183 183 ตัวชี้แนะคาํ ตอบ 3. from … till 4. £,… per week 1. Don’t, … shy 2. about, … to Drama club 5. Be …. , and, … something new - นกั เรียนอา น Note และ Advert เพือ่ ตดั สินใจเลือกคําตอบ - ครเู ฉลยคําตอบโดยใหนกั เรียนอานคําตอบพรอมกัน โดยครรู ับรองคําตอบถกู ตองและแกไขคําตอบผดิ และใหเหตผุ ล เฉลยคําตอบ 1. be 2. coming 3. 5.30 p.m. 4. £8 5. try Production 1. กิจกรรม D ครูมอบหมายการบาน ครูอธิบายคําสั่ง ชี้แจงวิธีการทํางาน ใหนักเรียนเขียน Advert โดยใชขอมูลที่ กําหนดใหใน Note ใหนกั เรยี นทาํ เปน ช้ินงานลงในกระดาษ A4 มีการออกแบบอยางสรางสรรคตามจินตนาการของนักเรียน เลือกใช ภาษาทเี่ หมาะสม ครูนัดหมายการสงงาน เฉลยคําตอบ Students’ own answers 2. กิจกรรม E ใหน กั เรียน Read silently Exam Task แลวคิดหาคํามาเตมิ ในชอ งวาง - นักเรยี นอานประโยคเพ่อื คนหาตัวชีแ้ นะคําตอบ (Context clues) - นกั เรยี นนําตัวชีแ้ นะคาํ ตอบ (Context clues) ไปใชในการตดั สินใจเลือกคาํ ตอบ - ครูตรวจสอบคาํ ตอบโดยใหนกั เรยี นอา นคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ (1) don’t (2) Come (3) 9 p.m. (4) snacks (5) contact Julie 6. การวดั และประเมินผล เครอื่ งมอื คะแนน เกณฑ แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมนักเรยี น 18-20 วิธีการ 15-17 ผลการประเมนิ 1. สังเกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผาน 2. ประเมินทักษะ แบบประเมนิ ทกั ษะการฟง-การพูด คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดมี าก การใชภ าษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน คูมือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศึกษาปท่ี 3
184 184 7. สอ่ื /แหลง การเรียนรู หนงั สอื เรียน Close-up 3 Unit 3 Time Out! เรอื่ ง Writing กิจกรรม A-E หนา 40-41 8. บนั ทกึ หลงั การจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมอื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที่ 3
185 185 หนวยการเรยี นรูท่ี 3 เร่ือง Time Out! แผนการจัดการเรียนรูที่ 13 เรอ่ื ง Writing 2: Adverts and emails รหัสวชิ า................. รายวชิ าพน้ื ฐานภาษาอังกฤษ ช้นั มัธยมศึกษาปที่ 3 กลุมสาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ปการศึกษา 25……….. ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชว่ั โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู/ตัวชวี้ ัด ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขียนโตต อบขอมูลเกีย่ วกบั ตนเอง เรื่องตา งๆ ใกลต ัว สถานการณ ขา ว เร่ืองท่ีอยูในความสนใจของ สังคมและสอ่ื สารอยา งตอเนื่องและเหมาะสม ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขียนเพ่อื ขอและใหข อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับเร่อื งทฟ่ี งหรืออานอยา ง เหมาะสม 2. จดุ ประสงคก ารเรียนรู อานและเขียน Adverts, email ใหขอ มูล อธิบาย และแสดงความคดิ เหน็ โดยใชส าํ นวนภาษาและโครงสรา งภาษาที่ กําหนดใหไดอยา งถูกตอ ง เหมาะสมกับระดบั ชั้นเรยี น 3. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรูเกีย่ วกบั คาํ ศัพทส ํานวนภาษาและโครงสรา งภาษาเรอื่ ง Adverts, email และกิจกรรมฝก ทักษะการคิดกระบวนการฝก ทกั ษะทางภาษาทงั้ 4 ดา นโดยเฉพาะ การอา นและการเขียนโดยใชกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสาร ทําใหผูเรียนส่ือสารได อยางมีประสทิ ธภิ าพ มเี จตคตทิ ดี่ ีตอ การเรยี นภาษาอังกฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Vocabulary: สํานวนภาษาเก่ยี วกับ Adverts, email - Writing strategy: suggesting, persuading, describing 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรยี นภาษาท้ัง 4 ทกั ษะ การฟง การพูด การอา น และการเขยี น - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มีประสทิ ธิภาพในการสื่อความ - มีเหตุผล มีวจิ ารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรียนรู Lead-in ครูนําความสนใจของนกั เรยี นเขาสบู ทเรยี นในช่ัวโมงน้ี โดยครูเขียนประโยคตอ ไปนีบ้ นกระดาน - Free Lessons! Learn how to be a DJ! ครูใหน ักเรียนอา นออกเสียงดังๆ Presentation ครูทบทวนคําศพั ทสาํ นวนภาษาเก่ยี วกับ Adverts, email ไดแก โครงสรา งภาษาใน Adverts ดงั น้ี - Suggesting ไดแ ก Why don’t we … ?, How about we…….. ?, What about + v-ing?, Would you like to … ? Would you like to … ? Would you be interested in + -ing ? คูมือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศึกษาปท ่ี 3
186 186 - Persuading ไดแ ก Come to …, Try something new!, Don’t be lazy/shy/boring!, Be brave/strong/active! Practice ครใู หน ักเรยี นเปดหนังสือ Workbook Close-up 3 หนา 23 ปฏบิ ตั ิกิจกรรมดงั นี้ 1. กิจกรรม A ครใู หนักเรยี นอา นคําสง่ั และทําความเขาใจ เติมคาํ ตอบที่ถกู ตอง - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรยี นบอกคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. to see 2. calling 3. bring 4. going 2. กิจกรรม B ใหนกั เรียน Read aloud email from Martin - ครูอธิบายและใหน ักเรียนพดู เลาขอ ความใน email - ใหนักเรยี นอานคําถามและคน หาคําตอบ - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรยี นบอกคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. F 2. F 3. F 3. กจิ กรรม C ครูใหนกั เรยี น Read silently email message and note ในกจิ กรรม B อกี ครั้ง - ครใู หเ วลานักเรียนคนหา คิดวเิ คราะห ไตรตรอง และใหค าํ ตอบ - ครูตรวจสอบความถูกตองโดยใหนักเรียนอานคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ Are you bored just watching TV? They why don’t you come to Memford’s juggling competition? The competition begins at 3 pm on Sunday at the usual place – Wikins Park Admission: £10 Pizzas are on sale for £2.50 and drinks are £1.50. Join us – you won’t regret it! Production 1. ใหนักเรียนปฏิบัติกจิ กรรม D โดย Read aloud Tom’s notes และ Charlotte’s email 2. ครทู บทวนวิธีการใช Suggesting และ Persuading ใหนักเรยี นฟง อีกครงั้ 3. นักเรยี นคดิ หาคําเตมิ ในชองวา ง ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรยี นบอกคาํ ตอบพรอ มกัน และครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. Johnstown Hall 2. 3 pm / 3 o’clock / three o’clock 3. 10 pm / 10 o’clock / ten o’clock 4. drink 5. songs คูมือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 3
187 187 6. การวัดและประเมนิ ผล เครอ่ื งมือ คะแนน เกณฑ วธิ ีการ แบบประเมนิ การสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น 18-20 15-17 ผลการประเมิน 1. สังเกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมินทกั ษะ แบบประเมินทักษะการฟง -การพูด คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดมี าก การใชภ าษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 7. สือ่ /แหลงการเรยี นรู หนงั สือ Workbook Close-up 3 Unit 3 Time Out! เรอ่ื ง Writing กิจกรรม A-D หนา 23 8. บันทกึ หลังการจัดการเรยี นรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท่ี 3
188 188 หนวยการเรียนรทู ่ี 3 เรื่อง Time Out! แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 14 เร่ือง Video: Mechanical Lizard Car รหสั วิชา................. รายวิชาพ้ืนฐานภาษาอังกฤษ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท่ี 3 กลุมสาระการเรียนรูภ าษาตางประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง ผูส อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชีว้ ัด ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขยี นโตตอบขอมลู เกี่ยวกบั ตนเอง เรือ่ งตา งๆ ใกลต ัว สถานการณ ขา ว เรอ่ื งที่อยูในความสนใจของ สังคมและสื่อสารอยา งตอเน่ืองและเหมาะสม ต 1.3 ม.3/2 พดู และเขียนสรุปใจความสาํ คัญ/แกน สาระ หวั ขอเร่อื งที่ไดจากการวเิ คราะหเ รือ่ ง/ขา ว/เหตกุ ารณ/สถานการณ ที่อยใู นความสนใจของสงั คม ต 2.1 ม.3/2 อธบิ ายเกย่ี วกบั ชีวติ ความเปน อยู ขนบธรรมเนียม และประเพณขี องเจาของภาษา ต 2.2 ม.3/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกตา งระหวางการออกเสียงประโยคชนดิ ตา งๆ และการ ลาํ ดับคําตามโครงสรา งประโยคของภาษาตางประเทศและภาษาไทย ต 3.1 ม.3/1 คน ควา รวบรวม และสรปุ ขอมลู /ขอ เท็จจริงทีเ่ กีย่ วของกบั กลุม สาระการเรยี นรอู ่นื จากแหลงการเรียนรแู ละนํา เสนอดวยการพูดและการเขียน ต 4.1 ม.3/1 ใชภ าษาส่ือสารในสถานการณจริง/สถานการณจําลองท่ีเกิดข้ึนในหองเรยี น สถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม ต 4.2 ม.3/1 ใชภาษาตา งประเทศในการสบื คน/คน ควา รวบรวม และสรปุ ความรู/ขอ มูลตางๆ จากสอื่ และแหลง การเรยี นรู ตางๆ ในการศกึ ษาตอและประกอบอาชีพ 2. จดุ ประสงคก ารเรียนรู พดู /เขยี นสรุปใจความสําคญั แสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับสารคดีการคดิ คนยานพาหนะสําหรบั ใชในทะเลทราย โดยใชสาํ นวน ภาษาและโครงสรา งภาษาทกี่ ําหนดใหไ ดอยา งถูกตอง เหมาะสมกับระดับชนั้ เรียน 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูเกยี่ วกับสาํ นวนภาษา โครงสรางภาษา กิจกรรมการเรียนรูผานสื่อวิดีโอ (processed watching) ส่ือสิ่งพิมพ ทักษะ การเรียนภาษาทัง้ 4 ดา น ไดแ ก ทกั ษะการฟง ทักษะการพูด ทักษะการอาน ทักษะการเขียน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือ การสอื่ สาร ทาํ ใหการส่อื สารบรรลุเปา หมายอยา งมปี ระสทิ ธิภาพ ผเู รียนมคี วามสามารถ มีเจตคติที่ดตี อ ภาษาอังกฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Vocabulary: Documentary films ไดแก mission, dessert rat, off road vehicle, dessert lizard, steep hill, model, mechanical, dessert terrain buddy, behave, operate, tight spot, fairly, design, at the control, to be similar to 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะการการดชู มอยางเปนขั้นตอนมเี ปาหมาย (processed watching) - ทักษะการคิดวิเคราะห คิดสังเคราะห และประเมนิ คา - ทักษะเรยี นภาษาทง้ั 4 ทักษะ การฟง การพูด การอาน และการเขยี น - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ี่ 3
189 189 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มปี ระสิทธิภาพในการสอื่ ความ - มเี หตุผล มีวจิ ารณญาณ 5. กิจกรรมการเรียนรู Lead-in 1. ครนู ําความสนใจของนักเรียนเขาสบู ทเรยี นในช่วั โมงนโ้ี ดยครใู หน กั เรียนดูรปู ภาพท้ัง 3 รปู ในหนงั สือเรยี น Close-up 3 หนา 42 แลวใชคําถามตอ ไปนี้ Look at the three pictures. - What do you see in each picture? - Do you think which one is different from the others? - Do you think where they are? - Guess how the animals and the vehicle are related. 2. นักเรยี นพยายามใหคาํ ตอบ ครใู หเ วลานักเรียนเตรยี มคาํ ตอบ โดยครบู อกนักเรยี นวา คําถามสดุ ทายใหคิดและตอบตาม จนิ ตนาการของนกั เรียน 3. นักเรยี นชว ยกันใหคําตอบ โดยครูยอมรบั ทุกคําตอบ Presentation กอ นดวู ดิ ีโอ ครสู นบั สนุนใหน ักเรียนคาดเดาเร่ืองลวงหนา โดยปฏบิ ัติ ดงั นี้ 1. ใหนักเรียนพูดเลาตามจินตนาการของตน โดยนําคําตอบจากคําถามนําขอสุดทายมาพูด Guess how the animals and the vehicle are related. 2. ใหนักเรียนตอบคาํ ถาม 3 ขอ โดยครูบอกนักเรียนวาเปนคําถามใหนกั เรียนเดาคาดเดาเร่ืองลวงหนา - What’s the video about? - Where does the story take place? - What will happen? 3. ครใู หน ักเรยี นเปด หนงั สอื Close-up 3 หนา 42 นักเรยี นทํากิจกรรม A โดยจับคูคําศัพทกับรูปภาพ โดยตัวเลือกและ วลีในคําถามทําใหนักเรียนคาดเดาเรื่องไดดีขึ้น ไดแก dessert rat, off road vehicle, dessert lizard และ get around the dessert more easily เฉลยคาํ ตอบ 1. B 2. C 3. A Practice 1. กิจกรรม B ครูบอกนักเรียนวา นักเรียนจะไดดูหนังสารคดีสั้นเก่ียวกับการขับรถในทะเลทราย และขณะท่ีดู นักเรียน ตอ งตดั สนิ วาประโยคในกจิ กรรม B วา เปน จรงิ True/T หรือ ไมเปนจริง False /F ดังนั้นกอนดูใหนักเรียนอานประโยคใหเขาใจและ ประโยคดงั กลา วจะชว ยใหน กั เรยี นเขา ใจและคาดเดาเร่อื งลวงหนาได 1.1 นกั เรียนอา นประโยคทก่ี าํ หนดใหแ ละขีดเสน ใตคาํ สําคัญซ่ึงจะชวยใหน ักเรยี นคดิ วิเคราะหห าคาํ ตอบได 1.2 ครูเปด วิดีโอใหน กั เรยี นดูโดยปฏบิ ัตดิ ังน้ี ครเู ปด วิดโี อและหยุดเลนช่ัวขณะหลงั จากพบคาํ ตอบของประโยคที่ 1 เพ่ือ ตรวจสอบวา นกั เรยี นสว นใหญเ ลือกคาํ ตอบถกู จากน้นั ครเู ปดวดิ โี อตอ และหยดุ เลน เปน ระยะเพื่อใหนักเรียนไดมีเวลาคิดทบทวนและ ประเมนิ คําตอบ คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศกึ ษาปท่ี 3
190 190 1.3 เม่อื ดจู บแลวครใู หนักเรยี นตรวจคําตอบ แตถ านักเรียนสวนใหญยังไมสามารถหาคําตอบได ครคู วรใหนักเรยี นดูซํ้า หลายรอบ กอนเฉลยคําตอบ 1.4 ครเู ฉลยคาํ ตอบ โดยใหน กั เรียนอานคําตอบพรอมกัน โดยครใู หนักเรียนบอกเหตุผลสาํ หรับขอท่ีเปนเท็จ เฉลยคาํ ตอบ 1. T 2. T 3. T 4. F 5. T 6. F 2. กจิ กรรม C ครูใหน ักเรียนทํากจิ กรรมหลังดูวดี โิ อ ดงั น้ี 2.1 ครูอธิบายคําสั่งและครูสอน/ชี้แนะวิธีการหาคําตอบ ซ่ึงนักเรียนจะตองรูความหมายของตัวเลือก/คําศัพทที่ กําหนดใหเลอื กมาเตมิ ในประโยค และศึกษาประโยคแตละประโยคเพ่ือคนหาตัวชี้แนะ/กําหนดคําตอบ (Context clues) จากนั้นจึง นาํ มาใชต วั ช้แี นะ/กําหนดคาํ ตอบ (Context clues) ประกอบการตดั สินใจเลือกคาํ ตอบ ครใู หน กั เรียนทําตามขั้นตอนดงั กลา วนี้ 2.2 นกั เรียนอานออกเสียงคําศัพทที่กําหนดใหแ ละบอกความหมายคําศัพท 2.3 นกั เรยี นศกึ ษาประโยคแตล ะประโยคเพ่ือคนหา ตัวช้ีแนะ/กาํ หนดคําตอบ (Context clues) และขีดเสนใตก าํ กบั ไว 2.4 ครใู หน ักเรยี นอานตัวช้ีแนะ/กําหนดคําตอบ (Context clues) และขีดเสนใตกํากับไว โดยอานออกเสียงดังๆ ครู เพิ่มเติมขอ มูลท่เี ก่ียวของ และตรวจสอบความเขา ใจท่ีถกู ตองของนักเรียน โดยครเู ฉลยตวั ชี้แนะ/กําหนดคาํ ตอบ (Context clues) ตัวชแ้ี นะคาํ ตอบ 2. ... so his, … was to make 3. … a mechanical … 1. ... that could go anywhere 4. … that he could hold in his … 5. … can go up and down … 6. … drives up a steep hills and when he gets to the … 7. … stop, … never drives anywhere that he can’t … 8. … has to be …, because he doesn’t want to have an accident. 2.5 ครใู หนักเรียน Read aloud ตวั ช้ีแนะคาํ ตอบ (Context clues) ครเู พ่ิมเติมขอ มูลทีเ่ กีย่ วของ และตรวจสอบความ เขา ใจท่ถี กู ตองของนักเรยี น 2.6 นักเรียนลงมืออาน Cloze passage ขอ C และเลือกคําตอบ ครูใหเวลานักเรยี นคดิ และเขียนคําตอบ 2.7 ครูอาจใหนกั เรียนไดด ูวดิ โี อซํ้าอีกครงั้ หนง่ึ เพ่ือตรวจสอบคําตอบ และปรบั ปรงุ คาํ ตอบ 2.8 ครเู ฉลยคาํ ตอบ โดยใหนกั เรียนชว ยบอกคําตอบ ครยู นื ยนั คาํ ตอบถกู และแกไ ขคําตอบผิด 2.9 ในการเฉลยคาํ ตอบครคู วรเลนวิดโี อใหนักเรยี น ไดม โี อกาสตรวจสอบความเขาใจของตวั เอง เฉลยคาํ ตอบ 1. machine 2. idea 3. lizard 4. hand 5. hills 6. Top 7. See 8. careful Production 1. ครใู หน กั เรียนเขา แบงกลมุ กลมุ ละ 4-6 คนทํากจิ กรรม Ideas Focus 2. ใหน กั เรยี น Read aloud คําถาม และพดู บอกความหมาย 3. ครทู บทวนคาํ ถามและชแ้ี นะวิธคี ดิ และเขยี นคาํ ตอบโดย Expaining why และใหเวลานกั เรียนทํากิจกรรมน้อี ยางอิสระ โดยครกู ําหนดเวลา สงั เกต แนะนาํ ชวยเหลอื แกป ญ หา คูม อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศึกษาปที่ 3
191 191 4. เมื่อครบกําหนดเวลาครูตรวจสอบคําตอบโดยเลือกนักเรียน 3-4 กลุมข้ึนมาใหคําตอบ ครูยอมรับทุกคําตอบท่ีให เหตผุ ล (Explaining why) เฉลยคาํ ตอบ Students’ own answers 5. ครูสรปุ บทเรียน ซกั ถามเพื่อประเมนิ ความคิดเห็นและใหนักเรียนแสดงความคิดเห็นตอวิดีโอท่ีดูในชั่วโมงนี้ แนะนําให นกั เรยี นดูสารคดีรายการใหค วามรู และคน ควาศึกษาหาขอมูลเพ่ิมเติมจากสื่ออิเล็กทรอนิกสเพื่อขยายโลกทัศน และประโยชนในการ แกไ ขปญหา การดํารงชวี ิต การศกึ ษาตอ และการเลอื กอาชพี 6. การวัดและประเมนิ ผล เครอื่ งมือ คะแนน เกณฑ วธิ กี าร แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมนักเรียน 18-20 15-17 ผลการประเมิน 1. สงั เกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมนิ ทักษะ แบบประเมินทักษะการฟง -การพดู คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดีมาก การใชภ าษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 7. สอื่ /แหลงการเรยี นรู หนงั สือเรยี น Close-up 3 Unit 3 Time Out! กิจกรรม A-C และ Ideas Focus หนา 42 ส่ือ VCD Unit 3 เรอื่ ง Mechanical Lizard Car 8. บันทกึ หลังการจัดการเรยี นรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูม ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มัธยมศึกษาปที่ 3
192 192 หนวยการเรียนรู Personal Best ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที่ 3 เวลา 14 ชัว่ โมง 4 รหัสวิชา …………… รายวิชาพนื้ ฐานภาษาอังกฤษ กลุมสาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ ปการศกึ ษา 25........ ภาคเรียนที่ 1 ผูสอน ................................. 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชี้วดั ต 1.1 ม.3/1 ปฏบิ ตั ติ ามคําขอรอ ง คําแนะนํา คําช้ีแจง และคาํ อธิบายท่ีฟง และอาน ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุหัวขอ เรื่อง ใจความสาํ คัญ รายละเอยี ดสนับสนุน และแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั เรื่องท่ีฟงและอาน จากสื่อประเภทตา งๆ พรอ มทั้งใหเหตุผลและยกตวั อยางประกอบ ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขียนโตต อบขอมูลเก่ียวกับตนเอง เรอ่ื งตางๆ ใกลตัว สถานการณ ขา ว เรอ่ื งที่อยใู นความสนใจของ สังคมและส่ือสารอยา งตอเน่ืองและเหมาะสม ต 1.2 ม.3/4 พูดและเขียนเพ่ือขอและใหขอมูล อธบิ าย เปรยี บเทียบ และแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั เรื่องท่ีฟงหรืออา นอยาง เหมาะสม ต 1.2 ม.3/5 พูดและเขยี นบรรยายความรูสึกและความคิดเหน็ ของตนเองเก่ียวกับเรื่องตางๆ กิจกรรม ประสบการณ และ ขาว/เหตุการณ พรอมท้ังใหเ หตุผลประกอบอยางเหมาะสม ต 1.3 ม.3/2 พดู และเขยี นสรปุ ใจความสําคญั /แกน สาระ หวั ขอเร่ืองทีไ่ ดจ ากการวเิ คราะหเ ร่อื ง/ขา ว/เหตุการณ/สถานการณ ที่อยูใ นความสนใจของสังคม ต 2.1 ม.3/1 เลือกใชภาษา น้ําเสียง และกิริยาทาทางเหมาะกับบุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของ เจาของภาษา ต 2.1 ม.3/2 อธิบายเกีย่ วกบั ชีวติ ความเปนอยู ขนบธรรมเนียม และประเพณขี องเจาของภาษา ต 2.2 ม.3/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกตางระหวางการออกเสียงประโยคชนิดตางๆ และการ ลาํ ดับคําตามโครงสรา งประโยคของภาษาตางประเทศและภาษาไทย ต 3.1 ม.3/1 คน ควา รวบรวม และสรุปขอมูล/ขอเท็จจริงที่เกี่ยวของกับกลุมสาระการเรียนรูอ่ืนจากแหลงการเรียนรูและ นําเสนอดวยการพดู และการเขียน ต 4.1 ม.3/1 ใชภาษาส่ือสารในสถานการณจริง/สถานการณจําลองท่เี กดิ ขึ้นในหองเรียน สถานศึกษา ชมุ ชน และสงั คม ต 4.2 ม.3/1 ใชภาษาตางประเทศในการสืบคน/คนควา รวบรวม และสรุปความรู/ขอมูลตางๆ จากสื่อและแหลงการเรยี นรู ตา งๆ ในการศึกษาตอและประกอบอาชพี 2. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรูคําศัพทเก่ียวกับ sport-related words, collocations, phrasal verbs สํานวนภาษา โครงสรางภาษาเก่ียวกับ Modals for advice, permission, ability, intention, necessity & obligation กจิ กรรมฝกทกั ษะการคิดวิเคราะห สังเคราะห การ ใหเหตุผล เร่ือง Personal Best สื่อสิง่ พมิ พและส่อื อิเลก็ ทรอนกิ สที่มีประสิทธิภาพ ทักษะการเรียนภาษาท้ัง 4 ดาน ไดแก ทักษะการ ฟง ทักษะการพดู ทักษะการอาน ทักษะการเขยี น และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ทําใหการส่ือสารบรรลุเปาหมาย อยางมปี ระสทิ ธภิ าพ ผูเรยี นมีความสามารถ มีเจตคติทดี่ ีตอ ภาษาอังกฤษ คูมอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที่ 3
193 193 3. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 3.1 ดานความรู (Knowledge) คําศัพทเก่ียวกับ sport-related words, collocations, phrasal verbs ในบทอานประเภทตางๆ ไดแก บทความ (Articles) บทสนทนา (Conversations) งานเขียนที่เปน Signs, Notes, Blogs, e-mails สํานวนภาษาที่ใชพูดและเขียนเก่ียวกับ advice, permission, ability intention, necessity & obligation, โครงสรางประโยค Modals for advice, permission, ability, intention, necessity & obligation, multiple choice cloze, Exam Close-Up และ ExamTasks 3.2 ดา นทักษะกระบวนการ (Process/Skill) ทักษะการเรียนภาษาท้ัง 4 ดาน ไดแก การฟง การพูด การอาน และการเขียน ทักษะกระบวนการคิด และทักษะ กระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพอื่ การส่อื สาร 3.3 ดา นเจตคติ (Attitude/Desired Character) ใชภ าษาองั กฤษอยา งมมี ารยาท ถูกตองตามกาลเทศะและบุคคล มปี ระสิทธภิ าพในการสื่อความ 4. สมรรถนะสําคัญของผูเรียนตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 ความสามารถในการส่อื สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกปญหา ความสามารถในการใชท ักษะชวี ิต ความสามารถในการใชเ ทคโนโลยี 5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงคต ามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 รกั ชาติ ศาสน กษัตรยิ ซอ่ื สตั ย สุจริต มีวินยั ใฝเรียนรู อยูอยา งพอเพยี ง มุงมน่ั ในการทํางาน รักความเปนไทย มีจิตสาธารณ 6. ภาระงาน/ชิ้นงาน ใหนักเรียนพูดบรรยายภาพหนาช้ันเรียน เลือกภาพตามความสนใจ มีความเหมาะสม มีเน้ือหาเกี่ยวกับ Sports โดย ประยกุ ตใชค วามรูและทกั ษะการใชภาษาท่เี รียนมาใน Unit 4 จัดทําเปน แผนรายงานกระดาษ A4 7. การวดั และประเมินผล (ภาระงาน/ชิน้ งาน) วิธกี าร เครือ่ งมือ คะแนน เกณฑ 1. ประเมิน แบบประเมินคณุ ภาพชิ้นงาน/ภาระงาน 18-20 คณุ ภาพ 15-17 ผลการประเมนิ 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผาน คูม อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศกึ ษาปท่ี 3
194 194 วธิ ีการ เครื่องมอื คะแนน เกณฑ 18-20 2. ประเมิน แบบประเมินทักษะ-การพดู 15-17 ผลการประเมิน ทกั ษะทางการใช แบบประเมนิ ทักษะ-การเขยี น 12-14 ดีมาก ภาษา 10-11 ดี พอใช ผา น 8. กจิ กรรมการเรยี นรู ความรแู ละกิจกรรมฝก ทักษะการคดิ วเิ คราะห สังเคราะห การใหเหตผุ ล ทักษะการเรยี นภาษาทง้ั 4 ดา น ไดแก การฟง การพดู การอาน และการเขียน เร่ืองPersonal Best ประกอบดว ยบทสนทนา (conversations) บทความ (articles), e-mails, notes, signs, Exam Close-up, Exam Tasks, ส่ือรปู ภาพ (pictures) สื่อเสยี ง (audio CD) สือ่ วิดีโอ (DVD) ทมี่ ีคาํ ศัพท สํานวนภาษาเกยี่ วกับ Sports โครงสรางภาษา Imperatives, Reduction of passive verbs, muiltiple choice cloze และกระบวนการสอน ภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร เจตคตทิ ี่ดตี อภาษาองั กฤษ 9. สอื่ /แหลง เรียนรู หนงั สือเรียน Close-up 3 Unit 4 เร่อื ง Personal Best หนา 43-54 หนังสอื Workbook Close-up 3 Unit 4 เร่ือง Personal Best หนา 24-29 Audio CD Track 4.1, 4.2, 4.3 Video เรอ่ื ง A Muni Adventure หนา 54 คมู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศึกษาปท ่ี 3
195 195 หนวยการเรยี นรูท ่ี 4 เรอื่ ง Personal Best แผนการจัดการเรยี นรูท ี่ 1 เรอื่ ง Reading 1: Signs & Notices รหสั วิชา................. รายวชิ าพนื้ ฐานภาษาอังกฤษ ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3 กลุมสาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ ปก ารศกึ ษา 25……….. ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ช่วั โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชวี้ ัด ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุหวั ขอ เรื่อง ใจความสาํ คญั รายละเอยี ดสนับสนุน และแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั เรอื่ งทฟ่ี งและ อานจากส่ือประเภทตา งๆ พรอ มทัง้ ใหเ หตุผลและยกตวั อยา งประกอบ ต 1.3 ม.3/2 พูดและเขียนสรุปใจความสําคัญ/แกนสาระ หวั ขอ เร่อื งท่ไี ดจ ากการวิเคราะหเ รื่อง/ขา ว/เหตุการณ/สถาน- การณท ี่อยใู นความสนใจของสงั คม ต 2.1 ม.3/2 อธิบายเกีย่ วกบั ชีวติ ความเปน อยู ขนบธรรมเนียม และประเพณีของเจา ของภาษา 2. จุดประสงคการเรียนรู อานบทความเกี่ยวกับ Signs & Notices แลวพูดและเขียนวิเคราะหเปรียบเทียบ อธิบาย และแสดงความคิดเห็น โดยใช คําศัพทและโครงสรา งภาษาท่กี ําหนดใหไดถกู ตองเหมาะสม 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูและกิจกรรมฝกทักษะการคิดท่ีมีคําศัพทเก่ียวกับ sport related-words, Phrasal verbs, Signs และ Reading skills: Scanning reading, Exam strategies: Using context to understand signs โดยผานการฝกทักษะการอาน การเขียน และ กระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร ทาํ ใหผเู รยี นสามารถสอ่ื ความไดอยางมีประสิทธิภาพ มีนิสัยรักการอาน มีสุนทรียภาพใน การอาน 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Vocabulary: Sport related-words, Phrasal verbs, Signs - Grammar: Parts of speech, Reduction of passive verbs - Speaking: Explaining why /because - Reading skills: Scanning reading 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรยี นภาษาท้งั 4 ทกั ษะ การฟง การพูด การอา น และการเขียน - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มีประสทิ ธิภาพในการส่ือความ 5. กจิ กรรมการเรียนรู Lead-in 1. ครนู ําความสนใจของนกั เรยี นเขาสูบทเรยี นในชั่วโมงเรยี นนโ้ี ดยใชคาํ ถามดงั นี้ Q: What do you about signs & notices? 2. นกั เรยี นใหค าํ ตอบอยางหลากหลาย ครูยอมรับทุกคําตอบทส่ี มเหตุผล 3. ครูเช่ือมโยงเขาสูกจิ กรรมการเรยี นการสอน คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที่ 3
196 196 Presentation 1. ครสู อนคําศัพทในบทอาน ดังนี้ - ใหนกั เรยี นทงั้ ชน้ั ชวยกนั คน คาํ ศัพทที่ไมร ูค วามหมาย ขีดเสนใตกํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของ คําศัพทจากตําแหนงภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝกใหระบุ Parts of speech ทุกครั้งที่สอนความหมายของ คาํ ศัพท) นกั เรยี นบอกหมวดหมขู องคาํ ศพั ทเ หลา น้ี โดยครเู ขยี นลงใน Word Box บนกระดาน - ใหนักเรยี น Read aloud คําศัพทบ นกระดาน - ใหนักเรยี นแบง กัน/ชว ยกันคนหาความหมายของคําศพั ทเ หลานี้ แลวพดู บอกความหมาย - ครเู ขยี นความหมายของคําศัพททน่ี ักเรยี นบอกและเพิม่ เติมความหมายของคาํ ศพั ทบางคําใหสมบรู ณ 2. ครูสอนโครงสรา งท่ีเก่ยี วของกับบทเรียนในชั่วโมงน้ี ไดแก 2.1 ประโยค imperatives ไดแ ก Push button for assistance. 2.2 Reduction of passive verbs ไดแ ก No food or drinks allowed. (=No food or drinks are allowed.) 3. ครูสอนเทคนคิ การทําขอสอบ (Exam Strategies) จาก Exam Close-up ดงั นี้ Exam Strategies: Looking for words with similar meanings - You will see words in the signs and notices that have similar meanings to words in the sentences, such as safe/secure and help/assistance. - Find these synonyms and underline them to help you do the matching task correctly. 4. ครูทบทวนเทคนิคการทาํ ขอ สอบจาก Exam Close-up จาก Unit 2: Using context to understand signs ดังนี้ Exam strategies: Using context to understand signs - Notices only use a few words. To help you understand in them, try to decide where you might see each signs. This will helpyou focus on the possible message of the sign. - You probably won’t be able to understand all the words, but focus on the ones you do understand. - Then look for similar words in the answer choices. 5. ครูทบทวนเทคนคิ การทําขอสอบจาก Exam Close-up จาก Unit 1: Justifying your answers ดังน้ี Exam strategies: Justifying your answers 1. When you think you have found the answer,try to justify it, i.e. explain to yourself why it is correct and the other options are not. 2. If you cannot do this then your chosen answer is probably wrong. 3. Look at the options again and try to find out that you can justify. Practice ครใู หน กั เรียนเปด หนังสือ Close-up 3 หนา 44 ครูใหนักเรยี นปฏิบตั ิกิจกรรมตอไปน้ี 1. กิจกรรม A ครูใหนักเรียน Read aloud คาํ ส่งั และพดู บอกสง่ิ ที่นกั เรียนตองปฏบิ ตั ิในกิจกรรมนี้ - ครูทบทวนเทคนิคการทําขอสอบ Using context to understand - ครูใหนักเรียน Read aloud รายชอ่ื Sports ขอ 1-6 คมู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท่ี 3
197 197 - ใหนักเรียน Skimming reading for Signs A.-F. และนักเรียนบอกประเด็นสําคัญของแตละ Signs และเลือก คาํ ตอบโดยจับคู Signs กับ Sports ไปพรอ มกนั - ครูสรปุ วธิ กี ารคิดคาํ ตอบและการอานขอความใน signs โดยครูช้แี จงวา นกั เรยี นสามารถเลอื กคําตอบไดถูกตองโดยไม จําเปนตองรคู วามหมายของคําศัพททกุ ตวั ในแตล ะ Sign ครูสรุปคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. E 2. D 3. A 4. B 5. C 6. F 2. กิจกรรม B ครใู หนักเรียน Read aloud คาํ สั่ง และพูดบอกสงิ่ ที่นกั เรยี นตองปฏบิ ตั ใิ นกจิ กรรมน้ี - ครทู บทวนคาํ ส่ัง อธิบาย ชี้แนะวิธตี อบคําถาม Explaining Why - ครใู หเ วลานักเรียนคิดและเขียนอธิบายคําตอบ ครูสังเกต แนะนํา ชวยเหลอื และแกปญ หา - ครูเลอื กนกั เรียน 4-5 คนใหนกั เรียน Read aloud คาํ ตอบ และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ Students’ own answers ครูใหนักเรยี นเปดหนงั สอื Workbook Close-up 3 หนา 24-25 ครูใหนกั เรยี นปฏิบตั ิกิจกรรมตอ ไปนี้ 3. กจิ กรรม A ครใู หน กั เรียน Read aloud the Exam Reminder - ครอู ธิบายและยกตวั อยา งประกอบ จากน้ันครูทบทวนคําถาม What are synonyms? - ใหน ักเรยี นตอบคาํ ถาม เฉลยคาํ ตอบ Synonyms are words with similar meanings. 4. กจิ กรรม B ครูใหนกั เรียน Read aloud the Exam Task ประโยค 1-5 และขีดเสน ใตคํา/วลี/ประโยคยอ ยที่สําคัญใน แตป ระโยค เพื่อใชเ ปนตัวชีแ้ นะคาํ ตอบ (Contextual Clues) - ครูใหน ักเรียน Read aloud the Exam Task Notices A-H - นกั เรยี นเลอื กคําตอบโดยใชค าํ /วลี/ประโยคยอยทขี่ ีดเสน ใตเปน ตวั ชแี้ นะคําตอบ (Contextual Clues) - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนักเรยี นพดู บอกคําตอบพรอ มกัน และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. B 2. H 3. A 4. G 5. C 5. กิจกรรม C ครูใหน กั เรียน Read aloud คําสัง่ และบทความ โดยระหวา งที่อา นบทความใหนักเรียนขีดเสนใตคําศัพทท่ี เก่ียวของ - นักเรยี นคิดพิจารณาและเลือกระบุ notices ในกิจกรรม B ที่เกี่ยวของกับบทความโดยใชหลักการทบทวนคําตอบ Justifying your answers - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรยี นพูดบอกคาํ ตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ Notices C, E and F คมู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ี่ 3
198 198 Production - ครใู หนักเรยี นทํากิจกรรม Expand Your Ideas ซ่งึ ครู applied จากกิจกรรมขอ 1 และกิจกรรมขอ 4 ดังนี้ What are the signs or notices to be needed for safety ? - ครใู หเ วลานักเรียนทาํ กจิ กรรม ครูสงั เกต แนะนาํ ชว ยเหลือ และแกป ญหา - ครูสุม เลือกนักเรียน 4-5 คูขึ้นมาพดู ใหค ําตอบ - ครยู อมรบั ทุกคาํ ตอบ - ครูสรุปบทเรยี น 6. การวดั และประเมินผล เคร่ืองมอื คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียน 18-20 วิธีการ 15-17 ผลการประเมิน 1. สังเกต 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผาน 2. ประเมนิ ทักษะ แบบประเมนิ ทักษะการฟง-การพดู คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดมี าก การใชภาษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. สือ่ /แหลงการเรียนรู หนงั สือเรยี น Close-up 3 Unit 4 Personal Best เรือ่ ง Reading กจิ กรรม A-B หนา 44 หนังสือ Workbook Close-up 3 Unit 4 Personal Best เรอ่ื ง Reading กจิ กรรม A-C หนา 24-25 8. บันทกึ หลงั การจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูม ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ี่ 3
199 199 หนวยการเรยี นรทู ่ี 4 เร่อื ง Personal Best แผนการจดั การเรยี นรูที่ 2 เร่ือง Reading 2: Jamica & Cuba รหัสวิชา................. รายวิชาพน้ื ฐานภาษาอังกฤษ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท่ี 3 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชว่ั โมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชวี้ ัด ต 1.1 ม.3/4 เลอื ก/ระบหุ วั ขอ เร่ือง ใจความสาํ คัญ รายละเอยี ดสนับสนุน และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรื่องที่ฟง และ อานจากสื่อประเภทตา งๆ พรอมท้ังใหเ หตผุ ลและยกตัวอยางประกอบ ต 1.3 ม.3/2 พดู และเขียนสรุปใจความสาํ คญั /แกนสาระ หวั ขอ เรื่องท่ไี ดจ ากการวิเคราะหเร่อื ง/ขาว/เหตุการณ/สถาน- การณทอ่ี ยูใ นความสนใจของสังคม ต 2.1 ม.3/2 อธบิ ายเก่ียวกบั ชีวิตความเปนอยู ขนบธรรมเนยี ม และประเพณขี องเจา ของภาษา 2. จดุ ประสงคการเรยี นรู อา นบทความเก่ียวกับ Jamica & Cuba แลวพดู และเขยี นสรปุ ใจความสําคัญ วเิ คราะหเ ปรียบเทยี บ อธบิ าย และแสดงความ คิดเห็น โดยใชค ําศัพทแ ละโครงสรางภาษาที่กําหนดใหไดถูกตอ งเหมาะสม 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูและกจิ กรรมฝกทักษะการคดิ บทความ (articles) ที่มคี าํ ศพั ทและโครงสรางภาษา และ Reading skills: Skimming reading โดยผา นการฝกทักษะการอาน การเขยี น และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการสอ่ื สารทําใหผ เู รียนสามารถส่อื ความได อยางมปี ระสทิ ธภิ าพ มนี ิสัยรกั การอาน มีสุนทรียภาพในการอาน 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Vocabulary: colony, independent, authorities, bullfighting - Grammar: Reduction of passive verbs - Reading skill: Skimming reading 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรยี นภาษาทั้ง 4 ทักษะ การฟง การพูด การอาน และการเขยี น - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มีประสทิ ธภิ าพในการสื่อความ 5. กจิ กรรมการเรียนรู Lead-in 1. ครนู าํ ความสนใจของนักเรยี นเขา สูบ ทเรยี นในชั่วโมงเรยี นนโ้ี ดยใชภ าพในกิจกรรม C และคําถามดังนี้ Q 1: Do you think what cricket and baseball are like? 2. นักเรียนใหคําตอบอยางหลากหลาย ครยู อมรับทุกคาํ ตอบ Presentation 1. ครใู หน กั เรียนเปด หนังสอื Close-up 3 หนา 44 -45 ครสู อนคาํ ศัพทใ นบทอานกจิ กรรม C, D, E, F, G และ Ideas Focus โดยใหน กั เรยี นมสี ว นรวมดังน้ี คูมอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ี่ 3
200 200 - ใหนักเรยี นทัง้ ชน้ั ชว ยกันคน คาํ ศพั ทท ไี่ มรคู วามหมาย ขีดเสน ใตกํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of Speech ของ คําศัพท จากตําแหนงภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝกใหระบุ Parts of speech ทุกครั้งที่สอนความหมายของ คําศัพท) - นกั เรยี นบอกหมวดหมูของคาํ ศพั ทเหลานี้ โดยครูเขยี นลงใน Word Box บนกระดาน - ใหน ักเรียน Read aloud คาํ ศพั ทบ นกระดาน - ใหน กั เรยี นแบง กนั /ชวยกันคนหาความหมายของคําศัพทเหลานี้ แลวพดู บอกความหมาย - ครเู ขียนความหมายของคาํ ศัพททน่ี กั เรียนบอกและเพม่ิ เตมิ ความหมายของคําศพั ทบางคําใหสมบูรณ ครูเลือกคํา/วลี/ ประโยคที่มคี วามหมายนา สนใจ มาอธบิ าย - ใหน กั เรยี นอา นออกเสียงดังพรอมกนั ถาคําใดนักเรยี นอา นไมได ใหค รชู ว ยอา นนําและนักเรียนอานตาม - ใหน ักเรยี นคดั ลอก Word Box และคําศัพทท่ีเกี่ยวของลงในสมุดคําศัพทของตนเอง (ครูกําหนดใหนักเรียนทุกคนมี สมุดคาํ ศัพทและสมดุ แบบฝก หดั ) 2. ครูสอนคาํ ศพั ทใน Word Focus ดังน้ี - ใหนกั เรียนอานออกเสียงดงั พรอมกนั ถา คําใดนักเรียนอานไมไดใหครชู วยอานนําและนักเรยี นอานตาม - ครูใหนักเรียนชวยกันบอกความหมายโดยครูใหนักเรียนบอกความหมายของคําที่นักเรียนรูจัก ถานักเรียนบอก ความหมายไมได ครูใหน ักเรียนดูท่ี Word Focus และใหอานออกเสยี งคําศัพทและคําจํากัดความ วิธีน้ีจะชวยใหนักเรียนรูความหมาย ของคําศัพทม ากขึ้น ครอู าจใหคําอธบิ ายเพมิ่ เติมบา ง - ใหน กั เรียนคัดลอก Word Box และคําศัพทท่ีเกี่ยวของลงในสมุดคําศัพทของตนเอง (ครูกําหนดใหนักเรียนทุกคนมี สมุดคาํ ศพั ทและสมดุ แบบฝกหดั ) 3. ครทู บทวนเทคนิคการทําขอสอบ (Exam Strategies) ครอู ธิบายและยกตวั อยา งโดยใหน ักเรียนปฏบิ ตั ิ ไดแก Exam Strategies: a. Looking for words with similar meanings - You will see words in the signs and notices that have similar meanings to words in the sentences, such as safe/secure and help/assistance. - Find these synonyms and underline them to help you do the matching task correctly. b. Using context to understand signs - Notices only use a few words. To help you understand in them, try to decide where you might see each signs. This will help you focus on the possible message of the sign. - You probably won’t be able to understand all the words, but focus on the ones you do understand. - Then look for similar words in the answer choices c. Focusing on words before and after a gap - Some tasks include a gapped text. Only one word goes in each gap. - This task tests what you know about grammartical structures and vocabulary. - First, look at the gap. What words come before and after? What kind of words are they (e.g. verbs, nouns, prepositions, pronouns)? - Look again at the words around the gaps. Can you think of words that often go together with them? Write your answer in the gap and then read the whole sentence to see if it fits. คมู ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3
201 201 4. ครูทบทวนโครงสรางประโยค Reduction of passive verbs และ Reading skill ที่สอนในช่ัวโมงท่แี ลวและเกย่ี วขอ ง กบั บทเรยี นในชั่วโมงน้ี โดยใหนกั เรียนมีสวนรวม 5. ครูทบทวน Reading skills: Scanning and Skimming reading โดยใหนกั เรียนมีสวนรว ม Practice 1. กจิ กรรม C ครูใหนกั เรยี น Read aloud คาํ สั่ง ใหน ักเรยี น Skimming reading both brochures about Jamica and Cuba เพอ่ื จับใจความสําคญั ในบทความ จากนัน้ ครูใหนกั เรียนชวยกันพดู เลา สรุปเร่ืองท่ีอา น - ใหน ักเรยี น Read aloud คําถามทงั้ 2 ขอ เพ่อื ใชเปน Key words ในการอานเพอ่ื คนหาคําตอบ โดยใชว ธิ ีอา นแบบ Scanning โดยเมอ่ื อา นพบคําตอบของคําถามดงั กลาวใหนกั เรยี นขีดเสน ใต - ครูใหเ วลานักเรียนทํากจิ กรรม ครู สงั เกต แนะนาํ ชวยเหลือ และแกปญหา - ครูตรวจสอบความเขาใจในการอานโดยใหน ักเรยี นพูดบอกคําตอบ และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. The British brought cricket to Jamica. 2. Baseball came from the USA. 2. กจิ กรรม D ใหน กั เรียน Read aloud ประโยคที่ 1-6 และขีดเสนใตค ําสาํ คัญเพ่ือใชเ ปน Key words ในการอา นเพื่อ คนหาประเดน็ สนบั สนนุ หรือปฏิเสธใจความในแตล ะประโยค - นกั เรียนยอนกลับไปอาน Passage เพอ่ื คน หาคาํ ตอบโดยใชค าํ ที่ขดี เสนใตช วย - ครูตรวจสอบความเขาใจในการอานโดยใหนักเรยี นพูดบอกคําตอบ และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. T 2. F 3. F 4. T 5. T 6. F 3. กจิ กรรม E ครใู หน ักเรยี น Read aloud คาํ สั่ง และพดู บอกสิ่งท่ีนกั เรยี นตองปฏิบตั ิในกิจกรรมน้ี - ครูทบทวนเทคนคิ การทําขอสอบ Focusing on words before and after a gap - ใหนักเรียน Read silently ประโยคโดยคนหาตัวช้ีแนะคาํ ตอบซงึ่ อยูหนาและหลังตวั เลือกและขีดเสน ใต - นกั เรียนเลอื กคําตอบโดยใชค าํ /วลี/ประโยคยอ ยท่ีขีดเสน ใตเปนตัวชี้แนะคาํ ตอบ (Contextual clues) - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียนพดู บอกคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. of 2. for 3. in 4. to 5. back 4. กิจกรรม F ใหนกั เรยี น Read aloud the Exam Close–up - ครูทบทวนอธบิ าย ยกตวั อยางและตรวจสอบความเขาใจของนักเรยี นโดยใชคําถาม - ใหนกั เรียน Read aloud ประโยคขีดเสน ใตค ําสาํ คญั ในแตล ะประโยค - ใหน กั เรียน Read aloud Notices A-H เพื่อคน หาและจบั คคู าํ ศัพททีม่ ีความหมายเดยี วกับคาํ สําคญั ในแตล ะประโยค - ครใู หเวลานกั เรยี นทาํ กิจกรรม ครูสงั เกต แนะนํา ชวยเหลือ และแกปญ หา 5. กิจกรรม G ใหนกั เรียนจบั คูประโยคกับ Notice ที่มีคาํ ศัพทที่มีความหมายเดยี วกันหรอื มีความหมายใกลเ คียง - ครูตรวจสอบคาํ ตอบโดยใหนักเรียนพูดบอกคําตอบพรอ มกัน และครูเฉลยคําตอบ คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศึกษาปท่ี 3
202 202 เฉลยคาํ ตอบ 1. H 2. B 3. A 4. C 5. F Production กิจกรรม Ideas Focus ใหน ักเรยี นประยุกตใชความรทู ี่เรียนมาในช่ัวโมงนี้ทํากจิ กรรม ครูอธิบายคําสง่ั ช้แี นะวธิ คี ดิ และ การตอบคําถาม โดยใหนกั เรียน Discuss and share ดงั น้ี - ครูใหนักเรยี น Read aloud คําสง่ั และพดู บอกส่ิงทีน่ ักเรยี นตองปฏิบัตใิ นกจิ กรรมนี้ - ครูทบทวนคําส่ังชี้แนะวิธีการตอบคําถาม Why? or Why not? โดยทบทวนโครงสรางประโยค Explaining Why/ because ไดแก Sentence 1 (Subject + verb in Present Simple+…. ) + because + Sentence 2 (Subject + verb in Present Simple+…. ตัวอยางเชน I’m happy because I can watch football match. และทบทวนการใชกริยาเปน Present ไดแก Present Simple - นกั เรยี นจับคทู ํากิจกรรม ตอบคําถามโดยใชโ ครงสรางประโยค Explaining Why or Why not/because - ครใู หเ วลานักเรียนทํากิจกรรม ครูสงั เกต แนะนํา ชวยเหลอื และแกป ญ หา - ครูตรวจสอบคําตอบโดยเลอื กใหนักเรียนพดู บอกคําตอบ โดยครชู วยเติมเตม็ ความสมบรู ณ - ครยู อมรับทุกคาํ ตอบท่ีมีเหตผุ ล เฉลยคาํ ตอบ Students’ own answers - ครตู อบขอ ซกั ถามของนักเรยี น สรปุ สิง่ ท่ีเรยี นในชว่ั โมงนี้ 6. การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี าร เคร่ืองมอื คะแนน เกณฑ 1. สงั เกต แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน 18-20 15-17 ผลการประเมนิ 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมินทกั ษะ แบบประเมินทกั ษะการฟง-การพูด คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดีมาก การใชภาษา แบบประเมนิ ทักษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. ส่อื /แหลง การเรียนรู หนงั สือเรยี น Close-up 3 Unit 4 Personal Best เร่ือง Reading กิจกรรม C-G และ Ideas Focus หนา 44-45 คมู อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3
203 203 8. บันทึกหลงั การจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชนั้ มัธยมศึกษาปที่ 3
204 204 หนว ยการเรียนรทู ี่ 4 เรอ่ื ง Personal Best แผนการจัดการเรียนรูท่ี 3 เร่อื ง Vocabulary 1: Sports รหัสวชิ า................. รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาอังกฤษ ชน้ั มัธยมศึกษาปท่ี 3 กลุมสาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ ปการศึกษา 25……….. ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชั่วโมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวช้วี ดั ต 1.1 ม.3/4 เลอื ก/ระบุหวั ขอเร่ือง ใจความสาํ คัญ รายละเอียดสนบั สนนุ และแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกับเรอื่ งทฟ่ี ง และ อา นจากสอื่ ประเภทตา งๆ พรอ มท้ังใหเหตผุ ลและยกตวั อยา งประกอบ ต 1.3 ม.3/2 พดู และเขียนสรุปใจความสาํ คัญ/แกน สาระ หวั ขอเรอื่ งทไี่ ดจากการวเิ คราะหเ ร่ือง/ขา ว/เหตกุ ารณ/สถาน- การณท ี่อยใู นความสนใจของสงั คม ต 2.1 ม.3/2 อธิบายเกี่ยวกบั ชีวติ ความเปน อยู ขนบธรรมเนียม และประเพณีของเจา ของภาษา 2. จุดประสงคก ารเรียนรู อานบทบรรยายเก่ียวกับ Vocabulary 1: Sports แลวพดู และเขียนสรปุ ใจความสําคัญ วเิ คราะห เปรยี บเทยี บ อธิบาย และ แสดงความคิดเห็น โดยใชคาํ ศัพทแ ละโครงสรางภาษาท่ีกําหนดใหไ ดถูกตองเหมาะสม 3. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูและกจิ กรรมฝก ทักษะการคิด บทความ (articles) ที่มีคาํ ศพั ท Vocabulary 1: Sports สาํ นวนภาษาโครงสรางภาษา เก่ียวกับ Explaining why โดยผา นการฝกทกั ษะการอาน การเขยี น และกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการสอ่ื สาร ทําใหผ ูเรียน สามารถสื่อความไดอยางมปี ระสิทธภิ าพ มีนิสัยรักการอาน มสี ุนทรยี ภาพในการอาน 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Vocabulary: basketball, cricket, football, table tennis, volleyball, fan, opponent, referee, manager, goalkeeper - Grammar: Parts of speech, Collocations of verb do, go and play - Speaking: Explaining why, Present simple using for describing places 4.2 ดา นทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรยี นภาษาทง้ั 4 ทกั ษะ การฟง การพดู การอาน และการเขียน - ทักษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มปี ระสทิ ธภิ าพในการสอ่ื ความ 5. กิจกรรมการเรียนรู Lead-in 1. ครูนําความสนใจของนักเรียนเขาสูบทเรียนในช่ัวโมงเรียนน้ีโดยใชภาพ ในหนังสือเรียน Close-up 3 หนา 46 และ คําถามดังน้ี Q 1: Which pictures show a sport where you play against one other person? (4, 6) Q 2: Which pictures show team sports? (1, 2, 3, 5) Q 3: Which pictures show indoor sports? (2, 3, 6) คูมือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 3
205 205 Q 4: Which pictures show outdoor sports? (1, 4, 5) 2. นักเรยี นใหคําตอบอยางหลากหลาย ครยู อมรับคําตอบท่ีถูกตอ ง 3. ครูเชือ่ มโยงเขา สูกิจกรรม Vocabulary Presentation 1. ครสู อนคาํ ศพั ทในบทอานกิจกรรม A-F โดยใหนกั เรียนมสี วนรวมดงั น้ี - ใหน กั เรียนท้งั ชน้ั ชวยกันคนคาํ ศัพทท ไี่ มรคู วามหมาย ขีดเสนใตกํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของ คําศัพทจากตําแหนงภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝกใหระบุ Parts of speech ทุกคร้ังท่ีสอนความหมายของ คาํ ศัพท) - นักเรียนบอกหมวดหมูของคําศัพทเหลาน้ี โดยครูเขียนลงใน Word Box บนกระดาน ใหนักเรียน Read aloud คาํ ศัพทบ นกระดาน - ใหนักเรียนแบง กัน/ชวยกันคน หาความหมายของคาํ ศพั ทเ หลานี้ แลวพดู บอกความหมาย - ครเู ขยี นความหมายของคําศพั ทท ี่นกั เรียนบอกและเพมิ่ เตมิ ความหมายของคําศัพทบ างคําใหส มบรู ณ - ครูเลือกคํา/วลี /ประโยคทน่ี าสนใจ มาอธบิ าย - ครเู ขียนความหมายของคาํ ศพั ทท่ีนักเรยี นบอกและเพิ่มเติมความหมายของคําศพั ทบ างคําใหส มบรู ณ ครูเลอื กคาํ /วล/ี ประโยคทมี่ คี วามหมายนาสนใจ มาอธบิ าย - ใหน ักเรยี นอานออกเสยี งดงั พรอมกัน ถาคําใดนักเรียนอานไมไ ด ใหครชู ว ยอา นนําและนักเรียนอานตาม - ใหน ักเรียนคัดลอก Word Box และคําศัพทที่เกี่ยวของลงในสมุดคําศัพทของตนเอง (ครูกําหนดใหนักเรียนทุกคนมี สมดุ คาํ ศพั ทและสมดุ แบบฝก หดั ) 2. ครูสอนเร่ืองคํากริยาที่ตองใชรวมกันกับกรยิ า do, go, play (Collocations of verb do, go and play) ไดแ ก do + gymnastics, athletics + … go + swimming, cycling, diving, sailing + … play + football, basketball, volleyball, cricket + … - ใหน กั เรียนชว ยกันยกตัวอยา งกีฬาตางๆ ทใ่ี ชกบั กรยิ า do, go, play - ใหนักเรยี นคน ควาเพิม่ เติมเกย่ี วกับ Collocations of verb do and go และคัดลอกลงสมุดคําศัพท 3. ครูทบทวนโครงสรา งประโยคเก่ยี วกับ Explaining why, Present simple using for describing places 4. ครทู บทวนเทคนิคการทําขอสอบ Focusing on words before and after a gap Practice ครูใหน กั เรยี นเปด หนังสือเรียน Close-up 3 หนา 46 นักเรียนปฏบิ ัติกิจกรรมตอ ไปน้ี 1. กจิ กรรม A ใหน กั เรียน Read aloud คําส่งั และพูดบอกสิ่งที่นักเรียนตองปฏบิ ตั ใิ นกจิ กรรมนี้ - ครูใหน กั เรยี นพูดเก่ยี วกบั กฬี าแตล ะชนิด - ใหนกั เรียนอา นคาํ ศพั ทท่ีเปนตัวเลือกจับคูคําศัพทกับรูปภาพ ครูตรวจสอบความถูกตองโดยใหนักเรียนอานคําตอบ พรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. football 2. volleyball 3. Basketball 4. tennis 5. crickrt 6. table tennis 2. กิจกรรม B ใหนักเรยี นยอนกลบั ไปดภู าพกฬี าในกจิ กรรม A แลวพดู บอกเก่ียวกับอุปกรณของกีฬาแตล ะชนิด - ใหน กั เรยี น Read aloud คาํ ศัพทท เี่ ปนตวั เลอื ก บอกความหมายและจบั คคู าํ ศพั ทก ับกีฬาแตละชนิด - ครูตรวจสอบความถูกตอ งโดยใหน ักเรียนอา นคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคาํ ตอบ คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3
206 206 เฉลยคําตอบ 1. tennis 2. football 3. basketball 4. volleyball 5. cricket 6. table tennis 3. กิจกรรม C ใหน ักเรยี นดูตารางคําศพั ทท่ีกาํ หนดให อานหัวเรือ่ งของแตละ column ศกึ ษาความหมายของคาํ ศพั ทแต ละชอ งในตาราง แลว เติมคําศัพทท ี่หายไป - ครูใหเ วลานักเรยี นคิดและปรกึ ษากบั เพื่อนเพื่อคดิ คําตอบและเติมคําท่ีหายไป - ใหน ักเรยี นนาํ คําตอบที่ไดไ ป Compare and Share กับเพ่อื นในหอง - ครตู รวจสอบความถูกตอ งโดยใหน ักเรยี นอานคําศพั ทท กุ แถวพรอมกนั และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. diving 2. cyclist 3. gymnastics 4. athlete 5. swimming 6. sailor 4. กจิ กรรม D ใหน ักเรยี น Read aloud คาํ สงั่ และพดู บอกสิ่งที่นักเรยี นตองปฏิบตั ิในกจิ กรรมน้ี - ใหนักเรียน Read aloud คาํ ศพั ทใ นตารางของกิจกรรม C พรอมท้ังพดู ความหมายของคําศัพทท ุกตวั - ใหน ักเรยี นทบทวนเทคนคิ การทาํ ขอสอบ Focusing on words before and after a gap - ใหน กั เรยี น Read silently ประโยคเพือ่ คนหาตัวชี้แนะคําตอบและขีดเสนใตคํา/วลีที่เปนตัวช้ีแนะคําตอบ นักเรียน เลอื กคําตอบโดยใชค าํ /วลที ่เี ปนตวั ชแ้ี นะคาํ ตอบ - ครตู รวจสอบความถกู ตองโดยใหนักเรียน Read aloud คําตอบและบอกเหตุผลที่เลือกใชคําตอบนั้น (บอกคํา/วลีท่ี เปนตวั ชแี้ นะคําตอบ) เมอื่ ไดค าํ ตอบทุกประโยคแลวใหน ักเรียน Read Aloud ประโยค และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. sailor 2. dive 3.gymnastics 4. athlete 5. cyclist 6. Swimmers 5. กิจกรรม E ใหนักเรียน Read aloud คําศัพทท่ีเปนช่ือกีฬาที่อยูหลังชองวางและขีดเสนใตไวเพื่อใชเปนตัวช้ีแนะ คําตอบ - ใหนกั เรยี นเลอื กใชก ริยา do และ go เติมลงในชอ งวาง ใหสัมพนั ธกบั ช่ือกีฬาที่ขดี เสนใต โดยกริยาบางตัวตองเปล่ียน รูปกริยาใหสอดคลองกับโครงสรา งภายในแตล ะประโยค - ครูตรวจสอบความถกู ตอ งโดยใหนักเรียนอานคาํ ตอบพรอ มกัน และบอกเหตุผลที่เลือกใช do, go ในรูปน้ันๆ และครู เฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. went 2. going 3. doing 4. go 5. doing 6. go 6. กิจกรรม F ใหนักเรยี น Read aloud คาํ ศพั ทท ่ีตวั เลอื กและพูดบอกความหมายของคําศพั ทน ้นั ๆ พรอมกัน ถานักเรียน มีปญ หาในการบอกความหมายของตวั เลือก ครใู หน ักเรยี นยอนกลบั ไปดคู วามหมายใน Word Box ทนี่ กั เรียนจดในสมุด - ใหนักเรยี น Read silently ประโยคเพื่อคนหาตวั ชแี้ นะคําตอบและขดี เสนใตค ํา/วลีท่เี ปนตัวช้แี นะคําตอบ - นกั เรียนเลอื กคําตอบโดยใชคาํ /วลี/ประโยคยอยทเ่ี ปนตวั ช้ีแนะคําตอบ - ใหนกั เรียนนําคําตอบที่ไดไ ป Compare and Share กบั เพ่อื นในหอง - ครูตรวจสอบความถกู ตอ งโดยใหนกั เรยี นพูดบอกคาํ ตอบและบอกเหตุผลที่เลือกใชคําตอบน้ันๆ (บอกคํา/วลีที่เปนตัว ชีแ้ นะคาํ ตอบ) คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3
207 207 - เม่อื ไดค ําตอบสาํ หรบั ทกุ ประโยคแลว ครใู หนักเรยี นRead Aloud ประโยคและครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. referee 2. goalkeeper 3. opponent 4. fan 5.manager Production กิจกรรม Expand your Ideas ซ่ึงครู applied จากกิจกรรม D ใหนักเรียนประยุกตใชความรูท่ีเรียนมาในช่ัวโมงนี้ทํา กจิ กรรม ครูอธบิ ายคําสั่ง ชแ้ี นะวธิ คี ิด และการตอบคําถาม โดยใหนักเรียน Discuss and share ดังน้ี Write and tell about your favourite sport and explain why you like it. 1. ครใู หนักเรียน Read aloud คําสง่ั และพูดบอกสิ่งที่นักเรียนตองปฏิบัตใิ นกจิ กรรมน้ี 2. นกั เรยี นตอบคําถามโดยใชคาํ ศัพทแ ละโครงสรางประโยค Explaining Why 3. ครูใหเวลานักเรียนทํากิจกรรม ครู สังเกต แนะนํา ชวยเหลือ และแกปญหา กอนหมดเวลาครูตรวจสอบโดยเลือก นักเรยี น 3-4 คนขึ้นมาพูดขอเขียนของตนเองใหเ พอื่ นฟง โดยครแู ละเพ่อื นชว ยเตมิ เต็มใหม ีความนา สนใจยิง่ ขน้ึ 4. ครตู อบขอซักถามของนักเรยี น สรปุ ส่ิงท่เี รยี นในช่ัวโมงน้ี เฉลยคําตอบ Students’ own answers 6. การวัดและประเมินผล เคร่อื งมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมนิ การสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี น 18-20 วธิ กี าร 15-17 ผลการประเมิน 1. สังเกต 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมินทกั ษะ แบบประเมินทักษะการฟง -การพูด คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดมี าก การใชภ าษา แบบประเมินทักษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 7. สอ่ื /แหลงการเรยี นรู หนงั สอื เรยี น Close-up 3 Unit 4 Personal Best เรอื่ ง Vocabulary กจิ กรรม A-F หนา 46 8. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. คูม ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ี่ 3
208 208 หนวยการเรียนรทู ่ี 4 เร่ือง Personal Best แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 4 เร่ือง Vocabulary 2: The Special Ks รหสั วชิ า................. รายวชิ าพน้ื ฐานภาษาองั กฤษ ช้ันมธั ยมศึกษาปท ่ี 3 กลมุ สาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ ปการศึกษา 25……….. ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชวั่ โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวช้วี ัด ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบหุ ัวขอ เรือ่ ง ใจความสําคัญ รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรื่องทฟี่ ง และ อานจากสือ่ ประเภทตางๆ พรอมทั้งใหเ หตผุ ลและยกตวั อยา งประกอบ ต 1.3 ม.3/2 พดู และเขยี นสรุปใจความสําคัญ/แกน สาระ หัวขอ เร่อื งที่ไดจากการวเิ คราะหเ รือ่ ง/ขาว/เหตุการณ/สถาน- การณท ีอ่ ยใู นความสนใจของสังคม ต 2.1 ม.3/2 อธบิ ายเกย่ี วกับชีวิตความเปน อยู ขนบธรรมเนียม และประเพณีของเจาของภาษา 2. จดุ ประสงคการเรียนรู อา นบทความเก่ียวกับกฬี าเทนนิสและกีฬาอ่ืนๆ แลวสรุปใจความสําคัญ อธิบายและแสดงความคิดเห็น โดยใชคําศัพทและ โครงสรา งภาษาท่กี ําหนดใหไ ดถกู ตอ งและเหมาะสม 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรแู ละกิจกรรมฝกทักษะการคิดท่มี คี ําศพั ทเ กี่ยวกับกฬี าเทนนิสและกฬี าอ่ืนๆ โครงสรางภาษาเก่ียวกับ Explaining why or why not โดยผา นการฝก ทกั ษะการเรยี นภาษาทั้ง 4 ดาน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ทําใหผูเรียนสามารถ ส่อื ความไดอยางมีประสทิ ธิภาพ มีเหตผุ ลมวี ิจารณญาณ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Vocabulary: bounce, lose, miss, score, serve, throw, win, score, race, coach, beat - Grammar: Parts of speech - Speaking: Explaining why or why not 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรยี นภาษาทัง้ 4 ทกั ษะ การฟง การพูด การอาน และการเขยี น - ทักษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มปี ระสทิ ธิภาพในการสื่อความ - มเี หตุผล มวี ิจารณญาณ 5. กิจกรรมการเรียนรู Lead-in 1. ครนู ําความสนใจของนกั เรยี นเขาสูบทเรียนโดยใชภาพนักกีฬาเทนนิสในหนังสือเรียน Close-up 3 หนา 47 และถาม คําถามดังน้ี Q: Do you think what sport they are the champion? How do you know it? 2. นักเรยี นใหคําตอบอยางหลากหลาย ครยู อมรับทกุ คําตอบและเชื่อมโยงเขา สูกิจกรรม Vocabulary คูม อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ่ี 3
209 209 Presentation 1. ครสู อนคําศัพทในกิจกรรม G-J โดยใหนกั เรียนมีสวนรว มดงั น้ี - ใหน ักเรียนท้ังชน้ั ชว ยกันคน คําศพั ทท ีไ่ มรูความหมาย ขดี เสน ใตก ํากบั ไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของ คําศัพทจากตําแหนงภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝกใหระบุ Parts of speech ทุกคร้ังที่สอนความหมายของ คาํ ศัพท) - นักเรียนบอกหมวดหมูของคําศัพทเหลา นี้ โดยครเู ขียนลงใน Word Box บนกระดาน - ใหน กั เรียน Read aloud คําศัพทบนกระดาน - ใหน ักเรยี นแบง กัน/ชวยกันคนหาความหมายของคําศัพทเหลานี้ แลว พูดบอกความหมาย - ครูเขยี นความหมายของคําศพั ทท นี่ กั เรียนบอกและเพ่ิมเติมความหมายของคาํ ศัพทบางคําใหสมบูรณ ครูเลือกคํา/วลี/ ประโยคทมี่ ีความหมายนา สนใจ มาอธิบาย - ใหนักเรยี นอานออกเสียงดงั พรอมกัน ถาคําใดนักเรียนอา นไมไดใหครชู วยอานนําและนักเรยี นอานตาม - ใหน กั เรยี นคัดลอก Word Box และคําศพั ทท ่เี กย่ี วของลงในสมุดคาํ ศพั ทของตนเอง (ครกู ําหนดใหน ักเรียนทุกคนมี สมดุ คําศัพทแ ละสมุดแบบฝกหดั ) 2. ครูทบทวนเทคนิคการทาํ ขอสอบ Focusing on words before and after a gap Exam strategies: Focusing on words before and after a gap - Some tasks include a gapped text. Only one word goes in each gap. - This task tests what you know about grammartical structures and vocabulary. - First, look at the gap. What words come before and after? What kind of words are they (e.g. verbs, nouns, prepositions, pronouns)? - Look again at the words around the gaps. Can you think of words that often go together with them? Write your answer in the gap and then read the whole sentence to see if it fits. 3. ครทู บทวน Reading Skills: Skimming and Scanning reading โดยใหน ักเรียนมีสวนรวม Practice 1. กจิ กรรม G ใหนักเรยี น Skim the passage เพือ่ จับใจความสําคัญในเร่ืองและครูตรวจสอบความเขาใจโดยใชคําถาม ดงั น้ี Q1: What is the text about? - ถานักเรยี นใหคําตอบถูกตอง ครูใหนักเรียนRead aloud the passage คนหาตัวช้ีแนะคําตอบและตัดสินใจเลือก คําตอบจากตัวเลอื กที่กาํ หนดให โดยใชตัวชแี้ นะคาํ ตอบชว ย - ครูใหเ วลานักเรียนทํากิจกรรม ครู สงั เกต แนะนํา ชวยเหลอื และแกปญ หา - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรยี นอานคาํ ตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. won 2. playing 3. train 4. hit 5. keep going 6. go 7. stay 8. give up 2. กิจกรรม H ใหน กั เรียนดูภาพกีฬา 1-6 และบอกชือ่ กฬี าในแตล ะภาพ - ครูตรวจสอบโดยใหนักเรียนบอกชื่อกีฬาในแตละภาพพรอมกันโดยคําตอบ ไดแก American football, tennis, basket ball, football, volleyball เมอ่ื ไดชอื่ กีฬาแตละชนิดแลวใหนักเรียนพูดบอกเกี่ยวกับคํากริยาท่ีใชในการเลนกีฬาแตละชนิด โดยครูใหนักเรียน Read aloud คําศัพททีเ่ ปน ตัวเลือกพรอ มทงั้ บอกความหมาย จากน้ันนกั เรยี นตดั สนิ ใจเลอื กคาํ ตอบ คูมือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3
210 210 - ครูตรวจสอบโดยใหน กั เรยี น Read aloud คําตอบในแตละประโยค และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. throw 2. bouncing 3. scored 4. lost 5. missed 6. serve 3. กิจกรรม I ใหน ักเรยี นพูดบอกเก่ียวกับคํากริยาที่ใชในการเลนกีฬาแตละชนิด โดยครูใหนักเรียนเรียนรูคําศัพทท่ีเปน ตวั เลือกกอ น - นักเรยี น Read aloud คาํ ศัพทท ีเ่ ปนตวั เลือกพรอ มทงั้ บอกความหมาย - ครชู ้แี นะวิธคี ดิ คําตอบโดยใหนกั เรียนอานคําศัพทเก่ียวกับการแขงขันและกีฬาที่กําหนดใหในแตละขอ แลวคาดเดา คํากริยาทีค่ วรใช เพ่อื นาํ มาสรปุ เปน ตวั ชีแ้ นะคําตอบ - ใหนกั เรียนใชต วั ชีแ้ นะคาํ ตอบดงั กลา วนี้ไปใชในการตัดสินใจเลือกคําตอบที่ถูกตองครูตรวจสอบความถูกตองโดยให นกั เรยี นอานคาํ ตอบพรอ มกนั และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. race 2. beat 3. score 4. win 5. coach 4. กจิ กรรม J ครใู หน กั เรยี นปฏิบตั ิตามข้นั ตอนตอ ไปน้ี - Read aloud the phrasal verbs ในแตละประโยค 1-5 และ Read aloud the meaning/definition ทีก่ ําหนดให ในตัวเลอื ก a-e - ใหนกั เรยี นอานประโยคเพอ่ื คนหาตัวชีแ้ นะคําตอบและขีดเสน ใตค าํ /วล/ี ประโยคยอยที่เปน ตัวชี้แนะคาํ ตอบ จากนน้ั ใหนกั เรียนใชตัวชี้แนะคาํ ตอบชว ยในการคาดเดาความหมายของ phrasal verbs และเลอื กความหมาย/definition จากตัวเลือก a-e ทก่ี าํ หนดให - ครตู รวจสอบความถกู ตองโดยใหน กั เรยี นอานคาํ ตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. c 2. e 3. b 4. d 5. a Production กจิ กรรม Ideas Focus ใหนกั เรยี นประยกุ ตใ ชความรูที่เรยี นมาในช่ัวโมงนท้ี ํากจิ กรรม ครอู ธิบายคําสงั่ ชี้แนะวธิ คี ดิ และ การตอบคําถาม โดยใหน ักเรยี นจับคู Discuss and share ดงั นี้ - ครูใหนกั เรียนRead aloud คาํ สัง่ และพดู บอกส่ิงทีน่ ักเรียนตองปฏิบตั ใิ นกจิ กรรมน้ี - นกั เรียนตอบคําถามโดยใชคาํ ศพั ทและโครงสรางประโยค Explaining Why or Why not/because - ครูทบทวนการใชกริยาเปน Present simple และFuture simple ครูใหเ วลานักเรียนทํากิจกรรม ครู สงั เกต แนะนํา ชว ยเหลอื และแกป ญ หา ถาเวลาไมพอใหนักเรียนทําตอ เปนการบา นและนํามาสงในวันตอ ไป - ครยู อมรับทกุ คาํ ตอบทม่ี ีเหตุผล - ครูตอบขอ ซกั ถามของนกั เรียน สรุปสง่ิ ที่เรยี นในช่ัวโมงนี้ เฉลยคาํ ตอบ Students’ own answers คมู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3
211 211 6. การวัดและประเมนิ ผล เครื่องมอื คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน 18-20 วิธีการ 15-17 ผลการประเมนิ 1. สังเกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผาน 2. ประเมนิ ทักษะ แบบประเมินทกั ษะการฟง -การพดู คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดมี าก การใชภาษา แบบประเมนิ ทักษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. สื่อ/แหลง การเรยี นรู หนังสอื เรียน Close-up 3 Unit 4 Personal Best เร่อื ง Vocabulary กิจกรรม G-J และ Ideas Focus หนา 47 8. บันทึกหลงั การจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท่ี 3
212 212 หนว ยการเรยี นรทู ่ี 4 เรอ่ื ง Personal Best แผนการจดั การเรียนรทู ่ี 5 เร่ือง Vocabulary 3: Swimming and Other Sports รหัสวิชา................. รายวิชาพืน้ ฐานภาษาอังกฤษ ช้ันมธั ยมศึกษาปท่ี 3 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชว่ั โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชวี้ ัด ต 1.1 ม.3/4 เลอื ก/ระบุหวั ขอเรื่อง ใจความสาํ คัญ รายละเอียดสนับสนุน และแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับเร่ืองทฟ่ี ง และ อานจากส่ือประเภทตางๆ พรอ มทงั้ ใหเหตุผลและยกตวั อยา งประกอบ ต 1.3 ม.3/2 พดู และเขียนสรุปใจความสาํ คัญ/แกน สาระ หัวขอเรอ่ื งทไี่ ดจากการวเิ คราะหเ ร่ือง/ขา ว/เหตกุ ารณ/สถาน- การณทอี่ ยใู นความสนใจของสงั คม ต 2.1 ม.3/2 อธิบายเกยี่ วกบั ชีวิตความเปนอยู ขนบธรรมเนยี ม และประเพณขี องเจาของภาษา 2. จดุ ประสงคการเรยี นรู อา นบทความเก่ียวกบั Swimming and Other Sports แลวพูดและเขียนสรปุ ใจความสําคญั วเิ คราะหเปรียบเทยี บ อธบิ าย และแสดงความคิดเหน็ โดยใชค าํ ศพั ทแ ละโครงสรางภาษาท่ีกําหนดใหไ ดถ กู ตอ งเหมาะสม 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูและกิจกรรมฝกทักษะการคิด บทความ (articles) ท่ีมีคําศัพทเก่ียวกับกีฬาตางๆ โดยเฉพาะอยางยิ่ง Swimming สํานวนภาษาและโครงสรางภาษา Explaining why/because และ Reading skills: Scanning reading and Skimming reading และ Exam Strategies: Focusing on words before and after a gap โดยผานการฝกทกั ษะการอาน การเขียน และกระบวนการ สอนภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสาร ทําใหผูเรียนสามารถสือ่ ความไดอ ยา งมีประสิทธิภาพ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Vocabulary: court, pitch, racket, athletics, cycling, diving, gymnastics, sailing, swimming, coach, score, serve, take part - Grammar: Simple Present using for describing sports - Speaking: Explaining why/because - Writing strategy: Describing directions - Reading strategy: Scanning reading and Skimming reading 4.2 ดา นทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรยี นภาษาทง้ั 4 ทักษะ การฟง การพูด การอาน และการเขยี น - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มปี ระสทิ ธิภาพในการส่ือความ 5. กิจกรรมการเรียนรู Lead-in 1. ครใู หนกั เรยี นเปดหนงั สือ Workbook Close-up 3 หนา 25 ครูใหนักเรียนดูภาพและนําความสนใจของนักเรียนเขาสู บทเรียนในช่ัวโมงเรยี นนี้โดยใชค ําถามดงั นี้ คูม อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศึกษาปท ่ี 3
213 213 Q: Do you think what playing positions in football this player is? Why do you think that? 2. นกั เรยี นใหค ําตอบ ใหเหตผุ ล ครเู ชอ่ื มโยงเขาสูกิจกรรม Presentation 1. ครูสอนคําศพั ทในบทอานกจิ กรรม A-E โดยใหนกั เรยี นมสี ว นรวมดังนี้ - ใหน ักเรยี นทัง้ ช้นั ชวยกันคน คําศพั ทท ไี่ มรูความหมาย ขีดเสนใตกํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของ คําศัพท จากตําแหนงภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝกใหระบุ Parts of speech ทุกครั้งท่ีสอนความหมายของ คาํ ศพั ท) - นกั เรยี นบอกหมวดหมขู องคาํ ศัพทเ หลาน้ี โดยครเู ขียนลงใน Word Box บนกระดาน - ใหน กั เรยี น Read aloud คาํ ศัพทบ นกระดาน - ใหนกั เรียนแบง กนั /ชวยกันคนหาความหมายของคาํ ศพั ทเ หลาน้ี แลว พูดบอกความหมาย - ครูเขยี นความหมายของคําศัพทที่นกั เรียนบอกและเพมิ่ เติมความหมายของคําศัพทบางคําใหส มบรู ณ - ใหนกั เรยี นคดั ลอก Word Box และคําศัพทท่ีเก่ียวของลงในสมุดคําศัพทของตนเอง (ครูกําหนดใหนักเรียนทุกคนมี สมดุ คําศพั ทและสมดุ แบบฝกหัด) 2. ครทู บทวนคาํ กริยาทต่ี อ งใชร วมกันกบั กรยิ า do, go, play (Collocations of verb do, go and play) ไดแก - do + gymnastics, athletics + … - go + swimming, cycling, diving, sailing + … - play + football, basketball, volleyball, cricket + … ใหน กั เรียนชว ยกันยกตัวอยางกีฬาตางๆ ทีใ่ ชกับกริยา do, go, play 3. ครูทบทวนเทคนิคการทําขอสอบ Focusing on words before and after a gap โดยใหนกั เรยี นมสี วนรวม 4. ครทู บทวนโครงสรางประโยค Simple Present using for describing sports และยกตวั อยางประกอบโดยให นกั เรียนมีสว นรวม Practice 1. กจิ กรรม A ครูใหน ักเรยี นทบทวนคําศัพทเก่ยี วกับอุปกรณสําหรับกีฬาชนิดตางๆ โดยใหน ักเรยี น Read aloud คําศัพท ทเ่ี ปน ตวั เลือก และบอกความหมาย - ครใู หน กั เรียนทบทวนเทคนคิ การทาํ ขอ สอบ Focusing on words before and after a gap จากนนั้ นักเรียนคนหา ตวั ชี้แนะคําตอบทีอ่ ยูหนา และหลังชอ งวา ง - ครูตรวจสอบความแมนยําในการคนหาตัวชแี้ นะคําตอบโดยใหนกั เรยี นอานตัวชแี้ นะคําตอบพรอ มกัน ไดแ ก ตัวชี้แนะคําตอบ 2. play basketball at, in the gym 1. cricket players, to get ready for the match 4. football player scored the winning 3. cricket, not to hit anyone with your 6. can’t play tennis, need to buy a new 5. didn’t get, over the net - นกั เรยี นนําตวั ช้แี นะคาํ ตอบดังกลาวนไี้ ปใชในการตดั สินใจเลือกคําตอบที่ถูกตอง - ครตู รวจสอบความถูกตองโดยใหนักเรียนอานคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. pitch 2. court 3. bat 4. goal 5. ball 6. racket คูมือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชนั้ มัธยมศึกษาปท่ี 3
214 214 2. กจิ กรรม B ใหน ักเรียนอานคาํ ถามเพ่ือคน หาตัวชี้แนะคาํ ตอบแลวขีดเสนใตกํากับ และนําตัวช้แี นะคาํ ตอบดังกลา วน้ีไป ใชในการคดิ คาดเดาคาํ ในชองวาง - เมอ่ื ไดค าํ ตอบแลวครูใหนักเรียนนําคําตอบไป Compare and Share กบั เพือ่ นในหอง - ครตู รวจสอบความถูกตองโดยใหนกั เรียนอา นคาํ ตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคาํ ตอบ 1. referee 2. opponent เฉลยคาํ ตอบ 5. manager 6. cyclist 7. goalkeeper 8. sailor 3. diver 4. fan 3. กิจกรรม C ครูทบทวนคํากริยาที่ตองใชรวมกันกับกริยา do, go, play (Collocations of verb do, go and play) - ครใู หน กั เรยี น Read aloud คาํ ศพั ทที่เปนตวั เลือก และบอกความหมาย - ใหนักเรยี นตัดสนิ ใจเลือกคําศพั ทท ใ่ี ชก ับกริยา do และ go มาเติมในตาราง - ครตู รวจสอบความถูกตองโดยใหน ักเรียนอานคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ - do + athletics, gymnastics - go + cycling, diving, sailing, swimming 4. กจิ กรรม D ครใู หนักเรยี นทํากิจกรรมเปน คู ครูอธิบายกจิ กรรม Cloze sentence ครูทบทวนเทคนิคการทําขอสอบ Cloze test และ Focus on words before and after a gap - ใหนกั เรียนคน หาตวั ช้แี นะคําตอบทอ่ี ยหู นา และหลังชองวา ง โดยขดี เสนใตกํากับไว - ครตู รวจสอบตัวชแี้ นะคําตอบโดยใหน กั เรยี นอานตัวช้แี นะคาํ ตอบของทุกประโยคไดคาํ ตอบดงั น้ี ตวั ชแี้ นะคาํ ตอบ 1. was very happy that his team, the match 2. kicked the ball, a goal 3. in an athletics competition 4. it was her turn to, the ball to the other team 5. a team of … basketball players 6. to the end of the street to see who can run fastest 7. The Sentinels , the Kicks by 74-58 in the basketball tournament 8. won’t drop out of the team if we, this game - ใหน กั เรียนนําตวั ชีแ้ นะคาํ ตอบดงั กลา วน้ีไปใชใ นการตัดสินใจเลือกคําตอบทีถ่ ูกตอง - ครูใหเ วลานักเรยี นคน หา คดิ วเิ คราะห ไตรตรอง และใหคาํ ตอบ - ครตู รวจสอบความถูกตองโดยใหนักเรยี นอานคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคาํ ตอบ 1. won 2. scored 3. take part เฉลยคําตอบ 6. race 7. beat 8. lose 4. Serve 5. coaches 5. กิจกรรม E ครูใหน ักเรียนทํากจิ กรรมเปน คู ครอู ธิบายกจิ กรรม Cloze dialogue - ครูทบทวนเทคนคิ การทําขอ สอบ Cloze test โดยใหน กั เรยี น Focus on words before and after a gap คูม อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศึกษาปท ่ี 3
215 215 - ใหนักเรียนคนหาตวั ชแ้ี นะคาํ ตอบท่อี ยูห นาและหลงั ชองวาง โดยขีดเสน ใตก ํากับไว - ครตู รวจสอบตัวชแี้ นะคําตอบโดยใหนกั เรยี นอา นตวั ชี้แนะคาํ ตอบของทกุ ประโยคไดค ําตอบดงั นี้ - ใหนกั เรียนนําตัวชแ้ี นะคาํ ตอบดังกลาวนี้ไปใชในการตดั สินใจเลือกคําตอบท่ถี ูกตอง - ครูใหเวลานักเรียนคน หา คดิ วเิ คราะห ไตรตรอง และใหคําตอบ - ครูตรวจสอบความถูกตอ งโดยใหน ักเรยี นอา นคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. giving 2. drop 3. keep 4. on 5. pass 6. up 7. work 8. stay/be Production กจิ กรรม Expand your Ideas ใหนกั เรยี น Read aloud คาํ สง่ั และพูดบอกสิ่งท่ีนักเรียนตองปฏบิ ัติ ดงั น้ี Do you think what sport is the most interesting? Explain why? Work in pairs. Choose the most interesting sport. Describe the chosen sport with 6-8 sentences by writing the first draft. Then proof the correctness of spelling and sentence structures. Reread what you write to check and revise it. Practice speaking with a partner. Take turns. Then share and compare with students in your class. - ครูทบทวนคําส่ัง ใหนักเรียนทํากิจกรรมเปนคู ชวยกันเลือกกีฬาท่ีนาสนใจแลวเขียนและพูดบรรยายโดยใชคําศัพท สาํ นวนภาษาและโครงสรางท่เี รียนมา ความยาวประมาณ 6-8 ประโยค โดยครูกาํ หนดเวลาในการทาํ กจิ กรรมนี้ - นกั เรียนชวยกันเลอื กกีฬา ปรึกษา ชวยกนั คิดไตรตรอง โดยเขียนบรรยาย 6-8 ประโยค โดยใชคําศัพท สํานวนภาษาและ โครงสรา งทเี่ รียนมาแลวนกั เรียนชวยกันตรวจสอบความสมบูรณและความถกู ตองของขอเขียนในเร่ือง spelling, sentence structure และอานทบทวนแกไขเพ่ิมเติมขอมูลใหนาสนใจและฝกพูดดวยกันใหคลองกอนนําไป share and compare กับเพื่อน ครูสังเกต ชวยเหลือ แนะนาํ และแกปญหา - ครตู รวจสอบความถกู ตอ งโดยเลอื กนักเรียน 3-4 คูข้ึนมาอานคําตอบพรอมกัน ครูอาจใหเพื่อนในหองชวยกันเติมเต็มคํา บรรยายใหมีความสมบูรณ หรอื นา สนใจยงิ่ ขนึ้ และครูยอมรบั ทกุ คําตอบ - ครูแนะนําใหนักเรียนเผยแพรผลงาน Sport Description โดยนําขอเขียนท่ี Revised แลวไปพิมพลงกระดาษA4 และ แนบรูปภาพท่บี รรยาย (ถา ยเอกสาร) โดยจดั วางไวใ นหนากระดาษเดียวกันกับคําบรรยาย แลวนําไปติดไวท่ี Billboard หนาหองเรียน หรือทอี่ ่นื ๆ ตามความเหมาะสม เฉลยคําตอบ Students’ own answers 6. การวดั และประเมนิ ผล เครือ่ งมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี น 18-20 วิธีการ 15-17 ผลการประเมิน 1. สังเกต 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผา น คูม อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที่ 3
216 216 วิธกี าร เครอ่ื งมือ คะแนน เกณฑ 18-20 2. ประเมินทักษะ แบบประเมนิ ทักษะการฟง -การพดู 15-17 ผลการประเมิน การใชภ าษา แบบประเมินทักษะการอาน-การเขยี น 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผาน 7. สอ่ื /แหลง การเรยี นรู หนงั สอื Workbook Close-up 3 Unit 4 Personal Best เร่ือง Vocabulary กจิ กรรม A-E หนา 25-26 8. บนั ทกึ หลังการจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที่ 3
217 217 หนวยการเรียนรทู ่ี 4 เรอื่ ง Personal Best แผนการจัดการเรียนรูที่ 6 เร่ือง Grammar 1: Modals of Ability, Permission, Requests, Offers, Advices รหสั วิชา................. รายวิชาพนื้ ฐานภาษาอังกฤษ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที่ 3 กลุมสาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ ปก ารศึกษา 25……….. ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ชั่วโมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวช้ีวดั ต 1.1 ม.3/1 ปฏิบัตติ ามคําขอรอ ง คําแนะนาํ คาํ ช้แี จง และคําอธิบายทีฟ่ งและอาน ต 2.1 ม.3/1 เลอื กใชภาษา นาํ้ เสยี ง และกริ ยิ าทา ทางเหมาะกับบคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของ เจาของภาษา ต 4.1 ม.3/1 ใชภาษาสื่อสารในสถานการณจรงิ /สถานการณจําลองท่ีเกิดข้นึ ในหอ งเรยี น สถานศึกษา ชุมชน และสงั คม 2. จดุ ประสงคการเรียนรู พูด เขียน และใช Modals สื่อสารอยางตอเน่ือง เหมาะสมกับบุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของ เจาของภาษา 3. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรเู กยี่ วกบั การใชภาษาส่อื สารอยา งมีมารยาท มีประสิทธิภาพ โดยการใช Modals ทักษะเรียนภาษาทั้ง 4 ดาน ไดแก การฟง การพดู การอา น และการเขียน และกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการสอ่ื สาร ทําใหการสื่อสารบรรลุผลตามวัตถุประสงค ผูเรยี นมเี จตคตทิ ดี่ ีตอภาษาองั กฤษ ใชภ าษาองั กฤษอยา งมีมารยาท ถกู ตองตามกาลเทศะและบุคคล 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Grammar: Modals of Ability, Permission, Requests, Offers, Advices 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรยี นภาษาทั้ง 4 ทักษะ การฟง การพดู การอาน และการเขียน - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มีประสทิ ธภิ าพในการส่ือความ - มีเหตผุ ล มีวจิ ารณญาณ 5. กิจกรรมการเรียนรู Lead-in 1. ครนู ําความสนใจของนักเรียนเขาสบู ทเรยี นในช่ัวโมงเรียนนี้ โดยครเู ขียนประโยคตอ ไปนบี้ นกระดาน ดังน้ี Q: Do you think these sentences have the same meaning? Why?/Why not? a. May I check your bike? b. Can I check your bike? 2. ใหนักเรียนท้ังชั้น Read aloud 3. ครูใหน ักเรียนคิดคําตอบและบอกคําตอบพรอ มกบั ใหเหตุผล โดยครูเขยี นทกุ คาํ ตอบของนักเรยี นบนกระดาน Presentation 1. ครูสอนคําศพั ทในบทอานกิจกรรม A-I โดยใหน ักเรยี นมสี วนรวมดงั น้ี คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที่ 3
218 218 - ใหน กั เรยี นทัง้ ชั้นชว ยกันคนคาํ ศพั ทท ี่ไมร ูค วามหมาย ขีดเสนใตก ํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของ คําศัพทจากตําแหนงภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝกใหระบุ Parts of speech ทุกครั้งที่สอนความหมายของ คาํ ศัพท) - นกั เรยี นบอกหมวดหมขู องคาํ ศัพทเหลานี้ โดยครูเขยี นลงใน Word Box บนกระดาน - ใหนกั เรยี น Read aloud คาํ ศัพทบนกระดาน - ใหนกั เรียนแบงกัน/ชวยกันคนหาความหมายของคาํ ศพั ทเหลาน้ี แลว พดู บอกความหมาย - ครเู ขยี นความหมายของคาํ ศพั ทท่ีนักเรยี นบอกและเพิ่มเตมิ ความหมายของคําศพั ทบ างคําใหส มบูรณ - ใหน กั เรียนคัดลอก Word Box และคําศัพทท่ีเก่ียวของลงในสมุดคําศัพทของตนเอง (ครูกําหนดใหนักเรียนทุกคนมี สมดุ คาํ ศพั ทแ ละสมดุ แบบฝก หดั ) 2. ครูสอน Grammar เร่อื ง Modals of Ability, Permission, Requests, Offers, Advices โดยอธิบาย Forms and Usages of Modals พรอ มทงั้ ยกตัวอยาง ดังนี้ Usages of Modals Forms of Modals Examples of Modals in sentences Ability can George can ride a bike and he’s only three. Permission can Can L borrow your football? Polite permission may Yes, you may use my bike Requests can Could you wait here please? Polite request could, may, would May I come in? Could/Would you fix my bike, please? Offers shall Shall I teach you to play tennis? Strong intentions shall Advices should I shall win this time! You shouldn’t ride without a helmet. - ครยู กตวั อยางของประโยคท่ใี ช Modals โดยใหน กั เรียนมสี วนรว ม Practice ครูใหนกั เรยี นเปดหนงั สือ Close-up 3 หนา 48 นกั เรียนปฏบิ ัติกจิ กรรมตอไปนี้ 1. กจิ กรรม A ครใู หน กั เรียนทบทวน Forms of modals - ใหน ักเรยี น Scanning reading ประโยค a-h เพ่อื คน หา Modals และขีดเสนใต modals - ใหนักเรยี น Read aloud ประโยค a-h และบอก Usages of the modal in each sentence - ครูตรวจสอบความถูกตอ งโดยใหน ักเรยี นอา นคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ a. could, could b. can c. Can d. can’t e. Shall f. Should g. should h. shall 2. กจิ กรรม B ครใู หน ักเรียน Read aloud คาํ สัง่ และพูดบอกส่ิงท่ีนกั เรียนตองปฏบิ ัตใิ นกิจกรรมนี้ - ใหนักเรยี นทบทวนการใช may ดังน้ี May: We use may + bare infinitive - for polite requests (with I and we) ไดแ ก May I come in? - for polite permission ไดแก Yes, you may use my bike. คูมอื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3
219 219 - ใหนกั เรยี นคดิ และพูดบอกตัวอยางการใช may for polite requests and for polite permission ครูตรวจสอบ โดยสมุ เลือกนกั เรียน 4-5 คนขนึ้ มาพดู ประโยค - ใหน ักเรยี น Read silently ประโยค a-h ในกิจกรรม A เพือ่ คิดไตรต รองวาประโยคใดควรใชเ พื่อ requests หรือ permission ได โดยใหน กั เรียนทาํ เครอื่ งหมายไว - ครูตรวจสอบโดยใหนักเรยี นบอกประโยคทใ่ี ชเ พ่ือ requests หรือ permission ได (คาํ ตอบคอื b, c) - ครใู หเ วลานกั เรยี น rewrite ประโยค b, c ครูตรวจสอบคาํ ตอบโดยใหนักเรียน Read คําตอบ เฉลยคําตอบ b. You may use my old racket if yours is broken. c. May I borrow your bike, Mum? 3. กิจกรรม C ใหน ักเรยี น Read aloud ประโยค a-h ในกิจกรรม A และ Read aloud การใช modals ในขอ 1-8 - ใหนกั เรียนจับคูประโยค a-h กับการใช modals ในขอ 1-8 - ครูใหเ วลานักเรยี นคดิ คาํ ตอบ - เม่ือไดคาํ ตอบแลว ใหน กั เรยี นนําคําตอบไป Compare and Share กับเพ่ือนในหอ ง - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรียนอานคาํ ตอบที่เลอื ก ในแตล ะขอ และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. d 2. g 3. c 4. a 5. f 6. e 7. b 8. h 4. กิจกรรม D ครใู หน กั เรียน Read aloud คาํ สัง่ และประโยค a-e - ใหนักเรยี นทบทวนการใช Modals ภายในประโยค a-e และเลือกประโยคที่มีความหมายเหมือนกัน - ใหนักเรยี นนาํ คาํ ตอบท่ีไดไป Discuss and share กับเพอ่ื นในหอง - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรยี นอา นประโยคในแตล ะขอ และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ Question c, d and e are similar in meaning. They are asking for permission. 5. กิจกรรม E ครใู หนกั เรียน Read aloud ประโยค a-e และทบทวนการใช Modals ตอไปน้ี shall, should, may, can, could แลว นําเหตุผลในการใช Modals แตละตวั มาวิเคราะห สงั เคราะหและสรปุ อยา งมเี หตผุ ล (อนมุ านความ) ไดดังน้ี a. A modal, shall, is used for offers. It is good for a friend to offer help or to give advice. b. A modal, should, is used for advices. c. A modal, may, is used for polite request or polite permission. It is obligatory for a member d. A modal, can, is used for request and permission. of staff to check up all e. A modal, could, is used for polite request. vehicles before racing. เฉลยคําตอบ a and b = a friend; c, d and e = a member of staff คมู อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศึกษาปที่ 3
220 220 6. กิจกรรม F ครใู หนกั เรียน Read aloud คําสงั่ และพดู บอกส่ิงที่นักเรียนตองปฏิบัตใิ นกิจกรรมน้ี - ครูใหนกั เรียน Read aloud the answer 1-3 - ครใู หน ักเรียนจบั คูกบั เพ่อื น discuss the answer 1-3 และจบั คกู ับประโยค a-e - ใหนกั เรยี นนําคาํ ตอบทีไ่ ดไป Discuss and share กบั เพอื่ นในหอง - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรียนอานประโยคในแตล ะขอ และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. a, b 2. a, b 3. c, d, e 7. กิจกรรม G ครูใหนักเรยี น Read aloud คาํ สง่ั และทบทวนการทาํ ประโยคบอกเลา ใหเปนประโยคปฏิเสธ - ใหน กั เรียนเปลยี่ นประโยคบอกเลาเปน ประโยคปฏเิ สธอยางมีขัน้ ตอน โดยเริ่มจากการคนหา Verb: Modals แลว ขีด เสนใต Modal จากน้ันใสเ พ่ิม negative adverb ไดแก not ไวหลัง modal และนกั เรยี นอาจฝก ใชกริยาปฏิเสธทีเ่ ปนรปู ยอ (contraction) ดังนี้ - ครตู รวจสอบคําตอบโดยเลือกใหน ักเรยี น 5 คนเขยี นประโยคปฏิเสธคนละ 1 ขอบนกระดาน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. Motorcyclists should not/shouldn’t wear trainers. 2. He cannot/can’t play basketball. 3. They may not jump into the pool. 4. They shall not/shan’t lose again. 5. She could not/couldn’t run fast when she was young. Production 1. กิจกรรม H และกจิ กรรม I ครใู หน ักเรยี น Read aloud คําสงั่ และพดู บอกสิ่งท่ีนักเรยี นตอ งปฏบิ ัตใิ นกจิ กรรมนี้ แลว ใหน กั เรียนจับคูท ํากิจกรรมอยา งเปนอสิ ระ โดยครกู ําหนดเวลาในการคิดคาํ ตอบ จากน้นั ใหนกั เรยี นนําคาํ ตอบท่ีไดไป Discuss and share กับเพอื่ นในหอง 2. ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรียน Read aloud คําตอบของกจิ กรรม H และกิจกรรม I และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ กจิ กรรม H 1. He should go to hospital. 2. She should have/take lessons. 3. He should buy new boots. 4. He should run every day. 5. He should find/get a new coach. กิจกรรม I 1. Can/Could/May I go fishing? 2. Can/Could you run faster? 3. You should bring your swimsuit. 4. They can’t snowboard without snow! 5. Shall we go to the sports centre? 6. Can/Could you bring me a drink of water, please? 7. I can’t play rugby. 8. You shouldn’t swim in this water, children. คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ช้นั มธั ยมศึกษาปท ่ี 3
221 221 6. การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมนักเรยี น 18-20 วธิ ีการ 15-17 ผลการประเมนิ 1. สังเกต 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมินทักษะ แบบประเมนิ ทกั ษะการฟง-การพดู คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดีมาก การใชภ าษา แบบประเมนิ ทักษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. สอ่ื /แหลงการเรยี นรู หนังสือเรยี น Close-up 3 Unit 4 Personal Best เรื่อง Grammar กจิ กรรม A-I หนา 48 Grammar Reference for Unit 4 หนงั สอื เรียน Close-up 3 หนา 111 8. บนั ทกึ หลงั การจัดการเรยี นรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูม ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศึกษาปท ่ี 3
222 222 หนวยการเรียนรทู ี่ 4 เรอ่ื ง Personal Best แผนการจัดการเรยี นรทู ี่ 7 เรอื่ ง Grammar 2: Modals of Obligation รหัสวิชา................. รายวิชาพื้นฐานภาษาองั กฤษ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที่ 3 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ช้ีวัด ต 1.1 ม.3/1 ปฏิบตั ติ ามคาํ ขอรอ ง คําแนะนํา คาํ ช้ีแจง และคําอธบิ ายทีฟ่ ง และอาน ต 2.1 ม.3/1 เลือกใชภาษา น้ําเสียง และกริ ยิ าทาทางเหมาะกับบคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของ เจาของภาษา ต 4.1 ม.3/1 ใชภ าษาสอื่ สารในสถานการณจริง/สถานการณจาํ ลองท่ีเกิดขน้ึ ในหองเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม 2. จดุ ประสงคก ารเรียนรู พูด เขียน และใช Modals of Obligation สื่อสารอยางตอเน่ือง เหมาะสมกับบุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและ วัฒนธรรมของเจาของภาษา 3. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูเกย่ี วกบั การใชภ าษาส่ือสารอยางมีมารยาท มปี ระสิทธิภาพ โดยการใช Modals of Obligation ทักษะเรียนภาษาท้ัง 4 ดา น ไดแ ก การฟง การพูด การอาน และการเขียน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ทําใหการสื่อสารบรรลุผล ตามวตั ถปุ ระสงค ผูเรียนมเี จตคติทีด่ ีตอ ภาษาอังกฤษ ใชภ าษาองั กฤษอยา งมีมารยาท ถกู ตองตามกาลเทศะและบุคคล 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Grammar: Modals of Obligation 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรียนภาษาท้งั 4 ทักษะ การฟง การพดู การอาน และการเขยี น - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มีประสทิ ธภิ าพในการสื่อความ - มีเหตุผล มีวิจารณญาณ 5. กิจกรรมการเรียนรู Lead-in 1. ครนู าํ ความสนใจของนกั เรยี นโดยใหน ักเรียนรูจัก Modals of obligation โดยใชก ิจกรรม J 2. ใหน กั เรยี นท้ังช้นั Read aloud คาํ สั่ง และขีดเสน ใต Modals 3. ครใู หน ักเรยี นบอกคําตอบพรอ มกับใหเหตผุ ล โดยครูเขียนคาํ ตอบของนกั เรียนบนกระดาน 4. ครูเชอื่ มโยงเขาสูบ ทเรยี นเร่ือง Modals of obligation Presentation 1. ครสู อนคําศพั ทใ นบทอานกจิ กรรม J-N โดยใหน ักเรียนมสี ว นรวมดังนี้ คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3
223 223 - ใหน ักเรียนทั้งชนั้ ชว ยกันคนคําศพั ทท ไี่ มร คู วามหมาย ขดี เสน ใตก ํากบั ไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของ คําศัพทจากตําแหนงภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝกใหระบุ Parts of speech ทุกครั้งท่ีสอนความหมายของ คาํ ศัพท) - นักเรยี นบอกหมวดหมขู องคาํ ศพั ทเ หลาน้ี โดยครเู ขยี นลงใน Word Box บนกระดาน - ใหนักเรยี น Read aloud คาํ ศพั ทบ นกระดาน - ใหน ักเรียนแบงกัน/ชวยกันคน หาความหมายของคาํ ศพั ทเหลานี้ แลว พดู บอกความหมาย - ครเู ขียนความหมายของคาํ ศพั ทท ่ีนักเรยี นบอกและเพ่มิ เติมความหมายของคําศพั ทบ างคําใหสมบูรณ - ใหนักเรียนคัดลอก Word Box และคาํ ศพั ทท ีเ่ กี่ยวของลงในสมุดคําศพั ทข องตนเอง (ครูกําหนดใหนักเรียนทุกคนมี สมดุ คําศัพทและสมดุ แบบฝก หัด) 2. ครสู อน Modals of Obligation โดยอธบิ าย Forms and Usages of Modals พรอมท้งั ยกตัวอยาง ดงั น้ี Usages of Modals Forms of Modals Examples of Modals in sentences Obligations must You must wear a helmet when you ride a motorbike. have to/has to Neccessary must Visitors must/have to pay to swim in the hotel pool. have to/has to Not allowed/Prohibition mustn’t Players mustn’t late for the match. Not necessary don’t have to You don’t have to play a team sport, you can choose something else. needn’t You needn’t buy a tennis racket, you can use mine. Practice 1. กจิ กรรม J ใหนักเรียน Read aloud ประโยคที่ 1-5 ขีดเสน ใต modal verbs - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรียนแลวอานคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. have to 2. must 3. mustn’t 4. needn’t 5. don’t have to, can - ครใู หน ักเรียนวิเคราะหความหมายของประโยค 1-5 โดยใหน ักเรยี นเลือกประโยคมาใสในตาราง - ครูตรวจสอบโดยใหน กั เรียนอา นคําตอบพรอ มกัน และครเู ฉลยคาํ ตอบ ดังนี้ Usages of Modals 1. Sentences Obligations 2. - Neccessary 3. Not allowed/Prohibition 4. Not necessary 5. คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มธั ยมศึกษาปที่ 3
224 224 2. กิจกรรม K ใหนักเรียน Read aloud ประโยค 1-5 ในกจิ กรรม J และ Read aloud การใช modals ในขอ a.-c. - ใหน ักเรยี นจบั คูประโยค 1-5 กบั การใช modals ในขอ a.-c. - ครูใหเ วลานักเรยี นคดิ คําตอบ - เมื่อไดคําตอบแลวใหนกั เรียนนาํ คําตอบไป Compare and Share กับเพ่อื นในหอง - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียน Read aloud และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ a. 1, 2 b. 4, 5 c. 3 3. กิจกรรม L ครใู หนกั เรียน Read aloud คาํ ส่ัง - ครูใหน กั เรียนชว ยกนั ทบทวนการใช Modals of Obligation - ใหนกั เรียน Read aloud the rules and the modals แลว เลือกใช modal เติมลงไปในชองวา ง - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรยี นบอกคําตอบ และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ must, have to, mustn’t, needn’t, don’t have to 4. กจิ กรรม M ใหนักเรียน Read aloud คาํ สงั่ และพดู บอกสิง่ ท่ีนักเรยี นตอ งปฏบิ ตั ิในกิจกรรมน้ี - ใหน ักเรยี น Skimming reading ขอความในโปสเตอร Junior Park Run เพือ่ จับใจความสําคัญ - ครตู รวจสอบความเขาใจในการอานของนักเรยี นโดยใหนกั เรยี นพูดบอกจับใจความสําคญั ของเรอื่ งที่อา นพรอมกัน - ใหนกั เรยี นทบทวนการใช must, mustn’t, don’t have to จากน้ันเลือกนําไปเติมลงในประโยคของ the rules for Junior Park Run - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรยี น Read aloud the rules for Junior Park Run และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. must 2. mustn’t 3. don’t have to 4. mustn’t 5. must 6. don’t have to Production กิจกรรม N ใหนกั เรยี น Read aloud คาํ ส่งั และพดู บอกสิง่ ท่นี ักเรียนตองปฏบิ ตั ใิ นกิจกรรมน้ี - ครอู ธบิ าย Cloze passage และทบทวนเทคนิคการทําขอสอบCloze testโดยใหนักเรียนFocus on words before and after a gap ใหนกั เรยี นคน หาตวั ชี้แนะคาํ ตอบท่ีอยหู นา และหลงั ชองวา ง แลว เลือกคําตอบ - ใหนักเรียนจับคูทํากิจกรรมน้ีอยางอิสระ โดยครูกําหนดเวลาหลังจากนั้น ใหนักเรียนนําคําตอบที่ไดไป Discuss and share กับเพื่อนในหอ ง - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียน Read aloud passage และครูเฉลยคําตอบ 1. B: don’t have to เฉลยคาํ ตอบ 3. A: don’t have to 3. B: must / has to 2. A: Do, have to 2. B: have to / must 6. A: must / have to 4. B: must / have to 5. A: mustn’t คูม อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศึกษาปที่ 3
225 225 6. การวดั และประเมินผล เคร่อื งมอื คะแนน เกณฑ วิธกี าร แบบประเมินการสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียน 18-20 15-17 ผลการประเมนิ 1. สงั เกต 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมนิ ทักษะ แบบประเมินทกั ษะการฟง-การพดู คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดมี าก การใชภ าษา แบบประเมินทักษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 7. ส่ือ/แหลง การเรยี นรู หนงั สอื เรยี น Close-up 3 Unit 4 Personal Best เร่ือง Grammar กจิ กรรม J-N หนา 49 Grammar Reference for Unit 4 หนงั สือเรยี น Close-up 3 หนา 111-112 8. บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศึกษาปท่ี 3
226 226 หนว ยการเรียนรทู ี่ 4 เรอื่ ง Personal Best แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 8 เรอ่ื ง Grammar 3: Modals รหัสวชิ า................. รายวชิ าพื้นฐานภาษาองั กฤษ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3 กลุมสาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ชัว่ โมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชว้ี ัด ต 1.1 ม.3/1 ปฏบิ ตั ิตามคาํ ขอรอง คําแนะนํา คําช้ีแจง และคาํ อธบิ ายท่ฟี ง และอาน ต 2.1 ม.3/1 เลือกใชภ าษา น้าํ เสียง และกิรยิ าทา ทางเหมาะกับบุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของ เจา ของภาษา ต 4.1 ม.3/1 ใชภ าษาสือ่ สารในสถานการณจรงิ /สถานการณจําลองท่ีเกิดขน้ึ ในหอ งเรียน สถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม 2. จุดประสงคการเรียนรู พูด เขียน และใช Modals of Obligation สื่อสารอยางตอเน่ือง เหมาะสมกับบุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและ วฒั นธรรมของเจาของภาษา 3. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรูเ ก่ยี วกับการใชภ าษาส่อื สารอยางมมี ารยาท มีประสิทธิภาพ โดยการใช Modals of Obligation ทักษะเรียนภาษาท้ัง 4 ดา น ไดแ ก การฟง การพูด การอาน และการเขียน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร ทําใหการส่ือสารบรรลุผล ตามวตั ถุประสงค ผเู รยี นมเี จตคตทิ ่ดี ตี อ ภาษาองั กฤษ ใชภ าษาอังกฤษอยางมีมารยาท ถกู ตอ งตามกาลเทศะและบคุ คล 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Grammar: Modals of Obligation 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรยี นภาษาท้ัง 4 ทักษะ การฟง การพูด การอาน และการเขียน - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มีประสิทธิภาพในการสื่อความ - มเี หตผุ ล มวี จิ ารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรียนรู Lead-in 1. ครทู บทวนบทเรียนในช่วั โมงทีแ่ ลวเรื่อง Modals โดยครูเขียนประโยคตอ ไปนบ้ี นกระดาน ดังน้ี Q 1: Do you think what modal is? Q 2: Can you give a sentence with modal? (A modal is a type of auxiliary (helping) verb that is used to express: ability, possibility, permission or obligation.) 2. ใหน กั เรียนทั้งชน้ั Read aloud ประโยคคาํ ถาม 3. ครูใหนักเรยี นคิดคําตอบและบอกคาํ ตอบ โดยครูเขียนทกุ คําตอบของนักเรยี นบนกระดาน 4. ครูเชอ่ื มโยงเขา สูบทเรยี น คูม อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที่ 3
227 227 Presentation 1. ครูทบทวน Modals โดยใหน กั เรยี นมีสวนรวม 2. ครทู บทวนเทคนคิ การทําขอสอบ ไดแก 2.1 Focus on words before and after a gap. 2.2 Justifying the answers 3. ครูอธิบายพรอมทั้งยกตวั อยา งประกอบและใหนกั เรียนฝกปฏบิ ัติในกจิ กรรมตอไป Practice ครใู หน กั เรยี นเปด หนงั สอื Workbook Close-up 3 หนา 27-28 นักเรียนปฏิบัตกิ ิจกรรมตอไปน้ี 1. กิจกรรม A ใหนักเรียนจับคูทํากิจกรรมโดย Read aloud ประโยคสนทนาตามบทบาทของ Student A และ Student B - ใหนักเรียนเลือกใช Modal ที่กําหนดใหในแตละประโยค โดยใชประโยคสนทนาท่ีนํามาหนาหรือตามหลังเปนตัว ชแี้ นะคาํ ตอบ โดยตคี วามหมายเจตนา จุดมงุ หมายของการพูด - ครตู รวจสอบความแมน ยําในการคน หาตัวช้ีแนะคาํ ตอบโดยใหนักเรียนอานคําทีข่ ีดเสนใตพรอ มกนั - ครูใหเวลานกั เรียนคน หา คิด และเขยี นคาํ ตอบ โดยครูสงั เกต ชวยเหลือ แนะนาํ และแกปญ หา - ครตู รวจสอบความถูกตองโดยใหนกั เรยี นอานคาํ ตอบพรอมกนั และครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. can’t 2. Shall 3. shall 4. May 5. could 6. should 7. can 8. can’t 2. กจิ กรรม B ครูใหน ักเรยี น Read aloud คาํ ส่งั และพูดบอกสง่ิ ท่ีนกั เรียนตองปฏบิ ัตใิ นกิจกรรมน้ี - ครูใหนักเรียนทบทวนการใช modals to express purposes โดยใหนักเรียน Read aloud the prompts in brackets แลว บอก modal ทีค่ วรใช ตัวอยางเชน give advice = should เปนตน - ครูใหนักเรียนจบั คูทํากิจกรรม โดยครกู าํ หนดเวลาในการทํา - นักเรยี นอา น Prompts เพ่ือวินิจฉัยmodalทีค่ วรใช และเขียนคําตอบ โดยครูสงั เกต แนะนาํ และแกป ญหา - ครตู รวจสอบความถกู ตองโดยใหน กั เรียนอานคาํ ตอบพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. They should practise cricket daily. 2. I shall win the competition on Saturday. 3. Mickey could swim when he was four. 4. Should I join the volleyball team? 5. You can’t go in the pool today. 6. Can/May/Shall I carry the racket for you? 3. กจิ กรรม C ครูใหนักเรยี น Read aloud คาํ สั่ง และพดู บอกสิ่งที่นักเรียนตองปฏบิ ตั ิในกจิ กรรมน้ี - ใหน กั เรยี นทบทวน Modals และ Read aloud คาํ ศพั ทท เ่ี ปนตวั เลอื ก - ใหนักเรียน Read silently ประโยค Cloze sentence เพื่อทําความเขาใจความหมายและตีความหมายเพื่อสรุป จดุ มุงหมาย และเจตนาทแ่ี ฝงอยูใ นเนอ้ื ความของแตละประโยค - ตัดสินใจเลอื กใช modal เติมลงในประโยค - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรยี น Read aloud คําตอบและเหตผุ ลทีเ่ ลอื กคาํ ตอบน้ันๆ ครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. must 2. don’t have 3. have 4. mustn’t 5. needn’t 6. must 7. have คมู ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศึกษาปท ่ี 3
228 228 4. กจิ กรรม D ใหน กั เรียน Read aloud คาํ สง่ั และพูดบอกสิง่ ท่ีนักเรียนตองปฏบิ ัติในกิจกรรมน้ี - ใหน กั เรียนทบทวนการใช Modals โดยใหนักเรียน focus on the given modals in (1)-(8) และพูดบอก Usages or Puposes ของ modals แตละตวั - ใหนักเรียนจับคูทํากิจกรรมโดยนักเรียนชวยกันอานประโยคใน Monologue แลวเลือก Modals ท่ีตรงกับ Puposes ของแตละประโยค - ครูใหเ วลานักเรยี นคิดคาํ ตอบ - เมือ่ ไดค ําตอบแลวใหนกั เรยี นนาํ คาํ ตอบไป Compare and Share กับเพ่ือนในหอง - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรยี น Read aloud คาํ ตอบ และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ (1) must (2) needn’t (3) don’t have to (4) have to (5) mustn’t (6) mustn’t (7) must (8) don’t have to Production กิจกรรม Expand Your Idea ซึ่งครกู ําหนดข้ึนเองโดยประยกุ ตใ ชกจิ กรรม C และกิจกรรม D ดังน้ี Complete the table with the information from C. and D. Usages of Modals Modals C. Sentence No. D. Sentence No. Obligations Neccessary Not allowed/Prohibition Not necessary - ครใู หนกั เรียนจบั คูทํากิจกรรมวิเคราะห Purposes of the sentences with modals โดยใหน กั เรียนยอนกลับไปอาน ประโยค 1-7 ท่มี ี Modal แลว และใหนักเรยี นชว ยกันวิเคราะหความหมายภายในประโยคและตีความหมาย เพื่อทาํ ความเขาใจเจตนา/ จดุ มงุ หมายของแตละประโยค โดยใหน กั เรียนเตมิ ขอ มลู ใชต ารางวิเคราะหที่ครูกาํ หนดให - ใหน ักเรียนคิดและวเิ คราะหคําตอบ และนําคําตอบท่ีไดไป Discuss and share กับเพอื่ นในหอง - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรยี น Read aloud คาํ ตอบ และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ Usages of Modals Modals C. Sentence No. D. Sentence No. Obligations 4 have to 3 1 Neccessary must - 7 Not allowed - Not necessary must 1, 6 5, 6 have to 7 3, 8 2 mustn’t 4 don’t have to 2, 5 needn’t - คูมอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศึกษาปท ่ี 3
229 229 6. การวัดและประเมินผล เครอื่ งมอื คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน 18-20 วิธีการ 15-17 ผลการประเมิน 1. สังเกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผาน 2. ประเมนิ ทักษะ แบบประเมินทกั ษะการฟง-การพูด คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดีมาก การใชภ าษา แบบประเมินทกั ษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. ส่อื /แหลงการเรยี นรู หนังสือ Workbook Close-up 3 Unit 4 Personal Best เรอ่ื ง Grammar กิจกรรม A-D หนา 27-28 8. บนั ทกึ หลงั การจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3
230 230 หนวยการเรียนรทู ี่ 4 เร่อื ง Personal Best แผนการจัดการเรียนรูท่ี 9 เร่อื ง Listening: Numbers & Dates รหสั วิชา................. รายวิชาพืน้ ฐานภาษาอังกฤษ ช้ันมธั ยมศึกษาปท ่ี 3 กลุมสาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ ปก ารศกึ ษา 25……….. ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ช่ัวโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู/ตัวชวี้ ัด ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขียนเพอื่ ขอและใหขอมูล อธบิ าย เปรียบเทยี บ และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกับเรอ่ื งท่ฟี ง หรอื อานอยาง เหมาะสม ต 1.2 ม.3/5 พดู และเขยี นบรรยายความรสู กึ และความคิดเหน็ ของตนเองเก่ียวกบั เรอ่ื งตา งๆ กิจกรรม ประสบการณ และ ขา ว/เหตุการณ พรอ มทั้งใหเ หตุผลประกอบอยางเหมาะสม 2. จดุ ประสงคก ารเรียนรู พดู ใหขอมูลอธบิ ายเก่ยี วกบั Watersports & A rock climbing class โดยใชส ํานวนภาษาและโครงสรา งภาษาเก่ียวกับ days, time, numbers ไดอ ยางถูกตองเหมาะสมกบั ระดับชนั้ เรียน 3. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรูและกิจกรรมฝกทักษะ สํานวนภาษาเกย่ี วกบั days, time, numbers โครงสราง กระบวนการฝก ทักษะทางภาษาทงั้ 4 ดานโดยเฉพาะอยางยิ่งทักษะการฟง การพดู โดยใชกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการสือ่ สาร ทําใหผูเรียนส่ือสารไดอยางมี ประสทิ ธิภาพ มีเจตคตทิ ่ีดตี อการเรียนภาษาองั กฤษ 4. สาระการเรยี นรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Vocabulary: สาํ นวนภาษาเกี่ยวกับ Watersports & A rock climbing class, days, time, numbers - Grammar: จํานวนนบั (Cardinal number) และเลขลาํ ดับที่ (Ordinal number) 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรียนภาษาท้งั 4 ทักษะ การฟง การพดู การอา น และการเขียน - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการส่อื สาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มีประสิทธิภาพในการส่อื ความ 5. กจิ กรรมการเรียนรู Lead-in 1. ครูนําความสนใจของนักเรียนโดยใชคาํ ถามดังน้ี Q 1: How many students are there in your class? Q 2: What date is today? 2. นักเรียนใหคาํ ตอบเกีย่ วกับตวั เลขเปน จาํ นวนนบั (Cardinal number) และเลขลําดับที่ (Ordinal number) Presentation 1. ครสู อนคําศพั ทใ นกิจกรรม A-G โดยใหนักเรียนมีสวนรว ม ดังน้ี คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3
231 231 - ใหนักเรียนทั้งชัน้ ชวยกันคนคาํ ศพั ทท ไ่ี มร คู วามหมาย ขดี เสนใตกํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของ คําศัพทจากตําแหนงภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝกใหระบุ Parts of speech ทุกคร้ังท่ีสอนความหมายของ คาํ ศพั ท) นกั เรยี นบอกหมวดหมขู องคําศัพทเหลา น้ี โดยครเู ขยี นลงใน Word Box บนกระดาน - ใหนักเรียน Read aloud คาํ ศัพทบนกระดาน และใหนักเรียนแบงกัน/ชวยกันคนหาความหมายของคําศัพทเหลานี้ แลว พูดบอกความหมาย - ครเู ขยี นความหมายของคาํ ศัพทที่นักเรยี นบอกและเพ่ิมเติมความหมายของคําศัพทบางคําใหสมบรู ณ - ใหนักเรยี นอานออกเสยี งดังพรอ มกัน ถาคาํ ใดนักเรยี นอา นไมไ ดใหครูชวยอา นนําและนักเรียนอานตาม - ใหนกั เรียนคัดลอก Word Box และคําศัพทท เ่ี กี่ยวของลงในสมดุ คําศพั ทข องตนเอง 2. ครูสอน Listening Strategies ผูฟงควรแสดงความสนใจ รบั รู เขา ใจสง่ิ ท่ีไดฟง มีการใชภาษากายประกอบการสบตา ผูฟง ขณะท่พี ดู เลาและฟง เหตกุ ารณ 3. ครอู ธบิ ายวิธีการเรียนระหวางฟงซีดี แนะวิธฟี ง อยางมปี ระสทิ ธิภาพ ครูช้แี จงวา นักเรยี นจะไดฟ งเสยี งพูดสนทนาท่เี ปน การพูดอยางเปนธรรมชาติ (naturally speaking) ท่มี ีความเร็วพอประมาณ ใหน ักเรยี นฟงเพอ่ื จบั ประเด็นสําคัญโดยตง้ั ใจฟง คําสาํ คัญ (content words) ไดแก nouns, main verbs, adjectives, adverbs ในระหวางท่ฟี ง ใหน ักเรียนงดทาํ กิจกรรมใดๆ ไมพูดคุยกัน 4. ครูชีแ้ จงการฟง ซีดวี านักเรียนจะไดฟ งซดี ี 3-4ครงั้ ดงั นี้ - ฟง ครั้งท่ี 1 เพื่อใหเ ขา ใจเรื่องและจบั ประเด็นสาํ คญั เบ้ืองตน - ฟง ครั้งที่ 2-3 เพื่อเลอื กคาํ ตอบ - ฟงครัง้ ที่ 3-4 เพ่ือทบทวนคําตอบหรือเฉลยคาํ ตอบ (สาํ หรับชนั้ ทนี่ กั เรยี นสว นใหญออ นภาษาอังกฤษ ครูควรใหฟ งหลายคร้งั เพื่อใหนักเรยี นประสบความสําเรจ็ ในการฟง ) Practice ครใู หน ักเรยี นเปดหนังสือเรียน Close-up 3 หนา 50 นักเรียนปฏบิ ัติกิจกรรมตอ ไปน้ี 1. กิจกรรม A ใหนักเรียน Read aloud ตัวเลขในขอ 1-10 โดย Focus on the ending sound ครูอธิบายความ แตกตางของเสียงทา ยคาํ สําหรับการออกเสียงเลขนบั และเลขลาํ ดบั ท่ี - ใหนกั เรียนจับคฝู กออกเสยี งตัวเลขดังกลาวกบั เพ่อื น - ครสู ังเกต แนะนํา ชว ยเหลอื และแกปญหา - ครูตรวจสอบโดยสุมเลอื กใหนักเรยี น Read aloud ตัวเลข 2. กิจกรรม B ใหนักเรยี น Read aloud คาํ สงั่ ครูทบทวนการทาํ กจิ กรรมการฟง - เมอ่ื นักเรียนพรอมครูเปด ซีดี Track 4.1 ใหน กั เรยี นฟง 1-2 ครงั้ นกั เรยี นเลอื กตัวเลขทไ่ี ดยนิ - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนักเรยี น Read aloud คาํ ตอบ - ครูใหนักเรยี นฟงซดี ีซํ้า เพ่ือใหน ักเรียนตรวจสอบคําตอบดวยตนเองและปรบั ปรุงคาํ ตอบกอ นทค่ี รูจะเฉลยคาํ ตอบ - ครูเฉลยคําตอบ และใหนกั เรยี นฟง ซีดเี ปนคร้ังสดุ ทาย เพอ่ื ยืนยนั คําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. 13th 2. 14 3. 50 4. 60 5. 17 6. 80 7. 19 8. 31st 9. 32nd 10. 33rd 3. กจิ กรรม C ใหน ักเรยี น Read aloud คาํ สงั่ พรอ มกับบอกความหมายเปน ภาษาไทย - ครูทบทวนคําสัง่ ชีแ้ จงกิจกรรมการฟง ใหนักเรียนฟง การออกเสยี งตัวเลข ซึ่งมีการเนนเสียงพยางค (stressed) โดยครู ยกตวั อยา งประกอบ - จากนั้นครูใหนักเรยี นฟง ซดี ี Track 4.2 1-2 ครั้ง นกั เรียนขีดเสนใตพ ยางคท เ่ี นนเสียง (stressed) - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียน บอกตําแหนงพยางคทีเ่ นนเสียง (stressed) คมู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3
232 232 - ครูใหน ักเรยี นฟงซดี ซี า้ํ เพอ่ื ใหนักเรียนตรวจสอบตาํ แหนง พยางคท ี่เนนเสยี ง (stressed) และปรับปรงุ คาํ ตอบกอ นท่ี ครจู ะเฉลยคาํ ตอบ - ครเู ฉลยคาํ ตอบและใหนักเรียนฟง ซีดเี ปน ครงั้ สุดทาย เพ่ือยืนยนั คําตอบ 1. forty fourteen เฉลยคาํ ตอบ 3. second twenty-second 2. a hundred a thousand 5. seven seventeen 4. eighty eighteen 6. sixteen sixty 4. กจิ กรรม D ใหนักเรยี น Read aloud คําส่งั และบอกความหมายเปนภาษาไทย - ใหนกั เรียนจบั คูกับเพื่อนทาํ กิจกรรมออกเสยี งตัวเลขนับและเลขลาํ ดบั ท่ใี นกจิ กรรมC แลว ผลัดกันเปน ผฟู งซ่ึงตอ งบอก วาเสยี งทีไ่ ดย ินคือตวั เลขใด - ครตู รวจสอบ Walk around สังเกต ช้ีแนะ สนับสนุน และแกปญหาการทํากจิ กรรมของนักเรียน เฉลยคาํ ตอบ Students’ own answers 5. กจิ กรรม E ใหนกั เรียน Read aloud คาํ ส่ัง และ Exam Close-up - ครูอธิบาย numbers และ dates ความแตกตางในการเขียน และการใช Cardinal numbers และ Ordinal numbers การออกเสียงเนน (Stressed) ภายในคํา การนําไปใช พรอมทั้งยกตัวอยางประกอบ ครูเนนย้ําการออกเสียงเนนหนักใน พยางคท ีแ่ ตกตางกัน ตัวอยา งเชน sixty – sixteen เปนตน - ใหน ักเรียนพดู ออกเสยี งตวั เลขทค่ี รูเขียน โดยใชเ สียงเนน หนกั ในพยางคท่ถี ูกตอง - ใหนักเรียนจับคูฝกพดู ออกเสียง และเขยี น cardinal numbers, ordinal numbers และ dates กับเพ่อื นในหอง - ครู Walk around สงั เกต ชแ้ี นะ สนับสนุน และแกปญ หาการทํากิจกรรมของนักเรียน 6. กจิ กรรม F ครูใหนักเรียนฟง ซดี ี Track 4.3 เก่ยี วกับ Watersports แลว เติมขอ มลู ที่หายไป โดยครูเปดซีดีใหฟ ง 1-2 ครัง้ โดยหยุดเสียงเปน บางชว งเพ่อื ใหเวลานกั เรยี นฟง คิดตาม และเขียนคาํ ตอบ - ครูตรวจสอบคําตอบ โดยใหน กั เรยี นบอกคําตอบพรอมกัน - ครเู ขยี นคาํ ตอบของนักเรียนบนกระดาน และยังไมเ ฉลยคาํ ตอบ 7. กจิ กรรม G ใหน ักเรยี นฟงซีดี Track 4.4 อกี ครั้งหนึ่ง เพ่ือใหน กั เรียนตรวจสอบคาํ ตอบดวยตนเอง ปรบั ปรุงคาํ ตอบ และยืนยันคาํ ตอบ แลวครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ (1) 18 (2) windsurf (3) August 30th (4) £330 (5) 50 per cent Production ครใู หน ักเรียนเปดหนังสอื Workbook Close-up 3 หนา 28 นกั เรยี นปฏิบัตกิ ิจกรรมตอไปนี้ 1. กิจกรรม A ใหนักเรยี น Read aloud the Exam Reminder - ครูอธบิ ายการใช cardinal numbers และ ordinal numbers พรอ มทั้งยกตัวอยางประกอบ - ใหนักเรยี น Read aloud คําส่ังและคําถามพรอมท้งั ใหค ําตอบ - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรียน Read aloud คาํ ตอบ และครูเฉลยคาํ ตอบ คูมอื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศึกษาปท ่ี 3
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 597
Pages: