ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าดว้ ยการรบั เงนิ การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงนิ การเกบ็ รักษาเงิน 447 และการตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน พ.ศ. 2547 แกไขเพ่มิ เติม ฉบับท่ี 3 พ.ศ. 2558 (25) “หนี้สูญ” หมายความว่า หน้ีท่ีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในฐานะเจ้าหน้ีไม่มีทางที่จะ ได้รับชาระหน้ีจากลกู หนีไ้ ด้ (26) “ป”ี หมายความว่า ปงี บประมาณ (27) “นายอาเภอ” หมายความรวมถึง ปลัดอาเภอผเู้ ป็นหวั หน้าประจาก่ิงอาเภอด้วย หมวด 2 ข้อกาหนดในการรบั เงิน สว่ นท่ี 1 การรบั เงิน ข้อ 6[8] บรรดาแบบพมิ พแ์ ละเอกสารใด ๆ ท่ีใช้ในการรับเงิน การเบกิ จ่ายเงนิ การฝากเงนิ การ ถอนเงนิ การเกบ็ รกั ษาเงิน และการตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ ตลอดจนแบบบัญชที ะเบียน และรายงานการเงิน ให้เป็นไปตามที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นกาหนด เว้นแต่จะมีกฎหมาย ระเบียบ ข้อบงั คบั กาหนดไวเ้ ปน็ อยา่ งอ่นื ข้อ 7 บรรดาเงินที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับไว้เป็นกรรมสิทธ์ิให้นาส่งเป็นเงินรายได้ ทั้งสนิ้ ห้ามมิให้กันไวเ้ ป็นเงนิ ฝาก หรือเงินนอกงบประมาณ เวน้ แตจ่ ะมกี ฎหมาย ระเบียบขอ้ บงั คับ คาสั่ง หรือหนงั สอื ส่ังการกระทรวงมหาดไทยกาหนดไวเ้ ปน็ อยา่ งอื่น ความในวรรคหน่ึงไม่ใช้บังคับในกรณีที่มีผู้อุทิศให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นการ เฉพาะเจาะจงวา่ ให้กระทาการอย่างใดอย่างหนง่ึ หรอื ในกรณีทอี่ งค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นจัดหารายได้ขนึ้ เป็นคร้ังคราวภายในขอบเขตอานาจหนา้ ที่ เพอื่ ใชจ้ ่ายในกิจการอย่างใดอย่างหน่ึงโดยเฉพาะ เงินรายได้ท่ีองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่นจัดหาข้ึนเป็นคร้ังคราว หรือเงินท่ีมผี ู้อุทศิ ให้ตามวรรค สอง ถ้าไม่ได้กาหนดไว้เป็นอย่างอ่ืน หากมีเงินเหลือจ่าย หรือหมดความจาเป็นท่ีจะต้องใช้จ่ายแล้ว ให้ นาสง่ เป็นรายได้ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ ข้อ 8[9] การรับเงินใหร้ ับเปน็ เงนิ สด ส่วนการรบั เช็ค ดราฟท์หรือตราสารอย่างอื่นหรอื โดยวิธีอน่ื ใด ใหป้ ฏบิ ตั ิตามวธิ ีการที่กรมสง่ เสริมการปกครองท้องถนิ่ กาหนด
448 ข้อ 9 การรับเงินใหอ้ งค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นออกใบเสรจ็ รบั เงนิ ให้แก่ผู้ชาระเงินทกุ ครง้ั เว้น แต่การรับเงนิ ที่มีเอกสารขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินระบุจานวนเงินท่ีชาระอันมลี ักษณะเช่นเดยี วกบั ใบเสรจ็ รับเงนิ ซงึ่ เอกสารดังกลา่ วจะต้องมีการควบคมุ จานวนที่รับจ่ายทานองเดียวกับใบเสรจ็ รับเงิน และ การรบั เงินตามฎีกาเบกิ เงนิ จากหนว่ ยงานคลงั ใหใ้ ชใ้ บเสรจ็ รับเงินเล่มเดยี วกันรบั เงินทุกประเภท เว้นแต่ เงนิ ประเภทใดมกี ารชาระเป็นประจา และมีจานวนมากรายจะแยกใบเสรจ็ รับเงนิ เลม่ หน่ึงสาหรบั การรับเงนิ ประเภทหนึ่งก็ได้ ข้อ 10[10] ให้หน่วยงานคลังบันทึกเงนิ ท่ีได้รับในสมุดเงินสด ภายในวันที่ได้รับเงนิ สดเชค็ หรอื ดราฟท์หรือตราสารอย่างอื่นหรือโดยวิธีอื่นใดนั้น โดยแสดงให้ทราบว่าได้รับเงินตามฎีกาใบเสร็จรบั เงิน หรอื เอกสารอื่น เลม่ ใด เลขทใี่ ด จานวนเท่าใด ข้อ 11 เม่ือสิ้นเวลารับเงินให้เจ้าหน้าท่ีผมู้ ีหน้าท่ีจดั เก็บหรือรบั ชาระเงนิ นาเงินที่ได้รับพร้อม สาเนาใบเสร็จรบั เงิน และเอกสารอน่ื ที่จัดเก็บในวันน้นั ท้ังหมดส่งต่อเจ้าหนา้ ทีก่ ารเงินขององคก์ รปกครอง สว่ นทอ้ งถิ่น เพือ่ นาเงนิ ฝากธนาคาร กรณีที่นาฝากธนาคารไม่ทนั ใหเ้ กบ็ รกั ษาไว้ในตู้นริ ภัย ข้อ 12 ให้หน่วยงานคลังจัดให้มีการตรวจสอบจานวนเงินที่เจ้าหน้าท่ีจัดเก็บและนาส่งกับ หลกั ฐาน และรายการทบี่ นั ทึกไว้ในสมดุ เงินสด ว่าถูกต้องครบถ้วนแล้วหรือไม่ หากการตรวจสอบปรากฏ วา่ ถูกต้องแล้ว ให้ผู้ตรวจแสดงยอดรวมเงินรับทั้งส้นิ ตามใบเสร็จรับเงินทุกฉบบั ท่ีไดร้ ับในวนั นัน้ ไวใ้ นสาเนา ใบเสร็จรบั เงินฉบับสุดทา้ ยและลงลายมือช่อื กากบั ไว้ดว้ ย ส่วนที่ 2 ใบเสร็จรับเงนิ ข้อ 13 ใบเสรจ็ รบั เงนิ ขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ใหม้ สี าระสาคัญอยา่ งนอ้ ยดังตอ่ ไปน้ี (1) ตราเคร่อื งหมายและช่อื ขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น (2) เล่มทแี่ ละเลขที่ของใบเสรจ็ รับเงิน โดยใหพ้ ิมพห์ มายเลขกากับเลม่ และหมายเลขกากบั เลขท่ี ในใบเสร็จรับเงินเรียงกนั ไปทกุ ฉบับ (3) ท่ีทาการหรือสานกั งานทีอ่ อกใบเสร็จรับเงนิ (4) วัน เดือน ปีท่ีรบั เงนิ (5) ชอ่ื และชือ่ สกุลของบคุ คลหรือชือ่ นติ บิ คุ คลผู้ชาระเงิน
ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการรบั เงนิ การเบกิ จา่ ยเงนิ การฝากเงนิ การเกบ็ รกั ษาเงิน 449 และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ พ.ศ. 2547 แกไขเพม่ิ เติม ฉบับท่ี 3 พ.ศ. 2558 (6) รายการแสดงการรับเงิน โดยระบวุ ่ารบั ชาระเงนิ ค่าอะไร (7) จานวนเงนิ ทร่ี ับชาระท้ังตัวเลขและตัวอักษร (8) ขอ้ ความระบุว่าไดม้ ีการรบั เงินไว้เปน็ การถูกต้องแล้ว (9) ลายมือชือ่ พรอ้ มช่ือในวงเล็บ และตาแหนง่ ผู้รบั เงนิ กากบั อยา่ งน้อยหนงึ่ คน ใบเสร็จรับเงนิ ทกุ ฉบบั ให้มีสาเนาเย็บตดิ ไว้กบั เล่มอย่างนอ้ ยหน่ึงฉบับ หากองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่ินใดประสงค์จะพิมพใ์ บเสรจ็ รบั เงินด้วยเครอื่ งคอมพิวเตอรพ์ มิ พ์ ใบเสรจ็ รบั เงนิ ให้จัดทาได้โดยให้มขี นาดตามความเหมาะสมกบั ลกั ษณะงานที่ปฏบิ ตั มิ ีสาเนาอย่างน้อยหน่ึง ฉบับ และให้มสี าระสาคัญตามวรรคหนึ่ง พร้อมท้งั ให้กาหนดระบบวิธีการควบคุมการพิมพ์ใบเสรจ็ รบั เงนิ รวมทัง้ การพิมพ์เลม่ ท่ี เลขท่ี ให้รัดกมุ ข้อ 14 ให้หน่วยงานคลังจดั ทาทะเบียนคุมใบเสรจ็ รับเงนิ ไว้เพอ่ื ให้ทราบ และตรวจสอบได้ว่าได้ จัดพิมพ์ขึ้นจานวนเท่าใด ได้จ่ายใบเสร็จรับเงินเล่มใด หมายเลขใดถึงหมายเลขใดให้หน่วยงานใดหรือ เจา้ หนา้ ท่ผี ูใ้ ด ไปดาเนนิ การจดั เกบ็ เงนิ เมอ่ื วนั เดือน ปีใด การจ่ายใบเสร็จรบั เงินใหห้ นว่ ยงานใด หรอื เจ้าหนา้ ทไี่ ปจดั เกบ็ เงิน ใหพ้ จิ ารณาจ่ายใหใ้ นจานวน ทเ่ี หมาะสมแก่ลักษณะงานทปี่ ฏบิ ตั แิ ละให้มหี ลักฐานการรับส่งใบเสร็จรับเงนิ นน้ั ไวด้ ว้ ย ข้อ 15 ใบเสร็จรับเงินเล่มใด เมื่อไม่มีความจาเป็นต้องใช้เช่น ยุบ เลิกสานักงานหรือไม่มีการ จัดเก็บเงินต่อไปอีก ให้หัวหน้าหน่วยงานที่รับใบเสร็จรับเงินน้ันไปนาส่งคืนหน่วยงานที่จ่ายใบเสร็จน้ัน โดยเรว็ ข้อ 16 เม่ือส้ินปีใหห้ ัวหนา้ หน่วยงานท่รี บั ใบเสร็จรบั เงินไปดาเนินการจัดเก็บเงินแจง้ ใหห้ วั หน้า หน่วยงานคลังทราบว่า มีใบเสร็จรับเงินอยู่ในความรับผิดชอบเล่มใด เลขท่ีใดถึงเลขที่ใดและได้ใช้ ใบเสร็จรับเงนิ ไปแลว้ เลม่ ใด เลขท่ใี ดถึงเลขทีใ่ ด อย่างชา้ ไม่เกนิ วนั ทสี่ ามสบิ เอ็ดตลุ าคมของปีถัดไป และให้ หัวหน้าหน่วยงานคลังรวบรวมรายงานเสนอผ่านปลัดองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นเพ่ือนาเสนอผู้บริหาร ทอ้ งถ่ินทราบ ข้อ 17 ใบเสร็จรับเงินเลม่ ใดใช้สาหรบั รับเงินของปใี ด ให้ใช้รับเงินภายในปีน้นั เท่านั้น เม่ือขึน้ ปี ใหม่ก็ให้ใช้ใบเสร็จรับเงินเลม่ ใหม่ ใบเสรจ็ รับเงนิ ฉบับใดท่ียังไม่ใช้ให้คงติดไว้กับเล่มแต่ให้ปรุเจาะรหู รอื ประทบั ตราเลกิ ใช้เพอ่ื ให้เป็นที่สงั เกตมใิ ห้นามาใช้รับเงินได้ตอ่ ไป ข้อ 18 ใบเสร็จรับเงินห้ามขูด ลบ แก้ไข เพ่ิมเติม จานวนเงินหรือช่ือผู้ชาระเงินหาก ใบเสร็จรับเงินฉบบั ใดลงรายการรับเงนิ ผิดพลาด กใ็ ห้ขีดฆา่ จานวนเงนิ และเขยี นใหมท่ ั้งจานวนแลว้ ให้ผู้รับ เงินลงลายมือช่ือกากับการขีดฆ่าน้ันไว้ด้วย หรือขีดฆ่าเลิกใช้ใบเสร็จรับเงินนั้นท้ังฉบับ และให้ติดไว้กับ สาเนาใบเสรจ็ รับเงนิ ในเล่ม แล้วออกใบเสร็จรบั เงินฉบบั ใหม่
450 ข้อ 19 ให้หน่วยงานคลังเก็บรักษาสาเนาใบเสร็จรับเงินซึ่งยังมิได้ตรวจสอบจากผู้มีอานาจ ตรวจสอบไว้ในท่ีปลอดภยั อย่าใหส้ ูญหาย และเมือ่ ไดต้ รวจสอบแล้วกใ็ ห้เกบ็ ไว้อย่างเอกสารธรรมดา หมวด 3 การเกบ็ รกั ษาเงนิ ส่วนท่ี 1 ตนู้ ิรภยั เก็บเงิน ข้อ 20 ต้นู ริ ภยั ขององค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ ให้ติดหรอื ตัง้ ไว้ในหอ้ งม่นั คงหรือกรงเหลก็ หรือ กรณไี ม่มหี ้องมน่ั คงหรอื กรงเหลก็ ให้ตดิ หรอื ตง้ั ไวใ้ นท่ีม่ันคงและปลอดภัยภายในสานกั งานขององค์กร ปกครองส่วนทอ้ งถิ่นนนั้ หากมจี านวนเงนิ สดท่เี ก็บรักษาไว้ในตู้นริ ภัยตามวรรคหนึ่งให้นาฝากธนาคารทง้ั จานวนในวันทา การถดั ไป กรณเี ทศบาลตาบลหรือองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลท่มี ีพืน้ ทห่ี ่างไกลการคมนาคมไม่สะดวก ไม่ สามารถนาฝากธนาคารได้เปน็ ประจาทกุ วนั ใหเ้ ก็บรักษาเงินสดในตู้นริ ภัยได้และให้นาเงนิ สดดังกล่าวฝาก ธนาคารในวันทาการสุดทา้ ยของสปั ดาห์ ข้อ 21 ตู้นริ ภัยใหม้ ลี กู กุญแจอย่างนอ้ ยสองดอก แตล่ ะดอกมีลกั ษณะต่างกนั โดยใหก้ รรมการ เกบ็ รักษาเงนิ ถอื ลกู กญุ แจคนละดอก ตนู้ ิรภยั หน่งึ ๆ ใหม้ ลี ูกกุญแจอยา่ งน้อยสองสารบั ใหก้ รรมการเกบ็ รักษาเงนิ เก็บรกั ษาหนงึ่ สารบั นอกน้นั ให้นาฝากเกบ็ รกั ษาในลักษณะหบี ห่อไว้ในตู้นิรภัยเกบ็ เงนิ ของส่วนราชการอืน่ ตามทีเ่ หน็ สมควร ส่วนที่ 2 กรรมการเกบ็ รักษาเงิน ข้อ 22 ให้ผู้บริหารท้องถ่ินแต่งตั้งคณะกรรมการเก็บรักษาเงนิ ไว้ณ สานักงานอย่างน้อยสามคน ในจานวนนีใ้ ห้หัวหน้าหน่วยงานคลงั เปน็ กรรมการโดยตาแหน่งหนึ่งคน และกรรมการเก็บรักษาเงินอืน่ อีก อยา่ งน้อยสองคน
ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการรบั เงิน การเบิกจา่ ยเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน 451 และการตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน พ.ศ. 2547 แกไขเพมิ่ เติม ฉบับท่ี 3 พ.ศ. 2558 การแต่งตั้งกรรมการเก็บรักษาเงนิ ตามวรรคหนึ่ง ให้แตง่ ตงั้ จากพนกั งานสว่ นทอ้ งถ่ินตง้ั แต่ระดบั สาม หรือเทียบเท่าข้ึนไป เว้นแต่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีพนักงานส่วนท้องถ่ินไม่ครบจานวนที่จะ แต่งตัง้ เป็นกรรมการ ให้แตง่ ต้งั พนักงานส่วนท้องถ่ินระดบั อ่ืน หรือผชู้ ่วยผ้บู ริหารทอ้ งถนิ่ เป็นกรรมการให้ ครบจานวนก็ได้ ข้อ 23 ให้กรรมการเก็บรักษาเงินเป็นผู้ถอื ลกู กุญแจตู้นริ ภัย ในกรณีท่ีตู้นิรภัยมีทีใ่ สก่ ุญแจสาม ดอกและมกี รรมการสามคน ให้กรรมการถอื กญุ แจคนละหน่งึ ดอก แตถ่ า้ ตู้นิรภยั มีท่ใี ส่กุญแจสองดอกแต่มี กรรมการสามคน ก็ใหก้ รรมการทอี่ าวโุ สถอื กุญแจคนละหน่ึงดอก ข้อ 24 กรรมการเก็บรักษาเงินผู้ใดไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่กรรมการได้ให้ผู้บริหารท้องถ่ิน พจิ ารณาแตง่ ตงั้ พนักงานส่วนทอ้ งถ่นิ หรอื ผู้ชว่ ยผูบ้ รหิ ารทอ้ งถนิ่ ตามขอ้ 22 เป็นกรรมการแทนช่ัวคราวให้ ครบจานวน การแต่งตง้ั ผทู้ ีจ่ ะเปน็ กรรมการแทนจะแต่งตงั้ ไว้เปน็ การประจาเพื่อปฏบิ ตั หิ นา้ ทแี่ ทนชั่วคราว กไ็ ด้ การปฏิบตั ิหน้าทก่ี รรมการแทนตามวรรคหน่งึ ต้องสง่ มอบและรับมอบกญุ แจระหว่างกรรมการผู้ ท่ไี ด้รบั มอบหมายให้ทาหนา้ ท่ีกรรมการแทนชั่วคราว รวมท้ังตอ้ งตรวจนับตัวเงนิ และหลกั ฐานแทนตัวเงิน เก็บรักษาไว้ในตู้นิรภัยใหถ้ ูกต้องตามรายงานสถานะการเงินประจาวันแล้วบนั ทกึ การส่งมอบและรบั มอบ พรอ้ มกับลงลายมอื ช่อื กรรมการทุกคนไวใ้ นรายงานสถานะการเงินประจาวัน ห้ามมิให้กรรมการมอบลูกกุญแจให้ผู้อื่นทาหน้าท่ีกรรมการแทน เว้นแต่เป็นการมอบให้ กรรมการซึง่ ไดร้ ับแต่งตงั้ เป็นกรรมการแทนช่ัวคราว ข้อ 25 กรรมการเก็บรักษาเงินต้องเก็บรักษาลกู กุญแจไว้ในที่ปลอดภัย อย่าให้สูญหายหรือให้ ผู้ใดลักลอบนาไปพิมพ์แบบลกู กุญแจได้หากปรากฏว่าลูกกุญแจสญู หาย หรอื มกี รณีสงสัยว่าจะมีผปู้ ลอม แปลงลกู กญุ แจ ให้รบี รายงานผู้บรหิ ารทอ้ งถ่นิ เพอ่ื สัง่ การโดยเร็ว สว่ นท่ี 3 การเกบ็ รกั ษาเงิน ข้อ 26 ให้หัวหนา้ หน่วยงานคลงั จัดทารายงานสถานะการเงินประจาวันตามแบบทีก่ รมส่งเสรมิ การปกครองท้องถิ่นกาหนดเป็นประจาทุกวันท่ีมีการรับจ่ายเงิน หากวันใดไม่มีการรับจ่ายเงินจะไม่ทา รายงานสถานะการเงินประจาวนั สาหรบั วันนัน้ ก็ได้แต่ให้หมายเหตุในรายงานสถานะการเงนิ ประจาวันที่มี การรับจ่ายเงินในวันถดั ไปใหท้ ราบด้วย
452 ข้อ 27 เมื่อสิ้นเวลารบั จ่ายเงนิ ให้เจ้าหนา้ ท่ีดาเนินการนาเงนิ ทีไ่ ด้รับนาฝากธนาคารทัง้ จานวน หากนาฝากธนาคารไม่ทันให้นาเงินที่จะเก็บรักษา และรายงานสถานะการเงินประจาวัน ส่งมอบต่อ คณะกรรมการเก็บรักษาเงนิ ข้อ 28 กรณีมีเงินสดเก็บรักษาให้กรรมการเก็บรักษาเงินร่วมกันตรวจสอบตัวเงินกับรายงาน สถานะการเงินประจาวัน เม่ือปรากฏว่าถูกต้องแลว้ ให้นาเงินเข้าเกบ็ รักษาในตู้นิรภัยและใหก้ รรมการทุก คนลงลายมือช่ือในรายงานสถานะการเงินประจาวันไว้เป็นหลกั ฐาน แล้วให้หัวหน้าหน่วยงานคลังเสนอ ผา่ นปลดั องคก์ รปกครองส่วนท้องถิน่ เพอ่ื นาเสนอใหผ้ ู้บริหารทอ้ งถน่ิ ทราบ ขอ้ 29 ในกรณีทีป่ รากฏวา่ เงนิ ท่กี รรมการได้รบั มอบใหเ้ ก็บรักษาไม่ตรงกบั จานวนซงึ่ แสดงไว้ใน รายงานสถานะการเงนิ ประจาวนั ใหค้ ณะกรรมการเกบ็ รกั ษาเงินและผู้นาส่งเงินรว่ มกนั บันทึกจานวนเงนิ ที่ ตรวจนับไดใ้ นรายงานสถานะการเงินประจาวัน และลงลายมอื ชือ่ กรรมการทุกคนพรอ้ มด้วยเจา้ หนา้ ทีผ่ ู้สง่ เงิน แล้วนาเงินเข้าเก็บรักษาไว้ในตู้นิรภัย และให้คณะกรรมการเก็บรักษาเงินรายงานให้ปลัดองค์กร ปกครองส่วนทอ้ งถิ่นทราบทันทเี พื่อเสนอผ้บู ริหารท้องถนิ่ พิจารณาสง่ั การ ข้อ 30 เม่ือนาเงินเข้าเก็บรักษาในตู้นิรภัยเรียบรอ้ ยแล้ว ให้กรรมการเก็บรักษาเงินใสก่ ุญแจตู้ นิรภัยให้เรยี บร้อยและลงลายมือชื่อบนกระดาษปิดทับ หรือตราประจาครง่ั หรือดินเหนียวของกรรมการ เกบ็ รกั ษาเงนิ แต่ละคน ไวบ้ นเชือกผกู มัดตนู้ ริ ภยั ในลกั ษณะที่แผ่นกระดาษปดิ ทับ หรอื ตราประจาครั่ง หรอื ดนิ เหนยี ว จะตอ้ งถกู ทาลายเมอ่ื มีการเปิดตนู้ ริ ภยั ในกรณที ่ตี ู้นริ ภยั ต้งั อยใู่ นห้องม่ันคงหรอื กรงเหล็ก การลงลายมือชอ่ื บนแผ่นกระดาษปดิ ทับ หรอื ตราประจาคร่ัง หรอื ดนิ เหนียวของกรรมการเก็บรักษาเงิน จะกระทาท่ีประตูห้องม่นั คงหรือกรงเหลก็ แต่ เพียงแหง่ เดียวกไ็ ด้ ข้อ 31 ในวันทาการถัดไป ให้คณะกรรมการเก็บรักษาเงินมอบเงินที่เก็บรักษาไว้ท้ังหมดให้ หัวหน้าหน่วยงานคลัง หรือเจ้าหน้าท่ีการเงินแล้วแต่กรณีรับไปเพื่อดาเนินการนาฝากธนาคารโดยให้ลง ลายมือชอ่ื รบั เงินไว้ในรายงานสถานะการเงนิ ประจาวนั ก่อนวันทาการทรี่ ับเงินไปฝากธนาคาร ข้อ 32 ก่อนเปิดประตูห้องม่นั คง หรือประตูกรงเหล็ก หรือตู้นิรภัย ให้กรรมการเก็บรักษาเงิน ตรวจกุญแจ ลายมือช่ือบนแผ่นกระดาษปิดทับ หรือตราประจาครั่ง หรือดินเหนียวของกรรมการ เมื่อ ปรากฏว่าอย่ใู นสภาพเรยี บร้อยจึงให้เปิดได้ หากปรากฏว่า แผน่ กระดาษปดิ ทับ หรอื ตราประจาครงั่ หรอื ดนิ เหนียวของกรรมการเกบ็ รักษา เงินอยู่ในสภาพไม่เรียบร้อย หรือมีพฤติการณ์อื่นใดที่สงสัยว่าจะมีการทุจริตให้รายงานให้ปลัดองค์กร ปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ ทราบ เพ่ือเสนอผู้บรหิ ารท้องถน่ิ พิจารณาสั่งการ ข้อ 33 ให้หน่วยงานที่มีงบประมาณเฉพาะการ หรือหน่วยงานท่ีได้แยกออกไปทาการรับจ่าย และเกบ็ รกั ษาเงนิ ให้นาข้อกาหนดในการเกบ็ รักษาเงินขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่นมาถือปฏบิ ตั ิ
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยวา่ ด้วยการรบั เงิน การเบกิ จ่ายเงิน การฝากเงนิ การเกบ็ รักษาเงนิ 453 และการตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน พ.ศ. 2547 แกไขเพิ่มเตมิ ฉบบั ที่ 3 พ.ศ. 2558 ส่วนท่ี 4 การรบั สง่ เงิน ขอ้ 34 เงนิ รายรับขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินท่เี ก็บรักษาไวต้ ามข้อ 20 ให้นาฝากธนาคาร ทั้งจานวน ภายในวันนน้ั ถา้ ฝากในวันน้ันไมท่ นั ให้นาฝากตนู้ ริ ภัย และวนั รุง่ ขึ้น หรอื วันทาการถัดไปให้นา ฝากธนาคารทง้ั จานวน ข้อ 35 การรับสง่ เงินขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ ซ่งึ เป็นเงินสดและหรือสถานที่ ทจี่ ะรบั สง่ อยหู่ า่ งไกล หรอื กรณีอืน่ ใดซ่ึงเหน็ วา่ ไมป่ ลอดภัยแก่เงินทรี่ ับส่ง ใหผ้ บู้ รหิ ารทอ้ งถน่ิ แต่งตั้งพนักงานส่วน ท้องถน่ิ ต้งั แตร่ ะดบั สาม หรอื เทียบเทา่ ขึน้ ไปอย่างนอ้ ยสองคนเป็นกรรมการรบั ผิดชอบรว่ มกันควบคมุ การ รบั สง่ เงนิ และจัดใหม้ ีเจา้ หนา้ ท่ีตารวจควบคมุ รักษาความปลอดภยั ดว้ ยก็ได้ การแต่งตัง้ กรรมการตามวรรคหนึง่ ใหท้ าเป็นหนงั สอื และใหม้ ีหลกั ฐานการรบั สง่ เงนิ ระหวา่ งผู้ มอบหรอื ผรู้ บั มอบเงินกบั กรรมการผู้นาสง่ หรอื ผรู้ ับไว้ทุกคร้งั หากกรรมการผู้ใดไมส่ ามารถปฏบิ ตั หิ น้าที่ ตามท่ีไดร้ ับแตง่ ตงั้ ไว้ให้นาความในข้อ 24 มาใชบ้ งั คบั โดยอนุโลม ข้อ 36 ให้คณะกรรมการรบั สง่ เงนิ มีหนา้ ทรี่ บั ผิดชอบรว่ มกันในการควบคุมเงินท่ีนาสง่ โดยให้ ปฏิบัตดิ งั น้ี (1) ตรวจนบั จานวนเงนิ ซึง่ ไดร้ บั มอบหมายใหร้ ับส่งกบั ใบนาสง่ และบนั ทึกการรบั เงนิ เพ่ือนาส่งให้ ถูกต้องตรงกนั แลว้ ลงลายมอื ชอื่ ในบนั ทึกพร้อมกบั ผมู้ อบหรอื ผูร้ บั มอบเงนิ ท้งั สองฉบับโดยให้ คณะกรรมการรับส่งเงินเก็บรกั ษาไว้หนงึ่ ฉบบั มอบใหผ้ ูม้ อบหรอื ผู้รบั มอบเกบ็ ไวเ้ ป็นหลักฐานหนึ่งฉบบั (2) บรรจเุ งนิ ลงหีบห่อใสก่ ญุ แจหรอื ใชเ้ ชอื กผกู มัด และตราประจาครง่ั หรือดินเหนียวของ กรรมการรบั สง่ เงินทกุ คนทเ่ี ชอื กมัดหบี ห่อในลักษณะที่เมอื่ เปิดหีบหอ่ ตราประจาครง่ั หรอื ดินเหนียว จะต้องถูกทาลาย และมอบหีบหอ่ ให้กรรมการซง่ึ เปน็ ผอู้ าวโุ สเพอ่ื นาเงินเดนิ ทางไปสง่ ต่อไป (3) ใหก้ รรมการรบั สง่ เงินพรอ้ มกนั ออกเดนิ ทางไปยงั สถานทร่ี ับสง่ เงนิ ทันทีห้ามมใิ หแ้ ยกยา้ ยจาก กนั หรอื หยุดพกั ระหว่างทางโดยไม่มเี หตผุ ลจาเป็น และเมือ่ ไปถึงสถานที่นาส่งเงินแลว้ ให้รบี นาเงินสง่ ให้ เสรจ็ สน้ิ ภายในวันทาการน้ัน หรอื อยา่ งชา้ ภายในวนั ทาการถดั ไป (4) ก่อนเปดิ หบี ห่อเพอ่ื นาส่งเงิน ใหก้ รรมการรับส่งเงนิ ทุกคนพร้อมกันตรวจสภาพลกู กุญแจและ ตราประจาครง่ั หรือดินเหนยี ว เม่ือปรากฏว่าอยใู่ นสภาพเรยี บรอ้ ยแลว้ จึงให้นาเงนิ ออกสง่ หากปรากฏวา่ หบี หอ่ อย่ใู นลกั ษณะไม่เรยี บรอ้ ย หรอื มพี ฤตกิ ารณ์ชวนใหส้ งสัยวา่ จะมกี ารทุจรติ เงนิ ในหบี หอ่ ให้คณะกรรมการรบั สง่ เงนิ รบี รายงานปลัดองคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ เพื่อนาเสนอผบู้ รหิ าร ท้องถนิ่ พิจารณาสง่ั การตอ่ ไป ส่วนเงนิ ให้คณะกรรมการนาสง่ ให้แลว้ เสรจ็
454 (5) กรณีจานวนเงนิ ที่นาส่งมปี ลอมแปลงจานวนเทา่ ใด ใหค้ ณะกรรมการรบั ส่งเงินนาส่งเงินตาม จานวนท่ีนาสง่ ไดแ้ ละใหบ้ นั ทกึ จานวนเงินปลอมแปลงนัน้ ไวใ้ นบนั ทึกการรบั เงินเพอื่ นาสง่ แลว้ ลงลายมอื ชื่อกรรมการทุกคนพรอ้ มด้วยเจา้ พนกั งานของผรู้ บั เงนิ และเม่ือกลบั ถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว ให้ รายงานปลัดองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ินเพอื่ นาเสนอผบู้ ริหารท้องถิน่ พจิ ารณาส่งั การ (6) เมือ่ คณะกรรมการรบั ส่งเงนิ ไดร้ บั ส่งเงินเสรจ็ เรยี บรอ้ ย และเดินทางกลบั ถึงองค์กรปกครอง สว่ นทอ้ งถิน่ แลว้ ให้รบี มอบคฉู่ บบั ใบนาสง่ เงินหรอื หลกั ฐานการรบั มอบเงินใหห้ นว่ ยงานผู้นาส่งหรอื ขอเบกิ เงนิ ในวนั นัน้ หรืออยา่ งช้าในวนั ทาการถดั ไป และใหห้ วั หนา้ หนว่ ยงานผู้นาสง่ หรือขอเบกิ เงนิ ตรวจสอบ หลกั ฐานการนาส่งเงินหรอื ขอเบกิ เงิน เมือ่ ปรากฏวา่ ถกู ตอ้ งแล้วใหบ้ ันทกึ การรับมอบตอ่ กนั ไว้ ขอ้ 37 การถอนเงินฝากธนาคารขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ หรือหนว่ ยงานท่ไี ดแ้ ยกไปทา การรบั จ่ายและเกบ็ รักษาเงนิ ให้องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ แจ้งเงอื่ นไขการสง่ั จ่ายตอ่ ธนาคารโดยใหผ้ ู้มี อานาจลงนามสั่งจา่ ยเงนิ รว่ มกนั อยา่ งน้อยสามคน ในจานวนน้ีใหม้ ผี บู้ รหิ ารท้องถนิ่ และปลดั องคก์ ร ปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ ลงนามสง่ั จา่ ยด้วยทุกคร้ัง และใหผ้ ู้บริหารท้องถ่ินมอบหมายใหผ้ ชู้ ว่ ยผู้บรหิ ารทอ้ งถ่ิน หรือผู้ดารงตาแหนง่ ไม่ตา่ กว่าหัวหนา้ หน่วยงานอกี หนงึ่ คน และใหม้ อบหมายพนกั งานทอ้ งถนิ่ ตง้ั แตร่ ะดับ สามหรอื เทียบเทา่ ข้ึนไปเพมิ่ อกี หนง่ึ คนในกรณีท่ีไมม่ ผี บู้ รหิ ารท้องถ่ินเป็นผมู้ ีอานาจลงลายมือช่ือถอนเงนิ ฝากรว่ มกัน การถอนเงนิ ฝากของหน่วยงานท่มี งี บประมาณเฉพาะการ หรือหน่วยงานท่ไี ด้แยกออกไปทาการ รับจา่ ยและเก็บรักษาเงิน ผบู้ รหิ ารทอ้ งถ่ินอาจแตง่ ต้ังหัวหนา้ หนว่ ยงานนั้นและพนกั งานส่วนท้องถ่ินตงั้ แต่ ระดบั สามหรอื เทียบเท่าขึน้ ไปอีกหนง่ึ คน เปน็ ผู้มีอานาจลงลายมือช่ือร่วมกนั ถอนเงินฝากของหน่วยงานนน้ั ๆ กรณีการถอนเงนิ ฝากจากคลงั จงั หวดั ให้ปฏิบัตติ ามระเบยี บทก่ี ระทรวงการคลงั กาหนด หมวด 4 การเบกิ เงิน ข้อ 38 กอ่ นการเบกิ จา่ ยเงนิ ตามงบประมาณรายจา่ ยประจาปีหรืองบประมาณรายจ่าย เพิม่ เตมิ ให้หน่วยงานผ้เู บิกย่นื แผนการใชจ้ า่ ยเงนิ ต่อหน่วยงานคลังทุกสามเดือน ในกรณีท่ีมีความจาเปน็ อาจปรับแผนการใช้จา่ ยเงินของหน่วยงานผูเ้ บกิ ได้ตามความเหมาะสม และสอดคลอ้ งกบั ฐานะการคลงั ขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น การจัดทาแผนการใชจ้ ่ายเงนิ ใหเ้ ปน็ ไปตามแบบที่กรมสง่ เสริมการปกครองท้องถ่นิ กาหนด
ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าดว้ ยการรบั เงิน การเบิกจ่ายเงนิ การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน 455 และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ พ.ศ. 2547 แกไขเพ่มิ เตมิ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2558 ข้อ 39 การขอเบิกเงินจากหน่วยงานคลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินตามงบประมาณ รายจ่ายประจาปีงบประมาณใด ให้เบิกได้แต่เฉพาะในปีงบประมาณน้ัน รวมท้ังเงินอุดหนุนที่รัฐบาลให้ องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นโดยระบวุ ัตถุประสงค์เว้นแต่ (1) เปน็ เงินงบประมาณรายจา่ ยทยี่ ังมิไดก้ อ่ หนี้ผูกพนั ในปงี บประมาณน้นั และไดร้ บั อนมุ ัติใหก้ ัน เงินไวต้ อ่ ผู้มีอานาจตามระเบียบแล้ว (2) เป็นงบประมาณรายจ่ายท่ีได้ก่อหน้ีผูกพันไว้ก่อนส้ินปีงบประมาณ และได้รับอนุมัติจาก ผูบ้ ริหารทอ้ งถิ่นให้กนั เงนิ ไปจา่ ยในปงี บประมาณถัดไป (3) กรณมี ีเงินอดุ หนุนทร่ี ัฐบาลให้องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินโดยระบุวัตถปุ ระสงคซ์ ่ึงเบกิ จา่ ยไม่ ทนั ภายในสิน้ ปีงบประมาณที่ผา่ นมา และไดบ้ ันทกึ บัญชีไว้แล้ว ข้อ 40 การเบกิ เงินขององค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ ใหห้ นว่ ยงานผเู้ บิกขอเบกิ กบั หน่วยงานคลัง โดยให้หัวหน้าหน่วยงานผู้เบิกเป็นผู้ลงลายมือชื่อเบิกเงินและให้วางฎีกาตามแบบที่กรมส่งเสริมการ ปกครองท้องถิน่ กาหนด การเบิกเงินต้องมีหลักฐานการเบิกเพ่ือประโยชน์ในการตรวจสอบ และให้ผู้เบิกลงลายมือช่ือ รบั รองความถูกต้องในหลักฐานการเบกิ ที่เปน็ ภาพถา่ ยหรือสาเนาทุกฉบับ ขอ้ 41 ฎีกาเบิกเงนิ จะตอ้ งพมิ พ์จานวนเงินทขี่ อเบกิ ทงั้ ตัวเลขและตวั อกั ษรจะต้องพมิ พ์ใหช้ ดั เจน ห้ามขูดลบ หากผิดพลาดให้แก้ไขโดยวิธีขีดฆ่า แล้วพิมพ์ใหม่ท้งั จานวน แล้วให้ผู้เบิกลงลายมือช่ือรบั รอง การขีดฆา่ น้ันด้วย การพิมพ์จานวนเงินในฎีกาเบิกเงินที่เป็นตัวอักษร ให้พิมพ์จานวนที่ขอเบิกให้ชิดคาว่า “ตวั อกั ษร” หรือขดี เส้นหน้าจานวนเงิน อยา่ ให้มีชอ่ งวา่ งท่จี ะพมิ พ์จานวนเพ่ิมเติมใหส้ ูงขึ้นได้ ข้อ 42 เงินท่ีเบกิ ถ้าไมไ่ ด้จ่ายหรอื จา่ ยไม่หมดใหห้ น่วยงานผู้เบิกนาสง่ คืนหน่วยงานคลังภายใน สบิ หา้ วนั นับจากวันทไี่ ดร้ ับเงินจากหนว่ ยงานคลงั ข้อ 43 การขอเบิกเงินงบประมาณรายจ่าย และหรือเงินอุดหนุนท่ีรัฐบาลให้โดยระบุ วัตถุประสงค์ปีใด ให้วางฎีกาเบกิ เงินได้จนถึงวันทาการสุดทา้ ยของปีนั้นในกรณีทไ่ี ด้มกี ารกันเงนิ ไว้ใหว้ าง ฎีกาไดจ้ นถึงวนั ทาการสดุ ทา้ ยของระยะเวลาทกี่ ันเงนิ ข้อ 44 เงินประเภทใดซึ่งโดยลกั ษณะจะตอ้ งจา่ ยประจาเดือนในวันส้นิ เดือน ให้วางฎีกาภายใน วนั ท่ยี ส่ี ิบห้าของเดอื นนั้น ข้อ 45 การเบิกเงินซึ่งมีลักษณะเป็นค่าใช้จ่ายประจา และมีการเรียกเก็บเป็นงวด ๆหรือ ค่าใช้จ่ายอ่ืน ๆ ตามประเภทท่ีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นกาหนด ให้ถือว่าค่าใช้จ่ายน้ันเกิดขนึ้ เม่ือ
456 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รบั แจง้ ให้ชาระหนแี้ ละให้นามาเบิกจา่ ยจากงบประมาณรายจ่ายประจาปีที่ ไดร้ บั แจ้งให้ชาระหนไี้ ด้ ข้อ 46[11] การเบิกเงนิ เดอื น ค่าจ้าง บาเหนจ็ บานาญ เงนิ ประจาตาแหน่ง เงนิ เพิ่มเงินประโยชน์ ตอบแทนอน่ื เงนิ ช่วยเหลอื และเงินอืน่ ในลักษณะเดียวกนั ใหเ้ ปน็ ไปตามกฎหมายระเบยี บ ข้อบังคบั คาส่งั หรือหนงั สอื สั่งการของกระทรวงมหาดไทย ข้อ 47 การซื้อ เช่าทรัพย์สนิ หรือจ้างทาของ ให้หน่วยงานผเู้ บิกรีบดาเนินการวางฎีกาเบิกเงนิ โดยเร็วอยา่ งชา้ ไมเ่ กินหา้ วนั นับจากวนั ท่ไี ดต้ รวจรบั ทรพั ยส์ นิ หรือตรวจรับงานถกู ต้อง ข้อ 48 เว้นแต่กรณีที่กาหนดไว้ในข้อ 51 และข้อ 52 การเบิกเงินเพ่ือจ่ายเปน็ ค่าซ้ือทรัพยส์ นิ หรือจ้างทาของ ให้มเี อกสารประกอบฎีกา ดงั นี้ (1) สัญญาซื้อทรพั ยส์ นิ หรือจา้ งทาของหรอื เอกสารอน่ื อนั เปน็ หลกั ฐานแห่งหนี้เช่นหลกั ฐานการ ส่ังซือ้ หรอื สั่งจา้ ง (2) ใบแจ้งหน้ีหรอื ใบส่งมอบทรพั ย์สินหรอื มอบงาน (3) เอกสารแสดงการตรวจรับทรัพย์สิน หรือตรวจรับงานเอกสารหลักฐานดัง กล่าวจะใช้ ภาพถา่ ยหรือสาเนาซ่งึ ผเู้ บิกลงลายมอื ช่อื รบั รองกไ็ ด้ ข้อ 49 การเบิกเงินเพ่ือจ่ายล่วงหน้าตามสัญญาซื้อทรัพย์สิน หรือจ้างทาของให้มีสัญญาซ้ือ ทรพั ยส์ นิ หรอื จา้ งทาของ หรอื หลกั ฐานอน่ื ซ่งึ แสดงว่าใกล้จะถงึ กาหนดจา่ ยเงนิ แลว้ ประกอบฎีกาดว้ ย ซึ่งจะ เป็นภาพถา่ ยหรือสาเนาซ่ึงผู้เบกิ ลงลายมือชื่อรบั รองกไ็ ด้ ขอ้ 50 การเบิกเงนิ เพอ่ื จา่ ยเปน็ คา่ ซื้อทรพั ย์สินหรอื จา้ งทาของ ซงึ่ เปน็ การซอื้ หรือจา้ งโดยวธิ ีตก ลงราคาตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุ ให้แสดงรายการทรัพย์สนิ และจานวนเงนิ เป็น รายประเภทประกอบฎีกาขอเบิกเงิน ข้อ 51 การเบิกเงินเพ่อื จา่ ยเปน็ คา่ ซ้ือทีด่ ิน ใหม้ ีสญั ญาจะซื้อจะขาย หรอื สญั ญาซอื้ ขายประกอบ ฎกี าดว้ ย ซึ่งจะเป็นภาพถา่ ยหรือสาเนาซ่งึ ผเู้ บิกลงลายมอื ชื่อรับรองก็ได้ ขอ้ 52 การเบกิ เงนิ ในหมวดคา่ ตอบแทน ใชส้ อยและวสั ดุให้ทาการเบิกจา่ ยไดต้ ามงบประมาณท่ี ได้รับอนุมัติและให้มีหลักฐานแสดงว่าเงินจานวนที่ขอเบิกนี้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์และเป็นไปตาม กฎหมาย ระเบยี บ ข้อบงั คบั คาส่งั หรือหนงั สอื ส่ังการกระทรวงมหาดไทย ข้อ 53 การเบิกเงินรายจ่ายงบกลางเป็นค่าใช้จ่ายอย่างใด ให้ปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบ ขอ้ บงั คับ คาสัง่ หรอื หนงั สือสัง่ การกระทรวงมหาดไทย
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการรบั เงนิ การเบิกจ่ายเงนิ การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน 457 และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ พ.ศ. 2547 แกไขเพมิ่ เตมิ ฉบบั ท่ี 3 พ.ศ. 2558 ขอ้ 54 การเบกิ เงนิ ในหมวดเงินอดุ หนุนทอี่ งค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นมไิ ด้ดาเนินการเอง และได้ ต้ังงบประมาณเพื่อการนั้นตามระเบียบไว้แล้ว ให้ดาเนินการได้ตามงบประมาณท่ีได้รับอนุมัติ ทั้งน้ีการ ก่อให้เกิดหนี้และการเบิกเงินต้องปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ คาส่ัง หรือหนังสือส่ังการ กระทรวงมหาดไทย ข้อ 55 การเบิกเงินนอกงบประมาณให้เป็นไปตามวิธีการที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถ่ิน กาหนด ข้อ 56 คา่ ใชจ้ า่ ยท่เี ปน็ รายจ่ายประจาท่เี กิดขน้ึ ในปใี ด ให้เบิกจากงบประมาณรายจา่ ยในปนี น้ั ไป จ่าย เงินท่เี บกิ ไปเพอ่ื จา่ ยให้ยมื ถ้าจาเป็นต้องจ่ายติดตอ่ คาบเกยี่ วไปถงึ ปงี บประมาณใหม่จะเบิกเงิน ล่วงหน้าจากปีปัจจุบันไปจ่ายสาหรับระยะเวลาในปีใหม่ก็ได้โดยให้ถือว่าเป็นรายจ่ายของปีท่ีเบิกเงิน งบประมาณ ดังต่อไปน้ี (1) คา่ ใช้จ่ายในการเดนิ ทางไปราชการไม่เกินหกสบิ วัน (2) สาหรบั ปฏบิ ตั ิราชการอน่ื ๆ ไม่เกินสิบห้าวัน หมวด 5 การกันเงนิ ข้อ 57 กรณีท่ีองค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ ได้ก่อหน้ผี กู พันไว้ก่อนส้ินปีโดยสั่งซ้อื หรอื สง่ั จ้างหรอื การเช่าทรพั ย์สิน ถา้ เห็นวา่ การเบกิ เงินไปชาระหนผ้ี ูกพันไมท่ ันส้นิ ปีให้ผู้บรหิ ารทอ้ งถ่นิ อนมุ ัติให้กันไว้เบิก ในปถี ดั ไปไดอ้ กี ไม่เกินระยะเวลาหน่งึ ปี หากดาเนินการตามวรรคหน่ึงไม่แล้วเสร็จ ให้ขอขยายเวลาเบิกจ่ายเงินต่อสภาทอ้ งถิ่นได้อีกไม่ เกนิ หกเดือน ข้อ 58 ให้วางฎีกากันเงนิ ตามแบบทกี่ รมส่งเสรมิ การปกครองส่วนท้องถ่ินกาหนดกอ่ นวันส้นิ ปี อย่างน้อยสามสิบวัน เว้นแต่มีเหตุผลสมควร ผู้บริหารท้องถ่ินอาจพิจารณาอนุมตั ิให้ขยายเวลา ย่ืนขอกัน เงนิ ไดไ้ ม่เกนิ วนั ทาการสุดท้ายของปีน้นั ขอ้ 59 ในกรณีท่ีมีรายจา่ ยหมวดค่าครภุ ัณฑ์ที่ดนิ และสง่ิ ก่อสรา้ ง ยงั มิไดก้ ่อหนผ้ี กู พัน แตม่ คี วาม จาเป็นจะตอ้ งใชจ้ ่ายเงนิ นนั้ ตอ่ ไปอกี ใหอ้ งคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่นรายงานขออนมุ ัตกิ นั เงนิ ต่อสภาทอ้ งถน่ิ ได้อกี ไม่เกินระยะเวลาหนง่ึ ปี
458 หากองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินยังมิได้ดาเนินการกอ่ หนผ้ี ูกพันตามเงื่อนไขในวรรคหน่ึง ให้ขอ อนุมัติขยายเวลาเบิกจ่ายเงินได้ไม่เกินอีกหนึ่งปีต่อสภาท้องถิ่น หรือกรณีมีความจาเป็นต้องแก้ไข เปลี่ยนแปลงรายการดังกลา่ วที่ทาใหล้ ักษณะ ปริมาณ คุณภาพเปลี่ยน หรือเปลย่ี นแปลงสถานทีก่ ่อสรา้ ง ให้ขออนมุ ัติเปลยี่ นแปลงและหรือขยายเวลาเบิกจา่ ยเงินได้ไมเ่ กนิ อีกหนึ่งปตี อ่ สภาท้องถ่ินแล้วแตก่ รณี กรณเี ม่ือสิ้นสดุ ระยะเวลาการกันเงนิ และขยายเวลาเบกิ จา่ ยเงินแลว้ หากไมไ่ ด้ดาเนนิ การหรือมี เงินเหลือจ่ายจากเงินดังกลา่ ว ใหเ้ งนิ จานวนนัน้ ตกเป็นเงนิ สะสม ข้อ 59/1[12] รายจ่ายเงินเดือน ค่าจ้าง บาเหน็จบานาญ เงินประจาตาแหน่ง เงินเพ่ิมเงิน ประโยชน์ตอบแทนอื่น เงินช่วยเหลือและเงนิ อื่นในลักษณะเดียวกัน หากเบิกเงินไม่ทันส้นิ ปแี ละมีความ จาเปน็ ต้องใชจ้ า่ ยเงนิ นั้นต่อไปอีก ใหผ้ บู้ รหิ ารทอ้ งถิ่นอนมุ ตั ใิ หก้ นั เงินได้ไม่เกนิ เก้าสิบวัน หมวด 6 การตรวจและการอนุมตั ิฎีกา ข้อ 60 ให้หวั หนา้ หนว่ ยงานคลังหรือเจ้าหน้าทกี่ ารเงนิ ทไ่ี ด้รับมอบหมายเปน็ ผูต้ รวจฎีกา การตรวจฎีกาตามวรรคหนงึ่ เมื่อถูกตอ้ งในสาระสาคัญตอ่ ไปนแ้ี ล้ว ให้เสนอผู้มีอานาจเพื่ออนมุ ตั ิ ฎีกา (1) มีลายมือช่อื ของผูเ้ บิกเงนิ ถูกตอ้ งตามตัวอย่าง (2) มีหน้ีผกู พนั หรือมคี วามจาเปน็ ทีจ่ ะตอ้ งจ่ายเงนิ กบั ถึงกาหนดหรือใกล้จะถึงกาหนดที่จะตอ้ ง จ่ายเงนิ (3) มเี งินงบประมาณเพยี งพอรายการถูกตอ้ งตรงกับหมวดและประเภทในงบประมาณ (4) มีเอกสารประกอบฎีกาครบถ้วนถูกตอ้ ง ข้อ 61 ฎีกาหรือเอกสารประกอบฎกี าฉบับใดไม่ถกู ต้องในสาระสาคญั ตามข้อ 60ใหผ้ ู้ตรวจฎีกา แจ้งให้ผู้เบิกทราบ เพื่อดาเนินการแก้ไข ถ้าผู้เบิกไม่แก้ไขให้ถูกต้องภายในสามวันทาการนับจากวันทไ่ี ด้ รับทราบ ให้ผ้ตู รวจฎีกาคืนฎีกา ในกรณีท่ีฎีกามีข้อผดิ พลาดเล็กนอ้ ย ซ่ึงมิใช่สาระสาคัญหรอื จานวนเงินท่ีขอเบกิ ผตู้ รวจฎกี าจะ แกไ้ ขให้ถกู ต้องแลว้ แจ้งใหผ้ ูเ้ บกิ ทราบกไ็ ด้
ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการรบั เงนิ การเบิกจา่ ยเงิน การฝากเงนิ การเก็บรักษาเงนิ 459 และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ พ.ศ. 2547 แกไขเพมิ่ เตมิ ฉบบั ที่ 3 พ.ศ. 2558 ข้อ 62 ฎีกาที่ตรวจถูกต้องแล้วตามข้อ 60 ให้หัวหน้าหน่วยงานคลัง หรือเจ้าหน้าที่การเงนิ ท่ี ได้รับมอบหมายนาเสนอผบู้ รหิ ารท้องถนิ่ หรือผ้ทู ี่ผูบ้ ริหารทอ้ งถิน่ มอบหมายเป็นผ้อู นมุ ตั ิฎกี า ข้อ 63 การอนมุ ัติฎกี าจะกระทาไดเ้ มอื่ สาระสาคัญถูกต้องตามท่ีกาหนดไว้ในขอ้ 60 และผตู้ รวจ ฎีกาไดล้ งลายมอื ชื่อตรวจฎีกานั้นแล้ว ในกรณีทีผ่ ูอ้ นมุ ัติมเี หตผุ ลสมควร จะอนุมตั ิฎกี าเปน็ เงนิ จานวนตา่ กวา่ ทขี่ อเบกิ ก็ได้ ข้อ 64 การอนุมัติฎีกาเบิกเงินเพื่อจ่ายเป็นค่าซ้ือทรัพย์สินหรือจ้างทาของ ในกรณีท่ีไม่มีเหตุ ทักท้วง ให้ดาเนินการให้เสร็จภายในสามวันทาการนับถัดจากวันรับฎีกา ในกรณีที่มีเหตุทักท้วงให้ ดาเนนิ การใหเ้ สร็จภายในสามวันทาการนบั ถดั จากวันท่ีผเู้ บิกได้แกไ้ ขถูกตอ้ งแลว้ ข้อ 65 เม่ือผู้มีอานาจอนุมัติในฎีกาเบกิ เงิน ให้องค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ บันทึกลงในสมุดเงิน สดตามแบบทก่ี รมส่งเสรมิ การปกครองทอ้ งถ่นิ กาหนด ข้อ 66 เมื่อหน่วยงานท่ีมงี บประมาณเฉพาะการ หรือหน่วยงานทไ่ี ด้แยกออกไปทาการรบั จา่ ย และเก็บรกั ษาเงิน ได้รับแจ้งรายการหนหี้ รือทารายการคานวณเงินค่าจ้างแรงงานแลว้ ให้จดั แยกประเภท การจ่ายส่งหน่วยงานคลงั เพ่อื ตรวจสอบและนาเสนอผมู้ ีอานาจอนมุ ตั ฎิ กี าตามข้อ 62 เพ่ือขออนมุ ตั ิจ่ายเงนิ ตามรายการนั้น ๆ หมวด 7 ขอ้ กาหนดในการจา่ ยเงนิ ส่วนที่ 1 การจา่ ยเงิน ขอ้ 67 องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินจะจ่ายเงินหรือก่อหน้ผี ูกพันได้แตเ่ ฉพาะทกี่ ฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บังคบั หรอื หนงั สอื ส่งั การทก่ี ระทรวงมหาดไทยกาหนดไว้ ข้อ 68 การจ่ายเงินให้แกเ่ จ้าหน้ีหรอื ผ้มู ีสิทธใิ หจ้ า่ ยเปน็ เชค็ กรณีจาเป็นท่ไี ม่อาจจ่ายเป็นเช็คได้ ให้จัดทาใบถอนเงนิ ฝากธนาคารเพ่ือให้ธนาคารออกตั๋วแลกเงินส่งั จ่ายให้เจา้ หนี้หรือผู้มีสิทธิการจ่ายเงิน ผ่านธนาคารใหเ้ ปน็ ไปตามวธิ ีการท่ีกรมส่งเสรมิ การปกครองทอ้ งถ่นิ กาหนด ขอ้ 69 การเขยี นเชค็ ส่งั จา่ ยใหป้ ฏิบัติดังนี้
460 (1) การจ่ายเงินให้เจา้ หนี้ในกรณีซือ้ หรอื เช่าทรัพยส์ ิน หรือจ้างทาของให้ออกเช็คสั่งจา่ ยในนาม ของเจ้าหนขี้ ดี ฆา่ คาวา่ “หรอื ตามคาสั่ง” หรือ “หรอื ผู้ถอื ” ออกและขีดครอ่ มดว้ ย (2) การจ่ายเงินตามสิทธิท่ีพึงจะได้รับให้แก่เจ้าหนี้หรือผู้มีสิทธิรับเงิน หากมีความ จาเป็นท่ี จะต้องส่งั จ่าย เพ่อื ขอรบั เงินสดมาจ่ายให้กระทาได้ในการจ่ายเงนิ ที่มวี งเงินต่ากวา่ สองพนั บาทโดยให้ออก เช็คสั่งจา่ ยในนามหวั หนา้ หน่วยงานคลงั หรือกรณีที่ไม่มีหัวหนา้ หน่วยงานคลงั หรือมแี ต่ไมส่ ามารถปฏิบัติ หน้าที่ไดใ้ หผ้ บู้ ริหารท้องถนิ่ แตง่ ตัง้ พนกั งานส่วนทอ้ งถ่นิ ตัง้ แต่ระดบั สาม หรอื เทียบเทา่ ข้ึนไป และขีดฆา่ คา ว่า “หรือตามคาสงั่ ” หรอื “หรือผถู้ ือ” ออก ห้ามออกเชค็ สั่งจา่ ยเงนิ สด (3) หากเจ้าหน้ีหรอื ผู้มีสทิ ธริ บั เงนิ ไม่มารบั เช็คภายในสิบห้าวันนับตงั้ แต่วันส่งั จา่ ยให้ยกเลกิ เชค็ นัน้ หากมีการยกเลกิ เชค็ ดังกลา่ วเกินสามครงั้ ต้องรายงานเหตุผลให้ผบู้ รหิ ารทอ้ งถ่ินทราบ ขอ้ 70 การเขียนหรอื พิมพ์จานวนเงินในเช็คทเ่ี ป็นตัวอักษรอย่าให้มีชอ่ งว่างท่จี ะเขียนหรือพิมพ์ จานวนเงนิ เพิ่มเติมได้และใหข้ ีดเส้นตรงหลังชื่อสกุล ช่ือบริษัท หรือหา้ งหนุ้ ส่วน จนชิดคาว่า “หรือผถู้ ือ” หรอื “หรือตามคาส่งั ” แลว้ แตก่ รณีโดยมใิ ห้มีการเขยี นหรือพิมพ์ช่อื บุคคลอ่ืนเพ่ิมเติมไดอ้ กี ขอ้ 71 การจา่ ยเงินทุกกรณถี ้าผจู้ า่ ยมหี น้าท่ีตามกฎหมายทจ่ี ะตอ้ งหกั ภาษีใด ๆ ไวณ้ ทจ่ี ่ายเพอ่ื นาส่งสว่ นราชการใด ให้ดาเนินการตามกฎหมายนั้น ข้อ 72 เงินท่ีขอเบิกจากหน่วยงานคลังเพ่ือการใด ให้นาไปจา่ ยได้เฉพาะเพื่อการนัน้ เท่าน้ัน จะ นาไปจ่ายเพ่อื การอ่ืนไม่ได้ ส่วนที่ 2 หลักฐานการจ่ายเงิน ขอ้ 73 การจ่ายเงนิ ให้แก่เจา้ หน้ีหรอื ผมู้ ีสทิ ธริ ับเงินทุกรายการ จะตอ้ งมีหลกั ฐานการจา่ ยไว้เพ่ือ ประโยชนใ์ นการตรวจสอบ ข้อ 74 หลักฐานการจา่ ยเงินจะตอ้ งพิมพ์หรอื เขยี นด้วยหมกึ การแก้ไขหลักฐานการจ่ายให้ขดี ฆา่ แล้วพิมพ์หรอื เขยี นใหมแ่ ล้วใหผ้ รู้ ับเงินลงลายมือชอื่ กากับไว้ทุกแหง่ ข้อ 75 ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินเก็บรักษาหลักฐานการจ่ายซึ่งสานักงานการตรวจเงิน แผน่ ดนิ ยงั ไมไ่ ดต้ รวจสอบไวใ้ นทป่ี ลอดภัย อยา่ ให้ชารุด สูญหาย หรอื เสียหายไดแ้ ละเม่ือไดต้ รวจสอบแล้ว ก็ให้เก็บอย่างเอกสารธรรมดา
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยวา่ ด้วยการรบั เงนิ การเบิกจา่ ยเงนิ การฝากเงิน การเกบ็ รักษาเงนิ 461 และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ พ.ศ. 2547 แกไขเพิ่มเตมิ ฉบับท่ี 3 พ.ศ. 2558 ข้อ 76 ใบสาคัญคู่จ่ายที่เป็นใบเสร็จรับเงินซึ่งผู้รับเงินออกให้อย่างน้อยจะต้องมีรายการ ดงั ต่อไปน้ี (1) ช่อื สถานทีอ่ ยหู่ รอื ท่ีทาการของผู้รับเงนิ (2) วนั เดอื น ปที ่ีรบั เงนิ (3) รายการแสดงการรบั เงนิ และระบุวา่ เปน็ คา่ อะไร (4) จานวนเงนิ ทัง้ ตวั เลขและตวั อักษร (5) ลายมอื ช่ือพรอ้ มทั้งมีตวั บรรจงช่ือและชื่อสกลุ ของผู้รบั เงิน ถา้ ผู้รบั เงินลงลายมอื ชื่อไมไ่ ดใ้ ห้ใช้ลายพิมพน์ ิว้ มือ ห้ามมใิ หใ้ ชแ้ กงไดหรือเคร่อื งหมายอ่ืนทานอง เช่นว่านนั้ แทนการลงลายมอื ชอ่ื ข้อ 77 ให้ผู้จ่ายเงินลงลายมือชื่อรับรองการจ่ายพร้อมทั้งมีชื่อสกุลด้วยตัวบรรจงกากับไว้ใน หลกั ฐานการจา่ ยเงินให้แกเ่ จ้าหน้ีหรอื ผรู้ ับเงินเพอื่ เปน็ ประโยชน์ในการตรวจสอบ และกรณีท่ีเป็นใบสาคัญ คูจ่ า่ ยใหห้ วั หน้าหน่วยงานคลังลงลายมือช่อื รบั รองความถูกต้องกากบั ไว้ด้วย ในกรณีที่ใบสาคญั คู่จา่ ยเป็นภาษาต่างประเทศ ให้มีคาแปลเปน็ ภาษาไทยตามสาระสาคญั ในข้อ 76 ไวด้ ้วย ข้อ 78 การจ่ายเงิน ถ้าผู้มีสิทธิรับเงินไม่สามารถรับเงินด้วยตนเองได้จะมอบฉันทะใหผ้ ู้อน่ื เปน็ ผู้รบั แทน เม่ือไดร้ ับอนญุ าตจากหวั หนา้ หน่วยงานคลังแล้วก็ใหก้ ระทาได้ แบบใบมอบฉนั ทะรับเงนิ ใหเ้ ป็นไปตามแบบท่กี รมส่งเสรมิ การปกครองทอ้ งถนิ่ กาหนด ข้อ 79 การจ่ายเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในต่างประเทศ ซึ่งกฎหมายหรือประเพณี นิยมของประเทศนั้น ๆ ไม่ต้องออกใบเสร็จรับเงิน หรือออกใบเสร็จรับเงินไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ กาหนดไวใ้ นขอ้ 76 ให้ผูจ้ ่ายเงินทาใบรบั รองการจา่ ยเงนิ โดยระบวุ ่าเป็นการจ่ายเงนิ คา่ อะไร เมอ่ื วนั เดอื น ปีใด จานวนเท่าใด และให้ลงลายมือช่ือรับรองการจ่ายไว้เช่นเดียวกับท่ีกาหนดในข้อ 77 ในกรณีที่มี หลักฐานการรับเงนิ เป็นอย่างอนื่ ก็ใหแ้ นบหลักฐานน้ันไปพรอ้ มกบั ใบรับรองเพอ่ื ตรวจสอบดว้ ย ข้อ 80 การจ่ายเงินรายใดซึ่งตามลักษณะไม่อาจเรียกใบเสร็จรับเงินจากผู้รับชาระเงินได้ให้ผู้ จ่ายเงินทาใบรับรองการจ่ายเงินได้โดยให้บันทึกชี้แจงเหตุผลท่ีไม่อาจเรียกใบเสร็จรับเงินได้เพ่ือ ประกอบการพจิ ารณาดว้ ย ขอ้ 81 การจ่ายเงนิ ต่อไปนใ้ี ห้ผ้จู ่ายเงินทาใบรบั รองการจา่ ยเงนิ โดยไม่ต้องทาบันทึกชแี้ จงเหตผุ ล ตามขอ้ 80
462 (1) การจ่ายเงนิ รายหน่งึ ๆ เป็นจานวนไม่ถงึ สบิ บาท (2) การจา่ ยเงนิ ค่ารถ หรอื เรอื น่ังรบั จา้ ง (3) การจ่ายเงินเปน็ คา่ โดยสารรถไฟ รถยนตป์ ระจาทาง หรอื เรือยนต์ประจาทาง ขอ้ 82 ในกรณีทีใ่ บสาคัญคูจ่ ่ายสญู หาย ใหป้ ฏบิ ตั ิดงั นี้ (1) ถ้าใบสาคัญคู่จ่ายเป็นใบเสรจ็ รับเงินสญู หาย ให้ใช้สาเนาใบเสร็จรับเงินซ่ึงผรู้ ับเงิน รับรอง แทนกไ็ ด้ (2) ถ้าใบสาคัญคู่จ่ายทเ่ี ป็นใบเสร็จรับเงนิ สญู หาย หรือไม่อาจขอสาเนาใบเสร็จรบั เงนิ ตาม (1) ไดใ้ ห้ผจู้ า่ ยเงินทาใบรบั รองการจา่ ยเงิน โดยช้แี จงเหตผุ ลพฤตกิ ารณท์ ใ่ี บสาคญั คจู่ า่ ยสญู หายและไม่อาจขอ สาเนาใบเสรจ็ รบั เงินน้ันได้พร้อมท้ังคารับรองว่ายังไม่เคยนาใบสาคัญคู่จ่ายมาเบิกจ่ายและหลกั ฐานการ แจ้งความใบสาคัญคู่จ่ายหายจากพนักงานเจา้ หน้าที่ผู้มีอานาจรบั แจ้งถา้ หากค้นพบภายหลังก็จะไม่นามา เบิกจ่ายอีก เสนอตอ่ ผู้บงั คบั บัญชาตามลาดบั เม่ือได้รับอนุมตั แิ ลว้ ก็ใหใ้ ชใ้ บรับรองน้ันเปน็ ใบสาคญั คู่จา่ ยได้ ข้อ 83 ห้ามมิให้ผู้มีหน้าที่จ่ายเงินเรียกใบสาคัญคู่จ่ายหรือให้ผู้รับเงินลงลายมือช่ือรับเงินใน หลกั ฐานการจ่ายเงิน โดยท่ยี งั มิไดม้ ีการจ่ายเงินใหแ้ กเ่ จา้ หนีห้ รือผ้มู สี ิทธิรับเงนิ สว่ นที่ 3 การจา่ ยเงนิ ยมื ข้อ 84 การจ่ายเงินยืมจะจ่ายไดแ้ ต่เฉพาะทผ่ี ้ยู ืมได้ทาสัญญาการยืมเงนิ ตามแบบทีก่ รมสง่ เสริม การปกครองท้องถิ่นกาหนด และผบู้ รหิ ารทอ้ งถ่นิ ไดอ้ นุมัตใิ ห้จา่ ยเงินยมื ตามสัญญาการยืมแล้วเทา่ นนั้ โดย จะต้องเปน็ ไปตามเงอ่ื นไข ดงั ตอ่ ไปนี้ (1) มงี บประมาณเพ่ือการน้นั แล้ว (2) ผู้ยืมได้ทาสัญญาการยืมเงินและรับรองว่าจะปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ หรือคาสั่งท่ีได้ กาหนดไว้สาหรบั เรื่องน้นั และจะนาใบสาคญั คู่จ่ายทีถ่ ูกต้องรวมทง้ั เงินเหลอื จา่ ย ส่งคืนตามที่กาหนดในขอ้ 86 ถ้าไม่ส่งตามกาหนดก็จะชดใช้เงินหรือยินยอมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหักเงินเดือน ค่าจ่าง บาเหนจ็ บานาญ หรอื เงินอน่ื ใดอนั จะพึงไดร้ บั จากองคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ ชดใช้เงนิ ยมื น้ัน
ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการรบั เงนิ การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงนิ การเก็บรกั ษาเงิน 463 และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองส่วนท้องถิน่ พ.ศ. 2547 แกไขเพิม่ เตมิ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2558 กรณีท่ผี ยู้ มื ไม่มีเงนิ ใด ๆ อันจะพงึ ได้รบั จากองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ ที่จะหกั สง่ ใชเ้ งินยมื ไดใ้ ห้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกาหนดใหผ้ ยู้ ืมหาหลักทรัพย์มาวางเปน็ ประกัน หรือหาบคุ คลที่มหี ลกั ฐานมา ทาสัญญาคา้ ประกันไวต้ ่อองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ด้วย (3) ผู้ยืมแต่ละรายจะต้องไม่มีเงินยืมค้างชาระแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และให้ยืมได้ เฉพาะผู้มีหน้าทต่ี อ้ งปฏิบตั งิ านน้ัน ๆ ให้องคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่ และหา้ มยืมแทนกัน (4) กรณีครบกาหนดการส่งใช้เงินยืมแลว้ ผยู้ ืมยังไม่ชดใช้เงนิ ยืม ให้ผู้บริหารทอ้ งถ่ินมีอานาจสง่ั การให้ผู้ค้างชาระเงนิ ยืมสง่ ใชเ้ งินยืมภายในกาหนดเวลาตามทเี่ ห็นสมควร อย่างช้าไม่เกนิ สามสิบวัน ถ้าผู้ ยืมขัดขืนหรือหลีกเล่ียงไมย่ อมชดใช้เงินยืมให้นาความใน (2) มาใช้บังคับ แล้วรายงานให้บริหารท้องถ่นิ ทราบ (5)[13] ในกรณีท่ีผู้ยืมจะต้องพ้นจากตาแหน่งหรือพ้นจากการปฏิบตั ิงานให้แก่องค์กรปกครอง สว่ นทอ้ งถ่ินไมว่ า่ กรณีใด ๆ ใหห้ ัวหนา้ หน่วยงานคลงั มหี นา้ ทตี่ รวจสอบทะเบียนเงนิ ยืมของบคุ คลดงั กล่าว หากปรากฏว่ายังค้างชาระเงนิ ยืมอยู่ ให้หัวหน้าหน่วยงานคลังเร่งรดั ให้เสร็จส้ินในทันทีกอ่ นทผ่ี ู้ยมื จะตอ้ ง พ้นจากตาแหน่งหนา้ ทไี่ ปหรือพน้ จากการปฏบิ ัติงานให้แก่องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ ไป ในกรณที ผ่ี ู้ยมื ถึง แก่กรรมหรือไมย่ ินยอมชดใชเ้ งนิ ยืมให้นาความใน (2) มาใช้บังคับโดยอนโุ ลม (6) การส่งเงนิ ใช้ยมื ใหห้ ัวหนา้ หนว่ ยงานคลงั ปฏิบตั ิดังน้ี (ก) หมายเหตุจานวนเงินและวนั เดือน ปีทสี่ ่งใชใ้ นสัญญาการยมื เงนิ (ข) ต้องเกบ็ รักษาสญั ญาการยืมเงินน้นั เปน็ เอกสารสาคัญในราชการ (ค) ถ้ารบั คืนเป็นเงินสด ให้ออกใบเสรจ็ รับเงินใหแ้ ก่ผยู้ ืมไวเ้ ป็นหลักฐาน (ง) ให้บันทึกรายการส่งใช้เงินยืมในทะเบยี นเงินยืมไว้ด้วย โดยให้ผู้ยืมลงชื่อในทะเบยี น เงินยมื สาหรับรายการท่สี ่งใช้นั้น ข้อ 85 สัญญาการยมื เงนิ สญั ญาวางหลักทรัพย์และสญั ญาคา้ ประกนั ให้ใชต้ ามแบบและวิธีการ ท่กี รมส่งเสรมิ การปกครองทอ้ งถน่ิ กาหนด ขอ้ 86 เงนิ ทยี่ ืมไป ใหผ้ ยู้ ืมสง่ ใบสาคัญและเงนิ ท่เี หลือจา่ ย (ถา้ มี) ภายในกาหนดระยะเวลา ดงั น้ี (1) กรณีเดินทางไปประจาต่างสานักงานหรือกรณีเดินทางกลบั ภูมิลาเนาเดิม ให้ส่งต่อองค์กร ปกครองส่วนทอ้ งถ่ินท่ีจา่ ยเงินใหย้ ืม โดยทางไปรษณีย์ลงทะเบยี นหรือธนาณัติแลว้ แตก่ รณภี ายในสามสิบ วนั นบั จากวนั ทไี่ ด้รบั เงิน (2) กรณีเดินทางไปราชการอื่น ให้ส่งตอ่ องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นผู้ใหย้ ืมภายในสบิ ห้าวันนบั จากวนั กลับมาถงึ
464 (3) การยมื เงนิ เพอ่ื ปฏิบัตริ าชการนอกจากตาม (1) หรือ (2) ให้สง่ ตอ่ องคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ ผู้ให้ยมื ภายในสามสบิ วนั นบั จากวันท่ไี ด้รบั เงนิ ในกรณีท่ีผู้ยืมได้ส่งใบสาคัญคู่จา่ ยหักล้างเงินยืมแลว้ มีเหตุต้องทักท้วง ให้องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นผู้ให้ยืมแจ้งข้อทักทว้ งใหผ้ ู้ยืมทราบโดยด่วน แล้วให้ผู้ยืมปฏิบัติตามคาทักทว้ งภายในสิบห้าวันนับ จากวันท่ีได้รับคาทักท้วง หากผู้ยืมมิได้ดาเนนิ การตามคาทักท้วงและมไิ ด้ช้ีแจงเหตุผลใหอ้ งค์กรปกครอง ส่วนทอ้ งถ่นิ ผู้ให้ยืมทราบ ก็ให้องค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ ดาเนินการตามเงอื่ นไขในสญั ญาการยืมเงิน โดย ถอื ว่าผนู้ ั้นยงั มไิ ดส้ ง่ ใช้เงนิ ยมื เท่าจานวนที่ทกั ท้วงนัน้ หมวด 8 เงนิ สะสม ข้อ 87 ทุกวันสิ้นปีงบประมาณ เมื่อองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่นได้ปดิ บญั ชีรายรบั รายจา่ ยแลว้ ให้กันยอดเงินสะสมประจาปีไว้ร้อยละย่ีสบิ ห้าของทุกปีเพื่อเป็นทุนสารองเงนิ สะสมโดยที่ทุนสารองเงิน สะสมนี้ใหเ้ พ่มิ ข้นึ รอ้ ยละยส่ี บิ ห้าของทกุ ปี การจา่ ยเงนิ ทุนสารองเงนิ สะสมจะกระทาได้ตอ่ เม่ือยอดเงินสะสมในสว่ นทีเ่ หลอื มไี ม่เพยี งพอต่อ การบริหาร ใหข้ อความเห็นชอบจากสภาทอ้ งถิน่ และขออนุมตั ิผูว้ า่ ราชการจงั หวดั ในกรณีทีป่ ใี ด องค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ มยี อดเงนิ ทนุ สารองเงนิ สะสมเกนิ รอ้ ยละยสี่ ิบห้าของ งบประมาณรายจ่ายประจาปีน้ัน หากมีความจาเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาจนายอดเงินส่วนท่ี เกนิ ไปใช้จ่ายได้โดยได้รบั อนุมัติจากสภาท้องถิน่ ภายใต้เงือ่ นไขขอ้ 89 (1) ข้อ 88 กิจการใดที่มีงบประมาณรายจ่ายประจาปอี นญุ าตใหจ้ า่ ยได้แล้ว แต่ระยะสามเดือนแรก ของปีงบประมาณ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินไม่สามารถจัดเก็บรายได้เพียงพอที่จะดาเนินการตาม งบประมาณ องคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ินอาจนาเงนิ สะสมทดรองจา่ ยไปพลางก่อนได้ กรณีทอี่ งค์กรปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ ไดร้ บั แจ้งการจัดสรรเงินอุดหนุนทร่ี ัฐบาลระบุวัตถปุ ระสงค์ให้ ไปดาเนินการตามอานาจหน้าท่ียกเว้นงบลงทุน แต่ยังมิได้รับเงิน หากมีความจาเป็นต้องใช้จ่ายเงนิ ก่อน องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ อาจยืมเงินสะสมทดรองจา่ ยไปพลางก่อนไดเ้ ม่อื ได้รบั เงินงบประมาณดงั กล่าว แล้วใหบ้ ันทึกบัญชีสง่ ใช้เงินสะสมทีย่ ืมตามวธิ กี ารที่กรมส่งเสรมิ การปกครองทอ้ งถ่ินกาหนด กรณีองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ ใดมีกจิ การพาณิชยห์ ากมคี วามจาเปน็ กจิ การพาณิชย์อาจขอยมื เงนิ สะสมขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ ไปทดรองจา่ ยเพ่อื บริหารกจิ การก่อนไดโ้ ดยขอความเหน็ ชอบจาก สภาท้องถน่ิ และให้สง่ ชดใชเ้ งินยมื เงินสะสมเม่ือสน้ิ ปีงบประมาณ
ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าดว้ ยการรบั เงิน การเบกิ จา่ ยเงิน การฝากเงนิ การเก็บรกั ษาเงิน 465 และการตรวจเงินขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น พ.ศ. 2547 แกไขเพิ่มเตมิ ฉบับท่ี 3 พ.ศ. 2558 กรณอี งคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ินใด มีผ้รู บั บานาญท่ยี ้ายภูมิลาเนาและประสงคจ์ ะโอนการรบั เงนิ บานาญไปรบั ในองคก์ รปกครองส่วนท้องถิน่ ประเภทเดยี วกนั ในท้องทที่ ่ีย้ายไปอยู่ใหมอ่ งค์กรปกครองส่วน ท้องถ่ินอาจยืมเงินสะสมขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินใหม่ทดรองจ่ายให้กับผู้รับ บานาญนั้นได้โดย อานาจของผู้บริหารท้องถ่ิน และเม่ือได้รับเงินคืนให้บันทึกบัญชีส่งใช้เงินสะสมท่ียืมตามวิธีการท่ีกรม ส่งเสริมการปกครองท้องถ่นิ กาหนด ข้อ 89[14] องคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่นอาจใชจ้ า่ ยเงนิ สะสมไดโ้ ดยได้รับอนุมตั ิจากสภาท้องถ่ิน ภายใต้เงอ่ื นไข ดังตอ่ ไปน้ี (1) ให้กระทาได้เฉพาะกิจการซึง่ อยู่ในอานาจหน้าท่ีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซงึ่ เกี่ยวกับ ด้านการบรกิ ารชมุ ชนและสังคม หรอื กจิ การที่เป็นการเพ่มิ พนู รายไดข้ ององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่น หรือ กิจการที่จัดทาเพ่ือบาบัดความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งน้ีต้องเป็นไปตามแผนพัฒนาขององค์กร ปกครองสว่ นท้องถนิ่ หรอื ตามทีก่ ฎหมายกาหนด (2) ได้ส่งเงินสมทบกองทุนส่งเสริมกิจการขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นแต่ละประเภทตาม ระเบียบแลว้ (3) เมื่อได้รับอนุมัติใหใ้ ช้จ่ายเงนิ สะสมแล้ว องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นต้องดาเนินการกอ่ หน้ี ผูกพนั ให้เสรจ็ ส้ินภายในระยะเวลาไม่เกนิ หนงึ่ ปถี ดั ไป หากไม่ดาเนินการภายในระยะเวลาที่กาหนดให้การ ใช้จ่ายเงนิ สะสมนน้ั เปน็ อันพบั ไป ทั้งนี้ให้องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นมยี อดเงนิ สะสมคงเหลือเพียงพอที่จะจ่ายค่าใช้จ่ายประจา และกรณฉี ุกเฉนิ ทมี่ ีสาธารณภยั เกิดข้นึ โดยการใชจ้ า่ ยเงนิ สะสมให้คานึงถึงฐานะการคลังและเสถียรภาพใน ระยะยาว ขอ้ 90[15] กรณที ี่งบประมาณรายจ่ายประกาศใชบ้ ังคบั แล้ว มงี บประมาณไมเ่ พยี งพอทจี่ ะจ่าย หรือไมไ่ ด้ต้งั งบประมาณเพ่ือการน้ันไว้ให้องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นจ่ายขาดเงินสะสมไดโ้ ดยไดร้ ับอนุมัติ จากผบู้ ริหารท้องถน่ิ ในกรณีดงั ต่อไปน้ี (1) รบั โอน เล่ือนระดบั เล่อื นขน้ั เงนิ เดือนพนักงานสว่ นทอ้ งถนิ่ (2) เบิกเงินให้ผูบ้ ริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถ่ิน สมาชิกสภาท้องถิ่นเลขานุการผู้บรหิ าร ท้องถ่ิน เลขานุการสภาท้องถ่ิน ท่ีปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น พนักงานส่วนท้องถ่ินซึ่งมีสิทธิได้รับเงินตาม กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินน้ัน ตลอดจนลูกจ้างซ่ึงมีสิทธิได้รับเงินอื่นตาม กฎหมาย ระเบียบ คาสั่ง หรอื หนงั สือสง่ั การกระทรวงมหาดไทย ในระหว่างปีงบประมาณ (3) ค่าใช้จา่ ยตาม (1) และหรือ (2) ให้ถอื เป็นรายจ่ายในปีงบประมาณน้นั
466 ข้อ 91 ภายใต้บังคับข้อ 89 ในกรณีฉุกเฉินท่ีมีสาธารณภัยเกิดขึ้น ให้ผู้บริหารท้องถ่ินอนุมัตใิ ห้ จา่ ยขาดเงินสะสมได้ตามความจาเปน็ ในขณะน้นั โดยให้คานึงถงึ ฐานะการเงนิ การคลงั ขององคก์ รปกครอง ส่วนท้องถน่ิ นัน้ ข้อ 92 การวางฎีกาเบิกเงนิ สะสม ตามข้อ 89 และข้อ 90 ให้ดาเนนิ การวางฎกี าเบิกเงนิ สะสมได้ เฉพาะตามจานวนทีจ่ ะตอ้ งจา่ ยจริงและจะถงึ กาหนดเวลาท่ตี อ้ งจ่ายเงนิ หรือวางฎีกาเบิกเงินสะสมเป็นงวด ๆ ตามความจาเปน็ ข้อ 93[16] ให้หนว่ ยงานคลังจัดทารายงานเงินสะสมและเงนิ ทุนสารองเงนิ สะสม ณ วันสนิ้ เดอื น มีนาคมและกันยายนตามแบบรายงานท่กี รมสง่ เสรมิ การปกครองท้องถ่ินกาหนดส่งให้สานักงานส่งเสริม การปกครองทอ้ งถิ่นจงั หวัดตรวจสอบแล้วรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบภายในเดือนเมษายนและ ตุลาคมของทุกปี หมวด 9 การถอนคืนเงนิ รายรบั และการจาหนา่ ยหนีส้ ญู ข้อ 94[17] กรณีองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ินได้รับเงินรายรับและต่อมามีการขอคืนในลักษณะ ของลาภมิควรได้ภายในกาหนดอายุความ ให้องคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ินถอนคืนเงินรายรับโดยถือปฏิบัติ ตามขอ้ 95 และข้อ 96 ขอ้ 95 การถอนคืนเงนิ รายรบั ตามขอ้ 94 ให้ตรวจสอบและมสี าระสาคัญ ดังน้ี (1) เหตุผลความจาเปน็ ในการถอนคนื เงนิ รายรบั ที่นาสง่ เปน็ เงินรายรบั ท่ีนาสง่ แลว้ (2) หลักฐานเอกสารท่เี กี่ยวขอ้ งอ่นื ๆ เชน่ หลักฐานแสดงการยกเลิกการจดั ซ้ือจัดจ้าง คาขอคืน เงินค่าซ้ือเอกสาร หนังสอื แจง้ ใหร้ บั ผิดชดใชจ้ ากการละเมดิ เปน็ ตน้ ขอ้ 96 วธิ ีปฏบิ ตั ใิ นการถอนคืนเงินรายรับ ให้ปฏบิ ตั ิดังน้ี (1) ขอเงินคืนภายในปีงบประมาณท่ีรับเงิน เมื่อตรวจสอบแล้วเห็นว่าถูกต้องให้จ่ายคืนเงิน รายรับดงั กล่าว โดยตอ้ งได้รบั อนุมัติจากผบู้ รหิ ารท้องถิ่น (2) ขอเงินคืนภายหลังจากปีงบประมาณท่ีรับเงินรายรับเมื่อตรวจสอบแล้วเห็นว่าถูกต้อง ให้ องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นจา่ ยขาดเงนิ สะสมไดโ้ ดยต้องได้รบั อนมุ ัตจิ ากสภาท้องถนิ่
ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการรบั เงนิ การเบกิ จ่ายเงนิ การฝากเงิน การเก็บรักษาเงนิ 467 และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ พ.ศ. 2547 แกไขเพม่ิ เติม ฉบบั ท่ี 3 พ.ศ. 2558 ขอ้ 97 หากองค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น มิอาจจัดเก็บหนีจ้ ากลกู หนีท้ ่ีค้างชาระเกินกว่าสิบปีข้ึน ไป ดว้ ยเหตุหนงึ่ เหตุใด และได้ดาเนินการแลว้ ดงั น้ี (1) เรง่ รดั ติดตามใหม้ ีการชาระหน้แี ล้ว แตไ่ ม่สามารถจดั เกบ็ ไดเ้ นอื่ งจากลกู หน้กี ลายเป็นบุคคล ลม้ ละลาย ยากจน ไมม่ ที รัพยส์ ินจะเรียกชาระหนไี้ ดห้ รอื กฎหมายมไิ ด้เปดิ ช่องให้กระทาได้ (2) กรณีท่ีลูกหนี้ตายหรือสาบสูญ ผู้รับพินัยกรรม หรือทายาทผู้รับมรดกต้องเป็นบุคคลท่ีมี ลกั ษณะเช่นเดยี วกับทไี่ ดร้ ะบุไว้ใน (1) ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจาหน่ายหน้ีสูญจากบัญชีลูกหนี้โดยได้รับความเห็นชอบจาก ผู้บริหารท้องถ่ิน และได้รบั อนุมตั ิจากสภาท้องถนิ่ หลักเกณฑก์ ารจาหน่ายหน้สี ญู และวิธกี ารบนั ทกึ บญั ชีให้เป็นไปตามทปี่ ลัดกระทรวงมหาดไทย กาหนด หมวด 10 การตรวจเงิน ข้อ 98 ใหอ้ งค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ จัดทาบัญชีและทะเบยี นรายรบั รายจ่ายรวมทัง้ สรรพบัญชี หรือทะเบยี นอืน่ ใดตามที่กรมสง่ เสริมการปกครองสว่ นท้องถนิ่ กาหนด การจัดทาบญั ชีโดยระบบบญั ชคี อมพิวเตอรข์ ององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่ินให้เป็นไปตามหมวด 11[18] ข้อ 99 ให้หัวหน้าหน่วยงานคลังทารายงานแสดงรายรับรายจ่ายและงบทดลองเป็นรายเดอื น เสนอปลดั องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ เพ่ือนาเสนอผบู้ รหิ ารทอ้ งถน่ิ เพือ่ ทราบในฐานะหัวหน้าผู้บงั คบั บญั ชา และส่งสาเนาใหผ้ ูว้ ่าราชการจังหวดั สาหรับองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบลให้ส่งนายอาเภอ ข้อ 100 ให้หัวหน้าหน่วยงานคลังจัดทางบแสดงฐานะการเงิน และงบอื่น ๆตามแบบที่กรม ส่งเสรมิ การปกครองท้องถิน่ กาหนด เพ่ือสง่ ให้สานกั งานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคตรวจสอบภายในเก้า สบิ วนั นบั แต่วนั สน้ิ ปีและส่งสาเนาใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวัด สาหรบั องค์การบรหิ ารสว่ นตาบลให้สง่ นายอาเภอ ขอ้ 101 ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินประกาศสาเนางบแสดงฐานะการเงนิ และงบอ่ืน ๆ ตาม ข้อ 100 โดยเปดิ เผยเพ่ือใหป้ ระชาชนทราบ ณ สานักงานองคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ ในเวลาอันสมควร
468 ข้อ 101/1[19] ใหห้ วั หนา้ หนว่ ยงานคลงั จดั ทารายงานแสดงผลการดาเนินงานรายไตรมาสตามท่ี กรมส่งเสรมิ การปกครองท้องถ่ินกาหนดเพื่อนาเสนอผบู้ ริหารทอ้ งถิ่นภายในสามสิบวันนับจากวันสนิ้ ไตร มาส และประกาศสาเนารายงานดงั กล่าวโดยเปิดเผยใหป้ ระชาชนทราบ ณสานกั งานองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นภายในสิบหา้ วันนับแตผ่ บู้ ริหารท้องถน่ิ รับทราบรายงานดงั กล่าว ข้อ 102 ในการตรวจสอบบัญชีและหลักฐานการรับจา่ ยเงิน ให้หัวหน้าหน่วยงานผเู้ บิกหรอื รบั เงนิ และหรือหวั หน้าหนว่ ยงานคลัง มีหนา้ ท่ีให้คาชแ้ี จงและอานวยความสะดวกแก่เจา้ หนา้ ทข่ี องสานักงาน การตรวจเงนิ แผน่ ดนิ และหากไดร้ บั ขอ้ ทักทว้ งจากสานกั งานการตรวจเงินแผ่นดนิ ให้หวั หนา้ หน่วยงานผู้ เบิกและหรือหัวหน้าหน่วยงานคลังปฏิบัติตามคาทักท้วงโดยเร็ว อย่างช้าไม่เกินส่ีสิบห้าวันนับจากวันที่ องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ไดร้ บั แจง้ ข้อทักท้วงน้ัน ข้อ 103 ในกรณีท่ีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นชี้แจงข้อทักท้วงไปยังสานักงานการตรวจเงิน แผ่นดิน แต่สานักงานการตรวจเงนิ แผ่นดินยืนยันว่ายังไม่มีเหตุผลที่จะล้างข้อทักท้วงให้องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นชี้แจงเหตุผลและรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดวินิจฉัยภายในสิบห้าวันนับจากวันที่ได้รับ คายืนยันจากสานักงานตรวจเงินแผ่นดิน และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแจง้ ผลการวินิจฉัยภายในสามสบิ วนั นับจากวนั ท่ีไดร้ ับรายงานจากองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น ในกรณีท่ีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องปฏิบัติตามคาวินิจฉัยของผู้ว่าราชการจังหวัดให้ ปฏบิ ตั ิให้เสรจ็ ส้นิ ภายในสี่สบิ หา้ วันนบั จากวนั ทไ่ี ดร้ ับทราบผลการวินจิ ฉัย ข้อ 104[20] ให้สานักงานส่งเสริมการปกครองทอ้ งถิ่นจังหวัด ตรวจสอบการจัดทาบัญชีและ รายงานการเงนิ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างน้อยปีละหนึ่งครัง้ พร้อมทั้งรายงานใหผ้ ูว้ ่าราชการ จงั หวดั ทราบภายในสิบห้าวันนบั แตว่ ันท่ไี ด้ทาการตรวจสอบแลว้ เสร็จ ผบู้ ริหารท้องถ่ิน ผวู้ ่าราชการจงั หวดั อธบิ ดีกรมสง่ เสริมการปกครองท้องถ่ิน หรือปลดั กระทรวง มหาดไทย อาจให้ผเู้ ช่ียวชาญบญั ชีทาการตรวจสอบบญั ชีการเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินเป็นการ ภายในไดส้ าหรบั องคก์ ารบริหารส่วนตาบล ใหน้ ายอาเภอดาเนนิ การดงั กลา่ วไดเ้ ชน่ กนั หมวด 11 ระบบบญั ชคี อมพวิ เตอร์ขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น (Electronic Local Administrative Accounting System : e-LAAS)[21]
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรบั เงนิ การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงนิ การเกบ็ รกั ษาเงิน 469 และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ิน พ.ศ. 2547 แกไขเพม่ิ เตมิ ฉบับท่ี 3 พ.ศ. 2558 ข้อ 105[22] ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทาบัญชีโดยระบบบญั ชีคอมพวิ เตอรข์ ององคก์ ร ปกครองสว่ นท้องถนิ่ (Electronic Local Administrative Accounting System : eLAAS) ซ่ึงอย่างนอ้ ย ประกอบด้วยระบบการทางาน 4 ระบบ ดังนี้ (1) ระบบงบประมาณ ประกอบดว้ ยการจดั ทาข้อบัญญตั ิงบประมาณรายจา่ ยประจาปขี ้อบญั ญตั ิ งบประมาณรายจา่ ยเพิ่มเติม เทศบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ายประจาปหี รือเทศบัญญตั งิ บประมาณรายจา่ ย เพ่ิมเติม การโอน และการแก้ไข เปล่ียนแปลงคาช้ีแจงงบประมาณรวมทั้งการควบคุมงบประมาณและ รายงานยอดงบประมาณคงเหลอื (2) ระบบรายรับ ประกอบด้วยการรับเงินทุกประเภท รวมทั้งการออกใบเสร็จรับเงินและ หลกั ฐานการรบั เงิน รายงานและทะเบียนต่าง ๆ ท่เี กย่ี วขอ้ ง (3) ระบบรายจ่าย ประกอบด้วยการก่อหนี้ผูกพันและการเบิกจ่ายเงิน รวมท้ังการจัดทาฎีกา รายงานและทะเบยี นต่าง ๆ ทเ่ี กยี่ วข้อง (4) ระบบบัญชีประกอบด้วยการจัดทาบัญชีและทะเบียนต่าง ๆ รวมทั้งการจัดทารายงาน การเงินขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ ข้อ 105/1[23] ให้กรมสง่ เสริมการปกครองท้องถ่ินวางระบบ กาหนดวิธีปฏิบัติงานการบริหาร พัฒนาระบบ การส่งเสริมและกากบั ดูแลการปฏิบัติงานระบบบญั ชีคอมพิวเตอรข์ ององค์กรปกครองสว่ น ทอ้ งถ่ิน ข้อ 105/2[24] ให้สานกั งานส่งเสรมิ การปกครองท้องถิ่นจงั หวัด สง่ เสริมและสนบั สนนุ รวมทั้ง กากับดูแลการปฏิบัติงานในระบบบัญชีคอมพิวเตอรข์ ององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินให้เป็นไปตามทก่ี รม สง่ เสริมการปกครองทอ้ งถ่ินกาหนด บทเฉพาะกาล ขอ้ 106 การรบั เงิน การเบกิ จา่ ยเงิน การฝากเงิน การถอนเงิน การเก็บรกั ษาเงินและการตรวจ เงินใด ท่ีอยใู่ นระหว่างดาเนนิ การและยังไมแ่ ล้วเสร็จในวนั ทีร่ ะเบียบกระทรวงมหาดไทยฉบับนใ้ี ชบ้ ังคบั ให้ ดาเนินการตอ่ ไปตามระเบยี บหรอื หลกั เกณฑ์ท่ใี ช้บังคับอยเู่ ดิม จนกวา่ จะแล้วเสรจ็ ข้อ 107 บรรดาแบบพิมพ์และเอกสารใด ๆ ทใี่ ชใ้ นการรับเงิน การเบิกจา่ ยเงินการฝากเงนิ การ ถอนเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินตลอดจนแบบบัญชีและ ทะเบียนต่าง ๆ ใหใ้ ชแ้ บบเดิมไปพลางกอ่ น จนกว่ากรมสง่ เสรมิ การปกครองท้องถ่ินจะได้กาหนดให้เปน็ ไป ตามระเบียบน้ี
470 ข้อ 108 หากองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินมีบัญชีลูกหนี้เงินยืมสะสมซ่ึงต้องต้ังงบประมาณ รายจา่ ยชดใช้คงค้างตามบัญชีให้ปรบั ปรงุ บัญชตี ามแบบท่กี รมส่งเสริมการปกครองท้องถนิ่ กาหนด และให้ ตัง้ เงินทนุ สารองเงนิ สะสมสาหรบั ปีแรกจากบัญชีเงนิ สะสมทไ่ี ด้ปรบั ปรงุ ยอดเงนิ สะสมเรยี บร้อยแล้ว ข้อ 109 บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คาส่ัง หรือหนังสือสั่งการท่ีออกตามความใน ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงนิ และการ ตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ พ.ศ. 2541 และระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงนิ การเก็บรักษาเงนิ และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2543 ให้ใช้บังคับตอ่ ไปจนกว่าจะมีระเบยี บ ข้อบังคับ ประกาศ คาสั่ง หรือหนังสือส่งั การที่ออก ตามระเบยี บน้ี ประกาศ ณ วันที่ 13 ธนั วาคม พ.ศ. 2547 ประชา มาลีนนท์ รัฐมนตรีชว่ ยว่าการฯ ปฏิบัตริ าชการแทน รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรบั เงิน การเบิกจา่ ยเงนิ การฝากเงนิ การเก็บรักษาเงิน 471 และการตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ พ.ศ. 2547 แกไขเพิม่ เตมิ ฉบับท่ี 3 พ.ศ. 2558 ระเบยี บกระทรวงมหาดไทย วา่ ดว้ ยการรับเงิน การเบิกจา่ ยเงนิ การฝากเงนิ การเกบ็ รักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2548[25] ขอ้ 2 ระเบยี บน้ีให้ใช้บังคับตั้งแตว่ นั ถัดจากวนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นตน้ ไป ระเบยี บกระทรวงมหาดไทย วา่ ดว้ ยการรบั เงิน การเบิกจ่ายเงนิ การฝากเงนิ การเกบ็ รักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2558[26] ขอ้ 2 ระเบยี บน้ีใหใ้ ชบ้ ังคบั ตงั้ แต่วันถดั จากวนั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน็ ต้นไป ขอ้ 17 การปฏบิ ตั งิ านในระบบบัญชคี อมพวิ เตอรข์ ององคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ินทีไ่ ด้ดาเนินการ ตามระเบียบ ข้อบงั คบั ประกาศ คาสั่ง หรือหนงั สือสงั่ การไปกอ่ นวนั ทีร่ ะเบยี บน้ีมผี ลใชบ้ งั คับ ใหถ้ ือว่าเป็น การปฏบิ ตั งิ านในระบบบญั ชคี อมพิวเตอร์ขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ตามระเบียบนี้ ข้อ 18 ในวาระเริ่มแรก หากองค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นใดยงั ไม่พร้อมจะปฏิบัติตามหมวด 11 ระบบบัญชีคอมพิวเตอร์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ( Electronic Local Administrative Accounting System : e - LAAS) ตามระเบียบน้ีให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นปฏิบัติตามระเบยี บ ข้อบังคับ ประกาศ คาส่ัง หรือหนังสือส่ังการเดิมต่อไปได้แต่ท้ังน้ีต้องไม่เกินหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่ ระเบียบนี้มีผลใชบ้ ังคับ ขอ้ 19 บรรดาระเบียบ ข้อบังคบั ประกาศ คาสงั่ หรอื หนังสือสัง่ การ ทีใ่ ช้อย่กู อ่ นวนั ทีร่ ะเบยี บนี้ มผี ลใช้บังคับ ให้ใชต้ ่อไปโดยอนโุ ลมเท่าทไ่ี ม่ขัดหรือแย้งกบั ระเบยี บนี้
472 ******************************************** [1] ราชกจิ จานเุ บกษา เลม่ 122/ตอนพิเศษ 9 ง/หนา้ 25/31 มกราคม 2548 [2] ข้อ 5 (1) แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงินการฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2558 [3] ข้อ 5 (2) แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงินการฝากเงนิ การเกบ็ รกั ษาเงนิ และการตรวจเงินขององค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2558 4 ขอ้ [5] (3) แก้ไขเพมิ่ เติมโดยระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าดว้ ยการรบั เงิน การเบิกจ่ายเงนิ การฝากเงนิ การเก็บ รกั ษาเงิน และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2558 5 ขอ้ [5] (4) แก้ไขเพม่ิ เติมโดยระเบยี บกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน [8] ขอ้ 6 แกไ้ ขเพิ่มเติมโดยระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าดว้ ยการรับเงิน การเบกิ จ่ายเงิน การฝากเงิน การ เก็บรกั ษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558 [9] ขอ้ 8 แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยระเบียบกระทรวงมหาดไทย วา่ ด้วยการรบั เงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงนิ การ เก็บรกั ษาเงนิ และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ิน (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2558 [10] ข้อ 10 แก้ไขเพ่ิมเติมโดยระเบยี บกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเกบ็ รักษาเงนิ และการตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2558 [11] ข้อ 46 แก้ไขเพ่ิมเติมโดยระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงนิ และการตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2558 [12] ข้อ 59/1 เพ่ิมโดยระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงนิ การเบกิ จ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บ รักษาเงนิ และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ิน (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2558 [13] ขอ้ 84 (5) แก้ไขเพ่มิ เติมโดยระเบยี บกระทรวงมหาดไทย วา่ ด้วยการรับเงิน การเบกิ จา่ ยเงนิ การฝากเงิน การเกบ็ รกั ษาเงิน และการตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2558 [14] ข้อ 89 แก้ไขเพ่ิมเติมโดยระเบยี บกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรกั ษาเงิน และการตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2548 [15] ข้อ 90 แก้ไขเพ่ิมเติมโดยระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเกบ็ รกั ษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2548 [16] ข้อ 93 แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงินการฝากเงิน การเก็บรักษาเงนิ และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองส่วนท้องถิน่ (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2558 [17] ข้อ 94 แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบยี บกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรกั ษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2558
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการรบั เงนิ การเบกิ จา่ ยเงิน การฝากเงิน การเกบ็ รกั ษาเงนิ 473 และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น พ.ศ. 2547 แกไขเพ่มิ เตมิ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2558 [18] ข้อ 98 วรรคสอง เพ่ิมโดยระเบยี บกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงนิ การเกบ็ รกั ษาเงนิ และการตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558 [19] ขอ้ 101/1 เพิ่มโดยระเบยี บกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจา่ ยเงนิ การฝากเงิน การเก็บ รักษาเงิน และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2558 [20] ขอ้ 104 แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ โดยระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบกิ จา่ ยเงิน การฝากเงิน การเกบ็ รกั ษาเงนิ และการตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2558 [21] ช่ือหมวด 11 เบ็ดเตล็ด แก้ไขเปน็ “ระบบบัญชคี อมพิวเตอรข์ ององคก์ รปกครองส่วนท้องถิน่ (Electronic Local Administrative Accounting System : e-LAAS)” โดยระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบกิ จา่ ยเงิน การฝากเงิน การเกบ็ รกั ษาเงนิ และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองส่วนท้องถ่นิ (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2558 [22] ขอ้ 105 แก้ไขเพม่ิ เติมโดยระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบกิ จ่ายเงิน การฝากเงิน การเกบ็ รักษาเงนิ และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่ (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2558 [23] ข้อ 105/1 เพ่ิมโดยระเบียบกระทรวงมหาดไทย วา่ ดว้ ยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเกบ็ รกั ษาเงิน และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558 [24] ข้อ 105/2 เพ่ิมโดยระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรบั เงนิ การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงนิ การเกบ็ รกั ษาเงนิ และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ิน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558 [25] ราชกิจจานเุ บกษา เลม่ 123/ตอนพิเศษ 12 ง/หน้า 12/26 มกราคม 2549 [26] ราชกิจจานเุ บกษา เลม่ 132/ตอนพเิ ศษ 230 ง/หน้า 2/25 กันยายน 2558
474 ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเกบ็ รักษาเงนิ และการ ตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2561 โดยท่ีเป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิก จ่ายเงินการฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 เพ่ือให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน และสอดคล้องกับระเบียบการเบิกจ่ายเงินของคลังการเก็บ รักษาเงินและการนาเงนิ ส่งคลงั พ.ศ. 2551 อาศยั อานาจตามความในมาตรา 6 และมาตรา 76 แหง่ พระราชบัญญตั อิ งคก์ ารบรหิ ารส่วน จังหวัด พ.ศ. 2540 มาตรา 69 และมาตรา 77 แหง่ พระราชบญั ญตั เิ ทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 5 และ มาตรา 88 แห่งพระราชบัญญัติสภาตาบลและองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล พ.ศ. 2537 รฐั มนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทย จึงออกระเบยี บไว้ ดงั น้ี ขอ้ 1 ระเบียบนเี้ รียกวา่ “ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าดว้ ยการรบั เงนิ การเบิกจ่ายเงนิ การ ฝากเงิน การเกบ็ รกั ษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ (ฉบบั ที่ 4) พ.ศ. 2561” ข้อ 2 ระเบียบนใี้ หใ้ ชบ้ ังคบั ตงั้ แตว่ นั ถัดจากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเป็นตน้ ไป ขอ้ 3 ให้ยกเลิกความใน (16) (17) (19) (20) (21) และ (23) ของขอ้ 5 ของระเบียบ กระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรบั เงิน การเบิกจา่ ยเงนิ การฝากเงนิ การเกบ็ รักษาเงนิ และการตรวจเงิน ขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ พ.ศ. 2547 และใหใ้ ช้ความต่อไปนี้แทน (16) “ใบสาคญั คจู่ า่ ย” หมายความว่า หลักฐานการจา่ ยเงินที่เปน็ ใบเสรจ็ รบั เงิน หลกั ฐานของ ธนาคารแสดงการจ่ายเงนิ แก่เจ้าหนี้ หลักฐานการนาเงนิ เข้าบัญชเี งนิ ฝากของผรู้ ับท่ีธนาคาร หรอื หลกั ฐาน อน่ื ใดท่ีแสดงการจา่ ยเงินให้แก่ผรู้ บั เงนิ หรอื เจ้าหนี้ และใหร้ วมถงึ ใบนาสง่ เงนิ ตอ่ หน่วยงานคลังดว้ ย (17) “เงินรายรบั ” หมายความว่า เงินทงั้ ปวงทอ่ี งค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ จดั เกบ็ หรอื ไดร้ ับไว้ เปน็ กรรมสทิ ธ์ติ ามกฎหมาย ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั หรอื จากนติ กิ รรม และเงนิ อดุ หนุนจากรฐั บาลที่นาฝาก บญั ชีเงินฝากกระทรวงการคลงั ขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ ตลอดจนเงินอุดหนุนที่กระทรวงการคลัง เปน็ ผู้จ่ายเงนิ แทนองคก์ รปกครองสว่ นท้องถนิ่ (19) “รายงานสถานะการเงนิ ประจาวัน” หมายความรวมถงึ ยอดเงินรบั และจ่ายในแตล่ ะวนั รวมถงึ ยอดเงินทฝี่ ากธนาคาร (20) “เงินยมื ” หมายความว่า เงนิ งบประมาณหรอื เงินนอกงบประมาณ หรอื เงนิ อดุ หนนุ ท่ี รัฐบาลให้องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ โดยท่มี ติ อ้ งจัดทาข้อบญั ญตั ิหรือเทศบญั ญตั ิงบประมาณรายจ่าย ประจาปที อ่ี งค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ จา่ ยใหแ้ กบ่ ุคคลใดยมื เพือ่ เปน็ ค่าใชจ้ า่ ยในการเดนิ ทางไปราชการ หรอื ปฏิบตั ริ าชการอน่ื ใด
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการรบั เงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเกบ็ รกั ษาเงนิ 475 และการตรวจเงินขององค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน (ฉบบั ท่ี 4) พ.ศ. 2561 (21) “แผนพฒั นา” หมายความวา่ แผนพัฒนาทอ้ งถ่ินขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ หรอื ตามท่กี ฎหมายกาหนด (23) “ทุนสารองเงินสะสม” หมายความว่า ยอดเงินสะสมจานวนรอ้ ยละสบิ ห้าของยอดเงนิ สะสมประจาทกุ สิ้นปงี บประมาณ เพือ่ รกั ษาเสถียรภาพการเงนิ การคลังขององค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน ขอ้ 4 ใหเ้ พ่มิ ความต่อไปนีเ้ ป็น (28) และ (29) ในข้อ 5 ของระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าด้วย การรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วน ท้องถน่ิ พ.ศ. 2547 (28) “เวลาปิดบัญชี” หมายความว่า เวลาปิดบัญชีรบั จา่ ยเงนิ ขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ ทงั้ น้ี ให้นาเวลาปิดบัญชีรับจา่ ยเงนิ ของกรมบัญชกี ลางมาใช้โดยอนโุ ลม (29) “ระบบ” หมายความว่า ระบบบัญชีคอมพิวเตอร์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (Electronic Local Administrative Accounting System : e-LAAS) ข้อ 5 ให้เพิ่มความต่อไปน้ีเป็นข้อ 9/1 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการ เบกิ จา่ ยเงนิ การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถนิ่ พ.ศ. 2547 “ข้อ 9/1 การรับเงินรายรับดังต่อไปนี้ ให้ใช้หลักฐานการรับโอนเงิน หรือการ นาฝาก หรือ รายงานการจา่ ยเงินแทนของกระทรวงการคลัง แทนใบเสร็จรับเงิน (1) รายได้ท่รี ัฐจดั สรร หรอื อุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ (2) ดอกเบ้ียเงินฝากธนาคาร (3) เงินทกี่ ระทรวงการคลงั จ่ายแทนองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ ” ข้อ 6 ให้ยกเลิกความในข้อ 10 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จ่ายเงนิ การฝากเงิน การเกบ็ รักษาเงนิ และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 ซ่งึ แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการรบั เงนิ การเบกิ จ่ายเงนิ การฝากเงนิ การเกบ็ รกั ษา เงนิ และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิน่ (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2558และใหใ้ ช้ความต่อไปน้แี ทน “ขอ้ 10 ใหห้ นว่ ยงานคลงั บนั ทึกรายการรบั เงนิ ในระบบภายในวนั ทไี่ ดร้ ับเงิน หรือไดร้ บั หลกั ฐาน ตามข้อ 9/1 โดยแสดงให้ทราบว่าได้รบั เงนิ ตามใบเสรจ็ รบั เงนิ ฎีกา หรอื เอกสารอ่นื เลม่ ใดเลขท่ใี ด จานวน เท่าใด หรือตามท่กี รมส่งเสรมิ การปกครองทอ้ งถ่ินกาหนด ในกรณที ่มี ีการรบั เงินภายหลงั กาหนดเวลาปดิ บัญชีสาหรบั วนั นัน้ แล้ว ใหบ้ นั ทึกการรบั เงินในวัน นน้ั และเกบ็ เงินสดในตู้นิรภยั เงิน
476 ประเภทใดมีใบเสร็จรับเงินวันหน่ึง ๆ หลายฉบับ จะรวมรับเงินประเภทน้ันตาม สาเนา ใบเสร็จรับเงินทุกฉบับมาบันทึกในบัญชีรายการเดียวก็ได้ โดยแสดงให้ทราบว่าเป็นเงินรับตาม ใบเสร็จรับเงินเลขที่ใด ถึงเลขท่ีใด จานวนเงินรวมทั้งส้ินเท่าใด ไว้ด้านหลังสาเนาใบเสร็จรับเงินฉบับ สดุ ท้าย” ข้อ 7 ให้ยกเลิกความในข้อ 12 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จ่ายเงนิ การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 และ ใหใ้ ช้ความตอ่ ไปนี้แทน “ข้อ 12 ให้หน่วยงานคลังจัดให้มีการตรวจสอบจานวนเงินท่ีเจ้าหน้าท่ีจัดเก็บและนาส่งกับ หลักฐานและรายการทีบ่ ันทกึ ไวใ้ นระบบ เม่ือได้ตรวจสอบว่าถูกตอ้ งครบถว้ นแลว้ ใหผ้ ู้ตรวจแสดงยอดรวม เงินรบั ตามใบเสรจ็ รับเงินทกุ ฉบับที่ได้รบั ในวันนั้นไว้ในสาเนาใบเสรจ็ รับเงินฉบบั สดุ ทา้ ยและลงลายมือช่ือ กากบั ไว้ด้วย กรณที ี่เป็นการรับเงนิ ตามข้อ 9/1 ให้ดาเนินการเช่นเดยี วกับวรรคหนง่ึ ” ข้อ 8 ให้ยกเลิกความในข้อ 19 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จา่ ยเงนิ การฝากเงนิ การเก็บรักษาเงนิ และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ พ.ศ. 2547และ ใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปนแี้ ทน “ข้อ 19 ให้หน่วยงานคลังเก็บรักษาสาเนาใบเสร็จรับเงินซึ่งผู้ที่มีอานาจตรวจสอบยังมิได้ ตรวจสอบไว้ในที่ปลอดภัย อย่าให้สูญหายหรือเสียหายได้ และเม่ือได้ตรวจสอบแล้วก็ให้เก็บไว้อย่าง เอกสารธรรมดา” ข้อ 9 ให้ยกเลิกความในส่วนท่ี 1 ตู้นิรภัยเก็บเงิน ของหมวด 3 การเก็บรักษาเงินของระเบยี บ กระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรบั เงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงินและการตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน พ.ศ. 2547 และให้ใชค้ วามต่อไปนแ้ี ทน “ส่วนที่ 1 สถานท่เี กบ็ รกั ษา” ข้อ 10 ให้ยกเลิกความในข้อ 20 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จา่ ยเงนิ การฝากเงนิ การเก็บรกั ษาเงิน และการตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ พ.ศ. 2547 และ ให้ใชค้ วามต่อไปนแ้ี ทน
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยวา่ ด้วยการรบั เงนิ การเบกิ จ่ายเงิน การฝากเงนิ การเก็บรกั ษาเงนิ 477 และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ (ฉบบั ท่ี 4) พ.ศ. 2561 “ข้อ 20 ใหอ้ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ เก็บรกั ษาเงินทจี่ ดั เกบ็ หรือได้รับไวใ้ นตูน้ ริ ภยั ซง่ึ ตั้งอยู่ใน ทป่ี ลอดภัยขององคก์ รปกครองส่วนท้องถ่นิ ตู้นริ ภัยขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ินให้ตดิ หรอื ต้ังไวใ้ นหอ้ งมน่ั คงหรอื กรงเหลก็ หรอื กรณไี ม่มี หอ้ งมนั่ คงหรือกรงเหล็กใหต้ ดิ หรือตง้ั ไวใ้ นท่มี นั่ คง และปลอดภัยภายในสานกั งานขององคก์ รปกครองส่วน ท้องถิ่นนัน้ หากมีจานวนเงินสดทีเ่ ก็บรกั ษาไว้ในตนู้ ิรภยั ตามวรรคหนึ่ง ให้นาฝากธนาคารทง้ั จานวนในวันทา การถัดไป กรณีเทศบาลตาบลหรือองค์การบรหิ ารส่วนตาบลท่มี ีพ้นื ท่ีห่างไกล การคมนาคมไม่สะดวกไม่ สามารถนาฝากธนาคารไดเ้ ปน็ ประจาทกุ วนั ใหเ้ กบ็ รกั ษาเงนิ สดในตู้นริ ภัยได้ และให้นาเงินสดดงั กลา่ วฝาก ธนาคารในวนั ทาการสดุ ทา้ ยของสัปดาห์ กรณีท่ีมีความจาเป็นต้องให้เจ้าหน้าท่ีไปจัดเก็บหรือรับชาระเงินนอกที่ต้ังสานักงานปกติให้ ผู้บริหารท้องถิ่นกาหนดวิธีการรับเงินและเก็บรักษาเงินให้รัดกุมและเหมาะสม เมื่อเดินทางกลับถึง สานกั งานให้รีบนาฝากทันที” ข้อ 11 ให้ยกเลิกความในข้อ 22 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จ่ายเงิน การฝากเงิน การเกบ็ รกั ษาเงิน และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่ พ.ศ. 2547 และ ใหใ้ ชค้ วามต่อไปนแ้ี ทน “ข้อ 22 ให้ผู้บรหิ ารทอ้ งถิ่นแต่งต้งั คณะกรรมการเก็บรกั ษาเงินไว้ ณ สานักงานอย่างน้อยสาม คนในจานวนน้ีใหห้ วั หน้าหนว่ ยงานคลงั เปน็ กรรมการโดยตาแหน่งหนึง่ คน และกรรมการเก็บรกั ษาเงนิ อน่ื อีกอยา่ งน้อยสองคน การแต่งต้ังกรรมการเก็บรักษาเงินตามวรรคหน่ึง ให้แต่งตั้งจากพนักงานส่วนท้องถิ่น โดยให้ คานงึ ถงึ หน้าที่ความรบั ผดิ ชอบ เว้นแต่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ มีพนักงานส่วนท้องถนิ่ ไมค่ รบจานวนท่ี จะแต่งต้งั เป็นกรรมการ ให้แต่งตงั้ ผู้ชว่ ยผู้บรหิ ารทอ้ งถิน่ เปน็ กรรมการใหค้ รบจานวนก็ได”้ ข้อ 12 ให้ยกเลิกความในข้อ 30 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จ่ายเงนิ การฝากเงิน การเกบ็ รักษาเงิน และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ พ.ศ. 2547 และใหใ้ ช้ความตอ่ ไปน้แี ทน “ข้อ 30 เม่ือนาเงนิ เข้าเก็บรักษาในตู้นิรภัยเรยี บร้อยแล้ว ให้กรรมการเก็บรกั ษาเงนิ ใสก่ ญุ แจตู้ นิรภยั ใหเ้ รยี บรอ้ ยและลงลายมือช่อื กรรมการเกบ็ รกั ษาเงนิ แต่ละคนบนกระดาษปดิ ทบั หรือประจาตราครง่ั หรอื ดนิ เหนยี วไว้บนเชือกผูกมัดต้นู ริ ภยั ในลักษณะทแ่ี ผน่ กระดาษปิดทับหรือประจาตราครงั่ หรอื ดินเหนยี ว จะต้องถกู ทาลายเม่ือมกี ารเปดิ ตูน้ ริ ภัย
478 ในกรณีท่ตี ้นู ริ ภัยตง้ั อยใู่ นหอ้ งม่ันคง หรอื กรงเหลก็ การลงลายมือช่ือบนแผน่ กระดาษปิดทบั หรอื ประจาตราครั่ง หรือดินเหนียว ของกรรมการเก็บรักษาเงิน จะกระทาท่ปี ระตหู อ้ งม่ันคงหรือกรงเหลก็ แต่ เพียงแห่งเดยี วกไ็ ด้” ข้อ 13 ให้ยกเลิกความในวรรคหน่ึงของข้อ 35 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับ เงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ พ.ศ. 2547 และใหใ้ ช้ความต่อไปนแ้ี ทน “ข้อ 35 การรับส่งเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งเป็นเงินสดหรือสถานทที่ ่ีจะรบั ส่งอยู่ ห่างไกล หรอื กรณอี ่นื ใดซง่ึ เหน็ ว่าไมป่ ลอดภัยแก่เงินทรี่ บั สง่ ใหผ้ บู้ ริหารทอ้ งถน่ิ แตง่ ตัง้ พนักงานสว่ นทอ้ งถนิ่ อย่างน้อยสองคน เป็นกรรมการรับผิดชอบร่วมกันควบคุมการรับส่งเงินและจัดให้มีเจ้าหน้าที่ ตารวจ ควบคมุ รกั ษาความปลอดภัยดว้ ยก็ได้” ข้อ 14 ให้ยกเลิกความในข้อ 37 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรกั ษาเงิน และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ พ.ศ. 2547 และ ใหใ้ ช้ความต่อไปนี้แทน “ข้อ 37 การถอนเงินฝากธนาคารขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ หรอื หน่วยงานทีไ่ ดแ้ ยกไปทา การรับจ่ายและเกบ็ รักษาเงิน ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจง้ เง่ือนไขการส่ังจ่ายต่อธนาคารโดยใหผ้ ู้มี อานาจลงนามส่ังจ่ายเงินร่วมกันอย่างน้อยสามคน ในจานวนนี้ให้มีผู้บริหารท้องถ่ินและปลัดองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นลงนามสง่ั จ่ายดว้ ยทกุ ครัง้ และใหผ้ ู้บรหิ ารท้องถ่นิ มอบหมายให้ผู้ชว่ ยผู้บรหิ ารทอ้ งถน่ิ หรือผู้ดารงตาแหน่งไม่ต่ ากว่าหัวหน้าหน่วยงานอีกหน่ึงคน และให้มอบหมายผู้ดารงตาแหน่งไม่ต่ ากว่า หัวหน้าหน่วยงานเพ่ิมอีกหนึ่งคน ในกรณีท่ีไม่มีผู้บริหารทอ้ งถิ่นเป็นผูม้ ีอานาจลงลายมือช่ือถอนเงินฝาก ร่วมกนั การถอนเงนิ ฝากของหนว่ ยงานท่มี งี บประมาณเฉพาะการ หรอื หน่วยงานทไี่ ด้แยกออกไปทาการ รับจ่ายและเก็บรักษาเงิน ผู้บริหารท้องถ่ินอาจแต่งต้ังหัวหน้าหน่วยงานนั้นและพนักงานส่วนท้องถนิ่ อกี หนึง่ คน เป็นผู้มีอานาจลงลายมือชอื่ รว่ มกันถอนเงินฝากของหน่วยงานนนั้ กรณกี ารถอนเงนิ ฝากจากคลงั จงั หวดั ให้ปฏิบตั ติ ามระเบยี บที่กระทรวงการคลังกาหนด” ข้อ 15 ให้ยกเลิกความในข้อ 39 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จา่ ยเงนิ การฝากเงนิ การเกบ็ รักษาเงิน และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองส่วนท้องถ่นิ พ.ศ. 2547 และ ใหใ้ ช้ความตอ่ ไปน้ีแทน “ข้อ 39 การขอเบิกเงินจากหน่วยงานคลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินตามงบประมาณ รายจ่ายประจาปีงบประมาณใด ให้เบิกได้แต่เฉพาะในปีงบประมาณนั้น รวมท้ังเงินอุดหนุนท่ีรัฐบาลให้
ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ด้วยการรบั เงนิ การเบิกจา่ ยเงิน การฝากเงิน การเกบ็ รกั ษาเงิน 479 และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น (ฉบับท่ี 4) พ.ศ. 2561 องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นโดยท่ีมิต้องจดั ทาข้อบัญญตั ิหรอื เทศบญั ญัติงบประมาณรายจ่ายประจาปี เวน้ แต่ (1) เปน็ เงินงบประมาณรายจ่ายที่ยังมไิ ดก้ อ่ หนีผ้ กู พันในปีงบประมาณน้ัน และไดร้ บั อนุมัตใิ หก้ นั เงินไว้ต่อผู้มีอานาจตามระเบียบแลว้ (2) เป็นงบประมาณรายจ่ายที่ได้ก่อหน้ีผูกพันไว้ก่อนสิ้นปีงบประมาณ และได้รับอนุมัติจาก ผบู้ ริหารทอ้ งถิน่ ใหก้ นั เงินไปจา่ ยในปงี บประมาณถดั ไป (3) กรณีมีเงนิ อุดหนุนที่รัฐบาลให้องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น โดยท่ีมิต้องจดั ทาข้อบญั ญัตหิ รือ เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจาปซี ่ึงเบิกจ่ายไม่ทันภายในส้นิ ปีงบประมาณที่ผ่านมาและได้บนั ทกึ บญั ชไี ว้แล้ว” ข้อ 16 ให้ยกเลิกความในข้อ 40 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จ่ายเงิน การฝากเงนิ การเกบ็ รักษาเงนิ และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ พ.ศ. 2547 และ ใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปนีแ้ ทน “ข้อ 40 การเบิกเงินขององค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน ให้หน่วยงานผู้เบิกขอเบิกกับหน่วยงาน คลังโดยให้หัวหน้าหน่วยงานผู้เบิกเปน็ ผู้ลงลายมอื ชื่อเบกิ เงินและให้วางฎีกาตามแบบที่กรมส่งเสริมการ ปกครองท้องถ่นิ กาหนด ความในวรรคหน่ึง มใิ ห้ใชบ้ งั คบั ในกรณที ่กี ระทรวงการคลงั เป็นผู้ดาเนินการแทนองค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่นิ การขอเบิกเงนิ ทุกกรณีใหร้ ะบุวัตถุประสงค์ท่ีจะนาเงินนั้นไปจา่ ยและห้ามมิใหข้ อเบกิ จนกวา่ จะ ถงึ กาหนดหรอื ใกลถ้ ึงกาหนดจา่ ยเงิน การเบิกเงินต้องมีหลักฐานการเบิกเพ่ือประโยชน์ในการตรวจสอบ และให้ผู้เบิกลงลายมือชือ่ รับรองความถกู ต้องในหลักฐานการเบกิ ทเ่ี ป็นภาพถ่ายหรือสาเนาทุกฉบบั ” ข้อ 17 ให้ยกเลิกความในข้อ 50 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จ่ายเงิน การฝากเงิน การเกบ็ รกั ษาเงิน และการตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ พ.ศ. 2547 และ ให้ใชค้ วามตอ่ ไปน้ีแทน “ข้อ 50 การเบิกเงินเพ่ือจ่ายเป็นค่าซ้ือทรัพย์สิน หรือจ้างทาของ หรือเช่าทรัพย์สินให้แสดง รายการทรพั ยส์ ินและจานวนเงนิ เป็นรายประเภทประกอบฎกี าขอเบกิ เงิน” ข้อ 18 ให้ยกเลิกความในข้อ 57 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จ่ายเงนิ การฝากเงนิ การเก็บรักษาเงนิ และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่ พ.ศ. 2547 และ ให้ใช้ความตอ่ ไปน้แี ทน
480 “ข้อ 57 กรณีท่ีองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินได้ก่อหน้ีผูกพันไว้ก่อนส้ินปี โดยส่ังซื้อหรือส่ังจ้าง หรือการเช่าทรัพย์สนิ ถ้าเห็นว่าการเบกิ เงนิ ไปชาระหน้ีผกู พันไมท่ นั สน้ิ ปี ให้ผู้บริหารท้องถ่ินอนุมตั ิใหก้ นั เงินไวเ้ บิกจ่ายในปีถัดไปได้อีกไมเ่ กินระยะเวลาหนึง่ ปหี รอื ตามข้อผกู พนั ” ข้อ 19 ให้ยกเลิกความในข้อ 59 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงนิ และการตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ พ.ศ. 2547 และ ใหใ้ ช้ความต่อไปน้แี ทน “ขอ้ 59 ในกรณีที่มีรายจ่ายหมวดค่าครุภณั ฑ์ทดี่ นิ และสง่ิ กอ่ สรา้ ง ยงั มไิ ดก้ อ่ หนีผ้ ูกพนั แต่มีความ จาเปน็ ตอ้ งใชจ้ า่ ยเงินนน้ั ต่อไปอีก ใหอ้ งคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ินรายงานขออนุมัตกิ นั เงนิ ตอ่ สภาท้องถ่นิ ได้ อกี ไม่เกินระยะเวลาหนึ่งปี กรณเี มอ่ื ส้ินสดุ ระยะเวลาการกันเงนิ ตามวรรคหนง่ึ แล้ว หากองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ ยังมิได้ ดาเนินการก่อหน้ีผูกพนั ให้ขออนุมัติขยายเวลาเบิกจา่ ยเงินได้ไม่เกินอีกหนึ่งปตี ่อสภาท้องถ่ิน หรือกรณีมี ความจาเป็นต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการดังกล่าวท่ีทาให้ ลักษณะ ปริมาณ คุณภาพเปลี่ยนหรือ เปล่ียนแปลงสถานท่กี ่อสรา้ ง ให้ขออนุมัตเิ ปลย่ี นแปลงและหรอื ขยายเวลาเบิกจ่ายเงนิ ได้ไมเ่ กินอกี หนึ่งปี ตอ่ สภาท้องถ่ินแล้วแต่กรณี และโครงการดงั กลา่ วตอ้ งมีวัตถปุ ระสงค์เดิมตามทไี่ ดร้ บั อนมุ ัตใิ ห้กนั เงนิ ไว้ กรณที อ่ี งค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ ไดก้ อ่ หน้ผี กู พนั แลว้ ให้เบกิ จา่ ยได้ตามขอ้ ผูกพัน เม่อื สิน้ สดุ ระยะเวลาการกันเงินตามวรรคหนึง่ หรือขยายเวลาเบิกจ่ายเงินตามวรรคสองแล้วหาก ยงั ไม่ไดด้ าเนนิ การกอ่ หน้ผี กู พันหรือมเี งนิ เหลอื จา่ ยจากเงินดงั กล่าว ให้เงินจานวนน้นั ตกเปน็ เงนิ สะสม” ข้อ 20 ให้ยกเลิกความในข้อ 59/1 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรบั เงินการเบิก จ่ายเงนิ การฝากเงิน การเกบ็ รักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน พ.ศ. 2547 ซึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจา่ ยเงินการฝากเงิน การเกบ็ รกั ษา เงิน และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558 และใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปนี้แทน “ข้อ 59/1 รายจา่ ยเงินเดอื น คา่ จา้ ง บาเหน็จบานาญ เงนิ ประจาตาแหน่ง เงินเพ่ิมเงนิ ประโยชน์ ตอบแทนอ่ืน เงินช่วยเหลือและเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน รวมทั้งค่าตอบแทนที่เรียกช่ืออย่างอ่ืน ท่ีมี ระเบียบ กฎหมาย กาหนดให้จ่ายในลักษณะเดียวกัน หากเบิกเงินไม่ทันส้ินปีและมีความจาเป็นต้องใช้ จ่ายเงินนัน้ ต่อไปอกี ให้ผู้บริหารท้องถิ่นอนุมัตใิ ห้กันเงินไดไ้ ม่เกินหกเดอื น เมื่อส้ินสดุ ระยะเวลาการกันเงินตามวรรคหนึ่ง หากยังดาเนินการไมแ่ ล้วเสร็จ ให้ขอขยายเวลา การเบิกจ่ายเงนิ ต่อสภาทอ้ งถิน่ ได้อีกไม่เกนิ หกเดอื น” ข้อ 21 ให้เพิม่ ความต่อไปนี้เป็นข้อ 59/2 ของระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าดว้ ยการรบั เงินการ เบิกจ่ายเงิน การฝากเงนิ การเก็บรกั ษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน พ.ศ. 2547
ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรบั เงนิ การเบิกจา่ ยเงนิ การฝากเงนิ การเก็บรกั ษาเงนิ 481 และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ (ฉบับท่ี 4) พ.ศ. 2561 “ขอ้ 59/2 การขอขยายเวลาเบกิ จา่ ยเงนิ ตามหมวดน้ี ให้องคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่นดาเนนิ การ ก่อนสิ้นระยะเวลาท่ไี ดร้ บั อนุมตั ใิ หก้ นั เงินหรอื ขยายเวลาเบกิ จ่ายเงนิ ” ข้อ 22 ให้ยกเลิกความในข้อ 65 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จา่ ยเงิน การฝากเงิน การเกบ็ รกั ษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ พ.ศ. 2547 และ ใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปน้แี ทน “ข้อ 65 เม่ือผู้มีอานาจอนุมัตใิ นฎกี าเบกิ เงิน ให้องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินบันทกึ รายการเบิก เงนิ ในระบบ” ข้อ 23 ให้ยกเลิกความในข้อ 68 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงนิ และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ิน พ.ศ. 2547 และ ให้ใชค้ วามตอ่ ไปนแี้ ทน “ขอ้ 68 การจ่ายเงินใหแ้ ก่เจ้าหนีห้ รอื ผมู้ ีสทิ ธิให้จ่ายเปน็ เช็ค กรณีจาเป็นท่ีไมอ่ าจจา่ ยเป็นเชค็ ได้ ให้จัดทาใบถอนเงนิ ฝากธนาคารเพื่อใหธ้ นาคารออกต๋ัวแลกเงินสง่ั จา่ ยให้เจา้ หนี้หรอื ผู้มีสทิ ธิการจ่ายเงิน ผ่านธนาคารหรือดว้ ยวธิ อี น่ื ใด ให้เป็นไปตามทก่ี รมส่งเสรมิ การปกครองท้องถ่ินกาหนด” ข้อ 24 ให้ยกเลิกความในข้อ 69 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จ่ายเงิน การฝากเงนิ การเก็บรกั ษาเงิน และการตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ินพ.ศ. 2547 และ ให้ใชค้ วามต่อไปน้แี ทน “ข้อ 69 การเขียนเชค็ ส่งั จ่ายให้ปฏิบตั ิ ดังนี้ (1) การจ่ายเงนิ ใหเ้ จา้ หนี้หรือผมู้ สี ิทธิรับเงนิ ในกรณซี อ้ื ทรัพย์สนิ จ้างทาของ หรือเชา่ ทรัพย์สิน ใหอ้ อกเชค็ สงั่ จา่ ยในนามของเจ้าหนหี้ รอื ผมู้ สี ทิ ธิรบั เงิน โดยขดี ฆา่ คาว่า “หรอื ผูถ้ อื ” ออกและขีดครอ่ มด้วย (2) การจ่ายเงินให้แก่เจ้าหน้ีหรือผมู้ ีสิทธิรับเงิน นอกจากกรณีตาม (1) ใหอ้ อกเช็คสัง่ จา่ ยในนาม ของเจ้าหนหี้ รือผมู้ สี ิทธริ ับเงนิ โดยขีดฆา่ คาวา่ “หรือผถู้ อื ” และจะขีดครอ่ มหรอื ไม่ก็ได้ (3) ในกรณีสั่งจา่ ยเงินเพอื่ ขอรบั เงินสดมาจา่ ย ใหก้ ระทาไดใ้ นการจา่ ยเงนิ ทีม่ วี งเงนิ ไมเ่ กินหา้ พัน บาท โดยให้ออกเชค็ ส่งั จ่ายในนามหวั หน้าหน่วยงานคลงั หรือเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานคลังและขดี ฆ่าคาว่า “หรอื ผู้ถือ” ออก หา้ มออกเชค็ ส่งั จ่ายเงินสด (4) หากเจ้าหน้ีหรือผู้มีสทิ ธิรบั เงินไม่มารบั เช็คภายในสามสิบวันนับต้ังแต่วันสั่งจ่าย ให้ยกเลิก เช็คนนั้ หากมกี ารยกเลิกเชค็ ดงั กล่าวเกินสองครงั้ ตอ้ งรายงานเหตุผลใหผ้ บู้ รหิ ารท้องถ่นิ ทราบ ในการเขียนเชค็ สั่งจ่ายเงนิ หา้ มลงลายมือชอื่ สง่ั จ่ายในเชค็ ไว้ลว่ งหนา้ โดยยังมไิ ดม้ ีการเขียนหรอื พมิ พช์ อ่ื ผู้รบั เงิน และจานวนเงินทสี่ ัง่ จ่าย”
482 ข้อ 25 ให้ยกเลิกความในข้อ 70 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จา่ ยเงิน การฝากเงนิ การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ พ.ศ. 2547 และ ใหใ้ ชค้ วามต่อไปนี้แทน “ขอ้ 70 การเขยี นหรอื พิมพ์จานวนเงินในเชค็ ที่เป็นตัวเลขและตวั อกั ษรเขยี นหรือพมิ พ์ใหช้ ิดเสน้ และชิดคาว่า “บาท” หรือขีดเสน้ หน้าจานวนเงนิ ทั้งตัวเลขและตัวอักษร โดยไม่มีช่องว่างท่ีจะเขียนหรอื พิมพ์จานวนเงินเพ่ิมเติมได้ และให้ขีดเส้นตรงหลงั ชื่อสกุล ช่ือบริษัท หรือห้างหุ้นสว่ นจนชิดคาว่า“หรอื ผู้ ถือ” โดยมใิ ห้มกี ารเขยี นหรือพิมพช์ ื่อบคุ คลอื่นเพิ่มเติมไดอ้ ีก” ข้อ 26 ให้ยกเลิกความในข้อ 71 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จ่ายเงนิ การฝากเงิน การเกบ็ รกั ษาเงนิ และการตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ พ.ศ. 2547 และ ให้ใชค้ วามตอ่ ไปนีแ้ ทน “ข้อ 71 การจ่ายเงนิ ทกุ กรณี ถ้าผู้จ่ายมหี นา้ ทต่ี ามกฎหมายที่จะต้องหักภาษีใด ๆ ไว้ ณ ท่ีจ่าย หรือเงินอ่ืนใดที่มีกฎหมายกาหนดให้หักเพื่อนาส่งส่วนราชการหรือหน่วยงานใด ให้ดาเนินการตาม กฎหมายนัน้ ” ขอ้ 27 ใหเ้ พ่มิ ความต่อไปนเี้ ปน็ วรรคสองของข้อ 73 ของระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าดว้ ยการ รบั เงิน การเบกิ จา่ ยเงนิ การฝากเงิน การเก็บรกั ษาเงิน และการตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 “กรณีที่กระทรวงการคลังจ่ายเงินให้แก่เจ้าหน้ีหรือผู้มีสิทธิรับเงินแทนองค์กรปกครองส่วน ทอ้ งถิ่นใหใ้ ช้หลกั ฐานการจ่ายเงนิ ของกรมบัญชกี ลาง กระทรวงการคลงั เป็นหลักฐานการจา่ ยเงิน” ข้อ 28 ให้เพิ่มความตอ่ ไปน้ีเปน็ ขอ้ 73/1 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าดว้ ยการรับเงิน การ เบิกจา่ ยเงนิ การฝากเงิน การเกบ็ รกั ษาเงิน และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่ พ.ศ. 2547 “ข้อ 73/1 การจ่ายเงินขององค์การปกครองส่วนท้องถ่ิน ให้ใช้ใบเสรจ็ รบั เงิน หรือใบรับเงินซึ่ง ผู้รับเงินเป็นผู้ออกให้ หรือใบสาคัญรับเงิน หรือใบรับรองการจ่ายเงิน หรือหลักฐานอ่ืนใดที่ กระทรวงมหาดไทยกาหนดใหเ้ ป็นหลกั ฐานการจ่าย” ข้อ 29 ให้ยกเลิกความในข้อ 77 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จา่ ยเงนิ การฝากเงนิ การเกบ็ รักษาเงนิ และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ พ.ศ. 2547 และ ใหใ้ ช้ความตอ่ ไปนแ้ี ทน “ข้อ 77 ให้ผู้จ่ายเงินประทบั ตราข้อความว่า “จ่ายเงินแล้ว” โดยลงลายมือชื่อรับรองการจา่ ย พร้อมทั้งระบุช่ือสกุลด้วยตัวบรรจงพร้อมวัน เดือน ปี ท่ีจ่ายกากับไว้ในหลกั ฐานการจ่ายเงินใหแ้ กเ่ จ้าหน้ี
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าดว้ ยการรบั เงิน การเบกิ จ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงนิ 483 และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น (ฉบบั ท่ี 4) พ.ศ. 2561 หรือผู้มีสิทธิรับเงินทุกฉบับเพ่ือประโยชน์ในการตรวจสอบ และกรณีที่เป็นใบสาคัญคู่จ่ายให้หัวหน้า หน่วยงานคลงั ลงลายมือชอื่ รบั รองความถูกตอ้ งกากบั ไวด้ ว้ ย ในกรณีทใ่ี บสาคัญคูจ่ ่ายเป็นภาษาต่างประเทศ ให้มีคาแปลเป็นภาษาไทยตามสาระสาคญั ในข้อ 76 ไว้ดว้ ย” ขอ้ 30 ใหเ้ พมิ่ ความต่อไปน้เี ป็นข้อ 77/1 ของระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรบั เงนิ การ เบกิ จา่ ยเงนิ การฝากเงิน การเก็บรักษาเงนิ และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ พ.ศ. 2547 “ข้อ 77/1 การจ่ายเงินทุกรายการต้องมีการบนั ทึกการจ่ายเงินไว้ในระบบและต้องตรวจสอบ การจ่ายเงินกบั หลกั ฐานการจ่ายทกุ สิ้นวนั ” ข้อ 31 ให้ยกเลิกความในข้อ 78 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จา่ ยเงนิ การฝากเงนิ การเกบ็ รักษาเงนิ และการตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ พ.ศ. 2547 และ ใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปนี้แทน “ข้อ 78 ข้าราชการ พนักงานสว่ นทอ้ งถ่นิ พนกั งานจ้าง ลูกจา้ ง หรอื ผรู้ ับบานาญหรือเบ้ียหวัดที่ ไมส่ ามารถมารบั เงนิ ได้ดว้ ยตนเอง จะมอบฉันทะใหผ้ ้อู ืน่ เปน็ ผู้รบั แทนก็ได้ โดยใช้ใบมอบฉันทะตามแบบท่ี กรมส่งเสริมการปกครองทอ้ งถิ่นกาหนด การจ่ายเงนิ ใหแ้ ก่บุคคลนอกจากที่กาหนดไว้ในวรรคหน่งึ หากบุคคลนั้นไมส่ ามารถมารบั เงินได้ ด้วยตนเอง สามารถทาหนงั สือมอบอานาจให้บคุ คลอืน่ มารบั เงินแทนได้ การจา่ ยเงินในกรณที ี่มกี ารโอนสิทธเิ รียกร้อง ใหเ้ ปน็ ไปตามทก่ี ระทรวงมหาดไทยกาหนด” ข้อ 32 ให้ยกเลิกความในข้อ 80 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จ่ายเงนิ การฝากเงิน การเก็บรกั ษาเงิน และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ พ.ศ. 2547 และ ให้ใชค้ วามต่อไปนี้แทน “ข้อ 80 กรณีองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินจ่ายเงินรายใด ซ่ึงตามลักษณะไม่อาจเรียก ใบเสร็จรับเงนิ จากผ้รู ับเงนิ ได้ ให้ผรู้ บั เงินลงชอื่ รบั เงนิ ในใบสาคญั รบั เงนิ เพ่ือใช้เปน็ หลกั ฐานการจา่ ย” ข้อ 33 ให้ยกเลิกความในข้อ 81 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จา่ ยเงนิ การฝากเงิน การเก็บรกั ษาเงนิ และการตรวจเงินขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ พ.ศ. 2547 และ ให้ใชค้ วามตอ่ ไปนี้แทน “ข้อ 81 กรณีข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินจ่ายเงินไปโดย ได้รับใบเสร็จรบั เงินซงึ่ มีรายการไม่ครบถ้วนตามขอ้ 76 หรอื ซ่ึงตามลกั ษณะไมอ่ าจเรยี กใบเสร็จรบั เงนิ จาก ผู้รบั เงนิ ได้ ใหข้ ้าราชการ พนักงานหรือลกู จ้างขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นนน้ั ทาใบรับรองการจ่ายเงิน เพอื่ นามาเปน็ เอกสารประกอบการขอเบิกเงนิ ตอ่ องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ินและเมื่อมีการจา่ ยเงินแล้ว ให้
484 ข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินนั้นทาใบสาคัญรับเงินและลงชื่อใน ใบสาคญั รับเงนิ นัน้ เพือ่ เป็นหลกั ฐานการจา่ ย” ข้อ 34 ให้ยกเลิกความในข้อ 82 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จ่ายเงิน การฝากเงนิ การเกบ็ รักษาเงนิ และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน พ.ศ. 2547 และ ให้ใช้ความต่อไปน้ีแทน “ขอ้ 82 ในกรณีที่ใบสาคัญคู่จ่ายสูญหาย ให้ปฏบิ ตั ิดงั น้ี (1) กรณีทไี่ ดร้ บั ใบเสร็จรบั เงินแล้ว แตเ่ กิดสูญหาย ใหใ้ ช้สาเนาใบเสร็จรับเงิน ซง่ึ ผูร้ บั เงินรับรอง เป็นเอกสารการขอเบิกเงนิ แทนกไ็ ด้ (2) กรณีที่ไม่อาจขอสาเนาใบเสร็จรับเงนิ ตาม (1) ได้ ให้ผู้จ่ายเงินนั้นทาใบรับรองการจ่ายเงิน โดยชแ้ี จงเหตุผล พฤติการณ์ที่สูญหาย หรือเหตทุ ี่ไม่อาจขอสาเนาใบเสรจ็ รบั เงินได้และรบั รองว่ายงั ไม่เคย นาใบเสร็จรับเงินนั้นมาเบิกจ่าย แม้พบภายหลังจะไม่นามาเบิกจ่ายอีกแล้วเสนอต่อผู้บังคับบัญชา ตามลาดับเพอ่ื พิจารณาอนุมัติ เมื่อได้รับอนุมตั ิแลว้ ก็ให้ใช้ใบรับรองน้ันเป็นหลักฐานประกอบการขอเบกิ เงนิ ได้ และเมอื่ มีการจา่ ยเงินแลว้ ใหผ้ จู้ ่ายเงนิ นนั้ ทาใบสาคญั รับเงนิ และลงชอ่ื ในใบสาคญั รบั เงินน้ัน เพ่ือ เป็นหลักฐานการจ่าย” ข้อ 35 ให้ยกเลิกความในส่วนท่ี 3 การจ่ายเงินยืม หมวด 7 ข้อกาหนดในการจ่ายเงินของ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงินและการ ตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ พ.ศ. 2547 และให้ใช้ความต่อไปน้ีแทน “ส่วนที่ 3 การเบิกจา่ ยเงนิ ยมื ” ข้อ 36 ให้ยกเลิกความในข้อ 84 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จ่ายเงนิ การฝากเงนิ การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 ซ่ึง แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บ รักษาเงิน และการตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558 และใหใ้ ชค้ วามต่อไปนี้ แทน “ข้อ 84 การจ่ายเงินยมื จะจา่ ยได้แตเ่ ฉพาะทผ่ี ้ยู ืมได้ทาสญั ญาการยืมเงนิ และผ้บู รหิ ารทอ้ งถ่นิ ได้ อนมุ ตั ิให้จ่ายเงนิ ยมื ตามสญั ญาการยมื แล้วเทา่ นัน้ โดยจะต้องเปน็ ไปตามเง่อื นไข ดงั ต่อไปนี้ (1) มีงบประมาณเพ่ือการนั้นแล้ว
ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการรบั เงิน การเบิกจ่ายเงนิ การฝากเงนิ การเก็บรักษาเงิน 485 และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ (ฉบบั ท่ี 4) พ.ศ. 2561 (2) ผู้ยืมได้ทาสัญญาการยืมเงินข้ึนสองฉบับ โดยผู้ยืมได้รับเงินตามสัญญาการยืมแล้วให้ลง ลายมือชือ่ รับเงินในสัญญาการยมื เงินทั้งสองฉบบั พร้อมกบั มอบให้องคก์ รปกครองส่วนท้องถิน่ ผ้ใู ห้ยืมเกบ็ รกั ษาไว้เป็นหลกั ฐานหน่ึงฉบบั ให้ผ้ยู ืมเก็บไวห้ น่งึ ฉบบั และรบั รองว่าจะปฏิบัติตามระเบียบข้อบงั คับ หรอื คาส่ังท่ีได้กาหนดไว้สาหรับเร่ืองน้ัน และจะนาใบสาคัญคู่จ่ายท่ีถูกต้องรวมทั้งเงินเหลือจ่ายส่งคืนตามที่ กาหนดในข้อ 86 ถ้าไม่ส่งตามกาหนดก็จะชดใช้เงนิ หรอื ยินยอมให้องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่ินหักเงนิ เดอื น คา่ จ้าง บาเหน็จบานาญ หรือเงนิ อนื่ ใดอันจะพงึ ได้รบั จากองคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ินชดใชเ้ งนิ ยืมนั้น กรณที ผี่ ยู้ ืมไมม่ เี งินใด ๆ อนั จะพงึ ไดร้ ับจากองคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่ ทจ่ี ะหกั สง่ ใชเ้ งนิ ยมื ไดใ้ ห้ องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นกาหนดให้ผยู้ ืมหาหลักทรัพย์มาวางเปน็ ประกัน หรือหาบคุ คลมาทาสัญญาคา้ ประกนั ไว้ต่อองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ ดว้ ย (3) การอนมุ ัตใิ หผ้ ้ยู ืมเงนิ เพื่อใชใ้ นราชการแตล่ ะราย ให้ผู้มีอานาจพิจารณาอนุมัติให้ยมื เท่าที่จา เปน็ ไดเ้ ฉพาะผูม้ ีหนา้ ที่ตอ้ งปฏิบัตงิ านนั้น ๆ และห้ามมใิ ห้อนุมตั ใิ ห้ยมื เงนิ รายใหม่ในเมื่อผยู้ มื มิได้ชาระคืน เงินยมื รายเกา่ ให้เสร็จส้ินไปกอ่ น ในกรณกี ารเดนิ ทางไปราชการเปน็ หมู่คณะ อาจใหผ้ มู้ ีสิทธคิ นใดคนหน่งึ เปน็ ผู้ยืมแทน (4) กรณีครบกาหนดการส่งใช้เงนิ ยืมแล้วผูย้ ืมยังไม่ชดใช้เงนิ ยืม ให้ผู้บรหิ ารทอ้ งถ่ินมีอานาจสั่ง การให้ผู้ค้างชาระเงินยืมส่งใช้เงนิ ยืมภายในกาหนดเวลาตามท่ีเหน็ สมควร อยา่ งชา้ ไม่เกนิ สามสบิ วนั นับแต่ วนั ครบกาหนด ถ้าผยู้ ืมขัดขืนหรอื หลกี เลยี่ งไม่ยอมชดใชเ้ งินยืมให้นาความใน (2) มาใช้บังคบั แลว้ รายงาน ให้ผู้บริหารทอ้ งถ่นิ ทราบ (5) ในกรณีที่ผูย้ ืมจะต้องพน้ จากตาแหน่งหรอื พ้นจากการปฏิบัติงานให้แกอ่ งค์กรปกครองสว่ น ทอ้ งถน่ิ ไมว่ ่ากรณีใด ๆ ให้หวั หน้าหนว่ ยงานคลังมหี นา้ ทีต่ รวจสอบทะเบียนเงินยมื ของบุคคลดงั กล่าวหาก ปรากฏว่ายังค้างชาระเงนิ ยืมอยู่ ให้หัวหน้าหนว่ ยงานคลังเร่งรัดให้เสร็จส้ินในทันที ก่อนที่ผู้ยืมจะต้องพ้น จากตาแหน่งหนา้ ทไ่ี ปหรอื พน้ จากการปฏิบตั งิ านให้แก่องคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ ไป ในกรณที ผี่ ู้ยมื ถงึ แกก่ รรมหรอื ไมย่ ินยอมชดใช้เงนิ ยืมให้นาความใน (2) มาใชบ้ งั คับโดยอนุโลม (6) การสง่ ใช้เงนิ ยืมใหห้ วั หน้าหน่วยงานคลงั ปฏิบัติ ดังนี้ (ก) หมายเหตุจานวนเงินและวนั เดอื น ปี ทีส่ ่งใชใ้ นสญั ญาการยืมเงิน (ข) ตอ้ งเก็บรกั ษาสัญญาการยืมเงนิ นัน้ เป็นเอกสารสาคญั ในราชการ (ค) ถา้ รบั คืนเปน็ เงนิ สด ใหอ้ อกใบเสร็จรบั เงนิ ใหแ้ ก่ผู้ยืมไว้เปน็ หลกั ฐาน (ง) ให้บันทึกรายการสง่ ใช้เงนิ ยืมในทะเบียนเงินยืมไว้ด้วย โดยให้ผู้ยืมลงชื่อในทะเบียน เงินยืมสาหรบั รายการท่สี ่งใช้นน้ั ”
486 ข้อ 37 ให้เพ่มิ ความต่อไปนีเ้ ป็นข้อ 84/1 ของระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการรบั เงินการ เบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงนิ และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่นพ.ศ. 2547 “ข้อ 84/1 การจ่ายเงินยืมจากเงินนอกงบประมาณ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินกระทาได้ เฉพาะเพอื่ ใชจ้ ่ายในการดาเนนิ งานตามวตั ถปุ ระสงค์ของเงนิ นอกงบประมาณประเภทนนั้ หรือกรณีอืน่ และ ได้รบั อนมุ ตั ิจากผู้บรหิ ารองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ผู้ใหย้ มื นน้ั ” ข้อ 38 ใหเ้ พม่ิ ความต่อไปน้เี ป็นขอ้ 85/1 ของระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการรบั เงนิ การ เบกิ จ่ายเงนิ การฝากเงนิ การเกบ็ รักษาเงิน และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่ พ.ศ. 2547 “ข้อ 85/1 การเบิกเงินเพ่ือจ่ายเป็นเงินยืมให้แก่บุคคลใดในสังกัด ยืมเพื่อปฏิบัติราชการให้ กระทาไดเ้ ฉพาะรายการ ดังตอ่ ไปนี้ (1) รายการค่าจา้ งแรงงาน ซงึ่ ไมม่ ีกาหนดจ่ายเปน็ งวดแน่นอนเปน็ ประจา แตจ่ าเปน็ ต้องจ่ายให้ แตล่ ะวนั หรือแต่ละคราวเม่ือเสร็จงาน (2) รายการค่าตอบแทน ใช้สอยและวัสดุ เฉพาะค่าตอบแทนสาหรับผู้ท่ปี ฏบิ ตั ิงานใหแ้ ก่องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นและจาเป็นต้องจ่ายแต่ละวันหรือแต่ละคราวเม่ือส้ินสุดการปฏิบัติงานค่าตอบแทน คณะกรรมการ ค่าเบีย้ ประชุม รายการค่าใช้สอยหรอื วสั ดุท่ีไมต่ อ้ งจดั ซื้อจดั จา้ ง คา่ ใช้จา่ ยในการเดนิ ทางไป ราชการ หรือค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม หรือค่าใช้จ่ายในการจัดงานเฉพาะรายการทไ่ี ม่ต้องจัดซื้อจดั จา้ ง เป็นตน้ (3) รายการค่าสาธารณูปโภค เฉพาะค่าบรกิ ารไปรษณียโ์ ทรเลข” ข้อ 39 ให้ยกเลิกความในข้อ 86 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ พ.ศ. 2547 และ ใหใ้ ช้ความต่อไปน้ีแทน “ข้อ 86 เงนิ ท่ยี มื ไป ให้ผยู้ ืมสง่ หลักฐานการจ่ายภายในกาหนดระยะเวลา ดังน้ี (1) กรณเี ดนิ ทางกลับภมู ิลาเนาเดมิ ใหส้ ่งตอ่ องคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ินท่จี า่ ยเงินใหย้ มื โดยทาง ไปรษณีย์ลงทะเบียนหรอื ธนาณตั ิแลว้ แต่กรณี ภายในสามสบิ วนั นับจากวนั ท่ีไดร้ บั เงนิ (2) กรณีเดินทางไปราชการอน่ื ให้ส่งต่อองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ผ้ใู ห้ยืมภายในสบิ ห้าวนั นบั จากวนั กลบั มาถงึ (3) การยืมเงินเพื่อปฏบิ ัตริ าชการนอกจากตาม (1) หรือ (2) ใหส้ ง่ ตอ่ องค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ ผ้ใู ห้ยมื ภายในสามสิบวันนับจากวนั ทไี่ ดร้ บั เงิน
ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าดว้ ยการรบั เงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเกบ็ รกั ษาเงิน 487 และการตรวจเงินขององค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2561 ในกรณีท่ผี ้ยู มื ไดส้ ่งหลกั ฐานการจ่ายเพ่อื ส่งใช้คืนเงินยืมแล้วมเี หตตุ ้องทกั ท้วง ให้องคก์ รปกครอง ส่วนท้องถ่นิ ผใู้ ห้ยืมแจง้ ขอ้ ทักท้วงใหผ้ ู้ยืมทราบโดยด่วน แล้วใหผ้ ยู้ ืมปฏิบตั ติ ามคาทักท้วงภายในสิบห้าวัน นับจากวนั ท่ีไดร้ ับคาทกั ท้วง หากผยู้ มื มิได้ดาเนนิ การตามคาทักทว้ งและมไิ ด้ชี้แจงเหตุผลใหอ้ งค์กรปกครอง ส่วนท้องถน่ิ ผู้ให้ยืมทราบ ก็ให้องคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ินดาเนนิ การตามเงือ่ นไขในสัญญาการยมื เงนิ โดย ถอื ว่าผู้น้ันยังมไิ ดส้ ่งใช้เงินยมื เทา่ จานวนท่ีทักท้วงน้นั ” ขอ้ 40 ให้เพิ่มความตอ่ ไปน้ีเปน็ ขอ้ 86/1 ของระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงนิ การ เบิกจา่ ยเงิน การฝากเงนิ การเก็บรกั ษาเงนิ และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองส่วนท้องถ่นิ พ.ศ. 2547 “ข้อ 86/1 เมื่อผู้ยืมส่งหลักฐานการจ่ายเงินหรือเงินเหลือจ่ายท่ียืม (ถ้ามี) ให้หน่วยงานคลัง บันทึกการรับคืนในสัญญาการยืมเงิน ถ้ารับคืนเป็นเงินสดให้ออกใบเสร็จรับเงิน พร้อมท้ังออกใบรับ ใบสาคญั ตามแบบทก่ี รมสง่ เสริมการปกครองทอ้ งถ่นิ กาหนดใหผ้ ้ยู มื ไว้เปน็ หลกั ฐาน ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินเก็บรกั ษาสญั ญาการยืมเงินซ่ึงยังมไิ ด้ชาระคืนใหเ้ สร็จสิ้นไว้ในท่ี ปลอดภัยอย่าให้สญู หายและเมอื่ ผูย้ ืมได้ชาระคืนเงินยมื เสร็จส้ินแล้วให้เก็บรักษาเชน่ เดียวกบั หลักฐานการ จา่ ย” ข้อ 41 ให้ยกเลิกความในข้อ 87 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จา่ ยเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ิน พ.ศ. 2547 และ ให้ใชค้ วามตอ่ ไปนแ้ี ทน “ขอ้ 87 ทกุ วนั สิน้ ปงี บประมาณ เมอ่ื องคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ิน ได้ปดิ บญั ชีรายรบั รายจ่ายแลว้ ใหก้ ันยอดเงินสะสมประจาปไี วร้ ้อยละสิบหา้ ของทุกปี เพือ่ เป็นทุนสารองเงินสะสม องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ อาจใช้จา่ ยเงนิ ทนุ สารองเงินสะสมได้ กรณดี ังต่อไปนี้ (1) กรณีที่ยอดเงินสะสมคงเหลือไม่ถึงร้อยละสิบห้าของเงินสะสม ณ วันที่ 1 ตุลาคมของ ปงี บประมาณนน้ั ให้ขอความเห็นชอบจากสภาท้องถน่ิ และขออนุมตั ผิ วู้ ่าราชการจังหวดั (2) กรณีท่ีปีใด องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่ินมยี อดเงินทนุ สารองเงนิ สะสมเกินร้อยละสิบห้าของ งบประมาณรายจ่ายประจาปีน้ัน หากมีความจาเปน็ องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นอาจนาเงินทุนสารองเงิน สะสมเฉพาะในส่วนที่เกินไปใชจ้ า่ ยได้ภายใต้เงือ่ นไขข้อ 89 (1) โดยได้รบั อนุมัตจิ ากสภาท้องถน่ิ ” ข้อ 42 ให้ยกเลิกความในข้อ 88 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จา่ ยเงนิ การฝากเงิน การเกบ็ รกั ษาเงนิ และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่ พ.ศ. 2547 และ ให้ใช้ความตอ่ ไปน้ีแทน
488 “ข้อ 88 กจิ การใดท่มี ีงบประมาณรายจ่ายประจาปอี นุญาตให้จา่ ยไดแ้ ล้ว แต่ระยะสามเดือนแรก ของปงี บประมาณ องคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่ มรี ายได้ไม่เพียงพอทจ่ี ะดาเนนิ การตามงบประมาณองค์กร ปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ อาจนาเงนิ สะสมทดรองจา่ ยไปพลางก่อนได้ กรณที ี่องค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ ไดร้ บั แจง้ การจดั สรรเงินอุดหนุนทรี่ ัฐบาลระบุวตั ถุประสงคใ์ ห้ ไปดาเนินการตามอานาจหน้าที่ยกเว้นงบลงทุน แต่ยังมิได้รับเงิน หากมีความจาเป็นต้องใช้จ่ายเงินก่อน องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ อาจยมื เงนิ สะสมทดรองจ่ายไปพลางกอ่ นได้ เมอ่ื ไดร้ บั เงนิ งบประมาณดงั กล่าว แลว้ ให้บนั ทึกบัญชีสง่ ใช้เงินสะสมทยี่ ืมตามวิธกี ารทีก่ รมสง่ เสรมิ การปกครองทอ้ งถ่ินกาหนด กรณีองค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นใดมกี ิจการพาณิชย์ หากมีความจาเปน็ กิจการพาณิชย์อาจขอ ยมื เงนิ สะสมขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นไปทดรองจา่ ยเพอื่ บรหิ ารกิจการก่อนได้ โดยขอความเหน็ ชอบ จากสภาทอ้ งถ่นิ และให้ส่งชดใช้เงินยืมเงนิ สะสมเมอ่ื สน้ิ ปงี บประมาณ กรณอี งค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ใด มผี ู้รบั บานาญรายใหม่หรือผ้รู บั บานาญทยี่ า้ ยภูมิลาเนาและ ประสงค์จะโอนการรบั เงินบานาญไปรับในองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่นประเภทเดียวกนั ในท้องที่ทย่ี ้ายไป อยูใ่ หม่ องค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ หรอื องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่นใหมอ่ าจยมื เงนิ สะสมทดรองจา่ ยใหก้ บั ผรู้ บั บานาญน้ันได้ โดยอานาจของผ้บู รหิ ารท้องถ่นิ และเมือ่ ไดร้ ับเงินคนื ให้บันทกึ บัญชสี ่งใช้เงินสะสมที่ยืม ตามวิธีการทีก่ รมสง่ เสริมการปกครองทอ้ งถ่นิ กาหนด” ข้อ 43 ให้ยกเลิกความในข้อ 89 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิก จ่ายเงนิ การฝากเงนิ การเก็บรกั ษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 ซึ่ง แก้ไขเพ่มิ เตมิ โดยระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าดว้ ยการรบั เงิน การเบิกจ่ายเงนิ การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2548 “ข้อ 89 องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินอาจใช้จ่ายเงินสะสมได้ โดยได้รับอนุมัติจากสภาท้องถ่นิ ภายใตเ้ งอ่ื นไข ดงั ตอ่ ไปนี้ (1) ใหก้ ระทาไดเ้ ฉพาะกิจการซ่งึ อยู่ในอานาจหนา้ ที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินซึง่ เกี่ยวกับ ด้านการบรกิ ารชุมชนและสงั คม หรือกิจการท่ีเปน็ การเพิ่มพูนรายไดข้ ององค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ หรือ กิจการท่ีจัดทาเพื่อบาบัดความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งน้ี ต้องเป็นไปตามแผนพัฒนาขององค์กร ปกครองสว่ นท้องถ่นิ หรือตามทก่ี ฎหมายกาหนด (2) ได้ส่งเงินสมทบกองทุนสง่ เสริมกิจการขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินแต่ละประเภทตาม ระเบียบแล้ว
ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการรบั เงนิ การเบิกจา่ ยเงิน การฝากเงนิ การเก็บรกั ษาเงิน 489 และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ (ฉบบั ที่ 4) พ.ศ. 2561 (3) ให้กันเงนิ สะสมสารองจ่ายเปน็ คา่ ใช้จา่ ยดา้ นบุคลากรไม่นอ้ ยกว่าสามเดอื นและกันไวอ้ ีกร้อย ละสิบของงบประมาณรายจา่ ยประจาปนี ้ัน เพ่ือเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงานและกรณีท่ีมีสาธารณภัย เกดิ ขึ้น (4) เมื่อได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินสะสมแล้ว องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นต้องดาเนินการก่อหนี้ ผูกพนั ให้เสร็จสน้ิ ภายในระยะเวลาไมเ่ กินหนงึ่ ปถี ัดไป หากไม่ดาเนินการภายในระยะเวลาท่ีกาหนดให้การ ใชจ้ า่ ยเงินสะสมน้ันเป็นอนั พบั ไป ท้ังนี้ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้จ่ายเงินสะสม โดยคานึงถึงฐานะการเงินการคลังของ องคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ินและเสถยี รภาพในระยะยาว” ขอ้ 44 ให้เพม่ิ ความตอ่ ไปนีเ้ ป็นข้อ 89/1 ของระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงนิ การ เบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ พ.ศ. 2547 “ข้อ 89/1 ในกรณีท่ีมีภารกิจตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลหรือกระทรวงมหาดไทยและ จาเป็นต้องให้องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ เป็นผู้ดาเนินการ โดยมีความจาเปน็ ต้องใช้จา่ ยจากงบประมาณ ขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ และงบประมาณดังกลา่ วไมเ่ พียงพอและไม่ตอ้ งด้วยเง่ือนไขการใชจ้ ่ายเงิน สะสมหรือเงินทุนสารองเงินสะสมตามข้อ 87 และข้อ 89 ปลัดกระทรวงมหาดไทยอาจอนุมัติยกเว้นให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้จ่ายจากเงินสะสมหรือเงินทุนสารองเงินสะสมได้โดยความเห็นชอบของ รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย” ข้อ 45 ให้ยกเลิกความในข้อ 100 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบกิ จ่ายเงนิ การฝากเงนิ การเก็บรกั ษาเงนิ และการตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น พ.ศ. 2547 และ ใหใ้ ช้ความตอ่ ไปนี้แทน “ข้อ 100 ให้หัวหน้าหน่วยงานคลังจัดทางบแสดงฐานะการเงิน และงบอ่ืน ๆ ตามแบบท่ี กระทรวงการคลังกาหนด เพ่อื ส่งให้สานักงานการตรวจเงินแผน่ ดนิ ตรวจสอบภายในเก้าสบิ วันนบั แตว่ ันสนิ้ ปีพร้อมสง่ ให้กระทรวงการคลังด้วย และส่งสาเนาให้ผู้ว่าราชการจงั หวัด กรณีองค์การบรหิ ารสว่ นจังหวัด และเทศบาล สง่ นายอาเภอ กรณอี งค์การบริหารส่วนตาบล” ขอ้ 46 ใหป้ ลดั กระทรวงมหาดไทยรกั ษาการตามระเบียบนี้
490 ประกาศ ณ วนั ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2561 พลเอก อนพุ งษ์ เผ่าจนิ ดา รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย
แนวข้อสอบระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรบั เงนิ การเบกิ จ่ายเงนิ การฝากเงนิ การ 491 เกบ็ รกั ษาเงนิ และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น พ.ศ. 2547 และทแ่ี กไ้ ขเพม่ิ (ฉบับท่ี แนวขอ้ สอบระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการรบั เงนิ การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก4็บ)รักษา เงนิ และการตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน พ.ศ. 2547 และท่ีแกไ้ ขเพมิ่ (ฉบับที่ 4) 1. ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจา่ ยเงนิ การฝากเงิน การเกบ็ รักษาเงิน และ การตรวจเงินขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น พ.ศ. 2547 ให้ใชบ้ ังคบั เม่ือใด ก. วันประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน็ ต้นไป ข. วันถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเป็นต้นไป ค. เมื่อพ้นกาหนด 60 วนั นบั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเปน็ ต้นไป ง. เมอื่ พน้ กาหนด 90 วนั นับจากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน็ ตน้ ไป 2. “ทนุ สารองสะสม”หมายถึงขอ้ ใด ก. ยอดเงินสะสมจานวนร้อยละห้าของยอดเงินสะสม ข. ยอดเงนิ สะสมจานวนรอ้ ยละสบิ ห้าของยอดเงนิ สะสม ค. ยอดเงินสะสมจานวนรอ้ ยละยสี่ ิบของยอดเงนิ สะสม ง. ยอดเงนิ สะสมจานวนร้อยละสามสบิ หา้ ของยอดเงนิ สะสม 3. ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการรบั เงนิ การเบกิ จา่ ยเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และ การตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ิน พ.ศ. 2547 มกี ่ีหมวด ก. 9 หมวด ข. 10 หมวด ค. 11 หมวด ง. 12 หมวด 4. เม่อื สิน้ ปีให้หวั หน้าหนว่ ยงานท่รี บั ใบเสรจ็ รับเงินไปดาเนินการจัดเก็บเงินแจง้ ให้หัวหน้าหนว่ ยงาน คลังทราบวา่ มใี บเสรจ็ รับเงินอยใู่ นความรับผิดชอบเลม่ ใด เลขทีใ่ ดถงึ เลขทใ่ี ด และได้ใชใ้ บเสรจ็ รบั เงิน ไปแล้วเล่มใด เลขที่ใดถึงเลขทใ่ี ด อยา่ งชา้ เม่ือใด ก. อยา่ งช้าไม่เกนิ วนั ท่ี 31 ตลุ าคมของปถี ดั ไป ข. อย่างชา้ ไมเ่ กินวันท่ี 30 กันยายนของปีถัดไป ค. อย่างชา้ ไมเ่ กินวนั ท่ี 31 ตุลาคมของปนี ้ัน ง. อยา่ งชา้ ไม่เกนิ วนั ท่ี 30 กันยายนของปีน้ัน
492 5. ขอ้ ใดกล่าวถกู ต้อง ก. ใหอ้ งค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ เกบ็ รักษาเงินทจ่ี ดั เกบ็ หรอื ไดร้ บั ไวใ้ นต้นู ิรภัย ข. ตนู้ ิรภัยขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นให้ติดหรือตงั้ ไว้ในห้องมัน่ คงหรอื กรงเหล็ก ค. หากมีจานวนเงินสดทเ่ี กบ็ รักษาไวใ้ นตูน้ ริ ภยั ให้นาฝากธนาคารทง้ั จานวนในวันทาการถัดไป ง. ถกู ทุกขอ้ 6. ขอ้ ใดไมใ่ ช่หมวดในระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงนิ การเบกิ จา่ ยเงิน การฝากเงนิ การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 ก. การเกบ็ รกั ษาเงนิ ข. ข้อกาหนดในการรบั เงิน ค. การสะสมรายได้ ง. การเบกิ เงิน 7. ขอ้ ใดคอื ความหมายของ “หนส้ี ูญ” ก. หน้ที ่ีองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ เปน็ เจา้ หน้ไี มเ่ คยได้รบั การชาระเงิน ข. หนท้ี ี่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นเจา้ หนไ้ี ด้รบั การชาระเงินหมดแลว้ ค. หนที้ ี่องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นเป็นเจ้าหน้ีไมม่ ที างทจ่ี ะไดร้ ับการชาระหนี้ ง. ไมม่ ีข้อถูก 8. “เงินสะสม” หมายถงึ ขอ้ ใด ก. เงนิ ทเ่ี หลือจา่ ยจากเงินรายรายรับตามงบประมาณรายจา่ ยประจาปี ข. เงินท่ีเหลอื จา่ ยจากเงนิ รายรายรบั ตามงบประมาณรายจ่ายเพิม่ เตมิ ค. เงินรายรับอนื่ ทีอ่ งคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ ได้รบั ภายในวนั สิน้ ปีงบประมาณหลงั จากหักทุน สารองสะสมไวแ้ ล้ว ง. ถกู ทุกขอ้ 9. “อนมุ ัติฎีกา” หมายถึงข้อใด ก. อนุญาตให้ฟ้องศาลฎกี า ข. อนญุ าตจากศาลฎีกา ค. อนญุ าตให้จ่ายเงนิ จากองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ ง. ถูกทุกข้อ
แนวข้อสอบระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าดว้ ยการรบั เงิน การเบกิ จา่ ยเงนิ การฝากเงนิ การ 493 เกบ็ รกั ษาเงนิ และการตรวจเงนิ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน พ.ศ. 2547 และท่ีแกไ้ ขเพม่ิ (ฉบบั ที่ 10. ใบเสรจ็ รบั เงินขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นต้องมสี าระสาคัญตรงตามข้อใด 4) ก. ตราเครอื่ งหมายและช่อื ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ ข. พมิ พห์ มายเลขกากับเลม่ และเลขที่ของใบเสร็จรับเงนิ เรยี งกบั ทกุ ฉบบั ค. วัน เดอื น ปี ทีร่ ับเงิน ง. ถูกทุกขอ้ 11. ใบเสรจ็ รับเงนิ ขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่น ต้องมสี าระสาคญั ตรงตามข้อใด ก. รายการแสดงการรบั เงินทร่ี ะบจุ านวนเงนิ ข. ความขอ้ ทีร่ ะบุวา่ มีการรบั เงนิ เรยี บร้อยแลว้ ค. สถานท่ีออกใบเสร็จ ง. ถูกทุกข้อ 12. ในกรณที ม่ี ีรายจ่ายหมวดค่าครุภณั ฑท์ ี่ดินและสิง่ ก่อสร้างยังมไิ ด้กอ่ หนีผ้ กู พันแตม่ ีความจาเป็น ตอ้ งใช้จ่ายเงินน้ันต่อไปอกี ใหอ้ งค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินรายงานขออนมุ ัตกิ นั เงินต่อสภาท้องถิ่นไดอ้ กี ไม่เกนิ ระยะเวลาเทา่ ใด ก. 3 เดอื น ข. 6 เดอื น ค. 1 ปี ง. 3 ปี 13. รายจ่ายเงนิ เดือน คา่ จ้าง บาเหนจ็ บานาญ เงินประจาตาแหนง่ เงินเพิม่ เงนิ ประโยชน์ตอบแทนอื่น เงินช่วยเหลือและเงินอ่ืนในลักษณะเดียวกัน รวมท้ังค่าตอบแทนที่เรียกชื่ออย่างอ่ืน ที่มีระเบียบ กฎหมาย กาหนดให้จ่ายในลักษณะเดียวกัน หากเบิกเงินไม่ทันส้ินปีและมคี วามจาเป็นต้องใช้จ่ายเงิน นัน้ ต่อไปอกี ให้ผูบ้ รหิ ารทอ้ งถ่ินอนุมัตใิ หก้ นั เงนิ ไดไ้ มเ่ กินกเ่ี ดือน ก. 6 เดือน ข. 9 เดือน ค. 12 เดือน ง. 24 เดือน 14. ข้อใดถกู ต้องเกี่ยวกับเงินรายรบั ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก. ใหน้ าฝากธนาคารในวันทร่ี บั เงิน ข. หากนาฝากธนาคารไมท่ นั ใหน้ าฝากตนู้ ิรภัย ค. ขอ้ ก และ ข ถกู ง. ไม่มีข้อใดถกู
494 15. ขอ้ ใดถกู ต้องเก่ยี วกบั การถอนเงนิ ธนาคารขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่น ก. ให้แจ้งเง่อื นไขการสงั่ จ่ายตอ่ ธนาคาร ข. ใหผ้ มู้ ีอานาจลงนาม โดยตอ้ งมผี บู้ รหิ ารทอ้ งถ่ินและปลดั องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน ค. ผู้มีอานาจลงนามสัง่ จา่ ยเงินรว่ มกันไม่ตา่ กว่า 3 คน ง. ถกู ทกุ ข้อ 16. ข้อใดคือข้อยกเว้นในการเบิกเงนิ จากหน่วยงานคลงั ขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ก. เปน็ เงนิ งบประมาณรายจ่ายท่ีไมไ่ ด้กอ่ หนผี้ ูกพนั ในปีงบประมาณน้ัน ข. เป็นเงินงบประมาณรายจา่ ยท่ไี ด้กอ่ หนผ้ี ูกพนั ไว้กอ่ นปีงบประมาณนั้น ค. เปน็ เงินอดุ หนุนทร่ี ฐั บาลใหอ้ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ทร่ี ะบวุ ตั ถปุ ระสงคซ์ ่งึ เบกิ จ่ายไมท่ นั ใน ส้นิ ปีงบประมาณทผี่ า่ นมา ง. ถูกทกุ ข้อ 17. ข้อใดไม่ถูกต้องเกีย่ วกับการพมิ พจ์ านวนเงนิ ในฎีกาเบกิ เงิน ก. ต้องพิมพจ์ านวนเงินทงั้ ตวั เลขและตวั อกั ษรให้ชดั เจน ข. ห้ามขดู ลบจานวนเงนิ ท้งั ตัวเลขและตัวอักษร ค. ไม่สามารถขีดฆา่ จานวนเงินท้ังตวั เลขและตวั อักษรได้ ง. ให้พิมพจ์ านวนทขี่ อเบิกชดิ คาว่า “ตัวอังษร” หรอื ขดี เสน้ หน้าจานวนเงนิ 18. ใหผ้ ู้บริหารทอ้ งถนิ่ แตง่ ตั้งคณะกรรมการเกบ็ รกั ษาเงินไว้ ณ สานกั งานอย่างน้อยสามคนใน จานวนนีใ้ ครเป็นกรรมการโดยตาแหนง่ หนึ่งคน ก. ผูบ้ ริหารทอ้ งถน่ิ ข. ปลดั องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ ค. หวั หน้าหน่วยงานคลงั ง. สภาทอ้ งถิน่ 19. เงนิ ทเี่ บกิ หากไมไ่ ดจ้ า่ ยหรอื จ่ายไม่หมดให้หนว่ ยเงนิ ท่เี บกิ นาส่งคืนหนว่ ยงานคลงั ภายในก่ีวัน นับ จากวันท่ไี ดร้ ับเงิน ก. 15 วนั ข. 30 วนั ค. 45 วัน ง. 60 วนั
แนวขอ้ สอบระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการรบั เงิน การเบกิ จา่ ยเงนิ การฝากเงนิ การ 495 เก็บรกั ษาเงิน และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ิน พ.ศ. 2547 และท่ีแก้ไขเพม่ิ (ฉบบั ท่ี 20. ใครเป็นผู้รักษาการตามระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการรบั เงนิ การเบกิ จ่ายเงนิ กา4ร)ฝาก เงิน การเก็บรกั ษาเงนิ และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ิน (ฉบับท่ี 4) พ.ศ. 2561 ก. นายกรฐั มนตรี ข. ปลดั กระทรวงมหาดไทย ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ง. รัฐมนตรชี ว่ ยวา่ การกระทรวงมหาดไทย
496 เฉลยแนวข้อสอบระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรบั เงิน การเบกิ จ่ายเงิน การฝากเงนิ การเกบ็ รกั ษาเงิน และการตรวจเงนิ ขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น พ.ศ. 2547 และท่ีแกไ้ ขเพมิ่ (ฉบับท่ี 4) 1. ข 5. ง 9. ค 13. ก 17. ค 2. ข 6. ค 10. ง 14. ค 18. ค 3. ค 7. ค 11. ง 15. ง 19. ก 4. ก 8. ง 12. ค 16. ง 20. ข
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 555
Pages: