64-08-08-คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5-2

358 คมู่ อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 10. บนั ทกึ ผลหลงั สอน ผลการจดั การเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากัดการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วันท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผทู้ ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ...................................................... ผูต้ รวจ (.......................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ เรือ่ ง กระเชา้ สีดา 359 ใบความรู้ที่ 3 เรอ่ื ง การสรปุ ความรู้ ข้อคดิ และคณุ คา่ จากเรอ่ื งทอ่ี ่าน หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เร่ือง กระเชา้ สดี า แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 3 เรอื่ ง การสรุปความรู้ ข้อคิด และคุณค่าจากเรอ่ื งท่อี า่ น รายวิชา ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ การสรปุ ความรู้ การสรุปความรู้ เป็นการสรุปความร้หู รือทฤษฎีที่ปรากฏอยู่ในเรือ่ งท่ีอา่ น โดยเขียนสรุปเปน็ ประโยค สัน้ ๆ หรอื ข้อความส้นั ๆ เพอ่ื ขยายความเขา้ ใจให้ชัดเจนมากขน้ึ การสรปุ ข้อคดิ การสรปุ ขอ้ คิด เปน็ การคน้ หาข้อคิดจากเรอื่ งที่อา่ น ซง่ึ ข้อคดิ อาจแฝงอย่ใู นเน้ือเรื่อง หรอื อยู่สว่ นทา้ ย ของเร่อื งทอี่ ่าน โดยผ้อู า่ นอาจเขยี นสรุปข้อคดิ เป็นประโยคหรือขอ้ ความสัน้ ๆ ได้ หรอื เปน็ คาคมก็ได้ ดงั นั้น การสรุปความรูแ้ ละขอ้ คดิ จากเร่ืองทอี่ ่าน คือ การคน้ หาขอ้ คดิ หรอื คติสอนใจจากเร่อื งที่อา่ น ว่า เร่ืองนั้น ๆ ให้ข้อคิดที่เป็นประโยชน์อะไรบ้างแก่ผู้อ่าน แล้วจึงนาข้อคิดน้ันมาประยุกต์ใช้ใน ชวี ติ ประจาวันได้ การหาขอ้ คิดจากการอา่ นหนังสอื ตา่ ง ๆ เชน่ นิทาน โดยอ่านจนจบเรื่องแลว้ จับใจความ สาคญั หรอื ประเด็นสาคญั ท่ีผเู้ ขียนตอ้ งการให้ข้อคดิ กับผูอ้ า่ น การสรปุ ความร้แู ละขอ้ คิดมีหลักพน้ื ฐานการปฏิบตั ิ ดังนี้ ๑. อ่านรอบแรกเพือ่ ดชู อื่ เร่อื งกอ่ น แลว้ อ่านโดยมีคาถามในใจว่า ใคร ทาอะไร ท่ไี หน เมื่อไร อยา่ งไร ผลเปน็ อยา่ งไร ขอ้ ความใดสาคญั ใหข้ ดี เส้นใตไ้ ว้ ๒. อ่านอกี คร้งั โดยดูรายละเอียดของเน้อื หา เพอื่ คน้ หาความรูส้ าคญั และข้อคิด ๓. สามารถอา่ นเพิ่มได้จนกวา่ จะเข้าใจเนอื้ หา ๔. ใหส้ รปุ ใจความสาคญั ของแตล่ ะย่อหนา้ ไว้ ๔. นาใจความสาคัญทร่ี วบรวมไว้มาเขียนเรยี บเรยี งใหมอ่ ยา่ งละเอยี ดและสละสลวย โดยใชส้ านวนภาษา ของตนเอง ๕. ทบทวนการสรปุ ความรอู้ กี ครงั้ เพอื่ พจิ ารณาหาสว่ นทต่ี ้องแกไ้ ขหรอื ตอ้ งการเพม่ิ เติม หลกั การสรปุ ความจากเร่อื งท่ีอ่าน การบอกคุณค่าของเร่อื งทอี่ า่ น เปน็ การอธิบายประโยชน์หรอื สงิ่ ที่เรียกวา่ “ข้อด”ี โดยเขียนสรุปเป็น ประโยคหรอื ข้อความสั้น ๆ เพ่ือบอกให้รู้ว่าเรือ่ งนั้นมีคุณค่าแก่ผู้อา่ นอย่างไร เช่น คุณค่าด้านเนื้อหา คุณค่า ด้านวรรณศิลป์ คณุ คา่ สังคมและวัฒนธรรม เปน็ ตน้

360 คมู่ อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานท่ี 3 เร่อื ง การสรปุ ความรู้ ขอ้ คดิ และคณุ คา่ ของเรอ่ื ง กระเช้าสีดา หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เรอ่ื ง กระเชา้ สีดา แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3 เรื่อง การสรุปความรู้ ขอ้ คิด และคณุ ค่าจากเรื่องท่อี า่ น รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาช้ีแจง ให้นกั เรยี นสรุปความรู้ ข้อคิด และคุณค่าจากการอา่ นเรอื่ ง กระเช้าสดี า สรุปความร้ไู ดว้ ่า สรปุ ขอ้ คดิ ได้ว่า สรปุ คณุ คา่ ได้วา่ ชอ่ื .....................................................นามสกลุ ...............................................ช้ัน.................เลขท.่ี ..............

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ เรอ่ื ง กระเช้าสีดา 361 เฉลยใบงานท่ี 3 เร่อื ง การสรุปความรู้ ข้อคดิ และคณุ ค่าของเรอ่ื ง กระเชา้ สีดา หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เรือ่ ง กระเชา้ สีดา แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 3 เรือ่ ง การสรุปความรู้ ข้อคดิ และคณุ คา่ จากเรื่องทอี่ ่าน รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๕ คาชี้แจง ให้นักเรียนสรุปความรู้ ข้อคิด และคุณค่าจากการอา่ นเรอ่ื ง กระเชา้ สดี า สรุปความรไู้ ด้วา่ 1. เรอื่ ง กระเช้าสีดา เป็นนทิ านทแ่ี ตง่ เปน็ รอ้ ยแก้ว อธิบายท่ีมาของต้นไม้ชนิดหนึ่ง คอื “กระเช้าสีดา” ตามความเชอื่ ท่ีว่า พรรณไมช้ นดิ น้ีเป็นกระเชา้ ของนางสดี าทต่ี กลงมา แล้วงอก เปน็ ต้นไม้ มีผลเลก็ ๆ คลา้ ยกระเช้า ซึ่งนางสดี าเปน็ ตัวละครเอกในวรรณคดเี รอื่ ง รามเกยี รติ์ 2. เรื่อง กระเชา้ สดี า ได้นามาจากหนงั สือเรอื่ ง รวมนิทาน ของ “นาคะประทปี ” เป็น แบบอย่างทด่ี ขี องการเขยี นร้อยแก้ว ให้ความรู้ดีเด่นในด้านการใช้ภาษา สรปุ ขอ้ คดิ ไดว้ ่า 1. การมีความโอบอ้อมอารตี อ่ ผอู้ ่ืน แม้ว่าเราจะไม่รูจ้ กั หรือไม่สนิทก็ตาม เป็นสิง่ ทีด่ ี ช่วยทาให้เราและผ้อู ่นื มคี วามสขุ ในการอยู่ร่วมกัน 2. ความเกรงใจเปน็ สมบตั ขิ องคนดี เราควรมีความเกรงใจตอ่ ผู้อ่ืน 3. ความซ่ือสัตย์ ความเสยี สละ เปน็ เครอ่ื งหมายของคนดี 4. เราควรมีนา้ ใจ และมีระเบียบวินัยในการเล่นกับผู้อนื่ สรุปคณุ ค่าไดว้ า่ 1. การมีคุณธรรมตอ่ ผอู้ ่ืน เป็นสิง่ ทท่ี ุกคนควรปฏิบตั ิต่อกนั อยา่ งตอ่ เนือ่ งและทกุ ๆ วัน 2. การใชภ้ าษาในการเลา่ เร่อื ง สามารถใชภ้ าษาไดเ้ ขา้ ใจง่าย ไม่ซับซ้อน และดาเนินเรอื่ ง ไดเ้ ป็นลาดบั มฉี ากทท่ี าให้ผู้อา่ นเขา้ ถงึ และจินตนาการไปกับเรอื่ งได้อยา่ งสนกุ สนานเพลดิ เพลิน 3. แฝงคุณธรรมและขอ้ คดิ ทาให้ผูอ้ ่านเกดิ ความซาบซ้ึงแลว้ นาไปใช้ในชีวิตจรงิ

๓๖๒ คมู่ ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 4 เร่อื ง การเขยี นแสดงความร้สู กึ และความคดิ เหน็ เวลา 1 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรือ่ ง กระเชา้ สดี า กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด สาระท่ี 2 การเขยี น มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี นเขียนส่ือสาร เขยี นเรยี งความ ยอ่ ความ และเขียนเรอื่ งราวในรูปแบบ ตา่ ง ๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ตัวชว้ี ัด ป.๕/๖ เขยี นแสดงความรสู้ กึ และความคดิ เห็นไดต้ รงตามเจตนา ป.๕/๙ มีมารยาทในการเขยี น ๒. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด การเขยี นแสดงความรสู้ ึกและความคิดเห็น เป็นการเขยี นแสดงอารมณ์ความร้สู กึ ความคดิ ตอ่ เร่ืองใด เร่ืองหน่ึง ผู้เขียนจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและเขียนแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผลและสร้างสรรค์ให้ ชดั เจน และมีมารยาทในการเขยี น ๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K) บอกหลักการเขยี นแสดงความรูส้ ึกและความคดิ เหน็ ได้ 3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) เขยี นแสดงความรสู้ กึ และความคิดเห็นได้ 3.3 ดา้ นคณุ ลักษณะ เจตคติ ค่านยิ ม (A) มีมารยาทในการเขยี น ๔. สาระการเรียนรู้ การเขยี นแสดงความรสู้ ึกและความคิดเห็น ๕. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 5.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 5.2 ความสามารถในการคดิ ๖. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 6.1 มีวนิ ัย 6.2 ใฝเ่ รยี นรู้ 7. กิจกรรมการเรยี นรู้

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๓ เรือ่ ง กระเชา้ สีดา การจดั กจิ กรรมการเรยี นร รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 4 เรอ่ื ง การเขียนแสดง ลําดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทีใ่ ช้ กจิ กรรมคร 1. ขั้นนาํ ขอบเขตเนอ้ื หา 5 1. ครเู รมิ่ ต้นสนทนาเ 1. การเขียนแสดง นาที เรือ่ งทวั่ ไป เช่น เม่อื น ความร้สู ึกและ อ่าน ฟงั หรอื ดสู ิ่งตา่ ง ความคดิ เหน็   นักเรยี นรสู้ ึกอย่างไร โ 2. หลักการเขยี น เหตุการณ์ในปจั จุบันม แสดงความรสู้ กึ และ   แล้วถามนักเรียนว่า ร้สู ความคดิ เหน็   2. ครูเปดิ คลิปวิดีโอโฆ ประกันชีวติ แลว้ ตั้งคาํ เพอ่ื ให้นักเรยี นพดู แสด ความรู้สกึ และคิดเหน็ คลปิ วีดโิ อทีด่ ู - นักเรียนเคยดคู ลปิ ว หรอื ไม่ - คลปิ วิดโี อน้ีมใี ครบ้า - นกั เรยี นคิดวา่ นําเสน เก่ียวกับเรอ่ื งอะไร

๓๖๓ รู้ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 เร่อื ง กระเช้าสดี า จาํ นวน 12 ชัว่ โมง งความรสู้ กึ และความคดิ เหน็ จาํ นวน 1 ชั่วโมง แนวการจดั การเรยี นรู้ ส่อื การเรยี นรู้ การประเมิน รู กจิ กรรมนกั เรยี น การเรยี นรู้ เกย่ี วกบั 1. นกั เรียนสนทนาเกี่ยวกับ - คาํ ถามอย่ใู นส่อื - สังเกตการตอบ นกั เรียน เหตุการณ์ในปัจจบุ นั ณ PPT คาํ ถามของ ง ๆ แลว้ ขณะน้นั รว่ มกนั จากน้นั แสดง นักเรียน ความรสู้ ึก โดยครนู ํา มาใหอ้ ่าน สกึ อย่างไร ฆษณา 2. นักเรียนดูคลิปวิดีโอ - คลิปวดิ ีโอ าถาม โฆษณาประกันชวี ติ แลว้ พูด โฆษณาประกนั ดง แสดงความร้สู กึ และคิดเห็น ชวี ติ นเก่ยี วกับ เก่ียวกับคลปิ วดี ิโอทีด่ ู วิดีนี้ นกั เรียน : อาจตอบได้ - คาํ ถามอยใู่ นส่ือ - สังเกตการตอบ หลากหลายความรู้สกึ PPT คําถามของ าง นักเรียน นอ

๓๖๔ ค่มู ือ ลาดับ ขอบเขตเนื้อหา/ ขน้ั ตอนการจัด เวลา แ ท่ี จุดประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ีใช้ กิจกรรมคร - นกั เรยี นมีความรสู้ กึ กบั คลปิ วิดีโอ - นกั เรยี นคิดวา่ ตวั ละ ทาถูกหรอื ไม่ และถา้ นักเรียนจะ.... ครู : นักเรยี นรู้สึกอยา่ วิดโี อท่คี ณุ ครูเปดิ ใหด้ เมือ่ สักครนู่ ี้ 3. ครูพูดแสดงความค สรปุ ท้ายและเช่อื มโยง เนอื้ หาในบทเรียน 2. ข้ันสอน 20 1. ครเู ช่ือมโยงเน้ือหา นาที คลปิ วดิ ีโอ โดยถามคว ของนักเรยี นวา่ ครู : ความรสู้ กึ คืออะไ คนต่างกนั อย่างไร ครูถามต่อวา่ : ความรสู้ - ความคดิ เห็นคอื อะไ

อครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สอ่ื การเรียนรู้ การประเมิน รู กิจกรรมนกั เรียน การเรยี นรู้ กอยา่ งไร ะครคนนนั้ าเปน็ างไรกับ ดแู ละฟงั คดิ เหน็ 3. นกั เรยี นเขา้ สบู่ ทเรียน - คาถามอยใู่ นสื่อ - สงั เกตการตอบ งเขา้ สู่ PPT คาถามของ ามาจาก 1. นักเรยี นรว่ มกนั ตอบ วามเข้าใจ คาถาม นักเรยี น ไร แตล่ ะ สกึ คอื อะไร นกั เรยี น : อาจตอบไดห้ ลาย ไร ประเด็นตามความเขา้ ใจของ

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๓ เรื่อง กระเช้าสีดา ลําดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ขั้นตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ทใี่ ช้ กิจกรรมคร จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ - ความรู้สกึ ต่างจากคว 1. บอกหลกั การเขยี น 10 คิดเหน็ อยา่ งไร แสดงความรูส้ กึ นาที และความคดิ เหน็ ได้ 2. ครอู ธิบายความหม ความรู้สึก 3. ครอู ธบิ ายความหม ความคิดเห็น (โดยยก ขอ้ ความสถานการณ์เ และรว่ มกันแสดงควา 4. ครแู บง่ กลมุ่ และให วิเคราะหห์ ลักการเขีย ความรู้สึกและความค โดยศึกษาจากใบความ ครู : นกั เรยี นเขา้ ใจหล เขียนแสดงความรู้สกึ แ ความคิดเห็นหรอื ไม่ โ นําเสนอทีละกล่มุ 5. จากนน้ั ครอู ธิบายสร ความเขา้ ใจใหน้ กั เรียน

แนวการจดั การเรียนรู้ สอ่ื การเรียนรู้ ๓๖๕ รู กจิ กรรมนกั เรยี น การประเมนิ การเรียนรู้ วาม นักเรียน มายของ 2. นักเรยี นชว่ ยกันสรปุ - ใบความรทู้ ี่ 4 มายของ ความหมายของความรู้สึก กตัวอยา่ ง 3. นกั เรยี นช่วยกนั สรุป เพมิ่ เติม ความหมายของความรู้คดิ เหน็ ามคดิ เห็น) หน้ กั เรยี น 4. นักเรียนร่วมกนั อภิปราย 1. ประเมิน ยนแสดง วเิ คราะห์ หลกั การเขยี นแสดง การตอบคาํ ถาม คิดเห็น ความร้สู กึ และความคิดเหน็ จาก มรทู้ ี่ 4 การศึกษาจากใบความรู้ท่ี 4 ลกั การ นกั เรียน : พดู นําเสนอ และ หลักการเขียนแสดงความรู้สกึ โดยให้พดู และความคดิ เห็นโดยอาจสรปุ เปน็ ข้อหรอื ข้อความสั้น ๆ รปุ เพิม่ เติม 5. นกั เรียนร่วมสรปุ พรอ้ มกนั น กบั ครู

๓๖๖ คมู่ ลําดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ข้ันตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กิจกรรมคร 3. 2. เขียนแสดง ขั้นปฏบิ ตั ิ 20 6. ครูให้นกั เรยี นดรู ปู ความร้สู กึ และ นาที หลวงรชั กาลที่ 9 ที่กํา ความคิดเหน็ ได้ งานตามถ่นิ ทุรกันดาร 3. มีมารยาทใน การเขยี น จากนนั้ ครใู หน้ ักเรยี น ท่ี 4 (ครูข้นึ กจิ กรรม : นกั เ ใบงานที่ 4 การเขยี นแ ความรูส้ กึ และความค ในสไลด์ 7. ครถู ามคาํ ถามเนน้ ความรู้และความคดิ เห นักเรียน ครู : จากภาพการทรง ในหลวงรชั กาลที่ 9 ร อยา่ งไรบา้ ง

อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมิน - ใบงานท่ี 4 การเรียนรู้ รู กจิ กรรมนกั เรยี น 2. ประเมิน การเขยี นแสดง ปภาพใน 6. นกั เรยี นดูภาพในหลวงทีค่ รู ความรู้สกึ และ าลังทรง นํามาให้ จากนนั้ เขยี นแสดง ความคิดเห็น ร ความรสู้ ึกและความคดิ เห็น ใน 3. สังเกต ใบงานที่ 4 พฤตกิ รรม และดูใบงาน นทําใบงาน เรียนทํา (นกั เรยี นต้นทาง/ปลายทาง แสดง ทาํ ใบงานท่ี 4 พร้อมกนั ) คดิ เหน็ ) นยาํ้ 7. นักเรียนตอบคําถาม โดย หน็ ของ อาจตอบคําถามไดห้ ลากหลาย งงานของ รสู้ ึก

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๓ เรอื่ ง กระเชา้ สีดา ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ขนั้ ตอนการจัด เวลา แ ท่ี จุดประสงค์การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ กจิ กรรมคร 8. ครูนาผลงานของน ของกลมุ่ ที่เสรจ็ เรยี บร ให้นกั เรียน ต้นทาง/ป ดู ตรวจสอบร่วมกัน จ สรปุ กจิ กรรม 4. ขัน้ สรปุ 5 1. ครถู ามคาถามเพอื่ นาที ครู : การเขยี นแสดงค และความคดิ เห็น นักเ ปฏิบัตอิ ยา่ งไร เพ่อื ให เขยี นมปี ระสทิ ธิภาพ 2. ครสู รปุ ความรจู้ าก เป็นแผนผงั ความคิดใน

๓๖๗ แนวการจดั การเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ การประเมิน รู กจิ กรรมนกั เรยี น การเรยี นรู้ นกั เรยี น 8. นักเรยี นตน้ ทาง/ปลายทาง ร้อย มา ดผู ลงานของนกั เรยี นทท่ี าเสรจ็ ปลายทาง เรียบร้อย ตรวจสอบรว่ มกนั จากนน้ั และสรปุ การทากิจกรรม อสรปุ 1. นักเรยี น : ควรพิจารณา - คาถามอยใู่ นสื่อ - สงั เกตการตอบ ความรสู้ กึ อย่างรอบคอบ จะตอ้ ง PPT คาถามของ กเรยี นควร ตรวจสอบข้อเท็จจรงิ ว่าถูกต้อง นกั เรยี น หง้ าน หรือไม่ แล้วเขียนใหก้ ระจา่ ง ชัด โดยใช้เหตุผลประกอบ หรอื มหี ลกั ฐานอา้ งองิ และมี มารยาทในการเขียน กบทเรียน 2. นกั เรยี นสรปุ ความรู้ใน นสอ่ื PPT บทเรียนร่วมกับครอู ีกครงั้ ใน สือ่ PPT

368 คู่มือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 8. สอื่ การเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ 1. คลิปวิดโี อโฆษณาประกันชวี ิต 2. ใบความร้ทู ี่ 4 เร่ือง การเขียนแสดงความรสู้ กึ และความคดิ เหน็ 3. ใบงานท่ี 4 เรื่อง การเขียนแสดงความร้สู กึ และความคิดเหน็ 4. สื่อ PPT เรอื่ ง การเขยี นแสดงความรสู้ ึกและความคิดเห็น 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ชิน้ งานหรือภาระงาน - ใบงานที่ 4 เร่อื ง การเขียนแสดงความรู้สกึ และความคิดเหน็ สง่ิ ทตี่ อ้ งการวดั / ประเมนิ วิธกี าร เครือ่ งมอื ทใ่ี ช้ เกณฑ์ - คําถาม ร้อยละ ๖๐ ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K) - สงั เกตการตอบคําถาม ขน้ึ ไป บอกหลักการเขยี นแสดง - แบบประเมินการเขยี น ร้อยละ ๖๐ ความร้สู กึ และความคดิ เหน็ แสดงความรู้สกึ และ ข้นึ ไป ความคดิ เห็น ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) - ประเมินการเขียน รอ้ ยละ ๖๐ เขียนแสดงความรสู้ ึกและ - แบบสงั เกตพฤติกรรม ขึน้ ไป ความคิดเหน็ แสดงความรู้สกึ ระดบั คณุ ภาพ และความคดิ เหน็ - แบบประเมิน ผา่ น คณุ ลกั ษณะอนั พึง ด้านคณุ ลกั ษณะ เจตคติ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ คา่ นยิ ม (A) - แบบประเมินสมรรถนะ ผ่าน มีมารยาทในการเขยี น - สังเกตพฤติกรรมและดู สาํ คญั ของผูเ้ รยี น จากใบงาน คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั - สงั เกตพฤตกิ รรม 2. ใฝเ่ รยี นรู้ นกั เรียน สมรรถนะสาํ คญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร - สังเกตพฤตกิ รรม 2. ความสามารถในการคิด นักเรียน

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๓ เร่ือง กระเช้าสีดา 369 เกณฑป์ ระเมนิ : การเขียนแสดงความรู้สกึ และความคดิ เหน็ ประเดน็ ระดับคุณภาพ การประเมนิ ๑. การเขียน ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) แสดงความรสู้ ึก เขยี นได้สมั พันธ์ เขยี นไดส้ ัมพนั ธ์ เขียนได้สัมพนั ธ์ เขียนไม่สมั พันธ์ ๒. การเขยี น กับภาพหรือหวั ข้อ กับภาพหรอื หัวข้อ กบั ภาพหรอื หัวข้อ กบั ภาพหรอื แสดงความ เนื้อหาละเอยี ด เน้อื หาชดั เจน แต่ เน้อื หาไม่คอ่ ยชดั เจน หวั ขอ้ แตเ่ ขียน คิดเหน็ ชัดเจน ใช้ภาษาได้ ไม่ละเอียดมากนัก ใชภ้ าษาได้เขา้ ใจ ได้สัน้ ๆ และตอ้ ง ดี เรียบเรยี งได้ ใช้ภาษาได้เขา้ ใจ เรยี บเรียงประโยคได้ มผี ูแ้ นะนา ใช้ 3. เขียนถกู ต้อง ต่อเน่ือง เรยี บเรียงประโยค แตม่ ปี รบั ปรุงเล็กนอ้ ย ภาษาผิดพลาด ตามหลกั การ ได้ หลายตาแหนง่ เขียน 4. ความ เขียนเนือ้ หาได้ เขียนเน้ือหาได้ เขียนเนือ้ หาได้ เขียนเนอื้ หาไม่ เรยี บร้อย สัมพันธ์กบั ภาพ สัมพนั ธ์กบั ภาพ สัมพันธ์กบั ภาพหรอื คอ่ ยสัมพนั ธ์กบั 5. มารยาท หรือหัวขอ้ แสดง หรือหวั ข้อ แสดง หัวข้อ ภาพหรอื หัวข้อ ในการเขียน ความคดิ สอดคล้อง ความคิดสอดคล้อง กับเรอื่ ง และ กบั เรอ่ื ง สร้างสรรค์ เขยี นถกู ต้องตาม เขยี นถูกตอ้ งตาม เขียนถกู ต้องตาม เขียนไม่ถูกต้อง หลักการเขียนแสดง หลักการเป็นส่วน หลกั การเพียงเล็กนอ้ ย ตามหลกั การ ความรสู้ ึกและความ ใหญ่ คิดเหน็ ท้งั หมด งานเสร็จเรียบรอ้ ย งานเสร็จเรียบรอ้ ย งานเสร็จเรยี บร้อย งานเสรจ็ มรี อย สะอาด เขียนเปน็ มรี อยลบไมเ่ กนิ 3 มรี อยลบ 4-6 จุด ลบตั้งแต่ 7 จุด ระเบียบ จดุ เขียนเป็น เขยี นยังไม่เป็น ข้นึ ไป เขยี นไม่ ระเบยี บ ระเบียบเท่าที่ควร เรียบรอ้ ย เขยี นดว้ ยลายมอื เขียนด้วยลายมือ เขยี นด้วยลายมอื ลายมอื ไมส่ วย ที่อ่านเขา้ ใจงา่ ย ท่ีอ่านเขา้ ใจง่าย ทอี่ า่ นเขา้ ใจงา่ ย และขาดความ สวยงามเป็นระเบยี บ สวยงามเป็นระเบยี บ สวยงามเปน็ ระเบยี บ เป็นระเบยี บใน ทกุ บรรทดั เปน็ ส่วนใหญ่ เปน็ บางบรรทัด การเขียน เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 18-20 ดีมาก 15-17 ดี 12-14 พอใช้ ต่ากวา่ ๑2 ปรับปรงุ เกณฑ์การตดั สิน : ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ ๖๐ ขน้ึ ไป (ต้องไดร้ ะดบั พอใช้ข้ึนไป)

370 คมู่ ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แบบประเมินหลักการเขยี นแสดงความรู้สกึ และความคดิ เห็น คาชแ้ี จง ให้ครูประเมนิ การวิเคราะห์คณุ ค่าและสรปุ ข้อคิดจากเรอ่ื งที่อ่าน โดยเขยี นคะแนนลงในชอ่ งที่กาหนด ลาดับ ชือ่ - สกุล คะแนน คดิ เปน็ สรปุ ผล ที่ ทีไ่ ด้ ร้อยละ การประเมิน ๒0 คะแนน ๑๐๐ ผา่ น ไม่ผ่าน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรงุ รวม (คน) คดิ เป็นรอ้ ยละ ผลการประเมิน  ดีมาก ..........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ...............  ดี ..........คน คิดเป็นร้อยละ................  พอใช้ ..........คน คิดเปน็ ร้อยละ...............  ปรับปรงุ .........คน คดิ เป็นรอ้ ยละ............... สรปุ ผลการประเมนิ รายชน้ั เรียน  นกั เรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ จานวน......................... คน คดิ เป็นร้อยละ.........................  นักเรยี นไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน จานวน......................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ......................... ลงชอ่ื .................................................ผปู้ ระเมิน (..............................................) ........../..................../........

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๓ เร่ือง กระเชา้ สีดา 371 10. บันทึกผลหลังสอน ผลการจดั การเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อจากดั การใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วนั ที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผทู้ ี่ไดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................ ...................................................................... ลงชอื่ ...................................................... ผ้ตู รวจ (.......................................................) วนั ท่ี .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............

372 คมู่ อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบความรู้ท่ี 4 เรอ่ื ง การเขยี นแสดงความรู้สึกและความคิดเหน็ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เร่อื ง กระเช้าสดี า แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 4 เรือ่ ง การเขยี นแสดงความรสู้ ึกและความคิดเห็น รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๕ การเขยี นแสดงความร้สู ึก เปน็ การถา่ ยทอดความรู้สกึ นกึ คิดที่มอี ย่ใู หผ้ อู้ ื่นไดร้ ับรโู้ ดย การเขียน ซ่ึงสะท้อนจากความรู้สึกที่ได้พบเห็นภาพ เหตุการณ์ สถานที่ หรือส่ิงของต่าง ๆ แทนการพูดให้ผอู้ ่นื ฟัง การเขียนแสดงความคิดเห็น เป็นการเขียนขยายความจากเรื่องใดเร่ืองหน่ึง โดย อธบิ ายหรอื แสดงความคดิ เหน็ ประกอบเรอ่ื งนนั้ อย่างมเี หตผุ ล ดังน้ัน การเขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็น เป็นการเขียนแสดงความร้สู ึก และความคดิ เห็น ต่อเร่ืองใดเรือ่ งหน่ึง ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ ผู้เขียนจะต้องตรวจสอบ ข้อเท็จจริงว่าถูกต้องหรือไม่ แล้วเขียนให้กระจ่างชดั โดยใชเ้ หตุผลประกอบหรือมีหลักฐาน อ้างอิง หลกั การเขยี นแสดงความรสู้ กึ และความคดิ เห็น 1. ศกึ ษาเร่อื งทส่ี นใจจะเขียนใหเ้ ขา้ ใจ ชัดเจน แจ่มแจ้ง 2. กลา่ วถึงข้อมลู หรอื ข้อเทจ็ จรงิ กอ่ น แล้วจงึ กล่าวความร้สู ึกหรือความคดิ เหน็ โดย ใช้เหตุผลหรอื หลักฐานประกอบ 3. ควรเขียนในเชงิ สร้างสรรค์ และมีขอ้ เสนอแนะ 4. มมี ารยาทในการเขยี น เขียนด้วยภาษาทสี่ ภุ าพ ไมใ่ ชถ้ อ้ ยคารุนแรง 5. ควรเขยี นแบบร่างก่อน ตรวจสอบปรับปรงุ สานวนภาษา รวมท้ังเขียนสะกดคาให้ ถกู ตอ้ ง ตัวอยา่ งการเขียนแสดงความคิดเห็น ความแห้งแล้งเกิดข้ึนจากการที่มนุษย์ตัดต้นไม้ ทาลายป่า จึงเป็นสาเหตุทาให้เกิด ภาวะโลกร้อน ทรัพยากรธรรมชาติก็สูญหายไป แต่เดิมโลกของเรามีทรัพยากรธรรมชาติที่ สมบูรณ์ แต่ตอนนโ้ี ลกเราเปล่ียนไปมาก ทรัพยากรท่ีเราเห็นกันอยู่นั้นค่อย ๆ ลดน้อยลงไป เรื่อย ๆ ถ้ามนุษย์ทุกคนหม่ันอนุรกั ษ์น้า อนุรักษ์ป่าไม้ และอนุรักษ์ทรัพยากร ภัยแล้งก็ยาก จะมาเยือน มนุษย์ทุกคนสามารถเปล่ียนแปลงโลก โดยแยกขยะรีไซเคิล ปลูกต้นไม้ ไม่ท้ิง ขยะลงในลาธาร ไมฆ่ ่าสตั ว์ ส่ิงเหลา่ น้ีก็พอจะช่วยโลกของเราได้

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง กระเช้าสดี า 373 ใบงานที่ 4 เร่ือง การเขียนแสดงความรสู้ กึ และความคดิ เห็น หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 เรือ่ ง กระเชา้ สดี า แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 4 เรอื่ ง การเขียนแสดงความรสู้ กึ และความคดิ เหน็ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ คาชี้แจง ให้เขยี นแสดงความรสู้ กึ และความคิดเหน็ เก่ียวกบั ภาพ อย่างน้อย 4 บรรทัด (ภาพ : ส่ือ 60 พรรษาเฉลิมพระเกียรต)ิ .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ชื่อ.....................................................นามสกลุ ...............................................ช้นั .................เลขท.่ี ..............

374 คูม่ อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวคาตอบใบงานที่ 4 เร่อื ง การเขียนแสดงความรสู้ ึกและความคิดเห็น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 เร่ือง กระเช้าสีดา แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 4 เรอ่ื ง การเขียนแสดงความรสู้ ึกและความคิดเหน็ รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาช้ีแจง ใหเ้ ขยี นแสดงความรสู้ กึ และความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ภาพ อย่างนอ้ ย 4 บรรทัด (ภาพ : สือ่ 60 พรรษาเฉลิมพระเกียรต)ิ แนวทางการเขยี นแสดงความรสู้ ึกและความคดิ เหน็ ฉันภมู ิใจท่ีไดเ้ กิดมาบนผืนแผ่นดินไทย ภายใตร้ ่มพระบารมีของในหลวง พระองค์ทรงรกั และหว่ งใย ประชาราษฎร์เสมอ ทรงตรากตราพระวรกายและทรงงานหนักเพื่อให้ พสกนกิ รของพระองคไ์ ดอ้ ยู่ดีกินดี มีสุข ชาวไทยล้วนเคารพบูชาพระองค์ เทดิ ทูนไวเ้ หนือเกลา้ พระองค์ทรงเป็น พ่อหลวงในดวงใจของคน ไทยทุกคน ทกุ ครั้งที่ฉันเห็นภาพของพระองค์ ฉนั รสู้ ึกตื้นตันใจและระลึกอยเู่ สมอว่าพระองค์ทรงใกล้ชิด กบั คนไทย ทุกงานที่ทรงทาลว้ นทาเพอ่ื แก้ปัญหาความยากจน และปากทอ้ งของชาวไร่ชาวนา แต่สาหรับ ฉนั แล้วพระองคเ์ ปรียบประดุจ “เทวดา” องคห์ นงึ่ ซ่ึงสามารถมองเหน็ ไดใ้ นโลกนี้ หมายเหตุ การตรวจอย่ใู นดลุ พินิจของครู

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๓ เรอื่ ง กระเชา้ สีดา ๓๗๕ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 5 เร่ือง การตัง้ คาถามและตอบคาถามเชงิ เหตุผล หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เร่ือง กระเช้าสีดา เวลา 1 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชว้ี ัด สาระท่ี 3 การฟัง การดู และการพูด มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดูอยา่ งมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึก ในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมวี ิจารณญาณและสร้างสรรค์ ตัวชว้ี ดั ป.๕/๒ ตงั้ คาถามและตอบคาถามเชิงเหตผุ ลจากเรอ่ื งที่ฟงั และดู ป.๕/๕ มมี ารยาทในการฟงั การดู และการพดู ๒. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การต้งั คาถามและตอบคาถามเชงิ เหตุผล เป็นวธิ กี ารตง้ั ประเดน็ เพ่อื ทราบรายละเอียดของเรือ่ งตา่ ง ๆ การพูดหรือเขียนสิ่งที่ต้องการรู้จากการอ่าน การฟัง การดู ควรตั้งคาถามที่ชัดเจน ตรงประเด็น เหมาะสม มีเหตมุ ีผล ทาให้เกดิ เจตคตทิ ดี่ ี สามารถวิเคราะหค์ วามนา่ เช่ือถือจากขอ้ เท็จจริงและข้อคดิ เห็น ทาให้ได้ความรู้ หรอื ขอ้ คดิ ท่ีนาไปเป็นประโยชน์ได้ ๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K) บอกหลักการตัง้ คาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผลได้ 3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) ตงั้ คาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผลจากเรอ่ื งทีฟ่ ังและดูได้ 3.3 ด้านคณุ ลักษณะ เจตคติ ค่านยิ ม (A) มมี ารยาทในการฟังและการดู ๔. สาระการเรียนรู้ การเขยี นแสดงความรู้สึกและความคิดเห็น ๕. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 5.1 ความสามารถในการส่ือสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ ๖. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ - มีวินยั 7. กิจกรรมการเรยี นรู้

๓๗๖ คมู่ อื การจดั กิจกรรมการเรียนร รายวิชา ภาษาไทย หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 5 เรื่อง การตงั้ คาถามแ ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กิจกรรมคร 1. ขอบเขตเนอื้ หา ข้ันนา 5 1. ครูเปิดคลปิ วดิ โี อล 1. การตั้งคาถามและ นาที ส้ัน ๆ ใหน้ กั เรยี นดู แล ตงั้ คาถามจดุ ประเด็น ตอบคาถามเชิงเหตผุ ล 2. หลักการต้ังคาถาม และตอบคาถามเชงิ 2. ครูถามคาถาม ดังน เหตผุ ล ครู : ในคลิปมีตวั ละค ใครบ้าง ครู : นักเรียนเห็นตัวล เรื่องกาลงั ทาอะไร ครู : ทาไมจึงเปน็ เช่น ครู : ถา้ คาตอบคือ..... นกั เรยี นคิดว่าควรจะต วา่ อยา่ งไร 3. ครูพดู สรุปทา้ ยและ เชื่อมโยงเขา้ สเู่ น้ือหาใ บทเรยี น

อครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) รู้ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5 3 เรอื่ ง กระเชา้ สีดา จานวน 12 ช่วั โมง และตอบคาถามเชิงเหตุผล จานวน 1 ช่ัวโมง แนวการจัดการเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมนิ รู กิจกรรมนกั เรียน - คลิปวิดีโอ การเรยี นรู้ ละคร 1. นกั เรยี นดูคลปิ วดิ ีโอและ ละ สนทนาแสดงความคิดเห็น ดังน้ี ตอบคาถามรว่ มกนั น้ี 2. นักเรียนร่วมกันตอบคาถาม - คาถามอย่ใู นสอ่ื - สังเกตการตอบ ครก่คี น ตามประเดน็ ที่ครถู าม PPT คาถามของ นักเรยี น ละครใน นนนั้ .............. ตง้ั คาถาม ะ 3. นกั เรียนเข้าสูบ่ ทเรียน ใน

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๓ เรอื่ ง กระเชา้ สดี า ลําดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ข้ันตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมคร 2. ขน้ั สอน 10 1. ครตู ้ังคําถามเขา้ สู่ นาที สาระสาํ คัญของเนื้อห ครู : นกั เรยี นคิดวา่ คํา คาํ ตอบทด่ี ี ควรมีลกั ษ อย่างไร 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ขน้ั ปฏบิ ตั ิ 10 2. จากนน้ั ครอู ธบิ าย 1. บอกหลักการตง้ั นาที ตัง้ คาํ ถามและการตอบ คําถามและตอบ พรอ้ มยกตวั อย่างคําถา คําถามเชงิ เหตุผลได้ คาํ ตอบให้นกั เรียนสงั เ 3. ครู : เมอื่ นักเรียนเ หลกั การตั้งคาํ ถามแล คําถามเชงิ เหตุผล แล นักเรยี นพูดนาํ เสนอท 3. มีมารยาทในการฟงั 4. ครพู ูดสรุปเพมิ่ เติม และการดู ขยายความเขา้ ใจให้น 5. ครชู ีแ้ จงการทํากจิ ให้นกั เรยี นดวู ดิ ีโอนทิ า แล้วฝึกตงั้ คาํ ถามและ

๓๗๗ แนวการจดั การเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมิน การเรียนรู้ รู กิจกรรมนกั เรยี น หา ดังนี้ 1. นักเรียนตอบคาํ ถาม าถามและ นักเรียน : อาจตอบได้ - คาํ ถามอยู่ในสอ่ื - สงั เกต ษณะ หลากหลาย ตามความเข้าใจ PPT ของนกั เรยี น การตอบคําถาม ยหลักการ 2. นักเรยี นสนทนาและ - ใบความรทู้ ่ี 5 บคาํ ถาม อภปิ รายร่วมกันกบั ครู และสื่อ PPT าม- 3. นกั เรยี น : พูดนาํ เสนอ เกต หลกั การตง้ั คําถามและตอบ 1. ประเมิน คาํ ถามเชิงเหตุ การตอบคาํ ถาม เข้าใจ (ประเมนิ ด้าน K) ละตอบ ลว้ ให้ ทลี ะกล่มุ ม เพ่ือ 4. นักเรียนฟงั ครสู รุป - คลิปนทิ านเรื่อง 3. สงั เกต นกั เรยี น กระเชา้ นางสดี า มารยาทการฟงั จกรรมวา่ 5. นกั เรียนฟงั คาํ ช้แี จงจากครู และการดูของ และรับแนวทางการทาํ กิจกรรม านแลว้ ะตอบ

๓๗๘ คู่มอื ลาดับ ขอบเขตเน้อื หา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ กิจกรรมคร คาถาม - ครเู ปิดคลปิ วิดโี อนทิ เรือ่ ง กระเชา้ นางสดี า 2. ตงั้ คาถามและตอบ 6. ครใู ห้นักเรียนต้ังค คาถามเชิงเหตผุ ลจาก และตอบคาถามลงใน เรอ่ื งทีฟ่ งั และดูได้ 5 (ครูขน้ึ กิจกรรม : นักเ ใบงานท่ี 5 การต้ังคา ตอบคาถาม) 7. ครูนาผลงานนักเรยี กลุม่ ทเ่ี สรจ็ เรยี บร้อย นักเรียน ตน้ ทาง/ปลา ตรวจสอบรว่ มกนั จาก กจิ กรรม 4. ขั้นสรุป 5 1. ครูถามคาถามเพอ่ื นาที ครู : การต้ังคาถามแล การตอบคาถามมีประ

อครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ ส่อื การเรยี นรู้ การประเมนิ รู กจิ กรรมนักเรยี น - ใบงานท่ี 5 การเรยี นรู้ นักเรยี น ทาน - นักเรียนดูคลปิ วิดโี อ (ประเมนิ ดา้ น A) า นิทานเรื่อง กระเช้านางสดี า คาถาม 6. นกั เรยี นทาใบงานท่ี 5 2. ประเมนิ นใบงานท่ี การต้ังคาถามและตอบคาถาม ตั้งคาถามและ เรยี นทา (นกั เรียนต้นทาง/ปลายทาง ตอบคาถามเชงิ าถามและ ทาใบงานท่ี 5 พรอ้ มกัน) เหตผุ ลจากเรอื่ งที่ ฟังและด(ู ประเมิน ด้าน P) ยนของ 7. นักเรยี นตน้ ทาง/ปลายทาง มาให้ ดผู ลงานของนักเรียนทท่ี าเสรจ็ ายทางดู เรียบร้อย และตรวจสอบ กน้นั สรปุ ร่วมกนั จากนั้นชว่ ยกนั สรปุ กิจกรรม อสรปุ 1. นักเรยี น : ทาใหส้ รปุ - ส่ือ PPT ละ ใจความสาคัญได้ชดั เจน และ สรปุ ความรู้ ะโยชนต์ ่อ ทาใหไ้ ดค้ วามรู้ ข้อคิดท่ี

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ เร่ือง กระเช้าสดี า ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ กิจกรรมคร นักเรยี นอย่างไรบ้าง 2. จากน้นั ครูสรปุ คว แผนผังความคดิ ในสอื่ นักเรยี นดอู กี ครั้ง แล หมายให้ไปทาการบา้ น 2 ในใบงานที่ 5

๓๗๙ แนวการจดั การเรยี นรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมนิ รู กจิ กรรมนกั เรียน การเรียนรู้ สามารถนาไปใช้ในชีวิต ประจาวนั ได้ วามรเู้ ปน็ 2. นักเรียนร่วมกันสรปุ ความรู้ อ PPT ให้ กบั ครู และรบั ใบงานท่ี 5 ตอน ละมอบ ที่ 2 ไปทาการบ้าน น ตอนท่ี

380 คมู่ อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 8. สอ่ื การเรยี นรู/้ แหล่งเรียนรู้ 1. คลปิ วิดีโอนทิ านเร่อื ง กระเชา้ นางสดี า 2. ใบความรู้ที่ 5 เร่อื ง การต้งั คาถามและตอบคาถามเชงิ เหตุผล 3. ใบงานท่ี 5 เรอื่ ง การตั้งคาถามและตอบคาถามเชงิ เหตผุ ล 4. ส่ือ PPT เรอื่ ง การตงั้ คาถามและตอบคาถามเชงิ เหตผุ ล 5. คาถาม 6. ตวั อยา่ งคาถามและตอบคาถามเชงิ เหตุผล 9. การประเมินผลรวบยอด ช้ินงานหรอื ภาระงาน - ใบงานท่ี 5 เร่ือง การตงั้ คาถามและตอบคาถามเชิงเหตผุ ล ส่งิ ทต่ี ้องการวดั / ประเมิน วธิ ีการ เคร่อื งมือที่ใช้ เกณฑ์ - แบบคาถาม ร้อยละ ๖๐ ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K) ข้ึนไป บอกหลักการตงั้ คาถามและ - สังเกตการตอบคาถาม - แบบประเมนิ รอ้ ยละ ๖๐ ตอบคาถามเชงิ เหตผุ ล ขึ้นไป ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (P) ตัง้ คาถามและตอบคาถามเชิง - ตรวจใบงาน เหตผุ ลจากเรอื่ งท่ีฟงั และดู ดา้ นคุณลกั ษณะ เจตคติ - สงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี น - แบบประเมินพฤตกิ รรม ร้อยละ ๖๐ คา่ นิยม (A) ของนักเรยี น ขึ้นไป มมี ารยาทในการฟงั และการดู คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ - สังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน - แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดับคุณภาพ - มีวินยั อันพงึ ประสงค์ ผ่าน สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการส่ือสาร - สังเกตพฤติกรรมนักเรียน - แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คุณภาพ ๒. ความสามารถในการคดิ สาคัญของผเู้ รียน ผา่ น ๓. ความสามารถในการใช้ ทกั ษะชีวิต

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ เรอื่ ง กระเชา้ สดี า 381 เกณฑ์ประเมิน : การตงั้ คาถามและตอบคาถามเชงิ เหตุผล ประเด็น (4) ดีมาก เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน การประเมนิ (3) ดี (2) พอใช้ (1) ควรปรบั ปรงุ 1. การตั้งคาถาม ต้งั คาถามและตอบ ต้ังคาถามและตอบ ตัง้ คาถามและตอบ ตัง้ คาถามและตอบ คาถามตรงประเดน็ คาถามตรงประเดน็ คาถาม ไม่ค่อยตรง คาถามไม่คอ่ ย นา่ สนใจ มีเหตุผล มเี หตผุ ล เชื่อมโยง ประเด็นเทา่ ที่ควร ตรงประเดน็ สรา้ งสรรค์ และเชอ่ื มโยงกับ เชือ่ มโยงกบั ชีวติ จรงิ กับชวี ติ จรงิ ชวี ิตจรงิ ไมไ่ ด้ และสรา้ งสรรคท์ กุ ขอ้ สร้างสรรค์ 3-4 ขอ้ ประมาณ 1-2 ขอ้ 2. การตอบคาถาม ตอบคาถามไดถ้ กู ตอ้ ง ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้ ครบถ้วน โดยตอบถูก ถูกต้องครบถ้วน ถกู ต้องครบถ้วน ถูกต้องครบถ้วน ครบ 5 ข้อ โดยตอบถกู ตอ้ ง โดยตอบถกู ต้อง โดยตอบถูกตอ้ ง ได้ 4 ข้อ ได้เพยี ง 3 ขอ้ เพียง 2 ข้อ 3. การอธบิ าย มกี ารอธิบายเหตผุ ล มกี ารอธบิ ายเหตผุ ล มกี ารอธิบายเหตผุ ล มีการอธบิ ายเหตผุ ล เหตผุ ล ครบ 5 ข้อ เพยี ง 4 ข้อ เพียง 3 ขอ้ เพียง 2 ขอ้ 4. มารยาทใน ฟงั และดอู ย่างตั้งใจ ฟงั และดอู ยา่ งตัง้ ใจ ฟงั และดูอย่างตั้งใจ ไมต่ ง้ั ใจฟังและดู การฟงั และดู ไมค่ ุยแทรกตั้งแตต่ ้น แต่มีคยุ แทรกบา้ ง แตม่ ีคยุ แทรก และมคี ุยแทรก 5. การตอบ จนจบเร่อื ง ในบางครั้ง ประมาณ 1-2 คร้งั มากกว่า 5 ครั้ง คาถาม ตอบคาถามตรง ตอบคาถามตรง ตอบคาถามตรง ตอบคาถามตรง ประเดน็ กบั เน้อื เร่ือง ประเดน็ กับเน้อื ประเดน็ กบั เน้อื ประเดน็ กบั เน้ือ ครบทง้ั 5 ขอ้ เร่อื ง 4 ขอ้ เร่อื ง 3 ข้อ เร่ือง 2 ข้อ เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 18-20 ดีมาก 15-17 ดี 12-14 พอใช้ ต่ากวา่ ๑2 ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตดั สนิ : ผา่ นเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ ๖๐ ขน้ึ ไป (ตอ้ งไดร้ ะดบั พอใชข้ นึ้ ไป)

382 คมู่ อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แบบประเมนิ การตง้ั คาถามและตอบคาถามเชงิ เหตุผลจากเรอื่ งที่ฟังและดู คาช้ีแจง ให้ครผู ูส้ อนวดั และประเมนิ นกั เรยี น โดยการใส่ตวั เลขตามเกณฑ์ประเมนิ ทนี่ ักเรยี นปฏิบัติได้ เกณฑ์การใหค้ ะแนน เลขที่ รายชือ่ การ ้ตังคาถาม (4) รวม คิดเปน็ การตอบคาถาม (4) คะแนน ร้อยละ การอ ิธบายเหตุผล (4) (20) (100) มารยาทในการฟัง และการ ูด (4) ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ รวม (คน) คิดเป็นรอ้ ยละ ผลการประเมนิ  ดมี าก ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ...............  ดี ..........คน คิดเปน็ ร้อยละ................  พอใช้ ..........คน คิดเป็นร้อยละ...............  ปรับปรงุ .........คน คดิ เปน็ ร้อยละ............... สรปุ ผลการประเมินรายชั้นเรียน  นกั เรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ จานวน......................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.........................  นกั เรยี นไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมนิ จานวน......................... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ......................... ลงชือ่ .................................................ผปู้ ระเมนิ (..............................................) ........../..................../..........

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๓ เรือ่ ง กระเช้าสดี า 383 10. บนั ทึกผลหลังสอน ผลการจดั การเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อจากดั การใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วนั ท่ี .......... เดอื น ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรอื ผ้ทู ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ ...................................................... ผูต้ รวจ (.......................................................) วันที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............

384 คมู่ ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบความรู้ท่ี 5 เรอ่ื ง การตัง้ คาถามและตอบคาถามเชงิ เหตผุ ล หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรื่อง กระเช้าสีดา แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 5 เรอื่ ง การตงั้ คาถามและตอบคาถามเชงิ เหตุผล รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๕ การต้งั คาถามคืออะไร การตั้งคาถาม เป็นการต้ังประเด็นหรือข้อสงสัยเก่ียวกับเรื่องราวต่าง ๆ ท่ีเกิดจากการอ่าน การดู การสังเกต การฟงั และการดู หรือการรับรู้ แล้วตั้งคาถามเป็นข้อหรอื อาจตั้งเป็นประโยค ซ่ึงการตั้งคาถามที่ดี ควรเป็นคาถามที่มเี หตผุ ล เพอื่ ใหผ้ ู้ฟงั เกดิ กระบวนการคิด วเิ คราะห์ และการแกป้ ญั หา ลกั ษณะของคาถามเชิงเหตผุ ล คาถามที่ดีควรเป็นคาถามเชิงเหตุผลและคิดวิเคราะห์ มักใช้คาว่า “เพราะเหตุใด เพราะอะไร ทาไม อะไร อย่างไร สาเหตุใด” เพื่อเป็นการใช้ความคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล รู้จักวิเคราะห์ข้อความ และคิดหา หลกั ฐานและเหตุผลมาเขียนประกอบ หลักท่ัวไปของการตง้ั คาถามและตอบคาถามจากการฟัง การดู และการอา่ น 1. กอ่ นตง้ั คาถาม เราควรตง้ั ใจฟัง ตง้ั ใจดู หรอื ต้ังใจอ่าน เพ่ือทาความเขา้ ใจกับเรื่องนน้ั ๆ 2. จดบนั ทึกระหวา่ งการฟงั การดู การอ่าน ในเรือ่ งทีส่ นใจหรือมีขอ้ สงสัย ไดแ้ ก่ “ใคร ทาอะไร ท่ไี หน เม่อื ไร อยา่ งไร ผลเป็นอย่างไร” 3. จบั ใจความหรือประเดน็ สาคญั ของเรอื่ งที่ฟัง ดู หรืออา่ น ใหไ้ ด้ 4. ตัง้ คาถามที่ ชัดเจนตรงประเด็นไม่กากวม ใหเ้ หมาะสม ถกู กาลเทศะ 5. ใชภ้ าษาท่ีสุภาพ เข้าใจง่าย และใช้เหตผุ ลมากกว่าอารมณห์ รืออคติ 6. มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ รูจ้ กั คิดหลายแง่มมุ เพอื่ จะได้คาถามทีห่ ลากแนวคดิ แนวการต้งั คาถามเชงิ เหตผุ ล 1. เริ่มจากการตั้งคาถาม “ทาไม อะไร เพราะเหตุใด” ๒. ในเรอ่ื งกล่าวถงึ อะไรบา้ ง ๓. เรอ่ื งนมี้ จี ดุ ประสงค์อย่างไร ๔. ข้อเท็จจรงิ คืออะไร และข้อคิดเหน็ คอื อะไร ๕. ขอ้ ความนา่ เช่อื ถือมากนอ้ ยเพยี งใด ๖. ขอ้ คดิ หรือความรทู้ ี่จะนาไปใชป้ ระโยชน์คอื อะไร

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ เรือ่ ง กระเช้าสดี า 385 ตวั อยา่ งคาถามเชิงเหตผุ ล - ตัวละครในเรอื่ งมีนิสยั อยา่ งไร นิสยั นั้นส่งผลตอ่ ชีวิตเขาหรอื ไม่ เพราะอะไร - เพราะเหตใุ ดเราตอ้ งประหยดั น้าในหน้าแล้ง - เพราะเหตุใดฝนจงึ ตกหนกั ในชว่ งฤดูฝน - สาเหตทุ เ่ี ราต้องปฏิบตั ิตามกฎจราจรในการขับข่รี ถยนตค์ ืออะไร - ผลกระทบจากการเกิดโรคระบาดโควดิ 19 มอี ะไรบ้าง เพราะอะไรจงึ เป็นเชน่ นั้น การตอบคาถามอธบิ ายเหตผุ ล เป็นการเขียนตอบทต่ี ้องใชค้ วามคิดอย่างเปน็ เหตเุ ปน็ ผล ตอ้ งรจู้ กั วิเคราะหข์ ้อความ และคิดหาเหตผุ ล มาเขียนประกอบ

386 คูม่ ือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานที่ 5 เร่ือง การตั้งคาถามและตอบคาถามเชิงเหตผุ ล หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เรอื่ ง กระเชา้ สีดา แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 เรือ่ ง การตั้งคาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผล รายวิชา ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๕ ตอนท่ี 1 ให้นกั เรยี นตั้งคาถามและตอบคาถามจากการฟงั และดเู ร่ือง กระเช้าสีดา จานวน 5 ขอ้ 1 คาถาม : ............................................................................................................................................ คาตอบ : ........................................................................................................................................... 2 คาถาม : ............................................................................................................................................ คาตอบ : ............................................................................................................................................ 3 คาถาม : ............................................................................................................................................ คาตอบ : ............................................................................................................................................ 4 คาถาม : ............................................................................................................................................ คาตอบ : ............................................................................................................................................ 5 คาถาม : ............................................................................................................................................ คาตอบ : ............................................................................................................................................ ชื่อ....................................................นามสกลุ ................................................ช้ัน.................เลขท.่ี ..............

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๓ เรอ่ื ง กระเชา้ สีดา 387 ตอนท่ี 2 ใหน้ กั เรียนอา่ นเรอื่ ง แลว้ เขียนตอบสน้ั ๆ อธิบายเหตุผลจากเรื่อง ๑. ฉนั มีสี่ขา เทย่ี วหาจบั หนู ชอบกินปลาทู แสนรปู้ ราดเปรยี ว คาถาม : เรอ่ื งนี้กล่าวถึงอะไร คาตอบ : …………………………………………………………………………………………………………………....................... คาถาม : ถา้ นักเรยี นเล้ียงสตั วช์ นดิ น้ี จะสง่ ผลอยา่ งไรตอ่ นกั เรยี น คาตอบ : …………………………………………………………………………………………………………................................ ๒. มีสลงึ พงึ ประจบใหค้ รบบาท อยา่ ใหข้ าดสงิ่ ของต้องประสงค์ จงมกั น้อยกินน้อยคอ่ ยบรรจง อยา่ จา่ ยลงใหม้ ากจะยากนาน คาถาม : บทรอ้ ยกรองน้ใี หข้ อ้ คิดอะไร คาตอบ : …………………………………………………………………………………………………………................................ คาถาม : เพราะเหตใุ ดเราจงึ ต้องปฏบิ ัตติ ามขอ้ คิดน้ี คาตอบ : …………………………………………………………………………………………………………................................ ....................................................................................................................................................................... ๓. กล้าอยู่กบั แมเ่ พยี งลาพงั แมท่ านาเพื่อส่งกลา้ เรยี นหนังสือ วนั หน่ึงแม่ลม้ ป่วยไม่มเี งินสง่ เสียกล้า เรียนต่อได้ กล้าจึงขาดเรียนบ่อยเพราะต้องทางานพเิ ศษและดูแลแม่ เม่ือครูทราบเรื่องก็เห็นใจจึง เสนอเร่ืองให้โรงเรียนมอบทุนการศึกษาให้กล้าเรียนต่อจนจบ กล้าตั้งใจเรยี นและสอบได้คะแนน สูงสดุ กระทรวงศกึ ษาธิการมอบทุนเรียนดมี คี ณุ ธรรมให้กล้าไดเ้ รยี นจนจบชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย คาถาม : การทแ่ี ม่ป่วย สง่ ผลอยา่ งไรตอ่ ชีวิตกลา้ คาตอบ : …………………………………………………………………………………………………………................................... คาถาม : ใครมอบทุนการศกึ ษาให้กล้า เพราะเหตุใด คาตอบ : …………………………………………………………………………………………………………................................... ........................................................................................................................................................................ คาถาม : นสิ ยั ของกล้าเปน็ อยา่ งไร และส่งผลต่อชวี ิตในอนาคตของกล้าอย่างไร …………………………………………………………………………………………………………................................................... ......................................................................................................................................................................... ชอ่ื ....................................................นามสกลุ ................................................ช้ัน.................เลขท.่ี ..............

388 คู่มอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวคาตอบใบงานที่ 5 เรื่อง การต้งั คาถามและตอบคาถามเชงิ เหตผุ ล หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอ่ื ง กระเชา้ สีดา แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 5 เร่ือง การต้งั คาถามและตอบคาถามเชงิ เหตุผล รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ ตอนท่ี 1 ให้นักเรียนตั้งคาถามและตอบคาถามจากการฟงั และดเู ร่ือง กระเช้าสีดา จานวน 5 ข้อ ตวั อยา่ งแนวการตง้ั คาถามและตอบคาถามเชิงเหตผุ ลจากเร่อื ง กระเชา้ สีดา คาถาม : เพราะอะไรพรายน้าจงึ ชอบใจขนั ทองเป็นยงิ่ นกั คาตอบ : เพราะขันทองมใี จโอบออ้ มอารแี ละมคี วามสจุ รติ คาถาม : ทาไมพรายน้าจงึ ปรากฏตวั ให้ขันทองเห็น คาตอบ : เพราะขนั ทองเปน็ เด็กดี มวี ฒั นธรรมท่ีดี ประพฤติตนสุภาพ และมีวินัยในตนเอง คาถาม : เพราะเหตใุ ด ขนั ทองจงึ ไม่ขโมยกระเช้าของพรายน้ามาเลน่ คาตอบ : เพราะมคี วามซอื่ สัตย์ ไม่ใช่ของของตนจงึ ไม่หยบิ ฉวยมาเล่นโดยไมไ่ ด้รบั อนญุ าต คาถาม : ถา้ ไมใ่ ชข่ องของเรา เราจะหยิบมาเลน่ ได้หรอื ไม่ เพราะอะไร คาตอบ : ไมไ่ ด้ เพราะเปน็ การเสียมารยาท และยังไม่ไดร้ ับอนญุ าตจากเจา้ ของ คาถาม : นกั เรยี นคดิ วา่ เร่อื ง กระเช้าสดี า ใหข้ ้อคิดทีด่ หี รือไม่ อย่างไร คาตอบ : ใหข้ อ้ คิดทด่ี ี เพราะสามารถนาไปปรับใช้ในชีวติ จรงิ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและมคี วามสุข

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ เรอ่ื ง กระเชา้ สีดา 389 ตอนที่ 2 ใหน้ กั เรียนอา่ นเรอื่ งแล้วเขียนตอบสน้ั ๆ อธบิ ายเหตผุ ลจากเรื่อง ๑. ฉันมสี ่ขี า เท่ยี วหาจบั หนู ชอบกนิ ปลาทู แสนรปู้ ราดเปรียว คาถาม : เร่อื งนีก้ ลา่ วถงึ อะไร คาตอบ : แมว และชีวิตของแมว คาถาม : ถา้ นักเรียนเลยี้ งสตั ว์ชนดิ นี้ จะสง่ ผลอยา่ งไรต่อนักเรยี น คาตอบ : หนใู นบ้านน้อยลง ๒. มีสลงึ พงึ ประจบใหค้ รบบาท อยา่ ให้ขาดส่ิงของต้องประสงค์ จงมกั นอ้ ยกินนอ้ ยคอ่ ยบรรจง อย่าจา่ ยลงใหม้ ากจะยากนาน คาถาม : บทรอ้ ยกรองน้ีให้ขอ้ คิดอะไร คาตอบ : การประหยัดและรจู้ กั การใชเ้ งนิ คาถาม : เพราะเหตใุ ดเราจึงตอ้ งปฏิบตั ติ ามข้อคดิ นี้ คาตอบ : เพราะทาใหเ้ รารจู้ ักการเก็บออมเงนิ ใช้เงินอยา่ งพอเพยี ง ไมฟ่ มุ่ เฟือย ๓. กล้าอยกู่ ับแม่เพยี งลาพัง แม่ทานาเพื่อสง่ กล้าเรยี นหนงั สือ วันหนึ่งแมล่ ้มป่วยไม่มีเงนิ สง่ เสีย กล้าเรียนตอ่ ได้ กล้าจึงขาดเรียนบ่อยเพราะตอ้ งทางานพิเศษและดูแลแม่ เม่ือครูทราบเรอ่ื งกเ็ ห็น ใจ จึงเสนอเร่ืองให้โรงเรียนมอบทุนการศึกษาให้กล้าเรียนต่อจนจบ กล้าตั้งใจเรียนและสอบได้ คะแนนสูงสดุ กระทรวงศกึ ษาธิการมอบทุนเรยี นดมี คี ุณธรรมใหก้ ล้าได้เรยี นจนจบชั้นมัธยมศึกษา ตอนปลาย คาถาม : การท่แี มป่ ว่ ย ส่งผลอย่างไรต่อชวี ติ กลา้ คาตอบ : กล้าตอ้ งทางานพเิ ศษและดแู ลแม่ คาถาม : ใครมอบทุนการศกึ ษาให้กล้า เพราะเหตใุ ด คาตอบ : กระทรวงศึกษาธกิ าร เพราะกลา้ ยากจน เรยี นดแี ละมคี วามประพฤติดี คาถาม : นิสยั ของกลา้ เปน็ อย่างไร และสง่ ผลตอ่ ชวี ิตในอนาคตของกลา้ อย่างไร กล้าเปน็ คนท่มี ีความมานะอดทนและขยนั นสิ ยั น้จี ะส่งผลใหเ้ ขามีความก้าวหนา้ ใน การงานเพราะสกู้ บั ปญั หาไมท่ ้อแท้

๓๙๐ คูม่ อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง การพดู แสดงความรู้สึกและความคดิ เห็น เวลา 1 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 เร่ือง กระเช้าสีดา กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 5 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชว้ี ัด สาระที่ 3 การฟัง การดู และการพดู มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดอู ย่างมีวจิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรสู้ ึก ในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ ตวั ชว้ี ดั ป.๕/๑ พดู แสดงความร้คู วามคิดเหน็ และความรสู้ ึก จากเรอ่ื งทีฟ่ งั และดู ป.๕/๕ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู ๒. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การพูดแสดงความรสู้ ึกและความคิดเห็น เปน็ การพูดแสดงความรูส้ ึก หรอื ความคดิ เหน็ เก่ียวกบั เรื่อง ใดเร่ืองหนึ่งอย่างมเี หตผุ ล โดยผพู้ ูดต้องเรยี งลาดับเรื่องราว เหตุการณ์ ใหส้ อดคล้องกับเรอ่ื งท่พี ูด ด้วยการใช้ ภาษาท่ีเข้าใจง่าย กะทดั รดั และมีความหมายชดั เจนสรา้ งความเขา้ ใจให้กบั ผู้ฟังได้ ๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลักการพดู แสดงความร้สู ึกและความคิดเหน็ ได้ 3.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) พดู แสดงความรู้สึกและความคิดเหน็ จากเรอื่ งที่ฟงั และดูได้ 3.3 ดา้ นคณุ ลักษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพูด ๔. สาระการเรยี นรู้ การพดู แสดงความรสู้ กึ และความคดิ เหน็ จากเรอ่ื งที่ฟงั และดู ๕. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคดิ 5.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ๖. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มวี ินยั 6.2 ใฝ่เรยี นรู้ 7. กจิ กรรมการเรียนรู้

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๓ เรอื่ ง กระเชา้ สดี า การจดั กจิ กรรมการเรยี นร รายวิชา ภาษาไทย หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 เร่ือง การพดู แสดงค ลาํ ดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ กิจกรรมคร 1. ขอบเขตเนือ้ หา ขน้ั นาํ 1. ครเู ปดิ คลปิ วดิ โี อ 1. การพูดแสดง 5 ในดวงใจ ใหน้ กั เรยี น ความรสู้ กึ และ นาที ความคิดเห็น ครูต้ังคําถาม ดังนี้ 2. หลกั การพดู แสดง   - คลปิ นมี้ ีใครเป็นฮีโร ความรู้สึกและ   - ฮโี รต่ ามความคิดขอ ความคดิ เหน็   นักเรียนคืออะไร - ฮีโรท่นี กั เรียนร้จู ักม - ถ้าทุกคนในโลกน้เี ป ทัง้ หมด นกั เรยี นคดิ ว ของเราจะเปน็ อยา่ งไ 2. ครถู ามคําถามเข้าส ดังนี้ ครู : นักเรียนคดิ วา่ คว คืออะไร และความคดิ อะไร

รู้ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 ๓๙๑ 3 เรอ่ื ง กระเชา้ สดี า จาํ นวน 12 ชวั่ โมง ความรู้สกึ และความคดิ เหน็ จํานวน 1 ช่ัวโมง การประเมนิ การเรียนรู้ แนวการจดั การเรียนรู้ สือ่ การเรียนรู้ - สังเกตการตอบ รู กิจกรรมนกั เรยี น - คลิปวิดโี อเร่อื ง คําถามของ ฮีโรใ่ นดวงใจ นกั เรยี น เรือ่ ง ฮโี ร่ 1. นกั เรียนดูคลิปวดิ โี อ เร่ือง นดู ฮีโร่ในดวงใจ แลว้ แสดง - สงั เกตการตอบ คําถามของ ความคิดเห็นรว่ มกัน นักเรยี น ร่ในดวงใจ นกั เรียนร่วมกนั ตอบคําถาม - คาํ ถามอยใู่ นสอ่ื อง โดยตอบตามความรู้สกึ และ PPT ส่งิ ทเ่ี หน็ ในคลปิ วดิ โี อ มใี ครบ้าง ปน็ ฮโี ร่ ว่าโลก ไร ส่บู ทเรียน 2. นกั เรยี นร่วมกนั ตอบคําถาม - คําถามอยูใ่ นสอ่ื วามรสู้ ึก นักเรียน : อาจตอบได้ PPT ดเหน็ คือ หลากหลายคําตอบ

๓๙๒ คมู่ ลําดบั ขอบเขตเนือ้ หา/ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทีใ่ ช้ กิจกรรมคร ขนั้ สอน 3. ครพู ูดสรปุ ทา้ ยและ 2. 20 เขา้ สู่เนือ้ หาในบทเรีย นาที 1. ครถู ามคาํ ถามเข้า สาระสําคญั ของเนือ้ ห ครู : ถา้ เราตอ้ งการพ ความรู้สกึ และความค เกีย่ วกับสิง่ ใดส่งิ หน่ึง หลักการอย่างไร 2. ครใู ห้นกั เรยี นศกึ ษ ใบความรทู้ ี่ 6 แล้วร อภิปรายความรู้ภายใ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 3. ครูถามคาํ ถาม อกี 1. บอกหลกั การพูด ครู : นักเรยี นเขา้ ใจห แสดงความรูส้ กึ และ พูดแสดงความรูส้ กึ แ ความคดิ เห็นได้ ความคดิ เหน็ ดีหรอื ไม 4. จากน้ันครพู ดู สรปุ เพอื่ ขยายความเขา้ ใจใ

ือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมิน รู กิจกรรมนกั เรยี น - คําถามอยู่ในสื่อ การเรียนรู้ ะเช่อื มโยง 3. นักเรยี นเขา้ สู่บทเรียน PPT ยน - สงั เกตการตอบ คาํ ถามของ าสู่ 1. นกั เรียนตอบคาํ ถาม นกั เรียน หา ดงั น้ี นกั เรียน : อาจตอบได้ พดู แสดง หลากหลาย ตามความเข้าใจ คิดเห็น ของนกั เรียน ง จะมี ษา 2. นกั เรียนร่วมกนั อภิปราย - ใบความรทู้ ี่ 6 1. ประเมิน ร่วมกนั สร้างขอ้ สรปุ เกีย่ วกับหลักการ คําถามอยูใ่ นสอื่ การตอบคาํ ถาม พดู แสดงความรู้สกึ และ PPT ในกลมุ่ ความคดิ เหน็ โดยศกึ ษาจาก 3. สังเกต ใบความรูท้ ี่ 5 มารยาทของ กครัง้ 3. นกั เรยี นตอบคาํ ถาม/พดู หลักการ นาํ เสนอ และ นกั เรียน : พดู นาํ เสนอ ม่ หลักการพดู แสดงความรสู้ กึ และความคิดเหน็ ปเพ่ิมเตมิ 4. นกั เรียนฟังครสู รุป ให้นกั เรยี น

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๓ เรื่อง กระเช้าสดี า ลาดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ขั้นตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใี่ ช้ กจิ กรรมคร 3. 3. มีมารยาทในการฟงั ข้ันปฏบิ ตั ิ 20 5. ครูชแ้ี จงการทากจิ การดู และการพูด นาที ใหน้ ักเรียนดูวิดีโอนิท ออกมาพดู แสดงควา เก่ียวกบั วดิ โี อ - ครเู ปดิ คลิปวิดีโอไ ประกันชีวติ เรอ่ื ง พ่อ 2. พูดแสดงความรสู้ กึ 6. จากนั้น ครูให้นกั และความคดิ เห็นจาก เขยี นบทรา่ งการพดู แ เรอื่ งที่ฟงั และดูได้ ความรู้สกึ และความค เป็นกระบวนการกลมุ่ (ครขู น้ึ กิจกรรม : นัก กจิ กรรมการพดู แสด ความร้สู ึกและความค 7. ครูจบั ฉลาก ประม กลมุ่ ให้ออกมาพดู แส ความรู้และความคดิ เ วิดโี อที่ดูและฟงั จาก กจิ กรรม

๓๙๓ แนวการจัดการเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมิน รู กิจกรรมนกั เรยี น - คลิปวิดโี อไทย การเรยี นรู้ จกรรมว่า 5. นกั เรยี นฟงั คาชี้แจงจาก ประกันชวี ติ เรอื่ ง นกั เรียน ทานแล้ว ครู และรบั แนวทางการทา พ่อลูกสชู้ ีวิต ามคิดเห็น กจิ กรรม ไทย - นักเรยี นดูคลิปวดิ โี อไทย อลูกสู้ชีวติ ประกันชวี ติ เรื่อง พ่อลูกสชู้ วี ิต กเรียนฝึก 6. นกั เรยี นทาใบงานท่ี 5 2. ประเมิน แสดง การพดู แสดง คิดเห็น ความรสู้ กึ และ ม ความคิดเห็น กเรยี นทา (นักเรยี นตน้ ทาง/ปลายทาง ทา ดง กิจกรรมการพดู แสดงความรู้สกึ คิดเหน็ ) และความคดิ เหน็ พร้อมกัน) มาณ 2 7. นักเรียนตน้ ทาง/ สดง ปลายทางดูตวั แทนเพอื่ นท่ี เห็นจาก ออกมาพดู แสดงความร้แู ละ กน้นั สรปุ ความคิดเห็นจากวิดโี อทีด่ ู และฟัง จากน้ันสรปุ กิจกรรม

๓๙๔ คู่มอื ลาดับ ขอบเขตเน้อื หา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ีใช้ กจิ กรรมคร 4. ขัน้ สรุป 5 1. ครูถามคาถามเพ่อื นาที ครู : การพดู แสดงคว ความคดิ เห็น นกั เรยี ทาอยา่ งไรบา้ ง เพอ่ื ใ มีประสทิ ธิภาพ

อครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ การประเมิน การเรยี นรู้ รู กิจกรรมนักเรียน อสรปุ 1. นกั เรียนตอบคาถามเพอ่ื - สื่อ PPT สรปุ วามรู้และ นักเรยี น : จะต้องพจิ ารณา สรปุ ความรู้ ยนจะต้อง ใหร้ อบคอบกอ่ นพูด เพื่อ - คาถาม ให้การพูด ไมใ่ ห้เกิดความขัดแย้งกบั ผ้อู นื่ และควรเรยี งลาดับตาม ความสาคญั สรปุ ความให้ ถกู ตอ้ ง เพ่ือให้ผฟู้ งั เกิด ความเข้าใจ และมีมารยาท ในการพูด