133 133 6. ภาระงาน/ช้นิ งาน ใหนักเรียนพูดบรรยายภาพหนาชั้นเรียน เลือกภาพตามความสนใจ มีความเหมาะสม มีเน้ือหาเกี่ยวกับ Free-time activities เชน ดนตรี กีฬา การแสดงฯ หรือสถานทีท่ องเท่ียวที่เปนแหลงเรียนรู โดยประยุกตใชความรูและทักษะการใชภาษาที่เรียน มาใน Unit 3 จดั ทาํ เปน รปู เลมรายงาน 7. การวัดและประเมินผล (ภาระงาน/ช้นิ งาน) วิธกี าร เคร่อื งมอื คะแนน เกณฑ 1. ประเมิน แบบประเมนิ คณุ ภาพช้ินงาน/ภาระงาน 18-20 คณุ ภาพ 15-17 ผลการประเมนิ 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมนิ ทกั ษะ แบบประเมนิ ทักษะ-การพดู คะแนน ผลการประเมนิ ทางการใชภาษา แบบประเมนิ ทักษะ-การเขียน 18-20 ดมี าก 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 8. กิจกรรมการเรยี นรู ความรแู ละกจิ กรรมฝก ทักษะการคิดวเิ คราะห สงั เคราะห การใหเ หตุผล ทกั ษะการเรียนภาษาทั้ง 4 ดาน ไดแก การฟง การ พดู การอา น และการเขียน เรื่อง Time Out! ประกอบดวย บทสนทนา (conversations) บทความ (articles) บทความแฝงโฆษณา (adverts/advertorials), e-mails, notes, Exam Close-up, Exam Tasks, ส่ือรูปภาพ (pictures) ส่ือวิดีโอ (video) ท่ีมีคําศัพท สํานวนภาษาเกี่ยวกับ Free-time activities, hobby-related words โครงสรางภาษา Conditionals: Zero & First, Gerund, Infinites, Prepositions และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่อื การส่อื สาร เจตคตทิ ีด่ ีตอภาษาองั กฤษ 9. สอ่ื /แหลงเรียนรู หนงั สือเรยี น Close-up 3 Unit 3 เรอื่ ง Time Out! หนา 31-42 หนงั สอื Workbook Close-up 3 Unit 3 เร่อื ง Time Out! หนา 18-23 Audio CD Track 3.1, 3.2, 3.3 Video เรอื่ ง Mechanical Lizard Car หนา 42 คูมอื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที่ 3
134 134 หนว ยการเรยี นรทู ี่ 3 เร่ือง Time Out! แผนการจดั การเรยี นรูท ่ี 1 เรอ่ื ง Reading 1: Adverts of Free-time Activities รหสั วิชา................. รายวชิ าพนื้ ฐานภาษาองั กฤษ ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ี่ 3 กลุมสาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ชว่ั โมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชวี้ ดั ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุหวั ขอ เรื่อง ใจความสาํ คญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรื่องท่ฟี งและ อานจากส่อื ประเภทตา งๆ พรอ มท้ังใหเ หตุผลและยกตัวอยา งประกอบ ต 1.3 ม.3/2 พดู และเขียนสรุปใจความสําคัญ/แกน สาระ หวั ขอเรื่องทไี่ ดจากการวิเคราะหเร่อื ง/ขา ว/เหตกุ ารณ/สถาน- การณทอี่ ยูใ นความสนใจของสังคม ต 2.1 ม.3/2 อธบิ ายเกี่ยวกับชีวิตความเปนอยู ขนบธรรมเนยี ม และประเพณขี องเจาของภาษา 2. จุดประสงคการเรียนรู อานสื่อประเภทบทความแฝงโฆษณา (Advert/Advertorial) เกี่ยวกับ Free-time activities แลวจับใจความสําคัญ วเิ คราะหเ ปรยี บเทยี บ อธบิ าย และแสดงความคดิ เห็น โดยใชโครงสรางภาษาท่กี าํ หนดใหไ ดถ ูกตองเหมาะสม 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรแู ละกจิ กรรมฝกทกั ษะการคิด บทความแฝงโฆษณา (Advert/Advertorial) ท่ีมีคาํ ศพั ท สาํ นวนภาษา โครงสรางภาษา เก่ียวกับ Free-time activities โดยผานการฝกทักษะการอาน การเขียน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร ทําให ผูเ รยี นสามารถสอื่ ความไดอยางมีประสทิ ธิภาพ มนี สิ ัยรกั การอา น มีสุนทรียภาพในการอาน 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Vocabulary: circus skills, baking, robotics club, gardening club, origami, unicycle, tightrope, skills, confidence, to juggle, to practice, to perform, to be into something - Grammar: verb+noun collocations of Free-time activities โครงสรางประโยคบอกเลา คําถาม และคําสั่ง - Writing strategy: การกลาวอา งขอความ (Quotation) - Reading strategy: Scanning reading 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรียนภาษาท้ัง 4 ทกั ษะ การฟง การพูด การอาน และการเขยี น - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการส่อื สาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มีประสิทธภิ าพในการส่ือความ - มเี หตผุ ล มวี ิจารณญาณ - ประยกุ ตใ ชภาษาอังกฤษเพื่อการดาํ รงชีวิต 5. กจิ กรรมการเรียนรู Lead-in 1. ครูนาํ ความสนใจของนกั เรียนเขาสูบทเรียนในชั่วโมงเรียนน้ีโดยใชรูป C Singing Club ในหนังสือ Close-up 3 หนา 32 โดยครใู ชประโยคคาํ สัง่ และประโยคคาํ ถาม ดงั น้ี คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ 3
135 135 ครู : Look at the four teenagers in picture C at the bottom of the page. Now answer the questions. - What are they doing? (singing) - Where are they? (In the studio/at the singing club/…) - How are they feeling? (fun/happy/…) - What about you? Can you sing? Do you love singing? (Yes/No/…) Pre-reading 1. ครูใหนักเรียนเปดหนังสือ Close-up 3 หนา 32 ครูสอนคําศัพทในกิจกรรม A ไดแก circus skills, baking, robotics club, singing, gardening club, origami โดย - ใหน ักเรยี นท้ังช้ันชวยกันอานออกเสียงคาํ ศพั ททุกคํากอน คําใดอานไมไดใหค รูชวย - หลงั จากนั้นใหน ักเรียนจบั คคู ําศพั ทก บั รปู ภาพทงั้ 6 รปู โดยเขยี นคาํ ศพั ทใตรูปภาพท่ถี กู ตอ ง - ครเู ฉลยคําตอบโดยใหนกั เรยี นอานคําตอบพรอมกัน เฉลยคําตอบ 1. gardening club 2. circus skills 3. origami 4. baking 5. singing 6. robotics club 2. ครูสอนคําศัพทใน Word Focus โดยยังไมตองดูคําจํากัดความที่ใหมา ไดแก to be into something, to juggle, unicycle, tightrope, to practice, skills, confidence, to perform ดงั น้ี - ครเู ขียนคําศพั ทเหลาน้บี นกระดาน แลว ใหนักเรียนอานออกเสียงดังพรอมกัน ถาคําใดนักเรียนอานไมไดใหครูชวย อา นนําและนักเรียนอา นตาม - ครูใหนักเรียนชวยกันบอกความหมายโดยครูใหนักเรียนบอกความหมายของคําที่นักเรียนรูจัก ถานักเรียนบอก ความหมายไมไ ด ครูใหนักเรยี นดทู ี่ Word Focus และใหอ านออกเสียงคําศพั ทและคําจาํ กดั ความ วิธีนี้จะชวยใหนักเรียนรูความหมาย ของคําศพั ทมากข้ึน ครูอาจใหค ําอธิบายเพ่มิ เตมิ บา ง 3. ครูใหนกั เรียนตอบคําถามกิจกรรม B ครูอธิบายคําถามโดยใหนักเรียนสังเกตรูปกริยาท่ีใช เปนกิจกรรมตอบคําถาม จากรปู ภาพ ครใู หน กั เรยี นจบั คู ผลดั กนั ถาม-ตอบเกย่ี วกบั รูปภาพในกจิ กรรม A โดยครูใหเวลา 3-5 นาทีในการทาํ กิจกรรมน้ี (B) นกั เรียน 1 : Which of the activities in A have you tried? นกั เรียน 2 : I’ve tried/practiced/…………… . นักเรียน 1 : Which activity would you like to try in the future? Why? นักเรยี น 2 : I’d like to try …………… because I think it’s …………… ./ …………… , etc. 4. ครูสังเกตการทาํ กิจกรรม 5. เมอื่ นักเรียนสวนใหญพ รอ มแลว ครูสุมเลือกนักเรียน 3-4 คูขึ้นมาพูดเฉลยคําตอบ โดยครูใหคําแนะนํากอนวาเวลาท่ี นกั เรยี นพูดใหม องหนาคูส นทนาดว ย 6. ครูยอมรับทกุ คําตอบโดยครูใหเ วลานักเรยี น Discuss คําตอบกอนท่ีครูจะสมุ เลือกนักเรยี น 2-3 คขู ึน้ มาใหค ําตอบ เฉลยคาํ ตอบ (Suggested answer) นักเรียน 1 : Which of the activities in A have you tried? นกั เรยี น 2 : I’ve practiced origami. นกั เรยี น 1 : Which activity would you like to try in the future ? Why ? นักเรียน 2 : I’d like to try circus skills such as juggling and walking the tightrope because I think it’s exciting and challenging. คูม ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศึกษาปท ่ี 3
136 136 7. ครูใหนักเรียนตอบคําถามกิจกรรม C ครูอธิบายคําส่ังโดยบอกนักเรียนวา these adverts for clubs หมายถึง Advert A, B และ C ใหนักเรียนอานคําถามพรอม Which one is the most expensive? ครูช้ีแนะวิธีคนหาขอมูลเกี่ยวกับราคาวา มกั จะวางไวส ว นทา ยของโฆษณา และสังเกตไดจากการใชสัญลักษณของ Money unit เชน ดอลลาร ปอนด บาท เปนตน ครูใหเวลา นักเรียนอา นเพื่อคน หาขอ มลู เกย่ี วกบั ราคา ครเู ฉลยคาํ ตอบ โดยใหน ักเรยี นบอกคําตอบ คือ Advert C พรอ มกับใหเ หตผุ ลประกอบดังน้ี ขอ มลู บอกราคาของ Advert แตละช้ิน มปี รากฏท่ีตําแหนง ทา ยสุดของบทอานเปนดังน้ี Advert A - £5 per session Advert B - £10 per session Advert C - It’s free! เฉลยคาํ ตอบ B – the circus skills workshop is the most expensive. หลังไดคําตอบแลว ครูอธิบายวาการอานท่ีนักเรียนทําไปแลวน้ี เปนการอานอยางมีจุดประสงค อานเพื่อคนหาขอมูลท่ีเปนราคา/ คา ใชจ าย การอานแบบนีท้ เ่ี ราใชเสมอในชวี ิตประจาํ วนั เรียกการอา นแบบนวี้ า Scanning reading 8. ครใู หความรูเกยี่ วกบั โครงสรา งภาษาและ Writing strategy ใน Advert/Advertorial (บทความแฝงโฆษณา) เพ่ือให นักเรียนสามารถอา นไดดยี ง่ิ ขน้ึ และมีสนุ ทรียภาพในการอาน ดังน้ี - What is an advert? บทความแฝงโฆษณา (Advert/Advertorial) เปนการโฆษณาโดยออมท่ีแฝงอยูในบทความ ตามสื่อสงิ่ พมิ พ เชน นติ ยสาร หนงั สือพิมพ สํานวนภาษาท่ีใชจะเขาใจงาย เพื่อดึงความสนใจของผูอาน (to hook the readers) มี การใหข อมลู เฉพาะ (คาํ ศพั ท) เกี่ยวกบั สนิ คา ผลิตภัณฑ บรกิ าร หรือกิจกรรม และนาํ เสนอประเด็นสาํ คัญอยา งเปน เอกภาพ (unity) - How to read an advert? Advert/Advertorial (บทความแฝงโฆษณา) ใชโครงสรางภาษา 3 รูปแบบ ไดแก 1. ประโยคบอกเลา เพ่ือใหขอมูล 2. ประโยคคําถาม เพ่ือส่ือความแบบสะกิด กระตุนเตือนใจ ใหฉุกคิด และ 3. ประโยคคําสั่ง เพ่ือ แนะนาํ วา ควรทาํ อยางนัน้ ควรเลอื กอยางนม้ี ากกวา - What writing strategy is used in an advert? เพ่ือใหผูอานเกิดความม่ันใจ แนใจในสินคา บริการ กิจกรรม นน้ั ๆ (To convince the readers) Advert/Advertorial (บทความแฝงโฆษณา) มีการอางอิงขอความ ไดแก การยกคําพูด คํากลาว อา ง (Quotations) ของบคุ คลอ่ืน เชน บคุ คลทีม่ ชี อื่ เสียง ลูกคา หรือบุคคลอื่นๆ ท่ีเกี่ยวของ การอางอิงมีรูปแบบที่ชัดเจน งายแกการ สงั เกต ขอ มลู ท่ีใชอางอิงจะเขียนครอ มดว ยเครอ่ื งหมายคําพูด (Quotation mark) นักเรียนจะสงั เกตไดง า ย Practice หลงั จากทนี่ กั เรียนไดรับความรูเก่ียวกับความหมายและคําจํากัดความของคําศัพท สํานวน โครงสรางประโยคเก่ียวกับ Free-time activities, Adverts, Reading strategy: การอานแบบ Scanning และ Writing strategy ใน Adverts แลว ครูให นักเรียนทําแบบฝกหดั กจิ กรรม D ในหนงั สอื และแบบฝกหดั เพิ่มเตมิ ในใบงาน ดังน้ี 1. กิจกรรม D ครใู หนักเรียนอานประโยคขอ 1-6 เพ่ือคน หาตัวชแี้ นะคําตอบ แลวขีดเสนใตกํากับไว ครใู หนกั เรยี นอา นตัว ชแี้ นะคาํ ตอบของประโยคที่ 1-6 ดงั นี้ - ประโยคที่ 1 ตัวชแี้ นะคําตอบ ไดแก sports, strong arms - ประโยคท่ี 2 ตัวชแ้ี นะคาํ ตอบ ไดแ ก can program computer, science - ประโยคที่ 3 ตัวชแ้ี นะคาํ ตอบ ไดแก lots of free tie to practice - ประโยคท่ี 4 ตวั ชแี้ นะคําตอบ ไดแก a famous pop star - ประโยคท่ี 5 ตัวชี้แนะคําตอบ ไดแก don’t want to do my own homework - ประโยคที่ 6 ตัวชแี้ นะคําตอบ ไดแก musical คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศึกษาปที่ 3
137 137 ใหน กั เรยี นนาํ ตวั ชีแ้ นะคําตอบของแตล ะประโยคไปใชในการอา นแบบ Scanning ใน Advert A, B และ C ครูเฉลยคาํ ตอบ โดยให นักเรยี นมีสวนรวม โดยบอกวา ตอบอะไร และใหเหตผุ ลวาเพราะอะไรจงึ ตอบเชน น้นั เฉลยคาํ ตอบ 1. B เหตผุ ล เพราะ “… I have a strong arm.” 2. A เหตผุ ล เพราะ “I can program computers …” 3. B เหตผุ ล เพราะ “I have lots of free time to practice a new hobby.” 4. C เหตผุ ล เพราะ “… to be a famous pop star.” 5. A เหตผุ ล เพราะ “I don’t want to do my own homework.” 6. C เหตุผล เพราะ “… the famous West End musicals.” 2. ใหน กั เรยี นทําแบบฝกหัดเพิม่ เติมในใบงาน ดงั น้ี ใบงาน Unit 3 Time Out! แผนจดั การเรยี นรทู ่ี 1 เรื่อง Adverts of Free-Time Activities 1. What kinds of sentences are in each advert? Check (/) kinds of sentences in each advert: ABC - Affirmatives - Questions - Imperatives - Quotations 2. How does the writer begin the ideas in each advertise? 3. How does the writer convince the readers? 4. Do you think which advert is the best one to be chosen? why? 5. Which advert relates to athletic skills? 6. Which advert relates to the invention? 7. Which advert relates to the entertainment? Production ครูสรุปบทเรียนและเฉลยคาํ ตอบใบงาน ดงั น้ี 1. What kinds of sentences are in each advert? Check (/) kinds of sentences in each advert: ABC - Affirmatives /// - Questions /// - Imperatives /// - Quotations /// 2. How does the writer begin the ideas in each advertise? - He begins the ideas in each advertise with questions or sentences of questioning. 3. How does the writer convince the readers? - He convinces the readers by using quotations or sentences of quoting. คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3
138 138 4. Do you think which advert is the best one to be chosen? why? แนวทางการตอบ I think advert C is the best one (to be chosen) because I like singing/it’s interesting/ It’s free./... หรือ I think advert A is the best one (to be chosen) because I like robots/it’s interesting/ It’s great fun./… หรือ I think advert B is the best one (to be chosen) because I like circus/it’s interesting/challenging 5. Which advert relates to athletic skills? - advert B 6. Which advert relates to the invention? - advert A 7. Which advert relates to the entertainment? - advert C 6. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครอ่ื งมอื คะแนน เกณฑ 1. สังเกต แบบประเมนิ การสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียน 18-20 15-17 ผลการประเมนิ 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมนิ ทักษะ แบบประเมินทักษะการฟง -การพูด คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดมี าก การใชภ าษา แบบประเมนิ ทักษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. สอ่ื /แหลง การเรียนรู หนงั สือเรียน Close-up 3 Unit 1 Time Out! เร่อื ง Reading กจิ กรรม A-D หนา 32-33 8. บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3
139 139 หนวยการเรยี นรทู ี่ 3 เรอ่ื ง Time Out! แผนการจดั การเรยี นรูที่ 2 เร่ือง Reading 2: Personal Pronouns รหสั วิชา................. รายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3 กลมุ สาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ ปการศึกษา 25……….. ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชว่ั โมง ผูส อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชวี้ ัด ต 1.1 ม.3/4 เลอื ก/ระบหุ ัวขอเร่ือง ใจความสาํ คญั รายละเอยี ดสนับสนนุ และแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกับเร่ืองทีฟ่ ง และ อานจากสอื่ ประเภทตา งๆ พรอมทั้งใหเ หตผุ ลและยกตัวอยา งประกอบ ต 1.3 ม.3/2 พูดและเขียนสรปุ ใจความสาํ คัญ/แกนสาระ หวั ขอเร่ืองทไี่ ดจ ากการวิเคราะหเรอ่ื ง/ขา ว/เหตกุ ารณ/สถาน- การณทอี่ ยูใ นความสนใจของสังคม ต 2.1 ม.3/2 อธิบายเก่ียวกับชีวิตความเปนอยู ขนบธรรมเนียม และประเพณขี องเจาของภาษา 2. จดุ ประสงคก ารเรียนรู พูดและเขียนโตตอบขอมูลเกี่ยวกับเร่ืองตางๆ ใกลตัว เร่ืองที่อยูในความสนใจของสังคม และส่ือสารอยางตอเน่ืองและ เหมาะสม 3. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรเู ก่ียวกับ connection (pronouns)/pronouns and noun to be replaced เปนพื้นฐานท่ีสําคัญในการใชภาษา และโครงสรางในการสื่อสาร ทําใหเกิดความเชื่อมโยงระหวางขอมูล การเล่ือนไหลของขอมูลมีความสอดคลองและตอเนื่อง ไมเกิด ความซ้ําซอ น ทําใหก ารสือ่ สารมีประสทิ ธภิ าพ นักเรียนไดร บั ความรโู ดยผา นการฝกทักษะเรียนภาษาท้ัง 4 ดาน ไดแก การฟง การพูด การอาน และการเขียน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร ทําใหการส่ือสารบรรลุผลตามวัตถุประสงค ผูเรียนมีเจต คตทิ ด่ี ตี อ ภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอยางยิ่งมีนิสัยรักการอา น มีสุนทรียภาพในการอาน 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Vocabulary: circus skills, baking, robotics club, gardening club, origami, unicycle, tightrope, skills, confidence, to juggle, to practice, to perform, to be into something - Grammar: การใชค ําสรรพนามแทนคํานาม - Writing strategy: การกลาวอางขอความ (Quotation) - Reading strategy: Scanning reading 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรียนภาษาทง้ั 4 ทักษะ การฟง การพูด การอาน และการเขยี น - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการส่อื สาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มีประสทิ ธภิ าพในการส่อื ความ - มีเหตผุ ล มีวจิ ารณญาณ คูมอื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศึกษาปท่ี 3
140 140 5. กิจกรรมการเรยี นรู Lead-in 1. ครนู าํ ความสนใจของนักเรยี นเขาสบู ทเรยี นในช่วั โมงเรยี นน้ี โดยเขยี นประโยคคาํ ถามบนกระดานและใหนักเรยี นทัง้ ชั้น อา นออกเสยี งดังๆ 2 คร้ัง ดังนี้ Q: Where did you get those juggling balls? 2. ครูใหนักเรียนคิดคําตอบและบอกคําตอบของคําถาม โดยครูเขียนทุกคาํ ตอบของนักเรยี นบนกระดาน 3. ครูชี้นําโดยขีดเสนใต those juggling balls เพื่อทําใหทางเลือกของการตอบแคบลง นักเรียนคิดคําตอบอยางมี ทิศทางเพอ่ื ใหไ ดคาํ ตอบท่มี คี วามเฉพาะเจาะจงมากย่ิงขน้ี ครูใหต วั เลือกของคําตอบ ทําใหนักเรยี นมีทศิ ทางในการตัดสินใจเลือกคําตอบ ไดค าํ ตอบทช่ี ดั เจนมากยิ่งข้นึ และมคี วามเปนไปได โดยครูใหต วั เลอื ก A, B, C ครง้ั ละ 1 ตัวเลือก โดยทาํ ตามขั้นตอน ดงั น้ี 3.1 ครูเขยี นตัวเลือก A บนกระดานและครถู ามนักเรยี นดังน้ี A. I bought it online. - ครูถามนกั เรยี นดงั นี้ Do you think A is the right answer for the question? - นักเรยี นใหคาํ ตอบ - ครูนับจํานวนนกั เรียนท่ีใหคาํ ตอบ โดยใชค าํ ถาม Who says ‘Yes’? Show me your hand, please. Who says ‘No’? Your hand, please. - ครูสังเกตจํานวนนักเรียนท่ี say ‘Yes’ ถามีจํานวนนอยกวา say ‘No’? ดังน้ันกอนที่จะใหนักเรียนทํา แบบฝก หัด ครคู วรอธบิ ายเรือ่ ง Pronouns อยา งละเอยี ด พรอมทงั้ ยกตัวอยางประกอบการอธิบายและใหค าํ ถามเพมิ่ เติมเพื่อตรวจสอบ ความเขาใจของนกั เรยี น 3.2 ครเู พ่มิ ทางเลือกใหมใ หแกนักเรียนโดยครูเขยี นตวั เลอื ก B บนกระดานและครถู ามนกั เรียนดงั นี้ B. My sister gave them to me. - ครถู ามนกั เรยี นดังนี้ Do you think A is the right answer for the question? - นักเรียนใหคําตอบ - ครูนับจาํ นวนนักเรยี นที่ใหค ําตอบ โดยใชคาํ ถาม Who says ‘Yes’? Show me your hand, please. Who says ‘No’? Your hand, please. - ครูสังเกตจํานวนนักเรียนที่ say ‘Yes’ ถามีจํานวนมากกวา say ‘No’? แสดงวานักเรียนสวนใหญมีความ เขาใจเรอื่ ง Pronouns แลว - ครูใหนกั เรยี นบอกเหตุผลของการตดั สินใจเลอื กคําตอบขอB - นกั เรยี นใหเ หตุผลถกู ตอง โดยคําตอบทถี่ ูกตอ งคือ ใช them แทนคํานามพหพู จนคือ those juggling balls ดงั น้นั กอนท่จี ะใหนักเรยี นทําแบบฝกหัดขออืน่ ๆ ครูควรทบทวนเรื่อง Pronouns ส้ันๆ พรอมทั้งยกตัวอยางประกอบการทบทวน ครู รบั รองคําตอบของนกั เรียนวา ขอ B ถูกตอง และครูเขยี นตัวเลอื ก C บนกระดาน C. I didn’t have any money. เพือ่ ใหนกั เรียนบอก เหตผุ ลวา เพราะเหตุใดตัวเลือก C จงึ ไมถ ูกตอง ทําใหนกั เรยี นเขา ใจการใช Pronouns อยางชดั เจนยงิ่ ขึน้ Practice ครูสอนโครงสรางภาษาเก่ียวกับการใชคําสรรพนามแทนคํานาม ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมเกี่ยวกับการใชคําสรรพนาม แทนคํานาม ดงั น้ี 1. ครูใหน ักเรยี นเปดหนังสอื Close-up 3 หนา 33 ใหนกั เรยี นทํากิจกรรม ดังน้ี 1.1 กิจกรรม E เปนสวนท่ีใหค ําอธิบายเพ่อื สรางความเขา ใจกอนทํากิจกรรม Exam Task โดยครูสอนดังน้ี คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 3
141 141 - ครใู หนกั เรียนอา น Exam Close-up และครอู ธบิ ายและใหค วามรเู รื่องเพิม่ เตมิ โดยใช Work sheet/ใบความรู และใบงานเรื่อง Personal pronouns - ครใู หข อมูลเพ่ิมเตมิ เรอื่ งการใช Personal pronouns ในประโยค โดยครูแบงเปน Forms & Functions of Personal pronouns และ Usages of Personal pronouns โดยครใู หคาํ สาํ คัญในการใช Personal pronouns ไดแก บุรุษ พจน เพศ หนาที่ โดยใชใบความรเู รื่อง Forms of Personal pronouns ใบความรู เรอ่ื ง Forms of Personal pronouns person Subject Object Possessive Possessive Reflexive pronoun forms 1st forms adjective forms pronoun forms forms I 2nd We me my mine myself 3rd You us our ours ourselves He you your yours yourself, yourselves She him his his himself It her her hers herself They It its -/its itself them their theirs themselves เพ่ือใหนักเรียนท้ังชั้นเขาใจเร่ือง Personal pronouns อยางชัดเจน ครูใชใบงานเร่ือง Personal pronouns Unit 3 Time Out! แผนจัดการเรียนรูที่ 2 เรื่อง Personal pronouns โดยครูอธิบายคําสั่ง ชี้แนะวิธีการคิดคําตอบ และใหเวลานักเรียนคิดและเขียน คาํ ตอบ ดงั น้ี ใบงาน เรื่อง Personal pronouns Complete the sentences with the correct forms of personal pronouns 1. My brother is a teacher. ………….. teaches English. 2. Mom is a dentist, …………. works in the hospital in the provincial area. 3. The sky is getting dark. …………. is going to rain. 4. Baby birds cannot fly. …………… mother has to feed them. 5. Ted and I are brothers. ………….. share ………….. bedroom together. 6. Olay isn´t well. Dad is taking ………….. to see the vet. 7. What are ………….. doing, Anita? 8. This is my friend, Katherine. …………… is a teacher. 9. Edward likes riding ………….. bicycle. I sometimes lend ………….. to …………. . 10. Steve, we are waiting for ……………... Are you coming with …………..? เฉลยคําตอบ 1. He 2. she 3. It 4. Their 5. We, our 6. It 7. you 8. She 9. my, it, him 10. you, us คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที่ 3
142 142 1.2 กจิ กรรม F Exam Task Part 1 ครูอธิบายคาํ ส่งั ช้แี นะวิธีการคิดคําตอบ และใหเวลานักเรียนคิดตัดสินใจ เลือก คาํ ตอบ มขี ้นั ตอนดงั น้ี - ครใู หน ักเรยี นขดี เสน ใตค ํานามในประโยคคําถาม แลวอานออกเสยี งคาํ นามทข่ี ดี เสน ใตพรอมกัน - นักเรียนตดั สินใจเลือกคําตอบ ถาเปนหองเรยี นทนี่ ักเรยี นสว นใหญออ นภาษาอังกฤษ ครูชวยใหนักเรียนคิดเลือก คําตอบโดยครอู ธิบายตวั เลือก - ครใู หเ วลานกั เรยี นคดิ ตดั สนิ ใจ เลือกคําตอบ - ครูเฉลยคําตอบ โดยใหนักเรยี นอา นคาํ ตอบพรอมกัน ครรู ับรองคาํ ตอบถูก แกไขคําตอบผดิ เฉลยคําตอบ 1. B 2. B 3. A 4. C 5. B 1.3 กิจกรรม F Exam Task Part 2 เปน conversation ระหวาง Mark กับ Gary พูดคุยกันเรื่อง Circus skills workshop และกลา วพาดพิงถึงบคุ คลที่ 3 ในเชิงวพิ ากษวิจารณ performance ของ Nick โดยครูสอนดว ยวธิ กี ารเชนเดียวกับกิจกรรม Exam Task Part 1 ครอู ธิบายคาํ ส่งั ช้ีแนะวิธกี ารคิดคําตอบ และใหเวลานกั เรยี นคิดตดั สนิ ใจเลอื กคาํ ตอบ มีข้นั ตอนดงั น้ี - ครูใหน ักเรยี นขดี เสน ใตคํานามในประโยคคาํ ถาม แลว อา นออกเสียงคํานามท่ขี ีดเสน ใตพ รอมกัน - นกั เรียนตัดสินใจเลือกคําตอบ ถาเปนหองเรียนทนี่ ักเรียนสวนใหญออ นภาษาอังกฤษ ครูชว ยใหน ักเรียนคดิ เลือก คาํ ตอบโดยครูอธบิ ายตัวเลือก - ครใู หเ วลานกั เรยี นคดิ ตดั สินใจ เลอื กคําตอบ - ครเู ฉลยคาํ ตอบ โดยใหน ักเรียนอา นคําตอบพรอมกัน ครรู ับรองคําตอบถกู แกไ ขคําตอบผิด เฉลยคําตอบ (6) B (7) B (8) A (9) C (10) B 1.4 กิจกรรม G ครอู ธิบายคําสงั่ และใหน ักเรยี นอานออกเสยี ง verbs ท่กี าํ หนดใหเลือกไปเตมิ ในประโยคพรอ มกัน - นกั เรยี นบอกความหมายของ verbs ท่ีอา น - ครูชแี้ นะวธิ กี ารคดิ คําตอบโดยใหนกั เรยี นบอกวธิ คี ิดคําตอบวาในการตดั สนิ ใจวาจะเลือกใช verb ตวั ใด นักเรียน ตองดทู สี่ ว นไหนของประโยค อะไรเปนตัวกําหนดคําตอบ เพราะอะไร - นักเรียนตอบวาดูที่คํานามที่ตามหลังชองวางของทกุ ประโยค เพราะเปน verb+noun collocations - ครใู หนักเรียนอานออกเสยี งคํานามทอี่ ยูหลังชองวางของทุกประโยคและชว ยกันบอกความหมาย - ครใู หเ วลานักเรยี นเขียนคําตอบและสนับสนุนการคดิ คาํ ตอบของนักเรียนท่เี รยี นออนทํางานชา - ครูเฉลยคาํ ตอบโดยใหน กั เรียนบอกคําตอบพรอ มกัน เฉลยคาํ ตอบ 1. build 2. practice 3. make 4. solve 5. join 6. program 2. ครใู หน ักเรียนเปดหนังสอื Workbook Close-up 3 หนา 18 ใหนักเรยี นปฏิบตั ิกิจกรรม ดงั นี้ 2.1 กิจกรรม A Exam Reminder เปนสวนที่ใหคําอธิบายเพื่อสรางความเขาใจกอนทํากิจกรรม Exam Task ครู สอนและอธิบายชแี้ นะวธิ กี ารคิดคาํ ตอบโดยยอ แลว ครใู หนักเรียนทาํ กิจกรรม B Exam Task Part 1 ดังน้ี - ครูใหเ วลานักเรยี นอานคําถาม มองหาคาํ นามในคาํ นามเพื่อใชเ ปน ตวั ช้ีแนะคําตอบในการตดั สินใจเลอื ตัวเลอื ก ทดี่ ีทส่ี ุด คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท่ี 3
143 143 - ครใู หน ักเรียนขีดเสนใตค ํานามในประโยคคาํ ถาม แลว อานออกเสยี งคาํ นามที่ขดี เสน ใตพรอมกัน - นกั เรียนตดั สนิ ใจเลือกคําตอบ ถาเปน หองเรียนท่นี ักเรยี นสวนใหญออ นภาษาอังกฤษ ครชู วยใหน ักเรยี นคดิ เลือก คาํ ตอบโดยครูอธบิ ายตัวเลอื ก - ครูใหเ วลานักเรียนคิดตัดสนิ ใจ เลอื กคําตอบ - ครเู ฉลยคําตอบ โดยใหนักเรียนอานคาํ ตอบพรอ มกัน ครูรบั รองคาํ ตอบถกู แกไขคําตอบผิด เฉลยคาํ ตอบ 1. c 2. b 3. b 4. a 5. b 2.2 กจิ กรรม B Exam Task Part 2 เปน conversation ระหวาง Paula กับ Kelly พดู คุยกนั เรอ่ื ง Theatre performance ของ Paula โดยครสู อนดวยวิธีการเชนเดียวกับกจิ กรรม Exam Task Part 1 ดังนี้ - ครอู ธิบายคําสัง่ ชแี้ นะวธิ ีการคิดคาํ ตอบ และใหเ วลานักเรียนคดิ ตัดสินใจ เลอื กคาํ ตอบ มีขั้นตอนดังน้ี - ครใู หน กั เรียนขีดเสนใตคํานามในประโยคคําถาม แลวอา นออกเสยี งคาํ นามที่ขดี เสน ใตพ รอมกัน - นกั เรียนตัดสินใจเลอื กคําตอบ ถาเปน หอ งเรียนที่นักเรียนสว นใหญออนภาษาองั กฤษ ครูชว ยใหนักเรียนคิดเลือก คําตอบโดยครอู ธิบายตวั เลือก - ครูใหเ วลานักเรียนคดิ ตดั สินใจ เลอื กคําตอบ - ครเู ฉลยคําตอบ โดยใหนกั เรียนอานคาํ ตอบพรอมกัน ครูรับรองคําตอบถูก แกไ ขคําตอบผดิ เฉลยคาํ ตอบ (6) C (7) H (8) A (9) E (10) F 2.3 กจิ กรรม C ครูใหนกั เรยี น Read aloud บทความในกรอบ แลวใหนักเรียนพิจารณาวา กิจกรรม B Part 1 ขอใด กลา วถงึ สถานทใี่ นบทความท่อี า น โดยใชหลักการทบทวนคาํ ตอบ Justifying your answers - ครตู รวจสอบคาํ ตอบโดยใหน กั เรยี นพดู บอกคําตอบพรอ มกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1, 3 และ 4 Production 1. กจิ กรรม Ideas Focus ครูใหน กั เรียน Read aloud คาํ สั่ง และพูดบอกส่ิงท่ีนักเรยี นตองปฏิบัติในกจิ กรรมน้ี - ครทู บทวนคาํ ส่ัง แนะนํา อธบิ าย วธิ ีการตอบคําถามโดยใหนักเรียน Explain why - ใหน กั เรยี นทํากิจกรรมเปน คู ครูใหเวลานักเรียนทาํ กิจกรรมอยางอิสระ ครูสงั เกต แนะนํา ชวยเหลอื และแกปญหา - ครูสมุ เลอื กนักเรียน 4-5 คูขึน้ มาพดู ใหค ําตอบ ครูยอมรับทุกคําตอบ และสรปุ บทเรยี น 2. กจิ กรรม Expand Your Ideas ซึ่งครู applied จากกจิ กรรม A ดังน้ี - ใหน ักเรียนจับคูแ ตง ประโยค 2 ประโยค โดยประโยคแรกใหมสี วนประกอบของ noun อยา งนอย 2 คํา และ ประโยคท่ี 2 ใหแทนท่ี noun ในประโยคแรกดว ย pronoun - ครใู หเวลานกั เรียนทํากจิ กรรม ครูสงั เกต แนะนํา ชวยเหลอื และแกปญ หา - ครสู มุ เลอื กนักเรยี น 4-5 คขู ้ึนมาพดู ใหคาํ ตอบ ครูยอมรบั ทุกคาํ ตอบ - ครูสรปุ บทเรยี น คูมือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศึกษาปที่ 3
144 144 6. การวัดและประเมนิ ผล เครอื่ งมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียน 18-20 วิธีการ 15-17 ผลการประเมนิ 1. สงั เกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมินทักษะ แบบประเมินทกั ษะการฟง -การพูด คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดมี าก การใชภ าษา แบบประเมนิ ทักษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. สอ่ื /แหลงการเรียนรู หนังสอื เรียน Close-up 3 Unit 3 Time Out! เร่อื ง Reading กิจกรรม E-G หนา 33 หนังสอื Workbook Close-up 3 Unit 3 Time Out! เรื่อง Reading กิจกรรม A-C หนา 18-19 8. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ี่ 3
145 145 หนว ยการเรียนรทู ี่ 3 เรื่อง Time Out! แผนการจดั การเรียนรทู ่ี 3 เรื่อง Vocabulary 1: Hobbies รหสั วชิ า................. รายวิชาพน้ื ฐานภาษาอังกฤษ ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ่ี 3 กลมุ สาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ ปการศึกษา 25……….. ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ช่วั โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวช้ีวดั ต 1.1 ม.3/4 เลอื ก/ระบุหวั ขอ เร่ือง ใจความสาํ คัญ รายละเอียดสนบั สนนุ และแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับเรอื่ งท่ฟี ง และ อานจากสือ่ ประเภทตา งๆ พรอมทง้ั ใหเ หตผุ ลและยกตวั อยา งประกอบ ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขียนเพ่อื ขอและใหข อมูล อธบิ าย เปรียบเทยี บ และแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกบั เร่ืองทฟ่ี งหรอื อา น อยา งเหมาะสม ต 1.2 ม.3/5 พดู และเขยี นบรรยายความรสู ึกและความคิดเห็นของตนเองเกย่ี วกบั เรอ่ื งตางๆ กิจกรรม ประสบการณ และ ขา ว/เหตกุ ารณ พรอ มท้ังใหเหตผุ ลประกอบอยา งเหมาะสม 2. จุดประสงคก ารเรยี นรู ฟงและอานสื่อประเภทตางๆ เกี่ยวกับ Hobbies แลวเลือก/ระบุหัวขอเรื่อง ใจความสําคัญ เปรียบเทียบ และแสดงความ คดิ เห็นโดยใชค าํ ศัพท สํานวนภาษา โครงสรางภาษาทีก่ ําหนดใหไดถ ูกตอ งเหมาะสม 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรดู า นคําศพั ท สาํ นวนเกี่ยวกับ Hobbies และโครงสรางภาษาในแบบฝกหัด โดยผานการฝกทักษะการอาน การเขียน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร ทําใหผูเรียนสามารถสื่อความไดอยางมีประสิทธิภาพ มีนิสัยรักการอาน มี สนุ ทรยี ภาพในการอา น 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Vocabulary: tent, paint, guitar, camera, brushes, controller, selfie stick, instrument ,video game, sleeping bag, creative, boring, exciting, relaxing, unusual, active - Grammar: Adjectives for describing of hobbies/free-time activities, -verb+noun collocations of hobbies/free-time activities 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรยี นภาษาทั้ง 4 ทักษะ การฟง การพูด การอาน และการเขียน - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มีประสทิ ธภิ าพในการส่อื ความ - มเี หตผุ ล มีวจิ ารณญาณ 5. กิจกรรมการเรยี นรู Lead-in 1. ครนู ําความสนใจของนกั เรียนเขา สบู ทเรียนในช่วั โมงเรยี นน้โี ดยใชรูปในหนังสอื Close-up 3 หนา 34 และถามคําถาม ดังนี้ - What activity are these people doing? คมู ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศึกษาปท ่ี 3
146 146 - Do you think where they are? - Do they need a lot of things to do this activity? - Have you ever done this activity? 2. นกั เรียนท้งั ช้ันตอบคาํ ถาม ครูยอมรบั ทุกคําตอบ Presentation 1. กจิ กรรม A ครูใหนักเรียนเปดหนังสือ Close-up 3 หนา 34 ครูสอน nouns เกี่ยวกับ hobbies และ equipment ไดแก tent, paint, guitar, camera, brushes, controller, selfie stick, instrument, video game, sleeping bag เร่ิมจากให นกั เรยี นรูจ ักคาํ อา นและความหมายพรอมกัน ครูใหนักเรียนท้ังช้ันอานออกเสียงคําศัพทท่ีเปนอุปกรณ (equipment) พรอมกับบอก ความหมาย ซงึ่ บางคําใชการทบั ศพั ท เชน tent = เต็นท - เมอ่ื นกั เรยี นรูความหมายของคาํ ศัพทค รบหมดแลว ใหน ักเรยี นเลือกคําศัพทที่เปนอุปกรณ (equipment) มาเติมใน ชอง hobby ในการทํากิจกรรมดงั กลา วนี้ นักเรียนตอ งคิดแบบเชอ่ื มโยงวา hobby แตละชนิดตอ งใชอ ุปกรณอะไรบา ง - ครูเฉลยคําตอบ โดยใหน ักเรียนอา นคําตอบ 1. tent, sleeping bag เฉลยคําตอบ 4. camera, selfie stick 2. paint, brushes 3. controller, video game 5. guitar, instrument 2. กิจกรรม B ครูใหนักเรียนเลือกคําศัพทจากกิจกรรม A มาเติมในบทสนทนาที่เก่ียวกับ hobbies /free-time activities ครชู แี้ นะวาในการตัดสนิ ใจเลือก ใหนักเรียนมองหาคํา/วลี/ประโยคเปนตัวกําหนดคําตอบ (Contextual clues) และขีด เสน ใตค าํ เหลาน้ี - ครูตรวจสอบความถูกตองของการเลือกระบคุ าํ /วลี/ประโยคเปน ตัวกําหนดคําตอบ (Contextual clues) โดยครใู ห นักเรยี นอานคํา/วล/ี ประโยคเปนตัวกําหนดคาํ ตอบ (Contextual clues) พรอมกนั ถานกั เรยี นตอบไมถ ูกตอง ครเู ฉลย ดงั นี้ 1. play 2. cold 3. photo 4. blue, sky 5. played, I want to play, too! - นกั เรยี นเลอื กคําตอบ โดยตัดสนิ ใจจากคาํ /วลี/ประโยคเปน ตวั กาํ หนดคําตอบ (Contextual clues) - ครเู ฉลยคาํ ตอบ โดยใหน ักเรียนชวยกันอา นคาํ ตอบ 1. guitar, instrument เฉลยคาํ ตอบ 4. paint, brushes 2. sleeping bag, tent 3. camera, selfie stick 5. video game, controller 3. กิจกรรม C ครูสอน Adjectives for describing of hobbies/free-time activities ไดแก creative, boring, exciting, relaxing, unusual, active ดวยวธิ ีการคลายกบั การสอน noun ในขอ 1 - เริ่มจากใหน ักเรยี นรจู ักคําอาน ครใู หนักเรยี นทั้งชน้ั อา นออกเสียงและบอกความหมายพรอมกันโดยครชู ีแ้ นะ ความหมาย - ครใู หน ักเรยี นจับคูท ํากิจกรรม โดยเลอื ก Adjective มาเติมในประโยคที่ซับซอนยิ่งข้ึน โดยครใู หนกั เรียนขดี เสน ใตคํา วลี หรือประโยคท่ีเปน เหตุผลในการเลือกคําตอบนน้ั ๆ - นักเรยี นเปรียบเทยี บคาํ ตอบกบั เพอื่ นตางคู อธบิ ายและใหเหตุผล ครเู ฉลยคําตอบโดยใหนกั เรียนมีสวนรวมพรอมทัง้ บอกเหตผุ ลในการเลือกคาํ ตอบ คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3
147 147 - ครูใหนักเรียนทั้งชั้นอานออกเสียงประโยคท่ี 1-6 พรอมกันเพื่อใหนักเรียนอานเก่ียวกับ hobbies แลวใชคําศัพท สํานวนภาษา โครงสรางภาษาทกี่ าํ หนดใหไดถกู ตองเหมาะสม เฉลยคําตอบ 1. creative 2. active 3. exciting 4. boring 5. Relaxing 6. unusual Production 1. ครใู หน ักเรียนทาํ กิจกรรม Expand your Ideas ซ่ึงครู applied จากกิจกรรม A ใหนักเรียนประยุกตใชความรูท่ีเรียน มาในชั่วโมงนท้ี าํ กจิ กรรม ครูอธบิ ายคาํ สงั่ ชแี้ นะวิธคี ิด และการตอบคําถาม โดยใหน กั เรยี น Discuss and share 2. ครูใหน ักเรียน Read aloud คําสง่ั และพูดบอกสง่ิ ท่นี ักเรยี นตอ งปฏิบตั ใิ นกิจกรรมนี้ 3. นักเรียนตอบคาํ ถามโดยใชค าํ ศพั ทและโครงสรา งประโยค Explaining Why or Why not /because 4. ครูใหเ วลานกั เรียนทาํ กิจกรรม ครู สงั เกต แนะนาํ ชว ยเหลือและแกป ญ หา 5. ครยู อมรบั ทกุ คําตอบท่ีมเี หตุผล 6. ครูตอบขอ ซักถามของนกั เรียน สรุปสง่ิ ท่เี รยี นในชั่วโมงน้ี เฉลยคาํ ตอบ Students’ own answers 6. การวดั และประเมนิ ผล เครือ่ งมอื เกณฑ วิธกี าร แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมนักเรยี น คะแนน ผลการประเมิน 1. สังเกต 18-20 ดีมาก 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 2. ประเมินทักษะ แบบประเมินทักษะการฟง -การพูด คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดีมาก การใชภ าษา แบบประเมินทักษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 7. ส่ือ/แหลง การเรยี นรู หนงั สือเรียน Close-up 3 Unit 3 Time Out! เรอื่ ง Vocabulary กิจกรรม A-C หนา 34 8. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชนั้ มัธยมศึกษาปท ี่ 3
148 148 หนวยการเรียนรูท่ี 3 เรอ่ื ง Time Out! แผนการจดั การเรียนรูท่ี 4 เรอื่ ง Vocabulary 2: Personal Pronouns รหัสวชิ า................. รายวชิ าพ้ืนฐานภาษาองั กฤษ ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ 3 กลุมสาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ช่วั โมง ผูส อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวช้วี ดั ต 1.2 ม.3/5 พดู และเขยี นบรรยายความรูส ึกและความคิดเหน็ ของตนเองเกย่ี วกบั เรอื่ งตางๆ กิจกรรม ประสบการณ และ ขา ว/เหตุการณ พรอ มทง้ั ใหเหตผุ ลประกอบอยา งเหมาะสม ต 2.2 ม.3/1 เปรยี บเทียบและอธิบายความเหมอื นและความแตกตางระหวา งการออกเสยี งประโยคชนดิ ตา งๆ และการ ลาํ ดบั คําตามโครงสรา งประโยคของภาษาตางประเทศและภาษาไทย 2. จุดประสงคการเรียนรู พูดและเขียนโตตอบขอมูลเกี่ยวกับเร่ืองตางๆ ใกลตัว เร่ืองที่อยูในความสนใจของสังคมและสื่อสารอยางตอเนื่องและ เหมาะสม 3. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรูเก่ียวกับ connection (pronouns)/pronouns and noun to be replaced เปนพ้ืนฐานที่สําคัญในการใชภาษา และโครงสรางในการสื่อสาร ทําใหเกิดความเช่ือมโยงระหวางขอมูล การเลื่อนไหลของขอมูลมีความสอดคลองและตอเนื่อง ไมเกิด ความซํ้าซอน ทําใหการสื่อสารมีประสทิ ธิภาพ นักเรียนไดรับความรูโดยผานการฝกทักษะเรียนภาษาทั้ง 4 ดาน การฟง การพูด การ อาน และการเขยี น และกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการสอ่ื สาร ทําใหก ารสอื่ สารบรรลุผลตามวัตถุประสงค ผูเรียนมีเจตคติท่ีดี ตอ ภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอยางยงิ่ มีนสิ ัยรกั การอาน มีสุนทรียภาพในการอา น 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Vocabulary: hiking, yoga, sailing, chess, athletics, table tennis - Grammar: Verb-noun collocation เกีย่ วกับ hobbies 4.2 ดา นทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรยี นภาษาทง้ั 4 ทักษะ การฟง การพูด การอา น และการเขยี น - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มปี ระสทิ ธิภาพในการส่ือความ - มีเหตุผล มีวิจารณญาณ 5. กิจกรรมการเรียนรู Lead-in 1. ครูนําความสนใจของนักเรยี นเขา สบู ทเรยี นในช่ัวโมงเรียนนี้ดว ยกริยา make, build, do โดยครูเขยี นบนกระดาน และ ใหน ักเรียนคิดหาคาํ นามมาตอทา ยคํากริยาท้ัง 3 ตัวนี้ make + noun? build + noun? do + noun? คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 3
149 149 2. นักเรยี นบอกคําตอบอยางหลากหลาย 3. ครเู ขียน 3 ประโยคตอไปนบ้ี นกระดานใหนักเรียนเลือกใชกริยาท้งั 3 ตัวมาเติมในประโยค ดังน้ี - I don’t want to ………. my homework but I want to ………. a telephone call. - Do you want to ………. new friends and ………. your confidence ? - My family plans to ………. business in Vietnam. 4. นักเรียนบอกคําตอบอยางหลากหลาย 5. ครูช้ีแจงวา การใชคํากริยาบางตัวรวมกับคํานามบางตัวเปนลักษณะทางภาษาเรียกวาการปรากฏรวมของคําใน ภาษาองั กฤษ เรียกวา Collocation ซงึ่ เปน เร่อื งทจ่ี ะเรียนในชัว่ โมงน้ี Presentation 1. ครูอธิบายความหมายของ Collocation พรอ มท้ังยกตวั อยางประกอบ Collocation = a word or phrase that is often used with another word or phrase, in a way that sounds correct to people who have spoken the language all their lives, but might not be expected from the meaning. 2. ครเู ขยี นประโยคตัวอยา งทมี่ ี verb+noun collocations บนกระดาน ไดแก - I can program computer and I love science. - I don’t want to do my homework but I want to make a telephone call. - Do you want to make new friends and build your confidence? - My family plans to do business in Vietnam. 3. ครูใหนักเรียนรูจัก verb+noun collocations โดยใหนักเรียนทั้งช้ัน อาน verb+noun collocations ของแตละ ประโยคและครูขีดเสน ใต verb+noun collocations ตามที่นกั เรยี นบอก ครอู ธิบายเพมิ่ เตมิ ใหน กั เรียนเขา ใจตรงกัน 4. ครูสอน verb+ noun collocations โดยใชกิจกรรม D และ E ในหนังสือ Close-up 3 หนา 34-35 ดงั น้ี - ครใู หนักเรยี นศึกษา/อานในใจประโยคขอ 1-6 และขีดเสนใต verb+noun collocations แลวใหนักเรียนอานออก เสียง verb+noun collocations ของแตล ะประโยค - ครูเขียนคาํ ตอบของนกั เรยี นบนกระดาน ดงั น้ี 1. go hiking 2. do yoga 3. go sailing 4. playing chess 5. do athletics 6. play table tennis - ครูขดี เสน ใตคํากรยิ า go, do, play ในแตละขอ - ใหน ักเรียนท้ังชั้น สรปุ การใช go, do, play ในประโยคท้งั 6 และเพิม่ เติมคําตอบโดยหาคาํ นามอื่นๆ มาเติม ดงั นี้ - go + hiking/sailing/ ... - do + yoga/athletics/ … - play + chess/table tennis/ ... - ครใู หเวลานักเรียนคดิ เมอื่ นักเรยี นคดิ ออกแลวใหออกมาเขยี นบนกระดาน - ครูตง้ั คําถามใหนักเรยี นระดมสมองคดิ หาคําตอบ โดยครูถามดงั นี้ Q1: นักเรยี นคดิ วา go hiking, go sailing จะใชกรยิ า do หรอื play แทนไดหรอื ไม เพราะอะไร Q2: นกั เรียนคิดวา do yoga, do athletics จะใชกริยา go หรอื play แทนไดห รือไม เพราะอะไร Q3: นักเรยี นคิดวา play(ing) chess, play table tennis จะใชกริยา go หรอื do แทนไดห รอื ไม เพราะอะไร - นักเรียนใหค าํ ตอบวา ใชแ ทนกันไมไ ด เพราะเปน คาํ ทีต่ องใชร ว มกัน verb+noun collocations - ครสู นบั สนุนคําตอบและเหตุผลของนักเรียนใชแทนกันไมไดเพราะเปนคําท่ีตองใชรวมกัน โดยครูสรุปการใชกริยา do, go, play ดงั นี้ คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศึกษาปท่ี 3
150 150 - go + free-time activities ending with -ing - do + free-time activities which can do individual - play + free-time activities of which cannot do individual but to play in group or team - ครูอธิบายเพ่ิมเติมวานักเรียนจะไดเรียนรูเพิ่มเติมตัวอยางอื่นๆ ของ verb ตัวอื่นๆ ท่ีใชรวมกับ noun บางตัว นอกจากน้ีนักเรียนจะไดเรียนรูเกี่ยวกับ Collocations ชนิดอ่ืนๆ ตอไป เชน collocations of verb + preposition, collocations of noun+noun, collocations of adjective + adverb เปนตน เม่ือเห็นวานักเรียนสวนใหญเขาใจ verb+noun collocations แลว ครใู หน กั เรียนทาํ กิจกรรม Practice ครใู หนกั เรียนทํากิจกรรมเรอ่ื ง verb+noun collocations ในหนังสือ Close-up 3 หนา 34-35 ดงั นี้ 1. กจิ กรรม D ครูอธบิ ายคาํ สั่ง และใหนกั เรยี นอา นประโยคท่ี 1-6 แลว จับคปู ระโยคกบั รูปภาพ A-F ครเู ฉลยคําตอบโดย ใหน กั เรยี นบอกคาํ ตอบพรอ มกัน เฉลยคาํ ตอบ 1. B 2. D 3. E 4. C 5. A 6. F 2. กิจกรรม E ครูอธิบายคาํ ส่งั และใหนักเรยี นนาํ คําในกิจกรรม D ท่ีใชต ัวหนา (คํานาม/กริยา+ing) ไปเติมหลังกรยิ า go, do, play ครเู ฉลยคําตอบโดยใหนกั เรยี นบอกคําตอบพรอ มกัน เฉลยคาํ ตอบ - go hiking, sailing - do yoga, athletics - play chess, table tennis 3. ครใู หนกั เรียนเปด หนังสอื Workbook Close-up 3 หนา 19 นกั เรยี นปฏิบัติกิจกรรมดงั นี้ 3.1 กจิ กรรม A ครทู บทวนคาํ ศพั ทเกย่ี วกับ hobbies และ equipment นกั เรยี น Read aloud คาํ ศพั ท แลว ให นกั เรยี นจดั แยกคําศัพทตามทกี่ ําหนดให ครูเฉลยคําตอบ Outside เฉลยคาํ ตอบ brushes Inside camera camping brushes guitar camera photography controller sleeping bag gaming tent guitar photography video game 3.2 กจิ กรรม B ใหน กั เรียนอานคําศพั ททเ่ี ปนตัวเลือกและบอกความหมาย นักเรียนอาจไมรูความหมายของตัวเลือก ทกุ ตวั ดังนน้ั จงึ ใหน กั เรียนสบื คนความหมายของตัวเลอื กบางตัวกอ น - ครูชแี้ นะวธิ ีคิดคาํ ตอบโดยใหน กั เรียนคนหาตวั ช้ีแนะคําตอบท่ีอยหู นาและหลงั ตัวเลือก - นักเรยี นคนหาตวั ชี้แนะคาํ ตอบและใชตัวชแ้ี นะคาํ ตอบดงั กลาวน้ีไปใชใ นการตัดสินใจเลือกคําตอบที่ถูกตอง คมู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศึกษาปท ่ี 3
151 151 - ครตู รวจสอบความถูกตองโดยใหน ักเรยี นอานคําตอบพรอ มกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. tent 2. video game 3. photography 4. guitar 5. brush 6. paint 3.3 กจิ กรรม D ครูใหนกั เรยี นทํากิจกรรมเปน คู ครูอธิบายกจิ กรรม Cloze dialogue - ครทู บทวนเทคนคิ การทําขอ สอบ Cloze test โดยใหนักเรยี น Focus on words before and after a gap - ใหนักเรยี นคน หาตัวชแี้ นะคําตอบทอี่ ยหู นาและหลังชองวาง โดยขีดเสน ใตกาํ กบั ไว - ครูตรวจสอบตัวชแ้ี นะคาํ ตอบ โดยใหนกั เรยี นอานตัวช้แี นะคาํ ตอบของทกุ ประโยค - ใหน ักเรยี นนําตวั ช้ีแนะคาํ ตอบดงั กลาวนไ้ี ปใชในการตัดสินใจเลือกคําตอบทถ่ี กู ตอง - ครูใหเ วลานกั เรยี นคน หา คดิ วิเคราะห ไตรตรอง และใหคําตอบ - ครูตรวจสอบความถูกตองโดยใหน ักเรยี นอานคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ (1) active (2) exciting (3) creative (4) relaxing (5) boring (6) unusual 3.4 กิจกรรม E ใหน กั เรยี นอานคาํ ศัพทที่เปนตัวเลือกและบอกความหมาย นกั เรียนอาจไมร ูความหมายของตัวเลือกทุกตัว ดงั นนั้ จงึ ใหน กั เรียนสืบคนความหมายของตวั เลอื กบางตัวกอ น - ครชู ี้แนะวธิ ีคดิ คําตอบโดยใหน ักเรียนคนหาตัวชแ้ี นะคาํ ตอบที่อยูหนาและหลังตวั เลือก - นักเรยี นคน หาตัวชีแ้ นะคาํ ตอบและใชตัวชแี้ นะคาํ ตอบดงั กลาวน้ีไปใชในการตดั สินใจเลือกคําตอบทถ่ี ูกตอ ง - ครตู รวจสอบความถูกตอ งโดยใหนักเรียนอานคําตอบพรอ มกัน และครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. chess 2. sailing 3. yoga 4. athletics 5. table tennis 6. hiking Production 1. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรม Ideas Focus ใหนักเรียนจับคู ประยุกตใชความรูท่ีเรียนมาในช่ัวโมงนี้ทํากิจกรรม ครู อธบิ ายคําสั่ง ชแ้ี นะวธิ คี ดิ และการตอบคําถาม โดยใหนักเรยี น Discuss and share 2. ครใู หนกั เรียน Read aloud คาํ สั่ง และพดู บอกสิ่งทนี่ ักเรยี นตองปฏบิ ตั ใิ นกจิ กรรมนี้ 3. นักเรยี นตอบคาํ ถามโดยใชค าํ ศพั ทและโครงสรา งประโยค Explaining Why or Why not/because 4. ครูทบทวนการใช verb+noun collocations ครูใหเวลานักเรียนทํากิจกรรม ครู สังเกต แนะนํา ชวยเหลือและ แกป ญหา ถาเวลาไมพ อใหนักเรยี นทาํ ตอเปน การบา นและนํามาสงในวนั ตอ ไป 5. ครูยอมรบั ทกุ คําตอบทมี่ เี หตผุ ล 6. ครูตอบขอซักถามของนกั เรยี น สรปุ สิง่ ท่เี รียนในช่ัวโมงนี้ เฉลยคําตอบ Students’ own answers คมู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที่ 3
152 152 6. การวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมนักเรียน 18-20 วธิ กี าร 15-17 ผลการประเมนิ 1. สงั เกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผาน 2. ประเมนิ ทักษะ แบบประเมนิ ทกั ษะการฟง -การพูด คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดมี าก การใชภ าษา แบบประเมินทักษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. สอื่ /แหลง การเรยี นรู หนงั สอื เรยี น Close-up 3 Unit 3 Time Out! เรอ่ื ง Vocabulary กิจกรรม D-E หนา 34-35 หนงั สอื Workbook Close-up 3 Unit 3 Time Out! เรื่อง Vocabulary กิจกรรม A-B, D-E หนา 19-20 8. บนั ทกึ หลังการจดั การเรยี นรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 3
153 153 หนวยการเรยี นรูที่ 3 เรอื่ ง Time Out! แผนการจดั การเรียนรทู ่ี 5 เรื่อง Vocabulary 3: Prepositions รหัสวชิ า................. รายวิชาพน้ื ฐานภาษาองั กฤษ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท่ี 3 กลุมสาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ ปการศึกษา 25……….. ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ช่วั โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ช้วี ดั ต 1.1 ม.3/4 เลอื ก/ระบุหัวขอเรอื่ ง ใจความสําคญั รายละเอียดสนับสนนุ และแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกับเรื่องทฟ่ี งและอา น จากสือ่ ประเภทตา งๆ พรอ มทัง้ ใหเ หตุผลและยกตัวอยา งประกอบ ต 1.3 ม.3/1 พูดและเขียนบรรยายเกย่ี วกับตนเอง ประสบการณ ขาว/เหตกุ ารณ/เรอ่ื ง/ประเด็นตา งๆทอ่ี ยูในความสนใจของ สงั คม 2. จุดประสงคการเรยี นรู ฟง พูดบทสนทนาสน้ั ๆ เกี่ยวกับเรอื่ ง Free-time activities อา นและเขียนเกี่ยวกับเร่ือง Hiking teens lucky to be alive! แลวจบั ใจความสาํ คญั และแสดงความคิดเห็นโดยใชคําศัพท สํานวนภาษาที่มี Prepositions และโครงสรางภาษา ที่กําหนดใหอยาง ถกู ตองและเหมาะสมกับระดับช้นั เรยี น 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรเู กีย่ วกับคาํ ศัพท สาํ นวนภาษาทีม่ ี Prepositions และโครงสรา งภาษาจากการฝกทักษะการเรียนภาษาท้ัง 4 ดาน ไดแก การฟง การพูด การอาน และการเขียน โดยใชกระบวนการสอนภาษาเพ่ือการสื่อสาร ทําใหการส่ือสารบรรลุผลตามวัตถุประสงค ผเู รียนมีเจตคติทีด่ ีตอภาษาอังกฤษ มีนิสยั รักการอาน 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Grammar: Prepositions - Reading strategy: Scanning reading and Skimming reading 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรียนภาษาทั้ง 4 ทกั ษะ การฟง การพูด การอา น และการเขยี น - ทักษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มปี ระสิทธิภาพในการสอ่ื ความ - มีเหตผุ ล มวี ิจารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรยี นรู Lead-in 1. ครูนําความสนใจของนักเรียนเขาสูบทเรียนในช่ัวโมงเรียนน้ีโดยใชบทสนทนาท่ี 1 และ 7 ในกิจกรรม F ในหนังสือ Close-up 3 หนา 35 ครูเขียนบนกระดาน แลว ใหน ักเรยี นเลอื กคาํ ตอบ ดงั น้ี 1. A: What do you like to do in / on your free time? B: I’m a big fan in / of chess. คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศึกษาปท ี่ 3
154 154 7. A: What do you usually do at / for the weekend? B: I’m involved in / to a youth club so I go there. 2. นักเรยี นเลือกคาํ ตอบ โดยอานทัง้ ประโยค เพื่อดวู า มคี ําตอบขอใดท่นี ักเรยี นเลือกไมต รงกัน 3. ครเู ฉลยคาํ ตอบ Presentation 1. ครอู ธิบายพรอมทั้งยกตัวอยา งประกอบวา Prepositions ใชต ามหลงั verb, adjectives, nouns โดยการจะเลือกใช prepositions ตวั ใดขึน้ อยูกบั คําทีน่ ําหนา และ/หรอื คาํ ทตี่ ามหลัง Prepositions ตวั อยางเชน - See you on / in Monday. เลือกใช on เพราะคําทต่ี ามหลังมาคอื Monday ใช prepositions on กบั ชือ่ วัน - Listen to the announcement. เลือกใช to เพราะคํากริยาท่ีนําหนาคือ listen ใช prepositions to กับกริยา listen - Vegetable is good for you health. เลอื กใช for เพราะ adjective ท่นี าํ หนา คือ good และคํานามตามหลังมา คือ health - You should be arrive at the aiport at 6. / around 6. / before 6. /after 6. ในประโยคมี prepositions 2 ตวั คอื ตัวแรกเปน ของกริยา arrive เพ่อื กลา วถึงการมาถงึ หรือไปถงึ สถานที่ตา งๆ และตวั ท่ี 2 เปนของคําบอกเวลา six o’clock ซ่ึง ใช prepositions at กบั การระบุเวลา - Police use dogs to search for them. เลอื กใช for เพราะคาํ กรยิ าที่นําหนาคือ to search ใช prepositions for กบั กริยา search เปน ตน 2. ครชู ี้แจงวา จากตวั อยางน้ี การเรยี นการสอนเรื่อง prepositions จึงตองเริ่มดวยใหนักเรียนทําแบบฝกหัดกอน แลวครู อธิบายคาํ ตอบ ครูใหน กั เรยี นเปดหนงั สอื Close-up 3 หนา 35 ใหนกั เรยี นจบั คูท าํ แบบฝก หัดในบทสนทนากิจกรรม F 3. ครแู นะวธิ ีการหาคําตอบวา กอ นเลอื กคาํ ตอบ ใหน กั เรยี นอา นทลี ะประโยค แลว ขีดเสน ใตค าํ ท่ีอยูหนา และหลังชองวาง ซึ่งเรยี กวา บริบทหรือตวั ชีแ้ นะคาํ ตอบ เพ่ือใชเ ปน เหตผุ ลในการตัดสินใจเลือกคําตอบ 4. ครใู หเ วลานกั เรยี นคดิ หาคําตอบ หลงั จากน้ันครจู ึงชวยเพ่ิมความชดั เจนในการเลอื กคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. in 2. of 3. How about 4. about 5. in 6. on 7. at 8. in 9. have 10. Into 11. on 12. can’t Practice 1. กจิ กรรม G ครูใหน กั เรยี น Read aloud Exam Close-up - ใหน กั เรยี นอานบทความใน Exam Task แลวขีดเสนใตคํากอน-หลังชองวางท่ีชวยบอก preposition ที่จะใช แลวให นักเรยี นชว ยกันคิดเติม preposition ลงในชอ งวา ง - ใหเ วลานักเรยี น 1 นาที ในการทํากจิ กรรมน้ี จากนั้นใหน ักเรียนตรวจคาํ ตอบกับคูข องตน กอ นทาํ กิจกรรม H 2. กจิ กรรม H นักเรยี นจับคูอานบทความเร่อื ง Hiking teens lucky to be alive! ใหเ ลือกคาํ ตอบจาก 3 ตวั เลอื ก - นักเรียนใชเวลาอานเพ่ือคนหาตัวช้ีแนะคําตอบระยะหน่ึง หลังจากนั้นใหนักเรียนอานออกเสียงบริบทที่ตัวชี้แนะ คาํ ตอบ พรอมกนั ดงั ๆ โดยครูชว ยเพิ่มเติมคําตอบใหครอบคลุม - หลังจากท่ีไดตัวช้ีแนะคําตอบท่ีถูกตองและครอบคลุมแลว นักเรียนเลือกคําตอบตามกระบวนการคิดวิเคราะห สงั เคราะหอ ยา งมเี หตผุ ล ครสู ังเกตและตอบขอซักถามทอี่ าจมรี ะหวางการทาํ กิจกรรม คูมอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ี่ 3
155 155 - เมอ่ื เลือกคาํ ตอบจนครบทุกขอแลว นักเรียนและเพอื่ นชวยกันอานเพ่ือทบทวนคําตอบและมีการเปรียบเทียบคําตอบ กบั เพื่อนตา งคูกอ นการเฉลยคาํ ตอบ - ครูใหนักเรยี นชวยเฉลยคําตอบโดยอานดังๆ ทีละขอ ครูยืนยันคําตอบถูกและแกไ ขคาํ ตอบผิดพรอมทั้งใหเ หตุผล เฉลยคาํ ตอบ (1) B (2) A (3) C (4) A (5) C (6) A (7) C (8) A Production 1. ครใู หนกั เรยี นเปด หนงั สือ Workbook Close-up 3 หนา 19 ใหนกั เรยี นทาํ กจิ กรรม C - ครใู หน ักเรยี น Read aloud คําสัง่ และพดู บอกสิ่งทน่ี ักเรยี นตองปฏบิ ตั ใิ นกิจกรรมนี้ - ใหนักเรียนอานคาํ ศัพทท ีเ่ ปน ตัวเลือกและเลือกคําตอบ - ครตู รวจสอบความถูกตอ งโดยใหน ักเรยี นอานคําตอบพรอ มกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. in 2. on 3. about 4. for 5. into 6. had 2. ครูใหนักเรียนเปดหนังสือ Workbook Close-up 3 หนา 20 ใหนักเรียนทํากิจกรรม F Exam Task เรื่อง A kid at heart อา นเน้ือเรือ่ งแลวเลอื ก prepositions - ครูตรวจสอบความถูกตองโดยใหน ักเรียนอานคาํ ตอบพรอ มกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ (1) b (2) a (3) b (4) a (5) c (6) a (7) c (8) c 6. การวดั และประเมินผล เครือ่ งมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี น 18-20 วิธีการ 15-17 ผลการประเมนิ 1. สงั เกต 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผาน 2. ประเมินทักษะ แบบประเมินทกั ษะการฟง-การพูด คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดีมาก การใชภาษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน คูมอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท่ี 3
156 156 7. สอื่ /แหลงการเรยี นรู หนังสอื เรยี น Close-up 3 Unit 3 Time Out! เรื่อง Vocabulary กจิ กรรม F-H หนา 35 หนังสือ Workbook Close-up 3 Unit 3 Time Out! เรื่อง Vocabulary กจิ กรรม C, F หนา 19-20 8. บนั ทกึ หลังการจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ี่ 3
157 157 หนว ยการเรียนรทู ี่ 3 เรอ่ื ง Time Out! แผนการจัดการเรียนรูที่ 6 เรอื่ ง Grammar 1: Conditionals Zero & First รหสั วิชา................. รายวชิ าพน้ื ฐานภาษาอังกฤษ ชนั้ มธั ยมศึกษาปท ี่ 3 กลุมสาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ปก ารศึกษา 25……….. ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชวั่ โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชี้วดั ต 1.1 ม.3/1 ปฏบิ ัติตามคาํ ขอรอง คาํ แนะนํา คําชแ้ี จง และคาํ อธิบายท่ฟี ง และอาน ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขียนเพอ่ื ขอและใหข อมลู อธิบาย เปรยี บเทียบ และแสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกับเรื่องที่ฟงหรอื อา นอยาง เหมาะสม 2. จดุ ประสงคการเรียนรู อาน/ฟงประโยคและบทอานท่ีมีโครงสราง Zero Conditionals และ First Conditionals แลวเขียนส่ือความโดยใช โครงสรางภาษาทกี่ ําหนดใหไดอ ยา งถกู ตอ ง 3. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูเก่ียวกับโครงสราง Zero Conditionals และ First Conditionals กระบวนการฝกทักษะทางภาษาทั้ง 4 ดาน ไดแก การฟง การพูด การอาน และการเขียน โดยใชกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ทําใหผูเรียนส่ือสารไดอยางมี ประสทิ ธภิ าพ มเี จตคติท่ีดตี อ การเรียนภาษาอังกฤษ 4. สาระการเรยี นรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Grammar: Zero Conditionals และ First Conditionals 4.2 ดา นทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรียนภาษาทงั้ 4 ทกั ษะ การฟง การพดู การอาน และการเขยี น - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มีประสิทธิภาพในการสื่อความ - มเี หตผุ ล มีวิจารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรยี นรู Lead-in 1. ครูนําความสนใจของนักเรียนเขาสูบทเรียนในช่ัวโมงน้ีโดยครูเขียนประโยคตอไปนี้บนกระดาน โดยครูขีดเสนใต ประโยคทนี่ าํ ดว ย If แลวใหนักเรียนอานออกเสยี งดังๆ พรอ มกนั 2 ครัง้ - If you have a smart phone, you don’t need a camera. - If you go camping, you’ll need a tent. 2. ครใู หน ักเรยี นสงั เกตรปู กริยาในประโยคท่ีมี If นาํ หนา (ซ่ึงตอ ไปจะเรียกวา If clause) กบั ประโยคที่ไมม ี If นาํ หนา (ซ่ึง ตอไปจะเรยี กวา Main clause) โดยครูถามนักเรยี นวา กริยาของประโยคที่ 1 และประโยคที่ 2 เหมือนกันหรอื ไม เพราะอะไร คูม ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ่ี 3
158 158 Presentation 1. ครสู อนโครงสรางประโยค Conditional sentence ชนิด Zero conditionals และ First conditionals โดยเร่ิมตน ดวยการใหน กั เรยี นรูจกั และจดจําโครงสรา งใหไดก อ น ดงั นี้ 2. ใหน กั เรยี นดูประโยคบนกระดานแลว ชวยกันเขียนสรปุ โครงสรางตามรูปกรยิ าในประโยค ไดค าํ ตอบ ดังน้ี - If you have a smart phone, you don’t need a camera. = If + present simple, + present simple - If you go camping, you’ll need a tent. = If + present simple, + future simple 3. ครอู ธบิ ายวาทง้ั 2 ประโยคเปน Conditional sentences/If clause ตา งชนดิ กนั 4. ครูสอนเร่ือง Zero conditionals และ First conditionals ซ่ึงตอไปน้ีจะเรียกวา If clause อยางมีข้ันตอน เพ่ือให นักเรียนเขาใจงายและจดจําไดดี ครูกําหนดประเด็นการอธิบายเปน 4 ประเด็น ไดแก 1. Forms 2. Positions 3. Functions 4. Options โดยในระหวางทีค่ รสู อน/อธบิ าย นกั เรียนสามารถซักถามไดแ ละครูตอบขอ สงสัย จนนักเรยี นเขา ใจแลวจึงสอนตอตามข้ันตอน ดังนี้ 4.1 Forms / Tenses of If clause Form of Zero Conditionals: If + present simple, + present simple สงั เกตที่ If clause และ main clause เปน Present simple เหมอื นกัน ตัวอยางเชน If you buy this book, you get a free CD. Form of First Conditionals: If + present simple, + future simple สังเกตที่ If clause เปน Present simple และ main clause เปน Future simple ตัวอยางเชน If you practice hard, you will be a good guitar player. Tense ใน If clause จะเปน ตวั กําหนด Tense ใน main clause เสมอ ดังน้ัน ถา Tense ใน If clause เปล่ียน จะทําให Tense ใน main clause เปลีย่ นแปลงตามดวย 4.2 Positions of If clause ตาํ แหนงของ If clause และ main clause สามารถสลบั ตําแหนง กันไดดังนี้ 1) If clause + main clause เม่ือ If clause นําหนา main clause ตองมีเครื่องหมาย comma ( , ) คัน่ กลางเสมอ เพราะไมม ตี ัวเชื่อมตัวอยา งเชน If you have a smart phone , you don’t need a camera. 2) Main clause + if clauses เมื่อ If clause ตามหลัง main clause ไมมีเครื่องหมาย comma ( , ) คน่ั กลาง เพราะใช if เปน ตัวเช่อื มตัวอยางเชน You don’t need a camera if you have a smart phone. 4.3 Functions/Usages and meanings of If clause 1) Zero Conditionals (If + present simple, + present simple) ใชเม่ือผลลัพธเกิดขึ้นเสมอตาม เง่ือนไขน้ันเรียกวา เปนจริงเสมอตามหลักเหตุผล (Always real) เปนการตั้งเง่ือนไขกับสิ่งท่ีเปนกฎเกณฑ กฎหมาย กฎระเบียบ ปรากฏการณธรรมชาติ ผลการทดลองตามหลักวิทยาศาสตร หลักตรรกศาสตร เปนตน ตัวอยางเชน If water boils, it changes into vapor. 2) First Conditionals (If + present simple, + future simple) ใชเมอื่ ผลลัพธมีโอกาสจะเกิดขึ้นไดตาม เง่ือนไขนั้นเรียกวา อาจจะเปนไปได (Possible real หรือ Future possible) เปนการตั้งเงื่อนไขกับสิ่งท่ีคาดการณ/เหตุการณใน อนาคตซ่ึงผลลพั ธอ าจมกี ารเปล่ยี นแปลง ตวั อยา งเชน If you go camping, you will need a sleeping bag. การเลือกใช If clause ชนดิ ใดขึ้นอยูกบั ผลลัพธข องสถานการณ เชน ถาทําตามเง่ือนไขน้ี ผลลัพธเปนจริงเสมอ (always real) หรอื อาจจะเปน อยางน้นั ในอนาคต (possible real) 4.4 Options of If clause If clause มีขอกําหนดอยางอื่นเพ่ิมเติมท่ีเปนทางเลือก ซ่ึงจะเลือกใชหรือไมใชก็ได ไดแก คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศึกษาปท่ี 3
159 159 - การใช When แทน If ใน Zero Conditionals ตัวอยางเชน If/When water boils, it changes into vapor. - การใช can, could, may, might แทน will ใน First Conditionals ตวั อยา งเชน If you go camping, you will/may need a sleeping bag. 5. ครใู หน กั เรยี นศกึ ษารายละเอียดเพม่ิ เตมิ เกี่ยวกับวิธใี ชแ ละตัวอยางของ If clause ทง้ั 2 ชนิดจากหนงั สือ Close-up 3 Grammar reference หนา110 ขอ 3.1 และ 3.2 โดยครูอธบิ ายตวั อยางและตอบขอซักถามของนักเรียน 6. ครตู รวจสอบความเขา ใจของนกั เรียน โดยใหน ักเรียนทกุ คนชวยกันพูดสรุปเกี่ยวกับ Conditionals/If clause และครู ชวยเสรมิ Practice 1. ครใู หน กั เรียนเปดหนงั สอื Close-up 3 หนา 36 ใหน กั เรียนทาํ กจิ กรรม A, B, C, D แลว เฉลยคําตอบพรอ มกัน โดยทํา ดงั นี้ กจิ กรรม A, C ใหนักเรยี นขีดเสนใต verb ของ If clause และ main clause กิจกรรม B ใหนักเรียนขีดเสน ใตต ัวเลือกทเ่ี ปนคําตอบถูก (มี 2 ตวั เลือก) กจิ กรรม D ใหน ักเรยี นวนิ ิจฉัยวาประโยคตอ ไปนถ้ี ูกตอง (True/T) หรอื ไมถ กู ตอ ง (False/F) โดยเขียน T/F ในชอง เฉลยคําตอบ กจิ กรรม A a. have, don’t need b. buy, get กจิ กรรม B 1. present simple 2. comma 3. facts 4. when กิจกรรม C a. go, ’ll need b. practice, ’ll be c. ’ll find, don’t have กจิ กรรม D 1. F 2. T 3. F 4. T 2. ครใู หน กั เรยี นทาํ กจิ กรรม E ถาหมดเวลาแลวนักเรียนยังทําไมเสร็จ ใหทําเปนการบาน แลวนํามาสงในวันพรุงน้ี (ครู กาํ หนดนัดหมายใหน ักเรยี นสงการบา นในวันถดั ไปทกุ ครงั้ ยกเวนมีเหตจุ าํ เปน หรือเหตกุ ารณพ เิ ศษ) 1. paint, need เฉลยคาํ ตอบ 4. sings, leaves 5. doesn’t sleep, plays 2. plays, wins 3. don’t understand, use 6. do, feel Production ครูมอบหมายภาระงานของ Unit ใหน กั เรียนเขียนหรือคัดลอกประโยคที่ใช Zero Conditionals (If + present simple, + present simple) และ First Conditionals (If + present simple, + future simple) จากสื่อในชีวิตประจําวัน เชน ใบรับประกัน สนิ คา คําแนะนําวธิ กี ารใชอุปกรณ เครื่องมือ วิธกี ารประกอบอุปกรณ ของเลน ของใชต างๆ หรือส่ิงอื่นๆ ตามความสนใจของนักเรียน เขยี นอยางละ 1 ประโยคในสมดุ แบบฝกหัด เพอ่ื ใชเ ปน สวนหน่ึงของการสรางชิ้นงาน/ภาระงานของ Unit 3Time Out! กรณีคัดลอก ใหน กั เรยี นเขียนระบุท่มี าในวงเลบ็ คูมอื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที่ 3
160 160 6. การวดั และประเมินผล วิธกี าร เครอ่ื งมอื คะแนน เกณฑ 1. สังเกต แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมนักเรียน 18-20 15-17 ผลการประเมนิ 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมนิ ทกั ษะ แบบประเมินทกั ษะการฟง-การพดู คะแนน ผลการประเมิน การใชภาษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอาน-การเขยี น 18-20 ดีมาก 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 7. ส่ือ/แหลง การเรยี นรู หนังสอื เรียน Close-up 3 Unit 3 Time Out! เรอ่ื ง Grammar กจิ กรรม A-E หนา 36 Grammar Reference for Unit 3 หนังสือเรียน Close-up 3 หนา 110 8. บนั ทึกหลังการจดั การเรยี นรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูม อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท่ี 3
161 161 หนวยการเรียนรทู ่ี 3 เรือ่ ง Time Out! แผนการจดั การเรียนรูที่ 7 เรอ่ื ง Grammar 2: Conditionals Zero & First (cont.) รหสั วชิ า................. รายวชิ าพื้นฐานภาษาอังกฤษ ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3 กลุมสาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชว่ั โมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชีว้ ัด ต 1.1 ม.3/1 ปฏบิ ัติตามคําขอรอง คาํ แนะนาํ คาํ ชีแ้ จง และคาํ อธิบายที่ฟง และอาน ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขยี นเพื่อขอและใหขอมลู อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกบั เร่อื งทฟ่ี ง หรืออา นอยาง เหมาะสม 2. จุดประสงคการเรยี นรู อาน/ฟง ประโยค และบทอานที่มีโครงสราง Zero Conditionals และ First Conditionals แลวเขียนสื่อความโดยใช โครงสรา งภาษาท่ีกาํ หนดใหไดอ ยางถูกตอ งเหมาะสมกบั ระดับช้นั เรยี น 3. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรูและกิจกรรมฝกทักษะการคิดเก่ียวกับโครงสราง Zero Conditionals และ First Conditionals กระบวนการฝก ทกั ษะทางภาษาท้งั 4 ดา น ไดแ ก การฟง การพดู การอา น และการเขียน โดยใชกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร ทําให ผเู รียนส่ือสารไดอยางมปี ระสิทธิภาพ มเี จตคติทด่ี ตี อการเรยี นภาษาองั กฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Grammar: Zero Conditionals และ First Conditionals 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรียนภาษาท้ัง 4 ทักษะ การฟง การพดู การอาน และการเขียน - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มปี ระสทิ ธิภาพในการส่ือความ - มีเหตุผล มวี จิ ารณญาณ 5. กิจกรรมการเรยี นรู Lead-in 1. ครูนาํ ความสนใจของนักเรียนเขาสูบ ทเรยี นในช่ัวโมงนโี้ ดยครเู ขยี นประโยคตอ ไปนบ้ี นกระดาน ใหน ักเรียนจบั คคู าํ ตอบ 1) If he likes skateboarding, ……………………………………… . 2) He will feel better in the morning ……………………………………… . a. if he loves snowboarding b. if he goes to bed early c. he will love snowboarding d. he will go to bed early 2. นักเรยี นบอกคําตอบ ดงั น้ี 1) ตอบ c 2) ตอบ b คูมือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศึกษาปที่ 3
162 162 3. ครใู ชค ําถามเพื่อกระตุนใหนักเรยี นคดิ อยางหลากหลาย ไดแก - เพราะอะไร/ทาํ ไม ตัวเลือกขอ a, b และ d ไมใ ชเ ปนคําตอบของขอ1 - เพราะอะไร/ทาํ ไม ตัวเลือกขอ c, d และ a ไมใ ชเปนคาํ ตอบของขอ1 Presentation 1. ครูทบทวนโครงสราง If clause แบบ Zero Conditionals และ First Conditionals ใน 4 ประเด็น ไดแก Forms, Functions/Usages, Positions, Options เพื่อตอยอดความรูในเรื่อง Functions/Usages and meanings และ Positions ใน ชว่ั โมงเรียนนี้ - Functions/ Usages and meanings of If clause: Zero Conditionals (If + present simple, + present simple) ใชเ มื่อผลลพั ธเ กดิ ขึน้ เสมอตามเงือ่ นไขนั้น เรยี กวา เปน จริงเสมอตามหลกั เหตุผล (Always real) First Conditionals (If + present simple, + future simple) ใชเมอ่ื ผลลัพธม ีโอกาสจะเกดิ ขึ้นไดต ามเงื่อนไขนั้น เรียกวา อาจจะเปนไปได (Possible real หรอื Future possible) - Positions: a. If clause + main clause b. Main clause + if clause 2. ครสู อน Functions/Usages and meanings of If clauses โดยครูเขยี นประโยคตอ ไปน้ีบนกระดาน ใหนกั เรยี น เปรยี บเทียบคาํ ตอบของประโยคท่ีใช If clauses ท้ัง 2 แบบ ดงั นี้ 1) What happens if you mix yellow and blue? Answer: If you mix yellow and blue, you get green. 2) What happens if you heat ice? Answer: If you heat ice, it melts. 3) What happens if you are late to meet your friend? Answer: if you are late to meet your friend, your friend will get angry /leave before you arrive. 4) What happens if you study hard for the exam? Answer: If you study hard for the exam, you will pass it / you will do it well / you will get a good mark. 3. ครอู ธบิ ายคาํ ตอบวา ประโยคที่ 1) และ 2) ผลลพั ธเ ปนเรื่องจรงิ (Fact) ประโยคที่ 3) และ 4) ผลลพั ธเ ปนเร่ืองท่คี าดวา นาจะเกดิ อยา งนั้น (likely to happen) Practice 1. ครูใหนักเรียนเปดหนังสือ Close-up 3 หนา 36 ทํากิจกรรม F เร่ือง Functions/Usages and meanings of If clauses และกิจกรรม G เรอื่ ง Forms of If clauses และ Positions of If clauses 2. ครู Walk around เพือ่ สังเกตการทํางานของนักเรียนอยางใกลชิดและตอบขอ ซกั ถามทีน่ ักเรียนบางคนสงสัยแตไมกลา ถามในระหวางที่ครอู ธิบาย เฉลยคําตอบ 3. answer, will win/’ll win กิจกรรม F 1. finish, will win /’ll win 2. join, will learn/’ll learn 4. read, will laugh /’ll laugh 5. will have /’ll have, is คูมือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศึกษาปท ่ี 3
163 163 เฉลยคาํ ตอบ กิจกรรม G 1. b 2. a 3. e 4. f 5. c 6. d Production ครูใหนักเรียนเปดหนังสือ Workbook Close-up 3 หนา 21 ทํากิจกรรม A และ B แลวครูใหนักเรียนชวยกันเฉลย คําตอบ โดยอานคาํ ตอบดังๆ พรอ มกนั เฉลยคําตอบ กิจกรรม A 1. When Stan finishes his homework early, he plays video games. 2. If I don’t have money, I stay at home. 3. When it snows, we don’t go outside. 4. I always lose when I play chess with Dan. 5. Kyle wakes up late if his alarm clock doesn’t go off. 6. You will win free tickets if you guess the right answer. 7. When the bus is late, I walk to school. 8. Water freezes if the temperature is 0 °c. กจิ กรรม B 1. will help/’ll 2. comes 3. will buy/’ll buy 4. do not get / don’t get 5. ask 6. will not swim /won’t swim 7. will cook / ’ll cook 8. does not do / doesn’t do 6. การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมนิ การสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน 18-20 วธิ กี าร 15-17 ผลการประเมนิ 1. สังเกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผาน 2. ประเมนิ ทกั ษะ แบบประเมินทกั ษะการฟง-การพดู คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดมี าก การใชภาษา แบบประเมินทกั ษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน คมู อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที่ 3
164 164 7. สือ่ /แหลง การเรยี นรู หนงั สือเรยี น Close-up 3 Unit 3 Time Out! เรื่อง Grammar กิจกรรม F-G หนา 36 หนังสือ Workbook Close-up 3 Unit 3 Time Out! เรอ่ื ง Grammar กิจกรรม A-B หนา 21 8. บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท่ี 3
165 165 หนวยการเรยี นรูท่ี 3 เรือ่ ง Time Out! แผนการจดั การเรียนรูท ่ี 8 เรอื่ ง Grammar 3: Gerunds & Infinitives รหสั วิชา................. รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาอังกฤษ ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3 กลุมสาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ ปการศึกษา 25……….. ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ช่วั โมง ผูส อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชว้ี ัด ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขียนเพอื่ ขอและใหข อมูล อธิบาย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกับเร่อื งที่ฟง หรืออานอยา ง เหมาะสม 2. จดุ ประสงคการเรียนรู ฟง พดู อา นและเขยี นใหข อมูล อธิบาย และแสดง ความคิดเหน็ โดยใชสํานวนภาษาและโครงสรางภาษาที่กําหนดใหไดอยาง ถูกตอ ง เหมาะสมกับระดบั ช้ันเรียน 3. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรเู ก่ียวกบั สํานวนภาษาและโครงสรา งภาษาเรือ่ ง Gerunds และ Infinitives กิจกรรมฝกทักษะการคิด กระบวนการฝก ทักษะทางภาษาทัง้ 4 ดาน ไดแก การฟง การพดู การอาน และการเขียน โดยใชกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร ทําให ผูเรียนส่ือสารไดอ ยา งมีประสทิ ธิภาพ มเี จตคติทด่ี ตี อ การเรียนภาษาองั กฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Grammar: Gerunds และ Infinitives 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรยี นภาษาทง้ั 4 ทกั ษะ การฟง การพดู การอา น และการเขยี น - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มีประสิทธภิ าพในการสื่อความ - มีเหตผุ ล มีวจิ ารณญาณ 5. กิจกรรมการเรียนรู Lead-in 1. ครูนําความสนใจของนักเรียนเขาสูบทเรียนเรื่อง Gerunds โดยครูเขียนประโยคบนกระดาน ครูขีดเสนใต แลวให นักเรียนหาคาํ นามท่มี ีความหมายเหมาะสมมาแทนท่คี าํ ท่ีขดี เสนใตใ นแตล ะประโยค ดงั นี้ 1) John isn’t interested in studying. /……………….. 2) He goes swimming /.................... twice a week. 3) He loves hiking. /…………………. 4) Singing/…………….. is his least favourite activity. 2. นกั เรียนบอกคาํ นามแทนทีค่ าํ ท่ีขดี เสนใตข องทุกขอ 3. ครเู ขยี นคาํ ตอบของนักเรยี นบนกระดาน ครยู อมรบั ทกุ คําตอบ ครูอธิบายเพิ่มเติมสําหรับขอ 2 เน่ืองจากกริยานําหนา คอื goes ดงั นั้น คาํ ตอบของนักเรียนมี 2 อยาง คอื ใช preposition + noun และใช verb + ing คูมือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3
166 166 Presentation 1. ครใู หนักเรยี นเปด หนังสอื Close-up 3 หนา 37 ใหน ักเรียนศกึ ษาประโยคในกิจกรรม H ซ่ึงครูเขยี นไวบ นกระดานแลว และใหอานออกเสียงดังๆ ประโยคละ 2 คร้ัง โดยครั้งแรกใหอานประโยคเดิมที่มี Verb + ing/Gerunds ครั้งที่ 2 ใหอานโดยใช คํานามทน่ี ักเรยี นตอบ การใหนักเรยี นทําเชนน้ี ชวยใหนักเรียนเขาใจและสรุปไดวา คํานามและ Verb + ing/Gerunds ใชแทนกันได และนักเรียนสามารถตอบคาํ ถามวา What is Gerunds/Verb + ing? 2. ครพู ูดอธิบายคาํ ตอบสั้นๆ ใหนักเรยี นเขาใจงาย จดจําไดน านเพ่ือการนําไปใชไ ดอ ยางหมาะสม 3. เพ่อื ชว ยใหน ักเรยี นทกุ คนเขาใจไดด ีย่ิงข้ึน ครใู หนกั เรยี นอานประโยคในกจิ กรรม I แลวเลือกคําตอบ โดยครเู ฉลย คําตอบ เฉลยคําตอบ a. nouns b. preposition c. can 4. ครูสอนเร่ืองการใช Gerunds พรอมทั้งยกตัวอยางประกอบ โดยใชกิจกรรม Grammar Reference หนังสือเรียน Close-up 3 หนา 111 ครูอธิบายจนนกั เรยี นเขาใจ และใชค าํ ถามเพอื่ ตรวจสอบความเขาใจของนักเรยี นเปนคร้งั คราว 5. สรุปเรื่อง Gerunds ในประเด็นท้ัง 4 ขอนี้ และเขียนสรุปบนกระดาน ใหนักเรียนจดบันทึกในสมุดเพื่อนํากลับไป ทบทวน ดงั นี้ 1. Forms of Gerunds: Verb + -ing (ทบทวนเร่ืองกฎการเติม -ing ทายคํากริยา) 2. Functions/Usages and meaning of Gerunds: as a noun 3. Positions (in a sentence) of Gerunds: 3.1 before verb 3.2 after verb or preposition 4. Options of Gerunds: certain verb/phrases + Gerunds 6. ครูบอกนักเรียนวา Gerund เปนเร่ืองที่ตองทําความเขาใจควบคูกับ Infinitives โดยครูเขียนประโยคตอไปน้ีบน กระดาน ครูขีดเสน ใต Infinitives แลว ใหนกั เรยี นอานออกเสยี งประโยคดงั ๆ ทลี ะประโยค ครอู ธิบายสน้ั ๆ - Jo doesn’t want to go on holiday with her parents. - We should go to the museum. - She is happy to stay at home and watches the sports program all afternoon. 7. ครสู อนเรอ่ื งการใช Infinitives พรอมทง้ั ยกตวั อยางประกอบ โดยใชก จิ กรรม Grammar Reference หนังสือเรยี น Close-up 3 หนา 111 ครูอธบิ ายจนนกั เรยี นเขาใจ สรุปดงั นี้ Infinitives with to Infinitives without to - after certainverbs - after modal verbs - after adjective - after would rather, had better, etc. - after too,enough -after intransitive verb/to show purpose, etc. Practice 1. ครสู รปุ สน้ั ๆ เพื่อทบทวนเรือ่ ง Infinitives และ Gerund กอนใหนกั เรียนทํากิจกรรม คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที่ 3
167 167 2. ครูใหนกั เรยี นจับคูท ํากิจกรรมในหนงั สือเรียนหนา 37 โดยนกั เรียนปฏิบตั ติ ามขนั้ ตอนของคาํ สงั่ ในกิจกรรมแตล ะขอ โดย ครตู รวจสอบคาํ ตอบ ดงั นี้ - กจิ กรรม J และ L ใหน กั เรียนขดี เสนใต Infinitives with to และ Infinitives without to ครตู รวจสอบคําตอบ โดยให นกั เรียนอานพรอ มกนั - กิจกรรม K และ M ใหน ักเรยี นขดี เสน ใตตัวชแี้ นะคาํ ตอบซึ่งเปนคํา/วลที ี่อยูหนา infinitives และเลือกคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ กจิ กรรม J a. to go b. to stay c. to drive d. to buy กิจกรรม K 1. d 2. b 3. c 4. a กิจกรรม L a. spend b. try, get, help c. practice กจิ กรรม M 1. c 2. b 3. a Production 1. ครูใหนกั เรียนทํากจิ กรรมฝกทกั ษะการคดิ เร่ือง Gerund และ Infinitives ในหนังสือ Close-up 3 หนา 37 กิจกรรม N, O และ P และหนังสอื Workbook Close-up 3 หนา 21-22 กิจกรรม C และ D (ถาทําไมเสร็จในช่ัวโมงนี้ ใหนักเรียนทําเปน การบานแลวนํามาสงในวันถัดไป) 2. ครูสังเกต แนะนํา ตอบขอซักถาม ครูเฉลยคําตอบโดยใหนักเรียนชวยบอกคําตอบ ครูยืนยันคําตอบถูก และแกไข คาํ ตอบผดิ เฉลยคําตอบ กจิ กรรม N 1. to win 2. watching 3. go 4. book 5. taking 6. visiting a. to pass b. see c. shhopping d. not lose e. Getting f. to stay กจิ กรรม O 1. d 2. b 3.e 4. f 5. a 6. c กิจกรรม P (1) watching (2) trying/starting/doing (3) are (4) join (5) will/can/may/can/could (6) not (7) in (8) do/try/start (9) worth (10) to กิจกรรม M 1. c 2. b 3. a คูม อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3
168 168 เฉลยคาํ ตอบ Workbook กจิ กรรม C 1. Painting 2. sailing 3. to join 4. to meet 5. reading 6. to hear 7. starting 8. to worry กจิ กรรม D (1) If (2) to (3) better (4) getting (5) did (6) to (7) not (8) would (9) for (10) at 6. การวัดและประเมินผล เครอื่ งมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี น 18-20 วธิ กี าร 15-17 ผลการประเมิน 1. สังเกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมินทกั ษะ แบบประเมินทกั ษะการฟง -การพดู คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดีมาก การใชภ าษา แบบประเมนิ ทักษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. สื่อ/แหลง การเรียนรู หนังสือเรียน Close-up 3 Unit 3 Time Out! กจิ กรรม H-P หนา 37 Grammar Reference for Unit 3 หนังสือเรียน Close-up 3 หนา 111 Workbook Close-up 3 Unit 3 กิจกรรม C-D หนา 21-22 8. บนั ทึกหลังการจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูม อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มธั ยมศึกษาปที่ 3
169 169 หนว ยการเรียนรูที่ 3 เร่ือง Time Out! แผนการจดั การเรียนรูที่ 9 เรือ่ ง Listening 1: Free-time Activities รหัสวิชา................. รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาอังกฤษ ชัน้ มัธยมศึกษาปที่ 3 กลุมสาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ปก ารศึกษา 25……….. ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชัว่ โมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวช้ีวัด ต 1.2 ม.3/4 พูดและเขยี นเพ่อื ขอและใหขอมูล อธบิ าย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับเรอื่ งทฟ่ี ง หรืออานอยาง เหมาะสม ต 1.2 ม.3/5 พดู และเขียนบรรยายความรสู กึ และความคิดเหน็ ของตนเองเก่ียวกับเรื่องตา งๆ กจิ กรรม ประสบการณ และ ขาว/เหตุการณ พรอมทั้งใหเ หตุผลประกอบอยา งเหมาะสม 2. จดุ ประสงคก ารเรียนรู พูดใหขอมูล อธิบาย และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ Free-time Activities โดยใชสํานวนภาษาและโครงสรางภาษาที่ กําหนดใหไ ดอ ยา งถูกตอง เหมาะสมกับระดับชน้ั เรียน 3. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูแ ละกจิ กรรมฝก ทักษะ สาํ นวนภาษา โครงสรางภาษาเก่ยี วกับ Free-time Activities กระบวนการฝกทักษะทางภาษา ทัง้ 4 ดา นโดยเฉพาะอยางย่ิงทกั ษะการฟง การพูด โดยใชกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร ทําใหผูเรียนสื่อสารไดอยางมี ประสิทธภิ าพ มีเจตคติทีด่ ตี อ การเรียนภาษาองั กฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Vocabulary: board game, quiz, traditional dancing, making jewellery, photography, playing drums, origami, sociable, musical, competitive, creative - Listening strategy: Clues for Listening 4.2 ดา นทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรยี นภาษาท้งั 4 ทกั ษะ การฟง การพูด การอา น และการเขยี น - ทักษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสือ่ สาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มีประสทิ ธภิ าพในการสื่อความ - มเี หตผุ ล มวี ิจารณญาณ 5. กิจกรรมการเรยี นรู Lead-in 1. ครนู าํ ความสนใจของนกั เรียนเขาสูบ ทเรียนในชว่ั โมงน้ดี วยกิจกรรม A ในหนงั สือ Close-up 3 หนา 38 โดยใหนกั เรยี น จับคูรูปภาพกับคาํ ศพั ท hobbies ขอ 1-6 2. นักเรยี นอานคาํ ตอบพรอมกัน 3. ครูใชคาํ ถาม Do you which hobby sounds good? Why do you think that?/Give at least 2 reasons. เฉลยคําตอบ 1. F 2. B 3. E 4. C 5. D 6. A คูม อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3
170 170 Presentation 1. ครตู รวจสอบความรูเดิมของนักเรียนเกี่ยวกับ Free-Time Activities และคําศัพทบางตัว เชน origami, traditional dance, board game/quiz โดยครถู ามวา Do you know origami? ถา นกั เรียนสวนใหญเงียบ ไมมีเสียงตอบ แสดงวา นักเรียนไมรู ความหมาย ครตู อ งอธิบายความหมายโดยครอู ธบิ ายเปนภาษาองั กฤษ ใชค ําศัพทงายๆ เพ่ือฝกการฟง การพดู ของนกั เรยี นไปดวย 2. ครสู อนคาํ ศัพทใหมหรอื คําศพั ททสี่ าํ คัญในกิจกรรม B ไดแก sociable, musical, competitive, creative แลว ให นักเรียนทํากจิ กรรมฝกทกั ษะการคิดวเิ คราะหความสัมพนั ธ ครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. 1, 2 2. 5 3. 1 4. 3, 4, 6 3. ครสู อน Listening strategy สาํ คญั ในกิจกรรมนี้ ไดแก Clues for listening ซ่ีงคือ คํา/วลี/ประโยคที่ผูพูดใชสะทอน ความคิดเห็นการยอมรบั การเหน็ ดวย หรอื เหน็ ตาง ดังน้ี - Clues for listening to express the acceptance/agreement เปนคํา/วลี/ประโยคที่ใชพูดเพื่อแสดงการรับรู เขาใจเห็นดว ยหรอื ยอมรบั วา ใช ไดแ ก absolutely, that’s true, that’s right - Clues for listening to express the refusal/disagreement เปนคาํ /วล/ี ประโยคทใ่ี ชพ ดู เพ่ือแสดงวาไมเหน็ ดวย กับคสู นทนา ไดแ ก actually, in fact, but, in actual fact 4. ครอู ธบิ ายวธิ กี ารเรียนระหวางฟงซดี ี แนะวธิ ีฟงอยา งมีประสิทธภิ าพ โดยครูช้แี จงวา นกั เรียนจะไดฟงเสียงพูดสนทนาท่ี เปนการพูดอยา งเปน ธรรมชาติ (naturally speaking) มคี วามเร็วพอประมาณ ใหนักเรียนฟงเพ่ือจับประเด็นสําคัญ โดยต้ังใจฟงคํา สําคัญ (content words) ไดแก nouns, main verbs, adjectives, adverbs ซึ่งในบทสนทนาที่นักเรียนจะไดฟงตอไปน้ีเปนการ แสดงความคิดเห็น ดงั นัน้ adverbs ท่ใี ชแสดงการรบั รู เห็นดว ย เหน็ ตา งฯ มีความสาํ คัญอยา งมาก ในระหวางทฟี่ ง ขอใหนักเรียนงดทํา กจิ กรรมใดๆ ไมพูดคยุ กัน 5. ครอู ธิบายวา นกั เรียนจะไดฟ ง ซีดี 2 ครั้งโดยทั้ง 2 ครง้ั ฟงเรือ่ งเดยี วกนั แตทาํ กิจกรรมตา งกัน ดังนี้ - ฟงครั้งท่ี 1 ทาํ กจิ กรรม C - ฟง ครั้งท่ี 2 ทํากิจกรรม D โดยครอู ธิบายคาํ สงั่ ของทง้ั 2 กิจกรรม ดงั นี้ กิจกรรม C ใหนักเรียนฟงบทสนทนาระหวางบุคคล 2 คน แลวบอกวาคูสนทนาแตละคูมีความคิดเห็นเหมือนกัน (the same opinion = S) หรือคิดตางกัน (different opinion = D) เม่ือฟงแลวใหนักเรียนเลือกคําตอบทันที โดยเขียน S หรือ D ใน ชองวาง กจิ กรรม D ใหนกั เรยี นฟงบทสนทนาระหวางบคุ คล 2 คน แลว เลือก Clues for listening to express the agreement or disagreement โดยเขียนเครื่องหมาย √ กาํ กบั คาํ ตอบที่เลอื ก Practice 1. ครเู ปด ซดี ี Track 3.1 นักเรยี นฟงคร้ังที่ 1 ทาํ กิจกรรม C ใหน ักเรยี นวิเคราะหค วามคิดเห็นของคูสนทนาวามีความเห็น ตรงกัน (S/Same) หรอื มีความเห็นตา งกนั (D/Different) นักเรยี นเลือกคําตอบ โดยครูอาจใหนักเรียนฟงซ้ําไดหรือครูเวนจังหวะเปด ซีดีใหฟง เปนชว งๆ เพอื่ ใหน ักเรียนประสบความสําเรจ็ ในการฟง 2. ครูเปดซีดี Track 3.1 นักเรียนฟงครั้งที่ 2 ทํากิจกรรม D ครูใหนักเรียนตรวจสอบ adverb และวิเคราะหกําหนด ทิศทางในการแสดงความคิดเห็นของคูสนทนา แลวใหนักเรียนเขียนเคร่ืองหมาย √ ในชองวางที่กําหนดให สําหรับช้ันท่ีนักเรียนสวน ใหญอ อ นภาษาอังกฤษ ครูอาจใหฟ งหลายครัง้ เพ่ือใหนักเรยี นประสบความสําเร็จในการฟง 3. นักเรยี นเปรยี บเทียบคาํ ตอบกับเพ่อื น กอ นเฉลยคาํ ตอบ คูมอื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศึกษาปท่ี 3
171 171 4. ครูใหน ักเรยี นชว ยกันเฉลยคําตอบ โดยพยายามใหน กั เรยี นบอกเหตุผลในการเลือกคาํ ตอบนนั้ ๆ เชน ตอบ D/Different เพราะไดยินคาํ วา but เปนตน 5. ครูเปดซีดี Track 3.1 ใหนักเรยี นฟงซํา้ เพ่ือยนื ยันคําตอบถกู และเพื่อใหน ักเรียนตรวจสอบ adverb ท่ีกําหนดคําตอบ ครูทบทวนคาํ ตอบทีถ่ ูกตองอกี ครง้ั หนง่ึ กจิ กรรม C เฉลยคาํ ตอบ 6. R 1. D 2. D 3. D 4. D 5. D 6. S กิจกรรม D 4. W (√) 5. R (√) 1. W (√) 2. R 3. W (√) Production ครูใหน กั เรียนเปด หนงั สือ Workbook Close-up 3 หนา 22 นักเรยี นปฏิบตั ิกิจกรรมตอไปน้ี 1. กิจกรรม A ใหนกั เรียน Read aloud the Exam Reminder ครูอธิบายพรอ มทง้ั ยกตัวอยางประกอบ - ใหน กั เรยี น Read aloud คําสง่ั และคาํ ถามพรอมท้งั ใหคําตอบ - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรยี น Read aloud คาํ ตอบ และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ The speaker probably disagrees with the other speaker’s opinion. 2. กิจกรรม B ครูเปด ซีดี Track 3.1 ใหน กั เรียนฟง อีกครั้ง และใหน ักเรียนทํา Exam Task - ใหนักเรียน Read aloud คาํ สั่งและคําถามพรอมท้งั ใหค ําตอบ - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรยี น Read aloud คําตอบ และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. E 2. A 3. B 4. D 5. G 6. การวัดและประเมนิ ผล เครอ่ื งมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น 18-20 วธิ ีการ 15-17 ผลการประเมิน 1. สังเกต 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผา น คมู อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศึกษาปท่ี 3
172 172 วธิ กี าร เครอ่ื งมือ คะแนน เกณฑ 18-20 2. ประเมนิ ทักษะ แบบประเมินทกั ษะการฟง -การพูด 15-17 ผลการประเมิน การใชภ าษา แบบประเมินทกั ษะการอาน-การเขยี น 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผา น 7. สื่อ/แหลงการเรียนรู หนงั สือเรียน Close-up 3 Unit 3 Time Out! เรอ่ื ง Listening กิจกรรม A-D หนา 38 หนังสอื Workbook Close-up 3 Unit 3 Time Out! เร่ือง Listening กจิ กรรม A-B หนา 22 Audio CD Track 3.1 8. บนั ทกึ หลงั การจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศึกษาปที่ 3
173 173 หนวยการเรยี นรูท่ี 3 เรอ่ื ง Time Out! แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 10 เรือ่ ง Listening 2: Discussion of Free-time Activities รหัสวชิ า................. รายวิชาพืน้ ฐานภาษาองั กฤษ ชัน้ มัธยมศึกษาปท่ี 3 กลมุ สาระการเรียนรูภ าษาตางประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชัว่ โมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชี้วัด ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขียนเพอ่ื ขอและใหขอมูล อธบิ าย เปรียบเทยี บ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เร่อื งท่ีฟงหรืออานอยาง เหมาะสม 2. จุดประสงคก ารเรียนรู ฟง พดู อาน และเขยี นใหข อมลู อธิบาย และแสดงความคิดเหน็ โดยใชสาํ นวนภาษาและโครงสรางภาษาที่กําหนดใหไดอยา ง ถูกตอ ง เหมาะสมกับระดับชั้นเรยี น 3. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรเู ก่ยี วกบั สํานวนภาษาโครงสรา งภาษาในบทสนทนาเกยี่ วกับ free-time activities และกิจกรรมฝกทกั ษะการคิด กระบวนการฝกทักษะทางภาษาท้ัง4 โดยเฉพาะอยา งยิ่งทักษะการฟงการพดู โดยใชกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร เจต คตทิ ่ดี ีตอการเรียนภาษาอังกฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Vocabulary: chatting online, sporty, absolutely, that’s true, that’s right, actually, in fact, but, in actual fact - Listening strategy: Clues for Listening 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรียนภาษาทง้ั 4 ทกั ษะ การฟง การพดู การอา น และการเขยี น - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการสอ่ื สาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มีประสิทธิภาพในการส่ือความ - มเี หตุผล มวี ิจารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรียนรู Lead-in 1. ครูนําความสนใจของนกั เรยี นเขาสูบ ทเรยี นในชว่ั โมงนี้ดว ยประโยคตอไปนีบ้ นกระดาน ใหนักเรยี นอานออกเสียงดังๆ พรอมกัน แลว ใหนักเรยี นตอบคําถาม A: Are you watching this boring quiz show? B: Actually, I ’m enjoying it! 2. ครใู ชค าํ ถาม Do they have the same opinion towards the quiz show? Why do you think like that? 3. นกั เรียนใหค ําตอบ : Yes. และบอกเหตุผล เพราะมคี าํ วา actually and other words such as boring, enjoying 4. ครแู สดงการยอมรับคาํ ตอบของนักเรยี นโดยใชคาํ /วล/ี ประโยค เชน That’s true./You’re right. คูม ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที่ 3
174 174 Presentation 1. ครูตรวจสอบความรเู กย่ี วกับคําศัพทใ หมบ างตวั เชน chatting online, sporty โดยครูถามวา Do you know ‘chatting online’ / sporty? What does it mean? ถา นกั เรยี นสวนใหญเ งียบ ไมมีเสยี งตอบ แสดงวา นักเรยี นไมรูค วามหมาย ครู ตองอธบิ ายความหมายโดยครอู ธบิ ายเปนภาษาอังกฤษ ใชคําศัพทง ายๆ เพ่ือฝกการฟง การพูดของนักเรยี นไปดว ย 2. ครแู จงนักเรียนวาการฟง ครงั้ นเ้ี ปน บทสนทนาตอเนอ่ื ง 1 เรือ่ ง ใชคําศพั ทก ลุมเดียวกบั การฟง คร้งั ทแี่ ลว โดยครูทบทวน Clues for listening to express the acceptance/agreement ไดแก absolutely, that’s true, that’s right และ Clues for listening to express the refusal/disagreement ไดแ ก actually, in fact, but, in actual fact 3. ครูทบทวนวิธีการเรียนระหวา งฟง ซีดี แนะวิธฟี งอยางมปี ระสิทธิภาพ โดยครูช้แี จงวานักเรยี นจะไดฟง เสยี งพดู สนทนา ทเ่ี ปน การพดู อยางเปนธรรมชาติ (naturally speaking) มคี วามเร็วพอประมาณ ใหน ักเรยี นฟงเพื่อจบั ประเด็นสําคญั โดยตั้งใจฟง คาํ สาํ คัญ (content words) ไดแ ก nouns, main verbs, adjectives, adverbs ซง่ึ ในบทสนทนาทีน่ ักเรยี นจะไดฟง ตอไปนเี้ ปนการ แสดงความคดิ เห็น ดงั น้ัน adverbs ทใ่ี ชแ สดงการรับรู เหน็ ดว ย เห็นตางฯ มีความสาํ คัญอยางมาก ในระหวา งทฟี่ งขอใหนักเรียนงดทํา กจิ กรรมใดๆ ไมพ ูดคุยกนั Practice 1. ครูใหน ักเรยี นเปด หนังสือเรียน Close-up 3 หนา 38 ใหน กั เรียนปฏบิ ัติกิจกรรมตามข้ันตอนดังนี้ 1.1 กิจกรรม E ใหนักเรียน Read aloud คําส่ัง และ Exam Close-up ครูอธิบายพรอมท้ังยกตัวอยางประกอบ ให นักเรยี น Compare and share the answers กบั เพอื่ นในหอง เฉลยคําตอบ the present 1.2 กิจกรรม F และ G ครอู ธบิ ายคําสั่ง ครูเปดซีดี Track 3.2 และใหนักเรียนฟงบทสนทนาระหวาง Mark กับแมคุย กันเกย่ี วกับเรื่องกจิ กรรมที่อยใู นความสนใจตนเองและเพื่อนๆ ใหนักเรยี นฟงซีดแี ลว เลือกวา ใครสนใจอะไร โดยครูอาจใหนักเรียนฟงซํ้า ได สําหรับชั้นท่ีนักเรียนสวนใหญออนภาษาอังกฤษ ครูอาจใหฟงซีดีหลายคร้ัง เพื่อใหนักเรียนประสบความสําเร็จในการฟง ครู ตรวจสอบคําตอบ โดยใหนักเรียนบอกคําตอบพรอ มกัน เฉลยคําตอบ 1. C 2. B 3. E 4. G 5. F 2. ครูใหน กั เรยี นเปด หนังสือ Workbook Close-up 3 หนา 22 นกั เรียนทาํ กิจกรรม C โดยครเู ปด ซดี ี Track 3.2 ให นักเรียนฟง อีกคร้งั เพอื่ ยืนยันคาํ ตอบและเฉลยคาํ ตอบ 6. การวัดและประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอื่ งมอื คะแนน เกณฑ 1. สงั เกต แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมนักเรยี น 18-20 15-17 ผลการประเมิน 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผา น คูมือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศึกษาปที่ 3
175 175 วิธีการ เคร่ืองมือ คะแนน เกณฑ 18-20 2. ประเมนิ ทกั ษะ แบบประเมินทักษะการฟง -การพดู 15-17 ผลการประเมิน การใชภาษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอาน-การเขียน 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผา น 7. สอ่ื /แหลงการเรยี นรู หนงั สอื เรยี น Close-up 3 Unit 3 Time Out! เรือ่ ง Listening กจิ กรรม E-G หนา 38 หนังสอื Workbook Close-up 3 Unit 3 Time Out! เร่อื ง Listening กจิ กรรม C หนา 22 Audio CD Track 3.2 8. บันทกึ หลังการจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที่ 3
176 176 หนวยการเรยี นรูท ี่ 3 เรื่อง Time Out! แผนการจดั การเรียนรทู ี่ 11 เรื่อง Speaking: Performing, Competition and Exhibition รหัสวิชา................. รายวชิ าพ้นื ฐานภาษาอังกฤษ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปการศึกษา 25……….. ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ช่ัวโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชวี้ ดั ต 1.2 ม.3/4 พูดและเขยี นเพื่อขอและใหข อมูล อธิบาย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกับเรือ่ งที่ฟงหรอื อานอยาง เหมาะสม ต 2.1 ม.3/1 เลอื กใชภาษา นํ้าเสยี ง และกิริยาทา ทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของ เจา ของภาษา ต 4.1 ม.3/1 ใชภ าษาสื่อสารในสถานการณจ ริง/สถานการณจ ําลองท่ีเกิดขึ้นในหองเรียน สถานศึกษา ชมุ ชน และสงั คม 2. จุดประสงคก ารเรียนรู พดู ใหขอ มูล อธบิ าย และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกับ performing, competition and exhibition โดยใชสํานวนภาษาและ โครงสรางภาษาท่ีกําหนดใหไ ดอยางถูกตอ ง เหมาะสม 3. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูเกีย่ วกบั สํานวนภาษาและโครงสรางภาษาและกิจกรรมฝกทักษะการคิดเก่ียวกับ performing, competition and exhibition กระบวนการฝกทักษะทางภาษาทง้ั 4 ดา นโดยเฉพาะอยางยิ่งทกั ษะการฟง การพูด โดยใชกระบวนการสอนภาษาอังกฤษ เพื่อการสือ่ สาร ทําใหผ เู รียนสื่อสารไดอยา งมีประสิทธภิ าพ มเี จตคติทด่ี ตี อ การเรียนภาษาอังกฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Vocabulary: performing, audience, talent, performing, to have something in common, to be scared, to be on the stage, competition, exhibition, scared, audience, perform, talent, acting, stage, competition, exhibition, aged, for more information, have things in common, a natural ability, practice, enter - Listening Strategies: Uh-huh. / Okay. / Yeah. / Got it. / I see. / Ah, I see. / I get that. - Speaking strategy: Wh-questions และYes-No questions 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรยี นภาษาท้งั 4 ทักษะ การฟง การพดู การอาน และการเขียน - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มปี ระสิทธภิ าพในการส่อื ความ - มีเหตุผล มวี ิจารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรียนรู Lead-in ครนู ําความสนใจของนักเรียนเขา สูบทเรยี นในชั่วโมงน้ีโดยใชรปู ภาพในหนา 39 และถามคําถามดังนี้ Q1: What are the people in these pictures doing? Q2: Which activity would you like to join most? Why? คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศึกษาปท่ี 3
177 177 Presentation 1. ครูสอนความรเู กีย่ วกบั คาํ ศพั ทเก่ยี วกบั performing, competition and exhibition ดังนี้ 1.1 ครูสอนสํานวนพูดใน Useful Expression box และประโยคคําถามในกิจกรรม B ในหนังสือเรียน Close-up 3 หนา 39 1.2 ครูสอนคาํ ศัพทใหมท่อี ยูในกิจกรรม A-D โดยใหนักเรยี นมสี ว นรวม - ครูใหน ักเรียนสํารวจคําศัพทในหนา 39 แลวขีดเสนใตคําท่ีนักเรียนไมรูความหมาย จากนั้นครูใหนักเรียนบอก คาํ ศัพทท ไ่ี มร ูความหมาย โดยครูเขียนบนกระดาน ถานักเรียนอานไมไดใหสะกดตัวอักษรคําศัพทดังกลาว ไดแก exhibition, aged, for more information, have things in common, a natural ability, practice, enter, scared, audience, perform, talent, acting, stage, competition - ครูใหนักเรยี นจัดกลมุ คาํ ศัพทเหลานโ้ี ดยครแู นะวาควรจัดตามหนาทขี่ องคํา - นักเรยี นจัดกลุมคําศัพทไดด ังน้ี Nouns Verbs Adjective กลมุ คํา/สาํ นวน exhibition, practice, enter, perform aged, scared for more information, audience, talent, acting, have things in common stage, competition, a natural ability - ครูใหนักเรียนชวยกันคนหาความหมายของคําศัพทเหลานี้โดยคนหาจาก Dictionary หรือนักเรียนอาจสืบคน online จากโทรศพั ทม ือถือของนกั เรยี นเอง - ครูใหน ักเรยี นอา นออกเสียงคําศัพทแตละคําพรอมกับบอกความหมาย โดยครูชวยเพิ่มเติมความหมายของศัพท บางคาํ ใหครอบคลุมการใชง านในบทเรยี นน้ี 2. ครูสอนหลกั วิธีการพดู สื่อสาร Speaking and Listening Strategies ไดแก 2.1 Listening Strategies ผฟู งควรแสดงความสนใจ รับรู เขาใจส่ิงไดฟง มีการใชภาษากายประกอบ การสบตาผูฟง ขณะท่ีพูดเลาและฟง เหตกุ ารณ ใชว ลตี อ ไปนเี้ ปนคร้ังคราวเพ่ือแสดงการรับรูเขาใจส่ิงไดฟงตอไปนี้ Uh-huh. / Okay. / Yeah. /Got it. / I see. / Ah, I see. / I get that. 2.2 Speaking Strategies ผูพูดควรเลือกใชนํ้าเสียงในประโยคคําถามเพ่ือแสดงเจตนาหรือความตองการไดถูกตอง เหมาะสม การเลือกใชนํ้าเสียงประโยคคําถาม Wh-questions และYes-No questions ใหลงทายประโยคดวยเสียงต่ําเม่ือตองการ ขอมลู ท่ีไมร ู (To find out information that you don’t know) ตัวอยางเชน Where’s the Talent competition? (ครูพูดออก เสยี งตามตวั อยางและนักเรียนพูดออกเสียงตาม) รวมท้ังการมองหนา สบตาคูสนทนา การใชภาษากายประกอบเปนคร้ังคราว เม่ือ นกั เรียนสว นใหญเขา ใจแลว ครใู หน ักเรียนทาํ กจิ กรรม Practice ครูใหนักเรียนเปดหนงั สือ Close-up 3 หนา 39 ใหน ักเรยี นปฏบิ ัติกจิ กรรมดังน้ี 1. กิจกรรม A โดยครูอธิบายวาดานซายมอื ของนักเรียนเปนประโยคที่มี 1 คําเปนตัวหนาและดานขวามือของนักเรียนท่ี เปน ตวั เลือก a-d เปนความหมายของเปน ตัวหนา ใหน ักเรียนจบั คูความหมายของตวั หนาแตละประโยค - ครูใหนกั เรยี นอา นออกเสยี งประโยคแตละประโยค - ครใู หนกั เรยี นท้ังช้ันอานออกเสียงตัวเลือก a-d ครั้งละ 1 ตัว และครูถามวาตัวเลือกน้ีเปนความหมายของคําที่ใช ตวั หนาควรเกี่ยวขอ งกับประโยคใด เพราะอะไร - เมือ่ ไดคาํ ตอบครบ ครใู หนกั เรียนอา นซ้าํ โดยอานเฉพาะคําทเ่ี ปนทเ่ี ปน ตวั หนาและตวั เลือกที่เปน ความหมาย - ครเู ฉลยคําตอบ โดยใหนักเรียนอานออกเสียงดังๆ คูมือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 3
178 178 เฉลยคาํ ตอบ 1. c 2. d 3. a 4. b 2. กจิ กรรม B ครใู หนักเรยี นจบั คทู ํากิจกรรมถาม-ตอบจากภาพ โดยทาํ ตามข้นั ตอนตอไปน้ี - ใหนกั เรยี นใชประโยคท่ี 1 กบั การถามแตล ะภาพ ดังนี้ Q1: ภาพท่ี 1 What do the people in the first picture enjoy doing? Q2: ภาพท่ี 2 What do the people in the second picture enjoy doing? หรอื What about the second picture? Q3: ภาพท่ี 3 What about the third one? Q4: Do you enjoy performing? Q5: Have you ever been on stage? Q6: What do these activities have in common? สาํ หรับคาํ ถามขอน้ีครแู นะนักเรยี นวา ควรมกี ารใหเหตผุ ล ประกอบ ดงั นัน้ ควรถามวา Why?/why do you think like that? - นักเรียนฝกใชคําถามและใหคําตอบกับเพื่อนโดยปฏิบัติตามขั้นตอนและหลักวิธีการพูดส่ือสาร Speaking and Listening Strategies - ครูใหเวลานกั เรียนและสังเกตการทํากิจกรรมนี้ เฉลยคาํ ตอบ (Suggested Answer) They enjoying dancing, magic and playing musical instruments. They are all performing for an audience. 3. กิจกรรม C ครูอธิบายคําส่ังและทบทวนความรูใน Useful Expressions และ Exam Close-up จนแนใจวานักเรียน สวนใหญเขา ใจและพรอมท่ีจะปฏิบตั ิกจิ กรรมตอ ไปไดถ กู ตอ ง 4. กจิ กรรม D ครใู หนักเรียนจบั คทู ํา โดยผลดั กันถาม-ตอบ ดงั นี้ - นักเรียน A เปนเจาของเรื่อง Talent competition รูรายละเอียดเก่ียวกับเร่ืองน้ีเปนอยางดีและจะตองตอบขอ ซักถามของนกั เรยี น B โดยนักเรียน B ใชค าํ ถามในหนา 124 - นักเรียน B เปน เจาของเรื่อง Photography exhibition รรู ายละเอียดเก่ียวกับเรื่องน้ีเปนอยางดีและจะตองตอบขอ ซกั ถามของนักเรยี น A โดยนักเรียน A ใชคําถามในหนา 123 โดยสง่ิ ทีท่ ง้ั A และ B ตองทาํ คือ อานเร่ืองของตวั เองใหเ ขาใจพรอมที่จะใหขอมูลท่ีถูกตองแกผูอ่ืน และเตรียมคําถาม เตรยี มพดู ซักถามโดยใชโครงสรางทก่ี ําหนดใหอ ยา งถกู ตอ งและเหมาะสม - นักเรยี นจับคูกบั เพ่ือน ตกลงกันวาใครจะเปน A ใครจะเปน B แลวซักซอมกอนลงมือปฏิบัติ - ครสู ังเกต แนะนํา ชวยเหลือ และแกปญหา - ครูสุม เลอื กนักเรยี นออกมาพูดตามบทบาททเี่ ลือกและประเมินทักษะการฟง การพดู คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที่ 3
179 179 เฉลยคาํ ตอบ (Suggested Answer) Task 1, Student B: Where does the talent competition take place? / Where is the talent competition? What date is the talent competition? / When does the talent competition take place? Is the talent competition for teenagers? Is there a website? / What is the website address? What can you win (in the competition)? Task 2, Student A: Where does the photography exhibition take place? / Where is the photography exhibition? What date is the photography exhibition? / When does the photography exhibition take place? Who can enter a photo in the exhibition? What prize can you win? / What can you win? Is there a website? / What is the website address? Production กิจกรรม Ideas Focus ใหนักเรียน Read aloud คาํ สั่งและพูดบอกสง่ิ ทตี่ องทําในกิจกรรมนี้ - ครกู ําหนดใหน ักเรยี นแบงกลมุ กลุมละ 4-6 คน ทํากิจกรรมนี้ โดยดาํ เนนิ ตามขนั้ ตอนเชน เดยี วกับกิจกรรม F - ครูกําหนดเวลา และใหน ักเรียนทํากิจกรรมนอี้ ยางอสิ ระ เม่อื หมดเวลาครตู รวจสอบคําตอบโดยเลือกนักเรียนจํานวน 2- 3 กลุม ออกมาพดู ถา หากมเี วลาไมเ พยี งพอ ครใู หน ักเรียนทํากจิ กรรมนใี้ นชวั่ โมงตอไป หรือนดั หมายใหท ํานอกชนั้ เรยี น - ครสู รุปบทเรยี น ตอบขอซกั ถามของนักเรยี น 6. การวดั และประเมินผล เครื่องมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี น 18-20 วิธีการ 15-17 ผลการประเมนิ 1. สังเกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมนิ ทกั ษะ แบบประเมนิ ทักษะการฟง-การพูด คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดมี าก การใชภาษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน คมู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3
180 180 7. ส่ือ/แหลง การเรยี นรู หนังสอื เรียน Close-up 3 Unit 3 Time Out! เรอ่ื ง Speaking กิจกรรม A-D และ Ideas Focus หนา 39 Speaking Information for Student A for Unit 3 หนังสอื เรยี น Close-up 3 หนา 123 Speaking Information for Student B for Unit 3 หนงั สือเรยี น Close-up 3 หนา 124 8. บันทึกหลงั การจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูม ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ 3
181 181 หนว ยการเรยี นรทู ี่ 3 เร่อื ง Time Out! แผนการจดั การเรียนรทู ี่ 12 เรอื่ ง Writing 1: Adverts รหสั วชิ า................. รายวิชาพ้นื ฐานภาษาองั กฤษ ช้นั มัธยมศึกษาปท ี่ 3 กลมุ สาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ ปการศึกษา 25……….. ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ช่ัวโมง ผูส อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชว้ี ดั ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขียนโตตอบขอ มลู เก่ยี วกับตนเอง เรอ่ื งตางๆ ใกลต ัว สถานการณ ขาว เรือ่ งท่ีอยใู นความสนใจของ สังคมและสอ่ื สารอยา งตอเนื่องและเหมาะสม ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขยี นเพื่อขอและใหข อมลู อธิบาย เปรียบเทยี บ และแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกบั เร่อื งที่ฟง หรืออา นอยาง เหมาะสม 2. จุดประสงคการเรียนรู อา นและเขยี นใหขอมูล อธิบาย และแสดง ความคิดเห็นโดยใชสํานวนภาษาและโครงสรางภาษาที่กําหนดใหไดอยางถูกตอง เหมาะสมกับระดับชัน้ เรียน 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรเู กย่ี วกับคาํ ศพั ทส ํานวนภาษาและโครงสรางภาษาเรื่อง Adverts, email และกิจกรรมฝกทักษะการคิดกระบวนการ ฝกทักษะทางภาษาท้ัง 4 ดานโดยเฉพาะการอานและการเขียน โดยใชกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร ทําใหผูเรียน สือ่ สารไดอยา งมปี ระสิทธภิ าพ มีเจตคติที่ดตี อการเรียนภาษาองั กฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Vocabulary: suggesting, persuading, describing - Grammar: ประโยค Imperative - Writing strategy: Context clues 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรยี นภาษาทัง้ 4 ทกั ษะ การฟง การพูด การอา น และการเขียน - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มีประสทิ ธภิ าพในการส่ือความ - มเี หตผุ ล มีวจิ ารณญาณ 5. กิจกรรมการเรียนรู Lead-in 1. ครนู ําความสนใจของนักเรียนเขา สูบทเรยี นในช่ัวโมงนโ้ี ดยครูเขียนประโยคตอ ไปนี้บนกระดาน ใหนักเรยี นพดู บอกคําที่ หายไป - Come to tennis club! You can make new friends and get …………… . - Don’t waste your time on gamimng! Get outside and .............. our running club. 2. นกั เรยี นชว ยกันคิดหาคํามาเติมในชอ งวาง ถาไมพบคําตอบที่ถูกตอ ง ใหครูขีดเสนใตต วั ช้ีแนะคาํ ตอบคือ tennis club, Get …… and …… running club คูมือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที่ 3
182 182 3. ถานกั เรยี นยงั บอกคําตอบถกู ไมไ ด ครใู หตัวเลอื กดงั นี้ lucky, fit, do, join Presentation ครูสอนคาํ ศัพทส ํานวนภาษาเกยี่ วกบั Adverts, email ใน Learning Focus ไดแก ประโยค Imperative โครงสรา งภาษาที่ ใช - suggesting ไดแก Why don’t we ………?, How about we ……..?, What about + v-ing?, Would you like to …..? Would you like to ……….? Would you be interested in + -ing? - persuading ไดแก Come to ……,Try something new!, Don’t be lazy/shy/boring!, Be brave/strong/active! Practice ครใู หน กั เรียนปฏิบตั ิกิจกรรมดงั น้ี 1. กิจกรรม A ครูใหน กั เรยี นอาน email และ Advert ครูถามนักเรียนวา - What kind of text do you see on the left? (an advert) - What do you see on the right? (an email) - What words do they see in both texts? (lessons, D.J. Sam) ครูใหเวลานักเรียนทํา และครูตรวจสอบคาํ ตอบโดยใหนักเรียนอานคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. Andy 2. Max 3. Sam and Dave 4. Andy 5. Sam 2. กิจกรรม B ครูอธบิ ายคําสงั่ และช้ีแนะวิธกี ารคิดคาํ ตอบ เพ่อื ใหนักเรยี นกิจกรรมไดอยา งถูกตอ ง ดังน้ี - ใหนกั เรยี นเลือกรปู กริยาทถี่ กู ตองตามหลักไวยากรณ กอ นตดั สนิ ใจเลือกคําตอบ ใหนกั เรียนอานประโยคเพื่อคนหาตัว ช้แี นะคาํ ตอบ (Context clues) โดยใหนกั เรียนสังเกตคําที่อยูหนาและหลังชองวาง แลวขดี เสนใต Context clues - นกั เรยี นอา นประโยคเพอ่ื คนหาตัวชแ้ี นะคาํ ตอบ (Context clues) - ครตู รวจสอบความเขาใจของนักเรยี นโดยใหนักเรียนอาน Context clues พรอมกนั โดยครเู ตมิ ความครบถวน ตัวชแ้ี นะคําตอบ 1. …and get fits! 2. …in… 3. …about… 4. we… 5. Would … like … 6. …lazy! - นักเรียนอา นประโยคอีกครั้งเพื่อตดั สินใจเลือกคําตอบ - ครเู ฉลยคําตอบโดยใหนกั เรยี นอา นคาํ ตอบพรอมกัน โดยครรู ับรองคาํ ตอบถกู ตองและแกไขคําตอบผิดและใหเหตผุ ล เฉลยคําตอบ 1. Join 2. doing 3. taking 4. start 5. to learn 6. Don’t be 3. กิจกรรม C ครูอธิบายคาํ ส่งั และชแี้ นะวิธีการคิดคําตอบ เพอื่ ใหนกั เรียนกจิ กรรมไดอยา งถูกตอง ดงั น้ี - ครูอธบิ ายวา ในกิจกรรมนป้ี ระกอบดวยขอมูล 2 สวน ไดแ ก Note และ Advert ใหนกั เรียนอา นทัง้ Note และ Advert ใหเขา ใจ แลว คิดหาคํา/วลีท่ถี ูกตองนาํ ไปเติมในชองวางของ Advert - กอนตัดสินใจเลือกคําตอบ ใหนักเรียนอานประโยคเพื่อคนหาตัวชี้แนะคําตอบ (Context clues) โดยใหนักเรียน สังเกตคําทอ่ี ยหู นาและหลังชองวา ง แลว ขีดเสนใต Context clues - ครูตรวจสอบความเขาใจของนักเรยี นโดยใหนักเรียนอาน Context clues พรอมกัน โดยครเู ตมิ ความครบถวน คมู ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศึกษาปที่ 3
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 597
Pages: