Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ2563-2

หลักสูตรโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ2563-2

Published by Keera Porn, 2020-08-06 21:31:15

Description: หลักสูตรโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ2563-2

Search

Read the Text Version

รหัสวชิ า ญ๓๒๒๐๒ ชือ่ วชิ า ภาษาญปี่ นุ่ ๓ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๕ เวลาเรยี น ๘๐ ช่ัวโมง จานวนหน่วยกติ ๒.๐ หนว่ ยกิต คาอธิบายรายวิชา ศึกษาและฝึกทักษะฟัง พูด อ่าน เขียน ประโยค ข้อความบทอ่าน คาส่ัง คาขอร้อง คาแนะนา รวมทั้งเข้าใจภาษาท่าทาง ความรู้สึกของผู้พูด พูดและเขียนเก่ียวกับ กิจวัตรประจาวนั ประสบการณ์เหตุการณ์ต่าง ๆ ใช้ภาษาตามมารยาททางสังคมและแสดงความคิดเห็น แสดง ความตอ้ งการ แสดงความร้สู ึกของตนเกี่ยวกับเรือ่ งราวตา่ ง ๆ และใช้ภาษาท่าทางในการสอ่ื สารได้ เหมาะสม ถ่ายทอดขอ้ มลู จากการฟังและการอ่าน สร้างองคค์ วามรจู้ ากส่ือการเรยี นทางภาษาและ ผลจากการฝึกทักษะต่าง ๆ เข้าใจขนบธรรมเนยี มประเพณีและวัฒนธรรมญีป่ ุ่น ความเหมือนและ ความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของญ่ีปุ่นกับของไทย เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและ วัฒนธรรมอย่างสนุกสนาน เห็นคุณค่าของการเรียนภาษาญี่ปุ่น แสวงหาความรู้จากส่ือ สิ่งพิมพ์ จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ โดยเชื่อมโยงกับสาระการเรยี นรู้อื่น ใช้ภาษาญ่ีปุ่นตามสถานการณ์ต่าง ๆ ภายในโรงเรียนและชุมชน เลือกวิธีการเรียนภาษาญ่ีปุ่นท่ีเหมาะสมกับตนเอง และปฏิบัติงาน รว่ มกบั ผูอ้ ่นื อย่างมคี วามสขุ โดยใช้ทักษะกระบวนการทางภาษา ทักษะการปฏิบัติ ทักษะกระบวนการคิด และ การเข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม ในการเรียนภาษา เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะฟัง พูด อ่าน และเขียน รักการอ่าน มีสุนทรีย- ภาพทางภาษา สามารถใช้ภาษาญี่ปนุ่ สอ่ื สารในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจาวันไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง เหมาะสมกบั วยั มเี จตคตทิ ่ดี ีต่อการเรียนรูภ้ าษา ตลอดจนมีคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ผลการเรียนรู้ ๑. อ่านและเขยี นคนั จิไดต้ ามหลกั การอ่านและเขยี น ๒. สนทนาเกีย่ วกบั การให้และการรับของได้ ๓. ถามและบอกประสบการทเ่ี คยทา และอธิบายขนั้ ตอนการทาส่ิงใดส่ิงหนึ่งได้ ๔. ขอ ให้ข้อมลู อธิบายเสน้ ทางการเดินทางได้ ๕. สนทนาเกี่ยวกบั อาการป่วยและการใหค้ าแนะนาเรื่องสขุ ภาพได้ ๖. สนทนาแลกเปลย่ี นข้อมูลเกี่ยวกบั การเปลี่ยนแปลงของตัวเองและ ๗. สนทนาแลกเปล่ียนข้อมูลเกี่ยวกับการเปล่ียนแปลงของสังคมโดยท่ัวไปได้ ค้นคว้า รวบรวม สรุปข้อมูลเก่ียวกับเรื่อง ค้นคว้า รวบรวมสรุปข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง นกกระเรียนพันตัว ประวตั ิศาสตรญ์ ีป่ ุ่น การต์ ูนญ่ปี ุ่นได้ รวมทัง้ หมด ๗ ผลการเรียนรู้ ๕๕๑ หลักสตู รโรงเรียนมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

รหัสวิชา ญ๓๓๒๐๑ ชอื่ วชิ า ภาษาญี่ปุ่น ๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๖ เวลาเรยี น ๘๐ ช่ัวโมง จานวนหนว่ ยกิต ๒.๐ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาและฝึกทักษะฟัง พูด อ่าน เขียน ประโยค ข้อความบทอ่าน คาสั่ง คาขอร้อง คาแนะนา รวมทั้งเข้าใจภาษาท่าทาง ความรู้สึกของผู้พูด พูดและเขียนเกี่ยวกับเรื่องของตนเอง เหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม ใช้ภาษาตามมารยาททางสังคมและแสดงความคิดเห็น แสดง ความต้องการ เสนอความช่วยเหลือ แสดงความรู้สึกของตนเกี่ยวกับเรอ่ื งราวต่าง ๆ และใช้ภาษา ท่าทางในการส่ือสารได้เหมาะสม สร้างองค์ความรู้จากส่ือการเรียนทางภาษาและผลจากการฝึก ทักษะต่าง ๆ เข้าใจขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมญี่ปุ่น ความเหมือนและความแตกต่าง ระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของญ่ีปนุ่ กับของไทย เข้ารว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอย่าง สนุกสนาน เห็นคุณค่าของการเรียนภาษาญี่ปุ่น แสวงหาความรู้จากส่ือ สิ่งพิมพ์จากแหล่งเรียนรู้ ต่าง ๆ โดยเช่ือมโยงกับสาระการเรียนรู้อื่น ใช้ภาษาญ่ีปุ่นตามสถานการณ์ต่าง ๆ ภายในโรงเรยี น และชุมชน ใช้ภาษาญ่ีปุ่นเพ่ือส่ือสารในการทางาน การศึกษาต่อและเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของ โรงเรียนและชุมชนในรูปแบบต่าง ๆ เลือกวิธีการเรียนภาษาญ่ีปุ่นที่เหมาะสมกับตนเองและมี ประสิทธิภาพมากข้นึ และปฏบิ ัตงิ านรว่ มกบั ผอู้ ืน่ อยา่ งมคี วามสขุ โดยใช้ทักษะกระบวนการทางภาษา ทักษะการปฏิบัติ ทักษะกระบวนการคิด และ การเข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม ในการเรยี นภาษา เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะฟัง พูด อ่าน และเขียน รักการอ่าน มีสุนทรีย- ภาพทางภาษา สามารถใช้ภาษาญ่ีปุ่นส่ือสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจาวัน ได้อย่าง ถกู ตอ้ ง เหมาะสมกบั วัย มีเจตคติทดี่ ีต่อการเรียนรู้ภาษา ตลอดจนมีคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ผลการเรียนรู้ ๑. อ่านและเขยี นคันจิได้ตามหลกั การอ่านและเขยี น ๒. สนทนาเก่ยี วกับกฎระเบียบของโรงเรียนได้ ๓. ขออนุญาตทาสิ่งใดสิง่ หนง่ึ ได้ ๔. ถา่ ยทอดขอ้ มลู จากการฟังและการอ่านได้ ๕. บอกส่งิ ท่ตี นอยากจะเป็นหรอื อยากจะทาได้ และบอกความตง้ั ใจทีจ่ ะทาได้ ๖. อธบิ ายวธิ กี ารใชเ้ ครื่องอตั โนมัติตา่ ง ๆ ได้ ๗. ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูลเร่ืองเคร่ืองแบบนักเรยี น การกาจัดขยะ อนาคต อาชีพยอด นิยมของนกั เรยี นมธั ยมศึกษาตอนปลาย และตูข้ ายสินคา้ อัตโนมัติได้ รวมท้ังหมด ๗ ผลการเรยี นรู้ ๕๕๒ หลักสูตรโรงเรียนมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

รหสั วิชา ญ๓๓๒๐๒ ชือ่ วิชา ภาษาญีป่ ุ่น ๖ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๖ เวลาเรยี น ๘๐ ช่ัวโมง จานวนหนว่ ยกติ ๒.๐ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษาและฝึกทักษะฟัง พูด อ่าน เขียน ประโยค ข้อความบทอ่าน คาส่ัง คาขอร้อง คาแนะนา รวมท้ังเข้าใจภาษาท่าทาง ความรู้สึกของผู้พูด พูดและเขียนเกี่ยวกับเรื่องของตนเอง เหตุการณ์ต่าง ๆในสังคมและส่ิงแวดล้อม ใช้ภาษาตามมารยาททางสังคมและแสดงความคิดเห็น แสดงความต้องการ เสนอความช่วยเหลือ แสดงความรู้สึกของตนเกี่ยวกับเรอ่ื งราวต่าง ๆ และใช้ ภาษาท่าทางในการส่ือสารได้เหมาะสม สร้างองค์ความรู้จากส่ือการเรียนทางภาษาและผลจาก การฝึกทักษะต่าง ๆ เข้าใจขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมญี่ปุ่น ความเหมือนและ ความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของญ่ีปุ่นกับของไทย เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและ วัฒนธรรมอย่างสนุกสนาน เห็นคุณค่าของการเรียนภาษาญ่ีปุ่น แสวงหาความรู้จากสื่อ ส่ิงพิมพ์ จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ โดยเชื่อมโยงกับสาระการเรยี นรู้อื่น ใช้ภาษาญ่ีปุ่นตามสถานการณ์ต่าง ๆ ภายในโรงเรียนและชุมชนด้วยวิธีการที่หลากหลายย่ิงขึ้น ใช้ภาษาญี่ปุ่นเพื่อส่ือสารในการทางาน การศกึ ษาต่อและเผยแพร่ขอ้ มูลข่าวสารของโรงเรยี นและชุมชนในรูปแบบตา่ ง ๆ เลือกวิธกี ารเรียน ภาษาญ่ีปุ่นท่ีเหมาะสมกับตนเองและมีประสิทธิภาพมากข้ึน และปฏิบัติงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมี ความสุข โดยใช้ทักษะกระบวนการทางภาษา ทักษะการปฏิบัติ ทักษะกระบวนการคิด และ การเขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม ในการเรยี นภาษา เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะฟัง พูด อ่าน และเขียน รักการอ่าน มีสุนทรีย- ภาพทางภาษา สามารถใช้ภาษาญ่ีปุ่นสื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจาวัน ได้อย่าง ถูกตอ้ ง เหมาะสมกับวัย มเี จตคติทีด่ ตี อ่ การเรียนรู้ภาษา ตลอดจนมีคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ผลการเรยี นรู้ ๑. อ่านและเขยี นคนั จิได้ตามหลักการอ่านและเขียน ๒. สนทนาเกี่ยวกบั ปัญหาของตนเองได้ และพดู ขอโทษในเรอื่ งทตี่ นเองทาผิดพลาดได้ ๓. ถา่ ยทอดเรื่องราวเก่ยี วกับงานเทศกาลต่าง ๆ ขนบธรรมเนยี มประเพณีวฒั นธรรม ความเชอื่ และความเปน็ มาของสิ่งต่าง ๆ ได้ ๔. พดู สนุ ทรพจน์โดยใชภ้ าษาสภุ าพได้ ๕. คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปข้อมูลเรอื่ งแผน่ ดินไหว เทศกาลตา่ ง ๆ ของญ่ีปุน่ โอฟุโระ และพธิ ี สาเร็จการศึกษาได้ รวมทง้ั หมด ๕ ผลการเรียนรู้ ๕๕๓ หลักสตู รโรงเรยี นมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

รหสั วชิ า ม๓๑๒๐๑ ชือ่ วชิ า ภาษามลายู ๑ กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๔ เวลาเรียน ๔๐ ช่ัวโมง จานวนหนว่ ยกิต ๑.๐ หนว่ ยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศกึ ษาไวยากรณ์และศัพทข์ น้ั พืน้ ฐาน การฝึกฟัง พดู อ่าน เขียนโดยเน้นศพั ท์สานวนท่ี เก่ียวเน่ืองกับชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เรียนรู้ระบบเสียงและการออก เสียงภาษามลายู การถ่ายและอ่าน สัทอักษร การฝึกอ่านออกเสียงโดยเน้นการแก้ปัญหาการออก เสียงของผู้เรียนเป็นรายบุคคล และฝึกเขียนเรียงความในหัวข้อเฉพาะและเชิงสร้างสรรค์โดยเนน้ การใชศ้ ัพท์ สานวนและโครงสรา้ งไวยากรณ์ขนั้ พน้ื ฐาน โดยใช้กระบวนการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน และกระบวนการคิดวิเคราะห์ ใช้ภาษาเป็นเคร่ืองมือในการรับสารและส่งสารได้อย่างคล่องแคล่วถูกต้อง เข้าถึงสารได้อย่าง ชัดเจนรวมท้ังกระบวนการสืบเสาะหาความรูก้ ระบวนการกลุ่ม การอภิปราย และมีความสามารถ ในการสืบคน้ ขอ้ มลู เพื่อให้มีเจตคติที่ดีต่อวิชาภาษามลายู รักการสืบค้น มีทักษะท้ังการฟัง พูด อ่าน เขียนและมีความสุขในการเรียนรภู้ าษามลายู มีค่านิยมท่ีพึงประสงค์ ใฝ่เรียนใฝ่รู้มีความมุ่งมั่นใน การทางาน มีจิตใจช่วยเหลือเพอื่ นร่วมหอ้ งและรกั ความเป็นไทย มีความเข้าใจ เรียนรู้ และศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย รวมถึงประเทศต่าง ๆ ที่ใช้ภาษามลายู เป็นภาษาราชการ มีความรทู้ างด้านเศรษฐกิจ สังคมและวฒั นธรรม ผลการเรยี นรู้ ๑. อ่านออกเสยี งตัวอกั ษร คาศัพท์ กล่มุ คา ประโยค ตามหลกั การอา่ นในระบบเสยี งภาษามลายู ๒. ตอบคาถามจากการฟงั และอ่านบทสนทนา หรอื ตอบคาถามจากการดูภาพประกอบ ๓. เขียนประโยคที่ซับซ้อน ในเรื่องท่ีเก่ียวกับตนเองและสิ่งแวดล้อมใกล้ตัวได้ ถูกต้องตามหลัก ไวยากรณ์ ๔. บอกความเหมือน หรือความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ การใช้ เครือ่ งหมายวรรคตอน และการลาดับคาตามโครงสรา้ งประโยคของภาษามลายู ๕. บอกข้อมูล และความสาคัญของเทศกาล วันสาคัญ งานฉลอง ชีวิตความเป็นอยู่ของ วัฒนธรรมมลายู ๖. มีความรู้ความเข้าใจทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมของประเทศมาเลเซีย และ ประเทศอื่น ๆ ทีใ่ ช้ภาษามลายู รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรียนรู้ ๕๕๔ หลกั สูตรโรงเรยี นมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

รหัสวิชา ม๓๑๒๐๒ ชื่อวชิ า ภาษามลายู ๒ กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๔ เวลาเรียน ๔๐ ช่ัวโมง จานวนหนว่ ยกติ ๑.๐ หนว่ ยกิต คาอธบิ ายรายวชิ า ศกึ ษาไวยากรณ์และศัพท์ขน้ั พ้นื ฐาน การฝึกฟัง พดู อ่าน เขียนโดยเน้นศพั ท์สานวนท่ี เกี่ยวเนื่องกับชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เรียนรู้ระบบเสียงและการออก เสียงภาษามลายู การถ่ายและอ่าน สัทอักษร การฝึกอ่านออกเสียงโดยเน้นการแก้ปัญหาการออก เสียงของผู้เรียนเป็นรายบุคคล และฝึกเขียนเรียงความในหัวข้อเฉพาะและเชิงสร้างสรรค์โดยเนน้ การใช้ศัพท์ สานวนและโครงสรา้ งไวยากรณ์ขั้นพน้ื ฐาน โดยใช้กระบวนการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน และกระบวนการคิดวิเคราะห์ ใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการรับสารและส่งสารได้อย่างคล่องแคล่วถูกต้อง เข้าถึงสารได้อย่าง ชัดเจนรวมท้ังกระบวนการสืบเสาะหาความรูก้ ระบวนการกลุ่ม การอภิปราย และมคี วามสามารถ ในการสบื คน้ ขอ้ มลู เพื่อให้มีเจตคติท่ีดีต่อวิชาภาษามลายู รักการสืบค้น มีทักษะทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียนและมีความสุขในการเรียนร้ภู าษามลายู มีค่านิยมท่ีพึงประสงค์ ใฝ่เรียนใฝ่รู้มีความมุ่งมั่นใน การทางาน มีจิตใจช่วยเหลือเพื่อนร่วมห้องและรกั ความเป็นไทย มีความเข้าใจ เรียนรู้ และศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย รวมถึงประเทศต่าง ๆ ท่ีใช้ภาษามลายู เป็นภาษาราชการ มคี วามรู้ทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ผลการเรยี นรู้ ๑. อา่ นออกเสียงตวั อักษร คาศพั ท์ กล่มุ คา ประโยค ตามหลกั การอา่ นในระบบเสยี งภาษามลายู ๒. ตอบคาถามจากการฟงั และอ่านบทสนทนา หรอื ตอบคาถามจากการดูภาพประกอบ ๓. เขียนประโยคท่ีซับซ้อน ในเรื่องท่ีเก่ียวกับตนเองและส่ิงแวดล้อมใกล้ตัวได้ ถูกต้องตามหลัก ไวยากรณ์ ๔. บอกความเหมือน หรือความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ การใช้ เครื่องหมายวรรคตอน และการลาดับคาตามโครงสรา้ งประโยคของภาษามลายู ๕. บอกข้อมูล และความสาคัญของเทศกาล วันสาคัญ งานฉลอง ชีวิตความเป็นอยู่ของ วฒั นธรรมมลายู ๖. มีความรู้ความเข้าใจทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมของประเทศมาเลเซีย และ ประเทศอน่ื ๆ ทใี่ ช้ภาษามลายู รวมท้งั หมด ๖ ผลการเรยี นรู้ ๕๕๕ หลักสูตรโรงเรยี นมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

รหสั วชิ า ม๓๒๒๐๑ ชือ่ วิชา ภาษามลายู ๓ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๕ เวลาเรียน ๔๐ ช่ัวโมง จานวนหนว่ ยกติ ๑.๐ หนว่ ยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศกึ ษาไวยากรณ์และศพั ทข์ น้ั พืน้ ฐาน การฝึกฟัง พูด อ่าน เขียนโดยเน้นศัพท์สานวนที่ เก่ียวเน่ืองกับชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เรียนรู้ระบบเสียงและการออก เสียงภาษามลายู การถ่ายและอ่าน สัทอักษร การฝึกอ่านออกเสียงโดยเน้นการแก้ปัญหาการออก เสียงของผู้เรียนเป็นรายบุคคล และฝึกเขียนเรียงความในหัวข้อเฉพาะและเชิงสร้างสรรค์โดยเนน้ การใชศ้ ัพท์ สานวนและโครงสร้างไวยากรณ์ข้นั พน้ื ฐาน โดยใช้กระบวนการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน และกระบวนการคิดวิเคราะห์ ใช้ภาษาเป็นเคร่ืองมือในการรับสารและส่งสารได้อย่างคล่องแคล่วถูกต้อง เข้าถึงสารได้อย่าง ชัดเจนรวมท้ังกระบวนการสืบเสาะหาความรกู้ ระบวนการกลุ่ม การอภิปราย และมคี วามสามารถ ในการสืบคน้ ขอ้ มลู เพื่อให้มีเจตคติท่ีดีต่อวิชาภาษามลายู รักการสืบค้น มีทักษะท้ังการฟัง พูด อ่าน เขียนและมีความสุขในการเรียนรูภ้ าษามลายู มีค่านิยมที่พึงประสงค์ ใฝ่เรียนใฝ่รู้มีความมุ่งมั่นใน การทางาน มีจิตใจช่วยเหลือเพอ่ื นร่วมห้องและรกั ความเป็นไทย มีความเข้าใจ เรียนรู้ และศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย รวมถึงประเทศต่าง ๆ ท่ีใช้ภาษามลายู เป็นภาษาราชการ มีความรทู้ างดา้ นเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ผลการเรยี นรู้ ๑. อ่านออกเสยี งตัวอกั ษร คาศพั ท์ กล่มุ คา ประโยค ตามหลกั การอ่านในระบบเสยี งภาษามลายู ๒. ตอบคาถามจากการฟงั และอา่ นบทสนทนา หรอื ตอบคาถามจากการดูภาพประกอบ ๓. เขียนประโยคที่ซับซ้อน ในเร่ืองที่เก่ียวกับตนเองและส่ิงแวดล้อมใกล้ตัวได้ ถูกต้องตามหลัก ไวยากรณ์ ๔. บอกความเหมือน หรือความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ การใช้ เครือ่ งหมายวรรคตอน และการลาดบั คาตามโครงสรา้ งประโยคของภาษามลายู ๕. บอกข้อมูล และความสาคัญของเทศกาล วันสาคัญ งานฉลอง ชีวิตความเป็นอยู่ของ วัฒนธรรมมลายู ๖. มีความรู้ความเข้าใจทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมของประเทศมาเลเซีย และ ประเทศอื่น ๆ ทีใ่ ชภ้ าษามลายู รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรียนรู้ ๕๕๖ หลกั สตู รโรงเรยี นมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

รหัสวิชา ม๓๒๒๐๒ ชอ่ื วชิ า ภาษามลายู ๔ กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ เวลาเรียน ๔๐ ช่ัวโมง จานวนหนว่ ยกิต ๑.๐ หนว่ ยกิต คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาไวยากรณแ์ ละศัพท์ขน้ั พืน้ ฐาน การฝกึ ฟัง พูด อ่าน เขยี นโดยเน้นศัพทส์ านวนท่ี เกี่ยวเน่ืองกับชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เรียนรู้ระบบเสียงและการออก เสียงภาษามลายู การถ่ายและอ่าน สัทอักษร การฝึกอ่านออกเสียงโดยเน้นการแก้ปัญหาการออก เสียงของผู้เรียนเป็นรายบุคคล และฝึกเขียนเรียงความในหัวข้อเฉพาะและเชิงสร้างสรรค์โดยเน้น การใชศ้ ัพท์ สานวนและโครงสร้างไวยากรณข์ ัน้ พื้นฐาน โดยใช้กระบวนการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน และกระบวนการคิดวิเคราะห์ ใช้ภาษาเป็นเคร่ืองมือในการรับสารและส่งสารได้อย่างคล่องแคล่วถูกต้อง เข้าถึงสารได้อย่าง ชัดเจนรวมทั้งกระบวนการสืบเสาะหาความรกู้ ระบวนการกลุ่ม การอภิปราย และมีความสามารถ ในการสบื ค้นขอ้ มลู เพื่อให้มีเจตคติที่ดีต่อวิชาภาษามลายู รักการสืบค้น มีทักษะทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียนและมีความสุขในการเรียนรู้ภาษามลายู มีค่านิยมท่ีพึงประสงค์ ใฝ่เรียนใฝ่รู้มีความมุ่งม่ันใน การทางาน มีจิตใจช่วยเหลือเพื่อนร่วมหอ้ งและรักความเป็นไทย มีความเข้าใจ เรียนรู้ และศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย รวมถึงประเทศต่าง ๆ ท่ีใช้ภาษามลายู เป็นภาษาราชการ มคี วามรู้ทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและวฒั นธรรม ผลการเรียนรู้ ๑. อา่ นออกเสียงตวั อักษร คาศพั ท์ กลมุ่ คา ประโยค ตามหลักการอ่านในระบบเสียงภาษามลายู ๒. ตอบคาถามจากการฟงั และอ่านบทสนทนา หรอื ตอบคาถามจากการดูภาพประกอบ ๓. เขียนประโยคท่ีซับซ้อน ในเร่ืองท่ีเก่ียวกับตนเองและสิ่งแวดล้อมใกล้ตัวได้ ถูกต้องตามหลัก ไวยากรณ์ ๔. บอกความเหมือน หรือความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ การใช้ เครอื่ งหมายวรรคตอน และการลาดับคาตามโครงสร้างประโยคของภาษามลายู ๕. บอกข้อมูล และความสาคัญของเทศกาล วันสาคัญ งานฉลอง ชีวิตความเป็นอยู่ของ วฒั นธรรมมลายู ๖. มีความรู้ความเข้าใจทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมของประเทศมาเลเซีย และ ประเทศอน่ื ๆ ทใี่ ช้ภาษามลายู รวมท้งั หมด ๖ ผลการเรียนรู้ ๕๕๗ หลักสตู รโรงเรียนมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

รหสั วชิ า ม๓๓๒๐๑ ชือ่ วชิ า ภาษามลายู ๕ กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๖ เวลาเรียน ๔๐ ช่ัวโมง จานวนหนว่ ยกิต ๑.๐ หน่วยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศกึ ษาไวยากรณ์และศพั ทข์ น้ั พ้ืนฐาน การฝึกฟัง พดู อา่ น เขียนโดยเนน้ ศัพทส์ านวนที่ เก่ียวเน่ืองกับชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เรียนรู้ระบบเสียงและการออก เสียงภาษามลายู การถ่ายและอ่าน สัทอักษร การฝึกอ่านออกเสียงโดยเน้นการแก้ปญั หาการออก เสียงของผู้เรียนเป็นรายบุคคล และฝึกเขียนเรียงความในหัวข้อเฉพาะและเชิงสร้างสรรค์โดยเน้น การใชศ้ ัพท์ สานวนและโครงสร้างไวยากรณ์ข้นั พน้ื ฐาน โดยใช้กระบวนการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน และกระบวนการคิดวิเคราะห์ ใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการรับสารและส่งสารได้อย่างคล่องแคล่วถูกต้อง เข้าถึงสารได้อย่าง ชัดเจนรวมท้ังกระบวนการสืบเสาะหาความรู้กระบวนการกลุ่ม การอภิปราย และมีความสามารถ ในการสืบคน้ ขอ้ มลู เพื่อให้มีเจตคติท่ีดีต่อวิชาภาษามลายู รักการสืบค้น มีทักษะทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียนและมีความสุขในการเรียนรู้ภาษามลายู มีค่านิยมที่พึงประสงค์ ใฝ่เรียนใฝ่รู้มีความมุ่งมั่นใน การทางาน มีจิตใจช่วยเหลือเพ่อื นร่วมห้องและรกั ความเป็นไทย มีความเข้าใจ เรียนรู้ และศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย รวมถึงประเทศต่าง ๆ ที่ใช้ภาษามลายู เป็นภาษาราชการ มคี วามรู้ทางด้านเศรษฐกจิ สังคมและวฒั นธรรม ผลการเรยี นรู้ ๑. อ่านออกเสยี งตัวอกั ษร คาศพั ท์ กลุ่มคา ประโยค ตามหลกั การอา่ นในระบบเสยี งภาษามลายู ๒. ตอบคาถามจากการฟงั และอา่ นบทสนทนา หรอื ตอบคาถามจากการดภู าพประกอบ ๓. เขียนประโยคท่ีซับซ้อน ในเร่ืองที่เกี่ยวกับตนเองและส่ิงแวดล้อมใกล้ตัวได้ ถูกต้องตามหลัก ไวยากรณ์ ๔. บอกความเหมือน หรือความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ การใช้ เครือ่ งหมายวรรคตอน และการลาดับคาตามโครงสร้างประโยคของภาษามลายู ๕. บอกข้อมูล และความสาคัญของเทศกาล วันสาคัญ งานฉลอง ชีวิตความเป็นอยู่ของ วัฒนธรรมมลายู ๖. มีความรู้ความเข้าใจทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมของประเทศมาเลเซีย และ ประเทศอื่น ๆ ทีใ่ ช้ภาษามลายู รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรยี นรู้ ๕๕๘ หลักสูตรโรงเรียนมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

รหัสวิชา ม๓๓๒๐๒ ชื่อวิชา ภาษามลายู ๖ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖ เวลาเรียน ๔๐ ช่ัวโมง จานวนหนว่ ยกิต ๑.๐ หนว่ ยกิต คาอธบิ ายรายวชิ า ศกึ ษาไวยากรณ์และศพั ทข์ ัน้ พืน้ ฐาน การฝึกฟัง พดู อ่าน เขียนโดยเน้นศพั ท์สานวนที่ เกี่ยวเนื่องกับชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เรียนรู้ระบบเสียงและการออก เสียงภาษามลายู การถ่ายและอ่าน สัทอักษร การฝึกอ่านออกเสียงโดยเน้นการแก้ปัญหาการออก เสียงของผู้เรียนเป็นรายบุคคล และฝึกเขียนเรียงความในหัวข้อเฉพาะและเชิงสร้างสรรค์โดยเนน้ การใช้ศัพท์ สานวนและโครงสร้างไวยากรณ์ข้นั พน้ื ฐาน โดยใช้กระบวนการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน และกระบวนการคิดวิเคราะห์ ใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการรับสารและส่งสารได้อย่างคล่องแคล่วถูกต้อง เข้าถึงสารได้อย่าง ชัดเจนรวมท้ังกระบวนการสืบเสาะหาความรกู้ ระบวนการกลุ่ม การอภิปราย และมีความสามารถ ในการสบื คน้ ขอ้ มลู เพื่อให้มีเจตคติที่ดีต่อวิชาภาษามลายู รักการสืบค้น มีทักษะท้ังการฟัง พูด อ่าน เขียนและมีความสุขในการเรียนรภู้ าษามลายู มีค่านิยมท่ีพึงประสงค์ ใฝ่เรียนใฝ่รู้มีความมุ่งมั่นใน การทางาน มีจิตใจช่วยเหลือเพอ่ื นร่วมหอ้ งและรกั ความเปน็ ไทย มีความเข้าใจ เรียนรู้ และศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย รวมถึงประเทศต่าง ๆ ท่ีใช้ภาษามลายู เป็นภาษาราชการ มคี วามรู้ทางดา้ นเศรษฐกิจ สังคมและวฒั นธรรม ผลการเรยี นรู้ ๑. อา่ นออกเสียงตวั อกั ษร คาศพั ท์ กลุ่มคา ประโยค ตามหลักการอ่านในระบบเสียงภาษามลายู ๒. ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นบทสนทนา หรอื ตอบคาถามจากการดูภาพประกอบ ๓. เขียนประโยคที่ซับซ้อน ในเร่ืองที่เกี่ยวกับตนเองและส่ิงแวดล้อมใกล้ตัวได้ ถูกต้องตามหลัก ไวยากรณ์ ๔. บอกความเหมือน หรือความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ การใช้ เครื่องหมายวรรคตอน และการลาดับคาตามโครงสร้างประโยคของภาษามลายู ๕. บอกข้อมูล และความสาคัญของเทศกาล วันสาคัญ งานฉลอง ชีวิตความเป็นอยู่ของ วฒั นธรรมมลายู ๖. มีความรู้ความเข้าใจทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมของประเทศมาเลเซีย และ ประเทศอน่ื ๆ ท่ีใชภ้ าษามลายู รวมท้งั หมด ๖ ผลการเรยี นรู้ ๕๕๙ หลักสตู รโรงเรยี นมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

การจดั กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน เปน็ กิจกรรมที่มุ่งใหผ้ ู้เรยี นพฒั นาตนเองตามศักยภาพ พัฒนา อยา่ งรอบดา้ นเพอื่ ความเปน็ มนษุ ย์ที่สมบูรณ์ ทง้ั รา่ งกาย สตปิ ัญญา อารมณ์ และสงั คม เสริมสร้าง ให้เป็นผู้มีศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลูกฝังและสร้างจิตสานึกของการทาประโยชน์เพื่อ สังคม สามารถจดั การตนเองได้ และอย่รู ว่ มกับผอู้ น่ื อยา่ งมีความสขุ โรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ ได้จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โดยแบ่งออกเป็น ๓ ลักษณะ ดังนี้ ๑. กจิ กรรมแนะแนว เป็นกจิ กรรมที่สง่ เสริมและพัฒนานักเรยี นให้ร้จู กั ตนเอง รู้รักษ์ สิ่งแวดล้อม สามารถคิดตัดสินใจ คดิ แก้ปัญหา กาหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตทง้ั ด้านการเรียนและ อาชีพ สามารถปรับตนได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังช่วยให้ครรู ู้จักและเข้าใจผู้เรียน ทั้งยังเป็น กิจกรรมทีช่ ว่ ยเหลือ และใหค้ าปรกึ ษาแก่ผปู้ กครองในการมีส่วนรว่ มพัฒนาผู้เรยี น นกั เรียนทุกคนตอ้ งเขา้ ร่วมกจิ กรรมแนะแนว ๑๕ ช่ัวโมงต่อภาคเรยี น แนวการจดั กจิ กรรมแนะแนว ๑. ศกึ ษาวเิ คราะห์สภาพปัญหา ความต้องการ ความสนใจ ธรรมชาตขิ องผู้เรยี น ๒. วิเคราะห์สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ วิสัยทัศน์ของ สถานศึกษา และวเิ คราะห์ข้อมูลของผเู้ รียนเป็นรายบคุ คล ๓. กาหนดสัดส่วนของกิจกรรมแนะแนวให้ครอบคลุมด้านการศึกษา ด้านอาชพี ด้านส่วนตัวและสังคม โดยยึดสภาพปัญหา ความต้องการ ความสนใจ ตลอดจนธรรมชาติผู้เรียน และเป้าหมายของสถานศึกษา โดยครู ผู้ปกครอง และผเู้ รยี นมีส่วนร่วม ๔. กาหนดวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรมแนะแนวของสถานศึกษา เป็นระดับ การศกึ ษา และชัน้ ปี ๕. ออกแบบการจดั กิจกรรมแนะแนว ประกอบด้วย วัตถปุ ระสงค์ การจัดกจิ กรรม เวลาจัดกจิ กรรม หลักฐานการทากจิ กรรม และการประเมินผล ๖. จัดทาแผนการจัดกิจกรรมแนะแนวรายช่ัวโมง ประกอบด้วย ชื่อกิจกรรม จดุ ประสงค์ เวลาเนือ้ หา/สาระ วิธีดาเนินกจิ กรรม สอ่ื /อปุ กรณ์ และการประเมนิ ผล ๗. จดั กจิ กรรมแนะแนวตามแผนการจัดกจิ กรรมแนะแนวและประเมนิ ผลการจัด กจิ กรรม ๘. ประเมนิ เพอ่ื ตัดสนิ ผล และสรุปรายงาน การประเมนิ กิจกรรมแนะแนว การประเมนิ กจิ กรรมแนะแนว ครูผจู้ ัดกจิ กรรมแนะแนว ผ้เู รียน และผู้ปกครองมี ภารกิจทรี่ บั ผิดชอบดงั นี้ • ครูผู้จัดกิจกรรมแนะแนว ผู้เรียน และผู้ปกครองมสี ่วนร่วมในการประเมินผล เพอ่ื พฒั นาผเู้ รียน โดยครูผจู้ ดั กิจกรรมมีภารกิจในการวางแผนการประเมนิ ดาเนินการประเมิน นา ผลการประเมินไปพัฒนาผเู้ รยี นอยา่ งต่อเนื่อง และรายงานผลการดาเนนิ งานให้ผูเ้ กยี่ วข้องทราบ • ผู้เรียนอาจมีส่วนร่วมในการวางแผนการประเมิน ประเมินตนเองและเพื่อน ผู้ปกครอง มีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็นในการประเมิน ประเมินผลการพัฒนาผู้เรียน โดย ๕๖๐ หลกั สตู รโรงเรยี นมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

ประสานร่วมมือกบั ครผู ู้จัดกิจกรรม ประเมิน บนั ทึก สรปุ ผลการพฒั นาและการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมของ ผเู้ รยี น • การประเมินเพื่อตัดสินผลการเรียน ครูผู้จัดกิจกรรมตรวจสอบเวลาการเข้า ร่วมกิจกรรม และประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรมด้วยวิธีการที่หลากหลาย ตัดสินผลการประเมิน เป็น “ผา่ น” และ“ไม่ผ่าน” ดงั น้ี “ผ่าน” หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรม ปฏิบัติกิจกรรม และมีผลงาน/ ชนิ้ งาน/คุณลักษณะ รอ้ ยละ ๘๐ ข้นึ ไป “ไม่ผ่าน” หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไม่ครบตามเกณฑ์ ไม่ผ่าน การปฏบิ ตั กิ ิจกรรม หรือมผี ลงาน/ช้นิ งาน/คุณลกั ษณะ ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ ๒. กิจกรรมนักเรียน เป็นกิจกรรมท่ีส่งเสริมและพฒั นานักเรียนให้เป็นผู้มีความเป็น ระเบียบวินัย ความเป็นผู้นา ผู้ตามที่ดี ความรับผิดชอบ การทางานร่วมกัน การรู้จักแก้ปัญหา การจัดสินใจที่เหมาะสม ความมีเหตผุ ล การชว่ ยเหลือแบ่งปนั เออ้ื อาทรและสมานฉันท์ โดยจัดให้ สอดคล้องกับความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผู้เรียน ให้ได้ปฏิบัติด้วยตนเองใน ทุกข้นั ตอน ไดแ้ ก่ การศกึ ษาวเิ คราะห์ วางแผน ปฏบิ ัตติ ามแผน ประเมนิ และปรับปรุงการทางาน เน้นการทางานร่วมกันเป็นกลุ่มตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒิภาวะของผู้เรียนและ บรบิ ทของโรงเรียนและทอ้ งถน่ิ กิจกรรมนักเรยี นประกอบดว้ ย ๒.๑ กิจกรรมลูกเสือ/เนตรนารี/ยุวกาชาด/นักศึกษาวิชาทหาร นักเรียน ทุกคนต้องเขา้ รว่ มกิจกรรมลูกเสือ/เนตรนาร/ี ยุวกาชาด/นกั ศกึ ษาวิชาทหาร ๑๕ ชว่ั โมง/ภาคเรยี น แนวการจัดกจิ กรรมลกู เสือ/เนตรนารี/ยวุ กาชาด/นักศึกษาวชิ าทหาร แนวการจัดกิจกรรมลูกเสือ/เนตรนารี/ยุวกาชาด/นักศึกษาวิชาทหาร ให้ เป็นไปตามเอกสารแนวทางการจัดกิจกรรรมพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ การประเมนิ กจิ กรรมลูกเสอื /เนตรนารี/ยุวกาชาด/นักศึกษาวิชาทหาร การประเมินกจิ กรรมลูกเสือ/เนตรนาร/ี ยวุ กาชาด/นักศึกษาวิชาทหาร ให้ เป็นไปตามเอกสาร แนวทางก าร จัดกิจกรรรมพัฒน าผู้เรียน ตามหลัก สู ตรแกน กลางก าร ศึ ก ษ า ข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ๒.๒ กิจกรรมชุมนุม/ชมรม นักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมชุมนมุ /ชมรม ๑๕ ช่วั โมงต่อภาคเรยี น แนวการจดั กจิ กรรมชมุ นมุ /ชมรม ๑. จัดการให้ผู้เรียนดาเนินกิจกรรมได้หลากหลาย ทั้งรูปแบบภายในหรอื ภายนอกหอ้ งเรียน และระยะเวลาการจัดกิจกรรม ๒. สารวจความสนใจของผู้เรยี นในการเลอื กเข้าร่วมชุมนมุ ชมรม ๓. ให้ผู้เรียนร่วมกันจัดต้ังชุมนุม ชมรม และเชิญครูเป็นท่ีปรึกษา โดย รว่ มกนั ดาเนนิ กิจกรรมชุมนุม ชมรม ตามระเบียบปฏิบตั ิทโี่ รงเรยี นกาหนด ๔. ครูที่ปรึกษากระตุ้นและส่งเสริมให้ผู้เรียนมีการถอดประสบการณ์ แลกเปล่ียนเรียนรู้ และเผยแพรก่ ิจกรรม ๕๖๑ หลักสตู รโรงเรยี นมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

การประเมินกิจกรรมชุมนุม/ชมรม การประเมินกิจกรรมชุมนุม/ชมรม เป็นการตรวจสอบความสามารถและ พัฒนาการด้านต่าง ๆ ตามวตั ถุประสงค์ท่กี าหนด ด้วยวธิ ีการทหี่ ลากหลายและประเมนิ ตามสภาพ จรงิ โดยกาหนดผลการประเมนิ เป็น “ผา่ น” และ“ไมผ่ ่าน” ดงั น้ี “ผ่าน” หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรม ปฏิบัติกิจกรรม และมี ผลงาน/ ชน้ิ งาน/คุณลกั ษณะ ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป “ไม่ผ่าน” หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไม่ครบตามเกณฑ์ ไมผ่ ่านการปฏิบตั ิกิจกรรม หรอื มผี ลงาน/ชนิ้ งาน/คณุ ลกั ษณะ ไม่เปน็ ไปตามเกณฑ์ ๒.๓ กิจกรรมโตไปไม่โกง เป็นกิจกรรมปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมใน การป้องกนั ปัญหาทุจริต นักเรียนทุกคนต้องเขา้ ร่วมกิจกรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์ โดย ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น มีเวลาเข้าร่วมกิจกรรม ๑๕ ช่ัวโมง/ปี และระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย มเี วลาเข้ารว่ มกิจกรรม ๑๐ ช่วั โมง/ปี แนวการจดั กจิ กรรมโตไม่โกง แนวการจัดกิจกรรมโตไปไม่โกง ให้เป็นตามคู่มือการจัดกิจกรรมโตไป ไม่โกง การประเมินโตไปไม่โกง เป็นการตรวจสอบความสามารถและพัฒนา การด้านต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์ท่ีกาหนด ด้วยวิธีการท่ีหลากหลายและประเมินตามสภาพจริง โดยกาหนดผลการประเมินเปน็ “ผา่ น” และ“ไมผ่ า่ น” ดงั น้ี “ผ่าน” หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรม ปฏิบัติกิจกรรม และมี ผลงาน/ ช้นิ งาน/คณุ ลกั ษณะ ร้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไป “ไม่ผ่าน” หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไม่ครบตามเกณฑ์ ไมผ่ า่ นการปฏบิ ัติกจิ กรรม หรือมผี ลงาน/ชิ้นงาน/คุณลักษณะ ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ ๓. กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนา นักเรียนให้ได้บาเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน และท้องถ่ินตามความสนใจในลักษณะ อาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละต่อสังคม และการมีจิต สาธารณะ นักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ โดยใน ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ มเี วลาเขา้ ร่วมกจิ กรรม ๑๕ ชัว่ โมง/ปี และระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มเี วลาเขา้ รว่ มกิจกรรม ๒๐ ช่ัวโมง/ปี แนวการจัดกจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ แนวการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ เน้นให้ผู้เรียนร่วมกัน สารวจและวิเคราะห์สภาพปัญหา ร่วมกันออกแบบบการจัดกิจกรรม วางแผนการจัดกิจกรรม ปฏิบัติกิจกรรมตามแผน ร่วมสรุปและประเมินผลการจัดกิจกรรม ร่วมรายงานผล พร้อมทั้ง ประชาสัมพันธแ์ ละเผยแพรผ่ ลการจัดกิจกรรม ๑. จัดกิจกรรมภายในโรงเรยี น (กิจกรรมในวิถีชีวติ โรงเรยี นเพ่ือปลกฝังจิตอาสา) เป็นกจิ กรรมทผี่ ู้เรียนและครูทีป่ รึกษากิจกรรมร่วมกันวางแผนปฏิบัตกิ ิจกรรมจิตสาอาสาในวิถีชีวิต ๕๖๒ หลักสูตรโรงเรยี นมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

ของชั้นเรียนและโรงเรียนจนเกดิ เป็นนิสัยในการสมคั รใจทางานต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ซ่ึง งานเหล่านีจ้ ะขยายขอบเขตจากใกล้ตัวไปสสู่ งั คมทีอ่ ยู่ภายนอกได้ ๒. จดั กจิ กรรมภายนอกโรงเรยี น (กจิ กรรมอาสาสมัครเพ่ือสงั คม) เป็นกิจกรรมท่ี ผู้เรียนได้รับการสนับสนุนตามแผนการจัดกิจกรรม โดยให้ทากิจกรรมด้วยความสมัครใจท่ีเป็น ประโยชน์แก่ชมุ ชนและสงั คมโดยรอบ การประเมินกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ การประเมินกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ มีผลการประเมินเป็น “ผ่าน” และ “ไม่ผา่ น” ดังนี้ “ผ่าน” หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรม ปฏิบัติกิจกรรม และมีผลงาน/ ช้นิ งาน/คุณลกั ษณะ ครบถ้วน “ไม่ผ่าน” หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไม่ครบตามเกณฑ์ ไม่ผ่าน การปฏบิ ัติกจิ กรรม หรอื มผี ลงาน/ชน้ิ งาน/คุณลักษณะ ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ ๕๖๓ หลักสูตรโรงเรยี นมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

เกณฑก์ ารจบการศกึ ษา หลักสูตรโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ได้กาหนดเกณฑ์การจบการศึกษาตามข้อกาหนดของ คาสั่งสานักงานคณะกรรมการศึกษาข้ันพื้นฐาน ที่ ๖๘๓/๒๕๕๒ ลงวันที่ ๑๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ โดยได้กาหนดเกณฑ์กลางสาหรบั การจบการศึกษาเป็น ๒ ระดบั ไดแ้ ก่ ๑. เกณฑก์ ารจบระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ (๑) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพ้ืนฐานและเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า ๗๘ หน่วยกิต โดยเปน็ รายวิชาพืน้ ฐาน ๖๖ หน่วยกติ และรายวิชาเพ่ิมเติมไม่นอ้ ยกว่า ๑๒ หน่วยกติ (๒) ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิตตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า ๗๘ หน่วยกิต โดยเป็น รายวชิ าพ้ืนฐาน ๖๖ หน่วยกติ และรายวิชาเพมิ่ เติมไม่น้อยกวา่ ๑๒ หนว่ ยกิต (๓) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนในระดับ “ผ่าน” ขึ้นไป ทั้งนี้ให้เป็นไปตามเกณฑก์ ารประเมนิ ตามท่ีโรงเรยี นกาหนดไวใ้ นระเบียบวา่ ด้วยการวัดและ ประเมนิ ผล (๔) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในระดับ “ผ่าน” ขึ้นไป ท้ังนี้ให้เป็นไปตามเกณฑ์การประเมินตามที่โรงเรียนกาหนดไว้ในระเบียบว่าด้วยการวัดและ ประเมินผล (๕) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์ การประเมินตามท่โี รงเรียนกาหนดไว้ในระเบยี บว่าดว้ ยการวัดและประเมินผลทุกกจิ กรรม ๒. เกณฑก์ ารจบระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย (๑) ผู้เรียนเรียนรายวชิ าพ้นื ฐานและเพ่มิ เตมิ ไม่นอ้ ยกว่า ๘๓ หน่วยกิต โดยเป็น รายวิชาพน้ื ฐาน ๔๑ หนว่ ยกิต และรายวชิ าเพม่ิ เตมิ ไม่นอ้ ยวา่ ๔๒ หนว่ ยกิต (๒) ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิตตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า ๗๗ หน่วยกิต โดยเป็น รายวิชาพืน้ ฐาน ๔๑ หน่วยกิต และรายวชิ าเพม่ิ เติมไมน่ อ้ ยว่า ๓๖ หน่วยกิต (๓) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนในระดับ “ผ่าน” ขึ้นไป ทง้ั นี้ใหเ้ ป็นไปตามเกณฑ์การประเมินตามท่ีโรงเรยี นกาหนดไวใ้ นระเบยี บว่าด้วยการวัดและ ประเมนิ ผล (๔) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ในระดับ “ผ่าน” ข้ึนไป ทั้งนี้ให้เป็นไปตามเกณฑ์การประเมินตามท่ีโรงเรียนกาหนดไว้ในระเบียบว่าด้วยการวัดและ ประเมนิ ผล (๕) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์ การประเมนิ ตามทโ่ี รงเรยี นกาหนดไวใ้ นระเบยี บวา่ ดว้ ยการวัดและประเมนิ ผลทกุ กิจกรรม ๕๖๔ หลกั สูตรโรงเรียนมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

บรรณานุกรม กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. ประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการ เรอื่ ง การบริหารจัดการเวลาเรียนของ สถานศกึ ษา ลงวนั ท่ี ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐. (ออนไลน)์ . http://drive.google.com/file/d/0B9t56k6dmUe5ME1jWXd4OEFneUE/view กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชี้วดั กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และสาระภมู ิศาสตรใ์ นกล่มุ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา ข้ันพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพ์ชมุ นุมสหกรณ์ การเกษตรแหง่ ประเทศไทย, ๒๕๖๐. กระทรวงศึกษาธิการ. หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑. กรงุ เทพมหานคร: กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พช์ ุมนมุ สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย, ๒๕๕๑. ชวลิต ชกู าแพง. (๒๕๖๑). การวจิ ยั และพฒั นาหลักสตู ร แนวคดิ และกระบวนการ. พิมพ์ครั้งท่ี ๒. กรุงเทพฯ: สานักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. ไพฑูรย์ สนิ ลารตั น์. (๒๕๖๒). หลกั คดิ การจัดการหลักสูตรและการสอน. กรงุ เทพฯ: สานกั พมิ พ์แห่งจฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย,ี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. คมู่ ือการใช้หลกั สตู ร กล่มุ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตร แกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น. (ออนไลน)์ . https://www.scimath.org/ebook-mathematics/item/8380-2560-2551-8380 สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย,ี กระทรวงศกึ ษาธิการ. คู่มอื การใชห้ ลักสตู ร กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตร แกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย. (ออนไลน์). https://www.scimath.org/ebook-mathematics/item/8379-2560-2551-8379 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, กระทรวงศกึ ษาธิการ. คู่มอื การใชห้ ลกั สูตร รายวชิ าพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น. (ออนไลน)์ . https://www.scimath.org/ebook-science/item/8923-2018-10-01-01-59-16 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย,ี กระทรวงศกึ ษาธิการ. คมู่ อื การใช้หลักสูตร รายวชิ าพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย. (ออนไลน)์ . https://www.scimath.org/ebook-science/item/8415-2-2560-2551 ๕๖๕ หลักสตู รโรงเรยี นมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. คมู่ ือการใช้หลักสตู ร รายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ สาระเทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ระดบั ประถมศกึ ษาและ มัธยมศกึ ษา. (ออนไลน์). https://www.scimath.org/ebook-technology/item/8377-2560-2551-8377 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี, กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. คมู่ อื การใชห้ ลักสตู ร รายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ สาระเทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ระดบั ประถมศกึ ษาและมธั ยมศกึ ษา. (ออนไลน)์ . https://www.scimath.org/ebook-technology/item/8376-2560-2551 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย,ี กระทรวงศึกษาธิการ. คมู่ ือการใชห้ ลักสตู ร รายวิชาเพิม่ เติมวทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ สาระเทคโนโลยี วิชาเคมี ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย. (ออนไลน์). https://www.scimath.org/ebook-chemistry/item/8417-2-2560-2551 สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี, กระทรวงศกึ ษาธิการ. คมู่ อื การใชห้ ลกั สูตร รายวิชาเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ สาระเทคโนโลยี วชิ าชีววทิ ยา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย. (ออนไลน)์ . https://www.scimath.org/ebook-biology/item/8416-2-2560-2551 สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย,ี กระทรวงศกึ ษาธิการ. คู่มอื การใชห้ ลักสูตร รายวชิ าเพ่มิ เติมวทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ สาระเทคโนโลยี วชิ าฟสิ กิ ส์ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย. (ออนไลน์). https://www.scimath.org/ebook-physics/item/8437-2-2560-2551 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. คูม่ ือการใชห้ ลกั สูตร รายวชิ าเพม่ิ เติมวิทยาศาสตร์ กล่มุ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ สาระเทคโนโลยี วชิ าโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย. (ออนไลน์). https://www.scimath.org/ebook-earthscience/item/8418-2-2560-2551 สาขาวชิ าศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช. ๒๕๖๒. เอกสารการสอนชุดวิชา ๒๔๔๑๔ การประเมนิ หลกั สูตร (Curriculum Evaluation) เล่ม ๑. พมิ พ์ครง้ั ท่ี ๘. นนทบรุ ี: สานักพิมพ์มหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช. ๕๖๖ หลกั สูตรโรงเรยี นมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

สาขาวชิ าศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั สุโขทัยธรรมาธริ าช. ๒๕๖๒. เอกสารการสอนชุดวิชา ๒๔๔๑๔ การประเมนิ หลักสตู ร (Curriculum Evaluation) เล่ม ๒. พิมพค์ ร้ังที่ ๘. นนทบุรี: สานักพิมพ์มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช. สานกั การศึกษา, กรงุ เทพมหานคร. กรอบหลกั สตู รระดับทอ้ งถนิ่ กรุงเทพ ฯ ศกึ ษา (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๕๖). กรงุ เทพมหานคร: ผูแ้ ตง่ , ๒๕๕๖. สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน. ประกาศสานกั งานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพ้นื ฐาน เรือ่ ง การบริหารจดั การหลักสูตรสถานศึกษา กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตร แกนกลางการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑. (ออนไลน)์ . https://drive.google.com/file/d/1pKsUIrz1Y7iIBJrTMPbDUc7blnf7tt69/view สานกั วิชาการและมาตรฐานการศึกษา, สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน. แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษา ขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑. พิมพ์คร้งั ที่ ๒.กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชมุ นุม สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย, ๒๕๕๓. สานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา, สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน. แนวทางการจดั การเรียนรู้ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑. พมิ พ์ครงั้ ท่ี ๒.กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พช์ มุ นมุ สหกรณ์ การเกษตรแห่งประเทศไทย, ๒๕๕๓. สานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา, สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน. แนวทางการบรหิ ารจดั การหลกั สตู ร ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑. พมิ พค์ รงั้ ที่ ๒.กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพช์ มุ นมุ สหกรณ์ การเกษตรแห่งประเทศไทย, ๒๕๕๓. สานักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา, สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน. แนวปฏิบัติการพัฒนา การวดั และประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ตาม หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑. กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พช์ ุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย, ๒๕๕๒. สานกั วชิ าการและมาตรฐานการศึกษา, สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน. แนวปฏิบตั กิ ารพัฒนาและประเมินการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขยี น ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ ชมุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย, ๒๕๕๔. สานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา, สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน. แนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษา ขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑. พมิ พ์ครง้ั ที่ ๔. กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพช์ มุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย, ๒๕๕๗. สานกั วิชาการและมาตรฐานการศึกษา, สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน. หลักเกณฑ์ และวิธีการปรับใชห้ ลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ สาหรบั กลมุ่ เป้าหมายเฉพาะ. พมิ พค์ รงั้ ที่ ๔. กรงุ เทพมหานคร: หา้ งหุ้นส่วนจากัด โรงพมิ พ์อักษรไทย (น.ส.พ. ฟา้ เมืองไทย), ๒๕๕๕. ๕๖๗ หลักสตู รโรงเรียนมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

สานกั วิชาการและมาตรฐานการศึกษา, สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน. ตวั ช้วี ัด และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพช์ ุมนมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย, ๒๕๕๑. สานักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา, สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน. ตวั ชวี้ ัด และสาระการเรยี นรู้แกนกลาง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑. กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพ์ชมุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย, ๒๕๖๐. สานักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา, สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน. ตวั ชว้ี ัด และสาระการเรียนรแู้ กนกลาง กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑. กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พช์ มุ นุมสหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย, ๒๕๖๐. สานกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา, สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน. ตวั ชี้วัด และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑. กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพช์ ุมนุมสหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย, ๒๕๕๑. สานักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา, สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน. ตวั ช้วี ัด และสาระการเรยี นรู้แกนกลาง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชมุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย, ๒๕๕๑. สานักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา, สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. ตวั ช้ีวัด และสาระการเรยี นรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ตามหลักสตู ร แกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑. กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พ์ ชมุ นุมสหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย, ๒๕๕๑. สานักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา, สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน. ตัวชี้วัด และสาระการเรียนรแู้ กนกลาง กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ งั คม ศาสนา และวฒั นธรรม ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑. กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย, ๒๕๕๑. สานกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา, สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน. ตัวชวี้ ัด และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง กลุ่มสาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพช์ มุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย, ๒๕๕๑. สานักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา, สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน. ตัวช้วี ัด และสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระภูมศิ าสตร์ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) กล่มุ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสตู รแกนกลาง การศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และแนวการจัดกิจกรรมการเรียนรู้. กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพช์ ุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย, ๒๕๖๐. ๕๖๘ หลักสูตรโรงเรยี นมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

สานักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา, สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน. ตวั ชวี้ ัด และสาระการเรียนร้ภู าษาจีน กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาตา่ งประเทศ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๖. กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พ์ชุมนมุ สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย, ๒๕๕๑. Ministry of Education, Kingdom of Thailand. Basic Education Core Curriculum B.E. 2551 (A.D. 2008). Bangkok: Bureau of Academic Affairs and Educational Standards, Office of the Basic Education Commission, Ministry of Education, 2008 ๕๖๙ หลักสตู รโรงเรยี นมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

๕๗๐ หลกั สูตรโรงเรยี นมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

ภาคผนวก: หลกั การและเหตผุ ลในการปรบั ปรุงหลักสูตรสถานศกึ ษา ตามคาส่ังกระทรวงศึกษาธิการ ท่ี สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ เร่ือง ให้ใช้มาตรฐาน การเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ใน กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู ร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ สั่ง ณ วันท่ี ๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ คาสั่ง สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐานที่ ๓๐/๒๕๖๑ เร่ือง ให้เปล่ียนแปลงมาตรฐาน การเรียนรู้และตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ สั่ง ณ วนั ท่ี ๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑ คาส่ังสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐานท่ี ๙๒๑/๒๕๖๑ เรื่อง ยกเลิก มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชว้ี ดั สาระท่ี ๒ การออกแบบและเทคโนโลยี และสาระที่ ๓ เทคโนโลยี สารสนเทศและการส่ือสาร ในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และเปล่ียนช่ือกลุ่มสาระการเรียนรู้ สั่ง ณ วันที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ และคาสง่ั สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พื้นฐานที่ ๙๒๒/ ๒๕๖๑ เร่ือง การปรับปรุงโครงสร้างเวลาเรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ส่งั ณ วนั ที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ น้นั โรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ จึงได้ดาเนินการปรับเปลี่ยนหลักสูตรสถานศึกษาให้มี ความเหมาะสมสอดคล้องกับการเปล่ยี นแปลงทางเศรษฐกจิ สงั คม วฒั นธรรม สภาพแวดลอ้ ม และ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เป็นการพัฒนาส่งเสริม ศักยภาพคนในชาติให้สามารถเพ่ิมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การยกระดับ คณุ ภาพการศึกษาและการเรียนรใู้ ห้มีคณุ ภาพและมาตรฐานระดบั สากล สอดคล้องกบั ประเทศไทย ๔.๐ โลกในศตวรรษที่ ๒๑ และทัดเทียมกับนานาชาติ ผู้เรียนมีศักยภาพในการแข่งขันและ ดารงชีวิตอย่างสรา้ งสรรค์ในประชาคมโลก ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนจึงได้ พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ด้วยการวางแผนและดาเนินการใช้หลักสูตร การเพ่ิมพูนคุณภาพ หลักสูตรด้วยการวิจัยและพัฒนา การปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตร จัดทาระเบียบการวัดและ ประเมินผล สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่ิน สภาพ ปญั หาชมุ ชนและสงั คม ภมู ปิ ญั ญาท้องถิ่นและความต้องการของผู้เรียน โดยดาเนนิ การดังน้ี ๑. การดาเนินการในภาพรวม ๑.๑ ใชม้ าตรฐานการเรียนรู้และตัวชวี้ ดั กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และ สาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ แทนมาตรฐาน การเรียนรู้และตัวช้ีวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ใน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และใช้สาระการเรียนรู้เพิ่มเติมกลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ และวทิ ยาศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๕๗๑ หลักสตู รโรงเรียนมธั ยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

๑.๒ ยกเลิกมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด สาระท่ี ๒ การออกแบบและเทคโนโลยี และ สาระท่ี ๓ เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและ เทคโนโลยี ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ และเปล่ยี นช่ือสาระ ท่ี ๔ การอาชีพ เป็นสาระที่ ๒ การอาชีพ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ๑.๓ เปล่ียนชือ่ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ เปน็ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี และเปล่ียนช่ือกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เป็น กลุ่มสาระ การเรียนรกู้ ารงานอาชพี ๑.๔ เง่ือนไขและระยะเวลาในการใช้หลักสูตรโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ พุทธศักราช ๒๕๖๓ ใหใ้ ชใ้ นทุกชั้นเรียน ต้งั แตป่ ีการศึกษา ๒๕๖๓ เป็นตน้ ไป ๒. การดาเนินการเปลย่ี นแปลงหลักสตู รสถานศึกษา ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น ๒.๑ ปรับเพ่ิมเวลาเรียนรายวิชาพน้ื ฐานกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (ใน สาระที่ ๔ เทคโนโลยี) จากเดมิ ๙.๐ หนว่ ยกิต เปน็ ๑๕.๐ หน่วยกติ (เพมิ่ มา ๖.๐ หน่วยกติ ) ๒.๒ ปรับลดเวลาเรยี นรายวิชาพ้นื ฐานในกลมุ่ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศกึ ษาจากเดิม ๖.๐ หนว่ ยกติ เป็น ๔.๕ หน่วยกติ (ลดลง ๑.๕ หนว่ ยกิต) ๒.๓ ปรับลดเวลาเรียนรายวิชาพ้ืนฐานในกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะจากเดิม ๖.๐ หน่วยกิต เปน็ ๔.๕ หนว่ ยกิต (ลดลง ๑.๕ หน่วยกิต) ๒.๔ ปรับลดเวลาเรียนรายวิชาพ้ืนฐานในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพจากเดิม ๖.๐ หนว่ ยกติ เปน็ ๓.๐ หน่วยกิต (ลดลง ๓.๐ หนว่ ยกติ ) ๒.๕ รวมการปรับลดเวลาเรียนรายวิชาพืน้ ฐาน ตามขอ้ ๒.๒-๒.๔ จานวน ๖.๐ หน่วยกติ ๒.๖ ดาเนินการพัฒนารายวิชาเพ่ิมเติม เพ่ือให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะและกระบวนการเรียนรู้ สอดคล้องกับจุดเน้น ความพร้อมของสถานศึกษาและสถานการณ์ปัจจุบัน โดยคานึงถึงศักยภาพ และพัฒนาการตามชว่ งวัยของผเู้ รยี นและเกณฑก์ ารจบหลกั สตู ร ๓. การดาเนินการเปลย่ี นแปลงหลักสูตรสถานศึกษา ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย ๓.๑ ปรับเพ่ิมเวลาเรียนรายวชิ าพื้นฐานกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ใน สาระท่ี ๔ เทคโนโลย)ี จากเดมิ ๖.๐ หน่วยกติ เป็น ๑๑.๐ หนว่ ยกติ (เพิ่มมา ๕.๐ หน่วยกติ ) ๓.๒ ปรบั ลดเวลาเรยี นรายวิชาพนื้ ฐานในกล่มุ สาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษาจากเดิม ๓.๐ หนว่ ยกติ เป็น ๑.๕ หน่วยกติ (ลดลง ๑.๕ หนว่ ยกิต) ๓.๓ ปรับลดเวลาเรียนรายวิชาพื้นฐานในกลุ่มสาระการเรียนรศู้ ิลปะจากเดิม ๓.๐ หน่วยกติ เปน็ ๑.๕ หน่วยกติ (ลดลง ๑.๕ หนว่ ยกติ ) ๓.๔ ปรับลดเวลาเรียนรายวิชาพื้นฐานในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพจากเดิม ๓.๐ หนว่ ยกติ เป็น ๑.๐ หน่วยกติ (ลดลง ๒.๐ หน่วยกิต) ๓.๕ รวมการปรบั ลดเวลาเรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน ตามข้อ ๓.๒-๓.๔ จานวน ๕.๐ หนว่ ยกติ ๓.๖ ดาเนินการพัฒนารายวิชาเพ่ิมเติม เพ่ือให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะและกระบวนการเรียนรู้ สอดคล้องกับจุดเน้น ความพร้อมของสถานศึกษาและสถานการณ์ปัจจุบัน โดยคานึงถึงศักยภาพ และพฒั นาการตามชว่ งวัยของผเู้ รยี นและเกณฑก์ ารจบหลกั สตู ร ๕๗๒ หลักสตู รโรงเรยี นมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

คณะผ้จู ดั ทาหลกั สูตรสถานศึกษา ทป่ี รกึ ษา คณะกรรมการสถานศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐานโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ คณะกรรมการเครอื ขา่ ยผูป้ กครองโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ ฝ่ายอานวยการจัดทาหลักสตู รสถานศึกษา นางสาวเพญ็ ลักษณ์ บุญความดี ผอู้ านวยการโรงเรยี นมธั ยมบ้านบางกะปิ นางกานตธ์ ีรา สอดศรี นางสาวเข็มทอง แสงหิรญั นางจติ รพี ส่มุ มาตย์ นายจุฬชาติ ศรลี ะกูล รองผู้อานวยการโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ ฝ่ายวิเคราะห์และออกแบบโครงสร้างหลกั สตู รสถานศึกษา นางกานตธ์ ีรา สอดศรี รองผอู้ านวยการโรงเรียนมัธยมบา้ นบางกะปิ นางสาวธัญพร ชามสุวรรณ หวั หน้ากลุ่มงานบริหารงานวิชาการ นายสุทธชิ ัย บญุ คง หัวหน้างานพฒั นาหลักสูตร นายกฤษดา จนั ทร์เสม นางสาวกีรพร หมอนทอง นายขวญั ชยั เลิศทรัพยไ์ พศาล นายเทววฒุ ิ สมิ ะเสถียร นางสาวนฤดี โอบอ้อม นางสาวนวรตั น์ เหลอื งจรสั กลุ นางสาวปรางทพิ ย์ สมิ มาโคตร นางสาวพทิ ยา โพธิ์ทอง นางสาวภทั ราภรณ์ ละลี นางสาววรลักษณ์ ศิลปวโิ รจน์ นายสมชาย นยิ ม นางสมใจ จันทร์เสม นายหัสดี ปทุมชาติ นางสาวอริสา นลิ วเิ ศษ ๕๗๓ หลกั สตู รโรงเรยี นมัธยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

ฝา่ ยจัดทาคาอธิบายรายวิชากลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย นางสาวอารสิ า นิลวิเศษ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ นายจารวุ ฒั น์ ทองใส นางสาวชมยั พร บุญเรืองขาว นางสาวธัญพร ชามสุวรรณ นางนภสั สร ดวงจาปา นางสาวลาดวน ขุนใหญ่ นางสาววีรอร ศยามล นางสาวศลิ ป์สุภา อาจสามารถ นางสาวสายชล ปัตตังโข นางสาวอภสั นนั ท์ สันโดษขจรพงศ์ ฝา่ ยจัดทาคาอธบิ ายรายวิชากลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ นางสาวนฤดี โอบอ้อม หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ นางสาวธนญั ญา หิรัญบรู ณะ นางสาวนพิตรา นาทยั นางสาวบงั อร สุดชา นางสาวบุญธิดา พัฒนวงศา นางสาวปัณฑิตา คลศลิ ป์ นายพงษ์พิพฒั น์ เขตวิทย์ นางสาววัลลดา เกตุจันทร นางสมใจ จนั ทรเ์ สม นายสหสั ชัย โผดนอก ฝา่ ยจัดทาคาอธิบายรายวชิ ากลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี นายเทววุฒิ สิมะเสถยี ร หวั หน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้ นายกมลพทั ธ์ หลักหาญ นายจกั รพงษ์ พรมนสั นายเดน่ ดนัย งามศิริ นางสาวณัฐธิฌา ชาวยามกา นายนภดล ทพิ พะพาทย์ นายนัฐพงษ์ สขี าว นางนาวนิ ทร์ ประดิษฐธ์ านี นางสาวรุ่งรัตน์ แสนศรี นางสาววรพร หอมช่ืน ๕๗๔ หลักสูตรโรงเรียนมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

นางสาวสมหญงิ ศรีโย นายเสนห่ ์ เช้อื สงู เนนิ นายสุทธชิ ยั บญุ คง นายอัครวฒั น์ อธิธนั ยาภทั ร์ นางสาวแอ๊บเปล้ิ มีรี ฝ่ายจดั ทาคาอธบิ ายรายวิชากลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม นายขวญั ชยั เลศิ ทรัพยไ์ พศาล หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ นายกรรยา พรรณา นายเจษฎา เจรญิ รมั ย์ นางสาวธัญลักษณ์ รจุ เิ รศกลุ พัชร นางสาวประคอง วอนอก นายประยุทธ ลาวัลย์ นายประวทิ ย์ เศรษฐบตุ ร นางสุปภา บญุ เลีย่ ม นางสาวหทยั กาญจน์ โยธกิ ลุ ฝ่ายจดั ทาคาอธบิ ายรายวิชากลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ุขศึกษาและพลศกึ ษา นายกฤษดา จันทรเ์ สม หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ นายนิคม อ่อนเมอื งคง นางสาวพรทิพา ตาลเหล็ก นางสาวเพชรรี สายสาระ นางสาวรตั น์ดาวรรณ์ ประสิทธเิ ขตกรณ์ ฝา่ ยจัดทาคาอธิบายรายวชิ ากลมุ่ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ นายสมชาย นยิ ม หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ นางสาวกฤษดาภรณ์ สงเนียม นางจริ าภรณ์ เจริญสุข นายธีรชัย ฉตั รชยั วัฒนกุล นายธรี ศักด์ิ ภูมเิ จรญิ นางสาวปรางทพิ ย์ สิมมาโคตร นางสาวพิทยา โพธทิ์ อง นางสาวมณฑาทพิ ย์ ทองถน่ิ นายหัสดี ปทมุ ชาติ ๕๗๕ หลักสูตรโรงเรียนมธั ยมบ้านบางกะปิ ฉบบั พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

ฝ่ายจดั ทาคาอธิบายรายวชิ ากลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ นางสาวกรี พร หมอนทอง หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ นายณัฏฐว์ ัฒน์ นาควจิ ิตร นางสาวปญุ ญิสา จนั น้าทว่ ม นางสาวภัทราภรณ์ ละลี นางสาวรุจิรา กันภยั นายวศิ รุต ชูชาตเิ ชือ้ นางสาวแสงระวี โกกะพนั ธ์ ฝ่ายจัดทาคาอธิบายรายวชิ ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ นางสาววรลักษณ์ ศิลปวิโรจน์ หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ นางสาวกุลดา กิง่ แก้ว นายชวนากร ธรศรี นางสาวโชตนา แซ่อง่ึ นางสาวนศิ า เอือ้ ประโคน นายปวีณ สิงหส์ ถิต นางสาวสจุ ริ า วงศป์ ระเสรฐิ นายอาชวิณ บรุ ีรัตนเวชา ฝ่ายจดั ทาแนวการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน นางสาวนวรัตน์ เหลอื งจรสั กลุ หวั หนา้ กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน นายชวนากร ธรศรี นายเชาวว์ ิช มูลตน้ นายนภดล ทพิ พะพาทย์ นางสาวนนั ทยา ปามะ นางสาววชั รารัตน์ เบดิ ศรี นายเสนห่ ์ เช้อื สงู เนนิ นายสทุ ธิชัย บญุ คง ๕๗๖ หลักสูตรโรงเรียนมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พุทธศักราช ๒๕๖๓

บรรณาธิการ นางสาวธัญพร ชามสุวรรณ หวั หนา้ กล่มุ งานบรหิ ารงานวชิ าการ นายสุทธิชัย บุญคง หวั หนา้ งานพฒั นาหลักสูตร ผู้ชว่ ยบรรณาธกิ าร นายกฤษดา จันทรเ์ สม นางสาวกรี พร หมอนทอง นายขวญั ชยั เลศิ ทรัพยไ์ พศาล นางสาวนฤดี โอบอ้อม นางสาวมณฑาทิพย์ ทองถิ่น นางสาววรลกั ษณ์ ศิลปวิโรจน์ นางสมใจ จันทรเ์ สม จัดทาโดย งานพฒั นาหลักสตู ร กลุม่ งานบรหิ ารวิชาการ โรงเรยี นมธั ยมบ้านบางกะปิ ถนนนวมนิ ทร์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรงุ เทพมหานคร เผยแพรเ่ อกสารหลักสูตรทางเวบ็ ไซตใ์ นรูปแบบ .doc และ .pdf สามารถดาวโหลดได้ที่ http://www.mbp.ac.th http://facebook/วิชาการโรงเรียนมธั ยมบา้ นบางกะปิ ๕๗๗ หลักสตู รโรงเรียนมัธยมบา้ นบางกะปิ ฉบบั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook