2563

เวทคี ณุ ภาพ II มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ - กาหนดให้มกี ารประเมนิ ผลจากผไู้ ด้รับสื่อประชาสัมพนั ธ์ 11.2 จุดแข็ง (Strength) หรือ สิง่ ที่ทาได้ดใี นประเด็นที่นาเสนอ - บุคคลทวั่ ไปสามารถเข้าใจเนอ้ื หาทางวิทยาศาสตรท์ เ่ี กีย่ วข้องกับชวี ิตประจาวันได้งา่ ย - สอ่ื ประชาสัมพนั ธ์มคี วามทนั สมยั - มชี อ่ งทางการประชาสมั พนั ธ์ท่หี ลากหลาย เพอื่ ใหเ้ ข้าถงึ กล่มุ เป้าหมายที่ต้องการส่ือสาร - มกี ารสื่อสารทรี่ วดเรว็ และทันตอ่ เหตุการณ์ - สื่อประชาสัมพันธ์ท่ีจัดทาสามารถรองรับการเข้าถึงได้บนทุกอุปกรณ์ เช่น Mobile, Tablet, Computer and TV 11.3 กลยทุ ธ์หรอื ปจั จยั ทน่ี าไปสูค่ วามสาเร็จ - Man: บุคลากรมีศักยภาพและความเข้าใจถึงประเด็นท่ีต้องการส่ือสารและช่องทางการ เผยแพร่เป็นอยา่ งดี และมีอสิ ระในการสรา้ งสรรค์งาน - Material: อุปกรณ์ท่ีใช้ในการผลิตสื่อตอบโจทย์การปฏิบัติงานในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการ ออกแบบกราฟกิ ดา้ นการจดั ทาคลปิ วิดโี อ และด้านการออกแบบและจัดทาเวบ็ ไซต์ - Money: การจดั สรรงบประมาณเพอ่ื สนับสนนุ งานด้านการประชาสัมพันธ์ - Management: รบั ฟงั เสยี งของผู้เรยี น บุคลากร ผู้มสี ่วนไดส้ ว่ นเสยี นามาเป็นข้อมูลในการประ รับปรุงกระบวนการให้มีประสิทธิภาพ จากการติดตามสื่อจากหลากหลายช่องทาง เช่น Mahidol Channel, มช.ทูเดย์ และการได้รับคาแนะนาต่าง ๆ จากผู้ดาเนินรายการ Sure ก่อน Share ทางช่อง Modern 9 TV ทาให้เห็นโอกาสในการพัฒนาส่ือของคณะวิทยาศาสตร์เพ่ือ ตอบปัญหาและให้องค์ความรู้ท่ีถูกต้องต่อสังคมในรูปแบบ Science PSU Channel และการ ได้รับความร่วมมือจากบุคลากร นักวิจัย และนักศึกษา ทาให้มีเครือข่ายในการทางานเพื่อให้ ข่าวสารของคณะถงึ ผ้รู บั สารอย่างรวดเร็วถูกตอ้ ง 12.ประเด็น (จุดเด่น) ที่เปน็ แนวปฏบิ ัติทีเ่ ป็นเลศิ 1. การมีสว่ นรว่ มของบุคลากร โดยเฉพาะนักวิจยั ทีใ่ ห้ความร่วมมอื แจ้งข่าว และอาสา 2. เจา้ หนา้ ท่ีมกี ารเรียนรู้และมีความเข้าใจในเนื้อหาหรอื ประเด็นที่ต้องการส่ือสาร 3. เจา้ หน้าทเี่ ขา้ ใจถึงลักษณะของชอ่ งทางในการสื่อสาร 13. เอกสารอ้างองิ 1. เวบ็ ไซต์คณะวทิ ยาศาสตร์ (http://www.sci.psu.ac.th) 2. facebook (http://www.facebook.com/PSUSci) 3. PSUSCI_PR_Group 4. Instagram (https://www.instagram.com/psusci) 187

เวทีคุณภาพ II มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 14. บทสรุป การผลิตและการเผยแพร่ส่ือประชาสัมพันธ์ที่ผ่านมาประสบปัญหาในด้านจานวนบุคลากรท่ี ปฏิบัติงาน ด้านความพร้อมของอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตสื่อต่าง ๆ ด้านช่องทางการส่ือสาร และการให้ความ ร่วมมือของนักวิจัยท่ีออกมาให้ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ ส่งผลให้มีการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตและ เผยแพร่สอ่ื ประชาสมั พันธ์ในรปู แบบใหม่ เพ่อื ใหไ้ ดง้ านท่ดี แี ละมีประสิทธิภาพ จากการปรับเปล่ียนกระบวนการผลิตและการเผยแพร่ส่ือประชาสัมพันธ์ ทาให้มีการผลิตและ เผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ตรงกลุ่มเป้าหมาย โดยการให้องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์กับบุคคลท่ัวไปในสังคม อยา่ งถูกตอ้ งและเข้าใจง่าย ผา่ นการสอ่ื สารหลากหลายชอ่ งทาง เพ่ือสร้างสร้างการรับรู้ที่รวดเร็ว ทันเหตุการณ์ และตรงประเดน็ และเป็นการสร้างภาพลักษณท์ ด่ี ีให้กับองค์กร ตัวอย่างผลการดาเนินงาน 188

เวทคี ุณภาพ II มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ 189

เวทคี ุณภาพ II มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ 190

เวทคี ุณภาพ II มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ แนวปฏิบัติทเ่ี ปน็ เลศิ ****************************************** เรือ่ ง Development Score of Reporting System Comprehensive Nursing Examination. โครงการ/กิจกรรม ดา้ นบริหารจัดการ ชอื่ หน่วยงาน คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ คณะทางานพัฒนาแนวปฏิบัติที่เปน็ เลศิ 1.นางสาวปทิตตา จนั ทวงศ์ 2.นางสาวภัทรมน วงศเ์ ลิศประดิษฐ์ 5. การประเมินปญั หา/ความเสี่ยง (Assessment) ด้วยคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ร่วมกับเครือข่ายสถาบัน การศึกษาพยาบาลภาคใต้ ประกอบด้วย 1) วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุราษฎร์ธานี 2) วิทยาลัยพยาบาล บรมราชชนนี นครศรีธรรมราช 3) วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ตรัง 4) วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สงขลา 5) วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ยะลา 6) คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปตั ตานี 7) คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนราธวิ าสราชนครินทร์ โดยกาหนดจัดสอบประมวล ความรอบรู้นักศึกษาปริญญาตรี จานวน 8 รายวิชา ให้กับนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ก่อนสาเร็จการศึกษา ตาม หลักสูตรหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ต้ังแต่ปีการศึกษา 2537 เป็นต้นมา ซึ่งการจัดสอบแต่ละครั้ง มนี ักศกึ ษารว่ มสอบประมาณ 800 คน และในการจดั สอบคร้ังท่ี 1 และ 2 (สอบซอ่ ม) จะเป็นข้อสอบปรนัย จากระบบการจดั สอบทีผ่ ่านมา มีกระบวนการวิเคราะห์คะแนนสอบผ่านโปรแกม Execl และประกาศผลสอบ ใหน้ ักศึกษาทราบโดยปิดประกาศบนบอร์ดประชาสัมพันธ์ของคณะฯ โดยมีเจ้าหน้าท่ีงานหลักสูตรปริญญาตรี เปน็ ผู้รับผดิ ชอบดาเนนิ การ (คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร,์ 2561) อย่างไรก็ตาม จากการดาเนินการที่ผ่านมาพบว่า ขั้นตอนการวิเคราะห์คะแนนสอบยังพบความ ผิดพลาดในขั้นตอนการตรวจสอบก่อนเสนอผู้บริหารพิจารณารับรองผลคะแนน อีกท้ังต้องใช้เวลา ค่อนขา้ งมากในการวเิ คราะห์ ตรวจสอบ และรายงานผลคะแนน ซ่ึงกระบวนการดังกล่าวต้องปริ้นเอกสาร เป็นจานวนมาก สาหรับเสนอผู้บริหารพิจารณารับรอง ทาให้เกิดการสิ้นเปลืองและเสียค่าใช้จ่ายเป็น จานวนมาก อีกท้ังอาจส่งผลให้เกิดมลพิษทางอากาศท่ีเกิดจากสารเคมีในหมึกพิมพ์ ซ่ึงส่งผลกระทบต่อ สุขภาพของบุคลากรในห้องทางาน ตลอดจนมีการประกาศผลสอบโดยปิดประกาศบนบอร์ดการ ประชาสมั พันธ์ ทาใหน้ กั ศึกษาไม่ไดร้ ับความสะดวกและไม่มีความเปน็ สว่ นตวั ในการตรวจผลสอบ ดังน้ัน เพื่อให้การวิเคราะห์ผลคะแนนสอบประมวลความรอบรู้มีความถูกต้อง รวดเร็ว และ นักศึกษามีความเป็นส่วนตัวในการตรวจผลการสอบประมวลความรอบรู้ รวมท้ังเจ้าหน้าท่ีผู้รับผิดชอบ ดาเนินการสามารถลดขั้นตอนและระยะเวลาในการปฏิบัติงาน ในการน้ี ผู้ปฏิบัติงานได้เล็งเห็นถึงความสาคัญ 191

เวทคี ณุ ภาพ II มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ของปัญหาและประโยชน์ในการพัฒนางาน จึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง ในการปรับปรุงขั้นตอน วิเคราะห์คะแนนและการตรวจผลสอบประมวลความรอบรู้ใหม้ ปี ระสิทธิภาพมากขน้ึ 6. เป้าหมาย/วตั ถุประสงคข์ องโครงการ 6.1 เพ่ือปรบั ปรุงระบบวิเคราะหค์ ะแนนสอบประมวลความรอบร้ใู ห้มีประสิทธภิ าพมากขึ้น 6.2 เพือ่ ปรบั ปรงุ ระบบตรวจผลการสอบประมวลความรอบรใู้ หม้ ีประสทิ ธภิ าพมากขนึ้ 6.3 เพอื่ ลดข้ันตอนและเพ่ิมความรวดเร็วในการปฏบิ ัติงานของเจ้าหน้าทผ่ี ู้รับผิดชอบ 7. ผลท่คี าดวา่ จะได้รับ 7.1 มรี ะบบสารสนเทศสาหรบั ดาเนินการวิเคราะห์คะแนนและตรวจผลการสอบประมวลความรอบรู้ ที่ถกู ต้องและรวดเรว็ 7.2 นักศึกษาได้รับความสะดวกและมีความเป็นส่วนตัวในการตรวจผลการสอบประมวลความรอบรู้ ผ่านระบบสารสนเทศ 7.3 เจา้ หน้าทผี่ รู้ บั ผิดชอบสามารถลดข้ันตอนและเพิม่ ความรวดเรว็ ในการปฏิบัตงิ าน 7.4 ผูบ้ ริหารสามารถวิเคราะห์และพยากรณ์แนวโน้มของผลคะแนน เพ่ือนาไปเตรียมความพร้อม ในการทบทวนความร้นู กั ศึกษาตอ่ ไป 8. การออกแบบกระบวนการ 8.1 วิธกี าร/แนวทางการปฏบิ ัตจิ รงิ (PDCA) ดาเนินตามขั้นตอนต่างๆ โดยใช้หลักการของวงจรพัฒนาระบบ (System Development Life Cycle, SDLC) และนาวงจรการพฒั นา PDCA มาเป็นหลักในการปรบั ปรงุ การทางาน  P (Plan) การวางแผน 1. ศึกษาสภาพปัญหาจากการวิเคราะห์คะแนนและตรวจผลการสอบประมวลความรอบรู้ที่ ผ่านมา เก็บรวบรวมข้อมูลมาวิเคราะห์หาแนวทางแก้ไขปัญหา และจัดเตรียมข้อมูลท่ีเกี่ยวข้อง เช่น สถาบันการศึกษา รหัสนักศึกษา รายช่ือนักศึกษา รายวิชาที่จัดสอบ คะแนนสอบ เกณฑ์การประเมินผล การรายงานผลคะแนน การสรปุ ผลคะแนนสอบในภาพรวม เปน็ ต้น 2. ประชุมเพื่อร่วมวางแผนสร้างระบบสารสนเทศให้ตรงกับความต้องการใช้งาน โดยมีเป้าหมาย ในการพฒั นางานเพื่อสรา้ งระบบสารสนเทศสาหรับดาเนินการวิเคราะห์คะแนนและตรวจผลการสอบประมวล ความรอบรู้ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพมากย่ิงขึน้ ซงึ่ มรี ายละเอยี ด ดังนี้ 2.1 กาหนดรูปแบบและเมนูรายการที่ต้องการใช้งาน (User Interface) ท้ังในส่วนของ เจ้าหน้าท่ี ผู้บริหาร และในส่วนของนักศึกษา เช่น การเข้าถึงสิทธ์ิการใช้งาน ปีการศึกษา สถาบันการศึกษา รายวชิ า การจัดสอบ เปน็ ต้น 2.2 กาหนดความตอ้ งการวิเคราะหค์ ะแนนและตรวจผลการสอบประมวลความรอบรู้ ดงั นี้ 1) สอบ pre-test 2) สอบปรนัย ครง้ั ที่ 1 3) สอบปรนัย ครัง้ ที่ 2 (สอบซ่อม) 2.3 กาหนดผ้ทู ่ีมสี ทิ ธิ์เขา้ ใชง้ านระบบสารสนเทศ ดังนี้ 192

เวทคี ณุ ภาพ II มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ 1) เจา้ หนา้ ที่ผใู้ ชง้ านระบบ 2) เจา้ หน้าทผี่ ู้สรา้ งระบบ 3) ผูบ้ รหิ ารทเ่ี กยี่ วขอ้ ง 4) นักศึกษาพยาบาลชนั้ ปีท่ี 4 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ 2.4 ออกแบบการสรา้ งระบบสารสนเทศ 1) ออกแบบการแปลงข้อมลู จาก Excel เพื่อจัดเก็บในฐานข้อมูล SQL Server 2) ออกแบบขน้ั ตอนการทางานของระบบ 2.5 กาหนดรปู แบบการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล ดงั นี้ 1) การตรวจสอบความถูกตอ้ งของการวเิ คราะห์คะแนนสอบ 2) การเปรียบเทียบร้อยละของจานวนชว่ั โมงปฎิบตั งิ านการวเิ คราะหแ์ ละรายงานผล คะแนนระหวา่ งการปฏิบตั งิ านแบบเดิมและแบบใหม่ 3) การประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาต่อการใช้งานระบบการตรวจผลคะแนน สอบประมวลความรอบรู้ 2.6 กาหนดระยะเวลาในการพัฒนาระบบการวิเคราะห์คะแนน และตรวจผลการสอบประมวล ความรอบรู้ ดงั นี้ การปฏบิ ตั งิ าน ระยะเวลา พ.ย. 62 ธ.ค. 62 ม.ค. 63 ก.พ. 63 ม.ี ค. 63 เม.ย. 63พ.ค. 63 1. ศกึ ษาสภาพปญั หา เตรียมขอ้ มลู ทีเ่ กยี่ วขอ้ ง 2. ประชมุ วางแผนการสรา้ งระบบสารสนเทศ 3. ออกแบบและสร้างระบบสารสนเทศ 4. ทดสอบการใช้งานระบบสารสนเทศ และ ปรับปรงุ การใชง้ านระบบฯ ให้มีความเหมาะสม 5. ใช้งานระบบในการวิเคราะห์คะแนนและ ตรวจสอบผลการสอบประมวลความรอบรู้ ดงั น้ี 5.1 สอบ pre-test 5.2 สอบปรนัย ครงั้ ท่ี 1 5.3 สอบปรนัย ครง้ั ที่ 2 (สอบซอ่ ม) 6. การตดิ ตาม ตรวจสอบ และประเมนิ ผล 7. ปรบั ปรุงแกไ้ ข และรายงานผล  D (Do) การลงมอื ปฏิบตั ิ ได้ดาเนินการพัฒนาระบบการวิเคราะหค์ ะแนนและตรวจผลการสอบประมวลความรอบรู้ ตามรปู แบบ และความต้องการใช้งาน ดงั น้ี 1. พัฒนาระบบ โดยใช้โปรแกรม Visual Studio ภาษา C# 1.1 พฒั นาส่วนการเพิ่ม/ลบ/แกไ้ ข ขอ้ มูลของผใู้ ช้ 193

เวทีคณุ ภาพ II มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 1.2 พัฒนาการแสดงผลตามสิทธ์ิของผใู้ ช้งาน 1.3 พฒั นารายงานตามสิทธิข์ องผู้ใชง้ าน 2. ทดสอบการวเิ คราะห์คะแนนและตรวจผลการสอบประมวลความรอบรู้ ตามวงจร PDCA ดงั น้ี 2.1 วางแผนเตรยี มขอ้ มลู ในการทดสอบระบบ โดยใช้คะแนนสอบแตล่ ะวิชาของนักศึกษาพยาบาล ช้นั ปที ่ี 4 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ วทิ ยาเขตหาดใหญ่ ปกี ารศึกษา 2561 (Plan) 2.2 อัพโหลดไฟลค์ ะแนนสอบแตล่ ะรายวชิ าเขา้ สรู่ ะบบ และวเิ คราะห์คะแนน (Do) 2.3 ตรวจสอบความถูกต้องการวิเคราะห์คะแนนสอบ โดยตรวจสอบการประเมินผลผ่านระบบ สารสนเทศกบั ผลคะแนนเดมิ ท่ีประเมินด้วยโปรแกรม Excel ของนักศกึ ษาแตล่ ะคน (Check) 2.4 ปรบั ปรุงรูปแบบการรายงานผลคะแนนสอบให้ตรงกับความต้องการใช้งาน (Act) 3. ปรบั ปรงุ ระบบสารสนเทศให้มีความเหมาะสมและสะดวกในการใช้งานมากขึน้ 4. ใช้งานระบบสารสนเทศในการวิเคราะห์คะแนนและตรวจผลการสอบประมวลความรอบรู้ ของนกั ศึกษาพยาบาลช้ันปที ่ี 4 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ ปีการศึกษา 2562 ดงั น้ี 4.1 สอบ pre-test 4.2 สอบปรนัย ครั้งท่ี 1 4.3 สอบปรนยั ครงั้ ที่ 2 (สอบซอ่ ม ครงั้ ท่ี 1) 4.4 สอบปรนัย ครง้ั ที่ 3 (สอบซอ่ ม ครงั้ ท่ี 2)* หมายเหตุ * ได้เพิ่มการวิเคราะห์คะแนนและตรวจผลการสอบปรนัย ครั้งท่ี 3 (สอบซ่อม คร้ัง ที่ 2) ในภายหลัง เน่ืองจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID 19) จึงเปล่ียนเป็นการ จดั สอบปรนยั แบบออนไลน์ ซึง่ จากเดมิ เป็นการจัดสอบอตั นัย  C (Check) การติดตาม ตรวจสอบประเมินผล ได้ดาเนินการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการพัฒนาระบบการวิเคราะห์คะแนนและ ตรวจผลการสอบประมวลความรอบรู้ ดังน้ี 1. การจัดสอบ pre-test ประมวลความรอบรู้นักศึกษาชั้นปีท่ี 4 ปีการศึกษา 2562 ได้วิเคราะห์ คะแนนผ่านระบบสารสนเทศ และเสนอรายงานผลคะแนนไปยังประธานคณะกรรมการศูนย์พัฒนาความรู้ และทักษะทางการพยาบาล คณะพยาบาลศาสตร์ เพอ่ื ตรวจสอบและรบั รองความถกู ต้องของการวิเคราะห์ คะแนนผา่ นระบบสารสนเทศ ซึง่ จากการตรวจสอบรายงานผลการสอบดังกล่าว มีความถกู ตอ้ งรอ้ ยละ 100 2. การเปรียบเทียบร้อยละของจานวนชั่วโมงปฎิบัติงานการวิเคราะห์และรายงานผลคะแนน สอบประมวลความรอบรู้ ซึ่งจากเดิมได้วิเคราะห์คะแนนโดยใช้โปรแกรม Excel และรายงานผลคะแนน โดยปิดประกาศบนบอร์ดประชาสัมพันธ์ของคณะฯ ภายหลังเม่ือได้พัฒนาระบบการวิเคราะห์คะแนนและ ตรวจผลการสอบโดยใช้ระบบสารสนเทศ พบวา่ จานวนชัว่ โมงปฎบิ ตั งิ านลดลงร้อยละ 85.19 3. การสารวจความพึงพอใจของนักศึกษาต่อการใช้งานระบบสารสนเทศในการตรวจผล คะแนนสอบประมวลความรอบรู้ โดยจากการสารวจนักศึกษาพยาบาลช้ันปีท่ี 4 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ที่เข้าใช้งานระบบสารสนเทศเพ่ือตรวจผลคะแนนสอบ pre-test ประมวลความรอบรู้ ปีการศกึ ษา 2562 พบวา่ นักศึกษามีความพึงพอใจร้อยละ 90.20 และได้รับ ขอ้ เสนอแนะจากนกั ศึกษาเพือ่ นามาปรับปรุงต่อไป 194

เวทีคณุ ภาพ II มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์  A (Act) ปรบั ปรุงแกไ้ ข จากการสารวจความพึงพอใจของนักศึกษาต่อการใช้งานระบบสารสนเทศในการตรวจผล คะแนนสอบประมวลความรอบรู้ ไดด้ าเนนิ การปรับแก้ ดังนี้ 1. จากเดมิ ระบุรหัสรายวิชา เชน่ 1101 ปรบั แกเ้ ปน็ ระบุรหสั และชื่อรายวิชา เชน่ 1101 การผดงุ ครรภ์ 2. การเดิมระบผุ ลประเมิน คือ “ผ่าน” และ “ไม่ผ่าน” ปรับแก้เป็น ระบุคะแนนและผลประเมิน ท้ังน้ี ในส่วนของช่องที่แสดงคะแนนสามารถกาหนดให้แสดงคะแนนหรือไม่แสดงคะแนนก็ได้ ข้ึนอยู่กับ ผบู้ ริหารจะพิจารณาการแสดงคะแนนตามความเหมาะสม 8.2 งบประมาณทใ่ี ช้ในการจดั โครงการ/กจิ กรรม (ถ้าม)ี ไมม่ ี 9. การวัดผลและผลลัพธ์ (Measures) แสดงระดับแนวโนม้ ข้อมูลเชิงเปรียบเทยี บ (3 ป)ี และ/หรือเปรียบเทยี บ กับหนว่ ยงานภายใน/ภายนอก สอบประมวลความรอบรู้ฯ สอบ pre-test นักศึกษาชนั้ ปีท่ี 4 ปกี ารศกึ ษา 2562 ปีการศกึ ษา 2563 (n = ตัวช้วี ดั (n = 172) 197) ขั้นตอนเดมิ ขั้นตอนใหม่ ขน้ั ตอนใหม่ (สตู รโปรแกรม Excel) (ระบบสารสนเทศ) (ระบบสารสนเทศ) การตรวจสอบความถกู ต้องของ มีความถูกตอ้ ง ร้อยละ 90 มีความถกู ตอ้ ง ร้อยละ 100 มีความถกู ตอ้ ง ร้อยละ 100 ผลการวิเคราะห์คะแนนสอบ (ความผดิ พลาดรอ้ ยละ 10 ตรวจพบ (ดังเอกสารแนบหมายเลข 1) ในขั้นตอนตรวจสอบความถูกต้อง กอ่ นเสนอรายงานไปยังผู้บรหิ าร) จานวนชั่วโมงการวเิ คราะห์ จานวน 405 นาที จานวน 60 นาที จานวน 60 นาที และรายงานผลคะแนน (จานวนนาทลี ดลงจากปกี ารศกึ ษา (ดังเอกสารแนบหมายเลข 2) 2561 จานวน 345 นาที คิดเป็น รอ้ ยละ 85.19) ผลประเมนิ ความพึงพอใจของ ไม่มกี ารประเมินผล นักศกึ ษามีความพึงพอใจของต่อ นกั ศกึ ษามคี วามพึงพอใจของต่อ นักศกึ ษาตอ่ ระบบการตรวจผล ระบบการตรวจผลคะแนนสอบ ระบบการตรวจผลคะแนนสอบ คะแนนสอบประมวลความรอบรู้ ประมวลความรอบรู้ ร้อยละ 90.20 ประมวลความรอบรู้ รอ้ ยละ 93.00 (ดงั เอกสารแนบหมายเลข 3) และมีขอ้ เสนอแนะ ดังนี้ และมขี อ้ เสนอแนะ ดังนี้ 1. อยากให้แจ้งชอื่ รายวชิ าและ 1. สะดวกรวดเรว็ และมคี วาม คะแนนสอบ (n=2) เปน็ สว่ นตัวดีมาก 2. การตรวจสอบผลคะแนนมคี วาม 2. การใช้งานระบบดมี าก รวดเรว็ และมคี วามเป็นส่วนตวั ดีมาก (n=3) 3. การใช้งานระบบตรวจผลคะแนน สอบดมี าก (n=2) การใชท้ รพั ยากรกระดาษและ ใชก้ ระดาษ จานวน 120 แผ่น ไม่ใช้กระดาษ และไมม่ คี ่าใชจ้ า่ ย ไม่ใชก้ ระดาษ และไม่มคี า่ ใชจ้ ่าย 195

เวทีคุณภาพ II มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ สอบ pre-test นกั ศกึ ษาช้นั ปที ี่ 4 ปีการศึกษา 2562 สอบประมวลความรอบรฯู้ ปกี ารศึกษา 2563 (n = ตัวชว้ี ัด (n = 172) 197) ค่าใช้จ่าย ขัน้ ตอนเดมิ ข้ันตอนใหม่ ขนั้ ตอนใหม่ (ระบบสารสนเทศ) (สูตรโปรแกรม Excel) (ระบบสารสนเทศ) คดิ เปน็ คา่ ใช้จา่ ย 60 บาท (ลดลงรอ้ ยละ 100) (1 แผ่น x 0.5 บาท) 10. การเรยี นรู้ (Study/Learning) 10.1 แผนหรือแนวทางการพัฒนาคณุ ภาพอยา่ งต่อเน่ืองในอนาคต พัฒนารูปแบบการรายงานผลคะแนนในรูปแบบกราฟ หรอื แผนภูมิ 10.2 จดุ แขง็ (Strength) หรอื สงิ่ ท่ที าไดด้ ใี นประเดน็ ทีน่ าเสนอ 1) มรี ะบบวิเคราะห์คะแนนสอบประมวลความรอบรู้ทถ่ี กู ต้องและรวดเรว็ 2) นักศึกษาได้รบั ความสะดวกและมีความเป็นสว่ นตัวในการตรวจผลสอบประมวลความรอบรู้ ผา่ นระบบสารสนเทศ 3) มีการจัดเกบ็ ข้อมูลอยา่ งเปน็ ระบบ สามารถเรียกดยู อ้ นหลังได้ 4) ผทู้ ีเ่ กี่ยวข้องสามารถเข้าใชง้ านระบบและดูผลสอบไดต้ ลอดเวลา 5) ลดข้ันตอนและเพม่ิ ความรวดเร็วในการปฏบิ ตั งิ านของเจา้ หน้าที่ 6) ประหยดั พลงั งานไฟฟ้าในการปร้ินเอกสาร ยดื อายกุ ารใชง้ านและการบารงุ รักษาของเคร่ืองปริ้นเตอร์ 7) ลดการสิ้นเปลืองทรัพยกรของสานักงาน เชน่ กระดาษ หมึกพิมพ์ 8) อนุรกั ษ์สิง่ แวดลอ้ มโดยการไม่สร้างมลพิษทางอากาศทีเ่ กิดจากสารเคมีในหมกึ พิมพ์ ทาให้ คณุ ภาพอากาศในห้องทางานดีข้นึ ซึ่งส่งผลโดยตรงตอ่ สขุ ภาพของผปู้ ฏิบตั งิ าน 9) สามารถนารายงานผลคะแนนไปวิเคราะห์และพยากรณ์แนวโน้มของขอ้ มลู เพื่อนาไปพัฒนา 10.3 กลยุทธ์ หรอื ปัจจยั ท่ีนาไปสคู่ วามสาเร็จ 1) การให้ความรว่ มมือในการพฒั นางานระหวา่ งงานหลักสูตรปรญิ ญาตรีและงานสารสนเทศ 2) การนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใช้เพ่ือลดข้นั ตอนและระยะเวลาในการปฏบิ ตั งิ าน 3) การเลง็ เห็นถึงความสาคญั ในการสร้างความพึงพอใจให้กบั ผรู้ บั บริการ 4) ความตั้งใจและมุง่ มั่นในการแกไ้ ขปัญหาทเ่ี กดิ ขนึ้ จากการปฏบิ ัตงิ าน 11. บทสรุป การนาระบบสารสนเทศมาใช้ในการวิเคราะห์และตรวจผลสอบประมวลความรอบรู้ ทาให้ลด ข้ันตอนและเวลาในการปฏิบัติงาน การวิเคราะห์คะแนนและการตรวจผลคะแนนการสอบมีความถูกต้อง และรวดเร็ว ข้อมูลท่ีนามาใช้ประกอบการรายงานผลสอบเพ่ือนาเสนอผู้บริหารมีความน่าเช่ือถือ ผู้ที่ เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลอย่างสะดวกได้ทุกเวลา มีระบบในการเรียกดูข้อมูลย้อนหลัง ประหยัด 196

เวทีคุณภาพ II มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ ทรัพยากรกระดาษและหมกึ พมิ พ์ ลดพลังงานไฟฟ้าจากการใช้งานเครือ่ งปร้ินเตอร์ และสามารถลดมลพิษ ทางอากาศในห้องทางานทจี่ ะสง่ ผลต่อภาวะสุขภาพสาหรับผู้ปฏิบัติงานได้ 12. เอกสารอ้างองิ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์. (2561) การสอบประมวลความรอบรู้นักศึกษาระดับ ปริญญาตร.ี คมู่ อื ปฏิบตั งิ าน คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. สงขลา: คณะ พยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร.์ 13. ประเด็น (จุดเด่น) ที่เป็นแนวปฏิบตั ิทเ่ี ปน็ เลศิ 1. การทบทวนสภาพปัญหาข้ันตอนการปฏิบัติงาน เพื่อนามาพัฒนาระบบการดาเนินการให้มี ประสทิ ธภิ าพมากขนึ้ 2. การพัฒนาความคดิ สร้างสรรค์เพื่อสร้างผลการปฏิบตั ิงานเชงิ นวัตกรรมของบคุ ลากร 3. การตระหนักถึงปญั หาในการปฏิบัติงานและความตง้ั ใจในการพฒั นางานใหม้ ีประสทิ ธภิ าพมากขน้ึ 4. การมุ่งเนน้ ความสาคญั ในการอานวยความสะดวกและสร้างความเปน็ ส่วนตัวใหก้ ับผู้ใช้บริการ 5. การช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในการลดใช้ทรัพยากรและพลังงานงานไฟฟ้า ตลอดจนการลด มลพษิ ทางอากาศทีก่ ่อใหเ้ กดิ อนั ตรายต่อสุขภาพของบุคลากร 6. การนาข้อมูลที่มีอยูจ่ านวนมาก มาแปลงเป็นฐานข้อมูลเพื่อให้พร้อมในการใช้งาน และสามารถ นารายงานผลไปพยากรณ์แนวโน้มของข้อมลู ต่อ 197

เวทคี ณุ ภาพ II มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ แนวปฏบิ ตั ิทเ่ี ป็นเลศิ ****************************************** เรอ่ื ง การพัฒนากระบวนการรบั รายงานตัวนักศกึ ษาใหม่ มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ แบบออนไลน์ โครงการ/กิจกรรม ดา้ นบรหิ ารจดั การ ช่อื หน่วยงาน ฝ่ายทะเบียนและประมวลผล สานกั การศึกษาและนวตั กรรมการเรียนรู้ คณะทางานพฒั นาแนวปฏิบัตทิ เ่ี ปน็ เลศิ 1. นายนวนิก จลุ นพ 2. นายสรรชยั แซเ่ ตียว 3. นายยอดรกั บญุ พนั ธุ์ 4. วา่ ที่รอ้ ยตรกี ้องชนก ทองพรดั 5. บุคลากรงานพฒั นาระบบสารสนเทศนักศึกษา สานักนวตั กรรมดิจทิ ลั และระบบอัจฉรยิ ะ 6. การประเมินปัญหา/ความเส่ียง (Assessment) การรับรายงานตัวนักศึกษา เป็นอีกภารกิจหนึ่งของฝ่ายทะเบียนและประมวลผล สานักการศึกษาและ นวัตกรรมการเรียนรู้ ซ่ึงในแต่ละปีการศึกษา วิทยาเขตหาดใหญ่ มีผู้สนใจเข้าศึกษาเป็นจานวนมากข้ึนทุกปี การศึกษาโดยในปีการศึกษา 2561 มีผู้มีสิทธิ์เข้าจานวน 5,207 ราย ปีการศึกษา 2562 มีผู้มีสิทธ์ิเข้าจานวน 5,349 ราย ปีการศึกษา 2563 มีผู้มีสิทธ์ิเข้าจานวน 5,675 ราย กระบวนการรายงานตัวมีขั้นตอนและ กระบวนการที่มีความซ้าซ้อนท้ังการตรวจสอบเอกสารรายงานตัวของนักศึกษาที่รายงานตัวกับมหาวิทยาลัยฯ ให้เปน็ ไปตามระเบียบและประกาศของมหาวิทยาลัยฯ และตรวจสอบข้อมูลพ้ืนฐานนักศึกษาใหม่ท่ีผู้มีสิทธ์ิเข้า ศึกษาบันทึกผ่านระบบให้มีความถูกต้องและเป็นปัจจุบันเพราะมีผลต่อการออกเอกสารหนังสือสาคัญทาง การศกึ ษา การใช้ระยะเวลาในการดาเนินการรายงานตัวนักศึกษาใหม่เป็นเวลานาน สถานที่ในการรับรายงาน ตัวมีพ้ืนที่จากัด และต้องใช้เจ้าหน้าท่ีและนักศึกษาช่วยงานจานวนมากเพื่อให้การรับรายงานตัวดาเนินการ เสรจ็ ตามกาหนดเวลาและไม่ให้ส่งผลกระทบกับการทากิจกรรมของนักศึกษาใหม่ โดยกระบวนการรายงานตัว นักศึกษาใหม่ ประกอบด้วย 2 ขั้นตอน คอื 1. การเตรียมข้อมูลสาหรับรายงานตัว ผู้มีสิทธิ์เข้าศึกษาต้องดาเนินการตรวจสอบรหัสประจาตัวนักศึกษา กรอกข้อมูลพ้นื ฐานนักศกึ ษาใหม่ 2. การรายงานตัวและรับบัตรประจาตัวนักศึกษา เมื่อนักศึกษาดาเนินการเตรียมข้อมูลสาหรับ รายงานตวั ครบถว้ น ผมู้ สี ทิ ธิ์เขา้ ศึกษาตอ้ งดาเนนิ การรายงานตวั พร้อมเตรียมเอกสารรับรายงานตัว (รูปถ่ายนักศึกษา, สาเนา 198

เวทีคณุ ภาพ II มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ บัตรประจาตัวประชาชน, สาเนาเอกสารสาคัญทางการศึกษา) และกรอกข้อมูลเพื่อเปิดบัญชีและทาบัตรประจาตัวนักศึกษา หลังจากดาเนนิ การประมาณ 30 วนั นกั ศึกษาจะสามารถรับบัตรประจาตวั นกั ศกึ ษาได้ ฝ่ายทะเบียนและประมวลผล จึงมีแนวคิดในการพัฒนากระบวนการรับรายงานตัวนักศึกษา เพ่ือเพิ่ม ประสิทธิภาพของการรับรายงานตัวทั้งทางตรงและทางอ้อม การพัฒนากระบวนการดังกล่าวจะต้องช่วยลด ระยะเวลาในการดาเนินการต่าง ๆ ทั้งกระบวนการรับรายงานตัว การจัดทาบัตรประจาตัวนักศึกษา การ จดั เก็บและสืบคน้ เอกสารรายงานตัวของนักศึกษาท่ีเข้าใหม่ ให้มีความรวดเร็ว ถูกต้อง และสามารถตรวจสอบ ได้ ซึ่งเป็นการพฒั นาระบบเพ่ือรองรับการรายงานตัวทุกรูปแบบในอนาคต การพัฒนากระบวนการรับรายงาน ตวั นกั ศกึ ษาใหม่แบ่งเป็นระยะดังนี้ ระยะที่ 1 พัฒนากระบวนจัดเก็บรูปถ่ายนักศึกษาในรูปแบบออนไลน์ เพ่ือพัฒนากระบวนการรับบัตรนักศึกษา และทดสอบระบบเพื่อเป็นต้นแบบในการจัดเก็บเอกสารรายงานตัว โดยในระยะที่ 1 จัดเก็บเฉพาะรูปถ่าย ประจาตัวนักศึกษา พัฒนาแยกส่วนจากระบบข้อมูลพื้นฐานนักศึกษาใหม่ (PSU1-2) ทาให้เกิดปัญหาในการ ตรวจสอบข้อมูลพ้ืนฐานของนักศึกษาและนักศึกษาไม่ได้รับความสะดวกในการเข้าใช้งานระบบ สาหรับ กระบวนการรายงานตัวนักศึกษาใหม่ยังคงเป็นระบบเดิมโดยนักศึกษาต้องรายงานตัวท่ีมหาวิทยาลัยฯ ตามวัน เวลาท่ีมหาวิทยาลัยฯ กาหนด จากการพฒั นากระบวนจัดเก็บรูปถา่ ยนกั ศกึ ษาในรูปแบบออนไลน์ ทาให้ผู้ปฏิบัติงานได้พัฒนาและลด ขั้นตอนในกระบวนการจัดทาบัตรประจาตัวนักศึกษา ส่งผลให้นักศึกษาสามารถได้รับบัตรประจาตัวนักศึกษา ได้เร็วข้ึนจากเดิมจะได้รับบัตรประจาตัวนักศึกษาหลังรายงานตัวไปแล้ว 30 วัน เป็นนักศึกษาสามารถรับบัตร ประจาตัวนกั ศกึ ษาไดใ้ นวนั รับรายงานตัว ระยะที่ 2 ได้นาปัญหาท่ีพบจากระยะท่ี 1 มาพัฒนากระบวนการจัดเก็บเอกสารการรายงานตัวนักศึกษา Se- Doc สาหรับจัดเก็บเอกสารรับรายงานตัวนักศึกษาใหม่ (ไฟล์รูปถ่ายนักศึกษา, ไฟล์บัตรประจาตัวประชาชน, ไฟลเ์ อกสารสาคัญทางการศึกษา, ไฟล์เอกสารอื่น ๆ เช่น ใบรับรองแพทย์) รวมกับข้อมูลพ้ืนฐานนักศึกษาใหม่ (PSU1-2) โดยฝา่ ยทะเบยี นและประมวลผล สานักการศึกษาและนวัตกรรมการเรียนรู้ พัฒนาระบบร่วมกันงาน พฒั นาระบบสารสนเทศนกั ศกึ ษา สานักนวัตกรรมดิจิทัลและระบบอจั ฉรยิ ะ จากการพฒั นาในระยะที่ 2 เปน็ การพัฒนาในสว่ นการเตรียมขอ้ มูลสาหรับรายงานตัวให้อยู่ในรปู แบบ ไฟล์ดจิ ติ อลและเป็นระบบสบื ค้นเอกสารรายงานตวั นกั ศกึ ษาใหม่ให้มีความสะดวกและรวดเรว็ สามารถคน้ หา เอกสารรายงานตวั ไดผ้ ่านระบบและนากระบวนการดังกลา่ วไปพฒั นาระบบรับรายงานตวั ออนไลนใ์ นระยะที่ 3 ระยะท่ี 3 พัฒนาระบบรบั รายงานตัวออนไลน์ โดยฝา่ ยทะเบียนและประมวลผล แยกจากระบบข้อมลู พื้นฐาน นักศกึ ษาใหม่และระบบอปั โหลดเอกสารรายงานตวั นกั ศึกษา Se-Doc เพ่ือทดสอบระบบรายงานตวั ออนไลน์ 199

เวทีคุณภาพ II มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ และรวบรวมปญั หาทเี่ กดิ ข้ึนจากการใช้งานของนกั ศกึ ษาและผู้ปฏบิ ตั ิงาน เพื่อพัฒนาการบวนการรับรายงาน ตวั ในระยะท่ี 4 จากการพัฒนาระบบดังกลา่ วทาให้นักศกึ ษาทกุ วิทยาเขตสามารถรายงานตวั ไดผ้ ่านระบบออนไลนโ์ ดย นักศึกษาสามารถรายงานตัวไดท้ กุ พื้นทไ่ี ม่จาเป็นต้องอยู่ภายในมหาวทิ ยาลัยแตน่ ักศกึ ษาไม่ได้รบั ความสะดวก ในการเขา้ ใชง้ านระบบเพราะต้องเข้าใชง้ านระบบถงึ 3 ระบบจงึ มีแนวคิดในการพฒั นาระบบระยะถัดไป ระยะท่ี 4 (ปจั จุบันปีการศกึ ษา 2564) พฒั นาระบบข้อมูลพื้นฐานนักศกึ ษาใหม่ โดยรวมระบบขอ้ มูลพื้นฐานนกั ศึกษาใหม่ (PSU1-2) ระบบ อัปโหลดเอกสารรายงานตวั (Se-Doc) และระบบรายงานตัวนกั ศกึ ษาออนไลน์ เปน็ ระบบเดยี ว และแกป้ ญั หา ที่เกิดขึ้นในระยะท่ี 3 และระบบแจง้ ผลการรายงานตวั ผา่ น E-mail แผนพฒั นาในอนาคต พัฒนาการเชื่อมโยงข้อมลู นักศึกษากบั กรมการปกครองเพ่ือลดความผดิ พลาดจากการกรอกข้อมูลของ นักศึกษาและพัฒนาระบบรบั บัตรประจาตัวนักศกึ ษาโดยวิธกี ารจดั ส่งบัตรประจาตัวนักศึกษาทางไปรษณีย์ 7. เป้าหมาย/วตั ถปุ ระสงค์ของโครงการ - เพื่อปรบั ปรุงกระบวนการใหบ้ รกิ ารและลดความผิดพลาดในการรับรายงานตัวนักศกึ ษาและจัดทาบตั ร ประจาตัวนักศึกษา - เพื่อลดอัตรากาลังและงบประมาณ ในการจัดกจิ กรรมรับรายงานตัวนักศกึ ษาใหม่ - เพอ่ื พัฒนาระบบการจัดเกบ็ เอกสารรายงานตัวของนักศึกษาในรูปแบบไฟล์อเิ ล็กทรอนกิ ส์ - เพอ่ื ลดขั้นตอนในกระบวนการรบั รายงานตวั นกั ศึกษา - เพื่อสรา้ งแนวปฏิบตั ิและกระบวนการดาเนินงานให้กบั วทิ ยาเขต 200

เวทคี ณุ ภาพ II มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ 8. ผลทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั - ลดกระบวนการทางานและเพ่ิมประสิทธภิ าพในการใหบ้ ริการได้มากขน้ึ - ลดอตั รากาลงั และงบประมาณ - เจ้าหน้าท่ีมคี วามสะดวก มีกระบวนการ มแี นวปฏิบัติอย่างเปน็ ระบบในการดาเนินงาน - มรี ะบบสืบคน้ เอกสารรายงานตวั นกั ศกึ ษาใหม่ - งานทะเบียนแต่ละวิทยาเขตสามารถนาไปใช้ในการทางาน 9. การออกแบบกระบวนการ 9.1 วิธกี าร/แนวทางการปฏบิ ัตจิ รงิ (PDCA) กระบวนการรับรายงานตัวนักศึกษามีการปรับปรุงพัฒนาเป็นไปตาม PDCA ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมีการปรับปรุงพัฒนาให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง โดยบางกระบวนการยังได้ยึดถือตามข้ันตอนเดิมแต่ นาระบบเทคโนโลยีสารสารสนเทศ มาใช้ในการพัฒนากระบวนการ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยทุก กระบวนการดาเนินการตามแนวคิด PDCA ดังนี้ PLAN นาปญั หาท่ีเกดิ จากการรบั รายงานตัวนักศึกษาใหม่ มาวิเคราะห์ ดังนี้ 1. ปญั หาเรอ่ื งบตั รประจาตวั นกั ศกึ ษา นักศึกษาใหม่ได้รบั บัตรประจาตัวนักศึกษาลา่ ช้า และ ข้อมลู ในบัตรประจาตวั นกั ศกึ ษาผดิ พลาด 2. ปัญหาเรอ่ื งการตรวจสอบข้อมลู นกั ศึกษาทรี่ ายงานตวั - ขอ้ มูลพื้นฐานทะเบยี นนักศึกษาไม่ครบถว้ น - สถติ นิ กั ศึกษาใหม่ - จดั เก็บและสบื คน้ เอกสารรายงานตัว 3. ปัญหาด้านกาลงั คนที่ใชใ้ นการรับรายงานตัวนักศึกษาใหม่ เนอ่ื งจากจานวนนักศึกษามี จานวนมากและการรับรายรายงานตวั นักศึกษาใหม่ มรี ะยะเวลาท่จี ากัด ตอ้ งใชบ้ คุ ลากรและนักศึกษา ชว่ ยงานจานวนมากเพอื่ ใหก้ จิ กรรมการรายงานตวั เสร็จโดยเร็วตามเวลาทกี่ าหนดและเป็นเหตใุ หต้ อ้ งใช้ งบประมาณจานวนมากในการจ้างนกั ศึกษาปฏบิ ัตงิ าน 4. ปญั หาเร่อื งเวลาและด้านสถานทใ่ี นการรับรายงานตวั นกั ศึกษาใหม่ จากปญั หาดงั กลา่ วจงึ ได้มีการวางแผน หาวิธีพัฒนาโดยนาระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใช้ ในการปรบั ปรงุ เพ่อื ผลการดาเนนิ งานระยะยาว DO จากปัญหาดังกล่าวจึงได้มีการเร่ิมพัฒนาระบบเพ่ือนามาใช้ในการแก้ปัญหา โดยมีเง่ือนไข ความ ต้องการจากนักศึกษาและเจ้าหน้าท่ีที่รับผิดชอบโดยตรงเพ่ือตอบสนองการทางานท่ีสะดวกรวดเร็ว ดงั นี้ 201

เวทคี ณุ ภาพ II มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ ด้านนักศึกษา ดาเนินการพัฒนาระบบข้อมูลพื้นฐานสาหรับนักศึกษาใหม่ ให้นักศึกษาสามารถ ดาเนินการบันทึกข้อมูลพื้นฐาน อัปโหลดเอกสารและรายงานตัวออนไลน์ ผ่าน Web Site: https://psu1-2.psu.ac.th/student/ และมีระบบแจ้งเตือนผ่าน E-mail เมื่อนักศึกษารายงานตัว เสร็จสมบูรณ์ และปรับปรุงกระบวนการรับบัตรประจาตัวนักศึกษาได้เร็วขึ้น จากเดิมนักศึกษาจะ สามารถรับบัตรประจาตัวนักศึกษาได้หลังรายงานตัวไปแล้ว 30 วัน เป็นรับบัตรได้ในวันรายงานตัว ก่อนเปิดภาคการศกึ ษา เจ้าหน้าที่ท่ีรับผิดชอบ สามารถลดอัตรากาลังจากเดิมต้องใช้เจ้าหน้าท่ีท่ีเก่ียวข้อง 7 รายและ นักศึกษาช่วยงานประมาณ 25 ราย เป็นใช้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 1 ราย และพัฒนาระบบจัดเก็บ เอกสารรายงานตัวนักศึกษาเพ่ือให้สามารถตรวจสอบ และสืบค้นเอกสารการรายงานตัวได้ และ เจา้ หนา้ ทที่ เี่ กยี่ วขอ้ งสถติ ิการรายงานตวั ไดผ้ ่านระบบแบบ Real time CHECK เมื่อมีการพัฒนาระบบเสร็จสิ้นแล้วจะดาเนินการทดสอบระบบโดยเจ้าหน้าท่ีท่ีรับผิดชอบและ เจ้าหน้าท่ีสานักนวัตกรรมดิจิทัลและระบบอัจฉริยะ ทดลองใช้งานระบบเพ่ือแก้ปัญหาก่อนเปิดใช้ ระบบ และประเมินผลการใช้งานระบบในแต่ละระยะของการพัฒนาและเก็บรวบรวมปัญหาท่ีเกิดขึ้น เพื่อปรับปรงุ ระบบในระยะถัดไป ACTION เมื่อเปิดใช้งานระบบจริงพบว่าระบบสามารถตอบสนองความสะดวก รวดเร็วและถูกต้องทั้งในส่วน ของเจ้าหน้าทีแ่ ละนักศึกษาอีกทัง้ ยังมีความยืดหย่นุ สามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกวิทยาเขต 9.2 งบประมาณท่ใี ชใ้ นการจัดโครงการ-กิจกรรม (ถ้ามี) - ไม่มี - 10 การวัดผลและผลลพั ธ์ (Measures) แสดงระดับแนวโน้มขอ้ มูลเชิงเปรียบเทียบ (3ปี) หรือ เปรียบเทียบกับหนว่ ยงานภายใน/ภายนอก จากการปรับปรุงกระบวนการรบั รายงานตวั นกั ศึกษาใหม่ จาแนกผลลพั ธก์ ารปรับปรุงเพื่อลด ปัญหาต่าง ๆ ดังนี้ 1.ดา้ นการจัดเก็บเอกสารรายงานตวั จากการพัฒนากระบวนการรายงานตวั นกั ศึกษาใหมจ่ ากเดิมการจัดเก็บเอกสารรายงานตัวในรูปแบบ กระดาษทาใหก้ ารคน้ หาข้อมลู และการเก็บรกั ษาไมส่ ะดวกใช้เวลาในการคน้ หาเอกสารการรายงานตวั ประมาณ 20 -30 นาที จากการพัฒนากระบวนการรับรายงานตวั ผลลพั ธ์คือมรี ะบบการจัดเก็บเอกสารในรปู แบบไฟลอ์ ิเล็กทรอนกิ สง์ ่ายตอ่ การจดั เก็บ และสบื ค้นเอกสารผปู้ ฏิบัตติ งิ านสามารถสบื ค้นขอ้ มูลไดผ้ ่าน Web Site : https://psu1-2.psu.ac.th/sedoc/ ภายใน 1 นาที 202

เวทคี ณุ ภาพ II มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ 3. ดา้ นอตั รากาลงั และค่าใชจ้ ่ายในการรับรายงานตัวนักศึกษาใหม่ จากเดิมต้องใช้อัตรากาลงั ในการรบั รายงานตัวนกั ศึกษาโดยเป็นเจ้าหน้าทที่ เ่ี ก่ียวข้อง 7 รายและ นกั ศกึ ษาช่วยงานประมาณ 25 ราย โดยมีค่าจ้างนักศกึ ษาชว่ ยงานในการรบั รายงานตวั นักศึกษาใหม่ ประมาณ 30,000 บาท/ภาคการศึกษา (ภาคการศึกษาที่ 1 รายงานตัว 2 วัน) เมอ่ื มีการพฒั นากระบวนการรบั รายงาน ตวั นักศึกษาใหมด่ ้วยระบบรับรายงานตัวนักศึกษาออนไลน์ทาให้ไมจ่ าเปน็ ตอ้ งมีนักศึกษาชว่ ยงาน 4. ดา้ นข้อมูลพนื้ ฐานนักศึกษาใหม่ จากการพฒั นากระบวนการสามารถวัดผลการด้านความผิดพลาดข้องข้อมลู ได้จากการขอทาบัตร นกั ศกึ ษาใหมแ่ ละการแก้ไขขอ้ มลู ของนักศึกษาใหม่ ดงั น้ี สถติ กิ ารยืน่ คาร้องของนักศึกษาใหม่ 20 15 10 5 0 2561 2562 2563 ขอทาบตั รนกั ศึกษาใหม่ ขอแกไ้ ขขอ้ มลู สว่ นตวั การวดั ผลด้านความผิดพลาดด้านการขอทาบตั รประจาตัวนักศึกษาใหม่ มีอัตราการยืนคาร้องน้อยลงตามลาดับ โดยการขอทาบัตรประจาตัวนักศกึ ษาใหม่ ปี 2561 มีการยื่นคาร้อง 14 ฉบับ ปี 2562 มีการย่ืนคาร้อง 9 ฉบับ และปี 2563 มกี ารยื่นคารอ้ ง 5 ฉบบั คาร้องขอแก้ไขขอ้ มูลส่วนตัว ปี 2561 มีการย่ืนคาร้อง 19 ฉบับ ปี 2562 203

เวทคี ุณภาพ II มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ มีการย่นื คารอ้ ง 14 ฉบบั และปี 2563 มกี ารยืน่ คาร้อง 7 ฉบับ มีการจัดทาระบบตรวจสอบสถิติการรายงานตัว นักศึกษาใหม่แบบ Real time ผ่าน Web Site: https://reg.psu.ac.th/thereport เพ่ืออานวยความสะดวก แก่คณะ/สาขาวิชา เพ่ือให้ทราบจานวนนักศึกษาท่ีรายงานตัวเป็นนักศึกษาใหม่ เพ่ือลดปัญหาด้านการจัดการ ขอ้ มูลของคณะ 5. ดา้ นขั้นตอนในการดาเนินการต่าง ๆ มีการปรับปรุงกระบวนการต่าง ๆ เช่น ปรับปรุงกระบวนการจัดทาบัตรประจาตัวนักศึกษาใหม่จาก เดิมนักศึกษาใหม่สามารถรับบัตรประจาตัวนักศึกษาได้หลังรายงานตัวประมาณ 30 วันเป็นนักศึกษาสามารถ รับบตั รประจาตวั นกั ศึกษาใหม่ไดภ้ ายในวันรายงานตัว โดยนาระบบอัปโหลดเอกสารรายงานตัวมาประยุกต์ใช้ ปรับปรุงการตรวจสอบข้อมูลนักศึกษาซ้าซ้อน หรือ ข้อมูลท่ีจาเป็นต่อการออกเอกสารสาคัญทางการศึกษาไม่ ครบถว้ น โดยการใชร้ ะบบสารสนเทศในการตรวจสอบข้อมูลผ่านการรายงานตัวออนไลน์ เปรียบเทยี บขน้ั ตอนในการรายงานตวั นักศึกษาใหม่ กอ่ นปรับกระบวนการ หลงั ปรับกระบวนการ เร่มิ กระบวนการรายงานตวั
ตรวจสอบรหสั ประจาตวั นกั ศกึ ษา กรอกข้อมูลพน้ื ฐาน / PSU1-2
เตรียมเอกสารรายงานตัว ไม่ผา่ นการตรวจ ไมผ่ ่านการตรวจสอบ ตรวจสอบ ข้อมลู พ้นื ฐาน เอกสารรายงานตวั ผ่านการตรวจ ตรวจสอบขอ้ มลู พน้ื ฐาน บนั ทึกสถานะนกั ศกึ ษา กรอกข้อมลู เปดิ บญั ช/ี ทาบัตรนักศึกษา รบั บัตรนกั ศกึ ษา สิ้นสดุ กระบวนการ รายงานตัว 204

เวทีคณุ ภาพ II มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ เปรยี บเทียบระยะเวลาในการรายงานตัวนักศกึ ษาใหม่ กระบวนการเดมิ เวลา กระบวนการใหม่ เวลา รายงานตวั ออนไลน์ 2 นาที เตรียมเอกสารรายงานตัว 5 นาที บันทึกข้อมลู นักศึกษา 5 นาที รับบัตรประจาตัวนักศกึ ษา 5 นาที กรอกขอ้ มลู ทาบตั รและเปิดบัญชีนกั ศึกษา 30 นาที รับบัตรประจาตัวนกั ศึกษา 10 นาที รวม 50 นาที 7 นาที ผลสมั ฤทธิ์ของการพฒั นากระบวนการรบั รายงานตัว ใหม่ 4 รายการ เดมิ รับไดใ้ นวนั รายงานตัว 1 ขัน้ ตอน ขั้นตอนในการรายงานตวั 6 1 ราย 0 บาท เวลาในการรอรับบัตรประจาตัวนักศึกษา 30 วัน หลงั รายงานตัว 1 นาที ลด ขน้ั ตอน, ความซา้ ซ้อนในการตรวจสอบเอกสารรายงานตวั 2 ข้ันตอน เจ้าหน้าท่แี ละนกั ศกึ ษาช่วยงานรบั รายงานตวั 32 ราย คา่ จ้างนกั ศึกษาชว่ ยงานในการรับรายงานตวั นักศึกษาใหม่ 30,000/ปีการศกึ ษา เวลาในการคน้ หาเอกสาร 20 – 30 นาที รายการ เดมิ ใหม่ เพิม่ ความสะดวกในการรายงานตวั 50 นาที 7 นาที จากการวดั ผลลพั ธ์ของพัฒนากระบวนการรบั รายงานตัวทาใหบ้ รรลวุ ตั ถปุ ระสงค์และเปา้ หมายทตี่ ั้งไว้ ดงั นี้ ดา้ นผูป้ ฏบิ ตั งิ าน มรี ะบบรบั รายงานตัวที่ชว่ ยลดข้ันตอนในการปฏบิ ัตงิ าน ลดอตั รากาลงั ใน การปฏิบตั ิงานรบั รายงานตัวและเพิม่ ประสทิ ธภิ าพในการทางานด้านทะเบยี นนักศกึ ษา ด้านผู้รบั บริการ (นักศึกษา) มีระบบรายงานตัวนกั ศึกษาแบบออนไลนเ์ พื่อความสะดวก รวดเร็ว ในการรายงานตวั และมรี ะบบเพื่อตรวจสอบข้อมูลในการจัดทาบัตรประจาตัวนักศกึ ษาท่ชี ่วย ลดความผดิ พลาดของการจัดทาบตั รประจาตวั นักศึกษา 11 การเรียนรู้ (Study/Learning) 205

เวทคี ุณภาพ II มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ 11.1 แผนหรอื แนวทางการพัฒนาคุณภาพอย่างตอ่ เนอ่ื งในอนาคต - ทบทวนปรบั ปรงุ แก้ไขจุดอ่อนของกระบวนการการรับรายงานตัวนกั ศกึ ษาใหม่ หลงั ดาเนนิ งานทกุ ครง้ั เพ่ือพัฒนาแนวคิด - วางเปา้ หมายของการพฒั นากระบวนการรับรายงานตวั นักศึกษาใหม่ ให้มีความทนั สมยั อยา่ งต่อเนือ่ ง 11.2 จุดแข็ง (Strength) หรอื ส่ิงที่ทาไดด้ ใี นประเด็นท่นี าเสนอ การนาปัญหาท่ีเกิดข้นึ จริงเข้าส่กู ระบวนการวเิ คราะหป์ ญั หาและหาวธิ กี ารจดั การทงั้ รปู แบบการ ดาเนนิ งานการนาเทคโนโลยสี ารสนเทศเข้ามาประยุกตใ์ ช้ เพ่ือประสทิ ธภิ าพในการทางาน แก้ปญั หาความ ซา้ ซ้อน ลดขั้นตอนการทางาน ลดภาระการเดินทางของนักศึกษาใหม่ ลดภาระค่าใชจ้ ่ายของผปู้ กครองรวมถึง งบประมาณการดาเนินการ 11.3 กลยุทธ์ หรือปจั จัยที่นาไปสู่ความสาเรจ็ กลยุทธ์การพัฒนากระบวนการรับรายงานตัวนักศึกษาใหม่ท่ีนาไปสู่ความสาเร็จ คือการดาเนินการ ตาม - การเรียนรู้และการพัฒนางานด้วยระบบ PDCA ไดแ้ ก่ มีการวางแผนกลยุทธ์ในพัฒนากระบวนการ รับรายงานตัว (PLAN) เพ่ือลดความผิดพลาดและเวลาในการดาเนินการ ลงมือปฏิบัติ (DO) เพ่ือให้ กระบวนการรบั รายงานตัวออกมาตามแนวคิดทวี่ างแผนไว้และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ประเมิน (CHECK) มี การประเมนิ และตดิ ตามผลการใชง้ าน แลกเปลี่ยนแนวคดิ การรับรายงานตัวของแต่ละวิทยาเขตเพื่อหาประเด็น ท่ีน่าสนใจ ไปประยกุ ต์ต่อยอดทาใหเ้ กิดประโยชนใ์ นวงกว้างและมีการปรับปรุงอย่างต่อเนือ่ ง (ACT) - การมงุ่ เน้นผลสัมฤทธิ์ของกระบวนการทางานให้เกิดประสิทธิภาพ - การนาเทคโนโลยีมาประยุกตใ์ ช้อย่างเหมาะสมเพื่อลดข้นั ตอนและประบวนการทางาน 12 ประเด็น (จดุ เดน่ ) ทเี่ ป็นแนวปฏิบัตทิ เ่ี ป็นเลศิ การปรับปรุงการพัฒนากระบวนการรับรายงานตัวนักศึกษาใหม่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ของ ฝ่ายทะเบียนและประมวลผล เป็นกระบวนการท่ีดาเนินการมาอย่างต่อเน่ืองโดยผ่านการคิดวิเคราะห์ และ วางแผนปรับปรุงกระบวนการทางานและแก้ไขปัญหาหน้างาน เพ่ือให้บรรลุวัตถุประสงค์และประพบ ความสาเร็จ จะเห็นได้ว่าจากข้อมูลผลการดาเนินงานที่ผ่านมา ตลอดจนความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ และการแลกเปลี่ยนแนวคิดกระบวนการรับรายงานตัวนักศึกษาใหม่ กับต่างวิทยาเขตถึงแนวปฏิบัติการรับ รายงานตัวนกั ศกึ ษาใหม่ เพื่อเปน็ ประโยชน์ในการปรบั ปรุงและพฒั นาร่วมกนั 13 เอกสารอ้างอิง - ประกาศมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เร่อื ง การเตรยี มตัวนักศกึ ษาใหม่ - ระบบข้อมูลพืน้ ฐานนักศึกษาใหม่ Website : https://psu1-2.psu.ac.th/PSU1-2/ 206

เวทคี ุณภาพ II มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ - ระบบอปั โหลดเอกสารรายงานตัวนักศกึ ษาใหม่ Website : https://regfile.psu.ac.th/student/ - ระบบรายงานตวั นกั ศึกษาออนไลน์ Website : https://reg.psu.ac.th/confirmstudy/ 14 บทสรุป ฝ่ายทะเบียนและประมวลผล สานักการศึกษาและนวัตกรรมการเรียนรู้ ได้นาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมา พฒั นากระบวนการรับรายงานตัวนักศึกษาใหม่ ตั้งแต่ปีการศึกษา 2559 จนถึงปัจจุบัน โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือ คิดวิเคราะห์ปัญหาที่มีอยู่และปรับปรุงพัฒนาให้กระบวนการให้บริการดีข้ึน เพ่ือให้เจ้าหน้าท่ีปฏิบัติงานและ ผู้รับบริการ ได้รับความสะดวก รวดเร็ว พร้อมทั้งแลกเปล่ียนเรียนรู้กับต่างวิทยาเขต เพ่ือจุดประเด็นความคิด ในการปรับปรุง ต่อยอดในกระบวนการรับรายงานตัวนักศึกษาใหม่ ผลจากการดาเนินการปรับปรุง กระบวนการรับรายงานตัวนักศึกษาท่ีผ่านมา มหาวิทยาลัยฯได้ใช้กระบวนการรายงานตัวรูปแบบออนไลน์ใน ทุกวิทยาเขต เพื่อการรับรายงานตัวนักศึกษาท่ีมีประสิทธิภาพมากยิ่งข้ึนและนักศึกษาได้รับความสะดวก รวดเร็ว ในการรายงานตวั เป็นนกั ศกึ ษาใหม่แบบออนไลน์และสามารถรับบัตรประจาตัวนักศึกษาได้ภายในเวลา ท่ีมหาวิทยาลัยฯ กาหนด และจากการพัฒนากระบวนการอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายทะเบียนและประมวลผล จึ งมี แนวคิดในการพัฒนากระบวนการรับรายงานตัวในระยะถัดไป ทั้งด้านการเชื่อมโยงข้อมูลจากหน่วยงานท่ี เก่ียวข้องเช่นกรมการปกครอง หรือ ข้อมูลจากระบบทะเบียนนักศึกษาเดิมเพ่ือลดการบันทึกข้อมูลส่วนตัวท่ี อาจเกิดขอ้ ผิดพลาด หรือการปรับปรงุ กระบวนการจดั สง่ บัตรประจาตัวนักศึกษาเพื่ออานวยความสะดวกให้กับ นกั ศกึ ษาใหม่ โดยการนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาชว่ ยในการพัฒนากระบวนการดงั กล่าว 207

เวทีคุณภาพ II มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ แนวปฏิบตั ิท่เี ป็นเลศิ ****************************************** เรื่อง เพิ่มประสิทธิภาพการดูแลผู้ปว่ ยทีต่ ้องใส่เฝอื กด้วยมีดตกแต่งเฝือก (PSU cast cutting knife) โครงการ/กจิ กรรม ด้านบริหารจัดการ ชือ่ หน่วยงาน คลินิกเฝือก หอผู้ปว่ ยนอก 2 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คณะทางานพฒั นาแนวปฏิบัตทิ ่เี ปน็ เลิศ 1. นางกาญจนา วงษเ์ ลี้ยง 2. นายครัน่ อรญั ดร 3. รศ.นพ.วราห์ ยืนยงวิวัฒน์ การประเมนิ ปัญหา/ความเส่ียง การดูแลรักษาผู้ป่วยด้วยการใส่เฝือกขาท้ังในผู้ป่วยท่ีได้รับบาดเจ็บที่บริเวณขาและเท้า เช่น กระดูกหัก ข้อเคล่ือน ข้อแพลง หรือในผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของรูปขาและเท้านั้น แพทย์จะทาการใส่เฝือก เพื่อช่วยพยงุ กระดกู และกลา้ มเน้อื ทีไ่ ดร้ บั บาดเจ็บ ชว่ ยป้องกันการเกดิ การบาดเจ็บซ้า ลดอาการปวด ลดบวม และลดกล้ามเน้ือหดเกร็ง ป้องกันไม่ให้กระดูกท่ีจัดเข้าท่ีแล้วเกิดการเคลื่อนท่ีผิดรูปขึ้น หรือใส่เฝือกเพ่ือแก้ไข ความผิดปกติของรูปขาและเท้า โดยผู้ป่วยต้องกลับมาเปลี่ยนเฝือกเป็นระยะจนกว่าอาการของโรคจะดีข้ึน จา กกการเก็บข้อมูลย้อนหลัง 3 ปี (พ.ศ.2561-2563) พบว่าสถิติหัตถการในการใส่เฝือกขาเฉลี่ย 150 คร้ัง ต่อ เดือน การใส่เฝือกจะต้องพันเฝือกให้แน่นกระชับกับกระดูกขา โดยความยาวของเฝือกจะต้องใส่ตั้งแต่ข้อที่ต่า กวา่ กระดกู ท่ีหักจนถึงข้อท่ีอยู่สูงกว่ากระดูกท่ีหัก และเพ่ือให้เกิดความสุขสบายกับผู้ป่วยขณะอยู่ในเฝือก หรือ กรณที ีต่ ้องใส่เฝอื กให้ชว่ ยประคองเท้าจนถึงปลายเท้าทม่ี ีพยาธสิ ภาพ หรอื ตอ้ งดัดเท้าให้ได้รูปนั้น จาเป็นต้องใส่ เฝือกให้เหนือจากระดับปลายเท้าไปอีกระดับหน่ึง แล้วจึงตกแต่งเฝือกให้ได้รูปตามวัตถุประสงค์ท่ีต้องการ โดยทั่วไปในการใส่เฝือกมักจะไม่ได้รูปตามที่ต้องการในข้ันตอนเดียวแต่ต้องมีการตกแต่งเฝือกเพื่อให้ตรงตาม แผนการรักษา (ดังรูปที1่ ) ผู้ป่วยรู้สึกสบายขณะอยู่ในเฝือก และสามารถประเมินการไหลเวียนของเลือดได้ ทา ให้ผปู้ ว่ ยปลอดภยั จากภาวะแทรกซ้อนจากการใสเ่ ฝือก การใส่เฝือกที่ไม่ได้รับการตกแต่งนอกจากทาให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สุขสบายแล้วยังไม่สามารถประเมินการ ไหลเวยี นเลือดได้ และอาจเกดิ ภาวะแทรกซ้อนขณะอยใู่ นเฝือกได้ โดยเฉพาะภาวะความดันในช่องกล้ามเน้ือสูง (compartment syndrome) ซ่ึงนับว่าเป็นภาวะฉุกเฉินทางศัลยกรรมท่ีต้องให้การช่วยเหลืออย่างทันท่วงที เพราะหากมีภาวะความดนั ในชอ่ งกล้ามเนื้อสงู เกดิ ขน้ึ จะทาใหเ้ นื้อเยอื่ บริเวณท่ไี ดร้ ับผลกระทบขาดเลือด และมี ออกซิเจนไปเล้ยี งไมเ่ พยี งพอ อันส่งผลให้เกิดกล้ามเนื้อตาย การติดเชื้อ และการสูญเสียอวัยวะจากการต้องตัด อวัยวะที่กล้ามเนื้อตายแล้วท้ิง ปัจจุบันพบว่ายังไม่มีมีดที่มีความเหมาะสมในการตกแต่งเฝือกโดยเฉพาะ บางคร้ังอาจมีการนามีดทั่วไปเช่น คัตเตอร์มาใช้แทนซึ่งไม่มีความคม หรือตกแต่งไม่สะดวก ใบมีดไม่แข็งแรง เป็นสนิมได้ง่าย ปลายมีดแหลมคม ไม่มีความโค้งท่ีเข้ากับความโค้งมนของเฝือกหรือตกแต่งไม่สะดวก ด้ามจับ 208

เวทคี ุณภาพ II มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ ไมถ่ นดั ไมส่ ามารถบงั คบั ความลกึ (ดงั รูปท่ี 2) บางคร้ังจะมีการใส่เฝือกโดยไม่มีเฝือกรองรับปลายเท้าเน่ืองจาก ไมส่ ามารถตกแต่งเฝอื กได้ ทาให้ปลายเท้าหงิกงอ ผู้ปว่ ยไม่สขุ สบายขณะอยใู่ นเฝือก (ดังรูปท่ี 3) จึงได้ประดิษฐ์ มีดตกแต่งเฝอื กข้นึ รูปที่ 1 การตกแต่งเฝอื ก รูปท่ี 2 มดี คัตเตอร์ รูปที่ 3 การใสเ่ ฝอื กทไ่ี ม่มีเฝือกรองรบั ปลายเทา้ เปา้ หมาย/วตั ถปุ ระสงค์ของโครงการ 1. เพ่ือออกแบบและพัฒนาสง่ิ ประดิษฐม์ ดี ตกแตง่ เฝือกสาหรับการตกแต่งเฝือกที่เหมาะสมตอ่ การใช้งาน ตกแตง่ เฝือก 2. เพ่อื ให้ผู้ปว่ ยปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อนจากการใส่เฝือก (Compartment syndrome) ผลที่คาดว่าจะไดร้ บั 1. เพม่ิ ความร้สู ึกสบายของผู้ป่วยขณะอยใู่ นเฝือก 209

เวทีคณุ ภาพ II มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ 2. สามารถประเมนิ การไหลเวียนของเลือดได้ การออกแบบกระบวนการ จากประสบการณก์ ารทางานในการใส่เฝือก คุณครั่น อรัญดร ผู้ช่วยแพทย์ในการใส่เฝือก หนึ่งในทีมผู้ ประดิษฐ์ ด้วยความมุ่งมั่นเพ่ือให้ผู้ป่วยได้รับดูแลในการใส่เฝือกท่ีดีท่ีสุด จึงได้มีการประดิษฐ์มีดเพ่ือตกแต่ง เฝอื กมาใช้เองจากใบเลื่อยเหลือใชน้ ามาลับให้คม ผลจากการลับมีดทุกวันๆ ทาให้ค้นพบใบมีดที่มีส่วนเว้าโค้งที่ ได้รูปเฉพาะสาหรับตกแต่งเฝือก และเป็นที่ยอมรับของแพทย์ นาไปสู่การคิดค้นในการออกแบบมีดตกแต่ง เฝือก (PSU cast cutting knife) ซ่งึ ได้มีการออกแบบกระบวนการทางานโดยมีขั้นตอนในการประดิษฐ์คิดค้น 2 ระยะ ดังนี้ 1. ระยะเตรียมการ ผู้ประดิษฐ์ได้นาแนวคิดและมีดตกแต่งเฝือกต้นแบบเข้าร่วมประกวดโครงการ Spark Innovation ป ร ะ จ า ปี พ . ศ . 2 5 5 8 จั ด โ ด ย ห น่ ว ย ส่ ง เ ส ริ ม แ ล ะ พั ฒ น า วิ ช า ก า ร ค ณ ะ แ พ ท ย ศ า ส ต ร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยมีการนาเสนอผลงานเพื่อคัดเลือกผลงานดีเด่นจานวน 3 คร้ัง ซึ่ง มีดตกแต่ง เฝือก (PSU cast cutting knife) ได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 10 ผลงานดีเด่น และได้รับการสนับสนุนทุน จานวน 100,000 บาท เพอ่ื นามาพัฒนาสิ่งประดษิ ฐ์ 2. ระยะดาเนนิ การ ศึกษาข้อมลู ทีเ่ ก่ียวข้องรว่ มกับแพทยผ์ ้เู ชีย่ วชาญทางด้านออรโ์ ธปดิ ิกส์และเจ้าหน้าท่ี คลนิ กิ เฝือก ออกแบบ Prototype 1 ผลติ Prototype 1 Discuss and redesign ผลิต Prototype 2 210

เวทีคณุ ภาพ II มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ ทดสอบ finalize และศึกษาประสทิ ธิภาพการ ใชง้ าน ศึกษาประสิทธผิ ลการใชง้ านสิง่ ประดษิ ฐ์ ใชง้ าน ตารางแสดงการออกแบบและพฒั นาสิง่ ประดิษฐต์ ้นแบบ (prototype 1) รายการ วสั ดทุ ีใ่ ช้ ปญั หาท่ีพบ -ใบมดี ใช้เหล็กสแตน -ใบมีดไม่สามารถลับให้คมได้ดีพอ เลสสตลี ตัดเฝือกได้ไมด่ ี - ด้ามมดี ใชเ้ หลก็ -ด้ า ม มี ด มี น้ า ห นั ก เ บ า ล ง แ ต่ ไ ม่ สแตนเลสสตีล 316 สามารถเช่ือมต่อด้วยสกูรจึงทาให้ไม่ สามารถเปลี่ยนใบมดี ได้ -ใบมีดใช้เหล็กสแตน -ใบมีดไม่สามารถลับให้คมได้ดี ตัด เลสสตีล เฝือกได้ไม่ดี -ด้ า ม มี ด ใ ช้ แ ท่ ง -ด้ า ม มี ด มี น้ า ห นั ก เ บ า ล ง แ ต่ ไ ม่ พลาสตกิ ยูรเี ทน สามารถเชื่อมต่อด้วยสกูรจึงทาให้ไม่ สามารถเปลี่ยนใบมีดได้ -ใบมีดใช้เหลก็ สแตน -ใบมีดไม่สามารถลับให้คมได้ ใช้งาน เลสสตลี ตดั เฝือกได้ไมด่ ี -ดา้ มมีดใช้เหลก็ -ด้ามมีดมีน้าหนักมากเกินไปทาให้ สแตนเลสสตลี เกิดความเมื่อยลา้ จากการใช้งาน -เช่อื มตอ่ มดี และด้าม -สามารถเปลี่ยนใบมดี ได้ มดี ด้วยสกรู 211

เวทคี ณุ ภาพ II มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ แนวคิดในการปรับปรงุ งาน รวมถึงจุดเด่นทางด้านเทคนิค PDCA 1 PDCA 2 PDCA 3 212

เวทีคุณภาพ II มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ ผลลัพธ์และการวดั ผล 1. มีสิ่งประดิษฐ์มีดตกแต่งเฝือกสาหรับการตกแต่งเฝือกให้ได้มาตรฐาน และเหมาะสมต่อการใช้งานได้ ตรงตามแผนการรักษาของแพทยส์ ง่ ผลทาใหผ้ ูป้ ว่ ยมีความรู้สึกสบายขณะอยใู่ นเฝือก 2. ไม่พบอุบัติการณ์การเกิด compartment syndrome ในผู้ป่วยท่ีใส่เฝือกขา [เก็บข้อมูลย้อนหลัง 3 ปี (ปพี .ศ.2561-2563) 3. การวดั ผลดา้ นคุณภาพความแข็งแรงของใบมีด (Blade strength) ใบมีดทามาจากสแตนเลสสตีล (SUS 304) ซงึ่ คณุ สมบตั ทิ ี่ดีของโลหะชนิดนี้ คือ มีผิวที่สวยและเงางาม เนอื้ คอ่ นข้างเรียบ ผวิ หน้ามรี พู รุนนอ้ ยจึงไมค่ อ่ ยมีสารหรอื สง่ิ ใดๆ ยึดเกาะได้ง่ายและแม้ว่ามีคราบใดมายึดเกาะ จะสามารถเช็ด ล้างทาความสะอาดได้อย่างง่ายดาย จากการทดลองใช้มีดตัดเฝือกพบว่ามีดมีความแข็งแรง สามารลับให้คมได้ดี ใบมีดมีอายุการใช้งาน 1 ใบตอ่ 6 เดือน ทงั้ นข้ี ้นึ อยู่ความถีใ่ นการใช้งานตดั เฝือก 4. การวดั ผลด้านความปลอดภยั ในการใช้งาน มีดตกแต่งเฝือกท่ีประดิษฐ์ข้ึน มีน้าหนักเบา มีด้ามจับกระชับมือท่ีออกแบบตามหลักการยศาสตร์ ทา ให้ลดความเมอื่ ยลา้ ของผู้ใชง้ านตามหลกั การประเมินดา้ นการยศาสตร์ขณะใชง้ านสิ่งประดิษฐ์ ประเมินโดยใช้แบบประเมินเพ่ือสารวจภาระงานของกล้ามเนื้อของ ISO 20646 (Annex D) ซ่ึงใช้ใน การสารวจภาระงานของกล้ามเนื้อของผู้ปฏิบัติงาน การสารวจภาระงานของกล้ามเน้ือเป็นการประเมินจาก ความรู้สึกของผู้ปฏิบัติงานว่ามีความรู้สึกเหนื่อย หรือเจ็บปวดกล้ามเนื้อระหว่างทางาน หรือหลังเลิกงาน หรือไม่ ซึ่งผู้ถูกสัมภาษณ์จะต้องบ่งชี้ความรุนแรงของอาการโดยแบ่งคะแนนเป็น 5 ระดับ (0-4) ดังนี้ ไม่รู้สึก (0) ร้สู กึ นิดหน่อย (1) รู้สึกปานกลาง (2) รู้สกึ มาก (3) และรสู้ ึกมากเกนิ ทนไหว (4) จากการประเมินความเม่ือยล้าของผู้ใช้งานจากแพทย์ ,พยาบาล , ผู้ปฏิบัติพยาบาล และ เจ้าหน้าที่ สาขาวิชาออร์โธปิดิกส์ในการตกแต่งเฝือกให้ผู้ป่วยจานวน 20 คน พบว่า ไม่มีความรู้สึกคิดเป็น 29% และมี ความรสู้ กึ นิดหนอ่ ยคดิ เปน็ 57% และมีความร้สู กึ ปานกลางคิดเปน็ 14% 5. การวัดผลด้านความพงึ พอใจตอ่ การใช้งานมีดตกแต่งเฝือกจากแพทย์ พยาบาล ผู้ปฏิบัติพยาบาล และ เจ้าหน้าท่ีสาขาวิชาออร์โธปิดิกส์ฯ ในการตกแต่งเฝือกให้ผู้ป่วยจานวน 20 คน พบว่ามีความพึงพอใจโดยรวม ระดับมากที่สุด =75% ในส่วนของความพึงพอใจต่อความคมและรูปแบบความเว้าโค้งท่ีได้รูปเฉพาะตกแต่ง เฝอื ก = 85% 213

เวทีคณุ ภาพ II มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ 6. กาหนดเป็นมาตรฐานการใชง้ านในการใส่เฝอื ก ดังนี้ 6.1 ใส่เฝือกที่ขาใหค้ ลุมปิดปลายเทา้ หลงั จากนน้ั ใช้มีดตกแต่งเฝอื กกรีดเฝือกตามรูป 6.2 ใช้มีดตกแต่งเฝือกให้ได้รูปตามต้องการเพ่ือให้ผู้ป่วยรู้สึกสุขสบาย สามารถประเมินการไหลเวียน เลอื ดส่วนปลายได้ดี และไมเ่ กิดภาวะแทรกซอ้ นขณะใส่เฝือก 6.3 ให้คาแนะนาผู้ป่วยในการดแู ลเมื่อต้องเข้าเฝอื กดงั น้ี  พยายามเคล่ือนไหวสว่ นทอ่ี ยู่ภายนอกเฝือกเพื่อช่วยลดอาการบวม  ห้ามตัดเฝือกออกเองทงั้ หมดหรอื บางสว่ น  หา้ มทาใหเ้ ฝือกเปยี กน้า หรอื ลนดว้ ยความรอ้ นเพ่ือใหแ้ ห้งเร็ว  อย่าใหเ้ ฝือกได้รบั แรงกดจนแตกหรอื ยุบเชน่ เหยยี บหรือวางลงบนพ้ืนแข็งโดยตรง  หา้ มใชข้ องแข็งแหยเ่ ข้าไปใต้เฝือกเพ่ือแก้อาการคนั เพราะอาจทาใหผ้ วิ หนังถลอกและมแี ผล  อย่าดึงสาลีหรอื วสั ดรุ องเฝอื กออก  ยกขาที่ไดร้ ับการใส่เฝอื กให้อยเู่ หนอื ระดบั หวั ใจขณะพักผ่อนสมอเพื่อลดอาการปวด 214

เวทคี ณุ ภาพ II มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ 6.4 ใหม้ าพบแพทย์โดยเร็วท่สี ดุ เมื่อมคี วามผิดปกตดิ ังนี้  เท้าสว่ นท่ใี ส่เฝือกบวมมาก  ร้สู กึ เจ็บปวดหรือแสบรอ้ นทั้งๆ ท่ีได้ยกส่วนท่ีใสเ่ ฝือกไว้สูงเหนอื ระดับหวั ใจและไมส่ ามารถ ระงับดว้ ยการรับประทานยาแกป้ วดธรรมดา  สงั เกตวา่ ปลายนว้ิ หรือ เล็บเท้าเขยี วคล้ากว่าข้างปกติ  รสู้ กึ ชาหรือเป็นเหน็บเพ่ิมขนึ้ เร่ือยๆ  กาลังในการขยับอวัยวะส่วนท่ีโผล่ออกมาทางปลายเฝือกลดน้อยลงเร่ือยๆ เช่น ไม่มีแรง หรือกระดกิ ปลายเทา้ ไม่ได้  คลาชีพจรซึ่งเคยคลาได้ปกติ น้ันเบาลง หรือคลาไม่พบ  มหี นองหรือสารเหลวผิดปกติซึมเปือ้ นเฝือกไหลออกมาจากใต้เฝือกหรือส่งกลนิ่ เหม็น  เฝอื กหักหรือแตกรา้ ว  เฝอื กหลวมหรือหลุด  การเรยี นรู้ (Study & learning) 1. แนวทางการพฒั นาอยา่ งตอ่ เนือ่ งในอนาคต  ปรับด้ามมีดเป็นพลาสติกที่ออกแบบและพัฒนาให้ข้ึนรูปตามหลักการยศาสตร์ในตัว ซ่ึง ขณะนี้ได้ทดลองขึ้นรูปโดยใช้ 3D printing นามาทดลองใช้ และพัฒนาต่อไปเพื่อลดการเกิด สนิมบรเิ วณดา้ มมดี  ศกึ ษาการใช้งานด้ามมดี ท่ขี นึ้ รปู ตามหลักการยศาสตร์ที่ออกแบบใหม่เปรียบเทยี บกับแบบเกา่  ออกแบบให้มีดตกแต่งเฝือกมีตัวรองกันมีดบาดขณะตกแต่งเฝือกประกอบในชุดเดียวกันเพื่อ ลดความเสยี่ งสาหรับผู้ทีไ่ ม่เชีย่ วชาญในการใชง้ าน  จดั ทา clip video การใสเ่ ฝือก และวธิ ีการใช้งานมีดตกแต่งเฝือก และออกแบบ package ท่ี สวยงาม เก็บสะดวก และใชง้ านงา่ ย เพื่อนานวัตกรรมสิ่งประดษิ ฐ์สูเ่ ชิงพานชิ ย์ต่อไป 2. จดุ แข็ง (Strength) ส่ิงประดิษฐ์มีดตกแต่งเฝือกได้รับการจดทะเบียนประเภทอนุสิทธิบัตร “มีดตกแต่งเฝือก” กรมทรัพย์สินทางปัญญา เลขที่คาขอ 1703001609 และจดทะเบียนประเภทสิทธิบัตรออกแบบ ผลติ ภัณฑ์ “มดี ” วนั ที่ 24 สิงหาคม 2560 เลขท่ีคาขอ 1702003276 3. ปจั จยั ทนี่ าสู่ความสาเรจ็  การทางานเป็นทมี  ความม่งุ มนั่ ในการพัฒนางานบรกิ ารเพอ่ื ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ ต่อผูป้ ่วย ประเด็นที่เป็นแนวปฏบิ ัติท่ีเปน็ เลิศ การออกแบบและพัฒนามีดตกแต่งเฝือก (PSU cast cutting knife) ท่ีเหมาะสมต่อการใช้งานเป็นการ เพ่ิมประสิทธิภาพการดูแลผู้ป่วยท่ีต้องใส่เฝือกทาให้ผู้ป่วยความรู้สึกสบายขณะอยู่ในเฝือก และสามารถ ประเมนิ การไหลเวียนของเลอื ดไดด้ ี และผู้ปว่ ยปลอดภัยจากภาวะแทรกซอ้ นจากการใสเ่ ฝอื ก 215

เวทคี ณุ ภาพ II มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ เอกสารอ้างอิง พนมกร ดิษฐสุวรรณ์. (2557). การรกั ษาดว้ ยการใส่เฝือก เข้าถึงโดย http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2&date=01-022008&group=6&gblog=5 เขา้ ถึง เมือ่ 20 สงิ หาคม 2557 ประชิด ทิณบุตร. (2557). การออกแบบและพฒั นาผลิตภัณฑ์ (Product Design and Development process) เข้าถงึ โดย http://product design theory.blogspot.com/2011/10/product-design- theory.html เขา้ ถงึ เมื่อ 21 สงิ หาคม 2557 บทสรุป  นวตั กรรมทปี่ ระดิษฐ์จากกประสบการณ์การจากการทางานจะนาไปสู่นวตั กรรมทด่ี ี  การสร้างนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ต้องมีการวางแผน และจัดการเหมือนงานอ่ืนๆ ในองค์กร ซ่ึง จาเป็นตอ้ งมีวนิ ยั และเข้มงวด โดยต้องดาเนนิ การคู่ ขนานไปกับกระบวนการอืน่ ๆ ขององค์กรได้  การสรา้ งนวตั กรรมสิง่ ประดิษฐต์ อ้ งมกี ารทางานร่วมกนั ของบุคคลทมี่ ีความสามารถจากหลากหลาย จาเปน็ ต้องพัฒนา ความสามารถใหม้ ีการทางานเชงิ โต้ตอบ และทกั ษะการระดมสมองกับบคุ คลทีม่ ี ความเช่ยี วชาญท่ีหลากหลาย 216

เวทีคณุ ภาพ II มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ แนวปฏบิ ัติทเี่ ป็นเลิศ ****************************************** เรอ่ื ง การออกแบบและพัฒนา อุปกรณช์ ่วยถอดเฝอื กมาจากบ้านของเด็กโรคเท้าปกุ โครงการ/กจิ กรรม ดา้ นบริหารจดั การ ช่อื หน่วยงาน คลินิกเฝอื ก หอผปู้ ว่ ยนอก 2 คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ คณะทางานพัฒนาแนวปฏบิ ัติท่เี ป็นเลิศ 1. นางกนษิ ฐา คงแก้ว 2. นางกาญจนา วงษ์เลี้ยง การประเมินปญั หา/ความเสี่ยง โรคเท้าปุกเป็นปัญหาความพิการแต่กาเนิดของเท้าที่พบบ่อย และเป็นปัญหาสาคัญทางสาธารณสุข ของประเทศ แม้จะยังไม่มีวิธีป้องกันการเกิดโรคนี้และการรักษาโรคน้ีจะทาได้ทุกช่วงอายุ จากการเก็บข้อมู ล ยอ้ นหลัง 3 ปี (พ.ศ. 2561-2563)สถิติผู้ปว่ ยโรคเท้าปุกท่ีมารับการรักษาท่ีโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เท่ากับ 276,287 และ260 ราย ตามลาดบั การท่ผี ู้ป่วยได้รับการรักษาโดยการใส่เฝือกอย่างถูกวิธีตั้งแต่แรกเกิด จะได้ ผลการรกั ษาทีด่ ี และประหยดั ค่าใช้จ่ายมากทสี่ ุด ท้ังน้ีผ้ปู ว่ ยจาเปน็ ตอ้ งเปลย่ี นเฝอื กทกุ 1-3 สัปดาห์จนกว่ารูป เท้ากลบั สภู่ าวะปกติถึงอายุประมาณ 7 เดือน – 2 ปี ดังน้ันนอกจากผู้ปกครองจาเป็นต้องมีความรู้ในการดูแล เฝือกเป็นอย่างดีเพื่อให้การใส่เฝือกมีประสิทธิภาพที่สุดแล้ว เมื่อครบกาหนดการถอดเฝือกผู้ปกครอง ต้องนา เด็กมาโรงพยาบาลเพ่ือถอดเฝือก เด็กจะมีความหวาดกลัวจากเสียงดังจากเคร่ืองตัดเฝือกไฟฟ้า (ดังรูปที่ 1) ไม่ให้ความร่วมมือ อาจส่งผลให้เกิดการดิ้น ขยับและเกิดการบาดเจ็บได้ ผู้ปกครองก็รู้สึกกังวล ทั้งยังต้อง เสยี เวลาในการมาโรงพยาบาล เสียคา่ ใช้จา่ ยในการเดินทางและเสยี ภาระหน้าที่ ท่ีต้องปฏิบัติงานประจา ดังนั้น หากผู้ปกครองมีสมรรถนะ และมีอุปกรณ์ท่ีมีความปลอดภัยในการถอดเฝือกด้วยตนเองได้โดยง่ายมาจากบ้าน ก็จะสามารถลดปญั หาดงั กล่าวจงึ ไดค้ ดิ ประดษิ ฐอ์ ปุ กรณ์ช่วยถอดเฝือกมาจากบ้านของเด็กโรคเท้าปกุ 217

เวทีคณุ ภาพ II มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ ภาพที่ 1 แสดงเคร่ืองตดั เฝือกไฟฟา้ และวธิ ใี ชง้ า เปา้ หมาย/วตั ถุประสงคข์ องโครงการ 1. เพื่อประดษิ ฐ์อปุ กรณ์ชว่ ยถอดเฝือกสาหรบั ผู้ป่วยเดก็ โรคเท้าปกุ ท่ีสามารถนาไปถอดเฝือกทบี่ า้ นเองได้ 2. ลดระยะเวลาในการถอดเฝอื กของผปู้ กครองผู้ปว่ ยเดก็ โรคเทา้ ปกุ ดว้ ยตนเองทบ่ี า้ น ผลทค่ี าดวา่ จะไดร้ ับ 1. ลดความกลวั ของผู้ปว่ ยจากเสียงดงั ของเครื่องตัดเฝือกไฟฟ้าในการถอดเฝือก 2. ลดความเสีย่ งจากการบาดเจ็บจากเครื่องตดั เฝือกไฟ้ฟา้ 3. ลดความวิตกกงั วลของผู้ปกครองกลัวเครื่องตัดเฝือกไฟฟ้าบาดขา และเสยี งดังที่มีผลต่อจิตใจเด็ก 4. ประหยดั คา่ ใช้จ่าย และเวลาในการเดนิ ทาง 5. ผ้ปู กครองสามารถถอดเฝือกที่บ้านไดง้ า่ ยขึน้ การออกแบบกระบวนการ 1. ระยะเตรยี มการ 1.1 ผู้ประดิษฐ์ค้นคว้าหาข้อมูลท่ีเกี่ยวข้อง และหารือกับเจ้าหน้าที่คลินิกเฝือกเพ่ือหาข้อมูลโดยใช้วิธี ระดมความคิด (Brain storm) โดยให้ผู้ร่วมงานในคลินิกเฝือกทุกระดับที่เกี่ยวข้องในการใส่เฝือก ปัญหาการ ถอดเฝือกเดก็ โรคเทา้ ปุก รับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ สรุปรวบรวมข้อมูล และพิจารณาความเป็นไปได้ใน การประดษิ ฐ์ 1.2 ในระยะท่ียังไม่มีการประดิษฐ์อุปกรณ์ช่วยถอดเฝือกมาจากบ้านของเด็กโรคเท้าปุก ผู้ประดิษฐ์ได้ แนะนาให้ผู้ปกครองนาใบเลื่อยมาหักให้พอเหมาะนามาพันด้วยพลาสเตอร์ นามาทดลองใช้ในการถอดเฝือก (prototype 1) 2. ระยะดาเนนิ การ 2.1 ผู้ประดิษฐ์คิดค้นสรุปปัญหา ออกแบบและสรุปแบบสาหรับ Prototype 2 โดยการออกแบบ เบื้องต้นและดาเนินการขอรับทุนส่งเสริมนวัตกรรมคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ประเภท ทนุ ทดลองทา 2.3 ได้อนุมัติให้ผลิตอุปกรณ์ต้นแบบ Prototype 2 โดยใช้เครื่อง 3D printing ของหน่วยส่งเสริม นวัตกรรม คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ 2.4 Prototype 2 ที่ผลิตข้ึนมาน้ี ได้ถูกนามาทดสอบ แล้วนามา Discuss ร่วมกันในทีมส่งเสริม นวัตกรรม คณะแพทยศาสตร์ ตรวจสอบเพื่อวิเคราะห์ความเหมาะสมกับการใช้งานฟังก์ช่ันต่างๆ ในการใช้ และหากมีข้อบกพร่องในส่วนใด ก็จะให้ออกแบบให้ทีมส่งเสริมนวัตกรรมคณะแพทยศาสตร์ไปแก้ไข รวมถึง การปรับปรุงแก้ไข จนกระทั่งได้อุปกรณ์ช่วยถอดเฝือกมาจากบ้านของเด็กโรคเท้าปุกที่สามารถใช้งานได้อย่าง เหมาะสม 218

เวทคี ุณภาพ II มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ แนวคดิ ในการปรับปรุงงาน รวมถึงจดุ เด่นทางด้านเทคนคิ PDCD 1 (prototype 1) ประดิษฐ์อุปกรณ์ถอดเฝือกด้วยตนเองจากที่บ้าน Version 1 โดยทางคลนิ ิกเฝือกได้มแี นะนาให้ผู้ปกครอง นาใบเลอ่ื ยมาหักให้พอเหมาะนามาพันด้วยพลาสเตอร์ ภาพท่ี 1 แสดงมดี ตดั เฝอื ก Version 1 และวธิ ใี ชง้ าน ปญั หาท่ีพบ - ดา้ มจบั มขี นาดเล็ก ไม่ถนัดมือ จบั นานๆ จะปวดมือ - ฟนั เลื่อยเล็ก และต้นื ทาให้ต้องใชเ้ วลานานในการเลอ่ื ย - ตอ้ งอาศัยผู้มคี วามชานาญในการประดิษฐ์ ดา้ มจากใบเล่ือยตัดเหลก็ - ปลายมีคมแหลม อาจเกิดการบาดเจ็บขณะใช้งาน PDCA 2 (prototype 2) ประดิษฐ์อุปกรณ์การตัดเฝือกด้วยตนเองจากที่บ้าน Version 2 ซ่ึงมีแนวคิดในการประดิษฐ์ อุปกรณ์ต้อง เบา พกพาได้ ไม่แหลมคม จับได้พอเหมาะไม่ปวดมือ (ได้แนวคิดต้นแบบมาจากมีดห่ันสเต็ก จากสายการบิน หนงึ่ ท่ีเป็นพลาสตกิ ท่ีแขง็ แรง ไมห่ กั งา่ ย) ภาพท่ี2 ตวั อยา่ งมดี หั่นสเต็กแนวคิดตน้ แบบ 219

เวทีคุณภาพ II มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ ภาพที่ 3 แสดงการออกแบบและภาพ drawing prototype 2 220

เวทคี ุณภาพ II มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ *ขนาดอุปกรณ์ควายาว 19 เซนตเิ มตร *ขนาดสว่ นใบเลื่อย 7 ซ.ม.x 2 ซ.ม.x4 ม.ม. *ขนาดส่วนด้ามจบั 8 ซ.ม.x 4 ซ.ม.x8 ม.ม. (ยาว x กวา้ ง x หนา) ภาพท่ี 4 แสดงอปุ กรณ์ชว่ ยถอดเฝือกทใ่ี ช้อยปู่ ัจจุบัน ข้อดี - มีดเบา ด้ามจับเหมาะมือ ไม่ทาให้ปวดมอื - ฟนั เลอื่ ยของใบมีด มขี นาดลึก ทาให้เลอื่ ยไดม้ ีประสิทธิภาพ - ไม่มีความแหลม วัสดุเปน็ พลาสติก ไม่เส่ยี งต่อการทาใหเ้ กดิ การบาดเจบ็ - ด้ามมดี มคี วามหนา แขง็ แรง และทาใหม้ ีพื้นที่ในการกด - ไมม่ ีเสยี งทาใหเ้ ดก็ หวาดกลวั - ทาการตดั เฝือกได้จากที่บ้าน ปญั หาอุปสรรค - วัสดุที่ใช้ทาสิ่งประดิษฐ์อุปกรณ์ช่วยถอดเฝือกท่ีจัดทาเพ่ือมาทดลองใช้จากหน่วยนวัตกรรมคณะ แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ผลิตด้วย 3D printing เม่ือนามาใช้ถอดเฝือกสามารถใช้งานได้ เพียง 3 -4 ครง้ั ด้านฟนั เลื่อยจะสึก และคมน้อยลง - ราคาต่อหน่วยที่ผลิตจากหน่วยนวัตกรรมคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ราคา คอ่ นขา้ งสูง ไม่สามารถนาสู่เชิงพาณิชย์ได้ ผลลพั ธแ์ ละการวัดผล 1. มีสง่ิ ประดษิ ฐ์อุปกรณ์ช่วยถอดเฝือกสาหรบั ผปู้ ่วยเดก็ โรคเทา้ ปุกทีส่ ามารถนาไปถอดเฝือกทบ่ี า้ นเองได้ 2. สง่ิ ประดษิ ฐอ์ ุปกรณ์ช่วยถอดเฝอื กสามารถช่วยลดระยะเวลาในการถอดเฝือกของผู้ปกครองผู้ป่วยเด็ก โรคเทา้ ปุกด้วยตนเองท่บี ้านจากเวลาเฉลีย่ 30 นาที เหลือเวลาเฉล่ีย 15 นาที ผลลัพธ์การใช้งานการถอดเฝือกแบบใหม่เปรียบกับแบบเดิมซึ่งยังไม่มีอุปกรณ์ช่วยถอดเฝือกมาจากบ้าน ของเด็กโรคเท้าปกุ รายการ แบบเดมิ แบบใหม่ 1.วธิ กี ารถอดเฝือก -ใช้เคร่ืองตดั เฝือกไฟฟา้ ทโ่ี รงพยาบาล -ใชอ้ ุปกรณช์ ่วยถอดเฝอื กเด็ก (Quality) -ใช้ใบเลอื่ ยเหล็กเป็นอปุ กรณ์ช่วยถอดเฝอื กมา โรคเทา้ ปุกมาจากบา้ น จากบ้าน -ตอ้ งใชผ้ เู้ ชี่ยวชาญในการตัดเฝือกดว้ ยเคร่ืองตดั 221

เวทีคณุ ภาพ II มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ เฝอื กไฟฟา้ -ต้องใช้บุคลากรในการชว่ ยจับเด็กขณะตดั เฝือก หลายคน 2.คณุ ภาพของอปุ กรณ์ -ใบเลื่อยเหล็กฟันเล่ือยมีความคมมากและเป็น -อุปกรณ์เปน็ พลาสติกแข็ง มี ( Quality) สนมิ เสยี่ งตดิ เชือ้ กรณบี าดขาผูป้ ่วย ความแขง็ แรงในการถเู ฝือก -สามารถใช้ไดห้ ลายครั้ง สามารถนากลับบา้ นได้ -มดี า้ มขนาดใหญ่จับไดถ้ นดั มือ -สันอปุ กรณ์ออกแบบให้มีความ หนาเพอ่ื ใหม้ พี ืน้ ท่ีในการกด ขณะถูเฝอื ก 3.ค่าใชจ้ ่ายในการถอดเฝือก ค่าใชจ้ า่ ย : ค่าตอบแทนบคุ ลากร ไม่มีคา่ ใชจ้ ่าย (cost & delivery) ค่าไฟฟา้ เคร่อื งตัดเฝอื กไฟฟ้า คา่ บารุงรักษาเครอ่ื งตดั เฝือก ไฟฟา้ ค่าเดนิ ทางของผู้ปกครอง 4.ความกลวั ของเดก็ จากเสยี ง เล่อื ยตัดเฝือกไฟฟ้ามีเสียงดังมากขณะเคร่ือง ไม่มเี สียงดัง (Moral & ethic) ทางาน 5.ความเส่ียงการบาดเจ็บ กรณีใชเ้ คร่ืองตดั เฝือกไฟฟา้ และมกี ารบาดขา -มีความเสยี่ งในการบาดขา (safety) ผู้ป่วยจะเกดิ แผลทลี่ ึกและอาจต้องมีการเย็บ ผูป้ ว่ ยน้อยและกรณีเกิดการ แผลและให้การรักษาต่อเนื่อง บาดขาผปู้ ว่ ยแผลจะต้ืนกว่า -ลดความเสย่ี งการตดิ เช้ือกรณี บาดขาผู้ป่วย 6.ความพงึ พอใจของ ผู้ปกครองมคี วามวติ กกังวลกลัวเครือ่ งตดั เฝอื ก ความพึงพอใจโดยรวมระดบั ผ้ปู กครอง (Moral & ethic) ไฟฟา้ บาดขา เสยี งดัง มาก-มากท่สี ุด ≥ 80% 1. วดั ผลความพงึ พอใจจากผู้ปกครองต่ออุปกรณช์ ่วยถอดเฝือกเดก็ โรคเท้าปกุ ดว้ ยตวั เองมาจากบา้ น จากการเก็บข้อมูลความพึงพอใจของผู้ปกครองต่ออุปกรณ์ถอดเฝือกด้วยตนเองมาจากบ้านของเด็ก โรคเทา้ ปกุ จานวน 13 รายพบว่ารอ้ ยละของคะแนนความพึงพอใจระดับมาก-มากท่ีสุด ≥ 80% (ความ พงึ พอใจรายขอ้ เฉลี่ย = 98.72% และความพึงพอใจโดยรวมเฉล่ีย = 100%) 222

เวทคี ุณภาพ II มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ รายการ มากทส่ี ดุ คะแนนความพงึ พอใจ นอ้ ยทส่ี ดุ 5 มาก ปานกลาง นอ้ ย 1 1.แขง็ แรง ทนทาน ใชไ้ ด้นาน 43 2 2.รปู แบบเหมาะสมกระชับมอื ใช้งานไดง้ า่ ย 46.15 46.15 7.70 3.ทาความสะอาดและจดั เก็บงา่ ย 53.85 46.15 4.มคี วามปลอดภัยขณะใช้งาน 38.46 61.54 5.ความสาเรจ็ ในถอดเฝือกด้วยตัวเอง 38.46 61.54 6.ความพึงพอใชโ้ ดยรวม 38.46 61.54 38.46 61.54 2. กาหนดเป็นมาตรฐานในการแนะนาผปู้ กครองเด็กโรคเทา้ ปุกในการถอดเฝือกด้วยตนเองมาจากบา้ นดังน้ี 2.1 จ่มุ ขาขา้ งทใ่ี ส่เฝอื กลงในภาชนะทม่ี นี ้าอุณหภูมิปกตหิ รืออุ่นเล็กนอ้ ยเป็นเวลาประมาณ 10 นาที โดยจุ่มใหท้ ่วมเฝอื กพร้อมท้ังใช้มือบบี เฝือกให้นม่ิ 2.2 นาเด็กไปนอนบนพน้ื ทร่ี าบและใชอ้ ุปกรณช์ ่วยถอดเฝือกถูเฝือกให้เปน็ ร่องเพ่ือน้าสามารถผ่านเขา้ ไปในเฝือกได้งา่ ยและทาใหเ้ ฝือกนิม่ 223

เวทีคุณภาพ II มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ 2.3 จมุ่ ขาข้างทีใ่ ส่เฝอื กลงในภาชนะทมี่ ีนา้ อกี ครั้งพร้อมทง้ั ใชม้ ือฉกี เฝือกออกจากกัน 2.4 นาเดก็ ไปนอนบนพน้ื ทรี่ าบอีกครั้งและใช้อุปกรณช์ ่วยถอดเฝือกถูเฝอื กใหแ้ ยกออกจากกนั 2.5 ใช้กรรไกรตดั ผา้ กอ๊ สใหข้ าดออกจากกนั และแกะเฝอื กออก 224

เวทีคณุ ภาพ II มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ 2.6 ทาความสะอาดขาให้สะอาดและใชผ้ ้าสะอาดซับให้แหง้ พร้อมท้ังตรวจดูแผลและผนื่ 2.7 ให้คาแนะนาให้ผปู้ กครองถอดเฝอื กมาจากบ้านก่อนมาโรงพยาบาลตามแพทยน์ ดั 1 วัน 2.8 แนะนาให้ผู้ปกครองดัดเท้าตามวิธีการท่ีได้รับคาแนะนาจากแพทย์เพื่อให้เท้านิ่มและสามารถใส่ เฝือกได้ดี การเรยี นรู้ (Study & learning) 1. แนวทางการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในอนาคต - พฒั นาตอ่ ยอด เพ่ือใหส้ ามารถใชต้ ดั ผา้ ก๊อซด้านในได้ - จัดทา clip video เรอื่ งวธิ กี ารถอดเฝอื กดว้ ยตนเองจากบ้านสาหรับเด็กเท้าปุก (club foot) และส่ง line ให้ผู้ปกครองนากลบั ไปปฏบิ ัติทีบ่ ้าน - จัดหาแหลง่ ผลติ ทีส่ ามารถผลิตได้จานานมากและใช้วัสดุพลาสติกท่ีทนทานเพ่ือจานวนคร้ังในการใช้ งานไดม้ ากข้ึน (ประมาณ 7- 8 ครงั้ ) - นานวัตกรรมสู่เชิงพาณิชยเ์ พื่อจาหน่ายใหผ้ ปู้ กครองนาไปใชถ้ อดเฝือกด้วยตนเองมาจากบา้ นได้ 2. จุดแขง็ (Strength) อุปกรณ์ช่วยถอดเฝือกมาจากบ้านของเด็กโรคเท้าปุกได้รับทุนส่งเสริมนวัต กรรมคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทรป์ ระเภท ทุนทดลองทา 3. ปจั จยั ท่นี าสคู่ วามสาเรจ็ - การทางานเป็นทีม -ค วามมุ่งมั่นในการพัฒนางานบรกิ ารเพื่อใหเ้ กิดประโยชน์สงู สุดตอ่ ผ้ปู ่วย ประเด็นทเี่ ป็นแนวปฏิบัติทีเ่ ป็นเลิศ การออกแบบ และพฒั นาอุปกรณ์เพ่ือให้ผู้ปกครองช่วยถอดเฝือกมาจากบ้านของผู้ป่วยเด็กโรคเท้าปุก เป็นการพัฒนางานที่ดีเพ่ือลดความกลัวของผู้ป่วยจากเสียงดังของเครื่องตัดเฝือกไฟฟ้าในการถอดเฝือก ลด ความเสย่ี งจากการบาดเจบ็ จากเครอื่ งตัดเฝอื กไฟฟ้ ้า ลดความวิตกกังวลของผู้ปกครองกลัวเครื่องตัดเฝือกไฟฟ้า บาดขา และเสียงดงั ท่มี ีผลตอ่ จติ ใจเดก็ ได้รวมท้งั สามารถประหยัดค่าใชจ้ า่ ย ในการเดินทาง และลดเวลาได้ เอกสารอา้ งอิง 225

เวทีคุณภาพ II มหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร์ Richards BS, Faulks S, Rathjen KE, Karol LA, JohnstonCE, Jones SA. (2008) A comparison of two nonoperative methods of idiopathic clubfoot correction: the Ponseti method and the French functional (physiotherapy) method. J Bone Joint Surg Am. 2008 Nov;90(11):2313-21 บทสรุป จากการที่ไดก้ ารออกแบบและพฒั นา อุปกรณ์ชว่ ยถอดเฝือกมาจากบ้านของเด็กโรคเท้าปุกเรียนรู้ว่าการ ช่วยเหลือผู้รับบริการเป็นการช่วยแก้ปัญหาให้ผู้ป่วยได้อีกทางหน่ึง และผู้ประดิษฐ์เกิดความสุขที่ได้ทาเช่นกัน ดังพระราชดารสั สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนก “ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่ สอง ประโยชน์ของเพ่ือนมนุษย์เป็นกิจที่หน่ึง ลาภ ทรัพย์ และเกียรติยศจะตกแก่ท่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมะ แหง่ อาชีพไวใ้ หบ้ ริสุทธิ์” 226

เวทีคุณภาพ II มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ แนวปฏิบตั ทิ ่เี ปน็ เลิศ ****************************************** เร่อื ง โครงการเปดิ กระปกุ ออเมรอื่สงนิ เกพรอื่ ะนป้อกุ งออคมณสะนิ วเิทตยมิ าฝศนั าปสนั ตทร์ุนมสหู่นาอ้ วงทิ ยาศาสตร์สงขลานครินทร์ โครงการ/กจิ กรรม ด้านการเรยี นการสอนและคุณภาพบัณฑติ ช่ือหน่วยงาน งานพฒั นานักศกึ ษาและศิษย์เกา่ สัมพันธ์ คณะวทิ ยาศาสตร์ คณะทางานพัฒนาแนวปฏบิ ัติทเ่ี ป็นเลิศ 1) คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ 2) รองคณบดีฝ่ายกจิ การภายในและศิษยเ์ กา่ สัมพนั ธ์ 3) นายพงศธร เตชะวชั รานนท์ 4) นางผณกิ า เชาวเหม 5) นางสาวอรพณา อังคสวุ รรณ 6) นางสาวอาภานุช เต็มเปย่ี ม 7) นางสาวสพุ ชิ ชา นพจนสภุ าพ 6. การประเมินปญั หา/ความเส่ียง (Assessment) คณะวิทยาศาสตร์ได้จัดตั้ง “กองทุนคณะวิทยาศาสตร์” มาต้ังแต่วันท่ี 1 กรกฎาคม 2534 โดยรวม กองทนุ ย่อยทีม่ อี ยหู่ ลายกองทนุ เข้าด้วยกัน และมีคณะกรรมการบริหารกองทนุ ทม่ี ีคณบดีเป็นประธาน แต่เนื่อง มีข้อจากัดในการใช้เงินกองทุนซ่ึงกาหนดไว้ว่าคณะฯ สามารถนาดอกผลท่ีเป็นดอกเบ้ียมาใช้ในการจัดสรร ทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาท่ีขาดแคลนทุนทรัพย์เท่าน้ัน ไม่สามารถใช้เงินต้นท่ีเป็นเงินบริจาคเข้ากองทุนฯ มาใช้ได้ ในขณะท่ีคณะวิทยาศาสตร์มีจานวนนักศึกษาท่ีขาดแคลนทุนทรัพย์จานวนหนึ่งและมีแนวโน้มที่จะมี จานวนมากข้ึน ทั้งด้วยฐานะทางการเงินของครอบครัว และผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัด ชายแดนภาคใตท้ ม่ี มี าอย่างต่อเน่ืองยาวนาน เพื่อให้นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์มีโอกาสท่ีจะได้ศึกษาจนสาเร็จ การศึกษาโดยไม่มีเรื่องการเงินเป็นอุปสรรค จึงได้มีการริเร่ิมระดมเงินบริจาคจากศิษย์เก่าคณะวิทยาศาสตร์ บุคลากร และบคุ คลทว่ั ไปทม่ี จี ติ อนั เปน็ กุศลท่จี ะช่วยเหลอื นกั ศึกษากลุ่มดงั กลา่ ว ในปี 2546 รองศาสตราจารย์ปรญิ ญา อรณุ วิสุทธิ์ ซง่ึ เป็นรองคณบดฝี า่ ยวิชาการและพัฒนานักศึกษา ในสมัยน้ัน ได้มีดาริที่จะระดมทุนจากศิษย์เก่าคณะวิทยาศาสตร์เพื่อนามาช่วยจัดสรรเป็นทุนการศึกษาให้กับ นกั ศึกษาทีข่ าดแคลนทุนทรัพย์ จึงจัดตั้งกองทุน “วันละสิบบาทเพ่ือน้อง” โดยมีแนวคิดที่จะใช้กระปุกออมสิน รปู ตึกฟกั ทองเป็นสื่อกลางเชิงสัญลักษณ์ในการระดมเงินบริจาคจากศิษย์เก่า ซ่ึงได้รับความอนุเคราะห์จากคุณ มานพ นวลพลับในการจัดทาพิมพ์ยางรูปจาลองตึกฟักทอง และมีนักศึกษามาช่วยจัดทากระปุกออมสินรูปตึก ฟักทอง โดยหล่อด้วยปูนพลาสเตอร์และทาสีเหลืองซึ่งเป็นสีประจาคณะวิทยาศาสตร์ และเริ่มติดต่อศิษย์เก่า 227

เวทีคุณภาพ II มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อเรียนเชิญเข้าร่วมโครงการและนาส่งกระปุกออมสิน และเริ่มจัดกิจกรรมเปิดกระปุกครั้งแรก ณ คณะ วิทยาศาสตร์ ในปี 2547 (25 กนั ยายน 2547) ซ่งึ สามารถระดมทนุ บรจิ าคได้จานวนมากถึง 149,424.44 บาท หลังจากการจดั กิจกรรมเปดิ กระปกุ ออมสนิ ครง้ั ท่ี 2 เริ่มพบวา่ จานวนผู้เขา้ ร่วมโครงการฯ มีจานวน เพ่ิมข้ึนน้อยมาก และจานวนเงินบริจาคในกิจกรรมเปิดกระปุกออมสินมีจานวนน้อยลง ประกอบกับมีจานวน นักศึกษาท่ีขาดแคลนทุนทรัพย์แจ้งความประสงค์ขอรับทุนการศึกษาจานวนมากขึ้น งานพัฒนานักศึกษาและ ศิษย์เก่าสัมพันธ์ (หน่วยกิจการนักศึกษาเดิม) จึงได้คิดหาวิธีการที่เพิ่มจานวนเงินบริจาคและเพิ่มจานวน ทุนการศึกษาให้เพิ่มข้ึน สมดังเจตนารมณ์ผู้ริเร่ิมจัดต้ัง “กองทุนวันละสิบบาทเพ่ือน้อง” ท่ีว่า “ไม่ควรมี นักศึกษาคณะวทิ ยาศาสตร์คนใดเรียนไมจ่ บเพราะขาดแคลนทนุ ทรพั ย์” 7. เป้าหมาย/วตั ถุประสงค์ของโครงการ 1) เพอื่ เพ่ิมยอดเงินบริจาคเข้ากองทนุ คณะวิทยาศาสตร์ 2) เพื่อเพิ่มโอกาสใหก้ บั นักศึกษาคณะวทิ ยาศาสตร์ท่ีขาดแคลนทุนทรัพย์ไดเ้ รียนจนจบการศึกษา 3) เพ่ือสรา้ งความผกู พนั ใหก้ บั นักศึกษาท่ีได้รับทนุ จากรนุ่ พี่และกลับมาชว่ ยเหลอื รุ่นนอ้ งเมื่อมีโอกาส 8. ผลที่คาดวา่ จะได้รับ 1) มศี ิษย์เก่าและผู้สนใจร่วมบรจิ าคในกองทนุ คณะวทิ ยาศาสตรเ์ พมิ่ มากขน้ึ ทกุ ปี 2) คณะฯสามารถจดั สรรทนุ ท่ไี ด้รบั จากการบริจาคเข้าร่วมกองทุนคณะวทิ ยาศาสตร์ ให้กับนักศึกษา ทมี่ ีขาดแคลนได้มากขนึ้ 9. การออกแบบกระบวนการ 9.1 วธิ กี าร/แนวทางการปฏิบัตจิ รงิ (PDCA) การดาเนินงานเพื่อระดมทุนเข้ากองทุนคณะวิทยาศาสตร์ อยู่ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการ กองทนุ ฯ ซงึ่ ในสว่ นของทนุ กระปุกออมสินเพ่ือน้อง จะมีคณะกรรมการดาเนินงานโครงการเปิดกระปุกออมสิน เพ่ือน้อง ที่ทาหน้าที่ในการวางแผน ดาเนินการ ประเมินผล และสรุปผลการดาเนินงานแต่ละปีให้ คณะกรรมการกองทุนคณะวิทยาศาสตร์ทราบ องค์ประกอบของคณะทางานโครงการเปิดกระปุกออมสินเพ่ือ น้อง ได้แก่ รองคณบดี/ผู้ช่วยคณบดีด้านงานพัฒนานักศึกษา และบุคลากรงานพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่า สมั พันธ์ โดยมคี ณบดี และนายกสมาคมนกั ศึกษาเก่าคณะวิทยาศาสตร์ เป็นท่ปี รกึ ษา ในการจัดกจิ กรรมของทุกปี คณะทางานจะเชิญคณะกรรมการจัดงานและผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อวางแผนการดาเนินงาน โดยนาผลประเมินกิจกรรมและข้อเสนอแนะจากปีท่ีผ่านมา รวมถึงการวิเคราะห์ สถานการณป์ จั จุบนั มาใช้เปน็ แนวทางในการออกแบบกจิ กรรม และปรับรูปแบบกิจกรรมให้เหมาะสม หลังจาก การจัดกิจกรรม คณะกรรมการจัดงานจะประชุมเพ่ือสรุปผลการดาเนินงานและบันทึกรายงานผล นาเข้าที่ ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนคณะวิทยาศาสตร์เพ่ือทราบและให้ข้อเสนอแนะ ข้ันตอนการดาเนินงาน สรปุ ดังตารางที่ 1 ตารางท่ี 1 ขั้นตอนการดาเนนิ งานโครงการเปิดกระปุกออมสินเพื่อน้อง กระบวนการ ขั้นตอน ผลผลติ 1.วางแผนการดาเนินการ 1.1 แต่งตั้งคณะกรรมการทางาน - แ ผ น ง า น / ข้ั น ต อ น ก า ร 228

เวทคี ณุ ภาพ II มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ วนั เปดิ กระปุกออมสนิ เพ่อื นอ้ ง ดาเนินงานและระยะเวลา 1.2 วางแผนรูปแบบกิจกรรม - รูปแบบกิจกรรม ภายในงาน เสนอวิทยากรที่ได้รับ - วิทยากรในการบรรยาพเิ ศษ การยอมรบั จากสังคมเรื่องจิตอาสา -โปรโมชั่น/ของที่ระลึกสาหรับผู้ท่ี และการเปน็ แบบอยา่ งของ “ผู้ให้” มาร่วมบรจิ าค เพื่อมาบรรยายให้กับสมาชิกที่เข้า ร่วมโครงการฯ และผู้สนใจทวั่ ไป 1.3 กาหนดโปรโมชั่นและของท่ี ระลกึ สาหรบั ผทู้ ี่มาร่วมบริจาค 2.ประสานงาน 2.1 ตดิ ต่อวทิ ยากร - ชอื่ ประวตั ิ ผลงานของวทิ ยากร 3.กระบวนการประชาสมั พันธ์ 2.2 จดั ทาของท่รี ะลึก - ของทีร่ ะลกึ 4.ดาเนินการจดั งาน 3.1 ประชาสัมพันธ์ตามส่ือต่างๆ - สอ่ื ประชาสมั พนั ธ์ ของคณะวิทยาศาสตร์ - สร้างความสัมพันธ์ระหว่าง 3.2 ส่งจดหมาย/อเี มลล์ สมาชิกกระปุกออมสินกับคณะ ประชาสัมพันธไ์ ปยังสมาชกิ กระปกุ วทิ ยาศาสตร์ ออมสนิ และศิษย์เก่าคณะ - สร้างความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์ วทิ ยาศาสตร์ เก่ากับคณะวิทยาศาสตร์ 3.3 สมาคมนักศึกษาเก่าคณะ วทิ ยาศาสตร์ ช่วยประชาสัมพันธ์ 4.1 พธิ เี ปดิ งานกระปุกออมสินเพ่ือ - เงินบริจาค นอ้ ง 4.2 สมาชิกส่งมอบกระปุกออมสิน ให้คณบดี 4.3 ตวั แทนสมาชิกกระปุกออมสิน กล่าวแสดงความรูส้ กึ 4.4 ตัวแทนนักศึกษาท่ีได้รับทุน กล่าวแสดงความรู้สึก 4.5 บรรยายพเิ ศษ 4.6 นายกสมาคมนักศึกษาเก่า คณะวิทยาศาสตร์กล่าวขอบคุณ พร้อมประกาศยอดเงินบริจาคและ สง่ มอบให้คณบดี 4.7 ผู้ร่วมงาน ร่วมร้องเพลง วทิ ยาศาสตร์สงขลา 4.8 ร่วมรับประทานอาหารกลาง 229

เวทคี ณุ ภาพ II มหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร์ วนั ทีบ่ ริเวณใต้ตกึ ฟกั ทอง 4. 9 ใ ห้ นั ก ศึ ก ษ า ท่ี ไ ด้ รั บ ทุนการศึกษาทุกคน ทาส.ค.ส. ทา มอื เพือ่ สง่ มอบให้กับผทู้ ม่ี อบทนุ 5.การประเมินผล 5.1 จัดทาแบบฟอร์มประเมิน - ผลการประเมิน 6.การประชมุ สรปุ งาน ความพึงพอใจในการเข้าร่วม - ข้อเสนอแนะ/ขอ้ ควรปรับปรุง 7.กระบวนการจัดส่งใบเสรจ็ กิจกรรมแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุก ท่าน หลังเสร็จส้นิ กิจกรรม 5.2 นาข้อเสนอแนะและข้อควร ปรับปรุง มาปรับในกิจกรรมคร้ัง หนา้ 6.1 จัดประชุมสรุปงานรวมถึงนา - รายงานประชุม ผลการประเมินแจ้งในท่ีประชุม เพอ่ื นาปญั หาไปปรบั แก้ในปตี อ่ ไป 7.1 จัดส่งใบเสร็จ หนังสือตอบ - ใบเสร็จ ขอบคุณ และของที่ระลึก(บริจาค - หนงั สือตอบขอบคณุ 1,200 บาท ขนึ้ ไป) -ของทรี่ ะลึก 7.2 หากเป็นช่วงสิ้นปี หรือข้ึนปี -ส.ค.ส. ใหม่ จะส่ง ส.ค.ส.จากนักศึกษาที่ - แผ่นพับสรุปยอดบริจาคและ ได้รบั ทนุ ทาให้แกผ่ ้ใู ห้ทนุ รายนามผูบ้ รจิ าค 9.2 งบประมาณทใี่ ช้ในการจัดโครงการ – กิจกรรม (ถ้ามี) ตารางที่ 1 งบประมาณท่ีใชใ้ นการจดั กิจกรรมเปิดกระปุกออมสินออมสินเพื่อน้อง ปี 2559 – 2563 ปี จัดกิจกรรมคร้งั ท่ี งบประมาณที่ใช้ (บาท) 2559 12 22,406.- 2560 13 17,054.- 2561 14 22,320.8.- 2562 15 26,799.- 2563 16 45,545.8.- * ในปี 2563 จดั รว่ มกบั โครงการบานบรุ ดี ีเดน่ 11. การวัดผลและผลลพั ธ์ (Measures) แสดงระดับแนวโน้มข้อมลู เชิงเปรียบเทียบ (3 ป)ี และ/หรอื เปรยี บเทียบกบั หนว่ ยงานภายใน/ภายนอก 10.1 จานวนเงินบริจาคเข้ากองทุนคณะวิทยาศาสตร์มีจานวนเพิ่มสูงข้ึนทุกปี ตามรูปท่ี 1 สาหรับปี 2561 เป็นปที ม่ี จี านวนเงินบริจาคเพิ่มขึ้นสูงมาก เน่ืองจากมีการจัดกิจกรรมคืนสู่เหย้า 50 ปีคณะวิทยาศาสตร์ 230

เวทีคณุ ภาพ II มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ และจัดตั้งกองทุนบานบุรี โดยใช้กลยุทธ์ต้นละ 1 ทุน ทุนละ 126,000 บาท (ปีละ 36,000 บาท/ทุน) ทาให้ปี นั้นมียอดเงินบริจาครวมสูงถึง 4,.806,639.50 บาท ซึ่งมียอดเงินบริจาคสาหรับทุนต้นกล้าจานวน 2,801,165.00 บาท รวมอย่ดู ้วย 10.2 เม่ือแจกแจงรายละเอียดของประเภทเงินกองทุนคณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเงิน บริจาคที่เจ้าของเงินมีความประสงค์จะให้ใช้เป็นทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาในรูปแบบต่าง ๆ เงินที่ศิษย์เก่ามี ส่วนร่วมในการบริจาคมากท่ีสุดจะเป็นของทุนกระปุกออมสินเพื่อน้อง และทุนต้นกล้าบานบุรี โดยมียอดเงิน บริจาคในช่วงปี 2559 – 2563 ดงั ตารางท่ี 3 ตารางที่ 3 เงนิ รบั บริจาคเขา้ กองทนุ คณะวทิ ยาศาสตร์ ผ่านทนุ กระปุกออมสินเพ่อื นอ้ งและตน้ กลา้ บานบุรี ปี ทนุ กระปุกออมสนิ เพอื่ นอ้ ง ทุนตน้ กลา้ บานบุรี (เรม่ิ ปีงบฯ 60) 2559 533,290.25 - 2560 469,619.00 167,200.00 2561 563,338.25 2,801,165.00 2562 687,804.00 429,301.00 2563 846,430.00 472,000.00 231

เวทคี ณุ ภาพ II มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ 10.3 จานวนทนุ การศึกษาทจี่ ัดสรรใหก้ ับนกั ศึกษาผ่านทนุ ต่าง ๆ แสดงตามตารางท่ี 4 ตารางท่ี 4 จานวนทนุ ท่จี ดั สรรใหน้ ักศึกษาแตล่ ะปี (ไมร่ วมประเภทกองทุนย่อย) ทุน/จานวน 2559 2560 2561 2562 2563 ทุนเสรมิ ทกั ษะการ 107 105 120 119 123 ทางาน ทนุ ขาดแคลน 204 225 310 670* 447 ทนุ ต้นกลา้ บานบุรี - -- 9 8 ทนุ ชุดนักศกึ ษา - -- -7 * ในปี 2562 จัดสรรทนุ internet ให้นักศึกษาทุนละ 550 บาท จานวน 497 ทุน ตารางท่ี 5 สรปุ จานวนทุนท่ีจัดสรรกับทนุ การศกึ ษา ทุน/จานวน 2559 2560 2561 2562 2563 จานวนเงิน 1,094,970 1,365,610 1,440,400 3,011,720 4,141,300 จานวนทนุ ท่ีจดั สรร 311 330 430 798* 585 * ในปี 2562 จัดสรรทุน internet ใหน้ กั ศึกษาทุนละ 550 บาท จานวน 497 ทนุ 10.4 การร่วมบริจาคเงินเข้ากองทุนคณะวิทยาศาสตร์มีส่วนช่วยในการสนับสนุนทุนให้กับนักศึกษา แต่ละปี ซึ่งคณะฯ ต้องใช้เงินรายได้ร่วมสบทบเข้าเป็นเงินที่จัดสรรเป็นทุนการศึกษาร่วมด้วย เนื่องจากติด เงอื่ นไขการใชเ้ งนิ กองทุนคณะฯ ทีไ่ มส่ ามารถนาเงนิ ตน้ มาใช้ได้ 232

เวทีคณุ ภาพ II มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 10.5 จานวนเงนิ บริจาคผ่านทุนกระปุกออมสนิ เพื่อน้องและทุนตน้ กล้าบานบรุ ีเมอ่ื เทียบกับจานวน เงินบรจิ าคท้งั หมด 10.6 ความผูกพันของศิษย์เก่าท่ีเคยได้รับทุนการศึกษา เมื่อบัณฑิตที่ได้รับทุนจบการศึกษาไปแล้ว ได้กลบั มาส่งตอ่ ความรู้สึกดๆี และกลบั มารว่ มกจิ กรรมตา่ งๆของคณะวทิ ยาศาสตร์ เช่น งานเปิดกระปุกออมสิน เพือ่ นอ้ ง นายอภสิ ิทธิ์ รอดฉวาง Sci.44 นางสาววารธิ ร สระขาว Sci.42 กล่าวความรู้สึกในงานเปิดกระปุกออมสินเพื่อน้องคร้ังท่ี 14 กล่าวความรู้สึกในงานเปิดกระปุก ออมสนิ เพอ่ื น้อง คร้งั ท่ี 13 233

เวทีคุณภาพ II มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 12. การเรยี นรู้ (Study/Learning) 11.1 แผนหรือแนวทางการพัฒนาคณุ ภาพอยา่ งต่อเนื่องในอนาคต กระบวนการ/ การเรียนรู้ แนวทางการพัฒนาในอนาคต ขัน้ ตอน การนาเสนอข้อมูลผลการดาเนินงานของปีที่ ปรับรูปแบบการประชุมและเตรียมงาน การวางแผนการ ดาเนินการ และ ผ่านมาและผลดาเนินงานย้อนหลัง 5 ปี มีส่วน โดยใช้ส่ือออนไลน์ หรือระบบการ ประสานงาน ช่วยทาให้กรรมการฯ และผู้เข้าร่วมประชุมคิด ประชุมออนไลน์ และเพ่ิมกลุ่มจานวน ออกแบบกระบวนการสาหรับปีท่ีจะจัดกิจกรรม ตัวแทนศิษย์เก่าท่ีจะเข้ามาช่วยเสนอ ได้งา่ ยขนึ้ เชน่ ความเห็นและวางแผนการจดั งานเพมิ่ ขึน้ -ป รั บ ช่ ว ง เ ว ล า จั ด กิ จ ก ร ร ม เ น่ื อ ง ผู้ เ ข้ า ร่ ว ม กิจกรรมเสนอแนะในแบบประเมินว่าควรจัด งานในช่วงก่อนสิ้นปีเพ่ือนาใบเสร็จรับเงิน บริจาคไปใช้ลดหย่อนภาษไี ด้ -เ ร่ิ ม ร ว บ ร ว ม ข้ อ มู ล ศิ ษ ย์ เ ก่ า ที่ ป ร ะ ส บ ค ว า ม ส า เ ร็ จ ใ น ด้ า น ต่ า ง ๆ เ พ่ื อ เ ชิ ญ ม า เ ป็ น วิ ท ย า ก ร บ ร ร ย า ย แ ล ะ เ ผ ย แ พ ร่ ผ่ า น สื่ อ ประชาสมั พันธท์ ุกรปู แบบทท่ี าได้ ก า ร ภาพและข้อความที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ เชญิ ชวนสมาชกิ โครงการฯ กด subcribe ประช าสัมพันธ์ รวมทั้งรูปแบบของส่ือ มีส่วนทาให้กิจกรรมมี เพื่อรบั สมัครติดตามขา่ วสารของคณะฯ กิจกรรม ความน่าสนใจ จึงขอความอนุเคราะห์จาก ผ่านเวบ็ ไซตค์ ณะวทิ ยาศาสตร์ บุคลากรหน่วยประชาสัมพันธ์ของคณะฯ ซ่ึงเข้า (www.sci.psu.ac.th) เพื่อสมาชกิ ได้ทราบ มาร่วมเป็นกรรมการดาเนินงาน ออกแบบและ ขอ้ มลู และกจิ กรรมอน่ื ๆ รวมถงึ ข่าว จัดทาสื่อประชาสัมพันธ์ ให้น่าสนใจ และใช้ กจิ กรรมลา่ สุดท่ีแขวนเว็บไซต์คณะฯ ช่องทางของกลุ่มไลน์ท้ังเครือข่ายศิษย์เก่า ดว้ ย บุคลากร นักศึกษา สมาคมศิษย์เก่าฯ ช่วย ประชาสัมพันธ์กิจกรรมร่วมด้วยทาให้มีผู้สนใจ เขา้ ร่วมกิจกรรมมากข้ึน การดาเนินการจัด - เดิมสมาชิกท่ีมาร่วมงานต้องนากระปุกออม - ปรับรูปแบบการจัดงานเปิดกระปุก งาน สินรูปตึกฟักทองหรือกระปุกบรรจุเหรียญมาส่ง ออนไลน์ผ่าน facebook live และ Zoom มอบให้เจ้าหน้าที่ก่อนจัดงานและมีทีมงาน meeting โดยมีสมาชิกบางส่วนเข้าร่วม นักศึกษาช่วยนับเหรียญและสรุปยอดเงิน กิจกรรมและรักษาระยะห่างตาม บริจาคแต่เม่ือเริ่มมีรูปแบบการจ่ายเงินที่ นโยบาย social distancing เปล่ียนไป จึงประชาสัมพันธ์ให้สมาชิกโอนเงิน - นาเสนอข้อมูลผลการดาเนินงานใน ผ่านระบบออนไลน์ลงทะเบียนเข้าร่วมงานแบบ รูปแบบที่เข้าใจง่าย เพ่ือให้สมาชิก 234

เวทคี ุณภาพ II มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ กระบวนการ/ การเรียนรู้ แนวทางการพัฒนาในอนาคต ขั้นตอน ออนไลน์และจัดสง่ ใบเสร็จใหท้ างไปรษณยี แ์ ทน รับทราบข้อมูลสถานะทางการเงินและ 5.การประเมนิ ผล - จากข้อมูลการสัมภาษณ์ศิษย์เก่าท่ีมาร่วมงาน ความจาเป็นของนักศึกษา ข้อมูลการ การจดั ส่งใบเสรจ็ พบว่าการเชิญวิทยากรมาเล่าประสบการณ์และ จัดสรรทุน และฉายภาพตัวอย่างชีวิต สร้างแรงบันดาลใจช่วยเพ่ิมบรรยากาศของการ ปัจจุบันของผู้ท่ีเคยได้รับทุน/ความ เปน็ ผู้ใหไ้ ด้เป็นอยา่ งดีจงึ เริม่ เชญิ บุคคลภายนอก ช่วยเหลือผ่านทุนกระปุกออมสินเพ่ือ มาบรรยายร่วมกับศิษย์เก่าดีเด่นและศิษย์เก่าท่ี น้องและทุนอ่ืน ๆ ที่พ่ี ๆ ได้ร่วมกัน ประสบความสาเร็จในด้านตา่ ง ๆ เช่น คุณจรงค์ บริจาคผา่ นกองทุนคณะวิทยาศาสตร์ ศกั ด์ิ รองเดช คุณรัฐภูมิ อยู่พร้อม - จ า ก ข้ อ มู ล ผู้ เ ข้ า ร่ ว ม กิ จ ก ร ร ม เ ป็ น บุคคลภายนอกเพิ่มข้ึนและจากการสารวจ พบว่าให้ความสนใจโครงการฯเพราะได้รับ ทราบข้อมูลจากศิษย์เก่าหรือเข้ามาร่วมฟัง บรรยายพิเศษด้วยตนเอง จึงปรับรูปแบบการ ป ร ะ ช า สั ม พั น ธ์ โ ค ร ง ก า ร ฯ ที่ ไ ม่ ไ ด้ เ น้ น กลุ่มเป้าหมายเป็นศิษย์เก่าเท่าน้ัน แต่เพิ่มกลุ่ม บุคคลทั่วไปท่ีอยากช่วยเหลือนักศึกษาผ่าน โครงการฯ ร่วมด้วย - ปรับแบบประเมินเป็นการประเมิน online - ประเมนิ ความผกู พัน (Engagement) รว่ มกับการสมุ่ สัมภาษณ์สมาชิกทมี่ าร่วมงาน ของนักศึกษาท่ีเคยได้รบั ทนุ เพ่ือสะท้อน - ถ่ายทาคลิปส้ัน ๆ โดยให้ศิษย์เก่าท่ีเข้ามา ผลสมั ฤทธิ์ของโครงการ ร่วมงานพูดถึงแรงจูงใจ ความสุขของการเป็น ผู้ให้ และคว ามประทับใจ เพื่อนาไปใช้ ประกอบการจัดทา presentation เปิดงานในปี ต่อไป พร้อมสัมภาษณ์ถามข้อเสนอแนะท่ีอยาก ใหป้ รบั ปรุงกจิ กรรม - เพ่ิมการแสดงความขอบคุณผู้บริจาคเงินผ่าน - ทนุ ต่าง ๆ เข้ากองทุนคณะวิทยาศาสตร์ โดยทา เป็นแบนเนอร์ขอบคุณ และส่งให้ผู้บริจาคผ่าน ทางไลน์และ facebook 11.2 จุดแข็ง (Strength) หรือ สิ่งทีท่ าได้ดีในประเดน็ ที่นาเสนอ 1. ความต่อเนื่องในการจัดกิจกรรมโดยมีเป้าหมายเดียวกันคือการช่วยเหลือนักศึกษารุ่นน้องท่ี ขาดแคลนทนุ ทรพั ย์ 235

เวทคี ณุ ภาพ II มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 2. คณะทางานมีความพร้อมในการปรับเปลี่ยนกระบวนการหรือรูปแบบการจัดงานเพื่อให้ สามารถระดมทุนได้มากขนึ้ และช่วยเหลือนักศึกษาไดต้ รงตามวัตถุประสงคข์ องการให้ทนุ 3. ผู้บริหารให้ความสาคัญกับกิจกรรมเปิดกระปุกออมสินเพ่ือน้องโดยเข้าร่วมงานทุกปีและร่วม ประชุมกบั คณะทางานในการจดั เตรียมงานทุกครัง้ 11.3 กลยทุ ธห์ รอื ปัจจัยทนี่ าไปสูค่ วามสาเร็จ 1. ค ณ ะ ฯ มี เ จ้ า ห น้ า ที่ ศิ ษ ย์ เ ก่ า สั ม พั น ธ์ ที่ เ ป็ น บั ณ ฑิ ต ค ณ ะ วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ท่ีทาหน้าท่ีในการประสานงานระหว่างคณะฯ และสมาคม นกั ศึกษาเกา่ คณะวทิ ยาศาสตร์ 2. มีสมาคมนักศกึ ษาเก่าฯ ท่เี ข้ามามสี ว่ นรว่ มในการดาเนนิ งานดา้ นศิษยเ์ ก่าสัมพันธ์กับคณะฯ 3. มีเครือข่ายศิษย์เก่าท่ีเข้มแข็ง โดยเฉพาะการต้ังกลุ่มไลน์ของตัวแทนรุ่น ช่วยเพ่ิมช่องทางการ สอื่ สารกิจกรรมตา่ ง ๆ ทง้ั ของคณะฯ และสมาคมฯ 4. การกาหนดให้นักศึกษาทไ่ี ด้รับทุนเปน็ ผจู้ ดั งานและเข้ารว่ มกิจกรรมงานวนั เปดิ กระปุกออมสนิ ทาให้นกั ศึกษาได้เขา้ ใจวัตถุประสงคแ์ ละสร้างความผูกพันระหวา่ งผใู้ หแ้ ละผู้รบั 12. ประเด็น (จดุ เดน่ ) ท่เี ป็นแนวปฏบิ ตั ทิ เ่ี ป็นเลศิ การจัดงานเปิดกระปุกออมสินเพ่ือน้อง จัดข้ึนติดต่อกันมาเป็นระยะเวลาหลายปี และมีรูปแบบท่ี หลากหลายทาให้มีสมาชิกเข้าร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง และร่วมบริจาคเงินเข้ากองทุนฯ เพ่ิมขึ้นทุกปี และ เป็นกิจกรรมประจาปีที่มีศิษย์เก่า/สมาชิกที่เคยมาเข้าร่วมกิจกรรม คอยติดตามและสอบถามเร่ืองการจัดงาน จากงานพฒั นานกั ศึกษาและศษิ ยเ์ ก่าสมั พันธ์อยบู่ ่อยคร้ัง 13. เอกสารอ้างอิง  รายงานผลการดาเนินการโครงการ  แผ่นพบั สรปุ รายนามผู้บรจิ าค บทสรุป โครงการเปดิ กระปุกออมสินเพือ่ น้อง เปน็ โครงการระดมทุนจากศษิ ยเ์ กา่ และผมู้ ีจิตอันเป็นกุศล เพื่อ ใช้เปน็ ทนุ การศึกษาใหก้ บั นักศกึ ษาทีข่ าดแคลนทนุ ทรัพย์ โดยการจัดงานวนั เปิดกระปกุ ออมสนิ กาหนดให้ นกั ศึกษาท่ีได้รับทนุ จากกองทุนคณะวิทยาศาสตร์ เขา้ ร่วมกิจกรรม ทั้งในฐานะท่เี ปน็ ผูจ้ ัดงานและผ้เู ขา้ ร่วม กจิ กรรม ทาให้นกั ศึกษาไดเ้ ข้าใจวัตถปุ ระสงค์การจดั งาน เกิดความประทบั ใจในความมีจติ เมตตาของรุ่นพ่ี และสมาชิกโครงการฯ รวมถึงเกดิ แรงบนั ดาลใจหรือมีกาลังใจเพมิ่ ข้ึนจากเรือ่ งเลา่ ความสาเร็จของรุน่ พีแ่ ละ วทิ ยากรรบั เชญิ สง่ ผลให้เกดิ ความผูกพันระหว่างผู้ให้และผ้รู ับ ซ่งึ ผู้รบั ในวันน้กี ็อาจจะกลับมาเป็นผใู้ หใ้ น วนั หน่งึ และรว่ มส่งตอ่ น้าใจวิทยาฯ จากรุ่นสรู่ ุน่ ผา่ นทุนตา่ ง ๆ ภายใต้ร่มกองทุนคณะวทิ ยาศาสตร์ ตอ่ ไป 236