Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ Close up 3

แผนการจัดการเรียนรู้ Close up 3

Published by Teacher Ya Channel, 2021-03-26 14:38:56

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ Close up 3
ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นม.3

Search

Read the Text Version

33 33  Presentation 1. ครูสอนโครงสราง Possessives (Forms and Usages) โดยใชกิจกรรม Grammar Reference Unit 1 จากทายเลม ของหนังสอื เรยี น Close-up 3 ดงั นี้ 1.1 Possessive ’s or Possessive forms of nouns ดงั นี้ - Use ’s with a singular noun + ’s and an irregular plural noun+’s - Use ’ with regular plural noun +’ and a noun ending –s or Proper noun ending –s ตัวอยางเชน All the students’ textbooks are labelled with the new barcode. 1.2 Possessives Adjectives & Possessive Pronouns ครูสอน Grammar เรอื่ ง Possessives forms of noun โดยอธิบาย Forms and Usages พรอ มท้งั ยกตวั อยา งประกอบดงั น้ี Subject Pronoun Possessives Adjectives Possessive Pronouns I my mine We our ours your yours You his his He her hers She its - It their theirs They ตัวอยา งเชน This is Somsak’s place. Mine is over there, near the window. 2. ครูสอน Exam Strategy ไดแก Exam Close-up - ครูใหน กั เรียน Read aloud Exam Close-up - ครูอธิบายพรอมท้ังยกตัวอยางประกอบและใหนกั เรียนฝกปฏิบัติ  Practice ครูใหน กั เรียนเปด หนังสือเรยี น Close-up 3 หนา 11 ปฏิบัตกิ ิจกรรมตอไปน้ี 1. กจิ กรรม H - ครูใหนักเรียนทบทวน the use of apostrophes (’) จากนั้นใหจับคูอานประโยคท่ีกําหนดใหและขีดเสนใต Possessives แลวเลือกคาํ ตอบ - ครูตรวจสอบความถูกตองโดยใหน ักเรยี นอานคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. John’s 2. The man’s 3. The children’s 4. The boys’ 5. Jess’ 2. กจิ กรรม I - ครูใหน กั เรียนรจู กั กฎการใช Possessives - ครอู ธบิ ายและใหน กั เรียนคดิ วิเคราะหต ัวเลือก และ Justifying the answers - ครูใหเวลานกั เรยี นคน หา คดิ และใหค าํ ตอบ - ครตู รวจสอบความถูกตอ งโดยใหน ักเรยี นอานคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ a. singular b. -s c. plural, irregular คูมอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศกึ ษาปท่ี 3

34 34 3. กิจกรรม J ครใู หน ักเรยี น Read aloud คําสง่ั และพูดบอกสิง่ ที่นกั เรยี นตอ งปฏบิ ตั ใิ นกิจกรรมน้ี - ครูใหน ักเรยี นบอกความแตกตางของ Possessive adjectives กับ Possessive pronoun - ใหน กั เรียน Read aloud ประโยคสนทนาระหวา งA และ B พรอ มท้ังขดี เสน ใต Possessive ไปดว ยและระบวุ า เปน Possessive adjectives หรอื Possessive pronoun - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรียนบอกคําตอบและครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ A: your เปน Possessive adjectives เพราะมีคํานามตามหลัง B: mine เปน Possessive Pronoun เพราะตามหลัง verb to be และไมม คี ํานามตามหลงั 4. กิจกรรม K ครูใหนักเรียน Read aloud คาํ ส่งั และพูดบอกสง่ิ ที่นักเรยี นตองปฏบิ ตั ิในกิจกรรมน้ี - ครูใหน กั เรียนชวยกันทบทวนการใช Possessives - ใหน กั เรยี น Read aloud ประโยคในกจิ กรรม K พรอมทั้งเลอื กคําตอบ โดยจับคูกับประโยคในกิจกรรม J - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรียนบอกคําตอบ และครเู ฉลยคําตอบ a. Sentence B เฉลยคําตอบ b. Sentence A 5. กจิ กรรม L ครใู หนักเรยี น Read aloud คาํ สงั่ และพดู บอกสิง่ ที่นักเรยี นตองปฏบิ ัติในกิจกรรมน้ี - ใหนักเรยี น Read aloud ทบทวนการใช possessives forms of noun (’s, s’ or ’) - ครอู ธบิ าย Cloze sentences และทบทวนเทคนิคการทําขอ สอบ Cloze test - ใหน กั เรียนคนหาตวั ช้ีแนะคําตอบที่อยูห นาและหลังชองวา ง โดยขีดเสนใตกํากบั ไวแลว เลือกคําตอบ - ครูตรวจสอบตัวช้ีแนะคําตอบโดยใหนกั เรียนอา นตวั ชีแ้ นะคําตอบของทกุ ประโยคไดคําตอบ - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนักเรยี นอาน possessives forms of noun (’s, s’ or ’) ในแตล ะขอ และครูเฉลย คาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. ’s 2. ’s 3. ’s 4. ’ 5. s’ 6. s’ 6. กจิ กรรม M ครใู หน กั เรยี น Read aloud คําสงั่ และพดู บอกสิ่งท่นี ักเรยี นตอ งปฏบิ ตั ใิ นกิจกรรมน้ี - ครูใหนกั เรียนบอกความแตกตางของ Possessive adjectives กับ Possessive Pronoun - ครอู ธิบาย Cloze sentences และทบทวนเทคนิคการทําขอสอบ Cloze test โดยใหนักเรียน Focus on words before and after a gap - ใหน ักเรียนคนหาตวั ช้แี นะคาํ ตอบที่อยูหนาตวั เลือก โดยขีดเสนใตก ํากบั ไวแลวเลือกคําตอบ - ครตู รวจสอบตัวช้ีแนะคําตอบโดยใหนกั เรยี นอานตวั ชีแ้ นะคําตอบของทกุ ประโยคไดคาํ ตอบ - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรยี นอา น possessives ในแตละขอ และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. their, theirs 2. her, hers 3. his, his 4. our, ours 5. my, mine 6. your, yours  Production 1. กจิ กรรม N ครูใหนักเรียน Read aloud คาํ สง่ั และพดู บอกสงิ่ ทนี่ ักเรียนตองปฏบิ ัตใิ นกจิ กรรมน้ี คูม อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ี่ 3

35 35 - ครใู หนักเรยี น Read aloud Exam Close-up - ครูทบทวนเทคนิคการทําขอสอบ Cloze test โดยใหน ักเรียน Focus on words before and after a gap - ครูอธิบายเทคนิคการทําขอสอบโดย Identifying the kind of word you need อธิบายวิธีการ พรอมทั้งยก ตวั อยา งประกอบและใหน ักเรียนฝกปฏบิ ตั ใิ นกิจกรรมตอไป 2. กจิ กรรม O ครูใหนกั เรียน Read aloud คําสั่ง และพูดบอกสิง่ ท่ีนักเรียนตองปฏบิ ตั ใิ นกิจกรรมนี้ - ครูใหน กั เรยี นปฏบิ ตั ติ าม Exam Close-up - ใหนักเรียนเขียนคาํ ตอบในกิจกรรม O โดยครูใหเ วลานกั เรยี นคิดและเขียนคาํ ตอบ - ใหนกั เรยี นนําคาํ ตอบทไ่ี ดไป Discuss and share กบั เพ่อื นในหอง - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรียน Read aloud passage และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. A 2. C 3. A 4. A 5. B 6. A 7. B 8. C 6. การวัดและประเมนิ ผล เครื่องมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมนักเรยี น 18-20 วิธกี าร 15-17 ผลการประเมนิ 1. สังเกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมนิ ทกั ษะ แบบประเมนิ ทกั ษะการฟง-การพดู คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดมี าก การใชภ าษา แบบประเมนิ ทักษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. ส่ือ/แหลง การเรยี นรู หนังสอื เรยี น Close-up 3 Unit 1 Home Sweet Home เรอ่ื ง Grammar กจิ กรรม H-O หนา 11 Grammar Reference for Unit 1 หนังสือเรียน Close-up 3 หนา 109 8. บนั ทกึ หลังการจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศึกษาปท่ี 3

36 36 หนวยการเรยี นรทู ่ี 1 เรือ่ ง Home Sweet Home แผนการจดั การเรียนรูที่ 8 เรื่อง Grammar 3: Present Perfect Simple & Possessives รหัสวชิ า................. รายวชิ าพ้นื ฐานภาษาอังกฤษ ช้ันมธั ยมศึกษาปท่ี 3 กลุมสาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ ปก ารศกึ ษา 25……….. ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวช้วี ดั ต 1.2 ม.3/5 พูดและเขียนบรรยายความรูส กึ และความคดิ เหน็ ของตนเองเก่ยี วกบั เรื่องตางๆ กิจกรรม ประสบการณ และ ขา ว/เหตกุ ารณ พรอมทั้งใหเหตผุ ลประกอบอยางเหมาะสม ต 2.2 ม.3/1 เปรียบเทยี บและอธบิ ายความเหมือนและความแตกตางระหวางการออกเสียงประโยคชนิดตางๆ และการ ลําดับคําตามโครงสรางประโยคของภาษาตางประเทศและภาษาไทย 2. จุดประสงคการเรยี นรู พูดและเขยี นโตต อบขอ มูลเกยี่ วกบั Little Helpers เร่อื งตางๆ ใกลตัว เรอ่ื งทีอ่ ยูในความสนใจของสังคม และสือ่ สารอยาง ตอเนอ่ื งและเหมาะสม 3. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรเู กี่ยวกับการใชภาษาและโครงสราง Present perfect Simple & Possessives ทําใหการสื่อสารเกิดความเช่ือมโยง ระหวา งขอ มลู การเลือ่ นไหลของขอมูลมคี วามสอดคลอ งและตอ เนื่อง การสือ่ สารมีประสิทธิภาพ นักเรียนไดรับความรูโดยผานการฝก ทกั ษะเรียนภาษาทั้ง 4 ดาน การฟง การพูด การอาน และการเขียน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ทําใหการ สือ่ สารบรรลุผลตามวตั ถุประสงค ผูเ รียนมเี จตคตทิ ่ดี ตี อ ภาษาองั กฤษ โดยเฉพาะอยางย่งิ มีนสิ ัยรกั การอา น มีสุนทรียภาพในการอา น 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Grammar: Present perfect Simple & Possessives 4.2 ดา นทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรยี นภาษาท้งั 4 ทกั ษะ การฟง การพดู การอาน และการเขยี น - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพอ่ื การส่ือสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มปี ระสทิ ธภิ าพในการสื่อความ - มีเหตุผล มีวจิ ารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครนู าํ ความสนใจของนกั เรียนเขาสูบทเรยี นในชัว่ โมงเรียนน้ี โดยครเู ขยี นประโยคตอไปนบี้ นกระดาน ดังนี้ Q: Do you think which sentence is not correct? 1. Their homes look like tents. 2. Ours homes look like theirs. 2. ใหนกั เรียนทง้ั ชน้ั Read aloud ประโยค 3. ครูใหน ักเรยี นคดิ คําตอบและบอกคําตอบพรอมกับใหเ หตผุ ล โดยครูเขียนทุกคําตอบของนักเรยี นบนกระดาน ครูเช่อื มโยงเขา สูบ ทเรยี นเรือ่ ง Possessive คูม อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3

37 37  Presentation - ครูทบทวนโครงสรา ง Present Perfect Simple และ Possessives (Forms and Usages) โดยใชก ิจกรรม Grammar จากหนังสือ Workbook Close-up 3 หนา 7-8 1. Possessive forms of nouns ตัวอยา งเชน  All the students’ textbooks are labelled with the new barcode. 2. Possessives Adjectives & Possessive Pronouns ตวั อยา งเชน  This is Somsak’s place. Mine is over there, near the window. 3. ครูทบทวน Exam Strategy ไดแก 3.1 Identifying the kind of word you need. 3.2 Focus on words before and after a gap. - ครูอธิบายพรอ มท้ังยกตัวอยางประกอบและใหนักเรยี นฝกปฏิบัติในกิจกรรมตอไป  Practice 1. กิจกรรม A - ครูใหนักเรยี นทบทวน Present Perfect Simple form of the verbs - ครูอธิบายและใหนักเรยี นคดิ วเิ คราะหตวั เลือก Identifying the kind of word you need. และ Justifying the answers - ครูใหเวลานักเรียนคนหา คดิ และเขยี นคําตอบ - ครูตรวจสอบความถูกตองโดยใหนักเรียนอานคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. have gone 2. has cleaned 3. have walked 4. has chosen 5. Have you bought 6. have never seen 7. has not eat 8. Haven’t you been 2. กจิ กรรม B ครูใหน ักเรยี น Read aloud คําสัง่ และพดู บอกสิ่งทีน่ กั เรยี นตองปฏิบัตใิ นกิจกรรมน้ี - ครใู หนักเรยี นบอกความแตกตางของ since & for - ครูใหนกั เรยี นคดิ วเิ คราะหตัวเลือก Focus on words before and after a gap. และ Justifying the answers - ครใู หเ วลานกั เรยี นคนหา คิด และใหคาํ ตอบ - ครตู รวจสอบความถูกตองโดยใหนักเรยี นอานคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. since 2. for 3. since 4. for 3. กิจกรรม C ครูใหน ักเรียน Read aloud คําส่งั และพูดบอกส่ิงท่นี ักเรยี นตองปฏบิ ัตใิ นกิจกรรมนี้ - ครใู หนักเรยี นทบทวน Time expression for the Present perfect Simple - ใหนกั เรยี น Read aloud email และเลือกคาํ ตอบ - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรียนบอกคําตอบและเหตผุ ลทเี่ ลือกคําตอบน้ันๆ ครูเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ (1) ever (2) already (3) yet (4) never (5) still (6) just คูมือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ่ี 3

38 38 4. กจิ กรรม D ครใู หนักเรยี น Read aloud คําสั่ง และพูดบอกสงิ่ ที่นักเรยี นตอ งปฏิบัติในกิจกรรมน้ี - ครูใหน ักเรียนชวยกนั ทบทวนการใช Possessive forms of nouns - ใหนกั เรียนใหค ําตอบ ครูตรวจสอบคาํ ตอบโดยใหน ักเรียนบอกคาํ ตอบ และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. neighbor’s 2. James’ 3. children’s 4. ladies’ 5. bird’s 6. Linda’s 5. กจิ กรรม E ครใู หนักเรยี น Read aloud คําสง่ั และพูดบอกส่งิ ที่นักเรียนตอ งปฏิบัตใิ นกิจกรรมน้ี - ใหนักเรยี นทบทวนการใช possessive pronouns - ครูอธิบาย Cloze dialogue และทบทวนเทคนิคการทําขอสอบ Cloze test โดยใหนักเรียน Focus on words before and after a gap - ใหนักเรยี นคนหาตัวช้แี นะคาํ ตอบทอี่ ยหู นาและหลังชองวา ง โดยขดี เสน ใตกํากับไวแลว เลือกคําตอบ - ครูตรวจสอบตัวช้ีแนะคําตอบโดยใหน กั เรียนอา นตัวชแี้ นะคาํ ตอบของทกุ ประโยคไดคําตอบ - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรียนอาน possessive pronounในแตล ะขอ และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. Their 2. Mine 3. ours 4. her  Production 1. ครใู หน กั เรยี นทํากิจกรรม F ใหน กั เรียน Read aloud คําสงั่ และพดู บอกส่ิงท่ีนักเรียนตองปฏิบัติในกิจกรรมน้ี 2. ครใู หนักเรยี น Read aloud the Exam Reminder 3. ครูทบทวนเทคนิคการทําขอสอบ Cloze test โดยใหน กั เรยี น Focus on words before and after a gap 4. ครูอธิบายเทคนคิ การทําขอสอบโดย Identifying the kind of word you need 5. ครูใหนกั เรยี นบอกเกยี่ วกบั Possessive forms of Pronoun and Possessive forms of noun 6. ใหนักเรียนคนหาตวั ช้ีแนะคาํ ตอบท่ีอยหู นาตัวเลือก โดยขีดเสน ใตกํากบั ไวแลวเลือกคําตอบ 7. ครูตรวจสอบตัวช้ีแนะคําตอบโดยใหน กั เรยี นอา นตัวชแ้ี นะคําตอบของทกุ ประโยค 8. ใหน ักเรียนคิดและวิเคราะหคําตอบ โดยครูใหเวลา 9. ใหนกั เรยี นนาํ คาํ ตอบท่ไี ดไป Discuss and share กบั เพ่ือนในหอง 10. ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรยี น Read aloud passage และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. c 2. c 3. a 4. c 5. b 6. c 7. b 8. a คูมอื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศึกษาปท่ี 3

39 39 6. การวดั และประเมนิ ผล เครอื่ งมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมนิ การสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน 18-20 วธิ กี าร 15-17 ผลการประเมนิ 1. สงั เกต 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมนิ ทกั ษะ แบบประเมนิ ทักษะการฟง - การพูด คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดมี าก การใชภาษา แบบประเมนิ ทักษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. สอ่ื /แหลง การเรียนรู หนังสอื Workbook Close-up 3 Unit 1 Home Sweet Home เรอื่ ง Grammar กิจกรรม A-F หนา 7-8 8. บันทกึ หลังการจัดการเรยี นรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูม ือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3

40 40 หนว ยการเรยี นรูที่ 1 เร่ือง Home Sweet Home แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 9 เรอื่ ง Listening: Not mine. They’re Mike’s รหสั วชิ า................. รายวิชาพืน้ ฐานภาษาองั กฤษ ชน้ั มัธยมศึกษาปท่ี 3 กลมุ สาระการเรียนรูภ าษาตางประเทศ ปก ารศกึ ษา 25……….. ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชัว่ โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชีว้ ัด ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขียนเพอื่ ขอและใหขอมลู อธิบาย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกับเร่ืองทีฟ่ งหรอื อานอยา ง เหมาะสม ต 1.2 ม.3/5 พดู และเขียนบรรยายความรสู ึกและความคดิ เหน็ ของตนเองเกยี่ วกับเรอื่ งตางๆ กิจกรรม ประสบการณ และ ขาว/เหตกุ ารณ พรอ มทั้งใหเ หตุผลประกอบอยางเหมาะสม 2. จุดประสงคก ารเรยี นรู พูดใหขอ มูล อธบิ าย และแสดงความคิดเห็น โดยใชสํานวนภาษาและโครงสราง Possessives ไดอยางถูกตองเหมาะสมกับ ระดบั ชัน้ เรยี น 3. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรแู ละกิจกรรมฝกทักษะ สํานวนภาษา โครงสรา ง Possessives กระบวนการฝกทักษะทางภาษาทั้ง 4 ดาน โดยเฉพาะ อยางยง่ิ ทกั ษะการฟง การพดู โดยใชกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่อื การสือ่ สาร ทําใหผ ูเรียนส่อื สารไดอยางมีประสิทธิภาพ มีเจตคติ ทดี่ ตี อการเรียนภาษาองั กฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Vocabulary: - Grammar: Possessives - Listening strategy: 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรียนภาษาทัง้ 4 ทักษะ การฟง การพดู การอาน และการเขยี น - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการสอ่ื สาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มีประสิทธิภาพในการสอื่ ความ 5. กจิ กรรมการเรยี นรู  Lead-in 1. ครูนาํ ความสนใจของนักเรียนเขาสูบทเรยี นในชั่วโมงนี้ โดยใหน ักเรียนบอกช่ือส่ิงของในรูปภาพโดยครูใชคาํ ถามดงั นี้ Q1: What items do you see on this page? Q2: Do you think where these items should be kept? Why? 2. นกั เรยี นใหคําตอบหลากหลาย 3. ครูยอมรบั ทุกคําตอบ คูมือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศึกษาปที่ 3

41 41  Presentation 1. ครใู หนักเรียนเปด หนังสือเรียน Close-up 3 หนา 12 ครูสอนคําศพั ทใ นกจิ กรรม A-E โดยใหน ักเรียนมีสวนรวม ดังนี้ - ใหนักเรียนท้ังชั้นชวยกันคนคําศัพทที่ไมรูความหมาย ขีดเสนใตกํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของคําศพั ท จากตาํ แหนง ภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝกใหระบุ Parts of speechทุกครั้งที่สอนความหมายของ คําศพั ท) - นักเรยี นบอกหมวดหมขู องคําศพั ทเ หลาน้ี โดยครเู ขียนลงใน Word Box บนกระดาน - ใหนักเรียน Read aloud คาํ ศพั ทบนกระดาน - ใหนกั เรยี นแบง กัน/ชวยกันคนหาความหมายของคําศพั ทเหลาน้ี แลว พูดบอกความหมาย - ครูเขยี นความหมายของคาํ ศพั ทที่นกั เรยี นบอกและเพม่ิ เติมความหมายของคําศัพทบ างคําใหสมบรู ณ - ใหน กั เรยี นอา นออกเสยี งดงั พรอมกนั ถา คําใดนกั เรยี นอานไมไ ดใหครชู ว ยอานนําและนักเรยี นอานตาม - ครเู ลือกคําศัพทบางตัวมาอธบิ าย ไดแก Compound nouns (noun+noun): a garage key, a desk drawer, a kitchen cupboard, a bathroom shelf, a bedroom, a bathroom เปน ตน - ใหนักเรยี นคดั ลอก Word Box และคาํ ศัพทท เี่ กย่ี วของลงในสมดุ คําศพั ทของตนเอง 2. ครูสอน Listening Strategies ผูฟงควรแสดงความสนใจ รับรู เขา ใจสิ่งไดฟง มีการใชภาษากายประกอบ การสบตา ผูฟง ขณะที่พูดเลา และฟงเหตุการณ ใชวลีตอไปน้ีเปนครั้งคราวเพ่ือแสดงการรับรูเขาใจส่ิงไดฟงตอไปนี้ Uh-huh./Okay./Yeah./Got it./I see./Ah, I see./I get that. 3. ครอู ธิบายวิธีการเรียนระหวา งฟง ซีดี แนะวิธีฟง อยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ - ครชู ี้แจงวา นกั เรียนจะไดฟงเสียงพูดสนทนาท่ีเปนการพูดอยางเปนธรรมชาติ (naturally speaking) ที่มีความเร็ว พอประมาณ ใหนักเรียนฟง เพอ่ื จบั ประเดน็ สาํ คัญ โดยตั้งใจฟงคําสําคัญ (content words) ไดแก nouns, main verbs, adjectives, adverbs ในระหวางท่ีฟงใหนกั เรียนงดทํากิจกรรมใดๆ ไมพ ูดคุยกัน - ครูชี้แจงการฟง ซีดวี านักเรยี นจะไดฟ งซีดี 2 ครัง้ ดังนี้  ฟงครั้งท่ี 1 เพื่อใหเขา ใจเร่ืองและจับประเด็นสาํ คัญเบ้ืองตน  ฟง คร้งั ท่ี 2-3 เพอ่ื เลือกคําตอบ  ฟงครงั้ ท่ี 3-4 เพ่อื ทบทวนคําตอบหรือเฉลยคาํ ตอบ (สําหรับชน้ั ทน่ี ักเรยี นสวนใหญออนภาษาองั กฤษ ครูอาจใหฟ งหลายคร้ัง เพ่ือใหน ักเรียนประสบความสาํ เรจ็ ในการ ฟง) เม่ือนักเรียนสวนใหญเ ขาใจแลว ครใู หนักเรยี นทํากิจกรรม  Practice 1. กจิ กรรม A ครูใหน ักเรียน Read aloud ประโยคที่ 1-6 - ใหนักเรียนคน หาและขีดเสนใตตวั กําหนดคาํ ตอบหรอื ตวั ช้แี นะคาํ ตอบในแตล ะประโยค - ครูตรวจสอบโดยใหนักเรียนอานตัวกาํ หนดคาํ ตอบหรือตวั ชีแ้ นะคาํ ตอบของทุกประโยค - ใหนกั เรียนนําตัวชแี้ นะคําตอบไปคิดและวเิ คราะหต วั เลือกและเลอื กคาํ ตอบ โดยครใู หเวลา - ใหน กั เรยี นนําคาํ ตอบทไี่ ดไ ป Discuss and share กับเพอื่ นในหอง - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรยี น Read aloud ประโยคและคําตอบและครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. d 2. b 3. f 4. a 5. e 6. c - ใหนกั เรยี นฝกพดู โตต อบกับเพื่อนโดยมีการแลกเปลี่ยนบทบาท - ครสู ังเกต แนะนาํ ชวยเหลือ แกป ญหา คมู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศึกษาปที่ 3

42 42 2. กจิ กรรม B ครูชแี้ จงการทํากจิ กรรมการฟง และใหนักเรียน Read aloud ตวั เลือกขอ 1-6 - เมือ่ นักเรยี นพรอ มครูเปดซีดีใหนกั เรยี นฟง 1 ครง้ั เพอ่ื ใหเขา ใจเร่ืองและจบั ประเดน็ สําคัญเบอ้ื งตน - ใหนักเรยี นฟงซีดซี าํ้ เพื่อเลือกคําตอบ - ใหน กั เรียนนาํ คาํ ตอบทไี่ ดไป Discuss and share กบั เพอ่ื นในหอง - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรียน Read aloud คําตอบ - ครูเฉลยคําตอบโดยใหน ักเรียนฟงซดี ซี ้าํ เฉลยคําตอบ 1. Mary 2. father 3. Mike 4. Tim 5. dog 6. Mrs Green’s car 3. กจิ กรรม C ครูใหนักเรยี น Read aloud คาํ สง่ั และ Exam Close-up - ครอู ธบิ ายเทคนิคการทําขอสอบเรื่อง Identifying the two incorrect options พรอมทัง้ ยกตัวอยาง 4. กจิ กรรม D ครูใหนกั เรียน Read aloud คาํ ส่ัง และคาํ ศพั ทในขอ 1-5 และบอกความหมายเปนภาษาไทย - ใหน ักเรียน Read aloud คาํ ศัพทท่เี ปน ตวั เลอื กขอ A-G และบอกความหมายเปน ภาษาไทย - เม่อื นกั เรยี นพรอ มครเู ปด ซดี ใี หนักเรียนฟง 1 ครั้งเพ่อื ใหเขาใจเรอ่ื งและจับประเด็นสําคญั เบ้อื งตน - ครตู รวจสอบความเขาใจในการฟง โดยถามเกีย่ วกับ negative sentences ซึ่งเปน ขอความลวง โดยครูใหน กั เรียน ฟงขอ ความ สว นนี้ซ้าํ และอธิบายซาํ้ - ใหน กั เรยี นฟงซีดซี ้าํ เพ่ือเลือกคาํ ตอบ - ใหนกั เรียนนําคาํ ตอบท่ีไดไป Discuss and share กับเพ่ือนในหอง - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรยี น Read aloud คาํ ตอบ 5. กจิ กรรม E ใหน ักเรยี นฟงซดี ใี นกจิ กรรมขอ D ซ้ําเพอ่ื ยืนยันคําตอบและเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. F 2. C 3. B 4. D 5. A  Production ครใู หนกั เรยี นเปด หนงั สอื Workbook Close-up 3 หนา 8 แลวใหน ักเรียนปฏิบตั กิ ิจกรรมดงั น้ี 1. กิจกรรม A ใหนักเรียน Read aloud คําส่ัง และ Exam Reminder ครูอธิบายเทคนิคการทําขอสอบเรื่อง Identifying the two incorrect options พรอ มท้ังยกตัวอยา ง 2. กจิ กรรม B ใหน ักเรยี น Read aloud คาํ ส่ังและตัวเลือก A-G - ใหนักเรยี นทบทวนเทคนิคการทาํ ขอ สอบเรือ่ ง Identifying the two incorrect options - เม่อื นกั เรียนพรอมครูเปดซีดีใหน กั เรยี นฟง 1 คร้งั เพือ่ ใหเ ขาใจเรือ่ งและจบั ประเด็นสาํ คญั เบอ้ื งตน - ครูตรวจสอบความเขาใจในการฟง โดยถามเก่ยี วกับ negative sentences ซึ่งเปน ขอความลวง - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรียน Read aloud คาํ ตอบ 3. กจิ กรรม C ใหนักเรยี นฟงซีดีในกิจกรรมขอ C ซํา้ เพื่อยนื ยนั คําตอบและเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. F 2. D 3. A 4. G 5. E คูม อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที่ 3

43 43 6. การวัดและประเมินผล เคร่ืองมอื คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน 18-20 วธิ กี าร 15-17 ผลการประเมนิ 1. สงั เกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมินทกั ษะ แบบประเมินทักษะการฟง - การพดู คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดีมาก การใชภ าษา แบบประเมนิ ทักษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. สอ่ื /แหลง การเรยี นรู หนงั สอื เรียน Close-up 3 Unit 1 Home Sweet Home เรอ่ื ง Listening กิจกรรม A-E หนา 12 Audio CD Track 1.1, 1.2 หนังสือ Workbook Close-up 3 Unit 1 Home Sweet Home เรอ่ื ง Listening กจิ กรรม A-C หนา 8 8. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูม ือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที่ 3

44 44 หนวยการเรียนรูที่ 1 เร่อื ง Home Sweet Home แผนการจดั การเรียนรูท่ี 10 เรอื่ ง Speaking: Describing My Bedroom รหัสวิชา................. รายวิชาพืน้ ฐานภาษาองั กฤษ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3 กลุม สาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ช้ีวัด ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขียนเพอื่ ขอและใหข อมูล อธบิ าย เปรยี บเทียบ และแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกับเรื่องท่ีฟงหรืออาน อยางเหมาะสม 2. จดุ ประสงคการเรียนรู ฟง พูด อานและเขียนใหขอมูล อธบิ าย และแสดงความคิดเห็นโดยใชสํานวนภาษาและโครงสรางภาษาที่กําหนดใหไดอยาง ถูกตอ ง เหมาะสมกับระดับชั้นเรียน 3. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรเู กีย่ วกับสํานวนภาษาโครงสรางภาษาในบทสนทนาเกี่ยวกับ Describing my bedroom และกิจกรรมฝกทักษะการ คิด กระบวนการฝก ทักษะทางภาษาทัง้ 4 ดาน โดยเฉพาะอยา งยงิ่ ทักษะการฟงและการพูด โดยใชกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อ การสื่อสาร เจตคติท่ีดีตอการเรียนภาษาองั กฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Speaking: Making your descriptions interesting และ Describing my bedroom 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรียนภาษาท้ัง 4 ทักษะ การฟง การพูด การอาน และการเขยี น - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มปี ระสทิ ธภิ าพในการส่ือความ - มเี หตุผล มวี จิ ารณญาณ 5. กิจกรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูนําความสนใจของนักเรียนเขาสูบทเรียนในช่ัวโมงน้ีดวยคําถามตอไปนี้บนกระดานใหนักเรียนอานออกเสียงดังๆ พรอ มกัน แลว ใหนกั เรยี นตอบคาํ ถามประโยคบนกระดาน Q: What do you think about your ideal bedroom? 2. นกั เรียนใหคําตอบอยางหลากหลาย 3. ครูยอมรบั ทุกคําตอบ และเช่ือมโยงเขาสกู ิจกรรมการเรยี นการสอน คูมอื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3

45 45  Presentation 1. ครูสอนสํานวนภาษาที่ใชในการพูด Describing ไดแก Making your descriptions interesting. และ Describing my bedroom. - ใหน ักเรียน Read aloud Exam Close-up ครอู ธิบายพรอมท้ังยกตัวอยางประกอบ - ใหน กั เรยี น Read aloud Useful Expressions และชวยกันคดิ หาคํามาเตมิ ในประโยคตัวอยา ง ครูอธบิ ายพรอมทั้ง ยกตวั อยางประกอบ 2. ครูสอน Speaking Strategies ผูพูดควรเลือกใชน้ําเสียงในประโยคคําถามเพื่อแสดงเจตนาหรือความตองการได ถกู ตอ งเหมาะสม ตัวอยา งเชน การเลือกใชนํ้าเสียงประโยคคําถาม Wh-questions และ Yes-No questions ใหลงทายประโยคดวย เสียงตํ่าเมื่อตองการขอมูลที่ไมรู (To find out information that you don’t know) ตัวอยางเชน Where’s the Talent competition? (ครูพูดออกเสียงตามตัวอยางและนักเรียนพูดออกเสียงตาม) รวมท้ังการมองหนา สบตาคูสนทนา การใชภาษากาย ประกอบเปนคร้ังคราว 3. ครูสอนคําศัพทสํานวนในกิจกรรม Speaking ขอ A-F โดยใหนักเรียนมีสวนรวม แลวขีดเสนใตคําท่ีนักเรียนไมรู ความหมาย จากน้นั ใหน กั เรยี นบอกคําศพั ทที่ไมร คู วามหมาย โดยครูเขียนบนกระดาน ถา นกั เรียนอา นไมไดใ หส ะกดตัวอักษร - ครใู หน ักเรียนจดั กลุมคําศัพทเ หลานีโ้ ดยครแู นะวาควรจัดตามหนา ทีข่ องคํา - ครูใหนักเรียนชวยกันคนหาความหมายของคําศัพทเหลานี้โดยคนหาจาก Dictionary หรือนักเรียนอาจสืบคน online จากโทรศัพทม ือถอื ของนักเรียนเอง - ครูใหน ักเรียนอานออกเสียงคาํ ศพั ทแ ตล ะคาํ พรอ มกบั บอกความหมาย โดยครูชวยเพิ่มเติมความหมายของศัพทบาง คําใหครอบคลุมการใชงานในบทเรยี นนี้  Practice ครูใหนักเรยี นเปดหนังสอื เรียน Close-up 3 หนา 13 ครูสอนคาํ ศพั ทใ นกจิ กรรม A-F โดยใหน ักเรยี นมีสวนรว ม ดังน้ี 1. กิจกรรม A กอ นทาํ กิจกรรมครใู หเ วลานกั เรียนชวยกันอภิปรายคําถามและเตรียมคําตอบโดยครูเนนใหนักเรียนบอก เหตผุ ล Explain why - ครชู ี้แนะคาํ ตอบโดยใหนักเรยี น Read aloud Exam Close-up และ Useful Expressions - ใหน ักเรียนจบั คพู ูดถามตอบโดยใชคาํ ถามท่กี าํ หนดให 3 ขอ โดยใหนักเรยี นสลับบทบาทกัน - ครูสงั เกต แนะนาํ ชว ยเหลอื แกปญ หา - ครูเลอื กนกั เรยี นขึ้นมาพดู คําถามและใหค าํ ตอบ - ครูยอมรับทุกคําตอบที่บอกเหตุผล Explain why เฉลยคําตอบ Students’ own answers 2. กิจกรรม B กอนทํากิจกรรมครูใหเวลานักเรียนชวยกันอภิปรายภาพและเตรียมคําตอบโดยครูเนนใหนักเรียนบอก เหตุผล Explain why - ใหนักเรยี นจับคพู ูดถามตอบเกี่ยวกับภาพ Bedroom A and B โดยใหนักเรียนสลบั บทบาทกัน - ครชู แี้ นะคําตอบโดยใหนกั เรียน Read aloud Exam Close-up และ Useful Expressions - ครสู ังเกต แนะนํา ชว ยเหลอื แกปญ หา - ครเู ลอื กนักเรยี น3คู ขึน้ มาพูดบรรยายเกีย่ วกับ My Bedroom - ครูยอมรับทกุ คาํ ตอบที่บอกเหตุผล Explain why เฉลยคําตอบ Students’ own answers คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3

46 46 3. กิจกรรม C ครใู หน ักเรียน Read aloud ประโยค 1-6 และตวั เลือก a-f พรอมทัง้ บอกความหมาย - ใหน กั เรยี นคนหาตัวชีแ้ นะคําตอบทมี่ ีความเกี่ยวของระหวา งประโยคกับตัวเลอื ก โดยขีดเสนใตก ํากบั ไวแลวตดั สินใจ เลอื กคาํ ตอบ - ครสู งั เกต แนะนํา ชว ยเหลือ แกป ญ หา - ครเู ลือกนกั เรียน 3 คู ข้นึ มาพูดคาํ ตอบ และครูเฉลยคาํ ตอบ ดังน้ี เฉลยคาํ ตอบ 1. b 2. e 3. a 4. f 5. c 6. d 4. กจิ กรรม D ครูใหน ักเรียน Read aloud Exam Close-up - ครอู ธิบาย Exam Close-up พรอ มทั้งยกตวั อยางประกอบโดยเลอื กบางขอจากกจิ กรรมใน Exam Task - ใหน กั เรยี นชวยบอก Adjectives ท่คี วรใชใ นการ describe bedroom และครเู ขยี น Adjectives นบี้ นกระดาน - ใหนกั เรียนเลอื กนํา Adjectives เหลา น้ไี ปใชใ นการพูดเกีย่ วกบั My Bedroom ในกิจกรรม E 5. กิจกรรม E - ใหน กั เรียนอา นประโยคคําถามของ Student A และประโยคคาํ ถามของ Student B แลวใหคําตอบท่ีหลากหลาย เพ่ือนําไปเลอื กใชใ นกิจกรรม Speaking: Tell each other about your bedrooms - ใหนักเรียนนําคําตอบท่ีไดมาเรียบเรียงเปนยอหนาสั้นๆ หรือ Speaking Model เกี่ยวกับ My bedroom ของ ตนเองเพอื่ นําไปใชพ ูด - ใหน กั เรียนจบั คทู าํ กิจกรรม Speaking: Tell each other about your bedrooms - ครูใหเ วลานกั เรียนทํากิจกรรมโดยครสู ังเกต แนะนาํ ชวยเหลือ แกปญหา - ครเู ลือกนักเรียน 3-4 คนขึน้ มาพูด My bedroom - ครยู อมรบั ทุกคําตอบและใหนักเรียนคัดลอกยอหนาสั้นๆหรือ Speaking Model เกี่ยวกับ My bedroom ลงสมุด แบบฝก หดั เฉลยคาํ ตอบ Students’ own answers  Production 1. กิจกรรม F ใหนักเรียน Read aloud คําสั่งและพูดบอกสิ่งท่ีตองทําในกิจกรรมน้ี ครูทบทวนคําส่ังและช้ีแนะวิธีการ โดยใหน กั เรียนมีสวนรว มในการคิดกจิ กรรมในขน้ั ตอนของการเตรียมเร่ืองท่จี ะพูด และครูกําหนดข้นั ตอนของกิจกรรมการพูดดังน้ี ข้นั ที่ 1 Pre-Speaking - Sketch ครูแนะใหนักเรียน Sketch ภาพแบบหองนอนหรือหองนั่งเลนโดยออกแบบตามจินตนาการของ นกั เรียน ใสรายละเอยี ดเชน ของใช อปุ กณต ิดตงั้ อปุ กรณต กแตงตามความคิดของนกั เรยี น - Make a draft of Speaking Model ใหน กั เรยี นเขยี นบรรยายหองนอนหรอื หอ งน่งั เลนตามภาพ Sketch ไดแก การพูดบรรยายหอ งนอนหรอื หอ งนัง่ เลน ตามภาพ Sketch โดยใชคําศัพท สํานวนพูดโครงสรางภาษาจาก Exam Close-up และ Useful Expression - Revise the draft ใหน ักเรยี นตรวจสอบทบทวนสิง่ ทีเ่ ขียน ความถกู ตอง ความสอดคลอง ความครบถวนและ ความเหมาะสมของ a draft of Speaking Model - Compare and Share ใหนักเรียนนํา Speaking Model ที่เขียนไปเปรียบเทียบกับเพื่อนและปรับปรุง คาํ ตอบ เพ่อื ใหได Speaking Model ทคี่ รบถว น ถกู ตองและเหมาะสม คมู ือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 3

47 47 - Practice ใหนักเรยี นใช Speaking Model ของตนฝก พดู กับเพ่ือน ข้นั ท่ี 2 While-Speaking ใหนกั เรยี นใช Speaking Model ของตนพูดกบั เพือ่ นโดยผลดั กันเปน ผพู ูดและผฟู ง ท่ีดี ครูใหเ วลานักเรยี นทํากจิ กรรมโดยครสู ังเกต แนะนาํ ชวยเหลือ แกป ญหา ขนั้ ที่ 3 Post-Speaking - ครูเลือกนกั เรยี น 3-4 คนขน้ึ มาพดู Speaking Model ของตนพรอมกบั นําเสนอภาพ Sketch ประกอบการพดู - ครยู อมรบั ทกุ คําตอบและใหนักเรียนคดั ลอก Speaking Model ลงสมุดแบบฝกหดั 2. กจิ กรรม Ideas Focus - ใหนกั เรียน Read aloud คาํ สั่งและพูดบอกสงิ่ ที่ตอ งทําในกิจกรรมนี้ - ครกู าํ หนดใหนกั เรยี นแบง กลมุ กลุมละ 4-6 คน ทํากิจกรรมนี้ โดยดาํ เนนิ ตามข้นั ตอนเชนเดยี วกบั กิจกรรม F - ครูกาํ หนดเวลา และใหนักเรียนทาํ กจิ กรรมน้ีอยา งอสิ ระ เมือ่ หมดเวลาครูตรวจสอบคําตอบโดยเลอื กนักเรยี นจํานวน 2-3 กลุมออกมาพดู ถา หากมเี วลาไมเ พยี งพอ ครใู หน ักเรียนทาํ กจิ กรรมนใี้ นชั่วโมงตอไป หรือนดั หมายใหทาํ นอกช้ันเรียน - ครสู รปุ บทเรยี น ตอบขอซักถามของนักเรียน 6. การวัดและประเมินผล เครือ่ งมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมนิ การสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี น 18-20 วธิ กี าร 15-17 ผลการประเมนิ 1. สงั เกต 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมนิ ทักษะ แบบประเมนิ ทักษะการฟง - การพดู คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดมี าก การใชภาษา แบบประเมนิ ทักษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 7. สอ่ื /แหลง การเรียนรู หนังสือเรยี น Close-up 3 Unit 1 Home Sweet Home เรื่อง Speaking กจิ กรรม A-F และ Ideas Focus หนา 13 8. บนั ทึกหลังการจดั การเรยี นรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที่ 3

48 48 หนวยการเรียนรูท่ี 1 เร่อื ง Home Sweet Home แผนการจดั การเรียนรทู ี่ 11 เรื่อง Writing 1: A Note & A Schedule รหัสวชิ า................. รายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ 3 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปก ารศกึ ษา 25……….. ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชว่ั โมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชี้วดั ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขยี นเพ่ือขอและใหขอมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเร่ืองที่ฟง หรืออาน อยา งเหมาะสม ต 2.1 ม.3/1 เลอื กใชภาษา นํ้าเสียง และกริ ิยาทาทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของ เจา ของภาษา ต 4.1 ม.3/1 ใชภาษาส่ือสารในสถานการณจ ริง/สถานการณจาํ ลองท่เี กิดขึ้นในหองเรียน สถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม 2. จุดประสงคก ารเรยี นรู พูดใหขอมูล อธิบาย และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ performing, competition and exhibition โดยใชสํานวนภาษา และโครงสรา งภาษาทีก่ ําหนดใหไ ดอยางถูกตอ ง เหมาะสม 3. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูเ กีย่ วกบั สาํ นวนภาษาและโครงสรางภาษาและกิจกรรมฝกทักษะการเขียน Explain why กระบวนการฝกทักษะทาง ภาษาทั้ง 4 ดา นโดยเฉพาะอยางยง่ิ ทักษะการฟงและการพดู โดยใชก ระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ทําใหผูเรียนส่ือสาร ไดอ ยางมีประสทิ ธภิ าพ มีเจตคตทิ ดี่ ีตอ การเรยี นภาษาอังกฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Writing strategy: Explaining why 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรยี นภาษาทัง้ 4 ทกั ษะ การฟง การพดู การอา น และการเขยี น - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มีเหตผุ ล มวี ิจารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in - ครูนําความสนใจของนักเรียนเขาสบู ทเรียนในชั่วโมงนโ้ี ดยใชรปู ภาพ และคาํ ถามดงั นี้ Q1: What are the people in these pictures doing? Q2: Do you think what ‘s wrong with activity inthis picture ?  Presentation 1. ครูสอนความรเู ก่ียวกบั คําศัพท Writing ในกิจกรรม A-D โดยใหนักเรียนมสี ว นรวมดังน้ี - ครูสอนคาํ ศัพทใหมท ี่อยใู นกจิ กรรม A-D โดยใหน ักเรียนมสี ว นรว ม คูม ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ่ี 3

49 49 - ครูใหนักเรียนสํารวจคําศัพท แลวขีดเสนใตคําที่นักเรียนไมรูความหมาย จากนั้นใหนักเรียนบอกคําศัพทที่ไมรู ความหมาย โดยครเู ขยี นบนกระดาน ถานกั เรยี นอานไมไดใ หสะกดตวั อักษร - ครใู หนกั เรียนจดั กลุมคําศพั ทเหลา นีโ้ ดยครแู นะวา ควรจัดตามหนาที่ของคาํ - ครูใหนักเรยี นชว ยกันคนหาความหมายของคําศพั ทเหลาน้โี ดยคน หาจาก Dictionary หรอื นักเรียนอาจสบื คน online จากโทรศัพทม ือถือของนกั เรียนเอง - ครใู หนักเรยี นอานออกเสยี งคาํ ศพั ทแตล ะคําพรอมกับบอกความหมาย โดยครชู ว ยเพมิ่ เติมความหมายของศพั ทบางคํา ใหค รอบคลมุ การใชง านในบทเรียนน้ี 2. ครสู อน Writing Strategy ใน Learning Focus คาํ สาํ คญั ท่ีใชใ นการ Explaining Why ไดแก - Because+subject+ verb ตัวอยา งเชน I didn’t do it because I was ill. - Because of+noun ตวั อยางเชน I didn’t do it because of illness. - that’s why+subject+verb ตวั อยางเชน I was ill, that ’s why I didn’t do it. - that’s because+subject+verb ตวั อยา งเชน I didn’t do it, that ‘s because I was ill.  Practice ครูใหนักเรียนเปด หนังสือเรียน Close-up 3 หนา 14 ใหนักเรียนปฏิบตั กิ จิ กรรมตอไปน้ี 1. กจิ กรรม A ครใู หนักเรยี นทบทวน Writing Strategy ใน Learning Focus - ครทู บทวนเทคนคิ การทําขอสอบ Cloze tes tโดยใหนักเรียน Focus on words before and after a gap - นักเรียนอา นประโยคเพ่ือคนหาตวั ช้ีแนะคาํ ตอบ (Context clues) - นกั เรยี นนาํ ตัวชแ้ี นะคําตอบ (Context clues) ไปใชในการตดั สินใจเลือกคําตอบ - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรียนอานคําตอบพรอ มกัน และครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. that’s because 2. that’s why 3. Because 4. Because of 2. กิจกรรม B ครอู ธบิ าย Causes and results พรอมท้งั ยกตัวอยา งประกอบ - ใหน กั เรียน Read aloud ประโยคตวั อยาง สรปุ วาประโยคใดเปน Causes ประโยคใดเปน Results แลวเลือกคําตอบ สําหรบั ประโยคที่ 1-4 - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียนอานคําตอบพรอ มกัน และครเู ฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. result 2. cause 3. cause 4. cause 3. กจิ กรรม C ใหน ักเรยี น Read aloud คาํ ส่ัง - ใหนักเรียน Discuss What is Liam’s problem? What is the inconsistency between Liam’s scheldule and his mum’s note which requires Liam to do as the list. - ครใู หเ วลานักเรียนคดิ และเขยี นคําตอบ - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรียนอานคาํ ตอบพรอมกนั และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ (Suggested answers) Liam is very busy on Satuary. He has a full schedule,he will have no time to do what his mum required. คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3

50 50 4. กิจกรรม D ใหนกั เรยี น Read aloud Liam’s note for his mum และขดี เสนใตขอความหรือประโยคเก่ียวกับ What he has already done and what he has not done yet. - ใหน ักเรยี นขดี เสนใตคํา ขอความ ประโยคที่ Explain why - ใหน ําขอ ความทขี่ ดี เสนใตเ หลา นี้มาใชเปนแนวทางตอบคําถามทง้ั 3ขอ - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียนอา นคาํ ตอบพรอ มกนั และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. Yes. 2. Yes. 3. Because,That’s why, That’s because, because of  Production 1. ครูใหนักเรียนเขียนเก่ียวกับตัวเอง โดยเขียนเกี่ยวกับงานบานท่ีนักเรียนมีหนาที่ตองชวย หรือควรตองชวยพอแม ผปู กครองทํา ดังนี้ - Write about all of the things in your home that you should do or have to do . Explain why? - Explain why sometimes you haven’t done some of them. 2. ครูช้แี นะวิธีการเขยี น ใหเวลานักเรยี นเขยี นอยา งอสิ ระ 3. ครสู รปุ บทเรียนและกาํ หนดนดั หมายใหน ักเรยี นการสงงาน 6. การวดั และประเมนิ ผล เครือ่ งมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมนักเรยี น 18-20 วิธีการ 15-17 ผลการประเมิน 1. สงั เกต 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมนิ ทักษะ แบบประเมนิ ทักษะการฟง- การพดู คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดีมาก การใชภาษา แบบประเมนิ ทักษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 7. สอ่ื /แหลงการเรียนรู หนงั สอื เรียน Close-up 3 Unit 1 Home Sweet Home เรอื่ ง Writing กิจกรรม A-D หนา 14 8. บนั ทึกหลงั การจัดการเรยี นรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศึกษาปท่ี 3

51 51 หนว ยการเรียนรูที่ 1 เร่ือง Home Sweet Home แผนการจัดการเรยี นรทู ่ี 12 เรือ่ ง Writing 2: A Note of Requesting and Making Excuses รหัสวิชา................. รายวชิ าพน้ื ฐานภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ่ี 3 กลุมสาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ปก ารศกึ ษา 25……….. ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ชว่ั โมง ผูส อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชว้ี ัด ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขียนโตต อบขอมูลเก่ยี วกบั ตนเอง เรื่องตางๆ ใกลต ัว สถานการณ ขา ว เรื่องท่ีอยใู นความสนใจ ของสงั คมและสื่อสารอยางตอเนื่องและเหมาะสม ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขยี นเพอื่ ขอและใหขอมูล อธบิ าย เปรยี บเทียบ และแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั เรือ่ งทฟี่ ง หรอื อาน อยา งเหมาะสม 2. จุดประสงคก ารเรยี นรู อา นและเขยี น A Note of Requesting and Making Excuse ใหเ พือ่ แสดงความตองการ ขอรอง อธิบายเหตุผล และความ จําเปน โดยใชส าํ นวนภาษาและโครงสรางภาษาท่ีกําหนดใหไ ดอยา งถูกตอ ง เหมาะสมกบั ระดับชั้นเรยี น 3. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรเู กยี่ วกับคําศัพทส ํานวนภาษาและโครงสรางภาษาเร่ือง Adverts, email และกิจกรรมฝกทักษะการคิดกระบวนการ ฝกทักษะทางภาษาทั้ง 4 ดานโดยเฉพาะการอานและการเขียน โดยใชกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร ทําใหผูเรียน สอ่ื สารไดอยา งมีประสิทธภิ าพ มเี จตคตทิ ด่ี ีตอการเรียนภาษาอังกฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Vocabulary: สาํ นวนภาษาเกี่ยวกบั Adverts, email - Writing strategy: suggesting, persuading, describing 4.2 ดา นทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรยี นภาษาทง้ั 4 ทักษะ การฟง การพดู การอาน และการเขยี น - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มีประสทิ ธภิ าพในการส่ือความ - มีเหตุผล มีวิจารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครนู ําความสนใจของนกั เรยี นเขา สบู ทเรียนในช่ัวโมงน้ีโดยครูเขียนประโยคตอไปนี้บนกระดาน ใหนักเรียนพูดบอกคําท่ี หายไป - Come to tennis club! You can make new friends and get …………… . - Don’t waste your time on gamimng! Get outside and .......... .our running club. 2. นักเรียนชวยกันคิดหาคํามาเติมในชองวาง ถาไมพบคําตอบถูก ครูใหโดยขีดเสนใตตัวช้ีแนะคําตอบคือ tennis club, Get……and ……running club ถานักเรียนยังบอกคาํ ตอบถูกไมไ ด ครูใหตัวเลือกดงั นี้ lucky, fit, do, join คูมอื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศึกษาปท่ี 3

52 52  Presentation 1. ครูสอนสํานวนภาษาเก่ียวกับ Making excuses ใน Useful expression โดยใหนกั เรยี นมีสวนรวม ไดแ ก - I would like to, but… - I have to… - I can’t, I’m afraid… - I couldn’t… because… - I’m sorry, but… - I didn’t… because… - I can’t, because… 2. ครูใหนักเรียนมีสวนรวมโดยการหาคํา/วลี/ประโยคมาเติมในประโยค Making excuses เพื่อใหไดความหมายที่ เหมาะสม 3. ใหน กั เรียน Read aloud ประโยค Making excuses พรอ มกนั 4. ครใู หนักเรียนนําโครงสราง Making excuses ไปเขยี นเกย่ี วกบั ตนเอง 1 ประโยค 5. ครตู รวจสอบความเขาใจและการนําโครงสรา ง Making excuses ไปใชเ ขียนเกีย่ วกบั ตนเองโดยเลือกนักเรียนจาํ นวน 3- 4 คนมาเขียนบนกระดาน โดยครใู หนกั เรียนท้งั ช้นั ชวย approve ความถกู ตองและแกไข  Practice ครูใหนักเรยี นเปด หนังสือเรยี น Close-up 3 หนา 15 แลว ใหนักเรียนปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตอไปน้ี 1. กิจกรรม E ใหน กั เรยี น Read aloud note from your mum - ใหน ักเรียนตอบคาํ ถาม Which tasks in the note haven’t been done? Why not ? - ครใู หนกั เรยี นบอกเกี่ยวกับรปู แบบของ note - ใหน ักเรียนจบั คชู วยกันเขยี น note to your mum to explain why you didn’t do - ครูใหเ วลานกั เรียนเขียน note โดยครูสังเกต ชวยเหลือ แนะนาํ แกปญ หา - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนักเรยี นพดู บอกคําตอบพรอมกัน ครูเขยี นคาํ ตอบบนกระดานและเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ Students’ own answers 2. กจิ กรรม F ใหน กั เรียน Read aloud Exam Close-up - ครูทบทวนคําส่ัง อธิบาย และใหนักเรียน Skim through the texts (message&email&note) to look for a similar pieces of information and underline them - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียนอา นคาํ ตอบ (a similar pieces of information) พรอ มกนั และครูเขียนคาํ ตอบ นีบ้ นกระดานและครูเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ Time (3 o’clock, 6, 3.45 p.m., 3 o’clock); Names (Jane, Cathy, Uncle Tom, Dave, Tony); the name of the football match (Liverpool, Arsenal) 3. กจิ กรรม G ใหน ักเรียน Read silently Exam Task แลวคิดหาคาํ มาเตมิ ในชอ งวาง - ครทู บทวนเทคนคิ การทําขอสอบ Cloze test โดยใหน ักเรียน Focus on words before and after a gap - นกั เรยี นอา นประโยคเพือ่ คนหาตัวชแ้ี นะคาํ ตอบ (Context clues) คมู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศึกษาปท ่ี 3

53 53 - นกั เรยี นนาํ ตวั ช้แี นะคาํ ตอบ (Context clues) ไปใชในการตัดสนิ ใจเลือกคาํ ตอบ - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียนอา นคาํ ตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ (1) the rubbish (2) milk (3) because of (4) 3.45 (p.m.) (5) uncle  Production 1. ครูกําหนดกิจกรรมเองโดยครใู หน ักเรยี นเขยี น Note ถึงเพือ่ น ปฏิเสธการไปชมการแขงขันฟุตบอลเน่ืองจากมีเหตุจําเปน เรงดวนภายในครอบครัว โดยเขียนดังน้ี - Make and excuses โดยใชสํานวนภาษาเกี่ยวกับ Making excuses - Write about all of the things in your home that you have to do. Explain why? 2. ครชู ี้แนะวธิ กี ารเขียน 3. ครูใหเ วลานกั เรยี นเขยี นอยางอสิ ระ 4. ครสู รปุ บทเรยี นตอบขอซักถามนักเรยี น นดั หมายการสงงาน 6. การวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื คะแนน เกณฑ แบบประเมนิ การสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน 18-20 วิธีการ 15-17 ผลการประเมนิ 1. สงั เกต 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผาน 2. ประเมนิ ทักษะ แบบประเมนิ ทกั ษะการฟง- การพูด คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดีมาก การใชภ าษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. สอื่ /แหลงการเรยี นรู หนงั สอื เรียน Close-up 3 Unit 1 Home Sweet Home เรือ่ ง Writing กิจกรรม E-G หนา 15 8. บันทกึ หลังการจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3

54 54 หนวยการเรยี นรูท ่ี 1 เร่อื ง Home Sweet Home แผนการจดั การเรียนรทู ่ี 13 เรอ่ื ง Writing 3: Email Messages รหสั วิชา................. รายวิชาพ้ืนฐานภาษาอังกฤษ ชนั้ มธั ยมศึกษาปท ี่ 3 กลุมสาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ ปการศึกษา 25……….. ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชวั่ โมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ช้วี ัด ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขยี นโตตอบขอ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เร่อื งตางๆ ใกลตัว สถานการณ ขาว เร่ืองท่ีอยูในความสนใจของ สังคมและสอ่ื สารอยางตอเนื่องและเหมาะสม ต 1.2 ม.3/4 พูดและเขียนเพอื่ ขอและใหขอมลู อธิบาย เปรียบเทยี บ และแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับเรื่องที่ฟง หรืออา น อยางเหมาะสม 2. จดุ ประสงคก ารเรียนรู อานและเขยี น email ใหขอมลู อธิบาย และแสดงความคิดเห็นโดยใชสํานวนภาษาและโครงสรางภาษาท่ีกําหนดใหไดอยาง ถกู ตองเหมาะสมกับระดับชน้ั เรยี น 3. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูเกี่ยวกับคําศัพทสํานวนภาษาใน email messages โครงสรางภาษาที่ใชในการ Making excuses และกิจกรรมฝก ทกั ษะการคดิ กระบวนการฝก ทกั ษะทางภาษาทง้ั 4 ดานโดยเฉพาะการอา นและการเขียน โดยใชกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการ ส่ือสาร ทาํ ใหผ เู รยี นส่ือสารไดอยางมปี ระสทิ ธภิ าพ มเี จตคติท่ีดีตอ การเรยี นภาษาอังกฤษ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Vocabulary: สาํ นวนภาษาเกีย่ วกบั email messages - Writing strategy: making excuses 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรยี นภาษาทงั้ 4 ทักษะ การฟง การพดู การอาน และการเขยี น - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - ใชภ าษาอังกฤษอยางมีมารยาท ถูกตอ งตามกาลเทศะและบุคคล - มีเหตผุ ล มีวิจารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูนําความสนใจของนักเรยี นเขา สบู ทเรียนในช่ัวโมงน้ี โดยครเู ขียนประโยคและคําถามตอ ไปน้บี นกระดาน Your close friend send you a line to ask you to do something that you are worried and want to refuse. What message would you write to make an excuses? 2. ใหน ักเรยี นRead aloud ประโยคบนกระดาน 3. ใหนกั เรียน Discuss and share the answers. 4. นักเรยี นใหคําตอบอยางหลากหลาย และครูยอมรับทกุ คาํ ตอบ คูม ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ี่ 3

55 55 5. ครเู ชอ่ื มโยงเขาสบู ทเรียน  Presentation ครทู บทวนความรูเกี่ยวกับคําศัพทสํานวนภาษา โครงสรางภาษาท่ีใชในการเขียน email messages สํานวนภาษาท่ีใชใน Making excuses, Expaining why ไดแ ก 1. สํานวนภาษาท่ีใชใน Making excuses, Expaining why ดังนี้ 1.1 สํานวนภาษาท่ใี ชใ น Making excuses ไดแก - I would like to,but … - I have to … - I can’t,I’m afraid … - I couldn’t … because … - I’m sorry, but … - I didn’t … because … - I can’t, because … 1.2 สํานวนภาษาทีใ่ ชใ น Expaining why ไดแก - Because+subject+ verb ตัวอยา งเชน I didn’t do it because I was ill. - Because of+noun ตวั อยา งเชน I didn’t do it because of illness. - that’s why+result (subject+verb) ตวั อยางเชน I was ill, that ’s why I didn’t do it. - that’s because+cause (subject+verb) ตวั อยางเชน I didn’t do it, that ‘s because I was ill. 2. โครงสรางประโยคทีใ่ ชการเขยี น email message ไดแ ก Present Simple, Present Perfect Simple, Past Simple 3. Patterns of email message: Greeting+Messages+Ending note+name  Practice ครูใหนกั เรียนเปด หนังสือ Workbook Close-up 3 หนา 9 แลว ใหนักเรียนปฏบิ ัตกิ จิ กรรม ดงั นี้ 1. กจิ กรรม A - ครใู หนักเรยี นคนหาตัวชีแ้ นะคําตอบที่อยูห นาและหลังชองวางและขีดเสน ใตกํากับ - ครูตรวจสอบความถูกตอ งของตัวช้แี นะคําตอบโดยใหนักเรียน Read aloud คาํ วลี ประโยคทข่ี ดี เสน ใต - ใหน ักเรียนตดั สนิ ใจเลือกคําตอบจากตัวชแี้ นะคําตอบ - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรียนบอกคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. because of 2. why 3. because 4. because 2. กจิ กรรม B - ใหน ักเรยี น Read aloud email message and underline what mum wants Ryan to do. - ใหนักเรียนเปรียบเทียบขอมูลใน email message (what mum wants Ryan to do) กับขอมูลใน schedule (what Ryan plans to do) จากนั้นอานประโยคท่ีกําหนดใหแลวบอกวาขอ ใดท่ี Ryan ทาํ ได และขอ ใดทําไมไ ดเพราะเหตุใด - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรยี นบอกคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. F 2. T 3. F คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3

56 56 3. กจิ กรรม C - ใหน กั เรยี นปฏิบัตดิ งั นี้  Read silently Mum’s email message and recall what mum wants Ryan to do  Read aloud the schedule and check what Ryan plans to do  Read aloud Ryan’s email message and check what are the mistakes - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียนบอกคาํ ตอบพรอมกนั และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ … We ’re meeting at Nile’s Neil’s house at 11 a.m., so I can take the cat dog out for a walk first. We ’re arrivimg at 1.30 12.30 and … Then it’s a hike to Mount Simons Simmons. … That’s why because I’m not getting back until 9. 4. กิจกรรม D - ใหน กั เรียนปฏิบัติดงั น้ี  Read aloud Mum’s email message and underline what mum wants Andrea to do  Read aloud the Debbie’s email message and underline what Debbie ask Andrea to do  Complete Andrea ’s note with the information from Mum’s email message and Debbie’s - ครูตรวจสอบคาํ ตอบโดยใหน กั เรียนบอกคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. Skippy 2. Aunt Leila 3. Debbie’s 4. 1.30 5. Scottish castles  Production 1. ครูกําหนดกิจกรรมเอง โดยครูใหนกั เรียนเขยี น email message ถึงเพือ่ นสนทิ ในกลุมปฏิเสธการไปเปนกองเชียรเพื่อน แขงจักรยานเนอ่ื งจากมเี หตุจําเปนสว นตวั โดยเขยี นดงั น้ี - Make and excuses โดยใชสาํ นวนภาษาเก่ียวกับ Making excuses - Write about all of the things that you have to do. Explain why? 2. ครชู ี้แนะวธิ ีการเขยี น 3. ครใู หเ วลานักเรียนเขยี นอยา งอิสระ 4. ครูสรุปบทเรียนตอบขอ ซักถามนักเรียน นดั หมายการสง งาน คมู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3

57 57 6. การวดั และประเมินผล เครือ่ งมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี น 18-20 วธิ กี าร 15-17 ผลการประเมนิ 1. สงั เกต 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมินทักษะ แบบประเมนิ ทกั ษะการฟง- การพูด คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดมี าก การใชภ าษา แบบประเมินทักษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. สือ่ /แหลงการเรียนรู หนงั สือ Workbook Close-up 3 Unit 1 Home Sweet Home เรอื่ ง Writing กจิ กรรม A-D หนา 9 8. บันทึกหลงั การจดั การเรยี นรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมอื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที่ 3

58 58 หนวยการเรียนรทู ี่ 1 เรอ่ื ง Home Sweet Home แผนการจดั การเรียนรทู ่ี 14 เรือ่ ง Video: The Horse Nomads of Mongolia รหัสวิชา................. รายวิชาพืน้ ฐานภาษาอังกฤษ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3 กลมุ สาระการเรียนรูภ าษาตางประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชีว้ ดั ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขยี นโตต อบขอ มูลเกย่ี วกบั ตนเอง เรือ่ งตางๆ ใกลต วั สถานการณ ขา ว เรื่องท่ีอยใู นความสนใจของ สังคมและสือ่ สารอยา งตอเน่ืองและเหมาะสม ต 1.3 ม.3/2 พูดและเขียนสรุปใจความสาํ คญั /แกนสาระ หวั ขอ เรอ่ื งทีไ่ ดจากการวเิ คราะหเร่อื ง/ขา ว/เหตุการณ/สถานการณ ทอ่ี ยูในความสนใจของสังคม ต 2.1 ม.3/2 อธบิ ายเก่ยี วกบั ชีวิตความเปนอยู ขนบธรรมเนยี ม และประเพณขี องเจา ของภาษา ต 2.2 ม.3/1 เปรยี บเทยี บและอธิบายความเหมือนและความแตกตางระหวางการออกเสยี งประโยคชนดิ ตา งๆ และการ ลาํ ดบั คําตามโครงสรางประโยคของภาษาตา งประเทศและภาษาไทย ต 3.1 ม.3/1 คนควา รวบรวม และสรปุ ขอมลู /ขอเทจ็ จริงท่เี ก่ียวขอ งกับกลมุ สาระการเรยี นรูอ น่ื จากแหลง การเรยี นรแู ละนํา เสนอดว ยการพูดและการเขยี น ต 4.1 ม.3/1 ใชภาษาสื่อสารในสถานการณจ ริง/สถานการณจําลองท่เี กิดข้ึนในหองเรยี น สถานศึกษา ชุมชน และสังคม ต 4.2 ม.3/1 ใชภ าษาตา งประเทศในการสบื คน/คน ควา รวบรวม และสรุปความรู/ขอมูลตา งๆ จากสื่อและแหลงการเรียนรู ตา งๆ ในการศึกษาตอและประกอบอาชีพ 2. จุดประสงคก ารเรียนรู พูด/เขยี นสรุปใจความสาํ คญั แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สารคดี การคิดคน ยานพาหนะสําหรับใชใ นทะเลทราย โดยใชส ํานวน ภาษาและโครงสรา งภาษาทกี่ ําหนดใหไดอยา งถูกตอ ง เหมาะสมกับระดบั ชนั้ เรียน 3. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรเู กีย่ วกับสาํ นวนภาษา โครงสรางภาษาในกิจกรรมการเรยี นรผู า นสือ่ วดิ ีโอ (processed watching) สื่อสิ่งพิมพ ทักษะ การเรยี นภาษาท้ัง 4 ดาน ไดแ ก ทกั ษะการฟง ทักษะการพูด ทักษะการอาน ทักษะการเขียน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือ การส่อื สาร ทําใหก ารสื่อสารบรรลุเปาหมายอยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ ผูเรียนมคี วามสามารถ มีเจตคตทิ ดี่ ตี อ ภาษาอังกฤษ 4. สาระการเรยี นรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Vocabulary: - Grammar: Documentary films เรือ่ ง The Horse Nomads of Mongolia 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะการการดชู มอยางเปนขั้นตอนมเี ปาหมาย (processed watching) - ทกั ษะการคิดวิเคราะห คดิ สงั เคราะห และประเมินคา - ทักษะเรียนภาษาทัง้ 4 ทกั ษะ การฟง การพูด การอาน และการเขยี น - ทักษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการส่อื สาร คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศึกษาปท่ี 3

59 59 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) - มปี ระสิทธภิ าพในการส่ือความ - มเี หตุผล มีวิจารณญาณ 5. กิจกรรมการเรยี นรู  Lead-in 1. ครูนําความสนใจของนักเรียนเขาสบู ทเรียนในช่ัวโมงนโี้ ดยครูใหนักเรยี นดรู ปู ภาพทง้ั 3 รปู ในหนังสือเรียน Close-up 3 หนา 16 แลวใชคําถามตอไปนี้ Look at the three pictures. - What do you see in each picture? - Do you think which one is different from the others? - Do you think where they are? 2. นักเรียนชว ยกันใหค ําตอบ โดยครูยอมรับทกุ คําตอบ  Presentation 1. กิจกรรมพูดเลาตามจินตนาการ โดยครใู หน ักเรียนแบง กลมุ กลุม ละ 4-6 คน ปฏิบัติ ดังนี้ - ใหน ักเรยี นดูรปู ภาพในหนงั สือแลวพดู บอก What does each picture tell about? - ครตู รวจสอบความคิดเห็นของนักเรียนโดยใหน ักเรยี นบอกคําตอบพรอมกัน ครูเขียนคาํ ตอบของนักเรียนบนกระดาน โดยครูยอมรับทกุ คําตอบ - ใหน ักเรยี นพดู เลาเรอื่ งโดยสานตอความคดิ และจินตนาการจากเรื่องราวทีป่ รากฏตามภาพทั้ง 3 - ครูใหเวลานกั เรยี นทํากจิ กรรม และตรวจสอบคําตอบโดยเลือกนักเรียน 2-3 กลุมข้ึนมาพูดเลาเร่ืองตามจินตนาการ โดยครยู อมรบั ทุกคําตอบ 2. กจิ กรรมตอบคําตอบกอนดวู ิดีโอ Before you watch: กจิ กรรม A - ครใู หน ักเรียน Read aloud ประโยค 1-4 - ใหนกั เรียนจับคูประโยคกบั รปู ภาพ - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรียนบอกคําตอบพรอมกันและครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. A 2. B 3. C 4. A - ครูแนะนาํ การเรียนดว ยวิดโี อ ชี้แนะ มารยาทในการดูชม  Practice 1. กจิ กรรม While you watch: กิจกรรม B ครูบอกนักเรียนวานักเรียนจะไดดูหนังสารคดีสั้นเกี่ยวกับชาว Mongolia และขณะที่ดู นักเรียนตองตัดสินวาประโยคในขอ B วา เปนจริง True/T หรือ ไมเปนจริง False /F ดังนั้นกอนดูใหนักเรียนอาน ประโยคใหเขา ใจ และประโยคดงั กลา วจะชวยใหนักเรียนเขาใจและคาดเดาเรอื่ งลวงหนา ได - นักเรียนอานประโยคทกี่ ําหนดใหและขีดเสนใตค ําสําคญั ซึ่งจะชวยในการคดิ คาํ ตอบ - ครเู ปดวิดโี อใหน ักเรยี นดโู ดยปฏบิ ตั ดิ ังนี้ ครูเปดวิดีโอและหยุดเลนชั่วขณะหลังจากพบคําตอบของประโยคที่ 1 เพื่อ ตรวจสอบวา นกั เรยี นสวนใหญเลอื กคําตอบถกู จากน้ันครูเปดวดิ โี อตอและหยุดเลนเปนระยะเพื่อใหนักเรียนไดมีเวลาคิดทบทวนและ ประเมนิ คาํ ตอบ คูมือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ่ี 3

60 60 - เม่ือดูจบแลวครใู หนักเรยี นตรวจคาํ ตอบขอ B แตถ า นกั เรียนสว นใหญยงั ไมส ามารถหาคําตอบได ครคู วรใหนักเรียน ดซู า้ํ หลายรอบ กอนเฉลยคําตอบ - ครเู ฉลยคาํ ตอบขอ B โดยใหน ักเรียนอา นคําตอบพรอ มกัน โดยครใู หน กั เรียนบอกเหตผุ ลสําหรับขอท่เี ปนเทจ็ เฉลยคาํ ตอบ 1. T 2. T 3. F 4. F 5. T 6. F 2. กจิ กรรม After you watch: กิจกรรม C ครูใหนกั เรยี นทาํ กจิ กรรมหลังดวู ดี โิ อ C ดงั นี้ - ครอู ธบิ ายคาํ สงั่ และครสู อน/ชีแ้ นะวิธีการหาคําตอบ ซง่ึ นักเรยี นจะตองรูค วามหมายของตัวเลือก/คําศัพทที่กําหนดให เลอื กมาเติมในประโยค และศึกษาประโยคแตล ะประโยคเพอื่ คนหาตัวชี้แนะคําตอบ (Context clues) จากน้ันจึงนําตัวชี้แนะคําตอบ ดังกลา วน้ี มาใชต ดั สินใจเลอื กคาํ ตอบ โดยครูใหนกั เรยี นทาํ ตามข้นั ตอนดงั กลาวนี้ - นกั เรียนอานออกเสียงคาํ ศัพทท่ีกาํ หนดใหแ ละบอกความหมายคาํ ศัพท - นักเรยี นศกึ ษาประโยคแตละประโยคเพือ่ คนหา ตวั ชแี้ นะคําตอบ (Context clues) และขดี เสน ใตก าํ กบั ไว - ครูใหน ักเรยี น Read aloud ตวั ชีแ้ นะคําตอบ (Context clues) ครูเพ่ิมเติมขอมูลที่เกี่ยวของ และตรวจสอบความ เขาใจที่ถูกตองของนักเรียน - นกั เรียนลงมืออาน Cloze passage ขอ C และเลอื กคาํ ตอบ ครูใหเวลานักเรียนคดิ และเขียนคําตอบ - ครูอาจใหนักเรยี นไดดูวิดโี อซ้ําอีกครัง้ หนง่ึ เพื่อตรวจสอบคาํ ตอบ และปรับปรุงคําตอบ - ครูเฉลยคําตอบ โดยใหน ักเรียนชวยบอกคําตอบ ครยู ืนยันคาํ ตอบถูกและแกไขคําตอบผิด - ในการเฉลยคําตอบครคู วรเลนวดิ ีโอใหน ักเรียน ไดม โี อกาสตรวจสอบความเขา ใจของตัวเอง เฉลยคําตอบ 1. place 2. summer 3. trucks 4. nature 5. centre 6. life 7. luck 8. race  Production 1. ครใู หนักเรยี นเขาแบง กลมุ กลุมละ 4-6 คนทํากิจกรรม Ideas Focus 2. ใหนกั เรียน Read aloud คําถาม และพดู บอกความหมาย 3. ครทู บทวนคาํ ถามและชีแ้ นะวิธีคดิ และเขยี นคาํ ตอบโดย Expaining why และใหเ วลานักเรยี นทํากิจกรรมนอ้ี ยางอิสระ โดยครูกําหนดเวลา สังเกต แนะนาํ ชวยเหลอื แกป ญหา 4. เม่ือครบกําหนดเวลาครูตรวจสอบคําตอบโดยเลือกนักเรียน 3-4 กลุมขึ้นมาใหคําตอบ ครูยอมรับทุกคําตอบที่ให เหตุผล (Explaining why) เฉลยคาํ ตอบ Students’ own answers 5. ครูสรปุ บทเรยี น ซักถามเพอ่ื ประเมนิ ความคิดเห็นและใหนักเรียนแสดงความคิดเห็นตอวิดีโอที่ดูในช่ัวโมงนี้ แนะนําให นักเรยี นดูสารคดรี ายการใหค วามรู และคน ควาศึกษาหาขอมูลเพ่ิมเติมจากสื่ออิเล็กทรอนิกสเพ่ือขยายโลกทัศน และประโยชนในการ แกไขปญหา การดํารงชวี ติ การศกึ ษาตอ และการเลอื กอาชพี คูม ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศึกษาปที่ 3

61 61 6. การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการ เคร่อื งมือ คะแนน เกณฑ 1. สงั เกต แบบประเมนิ การสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียน 18-20 15-17 ผลการประเมิน 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมนิ ทกั ษะ แบบประเมนิ ทกั ษะการฟง -การพูด คะแนน ผลการประเมิน 18-20 ดมี าก การใชภ าษา แบบประเมินทักษะการอาน-การเขยี น 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 7. สือ่ /แหลง การเรียนรู หนังสอื เรยี น Close-up 3 Unit 1 Home Sweet Home กิจกรรม A-C, Ideas Focus หนา 16 สอ่ื VCD Unit 1 เรื่อง The Horse Nomads of Mongolia 8. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมอื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที่ 3

62 62 The Place to Be หนวยการเรยี นรู รหสั วชิ า …………… รายวิชาพ้นื ฐานภาษาองั กฤษ ช้ันมัธยมศึกษาปที่ 3 กลมุ สาระการเรยี นรูภ าษาตางประเทศ เวลา 14 ช่ัวโมง 2 ปการศกึ ษา 25........ ภาคเรียนท่ี 1 ผสู อน ................................. 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชวี้ ดั ต 1.1 ม.3/1 ปฏบิ ัติตามคาํ ขอรอ ง คาํ แนะนํา คําช้แี จง และคาํ อธบิ ายทฟี่ งและอาน ต 1.1 ม.3/4 เลอื ก/ระบุหวั ขอเรือ่ ง ใจความสําคัญ รายละเอยี ดสนับสนนุ และแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกับเร่ืองทีฟ่ ง และอาน จากส่อื ประเภทตา งๆ พรอ มทัง้ ใหเหตผุ ลและยกตวั อยางประกอบ ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขยี นโตตอบขอ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เร่ืองตา งๆ ใกลต ัว สถานการณ ขา ว เรอ่ื งท่ีอยใู นความสนใจของ สังคมและส่อื สารอยางตอเน่ืองและเหมาะสม ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขยี นเพ่อื ขอและใหขอมลู อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับเรอื่ งทฟี่ งหรอื อา นอยาง เหมาะสม ต 1.2 ม.3/5 พูดและเขียนบรรยายความรูสึกและความคดิ เห็นของตนเองเกยี่ วกบั เร่อื งตางๆ กิจกรรม ประสบการณ และ ขา ว/เหตกุ ารณ พรอ มท้งั ใหเ หตุผลประกอบอยางเหมาะสม ต 1.3 ม.3/2 พูดและเขียนสรปุ ใจความสําคญั /แกนสาระ หวั ขอเร่อื งที่ไดจากการวเิ คราะหเร่ือง/ขาว/เหตกุ ารณ/สถานการณ ทอี่ ยูใ นความสนใจของสังคม ต 2.1 ม.3/1 เลอื กใชภาษา นา้ํ เสียง และกิรยิ าทาทางเหมาะกับบคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของ เจา ของภาษา ต 2.1 ม.3/2 อธิบายเกยี่ วกับชีวติ ความเปนอยู ขนบธรรมเนยี ม และประเพณีของเจา ของภาษา ต 2.2 ม.3/1 เปรยี บเทยี บและอธบิ ายความเหมือนและความแตกตา งระหวางการออกเสียงประโยคชนดิ ตางๆ และการ ลําดับคาํ ตามโครงสรางประโยคของภาษาตา งประเทศและภาษาไทย ต 3.1 ม.3/1 คน ควา รวบรวม และสรปุ ขอ มูล/ขอเท็จจรงิ ทเี่ กี่ยวของกบั กลมุ สาระการเรยี นรูอ่นื จากแหลงการเรยี นรูและ นาํ เสนอดว ยการพดู และการเขยี น ต 4.1 ม.3/1 ใชภ าษาส่ือสารในสถานการณจรงิ /สถานการณจําลองท่ีเกิดข้ึนในหองเรียน สถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม ต 4.2 ม.3/1 ใชภ าษาตางประเทศในการสืบคน/คน ควา รวบรวม และสรปุ ความรู/ขอมูลตา งๆ จากส่ือและแหลง การเรยี นรู ตา งๆ ในการศกึ ษาตอและประกอบอาชพี 2. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูเก่ียวกับคําศัพท สํานวนภาษา โครงสรางภาษา Present Perfect Simple, for, since, possessives, multiple- choice, cloze กิจกรรมฝกทักษะการคิดวิเคราะห สังเคราะห การใหเหตุผล เร่ือง The Place to Be สื่อสิ่งพิมพและสื่อ อิเลก็ ทรอนิกสท ม่ี ีประสทิ ธิภาพ ทักษะการเรียนภาษาท้ัง 4 ดาน ไดแก ทักษะการฟง ทักษะการพูด ทักษะการอาน ทักษะการเขียน และกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพอ่ื การสือ่ สาร ทําใหก ารสื่อสารบรรลุเปาหมายอยางมีประสิทธิภาพ ผูเรียนมีความสามารถ มีเจต คติทดี่ ีตอภาษาองั กฤษ คมู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3

63 63 3. สาระการเรยี นรู (Learning Contents) 3.1 ดานความรู (Knowledge) คําศัพท สํานวนภาษาเกี่ยวกับ Town & Country ในบทอานประเภทตางๆ ไดแก บทความ (Articles) บทสนทนา (Conversations) งานเขียนท่เี ปน e-mails, Notes, Scheldules สาํ นวนภาษาที่ใชพูด Describing different rooms, สํานวนภาษา ท่ีใชเขียนเกี่ยวกับ Explaining why? Making excuses, โครงสรางประโยค Present Perfect Simple, for, since, possessives, muiltiple-choice, cloze, Exam Close-up และ Exam Tasks 3.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) ทักษะการเรยี นภาษาทั้ง 4 ไดแ ก การฟง การพดู การอาน การเขยี น ทกั ษะกระบวนการคดิ และทักษะกระบวนการสอน ภาษาอังกฤษเพอ่ื การสื่อสาร 3.3 ดา นเจตคติ (Attitude/Desired Character) ใชภ าษาองั กฤษอยางมมี ารยาท ถูกตอ งตามกาลเทศะและบุคคล มีประสิทธิภาพในการส่ือความ มเี หตุผล มีวิจารณญาณ 4. สมรรถนะสาํ คัญของผเู รียนตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกปญหา ความสามารถในการใชทักษะชีวิต ความสามารถในการใชเทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงคตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 รกั ชาติ ศาสน กษตั รยิ  ซอื่ สตั ย สุจริต มวี ินัย ใฝเ รียนรู อยูอยางพอเพียง มงุ มัน่ ในการทํางาน รกั ความเปน ไทย มีจติ สาธารณะ 6. ภาระงาน/ชิน้ งาน ใหนกั เรยี นพูดบรรยายภาพหนาช้ันเรยี น เลอื กภาพตามความสนใจ มีความเหมาะสม มีเนื้อหาเก่ยี วกบั The Place to Be โดยประยุกตใ ชความรูและทกั ษะการใชภ าษาท่เี รยี นมาใน Unit 2 จดั ทําเปน แผนรายงานกระดาษ A4 7. การวดั และประเมนิ ผล (ภาระงาน/ชน้ิ งาน) วิธีการ เครอ่ื งมือ คะแนน เกณฑ 1. ประเมนิ แบบประเมินคุณภาพช้ินงาน / ภาระงาน 18-20 คุณภาพ 15-17 ผลการประเมิน 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผาน คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3

64 64 วิธีการ เคร่ืองมอื คะแนน เกณฑ 2. ประเมิน แบบประเมินทักษะ การพดู 18-20 ทกั ษะทางการใช แบบประเมนิ ทกั ษะ การเขียน 15-17 ผลการประเมนิ ภาษา 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผา น 8. กจิ กรรมการเรยี นรู ความรแู ละกิจกรรมฝก ทกั ษะการคดิ วิเคราะห สงั เคราะห การใหเ หตผุ ล ทักษะการเรียนภาษาท้ัง 4 ดาน ไดแก การฟง การ พูด การอาน และการเขียนเร่ือง The Place to Be ประกอบดวยบทสนทนา (conversations) บทความ (articles), e-mails, notes, exam Close-up, Exam Tasks, ส่ือรูปภาพ (pictures) ส่ือเสียง (audio CD) ส่ือวิดีโอ (DVD) ท่ีมีคําศัพท สํานวนภาษาเก่ียวกับ Town&Country โครงสราง Present Perfect Simple, for, since, possessives, muiltiple choice, cloze และกระบวนการ สอนภาษาอังกฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร เจตคตทิ ่ดี ตี อภาษาอังกฤษ 9. ส่อื /แหลง เรยี นรู  หนังสอื เรียน Close-up 3 Unit 2 เร่อื ง The Place to Be หนา 17-28  หนงั สอื Workbook Close-up 3 Unit 2 เร่ือง The Place to Be หนา 10-15  Audio CD Track 2.1, 2.2  Video เรอื่ ง One of a Kind หนา 28 คูม ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศึกษาปท ่ี 3

65 65 หนว ยการเรยี นรทู ่ี 2 เรื่อง The Place to Be แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 1 เรอ่ื ง Reading 1: Reading Signs รหัสวิชา................. รายวชิ าพนื้ ฐานภาษาองั กฤษ ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ี่ 3 กลุมสาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปการศึกษา 25……….. ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ช่ัวโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชี้วดั ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุหวั ขอเร่ือง ใจความสําคัญ รายละเอยี ดสนับสนนุ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรือ่ งทฟ่ี ง และ อา นจากสื่อประเภทตา งๆ พรอมทั้งใหเ หตุผลและยกตัวอยางประกอบ ต 1.3 ม.3/2 พูดและเขียนสรปุ ใจความสําคญั /แกน สาระ หวั ขอเรือ่ งทไี่ ดจากการวเิ คราะหเ รื่อง/ขาว/เหตกุ ารณ/สถาน- การณท ่ีอยูในความสนใจของสงั คม ต 2.1 ม.3/2 อธบิ ายเกีย่ วกบั ชีวติ ความเปน อยู ขนบธรรมเนียม และประเพณีของเจาของภาษา 2. จดุ ประสงคการเรยี นรู อา นบทความเกยี่ วกับ Tour of a Castle แลวพูดและเขยี น วเิ คราะหเ ปรียบเทียบ อธบิ าย และแสดงความคดิ เห็น โดยใช คําศพั ทและโครงสรางภาษาท่ีกําหนดใหไดถ ูกตอ งเหมาะสม 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูและกิจกรรมฝกทักษะการคิดท่ีมีคําศัพทเกี่ยวกับ town & country related-words, Phrasal verbs, Signs สํานวนภาษาเกยี่ วกับ Giving directions และ Reading skills: Scanning reading โครงสรา งประโยคลดรูป Reduction of passive verbs, Exam strategies: Using context to understand signs โดยผานการฝกทักษะการอาน การเขียน และกระบวนการสอน ภาษาอังกฤษเพ่อื การสือ่ สาร ทําใหผ เู รียนสามารถส่ือความไดอ ยา งมปี ระสิทธิภาพ มีนสิ ยั รักการอาน มสี นุ ทรียภาพในการอาน 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Vocabulary: town & country related-words, Phrasal verbs, Signs, สาํ นวนภาษาเกี่ยวกบั Giving directions - Grammar: Present simple tense in affirmatives, questions and interrogatives/negatives - Reading strategy: Scanning reading 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรยี นภาษาท้งั 4 ทักษะ การฟง การพดู การอา น และการเขียน - ทักษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มีประสทิ ธภิ าพในการสอื่ ความ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูนําความสนใจของนกั เรียนเขาสูบทเรียนในชั่วโมงเรียนน้ีโดยใชคาํ ถามดังนี้ Q: Do you think what the word, ‘sign’ means? Q: Do you think which is easier to understand between a sign and a symbol? Why? คูมอื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชนั้ มัธยมศึกษาปท ่ี 3

66 66 2. นักเรยี นใหค ําตอบอยางหลากหลาย ครูยอมรับทุกคาํ ตอบที่สมเหตุผล 3. ครเู ช่อื มโยงเขา สูกจิ กรรม  Presentation 1. ครูใหน ักเรียนเปดหนังสอื เรียน Close-up 3 หนา 18 ครูสอนคาํ ศัพทใ นบทอานกิจกรรม A, B, C, D ดงั นี้ - ใหน ักเรียนทง้ั ช้นั ชว ยกันคน คําศพั ทที่ไมร คู วามหมาย ขดี เสน ใตก าํ กับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของ คําศัพทจากตําแหนง ภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝกใหระบุ Parts of speech ทุกครั้งที่สอนความหมายของ คําศัพท) - นกั เรียนบอกหมวดหมขู องคําศัพทเ หลา นี้ โดยครเู ขยี นลงใน Word Box บนกระดาน - ใหนกั เรยี น Read aloud คาํ ศัพทบนกระดาน - ใหนกั เรยี นแบง กัน/ชวยกันคนหาความหมายของคาํ ศัพทเหลาน้ี แลวพูดบอกความหมาย - ครเู ขียนความหมายของคําศัพทท นี่ ักเรยี นบอกและเพมิ่ เติมความหมายของคําศพั ทบางคําใหสมบรู ณ 2. ครูสอนคาํ ศัพทใ น Word Focus ดงั น้ี - ใหนกั เรียนอานออกเสียงดงั พรอมกัน ถาคําใดนกั เรียนอา นไมไ ดใหครูชวยอา นนําและนักเรยี นอานตาม - ครูใหนักเรียนชวยกันบอกความหมายโดยครูใหนักเรียนบอกความหมายของคําท่ีนักเรียนรูจัก ถานักเรียนบอก ความหมายไมได ครูใหนกั เรยี นดูท่ี Word Focus และใหอ า นออกเสยี งคาํ ศพั ทแ ละคําจํากัดความ วิธีนี้จะชวยใหนักเรียนรูความหมาย ของคําศัพทม ากขนึ้ ครูอาจใหค าํ อธิบายเพม่ิ เตมิ บาง - ครเู ลือกคําศพั ทบ างตัวมาอธิบาย ไดแ ก in progress, under, enter, - ใหนักเรียนคัดลอก Word Box และคําศัพทที่เกี่ยวของลงในสมุดคําศัพทของตนเอง (ครูกําหนดใหนักเรียนทุกคนมี สมดุ คําศัพทแ ละสมุดแบบฝก หัด) 3. ครสู อนโครงสรางทีเ่ ก่ียวของกับบทเรียนในชั่วโมงนี้ ไดแก 3.1 ประโยค Present simple tense in affirmatives and imperatives ไดแก - We spend a lot of time outdoors with our animals. - We don’t have a bathroom or a kitchen. - Please shower before entering pool. 3.2 Reduction of passive verbs - Hamlet, [which was written by William Shakespeare], is the most famous English play. Reduced: Hamlet, written by William Shakespeare, is ... - No photographs are allowed. Reduced: No photographs allowed. 4. ครูใหนักเรียนเปดหนังสือ Close-up 3 หนา 19 ครูสอนเทคนิคการทําขอสอบ (Exam Strategies) โดยใหนักเรียน Read aloud Exam Close-up ซ่ึงอยูในตอนทายของ Reading ครูอธบิ ายและยกตัวอยางประกอบ 5. ครทู บทวนเทคนคิ การทําขอสอบจาก Unit 1: Justifying your answers by using 3 rules. Exam Strategy: Justifying your answers (from Unit 1) 1. When you think you have found the answer,try to justify it, i.e. explain to yourself why it is correct and the other options are not. 2. If you cannot do this then your chosen answer is probably wrong. 3. Look at the options again and try to find out that you can justify. คูมือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศึกษาปท ี่ 3

67 67  Practice ครูใหน กั เรยี นเปด หนังสือ Close-up 3 หนา 18 ทํากิจกรรมดงั น้ี 1. กิจกรรม A ครูใหนักเรยี น Read aloud คําสงั่ และพดู บอกส่ิงท่ีนกั เรียนตองปฏบิ ัติในกิจกรรมน้ี - ครใู หน กั เรยี น Read aloud สถานทข่ี อ 1-6 และสัญลกั ษณ A-F และนักเรียนบอกความหมายของสัญลักษณและ เลอื กคาํ ตอบไปพรอ มกนั - ครูอธิบายขอความในบางสัญลักษณ และชี้แจงวา นักเรียนสามารถเลือกคําตอบไดถูกตองโดยไมจําเปนตองรู ความหมายของคาํ ศพั ททุกตวั ในแตละสญั ลักษณ ครูสรปุ คาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. D 2. E 3. C 4. B 5. F 6. A 2. กจิ กรรม B ครใู หนักเรยี น Read aloud คําส่ัง และคาํ ถาม - ครทู บทวนคําสัง่ อธบิ าย ชแี้ นะวิธีคดิ และหาคาํ ตอบ โดยใหนักเรยี นขดี เสน ใตคําสําคญั ในคําถามแตละขอซึง่ จะใช เปน ตวั ชี้แนะคําตอบ (Contextual clues) และครทู บทวนเทคนิคการทําขอสอบจาก Unit 1: Justifying your answers by using 3 rules. โดยใหนักเรียนยอนกลับไป Read aloud เรือ่ ง Reading หวั ขอ Exam Close-up - นกั เรยี นเลือกคําตอบอยา งมีทศิ ทางโดยใชต วั ช้แี นะคําตอบ (Contextual clues) และคดิ ทบทวนคาํ ตอบตามกฎ 3 ขอ ของเทคนคิ การทาํ ขอ สอบจาก Unit 1: Justifying your answers - ครูใหเวลานักเรียนทาํ กจิ กรรม ครูสงั เกต แนะนํา ชวยเหลอื และแกปญหา - ครูใหน ักเรียน Read aloud คําตอบ และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. E 2. A, B 3. C 4. F 5. D 3. กิจกรรม C ครูใหนักเรียน Read aloud คําศัพทท เี่ ปนตัวเลือกและพดู บอกความหมาย - ครูทบทวนคําสั่ง อธิบาย และช้ีแนะวิธีการอานแบบ Scanning แลวใหนักเรียนจับคูคําศัพทกับสัญลักษณโดย นกั เรยี นคน หา Key words ในสญั ลกั ษณท ม่ี คี าํ ศัพทตรงกับคาํ ศพั ทท่กี าํ หนดให แลว ขีดเสน ใตค ําเหลานนั้ - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรยี นบอกคําทีข่ ีดเสนใตพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ Return = D clean = B entering = A display = C in progress = E 4. กิจกรรม D ครใู หนักเรยี น Read aloud คาํ ศัพทที่อยใู นวงเล็บของประโยคขอ 1-5 และพดู บอกความหมาย - ใหนักเรยี นจับคคู าํ ศัพทใ นวงเลบ็ กบั คาํ ศัพทขอ C ครใู หเ วลานักเรยี นคิดและเลือกคําตอบ - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหน กั เรยี นพดู บอกคําตอบพรอ มกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. return 2. clean 3. entering 4. display 5. in progress ครใู หนักเรียนเปดหนงั สือ Workbook Close-up 3 เร่อื ง Reading หนา 10-11 ทํากิจกรรมดังน้ี 1. กจิ กรรม A ครูใหน กั เรยี น Read aloud Exam Reminder ซึง่ ประกอบดวยขอกําหนด 3 ขอ - ครอู ธบิ ายและยกตัวอยางประกอบ จากนั้นครทู บทวนคําถาม ใหน ักเรียนตอบคาํ ถาม และครเู ฉลยคําตอบ คูมือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศกึ ษาปท่ี 3

68 68 เฉลยคําตอบ No, they don’t. 2. กจิ กรรม B ครูใหนกั เรียน Read aloud the Exam Task ขอ 1-5 และขีดเสนใตคาํ /วล/ี ประโยคยอยทส่ี ําคัญในแต ประโยค เพอ่ื ใชเปนตวั ช้ีแนะคําตอบ (Contextual Clues) - นักเรยี นเลือกคําตอบโดยใชคาํ /วลี/ประโยคยอ ยทข่ี ดี เสน ใตเ ปนตัวชี้แนะคําตอบ (Contextual Clues) - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรียนพดู บอกคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. D 2. G 3. A 4. E 5. C 3. กิจกรรม C ครใู หนักเรยี น Read aloud สญั ลกั ษณในกิจกรรม B และ Read aloud บทความในกรอบ โดยระหวา งท่ี อานบทความ ใหน กั เรยี นขดี เสนใตคาํ ศัพทเ กย่ี วกบั สถานท่ี เชน stadiums - นักเรียนคิดพิจารณาและเลือกระบุเก่ียวกับสัญลักษณท่ีเก่ียวของกับบทความ โดยใชหลักการทบทวนคําตอบ Justifying your answers - ครูตรวจสอบคําตอบโดยใหน ักเรยี นพดู บอกคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ Sign A, B, C, E, F, G and H or All signs except D.  Production - ครใู หน ักเรียนทํากิจกรรม Expand Your Ideas ซึง่ ครู applied จากกจิ กรรม A ดังนี้ Discuss signs to be needed for safety. And give reasons. - ครูใหเวลานกั เรยี นทาํ กจิ กรรม ครู สังเกต แนะนาํ ชวยเหลือ และแกป ญ หา - ครูสมุ เลือกนักเรียน 4-5 คูขึน้ มาพดู ใหค ําตอบ ครูยอมรบั ทุกคําตอบ - ครสู รปุ บทเรยี น 6. การวัดและประเมินผล เครื่องมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน 18-20 วิธกี าร 15-17 ผลการประเมนิ 1. สงั เกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมินทกั ษะ แบบประเมินทักษะการฟง-การพูด คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดมี าก การใชภ าษา แบบประเมินทกั ษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน คมู อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท่ี 3

69 69 7. ส่ือ/แหลง การเรียนรู หนงั สอื เรียน Close-up 3 Unit 2 The Place to Be เรอื่ ง Reading กจิ กรรม A-D หนา 18 หนงั สอื Workbook Close-up 3 Unit 2 The Place to Be เร่อื ง Reading กจิ กรรม A-C หนา 10-11 8. บนั ทกึ หลังการจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมอื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที่ 3

70 70 หนวยการเรยี นรูท ่ี 2 เร่อื ง The Place to Be แผนการจัดการเรยี นรูท ี่ 2 เรอ่ื ง Reading 2: Tour of a Castle รหัสวิชา................. รายวิชาพนื้ ฐานภาษาองั กฤษ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท่ี 3 กลมุ สาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ช่ัวโมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชว้ี ัด ต 1.1 ม.3/4 เลอื ก/ระบุหัวขอเร่ือง ใจความสาํ คญั รายละเอียดสนบั สนนุ และแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกบั เรอ่ื งที่ฟงและ อานจากสอื่ ประเภทตา งๆ พรอมทง้ั ใหเหตผุ ลและยกตวั อยางประกอบ ต 1.3 ม.3/2 พูดและเขียนสรปุ ใจความสาํ คญั /แกนสาระ หวั ขอ เรือ่ งท่ีไดจ ากการวเิ คราะหเ รือ่ ง/ขาว/เหตุการณ/สถาน- การณท่ีอยใู นความสนใจของสังคม ต 2.1 ม.3/2 อธบิ ายเกีย่ วกับชีวิตความเปนอยู ขนบธรรมเนยี ม และประเพณขี องเจา ของภาษา 2. จดุ ประสงคก ารเรยี นรู อา นบทความเกี่ยวกับ Tour of a Castle แลวพูดและเขียนสรปุ ใจความสาํ คัญ วิเคราะหเ ปรียบเทยี บ อธบิ ายและแสดงความ คิดเห็น โดยใชคาํ ศัพทแ ละโครงสรา งภาษาที่กาํ หนดใหไดถกู ตอ งเหมาะสม 3. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูและกิจกรรมฝกทักษะการคิด บทความ (articles) ท่ีมีคําศัพทเกี่ยวกับภาษาและโครงสรางภาษาท่ีใชใน Signs และ Skimming reading โดยผานการฝกทักษะการอา น การเขียน และกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสาร ทําใหผูเรียนสามารถ สื่อความไดอ ยา งมีประสิทธิภาพ มีนิสยั รักการอา น มีสนุ ทรียภาพในการอา น 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Vocabulary: Tour of a Castle, Signs, สํานวนภาษาเก่ยี วกับ Giving directions - Grammar: Reduction of passive verbs - Reading skill: Skimming reading 4.2 ดา นทักษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรยี นภาษาทั้ง 4 ทักษะ การฟง การพูด การอาน และการเขียน - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มีประสทิ ธภิ าพในการสอ่ื ความ 5. กิจกรรมการเรยี นรู  Lead-in 1. ครใู หนกั เรียนเปดหนังสือ Close-up 3 หนา 18 ครนู าํ ความสนใจของนักเรยี นเขา สบู ทเรียนในชั่วโมงเรยี นนโ้ี ดยใช ภาพ castle ในกิจกรรม E และคาํ ถามดังน้ี Q 1: Do you think what these old buildings are like? Q 2: What would you feel if you were left alone in these old buildings? 2. นักเรียนใหคําตอบอยางหลากหลาย ครยู อมรบั ทุกคําตอบ 3. ครเู ชอ่ื มโยงเขา สูกจิ กรรม Reading คูมอื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที่ 3

71 71  Presentation 1. ครูใหนักเรียนเปดหนังสือ Close-up 3 หนา 18-19 ครูสอนคําศัพทในบทอานกิจกรรม E, F, G, H, I และ Ideas Focus โดยใหนักเรยี นมีสวนรวมดงั น้ี - ใหนักเรียนท้งั ชน้ั ชว ยกันคนคําศพั ทท่ีไมร ูความหมาย ขดี เสนใตกาํ กบั ไว และใหนักเรียนระบุ Parts of Speech ของ คําศัพทจากตําแหนงภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝกใหระบุ Parts of speech ทุกคร้ังที่สอนความหมายของ คําศพั ท) - นกั เรยี นบอกหมวดหมูของคําศพั ทเหลานี้ โดยครูเขยี นลงใน Word Box บนกระดาน - ใหนกั เรยี น Read aloud คาํ ศัพทบ นกระดาน - ใหน กั เรียนแบงกัน/ชว ยกนั คนหาความหมายของคําศพั ทเ หลาน้ี แลว พดู บอกความหมาย - ครูเขียนความหมายของคําศัพทท่ีนักเรียนบอกและเพิ่มเติมความหมายของคําศัพทบางคําใหสมบูรณ ครูเลือกคํา/ วล/ี ประโยคท่มี ีความหมายพเิ ศษทตี่ องตีความหมายมาอธบิ าย 2. ครชู แี้ นะเทคนิคการทําขอ สอบ (Exam Strategies) ไดแ ก Using context to understand signs - ใหนกั เรยี น Read aloud ประโยคใน Exam Close-up - ครูอธิบายและยกตัวอยา งโดยใหน กั เรียนปฏบิ ตั ดิ วยตนเอง 3. ครูทบทวนเทคนคิ การทําขอสอบ ไดแก Focusing on words before and after a gap Exam strategies: Focusing on words before and after a gap - Some tasks include a gapped text. Only one word goes in each gap. - This task tests what you know about grammartical structures and vocabulary. - First, look at the gap. What words come before and after? What kind of words are they (e.g. verbs, nouns, prepositions, pronouns)? - Look again at the words around the gaps. Can you think of words that often go together with them? Write your answer in the gap and then read the whole sentence to see if it fits. 4. ครทู บทวนโครงสรางประโยค Reduction of passive verbs และ Reading skill ทส่ี อนในช่ัวโมงทแี่ ลวและเก่ียวขอ ง กับบทเรยี นในชั่วโมงน้ี โดยใหนักเรยี นมีสวนรวม  Practice 1. กิจกรรม E ครใู หน ักเรียน Read aloud คําสง่ั และคนหาคาํ ตอบโดยใชว ิธีอานแบบ Scanning โดยเมื่ออา นพบคําตอบ ของคําถามดังกลา วใหนกั เรียนขดี เสนใต - ครูใหเวลานักเรยี นทาํ กจิ กรรม ครูสงั เกต แนะนาํ ชวยเหลือ และแกปญหา - ครูตรวจสอบความเขา ใจในการอา นโดยใหน ักเรยี นพดู บอกคําตอบ และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ She heard someone laughing. 2. กจิ กรรม F ครูใหน กั เรยี น Read aloud ประโยคท่ี 1-5 และขดี เสน ใตค าํ สําคัญ - นักเรยี นยอนกลับไปอา น Passage เพอ่ื คนหาคาํ ตอบโดยใชคําท่ีขีดเสนใตช ว ย - ครตู รวจสอบความเขาใจในการอานโดยใหน ักเรียนพดู บอกคําตอบ และครูเฉลยคําตอบ คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศึกษาปท่ี 3

72 72 เฉลยคําตอบ 1. over 650 years old 2. mad 3. weren’t allowed 4. scared 5. could not 3. กิจกรรม G ครใู หนกั เรยี น Read aloud คําส่ัง และพดู บอกส่งิ ท่ีนักเรียนตองปฏิบตั ิในกิจกรรมน้ี - ครใู หน ักเรียน Read aloud Exam Close-up - ครูทบทวนเทคนิคการทาํ ขอสอบ โดยใหน ักเรยี น Read silently สญั ลกั ษณ A-H และขดี เสนใตค ําศัพททนี่ ักเรียนไมรู ความหมาย - ครตู รวจสอบความเขาใจในการอา นโดยใหนักเรียนบอกคาํ ศพั ทใ น Sign A-H ทน่ี ักเรียนไมร คู วามหมาย 4. กิจกรรม H ครูใหนกั เรียน Read aloud ประโยคที่ 1-5 แลว เลือกใชส ัญลักษณท ี่เกีย่ วขอ ง - ครูใหเวลานักเรียนทํากิจกรรม ครูสังเกต แนะนาํ ชว ยเหลือ และแกปญหา - ครตู รวจสอบคําตอบโดยเลอื กใหนักเรยี นพดู บอกคาํ ตอบและครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. H 2. D 3. E 4. C 5. B 5. กจิ กรรม I ใหน กั เรียน Read aloud ตวั เลอื กและพูดบอกความหมาย - ใหนกั เรยี นทบทวนเทคนคิ การทาํ ขอสอบ ไดแ ก Focusing on words before and after a gap - ใหนักเรียน Read silently ประโยคโดยคนหาตัวชี้แนะคําตอบ (Contextual Clues) ซ่ึงอยูหนาและหลังตัวเลือก และขีดเสน ใต - นักเรยี นเลือกคําตอบโดยใชคํา/วลี/ประโยคยอ ยทข่ี ีดเสนใตเปน ตัวชีแ้ นะคาํ ตอบ - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนกั เรยี นพูดบอกคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ 1. spooky 2. interesting 3. evil 4. violent 5. crazy  Production 1. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรม Ideas Focus ใหนักเรียนประยุกตใชความรูท่ีเรียนมาในชั่วโมงน้ีทํากิจกรรม ครูอธิบาย คาํ สงั่ ชแ้ี นะวิธคี ิด และการตอบคาํ ถาม โดยใหน ักเรียน Discuss and share 2. ครูใหนกั เรียน Read aloud คําส่ัง และพดู บอกสิง่ ที่นักเรยี นตองปฏบิ ตั ใิ นกจิ กรรมน้ี 3. ครูทบทวนคําสั่งช้ีแนะวิธีการตอบคําถาม Why? Or Why not? โดยทบทวนโครงสรางประโยค Explaining Why/because ไดแก Sentence 1 (Subject+verb in Present Simple+…)+because+Sentence 2 (Subject+verb in Present Simple+… ตัวอยางเชน I’m happy because I can watch football match. และทบทวนการใชกริยาเปน Present ไดแก Present Simple 4. นกั เรียนจบั คทู าํ กิจกรรม ตอบคําถามโดยใชโ ครงสรางประโยค Explaining Why or Why not/because 5. ครูใหเ วลานักเรยี นทํากิจกรรม ครูสังเกต แนะนาํ ชวยเหลอื และแกป ญหา 6. ครตู รวจสอบคาํ ตอบโดยเลอื กใหน กั เรยี นพดู บอกคําตอบ โดยครูชวยเตมิ เตม็ ความสมบูรณ 7. ครยู อมรับทุกคําตอบทีม่ ีเหตุผล 8S. tคuรdูตeอnบtขs’อซoักwถnามanขอswงนeักrsเรยี น สรปุ ส่งิ ทีเ่ รียนใเนฉชลั่วยโคมาํงตนอี้ บ คมู อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3

73 73 6. การวดั และประเมนิ ผล เครอ่ื งมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น 18-20 วธิ ีการ 15-17 ผลการประเมิน 1. สงั เกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผาน 2. ประเมนิ ทักษะ แบบประเมนิ ทกั ษะการฟง -การพดู คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดมี าก การใชภ าษา แบบประเมินทักษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผาน 7. ส่ือ/แหลงการเรยี นรู หนังสอื เรยี น Close-up 3 Unit 2 The Place to Be เรือ่ ง Reading กจิ กรรม E, F, G, H และ Ideas Focus หนา 18-19 8. บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้ันมัธยมศึกษาปที่ 3

74 74 หนวยการเรียนรทู ี่ 2 เรือ่ ง The Place to Be แผนการจัดการเรยี นรทู ี่ 3 เรอื่ ง Vocabulary 1: Town&Country รหัสวิชา................. รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาอังกฤษ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3 กลุม สาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปการศกึ ษา 25……….. ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ช่ัวโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ช้วี ัด ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุหวั ขอ เร่ือง ใจความสําคญั รายละเอียดสนบั สนนุ และแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกบั เรอ่ื งท่ีฟงและ อานจากสื่อประเภทตางๆ พรอ มท้ังใหเ หตผุ ลและยกตัวอยางประกอบ ต 1.3 ม.3/2 พดู และเขียนสรุปใจความสําคญั /แกนสาระ หัวขอเรอ่ื งท่ีไดจากการวิเคราะหเ รอื่ ง/ขาว/เหตกุ ารณ/สถาน- การณท่ีอยูในความสนใจของสังคม ต 2.1 ม.3/2 อธิบายเก่ียวกบั ชีวิตความเปนอยู ขนบธรรมเนยี ม และประเพณขี องเจาของภาษา 2. จุดประสงคการเรยี นรู อานบทบรรยายเก่ียวกับ Vocabulary 1: Town&Country แลวพูดและเขียนสรุปใจความสําคัญ วิเคราะหเปรียบเทียบ อธบิ าย และแสดงความคดิ เห็น โดยใชค ําศัพทและโครงสรางภาษาท่กี ําหนดใหไ ดถ กู ตองเหมาะสม 3. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรูและกิจกรรมฝกทักษะการคิด บทความ (articles) ที่มีคําศัพท Vocabulary 1: Town&Country สํานวนภาษา โครงสรางภาษาเก่ียวกับ Explaining why โดยผานการฝกทักษะการฟง การพูด การอาน และการเขียน และกระบวนการสอน ภาษาองั กฤษเพ่อื การส่ือสารทาํ ใหผ ูเรียนสามารถสื่อความไดอยางมีประสิทธภิ าพ มีนิสยั รักการอาน มีสนุ ทรียภาพในการอา น 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Vocabulary: cinema, corner shop, disco, factory, petrol station, pharmacy, shopping centre, sports, centre, stadium, theatre - Grammar: Phrasal verbs /Two-word verbs, Adjectives - Speaking: Explaining why, Present simple using for describing places 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรียนภาษาทั้ง 4 ทกั ษะ การฟง การพูด การอาน และการเขยี น - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มีประสิทธภิ าพในการสอ่ื ความ 5. กิจกรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครนู าํ ความสนใจของนักเรียนเขาสบู ทเรียนในชั่วโมงเรยี นน้ีโดยใชภ าพในหนังสือเรียน Close-up 3 หนา 20 และถาม คําถามดังนี้ Q: Do you think what is the difference between the first picture and the second one? 2. นักเรยี นใหคาํ ตอบอยางหลากหลาย ครูยอมรบั ทกุ คําตอบ คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3

75 75 3. ครเู ชอ่ื มโยงเขา สูกิจกรรม Vocabulary  Presentation 1. ครใู หนักเรียนเปดหนังสือ Close-up 3 ครูสอนคําศัพทในบทอานกิจกรรม A, B, C, D และ E โดยใหนักเรียนมีสวน รวมดังน้ี - ใหนักเรียนท้ังช้ันชวยกันคนคําศัพทท่ีไมรูความหมาย ขีดเสนใตกํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของคําศพั ท จากตาํ แหนงภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝกใหระบุ Parts of speech ทุกครั้งท่ีสอนความหมายของ คาํ ศัพท) - นกั เรยี นบอกหมวดหมขู องคาํ ศัพทเหลานี้ โดยครเู ขยี นลงใน Word Box บนกระดาน - ใหนกั เรียน Read aloud คาํ ศัพทบ นกระดาน - ใหนักเรียนแบงกนั /ชวยกันคน หาความหมายของคาํ ศัพทเ หลานี้ แลว พูดบอกความหมาย - ครเู ขียนความหมายของคาํ ศพั ทท ี่นักเรียนบอกและเพมิ่ เตมิ ความหมายของคําศพั ทบางคําใหสมบรู ณ - ครเู ลือกคาํ /วล/ี ประโยคทีม่ ีความหมายพิเศษที่ตองตคี วามหมายมาอธบิ าย ไดแ ก  Phrasal verbs /Two-word verbs ตัวอยางเชน look forward to, run out of, work out, come down  Adjectives from past participle ตวั อยางเชน polluted, crowded  Adjectives from present participle ตวั อยางเชน relaxing  Adjectives from noun+suffix ตัวอยางเชน peaceful  Compound nouns ตัวอยา งเชน petrol staion, corner shop 2. ครูทบทวนโครงสรางประโยคเกี่ยวกับ Explaining why, Present simple using for describing places 3. ครทู บทวนเทคนิคการทําขอสอบ Focusing on words before and after a gap  Practice 1. กจิ กรรม A ครูใหน กั เรียน Read aloud คาํ สง่ั และพูดบอกส่งิ ท่ีนักเรียนตองปฏิบัตใิ นกิจกรรมน้ี - ครทู บทวนคาํ สั่งอธิบาย Phrasal verbs ยกตัวอยางประกอบ ชแ้ี นะวิธีการเลือกคําตอบ - ใหนักเรียนอานคําศัพทที่เปนตัวเลือกและบอกความหมายและเลือกคําที่มีความหมายเก่ียวของกับกับ Phrasal verbs ครตู รวจสอบความถกู ตองโดยใหน ักเรยี นอานคําตอบพรอมกนั และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. petrol station 2. sports centre 3. corner shop 4. stadium 5. theatre 6. shopping centre 9. pharmacy 10. cinema 7. factory 8. disco 2. กจิ กรรม B ครูใหนกั เรยี น Read aloud คําศัพทท เ่ี ปน ตัวเลือก - นักเรยี นคน หาตัวชแี้ นะคําตอบโดยใชเทคนิคการทําขอสอบ Focusing on words before and after a gap - ครใู ชคาํ ถามเพื่อตรวจสอบการคนหาตัวชแี้ นะคําตอบ หรือใหน ักเรยี นพดู บอกตัวชี้แนะคาํ ตอบพรอ มกัน - นกั เรยี นใชต วั ชแ้ี นะคาํ ตอบเพือ่ คาดเดาความหมายของ phrasal verbs เปนภาษาไทย 3. กิจกรรม C ครูใหนกั เรียน Read aloud phrasal verbs - ใหนักเรยี นอานตัวเลอื กซึ่งเปน meanings และจบั คูก ับคําศัพท - ครตู รวจสอบความถูกตองโดยใหนักเรียนอานคําตอบพรอมกัน และครเู ฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. i 2. d 3. f 4. j 5. a 6. g 7. e 8. h 9. c 10. b คมู อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศึกษาปท ่ี 3

76 76 4. กจิ กรรม D ครูใหน กั เรียน Read aloud คาํ ส่ังและพดู บอกส่งิ ที่นกั เรยี นตองปฏิบัตใิ นกิจกรรมน้ี - ใหนกั เรียน Read silently ยอ หนาเพ่ือคน หา Places และขีดเสนใตขอมูลเก่ียวกับ places - ครตู รวจสอบความถูกตอ งโดยใหน ักเรียนพูดบอกคําตอบเก่ียวกับ Ben and Daniel และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ Ben lives in the city. Daniel lives in the countryside. Neither of them like where they live. 5. กิจกรรม E ครูใหน กั เรียน Read aloud คําศพั ททเ่ี ปนตัวเลือก - ใหน ักเรียน Read aloud definitions และเลอื ก adjectives ท่ีมีความหมายตรงกัน - ครูตรวจสอบความถูกตองโดยใหน ักเรียนอานคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคาํ ตอบ 1. relaxing 2. boring 3. noisy 4. peaceful 5. crowded 6. polluted  Production 1. ครูใหนกั เรียนทาํ กิจกรรม Expand your Ideas ซ่ึงครู applied จากกจิ กรรม D ใหนกั เรยี นประยุกตใชความรูที่เรียน มาในชั่วโมงนท้ี าํ กจิ กรรม ครูอธิบายคาํ สั่ง ชแ้ี นะวิธคี ิด และการตอบคําถาม โดยใหนักเรยี น Discuss and share 2. ครูใหน กั เรียน Read aloud คําสง่ั และพดู บอกสิง่ ท่ีนักเรียนตองปฏิบตั ิในกจิ กรรมนี้ 3. นกั เรยี นตอบคําถามโดยใชค ําศพั ทและโครงสรางประโยค Explaining Why or Why not/because 4. ครูทบทวนการใชกรยิ าเปน Present ไดแ ก Present Simple 5. ครูใหเ วลานักเรยี นทํากจิ กรรม ครูสังเกต แนะนาํ ชวยเหลือ และแกป ญหา ถาเวลาไมพอใหนักเรียนทําตอเปนการบาน และนํามาสงในวันตอ ไป 6. ครูยอมรับทุกคําตอบที่มเี หตุผล 7. ครตู อบขอ ซักถามของนกั เรียน สรุปสง่ิ ที่เรียนในชั่วโมงน้ี เฉลยคาํ ตอบ Students’ own answers 6. การวัดและประเมนิ ผล เครื่องมอื คะแนน เกณฑ แบบประเมนิ การสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน 18-20 วธิ ีการ 15-17 ผลการประเมิน 1. สังเกต 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผาน คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชั้นมธั ยมศึกษาปที่ 3

77 77 วธิ กี าร เคร่ืองมอื คะแนน เกณฑ 18-20 2. ประเมนิ ทักษะ แบบประเมนิ ทักษะการฟง-การพูด 15-17 ผลการประเมนิ การใชภ าษา แบบประเมนิ ทักษะการอาน-การเขียน 12-14 ดีมาก 10-11 ดี พอใช ผาน 7. สือ่ /แหลง การเรียนรู หนังสือเรียน Close-up 3 Unit 2 The Place to Be เร่ือง Vocabulary กิจกรรม A-E หนา 20 8. บนั ทึกหลังการจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที่ 3

78 78 หนว ยการเรยี นรทู ่ี 2 เรอ่ื ง The Place to Be แผนการจดั การเรยี นรูที่ 4 เรอ่ื ง Vocabulary 2: Places and Facilities รหัสวชิ า................. รายวชิ าพื้นฐานภาษาอังกฤษ ช้ันมธั ยมศึกษาปท ี่ 3 กลุมสาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปการศึกษา 25……….. ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ช้ีวัด ต 1.1 ม.3/4 เลอื ก/ระบหุ ัวขอเรือ่ ง ใจความสาํ คญั รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกับเรอ่ื งท่ีฟง และ อา นจากสื่อประเภทตา งๆ พรอ มทั้งใหเ หตุผลและยกตวั อยา งประกอบ ต 1.3 ม.3/2 พดู และเขยี นสรปุ ใจความสําคัญ/แกนสาระ หัวขอ เรือ่ งท่ีไดจ ากการวิเคราะหเร่อื ง/ขา ว/เหตุการณ/สถาน- การณท ่ีอยูใ นความสนใจของสงั คม ต 2.1 ม.3/2 อธิบายเก่ยี วกบั ชีวิตความเปน อยู ขนบธรรมเนียม และประเพณขี องเจาของภาษา 2. จุดประสงคการเรียนรู อานบทบรรยายเกีย่ วกับ Places and Facilities แลวสรุปใจความสําคัญ อธบิ ายและแสดงความคดิ เหน็ โดยใชคาํ ศัพทและ โครงสรางภาษาท่กี าํ หนดใหไ ดถกู ตองและเหมาะสม 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) ความรูและกิจกรรมฝก ทกั ษะการคดิ ที่มีคําศัพทเก่ียวกับ Places and Facilities โครงสรางภาษาเก่ียวกับ Explaining why โดยผา นการฝก ทักษะการเรียนภาษาทั้ง 4 ดาน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร ทําใหผูเรียนสามารถสื่อความได อยางมปี ระสิทธภิ าพ มีเหตผุ ล มวี ิจารณญาณ 4. สาระการเรยี นรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) - Vocabulary: Places and Facilities - Grammar: phrasal verbs - Speaking: Explaining why, Describing Places and Facilities 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทักษะเรียนภาษาท้งั 4 ทกั ษะ การฟง การพูด การอา น และการเขยี น - ทักษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มีเหตผุ ล มีวิจารณญาณ 5. กิจกรรมการเรยี นรู  Lead-in 1. ครูนําความสนใจของนักเรียนเขาสูบทเรียนในชั่วโมงเรียนน้ีโดยใชภาพ The Tower of London ในหนังสือเรียน Close-up 3 หนา 21 และคาํ ถามดงั นี้ Q: Do you think what The Tower of London is like? 2. นกั เรียนใหค าํ ตอบอยางหลากหลาย ครยู อมรบั ทุกคําตอบ 3. ครเู ช่อื มโยงเขา สูกจิ กรรม Vocabulary คูม อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้ันมธั ยมศึกษาปท ี่ 3

79 79  Presentation 1. ครใู หน กั เรียนเปด หนังสอื เรียน Close-up 3 หนา 21 ครูสอนคําศพั ทใ นบทอานกจิ กรรม F-I โดยใหน กั เรยี นมีสว นรว ม ดังนี้ - ใหนักเรียนทั้งชั้นชวยกันคนคําศัพทท่ีไมรูความหมาย ขีดเสนใตกํากับไว และใหนักเรียนระบุ Parts of speech ของคาํ ศพั ท จากตําแหนง ภายในประโยค (ครสู อน Parts of speech และฝกใหระบุ Parts of speech ทุกคร้ังท่ีสอนความหมายของ คาํ ศพั ท) - นกั เรยี นบอกหมวดหมูของคําศพั ทเ หลาน้ี โดยครเู ขยี นลงใน Word Box บนกระดาน - ใหน กั เรยี น Read aloud คําศพั ทบนกระดาน - ใหนักเรยี นแบงกนั /ชวยกันคน หาความหมายของคําศัพทเ หลาน้ี แลวพูดบอกความหมาย 2. ครทู บทวนเทคนคิ การทาํ ขอสอบ Focusing on words before and after a gap Exam strategies: Focusing on words before and after a gap - Some tasks include a gapped text. Only one word goes in each gap. - This task tests what you know about grammartical structures and vocabulary. - First, look at the gap. What words come before and after? What kind of words are they (e.g. verbs, nouns, prepositions, pronouns)? - Look again at the words around the gaps. Can you think of words that often go together with them? Write your answer in the gap and then read the whole sentence to see if it fits.  Practice 1. กิจกรรม F ครูใหนกั เรียน Read aloud คําศพั ทท ่ีเปน ตวั เลือกและบอกความหมาย - ใหน ักเรยี น Read aloud ประโยคขอ 1-4 และขดี เสนใตคาํ วลี ประโยคยอยทีเ่ ปนตัวชแี้ นะคําตอบ - นักเรยี นตัดสินใจเลอื กคําตอบโดยใชต วั ชีแ้ นะคาํ ตอบ - ครูใหเ วลานักเรียนทํากจิ กรรม ครู สังเกต แนะนํา ชวยเหลือและแกปญ หา - ครตู รวจสอบคําตอบโดยใหนักเรียนอา นคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคาํ ตอบ 1. police station 2. library เฉลยคําตอบ 5. bank 6. museum 3. fire station 4. university 7. post office 8. hospital 2. กิจกรรม G ใหนกั เรียนยอนกลบั ไปทีข่ อ F และทบทวนคาํ วลี ประโยคยอ ยท่ีนักเรียนใชเปนตัวชี้แนะในการตดั สินใจ เลอื กคาํ ตอบในแตละประโยค - ครตู รวจสอบโดยใหนกั เรยี น Read aloudคํา วลี ประโยคยอยทนี่ ักเรยี นใชเปนตัวชแ้ี นะในการตดั สินใจเลือกคําตอบ ในแตละประโยค และครเู ฉลยคําตอบ คูม อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ช้นั มธั ยมศึกษาปท่ี 3

80 80 เฉลยคาํ ตอบ 1. need help, do something bad or wrong 2. information, different subjects 3. dangerous job, save lives, save homes 4. Monday to Friday, 18-22, gain knowledge 5. machine outside, wall, go shopping 6. beautiful and interesting items, art, history 7. send and receive letters, buy stamps, pay bills 8. problem, health, staying there, not well 3. กิจกรรม H ครูใหน ักเรียน Read aloud คาํ สงั่ และพูดบอกส่งิ ท่ีนักเรยี นตอ งปฏบิ ัติในกิจกรรมน้ี - ใหน กั เรียนอา นคาํ ศพั ททีเ่ ปนตัวเลอื กและบอกความหมาย - ครูชแ้ี นะวิธีคดิ คาํ ตอบโดยใหน กั เรียนคนหาตวั ชแ้ี นะคาํ ตอบท่ีอยหู นา และหลังตัวเลือก - ใหน ักเรียนใชต ัวชแ้ี นะคําตอบดงั กลา วน้ไี ปใชในการตัดสนิ ใจเลือกคําตอบที่ถูกตองครูตรวจสอบความถูกตองโดยให นักเรียนอานคําตอบพรอ มกนั และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ 1. into 2. through 3. along 4. past 5. under 6. over 7. across 4. กจิ กรรม I ครใู หนกั เรียนปฏิบตั ิตามข้ันตอนตอไปน้ี - Read aloud คําศพั ททีเ่ ปน ตัวเลือกและบอกความหมายและหนาทขี่ องคาํ (parts of speech) - ทบทวนเทคนิคการทําขอ สอบ Focusing on words before and after a gap - ขดี เสนใตคํา วลี ประโยคยอยท่ีอยูหนา และหลังชองวางและเปนตัวชแ้ี นะคําตอบ - ใชตวั ช้แี นะคําตอบอยูห นาและหลังชองวา งในการตัดสนิ ใจเลอื กคาํ มาเติมในชอ งวาง และเลือกคาํ ตอบ - ครตู รวจสอบความถูกตองโดยใหน ักเรยี นอา นคําตอบพรอมกัน และครูเฉลยคําตอบ เฉลยคําตอบ (1) take (2) get on (3) cross (4) get off (5) follow (6) turn (7) go (8) get to  Production 1. ครูใหนักเรยี นทํากิจกรรม Ideas Focus ใหนกั เรยี นจับคปู ระยุกตใชความรูท่ีเรียนมาในชว่ั โมงนที้ ํากิจกรรม ครูอธิบาย คําสงั่ ช้ีแนะวิธคี ดิ และการตอบคําถาม โดยใหน กั เรยี น Discuss and share 2. ครใู หนักเรียน Read aloud คาํ สง่ั และพูดบอกส่ิงทน่ี ักเรยี นตอ งปฏิบตั ิในกิจกรรมน้ี 3. นกั เรยี นตอบคาํ ถามโดยใชคําศัพทแ ละโครงสรา งประโยค Explaining Why or Why not/because 4. ครูทบทวนการใชกรยิ าเปน Present simple และ Future simple ครูใหเวลานักเรียนทาํ กจิ กรรม ครู สังเกต แนะนาํ ชว ยเหลือและแกปญหา ถาเวลาไมพ อใหนักเรยี นทําตอ เปนการบานและนํามาสงในวันตอไป 5. ครยู อมรบั ทุกคาํ ตอบทม่ี เี หตผุ ล 6. ครูตอบขอซักถามของนักเรยี น สรปุ ส่งิ ที่เรียนในชั่วโมงน้ี เฉลยคําตอบ Students’ own answers คูมือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท่ี 3

81 81 6. การวัดและประเมนิ ผล เครอ่ื งมือ คะแนน เกณฑ แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมนักเรยี น 18-20 วิธีการ 15-17 ผลการประเมนิ 1. สังเกต 12-14 ดมี าก 10-11 ดี พอใช ผา น 2. ประเมนิ ทักษะ แบบประเมนิ ทักษะการฟง - การพูด คะแนน ผลการประเมนิ 18-20 ดีมาก การใชภาษา แบบประเมินทกั ษะการอาน-การเขียน 15-17 ดี 12-14 พอใช 10-11 ผา น 7. สอ่ื /แหลง การเรยี นรู หนังสอื เรียน Close-up 3 Unit 2 The Place to Be เร่ือง Vocabulary กจิ กรรม F-I และ Ideas Focus หนา 21 8. บนั ทึกหลงั การจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มัธยมศึกษาปท่ี 3

82 82 หนวยการเรียนรูท่ี 2 เร่อื ง The Place to Be แผนการจดั การเรยี นรูที่ 5 เรื่อง Vocabulary 3: Places and Directions รหสั วิชา................. รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาอังกฤษ ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปก ารศึกษา 25……….. ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชัว่ โมง ผูส อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชว้ี ัด ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบหุ วั ขอ เร่อื ง ใจความสาํ คัญ รายละเอยี ดสนับสนุน และแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกับเร่อื งที่ฟงและ อานจากส่อื ประเภทตางๆ พรอ มทง้ั ใหเหตผุ ลและยกตวั อยา งประกอบ ต 1.3 ม.3/2 พดู และเขยี นสรปุ ใจความสําคญั /แกนสาระ หวั ขอ เรอ่ื งทไ่ี ดจ ากการวเิ คราะหเรื่อง/ขาว/เหตกุ ารณ/สถาน- การณท อี่ ยใู นความสนใจของสังคม ต 2.1 ม.3/2 อธบิ ายเกีย่ วกบั ชีวิตความเปนอยู ขนบธรรมเนยี ม และประเพณีของเจาของภาษา 2. จดุ ประสงคการเรยี นรู อา นบทความเกยี่ วกับ Places and Directions แลว พดู และเขยี นสรุปใจความสําคัญ วเิ คราะหเปรยี บเทยี บ อธิบาย และ แสดงความคิดเหน็ โดยใชคําศัพทแ ละโครงสรางภาษาทีก่ ําหนดใหไ ดถกู ตอ งเหมาะสม 3. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) ความรูและกิจกรรมฝกทักษะการคิด บทความ (articles) ท่ีมคี าํ ศพั ทเก่ยี วกับ Places and Directions สาํ นวนภาษาและ โครงสรา งภาษา Explaining why/because และ Reading skills : Scanning reading and Skimming reading โดยผา นการฝก ทกั ษะการอาน การเขยี น และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพอ่ื การสอ่ื สารทําใหผ เู รียนสามารถสื่อความไดอยางมปี ระสทิ ธภิ าพมีนสิ ัย รักการอานมสี ุนทรยี ภาพในการอาน 4. สาระการเรยี นรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) - Vocabulary: Places and Directions - Grammar: Simple Present using for describing places and others, adjective - Speaking: Explaining why/because - Writing strategy: Describing directions - Reading strategy: Scanning reading and Skimming reading 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) - ทกั ษะเรียนภาษาทัง้ 4 ทักษะ การฟง การพูด การอาน และการเขียน - ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) - มีเหตผุ ล มวี จิ ารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรยี นรู  Lead-in 1. ครูใหนักเรียนเปดหนังสือ Workbook Close-up 3 หนา 11 ครูนําความสนใจของนักเรียนเขาสูบทเรียนในชั่วโมง เรยี นนโ้ี ดยใช กิจกรรม A และคําถามดังน้ี คมู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 3 ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ่ี 3


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook