloud คําตอบแลว ครูใหนกั เรียนฟง ซดี ีในกจิ กรรม B ซํา้ อีกคร้งั เพ่ือใหน ักเรยี นยนื ยนั คําตอบ 6. การวดั และประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน วธิ กี าร คะแนน ผลการประเมิน 1. สังเกต 18-20 ดมี าก 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 2. ประเมินทักษะ แบบประเมินทกั ษะการฟง -การพูด คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดมี าก การใชภาษา แบบประเมินทกั ษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. สื่อ/แหลงการเรยี นรู หนังสอื Close-up 3 Unit 7 It’s Raining Cats & Dogs เรอ่ื ง Listening กจิ กรรม A-G หนา 90 หนงั สอื Workbook Close-up 3 Unit 7 It’s Raining Cats & Dogs เร่อื ง Listening กจิ กรรม A-C หนา 50 Audio CD Track 7.1, 7.2 และ 7.3 8. บนั ทึกหลงั การจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที่ 3

456 456 หนว ยการเรยี นรูท่ี Unit 7 เร่ือง It’s Raining Cats & Dogs แผนการจัดการเรยี นรทู ่ี 10 เรอ่ื ง Speaking: Weather Forecast รหัสวชิ า................. รายวิชาพน้ื ฐานภาษาองั กฤษ ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ 3 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ปการศึกษา 25……….. ภาคเรียนที่ 2 เวลา 1 ชั่วโมง ผูส อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ช้วี ดั ต 1.2 ม.3/4 พูดและเขยี นเพื่อขอและใหขอมูล อธิบาย เปรยี บเทียบ และแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับเรอื่ งทฟ่ี ง หรืออาน อยางเหมาะสม 2. จุดประสงคก ารเรียนรู ฟง พูด อาน และเขียนเพื่อขอและใหขอมูลเก่ียวกับ Weather โดยใชสํานวนภาษาและโครงสรางภาษาเกี่ยวกับ Asking questions about weather, Describing differences and similarities ท่กี ําหนดใหไ ดอยา งถูกตอ งเหมาะสม 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูเกีย่ วกับสํานวนภาษาโครงสรางภาษาเก่ียวกับ Asking questions about weather, Describing differences and similarities และกจิ กรรมฝกทักษะการคดิ กระบวนการฝกทักษะทางภาษาทัง้ 4 ทักษะโดยเฉพาะอยางยิ่งทักษะการฟง การพูด โดยใช กระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพือ่ การสอื่ สาร ทําใหผเู รียนมปี ระสิทธิภาพในการสือ่ ความ มีเจตคติทดี่ ตี อภาษาอังกฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Vocabulary: สํานวนภาษาเก่ียวกับ Asking questions about weather, Describing differences and similarities 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรียนภาษาทงั้ 4 ทกั ษะ โดยเฉพาะอยางยิ่งทักษะการฟง การพดู - ทักษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการส่อื สาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มปี ระสิทธภิ าพในการสอื่ ความ 5. กิจกรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูนาํ ความสนใจของนกั เรยี นเขาสูบทเรียนในชัว่ โมงนดี้ ว ยคําถามตอไปนี้ Q 1: Do you like sunny day or cloudy day? Q 2: How would you feel if it’s a wet day? 2. นักเรียนใหค าํ ตอบอยางหลากหลาย 3. ครูยอมรบั ทุกคาํ ตอบ และเชื่อมโยงเขา สูกิจกรรมการเรียนการสอน  Presentation 1. ครูสอนสาํ นวนภาษาใน Useful Expressions ดังน้ี - ใหนักเรียน Read aloud Useful Expressions โดยครอู ธิบายพรอมท้งั ยกตัวอยา งประกอบใหนักเรียนชวยกันคดิ หา คํามาเติมในประโยคตัวอยาง ไดแ ก 1.1 Asking questions about weather ไดแ ก คมู อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศึกษาปท่ี 3

457 457 - When will there be snow? - Will it rain on Monday/……….. ? - Which city has the warmest weather? - What will the temperature be in Praque/……….. ? - Which city is the best weather? 1.2 Describing differences ไดแก - On Saturday/……….., Madrid/……….. will be colder than Athen/……….. . - There will be more rain in Oslo/……….. than in Stockholm/……….. . - Miami/……….. will be hotter/……….. than Chicago. 1.3 Describing similaritiesไดแ ก - London/……….. is as sunny/……….. as Rome/……….. today. - It’s cold and wet/……….. and ……….. in Paris and Amsterdam/……….. and ……….. . - ครูใหนักเรียนจบั คฝู ก พูดประโยค โดยผลัดกันเปนผถู ามและผตู อบคําถาม - ครใู หเวลานักเรยี นไดฝ ก พดู โดยครสู งั เกต ชว ยเหลือ แนะนาํ แกป ญหา 2. ครูทบทวน Speaking Strategies: No understanding what people say: สาํ นวนพดู เพ่ือใหค ูสนทนารูวา ผพู ูดไม เขาใจ ฟงไมช ัดเจน หรอื รสู กึ ไมแ นใจ ไดแก - Could you repeat that, please? - I’m sorry I don’t understand. - Do you mean …? - So I got right at the bank? - I’m not sure what you mean. 3. ครูสอนคาํ ศัพทส ํานวนในกจิ กรรม A-D โดยใหนักเรียนมีสวนรวมครูใหนักเรียนสํารวจคําศัพทในกิจกรรมแลวขีดเสนใต คาํ ท่นี กั เรียนไมรคู วามหมาย จากน้ันใหนักเรยี นบอกคําศัพทท่ีไมรูความหมาย โดยครูเขียนบนกระดาน ถานักเรียนอานไมไดใหสะกด ตัวอกั ษร - ใหนกั เรียนทั้งช้ันชวยกันคนคําศัพทที่ไมรูความหมาย ขีดเสนใตกํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของ คาํ ศพั ท จากตาํ แหนงภายในประโยค แลวนักเรียนบอกหมวดหมขู องคาํ ศัพทเหลา นี้ โดยครูเขยี นลงใน Word Box บนกระดาน - ใหน ักเรียนแบงกนั /ชว ยกันคน หาความหมายของคาํ ศพั ทเหลานี้ พูดบอกความหมายครูเขียนความหมายของคําศัพทท่ี นกั เรียนบอกและเพมิ่ เติมความหมายของคําศัพทบางคาํ ใหส มบรู ณ ครเู ลือกคาํ /วล/ี ประโยคทม่ี ีความหมายนา สนใจมาอธบิ าย - ใหนักเรียน Read aloud คําศัพทบนกระดาน ถาคําใดนักเรียนอานไมไดใหครูชวยอานนํา โดยครูเนนย้ําใหนักเรียน ปฏบิ ตั ิตามวธิ ีการออกเสียงคําหลายพยางค ไดแ ก เสียงเนน หนกั ในคาํ (Word Stress) 1. คํา 2 พยางคข ึ้นไป เสยี งเนน หนักสดุ (primary stress) มักจะอยูทพ่ี ยางคต นของคาํ เชน thirty, colder, warmest, temperature, weather, country, Monday, Tuesday, Wednesday, Thursday, Friday, Saturday, Sunday, difference, sunniest, forecast, useful, rainy, city, foggy, stormy, question เปน ตน 2. คาํ 2 พยางคข ึ้นไป เสียงเนน หนกั สดุ (primary stress) อยทู พ่ี ยางคที่ 2 ของคาํ เชน similarity, complete, correct, expression, fourteen เปน ตน 3. คําทีม่ กั อา นผดิ และออกเสียงผดิ ไดแก Wednesday (อา นวา เวน ซ-เดย ไมใ ช เวด็ -เนส-เดย) คมู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที่ 3

458 458 - ใหนักเรยี นคัดลอก Word Box และคําศัพททเ่ี ก่ยี วของลงในสมดุ คําศพั ทข องตนเอง  Practice ครใู หน กั เรยี นเปด หนงั สือเรียน Close-up 3 หนา 91 นักเรียนปฏิบตั กิ ิจกรรมตอ ไปน้ี 1. กิจกรรม A ใหนักเรียน Read aloud คําสั่งและบอกส่ิงท่ีตองปฏิบัติในกิจกรรมนี้ ครูทบทวนคําสั่ง อธิบาย และ กําหนดใหน ักเรยี นทํากจิ กรรม ดงั นี้ - กจิ กรรม Speaking เกีย่ วกบั รูปภาพที่กําหนดให โดยครูชี้แนะ Speaking Model ครูกระตุนใหนักเรียนพูดโตตอบ และแสดงความคดิ เหน็ โดยครใู หนกั เรยี นสาํ รวจดูรปู ภาพ 1-4 แลวครใู ชคาํ สง่ั และคําถาม ดงั น้ี Look at each picture. Ask and answer the questions. Q 1: What the weather in each picture is like? Q 2: Which weather is the most usual in your country? - ใหน ักเรียนจบั คกู บั เพือ่ นพูดโตต อบ ใหข อมูลเกี่ยวรูปภาพแตล ะภาพ และแสดงความคดิ เหน็ - ครูรับฟง คาํ ตอบ สนับสนนุ คาํ ตอบ และสรปุ คําตอบของนักเรียนเปน Speaking Model ดงั น้ี Q 1: What’s the weather in picture A/… like? Question It is rainy /…………… . Suggested answer - ครใู หเวลานักเรยี นฝกพดู ถามและใหค ําตอบกบั เพ่ือนคนอื่นๆ ในหอง โดยครู Walk around เพ่ือสังเกตชวยเหลือ แนะนํา แกป ญหา - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียนพดู บอกคําตอบ และเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ Students’ own answers 2. กจิ กรรม B ใหนักเรียน Read aloud คาํ ส่งั และบอกส่งิ ท่ตี อ งปฏบิ ตั ิในกิจกรรมนี้ - ครทู บทวนคําสั่ง และใหนกั เรยี น Read aloud ประโยค 1-7 เพื่อคน หาคําสาํ คัญซ่ึงจะเปนตัวชี้แนะคําตอบแลวขีดเสน ใตกํากับ - ใหนักเรียนนําคําท่ีขีดเสนใตของคําถามแตละขอเปนคําสําคัญในการอาน Weather Forecast เพื่อคนหาคําตอบ (Scanning reading) - ครใู หเ วลานักเรียนในการคน หา คิด วเิ คราะห และเขียนคําตอบ จากนั้นใหนักเรียนนําคําตอบไป Discuss, Compare and share กบั เพ่อื นในหอง - ครตู รวจสอบคําตอบ และเหตผุ ล และครเู ฉลยคําตอบ 1. Thursday 2. Thursday เฉลยคาํ ตอบ 5. Thursday 6. Sunday 3. Tuesday 4. Sunday (Suggested answer) 7. Monday - ครทู บทวนโดยใหนกั เรียน Read aloud คาํ ถาม และคําตอบ 3. กิจกรรม C ใหนกั เรยี น Read aloud คําส่ังและบอกสง่ิ ทต่ี องปฏิบตั ิในกิจกรรมน้ี - ครทู บทวนคาํ สง่ั และใหน กั เรยี น Read aloud the Exam Close-up ครอู ธิบาย คูม ือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3

459 459 - จากนั้นใหนักเรียน Read aloud the Exam Task ครอู ธบิ ายใหนักเรยี นเขา ใจและมคี วามมั่นใจในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมที่ กําหนดอยา งถูกตอ ง เหมาะสม - ใหนักเรียนจับคูกับเพื่อนสวมบทบาทเปน Student A และ Student B ทํากิจกรรม Exam Task โดยกําหนดให นักเรียน ดงั น้ี What to do: Student A ใชค ําถามหนา 123 ถามเกี่ยวกับ Weather Forecast 1 และ Student B ใชคําถามหนา 124 ถามเกี่ยวกับ Weather Forecast 2 How to do: ใหนักเรียน A และ B อานขอมูลของตนเองซ่ึงเปน Weather Forecast แลวตั้งคําถามเพื่อขอคําตอบ จากนัน้ นําคําถามไปใชถ ามคูส นทนาซ่งึ เปนขั้นตอนในกิจกรรมตอไป (กิจกรรม D) ใหนักเรียนตรวจสอบความถูกตองของคําถาม โดย แลกเปลี่ยนกนั ตรวจสอบแนะนาํ ปรับปรงุ แกไข - ระหวางที่นักเรียนทํากิจกรรม ครู Walk around ครูสังเกต สนับสนุน แนะนํา ชวยเหลือ แกปญหา ครูตรวจสอบ คําตอบครูตรวจสอบโดยใหนักเรียน 3-6 คใู หน ักเรยี นพดู บอกคาํ ถาม ดังน้ี เฉลยคําตอบ Student B’s questions Student A’s questioms Where/Which cities are the weather forecast for? Where/Which cities are the weather forecast for? Which city will be warmer/colder on Monday? Which city will be warmer/colder on Monday? When/where will it rain? Which city will be hotter on Tuesday? Do you think which city will have the best When/where will there be a storm? weather? Do you think which city will have the best weather? 4. กิจกรรม D เปนกิจกรรมท่ีตอเนื่องจากขั้นท่ี 1 เตรียมคําถามของกิจกรรม C หลังจากที่นักเรียน A และ B อานขอมูล ของตนเองซงึ่ เปน Weather Forecast แลวตัง้ คําถามเพือ่ ขอคาํ ตอบ ใหน กั เรยี นนําคําถามไปใชถ ามคูส นทนา ดงั น้ี ข้นั ถาม-ตอบ ตามขอกําหนดใน Task 1 และ Task 2 Task 1: B asks & A answers Student B, ask Student A about A’s weather forecast by using the right questions. Student A, listen to what Student B will ask and give the right answers. Task 2: A asks & B answers Student A, ask Student B about B’s weather forecast by using the right questions. Student B, listen to what Student A will ask and give the right answers. ขน้ั ตรวจสอบคําตอบ ใหนกั เรียนผลดั กัน Read aloud the the weather forecast เพอ่ื ทบทวนและตรวจสอบคาํ ตอบ - ระหวางท่ีนักเรียนทํากิจกรรม ครู Walk around ครูสังเกต สนับสนุน แนะนํา ชวยเหลือ แกปญหา ครูตรวจสอบ คําตอบครูตรวจสอบโดยเลือกนักเรยี น 3-6 คูใหนกั เรียนพูดบอกคําตอบ และเฉลยคาํ ตอบ คมู ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ี่ 3

460 460 เฉลยคําตอบ Task1 Student B Student A Where/Which cities are the weather forecast for? They are for Lisbon and Berlin. Which city will be warmer/colder on Monday? On Monday Berlin will be warmer, and cloudy; Lisbon will be warm and rainy. When/where will it rain? On Monday it will rain in Lisbon. Do you think which city will have the best I think Berlin will have the best weather weather? because the temperature will be 20-22°C and it will be cloudy and sunny. Task 2 Student A Student B Where/Which cities are the weather forecast for? They are for New York and Los Angeles. Which city will be warmer/colder on Monday? On Monday New York will be warmer and sunny; Los Angeles will be hot. Which city will be hotter on Tuesday? On Tuesday Los Angeles will be hotter than New York. When/where will there be a storm? On Tuesday there will be storm in Los Angeles./ On Tuesday Los Angeles will be stormy. Do you think which city will have the best I think New York will have the best weather weather? because the temperature will be 19-23°C and it will be sunny and foggy.  Production กจิ กรรม Ideas Focus ใหน กั เรียน Read aloud คําสงั่ และพดู บอกสง่ิ ที่ตอ งทําในกิจกรรมน้ี ครูทบทวนคําส่ังและชแ้ี นะ วิธีการโดยใหนกั เรียนมสี ว นรวมในการคิดกิจกรรมในขน้ั ตอนของการเตรียมเรื่องทจ่ี ะพูด ใหน กั เรียนทาํ กิจกรรมเปนกลมุ กลุมละ 4-6 คน และครกู าํ หนดขัน้ ตอนของกจิ กรรมการพดู ดงั น้ี ขนั้ ท่ี 1 Pre-Speaking  Focus ideas ครแู นะใหนักเรยี นทกุ กลมุ เร่มิ กจิ กรรมจากการอานคาํ ถาม แลว Discuss อยางหลากหลายแลวเขียน ความคิดเห็นของสมาชกิ ทกุ คนลงในกระดาษ จากนัน้ ชว ยกนั วเิ คราะหแ ละสังเคราะหมาเปนกรอบในการเขยี นคําตอบของกลุม  Make a draft of Speaking Model ใหน กั เรียนเขียนคําตอบตามกรอบในการเขียนคําตอบท่ีไดจากขั้น Focus ideas โดยใชคําศัพท สํานวนพูดโครงสรางภาษา Explaining Why และสํานวนภาษาจาก Exam Close-up, Useful Expression ที่ เกยี่ วขอ ง  Revise the draft ใหนักเรียนตรวจสอบทบทวนสง่ิ ทีเ่ ขียน ความถูกตอง ความสอดคลอ ง ความครบถวน และความ เหมาะสมของ a draft of Speaking Model คูมอื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท่ี 3

461 461  Compare and Share ใหนักเรียนนํา Speaking Model ท่ีเขียนไปเปรียบเทียบกับเพ่ือนและปรับปรุงคําตอบ เพ่อื ใหได Speaking Model ทคี่ รบถว นถกู ตอ งและเหมาะสม แลว คดั ลอก Speaking Model ลงสมุดแบบฝก หดั ของนกั เรยี น  Practice ใหน ักเรยี นใช Speaking Model ของตนฝกพดู กบั เพ่ือน ขน้ั ท่ี 2 While-Speaking  ใหนักเรียนใช Speaking Model ของตนพดู กบั เพ่อื นโดยผลดั กันเปนผูพดู และผฟู งทด่ี ี  ครูใหเ วลานักเรยี นทํากิจกรรมโดยครูสังเกต แนะนาํ ชวยเหลือ แกปญหา ขั้นที่ 3 Post-Speaking  ครูกําหนดเวลา และใหน กั เรียนทาํ กิจกรรมนอ้ี ยางอิสระ เมอื่ หมดเวลาครูตรวจสอบคําตอบโดยเลือกนักเรียนจํานวน 3-4 กลุมออกมาพดู ถาหากมีเวลาไมเพียงพอ ครูใหน กั เรียนทาํ กิจกรรมน้ใี นช่วั โมงตอ ไป หรอื นดั หมายใหทํานอกช้นั เรยี น  ครูสรปุ บทเรยี น ตอบขอซกั ถามของนักเรียน 6. การวัดและประเมนิ ผล วธิ กี าร เครื่องมอื เกณฑ 1. สงั เกต แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมนักเรยี น คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดีมาก 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 2. ประเมินทกั ษะ แบบประเมนิ ทกั ษะการฟง-การพดู คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดมี าก การใชภาษา แบบประเมินทกั ษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 7. สอื่ /แหลงการเรยี นรู หนังสอื เรียน Close-up 3 Unit 7 It’s Raining Cats & Dogs เรอื่ ง Speaking กจิ กรรม A-D และ Ideas Focus หนา 91 8. บันทึกหลังการจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มัธยมศึกษาปที่ 3

462 462 หนว ยการเรยี นรูท่ี 7 เร่ือง It’s Raining Cats & Dogs แผนการจัดการเรียนรูที่ 11 เรื่อง Writing 1: A Postcard รหสั วชิ า................. รายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ี่ 3 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ปก ารศึกษา 25……….. ภาคเรียนที่ 2 เวลา 1 ชั่วโมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ช้ีวัด ต 1.2 ม.3/4 พูดและเขยี นเพอ่ื ขอและใหขอมลู อธบิ าย เปรยี บเทียบ และแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับเร่ืองท่ีฟงหรอื อา นอยา ง เหมาะสม ต 2.1 ม.3/1 เลือกใชภ าษา นํา้ เสยี ง และกริ ิยาทาทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของ เจาของภาษา ต 4.1 ม.3/1 ใชภ าษาสอ่ื สารในสถานการณจ รงิ /สถานการณจาํ ลองทเ่ี กิดขึน้ ในหองเรียน สถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม 2. จดุ ประสงคการเรียนรู อานและเขียน A Postcard โดยใช คาํ ศพั ท สาํ นวนภาษา และโครงสรางภาษา การเช้ือเชิญและตอบรับหรือปฏิเสธการเชื้อ เชญิ โดยใหเหตผุ ลอยางเหมาะสม 3. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรูเกี่ยวกบั การอาน เขยี น A Postcard คําศัพท สาํ นวนภาษา และโครงสรา งภาษา การเชื้อเชิญและตอบรับหรือปฏิเสธ การเชื้อเชญิ โดยใหเหตผุ ลอยางเหมาะสม กระบวนการฝกทกั ษะทางภาษาท้ัง 4 ดานโดยเฉพาะอยางยิ่งทักษะการฟง การพูด โดยใช กระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพอ่ื การสื่อสาร ทําใหผ ูเรยี นสอื่ สารไดอ ยา งมปี ระสทิ ธิภาพ มีเจตคติทดี่ ีตอการเรยี นภาษาองั กฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Grammar: A Postcard คําศัพท สาํ นวนภาษา และโครงสรา งภาษา การเช้ือเชิญและตอบรับหรือปฏิเสธการเช้ือเชญิ 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรียนภาษาท้งั 4 ทกั ษะ การฟง การพูด การอา น และการเขยี น - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการสอื่ สาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มีเหตผุ ล มีวจิ ารณญาณ 5. กิจกรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครนู าํ ความสนใจของนกั เรยี นในชั่วโมงนด้ี วยคาํ ถามตอ ไปนี้โดยครเู ขยี นบนกระดานใหนักเรียนอานออกเสยี งดังๆ พรอม กัน Q: Do you think what postcard should be like? 2. นกั เรียนใหค าํ ตอบอยางหลากหลาย 3. ครูเขยี นทกุ คาํ ตอบของนกั เรียนบนกระดาน และเชื่อมโยงเขาสูกจิ กรรมการเรียนการสอน  Presentation 1. ครูสอนคําศพั ทใ นกจิ กรรม A-C โดยใหนกั เรียนมีสวนรวม ดงั นี้ คมู ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศึกษาปที่ 3

463 463 - ใหนกั เรียนทั้งช้ันชวยกันคนคําศัพทท่ีไมรูความหมาย ขีดเสนใตกํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของ คาํ ศัพทจากตําแหนง ภายในประโยค แลวนักเรยี นบอกหมวดหมขู องคาํ ศพั ทเหลา นี้ โดยครเู ขียนลงใน Word Box บนกระดาน - ใหนกั เรยี นแบง กัน/ชวยกันคน หาความหมายของคาํ ศพั ทเหลาน้ี พูดบอกความหมายครูเขียนความหมายของคําศัพทที่ นักเรยี นบอกและเพม่ิ เตมิ ความหมายของคําศัพทบางคําใหส มบรู ณ ครเู ลือก คาํ /วล/ี ประโยคทมี่ ีความหมายนาสนใจมาอธบิ าย - ใหนักเรียน Read aloud คําศัพทบนกระดาน ถาคําใดนักเรียนอานไมไดใหครูชวยอานนํา โดยครูเนนยํ้าใหนักเรียน ปฏบิ ัติตามวธิ กี ารออกเสยี งคาํ หลายพยางค ไดแ ก เสยี งเนนหนกั ในคํา (Word Stress) 1. คํา 2 พยางคขนึ้ ไป เสยี งเนน หนกั สดุ (primary stress) มกั จะอยทู ี่พยางคต น ของคํา เชน postcard, simple, weather, greeting, Monday, Tuesday, morning, sunny, coastal, photo, moment, raining, tour guide, bike ride, building, beautiful, focus,label, holiday, restaurant, visit เปนตน 2. คาํ 2 พยางคขึ้นไป เสยี งเนน หนักสุด (primary stress) อยูท ่พี ยางคท ่ีสองของคาํ เชน continue, arrive, exhausted, tomorrow, expression, variety, remember, already, again, unfortunately, decide, complete, museum, activity, address เปน ตน 3. คาํ ทม่ี ักอานผิดและออกเสียงผดิ ไดแ ก Wednesday (อา นวา เวนซ-เดย ไมใช เวด็ -เนส-เดย เพราะไมอ อกเสยี ง d ใน คําน)้ี , exhaust (อานวา อกิ -ซอส ไมใ ช เอกซ-ฮอส เพราะไมออกเสียง h ในคําน)ี้ ในภาษาอังกฤษพยัญชนะที่ไมออกเสยี งในบางคาํ เรียกวา Silent letter เชน sign (ไมออกเสยี ง g), often (ไมออกเสยี ง f), exhaust (ไมอ อกเสยี ง h) เปน ตน - ใหนักเรียนคดั ลอก Word Box และคาํ ศพั ทท เ่ี ก่ียวของลงในสมดุ คําศัพทข องตนเอง 2. ครูสอน Learning Focus ใหนักเรยี น Read aloud ขอ ความ ครูอธบิ ายและยกตวั อยางประกอบ  Practice ครใู หน ักเรยี นเปดหนงั สอื Close-up 3 หนา 92 นกั เรยี นปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตอ ไปน้ี 1. กิจกรรม A ใหนักเรยี น Read aloud คาํ สงั่ และพูดบอกสิ่งที่นักเรยี นตองปฏิบตั ิในกิจกรรมน้ี - ใหนักเรียน Read carefully ประโยค 1-5 เพ่ือคนหาและขีดเสนใตตัวช้ีแนะคําตอบที่กําหนด Tenses ซึ่งไดแก adverb of time (time expression) ซึ่งมักวางไวท า ยประโยค - ครูตรวจสอบความแมนยําในการคนหาตัวชี้แนะคําตอบท่ีกําหนด Tenses โดยใหนักเรียน Read aloud adverb of time ของประโยคท่ี1-5 ตัวชแ้ี นะคาํ ตอบ 4. for the last two days 1. at the moment 2. last night 3. tomorrow 5. at 3 o’clock tomorrow afternoon - ครูใหนกั เรียนบอก Tenses ของกริยาในแตละประโยค จากน้ันใหเ วลานักเรียนเขยี นคําตอบ - ใหนกั เรียนนาํ คําตอบทีไ่ ดไป Discuss and share the answers - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนักเรยี นอา นคาํ ตอบพรอมกัน และบอกเหตผุ ล ครูอธิบาย และเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. are having 2. went 3. are goig to visit 4. hasn’t been 5. are meeting/are going to meet คูมือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปท่ี 3

464 464 2. กจิ กรรม B ใหน กั เรยี น Read aloud คาํ สั่ง และพูดบอกสิง่ ทนี่ ักเรียนตอ งปฏบิ ตั ใิ นกิจกรรมนี้ - ใหน กั เรียน Read aloud ตวั เลอื กและบอกความหมาย - ครูอธบิ ายสว นประกอบของ postcard และเช่อื มโยงกบั คําศัพทท ี่เปน ตัวเลือก - ใหน ักเรยี น Read carefully the postcard และวงกลมลอ มรอบสวนประกอบทกี่ ําหนดใหใ นตวั เลือก - ครใู หนกั เรียนนาํ คําตอบทีไ่ ดไ ป Discuss and share the answers - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรยี นอา นคาํ ตอบพรอ มกนั และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ Thursday, 15th Sept = date Hi Phoebe = greeting How are you? = starting sentence I’ll tell you more when we get back. = ending sentence Love, Lucy = sign off (top right-hand corner) = stamp 3. กิจกรรม C ใหนกั เรียน Read aloud คาํ สั่ง และพูดบอกสง่ิ ทีน่ ักเรียนตองปฏบิ ัติในกจิ กรรมนี้ - ใหนักเรียน Read carefully Lucy’s postcard โดยใหนักเรียน focus on the verbs และขีดเสนใต verbs ทุกตัว และบอก Tenses ของ verbs เหลาน้ัน - ครตู รวจสอบคาํ ตอบโดย ใหน ักเรียนพูดบอกคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ I’m writing, told, love, arrived, went, was raining, couldn’t go, was, went, It’s, was, We’ve just visited, were, we’re driving, we’re going to get on, start, can’t wait, I’m going to take, I’ll tell, get Tenses = Present Continuous (some for present activities, some for future arrangements), Present Simple, Past Simple, Past Continuous, Present Perfect, be going to, future (will)  Production กจิ กรรม Expand Your Ideas ครูกาํ หนดเอง โดยประยกุ ตจ ากกิจกรรม C Write a postcard to your friend ,telling about your wonderful holiday somewhere. - ครูชแี้ นะวธิ ีการเขียน ใหเวลานกั เรียนเขียนอยางอิสระ - ครูสรุปบทเรยี นและกาํ หนดนัดหมายใหน ักเรียนการสง งาน 6. การวัดและประเมนิ ผล วิธกี าร เคร่อื งมือ คะแนน เกณฑ 1. สงั เกต แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมนักเรียน 18-20 15-17 ผลการประเมนิ 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผา น คูม ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศึกษาปท่ี 3

465 465 วิธีการ เครอื่ งมือ คะแนน เกณฑ 18-20 2. ประเมนิ ทกั ษะ แบบประเมินทักษะการฟง-การพูด 15-17 ผลการประเมนิ การใชภาษา แบบประเมนิ ทักษะการอาน-การเขียน 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผาน 7. สอ่ื /แหลง การเรียนรู หนงั สือ Close-up 3 Unit 7 It’s Raining Cats & Dogs เร่อื ง Writing กจิ กรรม A-C หนา 92 8. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูม อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศึกษาปท ี่ 3

466 466 หนว ยการเรยี นรทู ่ี 7 เรือ่ ง It’s Raining Cats & Dogs แผนการจัดการเรียนรทู ี่ 12 เรื่อง Writing 2: Brief Notes รหัสวิชา................. รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาอังกฤษ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท่ี 3 กลุมสาระการเรียนรูภ าษาตางประเทศ ปก ารศกึ ษา 25……….. ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 1 ชวั่ โมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชวี้ ัด ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขียนโตตอบขอมูลเก่ียวกับตนเอง เรอื่ งตางๆ ใกลตัว สถานการณ ขา ว เรอื่ งที่อยใู นความสนใจ ของสงั คมและสอื่ สารอยางตอ เน่ืองและเหมาะสม ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขยี นเพอื่ ขอและใหขอมูล อธิบาย เปรยี บเทียบ และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเรอ่ื งที่ฟง หรืออาน อยางเหมาะสม 2. จุดประสงคก ารเรียนรู เขียนและอา น Brief Notes เพ่ือแสดงความคดิ เห็น อธิบาย ขอและใหขอมูล โดยใชค ําศพั ท สํานวนภาษา และโครงสรา ง ภาษา ท่กี ําหนดใหไดอยา งถูกตอ ง เหมาะสม 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) การเขียนและการอานเกีย่ วกับ Brief Notes และกิจกรรมฝกทักษะการคดิ กระบวนการฝกทักษะทางภาษาทั้ง 4 ดา น โดยเฉพาะการอา นและการเขยี นโดยใชกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร ทาํ ใหผ ูเรียนสอ่ื สารไดอยา งมีประสทิ ธภิ าพ มีเจต คตทิ ีด่ ีตอการเรยี นภาษาอังกฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Grammar: โครงสรางภาษาเก่ยี วกบั Brief Notes 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรียนภาษาทง้ั 4 ทกั ษะ การฟง การพดู การอาน และการเขยี น - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการสือ่ สาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มปี ระสทิ ธิภาพในการส่ือความ - มีเหตุผล มีวิจารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครนู ําความสนใจของนกั เรียนเขาสบู ทเรยี นในชว่ั โมงนี้โดยครูใหนักเรียนตอบคาํ ถาม ดงั น้ี Q: Do you think what your school field trip is like? 2. ครเู ขียนทกุ คําตอบของนักเรียนบนกระดาน และเชื่อมโยงเขา สกู ิจกรรมการเรียนการสอน  Presentation 1. ครูสอนคาํ ศพั ทในกิจกรรม A-C โดยใหน กั เรยี นมีสวนรวม ดงั น้ี - ใหน กั เรียนท้ังช้ันชวยกันคนคําศัพทที่ไมรูความหมาย ขีดเสนใตกํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของ คําศพั ทจากตําแหนงภายในประโยค แลวนักเรยี นบอกหมวดหมขู องคําศพั ทเหลา น้ี โดยครเู ขียนลงใน Word Box บนกระดาน คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศึกษาปท่ี 3

467 467 - ใหน ักเรียนแบง กนั /ชว ยกนั คนหาความหมายของคําศพั ทเหลานี้ พูดบอกความหมายครูเขียนความหมายของคําศัพทท่ี นักเรยี นบอกและเพ่มิ เตมิ ความหมายของคาํ ศพั ทบางคําใหสมบรู ณ ครเู ลือกคํา/วล/ี ประโยคที่มคี วามหมายนา สนใจมาอธบิ าย - ใหนักเรียน Read aloud คําศัพทบนกระดาน ถาคําใดนักเรียนอานไมไดใหครูชวยอานนํา โดยครูเนนยํ้าใหนักเรียน ปฏิบัตติ ามวิธีการออกเสยี งคําหลายพยางค ไดแก เสยี งเนน หนกั ในคาํ (Word Stress) 1. คาํ 2 พยางคข ้นึ ไป เสียงเนน หนักสุด (primary stress) มักจะอยทู พี่ ยางคตนของคํา เชน present, family, postcard, carefully, answer, cover, tower, football, airport, heavily, city, shopping, useful, country, morning, planning, minute, yesterday, sentence, future, history, Monday, Tuesday, Wednesday, Thursday, Friday, Saturday, Sunday เปน ตน 2. คาํ 2 พยางคข ึ้นไป เสยี งเนน หนกั สดุ (primary stress) อยทู ่พี ยางคท ่ี 2 ของคาํ เชน remember, include, return, imagine, expression, museum, arrive, activity, tomorrow, before, another, between, - ใหน ักเรียนคดั ลอก Word Box และคําศัพทท ่ีเก่ียวของลงในสมุดคาํ ศพั ทของตนเอง 2. ครูสอน Useful expressions ใหน ักเรียน Read aloud ประโยคโดยเลือกคํา/วลีจากกิจกรรม D มาเติมกอนเพื่อใหได ประโยคสมบรู ณ ครูเนนยํา้ การเลอื กใชT enses ใหเ หมาะสมกับกิจกรรม 3. ครูทบทวนโครงสรางประโยค Present simple, Present continuous, Present Perfect, Past simple, Past continuous และ Future simple รวมท้งั Time expressions ท่สี ําคัญของแตล ะ Tense ไดแ ก Past activities Present activities Future activities 1. Past simple 1. Present simple 1. Future simple (S + verb in past form + …) (S + verb + -s/-es or is/am/are + ...) (S + will + verb in base form + ...) Time expressions: yesterday, last, ago, Time expressions: now, right now, Time expressions: tomorrow, next, ... … ... 2. Present Perfect 2. Present continuous 2. Present continuous (S + has/have + verb in past participle (S + is/am/are + v-ing + …) (S + is/am/are + v-ing + ...) + …) Time expressions: now, right now, Time expressions: now, right now, Time expressions: for, since, yet, at the moment, while, ... at the moment, while, ... already, …  Practice ครใู หนกั เรยี นเปด หนงั สอื Close-up 3 หนา 93 นักเรียนปฏิบัตกิ ิจกรรมตอ ไปนี้ 1. กิจกรรม D ใหน ักเรยี น Read aloud คาํ ส่งั และบอกสง่ิ ท่ีนกั เรียนตองปฏบิ ตั ิในกจิ กรรมน้ี - ครูทบทวนคาํ สง่ั ชี้แนะวิธกี ารเขียน postcard โดยใหน ักเรียนทบทวนสํานวนภาษาใน Useful expressions - ใหนักเรียน Read carefully the postcard และคิดหา verb ที่เกี่ยวของกับแตละกิจกรรม และเลือกใช Tense ท่ี เหมาะสม - ครใู หเวลานักเรยี นเขียนคําตอบตามหัวขอท่กี ําหนด โดยครูสังเกต ชว ยเหลอื แนะนาํ แกป ญ หา - ใหนกั เรียนนาํ คาํ ตอบที่ไดไ ปแลกเปลี่ยนกบั เพ่ือน เพ่อื ตรวจสอบความถูกตองของตัวสะกด เคร่ืองหมาย และโครงสราง ประโยค (Tenses) - จากน้ันใหนักเรียนปรับปรงุ งานเขยี นกอนนําไป Compare and Share กบั เพอื่ นในหอ ง คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท่ี 3

468 468 - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรียนพูดบอกคําตอบพรอ มกัน และเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ Students’ own answers 2. กจิ กรรม E ใหน กั เรยี น Read aloud คาํ ส่งั และพดู บอกส่ิงท่นี ักเรยี นตอ งปฏบิ ัติ - ครูทบทวนคําส่งั อธิบาย และทบทวน Tenses and time expressions - เมื่อนักเรียนทุกคนเขาใจแลว ครูใหนักเรียน Read carefully ประโยคคําถามที่ 1-6 เพ่ือคนหาและขีดเสนใต verbs และ time expressions และเลือกใช Tenses และ Time expressions ที่สอดคลอ งกัน - ครูใหเวลานักเรียนคิดและเขียนคําตอบ และนําไป Compare and Share กับเพ่ือนในหองโดยครูสังเกต แนะนํา ชว ยเหลือ แกปญ หา - ครูตรวจสอบคําตอบโดยเลอื กนักเรียนพูดบอกคําตอบ ครูเขยี นคาํ ตอบบนกระดาน เฉลยคาํ ตอบ 1. Tomorrow we visit we’re visiting / we’re going to visit the Eiffel Tower. 2. Yesterday we’ve done we did a city tour. 3. It is was snowing heavily yesterday, so we couldn’t go out. 4. We going We are going to visit the art museum tomorrow. 5. We haven’t went been to the beach yet. 6. I’m write writing from Mombass in Kenya 3. กิจกรรม F ใหนักเรียน Read aloud คาํ สง่ั และพดู บอกสิง่ ที่นักเรยี นตอ งปฏบิ ัติ - ใหนักเรียน Read aloud the Exam Close-up โดยครูอธิบายและใหน ักเรียนยอนกลับไปดู note ในกิจกรรม D เนน ยาํ้ ใหนักเรียนเลอื กใชส ํานวนภาษาและ enses ที่เหมาะสมโดยครูใหน ักเรยี นทบทวน Useful expressions - ครูใหนกั เรียน Read carefully the Exam Task และขดี เสนใตคําสําคัญในคําสั่งของ the Exam Task ไดแก place, time เปนตน เพ่อื นําไปใชเปน กรอบในการเขยี น Note or Brief / note กอนนาํ ไปใชเขียน Postcard - ใหนักเรียนจับคูกับเพ่ือนการเขียน Note or Brief / note ใหครอบคลุมประเด็นที่กําหนด แลวนําไป Dicuss and Share กบั เพือ่ นในหอ ง - ครตู รวจสอบคําตอบโดยเลอื กนักเรยี นพูดบอกคําตอบ ครเู ขียนคาํ ตอบบนกระดาน เฉลยคําตอบ Students’ own answers  Production กิจกรรม G ครูชี้แนะวิธีการเขียน Postcard โดยใหนักเรียนนํา Brief note ในกิจกรรม F มาเขียนเปนประโยคใน Postcard ใหครอบคลุมประเด็นที่กําหนดและการเลือกใช tenses และแนะใหนักเรียนใช Adjectives เพ่ือใหเรื่องมีความนาสนใจ ย่งิ ขนึ้ - ใหนักเรียนจับคูกับเพื่อน เพ่ือนําคําตอบท่ีไดไปแลกเปลี่ยนกันตรวจสอบความถูกตองของการสะกดคําและการใช เคร่ืองหมายกอนนําไป Compare and Share กบั เพ่อื นในหอง คมู อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 3

469 469 - ครูตรวจสอบคําตอบโดยเลือกนักเรยี นพูดบอกคําตอบ ครูเขียนคาํ ตอบบนกระดาน ครสู รุปบทเรยี น เฉลยคําตอบ Hi Anna How are you? I’m in Prague on a school trip! Right now, I’m drinking coffee in the main square. Yesterday we had a guided tour of the city. Tomorrow we’re going to go shopping. I’ll buy you a souvenir! See you when we get back. Love, Karen 6. การวดั และประเมนิ ผล เครอื่ งมอื คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน 18-20 วธิ ีการ 15-17 ผลการประเมิน 1. สงั เกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี 2. ประเมนิ ทกั ษะ แบบประเมนิ ทกั ษะการฟง -การพดู พอใช คะแนน ผา น การใชภ าษา แบบประเมนิ ทักษะการอาน-การเขียน 18-20 15-17 ผลการประเมิน 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผาน 7. สื่อ/แหลง การเรียนรู หนงั สอื เรยี น Close-up 3 Unit 7 It’s Raining Cats & Dogs เร่อื ง Writing กจิ กรรม D-G หนา 93 8. บนั ทกึ หลังการจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที่ 3

470 470 หนวยการเรียนรทู ี่ 7 เร่อื ง It’s Raining Cats & Dogs แผนการจัดการเรียนรทู ่ี 13 เร่อื ง Writing 3 : A Postcard Back Home รหัสวชิ า................. รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาอังกฤษ ช้นั มธั ยมศึกษาปท่ี 3 กลมุ สาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ ปก ารศกึ ษา 25……….. ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 1 ช่ัวโมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ช้วี ดั ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขียนโตตอบขอมูลเกีย่ วกับตนเอง เรอ่ื งตางๆ ใกลตัว สถานการณ ขาว เรอ่ื งท่ีอยใู นความสนใจ ของสังคมและสอ่ื สารอยางตอ เน่ืองและเหมาะสม ต 1.2 ม.3/4 พูดและเขยี นเพื่อขอและใหขอ มูล อธบิ าย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั เร่อื งท่ีฟง หรืออาน อยา งเหมาะสม 2. จุดประสงคการเรียนรู เขียนและอา น postcard เพอื่ ขอและใหข อมูล อธิบายโดยใชสาํ นวนภาษาและโครงสรา งภาษาท่ีกําหนดใหถกู ตอง เหมาะสม กับระดับชน้ั เรียน 3. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรูเกี่ยวกับคําศัพทสํานวนภาษา โครงสรางภาษาที่ใชในการ writing a postcard และกิจกรรมฝกทักษะการคิด กระบวนการฝกทกั ษะทางภาษาท้งั 4 ดานโดยเฉพาะการอา นและการเขียนโดยใชก ระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ทําให ผูเรยี นสื่อสารไดอยา งมปี ระสทิ ธิภาพ มเี จตคติทด่ี ตี อ การเรยี นภาษาองั กฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Grammar: สํานวนภาษาท่ีใชในการ writing a postcard 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรียนภาษาทงั้ 4 ทกั ษะ การฟง การพดู การอา น และการเขียน - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการสือ่ สาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มปี ระสทิ ธภิ าพในการส่ือความ - มเี หตุผล มวี จิ ารณญาณ 5. กิจกรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครนู าํ ความสนใจของนักเรยี นเขาสบู ทเรียนในชัว่ โมงน้ีโดยครเู ขยี นประโยคคําถามตอไปนีบ้ นกระดาน Q: What do you think about being in another country? 2. ใหนักเรียน Read aloud ประโยคบนกระดานใหนักเรียน Discuss and give the answers นักเรียนใหคําตอบอยาง หลากหลาย และครยู อมรับทกุ คาํ ตอบครูเชื่อมโยงเขา สูบทเรยี น  Presentation 1. ครูสอนคําศพั ทในกจิ กรรม A-D โดยใหนักเรยี นมสี วนรว ม ดังนี้ คูมอื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศึกษาปที่ 3

471 471 - ใหน กั เรียนทั้งชั้นชวยกันคนคําศัพทท่ีไมรูความหมาย ขีดเสนใตกํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของ คาํ ศัพทจากตําแหนงภายในประโยค แลว นักเรียนบอกหมวดหมูของคําศัพทเ หลา นี้ โดยครูเขยี นลงใน Word Box บนกระดาน - ใหนกั เรียนแบง กนั /ชว ยกันคนหาความหมายของคาํ ศัพทเหลาน้ี พูดบอกความหมายครูเขียนความหมายของคําศัพทที่ นกั เรียนบอกและเพม่ิ เติมความหมายของคาํ ศพั ทบางคําใหสมบูรณ ครเู ลือกคาํ /วล/ี ประโยคทีม่ คี วามหมายนา สนใจมาอธิบาย - ใหนักเรียน Read aloud คําศัพทบนกระดาน ถาคําใดนักเรียนอานไมไดใหครูชวยอานนํา โดยครูเนนย้ําใหนักเรียน ปฏิบตั ติ ามวธิ ีการออกเสยี งคาํ หลายพยางค ไดแก เสยี งเนน หนักในคาํ (Word Stress) 1. คาํ 2 พยางคข ้ึนไป เสียงเนนหนักสุด (primary stress) มกั จะอยทู ีพ่ ยางคตน ของคาํ เชน postcard, swimming, writing, brother, moment, future, centre, summer, family, classmate, student, holiday, history เปนตน 2. คํา 2 พยางคขน้ึ ไป เสยี งเนน หนักสุด (primary stress) อยทู ี่พยางคท ี่ 2 ของคํา เชน museum, complete, important, imagine, arrive, another, exchange, between, before, expression, historic เปนตน 3. คําที่มกั อานผิดและออกเสยี งผดิ ไดแก history (อานวา ฮิสตรี่ ไมใ ช ฮิสตอร่ี) เพราะไมอ อกเสียง o ในคํานี้ ในภาษา อังกฤษพยญั ชนะที่ไมออกเสียงในบางคาํ เรียกวา Silent letter เชน victory (ไมอ อกเสียง o), sign (ไมอ อกเสยี ง g), often (ไมอ อกเสียง f) เปน ตน - ใหน ักเรยี นคัดลอก Word Box และคาํ ศัพททเ่ี ก่ียวของลงในสมุดคําศพั ทข องตนเอง 2. ครูสอน Writing Reference: Writing a postcard ท่ีหนา 117 ในสวนทายของหนังสือเรียน เปนคําแนะนําการเขียน postcard โดยใหน ักเรียน Read aloud คําอธิบายทลี ะสว นและครอู ธบิ ายและยกตวั อยา งประกอบ When writing a postcard,  open and close your postcard in a friendly way.  use informal language.  use linking words and phrases to join your ideas.  explain the good points about your holiday. 3. ครูทบทวนโครงสรางประโยค Present simple, Present continuous, Present Perfect, Past simple, Past continuous และ Future simple รวมทง้ั Time expressions ที่สาํ คญั ของแตละ Tense 4. ครูทบทวนการใชเคร่ืองหมายทีถ่ ูกตอ งภายในประโยคโดยใหนกั เรยี นมสี วนรว ม ดังน้ี Using correct punctuation - When you write, you must use correct punctuation such as capital letters, commas, full stops, question marks and apostrophes. - Check these carefully because you lose marks for silly mistakes.  Practice ครูใหน ักเรียนเปด หนังสือ Workbook Close-up 3 หนา 43 นกั เรียนปฏบิ ตั ิกิจกรรมตอ ไปนี้ 1. กจิ กรรม A ใหน ักเรียน Read aloud คาํ สง่ั และพดู สง่ิ ท่ีนักเรยี นตองปฏิบัตใิ นกิจกรรมน้ี คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที่ 3

472 472 - ครทู บทวนคําสง่ั อธบิ ายและชแี้ นะวิธีคดิ คาํ ตอบโดยใหน ักเรยี นทบทวน Time expressions ซึ่งเปนตัวกําหนด Tenses ภายในประโยค - ครใู หนกั เรียน Read carefully ประโยค 1-6 เพื่อใช Time expressions คดิ ไตรตรองวาประโยคน้ันๆควรใช Tenses ใด - โดยครูใหเวลานักเรียนคิดและปรึกษาคําตอบกับเพ่ือน เมื่อไดคําตอบใหนักเรียน Compare and share คําตอบกับ เพอ่ื นครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรยี น Read aloud คาํ ตอบพรอมกนั และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. am writing 2. went 3. are going to 4. have eaten 5. saw 6. Say 2. กจิ กรรม B ใหน ักเรยี น Read aloud คาํ สั่งและพดู สิ่งท่นี กั เรียนตองปฏบิ ัติในกิจกรรมน้ี - ครูทบทวนคาํ สั่ง อธบิ ายและใหน ักเรียนเขา ใจและสามารถทาํ กจิ กรรมตามคาํ ส่ังไดส าํ เร็จ - ใหน ักเรยี นเรมิ่ ตนโดย Read carefully the writing task จากนนั้ นกั เรยี นอานประโยค 1-3 เพ่ือเลือกใชรูปกริยาบอก เลา หรอื รปู ปฏิเสธ - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรียนบอกคําตอบ และครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. re 2. are 3. aren’t 3. กจิ กรรม C ใหนกั เรยี น Read aloud คาํ สง่ั และพูดสง่ิ ทนี่ ักเรียนตอ งปฏบิ ตั ใิ นกิจกรรมน้ี - ครูทบทวนคําสง่ั อธิบายและใหน ักเรียน Read carefully the postcard เพื่อคนหา Time ซ่ึงเปนตัวกําหนด Tenses ภายในประโยค - ครูใหน กั เรยี น Read carefully ประโยค 1-5 เพอื่ ใช Time expressions คดิ ไตรต รองวาประโยคนั้นๆควรใช Tenses ใด - ครใู หเวลานักเรียนคน หา คิดวเิ คราะห เลอื กคําตอบ แลว ใหนักเรียนนําไป Compare and Share กบั เพื่อน - ครตู รวจสอบความถูกตอ งโดยใหนักเรยี นอา นคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. ’m/am sitting 2. have had 3. walk 4. travelled 5. are going to visit/are visiting  Production กิจกรรม D ใหนักเรียน Read aloud the ExamTask ครูอธิบายและเนนย้ําส่ิงที่นักเรียนตองทําในขั้นตอนตอจากนี้คือ เขียน postcard ความยาว 40-50 คํา ครูชี้แนะเพื่อใหนักเรียนมีความม่ันใจในการเขียน โดยใหใหนักเรียนยอนกลับไปอาน Writing Reference ทีห่ นา 117 ในสว นทา ยของหนังสือเรียน เปน คําแนะนาํ การเขียน postcard ครูใหเวลานักเรียนเขียนอยางอิสระ โดย ครู สงั เกต แนะนาํ ชว ยเหลอื แกป ญหา - ใหนักเรียนจับคูกับเพื่อนเพื่อนําคําตอบที่ไดไปแลกเปล่ียนกันตรวจสอบความถูกตองของการสะกดคําและการใช เครอื่ งหมายกอนนําไป Compare and Share กบั เพือ่ นในหอง - ครตู รวจสอบคําตอบโดยเลือกนักเรยี นพดู บอกคําตอบ ครเู ขียนคาํ ตอบบนกระดาน - ครสู รปุ บทเรียนตอบขอซักถามนักเรียน คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3

473 473 เฉลยคําตอบ (Suggested answers) Hi Paul, How are you? Greeting from China! I’m writing to you from my new bedroom, which is quite nice. I’ve got to know my host family this week. Next week, I’m doing some sightseeing around the town with the other exchange students. Hope you’re well! Love, (name) 6. การวดั และประเมินผล เคร่ืองมอื คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี น 18-20 วิธกี าร 15-17 ผลการประเมิน 1. สงั เกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมินทกั ษะ แบบประเมินทักษะการฟง-การพดู คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดีมาก การใชภาษา แบบประเมนิ ทักษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 7. ส่อื /แหลงการเรยี นรู หนังสอื Workbook Close-up 3 Unit 7 It’s Raining Cats & Dogs เรือ่ ง Writing กิจกรรม A-D หนา 51 Writing Reference for Unit 7 หนังสอื เรยี น Close-up 3 หนา 117 8. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศึกษาปท่ี 3

474 474 หนวยการเรียนรูท่ี 7 เรอ่ื ง It’s Raining Cats & Dogs แผนการจดั การเรียนรูที่ 14 เร่ือง Video: Snow on Tigers รหัสวชิ า................. รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปท ี่ 3 กลุมสาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปการศึกษา 25……….. ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 1 ช่วั โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชี้วดั ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขียนโตตอบขอ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เร่อื งตา งๆ ใกลต วั สถานการณ ขา ว เรื่องที่อยใู นความสนใจของ สงั คมและส่ือสารอยา งตอเนื่องและเหมาะสม ต 1.3 ม.3/2 พูดและเขยี นสรุปใจความสําคญั /แกน สาระ หัวขอ เรอื่ งที่ไดจ ากการวเิ คราะหเ รอื่ ง/ขาว/เหตกุ ารณ/สถานการณ ที่อยใู นความสนใจของสังคม ต 2.1 ม.3/2 อธิบายเกย่ี วกับชีวิตความเปนอยู ขนบธรรมเนียม และประเพณีของเจาของภาษา ต 2.2 ม.3/1 เปรียบเทียบและอธบิ ายความเหมือนและความแตกตางระหวา งการออกเสยี งประโยคชนดิ ตางๆ และการ ลาํ ดบั คําตามโครงสรางประโยคของภาษาตางประเทศและภาษาไทย ต 3.1 ม.3/1 คนควา รวบรวม และสรปุ ขอ มูล/ขอเทจ็ จริงทเ่ี กีย่ วขอ งกับกลมุ สาระการเรยี นรูอน่ื จากแหลง การเรยี นรูและนํา เสนอดว ยการพดู และการเขียน ต 4.1 ม.3/1 ใชภ าษาสื่อสารในสถานการณจ รงิ /สถานการณจาํ ลองทีเ่ กิดขน้ึ ในหองเรยี น สถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม ต 4.2 ม.3/1 ใชภาษาตางประเทศในการสบื คน/คน ควา รวบรวม และสรุปความรู/ขอ มูลตา งๆ จากสอ่ื และแหลงการเรียนรู ตา งๆ ในการศกึ ษาตอและประกอบอาชีพ 2. จดุ ประสงคก ารเรียนรู ฟง พูด อาน เขยี น จากการดูชมสารคดเี ก่ยี วกบั Snow on Tigers แลวสรุปใจความสาํ คัญ แสดงความคดิ เหน็ โดยใชส ํานวน ภาษาและโครงสรา งภาษาท่กี ําหนดใหไ ดอยางถูกตอง เหมาะสม 3. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรูเก่ียวกับสํานวนภาษา โครงสรางภาษาในสารคดีเกี่ยวกับ Snow on Tigers กิจกรรมการเรียนรูผานสื่อวิดีโอ (processed watching) สือ่ สง่ิ พมิ พ ทกั ษะการเรียนภาษาทั้ง 4 ดาน ไดแก ทักษะการฟง ทักษะการพูด ทักษะการอาน ทักษะการ เขยี น และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพอื่ การสอ่ื สาร ทาํ ใหก ารส่ือสารบรรลุเปาหมายอยางมีประสิทธิภาพ ผูเรียนมีความสามารถ มเี จตคตทิ ด่ี ตี อภาษาอังกฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Grammar: Documentary films เร่อื ง Snow on Tigers 4.2 ดา นทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะการการดชู มอยา งเปนขั้นตอนมีเปา หมาย (processed watching) - ทักษะการคิดวเิ คราะห คดิ สงั เคราะห และประเมินคา - ทกั ษะเรยี นภาษาทัง้ 4 ทักษะ การฟง การพดู การอาน และการเขียน - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการสอ่ื สาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มปี ระสทิ ธภิ าพในการสื่อความ - มีเหตผุ ล มีวิจารณญาณ คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศกึ ษาปท่ี 3

475 475 5. กิจกรรมการเรียนรู  Lead-in ครนู ําความสนใจของนกั เรยี นเขาสูบทเรียนในชั่วโมงนโี้ ดยครูใหน ักเรยี น Read aloud ชอื่ เรอื่ ง Snow on Tigers แลว ให นกั เรียนแปลช่ืออาชีพน้ีเปน ภาษาไทย นักเรียนชวยกนั ใหคําตอบ โดยครูยอมรบั ทกุ คาํ ตอบ  Presentation กอนดูวิดโี อครูสนบั สนนุ ใหนักเรียนเตรียมความรูเกี่ยวกับเรือ่ งท่ีในวิดโี อ โดยทํากิจกรรมตอไปน้ี 1. กิจกรรมพดู เลาตามจินตนาการ (ครกู าํ หนดขึ้นเอง) ดังน้ี Work in groups. From the title ‘Snow on Tigers’, imagine what the video is about. Do you think what season it is? Why? - ครูใหน กั เรยี นแบง กลุม กลมุ ละ 4-6 คน พูดเลาตามจนิ ตนาการจากชือ่ เรอ่ื งในวดิ ีโอใหน ักเรียน Read aloud ชื่อเรื่อง แลวใหน กั เรยี นจินตนาการเก่ยี วกบั เรอ่ื งวา นา จะเปน ร่อื งเกย่ี วกับอะไร และตอบคําถามขอ 2 นักเรียนคิดวาเปนฤดูอะไร ครูตรวจสอบ ความคดิ เหน็ ของนักเรียนโดยใหน กั เรยี นบอกคาํ ตอบพรอมกนั ครเู ขียนคาํ ตอบของนกั เรยี นบนกระดาน โดยครูยอมรับทุกคาํ ตอบ - ครสู รุปเรอื่ งราวตามจนิ ตนาการของนกั เรียน และใหนักเรียนสานตอ ความคิดสรางสรรคและจินตนาการของนักเรียน จากการปฏิบตั ิกจิ กรรม A และการชมวดิ ีโอในกจิ กรรม B 2. กิจกรรม Before you watch: กิจกรรม A ครูใหนักเรียน Read aloud คําส่ังและบอกส่ิงท่ีนักเรียนตองปฏิบัติใน กิจกรรมนี้ - ครูทบทวนคําสั่งและอธิบาย และครูใหนักเรียนจับคูกับเพ่ือน แลว Read carefully คําถามทั้ง 3 ขอ จากน้ันให นกั เรยี นชวยกนั คิดคาํ ตอบ - ครตู รวจสอบคําตอบโดยเลือกนักเรียน 3-4 คูใหบอกคาํ ตอบและครูยอมรบั ทกุ คาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ Students’ own answers - ครูช้แี จงกจิ กรรมการเรยี น แนะนาํ การเรยี นดวยวดิ ีโอ ชีแ้ นะ มารยาทในการดชู ม  Practice 1. กิจกรรม While you watch: กิจกรรม B ครูบอกนักเรียนวานักเรียนจะไดดูหนังสารคดีส้ันเกี่ยวกับ Snow on Tigers และขณะที่ดูนักเรียนตองเลือกคําตอบของประโยคท่ี 1-6 ดังนั้นกอนดูวิดีโอใหนักเรียนอานประโยคใหเขาใจ ซึ่งจะชวยให นกั เรยี นเขา ใจและคาดเดาเรือ่ งลว งหนา ได - นักเรยี นอานประโยคทีก่ ําหนดใหแ ละขดี เสน ใตค ําสําคัญซึง่ จะชวยในการคิดคาดเดาคําตอบ - เมื่อนักเรียนพรอมครูเปดวิดีโอใหนักเรียนดู ครูเปดวิดีโอและหยุดเลนช่ัวขณะ หลังจากนั้นครูตรวจสอบคําตอบของ ประโยคที่ 1-2 หากพบวา นกั เรียนสวนใหญเลือกคําตอบถูก ครเู ปดวดิ โี อตอและหยุดเลนเปนระยะเพ่ือใหนักเรียนไดมีเวลาคิดทบทวน และประเมินคําตอบ แตถานักเรียนสวนใหญเลือกคําตอบไมถูกตอง ครูควรเร่ิมเลนใหมและเปดซํ้าหลายครั้งเพ่ือใหนักเรียนประสบ ความสําเรจ็ ในการดชู ม - เมื่อดจู บแลว ครูใหนกั เรียนตรวจคําตอบ แตถานักเรียนสวนใหญยังไมสามารถหาคําตอบได ครูควรใหนักเรียนดูซ้ํา หลายรอบ กอนเฉลยคําตอบ - ครูเฉลยคําตอบ โดยใหน ักเรียนอานคําตอบพรอ มกัน โดยครูใหนกั เรียนบอกเหตผุ ลท่ีเลือก เฉลยคาํ ตอบ 1. T 2. T 3. T 4. F 5. F 6. F คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที่ 3

476 476 2. กิจกรรม After you watch: กิจกรรม C ครูใหนักเรยี นทํากจิ กรรมหลังดูวีดโิ อซ่งึ เปน Cloze passage ดงั น้ี - ครทู บทวนเทคนคิ การทําขอสอบ Cloze test โดยใหนักเรียนใชเทคนิคการทําขอสอบ Focus on words before and after a gap - ใหนักเรยี นคนหาตวั ชี้แนะคาํ ตอบที่อยหู นาตัวเลือก โดยขดี เสน ใตก ํากับไวแ ลวเลือกคาํ ตอบ - ครตู รวจสอบตวั ชี้แนะคําตอบโดยใหนักเรียนอานตัวชีแ้ นะคําตอบของทุกประโยค - ครใู หนักเรยี น Read aloud คาํ ศัพททเี่ ปนตัวเลือกและบอกความหมายของคําศัพทดังกลาว - นกั เรยี นลงมอื อา น Cloze passage ใหนกั เรยี นคดิ วิเคราะหคาํ ตอบ และเลือกคําตอบและนําคาํ ตอบท่ีไดไป Discuss and share กบั เพือ่ นในหอง ครใู หเวลานกั เรยี น - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรียนบอกคาํ ตอบพรอมกนั - ครูใหนกั เรยี นไดดวู ดิ ีโอซํ้าอีกครง้ั หนึง่ เพ่ือตรวจสอบคาํ ตอบ และปรบั ปรงุ คาํ ตอบ และเฉลยคาํ ตอบ 1. summer 2. money เฉลยคาํ ตอบ 5. end 6. new 7. help 3. future 4. snowstorm 8. meat  Production กิจกรรม Ideas Focus ครใู หนักเรียนเขาแบงกลุม กลุมละ 4-6 คนทํากจิ กรรม Ideas Focus - ใหน ักเรยี น Read aloud คาํ ถาม และพูดบอกสิ่งที่ตองปฏิบัติในกจิ กรรมนี้ - ครทู บทวนคําถามและชแี้ นะวธิ ีคิดและเขียนคาํ ตอบโดย Expaining why และใหเวลานักเรียนทํากิจกรรมน้ีอยางอิสระ โดยครกู ําหนดเวลาสังเกต แนะนาํ ชวยเหลือ แกป ญหา - เมื่อครบกําหนดเวลาครูตรวจสอบคําตอบโดยเลือกนกั เรียน3-4 กลุม ขึ้นมาใหค าํ ตอบ ครูยอมรับทุกคําตอบท่ีใหเหตุผล (Explaining why) เฉลยคาํ ตอบ Students’ own answers - ครสู รปุ บทเรยี น ซักถามเพื่อประเมินความคิดเห็นและใหนักเรียนแสดงความคิดเห็นตอวิดีโอที่ดูในช่ัวโมงน้ีแนะนําให นกั เรียนดชู มสารคดี รายการใหความรแู ละคน ควา ศึกษาหาขอมูลเพ่ิมเติมจากสื่ออิเลกทรอนิกสเพื่อขยายโลกทัศน และประโยชนใน การแกไ ขปญ หา การดํารงชีวิต การศึกษาตอและการเลอื กอาชีพ 6. การวัดและประเมินผล เครอื่ งมอื คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี น 18-20 วธิ กี าร 15-17 ผลการประเมิน 1. สงั เกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผา น คมู อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ่ี 3

477 477 วิธกี าร เคร่ืองมอื คะแนน เกณฑ 18-20 2. ประเมินทักษะ แบบประเมนิ ทกั ษะการฟง -การพูด 15-17 ผลการประเมนิ การใชภาษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอาน-การเขยี น 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผา น 7. ส่อื /แหลงการเรยี นรู หนังสือเรียน Close-up 3 Unit 7 It’s Raining Cats & Dogs กจิ กรรม A-C และ Ideas Focus หนา 94 ส่ือ VCD Unit 7 เรือ่ ง Snow on Tigers 8. บนั ทึกหลังการจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมอื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศึกษาปท ี่ 3

478 478 The World Around Us หนว ยการเรียนรู รหัสวิชา …………… รายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 3 กลมุ สาระการเรียนรูภ าษาตา งประเทศ ฝเวลา 14 ชั่วโมง 8 ปก ารศกึ ษา 25........ ภาคเรยี นที่ 2 ผสู อน ................................. 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.3/1 ปฏิบตั ิตามคาํ ขอรอ ง คาํ แนะนํา คําช้ีแจง และคาํ อธิบายที่ฟงและอาน ต 1.1 ม.3/4 เลอื ก/ระบุหัวขอเร่ือง ใจความสําคัญ รายละเอยี ดสนับสนนุ และแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั เร่ืองท่ีฟงและอา น จากสอื่ ประเภทตางๆ พรอ มท้งั ใหเหตผุ ลและยกตัวอยา งประกอบ ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขยี นโตต อบขอมูลเกยี่ วกบั ตนเอง เรอ่ื งตา งๆ ใกลตวั สถานการณ ขาว เรอ่ื งท่ีอยูในความสนใจของ สงั คมและส่ือสารอยา งตอเนื่องและเหมาะสม ต 1.2 ม.3/4 พูดและเขียนเพือ่ ขอและใหข อมูล อธิบาย เปรยี บเทียบ และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรื่องทฟ่ี งหรืออา นอยาง เหมาะสม ต 1.2 ม.3/5 พูดและเขียนบรรยายความรูสึกและความคิดเหน็ ของตนเองเกี่ยวกับเรื่องตางๆ กิจกรรม ประสบการณ และ ขาว/เหตุการณ พรอมทง้ั ใหเ หตผุ ลประกอบอยา งเหมาะสม ต 1.3 ม.3/2 พูดและเขียนสรุปใจความสําคญั /แกน สาระ หัวขอเรื่องทไ่ี ดจากการวเิ คราะหเ รอื่ ง/ขา ว/เหตกุ ารณ/สถานการณ ทีอ่ ยใู นความสนใจของสงั คม ต 2.1 ม.3/1 เลือกใชภาษา น้ําเสียง และกิริยาทาทางเหมาะกับบุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของ เจา ของภาษา ต 2.1 ม.3/2 อธบิ ายเกยี่ วกบั ชีวติ ความเปนอยู ขนบธรรมเนียม และประเพณขี องเจาของภาษา ต 3.1 ม.3/1 คน ควา รวบรวม และสรุปขอมูล/ขอเท็จจริงท่ีเกี่ยวของกับกลุมสาระการเรียนรูอื่นจากแหลงการเรียนรูและ นําเสนอดว ยการพดู และการเขยี น ต 4.1 ม.3/1 ใชภ าษาสื่อสารในสถานการณจริง/สถานการณจาํ ลองท่เี กิดขน้ึ ในหองเรยี น สถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม ต 4.2 ม.3/1 ใชภ าษาตางประเทศในการสบื คน/คน ควา รวบรวม และสรปุ ความรู/ขอมูลตา งๆ จากส่อื และแหลงการเรียนรู ตา งๆ ในการศกึ ษาตอและประกอบอาชพี 2. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรูคําศัพทเก่ียวกับ Environment and animal-related words, Phrasal verbs, Collocations สํานวนภาษา เก่ียวกับ Asking & answering questions, formulating questions, wh-questions and other questions โครงสรางภาษา เกี่ยวกับ Ordering of adjectives, adjectives ending in -ing and -ed, Writing a report กิจกรรมฝกทักษะการคิดวิเคราะห สงั เคราะห การใหเหตผุ ล เร่อื ง The World Around Us สอื่ สิ่งพิมพและสอ่ื อิเลก็ ทรอนิกสท่ีมีประสิทธิภาพ ทักษะการเรียนภาษาท้ัง 4 ดาน ไดแ ก ทักษะการฟง ทักษะการพูด ทักษะการอาน ทักษะการเขียน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ทําให การสอ่ื สารบรรลเุ ปาหมายอยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ ผูเ รียนมคี วามสามารถ มเี จตคตทิ ่ีดตี อ ภาษาองั กฤษ คูม ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศึกษาปท่ี 3

479 479 3. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 3.1 ดานความรู (Knowledge) ความรูคําศัพทเกี่ยวกับ Environment and animal-related words, Phrasal verbs, Collocations สํานวนภาษา เกี่ยวกับ Asking & answering questions, formulating questions, wh-questions and other questions โครงสรางภาษา เกี่ยวกับ ordering of adjectives, adjectives ending in -ing and -ed, Writing a report กิจกรรมฝกทักษะการคิดวิเคราะห สงั เคราะห การใหเหตุผล เร่ือง The World Around Us กิจกรรมฝกทักษะการคิดวิเคราะห สังเคราะห การใหเหตุผล ในบทอาน ประเภทตางๆ ไดแ ก บทความ (Articles) บทสนทนา (Conversations) งานเขียนท่ีเปน articles, postcards, social media post, emails, blogs (weblogs), multiple choice cloze, Exam Close-up และ Exam Tasks 3.2 ดา นทักษะกระบวนการ (Process/Skill) ทักษะการเรียนภาษาทั้ง 4 ทักษะ ไดแก การฟง การพูด การอาน การเขียน ทักษะกระบวนการคิด และทักษะ กระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพอ่ื การสื่อสาร 3.3 ดานเจตคติ (Attitude/Desired Character) ประยุกตใ ชภาษาอังกฤษเพ่ือการดาํ รงชีวิต การทํางาน การอาชีพ และการพฒั นาบุคลิกภาพ 4. สมรรถนะสาํ คญั ของผูเรียนตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551  ความสามารถในการส่อื สาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแกป ญหา  ความสามารถในการใชทักษะชีวติ  ความสามารถในการใชเ ทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงคตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551  รักชาติ ศาสน กษตั รยิ   ซ่อื สตั ย สุจริต  มีวินัย  ใฝเ รียนรู  อยูอยางพอเพียง  มุงมั่นในการทาํ งาน  รักความเปน ไทย  มจี ิตสาธารณะ 6. ภาระงาน/ชิน้ งาน ใหน ักเรียนพดู อา นขาวหนาชน้ั เรียน ไดแ ก ขาวจากสอื่ online สื่อส่งิ พมิ พต ามความสนใจ มคี วามเหมาะสม มเี น้ือหา เกยี่ วกับ environment โดยประยกุ ตใ ชความรแู ละทักษะการใชภาษาทเี่ รียนมาใน Unit 8 จัดทําเปน แผนรายงานกระดาษ A4 คูมือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศึกษาปท ี่ 3

480 480 7. การวดั และประเมนิ ผล (ภาระงาน/ชนิ้ งาน) วิธีการ เคร่ืองมอื คะแนน เกณฑ 1. ประเมนิ แบบประเมินคุณภาพชิ้นงาน/ภาระงาน 18-20 คณุ ภาพ 15-17 ผลการประเมิน 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมิน แบบประเมนิ ทักษะ-การพูด คะแนน ผลการประเมิน ทกั ษะทางการใช แบบประเมินทักษะ-การเขยี น 18-20 ดีมาก ภาษา 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 8. กจิ กรรมการเรียนรู ความรแู ละกิจกรรมฝกทักษะการคิดวเิ คราะห สังเคราะห การใหเ หตผุ ล ทักษะการเรียนภาษาท้ัง 4 ดาน ไดแก การฟง การ พูด การอาน และการเขียนเรื่องThe World Around Us ประกอบดวย articles, postcards, social media post, emails, blogs (weblogs), multiple choice cloze, Exam Close-up และ Exam Tasks สื่อรูปภาพ (pictures) ส่ือเสียง (audio CD) สื่อวิดีโอ (DVD) ท่ีมีคําศัพทเก่ียวกับ Environment and animal-related words, Phrasal verbs, Collocations สํานวนภาษาเก่ียวกับ Asking & answering questions, formulating questions, wh-questions and other questions โครงสรางภาษาเกี่ยวกับ Ordering of adjectives, adjectives ending in -ing and -ed, Writing a report กิจกรรมฝกทักษะการเรียนภาษาท้ัง 4 ทักษะ ไดแก การฟง การพดู การอา น การเขยี น ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห สังเคราะห การใหเหตผุ ล และทกั ษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษ เพือ่ การส่ือสาร เจตคตทิ ่ีดีตอ ภาษาอังกฤษ 9. สอ่ื /แหลงเรียนรู  หนงั สือเรยี น Close-up 3 Unit 8 เร่ือง The World Around Us หนา 95-106  หนังสอื Workbook Close-up 3 Unit 8 เรือ่ ง The World Around Us หนา 52-57  Audio CD Track 8.1, 8.2, 8.3  Video เรอ่ื ง Mega Green Museum หนา 106 คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3

481 481 หนว ยการเรียนรทู ่ี 8 เรือ่ ง The World Around Us แผนการจัดการเรียนรูท ี่ 1 เรอ่ื ง Reading 1: Environment and Sea Turtles รหสั วชิ า................. รายวชิ าพ้นื ฐานภาษาองั กฤษ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที่ 3 กลุม สาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรียนที่ 2 เวลา 1 ชว่ั โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ช้วี ัด ต 1.1 ม.3/4 เลอื ก/ระบุหวั ขอ เรือ่ ง ใจความสําคญั รายละเอียดสนับสนนุ และแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับเร่ืองที่ฟง และ อา นจากส่อื ประเภทตา งๆ พรอมท้งั ใหเหตุผลและยกตวั อยางประกอบ ต 1.3 ม.3/2 พดู และเขียนสรปุ ใจความสําคัญ/แกนสาระ หัวขอเรื่องทีไ่ ดจ ากการวิเคราะหเรื่อง/ขาว/เหตุการณ/สถาน- การณทอ่ี ยูในความสนใจของสังคม ต 2.1 ม.3/2 อธิบายเกยี่ วกบั ชีวิตความเปนอยู ขนบธรรมเนยี ม และประเพณีของเจา ของภาษา 2. จดุ ประสงคการเรยี นรู อา นบทความเก่ียวกับ environment and sea turtles แลวพูดและเขียน วิเคราะห เปรียบเทียบ อธิบาย และแสดงความ คิดเหน็ โดยใชคําศัพทแ ละโครงสรา งภาษาทกี่ ําหนดใหไดถกู ตอ งเหมาะสม 3. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรแู ละกิจกรรมฝกทักษะการคิดวเิ คราะหสงั เคราะหแ ละคาดเดาการใหเหตุผลท่ีมีคําศัพท Environment and animal- related words, Phrasal verbs และ Reading skills: Scanning and Skimming reading โดยผา นการฝกทักษะการอา น การเขียน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร ทําใหผูเรียนสามารถส่ือความไดอยางมีประสิทธิภาพ มีนิสัยรักการอาน มี สนุ ทรยี ภาพในการอาน 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Vocabulary: Environment and animal-related words, Phrasal verbs, organisation, volunteer, moonlight, cage - Reading skills: Scanning reading and Skimming reading 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรยี นภาษาทง้ั 4 ทกั ษะ การฟง การพดู การอาน และการเขียน - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการสอ่ื สาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มปี ระสทิ ธิภาพในการส่อื ความ - มีสนุ ทรยี ภาพในการอาน 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครนู ําความสนใจของนักเรยี นเขาสบู ทเรยี นดวยคําถามดงั นี้ Q 1: Which animal is different from others: a sea turtle, a polar bear, an urangutan or a panda? Q 2: Do you think which animals are rare or nearly extinct? 2. นักเรียนใหค าํ ตอบอยางหลากหลาย คมู อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท่ี 3

482 482 3. ครูยอมรบั ทกุ คําตอบทส่ี มเหตผุ ล และเชื่อมโยงเขาสูกิจกรรมการเรยี นการสอน  Presentation ครูสอนคําศพั ท สาํ นวนภาษา โครงสรา งประโยค และทบทวน Reading skills ท่ีเกีย่ วขอ ง ตามข้ันตอนดังนี้ 1. ครสู อนคําศัพทในบทอานและคําศพั ทใ น Word Focus ดังนี้ 1.1 ครูสอนคําศพั ทในบทอา นในกจิ กรรม A-E ดงั นี้ - ใหนกั เรยี นทง้ั ชนั้ ชวยกนั คน คําศัพทท ี่ไมร ูความหมายในกิจกรรม A-E ขดี เสน ใตกํากบั ไว และใหน กั เรยี นระบุ Parts of speech ของคําศัพท จากตําแหนงภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝกใหระบุ Parts of speech ทุกคร้ังท่ีสอน ความหมายของคําศัพท) - ใหนักเรียนบอกหมวดหมูของคําศัพทเหลาน้ี โดยครูเขียนลงใน Word Box บนกระดาน และนักเรียน Read aloud คาํ ศัพทบนกระดาน โดยครเู นน ยาํ้ ใหน ักเรียนปฏิบัติตามหลกั เบ้ืองตนสําหรับวธิ กี ารออกเสียงคาํ หลายพยางค เสยี งเนน หนักในคาํ (Word Stress) 1. คาํ 2 พยางคข ึ้นไป เสียงเนนหนักสุด (primary stress) อยูท ี่พยางคต นของคํา เชน panda, article, cover, turtle, massive, animal, rubbish, moonlight, enter, violent, frightening, common, interesting เปนตน 2. คํา 2 พยางคข้ึนไป เสียงเนน หนักสุด primary stress) อยทู พ่ี ยางคท่ี 2 ของคาํ เชน water, towards, about, aggressive, decide, because, protect, description, experience, environment, return เปนตน 3. คํา 2 พยางคข ึ้นไป เสยี งเนน หนักสดุ (primary stress) อยทู ่พี ยางคที่ 3 ของคํา เชน volunteer, disappear เปน ตน - ใหน ักเรยี นแบงกัน/ชวยกนั คนหาความหมายของคาํ ศพั ทเหลา น้ี แลว พูดบอกความหมาย - ครเู ขียนความหมายของคําศพั ทท่ีนักเรียนบอกและเพมิ่ เตมิ ความหมายของคําศพั ทบ างคําใหสมบูรณ 1.2 ครูสอนคาํ ศัพทในWord Focus ดงั น้ี ใหนกั เรียน Read aloud the definitions ของคําศัพทท่ีกําหนดให และครู อธิบายความหมายและใหนกั เรยี นสังเกตแบบแผนของการใหค ําจํากัดความ (definitions) ของคําศพั ท 2. ครูทบทวน Writing Strategy: Explaining Why คําสาํ คญั ท่ใี ชใ นการ Explaining Why ไดแ ก Writing Strategy: Explaining Why คาํ สาํ คัญทใ่ี ชในการ Explaining Why ไดแก - Because + subject + verb ตัวอยา งเชน I didn’t do it because I was ill. - Because of + noun ตวั อยา งเชน I didn’t do it because of illness. - that’s why + subject + verb ตัวอยางเชน I was ill, that ’s why I didn’t do it. - that’s because + subject + verb ตวั อยา งเชน I didn’t do it, that ‘s because I was ill. 3. ครทู บทวน Reading skills: Scanning reading and Skimming reading คูมือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook