Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Pink book 2565

Pink book 2565

Published by strategicddc, 2021-09-29 23:34:10

Description: Pink book 2565

Keywords: Pinkbook

Search

Read the Text Version

3. เปา้ หมายและตัวชี้วดั (Goals) เป้าหมาย มาตรการ คา่ เป้าหมาย/ผลการดำเนินงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. ตัวชี้วดั เป้าหมาย Baseline 2564 2565 2566 2567 2568 เป้าหมาย ประเทศไทยผ่านการประเมนิ การดำเนินการด้านการสือ่ สารความเสี่ยงไดม้ าตรฐานตามเกณฑก์ ฎอนามยั ระหว่าง ประเทศ (JEE-IHR 2005) ระดับ 5 ภายในปี 2565 มาตรการ พัฒนาการสอ่ื สารความเส่ียงดา้ นการป้องกันควบคมุ โรคและภัยสุขภาพท่ีมปี ระสิทธภิ าพในทุกระดับ (ประเทศ ระดับเขต ระดบั จงั หวดั ระดบั ทอ้ งถ่นิ ) ตัวชี้วัด : ร้อยละของหน่วยงานที่มี ร้อยละ 95 รอ้ ยละ 100 ร้อยละ 100 ร้อยละ 100 รอ้ ยละ 100 ความสำเร็จในการดำเนินงานพัฒนา ระบบสื่อสารความเสี่ยงด้านการป้องกัน อยู่ระหว่าง ควบคุมโรคและภัยสุขภาพตามเกณฑ์ ดำเนนิ การ JEE/IHR 2005 แผนงานการ ่สือสารความเสี่ยงโรคและ ัภย ุสขภาพ (Health Risk Communication) 543

การพฒั นาและขับเคลอ่ื นงานเชงิ ระบบ (System Development) 4. มาตรการและกจิ กรรมสำคัญ (Strategy and Intervention) มาตรการและกจิ กรรมสำคัญ หน่วยงานดำเนนิ การ (Service Provider) (Strategy and Intervention) สำนกั /สถาบนั สคร. สสจ. มาตรการ : พฒั นาการสื่อสารความเส่ียง - จดั ระบบกลไกการขับเคล่อื น ดา้ นการ - ผลักดนั ใหจ้ ังหวดั กำหนด - จงั หวัดมกี ารกำหนดคณะกรรมการ/ คณะทำงาน/ ดา้ นการป้องกันควบคุมโรคและภยั สขุ ภาพ สือ่ สารความเสย่ี งเพื่อเตรียมความพร้อมรบั คณะกรรมการ/ ผ้รู บั ผิดชอบที่มบี ทบาทหนา้ ท่แี ละรับผดิ ชอบ ท่มี ีประสทิ ธภิ าพในทุกระดบั (ประเทศ ระดับ ผลกระทบและภยั สขุ ภาพรว่ มกับ สคร. ใน คณะทำงาน/ผ้รู บั ผิดชอบ ทมี่ บี ทบาท ภารกิจสื่อสารความเส่ยี งฯ เขต ระดบั จงั หวัด ระดับทอ้ งถ่ิน) ประเดน็ โรคและภัยสขุ ภาพทร่ี บั ผดิ ชอบ หน้าทแ่ี ละรบั ผิดชอบภารกิจสอื่ สาร - จังหวัดมีการประเมนิ ตนเอง (Gap) ตาม 1. พฒั นาระบบการสอื่ สารความเสีย่ ง - พัฒนารปู แบบการสือ่ สารฯ ที่รับผิดชอบ ความเสยี่ งฯ เกณฑ์ JEE/IHR 2005 ทั้ง 5 ด้าน สำหรับ ใหต้ รงตามกลมุ่ เป้าหมาย พรอ้ มทงั้ สนบั สนนุ - ผลกั ดนั และสนบั สนุนใหจ้ ังหวัด - จงั หวดั มีการจัดทำแผนและดำเนินการ เหตุการณผ์ ดิ ปกต/ิ เหตุการณไ์ ม่คาดคิด สอื่ ให้กบั หนว่ ยงานในพืน้ ท่ี ประเมินตนเอง (Gap) ตามเกณฑ์ ในการพัฒนา และภาวะฉุกเฉนิ - เฝา้ ระวังขอ้ มลู ข่าวสารในภาพรวม JEE/IHR 2005 ทงั้ 5 ดา้ น งานดา้ นการส่ือสารฯ เพ่ือปดิ Gap ตามเกณฑ์ 2. การสอื่ สารภายใน-ภายนอกองค์กร ประเทศ/ ประเด็น Hot Issue - จดั ทำแผนและดำเนินการรว่ มกับจังหวดั JEE/IHR 2005 เพ่ือการประสานงานเครือข่ายในภาวะ - พฒั นาระบบฐานขอ้ มูลด้านการสือ่ สารฯ ในการพัฒนางานด้านการสือ่ สารฯ - ติดตามประเมนิ ผลการดำเนนิ งาน ฉุกเฉิน ในประเด็นโรคและภัยสขุ ภาพที่รบั ผิดขอบ เพอ่ื ปิด Gap ตามเกณฑ์ JEE/IHR ด้านการสอ่ื สารฯ ตามเกณฑ์ JEE/IHR 2005 544 3. การสอ่ื สารสาธารณะในภาวะปกติและ - ออกแบบและตดิ ตามประเมนิ ผล 2005 ในพื้นที่ท่ีรบั ผิดชอบ ภาวะฉุกเฉิน 4. การส่อื สาร เพือ่ สรา้ งการมสี ่วนรว่ มกบั การดำเนินงาน - ติดตามประเมินผลการดำเนนิ งาน ชุมชนท่ไี ดร้ ับผลกระทบ ในประเด็นโรคและภยั สขุ ภาพ ร่วมกับ สคร. ดา้ นการส่ือสารฯ ตามเกณฑ์ JEE/IHR 5. การประเมนิ การรบั รู้ พฤตกิ รรมเสี่ยง 2005 ในพ้ืนทที่ รี่ บั ผิดชอบ และข้อเขา้ ใจผดิ

5. มาตรการ โครงการ และกจิ กรรมหลกั (Strategy/Intervention Project and Activity) มาตรการ โครงการ กรอบระยะเวลาปี พ.ศ. ผู้รับผิดชอบ วงเงนิ (ล้านบาท) แหลง่ เงิน เปา้ หมาย ตวั ชี้วดั และกจิ กรรมหลัก หลัก/ร่วม รวม 2565 2566 2567 2568 2565 2566 2567 2568 พฒั นาการสอื่ สารความเสยี่ ง ร้อยละของหนว่ ยงาน ด้านการป้องกันควบคมุ โรค ทม่ี คี วามสำเร็จ และภยั สขุ ภาพที่มี ในการดำเนินงานพฒั นา ประสทิ ธภิ าพในทกุ ระดบั ระบบสอ่ื สารความเสยี่ งดา้ น (ประเทศ ระดบั เขต ระดบั การป้องกนั ควบคมุ โรคและ จงั หวัด ระดบั ทอ้ งถ่ิน) ภยั สขุ ภาพ ตามเกณฑ์ JEE/IHR 2005 กจิ กรรมหลกั ท่ี 1 ✓ ✓ ✓ ✓ หลัก 2 1 1 15 เงนิ ร้อยละการดำเนนิ งาน ร้อยละการดำเนินงาน การพัฒนา/การขับเคลอ่ื น กรมควบคุมโรค / งบประมาณ พัฒนา/ขบั เคลอ่ื นดา้ น พฒั นา/ขบั เคล่อื น ด้านการส่อื สารความเสย่ี ง สำนักงานปลดั กระทรวง การส่ือสาร ดา้ นการส่อื สารความเสย่ี ง เพอ่ื เตรียมความพรอ้ มรับ สาธารณสุข ความเสยี่ งฯ เพ่อื เตรียมความพร้อม ผลกระทบและภยั สุขภาพ รว่ ม (ปี 2565 = ร้อยละ100 รบั ผลกระทบและภยั สขุ ภาพ 545 ร่วมกบั ภาคีเครอื ข่าย ของ สสจ./ สสอ./ รพ./ รพ. ปี 2566 = ร้อยละ 100 รว่ มกับภาคีเครือข่ายของโรค โรคและภัยสุขภาพ สต./อบจ./อปท./อบต. ท่รี บั ผิดชอบ ท่ัวประเทศ ปี 2567 = ร้อยละ 100 และ สนบั สนนุ ปี 2568=รอ้ ยละ 100) ภัยสขุ ภาพท่ีรับผดิ ชอบ สำนักนายกรฐั มนตร/ี กระทรวงศึกษาธิการ/ กระทรวงมหาดไทย/ กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์/กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดล้อม/กระทรวง การทอ่ งเทยี่ ว และกฬี า/หนว่ ยงานอืน่ ๆ ทเ่ี กีย่ วขอ้ ง แผนงานการสื่อสารความเสีย่ งโรคและภยั สุขภาพ (Health Risk Communication)

การพัฒนาและขบั เคลอื่ นงานเชงิ ระบบ (System Development) มาตรการ โครงการ กรอบระยะเวลาปี พ.ศ. ผู้รบั ผดิ ชอบ วงเงิน (ล้านบาท) เป้าหมาย ตัวชี้วัด และกจิ กรรมหลกั หลกั /ร่วม รวม แหลง่ เงนิ 2565 2566 2567 2568 2565 2566 2567 2568 กิจกรรมหลักที่ 2 ✓✓✓✓ 2 2 2 28 รปู แบบการสื่อสารความ รปู แบบการส่อื สาร 2 2 2 28 เส่ยี งโรคและภยั สุขภาพท่ี ความเส่ียงโรคและ พัฒนารปู แบบการสอื่ สาร ถกู ตอ้ ง เหมาะสมฯ ภัยสุขภาพท่ถี กู ตอ้ ง ความเสย่ี งโรคและภยั สขุ ภาพ (ปี 2565 = 12 เหมาะสมตามบริบท โดยใชเ้ ทคโนโลยี นวัตกรรม ปี 2566 = 12 ของกลุม่ เปา้ หมาย/ สร้างความรอบรู้ ปี 2567 = 12 พ้นื ท่ี ปี 2568 = 12) ร้อยละความสำเร็จ กิจกรรมหลักที่ 3 ✓✓✓✓ ระบบฐานขอ้ มลู ในการพฒั นาระบบ การสอื่ สารความเสยี่ งฯ ฐานข้อมูลการสือ่ สาร พัฒนาระบบฐานขอ้ มูลการ สามารถนำไปใชง้ านได้ ความเสย่ี งฯ สอ่ื สารความเสีย่ งโรคและภยั อยา่ งมีประสิทธภิ าพ สุขภาพ (ปี 2565= รอ้ ยละ 60 ปี 2566= ร้อยละ 70 546 ปี 2567= รอ้ ยละ 80 ปี 2568 = ร้อยละ 90) พฒั นาการสอื่ สารความเสยี่ งดา้ นการป้องกนั ควบคุมโรคและภยั สขุ ภาพทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพในทกุ ระดบั (ประเทศ ระดับเขต ระดบั จงั หวดั ระดบั ทอ้ งถ่นิ ) กิจกรรมหลกั ที่ 4 ตดิ ตาม ✓ ✓ ✓ ✓ 1 1 1 14 เงนิ การดำเนนิ การติดตาม รอ้ ยละความสำเรจ็ และประเมนิ ผลการ งบประมาณ ประเมนิ ผลการ ในการดำเนนิ การตดิ ตาม ดำเนินงานดา้ นการสือ่ สาร ดำเนินงาน และประเมินผล ความเสย่ี งโรคและภยั สขุ ภาพ ดา้ นการสื่อสาร การดำเนนิ งาน ในโรคและภัยสขุ ภาพที่ ความเสยี่ งฯ ดา้ นการส่ือสาร รับผดิ ชอบ (รอ้ ยละ 100) ความเสย่ี งฯ รวม 7 6 6 6 25

6. การตดิ ตามประเมินผลแผนงานและมาตรการ (Monitoring and Evaluation) เปา้ หมายแผนงาน ตวั ชวี้ ัดและ วธิ ีการตดิ ตาม กรอบระยะเวลาของการติดตามประเมินผล และมาตรการ คา่ เป้าหมาย ประเมนิ ผล ปี พ.ศ. รอ้ ยละของ 2565 2566 2567 2568 พฒั นาการส่ือสารความเสยี่ ง หนว่ ยงาน 1. จงั หวดั /สคร. :พื้นท่ี 4 คร้งั /ปี 4 ครั้ง/ปี 4 ครัง้ /ปี 4 ครัง้ /ปี ด้านการป้องกนั ควบคมุ โรคและ ท่มี ีความสำเรจ็ ดำเนนิ การประเมิน ภยั สุขภาพทีม่ ีประสทิ ธภิ าพ ในการดำเนินงาน ตนเองและพฒั นาการ ในทกุ ระดับ (ประเทศ ระดับเขต พัฒนาระบบ สอ่ื สารฯ โดยเกบ็ เปน็ ระดับจงั หวดั ระดับทอ้ งถ่ิน) สื่อสารความเสย่ี ง เอกสารหลกั ฐานตาม ด้านการป้องกัน เกณฑก์ ารประเมิน ควบคมุ โรคและ และรายงานผล ภัยสขุ ภาพ การดำเนนิ งาน ตามเกณฑ์ ในระบบ RCMC JEE/IHR 2005 2. สำนกั สอ่ื สาร ความเสย่ี งฯ กรมควบคมุ โรค : ติดตามการดำเนินงาน ผา่ นระบบ RCMC และดำเนินการสุม่ แผนงานการ ่สือสารความเสี่ยงโรคและ ัภย ุสขภาพ (Health Risk Communication) เยย่ี มเสรมิ พลัง ใหค้ ำแนะนำ และชว่ ยแก้ปัญหา (ตามเขตพ้ืนที่ สคร.) 7. ผรู้ บั ผิดชอบแผนงาน (Project Manager) 7.1 นางสาวสุมนี วชั รสินธุ์ ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการสำนกั สือ่ สารความเสีย่ งและพัฒนาพฤตกิ รรมสขุ ภาพ โทร. 0 2590 3856 E-mail : [email protected] 7.2 นางสาวพนดิ า โกมลนาค ตำแหนง่ นักวิชาการเผยแพร่ ผูจ้ ดั การแผนงาน (PM แผนงานโรค) โทร. 0 2590 3855 E-mail : [email protected] 547

การพัฒนาและขบั เคลอื่ นงานเชงิ ระบบ (System Development) แผนงาน พน้ื ทีแ่ ละกลุมเปาหมาย บรห� ารและพฒั นากำลังคนดาŒ นการป‡องกันควบคุมโรค เ(ปG‡าoหaมlาsย) กำลงั คนดานการปองกันควบคุมโรค ต(ัวKชPว้�I)ัด End Goal มีบคุ ลากรและผเู ชีย่ วชาญท่ีมีสมรรถนะดา นการปอ งกนั ควบคุมโรคเพยี งพอ มสี มรรถนะเพยี งพอตอ การปองกันควบคุมโรค Outcome รอ ยละ 80 ของกำลังคนดา นการปอ งกนั ควบคุมโรค มสี มรรถนะเพยี งพอตอ การปอ งกันควบคมุ โรค สถา(Gนaกpาร) ณ ผเู ช่ียวชาญดา นปองกันควบคุมโรคไมเ พยี งพอ บคุ ลากรผปู ฏบิ ตั ิงานดานปองกันควบคุมโรคขาดความตอเน่ืองในการพฒั นา บคุ ลากรในระดบั พื้นที่ยงั ขาดทกั ษะ สมรรถนะ และความเช่ียวชาญ มาตรการ เฉพาะในหลายดานในขณะที่บคุ ลากรสวนกลางและระดับเขตยังขาดทกั ษะในเร่อื งการดำเนินงานในฐานะผูอภบิ าลระบบ และผคู วบคุมกำกบั ดูแล กจิ กรรม หนวยงานระดับนโยบาย (สวนกลาง/สคร.) บริหารกำลังคนใหเ กิด หนว ยงานระดบั พืน้ ท่ี หลกั พฒั นากำลังคนดานการปองกนั ควบคุมโรค ประโยชน พัฒนาระบบและ ดานกาพรฒั ปนอางกกำนั ลคงั วคบนคมุ โรค พฒั นาระบบและ กลไกการขับเคลอ่ื น ใหเพยี งพอและมีคณุ ภาพ หนว‹ ยงาน กลไกการขบั เคลอื่ น ใหเพียงพอและมคี ณุ ภาพ ดงึ ดดู และธำรงรักษา 548 1. พัฒนาศักยภาพบคุ ลากร 1. สรรหาเชงิ รกุ สายงาน สนบั สนุนขอ มลู ผูเ ชย่ี วชาญ/ 1. สงบุคลากรเขารว มพัฒนา รว‹ มดำเนนิ การ ตามกลไก การขบั เคล่ือน 1. พฒั นาสมรรถนะดานระบาดวทิ ยา และ กำลงั คนทปี่ ฏบิ ตั ิงานดาน สมรรถนะดานปองกัน สมรรถนะตามกฎอนามยั Strategic Information ขาดแคลน ปองกันควบคุมโรคในพืน้ ท่ี ควบคุมโรคกับหนว ยงาน Quick ระหวางประเทศ 2. พฒั นาระบบการบริหาร หลกั ทีร่ บั ผดิ ชอบ Win พ.ศ. 2548 (IHR 2005) 2. P & P Program / Program manager 2. ประเมินสมรรถนะหลัก 3. พฒั นาสมรรถนะเพ่อื สนบั สนนุ ระบบเฝาระวงั ผลการปฏิบัติงาน (PMS) 2. จดั อบรมบุคลากร ในการปฏิบตั ติ ามกฎ 3. เสริมสรา งความสุขและ เพ่ือเตรียมความพรอ ม อนามัยระหวางประเทศ ปองกันควบคุมโรค สนบั สนนุ การดำเนนิ งาน (IHR-JEE) 4. พัฒนาสมรรถนะทางการบริหารงานปอ งกนั ความผูกพันของบคุ ลากร ดานปอ งกนั ควบคมุ โรค กรมควบคุมโรค ควบคมุ โรค 5. พัฒนาสมรรถนะที่จำเปน ตามภารกิจการปอ งกนั ควบคุมโรค 6. พฒั นาทักษะและสมรรถนะทางการบรหิ ารจดั การ กอง สถาบัน สำนักวชิ าการ ทเี่ ก่ียวขอ ง สคร. 1-12 สถาบนั การศึกษา สสจ. รพ. หนวยงานที่เกี่ยวขอ ง 3 เดอื น 6 เดอื น 9 เดอื น 12 เดอื น 1. สอ่ื สารกรอบการพฒั นาบคุ ลากรกรมควบคมุ โรค 1. ดำเนนิ การอบรม/พัฒนาสมรรถนะบุคลากร 1. ดำเนินการอบรม/พฒั นาสมรรถนะบุคลากร 1. มหี ลักสตู ร online ดานระบาดวิทยา, 2. จัดหาหลกั สตู ร/ออกแบบหลกั สูตร และเครอื ขา ยฯ ตามหลกั สตู รที่กำหนด และเครอื ขา ยฯ ตามหลักสูตรท่กี ำหนด การวจิ ัยและพัฒนานวัตกรรม, M&E, พิธีการทูต ฯลฯ การพฒั นาสมรรถนะกำลังคนฯ 2. จัดทำและพัฒนาส่ือรูปแบบออนไลนเ 2. มีขอมูลความเชยี่ วชาญของบคุ ลากรกรม 3. สอื่ สารประชาสัมพันธหลักสูตรการอบรม/ พอื่ การพัฒนาบุคลากร รอยละ 80 2. บุคลากรดานการปอ งกันควบคมุ โรคไดรบั การพัฒนาใหม ีสมรรถนะดานเฝาระวงั ปองกนั หลักสตู รการพัฒนากำลังคนดานปอ งกัน 3. มรี ายการสมรรถนะของทกุ สายงาน ควบคุมโรคและภยั สขุ ภาพไดตามเปา หมาย ควบคุมโรค ทก่ี ำหนด

แผนงานบริหารและพฒั นากำลงั คนด้านการป้องกนั ควบคมุ โรค แผนงานบ ิรหารและ ัพฒนา �กำ ัลงคน ้ดานการ ้ปอง ักนควบ ุคมโรค 1. สถานการณ์ (Situation) จากกระแสโลกาภิวัตน์ส่งผลกระทบทง้ั เชงิ บวกและเชิงลบในด้านต่างๆ อาทเิ ชน่ การคมนาคมและ การค้าระหว่างประเทศที่มีความสะดวกและรวดเร็ว ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มี การเดินทางเคลื่อนย้ายประชากรเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้นในหลากหลายรูปแบบ เช่น การเข้ามาทำงาน การ เดนิ ทางมาท่องเทย่ี ว ขณะเดียวกนั การพัฒนาด้านเทคโนโลยี ตลอดจนการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู ิอากาศและระบบ นิเวศ ทำให้เรามิอาจหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านลบต่อสุขภาพทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกได้เช่นกัน ระบบ สาธารณสุขจึงมีบทบาทสำคัญทั้งในเรื่องของการป้องกันควบคุมโรค การรักษาพยาบาลในแต่ละระดับ การสุขาภิบาลและอนามัยส่ิงแวดล้อม และจากยุทธศาสตร์ชาติระยะยาว 20 ปี ที่มุ่งขับเคลือ่ นประเทศไทยให้เป็น ประเทศที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน พัฒนาแล้วตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประกอบกับประเทศไทยเข้าสู่ ประชาคมอาเซียน อย่างสมบูรณ์ ทำให้เกิดการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน และกลุ่มประเทศภายใต้กรอบ ความร่วมมือต่าง ๆ ในภูมิภาค จึงส่งผลให้เกิดปัญหาโรคและสุขภาพตามมาทั้งโรคติดต่ออุบัติใหม่ อุบัติซ้ำ และ อุบัติเหตุ เป็นต้น และ จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่เกิดขึ้นและ แพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ในช่วงปี 2563 -2564 ถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงทางสุขภาพของนานา ประเทศ ส่งผลกระทบรุนแรงต่อมนุษย์และเศรษฐกิจทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาค และระดับโลก ทำให้ทั่วโลก ต่างตระหนักถึงความสำคัญและความพยายามในการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 เพื่อลดผลกระทบและป้องกันปัญหา สุขภาพท่เี กิดขึ้นและมุ่งมั่นให้ประชาชนทุกคนได้รบั การดูแลสขุ ภาพอยา่ งทว่ั ถงึ กรมควบคุมโรคในฐานะที่เป็นองค์กรที่มีภารกิจหลักในการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคและ ภัยสุขภาพของประเทศ จำเป็นต้องมีบุคลากรที่มีสมรรถนะที่เพียงพอพร้อมรับมือกับโรคและภัยคุกคามที่อาจ เกิดขึ้นได้ทันท่วงที รวมถึงมีเครือข่ายด้านป้องกันควบคุมโรคที่สามารถร่วมปฏิบัติงานได้แบบไร้รอยต่อและเข้าใจ ปัญหาของพื้นท่ีเมื่อเกิดเหตุการณ์ และสามารถเป็นพี่เลี้ยงในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคและภัยสุขภาพให้กับจังหวัดและพื้นท่ีได้ กรมควบคุมโรคจึงให้ความสำคัญกับการบริหารและพัฒนา กำลังคนด้านป้องกันควบคุมโรคมาอย่างต่อเนื่อง มีนโยบายเพื่อการพัฒนาบุคลากรด้านการควบคุมโรค โดยมองภาพ องค์รวมของระบบการป้องกันควบคุมโรคทั้งประเทศไม่จำกัดเฉพาะภายในหน่วยงาน และส่งเสริมการพัฒนา บุคลากรในทุกภาคส่วนรวมทั้งภาคประชาสังคม และจากสถานการณ์แนวโน้มกำลังคนด้านป้องกันควบคุมโรคที่ผ่านมา ยังคงพบปัญหา เช่น ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยายังไม่เพียงพอ ซึ่งอาจเกิดจากความต้องการทักษะ การทำงานใหม่ที่เพิ่มขึ้น การโยกย้ายหรือลาออกของบุคลากร บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในการขับเคลื่อนงาน ด้านการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ ยังไม่เพียงพอเหมาะสมกับการดำเนินงานในปัจจุบัน ทำให้การพัฒนา ความเชี่ยวชาญของบุคลากรเพื่อให้มีความพร้อมทั้งสมรรถนะและมีจำนวนที่เพียงพอกับการปฏิบัติงานถือเป็น ประเด็นที่ท้าทายเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น กรมควบคุมโรคจึงได้จัดทำแผนพัฒนาด้านการป้องกันควบคุมโรคและ ภยั สุขภาพของประเทศ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) โดยในยุทธศาสตร์ท่ี 5 การพัฒนากำลังคนดา้ นการป้องกัน ควบคุมโรคและภัยสุขภาพ มีการกำหนดเป้าหมาย มาตรการสำคัญ และแนวทางการขับเคลื่อนแผน ซึ่งระบุ ประเด็นสำคัญที่ต้องดำเนินการ เช่น ในระยะ 5 ปีแรกควรจัดทำ competency mapping สำหรับผู้ปฏิบัติงาน ด้านป้องกันควบคุมโรคในระบบ การส่งเสริมการพัฒนาระบบการเรียนรู้จากการทำงานโดยมีพี่เลี้ยง หรือ ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้สอนงาน (on the job training) การจัดระบบการบริหารจัดการกำลังคน (human resource 549

การ ัพฒนาและขับเคลื่อนงานเชิงระบบ (System Development) management) ให้เหมาะสม การเร่งผลิตกำลังคนด้านการป้องกันควบคุมโรคในสาขาขาดแคลน เป็นต้น ซึ่งในปี ที่ผ่านมากรมควบคุมโรคได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนากำลังคนด้านป้องกันควบคุมโรคอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ บุคลากรที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจหลักของกรมควบคุมโรค ได้มีการวางแผนและพัฒนาสมรรถนะ เพอ่ื ให้สามารถปฏิบตั ภิ ารกจิ ด้านการป้องกนั ควบคุมโรคและภยั สขุ ภาพได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ เชน่ การพัฒนากำลังคนด้านระบาดวิทยาภาคสนาม ให้มีเพียงพอและสามารถปฏิบัติงานได้อย่าง มีประสิทธิภาพ รวมถึงสามารถรับมือกับโรคระบาดหรือสถานการณ์ฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุขได้อย่างทันท่วงที ซง่ึ เป้าหมายในการผลิตนักระบาดวิทยาภาคสนามของประเทศให้ได้ตามมาตรฐานสากล คอื มีนักระบาดวิทยาภาคสนาม ระดับเชี่ยวชาญ อย่างน้อย 1 คน ต่อจำนวนประชากร 200,000 คน โดยเป้าหมายในปี 2580 (ระยะ 20 ปี) คือ ทุกจังหวัดจะมีผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาภาคสนาม (FETP) ไม่น้อยกว่า 1 คนต่อประชากร 250,000 คน และ จะให้หน่วยงานส่วนกลาง (ทุกกรม) มี FETP ประมาณ 100 คน โดยปัจจุบันประเทศไทยมีนักระบาดวิทยา ภาคสนาม จำนวนทงั้ สิน้ 178 คน และจากสถานการณน์ ักระบาดวิทยาภาคสนามในปจั จุบัน พบว่า ความครอบคลุม พื้นที่ของนักระบาดวิทยาภาคสนามต่ำกว่าอัตราส่วนที่เหมาะสม และหลายจังหวัดมีอัตราความครอบคลุมต่ำกว่า เป้าหมายของประเทศไทยมาก เนื่องจากมีนักระบาดวทิ ยาภาคสนามที่ผา่ นการอบรมแล้วค่อนขา้ งน้อย ซึ่งเมื่อเทียบ จากเป้าหมายที่กำหนดไว้ จำเป็นต้องผลิตนักระบาดวิทยาภาคระดับเช่ียวชาญอีกไม่น้อยกวา่ 250 คน และนักระบาด วทิ ยาในระดับกลางและระดับพื้นฐานอีกเป็นจำนวนมาก การพัฒนาทีมสอบสวนโรคติดต่ออันตราย (CDCU) จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา สามารถ ดำเนินการได้ครบ 77 จังหวัด จำนวน 78 ทีม มีผู้ผ่านการอบรม จำนวน 568 คน และยังมีการประเมินสมรรถนะ ของผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรพัฒนาทีมสอบสวนโรคติดต่ออันตรายอย่างส ม่ำเสมอ พร้อมสนับสนุน ให้มีการสร้างทีมของแต่ละจังหวัดเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดระบบการเฝ้าระวังผู้ป่วยสงสั ยโรคติดต่ออันตราย ทเี่ ข้มแข็ง มคี วามพรอ้ มรบั มอื ได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพและยั่งยนื การพัฒนาบุคลากรด้านการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ สำหรับบุคลาการทางการแพทย์และ สาธารณสุขที่ปฏิบัติงานด้านการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาล โดยสถาบันบำราศนราดูร มีการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่องทุกปี เช่น หลักสูตร Basic Level Course หลักสูตร Intermediated Level Course หลักสูตร Refresher Course หลกั สตู รTraining for the trainer Course เป็นตน้ การพัฒนากำลังคนเพื่อรองรับการจัดการภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข เพื่อให้สามารถตรวจจับ เหตุการณ์ผิดปกติได้เร็ว และตอบโต้ได้ทันที เช่น การพัฒนาทีมตระหนักรู้สถานการณ์ (Situation Awareness Team -SAT) และทมี ปฏบิ ัติการสอบสวนโรค (Joint Investigation Team - JIT) ให้มีสมรรถนะที่พร้อมปฏบิ ตั ิงาน 24 ชั่วโมง สามารถสอดประสานและเชื่อมต่อข้อมูลจากพื้นที่เกิดเหตุจนถึงส่วนกลางได้แบบ Real Time ทั้งใน ภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน การพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ด้านการจัดการภาวะฉุกเฉินภายใต้ระบบบัญชาการ เหตุการณ์ (ICS) ซึ่งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่ผ่านมา ยังพบว่า กำลังคนยังไม่เพียงพอ กับการปฏิบัติงาน ทำให้มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องพัฒนาบุคลากรทีมตระหนักรู้สถานการณ์ (SAT) และทีม ปฏิบัติการสอบสวนโรค (JIT) เพื่อเฝ้าระวัง ตรวจจับเหตุการณ์ผิดปกติ ตรวจสอบข่าวการระบาด ติดตาม สถานการณ์โรคและภยั สุขภาพ และประเมินความเส่ียงท่ีการระบาดจะขยายไปในวงกว้างหรืออาจเกิดภาวะฉุกเฉิน ดา้ นสาธารณสุข ใหท้ ันต่อสถานการณ์ สามารถจัดการภาวะฉุกเฉนิ ได้อยา่ งประสิทธิภาพ 550

ก า ร พ ั ฒ น า ศ ั ก ย ภ า พ เ จ ้ า ห น ้ า ที่ ด ่ า น ค ว บ ค ุ ม โ ร ค ต ิ ด ต ่ อ ร ะ ห ว ่ า ง ป ร ะ เ ท ศ ใ ห ้ ม ี ส ม ร ร ถ น ะ แผนงานบ ิรหารและ ัพฒนา �กำ ัลงคน ้ดานการ ้ปอง ักนควบ ุคมโรค ในการควบคุมโรคและภัยสุขภาพทั้งภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน ถือเป็นการพัฒนาที่สำคัญ ภายใต้ข้อกำหนด ของกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ. 2548 (IHR 2005) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกัน ควบคุม และตอบโต้ ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public Health Emergency of International Concern) ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในระดับสากล จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาทักษะความเชี่ยวชาญของ บุคลากรช่องทางเข้าออกประเทศ/เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคฯ ให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ที่สำคัญ เช่น ความรู้เรื่องการพัฒนาสมรรถนะหลักของช่องทางเข้าออกประเทศ ท่าอากาศยาน ท่าเรือ และ พรมแดนทางบก กฎอนามัยระหวา่ งประเทศ พ.ศ.2548 (IHR 2005) ดา้ นระบาดวิทยา ความรเู้ รอื่ ง พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ความรู้ด้านการประเมินอาการและการรายงาน ด้านการทำข้อตกลงความช่วยเหลือระหว่างหน่วยงาน (Mutual Aid Agreement) ดา้ นการส่งต่อผเู้ ดินทางระหว่างประเทศท่สี งสยั วา่ ปว่ ย รวมถึงความเขา้ ใจในการเฝ้าระวัง ปอ้ งกัน ควบคมุ โรคและภยั สขุ ภาพ ณ ดา่ นควบคมุ โรคติดตอ่ ระหวา่ งประเทศ เป็นตน้ การพัฒนาแพทย์ประจำบ้านและบุคลากรด้านเวชศาสตร์ป้องกัน เช่น แพทย์เวชศาสตร์ป้องกัน แขนงเวชศาสตรก์ ารเดนิ ทางและทอ่ งเท่ยี ว เพอื่ พฒั นาแพทย์ใหม้ คี วามรู้ความเชีย่ วชาญสามารถให้บริการคำปรึกษา ได้ทั้งประชากรไทยที่ต้องการเดินทางออกไปยังต่างประเทศ และประชากรชาวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามา ท่องเที่ยวยังประเทศไทย ซึ่งในปัจจุบันยังพบว่า แพทย์แขนงดังกล่าวยังไม่เพียงพอกับความจำเป็นของประเทศ ทำให้มีความจำเป็นต้องเพิ่มการผลิตและพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขให้มีความรู้และ ความเช่ียวชาญในด้านเวชศาสตรก์ ารเดนิ ทางและท่องเท่ียว การพัฒนาผู้เชี่ยวชาญและบุคลากรกรมควบคุมโรคทุกระดับให้มีสมรรถนะที่จำเป็น ตามภารกิจ เช่น การพัฒนาสมรรถนะทางการบริหารงานป้องกันควบคุมโรค ได้แก่ การสร้างภาวะผู้นำ ด้านการควบคุมโรค การพัฒนาทักษะและสมรรถนะทางการบริหารจัดการ ได้แก่ การพัฒนาสมรรถนะบุคลากร สำหรับการดำเนินงานระหว่างประเทศด้านการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ เป็นต้น ซึ่งถือเป็นการพัฒนา สมรรถนะบุคลากร โดยมุ่งหวังให้สามารถช่วยสนับสนุนและขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการป้องกันควบคุมโรค ควบคุมโรคและภัยสุขภาพให้มีประสทิ ธิภาพได้ จากการที่กรมควบคุมโรคให้ความสำคัญและมุ่งเน้นการพัฒนายกระดับกำลังคนทั้งระบบให้มี ประสิทธิภาพ ยืดหยุ่น พร้อมปฏิบัติงานตามภารกิจได้ทั้งภาวะปกติและภาวะฉุกเฉินแล้ว ความท้าทาย เชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญของด้านบุคลากร ได้แก่ การดึงดูดบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข การผลิต นักควบคุมโรครองรับระบบสาธารณสุข การสร้างความเชี่ยวชาญในงานด้านการป้องกันควบคุมโรค การส่งเสริมความก้าวหน้าในสายอาชีพ การเตรียมคนเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนภารกิจและโครงสร้างอายุ และ การธำรงรักษาบุคลากรคุณภาพ รวมถึงระบบการบริหารทรัพยากรบุคคลที่รองรับการเข้าสู่ยุคดิจิทัล ทำให้ กรมควบคุมโรค ให้ความสำคัญกับทรัพยากรบุคคลในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง เช่น มีการจัดทำเส้นทางก้าวหน้า ในสายอาชีพ (career path) เพื่อพัฒนาบุคลากรทุกระดับ มุ่งสู่ความเป็นมืออาชพี และความเชี่ยวชาญ มีการสร้าง ระบบพี่เลี้ยงและทายาทด้านวิชาการทั้งในระดับบริหารและในระดับปฏิบัติ เพื่อเรียนรู้ประสบการณ์การทำงาน รวมถึงการพฒั นาหลกั สตู รด้านป้องกันควบคุมโรคเพื่อใหเ้ ครือข่ายการทำงานดา้ นปอ้ งกันควบคมุ โรคสามารถเรียนรู้ และพัฒนาตนเองให้พร้อมรับกับการปฏิบัติงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ทำให้ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน เฝ้าระวัง ป้องกันและควบคมุ โรคและภยั สุขภาพให้ประสบความสำเร็จ ส่งผลให้โรคและภยั สุขภาพลดลง ตลอดจน 551

ได้รับการยอมรับจากเครือข่ายการทำงานทั้งในระดับชาติและนานาชาติ อย่างไรก็ดี ในการดำเนินงานด้านการ ป้องกันควบคุมโรค จำเป็นต้องใช้ความรู้ ทักษะ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ที่ทันต่อสถานการณ์ การเปลี่ยนแปลง และต้องมีการพัฒนาทักษะ สมรรถนะ และองค์ความรู้ที่สำคัญและจำเป็นอย่างเป็นระบบและ ต่อเนื่อง ซึ่งการถ่ายทอดองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญในระบบป้องกันควบคุมโรค อาจยังไม่มีประสิทธิภาพหรือ เหมาะสม จึงทำให้บุคลากรได้รับการพัฒนาไม่ทั่วถึงและไม่ต่อเนื่อง อีกทั้งยังไม่มีระบบการพัฒนาบุคลากรที่มี ความรู้ความสามารถในระดบั ที่ปรึกษา บคุ ลากรยังขาดทกั ษะ สมรรถนะ และความเชีย่ วชาญหลายดา้ น โดยเฉพาะ บุคลากรในระดับพื้นที่ยังขาดทักษะในการดำเนินงานอยู่มาก ในขณะที่บุคลากรส่วนกลางและระดับเขตยังขาด ทักษะในเร่ืองการดำเนินงานในฐานะผู้อภิบาลระบบ และผูค้ วบคุมกำกับดูแล และจากสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของ โรคตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 ในช่วงทผี่ า่ นมา ทำใหป้ ระจกั รว่า การพัฒนากำลังคนด้านป้องกันควบคมุ โรค ซง่ึ เปน็ กำลังคน ที่สำคัญในระบบสาธารณสุข ให้มีความรู้ความเชีย่ วชาญเฉพาะด้านและมีปริมาณที่เพียงพอต่อการป้องกันควบคุมโรค และภัยสุขภาพ สามารถรับมือกับสถานการณ์ท่ีอาจส่งผลใหเ้ กิดความเสยี หายต่อชวี ิต ทรพั ย์สิน และความเสียหาย ภาพรวมของประเทศได้ โดยเฉพาะโรคระบาดที่อาจเกิดขึ้นและแพร่กระจายไปทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว จึงมีความ จำเปน็ อยา่ งยง่ิ การ ัพฒนาและขับเคลื่อนงานเชิงระบบ (System Development) 2. พ้นื ทเ่ี ป้าหมายและกลุ่มเปา้ หมาย (Target) บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานด้านเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคและภัย สขุ ภาพของประเทศ 3. เป้าหมายและตัวช้ีวดั (Goals) เปา้ หมาย มาตรการ คา่ เปา้ หมาย/ผลการดำเนนิ งาน ปีงบประมาณ พ.ศ. ตวั ช้ีวัดเปา้ หมาย Baseline 2561 2562 2563 2564 2565 2560 เปา้ หมายท่ี 1 : กำลังคนด้านการป้องกนั ควบคุมโรคมสี มรรถนะเพียงพอตอ่ การป้องกันควบคุมโรค ตวั ชวี้ ัด : รอ้ ยละของกำลังคน - - - รอ้ ยละ ร้อยละ ร้อยละ ดา้ นการป้องกนั ควบคุมโรค 80 85 80 มสี มรรถนะเพียงพอตอ่ - - - -- การป้องกนั ควบคุมโรค มาตรการท่ี 1 พัฒนาระบบและกลไกการขบั เคลอื่ นงานกำลังคนใหม้ ีประสทิ ธภิ าพ ตัวชีว้ ดั : 1.1 จำนวนระบบและ - - - 1 ระบบ/ 1 ระบบ/ 1 ระบบ/ ฐานขอ้ มลู เพอื่ การบริหารจดั การ ฐานข้อมูล ฐานขอ้ มูล ฐานข้อมูล กำลังคนฯ และสนบั สนนุ - - - 1 ระบบ - - การดำเนินงานปอ้ งกันควบคุมโรค มาตรการท่ี 2 พฒั นากำลงั คนดา้ นป้องกนั ควบคุมโรคใหเ้ พียงพอและมคี ณุ ภาพ ตัวช้วี ดั : 2.1 ร้อยละของกำลังคน - - - - - ร้อยละ ดา้ นการปอ้ งกันควบคมุ โรคทไ่ี ด้รบั 80 การพัฒนาใหม้ สี มรรถนะดา้ นเฝา้ - - - --- ระวัง ปอ้ งกันควบคมุ โรคและภัย สุขภาพไดต้ ามเปา้ หมายท่กี ำหนด 552

เปา้ หมาย มาตรการ ค่าเป้าหมาย/ผลการดำเนินงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. ตวั ช้ีวดั เป้าหมาย Baseline 2561 2562 2563 2564 2565 2560 ตัวชี้วัด : 2.2 ร้อยละของบคุ ลากร รอ้ ยละ ร้อยละ ร้อยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ ร้อยละ กรมควบคมุ โรคมีสมรรถนะท่ี 60 70 75 80 85 85 จำเป็นตามภารกิจกรมควบคมุ โรค ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ รอ้ ยละ - - (Functional Competency) 58.06 63.08 76.82 60.79 มาตรการท่ี 3 บรหิ ารกำลังคนให้เกิดประโยชนส์ งู สดุ ดึงดูดและธำรงรักษากำลงั คนคุณภาพด้านการปอ้ งกันควบคุมโรค ตวั ชว้ี ัด : 3.1 คา่ เฉล่ียดัชนคี วามสุข ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ ร้อยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ ของบุคลากรกรมควบคุมโรค รอ้ ยละ 50 60 62 64 66 68 (happinometer) เพ่ิมข้นึ รอ้ ยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ ร้อยละ เม่อื เทียบกับปที ่ีผา่ นมา 63.22 63.92 63.95 64.33 ตวั ช้ีวัด : 3.2 อัตราการคงอยู่ - ไมน่ ้อยกว่า ไม่นอ้ ยกว่า ไม่นอ้ ยกว่า ไม่นอ้ ยกวา่ ไมน่ ้อยกว่า ของบุคลากรกรมควบคมุ โรค รอ้ ยละ 85 ร้อยละ 88 ร้อยละ 90 รอ้ ยละ 97 ร้อยละ 98 (Retention rate) - ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ 91.12 96.49 97.66 ***ในปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 มีการปรับค่าเปา้ หมายตวั ชี้วดั ร้อยละของกำลงั คนด้านการป้องกันควบคุมโรค แผนงานบ ิรหารและ ัพฒนา �กำ ัลงคน ้ดานการ ้ปอง ักนควบ ุคมโรค มีสมรรถนะเพียงพอต่อการป้องกันควบคมุ โรค เป็นร้อยละ 80 เนื่องจากผลการดำเนินงานในปี 2563-2564 ยังต่ำกว่าเป้าหมายที่ กำหนด นยิ าม 1. กำลังคนด้านการป้องกันควบคุมโรค หมายถึง บุคลากรด้านการป้องกันควบคุมโรคที่ปฏิบัติงานในระบบป้องกันควบคุม โรคและภัยสุขภาพในทุกระดับ และผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพที่เป็นหลักในการดำเนินงาน ป้องกันควบคมุ โรค 2. บุคลากรกรมควบคุมโรค หมายถึง ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ พนักงานกระทรวงสาธารณสุข และ ผู้ที่ปฏบิ ัติงานในหนว่ ยงานสงั กดั กรมควบคุมโรค 553

การพัฒนาและขบั เคล่อื นงานเชิงระบบ (System Development) 4. มาตรการและกจิ กรรมสำคญั (Strategy and Intervention) มาตรการและกิจกรรมสำคัญ ส่วนกลาง หนว่ ยงานดำเนนิ การ (Service Provider) สสจ. (Strategy and Intervention) สคร. - มาตรการที่ 1 พฒั นาระบบและกลไกการขับเคลือ่ นงานกำลงั คนให้มปี ระสิทธิภาพ - 1.1 พัฒนา/ขับเคลื่อนนโยบายและ - กองบริหารทรพั ยากรบุคคล ดำเนินการพัฒนา/ขับเคลอื่ น รว่ มให้ข้อเสนอแนะ เพ่อื การพฒั นา/ ยทุ ธศาสตรก์ ำลังคนด้านป้องกนั นโยบายและยทุ ธศาสตรฯ์ ขับเคลอื่ นนโยบายและยุทธศาสตรฯ์ - ควบคมุ โรค - สำนักงานคณะกรรมการผทู้ รงคณุ วุฒแิ ละกองยุทธศาสตรแ์ ละ ทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ พฒั นาศักยภาพบุคลากร แผนงานสนบั สนุนการพฒั นา/ขบั เคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตรฯ์ เครอื ขา่ ย PCC/รพสต.ใหม้ ี - กอง สถาบัน สำนักวชิ าการ ร่วมพัฒนา/ขบั เคลอ่ื นนโยบายและ สมรรถนะดา้ นระบาดวทิ ยา/ ยทุ ธศาสตร์ฯ CDCU/EOC&ICS/ Strategic 1.2 พัฒนาฐานขอ้ มูลกำลงั คนและ - กองบริหารทรัพยากรบคุ คล ดำเนนิ การพฒั นาฐานขอ้ มูลกำลังคน ร่วมใหข้ ้อมูลเพอ่ื จัดทำฐานข้อมลู Information) ระบบ SMART HR DDC /ระบบ SMART HR DDC/ระบบการพฒั นากำลังคน กำลงั คน และสนับสนนุ การพฒั นา - กองนวตั กรรมและวจิ ัย ร่วมพัฒนาระบบการพัฒนากำลังคน ระบบ SMART HR DDC - ศนู ยส์ ารสนเทศ ร่วมพฒั นาระบบการพฒั นากำลังคน/สนับสนุน 554 การพัฒนาเทคโนโลยสี ารสนเทศ - กองยุทธศาสตรแ์ ละแผนงาน ร่วมพฒั นาระบบการพัฒนา กำลงั คน/สนับสนนุ และให้คำปรึกษาในการจัดหางบประมาณ (เพ่ิมเติม) 1.3 พัฒนาศกั ยภาพเครอื ขา่ ย HR กองบริหารทรพั ยากรบุคคล ดำเนนิ การพัฒนาศกั ยภาพเครือขา่ ย - HR/สร้างนัก HR Analytic มาตรการท่ี 2 พฒั นากำลงั คนดา้ นป้องกนั ควบคมุ โรคให้เพียงพอและมีคุณภาพ 2.1 พัฒนาสมรรถนะด้านระบาดวทิ ยา - กอง สถาบัน สำนักวชิ าการ ดำเนินการพัฒนาสมรรถนะดา้ น พฒั นาศกั ยภาพบคุ ลากรเครือข่าย และ Strategic Information ระบาดวทิ ยา/CDCU/EOC&ICS/ Strategic Information) สสจ./สสอ./รพช. ใหม้ ีสมรรถนะดา้ น - กองบริหารทรพั ยากรบคุ คล กำกบั ตดิ ตามผลการพัฒนา/ผลลพั ธ์ ระบาดวทิ ยา/CDCU/EOC&ICS/ ตามเปา้ หมาย Strategic Information) - กองยทุ ธศาสตรแ์ ละแผนงาน สนับสนนุ และใหค้ ำปรกึ ษา ในการจดั หางบประมาณ (เพิม่ เติม)

มาตรการและกิจกรรมสำคญั หนว่ ยงานดำเนนิ การ (Service Provider) (Strategy and Intervention) 2.2 P & P Program / Program ส่วนกลาง สคร. สสจ. manager พฒั นาศักยภาพบุคลากร - กอง สถาบัน สำนกั วิชาการ ดำเนินการพัฒนาสมรรถนะกำลังคน พฒั นาศักยภาพบคุ ลากรเครอื ข่าย เครอื ข่าย PCC/รพสต. 2.3 พฒั นาสมรรถนะเพ่อื สนบั สนนุ เพ่อื สนบั สนนุ การดำเนินงานดา้ นป้องกันควบคมุ โรคและภยั สุขภาพ สสจ./สสอ./รพช.เพื่อการเฝ้าระวงั เพ่อื การเฝา้ ระวงั ปอ้ งกนั ระบบเฝา้ ระวงั ป้องกนั ควบคมุ โรค - กองบริหารทรัพยากรบุคคล กำกับตดิ ตามผลการพัฒนา/ผลลพั ธ์ ปอ้ งกันควบคุมโรคและภยั สุขภาพ ควบคุมโรคและภัยสุขภาพ ตามเป้าหมาย 2.4 พฒั นาสมรรถนะทางการ - กองยทุ ธศาสตรแ์ ละแผนงาน สนับสนนุ และใหค้ ำปรึกษา - บรหิ ารงานปอ้ งกนั ควบคมุ โรค ในการจัดหางบประมาณ (เพ่มิ เตมิ ) 2.5 พฒั นาสมรรถนะที่จำเปน็ ตาม - กอง สถาบนั สำนักวิชาการ ดำเนินการพัฒนาสมรรถนะกำลงั คน พัฒนาศักยภาพบุคลากรเครอื ข่าย - ภารกิจการปอ้ งกันควบคมุ โรค เพอื่ สนับสนุนระบบเฝ้าระวงั ปอ้ งกันควบคมุ โรคและภยั สุขภาพ สสจ./สสอ./รพช. ใหม้ ีสมรรถนะ - (Functional Competency) - กองบรหิ ารทรัพยากรบุคคล กำกบั ตดิ ตามผลการพัฒนา/ผลลพั ธ์ ด้าน EOC&ICS 2.6 พัฒนาทกั ษะและสมรรถนะ ตามเป้าหมาย - ทางการบริหารจดั การ - กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สนบั สนุนและให้คำปรกึ ษาในการ จัดหางบประมาณ (เพม่ิ เตมิ ) 555 - กองบริหารทรพั ยากรบคุ คล ดำเนินการพฒั นาสมรรถนะ - - กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สนับสนุนและใหค้ ำปรึกษา ในการจัดหางบประมาณ (เพมิ่ เติม) - กอง สถาบัน สำนกั วชิ าการ ดำเนนิ การพัฒนาสมรรถนะ - - กองบริหารทรัพยากรบุคคล กำกบั ตดิ ตามผลการพัฒนา/ผลลัพธ์ ตามเปา้ หมาย - กองยทุ ธศาสตร์และแผนงาน สนับสนนุ และใหค้ ำปรกึ ษา ในการจัดหางบประมาณ (เพม่ิ เตมิ ) - กอง สถาบัน สำนกั วชิ าการ ดำเนนิ การพัฒนาสมรรถนะฯ - - กองบริหารทรพั ยากรบุคคล กำกับตดิ ตามผลการพฒั นา/ผลลัพธ์ ตามเปา้ หมาย - กองยทุ ธศาสตรแ์ ละแผนงาน สนับสนนุ และใหค้ ำปรกึ ษา ในการจดั หางบประมาณ (เพมิ่ เติม) แผนงานบรหิ ารและพฒั นาก�ำลงั คนดา้ นการปอ้ งกันควบคุมโรค

การพัฒนาและขับเคล่อื นงานเชิงระบบ (System Development) มาตรการและกจิ กรรมสำคญั ส่วนกลาง หนว่ ยงานดำเนินการ (Service Provider) สสจ. (Strategy and Intervention) สคร. - - มาตรการที่ 3 บริหารกำลังคนใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุด ดงึ ดูดและธำรงรักษากำลงั คนคณุ ภาพด้านการปอ้ งกนั ควบคมุ โรค 3.1 สรรหาเชิงรุก สายงานขาดแคลน - กองบริหารทรัพยากรบุคคล ดำเนินการพฒั นาระบบการสรรหาฯ ร่วมดำเนนิ การพัฒนาระบบการสรรหาฯ - - กอง สถาบนั สำนักวิชาการ รว่ มดำเนนิ การพัฒนาระบบการสรรหาฯ 3.2 พัฒนาระบบการบรหิ าร - กองบริหารทรพั ยากรบคุ คล ดำเนินการพฒั นาระบบ PMS - ผลการปฏิบัติงาน (Performance - กลุ่มพัฒนาระบบบรหิ ารและกองยุทธศาสตรแ์ ละแผนงาน Management System: PMS) ร่วมดำเนนิ การสนบั สนุนการพัฒนาระบบ PMS เพอ่ื เชอื่ มโยง ผลการดำเนินงานกับผลการประเมนิ บคุ คล 3.3 เสริมสรา้ งความสุขและความ - กองบริหารทรัพยากรบุคคล วางแผน/กำหนดแนวทาง/ - ผูกพันของบคุ ลากรกรมควบคมุ โรค เสรมิ สรา้ งความสขุ และความผูกพนั ของบุคลากรกรมควบคุมโรค - สำนักงานเลขานกุ าร กรมดำเนินการเสรมิ สรา้ งดา้ นบรรยากาศ สภาพแวดลอ้ มในองคก์ ร และสวสั ดกิ าร - กลมุ่ คมุ้ ครองจริยธรรม ดำเนนิ การเสรมิ สร้างดา้ นคุณธรรม 556 จริยธรรมในองคก์ ร - กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สนับสนนุ และให้คำปรึกษา ในการจัดหางบประมาณ (เพมิ่ เตมิ ) - สถาบันและกองวชิ าการ (ด้านโรคและภยั ) ร่วมดำเนินการ เสรมิ สรา้ งสขุ ภาพบุคลากร

5. มาตรการ โครงการ และกิจกรรมหลกั (Strategy/Intervention Project and Activity) แผนงานบ ิรหารและ ัพฒนา �กำ ัลงคน ้ดานการ ้ปอง ักนควบ ุคมโรค ภายใตแ้ ผนงานบรหิ ารและพฒั นากำลังคนด้านการปอ้ งกันควบคุมโรค มีการดำเนินงานโครงการตามมาตรการ ดังน้ี มาตรการท่ี 1 พัฒนาระบบและกลไกการขับเคลื่อนงานกำลังคนให้มปี ระสิทธิภาพ ดำเนินงาน 8 โครงการ ดงั น้ี 1) โครงพฒั นาแผนงานยทุ ธศาสตร์กำลังคนดา้ นป้องกันควบคุมโรค 2) โครงการกำหนดสมรรถนะตามสายงาน (Job Competency Mapping) ของกำลังคนด้านการป้องกัน ควบคุมโรค 3) โครงการพฒั นาระบบการสืบทอดตำแหน่งทางการบริหารและวชิ าการที่สำคัญ (Succession plan) 4) โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากร สคร. ให้มีศักยภาพสูงด้านการป้องกันควบคุมโรค โดยใช้ Mentoring Program 5) โครงการจดั ทำฐานข้อมลู กำลงั คนดา้ นการป้องกันควบคุมโรค 6) โครงการพัฒนาระบบ SMART HR DDC 7) โครงการพัฒนาระบบ DDC Academy เพื่อการพัฒนาบุคลากรและเครือข่ายผู้ปฏิบัติงานด้านป้องกัน ควบคุมโรค 8) โครงการสรา้ งนัก HR Analytic มาตรการท่ี 2 พัฒนากำลังคนดา้ นป้องกันควบคุมโรคใหเ้ พียงพอและมคี ุณภาพ ดำเนินงาน 13 โครงการ ดังน้ี 1) โครงการพัฒนากำลังคนดา้ นระบาดวทิ ยาภาคสนาม 2) โครงการพัฒนากำลังคนดา้ นสารสนเทศและการวิเคราะห์ระดับสูงเพ่ือการควบคมุ โรค 3) โครงการ CDCU โรคติดตอ่ อนั ตราย 4) โครงการพฒั นาศักยภาพบคุ ลากรและเครือขา่ ยเพ่อื การเฝา้ ระวงั ป้องกนั และควบคุมโรคตดิ ตอ่ /โรคติดเชอ้ื 5) โครงการพฒั นาศักยภาพสำหรบั บุคลากรและเครือข่ายด้านการปอ้ งกัน ควบคุมโรค NCDs และการบาดเจ็บ 6) โครงการพัฒนาศักยภาพสำหรับบุคลากรและเครือข่าย ด้านการป้องกัน ควบคุมโรคจากการประกอบ อาชีพและสง่ิ แวดลอ้ ม ภายใต้ พ.ร.บ. ควบคมุ โรคจากการประกอบอาชพี และโรคจากสง่ิ แวดลอ้ ม พ.ศ. 2562 7) โครงการพัฒนากำลงั คนด้านเวชศาสตรป์ อ้ งกันและควบคุมโรค 8) โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรเพื่อรองรับระบบการจัดการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระบบ บญั ชาการเหตกุ ารณ์ และศนู ยป์ ฏบิ ัติการภาวะฉกุ เฉิน 9) โครงการพัฒนาบุคลากรที่ปฏิบัติงาน ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศ ตามกฎอนามัยระหว่าง ประเทศ พ.ศ. 2548 และ พ.ร.บ.โรคติดตอ่ พ.ศ. 2558 10) โครงการสร้างภาวะผนู้ ำด้านการควบคุมโรค (Leadership in Disease Control : LDC) 11) โครงการจัดทำหลักสูตรด้านระบาดวิทยา, การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม, การติดตามและประเมินผล ในรูปแบบบทเรียน Online 12) โครงการพัฒนายกระดับทักษะด้านดิจิทัล (Digital Skills) ของบุคลากรกรมควบคุมโรค เพื่อสนับสนุน การดำเนินงานและระบบการปอ้ งกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ 13) โครงการพฒั นาพัฒนาสมรรถนะบุคลากรสำหรับดำเนินงานระหว่างประเทศด้านการปอ้ งกันควบคุมโรค และภัยสขุ ภาพ 557

มาตรการที่ 3 บริหารกำลังคนให้เกดิ ประโยชนส์ ูงสดุ ดงึ ดดู และธำรงรักษากำลังคนคุณภาพด้านการป้องกัน ควบคมุ โรค ดำเนนิ งาน 4 โครงการ ดังน้ี 1) โครงการสรรหาเชิงรกุ ในสายงานขาดแคลน 2) โครงการจดั ทำตวั ชว้ี ัดสำคัญ (KPI Mapping) กำลงั คนดา้ นการปอ้ งกนั ควบคมุ โรค 3) โครงการสง่ เสริมหน่วยงานสูก่ ารเปน็ องค์กรสรา้ งสขุ 4) โครงการพฒั นา/ปรับปรุงระบบธำรงรกั ษาบคุ ลากรคุณภาพ หมายเหตุ : รายละเอียดโครงการและกจิ กรรมหลัก ตาม QR Code และลิงค์ ทป่ี รากฏท้ายแผนงาน 6. การติดตามประเมินผลแผนงานและมาตรการ (Monitoring and Evaluation) เปา้ หมายแผนงาน ตัวชีว้ ดั วธิ ีการติดตาม กรอบระยะเวลาของการตดิ ตาม และมาตรการ และคา่ เป้าหมาย ประเมินผล ประเมนิ ผล ปี พ.ศ. เป้าหมายที่ 1 กำลงั คนด้านการ รอ้ ยละของกำลังคน 1. ตดิ ตามการดำเนนิ งาน 2561 2562 2563 2564 2565 ป้องกันควบคุมโรคมีสมรรถนะ ดา้ นการป้องกนั ควบคมุ รายงานผลความกา้ วหนา้ เพยี งพอต่อการป้องกันควบคมุ โรค โรคมีสมรรถนะ การดำเนนิ โครงการ - - ✓✓✓ เพียงพอตอ่ การ ในระบบ EstimatesSM - - ✓✓✓ มาตรการท่ี 1 พฒั นาระบบและกลไก ป้องกนั ควบคุมโรค ทกุ ไตรมาส - - ✓✓✓ การ ัพฒนาและขับเคลื่อนงานเชิงระบบ (System Development) การขบั เคลอ่ื นงานกำลังคนใหม้ ี คา่ เปา้ หมาย 2. ประเมินผลจากรายงาน ประสทิ ธภิ าพ ปี 65 : ร้อยละ 90 ผลการดำเนินงานโครงการ เทยี บเป้าหมายที่กำหนดไว้ มาตรการท่ี 2 พฒั นากำลงั คน (ประสิทธภิ าพ/ประสิทธิผล) ดา้ นป้องกันควบคมุ โรคให้เพยี งพอ จำนวนระบบและ 1. ตดิ ตามการดำเนนิ งาน และมคี ณุ ภาพ ฐานขอ้ มลู เพือ่ รายงานผลความกา้ วหนา้ การบรหิ ารจัดการ การดำเนินโครงการ กำลังคนฯ และ ในระบบ EstimatesSM สนับสนนุ การ ทกุ ไตรมาส ดำเนนิ งานปอ้ งกนั 2. ประเมินผลจากรายงาน ควบคุมโรค ผลการดำเนินงานโครงการ ค่าเปา้ หมาย เทียบเปา้ หมายทก่ี ำหนดไว้ ปี 65 : 1 ระบบ/ (ประสทิ ธภิ าพ/ประสทิ ธิผล) ฐานข้อมูล 1. รอ้ ยละของกำลงั คน 1. ตดิ ตามการดำเนินงาน ด้านการปอ้ งกนั รายงานผลความกา้ วหนา้ ควบคมุ โรคท่ีได้รบั การดำเนินโครงการ การพัฒนาให้มีสมรรถนะ ในระบบ EstimatesSM ดา้ นเฝา้ ระวงั ปอ้ งกัน ทกุ ไตรมาส ควบคุมโรคและภัย 2. ประเมนิ ผลจากรายงาน สุขภาพได้ตามเป้าหมาย ผลการดำเนนิ งานโครงการ ที่กำหนด เทยี บเป้าหมายทีก่ ำหนดไว้ คา่ เป้าหมาย (ประสทิ ธภิ าพ/ประสิทธิผล) ปี 65 : ร้อยละ 80 558

เปา้ หมายแผนงาน ตัวชว้ี ัด วิธีการติดตาม กรอบระยะเวลาของการตดิ ตาม และมาตรการ และค่าเป้าหมาย ประเมนิ ผล ประเมนิ ผล ปี พ.ศ. มาตรการที่ 3 บรหิ ารกำลังคนใหเ้ กิด 2. ร้อยละของบุคลากร 2561 2562 2563 2564 2565 ประโยชน์สูงสดุ ดึงดดู และธำรงรักษา กรมควบคุมโรคมี สมรรถนะทีจ่ ำเป็นตาม - - ✓✓✓ ภารกจิ กรมควบคมุ โรค (Functional Competency) ค่าเปา้ หมาย ปี 65 : ร้อยละ 85 1. ค่าเฉลย่ี ดัชนี 1. ตดิ ตามการดำเนนิ งาน ความสุขของบุคลากร รายงานผลความกา้ วหนา้ กรมควบคมุ โรค การดำเนินโครงการ (happinometer) ในระบบ EstimatesSM เพิ่มข้ึนเมอื่ เทยี บกบั ปี ทกุ ไตรมาส ทผ่ี า่ นมา 2. ประเมินผล ค่าเปา้ หมาย จากรายงานผล ปี 65 : รอ้ ยละ 68 การดำเนินงานโครงการ 2. อตั ราการคงอยู่ เทียบเปา้ หมายท่ีกำหนดไว้ ของบุคลากร (ประสทิ ธิภาพ/ประสทิ ธิผล) กรมควบคมุ โรค แผนงานบ ิรหารและ ัพฒนา �กำ ัลงคน ้ดานการ ้ปอง ักนควบ ุคมโรค (Retention rate) คา่ เป้าหมาย ปี 65 : ไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 98 7. ผรู้ ับผิดชอบแผนงาน (Project Manager) ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการกองบริหารทรพั ยากรบุคคล 7.1 นายยทุ ธพงษ์ เกยี รติยุทธชาติ E-mail : [email protected] โทร. 0 2590 3041 ตำแหน่ง นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการพเิ ศษ 7.2 นายศภุ สทิ ธ์ิ ปรีชาพนั ธ์ุ E-mail : [email protected] โทร. 0 2590 3049 https://bit.ly/2YVFAQY 559

การพัฒนาและขบั เคลอื่ นงานเชงิ ระบบ (System Development) แผนงาน การพฒั นากาํ ลงั คนดา้ นเวชศาสตรป์ แ้อผงกนนั งแลาะนควบคุมโรค ปี 2565 QR แนวทางการขับเคลือน แขนงเวชศาสตรจ์ ราจร 1 แขนง ยว การพตฒั วั ชนีวาดั กำลEnังdคGนoaดl Œาน21..เจวาํ นชวนศแพาทสยป์ ตระจราํ บป า้ นอ‡ เวชงศากสตนั รจ์ รแาจลระสคามวารถบสอคบผมุ ่านโกรารคประเมินประจาํ ปีตามส2มครนรถนะของหพล้ืนกัทส่แี ลูตะรกล6ุม เปคานหมาย COแแแผหแVพลพพลลIDะักักททททดส-ยยยันอูตเปป1วงกรรรช9เเาะะทวศรจจช่ยีาเำำปศวสบบาดตาาสฝรนนตก คแจรอขรบร บอนาหรชบงลมชทเคกัวแศัณรชสขาวั ศูตฑนสารเงตสปดอรตานา์นรชสจเวีว วรเนชวาหชศจนศารสา่งึ(ขสตKอตรกPงรกเาพIรา)มิ่เรดฝอินกีกทอ1าบงOรแมขuนtงcomeต(ัวKชP12ว้�I)..ัดสามารถเปิ ดEOnฝuึdกtอcGบoรomมaeแlพทยป์ รขสจจแสะำำพอาาจนนมมงทาํหวาาวยบรรนนลจถถา้แแักบปเนพพสปหฏแตูททดลบิขรยยฝักนัตปปก6สงิงรอรูตาอคะะบรนจานจแรทชำำมขบตี่ีวบนแเานาพวงนนสเชทวเังทวศชยกชี่จาศปัดศบสารตาหตสะรสลตจรงตกัตรไำ์ รดกบสาจ มาูตา้รรนสราเดจมแดารขรินนรนสทถเงาวานอมชงะาแาศชขรลาวีอถสะเสงทวตหอชรอ ลบศกงกัผเาาทสรสา ยี่เนตูตดวรกรนิ ไาแทดรลาปะงรสแะอลเมบะนิทผปอานรงบเะวทตัจฒุ ่ยีงิงำบิาวเปปนัตต ป็รานลมแะสลม2ะรครนถนะ เ(ปGา‡ oหaมlาsย) ารแพรร่ ะบาดของโรค สถา(Gนaกpาร) ณ 1. จากสถานการณการแพรร.ศะบ. า2ด5ขอ6ง2โรคไดCม้ OีกVาIDร-บ19งั คทบัำใใหชแ ้ พทยเวชศาสตรปองกันโดยเฉพาะแขนงเวชศาสตรการเดินทางและทองเทย่ี วมบี ทบาทสำคญั ในการคัดกรองอแมละเฝา ระวังโรค 2. จรวามกทพั้งรเปบน. กคำวลบงัคหสมุ ำนโคร่วญัคจยในางกกาการานชรรปว ยระะปดกฏอบับิ บัตนอิงาาโชนยพี ณบแลาดะยา สน่ิงสแ(นวสดาว่มลบอนมนิ กสพลุว.รศาร.งณ2)5ภ6ูมแ2ิ แลไลดะะม ดีกสา านรคคบรวงั บค.คบั มุใชโร จคึงตจดิ ำตเปอนอืน่ตอๆงมบี ุคลากรทมี่ ีความเชี่ยวชาญดานโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดลอ ม 560พรวฒเัชวศชนาศสามากกตสาจิราตํหต์ลกรลรร์งัรกัากครชานทมรดณั าฑ้ นร์ ะเวยะชสสศนัร123าาส...สงาํ แหตฝรจดเชอลดักำรรือ่ เบทอบะัทนมป์ทบำพแินยโแ้ี่ยรอกพสัฒ2ผมงงาภเนทแแนครกพปาลยฝรากนรัะทกือเ์กะวารํอขยแำชอหชบา แลาบยลศนรสขพงัสมาดะมัน1คถิเใสคศพงหานตอษบันเวปดารันธชบนค์ากฝีวไรนาคกเปรวออเุมตรชวบ2บบัยาศชโครมส์าแรมศรมสมลรควาัาตคั วะตสรรมรแตใฐพนราทกปนายทอรปี่แรงรพากะงทนัจห4213ยำลแสบ....กั ลภพาพจ(สนะEาดัูตฒัฒักค-รทรอำpวนาหนํบaบาsนทEาโsคด-ป่ีงp1ุมlรoาeโrแaนtรr)กคnวรiรTหnิชมh่วgนiามnIแวกnkกลtย231บาัeT...ะงรravาNnEดพ(พสภจaนEEk-ดัcราัฒาฒั-C้ราbยpทDนนTงะoใaนำDแEตาoดsเCาลCโEkชsวบัปงpะ-่ือlชหแรนพาoeทแลลนศarัฒโีมกtrยะกั)วนnารTสบสรชิมiาสhnวคูตทาาigมตInรnีมยรกกkแ.tเร1าบัพeวล(Tป์ร2rสชื่อะavNด้พอวศnaEสEาcัฒkนาง-CงนbสนกเTDขoพเตEาDลลวนัoือ่งCรCาชาkารแร์ งนอแศหา)ลลงวาชลรจิะะแสกัทับยัสคลสตกณัแคูตะารลวรฑรร.ปะบ1เสอนว์ 2ออคชควงกสศัตรุมกใงาก.บขนัสโรรลตรรแบั คามรคลรTรกอาMะรงชคมCกทควาัณวรบบฉฑคคดี  มุมุวคั21โโรรซพ..คอบคนี ขโฝบฒัุครึอกรงลรอนพมาบับกแยารรราพรอมบขะงทแอ12ากพบยข..ลงาศฒัหบนสรโแฝขอานงตรมนปลอกบสงอ่รวเะรอารพตรดาวยบับมบรยชระ็จจงรแุคะราศ์วีปกาอมพลบบณเนึกงรแาทนัาวบกษกขะลชยศาคปรนเสาศรศมรขงแมรณุตาารีออินเสะรกสดางาวตเภกอ่หชช็จตปจรนัาวีน็าารปศนณจเควพรวกึ์รสายชะ่วุณษศรถกงศเมารยามาภาาแรีนกินผบ์สาการบัเสูตช้นัอพปศราอานกรึกนจสว าาแษมถรรากลยศาบับผะกึันูสษอนา ศาสตรป์ ้องกนั ศึกษา หน4.่วยแจัดงพทาทำนยหเ วสลชกั่วศสนาูตสกรตเลวรชค าศรงอากสบตครรรมรวั าคชวทณับฑครมุ ะยโะรสค้ันสสำหครรับ.1 - 12 กรมราช4ท.ณั จฑัดท์ ำสสถื่อแานบะนันำรว่วิธีกมาฝรึสก่อื อสาบรรแกมผ ูม แารลับะบรรกิาาชรวใหิทแยกเาจาลหยั นแา ทพคี่ ทลนิ ยิกเ์ TวMชCศาสตรค์ รอบครวั ดอื น หนว‹ ยงาน สถาบันเวชศาสต6รปเอดงอื กนั ศึกษา หนวยงานสวนกลางกรมควบคุมโรค สคร.1 -91เ2ดกือรนมราชทณั ฑ สถาบนั รว มฝก อบรม และราชวทิ ยาลยั 1แ2พทเยดเวือชนศาสตรครอบครัว แอแบพข1.นรทแจแมงยขำพดนนปท์Tวงาย้Mรนเนวปะชร5เแจศะวคาาจลํ ชนสำบะบตศแาแ้ราขานกนขนสาทแนงรตผ่ีกเล3ดงาารนนิะรป์Tกจทบเ้Fราอาดุครางงจค(แลอืกรดัลาเะนั(ลTนกทอืรFอรก)ะงทเจเขดทำาา2บนัยี่รงวววกกในม(ลนTาก4Mารากรคงแ)รฝนรกพณจออบาทํบียนทรยงั ี่มว1ผไ์ นม่าน่ค1กกร0อ21บา..รบตคอแแพพบรานรททมมมยยดปป ารรนะะเจจ12วำำช..บบศแโาาานนคสพทแตร6ลทผี่รงะปายกบนอ เปุคาก์งดกาลรรรันารอืะคกราัดจะรนชทเดาํลบัาทบืองกกกณัา้ลเานขารฑางแจรปพจ์บว ำทมันนหกยวสาผลนราุขกัฝน1ฯกสก0อาูตผคบรรนร่ามดนาก้ นารเ12วอ..ชแแบบลพศคุ2ระลทามทายคสกอปหนรตงรเทละทราจกัี่ยกง์ ำวกสบาาอูตารรนยยแราจพใง9บทนตหยอ้ลทยเักดปี่ปสลฏูตือะิบรัตด2นงิา คาน12นนเวใ..นคแชศฝศึเกู่มพาราือสอสือทนตตบ/จยรรำรกป์ภคา์มารรรยไเะดใดอจตนิ บต้าทํ บคาางมรา้ นวศั เแกั ขยขา้21ภนร.. เคแบังาวพูม ชพอกอืทศา/ขายาหชรสปอลตวีรฝงกั ระึเกสสคจวตูรอำถชอรบบาเศบาวบนรคชา1แรศมนัสขวัาไ2ตเนสขดตงารอรร้เ์เารับขดชากชีวา้ าเือทรรวัณฝชบั นกศฑกอาทสบาแี่ตรรพรมบเทไขดาย้ านปรับรเะกวจาชำรบา น รว‹ มดาำรเนนิ การ 1. มการฝึ กอบรม 2. หแโคขน2ว.น่วตรยงาาองง)หาาลนชกั ผวีสเูตา่ วรนแชกขศนาางรอสตาตชรวี รวเว์จชปศารสะตเรม ินเป็ นสถาบนั ฝึ กอบร3ม. แแตหขขานมนนวโงงยคองTวาาMตชนาีวผ3)แเาวลน.ชะกศฝไแาเามึขกวรสนต่คตชองรรรบศวTจบFราปสโม(รรคะตอเแวบมรตขทนิร์ ่ีเานาป2)ชงนในสทTถกณัMารบณฑันแียฝ์งั ลจกไมาอะํ คนบแรรวบขมนนง40TFค(3นร. แเ(โแอวรคขพอชบรนทศบงงพกยาพสปาTเิิเรศตMรศรษระาษรจแชากำลทชรบกะณัทณาแรัณนขฑยี ณทนังฑป ไ่ีผงนมียจา Tสคนำงั Fุขรนกบฯวาโนรผคคาว4ดันต0เกาลค)า3อื รนก.อแเบขตาพรนร้มทวหสมลยกงั ักจา์กสรบดตูัฝรกหตอลรบกงัรมตสาูตมรสแม3ข.รนททฝแรพกงีอต่ ถองนทเเวบสยนทรชังจ ยี่ะมกบวศขัดไหดแตาอลต ลรสักงางะสตมตหสตูศาอรลรมกั บก์แสยกั ผขามภสานรรานงูตรพเวเถวดขรฒุ นชอินิบะศงขตัาสทสอรถาตงาแหงบรลกลแนั ะากั สลรสาเะูตดมรนิารทถาปงแฏลบิ ะัตงิ าน ตรก์ ารเดินทาง คน 4แ(ขTคMนนง)การQWจuราiic1จnkร 3. ขนง ร์

แผนงานการพัฒนากำลังคนด้านเวชศาสตร์ป้องกันและควบคมุ โรค แผนงานการ ัพฒนา �กำ ัลงคน ้ดานเวชศาสตร์ ้ปองกันและควบ ุคมโรค 1. สถานการณ์ (Situation) เนื่องจากสภาวะสังคมในปัจจุบันมกี ารเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเปน็ อย่างมาก ทั้งความเป็นอยูข่ อง ประชาชน สภาวะเศรษฐกจิ สังคม ระบบการศกึ ษา ระบบโทรคมนาคม ระบบการขนส่ง ทำใหเ้ กิดการเคลอ่ื นพลวัต ไปในที่ต่างๆ ในทั่วทุกมุมโลกได้อย่างรวดเรว็ การเดินทางแต่ละครั้งอาจจะ ส่งผลทั้งในเรือ่ งเศรษฐกจิ สุขภาพของ นกั ท่องเทีย่ ว การบริโภคอาหาร และการอยู่อาศัยในแต่ละสถานท่ีของนักท่องเท่ียว โดยเฉพาะด้านสุขภาพร่างกาย ซึ่งระบบสาธารณสุขมีบทบาทสำคัญ ทั้งเรื่องของการป้องกันควบคุมโรค การรักษาพยาบาลในแต่ละระดับ การสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเมื่อมีการเคลื่อนย้ายจากพื้นที่หนึ่งไปยังพื้นที่หนึ่ง อาจทำให้เกิด การแพร่กระจายของโรคและภัยสุขภาพที่รวดเร็วขึ้นได้ จากการที่ประเทศไทยมีการขยายตัวของการท่องเที่ยว เชิงการแพทย์หรือเชิงสุขภาพ (Medical Tourism) ซึ่งเกิดขึ้นในหลายประเทศ โดยมีการจัดให้ผู้ป่วยไปรับบริการ ด้านการแพทย์หรือด้านสุขภาพในประเทศอื่นที่มีบริการที่มีคุณภาพสูงกว่า หรือมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าหรือเสียเวลา รอคิวน้อยกว่า และในบางกรณีก็มีการผสมผสานบริการด้านการรักษาพยาบาลและการพักฟื้นกับการท่องเที่ยว ด้วยการทปี่ ระเทศไทยเป็นแหลง่ ท่องเทย่ี วท่ีเปน็ ที่นิยมของชาวต่างชาตแิ ละเป็นประเทศท่ีเปิดโอกาสใหช้ าวต่างชาติ เข้ามาลงทุนและทำงานอย่างกว้างขวางทำให้สถานพยาบาลในประเทศไทยหลายแห่งมีประสบการณ์กับ การรักษา ชาวต่างชาติอยู่แล้ว ประกอบกับประเทศไทยมีแพทย์ที่ไปศึกษาต่อในต่างประเทศจำนวนมาก แพทย์ไทยจำนวน ไม่นอ้ ยจงึ มศี กั ยภาพในการรักษาพยาบาลชาวตา่ งประเทศและนักท่องเท่ียว ในขณะปัจจุบันประเทศไทยยังมีบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษา คำแนะนำแก่นกั เดินทางและท่องเทีย่ วทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติยังไมเ่ พยี งพอกับความจำเปน็ ของประเทศ ตามที่ รัฐบาลได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี พ.ศ. 2560 – 2579 ซึ่งเป็นกรอบแนวทางการพัฒนาประเทศ ในระยะยาว ทำให้การพัฒนาประเทศขาดความต่อเนื่อง ดังนั้นยุทธศาสตร์ชาติระยะยาว 20 ปี จึงเป็นทางออก สำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนโดยมีประเด็นสำคัญ ในการขับเคลื่อนคือการพัฒนา “ประเทศไทย 4.0” ให้เปน็ ประเทศท่ีมีความมั่นคง มัง่ คัง่ ยั่งยืน พฒั นาแล้วตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง และ จากการที่ประเทศไทยตั้งอยู่บนภูมิประเทศที่เป็นเหมือนศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมี ประเทศเพือ่ นบา้ นโดยรอบ ไดแ้ ก่ พม่า ลาว กมั พชู า และมาเลเซยี ประกอบกบั ประเทศไทยเขา้ ส่ปู ระชาคมอาเซียน อย่างสมบูรณ์ จึงหันมาให้ความสำคัญกับการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน และกลุ่มประเทศภายใต้กรอบ ความร่วมมือต่างๆ ในภูมิภาค รัฐบาลจึงมีนโยบายที่จะมุ่งมั่นพัฒนาพื้นที่บริเวณชายแดนที่เชื่อมต่อกับประเทศ เพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับประเทศ ในกลุ่มอาเซียน ส่งเสริมการค้าและการลงทุน เป็นต้น จากนโยบายดังกล่าวจึงทำให้เกิดการเดินทางเข้ามาใน ประเทศไทยมากขึ้นและหลากหลายรูปแบบท้ังการเดินทางเขา้ มาใช้แรงงาน การเดินทางมาท่องเทีย่ ว ส่งผลใหเ้ กดิ ปัญหาโรคและสุขภาพตามมาทั้งโรคตดิ ต่ออุบัตใิ หม่ อุบตั ซิ ำ้ และอุบัตเิ หตุ เปน็ ต้น กรมควบคุมโรคในฐานะที่เป็นองค์กรหลักในการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ ของประเทศ มีแนวทางการดำเนินงานมุ่งเน้นให้ประชาชนคนไทยมีสุขภาพดี ปลอดโรค ปลอดภัย จึงได้มีนโยบาย เปดิ การฝกึ อบรมแพทยป์ ระจำบ้าน สาขาเวชศาสตรป์ อ้ งกัน แขนงเวชศาสตรก์ ารเดนิ ทางและท่องเทยี่ ว ในปี 2559 ซึ่งมีสถาบันเวชศาสตร์ป้องกันศึกษาเป็นสถาบันหลักในการฝึกอบรม โดยมีพันธกิจในการฝึกอบรมที่สอดคล้องกับ พันธกิจหลักของสถาบัน คือ ผลติ แพทยผ์ ้มู ีความรู้ความชำนาญ ด้านเวชศาสตรป์ ้องกันแขนงต่างๆ เพอื่ เป็นแกนหลัก 561

การ ัพฒนาและขับเคลื่อนงานเชิงระบบ (System Development) ในการพัฒนานโยบาย พัฒนาวิชาการ องค์ความรู้ และนำสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแพทย์ผู้จบ หลักสูตรด้านเวชศาสตร์ป้องกัน แขนงเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว จำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และ ทักษะในการใหค้ ำปรึกษาแนะนำ ดูแล รักษาไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง และในปจั จุบนั กรมควบคุมโรคไดเ้ ปดิ คลนิ ิกเวชศาสตร์ การเดินทางและท่องเที่ยวขึ้น เพื่อพัฒนางานด้านเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว ทั้งหมด 15 แห่ง จำเป็น อย่างย่ิงทีต่ ้องมี แพทย์ พยาบาล และบคุ ลากรท่ีทีส่ ามารถปฏิบัตหิ น้าทดี่ ังกล่าวได้ สถาบันเวชศาสตร์ป้องกันศึกษา ซึ่งเป็นสถาบันหลัก จึงมีความมุ่งหวังให้บุคลากรทางการแพทย์และทางการสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในคลินิกฯ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคและภัยสุขภาพที่เกิดขึ้นในทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการเดินทางและท่องเที่ยว เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลในการเฝ้าระวัง คัดกรอง วินิจฉัย และให้คำปรึกษาในนักเดินทางท่องเที่ยวและผู้ที่เข้ามาใช้ บริการไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพต่อไป ดังนั้น การผลิตและพัฒนากำลังคนด้านเวชศาสตร์ป้องกันและควบคุมโรค จึงมีความสำคัญที่จะ ผลิตและพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขให้มีความรู้และความเชี่ยวชาญ ที่สามารถให้บริการ คำปรึกษาได้ทั้งประชากรไทยที่ต้องการเดินทางออกไปยังต่างประเทศและประชากรชาวต่างประเทศที่ เดินทาง เข้ามาท่องเที่ยวยังประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดการเจ็บป่วย ลดความเสี่ยง ความรุนแรงจากการบาดเจ็บ การสญู เสยี ทงั้ ชวี ติ และทรัพย์สินใหล้ ดลง ในกลุ่มเดนิ ทางและท่องเที่ยว และม่งุ เนน้ ดแู ลและบริบาลประชาชนท่ัวไป ทกุ เพศทุกวัยทง้ั ชาวไทยและต่างชาติ ย่ิงเม่ือเกิดเหตุการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 ในช่วง ทผ่ี ่านมา ทำให้ประจักรวา่ การพัฒนากำลังคนดา้ นสาธารณสุขมคี วามจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะการรบั มอื กบั โรคระบาด ท่เี กดิ ข้ึนและแพร่กระจายไปทั่วโลกได้อยา่ งรวดเร็วแล้วนัน้ จำเปน็ ตอ้ งมีบุคลากรทมี่ ีความร้คู วามชำนาญเฉพาะด้าน เพื่อตั้งรับและรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน และความเสียหายภาพรวมของ ประเทศได้ 2. พน้ื ทเี่ ป้าหมายและกลุ่มเปา้ หมาย (Target) กลมุ่ เปา้ หมาย ประกอบด้วย 1. แพทยป์ ระจำบา้ น 2. บุคลากรทางสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในคลกิ เวชศาสตร์การเดินทางและทอ่ งเที่ยวและด่านควบคุมโรคติดต่อ ระหวา่ งประเทศ 3. แพทยห์ รือพยาบาลในเรือนจำและโรงพยาบาลแมข่ ่ายภายใตโ้ ครงการราชทัณฑป์ นั สุขฯ 562

3. เปา้ หมายและตัวช้ีวัด (Goals) เป้าหมาย มาตรการ ค่าเปา้ หมาย/ผลการดำเนนิ งาน ปีงบประมาณ พ.ศ. ตัวชวี้ ัดเป้าหมาย Baseline 2561 2562 2563 2564 2565 2560 เปา้ หมายท่ี 1 : แพทยป์ ระจำบา้ นจบหลักสตู รด้านเวชศาสตรก์ ารเดินทางและท่องเท่ยี ว ตวั ชี้วดั : จำนวนแพทย์ประจำบ้านท่จี บ - 2233 3 หลกั สตู รดา้ นเวชศาสตร์การเดินทางและ ท่องเท่ียว - 1232 มาตรการที่ 1 พัฒนาศกั ยภาพบคุ ลากรดา้ นเวชศาสตร์ปอ้ งกนั และควบคุมโรค ตวั ชว้ี ดั : บคุ ลากรด้านทางการแพทย์และ 40 40 40 40 40 40 สาธารณสุขผา่ นการอบรมหลักสตู รด้านเวช 35 35 35 50 - ศาสตร์ปอ้ งกัน เปา้ หมายท่ี 2 : งานวิจัยหรืองานวิชาการดา้ นเวชศาสตร์ป้องกันแลว้ เสร็จอย่างน้อยปีละ 2 เรื่อง ตวั ชว้ี ัด : ร้อยละของงานวิจัยหรืองานวิชาการ - 80 80 80 80 80 ด้านเวชศาสตร์ปอ้ งกนั แลว้ เสรจ็ - 100 100 50 50 มาตรการที่ 2 พัฒนางานวิชาการด้านเวชศาสตร์ปอ้ งกนั และควบคมุ โรค จำนวนสอ่ื หรือผลงานวิชาการดา้ นเวชศาสตร์ 2 2222 2 ป้องกนั 2 2 2 1 1 - แผนงานการ ัพฒนา �กำ ัลงคน ้ดานเวชศาสตร์ ้ปองกันและควบ ุคมโรค เป้าหมายท่ี 3 : เปดิ ฝกึ อบรมแขนงอาชวี เวชศาสตรป์ อ้ งกันเพิ่มอกี 1 แขนง ตวั ช้ีวดั : หนว่ ยงานผ่านการตรวจประเมินเป็น - ---- 1 สถาบนั ฝกึ อบรมแขนงอาชีวเวชศาสตร์ - ---- 1 มาตรการที่ 3 พฒั นาระบบประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา ตัวชว้ี ดั : อาจารยแ์ ละบคุ ลากรของหนว่ ยงาน 80 80 80 80 80 90 ผา่ นการอบรมแพทยศาสตร์ 80 93 80 100 563

การพัฒนาและขบั เคลื่อนงานเชงิ ระบบ (System Development) 4. มาตรการและกจิ กรรมสำคัญ (Strategy and Intervention) มาตรการและกจิ กรรมสำคัญ หน่วยงานดำเนินการ (Service Provider) (Strategy and Intervention) ส่วนกลาง เรอื นจำ มาตรการที่ 1 พฒั นาศักยภาพบคุ ลากรด้านเวชศาสตรป์ ้องกนั และควบคุมโรค 1.1 จดั ทำแผนประชาสัมพันธ์การรับสมคั รแพทย์ประจำบ้านรอบที่ 1 1.จัดทำหนงั สอื แจ้งเวยี นไปยังโรงพยาบาลในสังกดั สป.และ รอบที่ 2 และรอบพเิ ศษ โรงพยาบาลสังกัดอน่ื ๆ 2.ออกบู้ธประชาสัมพันธต์ ามโรงเรยี นแพทย์และ โรงพยาบาลที่แพทยใ์ ช้ทุน 1.2 อบรมเวชศาสตรป์ อ้ งกนั ระดบั พ้ืนฐานและระดบั กลางแกบ่ ุคลากรท่ี ประสานงานและจัดอบรมหลกั สูตร ปฏบิ ตั ิงาน TMC และดา่ นควบคุมโรคระหวา่ งประเทศ 1.3. อบรมหลักสตู รเวชศาสตรร์ าชทัณฑ์ระยะสน้ั แก่บุคลากรทาง ประสานงานและจดั อบรมหลักสูตร รว่ มเปน็ คณะทำงานและให้ขอ้ เสนอแนะในการ การแพทยใ์ นเรอื นจำภายใต้โครงการราชทณั ฑป์ ันสขุ พฒั นาหลักสตู ร มาตรการท่ี 2 พฒั นางานวิชาการดา้ นเวชศาสตร์ป้องกนั และควบคุมโรค 2.1 สร้างและพัฒนาทมี เพ่อื พัฒนางานวิจยั และนวตั กรรมกรมควบคมุ ประสานงานและพฒั นางานวิจัย 564 โรค ภายใต้ช่อื ทมี Think Tank DDC 2.2 จัดทำ E-learning และ E-book หลักสตู รเวชศาสตรร์ าชทัณฑ์ จดั ทำระบบ E-learning และ E-book สำหรับเป็นคู่มือ 2.3 พฒั นาโปรแกรม Intervac เพอ่ื รองรับการออกใบรับรองการฉดี เปน็ ทีมหลกั ในการพัฒนาและใหข้ ้อมลู วัคซีน (E-passport) รว่ มกบั NECTEC และสคร.12 สงขลา 2.4 จดั ทำสือ่ แนะนำวิธกี ารส่ือสารแก่ผมู้ ารบั บรกิ ารใหแ้ กเ่ จา้ หนา้ ท่ี จดั ทำสื่อและคูม่ อื คลนิ ิก TMC มาตรการท่ี 3 พัฒนาระบบประกันคุณภาพการศกึ ษา 3.1 ขอรับรองการตรวจประเมินเป็นสถาบันฝึกอบรมแขนงอาชีวเวช ขอรับการตรวจประเมินคุณภาพสถาบันฝึกอบรมแพทย์ ศาสตรร์ ่วมกบั โรงพยาบาลสมเด็จ ณ ศรีราชา ประจำบา้ นตามเกณฑม์ าตรฐาน 3.2 อบรมแพทยศาสตร์ศึกษาแกอ่ าจารย์ผ้สู อนและผเู้ กย่ี วขอ้ ง ประสานงานและจัดอบรม

5. มาตรการ โครงการ และกจิ กรรมหลกั (Strategy/Intervention Project and Activity) มาตรการ โครงการ กรอบระยะเวลา ปี พ.ศ. ผ้รู บั ผดิ ชอบ วงเงิน (ล้านบาท) รวม แหล่ง เป้าหมาย ตัวชวี้ ัด และกจิ กรรมหลัก หลกั / เงนิ รว่ ม 2561 2562 2563 2564 2565 2561 2562 2563 2564 2565 มาตรการที่ 1 พัฒนาศักยภาพบคุ ลากรดา้ นเวชศาสตร์ป้องกันและควบคมุ โรค โครงการที่ 1 โครงการ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ หลัก : สถาบนั 1.2 1.84 2.4 1.84 3.35 10.6 เงินงบ แพทยป์ ระจำ ร้อยละ 80ของ พฒั นาศักยภาพแพทย์ เวชศาสตร์ ประมาณ บ้านและ แพทยป์ ระจำ ประจำบา้ นและบคุ ลากร ป้องกันศกึ ษา บคุ ลากรทางการ บา้ นและ ดา้ นเวชศาสตร์ปอ้ งกนั ร่วม : - แพทย์ และ บุคลากร ทางการ ทางการแพทย์ สาธารณสขุ และการ สาธารณสุขมี ความรู้ ความ เข้าใจ และมี ทกั ษะดา้ นเวช 565 ศาสตร์ป้องกัน โครงการที่ 2 โครงการ ✓ ✓ ✓ หลกั : สถาบัน - - 0.53 0.85 0.8 2.1 เงินงบ บุคลากรทาง รอ้ ยละ 80 พัฒนาศักยภาพบุคลากร เวชศาสตร์ ประมาณ การแพทยแ์ ละ ของบคุ ลากร ทางการแพทย์และ ปอ้ งกนั ศึกษา สาธารณสุขที่ ทางการแพทย์ สาธารณสุขดา้ นเวช ร่วม : - ปฏบิ ัตงิ านใน และ ศาสตร์ราชทัณฑ์ เรอื นจำภายใต้ สาธารณสขุ ที่ โครงการราชทัณฑ์ ปฏิบตั งิ านใน ปนั สุขฯ เรอื นจำภายใต้ โครงการ ราชทัณฑ์ปัน สุขฯ ผา่ นการ อบรม มาตรการท่ี 2 พฒั นางานวชิ าการดา้ นเวชศาสตร์ป้องกนั และควบคุมโรค โครงการที่ 3 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ หลัก : สถาบนั 1.7 0.96 1.23 1.18 3.15 8.22 เงินงบ แพทย์ประจำ สอื่ เผยแพร่งาน โครงการพฒั นาระบบ เวชศาสตร์ ประมาณ บา้ น,บุคลากร วชิ าการ วจิ ัย บรกิ ารวิชาการงานวจิ ัย ปอ้ งกันศึกษา ทางการแพทย์ หรอื นวัตกรรม ร่วม : - ดา้ นการ แผนงานการพัฒนากำ� ลังคนดา้ นเวชศาสตรป์ ้องกนั และควบคุมโรค

การพัฒนาและขบั เคลอื่ นงานเชงิ ระบบ (System Development) มาตรการ โครงการ กรอบระยะเวลา ปี พ.ศ. ผ้รู บั ผิดชอบ วงเงนิ (ลา้ นบาท) รวม แหล่ง เปา้ หมาย ตัวชว้ี ัด และกจิ กรรมหลัก หลัก/ เงิน ร่วม 1.72 0.89 1.3 และเครือขา่ ย 2561 ประชาสัมพันธ์ 2562 1.0 0.57 2.2 2563 2564 2565 2561 2562 2563 2564 2565 โครงการที่ 4 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ หลกั : สถาบนั 5.0 4.14 และสาธารณสขุ ปอ้ งกันควบคมุ โครงการพฒั นานวัตกรรม เวชศาสตร์ อืน่ ๆ,มัคคเุ ทศก์ โรคจำนวน 1 และวชิ าการดา้ นการ ปอ้ งกันศึกษา ป้องกนั และควบคมุ โรค รว่ ม : - เร่อื ง (Think Tank DDC) 13.05 เงินงบ บคุ ลากรสงั กดั จำนวนผลงาน 566 มาตรการท่ี 3 พัฒนาระบบประกนั คุณภาพการศกึ ษา ประมาณ กรมควบคุมโรค วิชาการ/ ท้ังสว่ นกลางและ ผลงาน โครงการท่ี 5 โครงการ ✓ ✓ ✓ ✓ ส่วนภมู ิภาค นวัตกรรมดา้ น การพัฒนาระบบกลไก เวชศาสตร์ การประกันคุณภาพ ป้องกนั และ การศกึ ษาและประเมนิ ผล ควบคมุ โรค ท่ี แล้วเสร็จ อยา่ งน้อย 3 เรอ่ื งต่อปี ✓ หลัก : สถาบนั 1.8 1.0 6.57 เงินงบ อาจารย์และ สถาบันมรี ะบบ เวชศาสตร์ ประมาณ บุคลากรของ ประกนั ป้องกนั ศึกษา สถาบันฯผา่ นการ คุณภาพ ร่วม : - อบรมด้าน การศึกษาทไี่ ด้ แพทยศาสตร ตามมาตรฐาน ศกึ ษา

6. การติดตามประเมินผลแผนงานและมาตรการ (Monitoring and Evaluation) เปา้ หมายแผนงาน ตวั ชวี้ ดั และค่า วิธีการติดตาม กรอบระยะเวลาของการตดิ ตาม และมาตรการ เปา้ หมาย ประเมนิ ผล ประเมินผล ปี พ.ศ. 2561 2562 2563 2564 2565 มาตรการที่ 1 สรา้ งและพฒั นา จำนวนแพทย์ - แบบประเมินความพึง ✓✓✓✓ กำลงั คนดา้ นเวชศาสตรป์ ้องกัน ประจำบ้านทจี่ บ พอใจการเขา้ รว่ ม และควบคมุ โรค หลักสตู รดา้ นเวช โครงการ ศาสตรก์ าร - แบบติดตามการ เดนิ ทางและ ฝึกอบรมแพทย์ประจำ ทอ่ งเทีย่ ว อยา่ ง บ้าน น้อยปีละ 2 คน มาตรการที่ 2 พัฒนางานวิชาการดา้ น จำนวนส่อื หรอื รายงานความกา้ วหนา้ ✓✓✓✓ เวชศาสตรป์ อ้ งกนั และควบคมุ โรค ผลงานวิชาการ โครงการหรอื งาน ดา้ นเวชศาสตร์ วชิ าการ ปอ้ งกนั อย่างนอ้ ย ปีละ 2 เร่ือง มาตรการที่ 3 พัฒนาระบบ หนว่ ยงานผา่ นการ รายงานผลการประเมนิ ✓✓✓✓ ประกันคณุ ภาพการศึกษา ตรวจประเมินเปน็ การตรวจรับรองจาก แผนงานการ ัพฒนา �กำ ัลงคน ้ดานเวชศาสตร์ ้ปองกันและควบ ุคมโรค สถาบนั ฝึกอบรม แพทยสภา แขนงอาชีวเวช ศาสตร์ 7. ผู้รับผิดชอบแผนงาน (Project Manager) ตำแหนง่ ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตรป์ อ้ งกันศึกษา 7.1 นางชุลกี ร ธนธิตกิ ร E-mail : [email protected] โทร. 081-8806629 ตำแหน่ง นักวชิ าการสาธารณสุขชำนาญการ 7.2 นางสาวเตือนใจ นุชเทยี น E-mail : [email protected] โทร. 02 5903726 นกั วชิ าการสาธารณสขุ ปฏบิ ตั ิการ 7.3 นางสาวเสาวนีย์ จลุ วงค์ E-mail : [email protected] โทร. 02 5903727 นกั วชิ าการสาธารณสุขปฏิบัติการ 7.4 นายนายธัชริทธิ์ ใจผกู E-mail : [email protected] โทร. 0 2590 3726 567

การพฒั นาและขับเคล่ือนงานเชิงระบบ (System Development) แผนงาน พื้นทีแ่ ละกลมุ เปา หมาย เวชศาสตรก ารเดินทางและทอ‹ งเทย่ี ว เ(ปG‡าoหaมlาsย)  นักเดินทางทอ งเทย่ี วไดรบั บริการดา นการปอ งกนั ควบคมุ โรค ต(วั KชPว้�I)ดั Outcome  นักเดินทาง 2.5 แสนคนไดร ับบรกิ ารปอ งกนั ควบคมุ โรคฯ และภัยสุขภาพทีไ่ ดมาตรฐาน  มีแผน/กจิ กรรมการปองกนั ควบคุมโรคและภัยสขุ ภาพ สำหรับนกั เดนิ ทางทองเทย่ี ว ท่รี วมดำเนินการกับเครือขา ย  สรา งการเดนิ ทางทอ งเทยี่ วท่ีปลอดภยั อยางมีสวนรวม สถา(Gนaกpาร) ณ ขาดระบบบริการดานการปอ งกนั ควบคุมโรคและภัยสขุ ภาพสำหรับนักเดนิ ทางทอ งเที่ยวท่คี รบคลมุ ทกุ จังหวดั และการเขาถงึ การใชบ ริการ มาตรการ หนว ยงานระดับนโยบาย (สว นกลาง) และ สคร. หนว ยงานระดบั พน้ื ที่ กจิ กรรม หลกั มาตรการที่ 1 พฒั นาระบบบรกิ าร มาตรการที่ 2 บูรณาการความรวมมือ มาตรการท่ี 1 พฒั นาระบบบริการ มาตรการท่ี 2 บรู ณาการความรว มมอื ดานการปองกันควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพ กับภาคีเครือขา ยเพื่อสรา งการเดินทาง ดา นการปอ งกนั ควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพ กับภาคีเครือขายเพอ่ื สรางการเดนิ ทาง สำหรับนกั เดินทางทองเที่ยว ทองเท่ยี วท่ีปลอดภยั สำหรับนักเดนิ ทางทอ งเที่ยว ทองเท่ยี วทป่ี ลอดภัย 568 1. การใหบ รกิ ารออกเอกสารรบั รอง 1. การแจงเตอื นความเสยี่ งโรคและ 1. สสจ. รพ.ศนู ย และ รพ.ทว่ั ไป ใหบ รกิ าร 1. วิเคราะหและแจงเตือนความเสี่ยงโรค การสรางเสริมภูมคิ มุ กนั โรค เพ่ือใช ภัยสุขภาพ ออกเอกสารรบั รองการสรางเสรมิ และภยั สขุ ภาพ/ประเมินความเสยี่ ง สำหรับการเดนิ ทางระหวา งประเทศ ภมู คิ มุ กนั โรค เพอ่ื ใชส ำหรบั การเดนิ ทาง สถานท่ีทอ งเท่ียวในพ้นื ท่ี 2. สนบั สนนุ การดำเนนิ งานปอ งกัน ระหวา งประเทศ 2. สนบั สนุนการใหบริการคลนิ ิก ควบคุมโรค และภยั สุขภาพใน 2. จดั ทำมาตรการ/คำแนะนำ หรือ เวชศาสตรก ารเดินทาง และทองเท่ียว นักเดินทางทอ งเทย่ี วแก เครือขาย 2. สนบั สนุนและประชาสมั พันธการให กิจกรรมการปองกนั ควบคุมโรค ทเ่ี ก่ยี วขอ ง บรกิ ารคลนิ กิ เวชศาสตร การเดนิ ทางฯ และภยั สขุ ภาพใน นกั เดนิ ทางทอ งเทย่ี ว ทีม่ อี ยูในพื้นทใี่ หน ักทอ งเที่ยวรับทราบ รวมกับเครือขา ยในพ้นื ที่ หนว‹ ยงาน กองดา นควบคุมโรคฯ กระทรวงการทอ งเท่ียวและกีฬา ททท. กระทรวงคมนาคม ประชาสัมพนั ธจังหวัด องคกรปกครองสว นทองถิน่ อทุ ยานแหงชาติ ผูประกอบการโรงแรม/ทพี่ ัก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอม ผปู ระกอบการธุรกจิ นำเท่ยี ว/มคั คุเทศก รานคา /รา นอาหาร รว‹ มดำเนนิ การ 3 เดือน 6 เดือน 9 เดอื น 12 เดอื น Quick Win 1. มหี นว ยงานทีใ่ หบรกิ ารออกเอกสารรบั รอง 1. มหี นวยงานที่ใหบรกิ ารออกเอกสารรับรอง 1. มีผลการดำเนนิ งานการปองกนั ควบคมุ โรคและ 1. นกั เดนิ ทาง 2.5 แสนคนไดร บั บริการดานการ การสรางเสริมภมู ิคุมกันโรค สำหรับการเดนิ ทาง การสรา งเสรมิ ภมู คิ มุ กนั โรค สำหรบั การเดนิ ทาง ภัยสขุ ภาพสำหรบั นกั เดินทางทองเที่ยว ปองกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ ระหวา งประเทศ 40 แหง ระหวางประเทศ 77 แหง ทวั่ ประเทศ ท่ีรวมดำเนินการกับเครือขาย 2. มีการแจง เตือนความเสย่ี งโรคและภยั สขุ ภาพ 2. มีแผน/กจิ กรรมการปอ งกันควบคุมโรคและ 2. มกี ารแจงเตือนความเส่ยี งโรคและภยั สุขภาพ 2. มีการแจง เตอื นความเสยี่ งโรคและภยั สขุ ภาพ สำหรับนกั เดินทางทองเท่ยี วอยางนอย 1 เร่ือง ภยั สขุ ภาพสำหรบั นักเดินทางทอ งเที่ยว สำหรับนักเดนิ ทางทองเทีย่ ว อยางนอ ย 1 เรอ่ื ง สำหรับนกั เดนิ ทางทอ งเที่ยว อยา งนอ ย 1 เรอ่ื ง รว มกบั ภาคีเครือขาย

แผนงานเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว แผนงานเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเ ่ทียว 1. สถานการณ์ (Situation) ในช่วง 5 ปีย้อนหลัง (ปี 2558 - 2562) ก่อนเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทั่วโลก ข้อมลู จากองค์การการท่องเท่ียวโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations World Tourism Organization: UNWTO) พบว่า จำนวนนักเดินทางระหว่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี จาก 1,186 ล้านคน 1,235 ล้านคน 1,323 ล้านคน 1,401 ล้านคน และ 1,460 ล้านคน ตามลำดับ ส่วนการท่องเที่ยวของประเทศไทยนั้น จากข้อมูลกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาทอ่ งเที่ยวในประเทศมีจำนวนเพิ่มสูงขึน้ ทุกปีเช่นเดียวกัน จาก 29.92 ล้านคน 32.52 ล้านคน 35.59 ล้านคน 38.17 ล้านคน และ 39.79 ล้านคน ตามลำดับ โดยในปี 2562 มีรายได้ที่เกิดจากนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงถึง 1.93 ล้านล้านบาท ซึ่งชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน (10.9 ล้านคน) มาเลเซีย (4.16 ล้านคน) อินเดีย (1.99 ล้านคน) เกาหลี (1.88 ล้านคน) และลาว (1.84 ล้านคน) ตามลำดับ นอกจากน้ีการท่องเที่ยวภายในประเทศของผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยก็เพิ่มสูงขึ้น เช่นกัน โดยปี 2558 มีจำนวน 185.11 ล้านคน สร้างรายได้ 0.79 ล้านล้านบาท และเพิ่มขึ้นถึง 227.81 ล้านคน สร้างรายได้ 1.08 ล้านล้านบาทในปี 2562 โดยจังหวัดที่มีผู้เยี่ยมเยือนมากที่สุดทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ 10 จังหวัดแรกเป็นจังหวัดเมืองหลัก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่ นครราชสีมา กาญจนบุรี เพชรบรุ ี พระนครศรีอยุธยา สงขลา และระยอง ตามลำดบั และในปี 2563 ท่วั โลก ไดร้ ับผลกระทบจากการแพร่ระบาด ของโรคโควิด 19 ทำให้จำนวนนักเดินทางระหว่างประเทศลดลงถึงร้อยละ 85 โดยประเทศไทยมีนักท่องเที่ยว ต่างชาติลดลงร้อยละ 83 หรือเหลือเพียง 6.7 ล้านคน จากข้อจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศที่เข้มงวดมากข้ึน ซึ่งมาตรการฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้กับประชาชน จึงเป็นความหวังท่ีจะช่วยผลักดันใหก้ ารเดินทางท่องเที่ยวระหว่าง ประเทศฟืน้ ตัวและกระตุ้นเศรษฐกิจโลก จากรายงาน Safe Cities Index 2019 ของ The Economist Intelligence Unit ได้จัดอับดับ ความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวของ 60 เมืองใหญ่ทั่วโลก พบว่า กรุงเทพมหานคร จัดอยู่ในอันดับที่ 47 โดยด้าน ที่ดีที่สุด คือ ความมั่นคงปลอดภัยในการใช้เครื่องมือทางดิจิทัลอยู่ในอันดับที่ 40 และด้านที่อันดับต่ำสุด คือ ความปลอดภัย ส่วนบคุ คลอนั ดบั ที่ 52 ในขณะท่คี วามปลอดภัยของสุขภาพอนามัยอันดบั ท่ี 45 และความปลอดภัย ของโครงสร้างพ้ืนฐานอันดับท่ี 48 นอกจากนี้จากรายงานภาวะเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ฉบับที่ 1 ปี 2562 ของ กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ศึกษาข้อมูลทุติยภูมิการบาดเจ็บและการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติท่ีเดนิ ทางมาประเทศไทย ต้งั แตป่ ี 2559 ถึงเดือนสิงหาคมปี 2562 พบวา่ มีนกั ท่องเท่ียวต่างชาติที่ได้รับ บาดเจ็บและเสียชีวิต รวม 2,522 ราย ส่วนใหญ่ร้อยละ 54.60 เกิดจากอุบัติเหตุทางบก-จราจร รองลงมาร้อยละ 19.79 เปน็ การบาดเจบ็ และเสียชวี ิตจากอบุ ัติเหตทุ างน้ำที่ไม่ใชจ่ ากการโดยสาร เช่น กจิ กรรมทางน้ำ ร้อยละ 10.67 เกิดจากอบุ ัตเิ หตุทางน้ำจากการโดยสารและขนสง่ ทางนำ้ ร้อยละ 10.34 เกิดจากอบุ ตั ิเหตุทางบกที่ไม่ใช่การจราจร และร้อยละ 4.60 เกิดจากการก่ออาชญากรรม ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ 10 อันดับแรก คือ จักรยานยนต์ รถยนต์ รถทัวร์ เล่นน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ โรคไม่ติดต่อ/โรคประจำตัว รถตู้สาธารณะ อุบัติเหตุทางบกอื่นๆ เรอื สปีดโบ๊ท ดำนำ้ แบบผิวนำ้ และดำน้ำลึก ซง่ึ จังหวดั ท่ีมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวตา่ งชาตบิ าดเจ็บและเสียชีวิตมาก ท่สี ุด คอื ภเู ก็ต สรุ าษฎรธ์ านี พงั งา กระบี่ เชียงใหม่ กาญจนบุรี พระนครศรีอยธุ ยา และชลบุรี ตามลำดบั จากรายงานการเฝ้าระวังโรคในชาวต่างชาติของกองระบาดวิทยา ระหว่างปี พ.ศ. 2557 - 2561 มีรายงานผู้ป่วยชาวต่างชาติ จำนวน 238,829 ราย เสียชีวิต 150 ราย โดยในปี พ.ศ. 2561 มีผู้ป่วยชาวต่างชาติ 569

การ ัพฒนาและขับเคลื่อนงานเชิงระบบ (System Development) ที่รายงานเข้าสู่ระบบเฝ้าระวัง จำนวน 53,448 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา เสียชีวิต 23 ราย อัตราป่วยตาย รอ้ ยละ 0.04 สว่ นใหญเ่ ป็นผใู้ ช้แรงงานต่างชาติและครอบครวั รอ้ ยละ 57.45 รองลงมาเป็นนกั ท่องเที่ยว ร้อยละ 27.75 โรคที่พบมากที่สุด คือ อุจจาระร่วง ร้อยละ 39.76 รองลงมา ได้แก่ ไข้ไม่ทราบสาเหตุ ร้อยละ 16.63 ปอดอักเสบ ร้อยละ 9.90 โดยโรคที่มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นสูงสุด 5 อันดับแรกเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา คือ อุจจาระร่วง ไขเ้ ลอื ดออก โรคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ งูกดั และไข้ไม่ทราบสาเหตุ ซง่ึ จงั หวดั ท่พี บผ้ปู ่วยเปน็ นักท่องเที่ยวมากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชยี งใหม่ ภูเก็ต ลำปาง หนองคาย สโุ ขทัย และร้อยเอ็ด สำหรับปัญหาสุขภาพของผู้เดินทางไทยที่กลับมาจากต่างประเทศ ผลการศึกษาผู้ท่ีกลับจาก ประเทศลาว ในช่วงเดือนกันยายน 2554 ถึงเดือนเมษายน 2555 จำนวน 1,205 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว แบบแพ็คเกจ พบปัญหาสุขภาพร้อยละ 6.1 อาการที่พบมากที่สุด คือ ไอ และท้องร่วง ผู้เดินทางไทยที่กลับจาก ประเทศอนิ เดยี ระหว่างเดอื นตลุ าคม 2557 ถงึ มีนาคม 2558 จำนวน 1,304 คน อายุเฉลย่ี 49 ปี พบปญั หาสขุ ภาพ ระหว่างเดินทาง รอ้ ยละ 52 อาการทพ่ี บบอ่ ย คือ ไอ น้ำมูกไหล เจบ็ คอ ร้อยละ 31.1 มปี ญั หากล้ามเนื้อและกระดูก ร้อยละ 21.7 มไี ข้ ร้อยละ 12.7 ทอ้ งรว่ ง ร้อยละ 9.8 ปญั หาผิวหนัง รอ้ ยละ 6.6 ปัญหาท่ีเกี่ยวข้องกับตา/หู ร้อยละ 2.1 สมั ผสั สตั ว์ ร้อยละ 1.9 และอุบตั ิเหตุ ร้อยละ 0.8 และปัญหาสุขภาพของผู้ท่ีกลับมาจากประเทศพม่า เดือนมีนาคม 2558 ถึงเดือนพฤษภาคม 2560 จำนวน 397 คน พบปัญหาสุขภาพร้อยละ 12.6 ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง โดยมี อาการทางเดินหายใจส่วนบน ร้อยละ 7.6 รองลงมา คือ ท้องเสีย ร้อยละ 3.1 ไข้ ร้อยละ 2.8 และปัญหาผิวหนัง ร้อยละ 2.0 กลุ่มโรคติดต่อระหว่างประเทศ กองโรคติดต่อทั่วไป ในฐานะผู้รับผิดชอบแผนงานเวชศาสตร์ การเดินทางและท่องเที่ยว ได้เล็งเห็นความสำคัญของการป้องกันโรคและภัยสุขภาพให้กับนักเดินทางท่องเที่ยว ทั้งคนไทยเที่ยวไทย คนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศ และชาวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทย โดยพัฒนา กระบวนการแจ้งเตือนความเสย่ี งโรคและภยั สขุ ภาพเพ่ือให้ผูเ้ ดินทางเตรยี มความพร้อมและป้องกันตนเองได้ล่วงหน้า ซึง่ จะช่วยลดความสูญเสยี และการเจ็บปว่ ยท่ีอาจเกิดขึน้ จากการท่องเท่ียว และสนบั สนุ นการดำเนินงานคลนิ ิกเวชศาสตร์ การเดนิ ทางซึ่งมหี น้าที่ให้คำแนะนำ ดูแลรักษา และให้บริการฉีดวัคซนี แกผ่ ู้เดินทาง รวมทั้งออกเอกสารรับรองการ ฉีดวัคซีนโควดิ 19 สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ นอกจากน้ีจำเป็นต้องสร้างกลไกการขับเคลื่อนที่สำคญั คือ การมีส่วนร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นท่ี เช่น ภาคการท่องเที่ยว ฝ่ายปกครอง คมนาคม หรือผู้ประกอบการต่างๆ เพื่อสร้างความปลอดภัยและความเชื่อมั่นใหก้ ับประชาชนและนักเดินทางท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึน้ ในช่วงเปิดประเทศ ซง่ึ เปน็ ส่วนหนึ่งในการช่วยฟืน้ ฟูอตุ สาหกรรมท่องเท่ียวและเศรษฐกิจประเทศ 2. พ้ืนทเ่ี ปา้ หมายและกลุ่มเปา้ หมาย (Target) 2.1 กลุ่มเป้าหมาย : 1) คนไทยเทย่ี วไทย 2) คนไทยทเี่ ดินทางไปต่างประเทศ 3) ชาวต่างชาติทเี่ ดินทางมาประเทศไทย 2.2 พืน้ ทเี่ ป้าหมาย : 77 จังหวัด 570

3. เปา้ หมายและตัวชี้วัด (Goals) เป้าหมาย มาตรการ คา่ เป้าหมาย/ผลการดำเนินงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. ตวั ชว้ี ดั เปา้ หมาย Baseline 2561 2562 2563 2564 2565 2560 เป้าหมายท่ี 1 : นกั เดินทางท่องเท่ียวได้รับบริการด้านการป้องกันควบคุมโรคและภยั สุขภาพทีไ่ ดม้ าตรฐาน ตัวชว้ี ัด : จำนวนนักเดินทางท่องเทีย่ วที่ไดร้ ับ 2.5 บริการดา้ นการป้องกันควบคุมโรคและภยั สขุ ภาพ แสนคน มาตรการท่ี 1 พัฒนาระบบบริการด้านการป้องกนั ควบคมุ โรคและภยั สขุ ภาพสำหรับนักเดนิ ทางทอ่ งเทยี่ ว ตัวชวี้ ดั : จำนวนหนว่ ยงานที่สามารถใหบ้ ริการ อยา่ งน้อย ออกเอกสารรบั รองการสร้างเสรมิ ภูมคิ ้มุ กันโรค จงั หวัดละ สำหรบั การเดนิ ทางระหวา่ งประเทศไดต้ าม 1 แห่ง แนวทางทก่ี ำหนด เป้าหมายที่ 2 : สร้างการเดินทางทอ่ งเทย่ี วที่ปลอดภัยอยา่ งมีสว่ นรวม อยา่ งน้อย แผนงานเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเ ่ทียว ตัวชวี้ ดั : มแี ผน/กิจกรรมการป้องกนั ควบคุมโรค จงั หวดั ละ และภยั สขุ ภาพสำหรับนกั เดนิ ทางทอ่ งเท่ียว ทรี่ ว่ ม 1 เร่ือง ดำเนินการกับเครอื ข่าย อย่างนอ้ ย มาตรการท่ี 2 บรู ณาการความร่วมมือกบั ภาคเี ครอื ขา่ ยเพื่อสร้างการเดินทางท่องเท่ยี วท่ีปลอดภยั จังหวัดละ ตวั ช้วี ัด : จำนวนเครอื ขา่ ยทไี่ ดร้ บั การสนบั สนุนหรอื 5 หนว่ ยงาน พฒั นาเพอ่ื สรา้ งการเดินทางท่องเท่ียวท่ีปลอดภยั 571

การพฒั นาและขับเคล่ือนงานเชิงระบบ (System Development) 4. มาตรการและกิจกรรมสำคญั (Strategy and Intervention) มาตรการและกจิ กรรมสำคญั หนว่ ยงานดำเนินการ (Service Provider) (Strategy and Intervention) ส่วนกลาง สคร. สสจ. สสอ. รพ. อปท. ชมุ ชน/ตำบล มาตรการที่ 1 พฒั นาระบบบรกิ ารดา้ นการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพสำหรบั นักเดนิ ทางท่องเท่ียว - - 1.1 การให้บริการออกเอกสารรบั รองการสรา้ ง - จดั ทำและ - ออกเอกสาร - ออกเอกสาร - ประชาสมั พนั ธ์ - ออกเอกสาร เสรมิ ภูมคิ ุ้มกันโรค กรณีวัคซีนป้องกนั โรคตดิ เผยแพร่แนว รบั รองฯ รับรองฯ การใหบ้ ริการฯ รับรองฯ - - เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควดิ 19 เพอ่ื ปฏบิ ตั ิ - เปน็ คลังสำรอง - เป็นคลังสำรอง แก่ผู้ที่จะเดินทาง (รพ.ศนู ย์ และ ใชส้ ำหรบั การเดินทางระหวา่ งประเทศ - พฒั นาระบบ การเบกิ จ่าย การเบกิ จา่ ย ไปตา่ งประเทศ รพ.ท่วั ไป) การออกเอกสาร เอกสารรบั รองฯ เอกสารรบั รองฯ ให้ ในพื้นทรี่ บั ทราบ - ประชาสัมพันธ์ รบั รองฯ ในระดบั เขต รพ.ในจงั หวดั การใหบ้ ริการฯ - สนบั สนุน - ประชาสัมพนั ธ์ - ประชาสมั พันธ์ แก่ผทู้ ่จี ะเดนิ ทาง เอกสารรับรองฯ การใหบ้ ริการฯ การให้บรกิ ารฯ แก่ ไปต่างประเทศ และใหค้ ำปรกึ ษา แกผ่ ู้ทจ่ี ะเดนิ ทาง ผู้ทีจ่ ะเดนิ ทางไป ในพ้ืนท่ีรบั ทราบ แกเ่ ครือข่าย ไปต่างประเทศ ตา่ งประเทศ ใน 572 ผู้ใหบ้ ริการ ในพื้นทรี่ บั ทราบ พน้ื ที่รบั ทราบ 1.2 สนบั สนนุ การให้บรกิ ารคลินิกเวชศาสตร์ - สนบั สนุน - สนบั สนนุ การ - สนบั สนุนและ - ประชาสัมพนั ธ์ - ให้บรกิ าร การเดนิ ทางและท่องเที่ยว วชิ าการ/บทเรยี น ใหบ้ ริการคลินิก ประชาสมั พันธ์ การให้บริการ คลนิ กิ เวชศาสตร์ ออนไลนเ์ พ่ือการ เวชศาสตร์การ การใหบ้ รกิ าร คลินกิ เวชศาสตรฯ์ การเดินทางและ พฒั นาศักยภาพ เดินทางและ คลนิ กิ เวชศาสตรฯ์ ทม่ี ใี น รพ.พืน้ ท่ี ทอ่ งเทีย่ ว เจ้าหนา้ ท/ี่ สอื่ ทอ่ งเทีย่ ว ท่มี ีใน รพ.พน้ื ที่ ให้ ใหน้ กั ท่องเทีย่ ว (รพ.ท่มี ีคลนิ กิ TM) ประชาสมั พันธ์ (สคร.1, สคร.6, นกั ทอ่ งเที่ยว รับทราบ - พัฒนาศักยภาพ ที่ใช้ในคลนิ ิกฯ สคร.12 และ สป รบั ทราบ เจ้าหนา้ ที่ - ให้คำปรึกษา คม.) ปฏิบัตงิ าน แก่เครือข่าย - พฒั นาศกั ยภาพ ผู้ให้บรกิ าร เจ้าหน้าที่ ปฏบิ ัตงิ าน

มาตรการและกจิ กรรมสำคญั หนว่ ยงานดำเนินการ (Service Provider) (Strategy and Intervention) ส่วนกลาง สคร. สสจ. สสอ. รพ. อปท. ชมุ ชน/ตำบล มาตรการท่ี 2 บรู ณาการความร่วมมือกับภาคเี ครอื ขา่ ยเพื่อสร้างการเดินทางทอ่ งเท่ียวท่ปี ลอดภยั 2.1 การแจง้ เตอื นความเสย่ี งโรคและภยั สขุ ภาพ - วิเคราะหค์ วาม - วิเคราะห์ความ - วเิ คราะหค์ วาม - วเิ คราะห์ความ - ประชาสมั พนั ธ/์ - ประชาสัมพันธ/์ - ประชาสมั พันธ/์ เสยี่ งโรคและภยั เสีย่ งโรคและภัย เส่ียงโรคและภัย เส่ียงโรคและภัย แจง้ เตือนความ แจ้งเตือนความ แจ้งเตือนความ สุขภาพทเี่ กีย่ วกบั สุขภาพทเี่ กี่ยวกับ สุขภาพ ทเี่ ก่ยี วกับ สุขภาพ เส่ยี งโรคและ เสีย่ งโรคและ เสีย่ งโรคและ การเดินทาง การเดินทาง การเดนิ ทาง ทเี่ กยี่ วกับการ ภยั สุขภาพที่ ภัยสขุ ภาพท่ี ภัยสุขภาพท่ี ท่องเท่ยี วทง้ั ใน ทอ่ งเท่ียว ท่องเทย่ี ว เดินทาง เกย่ี วกับการ เกยี่ วกบั การ เกย่ี วกบั การ ประเทศและ /ประเมินความ /ประเมินความ ทอ่ งเท่ียว เดนิ ทาง เดินทางท่องเทย่ี ว เดนิ ทาง ต่างประเทศ และ เส่ยี งสถานท่ี เสย่ี งสถานท่ี /ประเมินความ ท่องเท่ยี วให้กบั ใหก้ บั ประชาชน ทอ่ งเทย่ี วใหก้ ับ จดั ทำมาตรการ/ ทอ่ งเท่ยี วในเขต ท่องเท่ยี วในจังหวดั เส่ยี งสถานที่ ประชาชนทม่ี า และนักท่องเทยี่ ว ประชาชนและ คำแนะนำ รบั ผิดชอบรว่ มกับ รว่ มกบั หนว่ ยงาน ท่องเท่ยี วใน รบั บริการ ในพืน้ ทีร่ บั ทราบ นกั ทอ่ งเทีย่ วใน - ประชาสมั พันธ์ หน่วยงาน เครือขา่ ย อำเภอรว่ มกบั - เตรียมความ - ให้การ พ้ืนท่รี บั ทราบ /แจง้ เตอื น เครอื ข่าย - ประชาสัมพันธ์ หนว่ ยงาน พร้อมในการ สนับสนนุ / ความเสยี่ งใหก้ ับ - ประชาสัมพันธ์ /แจ้งเตือน เครือขา่ ย คัดกรองผู้ปว่ ย ปรบั ปรงุ แหลง่ 573 ผู้เดินทาง และ /แจง้ เตือน ความเสย่ี งให้กบั ผู้ - ประชาสัมพันธ์ กลุ่มนักเดนิ ทาง ท่องเท่ียว เพื่อ เครอื ขา่ ยตา่ งๆ ความเสยี่ งใหก้ บั เดินทางและ /แจ้งเตือน สร้างความ เช่น สมาคม ผเู้ ดินทางและ เครอื ขา่ ยท่ี ความเสย่ี งใหก้ บั ปลอดภยั ให้กับผู้ มคั คเุ ทศก์ เครอื ขา่ ยท่ี เก่ียวขอ้ งในพน้ื ที่ ผู้เดินทางและ เดนิ ทางตาม สมาคมโรงแรม เก่ยี วข้องในพนื้ ท่ี เครือขา่ ยที่ คำแนะนำของ ดา่ นคมุ โรคฯ เปน็ เก่ียวขอ้ ง เจา้ หนา้ ที่ ตน้ ในพน้ื ท่ี 2.2 สนบั สนุนการดำเนนิ งานป้องกนั ควบคมุ - ผลกั ดัน - จัดทำมาตรการ/ - จดั ทำมาตรการ/ - เผยแพร่ - เผยแพร่ ใหค้ วามร่วมมือ ใน ใหค้ วามร่วมมือ โรคและภัยสุขภาพในนกั เดินทางท่องเที่ยว นโยบาย จดั ทำ คำแนะนำ หรือ คำแนะนำ หรอื คำแนะนำ หรอื คำแนะนำ หรอื การเผยแพร่ ในการดำเนนิ การ แกเ่ ครอื ข่ายทีเ่ ก่ียวขอ้ ง มาตรการ/ กจิ กรรมท่ี กจิ กรรมท่เี กย่ี วขอ้ ง รว่ มดำเนนิ งาน รว่ มดำเนนิ งานกบั ประชาสมั พันธ์ ตามคำแนะนำ คำแนะนำ เก่ยี วขอ้ งกบั การ กับการป้องกนั กบั เครือขา่ ยใน เครือข่ายในพ้ืนท่ี และดำเนนิ การ การปอ้ งกัน ดา้ นสขุ ภาพ ป้องกนั ควบคมุ ควบคุมโรคและ พ้ืนทเ่ี พ่อื การ เพื่อการ ตามคำแนะนำ ควบคมุ โรคและ ผู้เดินทาง ใหก้ บั โรคและภัย ภยั สขุ ภาพในนกั ปอ้ งกนั ควบคุม ป้องกันควบคุม การปอ้ งกนั ภยั สขุ ภาพในนกั เครือขา่ ย สุขภาพในนกั เดนิ ทางท่องเท่ยี ว โรคและภัย โรคและภยั ควบคุมโรคและ แผนงานเวชศาสตร์การเดินทางและทอ่ งเทย่ี ว

การพฒั นาและขับเคล่อื นงานเชงิ ระบบ (System Development) มาตรการและกจิ กรรมสำคญั สคร. หน่วยงานดำเนนิ การ (Service Provider) อปท. (Strategy and Intervention) ส่วนกลาง สสจ. สสอ. รพ. ชมุ ชน/ตำบล - สนบั สนุน เดนิ ทางทอ่ งเท่ียว ร่วมกบั เครอื ขา่ ยใน สขุ ภาพในนัก สุขภาพในนัก ภยั สขุ ภาพในนัก เดนิ ทางท่องเท่ียว วิชาการ/สื่อ ร่วมกบั เครอื ขา่ ย พน้ื ท่ี เดนิ ทาง เดนิ ทางท่องเทีย่ ว เดินทางทอ่ งเที่ยว ทเ่ี ขา้ มาในพ้ืนที่ ประชาสมั พนั ธ์ ในพน้ื ท่ี - สนับสนุน ท่องเทยี่ ว ทีเ่ ขา้ มาในพนื้ ท่ี รวมถงึ การ - สนบั สนุน วิชาการ/สื่อ พฒั นาศักยภาพ วชิ าการ/สอ่ื ประชาสมั พันธ์ เครือขา่ ยในด้าน ประชาสมั พนั ธ์ และให้คำปรึกษา ทเี่ กยี่ วขอ้ ง และใหค้ ำปรึกษา เครอื ขา่ ยในการ - ใหค้ ำปรึกษา เครือขา่ ยใน การ ป้องกันควบคุม เครือขา่ ยใน ปอ้ งกันควบคุม โรคและภัย ด้านการป้องกัน โรคและภยั สขุ ภาพในนัก ควบคมุ โรคและ สุขภาพในนัก เดินทางท่องเทีย่ ว ภยั สุขภาพในนกั เดินทางท่องเที่ยว -พัฒนาศกั ยภาพ เดินทาง -พฒั นาศักยภาพ เครอื ข่ายในด้านท่ี 574 ท่องเท่ียว เครอื ขา่ ยในด้าน เกี่ยวข้อง ที่เก่ยี วขอ้ ง

5. มาตรการ โครงการ และกจิ กรรมหลกั (Strategy/Intervention Project and Activity) มาตรการ โครงการ กรอบระยะเวลา ปี พ.ศ. ผู้รบั ผดิ ชอบ วงเงนิ (ล้านบาท) เปา้ หมาย ตวั ชีว้ ดั และกจิ กรรมหลกั หลัก/ รวม แหลง่ เงิน 2561 2562 2563 2564 2565 2561 2562 2563 2564 2565 ร่วม มาตรการท่ี 1 พัฒนาระบบบริการดา้ นการปอ้ งกนั ควบคุมโรคและภัยสุขภาพสำหรบั นักเดินทางท่องเท่ยี ว 1.1 การใหบ้ ริการออกเอกสารรบั รองการสร้างเสริมภมู ิคมุ้ กนั โรค กรณีวคั ซีนปอ้ งกนั โรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 เพอื่ ใช้สำหรบั การเดินทางระหว่างประเทศ โครงการเฝ้าระวัง ✓✓✓✓✓ 1.3 0.901 2.78 1.085 6.066 งบประมาณ เครอื ข่ายใน จำนวน ป้องกนั ควบคุมโรคและ กรมควบคุม เขต เครอื ขา่ ย ภยั สุขภาพในนัก โรค เศรษฐกจิ ท่ีได้รับการ เดินทางท่องเท่ียว พิเศษ และ สนับสนนุ กจิ กรรมหลกั ที่ 1.1 ✓ ✓ หลัก : กอง 0.78 1 1.78 งบประมาณ เขตพัฒนา การดำเนนิ การออกเอกสารรับรอง โรคตดิ ตอ่ กรมควบคุม พิเศษภาค งานเฝ้า การสร้างเสรมิ ภมู ิคมุ้ กัน ทัว่ ไป โรค ตะวนั ออก ระวงั โรควดิ 19 เพอ่ื ใชส้ ำหรบั ร่วม : ไดร้ ับการ ปอ้ งกัน 575 การเดินทางระหวา่ ง - กอ่ งด่านฯ สนบั สนุน ควบคมุ ประเทศ - สคร.1-12 การดำเนิน โรคและภัย - สสจ. งานเฝ้า สุขภาพใน - รพ.ศูนย์ ระวงั นักเดนิ ทาง และ รพ. ปอ้ งกัน และ ทว่ั ไป ควบคมุ โรค ท่องเท่ียว - สปคม. และภัย (เป้าหมาย - สถาบนั สุขภาพใน 13 แหง่ บำราศ นักเดินทาง ในปี 2564 และ ดำเนนิ การ ท่องเทีย่ ว ได้ 32 แห่ง) แผนงานเวชศาสตรก์ ารเดินทางและท่องเทยี่ ว

การพัฒนาและขับเคล่ือนงานเชงิ ระบบ (System Development) มาตรการ โครงการ กรอบระยะเวลา ปี พ.ศ. ผรู้ ับผิดชอบ วงเงิน (ลา้ นบาท) เป้าหมาย ตัวช้ีวดั และกจิ กรรมหลกั หลกั / รวม แหล่งเงนิ 2561 2562 2563 2564 2565 2561 2562 2563 2564 2565 รว่ ม 1.2 สนับสนนุ การใหบ้ รกิ ารคลนิ กิ เวชศาสตร์การเดนิ ทางและท่องเทย่ี ว โครงการเฝ้าระวงั ป้องกันควบคมุ โรคและภยั สขุ ภาพในนักเดินทางทอ่ งเทีย่ ว กิจกรรมหลกั ที่ 2.1 ✓ หลัก : กอง 0.1564 0.1564 งบประมาณ พัฒนาแนวทางการ โรคตดิ ต่อ กรมควบคุม จดั บรกิ ารของคลนิ ิก ท่วั ไป โรค เวชศาสตรก์ ารเดนิ ทาง ร่วม : และท่องเท่ียว - คลนิ กิ TM - สภากาด ไทย - รพ.เวช ศาสตร์ เขตร้อน 576 กจิ กรรมหลกั ท่ี 2.2 ✓ หลัก : กอง 0.45 0.45 งบประมาณ กรมควบคุม จดั ทำส่ือการเรยี นรู้ โรคตดิ ตอ่ โรค บทเรียนออนไลนส์ ำหรับ ทั่วไป บคุ ลากรทางการแพทย์ ร่วม : และสาธารณสขุ ท่ี - คลนิ กิ TM รบั ผดิ ชอบงานด้าน - สภากาชาด สุขภาพผเู้ ดินทาง ไทย - รพ.เวช ศาสตร์ เขตรอ้ น

มาตรการ โครงการ กรอบระยะเวลา ปี พ.ศ. ผรู้ ับผิดชอบ วงเงิน (ล้านบาท) เป้าหมาย ตัวชี้วัด และกจิ กรรมหลกั หลัก/ รวม แหลง่ เงิน 2561 งบประมาณ 2562 กรมควบคมุ 2563 โรค 2564 2565 งบประมาณ 2561 กรมควบคุม 2562 โรค 2563 2564 2565 ร่วม มาตรการที่ 2 บูรณาการความร่วมมอื กบั ภาคเี ครอื ข่ายเพอื่ สรา้ งการเดนิ ทางทอ่ งเทีย่ วทีป่ ลอดภยั 2.1 การแจ้งเตือนความเสย่ี งโรคและภยั สุขภาพ โครงการเฝา้ ระวงั ป้องกนั ควบคมุ โรคและภยั สขุ ภาพในนกั เดนิ ทางทอ่ งเท่ยี ว กิจกรรมหลกั ท่ี 3.1 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ หลัก : กอง 0.37 0.12 0.012 0.015 0.517 การเฝา้ ระวังป้องกัน โรคตดิ ต่อ ควบคมุ โรคและภยั ท่ัวไป สุขภาพในนกั เดนิ ทาง ร่วม : และท่องเทยี่ ว - คลนิ กิ TM - สคร. (สคร. 1, 2, 5, 6, 8, 10 และ 12) 577 3. สสจ.13 จังหวัดใน เขตEEC และ SEZ กิจกรรมหลกั ท่ี 3.2 ✓ ✓ หลัก : กอง 0.26 0.1 1.26 การประเมนิ ความเสยี่ ง โรคติดตอ่ ในสถานทท่ี ่องเทีย่ ว ทั่วไป ร่วม : - สคร. (สคร. 1, 2, 5, 6, 8, 10 และ 12) 3. สสจ.13 จังหวดั ในเขต EEC และ SEZ แผนงานเวชศาสตร์การเดินทางและทอ่ งเทยี่ ว

การพฒั นาและขบั เคลอื่ นงานเชงิ ระบบ (System Development) มาตรการ โครงการ กรอบระยะเวลา ปี พ.ศ. ผรู้ บั ผดิ ชอบ วงเงนิ (ลา้ นบาท) เป้าหมาย ตวั ชี้วดั และกจิ กรรมหลกั หลัก/ รวม แหล่งเงิน 2561 งบประมาณ 2562 กรมควบคุม 2563 โรค 2564 งบประมาณ 2565 กรมควบคุม 2561 โรค 2562 2563 งบประมาณ 2564 กรมควบคมุ 2565 โรค รว่ ม กจิ กรรมหลกั ท่ี 3.3 ✓✓ หลกั : กอง 0.32 0.074 0.394 จดั ทำสอื่ ประชาสมั พันธ์ โรคตดิ ตอ่ เพื่อการเฝา้ ระวงั และ ท่วั ไป ป้องกันควบคุมโรคและ ภยั สุขภาพในนกั เดนิ ทาง และท่องเทยี่ ว 2.2 สนบั สนนุ การดำเนินงานป้องกนั ควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพในนกั เดนิ ทางทอ่ งเทย่ี วแก่เครอื ข่ายทเ่ี ก่ียวข้อง โครงการเฝา้ ระวังปอ้ งกนั ควบคุมโรคและภัยสขุ ภาพในนักเดินทางท่องเทย่ี ว กิจกรรมหลกั ที่ 3.1 ✓✓✓✓ หลกั : กอง 0.6 0.384 0.7 0.3 1.984 พัฒนาศกั ยภาพ โรคตดิ ตอ่ เครือขา่ ยสาธารณสขุ ดา้ น ท่ัวไป การปอ้ งกันควบคุมโรค ร่วม : 578 และภยั สขุ ภาพนัก - สคร. (สคร. เดนิ ทางและทอ่ งเท่ยี ว 1, 2, 5, 6, 8, 10 และ 12) 3. สสจ.13 จงั หวดั ในเขต EEC และ SEZ กจิ กรรมหลกั ที่ 3.2 √ หลัก : กอง 0.23 0.23 จดั ทำองคค์ วามรสู้ ำหรบั โรคตดิ ตอ่ ผปู้ ระกอบการธุรกจิ ทว่ั ไป ทอ่ งเทยี่ วเพอ่ื การ ป้องกันควบคมุ โรคและ ภัยสขุ ภาพในกลุ่ม นกั ทอ่ งเท่ียว

6. การตดิ ตามประเมนิ ผลแผนงานและมาตรการ (Monitoring and Evaluation) เปา้ หมายแผนงาน ตัวชว้ี ัดและค่า วธิ ีการตดิ ตามประเมินผล กรอบระยะเวลาของการตดิ ตาม และมาตรการ เป้าหมาย ประเมนิ ผล ปี พ.ศ. 2561 2562 2563 2564 2565 เปา้ หมายท่ี 1 : นกั เดินทาง จำนวนนักเดนิ ทาง จากรายงานการออก ✓ ทอ่ งเท่ียวได้รับบริการด้าน ทอ่ งเทย่ี วทไ่ี ด้รบั เอกสารรับรองการสรา้ ง การป้องกันควบคุมโรคและ บริการดา้ นการ เสรมิ ภูมคิ มุ้ กนั โรค กรณี ภัยสุขภาพท่ีได้มาตรฐาน ป้องกันควบคมุ โรค วคั ซนี ปอ้ งกันโรคโควิด 19 และภยั สุขภาพ เพือ่ ใช้สำหรบั การเดนิ ทาง (2.5 แสนคน) ระหว่างประเทศ มาตรการที่ 1 พัฒนาระบบ จำนวนหนว่ ยงาน จากรายงานการออก ✓ บริการดา้ นการปอ้ งกนั ท่สี ามารถใหบ้ รกิ าร เอกสารรับรองการสร้าง ควบคมุ โรคและภยั สุขภาพ ออกเอกสารรับรอง เสรมิ ภูมคิ ้มุ กนั โรค กรณี สำหรับนักเดนิ ทางท่องเทย่ี ว การสร้างเสริม วัคซนี ป้องกนั โรคโควดิ 19 ภูมคิ ุ้มกันโรคสำหรบั เพ่อื ใช้สำหรับการเดินทาง การเดนิ ทางระหวา่ ง ระหวา่ งประเทศ ประเทศไดต้ าม แนวทางทก่ี ำหนด (77 แห่ง) แผนงานเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเ ่ทียว เป้าหมายท่ี 2 : สร้างการ มแี ผน/มาตรการ รายงานแผน/มาตรการ ✓✓ เดินทางทอ่ งเที่ยวท่ี ป้องกนั ควบคุมโรค ปอ้ งกนั ควบคมุ โรคและภัย ปลอดภัยอย่างมีสว่ นรวม และภยั สขุ ภาพ สุขภาพสำหรบั นกั เดินทาง สำหรบั นักเดนิ ทาง ท่องเที่ยวมายงั กรมควบคมุ โรค ท่องเท่ียว ทร่ี ว่ ม ทาง E-mail : ดำเนนิ การกบั travelhealth@ddc. เครือข่าย (1 แผน) mail.go.th มาตรการท่ี 2 บูรณาการ จำนวนเครอื ข่าย การรายงานผลการ ✓✓ ความรว่ มมือกับภาคี ทไ่ี ด้รับการสนับสนนุ ดำเนนิ งานในระบบบรหิ าร เครอื ขา่ ยเพือ่ สร้างการ หรอื พัฒนาเพอ่ื สรา้ ง จัดการเชงิ ยทุ ธศาสตร์ เดินทางทอ่ งเที่ยวท่ี การเดินทาง กรมควบคุมโรค ปลอดภัย ทอ่ งเทย่ี วที่ปลอดภัย 7. ผูร้ ับผดิ ชอบแผนงาน (Project Manager) ตำแหนง่ ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อท่วั ไป 7.1 นางสาววรยา เหลอื งอ่อน E-mail : [email protected] โทร. 0 2590 3162 ตำแหนง่ นายแพทย์เชย่ี วชาญ 7.2 นางวราลกั ษณ์ ตงั คณะกลุ E-mail : [email protected] โทร. 0 2590 3232-35 579

การพฒั นาและขบั เคลอ่ื นงานเชิงระบบ (System Development) แผนงาน พัฒนาระบบกลไกการปอ‡ งกันควบคมุ โรคเขตเมือง ประเดน็ : Urban Village Care (uVillecare) พื้นท่แี ละกลุมเปาหมาย เ(ปG‡าoหaมlาsย) ต(วั KชP้ว�I)ดั  รรผ((22ออูป47ยยว00ลลยะนะนDขขาาอทMอทง)ีง)ี/ผผ>H>ปููปTวรวรอย อคยยยวMSลบลtIะะคrท9oมุ 09ม่ีkร0อีeะาดทกับี่มานรอี ำ้าไตดการาลบัรใกไนาดเรรลรบัือกั กดษาแารลทระนักั รเษะวาลดทาับตนั คาเววมาลมมาาดตตนัารมไฐดมาดนาีตภ>ราฐยราใอ นนยภล4าะชย4มใน0. /4ร.5อยชลมะ. 50 สถา(Gนaกpาร) ณ  มาตรการ ลดโรคและภยั สุขภาพที่เปนปญ หาในเขตเมอื ง Outcome  กจิ กรรม ประเทศไทยมแี นวโนม การเตบิ โตของประชากรเขตเมอื งเพ่ิมสูงขึ้น ในปจจบุ ันมจี ำนวนประชากรท้ังสิ้นประมาณ 66 ลา นคน รอยละ 50 ของประชากร อาศยั ในพ้ืนทีเ่ ขตเมือง (กทม.,เทศบาลเมือง, หลกั เทศบาลนครรูปแบบพิเศษ) พน้ื ท่ีเขตเมืองมคี วามหลากหลาย จำแนกตามลกั ษณะที่อยอู าศยั เชน หมูบ านจัดสรร คอนโด การเคหะแหง ชาติ ชุมชนแออดั จุดเนน ของ สปคม. ตงั้ แตป  2563 คือ การยกระดบั ระบบดูแลสุขภาพของพ้ืนท่สี ขุ ภาพมงุ เปา (หมบู า นจัดสรร/ชุมชนแออัด) พบวา จากการสำรวจ NHES 2557 พบวา DM= 8.7% (4 แสนคน), HT= 24.5% (1 ลา นคน), MI =2.4% หนว‹ ยงาน (1แสนคน) และ Stroke = 0.7 % (3 หมืน่ คน) - การเขาถงึ บรกิ ารทางการแพทยใ นภาวะฉกุ เฉนิ ไดต ามเวลามาตรฐานมากกวา 90 % ของผูปวย สามารถลดการปว ยของ stroke และ MI ได 5,000 คน และ 10,000 คน ตามลำดับ และ รว‹ มดำเนนิ การ จะสามารถลดการเสยี ชวี ติ จาก stroke และ MI ไดป ระมาณ 20,000 คน และ 70,000 คน ตามลำดบั /ลดคา ใชจ า ยในการรกั ษาพยาบาลจาก stroke และ MI ได 800 ลา นบาท และ 2,000 ลา นบาท Quick หนวยงานระดบั นโยบาย (สว นกลาง) และ สคร. หนว ยงานระดับพน้ื ท่ี Win 580 พัฒนารูปแบบ แนวทาง พัฒนาระบบขอมูล พฒั นาศกั ยภาพเครือขา ย สคร./เขต สสจ./สสอ. สสจ./สสอ. พัฒนารูปแบบการดำเนินงาน - พัฒนาเทคโนโลยใี นการ พัฒนาศกั ยภาพเครือขา ย - ขบั เคลอื่ นนโยบาย รว มกับ สคร/เขต รว มกบั สสจ/สสอ. Urban Village Care : เก็บรวบรวม ขอมูลสขุ ภาพ สุขภาพเขตเมือง uVillecare รวมกบั ขบั เคลอื่ น การดำเนนิ งาน ขบั เคลอื่ นการดำเนินงาน uVillecare ประชาชนในหมูบา นจัดสรร/ (สคร./กทม.) เครอื ขา ยสขุ ภาพทุกระดบั uVilleCare ในพืน้ ที่ uVilleCare ในพ้ืนท่ี ชมุ ชนแออดั ในพ้นื ทจ่ี นถงึ ระดบั ปฐมภูมิ - พฒั นาตอยอดจนเปนสมดุ - ตดิ ตามประเมินผล สขุ ภาพอิเล็กทรอนกิ ส การดำเนินงาน กองดา นควบคุมโรคฯ กระทรวงการทอ งเที่ยวและกีฬา ททท. กระทรวงคมนาคม ประชาสัมพนั ธจังหวดั องคกรปกครองสวนทองถิ่น อุทยานแหง ชาติ ผูประกอบการโรงแรม/ที่พกั กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอม ผูประกอบการธุรกิจนำเทยี่ ว/มคั คเุ ทศก รา นคา /รา นอาหาร 3 เดอื น 6 เดอื น 9 เดือน 12 เดือน ส่ือสารนโยบายการดำเนินงาน/ - ประสานเครอื ขายทีเ่ กย่ี วขอ ง ดำเนนิ งานในหมูบ านจัดสรร/ แนวปฏบิ ตั ิ (uVilleCare) การดำเนินงานในหมบู านจดั สรร/ ชมุ ชนแออดั ตามแนวทาง - ตดิ ตามและประเมนิ ผล ตามเปา หมาย : ชมุ ชนแออัด มีรูปแบบการดำเนนิ งาน, กลไกจดั การโรค - พฒั นาเทคโนโลยีสขุ ภาพ และภัยสุขภาพ พรอ มชุดขอ มูลดานสขุ ภาพ ในหมูบา นจดั สรรและชมุ ชนแออัด - ถอดบทเรียนการดำเนินงานเพ่ือเตรยี ม ความพรอ มในการพฒั นาตอ ยอด

แผนพฒั นาระบบกลไกการปอ้ งกนั ควบคมุ โรคเขตเมอื ง 1. สถานการณ์ (Situation) 1.1 ปญั หาเชิงระบบของบริบทเขตเมือง องค์การสหประชาชาติ ได้คาดการณ์การเติบโตของประชากรเขตเมืองในโลก โดยในปี พ.ศ. 2561 มีประชากรอาศัยในเขตเมืองร้อยละ 55.3 และคาดการณ์การเติบโตของประชากรเขตเมืองในโลกว่าภายในปี พ.ศ. 2573 จะมปี ระชากรอาศัยอยู่ในเขตเมืองเพ่ิมสูงข้ึนถึงร้อยละ 60 สำหรบั ประเทศไทยมีแนวโน้มความเป็นเมือง เพิ่มมากขึ้น ประชากรอาศัยอยู่ในเขตเมืองมากขึ้น พบว่าสัดส่วนร้อยละของประชากรเมืองมีแนวโน้มสูงข้ึน ทกุ ปอี ย่างชดั เจนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 (ค.ศ. 2000) ซงึ่ กส็ อดคล้องกบั สัดส่วนร้อยละของประชากรเมืองในเอเชีย ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปีอย่างชัดเจนเช่นเดียวกัน จากงาน World Urbanization Prospects 2018 พบว่า ประเทศไทยมีอัตราการเติบโตของประชากรในเขตเมืองเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย ร้อยละ 1.9 ต่อปี และจากการคาดการณ์ การเปลี่ยนแปลงของประชากรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 - 2593 จะลดลงถึงร้อยละ 42.3 (ดังรายละเอียดแสดงในภาพที่ 2 - 3) ภาพท่ี 1 สัดส่วนรอ้ ยละของประชากรเขตเมอื ง ภาพที่ 2 สดั ส่วนรอ้ ยละของพนื้ ทเี่ ขตเมอื งประเทศ แผนงาน ัพฒนาระบบกลไกการ ้ปอง ักนควบ ุคมโรคเขตเ ืมอง และชนบทของประชากรในประเทศไทย ของไทยและเอเชีย หมายเหตุ : ภาพท่ี 1 และ 2 จาก United Nations, Department of Economic and Social Affairs, Population Division (2019): World Urbanization Prospects: The 2018 Revision. ข้อมูลจากสารประชากร สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล (ปีที่29 มกราคม 2563) ได้คาดประมาณประชากรกลางปี 2563 โดยจะมีจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง ประมาณ 38 ล้านคน ซึ่งคิดเป็น ร้อยละ 57.24 ของประชากรที่คาดประมาณทั้งหมด ซึ่งสูงขึ้นมากปี 2561 ที่มี ประชากรอาศยั ในเขตเมอื ง ร้อยละ 50.05 อีกทง้ั สงั คมเมืองยงั มีความหลากหลายทางประชากร มคี วามแตกต่าง ทางเศรษฐานะ มีความเหลื่อมล้ำทางรายได้ และโอกาสการเข้าถึงทรัพยากรที่ไม่เท่าเทียมกันปัญหาสุขภาพ ในเขตเมืองมักเป็นปัญหาที่ซับซ้อน ทั้งปัญหาโรคและภัยสุขภาพรวมถึงปัญหาเชิงสังคม ผลกระทบจาก การขยายตวั ของความเป็นเมืองส่งผลให้เกิดข้อจำกัดของพื้นทส่ี ำหรบั อยู่อาศัย จากการคาดประมาณครัวเรือนท่ีอยู่ อาศัยของประชากรไทย พ.ศ.2553-2563 พบวา่ จำนวนครวั เรอื นทอี่ ยอู่ าศัยในคอนโดมเิ นยี ม อพารท์ เมน้ แฟลต แมนชั่น คาดวา่ ในปี 2563 จะมถี งึ 1,391,461 ครัวเรือน (วารสารประชากรปที ี่ 4 ฉบบั ที่ 2 กนั ยายน 2559) กระจาย อยู่ทั่วประเทศ คาดประมาณประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 3.8 ล้านคน (2.8 คน ต่อครัวเรือน) คอนโดมิเนียม แต่ละแหง่ มีผพู้ ักอาศัยประมาณ 1,000-10,000 คน หากเทียบขนาดประชากรจะพบว่าใน 1 คอนโดมิเนยี มอาจเทียบ ได้กับ 1 ตำบล แต่กลับพบว่าระบบสาธารณสุขเชิงรุก การเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคขั้นพื้นฐานยังเข้าไม่ถึง 581

การ ัพฒนาและขับเคลื่อนงานเชิงระบบ (System Development) ชุมชนดังกล่าว นอกจากนี้ยังพบกลุ่มประชากรที่อยู่ในมหาวิทยาลัย สถานศึกษา สถานประกอบการ อาคาร สำนักงาน ศาสนสถาน โรงแรมรีสอร์ทต่างๆ เหล่านี้ที่อยู่ในพื้นท่ีเขตเมือง ยังไม่มีหน่วยงานรัฐเข้าไปศึกษาวางระบบ เฝ้าระวงั ปอ้ งกันควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพอยา่ งเป็นรปู ธรรม ดา้ นการจดั บรกิ ารปฐมภูมใิ นพ้ืนทเี่ ขตเมือง พบว่า มีความแตกต่าง หลากหลายของหน่วยบริการและต่างสังกัด การกระจายตัวของหน่วยบริการปฐมภูมิ ไม่ครอบคลุมทว่ั ถึงกลุม่ ประชากร ศกั ยภาพการใหบ้ ริการในแตล่ ะทอ้ งถนิ่ มีความแตกตา่ งกนั 1.2 สถานการณโ์ รคและภัยสุขภาพในพ้ืนทีเ่ ขตเมอื ง สถานการณ์โรคติดต่อในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในปี 2563 กรุงเทพมหานครมีรายงานโรค เฝ้าระวังที่สำคัญที่มีอัตราป่วยสะสมต่อประชากรแสนคนสูงสุด 5 อันดับ คือ 1) โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน อัตราป่วย 897.71 ต่อประชากรแสนคน (50,986 ราย) รองลงมาคือ 2) ไขไ้ มท่ ราบสาเหตุ อตั ราป่วย 380.96 ตอ่ ประชากรแสนคน (21,637ราย) 3) โรคไข้หวัดใหญ่ อตั ราปว่ ย 365.52 ต่อประชากรแสนคน (20,760 ราย) 4) โรคปอดอักเสบ อัตราป่วย 189.80 ต่อประชากรแสนคน (10,780 ราย) และ 5) โรคไข้เลือดออก อัตราป่วย 107.86 ต่อประชากรแสนคน (6,126 ราย) อีกทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ยังพบการระบาดของสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 - 20 พฤษภาคม 2564 กรุงเทพมหานคร มีผู้ป่วยยืนยันสะสมจำนวน 44,429 ราย คิดเป็นร้อยละ 37.15 ของยอดผู้ป่วยสะสม ทั่วประเทศ (อัตราป่วย 67.13 ต่อแสนประชากร) และมีจำนวนผู้ป่วยเสียชวี ิตจำนวน 309 ราย อัตราป่วยตาย เท่ากับ รอ้ ยละ 0.69 โดยพบมีรายงานผ้ปู ว่ ยยืนยันสูงสุดในชว่ งเดือน เมษายน 2564 - พฤษภาคม 2563 อีกทั้ง ยังพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ ในหลายเขตพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร อาทิ ในกลุ่มแคมป์คนงาน กอ่ สรา้ ง กล่มุ พนกั งานในสถานประกอบการ กลุ่มตลาด และชมุ ชนแออัด เปน็ ต้น สถานการณโ์ รคไมต่ ดิ ต่อในพน้ื ที่เขตเทศบาลเมือง ข้อมูลจากการสำรวจสขุ ภาพประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2557 สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขได้แก่ 1) ภาวะอ้วน พบว่า ความชุก ของภาวะอ้วนลงพุง (รอบเอว ≥90 ซม. ในชาย และ ≥80 ซม. ในหญงิ ) ในเขตเทศบาล (ชายร้อยละ 29.3 และ หญิงร้อยละ 52.6) สูงกว่านอกเขตเทศบาล (ชายร้อยละ 23.3 และหญิงร้อยละ 50.2) และภาวะอ้วนลงพุง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่ปี 2552 - 2557 2) โรคเบาหวาน พบว่าความชุกของคนที่อาศัยในเขต เทศบาลสงู กวา่ นอกเขตเทศบาลในผชู้ ายแต่ผู้หญงิ นอกเขตฯสงู กว่าในเขตฯ 3) โรคความดนั โลหติ สงู และภาวะ ไขมันในเลือดผดิ ปกติ พบวา่ ความชุกของความดันโลหิตสูงและภาวะไขมนั ในเลือดผิดปกติในเขตเทศบาลสูงกว่า นอกเขตเทศบาลเพียงเล็กน้อย 4) การบาดเจ็บจากการจราจรทางถนน ปฏิญญามอสโกให้ปีพ.ศ. 2554 - 2563 “ทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน” (Decade of Action for Road Safety) เป้าหมายตามกรอบปฏิญญา มอสโกคือลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนต่ำกว่า 10 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน ประเทศไทย ได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมาย ไว้ 8 ประการโดย 1 ใน 8 ประการให้ความสำคัญกับพัฒนา สมรรถนะของผใู้ ชร้ ถใช้ถนนให้มีความปลอดภัย จากสถติ ิการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในปี 2561 จำนวน 79,117 ครั้ง พบเป็นอุบัติเหตุจากรถโดยสารสาธารณะขนาดใหญ่และขนาดเล็ก 1,651 ครงั้ คดิ เปน็ มูลค่าความเสียหาย 3,797.3 ลา้ นบาท จากการศึกษา Medical interventions to reduce motor vehicle collisions จะพบผขู้ บั ขี่ที่มีอาการ ป่วยหรือมีโรคประจำตัวต่าง ๆ อย่างน้อย 1 โรค ประมาณร้อยละ 45 มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนน การขบั ข่ีกว่าบุคคลทั่วไป (Donald A. Redelmeier, 2014) ได้แก่ โรคซึมเศร้า 8.75 เท่า พษิ สรุ าเรื้อรัง 7.24 เท่า โรคลมชัก 5.92 เท่า เบาหวาน 4.49 เทา่ หลอดเลือดสมอง 3.50 เท่า โรคสมองเสื่อม 2.92 เทา่ 582

2. พน้ื ทเ่ี ปา้ หมายและกลุ่มเปา้ หมาย (Target) 2.1 พน้ื ทเ่ี ขตเมอื ง : อ้างองิ ตามความหนาแนน่ ของประชากรโดยเขตเทศบาลทีม่ ปี ระชากรต้ังแต่ 10,000 คนขน้ึ ไป ให้นับเป็นเขตเมืองสำหรับพื้นที่เป้าหมายดำเนินการด้านสุขภาพในระยะเริ่มต้น ได้แก่ เทศบาลเมือง เทศบาลนคร และทอ้ งถิน่ รูปแบบพิเศษ (เมืองพทั ยาและกทม.) จำนวน ทง้ั ส้นิ 219 แห่ง รายละเอียดดงั ตารางท่ี 1 ตารางที่ 1 แสดงจำนวนเทศบาล และทอ้ งถ่ินรูปแบบพเิ ศษ แยกรายเขตสขุ ภาพ เทศบาล จำนวนเทศบาล และท้องถน่ิ รูปแบบพเิ ศษ แยกรายเขตสขุ ภาพ (แห่ง) เขต เขต เขต เขต เขต เขต เขต เขต เขต เขต เขต เขต เขต รวม เทศบาลเมือง 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 เทศบาลนคร 13 9 10 32 21 29 10 9 9 9 15 21 - 187 ทอ้ งถนิ่ รูปแบบ 3 2 1 4 3 4 1 2 1 1 4 4 - 30 พเิ ศษ -----1---- - -1 2 รวม 16 11 11 36 24 34 11 11 10 10 19 25 1 219 ทีม่ า: ข้อมูลจำนวนเทศบาลและทอ้ งถิน่ รปู แบบพิเศษ ณ วนั ท่ี 20 เมษายน 2563 กรมสง่ เสริมการปกครองทอ้ งถ่ิน 2.2 กลุ่มประชากรเปา้ หมาย แบ่งตาม ดงั นี้ แผนงาน ัพฒนาระบบกลไกการ ้ปอง ักนควบ ุคมโรคเขตเ ืมอง 1) กล่มุ ประชากรทุกวยั ทพ่ี ักอาศยั ในอาคารชุด อาคารสูง อพาร์ทเมน้ แฟลต หอพัก หมู่บ้านจดั สรร 2) กลุ่มประชากรทกุ วัยในชมุ ชนแออัด ชุมชนจัดต้ังและไมจ่ ัดต้ัง 3) กลุ่มประชากรเปราะบาง ประชากรแฝง ประชากรเคล่อื นย้าย แรงงานต่างด้าวในพนื้ ทเี่ ขตเมือง 4) กลุ่มผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะในพื้นที่เขตเมือง เช่น รถโดยสารสาธารณะ รถตู้โดยสาร แท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ ตารางที่ 2 แสดงจำนวนที่พกั อาศยั แยกรายเขตสขุ ภาพ พน้ื ที่ พ้นื ทีส่ ุขภาพม่งุ เปา้ แยกรายเขตสขุ ภาพ (แหง่ ) รวม สุขภาพ เขต เขต เขต เขต เขต เขต เขต เขต เขต เขต เขต เขต เขต มุ่งเปา้ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 1. บ้าน จดั สรร1 961 255 132 2,547 1,245 3,292 378 122 720 119 591 233 3,111 13,706 2. ชมุ ชน 22 31 46 232 95 205 28 7 25 12 85 80 682 1,550 แออัด2 หมายเหตุ : 1 บา้ นจดั สรร: ที่มา จากข้อมูลบ้านจดั สรร กรมท่ดี นิ ปี 2564 2 ชุมชนแออัด : ที่มา รายงานสรุปและวิเคราะห์ฐานข้อมูลชุมชนผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ โครงการปรับปรุงและพัฒนา สารสนเทศและบริการเผยแพรป่ ีงบประมาณ 2562 นิยาม : • พ้ืนที่สุขภาพมุ่งเป้า หมายถึง พื้นที่ที่มีประชากรกลุ่มเสี่ยง ซึ่งมีการกระจายตัวตามลักษณะที่พกั อาศัยโดยจำแนกกลุ่มตามลักษณะเฉพาะ เช่น ลักษณะที่พักอาศัย (ชุมชนแออัดที่มีรายได้น้อย คอนโดมิเนียม การเคหะแหง่ ชาติ และบ้านจัดสรร เปน็ ตน้ ) 583

• ชุมชนแออัด หมายถึง ชุมชนส่วนใหญ่ที่มีอาคารหนาแน่น ไร้ระเบียบ และชำรุดทรุดโทรม ประชาชนอยู่อย่างแออัด มีสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม อันอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยและ ความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย โดยให้ถือเกณฑ์ความหนาแนน่ ของบ้านเรือนอยา่ งน้อย 15 หลังคาเรือนต่อพื้นที่ 1 ไร่ (ระเบียบกรุงเทพมหานคร ว่าด้วยกรรมการชุมชน พ.ศ. 2534) • บ้านจัดสรร หมายถึง การที่ “ผู้จัดสรร” หรือ “เจ้าของโครงการ” ไปสรรหาที่ดิน มาจัดแบ่งหรือจัดสร้างหมู่บ้านแล้วแบ่งขาย โดยสาธารณูปโภคส่วนกลางเช่น ถนน สนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ ฯลฯ จะตกเป็นภาระจำยอมเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินจัดสรรทุกแปลง ซึ่ง “ผู้จัดสรร” หรือ “เจา้ ของโครงการ” มีหน้าท่บี ำรุงรักษา จดั การดูแลโดยมสี ิทธิเกบ็ เรียกค่าใช้จา่ ยจากผู้อยู่อาศัย หมู่บ้านจัดสรร แบง่ ออกเปน็ 3 ประเภท (Categories level : CL) ไดแ้ ก่ ขนาดเล็ก (CL1) : หมู่บา้ นจดั สรรจำนวน 10 - 99 หลังคาเรือน ขนาดกลาง (CL2) : หมู่บา้ นจัดสรรจำนวน 100 - 499 หลังคาเรือน ขนาดใหญ่ (CL3) : หมู่บ้านจดั สรร 500 หลังคาเรอื นขนึ้ ไป 3. เป้าหมายและตัวช้ีวัด (Goals) เป้าหมาย มาตรการ ค่าเป้าหมาย/ผลการดำเนินงาน ปงี บประมาณ พ.ศ. ตัวชี้วดั เปา้ หมาย Baseline2561 2562 2563 2564 2565 เปา้ หมายท่ี 1 ระบบดแู ลสุขภาพของพ้นื ท่สี ขุ ภาพมุง่ เปา้ (บ้านจดั สรร ชมุ ชนแออดั เคหะฯ) การ ัพฒนาและขับเคลื่อนงานเชิงระบบ (System Development) 1. จำนวนรปู แบบ แนวทางการจัดการ 1 เร่ือง อยา่ งน้อย อยา่ งน้อย อย่างน้อย อย่างน้อย ระบบป้องกันควบคมุ โรคในพนื้ ทเี่ ขต ปลี ะ 1 เร่ือง ปีละ 1 เรอ่ื ง ปลี ะ 1 เร่ือง ปลี ะ 1 เร่ือง เมอื ง ท่ีดำเนินการแล้วเสร็จ (Model (uVilleCare) (Medical (Mobile Public Development) Fitness to Health Drive) Laboratory) 2. จำนวน setting ในพื้นที่เขตเมืองท่ี 1 setting อย่างนอ้ ย อยา่ งน้อย อย่างนอ้ ย อยา่ งนอ้ ย มีระบบเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค ปลี ะ 1 setting ปลี ะ 1 setting ปีละ 1setting ปีละ 1 setting และภยั สุขภาพ* (บ้านจัดสรร) (บา้ นจัดสรร, ชมุ ชนแออัดใน กทม.) เป้าหมายท่ี 2 ศนู ย์ขอ้ มลู (IUDC Data Center) 3. จำนวนศูนย์ต้นแบบด้านข้อมูลโรค - 1 - - 1 ศนู ย์ และภัยสขุ ภาพในพื้นท่เี ขตเมือง เป้าหมายที่ 3 การสรา้ งและพฒั นาเครอื ข่าย ผูเ้ ช่ยี วชาญ 4. จำนวนผู้ผ่านหลกั สตู รผูเ้ ช่ียวชาญ - - - - 30 คน ด้านการปอ้ งกนั ควบคุมโรคเขตเมอื ง เปา้ หมายท่ี 4 พัฒนางานวิจัยการควบคุมโรคเขตเมือง 5. จำนวนงานวิจัย/ผลงานวชิ าการ - - 1 1 2 เร่อื ง ด้านการปอ้ งกนั ควบคมุ โรคในพ้นื ที่ เขตเมือง หมายเหตุ *ระบบเฝา้ ระวงั ปอ้ งกัน ควบคมุ โรคและภยั สขุ ภาพ หมายถงึ องค์ประกอบของระบบเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค และภัยสุขภาพ 5 โรค 5 มิติ ในแต่ละ setting ได้แก่ (1) Determinants (2) Behavioral risk (3) Program Response (4) Morbidity/Mortality และ (5) Event-based surveillance 584

4. มาตรการและกิจกรรมสำคญั (Strategy and Intervention) มาตรการและกจิ กรรมสำคญั สปคม. สคร. สสจ./สสอ. อปท. ภาคภี าคสาธารณสขุ เครือขา่ ยอ่นื ๆ (Strategy and Intervention) (สว่ นกลาง) นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร/ คอนโดมิเนยี ม มาตรการที่ 1 : การพัฒนา 1. ผลกั ดนั นโยบาย 1. ขับเคลือ่ นนโยบาย 1. ขยายผล 1. รว่ มขับเคลอื่ น 1. ส่งเสรมิ /สนบั สนนุ 1. เข้าร่วมโครงการ ระบบแนวทางการดแู ลสุขภาพ การดำเนนิ งาน การดำเนนิ งาน การดำเนินงาน การดำเนินงาน การดำเนนิ งาน 2. นำรปู แบบการ การจดั การโรคในพ้นื ท่ีเขตเมือง การปอ้ งกันควบคมุ โรค การป้องกนั ควบคุมโรค โครงการ uVilleCare โครงการ uVilleCare 2. รว่ มเป็นเครอื ขา่ ย ดำเนินงาน uVilleCare และภยั สขุ ภาพ และภยั สุขภาพ รว่ มกับ สคร. รว่ มกบั สสจ./สสอ. อาสาสมัครในการ ไปดำเนินการในหม่บู า้ น/ ในลักษณะประชากร ในลักษณะประชากร ในพ้ืนที่ เมือง ในพ้ืนท่ี ปฏิบัติงานในภาคสนาม คอนโด เฉพาะเขตเมืองของผ้พู ัก เฉพาะเขตเมอื งของผพู้ กั 2. ร่วมพัฒนา 2. รว่ มจัดบรกิ ารแก่ - อาศยั ในพนื้ ทห่ี มู่บ้าน อาศัยในพ้ืนทห่ี มู่บ้าน ศักยภาพผู้ปฏิบตั งิ าน ประชาชนในพน้ื ท่ี ให้ จดั สรร (uVilleCare) จดั สรร โดยร่วมกบั ในห้องปฏิบัติในพ้ืนที่ สามารถเขา้ ถึงการ นติ ิบคุ คลหมบู่ า้ น 2. พฒั นารูปแบบการ เครอื ข่ายสุขภาพ ใหส้ ามารถปฏบิ ตั ิใน ตรวจยืนยันทาง จดั สรร/คอนโดมเิ นียม ใหบ้ รกิ ารห้องปฏิบตั ิการ ทกุ ระดบั ในพืน้ ที่จนถงึ ห้องปฏบิ ัติการ ห้องปฏิบตั ิการในพ้นื ที่ นำขอ้ มูลด้านสขุ ภาพ ชันสูตรสาธารณสุข ระดบั ปฐมภมู ิ เคล่อื นให้เปน็ ไปตาม ของประชาชนใน 585 แบบเคล่อื นที่ 2. พัฒนามาตรฐาน มาตรฐาน หม่บู า้ น/คอนโดไปใช้ ห้องปฏบิ ัติการแบบ เคลื่อนท่ี และพฒั นา รปู แบบการบริการ ห้องปฏบิ ัติการ แบบเคล่ือนที่ ทสี่ ามารถ ใหบ้ ริการประชาชน ในพ้นื ทไ่ี ดอ้ ยา่ งท่ัวถงึ มาตรการที่ 2 : การพัฒนา 1. พัฒนา Digital 1.รว่ มกับ สปคม. เฝา้ ระวงั ปอ้ งกัน เฝา้ ระวัง ป้องกัน สง่ เสริม/สนับสนนุ ระบบข้อมลู สขุ ภาพเขตเมอื ง Platform ชุดขอ้ มูล พฒั นาระบบขอ้ มลู ควบคุมโรคในพ้ืนที่ ควบคุมโรคในพ้นื ที่ การดำเนินงาน ด้านสุขภาพของ สุขภาพเขตเมือง เขตเมือง เขตเมือง ประชากรในหม่บู า้ น จดั สรร เพือ่ การเฝ้าระวงั แผนงานพัฒนาระบบกลไกการป้องกันควบคุมโรคเขตเมอื ง

การพัฒนาและขับเคลอื่ นงานเชิงระบบ (System Development) 586 มาตรการและกจิ กรรมสำคัญ สปคม. สคร. สสจ./สสอ. อปท. ภาคภี าคสาธารณสขุ เครอื ข่ายอื่นๆ (Strategy and Intervention) (ส่วนกลาง) 2.เฝ้าระวงั ป้องกนั เข้าร่วมการพฒั นา เข้ารว่ มการพัฒนา ส่งเสริม/สนับสนนุ ประโยชนใ์ นการดูแล มาตรการที่ 3 : การพัฒนา และแลกเปลย่ี นข้อมูล ควบคุมโรคในพนื้ ท่ี ศกั ยภาพบคุ ลากร ศักยภาพบคุ ลากร การดำเนนิ งานให้เกดิ สขุ ภาพคนในชมุ ชน ศกั ยภาพเครอื ขา่ ย กับเครอื ขา่ ย เขตเมือง ด้านการปอ้ งกนั ดา้ นการปอ้ งกัน การพฒั นาศักยภาพ 2. พฒั นาศนู ยต์ น้ แบบ ควบคมุ โรคเขตเมือง ควบคมุ โรคเขตเมอื ง บุคลากร - ด้านขอ้ มลู โรคและภยั พฒั นาศกั ยภาพบุคลากร สุขภาพทส่ี ำคญั พ้ืนที่ ด้านการป้องกันควบคุม เขตเมอื ง IUDC DATA โรคเขตเมือง Center 3. จัดการระบบขอ้ มูล อบุ ัติเหตุการจราจร (Death Data Quality) 3. พฒั นาฐานขอ้ มลู i-Vigilance 1. พัฒนาหลักสูตร ปรญิ ญาโทดา้ นการป้องกัน ควบคุมโรคเขตเมือง ให้มีคณุ ภาพ ตามมาตรฐานสากล 2. สรา้ งผู้เชย่ี วชาญ ที่สามารถวเิ คราะห์ และพฒั นานโยบายดา้ น การป้องกันควบคุมโรค เขตเมือง และเป็นสว่ น หน่ึงในชุดทีมภาคสนาม ทั้งในและตา่ งประเทศ 3. พฒั นาศกั ยภาพ เครอื ขา่ ยทเ่ี กี่ยวข้อง

มาตรการและกจิ กรรมสำคัญ สปคม. สคร. สสจ./สสอ. อปท. ภาคภี าคสาธารณสุข เครอื ข่ายอ่นื ๆ (Strategy and Intervention) (ส่วนกลาง) สง่ เสริม/สนับสนนุ สง่ เสริม/สนับสนนุ ส่งเสรมิ /สนับสนนุ การ - การดำเนนิ งาน การดำเนนิ งาน ดำเนนิ งาน มาตรการท่ี 4 : การพัฒนา 1. พัฒนาแนวทาง/ เขา้ รว่ มพัฒนารูปแบบ 587 งานวิจัย การควบคมุ โรคเขตเมือง รูปแบบการประเมิน การปอ้ งกนั ควบคมุ โรค สมรรถนะในการขับขี่ เขตเมือง Medical Fitness to Drive Model 2. พฒั นางานวิจยั หรอื นวตั กรรมการป้องกนั ควบคมุ โรคเขตเมอื ง 3. พฒั นาวารสาร สปคม. ให้ไดม้ าตรฐาน 4. พฒั นารปู แบบ การสอบสวนโรคในพ้นื ที่ สขุ ภาพมุjงเปา้ - Smart Clinic แผนงานพัฒนาระบบกลไกการป้องกันควบคุมโรคเขตเมอื ง

การ ัพฒนาและขับเคลื่อนงานเชิงระบบ (System Development) 5. มาตรการ โครงการ และกจิ กรรมหลัก (Strategy/Intervention Project and Activity) ภายใตแ้ ผนพฒั นาระบบกลไกการปอ้ งกันควบคุมโรคเขตเมือง มกี ารดำเนินงานโครงการตามมาตรการ ดงั น้ี มาตรการที่ 1 การพัฒนาระบบ แนวทางการดูแลสุขภาพ การจัดการโรคในพื้นที่เขตเมือง ดำเนินงาน 2 โครงการ ดังนี้ 1) โครงการลดความเหลื่อมล้ำด้านการป้องกันควบคุมโรคในลักษณะประชากรเฉพาะเขตเมืองของผู้พัก อาศยั ในพื้นทสี่ ขุ ภาพม่งุ เปา้ 2) โครงการพัฒนาระบบห้องปฏิบัติการชันสูตรสาธารณสุข และการให้บริการห้องปฏิบัติการชันสูตร สาธารณสขุ เคลือ่ นที่ (Mobile Public Health Lab) มาตรการที่ 2 การพัฒนาระบบข้อมูลสุขภาพเขตเมือง ดำเนินงาน 1 โครงการ คือ โครงการพัฒนาศูนย์ ต้นแบบด้านขอ้ มูลโรคและภัยสุขภาพที่สำคัญ พื้นทีเ่ ขตเมอื ง IUDC Data Center มาตรการที่ 3 การพฒั นาศกั ยภาพเครือข่าย ดำเนินงาน 5 โครงการ ดงั น้ี 1) โครงการพัฒนาผู้เช่ียวชาญด้านการป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง 2) โครงการพัฒนารูปแบบความร่วมมือภาครัฐและเอกชน ในการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคและภัย สขุ ภาพ ในพ้นื ทเ่ี ขตเมือง 3) โครงการพัฒนาและสนับสนนุ การดำเนินงานเฝ้าระวงั ป้องกันควบคมุ โรคติดต่อในเด็กปฐมวยั 4) โครงการพัฒนากลไกความร่วมมือการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคติดต่อในกลุ่มสถานประกอบการ/ สำนักงานใหเ้ ชา่ 5) โครงการพัฒนาระบบการจัดการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขในพ้ืนทเ่ี ขตเมืองสู่ความเป็นเลศิ มาตรการที่ 4 การพัฒนางานวิจยั การควบคมุ โรคเขตเมือง ดำเนนิ งาน 3 โครงการ ดังน้ี 1) โครงการพัฒนาระบบการตรวจประเมินความพร้อมทางการแพทย์ในผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะที่ได้รับ ใบอนุญาตแลว้ (Medical Fitness to Drive Model) 2) โครงการพฒั นาหลักสตู ร งานวจิ ยั นวัตกรรมและเทคโนโลยสี ถาบันป้องกนั ควบคุมโรคเขตเมือง 3) โครงการพฒั นางานนวัตกรรมคลนิ ิกในรูปแบบ Smart Clinic หมายเหตุ : รายละเอียดโครงการและกิจกรรมหลัก ตาม QR Code และลงิ ค์ ท่ีปรากฏทา้ ยแผนงาน 6. การตดิ ตามประเมนิ ผลแผนงานและมาตรการ (Monitoring and Evaluation) เป้าหมายแผนงาน ตวั ช้ีวดั วธิ ีการตดิ ตาม กรอบระยะเวลาของการติดตาม และมาตรการ และค่าเปา้ หมาย ประเมนิ ผล ประเมินผล ปี พ.ศ. 2561 2562 2563 2564 2565 มาตรการที่ 1 การพฒั นาระบบ แนวทางการดูแลสขุ ภาพ การจัดการโรคในพ้ืนท่ีเขตเมือง 1. โครงการลดความเหลื่อมล้ำ 1 ระบบ - ติดตามจาก - - - ✓✓ ดา้ นการป้องกนั ควบคมุ โรค (หมู่บา้ นจดั สรร การนิเทศตดิ ตาม / ในลักษณะประชากรเฉพาะเขต คอนมิเนยี ม การเย่ียมเสริมพลงั เมืองของผพู้ ักอาศยั ใน \"พน้ื ที่ เคหะ ชุมชน ตดิ ตามในพื้นท่ี สุขภาพมุ่งเป้า\" แออัด สถาน - เอกสารรายงาน ประกอบการ) ความก้าวหน้า การดำเนินงาน - รายงานผลรายไตรมาส ในระบบ ESM 588

เปา้ หมายแผนงาน ตวั ชีว้ ดั วธิ ีการติดตาม กรอบระยะเวลาของการตดิ ตาม และมาตรการ และค่าเปา้ หมาย ประเมินผล ประเมินผล ปี พ.ศ. 2561 2562 2563 2564 2565 2.โครงการพัฒนาระบบ 1 รูปแบบ - ติดตามจาก - - - -✓ ห้องปฏิบตั กิ ารชนั สตู ร การนิเทศตดิ ตาม / สาธารณสุข และการให้บรกิ าร การเย่ียมเสรมิ พลัง ห้องปฏบิ ตั ิการชนั สตู ร ตดิ ตามในพนื้ ท่ี สาธารณสุขเคลือ่ นท่ี (Mobile - เอกสารรายงาน Public Health Lab) ความก้าวหนา้ การ ดำเนินงาน - รายงานผลรายไตรมาส ในระบบ ESM มาตรการท่ี 2 การพฒั นาระบบข้อมลู สขุ ภาพเขตเมือง โครงการพัฒนาศนู ยต์ น้ แบบ 1 ระบบ - เอกสารรายงาน - - - -✓ ดา้ นขอ้ มูลโรคและภยั สขุ ภาพ ความก้าวหนา้ ทส่ี ำคญั พื้นทเี่ ขตเมือง IUDC การดำเนนิ งาน Data Center - รายงานผลรายไตรมาส ในระบบ ESM มาตรการที่ 3 การพัฒนาศักยภาพเครอื ขา่ ย แผนงาน ัพฒนาระบบกลไกการ ้ปอง ักนควบ ุคมโรคเขตเ ืมอง โครงการพัฒนาผูเ้ ช่ยี วชาญดา้ น 30 คน/ปี -จำนวนผู้ผา่ น - - - ✓✓ การปอ้ งกนั ควบคุมโรคเขตเมอื ง การเรยี น การสอน หลกั สตู รการปอ้ งกัน ควบคมุ โรคเขตเมือง โครงการพัฒนารปู แบบ 1 รปู แบบ - ลงพืน้ ที่ นเิ ทศ - - - -✓ ความรว่ มมอื ภาครฐั และเอกชน ตดิ ตามการดำเนินงาน ในการเฝ้าระวงั ป้องกัน ควบคมุ - เอกสารรายงาน โรคและภยั สุขภาพ ในพืน้ ที่ ความกา้ วหนา้ เขตเมอื ง การดำเนินงาน - รายงานผลรายไตรมาส ในระบบ ESM โครงการพฒั นาและสนับสนนุ - เวทีแลกเปลยี่ น - - - -✓ การดำเนินงานเฝ้าระวังปอ้ งกัน เรยี นรู้ ควบคุมโรคตดิ ตอ่ ในเด็กปฐมวัย - ตดิ ตามการดำเนินงาน - รายงานผลรายไตรมาส ในระบบ ESM โครงการพัฒนากลไก - เอกสารรายงาน - - - -✓ ความร่วมมอื การเฝา้ ระวงั ความก้าวหนา้ ปอ้ งกนั ควบคมุ โรคตดิ ต่อ การดำเนินงาน ในกลุ่มสถานประกอบการ/ - รายงานผลรายไตรมาส สำนกั งานให้เช่า ในระบบ ESM โครงการพัฒนาระบบการจัดการ 1 ระบบ - นิเทศตดิ ตาม - - - ✓✓ ภาวะฉกุ เฉนิ ทางสาธารณสขุ การดำเนนิ งาน ในพ้ืนท่ีเขตเมอื งสูค่ วามเป็นเลศิ 589

เป้าหมายแผนงาน ตัวชี้วดั วธิ ีการตดิ ตาม กรอบระยะเวลาของการติดตาม และมาตรการ และคา่ เป้าหมาย ประเมนิ ผล ประเมนิ ผล ปี พ.ศ. 2561 2562 2563 2564 2565 - เอกสารรายงาน ความกา้ วหนา้ การดำเนินงาน - รายงานผลรายไตรมาส ในระบบ ESM มาตรการท่ี 4 การพัฒนางานวิจัย การควบคุมโรคเขตเมือง โครงการพฒั นาระบบการตรวจ 1 ศูนย์ - เอกสารรายงาน - - - -✓ ประเมนิ ความพรอ้ มทาง ความกา้ วหนา้ การแพทยใ์ นผขู้ ับขร่ี ถยนต์ การดำเนนิ งาน สาธารณะทไี่ ด้รบั ใบอนญุ าตแลว้ - รายงานผลรายไตรมาส (Medical Fitness to Drive ในระบบ ESM Model) โครงการพฒั นาหลกั สตู ร 2 เรือ่ ง - เอกสารรายงาน - - - ✓✓ งานวจิ ยั นวัตกรรมและ ความกา้ วหน้า เทคโนโลยสี ถาบนั ป้องกนั การดำเนนิ งาน การ ัพฒนาและขับเคลื่อนงานเชิงระบบ (System Development) ควบคุมโรคเขตเมือง - รายงานผลรายไตรมาส ในระบบ ESM โครงการพฒั นางานนวตั กรรม 1 เร่อื ง - เอกสารรายงาน - - - -✓ คลินกิ ในรูปแบบ Smart Clinic ความกา้ วหน้า การดำเนนิ งาน - รายงานผลรายไตรมาส ในระบบ ESM 7. ผู้รบั ผดิ ชอบแผนงาน (Project Manager) 7.1. นายวชิ าญ ปาวัน ตำแหนง่ ผู้อำนวยการสถาบนั ปอ้ งกนั ควบคุมโรคเขตเมือง โทร. 09 2635 2465 E-mail : [email protected] 7.2. นายสขุ สันต์ จติ ตมิ ณี ตำแหนง่ รองผ้อู ำนวยการสถาบนั ป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง โทร. 08 6900 5645 E-mail : [email protected] 7.3. นางสาวสพุ ณั ณา เจรญิ กลุ ตำแหนง่ นักวชิ าการสาธารณสขุ ชำนาญการ โทร. 08 6345 2462 E-mail : [email protected] https://bit.ly/2YVFAQY 590

แผนงาน พ้ืนทแี่ ละกลมุ เปา หมาย ส‹งเสรม� การพฒั นานวัตกรรม ว�จยั และการจัดการความรŒู เพอ่ื การปอ‡ งกันควบคุมโรค Outcome เ(ปG‡าoหaมlาsย) นวัตกรรมและวิจยั ดานงานปองกนั ควบคุมโรค ต(วั KชP้ว�I)ดั  โครงการนวตั กรรมดา นการปอ งกนั ควบคมุ โรคและภยั สขุ ภาพสามารถดำเนนิ การไดแ ลว เสรจ็ และนำไปใชป ระโยชนไ มน อ ยกวา รอ ยละ 40 สถา(Gนaกpาร) ณ และภยั สขุ ภาพเพม่ิ ขึ้นและมีการนำไปใชประโยชน  ผลงานวิจัยดานการปองกนั ควบคมุ โรคและภยั สุขภาพทีน่ ำไปใชประโยชนไ มน อยกวา รอ ยละ 45 มาตรการ  ผลงานวิจยั มงุ เปาที่นำไปใชประโยชนเ ชงิ นโยบายจำนวน 3 เร่ือง กจิ กรรม มีนวตั กรรมและวิจัยที่มีการนำไปใชประโยชนเ ชิงนโยบายนอย (สว นใหญ รอ ยละ 80 เปน การตีพิมพใ นวารสาร ไมมกี ารนำไปจัดทำเปนขอ เสนอนโยบาย) หลกั มาตรการท่ี 1 ขบั เคลอ่ื น และดำเนนิ การเพอ่ื เพม่ิ การพฒั นานวตั กรรม มาตรการท่ี 2 ผลกั ดนั และสง เสรมิ การนำผลงานนวตั กรรมและวจิ ยั ทม่ี มี าตรฐาน มาตรการท่ี 3 เรง รดั พฒั นาศกั ยภาพดา นบคุ ลากร และระบบสนบั สนนุ ของ และวจิ ยั ในการปอ งกนั ควบคมุ โรค ไปใชป ระโยชนใ นการปอ งกนั ควบคมุ โรค และภยั สขุ ภาพอยา งเตม็ ท่ี กรมควบคมุ โรค สำหรบั การพฒั นานวตั กรรมและวจิ ยั 1.กิจกรรมสว น ระดบั กรม ระดบั หนว ยงาน ระดบั กรม ระดบั หนว ยงาน ระดบั กรม ระดบั หนว ยงาน ทีด่ ำเนินงาน กำหนดนโยบาย/สรา ง Environment (ทกุ หนว ยงานสงั กดั กรม) จดั เวทีแลกเปลีย่ นเรยี นรู/ (ทกุ หนว ยงานสงั กดั กรม) พฒั นาศักยภาพดานนวัตกรรม (ทกุ หนว ยงานสงั กดั กรม) ตอเนื่องจาก Ecosystem/ตัวชวี้ ัดคำรบั รอง/ กำหนดผูรับผดิ ชอบ/ จัดทำฐานขอมูล/ จดทะเบียนทรัพยสินทางปญ ญา/ ประเมนิ มาตรฐาน/จัดทำฐานขอ มูล การวจิ ยั /จัดทำฐานขอมลู นกั วิจัย พัฒนาศกั ยภาพดา นนวัตกรรม/ ปทีผ่ านมา แผนวิจยั +โจทยมงุ เปา/รบั รอง EC/ ประเมนิ +สรปุ บทเรียน/ ต้งั คลนิ กิ วจิ ัย/ วารสารควบคมุ โรค/ ผลิตภณั ฑ/ ทำเนยี บนักวจิ ยั /สง เสรมิ กรมควบคมุ โรค/ โครงการคปก. การวิจยั (เพิ่มศักยภาพนกั วจิ ยั 2. กิจกรรม ติดตามตรวจเยยี่ ม/ สนบั สนนุ โปรแกรม ดำเนนิ การพฒั นานวัตกรรมและวิจัย รับรองมาตรฐาน/ฐานขอ มูล/ การนำผลงานไปใชป ระโยชน เชน สนบั สนุน ปละ 6 ทนุ และสรา งนักวิจัยรนุ ใหม) / ทดี่ ำเนินการ วเิ คราะหส ถิติ/ บริการสืบคนบความ/ ตามแผน/ ดำเนินงานตัวช้ีวัดคำรบั รอง/ DDC Clearance จดั เวทแี ลกเปลยี่ น, เผยแพรผลงาน 591 ใหมเพิ่มเตมิ สรา งความรว มมอื กับหนวยงาน รายงานผล/ สรางความรว มมอื กับ ผานชอ งทางตา งๆ/พฒั นาวารสารใหได ทั้งภายใน & ตางประเทศ หนวยงานทงั้ ภายใน&ตา งประเทศ/ มาตรฐาน/ ในป 65 จัดทำยุทธศาสตร/ การบม เพาะ ทมี วจิ ยั เจา ของโครงการ Plagiarism กอ นตพี มิ พห รอื การเลอ่ื นระดบั / ผลกั ดนั ขยายผลการใชง าน จดั ระบบทป่ี รกึ ษาพฒั นา บนั ทกึ ขอ มลู นกั วจิ ยั ในฐาน นวตั กรรม/ต้ังคลนิ กิ วจิ ัย เขา รวมพฒั นา protocol ตรวจทานภาษาองั กฤษกอ นการตีพมิ พ/ นวตั กรรมตน แบบ Plagiarism protocol จดั ทำหลกั สตู ร https://dirrs.ddc.moph.go.th วจิ ัยในคลินิกวิจยั จัดประชุมวชิ าการและสงเสรมิ พัฒนา กอ นตพี มิ พห รอื การเลอ่ื นระดบั Facilitator และ เพม่ิ ศกั ยภาพ Facilitator ชุดขอ เสนอสทิ ธปิ ระโยชนภ ายใตหลกั E-learning เชน EC R2R. KM team ประกนั สุขภาพ/พฒั นาแผนนวตั กรรม (business Model) หนว‹ ยงาน ภายในกรม : กองบริหาร กองวชิ าการ สำนัก สถาบันในสังกัดกรมควบคุมโรค ภายนอกกรม : หนวยงานในสงั กดั กระทรวงสาธารณสุข มหาวิทยาลัย สำนกั งานปอ งกนั ควบคุมโรคที่ 1-12 หนวยงานภาครฐั และเอกชน รว‹ มดำเนนิ การ 3 เดือน 6 เดือน 9 เดือน 12 เดือน Quick Win 1. คำสั่งแตง ตั้งคณะทำงานจดั ทำยุทธศาสตรก ารพัฒนานวตั กรรม 1. มีการประเมินและรบั รองมาตรฐานผลิตภัณฑ 10 เรือ่ ง 1. เผยแพรแผนยุทธศาสตรการพัฒนานวัตกรรม วิจยั จัดการ 1. ผลงานนวตั กรรมดา นการปองกนั และควบคมุ โรค จำนวน 4 เรอื่ ง วิจยั จัดการความรู ดานการปอ งกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ 2. ดำเนนิ โครงการพฒั นานวตั กรรมหรือโครงการวจิ ยั ได 50% ความรู ดา นการปอ งกันควบคมุ โรคและภยั สขุ ภาพของ 2. ผลงานวิจัยมุง เปา ดำเนินการเสร็จสน้ิ มขี อเสนอเชิงนโยบาย ของประเทศไทย พ.ศ 2566-2570 ประเทศไทย พ.ศ 2566 – 2570 เปรียบเทียบกบั แผนการดำเนินงานของโครงการในปน ั้น ๆ ที่ผานการเห็นชอบในเวทผี มู สี วนไดสวนเสยี แลว อยางนอ ย 2. คำส่ังแตงต้ังคณะทำงานประชมุ วิชาการดานการปอ งกนั 3. รา งแผนยทุ ธศาสตรการพัฒนานวัตกรรม วิจยั จัดการความรู 2. มีการประเมินและรบั รองมาตรฐานผลติ ภณั ฑ 10 เรื่อง 3 เรอ่ื ง ควบคุมโรค ประจำป 2565 3. ดำเนินโครงการพัฒนานวตั กรรมหรอื โครงการวิจัย ได 70% 3. มีการประเมนิ และรบั รองมาตรฐานผลติ ภณั ฑจ ำนวน 20 เร่ือง ดา นการปองกนั ควบคุมโรคและภัยสขุ ภาพของประเทศไทย 4. จัดเวทีมอบรางวัลการพัฒนาผลิตภณั ฑเ พ่ือการเฝา ระวัง 3. โครงการนวตั กรรมท่ผี านการคัดเลอื กเขาสูการบมเพาะ พ.ศ 2566 – 2570 เปรยี บเทียบกบั แผนการดำเนินงานของโครงการในปน้ัน ๆ ปองกัน ควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพ (DDC Research นวัตกรรมดานสุขภาพและปอ งกนั ควบคุมโรค อยางนอ ย 4 เรอ่ื ง 4. ประชมุ วิชาการดา นการปองกันควบคุมโรค ประจำป 2565 and Innovation Award) 4. มหี ัวขอ โครงการวิจัยมุง เปาใหมอ ยา งนอย 3 เรอื่ ง กจิ กรรมใหม ป 65 * วิจัยมงุ เปา หมายถงึ วิจัยท่ีมงุ เปา หมายสรา งผลผลิตท่สี ามารถนำไปประยกุ ตใชเ ปน แนวทางในการกำหนดนโยบาย แผนงานสง่ เสริมการพัฒนานวตั กรรม วจิ ัย และการจดั การความรู้ เพ่ือการปอ้ งกันควบคมุ โรค

การ ัพฒนาและขับเคลื่อนงานเชิงระบบ (System Development) แผนงานส่งเสริมการพฒั นานวัตกรรม วจิ ัย และการจดั การความรู้ เพือ่ การปอ้ งกันควบคุมโรค 1. สถานการณ์ (Situation) จากนโยบายประเทศไทย 4.0 ของรฐั บาล ทตี่ อ้ งการขบั เคล่ือนไปสู่การเป็นประเทศท่ีม่ันคง ม่ังคั่ง และยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม โดยการผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ การปฏิรูปการวิจัยและการพัฒนา การปฏิรูปการศึกษา โดยเน้นขับเคลื่อนการสร้างนวัตกรรม และการทำงานร่วมกับเครือข่าย ซึ่งแผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564) ได้สนองต่อนโยบายดังกล่าว โดยให้ความสำคัญกับ การใช้องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ผลงานวิจัยและพัฒนา ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นวัตกรรมและความคิด สร้างสรรค์ รวมทั้งการพัฒนาสภาวะแวดล้อมหรือปัจจัยพื้นฐานที่เอื้ออำนวยทั้งการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา การพัฒนาบุคลากรวิจัย โครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการบริหารจัดการ ภายใต้ ยุทธศาสตร์ท่ี 8 การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม โดยมีเป้าหมายและตัวชี้วัดที่สำคัญ ได้แก่ จำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนาเพิ่มขึ้น เป้าหมายภายในปี 2580 60 คนต่อประชากร 10,000 คน (เป้าหมายปี 2564 จะมีนักวิจัย 25 คนต่อประชากร 10,000 คน) ซึ่งยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) ได้กำหนดเป้าหมายที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) โดยเน้นใหม้ ีโครงการวิจัย/จำนวนหน่วยงานที่ได้นำผลงานไปใชป้ ระโยชน์ มูลค่าผลกระทบเชงิ เศรษฐกิจ/สงั คม และมีการนำขอ้ มูลวจิ ยั ความรู้ ไปใช้ในการตัดสนิ ใจได้อย่างถูกตอ้ ง กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดยุทธศาสตร์ด้านสาธารณสุข ระยะ 20 ปี ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ การส่งเสริมสุขภาพและปอ้ งกันโรคเป็นเลิศ การบริการเป็นเลศิ บุคลากรเป็นเลิศ และบริหาร เป็นเลิศด้วยธรรมาภิบาล ซึ่งการพัฒนางานวิจัยและองค์ความรู้ด้านสุขภาพเป็น 1 ในโครงการตามแผนระบบ ธรรมาภิบาลและมีตัวชี้วัดที่สำคัญ ได้แก่ งบประมาณวิจัยที่เพิ่มขึ้น และผลงานวิจัย/R2R ที่มีการเผยแพร่ให้ หนว่ ยงานต่างๆ นำไปใชป้ ระโยชน์ ผลการดำเนินงานพัฒนานวัตกรรมและวิจัยของกรมฯ ที่ผ่านมา กรมควบคุมโรคมีการค้นหา วิธกี ารทำงานที่เป็นเลิศของหน่วยงานภายในมาโดยตลอดจึงนำมาสู่วฒั นธรรมในการใช้เคร่ืองมือการจัดการความรู้ สำหรับการขับเคลื่อนระบบและวิธีการดำเงินงานภายใน ซึ่งส่งผลดีต่อการพัฒนาผลงาน และผลิตภัณฑ์วิชาการ ที่กรมควบคุมโรคจัดทำและพัฒนาผลงานขึ้นมาเป็นอย่างยิ่ง หากแต่พบว่าการสร้างนวัตกรรมและงานวิ จัย ที่สามารถนำผลการศึกษาไปต่อยอดเป็นนวัตกรรมเพื่อใช้ประโยชน์ เชิงนโยบายด้าน การป้องกันควบคุมโรค มีจำนวนน้อย โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 80 ของผลงานนวัตกรรมและวจิ ัย เป็นการนำไปใช้ในเชงิ วชิ าการ (การตีพิมพ์ใน วารสารหรือการนำเสนอในการประชุมวิชาการ) เชิงนโยบายมีเพียงเล็กน้อย และไม่มีการนำไปใช้ประโยชน์ เชิงสงั คม/ชมุ ชนและเชงิ พาณชิ ย์ 70% 75% 86% 80% 64% 84% ปี 2555-2558 ปี 2559 ปี 2560 ปี 2561 ปี 2562 ปี 2563 ภาพท่ี 1 รอ้ ยละผลงานวจิ ยั ท่มี กี ารนำไปใช้ประโยชน์ กรมควบคมุ โรค ปี 2555-2563 592


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook