Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นักวิชาการจัดเก็บรายได้ปฏิบัติการ 62 อปท.

นักวิชาการจัดเก็บรายได้ปฏิบัติการ 62 อปท.

Published by มนฤดี เหลืองประมวล, 2020-10-05 00:41:30

Description: นักวิชาการจัดเก็บรายได้ปฏิบัติการ 62 อปท.

Search

Read the Text Version

สรปุ สาระสาคญั พระราชบญั ญัตสิ ภาตาบลและองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล พ.ศ.2537 และ 247 แกไ้ ขเพม่ิ เติม (ฉบบั ท่ี 7) พ.ศ. 2562 - ประธานสภา มีหน้าท่ีดาเนินการประชุมและดาเนินกิจการอ่ืนให้เป็นไปตามข้อบังคับของ กระทรวงมหาดไทย หากมีการปิดประชุมก่อนวาระประชุมจะหมด สมาชิกสภาไม่น้อยกว่าก่ึงหนึ่งมีสิทธิ์เข้าช่ือขอ ประชุมตอ่ - ในปีหนึ่งให้มีสมัยประชุมสามัญสองสมัยแต่ไม่เกินสี่สมัย หน่ึงสมัยมีกาหนด 15 วันถ้าจะ ขยายเวลาออกไปอีกจะตอ้ งได้รับอนุญาตจากนายอาเภอ - นายอาเภอต้องกาหนดใหม้ ีการประชุมสภาครงั้ แรกภายใน 15 วันและเลือกประธานกบั รอง ประธาน หากไม่ สามารถถงึ ประชุมได้หรือไม่สามารถเลอื กประธานและรองได้ ใหน้ ายอาเภอรายงานผู้ว่า ราชการจังหวดั ส่ังยุบสภา - นายกองค์การบริหารสว่ นตาบล หรอื ประธานสภา หรอื สมาชิกสภาไมน่ ้อยกว่าก่ึงหนึ่ง สามารถ ขอเปิดประชุมวสิ ามัญได้ - การประชุมสภาตอ้ งมีสมาชกิ สภาไมน่ ้อยกวา่ ก่ึงหนึง่ จงึ จะถอื เปน็ องค์ประชมุ ให้เลือกปลัดหรือสมาชิกสภาตาบลคนหน่ึง เปน็ เลขานกุ ารสภา อบต. ทาหนา้ ท่ี 1. รับผิดชอบงานธรุ การ 2. จัดการประชมุ 3. งานอน่ื ๆตามทปี่ ระธานสภามอบหมาย สว่ นท่ี 2 นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล ตอ้ งมากจากการเลอื กตงั้ โดยตรงของประชาชน มี 1. มีอายุไม่ตา่ กวา่ 35 ปีนบั ถึงวันเลอื กตงั้ 2. สาเร็จการศึกษาไม่ต่ากว่าม.ปลาย หรือเทียบเท่า หรือเคยเป็นสมาชกสภาตาบล สมาชกิ สภาทอ้ งถิน่ ผบู้ รหิ ารทอ้ งถิ่น หรอื สมาชกิ รัฐสภา - นายกองค์การบรหิ ารส่วนตาบลมีวาระอยใู่ นตาแหน่งคราวละ 4 ปีนับแต่วันเลือกต้ัง แต่จะ ดารงตาแหนง่ ตดิ ต่อกันเกินสองวาระไมไ่ ด้ - นายกองค์การบริหารส่วนตาบลอาจแต่งตั้งรองนายกได้ไม่เกินสองคน ซ่งึ ตอ้ งไมเ่ ปน็ สมาชกิ สภา องค์การบริหารส่วนตาบล และอาจแต่งตัง้ เลขานกุ ารนายกองคก์ ารบริหารส่วนตาบลหน่ึงคน ซ่งึ มิได้ เป็นสมาชิกสภาองค์การบรหิ ารสว่ นตาบลหรือเจ้าหนา้ ทข่ี องรัฐได้

248 - ก่อนการเข้ารับตาแหน่งให้นายกองค์การบริหารส่วนตาบลแถลงนโยบายในสภาองค์การ บรหิ ารสว่ นตาบล ภายใน 30 วนั นับแตว่ ันประกาศผลการเลือกตั้ง และจะต้องทาเป็นลายลักษณ์อักษร ให้แกส่ มาชกิ ที่มาประชุม - หากไม่สามารถแถลงได้ให้นายอาเภอแจ้งนายกองค์การบริหารส่วนตาบลทานโยบายส่งให้ สมาชิกสภาโดยทาเปน็ คาส่ังทางปกครอง - สมาชิกสภาไมน่ อ้ ยกวา่ หนง่ึ ในสามมีสิทธเิ ข้าช่ือขอเปิดอภปิ รายนายก โดยไมม่ กี ารลงมตโิ ดย ย่ืนตอ่ ประธานสภาและประธานตอ้ งกาหนดวนั อภปิ ราย ไม่เรว็ ไปกว่าหา้ วนั และไมช่ ้าไปกวา่ 15 วนั (ทาได้ คร้งั เดยี วในสมัยประชมุ สามัญสมัยหนงึ่ ) นายกองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล มีอานาจหนา้ ทดี่ งั นี้ 1. กาหนดนโยบายและรับผดิ ชอบการบรหิ าร 2. สัง่ อนุญาต อนุมตั ิเก่ียวกับราชการขององค์การบรหิ ารสว่ นตาบล 3. แต่งตั้งและถอดถอนรองนายก อบต. และเลขานกุ ารนายก อบต. 4. วางระเบยี บ 5. รกั ษาการให้เป็นไปตามข้อบัญญตั อิ งค์การบรหิ ารส่วนตาบล 6. อืน่ ๆ ตามกฎหมาย - นายกองค์การบริหารส่วนตาบล เป็นผ้บู ังคับบัญชาพนักงานส่วนตาบลและลูกจ้าง องค์การ บริหารสว่ นตาบล - ถ้านายกองค์การบริหารส่วนตาบลไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองนายกองค์การบริหารส่วน ตาบลหรือ ปลัดองค์การบริหารส่วนตาบลทาหน้าท่ีแทน ถ้ามอบให้ปลัดให้ทาเปน็ คาสั่งและประกาศให้ ประชาชนทราบ นายกองค์การบรหิ ารสว่ นตาบลพ้นจากตาแหน่งเมอื่ 1. ตาย / ออกตามวาระ /ยืน่ หนังสือลาออกต่อ นายอาเภอ 2. ขาดคณุ สมบัตติ าม มาตรา 58/1(อาย ุ30/จบ ม.ปลาย/ไม่ทุจรติ ) 3. ฝ่าฝืนตามาตรา 64/2 (ดารงตาแหน่งอ่ืนของทางราชการเว้นแต่ กฎหมายกาหนด/ รับ เงนิ หรือผลประโยชนจ์ าก หนว่ ยงานอนื่ ทั้งรัฐและเอกชน/ มีส่วนเสียในสัญญาทีอ่ งคก์ าร บรหิ ารส่วนตาบลนน้ั เป็นคู่สัญญา)

สรปุ สาระสาคญั พระราชบญั ญัตสิ ภาตาบลและองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล พ.ศ.2537 และ 249 แกไ้ ขเพิ่มเตมิ (ฉบบั ที่ 7) พ.ศ. 2562 4. ผวู้ ่าราชการจงั หวดั สง่ั ใหพ้ ้นตาม มาตรา 87/1 (ไม่ส่งรา่ ง ใหส้ ภาพิจารณาภายในเจ็ดวัน) และมาตรา 92 (ฝา่ ฝืน/ไมป่ ฏบิ ตั ิ หน้าท่ีตามหนา้ ท)่ี 5. ถกู จาคุกโดยคาพิพากษาถงึ ท่ีสดุ ให้จาคกุ 6. ราษฎรในเขตองค์การบริหารส่วนตาบลที่มีสิทธิ์เลือกต้ังและมาลงเลือกต้ัง ไม่น้อยกว่า สามในสี่ลงช่ือถอดถอน +คาวินิจฉัยของนายอาเภอถือเป็นท่ีสิ้นสุด /ให้ปลัดองค์การ บริหารส่วนตาบลทาหน้าทีน่ ายกองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล หากยังไม่มีการประกาศผล เลือกตั้ง +รองนายก/เลขา พ้นจากตาแหน่งเหมือนของนายกองค์การบรหิ ารส่วนตาบล ต่างเพียงยื่นหนังสือลาออกต่อนายก และเพมิ่ นายกองค์การบริหารส่วนตาบล ส่ังให้พ้น จากตาแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนตาบล/รองนายกองค์การบริหารส่วนตาบล/เลขานุการนายกฯ จะตอ้ ง 1. ไม่ดารงตาแหนง่ ทางราชการ รฐั วสิ าหกิจ เว้นแต่ กฎหมายกาหนด 2. ไม่รับเงนิ หรอื ผลประโยชน์จากราชการ รฐั วสิ าหกจิ นอกเหนือจากทาเป็นปกติ 3. ไม่เป็นผู้มีส่วนได้สว่ นเสียทั้งทางตรงทางอ้อม กับสัญญาท่ีองค์การบรหิ ารสว่ นตาบลน้นั ทา - นายก/รอง/ปลัด/พนักงานส่วนตาบลมอี านาจเปรยี บเทียบคดีปรบั ตามระเบียบและวิธีท่ี ก . มหาดไทยกาหนด สว่ นที่ 3 อานาจหนา้ ทขี่ ององค์การบรหิ ารส่วนตาบล - องค์การบริหารส่วนตาบลมีอานาจหน้าที่ในการพัฒนาตาบลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และ วัฒนธรรม องคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล มีหน้าที่ต้องทาในเขตองคก์ ารบริหารสว่ นตาบล ดงั น้ี 1. จดั ให้มแี ละบารงุ ทางนา้ และทางบก 1.1 รักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย การดูและการจราจร และส่งเสริม สนบั สนนุ หน่วยงานอ่ืน

250 2. รักษาความสะอาดของถนน ทางน้า ทางเดิน และที่สาธารณะ รวมท้ังกาจัดมูลฝอย และส่งิ ปฏิกลู 3. ปอ้ งกนั และระงับโรคตดิ ตอ่ 4. ป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั 5. จัดการ ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษา ศาสนา วัฒนธรรมและการฝกึ อบรม ให้แก่ประชาชน 6. คมุ้ ครอง ดแู ล และบารงุ รักษาทรัพยากรธรรมชาติ และส่งิ แวดลอ้ ม 7. บารุงศลิ ปะจารีต ประเพณี 8. หนา้ ท่อี ื่นตามที่ทางราชการมอบหมาย องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล อาจจดั ทากิจการในเขตองค์การบริหารสว่ นตาบล ดงั น้ี 1. ใหม้ นี ้าอุปโภค บรโิ ภค และการเกษตร 2. ใหม้ กี ารบารงุ การไฟฟา้ หรอื แสงสวา่ งโดยวธิ ีอ่นื 3. ใหม้ แี ละบารุงทางระบายน้า 4. ใหม้ แี ละบารุงสถานทป่ี ระชมุ การกฬี า การพักผ่อนหยอ่ นใจและสวนสาธารณะ 5. ให้มีและส่งเสริมกลุ่มเกษตรกร และกิจการสหกรณ์ 6. สง่ เสรมิ ให้มีอุตสาหกรรมในครอบครวั 7. บารงุ และส่งเสรมิ การประกอบอาชพี 8. ดูแลทรพั ยส์ ินอันเปน็ สาธารณสมบตั ขิ องแผน่ ดิน 9. หาผลประโยชนจ์ ากทรพั ย์สนิ ขององค์การบริหารสว่ นตาบล 10. มีตลาดท่าเทียบท่าข้าม 11. กจิ การเกยี่ วกบั การพาณิชย์ 12. การท่องเท่ียว 13. การผังเมอื ง

สรปุ สาระสาคญั พระราชบญั ญัตสิ ภาตาบลและองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล พ.ศ.2537 และ 251 แก้ไขเพิม่ เติม (ฉบบั ที่ 7) พ.ศ. 2562 ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตาบลเพื่อใชบ้ ังคับในเขตองค์การบริหารสว่ นตาบล กาหนด โทษปรบั ไมเ่ กนิ 1,000 บาท รา่ งขอ้ บัญญตั ิองค์การบรหิ ารส่วนตาบลเสนอได้โดย 1. คณะผู้บริหาร / สมาชิกสภา องค์การบริหารส่วนตาบล / ราษฎรในเขตองค์การ บริหารสว่ นตาบลตามกฎหมายว่าดว้ ยการเขา้ ชื่อเสนอขอ้ บัญญตั ทิ ้องถนิ่ 2. ถ้านายอาเภอไม่เห็นชอบ ให้ส่งคืนสภาองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล ภายใน 15 วันถ้า ไมส่ ่งคนื ภายใน 15 วันใหถ้ ือว่าเห็นชอบ 3. เมื่อส่งคืนสภาให้พิจารณาร่าง ถ้ามีมติยืนยัน ไม่น้อยกว่าสองในสาม ให้ส่งให้นายก องค์การบริหารส่วนตาบลลงนามประกาศใช้ / หากไม่ยนื ยัน ภายใน 30 วันหรือยนื ยันนอ้ ยกว่าสองในสาม ให้ร่างนน้ั ตกไป การทากิจกรรมนอกเขตจะต้อง 1. ได้รับความยนิ ยอมจากทอ้ งถน่ิ ที่เกยี่ วข้อง 2. เปน็ กิจการที่จาเป็นต้องทา ส่วนที่ 4 รายได้และรายจา่ ยของ องค์การบรหิ ารสว่ นตาบล - ภาษีบารุงท้องที่ ภาษีโรงเรือนและท่ดี ิน ภาษีป้าย อากรฆ่าสัตว์ ให้ถือเป็นรายได้ขององค์การ บรหิ ารสว่ นตาบล - ภาษแี ละคา่ ธรรมเนยี มรถยนต์ ที่จังหวัดถึงเกบ็ แลว้ ถงึ สรรใหอ้ งค์การบริหารสว่ นตาบล องค์การ บรหิ ารสว่ นตาบล สามารถออกขอ้ บัญญัตเิ ก็บภาษแี ละค่าธรรมเนยี มเพิม่ ได้ ไมเ่ กนิ ร้อยละ10 ดงั นี้ o ภาษธี ุรกจิ เฉพาะ o คา่ ธรรมเนียมใบอนญุ าตขายสุรา o ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเล่นการพนัน - ค่าธรรมเนียมว่าด้วยน้าบาดาล /อากรประธานบัตร/อาชญาบัตร/ธรรมเนียมป่าไม้/ค่าจด ทะเบยี นนิติกรรมทถ่ี ึงเกบ็ ใน เขตองค์การบริหารสว่ นตาบลใหถ้ ือเปน็ รายได้ขององคก์ ารบริหารส่วนตาบล - ค่าภาคหลวงแร่ตามกฎหมาย ให้จัดสรรให้องค์การบริหารส่วนตาบล - เงนิ ท่เี ก็บตามกฎหมายว่าดว้ ยอุทยาน ใหแ้ บ่งใหอ้ งค์การบรหิ ารส่วนตาบล

252 - องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล มอี านาจออกข้อบัญญตั ิเกบ็ ภาษีมูลค่าเพ่ิม ได้ ดังน้ี o กรณีประมวลรษั ฎากร เรียกเกบ็ รอ้ ยละศนู ย์ ให้องคก์ ารบริหารส่วนตาบลเก็บอัตรา ร้อยละ่ ศนู ย์ o กรณปี ระมวลรัษฎากร เรียกเก็บอัตราอืน่ ให้องคก์ ารบริหารสว่ นตาบลเกบ็ หนง่ึ ในเก้า ของประมวลรัษฎากร - องค์การบรหิ ารส่วนตาบล สามารถใหห้ นว่ ยงานอน่ื เก็บภาษี/ค่าธรรมเนียม แล้วแบง่ ใหอ้ งคก์ าร บริหารส่วนตาบล ก็ได้ องคก์ ารบริหารส่วนตาบล อาจมรี ายได้ จาก o ทรัพย์สนิ o สาธารณปโู ภค o กจิ การพาณิชย์ o ค่าธรรมเนียม ใบอนญุ าต ค่าเปรยี บเทียบปรับ o ทรพั ยอ์ ุทศิ o รายได้ตามรัฐบาลหรอื หน่วยงานอน่ื ถึงสรร o เงินอดุ หนนุ จากรฐั บาล o อ่ืนๆตาม กฎหมายกาหนด - องคก์ ารบริหารส่วนตาบลอาจก้เู งนิ ไดเ้ มอ่ื สภาองค์การบริหารส่วนตาบลอนุญาต - รายได้ขององค์การบริหารส่วนตาบลไม่ต้องเสยีภาษีโดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกาตาม ประมวลรัษฎากร องค์การบริหารสว่ นตาบลอาจมีรายจา่ ย ดังน้ี o เงินเดอื น o คา่ จ้าง o เงินคา่ ตอบแทนอนื่ ๆ o ค่าใชส้ อย

สรปุ สาระสาคญั พระราชบญั ญัตสิ ภาตาบลและองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล พ.ศ.2537 และ 253 แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ (ฉบับท่ี 7) พ.ศ. 2562 o คา่ วสั ดุ o คา่ ครุภัณฑ์ o คา่ ที่ดนิ ส่ิงกอ่ สรา้ ง o ค่าสาธารณปูโภค o เงินอดุ หนนุ หน่วยงานอื่น o อืน่ ๆ ตามขอ้ ผูกพัน หรือตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย - งบประมาณรายจ่ายประจาปี / เพม่ิ เตมิ เสนอได้เฉพาะนายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล - สภาองค์การบริหารส่วนตาบลจะต้องพิจารณา ภายใน 60 วันหากเกินน้ีให้ถือวา่ ผ่านมตสิ ภา - กรณสี ภาไมร่ บั หลกั การใหน้ ายอาเภอต้งั กรรมการ 7 คน ภายใน 7 วัน ประอบด้วย 1. สมาชกิ สภาองค์การบริหารสว่ นตาบลทสี่ ภาฯ เสนอ จานวน 3 คน 2. บุคคลอ่ืนท่ีนายกองค์การบริหารส่วนตาบลเสนอ จานวน 3 คน (เป็น หรือไม่เป็น สมาชกิ สภา ก็ได)้ 3. ใหก้ รรมการเลอื กประธาน 1 คน (ต้องไมเ่ ปน็ นายก/รอง/เลขา/สมาชกิ สภา) - ให้กรรมการพิจารณาใหเ้ สร็จภายใน 15 วนั นบั แต่วันท่ีแต่งตง้ั ประธานกรรมการ - เมื่อกรรมการพิจารณาเสร็จให้นายอาเภอส่งคืนให้นายก อบต. ส่งให้สภา อบต. พิจารณา ภายในเจด็ วนั ถ้าไม่สง่ ใหน้ ายอาเภอเสนอผ้วู า่ ราชการจงั หวัดส่ังใหน้ ายก อบต. ออกจากตาแหนง่ - สภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลจะต้องพจิ ารณา ภายใน 30 วัน หากเกนิ หรือไม่ผา่ นมติ ให้ถือว่า ขอ้ บัญญตั นิ นั้ ตกไป และให้นายอาเภอเสนอผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ส่งั ยุบสภาองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล - เมอื่ ผ่านมตขิ องสภาแล้ว ส่งให้นายอาเภออนมุ ัติ ภายใน 15 วันหากเกนิ 15 วนั ใหถ้ อื ว่าอนุมัติ - กรณีอาเภอไมอ่ นุมัตติ อ้ งส่งคืนสภาพร้อมแจง้ เหตุผล - ให้สภาตอ้ งพจิ ารณาและลงมติ หากมีมตยิ นื ยันให้นายอาเภอส่งรา่ งนัน้ ให้แก่ผวู้ ่าราชการจงั หวัด พจิ ารณาภายใน 15 วันหากเกินนใี้ หถ้ ือว่าเหน็ ชอบ ถา้ ผวู้ ่าราชการจงั หวดั ไมเ่ ห็นชอบ ใหถ้ อื ว่ารา่ งนั้นตกไป - ระเบียบว่าด้วยการคลัง งบประมาณ การโอนทรัพย์ ค่าจ้าง ค่าตอบแทนต่างๆ ให้เป็นไปตาม ระเบียบ กระทรวงมหาดไทย

254 ส่วนที่ 5 การกากับดแู ล - ให้นายอาเภอมีอานาจในการกากับดแู ลองคก์ ารบริหารส่วนตาบล - นายอาเภอสามารถยับย้ังการกระทาขององค์การบริหารส่วนตาบล แล้วรายรายงานผู้ว่า ราชการจงั หวัดภายใน 15 วัน - คาสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวกับนายกองค์การบริหารส่วนตาบล ไม่มีผลผูกพันถึง องค์การบรหิ ารสว่ นตาบล - เพ่ือคุ้มครองประโยชน์ประชาชน นายอาเภอมีอานาจเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดยุบสภา องค์การบริหารส่วนตาบลได้ - เม่ือมีการยุบสภาตาม พรบ. นี้ จะตอ้ งเลอื กต้งั ใหม่ภายใน 15 วัน - นายอาเภอมีอานาจสอบสวน นายก อบต./รองนายก อบต./ประธานสภา/รองประธานสภา และเสนอใหผ้ ้วู า่ ราชการจงั หวดั สง่ั ใหพ้ ้นจากตาแหน่ง - คาสง่ั ผู้วา่ ราชการจังหวดั ถือเป็นทส่ี ้ินสุด

แนวข้อสอบพระราชบญั ญตั สิ ภาตาบลและองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล พ.ศ. 2537 และท่แี ก้ไข 255 เพ่ิมเตมิ แนวข้อสอบพระราชบญั ญตั สิ ภาตาบลและองคก์ ารบริหารส่วนตาบล พ.ศ. 2537 และท่ีแก้ไขเพิ่มเตมิ 1. ปกติ ผใู้ ดเรยี กประชมุ สภาองค์การบรหิ ารส่วนตาบลตามสมยั ประชมุ และเป็นผเู้ ปดิ หรือปดิ ประชุม ก. ผวู้ ่าราชการจังหวดั ข. นายอาเภอ ค. นายกองค์การบรหิ ารส่วนตาบล ง. ประธานสภาองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล 2. ผู้ใด มหี น้าท่กี ากบั ดูแลองคก์ ารบริหารสว่ นตาบล ข. นายอาเภอ ก. ผวู้ า่ ราชการจังหวดั ง. กานัน ผูใ้ หญบ่ ้าน ค. นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล 3. องค์การบรหิ ารส่วนตาบลประกอบด้วยขอ้ ใด ก. สภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล และพนกั งานสว่ นตาบล ข. นายกองค์การบรหิ ารส่วนตาบล และปลดั องคก์ ารบริหารส่วนตาบล ค. สภาองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล และประธานสภาองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล ง. นายกองคก์ ารบริหารสว่ นตาบล และสภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล 4. องค์การบริหารสว่ นตาบลแหง่ หน่งึ มี 2 หมู่บา้ น จะมสี มาชกิ สภาองค์การบรหิ ารส่วนตาบลได้ หมู่บ้านละกค่ี น ก. 2 คน ข. 3 คน ข. 6 คน ง. 12 คน 5. ผใู้ ดต้องกาหนดให้สมาชิกสภาองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบลดาเนินการประชมุ สภาฯ เปน็ คร้ังแรก ก. ปลัดองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล ข. นายกองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล ค. นายอาเภอ ง. ผวู้ ่าราชการจังหวัด 6. ในกรณตี าแหน่งประธานสภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลว่างลง เพราะเหตอุ ื่นนอกจากถึงคราวออก ครบวาระ ใหเ้ ลอื กประธานองค์การบริหารสว่ นตาบลขึ้นแทนภายในกว่ี ัน นบั แตว่ ันทต่ี าแหน่งนั้นว่าง ก. 15 วนั ข. 30 วัน ค. 45 วัน ง. 60 วนั

256 7. ในกรณที สี่ มาชิกสภาองค์การบรหิ ารสว่ นตาบลพน้ จากตาแหนง่ เพราะครบวาระ จะต้องจดั ใหม้ ี การเลอื กต้ังข้นึ ใหม่ ภายในระยะเวลากีว่ ัน นับแต่วันท่ีครบวาระ ก. 15วนั ข. 30 วัน ค. 45 วัน ง. 60 วัน 8. บุคคลผมู้ สี ิทธิสมัครรับเลือกตง้ั เป็นสมาชิกองคก์ ารบริหารส่วนตาบล ตอ้ งมีชอ่ื อยใู่ นทะเบียนบ้าน ในเขตองคก์ ารบริหารส่วนตาบลติดตอ่ กันเป็นระยะเวลาไมน่ อ้ ยกวา่ เท่าใด นบั ถึงวันสมัครรับเลอื กตงั้ ก. สองปจี นถงึ วนั เลอื กตัง้ ข. หนึง่ ปจี นถึงวนั เลอื กตั้ง ค. หกเดอื นจนถึงวันเลอื กตัง้ ง. สามเดือนจนถงึ วนั เลอื กต้งั 9. กฎหมายทีอ่ อกเพ่ือใช้บังคบั ในเขตองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล ก. ข้อบงั คบั ตาบล ข. ขอ้ บงั คบั องคก์ ารบริหารสว่ นตาบล ค. ข้อบญั ญตั ิตาบล ง. ขอ้ บัญญตั ิองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล 10. ขอ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ งเก่ียวกับการกาหนดสมยั ประชุมสามัญประจาปี ก. ใหท้ าเปน็ คาสั่งองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล ข. ให้ทาเป็นประกาศองค์การบริหารสว่ นตาบล ค. ใหท้ าเป็นขอ้ บังคบั องคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล ง. ใหท้ าเปน็ ขอ้ บญั ญตั อิ งค์การบรหิ ารส่วนตาบล 11. ผู้ใดเป็นผลู้ งช่อื และประกาศเป็นข้อบัญญตั อิ งคก์ ารบริหารส่วนตาบล ก. นายกองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล ข. ผวู้ ่าราชการจงั หวดั ค. นายอาเภอ ง. รฐั มนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 12. หากนายกองคก์ ารบริหารสว่ นตาบล ต้องการลาออกตอ้ งย่ืนหนังสือตอ่ ผใู้ ด ก. นายอาเภอ ข. ผูว้ ่าราชการจงั หวดั ค. ปลัดกระทรวงมหาดไทย ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 13. นายอาเภอต้องพจิ ารณาร่างข้อบญั ญัติงบประมาณ ไดแ้ ล้วเสร็จภายในกว่ี ัน ก. 7 วนั ข. 10 วนั ค. 15 วัน ง. 30 วัน

แนวข้อสอบพระราชบญั ญัตสิ ภาตาบลและองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล พ.ศ. 2537 และทแี่ กไ้ ข 257 เพ่มิ เตมิ 14. หากสมาชิกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล ต้องการลาออกต้องย่ืนหนงั สอื ผูใ้ ด ก. ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ข. นายอาเภอ ค. ปลัดกระทรวงมหาดไทย ง. รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย 15. ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถูกต้อง ก. นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลดารงตาแหนง่ คราวละ 4 ปี ข. นายกองค์การบรหิ ารส่วนตาบลดารงตาแหนง่ ตดิ ต่อกันเกนิ 2 วาระไมไ่ ด้ ค. นายกองค์การบรหิ ารสว่ นตาบลตอ้ งอายไุ มต่ า่ กว่า 30 ปบี ริบรู ณใ์ นวนั เลอื กต้งั ง. นายกองค์การบริหารสว่ นตาบลดารงตาแหน่งนบั แตว่ ันเลอื กตง้ั 16. ผใู้ ด ไม่สามารถทาคาร้องต่อผมู้ ีอานาจขอเปิดประชุมสามญั ก. ปลดั องคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล ข. นายกองค์การบรหิ ารส่วนตาบล ค. สมาชกิ สภาองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล ( ไมน่ อ้ ยกวา่ กึ่งหนง่ึ ) ง. ประธานสภาองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล 17. นายกองค์การบรหิ ารส่วนตาบลแตง่ ตั้งเลขานุการนายกองค์การบรหิ ารสว่ นตาบลไดไ้ ม่เกนิ กี่คน ก. 1 คน ข. 2 คน ค. 3 คน ง. 4 คน 18.นายกองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล แตง่ ตงั้ รองนายกองค์การบรหิ ารสว่ นตาบลไดไ้ มเ่ กินกี่คน ก. 1 คน ข. 2 คน ค. 3 คน ง. 4 คน 19.ผใู้ ดเป็นผู้แตง่ ต้ังรองประธานสภาองค์การบริหารส่วนตาบล ก. ประธานสภาองค์การบรหิ ารส่วนตาบล ข. นายอาเภอซึง่ คัดเลือกเอง ค. ประธานสภาองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล ตามมตสิ ภาองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล ง. นายอาเภอ ตามมติสภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล

258 20. สภาองค์การบรหิ ารสว่ นตาบลประกอบดว้ ยสมาชกิ สภาองค์การบริหารส่วนตาบลจานวนเขต เลือกตั้งละกี่คน ก. 1 คน ข. 2 คน ค. 3 คน ง. 4 คน 21. ข้อใดคอื อานาจหนา้ ทข่ี องรองนายกองคก์ ารบริหารสว่ นตาบล ก. เป็นผู้บงั คับบญั ชาของพนักงานส่วนตาบลและลกู จ้าง ข. เป็นผบู้ ังคับบญั ชาพนกั งานสว่ นตาบลและลูกจา้ งองค์การบรหิ ารส่วนตาบลรองจากนายกฯ ค. สง่ั หรือปฏบิ ตั ริ าชการตามที่นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลมอบหมาย ง. ควบคุมดูแลและรบั ผิดชอบในการบรหิ ารราชการขององคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล 22. การปฏบิ ัตงิ านตามอานาจหน้าทข่ี ององค์การบรหิ ารส่วนตาบลตอ้ งเป็นไปตามข้อใด ก. เพือ่ ประโยชนส์ ุขของประชาชน โดยใชว้ ิธีการบรหิ ารกจิ การบา้ นเมืองทดี่ ี ข. คานงึ ถึงการมสี ว่ นร่วมของประชาชนในการจัดทาแผนพฒั นาองคก์ ารบริหารส่วนตาบล ค. สามารถตรวจสอบ ประเมนิ ผลการปฏิบัตงิ าน และเปดิ เผยข้อมูลข่าวสารได้ ง. ถกู ทุกขอ้ 23. ผู้ใดเป็นผู้รกั ษาการตามพระราชบญั ญัติสภาตาบลและองค์การบรหิ ารส่วนตาบล ก. นายกรฐั มนตรี ข. รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย ค. รัฐมนตรีชว่ ยว่าการกระทรวงมหาดไทยซ่ึงไดร้ ับมอบหมาย ง. ปลดั กระทรวงมหาดไทย 24. ในกรณีที่ปรากฏการดาเนินการสภาตาบลเป็นไปดว้ ยไมช่ อบดว้ ยกฎหมายก่อหรอื อาจกอ่ ใหเ้ กดิ ความเสยี หายแกท่ างราชการ หรือไม่เปน็ ไปตามระเบียบขอ้ บงั คับทางราชการ ผ้มู ีอานาจยบั ย้ัง การดาเนินการดงั กล่าวไวเ้ ป็นชว่ั คราว และรายงานไปผใู้ ด ก. ประธานสภาตาบล / นายอาเภอ ข. สมาชิกสภาตาบล / นายอาเภอ ค. ผู้ว่าราชการจงั หวัด / รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย ง. นายอาเภอ / ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั

แนวข้อสอบพระราชบญั ญตั สิ ภาตาบลและองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล พ.ศ. 2537 และที่แกไ้ ข 259 เพิ่มเตมิ 25. ผู้ใดเป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานตาบล ลูกจา้ งองค์การบรหิ ารสว่ นตาบลรองจากนายกองคก์ าร บริหารส่วนตาบล และรบั ผิดชอบควบคุมดูแลราชการประจาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล ก. รองนายกองค์การบริหารสว่ นตาบล ข. ประธานสภาองคก์ ารบริหารสว่ นตาบล ค. ปลัดองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล ง. รองนายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลทไี่ ดร้ ับมอบหมาย 26. สภาองคก์ ารบริหารสว่ นตาบล มีอานาจหนา้ ที่ดังตอ่ ไปน้ี ยกเว้นข้อใด ก. ใหค้ วามเห็นชอบแผนพฒั นาองคก์ ารบริหารสว่ นตาบล ข. ควบคุมการปฏิบตั ิงานของพนกั งานส่วนตาบลและลูกจา้ ง ค. พิจารณาและให้ความเห็นชอบขอ้ ร่างบญั ญัติองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล ง. พิจารณาและให้ความเห็นชอบข้อบญั ญัติงบประมาณรายจา่ ยประจาปี 27. ผูใ้ ดมหี น้าทร่ี ับผิดชอบงานธรุ การและการจดั การประชมุ สภาองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล ก. ประธานสภาองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล ข. รองประธานสภาองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล ค. เลขานุการสภาองคก์ ารบริหารส่วนตาบล ง. ปลดั องคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล 28. ข้อใดไม่ใช่อานาจของนายกองค์การบริหารส่วนของตาบล ก. กาหนดนโยบายโดยไม่ขดั ตอ่ กฎหมาย ข. สง่ั อนุญาต และอนมุ ตั ิเก่ียวกบั ราชการองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล ค. รกั ษาการใหเ้ ป็นไปตามขอ้ บญั ญตั อิ งค์การบรหิ ารสว่ นตาบล ง. พิจารณาและให้ความเหน็ ชอบรา่ งข้อบญั ญตั ิองคก์ ารบริหารส่วนตาบล 29. หากจะขยายกาหนดเวลาสมยั ประชมุ วิสามญั ออกไปอกี ต้องไดร้ ับการอนุญาตจากผูใ้ ด ก. ผ้วู า่ ราชการจงั หวดั ข. ประธานสภาองค์การบรหิ ารส่วนตาบล ค. นายอาเภอ ง. ปลดั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล 30. เม่ือสภาองค์การบรหิ ารส่วนตาบล เห็นชอบดว้ ยกับร่างขอ้ บัญญัติงบประมาณรายจา่ ยประจาปี แล้ว ให้เสนอผู้ใดเพือ่ ขออนมุ ัติ ก. นายกองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล ข. ผูว้ า่ ราชการจงั หวดั ค. นายอาเภอ ง. ประธานสภาองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล

260 31. หากยังไมม่ ีประธานสภาองค์การบริหารสว่ นตาบล ผู้ใดเป็นผ้เู รยี กประชุม ก. ผวู้ า่ ราชการจงั หวัด ข. นายอาเภอ ค. นายกองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล ง. หากไมม่ ปี ระธานสภาไมส่ ามารถเรยี กประชุมได้ 32. ผ้ใู ด มอี านาจแตง่ ตง้ั ประธานและรองประธานสภาองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบลตามมตขิ องสภา องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล ก. ผู้วา่ ราชการจงั หวดั ข. นายอาเภอ ค. นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล ง. ประธานสภาองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล 33. ผู้ใดไม่สามารถเสนอร่างขอ้ บญั ญตั อิ งคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลได้ ก. นายกองค์การบรหิ ารส่วนตาบล ข. ประธานสภาองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล ค. สมาชิกสภาองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล ง. ราษฎรในเขตองค์การบรหิ ารส่วนตาบล 34. ผใู้ ดตามพระราชบญั ญัติสภาตาบลและองค์การบริหารสว่ นตาบล พ.ศ. 2537 และทแ่ี กไ้ ขเพม่ิ เตมิ ถือวา่ เปน็ เจา้ พนกั งานตามประมวลกฎหมายอาญา ก. รองปลดั องค์การบรหิ ารสว่ นตาบล ข. รองนายกองค์การบรหิ ารส่วนตาบล ค. เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตาบล ง. เลขนุการสภาองค์การบรหิ ารส่วนตาบล 35.การแต่งตงั้ และถอดถอนเลขานุการนายกองค์การบรหิ ารส่วนตาบล เป็นอานาจของผู้ใด ก. ผ้วู ่าราชการจังหวดั ข. ประธานสภาองคก์ ารบริหารส่วนตาบล ค. นายกองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล ง. ปลัดองค์การบรหิ ารส่วนตาบล 36. ขอ้ ใดคอื เลขานุการสภาองค์การบริหารสว่ นตาบล ก. สมาชกิ สภาองค์การบรหิ ารสว่ นตาบลท่สี ภาคดั เลอื ก ข. ปลัดองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลตามท่ีสภาคัดเลอื ก ค. บุคคลภายนอกทีป่ ระธานสภาองค์การบรหิ ารสว่ นตาบลแต่งต้งั ง. ถูกต้องเฉพาะขอ้ ก และ ข้อ ข 37. ผูใ้ ดสามารถเรียกพนักงานส่วนตาบลมาชแ้ี จงเร่อื งใดเรือ่ งหน่ึงเกยี่ วกับการปฏบิ ตั ิราชการได้ ก. ผู้วา่ ราชการจังหวัด ข. นายอาเภอ ค. ท้องถิ่นอาเภอ ง. ปลัดอาเภอ

แนวขอ้ สอบพระราชบญั ญตั สิ ภาตาบลและองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล พ.ศ. 2537 และทีแ่ กไ้ ข 261 เพ่มิ เตมิ 38. ขอ้ ใด ทาให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาองค์การบรหิ ารส่วนตาบล ก. ขาดประชมุ สภาองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบลสองครง้ั ตดิ ตอ่ กนั โดยไม่มเี หตุอันสมควร ข. ขาดประชมุ สภาองค์การบรหิ ารส่วนตาบลสามครงั้ ติดต่อกนั โดยไมม่ เี หตอุ ันสมควร ค. มไิ ดอ้ ยปู่ ระจาในหมบู่ ้านทไ่ี ดร้ บั เลอื กตง้ั เปน็ ระยะเวลาติดตอ่ กันเกินสามเดือน ง. ไม่มขี อ้ ใดถกู 39. ข้อใดต่อไปน้ี คือ อานาจหนา้ ทขี่ องสภาองคก์ ารบริหารสว่ นตาบล ก. ออกคาสง่ั ปรับข้นึ เงินเดอื นพนักงานส่วนตาบล ข. ใหค้ วามเห็นชอบแผนพัฒนาองค์การบรหิ ารส่วนตาบล ค. ออกคาสง่ั รบั โอน(ยา้ ย)พนักงานส่วนตาบล ง. กาหนดนโยบายและเปน็ ทปี่ รกึ ษาผบู้ รหิ าร 40. ในปีหน่ึงการประชมุ สภาจะมสี มัยประชมุ สามัญต้องไม่เกินก่สี มยั และในสมัยหนึง่ ๆตอ้ งไมเ่ กินก่วี ัน ก. ประชมุ สามญั ตอ้ งไมเ่ กนิ 2 สมัย และในสมยั หน่ึงๆ ต้องไม่เกิน 10 วนั ข. ประชมุ สามญั ตอ้ งไม่เกิน 2 สมยั และในสมยั หนงึ่ ๆ ต้องไม่เกนิ 15 วัน ค. ประชุมสามญั ต้องไม่เกนิ 4 สมัย และในสมัยหนง่ึ ๆ ต้องไมเ่ กิน 10 วัน ง. ประชุมสามญั ตอ้ งไมเ่ กนิ 4 สมยั และในสมัยหนงึ่ ๆ ต้องไมเ่ กนิ 15 วัน

262 เฉลยแนวขอ้ สอบพระราชบญั ญัตสิ ภาตาบลและองคก์ ารบริหารส่วนตาบล พ.ศ. 2537 และท่แี ก้ไข เพิ่มเติม ขอ้ คาตอบ ข้อ คาตอบ 1 ง 21 ค 2 ข 22 ง 3 ง 23 ข 4 ข 24 ง 5 ค 25 ค 6 ก 26 ข 7 ค 27 ค 8 ข 28 ง 9 ง 29 ค 10 ข 30 ค 11 ก 31 ข 12 ก 32 ข 13 ค 33 ข 14 ข 34 ข 15 ค 35 ค 16 ก 36 ง 17 ก 37 ข 18 ข 38 ข 19 ง 39 ข 20 ก 40 ง

สรปุ สาระสาคญั พระราชบญั ญตั ิระเบยี บบรหิ ารราชการเมืองพัทยา พ.ศ. 2542 แกไ้ ขเพิม่ เตมิ 263 (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2562 สรุปสาระสาคญั พระราชบญั ญัตริ ะเบียบบริหารราชการเมอื งพัทยา พ.ศ. 2542 แกไ้ ขเพมิ่ เติม (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2562 พระราชบญั ญัตริ ะเบยี บบริหารราชการเมอื งพัทยา พ.ศ. 2542 - ให้ใช้บังคบั ต้งั แต่วันถดั จากวนั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน็ ตน้ ไป พระราชบัญญัตริ ะเบยี บบรหิ ารราชการเมืองพัทยา (ฉบบั ท่ี 3 ) พ.ศ.2562 - ใหใ้ ชบ้ งั คบั ตง้ั แต่วนั ถดั จากวนั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน็ ต้นไป รปู แบบและการบรหิ าร - เมืองพทั ยาประกอบดว้ ย สภาเมอื งพัทยา และนายกเมืองพทั ยา - ให้เมืองพัทยามีฐานะเป็นนติ บิ ุคคล สภาเมอื งพัทยา สภาเมืองพัทยาประกอบดว้ ย สมาชิกจานวน 24 คน ซึ่งเลอื กตงั้ โดยราษฎรผูม้ สี ทิ ธเิ ลือกตั้งโดย ในเขตเมืองพทั ยา มวี าระการดารงตาแหน่ง 4 ปีนบั แตว่ ันเลือกต้งั เม่ือตาแหน่งสมาชิกว่างลง ไม่ว่าด้วยเหตุใดและยังมิได้มีการเลือกตั้งสมาชิกข้ึนแทนตาแหน่งที่ วา่ ง ให้สภาเมืองพทั ยาประกอบด้วยสมาชกิ เทา่ ท่มี อี ยู่ ความในวรรคหนึง่ มใิ ห้นามาใชบ้ ังคับแก่กรณีท่ไี ด้จัดใหม้ ีการเลือกตั้งใหม่ตามกฎหมายว่าด้วย การเลอื กต้งั สมาชกิ สภาทอ้ งถ่นิ หรอื ผบู้ รหิ ารท้องถน่ิ เพราะเหตทุ ี่มผี ้ไู ด้รับเลอื กตั้งไมค่ รบจานวน ถา้ ในการ จัดใหม้ ีการเลอื กต้ังใหมน่ ั้นยงั ได้ไมค่ รบจานวนอีก ใหถ้ อื วา่ สภาเมืองพทั ยานนั้ ประกอบดว้ ยจานวนสมาชกิ เท่าที่มีอยู่จนกว่าจะครบอายุของสภาเมืองพัทยา เว้นแต่จะมจี านวนสมาชิกไม่ถงึ สองในสามของจานวน ตามวรรคหน่ึง ในกรณีที่ตาแหน่งสมาชิกว่างลงเกินก่ึงหน่ึงของจานวนสมาชิกตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (24 คน) ใหผ้ วู้ า่ ราชการจังหวดั รายงานเสนอรัฐมนตรีเพือ่ พิจารณาสงั่ ยุบสภาเมืองพัทยากไ็ ด้ สมาชกิ ภาพของสมาชิกส้ินสดุ ลง เม่อื 1. ถงึ คราวออกตามอายุ หรอื มกี ารยบุ สภาเมอื งพัทยา 2. ตาย 3. ลาออก โดยยื่นหนงั สอื ลาออกตอ่ ประธานสภาเมืองพทั ยา

264 4. กระทาการอนั ต้องหา้ ม 5. ขาดคณุ สมบตั ิหรอื มลี กั ษณะต้องหา้ ม 6. ขาดประชุมสภาเมอื งพทั ยา 3 คร้งั ตดิ ตอ่ กันโดยไมม่ เี หตอุ ันสมควร 7. สภาเมือพทั ยามมี ติใหพ้ ้นจากตาแหนง่ มติ 3 ใน 4 ของสมาชกิ เทา่ ท่มี อี ยู่ 8. ราษฎรผ้มู สี ทิ ธิเลอื กตั้งในเขตพทั ยาลงคะแนนเสยี งถอดถอน ประธานสภาและรองประธานสภา ให้สภาเมืองพทั ยาเลือกสมาชิกเป็นประธานสภาเมืองพทั ยา 1 คน และรองประธานสภาเมอื ง พทั ยาจานวน 2 คน แล้วเสนอผู้วา่ ราชการจงั หวัดแต่งต้ัง ประธานสภาและรองประธานสภาเมืองพัทยา อยู่ในตาแหน่งจนครบอายุของสภาเมืองพทั ยา หรอื มกี ารยบุ สภาเมืองพทั ยา ประธานสภาเมืองพัทยาอาจแต่งตั้งเลขานุการประธานสภาเมืองพัทยา และผู้ช่วยเลขานุการ ประธานสภาเมืองพัทยาไม่เกินจานวนรองประธานสภาเมืองพัทยาเพ่ือช่วยเหลือกิจการตามที่ได้รับ มอบหมายได้ สมัยการประชุม ภายใน 15 วันนับแต่วันเลือกตั้งสมาชิกเป็นอันเป็นการเลือกต้ังทั่วไป ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เรยี กประชุมครั้งแรก ในปีหนึ่ง มีสมัยประชมุ สามัญชองสภาเมืองพัทยาไมน่ ้อยกว่า 2 สมัย แต่ต้องไม่เกิน 4 สมัย สมัยประชุมสามัญให้มีกาหนด 30 วัน แต่ถ้ามีกรณีจาเป็นสภาเมืองพัทยาจะมีมติขยายสมัย ประชมุ สามัญออกไปอกี ก็ได้ตอ้ งไมเ่ กิน 30 วัน เมือ่ มีกรณจี าเปน็ เพอ่ื ประโยชน์แห่งเมอื งพัทยา นายกเมอื งพัทยาหรอื สมาชิกไมน่ อ้ ยกว่า 1 ใน 3 ของจานวนสมาชิกเท่าท่ีมีอยู่ อาจย่ืนคาร้องต่อประธานสภาเมืองพัทยาขอให้เปดิ ประชุมสมัยวิสามัญได้ สมัยประชมุ วิสามญั ให้มีกาหนด 15 วัน

สรปุ สาระสาคญั พระราชบญั ญตั ิระเบียบบรหิ ารราชการเมืองพทั ยา พ.ศ. 2542 แก้ไขเพม่ิ เตมิ 265 (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2562 นายกเมืองพัทยา ผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกต้ังเป็นนายกเมืองพัทยา นอกจากต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะ ตอ้ งห้ามแลว้ ตอ้ งมีคุณสมบัติดงั น้ี 1. มอี ายุไมต่ า่ กวา่ 35 ปีนับถงึ วันเลือกตง้ั 2. สาเรจ็ การศึกษาไม่ต่ากว่าปรญิ ญาตรีหรือเทยี บเท่า เมืองพัทยามนี ายกเมืองพทั ยาคนหนึง่ ซงึ่ เลือกตงั้ โดยราษฎรผู้มีสทิ ธเิ ลอื กในเขตเมืองพทั ยา อยู่ ในตาแหนง่ คราวละ 4 ปี นบั แตว่ นั เลือกตัง้ แต่จะดารงตาแหน่งติดต่อกนั เกนิ สองวาระไมไ่ ด้ ในกรณีที่นายกเมืองพัทยาดารงตาแหน่งไมค่ รบระยะเวลาสปี่ กี ็ให้ถือว่าเปน็ หนงึ่ วาระ และเม่อื ได้ดารงตาแหน่งสองวาระติดต่อกันแล้วจะดารงตาแหน่งได้อีกเม่ือพ้นระยะเวลาสี่ปีนับแต่วันพ้นจาก ตาแหน่ง นายกเมืองพัทยาอาจแต่งต้ังรองนายกเมอื งพทั ยาจานวนไม่เกิน 4 คน ซึ่งมิใช่สมาชิกสภา เปน็ ผูช้ ว่ ยเหลือในการบรหิ ารราชการของเมืองพทั ยาตามท่นี ายกเมอื งพัทยามอบหมาย นายกเมอื งพัทยามีอานาจหนา้ ท่ี ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. กาหนดนโยบายและรับผิดชอบในการบริหารราชการเมืองพัทยาให้เป็นไปตามกฎหมาย ขอ้ บญั ญัตแิ ละนโยบาย 2. ส่งั อนญุ าต และอนมุ ตั ิเกีย่ วกับราชการของเมอื งพัทยา 3. แต่งตั้งและถอดถอนรองนายกเมืองพัทยา เลขานุการนายกเมืองพัทยา ผู้ช่วยเลขานุการ นายกเมอื งพัทยา ประธานทีป่ รึกษา ทป่ี รกึ ษา หรือคณะที่ปรกึ ษา 4. วางระเบียบเพือ่ ใหง้ านของเมืองพทั ยาเปน็ ไปด้วยความเรยี บรอ้ ย 5. ปฏิบัติหน้าท่ีอ่ืนตามท่ีคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี หรือผู้ว่าราชการจังหวัด มอบหมายหรอื ตามทกี่ ฎหมายกาหนดให้เป็นอานาจหน้าที่ของนายกเมอื งพทั ยา นายกเมอื งพัทยาอาจแต่งต้ังเลขานุการและผู้ช่วยเลขานกุ ารนายเมืองพัทยา ซ่งึ ไม่ใช่เปน็ สมาชิก สภาเมอื งพัทยาไมเ่ กนิ จานวนรองนายกเมืองพัทยา และอาจแต่งตัง้ ผทู้ รงคณุ วฒุ ิเป็นประธานท่ีปรกึ ษาและ ท่ีปรึกษาได้จานวนรวมกันแล้วไม่เกิน 5 คน เพ่ือช่วยเหลือในการบริหารราชการเมืองพทั ยาตามที่นายก เมืองพทั ยามอบหมาย

266 นายกเมืองพัทยาพน้ จากตาแหน่ง เมอื่ 1. ถึงคราวออกตามวาระ 2. ตาย 3. เมอื่ มีการยุบสภาเมอื งพทั ยา 4. ลาออกโดยยื่นหนังสือลาออกตอ่ ผู้ว่าราชการจงั หวดั 5.ขาดคณุ สมบตั ิ หรือมลี ักษณะต้องห้าม 6. กระทาการฝ่าฝืนตามมาตรา 49 7. รฐั มนตรีพจิ ารณาสอบสวนและสงั่ ใหอ้ อกจากตาแหนง่ เพราะมีความประพฤตใิ นทางทจี่ ะนามา ซึ่งความเสียหายหรอื กอ่ ความไม่สงบเรียบร้อยแก่เมอื งพัทยา 8. ราษฎรผู้มสี ทิ ธเิ ลือกตง้ั ในเขตเมืองพัทยาลงคะแนนเสยี งให้พ้นจากตาแหน่ง การบรหิ ารงาน ให้นายกเมืองพัทยาควบคุมและรับผิดชอบในการบริหารกิจการของเมืองพัทยา และเป็น ผ้บู ังคับบญั ชาพนักงานเมอื งพัทยา และลกู จา้ งเมืองพัทยา เมอื งพทั ยาแบง่ ส่วนราชการดงั ต่อไปนี้ 1. สานักปลัดเมอื งพัทยา 2. ส่วนราชการอื่นตามที่นายกเมืองพัทยาประกาศกาหนดโดยความเห็นชอบของ กระทรวงมหาดไทย การกาหนดอานาจหน้าที่ของสานักงานปลัดเมืองพัทยาและส่วนราชการอ่ืน ให้เป็นไปตามท่ี นายกเมืองพทั ยาเมืองพัทยาประกาศกาหนด โดยความเห็นชอบของกระทรวงมหาดไทย ให้มีปลัดเมืองพัทยาคนหน่ึงเป็นผ้บู ังคับบัญชาพนักงานและลูกจ้างเมืองพัทยา รองจากนายก เมอื งพทั ยาและรับผดิ ชอบควบคุมดแู ลราชการประจาของเมืองพัทยาใหเ้ ปน็ ไปตามนโยบาย และมีอานาจ หน้าท่อี ่นื ตามทมี่ กี ฎหมายกาหนดหรือตามทีน่ ายกเมอื งพัทยามอบหมาย

สรปุ สาระสาคญั พระราชบญั ญตั ริ ะเบียบบรหิ ารราชการเมอื งพทั ยา พ.ศ. 2542 แก้ไขเพ่มิ เติม 267 (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 อานาจหนา้ ท่ีของเมืองพัทยา เมืองพทั ยามีอานาจหน้าท่ดี าเนนิ กาในเรือ่ งดังต่อไปน้ี ก. การดาเนนิ การกิจการภายในเขตพื้นทต่ี นเอง 1. การรักษาความสงบเรยี บร้อย 2. การสง่ เสรมิ และรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ 3. การคุม้ ครองและดูแลรกั ษาทรัพยส์ ินอนั เป็นสาธารณสมบตั ขิ องแผ่นดนิ 4. การวางผงั เมืองและการควบคมุ การกอ่ สร้าง 5. การจดั การเก่ียวกบั ท่ีอยูอ่ าศยั และการปรับปรงุ แหล่งเส่อื มโทรม 6. การจดั การจราจร 6.1 การสง่ เสริมและสนบั สนนุ สถานีตารวจและหนว่ ยงานอนื่ 7. การรกั ษาความสะอาดและความเป็นระเบยี บเรยี บร้อยของบ้านเมอื ง 8. การกาจัดมลู ฝอยและส่ิงปฏกิ ูล และการบาบดั นา้ เสยี 9. การจดั ให้มนี ้าสะอาดหรอื การประปา 10. การจัดให้มกี าควบคุมตลาด ท่าเทยี บเรอื และท่จี อดรถ 11. การควบคุมอนามัยและความปลอดภัยในรา้ ยจาหนา่ ยอาหาร โรงมหรสพและสถาน บรกิ ารอื่น 12. การควบคุมและส่งเสรมิ กจิ การท่องเทย่ี ว 13. การบารุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมอันดีของ ท้องถิ่น 14. อานาจหน้าที่อน่ื ตามท่ีกฎหมายกาหนดใหเ้ ปน็ ของเทศบาลนครหรอื ของเมอื งพทั ยา ข. การดาเนนิ กจิ การนอกเขตพนื้ ที่ตนเอง เมืองพัทยาอาจดาเนินกิจการนอกเขตเมืองพัทยา เมื่อการนั้นจาเป็นต้องทาและเป็นการที่ เกยี่ วเนื่องกบั กิจการทด่ี าเนนิ การตามอานาจหน้าที่ท่อี ยู่ภายในเมืองพทั ยาหรอื เปน็ ประโยชนแ์ ก่เมอื งพทั ยา การดาเนินกิจการดงั กลา่ วต้องได้รบั ความเห็นชอบจากสภาเมอื งพทั ยา และไดร้ ับความยนิ ยอมจากองคก์ ร ปกครองส่วนท้องถิ่นทจี่ ะเขา้ ไปดาเนนิ การ ในกรณที ไ่ี มไ่ ดร้ บั ความยนิ ยอมจากองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น ใหน้ ายกเมอื งพทั ยารายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพ่อื พจิ ารณา

268 ถ้าผู้ว่าราชการจังหวัดเห็นว่าการดาเนินกิจการน้ันจะเปน็ ประโยชน์ต่อประชาชนเป็นส่วนรวม ใหผ้ วู้ า่ ราชการจังหวดั ดาเนินการให้นายกเมอื งพัทยาและผแู้ ทนองคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ ท่ีเก่ียวข้องมา ประชมุ เพอ่ื หาข้อยตุ ริ ว่ มกนั ค. การใหบ้ รกิ ารแก่หน่วยงานอ่ืนๆ เมืองพัทยาอาจให้บริการแก่บุคคล หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กร ปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ อื่น โดยมคี ่าตอบแทนได้ เม่อื บรกิ ารนนั้ โดยปกติเปน็ บรกิ ารท่มี คี ่าตอบแทน ง. การใหส้ ว่ นราชการหรือเอกชนกระทากิจการแทน กรณีจาเป็นเพ่ือประโยชนใ์ นการใหบ้ ริการแกป่ ระชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ และลดภาระทาง การเงินของเมอื งพัทยา เมืองพัทยาโดยความเหน็ ชอบจากสภาเมอื งพัทยาและรัฐมนตรอี าจมอบใหบ้ คุ คล อ่ืนหรือเข้าร่วมกบั บุคคลอนื่ กระทากิจการที่อยู่ในอานาจหน้าที่ของเมอื งพทั ยาได้ โดยให้ผู้กระทามสี ิทธิ เรียกเก็บคา่ ธรรมเนียมคา่ บรกิ ารหรอื คา่ ตอบแทนไดต้ ามอัตราที่ได้ทาความตกลงกับเมอื งพทั ยา สหการ เมืองพัทยาอาจร่วมกับหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือองค์กรปกครองส่วน ท้องถ่ินอ่ืน จัดตั้ง สหการ มีฐานะเป็นนิติบุคคลเพ่ือทากิจการใดอันอยู่ภายใต้อานาจหน้าที่ของสภาเมอื ง พัทยาได้ การจัดต้งั และยบุ เลกิ สหการจะทาไดโ้ ดยตราเปน็ พระราชกฤษฎกี า กิจการทผี่ ลกระทบต่อเมืองพทั ยา 1. ในกรณีท่ีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดดาเนินกิจการใดที่อยู่นอกเขตเมืองพัทยา อันมี ลักษณะท่ีจะมีผลกระทบกระเทือนต่อความสงบเรยี บรอ้ ย หรือความปลอดภัยของประชาชนในเขตเมือง พัทยา ใหน้ ายกเมอื งพทั ยาเสนอผู้วา่ ราชการจงั หวดั แตง่ ตง้ั คณะกรรมการประกอบด้วยผ้แู ทนเมอื งพัทยา ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ินทีเ่ ก่ยี วข้อง และบุคคลตามท่ีผู้ว่าราชการจงั หวัดเห็นสมควรข้ึนมาเพื่อ พิจารณาปญั หาดงั กลา่ วร่วมกนั ภายใน 15 วันนับแต่แต่ได้รับขอ้ เสนอ แลถา้ คณะกรรมการไดพ้ จิ ารณาและ มีมตอิ ยา่ งใดแลว้ ให้เมอื งพัทยาและองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิน่ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งดาเนนิ การตามมติของคณะการ ต่อไป ในกรณที ่หี าขอ้ ยตุ ไิ มไ่ ดใ้ ห้รฐั มนตรีเปน็ ผชู้ ี้ขาดให้ 2. ในกรณที ่หี น่วยราชการ รัฐวสิ าหกจิ หรือหน่วยงานของรฐั ดาเนินกจิ การใดที่อยูน่ อกเขตเมอื ง พทั ยาอันมลี ักษณะทจ่ี ะมีผลกระทบกระเทอื นต่อความสงบเรียบร้อยหรอื ความปลอดภัยของประชาชนใน เขตเมืองพัทยา ให้นายกเมืองพัทยารายต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพ่ือแจ้ให้หน่วยงาน รัฐวิสาหกิจ หรือ หนว่ ยงานของรัฐ ที่เกย่ี วขอ้ งพจิ ารณาและหาข้อยตุ ริ ว่ มกนั

สรปุ สาระสาคญั พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บบรหิ ารราชการเมอื งพัทยา พ.ศ. 2542 แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ 269 (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2562 ข้อบัญญตั ิเมอื งพัทยา เมืองพทั ยามอี านาจตราข้อบญั ญัติโดยไม่ขดั หรือแยง้ ตอ่ กฎหมายในกรณดี งั ตอ่ ไปน้ี 1.การปฏบิ ตั ใิ หเ้ ป็นไปตามอานาจหนา้ ที่ของเมอื งพัทยา 2.เมอ่ื มีกฎหมายบญั ญตั ใิ หเ้ มอื งพทั ยามอี านาจตราข้อบัญญตั ิได้ 3. การใหบ้ รกิ ารโดยมคี า่ ตอบแทนตามทกี่ ฎหมายกาหนด 4. การพาณิชย์ 5. การคลัง การงบประมาณ การเงิน ทรัพย์สิน การจัดหาผลประโยชน์จากทรพั ย์สิน การจา้ ง และการพัสดุ ข้อบัญญัติเมืองพัทยาจะกาหนดโทษจาคุกหรือโทษปรับหรือทั้งจาและปรับไว้ด้วยก็ได้ แต่จะ กาหนดโทษจาคุกเกนิ 6 เดือนและโทษปรบั เกิน 10,000 บาทไมไ่ ด้ - ร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจาปีและร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจา่ ยเพมิ่ เตมิ สภาเมืองพัทยาต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 45 วันนับแต่วันที่สภาเมืองพัทยาได้รับร่าง ขอ้ บัญญัติ - ร่างข้อบัญญัติจะเสนอได้ก็แตโ่ ดย = นายกเมอื งพทั ยา สมาชิก หรือราษฎรผู้มสี ทิ ธเิ ลอื กต้ัง ในเขตเมืองพัทยา - ในกรณีทีส่ มาชิกเปน็ ผู้เสนอร่างขอ้ บญั ญตั ิ ต้องมีสมาชกิ ลงนามรับรองไม่นอ้ ยกวา่ สองคน - รา่ งขอ้ บัญญตั ิเกี่ยวกับการเงิน สมาชกิ จะเสนอได้ต่อเมื่อมีคารบั รองของนายกเมอื งพทั ยา - ภายใน 7 วันนับแต่วันท่ีสภาเมืองพัทยามีมติเห็นชอบร่างข้อบัญญัติ ให้ประธานสภาเมือง พัทยาส่งร่างข้อบัญญัติให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณา (ผู้ว่าฯ พิจารณาและส่งคืน ประธานสภาเมืองพัทยาภายใน 15 วันนับแต่วนั ที่ไดร้ บั ร่างข้อบัญญตั ิ) ถ้าผูว้ ่าราชการจังหวดั ไมพ่ จิ ารณาใหแ้ ลว้ เสร็จภายในระยะเวลา ให้ถอื วา่ เหน็ ชอบรา่ งขอ้ บญั ญตั ิ - กรณีผู้วา่ ฯ เหน็ ชอบ = ส่งใหน้ ายกเมืองพัทยาลงนามใชบ้ งั คับ กรณีผู้ว่าฯ ไม่เห็นชอบ = ส่งร่างข้อบัญญัติพร้อมเหตุผลคืนไปยงั สภาเมืองพทั ยาพิจารณา ใหม่ ถา้ สภาเมอื งพัทยามมี ตยิ ืนยนั ตามร่างขอ้ บัญญัตเิ ดมิ ดว้ ยคะแนนเสียงไมน่ อ้ ยกว่าสองใน สามของสมาชกิ เทา่ ทีม่ อี ยู่ ใหป้ ระธานสภาเมืองพัทยา แจง้ ให้ผ้วู ่าราชการจงั หวัดทราบ และ ส่งรา่ งข้อบญั ญัตนิ ั้นให้นายกเมืองพทั ยาลงนามใชบ้ ังคังเปน็ ข้อบัญญตั ติ อ่ ไป - ข้อบัญญัตินัน้ ใหป้ ระกาศไว้โดยเปิดเผย ให้ปลัดเมืองพัทยาเป็นผู้รบั ผิดชอบในการประกาศ ขอ้ บญั ญัติ

270 รายไดแ้ ละรายจา่ ย - ภาษีบารุงท้องที่ ภาษีโรงเรือนและท่ีดิน ภาษีป้าย และอากรฆ่าสัตว์และค่าธรรมเนียม รวมถึงผลประโยชน์อื่นอันเกิดจากการฆ่าสัตว์ ในเขตเมืองพัทยา ให้เมืองพัทยาจัดเกบ็ เป็น รายได้ของเมืองพัทยา - เมอื งพัทยามอี านาจออกข้อบัญญัตเิ กบ็ ภาษอี ากรและค่าธรรมเนยี มเพิม่ ขนึ้ ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ สบิ ของภาษีอากรและค่าธรรมเนียมประเภทใดประเภทหนง่ึ หรอื ทกุ ประเภท ดงั นี้ o ภาษธี รุ กิจเฉพาะ o คา่ ธรรมเนียมใบอนุญาตขายสรุ า o ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตในการเลน่ การพนนั - เมอื งพัทยามอี านาจออกขอ้ บัญญตั เิ กบ็ ภาษมี ลู ค่าเพ่มิ โดยใหก้ าหนดเป็นอัตราภาษมี ลู ค่าเพิ่ม ขนึ้ จากอตั ราทเ่ี รียกเกบ็ ตามประมวลรษั ฎากร ดงั นี้ o ในกรณีที่ประมวลรัษฎากรเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพ่ิมในอัตราร้อยละศูนย์ ให้เมือง พทั ยาเก็บอตั รารอ้ ยละศนู ย์ o ในกรณีท่ีประมวลรัษฎากรเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพ่ิมในอัตราอื่น ให้เมืองพัทยาเก็บ หนึง่ ในเก้าของอตั ราภาษีมูลคา่ เพิม่ ตามประมวลรัษฎากร - เมื่อส้ินปีงบประมาณ ให้นายกเมอื งพัทยาประกาศรายการรับจ่ายเงินประจางบประมาณท่ี สน้ิ สุดลง พรอ้ มทง้ั รายการผูกพันทเี่ บกิ ตดั ปีงบประมาณไว้เผยแพรใ่ หป้ ระชาชนทราบภายใน 30 วนั นบั แต่วันทส่ี ้ินสุดปีงบประมาณ - ใหส้ านกั งานตรวจเงินแผ่นดนิ เป็นผ้ตู รวจสอบการรับเงนิ การจ่ายเงิน การบัญชกี ารเงนิ และ ทรัพย์สินอ่ืนๆ ของเมืองพัทยา และทารายงานผลการตรวจสอบเสนอนายกเมอื งพัทยาเพ่ือ เสนอสภาเมอื งพัทยาต่อไป

สรปุ สาระสาคญั พระราชบญั ญัติระเบียบบรหิ ารราชการเมืองพทั ยา พ.ศ. 2542 แกไ้ ขเพ่มิ เตมิ 271 (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2562 การกากบั ดแู ล 1. ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอานาจหน้าท่ีกากับดูแลการปฏิบัติราชการของเมืองพัทยา โดยผู้ว่า ราชการจังหวัดมีอานาจสั่งสอบสวนข้อเท็จจริง หรือส่ังให้นายกเมืองพัทยาชี้แจงแสดงความคิดเห็น เก่ียวกับการปฏบิ ตั ิราชการของเมืองพัทยาได้ 2. บรรดาเรอ่ื งทเี่ มืองพัทยาต้องเสนอไปยังรฐั มนตรหี รอื กระทรวง ทบวง กรม นายกเมืองพทั ยา ต้องรายงานใหผ้ วู้ ่าราชการจังหวัดทราบดว้ ย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดจะทาความเห็นเสนอรัฐมนตรี หรือ กระทรวง ทบวง กรม แล้วแตก่ รณี เพือ่ ประกอบการพิจารณาด้วยกไ็ ด้ 3. ถา้ ผวู้ ่าราชการจงั หวัดเหน็ วา่ นายกเมืองพทั ยาปฏิบตั ิการในทางทอ่ี าจนามาซึ่งความเสียหาย แก่เมืองพัทยาหรือกระทาการฝ่าฝืนกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับหรือข้อบัญญัติ และผู้ว่าราชการ จังหวดั ไดช้ แ้ี จงแนะนาหรือตกั เตอื นแล้ว แต่นายกเมอื งพัทยาไมป่ ฏบิ ัตติ าม ใหผ้ ู้วา่ ราชการจังหวัดรายงาน ใหร้ ฐั มนตรที ราบเพื่อพิจารณาสง่ั การตามทเ่ี หน็ สมควร ในกรณฉี กุ เฉินหรือจาเปน็ รบี ด่วนท่ีจะรอช้ามิได้ ให้ผู้ว่าราชการจงั หวัดมีอานาจออกคาสั่งระงับ การปฏิบตั ริ าชการของนายกเมอื งพทั ยาไวต้ ามท่เี ห็นสมควรได้ ในกรณีท่ีเมืองพทั ยาดาเนินการนอกเขตเมอื งพัทยาตามมาตรา 65 และกิจการนั้นมลี กั ษณะท่ี อาจนามาซึ่งความเดือนรอ้ นราคาญแก่ประชาชนในเขตเมืองพัทยา หรอื อาจกระทบกระเทอื นต่อความสงบ เรียบร้อย หรือความปลอดภัยของประชาชนในเขตเมืองพทั ยาหรือองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ อืน่ ผู้วา่ ราชการจงั หวัดมีอานาจแนะนาใหป้ รับปรงุ แก้ไขหรอื กระทาการใดๆ ไดต้ ามสมควร ในกรณี ทเ่ี มืองพทั ยา ไม่ปฏิบัติตามและผู้ว่าราชการจังหวดั เห็นวา่ ไมม่ ีเหตุผลอนั สมควร ผู้วา่ ราชการจังหวดั จะออก คาสั่งระงบั การดาเนินกจิ การดงั กลา่ วกไ็ ด้ เพือ่ คุม้ ครองประโยชนข์ องประชาชนในเขตเมืองพทั ยาหรือประโยชนข์ องประเทศเป็นสว่ นรวม ผวู้ ่าราชการจงั หวดั จะรายงานเสนอความเหน็ ต่อรฐั มนตรีเพอื่ พิจารณาส่งั ยุบสภาเมอื งพัทยากไ็ ด้

272 แนวข้อสอบพระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บบรหิ ารราชการเมอื งพัทยา พ.ศ.2542 และแกไ้ ขเพิม่ เตมิ (ฉบับท่ี 3) พ.ศ.2562 1. ใครเป็นผู้มีอานาจหนา้ ทีก่ ากับดแู ลการปฏบิ ตั ิราชการของเมืองพทั ยา ก. รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย ข. นายอาเภอบางละมุง ค. ผวู้ า่ ราชการจงั หวัด ง. นายกเมืองพัทยา 2. ข้อใดไมใ่ ช่องค์ประกอบในการบรหิ ารเมืองพัทยา ข. สภาเมอื งพัทยา ก. นายกเมอื งพทั ยา ง. ขอ้ ก และข้อ ข ค. ผู้จดั การเมอื งพัทยา 3. บุคคลใดเป็นผรู้ ักษาการพระราชบญั ญัติระเบียบบรหิ ารเมืองพทั ยา พ.ศ. 2542 ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ข. นายกเมอื งพทั ยา ค. นายกรัฐมนตรี ง. ผ้วู ่าราชการจงั หวัด 4. ใครเป็นเลขานกุ ารสภาเมืองพัทยา ข. สมาชิกสภาทไ่ี ด้รบั การเลอื กตง้ั ก. บุคคลทส่ี ภาคัดเลอื ก ง. หัวหน้าสานกั ปลัดเมืองพทั ยา ค. ปลัดเมอื งพทั ยา 5. ผู้ใดสามารถเสนอร่างข้อบัญญตั ไิ ด้ ข. สมาชกิ สภาเมอื งพทั ยา ก. นายกเมืองพัทยา ง. ถกู ทุกข้อ ค. ราษฎรผูม้ สี ิทธเิ ลือกตงั้ 6. กรณีทไ่ี ม่มีปลัดเมืองพทั ยาหรอื มแี ต่ไม่อาจปฏบิ ัตริ าชการได้ ให้รองปลัดเมืองพัทยาเป็นผู้ทาหนา้ ที่ ใด ก. ปฏบิ ตั ิหน้าทแ่ี ทน ข. ปฏบิ ัตริ าชการแทน ค. ผรู้ กั ษาราชการแทน ง. ผปู้ ฏิบตั ริ าชการแทน 7. สมยั ประชมุ สามัญของเมอื งพัทยา มีจานวนเทา่ ใด ข. ไมน่ อ้ ยกว่า 2 แต่ตอ้ งไม่เกนิ 4 สมยั ก. 2 สมัย ง. ไม่นอ้ ยกวา่ 3 สมยั แตต่ อ้ งไม่เกิน 4 สมัย ค. 2 สมยั แต่ต้องไมเ่ กนิ 4 สมยั

แนวข้อสอบพระราชบญั ญตั ริ ะเบียบบรหิ ารราชการเมอื งพัทยา พ.ศ.2542 และแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ 273 (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ.2562 8. พระราชบญั ญัติระเบยี บบรหิ ารราชการเมอื งพทั ยา พ.ศ. 2542 ใหใ้ ช้บังคบั ต้ังแตเ่ มอ่ื ใด ก. วนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเป็นตน้ ไป ข. วนั ถัดจากวันประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน็ ต้นไป ค. เม่ือพน้ กาหนด 60 วันนบั แตว่ นั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปน็ ต้นไป ง. เม่ือพน้ กาหนด 90 วนั นบั แตว่ ันประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเป็นตน้ ไป 9. การแกไ้ ขเปลย่ี นแปลงเขตเมอื งพทั ยา ตอ้ งตราเป็นกฎหมายใด ก. พระราชกาหนด ข. พระราชกฤษฎกี า ค. พระราชบัญญตั ิ ง. ระเบียบกระทรวงมหาดไทย 10. เมืองพัทยามฐี านะเป็น ข. สหการ ก. นติ บิ ุคคล ง. สมาคม ค. มลู นธิ ิ 11. ผทู้ ีม่ ีสทิ ธสิ มัครรบั เลอื กต้ังเป็นนายกเมอื งพัทยา ต้องมคี ุณสมบตั ติ ามขอ้ ใด ก. มอี ายุไม่ตา่ กวา่ 30 ปี ข. มีอายุไมต่ ่ากว่า 35 ปีนับถงึ วันสมัครเลือกตัง้ ค. มอี ายไุ ม่ต่ากวา่ 30 ปนี ับถงึ วันเลือกตงั้ ง. มอี ายไุ ม่ต่ากวา่ 35 ปนี ับถงึ วนั เลอื กต้งั 12. สมาชิกสภาเมืองพัทยา จะลาออก ต้องยนื หนังสือตอ่ ผู้ใด ก. นายกเมอื งพัทยา ข. ประธานสภาเมอื งพทั ยา ค. ปลัดเมอื งพทั ยา ง. เลขานกุ ารสภาเมอื งพัทยา 13. สภาเมืองพทั ยามีรองประธานสภาจานวนก่ี ก. 1 คน ข. 2 คน ค. 3 คน ง. 4 คน

274 14. ข้อใดมิใช่หนา้ ทข่ี องนายกเมอื งพัทยา ก. กาหนดนโยบายในการบรหิ ารราชการเมืองพัทยา ข. แตง่ ตั้งรองนายกเมอื งพทั ยา ค. ถอดถอนเลขานกุ ารนายกเมืองพัทยา ง. แตง่ ตงั้ สภาเมืองพทั ยา 15. หากนายกเมอื งพทั ยาลาออก ตอ้ งยื่นหนงั สือตอ่ ผใู้ ด ก. ผวู้ ่าราชการจงั หวัด ข. นายอาเภอ ค. ประธานสภาเมอื งพทั ยา ง. ปลัดพทั ยา 16. ข้อใดคอื หนา้ ท่ีของเมืองพัทยา ก. ส่งเสรมิ และรกั ษาคุณภาพสิ่งแวดลอ้ ม ข. วางผังเมอื งและควบคุมการกอ่ สร้าง ค. การจดั การจราจร ง. ถกู ทุกขอ้ 17. การประกอบการพาณิชย์ของเมืองพทั ยา ตอ้ งตราเปน็ กฎหมายใด ก. เทศบญั ญตั ิ ข. ขอ้ บัญญัติ ค. ระเบียบเมอื งพทั ยา ง. ประกาศเมืองพัทยา 18. เมอื งพัทยารว่ มกับหน่วยงานราชการเพ่ือทากจิ กรรมอนั อยู่ภายใต้อานาจหน้าที่ โดยจดั ตั้งเป็น องคก์ ารขึน้ เรียกว่าอะไร ก. องคก์ าร ข. องค์กรสหการ ค. สหการ ง. สหการพทั ยา 19. การจดั ตงั้ สหการ ตอ้ งตราเป็นกฎหมายใด ข . พระราชกฤษฎกี า ก. พระราชบัญญัติ ง. ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ค. พระราชกาหนด 20. ในการเลือกต้ังนายกเมืองพัทยา ถือเขตใดเปน็ เขตเลอื กตั้ง ก. เขตจังหวดั ชลบรุ ี ข. เขตอาเภอเมอื งบางละมุง ค. เขตเมืองพทั ยา ง. เขตอาเภอพทั ยา

แนวข้อสอบพระราชบญั ญัตริ ะเบียบบรหิ ารราชการเมืองพทั ยา พ.ศ.2542 และแก้ไขเพ่มิ เตมิ 275 (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ.2562 21. ผูใ้ ดมีอานาจพจิ ารณาสั่งยบุ สภาเมืองพัทยา ก. ผวู้ ่าราชการจงั หวัด ข. นายอาเภอ ค. นายกเมืองพทั ยา ง. รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย 22. ผใู้ ดกบั กาดูแลเมืองพทั ยา ข. นายอาเภอ ก. ผู้วา่ ราชการจงั หวัด ง. รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย ค. นายกเมอื งพทั ยา 23. สภาเมืองพัทยาตอ้ งพิจารณาขอ้ บัญญตั ิงบประมานรายจา่ ยประจาปใี ห้เสร็จภายในกีว่ นั ก. 90 วนั ข. 60 วนั ค. 45 วัน ง. 30 วัน 24. หน่วยงานใด เป็นผู้ตรวจสอบการรับเงิน การจ่ายเงนิ ฯ ของเมืองพัทยา และทารายงานเสนอ นายกฯ เพอ่ื เสนอสภาเมอื งพัทยา ก. ฝา่ ยตรวจสอบภายใน ข. กองตรวจสอบภายใน ค. สานกั งานผูต้ รวจราชการ ง. สานักงานตรวจเงนิ แผ่นดนิ 25. ในกรณีตาแหนง่ สมาชกิ วา่ งลงจานวนเท่าใดของสมาชกิ ตามมาตรา 9 วรรคหนึง่ ให้ผวู้ า่ ราชการ จังหวัดรายงานเสนอรฐั มนตรเี พือ่ พจิ ารณาสง่ั ยบุ สภาเมืองพัทยาก็ได้ ก. เกนิ 1 ใน 3 ข. จานวน 3 ใน 4 ค. เกนิ ก่ึงหนงึ่ ง. กค่ี นกเ็ สนอได้ 26. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ตอ้ ง ก. เมือ่ ส้นิ ปงี บประมาณ นายกเมืองพัทยาต้องประกาศรายการรบั จา่ ยเงนิ ใหป้ ระชาชนทราบ ภายใน 30 วัน ข. ให้รฐั บาลต้ังงบฯ เงนิ อดุ หนนุ เมอื งพัทยาโดยตรง ค. สานักงานผู้ตรวจราชการเป็นผูต้ รวจสอบการรบั เงิน การรบั จา่ ยเงนิ ฯของเมืองพทั ยา ง. ถกู ทุกขอ้

276 27. เมืองพทั ยา อาจออกขอ้ บัญญตั ิ โดยกาหนดโทษโดยไมเ่ กนิ เท่าใด ก. โทษจาคุกไมเ่ กิน 3 เดอื น และปรบั ไม่เกนิ 5,000 บาท ข. โทษจาคกุ ไม่เกนิ 6 เดอื น และปรบั ไมเ่ กนิ 5,000 บาท ค. โทษจาคุกไมเ่ กนิ 3 เดือน และปรบั ไมเ่ กนิ 10,000 บาท ง. โทษจาคุกไมเ่ กนิ 6 เดอื น และปรบั ไมเ่ กิน 10,000 บาท 28. ผู้ใดสามารถเสนอร่างข้อบัญญตั ไิ ด้ ข. ปลดั เมอื งพทั ยา ก. สมาชกิ สภา ง. หัวหนา้ สานักงานปลดั เมอื งพทั ยา ค. รองนายกพทั ยา 29. ผู้ใดมีอานาจพิจารณาส่ังยุบสภาเมอื งพัทยา ก. ผ้วู า่ ราชการจงั หวัด ข. นายอาเภอ ค. นายกเมอื งพทั ยา ง. รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย 30. หากสมาชิกสภาเป็นผู้เสนอร่างข้อบัญญตั ิ ต้องมีสมาชกิ รับรอง ไมน่ อ้ ยกว่ากคี่ น ก. 4 คน ข. 3 คน ค. 2 คน ง. 1 คน 31. ในกรณีสงสยั ว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาเมืองพทั ยาผู้นนั้ จะส้ินสดุ ลงหรอื ไม่ ผู้ใดมอี านาจ สอบสวนและวนิ จิ ฉยั ก. รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย ข. ผู้วา่ ราชการจงั หวดั ค. นายอาเภอ ง. ประธานสภาเมืองพทั ยา 32. ภาษธี รุ กิจเฉพาะ ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขายสรุ า คา่ ธรรมเนียมใบอนญุ าตเล่นการพนัน เมอื ง พทั ยามีอานาจออกขอ้ บัญญตั เิ ก็บภาษี เพิ่มขน้ึ ไม่เกินร้อยละเทา่ ใด ก. รอ้ ยละ 5 ข. รอ้ ยละ 10 ค. รอ้ ยละ 15 ง. รอ้ ยละ 20 33. ผ้วู ่าราชการจังหวัดตอ้ งพิจารณารา่ งขอ้ บัญญัติทีส่ ภาเมอื งพัทยาเห็นชอบแล้ว ภายในก่ีวันนบั แต่ วนั ทีไ่ ด้รับร่าง ก. 15 วัน ข. 30 วัน ค. 45 วัน ง. 60 วัน

แนวขอ้ สอบพระราชบญั ญัตริ ะเบียบบรหิ ารราชการเมืองพัทยา พ.ศ.2542 และแกไ้ ขเพ่มิ เตมิ 277 (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2562 34. ผ้ใู ดเป็นผูร้ ับผดิ ชอบในการตดิ ประกาศขอ้ บัญญตั ขิ องเมืองพัทยา ก. นายกเมอื งพทั ยา ข. ปลดั เมอื งพทั ยา ค. หวั หนา้ สานกั ปลัดเมืองพัทยา ง. สมาชิกสภาเมอื งพทั ยา 35. ใครเป็นผรู้ กั ษาการตามพระราชบญั ญัตริ ะเบียบบรหิ ารราชการเมอื งพทั ยา (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2562 ก. นายกรฐั มนตรี ข. ปลัดกระทรวงมหาดไทย ค. รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย ง. อธบิ ดีกรมการปกครองสว่ นท้องถ่ิน

278 เฉลยข้อสอบ พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บบรหิ ารราชการเมอื งพทั ยา พ.ศ.2542 และแก้ไขเพ่ิมเตมิ (ฉบับ ที่ 3) พ.ศ.2562 ขอ้ คาตอบ ข้อ คาตอบ 1 ค 19 ข 2 ค 20 ค 3 ก 21 ง 4 ค 22 ก 5 ง 23 ค 6 ค 24 ง 7 ข 25 ค 8 ข 26 ง 9 ข 27 ง 10 ก 28 ก 11 ง 29 ง 12 ข 30 ค 13 ง 31 ข 14 ง 32 ข 15 ก 33 ก 16 ง 34 ข 17 ข 35 ค 18 ค

สรปุ สาระสาคญั พรก.แผนและขนั้ ตอนการกระจายอานาจใหแ้ ก่องค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ 279 พ.ศ. 2542 สรุปสาระสาคญั พรก.แผนและขั้นตอนการกระจายอานาจให้แก่องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน พ.ศ. 2542 ➢ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมอ่ื 17 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2542 ➢ บงั คบั ใช้เมอื่ 18 พฤศจกิ ายน 2542 ➢ ผรู้ บั สนองพระบรมราชโองการ คอื นายชวน หลกี ภยั ➢ ผ้รู ักษาการตามพระราชบัญญตั ิ คอื นายกรฐั มนตรี รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย และ รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงการคลงั กรรมการการผทู้ รงคุณวุฒติ อ้ งมีคุณสมบตั ิ ดังนี้ 1. มสี ัญชาติไทย 2. มอี ายุไม่ตากว่า 35 ปบี รบิ รู ณ์ 3. ไมเ่ ป็นขา้ ราชการทม่ี เี งินประจา 4. ไม่เป็นผู้ดารงตาแหน่งทางการเมอื ง 5. ไมเ่ ปน็ สมาชิกสภาท้องถนิ่ หรอื ผบู้ รหิ ารท้องถ่นิ พ้นจากตาแหน่งเม่อื ➢ ลาออกโดยยนื่ หนังสือต่อ ประธานกรรมการ ➢ มวี าระการดารงตาแหนง่ คราวละ 4 ปี และอาจได้รับการสรรหาอีกได้ไม่เกินสองวาระ ตดิ ตอ่ กัน ➢ ตาย ➢ เปน็ บคุ คลลม้ ละลาย ➢ ได้รับโทษจาคกุ โดยคาพิพากษาให้ถงึ ท่ีสดุ ➢ การเสนอรายงานเกย่ี วกบั การกระจายอานาจให้แกอ่ งค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นต่อ คณะรฐั มนตรอี ยา่ งน้อยปลี ะหนึง่ คร้งั คณะกรรมการการกระจายอานาจให้แกอ่ งคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่ ประกอบดว้ ย 1.นายกรัฐมนตรี หรอื รองนายกรัฐมนตรี ซง่ึ นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธาน 2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวง มหาดไทย ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เลขาธิการ คณะกรรมการกฤษฎกี า เลขาธิการ ก.พ. เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ผ้อู านวยการสานกั งบประมาณ ละอธบิ ดีกรมการปกครอง

280 3.ผ้แู ทนองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ จานวน 12 คน ประกอบด้วย ผู้บรหิ ารองค์การบรหิ ารสว่ น จังหวดั สองคน ผบู้ รหิ ารเทศบาลสามคน ผ้บู ริหารองคก์ ารบริหารสว่ นตาบลหา้ คน และผูบ้ รหิ าร กรงุ เทพมหานคร ผ้บู ริหารเมอื งพทั ยา หรือผู้บรหิ ารองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ อื่น ที่มีกฎหมายจดั ตงั้ ขึ้น รวมสองคน ทง้ั น้ี โดยใหผ้ ู้บรหิ ารองค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ แต่ละประเภท 4.ผ้ทู รงคณุ วุฒิจานวน 12 คน ประกอบด้วยบุคคล ซง่ึ มีความรู้ ความเชีย่ วชาญ ในดา้ นการ บรหิ ารราชการแผน่ ดิน ดา้ นการพฒั นาทอ้ งถ่นิ ดา้ นเศรษฐศาสตร์ ดา้ นการปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น ในสาขา รัฐศาสตร์ หรอื รฐั ประศาสนศาสตร์ และดา้ นกฎหมาย ทง้ั น้ี การสรรหาผูท้ รงคณุ วุฒิ ให้เป็นไปตาม หลักเกณฑ์ และวธิ กี ารทีน่ ายกรฐั มนตรีกาหนด คณะกรรมการมอี านาจ และหน้าท่ีหลัก ดังต่อไปน้ี 1. จดั ทาแผนการกระจายอานาจ ให้แก่องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ และแผนปฏบิ ตั ิการ เพอ่ื ขอ ความเห็นชอบ จากคณะรัฐมนตรี และรายงานตอ่ รัฐสภา 2. กาหนดการจัดบริการสาธารณะ ตามอานาจ และหน้าที่ระหวา่ งรฐั กบั องคก์ รปกครองสว่ น ทอ้ งถิน่ และระหวา่ งองคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่นดว้ ยกันเอง 3. ปรับปรงุ สดั สว่ นภาษี และอากร และรายได้ ระหวา่ งรฐั กบั องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ และ ระหว่างองค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นด้วยกนั เอง โดยคานึงถึงภาระหน้าที่ของรัฐ กับองคก์ ร ปกครองสว่ นท้องถน่ิ และระหวา่ งองคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ินดว้ ยกันเอง เป็นสาคญั 4. กาหนดหลักเกณฑ์ และข้ันตอนการถ่ายโอนภาระกิจ จากราชการส่วนกลาง และราชการ ส่วนภูมิภาค ให้แก่องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิน่ 5. ประสานการถ่ายโอนข้าราชการ ข้าราชการส่วนท้องถิ่น และพนักงานรัฐวิสาหกิจ ระหว่าง ส่วนราชการ รัฐวิสาหกจิ และองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน กับคณะกรรมการพนักงานส่วน ท้องถ่ิน หรือหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง เพ่ือมห้สอดคล้องกับการกาหนดอานาจ และหน้าท่กี าร จัดสรรภาษี และอากรเงินอุดหนุน เงินงบประมาณที่ราชการส่วนกลาง โอนให้แก่องค์กร ปกครองส่วนท้องถน่ิ และการถ่ายโอนภารกจิ ตาม 2) 3) และ 4) 6. ใหข้ อ้ เสนอแนะ ในเรือ่ งต่างๆ ท่ีเกยี่ วข้อง กับการกระจายอานาจ เพ่ือให้การกระจายอานาจ เป็นไปตามแผนฯ ท่ีวางไว้ เช่น มาตรการด้านการเงิน การคลัง การภาษีอากร การตราพระราชบญั ญตั ิ พระราชกฤษฎกี า ออกกฎกระทรวง ประกาศ การจัดระบบตรวจสอบ และการมีสว่ นร่วมของประชาชนใน ทอ้ งถ่นิ เปน็ ตน้ จัดทาแผนการกระจายอานาจ ใหแ้ กอ่ งค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการจัดทาแผนดงั กล่าว ใหด้ าเนนิ การทจี่ าเปน็ คอื

สรปุ สาระสาคญั พรก.แผนและขั้นตอนการกระจายอานาจใหแ้ กอ่ งคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ 281 พ.ศ. 2542 1. ให้ดาเนินการถ่ายโอนภารกจิ การใหบ้ ริการสาธารณะ ทรี่ ัฐดาเนนิ การอยใู่ หเ้ สรจ็ ส้ิน ภายในสีป่ ี หากยังไม่แลว้ เสรจ็ ภายในสีป่ ี ใหร้ ฐั ทาหนา้ ท่ปี ระสานความรว่ มมือ และชว่ ยเหลอื ทอ้ งถ่นิ ให้ถา่ ยโอน ภารกจิ ใหแ้ ล้วเสรจ็ ภายในสบิ ปี 2. กาหนดการจดั สรรภาษี และอากรเงนิ อดุ หนนุ และรายได้อื่น ใหแ้ กอ่ งคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ใน ปี พ.ศ.2544 ไม่น้อยกว่ารอ้ ยละยส่ี บิ ของรายได้รฐั บาล และในปี พ.ศ.2549 ไม่นอ้ ยกว่าร้อยละสามสิบหา้ ของรายได้รัฐบาล ให้คณะกรรมการการกระจายอานาจฯ พจิ ารณาทบทวนแผนการกระจายอานาจฯ ทกุ ระยะเวลาไม่เกินหา้ ปี การจัดทาแผนปฏบิ ัตกิ าร เพื่อกาหนดขนั้ ตอนการกระจายอานาจ ตามแผนการกระจาย อานาจ ให้แกอ่ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น โดยมีสาระสาคัญดงั น้ี 1. กาหนกรายละเอียดของอานาจหน้าที่ ในการให้บริการสาธารณะที่องค์กรปกครองส่วน ท้องถ่ิน แต่ละรูปแบบจะต้องกระทา 2. กาหนดหลักเกณฑ์ และวิธีดาเนนิ การในการจัดสรรสดั สว่ นภาษี และอากรใหเ้ พียงพอ 3. เสนอใหแ้ กไ้ ข หรอื จดั ให้มีกฎหมายทจี่ าเปน็ เพอื่ ให้ดาเนนิ การไดต้ ามแผน 4. จัดระบบการบริหาร และการบรหิ ารงานบุคคล ขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ 5. แผนปฏิบตั กิ ารฯ ตอ้ งกาหนดรายละเอยี ด และกาหนดหน่วยงานทมี่ ีหน้าทีร่ ับผิดชอบ รวมทงั้ ระยะเวลาในการดาเนินการ ให้ชัดเจนด้วย การกาหนดอานาจ และหนา้ ทีใ่ นการจดั ระบบบรกิ ารสาธารณะ ได้มีการกาหนดให้เทศบาลเมอื งพัทยา และ อบต. มีอานาจและหน้าที่ในการจัดระบบบรกิ าร สาธารณะ เพื่อประโยชน์ของประชาชน ในท้องถน่ิ ของตนเอง ตามมาตรา 16 นอกจากนก้ี าหนดให้ อบจ. และ กทม. มีอานาจ และหน้าทีต่ ามมาตรา 17 และ 18 ตามลาดับ ระบบบรกิ ารสาธารณะดังกลา่ ว เช่น การจัดทาแผนพัฒนาทอ้ งถน่ิ ของตนเอง การจัดให้มี และ บารุงรักษาทางบก ทางน้า และทางระบายน้า การสาธารณูปโภค การสาธารณูปการ การสง่ เสริมการฝกึ และประกอบอาชีพ การพาณิชย์ และการสง่ เสรมิ การลงทุน การส่งเสริมการท่องเท่ียว การจัดการศึกษา การสาธารณะ การอนามัยครอบครัว และการรักษาพยาบาล การส่งเสริมกฬี า การควบคุมการเล้ยี งสัตว์ และการฆ่าสัตว์ การผังเมือง การรักษาความสงบเรียบร้อย การส่งเสริมและสนับสนุนการป้องกัน และ รักษาความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน เป็นต้น นอกจากนีย้ ังกาหนดอานาจ และหน้าท่ีให้ อบจ. เช่น การจัดให้มีโรงพยาบาลจังหวัด การรักษาพยาบาล การป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ การจัดให้มี พิพิธภัณฑ์ และหอจดหมายเหตุ การป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย การขนส่งมวลชน และการ วิศวกรรมจราจร เป็นต้น

282 การจัดสรรสว่ นภาษี และอากร ได้กาหนดให้ เทศบาล เมอื งพทั ยา และ อบต. อาจมรี ายไดจ้ ากภาษี และอากร คา่ ธรรมเนียม และเงินรายได้ เชน่ ภาษโี รงเรอื น และที่ดนิ ภาษบี ารงุ ทอ้ งที่ ภาษีปา้ ย กาษมี ลู คา้ เพิ่ม คา่ ภาคหลวง ปิโตรเลยี ม ค่าธรรมเนยี ม ค่าใบอนญุ าต คา่ ปรบั ตามกฎหมาย เป็นต้น นอกจากนี้ กาหนดให้ อบจ. และ กทม. อาจมีรายได้จากภาษีอากร ค่าธรรมเนียม และเงิน รายได้ เช่น ภาษีบารุง อบจ./กทม. สาหรับน้ามันเบนซนิ ดีเซล และก๊าซ ภาษีบารุง อบจ./กทม. สาหรบั ยาสูบ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจ ภาษี และค่าธรรมเนียมรถยนต์ ภาษีเพ่ือการศึกษา อากรรังนกอีแอ่น ค่าภาคหลวงแร่ ค่าภาคหลวงปิโตรเลียม ค่าธรรมเนียมบารุง อบจ./กทม. (จากผู้พักในโรงแรม) คา่ ธรรมเนยี มสนามบนิ เป็นต้น

แนวขอ้ สอบพรก.แผนและขน้ั ตอนการกระจายอานาจใหแ้ กอ่ งค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น พ.ศ. 283 2542 แนวขอ้ สอบพรก.แผนและขนั้ ตอนการกระจายอานาจใหแ้ กอ่ งคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ิน พ.ศ.2542 1. พระราชบัญญตั ินี้มผี ลบงั คับใชเ้ ม่อื ใด ข. 18 พฤศจิกายน 2542 ก. 17 พฤศจิกายน 2542 ง. 20 พฤศจิกายน 2542 ค. 19 พฤศจิกายน 2542 2. ข้อใดมิไดห้ มายถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ ตามพระราชบัญญตั ิน้ี ก. องค์การบรหิ ารส่วนตาบล ข. กรุงเทพมหานคร ค. องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล ง. ไม่มขี อ้ ใดถกู 3. ใครเป็นผูร้ ักษาการตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ข. รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงการคลงั ก. นายกรฐั มนตรี ง. ถกู ทกุ ข้อ ค. รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย 4. คณะกรรมการกระจายอานาจให้แกอ่ งคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ มใี ครเป็นประธาน ก. นายกรฐั มนตรี ข. รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการคลงั ค. รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย ง. ปลัดกระทรวงมหาดไทย 5. คณะกรรมการกระจายอานาจใหแ้ กอ่ งค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ มีองค์ประกอบของผแู้ ทนองค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ินจานวนกี่คน ก. 10 คน ข. 11 คน ค. 12 คน ง. 13 คน 6. คณะกรรมการกระจายอานาจให้แก่องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ มีประกอบด้วยผูท้ รงคุณวุฒิจานวน กค่ี น ก. 10 คน ข. 11 คน ค. 12 คน ง. 13 คน 7. กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ติ ้องมีคุณสมบัตแิ ละไม่มลี กั ษณะต้องห้ามดงั ต่อไปนี้ ขอ้ ใดไมถ่ ูกต้อง ก. อายไุ ม่ตา่ กวา่ ยสี่ บิ ห้าปีบรบิ รู ณ์ ข. มีสญั ชาตไิ ทย ค. ไม่เป็นผดู้ ารงตาแหน่งทางการเมอื ง ง. ไมเ่ ป็นข้าราชการท่มี ตี าแหนง่ หรอื เงินเดอื นประจา

284 8. ผทู้ างคุณวุฒิอย่ใู นตาแหนง่ คณะกรรมการคราวละกีป่ ี ก. 2 ปี ข. 3 ปี ค. 4 ปี ง. 5 ปี 9. ข้อใดไมใ่ ชอ่ านาจหนา้ ทข่ี องคณะกรรมการกระจายอานาจใหแ้ กอ่ งค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก. กาหนดการจัดระบบบริการสาธารณะระหวา่ งรัฐกบั องคก์ รปกครองส่วนท้องถ่นิ ข. ประสานการถ่ายโอนข้าราชการ ค. เสนอแนะมาตรการทางการเงิน การคลัง การภาษีอากร การงบประมาณ ง. ประสานแผนงาน งบประมาณโครงการทเ่ี กนิ ศกั ยภาพขององคกรปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ 10. สานกั งานคณะกรรมการกระจายอานาจใหแ้ กอ่ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นต้ังอยู่ในหน่วยงานใด ต่อไปน้ี ก. สานกั นายกรฐั มนตรี ข. สานกั งานปลดั สานักนายกรัฐมนตรี ค. กระทรวงมหาดไทย ง. กระทรวงการคลงั 11. สานักงานคณะกรรมการกระจายอานาจใหแ้ กอ่ งคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ินมหี นา้ ท่ีอยา่ งไร ก. รับผิดชอบงานธุรการของคณะกรรมการ ข. รวบรวมข้อมลู ศึกษาและวเิ คราะหเ์ กย่ี วกบั การกระจายอานาจให้แกอ่ งค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ ค. ตดิ ตามและประเมนิ ผลการปฏิบตั ิตามแผนท่คี ณะกรรมการมอบหมาย ง. ถูกทกุ ขอ้ 12. ขอ้ ใดไม่ใช่อานาจและหนา้ ที่ขององคก์ ารบริหารสว่ นตาบลในการจดั ระบบบรกิ ารสาธารณะ ก การจัดตงั้ และดแู ลระบบบาบัดน้าเสยี รวม ข. การผงั เมอื ง ค. การป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั ง. การควบคุมการเลี้ยงสัตว์ 13. ขอ้ ใดเป็นอานาจและหน้าทขี่ ององค์การบรหิ ารส่วนจังหวัดในการจดั ระบบบรกิ ารสาธารณะ ก. การสง่ เสรมิ การพฒั นาเทคโนโลยที เ่ี หมาะสม ข. การจดั ตง้ั และดแู ลตลาดกลาง ค. การควบคมุ อาคาร ง. ขอ้ ก และ ข ถูก

แนวข้อสอบพรก.แผนและขัน้ ตอนการกระจายอานาจให้แกอ่ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ พ.ศ. 285 2542 14. เทศบาล เมอื งพัทยา และองค์การบรหิ ารส่วนตาบลอาจมรี ายไดจ้ ากข้อใดต่อไปน้ี ก. ภาษีโรงเรอื นและท่ดี นิ ตามกฎหมายวา่ ด้วยภาษีโรงเรอื นและท่ีดิน ข. ภาษีการพนนั ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการพนนั ค. ภาษคี ่าธรรมเนียมและรถยนต์ ง. ถูกทุกขอ้ 15.องคก์ ารบริหารส่วนตาบลหรอื เทศบาลท่ีมีพน้ื ท่ีครอบคลุมพ้นื ที่ตามประทานบัตรจะได้รับการ จัดสรรค่าภาคหลวงแร่ในอตั รารอ้ ยละเท่าใดของเงนิ คา่ ภาคหลวงแร่ทจ่ี ดั เกบ็ ไดภ้ ายในเขต ก. รอ้ ยละ 10 ข. ร้อยละ 20 ค. รอ้ ยละ 40 ง. รอ้ ยละ 50 16.องคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบลหรอื เทศบาลอ่ืนท่ีอยู่ภายในจังหวดั ที่มีพื้นท่ีครอบคลมุ พื้นที่ตามสัมปทาน จะได้รบั การจัดสรรค่าภาคหลวงปโิ ตรเลียมในอัตราร้อยละเทา่ ใดของเงินค่าภาคหลวงปโิ ตเลยี มท่ี จัดเก็บได้ภายในเขต ก. ร้อยละ 10 ข. รอ้ ยละ 20 ค. ร้อยละ 40 ง. ร้อยละ 50 17.องค์การบรหิ ารส่วนจังหวัดจะไดร้ บั การจดั สรรคา่ ภาคหลวงแรใ่ นอตั ราร้อยละเท่าใดของเงนิ คา่ ภาคหลวงแรท่ จ่ี ัดเก็บได้ภายในเขตขององคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวัดน้ัน ก. รอ้ ยละ 10 ข. รอ้ ยละ 20 ค. ร้อยละ 40 ง. รอ้ ยละ 50 18.กรุงเทพมหานครจะได้รบั การจัดสรรคา่ ภาคหลวงปิโตเลียมในอตั ราร้อยละเทา่ ใดของค่าภาคหลวง ปิโตเลยี มทก่ี รมทรพั ยากรธรณจี ดั เก็บได้จรงิ ก. รอ้ ยละ 10 ข. รอ้ ยละ 20 ค. ร้อยละ 40 ง. รอ้ ยละ 50 19.องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ อาจมรี ายรับดังขอ้ ใดต่อไปนี้ ก. รายไดจ้ ากการจาหน่ายพนั ธบัตร ข. รายได้จากสาธารณูปโภค ค. เงินกจู้ ากตา่ งประเทศ ง. ถกู ทุกขอ้

286 20.รายรับของท้องถ่นิ จากการกเู้ งนิ จากองคก์ ารหรอื นิติบุคคลต่างๆให้ดาเนนิ การอยา่ งไร ก. ออกเปน็ ข้อบญั ญตั โิ ดยความเห็นชอบของรฐั มนตรี ข. ออกเปน็ ประกาศโดยความเห็นชอบของผบู้ รหิ ารทอ้ งถิน่ ค. ออกเปน็ ข้อบญั ญัตโิ ดยความเหน็ ชอบของผบู้ รหิ ารทอ้ งถน่ิ ง. ออกเปน็ กฎกระทรวงและประกาศในราชกิจจานุเบกษา 21.ตามแผนการกระจายอานาจใหด้ าเนนิ การถ่ายโอนภารกจิ การทรี่ ฐั ดาเนินการซ้าซ้อนกับองคก์ ร ปกครองสว่ นท้องถ่ินภายในระยะเวลากี่ปนี บั แตว่ นั ท่บี ังคับใชพ้ ระราชบญั ญัติน้ี ก. 2 ปี ข. 3 ปี ค. 4 ปี ง. 5 ปี 22.การกาหนดขอบเขตความรบั ผดิ ชอบในการใหบ้ รกิ ารสาธารณะของรฐั และองคก์ รปกครองส่วน ท้องถิ่นและระหวา่ งองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ด้วยกนั เอง ในระยะแรกอาจกาหนดให้แตกตา่ งกัน ไดโ้ ดยคานงึ ถึงส่งิ ใด ก. รายได้และบคุ ลากร ข.จานวนประชากรและค่าใช้จา่ ยในการดาเนินงาน ค. คณุ ภาพการให้บรกิ าร ง. ถูกทกุ ข้อ 23.ตามแผนการกระจายอานาจกาหนดให้ปงี บประมาณใดเปน็ ปีเรมิ่ ต้นในการกาหนดสดั สว่ นรายได้ ขององค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินต่อรายได้สุทธขิ องรฐั บาล ก. ปีงบประมาณ พ.ศ.2548 ข. ปงี บประมาณ พ.ศ.2549 ค. ปงี บประมาณ พ.ศ.2550 ง. ปีงบประมาณ พ.ศ.2551 24.จากข้อ 23 กาหนดใหอ้ งคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่นมรี ายไดอ้ ยา่ งน้อยรอ้ ยละเท่าใดของรายไดส้ ทุ ธิ ของรัฐบาล ก. รอ้ ยละยี่สบิ ข. รอ้ ยละย่สี บิ ห้า ค. รอ้ ยละสามสบิ ง. รอ้ ยละสามสบิ หา้ 25.จากขอ้ 23 และ 24 การกาหนดสัดสว่ นรายไดด้ ังกลา่ วมเี ปา้ หมายเพ่อื ใหอ้ งค์กรปกครองสว่ น ท้องถิ่นมรี ายไดเ้ พิม่ ขึ้นในอตั ราอยา่ งนอ้ ยรอ้ ยละเท่าใดของรายไดส้ ทุ ธขิ องรฐั บาล ก. ร้อยละย่ีสบิ ข. ร้อยละย่สี บิ ห้า ค. รอ้ ยละสามสบิ ง. รอ้ ยละสามสบิ หา้

แนวข้อสอบพรก.แผนและข้นั ตอนการกระจายอานาจใหแ้ กอ่ งค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ พ.ศ. 287 2542 26.แผนปฏบิ ัติการเพ่อื กาหนดข้ันตอนการกระจายอานาจใหแ้ กอ่ งคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ิน อยา่ งน้อย ต้องมีสาระตามข้อตอ่ ไปนี้ ยกเว้นขอ้ ใด ก. รายละเอยี ดของอานาจหนา้ ทใ่ี นการใหบ้ ริการสาธารณะทอี่ งคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ แต่ละรปู แบบ จะต้องจดั ทา ข. กาหนดหลักเกณฑ์และวิธีดาเนนิ ในการจัดสัดสว่ นภาษแี ละอากร ค. จัดระบบบรหิ ารงานบุคคลขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ ง. จานวนงบประมาณทีจ่ าเป็นตอ้ งใชใ้ นการดาเนินการ 27.ใครเป็นผ้ใู ห้ความเหน็ ขอบแผนปฏิบตั กิ ารดังกลา่ ว ก. คณะรัฐมนตรี ข. คณะกรรมการกระจายอานาจฯ ค. รฐั มนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ง. ผบู้ ริหารท้องถิน่ แตล่ ะประเภท 28.คณะกรรมการจะต้องรายงานผลการปฏิบัตติ ามแผนการกระจายอานาจให้คณะรัฐมนตรที ราบตาม หว้ งเวลาใด ก. ทุก 6 เดือน ข. ทกุ ปี ค. ทกุ 2 ปี ง. ทุก 4 ปี 29.ใหค้ ณะกรรมการพิจารณาทบทวนการกาหนดอานาจหน้าทแ่ี ละการจดั สรรรายได้ขององค์กร ปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน โดยจะต้องทบทวนใหมท่ ุกระยะเวลาไมเ่ กินกี่ปนี นับแตว่ ันทมี่ ีการกาหนด อานาจหนา้ ทหี่ รอื มกี ารจัดสรรรายได้ ก. 2 ปี ข. 3 ปี ค. 4 ปี ง. 5 ปี 30.ในวาระเริ่มแรกให้นายกรัฐมนตรีจดั ให้มกี ารเลอื กผ้แู ทนองคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่นและสรรหา ผ้ทู รงคณุ วุฒิ เพอื่ แตง่ ตัง้ เป็นคณะกรรมการกระจายอานาจให้แก่องคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่นให้ แลว้ เสรจ็ ภายในกีว่ นั นับจากวนั ท่ีพระราชบัญญตั ินี้บงั คบั ใช้ ก. 60 วัน ข. 90 วนั ค. 120 วนั ง. 150 วนั

288 เฉลยขอ้ สอบพรก.แผนและขน้ั ตอนการกระจายอานาจใหแ้ ก่องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น พ.ศ.2542 1. ตอบ ข. 18 พฤศจกิ ายน 2542 (มาตรา 2) 2 ตอบ ง. ไม่มขี อ้ ใดถกู (มาตรา 4) 3 ตอบ ง. ถูกทุกขอ้ (มาตรา 5) 4. ตอบ ก. นายกรฐั มนตรี (มาตรา 6) 5. ตอบ ค. 12 คน (มาตรา 6) 6. ตอบ ค. 12 คน (มาตรา 6) 7. ตอบ ก. อายุไมต่ ่ากวา่ ยสี่ บิ หา้ ปบี รบิ ูรณ์ (มาตรา 7) 8. ตอบ ค. 4 ปี (มาตรา 9) 9. ตอบ ง. ประสานแผนงาน งบประมาณโครงการทเ่ี กนิ ศักยภาพขององคกรปกครองส่วนท้องถน่ิ (มาตรา 12) 10.ตอบ ข. สานักงานปลดั สานักนายกรฐั มนตรี (มาตรา 15) 11.ตอบ ง. ถูกทกุ ขอ้ (มาตรา 15) 12.ตอบ ก การจดั ตงั้ และดูแลระบบบาบัดนา้ เสยี รวม (มาตรา 16) 13.ตอบ ง. ข้อ ก และ ข ถกู (มาตรา 17) 14.ตอบ ง. ถกู ทกุ ข้อ (มาตรา 23) 15.ตอบ ข. รอ้ ยละ 20 (มาตรา 23 (12) ก) 16.ตอบ ก. รอ้ ยละ 10 (มาตรา 23 (13) ข) 17.ตอบ ข. ร้อยละ 20 (มาตรา 24(8)) 18.ตอบ ค. ร้อยละ 40 (มาตรา 25(13)) 19.ตอบ ง. ถกู ทกุ ข้อ (มาตรา 28) 20.ตอบ ก. ออกเปน็ ข้อบญั ญตั โิ ดยความเห็นชอบของรฐั มนตรี (มาตรา 28) 21.ตอบ ค. 4 ปี (มาตรา 30(1) ก) 22.ตอบ ง. ถูกทกุ ข้อ (มาตรา 30(2)) 23.ตอบ ค. ปีงบประมาณ พ.ศ.2550 (มาตรา 30(4)) 24.ตอบ ข. ร้อยละยส่ี บิ ห้า (มาตรา 30(4)) 25.ตอบ ง. รอ้ ยละสามสบิ ห้า (มาตรา 30(4)) 26.ตอบ ง. จานวนงบประมาณทจี่ าเปน็ ตอ้ งใช้ในการดาเนินการ (มาตรา 32) 27.ตอบ ก. คณะรัฐมนตรี (มาตรา 33) 28.ตอบ ข. ทุกปี (มาตรา 33) 29.ตอบ ง. 5 ปี (มาตรา 34) 30.ตอบ ก. 60 วัน (มาตรา 36)

สรปุ สาระสาคญั พรบ.ระเบียบบรหิ ารงานบคุ คลสว่ นท้องถนิ่ พ.ศ.2542 289 สรปุ สาระสาคัญพรบ.ระเบยี บบรหิ ารงานบุคคลสว่ นท้องถ่ิน พ.ศ.2542 ประกาศใช้ : วันท่ี 29 พฤศจกิ ายน 2542 บงั คับใช้ต้ังแต่ วันท่ี 30 พฤศจกิ ายน 2542 ผรู้ กั ษาการตาม พรบ.นี้ รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย องค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ หมายความว่า (1) องคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั (2) เทศบาล (3)องคก์ ารบริหารส่วนตาบล (4) กรงุ เทพมหานคร (5) เมืองพัทยา (6) องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ อนื่ ทมี่ ีกฎหมายจดั ตัง้ การบรหิ ารงานบคุ คลในองคก์ ารบริหารสว่ นจังหวดั 1. คณะกรรมการข้าราชการองค์การบริหารสว่ นจงั หวัด (กรรมการ 12 คน) ตาแหน่ง จานวน ประกอบดว้ ย ประธาน ผวู้ ่าราชการจังหวัด 1 กรรมการ หวั หนา้ ส่วนราชการ 3จากส่วนราชการในจงั หวัดนนั้ กรรมการ ผูแ้ ทน อบจ. 41.นายก อบจ. 2.สมาชกิ สภา อบจ. (สภาอบต.คัดเลอื ก 1คน) กรรมการ ผทู้ รงคุณวฒุ ิ 3. ปลดั อบจ. 4. ผู้แทนข้าราชการ อบจ. (คัดเลอื กกันเอง 1 คน) รวม 4มคี วามรคู้ วามเชยี่ วชาญ ดังนี้ 1. ด้านการบรหิ ารงานท้องถน่ิ 2.ด้านการบรหิ ารงานบุคคล 3.ด้านระบบราชการ 4.ดา้ นการบริหารและการจดั การ 5.หรือด้านอนื่ ทีจ่ ะเป็นประโยชน์แกก่ ารบรหิ ารงาน บุคคลขององค์การบรหิ ารส่วนจงั หวดั ปลัด อบจ. = เลขานุการฯ

290 การคดั เลือกกรรมการผทู้ รงคุณวุฒิ ให้ผวู้ ่าราชการจงั หวดั และหวั หน้าสว่ นราชการ เสนอรายชื่อบุคคลจานวน 6 คน และผู้แทน เสนอรายช่ือบุคคลจานวน 6 คนและให้บุคคลท้ัง 12 คน ดังกล่าวประชมุ เพอ่ื คัดเลอื กกันเองให้เหลอื 4 คน ผูว้ ่าราชการจังหวดั มีหน้าทีด่ าเนินการจดั ให้มีการคัดเลือกผู้แทนขา้ ราชการองคก์ าร บรหิ ารสว่ นจงั หวดั กรรมการผ้ทู รงคุณวฒุ ิต้องมคี ุณสมบัตแิ ละไมม่ ลี กั ษณะตอ้ งห้าม ดงั ตอ่ ไปน้ี (1) มสี ญั ชาตไิ ทย (2) มีอายุไมต่ า่ กว่า 40 ปีบรบิ รู ณ์ (3) ไม่เปน็ ข้าราชการซงึ่ มีตาแหนง่ หรอื เงินเดือนประจา (4) ไม่เป็นพนกั งานหรอื ลกู จา้ งของหนว่ ยราชการ หนว่ ยงานของรฐั รฐั วสิ าหกจิ หรอื องคก์ ร ปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน (5) ไม่เปน็ ผ้ดู ารงตาแหนง่ ทางการเมอื ง (6) ไม่เป็นสมาชิกสภาท้องถ่นิ หรอื ผบู้ ริหารท้องถิ่น (7) ไมเ่ ปน็ เจา้ หนา้ ที่หรือผูม้ ีตาแหนง่ ใด ๆ ในพรรคการเมอื ง บุคคลซ่ึงไดร้ ับการคดั เลอื กเปน็ กรรมการผทู้ รงคณุ วุฒติ อ้ งเปน็ ผู้มชี อื่ อยู่ในทะเบยี นบ้าน ในเขต จังหวดั นั้นเป็นเวลาตดิ ตอ่ กันไม่นอ้ ยกวา่ 1 ปีนับถึงวันท่ีไดร้ บั การเสนอชื่อ วาระอย่ใู นตาแหน่ง กรรมการซ่ึงเป็นผู้แทนข้าราชการองค์การบริหารสว่ นจังหวัดและ กรรมการผู้ทรงคุวุฒมิ ีวาระอยใู่ นตาแหนง่ คราวละ 4 ปี และอาจไดร้ ับคดั เลือกอีกได้ การประชุมของคณะกรรมการข้าราชการองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ตอ้ งมีกรรมการมาประชมุ ไมน่ ้อยกว่าก่ึงหนงึ่ ของจานวนกรรมการทง้ั หมดจงึ จะเปน็ องค์ประชุม ในการประชุม ถ้าประธานไม่อยู่ในท่ีประชุมหรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าท่ีได้ให้ที่ประชุมเลือก กรรมการคนหนึง่ ทาหนา้ ทีเ่ ป็นประธานในทปี่ ระชุม ในการประชุม ถ้ามีการพิจารณาเร่อื งเกี่ยวกับกรรมการผู้ใดโดยเฉพาะ กรรมการผ้นู ้ันไม่มีสิทธิเข้าประชุม การ วินิจฉัยช้ีขาดให้ถือเสยี งข้างมาก กรรมการคนหน่ึงให้มเี สยี งหน่ึงในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสยี งเทา่ กัน ให้ประธานในทป่ี ระชุมออกเสยี งเพมิ่ ขึ้นอกี เสียงหน่ึงเป็นเสียงช้ีขาด

สรปุ สาระสาคญั พรบ.ระเบียบบรหิ ารงานบคุ คลสว่ นทอ้ งถ่ิน พ.ศ.2542 291 อานาจหน้าที่คณะกรรมการข้าราชการองค์การบรหิ ารส่วนจงั หวัด (1) กาหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามที่มีความจาเป็นเฉพาะสาหรบั ข้าราชการองค์การ บรหิ ารสว่ นจงั หวดั นนั้ (2) กาหนดจานวนและอัตราตาแหน่ง อัตราเงินเดือนและวิธีการจ่ายเงนิ เดือนและประโยชน์ ตอบแทนอ่ืน สาหรับข้าราชการองค์การบรหิ ารส่วนจงั หวดั (3) กาหนดหลกั เกณฑแ์ ละเง่ือนไขในการคดั เลือก การบรรจแุ ละแตง่ ตั้ง การยา้ ย การโอน การ รบั โอน การเลื่อนระดับ การเลอื่ นข้นั เงินเดอื น การสอบสวน การลงโทษทางวินยั การใหอ้ อกจากราชการ การอทุ ธรณ์ และการรอ้ งทุกข์ (4) กาหนดระเบียบเกี่ยวกับการบริหารและการปฏบิ ตั งิ านของข้าราชการองคก์ ารบรหิ ารสว่ น จังหวดั (5) กากบั ดูแล ตรวจสอบ แนะนาและชี้แจง ส่งเสรมิ และพฒั นาความรู้แก่ขา้ ราชการองค์การ บรหิ ารสว่ นจงั หวดั การดาเนนิ การตาม (1) ถงึ (5) ต้องได้รบั ความเห็นชอบจากคณะกรรมการกลางขา้ ราชการ องคก์ ารบรหิ ารส่วนจงั หวดั การออกคาส่งั เกี่ยวกบั การบรรจแุ ละแตง่ ต้ัง การย้าย การโอน การรบั โอน การเลอ่ื นระดบั การ เลื่อนขัน้ เงินเดอื น การสอบสวน การลงโทษทางวินยั การใหอ้ อกจากราชการ การอุทธรณ์ และการรอ้ ง ทกุ ข์ หรอื การอน่ื ใดทเี่ กย่ี วกบั การบรหิ ารงานบุคคล ให้เป็นอานาจของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวดั ทัง้ น้ี ตามหลักเกณฑท์ ่คี ณะกรรมการข้าราชการองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวดั กาหนด แตส่ าหรบั การออก คาสัง่ แตง่ ต้ัง และการให้ข้าราชการองคก์ ารบริหารสว่ นจงั หวดั พ้นจากตาแหนง่ ต้องได้รับความเหน็ ชอบ จากคณะกรรมการข้าราชการองคก์ ารบริหารส่วนจังหวดั กอ่ น

292 1. คณะกรรมการกลางขา้ ราชการองคก์ ารบริหารส่วนจงั หวัด (กรรมการ 18 คน) ตาแหน่ง จานวน ประกอบด้วย ประธาน รมต.ว่าการ 1 หรอื รมต.ชว่ ยว่าการกระทรวงมหาดไทยซง่ึ รบั กระทรวงมหาดไทย มอบหมาย กรรมการ -ปลดั กระทรวง 5 กรรมการโดยตาแหนง่ ...ทมี่ ักจามาออกขอ้ สอบ มหาดไทย -เลขาธิการ ก.พ. -ผ.อ.สานัก งบประมาณ - อธิบดี กรมบญั ชกี ลาง - อธบิ ดีกรมส่งเสรมิ การปกครองทอ้ งถ่ิน กรรมการ ผ้แู ทน อบจ. 6 1.คัดเลอื กจากนายก อบจ. 3 คน กรรมการ ผ้ทู รงคณุ วฒุ ิ 2. คดั เลือกจากปลัด อบจ. 3 คน 6 มคี วามรคู้ วามเชย่ี วชาญ ดังน้ี 1. ด้านการบรหิ ารงานท้องถิน่ 2.ด้านการบรหิ ารงานบุคคล 3.ดา้ นระบบราชการ 4.ด้านการบรหิ ารและการจัดการ 5.หรอื ดา้ นอน่ื ทีจ่ ะเปน็ ประโยชน์แก่การ บรหิ ารงานบคุ คลขององค์การบรหิ ารส่วนจงั หวดั รวม 18 เลขาฯ = อธิบดีกรมสง่ เสรมิ การปกครองทอ้ งถิ่น แตง่ ตัง้ ข้าราชการในกรมซง่ึ ดารงตาแหน่งไม่ต่ากว่ารอง อธบิ ดีเปน็ เลขานุการ

สรปุ สาระสาคญั พรบ.ระเบยี บบรหิ ารงานบุคคลส่วนทอ้ งถิน่ พ.ศ.2542 293 ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีหน้าท่ีดาเนินการจัดให้มีการคัดเลือกนายกองค์การบริหารส่วน จงั หวัดหรอื ปลัดองค์การบริหารสว่ นจงั หวัด แล้วแตก่ รณี เป็นผูแ้ ทนองค์การบรหิ ารส่วนจงั หวัด วาระอยใู่ นตาแหน่ง กรรมการผแู้ ทนและผทู้ รงคณุ วฒุ ิมวี าระการดารงตาแหน่งคราวละ 4 ปี และ อาจได้รับคดั เลอื กอกี ได้ อานาจหน้าทีค่ ณะกรรมการกลางขา้ ราชการองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั (1) กาหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการคัดเลือกผู้แทนข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวดั และผทู้ รงคุณวฒุ ิตามมาตรา 5 วรรคสาม (2) กาหนดมาตรฐานท่ัวไปเกย่ี วกบั คุณสมบัตแิ ละลกั ษณะต้องหา้ มเบือ้ งต้นสาหรับข้าราชการ องค์การบริหารสว่ นจังหวดั (3) กาหนดมาตรฐานทว่ั ไปเก่ียวกับอตั ราตาแหนง่ และมาตรฐานของตาแหนง่ (4) กาหนดมาตรฐานทั่วไปเกีย่ วกับอัตราเงินเดือนและวิธีการจา่ ยเงนิ เดือนและประโยชน์ตอบ แทนอ่ืน (5) กาหนดมาตรฐานท่ัวไปเกย่ี วกบั หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการคัดเลอื ก การบรรจุและแตง่ ต้งั การยา้ ย การโอน การรับโอน การเล่ือนระดับ และการเลอ่ื นขัน้ เงนิ เดือน (6) กาหนดมาตรฐานทัว่ ไปเกยี่ วกับวนิ ัยและการรกั ษาวินยั และการดาเนินการทางวนิ ัย (7) กาหนดมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับการใหอ้ อกจากราชการ (8) กาหนดมาตรฐานท่ัวไปเกยี่ วกับสิทธกิ ารอทุ ธรณ์ การพิจารณาอุทธรณแ์ ละการรอ้ งทกุ ข์ (9) กาหนดมาตรฐานท่ัวไปเก่ียวกับโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการ วิธีการบริหาร และการ ปฏิบัติงานของข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด และกิจการอันเก่ียวกับการบริหารงานบุคคลใน องค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวัด (10) ให้ข้อคิดเห็นหรือให้คาปรึกษาในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการข้าราชการองค์การ บริหารสว่ นจงั หวัด (11) กากบั ดูแล แนะนาและช้แี จง ส่งเสรมิ และพัฒนาความรู้แก่ข้าราชการองค์การบริหารส่วน จงั หวดั (12) ปฏิบัติการอื่นตามท่ีพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอ่ืนบัญญัติให้เป็นอานาจหน้าท่ีของ คณะกรรมการกลางขา้ ราชการองคก์ ารบรหิ ารส่วนจงั หวดั

294 การบรหิ ารงานบุคคลในเทศบาล 1. คณะกรรมการพนักงานเทศบาล (กรรมการ 18 คน) ตาแหนง่ จานวน ประกอบดว้ ย ประธาน กรรมการ ผวู้ ่าราชการจังหวัด 1 กรรมการ หวั หนา้ สว่ นราชการ 5 จากส่วนราชการในจงั หวดั นั้น กรรมการ ผแู้ ทน อบจ. 6 1.ประธานสภาเทศบาล (คดั เลอื กกันเอง 2 คน) 2.นายกเทศมนตรี (คัดเลอื กกนั เอง 2 คน) 3.ผแู้ ทนพนกั งานเทศบาล (ปลัดเทศบาลคัดเลือก 2 คน) ผู้ทรงคุณวุฒิ 6 มคี วามรูค้ วามเชี่ยวชาญ ดงั นี้ 1. ด้านการบรหิ ารงานท้องถน่ิ 2.ดา้ นการบริหารงานบคุ คล 3.ด้านระบบราชการ 4.ดา้ นการบริหารและการจัดการ 5.หรอื ดา้ นอน่ื ท่ีจะเปน็ ประโยชนแ์ ก่การบรหิ ารงานบุคคลของ องคก์ ารบรหิ ารส่วนจงั หวัด รวม 18 เลขานุการฯ = ผู้ว่าราชการจงั หวัดแตง่ ต้งั ขา้ ราชการหรอื พนักงานเทศบาลคนหน่งึ ในจงั หวัด

สรปุ สาระสาคญั พรบ.ระเบียบบรหิ ารงานบุคคลส่วนทอ้ งถิน่ พ.ศ.2542 295 ผูว้ า่ ราชการจังหวดั มหี นา้ ท่ีดาเนนิ การจดั ใหม้ กี ารคดั เลือกผแู้ ทนเทศบาล วาระอยู่ในตาแหน่ง กรรมการผูแ้ ทนและผูท้ รงคณุ วุฒมิ ีวาระการดารงตาแหนง่ คราวละ 4 ปี และอาจไดร้ ับคดั เลือกอกี ได้ 1. คณะกรรมการกลางพนกั งานเทศบาล (กรรมการ 18 คน) ตาแหน่ง จานวน ประกอบด้วย ประธาน รมต.วา่ การ 1 หรือ รมต.ชว่ ยวา่ การกระทรวงมหาดไทยซงึ่ รบั กระทรวงมหาดไทย มอบหมาย กรรมการ -ปลดั กระทรวงมหาดไทย 5 กรรมการโดยตาแหน่ง...ที่มักจามาออกข้อสอบ -เลขาธิการ ก.พ. -ผ.อ.สานักงบประมาณ - อธบิ ดีกรมบัญชีกลาง -อธิบดกี รมส่งเสรมิ การ ปกครองท้องถิ่น กรรมการ ผู้แทนเทศบาล 6 1.คัดเลือกจากนายกเทศมนตรี 3 คน 2. คัดเลือกจากปลดั เทศบาล 3 คน กรรมการ ผทู้ รงคณุ วุฒิ 6 มีความรคู้ วามเชยี่ วชาญ ดังน้ี 1. ด้านการบรหิ ารงานทอ้ งถ่นิ 2.ด้านการบริหารงานบุคคล 3.ดา้ นระบบราชการ 4.ดา้ นการบริหารและการจดั การ 5.หรอื ดา้ นอื่นที่จะเป็นประโยชน์แกก่ ารบรหิ ารงาน บคุ คลขององค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวัด รวม 18 เลขาฯ = อธบิ ดีกรมสง่ เสรมิ การปกครองทอ้ งถิ่น แตง่ ต้งั ข้าราชการในกรมซง่ึ ดารงตาแหนง่ ไม่ต่ากวา่ รองอธิบดเี ป็นเลขานกุ าร การคดั เลอื กกรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิ ให้ประธานและกรรมการโดยตาแหนง่ เสนอ รายชือ่ บุคคลจานวน 9 คน และผู้แทน เสนอรายช่ือบคุ คลจานวน 9 คนและใหบ้ คุ คลทง้ั 18 คนดงั กลา่ ว ประชุมเพอื่ คดั เลอื กกนั เองใหเ้ หลอื 6 คน ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีหนา้ ทีด่ าเนินการจัดใหม้ กี ารคัดเลอื กผูแ้ ทนเทศบาล

296 วาระอยู่ในตาแหนง่ กรรมการผ้แู ทนและผูท้ รงคุณวุฒิมีวาระการดารงตาแหนง่ คราวละ 4 ปี และ อาจไดร้ ับคัดเลอื กอีกได้ การบริหารงานบคุ คลในองค์การบริหารส่วนตาบล 1. คณะกรรมการพนักงานองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล (กรรมการ 27 คน) ตาแหน่ง จานวน ประกอบดว้ ย ประธาน ผูว้ า่ ราชการจังหวดั 1 หรือ รองผู้วา่ ราชการจังหวัดซึ่งไดร้ ับมอบหมาย กรรมการ นายอาเภอ หรอื 8 จากส่วนราชการในจงั หวัดนั้น หวั หน้าส่วนราชการ กรรมการ ผแู้ ทน อบต. 9 1.ประธานสภา อบต.(คดั เลอื กกันเอง 3 คน) 2.ประธานสภา อบต. (คัดเลือกกนั เอง 3 คน) 3.ผ้แู ทนพนักงาน อบต. (ปลดั อบต.คัดเลอื ก 3 คน) กรรมการ ผทู้ รงคุณวฒุ ิ 9 มคี วามรูค้ วามเชีย่ วชาญ ดังน้ี 1. ด้านการบรหิ ารงานท้องถ่ิน 2.ดา้ นการบรหิ ารงานบุคคล 3.ดา้ นระบบราชการ 4.ดา้ นการบรหิ ารและการจดั การ 5.หรอื ดา้ นอ่นื ทีจ่ ะเป็นประโยชน์แกก่ ารบรหิ ารงาน บคุ คลขององค์การบรหิ ารสว่ นจังหวดั รวม 27 เลขานกุ ารฯ = ผู้ว่าราชการจงั หวัดแต่งตงั้ ขา้ ราชการหรอื พนักงาน อบต.คนหนงึ่ ในจงั หวัด ผูว้ ่าราชการจังหวัด มีหน้าทด่ี าเนนิ การจดั ใหม้ ีการคดั เลือกผ้แู ทนองค์การบรหิ าร ส่วนตาบล วาระอย่ใู นตาแหน่ง กรรมการผ้แู ทนและผทู้ รงคุณวุฒมิ วี าระการดารงตาแหนง่ คราว ละ 4 ปี และ อาจได้รบั คัดเลอื กอกี ได้