การประชมุ สมั มนาเชงิ วิชาการด้านการจดั การโลจสิ ตกิ ส์และโซ่อปุ ทาน คร้งั ที่ 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวศิ วกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 รปู ที่ 2 แสดงระดบั การให้บรกิ ารกบั ค่าใช้จา่ ยท่ีเกดิ ข้ึนสาหรบั อะไหลซ่ อ่ มบารงุ 4. สรุปผลการดาเนนิ งานวิจัยและข้อเสนอแนะ ผลการวิจยั การสัง่ ซื้ออะไหลซ่ ่อมบารงุ ในกรณที ปี่ รมิ าณความตอ้ งการไมค่ งท่ี ด้วยวิธีแบบฮิวริสตกิ ส์ท้ัง 3 วิธี แตล่ ะวิธี น้ันก่อให้เกิดต้นทุนทางโลจิสติกส์ที่ไม่เท่ากัน ผู้วิจัยจะทาการสรุปวิธีแบบฮิวริสติกส์ที่เหมาะสมกับอะไหล่ซ่อมบารุงระดับ A ของโมเดลหลังการปรบั ปรงุ (To-Be) แสดงดังตารางท่ี 2 ตารางท่ี 2: แสดงต้นทนุ ทางโลจสิ ติกส์ของรปู แบบการส่งั ซอื้ โดยเทคนิคแบบฮวิ รสิ ติกส์ Spare Part Ordering Cost จานวนครัง้ ทที่ าการสง่ั ซอ้ื Shortage Cost Inventory Total Logistics Class A Holding Cost Cost (Baht/3year) (คาสงั่ ซอื้ /3ป)ี (Baht/3year) (Baht/3year) As-Is (Baht/3year) To-Be By SM 300.00 3 10,400.00 501.652 11,201.65 To-Be By LUC 600.00 6 0.00 1,057.70 1,657.70 To-Be By PPB 300.00 3 0.00 1,226.93 1,526.93 300.00 3 0.00 1,281.33 1,581.33 จากผลการศึกษาน้ี การสั่งซื้อสินค้าคงคลังประเภทอะไหล่ซ่อมบารุงด้วยวิธีแบบฮิวริสติกส์ Least Unit Cost Heuristic เมอ่ื นาข้อมลู ปรมิ าณการใช้อะไหล่ซ่อมบารุงลงไปแทนในสมการของวธิ ี Least Unit Cost Heuristic แล้วทาการหา ผลลัพธ์จะทาให้ไม่สามารถหาผลลัพธไ์ ด้ อันเนือ่ งมาจากสมการนั้นตวั สว่ นท่ีแทนลงไปจะเปน็ ศูนย์ จงึ ไม่เหมาะสมที่จะนามาใช้ กบั คุณลักษณะของปริมาณความต้องการท่ีไมเ่ กิดการใช้เลยซ้าๆ กนั เป็นระยะเวลาหลายเดือน (ปริมาณความต้องการใชอ้ ะไหล่ ซ่อมบารุงมีค่าเท่ากับศูนย์) ส่วนวิธีแบบ Silver Meal Heuristic และ Part Period Balancing Heuristic นั้นจะมีข้อดีและ ข้อเสียที่ต่างการคอื โดยวิธีแบบ Silver Meal Heuristic นั้นมีข้อดีคือต้นทุนการสั่งซื้อสินคา้ ท่สี ูง แต่จะแลกมาดว้ ยต้นทนุ การ ถือครองสินค้าค้าท่ีต่า ส่วนวิธีแบบ Part Period Balancing Heuristic น้ันจะมีข้อดีคือต้นทุนการถือครองสินค้าที่ต่า แต่จะ แลกมาด้วยต้นทุนการสั่งซ้ือที่สูง เป็นการแสดงให้เห็นว่าวิธีแบบฮิวริสติกส์นั้นจะมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่าง ต้องเลือกใช้งานให้ เหมาะสมกบั คณุ ลักษณะของสินคา้ คงคลงั น้ันๆ 123
การประชมุ สมั มนาเชงิ วิชาการด้านการจดั การโลจิสตกิ สแ์ ละโซอ่ ปุ ทาน ครง้ั ท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 ข้อเสนอแนะสาหรับงานวิจัยน้ี เป็นการศึกษาการบริหารจัดการสนิ ค้าคงคลังสาหรับอะไหล่ซ่อมบารุง โดยใช้ข้อมูล ปริมาณความตอ้ งการยอ้ นหลัง 3 ปี ในทางปฏิบัตนิ ั้นปรมิ าณความตอ้ งการน้ันเปล่ยี นแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงควรศึกษาทฤษฎี การพยากรณท์ ีเ่ หมาะสมกบั ลกั ษณะของขอ้ มูลปรมิ าณความต้องการใช้อะไหล่ซอ่ มบารงุ เพ่ือใชค้ วบคกู่ บั ปริมาณความต้องการ ที่ยังไม่เกิดขึ้นในอนาคต โดยในงานวิจัยช้ินน้ีนั้นได้กาหนดต้นทุนต่างๆ ให้เป็นค่าคงที่ อาทิเช่น ต้นทุนการส่ังซ้ือ ต้น ทุนค่า ขนส่ง และต้นทุนการถือครองสินค้า เพ่ือให้ง่ายต่อการคานวณ ซ่ึงในความเป็นจริงแล้วต้นทุนเหล่านี้น้ันจะเปล่ียนแปลงอยู่ ตลอดเวลา เอกสารอ้างอิง Cachon, G. and Terwiesch, C., 2006, Matching Demand with Supply, McGraw-Hill, Singapore. F. Robert Jacobs, Richard B.Chase, 2013, Operations and Supply Chain Management: The Core, 3/e, McGraw Hill, 2013, pp.309-399. Sipper, D. and Bulfin, R.L., 1998, Production: Planning Control and Integration, McGraw-Hill, Singapore. Stößlein, Martin. , Kanet, J. , Gorman, M. , Minner, S. , 2014, “ Time- phased safety stocks planning and its financial impacts: Empirical evidence based on European econometric data” , International Journal of Production Economics, Vol. 149, pp. 47–55. 124
การประชมุ สัมมนาเชิงวิชาการด้านการจดั การโลจสิ ติกส์และโซอ่ ุปทาน ครั้งท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 Topic C: Inventory and Warehouse Management PaperID : IW 06 การจัดสินคา้ คงคลังสาหรับบรรจุภณั ฑ์ปยุ๋ เคม:ี กรณศี กึ ษา สถาปนา โสมดา1*, กนกพร เรียนเขมะนิยม2 1* หลักสตู รการจัดการโลจสิ ติกสแ์ ละซัพพลายเชน คณะบัณฑติ วิทยาลยั การจัดการและนวตั กรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ ธนบรุ ี โทร 082-7869990 โทรสาร 02-4709799 E-mail: [email protected] 2 หลักสูตรการจดั การโลจสิ ตกิ สแ์ ละซัพพลายเชน คณะบณั ฑติ วทิ ยาลัยการจัดการและนวตั กรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ ธนบรุ ี โทร 02-4709798 โทรสาร 02-4709799 E-mail: [email protected] บทคัดย่อ การศึกษาน้ีมีวัตถุประสงค์ในการศึกษาสินค้าคงคลังของกระสอบสานปุ๋ยเคมี กรณีศึกษาโรงผลิตปุ๋ยเคมีแห่งหน่ึงใน ประเทศไทย ซ่ึงเกิดปัญหาในการบริหารจัดการกระสอบสานปุ๋ยเคมีหลากหลายสูตรที่ประสบปัญหาสินค้า ขาดมือและเกิน ความต้องการลูกค้า ผู้วิจัยได้ศึกษาการเก็บสินค้าคงคลังตลอดกระบวนการผลิตกระสอบสาน โดยเริ่มจากการจัดลาดับ ความสาคัญตามหลักการ ABC Classification โดยพิจารณาต้นทุนการผลิตและค่าเสียโอกาสของสินค้าคงคลังท้ังหมด 43 SKUs เพ่ือเลือกสินค้าคงคลังแต่ละประเภทมาเป็นตัวอย่างในการศึกษา โดยสินค้าที่ทาการศึกษาจะถูกเปรียบเทียบระหว่าง ความต้องการและการสั่งผลิต เพื่อให้เห็นถึงพฤติกรรมท่ีเกิดข้ึนของสินค้าคงคลังทั้งสามประเภท และทาการวิเคราะห์ข้อมูล ความต้องการจากสูตรของ Peterson Silver Rule เพื่อบ่งบอกความแปรปรวนของข้อมูลและเลือกใช้เทคนิคการคานวณหา ปริมาณการสง่ิ ซอ้ื ท่ีเหมาะสม ระหวา่ งการคานวณหาปริมาณสั่งผลิตอย่างประหยดั (Economic Production Quantity) และ การคานวณหาปริมาณสั่งผลิตด้วยวิธีพลวัต (Dynamic Lot Sizing Model) ตลอดจนการหาปริมาณสินค้าคงคลังสารอง (Safety Stock), จุดเติมเตม็ (Reorder Point) จากผลการศึกษา สามารถลดปริมาณการถือครองสนิ ค้าคงคลังสะสมกระสอบ สานปลายปี 2558 เท่ากบั 2,276,750 ใบหรอื 73.13% จากการบริหารจดั การสินคา้ คงคลงั ก่อนการปรับปรงุ คาสาคัญ : การสัง่ ผลิตที่เหมาะสมดว้ ยวธิ ีพลวตั ; การสงั่ ผลติ อย่างประหยดั ; นโยบาย Min-Max; สินคา้ คงคลังสารอง; สินคา้ คงคลัง 1. ที่มาและความสาคญั บริษัทผลิตปุ๋ยเคมีกรณีศึกษา ดาเนินกิจการผลิตปุ๋ยเคมีที่มีระบบการผลิตและระบบการบรรจุ ระบบการบรรจุของ โรงงานแหง่ น้ีใช้บรรจภุ ัณฑ์ที่เปน็ กระสอบสาน ขนาด 50 กโิ ลกรัม โดยโรงงานมีนโยบายผลติ กระสอบเพ่ือจัดเกบ็ ไว้ (Make to Stock) ตารางที่ 1 แสดงขอ้ มูลความตอ้ งการและปริมาณการส่งั ผลติ รวมย้อนหลงั 2 ปี ของสนิ คา้ คงคลังทท่ี าการศกึ ษา 125
การประชมุ สมั มนาเชิงวิชาการด้านการจดั การโลจสิ ตกิ ส์และโซอ่ ปุ ทาน ครัง้ ที่ 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควิชาวศิ วกรรมอตุ สาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 ตารางที่ 1: ข้อมูลความตอ้ งการและปริมาณการสงั่ ผลิตยอ้ นหลัง 2 ปี จะเห็นได้ว่าปริมาณของกระสอบสานในภาพรวมมีแนวโน้มที่จะมีสินค้าเหลือเกินความต้องการ จึงเป็นที่มาของ การศึกษาว่า ปริมาณการส่ังผลิตสินค้าอย่างไรจึงจะเหมาะสมกับความต้องการท่ีมีปริมาณการจัดเก็บท่ีเหมาะสม เพ่ือให้ ตอบสนองลกู คา้ ได้ 2. ทฤษฎีที่ใช้ในงานวิจยั 2.1 การแบง่ ประเภทสินคา้ คงคลงั ดว้ ยวิธกี ารวิเคราะหแ์ บบ ABC Classification ชาตรี เกียรติสมุทรธารา (2547) ได้กล่าวถึงการวิเคราะห์จาแนกสินค้าคงคลังว่าสามารถแบ่งได้เป็น 3 ระดับ ได้แก่ สินค้าคง คลังกลุ่มระดับ A มีมูลค่า 75-80 % ของมูลค่าสินค้าคงคลังที่พิจารณาท้ังหมด สินค้าคงคลังกลุ่มระดับ B มีมูลค่า 20-30 % ของมูลค่าสินค้าคงคลังท่ีพิจารณาท้ังหมด และสินค้าคงคลังกลุ่มระดับ C มีมูลค่า 5-10 % ของมูลค่าสินค้าคงคลงั ที่พิจารณา ทั้งหมด 2.2 ทฤษฎีของ Peterson-Silver Rule ธนัญญา วสุศรี (2552) ได้สรุปว่าเทคนิค Peterson-Silver Rule ที่ใช้ในการวัดความแปรปรวนความตอ้ งการเพื่อตัดสนิ ใจใน การเลือกขนาดการสง่ั ด้วยการหาคา่ สัมประสทิ ธค์ิ วามแปรปรวน (V: Variability Coefficient) โดยมสี มการดงั น้ี V = n ∑tn=1 Dt2 − 1 (1) (∑tn=1 Dt)2 โดย V หมายถึงสมั ประสิทธิ์ความแปรปรวนของความตอ้ งการ, Dt หมายถงึ ปรมิ าณความต้องการสนิ คา้ ที่เกิดข้นึ ณ ช่วงเวลา t ใดๆ และ t หมายถึงชว่ งเวลาทท่ี าการศึกษาปริมาณความต้องการ โดย t เท่ากับ 1, 2, 3, ..., n ถ้าค่าสัมประสิทธิ์ความแปรปรวน มีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 0.25 มีความหมายว่าความต้องการสินค้านั้นมีความ แปรปรวนสูง ให้ใช้รูปแบบการสั่งซ้ือแบบพลวัต (Dynamic Lot Sizing) เพ่ือใช้คานวณหาปริมาณของคาส่ังซ้ือที่เหมาะสม และถ้าค่าสัมประสิทธ์ิความแปรปรวนท่ี มีค่าน้อยกว่า 0.25 สามารถใช้รูปแบบการส่ังซื้อแบบคงที่ (Static Lot Sizing) เช่น Economic Order Quantity (EOQ) เพื่อใชค้ านวณหาปรมิ าณของคาส่ังซ้อื ท่เี หมาะสม 2.3 ตัวแบบปริมาณการส่งั ผลติ ทปี่ ระหยดั (Economic Production Quantity Model (EPQ) พภิ พ ลลติ าภรณ์ (2549) ได้กล่าวว่าสาหรบั จากการวเิ คราะหข์ ้อมูลทีม่ คี วามต้องการคอ่ นขา้ ง โดยมสี มการของขนาด การสัง่ ซ้อื แบบประหยดั EPQ = 2AD̅ (2) √H(1−DP̅ ) โดย EPQ หมายถึงจุดสัง่ ผลิตแบบประหยดั (Economic Production Quantity) (หน่วย), A หมายถงึ คา่ ใช้จา่ ยในการสัง่ ผลติ (Set up Cost) (บาท/คร้ัง), D̅ หมายถึงความตอ้ งการเฉล่ีย (Average Demand) (หนว่ ย/เดอื น), P หมายถงึ กาลงั การผลิต 126
การประชุมสมั มนาเชิงวิชาการด้านการจดั การโลจสิ ติกสแ์ ละโซอ่ ปุ ทาน ครัง้ ท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 (Production Capacity) (หน่วย/เดือน), H หมายถึงค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บ (บาท/หน่วย/เดือน) ซึ่ง H เท่ากับ ic, โดย i หมายถงึ ตน้ ทนุ การถือครองสนิ ค้าคงคลังตอ่ เดอื น (%/เดอื น), c หมายถึงตน้ ทนุ การผลิตสินคา้ ต่อหนว่ ย (บาท/หนว่ ย) 2.4 ตวั แบบปริมาณการสัง่ ผลติ ทเ่ี หมาะสมด้วยวิธีพลวัต (Dynamic Lot Sizing) กฤตกนก พาบุ และคณะ (2555) กล่าวว่าสาหรับจากการวิเคราะหข์ ้อมูลที่มีความต้องการค่อนข้างไมค่ งที่ โดยปริมาณความ ต้องการในแต่ละช่วงน้ันอาจจะไม่เท่ากัน และอาจมีการเปลี่ยนแปลงในเร่ืองของต้นทุนที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายการจัดเก็บและ สั่งซ้ือหรือผลิตในช่วงเวลาที่ศึกษา ซ่ึงมีวัตถุประสงค์เดียวคือ ปริมาณการส่ังซ้ือหรือผลิตท่ีทาให้ต้นทุนรวมต่าท่ีสุด ซึ่ง แบบจาลองทางคณิตศาสตรจ์ ะมลี กั ษณะดังนี้ Minimize Total Cost = ∑Tt=1(AtBt + HtEt) (3) Constraints 1) Ending inventory Et = Et−1 + Qt − Dt For t = 1,2,3…., T 2) Relationship between production quantities Qt ≤ MBt For t = 1,2,3…., T 3) Non negativity Qt, Et ≥ 0 integer For t = 1,2,3…., T 4) Binary Bt ∈ {0,1} For t = 1,2,3…., T โดย At หมายถึงค่าใช้จ่ายในการดาเนินการเคร่ืองจักร (Setup Cost) (บาท/ครั้ง), Ht หมายถึงค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บ (Holding Cost) (บาท/หน่วย/ช่วงเวลา), Et หมายถึงสินค้าคงคลังปลายงวด (Ending Inventory) (หน่วย), Qt หมายถึง ปริมาณการสั่งผลิต (Production Quantity) (หน่วย), Bt หมายถึงค่าตัวแปรการสั่งผลิตคงที่ (Binary), Dt หมายถึงความ ต้องการ (Demand) (หน่วย), M หมายถงึ จานวนเตม็ ท่ีมีค่ามาก (Big M) 2.5 จดุ สัง่ ผลติ ใหม่ (Reorder Point: ROP) และปรมิ าณสินคา้ คงคลงั สารอง (Safety Stock: SS) การคานวณจดุ เติมเต็มและปริมาณสนิ คา้ คงคลังสารองสาหรับความต้องการที่มีการกระจายตวั ปกติ คานาย อภปิ รชั ญาสกุล (2550) กลา่ วว่าจุดสัง่ ซอื้ ใหมน่ นั้ มคี วามสมั พันธ์กบั ตวั แปร 2 ตวั คือ อตั ราความต้องการสินค้าคงคลงั และเวลานา ในการสัง่ ผลติ (Lead Time) ภายใต้เหตุการณ์ 4 แบบไดแ้ ก่ 1) ความต้องการและรอบเวลาคงที่ 2) ความต้องการ สินคา้ คงคลงั ไมแ่ น่นอนแตร่ อบเวลาคงท่ี 3) ตอ้ งการสินค้าคงท่ีแต่รอบเวลาไม่คงที่ และ 4) ความตอ้ งการสินคา้ และรอบเวลาไม่ คงท่ี การคานวณจุดเตมิ เต็มและปริมาณสินคา้ คงคลังสารองสาหรบั ความตอ้ งการท่ีมกี ารกระจายตวั ไมป่ กติ ธนันต์ ไกรโกศล (2543) นาเสนอเป็นนโยบายการจัดการสินค้าคงคลังรูปแบบของการกาหนดจุด Min คือจุดท่ีจะต้องมีการ สารองสินค้าคงคลังไว้ในการตอบสนองระหว่างรอบเวลาการส่ังซื้อ โดยคานึงถึงการกาหนดเปอร์เช็นต์การผิด พลาดเฉพาะ ช่วงเวลาจดั หา และจุด Max คือการส่ังซ้ือแบบประหยัด (EOQ) เพอื่ ตอบสนองความต้องการระหวา่ งการซือ้ 127
การประชุมสัมมนาเชิงวชิ าการด้านการจดั การโลจสิ ติกส์และโซ่อุปทาน ครง้ั ที่ 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควิชาวศิ วกรรมอุตสาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 3. ผลการดาเนนิ งาน 3.1 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูลความต้องการกลมุ่ สนิ คา้ คงคลังตัวอยา่ ง จากการที่จะต้องวิคราะห์ข้อมูลความตอ้ งการโดยการใช้วิธีของ Peterson-Silver Rule เข้ามาช่วยหาสัมประสทิ ธ์สหสมั พนั ธ์ ของความแปรปรวน เพ่อื จะได้นาไปสู่การเลอื กนโยบายการจดั การทเ่ี หมาะสม ตารางท่ี 2: ความแปรปรวนความตอ้ งการของกระสอบสานกลุ่มตัวอย่าง ประเภทกระสอบสาน V ลกั ษณะข้อมูล นโยบายการจดั การ AAA 0.24 S EPQ BBB 1.64 NS Dynamic CCC 0.67 NS Dynamic DDD 0.48 NS Dynamic EEE 0.24 S EPQ FFF 5.68 NS Dynamic GGG 1.28 NS Dynamic HHH 0.86 NS Dynamic III 0.63 NS Dynamic หมายเหตุ : S = Stationary, NS = Non-Stationary 3.2 ผลการคานวณจุดเติมเตม็ และสินค้าคงคลังสารองแต่ละประเภทขอ้ มลู ในส่วนของการหาจุดเติมเตม็ (Reorder Point) และสินค้าคงคลังสารอง (Safety Stock) ได้นาเสนอออกเป็น 2 แนวทางตาม ขอ้ มูลของความต้องการสินคา้ คงคลัง จุดเตมิ เตม็ และสินค้าคงคลังสารองสาหรบั ขอ้ มูลทมี่ กี ารกระจายตัวแบบปกติ กระสอบสาน AAA จะมีเวลานาเฉล่ยี อยทู่ ่ี 0.23 เดือน ส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐานความต้องการอยู่ท่ี 173,329 ใบ ความต้องการ เฉลยี่ 346,117 ใบ/เดือน และสุดทา้ ย ส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐานเวลานาอยู่ที่ 0.12 เดือน σLTDAAA = √(0.23)×(173,329)2 + ((346,117)2×(0.12)2) จะไดส้ ่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความตอ้ งการระหวา่ งเวลานาเป็น 92,368 ใบ ปรมิ าณสนิ คา้ คงคลงั สารองของกระสอบสาน AAA มีความเช่ือม่ันท่ี 95 % เม่ือเปิดตาราง Z = 1.65 ดังนั้นปริมาณสินค้าคงคลังสารองเท่ากับ Safety Stock = 1.65 x 92,368 จะมีปรมิ าณสินค้าคงคลงั สารองเท่ากับ 152,407 ใบ จุดเติมเต็มกระสอบสาน AAA มีค่าเฉลีย่ ความตอ้ งการอยู่ที่ 346,117 ใบ และเวลานาเฉลีย่ อยู่ที่ 0.23 เดือน ดังนั้นจุดเติมเตม็ ของกระสอบสาน AAA เท่ากับROP = (346,117 x 0.23) + 152,407 จะ มีจดุ เตมิ เตม็ อย่ทู ่ี 232,272 ใบ จดุ เติมเต็มและสนิ คา้ คงคลังสารองสาหรบั ข้อมลู ที่มีการกระจายตัวแบบไม่ปกตจิ ุด Min-Max ของกระสอบสาน CCC มีปรมิ าณความตอ้ งการเฉลี่ย 157,878 ใบ/เดือน และส่วนเบยี่ งเบนความต้องการ 132,441 ใบ เวลานาในการผลติ เฉลี่ย 0.10 128
การประชุมสัมมนาเชิงวิชาการด้านการจดั การโลจสิ ติกส์และโซอ่ ปุ ทาน คร้งั ท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 เดอื น และส่วนเบย่ี งเบนเวลาผลิต 0.085 เดือน และให้น้าหนักความสาคญั ความเบยี่ งเบนความตอ้ งการและเวลาผลิต คอื 0.5 สาหรบั เปอรเ์ ซ็นตค์ วามเบ่ยี งเบนความต้องการและเวลาผลิต จะมีคา่ เท่ากบั %ความเบย่ี งเบนความตอ้ งการ = (132,441 x100%) x 0.5 = 42.0 % 157,878 %ความเบ่ยี งเบนความเวลาผลติ = (0.085 x100%) x 0.5 = 42.5% 0.10 ปริมาณสินค้าคงคลงั สารอง = ((42.0% + 42.5%) × (157,878×0.10)) = 26,734 ใบ โดยจะไดเ้ ปน็ สมการเพื่อหาจุดสงั่ ผลิตกระสอบสาน CCC (Min level) M = (157,878×0.10) + 26,734 จุดสงั่ ผลิตของกระสอบสาน CCC คอื 42,522 ใบ สาหรับจุดสูงสดุ ในการจัดเกบ็ สินค้าคงคลัง(Max Point) หรอื สินค้าคงคลังสารองทบ่ี รษิ ัทจะต้องถือครองเก็บไว้ โดยจะใชจ้ ดุ ส่ัง ผลิตท่ีมีต้นทุนผันแปรนอ้ ยสุด น้ันก็คือการใช้สมการ EPQ ในการคานวณ โดยกระสอบสาน CCC มีค่าคงที่ในการส่ังผลติ อยทู่ ี่ 31,140 บาทต่อคร้ัง และค่าจัดเก็บกระสอบสานอยู่ท่ี 0.045 บาทต่อใบต่อเดือน และมีกาลังการผลิตอยู่ที่ 1,550,000 ใบต่อ เดือน Q = 2×31,140×157,878 √ − 11,55570,8,07080) 0.045×(1 โดยปรมิ าณส่งั ผลิตที่ค้มุ ทุนของ CCC คือ 443,492ใบ ซึง่ สาหรับระดบั สงู สดุ ของนโยบายสินคา้ คงคลงั Min-Max ได้เสนอใหน้ า จุดสัง่ ผลิตรวมกับปริมาณส่ังซื้อที่คุ้มทนุ คือ 486,014 ใบ 3.3 ผลเปรียบเทยี บระดบั สินคา้ คงคลงั กอ่ นและหลังการปรับปรุง ในปี 2557 ปรมิ าณการผลิตสนิ คา้ คงคลังกระสอบสานรวมกอ่ นปรบั ปรงุ ใกลเ้ คยี งกับความต้องการ นัน้ แสดงให้เหน็ ถงึ บางเดอื น อาจจะมีการผลติ ท่ีไม่เพียงพอตอ่ ความตอ้ งการ แตกต่างกบั ปี 2558 ท่ีมีกาลังผลติ ก่อนปรบั ปรงุ เกินความต้องการ 3,113,280 ใบ หรือ 19.85 % สาหรับในส่วนหลังปรับปรุงการผลิตสินค้าคงคลังกระสอบสานมีความใกล้เคียงกับความต้องการที่เกิดขึ้น จริง โดยแสดงปริมาณสินค้าคงคลงั สะสมทั้งหมดกระสอบสานเปรียบเทียบก่อนและหลังปรับปรุงในแตล่ ะเดือนปี 2557 และ 2558 ตามรปู 1 รูปที่ 1: แสดงปริมาณสนิ ค้าคงคลงั สะสมทง้ั หมดกระสอบสานเปรียบเทียบก่อนและหลงั ปรบั ปรุง การผลติ กระสอบสานสะสมรวมกอ่ นปรบั ปรงุ เกนิ ความตอ้ งการท่ีแท้จรงิ ตอนสิน้ ปี 2558 เท่ากบั 3,113,280 ใบ แตเ่ มื่อ เปรยี บเทยี บการจดั การบริหารสินคา้ คงคลงั หลงั การปรับปรุงจะเหลอื สนิ คา้ คงคลังตอนสิ้นปี 2558 เพยี ง 836,530 ใบ 129
การประชุมสมั มนาเชงิ วชิ าการด้านการจัดการโลจสิ ตกิ สแ์ ละโซ่อุปทาน ครง้ั ท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวิศวกรรมอตุ สาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 4. สรปุ ผลการดาเนินงานวิจยั การศกึ ษาค้นคว้าและวิจัยนีม้ ีจดุ ประสงค์เพือ่ ทาการศกึ ษาสินค้าคงคลงั ของกระสอบสานของปุย๋ เคมีในกลมุ่ ตัวอย่างท่ี ต้องการศึกษา โดยจะมุ่งเน้นในการเลือกใช้เครื่องมือหรือนโยบายบริหารสินค้าคงคลังไม่ว่าจะเป็น การส่ังผลิตแบบประหยัด (Economic Production Quantity (EPQ) และการส่ังผลิตแบบพลวัต (Dynamic Lot Sizing) ในรูปแบบจาลองทาง คณติ ศาสตร์ ทีจ่ ะเหมาะสมกบั ความตอ้ งการของขอ้ มลู ที่แตกต่างกันของแต่ละกลมุ่ สินคา้ คงคลัง มกี ารทดสอบความแปรปรวน ของขอ้ มูลเพื่อประกอบการตดั สินใจ ในการเลือกใชเ้ ครอ่ื งมือหรือนโยบายบริหารสินคา้ คงคลัง เพอื่ ใหม้ ีประสิทธิภาพมากท่ีสุด โดยคานงึ ถงึ ขอ้ จากัดในดา้ นกาลังการผลิตของโรงงานในปจั จบุ นั เพ่อื ที่จะบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคใ์ นเรือ่ งของตน้ ทนุ ค่าใช้จา่ ยรวมตา่ ท่ีสุด อีกทั้งยังมีการศึกษาเพิ่มเติมในส่วน จุดเติมเต็มสินค้าคงคลัง (Reorder Point) ปริมาณสินค้าคงคลังสารอง (Safety Stock) หรือ นโยบาย Min-Max เพอื่ รองรับความตอ้ งการที่ไมแ่ น่นอนของแต่ละกลมุ่ สินคา้ ตามระดับการบริการที่ยอมรบั ของ สนิ คา้ แต่ละประเภทกลุม่ ตวั อย่าง และสุดทา้ ยผูว้ ิจยั ไดน้ าเสนอเพอ่ื เปรยี บเทยี บผลทไ่ี ดจ้ ากการดาเนินการในรูปแบบของระดับ สินค้าคงคลังระหว่างการดาเนินงานของบริษัทกับการศึกษาค้นคว้า เพื่อแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการจัดการบริหาร สินค้าคงคลังโดยลดปริมาณการถือครองสินค้าคงคลังสะสมกระสอบสานปลายปี 2558 เท่ากับ 2,276,750 ใบหรือ 73.13% จากการบรหิ ารจัดการสินค้าคงคลังก่อนการปรบั ปรงุ เอกสารอา้ งอิง กฤตกนก พาบุ, วราธร ปัญญางาม และนิลวรรณ ชุ่มฤทธ์ิ, 2555, “การกาหนดขนาดการส่ังซื้อท่ีเหมาะสมด้วยวิธีพลวัต กรณีศึกษาการคงคลังข้าวเปลือกของโรงสีตัวอย่าง” การประชุมวิชาการข่ายงานวิศวกรรมอุตสาหการ ประจาปี 2555, วันที่ 17-19 ตุลาคม 2555, ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (องครกั ษ์), หนา้ 1899-1904. คานาย อภิปัชญาสกุล, 2550, “ต้นทุนท่ีเกี่ยวกับสินค้าคงคลัง” โลจิสติกส์และการจัดการซัพพลายเชน : กลยุทธ์สาหรับลด ตน้ ทุนและเพมิ่ กาไร, ห.จ.ก. ซี วาย ซิซเทมิ พร้ินติง้ , นนทบรุ ี, หนา้ 62-99. ชาตรี เกียรติสมุทรธารา, 2547, การศึกษาวิเคราะห์ขนาดการสั่งซ้ือท่ีประหยัดของ เคมีภัณฑ์ในแผนกคลังสินค้า, โครงการ ปัญหาพิเศษวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวิชาวิศวกรรมการจดั การอุตสาหกรรม บัณฑิตวิทยาลยั สถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าพระนครเหนือ, หนา้ 48-55. ธนัญญา วสุศรี, 2552, “การจัดการสินค้าคงคลังและการกระจายสินค้า”, ห.จ.ก. สุเนตรฟิล์ม, กรุงเทพมหานคร, หน้า 129- 140. ธนันต์ ไกรโกศล, 2543, ระบบการจดั การวสั ดุคงคลงั แบบสัง่ เป็นกลมุ่ สินค้า: กรณีศึกษา ผู้จาหน่ายวัสดกุ อ่ สร้าง, วิทยานิพนธ์ วิศวกรรมศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าการจัดการทางวิศวกรรม บัณฑติ วิทยาลยั จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั , หน้า 29-48 130
การประชมุ สัมมนาเชงิ วิชาการด้านการจดั การโลจสิ ติกส์และโซ่อุปทาน คร้งั ท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 Topic C: Inventory and Warehouse Management Paper ID: IW 07 การเพมิ่ ประสิทธิภาพการจัดการคลงั สนิ ค้า กรณศี ึกษา บริษทั ผลิตคอมเพรสเซอร์ นภสร วงศท์ รัพย1์ , จีราดา อนชุ ิตนานนท์2* 1สาขาวิชาการจดั การอตุ สาหกรรมพาณชิ ยนาวี คณะโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยบรู พา E-mail: [email protected] 2*สาขาวชิ าการจดั การอุตสาหกรรมพาณิชยนาวี คณะโลจิสติกส์ มหาวทิ ยาลัยบรู พา โทร 0-3810-222 โทรสาร 0-3839-3231 E-mail: [email protected] บทคัดย่อ งานวิจัยน้ที าการศกึ ษากระบวนการจดั การคลังสนิ คา้ โดยศึกษาบรษิ ัทผลิตคอมเพรสเซอรเ์ ป็นบริษัทกรณีศึกษา เปน็ การผสมผสานระบบการจัดเก็บสินค้าตามประเภทของสินค้า (Commodity System) ร่วมกับการแบ่งกลุ่มสินค้าตามอัตรา การหมุนเวียนเข้า-ออก ด้วยการปรับเปล่ียนจากระบบการจัดเก็บโดยไร้รูปแบบ (Informal System) เป็นการจัดเก็บสินค้า ตามประเภทของสินค้า (Commodity System) สามารถแบ่งสินค้าตามประเภทของสินค้าได้ 3 โซน คือ Local Zone, Common Zone และ Overseas Zone และในแต่ละโซนของประเภทสินค้าได้ประยุกต์เทคนิค ABC analysis ในการแบ่ง ระดบั กลมุ่ สนิ ค้าตามอตั ราการหมนุ เวยี นเข้า-ออกของสนิ ค้า แบง่ เปน็ 3 ระดับ คือ มีอตั ราการหมุนเวียนเขา้ -ออกของสินค้าสูง (Fast moving) ปลางกลาง (Medium moving) และต่า (Slow moving) ผลจากการดาเนินการปรับปรุงระบบการจัดเก็บ สินค้าส่งผลให้พ้ืนที่ในการจัดเก็บสินค้าเพ่ิมสูงข้ึน การไหลของสินค้าภายในคลังสินค้าดีข้ึน และสามารถลดระยะทางการขน ยา้ ยสนิ คา้ ภายในคลงั สินค้า สง่ ผลให้ประสิทธิภาพการจัดการคลังสินคา้ สงู ขึน้ คาสาคญั : การจัดการคลงั สนิ ค้า; บรษิ ัทผลติ คอมเพรสเซอร์; การจดั เก็บสนิ คา้ ตามประเภทของสินคา้ ; การจดั เก็บสนิ คา้ ตาม อตั ราการหมุนเวยี นเข้า-ออกของสินค้า 1. ทมี่ าและความสาคัญ บริษัทกรณีศึกษาเป็นบริษัทผลิตคอมเพรสเซอร์ (compressor) รายใหญ่ของประเทศไทยท่ีมีการส่งออกท้ังภายใน และต่างประเทศ มีการจัดเก็บ Compressor ท่ีเป็นสินค้าคงคลังประเภทสนิ ค้าสาเรจ็ รูปโดยจัดเก็บและสารองสินคา้ คงคลงั ไว้ เพื่อให้ปริมาณเพียงพอตอ่ ฤดูกาลที่มีความต้องการสั่งซื้อสนิ คา้ สงู ทาให้การจัดการคลังสินค้าของบรษิ ัทกรณศี ึกษาเกิดปญั หา ดา้ นพนื้ ทีใ่ นการจดั เกบ็ สินค้าไมเ่ พยี งพอ และสนิ คา้ ออกลา่ ชา้ ขาดความคล่องตวั ในการหมนุ เวียนของสินค้า เนอ่ื งจากปจั จุบัน บริษัทกรณีศึกษามีรูปแบบการจัดเก็บสินค้าเป็นแบบระบบการจัดเก็บโดยไร้รูปแบบทาให้สิ้นเปลืองพื้นท่ีจัดเก็บและยากต่อ การค้นหาสินค้า เพราะสินค้าไม่มีการแยกประเภทอย่างชัดเจน สินค้าคนละประเภทปะปนอยู่ในพ้ืนท่ีจัดเก็บเดียวกัน และ สินค้าประเภทเดียวกันอยู่หลายพ้ืนที่จัดเก็บ ดังน้ันงานวิจัยนี้จึงทาการศึกษากระบวนการจัดการคลังสินค้าของบริษัท กรณีศกึ ษา และปรบั ปรงุ กระบวนการจัดเก็บสนิ คา้ โดยการผสมผสานระบบการจดั เก็บสนิ คา้ ตามประเภทของสินค้าเข้ากับการ แบ่งกลุ่มสนิ ค้าตามอัตราการหมุนเวียนเข้า-ออกของสินค้า เพือ่ เพ่มิ พืน้ ท่ีการจดั เก็บสินคา้ คงคลงั เพม่ิ ความสะดวกในการค้นหา สินค้า ลดความซบั ซ้อนการไหลของสินค้า และลดความสญู เปล่าจากการเคลอื่ นยา้ ยท่ีไมจ่ าเปน็ 131
การประชมุ สัมมนาเชิงวชิ าการด้านการจัดการโลจิสติกสแ์ ละโซ่อุปทาน ครง้ั ท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 2. ทฤษฏีพน้ื ฐานและงานวจิ ยั ท่ีเก่ียวข้อง การเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการคลังสินค้าเพ่ือให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าการออกแบบแผนผัง คลังสินค้าท่ีเหมาะสมจะทาให้การไหลของสินค้าสะดวกและรวดเร็ว (คานาย อภิปรัชญาสกุล, 2553) โดย Jame and Jerry (1998) ได้แบ่งรูปแบบการจัดเก็บสินค้าออกเป็น 6 แนวคิด คือ 1. ระบบการจัดเก็บโดยไร้รูปแบบ (Informal System) 2. ระบบจัดเก็บโดยกาหนดตาแหน่งตายตัว (Fixed Location System) 3. ระบบการจัดเก็บโดยจัดเรียงตามรหัสสินค้า (Part Number System) 4. ระบบการจัดเก็บสินค้าตามประเภทของสินค้า (Commodity System) 5. ระบบการจัดเก็บท่ีไม่ได้ กาหนดตาแหน่งตายตัว (Random Location System) และ 6. ระบบการจัดเก็บแบบผสม (Combination System) ซ่ึง ระบบการจัดเกบ็ ไร้รูปแบบเป็นการจดั เกบ็ สนิ คา้ โดยไม่มกี ารบนั ทึกตาแหนง่ การเกบ็ ท่ีถกู กาหนดจากผูป้ ฏิบตั ิงานเอง ทาใหเ้ กิด โอกาสที่จะประสบปัญหาการหาสินค้าไม่เจอ ในขณะที่ระบบการจัดรูปแบบการจัดเก็บสินค้าตามประเภทสินค้าสามารถเพมิ่ พ้ืนท่ีในการจัดเก็บได้มากขึ้น และพนักงานสามารถปฏิบัติงานได้สะดวกขึ้น และการประยุกต์ ABC Analysis โดยแบ่งระดับ ตามมูลค่ามาจัดโซนในการจัดเก็บสินค้า ส่งผลใหก้ ารจดั การคลังสินค้ามีประสทิ ธิภาพสูงขึ้น (พิภพ ลลิตาภรณ์, 2540) รวมถงึ การแบ่งกลุ่มสินคา้ ตามอตั ราหมนุ เวียนเข้า-ออกคลังสินค้า สามารถลดระยะทางการเคลือ่ นย้ายสินค้าลงได้ ทาใหก้ ารจดั เตรียม สนิ ค้าใหก้ บั ลูกคา้ รวดเรว็ ขนึ้ ลูกคา้ เกดิ ความพึงพอใจในการบรกิ ารและตน้ ทนุ ของคลังสินค้าที่ลดลง (ไชยพร ปรีชาวงษ,์ 2556) 3. วธิ กี าร การศึกษากระบวนการจัดการคลังสินค้าของบริษัทกรณีศึกษา บริษัทผลิตคอมเพรสเซอร์ มีข้ันตอนการดาเนินง าน วิจัยหลกั 4 ข้ันตอนดังรูปท่ี 1 ศกึ ษากระบวนการ เก็บรวบรวมขอ้ มลู วเิ คราะหป์ ญั หา อภิปรายและสรุปผล และเสนอแนวทางการแกไ้ ข รปู ที่ 1: ขน้ั ตอนการดาเนนิ งานวจิ ยั ขั้นตอนการดาเนินงานวิจัยนี้ประกอบด้วย 4 ข้ันตอน โดยเร่ิมจากศึกษากระบวนการจัดการคลังสินค้าของบริษัท กรณีศึกษาด้วยการสารวจจากการปฏิบัตงิ านจริง จากน้ันทาการเก็บรวบรวมขอ้ มลู โดยแบ่งข้อมูลท่ีเก็บเป็น 2 ส่วน คือ ข้อมลู ปฐมภูมิ (Primary Data) จากการสัมภาษณ์ผู้ปฏิบัติงานภายในคลังสินค้า และการเก็บข้อมูลด้วยการสังเกตการปฏิบัติงาน และข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Data) จากการศึกษาค้นคว้าจากข้อมูลท่ีบริษัทมีอยู่แล้วและนามาจัดทาเป็นข้อมูลเชิงสถิติ จากนั้นทาการวิเคราะห์ปัญหาและเสนอแนวทางการแกไ้ ข ด้วยวิธวี เิ คราะหแ์ บบอปุ นยั (Analytic Induction) เป็นการตคี วาม สร้างข้อสรุปข้อมูลจากสิ่งท่ีเป็น เพื่อระบุปัญหาที่เกิดขึ้นภายในคลังสินค้าที่มีผลต่อประสิทธิภาพของคลังสินค้า และขั้นตอน สดุ ทา้ ยการอภิปรายและสรปุ ผล 4. ผลของการวจิ ัย บรษิ ัทกรณีศกึ ษาเป็นบริษทั ผลิต Compressor สามารถแบ่งประเภท Compressor ได้ 3 กลมุ่ รนุ่ ผลิตภณั ฑ์ คือ 1C, 2C และ Scl การดาเนินงานของคลังสินค้าของบริษัทกรณีศึกษาทาหน้าท่ีจัดเก็บ Compressor ทั้ง 3 กลุ่มรุ่นผลิตภัณฑ์ พา เลทเปลา่ งาน Dead stock งานเศษ และ Service part โดยบริษทั กรณศี ึกษามกี ารวางแผนผงั คลงั สินค้าดังรูปท่ี 2 132
การประชมุ สัมมนาเชงิ วิชาการด้านการจดั การโลจสิ ติกสแ์ ละโซ่อปุ ทาน ครั้งท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวศิ วกรรมอุตสาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 รูปท่ี 2: แผนผังคลงั สินคา้ ก่อนปรบั ปรุง การดาเนนิ งานภายในคลงั สินคา้ ของบริษัทกรณศี กึ ษาตามแผงผงั คลังสินคา้ (รูปท่ี 2) จะเหน็ ได้ว่าเสน้ ทางการเดินรถ ของพนักงานขับ forklift ที่มีหน้าท่ีหยบิ สินค้าจากช่องวางพาเลทในพ้นื ที่ตา่ ง ๆ มาโหลดใส่รถบรรทกุ มคี วามซับซอ้ น ส่งผลให้ การดาเนินงานเกดิ ความล่าชา้ โดยมรี ายละเอยี ดของปญั หาดงั นี้ 1) คลังสินค้าของบรษิ ัทกรณีศึกษามรี ะบบการจัดเก็บโดยไรร้ ูปแบบ ไม่มีการกาหนดตาแหน่งท่ีชัดเจน ทาให้สูญเสีย เวลาในการค้นหา และการจดั สรรพนื้ ที่เป็นไปอย่างไมม่ ีประสิทธิภาพ เน่อื งจากไม่มีการแบง่ พื้นที่ชดั เจนตามกลมุ่ ร่นุ ผลิตภัณฑ์ ทาใหพ้ นักงานนาผลติ ภัณฑ์ที่เป็นกลมุ่ รุน่ เดียวกนั วางในหลายพน้ื ท่ี และในการจดั เกบ็ จะทาการเก็บแยกกลุ่มร่นุ ตามช่องวางพา เลท ถา้ จัดเกบ็ สนิ ค้าไม่เตม็ ช่อง จะทาใหเ้ กิดพืน้ ทวี่ า่ งท่ไี ม่ถูกใช้งาน 2) การวางแผนผังคลังสินค้าในปัจจุบันไม่อานวยความสะดวกต่อการจัดเก็บสินค้าแบบ First in First out (FIFO) เน่ืองจากรูปแบบการวางช่องวางพาเลทตดิ ชดิ ริมผนัง ทาใหก้ ารควบคมุ การสง่ สนิ ค้าตามวันทผ่ี ลติ เป็นไปไดย้ าก เพราะสินคา้ ท่ี ผลิตกอ่ นจะตอ้ งถกู จัดวางดา้ นในสุดทาให้ต้องเคลือ่ นย้ายสินคา้ ท่ผี ลิตทหี ลังออกมา เพ่ือเอาสินค้าทผ่ี ลติ ก่อนออกมาขาย และ พ้ืนที่บริเวณโซน D มีการวางช่องวางพาเลทชิดผนงั ระหว่างประตู 1 และ 2 เพื่อแบ่งพ้ืนที่ระหว่างโซน D กับโซน A B และ C ทาให้ช่องวางพาเลทดังกล่าวขวางเส้นทางการเดินรถ ทาให้เวลาที่ต้องการเข้าพ้ืนท่ีโซน D พนักงานต้องขับรถ forklift อ้อม จากประตู 2 ไปประตู 1 และถ้าต้องการหยิบสินคา้ ในพ้ืนที่โซน A และ B พนักงานต้องขับออกจากประตู 1 เข้าประตู 2 เป็น ความสูญเปล่าจากการเคล่ือนที่ท่ไี มจ่ าเป็น ทาใหเ้ สยี เวลาในการดาเนนิ งาน 4) และปัจจบุ ันการจดั เกบ็ สินคา้ ไมไ่ ด้พิจารณาเรอื่ งอัตราการหมุนเวยี นเขา้ -ออกของสนิ คา้ ทาให้สินคา้ ที่มีอัตราการ หมนุ เวยี นเขา้ -ออกสูง ถกู จดั เก็บไว้ไกลกับประตูทางเขา้ -ออก ทาใหเ้ กดิ ความสญู เปลา่ จากการเคล่ือนทท่ี ีไ่ ม่จาเป็น ดังนั้นงานวิจัยน้ีจึงทาการศกึ ษาการเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการดาเนินงานในคลังสินค้าของบรษิ ัทกรณศี กึ ษา ด้วยการลดความสูญเปล่าจากการเคล่ือนท่ีที่ไม่จาเป็น และเพิ่มพ้ืนท่ีจัดเก็บสินค้าท่ีมีแนวโน้มสูงข้ึนของบริษัทกรณีศึกษา โดยเฉพาะในกลุ่มรุ่นผลิตภัณฑ์ 1C จึงทาการปรับปรุงการวางแผนผังคลังสินค้าโดยผสมผสานระบบการจัดเก็บสินค้าตาม ประเภทของสนิ คา้ เขา้ กับการแบ่งกล่มุ สินค้าตามอตั ราการหมุนเวยี นเขา้ -ออก มขี นั้ ตอนในการปรับปรุงการวางแผนผังดังน้ี 133
การประชมุ สมั มนาเชงิ วชิ าการด้านการจัดการโลจิสตกิ ส์และโซ่อุปทาน ครัง้ ท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 รูปที่ 3: ขั้นตอนการปรับปรงุ การวางแผนผงั คลังสินคา้ รายละเอียดการปรับปรุงการวางแผนผังคลงั สนิ คา้ ของบรษิ ทั กรณีศึกษาในแต่ละขัน้ ตอนตามรูปท่ี 3 มดี ังตอ่ ไปนี้ 1. ดาเนินการปรบั กระบวนการจัดเก็บสินค้าจากระบบการจัดเก็บโดยไร้รูปแบบ เป็นการจัดเกบ็ สินค้าตามประเภท ของสินค้า โดยการกาหนดพื้นทใ่ี นการจัดเก็บสินค้าแต่ประเภทให้ชัดเจน การแบ่งสัดสว่ นพื้นที่ในการจัดเก็บแตล่ ะประเภทจะ อา้ งองิ จากสดั สว่ นของแผนการผลิต การแบ่งพืน้ ทจี่ ัดเก็บของบรษิ ัทกรณีศกึ ษาแบง่ ได้ 3 โซน คือ 1.1 Local Zone เป็นพ้ืนที่ท่ีจะทาการจัดเก็บ Compressor กลุ่มรุ่นผลิตภัณฑ์ 1C และ 2C ในรุ่นที่มีการ ขนส่งภายในประเทศ และเปลี่ยนทิศทางการวางพาเลทจากมุม 90 องศา เป็น 180 องศา เพื่อให้สะดวกต่อการจัดเก็บสินคา้ แบบ FIFO และเพ่มิ พนื้ ท่ีวา่ งสาหรับเส้นทางการเดินรถบริเวณประตู 1 และ 2 เพอื่ ลดการเคลื่อนที่ท่ไี มจ่ าเป็น 134
การประชมุ สมั มนาเชิงวิชาการด้านการจัดการโลจิสตกิ ส์และโซ่อุปทาน ครั้งท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควิชาวศิ วกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 1.2 Common Zone เป็นพื้นท่ีที่ทาการจัดเก็บ Compressor รุ่น Scl ท่ีมีการขนส่งท้ังภายในและ ตา่ งประเทศในสดั ส่วนทเี่ ทา่ กัน แต่มีปริมาณนอ้ ยกว่า 1C และ 2C พืน้ ทบี่ รเิ วณนี้จึงไดม้ กี ารแบ่งพ้ืนทีส่ าหรบั การจัดเก็บพาเลท เปล่า เนื่องจากปัจจุบันตาแหน่งในการจัดเก็บพาเลทเปลา่ อยไู่ กลจากบริเวณ Cleaning Zone ที่ทาหน้าที่ทาความสะอาดพา เลทเปล่า เพอื่ ลดระยะทางและใหก้ ารดาเนนิ งานสะดวกขน้ึ จึงย้ายพ้ืนที่การเกบ็ พาเลทเปล่ามาบริเวณ Common Zone 1.3 Overseas Zone ทาการจัดเก็บ Compressor กลุ่มรุ่นผลิตภัณฑ์ 1C และ 2C ที่มีการขนส่งไป ต่างประเทศ และเพมิ่ ชนั้ วางเพ่อื จดั วางสินคา้ ประเภท Service ของ Compressor ท้ัง 3 กล่มุ ร่นุ ซ่งึ สามารถวางซอ้ นได้ 3 ช้นั 2. แบ่งระดับกลุ่มสินค้าตามอัตราการหมุนเวียนเข้า-ออกของสินค้า โดยกาหนดให้กลุ่มรุ่นผลิตภัณฑ์ท่ีมีอัตราการ หมนุ เวียนเข้า-ออกสินค้าสูง จัดเก็บในพน้ื ท่ใี กลก้ ับทางเข้า-ออก เพ่อื ลดระยะทางในการเคล่ือนย้ายท่จี ะเกดิ ขึ้น ซ่งึ ในกรณีของ บริษัทกรณีศึกษาพิจารณาอัตราการหมุนเวียนเข้า-ออกสินค้า จากความถี่ในการโหลดสินค้าขึ้นรถบรรทุกตามคาสั่งซ้ือเฉลี่ย ของสนิ ค้าแตล่ ะประเภท พบวา่ ปจั จบุ นั กลุม่ รนุ่ 2C มีความถ่ีในการสง่ั ซ้ือจากลกู คา้ สูงสดุ ทาให้มีอัตราการหมุนเวียนสินคา้ เข้า- ออกสูงสดุ รองลงมาเปน็ กลมุ่ รนุ่ 1C และนอ้ ยสุดคือ Scl ดังน้นั ในการจัดวาง layout จงึ จดั ให้ชอ่ งวางพาเลทในกล่มุ รนุ่ 2C อยู่ ใกลก้ ับประตเู ข้า-ออกมากสดุ ก่อน รองลงมาเปน็ กล่มุ รุ่น 1C และ Scl ตามลาดบั 3. เน่อื งจากในกลุ่มรนุ่ ผลติ ภัณฑ์ 1C และ 2C มีรุ่นผลติ ภณั ฑห์ ลายรนุ่ และในแต่ละรนุ่ มีอตั ราการหมนุ เวยี นเขา้ -ออก สินค้าไม่เท่ากัน จึงทาการแบ่งระดับอัตราการหมุนเวียนเข้า-ออกสินค้าของรุ่นผลิตภัณฑ์ในแต่ละกลุ่มรุ่น เป็น 3 ระดับตาม เทคนคิ ABC Analysis ดว้ ยการใชก้ ฎ 80/20 ดงั นี้ 3.1 A คอื มอี ัตราการหมนุ เวียนเขา้ -ออกของสินคา้ สูง คดิ เปน็ 75%-80% 3.2 B คอื มีอตั ราการหมุนเวยี นเขา้ -ออกของสนิ ค้าปานกลาง คดิ เป็น 10%-20% 3.3 C คือ มอี ตั ราการหมนุ เวยี นเข้า-ออกของสินค้าต่า คิดเป็น 5%-10% ดังน้ันเมื่อดาเนนิ การปรับปรุงแผนผังคลังสินคา้ ด้วยการผสมผสานระบบการจัดเก็บสินคา้ ตามประเภทของสินคา้ เขา้ กับการแบ่งกลุ่มสินคา้ ตามอัตราการหมนุ เวยี นเข้า-ออก แผนผงั คลังสินค้าใหม่แสดงดังรูปท่ี 4 รูปที่ 4: แผนผังคลงั สนิ คา้ หลงั ปรบั ปรุง ผลจากการดาเนินการปรับปรุงแผนผังคลังสินค้าพบว่า การไหลของสินค้ามีความซับซ้อนน้อยลง พนักงานทางาน สะดวกขึ้น เมื่อคานวณระยะทางการเคล่ือนท่ีของพนักงานขับรถ forklift ตามรูปแบบการวางแผนผังแบบเดิมจะมีระยะรวม ประมาณ 31,180,800 เมตร แตถ่ ้ามีการปรับปรุงแผนผังเป็นแบบใหมจ่ ะพบวา่ ระยะทางรวมลดลงเหลือประมาณ 22,373,820 135
การประชุมสมั มนาเชงิ วิชาการด้านการจัดการโลจิสตกิ ส์และโซ่อปุ ทาน ครง้ั ท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวิศวกรรมอตุ สาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 เมตร น่นั คือสามารถลดระยะทางการเคลอื่ นท่ไี ด้คิดเป็น 28 เปอร์เซ็นต์ และเพม่ิ ความสามารถในการจดั เก็บของคลังสินคา้ จาก 244,056 หน่วย เปน็ 274,536 หนว่ ย ซึ่งเพิ่มข้ึนคดิ เปน็ 13เปอรเ์ ซ็นต์ และสามารถเพิ่มพ้ืนที่การจัดเก็บกลมุ่ ร่นุ ผลิตภณั ฑ์ 1C ทม่ี ีแนวโนม้ ของความต้องการของลกู คา้ สูงข้ึนได้จาก 118,968 หนว่ ย เปน็ 15,2496 หน่วย เพิ่มข้ึนคิดเปน็ 28 เปอร์เซ็นต์ ดัง รูปท่ี 5 และ 6 รูปท่ี 5: แผนภาพเปรียบเทียบการจัดเกบ็ Compressor ของคลังสินคา้ แบบปัจจุบันและแบบใหม่ รูปที่ 6: ผลการเปรียบเทยี บการจดั เก็บ Compressor ในแตล่ ะกล่มุ รุ่นผลิตภณั ฑแ์ บบปจั จุบนั และแบบใหม่ 5. สรุปและบทวิจารณ์ จากแนวคิดของ Jame and Jerry (1998) ท่ีได้อธิบายข้อดี-ข้อเสียของการจัดเก็บสินค้าในระบบการจัดเก็บโดยไร้ รูปแบบ และระบบการจัดรูปแบบการจัดเก็บสินค้าตามประเภทสินคา้ พบว่าผลจากการดาเนินงานวจิ ัยนส้ี อดคลอ้ งกับแนวคิด ของ Jame and Jerry (1998) เนื่องจากปจั จบุ ันบรษิ ัทกรณศี ึกษามกี ารจดั การคลังสินค้าโดยใช้ระบบการจัดเก็บโดยไรร้ ูปแบบ (Informal System) ในการจัดเก็บสินค้าคงคลังภายในคลังสินค้า ส่งผลให้พนักงานทางานล่าช้า สูญเสียเวลาในการค้นหา ส้ินเปลืองพ้ืนท่ีในการจัดเก็บ และเส้นทางการไหลของสินค้าไม่สะดวก งานวิจัยนี้จึงได้ประยุกต์ระบบการจัดเก็บสินค้าตาม ประเภทของสนิ ค้า (Commodity System) เขา้ กับการแบ่งกล่มุ สนิ คา้ ตามอตั ราการหมนุ เวียนเขา้ -ออก โดยแบง่ กลุ่มประเภท สินค้าเป็น 3 โซน คือ Local Zone, Common Zone และ Overseas Zone และในแต่ละโซนได้นาเทคนิค ABC analysis มาแบง่ กลุ่มสินคา้ ตามอตั ราการหมุนเวียนเขา้ -ออกของสนิ ค้าตามกฎ 80/20 แบ่ง 3 ระดับ คือ ระดบั A (Fast moving) 136
การประชมุ สัมมนาเชิงวชิ าการด้านการจดั การโลจิสตกิ สแ์ ละโซ่อปุ ทาน ครั้งที่ 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวศิ วกรรมอุตสาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 ระดับ B (Medium moving) และระดบั C (Slow moving) ผลจากการดาเนินการปรับปรงุ ระบบการจัดเก็บสนิ ค้า พบว่าขดี ความสามารถในการจัดเก็บของคลังสินค้าเพ่ิมสงู ขึ้นประมาณ 13 เปอร์เซน็ ต์ สามารถลดความสูญเปลา่ จากการเคล่อื นท่ที ไี่ ม่ จาเป็นลงได้ ส่งผลให้ระยะทางในการเคล่ือนย้ายสินค้าลดลงจากเดิมประมาณ 28 เปอร์เซ็นต์ และจากการปรับปรุง layout โดยรวมพบว่าพนักงานสามารถทางานได้สะดวกข้ึน การไหลของสินค้าภายในคลังสินค้าดีข้ึน ส่งผลให้ประสิทธิภาพของ กระบวนการดาเนนิ งานภายในคลังสินคา้ ของบรษิ ทั กรณศี กึ ษาสูงข้นึ เอกสารอ้างอิง โกศล ดีศลี ธรรม และ สุภาวดี วิทยาประพนั ธ,์ 2547, การบรหิ ารสินค้าคงคลัง: จากคลังสินคา้ สู่ศูนย์กระจายสนิ คา้ พิมพค์ รั้งที่ 2, กรงุ เทพฯ: สานักพิมพเ์ อ็กซเปอรเ์ นท็ . เกยี รติศักด์ิ จนั ทรแ์ ดง, 2549, การบริหารการผลิตและการปฏิบตั ิการ, กรุเทพฯ: H.N. Group คานาย อภปิ รชั ญาสกุล, 2546, โลจิสตกิ สแ์ ละซัพพลายเชน กลยุทธท์ าใหร้ วยชว่ ยประหยดั , กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ นฎั พร. คานาย อภิปรัชญาสกุล, 2553, โลจิสติกสแ์ ละการจดั การซพั พลายเชน: กลยุทธ์สาหรบั ลดตน้ ทุนและเพิ่มกาไร พิมพ์คร้ังท่ี 3. กรุงเทพฯ: โฟกสั มเี ดีย แอนด์ พบั ลิชช่งิ จากัด. ไชยพร ปรชี าวงษ,์ 2556, การเพม่ิ ประสทิ ธิภาพคลังสินค้าอัตโนมัติดว้ ยการจดั แบง่ พื้นทจ่ี ัดเก็บสนิ ค้า, งานนิพนธ,์ สาขาวชิ าการ จัดการการขนสง่ และโลจิสติกส์, คณะโลจิสตกิ ส์, มหาวทิ ยาลยั บูรพา พิภพ ลลติ าภรณ์, 2540, การบริหารของคงคลังระบบ MRP, กรุงเทพฯ: สมาคมส่งเสรมิ เทคโนโลยี (ไทย - ญี่ป่นุ ). สาธิต พะเนียงทอง, 2548, Supply Chain Strategy: การจัดการโซ่อุปทานเชิงกลยุทธ์, กรุงเทพฯ: สานักพิมพ์ซีเอด็ ยเู คช่นั . สมศักด์ิ ตรีสตั ย์, 2545, การออกแบบและวางผงั โรงงาน = Plant layout and design พิมพ์ครั้งที่ 12, กรุงเทพฯ: สานกั พมิ พ์ ส.ส.ท. James A.T., Jerry D.S., 1998, The Warehouse Management Handbook, 2e, Tompkins Press 137
การประชุมสมั มนาเชิงวิชาการด้านการจดั การโลจิสตกิ ส์และโซอ่ ปุ ทาน ครั้งที่ 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 Topic C: Inventory and Warehouse Management Paper ID: IW 08 การเพิม่ ประสิทธิภาพในโลจิสติกสข์ องร้านค้าสง่ ธนวัฒน์ พทิ ักษก์ ง่ิ ทอง1*, กาญจนา กาญจนสนุ ทร2 1*บณั ฑติ วทิ ยาลยั สาขาวิชาการจดั การโลจสิ ติกส์ คณะบรหิ ารธรุ กจิ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โทร 089-4981112 E-mail: [email protected] 2สาขาวิศวกรรมโลจิสตกิ ส์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โทร 0-2697-6705 โทรสาร 0-2275-4892 E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ การแข่งขันของรา้ นคา้ สง่ ในปจั จุบันร้านค้าสง่ มีการแข่งขนั กันเป็นจานวนมากจากการศึกษาภายในรา้ นพบว่า ธุรกิจ ร้านคา้ สง่ มีปัญหาอยู่ 2 สว่ นหลัก ส่วนที่ 1. ระบบการดาเนนิ งานหน้าร้าน 2.ระบบภายในคลงั สินคา้ การวจิ ยั นจ้ี งึ นาเสนอการ บริหารการจดั การระบบปฏิบัตกิ ารทางด้านโลจิสตกิ ส์ โดยใชเ้ วลาเก็บขอ้ มลู สินค้าท้งั 2 ส่วน ภายในระยะเวลา 3 เดอื น ในสว่ น ของหน้าร้านในการชาระเงินได้มีการนาระบบBarcode เข้ามาใช้ในการทางานแทนการจดบันทึกลงกระดาษ เพื่อเพ่ิม ประสิทธิภาพในการทางานลดระยะเวลาในการชาระเงินและลดระยะเวลาการรอคอยของลูกค้า การใช้ตัวโปรแกรมจะใช้ Excel เป็นดาเนินงานโดยมีการใส่ข้อมูลสินค้าภายในร้านท้ังหมด ในสินค้าบางชนิดท่ีไม่มี Barcode ก็จะใช้โปรแกรม Free Barcode เป็นตัวสรา้ งและป้ายราคาสนิ ค้ามกี ารใช้หลกั การของ Visual Control เพือ่ ให้ลูกคา้ ทราบถึงราคาของสนิ คา้ เพ่อื ช่วย ในการตัดสนิ ใจ จากผลการศกึ ษาพบว่าหลังจากการปรับปรุงการจัดการคลังสนิ คา้ ใหม่แล้ว จากเดิมในการชาระเงินจะใชเ้ วลา เฉล่ียประมาณ 3.13 นาที/สินค้า10ช้ิน โดยการใช้จดลงกระดาษ แต่เมื่อมีการปรับปรุงจะใช้เวลาเฉล่ียประมาณ 1.49 นาที/ สินค้า10 ชิ้น ลดเวลาในการชาระเงินได้ค่อนข้างมากและยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทางานได้ดีมากข้ึนในส่วนของ คลังสินคา้ เพ่อื ท่ีจะทาการคานวณออกแบบ Layout ท่เี หมาะสมในการจัดเก็บสินคา้ พ้ืนที่จัดเก็บสินค้า จากนนั้ ใชห้ ลกั การของ ABC Analysis โดยสินค้าที่มีการขายออกบ่อยที่สุดจะวางไว้ในคลังทีใกล้ประตูทางเข้าร้าน ส่วนสินค้าท่ีมีการหยิบปานกลาง ,น้อย จะอยู่ไกลออกไป และมีการใช้หลักการของ Visual Control เพื่อระบุตาแหน่งการจัดเก็บ และเป็นป้ายช้ีตาแหน่งการ จัดเก็บสินค้า พร้อมท้ังจัดทา Stock Card เพ่ือให้ทางร้านรู้ถึงจานวนสินค้าคงคลังท่ีเหลืออยู่ และมีการบันทึกข้อมูลโดยใช้ โปรแกรม Excel ในคอมพิวเตอร์ แทนการจดบันทึกลงในสมุด จากผลการศึกษาพบว่าหลังจากการปรับปรุงการจัดการ คลังสินค้าใหม่แล้ว จากเดิมท่ีใช้เวลาในการหยบิ สนิ ค้าประมาณ 11.12 นาที/สินคา้ 1ชิ้น ซึ่งก็ไม่ทราบตาแหน่งและไมท่ ราบว่า จะมีสินค้าอยู่หรือไม่ แต่เม่ือทาการปรับปรุงแล้วใช้เวลาเฉลี่ยในการหยิบสินค้าเพียง 4.22นาที/สินค้า 1 ช้ิน ลดการสูญเสีย เวลาที่วา่ งเปล่าไปไดค้ อ่ นข้างมาก คาสาคัญ: ระบบ Barcode; การจัดการคลงั สนิ คา้ ; หลักการ ABC Analysis 1. ความเป็นมาและวัตถุประสงคข์ องการศึกษา ธุรกิจร้านค้าส่งเป็นธุรกิจแบบซ้ือมาขายไปโดยมีการบริหารงานแบบครอบครัวต้ังอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ช่วงเวลาในการเปิดร้าน 7.00-18.00น โดยธุรกจิ จะเป็นการขายสนิ คา้ ประเภท ขนมขบเคี้ยว55%,ขนมสด15%,เคร่อื งด่มื 15%, ของเลน่ 10%,บุหรี่5% เปน็ ต้น การจาหน่ายสินคา้ จะมีหน้ารา้ นและแบบการจดั สง่ สินคา้ ให้กับลกู ค้าตามการสงั่ สินคา้ ของลกู ค้า 138
การประชุมสัมมนาเชิงวชิ าการด้านการจดั การโลจิสติกสแ์ ละโซ่อุปทาน คร้งั ที่ 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวศิ วกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 และทางร้านมีคลังสินค้าไว้เพ่ือการจัดเก็บสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ผู้ทาวิจัยทราบถึงความสาคัญในการ ปรับปรุงพัฒนาธุรกิจร้านค้าส่ง รวมไปถึงกระบวนการทางานอย่างต่อเนื่อง และนาเร่ืองท่ีได้ศึกษาเล่าเรียนมาใช้ในการ วิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาต่างๆ ในทุกข้ันตอนการดาเนินงาน เพ่ือที่จะสามารถลดต้นทุน และนากลยุทธ์การบริหารการ จดั การด้านการตลาด เข้ามาช่วยสง่ เสริมในชอ่ งทางการตลาด ของธุรกจิ โดยมีวัตถุประสงคข์ องการศึกษา ดังน้ี 1). เพื่อศกึ ษาปัญหากระบวนการทางานและการจัดการภายในของกิจการ 2). เพื่อนาเสนอแนวทางในการเพอ่ื เพิ่มประสิทธิภาพในการทางานและการบรหิ ารของกิจการ 3). เพื่อสรา้ งความเพิ่มความพงึ พอใจให้กลบั ลูกค้าที่มาใชบ้ ริการรา้ นคา้ ของกจิ การ เครื่องด่มื อตั ยราสาูบส่วน เปอรเ์ ซน็ ต์ 15% 5% ของเล่น ขนม 10% 55% ขนมสด 15% ร้านคา้ สง่ รูปท่ี 1: สินค้าท้งั หมดภายในรา้ น รูปที่ 2 ภายในรา้ น รูปท่ี 3 คลังสนิ คา้ 2. ทฤษฎที ่เี กย่ี วข้อง ทฤษฎที ีผ่ ู้วจิ ยั นามาประยุกตใ์ ช้เพ่ือเป็นแนวทางการแก้ปัญหาของ ธรุ กจิ รา้ นคา้ ส่ง ประกอบดว้ ย 2.1. การจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management) เป็นการจัดการในการรับการจัดเก็บ หมายถึง การจัดส่ง สินค้าให้ผู้รับเพ่ือกิจกรรมการขาย เป้าหมายหลักในการบริหารดาเนินธุรกิจในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคลังสินค้าก็เพ่ือให้เกิดการ ดาเนินการเป็นระบบให้คุ้มกับการลงทุนการควบคุมคุณภาพของการเก็บการหยิบสินค้าการป้องกันลดการสูญเสียจากการ ดาเนนิ งานเพ่ือใหต้ น้ ทุนการดาเนินงานตา่ ทีส่ ดุ และการใชป้ ระโยชนเ์ ตม็ ท่จี ากพน้ื ที่ (กติ ิศักด์ิ พลอยพานชิ เจรญิ , 2550) 139
การประชมุ สมั มนาเชิงวชิ าการด้านการจัดการโลจสิ ติกส์และโซอ่ ุปทาน ครง้ั ท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวิศวกรรมอตุ สาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 2.2. วตั ถุประสงคข์ องการจัดการคลงั สนิ ค้า - ลดระยะทางในการปฏบิ ัติการในการเคลื่อนยา้ ยใหม้ ากท่ีสดุ - การใช้พ้นื ทแ่ี ละปรมิ าตรในการจดั เก็บให้เกิดประโยชนส์ งู สดุ - สรา้ งความม่ันใจวา่ แรงงาน เครือ่ งมอื อปุ กรณ์ สาธารณูปโภคต่างๆ มเี พียงพอและสอดคล้อง กับระดับของธรุ กิจที่ ได้วางแผนไว้ - สร้างความพึงพอใจในการทางานในแตล่ ะวันแก่ผู้เก่ยี วข้องในการเคลือ่ นย้ายสินค้า ท้ังการรับเข้าและการจ่ายออก โดยใชป้ ริมาณจากการจัดซือ้ และความตอ้ งการในการจัดสง่ ให้แก่ลกู ค้าเป็นเกณฑ์ - สามารถวางแผนได้อย่างต่อเนื่อง ควบคุม และรักษาระดับการใช้ทรัพยากรต่างๆ เพื่อให้เกิดการบริการภายใต้ ตน้ ทุนท่ีเกิดประสทิ ธิภาพค้มุ คา่ ในการลงทนุ ตามขนาดธุรกจิ ท่กี าหนด 2.3. ประโยชนข์ องการจัดการคลังสนิ คา้ 1. ช่วยสนับสนนุ การผลิต (Manufacturing support) โดยคลังสินค้าจะทาหน้าที่ในการรวบรวมวัตถุดบิ ในการผลิต ชิ้นส่วน และส่วนประกอบต่างๆจากผู้ขายปัจจัยการผลิตเพื่อส่งป้อนให้กับโรงงานเพื่อผลติ เป็นสินค้าสาเร็จรูปต่อไป เป็นการ ชว่ ยลดตน้ ทนุ ในการจัดเก็บสินคา้ 2. เป็นที่ผสมผลิตภัณฑ์ (Mix warehouse) ในกรณีที่มีการผลิตสินค้าจากโรงงานหลายแห่ง โดยอยู่ในรูปของ คลงั สนิ คา้ กลางจะทาหน้าทร่ี วบรวมสนิ คา้ สาเร็จรปู จากโรงงานต่างๆไวใ้ นทเ่ี ดยี วกนั เพ่ือส่งมอบใหล้ ูกคา้ ตามต้องการ ข้นึ อยกู่ บั ลูกคา้ แตร่ ายวา่ ต้องการสนิ คา้ จากโรงงานใดบา้ ง 3. เป็นที่รวบรวมสินค้า (Consolidation warehouse) ในกรณีที่ลูกค้าต้องการซื้อสินค้าจานวนมากจากโรงงาน หลานแหง่ คลังสินค้าจะช่วยรวบรวมสนิ ค้าจากหลายแหลง่ เพ่ือจัดเป็นขนสง่ ขนาดใหญ่ หรือทาให้เตม็ เที่ยวซึ่งช่วยประหยดั ค่า ขนส่ง 4. ใช้ในการแบ่งแยกสินค้าให้มขี นาดเล็กลง (Break Bulk warehouse) ในกรณีที่การขนส่งจากผผู้ ลิตมีหีบห่อ หรือ พาเลตขนาดใหญ่ คลังสินคา้ จะเปน็ แหล่งที่ชว่ ยในการแบ่งแยกสินค้าใหม้ ีขนาดเล็กลงเพือ่ สง่ มอบให้กับลกู คา้ รายยอ่ ยต่อไป 2.4. การจัดสินค้าคงคลงั แบบ ABC การแบง่ ประเภทสนิ ค้าคงคลังดว้ ยระบบ ABC (ABC Classification) เปน็ วธิ ีการ จัดกลุม่ สนิ คา้ คงคลังที่นยิ มใชก้ นั อยา่ งแพรห่ ลาย โดยแบ่งสินคา้ คงคลังออกเปน็ 3 ชนดิ คือ A B และ C โดยวธิ ีนอ้ี าศยั หลักการ ของพาเรโต (Pareto) ท่ีมุ่งให้ความสาคัญในสนิ ค้าจานวนน้อยแต่มีมูลค่ามาก สาหรับความหมายของสินค้าคงคลังท้ัง 3 ชนิด คือ สินค้ากลุ่ม A เป็นสินค้าคงคลังที่มีมูลค่าในการส่ังซ้ือสูง หรือหมุนเวียนสูงท่ีสุด โดยปกติจะมีจานวนประมาณ 20% ของ รายการสินค้าคงคลังท้ังหมด ส่วนสินค้าคงคลังกลุม่ B น้ัน เป็นสินค้าคงคลังที่มีมูลค่าในการส่งั ซ้ือหรือหมุนเวียนสูงปานกลาง และสินค้าคงคลงั กลุ่ม C เปน็ สินคา้ คงคลังทม่ี ีมลู คา่ ในการสัง่ ซื้อหรือหมุนเวียนต่าทสี่ ดุ แตม่ จี านวนมากทส่ี ดุ 2.5 การจัด layout คลังสินค้า เกณฑ์การพิจารณาในการกาหนดตาแหน่งสินค้าประเภทต่างๆ ในแผนผังพ้ืนที่เก็บ รักษานั้น อาศัยหลักการพื้นฐานเกี่ยวกับปัจจัยพิจารณาในการวางแผนและแบบต่างๆ ของการเก็บรักษา โดยให้เป็นไปตาม อตั ราความถี่ของการหมนุ เวยี นโดยไม่ตอ้ งคานึงถึงขนาดท่ีแตกตา่ งกันของแต่ละรายการในประเภทเดียวกัน ยกเวน้ รายการที่มี ขนาดใหญ่มาก หรือมีน้าหนักมากผิดปกติจริงๆ ที่จะเป็นปัญหาเกี่ยวกับการยกขนและการเก็บท่ีต้องแยกออกมากาหนด ตาแหนง่ เก็บท่ีเหมาะสมตา่ งหาก แต่ถงึ อย่างไรก็ควรใหอ้ ยใู่ นพ้ืนที่เดยี วกันกบั สินค้าอ่นื ๆทเี่ ปน็ ประเภทเดยี วกนั โดยขั้นตอนใน การปฏบิ ัตเิ กีย่ วกับการกาหนดตาแหน่งเก็บ ควรเปน็ ไปตามลาดบั ต่อไปนี้ 2.6. จัดทาแผนผังพื้นท่ี แผนผังพื้นที่เก็บรักษาของแต่ละพื้นที่เป็นส่ิงสาคัญท่ีจะต้องจัดทาขึ้น สิ่งท่ีจะตอ้ งแสดงไวใ้ น แผนผังในชั้นแรกได้แก่อุปสรรคที่เปน็ ข้อจากัดในการเก็บรกั ษา ซ่ึงได้แก่ ตาแหน่งของเสาช่องบันได ทางเล่ือนของลิฟท์ พ้ืนท่ี สานักงาน และห้องนา้ การกาหนดตาแหนง่ ของพนื้ ทร่ี บั พืน้ ทีจ่ า่ ย และพ้นื ท่ีสาหรบั การเก็บรักษาเป็นปลกี ย่อย ต้องเปน็ ไป 140
การประชุมสัมมนาเชิงวชิ าการด้านการจัดการโลจสิ ติกสแ์ ละโซ่อปุ ทาน คร้ังที่ 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวิศวกรรมอตุ สาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 ตามลาดับความสาคัญ ความจาเป็นท่ีจะต้องอยู่ใกล้ชิดกับเครื่องมือยกขน และสิ่งอานวยความสะดวกอ่ืนของคลังสินค้า แล้ว รา่ งภาพลงไปในแผนผังของพ้ืนท่ีคลังสินค้า แล้วจึงกาหนด ขนาดสนิ คา้ ตาแหน่งสนิ คา้ และตาแหน่งสินคา้ ชัน้ วางสินค้า ลงไป ใหเ้ ป็นการแนน่ อน 2.7. งานวจิ ยั ท่ีเกี่ยวข้อง สุนันทา ศิริเจริญวัฒน์ (2555) “การเพ่ิมประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้า กรณีศึกษา ภูมิไทย คอมชีส จากัด” ผู้ ศึกษาได้ทาการศึกษาสารวจ และเก็บรวบรวมข้อมูลที่เก่ียวข้องพบว่าสาเหตุที่ทาให้การดาเนินงานของบริษัทฯขาด ประสทิ ธภิ าพ คือมสี ินค้าคงคลังปริมาณสงู คลังสินค้ามีวิธกี ารจดั เก็บ และจัดวางไม่เหมาะสม และกระบวนการเบิกจ่ายอะไหล่ ให้ช่างใช้เวลานาน และมีข้อผิดพลาดสูง ดังน้ันวัตถุประสงค์ของงานวิจัย คือการเพ่ิมประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้าของ บริษทั ภูมิไทย คอมชีส จากัด กิติศักด์ิ พลอยพานิชเจริญ (2550) การไหลของกระบวนการ ในกระบวนการแก้ปัญหาคุณภาพนั้น เม่ือทาการ จาแนกประเภทของข้อมูลแล้วจะทาให้ทราบประเด็นในการแก้ปัญหา จึงควรมีการทาความเข้าใจถึงกิจกรรมต่างๆ ท่ีมีความ เกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าวโดยจะเรียกแผนภูมิท่ีแสดงถึงลาดับของกิจกรรมตลอดจนความสัมพันธ์ของกิจกรรมต่างๆ น้ีว่า แผนภมู ิการไหลของกระบวนการ (Process Flow Chart) ปฐมพงษ์ หอมศรี และจักรพรรณ คงธนะ (2557) “การพัฒนาระบบการจัดการสินค้าคงคลัง: กรณีศึกษาบริษัท ติดตั้งและบารุงเครื่องจักรของโรงงาน SME” โดยงานวิจัยน้ีมีวัตถุประสงค์ คือเพื่อเพ่ิม ประสิทธิภาพในการบริหารสินค้าคง คลงั และเพ่อื ปรับปรงุ กระบวนการทางานในระบบสินค้าคงคลัง จัดทากลมุ่ ของสนิ ค้า (Product Category) ลดปรมิ าณสนิ ค้า ท่ีไม่มีการเคล่ือนไหว ลดปริมาณการจัดเก็บสนิ ค้าและลดค่าใช้จา่ ยในการจัดเก็บลง คณะผู้วิจยั ได้ใชเ้ ครือ่ งมือในการหาสาเหตุ และปัญหาโดยใบตรวจสอบ (Cheek Sheet) และแผนผังก้างปลา เพ่ือวิเคราะห์ปัญหาและค้นหาแนวทางแก้ไข ผลการ วเิ คราะหพ์ บวา่ บรษิ ทั มปี ญั หาเรยี งตามความสาคญั ดงั นี้ ปัญหาดา้ นสินค้าคงคลัง เกิดจากไม่มีการจดั ทาระบบสินคา้ คงคลงั ไมม่ ี การบันทกึ ข้อมูลสนิ ค้าคงคลัง ขาดการวางแผนการจัดซ้อื การจัดสินค้าไม่เปน็ หมวดหมู่ จากปญั หาดงั กลา่ วคณะวิจยั ได้ทาการ ใช้เคร่ืองมือการจัดการในการแก้ไขปัญหาดังน้ี การจัดทาใบบันทึกรายการสินค้า (Stock card) การใช้ทฤษฎี ABC Analysis ทฤษฎี EOQ การกาหนดกระบวนการการทางานของการบริหารสินค้าคงคลัง แนวคิด 5 ส. สินค้าค้างต๊อกมีการเปล่ียนแปลง ด้านการบริหาร สินค้าคงคลัง สามารถทางานอย่างเป็นระบบมากข้ึน มีการตรวจนับสินค้าคงคลังและจัดทาใบบันทึกรายการ สินค้า (Stock card) สินค้าคงคลังมีการจัดเรียงหมวดหมู่ตามประเภท มีการวางแผนการจัดซื้อท่ีเหมาะสม และมีการระบาย สนิ คา้ ค้างตอ๊ ก ผลจากการดาเนนิ งานทาให้ต้นทุนสินค้าค้างต๊อกลดลง สรุปผลการวิจัยจากการนาเคร่ืองมือมาใชใ้ นการแกไ้ ข ปญั หาด้านการบรหิ ารสนิ คา้ คงคลงั เพ่อื เพ่ิมประสิทธภิ าพในการบรหิ ารสนิ คา้ สนิ ค้าคงคลังโดยลดการส่ังซ้อื ที่ซา้ ซ้อนสามารถคิด เป็นเงินลดลงได้ 1,533,600 บาท และปรับปรุงกระบวนการทางานในระบบสินค้าคงคลังจัดทากลุ่มของสินค้า( Product Category) ลดปริมาณสินค้าที่ไม่มีการเคล่ือนไหว ลดปรมิ าณการจดั เก็บสนิ ค้า และลดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บลง สามารถคิด เป็นเงนิ ลดลงได้ 671,700 บาท กลมุ่ บริษทั ไทยซมั มทิ นาระบบบาร์ โคด้ มาใช้ ในสองโครงการ คอร์ แอนด์ พีค (2550: ออนไลน์) บริษทั ไทยซัมมิทโอโตพารท์ อนิ ดสั ตรี จากดั ผ้ผู ลิตชน้ิ ส่วนรายใหญใ่ นไทยให้ กับ อตุ สาหกรรมประกอบรถยนต์ อตุ สาหกรรมประกอบรถจกั รยานยนตเ์ ครอ่ื งจักรกลทางการเกษตรและเครือ่ งใช้ ไฟฟา้ ได้ สรา้ ง มาตรฐานให้กับระบบบาร์ โค้ดเพื่อติดตามและบันทึกข้อมูลวัตถุดิบและสินค้าพร้อมขายของบริษัทโดยใช้ ระบบบาร์โค้ด รว่ มกับคอมพิวเตอรพ์ กพาและสแกนเนอร์ ในการอา่ นระบบบาร์ โค้ดดว้ ยการดาเนินธุรกจิ ท่กี าลังขยายตัวอยา่ งรวดเร็ว บรษิ ัท จึงต้องการให้ ระบบติดตามที่ มีประสิทธิ ภาพเพื่อใช้ ในการจัดการสนิ ค้าคงคลังและวัตถุดิบที่ สามารถตรวจสอบได้ ทั้งหมด โดยกอ่ นหนา้ ท่ีจะนาระบบบาร์ โคด้ มาใช้งานได้ใชพ้ นกั งานตดิ ตามและเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลดว้ ยตนเองด้วยสดั ส่วนสูงสดุ ถงึ 95% 141
การประชมุ สมั มนาเชิงวิชาการด้านการจัดการโลจสิ ติกส์และโซอ่ ุปทาน ครัง้ ท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควิชาวศิ วกรรมอตุ สาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 หลังจากตัดสินใจนาระบบบาร์โค้ดมาใช้งานนั้นก็ประสบความสาเร็จท้ังในส่วนของบริษัทและพนักงานโดยระบบบาร์โค้ดได้ แก้ไขปัญหาชันวางสินค้าจานวนมาก(เช่น ความผิดพลาดที่เกิดข้ึนเมื่อพนักงานปอนข้อมูลด้วยตนเอง) และส่ิงสาคัญท่ีสุดก็คอื ระบบนี้ได้ ช่วยพนักงานเพ่ิมความสามารถในการผลิตและยังปรับปรุงการดาเนินงานให้รวดเร็วข้ึนด้วยกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท นาระบบบารโ์ ค้ดมาใชใ้ นสองโครงการไดแ้ ก่โครงการบาร์ โค้ดสาหรบั สนิ คา้ พรอ้ มขาย (Finished Goods Bar Code Project) และโครงการบาร์โค้ดสาหรับวัตถุดิบ(Raw Material Bar Code Project) ทังสองโครงการใช้ คอมพิวเตอร์ พกพา และ สแกนเนอร์ ในการอ่านบันทึกข้อมูลและช่วยติดตามการดาเนินการในโรงงานท่ีเกี่ยวข้องกับการเส้นทางเดินของวัตถุดิบท่ี สามารถแบ่งออกเป็นส่วนส่วนได้ แก่ กระบวนการนาเข้า กระบวนการผลิต และกระบวนการส่งออกปจั จุบนบาร์ โค้ดสาหรบั สินค้าพร้อมขายท่ีใช้ ติดตามกระบวนการส่งออกของสินค้าพร้อมขายและบาร์โค้ดสาหรับวัตถุดิบท่ีใช้ ติดตามกระบวนการ นาเขา้ ของวัตถุดิบทนี่ าเข้ามาจากซัพพลายเออรก์ วา่ 300รายประสบความสาเรจ็ ในการใช้ งานอย่างดี 3. วธิ ีการศกึ ษา 3.1 การศึกษาสภาพการทางานในปัจจุบัน จากท่ีกล่าวมาข้างต้นเป็นการทางานในสว่ นของหน้าร้าน พบว่าปัญหาที่ สาคัญเกิดจากการไม่มีระบบชาระเงินอย่างมีประสิทธิภาพใช้เวลาค่อนข้างนานและไม่มีป้ายบอกราคาสินค้าในส่วนของ คลังสินค้าพบว่าปัญหาที่สาคัญเกิดจาก การจัดการในคลังสินค้าท่ีไม่สามารถตรวจสอบจานวนสินค้าท่ีมีอยู่จริงได้ มีการหยิบ สนิ คา้ ที่ใช้เวลาคอ่ นขา้ งนาน อีกทง้ั พนกั งานไมท่ ราบตาแหนง่ สินคา้ ในคลังสินค้าซ่ึงสรปุ ภาพไดด้ งั น้ี รปู ท่ี 4 Flow ภายในร้าน จากภาพจะเห็นได้ว่าการชาระเงินแบบเก่าน้ันจะเห็นได้ว่ากรใช้เวลาข้ันตอนการชาระเงินน้ันใช้เวลา 3.13นาที/สินค้า10ช้ิน และถ้าลกู คา้ เรียกสินค้าในคลงั สนิ คา้ นน้ั จะใช้เวลา 11.12 นาที/สนิ ค้า 3.2 การวิเคราะห์สาเหตขุ องปญั หา จากการศกึ ษาสภาพการทางานในปจั จบุ นั สามารถวเิ คราะหส์ าเหตขุ องปัญหาได้ดังภาพ รปู ท่ี 5 แผนผงั ก้างปลา 142
การประชุมสมั มนาเชงิ วิชาการด้านการจัดการโลจิสตกิ สแ์ ละโซอ่ ปุ ทาน คร้งั ท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวศิ วกรรมอตุ สาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 3.4. การระบุแนวทางในการแก้ไขปญั หา 1. การปรับปรงุ ในการจดั วาง Lay Out ภายในหอ้ งเกบ็ ของใหมโ่ ดยใชห้ ลัก ABC 2. ใช้หลกั การ Visual Control เป็นระบบควบคมุ ข้ันตอนการทางานและแจ้งขอ้ มลู ราคาสนิ คา้ ใหก้ บั ลกู คา้ 3. ใชโ้ ปรแกรม Excelมาช่วยในการซอ้ื ขายดว้ ยระบบบาร์โคช้ และการจดั การหนา้ รา้ นและภายในคลังสนิ คา้ 4. ใชโ่ ปรแกรมในการสร้างแผ่นบาร์โค้ชเพอ่ื ขัน้ ตอนในการจาหน่ายสินค้า 4. ผลการศึกษา 4.1 การปรบั ปรงุ ผงั การจัดเก็บและการทางาน ปรับปรุงพนื้ ท่ีจัดเกบ็ ในคลังสินค้าสินค้า โดยทาการปฏิรปู ใหม่ทง้ั หมด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการจัดเก็บสินค้า วางสินค้าในคลังสินค้าเกิดประสิทธิภาพมากที่สุดและเพื่อเป็นการเพิ่ม ประสทิ ธิภาพในการจัดเกบ็ โดยทางผ้ศู ึกษาจะทาการจดั วางผงั และเก็บสนิ ค้าในคลงั สนิ คา้ รว่ มกับแนวคิดการจดั กล่มุ แบบ ABC Analysis ตารางที่ 1 การจาแนกสนิ คา้ ตามหลกั ABC กลุ่มสนิ คา้ จานวน หอ้ งเก็บสินคา้ Fast 117 A Medium 96 Low 19 B-C D โดยการวางสนิ ค้าจะใหส้ ินค้าในกลุม่ A ที่มีจานวนในการหยิบบ่อยมากที่สดุ จึงจัดให้อยู่คลงั สินค้าที่ใกล้กับร้านมาก ท่ีสุด เพ่ือให้มีความสะดวกรวดเร็วในการหยิบสินค้า และการจัดเก็บสินค้า ส่วนสินค้าในกลุ่ม B และ C จะถูกจัดเรียงออกมา ตามลาดบั และใชข้ อมูลเกา่ รอบการสัง่ สนิ ค้าเปน็ ตัวจดั กลมุ่ สินคา้ รูปภาพท่ี 6 การจดั เกบ็ คลังสินค้าแบบใหม่-แบบเกา่ การปรับปรุงระบบการทางานภายในร้าน ได้แก่ การชาระเงิน และการเบิกจ่ายให้ใช้เวลาท่ีน้อยที่สุดและมีความถูกต้องมาก ที่สุดโดยใชแ้ นวคดิ การทาระบบ Barcode ในการชาระเงิน 143
การประชมุ สัมมนาเชิงวชิ าการด้านการจดั การโลจสิ ตกิ ส์และโซอ่ ุปทาน คร้ังท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 รูปที่ 7 หน้าจอการซือ้ ขายสนิ คา้ รูปที่ 8 โปรแกรมทใ่ี ช้ Free Barcode หน้าจอน้ีจะเป็นหน้าจอการซ้ือขายของสินค้าหน้าร้านโดยเราสามารถท่ีใช้ตัวยิงบาร์โค้ชยิงไปที่บาร์โค้ชของสินค้านั้นมันจะ ขนึ้ มาในระบบของการขายสินค้าให้โดยสามารถคานวณยอดเงินรวมและเงนิ ทอนได้อย่างสะกวด และยังสามารถชว่ ยบนั ทกึ ขอ มลู การซอื้ ขายได้อย่างเรยี บรอ้ ย รปู ท่ี 9 ตัวอย่างกลุ่มตวั เลข ***ในส่วนนีจ้ ะเปน็ ระบบการสร้างบารโ์ คช้ โปรแกรมทใี่ ช้ Free Barcode เป็นโปรแกรมในการสรา้ งบาร์โค้ช การสร้างตัวระบบ Barcode ด้วยโปรแกรม Excel เพื่อนามาใช้ในการดาเนินงานโดยการออกแบบ barcode จะใช้รูปแบบ Code 39 โดยจะมกี ลุ่มของตวั เลขท้งั หมด 13 หลกั 5. สรปุ ขอ้ เสนอแนะ 5.1 ระบบการจดั การดา้ นหนา้ รา้ น ซ่ึงจากการท่ีไดใ้ ช้ระบบการชาระเงินด้วยระบบบารโ์ คช้ ผศู้ ึกษาไดท้ าการจับเวลา ในการชาระเงินในแตล่ ะครง้ั มาเทยี บกันกับระบบการชาระเงินในรูปแบบเดมิ โดยไดท้ าการทดสอบเปน็ จานวน 20 ครั้งและหา ค่าเฉลย่ี ในการชาระเงนิ สนิ ค้าเพอื่ ทาการหารปู แบบกลยทุ ธเ์ หมาะสมท่สี ุด ก า ร ใ ช้ เ ว ล า ใ นก าร จา น ว นสิน ค้ า (น า ที ) แบบเกา่ แบบใหม่ 10 5 6.42 3.4 9.3 3.13 1.49 5.36 0 สินคา้ จานวน10ชน้ิ สนิ ค้าจานวน20ชิน้ สินค้าจานวน30ชน้ิ แผนภมู ิท่ี 1 การใช้เวลาในการจาหนา่ ยสนิ คา้ 144
การประชมุ สมั มนาเชงิ วิชาการด้านการจัดการโลจิสติกสแ์ ละโซ่อปุ ทาน ครั้งท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวศิ วกรรมอุตสาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 จากแผนภูมิ จะเห็นได้ว่าสินค้าจานวน10ช้ิน รูปแบบเก่าจะใช้เวลา 3.13นาที่ รูปแบบใหม่จะใช้เวลา 1.49นาที จะ เหน็ ได้วา่ การใชร้ ะบบบารโ์ คช้ นั้นชว่ ยใหล้ ดระยะเวลาในการชาระเงนิ ไดเ้ ปน็ อย่างมาก 5.2 การปรับเปล่ียนกลยุทธ์การจัดเก็บสินค้าในคลังสินค้า ผู้ศึกษาได้ทาการจับเวลาในการหยิบสินค้าของทั้ง 2 แนวทางมาเปรยี บเทียบกัน โดยทาการจับเวลาท้งั หมด 20 คร้งั แล้วหาคา่ เฉล่ียในการหยบิ สนิ ค้าของทัง้ 2 แนวทางเพื่อทาการ หารปู แบบกลยทุ ธก์ ารจดั เกบ็ สนิ ค้าท่เี หมาะสมทีส่ ดุ ร ะ ย ะ เ ว ล า กา ร เ ก็บ สิน ค้ า 20 10 4.22 11.12 จัดABC 0 แบบเดิม แผนภูมิที่ 2 ระยะเวลาการเก็บสินคา้ แสดงใหเ้ หน็ ถึงเวลาเฉลยี่ ท่ีใชใ้ นการหยบิ สินค้าต้ังแต่แบบเดมิ ท่ียงั ไม่มีการปรับปรุงแกไ้ ข และ แนวการการจดั เก็บแบบ ABC Analysis โดนจากแผนภมู จิ ะทาใหเ้ หน็ ว่าการใช้ระบบแบบเดมิ จะใชเ้ วลา 11.12 นาที ส่วนของระบบการจดั สินค้าแบบ ABC Analysis จะใชเ้ วลา 4.22 นาที จากขอ้ มูลจะประหยดั เวลาในการคน้ หาสินคา้ เอกสารอา้ งองิ กลุม่ บรษิ ัทไทยซัมมทิ นาระบบบารโ์ คด้ มาใชใ้ นสองโครงการ คอร์ แอนด์ พีค (2550:ออนไลน์) บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จากัด ผู้ผลิตชิ้นส่วนรายใหญ่ในประเทศไทย ให้กับอุตสาหกรรมประกอบรถยนต์ อตุ สาหกรรมประกอบรถจักรยานยนต์ เครื่องจักกลการเกษตรและเครื่องใช้ ไฟฟ้า ได้ สรา้ งมาตรฐานให้กบั ระบบบาร์โคด้ กติ ิศักดิ์ พลอยพานชิ เจริญ(2550) การไหลของกระบวนการ ในกระบวนการแก้ปัญหาคุณภาพนั้นเมื่อทาการจาแนกประเภทของข้อมูลและจะทาให้ทราบ ประเดน็ ในการแก้ปญั หา ปฐมพงษ์ หอมศรี และจักรพรรณ คงธนะ (2557) “การพัฒนาระบบการจัดการสินคา้ คงคลัง: กรณศี กึ ษาบรษิ ัทตดิ ตั้งและบารุงเคร่ืองจกั รของโรงงาน SME” โดยงานวจิ ยั น้ีมี วัตถปุ ระสงค์ คอื เพือ่ เพ่ิม ประสทิ ธภิ าพในการบริหารสนิ ค้าคงคลงั และเพื่อปรับปรงุ กระบวนการทางานในระบบสนิ ค้าคง คลัง จัดทากลุ่มของสินค้า (Product Category) ลดปริมาณสินค้าท่ีไม่มีการเคล่ือนไหว ลดปริมาณการจัดเก็บสินค้าและ ลดคา่ ใชจ้ ่ายในการจัดเก็บลงการใชท้ ฤษฎี ABC Analysis สุนันทา ศิรเิ จรญิ วฒั น์. 2555 “การเพิ่มประสิทธภิ าพการจัดการคลงั สนิ คา้ กรณีศกึ ษา ภมู ิไทยคอมชสี จากัด.” ปรญิ ญานิพนธ์ บริหารธรุ กิจมหาบณั ฑติ สาขาวชิ าการจดั การโลจสิ ตกิ ส์ 145
การประชุมสมั มนาเชิงวิชาการด้านการจดั การโลจิสติกสแ์ ละโซ่อปุ ทาน ครั้งที่ 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวศิ วกรรมอุตสาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 Topic C: Inventory and Warehouse Management Paper ID: IW 09 การปรับปรงุ การจดั การคลงั สินค้าเพอื่ เพมิ่ ประสทิ ธิภาพ กรณีศึกษา บรษิ ทั ประกอบรถบรรทกุ สภุ าภรณ์ สุวรรณรังษี1, เดชา พวงดาวเรือง2*, สรวิชญ์ มาตรสิงห์3, ณัฐพร อภิชาตวิ งศว์ ณชิ 4 1, 3, 4 ภาควชิ าวศิ วกรรมขนถ่ายวัสดุและโลจสิ ตกิ ส์ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนอื โทร 029-9699879 E-mail [email protected] 2* สาขาวชิ าวิศวกรรมไฟฟา้ บัณฑติ วทิ ยาลัย มหาวิทยาลยั เอเชียอาคเนย์ โทร 02-8074500 E-mail [email protected] บทคัดยอ่ บทความวิจัยน้ีได้ทาการศึกษาปัญหาการจัดการคลงั สินค้า โดยในการเกบ็ ขอ้ มูลท่ีเกี่ยวข้องกับการจดั การคลงั สนิ ค้า ภายในบริษัทที่ทาการศึกษาพบว่าการทางานในคลังสินค้าวัตถุดิบมีความล่าช้า และมีความถี่ของการเคลื่อนย้ายสินค้าใน ปริมาณท่ีสูงมาก ทาให้เกิดปัญหาในการจัดส่งสินค้าไม่ทันตามกาหนดเวลาของลูกค้า ผู้วิจัยได้ประยุกต์ใช้ทฤษฎี ABC Analysis เพ่ือทาการจัดระบบคลังสินค้า ซึ่งทาการแบ่งชิ้นส่วนอะไหล่เป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่ม A เป็นชิ้นส่วนอะไหล่ท่ีมีการ เคลื่อนไหวมาก กลมุ่ B เป็นช้ินสว่ นอะไหล่ที่มีการเคลอ่ื นไหวปานกลาง และกลุ่ม C เปน็ ชิ้นส่วนอะไหล่ท่ีมีการเคลื่อนไหวน้อย ในส่วนของแนวทางในการปรับปรุงช้ันวางสินค้าเพื่อให้มีพ้ืนที่ในการจัดเก็บสินค้ามากข้ึน หลังการปผระยุกต์ใช้หลักการ ดังกล่าว พบว่าการจัดวางชิ้นสว่ นอะไหล่ตามการเคลือ่ นไหว ทาให้เวลาการจัดช้ินสว่ นอะไหลไ่ ปส่งยังสายการผลติ ลดลงเฉลย่ี 7.30 นาที และระยะทางลดลงเฉล่ีย 50.57 เมตร และจากการปรับปรุงช้ันวางช้ินส่วนอะไหล่จากเดิมสามารถเก็บชิ้นส่วน อะไหล่ได้ 296 รายการ เพ่ิมเปน็ 314 รายการ โดยสามารถเพิ่มพน้ื ทใ่ี นการจัดการได้คดิ เปน็ ร้อยละ 28.84 คาสาคัญ: คลงั สินค้า, ABC Analysis, การเคลื่อนไหว 1. บทนา ในปัจจุบันการแข่งขันในอุตสาหกรรมรถยนต์มีการแข่งขันสูงขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมมีการขยายตัวมากขึ้น อุตสาหกรรมแต่ละแห่งต่างก็ต้องการลดต้นทุนในด้านต่างๆ เช่น ต้นทุนการขนส่ง ต้นทุนการผลิต ต้นทุนสินค้าคงคลัง โดยเฉพาะคลังสินค้าเป็นส่วนหนึ่งที่มีความสาคัญของระบบการจัดการห่วงโซอ่ ุปทานของแต่ละอุตสาหกรรม โดยที่คลังสนิ คา้ ของบริษัทประกอบรถบรรทุก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ คลังสินคา้ สาเรจ็ รูป สาหรับเก็บสินค้าสาเรจ็ รปู เพ่ือเตรียมส่งมอบ ใหล้ กู คา้ และคลังสินค้าวตั ถดุ ิบสาหรบั จดั เกบ็ วตั ถุดิบทจี่ ะสง่ เขา้ สายการผลิต ในบทความน้ีจะกล่าวถึงคลังสินค้าวัตถุดิบ อันเนื่องมาจากอะไหล่รถบรรทุกแต่ละรุ่นไม่เหมือนกัน และเม่ือมีรถรุ่น ใหม่ออกมา อะไหล่มจี านวนเพิม่ มากขึ้น มีการจัดเก็บอะไหลแ่ ต่ละช้ินซา้ ซอ้ นกนั จึงทาให้พื้นที่ในคลังสนิ ค้ามีไม่เพียงพอ และ ยังพบปัญหาในการจัดเก็บช้ินส่วนท่ีไม่เป็นระเบียบ ส่งผลให้ใช้เวลาในการหยิบเพ่ิมมากข้ึน ทาให้เกิดการทางานที่ไม่ได้ ประสิทธิภาพเท่าที่ควร จึงเกิดแนวคิดที่จะนาปัญหาเหล่าน้ีมาพิจารณาและหาวิธีแก้ไข เพื่อพัฒนากระบวนการทางาน โดย ปรับรปู แบบการจดั เกบ็ ช้นิ ส่วนอะไหล่ โดยใช้หลักการ ABC Analysis 146
การประชุมสัมมนาเชิงวชิ าการด้านการจัดการโลจิสตกิ สแ์ ละโซอ่ ปุ ทาน ครงั้ ท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 2. ทฤษฎีที่เก่ยี วข้อง 2.1. ทฤษฎกี ารจาแนกสินคา้ ตามระบบ ABC Analysis การบริหารคลงั สินค้าโดยใช้ระบบ ABC Analysis เป็นแนวคิดแนวคิดการบรหิ ารสินค้าคงคลังท่ีเหมาะสมกบั กิจการ ท่มี ีสนิ ค้าคงคลังมาก และแต่ละชนิดประมาณการใช้หรือต้นทุนตอ่ หน่วยต่างกัน โดยจะแบง่ สนิ ค้าคงคลงั ออกเป็น 3 กลมุ่ ได้แก่ กลุ่ม A เป็นสินคา้ คงคลงั ทีม่ ปี รมิ าณการหมนุ เวยี นมาก หรือเปน็ สินค้าคงคลงั ที่มมี ลู คา่ มาก กลมุ่ B เปน็ สนิ ค้าคงคลังทีม่ ปี ริมาณ การหมุนเวียนปานกลางหรือเป็นสินค้าคงคลังที่มูลค้าปานกลาง กลุ่ม C เป็นสินค้าคงคลังท่ีมีปริมาณการหมุนเวียนน้อย หรือ เป็นสนิ ค้าคงคลงั ทม่ี ขี ้อมูลนอ้ ย จากนั้นกาหนดนโยบายการบรหิ ารสนิ ค้าคงคลัง กลุ่ม A เป็นสินค้าท่ีบรษิ ัทควรให้ความสนใจมากที่สดุ กลุ่ม B เป็น สนิ คา้ คงคลังทบ่ี ริษทั ให้ความสนใจรองลงมาจากกลมุ่ A กลุ่ม C เปน็ สนิ ค้าคงคลงั ท่บี ริษัทใหค้ วามสนใจน้อยทส่ี ุด 3. วธิ ีการดาเนนิ การ 3.1 การศกึ ษาสภาพทวั่ ไปของโรงงาน จากการสอบถามหัวหน้างานในฝ่ายโลจิสติกส์เบ้ืองต้นจึงพบว่าปัญหาของโรงงานมีอยู่ 3 ประการหลัก คือ การ ทางานในคลงั สินคา้ ลา่ ชา้ คอื การที่พนกั งานในสว่ นการประกอบรถบรรทุกไดท้ าการแจ้งมายังหวั หน้าฝา่ ยคลังสินคา้ สว่ นหยิบไป ใช้ว่าไม่มีช้ินสว่ นอะไหลม่ ารองรบั การประกอบหัวรถบรรทุกเนื่องจากพืน้ ท่ีการเก็บช้ินสว่ นอะไหล่ส่วนหยิบไปใช้ไม่เพียงพอทา ให้พนักงานคลังสินค้าต้องไปหยิบชิ้นส่วนอะไหล่จากพื้นที่นอกคลังสินค้าและการเก็บชิ้นส่วนอะไหล่ไม่เป็นหมวดหมู่ทาให้ พนักงานคลังสนิ ค้าใช้เวลาในการหยบิ ชน้ิ ส่วนอะไหล่มาก มขี องเสียเกดิ ขึน้ ในกระบวนการผลิตคือการทผ่ี ลติ ภัณฑ์รถบรรทุกไม่ ผ่านการทดสอบหรอื มีจดุ บกพรอ่ ง มีการร้องเรียนจากลูกค้าคอื การท่ีลูกค้าท่ีใช้งานในตวั ผลิตภัณฑร์ ถบรรทุกพบปัญหาในการ ใช้งานด้านระบบการทางานภายในและอ่ืน ๆคือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดท่ีทาใหเ้ กิดการสูญเสียภายในโรงงาน เช่น ไฟไหม้ การ เกิดอุบัตเิ หตุ เป็นต้น การท่ีจะได้มาซึ่งข้อมลู จึงได้จัดทาเป็นใบตรวจสอบ (Check Sheet) เพ่ือเป็นการรวบรวมข้อมูลเบอ้ื งต้น ในระยะเวลา 1เดือนแสดงดงั ตารางท่ี 1 ตารางที่ 1: ปญั หาทพี่ บและความถ่ีท่พี บในโรงงาน ปญั หาทีพ่ บ ความถ่ที ่ีพบ การทางานภายในคลงั สนิ คา้ วตั ถดุ บิ ลา่ ชา้ 42 เกิดของเสียข้นึ ภายในกระบวนการประกอบ 11 ไดร้ ับการรอ้ งเรยี นจากลูกคา้ 7 อ่ืน ๆ 0 โดยพบว่าการทางานในคลังสินค้ามีความล่าช้ามีความถี่ในการเกิดบ่อยท่ีสุดจึงได้ทาการศึกษาแล ะวิเคราะห์ใน กระบวนการคลงั สินค้าพบว่าสามารถแบง่ ข้ันตอนการทางานภายในคลังสนิ ค้าของบริษัทประกอบรถบรรทุกออกเป็น ท้ังหมด 10 ข้ันตอนดงั ภาพท่ี 1 147
การประชมุ สมั มนาเชิงวชิ าการด้านการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อปุ ทาน ครงั้ ที่ 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 ส่ังซือ้ ชิน้ สว่ น รบั และตรวจสอบ แยกประเภท การจดั เก็บ อะไหล่ ชิ้นสว่ นอะไหล่ ชน้ิ สว่ นอะไหล่ ชิน้ ส่วนอะไหล่ สง่ อะไหลไ่ ป จดั ช้ินสว่ นอะไหล่ สง่ ช้นิ ส่วนอะไหล่ การประกอบ Shop ตา่ งๆ ตามใบจ่าย ให้สายการผลติ รถบรรทกุ การทดสอบ จัดเกบ็ เข้าสู่ รถบรรทกุ คลงั สนิ คา้ ภาพที่ 1: แสดงขน้ั ตอนการทางานภายในคลังสนิ ค้าโรงงานประกอบรถบรรทกุ จากข้นั ตอนการทางานในคลังสินค้าท้งั 10 ขนั้ ตอน สามารถนามาวเิ คราะหแ์ ละจัดทาแผนภาพเหตแุ ละผลแสดงใน ภาพท่ี 2 ภาพท่ี 2: แผนภาพแสดงเหตแุ ละผลในกระบวนการทางานในคลงั สนิ คา้ ลา่ ช้า จากการศึกษาปญั หาพบว่าพ้ืนที่การวางชิ้นสว่ นอะไหลใ่ นส่วนคลังสนิ คา้ หยบิ ไปใช้ไม่เพียงพอและทางโรงงานมพี นื้ ท่ี จากัด ทางผู้วิจัยได้มีแนวคิดในการเพ่ิมระดบั ความสูงของฐานวางชิ้นสว่ นอะไหล่ เน่ืองจากในปัจจุบันฐานวางช้ินสว่ นอะไหลม่ ี ความสูงรวม 1,300 มลิ ลเิ มตร โดยยกตวั อย่างของลังขนาด L โดยที่ความสูงของชน้ั วางชน้ั ท่ี 1 สามารถวางลังช้ินส่วนอะไหล่ 2 ลังมีความสูงรวมอยู่ท่ี 550 มิลลิเมตร และเม่ือรวมกับความสูงฐานวาง 70 มิลลิเมตร รวมเป็น 620 มิลลิเมตร เม่ือทาเพิ่มช้ัน วางของชั้นที่ 2 ของลังขนาด K โดยท่ีชั้นวางช้ันท่ี 2 ของการวางลังชิ้นส่วนอะไหล่ 2 ลัง มีความสูงรวมช้ันวางเป็น 595 มิลลิเมตร เมื่อรวมความสูงของท้ัง 2 ช้ัน จะเป็น 1,215 มิลลิเมตร แต่เนื่องจากการหยิบช้ินส่วนอะไหล่ออกจากลังจะต้องมี ช่องว่างในการหยิบประมาณ 100 มิลลิเมตร ของในแต่ละชั้นจงึ ทาให้ไม่สามารถเพ่ิมช้ันวางลังชิ้นส่วนอะไหลเ่ ป็น 2 ช้ันได้ ทา ใหก้ ารจัดเรยี งช้ินส่วนอะไหล่เกดิ ปัญหาในเรื่องพนื้ ที่การจดั วางช้นิ ส่วนอะไหลไ่ ม่เพยี งพอ โดยแสดงดงั ภาพท่ี 3 และ 4 148
การประชมุ สมั มนาเชิงวชิ าการด้านการจัดการโลจสิ ติกส์และโซ่อุปทาน ครัง้ ท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวศิ วกรรมอตุ สาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 ภาพที่ 3: ก่อนปรบั ปรงุ ชัน้ วางชิน้ สว่ นอะไหล่ ภาพท่ี 4: หลังปรบั ปรุงชั้นวางชิน้ สว่ นอะไหล่ จากท่ีได้ทาการศึกษาขั้นตอนการทางานพบว่าการจัดวางช้ินส่วนอะไหล่ในปัจจบุ ันมีการวางช้ินส่วนอะไหล่แบบสุ่ม แต่จะแบ่งชิ้นส่วนอะไหล่ตามจุดที่ใช้งานโดยจะมีจุดท่ีใช้งานท้ังหมด 8 จุด โดยแสดงดังตารางที่ 2 โดยท่ีบางชิ้นส่วนอะไหล่ท่ี เป็นชนิดเดียวกันแต่วางคนละตาแหน่งทาให้เสียพ้ืนที่ในการจัดเก็บช้ินส่วนอะไหล่ ทาให้พนักงานใช้เวล าในการจัดช้ินส่วน อะไหลม่ าก ตารางที่ 2: สญั ลักษณส์ บี ง่ บอกชื่อรถเขน็ ช่อื จุดทีใ่ ช้ สญั ลกั ษณ์ ชือ่ จุดท่ีใช้ CP01 RN สัญลกั ษณ์ LN CN CP03 Under Cab CP06 CP06(1.2) โดยเมื่อทาการแบง่ ชน้ิ สว่ นอะไหลต่ ามจดุ ทใี่ ช้ด้วยสัญลกั ษณ์สีแลว้ จึงได้ทาการจัดเรยี งช้ินส่วนอะไหลท่ ่ีใชจ้ ดุ เดียวกัน ให้มาอย่ใู กลก้ นั 1CWH09 1CWH09 12 3 45 3 1 2 (K2) 4 5 (L1) (L4) 22349836(L1) (L1) (K2) (K2) (K1) 82696496 (L2) (L2) (L2) 21554211 (L2) (L2) (L3) (L1) 82506019 750 800 (L1) 21473850(L1) (L2) 22797545(L1) (L2) 82622466 (L2) (L3) (L3) (L2) (K2) (L2) 82657102 82621580 450 500 550 600 (L2) 82618608(F1) 8 50 100 150 200 250 300 350 400 450 500 550 600 650 700 750 800 850 900 950 1000 7 9 1800 10 6 8 50 100 150 200 250 300 350 400 650 700 850 900 950 1000 (L5) 6 (K2) 7 9 10 82691884 (L2) (L4) (L1) (K1) (L1) (L1) (K1) (K1) (K1) (L3) 82696498 (L2) (L2) (L2) (L2) (L2) (L2) (L2) 82622483 (L2) (L2) (L2) (L2) (L2) (L3) 82696488 82696486 82628649 82628739 82661662 1050 1100 1150 1200 1250 1300 1350 1400 1450 1500 1550 1600 1650 1700 1750 1850 1900 1950 2000 11 12 13 14 15 1050 1100 1150 1200 1250 1300 1350 1400 1450 1500 1550 1600 1650 1700 1750 1800 1850 1900 1950 2000 11 12 13 14 15 (L4) (L4) 82644341(L1) 82669178(L1) 22085353(L1) (L1) (L1) (L1) (L1) (L1) 82657275 82657270 22966319(L1) 21473850(L1) (L3) (L3) (L3) (L2) (L3) (L2) 23020737 82639288 22966273 (L1) 82657272 84605377(G1) 22797534(L1) 22269840(L1) (L1) (L1) (L1) (K1) 2050 2100 2150 2200 2250 2300 2350 2400 2450 2500 2550 2600 2650 2700 2750 2800 2850 2900 2950 3000 2050 2100 2150 2200 2250 2300 2350 2400 2450 2500 2550 2600 2650 2700 2750 2800 2850 2900 2950 3000 16 17 18 19 16 17 18 19 (L4) (L3) (L1) 82648245 82653628 (L3) (L3) (L3) (L4) (L4) (L4) 82641938(L1) (L2) 82642985(K1) (L2) 82641939(L1) (L2) 82634273 82635799 (L1) 3050 3100 3150 3200 3250 3300 3350 3400 3450 3500 3550 3600 3650 3700 3750 3800 3050 3100 3150 3200 3250 3300 3350 3400 3450 3500 3550 3600 3650 3700 3750 3800 ภาพที่ 5: การวางชน้ิ สว่ นอะไหลก่ อ่ นการปรบั ปรงุ ภาพท่ี 6: การวางช้ินสว่ นอะไหล่หลงั การปรับปรุง ขั้นตอนการจัดลาดบั ABC 1. จัดทาข้อมลู ชิน้ สว่ นอะไหล่โดยมรี ายละเอียดเป็นจดุ ทต่ี อ้ งการใช้ช้ินส่วนอะไหล่ 2. คานวณหาร้อยละการเคลื่อนไหวท่ีใช้ชิ้นส่วนอะไหล่ โดยคานวณจากจุดท่ีต้องการใช้ชิ้นส่วนอะไหล่ในแต่ละ รายการและนาไปหารจุดที่ใช้ท้ังหมดของโรงงาน 220 จุด 3. จัดเรียงลาดบั ข้อมลู ตามลาดบั รอ้ ยละการเคล่ือนไหวชน้ิ ส่วนอะไหลจ่ ากมากไปหานอ้ ย 149
การประชมุ สัมมนาเชิงวิชาการด้านการจัดการโลจิสตกิ สแ์ ละโซ่อุปทาน คร้ังที่ 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 ตารางที่ 3: สัดส่วนการแบง่ กลมุ่ ABC Analysis ตารางที่ 4: แสดงสสี ญั ลกั ษณ์ ABC Analysis กลมุ่ จดุ ที่ใช้งาน สีสญั ลักษณ์ กลุ่ม ABC Analysis A มากกวา่ หรอื เทา่ กบั 80% A B มากกว่า 5% นอ้ ยกว่า 80 % B C น้อยกว่าหรือเทา่ กับ 5 % C หลังจากการจดั กลมุ่ ABC โดยใชข้ ้อมูลรายการช้ินส่วนอะไหลป่ จั จบุ ันในสายการผลติ Cab Trim จะพบวา่ สดั ส่วน รายการชนิ้ สว่ นอะไหลข่ องกลมุ่ ABC ในแต่ละจดุ ที่ใชง้ านแบ่งออกเป็นดงั ตารางท่ี 7 ตารางที่ 5: แสดงรายการชน้ิ สว่ นอะไหลต่ ามกลมุ่ ในแตล่ ะรถเข็น จดุ ทใ่ี ชง้ าน A กลุม่ C (รายการ) B (รายการ) จดุ ดา้ นขาว (RN) (รายการ) จุดดา้ นซา้ ย (LN) 24 62 48 จุดประกอบยอ่ ย (CP06) 20 31 35 จดุ ประกอบย่อย (CP03) 9 38 2 จุดสว่ นกลาง (CN) 10 17 6 จดุ ประกอบยอ่ ย (Under cab) 4 18 - จดุ ประกอบย่อย (CP01) 8 6 8 จุดประกอบย่อย (CP06 1.2) 2 8 7 2 2 1 หลังจากท่ีผู้วิจัยได้ทาการปรับปรุงโดยวิธีการจัดเรียงช้ินส่วนอะไหล่ตามการเคล่ือนไหวด้วยการนาใบรายการจ่าย ช้ินส่วนของแต่ละจุดที่ใช้งานมาจัดเรียงตามการเคลอื่ นไหว ยกตัวอย่างของการรบั ใบจ่ายช้ินส่วนอะไหล่จุดดา้ นขวา (RN) โดย พนักงานคลังสินค้าจะสามารถหยิบสินค้าได้เรียงตามการเคล่ือนไหวของชิ้นส่วนอะไหล่ของใบจ่ายชิ้นส่วนอะไหล่จุดด้านขวา (RN) ภาพท่ี 7: ผงั การวางช้ินสว่ นอะไหล่กอ่ นปรับปรงุ ภาพที่ 8: ผังการวางช้นิ ส่วนอะไหลต่ ามการเคลอื่ นไหว 150
การประชมุ สมั มนาเชิงวิชาการด้านการจดั การโลจิสตกิ สแ์ ละโซอ่ ปุ ทาน ครัง้ ที่ 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวิศวกรรมอตุ สาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 4. ผลการดาเนนิ โครงงาน หลังจากที่ได้ทาการปรบั ปรุงการเพิ่มพ้ืนท่ีจัดวางช้ินส่วนอะไหล่โดยใช้วิธีการปรับชั้นวางเพ่ือเพ่ิมระดับความสูงของ ชั้นวางให้มีความสงู เพิม่ ขึ้น 200 มิลลเิ มตร และจากการได้จัดเรยี งกล่มุ ชน้ิ ส่วนอะไหลต่ ามจุดท่ีใชง้ านซง่ึ เป็นการทาใหล้ ดพื้นที่ ว่างในการวางชน้ิ ส่วนอะไหล่สง่ ผลใหส้ ามารถวางช้ินส่วนอะไหลไ่ ดเ้ พ่มิ มากขึ้น ดังตารางท่6ี ตารางท่ี 6: จานวนรายการชิน้ สว่ นอะไหล่กอ่ นและหลงั ปรบั ปรงุ ชือ่ รถเขน็ ก่อนปรบั ปรงุ หลังปรบั ปรุง รอ้ ยละการเปลย่ี นแปลง รถเข็นประกอบยอ่ ย (CP03) 28 33 +17.85 รถเขน็ ส่วนกลาง (CN) 26 22 -15.38 รถเข็นประกอบยอ่ ย (Under cab) 18 22 +22.22 รถเขน็ ประกอบย่อย (CP01) 14 17 +21.42 รถเข็นประกอบย่อย (CP06 1.2) 4 5 +25 การใช้ทฤษฏี ABC Analysis ช่วยในการจัดกลุ่มช้ินส่วนอะไหล่ตามการเคลื่อนไหวตามจุดท่ีใช้งานพบว่าระยะเวลา และระยะทางท่พี นักงานคลังสนิ ค้าเดนิ ไปหยิบชนิ้ สว่ นอะไหล่ลดลงดังตารางที่ 7 ตารางท่ี 7: เวลาและระยะทางท่ใี ช้ในการเดนิ ไปหยิบชนิ้ ส่วนอะไหล่ก่อนและหลังการปรบั ปรุง ชอ่ื จุดทีใ่ ช้งาน ระยะทางกอ่ น ระยะทางหลังปรับปรงุ เวลากอ่ นปรับปรงุ เวลาหลังปรบั ปรงุ ปรับปรงุ (เมตร) (เมตร) (นาท)ี (นาท)ี จดุ ด้านขาว (RN) 167 36 23.40 จดุ ด้านซา้ ย (LN) 223.9 192 34.45 23.40 จดุ ประกอบย่อย (CP06) 237.5 213 23.50 22.07 จดุ ประกอบย่อย (CP03) 168.59 189 22.15 20.59 จดุ สว่ นกลาง (CN) 144.18 164 35.50 23.15 231.18 26.14 24.38 จุดประกอบยอ่ ย (Under cab) 205.22 191 32 29.55 จดุ ประกอบยอ่ ย (CP01) 193.6 210 26.30 จดุ ประกอบยอ่ ย (CP06 1.2) 101.94 217 16.48 5. สรุปผล จากการศึกษากระบวนการทางานดา้ นคลงั สินค้าของบริษัทประกอบรถบรรทุกแห่งหนึ่งพบว่าเกิดปัญหาการทางาน ในคลังสินค้ามีความล่าช้า โดยผู้วิจัยได้ทาการศึกษาและพบนั้นพบว่าสาเหตุปัญหาของการทางานในคลังสินค้าล่าช้าเกิดจาก การท่ีทางบริษัทเพิ่มการผลิตรถรุ่นใหม่ ส่งผลให้มีชิ้นส่วนอะไหล่รุ่นใหม่เข้ามาในคลังสินค้า ซึ่งการมีชิ้นส่วนอะไหล่รถร่นุ ใหม่ เพมิ่ มากขนึ้ ส่งผลใหพ้ ้นื ทก่ี ารวางชิน้ สว่ นอะไหล่ไมเ่ พยี งพอ อีกทั้งยังพบอกี วา่ การจดั วางช้ินส่วนอะไหลส่ ว่ นของคลงั สินไมม่ กี าร กาหนดรูปแบบหรือการจัดกลมุ่ ท่ตี ายตวั จากสาเหตทุ ีท่ าให้เกิดปัญหาคลังสินค้าล่าช้านนั้ ทางผูว้ จิ ัยได้ดาเนินการปรบั ปรุง โดย การปรบั ระดับความสงู ของชั้นวางให้มคี วามสูงเพม่ิ มากขน้ึ จาดเดิม ซ่ึงแบบเดิมสามารถวางชิ้นสว่ นอะไหลไ่ ดเ้ พยี ง 1-2 รายการ หลังการปรับปรุงโดยวิธีการปรับระดับช้ันวาง ทาให้สามารถวางสินค้าได้เพิ่มข้ึนสูงสุดถึง 4 รายการ ในส่วนการจัดลาดับ ชนิ้ สว่ นอะไหล่ตามการเคลอ่ื นไหว เพ่ือให้ไดท้ ราบถึงจานวนจุดการใช้งานของชิ้นส่วนอะไหลโ่ ดยไดท้ าการจดั ลาดบั ความสาคัญ 151
การประชุมสมั มนาเชิงวิชาการด้านการจดั การโลจิสตกิ ส์และโซ่อุปทาน ครั้งที่ 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควิชาวศิ วกรรมอตุ สาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 ตามการหมุนเวียนแล้วและได้ทาการจัดเรียงคลังสินค้าในสว่ นคลงั สินค้าหยบิ ไปใช้ใหเ้ ป็นระเบียบมากขึ้นซึ่งทาใหส้ ามารถเกบ็ ช้ินส่วนอะไหลจ่ ากเดมิ 296 รายการชนิ้ สว่ นเพมิ่ เป็น 314 รายการชนิ้ สว่ นอะไหลค่ ดิ เป็นรอ้ ยละ 28.84 และจากการจัดชิ้นสว่ น อะไหลใ่ หเ้ ป็นหมวดหมู่ตามทฤษฏี ABC Analysis สง่ ผลใหเ้ วลาของกระบวนการหยิบชน้ิ สว่ นอะไหล่ลดลงโดยเฉลยี่ 7.30 นาที และระยะทางลดลงเฉล่ีย 50.57 เมตร เอกสารอ้างองิ จารุภา อุน่ จางวาง. การเพ่มิ ประสิทธิภาพการจดั การสินคา้ คงคลัง,มหาวทิ ยาลัยธรุ กิจบณั ฑิต. ปริญญานิพนธ์ ปริญญาบนั ฑติ สาขาการจดั การโซอ่ ุปทานแบบบูรณาการ มหาวทิ ยาลัยธรุ กิจบณั ฑิต, 2556. ปราโมทย์ อนิ ทประสาท. การออกแบบจัดวางสินคา้ ในคลังสนิ ค้า กรณีศึกษา โรงงานคัดแยกขยะเพ่ือรีไซเคิล. ปริญญานิพนธ์ปริญญาบัณฑิตสาขาวิชาการจัดการเทคโนโลยีการผลิตและสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอม เกล้าพระนครเหนือ, 2557. สุนนั ทา ศริ ริ ัตน.์ การเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพในการจดั การคลงั สินค้า กรณีศกึ ษาบริษทั ภมู ไิ ทยคอนซสี จากัด. ปริญญานพิ นธ์ ปริญญาบัณฑติ สาขาวิชาการจดั การโลจิสตกิ ส์ มหาวิทยาลัยหอการคา้ ไทย, 2555. อชิระ เมธารชั ตกลุ . การเพ่ิมระสทิ ธิภาพการจดั การคลงั สนิ คา้ กรณศี กึ ษาบริษทั ผลิตชนิ้ ส่วนรถยนต์ วิทยานพิ นธ์ปริญญา มหาบณั ฑติ สาขาวิชาการจัดการโลจิสตกิ สแ์ ละโซ่อุปทาน มหาวทิ ยาลยั บรู พา, 2557. 152
การประชุมสัมมนาเชงิ วชิ าการด้านการจัดการโลจสิ ติกส์และโซ่อปุ ทาน คร้ังท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวศิ วกรรมอุตสาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 Topic C: Inventory and Warehouse Management Paper ID: IW 10 การเพิ่มกาลงั การผลติ ในการดาเนินการรบั เข้าและส่งออกของคลงั สินค้าเครื่องดื่ม ดว้ ยวธิ ีการปรบั ปรุงการดาเนนิ การขนถา่ ย กรณีศึกษา บริษทั กระจายสินค้าเครอื่ งด่ืม Increasing Capacity for Inbound and Outbound Operation in Beverage Warehouse with Handing Operations Improvement Case Study of Beverage Distribution Firm. สุภาวิณี โสภิณ1*, ศขี รนิ ทร์ สขุ โต2 1* สาขาวิชาการจัดกรอุตสาหกรรมและโลจสิ ติกส์ ภาควชิ าวิศวกรรมอตุ สาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแก่น จังหวัดขอนแกน่ 40002 2 ภาควิชาวศิ วกรรมอตุ สาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ จงั หวัดขอนแก่น 40002 *ผตู้ ิดต่อ: E-mail [email protected], โทร 083-6267009 โทรสาร 043-347277 บทคัดย่อ ในปัจจุบันธุรกิจเก่ยี วกับด้านการขนสง่ ได้เติบโต และขยายตัวเพ่ิมข้ึน ซ่ึงในกระบวนการจัดการคลงั สินค้า และศูนย์ กระจายสินค้า ส่งผลโดยตรงตอ่ ตน้ ทุนด้านขนส่ง และส่งผลต่อประสทิ ธภิ าพในการตอบสนองลกู ค้า ทัง้ ในเรอื่ งของเวลาในการ ดาเนินการ คุณภาพ และมาตรฐานในการส่งมอบสนิ ค้าให้ลูกค้าตามความต้องการ จึงต้องพัฒนาความสามารถในการบรหิ าร จดั การงานในคลังสนิ คา้ หรือศนู ย์กระจายสินคา้ ทัง้ ในดา้ นการปรับปรุงและพฒั นากระบวนการทางานด้านขนส่ง ซึ่งเปน็ กุญแจ สาคัญท่จี ะไปสู่ความสาเรจ็ ดังนน้ั การวจิ ยั ครงั้ นไี้ ด้ทาการศึกษาบริษัทขนสง่ เครอ่ื งด่มื แห่งหนึ่ง ทม่ี กี ารเติบโตของธุรกิจโมเดิร์น เทรด (Modern Trade) อย่างต่อเน่ือง และมีแนวโน้มในอนาคตที่จะโตเพิ่มข้ึนอีก 200% ในปี 2563 และจากการศึกษา เบ้ืองต้นโดยใช้ทฤษฎีผังงาน (Flow chart) เทคนิคแผนภูมิการไหลของกระบวนการผลิต (Flow Process Chart) และ หลักการเครื่องมือคุณภาพ 7 ชนิด (7 QC Tool) พบปัญหาในข้ันตอนของการรับเข้า(Inbound) และโหลดสินค้าส่งออก (Outbound) ของคลังสินค้า ซึ่งมีปริมาณสินค้าท่ีรับเข้าและส่งออกมากกกว่ากาลังการผลิตถึงประมาณ 22% ทางผู้วิจัยจึง สนใจศึกษาเพื่อเพิ่มกาลังการผลิตในการดาเนินการรบั เข้าและส่งออกของคลังสินค้าเคร่ืองดื่มนี้ให้สูงขึ้น ด้วยวิธีการปรับปรุง การดาเนนิ การขนถ่าย โดยประยุกต์ทฤษฎีการขนถ่ายวัสดมุ าใช้ในการแก้ปัญหา หลังจากการดาเนินการแก้ไขพบว่า สามารถ โหลดสินค้าท้ังรับเข้าและส่งออก ได้เพ่ิมกาลังการผลิตจากเดิมเฉล่ียประมาณ 12 คันต่อชั่วโมง เพิ่มข้ึนเป็น 15 คันต่อช่ัวโมง คดิ เป็น 25% จากเดิม คาสาคัญ: การเพ่ิมกาลงั การผลิต; ทฤษฎผี งั งาน; เทคนคิ แผนภมู ิการไหลของกระบวนการผลติ ; หลักการเครือ่ งมอื คณุ ภาพ 7 ชนิด, ทฤษฎกี ารขนถ่ายวัสดุ 153
การประชุมสัมมนาเชงิ วชิ าการด้านการจัดการโลจิสติกสแ์ ละโซ่อปุ ทาน คร้ังท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 Abstract At present, the shipment business increasingly grows and extends across the world. According to the procedure of managing the warehouse and the center of product distribution, it directly impacts on the shipment cost and the performance of responding to customers in operation duration, quality and standard of delivering products to customers as their needs; therefore, the capacity of managing the warehouse and the center of production distribution must be developed such as the improvement and development of shipment operation that is the key of success. As a result this research studied a beverage distribution firm with the uninterrupted growth of modern trade, plus the tendency of growth will increase 200 percent in 2020. According to the initial study by the theory of diagram, the principle of 7 QC Tools and the technique of process chart, there was the issue of the inbound and outbound operation in the warehouse. At present, the productivity cannot handle too many transport vehicles that load products. Normally, there are, in average, 12 transport vehicles per hour for the inbound and outbound operation. Then the researchers were interested in increasing the productivity and capacity for the inbound and outbound operation in the beverage warehouse with the handling operation improvement. The theory of material handling was applied for solving the problem. After the resolution, it was found that the productivity was increased from 12 transport vehicles per hour to 15 transport vehicles per hour considered 25 percent. Keywords: Capacity Increase, Productivity Increase, Technique of Process Chart, Principle of 7 QC Tools, Theory of Material Handling 1. บทนา ในปัจจุบันธุรกิจเก่ียวกับด้านการขนส่งได้เติบโต และขยายตัวเพิ่มข้ึน ส่งผลให้เกิดการแข่งขันท่ีสูงข้ึน ซึ่งใน กระบวนการจัดการคลงั สนิ ค้า และศูนยก์ ระจายสนิ ค้า ส่งผลโดยตรงต่อต้นทุนด้านขนสง่ ดังน้ัน การวิจัยครั้งนไ้ี ด้ศกึ ษาบรษิ ัท ขนสง่ เครื่องดืม่ แหง่ หนึง่ ในเขตภาคกลางของประเทศไทย ซ่ึงกอ่ ตง้ั ในปี 2551 และดาเนินการจนมาถงึ ปัจจุบัน การเตบิ โตของ ธุรกิจโมเดิร์นเทรด มียอดขายเติบโตขึ้นจากปี 2558 ประมาณ 36% ซ่ึงจากปริมาณยอดผลิตในปี 2559 มียอดขนส่งท้ังหมด 299 ล้านลิตร และคาดว่าในอนาคตยอดการขนส่งจะอยู่ท่ีประมาณ 600 ล้านลิตรในปี 2563 จากการศึกษาเบ้ืองต้นพบ ปัญหาในเร่ืองของการรับเข้าสินค้า และโหลดสินค้าส่งออกของคลัง ว่ามีจานวนรถท่ีเข้ามาโหลดสินค้าเพิ่มมากขึ้น ตามการ เติบโตของธุรกิจโมเดิรน์ เทรด ทาให้รถที่มาลงสินค้าหรือโหลดสนิ ค้าส่งออกจาเป็นต้องรอนาน ซ่ึงทาให้เกิดเวลาสูญเปล่าของ การดาเนินการ ในเกลี่ยงานการโหลดสินค้า ทางผ้วู ิจยั จงึ ไดท้ าการศกึ ษากระบวนการดาเนนิ การรบั เขา้ และโหลดสินคา้ สง่ ออก ของคลังสินค้าเคร่ืองด่ืมนี้ และทาการเพิ่มผลิตภาพ และกาลังการผลิตในการดาเนินการรับเข้า และส่งออกของคลังสินค้า เครื่องด่ืม ดว้ ยวธิ กี ารปรบั ปรุงการดาเนินงานขนถ่าย ที่ทาใหเ้ กิดเวลาสูญเปล่าจากการดาเนินการ โดยมีขนั้ ตอนการดาเนนิ การ รับเข้าสินค้า และข้นั ตอนการโหลดสินคา้ สง่ ออก ดังรูปท่ี 1-2 154
การประชุมสัมมนาเชิงวชิ าการด้านการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน ครง้ั ที่ 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควิชาวศิ วกรรมอตุ สาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 รูปท่ี 1 ข้นั ตอนการดาเนนิ การรับเข้าสนิ ค้า รปู ที่ 2 ข้ันตอนการดาเนินการโหลดสนิ คา้ ส่งออก 2. ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง 2.1 แผนภมู ิกระบวนการทางาน (Operation Process Charts) จันทรศ์ ิริ สิงหเ์ ถ่อื น (2551) แผนภูมกิ ระบวนการทางานหรอื เรยี กอกี อยา่ งว่า แผนภูมิกระบวนการผลติ เป็นแผนภูมิ ท่แี สดงขัน้ ตอน ตั้งแตว่ ตั ถุดบิ เข้าสกู่ ระบวนการผลติ จนเปน็ ผลติ ภัณฑ์ โดยตอ้ งทาการบันทึกทุกขน้ั ตอนในการปฏิบตั ิงาน ที่ ดาเนินอยกู่ ารบนวตั ถุน้นั ๆ เชน่ การขนสง่ ขณะช้นิ งานทางานบนเครือ่ งจักร การตรวจสอบคุณภาพ การประกอบช้ินส่วน จน เสร็จส้นิ กระบวนการเป็นผลติ ภัณฑ์ ซง่ึ อาจเป็นการบนั ทึกกระบวน การการผลติ ของผลติ ภณั ฑ์ ชนดิ เดียวหรอื ของผลติ ภณั ฑ์ หลายๆ อย่างภายในแผนกหรือต่างแผนก ไปพรอ้ มกนั ได้ การแสดงรายละเอยี ดอาจเปน็ รปู แบบของผงั งาน ทีแ่ สดงโดยกล่องที่ ระบคุ าบรรยายภายในกล่องหรอื แสดงเปน็ แผนภาพ [1] ดังรูปที่ 3-4 โดยแนวทางในการวเิ คราะห์ผังงาน จะตอ้ งศกึ ษาข้ันตอน ต้ังแต่ตน้ จนจบ โดยกาหนดจดุ เรม่ิ ต้น และจุดสนิ้ สดุ ของการทางานใหช้ ัดเจน จากนัน้ ระบกุ ารทางานหลักทต่ี ้องทาโดยตอ้ งเรียง ตามลาดบั ข้ันตอนการทางาน ระบุจดุ การทางานท่นี าชนิ้ สว่ นมาประกอบ และระบุชื่อสนิ ค้าหรือผลติ ภณั ฑ์ชน้ิ ส่วนทไ่ี ด้ ณ จุด ท้ายสุดของขัน้ ตอนกระบวนการ รปู ท่ี 3 แสดงตัวอย่างแผนภูมิกระบวนการผลติ แบบผงั งาน 155
การประชุมสัมมนาเชงิ วิชาการด้านการจัดการโลจสิ ตกิ สแ์ ละโซอ่ ุปทาน ครง้ั ท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวิศวกรรมอตุ สาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 รูปท่ี 4 แสดงตวั อยา่ งแผนภมู ิกระบวนการผลติ แบบแผนภาพ 2.2 แผนภูมกิ ระบวนการไหล (Flow Process Chart) เรอื งศักด์ิ แกว้ ธรรมชัย (2554) แผนภูมิชนดิ นีเ้ นน้ ท่ีการเกดิ กิจกรรม ท่ีเกดิ ขน้ึ ระหวา่ งการทางาน ประกอบดว้ ย การ ปฏบิ ัติงาน การเคลือ่ นที่ การรอคอย การตรวจสอบสภาพ และการเก็บสินคา้ คงคลัง จะแสดงใหเ้ หน็ เวลาและระยะทางในการ ดาเนนิ แตล่ ะกิจกรรมน้ันๆซง่ึ แผนภูมิกระบวนการไหลมี 2 ชนิด คือ - แผนภูมิกระบวนการไหลของผลิตภณั ฑ์ (Product Flow Process Chart) - แผนภูมกิ ระบวนการไหลของกระบวนการทางาน (Operative Flow Process Chart) [2] 2.3 ทฤษฎีการลดความสูญเปลา่ ด้วยเทคนคิ การปรบั ปรงุ งาน (ECRS Technique) เทคนิคการปรับปรุงงาน คือ เทคนิคท่ีจะช่วยให้มีประสิทธิภาพในการทางาน โดยการปรับปรุงกระบวนการทางาน ซ่งึ กาจัดงานที่ไมจ่ าเปน็ ตอ้ งทาหรอื ปรับวิธีการทางานใหม่ แลว้ ผลลัพธ์ท่ไี ดด้ มี ากขนึ้ กว่าเดิม ทกุ ๆธรุ กจิ สามารถนาเทคนิคนไี้ ป ใชไ้ ด้ทนั ทีโดยไม่ตอ้ งลงทุนเพิ่ม เพียงแตป่ รับแนวคดิ เทา่ นนั้ กัญจนา เบ็ญจศิรวิ รรณ (2551) ได้ทาการศึกษาโรงงานผลติ ชิ้นสว่ นเฟอรน์ ิเจอรไ์ ม้ โดยปัญหาด้านกระบวนการผลติ ในเรอ่ื งความคล่องตวั ของการทางานทต่ี ่อเนือ่ ง เพราะเครื่องจกั รถกู จัดวางแบบไมต่ ่อเนื่อง และมรี ะยะทางระหว่างเครือ่ งจักรท่ี อยู่ไกลกันมาก ผู้วิจัยจึงได้ทาการนาเทคนิคแผนภูมิการไหลของกระบวนการผลิต มาใช้ทาศึกษา และปรับปรังกระบวนการ ทางานตงั้ แตว่ ตั ถดุ ิบเข้ามาจนกระท่งั เป็นผลติ ภัณฑ์ท่ีพรอ้ มทาการจัดส่ง ภายหลังการปรบั ปรงุ สามารถลดระยะทาง ระยะเวลา และข้ันตอนการทางาน สรุปได้ดังน้ี ค่าเฉล่ียระยะทางลดลงท้ังส้ิน 39.96% ค่าเฉลี่ยเวลาลดลงทั้งสิ้น 20.8% และค่าเฉลี่ย ขั้นตอนลดลงท้ังสิ้น13.89% ทาให้โรงงานสามารถเพ่ิมผลผลิตได้ถึง 1,075 มัด โดยคิดเป็นประมาณ 408,500 บาทต่อเดือน และสามารถลดค่าใช้จา่ ยในส่วนของการจา้ งแรงงานไดถ้ ึงประมาณ 12,000 บาทตอ่ เดือน [4] 2.4 เคร่อื งมอื คุณภาพ 7 ชนดิ (7 QC Tool) วีรพจน์ ลือประสทิ ธ์ิสกลุ (2544) ได้กล่าววา่ หลังจากมาตรฐานอุตสาหกรรมของประเทศญี่ป่นุ ซึ่งก็ คือ Japanese Industrial Standards (JIS) marking system ได้ถูกกาหนดเปน็ กฎหมายในปี ค.ศ. 1950 พร้อมๆ กับการเช้ือเชิญ Dr. W.E. Deming มาเปดิ สมั มนาทาง QC ใหแ้ ก่ ผบู้ รหิ ารระดับตา่ งๆ และวศิ วกรในประเทศ นับเป็นการจุดประกายของการตระหนัก 156
การประชุมสมั มนาเชงิ วิชาการด้านการจัดการโลจิสติกสแ์ ละโซอ่ ุปทาน คร้ังที่ 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 ถึงการพัฒนาคุณภาพ อันตามมาด้วยการก่อตัง้ รางวัล Deming Prize อันมีช่ือเสียง เพ่ือมอบให้แก่โรงงานซ่ึงมีความก้าวหน้า ในการพัฒนาคุณภาพดีเด่นของประเทศ ผู้บริหารระดับสูงภายในองค์กรในการนาเทคนิค เหล่าน้ีมาใช้งานโดยได้รับความ ร่วมมอื จากพนกั งานทุกๆ คน นบั เปน็ จดุ เรม่ิ ต้นของการพฒั นา และรวบรวมเครือ่ งมอื ที่ใช้ในการควบคุมคณุ ภาพรวม 7 ชนดิ ท่ี เรยี กว่า 7 QC Tools [3] ซง่ึ ในงานวจิ ยั นไี้ ดน้ าแผน่ ตรวจสอบ (Check Sheet) ผงั กา้ งปลา แผนภูมพิ าเรโต และกราฟ (Graph) มาช่วยในการแยกแยะ,วิเคราะห์ และตรวจสอบข้อมูลในส่วนของขัน้ ตอนวิธกี ารการดาเนินงาน 2.5 ทฤษฎกี ารขนถา่ ยวัสดุ (Material Handling) กรกฎ ใยบัวเทศ ทิพยาวงศ์ (2558) การขนถ่ายวัสดุ หมายถึง การจัดเตรียมสถานที่ และตาแหน่งของวัสดุ เพื่อ ความสะดวกในการเคลือ่ นย้ายสนิ คา้ เก็บรักษา การจัดอุปกรณ์ และกระบวนการทีเ่ หมาะสมในการทางาน โดยมีส่วนประกอบ ท่ีสาคัญมี 4 อย่าง คอื - การเคล่ือนที่ (Motion) การเคล่อื นยา้ ยวสั ดจุ ากจุดหนึ่งไปยังอกี จุดหน่ึง - เวลา (Time) เป็นปจั จัยหนึ่งท่ีบง่ บอกถงึ ประสิทธภิ าพของการเคลื่อนที่ - ปรมิ าณ (Quantity) ปริมาณวสั ดทุ ต่ี ้องเคล่ือนที่ ต้องสัมพันธก์ ับเวลา และเหมาะสมกับค่าใช้จา่ ย - เนื้อท่ี (Space) พื้นท่ีในการเคล่ือนท่ีของอุปกรณ์ กลไกในระบบขนถ่าย พื้นท่ีสาหรับวางวัสดุท่ีรอการขนถ่ายและ หลังการขนถ่าย และประเภทของอุปกรณ์สาหรับการขนถ่ายวัสดุแบ่งตามชนิดของการขนถ่ายวัสดุ (Material Handling Equipment) และแบง่ ตามระบบการทางานของอุปกรณ์ ระบบการขนสง่ (Transportation System) [5] 3. ขนั้ ตอนวธิ กี ารการดาเนินงาน 3.1 รวบรวมข้อมูลทเี่ กยี่ วขอ้ ง ศึกษาข้อมลู เบือ้ งต้นของบริษัทกรณศี กึ ษา บริษทั กรณศี ึกษา เป็นคลังสินค้าเครอ่ื งดื่มท่เี ป็นธรุ กจิ ขนาดใหญ่ ท่ีมกี าร ขนสง่ ใหก้ ับลกู ค้ารายใหญ่หลายเจา้ โดยเฉพาะธุรกจิ ค้าปลกี สมยั ใหม่ (Modern Trade) โดยได้ศึกษาสนิ คา้ เคร่ืองดื่มประเภทไม่ มแี อลกอฮอล์ เชน่ นา้ ด่ืม, โซดา, เครือ่ งดมื่ เกลอื แร่, เคร่ืองดืม่ ชูกาลงั , เครือ่ งดม่ื เอส และเครอ่ื งดม่ื กรนี ที เปน็ ต้น และปัจจุบัน บรษิ ทั กรณีศึกษาโดยข้ันตอนทไี่ ดท้ าการศกึ ษาการดาเนนิ การรบั เขา้ สนิ คา้ และข้ันตอนการโหลดสินคา้ สง่ ออกเคร่ืองด่ืม ประเภทไมม่ แี อลกอฮอล์ มจี านวนพนักงานท้งั หมด 13 คน แบ่งเปน็ 2 กะ คอื กะเช้า 6 คน และกะบา่ ย 7 คน อุปกรณท์ ีใ่ ช้ ประกอบด้วย รถโฟร์คลิฟท์ (Fork Lift) จานวน 3 คนั , รถยกลาก (Hand Pallet Truck) จานวน 2 คน, รถยกสูง(RT) จานวน 2 คนั ดังรปู ที่ 5 รูปที่ 5 อปุ กรณท์ ใ่ี ช้ในการดาเนินงานรับเขา้ สินคา้ และโหลดสินคา้ ออกสนิ ค้า โดยขัน้ ตอนการดาเนินการรับเขา้ สนิ ค้า เร่ิมจากการส่วนงานตรวจสอบ (Checker) ของคลงั สนิ ค้า นาเอกสารคาส่งั ที่ จะรับเข้าสินค้า เช็คข้อมูลในระบบ ASN (Advanced Shipment Notices) จากน้ันเช็คจานวนสินค้า และหาพื้นที่สาหรับ จัดเก็บสินค้า (Location) เม่อื เชค็ จานวนสินคา้ และหาพน้ื ทสี่ าหรบั จดั เกบ็ สนิ คา้ ได้แล้ว ก็ทาการออกเอกสารคาส่ังจดั เก็บ 157
การประชุมสมั มนาเชงิ วชิ าการด้านการจดั การโลจสิ ตกิ ส์และโซอ่ ุปทาน ครงั้ ท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 สินค้า (Print Label) จากนั้นประกาศเรียกรถขนสินค้า ให้นารถมาเทียบประตูเพ่ือทาการนาสินค้าลง (Unload) โดยใช้วิธียก ลงทางด้านข้าง และใช้พ้ืนที่ 2 ประตูในการโหลดสินค้า ดังรูปที่ 6 เมื่อนาสินค้าลงจากรถเรียบร้อย พนักงานจัดเก็บ (Shipping) จะนาสินค้าไปจัดเก็บในพื้นท่ีที่ได้กาหนดไว้ โดยแสดงแผนภูมิกระบวนการทางานของขั้นตอนการดาเนินการ รับเขา้ สนิ ค้า ดงั รปู ที่ 1 ส่วนขนั้ ตอนการดาเนินการโหลดสินค้าสง่ ออก จะมีขนั้ ตอนดาเนินการ ดงั รูปที่ 2 รูปท่ี 6 แสดงวธิ ยี กสินค้าลงทางดา้ นขา้ ง และใช้พ้นื ท่ี 2 ประตูในการโหลดสินค้า 3.2 รวบรวมข้อมลู ปญั หาในขนั้ ตอนการดาเนินการรบั เขา้ สินคา้ และข้ันตอนการโหลดสนิ ค้าสง่ ออก ในข้ันตอนนผ้ี วู้ ิจัยไดร้ วบรวมปัญหา เพ่ือหาสาเหตุท่ที าใหร้ ถที่มาลงสนิ คา้ หรือโหลดสินค้าส่งออกต้องรอนาน ทาให้ เกิดเวลาสูญเปล่าของการดาเนินการ (Operation) ในเกล่ียงานการโหลดสินค้า (Loading) โดยทาการรวบรวมข้อมูลของ จานวนการรับเข้า และส่งออกสนิ ค้าในช่วงเดอื นมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2559 และแสดงข้อมูลกาลังการปฏิบัตงิ าน จรงิ ในการการรับเขา้ และส่งออกสนิ คา้ โดยเฉลี่ย ดังตารางที่ 1-2 ตารางท่ี 1: ข้อมูลของจานวนการรับเข้า และสง่ ออกสนิ คา้ เดอื น สนิ ค้ารับเขา้ (เทีย่ ว) สินคา้ ส่งออก (เทยี่ ว) สินคา้ รวม (เท่ียว) มกราคม 1,763 1,391 3,154 กุมภาพนั ธ์ 2,151 1,776 3,927 มนี าคม 3,372 2,480 5,852 เมษายน 2,942 2,331 5,273 พฤษภาคม 2,248 1,813 4,061 ตารางท่ี 2: ขอ้ มลู กาลังการปฏิบัตงิ านจรงิ ในการการรบั เขา้ และส่งออกสินค้าโดยเฉลยี่ กจิ กรรม จานวนการขน จานวนการขน จานวนการขน (เทย่ี ว/ชม.) (เทย่ี ว/วัน) (เที่ยว/เดือน) สนิ คา้ รับเขา้ สนิ ค้าสง่ ออก 6 96 2,496 6 96 2,496 รวม 12 192 4,992 158
การประชุมสัมมนาเชงิ วิชาการด้านการจดั การโลจิสตกิ สแ์ ละโซ่อุปทาน คร้งั ที่ 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 ซ่ึงเมื่อพิจารณาจากตารางท่ี 1 และ 2 พบว่า ในเดือนมีนาคม และเดือนเมษายนมีการโหลดท่ีเกินกาลังการ ปฏิบัติงานจริงประมาณ 555 เที่ยว สถานการณ์นี้ก่อให้เกิดต้นทุนที่สูงขึ้นในจากการปฏิบัติงานล่วงเวลา (Over Time) ของพนกั งาน และตน้ ทนุ ขนส่งทเ่ี พิ่มข้ึน ตารางท่ี 3: ขอ้ มลู ปัญหาปรมิ าณท่ีท้งั ในขน้ั ตอนการรับเขา้ และโหลดสินคา้ สง่ ออกในแตล่ ะวนั โดยเฉลี่ย เวลา รับเข้าสนิ ค้า ส่งออกสนิ ค้า กาลังการผลติ 12 คันตอ่ ช่ัวโมง เกินกาลงั การผลติ 7:00 น. -8 8:00 น. 22 12 -8 9:00 น. -5 10:00 น. 04 12 1 11:00 น. 2 12:00 น. 34 12 -12 13:00 น. 6 14:00 น. 94 12 -1 15:00 น. 0 16:00 น. 95 12 10 17:00 น. -2 18:00 น. 00 12 -12 19:00 น. 3 20:00 น. 15 3 12 -4 21:00 น. -4 22:00 น. 74 12 -4 23:00 น. -6 00:00 น. 84 12 -12 22% 16 6 12 46 12 00 12 87 12 08 12 08 12 08 12 06 12 00 12 คิดเปน็ % เกนิ กาลงั การผลติ และจากตารางที่ 3 ข้อมูลปัญหาปริมาณที่เกินกาลังการผลิตทั้งในข้ันตอนการรับเข้าและโหลดสินค้าสง่ ออก ในแต่ละ วันโดยเฉล่ีย ซ่ึงคิดเป็น 22 % ท่ีเกิดปัญหาปริมาณท่ีเกินกาลังการผลิต และจากการวิเคราะห์แผนภูมิกระบวนการไหลของ ข้ันตอนการรับเข้าสินค้า และใช้ผังก้างปลาจากการระดมสมองความคิดเห็นจากหัวหน้าฝ่ายคลังสินค้าและพนักงาน รวบรวบ สาเหตุข้นั ตอนการโหลดสินคา้ รับเขา้ และส่งออก ดังรูปท่ี 7 และตารางท่ี 4 159
การประชุมสัมมนาเชงิ วิชาการด้านการจดั การโลจสิ ติกส์และโซ่อุปทาน คร้ังท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควิชาวศิ วกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 รปู ท่ี 7 รวบรวบสาเหตขุ ้ันตอนการโหลดสนิ ค้ารับเข้าและสง่ ออกโดยใช้ผงั กา้ งปลา ตารางท่ี 4: แสดงรายละเอยี ดปญั หาจากแผนผงั กา้ งปลาในคลงั สนิ คา้ ปญั หาหลัก ปญั หารอง รายละเอียด วธิ ีการ ขอ้ จากดั ในการปฏิบัติงาน ใชป้ ระตู 2 ประตูในการโหลดสินค้า 1 คนั การควบคุมการปฏิบัติงาน รถขนส่งสนิ คา้ เข้ามาในชว่ งเวลาเดยี วกนั เป็นจานวนมาก ทาให้เกนิ สภาพแวดล้อม กาลงั การผลิต ชนดิ รถสินค้าแตกต่างกนั เน่ืองจากทางขนส่งจัดการชนดิ รถสนิ ค้ายังไม่ไดร้ ูปแบบเดยี วกนั เคร่อื งจกั ร รถสนิ คา้ เขา้ มาพร้อมๆกนั เนื่องจากลูกคา้ มาจากหลายที่ แลว้ เดนิ ทางมาถงึ พรอ้ มกัน คน เครอ่ื งจกั รมีการทางานเป็นคอขวด ข้นั ตอนการทางานยังมจี ุดรอคอยงาน ทาให้งานไม่ไหลอยา่ งต่อเน่อื ง การทางานตามความเคยชิน ไมป่ ฏบิ ัติตามวธิ กี ารทางาน ความไม่สม่าเสมอในการทางาน มกี ารรอคอยงานเกดิ ขึ้น จากรถท่ีเขา้ มาไมส่ ม่าเสมอ จากการวิเคราะห์ปัญหาข้างต้น พบปัญหาหลัก คือ วิธีการ โดยมีปัญหารอง คือ ข้อจากัดในการปฏิบัติงาน เนื่องจาก การโหลดสินค้าหรอื ลงสนิ ค้า ใชป้ ระตู 2 ประตูในการโหลดสนิ คา้ 1 คนั และการควบคุมการปฏบิ ตั งิ าน โดยรถขนสง่ สินคา้ เข้า มาในช่วงเวลาเดียวกันเป็นจานวนมาก ดังตารางที่ 3 จึงทาเกิดการรอคอยในการรบั สนิ ค้า และโหลดสินคา้ ส่งออก ซ่ึงหากไม่ ดาเนินการแก้ไข 2 ปญั หานี้ จะส่งผลกระทบตอ่ ตน้ ทนุ ในการบริหารคลงั สินค้าทสี่ ูงข้นึ ทั้งนี้ผวู้ ิจยั ใชแ้ ผนภมู ิพาเรโต ช่วยในการ วิเคราะหข์ อ้ มลู จากการเก็บข้อมลู จานวนเทย่ี วรถท่ีเกดิ ปัญหาจากการสุ่มทงั้ หมด 50 เทีย่ วรถ พบวา่ มี 22 เทยี่ วรถทพ่ี บปัญหา โดยแสดงขอ้ มูลรายละเอยี ดของปญั หาและจานวนเที่ยวรถ ดังตารางท่ี 5 และรูปที่ 8 ตารางท่ี 5: แสดงขอ้ มลู ปญั หาวธิ กี ารการดาเนนิ การรับเข้าสนิ คา้ และขั้นตอนการโหลดสนิ คา้ ส่งออก รายละเอียดปญั หา จานวนเทีย่ ว ร้อยละของปญั หา ร้อยละสะสมท้งั หมด ขอ้ จากัดในการปฏบิ ัตงิ าน 15 68 68 การควบคุมการปฏิบตั ิงาน 7 32 100 160
การประชุมสมั มนาเชิงวชิ าการด้านการจัดการโลจิสติกสแ์ ละโซ่อปุ ทาน คร้งั ที่ 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 รปู ท่ี 8 การวเิ คราะหป์ ัญหาโดยใชแ้ ผนภูมิพาเรโต ดงั นน้ั ถ้าสามารถปญั หาวิธีการการดาเนินการรับเขา้ สนิ ค้า และขนั้ ตอนการโหลดสนิ คา้ สง่ ออกได้ จะสามารถขนถา่ ย สินค้าได้มากขึ้นกว่าเดิม ก็จะสามารถเพิ่มกาลังการผลิตได้มากข้ึน ผู้วิจัยจึงนาทฤษฎีการขนถ่ายวัสดุ มาประยุกต์ในการ ดาเนนิ การรับเข้าสนิ คา้ และขน้ั ตอนการโหลดสินคา้ สง่ ออก 3.3 ทดสอบวิธีการขนถา่ ย และกาหนดปัจจัยในการวัดผล วิธีการกระบวนการดาเนนิ การขนถ่ายแบบใหม่ จากการวิจัยในกรณีการศึกษาบริษัทนี้ ได้ดาเนินการแก้ปัญหา โดยใช้หลักการปรับปรุงวิธีการขนถ่าย โดยเริ่มจาก การใช้วิธีการลดความสูญเปล่าด้วยเทคนิคการปรับปรุงงาน ช่วยในการเพิ่มผลิตภาพของการดาเนินงาน หลังจากน้ันใช้หลัก ทฤษฎีการขนถ่ายวัสดุ โดยทาการปรับปรุงวิธีการขนถ่ายจากเดิมที่ เปล่ียนเป็นวิธีการขนถ่ายเป็นการขนถ่ายสินค้าขึ้นและลง ทางด้านหลงั (Back Load) ในข้ันตอนการทดสอบใช้อุปกรณ์การขนถา่ ย คือ รถยกลาก จานวน 2 คัน แรงงาน จานวน 2 คน ดังรูปที่ 6 ส่วนในการวดั ผล ได้ทาการวัดจากกาลงั การผลิตในการรับเข้า และส่งออกสนิ ค้า และวัดผลเวลาท่ีใช้ในการขนถา่ ย โดยใช้วธิ ีการยกลงและยกข้นึ ทางดา้ นหลัง ดังรปู ที่ 9 รปู ท่ี 9 แสดงวิธกี ารรบั เขา้ สินค้า และการโหลดสินค้าสง่ ออกแบบใหม่ 161
การประชมุ สัมมนาเชงิ วชิ าการด้านการจดั การโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน คร้งั ที่ 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวศิ วกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 ตารางที่ 6: แสดงเวลาในการทดสอบโดยใช้วิธกี ารยกลงและยกข้นึ ทางดา้ นหลงั ลาดบั พนักงานขับรถ ประเภทสินค้า เวลาในการโหลด (นาท)ี 12 1 ศรชัย นา้ 600ml. 12.3 12.3 2 เพชรนริณ Oishi รสข้าวญี่ปนุ่ 380ml. 10.22 11.5 3 วิชยั Oishi รสตน้ ตารบั 500ml. 10.06 10.17 4 บญุ พบ น้า 600ml. 11 11.8 5 อรุณ Oishi รสข้าวญี่ปนุ่ 500ml. 6 ขวญั ชยั Oishi รสข้าวญ่ปี ุ่น 500ml. 7 บูรณะ นา้ 600ml. 8 สาราญ นา้ 600ml. Time Average.(Min) 4. ผลการดาเนนิ งาน งานวิจัยน้ีจากการปรับปรุงวิธีการขนถ่ายสินค้า รับเข้าสินค้า และข้ันตอนการโหลดสินค้าส่งออก โดยใช้วิธีการขน ถ่ายเปน็ การขนถา่ ยสนิ ค้าข้ึนและลงทางดา้ นหลัง พร้อมจับเวลา ได้ผลดงั ตารางท่ี 6 พบวา่ ใช้เวลาประมาณ 11.8 นาที ในการ รับเขา้ และโหลดสนิ ค้า โดยใช้คนในการทางาน 2 คน เม่ือนามาเปรียบเทียบกับการดาเนินการรับเข้าสินค้า และการโหลดสินค้าสง่ ออกแบบด้านข้าง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 นาที ในการรบั เขา้ และโหลดสินค้า แตใ่ ช้คนในการทางาน 3 คน ซงึ่ ผลการทดลอง ดงั ตารางที่ 7 ซงึ่ จะเหน็ วา่ จากจานวน คน 6 คน การดาเนินการด้วยวิธีขนถ่ายแบบด้านข้างใช้คน 3 คนต่อทีม ทาให้ได้ 2 ทีม ใช้เวลา 10 นาทีต่อทีมต่อรถหนงึ่ คนั ทาให้สามารถรบั สินค้าและสง่ ออกสินค้าได้ 12 เที่ยวต่อชั่วโมง ส่วนวิธีขนถ่ายแบบด้านหลังใช้คน 2 คนต่อทีม ทาให้ได้ 3 ทีม ใช้เวลา 11.8 นาทีต่อทีมต่อรถหน่งึ คัน ทาให้สามารถรับสินค้าและส่งออกสินค้าได้ 15 เท่ียวต่อช่ัวโมง ซ่ึงทาให้กาลังการผลติ จากเดิม 192 เที่ยวตอ่ วัน เพมิ่ เป็น 240 เท่ยี วตอ่ วนั ตารางที่ 7: การเปรยี บเทียบการดาเนินการรับ และการโหลดสินค้าส่งออกแบบด้านข้าง และแบบด้านหลงั วิธกี ารขนถา่ ย พนักงานต่อกะ พนกั งานต่อทีม เวลาทใี่ ชโ้ หลด จานวนเที่ยว/ชว่ั โมง จานวนเท่ยี ว/วนั (คน) (นาท)ี (คน) 3 10 = (60/10)*2 =12 = 12*16 =192 2 11.8 = (60/11.8)*3 =15 = 15*16 =240 แบบด้านขา้ ง (ปจั จบุ นั ) 6 แบบดา้ นหลงั (ใหม่) 6 *** 1 วันทางาน 2 กะ เป็นเวลา 16 ชวั่ โมง 5. สรปุ ผล จากปัญหาของบริษัทขนส่งเครอ่ื งดื่มกรณศี ึกษา ในการรับเข้าและโหลดสนิ ค้าส่งออกของคลังสนิ ค้า ซ่ึงจานวนรถที่ เขา้ มาโหลดสินค้าเพ่ิมมากขึน้ ตามการเตบิ โตของธุรกจิ ปัจจบุ นั ในการปฏิบัตงิ านสามารถโหลดสินคา้ ท้ังรบั เข้าและส่งออกเฉล่ีย ประมาณ 12 คันต่อช่ัวโมง ซ่ึงมีปัญหาปรมิ าณสนิ ค้าท่ีรับเขา้ และส่งออกมากกกว่ากาลงั การผลติ ถึงประมาณ 22% ทางผวู้ ิจัย จึงสนใจศกึ ษาเพื่อเพิ่มผลติ ภาพและกาลังการผลิตในการดาเนินการรบั เข้าและส่งออกของคลังสนิ คา้ เครื่องด่ืมน้ี ให้สงู ขนึ้ ด้วย วิธีการปรับปรุงการดาเนนิ การขนถา่ ย โดยประยกุ ตท์ ฤษฎกี ารขนถ่ายวัสดุมาใชใ้ นการแกป้ ัญหา หลังจากการดาเนนิ การแกไ้ ข 162
การประชุมสมั มนาเชิงวิชาการด้านการจดั การโลจิสติกสแ์ ละโซอ่ ุปทาน ครง้ั ที่ 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควิชาวิศวกรรมอตุ สาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 พบว่า สามารถโหลดสนิ คา้ ท้ังรบั เข้าและส่งออก ได้เพ่ิมกาลงั การผลิตจากเดมิ เฉลีย่ ประมาณ 12 คันต่อช่ัวโมง เพ่ิมขึ้นเป็น 15 คันตอ่ ชวั่ โมง คดิ เป็น 25% จากเดมิ 6.ข้อเสนอแนะ จากงานวิจยั นี้ เนอ่ื งจากเมื่อนาไปปฏิบตั ิงานจริง ในปัจจบุ ัน สามารถแก้ไขกาลังการผลติ ไดเ้ พิม่ ข้นึ ถึง 25% จากเดมิ เนื่องด้วยปัจจัยต่างๆ เช่น ชนิดของรถท่ีเข้ามาส่งและรับสินคา้ ซึ่งปัญหาในส่วนน้ีสามารถนาไปทาวิจัยตอ่ ยอด ได้ ในการช่วย ให้การดาเนินทางธุรกิจเติบโตได้อย่างต่อเน่ืองในอนาคต 7. กติ ตกิ รรมประกาศ งานวจิ ยั นข้ี อขอบคณุ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ โลจิสติกส์ จากดั ที่ให้การสนับสนุนดา้ นขอ้ มลู และความร่วมมอื ในการ ดาเนนิ งานเป็นอย่างดมี าโดยตลอดการทาวิจยั นี้ เอกสารอ้างอิง [1]จันทร์ศิริ สิงห์เถ่ือน (2551). บทท่ี8: การวิเคราะห์กระบวนการ Process Analysis, [ระบบออนไลน์], แหล่งที่มา http://pirun.ku.ac.th/ ~fengcsr/courses/2008_01/206341/ch8.pdf, เข้าดเู ม่ือวนั ที่ 18/11/2559 [2] เรืองศักดิ์ แกว้ ธรรมชัย (2554). การปรบั ปรุงกระบวนการทา้ งาน, เอกสารประกอบการบรรยาย.มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ [3] วรี พจน์ ลือประสิทธ์สิ กลุ (2544). The QC Story and 7 QC Tools, กรุงเทพฯ: บีพีอาร์ แอนด์ทีควิ เอ็มคอนซัลแทนท์ [4] กัญจนา เบ็ญจศิริวรรณ (2551). การศึกษาวิธีการท้างานและการปรับปรุงโลจิสติกส์ภาคการผลิตชิ้นผลิตช้ินส่วน เฟอร์นิเจอร์ไม้, วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบณั ฑติ สาขาการจัดการโซอ่ ุปทานแบบบูรณาการ บัณฑิตวิทยาลยั มหาวิทยาลยั ธุรกิจบัณฑิตย์. [5] กรกฎ ใยบัวเทศ ทิพยาวงศ์ (2558). Materials Handling and Storage Equipment. [ระบบออนไลน์], แหล่งท่ีมา http://ie.eng.cmu.ac.th/IE2014/elearnings/2015_01/164/Chapter%2004_%20Mat%20Handling%20n%20s torage%20equipment.pdf, เข้าดูเมอ่ื วนั ท่ี 2/11/2559 163
การประชุมสมั มนาเชงิ วชิ าการด้านการจัดการโลจสิ ตกิ ส์และโซอ่ ุปทาน ครั้งท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวศิ วกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 Topic C: Inventory and Warehouse Management Paper ID: IW 11 การเพิม่ ประสิทธิภาพการบรหิ ารคลังสินคา้ และการกาหนดกลยทุ ธเ์ พ่อื สรา้ งความไดเ้ ปรียบทางการแขง่ ขนั กรณีศกึ ษา บรษิ ทั TTT จากดั ศิราภรณ์ วิเศษพล1*, สถาพร อมรสวสั ด์ิวัฒนา2 1* บณั ฑติ วิทยาลยั สาขาวิชาการจดั การโลจสิ ติกส์ คณะบริหารธรุ กิจ มหาวทิ ยาลยั หอการค้าไทย โทร 094-7972989 E-mail [email protected] 2 สาขาวิศวกรรมโลจิสติกส์ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั หอการคา้ ไทย โทร 089-1709224 E-mail [email protected] บทคดั ยอ่ การศึกษาคร้งั นี้มีวตั ถปุ ระสงค์ คือ เพอื่ ปรับปรงุ กระบวนการทางานของคลงั สนิ ค้าให้มปี ระสทิ ธภิ าพ และการกาหนด กลยุทธ์เพ่ือให้ธุรกิจสามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน โดยผู้วิจัยได้ทาการศึกษาและเก็บรวมรวมข้อมูล พบสาเหตุ ของปัญหาการบริหารคลงั สินคา้ ที่ไม่มีประสทิ ธิภาพ ซึ่งประกอบไปด้วย การมีสินค้าคงคลงั ในปรมิ าณท่ีสูง พนักงานมีขั้นตอน ในการทางานไม่มีเป็นระบบ ทาให้เกิดความผิดพลาด และสินค้าเสียหาย ไม่มีระบบการทา FIFO (First In First Out) ทาให้ สินค้าท่ีผลิตก่อนไม่ถูกนามาใช้ การวางสินค้าไม่เป็นระบบทาให้ค้นหาสินค้าเป็นเวลานาน โดยข้ันตอนในการดาเนินงานเริ่ม จากการจัดลาดับความสาคัญของสนิ ค้าแต่ละประเภทตามหลัก ABC Analysis การคานวณ Safety Stock, Min-Max Stock การออกแบบแผนผงั การจัดเก็บสินค้า การต้ังรหัสการจัดเกบ็ สนิ ค้า การทา Visual control เพ่ือให้ง่ายและลดเวลาในการนับ จานวนสนิ ค้า การปรับรปู แบบการผลติ และปรับปรุงกระบวนการในการรบั สนิ คา้ -จ่ายสินคา้ ให้มคี วามเป็นระบบและลดความ ผิดพลาด จากการศึกษาพบว่า การทางานของคลังสินค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถลดต้นทุนในการถือครองสินค้าลงได้ เท่ากับ 5,939,400 บาท และจากการทา Visual control ทาให้ลดเวลาในการนับสต็อกจาก 5 ชม.เหลือ 1 ชม. ลดจานวน พนกั งานในการนับจาก 9 คนเหลือ 5 คน มกี ารกาหนดค่า Safety Stock ,Min-Max Stock เพ่อื ใหง้ ่ายต่อการควบคุมปรมิ าณ สินค้าคงคลังของฝ่ายวางแผนการผลิต ทาให้สามารถควบคุมปริมาณสินค้าให้อยู่ในปริมาณที่กาหนด และไม่เกิดสินค้าขาด stock นอกจากน้ีการผวู้ ิจัยยังได้ทาการศึกษาศักยภาพขององค์กรแล้วกาหนดกลยุทธ์ทางธุรกจิ โดยเลอื กใช้กลยุทธ์เชิงรุก เพ่ือ เป็นการเพิ่มโอกาสทางการตลาดและขยายธุรกิจ สร้างความหลากหลายด้วยการนาเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น โต๊ะทางาน พลาสตกิ ตเู้ กบ็ เอกสาร ตู้เสือ้ ผ้าพลาสติก ไมร้ ะแนงที่ทาจากพลาสตกิ โดยการออกแบบเนน้ ใหง้ า่ ยต่อรปู แบบในการใชง้ านและ สะดวกต่อการเคลื่อนย้ายเพ่ือตอบโจทยค์ วามตอ้ งการของผบู้ ริโภคในปัจจุบนั คาสาคญั : คลงั สนิ คา้ ; ประสทิ ธภิ าพ; กลยทุ ธ์ 164
การประชมุ สัมมนาเชิงวิชาการด้านการจัดการโลจสิ ติกสแ์ ละโซ่อปุ ทาน คร้งั ท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควิชาวิศวกรรมอตุ สาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 1. ที่มาและความสาคัญ บริษัท TTT จากัด ดาเนินธุรกิจผลิตและจัดจาหน่ายประตูห้องน้า PVC ซ่ึงในอุตสาหกรรมพลาสติก PVC มีทิศทาง ขยายตัวอย่างตอ่ เนอื่ ง เน่อื งจากปจั จุบนั ผ้บู ริโภคหันมาใช้สินค้าประเภทพลาสตกิ มากขน้ึ เพราะมีน้าหนักเบาและมีความคงทน ราคาถกู เมอื่ เทยี บกับประตชู นิดอ่นื การแข่งขันในอุตสาหกรรมสูง ทัง้ ดา้ นต้นทุน ราคา คุณภาพ และการส่งมอบ วตั ถปุ ระสงค์ ของงานวิจัย เพื่อปรับปรุงกระบวนการทางานของคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพ และการกาหนดกลยุทธ์เพื่อให้ธุรกิจสามารถ สร้างความได้เปรยี บทางการแข่งขันรวมท้ังหาช่องทางในการเพิ่มยอดขายใหก้ ับธุรกิจ โดยปัญหาของธรุ กิจเกิดจากองคก์ รขาด ประสิทธิภาพในการบริหารคลังสินค้า ส่งผลให้ต้นทุนในการดาเนินงานสูงและมีผลกาไรลดลงตาม ประกอบกับยอดขายของ ธุรกิจคงท่ีเน่ืองจากธุรกิจไม่สามารถเพ่ิมส่วนแบ่งทางการตลาดให้สูงขึ้นจากสินค้าเดิมได้ จึงจาเป็นต้องหาแนวทางเพ่ือลด ต้นทุน รวมถึงกาหนดแนวทางเพ่ือเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ ปัจจุบันองค์กรมีรูปแบบการผลิตสินค้าเป็นแบบ Make to stock 90% ของปริมาณการผลิตทั้งหมด เน้นการผลิตเพื่อเก็บในปริมาณท่ีสูงเพ่ือป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนจากความ ต้องการของลูกค้า ทาให้เกิดเกิดต้นทุนในถือครองสินค้าสูงถึง 16,834,800 บาท ในด้านของการศึกษาสภาพแวดล้อมทั่วไป ของธุรกิจ และสภาพแวดล้อมทางการแข่งขัน ธุรกิจยังคงมีศักยภาพที่สามารถที่จะพัฒนาเพื่อเพ่ิมโอกาสทางการแข่งขันใน ตลาด โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาด โดยมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้ากลุ่มเดิมควบคู่ไปกับการหาตลาดใหม่ เพ่ือให้ องค์กรสามารถตอบสนองกับความต้องการของทุกกลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย และเพิ่มช่องทางในการจัดจาหน่าย ทาให้ธุรกิจ สามารถสรา้ งความไดเ้ ปรยี บทางการแขง่ ขันในอุตสาหกรรมน้ี 2. ทฤษฏีพน้ื ฐานและงานวจิ ยั ที่เก่ยี วขอ้ ง กฤษณ์ เดชอมร (2557) ได้ทาการศกึ ษาการปรับปรงุ ประสทิ ธภิ าพการจดั การคลังสนิ ค้า กรณีศึกษา โรงงานผลติ แป้ง มันสาปะหลังแปรรูป ผู้วิจัยได้เสนอการปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้า โดยมีการปรับปรุงแผนผังการเก็บสินค้า จากแบบจัดวางแบบสุ่ม (Random) เป็นการจัดวางสินค้าโดยใช้หลักการ ABC Classification และจัดวางสินค้าที่มีการ เคล่อื นไหวมากไว้ใกล้ประตเู พอื่ ลดระยะทางเฉล่ยี รวมในการหยิบสนิ คา้ ซงึ่ ส่งผลให้ต้นทุนที่เกิดจากกิจกรรมการหยบิ สินค้าเพอ่ื ส่งมอบลดลง ชุติมา ศักดาพิสุทธิ์ (2557) ได้ทาการศึกษาแนวทางการเพ่ิมประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้า กรณีศึกษา บริษัท KPK จากัด ผู้ศึกษาได้ทาการเก็บข้อมูลการดาเนินงานในคลังสินค้า และทาการศึกษา แนวทางการปรับเปลี่ยนวิธีการจัดวาง สินค้าในคลังสินค้า และความเป็นไปได้ในการใช้คลังสินค้าสาธารณะในการจัดเก็บสินค้าบางชนิด ผลการศึกษาพบว่า การ ปรบั เปลยี่ นแผนผังการจดั วางสินคา้ และแบ่งกลมุ่ สนิ ค้าตามหลักการ ABC Analysis เพ่ือให้ forklift สามารถเข้าถงึ สินคา้ ไดท้ กุ pallet จากเดมิ ท่ีต้องมกี ารเคลื่อนยา้ ยสนิ คา้ ทีอ่ ยดู่ า้ นนอกออกก่อนนนั้ ช่วยลดเวลาในการเคลอื่ นยา้ ยสินค้าลงได้ นระเกณฑ์ พ่มุ ชศู รี และโอฬาร กิตตธิ ีรพรชัย (2556) ไดท้ าการศกึ ษาระบบการจดั การคลงั สนิ คา้ โดยปัญหาที่พบคือ การจัดสง่ สินค้าไมต่ รงเวลา มีสาเหตุจากการเปลีย่ นแผนการผลิต การขาดทรพั ยากรการผลติ และการบรหิ ารจดั การคลงั สินคา้ ที่ไม่มีประสทิ ธิภาพ โดยวิธีการแก้ไขเป็นการนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือช่วยเหลอื ในการจัดการคลังสินค้ามาใช้ในการ เก็บข้อมูลและจัดการบริหารงานภายในคลังสินค้า เพ่ือให้การจัดการคลังสินค้ามีประสิทธิภาพ ลดความซ้าซ้อนในการหยิบ - จา่ ยสนิ ค้า และชว่ ยให้การการวางแผนการพฒั นาศักยภาพการทางานภายในคลงั สุรกิตต์ ศิลาสุวรรณ (2557) ได้ทาการศึกษาการเพ่ิมประสิทธิภาพการจัดการสินค้าคงคลังและการเพ่ิมขีด ความสามารถในการแข่งขนั ขององค์กร กรณีศึกษา บริษัทผลติ อาหารและเครอื่ งปรุงรส โดยผู้วิจัยทาการเข้าสังเกตการณแ์ ละ เกบ็ ข้อมูลในคลงั สินคา้ พบว่ามีการจดั ระบบในคลังสินคา้ ทไี่ มม่ ปี ระสทิ ธิภาพ ผูว้ ิจัยจึงไดน้ าทฤษฎีทเ่ี กีย่ วขอ้ งมาชว่ ยในการ 165
การประชมุ สมั มนาเชิงวิชาการด้านการจดั การโลจสิ ตกิ ส์และโซ่อปุ ทาน ครง้ั ท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควิชาวศิ วกรรมอตุ สาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 พัฒนาโดยศึกษาทฤษฎีการจัดระบบคลงั สินค้า ผลการศึกษาทาให้ทราบได้วา่ การจัดระบบการจัดการคลังสนิ ค้าเป็นไปอยา่ งมี ประสิทธภิ าพมากย่ิงขนึ้ 3. วิธกี าร การศึกษาคร้ังน้ีผู้ศึกษาได้ทาการวิเคราะห์ปัจจัยทางธุรกิจที่ทาให้ธุรกิจเกิดปัญหา และทาให้การทางานขาด ประสทิ ธิภาพ โดยทาการเก็บข้อมูลของบรษิ ทั TTT จากดั รายระเอยี ดของการศึกษาดังต่อไปนี้ 3.1 การวิเคราะหป์ ญั หา 3.1.1 ปัญหาด้านต้นทุน คือ ปริมาณสินค้าสาเร็จรูปที่จัดเก็บอยู่ในคลังสินค้าสูง ( 93% ของยอดขาย) และมี สินค้าที่ไม่เคลื่อนไหวนานเกิน 1 ปี อยู่ในคลังสินค้าปริมาณสูง จานวน 3,240 บาน มูลค่า 3,240,000 บาท รวมถึงต้นทุน สินค้าเสียหายระหว่างการขนยา้ ยและเวลาเกบ็ และจัดของสูง 3.1.2 ปญั หาด้านเวลา ใชเ้ วลาในการค้นหาสนิ คา้ และการเชค็ สต็อกนาน 3.1.3 ปัญหาด้านความผิดพลาด ข้ันตอนในการทางานไม่มีเป็นระบบ ทาให้เกิดความผิดพลาด และสินค้า เสียหาย 3.2 การวิเคราะหส์ าเหตขุ องปญั หาคลังสินค้า ผู้ศึกษาได้ทาการวิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุตามแนวคิดทฤษฎีแผนผังก้างปลา Cause and Effect Diagram โดย สามารถแสดงไดด้ ังนี้ รูปท่ี 1 :แสดงการวเิ คราะหป์ ญั หาและสาเหตตุ ามแนวคดิ ทฤษฎีแผนผังก้างปลา จากรูปที่ 1 สามารถสรุปสาเหตุท่ีสาคัญของปัญหาการบริหารคลังสินค้าไม่มีประสิทธิภาพ ส่วนใหญ่เป็นปัญหาด้าน ตน้ ทุนในการถือครอง รวมถึงวธิ ีการในทางานท่ียงั ไมเ่ ป็นระบบส่งผลทาให้ใช้เวลาในการทางานนาน 3.3 แนวทางในการแกไ้ ขปญั หา จากการวเิ คราะห์ปญั หาท่เี กดิ ขึน้ ทัง้ 3 ดา้ น ประกอบด้วยดังนี้ 3.3.1 ด้านต้นทนุ ในการบรหิ ารคลงั สนิ ค้า มสี าเหตมุ าจากการเก็บสนิ คา้ มากเกนิ ไปขาดการคานวณปริมาณใน การเก็บท่ีเหมาะสมกับความต้องการ รวมถึงไม่รู้ความต้องการท่ีแท้จริง ทาให้สินค้าที่ผลิตออกมาไม่ได้ขายเกิดเป็น Dead Stock ทมี่ ีมลู ค่าสงู โดยแนวทางในการแก้ไขได้มกี ารนาขอ้ มูลความตอ้ งการของลกู ค้ามาทาการวิเคราะห์ และจดั ทา Forecast 166
การประชมุ สมั มนาเชงิ วชิ าการด้านการจดั การโลจิสตกิ ส์และโซ่อปุ ทาน ครง้ั ท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวศิ วกรรมอุตสาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 รวมถึง คานวณ Safety Stock ,Min-Max เพ่ือให้สินค้าถูกเก็บในปริมาณที่เหมาะสมและสามารถตอบสนองต่อความตอ้ งการ ของลกู ค้าได้ 3.3.2 ด้านเวลา มีสาเหตุมาจากสินค้ามีปริมาณท่ีมากประกอบกับไม่มีการระบุตาแหน่งที่ตั้งของสินค้าท่ี ชัดเจน รวมถึงแผนผังในคลังสินค้าเข้าออกได้ทางเดียวทาให้ใช้เวลานาน ท้ังการเช็คสต็อก และจัดเก็บ การหยิบ สินค้า แนวทางในการแก้ปัญหา คอื การออกแบบ Layout ใหม่ พร้อมกาหนดรหสั ในการจดั เกบ็ สินคา้ และ ทา Visual control การ ปรับรูปแบบการผลติ ใหส้ อดคล้องกบั Capacity ของคลังสินค้า 3.2.3 ดา้ นความผดิ พลาด สาเหตุเกดิ จากการทางานท่ไี มเ่ ปน็ ระบบ รวมถึงไม่มขี ั้นตอนในการทางานท่ีชัดเจน แนวทางในการแกไ้ ขปญั หา การปรบั ปรงุ วิธกี ารและข้นั ตอนในการทางานใหม่ และอบรมและใหค้ วามรเู้ กย่ี วกับบรหิ ารหาร คลงั สนิ ค้าอย่างมปี ระสิทธภิ าพ เชน่ การนาระบบเขา้ กอ่ นออกก่อน (First In First Out : FIFO) มาใชใ้ นการปฏิบัตงิ านของ พนักงาน รวมถึงการนาเทคโนโลยมี าใช้ในการทางาน เชน่ คอมพวิ เตอร์ และระบบบารโ์ คด้ 4. ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล 4.1 จัดกลุม่ สินค้า ตามแนวคดิ ABC Analysis จากการจัดกลุ่มสินค้าโดยแยกตามการหมุนเวียนภายในคลังสินค้า ซ่ึงแบ่งออกเป็นกลุ่ม A ,B และC ทาให้ทราบว่า ปัจจุบันองค์กรมีสินค้ากลุ่ม A อยู่ 13 รายการ แต่มีอัตราการหยิบใช้สูงสุดจึงควรตรวจนับเป็นประจาเน่ืองจากสินค้ามีการ หมุนเวียนเร็ว และยังมีผลต่อพ้ืนที่การวางสินค้าหรือตาแหน่งในการวาง คือ สินค้า A ต้องถูกวางอยู่บริเวณที่ใกล้ประตูมาก ที่สุดเน่ืองจากมีการหยิบใช้บ่อยถ้าอยู่ไกลอาจมีผลต่อระยะทางและการเคล่ือนไหวเพราะย่ิงมีการเคล่ือนไหวมากย่ิงเสียเวลา และค่าใช้จา่ ยมาก เชน่ ค่าใช้จา่ ยของน้ามนั รถโฟลค์ ลิฟท์ เปน็ ตน้ ซ่ึงชว่ ยแกไ้ ขปญั หาด้านเวลาในการหยิบ การจัดเกบ็ สินคา้ ได้ ง่ายขึ้น 4.2 การคานวณ Forecast ,Safety Stock ,Min-Max คร้งั นผี้ ูว้ ิจัยได้ทาการคานวณ Forecast โดยเลอื กวิธที ่ีให้ค่าความผดิ พลาดน้อยท่สี ุด คอื Exponential Smoothing และหา Safety Stock ของรายการสินค้ากลุ่ม A เน่ืองจากมีการเคลื่อนไหวบ่อยและต้องคอยควบคุมตลอด โดยได้กาหนด Lead time 5 วัน Service Level(85%) เน่อื งจากมตี ้นทนุ ที่ต่าท่ีสดุ และไม่เกิดสินค้าขาด ซึ่งวิธนี ี้ช่วยแก้ไขปัญหาดา้ นต้นทุน ในการถือครองท่ีสงู รวมถงึ ลด Dead Stock ได้ 4.3 ออกแบบ Layout ใหม่ การตั้งรหัสในการจัดเก็บของสินค้า และ ทา Visual control ออกแบบ Layout ใหม่ การออกแบบแผนผังของ คลังสินค้าใหม่โดยการตัดช่อง Rack B และ C บริเวณหน้าประตู 2 เพ่ือให้สินค้าทุกตัวสามารถใช้ทางออกประตู 2 ได้จะช่วย ลดระยะทางและระยะเวลา และยังไปการกระจายสินค้าให้ออกทั้ง 2 ประตูไดเ้ ท่าๆกันเพือ่ ไม่ให้เกิดการรอคอย นอกจากนีย้ งั สามารถเพิม่ capacity ในการเกบ็ ไดเ้ พมิ่ อีก 167
การประชุมสมั มนาเชงิ วชิ าการด้านการจัดการโลจิสตกิ สแ์ ละโซอ่ ุปทาน ครงั้ ที่ 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวศิ วกรรมอตุ สาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 Before After ภาพท่ี 2 การวางแผนผังแบบเดมิ และแบบใหม่ 4.3.1 การก้าหนดรหสั ในการจัดเกบ็ สนิ ค้า โซน : A ชนั้ : 1 ช่อง : 10 รุ่น : 001-72-C-D ภาพที่ 3 : ตวั อยา่ งการกาหนดรหสั ในการจดั เก็บสนิ คา้ 4.3.2 การทา้ Visual control การทาสญั ลักษณ์เพื่อใหง้ ่ายตอ่ การจดจาและเสื่อสาร ผวู้ ิจยั ได้นาสมี าใชใ้ นการกาหนด Visual control แทน การนับจานวนโดยจะเรียงเปน็ สลี ะ 10 บาน สงู สุดไม่เกิน 40 บาน เพือ่ ชว่ ยใหก้ ารนบั จานวนมีความเรว็ มากยิ่งขนึ้ จากการแกไ้ ขปญั หาตั้งแตแ่ นวทางท่ี 1-3 ทาใหส้ ามารถลดต้นทุนในการเกบ็ สินคา้ คงคลงั ลงได้ จากข้อมูลเดมิ ณ เดือน ก.ค.59 ก่อนเริ่มปรบั ปรุง มีต้นทนุ อยู่ที่ 16,834,800 บาท คิดเปน็ 93% ของยอดขาย จนเมือ่ ทาการเกบ็ ข้อมลู และ นาเสนอวธิ กี ารแกไ้ ขทาให้ปริมาณสินค้าคงคลงั เริ่มลดลงเร่อื ยๆ จนเมื่อเดือน ธ.ค.59 ลดลงเหลอื เพยี ง 10,895,400 บาท คิด 62% ของยอดขาย ซ่งึ ต้นทนุ ทล่ี ดไดเ้ ทา่ กบั 5,939,400 บาท ภาพที่ 4 : เปรยี บเทยี บต้นทนุ กอ่ นและหลงั ปรับปรงุ 168
การประชุมสมั มนาเชิงวชิ าการด้านการจดั การโลจิสติกส์และโซอ่ ปุ ทาน ครง้ั ที่ 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวศิ วกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 4.5 การวเิ คราะห์กาหนดกลยุทธ์เพือ่ สร้างความได้เปรยี บทางการแข่งขันเพ่ือเปน็ แนวทางในการเพิม่ ยอดขาย ผู้วิจัยการทาการเก็บรวบรวมข้อมลู แล้วนามาวิเคราะห์ พบว่า กลยทุ ธ์ที่จะทาใหธ้ ุรกิจสามารถแขง่ ขันได้และจะนาพา องคก์ รไปสู่ความสาเรจ็ คือ กลยทุ ธ์เชงิ รกุ โดยการออกผลติ ภณั ฑ์ใหม่ และการประเมนิ ความสามารถในการผลิตและพบวา่ ยัง สามารถรองรับการผลิตผลิตภณั ฑต์ ัวใหมไ่ ดโ้ ดยใช้กาลังการผลติ ท่ีเหลืออยู่ โดยนาเสนอตัวอยา่ งและแผนทางการตลาดดังน้ี 4.5.1 สว่ นผสมทางการตลาด - ผลติ ภณั ฑ์ ภาพที่ 5 : แสดงการออกแบบสนิ คา้ ใหม่ - ราคา : ใช้กลยทุ ธ์ Super-Value Strategy - ช่องทางการจัดจาหนา่ ย : ผรู้ ับเหมา, รา้ นขายเฟอร์นิเจอร์ , และรา้ นวัสดกุ ่อสร้าง , Modern trade และการจดั จาหนา่ ยแบบออนไลน์ - การสง่ เสรมิ การตลาด : การทาแผน่ พับ,ทาป้ายโฆษณา,การทา website 4.5.2 กลยุทธก์ ารตลาด (STP) - Market Segmentation : ตลาดธรุ กจิ B2B ,ตลาดธุรกิจ B2C - Market Targeting : ผูร้ ับเหมา,Modern trade,ร้านขายเฟอร์นเิ จอร์ และร้านวัสดกุ อ่ สรา้ ง - Market Positioning : กลยทุ ธ์เนน้ ความหลากหลาย และราคาถกู 5. สรุปและบทวิจารณ์ การศกึ ษาครั้งน้ี ผูว้ ิจยั ไดน้ าแนวคดิ ทางด้านโลจิสติกสม์ าใช้ในการวเิ คราะหป์ ญั หาสาเหตุ ตามแนวคดิ แผนผังของ สาเหตุและผล( Cause and Effect Diagram ) และนาเสนอแนวทางในการแก้ไขปญั หาท่เี กดิ ขนึ้ ของคลงั สนิ ค้า ซ่ึงผลการวิจยั ท่ีไดม้ ดี งั น้ี 5.1 สรุปผล 5.1.1 การจัดกลมุ่ ของสนิ คา้ ตามแนวคิด ABC ANALYSIS พบวา่ สินคา้ กลุม่ A มีทัง้ หมด 13 รายการ กล่มุ B 30 รายการ และกลมุ่ C 365 รายการ ซง่ึ จากขอ้ มลู สามารถนามาใช้ในการกาหนดพืน้ ที่ และการผลติ ใหม่ โดยกลุ่ม A วางใกล้ประตูทางออก และผลติ เพอื่ เกบ็ ในปรมิ าณทมี่ ากขน้ึ สว่ นกลมุ่ C เปลย่ี นรูปแบบการผลติ เป็น Make to order ทั้งหมดเพอื่ ลดต้นทุนในการจดั เก็บ เอาพื้นที่ส่วนทวี่ างสินคา้ C ไป เกบ็ สนิ ค้า A ทีห่ มนุ เวียนเรว็ แทนซึ่งสามารถลดตน้ ทนุ ในถือครองลง ก่อนปรบั ปรุงตน้ ทุน 16,834,800 หลงั ปรบั ปรงุ ลดลง เหลือ 10,895,400 169
การประชมุ สมั มนาเชงิ วชิ าการด้านการจดั การโลจิสตกิ ส์และโซอ่ ปุ ทาน ครง้ั ที่ 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควิชาวศิ วกรรมอุตสาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 5.1.2 การออกแบบแผนผงั คลังสินค้าใหม่ โดยการออกแบบการวางตามการเคลอ่ื นไหวของสินคา้ ตามกลมุ่ ABC โดยใหส้ ินคา้ A อย่ใู กลป้ ระตูมากท่ีสุด และ C อยู่ห่าง จากประตมู ากท่สี ดุ และไดท้ าการกาหนด Address ของคลังสนิ ค้าให้ชดั เจนตาม Zone และตามชือ่ รายการสนิ คา้ การทา Visual control เพือ่ ให้ง่ายตอ่ การนับจานวนสนิ คา้ และไดม้ กี ารเปรยี บเทยี บกอ่ นทากับหลงั ทาพบวา่ สามารถลดเวลาลงได้ จาก 5 ชม.เหลือ 1 ชม. และลดคนจาก 9 คน เหลอื 5 คน 5.1.3 การก้าหนดกลยทุ ธ์ เพ่ือสร้างความไดเ้ ปรยี บทางการแข่งขนั ผวู้ ิจยั เลอื กใชก้ ลยุทธเ์ ชงิ รกุ โดยการ นาเสนอผลติ ภณั ฑใ์ หม่ เนอื่ งจากเลง็ เหน็ ถึงโอกาสทางการตลาดและจากการประเมินกาลังการผลิตซง่ึ พบว่า มกี าลังการผลติ ท่ีสามารถนามาใช้ผลติ สนิ คา้ ตัวใหมอ่ อกสู่ตลาดได้ โดยตลาดเปา้ หมาย คอื ตลาดธรุ กิจ B2B ,ตลาดธรุ กจิ B2C ใช้กลยุทธร์ าคา แบบ Super-Value Strategy กอ่ นปรับปรุง หลงั ปรับปรงุ ปรบั ปรงุ ภาพที่ 6 : เปรียบเทียบก่อนปรบั ปรงุ และหลังปรบั ปรุง 5.2 ขอ้ เสนอแนะสาหรบั การศกึ ษาครง้ั นี้ 5.2.1 ดว้ นกระบวนการทา้ งานควรน้าเทคโนโลยเี ขา้ มาใชใ้ นการจัดการคลงั สนิ คา้ เช่น Barcode เพ่ือให้การ ทางานมคี วามรวดเรว็ และแม่นยามากข้นึ สามารถเข้าถงึ ขอ้ มูลของสนิ คา้ คงเหลือในคลงั ได้แบบ Real Time หรอื การนา Software สาเรจ็ รูป WMS มาใชใ้ นการจดั การข้อมลู ของคลงั สินคา้ 5.2.2 ดา้ นบคุ คลควรเพ่มิ เจ้าหนา้ ที่ทีม่ ีความเชีย่ วชาญเฉพาะด้าน มาดแู ลคลังสินคา้ เพ่อื ให้เกดิ การ กระบวนการทางานทเี่ ปน็ มาตรฐานและแนวทางในการปฏิบตั ทิ ีถ่ ูกตอ้ งและควรกาหนด KPI ในการทางาน ใหก้ ับเจา้ หน้าที่ คลังสนิ ค้าทุกคน เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความกระตอื รือรน้ ในการทางาน และเพอื่ จงู ใจให้เกดิ การพฒั นา เอกสารอ้างองิ การจัดลาดบั ความสาคัญของสินคา้ แนวคิด ABC Analysis, http://www.logisticscorner.com [5 ตลุ าคม 2559] ชุตมิ า ศกั ดาพสิ ทุ ธ์ิ, 2557, “การศกึ ษาแนวทางการเพิ่มประสทิ ธิภาพการจดั การคลังสนิ ค้า กรณีศึกษา บรษิ ัท KPK จากดั ” วิทยานพิ นธ์การศึกษามหาบณั ฑติ ,มหาวิทยาลยั หอการค้าไทย. นระเกณฑ์ พุ่มชศู รี, โอฬาร กิตติธรี พรชยั ,2556, “ได้ทาการศึกษาระบบการจดั การคลงั สนิ ค้า” วารสารวศิ วกรรมศาสตร์, คณะวศิ วกรรมศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั . รศ.ดร.วันชัย รัตนวงษ,์ 2554,“การพยากรณ์ (Forecasting)” ถอดรหัสโลจิสติกส์และซพั พลายเซน, กรุงเทพฯ :ไอทีแอล เท รด มีเดีย. 170
การประชมุ สัมมนาเชงิ วชิ าการด้านการจัดการโลจสิ ติกส์และโซ่อุปทาน ครัง้ ท่ี 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควิชาวศิ วกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 สรุ กิตต์ ศิลาสุวรรณ, 2557, “การศึกษาการเพิ่มประสทิ ธภิ าพการจดั การสนิ คา้ คงคลงั และการเพม่ิ ขดี ความสามารถในการ แขง่ ขันขององค์กร กรณศี กึ ษาบรษิ ัทผลิตอาหารและเครื่องปรงุ รส” วทิ ยานิพนธ์การศึกษามหาบณั ฑติ , มหาวทิ ยาลยั หอการคา้ ไทย. 171
การประชมุ สมั มนาเชงิ วิชาการด้านการจัดการโลจิสติกสแ์ ละโซ่อปุ ทาน คร้ังที่ 17 “Industry 4.0: Challenges, Innovation and Opportunity for Logistics and Supply Chain Management” ภาควชิ าวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ 19 – 23 ตุลาคม 2560 Topic C: Inventory and Warehouse Management Paper ID: IW 12 Application of Pull/ Kanban System to Reduce Inventory and Lead Time in a Manufacturing System Jia Qi Hwang1, Hasnida Ab-Samat2* 1 School of Mechanical Engineering, Universiti Sains Malaysia, 14300 Pulau Pinang, Malaysia Tel (+60) 13-4496068 Email [email protected] 2* Lecturer, School of Mechanical Engineering, Universiti Sains Malaysia, 14300 Pulau Pinang, Malaysia Tel (+60) 12-9235412 Email [email protected] ABSTRACT This paper focused on manufacturing lead time and inventory cost reduction in medium mix low volume production with Pull system or Kanban system. The production is a fixed position machine manual assembly line. The data collection was conducted by Gemba walk, interview, time study and from historical data. Manufacturing lead time and inventory level were chosen as a performance measure. In the design stage, a mixed pull system which consisted of Kanban system and sequential pull system were designed. Quantitative and qualitative approaches were used to decide the submodules and Kanban quantity. The optimization was done by integration of simulation and Design of Experiment with Taguchi Method. The work procedure, information and material transfer steps were designed according to the available human resource and their skill. The result after Kanban implementation showed 45.97% lead time reduction from 33.72 days to 20.17 days and 28.49% inventory cost reduction from RM 132857.14 to RM 9500.00. Keywords: Kanban system; Manufacturing lead time; inventory; mixed pull system 1. INTRODUCTION The two types of systems used for material flow or inventory control are pull system and push system. The traditional push system produces the parts according to the schedule where the preceding process supplies the parts to its subsequent process (Lee, 1989). Push system does no limit the amount of work in process(WIP) in the system. Thus, it has high tendency to store a large amount of inventory to ensure the capability to adapt the fluctuating customer demand (Hopp and Spearman, 2004). This system leads to dead stock, extra equipment, low utilization and surplus workers. (Monden, 1994). The pull system or Kanban system introduced by Toyota is to overcome the limitation of a push system. Kanban is also known as supermarket method as well because the concept of Kanban originates from the supermarket in America. The concept of Kanban is that subsequent process “buys” the material from the upstream process (Monden, 1994). This system eliminates people from withdrawing too much or too soon from the upstream process. (Lee, 1989). Kanban can be referred to a system of procurement or the signal issued for production to start (Krijnen, 2007). Kanban is one of the lead tools to create a continuous flow which encourages the realization of Just-In-Time (JIT) manufacturing. It means that all the processes have accurate timing and correct quantity. JIT manufacturing can eliminate the waiting and queueing that contribute to the increase of buffer and waiting time (Monden, 1994; Horbal et al, 2008) Thus, Kanban reduces the work in progress inventory (WIP) or buffer (Monden, 1994; Klipp, 2011). Kanban system also helps to visualize the work. If the problem is not solved, the whole line must be stopped. (Sacks, 2009) There are researchers mentioned that Kanban system is only suitable for repetitive production but gives a lower performance in high mix production (Hines et al, 2004; Krishnamurthy et al, 2004; Onyeocha, 2015; Melchert et al., 2006). However, the organization nowadays face a challenge in being responsive and flexible to dynamic changing demand. Horbal studied about the lean tools implementation; including Kanban in high mix production to decrease the inventory level and improve the material availability. The common problem faced by the companies using ERP system is the 172
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 649
Pages: