Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ2563-2

หลักสูตรโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ2563-2

Published by Keera Porn, 2020-08-06 21:31:15

Description: หลักสูตรโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ2563-2

Search

Read the Text Version

รหสั วชิ า ว๓๑๑๐๓ ชือ่ วชิ า วทิ ยาการคานวณ ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๔ เวลาเรียน ๔๐ ช่ัวโมง จานวนหนว่ ยกิต ๑.๐ หน่วยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศึกษา แนวคิดเชิงคานวณ ได้แก่ ขั้นตอนวิธี การแยกส่วนประกอบและการย่อย ปญั หา การหารปู แบบ และการคิดเชิงนามธรรม การแก้ปญั หาและข้ันตอนวธิ ี ได้แก่ การแก้ปัญหา ด้วยคอมพิวเตอร์ การระบุข้อมูลเข้า ข้อมูลออก และเง่ือนไขของปัญหา การออกแบบขั้นตอนวิธี การทาซ้า และการจัดเรียงข้อมูล การพัฒนาโครงงาน ได้แก่ การกาหนดปัญหา การศึกษาและ กาหนดขอบเขตของปัญหา การวางแผนและออกแบบโครงงาน การดาเนินงาน และการสรุปผล และเผยแพร่ผลงาน โดยใช้การจัดการเรียนรู้โดยมกี ิจกรรมเป็นฐาน การจัดการเรียนรแู้ บบใช้ปัญหาเปน็ ฐาน และการจัดการเรียนรโู้ ดยใช้โครงงานเป็นฐาน รวมทั้งการสร้างอลั กอริทึม การเขียนขั้นตอน การแก้ปัญหา การเขียนโปรแกรม ฝึกกระบวนการทางานอย่างเป็นระบบผ่านกระบวนการ ออกแบบเชิงวิศวกรรม คิดวิเคราะห์ ลงมอื แกป้ ญั หาจากสถานรณป์ ญั หาทีเ่ ชือ่ มโยงกับชวี ติ จรงิ เพ่ือให้เกิดการใช้ทักษะการคิดเชิงคานวณในการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาอย่างเป็น ขั้นตอนและเป็นระบบ มีทักษะในการค้าหาข้อมูลหรือสารสนเทศ ประเมิน จัดการ วิเคราะห์ สังเคราะห์และนาสารสนเทศไปใช้ในการแก้ปัญหา ประยุกต์ใช้ความรู้ด้านวทิ ยาการคอมพิวเตอร์ ส่ือดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ในการแก้ปัญหาในชีวิตจริง การทางานร่วมกัน อย่างสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ต่อตนเองหรือสังคม รวมท้ังการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและ การสอ่ื สารอย่างปลอดภยั รู้เทา่ ทนั มีความรบั ผิดชอบ มีจรยิ ธรรม รหัสตวั ชี้วดั มาตรฐาน ว ๔.๒ ม.๔/๑ รวมทง้ั หมด ๑ ตัวช้ีวัด ๑๕๑ หลักสูตรโรงเรียนมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

รหัสวิชา ว๓๑๑๐๔ ช่อื วิชา การออกแบบและเทคโนโลยี ๑ กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๔ เวลาเรยี น ๔๐ ช่ัวโมง จานวนหนว่ ยกิต ๑.๐ หนว่ ยกิต คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษา ความหมายของระบบ ระบบทางเทคโนโลยี ระบบทางเทคโนโลยีท่ีซับซ้อน การทางานผิดพลาดของระบบ สาเหตุหรือปัจจัยการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี การวิเคราะห์ สาเหตหุ รอื ปัจจัยการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ผลกระทบของเทคโนโลยีท่ีมตี อ่ มนษุ ย์และสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม การวิเคราะห์ผลกระทบของเทคโนโลยี วัสดุ เคร่ืองมือพ้ืนฐาน การตัดต่อ และข้ึนรูปวัสดุ กลไก อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ แผงควบคุมขนาดเล็ก กระบวนการ ออกแบบเชิงวิศวกรรม ได้แก่ การระบุปัญหา การรวบรวมข้อมูลและแนวคิดที่เก่ียวข้องกับ การแก้ปัญหา การออกแบบวิธีการแก้ปัญหา การวางแผนการดาเนินการแก้ปัญหา การทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขวิธีการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน การนาเสนอวิธีการแก้ปัญหา ผล การแกป้ ญั หาหรือชน้ิ งาน กรณีศึกษาการแกป้ ญั หาตามกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม โดยใช้การจัดการเรยี นรู้โดยมกี ิจกรรมเป็นฐาน การจัดการเรียนรแู้ บบใช้ปัญหาเปน็ ฐาน และการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ฝึกกระบวนการทางานอย่างเป็นระบบผ่าน กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม คดิ วิเคราะห์ ลงมอื แกป้ ญั หาจากสถานการณป์ ัญหาที่เชื่อมโยง กับชีวิตจริง ฝึกการทางานเพือ่ แก้ปัญหาได้อยา่ งเหมาะสมตามเงอื่ นไข ทรัพยากรที่มีด้วยวิธีการที่ หลากหลาย เพ่ือให้มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับเทคโนโลยีเพ่ือดารงชี วิตในสังคมที่มี การเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะเพ่ือแก้ปัญหาหรือพัฒนางานอย่างมีความคิด สร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม บูรณาการกับศาสตร์อื่น โดยเฉพาะ วิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์อย่างเหมาะสม เลือกใช้เทคโนโลยีโดยคานึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สงั คม และสงิ่ แวดล้อม รหสั ตัวชี้วดั มาตรฐาน ว ๔.๑ ม.๔/๑, ม.๔/๒, ม.๔/๓, ม.๔/๔, ม.๔/๕ รวมท้ังหมด ๕ ตัวชว้ี ัด ๑๕๒ หลักสูตรโรงเรยี นมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

รหัสวชิ า ว๓๒๑๐๑ ชื่อวิชา วทิ ยาศาสตร์กายภาพ ๑ กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ เวลาเรยี น ๔๐ ช่ัวโมง จานวนหน่วยกิต ๑.๐ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษา ธาตุ สารประกอบ สูตรเคมี แบบจาลองอะตอม อนุภาคมูลฐานในอะตอม สัญลักษณ์นิวเคลียร์ หมู่และคาบในตารางธาตุ ประเภทของธาตุในตารางธาตุ สมบัติบางประการ ของโลหะและอโลหะ การใชป้ ระโยชน์จากธาตุตา่ ง ๆ พนั ธะโคเวเลนตแ์ ละสารประกอบโคเวเลนต์ พันธะไอออนิกและสารประกอบไอออนิก สารประกอบอินทรีย์ พอลิเมอร์และมอนอเมอร์ ความเป็นกรด-เบส การละลายในตัวทาละลายชนิดต่าง ๆ ของสาร พลาสติก การใช้ผลิตภัณฑ์ พอลิเมอร์และผลกระทบของการใช้ผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม พร้อม แนวทางปอ้ งกนั หรือแก้ไข สมการเคมีของปฏิกิรยิ าเคมี ปจั จยั ที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏกิ ิริยาเคมี และการใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวันหรือในอุตสาหกรรม ปฏิกิริยารีดอกซ์ สารกัมมันตรังสี ครง่ึ ชีวติ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์ เปรยี บเทียบ อธิบาย อภปิ ราย และสรปุ เพื่อใหเ้ กิดความร้คู วามเขา้ ใจ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ มที กั ษะปฏบิ ัติการทาง วิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด แก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมท่เี หมาะสม รหัสตัวชี้วัด มาตรฐาน ว ๒.๑ ม.๕/๑, ม.๕/๒, ม.๕/๓, ม.๕/๔, ม.๕/๕, ม.๕/๖, ม.๕/๗, ม.๕/๘, ม.๕/๙, ม.๕/๑๐, ม.๕/๑๑, ม.๕/๑๒, ม.๕/๑๓, ม.๕/๑๔, ม.๕/๑๕, ม.๕/๑๖, ม.๕/๑๗, ม.๕/๑๘, ม.๕/๑๙, ม.๕/๒๐, ม.๕/๒๑, ม.๕/๒๒, ม.๕/๒๓, ม.๕/๒๔, ม.๕/๒๕ รวมทง้ั หมด ๒๕ ตัวช้ีวัด ๑๕๓ หลกั สูตรโรงเรยี นมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

รหสั วชิ า ว๓๒๑๐๒ ช่ือวชิ า วทิ ยาศาสตร์กายภาพ ๒ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ เวลาเรียน ๔๐ ช่ัวโมง จานวนหน่วยกติ ๑.๐ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวชิ า ศกึ ษา การเคลือ่ นทีแ่ นวตรง ได้แก่ ตาแหนง่ ระยะทางและการกระจัด อัตราเร็วและ ความเร็วของวัตถุ ความเร่ง แรงและความเร่ง การหาแรงลัพธ์ แรงกิริยาและแรงปฏิกิริยา การเคลื่อนท่ีแบบโพรเจกไทล์ แบบวงกลม และแบบส่ัน แรงโน้มถ่วง แรงดึงดูดระหว่างมวล การเคล่ือนท่ีของดาวเทียมและดวงจันทร์รอบโลก การประยุกต์ใช้ประโยชน์จากเรื่องแรงโน้มถ่วง สนามแม่เหล็กจากเส้นลวดท่ีมีกระแสไฟฟ้าผ่าน แรงแม่เหล็กท่ีกระทากับอนุภาคท่ีมีประจุไฟฟ้า แรงแม่เหล็กที่กระทากับลวดตัวนาท่ีมีกระแสไฟฟ้าผ่าน หลักการทางานของมอเตอร์ การเกิด อีเอ็มเอฟเหน่ียวนาและกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนา หลักการทางานของเครื่องกาเนิดไฟ การประยุกต์ใช้ประโยชน์จากเร่ืองการเหนี่ยวนาแม่เหล็กไฟฟ้า แรงอ่อนและแรงเข้ม เซลล์สุริยะ และการใช้ประโยชน์ พลังงานนวิ เคลียร์และการใช้ประโยชน์ ปฏิกิริยานิวเคลียรฟ์ ิชชันและฟิวชัน รวมทั้งการนาไปใช้ เซลล์เช้ือเพลิงและเทคโนโลยีด้านพลังงาน คลื่นกล พฤติกรรมของคลื่นไดแ้ ก่ การสะทอ้ น การหักเห การเล้ียวเบนและการรวมคล่นื ความถธ่ี รรมชาตแิ ละการสัน่ พ้อง พฤตกิ รรม ของเสียง ความเข้มเสียง ความถ่ีเสียง ผลของความถ่ีและระดับเสียงท่ีมีต่อการได้ยิน การได้ยิน เสียงสะท้อนกลับ การสั่นพ้องเสียง บีต ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ ประโยชน์ของเสียง การมองเห็นสี ตาบอดสี การผสมแสงสี การผสมสารสี การใช้ประโยชน์ของสารสีและแสงสี ส่วนประกอบของคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า หลักการทางานของอุปกรณ์ที่ใช้คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า การส่ือสารโดยอาศัยคล่ืนแม่เหล็กไฟฟา้ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสงั เกต วเิ คราะห์ เปรียบเทยี บ อธบิ าย อภิปราย และสรุป เพอื่ ใหเ้ กดิ ความรูค้ วามเขา้ ใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบตั กิ ารทาง วิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะการเรียนร้ใู นศตวรรษท่ี ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด แก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมทีเ่ หมาะสม รหสั ตวั ชี้วดั มาตรฐาน ว ๒.๒ ม.๕/๑, ม.๕/๒, ม.๕/๓, ม.๕/๔, ม.๕/๕, ม.๕/๖, ม.๕/๗, ม.๕/๘, ม.๕/๙, ม.๕/๑๐ มาตรฐาน ว ๒.๓ ม.๕/๑, ม.๕/๒, ม.๕/๓, ม.๕/๔, ม.๕/๕, ม.๕/๖, ม.๕/๗, ม.๕/๘, ม.๕/๙, ม.๕/๑๐, ม.๕/๑๑, ม.๕/๑๒ รวมท้งั หมด ๒๒ ตัวช้ีวัด ๑๕๔ หลักสตู รโรงเรียนมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

รหสั วชิ า ว๓๒๑๐๓ ชอ่ื วิชา วิทยาการคานวณ ๒ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๕ จานวนหน่วยกติ ๑.๐ หนว่ ยกิต คาอธิบายรายวิชา ศึกษา คุณค่าของข้อมูล ได้แก่ ยุคของข้อมูลและสารสนเทศ วิทยาการข้อมูล กระบวนการวิทยาการข้อมูล และการคิดออกแบบสาหรบั วทิ ยาการขอ้ มูล การเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แหล่งข้อมูลทุติยภูมิ และความเหมาะสมของแหล่งข้อมูล การเตรียมข้อมูล ได้แก่ การทา ความสะอาดขอ้ มูล การแปลงข้อมลู การเชือ่ มโยงขอ้ มูล การสารวจข้อมลู ไดแ้ ก่ การสารวจข้อมูล โดยใช้กราฟเส้น ฮิสโตแกรม แผนภาพการกระจาย แผนภาพกล่อง และการเขียนโปรแกรม ข้อมลู ส่วนบคุ คล การวเิ คราะหเ์ ชิงพรรณนา ได้แก่ การหาสดั สว่ นรอ้ ยละ การวดั ค่ากลางของขอ้ มูล และ การหาความสัมพันธ์ของชุดข้อมูล การวิเคราะห์เชิงทานาย ได้แก่ การทานายเชิงตัวเลข และ การทานายเชิงหมวดหมู่ การส่ือสารดว้ ยข้อมลู การทาข้อมูลใหเ้ ป็นภาพ ได้แก่ แผนภูมิรูปวงกลม แผนภมู ิแทง่ กราฟเสน้ แผนภาพการกระจาย และการเลือกใช้แผนภาพ การทาขอ้ มูลให้เป็นภาพ อยา่ งเหมาะสม การเลา่ เรือ่ งราวจากขอ้ มลู และข้อควรระมัดระวังในการนาเสนอข้อมูล โดยใช้การจัดการเรยี นรู้โดยมีกิจกรรมเป็นฐาน การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็น ฐาน และการจัดการเรียนรโู้ ดยใช้โครงงานเป็นฐาน รวมท้ังการสร้างอลั กอริทึม การเขียนข้ันตอน การแก้ปัญหา การเขียนโปรแกรม ฝึกกระบวนการทางานอย่างเป็นระบบผ่านกระบวนการ ออกแบบเชิงวศิ วกรรม คิดวิเคราะห์ ลงมอื แก้ปัญหาจากสถานการณ์ปัญหาท่เี ชอื่ มโยงกบั ชีวติ จรงิ เพ่ือให้มีเกิดการใช้ทักษะการคิดเชิงคานวณในการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาอย่างเปน็ ขั้นตอนและเป็นระบบ มีทักษะในการค้าหาข้อมูลหรือสารสนเทศ ประเมิน จัดการ วิเคราะห์ สังเคราะห์และนาสารสนเทศไปใช้ในการแก้ปัญหา ประยุกต์ใช้ความรู้ด้านวทิ ยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในการแก้ปัญหาในชีวิตจริง การทางานร่วมกัน อย่างสร้างสรรค์เพ่ือประโยชน์ต่อตนเองหรือสังคม รวมท้ังการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและ การสื่อสารอยา่ งปลอดภยั รู้เทา่ ทนั มีความรบั ผดิ ชอบ มจี รยิ ธรรม รหสั ตัวชี้วัด มาตรฐาน ว ๔.๒ ม.๕/๑ รวมทั้งหมด ๑ ตัวชี้วัด ๑๕๕ หลักสูตรโรงเรียนมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

รหัสวชิ า ว๓๒๑๐๔ ชื่อวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี ๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ เวลาเรยี น ๔๐ ช่ัวโมง จานวนหนว่ ยกิต ๑.๐ หน่วยกิต คาอธิบายรายวิชา ศึกษา ความรู้พ้ืนฐานเก่ียวกับการแก้ปัญหา ความรู้และทักษะในการปฏิบัติงาน การระบุและตีความปัญหา การพัฒนาแนวคิด การสร้างแนวทางการแก้ปญั หา การแก้ปัญหาด้วย การทาโครงงาน ได้แก่ การวิเคราะห์โครงงาน การพัฒนาโครงงานโดยใชก้ ระบวนการออกแบบเชิง วศิ วกรรม ไดแ้ ก่ การตดั สนิ ใจเลอื กปญั หาจากสถานการณ์ที่สนใจเพ่ือพัฒนาโครงงาน การกาหนด กรอบแนวคิดและขอบเขตของปัญหาในการทาโครงงาน การรวบรวมข้อมูลทเี่ ก่ยี วขอ้ งกับโครงงาน การออกแบบวิธีการแก้ปัญหา การวางแผนและการดาเนินการแก้ปญั หา การทดสอบ ประเมินผล และปรบั ปรุงแก้ไขวธิ ีการแก้ปญั หาหรือชนิ้ งาน และการนาเสนอโครงงาน การสร้างประโยชน์จาก ผลงาน ได้แก่ การเพ่ิมมูลค่าและสร้างมูลค่า สิทธิและการคุ้มครองผลงาน ได้แก่ สิทธิบัตร สิทธิบัตรการประดษิ ฐ์ สิทธบิ ัตร การออกแบบผลติ ภัณฑ์ อนสุ ทิ ธบิ ตั ร การนาเสนอผลงาน โดยใช้การจัดการเรยี นรู้โดยมกี ิจกรรมเป็นฐาน การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเปน็ ฐาน และการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ฝึกกระบวนการทางานอย่างเป็นระบบผ่าน กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม คิดวเิ คราะห์ ลงมือแก้ปัญหาจากสถานการณป์ ัญหาที่เช่อื มโยง กับชีวิตจริง ฝึกการทางานเพ่อื แกป้ ัญหาได้อย่างเหมาะสมตามเงอื่ นไข ทรัพยากรที่มีด้วยวธิ ีการที่ หลากหลาย เ พ่ื อ ใ ห้ มี ค ว า ม รู้ ค ว า ม เ ข้ า ใ จ เ ก่ี ย ว กั บ เ ท ค โ น โ ล ยี เ พื่ อ ด า ร ง ชี วิ ต ใ น สั ง ค ม ท่ี มี การเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะเพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางานอย่างมีความคิด สร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม บูรณาการกับศาสตร์อื่น โดยเฉพาะ วิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์อย่างเหมาะสม เลือกใช้เทคโนโลยีโดยคานึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และสง่ิ แวดลอ้ ม รหสั ตวั ชี้วัด มาตรฐาน ว ๔.๑ ม.๕/๑ รวม ๑ ตัวชี้วัด ๑๕๖ หลกั สูตรโรงเรียนมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

รหสั วิชา ว๓๓๑๐๑ ชอ่ื วิชา วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ๑ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๖ เวลาเรยี น ๔๐ ชั่วโมง จานวนหน่วยกิต ๑.๐ หนว่ ยกิต คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษา ข้อมูลในการศึกษาและการแบ่งช้ันโครงสร้างโลก การแบ่งชั้นโครงสร้างโลก แนวคิดของทฤษฎีทวปี เล่ือนและหลักฐานสนับสนนุ แนวคิดของทฤษฎีการแผ่ขยายพนื้ สมุทรและ หลักฐาน การแปรสัณฐานของแผ่นธรณี ธรณีสัณฐานและโครงสร้างทางธรณีที่เกิดจาก การเคล่ือนท่ีของแผ่นธรณี ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว สึนามิ ปัจจัยสาคัญที่ส่งผลต่อการรับรังสี ดวงอาทิตย์ของพื้นโลก การหมุนเวียนของอากาศ การหมุนเวียนของน้าผิวหน้ามหาสมุทร ปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญา กระบวนการท่ีทาให้เกิดสมดุลพลังงานของโลก ปัจจัยท่ีส่งผล ต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศและแนวทางการรับมอื ขอ้ มูลและสารสนเทศทางอตุ ุนยิ มวิทยา การใชป้ ระโยชนจ์ ากข้อมลู สารสนเทศทางอตุ ุนยิ มวทิ ยา โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสงั เกต วิเคราะห์ เปรยี บเทยี บ อธิบาย อภปิ ราย และสรุป เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ มีทกั ษะปฏบิ ัติการทาง วิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรียนร้ใู นศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคดิ แก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมท่เี หมาะสม รหสั ตัวช้ีวดั มาตรฐาน ว ๓.๒ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔, ม.๖/๕, ม.๖/๖, ม.๖/๗, ม.๖/๘, ม.๖/๙, ม.๖/๑๐, ม.๖/๑๑, ม.๖/๑๒, ม.๖/๑๓, ม.๖/๑๔ รวมทัง้ หมด ๑๔ ตัวช้ีวดั ๑๕๗ หลกั สูตรโรงเรียนมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

รหัสวิชา ว๓๓๑๐๒ ชอื่ วิชา วทิ ยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ ๒ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖ เวลาเรยี น ๔๐ ชั่วโมง จานวนหนว่ ยกิต ๑.๐ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษา กาเนิดและวิวัฒนาการของเอกภพ หลักฐานที่สนับสนุนทฤษฎีบิกแบง กาแล็กซีและกาแล็กซีทางช้างเผือก สมบัติของดาวฤกษ์ กาเนิดและวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ กาเนิดระบบสุริยะและการแบ่งเขตบริวารรอบดวงอาทิตย์ โครงสร้างและปรากฏการณ์บน ดวงอาทติ ย์ เทคโนโลยีอวกาศกับการสารวจอวกาศ เทคโนโลยอี วกาศกับการประยกุ ต์ใช้ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วเิ คราะห์ เปรยี บเทยี บ อธบิ าย อภปิ ราย และสรปุ เพอื่ ให้เกิดความรู้ความเขา้ ใจ มคี วามสามารถในการตัดสนิ ใจ มีทักษะปฏบิ ัตกิ ารทาง วิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรียนรใู้ นศตวรรษท่ี ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคดิ แก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมท่เี หมาะสม รหัสตัวช้ีวดั มาตรฐาน ว ๓.๑ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔, ม.๖/๕, ม.๖/๖, ม.๖/๗, ม.๖/๘, ม.๖/๙, ม.๖/๑๐ รวมทั้งหมด ๑๒ ตัวช้ีวัด ๑๕๘ หลกั สูตรโรงเรียนมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

รหัสวิชา ว๓๓๑๐๓ ช่อื วิชา วิทยาการคานวณ ๓ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๖ เวลาเรียน ๔๐ ช่ัวโมง จานวนหนว่ ยกิต ๑.๐ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษา องค์ประกอบและรูปแบบพ้ืนฐานในการสื่อสาร เทคนิคและวิธีการแบ่งปัน ข้อมูล ได้แก่ การเขียนบล็อก การทาแฟ้มผลงาน ข้อควรระวังในการแบ่งบันข้อมูล แนวคิดด้าน ปัญญาประดิษฐ์ นวัตกรรมท่ีใช้ปัญญาประดิษฐ์ การประมวลแบบคลาวด์ ความสาคัญของ อินเทอร์เน็ตของสรรพส่ิง สถาปัตยกรรมอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง หลักการทางานของความเป็น จริงเสมือน การใชง้ านความเป็นจริงเสมือน การเปน็ พลเมอื งดิจทิ ัล ไดแ้ ก่ การร้ดู ิจิทัล การมีทกั ษะ ทางการสื่อสาร และการซ้ือขายสินค้าออนไลน์ การป้องกันตนเองและผู้อ่ืน ได้แก่ ความเป็น ส่วนตัว สิทธิและความรับผิดชอบ และสุขภาพกับการใช้งานเทคโนโลยี กฎหมายและมารยาทใน การสังคมดจิ ิทัล อาชีพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี กับสังคมและอาชีพ ผลกระทบของเทคโนโลยีกับอาชีพ การทางานร่วมกับเครื่องจักรและระบบ อตั โนมตั ิ โดยใช้การจัดการเรยี นรู้โดยมีกิจกรรมเป็นฐาน การจัดการเรียนรแู้ บบใช้ปัญหาเป็น ฐาน และการจัดการเรียนรูโ้ ดยใช้โครงงานเป็นฐาน รวมท้ังการสรา้ งอลั กอริทึม การเขียนขั้นตอน การแก้ปัญหา การเขียนโปรแกรม ฝึกกระบวนการทางานอย่างเป็นระบบผ่านกระบวนการ ออกแบบเชิงวศิ วกรรม คิดวเิ คราะห์ ลงมอื แก้ปญั หาจากสถานการณป์ ญั หาท่ีเชอื่ มโยงกบั ชีวิตจริง เพื่อให้มีเกิดการใช้ทักษะการคิดเชิงคานวณในการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาอย่างเปน็ ขั้นตอนและเป็นระบบ มีทักษะในการค้าหาข้อมูลหรือสารสนเทศ ประเมิน จัดการ วิเคราะห์ สังเคราะห์และนาสารสนเทศไปใช้ในการแก้ปัญหา ประยุกต์ใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพวิ เตอร์ ส่ือดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในการแก้ปัญหาในชีวิตจริง การทางานร่วมกัน อย่างสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ต่อตนเองหรือสังคม รวมท้ังการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและ การสื่อสารอยา่ งปลอดภัย ร้เู ท่าทัน มคี วามรับผิดชอบ มีจริยธรรม รหสั ตัวชี้วดั มาตรฐาน ว ๔.๒ ม.๖/๑ รวมทง้ั หมด ๑ ตัวช้ีวัด ๑๕๙ หลกั สตู รโรงเรียนมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

รหัสวชิ า ว๓๐๒๐๑ ชื่อวชิ า วิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๔-๖ เวลาเรียน ๔๐ ชว่ั โมง จานวนหนว่ ยกติ ๑.๐ หนว่ ยกิต คาอธิบายรายวชิ า ฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ได้แก่ การระบุปัญหา การต้ังสมมติฐาน การกาหนดและควบคุมตัวแปร การกาหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ การออกแบบการทดลอง การปฏิบัติการทดลอง การบันทึกผลการทดลอง การตีความของข้อมูลของข้อมูลและลงข้อสรุป และการสร้างแบบจาลอง โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสงั เกต วิเคราะห์ เปรยี บเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรปุ เพอื่ ให้เกิดความรู้ความเข้าใจ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ มีทักษะปฏบิ ัติการทาง วิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคดิ แก้ปัญหาด้านการสื่อสาร สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. ระบปุ ญั หาจากสถานการณ์ที่ตนเองสนใจ ๒. คาดคะเนคาตอบท่ีเกย่ี วขอ้ งกับความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งตวั แปร ๓. กาหนดตัวแปรต้น ตัวแปรตาม และตัวแปรควบคุม ในการทดลองหน่ึง ๆ ให้สอดคล้องกับ สมมติฐานของการทดลอง ๔. กาหนดความหมายหรอื ขอบเขตของตัวแปรต่าง ๆ ทอี่ ยู่ในสมมติฐานของการทดลองใหเ้ ข้าใจ ตรงกัน สามารถสังเกตหรือวดั สง่ิ ต่าง ๆ ทนี่ ยิ ามไวไ้ ด้ ๕. ออกแบบและวางแผนการทดลองอยา่ งรอบคอบและสอดคล้องกบั สมมตฐิ าน ๖. ปฏิบัติการทดลองตามข้ันตอนที่ออกแบบไว้ และมีการใช้วัสดุอุปกรณ์ได้อย่างถูกต้องและ เหมาะสม ๗. จดบันทึกข้อมูลท่ีได้จากการทดลองท่ีสอดคล้องกับสิ่งที่ต้องการวัดหรือสิ่งท่ีต้องสังเกตได้ อย่างถกู ต้อง ครบถว้ น และเทยี่ งตรง ๘. แปลความหมายหรือบรรยายลักษณะข้อมูลท่ีได้จัดกระทาและอยู่ในรูปแบบที่ใช้ในการส่ือ ความหมายแลว้ ๙. ลงขอ้ สรุปความสัมพนั ธข์ องขอ้ มูลท่ีเกยี่ วข้องงกบั ตัวแปรที่ไดจ้ ากการทดลอง ๑๐. สร้างและใช้สิ่งท่ีทาข้ึนเพื่ออธิบายปรากฏการณ์ท่ีศึกษาหรือสนใจ รวมถึงนาเสนอข้อมูล แนวคิดเพ่อื ใหผ้ อู้ นื่ เข้าใจในรูปแบบของแบบจาลองแบบต่าง ๆ รวมทง้ั หมด ๑๐ ผลการเรียนรู้ ๑๖๐ หลกั สตู รโรงเรียนมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

รหัสวิชา ว๓๐๒๐๒ ชื่อวิชา การวิเคราะห์โครงงาน กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๔-๖ เวลาเรียน ๔๐ ช่ัวโมง จานวนหน่วยกติ ๑.๐ หนว่ ยกิต คาอธบิ ายรายวิชา ศกึ ษา คน้ คว้า ดงู านและทากิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ โดยเนน้ เกี่ยวกับการวิเคราะห์ กระบวนการวางแนวคิดในการทาโครงงาน ดาเนินการทาโครงงานตามแนวคิดท่ีวางไว้โดยใช้ วิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ โดยให้ผู้เรียนวิเคราะห์โครงงานประเภทสารวจ ทดลอง หรือสิ่งประดิษฐ์อย่างใด อย่างหนงึ่ หรอื ท้ังสามประเภทตามความสนใจของตนเอง เพ่ือให้เกิดความรู้ความเขา้ ใจ มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ มีทกั ษะปฏิบตั ิการทาง วิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคดิ แก้ปัญหาด้านการส่ือสาร สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านยิ มทเี่ หมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. วิเคราะห์กระบวนการวางแนวคิดในการทาโครงงานของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ตัวอยา่ ง ๒. วิเคราะห์กระบวนการดาเนินการหรือวิธีการในการทาโครงงานของโครงงานวิทยาศาสตร์ ตัวอยา่ ง ๓. วเิ คราะห์สรุปผล การอภิปราย และข้อเสนอแนะในการทาโครงงานของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ตัวอยา่ ง รวมทง้ั หมด ๓ ผลการเรยี นรู้ ๑๖๑ หลักสตู รโรงเรียนมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

รหัสวชิ า ว๓๐๒๐๓ ช่อื วิชา การเขียนเค้าโครงของโครงงาน กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๔-๖ เวลาเรียน ๔๐ ช่วั โมง จานวนหนว่ ยกติ ๑.๐ หนว่ ยกิต คาอธิบายรายวิชา เร่มิ ต้นทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ด้วยการตง้ั คาถามและการสืบค้นขอ้ มลู การวางแผน และการออกแบบโครงงงานวิทยาศาสตร์ การเขียนเค้าโครงของโครงงานวิทยาศาสตร์ การทา โครงงานวิทยาศาสตร์ การเขยี นรายงาน และการนาเสนอโครงงานวิทยาศาสตร์ โดยให้ผู้เรียนเขียนเค้าโครงของโครงงานประเภทสารวจ ทดลอง หรือส่ิงประดิษฐ์ อยา่ งใดอยา่ งหน่ึง เพ่อื ใหเ้ กิดความรคู้ วามเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสนิ ใจ มีทกั ษะปฏิบัตกิ ารทาง วิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะการเรียนร้ใู นศตวรรษท่ี ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด แก้ปัญหาด้านการส่ือสาร สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. ต้ังคาถามจาสถานการณ์ต่าง ๆ ตามความสนใจ โดยมีประเด็นหรือตัวแปรที่สาคัญใน การสารวจหรือตรวจสอบหรอื ศึกษาได้อย่างครอบคลมุ และเชอ่ื ถอื ได้ ๒. ออกแบบและวางแผนการสารวจตรวจสอบ โดยมีการกาหนดและควบคุมตัวแปรต่าง ๆ กาหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ เลือกวิธีการสารวจตรวจสอบเชิงปริมาณ เชิงคุณภาพท่ีได้ผล เท่ียงตรงและปลอดภัย โดยใช้วัสดุและเคร่ืองมือที่เหมาะสม รวมถึงจัดทาเค้าโครงของ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ๓. วิเคราะหแ์ ละอธิบายผลการทดลองเช่อื มโยงสมมตฐิ าน และสถานการณ์ในชีวิตประจาวันได้ รวมทั้งหมด ๓ ผลการเรียนรู้ ๑๖๒ หลักสูตรโรงเรียนมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

รหัสวชิ า ว๓๐๒๐๔ ชือ่ วิชา โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ๑ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๔-๖ เวลาเรยี น ๔๐ ชว่ั โมง จานวนหนว่ ยกิต ๑.๐ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวิชา ศกึ ษา คน้ คว้า ดูงานและทากิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ โดยเนน้ เกยี่ วกับกระบวนการ วางแนวคิดในการทาโครงงาน ดาเนินการทาโครงงานตามแนวคิดที่วางไว้โดยใช้วิธีการทาง วิทยาศาสตร์ นาเสนอผลโครงงานวิทยาศาสตร์โดยเน้นการนาเสนอแนวคิด กระบวนการทางาน และผลงาน โดยให้ผ้เู รียนทาโครงงานประเภทสารวจ ทดลอง หรือสิ่งประดษิ ฐอ์ ย่างใดอยา่ งหนง่ึ เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจ มีความสามารถในการตัดสนิ ใจ มที กั ษะปฏบิ ัตกิ ารทาง วิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรียนร้ใู นศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคดิ แก้ปัญหาด้านการส่ือสาร สามารถสื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มจี ิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมทเี่ หมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. ทาโครงงานวิทยาศาสตร์ตามความสนใจ โดยมีขั้นตอนของกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ใน การแก้ปญั หา และนาเสนอได้อย่างเหมาะสม ๒. ทารายงานผลการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ รวมทง้ั หมด ๒ ผลการเรยี นรู้ ๑๖๓ หลกั สูตรโรงเรยี นมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

รหัสวชิ า ว๓๐๒๐๕ ชือ่ วชิ า โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๔-๖ เวลาเรียน ๔๐ ชัว่ โมง จานวนหน่วยกติ ๑.๐ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวิชา ศกึ ษา คน้ คว้า ดูงานและทากิจกรรมในรปู แบบต่าง ๆ โดยเนน้ เกยี่ วกับกระบวนการ วางแนวคิดในการทาโครงงาน ดาเนินการทาโครงงานตามแนวคิดที่วางไว้โดยใช้วิธีการทาง วิทยาศาสตร์ นาเสนอผลโครงงานวิทยาศาสตร์โดยเน้นการนาเสนอแนวคิด กระบวนการทางาน และผลงาน โดยให้ผ้เู รียนทาโครงงานประเภทสารวจ ทดลอง หรือสง่ิ ประดิษฐอ์ ยา่ งใดอยา่ งหนึ่ง เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ความเข้าใจ มีความสามารถในการตดั สินใจ มีทกั ษะปฏบิ ัติการทาง วิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรียนร้ใู นศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคดิ แก้ปัญหาด้านการส่ือสาร สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มจี ิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มที่เหมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. ทาโครงงานวิทยาศาสตร์ตามความสนใจ โดยมีข้ันตอนของกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ใน การแก้ปญั หา และนาเสนอได้อย่างเหมาะสม ๒. ทารายงานผลการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ รวมทง้ั หมด ๒ ผลการเรียนรู้ ๑๖๔ หลกั สตู รโรงเรยี นมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

รหัสวชิ า ว๓๐๒๐๖ ช่ือวชิ า สมั มนาวทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๔-๖ เวลาเรียน ๔๐ ช่วั โมง จานวนหนว่ ยกิต ๑.๐ หนว่ ยกิต คาอธิบายรายวชิ า นาเสนอผลโครงงานวิทยาศาสตร์โดยเน้นการนาเสนอแนวคิด กระบวนการทางาน และผลงาน การสัมมนา การจัดนิทรรศการ และการเผยแพร่ผลงานในสื่อสารสนเทศ โดยให้ผู้เรียนนาเสนอแนวคิด กระบวนการทางานและผลการทาโครงงานประเภท สารวจ ทดลอง หรือสง่ิ ประดิษฐอ์ ยา่ งใดอย่างหนึ่ง เพื่อใหเ้ กิดความรคู้ วามเขา้ ใจ มีความสามารถในการตัดสนิ ใจ มที กั ษะปฏิบัติการทาง วิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรียนรใู้ นศตวรรษท่ี ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคดิ แก้ปัญหาด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มจี ติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมทีเ่ หมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. นาเสนอผลโครงงานวิทยาศาสตรโ์ ดยเน้นการนาเสนอแนวคิด กระบวนการทางานและผลงาน โดยการสัมมนา ๒. นาเสนอผลโครงงานวิทยาศาสตร์โดยเนน้ การนาเสนอแนวคิด กระบวนการทางานและผลงาน โดยการจัดนทิ รรศการ ๓. นาเสนอผลโครงงานวทิ ยาศาสตร์โดยเน้นการนาเสนอแนวคดิ กระบวนการทางานและผลงาน โดยการเผยแพรผ่ ลงานในส่ือสารสนเทศ รวมทง้ั หมด ๓ ผลการเรยี นรู้ ๑๖๕ หลักสตู รโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

รหสั วิชา ว๓๐๒๐๗ ชอ่ื วชิ า โปรแกรมภาษาไพทอนเบอ้ื งต้น กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๔-๖ เวลาเรยี น ๔๐ ชว่ั โมง จานวนหนว่ ยกติ ๑.๐ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษา และฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานของโปรแกรมภาษาไพทอน ค่าและ ชนดิ ขอ้ มลู ตวั แปร นิพจนแ์ ละตัวดาเนินการ การสร้างและเรยี กใช้ฟงั ก์ชนั การทางานแบบเงอื่ นไข และวนซ้า การสรา้ งและเรียกใชล้ สิ ต์ การสรา้ งและเรยี กใช้งานไฟล์และข้อมลู แบบดกิ ต์ โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหา การวิเคราะห์ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีความสามารถใน การเขียนโปรแกรมเพ่ือนาไปประยุกต์ใช้ในงานด้านต่าง ๆ รวมทั้งทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ดา้ นการคดิ แกป้ ัญหาด้านการสอ่ื สาร สามารถส่ือสารสง่ิ ที่เรียนรู้ และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมท่ี เหมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. อธบิ ายขน้ั ตอนและเขียนโปรแกรมไพทอนส่งั งานคอมพิวเตอร์ ๒. ใชง้ านตัวแปร คา่ คงตวั และนพิ จนใ์ นภาษาไพทอน ๓. สรา้ งและเรยี กใชฟ้ ังกช์ นั ๔. เขยี นโปรแกรมทางานแบบเงอื่ นไขและวนซ้า ๕. สร้างและเรียกใช้งานลสิ ต์ ๖. ใช้งานไฟลแ์ ละชนิดขอ้ มูลแบบดิกต์ ๗. นาโปรแกรมภาษาไพทอนไปใช้ในการแกป้ ญั หา รวมทงั้ หมด ๗ ผลการเรียนรู้ ๑๖๖ หลกั สูตรโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

รหัสวชิ า ว๓๑๒๐๑ ชอื่ วชิ า ฟิสิกส์ ๑ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๔ เวลาเรยี น ๘๐ ชั่วโมง จานวนหนว่ ยกติ ๒.๐ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษา การค้นหาความรู้ทางฟิสิกส์ ประวัติความเป็นมา รวมท้ังพัฒนาการของ หลักการและแนวคิดทางฟิสิกส์ท่ีมีต่อการแสวงหาความรู้ใหม่และการพัฒนาเทคโนโลยี การวัด และการรายงานผลการวัดปริมาณทางฟิสิกส์ หลกั การของกลศาสตร์ในเรื่องการเคลื่อนที่ของวัตถุ ในแนวตรง แรง การหาแรงลัพธ์ของแรงสองแรงที่ทามุมต่อกัน การเขียนแผนภาพวัตถุอิสระ กฎ การเคลอ่ื นที่ของนิวตนั กฎความโนม้ ถ่วงสากล แรงเสียดทานระหว่างผวิ สมั ผัสของวตั ถุหนึง่ ๆ ใน กรณีทีว่ ตั ถุหยดุ น่ิงและวัตถเุ คล่ือนที่ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสงั เกต วเิ คราะห์ เปรียบเทียบ อธบิ าย อภิปราย และสรปุ เพ่ือให้เกิดความรู้ความเขา้ ใจ มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ มีทักษะปฏบิ ัตกิ ารทาง วิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรียนรูใ้ นศตวรรษท่ี ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคดิ แก้ปัญหาด้านการส่ือสาร สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมทีเ่ หมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. สืบค้น และอธิบายการค้นหาความรู้ทางฟิสิกส์ ประวัติความเป็นมา รวมท้ังพัฒนาการของ หลักการและแนวคดิ ทางฟิสิกส์ที่มผี ลต่อการแสวงหาความรใู้ หมแ่ ละการพฒั นาเทคโนโลยี ๒. วดั และรายงานผลการวดั ปริมาณทางฟสิ ิกสไ์ ดถ้ กู ตอ้ งเหมาะสม โดยนาความคลาดเคลื่อนใน การวัดมาพิจารณาในการนาเสนอผล รวมท้ังแสดงผลการทดลองในรูปของกราฟ วิเคราะห์ และแปลความหมายจากกราฟเสน้ ตรง ๓. ทดลอง และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตาแหน่ง การกระจัด ความเร็ว และความเร่งของ การเคลอ่ื นท่ีของวตั ถุในแนวตรงท่ีมีความเร่งคงตัวจากกราฟและสมการ รวมท้ังทดลองหาค่า ความเรง่ โน้มถ่วงของโลก และคานวณปรมิ าณต่าง ๆ ที่เก่ียวข้อง ๔. อธบิ ายแรง รวมท้ังทดลองและอธบิ ายการหาแรงลพั ธ์ของแรงสองแรงที่ทามุมต่อกนั ๕. เขียนแผนภาพวัตถุอิสระ ทดลองและอธิบายกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันและการใช้กฎ การเคล่ือนที่ของนิวตันกับสภาพการเคลื่อนท่ีของวัตถุ รวมท้ังคานวณปริมาณต่าง ๆ ที่ เกย่ี วข้อง ๖. อธิบายกฎความโนม้ ถว่ งสากลและผลของสนามโนม้ ถ่วงที่ทาให้วัตถมุ นี ้าหนัก รวมทัง้ คานวณ ปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง ๗. วิเคราะห์ อธิบาย และคานวณแรงเสียดทานระหว่างผวิ สัมผัสของวัตถุคู่หน่ึง ๆ ในกรณที วี่ ตั ถุ หยุดนิ่งและวัตถุเคลื่อนที่ รวมทั้งทดลองหาสัมประสิทธิ์ความเสียดทานระหว่างผิวสัมผัสของ วัตถุคู่หนงึ่ ๆ และนาความรู้เรือ่ งแรงเสียดทานไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั รวมท้ังหมด ๗ ผลการเรยี นรู้ ๑๖๗ หลักสตู รโรงเรยี นมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

รหัสวิชา ว๓๑๒๐๒ ช่ือวิชา ฟิสกิ ส์ ๒ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔ เวลาเรยี น ๘๐ ช่ัวโมง จานวนหน่วยกิต ๒.๐ หน่วยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศึกษา หลักการของกลศาสตร์ในเรือ่ งสมดุลกลและเงื่อนไขท่ีทาให้วัตถุหรือระบบอยู่ ในสมดุลกล ศูนย์กลางมวลของวัตถุและผลของศูนย์ถ่วงท่ีมีต่อเสถียรภาพของวัตถุ งาน พลังงาน ความสัมพันธ์ระหว่างงานและพลังงานจลน์ ความสัมพันธ์ระหว่างงานกับพลังงานศักย์โน้มถ่วง และความสัมพันธร์ ะหวา่ งขนาดของแรงท่ใี ชด้ ึงสปริงกบั ระยะท่ยี ืดออก แรงอนรุ กั ษ์ กฎการอนรุ ักษ์ พลังงาน กาลัง เครื่องกลอย่างง่าย ประสิทธิภาพและการได้เปรียบเชิงกลของเคร่ืองกลอย่างงา่ ย บางชนิด โมเมนตัม การชนกันของวัตถุในหน่ึงมิติ การดล แรงดล และกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม การเคลอื่ นท่ีแบบโพรเจกไทล์ และการเคลือ่ นทแี่ บบวงกลมในระนาบระดับ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสงั เกต วิเคราะห์ เปรยี บเทยี บ อธิบาย อภปิ ราย และสรปุ เพอ่ื ใหเ้ กิดความร้คู วามเขา้ ใจ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ มที ักษะปฏิบตั กิ ารทาง วิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด แก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มจี ติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมทเี่ หมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. อธิบายสมดุลกลของวัตถุ โมเมนต์และผลรวมของโมเมนต์ที่มีต่อการหมุน แรงคู่ควบและผล ของแรงคู่ควบทีม่ ตี ่อสมดุลของวตั ถุ เขยี นแผนภาพวัตถุอสิ ระเมอื่ วัตถอุ ย่ใู นสมดลุ และคานวณ ปริมาณตา่ ง ๆ ทีเ่ ก่ียวขอ้ ง รวมทงั้ ทดลองและอธิบายสมดลุ ของแรงสามแรง ๒. สังเกตและอธิบายสภาพการเคลื่อนท่ีของวัตถุ เมื่อแรงที่กระทาต่อวัตถุผ่านศูนย์กลางมวล ของวตั ถุ และผลของศนู ย์ถว่ งที่มตี ่อเสถยี รภาพของวัตถุ ๓. วิเคราะห์ และคานวณงานของแรงคงตัว จากสมการและพื้นที่ใต้กราฟความสัมพันธ์ระหว่าง แรงกับตาแหน่ง รวมทั้งอธบิ ายและคานวณกาลังเฉลีย่ ๔. อธิบายและคานวณพลังงานจลน์ พลังงานศักย์ พลังงานกล ทดลองหาความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง งานกบั พลงั งานจลน์ ความสัมพันธร์ ะหว่างงานกับพลงั งานศกั ยโ์ นม้ ถว่ ง ความสัมพนั ธ์ระหว่าง ขนาดของแรงที่ใช้ดึงสปริงกับระยะที่สปรงิ ยืดออกและความสัมพันธ์ระหวา่ งงานกับพลังงาน ศักย์ยืดหยุ่น รวมทั้งอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างงานของแรงลัพธ์และพลังงานจลน์ และ คานวณงานท่เี กดิ ข้ึนจากแรงลพั ธ์ ๕. อธิบายกฎการอนรุ กั ษพ์ ลังงานกล รวมทง้ั วิเคราะห์ และคานวณปริมาณตา่ ง ๆ ทเี่ กี่ยวขอ้ งกับ การเคลื่อนที่ของวตั ถุในสถานการณ์ตา่ ง ๆ โดยใช้กฎการอนรุ กั ษพ์ ลังงานกล ๖. อธิบายการทางาน ประสิทธภิ าพและการไดเ้ ปรียบเชิงกลของเครื่องกลอยา่ งงา่ ยบางชนดิ โดย ใช้ความรู้เรื่องงานและสมดุลกล รวมท้งั คานวณประสทิ ธภิ าพและการไดเ้ ปรียบเชิงกล ๗. อธิบาย และคานวณโมเมนตมั ของวตั ถุ และการดลจากสมการและพื้นที่ใต้กราฟความสัมพันธ์ ระหว่างแรงลพั ธ์กบั เวลา รวมทั้งอธิบายความสมั พันธร์ ะหว่างแรงดลกับโมเมนตัม ๑๖๘ หลกั สูตรโรงเรยี นมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

๘. ทดลอง อธิบายและคานวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการชนของวัตถุในหน่ึงมิติ ทั้งแบบ ยืดหยุ่น ไม่ยืดหยุ่น และการดีดตัวแยกจากกันในหนึ่งมิติซึ่งเป็นไปตามกฎการอนุรักษ์ โมเมนตมั ๙. อธิบาย วิเคราะห์ และคานวณปริมาณต่าง ๆ ที่เก่ียวข้องกับการเคลื่อนท่ีแบบโพรเจกไทล์ และทดลองการเคลื่อนท่ีแบบโพรเจกไทล์ ๑๐. ทดลอง และอธบิ ายความสัมพนั ธ์ระหว่างแรงสู่ศนู ย์กลาง รศั มีของการเคล่ือนที่ อัตราเร็วเชิง เส้น อัตราเร็วเชิงมุม และมวลของวัตถุในการเคล่ือนท่ีแบบวงกลมในระนาบระดับรวมทั้ง คานวณปริมาณต่าง ๆ ที่เก่ียวข้อง และประยุกต์ใช้ความรู้การเคลื่อนท่ีแบบวงกลมใน การอธบิ ายการโคจรของดาวเทียม รวมทง้ั หมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้ ๑๖๙ หลกั สตู รโรงเรียนมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

รหสั วิชา ว๓๑๒๒๑ ช่ือวิชา เคมี ๑ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๔ เวลาเรียน ๖๐ ชั่วโมง จานวนหน่วยกติ ๑.๕ หน่วยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศึกษา สัญลักษณ์แสดงความเป็นอันตรายของสารเคมีในระบบ GHS และ NFPA ข้อควรปฏิบัติในการทาปฏิบัติการเคมี ท้ังก่อนทาปฏิบัติการ ขณะทาปฏิบัติการ และหลังทา ปฏิบัติการ การกาจัดสารเคมี และการปฐมพยาบาลเม่ือได้รับอุบัติเหตุจากสารเคมี การพิจารณา ความนา่ เช่ือถอื ของข้อมลู ทไี่ ดจ้ ากการวดั จากความเทยี่ งและความแมน่ อุปกรณ์วดั ปรมิ าตรและวัด มวล เลขนัยสาคญั หนว่ ยวดั ในระบบเอสไอ แฟกเตอร์เปลย่ี นหน่วย รวมทง้ั วธิ ีการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการวทิ ยาศาสตร์ แบบจาลองอะตอมของดอลตนั ทอมสนั รทั เทอรฟ์ อรด์ โบร์ และ แบบกลุ่มหมอก เขียนและแปลความหมายสัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธาตุ เลขอะตอม เลขมวล ไอโซโทป เขียนการจัดเรียงอิเล็กตรอนในอะตอม ความหมายของระดับพลังงานของอิเล็กตรอน ออร์บิทัล เวเลนซ์อิเล็กตรอน วิวัฒนาการของการสร้างตารางธาตุและตารางธาตุในปัจจุบัน แนวโน้มสมบตั ิบางประการของธาตใุ นตารางธาตุตามหมู่และตามคาบเกี่ยวกบั ขนาดอะตอม ขนาด ไอออน พลังงานไอออไนเซชัน สัมพรรคภาพอเิ ลก็ ตรอน อเิ ลก็ โทรเนกาติวติ ี สมบัตขิ องธาตแุ ทรน- ซิชัน ธาตุกมั มันตรังสี การสลายตวั และอันตรายจากไอโซโทปกมั มันตรงั สี คานวณครงึ่ ชีวติ ของธาตุ กัมมันตรังสี ปฏิกิริยานิวเคลียร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการใช้สารกมั มันตรังสี การนาธาตไุ ป ใช้ประโยชน์ รวมทั้งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม พันธะเคมี สัญลักษณ์แบบจุดและกฎ ออกเตต การเกิดพันธะไอออนิก สูตรเคมีและช่ือของสารประกอบไอออนิก เลขออกซิเดชัน พลังงานกับการเกิดสารประกอบไอออนิก สมบัติของสารประกอบไอออนิก สมการไอออนิกและ สมการไอออนิกสุทธิ การเกิดพันธะโคเวเลนต์ โครงสร้างลิวอิส สูตรโมเลกุลและช่ือของ สารประกอบโคเวเลนต์ ความยาวและพลังงานพนั ธะ เรโซแนนซ์ การคานวณพลังงานพันธะและ พลังงานของปฏิกิริยา รูปร่างและสภาพข้ัวของโมเลกุล แรงยึดเหน่ียวระหว่างโมเลกุลและสมบัติ ของสารโคเวเลนต์ สารโคเวเลนต์โครงร่างตาข่าย การเกิดพันธะโลหะและสมบัติของโลหะ และ การนาสารประกอบชนิดตา่ ง ๆ ไปใชป้ ระโยชนข์ องสารประกอบ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสงั เกต วเิ คราะห์ เปรียบเทียบ อธบิ าย อภิปราย และสรุป เพือ่ ให้เกดิ ความรู้ความเขา้ ใจ มีความสามารถในการตัดสนิ ใจ มที ักษะปฏบิ ตั กิ ารทาง วิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด แก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มทเี่ หมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. บอกและอธิบายข้อปฏิบัติเบื้องต้น และปฏิบัติตนท่ีแสดงถึงความตระหนักในการทา ปฏิบัติการเคมีเพื่อให้มีความปลอดภัย ทั้งต่อตนเอง ผู้อ่ืนและสิ่งแวดล้อม และเสนอแนว ทางแก้ไขเม่ือเกดิ อบุ ัติเหตุ ๒. เลือกและใช้อุปกรณ์หรือเคร่ืองมือในการทาปฏิบัติการ และวัดปริมาณต่าง ๆ ได้อย่าง เหมาะสม ๓. ระบุหน่วยวัดปริมาณต่าง ๆ ของสาร และเปลี่ยนหน่วยวัดให้เป็นหน่วยในระบบเอสไอด้วย การใชแ้ ฟกเตอรเ์ ปลยี่ นหน่วย ๑๗๐ หลกั สตู รโรงเรยี นมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

๔. นาเสนอแผนการทดลอง ทดลองและเขียนรายงานการทดลอง ๕. สืบค้นข้อมูลสมมติฐาน การทดลองหรือผลการทดลองท่ีเป็นประจักษ์พยานในการเสนอ แบบจาลองอะตอมของนักวทิ ยาศาสตร์ และอธิบายววิ ัฒนาการของแบบจาลองอะตอม ๖. เขียนสัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธาตุ และระบุจานวนโปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอนของ อะตอม จากสญั ลักษณน์ วิ เคลียร์ รวมทัง้ บอกความหมายของไอโซโทป ๗. อธิบายและเขียนการจัดเรียงอิเล็กตรอนในระดับพลังงานหลักและระดับพลังงานย่อยเม่ือ ทราบเลขอะตอมของธาตุ ๘. ระบุหมู่ คาบ ความเป็นโลหะ อโลหะ และก่ึงโลหะ ของธาตุเรพรีเซนเททีฟ และธาตุแทรน- ซิชันในตารางธาคุ ๙. วเิ คราะห์ และบอกแนวโนม้ สมบัตขิ องธาตุเรพรีเซนเททฟี ตามหมแู่ ละตามคาบ ๑๐. บอกสมบัติของธาตุโลหะแทรนซิชัน และเปรียบเทียบสมบัติกับธาตุโลหะในกลุ่มธาตุเรพรี- เซนเททีฟ ๑๑. อธิบายสมบตั ิและคานวณคร่ึงชวี ติ ของไอโซโทปกัมมนั ตรงั สี ๑๒. สืบค้นข้อมูลและยกตัวอย่างการนาธาตุมาใช้ประโยชน์ รวมทั้งผลกระทบต่อส่ิงมีชีวิตและ ส่งิ แวดล้อม ๑๓. อธบิ ายการเกิดไอออนและการเกิดพันธะไอออนิก โดยใช้แผนภาพหรือสญั ลกั ษณแ์ บบจดุ ของ ลิวอิส ๑๔. เขียนสูตรและเรยี กชอื่ สารประกอบไอออนกิ ๑๕. คานวณพลังงานที่เก่ียวข้องกับปฏิกิริยาการเกิดสารประกอบไอออนิกจากวัฏจักรบอร์น- ฮาเบอร์ ๑๖. อธิบายสมบัติของสารประกอบไอออนกิ ๑๗. เขียนสมการไอออนกิ และสมการไอออนิกสทุ ธขิ องปฏิกริ ิยาของสารประกอบไอออนิก ๑๘. อธบิ ายการเกดิ พันธะโคเวเลนต์แบบพันธะเด่ียว พนั ธะคู่ และพันธะสาม ด้วยโครงสรา้ งลวิ อิส ๑๙. เขียนสตู รและเรียกชอ่ื สารโคเวเลนต์ ๒๐. วิเคราะห์และเปรียบเทียบความยาวพันธะและพลังงานพันธะในสารโคเวเลนต์ รวมท้ัง คานวณพลังงานที่เก่ยี วข้องกบั ปฏิกิรยิ าของสารโคเวเลนต์จากพลังงานพันธะ ๒๑. คาดคะเนรูปร่างโมเลกุลโคเวเลนต์โดยใช้ทฤษฎีการผลักระหว่างคู่อิเล็กตรอนในวงเวเลนซ์ และระบสุ ภาพข้ัวของโมเลกุลโคเวเลนต์ ๒๒. ระบุชนิดของแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลโคเวเลนต์ และเปรียบเทียบจุดหลอมเหลว จดุ เดือด และการละลายนา้ ของสารโคเวเลนต์ ๒๓. สืบคน้ ข้อมูลและอธบิ ายสมบตั ขิ องสารโคเวเลนตโ์ ครงรา่ งตาขา่ ยชนดิ ตา่ ง ๆ ๒๔. อธิบายการเกดิ พนั ธะโลหะและสมบตั ิของโลหะ ๒๕. เปรียบเทียบสมบัติบางประการของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์ และโลหะ สืบค้น ข้อมูลและนาเสนอตัวอย่างการใช้ประโยชน์ของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์ และ โลหะได้อยา่ งเหมาะสม รวมทง้ั หมด ๒๕ ผลการเรียนรู้ ๑๗๑ หลกั สูตรโรงเรียนมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

รหัสวชิ า ว๓๑๒๒๒ ช่ือวชิ า เคมี ๒ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๔ เวลาเรยี น ๖๐ ชั่วโมง จานวนหนว่ ยกิต ๑.๕ หนว่ ยกิต คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษา ความหมายและคานวณมวลอะตอม มวลอะตอมสัมพัทธ์ มวลอะตอมเฉล่ีย ของธาตุ โมล มวลต่อโมล มวลโมเลกุล และมวลสูตร ความสัมพันธ์ระหว่างจานวนโมล อนุภาค มวลและปริมาตรของแก๊สที่ STP กฎสัดส่วนคงที่ คานวณอัตราส่วนโดยมวล อัตราส่วนโดยโมล ร้อยละโดยมวล สูตรโมเลกุลและสูตรเอมพิริคัล หน่วยความเข้มข้นและการคานวณความเข้มข้น ของสารละลายในหน่วยร้อยละ ส่วนในล้านส่วน ส่วนในพันล้านส่วน โมลาริตี โมแลลิตี และ เศษส่วนโมล การเตรียมสารละลายจากสารบริสุทธิ์และจากการเจือจางสารละลายเข้มข้น เปรียบเทียบจุดเดือดและจุดหลอมเหลวของสารบริสุทธ์ิและสารละลาย การเขียนและดุลสมการ เคมี อัตราส่วนโดยโมลของสารในปฏิกิริยาเคมี แปลความหมายสัญลักษณ์ในสมการเคมี คานวณ ปริมาณของสารในปฏกิ ริ ิยาเคมตี ามกฎทรงมวล กฎของเกย์-ลูสแซกและสมมติฐานของอาโวกาโดร คานวณปริมาณของสารในปฏิกิริยาเคมีโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างโมล มวล ความเข้มข้น และ ปริมาตรแก๊ส คานวณปริมาณสารในปฏิกริ ิยาเคมีหลายขั้นตอน ปริมาณสารเมื่อมีสารสารกาหนด ปริมาณ และผลไดร้ อ้ ยละ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสงั เกต วิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพ่อื ให้เกดิ ความรู้ความเข้าใจ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ มที ักษะปฏบิ ตั กิ ารทาง วิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรยี นร้ใู นศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคดิ แก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และค่านยิ มท่เี หมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. บอกความหมายของมวลอะตอมของธาตุ คานวณมวลอะตอมเฉล่ียของธาตุ มวลโมเลกุล และ มวลสตู ร ๒. อธิบายและคานวณปริมาณใดปริมาณหน่ึงจากความสัมพันธ์ของโมล จานวนอนุภาค มวล และปรมิ าตรของแก๊สที่ STP ๓. คานวณอตั ราส่วนโดยมวลของธาตุองคป์ ระกอบของสารประกอบตามกฎสัดส่วนคงท่ี ๔. คานวณสูตรอย่างง่ายและสตู รโมเลกลุ ของสาร ๕. คานวณความเข้มขน้ ของสารละลายในหน่วยต่าง ๆ ๖. อธิบายวิธีการและเตรียมสารละลายในมีความเข้มข้นในหน่วยโมลาริตี และปริมาตรของ สารละลายตามที่กาหนด ๗. เปรยี บเทยี บจุดเดอื ดและจุดเยือกแขง็ ของสารละลายกับสารบริสุทธิ์ รวมท้งั คานวณจุดเดือด และจดุ เยือกแข็งของสารละลาย ๘. แปลความหมายสัญลักษณ์ในสมการเคมี เขียนและดุลสมการเคมีของปฏิกิริยาบางเคมีบาง ชนดิ ๙. คานวณปริมาณของสารในปฏิกริ ิยาเคมีทเี่ กีย่ วขอ้ งมวลสาร ๑๐. คานวณปริมาณของสารในปฏิกิริยาเคมที ี่เกีย่ วขอ้ งกับความเขม้ ขน้ ของสารละลาย ๑๑. คานวณปรมิ าณของสารในปฏิกริ ยิ าเคมที เ่ี ก่ียวข้องกบั ปริมาตรแก๊ส ๑๗๒ หลกั สตู รโรงเรยี นมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

๑๒. คานวณปรมิ าณของสารในปฏิกริ ยิ าเคมหี ลายขน้ั ตอน ๑๓. ระบสุ ารกาหนดปรมิ าณ และคานวณปริมาณสารต่าง ๆ ในปฏิกริ ิยาเคมี ๑๔. คานวณผลได้รอ้ ยละของผลิตภณั ฑ์ในปฏิกิรยิ าเคมี รวมทั้งหมด ๑๔ ผลการเรยี นรู้ ๑๗๓ หลักสตู รโรงเรียนมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

รหสั วชิ า ว๓๑๒๔๑ ช่ือวชิ า ชวี วิทยา ๑ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๔ เวลาเรยี น ๖๐ ช่ัวโมง จานวนหนว่ ยกิต ๑.๕ หน่วยกิต คาอธิบายรายวิชา ศึกษา ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต ลักษณะเฉพาะของส่ิงมีชีวิต แขนงวิชาท่ีเก่ียวข้องกบั ชีววิทยาและการใช้ความรู้ทางชีววิทยาท่ีเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ ชีววิทยากับการดารงชีวิตของ สิง่ มีชีวติ ความตระหนักในเรือ่ งของชีวจริยธรรม การศึกษาชวี วทิ ยาโดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ รวมท้ังการศึกษาวิธีการทางานของนักวิทยาศาสตร์ และการนาความรู้เก่ียวกับชีววิทยามา ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน การทากิจกรรมสะเต็มศึกษาโดยใช้กระบวนการออกแบบเชิง วิศวกรรมเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตจริง เคมีท่ีเป็นพ้ืนฐานของส่ิงมีชีวิต โครงสร้างและหน้าที่ของสาร ต่าง ๆ ท่ีเป็นองค์ประกอบในเซลล์ของสิ่งมีชีวิต และปฏิกิริยาเคมีในเซลล์ของส่ิงมีชีวิต ส่วนประกอบของกลอ้ งจุลทรรศน์ใช้แสง หลักการทางาน วิธกี ารใช้ รวมทง้ั การดแู ลและเก็บรักษา โครงสร้างและหน้าที่ของส่วนที่ห่อหุม้ เซลล์ ไซโทพลาสซึมและนิวเคลียส การลาเลียงสารเข้าและ ออกจากเซลล์ การหายใจระดับเซลล์ซง่ึ เป็นกระบวนที่เซลล์สรา้ งพลงั งานจากการสลายสารอาหาร สาหรบั นาไปใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ของเซลล์ และการแบง่ เซลล์ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วเิ คราะห์ เปรียบเทียบ อธบิ าย อภปิ ราย และสรุป เพื่อให้เกดิ ความรูค้ วามเขา้ ใจ มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ มที ักษะปฏิบตั กิ ารทาง วิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรียนรใู้ นศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคดิ แก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมท่เี หมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. อธิบายและสรุปสมบัติที่สาคัญของสงิ่ มีชวี ิต และความสมั พันธ์ของการจัดระบบในสงิ่ มีชีวิตท่ี ทาให้สิ่งมชี ีวิตดารงอยไู่ ด้ ๒. อภิปรายและบอกความสาคัญของการระบุปัญหา ความสัมพันธ์ระหว่างปัญหา สมมติฐาน และวิธกี ารตรวจสอบสมมติฐาน รวมทัง้ ออกแบบการทดลองเพ่ือการตรวจสอบสมมติฐาน ๓. สืบค้นข้อมูล อธิบายเก่ียวกับสมบัติของน้าและบอกความสาคัญของน้าท่ีมีต่อสิ่งมีชีวิต และ ยกตัวอยา่ งธาตุชนดิ ตา่ ง ๆ ท่ีมีความสาคัญต่อรา่ งกายสิง่ มีชวี ิต ๔. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างของคาร์โบไฮเดรต ระบุกลุ่มของคาร์โบไฮเดรต รวมทั้ง ความสาคัญของคาร์โบไฮเดรตทมี่ ีตอ่ สิง่ มชี วี ิต ๕. สบื คน้ ขอ้ มลู อธบิ ายโครงสรา้ งของโปรตนี และความสาคญั ของโปรตีนท่ีมีต่อส่งิ มชี ีวติ ๖. สบื ค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างของลพิ ิด และความสาคญั ของลิพิดทมี่ ีต่อสง่ิ มีชีวิต ๗. อธิบายโครงสร้างของกรดนิวคลิอิก และระบุชนิดของกรดนิวคลีอิกและความสาคัญของ กรดนวิ คลิอกิ ท่ีมีตอ่ ส่งิ มีชวี ติ ๘. สบื คน้ ขอ้ มูลและอธิบายปฏิกริ ิยาเคมที เี่ กิดข้นึ ในสง่ิ มีชีวิต ๙. อธิบายการทางานของเอนไซม์ในการเร่งปฏิกิริยาเคมีในสิ่งมีชีวิตและระบุปัจจัยท่ีมีผลต่อ การทางานของเอนไซม์ ๑๗๔ หลักสูตรโรงเรยี นมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

๑๐. บอกวิธีการและเตรียมตัวอย่างส่ิงมีชีวิตเพ่ือศึกษาภายใต้กล้องจุลทรรศน์ใช้แสง วัดขนาด โดยประมาณและวาดภาพที่ปรากฏภายใต้กล้อง บอกวิธีการใช้ และการดูแลรักษากล้อง จุลทรรศนใ์ ช้แสงที่ถกู ต้อง ๑๑. อธิบายโครงสรา้ งและหน้าทีข่ องสว่ นทหี่ ่อหมุ้ เซลลข์ องเซลล์พชื และเซลล์สตั ว์ ๑๒. สบื คน้ ขอ้ มูล อธิบาย และระบชุ นดิ และหน้าท่ีของออร์แกเนลล์ ๑๓. อธบิ ายโครงสรา้ งและหนา้ ที่ของนวิ เคลยี ส ๑๔. อธิบายและเปรียบเทียบการแพร่ ออสโมซิส การแพร่แบบฟาซิลิเทต และแอกทีฟทราน- สปอรต์ ๑๕. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเขียนแผนภาพการลาเลียงสารโมเลกุลใหญ่ออกจากเซลล์ด้วย กระบวนการเอกโซไซโทซิสและการลาเลียงสารโมเลกุลใหญ่เข้าสู่เซลล์ด้วยกระบวนการ เอนโดไซโทซิส ๑๖. สังเกตการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิสและไมโอซิสจากตัวอย่างภายใต้กล้องจุลทรรศน์พร้อม ท้ังอธิบายและเปรียบเทียบการแบง่ นวิ เคลียสแบบไมโทซสิ และแบบไมโอซิส ๑๗. อธิบาย เปรียบเทียบ และสรุปข้ันตอนการหายใจระดับเซลล์ในภาวะที่มีออกซิเจนเพียงพอ และภาวะออกซิเจนท่มี ีออกซิเจนไมเ่ พียงพอ รวมทั้งหมด ๑๗ ผลการเรยี นรู้ ๑๗๕ หลักสตู รโรงเรยี นมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

รหัสวิชา ว๓๑๒๔๒ ช่ือวชิ า ชีววทิ ยา ๒ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๔ เวลาเรียน ๖๐ ช่ัวโมง จานวนหน่วยกิต ๑.๕ หนว่ ยกิต คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษา โครโมโซมและสารพนั นธุกรรม โครงสรา้ ง DNA การจาลอง DNA การควบคุม ลักษณะพันธุกรรมของ DNA มิวเทชันและการเกิดมิวเทชัน การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การศึกษาพันธุกรรมของเมนเดล การถ่ายทอดยนี บนโครโมโซม ลักษณะทางพนั ธุกรรมท่ีเป็นสว่ น ขยายของพันธุศาสตร์ของเมนเดล การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม ยีนบนโครโมโซมเดียวกัน เทคโนโลยีทาง DNA พันธุวิศวกรรมและการโคลนยีน การหาขนาดของ DNA และการหาลาดับ นิวคลีโอไทด์ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี DNA และเทคโนโลยีทาง DNA กับความปลอดภัยทาง ชวี ภาพและชีวจริยธรรม วิวัฒนาการ หลกั ฐานและข้อมูลทีใ่ ช้ในการศึกษาวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต แนวคิดเกีย่ วกบั ววิ ฒั นาการของสิ่งมีชีวิต พันธุศาสตรป์ ระชากร ปัจจัยทที่ าใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลง ความถ่ขี องแอลลีล และกาเนิดสปชี ีส์ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสงั เกต วิเคราะห์ เปรยี บเทยี บ อธบิ าย อภปิ ราย และสรุป เพือ่ ให้เกดิ ความรู้ความเขา้ ใจ มคี วามสามารถในการตัดสนิ ใจ มีทักษะปฏิบัติการทาง วิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด แก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านยิ มทเี่ หมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. สบื คน้ ข้อมลู อธิบายสมบัตแิ ละหนา้ ที่ของสารพนั ธกุ รรม โครงสรา้ งและองค์ประกอบทางเคมี ของ DNA และสรปุ การจาลอง DNA ๒. อธิบายและระบุข้ันตอนในกระบวนการสังเคราะห์โปรตีนและหน้าที่ของ DNA และ RNA แตล่ ะชนดิ ในกระบวนการสงั เคราะห์โปรตีน ๓. สืบค้นข้อมูล และอธิบายการเกิดมิวเทชันระดับยีนและระดับโครโมโซม สาเหตุการเกิด มวิ เทชัน รวมทั้งยกตวั อย่างโรคและกลุ่มอาการที่เป็นของการเกดิ มิวเทชัน ๔. สืบค้นขอ้ มูล อธิบายและสรปุ ผลการทดลองของเมนเดล ๕. สรุปความสัมพันธ์ระหว่างสารพันธุกรรม แอลลีล โปรตีน ลักษณะทางพันธุกรรม และ เชอ่ื มโยงกับความรเู้ ร่อื งพนั ธศุ าสตรเ์ มนเดล ๖. อธิบายและสรุปกฎแห่งการแยกและกฎแห่งการรวมกล่มุ อย่างอิสระ และนากฎของเมนเดลน้ี ไปอธิบายการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมและใช้ในการคานวณโอกาสในการการเกิด ฟโี นไทปแ์ ละจโี นไทป์แบบตา่ ง ๆ ของร่นุ F1 และ F2 ๗. สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ อธิบายและสรุปเกี่ยวกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมที่เป็น สว่ นขยายของพันธศุ าสตร์เมนเดล ๘. สบื ค้นขอ้ มลู วเิ คราะห์ และเปรียบเทยี บลักษณะทางพนั ธกุ รรมที่มกี ารแปรผนั ไม่ต่อเนื่องและ ลกั ษณะทางพันธกุ รรมทม่ี กี ารแปรผนั ตอ่ เน่อื ง ๙. อธบิ ายการถา่ ยทอดยีนบนโครโมโซม และยกตวั อย่างลกั ษณะทางพันธกุ รรมท่ีถกู ควบคุมด้วย ยีนบนออโตโซมและยนี บนโครโมโซมเพศ ๑๐. อธบิ ายหลกั การสร้างสิง่ มชี ีวติ ดัดแปรพันธุกรรมโดยใช้ดีเอน็ เอรคี อมบแิ นนท์ ๑๗๖ หลักสตู รโรงเรียนมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

๑๑. สืบค้นขอ้ มูล ยกตัวอยา่ ง และอภิปรายการนาเทคโนโลยีทางดีเอน็ เอไปประยกุ ต์ใช้ท้ังในด้าน ส่ิงแวดล้อม นิติวทิ ยาศาสตร์ การแพทย์ การเกษตร และอตุ สาหกรรม และข้อควรคานึงด้าน ชีวจริยธรรม ๑๒. สืบค้นข้อมูลและอธิบายเกี่ยวกับหลักฐานที่สนับสนุนและข้อมูลที่ใช้ในการอธิบายการเกิด วิวัฒนาการของส่งิ มีชีวติ ๑๓. อธิบายและเปรียบเทียบแนวคิดเก่ียวกับวิวัฒนาการของส่ิงมีชีวิตของฌอง ลามาร์กและ ทฤษฎีเก่ยี วกับววิ ัฒนาการของชารล์ ดารว์ นิ ๑๔. ระบุสาระสาคัญและอธิบายเง่ือนไขของภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก ปัจจัยท่ีทาให้เกิด การเปลย่ี นแปลงความถีข่ องแอลลีลในประชากร พรอ้ มทั้งคานวณหาความถข่ี องแอลลีลและ จโี นไทป์ของประชากรโดยใชห้ ลักของฮาร์ดี-ไวนเ์ บิร์ก ๑๕. สบื คน้ ข้อมูล อภิปราย และอธิบายกระบวนการเกดิ สปีชีส์ใหม่ของสง่ิ มชี ีวติ รวมทงั้ หมด ๑๕ ผลการเรยี นรู้ ๑๗๗ หลกั สตู รโรงเรยี นมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

รหัสวชิ า ว๓๑๒๖๑ ชอ่ื วชิ า วิทยาศาสตร์โลก ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๔ เวลาเรียน ๔๐ ชั่วโมง จานวนหน่วยกิต ๑.๐ หน่วยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศึกษา การแบ่งช้ันและสมบัติของโครงสรา้ งโลก รอยต่อระหว่างชั้นโครงสร้างพร้อม หลักฐานสนับสนุน การเคล่ือนที่ของแผ่นธรณีตามทฤษฎีแปรสัณฐานพร้อมท้ังหลักฐานสนับสนุน สาเหตุและรูปแบบ แนวรอยต่อของแผ่นธรณีท่ีสัมพันธก์ ารเคลื่อนท่ีของแผ่นธรณี และหลักฐานท่ี เปน็ ผลจากการเคล่ือนที่ของแผ่นธรณี สาเหตุ กระบวนการเกิด และผลจากการเกิดภูเขาไฟระเบิด แผน่ ดินไหว และสึนามิ พรอ้ มแนวทางการเฝา้ ระวังและปฏิบตั ติ นใหป้ ลอดภยั รวมท้งั อธบิ ายลาดับ เหตกุ ารณท์ างธรณีวทิ ยาในอดีตจากการใช้หลกั ฐานท่พี บในปัจจบุ นั โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสงั เกต วเิ คราะห์ เปรยี บเทยี บ อธิบาย อภปิ ราย และสรุป เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มที กั ษะปฏิบตั กิ ารทาง วิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคดิ แก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มท่เี หมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. อธิบายการแบ่งช้ันและสมบัติของโครงสรา้ งโลก พรอ้ มท้งั ยกตวั อย่างขอ้ มลู ทส่ี นับสนุน ๒. อธิบายหลกั ฐานทางธรณีวทิ ยาท่สี นับสนุนการเคลอ่ื นทีข่ องแผ่นธรณี ๓. ระบุสาเหตุ และอธิบายแนวรอยต่อของแผ่นธรณีท่ีสัมพนั ธ์การเคล่ือนท่ีของแผ่นธรณี พร้อม ทัง้ ยกตวั อย่างหลกั ฐานทางธรณวี ิทยาทีพ่ บ ๔. วิเคราะห์หลักฐานทางธรณีวิทยาที่พบในปัจจุบัน และอธิบายลาดับเหตุการณ์ทางธรณีวิทยา ในอดตี ๕. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิดภูเขาไฟระเบิดและปัจจัยท่ีทาให้ความรุนแรงของการปะทุ และรูปร่างภูเขาไฟที่แตกต่างกัน รวมทั้งสืบค้นข้อมูลพ้ืนที่เส่ียงภัย ออกแบบและเสนอ แนวทางการเฝา้ ระวังและการปฏิบัติตนให้ปลอดภยั ๖. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิด ขนาดและความรุนแรง และผลจากแผ่นดินไหว รวมทั้ง สืบค้นข้อมูลพ้ืนที่เสี่ยงภัย ออกแบบและเสนอแนวทางการเฝ้าระวังและการปฏิบัติตนให้ ปลอดภัย ๗. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิด และผลจากสึนามิ ข้อมูลพ้ืนที่เส่ียงภัย ออกแบบและเสนอ แนวทางการเฝ้าระวังและการปฏิบัติตนให้ปลอดภัย รวมทง้ั หมด ๗ ผลการเรียนรู้ ๑๗๘ หลักสูตรโรงเรียนมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

รหสั วิชา ว๓๑๒๖๒ ชอ่ื วชิ า วิทยาศาสตรโ์ ลก ๒ กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔ เวลาเรยี น ๔๐ ช่ัวโมง จานวนหน่วยกติ ๑.๐ หนว่ ยกิต คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษา ชนิดแร่และหิน สมบัติของแร่และหิน การจาแนกแร่ตามสมบัติของแร่ การจาแนกหินตามลักษณะการเกิดและเนื้อหิน และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรแร่และหินที่ เหมาะสม กระบวนการเกิด และการสารวจแหล่งปิโตรเลียมและถ่านหินโดยใช้ความรู้พ้ืนฐาน ธรณีวิทยาด้านต่าง ๆ รวมท้ังวิธีการและเทคนิคท่ีเหมาะสมเพื่อนาทรัพยากรมาใช้ได้อย่างคุ้มค่า และย่ังยืน องค์ประกอบและการแปลความหมายของแผนท่ีภูมิประเทศและแผนที่ธรณีวิทยา พรอ้ มทง้ั นาเสนอขอ้ มลู จากแผนท่ภี มู ปิ ระเทศและแผนทธี่ รณีวทิ ยาไปใช้ประโยชน์ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสงั เกต วเิ คราะห์ เปรยี บเทยี บ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพอื่ ใหเ้ กิดความรคู้ วามเขา้ ใจ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ มีทกั ษะปฏบิ ตั ิการทาง วิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด แก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมทเ่ี หมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. ตรวจสอบ และระบุชอื่ แร่ รวมทัง้ วเิ คราะหส์ มบตั ิและนาเสนอการใช้ประโยชน์จากทรพั ยากร แรท่ เี่ หมาะสม ๒. ตรวจสอบ จาแนกประเภท และระบุชื่อหิน รวมท้ังวิเคราะห์สมบัติและนาเสนอการใช้ ประโยชนข์ องทรพั ยากรหนิ ท่ีเหมาะสม ๓. อธิบายกระบวนการเกิด และการสารวจแหล่งปิโตรเลียมและถ่านหิน โดยใช้ข้อมูลทาง ธรณวี ิทยา ๔. อธิบายสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่ได้จากปิโตรเลียมและถ่านหิน พร้อมทั้งนาเสนอการใช้ ประโยชน์อย่างเหมาะสม ๕. อ่านและแปลความหมายจากแผนที่ภูมิประเทศและแผนที่ธรณีวิทยาของพ้ืนท่ีท่ีกาหนด พรอ้ มทง้ั อธิบายและยกตัวอยา่ งการนาไปใช้ประโยชน์ รวมทัง้ หมด ๕ ผลการเรยี นรู้ ๑๗๙ หลกั สตู รโรงเรียนมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

รหัสวิชา ว๓๒๒๐๑ ชอื่ วิชา ฟิสิกส์ ๓ กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๕ เวลาเรียน ๘๐ ช่ัวโมง จานวนหน่วยกิต ๒.๐ หนว่ ยกิต คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษา ลักษณะการเคล่ือนท่ีแบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย ปริมาณที่เก่ียวข้องกับ การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย แรงกับการส่ันของมวลติดปลายสปริงและลูกตุ้มอย่างง่าย ความถ่ีธรรมชาติและการส่ันพ้อง ธรรมชาติของคล่ืน อัตราเร็วของคลื่น หลักการที่เก่ียวกับคลื่น พฤติกรรมของคล่ืน แนวคิดเก่ียวกับแสงเชิงคล่ืน การแทรกสอดของแสงผ่านสลิตคู่ การเลี้ยวเบน ของแสงผ่านสลิตเดี่ยว การเล้ียวเบนของแสงผ่านผ่านเกรตติง การสะท้อนและการหักเหของแสง การมองเห็นและการเกดิ ภาพ ภาพจากเลนส์และกระจกเงาทรงกลม แสงสีและการมองเหน็ แสงสี ปรากฏการณธ์ รรมชาตแิ ละการใชป้ ระโยชน์เกย่ี วกบั แสง โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสงั เกต วิเคราะห์ เปรยี บเทยี บ อธบิ าย อภิปราย และสรปุ เพ่ือให้เกิดความร้คู วามเขา้ ใจ มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจ มีทกั ษะปฏบิ ตั กิ ารทาง วิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรยี นร้ใู นศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด แก้ปัญหาด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มท่เี หมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. ทดลองและอธิบายการเคล่ือนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่ายของวัตถุติดปลายสปริงและลูกตุ้ม อย่างงา่ ย รวมท้งั คานวณปรมิ าณต่าง ๆ ที่เก่ียวข้อง ๒. อธบิ ายความถธี่ รรมชาติของวตั ถุและการเกดิ การส่นั พ้อง ๓. อธิบายปรากฏการณ์คล่ืน ชนิดของคลื่น ส่วนประกอบของคล่ืน การแผ่ของหน้าคล่ืนด้วย หลักการของฮอยเกนส์ และการรวมกันของคล่ืนตามหลักการซ้อนทับ พร้อมทั้งคานวณ อตั ราเรว็ ความถี่ และความยาวคลน่ื ๔. สังเกตและอธิบายการสะท้อน การหักเห การแทรกสอด และการเล้ียวเบนของคล่ืนผิวน้า รวมทัง้ คานวณปริมาณต่าง ๆ ท่เี กีย่ วข้อง ๕. ทดลอง และอธิบายการแทรกสอดของแสงผ่านสลิตคู่และเกรตติง การเล้ียวเบน และ การแทรกสอดของแสงผ่านสลิตเด่ียว รวมทั้งคานวณปรมิ าณต่าง ๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ ง ๖. ทดลอง และอธิบายการสะท้อนของแสงที่ผิววัตถุตามกฎการสะท้อน เขียนรังสีของแสงและ คานวณตาแหน่งและขนาดของภาพของวัตถุ เม่ือแสงตกกระทบกระจกเงาราบและกระจกเงา ทรงกลม รวมทั้งอธิบายการนาความรู้เรื่องการสะท้อนของแสงจากกระจกเงาราบ และ กระจกเงาทรงกลมไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจาวัน ๗. ทดลอง และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างดรรชนีหักเห มุมตกกระทบ และมุมหักเหรวมท้ัง อธบิ ายความสมั พันธร์ ะหวา่ งความลกึ จริงและความลึกปรากฏ มมุ วิกฤตและการสะท้อนกลับ หมดของแสง และคานวณปรมิ าณตา่ ง ๆท่ีเก่ยี วขอ้ ง ๘. ทดลอง และเขียนรังสขี องแสงเพือ่ แสดงภาพที่เกดิ จากเลนสบ์ าง หาตาแหนง่ ขนาด ชนิดของ ภาพ และความสัมพันธ์ระยะระหว่างวัตถุ ระยะภาพและความยาวโฟกัส รวมทั้งคานวณ ปริมาณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง และอธิบายการนาความร้เู รื่องการหักเหของแสงผ่านเลนส์บางไป ใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจาวัน ๑๘๐ หลกั สตู รโรงเรยี นมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

๙. อธบิ ายปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกยี่ วกับแสง เช่น รุ้ง การทรงกลด มิราจ และการเห็นท้องฟา้ เปน็ สีต่าง ๆ ในชว่ งเวลาตา่ งกัน ๑๐. สังเกต และอธิบายการมองเห็นแสงสี สีของวัตถุ การผสมสารสี และการผสมแสงสี รวมท้ัง อธบิ ายสาเหตขุ องการบอดสี รวมทง้ั หมด ๑๐ ผลการเรียนรู้ ๑๘๑ หลักสูตรโรงเรยี นมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

รหัสวิชา ว๓๒๒๐๒ ช่อื วชิ า ฟสิ ิกส์ ๔ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ ๕ เวลาเรียน ๘๐ ชั่วโมง จานวนหนว่ ยกิต ๒.๐ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษา การเคลื่อนที่ของเสียง อัตราเร็วเสียง พฤติกรรมเสียง ความเข้มเสียงและ การได้ยินเสียง คล่ืนน่ิงของเสียง การส่ันพ้องของอากาศในท่อ บีต ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ การประยุกต์ใช้ความรู้เรือ่ งเสียง ธรรมชาติของไฟฟ้าสถิต กฎของคูลอมบ์ สนามไฟฟ้า ศักย์ไฟฟ้า และความต่างศักย์ ตัวเก็บประจุ การนาความรู้เกี่ยวกับไฟฟ้าสถิตไปใช้ประโยชน์ กระแสไฟฟ้า กฎของโอห์ม สภาพต้านทานไฟฟ้า ตัวต้านทาน การต่อตัวต้านทาน พลังงานในวงจรไฟฟ้า กระแสตรง แบตเตอรี่และวงจรไฟฟ้ากระแสตรง พลังงานไฟฟ้าจากพลังงานไฟฟ้าจากพลังงาน ทดแทนและเทคโนโลยีดา้ นพลังงาน โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์ เปรยี บเทียบ อธบิ าย อภิปราย และสรปุ เพือ่ ให้เกดิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทกั ษะปฏบิ ตั กิ ารทาง วิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะการเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด แก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มท่เี หมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. อธิบายการเกิดเสียง การเคลื่อนที่ของเสียง ความสัมพันธ์ระหว่างคลื่น การกระจัดของ อนุภาคกับคลื่นความดัน ความสัมพันธ์ระหว่างอัตราเร็วของเสียงในอากาศท่ีข้ึนกับอณุ หภูมิ ในหน่วยองศาเซลเซียส สมบัติของคลื่นเสียง ได้แก่ การสะท้อน การหักเห การแทรกสอด การเลยี้ วเบน รวมทัง้ คานวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกีย่ วข้อง ๒. อธิบายความเข้มเสียง ระดับเสียง องค์ประกอบของการได้ยิน คุณภาพเสียง และมลพิษทาง เสียง รวมทงั้ คานวณปริมาณตา่ ง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง ๓. ทอลอง และอธิบายการเกิดการสั่นพ้องของอากาศในท่อปลายเปิดหนึ่งด้าน รวมทั้งสังเกต และอธิบายการเกิดบีต คลื่นนิ่ง ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ คล่ืนกระแทกของเสียง คานวณ ปรมิ าณตา่ ง ๆ ทเ่ี กี่ยวข้อง และนาความร้เู ร่อื งเสยี งไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ๔. ทดลอง และอธิบายการทาวัตถุที่เป็นกลางทางไฟฟ้าให้มีประจุไฟฟ้าโดยการขัดสีกันและ การเหน่ียวนาไฟฟ้า ๕. อธิบาย และคานวณแรงไฟฟา้ ตามกฎของคูลอมบ์ ๖. อธิบาย และคานวณสนามไฟฟ้าและแรงไฟฟ้าท่ีกระทากับอนุภาคท่ีมีประจุไฟฟ้าท่ีอยู่ใน สนามไฟฟ้า รวมทงั้ หาสนามไฟฟ้าลพั ธ์เน่ืองจากระบบจดุ ประจโุ ดยรวมกันแบบเวกเตอร์ ๗. อธิบาย และคานวณพลังงานศักย์ไฟฟ้า ศักย์ไฟฟ้า และความต่างศักย์ระหว่างสองตาแหนง่ ใด ๆ ๘. อธิบายส่วนประกอบของตัวเกบ็ ประจุ ความสัมพันธ์ระหว่างประจุไฟฟ้า ความต่างศักย์และ ความจขุ องตัวเก็บประจุ และอธิบายพลังงานสะสมในตัวเก็บประจุ และความจสุ มมลู รวมท้ัง คานวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ทเ่ี กีย่ วขอ้ ง ๙. นาความรู้เร่ืองไฟฟ้าสถิตไปใช้อธิบายหลักการทางานของเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด และ ปรากฏการณใ์ นชีวิตประจาวัน ๑๘๒ หลักสตู รโรงเรยี นมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

๑๐. อธิบายการเคลื่อนท่ีของอิเล็กตรอนอิสระและกระแสไฟฟ้าในลวดตัวนา ความสัมพันธ์ ระหว่างกระแสไฟฟ้าในลวดตวั นากับความเร็วลอยเลอ่ื นของอเิ ลก็ ตรอนอิสระ ความหนาแน่น ของอิเล็กตรอนในลวดตัวนาและพื้นท่ีหน้าตัดของลวดตัวนา และคานวณปริมาณต่าง ๆ ท่ี เกีย่ วขอ้ ง ๑๑. ทดลอง และอธิบายกฎของโอห์ม อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างความต้านทานกับความยาว พื้นท่ีหน้าตัด และสภาพต้านทานของตัวนาโลหะท่ีอุณหภมู ิคงตัว และคานวณปริมาณต่าง ๆ ทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง รวมท้ังอธิบายและคานวณความตา้ นทานสมมูล เมอ่ื นาตวั ตา้ นทานมาตอ่ กันแบบ อนกุ รมและแบบขนาน ๑๒. ทดลอง อธิบาย และคานวณอีเอ็มเอฟของแหล่งกาเนิดไฟฟา้ กระแสตรง รวมท้ังอธิบายและ คานวณพลังงานไฟฟา้ และกาลงั ไฟฟา้ ๑๓. ทดลอง และคานวณอีเอม็ เอฟสมมูลจากการต่อแบตเตอรีแ่ บบอนกุ รมและแบบขนาน รวมทั้ง คานวณปริมาณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องในวงจรไฟฟ้ากระแสตรงซ่ึงประกอบด้วยแบตเตอร่ีและ ตัวตา้ นทาน ๑๔. อธิบายการเปล่ียนพลังงานทดแทนเป็นพลังงานไฟฟ้า รวมท้ังสืบค้นและอภิปรายเกี่ยวกับ เทคโนโลยี ทนี่ ามาแก้ปัญหาหรอื ตอบสนองความตอ้ งการทางด้านพลงั งานไฟฟา้ โดยเนน้ ด้าน ประสิทธภิ าพและความคุ้มคา่ ดา้ นคา่ ใชจ้ า่ ย รวมทงั้ หมด ๑๔ ผลการเรยี นรู้ ๑๘๓ หลักสูตรโรงเรยี นมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

รหสั วชิ า ว๓๒๒๒๑ ช่ือวชิ า เคมี ๓ กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๕ เวลาเรียน ๖๐ ชั่วโมง จานวนหนว่ ยกิต ๑.๕ หนว่ ยกิต คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาตร ความดัน อุณหภูมิ และจานวนโมลของของ แก๊ส กฎแก๊สอุดมคติและความดันย่อย ทฤษฎีจลน์และการแพร่ของแก๊ส การประยุกต์ใช้ความรู้ เก่ียวกับแก๊สและสมบัติของแก๊ส ความหมายและการคานวณอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี แนวคิด เก่ียวกับอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี ปัจจัยท่ีมีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี สภาวะสมดุล ค่าคงท่สี มดลุ ปัจจยั ทม่ี ผี ลต่อสมดุล สมดุลเคมีในสิ่งชีวติ สิง่ แวดลอ้ ม และอุตสาหกรรม โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสงั เกต วิเคราะห์ เปรยี บเทยี บ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพอ่ื ให้เกดิ ความรคู้ วามเข้าใจ มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจ มีทักษะปฏิบัติการทาง วิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรยี นร้ใู นศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคดิ แก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมทเี่ หมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. อธิบายความสมั พนั ธ์และคานวณปรมิ าตร ความดัน หรืออุณหภูมิของแกส๊ ท่ภี าวะตา่ ง ๆ ตาม กฎของบอยล์ กฎของชารล์ กฎของเกย์-ลสู แซก ๒. คานวณปริมาตร ความดัน หรอื อุณหภมู ิของแก๊สทภี่ าวะตา่ ง ๆ ตามกฎรวมแกส๊ ๓. คานวณปริมาตร ความดัน อุณหภูมิ จานวนโมลหรือมวลของแก๊ส จากความสัมพันธ์ตามกฎ ของอาโวกาโดร และกฎแก๊สอดุ มคติ ๔. คานวณความดันยอ่ ยหรือจานวนโมลของแกส๊ ในแกส๊ ผสม โดยใช้กฎความดนั ย่อยของดอลตนั ๕. อธิบายการแพร่ของแก๊สโดยใช้ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส คานวณและเปรียบเทียบอัตราการแพร่ ของแก๊ส โดยใชก้ ฎการแพร่ผ่านของเกรแฮม ๖. สบื ค้นข้อมลู นาเสนอตัวอย่าง และอธิบายการประยกุ ต์ใชค้ วามร้เู กีย่ วกับสมบัตแิ ละกฎต่าง ๆ ของแกส๊ ในการอธบิ ายปรากฏการณ์ หรือแก้ปญั หาในชวี ิตประจาวันและในอุตสาหกรรม ๗. ทดลอง และเขยี นกราฟการเพ่ิมขึ้นหรอื ลดลงของสารท่ีทาการวัดในปฏิกริ ยิ า ๘. คานวณอตั ราการเกิดปฏิกิริยาเคมี และเขียนกราฟการลดลงหรอื เพ่มิ ขนึ้ ของสารทไ่ี มไ่ ดว้ ัดใน ปฏิกริ ิยา ๙. เขียนแผนภาพ และอธิบายทิศทางการชนกันของอนุภาคและพลังงานที่ส่งผลต่ออัตรา การเกิดปฏกิ ริ ิยา ๑๐. ทดลอง และอธบิ ายผลของความเขม้ ข้น พื้นท่ผี วิ ของสารตงั้ ตน้ อณุ หภูมิ และตวั เรง่ ปฏิกิริยา ทีม่ ีตอ่ อตั ราการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี ๑๑. เปรียบเทียบอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีเม่ือมีการเปล่ียนแปลงความเข้มข้น พ้ืนท่ีผิวของ สารต้ังต้น อุณหภมู ิ และตัวเรง่ ปฏิกริ ยิ า ๑๒. ยกตัวอย่าง และอธิบายปัจจัยท่ีมีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจาวันหรือ อุตสาหกรรม ๑๓. ทดสอบ และอธบิ ายความหมายของปฏิกิริยาผนั กลับได้และภาวะสมดลุ ๑๘๔ หลกั สูตรโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

๑๔. อธิบายการเปล่ียนแปลงความเข้มข้นของสาร อัตราการเกิดปฏิกิริยาไปข้างหน้า และอัตรา การเกิดปฏกิ ริ ยิ ายอ้ นกลับ เม่อื เริ่มปฏิกริ ยิ าจนกระทง่ั ระบบอย่ใู นภาวะสมดุล ๑๕. คานวณค่าคงที่สมดลุ ของปฏิกริ ยิ า ๑๖. คานวณความเขม้ ขน้ ของสารทภี่ าวะสมดลุ ๑๗. คานวณค่าคงท่ีสมดุลหรือความเข้มขน้ ของปฏกิ ิรยิ าหลายขน้ั ตอน ๑๘. ระบปุ ัจจยั ทมี่ ผี ลต่อภาวะสมดลุ และคา่ คงท่ีสมดุลของระบบ รวมทั้งคาดคะเน การเปลย่ี นแปลงท่ีเกดิ ข้ึนเมื่อภาวะสมดุลของระบบถกู รบกวน โดยใช้หลักของเลอชาเตอรเิ อ ๑๙. ยกตัวอย่าง และอธิบายสมดุลเคมีของกระบวนการที่เกิดขึ้นในส่ิงมีชีวิต ปรากฏการณ์ใน ธรรมชาตแิ ละกระบวนการในอุตสาหกรรม รวมทงั้ หมด ๑๙ ผลการเรยี นรู้ ๑๘๕ หลกั สูตรโรงเรียนมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

รหสั วิชา ว๓๐๒๒๔ ช่ือวชิ า เคมี ๔ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๕ จานวนหน่วยกติ ๑.๕ หนว่ ยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศึกษา ทฤษฎกี รด-เบส คู่กรด-เบส การแตกตัวของกรด เบส และน้า สมบัตกิ รด-เบส ของเกลือ pH ของสารละลายกรดและเบส ปฏิกิริยาเคมีระหว่างกรดและเบส การไทเทรต กรด-เบส สารละลายบัฟเฟอร์ การประยุกต์ใช้ความรู้เกี่ยวกับกรด-เบส เลขออกซิเดชันและ ปฏิกริ ิยารดี อกซ์ การดลุ สมการรีดอกซ์ เซลล์ไฟฟ้าเคมี ประโยชนข์ องเซลลไ์ ฟฟ้าเคมี เทคโนโลยีท่ี เก่ยี วขอ้ งกบั เคมีไฟฟา้ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วเิ คราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรปุ เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจ มีความสามารถในการตัดสนิ ใจ มีทกั ษะปฏบิ ตั กิ ารทาง วิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะการเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด แก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถสื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มท่ีเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. ระบุ และอธิบายว่าสสารเป็นกรดหรือเบส โดยใช้ทฤษฎีกรด-เบสของอาร์เรเนีย เบรินสเตด- ลาวรี และลวิ อสิ ๒. ระบุคกู่ รด-เบสของสารตามทฤษฎกี รด-เบสของเบรนิ สเตด-ลาวรี ๓. คานวณ และเปรยี บเทยี บความสามารถในการแตกตวั หรอื ความแรงของกรดและเบส ๔. คานวณค่า pH ความเข้มข้นของไฮโดรเนียมไอออนหรือไฮดรอกไซด์ไอออนของสารละลาย กรดและเบส ๕. เขียนสมการเคมีแสดงปฏิกิริยาสะเทิน และระบุความเป็นกรด-เบสของสารละลายหลัง การสะเทนิ ๖. เขยี นปฏกิ ริ ยิ าไฮโดรลซิ ิสของเกลือ และระบุความเป็นกรด-เบสของสารละลายเกลือ ๗. ทดลอง และอธิบายหลักการการไทเทรตและเลือกใช้อินดิเคเตอร์ที่เหมาะสมสาหรับ การไทเทรตกรด-เบส ๘. คานวณปรมิ าณสารหรอื ความเขม้ ขน้ ของสารละลายกรดหรอื เบสจากการไทเทรต ๙. อธบิ ายสมบตั ิ องคป์ ระกอบ และประโยชนข์ องสารละลายบฟั เฟอร์ ๑๐. สืบค้นข้อมูล และการนาเสนอตัวอย่างการใช้ประโยชน์และการแก้ปัญหาโดยใช้ความรู้ เกี่ยวกบั กรด-เบส ๑๑. คานวณเลขออกซเิ ดชัน และระบปุ ฏิกริ ยิ าท่เี ป็นปฏกิ ิริยารีดอกซ์ ๑๒. วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชัน และระบุตัวรีดิวซ์และตัวออกซิไดส์ รวมท้ังเขียน คร่งึ ปฏิกริ ิยาและตวั ออกซไิ ดส์ รวมท้งั เขียนคร่ึงปฏกิ ริ ิยาออกซิเดชนั และครง่ึ ปฏิกิริยารีดักชัน ของปฏิกิรยิ ารีดอกซ์ ๑๓. ทดลอง และเปรียบเทียบความสามารถในการเปน็ ตัวรีดิวซ์หรือตัวออกซิไดส์ และเขยี นแสดง ปฏกิ ิริยารดี อกซ์ ๑๔. ดุลสมการรีดอกซ์ด้วยการใชเ้ ลขอกซเิ ดชนั และวธิ ีครึ่งปฏกิ ริ ิยา ๑๘๖ หลักสตู รโรงเรียนมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

๑๕. ระบุองค์ประกอบของเซลล์ไฟฟ้า และเขียนสมการเคมีของปฏิกิริยาท่ีแอโนดและแคโทด ปฏิกิริยารวม และแผนภาพเซลล์ ๑๖. คานวณค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของเซลล์และระบุประเภทของเซลล์เคมีไฟฟา้ ข้ัวไฟฟ้า และ ปฏิกริ ิยาเคมีทเ่ี กดิ ข้ึน ๑๗. อธิบายหลักการทางาน และเขยี นสมการแสดงปฏกิ ริ ยิ าของเซลลป์ ฐมภูมแิ ละเซลล์ทตุ ยิ ภมู ิ ๑๘. ทดลองชุบโลหะและแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้า และอธิบายหลักการทางไฟฟา้ เคมีที่ใช้ใน การชุบโลหะ การแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้า การทาโลหะให้บริสุทธิ์ และการป้องกัน การกดั กรอ่ นของโลหะ ๑๙. สบื คน้ ข้อมลู และนาเสนอตัวอยา่ งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทเ่ี กี่ยวข้องกบั เซลล์เคมีไฟฟ้า ในชวี ติ ประจาวัน รวมทัง้ หมด ๑๙ ผลการเรียนรู้ ๑๘๗ หลกั สูตรโรงเรยี นมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

รหสั วิชา ว๓๒๒๔๑ ชอ่ื วชิ า ชีววทิ ยา ๓ กลุ่มสาระการเรียนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๕ เวลาเรียน ๖๐ หน่วยกิต จานวนหนว่ ยกติ ๑.๕ หน่วยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศกึ ษา การสืบพนั ธุข์ องพืชดอก โครงสรา้ งของดอกและชนิดของผล วฏั จกั รแบบสลับ ของพืชดอก การสบื พนั ธ์ุแบบอาศยั เพศของพชื ดอก การใช้ประโยชน์จากโครงสร้างต่าง ๆ ของผล และเมล็ด โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพชื ดอก เนื้อเยื่อพืช โครงสร้างและการเจรญิ เติบโต ของราก โครงสร้างและการเจริญเติบโตของลาต้น การเจริญเติบโตของใบ การลาเลียงของพืช การลาเลียงน้า การแลกเปล่ียนแก๊สและการคายน้า การลาเลียงธาตุอาหาร การลาเลียงอาหาร การสังเคราะห์ด้วยแสง การศึกษาท่ีเกี่ยวกับการสังเคราะห์ด้วยแสง กระบวนการสังเคราะห์ดว้ ย แสงของพชื โฟโตเรสไพเรชนั การเพิ่มความเขม้ ขน้ ของแกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ ปจั จัยบางประการ ท่ีมีผลต่อการสังเคราะห์ด้วยแสง การควบคุมการเจริญเติบโตและการตอบสนองของพืช ฮอร์โมน พืช ปัจจัยท่ีมีผลต่อการงอกของเมล็ด การตอบสนองของพืชในลักษณะการเคลื่อนไหว การตอบสนองต่อภาวะเครยี ด โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์ เปรียบเทยี บ อธบิ าย อภปิ ราย และสรปุ เพอื่ ให้เกดิ ความรูค้ วามเข้าใจ มคี วามสามารถในการตัดสนิ ใจ มที ักษะปฏิบตั กิ ารทาง วิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด แก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มจี ติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มท่เี หมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. อธิบายเก่ียวกับชนิดและลักษณะของเน้ือเย่ือพืชและเขียนแผนผังเพ่ือสรุปชนิดของเน้ือเยื่อ พืช ๒. สงั เกต อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสรา้ งภายในของรากพชื ใบเล้ียงเดย่ี วและรากพืชใบเล้ียง คจู่ ากการตัดตามขวาง ๓. สังเกต อธบิ าย และเปรยี บเทียบโครงสร้างภายในลาต้นพืชใบเล้ยี งเดย่ี วและลาต้นพืชใบเล้ียง ค่จู ากการตัดขวาง ๔. สงั เกต และอธบิ ายโครงสร้างภายในของใบพืชจากการตดั ตามขวาง ๕. สบื คน้ ขอ้ มลู สงั เกต และอธิบายการแลกเปล่ยี นแก๊สและการคายนา้ ของพชื ๖. สืบคน้ ขอ้ มูล และอธิบายกลไกการลาเลียงนา้ และธาตุอาหารของพืช ๗. สืบค้นข้อมูล อธิบายความสาคัญของธาตุอาหารและยกตัวอย่างธาตอุ าหารท่ีสาคัญที่มผี ลต่อ การเจริญเติบโต ๘. อธิบายกลไกการลาเลยี งอาหารในพชื ๙. สืบค้นข้อมูล และสรุปการศึกษาที่ได้จากการทดลองของนักวิทยาศาสตร์ในอดีตเก่ียวกับ กระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสง ๑๐. อธิบายข้นั ตอนทีเ่ กดิ ข้ึนในกระบวนการสังเคราะหด์ ว้ ยแสงของพชื C3 ๑๑. เปรียบเทยี บกลไกการตรึงคาร์บอนไดออกไซดใ์ นพืช C3 พชื C4 และ พืช CAM ๑๒. สืบค้นข้อมูล อภิปราย และสรุปปัจจัยความเข้มของแสง ความเข้มของคาร์บอนไดออกไซด์ และอณุ หภมู ิ ท่ีมผี ลตอ่ การสังเคราะหแ์ สงดว้ ยของพชื ๑๘๘ หลักสตู รโรงเรยี นมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

๑๓. อธิบายวัฏจกั รชีวติ แบบสลบั ของพชื ดอก ๑๔. อธิบาย และเปรียบเทียบกระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธเุ์ พศผู้และเพศเมยี ของพชื ดอก และ อธิบายการปฏสิ นธิของพชื ดอก ๑๕. อธบิ ายการเกิดเมลด็ และการเกิดผลของพืชดอก โครงสร้างของเมล็ดและผล และยกตวั อย่าง การใชป้ ระโยชน์จากโครงสรา้ งตา่ ง ๆ ของเมล็ดและผล ๑๖. ทดลอง และอธิบายเก่ียวกับปัจจัยต่าง ๆ ท่ีมีผลต่อการงอกของเมล็ด สภาพพักตัวของเมล็ด และบอกแนวทางในการแก้สภาพพกั ตัวของเมล็ด ๑๗. สืบค้นข้อมูล อธิบายบทบาทและหน้าท่ีของออกซิน ไซโทไคนิน จิบเบอเรลลิน เอทิลีนและ กรดแอบไซซกิ และอภปิ รายเก่ียวกับการนาไปใชป้ ระโยชนท์ างการเกษตร ๑๘. สืบคน้ ข้อมลู ทดลอง และอภิปรายเก่ยี วกบั ส่งิ เร้าภายนอกที่มผี ลตอ่ การเจริญเตบิ โตของพืช รวมท้งั หมด ๑๘ ผลการเรยี นรู้ ๑๘๙ หลักสูตรโรงเรยี นมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

รหัสวชิ า ว๓๒๒๔๒ ชือ่ วิชา ชวี วทิ ยา ๔ กลุ่มสาระการเรยี นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ เวลาเรียน ๖๐ ชั่วโมง จานวนหนว่ ยกิต ๑.๕ หนว่ ยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศึกษา ระบบย่อยอาหาร การย่อยอาหารของสัตว์ การย่อยอาหารของมนษุ ย์ ระบบ หายใจ การแลกเปล่ียนแก๊สของสัตว์ อวัยวะและโครงสร้างในระบบหายใจของมนุษย์ การแลกเปล่ียนแก๊สและการลาเลียงแก๊ส การหายใจ ระบบหมุนเวียนเลือดและระบบน้าเหลือง การลาเลียงสารในร่างกายของสัตว์ การลาเลียงสารในร่างกายของมนุษย์ ระบบภูมิคุ้มกัน กลไก การต่อตา้ นหรือทาลายสง่ิ แปลกปลอม การสรา้ งเสริมภูมิคุ้มกนั ความผดิ ปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ระบบขบั ถา่ ย การขบั ถ่ายของสัตว์ การขบั ถา่ ยของมนุษย์ การทางานของหนว่ ยไต ไตกับการรกั ษา ดลุ ยภาพของนา้ และสารต่าง ๆ ในร่างกาย ความผิดปกตขิ องระบบขบั ถ่าย โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วเิ คราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภปิ ราย และสรปุ เพอื่ ให้เกิดความรู้ความเขา้ ใจ มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ มีทักษะปฏบิ ัติการทาง วิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด แก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มจี ติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมทีเ่ หมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างและกระบวนการย่อยอาหารของสัตว์ไม่มี ทางเดินอาหาร สัตวท์ ีม่ ที างเดินอาหาร ๒. สังเกต อธบิ าย การกินอาหารของไฮดรา ๓. อธิบายเก่ียวกับโครงสร้าง หน้าท่ี และกระบวนการย่อยอาหาร และการดูดซึมสารอาหาร ภายในระบบยอ่ ยอาหารของมนษุ ย์ ๔. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างท่ีทาหน้าท่ีแลกเปลี่ยนแก๊สของฟองน้า ไฮดรา ๕. สังเกต และอธบิ ายโครงสร้างของปอดในสัตว์เลี้ยงลูกดว้ ยนา้ นม ๖. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างท่ีใช้ในการแลกเปล่ียนแกส๊ และกระบวนการแลกเปล่ียนแกส๊ ของมนษุ ย์ ๗. อธบิ ายการทางานของปอด และทดลองวัดปริมาตรของอากาศในการหายใจออกของมนษุ ย์ ๘. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบระบบหมุนเวียนเลือดแบบเปิดและระบบหมุนเวียน เลอื ดแบบปิด ๙. สังเกต และอธิบายทิศทางการไหลของเลือดและการเคล่ือนที่ของเซลล์เม็ดเลือดในหางปลา และสรปุ ความสมั พันธ์ระหว่างขนาดของหลอดเลือดกับความเรว็ ในการไหลของเลอื ด ๑๐. อธิบายโครงสร้างและการทางานของหัวใจและหลอดเลอื ดในมนุษย์ ๑๑. สบื คน้ ขอ้ มูล และอธบิ ายโครงสร้างหัวใจของสตั ว์เลย้ี งลูกดว้ ยนา้ นม ทิศทางการไหลของเลือด ผา่ นหัวใจของมนษุ ย์ และเขยี นแผนผังสรุปการหมุนเวียนของมนุษย์ ๑๒. สืบค้นข้อมูล ระบุความแตกต่างของเซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เม็ดเลือดขาว เพลตเลต และ พลาสมา ๑๓. อธบิ ายหมเู่ ลอื ดและหลักการให้และรบั เลือดในระบบ ABO และระบบ Rh ๑๙๐ หลกั สูตรโรงเรียนมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

๑๔. อธิบาย และสรุปเกี่ยวกบั ส่วนประกอบและหน้าท่ีของน้าเหลือง รวมทั้งโครงสร้างและหนา้ ที่ ของหลอดน้าเหลอื ง และต่อมน้าเหลอื ง ๑๕. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบกลไกการต่อต้านหรือทาลายส่ิงแปลกปลอมแบบไม่ จาเพาะและแบบจาเพาะ ๑๖. สบื ค้นขอ้ มูล อธบิ าย และเปรียบเทียบการสร้างภมู คิ ุ้มกนั กอ่ เองและภูมิคุ้มกันรบั มา ๑๗. สืบค้นข้อมูล และอธิบายเกี่ยวกับความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันที่ทาให้เกิดเอดส์ ภูมิแพ้ การสรา้ งภูมติ า้ นทานต่อเนื้อเยื่อตนเอง ๑๘. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างและหน้าท่ีในการกาจัดของเสียออกจาก รา่ งกายของฟองน้า ไฮดรา พลานาเรยี ไส้เดอื นดนิ แมลง และสัตว์มกี ระดูกสันหลัง ๑๙. อธบิ ายโครงสร้างและหนา้ ทข่ี องไต และโครงสรา้ งท่ใี ชล้ าเลยี งปัสสาวะออกจากรา่ งกาย ๒๐. อธิบายกลไกการทางานของหนว่ ยไตในการกาจัดของเสียออกจากรา่ งกาย และเขียนแผนผงั สรุปขนั้ ตอนการกาจดั ของเสยี ออกจากรา่ งกายโดยหนว่ ยไต ๒๑. สบื ค้นข้อมลู อธิบาย และยกตัวอย่างเก่ียวกบั ความผดิ ปกติของไตอนั เน่อื งมาจากโรคต่าง ๆ รวมท้งั หมด ๒๑ ผลการเรยี นรู้ ๑๙๑ หลกั สูตรโรงเรยี นมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

รหัสวชิ า ว๓๒๒๖๑ ช่อื วิชา วิทยาศาสตรโ์ ลก ๓ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕ เวลาเรียน ๔๐ ชั่วโมง จานวนหน่วยกิต ๑.๐ หน่วยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศกึ ษา กระบวนการที่ทาให้เกิดสมดุลพลงั งานของโลก ปัจจยั สาคญั ทสี่ ่งผลต่อการรับ รังสี อาทิตย์ของพื้นผิวโลก การเคล่ือนท่ีและการหมุนเวยี นของอากาศ การหมุนเวียนของอากาศ บนโลก ความสัมพันธ์ของการหมนุ เวียนอากาศกับภมู อิ ากาศ อณุ หภมู ิ ความเค็ม และการแบ่งช้ัน น้าในมหาสมุทร การหมุนเวียนน้าในมหาสมุทรทั้งที่ผิวหน้าและน้าลึก น้าผุดและน้าจม การหมุนเวยี นนา้ ในมหาสมุทรกบั ลมฟา้ อากาศและภมู ิอากาศ เอลนโี ญและลานญี า โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสงั เกต วิเคราะห์ เปรียบเทยี บ อธบิ าย อภปิ ราย และสรุป เพอื่ ใหเ้ กดิ ความรคู้ วามเข้าใจ มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจ มีทกั ษะปฏบิ ัติการทาง วิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะการเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคดิ แก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถสื่อสารส่ิงท่ีเรียนรแู้ ละนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิต- วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และค่านยิ มทเ่ี หมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. อธิบายปัจจัยสาคัญที่มีต่อการรับและคายพลังงานจากดวงอาทิตย์แตกต่างกันและผลท่ีมี อุณหภมู อิ ากาศในแต่ละบริเวณของโลก ๒. อธบิ ายกระบวนการทท่ี าใหเ้ กดิ สมดลุ พลังงานของโลก ๓. อธบิ ายผลของแรงเนอ่ื งจากความแตกตา่ งของความกดอากาศ แรงคอริออลสิ แรงสู่ศนู ยก์ ลาง และแรงเสยี ดทานที่มีการหมุนเวยี นของอากาศ ๔. อธบิ ายการหมุนเวยี นของอากาศตามเขตละตจิ ดู และผลทมี่ ตี อ่ ภูมอิ ากาศ ๕. อธิบายปจั จยั ที่ทาให้เกดิ การแบง่ ชั้นน้าในมหาสมุทร ๖. อธิบายปัจจัยท่ีทาให้เกิดการหมุนเวียนของน้าในมหาสมุทรและรปู แบบการหมุนเวยี นของน้า ในมหาสมทุ ร ๗. อธิบายผลของการหมุนเวียนของน้าในมหาสมุทรที่มีลักษณะลมฟ้าอากาศ สิ่งมีชีวิต และ สิ่งแวดลอ้ ม รวมทั้งหมด ๗ ผลการเรยี นรู้ ๑๙๒ หลักสตู รโรงเรยี นมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

รหสั วชิ า ว๓๒๒๖๒ ช่ือวิชา วทิ ยาศาสตร์โลก ๔ กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ เวลาเรียน ๔๐ ช่ัวโมง จานวนหนว่ ยกิต ๑.๐ หนว่ ยกิต คาอธิบายรายวิชา ศึกษา การยกตัวของอากาศกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ เสถียรภาพอากาศกับ การยกตวั ของกอ้ นอากาศ กระบวนการเกดิ เมฆ กลไกการยกตัวของอากาศและการเกิดเมฆ ปัจจัย ท่ีส่งผลต่อการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศ หลักฐานแสดงการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศบรรพกาล ผลกระทบจากเปล่ียนแปลงภูมิอากาศ และการชะลอการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ข้อมูลและ สารสนเทศทางอตุ ุนิยมวทิ ยา การใชป้ ระโยชน์จากข้อมูลสารสเทศทางอตุ ุนิยมวิทยา โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์ เปรยี บเทยี บ อธบิ าย อภปิ ราย และสรุป เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรู้ความเขา้ ใจ มคี วามสามารถในการตัดสินใจ มีทกั ษะปฏิบัตกิ ารทาง วิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะการเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด แก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิต- วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นยิ มทเ่ี หมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. อธบิ ายความสัมพันธ์ระหวา่ งเสถยี รภาพอากาศและการเกดิ เมฆ ๒. อธบิ ายการเกิดแนวปะทะอากาศแบบตา่ ง ๆ และลักษณะลมฟ้าอากาศทเี่ กี่ยวขอ้ ง ๓. อธิบายปัจจัยต่าง ๆ ท่ีมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก พร้อมยกตัวอย่างข้อมูล สนับสนุน ๔. วิเคราะห์ และอภิปรายเหตุการณ์ท่ีเป็นผลมาจากการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศโลก และ นาเสนอแนวปฏิบตั ขิ องมนษุ ย์ที่มีส่วนชว่ ยในการชะลอการเปลย่ี นแปลงภูมอิ ากาศโลก ๕. แปลความหมายสญั ลกั ษณล์ มฟา้ อากาศบนแผนที่อากาศ ๖. วิเคราะห์ และคาดการณ์ลักษณะลมฟ้าอากาศเบื้องต้นจากแผนที่ อากาศและข้อมูล สารสนเทศอ่ืน ๆ เพ่ือวางแผนในการประกอบอาชีพและการดาเนินชีวิตให้สอดคล้องกับ สภาพลมฟ้าอากาศ รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรียนรู้ ๑๙๓ หลักสตู รโรงเรียนมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

รหสั วชิ า ว๓๓๒๐๑ ชอื่ วิชา ฟิสกิ ส์ ๕ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๖ เวลาเรียน ๘๐ ช่ัวโมง จานวนหนว่ ยกิต ๒.๐ หนว่ ยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศึกษา เส้นสนามแม่เหล็ก ฟลักซ์แม่เหล็ก สนามแม่เหล็กจากกระแสไฟฟ้าผ่าน เส้นลวดตัวนา แรงแม่เหล็กกระทาต่ออนุภาคที่มีประจุไฟฟ้า แรงแม่เหล็กกระทาต่อลวดตวั นาทีม่ ี กระแสไฟฟา้ ผ่าน แรงระหว่างลวดตัวนาที่มีกระแสไฟฟ้า โมเมนต์ของแรงคู่ควบ แกลแวนอมิเตอร์ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง กฎการเหน่ียวนาของฟาราเดย์ เครื่องกาเนิดไฟฟ้า การประยุกต์ใช้ หลักการอีเอ็มเอฟเหนี่ยวนา ค่ายังผลของความต่างศักย์และกระแสไฟฟ้าของไฟฟ้ากระแสสลับ การผลิตและการส่งไฟฟ้ากระแสสลับ อุณหภมู ิ ความจคุ วามรอ้ นและความร้อนจาเพาะ ความรอ้ น แฝง การถา่ ยโอนความความรอ้ นและสมดุลความร้อน แบบจาลองแก๊สอดุ มคติ กฎของแก๊สอดุ มคติ ทฤษฎีจลนข์ องแก๊ส กฎขอ้ ท่ีหนง่ึ ของอุณหพลศาสตร์และการประยกุ ต์ของอณุ หพลศาสตร์ สภาพ ยดื หยุ่นของของแก๊ส ความเคน้ และความเครยี ดของของแข็ง มอดุลสั ของยงั การประยกุ ต์ใชส้ ภาพ ยืดหยุ่นในชีวิตประจาวัน ความตึงผิวของของเหลว ความหนืดของของเหลว ความดันในของไหล อปุ กรณท์ ีใ่ ชว้ ดั ความดัน แรงพยงุ จากของไหล ของไหลอุดมคติ สมการความต่อเน่อื ง สมการแบร์นูลี โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วเิ คราะห์ เปรยี บเทยี บ อธิบาย อภปิ ราย และสรุป เพ่อื ให้เกดิ ความรู้ความเข้าใจ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ มีทักษะปฏิบตั ิการทาง วิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะการเรยี นร้ใู นศตวรรษท่ี ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคดิ แก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมทเ่ี หมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. สังเกต และอธิบายเส้นสนามแม่เหล็ก อธิบายและคานวณฟลักซแ์ มเ่ หล็กในบรเิ วณท่ีกาหนด รวมทัง้ สงั เกต และอธบิ ายสนามแม่เหล็กที่เกิดจากการกระแสไฟฟา้ ในลวดตัวนาเส้นตรงและ โซเลนอยด์ ๒. อธิบาย และคานวณแรงแมเ่ หล็กที่กระทาต่ออนภุ าคท่ีมีประจไุ ฟฟา้ เคลอื่ นท่ีในสนามแม่เหล็ก แรงแม่เหล็กที่กระทาต่อเสน้ ลวดท่ีมกี ระแสไฟฟ้าผ่านและวางในสนามแมเ่ หล็ก รศั มีความโค้ง ของการเคล่ือนที่เมื่อประจุเคลื่อนที่ต้ังฉากกับสนามแม่เหล็ก รวมท้ังอธิบายแรงระหว่าง เส้นลวดตวั นาคขู่ นานที่มกี ระแสไฟฟ้าผา่ น ๓. อธิบายหลักการทางานของแกลแวนอมิเตอร์และมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง รวมท้ังคานวณ ปรมิ าณต่าง ๆ ท่ีเกีย่ วข้อง ๔. สังเกต และอธิบายการเกิดอีเอ็มเอฟเหน่ียวนา กฎการเหน่ียวนาของฟาราเดย์ และคานวณ ปริมาณต่าง ๆ ทเี่ กี่ยวขอ้ ง รวมทั้งนาความรูเ้ ร่อื งอีเอม็ เอฟเหนย่ี วนาไปอธบิ ายการทางานของ เครอ่ื งใช้ไฟฟา้ ๕. อธบิ าย และคานวณความตา่ งศกั ยอ์ ารเ์ อ็มเอสและกระแสไฟฟ้าอารเ์ อ็มเอส ๖. อธิบายหลักการทางานและประโยชน์ของเครื่องกาเนิดไฟฟ้ากระแสไฟฟ้าสลับ ๓ เฟส การแปลงอเี อ็มเอฟของหม้อแปลง และคานวณปริมาณตา่ ง ๆ ทเี่ กย่ี วข้อง ๗. อธิบาย และคานวณความร้อนที่ทาให้สสารเปล่ียนอุณหภูมิ ความร้อนท่ีทาให้สสารเปลี่ยน สถานะ และความร้อนทเ่ี กดิ จากการถ่ายโอนตามกฎการอนรุ กั ษพ์ ลงั งาน ๑๙๔ หลักสตู รโรงเรียนมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

๘. อธิบายสภาพยืดหย่นุ และลักษณะการยืดและหดตวั ของวัสดุทเ่ี ป็นแทง่ เมื่อถกู กระทาดว้ ยแรง ค่าต่าง ๆ รวมท้ังทดลอง อธิบายและคานวณความเค้นตามยาว ความเครียดตามยาว และ มอดลุ ัสของยงั และนาความร้เู รื่องสภาพยดื หยนุ่ ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ๙. อธบิ าย และคานวณความดันเกจ ความดันสัมบูรณ์ และความดนั บรรยากาศ รวมทท้งั อธิบาย หลักการทางานของแมนอมเิ ตอร์ บารอมเิ ตอร์ และเครอ่ื งอัดไฮโดรลิก ๑๐. ทดลอง อธิบาย และคานวณขนาดของแรงพยงุ จากของไหล ๑๑. ทดลอง อธิบาย และคานวณความตงึ ผิวของของเหลว รวมท้ังสงั เกตและอธิบายแรงหนืดของ ของเหลว ๑๒. อธิบายสมบตั ิของของไหลอุดมคติ สมการความตอ่ เนื่อง และสมการแบรน์ ลู ลี รวมทั้งคานวณ ปริมาณต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง และนาความรู้เก่ียวกบั สมการความต่อเนอ่ื งและสมการแบรน์ ูลลี ไปอธบิ ายหลกั การทางานของอุปกรณต์ า่ ง ๆ ๑๓. อธิบายกฎของแก๊สอุดมคตแิ ละคานวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่ีเกีย่ วขอ้ ง ๑๔. อธิบายแบบจาลองของแก๊สอุดมคติ ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส และอัตราเร็วอาร์เอ็มเอสของ โมเลกลุ ของแก๊ส รวมทง้ั คานวณปริมาณต่าง ๆ ท่เี กีย่ วข้อง ๑๕. อธิบาย และคานวณงานท่ีทาโดยแก๊สในภาชนะปิดโดยความดันคงตัว และอธิบาย ความสมั พันธ์ระหว่างความร้อน พลงั งานภายในระบบ และงาน รวมทั้งคานวณปริมาณต่าง ๆ ที่เก่ียวข้องและนาความรู้เร่ืองพลังงานภายในระบบไปอธิบายหลักการทางานของเครื่ องใช้ ชวี ติ ประจาวัน รวมท้ังหมด ๑๕ ผลการเรยี นรู้ ๑๙๕ หลกั สตู รโรงเรยี นมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

รหสั วิชา ว๓๓๒๐๒ ช่อื วชิ า ฟสิ ิกส์ ๖ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๖ เวลาเรียน ๘๐ ชั่วโมง จานวนหน่วยกิต ๒.๐ หนว่ ยกิต คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษา การเกิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สเปกตรัมของคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า โพลาไรเซชัน ของคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า การประยุกต์ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า การสื่อสารโดยอาศัยคลื่น แม่เหล็กไฟฟ้า การแผ่คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าของวัตถุดา ทฤษฎีอะตอมของโบร์ ควอนตัมของแสง และโฟตอน ฟังก์ชันงานและพลังงานจลน์สูงสุดของโฟโตอิเล็กทริก สมมติฐานของเดอบรอยด์ กลศาสตร์ควอนตัมและการนาไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ แรงนิวเคลียสและพลังงานยึดเหน่ียว การค้นพบกัมมันตรังสี รังสีจากธาตุและไอโซโทปกัมมันตรังสี การสลายและสมการการสลาย กมั มนั ตภาพ คร่ึงชวี ิต ปฏิกริ ยิ านวิ เคลียร์และพลงั งานนิวเคลียร์ การคน้ คว้าวิจัยด้านฟิสิกส์อนภุ าค โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสงั เกต วเิ คราะห์ เปรยี บเทียบ อธบิ าย อภิปราย และสรปุ เพ่อื ให้เกดิ ความรู้ความเขา้ ใจ มคี วามสามารถในการตัดสินใจ มีทกั ษะปฏิบตั ิการทาง วิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรียนรใู้ นศตวรรษท่ี ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด แก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นยิ มท่ีเหมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. อธบิ ายการเกิดและลักษณะเฉพาะของคลืน่ แม่เหลก็ ไฟฟ้า แสงไม่โพลาไรส์ แสงโพลาไรส์เชิง เส้น และแผ่นโพลารอยด์ รวมทั้งอธิบายการนาคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในช่วงความถี่ต่าง ๆ ไป ประยุกตใ์ ชแ้ ละหลักการทางานของอุปกรณ์ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ๒. สืบค้น และอธิบายการส่ือสารโดยอาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการส่งผ่านสารสนเทศและ เปรยี บเทยี บการส่อื สารด้วยสญั ญาณแอนะล็อกกับสญั ญาณดจิ ิทลั ๓. อธิบายสมมติฐานของพลังค์ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ และการเกิดสเปกตรัมของอะตอม ไฮโดรเจน รวมท้ังคานวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ทเ่ี กีย่ วขอ้ ง ๔. อธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริกและคานวณพลังงานโฟตอน พลังงานจลน์ของโฟโต อิเล็กตรอนและฟงั ก์ชนั งานของโลหะ ๕. อธบิ ายทวภิ าวะของคลนื่ และอนภุ าค รวมทง้ั อธิบายและคานวณความยาวคล่ืนเดอบรอยล์ ๖. อธบิ ายกมั มันตภาพรงั สแี ละความแตกตา่ งของรังสแี อลฟา บตี าและแกมมา ๗. อธิบายและคานวณกมั มนั ตภาพของนวิ เคลียสกัมมนั รังสี รวมทงั้ ทดลอง อธิบาย และคานวณ จานวนนวิ เคลียสกัมมันตรงั สีทเ่ี หลอื จากการสลายและครึ่งชีวิต ๘. อธิบายแรงนิวเคลียร์ เสถียรภาพของนิวเคลียส และพลังงานยึดเหน่ียว รวมทั้งคานวณ ปริมาณตา่ ง ๆ ทเี่ กีย่ วข้อง ๙. อธบิ ายปฏกิ ริ ิยานวิ เคลยี ร์ ฟชิ ชนั และฟิวชัน รวมทงั้ คานวณพลังงานนวิ เคลยี ร์ ๑๐. อธิบายประโยชน์ของพลังงานนิวเคลียร์และรังสี รวมท้ังคานวณและการป้องกันรังสีในด้าน ตา่ ง ๆ ๑๑. อธิบายการค้นคว้าวิจัยด้านฟิสิกส์อนุภาค แบบจาลองมาตรฐาน และการใช้ประโยชน์จาก การค้นค้นวจิ ัยด้านฟสิ ิกส์อนุภาคในดา้ นตา่ ง ๆ รวมทง้ั หมด ๑๑ ผลการเรียนรู้ ๑๙๖ หลักสตู รโรงเรียนมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

รหัสวิชา ว๓๓๒๒๑ ชอื่ วิชา เคมี ๕ กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖ เวลาเรยี น ๖๐ ชั่วโมง จานวนหน่วยกิต ๑.๕ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษา พันธะของคาร์บอนในสารประกอบอินทรีย์ สูตรโครงสร้างของสารประกอบ อินทรีย์ หมู่ฟังก์ชัน ชื่อของสารประกอบอินทรีย์ ไอโซเมอร์ สมบัติของสารประกอบอินทรีย์ ปฏกิ ริ ยิ าของสารประกอบอนิ ทรยี ์ สารประกอบอินทรยี ใ์ นชีวติ ประจาวันและการนาไปใชป้ ระโยชน์ พอลิเมอร์และมอนอเมอร์ ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ โครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์ การปรบั ปรุงสมบัตขิ องพอลเิ มอร์ การแก้ปญั หาขยะจากพอลิเมอร์ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์ เปรยี บเทียบ อธบิ าย อภิปราย และสรุป เพอื่ ให้เกดิ ความรู้ความเข้าใจ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ มที กั ษะปฏบิ ตั ิการทาง วิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคดิ แก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านยิ มท่ีเหมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. สบื คน้ ข้อมลู และนาเสนอตวั อย่างสารประกอบอินทรีย์ทมี่ ีพันธะเดี่ยว พันธะคู่ หรอื พันธะสาม ทพี่ บในชีวติ ประจาวัน ๒. เขียนสูตรโครงสรา้ งลิวอสิ สูตรโครงสรา้ งแบบย่อ และสตู รโครงสร้างแบบเสน้ ของสารประกอบ อนิ ทรยี ์ ๓. วเิ คราะหโ์ ครงสรา้ ง และระบปุ ระเภทของสารประกอบอินทรียจ์ ากหมู่ฟงั กช์ นั ๔. เขียนสูตรโครงสรา้ งและเรยี กชื่อสารประกอบอินทรีย์ประเภทต่าง ๆ ท่มี หี ม่ฟู ังก์ชนั ไมเ่ กิน ๑ หมู่ ตามระบบ IUPAC ๕. เขยี นไอโซเมอรโ์ ครงสรา้ งของสารประกอบอินทรียป์ ระเภทต่าง ๆ ๖. วิเคราะห์ และเปรียบเทียบจุดเดือดและการละลายในน้าของสารประกอบอินทรีย์ท่ีมีหมู่ ฟังก์ชนั ขนาดโมเลกลุ หรอื โครงสรา้ งตา่ งกัน ๗. ระบุประเภทของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนและเขียนผลิตภัณฑ์จากปฏิกิริยาการเผาไหม้ ปฏกิ ิริยากบั โบรมนี หรือปฏิกิริยากับโพแทสเซยี มเปอร์แมงกาเนต ๘. เขยี นสมการเคมีและอธิบายการเกิดปฏกิ ิริยาเอสเทอริฟิเคชัน ปฏิกิริยาการสงั เคราะห์เอไมด์ ปฏิกิริยาไฮโดรลิซสิ และปฏิกริ ยิ าสะปอนนิฟิเคชนั ๙. ทดสอบปฏกิ ิริยาเอสเทอริฟเิ คชนั ปฏกิ ิริยาไฮโดรลซิ ิส และปฏิกริ ิยาสะปอนนิฟเิ คชนั ๑๐. สืบค้นข้อมูล และนาเสนอตัวอย่างการนาสารประกอบอินทรีย์ไปใช้ประโยชน์ในชีวิต ประจาวันและอุตสาหกรรม ๑๑. ระบุประเภทของปฏกิ ิริยาการเกิดพอลเิ มอรจ์ ากโครงสรา้ งของมอนอเมอร์หรือพอลิเมอร์ ๑๒. วิเคราะห์ และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างของพอลิเมอร์ รวมท้ังการนาไปใช้ ประโยชน์ ๑๓. ทดสอบ และระบปุ ระเภทของพลาสติกและผลิตภณั ฑ์ยาง รวมทั้งการนาไปใช้ประโยชน์ ๑๔. อธิบายผลของการปรับเปล่ียนโครงสร้าง และการสังเคราะห์พอลิเมอร์ที่มีต่อสมบัติของ พอลิเมอร์ ๑๙๗ หลักสูตรโรงเรียนมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

๑๕. สืบค้นข้อมูล และนาเสนอตัวอย่างผลกระทบจากการใช้และการกาจัดผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ และแนวทางแกไ้ ข รวมทง้ั หมด ๑๕ ผลการเรียนรู้ ๑๙๘ หลักสูตรโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

รหสั วชิ า ว๓๓๒๒๒ ช่อื วชิ า เคมี ๖ กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๖ เวลาเรียน ๖๐ ชั่วโมง จานวนหน่วยกิต ๑.๕ หนว่ ยกิต คาอธิบายรายวิชา ศึกษา การใช้ความร้ทู างเคมีในการแก้ปัญหา การบูรณาการความรใู้ นการแก้ปัญหา การนาเสนอผลงาน การเข้าร่วมประชมุ วิชาการ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วเิ คราะห์ เปรยี บเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรปุ เพอ่ื ให้เกดิ ความรู้ความเขา้ ใจ มีความสามารถในการตดั สินใจ มีทักษะปฏิบตั กิ ารทาง วิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรียนรใู้ นศตวรรษท่ี ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด แก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มจี ิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และค่านิยมทเ่ี หมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. กาหนดปัญหา และนาเสนอแนวทางการแก้ปัญหา โดยใช้ความรู้ทางเคมีจากสถานการณ์ท่ี เกิดข้นึ ในชวี ิตประจาวัน การประกอบอาชีพ หรืออตุ สาหกรรม ๒. แสดงหลักฐานถึงการบูรณาการความร้ทู างเคมรี ว่ มกับสาขาวิชาอน่ื รวมท้งั ทักษะกระบวนการ ทางวทิ ยาศาสตรห์ รอื กระบวนการออกแบบเชงิ วิศกรรม โดยเนน้ การวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และความคิดสรา้ งสรรค์ เพือ่ แกป้ ัญหาในสถานการณห์ รือประเด็นทสี่ นใจ ๓. นาเสนอผลงานหรือช้ินงานท่ีได้จากการแก้ปัญหาในสถานการณ์หรือประเด็นท่ีสนใจโดยใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศ ๔. แสดงหลักฐานการเข้าร่วมสัมมนา การเข้าร่วมประชุมวิชาการ หรือแสดงผลงานส่ิงประดิษฐ์ ในงานนทิ รรศการ รวมท้ังหมด ๔ ผลการเรยี นรู้ ๑๙๙ หลกั สตู รโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

รหัสวิชา ว๓๓๒๔๒ ชอื่ วชิ า ชวี วิทยา ๕ กลุ่มสาระการเรยี นวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๖ เวลาเรยี น ๖๐ ช่ัวโมง จานวนหนว่ ยกติ ๑.๕ หนว่ ยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศึกษา การรับรู้และการตอบสนองของสัตว์ โครงสร้างและการทางานของเซลล์ ประสาท ศูนย์ควบคุมระบบประสาทของมนุษย์ การทางานของระบบประสาท อวัยวะรับ ความรู้สึก การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง การเคลื่อนท่ีของสัตว์มีกระดูกสันหลัง การเคลื่อนที่ของมนุษย์ การทางานร่วมกันของต่อมไร้ท่อ และระบบประสาท ต่อมไร้ท่อ ฮอร์โมนและการทางานของฮอร์โมน การรักษาสมดุลของฮอร์โมน การสืบพันธุ์ของสัตว์ การสืบพันธุ์ของมนุษย์ การเจริญเติบโตของสัตว์ การศึกษาพฤติกรรมของ สัตว์ กลไกการเกิดพฤติกรรม ประเภทพฤติกรรมของสัตว์ ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมและ ววิ ฒั นาการของระบบประสาท การส่อื สารระหว่างสัตว์ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วเิ คราะห์ เปรียบเทยี บ อธบิ าย อภปิ ราย และสรปุ เพื่อให้เกดิ ความรู้ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มที กั ษะปฏิบัตกิ ารทาง วิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรียนรูใ้ นศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด แก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมทเี่ หมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างและหน้าท่ีของระบบประสาทของไฮดรา พลานาเรีย ไส้เดอื นดิน กงุ้ หอย แมลง และสัตวม์ กี ระดกู สนั หลัง ๒. อธิบายเก่ยี วกบั โครงร้างและหนา้ ที่ของเซลล์ประสาท ๓. อธิบายเก่ียวกับการเปล่ียนแปลงของศักย์ไฟฟ้าที่เย่ือหุ้มเซลล์ของเซลล์ประสาท และกลไก การถ่ายทอดกระแสประสาท ๔. อธบิ าย และสรปุ เกย่ี วกับโครงสร้างของระบบประสาทส่วนกลางและระบบประสาทรอบนอก ๕. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างและหนา้ ท่ีของส่วนต่าง ๆ ในสมองส่วนหน้า สมองส่วนกลาง สมองสว่ นหลัง และไขสันหลงั ๖. สืบค้นข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และยกตัวอย่างการทางานของระบบประสาทโซมาติก และระบบประสาทอัตโนวัติ ๗. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของตา หู จมูก ลิ้น และผิวหนังของมนุษย์ ยกตวั อย่างโรคต่าง ๆ ท่เี กี่ยวขอ้ ง และบอกแนวทางในการดแู ลป้องกัน และรกั ษา ๘. สังเกต และอธิบายการหาตาแหน่งของจุดบอด โฟเวีย และความไวในการรับสัมผัสของ ผวิ หนงั ๙. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างและหน้าท่ีของอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับ การเคล่ือนท่ขี องแมงกระพรนุ หมึก ดาวทะเล ไส้เดอื นดนิ แมลง ปลา และนก ๑๐. สืบค้นข้อมูล และอธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของกระดูกและกล้ามเนื้อท่ีเกี่ยวข้องกับ การเคลือ่ นไหวและการเคล่อื นทขี่ องมนุษย์ ๑๑. สังเกต และอธิบายการทางานของข้อต่อชนิดตา่ ง ๆ และการทางานของกล้ามเนือ้ โครงร่างที่ เกย่ี วข้องกบั การเคลอื่ นไหวและการเคล่อื นท่ขี องมนุษย์ ๒๐๐ หลักสตู รโรงเรยี นมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook