เล่ม 13 (2) เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม

22๘ กตป. คณะกรรมการติดิ ติามและประเมินผลการปฏิิบัตั ิงิ าน ม่จัำานวนมาก ทง�ั ในภารกิจัหลักและในเชงิ การประสานงาน และความร่วมมอ่ ระหว่าง หนว่ ยุงานอ่�นๆ ทม�่ ส่ ว่ นเกย�่ ุวขอ้ งกนั ในทกุ มติ ิิ ติลอดจันการแบัง่ พ�่นท�ค่ วามรับัผดิ ชอบั ของสาำ นกั งาน กสทช. ในแติล่ ะภาค เขติ เพอ่� บัรกิ ารสาธิารณะแกป่ ระชาชน ติามแผนและ ยุทุ ธิศาสติรข์ องสาำ นกั งาน กสทช. ซ็ง้� มภ่ าระงานเปน็ จัำานวนมาก เมอ�่ เทย่ ุบักบั ัขนาดพน�่ ท่� และอัติรากาำ ลังท่�ม่อยุ่ในความรับัผิดชอบัของแติ่ละภาค เขติ สาำ นักงาน กสทช. ทม่� อ่ ยุอ่ ยุา่ งจัาำ กดั เพอ�่ ใหก้ ารใหบ้ ัรกิ ารประชาชนสามารถี่ดาำ เนนิ การไดอ้ ยุา่ งเติม็ ท่� และ ทนั ติอ่ สถี่านการณ์ติ่างๆ จั้งเห็นควรใหม้ ่การเพม�ิ อตั ิรากาำ ลังของเจัา้ หน้าท�ใ่ หเ้ หมาะสม กับัภารกจิ ัในแติ่ภาค เขติ และให้มค่ วามครอบัคลมุ ในพ�น่ ท่� โดยุควรพิจัารณาใหม้ ่การ จัดั ติ�ัง กสทช. ประจัำาจัังหวดั ในจังั หวดั ท่ไ� ม่มส่ ำานกั งาน กสทช. ภาค และเขติ ในพน�่ ท�่ โดยุประจัำาท่�ศาลากลาง หร่อส่วนราชการในแติ่ละจัังหวัด เพ่�อรับัเร่�องราวร้องเร่ยุน การประชุมร่วมกันระหว่างหน่วยุงาน และการประสานความร่วมม่อติ่างๆ ให้ม่ ความรวดเร็ว ซ็ง้� ณ ปัจัจัุบััน สำานักงาน กสทช. ส่วนภ่มิภาคม่ขอ้ จัาำ กัด เชน่ ในพน�่ ท่� จัังหวัดท�่ไม่ม่ สาำ นักงาน กสทช. ภาค หร่อเขติในท�่ติ�ัง เจั้าหน้าท่�จัากภาคหร่อเขติ ติ้องเดินทางไปยุังอ่กพ�่นท่�ซ็้�งม่ความห่างไกลและติ้องใช้ระยุะเวลาในการเดินทาง จัง้ เป็นช่องวา่ ง และควรมก่ ารจััดติงั� กสทช. ในแติล่ ะจังั หวดั ใหม้ ค่ วามครอบัคลมุ พ�น่ ท�่ ถี่้งแม้ว่าในความเป็นจัริง เทคโนโลยุ่เข้ามาแทนท่�หร่อช่วยุในการดาำ เนินการติ่างๆ ได้ แติ่ในบัางภารกิจัยุังม่ความจัาำ เป็นติ้องอาศัยุอัติรากาำ ลังเจั้าหน้าท�่เพ�่อแก้ไขปัญหาและ ใหบ้ ัริการประชาชนอยุา่ งทั�วถี่้ง ๖.๓.๑๗ ปัญหาแลัะอุปสรรคุในการด้ำาเนินงานของคุณ์ะกรรมการติิด้ติามแลัะประเมินผู้ลัการ ปฏิบิ ตั ิิงาน (กติป.) โด้ย พนั เอก ด้ร.ธีนทั ำเมศึร์ ภัทำรณ์รงคุ์รัศึม์ กรรมการติดิ ้ติามแลัะประเมนิ ผู้ลัการปฏิบิ ตั ิิงาน ด้้านกจิ การโทำรคุมนาคุม ม่ข้อคุดิ ้เห็นแลัะข้อเสนอแนะทำ่�เก�ย่ วัขอ้ ง ด้งั น�่ ๑. สัด้สว่ ันจาำ นวันคุณ์ะกรรมการ กติป. กบั ภารกจิ ในการปฏิบิ ัติิหนา้ ทำ่�ติามกฎหมาย ติามมาติรา ๗๐ แหง่ พระราชบัญั ญตั ิอิ งคก์ รจัดั สรรคลน�่ ความถี่แ่� ละกำากบั ัการประกอบั กิจัการวิทยุุกระจัายุเส่ยุง วิทยุุโทรทัศน์ และกิจัการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และท�่แก้ไขเพ�ิมเติิม บััญญัติิให้ม่ คณะกรรมการ กติป. คณะหน้�ง ประกอบัด้วยุประธิานกรรมการหน้�งคนและกรรมการอ�่นอ่กจัาำ นวนส�่คน ซ็�้งเป็น ผ้่ม่ความร้่ความเช่�ยุวชาญหร่อประสบัการณ์ในด้านกิจัการกระจัายุเส่ยุง กิจัการโทรทัศน์ กิจัการโทรคมนาคม การคมุ้ ครองผบ้่ ัรโิ ภค และการสง่ เสรมิ สทิ ธิแิ ละเสรภ่ าพของประชาชน ซ็ง้� จัากการปฏิบิ ัตั ิหิ นา้ ทใ�่ นการติดิ ติามติรวจัสอบั และประเมินผลของคณะกรรมการติดิ ติามและประเมินผล กสทช. (กติป.) ติลอดวาระ ๓ ปีท�่ผ่านมา จัากภาระงาน ในการติิดติามติรวจัสอบัและประเมินผลติามหน้าท�แ่ ละอาำ นาจัของ กสทช. สาำ นักงาน กสทช. และเลขาธิกิ าร กสทช. ม่เป็นจัำานวนมาก คณะกรรมการ กติป. จัาำ เป็นอยุ่างยุ�ิงท่�ติ้องม่ผ้่ท่�ม่ความร้่ความเช่�ยุวชาญในด้านติ่างๆ ร่วมกัน เปน็ คณะกรรมการ เพ่�อให้การปฏิิบััติิหนา้ ท่�มค่ วามครอบัคลุมในทุกมติ ิิ เช่น ดา้ นกฎหมายุซ็�้งม่ความสำาคญั และ/หรอ่ ด้านอ่�นๆ ท่�จัำาเป็น เช่น ดา้ นเศรษฐศาสติร์ เน่�องจัาก กสทช. สาำ นกั งาน กสทช. และเลขาธิิการ กสทช. ดว้ ยุอำานาจั และหน้าท่�ติามกฎหมายุม่การดาำ เนินการและการบัริหารงานคาบัเก่�ยุวในหลายุมิติิท�่สำาคัญ ในด้านกฎหมายุ และ ด้านเศรษฐศาสติร์ด้วยุ แติ่คณะกรรมการติิดติามและประเมินผลการปฏิิบััติิงาน (กติป.) มิได้ม่กรรมการท�่ม่ ประสบัการณแ์ ละความเชย�่ ุวชาญครอบัคลมุ ในดา้ นดงั กลา่ ว เชน่ คณะกรรมการ กสทช. ทม่� ก่ รรมการทม�่ ค่ วามรค้่ วาม เช�่ยุวชาญทงั� ด้านกจิ ัการกระจัายุเส่ยุง กิจัการโทรทศั น์ กจิ ัการโทรคมนาคม การคุม้ ครองผบ้่ ัริโภค การสง่ เสริมสทิ ธิิ และเสร่ภาพของประชาชน ด้านกฎหมายุ และเศรษฐศาสติร์ ซ็้ง� เม�อ่ พจิ ัารณาสัดส่วนของคณะกรรมการติดิ ติามและ

22๙รายงานการติดิ ติามติรวจสอบัและประเมนิ ผลการปฏิิบัตั ิงิ าน กสทช. สำ�นักั ง�นั กสทช. และเลข�ธิิก�ร กสทช. ประจำ�ำ ปี ๒๕๖๔ ประเมนิ ผลการปฏิบิ ัตั ิงิ าน (กติป.) จัง้ ยุงั ไมค่ รอบัคลมุ กบั ัภารกจิ ัติามหนา้ ทแ�่ ละอำานาจัติามกฎหมายุ กรรมการติดิ ติาม และประเมนิ ผลการปฏิบิ ััติิงาน (กติป.) ด้านกิจัการโทรคมนาคม จั้งเหน็ วา่ ควรม่การแกไ้ ขบัทบััญญตั ิิกฎหมายุ มาติรา ๗๐ โดยุเพิ�มสัดส่วนของคณะกรรมการติิดติามและประเมินผลการปฏิิบััติิงาน (กติป.) ในด้านท่�ม่ประสบัการณ์และ ความเช่�ยุวชาญอ่�นๆ เช่น ด้านกฎหมายุ ด้านเศรษฐศาสติร์ หร่อด้านอ่�นใดท่�เห็นสมควร เพ�่อสอดคล้องกับัภารกิจั หน้าท่�และอำานาจัติามกฎหมายุ ติามความเป็นจัริงของคณะกรรมการฯ นอกจัากน�่การสรรหาคณะกรรมการ กติป. ซ็�้งติ้องนำาหลักการในส่วนของการสรรหา คณะกรรมการ กสทช. มาใชบ้ ัังคับั ซ็�ง้ ไดม้ ่การแก้ไขใหม่ ขณะทก�่ ารสรรหาคณะกรรมการ กติป. ยุังคงใช้หลักการเดมิ มิไดถ้ ี่่กแกไ้ ขเพิม� เติิมไปด้วยุ ๒. ระเบ่ยบในการสรรหาคุณ์ะกรรมการติิด้ติามแลัะประเมนิ ผู้ลัการปฏิบิ ตั ิงิ าน (กติป.) ไมส่ อด้คุลัอ้ งกบั บทำบัญญัติิกฎหมายในปจั จุบัน เม�่อคราวแก้ไขเพิ�มเติิม พระราชบััญญัติิองค์กรจััดสรรคล�่นความถี่�่และกำากับัการ ประกอบักิจัการวิทยุุกระจัายุเสย่ ุง วทิ ยุโุ ทรทศั น์ และกิจัการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ฉบับั ัท่� ๓ ปี ๒๕๖๒ ได้ยุกเลกิ ความติามมาติรา ๗๑ วัรรคุหา้ เรอ่� งคุา่ ใชจ้ ่ายในการสรรหาคุณ์ะกรรมการติดิ ้ติามแลัะประเมนิ ผู้ลัการปฏิบิ ตั ิงิ าน ติามระเบ่ยบทำ�่ กสทำช. กาำ หนด้ ซ็้ง� เปน็ ผลให้ระเบั่ยุบั กสทช. ในเร่�องคา่ ใช้จัา่ ยุในการสรรหา คณะกรรมการ กติป. ถี่่กยุกเลิกไปโดยุผลติามกฎหมายุด้วยุ ซ็้�งระเบั่ยุบัเก�่ยุวกับัค่าใช้จั่ายุในการสรรหาคณะกรรมการดังกล่าว ของ กสทช. เชอ่� มโยุง กบั ระเบย่ บวัฒุ ิสิ ภาทำเ�่ กย่� วัขอ้ งกบั คุา่ ใชจ้ า่ ยในการสรรหาคุณ์ะกรรมการติดิ ้ติามแลัะประเมนิ ผู้ลั การปฏิิบัติิงานทำ่�ยังใช้บังคุับอย้่บัญญัติิไวั้ในติอนทำ้าย ยังคุงบัญญัติิให้คุ่าใช้จ่ายในการสรรหาคุณ์ะกรรมการ กติป. กสทำช. เป็นผู้้ออกคุ่าใช้จ่าย ซึ่ึ�งไม่สอด้คุลั้องกับบทำบัญญัติิกฎหมายทำ�่ได้้เปลั่�ยนแปลังไปในสาระสาำ คุัญ เม่�อกฎหมายมิได้้บัญญัติิติิไวั้ให้ กสทำช. เป็นผู้้รับผู้ิด้ชอบคุ่าใช้จ่ายในการสรรหา ระเบ่ยบวัุฒิิสภาในเร�่อง ด้ังกลั่าวัคุวัรม่การแก้ไขให้สอด้คุลั้องกับเจตินารมณ์์กฎหมายด้้วัย การสรรหาคุณ์ะกรรมการ กติป. ชุด้ใหม่ เทำ่าทำ่�ทำราบยังคุงใช้ระเบ่ยบเด้ิม จึงเห็นวั่าคุวัรม่การปรับปรุงแก้ไขระเบ่ยบด้ังกลั่าวัให้สอด้คุลั้องกับทำ�่กฎหมาย บญั ญตั ิไิ วัใ้ นปจั จบุ นั เชน่ นนั� จะเปน็ การเลัอ่ กบงั คุบั ใชร้ ะเบย่ บเพย่ งบางขอ้ อก่ ขอ้ ไมใ่ ชบ้ งั คุบั เพราะยงั ไมไ่ ด้ป้ รบั แกไ้ ข ให้สอด้คุลั้องกับกฎหมายหลักั ๓. ปัญหาการกำาหนด้ระยะเวัลัาก่อนหลังั ในการจดั ้ทำำารายงานเพ�่อเสนอติ่อรัฐสภา กรณป่ ญั หาระยุะเวลาในการนำาเสนอรายุงาน กติป. ติอ่ รฐั สภา เนอ�่ งดว้ ยุติามมาติรา ๗๒ พระราชบัญั ญตั ิอิ งคก์ รจัดั สรรคลน่� ความถี่แ่� ละกาำ กบั ัการประกอบักจิ ัการวทิ ยุกุ ระจัายุเสย่ ุง วทิ ยุโุ ทรทศั น์ และกจิ ัการ โทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และทแ�่ กไ้ ขเพม�ิ เติมิ บัญั ญตั ิใิ ห้ คณะกรรมการ กติป. มอ่ าำ นาจัหนา้ ทใ�่ นการติดิ ติาม ติรวจัสอบั และประเมนิ ผล การดาำ เนนิ การ และการบัรหิ ารงานของ กสทช. สำานกั งาน กสทช. และเลขาธิกิ าร กสทช. แลัว้ ัแจง้ ผู้ลั ให้ กสทำช. ทำราบ ภายในเก้าสบิ วัันนบั แติ่วัันสน�ิ ปีบัญช่ แลัะให้ กสทำช. นำารายงานด้งั กลั่าวัเสนอติอ่ รฐั สภาพรอ้ ม กบั รายงานผู้ลัการปฏิิบัติิงานประจาำ ปขี อง กสทำช. ติามมาติรา ๗๖ ซึ่ึง� ติามมาติรา ๗๖ กาำ หนด้ให้ กสทำช. จดั ้ทำาำ รายงานผู้ลัการปฏิิบัติิงานประจาำ ปีเสนอติ่อรัฐสภาภายในหน�ึงร้อยย�่สิบวัันนับแติ่วัันส�ินปีบัญช่ ติามท�่บััญญัติิไว้ ในกฎหมายุมาติรา ๗๒ ระยุะเวลา ๙๐ วนั และติามมาติรา ๗๖ ระยุะเวลา ๑๒๐ วนั เปน็ อปุ สรรคติอ่ การปฏิบิ ัตั ิหิ นา้ ท่� ของคณะกรรมการ กติป. เน�่องจัากรายุงานของคณะกรรมการ กติป. ติ้องแล้วเสร็จัภายุใน ๙๐ วัน เสร็จัก่อน รายุงานผลการปฏิิบััติิงานประจัำาปีของ กสทช. ซ็�้งกฎหมายุบััญญัติิไว้ภายุใน ๑๒๐ วัน ขณะท่� ติามมาติรา ๗๓ บัญั ญตั ิใิ หร้ ายุงานของคณะกรรมการ กติป. ติามมาติรา ๗๒ ติอ้ งมเ่ นอ�่ หาติามอนมุ าติรา (๓) ใหม้ ผ่ ลการปฏิบิ ัตั ิงิ านของ กสทช. สาำ นกั งาน กสทช. และเลขาธิกิ าร กสทช. ดว้ ยุ ซ็ง้� คณะกรรมการ กติป. ติอ้ งมค่ วามเหน็ ในรายุงานประจัำาปขี อง กสทช. ติามกฎหมายุบัญั ญัติดิ ังกล่าว นั�นหมายุความว่า กติป. ติ้องได้รบั ัรายุงานของ กสทช. ก่อน จัง้ จัะม่ความเห็น

2๓๐ กตป. คณะกรรมการติิดติามและประเมินผลการปฏิบิ ััติงิ าน ในรายุงานของ กติป. ติามมาติรา ๗๒ ประกอบัมาติรา ๗๓ ได้ แติด่ ว้ ยุระยุะเวลาท�่บััญญัติิไวใ้ นกฎหมายุเปน็ ผลให้ เกิดอุปสรรคในการปฏิิบััติิหน้าท่�คณะกรรมการ กติป. ท�่ติ้องนาำ เสนอรายุงานให้แล้วเสร็จัภายุในเก้าสิบัวันนับัแติ่วัน สิ�นปีบััญช่ ขณะท่�รายุงาน กสทช. ยุังไม่แล้วเสร็จัเพราะกฎหมายุกำาหนดระยุะก่อนหลังไว้ภายุในหน�้งร้อยุยุ่�สิบัวัน ติามหลักการระยุะเวลาการนำาเสนอรายุงาน กสทช. ควรแลว้ เสร็จัก่อน เพ่อ� คณะกรรมการ กติป. ม่ความเห็นในรายุ ละเอย่ ุดในระยุะเวลาทเ�่ พย่ ุงพอ จัง้ เกดิ ความลกั ลนั� ในทางปฏิบิ ัตั ิทิ ร�่ ายุงานของฝึา� ยุติรวจัสอบัประเมนิ ผลติอ้ งเสรจ็ ัสน�ิ และนำาส่งกอ่ นรายุงานฝึ�ายุทถ่� ี่่กติรวจัสอบัประเมินผล จั้งเหน็ ควรใหม้ ่การแกไ้ ขกฎหมายุมาติรา ๗๒ ดังกล่าวข้างติน้ โดยุกาำ หนดให้ระยุะเวลาติามมาติรา ๗๒ ติอ้ งม่กำาหนดภายุหลงั ระยุะเวลาติามมาติรา ๗๖ และเพอ�่ ใหส้ อดคลอ้ งกบั ั มาติรา ๗๓ อนมุ าติรา (๓) ๔. การปรบั ปรุงแกไ้ ขถ้อยคุาำ ในบทำบัญญัติกิ ฎหมายใหส้ อด้คุลัอ้ งเป็นปจั จบุ นั ติามทไ่� ดม้ ก่ ารแกไ้ ขบัทบัญั ญตั ิกิ ฎหมายุพระราชบัญั ญตั ิอิ งคก์ รจัดั สรรคลน�่ ความถี่แ�่ ละ กาำ กบั ัการประกอบักิจัการวทิ ยุุกระจัายุเส่ยุง วิทยุโุ ทรทศั น์ และกิจัการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ หลายุครงั� ท่ผ� า่ นมา ไดม้ ก่ ารยุกเลกิ ชอ่� ติามถี่อ้ ยุคาำ ในกฎหมายุ ซ็ง้� เมอ�่ พจิ ัารณาถี่อ้ ยุคาำ ในติวั บัทกฎหมายุติามพระราชบัญั ญตั ิอิ งคก์ รจัดั สรร คลน่� ความถี่แ�่ ละกำากบั ัการประกอบักจิ ัการวทิ ยุกุ ระจัายุเสย่ ุง วทิ ยุโุ ทรทศั น์ และกจิ ัการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และ ท่�แก้ไขเพิ�มเติิม ปรากฏิว่ายุังม่ถี่้อยุคาำ ในบัทบััญญัติิกฎหมายุท่�ถี่่กยุกเลิกไปแล้วปรากฏิอยุ่ในบัทบััญญัติิมาติราติ่างๆ จัง้ อาจัสรา้ งความสบั ัสนในบัทบัญั ญตั ิมิ าติรานน�ั ๆได้เชน่ ถี่อ้ ยุคาำ วา่ กสท.กทค.ทม�่ ก่ ารยุกเลกิ ไปแลว้ โดยุผลของกฎหมายุ แติ่ถี่้อยุคาำ ติ่างๆ เหล่านั�น ยุงั มป่ รากฏิอยุ่ในมาติราติา่ งๆ เชน่ ในมาติรา ๓๔ มาติรา ๗๒ มาติรา ๗๓ และมาติรา อ่�นๆ ดังนั�น เม�่อถี่้อยุคาำ ไม่ม่ผลบัังคับัยุ้ดโยุงในบัทบััญญัติิแล้วในมาติราใด ควรปรับัแก้ไขให้สอดคล้องกับัปัจัจัุบััน หากจัะคงไว้ก็เพย่ ุงเฉพาะท่ย� ุังม่ผลยุด้ โยุงบัทบัญั ญัติกิ ฎหมายุเดิมท�่ยุงั ม่ผลบังั คบั ัอยุ่เท่าน�ัน ๕. ปัญหาระเบ่ยบคุณ์ะกรรมการด้ิจิทำัลัเพ่�อเศึรษฐกิจแลัะสังคุมแห่งชาติิ วั่าด้้วัย คุ่าติอบแทำนแลัะคุ่าใช้จา่ ยอ�่นของคุณ์ะกรรมการติดิ ้ติามแลัะประเมนิ ผู้ลัการปฏิบิ ัติิงาน ติามท่ไ� ดม้ ่การแก้ไขบัทบัญั ญัติิ มาติรา ๗๑ วรรคห้าเดมิ ท่�บััญญตั ิใิ หค้ ่าติอบัแทนและ คา่ ใชจ้ ั่ายุอ�น่ ของคณะกรรมการติดิ ติามและประเมนิ ผลการปฏิิบัตั ิงิ านใหเ้ ปน็ ไปติามระเบั่ยุบัท�่ กสทช. กำาหนด ติ่อมา เพ่�อเป็นหลักประกันความอิสระของคณะกรรมการติิดติามและประเมินผลในการปฏิิบััติิงาน และให้สอดคล้องกับั หลกั การ Conflict of interest ท�่ฝึา� ยุติรวจัสอบัติ้องม่ความอิสระและไมถ่ ี่ก่ ครอบังำาโดยุฝึ�ายุถี่ก่ ติรวจัสอบั และไม่ม่ การขดั กนั แหง่ ผลประโยุชน์ ฝึา� ยุถี่ก่ ติรวจัสอบัจัะเปน็ หนว่ ยุงานจัดั สรรงบัประมาณการดาำ เนนิ การใหฝ้ ึา� ยุทต�่ ิรวจัสอบั ซ็้�งขัดกับัหลักการน�่ จั้งได้ม่การแก้ไขบัทบััญญัติิดังกล่าวติามพระราชบััญญัติิองค์กรจััดสรรคล่�นความถี่่�และกาำ กับั การประกอบักจิ ัการวทิ ยุกุ ระจัายุเสย่ ุง วทิ ยุโุ ทรทศั น์ และกจิ ัการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และทแ�่ กไ้ ขเพม�ิ เติมิ ฉบับั ัท�่ ๓ พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยุไดบ้ ัญั ญตั ิิให้คา่ ติอบัแทนและค่าใชจ้ ัา่ ยุอ�น่ ในการปฏิบิ ัตั ิิงานของคณะกรรมการติิดติามและประเมนิ ผลการปฏิบิ ัตั ิงิ านใหเ้ ปน็ ไปติามระเบัย่ ุบัทค่� ณะกรรมการดจิ ัทิ ลั เพอ�่ เศรษฐกจิ ัและสงั คมแหง่ ชาติกิ ำาหนดนน�ั เมอ่� ระเบัย่ ุบั ดงั กลา่ วมผ่ ลใชบ้ ังั คบั ัการปฏิบิ ัตั ิหิ นา้ ทข�่ องคณะกรรมการติดิ ติามและประเมนิ ผลการปฏิบิ ัตั ิงิ าน กสทช. (กติป.) ภายุใติ้ ระเบัย่ ุบัฯ ดังกลา่ วยุังม่ปัญหาและอุปสรรคในการปฏิิบััติิหน้าทต�่ ิามกฎหมายุดังน�่ • ปัญหาอัติรากาำ ลังและค่าติอบัแทนของผ้่ปฏิิบััติิงานให้กับัคณะกรรมการติิดติามและประเมิน ผลการปฏิิบััติิงาน ซ็�้งมิได้กาำ หนดไว้ในระเบั่ยุบัดังกล่าว ทาำ ให้การปฏิิบััติิหน้าท่�ของคณะ กรรมการติดิ ติามและประเมนิ ผลการปฏิบิ ัตั ิงิ านเปน็ ไปอยุา่ งจัำากดั ประกอบักบั ัคณะกรรมการฯ ไม่ม่ผ้่เช่�ยุวชาญในสาขาติ่างๆ เป็นจัำานวนท�่เพ่ยุงพอเพ่�อช่วยุในการปฏิิบััติิหน้าท่�ของ คณะกรรมการฯ จัะม่เพ่ยุงการจััดซ็�่อจััดจั้างมอบัหมายุให้หน่วยุงานหร่อองค์กรเป็นผ่้รวบัรวม วเิ คราะห์ และประเมินผลในการจัดั ทาำ รายุงานในแติล่ ะปีงบัประมาณติามช่วงระยุะเวลาสญั ญา จัดั ซ็อ�่ จัดั จัา้ ง โดยุการจัา้ งพนกั งานในการสนบั ัสนนุ ฯ คณะกรรมการติอ้ งขอรบั ัการสนบั ัสนนุ และ

2๓๑รายงานการติดิ ติามติรวจสอบัและประเมนิ ผลการปฏิบิ ััติงิ าน กสทช. สำ�นัักง�นั กสทช. และเลข�ธิิก�ร กสทช. ประจำ�ำ ปี ๒๕๖๔ ความร่วมม่อจัากสำานักงาน กสทช. ในการดำาเนินการจััดจั้างพนักงานให้กับัคณะกรรมการ ซ็�้งหากสำานักงาน กสทช. ไมส่ นับัสนุนหร่อไม่ดาำ เนินจัา้ งให้ คณะกรรมการ กติป. กไ็ มม่ ่ระเบั่ยุบั มารองรับั เพราะระเบั่ยุบัค่าใช้จั่ายุดังกล่าวมิได้กำาหนดไว้ในการจั้างพนักงาน คณะกรรมการ ติ้องขอความอนุเคราะห์ร่วมม่อจัากสาำ นักงาน กสทช. ในการให้การสนับัสนุน ซ็�้งท่�ผ่านมาจัะ ได้รับัการสนับัสนุนและร่วมม่อเป็นอยุ่างด่ แติ่ก็ไม่อาจัคาดหมายุในอนาคติได้เพราะระเบั่ยุบั ไมไ่ ดก้ ำาหนดไว้ให้ในติอนรา่ งระเบัย่ ุบัฯ ดังกล่าว คณะกรรมการ กติป. ไดเ้ สนอไปในช�นั ยุกร่าง ระเบั่ยุบัฯ แติ่ไม่ได้รับัการพิจัารณา ระเบั่ยุบัปัจัจัุบัันกำาหนดให้ม่เฉพาะค่าใช้จั่ายุค่าติอบัแทน ของคณะกรรมการ แติไ่ ม่ได้กำาหนดคา่ ใช้จัา่ ยุในการจัา้ งพนักงานไว้ • ปญั หาคา่ ใชจ้ ัา่ ยุอน�่ ติามความในหมวด ๒ ของระเบัย่ ุบัฯ ดงั กลา่ ว มก่ ารกาำ หนดไวใ้ นรายุละเอย่ ุด แติ่ละข้อท�่ถี่่อว่าเป็นค่าใช้จั่ายุติามท่�กำาหนดไว้เท่าน�ัน ซ็้�งทาำ ให้ม่ข้อจัำากัด กรณ่หากม่ค่าใช้จั่ายุ จัำาเป็นอยุ่างอ่�นในการปฏิิบััติิหน้าท่�นอกจัากท�่กาำ หนดในแติ่ละข้อไว้ติามหมวด ๒ น่� ทำาให้ ไม่สามารถี่ติั�งคำาของบัประมาณได้เลยุ ซ็้�งแติกติ่างจัากระเบั่ยุบัฯ เดิม ท�่รายุละเอ่ยุดในเร�่อง ค่าใช้จั่ายุไม่ได้กำาหนดไว้อยุ่างจัำากัดแติ่กำาหนดไว้เป็นค่าใช้จั่ายุอ�่นๆ ซ็�้งเป็นถี่้อยุคำาลักษณะ เปดิ กวา้ งและมค่ วามยุด่ หยุนุ่ ดว้ ยุเหติจุ ัำาเปน็ ดงั กลา่ วมาจัง้ เหน็ ควรมก่ ารแกไ้ ขระเบัย่ ุบัฯ ดงั กลา่ ว ใน ข้อ ๑๑ โดยุอาจัพิจัารณาเพิ�มเติิมกาำ หนดไว้เป็นถี่้อยุคาำ ว่า ข้อ ๑๑ ค่าใช้จั่ายุอ�่นท่�จัำาเป็น ในการปฏิิบััติิหน้าท่�เพ่�อการติิดติาม ติรวจัสอบั และประเมินผลการปฏิิบััติิงาน ทำาให้ คณะกรรมการฯมค่ วามคลอ่ งติัวในการปฏิบิ ัตั ิิงานมากข�้นในประเดน็ ดังกลา่ ว • ปัญหาติามขอ้ ๑๐ ของระเบัย่ ุบัฯ ทไ่� มไ่ ด้กาำ หนดไวใ้ ห้มค่ วามครอบัคลมุ เชน่ กรณ่หากม่ปญั หา ผ่้ท่�ปฏิิบััติิหน้าท่�ให้คณะกรรมการติิดติามและประเมินผลการปฏิิบััติิงาน ถี่่กฟั้องร้องดาำ เนิน คด่ เหติุเพราะได้ช่วยุเหล่อคณะกรรมการในการปฏิิบััติิหน้าท�่ในการติิดติาม ติรวจัสอบั และ ประเมินผลการปฏิิบััติิงาน เพ่�อติิดติามประเมินผลไม่ได้รับัค่าใช้จั่ายุติามระเบั่ยุบัน�่ซ็้�งกำาหนด ให้เฉพาะคณะกรรมการ กติป. เท่านนั� ซ็�ง้ คณะกรรมการติิดติามและประเมินผลการปฏิบิ ัตั ิิงาน ดา้ นกจิ ัการโทรคมนาคม เหน็ วา่ ควรมก่ ารเพมิ� เติมิ วรรคสอง ขอ้ ๑๐ ของระเบัย่ ุบัดงั กลา่ วติอ่ ไปน่� “ขอ ๑๐ ...วรรคสอง ความตามวรรคหนึ่งใหใชบังคับกรณีบุคคลผูไดชวยคณะกรรมการหรือ กรรมการในการตดิ ตาม ตรวจสอบ และประเมนิ ผล การปฏิบตั งิ านดงั กลาวดว ย” ๖.4 ความคดิ เห็นเพ่ิมเติมจากกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั งิ าน ดา้ นการคมุ้ ครอง ผูบ้ ร�โภค กรรมการติิดติามและประเมินผลการปฏิิบััติิงานด้านกิจัการคุ้มครองผ้่บัริโภค ม่ความเห็นเพ�ิมเติิมจัาก การติดิ ติาม ติรวจัสอบั การดำาเนนิ การ และบัริหารงาน กสทช. สาำ นักงาน กสทช. และเลขาธิกิ าร กสทช. ดังน๕�่ ๙ ๖.๔.๑ แนวัทำางการคุ้มุ คุรองผู้้บริโภคุในยุคุด้ิจิทำลั ั กสทช. ควรทำางานให้สอดคล้องกับัสภาพสังคม และปญั หาของผ้บ่ ัรโิ ภคในปจั ัจัุบัันทเ่� ปลย�่ ุนแปลง ไปติามเทคโนโลยุ่ เพอ่� ใหก้ ารคมุ้ ครองผบ่้ ัรโิ ภคมค่ วามทนั สมยั ุ เทา่ ทนั อาชญากรรมทางไซ็เบัอร์ ซ็ง้� ปจั ัจับุ ันั เทคโนโลยุ่ เข้ามาเปล�่ยุนแปลงร่ปแบับัการใช้ช่วิติของผ้่คนอยุ่างไม่ม่วันหวนกลับั ท�ังการทำาธิุรกรรมทางการเงิน การเสพความ ๕๙ รายุงานการติดิ ติามติรวจัสอบัและประเมินผลการดาำ เนนิ การและการบัรหิ ารงานของ กสทช. สำานกั งาน กสทช. และเลขาธิิการ กสทช. ด้านการคุ้มครองผบ้่ ัรโิ ภค ประจัาำ ปี ๒๕๖๔.

2๓2 กตป. คณะกรรมการติิดติามและประเมนิ ผลการปฏิบิ ัตั ิงิ าน บันั เทงิ และการติิดติอ่ ส�่อสาร เมอ่� ติวั ตินของเราได้เข้าไปใช้ชว่ ิติบันโลกออนไลน์มากข้น� อาชญากรรมสมัยุใหม่ท่เ� กดิ ขน�้ เปน็ รายุวนั ทง�ั เปน็ ขา่ วและไมเ่ ปน็ ขา่ ว ติงั� แติก่ ารหลอกลวงผา่ นการสง�ั ซ็อ�่ สนิ คา้ ออนไลนท์ ม่� กั ติกอยุใ่ นเนอ�่ ขา่ ว การ หลอกลวงผ่านสกุลเงินเข้ารหัส (Cryptocurrency) หร่อการลงทุน Forex ท�่หลายุคนมักได้ยุินคาำ เหล่าน่�ในฐานะ การลงทุนสมัยุใหม่ การกอ่ การร้ายุทางไซ็เบัอร์ ปฏิิบััติกิ ารจัติ ิวทิ ยุาบันสอ�่ อินเทอรเ์ น็ติ ไปจันถี่้งการสอดแนมบันโลก ออนไลน์ (Cyber Stalker) ฯลฯ ซ็�้งล้วนแลว้ แติส่ รา้ งความเสย่ ุหายุท�ังช่วิติและทรัพยุส์ ิน ภยั ุคกุ คามประเทศไทยุทถ่� ี่ก่ พด่ ถี่ง้ ในปจั ัจับุ ันั เกย่� ุวกบั ัแกง๊ คอลเซ็นเติอร์ เปน็ การกระทาำ ผดิ ทม่� ก่ ารใช้ เทคโนโลยุ่ โดยุการใชโ้ ทรศพั ทผ์ า่ นระบับัวโ่ อไอพ่ (VoIP: Voice over Internet Protocol) อนิ เทอรเ์ นต็ ิและเกย่� ุวขอ้ ง กบั ัอาชญากรรมขน�ั สง่ อาชญากรรมขา้ มชาติิ อาชญากรรมไซ็เบัอร์ และอาชญากรรมเศรษฐกจิ ั อาชญากรรมลกั ษณะ นไ�่ ดร้ บั ัผลติอบัแทนสง่ ในขณะทม่� บ่ ัทลงโทษไมร่ นุ แรง รป่ แบับัแกง๊ คอลเซ็นเติอรม์ ล่ กั ษณะการกระทำาผดิ ใกลเ้ คย่ ุงกบั ั แฟัรนไซ็ส์ (Franchise) หากองคก์ รอาชญากรรมใดสนใจั กจ็ ัะชกั ชวนเขา้ สก่ ารกระทาำ ผดิ และสอนการหลอกลวงเหยุอ่� ดว้ ยุเหติตุ ิา่ งๆ ดงั กลา่ วมาขา้ งติน้ การสรา้ ง “ภม่ คิ มุ้ กนั ทางความคดิ ” ทเ่� รย่ ุกวา่ Digital Intelligence ให้กับัประชาชนจั้งเปน็ สิ�งจัาำ เปน็ ไมใ่ ห้หลงเช�อ่ กบั ัคำาชกั ชวนเกนิ จัรงิ จัะได้ไมต่ ิกเป็นเหยุอ�่ การล่อลวง ส�งิ สาำ คัญท�่สุด คอ่ การบัร่ ณาการผเ่้ กย่� ุวขอ้ งทกุ ภาคสว่ นใหม้ ค่ วามร้่ ความเขา้ ใจั สามารถี่ใชเ้ ทคโนโลยุส่ มยั ุใหมร่ บั ัมอ่ กบั ัอาชญากรรม ท�่เปล่�ยุนร่ปแบับัไปอยุ่างรวดเร็วน�่ได้อยุ่างม่ประสิทธิิภาพ ทุกภาคส่วนจัาำ เป็นติ้องพัฒนาความร้่ความเข้าใจัและ ทักษะเฉพาะเกย�่ ุวกบั ัเทคโนโลยุ่ทอ�่ าชญากรใชใ้ นการก่ออาชญากรรม ติลอดจันการนาำ เทคโนโลยุ่ AI มาช่วยุในกระบัวนการส่บัสวนสอบัสวน การรวบัรวมหลักฐาน ดิจัิทัล และการติิดติามการกระทำาความผิดบันโลกออนไลน์ไร้พรมแดน รวมถี่้งการนำาเทคโนโลยุ่เหล่านั�นมาใช้อยุ่าง จัรงิ จังั เพ�อ่ ให้เท่าทันกบั ัอาชญากรรมสมัยุใหม่ การผลกั ดันในระดบั ันโยุบัายุเก่ย� ุวกบั ัการปฏิิร่ปกระบัวนการยุุติธิ ิรรม โดยุนำาเทคโนโลยุม่ าใชใ้ หเ้ กดิ ประโยุชนส์ ง่ สดุ การนาำ กระบัวนการยุตุ ิธิ ิรรมทางอาญาของไทยุทงั� ระบับัขน้� สแ่ พลติฟัอรม์ อิเล็กทรอนกิ ส์ และการนาำ Blockchain มาใชก้ ับัการบัันทก้ ข้อม่ลหลักฐานดิจัิทลั ในคดอ่ าญา นอกจัากการร้่เท่าทันเทคโนโลยุ่แล้ว ยุังติ้องสร้างกติิกาและวางมาติรการควบัคุมการบัังคับั ใช้กฎหมายุเพ่อ� ให้ยุ่นอยุ่บันหลกั นิติิธิรรม และอาำ นวยุความยุุติิธิรรมได้จัรงิ ในสังคมยุุคดจิ ัทิ ัล ๖.๔.๒ การพฒั ินาศึน้ ยร์ ับเร�อ่ งร้องเรย่ น ยกระด้ับใหเ้ ปน็ ศึ้นย์ขอ้ ม้ลัอัจฉรยิ ะ กสทช. ควรม่การพัฒนาศ่นยุ์รับัเร�่องร้องเร่ยุน ยุกระดับัให้เป็นศ่นยุ์ข้อม่ลอัจัฉริยุะเพ่�อผ่้บัริโภค ท่�ทาำ หน้าทร�่ วบัรวมข้อม่ลการใช้งาน หร่อข้อม่ลท่�จัะใหเ้ ติ่อนภัยุทางเทคโนโลยุ่ รวมถี่ง้ การร้องเร่ยุนเม�่อถี่่กเอาเปร่ยุบั ถี่ก่ ปฏิบิ ััติิอยุา่ งไม่เป็นธิรรม เพอ�่ เพิม� ประสทิ ธิภิ าพในการคุ้มครองผ้่บัริโภคอก่ ทางหน�ง้ ยุุทธิศาสติร์ชาติิ นโยุบัายุรัฐบัาล และแผนในระดับัติ่างๆ รวมถี่้งกรอบัแนวทางการพัฒนา ติามสถี่าปัติยุกรรมรัฐบัาลดิจัิทัล ซ็�้งเป็นกรอบัโครงสร้างระบับันิเวศการพัฒนารัฐบัาลดิจัิทัลของประเทศไทยุ (Digital Government Ecosystem) ซ็้�งม่เช่�อมโยุงและสัมพันธิ์กัน สอดรับักับับัริบัททางเศรษฐกิจัและสังคม ท�่เปล�่ยุนแปลงไป รวมถี่้งปัญหาของผ่้บัริโภคท�่เปล�่ยุนแปลงไปติามเทคโนโลยุ่สำานักงาน กสทช. ควรเร่งส่งเสริม นวัติกรรมเทคโนโลยุ่ดิจัิทัลมาสร้างความไว้วางใจั เสริมความคล่องติัวและเพิ�มความยุ่ดหยุุ่นด้านการดาำ เนินงาน ด้านการคุ้มครองผ้่บัริโภคให้ทันสมัยุ ครอบัคลุมการเข้าถี่้งและการเข้าใช้งานผ้่ม่ส่วนได้ส่วนเส่ยุทุกกลุ่ม รวมถี่้ง ครอบัคลุมการปอ้ งกันขอ้ มล่ สว่ นบัุคคล และอาชญากรรมทางไซ็เบัอร์ สาำ นกั งาน กสทช. ควรใชโ้ อกาสใหมๆ่ ของแนวโนม้ เทคโนโลยุด่ จิ ัทิ ลั ทพ่� ฒั นาอยุา่ งรวดเรว็ ในปจั ัจับุ ันั มาใช้เพิ�มประสิทธิิภาพการคุ้มครองผ้่บัริโภค โดยุการยุกระดับัให้เป็นศ่นยุ์ข้อม่ลอัจัฉริยุะเพ�่อผ่้บัริโภค ท�่ทาำ หน้าท่� เปน็ ศ่นยุ์กลางในการรวบัรวมขอ้ ม่ลการใช้งาน ขอ้ ม่ลเติ่อนภัยุทางเทคโนโลยุ่ รวมถี่้งการร้องเรย่ ุน ประสาน รบั ัเร�่อง ส่งติ่อและแก้ไขปัญหา ม่ระบับัการติิดติามและติรวจัสอบัสถี่านะเร่�องท�่ประชาชนร้องเร่ยุน ติ�ังแติ่รับัเร่�องร้องเร่ยุน

2๓๓รายงานการติดิ ติามติรวจสอบัและประเมนิ ผลการปฏิบิ ััติงิ าน กสทช. สำ�นักั ง�นั กสทช. และเลข�ธิิก�ร กสทช. ประจำำ�ปี ๒๕๖๔ จันถี่ง้ กระบัวนการการแก้ปัญหาสำาเรจ็ ั กลายุเปน็ One Platform รวมถี่้งการนำาระบับัปัญญาประดษิ ฐ์ (Artificial Intelligence) หร่อ AI ในการคัดกรอง ติรวจัจับั ัความถี่ก่ ติอ้ งของการใชภ้ าษา หรอ่ ส�ิงทล�่ ะเมิดลขิ สทิ ธิิ� อาทิ เพลง คาำ ไม่สุภาพ หร่อแม้กระทั�งการบั่งบัอก อธิิบัายุ และช่�นำา เติ่อนภัยุ รวมถี่้งปัจัจััยุท�่กำาหนดการติัดสินใจัดำาเนินการ ในสิ�งทถ�่ ี่่กติ้องสอดคล้องสทิ ธิแิ ละเพิม� ประสิทธิภิ าพในการคมุ้ ครองผบ้่ ัรโิ ภค สาำ นกั งาน กสทช. ควรมก่ ารรวมแอปพลเิ คชนั การคมุ้ ครองผบ้่ ัรโิ ภคไวเ้ ปน็ แหลง่ เดย่ ุว ชอ่ งทางเดย่ ุว ติอบัโจัทยุ์การคุ้มครองผ่้บัริโภคท�่สะดวก ครบัถี่้วน และชาญฉลาด ครบัวงจัรเป็นพอร์ทัลกลาง โดยุคาำ น้งถี่้งการ แบั่งกลุ่มติามวัติถีุ่ประสงค์ และกาำ หนดกลุ่มผ้่ใช้งาน เพ�่อให้ผ้่ม่ส่วนได้ส่วนเส่ยุสามารถี่เข้าถี่้งการให้บัริการได้ ความสะดวก รวดเร็ว ท�ังในเร�่องการค้นหาข้อม่ลและรับับัริการด้านสิทธิิและการคุ้มครองผ้่บัริโภค ครอบัคลุมการ ติรวจัสอบัสทิ ธิิ รอ้ งเรย่ ุน ติลอดจันบัรกิ ารขอ้ มล่ และใหค้ ำาปรก้ ษาติามสทิ ธิขิ องผบ้่ ัรโิ ภค รวมถี่ง้ เพมิ� การประชาสมั พนั ธิ์ ช่องทางการให้บัริการเพ่อ� ให้ผม่้ ่ส่วนได้สว่ นเส่ยุม่โอกาสเข้าถี่ง้ มากข้�นจัากการแนะนำาการใชร้ ะบับั ๖.๔.๓ การปรบั ปรุงกฎหมายทำ�่ไม่สอด้คุลัอ้ ง แลัะไม่เทำ่าทำนั ติ่อการเปลั่�ยนแปลังของเทำคุโนโลัย่ กสทช. ควรเรง่ ปรบั ัปรุงกฎหมายุท่�ไม่สอดคลอ้ ง และไมเ่ ทา่ ทนั ติ่อการเปล่ย� ุนแปลงของเทคโนโลยุ่ เน่�องจัากเทคโนโลยุ่และการส่�อสาร ม่การพัฒนาอยุ่างก้าวกระโดด ม่แพลติฟัอร์มเกิดข้�นใหม่มากมายุ กฎหมายุ และ พ.ร.บั. บัางอยุ่างไม่สามารถี่ครอบัคลุมถี่้งปัญหาเทคโนโลยุ่ใหม่ๆ ท่�เกิดข�้น ดังน�ัน การปรับัเปล�่ยุนกฎหมายุ ใหส้ อดคลอ้ งกับัสภาพเศรษฐกจิ ัและสงั คมในปัจัจับุ ัันจัง้ เปน็ ส�งิ ท่�จัำาเปน็ อยุา่ งยุ�งิ โจัทยุ์สาำ คัญค่อ ยุังม่ช่องว่างในการพัฒนาและความเหล่�อมลำา� ยุุคดิจัิทัลน�ันติอกยุา�ำ ปัญหาความ ไมเ่ ป็นธิรรมจัากยุุคแอนะลอ็ กท่ย� ุังมค่ นจัำานวนไมน่ อ้ ยุรวมถี่้งคนชายุขอบัยุังถี่ก่ ทง�ิ ไว้ขา้ งหลัง ในขณะเดย่ ุวกันภาครัฐ กม็ ภ่ ารกจิ ัในการสง่ เสรมิ นวตั ิกรรมดา้ นเทคโนโลยุ่ แติก่ ต็ ิอ้ งระมดั ระวงั และรบั ัมอ่ ผลกระทบัดา้ นลบัทม�่ ากบั ัยุคุ ดจิ ัทิ ลั ด้วยุเช่นกัน อาทิ ปัญหาการแพร่ระบัาดของข้อม่ลข่าวสารทั�งในลักษณะความเข้าใจัผิด (Misinformation) และ การติงั� ใจับัดิ เบัอ่ น (Disinformation) หรอ่ ปรากฏิการณ์ท่�เร่ยุกกันวา่ ข่าวลวง (Fake News) รวมไปถี่้งด้านมด่ ในยุุค ดิจัิทัลและอาชญากรรมไซ็เบัอร์ (Cyber Crime) ท่�กลายุเป็นเร�่องใกล้ติัวประชาชนมากข�้น เพราะสามารถี่เกิดข�้น จัากท่�ใดแบับัไร้พรมแดนกับัใครเม่�อไหร่ก็ได้ท่�ประชาชนกลายุติกอยุ่ในภาวะม่จัุดอ่อนเพราะขาดความร่้ ความเข้าใจั และความติ�่นติัวในการป้องกันตินเองท�่ด่พอ รวมท�ังระบับัการบัังคับักฎหมายุในประเทศหร่อข้ามประเทศก็ยุังม่ ข้อจัาำ กัด อ่กท�ังความสมดุลในการใช้กฎหมายุเพ�่อปราบัปรามอาชญากรรม แติ่ก็ไม่ลาำ� เส้นสิทธิิเสร่ภาพขั�นพ�่นฐาน ของประชาชน ซ็ง้� เปน็ ประเดน็ ทส�่ ง่ ผลให้เกดิ ข้อถี่กเถี่่ยุงในสังคมไทยุติลอดมา ปัญหาการซ็�่อขายุออนไลน์ พร้อมระบัุปัญหาท�่เก่�ยุวเน่�องกัน ค่อ ในโลกออนไลน์ หร่อออฟัไลน์ ม่ข้อม่ลทใ�่ หผ้ บ้่ ัริโภคติอ้ งติรวจัสอบัเติ็มไปหมด และขอ้ มล่ เหลา่ น�นั ยุังสะเปะสะปะไมเ่ ป็นระบับั และช่องวา่ งระหว่าง หน่วยุงานท่�ไม่บั่รณาการกัน รวมถี่้งผ่้บัริโภคในไทยุยุังม่ความร่้เก่�ยุวกับัการร้่ดิจัิทัล (Digital literacy) ท�่น้อยุมาก รวมไปถี่้งติัวกฎหมายุท�่ไม่ทันสมัยุและม่ลักษณะบัทบััญญัติิไม่เอ่�ออำานวยุแก่การคุ้มครองสิทธิิผ้่บัริโภค ทำาให้ยุังม่ ช่องวา่ งของกฎหมายุให้ฉวยุโอกาสได้ จันทำาใหอ้ าจัไมเ่ ท่าทนั กลลวงของผ่ป้ ระกอบัการธิรุ กิจั ดังนน�ั ควรดำาเนนิ การ แกไ้ ขกฎหมายุทใ�่ ชบ้ ังั คับัอยุใ่ นปัจัจัุบันั ใหส้ อดคล้องกบั ัสภาพเศรษฐกจิ ัและสงั คมในปจั ัจับุ ัันทเ�่ ปล่ย� ุนแปลง อยุา่ งไรกต็ ิาม การแก้ปัญหาท่�เกิดจัากการบัริโภคของประชาชนนั�น ไมไ่ ดข้ น้� อยุก่ ับัการม่มาติรการ ทางกฎหมายุท�่ด่เยุ่�ยุมเท่านั�น หากแติ่ติ้องประกอบัด้วยุความสำาน้กในการบัริโภคท�่ฉลาดและความรับัผิดชอบั ในการประกอบัธิรุ กจิ ัทผ่� ป่้ ระกอบัธิรุ กจิ ัควรมต่ ิอ่ สงั คมสว่ นรวม ซ็ง�้ สง�ิ ทค�่ วรติระหนกั อยุเ่ สมอคอ่ กฎหมายุไมใ่ ชท่ างออก หร่อคำาติอบัของปัญหาท�่เกิดจัากการบัริโภคสินค้าหร่อบัริการ แติ่กฎหมายุเป็นกลไกหร่อวิธิ่การอยุ่างหน�้งท่�จัะช่วยุ ผอ่ นคลายุ หร่อปอ้ งกันปัญหาเหลา่ นัน� ได้ทางหน้ง� เท่านั�น

2๓4 กตป. คณะกรรมการติดิ ติามและประเมนิ ผลการปฏิิบััติิงาน ดังน�ัน หากนโยุบัายุท�่เข้มแข็งในด้านการพัฒนาการคุ้มครองผ้่บัริโภคของประชาชน เล็งเห็น ความสาำ คัญของสิทธิิผ่้บัริโภค ไม่ให้ถี่่กเอารัดเอาเปร่ยุบัจัากผ่้ประกอบัการ และส่งเสริมให้ผ่้ประกอบัการสร้าง จัิติสำาน้กม่ความรับัผิดชอบัติ่อสังคม ประชาชนก็จัะได้รับัประโยุชน์อยุ่างส่งสุด อ่กท�ัง หน่วยุงานท่�เก�่ยุวข้อง เม่�อได้รับันโยุบัายุจัากรัฐบัาล ควรปฏิิบััติิด้วยุความสุจัริติและรวดเร็ว และควรพยุายุามปฏิิบััติิหน้าท�่ติามครรลอง ของกฎหมายุท่�ให้อำานาจัอยุ่างซ็�่อติรง ไม่เอ่ยุงไปข้างหน�้งข้างใด ติลอดจันการปฏิิบััติิหน้าท่�จัะติ้องไม่เกิดปัญหา แก่ผ้่บัรโิ ภคหร่อผ่้ประกอบัธิรุ กิจัจันเกินไป ๖.๔.๔ การกำาหนด้แผู้นงานในการกำากับด้แ้ ลัทำ่เ� ก�ย่ วัขอ้ ง กสทช. ควรกาำ หนดแผนงานในการกำากับัด่แล การจััดสรรคล่�นความถี่่� การอนุญาติ และกาำ กับั การประกอบักิจัการกระจัายุเส่ยุง กิจัการโทรทัศน์ และกิจัการโทรคมนาคม ให้สอดคล้องกับัการหลอมรวม และการพัฒนาการเปลย�่ ุนแปลงทางเทคโนโลยุ่ในปัจัจับุ ันั การเปล�่ยุนแปลงอยุ่างก้าวกระโดดด้วยุพลังของติลาดและการบัริโภค หากภาครัฐ ภาคธิุรกิจั และภาคสงั คมไมส่ ามารถี่ปรบั ัติวั ใหท้ นั ติอ่ การเปลย่� ุนแปลงดงั กลา่ ว กจ็ ัะสง่ ผลใหค้ วามสาำ คญั ของภารกจิ ั (Relevance) ลดลงไป ยุกติวั อยุ่างกรณ่กจิ ัการส่�อสารมวลชน ซ็�้งได้รบั ัผลกระทบัจัากเทคโนโลยุ่สารสนเทศแบับัใหมผ่ ่านสอ�่ สังคม ออนไลน์ (Social Media) เห็นได้จัากปรากฏิการณ์ของส่�อส�ิงพิมพ์รวมถี่้งสถี่าน่โทรทัศน์ท�่ติ้องทยุอยุปิดกิจัการลง เพราะพฤติิกรรมของผ่้บัริโภคท่�เปล่�ยุนแปลงไป เน�่องจัากประชาชนส่วนใหญ่ โดยุเฉพาะกลุ่มวัยุรุ่นและวัยุทาำ งาน ท�่รับัส�่อผ่านโทรศัพท์ม่อถี่่อมากกว่าด่ท่ว่ หร่อการท�่ประชาชนจัับัจั่ายุใช้สอยุผ่านแพลติฟัอร์มออนไลน์ และทำาธิุรกรรมผ่านโทรศัพท์ไร้สายุมากข�้นอยุ่างก้าวกระโดด รวมไปถี่้งการพัฒนานวัติกรรม (Innovation) การใช้ สมองกลอัจัฉริยุะ ปญั ญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และเทคโนโลยุ่ภาคพลเม่องมาแกป้ ญั หาสังคมมากข้�น (Civic Technology) ซ็้�งการบัริการเทคโนโลยุ่ส�่อโทรคมนาคมเป็นหน�้งในอุติสาหกรรมช�ันนาำ ในการก้าวไปส่การ เปล�่ยุนแปลงส่ดิจัิทัลและนโยุบัายุของประเทศให้ความสาำ คัญกับัเร�่องดังกล่าวอยุ่างจัริงจััง หลังจัากท�่รัฐบัาลผลักดัน นโยุบัายุเศรษฐกิจัดิจัิทัล (Digital Economy) เพ�่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับัระบับัเศรษฐกิจั อ่กทั�งในแผน ปฏิิร่ปประเทศด้านส�่อสารมวลชนเทคโนโลยุ่สารสนเทศท่�ให้ความสำาคัญกับัการพัฒนาพลเม่องและการร่้เท่าทันส่�อ ติลอดจันการบั่รณาการทาำ งานร่วมกันของหน่วยุงานติ่างๆ เก�่ยุวกับัการคุ้มครองผ้่บัริโภคโดยุคำาน้งถี่้งสาระของงาน มากกว่าสร้างความร่วมม่อในการเสริมสร้างศักยุภาพ การใช้เทคโนโลยุ่ของประชาชน หัวใจัสาำ คัญของการสร้าง ความเข้มแข็งให้กับัประชาชนม่ทักษะในช่วิติเพ�่อการรับัม่อกับัยุุคดิจัิทัลด้วยุความฉลาด ซ็้�งทาำ ได้ด้วยุการท�่ภาครัฐ ม่นโยุบัายุในทุกระดับั ปรับัติัวท�ังระบับั และทาำ ความร่วมม่อกับัภาคเอกชนในการส่งเสริมการเร่ยุนร้่ร่วมกัน อาทิ กลมุ่ ผใ้่ หบ้ ัรกิ ารโทรคมนาคมในประเทศ ผใ่้ หบ้ ัรกิ ารธิรุ กจิ ัทเ่� กย�่ ุวขอ้ งกบั ัยุคุ ดจิ ัทิ ลั และทาำ ความรว่ มมอ่ กบั ัผใ่้ หบ้ ัรกิ าร แพลติฟัอร์มระหว่างประเทศในการส่งเสริมความเข้มแข็งของพลเม่องดิจัิทัล ร่วมกันสร้างพ่�นท่�ในการแก้ปัญหา บันโลกออนไลน์ เพ่�อสรา้ งจัุดสมดุลระหวา่ งการยุงั ธิาำ รงเสร่ภาพหลักสิทธิิมนษุ ยุชน และความรบั ัผิดชอบัติอ่ ช่วติ ิและ ทรัพยุส์ นิ ของผ่้บัรโิ ภค ๖.๔.๕ การแกไ้ ขปญั หาให้แก่ผู้บ้ ริโภคุอย่างเป็นรป้ ธีรรม กสทช. ควรเนน้ การแกไ้ ขปญั หาผบ้่ ัรโิ ภคอยุา่ งเปน็ รป่ ธิรรม ในการเติอ่ นภยั ุ ปอ้ งกนั ภยั ุทางเทคโนโลยุ่ ร่ปแบับัใหม่ กสทช. ควรกาำ หนดแนวทางและแก้ปัญหาให้ชัดเจัน เม�่อผ่้บัริโภคได้รับัผลกระทบัจัากการใช้บัริการ หร่อถี่่กเอารัดเอาเปร่ยุบัจัากผ้่ประกอบัการ ลดขั�นติอนในการร้องเร่ยุน รวมท�ังส่งเสริมให้ผ้่พิการ ผ่้ส่งอายุุ และ ผ่้ด้อยุโอกาสในการเข้าถี่้งข้อม่ลข่าวสาร และเผยุแพร่ข่าวสารให้แก่ประชาชนทราบัเม�่อม่การหลอกลวงท่�เกิดข�้น ในปจั ัจัุบััน

2๓๕รายงานการติิดติามติรวจสอบัและประเมินผลการปฏิิบัตั ิิงาน กสทช. สำ�นักั ง�นั กสทช. และเลข�ธิิก�ร กสทช. ประจำำ�ปี ๒๕๖๔ ความท้าทายุของการเป็นพลเม่องดิจัิทัลค่อ ผ้่คนในยุุคปัจัจัุบัันม่ความหลากหลายุ ท่�เร่ยุกกันว่า Generation ซ็้ง� มท่ ั�ง Baby Boomer, Gen X, Gen Y, Gen Z และ Gen Alpha โดยุท�่ผา่ นมาความแติกติ่างระหวา่ ง ผ่้คนในแติ่ละรุ่นอาจัม่ไม่มากนัก แติ่การเข้ามากระทบัของเทคโนโลยุ่ดิจัิทัล หร่อ Digital Disruption กับัวิถี่่ช่วิติ อยุ่างหนักหน่วง ทำาให้ผ้่คนท่�ถี่่กเร่ยุกว่า Gen Z และ Gen Alpha ม่พฤติิกรรม ความคิด และความเช่�อแติกติ่าง กับัคนรุ่นก่อนหน้าค่อนข้างชัดเจัน เน่�องจัากเติิบัโติมาในสิ�งแวดล้อมดิจัิทัลหร่อชาวดิจัิทัลดั�งเดิม (Digital Natives) ท่ท� ลายุกาำ แพงดา้ นสถี่านท�แ่ ละเวลา ทาำ ใหไ้ ด้เห็น ไดเ้ ร่ยุนร้่ ได้ทราบัเหติกุ ารณ์รอบัติัวและรอบัโลกอยุา่ งหลากหลายุ และรวดเรว็ ในขณะท�่ Baby Boomer, Gen X, Gen Y ซ็ง้� มว่ ถิ ี่ช่ ว่ ติ ิแบับัผอ่้ พยุพเขา้ สย่ ุคุ ดจิ ัทิ ลั (Digital Immigrants) ติอ้ งมก่ ารปรบั ัติวั ในการใชช้ ว่ ติ ิยุคุ ดจิ ัทิ ลั อยุา่ งมาก โดยุความแติกติา่ งนถ่� ี่ก่ กระตินุ้ ใหช้ ดั เจันและมก่ ารสง่ ติอ่ มากขน�้ ดว้ ยุ ส�่อสังคมออนไลน์ นอกจัากความท้าทายุด้านการจััดการความสัมพันธิ์ระหว่างพลเม่องดิจัิทัลซ็�้งเป็นคนติ่างรุ่นแล้ว ยุงั ม่ความทา้ ทายุดา้ นอ่�นๆ ทอ�่ าจัเกดิ ข้น� ในประเดน็ ทางสังคมและเศรษฐกิจั ซ็ง�้ เกิดจัากการท่�เทคโนโลยุ่เปล่�ยุนแปลง ร่ปแบับัการใชช้ ่วิติของมนษุ ยุ์ ในภาวะเศรษฐกิจัถี่ดถี่อยุจัากภัยุการแพร่ระบัาดของ COVID-19 คนจัำานวนมากติ่างได้รับั ผลกระทบัทง�ั ติกงาน รายุไดล้ ด และสงิ� ทต่� ิามมาซ็ำ�าเติมิ ในยุามลาำ บัากนก่� ค็ อ่ “ภยั ุการหลอกลวง” ของเหลา่ มจิ ัฉาชพ่ ท่� แฝึงติวั มาหากินกับัการใช้เทคโนโลยุแ่ ละโซ็เช่ยุลมเ่ ดย่ ุ มาหลอกลวงผ้่อ�น่ แบับัไม่เกรงกลัวกฎหมายุ ขอ้ มล่ ของม่ลนธิ ิิ เพ�่อผ้่บัริโภค เปิดเผยุว่า ม่ติัวแทนผ่้บัริโภคท่�ได้รับัผลกระทบัจัากการซ็�่อสินค้าออนไลน์ท�่ไม่ม่คุณภาพมาบัอกเล่า ประสบัการณ์ สว่ นใหญพ่ บัการหลอกลวงขายุสนิ คา้ ทไ�่ มม่ ค่ ณุ ภาพ การลดราคาเกนิ จัรงิ รวมถี่ง้ บัางรายุพบัปญั หาความ ยุุ่งยุากในการชดเชยุเยุ่ยุวยุาเม่�อเกิดปัญหา หร่อไม่ม่หน่วยุงานหลักท�่กาำ กับัด่แลเร่�องการทาำ ติลาดออนไลน์และการ โฆษณาบันส�่อสังคมออนไลน์ อาทิ เฟัซ็บัุ๊ก อินสติาแกรม หร่อทวิติเติอร์ ทำาให้เกดิ ชอ่ งโหวแ่ ละทำาให้ผ่ข้ ายุหลอกลวง ขายุสินค้าให้กับัผ่้บัริโภคได้ นอกจัากน�่ในผ่้บัริโภคบัางรายุก็ถี่่กผ้่ประกอบัธิุรกิจัลดทอนสิทธิิจัากท่�ผ่้ประกอบัธิุรกิจั ใช้อำานาจัติามกฎหมายุข่มข่ฟั้องร้อง ทำาใหผ้ ่้บัริโภคจั้งติกอยุใ่ นฐานะเสย่ ุเปรย่ ุบัและไรท้ างออก การดาำ เนินการด้านการคุ้มครองผ้่บัริโภค ประชาชนยุังขาดความร่้ความเข้าใจัในสิทธิิของการ คมุ้ ครองผบ้่ ัรโิ ภค เพราะการเผยุแพรข่ อ้ มล่ ขา่ วสารไมเ่ พย่ ุงพอ และการเขา้ ถี่ง้ ขอ้ มล่ ขา่ วสารไดย้ ุาก ทาำ ใหเ้ มอ�่ เกดิ การ รอ้ งเร่ยุน ไดม้ ก่ ารร้องเร่ยุนไปยุงั หน่วยุงานท่�ไมเ่ ก่ย� ุวข้องบัา้ ง หรอ่ รอ้ งเร่ยุนผดิ หน่วยุงานบัา้ ง เพราะม่หนว่ ยุงานดา้ น การคมุ้ ครองผบ้่ ัรโิ ภคจัำานวนกวา่ ๒๐ หนว่ ยุงานมก่ ารบัรหิ ารงานดา้ นการคมุ้ ครองผบ้่ ัรโิ ภคทท่� าำ งานรว่ มกบั ัสาำ นกั งาน คณะกรรมการคมุ้ ครองผบ่้ ัรโิ ภค ทาำ ใหผ้ บ่้ ัรโิ ภคเกดิ ความสบั ัสน เกดิ ปญั หา รวมถี่ง้ หนว่ ยุงานดา้ นการคมุ้ ครองผบ้่ ัรโิ ภค ยุงั ประสบัปญั หาเกย่� ุวกบั ัระบับัจัดั การฐานขอ้ มล่ ทาำ ใหก้ ารสบ่ ัคน้ ขอ้ มล่ เกดิ ความลา่ ชา้ ทำาใหไ้ มอ่ าจัคมุ้ ครองผบ่้ ัรโิ ภค ไดอ้ ยุา่ งมป่ ระสิทธิิภาพ แมจ้ ัะมก่ ฎหมายุใหค้ วามคมุ้ ครองสทิ ธิขิ องผบ้่ ัรโิ ภค แติก่ ารทผ่� บ้่ ัรโิ ภคแติล่ ะรายุจัะไปฟัอ้ งรอ้ งดาำ เนนิ คดก่ บั ัผป่้ ระกอบัการคา้ หรอ่ ผป่้ ระกอบัการธิรุ กจิ ัโฆษณาเมอ�่ มก่ ารละเมดิ สทิ ธิขิ องผบ่้ ัรโิ ภค ยุอ่ มเสย่ ุเวลาและคา่ ใชจ้ ัา่ ยุ เปน็ การไมค่ มุ้ คา่ ผบ้่ ัรโิ ภคจัาำ นวนมากไมอ่ ยุใ่ นฐานะทจ�่ ัะสละเวลาหรอ่ คา่ ใชจ้ ัา่ ยุในการดำาเนนิ คด่ ดงั นน�ั หากมก่ ารปฏิริ ป่ หนว่ ยุงานและกลไกการคมุ้ ครองผบ่้ ัรโิ ภคของภาครฐั ใหม้ ป่ ระสทิ ธิภิ าพเพม�ิ ขน้� โดยุบัร่ ณาการเชอ่� มโยุงระบับัฐานขอ้ มล่ ในการคุ้มครองผบ้่ ัริโภค (One Platform) เพ�่อใหผ้ ้่บัรโิ ภคสามารถี่ติรวจัสอบัข้อม่ลการรอ้ งเรย่ ุน ขอ้ มล่ การเผยุแพร่ ขา่ วสารของงานคมุ้ ครองผบ่้ ัรโิ ภค รวมทง�ั เปน็ ศน่ ยุก์ ลางของหนว่ ยุงานทเ่� กย�่ ุวขอ้ ง โดยุใชเ้ ครอ่� งมอ่ สอ�่ สารขอ้ มล่ อตั ิโนมตั ิิ ในรป่ แบับั Chat bot ท�่เปน็ แหล่งขอ้ ม่ลเผยุแพร่องคค์ วามร้่ดา้ นคมุ้ ครองผ้่บัริโภค ผ้่บัริโภคสามารถี่รับัข้อมล่ ขา่ วสาร องคค์ วามร่้ บัรกิ ารผา่ นแอปพลเิ คชนั และสอ�่ โซ็เชย่ ุลมเ่ ดย่ ุสมยั ุใหม่ รวมทงั� สอบัถี่ามขอ้ มล่ องคค์ วามร้่ ขอใชบ้ ัรกิ ารอน�่ ๆ ด้านคุ้มครองผ่้บัริโภค ซ็้�งระบับัจัะติอบัอัติโนมัติิ รวมถี่้งการพัฒนากระบัวนการเยุ่ยุวยุาและการระงับัข้อพิพาทให้ แกผ่ บ่้ ัริโภค ได้แก่ การม่หน่วยุงานบัริการช่วยุเหลอ่ แบับัเบั็ดเสรจ็ ั (One Stop Service) จัะทาำ ใหป้ ระชาชนในฐานะ

2๓๖ กตป. คณะกรรมการติดิ ติามและประเมนิ ผลการปฏิิบััติิงาน ผ่้บัริโภคเข้าถี่้งกระบัวนการยุุติิธิรรมได้โดยุง่ายุ รวมถี่้งการออกนโยุบัายุเพ�่อลดข�ันติอนในการดำาเนินการช่วยุเหล่อ ผบ่้ ัริโภคท�ย่ ุุ่งยุากซ็ับัซ็อ้ นใหง้ า่ ยุข้น� เพอ่� ใหส้ ามารถี่ช่วยุเหลอ่ ผ้บ่ ัริโภคไดเ้ รว็ ข�้น รวมถี่้งการสนับัสนุนเคร่อข่ายุผ่้บัริโภคโดยุให้ทักษะท�่จัำาเป็นสำาหรับัผ้่รับัข้อร้องเร่ยุนและ ความสามารถี่เจัรจัาไกล่เกล�่ยุแก้ไขปัญหาและเยุ่ยุวยุาผ้่บัริโภคได้อยุ่างรวดเร็วและม่ประสิทธิิภาพ รวมถี่้งควรม่ กฎหมายุใหส้ ทิ ธิกิ ารฟัอ้ งคดเ่ พอ�่ ใหผ้ บ่้ ัรโิ ภคทไ�่ ดร้ บั ัความเสย่ ุหายุ/เดอ่ ดรอ้ นอยุา่ งเดย่ ุวกนั คนใดคนหนง้� อาจัดาำ เนนิ การ ฟัอ้ งรอ้ งคดเ่ พ�่อผ้บ่ ัริโภคกลุม่ น�นั ท�ังหมดได้ เป็นการสรา้ งอำานาจัการติอ่ รองให้กบั ัผบ้่ ัรโิ ภคได้ และจัะเปน็ การกระติุ้น ใหผ้ ป่้ ระกอบัธิรุ กิจัระมดั ระวังในการทำาธิรุ กจิ ัใหเ้ กดิ ความเป็นธิรรมมากข�น้ ๖.4 ความคดิ เห็นเพม่ิ เติมจากกรรมการติดตามและประเมนิ ผลการปฏิบัตงิ านดา้ นการส่งเสร�มสทิ ธิ และเสรภ� าพของประชาชน กรรมการติิดติามและประเมินผลการปฏิิบััติิงานด้านการส่งเสริมสิทธิิและเสร่ภาพของประชาชน ม่ความเห็นเพิ�มเติิมจัากการติิดติาม ติรวจัสอบั การดำาเนินการ และบัริหารงาน กสทช. สาำ นักงาน กสทช. และเลขาธิิการ กสทช. ดังน๖�่ ๐ ๖.๕.๑ ประชาชนชาวัไทำยยังไมส่ ามารถเขา้ ถึงแลัะใช้ประโยชนจ์ ากคุลั่น� คุวัามถ�่ได้้ ปจั ัจับุ ันั “การเขา้ ถี่ง้ และใชป้ ระโยุชนจ์ ัากคลน่� ความถี่”�่ ของประชาชนชาวไทยุยุงั ไมส่ ามารถี่เปน็ จัรงิ ได้ เน่�องจัากหลายุพ่�นท่� โดยุเฉพาะพ่�นท่�ห่างไกล ชายุขอบั พ่�นท่�ทุรกันดาร ป�าสงวน ป�าอนุรักษ์ ภ่เขา เขติอุทยุาน ทะเล มหาสมุทร ซ็้ง� อยุ่ห่างไกลจัากเสาสง่ สญั ญาณ ส่งคล�น่ ความถี่�่ จั้งไมม่ ค่ ลน่� ความถี่่� ไม่ม่สัญญาณ ปัญหาดงั กล่าว ยุังคงม่อยุ่ ยุ�ิงอยุ่ในสถี่านการณ์ท�่ม่โรคระบัาด ซ็้�งรัฐได้นาำ คล่�นความถี่่�มาใช้ประโยุชน์และกาำ หนดให้ประชาชน ใช้คลน่� ความถี่�ใ่ นชว่ ิติประจัาำ วันเพิ�มมากขน�้ ในขณะทห�่ ลายุพ่�นท่�ไม่มค่ ลน่� สญั ญาณดงั กล่าว จั้งเป็นปญั หาท่�ติ้องแก้ไข อยุ่างเร่งดว่ น โดยุเฉพาะ “การเข้าถี่ง้ ซ็้�งคลน่� ความถี่่�” ทั�งน่�เพราะบัางพ�น่ ท่�ไมส่ ามารถี่ติง�ั เสาส่งสญั ญาณได้ ดงั น�ัน หากใชป้ ระโยุชน์จัากดาวเทย่ ุมส่งคล่น� ความถี่ห่� รอ่ สัญญาณ กจ็ ัะสามารถี่แกไ้ ขปัญหาเสาส่งสัญญาณได้ ปัญหาติ่อมาของการเข้าถี่้งซ็้�งคล่�นความถี่�่ ก็ค่อ ประชาชนติ้องม่อุปกรณ์เคร�่องรับัคล�่นความถี่�่ หร่อสญั ญาณดังกล่าวได้อยุา่ งทั�วถี่ง้ ไม่ว่าจัะยุากด่มจ่ ันเพย่ ุงใดก็ติาม เพราะหากประชาชนไมม่ ่ศกั ยุภาพทางการเงิน หร่อไม่ม่ความร่้ความสามารถี่ในการใช้อุปกรณ์เคร่�องรับัสัญญาณดังกล่าวแล้ว ประชาชนก็ยุังไม่สามารถี่ “เข้าถี่้ง” ได้เชน่ กนั การแก้ไขปัญหาดังกล่าวหน่วยุงานของรัฐอาจัติ้องดาำ เนินการประดิษฐ์คิดค้นและผลิติอุปกรณ์ เครอ่� งรบั ัคลน�่ ความถี่ท่� ม่� ร่ าคาถี่ก่ หรอ่ อาจัถี่ง้ ขน�ั ทต่� ิอ้ งผลติ ิเพอ่� จัา่ ยุแจักใหก้ บั ัทกุ ครวั เรอ่ นเพอ่� ใหก้ ารเขา้ ถี่ง้ คลน่� ความถี่่� ติามทก่� ฎหมายุบััญญัติิไว้ ให้เกดิ ข้น� จัริง เม�่อประชาชนชาวไทยุเข้าถี่้งคล�่นความถี่�่แล้ว การใช้ประโยุชน์จัากคล�่นความถี่�่ก็จัะเกิดข้�นติามมา ไมว่ า่ จัะเปน็ การรบั ัชม รบั ัฟังั การม่ส่วนรว่ ม หรอ่ การนำามาใช้ประโยุชน์ติามความติ้องการของแติล่ ะบัคุ คล สรุป การเข้าถี่ง้ ซ็�ง้ คล่�นความถี่ข่� องประชาชนชาวไทยุ ยุังเปน็ ปัญหาทต�่ ิ้องแก้ไขอยุา่ งเร่งด่วน ๖๐ รายุงานการติิดติามติรวจัสอบัและประเมนิ ผลการดาำ เนนิ การและการบัรหิ ารงานของ กสทช. สำานักงาน กสทช. และเลขาธิกิ าร กสทช. ด้านการสง่ เสริมสิทธิิและเสรภ่ าพของประชาชน ประจัำาปี ๒๕๖๔.

2๓๗รายงานการติดิ ติามติรวจสอบัและประเมินผลการปฏิบิ ััติิงาน กสทช. สำ�นัักง�นั กสทช. และเลข�ธิิก�ร กสทช. ประจำ�ำ ปี ๒๕๖๔ ๖.๕.๒ กสทำช. คุวัรติอบช่แ� จงรายงานการติิด้ติาม ติรวัจสอบ แลัะประเมนิ ผู้ลัการปฏิิบตั ิิงานประจำาปี ของคุณ์ะกรรมการติดิ ้ติามแลัะประเมินผู้ลัการปฏิิบตั ิิงานงาน (กติป.) ในแติล่ ัะปตี ิอ่ รฐั สภาแลัะสาธีารณ์ะ คณะกรรมการติดิ ติามและประเมนิ ผลการปฏิบิ ัตั ิงิ าน ไดร้ บั ัแติง่ ติงั� ติามพระราชบัญั ญตั ิอิ งคก์ รจัดั สรร คล่�นความถี่�่และกาำ กับัการประกอบักิจัการวิทยุุกระจัายุเส่ยุง วิทยุุโทรทัศน์ และกิจัการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ปฏิิบััติิหน้าท�่ ติั�งแติ่วันท่� ๒๕ ม่นาคม ๒๕๖๒ (ครบัวาระดำารงติำาแหน่ง ๓ ปี ในวันท่� ๒๗ ม่นาคม ๒๕๖๕) ติามบัทบััญญัติิกฎหมายุอยุ่างเคร่งครัด และเม่�อดาำ เนินการเสร็จัแล้ว ติ้องจััดทำารายุงานผลการติิดติาม ติรวจัสอบั และประเมนิ ผลการดำาเนินการและการบัรหิ ารงานของ กสทช. สาำ นักงาน กสทช. และเลขาธิกิ าร กสทช. เพอ�่ เสนอ ให้ กสทช. ทราบั และกฎหมายุกย็ ุงั กาำ หนดให้ กสทช. นาำ รายุงานดงั กลา่ วเสนอติอ่ รฐั สภาพรอ้ มรายุงานผลการปฏิบิ ัตั ิิ งานประจัำาปีของ กสทช. และเปิดเผยุรายุงานดงั กล่าวให้ประชาชนทราบัด้วยุ ดังน�ัน กสทช. จั้งควรใช้โอกาสน�่ ติอบัช�่แจังเป็นลายุลักษณ์อักษรติ่อรายุงานการติิดติามติรวจัสอบั และประเมินผลการปฏิบิ ัตั ิิงานประจัำาปีของคณะกรรมการติดิ ติามและประเมนิ ผลการปฏิิบััติงิ าน (กติป.) ในแติล่ ะปี ดงั กลา่ ว เพอ�่ ใหส้ มาชกิ รฐั สภา (สภาผแ่้ ทนราษฎร และวฒุ สิ ภา) และประชาชนไดร้ บั ัรร้่ บั ัทราบัถี่ง้ ผลการบัรหิ ารจัดั การ ติามบัทบััญญัติิของรัฐธิรรมน่ญและกฎหมายุว่าเป็นอยุ่างไร ม่ปัญหาและอุปสรรคอะไรบั้าง เพราะปัญหาท่�เกิดข้�น เป็นปัญหาเดิมๆ ท�่เกิดข�้นมาแล้วทั�งสิ�น (เช่น สัญญาณไม่ม่ ไม่ชัดเจัน ไม่เสถี่่ยุร ดับัๆ หายุๆ การคิดค่าใช้จั่ายุ ไมถ่ ี่่กติอ้ ง ไม่เปน็ ไปติามความจัริง โฆษณาหลอกลวงเกนิ จัริง เอาเปร่ยุบัผ้บ่ ัริโภค การชักชวนเลน่ การพนนั ส�อ่ ลามก อนาจัาร ใบั้หวยุ และเร่�องงมงายุติ่างๆ) นอกจัากเป็นการติอบัช�่แจังแล้ว ยุังเป็นการประชาสัมพันธิ์งานอ่กด้วยุ นับัเป็นโอกาสอันสาำ คัญและเปน็ ประโยุชน์ติ่อ กสทช. ประเทศชาติแิ ละเป็นประโยุชน์ติ่อประชาชนอยุา่ งยุ�ิง ท่�ผา่ นมา นบั ัติง�ั แติ่คณะกรรมการติิดติามและประเมนิ ผลการปฏิิบัตั ิงิ าน (กติป.) ชดุ แรกทป่� ฏิบิ ััติิหน้าท�่ (ติ�ังแติ่วันท�่ ๒๕ เมษายุน ๒๕๕๖ - ๒๔ เมษายุน ๒๕๕๘) พบัว่า กสทช. ได้ติอบัช่�แจังรายุงานประจัาำ ปี ๒๕๕๘ เพย่ ุงปีเดย่ ุว ส่วนคณะกรรมการติดิ ติามและประเมนิ ผลการปฏิิบััติิงาน (กติป.) ชุดทส�่ องท่�ปฏิิบัตั ิิหนา้ ท�่ (ติั�งแติ่วนั ท�่ ๒๘ มน่ าคม ๒๕๖๒ - ๒๗ ม่นาคม ๒๕๖๕) นัน� พบัว่า กสทช. ไมไ่ ดต้ ิอบัช่แ� จังรายุงานการติิดติามและประเมนิ ผล การปฏิบิ ัตั ิงิ าน ประจัาำ ปี ๒๕๖๒ และปี ๒๕๖๓ แติป่ ระการใด นบั ัเปน็ การเสย่ ุโอกาสในการประชาสมั พนั ธิก์ ารทาำ งาน ของ กสทช. สาำ นักงาน กสทช. และเลขาธิิการ กสทช. อยุ่างยุงิ� ๖.๕.๓ ปญั หาบทำบัญญตั ิแิ หง่ กฎหมายองคุก์ รจัด้สรรคุลั�น่ คุวัามถท่� ำ่เ� ป็นอปุ สรรคุ • บัทบััญญัติิเพ่�อให้การทาำ งานของ กติป. ม่ประสิทธิิภาพยุ�ิงข�้น พระราชบััญญัติิองค์กรจััดสรร คล�่นความถี่�่และกาำ กับัการประกอบักิจัการวิทยุุกระจัายุเส่ยุง วิทยุุโทรทัศน์ และกิจัการ โทรคมนาคม (ฉบัับัท�่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ ไดบ้ ััญญัติิหลักการใหม่ โดยุใหค้ ณะกรรมการดิจัทิ ัลเพ่อ� เศรษฐกจิ ัและสงั คม เปน็ ผพ่้ จิ ัารณาอนมุ ตั ิงิ บัประมาณ (รวมทง�ั คา่ ใชจ้ ัา่ ยุและคา่ ติอบัแทนติา่ งๆ) ของ กติป. (แทน กสทช. ซ็้�งเปน็ หนว่ ยุงานท่� กติป. จัะติรวจัสอบั) ทงั� น�่ เพอ�่ ให้การติรวจัสอบั และการบัรหิ ารของ กติป. มป่ ระสทิ ธิภิ าพมากขน้� ในทางปฏิบิ ัตั ิิ คณะกรรมการดจิ ัทิ ลั ฯ กอ็ นมุ ตั ิิ งบัประมาณคา่ ใชจ้ ัา่ ยุและคา่ ติอบัแทนติา่ งๆ ติามความเหน็ ท�่ กสทช. เสนอมา ทงั� นอ่� าจัเปน็ เพราะ เป็นเงินงบัประมาณของ กสทช. น�ันเอง ดงั จัะเห็นได้จัากติลอด ๓ ปีท�ผ่ ่านมา คณะกรรมการ ดิจัิทัลฯ ได้อนุมัติิงบัประมาณรายุจั่ายุประจัาำ ปี ค่าใช้จั่ายุและค่าติอบัแทนของ กติป. ติาม ความเห็นของ กสทช. ทกุ ประการ อยุ่างไรก็ติามการแก้ไขหลกั การหร่อแนวคิดดังกล่าว กเ็ ปน็ สิ�งท่�ถี่่กติ้องท�่หน่วยุงานท�่จัะติรวจัสอบัไม่ควรติ้องขออนุมัติิงบัประมาณจัากหน่วยุงานท่�จัะถี่่ก ติรวจัสอบั แมว้ า่ จัะยุังม่ปญั หาในทางปฏิบิ ัตั ิิอยุ่กต็ ิาม

2๓๘ กตป. คณะกรรมการติดิ ติามและประเมนิ ผลการปฏิิบัตั ิิงาน • บัทบััญญัติิแห่งกฎหมายุท่�ไม่สอดคล้องติ้องกันหร่ออาจัขัดแยุ้งกันคณะกรรมการติิดติามและ ประเมินผลการปฏิิบััติิงาน หร่อ กติป. ม่อำานาจัหน้าท�่ (ติามมาติรา ๗๒) ติิดติามติรวจัสอบั และประเมินผลการดำาเนินการ และการบัริหารงานของ กสทช. สาำ นักงาน กสทช. และ เลขาธิิการ กสทช. แล้วแจั้งผลให้ กสทช. ทราบัภายุใน ๙๐ วัน นับัแติ่วันส�ินปีบััญช่ โดยุในรายุงานของ กติป. น�ัน มาติรา ๗๓ กำาหนดให้ติ้องม่ผลการปฏิิบััติิงานประจัาำ ปี ของ กสทช. และความเหน็ เกย�่ ุวกบั ัรายุงานประจัำาปที �่ กสทช. ไดจ้ ัดั ทาำ ขน�้ ซ็ง้� มาติรา ๗๖ กำา หนดให้ กสทช. จััดทาำ รายุงานผลการปฏิิบััติิงานประจัาำ ปีเพ่�อเสนอติ่อรัฐสภาภายุใน ๑๒๐ วัน นับัแติ่ วันสิน� ปบี ััญช่ (๓๑ ธิันวาคม คอ่ วันสิน� ปบี ัญั ช่ของ กติป. และของ กสทช.) เหน็ ไดว้ า่ กฎหมายุบัญั ญตั ิใิ นสง�ิ ทไ�่ มส่ อดคลอ้ งติอ้ งกนั จัง้ ไมส่ ามารถี่กระทำาได้ เพราะกฎหมายุกาำ หนด ให้ กติป. ทำารายุงานผลการติดิ ติามใหแ้ ลว้ เสรจ็ ัภายุใน ๙๐ วนั คอ่ ภายุในวนั ท�่ ๓๑ มน่ าคม ในขณะทก่� ฎหมายุกาำ หนด ให้ กสทช. ทำารายุงานประจัำาปฯี ใหแ้ ลว้ เสรจ็ ัภายุใน ๑๒๐ วนั นนั� กค็ อ่ ในขณะท่� กติป. ถี่ง้ กาำ หนดทต�่ ิอ้ งจัดั ทาำ รายุงาน เสร็จัแล้วนั�น กสทช. ยุังม่เวลาท�่จัะทาำ รายุงานประจัำาปีอ่กหน�้งเด่อนจันถี่้งส�ินเด่อนเมษายุน (โดยุประมาณ) ดังน�ัน การทาำ รายุงานของ กติป. จั้งจัะยุังไม่ม่รายุงานผลการปฏิิบััติิงานประจัาำ ปีของ กสทช. ประกอบัการพิจัารณา ติามทก�่ ฎหมายุกำาหนดไว้ ซ็ง้� ในทางปฏิบิ ัตั ิิ กติป. ไดข้ อความรว่ มมอ่ ให้ กสทช. สง่ (รา่ ง) รายุงานผลการปฏิบิ ัตั ิงิ านประจัาำ ปี ของ กสทช. เพ่�อ กติป. จัะนำาไปศ้กษาพจิ ัารณาเพอ�่ ไม่ให้ขัดกับับัทบััญญตั ิขิ องกฎหมายุขา้ งติน้ ซ็ง�้ (ร่าง) รายุงาน ผลการปฏิิบััติงิ านประจัาำ ปีของ กสทช. ดังกล่าว อาจัถี่่กปรบั ัเปล่�ยุนหรอ่ แกไ้ ขเพ�มิ เติิมได้อ่ก ๖.๕.๔ เลัขหมายฉุกเฉินแห่งชาติิ (๑๙๑) ยังไม่แลั้วัเสร็จสมบ้รณ์์เลัขหมายโทำรศึัพทำ์ฉุกเฉินแห่งชาติิ เลัขหมายเด้ย่ วั (National Single Emergency Number) เลขหมายุฉุกเฉินแห่งชาติิ (๑๙๑) ยุังไม่แล้วเสร็จัสมบั่รณ์เลขหมายุโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติิ เลขหมายุเดย่ ุว (National Single Emergency Number) นถ่� ี่ก่ บัญั ญตั ิไิ วใ้ นพระราชบัญั ญตั ิอิ งคก์ รจัดั สรรคลน่� ความถี่�่ และกำากับัการประกอบักิจัการวิทยุุกระจัายุเส่ยุง วิทยุุโทรทัศน์ และกิจัการโทรคมนาคม แก้ไขเพ�ิมเติิม ฉบัับัท�่ ๓ พ.ศ. ๒๕๖๒ ซ็�ง้ ใช้บังั คับัวันท�่ ๑๖ เมษายุน พ.ศ. ๒๕๖๒ ได้บััญญตั ิใิ ห้ มเ่ ลขหมายุฉกุ เฉินแหง่ ชาติเิ ลขหมายุเด่ยุว โดยุ กสทช. ซ็ง�้ มห่ นา้ ทแ่� ละอาำ นาจัในการจัดั สรร ๑๙๑ เปน็ เลขหมายุโทรศพั ทฉ์ กุ เฉนิ แหง่ ชาติิ ใหแ้ กส่ ำานกั งานติาำ รวจัแหง่ ชาติิ เป็นหมายุเลขรับัแจั้งเหติุฉุกเฉินแห่งชาติิ หมายุเลขเด่ยุว เพ�่อประโยุชน์ในการรับัแจั้งเหติุฉุกเฉินจัากประชาชน และประสานงานกับัหน่วยุงานท�่เก่�ยุวข้องในการช่วยุเหล่อหร่อระงับัเหติุฉุกเฉิน จัะทาำ ให้ระบับัการแจั้งเหติุฉุกเฉิน เป็นไปอยุ่างม่ประสิทธิิภาพ เน�่องจัากสำานักงานติาำ รวจัแห่งชาติิม่ความพร้อมและเป็นผ่้รับัผิดชอบัศ่นยุ์รับัแจั้ง เหติุฉุกเฉิน ๑๙๑ มาเป็นเวลานานแล้ว ท�ังในส่วนกลางและส่วนภ่มิภาค และปี ๒๕๖๒ สำานักงานติำารวจัแห่งชาติิ ไดจ้ ัดั ติงั� ศน่ ยุร์ บั ัแจัง้ เหติฉุ กุ เฉนิ ๑๙๑ ครบัทงั� ๗๗ จังั หวดั และการปฏิบิ ัตั ิงิ านกม็ ก่ ารประสานแจัง้ เหติไุ ปยุงั หนว่ ยุงาน ทเ�่ ก่ย� ุวขอ้ งอยุแ่ ล้ว นอกจัากน่� การท่�กำาหนดไม่ให้ผ่้ได้รับัใบัอนุญาติประกอบักิจัการโทรคมนาคม เร่ยุกเก็บัค่าบัริการ จัากผ้่แจั้งเหติุ ก็จัะทำาให้ไม่เกิดภาระค่าใช้จั่ายุแก่ผ้่แจั้งเหติุ อ่กท�ังการกาำ หนดให้ผ้่รับัแจั้งและหน่วยุงานท�่เก�่ยุวข้อง ในการช่วยุเหล่อหร่อระงับัเหติุฉุกเฉิน สามารถี่เข้าถี่้งหร่อเปิดเผยุพิกัดติาำ แหน่งหร่อข้อม่ลส่วนบัุคคลของผ่้แจั้งเหติุ หรอ่ ผป้่ ระสบัเหติฉุ กุ เฉนิ โดยุไมม่ ค่ วามผดิ กใ็ หก้ ระทำาไดเ้ ฉพาะเทา่ ทจ�่ ัำาเปน็ เพอ�่ ประโยุชนใ์ นการชว่ ยุเหลอ่ หรอ่ ระงบั ั เหติฉุ กุ เฉนิ หรอ่ เพอ�่ ติรวจัสอบัผก่้ ระทาำ ความผดิ เทา่ นนั� อนั จัะทำาใหเ้ กดิ ประโยุชนใ์ นการชว่ ยุเหลอ่ ผป่้ ระสบัเหติฉุ กุ เฉนิ หรอ่ ระงบั ัเหติฉุ กุ เฉนิ ไดอ้ ยุา่ งทนั ทว่ งทแ่ ละมป่ ระสทิ ธิภิ าพ ซ็ง�้ ขอ้ ยุกเวน้ น่� คมุ้ ครองถี่ง้ ผป้่ ระกอบัการโทรคมนาคมดว้ ยุ ส่วนโทษปรับัทางปกครองกับัผ่้ใชห้ ร่อเร่ยุกเลขหมายุโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติิ โดยุไม่ม่เหติุฉุกเฉิน หรอ่ มพ่ ฤติกิ รรมอนั เปน็ การกอ่ กวนการปฏิบิ ัตั ิงิ านของผร่้ บั ัแจัง้ กเ็ ปน็ การปอ้ งปรามมใิ หผ้ ไ่้ มป่ ระสงคด์ ่ โทรมากอ่ กวน ซ็ง�้ อาจัม่จัาำ นวนมากจันค่สายุเติ็ม ทำาให้ผ่ป้ ระสบัเหติุฉุกเฉนิ จัริงไมส่ ามารถี่แจั้งเหติฉุ ุกเฉินได้น�นั เอง

2๓๙รายงานการติดิ ติามติรวจสอบัและประเมินผลการปฏิบิ ััติงิ าน กสทช. สำ�นักั ง�นั กสทช. และเลข�ธิกิ �ร กสทช. ประจำำ�ปี ๒๕๖๔ อยุ่างไรก็ติาม แม้บัทบััญญัติิในส่วนน�่ จัะมิได้กำาหนดให้ชัดเจันถี่้งหน้าท�่และความรับัผิดของ ผ้่ประกอบัการเก�่ยุวกับัการจััดสรรทรัพยุากรเพ่�อรองรับัการแจั้งเหติุโดยุใช้เลขหมายุโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติิ แติโ่ ดยุหลกั การแล้วเลขหมายุโทรศัพทฉ์ ุกเฉนิ แห่งชาติิเป็นเลขหมายุท�่ติ้องสามารถี่โทรแจั้งได้ทกุ ช่วงเวลา โดยุไมผ่ ่ก ติดิ กบั ัสัญญาการให้บัริการระหวา่ งประชาชนและผ้่ประกอบัการ ผ่้ประกอบัการจัง้ ติ้องให้บัริหารสำาหรับัการแจั้งเหติุ โดยุใช้เลขหมายุดังกล่าวไม่ว่าจัะม่การระงับัการให้บัริการติามสัญญาหร่อไม่ เน�่องจัากเร่�องดังกล่าวเป็นเร�่องสำาคัญ เก่ย� ุวขอ้ งกบั ัประโยุชนส์ าธิารณะและถี่อ่ เป็นหลักปฏิิบััติิสากลท�ใ่ ช้กันทั�วโลก จัากความพร้อมและแผนการดำาเนินการของ กสทช. และสาำ นักงานติาำ รวจัแห่งชาติิ (แผนการ ทาำ งานของ สติช. กาำ หนดไว้เป็น ๓ ระยุะ (พ.ศ. ๒๕๕๘ - ๒๕๖๔) น่าจัะสามารถี่เปิดให้บัริการเป็นระยุะๆ และ เสร็จัสมบัร่ ณ์ ในปี ๒๕๖๔ แติ่หลังจัากกฎหมายุบัังคับัใช้แล้ว การดำาเนินการกลับัลา่ ช้าอยุา่ งมาก ในขณะท�ป่ ระเทศ ชาติมิ เ่ หติฉุ กุ เฉนิ มากมายุ ติอ่ เนอ�่ งยุาวนาน แติ่ ๑๙๑ กลบั ัไมม่ บ่ ัทบัาทใดๆ ไมม่ ก่ ารแถี่ลงหรอ่ แจัง้ เหติปุ ญั หาอปุ สรรค ให้สาธิารณชนทราบั จันกระทั�งเกดิ เหติฉุ กุ เฉนิ ทส�่ ุดในประวัติิศาสติร์โลก การระบัาดของ COVID-19 ทม่� ่เหติฉุ ุกเฉนิ มากมายุทั�วทกุ หยุอ่ มหญ้า ผค่้ นไมว่ ่าผใ่้ หญ่ เด็กหร่อทารก ติิดเช่�อจัำานวนมากติอ้ งการความช่วยุเหลอ่ และเส่ยุชว่ ติ ิ จัาำ นวนมาก จันกระท�ังวันท่� ๒๙ เมษายุน ๒๕๖๔ พล.อ. ประยุุทธิ์ จัันทร์โอชา นายุกรัฐมนติร่และรัฐมนติร่ ว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ส�ังการให้เปิดศ่นยุ์รับัแจั้งเหติุฉุกเฉิน ๑๙๑ ช่วยุรับัแจั้งกรณ่ผ้่ป�วยุ COVID-19 เพ�่อแบั่งเบัาภาระสายุด่วนติ่างๆ ของหน่วยุงานทางการแพทยุ์ เพ�่อเป็นติัวกลางรวบัรวมข้อม่ลผ่้ป�วยุ COVID-19 เพ�่อบัรรเทาและชว่ ยุเหล่อประชาชน ๖.๕.๕ กองทำุน กทำปส. คุวัรสนับสนุนส่�อทำ่�ขาด้กำาลัังสนับสนุน เช่น รายการเด้็ก เยาวัชน รายการ คุนพิการ แลัะรายการสร้างสรรคุ์สังคุม กองทุนวิจััยุและพัฒนากิจัการกระจัายุเส่ยุง กิจัการโทรทัศน์ และกิจัการโทรคมนาคม (กทปส.) กองทุน กทปส. ม่วัติถีุ่ประสงค์เพ่�อสนับัสนุนส่งเสริมให้ประชาชนได้รับับัริการด้านกิจัการกระจัายุเส่ยุง กิจัการ โทรทัศน์และกิจัการโทรคมนาคมอยุ่างท�ัวถี่้ง ติลอดจันส่งเสริมชุมชนและสนับัสนุนผ้่ประกอบักิจัการบัริการชุมชน ส่งเสริมและสนับัสนุนการพัฒนาทรัพยุากรส่�อสาร การวิจััยุ และพัฒนาในกิจัการฯ รวมทั�งความสามารถี่ในการร้่ เทา่ ทันส่�อเทคโนโลยุด่ ้านการใชค้ ล�น่ ความถี่�่ เทคโนโลยุส่ ารสนเทศ เทคโนโลยุ่ส�งิ อำานวยุความสะดวกสาำ หรบั ัผ้พ่ ิการ ผ่ส้ ่งอายุหุ ร่อผ่้ดอ้ ยุโอกาส ติลอดจันอุติสาหกรรม โทรคมนาคมและอุติสาหกรรมติอ่ เน�อ่ ง ฯลฯ ซ็�้งปจั ัจัุบันั รายุการ สำาหรับัเด็ก เยุาวชน ม่น้อยุและม่การยุกเลิกหลายุช่อง หลายุรายุการ เน�่องจัากไม่ม่ผ่้สนับัสนุนรายุการ เพราะ เป็นรายุการท�่ม่เรติติ�ิงหร่อความนิยุมคนด่ติำ�า ผ้่สนับัสนุนจั้งม่น้อยุ และผ่้ผลิติรายุการก็แทบัจัะไม่ม่กองทุน กทปส. จั้งควรสนับัสนุนให้มากข�้นและกระติุ้นให้ม่การผลิติรายุการเด็ก เยุาวชน รายุการคนพิการ และรายุการสร้างสรรค์ สงั คม ใหม้ ากยุง�ิ ขน�้ ภายุใติแ้ นวคดิ ทว�่ า่ เขายุอ่ มรค่้ วามติอ้ งการของพวกเขาโดยุเฉพาะควรใหเ้ ดก็ เยุาวชน และคนพกิ าร ไดด้ ำาเนนิ รายุการในรายุการ หรอ่ ทางชอ่ ง หรอ่ สถี่านว่ ทิ ยุกุ ระจัายุเสย่ ุง หรอ่ มส่ ว่ นรว่ มอยุา่ งสาำ คญั ในการผลติ ิรายุการ สำาหรบั ัพวกเขา โดยุหนว่ ยุงานท่�เก�่ยุวข้องหรอ่ อาจัม่ผท้่ รงคุณวุฒิ คอยุด่แล ช่วยุเหลอ่ เป็นติน้ ๖.๕.๖ ปัญหาทำ�่เกดิ ้จากสายส่�อสาร สายุสอ�่ สารทห�่ ยุอ่ นคลอ้ ยุลงมาจันเปน็ เหติใุ หเ้ กดิ อนั ติรายุแกช่ ว่ ติ ิ รา่ งกายุ และทรพั ยุส์ นิ ของผข้่ บั ัข�่ ยุานพาหนะน�นั สาเหติุหน�ง้ มาจัากสายุส�อ่ สารท�ไ่ ม่ได้ใช้งานแล้ว แติ่ไม่ถี่่กร�อ่ ออกแติ่ถี่่กปล่อยุปละละเลยุจันขาดบั้าง หยุ่อนยุานลงเร�่ยุดิน บัางช่วงท�่สายุส�่อสารหยุ่อนยุานลงมาถี่้งพ�่นถี่นนหนทาง เม�่อผ้่ขับัข�่ยุานพาหนะขับัผ่าน จั้งเก�ย่ ุวสายุส�อ่ สารเหล่าน�นั ได้รับัอันติรายุท�งั บัาดเจั็บัและเส่ยุช่วิติ และจัากการลงพ�น่ ท�ท่ �จ่ ัังหวัดภาคเหน่อ ได้รับั ทราบัว่า ผ่้ขับัข่�ยุานพาหนะได้ขับัไปติามถี่นนและได้เก่�ยุวสายุส�่อสารจันทำาให้เสาไฟัฟั้าท่�สายุส่�อสารล้มลงจันทาำ ให้ ผข่้ บั ัขไ่� ดร้ บั ัอนั ติรายุ และยุงั ถี่ก่ การไฟัฟัา้ สว่ นภม่ ภิ าคฟัอ้ งเรย่ ุกรอ้ งคา่ เสย่ ุหายุใหช้ ดใชเ้ สาไฟัฟัา้ ทล่� ม้ หรอ่ หกั โคน่ นนั� ดว้ ยุ

24๐ กตป. คณะกรรมการติดิ ติามและประเมินผลการปฏิิบัตั ิงิ าน กรณ่ดังกล่าวหากไม่ม่สายุส่�อสารหยุ่อนคล้อยุลงมาจันก่ดขวางเส้นทางสัญจัรแล้ว อันติรายุยุ่อม ไมเ่ กดิ ขน�้ เมอ่� ไมม่ เ่ หติุ ผลกย็ ุอ่ มไมเ่ กดิ ขน้� ฉนั ใดกฉ็ นั นนั� และเพราะเหติใุ ดสายุสอ่� สารทไ่� มถ่ ี่ก่ ใชง้ านแลว้ จัง้ ไมถ่ ี่ก่ รอ่� ออก ทั�งๆ ท�่ในกฎระเบั่ยุบัและแนวปฏิิบััติิท่� กสทช. กำาหนดไว้ให้เจั้าของกิจัการติ้องดาำ เนินการร่�อสายุและอุปกรณ์การ ออกอากาศออกให้หมด โดยุม่เจั้าหน้าท่� กสทช. ติดิ ติามติรวจัสอบัและถี่่ายุร่ปการร่อ� ถี่อนนั�น ให้สำานักงาน กสทช. ทราบัในทุกกรณ่ แนวปฏิิบััติิท่�ผ่านมา เม่�อม่กรณ่เลิกกิจัการ เลิกใช้ เลิกออกอากาศแล้ว สาำ นักกาำ กับัการใช้คล�่น ความถี่่�ในกิจัการกระจัายุเสย่ ุงและโทรทศั น์ (คส.) และสำานกั งาน กสทช.ภาค (ท�่อยุ่ในพ่�นทร่� ับัผิดชอบั) จัะติรวจัสอบั และติิดติามการร่�อถี่อนสายุอากาศ สายุเคเบัิลท�่ม่การพาดสายุไว้กับัเสาไฟัฟั้าและอุปกรณ์ท่�ใช้ในการออกอากาศ และแจั้งผลการติรวจัสอบัโดยุการส่งภาพถี่่ายุการร่�อถี่อนสายุอากาศและการทาำ ลายุเคร่�องวิทยุุคมนาคม รวมถี่้ง อุปกรณ์ท่�ใช้ในการออกอากาศ ส่งให้สำานักงาน กสทซ็. สาำ นักการอนุญาติประกอบักิจัการ โครงข่ายุสิ�งอำานวยุ ความสะดวกและเครอ�่ งวิทยุุคมนาคม (ปส.๓) ได้รบั ัทราบั ดังน�ันหากม่การบัังคับัท�่เข้มงวด จัริงจัังแล้ว ปัญหาอันติรายุท�่เกิดจัากสายุส�่อสารดังกล่าว กอ็ าจัไม่เกิด หร่ออาจัแก้ไขกฎ ระเบั่ยุบั หร่อแนวปฏิบิ ัตั ิิในการควบัคมุ ดแ่ ลให้เขม้ งวดรดั กมุ มากยุิง� ข�้นก็จัะลดปัญหา เหล่านั�นได้อยุ่างมาก เพราะภาพถี่่ายุดังกล่าวอาจัเป็นเพ่ยุงการร่�อสายุส่�อสารและอุปกรณ์เพ่ยุงส่วนหน้�งเท่าน�ันก็ได้ ปญั หาสายุสอ่� สารทไ�่ มใ่ ชแ้ ลว้ จัง้ มอ่ ยุท่ ว�ั ไป การหวงั พง้� พงิ โครงการนาำ สายุสอ่� สารลงดนิ ทวั� ทกุ พน�่ ทน่� น�ั ไมอ่ าจัเกดิ ขน้� ได้ แติ่การจััดระเบั่ยุบัสายุส่�อสารให้เร่ยุบัร้อยุ เป็นระเบั่ยุบั ไม่เป็นสาเหติุท่�ก่อให้เกิดอันติรายุติ่างๆ เป็นสิ�งท�่ม่กาำ หนด ในกฎ ระเบัย่ ุบั ทส�่ ำานักงาน กสทช. และเจัา้ หนา้ ทท�่ เ�่ กย�่ ุวขอ้ งติอ้ งด่แลอยุ่างเข้มงวด เคร่งครัด

๗บทท่ ี ภาคผนวก 24๑รายงานการติดิ ติามติรวจสอบัและประเมินผลการปฏิบิ ัตั ิิงาน กสทช. สำ�นักั ง�นั กสทช. และเลข�ธิกิ �ร กสทช. ประจำ�ำ ปี ๒๕๖๔ ๗.1 การประชุมเพ่�อรบั ฟ�งข้อมลู ขอ้ คิดเห็นทเี่ ก่ยี วขอ้ งและบูรณาการข้อมลู การจดั ทาำ รายงาน การติดตามและประเมนิ ผลการดาำ เนินการและการบรห� ารงานของ กสทช. สำานักงาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. ตามมาตรา ๗๓ แห่งพระราชบัญญัตอิ งคก รจดั สรรคลื่นความถ่ีและกาำ กบั การประกอบกิจการวท� ยกุ ระจายเสยี ง ว�ทยโุ ทรทศั น และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ประจำาปี ๒๕๖4 จดั ข้นึ เมือ่ วันพฤหสั บดที ี่ ๑๐ มีน�คม พ.ศ. 2๕๖๕ เวล� ๐๘.๓๐ - ๑๖.๐๐ น. ณ ห้องวภิ �วดีบอลรูม ซ ี โรงแรมเซ็นท�ร�แกรนด ์ แอท เซ็นทรลั พล�ซ�่ ล�ดพร้�ว กรุงเทพฯ รปู ที่ ๗-๑: บรรยากาศการประชมุ เพอ่ื รบั ฟง ขอ มลู ขอ คดิ เหน็ ทเี่ กย่ี วขอ งและบรู ณาการขอ มลู การจดั ทาํ รายงานการตดิ ตามและประเมนิ ผลการดําเนนิ การและการบริหารงานฯ

242 กตป. คณะกรรมการติิดติามและประเมินผลการปฏิบิ ััติงิ าน ๗.๒ การเกบ็ รวบรวมข้อมูลเพ่อ� ใช้ในการตดิ ตามและประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงานของสำานักงาน กสทช. เพอ�่ ใหก้ ารรวบัรวมขอ้ มล่ การติดิ ติามและประเมนิ ผลการปฏิบิ ัตั ิงิ านของ กสทช. สาำ นกั งาน กสทช. และเลขาธิกิ าร กสทช. มค่ วามครบัถี่ว้ นสมบัร่ ณม์ ากยุง�ิ ขน�้ ในการเกบ็ ัรวบัรวมขอ้ มล่ แติล่ ะดา้ นนน�ั จัง้ มร่ ป่ แบับัในการเกบ็ ัขอ้ มล่ โดยุ ใช้วิธิ่การ ๔ วิธิ่ ดังน�่ ผ้ม่ ่ส่วนได้ส่วนเส่ยุและผ้ท่ �เ่ ก�ย่ ุวข้อง (จัากแบับัสอบัถี่าม) ผลการสัมภาษณ์เชิงล้ก (In-depth Interview)ผลการประชมุ เฉพาะกลมุ่ (FocusGroup)และผลการประชมุ เพอ�่ รบั ัฟังั ความคดิ เหน็ สาธิารณะ(PublicHearing) เมอ�่ ไดข้ อ้ มล่ จัากแติล่ ะกลมุ่ แลว้ จัดั ทาำ การวเิ คราะหแ์ ละประเมนิ ผลเพอ�่ ใหไ้ ดม้ าซ็ง�้ ผลการประเมนิ การปฏิบิ ัตั ิงิ านของ กสทช. สาำ นกั งาน กสทช. และเลขาธิกิ าร กสทช. จัากแติล่ ะกลมุ่ จัากนน�ั ทาำ การประเมนิ ภาพรวม โดยุมร่ ายุละเอย่ ุดดงั น�่ ๗.๒.๑ การจัด้การประชุมกลัมุ่ ย่อย (Focus Group) คณะกรรมการติดิ ติามและประเมนิ ผลการปฏิบิ ัตั ิงิ าน ไดจ้ ัดั การประชมุ กลมุ่ ยุอ่ ยุติามดา้ นติา่ งๆ ไดแ้ ก่ ๑) ด้านกจิ ัการกระจัายุเสย่ ุง ๒) ด้านกจิ ัการโทรทศั น์ ๓) ด้านกิจัการโทรคมนาคม ๔) ด้านการคมุ้ ครองผ่้บัรโิ ภค และ ๕) ดา้ นการสง่ เสรมิ สทิ ธิแิ ละเสรภ่ าพของประชาชน เพอ�่ เกบ็ ัขอ้ มล่ แบับัเจัาะประเดน็ และการอภปิ รายุในหวั ขอ้ ติา่ งๆ รว่ มกัน โดยุผ่ท้ ่�เขา้ ร่วมการประชมุ กลุ่มยุ่อยุ ประกอบัด้วยุ ผ้่ปฏิบิ ัตั ิิงาน กสทช. ผ่้ม่ส่วนไดส้ ว่ นเสย่ ุทัง� ผ้ป่ ระกอบัการ หน่วยุงานราชการ และติัวแทนภาคประชาชน โดยุจัาำ นวนผ้่เข้าร่วมรวมกันกว่า ๑๕๐ คน ซ็�้งผลจัากการประชุม กลุ่มยุอ่ ยุจัะถี่ก่ นำามาใช้เปน็ ข้อม่ลสาำ หรับัการติิดติามผลการปฏิิบััติิงานของสำานกั งาน กสทช. ทง�ั ในการประเมนิ ติาม หลักธิรรมาภิบัาล (Good Governance) หลักความไว้วางใจั (Fiduciary Duties) ร่ปแบับัการประเมินซ็ิปป์ (CIPP Evaluation Model) ร่ปแบับัการประเมินหลกั ทฤษฎ่ผ้ม่ ่ส่วนไดส้ ่วนเสย่ ุ (Stakeholder Model) และร่ปแบับั การประเมนิ หว่ งโซ็ผ่ ลลพั ธิ์ (Impact Value Chain) ซ็ง้� ถี่อ่ เปน็ เครอ�่ งมอ่ ทส่� ามารถี่วดั ผลความพง้ พอใจัของประชาชน ท่�ม่ติ่อการปฏิิบััติิงานของสำานักงาน กสทช. เพ�่อให้การจััดทำารายุงานติ�ังอยุ่บันพ�่นฐานของข้อเท็จัจัริง และได้รับั ความเห็นจัากหลายุฝึ�ายุท่�มส่ ว่ นเกย�่ ุวข้อง โดยุม่รายุละเอย่ ุดดงั น�่ ๑) ด้า้ นกิจการกระจายเสย่ ง ขอบัเขติของการจัดั การประชมุ เฉพาะกล่มุ (Focus Group) กับัผ่้มส่ ว่ นได้สว่ นเสย่ ุท่�เกย�่ ุวข้อง เพ่�อรับัทราบัข้อม่ล ข้อคิดเห็นท่�เก�่ยุวข้องม่ผลกระทบัติ่อการดาำ เนินการและการบัริหารงานของ กสทช. สาำ นักงาน กสทช. และเลขาธิิการ กสทช. ด้านกิจัการกระจัายุเส่ยุง โดยุผ่้ม่ส่วนได้ส่วนเส่ยุประกอบัด้วยุ ผ้่ประกอบักิจัการ กระจัายุเส่ยุง องค์กรวชิ าชพ่ นกั วชิ าการ สมาคม/ม่ลนิธิ/ิ องค์กรท�่เกย�่ ุวข้อง โดยุดำาเนนิ การจััดจัาำ นวน ๒ คร�ัง โดยุ แบัง่ ออกเปน็ ๕ กลมุ่ ไดแ้ ก่ กลมุ่ ผป่้ ระกอบัวชิ าชพ่ กจิ ัการกระจัายุเสย่ ุงทไ่� ดร้ บั ัใบัอนญุ าติคลน�่ หลกั ประเภทสาธิารณะ ๘ คน กลมุ่ ผป่้ ระกอบัวชิ าชพ่ กจิ ัการกระจัายุเสย่ ุงทก่� ำาลงั เขา้ สก่ ระบัวนการเขา้ รบั ัใบัอนญุ าติประเภทกจิ ัการทางธิรุ กจิ ั ๘ คน กลุ่มผ่้ประกอบัวิชาช่พกิจัการเส่ยุง กลุ่มทดลองประกอบักิจัการประเภทบัริการชุมชนและสาธิารณะ ๘ คน ผป้่ ระกอบัวชิ าชพ่ กจิ ัการเสย่ ุง กลมุ่ ทดลองประกอบักจิ ัการประเภทกจิ ัการทางธิรุ กจิ ั ๑๑ คน และกลมุ่ องคก์ รวชิ าชพ่ นักวิชาการ สมาคม/มล่ นิธิ/ิ องค์กรท่�เก่ย� ุวขอ้ ง ๓ คน รวมทัง� สิน� ๓๘ คน๖๑ . รปู ที่ ๗-๒: บรรยากาศการประชมุ กลมุ ยอ ย ดานกจิ การกระจายเสียง ๖๑ รายุงานการติดิ ติามติรวจัสอบัและประเมนิ ผลการดาำ เนนิ การและการบัรหิ ารงานของ กสทช. สำานักงาน กสทช. และเลขาธิกิ าร กสทช. ด้านกจิ ัการกระจัายุเส่ยุง ประจัำาปี ๒๕๖๔.

24๓รายงานการติิดติามติรวจสอบัและประเมินผลการปฏิิบัตั ิงิ าน กสทช. สำ�นัักง�นั กสทช. และเลข�ธิกิ �ร กสทช. ประจำำ�ปี ๒๕๖๔ ๒) ด้้านกจิ การโทำรทำัศึน์ การจัดั การประชมุ เฉพาะกลมุ่ (Focus Group) กบั ัผม่้ ส่ ว่ นไดส้ ว่ นเสย่ ุทเ่� กย่� ุวขอ้ ง เพอ่� รบั ัทราบั ข้อม่ล ข้อคดิ เห็นทเ�่ ก่�ยุวข้องม่ผลกระทบัติ่อการดาำ เนินการและการบัริหารงานของ กสทช. สาำ นักงาน กสทช. และ เลขาธิกิ าร กสทช. ดา้ นกจิ ัการโทรทศั น์ โดยุผม้่ ส่ ว่ นไดส้ ว่ นเสย่ ุประกอบัดว้ ยุ ผป้่ ระกอบักจิ ัการโทรทศั น์ องคก์ รวชิ าชพ่ นกั วิชาการ สมาคม/มล่ นิธิิ/องค์กรท่เ� ก่�ยุวขอ้ ง โดยุดำาเนินการจัดั จัาำ นวน ๑ คร�งั ซ็�ง้ มผ่ เ่้ ขา้ รว่ มท�งั สน�ิ ๔๒ คน๖๒ รปู ท่ี ๗-๓: บรรยากาศการประชมุ กลมุ ยอ ย ดานกจิ การโทรทศั น ๓) ด้า้ นกิจการโทำรคุมนาคุม การจัดั การประชมุ เฉพาะกลมุ่ (Focus Group) กบั ัผม้่ ส่ ว่ นไดส้ ว่ นเสย่ ุทเ่� กย่� ุวขอ้ ง เพอ�่ รบั ัทราบั ขอ้ มล่ ข้อคดิ เหน็ ท�่เกย�่ ุวข้องม่ผลกระทบัติ่อการดำาเนินการและการบัรหิ ารงานของ กสทช. สาำ นกั งาน กสทช. และ เลขาธิกิ าร กสทช. ดา้ นกจิ ัการโทรคมนาคม โดยุผม่้ ส่ ว่ นไดส้ ว่ นเสย่ ุประกอบัดว้ ยุ ผป่้ ระกอบักจิ ัการโทรคมนาคม องคก์ ร วชิ าชพ่ นกั วชิ าการ สมาคม/มล่ นธิ ิ/ิ องคก์ รทเ่� กย�่ ุวขอ้ ง โดยุดาำ เนนิ การจัดั จัาำ นวน ๑ ครง�ั โดยุแบัง่ ออกเปน็ ๒ กลมุ่ ไดแ้ ก่ กลุ่มของสาำ นักงาน กสทช. ๑๐ คน ผป้่ ระกอบัการ ๓๑ คน รวมท�งั สิน� ๔๑ คน๖๓ รปู ท่ี ๗-๔: บรรยากาศการประชมุ กลมุ ยอ ย ดา นกิจการโทรคมนาคม ๔) ด้า้ นการคุุ้มคุรองผู้บ้ ริโภคุ ผ้่เข้าร่วมการประชุมเฉพาะกลุ่ม (Focus Group) ของผ่้ม่ส่วนได้ส่วนเส่ยุและผ้่ท�่เก่�ยุวข้อง เพ่�อติดิ ติามและประเมนิ ผลการดำาเนนิ งานและการบัริหารงานของ กสทช. สำานักงาน กสทช. และเลขาธิกิ าร กสทช. ในวนั ท�่ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๕ ณ โรงแรมมริ าเคิล แกรนด์ คอนเวนชั�น กรงุ เทพฯ ม่จัาำ นวน ๓๓ คน ประกอบัด้วยุ ผแ่้ ทนจัากสภาเดก็ และเยุาวชนประจัาำ จังั หวัด สมาคมคุ้มครองผบ้่ ัรโิ ภค สถี่านโ่ ทรทัศน์และวิทยุุ และองคก์ รวชิ าชพ่ ส�่อมวลชน๖๔ ๖๒ รายุงานการติิดติามติรวจัสอบัและประเมนิ ผลการดาำ เนินการและการบัรหิ ารงานของ กสทช. สำานกั งาน กสทช. และเลขาธิิการ กสทช. ด้านกจิ ัการโทรทัศน์ ประจัาำ ปี ๒๕๖๔. ๖๓ รายุงานการติดิ ติามติรวจัสอบัและประเมนิ ผลการดำาเนนิ การและการบัรหิ ารงานของ กสทช. สำานกั งาน กสทช. และเลขาธิิการ กสทช. ด้านกจิ ัการโทรคมนาคม ประจัำาปี ๒๕๖๔. ๖๔ รายุงานการติิดติามติรวจัสอบัและประเมนิ ผลการดำาเนินการและการบัริหารงานของ กสทช. สาำ นักงาน กสทช. และเลขาธิิการ กสทช. ด้านการคุม้ ครองผบ้่ ัรโิ ภค ประจัาำ ปี ๒๕๖๔.

244 กตป. คณะกรรมการติดิ ติามและประเมินผลการปฏิบิ ััติงิ าน รปู ท่ี ๗-๕: บรรยากาศการประชมุ กลมุ ยอ ย ดานกิจการคมุ ครองผบู รโิ ภค ๕) ด้้านการสง่ เสริมสิทำธีแิ ลัะเสร่ภาพของประชาชน การประชุมเฉพาะกลุม่ (Focus Group) ร่วมกับัผ่ม้ ส่ ่วนไดส้ ่วนเสย่ ุและผ้ท่ ่เ� ก�่ยุวขอ้ ง เพ�่อรบั ัทราบั ข้อมล่ ขอ้ คิดเหน็ ท่�เก่�ยุวขอ้ ง ท่ม� ่ผลกระทบัติอ่ การดำาเนนิ การและการบัรหิ ารงานของ กสทช. สำานักงาน กสทช. และ เลขาธิกิ าร กสทช. ดา้ นการสง่ เสรมิ สทิ ธิแิ ละเสรภ่ าพของประชาชน เชน่ ผป่้ ระกอบักจิ ัการ องคก์ รวชิ าชพ่ นกั วชิ าการ สมาคม/มล่ นธิ ิ/ิ องคก์ รทเ�่ กย�่ ุวขอ้ ง เปน็ ติน้ รวมจัำานวนไมน่ อ้ ยุกวา่ ๓๐ คน โดยุทป�่ รก้ ษาเปน็ ผเ่้ ชญิ หนว่ ยุงานและบัคุ คล ท�เ่ ก�ย่ ุวขอ้ งเขา้ ร่วมการประชมุ รวมถี่้งจััดทำาเอกสารประกอบัการประชุม๖๕ รปู ท่ี ๗-๖: บรรยากาศการประชมุ กลุม ยอ ย ดา นการสงเสริมสทิ ธิ และเสรีภาพของประชาชน ๗.๒.๒ การจัด้การประชุมเพอ�่ รับฟังคุวัามคุิด้เห็นสาธีารณ์ะ (Public Hearing) เพ่อ� ให้การรวบัรวมข้อมล่ การติดิ ติามและประเมินผลการปฏิบิ ััติงิ านของสาำ นกั งาน กสทช. ม่ความ ครบัถี่้วนสมบั่รณ์มากยุิ�งข�้น นอกจัากการพิจัารณาติรวจัสอบัจัากเอกสารติ่างๆ แล้ว กติป. ยุังได้ม่การจััดประชุม เพอ�่ รบั ัฟังั ความคดิ เหน็ สาธิารณะของผม้่ ส่ ว่ นไดส้ ว่ นเสย่ ุทกุ ภม่ ภิ าค ทง�ั ใน ๑) ดา้ นกจิ ัการกระจัายุเสย่ ุง ๒) ดา้ นกจิ ัการ โทรทัศน์ ๓) ดา้ นกจิ ัการโทรคมนาคม ๔) ด้านการคุ้มครองผ่บ้ ัรโิ ภค และ ๕) ด้านการสง่ เสริมสทิ ธิิและเสร่ภาพของ ประชาชน เนอ�่ งจัาก กติป. ไดเ้ ลง็ เหน็ ถี่ง้ ความสำาคญั ของประชาชนทเ่� ปน็ ผไ้่ ดผ้ ลกระทบัจัากการปฏิบิ ัตั ิงิ านของ กสทช. และสำานกั งาน กสทช. ซ็ง�้ มค่ วามสาำ คญั มากในการติดิ ติามและประเมนิ ผลการปฏิบิ ัตั ิงิ าน ในการจัดั ประชมุ เพอ่� รบั ัฟังั ความคดิ เหน็ สาธิารณะ ไดจ้ ัำาแนกติามการติดิ ติามและประเมนิ ผลของ กติป. เพอ่� รบั ัฟังั ความคดิ เหน็ โดยุในแติล่ ะ ด้านได้ทำาการจัดั ประชุมด้านละ ๕ ภ่มิภาค ได้แก่ (๑) ภาคกลาง (๒) ภาคเหนอ่ (๓) ภาคใติ้ (๔) ภาคติะวนั ออก และ (๕) ภาคติะวนั ออกเฉ่ยุงเหนอ่ โดยุม่ผ่้เขา้ ร่วมประชมุ เพอ่� รบั ัฟังั ความคิดเห็นสาธิารณะรวมทง�ั หมดกวา่ ๓,๐๐๐ คน รายุละเอ่ยุดมด่ ังน่� ๖๕ รางานการติิดติามติรวจัสอบัและประเมินผลการดำาเนินการและการบัริหารงานของ กสทช. สำานักงาน กสทช. และเลขาธิิการ กสทช. ด้านการสง่ เสรมิ สทิ ธิิและเสรภ่ าพของประชาชน ประจัาำ ปี ๒๕๖๔.

24๕รายงานการติิดติามติรวจสอบัและประเมนิ ผลการปฏิิบัตั ิิงาน กสทช. สำ�นักั ง�นั กสทช. และเลข�ธิกิ �ร กสทช. ประจำำ�ปี ๒๕๖๔ จ.เช่ยงราย ๒๑ ธีนั วัาคุม ๒๕๖๔ เช่ยงราย จ.เช่ยงราย ๑๓ ธีันวัาคุม ๒๕๖๔ แมฮ่ ่องสอน พะเยา จ.ลัาำ ปาง ๑๐ มกราคุม ๒๕๖๕ จ.เชย่ งใหม่ ๒๑ ธีันวัาคุม ๒๕๖๔ เชย่ งใหม่ ลัาำ ปาง นา่ น จ.แพร่ ๖ มกราคุม ๒๕๖๕ จ.สุพรรณ์บรุ ่ ๙ ธีันวัาคุม ๒๕๖๔ ลัาำ พน้ แพร่ หนองคุาย บึงกาฬ จ.อดุ ้รธีาน่ ๒๔ ธีันวัาคุม ๒๕๖๔ จ.กาญจนบรุ ่ ๑๗ มกราคุม ๒๕๖๕ อตุ ิรด้ติ ิถ์ เลัย อุด้รธีาน่ สกลันคุร นคุรพนม จ.นคุรพนม ๑๔ ธีนั วัาคุม ๒๕๖๔ จ.นคุรพนม ๑๕ ธีันวัาคุม ๒๕๖๔ จ.ประจวับคุร่ ่ขันธี์ ๒๖ มกราคุม ๒๕๖๕ ติาก สุโขทำยั พษิ ณ์โุ ลัก หนองบวั ัลัาำ ภ้ จ.นคุรพนม ๘ ธีันวัาคุม ๒๕๖๔ จ.สุราษฎร์ธีาน่ ๒๘ ธีนั วัาคุม ๒๕๖๔ กำาแพงเพชร พิจิติร เพชรบร้ ณ์์ ขอนแก่น กาฬสนิ ธีุ์ มุกด้าหาร จ.สรุ าษฎร์ธีาน่ ๑๙ มกราคุม ๒๕๖๕ นคุรสวัรรคุ์ จ.สรุ าษฎร์ธีาน่ ๒ ธีนั วัาคุม ๒๕๖๔ ชยั ภ้มิ มหาสารคุาม ยโสธีรอาำ นาจเจริญ รอ้ ยเอด็ ้ จ.ภ้เกต็ ิ ๑๔ มกราคุม ๒๕๖๕ จ.ติรัง ๑๒ มกราคุม ๒๕๖๕ อุทำัยธีาน่ ลัพบรุ ่ นคุรราชส่มา บรุ ร่ ัมย์ อุบลัราชธีาน่ จ.นคุรราชสม่ า ๒๑ มกราคุม ๒๕๖๕ กาญจนบุรส่ พุ รรณช์ยั บนุรา่ ท1ำ90 8 สระบรุ ่ สรุ นิ ทำร์ ศึร่ษะเกษ 42 135นคุรฉนะาเยชปกิงรเทาำจรา่นบุร่ สระแกว้ ั จ.ชลับรุ ่ ๒๘ พฤศึจิกายน ๒๕๖๔ ราชบุร่ 7 6 จจจจ....ตรรริะะะรยยยาอออด้งงง๑๒๓๒๕๒๑-ธ๑ีนัธธ๖ีีวนันั ัาววธััีคาานัุมคควุุัมมา๒ค๕๒๒ุม๕๕๖๒๖๖๔๕๔๔๖๔ ชลับุร่ จนั ทำบรุ ่ เพชรบุร่ ระยอง ติราด้ ประจวับคุ่ร่ขันธี์ ๑. กรงุ เทำพมหานคุร จ.นคุรปฐม ๑๔ ธีนั วัาคุม ๒๕๖๔ ๒. นนทำบรุ ่ จ.พระนคุรศึรอ่ ยุธียา ๖ มกราคุม ๒๕๖๕ ชมุ พร ๓. ปทำุมธีาน่ ระนอง ๔. นคุรปฐม ๕. สมุทำรปราการ ๖. สมุทำรสาคุร ๗. สมุทำรสงคุราม ๘. พระนคุรศึร่อยทุ ำธียา ๙. อา่ งทำอง ๑๐. สงิ หบ์ รุ ่ สรุ าษฎธ์ ีาน่ ด้้านกจิ การกระจายเส่ยง พังงา ด้า้ นกจิ การโทำรทำัศึน์ ด้้านกิจการโทำรคุมนาคุม กระบ�่ นคุรศึรธ่ ีรรมราช ด้้านคุมุ้ คุรองผู้บ้ ริโภคุ ภ้เก็ติ ด้า้ นการส่งเสริมสทิ ำธีแิ ลัะเสรภ่ าพของประชาชน ติรัง พทั ำลังุ สติล้ ั สงขลัา ปัติติาน่ ยะลัา นราธีิวัาส รูปท่ี ๗-๗: การจดั การประชุมเพือ่ รับฟงความคิดเห็นสาธารณะ (Public Hearing) ๕) ด้้านกิจการกระจายเสย่ ง การรบั ัฟังั ความคดิ เหน็ ของประชาชนและผม่้ ส่ ว่ นไดส้ ว่ นเสย่ ุทเ่� กย�่ ุวขอ้ งในการดาำ เนนิ งานดา้ นกจิ ัการ กระจัายุเส่ยุง ๕ ภม่ ิภาค ประกอบัดว้ ยุ๖๖ ๖๖ รายุงานการติิดติามติรวจัสอบัและประเมนิ ผลการดำาเนินการและการบัรหิ ารงานของ กสทช. สำานกั งาน กสทช. และเลขาธิิการ กสทช. ด้านกิจัการกระจัายุเส่ยุง ประจัำาปี ๒๕๖๔.

24๖ กตป. คณะกรรมการติิดติามและประเมนิ ผลการปฏิิบััติิงาน ภมู ภิ าค วนั ทจ่ี ัดการประชมุ จำานวนผเู้ ข้าร่วม (คน) สถานที่ ภาคติะวันออก ๒๘ พฤศจัิกายุน ๒๕๖๔ ๑๘๖ จัังหวัดชลบัรุ ่ ๑๘๙ จัังหวดั สรุ าษฎรธ์ ิาน่ ภาคใติ้ ๒ ธินั วาคม ๒๕๖๔ ๑๙๓ จังั หวดั สุพรรณบัรุ ่ ภาคกลาง ๙ ธิันวาคม ๒๕๖๔ ๒๐๑ จังั หวดั นครพนม ภาคติะวนั ออกเฉย่ ุงเหนอ่ ๑๔ ธิันวาคม ๒๕๖๔ ๑๗๖ จังั หวดั เช่ยุงใหม่ ภาคเหนอ่ ๒๑ ธิันวาคม ๒๕๖๔ ตารางที่ ๗-๑: แผนการจัดประชมุ ของดา นกจิ การกระจายเสียง รูปที่ ๗-๘: บรรยากาศการรบั ฟงความคิดเห็นสาธารณะ ดานกิจการกระจายเสยี ง ๑) ด้า้ นกิจการโทำรทำศั ึน์ การรบั ัฟังั ความคดิ เหน็ ของประชาชนและผม้่ ส่ ว่ นไดส้ ว่ นเสย่ ุทเ่� กย่� ุวขอ้ งในการดำาเนนิ งานดา้ นกจิ ัการ โทรทศั น์ ๕ ภ่มิภาค ประกอบัดว้ ยุ๖๗ ภูมิภาค วนั ทจี่ ัดการประชุม จาำ นวนผู้เข้าร่วม (คน) สถานที่ ภาคเหน่อ ๑๓ ธิันวาคม ๒๕๖๔ ๑๕๙ จัังหวัดเช่ยุงรายุ ภาคติะวันออก ๒๑ ธิันวาคม ๒๕๖๔ ๑๖๓ จังั หวัดระยุอง ๑๔ มกราคม ๒๕๖๕ ๑๘๐ จัังหวัดภเ่ ก็ติ ภาคใติ้ ๑๗ มกราคม ๒๕๖๕ ๑๖๘ จังั หวัดกาญจันบัุร่ ภาคกลาง ๒๑ มกราคม ๒๕๖๕ ๑๗๒ จังั หวดั นครราชสม่ า ภาคติะวนั ออกเฉย่ ุงเหนอ่ ตารางที่ ๗-๒: แผนการจัดประชุมของดา นกจิ การโทรทัศน รูปที่ ๗-๙: บรรยากาศการรับฟง ความคิดเหน็ สาธารณะ ดานกิจการโทรทศั น ๖๗ รายุงานการติดิ ติามติรวจัสอบัและประเมินผลการดำาเนินการและการบัรหิ ารงานของ กสทช. สำานักงาน กสทช. และเลขาธิกิ าร กสทช. ด้านกจิ ัการโทรทัศน์ ประจัาำ ปี ๒๕๖๔

24๗รายงานการติิดติามติรวจสอบัและประเมินผลการปฏิิบััติิงาน กสทช. สำ�นักั ง�นั กสทช. และเลข�ธิกิ �ร กสทช. ประจำำ�ปี ๒๕๖๔ ๓) ด้้านกิจการโทำรคุมนาคุม การรบั ัฟังั ความคดิ เหน็ ของประชาชนและผม่้ ส่ ว่ นไดส้ ว่ นเสย่ ุทเ่� กย่� ุวขอ้ งในการดาำ เนนิ งานดา้ นกจิ ัการ โทรคมนาคม ๕ ภ่มิภาค ประกอบัด้วยุ๖๘ ภมู ิภาค วนั ท่จี ดั การประชุม จำานวนผเู้ ข้าร่วม (คน) สถานที่ ภาคติะวนั ออกเฉ่ยุงเหน่อ ๑๕ ธินั วาคม ๒๕๖๔ ๑๗๖ จัังหวัดนครพนม ภาคติะวันออก ๒๒ ธิันวาคม ๒๕๖๔ ๑๘๑ จัังหวดั ระยุอง ภาคเหนอ่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๕ ๑๗๑ จัังหวัดลำาปาง ภาคใติ้ ๑๙ มกราคม ๒๕๖๕ ๑๖๗ จังั หวัดสุราษฎร์ธิาน่ ภาคกลาง ๒๖ มกราคม ๒๕๖๕ ๑๘๐ จังั หวดั ประจัวบัค่ร่ขนั ธิ์ ตารางที่ ๗-๓: แผนการจัดประชมุ ของดา นกจิ การโทรคมนาคม รูปที่ ๗-๑๐: บรรยากาศการรับฟงความคิดเหน็ สาธารณะ ดานกจิ การโทรคมนาคม ๔) ด้า้ นการคุุ้มคุรองผู้้บริโภคุ การรับัฟัังความคิดเห็นของประชาชนและผ่้ม่ส่วนได้ส่วนเส่ยุท่�เก�่ยุวข้องในการดาำ เนินงานด้าน การค้มุ ครองผ่บ้ ัริโภค ๕ ภ่มภิ าค ประกอบัด้วยุ ภมู ิภาค วันท่ีจดั การประชุม จำานวนผ้เู ข้ารว่ ม (คน) สถานท่ี ภาคติะวันออก ๓ ธิันวาคม ๒๕๖๔ ๑๖๕ จังั หวัดระยุอง ภาคติะวนั ออกเฉ่ยุงเหนอ่ ๘ ธิันวาคม ๒๕๖๔ ๑๗๒ จัังหวัดนครพนม ๑๔ ธิันวาคม ๒๕๖๔ ๑๖๒ จัังหวัดนครปฐม ภาคกลาง ๒๑ ธินั วาคม ๒๕๖๔ ๑๖๙ จัังหวดั เช่ยุงรายุ ภาคเหนอ่ ๒๘ ธินั วาคม ๒๕๖๔ ๑๗๙ จังั หวดั สุราษฎรธ์ ิาน่ ภาคใติ้ ตารางที่ ๗-๔: แผนการจัดประชุมของดา นการคุมครองผูบริโภค ๖๘ รายุงานการติดิ ติามติรวจัสอบัและประเมนิ ผลการดำาเนนิ การและการบัริหารงานของ กสทช. สำานกั งาน กสทช. และเลขาธิกิ าร กสทช. ด้านกิจัการโทรคมนาคม ประจัำาปี ๒๕๖๔.

24๘ กตป. คณะกรรมการติดิ ติามและประเมินผลการปฏิบิ ััติงิ าน รปู ท่ี ๗-๑๑: บรรยากาศการรับฟงความคิดเหน็ สาธารณะ ดานการคุมครองผบู รโิ ภค ๕) ด้้านการส่งเสรมิ สทิ ำธีแิ ลัะเสร่ภาพของประชาชน การรับัฟัังความคิดเห็นของประชาชนและผ้่ม่ส่วนได้ส่วนเส่ยุท�่เก�่ยุวข้องในการดำาเนินงานด้านการ สง่ เสริมสทิ ธิิและเสรภ่ าพของประชาชน ๕ ภ่มภิ าค ประกอบัดว้ ยุ๖๙ ภูมิภาค วันท่จี ดั การประชมุ จาำ นวนผู้เข้ารว่ ม (คน) สถานท่ี ภาคติะวันออก ๑๕ - ๑๖ ธินั วาคม ๒๕๖๔ ๑๕๐ จังั หวัดติราด ภาคติะวนั ออกเฉย่ ุงเหนอ่ ๒๐ ธินั วาคม ๒๕๖๔ ๑๕๐ จังั หวดั อุดรธิาน่ ภาคเหนอ่ ๒๔ ธิันวาคม ๒๕๖๔ ๑๕๐ จัังหวัดแพร่ ภาคกลาง ๖ มกราคม ๒๕๖๕ ๑๕๐ จังั หวดั พระนครศรอ่ ยุธุ ิยุา ภาคใติ้ ๑๒ มกราคม ๒๕๖๕ ๑๕๐ จัังหวัดติรัง ตารางที่ ๗-๕: แผนการจัดประชุมของดานการสง เสริมสทิ ธิและเสรภี าพของประชาชน รปู ท่ี ๗-๑๒: บรรยากาศการรบั ฟง ความคิดเห็นสาธารณะ ดานการสง เสริมสิทธแิ ละเสรภี าพของประชาชน ๗.๒.๓ การสัมภาษณ์์เชิงลักึ (In-depth Interview) เพอ�่ ให้การรวบัรวมขอ้ มล่ การติิดติามและประเมินผลการปฏิิบััติงิ านของสาำ นกั งาน กสทช. ม่ความ ครบัถี่ว้ นสมบัร่ ณ์ และมร่ ายุละเอย่ ุดเชงิ ลก้ ดงั นนั� ไดด้ ำาเนนิ การจัดั สมั ภาษณเ์ ชงิ ลก้ ในกลมุ่ ประชาชน ผม้่ ส่ ว่ นไดส้ ว่ นเสย่ ุ ทั�งใน ๑) ด้านกจิ ัการกระจัายุเสย่ ุง ๒) ด้านกจิ ัการโทรทัศน์ ๓) ดา้ นกิจัการโทรคมนาคม ๔) ด้านการคุ้มครองผ้่บัรโิ ภค และ ๕) ด้านการส่งเสริมสิทธิิและเสร่ภาพของประชาชน เพ�ิมเติิมจัากการจััดการประชุมกลุ่มยุ่อยุ และการจััดการ ประชมุ เพอ่� รบั ัฟังั ความคดิ เหน็ โดยุการเกบ็ ัขอ้ มล่ จัากการสมั ภาษณเ์ ชงิ ลก้ ดำาเนนิ การโดยุวธิ ิก่ ารสมั ภาษณแ์ บับัพบัหนา้ (Face to face interview) ซ็้ง� เป็นการสมั ภาษณ์แบับัม่โครงสรา้ ง (Structured interview) ๖๙ รายุงานการติิดติามติรวจัสอบัและประเมนิ ผลการดาำ เนินการและการบัริหารงานของ กสทช. สาำ นักงาน กสทช. และเลขาธิกิ าร กสทช. ด้านการส่งเสรมิ สทิ ธิิและเสร่ภาพของประชาชน ประจัาำ ปี ๒๕๖๔.

24๙รายงานการติดิ ติามติรวจสอบัและประเมนิ ผลการปฏิบิ ัตั ิิงาน กสทช. สำ�นัักง�นั กสทช. และเลข�ธิิก�ร กสทช. ประจำำ�ปี ๒๕๖๔ ๑) ด้า้ นกจิ การกระจายเส่ยง ม่การสัมภาษณ์เชิงล้กผ่้ม่ส่วนได้ส่วนเส่ยุท่�เก่�ยุวข้องติามภาคติ่างๆ ได้แก่ ภาคเหน่อ ภาคกลาง ภาคติะวนั ออก ภาคติะวันออกเฉย่ ุงเหนอ่ และภาคใติ้ โดยุมป่ ระเด็นหลัก ๔ ประเด็น๗๐ ได้แก่ (๑) การเปลย�่ ุนผา่ น ระบับัการใช้งานคล�่นความถี่่�วิทยุุกระจัายุเส่ยุงไปส่ระบับัการอนุญาติติามกฎหมายุว่าด้วยุการอนุญาติให้ใช้งานคล่�น ความถี่�่และประกอบักิจัการกระจัายุเส่ยุง (๒) ผลกระทบัจัากการเปล่�ยุนแปลงของระบับันิเวศของอุติสาหกรรมส่�อ ติ่อกจิ ัการกระจัายุเสย่ ุง ซ็ง�้ ดำาเนนิ การประเมินผลกระทบัจัากการให้บัรกิ ารในการกาำ กบั ัด่แล และการให้บัริการผา่ น ระบับัอนิ เทอรเ์ น็ติ (๓) การดาำ เนนิ การของกองทุน กทปส. และมาติรการของสาำ นักงาน กสทช. ในการสง่ เสรมิ และ ชว่ ยุเหล่อประชาชนและผ่้ประกอบัวชิ าช่พกิจัการกระจัายุเส่ยุง (๔) การติิดติามประเดน็ จัากผลการศก้ ษาปี ๒๕๖๓ ท่�ติ้องการให้ กสทช. แกไ้ ขปัญหาติ่างๆ ๒) ด้้านกิจการโทำรทำศั ึน์ ม่การสัมภาษณ์เชิงล้กผ่้ม่ส่วนได้ส่วนเส่ยุท่�เก�่ยุวข้องติามภาคติ่างๆ ได้แก่ ภาคเหน่อ ภาคกลาง ภาคติะวันออก ภาคติะวันออกเฉ่ยุงเหน่อ และภาคใติ้ โดยุมป่ ระเดน็ หลัก ๑๒ ประเด็น๗๑ ได้แก่ (๑) ความคิดเห็น ติ่อองค์ประกอบัของการให้บัริการโทรทัศน์ในประเทศไทยุ (๒) ปัญหาในการให้บัริการของโทรทัศน์ในประเทศไทยุ (๓) ความชัดเจันของวัติถีุ่ประสงค์ของโครงการในการดำาเนินการในโครงการติ่างๆ ของ กสทช. ด้านกิจัการ โทรทัศน์ในปี ๒๕๖๔ (๔) ความพร้อมของทรัพยุากรในการดาำ เนินการในโครงการติ่างๆ ของ กสทช. ด้านกิจัการโทรทัศน์ในปี ๒๕๖๔ (๕) ความสอดคล้องระหว่างขั�นติอนการดำาเนินงานกับัปัญหา สาเหติุของปัญหา และกจิ ักรรมดำาเนนิ งานในการดาำ เนนิ การในโครงการติา่ งๆของกสทช.ดา้ นกจิ ัการโทรทศั น์ในปี๒๕๖๔(๖)ความคดิ เหน็ ติ่อกระบัวนการ (Process) ในการดาำ เนินการในโครงการติ่างๆ ของ กสทช. ด้านกิจัการโทรทัศน์ในปี ๒๕๖๔ (๗) การเข้าถี่้งการดำาเนินงาน/กจิ ักรรมของ กสทช. ด้านกิจัการโทรทศั น์ (๘) ความพ้งพอใจัติอ่ การดาำ เนินการของ กสทช. ดา้ นกจิ ัการโทรทศั น์ (๙) ประโยุชนท์ ไ�่ ดร้ บั ัจัากการดำาเนนิ การของ กสทช. ดา้ นกจิ ัการโทรทศั น์ (๑๐) ประโยุชน์ ท่�ได้รับัจัากการดำาเนินการของ กสทช. ด้านกิจัการโทรทัศน์ (๙) ผลกระทบัเชิงบัวกและเชิงลบัจัากการดำาเนินการ ของ กสทช. ดา้ นกจิ ัการโทรทศั น์ (๑๐) ความคดิ เหน็ อยุา่ งไรติอ่ การดาำ เนนิ งานของคณะกรรมการกจิ ัการกระจัายุเสย่ ุง กิจัการโทรทัศน์และกิจัการโทรคมนาคมแห่งชาติิ (กสทช.) และเลขาธิิการ กสทช. (๑๑) แผนงาน โครงการ และ แผนงบัประมาณสำาหรับักิจัการโทรทัศน์ในอนาคติ (๑๒) ข้อเสนอแนะเพิ�มเติิมเพ่�อพัฒนากระบัวนการปฏิิบััติิงาน ของ กสทช. ในการด้านกิจัการโทรทัศน์ ๓) ด้า้ นกิจการโทำรคุมนาคุม การติิดติามและประเมินผลการดำาเนินงานและการบัริหารงานของ กสทช. สาำ นักงาน กสทช. และเลขาธิิการ กสทช. ด้านกิจัการโทรคมนาคม ปี ๒๕๖๔ ม่การสัมภาษณ์เชิงล้กกับัผ่้ม่ส่วนได้ส่วนเส่ยุท�่ เก�่ยุวข้องติามภาคติ่างๆ ได้แก่ ภาคเหน่อ ภาคกลาง ภาคติะวันออก ภาคติะวันออกเฉ่ยุงเหน่อ และภาคใติ้ โดยุม่ประเด็นหลัก ๖ ประเด็น๗๒ ได้แก่ (๑) ภาพรวมการประชุมรับัฟัังความคิดเห็นสาธิารณะ (๒) ความร้่ ๗๐ รายุงานการติิดติามติรวจัสอบัและประเมนิ ผลการดำาเนนิ การและการบัรหิ ารงานของ กสทช. สำานกั งาน กสทช. และเลขาธิิการ กสทช. ด้านกจิ ัการกระจัายุเสย่ ุง ประจัาำ ปี ๒๕๖๔. ๗๑ รายุงานการติดิ ติามติรวจัสอบัและประเมินผลการดำาเนนิ การและการบัริหารงานของ กสทช. สำานักงาน กสทช. และเลขาธิิการ กสทช. ด้านกจิ ัการโทรทัศน์ ประจัำาปี ๒๕๖๔. ๗๒ รายุงานการติิดติามติรวจัสอบัและประเมนิ ผลการดาำ เนนิ การและการบัรหิ ารงานของ กสทช. สำานักงาน กสทช. และเลขาธิกิ าร กสทช. ด้านการส่งเสริมสิทธิิและเสร่ภาพของประชาชน ประจัำาปี ๒๕๖๔.

2๕๐ กตป. คณะกรรมการติิดติามและประเมนิ ผลการปฏิบิ ัตั ิิงาน เก�่ยุวกับัสำานักงาน กสทช. (๓) การใช้บัริการ 4G/5G (การเติร่ยุมความพร้อมในการจััดสรรและการประม่ล คล�่นความถี่่�ยุ่าน 3500 MHz) (๔) การเร่งรัดการนำาสายุส�่อสารลงใติ้ดินและการจััดระเบั่ยุบัสายุส�่อสาร (๕) มาติรการช่วยุเหล่อประชาชนและผ่้ประกอบัการในช่วงวิกฤติของ COVID-19 (๖) มาติรการแก้ไขปัญหา SMS หลอกลวงประชาชน ๔) ด้า้ นการคุุ้มคุรองผู้้บรโิ ภคุ การติิดติามและประเมินผลการดาำ เนินงานและการบัริหารงานของ กสทช. สาำ นักงาน กสทช. และเลขาธิิการ กสทช. ด้านการคุ้มครองผ้่บัริโภค ปี ๒๕๖๔ ม่การสัมภาษณ์เชิงล้กกับัผ้่ม่ส่วนได้ส่วนเส่ยุ ทเ่� กย�่ ุวข้องติามภาคติ่างๆ ไดแ้ ก่ ภาคเหนอ่ ภาคกลาง ภาคติะวันออก ภาคติะวนั ออกเฉ่ยุงเหน่อ และภาคใติ้ โดยุม่ ประเดน็ หลัก ๔ ประเดน็ ๗๓ ได้แก่ (๑) การไม่ทราบับัทบัาทหนา้ ท่�ในการคุ้มครองผ่บ้ ัรโิ ภค (๒) การประชาสมั พันธิ์ ความร้่ความเข้าใจัเก่�ยุวกับัการคุ้มครองผ่้บัริโภค (๓) กระบัวนการรับัเร่�องร้องเร่ยุน (๔) การสร้างความร่วมม่อ กบั ัหนว่ ยุงานติ่างๆ ๕) ด้้านการส่งเสริมสทิ ำธีแิ ลัะเสร่ภาพของประชาชน ม่การสัมภาษณ์เชิงล้กผ้่ม่ส่วนได้ส่วนเส่ยุท�่เก่�ยุวข้องติามภาคติ่างๆ ได้แก่ ภาคเหน่อ ภาคกลาง ภาคติะวนั ออก ภาคติะวนั ออกเฉย่ ุงเหนอ่ และภาคใติโ้ ดยุมป่ ระเดน็ หลกั ๘ ประเดน็ ๗๔ ไดแ้ ก่ (๑) การรบั ัรต้่ ิอ่ การดาำ เนนิ การของ กสทช. ในด้านการสง่ เสริมสทิ ธิิและเสร่ภาพของประชาชนท่ผ� ่านมา (๒) ปญั หาการถี่่กละเมิดสิทธิิ เสร่ภาพ/ การไม่ไดร้ ับัความเป็นธิรรมจัากบัรกิ ารกระจัายุเสย่ ุง บัรกิ ารโทรทัศน์ และบัรกิ ารโทรคมนาคม (๓) ปัจัจััยุดา้ นบัริบัท หรอ่ สภาวะแวดลอ้ ม (Context) ทส�่ ง่ ผลติอ่ การกาำ หนดบัทบัาทหนา้ ทข�่ อง กสทช. ในดา้ นการสง่ เสรมิ สทิ ธิแิ ละเสรภ่ าพ ของประชาชนทผ่� า่ นมา (๔) ปัจัจััยุนำาเขา้ (Input) ในการดำาเนนิ การของ กสทช. ดา้ นการสง่ เสริมสทิ ธิิและเสรภ่ าพ ของประชาชนท�่ผ่านมา (๕) จัุดแข็งและจัุดอ่อนของกระบัวนการ (Process) ในการดำาเนินการของ กสทช. ด้านการส่งเสริมสิทธิิและเสร่ภาพของประชาชนท่�ผ่านมา (๖) ผลผลิติ/ผลลัพธิ์ (Product/Outcome) ติ่อการ ดาำ เนนิ การของ กสทช. ดา้ นการส่งเสริมสทิ ธิิและเสรภ่ าพของประชาชนทผ�่ ่านมา (๗) ผลประโยุชน์/ผลกระทบัจัาก โครงการ (Impact) ของการดำาเนินโครงการของ กสทช. ด้านการส่งเสริมสิทธิิและเสร่ภาพของประชาชน (๘) แผนงาน โครงการ และแผนงบัประมาณสาำ หรับัการส่งเสริมสิทธิิและเสร่ภาพของประชาชนในอนาคติ (๙) ขอ้ เสนอแนะเพม�ิ เติมิ เพอ่� พฒั นากระบัวนการปฏิบิ ัตั ิงิ านของ กสทช. ในการสง่ เสรมิ สทิ ธิแิ ละเสรภ่ าพของประชาชน ๗๓ รายุงานการติิดติามติรวจัสอบัและประเมินผลการดำาเนินการและการบัรหิ ารงานของ กสทช. สำานักงาน กสทช. และเลขาธิิการ กสทช. ด้านการคมุ้ ครองผบ้่ ัรโิ ภค ประจัาำ ปี ๒๕๖๔. ๗๔ รายุงานการติดิ ติามติรวจัสอบัและประเมินผลการดาำ เนินการและการบัรหิ ารงานของ กสทช. สำานกั งาน กสทช. และเลขาธิกิ าร กสทช. ด้านการส่งเสรมิ สิทธิิและเสร่ภาพของประชาชน ประจัำาปี ๒๕๖๔.

กตป. คณะกรรมการติิดตาม และประเมิินผลการปฏิิบััติิงาน คณะกรรมการติิดตามและประเมิินผลการปฏิิบััติิงาน ๘๘๘ อาคารไอทาวเวอร์์ ถนนวิิภาวดีีรัังสิิต จตุุจัักร กรุุงเทพฯ ๑๐๙๐๐

สารบญั หนา้ บทสรปุ ความคืบหนา้ การดาเนินการตามแผนการปฏริ ปู ประเทศ (ฉบับปรบั ปรุง) 1 ตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย คร้งั ที่ 15 (เดือนมกราคม-มีนาคม 2565) 2  สรุปผลสมั ฤทธ์ขิ องการปฏริ ูปประเทศตามเป้าหมายของรฐั ธรรมนูญฯ มาตรา 257 และ 258 8 12  สรุปความคบื หนา้ ของกจิ กรรม Big Rock  สรุปสถานะของกฎหมายภายใต้แผนการปฏิรปู ประเทศ (ฉบับปรบั ปรุง) 13 สรปุ การดาเนินการของกิจกรรม Big Rock ทั้ง 62 กิจกรรม 14 19 1. ด้านการเมือง 23 2. ดา้ นการบริหารราชการแผ่นดิน 25 3. ด้านกฎหมาย 27 4. ด้านกระบวนการยุตธิ รรม 31 5. ด้านเศรษฐกิจ 34 6. ด้านทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม 38 7. ดา้ นสาธารณสขุ 40 8. ด้านสือ่ สารมวลชน เทคโนโลยสี ารสนเทศ 42 9. ดา้ นสงั คม 45 10. ดา้ นพลงั งาน 49 11. ด้านการป้องกนั และปราบปรามการทุจรติ และประพฤติมชิ อบ 53 12. ดา้ นการศึกษา 13. ด้านวฒั นธรรม กฬี า แรงงาน และการพฒั นาทรัพยากรมนุษย์ สรปุ ความคบื หนา้ ในการจัดทาและปรับปรุงกฎหมาย ท้ัง 45 ฉบับ 55

1 บทสรุป ความคบื หน้าการดาเนินการตามแผนการปฏริ ปู ประเทศ (ฉบับปรับปรงุ ) ตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย ครงั้ ท่ี 15 (เดอื นมกราคม – มีนาคม 2565) สำนักงำนสภำพฒั นำกำรเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ ในฐำนะสำนักงำนเลขำนุกำรของคณะกรรมกำรปฏิรูป ประเทศ มีหน้ำที่ในกำรจัดทำรำยงำนควำมคืบหน้ำกำรดำเนินกำรตำมแผนกำรปฏิรูปประเทศเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อรำยงำนต่อรัฐสภำทรำบทุกสำมเดือนตำมมำตรำ 270 ของรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช 2560 ซึ่งเปน็ ไปตำมทก่ี ำหนดไวใ้ นพระรำชบัญญัติแผนและขั้นตอนกำรปฏริ ปู ประเทศ พ.ศ. 2560 สำหรับกำรรายงานความคืบหน้าการดาเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) รอบเดือน มกราคม - มีนาคม 2565 เป็นการรายงานฯ ครั้งที่ 15 นับต้ังแต่ที่รำชกิจจำนุเบกษำได้มีกำรประกำศใช้แผนกำร ปฏิรูปประเทศ เมื่อวันที่ 6 เมษำยน 2561 ต่อเน่ืองมำจนถึง แผนกำรปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) ท่ีได้ประกำศ บังคับใช้เม่ือวันท่ี 25 กุมภำพันธ์ 2564 โดยความคืบหน้าฯ ฉบับน้ีมีการปรับรูปแบบการจัดทารายงานความ คืบหน้าฯ โดยจัดทาเป็นเล่มรายงานสรุปความคืบหน้าในการดาเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศ เพื่อเน้นให้ ความสาคัญในการรายงานความคืบหน้าสาหรับกิจกรรมปฏิรูปประเทศที่จะส่งผลให้เกิดการเปล่ียนแปลงต่อ ประชาชนอย่างมีนัยสาคัญ (Big Rock) ภายใต้แผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) ที่มีความล่าช้าหรือไม่ สามารถดาเนินการได้ตามท่ีกาหนดไว้ในแผนขับเคลื่อนกิจกรรม Big Rock เพ่ือนามาวิเคราะห์ประเด็นปัญหา และเร่งรัด กากับ ติดตามการดาเนินงานอย่างใกล้ชิด ซ่ึงสำหรับควำมคืบหน้ำกำรดำเนินกำรในทุกเป้ำหมำยย่อย ของควำมสำเร็จตำมที่ระบุไว้ในแผนขับเคล่ือนกิจกรรม Big Rock ทั้ง 62 กิจกรรม ภำยใต้แผนกำรปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรบั ปรงุ ) ยงั คงมแี สดงไวใ้ นเลม่ รายงานความคบื หน้าฯ ฉบบั สมบรู ณ์ตามทม่ี ีการดาเนินการจัดทาในทุกสิ้น ไตรมาส เพือ่ จะแสดงให้เหน็ รำยละเอยี ดควำมคืบหน้ำกำรดำเนินกำรในทุกเป้ำหมำยย่อยของควำมสำเร็จตำมท่ีระบุไว้ ในแผนขบั เคล่อื นกจิ กรรม Big Rock ทัง้ ๖๒ กจิ กรรม ภำยใต้แผนกำรปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรังปรุง) โดยมีกำรเผยแพร่ ผ่ำนทำง http://nscr.nesdc.go.th/270-report/ และสามารถดาวโหลดรายงานความคืบหน้าฯ ฉบับสมบูรณ์ ดังกล่าวได้ทางเอกสาร QR Code แนบท้ายเลม่ รายงานสรปุ ความคืบหน้าฯ ฉบบั น้ี กำรจัดทำรำยงำนสรุปควำมคืบหน้ำฯ สำนักงำนฯ ได้ดำเนินกำรประมวลผลข้อมูลจำกที่หน่วยงำน รับผิดชอบหลกั รวมทงั้ ข้อมลู ผลกำรดำเนินดำเนนิ งำนโครงกำรทห่ี น่วยงำนร่วมดำเนินกำร ได้รำยงำนควำมคืบหน้ำ ในกำรดำเนินงำนตำมกิจกรรม Big Rock ท่ีเกี่ยวข้อง โดยประเมินระดับควำมสำเร็จของเป้ำหมำยย่อยของควำมสำเร็จ (Milestone : MS) ตำมกรอบระยะเวลำแล้วเสร็จที่กำหนดไว้ในแผนขับเคลื่อนกิจกรรม Big Rock ปัญหำและ อุปสรรค และข้อเสนอแนะ ภำยหลังส้ินสุดไตรมำสในระบบติดตำมและประเมินผลแห่งชำติ (eMENSCR) เพ่ือแสดง ให้เห็นความคืบหน้าการดาเนินการตามกิจกรรม Big Rock ท้ัง 62 กิจกรรม และสถานะของการจัดทา/ ปรับปรุงกฎหมาย ทั้ง 45 ฉบับ ภายใต้แผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) เพ่ือใช้เป็นข้อมูลประกอบกำร กำกับ ติดตำมและเร่งรัดกำรดำเนินกำรตำมแผนกำรปฏิรูปประเทศให้บรรลุผลสัมฤทธ์ิตำมเจตนำรมณ์ของ รัฐธรรมนูญฯ ทก่ี ำหนดไว้

2 สรปุ ผลสัมฤทธิ์ของการปฏิรปู ประเทศตามเป้าหมายของรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 257 และ 258 กำรดำเนินกำรปฏริ ูปประเทศตั้งแตแ่ ผนกำรปฏิรูปประเทศ ฉบับปี 2561 ต่อเน่ืองมำจนถึงแผนกำรปฏิรูป ประเทศ (ฉบับปรับปรุง) มีผลสัมฤทธ์ิในการบรรลุเป้าหมายการปฏิรูปประเทศตามมาตรา 257 ของรัฐธรรมนูญฯ ท่กี าหนดไว้ 3 ประการ ได้แก่ 1. ประเทศชาติมีความสงบเรียบร้อยมีความสามัคคีปรองดอง มีการพัฒนาอย่างย่ังยืนตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และมีความสมดุลระหว่างการพัฒนาด้านวัตถุกับการพัฒนาด้าน จิตใจ โดยมีผลสัมฤทธิ์จำกดำเนินกำร อำทิ คนไทยมีจิตอำสำ จิตสำนึก รักสำมัคคี และมีควำม ปรองดอง ธุรกิจไทยสำมำรถทำกำรค้ำได้อย่ำงสะดวกมำกข้ึนกับกลุ่มประเทศคู่ค้ำสำคัญจำกกำร เตรียมควำมพร้อมในกำรเปิดเสรที ำงกำรคำ้ 2. สังคมมีความสงบสุข เป็นธรรม และมีโอกาสอันทัดเทียมกันเพื่อขจัดความเหล่ือมล้า โดยมี ผลสัมฤทธ์ิจำกดำเนินกำร อำทิ เด็กเล็ก/เด็กปฐมวัย ได้รับกำรดูแลและได้รับกำรศึกษำอย่ำงเป็นระบบ ต่อเน่ือง ท่ัวถึง และเสมอภำค ผู้ขำดแคลนทุนทรัพย์ได้รับกำรดูแลช่วยเหลือและมีควำมเหลื่อมล้ำ ทำงกำรศึกษำลดลง กำรจัดเก็บภำษมี คี วำมสะดวกรวดเรว็ ต้นทนุ กำรดำเนินงำนลดลงจำกกำรจัดเก็บ ภำษใี นรูปแบบออนไลน์ เกษตรกรรำยย่อยและผูด้ ้อยโอกำสมที ีด่ ินทำกินเพิ่มมำกข้ึน 3. ประชาชนมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศและการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยมีผลสัมฤทธ์ิจำกดำเนินกำร อำทิ ประชำชนมีควำมสะดวกในกำรเข้ำถึง รับรู้ และปฏิบัติตำมกฎหมำยเพิ่มมำกขึ้น ประชำชนเข้ำถึง ขอ้ มลู สำรสนเทศและมีควำมรอบรู้ดำ้ นสขุ ภำพเพิ่มขน้ึ ทั้งนี้ จากการดาเนินการปฏิรูปประเทศเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธ์ิตามเจตนารมณ์ในมาตรา 258 ของรัฐธรรมนูญฯ สำมำรถสรุปผลสัมฤทธิ์ท่ีประชำชนได้รับจำกดำเนินกำรตำมแผนกำรปฏิรูปประเทศ ฉบบั ปี 2561 ต่อเน่อื งมำจนถึงแผนกำรปฏริ ูปประเทศ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ทั้ง 13 ด้ำน สรุปไดด้ ังน้ี 1. ดา้ นการเมอื ง - ประชาชนในทุกช่วงวัยได้รับการสร้างความรู้ ความเข้าใจท่ีถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมุข ผ่ำนกำรดำเนนิ กำรจดั ให้มีชุดควำมรู้ท่ีเข้ำใจได้โดยง่ำยและ เขำ้ ถงึ ทุกช่วงวัยอยำ่ งเหมำะสม - ประชาชนมีช่องทางและกลไกในการเข้ามามสี ่วนรว่ มทางการเมอื ง ในการกาหนดนโยบายสาธารณะร่วมกับ สถาบันทางการเมืองต่าง ๆ รวมถึงในการตรวจสอบการใช้อานาจของรัฐ ผ่ำนกำรดำเนินกำรจัดทำ พระรำชบญั ญัติกำรมสี ว่ นรว่ มของประชำชนในกระบวนกำรนโยบำยสำธำรณะ - พรรคการเมืองภายในประเทศทั้งในระดับชาติและท้องถ่ิน ดาเนินนโยบายโดยยึดหลักประโยชน์ของ ประชาชนเป็นหลัก ผ่ำนกำรดำเนินกำรส่งเสริมให้เกิดกำรเลือกต้ังที่สุจริต มีควำมโปร่งใส มีควำมเท่ียงธรรม เช่ือถือได้ เพื่อให้ได้นกั กำรเมืองท่ีซ่ือสัตย์ สุจรติ และมีคณุ ธรรม เขำ้ มำทำงำนเพื่อประชำชนอย่ำงแท้จริง - เยาวชนและประชาชนในชาติมีความรู้รักสามัคคี ปรองดองสมานฉันท์ รู้จักเสียสละในการทางาน เพื่อส่วนรวม ผ่ำนกำรดำเนินโครงกำรปลูกฝังจิตสำนึกสำมัคคีและส่งเสริมควำมปรองดองของคนในชำติ เพอื่ ลดปญั หำควำมขดั แย้งทำงกำรเมืองและเกดิ กำรยอมรบั ควำมเห็นที่แตกตำ่ งมำกยิ่งข้ึน 2. ด้านการบรหิ ารราชการแผน่ ดิน - ประชาชนผูร้ บั บรกิ ารภาครัฐ ไดร้ ับการอานวยความสะดวกและรวดเรว็ ข้นึ โดยสามารถเขา้ ถงึ บรกิ ารของรัฐ ได้โดยง่าย ผ่ำนกำรดำเนินกำรปรับเปล่ียนรูปแบบกำรบริหำรงำนและกำรบริกำรภำครัฐให้เป็นรัฐบำลดิจิทัล เพื่อตอบสนองควำมตอ้ งกำรของประชำชนให้ได้รบั ประโยชน์สูงสดุ ตอ่ ไป

3 - ภาครัฐมีความคล่องตัวในการทางาน สามารถปรับตัวให้เท่าทันต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงได้ตาม สถานการณ์ และมีศักยภาพความพร้อมในการพัฒนาประเทศ ผ่ำนกำรดำเนินกำรจัดโครงสร้ำงขององค์กร และระบบงำนให้มีควำมยืดหยุ่นทั้งในทำงกำยภำพ โดยให้ควำมสำคัญในกำรบริหำรทรัพยำกรบุคคลภำครัฐ ใหเ้ กิดกำรพฒั นำและรักษำบคุ ลำกรท่มี ีศกั ยภำพไว้ในระบบรำชกำร - ภาครัฐปลอดจากการทุจริต มีความโปร่งใสในการทางาน และสามารถตรวจสอบได้ในทุกข้ันตอน ผ่ำนกำร ดำเนินกำรจัดให้มีระบบกำรติดตำมและป้องกันกำรทุจริตที่รวดเร็ว มีมำตรฐำน เพื่อให้ประชำชนได้รับกำร บริกำรสำธำรณะท่ีเปน็ ธรรมและมีควำมเชื่อมั่นและไว้วำงใจในกำรทำงำนของภำครัฐมำกยิง่ ขึน้ 3. ด้านกฎหมาย - ประชาชนสามารถดารงชีวิต ประกอบอาชีพหรือดาเนินธุรกิจโดยปราศจากอุปสรรคที่เกิดจากการบังคับใช้ กฎหมาย ผำ่ นกำรดำเนินกำรศกึ ษำและเสนอแนะเก่ียวกบั กฎหมำยที่ควรยกเลกิ หรอื ปรับปรุงกฎหมำย - ประชาชนผู้ต้องโทษทางอาญาที่ไม่ได้เกิดจากการกระทาความผิดร้ายแรง ได้รับการคุ้มครองสิทธิและ เสรีภาพที่เหมาะสม ผ่ำนกำรดำเนินกำรจัดทำร่ำงกฎหมำยว่ำด้วยกำรปรับเป็นพินัย เพื่อให้มีกฎหมำยกลำง ที่กำหนดหลักเกณฑ์รองรับกำรปรับเปล่ียนโทษทำงอำญำท่ีไม่ใช่ควำมผิดร้ำยแรงเป็นโทษปรับเป็นพินัยหรือ มำตรกำรลงโทษอืน่ ๆ - ประชาชนมีความสะดวกในการเข้าถึงกฎหมายและการใช้บริการด้านกฎหมายท่ีประสิทธิภาพ ผ่ำนกำร ดำเนินกำรศึกษำ วิเครำะห์ และประเมินผลกำรบังคับใช้กฎหมำย และกำหนดกลไกให้ส่วนรำชกำรหรือ หน่วยงำนของรัฐนำเครอื่ งมอื เทคโนโลยีต่ำง ๆ มำใชเ้ พื่อเพม่ิ ประสิทธิภำพในกำรบังคับใชก้ ฎหมำย - ประชาชนมีองค์ความรู้เก่ียวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และกระบวนการในการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย ผ่ำนกำร ดำเนินกำรเสริมสร้ำงควำมรู้ ควำมเข้ำใจในกำรเข้ำช่ือเสนอกฎหมำยของประชำชน และกำรกำหนดให้มีกลไก ในกำรชว่ ยเหลอื ประชำชนในกำรจัดทำและเสนอร่ำงกฎหมำยในทกุ กระบวนกำร - ประชาชนเข้าถึงกฎหมายได้สะดวก ใช้งานและเข้าใจเนื้อหากฎหมายได้โดยง่าย ผ่ำนกำรดำเนินกำรเสนอ “ร่ำงกฎหมำยว่ำด้วยกำรจัดทำประมวลกฎหมำยและกฎเพื่อให้ประชำชนเข้ำถึงได้โดยสะดวก” เพื่อรวบรวม กฎหมำย หรือกฎที่เปน็ เร่ืองเดียวกนั ไวด้ ว้ ยกัน 4. ดา้ นกระบวนการยุติธรรม - ประชาชนได้รับการอานวยความยุติธรรมโดยไม่ล่าช้า และมีข้อมูลในการติดตามความคืบหน้าในการ ดาเนนิ คดีในทุกขั้นตอนของกระบวนการยุตธิ รรม ผ่ำนกำรดำเนินกำรกำหนดให้มีกฎหมำยท่ีกำหนดระยะเวลำ กำรดำเนินงำนไว้อย่ำงชัดเจน เพื่อใช้เป็นกลไกให้ประชำชนสำมำรถติดตำมควำมคืบหน้ำของคดีได้โดยสะดวก และรวดเร็ว - ประชาชนได้รับความคุ้มครอง ได้รับการช่วยเหลือ คาแนะนาด้านกฎหมายในการดาเนินคดี ผ่ำนกำร ดำเนินกำรเพือ่ ให้ประชำชนสำมำรถแจ้งควำมร้องทุกข์ในต่ำงท้องที่ได้ โดยให้มีกำรเชื่อมโยงข้อมูลระหว่ำงสถำนี ตำรวจทั่วประเทศ ทำให้พนักงำนสอบสวนสำมำรถรับคำร้องทุกข์จำกคดีที่เกิดข้ึนนอกเขตพื้นที่รับผิดชอบได้ และสำมำรถสง่ คำร้องทุกขใ์ ห้พนกั งำนสอบสวนผู้รบั ผิดชอบได้โดยเรว็ - ประชาชนผู้เสียหาย ผู้ต้องหา ได้รับการปล่อยตัวช่ัวคราวภายใต้การควบคุมท่ีเหมาะสม ผ่ำนกำรดำเนินกำร จัดให้มีมำตรกำรคุ้มครองสิทธิเสรีภำพของผู้เสียหำย ผู้ต้องหำ และจำเลย และยกระดับกำรปล่อยช่ัวครำวให้มี ประสทิ ธิภำพ - ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในการดาเนินงานของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น ผ่ำนกำร ดำเนินกำรพัฒนำระบบกำรสอบสวนเพื่อสร้ำงควำมเช่ือม่ันในกำรปฏิบัติหน้ำท่ีของพนักงำนสอบสวนและ พนักงำนอัยกำร รวมถึงมีกำรปรับปรุงระบบกำรสอบสวนคดีอำญำ โดยใช้ข้อมูลทำงนิติวิทยำศำสตร์เป็น พยำนหลักฐำนในกำรพสิ จู น์ขอ้ เทจ็ จริง เพอ่ื ประโยชน์ตอ่ กำรพิจำรณำคดี

4 5. ดา้ นเศรษฐกิจ - ผู้ประกอบการ และกาลังแรงงานของประเทศมีศักยภาพและความพร้อมเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของ ประเทศให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ผ่ำนกำรดำเนินกำรพัฒนำศักยภำพกำลังคนให้มีทักษะในอำชีพ รวมไปถงึ ออกแบบหลกั สูตรในสำขำอำชพี ทีต่ อบสนองกับควำมต้องกำรของตลำดแรงงำน - ประชาชนมีรายได้และคุณภาพชีวิตท่ีดีข้ึน เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและเพ่ิมโอกาสในการเป็น ผู้ ป ร ะ ก อ บ ก า ร เ พื่ อ ใ ห้ ส า ม า ร ถ ด า เ นิ น ธุ ร กิ จ ใ ห้ อุ ต ส า ห ก ร ร ม แ ล ะ บ ริ ก า ร เ ป้ า ห ม า ย ใ ห้ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ได้ศูนย์กลางทางการค้าในระดับภูมิภาค ผ่ำนกำรดำเนินกำรสร้ำงฐำนกำรผลิตของประเทศให้มีมูลค่ำเพิ่ม ทั้งภำคกำรเกษตร กำรท่องเท่ียวและบริกำรให้มีควำมเข้มแข็ง โดยเน้นกำรพัฒนำเศรษฐกิจควบคู่ไปกับกำร พัฒนำสังคมและกำรรักษำสิ่งแวดล้อมได้อย่ำงสมดุล ม่ันคง และเติบโตได้อย่ำงยั่งยืน พร้อมทั้งได้เปิดกำรเจรจำ โดยเฉพำะในกลุ่มประเทศที่เป็นตลำดคู่ค้ำสำคัญของไทย เพ่ือทำให้ประเทศไทยมีสภำพแวดล้อมที่เอื้อต่อกำรเป็น ศนู ยก์ ลำงด้ำนกำรคำ้ และกำรลงทุนในภมู ภิ ำค 6. ด้านทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อม - ฐานทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับการอนุรักษ์ คุ้มครอง ฟ้ืนฟู อย่างเป็นระบบและมีการบริหาร จัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่ำนกำรดำเนินกำรสร้ำงควำมตระหนักรู้ถึงควำมสำคัญในกำรรักษำ ทรพั ยำกรธรรมชำติให้สมบูรณ์ ท่ีส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทั้งทำงบก และทำงทะเล จำกกำรดำเนินงำนศูนย์ ขอ้ มลู และเตือนภัยพิบตั ิในพน้ื ท่ีปำ่ อนรุ ักษ์ รวมไปจนถงึ กำรใหค้ วำมรู้เร่ืองเขตกำรปกครองของจังหวัดทำงทะเล และขบั เคล่ือนกำรสรำ้ งองค์ควำมรเู้ รือ่ งเขตทำงทะเลของประเทศไทย ทรพั ยำกรทำงทะเลและชำยฝงั่ - ประชาชนได้รบั ความปลอดภยั ในการดารงชีวิตจากปัญหามลพิษที่ส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพ ผ่ำนกำร ดำเนินกำรฟื้นฟูสภำพแวดล้อมเพื่อลดปัญหำด้ำนมลพิษต่อระบบนิเวศ โดยมีกำรออกกฎระเบียบในกำรลงโทษ หรือเก็บค่ำใช้จ่ำยเพ่ือกำรป้องกันและฟื้นฟูส่ิงแวดล้อมจำกผู้ที่ก่อมลพิษ และเตรียมควำมพร้อมในกำรรับมือกับ สถำนกำรณป์ จั จบุ นั ไดอ้ ยำ่ งมีประสทิ ธภิ ำพ 7. ด้านสาธารณสขุ - ประชาชนในทุกกลุ่มเป้าหมายได้รับสิทธิประโยชน์และเข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพ สะดวกและ ทดั เทยี มกนั ในทุกพ้นื ท่ี ผำ่ นกำรดำเนินกำรตำมกลไกกำรมีระบบหลักประกันสุขภำพโดยมุ่งเน้นกำรจัดบริกำรสำ ธำรสุขและระบบควำมคุ้มครองทำงสังคมที่ครอบคลุมประชำกรทุกกลุ่มเป้ำหมำย ตั้งแต่วัยเด็กแรกเกิด ตลอดจนวยั ผสู้ ูงอำยุในกำรเข้ำถึงสิทธิ - ผู้สูงอายุได้รับการบริบาลและเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพตามความต้องการเมื่อเข้าสู่ภาวะพึ่งพิง ผ่ำนกำร ดำเนินกำรจัดให้มีระบบบริกำรสุขภำพผู้สูงอำยุ และกำรดูแลสุขภำพตนเองในระบบสุขภำพปฐมภูมิ เชิงนวตั กรรม เพือ่ ใหส้ ำมำรถรองรบั จำนวนผูส้ ูงอำยทุ จ่ี ะเพิ่มสงู ขึ้นอย่ำงมำกในอนำคต 8. ด้านสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ - กลุ่มนักเรียน นักศึกษา และประชาชนมีความรู้เท่าทัน สามารถแยกแยะเน้ือหาของข้อมูลข่าวสารจาก ช่องทางที่หลากหลาย เลือกเสพสื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นผู้ผลิตสื่อที่มีคุณภาพ สามารถเผยแพร่ ข้อมูลข่าวสารท่ีมีประโยชน์สู่สังคม ผ่ำนกำรดำเนินกำรเรียนรู้ผ่ำนหลักสูตรกำรพัฒนำทักษะกำรเรียนรู้ของ ประชำชนเก่ียวกับกิจกำรกระจำยเสียงและโทรทัศน์ เพ่ือกำรใช้ประโยชน์อย่ำงรู้เท่ำทัน และจำกกำรส่งเสริม และสนบั สนนุ กำรพฒั นำศกั ยภำพและทกั ษะด้ำนดิจิทลั กำรสร้ำงควำมตระหนัก ควำมรู้ ควำมเข้ำใจกำรใช้ไซเบอร์ ปลอดภยั - ประชาชนผู้บริโภคสื่อและผู้ประกอบกำรในอุตสาหกรรมสื่อจะได้รับการดูแลและคุ้มครองตามสิทธิ ที่พึงมีในการทาธุรกรรมการสื่อสารทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ ผ่ำนกำรดำเนินกำรเพื่อให้ข้อมูล

5 ข่ำวสำรมีมำตรฐำน มีควำมแม่นยำ ถูกต้อง และรวดเร็ว ให้ประชำชนมีช่องทำงสำหรับกำรแจ้งข้อมูลข่ำวปลอม สำมำรถตรวจสอบข้อเทจ็ จริงและควำมถูกต้องของข้อมูลข่ำวสำรได้ 9. ดา้ นสงั คม - แรงงานท้ังในและนอกระบบมีระบบการออมท้ังภาคสมัครใจและภาคบังคับ ผ่ำนกำรดำเนินกำรผลักดันให้มี ระบบกำรออมเพื่อกำรเกษียณ เพื่อเพ่ิมควำมสำมำรถในกำรพ่ึงพำตนเองหลังวัยเกษียณและเพียงพอต่อกำร ดำรงชวี ติ อย่ำงมคี ณุ ภำพ - ประชาชนในแต่ละพ้ืนท่ีได้รับประโยชน์จากการกาหนดนโยบายท่ีแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด ผ่ำนกำร ดำเนินกำรวิเครำะห์ข้อมูลกลำงในระดับพื้นท่ี รวมถึงกำรแก้ปัญหำควำมยำกจน ลดควำมเหล่ือมล้ำและพัฒนำคน ทุกช่วงวัยในระดับพ้ืนท่ี ผ่ำนกลไกกำรมีศูนย์อำนวยกำรขจัดควำมยำกจนและพัฒนำคนทุกช่วงวัยอย่ำงย่ังยืนตำม หลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) โดยใช้เครื่องมือระบบกำรพัฒนำคนแบบชี้เป้ำ (TPMAP) นำไปสู่กำร แก้ไขปัญหำได้อย่ำงตรงจุด และสอดคล้องกับควำมต้องกำรของประชำชนและบริบทของแต่ละพ้ืนท่ีได้อย่ำง แทจ้ ริง - กลุ่มคนพิการได้รับความช่วยเหลืออย่างครอบคลุม ผ่ำนกำรดำเนินกำรเพ่ือให้เข้ำถึงกำรจดทะเบียนและออก บตั รประจำตวั คนพกิ ำรโดยสะดวก รวมถงึ ลดโอกำสท่ีจะเกดิ กำรตกหลน่ จำกระบบกำรข้นึ ทะเบยี นคนพิกำร - ชุมชนโดยเฉพาะในเขตเมืองสามารถแก้ปัญหำและตอบสนองความต้องการของชุมชนได้โดยตรง ผ่ำนกำร ดำเนินกำรปรับปรงุ กฎระเบยี บทสี่ ่งเสรมิ ควำมเข้มแขง็ ใหก้ ับชมุ ชนซง่ึ จะนำไปสู่กำรสร้ำงควำมเสมอภำคและกำร ลดควำมเหล่อื มล้ำในสังคมตอ่ ไป - เกษตรกรและคนยากจนไดร้ บั หลักประกนั การเขา้ ถึงแหล่งทุนสาหรบั การประกอบอาชพี จากการจัดสรรท่ีดิน จากรัฐให้กับประชาชน ผ่ำนกำรดำเนินกำรเพ่ือให้สำมำรถนำเอกสำรแสดงสิทธิในที่ดินหรือหนังสือ/เอกสำร ใหใ้ ช้ทด่ี นิ ไปใชเ้ ปน็ หลักประกันในกำรเขำ้ ถงึ แหล่งทนุ ได้ 10. ดา้ นพลังงาน - ประชาชนเข้าถึงการใช้พลังงานในราคาท่ีเป็นธรรม ได้รับคุณภาพและการบริการท่ีดีขึ้น เกิดการแข่งขัน ในทุกกิจการพลังงำน และลดการผูกขาด ผ่ำนกำรดำเนินกำรบริหำรจัดกำรพลังงำน สร้ำงแผนจัดหำพลังงำน รวมทัง้ สง่ เสรมิ พลังงำนทดแทนและอนุรกั ษ์พลงั งำน และกำหนดทศิ ทำงกำรพัฒนำและกำรลงทุนเทคโนโลยีใหม่ ให้ควำมรูค้ วำมเขำ้ ใจด้ำนพลังงำนที่ถูกต้องแกป่ ระชำชน ศึกษำแนวทำงปรับโครงสร้ำงบริหำรกิจกำรไฟฟ้ำ และ สง่ เสรมิ กจิ กำรไฟฟำ้ เสรที ใ่ี ชพ้ ลงั งำนทดแทน - หน่วยงานภาครัฐใช้พลังงานอย่างรับผิดชอบ ประหยัด คุ้มค่า มีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีการใช้พลังงาน สะอาดท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผ่ำนกำรดำเนินกำรบริหำรจัดกำรพลังงำนซึ่งจะนำไปสู่กำรสร้ำง ขีดควำมสำมำรถกำรแข่งขันของอุตสำหกรรมปิโตรเคมีให้กับประเทศ ลดต้นทุนกำรนำเข้ำ และสำมำรถผลิต ใช้เองได้ในประเทศ กำลังผลิตไฟฟ้ำของไทยสำมำรถกระจำยสัดส่วนและแหล่งเช้ือเพลิงท่ีสมดุล เปิดโอกำส ให้ผ้ผู ลติ รำยเล็กและประชำชนสำมำรถผลติ ไฟฟ้ำใช้เอง และเพ่อื ควำมมัน่ คงดำ้ นพลังงำน 11. ด้านการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจรติ และประพฤติมิชอบ - เครือขา่ ยภาคประชาชน องค์กรชมุ ชน และภาคีท่เี ก่ียวข้องของภาคประชาชนมีบทบาท ความสามารถ และ มีส่วนร่วมในการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบในพื้นท่ีโดยตรง ผ่ำนกำรดำเนินกำรจัดตั้งกลไกควำม ร่วมมือระหว่ำงภำครัฐและเครือข่ำยประชำชนและกำรจัดทำคู่มือดำเนินงำนกำรมีส่วนร่วมของภำคประชำชน ในกำรตอ่ ตำ้ นกำรทุจรติ และช่องทำงกำรร้องเรียนของประชำชน - ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและผู้แจ้งเบาะแสได้รับการคุ้มครองจากการมีระบบคุ้มครอง ผู้แจ้งเบาะแสการทุจริตที่มีประสิทธิภาพ ผ่ำนกำรดำเนินกำรผลักดันศึกษำทบทวนพระรำชบัญญัติข้อมูล ข่ำวสำรของรำชกำร พ.ศ. ๒๕๔๐ กำรพัฒนำช่องทำงกำรแจ้งเบำะแสและข้อมูลเชิงลึกในรูปแบบที่หลำกหลำย

6 และกำรจัดทำระบบปกปิดตัวตนที่มีประสิทธิภำพและกำรคุ้มครองผู้แจ้งเบำะแสอย่ำงครบวงจร รวมท้ังกำรจัด ให้มีกำรเรื่องร้องเรียนและอุทธรณ์ด้วยระบบดิจิทัล กำรพัฒนำระบบเปิดเผยและแจ้งผลกำรติดตำมเร่ือง รอ้ งเรียน และกำรจัดทำกฎหมำยท่เี ก่ยี วข้องกับกำรปอ้ งกันกำรฟ้องปิดปำก - ประชาชนมีส่วนร่วมในการการตรวจสอบและเฝ้าระวังการปฏิบัติงานของภาครัฐ ได้รับความเสมอภาค ความรวดเร็ว และความโปร่งใสในการดาเนินการในกระบวนการยุติธรรมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในกระบวนการยุติธรรมท่ถี กู ดำเนินกำรทางวินัย มาตรฐานทางจริยธรรม หรืออาญา เพราะการดาเนินงาน/ คดีท่ีตนรับผิดชอบมีจานวนลดลง ผ่ำนกำรดำเนินกำรส่งเสริมกำรมีส่วนร่วมของภำคประชำชนในกำรป้องกัน และต่อต้ำนกำรทุจริต กำรกำหนดบทลงโทษกับหน่วยงำนและหัวหน้ำหน่วยงำนที่ประชำชนไม่สำมำรถเข้ำถึง กระบวนกำรยุติธรรม กำรจัดให้มีมำตรกำรควบคุม กำกับ ติดตำมกำรบริหำรจัดกำรโดยยึดหลักคุณธรรม กำรจัดทำมำตรฐำนขนำดของคดีและระยะเวลำในกำรดำเนนิ คดีทุจรติ และประพฤติมชิ อบ - หน่วยงานภาครัฐ เจ้าหน้าที่รัฐมีการดาเนินการที่มีความโปร่งใส ได้รับความยุติธรรมประชาชนได้รับ ประโยชน์จาการดาเนินงานของหน่วยงานภาครัฐอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ผ่ำนกำรดำเนินกำร มีนโยบำยไม่รับของขวัญและของกำนัลทุกชนิดจำกกำรปฏิบัติหน้ำท่ีเพื่อไม่ให้เกิดบุญคุณต่อกัน กำรจัดทำร่ำง กฎหมำยว่ำด้วยกำรบริหำรบุคคล กำรกำหนดเจ้ำหน้ำที่ของรัฐท่ีต้องย่ืนบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อหัวหน้ำ ส่วนรำชกำร และกำรจัดให้มีกำรประเมินควำมเสี่ยงเชิงนโยบำยในกำรดำเนินโครงกำรขนำดใหญ่ท่ีเป็นไปตำม เกณฑท์ กี่ ำหนด 12. ด้านการศึกษา - เด็กปฐมวัย ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส ได้รับการดูแลและส่งเสริมพัฒนาการ ท่ีสมวัยและได้กลบั เข้าสรู่ ะบบการศกึ ษา ผ่ำนกำรดำเนินกำรพัฒนำเครื่องมือและระบบบูรณำกำรกำรทำงำนกำร ปอ้ งกันแกไ้ ขปัญหำเด็กเยำวชนออกจำกระบบกำรศึกษำตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน และ ระบบตดิ ตำมชว่ ยเหลอื เดก็ และเยำวชนนอกระบบกำรศึกษำ เพอ่ื ให้กำรช่วยเหลือเด็กปฐมวัยที่มำจำกครอบครัว ทีข่ ำดแคลนทุนทรพั ย์ ผ้พู ิกำร ด้อยโอกำส - ผู้เรยี นทุกระดับมคี วามรู้ท่ีจาเปน็ และสมรรถนะหลกั ในการดารงชีวิต มีการพัฒนาตนเองตามความถนัดและ ความสนใจ ผ่ำนกำรดำเนินกำรจัดให้มีกลไกกำรคัดเลือกผู้เรียนโดยใช้ระบบวัดแววพหุปัญญำ จัดทำส่ือเพื่อใช้ สำหรับอบรมครูเพ่ือส่งเสริมและพัฒนำผู้มีควำมสำมำรถพิเศษ มีแพลตฟอร์มกำรเรียนรู้ดิจิทัลสำหรับผู้เรียน ทุกระดับ รวมถึงกำรจัดให้มีระบบนิเวศกำรเรียนรู้ของผู้เรียนทุกระดับที่เน้นกำรมีส่วนร่วมและกำรสร้ำงสรรค์ นวตั กรรม - ครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษามีสมรรถนะสงู เป็นตน้ แบบทดี่ ี และสามารถจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียน เป็นสาคัญ ผ่ำนกำรดำเนินกำรปฏิรูปกลไกและระบบกำรผลิตและพัฒนำครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ให้มีคุณภำพมำตรฐำน เพ่ือให้เกิดกำรเปลี่ยนบทบำทให้เป็นครูยุคใหม่ท่ีมุ่งเน้นออกแบบระบบกำรเรียนกำรสอน โดยใชเ้ ทคโนโลยีทำงกำรศึกษำที่เหมำะสมกบั ผู้เรียนและควำมพร้อม - ผู้สาเร็จการศึกษาในสาขาอาชีพที่ตอบสนองกับความต้องการของตลาดแรงงาน ได้รับการจ้างงาน และ เป็นผู้มีทักษะและศักยภาพที่พร้อมเป็นกาลังสาคัญในการขับเคล่ือนการพัฒนาประเทศ ผ่ำนกำรดำเนินกำร พฒั นำระบบควำมรว่ มมอื กำรจดั อำชวี ศกึ ษำระบบทวิภำคีและระบบอ่ืน ๆ ที่เน้นกำรฝึกปฏิบัติอย่ำงเต็มรูปแบบ สถำบันทำงกำรศึกษำไดป้ รับบทบำทหรอื ขยำยกำรให้บริกำรให้เอื้อต่อกำรเปล่ียนแปลงโครงสร้ำงทำงประชำกร สำมำรถรองรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้ตลอดชีวิตที่ตอบโจทย์ควำมต้องกำรของประชำกรทุกกลุ่มมีบทบำทในกำรร่วม พฒั นำกำลงั คนวยั ทำงำนในภำคกำรผลติ และบรกิ ำร

7 13. ดา้ นวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาการทรัพยากรมนุษย์ - ประชาชนได้รับส่ือที่สร้างสรรค์และเหมาะสมกับช่วงวัย เสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม ผ่ำนกำรดำเนินกำร สร้ำงควำมเข้มแข็งแก่ท้องถิ่น กำรพัฒนำระบบเครดิตสังคม (Social credit) ด้วยกำรใช้พลังทำงวัฒนธรรมหรือ ควำมคิดในทีก่ ่อให้เกดิ กำรปรับเปลยี่ นพฤติกรรมดำ้ นพลังบวก (Soft power) - ชุมชนมีความเข้มแข็งเป็นต้นแบบในด้านของคุณธรรม จริยธรรม รวมถึงมีแหล่งเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรม ที่สามารถสร้างรายได้เพ่ิมขึ้นให้ประชาชน ผ่ำนกำรดำเนินกำรยกระดับเศรษฐกิจชุมชนบนฐำนวัฒนธรรมที่ สนับสนนุ ให้เกดิ รำยได้และกำรสร้ำงอำชีพ ด้วยกำรพัฒนำกำรเรียนรู้และเศรษฐกิจชุมชนบนฐำนวัฒนธรรมแบบ บูรณำกำร ศักยภำพแหล่งเรียนรศู้ ิลปวัฒนธรรมต้นแบบในสว่ นกลำงและส่วนภมู ภิ ำค - ประชาชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาพ ออกกาลังกาย และเล่นกีฬาอย่างสม่าเสมอ และสร้างนักกีฬาอาชีพที่มี ศักยภาพและสามารถสร้างสรรผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ ผ่ำนกำรดำเนินกำรส่งเสริมกำรออกกำลังกำยและ เล่นกีฬำในชุมชนเมืองและท้องถ่ิน กำรสร้ำงโอกำสทำงกำรกีฬำและพัฒนำนักกีฬำ ท้ังทักษะผู้ตัดสิน จัดทำ เส้นทำงสำยอำชีพของนักกีฬำ รวมถึงมีกำรพัฒนำศูนย์ฝึกกีฬำแห่งชำติให้ได้มำตรฐำนเพ่ือให้เป็นศูนย์พัฒนำ นักกีฬำและวิทยำศำสตร์กำรกีฬำเพ่ือควำมเป็นเลิศทำงกำรกีฬำของอำเซียนและศูนย์วิทยำศำสตร์กำรกีฬำ แหง่ ชำตแิ ละภูมิภำค - แรงงานในประเทศได้รับการพัฒนาทักษะและยกระดับศักยภาพอย่างเหมาะสมตลอดช่วงชีวิต ผ่ำนกำร ดำเนินกำรจัดให้มีระบบกำรพัฒนำและยกระดับสมรรถนะกำลังคนของประเทศไทย ที่จะทำให้แรงงำน ในประเทศได้รับกำรพัฒนำทักษะและยกระดับศักยภำพอย่ำงเหมำะสมสอดคล้องกับบริบทของกำรพัฒนำและ สถำนกำรณท์ เี่ ปลี่ยนแปลงไปของประเทศ

8 สรปุ ความคืบหนา้ ของกจิ กรรม Big Rock ท้ัง 62 กิจกรรม รอบเดือนมกราคม - มนี าคม 2565 กจิ กรรม Big Rock จานวน 62 กิจกรรม ภายใต้แผนการปฏริ ูปประเทศ (ฉบบั ปรับปรุง) ท้งั 13 ด้าน สรุปได้ ดงั น้ี กจิ กรรมท่ีมีการดาเนนิ งานเปน็ ไปตามแผนฯ จานวน 55 กิจกรรม กจิ กรรมท่มี กี ารดาเนนิ งานลา่ ช้ากวา่ แผนฯ จานวน 7 กจิ กรรม โดยเป็นกิจกรรมที่ดำเนินกำรล่ำช้ำต่อเนื่อง จำกรอบรำยงำนทผ่ี ำ่ นมำ จำนวน 5 กิจกรรม 1. การเมือง 5 กิจกรรม BR0101 BR0102 BR0103 BR0104 BR0105 BR0204 BR0205 2. บรหิ ารราชการแผ่นดนิ 5 กจิ กรรม BR0201 BR0202 BR0203 BR0304 BR0305 BR0404 BR0405 3. กฎหมาย 5 กิจกรรม BR0301 BR0302 BR0303 BR0504 BR0505 BR0604 4. กระบวนการยุตธิ รรม 5 กจิ กรรม BR0401 BR0402 BR0403 BR0704 BR0705 5. เศรษฐกิจ 5 กจิ กรรม BR0501 BR0502 BR0503 BR0904 BR0905 BR1004 BR1005 6. ทรัพยากรธรรมชาตฯิ 4 กจิ กรรม BR0601 BR0602 BR0603 BR1104 BR1105 BR1204 BR1205 7. สาธารณสุข 5 กจิ กรรม BR0701 BR0702 BR0703 BR1304 BR1305 8. สอื่ สารมวลชน 3 กจิ กรรม BR0801 BR0802 BR0803 9. สังคม 5 กจิ กรรม BR0901 BR0902 BR0903 10. พลงั งาน 5 กจิ กรรม BR1001 BR1002 BR1003 11. ปปช. 5 กจิ กรรม BR1101 BR1102 BR1103 12. การศึกษา 5 กจิ กรรม BR1201 BR1202 BR1203 13. วัฒนธรรมฯ 5 กจิ กรรม BR1301 BR1302 BR1303 หมายเหตุ : หมายถึง กจิ กรรมทดี่ าเนนิ การลา่ ช้าตอ่ เนื่องจากรอบรายงานที่ผา่ นมา กิจกรรมท่ีมกี ารดาเนินการลา่ ช้ากว่าแผนฯ รอบเดือนมกราคม – มีนาคม 2565 จานวน 7 กจิ กรรม ไดแ้ ก่ แผนการปฏริ ูปประเทศ กจิ กรรม Big Rock ด้านการเมือง BR0103 กำรสรำ้ งควำมสำมัคคปี รองดองสมำนฉันท์ของคนในชำติ BR0104 กำรส่งเสริมกำรพัฒนำพรรคกำรเมอื ง ดา้ นกฎหมาย BR0302 จัดใหม้ กี ลไกทำงกฎหมำยเพื่อให้มีกำรพิจำรณำปรับเปลี่ยนโทษทำงอำญำ ท่ไี มใ่ ชค่ วำมผิดร้ำยแรงใหเ้ ป็นโทษปรบั เป็นพินัย เพ่ือลดผลกระทบต่อสิทธิ และเสรีภำพของประชำชน BR0305 จัดทำประมวลกฎหมำยเพื่อรวบรวมกฎหมำยเรื่องเดียวกันไว้ด้วยกัน เพ่ือควำมสะดวกในกำรใช้งำน ดา้ นกระบวนการยุติธรรม BR0403 กำรจดั หำทนำยควำมอำสำประจำสถำนตี ำรวจให้ครบทุกสถำนีทั่วประเทศ ดา้ นการป้องกันและปราบปราม BR1102 กำรพัฒนำกำรเข้ำถึงข้อมูลข่ำวสำรและระบบคุ้มครองผู้แจ้งเบำะแส การทจุ ริตและประพฤติมชิ อบ กำรทจุ รติ ที่มีประสิทธภิ ำพ BR1104 กำรพฒั นำระบบรำชกำรไทยให้โปรง่ ใสไร้ผลประโยชน์ หมายเหตุ : หมำยถึง กิจกรรมทีด่ ำเนนิ กำรลำ่ ชำ้ ตอ่ เนอ่ื งจำกรอบรำยงำนท่ผี ำ่ นมำ

9 สรปุ ประเดน็ ปัญหาและข้อเสนอแนะในการดาเนนิ กจิ กรรม Big Rock ท่มี ีความลา่ ชา้ กว่าแผนฯ ดา้ นการเมอื ง BR0103 การสรา้ งความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ หน่วยงานรับผิดชอบหลัก : สำนักงำนขับเคล่ือนกำรปฏิรูปประเทศ ยุทธศำสตร์ชำติ และกำรสร้ำงควำมสำมัคคี ปรองดอง (สำนกั งำน ป.ย.ป.) การดาเนินการไม่เป็นไปตามแผน : ตำมเป้ำหมำยย่อยท่ี 2 มีชุดควำมรู้ และข้อมูลเกี่ยวกับกำรแก้ไขปัญหำควำม ขัดแย้งและกำรสร้ำงควำมสำมัคคีปรองดอง ท่ีกำหนดระยะเวลำแล้วเสร็จไว้ในช่วงเดือนเมษำยน ถึง กันยำยน 2564 ซง่ึ ปัจจุบนั ยังไม่สำมำรถดำเนนิ กำรไดต้ ำมแผนฯ ปัจจบุ ันมอี ปุ สรรคในการดาเนนิ การ : เน่ืองจำกลักษณะของโครงกำรขับเคลื่อนกำรสร้ำงควำมสำมัคคีปรองดอง ฯ ท่ีมี กำรดำเนินกำรนั้น ในแต่ละข้ันตอนจะส่งผลสืบเน่ืองกันไปในหลำยเป้ำหมำยย่อย ทำให้กำรรำยงำนควำมคืบหน้ำ รอบไตรมำสถัดไป เปำ้ หมำยยอ่ ยท่ี 3 มีควำมเส่ยี งทีจ่ ะดำเนินงำนล่ำชำ้ กว่ำแผนได้ ข้อเสนอแนะเพอ่ื เร่งรัดการดาเนนิ งาน : กำรเร่งรดั กำรดำเนินโครงกำร ฯ ซ่ึงหน่วยงำนต้องกำกับให้อยู่ภำยในกำหนด ระยะเวลำ และควบคุมคุณภำพของผลกำรศึกษำ เพ่ือให้สำมำรถบรรลุเป้ำหมำยของโครงกำร และของกิจกรรม Big Rock ท่ี 3 ดังกลำ่ ว BR0104 การสง่ เสรมิ การพฒั นาพรรคการเมอื ง หน่วยงานรับผดิ ชอบหลัก : สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลือกตง้ั การดาเนินการไม่เป็นไปตามแผน : ตำมเป้ำหมำยย่อยที่ 5 กำรมีส่วนร่วมของพรรคกำรเมืองและกำรเลือกตั้งขั้นต้น ของพรรคกำรเมือง ท่ีกำหนดระยะเวลำแล้วเสร็จไว้ในช่วงเดือนมกรำคม 2564 ถึง กันยำยน 2565 ซ่ึงปจั จุบันยังไม่สำมำรถดำเนนิ กำรได้ตำมแผนฯ ปัจจุบันมีอุปสรรคในการดาเนินการ : (1) กิจกรรม \"จัดพิมพ์เอกสำรชุดคู่มือปฏิบัติงำนพรรคกำรเมือง\" ภำยใต้ โครงกำรส่งเสริมสนับสนุนพรรคกำรเมืองให้เข้มแข็ง เป็นพรรคกำรเมืองของประชำชน และมีวัฒนธรรมกำรเมืองใน ระบอบประชำธิปไตยยังไม่ได้ดำเนินกำร เนื่องจำกอยู่ระหว่ำงกำรแก้ไขกฎหมำยพระรำชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่ำด้วยพรรคกำรเมือง เพ่ือให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พุทธศักรำช 2564 (2) กิจกรรม \"เสวนำรวมพล คน ศส.ปชต.\" ภำยใต้โครงกำรเสริมสร้ำงเครือข่ำยดำเนินกำรตำมค่ำนิยมและ วัฒนธรรมกำรเมืองในระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ (3) กิจกรรม \"เสวนำแนวทำง กำรพัฒนำพรรคกำรเมืองสคู่ วำมเป็นสถำบันทำงกำรเมือง\" ภำยใต้โครงกำรส่งเสริมสนับสนุนพรรคกำรเมืองให้เข้มแข็ง เป็นพรรคกำรเมืองของประชำชน และมีวัฒนธรรมกำรเมืองในระบอบประชำธิปไตย ยังไม่ได้ดำเนินกำร ท้ังนี้ คำดว่ำ จะเร่มิ ดำเนนิ กำรภำยในไตรมำส 3 ของปี 2565 ข้อเสนอแนะเพ่ือเร่งรัดการดาเนินงาน : (1) กำรเร่งรัดกำรดำเนินกำรกิจกรรมภำยใต้โครงกำรต่ำง ๆ ซ่ึงสำมำรถ ดำเนินกำรจดั กำรประชุมเสวนำไดแ้ ล้วหลังกำรผ่อนปรนมำตรกำรทำงสำธำรณสุข เพื่อให้บรรลุเป้ำหมำยของโครงกำร ท่ีตั้งไว้ภำยในกำหนดระยะเวลำ (2) กำรติดตำมกำรแก้ไขกฎหมำยพระรำชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่ำด้วยพรรค กำรเมือง เพ่ือให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี 1) พ.ศ. 2564 อย่ำงใกล้ชิด เพื่อเตรียมควำมพร้อมในกำรดำเนินงำนภำยหลังพระรำชบัญญัติฯ ได้รับกำรรับรอง และ (3) หน่วยงำนท่ีเก่ียวข้อง อำจจะพิจำรณำผลติ สอ่ื ในรปู แบบอ่นื เพือ่ สะท้อนกำรสร้ำงพรรคกำรเมืองให้เข้มแข็ง เป็นพรรคกำรเมืองของประชำชน ฯ ตำมนัยของเป้ำหมำยของโครงกำร

10 ดา้ นกฎหมาย BR0302 จดั ให้มีกลไกทางกฎหมายเพื่อให้มีการพิจารณาปรับเปลี่ยนโทษทางอาญาที่ไม่ใช่ความผิดร้ายแรงให้ เป็นโทษปรบั เปน็ พินัย เพือ่ ลดผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชน หนว่ ยงานรับผิดชอบหลัก : สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ การดาเนนิ การไม่เป็นไปตามแผน : ตำมเป้ำหมำยย่อยท่ี 1 เสนอร่ำงพระรำชบัญญัติว่ำด้วยโทษปรับเป็นพินัย พ.ศ. .... ต่อรัฐสภำ (หมำยเหตุ : ข้ันตอนกำรจัดทำร่ำง พ.ร.บ. ดำเนินกำรไปแล้วก่อนหน้ำ) ที่กำหนดระยะเวลำแล้วเสร็จไว้ ในชว่ งเดอื นมกรำคม ถึง มนี ำคม 2564 ซึง่ ปจั จุบนั ยงั ไมส่ ำมำรถดำเนินกำรได้ตำมแผนฯ ปัจจุบันมีอุปสรรคในการดาเนินการ : ร่ำงพระรำชบัญญัติโทษปรับเป็นพินัย พ.ศ. .... อยู่ในขั้นตอนกำรเสนอรัฐสภำ ซ่ึงขั้นตอนดังกลำ่ วอยนู่ อกเหนือกำรควบคมุ ของสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ ข้อเสนอแนะเพ่ือเร่งรัดการดาเนินงาน : สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ในฐำนะหน่วยงำนรับผิดชอบหลัก ควรมี กำรติดตำมกำรพิจำรณำร่ำงพระรำชบัญญัติโทษปรับเป็นพินัย พ.ศ. .... ซ่ึงอยู่ในข้ันตอนกำรเสนอรัฐสภำ และเร่งรัด กำรดำเนินกำรภำยหลังมีกำรประกำศใชต้ ่อไป BR0305 จัดทาประมวลกฎหมายเพอ่ื รวบรวมกฎหมายเร่ืองเดียวกนั ไวด้ ว้ ยกันเพ่ือความสะดวกในการใชง้ าน หนว่ ยงานรบั ผดิ ชอบหลกั : สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ การดาเนินการไม่เป็นไปตามแผน : ตำมเป้ำหมำยย่อยที่ 1 เสนอร่ำงพระรำชบัญญัติว่ำด้วยกำรจัดทำประมวล กฎหมำยและกฎเพื่อให้ประชำชนเข้ำถึงได้โดยสะดวก พ.ศ. .... ต่อรัฐสภำ ที่กำหนดระยะเวลำแล้วเสร็จไว้ในช่วงเดือน มนี ำคม 2564 ซ่ึงปัจจบุ ันยงั ไมส่ ำมำรถดำเนินกำรได้ตำมแผนฯ ปัจจุบันมีอุปสรรคในการดาเนินการ : เน่ืองจำกกำรดำเนินกำรจัดทำประมวลกฎหมำยตำมบทบัญญัติของ ร่ำงพระรำชบัญญัติกำรจัดทำกฎหมำยและกฎฯ มีควำมยุ่งยำก/ซับซ้อน หำกเร่งรีบออกกฎหมำยดังกล่ำว จะเกิดควำม สบั สนแก่หนว่ ยงำน และประชำชนผ้ตู อ้ งปฏบิ ัตติ ำมกฎหมำย โดยรองนำยกรฐั มนตรี (นำยวิษณุ เครืองำม) ในฐำนะรัฐมนตรี เจ้ำสังกดั จึงส่ังกำรให้สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจกำรจัดทำประมวลกฎหมำยแก่หน่วยงำนท่ี ต้องดำเนนิ กำรให้เข้ำใจตรงกัน จงึ จะดำเนินกำรตำมกระบวนกำรจัดทำกฎหมำยต่อไป ข้อเสนอแนะเพือ่ เรง่ รดั การดาเนินงาน : สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ควรเร่งสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจกำรจัดทำ ประมวลกฎหมำยแก่หน่วยงำนที่ต้องดำเนินกำรให้เข้ำใจตรงกัน ตำมหลักกำรจัดทำประมวลกฎหมำยตำม บทบัญญัตขิ องร่ำงพระรำชบัญญัติว่ำด้วยกำรจัดทำประมวลกฎหมำยและกฎเพื่อให้ประชำชนเข้ำถึงได้โดยสะดวก พ.ศ. .... เพ่ือให้หนว่ ยงำนสำมำรถดำเนนิ กำรตำมกระบวนกำรจัดทำกฎหมำยตอ่ ไปได้ ดา้ นกระบวนการยุติธรรม BR0403 การจดั หาทนายความอาสาประจาสถานตี ารวจให้ครบทกุ สถานที ั่วประเทศ หนว่ ยงานรบั ผดิ ชอบหลกั : สภำทนำยควำมในพระบรมรำชูปถมั ภ์ การดาเนินการไม่เป็นไปตามแผน : ตำมเป้ำหมำยย่อยท่ี 1 มีทนำยควำมให้คำปรึกษำในสถำนีตำรวจ ไม่น้อยกว่ำร้อยละ 50 ของสถำนีตำรวจท่ัวประเทศ ที่กำหนดระยะเวลำแล้วเสร็จไว้ในช่วงไตรมำสที่ 4 ของ ปงี บประมำณ พ.ศ. 2564 และเป้ำหมำยย่อยท่ี 2 มีทนำยควำมให้คำปรึกษำในสถำนีตำรวจครบทุกสถำนีทั่วประเทศ คิดเป็นร้อยละ 100 ที่กำหนดระยะเวลำแล้วเสร็จไว้ในช่วงไตรมำสท่ี 4 ของปีงบประมำณ พ.ศ. 2565 ซ่ึงปัจจุบันยังไม่ สำมำรถดำเนินกำรไดต้ ำมแผนฯ ปจั จบุ ันมอี ุปสรรคในการดาเนินการ : กำรดำเนนิ กำรขำดงบประมำณในกำรดำเนนิ กำรตำมแผนท่ีกำหนดไว้

11 ข้อเสนอแนะเพื่อเร่งรัดการดาเนินงาน : สภำทนำยควำมในพระบรมรำชูปถัมภ์ และกระทรวงยุติธรรม ควรหำรือ ควำมเป็นไปได้ในกำรขอรับจัดสรรงบกลำง เพ่ือดำเนินกำรให้บรรลุเป้ำหมำยตำมที่กำหนดไว้ตำมแผนขับเคลื่อน กจิ กรรม Big Rock ด้านการป้องกนั และปราบปรามการทุจริตและประพฤติมชิ อบ BR1102 การพัฒนาการเข้าถึงขอ้ มูลข่าวสารและระบบค้มุ ครองผู้แจ้งเบาะแสการทจุ ริตที่มีประสิทธิภาพ หนว่ ยงานรับผดิ ชอบหลกั : สำนักงำนคณะกรรมกำรปอ้ งกัน และปรำบปรำมกำรทุจริตแหง่ ชำติ การดาเนินการไม่เป็นไปตามแผน : ตำมเป้ำหมำยย่อยท่ี 1 ประชำชนในวงกว้ำงสำมำรถเข้ำถึงข้อมูลข่ำวสำรได้ โดยสะดวกผ่ำนกำรผลักดันกำรออกกฎหมำยว่ำด้วยข้อมูลข่ำวสำรสำธำรณะท่ีประชำชนควรได้รับทรำบข้อมูล ข่ำวสำรโดยไม่ต้องร้องขอและหน่วยงำนภำครัฐต้องเปิดเผยข้อมูลในครอบครองผ่ำนดิจิทัลแพลตฟอร์ม ท่ีกำหนด ระยะเวลำแล้วเสร็จไว้ในช่วงเดือนกันยำยน 2564 ซง่ึ ปจั จบุ ันยงั ไม่สำมำรถดำเนินกำรได้ตำมแผนฯ ปัจจุบันมีอุปสรรคในการดาเนินการ : รองนำยกรัฐมนตรี (นำยวิษณุ เครืองำม) ได้มีข้อส่ังกำรให้นำ ร่ำงพระรำชบัญญัติข้อมูลข่ำวสำรฯ กลับมำนำเสนอต่อคณะกรรมกำรข้อมูลข่ำวสำรฯ อีกคร้ังก่อนเสนอรัฐสภำ ซึ่งเดิมคำดว่ำจะมีกำรประชุมคณะกรรมกำรข้อมูลข่ำวสำรฯ ในช่วงปลำยเดือนเมษำยน 2565 แต่มีกำรเล่ือน กำหนดกำรประชมุ เป็นชว่ งเดอื นพฤษภำคม 2565 ข้อเสนอแนะเพ่ือเร่งรัดการดาเนินงาน : รัฐบำลควรให้ควำมสำคัญและเร่งรัดในกำรขับเคล่ือนกำรแก้ไข พระรำชบัญญัติข้อมูลข่ำวสำรของรำชกำร พ.ศ. 2540 ให้เป็นไปตำมเจตนำรมณ์ของรัฐธรรมนูญฯ และข้อคิดเห็น ของคณะกรรมกำรปฏิรปู ประเทศดำ้ นกำรปอ้ งกันและปรำบปรำมกำรทุจริตและประพฤติมชิ อบ BR1104 การพัฒนาระบบราชการไทยใหโ้ ปร่งใสไรผ้ ลประโยชน์ หน่วยงานรบั ผดิ ชอบหลกั : สำนักงำนคณะกรรมกำรป้องกนั และปรำบปรำมกำรทุจรติ ในภำครัฐ การดาเนินการไม่เป็นไปตามแผน : ตำมเป้ำหมำยย่อยท่ี 3 มีกำรยื่นบัญชีทรัพย์สินและหน้ีสินของเจ้ำหน้ำท่ีของ รัฐต่อหัวหน้ำส่วนรำชกำร รัฐวิสำหกิจ หรือหน่วยงำนของรัฐท่ีตนสังกัดหรือปฏิบัติงำนอยู่ เพ่ือใช้เป็นฐำนข้ อมูล ในกำรตรวจสอบกำรรำ่ รวยผิดปกติ ที่กำหนดระยะเวลำแล้วเสร็จไว้ในช่วงเดือนตุลำคม 2563 ถึง กันยำยน 2565 ซง่ึ ปจั จบุ นั ยงั ไม่สำมำรถดำเนนิ กำรไดต้ ำมแผนฯ ปัจจุบันมอี ุปสรรคในการดาเนินการ : คณะกรรมกำรปฏิรูปประเทศด้ำนกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริตและ ประพฤติมิชอบ มีมติให้แก้ไข มำตรำ 130 แห่งพระรำชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่ำด้วยกำรป้องกันและ ปรำบปรำมกำรทจุ ริต พ.ศ. 2561 ทำใหก้ ำรดำเนินกำรไมเ่ ปน็ ไปตำมแผนท่ีกำหนดไว้ ข้อเสนอแนะเพ่ือเร่งรัดการดาเนินงาน : หน่วยงำนท่ีเกี่ยวข้องเร่งรัดกำรดำเนินกำรปรับปรุงแก้ไขมำตรำ 130 แห่งพระรำชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่ำด้วยกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริต พ.ศ. 2561 ให้แล้วเสร็จ เพ่อื ดำเนินกำรตำมข้ันตอนของกฎหมำยต่อไป

12 สรุปสถานะของกฎหมายภายใตแ้ ผนการปฏิรปู ประเทศ (ฉบับปรับปรงุ ) กำรจัดทำหรือปรับปรุงกฎหมำยภำยใต้แผนกำรปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) รวมทั้งสิ้น 45 ฉบับ มีสถำนะสนิ้ สุด ณ เดือนมนี ำคม 2565 สรปุ ไดด้ งั น้ี  กฎหมายที่ดาเนนิ การแลว้ เสรจ็ จานวน 4 ฉบับ ได้แก่ รายชอ่ื กฎหมาย แผนการปฏริ ปู ประกาศบังคบั ใช้ ประเทศ (ฉบับ ปรับปรงุ ) 1 พระรำชบญั ญตั ิกำรเขำ้ ช่ือเสนอกฎหมำย พ.ศ.2564 ดำ้ นกฎหมำย วนั ท่ี 27 พฤษภำคม 2564 2 ระเบียบกระทรวงมหำดไทยว่ำด้วยคณะกรรมกำรชุมชน ดำ้ นสังคม วนั ท่ี 26 กุมภำพนั ธ์ 2564 ของเทศบำล พ.ศ. 2564 3 ประกำศ กฎ ก.พ. ว่ำด้วยกำรพัฒนำและทดสอบนวัตกรรม ดำ้ นกำรบริหำร วันที่ 10 มีนำคม 2565 ด้ำนกำรบริหำรทรัพยำกรบุคคล พ.ศ. 2565 ท่ีออกตำม รำชกำรแผน่ ดิน พระรำชบัญญัติระเบียบข้ำรำชกำรพลเรือน พ.ศ. 2551 และ ท่แี ก้ไขเพม่ิ เติม 4 ประกำศคณะกรรมกำรกำกับกิจกำรพลังงำน เรื่อง ดำ้ นพลงั งำน วนั ที่ 3 พฤษภำคม 2565* หลักเกณฑ์และแนวทำงกำรจัดทำข้อกำหนดกำรเปิดใช้ ระบบโครงข่ำยไฟฟ้ำให้แก่บุคคลที่สำม (TPA Framework Guideline) หมำยเหตุ : * เปน็ กฎหมำยท่ดี ำเนนิ กำรแล้วเสรจ็ ในช่วงระหว่ำงกำรจัดทำเล่มรำยงำนควำมคบื หนำ้ ฯ คร้ังท่ี 15  กฎหมายท่ีอย่รู ะหว่างดาเนนิ การ จานวน 41 ฉบบั โดยมสี ถำนะกำรดำเนินงำน สรปุ ดังน้ี ท้ังน้ี ในรอบเดอื นมกรำคม 2565 – มนี ำคม 2565 มีกฎหมำยท่ีมสี ถำนะควำมคืบหน้ำในกำรดำเนินงำน ดีขึ้น จานวน 5 ฉบับ โดยยังมีกฎหมำยที่อยู่ระหว่ำงหน่วยงำนของรัฐจัดทำร่ำงกฎหมำย จำนวน 28 ฉบับ ซ่ึงจะได้ ดำเนินกำรประสำนหน่วยงำนผู้รับผิดชอบ เพ่ือติดตำมและเร่งรัดกำรจัดทำ/ปรับปรุงกฎหมำยภำยใต้แผนกำร ปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) และนำเสนอตำมขั้นตอนของกฎหมำยให้แล้วเสร็จต่อไป โดยได้แสดงสถำนะของ กฎหมำยทั้ง 45 ฉบบั ตำมรำยละเอยี ดแนบทำ้ ยรำยงำนฉบับน้ี

สรุปการดาเนินการของกจิ กรรม Big Rock ภายใตแ้ ผนการปฏริ ปู ประเทศ (ฉบับปรับปรุง) รอบเดอื นมกราคม – มนี าคม 2565

14 แผนการปฏิรปู ประเทศ (ฉบับปรบั ปรุง) ดา้ นการเมอื ง กิจกรรม Big Rock สรปุ การดาเนนิ การที่ผ่านมา BR0101 การส่งเสริมความรู้ทางการ – ดาเนินการจัดทาเนื้อหาหลักสูตรการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เมืองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมขุ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น – ดาเนินการพัฒนาเน้ือหาหลักสูตรดังกล่าว เป็นหลักสูตรการเรียนการ ประมขุ สอนผ่านระบบออนไลน์ (e-learning) และนาขึน้ แพลตฟอร์ม หนว่ ยงานรับผดิ ชอบหลกั : – ดาเนินการจัดหลักสูตรนาร่อง เพื่อพัฒนาเน้ือหาหลักสูตรฝึกอบรม สถาบันพระปกเกล้า วิทยากรเผยแพร่และส่งเสริมความรู้ทางการเมืองการปกครองใน ระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ท้ังน้ี นาผล BR0102 การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของ การจัดหลักสูตรนาร่อง ไปพัฒนาปรับปรุงหลักสูตรฝึกอบรมเรียบร้อย แล้ว ป ร ะ ช า ช น ใ น ก ร ะ บ ว น ก า ร – ดาเนนิ การผลิตส่ือเผยแพร่ฯ หลกั สูตรทเี่ กย่ี วข้อง นโยบายสาธารณะทกุ ระดับ – ดาเนินการประสานเครือข่ายผู้ร่วมดาเนินการเพ่ือขยายผลในพื้นที่ หน่วยงานรับผิดชอบหลัก : ร่วมกับศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมืองและเครือข่ายสานักงาน สานักงานปลดั สานกั คณะกรรมการการเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรี – ประชุมหารือร่วมกับผู้แทนของสานักงานคณะกรรมการการเลือกต้ัง เพื่อหาแนวทางการบรู ณาการขับเคลื่อนกิจกรรม Big Rock 1 รว่ มกนั – ด าเนิ นการจั ดท ารายงาน Democracy Index in Thailand : Monitoring the Pulse of Thai Democracy โดยจะนาข้อมูลผล สารวจเป็นข้อมูล base line เพื่อประเมินเปรียบเทียบการ เปล่ยี นแปลง – จัดทาโครงการศึกษา ค้นคว้า วิเคราะห์เกี่ยวกับสภาพปัจจุบันการ จดั การบริการสาธารณะของไทยและนาไปกาหนดขอบเขต ภารกิจหรือ กิจกรรมทค่ี วรจดั เปน็ บรกิ ารสาธารณะ ในระดับชาติ และระดับพนื้ ท่ี – จัดทาโครงการพัฒนาระบบแพลตฟอร์มดิจิทัลให้เป็นแหล่งบริการหา งานอาชีพอิสระเพ่ือให้บริการประชาชน รวมทั้งมีการนาเทคโนโลยี สารสนเทศมาช่วยในการติดต่อสื่อสาร การสารวจและรับฟังความ คิดเห็น การประสานงาน การประชาสัมพันธ์และสร้างความรับรู้ และ ขับเคลือ่ นการปฏบิ ัตภิ ารกิจต่าง ๆ – จัดทาโครงการเพ่ือเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการ พัฒนาระบบราชการเพื่อนาไปสู่พัฒนาระบบการบริหารจัดการ ภาครัฐในการร่วมให้ความเห็นและข้อเสนอแนะในประเด็นสาคัญ ตา่ ง ๆ – ดาเนินการสารวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการบริหารงานของ หมายเหตุ :  เป็นไปตามข้นั ตอนและกรอบระยะเวลาทก่ี าหนดไว้  ล่าชา้ กว่าข้นั ตอนและกรอบระยะเวลาทกี่ าหนดไว้

กิจกรรม Big Rock 15 แผนการปฏริ ูปประเทศ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ด้านการเมือง สรปุ การดาเนินการทผ่ี า่ นมา รัฐบาลในช่วงเวลาท่ีผ่านมา มีการส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมใน ระดบั ฐานรากหรอื ระดับท้องถ่นิ ผา่ นการทากิจกรรมท่ีหลากหลายทั้ง ในรูปแบบ Online และ Onsite – อยู่ระหว่างการสรุปผลการรับฟัง ความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติ การมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการนโยบายสาธารณะ พ.ศ. .... และจัดเตรียมทารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบท่ีอาจเกิดขึ้นจาก กฎหมายเพ่ือประกอบการเสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวให้ คณะรฐั มนตรพี จิ ารณาต่อไป BR0103 ก า ร ส ร้ า ง ค ว า ม ส า มั ค คี – ดาเนินโครงการขับเคลื่อนการสร้างความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์ ปรองดองสมานฉันท์ของคน เพื่อเสนอแนะมาตรการ แนวทางการดาเนินการและกลไกในการสร้าง ในชาติ ความปรองดองสมานฉันท์ของประชาชน และขจัดความขัดแย้ง ทางการเมืองในสังคม ด้วยงบประมาณประจาปี พ.ศ. 2565 โดยปัจจุบันได้ระบุรายละเอียดแผนงานการดาเนินงานโครงการ เรยี บร้อยแลว้ ในขั้นต่อไปโครงการจะจัดทาการทบทวนวรรณกรรมท้ัง ในและต่างประเทศพร้อมข้อเสนอแนะทางวิชาการ ดาเนินการสารวจ หนว่ ยงานรบั ผดิ ชอบหลกั : เก็บข้อมูลในพ้ืนท่ีอย่างน้อย 4 ภาค (ภาคกลาง 1 ครั้ง และภาคอื่น ๆ) และทาการสรุปผลการศึกษา จัดทาข้อเสนอที่ระบุแนวทาง กลไก และ สานกั งานขับเคล่อื นการปฏิรูป มาตรการในการสรา้ งความปรองดองสมานฉันท์ของประชาชนและขจัด ประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และ การสร้างความสามัคคี ความขัดแย้งทางการเมืองในสังคม และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ปรองดอง ผลการศึกษาของโครงการ สาเหตุทีล่ า่ ชา้ : ลักษณะของโครงการขับเคล่ือนการสร้างความสามัคคีปรองดอง ฯ ที่ดาเนินการอยู่นั้น ในแต่ละขั้นตอนจะส่งผลสืบเนื่องกันไปในหลาย เป้าหมายย่อย ทาให้การรายงานความคืบหน้ารอบไตรมาสถัดไป เปา้ หมายยอ่ ย MS 3 มีความเสีย่ งทีจ่ ะดาเนินงานลา่ ชา้ กวา่ แผนได้ ข้อเสนอแนะในการดาเนินงาน : ควรเร่งรัดการดาเนินโครงการ ฯ ซ่ึงหน่วยงานต้องกากับให้อยู่ภายใน กาหนดระยะเวลา และควบคุมคณุ ภาพของผลการศกึ ษา เพื่อให้สามารถ บรรลเุ ป้าหมายของโครงการ และของกิจกรรม Big Rock ท่ี 3 หมายเหตุ :  เป็นไปตามขั้นตอนและกรอบระยะเวลาท่ีกาหนดไว้  ล่าช้ากว่าข้ันตอนและกรอบระยะเวลาที่กาหนดไว้

16 แผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ด้านการเมอื ง กิจกรรม Big Rock สรปุ การดาเนนิ การท่ผี ่านมา BR0104 การส่งเสริมการพัฒนาพรรค – ดาเนินการจัดสรรงบประมาณพร้อมแจ้งแนวทางไปยังสานักงาน การเมอื ง คณะกรรมการการเลือกตั้งประจาจังหวัดและกรุงเทพมหานคร เพื่อดาเนินการโครงการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาประชาธิปไตยชุมชน (ศส.ปชต.) – ดาเนินการจัดประชุมความร่วมมือขับเคล่ือนกิจกรรมระหว่ าง สานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งและสานักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพ้ืนฐานเพื่อกาหนดแนวทางการขับเคลื่อนกิจกรรม \"สภานักเรียน\" ภายใต้โครงการเผยแพร่อุดมการณ์และค่านิยม หน่วยงานรับผิดชอบหลกั : ประชาธิปไตยด้วยการแสดงแบบอยา่ งทด่ี ี (Architype) สานักงานคณะกรรมการการ – ดาเนินการประชุมชี้แจงการดาเนินกิจกรรมแก่ผู้บริหารและพนักงาน สานั กงานคณะกรรมการการเลื อกต้ั งประจ าจั งหวั ดและ เลอื กต้ัง กรงุ เทพมหานคร (ออนไลน)์ – ดาเนินการประชุมชี้แจงการดาเนินการกิจกรรมแก่ผู้บริหารและ บุคลากรของสถานศึกษานาร่อง (ออนไลน์) – ดาเนินการโอนงบประมาณให้สานักงานคณะกรรมการการเลือกต้ัง ประจาจังหวัดและกรุงเทพมหานคร เพ่ือดาเนินกิจกรรมร่วมกับ สถานศึกษาในพ้ืนท่ี เพื่อดาเนินกิจกรรมเสริมสร้างความเป็นพลเมือง และการมีสว่ นรว่ มพฒั นาประชาธิปไตย – ดาเนินการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธี E-bidding และได้ผู้รับจ้างผลิตส่ือ ออนไลน์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจท่ีถูกต้องเกี่ยวกับการปกครอง ในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมุข – ดาเนินการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธี E-bidding และได้ผู้รับจ้างผลิตสื่อ ส่ิงพิมพ์เพ่ือสร้างความรู้ความเข้าใจท่ีถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองใน ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยได้ส่ง ตน้ ฉบบั ใหผ้ ู้รับจ้างซึง่ อยใู่ นขั้นตอนการผลิตและจดั ส่ง – อยู่ระหว่างดาเนินการอบรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องฯ แก่เครือขา่ ยระดบั ตาบล – ดาเนินการขออนุมัติคณะกรรมการกาหนดขอบเขตงานและจัดทา รายละเอียดขอบเขตงาน (TOR) เพ่ือประเมินผลการส่ือออนไลน์ ประกอบการเสรมิ สรา้ งความรู้ สาเหตทุ ีล่ ่าช้า : เนือ่ งจากมกี ิจกรรมทย่ี ังไม่ไดม้ กี ารดาเนินการ ดังน้ี – กิจกรรม \"จัดพิมพ์เอกสารชุดคู่มือปฏิบัติงานพรรคการเมือง\" ภ า ย ใ ต้ โ ค ร ง ก า ร ส่ ง เ ส ริ ม ส นั บ ส นุ น พ ร ร ค ก า ร เ มื อ ง ใ ห้ เ ข้ ม แ ข็ ง เป็นพรรคการเมืองของประชาชน และมีวัฒนธรรมการเมือง ในระบอบประชาธิปไตย เน่ืองจากอยู่ระหว่างการแก้ไขกฎหมาย พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง เพ่ือให้ สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี 1) พทุ ธศักราช 2564 หมายเหตุ :  เปน็ ไปตามขน้ั ตอนและกรอบระยะเวลาที่กาหนดไว้  ล่าชา้ กวา่ ขนั้ ตอนและกรอบระยะเวลาทกี่ าหนดไว้

17 แผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ด้านการเมือง กจิ กรรม Big Rock สรปุ การดาเนินการที่ผา่ นมา – กจิ กรรม \"เสวนารวมพล คน ศส.ปชต.\" ภายใตโ้ ครงการเสริมสร้าง เครือข่ายดาเนินการตามค่านิยมและวัฒนธรรมการเมืองในระบอบ ประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมขุ – กิจกรรม \"เสวนาแนวทางการพัฒนาพรรคการเมืองสู่ความเป็น สถาบันทางการเมือง\" ภายใต้โครงการส่งเสริมสนับสนุนพรรค การเมืองให้เข้มแข็ง เป็นพรรคการเมืองของประชาชน และมี วัฒนธรรมการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ทั้งน้ี คาดว่าจะเริ่ม ดาเนนิ การภายในไตรมาส 3 ปี 2565 ขอ้ เสนอแนะในการดาเนินงาน : – เร่งรัดการดาเนินการกิจกรรมภายใต้โครงการต่าง ๆ ซึ่งสามารถ กลับมาจัดการประชุมเสวนาได้แล้วหลังการผ่อนปรนมาตรการทาง สาธารณสุข เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของโครงการที่ต้ังไว้ภายในกาหนด ระยะเวลา – ตดิ ตามการแก้ไขกฎหมายพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย พรรคการเมือง เพ่ือให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร ไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี 1) พ.ศ. 2564 อย่างใกล้ชิด เตรียมความ พรอ้ มในการดาเนนิ งาน ภายหลงั พรป. ไดร้ บั การรบั รอง – อาจพิจารณา ผลิตส่ือในรูปแบบอ่ืนเพื่อสะท้อนการสร้างพรรค การเมืองให้เข้มแข็ง เป็นพรรคการเมืองของประชาชน ฯ ตามนัยของ เป้าหมายของโครงการ BR0105 การปรับปรุงโครงสร้างและ อยู่ระหว่างการ ดาเนินการ \"โครงการศึกษาประเด็นสาคัญในรัฐธรรมนูญ เ นื้ อ ห า ข อ ง รั ฐ ธ ร ร ม นู ญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เพื่อการพิจารณาปรับปรุง เพ่ือการปฏริ ปู แกไ้ ข\" และ\"โครงการวจิ ยั รัฐธรรมนญู ศึกษา\" – จัดทางานวิจัยเก่ียวกับการศึกษาเก่ียวกับโครงสร้าง เน้ือหา บทบาท สาคญั ของรัฐธรรมนญู รวม 10 เร่อื ง – ดาเนินการวางแผน และเตรียมการจัดอบรมวิทยากรกระบวนการ โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฎ และ เครือข่ายสถาบนั ซ่งึ อยใู่ นจงั หวัดเปา้ หมาย และจงั หวดั ใกลเ้ คียง – จัดทาหลักสูตรและคู่มือวิทยากรกระบวนการเพ่ือรับฟังความคิดเห็น เกย่ี วกบั โครงสร้าง เนือ้ หา และกระบวน การรา่ งรัฐธรรมนญู – อยู่ระหว่างการดาเนินการจัดอบรมเพ่ือสร้างวิทยากรกระบวนการ หมายเหตุ :  เป็นไปตามขัน้ ตอนและกรอบระยะเวลาท่กี าหนดไว้  ลา่ ชา้ กว่าข้นั ตอนและกรอบระยะเวลาที่กาหนดไว้

กจิ กรรม Big Rock 18 แผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรงุ ) ด้านการเมือง หน่วยงานรบั ผิดชอบหลัก : สรุปการดาเนินการที่ผา่ นมา สถาบนั พระปกเกล้า เพ่อื รับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงสร้าง เน้ือหา และกระบวนการร่าง รัฐธรรมนญู – วางแผนและเตรียมการเพ่ือให้เครือข่ายร่วมดาเนินการ (อาสาสมัคร รฐั ธรรมนญู ) จัดกระบวนการเพ่ือรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงสร้าง เน้ือหา และกระบวน การร่างรัฐธรรมนูญ โดยเปิดแพลตฟอร์ม Social Listening เพ่ือรับฟังความคิดเห็นเก่ียวกับโครงสร้าง เนื้อหา และ กระบวนการรา่ งธรรมนูญ แบบออนไลน์ – ดาเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สื่อวีดีโอ วีดีทัศน์ ผลิตรายการท่ี เก่ียวข้องกับโครงสร้าง เน้ือหา และกระบวน การร่างรัฐธรรมนูญ ผา่ นแพลตฟอรม์ ออนไลน์ทุกประเภทและชอ่ งทางส่อื ตา่ ง ๆ – ดาเนินการวางแผน และเตรียมการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น ในเวที ภาคเหนือ เวทภี าคตะวันออกเฉียงเหนือและเวทภี าคใต้ หมายเหตุ :  เป็นไปตามขั้นตอนและกรอบระยะเวลาทก่ี าหนดไว้  ลา่ ช้ากวา่ ขน้ั ตอนและกรอบระยะเวลาท่กี าหนดไว้

19 แผนการปฏริ ปู ประเทศ (ฉบับปรับปรงุ ) ด้านการบริหารราชการแผน่ ดิน กจิ กรรม Big Rock สรปุ การดาเนนิ การทีผ่ า่ นมา BR0201 ปรับเปลยี่ นรปู แบบการ – พัฒนาระบบฐานข้อมูล 3 ด้าน ได้แก่ ด้านแรงงาน ด้านการศึกษา บริหารงานและการบริการ และด้านเกษตร – การพัฒนาแพลตฟอร์มในการบริหารจัดการข้อมูลด้านกาลังคนและ ภาครัฐไปส่รู ะบบดิจทิ ัล การพัฒนาสมรรถนะ เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประเทศไทย หรือ E-Workforce Ecosystem Platform (EWE) – กระทรวงสาธารณสุข ได้นาระบบ National Digital Health Platform (NSDP) มาใชใ้ นการดาเนินการภารกิจ ได้แก่ การควบคุม ป้องกันโรค (DDC Covid) ภารกิจตรวจเพ่ือวินิจฉัยและยืนยัน (Co-LAB) ภารกิจเรื่องการรักษา (Co-WARD) และภารกิจสนับสนุน เร่ืองทรัพยากร (Logistic and Supply chain) ช่วงสถานการณ์ หนว่ ยงานรบั ผดิ ชอบหลกั : COVID -19 – กระทรวงเกษตรและสหกรณ์อยู่ระหว่างดาเนินการ Big Data ด้าน กระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจ การเกษตร โดยรวบรวมและเชื่อมโยงข้อมูลการเกษตรให้ครบวงจร และสงั คม อาทิ ด้านการผลิต ด้านดิน แหล่งน้า ด้านปศุสัตว์ การตลาด ระบบโลจสิ ติกส์ทะเบยี นเกษตรกร รายได้หนี้สินในครัวเรือน เป็นต้น เพื่อนาไปใช้ในการวิเคราะห์และวางแผนเชิงนโยบายด้านการเกษตร ท้ังในส่วนของระบบแผนที่เกษตรกรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก ออนไลน์ (Agri-Map) ดาเนินการร่วมกับ สวทช. และฐานข้อมูล เกษตรกรกลาง (Farmer One) – การเช่ือมโยงข้อมูลเพ่ือช่วยเหลือเกษตรกรท่ีผ่านมาของธนาคาร เพ่ือการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้มีการวิเคราะห์ ข้อมูลผ่านระบบ BAAC Data Service เพ่ือใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ อาทิ ประเมินศักยภาพเกษตรกร วิเคราะห์ข้อมูลเพ่ือกาหนด เป้าหมายเกษตรกรทไี่ ดร้ ับความชว่ ยเหลือ – ระบบบูรณาการแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้า หรือ Thai Water Plan การจัดการแผนงานโครงการและฐานข้อมูลสาหรับบูรณาการ แ ผ น ง า น เ พื่ อ ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร ท รั พ ย า ก ร น้ า ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ เป็นเคร่ืองมือหลักในการขับเคลื่อนแผนพัฒนาทรัพยากรน้าแห่งชาติ 20 ปี – BIG DATA SME ปัจจุบัน สสว. อยู่ระหว่างการประสานหน่วยงาน ท่ีเกี่ยวข้อง เพื่อขอความอนุเคราะห์ในการเช่ือมต่อข้อมูลเพิ่มเติม เช่น กรมสรรพากร ธปท. และ บจก.เครดิตบูโร เป็นต้น รวมทั้ง การซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้นิยาม SME เพื่อให้ ธปท. ทาความเข้าใจกับ ธ.พาณิชย์ในการจดั ทาขอ้ มลู ให้เป็นไปตามนิยาม – คณะกรรมการปฏิรูปด้านบริหารราชการแผ่นดินได้เร่งให้มีการ พัฒนาข้อมูลภาครัฐให้พร้อมสาหรับการใช้ประโยชน์ นาไปสู่ แพลตฟอร์มการจัดบริการแบบบูรณาการและบริการดิจิทัลภาครัฐ (Government Platform) ภายในปี 2565 ควรเร่งดาเนินการ ในส่วนของระบบสวัสดิการกลางท่ีจ่ายเป็นตัวเงินอย่างต่อเนื่อง โดยกรมบัญชีกลาง จานวน 3 สวัสดิการ ประกอบด้วย เงินอุดหนุน เล้ยี งดูเด็กแรกเกิดเบี้ยความพิการ และ เบยี้ ยงั ชีพผู้สูงอายุ หมายเหตุ :  เป็นไปตามขัน้ ตอนและกรอบระยะเวลาที่กาหนดไว้  ลา่ ชา้ กวา่ ขน้ั ตอนและกรอบระยะเวลาทก่ี าหนดไว้

20 แผนการปฏริ ูปประเทศ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ด้านการบริหารราชการแผน่ ดิน กจิ กรรม Big Rock สรุปการดาเนนิ การทผี่ ่านมา BR0202 จั ด โ ค ร ง ส ร้ า ง อ ง ค์ ก ร – ศึกษาทบทวนการถ่ายโอนภารกิจตามมาตรการทบทวนบทบาท แ ล ะ ร ะ บ บง า น ภ า ค รั ฐ ใ ห้ มี ภารกิจของสวนราชการตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 53 ที่ได้มี การถ่ายโอนภารกิจภาครัฐในด้านการตรวจสอบและรับรองคุณภาพ ความยื ดหยุ่ น คล่ องตั ว มาตรฐานและด้านอ่ืน ๆ ให้ภาคเอกชนหรือภาคสวนอื่นรับไป และเปล่ี ยนแปลงได้ตาม ดาเนินการแทนรวม 141 งาน พบว่า มีงานท่ีถ่ายโอนแล้วเสร็จ 83 สถานการณ์ งาน งานที่อยู่ระหว่างถ่ายโอน 25 งาน และงานที่ ก.พ.ร. มีมติ เหน็ ชอบให้ยกเลิกถา่ ยโอน 33 งาน – อยู่ระหว่างยกร่างกฎหมายเกี่ยวกับการยกระดับการบริหารงาน ภาครัฐใหม้ คี วามทนั สมัย เพอ่ื แกไ้ ขปญั หาการบริหารราชการแผ่นดิน หน่วยงานรับผดิ ชอบหลกั : ในปจั จบุ ัน – อยู่ระหว่างทดลองนารูปแบบการจัดการองค์การในลักษณะ ส า นั ก ง า น ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร Ad hoc และ Agile Organization ไปนาร่องใช้ในส่วนราชการที่มี พัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ความพรอ้ ม – อยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาข้อเสนอการปรับปรุง แนวทางการแบง่ สว่ นราชการภายในกรม – อยู่ระหว่างพฒั นาแนวทาง/เครือ่ งมือวิเคราะห์ภารกิจที่ภาครัฐไม่ควร ดาเนินการเอง และจัดทาข้อเสนอแนวทาง/กลไกให้ภาคส่วนอ่ืนเข้า มาร่วมดาเนินการ รวมทั้งขับเคล่ือนการปรับบทบาทภารกิจภาครัฐ โดยนาร่องถ่ายโอนงานภาครัฐให้ภาคเอกชนในลักษณะ Sandbox จานวน 6 ภารกิจ – หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดาเนินการการปรับปรุงกฎหมาย กฎ และ ระเบียบภาครัฐ รวมถึงการทาให้เกิดความชัดเจนในมาตรฐานและ แนวปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบเดิม เพื่อเอ้ือต่อการปฏิบัติ ราชการนอกสถานท่ตี ั้ง – อยู่ระหว่างศึกษาและจัดทาข้อมูลสนับสนุนสานักงาน ป.ย.ป. ในการยกรา่ งกฎหมายวา่ ด้วยการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบท่ี คกก.ปฏิรูป เห็นชอบดาเนินการสารวจความคิดเห็นของประชาชน ต่อการบริหารงานของรัฐบาลในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีการส่งเสริม กระบวนการมสี ่วนร่วมในระดบั ฐานรากหรือระดับท้องถ่นิ ผ่านการทา กิจกรรมทหี่ ลากหลายท้ังในรูปแบบ Online และ Onsite – อยู่ระหว่างการสรุปผลการรับฟัง ความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติ การมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการนโยบายสาธารณะ พ.ศ. .... และจัดเตรียมทารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบท่ีอาจเกิดข้ึนจาก กฎหมายเพื่อประกอบการเสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวให้ คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป BR0203 ป รั บ เ ป ลี่ ย น ก า ร บ ริ ห า ร – อยู่ระหว่างการพัฒนาโปรแกรมระบบสารสนเทศทรัพยากรบุคคล ท รั พ ย า ก ร บุ ค ค ล ภ า ค รั ฐ สู่ เพ่ือให้ส่วนราชการใช้ในการบริหารงานบุคคลของส่วนราชการ โดย ระบบเปิด เพ่ือให้ได้มา และ ดาเนินการบารุงรักษาโปรแกรมระบบสารสนเทศทรัพยากรบุคคล รักษาไว้ซึ่งคนเก่ง ดีและมี ( Departmental Personnel Information System : DPIS) ความสามารถอย่างคล่องตัว Version 6 เพื่อให้ส่วนราชการสามารถใช้โปรแกรมฯ ได้อย่างมี ตามหลักคุณธรรม ประสทิ ธภิ าพ หมายเหตุ :  เปน็ ไปตามขั้นตอนและกรอบระยะเวลาท่กี าหนดไว้  ล่าช้ากวา่ ขนั้ ตอนและกรอบระยะเวลาท่กี าหนดไว้

21 แผนการปฏริ ปู ประเทศ (ฉบับปรบั ปรงุ ) ดา้ นการบริหารราชการแผ่นดนิ กจิ กรรม Big Rock สรปุ การดาเนินการท่ผี า่ นมา หน่วยงานรับผิดชอบหลกั : – จัดทาฐานข้อมูลทะเบียนประวัติข้าราชการอิเล็กทรอนิกส์ เพ่ือเป็น ข้อมูลสนับสนุนการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญระดับสูง และ ส า นั ก ง า น ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ส นั บ ส นุ น ก า ร ด า เ นิ น ก า ร เ กี่ ย ว กั บ ก า ร รั ก ษ า ท ะ เ บี ย น ป ร ะ วั ติ ข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ขา้ ราชการและการควบคุมเกษียณอายุของขา้ ราชการพลเรือน – อยู่ระหว่างรวบรวมข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบทบาทหน้าที่ของ ข้าราชการการเมืองของประเทศไทย และจัดทาเอกสารรวบรวมสรุป บทบาทหน้าทขี่ องข้าราชการการเมือง คณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ผู้บริหารท้องถ่ิน ตามกฎหมายท่ีเก่ียวข้อง รวมท้ังศึกษาค้นคว้า หลักการบริหารราชการแผ่นดิน ข้อกฎหมาย ข้อกาหนด แนวทาง ปฏิบัติ และเอกสารทางวิชาการที่เก่ียวข้องกับบทบาทหน้าที่ของ ขา้ ราชการการเมืองและขา้ ราชการประจาของต่างประเทศ – มีผลการศึกษาข้อมูลและข้อกฎหมายเก่ียวกับการขยายอายุเกษียณ ราชการสาหรับเจ้าหน้าท่ีรัฐในประเภทและตาแหน่งต่าง ๆ และมี การเตรียมปรับปรุงร่างกฎหมายเก่ียวกับการขยายอายุเกษียณ ราชการของขา้ ราชการพลเรอื นสามัญ – อยู่ระหว่างการศึกษาแบะรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับอัตรา เงินเดอื นและรายไดร้ วมของเจ้าหน้าทีข่ องรัฐ – อยู่ระหว่างการศึกษาระบบการบริหารทรัพยากรบุคคลภาครัฐที่ สนับสนุนให้เกิดการหมุนเวียน สับเปลี่ยน ถ่ายเทกาลังคนได้อย่างมี ประสิทธภิ าพ – กฎ ก.พ.ว่าด้วยการพัฒนาและทดสอบนวัตกรรมด้านการบริหาร ทรัพยากรบุคคล พ.ศ. 2565 ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา ประกาศ เม่ือวนั ที่ 10 มนี าคม 2565 BR0204 สร้างความเข้มแข็งในการ – อยู่ระหว่างการพัฒนารูปแบบการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหาร บริหารราชการในระดับพื้นท่ี ราชการในจังหวัดท่ีมีความคล่องตัวในระบบงาน ระบบแผน ระบบ โ ด ย ก า ร มี ส่ ว น ร่ ว ม ข อ ง งบประมาณ และระบบบริหารงานบุคคลให้มีการทางานท่ีมี ประชาชน ผลสมั ฤทธส์ิ ูง (High Performance Provinces : จังหวดั HPP) – อยู่ระหว่างการจัดทาแผนการดาเนินงานการขับเคล่ือนรูปแบบการ ทางานท่ีเน้นการบูรณาการของหน่วยงานในพื้นท่ี (1 Agenda 1 กรม 2 จังหวัด) ประเด็นฟ้ืนฟูการท่องเท่ียวในสถานการณ์การแพร่ ระบาดของโรคโควิด-19 ของจงั หวัด หนว่ ยงานรบั ผิดชอบหลัก : – อยู่ระหว่างขับเคล่ือนจังหวัดที่มีผลสัมฤทธ์ิสูงตามประเด็นนโยบาย ส า นั ก ง า น ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร สาคัญของจังหวัดครอบคลุม 76 จังหวัด ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย พฒั นาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และดาเนินการปลดล็อกข้อจากัดของการบริหารราชการในพ้ืนที่ ในประเด็นการจัดทาปฏิทินงบประมาณเพ่ือให้เกิดการบูรณาการ ระหว่างงบประมาณของหน่วยงานตามภารกิจ (Function) จังหวัด และ อปท. และประเด็นการบริหารสินทรัพย์ของจังหวัดให้มีความ คล่องตวั หมายเหตุ :  เปน็ ไปตามข้ันตอนและกรอบระยะเวลาทกี่ าหนดไว้  ลา่ ชา้ กวา่ ขน้ั ตอนและกรอบระยะเวลาทกี่ าหนดไว้

22 แผนการปฏิรปู ประเทศ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ดา้ นการบรหิ ารราชการแผ่นดิน กิจกรรม Big Rock สรปุ การดาเนนิ การทผ่ี ่านมา BR0205 ขจดั อปุ สรรคในการจัดซื้อจัด – พัฒนาระบบงานและทดสอบความพร้อมของระบบงานแล้วเสร็จ จ้างภาครัฐ และการเบิก พรอ้ มท้งั สรปุ ผลการทดสอบและนาเสนอผู้บรหิ ารเรียบร้อยแล้ว จ่ า ย เ งิ น เ พ่ื อ ใ ห้ เ กิ ด ค ว า ม – ดาเนินการเชื่อมโยงข้อมูลแบบ Webservice กับหน่วยงาน รว ดเ ร็ ว คุ้ มค่ า โ ป ร่ง ใ ส ท่ีเก่ียวข้อง และมีระบบเช่ือมโยงข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างระหว่าง ปราศจากการทจุ รติ หน่วยงานภาครัฐกับระบบจัดซ้ือจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ แบบ Interface และแบบ Excel Loader – กรมบัญชีกลางได้ดาเนินการเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไข พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ตามขั้นตอนการเสนอแก้ไขกฎหมาย โดยสานักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีมติให้กรมบัญชีกลางดาเนินการ ตามขน้ั ตอนของกฎหมายตอ่ ไป ซึง่ ปัจจุบันกรมบัญชีกลางอยู่ระหว่าง การดาเนินการรับฟังความคดิ เหน็ จากผูท้ เี่ ก่ยี วขอ้ งตามกฎหมาย หน่วยงานรับผิดชอบหลกั : – เชื่อมโยงฐานข้อมูลการจัดซ้ือจัดจ้างภาครัฐเข้ากับระบบของ กรมบญั ชีกลาง หนว่ ยงานตรวจสอบและหนว่ ยงานอ่นื ๆ ท่เี กีย่ วข้อง – กาหนดกลไกการบูรณาการทางานร่วมกันระหว่างกรมบัญชีกลาง และหนว่ ยงานตรวจสอบการทุจริต – กรมบัญชีกลางได้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ ความร่วมมือป้องกันการทุจริต จานว น 6 คน ตามคาส่ัง กระทรวงการคลัง ที่ 2567/2563 เร่ือง แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็น ก ร ร ม ก า ร ใ น ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ค ว า ม ร่ ว ม มื อ ป้ อ ง กั น ก า ร ทุ จ ริ ต สัง่ ณ วันท่ี 16 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิดังกล่าว เป็นผูแ้ ทนจากองคก์ รเอกชนท่ีจัดตั้งขึ้นเพ่ือขับเคลื่อนการดาเนินงาน ด้านการต่อต้านการทจุ ริตรวมถงึ สง่ เสริมคณุ ธรรมและจริยธรรม หมายเหตุ :  เปน็ ไปตามขนั้ ตอนและกรอบระยะเวลาทีก่ าหนดไว้  ล่าชา้ กว่าขน้ั ตอนและกรอบระยะเวลาทกี่ าหนดไว้

23 แผนการปฏริ ปู ประเทศ (ฉบับปรับปรงุ ) ดา้ นกฎหมาย กิจกรรม Big Rock สรุปการดําเนนิ การทผี่ ่านมา BR0301 มี กลไกยกเลิ กหรื อแก้ ไข – สํานักงาน ป.ย.ป. อยู่ระหว่างขับเคล่ือนประเด็นท่ีเกี่ยวกับการแก้ไข ปรับปรุงกฎหมายที่สร้างภาระ กฎหมาย เพ่ือให้การดําเนินธุรกิจของประเทศไทยมีความสะดวก ยิ่งข้ึน ซึ่งมีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและ หรื อเป็ นอุ ปสรรคต่ อการ ภาคเอกชน ดํารงชีวิตหรือการประกอบ อาชีพของประชาชน หน่วยงานรบั ผดิ ชอบหลกั : สํานักงานขับเคลื่อนการปฏิรูป ประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และ ก า ร ส ร้ า ง ค ว า ม ส า มั ค คี ปรองดอง (สํานักงาน ป.ย.ป.) BR0302 จัดให้มีกลไกทางกฎหมาย อยู่ระหว่างข้ันตอนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยโทษปรับเป็น เ พ่ื อ ใ ห้ มี ก า ร พิ จ า ร ณ า พนิ ัย พ.ศ. .... ของรัฐสภา – คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) เห็นชอบ ให้ ปรับเปลี่ยนโทษทางอาญาที่ นําร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยโทษปรับเป็นพินัย พ.ศ. .... (วาระที่ 1) ไม่ใช่ความผิดร้ายแรงให้เป็น เข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในวันอังคาร ที่ 21 โทษปรับเป็นพินัย เพ่ือลด ธ.ค. 2564 แตต่ อ้ งเล่อื นการประชุมไปในครง้ั ถัดไป ผ ล ก ร ะ ท บ ต่ อ สิ ท ธิ แ ล ะ เสรภี าพของประชาชน – ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วย โทษปรับเป็นพินัย พ.ศ. .... ในวาระที่ 1 แล้ว (การประชุมร่วมกัน ของรัฐสภาคร้ังที่ 5 (สมัยสามัญประจําปีคร้ังท่ีสอง) ในวันอังคารที่ หนว่ ยงานรบั ผิดชอบหลัก : 8 ก.พ. 2565) สํ า นั ก ง า น ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร กฤษฎีกา สาเหตทุ ่ลี า่ ช้า : ร่างพระราชบัญญัติโทษปรับเป็นพินัย พ.ศ. .... อยู่ในข้ันตอนการเสนอ รัฐสภา ซ่ึงขั้นตอนดังกล่าวอยู่นอกเหนือการควบคุมของสํานักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกา BR0303 จัดให้มีกลไกกําหนดให้ส่วน – กําหนดกรอบหน่วยงานท่ีมีหน้าที่ควบคุม กํากับดูแลและบังคับการ ราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งเป็นหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ซ่ึงมีหน้าท่ีควบคุม กํากับดูแล จํานวน ๒๑หน่วยงาน โดยใช้กลไกคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบ และบังคับการให้เป็นไปตาม เทคโนโลยสี ารสนเทศกระบวนการยุติธรรม กฎหมาย นําเทคโนโลยีมาใช้ – สรุปและจัดกลุ่มโครงการจากหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ใ น ก า ร ดํ า เ นิ น ก า ร เ พื่ อ เ พ่ิ ม เก่ียวกับการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายและระบบการ ประสิทธิภาพในการบังคับใช้ ใหบ้ ริการประชาชนผา่ นระบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (e-service) กฎหมาย – ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ส่วนราชการ/หน่วยงานในกระบวนการ หมายเหตุ :  เปน็ ไปตามขัน้ ตอนและกรอบระยะเวลาทก่ี าํ หนดไว้  ล่าชา้ กวา่ ขนั้ ตอนและกรอบระยะเวลาทก่ี ําหนดไว้

24 แผนการปฏริ ปู ประเทศ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ดา้ นกฎหมาย กจิ กรรม Big Rock สรปุ การดาํ เนนิ การทผี่ า่ นมา หนว่ ยงานรับผิดชอบหลกั : ยุติธรรมได้มีการดําเนินโครงการเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพการ กระทรวงยุติธรรม บังคับใช้กฎหมายและระบบการให้บริการประชาชนผ่านระบบ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ จาํ นวน 35 โครงการ – ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ส่วนราชการ/หน่วยงานในกระบวนการ ยุติธรรม ได้ดําเนินการแผนงาน/โครงการ เก่ียวกับการเพิ่ม ประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายและระบบการให้บริการ ประชาชนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-service) จํานวน 18 โครงการ BR0304 จั ด ใ ห้ มี ก ล ไ ก ช่ ว ย เ ห ลื อ – ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ได้ดําเนินการปรับเปล่ียนรูปแบบ ประชาชนในการจัดทําและ กิจกรรมเป็นการสัมมนาในรูปแบบออนไลน์ผ่านโปรแกรม Zoom เสนอร่างกฎหมาย meeting ในประเด็นการเข้าชื่อเสนอกฎหมายตามพระราชบัญญัติ การเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. 2564 จํานวน 4 คร้ัง รวมท้ัง 4 ภูมิภาค พบว่า ผู้เข้าร่วมโครงการฯ มีความรู้ความเข้าใจในระดับดี ถึงดีมาก คิดเป็นร้อยละ 89.25 และได้ทดลองนําระบบการเข้าชื่อ หนว่ ยงานรบั ผิดชอบหลัก : เสนอกฎหมายในรูปแบบออนไลน์ (e-initiative) ให้กลุ่มเป้าหมายได้ ทดลองใช้ เพ่ือรับฟังความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะในการพัฒนา สํ า นั ก ง า น เ ล ข า ธิ ก า ร ส ภ า ผู้แทนราษฎร รูปแบบ/หน้าต่างของระบบให้มีสอดคล้องกับความต้องการของ ผู้ใช้งาน และเพ่ิมเติมประเด็นความต้องการของประชาชน ให้ครบถว้ นใหป้ รากฎในระบบออนไลน์ใหส้ มบูรณท์ ่สี ดุ – ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จัดโครงการการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในการเข้าช่ือเสนอกฎหมายของประชาชน ในไตรมาส 1 ได้แก่ ครัง้ ที่ 1 ภาคเหนอื ณ โรงแรมโฟร์ทูซี เดอะชิค โฮเทล นครสวรรค์ จงั หวดั นครสวรรค์ เมอื่ วนั ที่ 12 มีนาคม 2565 BR0305 จัดทําประมวลกฎหมายเพ่ือ – สํานักงานฯ อยู่ระหว่างการสร้างความรู้ ซักซ้อมความเข้าใจ ให้แก่ ร ว บ ร ว ม ก ฎ ห ม า ย เ ร่ื อ ง หน่วยงานภาครัฐ และรับฟังความคิดเห็นเพ่ิมเติม ตามข้อส่ังการของ รองนายกรัฐมนตรี (ในฐานะรัฐมนตรีเจ้าสังกัด) ก่อนเสนอร่างฯ เดียวกันไว้ด้วยกันเพ่ือความ ใหค้ ณะรัฐมนตรพี จิ ารณา สะดวกในการใช้งาน สาเหตุที่ล่าชา้ : หนว่ ยงานรบั ผิดชอบหลกั : การดําเนินการจัดทําประม วลกฎหมายตามบทบัญญัติของ สํ า นั ก ง า น ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ร่างพระราชบัญญัติการจัดทํากฎหมายและกฎฯ มีความยุ่งยาก/ซับซ้อน กฤษฎกี า หากเร่งรีบออกกฎหมายดังกล่าว จะเกิดความสับสนแก่หน่วยงาน และ ประชาชนผู้ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย โดยรองนายก รัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ในฐานะรัฐมนตรีเจ้าสังกัด จึงส่ังการให้สํานักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกา สร้างความรู้ความเข้าใจการจัดทําประมวล กฎหมายแก่หน่วยงานท่ีต้องดําเนินการให้เข้าใจตรงกันเสียก่อน จึงจะ ดําเนนิ การตามกระบวนการจัดทํากฎหมายต่อไป   หมายเหตุ :  เป็นไปตามขั้นตอนและกรอบระยะเวลาท่กี ําหนดไว้  ล่าช้ากวา่ ข้ันตอนและกรอบระยะเวลาท่กี ําหนดไว้

25 แผนการปฏริ ปู ประเทศ (ฉบับปรบั ปรงุ ) ดา้ นกระบวนการยตุ ธิ รรม กจิ กรรม Big Rock สรุปการดาํ เนนิ การทผี่ ่านมา BR0401 มีการให้ประชาชนสามารถ – มีการยกร่างพระราชบัญญัติกําหนดระยะเวลาดําเนินงานใน ก ร ะ บ ว น ก า ร ยุ ติ ธ ร ร ม พ . ศ . . . . . เ ป็ น ที่ เ รี ย บ ร้ อ ย แ ล้ ว ติดตามความคืบหน้าขั้นตอน โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ เม่ือวันที่ 26 มกราคม 2564 และ การดําเนินงานต่าง ๆ ใน เม่ือวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้รับ กระบวนการยตุ ิธรรม หลักการ ร่างพระราชบัญญัติกําหนดระยะเวลาดําเนินงานใน กระบวนการยุติธรรม พ.ศ. .... และอยู่ระหว่างการพิจารณาของ หนว่ ยงานรับผดิ ชอบหลกั : คณะกรรมาธิการเพ่ือเสนอที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา พิจารณาใน วาระที่ 3 ต่อไป คณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ดา้ นกระบวนการยตุ ิธรรม BR0402 การรับแจ้งความร้องทุกข์ – สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ได้มีคําสั่งสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ท่ี 177/2564 เร่ือง การรับคําร้องทุกข์หรือกล่าวโทษความผิดอาญา ตา่ งท้องท่ี นอกเขตอํานาจการสอบสวนเปน็ ท่เี รยี บร้อยแล้ว และได้ออกระเบียบ สํานักงานตํารวจแห่งชาติว่าด้วยรายงานประจําวันอิเล็กทรอนิกส์ หนว่ ยงานรบั ผิดชอบหลัก : พ.ศ. 2564 โดยเป็นการทํางานผ่านระบบ Crime เพื่อใช้ในการรับคํา สาํ นักงานตาํ รวจแหง่ ชาติ ร้องทุกข์กล่าวโทษและเช่ือมโยงข้อมูลระหว่างสถานีตํารวจท่ัว ประเทศ ทาํ ใหพ้ นักงานสอบสวนสามารถรับคําร้องทุกข์แม้จะเป็นคดี ท่เี กิดข้นึ นอกเขตพื้นท่ีรับผดิ ชอบ และสามารถส่งคาํ ร้องทุกข์ดังกล่าว ใหพ้ นกั งานสอบสวนผู้รบั ผิดชอบโดยเรว็ ตอ่ ไป BR0403 การจัดหาทนายความอาสา – สถาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ขอรับจัดสรรงบประมาณ ประจําสถานีตํารวจให้ครบ รายจ่ายประจําปี พ.ศ. 2565เพ่ือดําเนินการจัดหาทนายความอาสา ประจําสถานีตํารวจ 1,482 สถานี ทั่วประเทศ โดยในปีงบประมาณ ทกุ สถานีท่ัวประเทศ 2565 ได้รับจัดสรรทนายความอาสาเพ่ิมเติม 53 สถานีตํารวจ หนว่ ยงานรับผดิ ชอบหลกั : จากเดิม 150 สถานตี าํ รวจ เป็น 203 สถานีตาํ รวจ – สภาทนายความได้เปิดช่องทางการรับเร่ืองร้องเรียนจากประชาชน สภาทนายความในพระบรม ผู้รับบริการในช่องทางต่างๆ ได้แก่การร้องเรียนด้วยตนเองที่ ราชปู ถัมภ์ สภาทนายความ ทางโทรศัพท์ ทาง e-mail ทางไปรษณีย์ หรือ ร้องเรียนผ่านประธานสภาทนายความจังหวัด กรรมการบริหารสภา ทนายความภาค 1-9 สาเหตุทล่ี า่ ชา้ : ขาดงบประมาณในการดาํ เนินการ ขอ้ เสนอแนะในการดําเนนิ งาน : สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และกระทรวงยุติธรรม ควรหารือความเป็นไปได้ในการขอรับจัดสรรงบกลาง เพ่ือดําเนินการให้ บรรลุเป้าหมายตามท่กี ําหนดไวต้ ามแผนขับเคลอื่ นกิจกรรม Big Rock หมายเหตุ :  เป็นไปตามขน้ั ตอนและกรอบระยะเวลาท่ีกาํ หนดไว้  ลา่ ช้ากวา่ ขั้นตอนและกรอบระยะเวลาท่ีกําหนดไว้