Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นักวิชาการจัดเก็บรายได้ปฏิบัติการ 62 อปท.

นักวิชาการจัดเก็บรายได้ปฏิบัติการ 62 อปท.

Published by มนฤดี เหลืองประมวล, 2020-10-05 00:41:30

Description: นักวิชาการจัดเก็บรายได้ปฏิบัติการ 62 อปท.

Search

Read the Text Version

ระเบียบกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยวิธกี ารงบประมาณขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ พ.ศ. 497 2541 ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยวธิ กี ารงบประมาณขององคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ิน พ.ศ. 2541 โดยท่ีเป็นการสมควรปรับปรุงระเบยี บกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณ เพ่ือให้ องค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ ถือเปน็ แนวทางปฏิบัตแิ ละเพอ่ื ให้การบริหารงานด้านการงบประมาณส้นิ สุดที่ จงั หวัด อาศัยอานาจตามความในมาตรา 6 และมาตรา 76 แห่งพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วน จงั หวดั พ.ศ. 2540 มาตรา 69 และมาตรา 77 แห่งพระราชบัญญตั เิ ทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 32 และ มาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติสุขาภิบาล พ.ศ. 2495 มาตรา 6 และมาตรา 95 แห่งพระราชบัญญัติ ระเบียบบรหิ ารราชการเมืองพทั ยา พ.ศ. 2521 มาตรา 5 และมาตรา 88 แห่งพระราชบัญญตั ิสภาตาบล และองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล พ.ศ. 2537 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จงึ ออกระเบียบไวด้ ังต่อไปน้ี ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2541” ขอ้ 2[1] ระเบยี บน้ีให้ใชบ้ ังคบั ตง้ั แต่วันถัดจากวนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นตน้ ไป ข้อ 3 ใหย้ กเลกิ (1) ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธกี ารงบประมาณขององคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 (2) ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธกี ารงบประมาณของเทศบาล พ.ศ. 2528 (3) ระเบยี บกระทรวงมหาดไทย ว่าดว้ ยวธิ กี ารงบประมาณสขุ าภิบาล พ.ศ. 2531 (4) ระเบยี บกระทรวงมหาดไทย วา่ ด้วยวธิ กี ารงบประมาณของเมืองพทั ยา พ.ศ. 2531 (5) ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล พ.ศ. 2538 ขอ้ 4 ให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยรกั ษาการตามระเบยี บนี้ และให้มีอานาจตีความวนิ จิ ฉัยปญั หา ยกเว้นการปฏิบตั ิตามระเบียบทีก่ าหนดหลักเกณฑ์ และวิธีปฏบิ ัตเิ พอ่ื ดาเนนิ การให้เปน็ ไปตามระเบยี บนี้ ปลัดกระทรวงมหาดไทย อาจมอบอานาจเร่ืองใดเร่ืองหนงึ่ ตามวรรคแรกใหผ้ ู้ว่าราชการจังหวดั ได้ ข้อความทั่วไป

498 ขอ้ 5 ในระเบยี บน้ี “งบประมาณ” หมายความว่า แผนงาน หรืองานสาหรับประมาณการด้านรายรับและรายจา่ ย แสดงในรูปตัวเลขจานวนเงิน การตงั้ งบประมาณ คอื การแสดงแผนดาเนนิ งานออกเปน็ ตัวเลขจานวนเงนิ “แผนงาน” หมายความว่า ภารกจิ แตล่ ะด้านทีอ่ งคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่นมหี นา้ ท่ีตามกฎหมาย วา่ ดว้ ยองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ แต่ละรูปแบบ “งาน” หมายความวา่ กจิ กรรมตา่ งๆ ของหนว่ ยงานที่กาหนดไวใ้ นแต่ละแผนงาน “องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน” หมายความว่า องค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวัด เทศบาล สุขาภบิ าล เมืองพัทยา และองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล “สภาท้องถิ่น” หมายความว่า สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด สภาเทศบาล คณะกรรมการ สขุ าภบิ าล สภาเมืองพัทยา และสภาองค์การบรหิ ารส่วนตาบล “งบประมาณรายจ่าย” หมายความว่า งบประมาณท่ีสภาท้องถ่ินให้ความเห็นชอบ และผู้ว่า ราชการจังหวัดหรือนายอาเภอหรือปลัดอาเภอผู้เปน็ หัวหน้าประจากิง่ อาเภออนุมัติ ตามที่กาหนดไว้ใน กฎหมายว่าด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินแตล่ ะรปู แบบ ทั้งนี้ รวมท้ังงบประมาณรายจ่ายเพิม่ เติม และ การโอน การแก้ไขเปล่ียนแปลงคาช้ีแจงงบประมาณดว้ ย “เงินนอกงบประมาณ” หมายความว่า เงินท้ังปวงท่ีอยู่ในความรับผดิ ชอบขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ิน นอกจากเงินที่ปรากฏตามงบประมาณรายจา่ ย “ปีงบประมาณ” หมายความว่า ระยะเวลาต้ังแต่ วันที่ 1 ตุลาคม ของปีหนึ่งถึงวันท่ี 30 กันยายน ของปีถดั ไป และใหใ้ ชป้ ี พ.ศ. ท่ถี ัดไปน้ันเป็นชอื่ สาหรับปงี บประมาณน้ัน “หน”ี้ หมายความว่า ข้อผกู พนั ทตี่ ้องจ่าย หรอื อาจจะตอ้ งจา่ ยเป็นเงนิ ส่ิงของหรอื บรกิ าร ไม่ว่า จะเปน็ ขอ้ ผูกพันอนั เกิดจากการกูย้ มื การค้าประกัน การซ้ือ หรือการจ้างโดยใช้เครดติ หรอื จากการอืน่ ใด “หน่วยงาน” หมายความว่า สานัก กอง ส่วน ฝ่าย ตามโครงสร้างขององค์กรปกครองส่วน ท้องถิน่ แต่ละรปู แบบ “คณะผู้บริหารท้องถ่ิน” หมายความว่า นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด คณะเทศมนตรี ประธานกรรมการสขุ าภบิ าล ปลดั เมอื งพทั ยา และคณะกรรมการบริหารองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล “เจ้าหน้าท่ีงบประมาณ” หมายความว่า ปลัดองค์การบริหารสว่ นจังหวัด ปลัดเทศบาล ปลัด สขุ าภิบาล หัวหนา้ สานักปลดั เมอื งพทั ยา และปลัดองคก์ ารบริหารส่วนตาบล ข้อ 6 บรรดารูปแบบและเอกสารใดๆ ตลอดจนระบบและวิธีการงบประมาณขององค์กร ปกครองสว่ นท้องถิน่ ให้เปน็ ไปตามท่กี รมการปกครองกาหนด

ระเบียบกระทรวงมหาดไทยวา่ ด้วยวธิ กี ารงบประมาณขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ พ.ศ. 499 2541 ขอ้ 7 ในกรณที งี่ บประมาณรายจ่ายประจาปอี อกใช้ไม่ทนั ปงี บประมาณใหม่ ใหใ้ ช้งบประมาณ รายจ่ายประจาปีงบประมาณทลี่ ่วงแล้วไปพลางก่อน การเบิกจ่ายเงินโดยอาศัยงบประมาณรายจ่ายประจาปที ล่ี ่วงมาแล้วนั้น ให้นาเงินงบประมาณ รายจา่ ยเพิ่มเติมและทไ่ี ด้มีการโอนเพม่ิ หรอื โอนลดรวมเข้าไปดว้ ย โดยให้ถอื เปน็ ยอดเงนิ สูงสุดจะพึงถอื จา่ ย ได้ และให้กระทาได้เฉพาะรายจ่ายในหมวดเงินเดือนและค่าจ้างประจา หมวดค่าจ้างช่ัวค ราว หมวด ค่าตอบแทน ใชส้ อยและวัสดุ และหมวดคา่ สาธารณูปโภค หมวด 1 อานาจหน้าทข่ี องเจา้ หน้าทงี่ บประมาณ ขอ้ 8 ให้เจ้าหน้าที่งบประมาณมอี านาจหน้าที่จัดทางบประมาณกับปฏิบัติการอืน่ ตามทก่ี าหนด ไว้ในระเบียบนี้ และใหม้ ีอานาจหนา้ ทเี่ ก่ียวกับงานงบประมาณ ดงั ตอ่ ไปน้ีดว้ ย (1) เรียกให้หน่วยงานต่างๆ เสนอประมาณการรายรับ และรายจ่ายตามแบบและหลักเกณฑ์ พรอ้ มด้วยรายละเอยี ดท่ีกาหนดตามระเบียบ ข้อบงั คบั คาสัง่ หรือหนังสือส่ังการกระทรวงมหาดไทย (2) วิเคราะหง์ บประมาณและการจ่ายเงินของหน่วยงานตา่ งๆ (3) สั่งการ ควบคุม กากับ ดูแล เจ้าหน้าที่จัดทาเอกสารงบประมาณ และรวบรวมเป็นร่าง งบประมาณรายจา่ ยประจาปี หมวด 2 ลักษณะของงบประมาณ ข้อ 9 เงินรายจา่ ยประจาปขี ององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้จัดทาเป็นงบประมาณรายจา่ ย ประจาปี และใหม้ ีประมาณการรายรับประกอบงบประมาณรายจ่ายประจาปีดว้ ย ข้อ 10 งบประมาณรายจ่ายประจาปีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาจจาแนกเป็น งบประมาณรายจ่ายท่วั ไป และงบประมาณรายจา่ ยเฉพาะการ ขอ้ 11 องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่น อาจจดั ทางบประมาณรายจ่ายเฉพาะการได้โดยไดร้ ับความ เหน็ ชอบจากสภาทอ้ งถ่นิ

500 ข้อ 12 งบประมาณรายจา่ ยท่วั ไป และงบประมาณรายจา่ ยเฉพาะการ อาจตัง้ จ่ายเงินชว่ ยเหลอื ระหวา่ งกนั ได้ ข้อ 13 งบประมาณรายจ่ายทั่วไปขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วย รายจ่ายงบ กลาง และรายจา่ ยตามแผนงาน ขอ้ 14 รายจ่ายตามแผนงาน จาแนกเปน็ สองลกั ษณะ คือ (1) รายจา่ ยประจา ประกอบดว้ (ก) หมวดเงินเดอื นและคา่ จา้ งประจา (ข) หมวดคา่ จา้ งช่ัวคราว (ค) หมวดคา่ ตอบแทน ใช้สอยและวัสดุ (ง) หมวดคา่ สาธารณูปโภค (จ) หมวดเงนิ อุดหนนุ (ฉ) หมวดรายจา่ ยอืน่ (2) รายจา่ ยเพื่อการลงทนุ ประกอบด้วย หมวดค่าครภุ ัณฑ์ ท่ีดนิ และส่ิงก่อสรา้ ง รายละเอียดประเภทรายจ่ายงบกลาง หมวดรายจ่ายต่างๆ และเงนิ นอกงบประมาณใหเ้ ปน็ ไป ตามที่กรมการปกครองกาหนด ขอ้ 15 งบประมาณรายจ่ายซ่งึ ตั้งจา่ ยจากเงนิ อดุ หนนุ ทวั่ ไป หรือเงนิ ประเภทอืน่ ท่ตี ้องนามาตั้ง งบประมาณรายจา่ ย ให้จาแนกลกั ษณะรายจา่ ยตามความในขอ้ 14 และให้ระบุประเภทของเงินนั้นในคา ชี้แจงงบประมาณรายรบั และงบประมาณรายจา่ ยด้วย ขอ้ 16 การตัง้ งบประมาณรายจ่ายเพื่อเป็นคา่ ใชจ้ า่ ยขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่ินใหก้ ระทา ตามท่ีมีกฎหมาย ระเบยี บ ขอ้ บังคับ คาสง่ั หรอื หนงั สอื ส่ังการกระทรวงมหาดไทยกาหนด ข้อ 17 ประมาณการรายรับขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น ประกอบด้วย รายได้ซึ่งจาแนก เป็น (1) หมวดภาษอี ากร (2) หมวดค่าธรรมเนียม ค่าปรับและใบอนุญาต (3) หมวดรายไดจ้ ากทรัพยส์ ิน

ระเบียบกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยวิธกี ารงบประมาณขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน พ.ศ. 501 2541 (4) หมวดรายไดจ้ ากสาธารณปู โภคและกจิ การพาณิชย์ (5) หมวดเงนิ อุดหนนุ (6) หมวดรายได้เบด็ เตล็ด รายละเอยี ดประเภทรายได้ ให้เป็นไปตามทก่ี รมการปกครองกาหนด ข้อ 18 รายละเอียดประเภทรายได้ และรายจ่ายตามงบประมาณรายจา่ ยเฉพาะการขององคก์ ร ปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ให้เปน็ ไปตามทกี่ รมการปกครองกาหนด ข้อ 19 งบประมาณรายจ่ายจะกาหนดให้มีเงินสารองจ่าย เพ่ือกรณีท่ีจาเป็นได้ตามความ เหมาะสม สาหรบั การอนมุ ตั ิใหใ้ ชเ้ งนิ สารองจา่ ย ใหเ้ ปน็ อานาจของคณะผบู้ รหิ ารทอ้ งถิ่น ข้อ 20 งบประมาณรายจ่ายเพมิ่ เติมให้ตราเปน็ งบประมาณรายจา่ ยเช่นเดียวกับงบประมาณ รายจ่ายประจาปี ข้อ 21 การตรางบประมาณรายจา่ ยเพมิ่ เติม จะกระทาได้ตอ่ เม่อื งบประมาณรายจา่ ยประจาปที ่ี ไดร้ ับอนมุ ัตแิ ล้วไม่พอแก่การใช้จา่ ย หรือมคี วามจาเปน็ ต้องต้ังรายจ่ายขน้ึ ใหม่ ทั้งนี้ ต้องแสดงให้ปรากฏใน งบประมาณรายจ่ายดังกลา่ วด้วยว่า จะจ่ายจากเงินรายไดท้ ่ีมไิ ด้ต้ังรับไว้ในประมาณการรายรับ หรือจาก เงินรายได้ทเ่ี กินยอดรวมทั้งสิน้ ของประมาณการรายรับประจาปี หมวด 3 วธิ ีการจัดทางบประมาณ ข้อ 22 ให้หัวหน้าหน่วยงานจัดทาประมาณการรายรับ และประมาณการรายจ่าย และให้ หัวหนา้ หน่วยงานคลังรวบรวมรายงานการเงนิ และสถติ ิต่างๆ ของทกุ หนว่ ยงานเพือ่ ใช้ประกอบการคานวณ ขอตัง้ งบประมาณเสนอตอ่ เจา้ หนา้ ทง่ี บประมาณ ข้อ 23 ใหเ้ จ้าหนา้ ท่ีงบประมาณทาการพจิ ารณาตรวจสอบ วิเคราะห์ และแกไ้ ขงบประมาณใน ชนั้ ตน้ แล้วให้เสนอตอ่ ตอ่ คณะผู้บรหิ ารท้องถิ่น เมื่อคณะผู้บริหารท้องถิ่น ได้พิจารณาอนุมัติให้ต้ังเงินงบประมาณยอดใดเป็นงบประมาณ ประจาปีแล้ว ให้เจ้าหน้าท่ีงบประมาณรวบรวม และจัดทาเป็นร่างงบประมาณรายจ่ายเสนอต่อคณะ ผู้บริหารท้องถ่ิน อีกครั้งหนึ่ง เพื่อคณะผู้บริหารท้องถ่ินได้นาเสนอต่อสภาสภาท้องถิ่น ภายในวันท่ี 15 สงิ หาคม

502 ข้อ 24 ในกรณีท่ีคณะผู้บรหิ ารทอ้ งถิ่นพิจารณาแลว้ เห็นว่า ไม่สามารถทีจ่ ะนาร่างงบประมาณ รายจา่ ยประจาปีเสนอตอ่ สภาทอ้ งถิน่ ได้ทันภายในระยะเวลาทกี่ าหนดไว้ ให้เสนอขออนมุ ัติต่อสภาทอ้ งถ่ิน แล้วรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ สาหรับองค์การบริหารส่วนตาบลให้รายงานนายอาเภอหรือ ปลดั อาเภอผเู้ ปน็ หัวหนา้ ประจาก่งิ อาเภอ ข้อ 25 การพจิ ารณาให้ความเหน็ ชอบรา่ งงบประมาณรายจา่ ยของสภาทอ้ งถนิ่ และการพิจารณา อนุมัติร่างงบประมาณรายจ่ายของผู้มีอานาจอนุมัติให้เป็นไปตามท่ีกาหนดไว้ในกฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บงั คับขององค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ แต่ละรูปแบบ หมวด 4 การโอนและการแกไ้ ขเปล่ียนแปลงงบประมาณ ข้อ 26 การโอนเงินงบประมาณรายจ่ายต่างๆ ใหเ้ ป็นอานาจอนมุ ัติของคณะผู้บรหิ ารทอ้ งถนิ่ ข้อ 27 การโอนเงินงบประมาณรายจ่ายในหมวดค่าครุภัณฑ์ ท่ีดินและส่ิงก่อสร้าง ที่ทาให้ ลักษณะ ปรมิ าณ คณุ ภาพเปลยี่ น หรอื โอนไปต้ังจา่ ยเปน็ รายการใหม่ ให้เปน็ อานาจอนมุ ตั ิของสภาท้องถ่ิ ข้อ 28 การแก้ไขเปลี่ยนแปลงคาชี้แจงประมาณการรายรับหรืองบประมาณรายจ่าย ให้เป็น อานาจอนมุ ัติของคณะผู้บรหิ ารทอ้ งถ่ิน ข้อ 29 การแก้ไขเปล่ียนแปลงคาช้ีแจงงบประมาณรายจ่ายในหมวดค่าครุภัณฑ์ ที่ดินและ สิ่งก่อสร้าง ท่ีทาให้ลักษณะ ปริมาณ คุณภาพเปลี่ยน หรือเปล่ียนแปลงสถานท่ีก่อสร้าง ให้เป็นอานาจ อนมุ ัตขิ องสภาท้องถิน่ ข้อ 30 การโอน การแก้ไขเปล่ยี นแปลงคาช้ีแจงงบประมาณรายจ่ายเงินประเภทอืน่ ท่ตี อ้ งนามา ต้ังงบประมาณรายจา่ ยตามข้อ 15 ให้เจ้าหน้าทีง่ บประมาณมอี านาจอนมุ ตั ิโอนหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงคา ชี้แจงงบประมาณรายจา่ ยได้ เมอ่ื ไดร้ ับอนุมตั จิ ากผ้มู ีอานาจแลว้ ข้อ 31 การโอน การแก้ไขเปล่ียนแปลงคาชี้แจงงบประมาณรายการทีไ่ ด้เบิกตัดปี หรือขยาย เวลาให้เบกิ ตดั ปีไว้ จะกระทาได้ต่อเม่อื ไดร้ บั อนมุ ตั จิ ากผู้มีอานาจใหเ้ บกิ ตดั ปี หรือขยายเวลาเบิกตดั ปี ข้อ 32 ภายใต้บังคับข้อ 39 การโอนเงินงบประมาณรายจ่าย หรือการแก้ไขเปล่ียนแปลงคา ช้ีแจงประมาณการรายรับและงบประมาณรายจ่าย เม่ือได้รับอนุมัติจากผู้มีอานาจแล้ว ให้ประกาศโดย เปิดเผยเพ่ือให้ประชาชนทราบแล้วแจ้งการประกาศให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อทราบ ภายในสิบห้าวัน สาหรบั องคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบลให้แจ้งแก่นายอาเภอหรือปลัดอาเภอผูเ้ ปน็ หวั หน้าประจาก่ิงอาเภอ

ระเบียบกระทรวงมหาดไทยวา่ ด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ พ.ศ. 503 2541 หมวด 5 การควบคุมงบประมาณ ข้อ 33 ให้คณะผู้บริหารท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่งบประมาณรับผิดชอบร่วมกันในการควบคุม งบประมาณรายจ่ายและเงินนอกงบประมาณ เพ่ือปฏิบัติการให้เปน็ ไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ คาส่ังหรือหนงั สือสง่ั การกระทรวงมหาดไทย โดยมีหัวหน้าหนว่ ยงานคลงั เป็นผชู้ ่วยเหลอื และใหม้ อี านาจ หนา้ ที่ดงั ตอ่ ไปนีด้ ว้ ย คือ (1) ควบคุมการรับ และการเบิกจ่ายเงนิ (2) ควบคมุ บัญชี รายงาน และเอกสารอื่นเก่ียวกับการรับจ่ายเงนิ และหนี้ (3) ตรวจเอกสารการรบั จ่ายเงนิ การขอเบิกเงนิ และการก่อหน้ผี กู พนั ข้อ 34 องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินจะจา่ ยเงนิ หรือก่อหนีผ้ ูกพนั ได้ตามขอ้ ความทก่ี าหนดไว้ใน งบประมาณรายจ่ายประจาปี หรืองบประมาณรายจา่ ยเพิ่มเติม ท้ังน้ี ต้องมีกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ คาสง่ั หรือหนังสอื สัง่ การกระทรวงมหาดไทยอนุญาตให้จ่าย และมีเงนิ รายได้เพยี งพอท่ีจะเบิกจ่ายได้ ข้อ 35 บรรดาเงินที่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินได้รับ ไม่ว่าจะได้รับตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือได้รับชาระตามอานาจหน้าท่ี หรือสัญญา หรือได้รับจากการให้ หรอื ใช้ทรัพย์สิน หรือเก็บ ดอกผลจากทรพั ย์สนิ ของทางราชการ หรอื องคก์ รเอง ให้นาส่งเป็นรายไดข้ ององค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน ตามระเบยี บ หรือขอ้ บงั คับท่เี ก่ยี วข้อง เว้นแต่จะมีกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ คาสั่งหรือหนังสอื ส่ังการ กระทรวงมหาดไทยกาหนดเป็นอย่างอื่น ข้อ 36 บรรดาเงินท่ีองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินได้รับจากผู้อุทิศใหโ้ ดยมีวัตถุประสงค์เพอ่ื ให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้จ่ายในกิจการอย่างหน่ึงอย่างใดโดยเฉพาะ ให้จ่ายเงินหรือก่อหนี้ผูกพัน ภายในวงเงนิ ทไ่ี ดร้ ับนน้ั และไมต่ ้องนาสง่ เป็นรายไดข้ ององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นเวน้ แตม่ เี งินเหลือจาก การใช้จา่ ยนัน้ และผอู้ ุทิศให้ไมไ่ ด้กาหนดไวเ้ ป็นอย่างอ่นื ใหน้ าส่งเปน็ เงินรายได้ การใช้จา่ ยเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ เงินกู้ เงินจ่ายขาดจากเงินสะสม หรือเงินอดุ หนนุ จากกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอ่ืนใด ที่มีลักษณะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินดาเนินการตามทรี่ ะบไุ วเ้ ป็น การเฉพาะโดยไม่มเี งอื่ นไข ให้องคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่ พจิ ารณาดาเนนิ การตามท่รี ะบไุ ว้ โดยไม่ต้องตรา เปน็ งบประมาณรายจา่ ยตามระเบยี บนี้ สาหรบั แบบและวธิ กี ารจ่ายเงิน หรอื กอ่ หน้ผี ูกพัน ใหเ้ ปน็ ไปตามที่ กรมการปกครองกาหนด

504 เงินที่ได้รบั ในลักษณะค่าชดใชค้ วามเสียหาย หรอื ส้ินเปลอื งแหง่ ทรัพย์สนิ และจาเป็นจะต้องจา่ ย เพ่ือบูรณะทรพั ยส์ ิน หรือจัดให้ได้ทรพั ย์สินคืนมา ให้องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่นพจิ ารณาดาเนินการตาม ระเบียบท่ีเกี่ยวข้อง โดยไมต่ ้องตราเปน็ งบประมาณรายจา่ ยตามระเบียบน้ี เงินรายรับที่เป็นสถานพยาบาล สถานศึกษา หรือสถานอื่นใดท่ีอานวยบริการเป็น สาธารณประโยชน์ หรอื ประชาสงเคราะห์ ให้องคก์ รปกครองส่วนท้องถิน่ นาเงินไปใช้จา่ ยได้แต่เฉพาะตาม ระเบยี บน้ี หนังสือสงั่ การทีเ่ กย่ี วขอ้ งกาหนดไว้เท่าน้ัน ข้อ 37 เมื่อสิ้นปีงบประมาณ หากงบประมาณรายจ่ายมีเหลืออยู่ และได้มีการเบิกตัดปีหรือ ขยายเวลาเบิกตดั ปีไวแ้ ลว้ ในกรณีนีใ้ ห้เบกิ จา่ ยไดโ้ ดยอาศยั งบประมาณรายจา่ ยฉบับเดิมตอ่ ไปได้อกี ภายใน ระยะเวลาทข่ี อเบิกตัดปี หรือขยายเวลาเบิกตดั ปีไว้ ข้อ 38 การก่อหน้ีผูกพันงบประมาณรายจา่ ยเกินกว่าหน่ึงปีงบประมาณ จะกระทาได้ต่อเม่อื ได้รับความเหน็ ชอบจากสภาทอ้ งถิ่น และมเี งินรายได้ตามงบประมาณแลว้ จงึ จะจ่ายได้ หมวด 6 การรายงาน ข้อ 39 ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดส่งสาเนางบประมาณรายจ่ายประจาปีและ งบประมาณรายจา่ ยเพ่มิ เติมที่ได้รบั อนุมัตใิ ห้ประกาศใช้เป็นแล้วไปยงั ผู้ว่าราชการจงั หวดั สาหรบั องค์การ บริหารส่วนตาบลให้ส่งนายอาเภอหรือปลัดอาเภอผู้เป็นหัวหน้าประจากิ่งอาเภอเพื่อทราบภายใน ระยะเวลาไม่เกินสิบห้าวัน นับแต่วันส้ินสุดการประกาศโดยเปิดเผยเพ่อื ใหป้ ระชาชนทราบ ณ สานักงาน องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ข้อ 40 เม่ือส้ินปีงบประมาณ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ประกาศรายงานการรับจ่ายเงนิ ประจาปีงบประมาณที่สิ้นสุดนั้นท้ังงบประมาณรายจ่ายและเงินนอกงบประมาณไว้โดยเปิดเผย ณ สานักงานองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ เพ่ือให้ประชาชนทราบ ภายในกาหนดสามสบิ วนั ตามแบบท่ีกรมการ ปกครองกาหนด แล้วส่งสาเนารายงานการรับ - จ่าย ดังกลา่ วไปใหผ้ ู้ว่าราชการจงั หวัดเพือ่ ทราบและเกบ็ เป็นข้อมูลระดับจงั หวัด ภายในระยะเวลาสิบห้าวันหลังจากน้ัน แล้วให้จังหวัดรายงานกรมการปกครอง ทราบ

ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าดว้ ยวิธกี ารงบประมาณขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิน่ พ.ศ. 505 2541 บทเฉพาะกาล ข้อ 41 วิธีการงบประมาณท่ีอยู่ในระหว่างดาเนินการ และยังไม่แล้วเสรจ็ ในวันท่รี ะเบียบน้ใี ช้ บังคับ ใหด้ าเนนิ การต่อไปตามระเบียบ หรอื หลักเกณฑท์ ีใ่ ชบ้ งั คับอยูเ่ ดิมจนกวา่ จะแลว้ เสร็จ ข้อ 42 บรรดารูปแบบและเอกสารใดๆ ตลอดจนระบบและวิธีการงบประมาณขององค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ิน ให้ใช้แบบเดิมไปพลางก่อน จนกว่ากรมการปกครองจะได้กาหนดให้เป็นไปตาม ระเบยี บนี้ ประกาศ ณ วันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 ชานิ ศกั ดเิ ศรษฐ รฐั มนตรีช่วยวา่ การฯ รกั ษาราชการแทน รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย

506 แนวขอ้ สอบระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ด้วยวธิ กี ารงบประมาณขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น พ.ศ.2541 แกไ้ ขเพิม่ เตมิ (ฉบับท่ี 3) พ.ศ.2543 1. ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยวธิ กี ารงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2541 ให้ใช้บังคับตง้ั แต่เมอ่ื ใด ก. วันประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเป็นตน้ ไป ข. วันถัดจากวันประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน็ ตน้ ไป ค. เม่อื พน้ กาหนด 90 วนั นบั จากวนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปน็ ต้นไป ง. เมอื่ พน้ กาหนด 120 วันนบั จากวันประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน็ ตน้ ไป 2. ผใู้ ดเป็นผ้รู กั ษาการตามระเบยี บน้ี ข. รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย ก. นายกรัฐมนตรี ง. ปลดั กระทรวงการคลงั ค. ปลัดกระทรวงมหาดไทย 3. ใครมีอานาจตคี วามวินจิ ฉัยปัญหา ยกเว้นการปฏิบตั ิตามระเบียบท่กี าหนดหลักเกณฑ์ และวธิ ีปฏบิ ตั ิ เพ่ือดาเนนิ การใหเ้ ป็นไปตามระเบียบน้ี ก. นายกรฐั มนตรี ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ค. ปลัดกระทรวงมหาดไทย ง. ปลัดกระทรวงการคลงั 4. ขอ้ ใด ไม่ใช่ “องคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ิน” ตามระเบยี บนี้ ก. องค์การบรหิ ารส่วนจังหวดั ข. เทศบาล ค. องคก์ ารบริหารส่วนตาบล ง. กรุงเทพมหานคร 5. ขอ้ ใดหมายถึง “เจ้าหนา้ ทง่ี บประมาณ”ตามระเบยี บนี้ ก. นายกองค์การบรหิ ารส่วนจงั หวัด ข. ปลัดเทศบาล ค. นายอาเภอ ง. นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล

แนวขอ้ สอบระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวธิ ีการงบประมาณขององคก์ รปกครองส่วน 507 ท้องถ่ิน พ.ศ.2541 แกไ้ ขเพ่มิ เติม (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ.2543 6. ข้อใดเป็นอานาจหนา้ ทเี่ ก่ยี วกับงานงบประมาณของเจ้าหน้าท่งี บประมาณ ก. เรียกให้หนว่ ยงานตา่ งๆเสนอประมาณการรายรบั และรายจา่ ยตามแบบและหลกั เกณฑพ์ ร้อม ดว้ ยรายละเอยี ดที่กาหนด ข. วิเคราะหง์ บประมาณและการจา่ ยเงนิ ของหนว่ ยงานตา่ งๆ ค. สั่งการ ควบคุม กากบั ดูแล เจ้าหน้าทจ่ี ดั ทาเอกสารงบประมาณ และรวบรวมเปน็ รา่ ง งบประมาณรายจา่ ยประจาปี ง. ถกู ทกุ ขอ้ 7. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาจจดั ทางบประมาณรายจา่ ยเฉพาะการไดโ้ ดยได้รับความเหน็ ชอบจาก ใคร ก. ผู้ว่าราชการจงั หวัด ข. นายอาเภอ ค. สภาท้องถน่ิ ง. ผ้บู รหิ ารท้องถิ่น 8. ขอ้ ใดคือรายจ่ายตามแผนงาน ข. รายจา่ ยกลาง ก. รายจ่ายประจา ง. ขอ้ ก และ ค ถูก ค. รายจา่ ยเพอ่ื การลงทนุ 9. ข้อใดเป็นรายจา่ ยประจา ข. หมวดค่าตอบแทน ใช้สอยและวสั ดุ ก. หมวดเงนิ เดอื นและค่าจา้ งประจา ง. ถูกทกุ ขอ้ ค. หมวดเงนิ อดุ หนุน 10. งบประมาณรายจ่ายจะกาหนดให้มเี งนิ สารองจ่ายเพ่ือกรณที จ่ี าเปน็ ไดต้ ามความเหมาะสมสาหรบั การอนมุ ัตใิ ห้ใช้เงินสารองจ่ายให้เปน็ อานาจของใคร ก. ผู้ว่าราชการจงั หวดั ข. นายอาเภอ ค. สภาทอ้ งถน่ิ ง. คณะผ้บู ริหารท้องถ่ิน 11. ให้ใช้แผนใดขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ินเปน็ แนวทางในการจัดทางบประมาณ ก. แผนพัฒนา ข. แผนงาน ค. แผนยุทธศาสตร์ ง. ถกู ทุกขอ้ 12. ใหใ้ ครทาการพิจารณาตรวจสอบ วเิ คราะห์ และแกไ้ ขงบประมาณในช้ันต้น ก. หัวหน้าหน่วยงานคลัง ข. เจ้าหน้าทง่ี บประมาณ ค. คณะผู้บรหิ ารทอ้ งถนิ่ ง. สภาท้องถน่ิ

508 13. กรณที ี่คณะผู้บรหิ ารทอ้ งถ่ินพจิ ารณาแลว้ เหน็ วา่ ไม่สามารถท่จี ะนาร่างงบประมาณรายจา่ ยประจา เสนอไดท้ ันระยะเวลาทกี่ าหนด ให้เสนอขออนมุ ัตติ ่อสภาท้องถิ่นแลว้ รายงานให้ใครทราบ ในกรณี องค์การบรหิ ารสว่ นตาบล ก. ผวู้ า่ ราชการจังหวดั ข. นายอาเภอ ค. ปลดั อาเภอผเู้ ปน็ หวั หนา้ ประจากงิ่ อาเภอ ง. ข้อ ข และ ค ถูก 14. จากขอ้ 13 ระยะเวลาทกี่ าหนดคอื วันทเี่ ทา่ ไร ข. 15 กนั ยายน ก. 15 มกราคม ง. 15 ตลุ าคม ค. 15 สงิ หาคม 15. การโอนเงนิ งบประมาณรายจา่ ยตา่ งๆให้เปน็ อานาจอนมุ ตั ขิ องใคร ก. หวั หนา้ หน่วยงานคลัง ข. เจา้ หนา้ ทง่ี บประมาณ ค. คณะผบู้ รหิ ารทอ้ งถิน่ ง. สภาทอ้ งถ่ิน 16. การโอนเงนิ งบประมาณรายจา่ ยในหมวดคา่ ครภุ ัณฑ์ ท่ีดนิ และส่ิงกอ่ สร้าง ทท่ี าใหล้ กั ษณะ ปรมิ าณ คณุ ภาพเปลย่ี น หรือโอนไปต้งั จา่ ยเป็นรายการใหม่ ใหเ้ ปน็ อานาจอนมุ ตั ขิ องใคร ก. หวั หนา้ หนว่ ยงานคลัง ข. เจา้ หน้าทงี่ บประมาณ ค. คณะผู้บรหิ ารทอ้ งถิน่ ง. สภาท้องถ่นิ 17. การแกไ้ ขเปล่ยี นแปลงคาชี้แจงประมาณการรายรบั หรอื งบประมาณรายจา่ ยใหเ้ ปน็ อานาจอนุมัติ ของใคร ก. ผูว้ า่ ราชการจังหวัด ข. นายอาเภอ ค. คณะผู้บรหิ ารทอ้ งถน่ิ ง. สภาทอ้ งถนิ่ 18. การโอนเงนิ งบประมาณรายจา่ ยหรอื การแก้ไขเปลยี่ นแปลงคาช้แี จงประมาณการรายรับและ งบประมาณรายจา่ ย เมอ่ื ไดร้ ับอนุมัตจิ ากผู้มีอานาจแลว้ ให้ประกาศโดยเปดิ เผยแล้วแจ้งการประกาศให้ ผู้วา่ ราชการจังหวัดทราบภายในกี่วนั ก. 10 วัน ข. 15 วัน ค. 20 วนั ง. 30 วนั

แนวขอ้ สอบระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองสว่ น 509 ทอ้ งถิน่ พ.ศ.2541 แก้ไขเพมิ่ เติม (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ.2543 19. การก่อหนผ้ี ูกพันงบประมาณรายจา่ ยเกินกว่าหนึ่งปงี บประมาณใหก้ ระทาได้โดยความเห็นชอบ ของใคร ก. ผวู้ ่าราชการจงั หวัด ข. นายอาเภอ ค. คณะผูบ้ รหิ ารทอ้ งถน่ิ ง. สภาท้องถ่นิ 20. ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดสง่ สาเนางบประมาณรายจ่ายประจาปีและงบประมาณรายจ่าย เพม่ิ เตมิ ทไ่ี ด้รบั อนมุ ตั ใิ ห้ประกาศใชแ้ ลว้ สาหรับองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลให้สง่ นายอาเภอหรือ ปลัดอาเภอผู้เป็นหัวหน้าประจากิ่งอาเภอเพอ่ื ทราบภายในระยะเวลากีว่ นั ก. ไม่เกนิ 10 วนั นับแต่วันส้ินสดุ การประกาศโดยเปดิ เผย ข. ไมเ่ กิน 15 วันนบั แตว่ นั ส้ินสุดการประกาศโดยเปิดเผย ค. ไม่เกนิ 20 วนั นับแตว่ นั สิ้นสดุ การประกาศโดยเปิดเผย ง. ไม่เกนิ 30 วนั นับแตว่ นั สิน้ สุดการประกาศโดยเปดิ เผย

510 เฉลยแนวข้อสอบระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยวธิ ีการงบประมาณขององค์กรปกครองสว่ น ท้องถิ่น พ.ศ.2541 แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ.2543 1. ตอบ ข. วันถดั จากวันประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเป็นตน้ ไป (มาตรา 2) 2. ตอบ ค. ปลัดกระทรวงมหาดไทย (มาตรา 4) 3. ตอบ ค. ปลดั กระทรวงมหาดไทย (มาตรา 4) 4. ตอบ ง. กรงุ เทพมหานคร (มาตรา 5) 5. ตอบ ข. ปลดั เทศบาล (มาตรา 5) 6. ตอบ ง. ถูกทกุ ขอ้ (มาตรา 8) 7. ตอบ ค. สภาท้องถ่นิ (มาตรา 9) 8. ตอบ ง. ข้อ ก และ ค ถูก (มาตรา 14) 9. ตอบ ง. ถูกทกุ ข้อ (มาตรา 14) 10. ตอบ ง. คณะผบู้ รหิ ารท้องถิ่น (มาตรา 19) 11. ตอบ ก. แผนพัฒนา (มาตรา 22) 12. ตอบ ข. เจา้ หน้าทง่ี บประมาณ (มาตรา 23) 13. ตอบ ง. ข้อ ข และ ค ถกู (มาตรา 24) 14. ตอบ ค. 15 สิงหาคม (มาตรา 23) 15. ตอบ ค. คณะผู้บรหิ ารท้องถนิ่ (มาตรา 26) 16. ตอบ ง. สภาทอ้ งถิ่น (มาตรา 27) 17. ตอบ ค. คณะผบู้ รหิ ารท้องถน่ิ (มาตรา 28) 18. ตอบ ข. 15 วัน (มาตรา 32) 19. ตอบ ง. สภาทอ้ งถิน่ (มาตรา 38) 20. ตอบ ข. ไมเ่ กนิ 15 วันนบั แตว่ นั สน้ิ สดุ การประกาศโดยเปดิ เผย (มาตรา 39)

ระเบียบมหาดไทยวา่ ดว้ ยการจัดหาประโยชนใ์ นทรัพยส์ นิ ขององคก์ รปกครองส่วนท้องถ่นิ 511 พ.ศ. 2543 ระเบียบมหาดไทยว่าดว้ ยการจัดหาประโยชน์ในทรัพย์สินขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน พ.ศ. 2543 โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการจัดหาประโยชน์ใน ทรัพย์สินของหนว่ ยการบรหิ ารราชการส่วนท้องถิ่นใหเ้ หมาะสมกบั สภาพปจั จบุ นั อาศัยอานาจตามความในมาตรา 6 และมาตรา 76 แห่งพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วน จังหวัดพ.ศ. 2550 มาตรา 69 และมาตรา 77 แห่ง พระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 5 และ มาตรา 88 แห่งพระราชบัญญัติสภาตาบลและองค์การบริหารส่วนตาบล พ.ศ. 2537 รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทยจึงออกระเบียบไว้ ดงั ตอ่ ไปนี้ ข้อ 1 ระเบยี บนี้เรยี กว่า “ระเบียบมหาดไทยวา่ ดว้ ยการจดั หาประโยชนใ์ นทรัพย์สินขององค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ิน พ.ศ. 2543” ขอ้ 2 ระเบยี บนีใ้ หใ้ ช้บงั คับตัง้ แตว่ นั ถัดจากวนั ประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเป็นต้นไป ขอ้ 3 ให้ยกเลิก (1) ระเบียบมหาดไทย วา่ ดว้ ยการจดั หาประโยชน์ในทรัพย์สนิ ของหนว่ ยการบริหารราชการสว่ น ท้องถ่ิน พ.ศ. 2531 (2) ระเบยี บมหาดไทย ว่าด้วยการจดั หาประโยชน์ในทรพั ย์สนิ ของหน่วยการบริหารราชการสว่ น ทอ้ งถิน่ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2533 (3) ระเบยี บมหาดไทย ว่าด้วยการจัดหาประโยชน์ในทรพั ยส์ นิ ของหนว่ ยการบรหิ ารราชการสว่ น ท้องถน่ิ (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2535 (4) ระเบยี บมหาดไทย ว่าดว้ ยการจัดหาประโยชน์ในทรัพยส์ นิ ของหนว่ ยการบรหิ ารราชการสว่ น ท้องถิ่น (ฉบับท่ี 4) พ.ศ. 2541 (5) ระเบียบมหาดไทย วา่ ดว้ ยการจดั หาประโยชน์ในทรพั ย์สนิ ของหนว่ ยการบริหารราชการสว่ น ทอ้ งถ่ิน (ฉบบั ท่ี 5) พ.ศ. 2541 (6) ระเบียบมหาดไทย ว่าด้วยการจัดหาประโยชน์ในทรัพย์สินขององค์กรปกครองส่วนตาบล พ.ศ. 2538 บรรดาระเบยี บ ข้อบังคับ หรือคาสั่งอื่นสว่ นท่กี าหนดไว้แล้วในระเบยี บน้ีหรอื ซึ่งขัดหรือแย้งกับ ระเบยี บน้ี ใหใ้ ช้ระเบียบนีแ้ ทน ข้อ 4 ให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามระเบยี บน้ี และมีอานาจตีความวินิจฉัยปัญหา ยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบนี้ กาหนดหลักเกณฑ์และกาหนดวิธีปฏิบัติเพ่ือดาเนินการให้เป็นไปตาม ระเบยี บนี้

512 ปลัดกระทรวงมหาดไทย อาจมอบหมายอานาจเร่ืองใดเร่ืองหน่ึงตามวรรคแรกใหผ้ ู้ว่าราชการ จังหวัดได้ หมวด 1 ขอ้ ความท่วั ไป ขอ้ 5 ในระเบยี บน้ี “ประโยชน์ตอบแทน” หมายความว่า ค่าเช่า เงิน สิ่งของ หรือสิทธิอย่างอ่ืนท่ีให้เป็นการตอบ แทนการใชป้ ระโยชนใ์ นทรัพย์สนิ “องคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล” และองคก์ ารปกครองส่วนท้องถ่นิ อ่ืนทีจ่ ดั ตง้ั ขึ้นตามกฎหมาย “ผู้บรหิ ารทอ้ งถิ่น” หมายความว่า นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวัด นายกเทศมนตรี ประธาน กรรมการบริหารองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล และผ้บู ริหารทอ้ งถ่ินอ่นื ทก่ี ฎหมายกาหนด “พนักงานส่วนทอ้ งถิน่ ” หมายความว่า ขา้ ราชการองค์การบรหิ ารสว่ นจังหวดั พนักงานเทศบาล พนกั งานสว่ นตาบล และพนักงานส่วนท้องถน่ิ อน่ื ทกี่ ฎหมายกาหนด หมวด 2 การจัดหาประโยชน์ในทรัพย์สนิ ข้อ 6 การใหเ้ ช่าอสงั หาริมทรพั ย์ขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ ใหด้ าเนนิ การโดยวิธีประมลู (1) มกี าหนดไม่เกินสามปี ใหผ้ บู้ รหิ ารท้องถ่ิน เป็นผู้มอี านาจอนุมตั ิ (2) มกี าหนดเกนิ สามปี ให้สภาท้องถิน่ เปน็ ผูอ้ นมุ ัติ การให้เชา่ ตามวรรคหนง่ึ ถ้ามีความจาเป็นหรือเพอื่ ประโยชนข์ องทางราชการใหผ้ ูบ้ ริหารทอ้ งถนิ่ เสนอสภาท้องถน่ิ ใหค้ วามเหน็ ชอบดาเนนิ การเป็นอย่างอ่ืน โดยไม่ตอ้ งดาเนนิ การประมลู กไ้ ด้ ทง้ั นเี้ ท่าที่ไม่ ขัดหรือแยง้ กบั กฎหมาย ขอ้ 7 การให้เช่าทีด่ นิ เพื่อกอ่ สรา้ งอาคารหรือสง่ิ ก่อสร้างท่มี ีลักษณะถาวรใหม้ เี งื่อนไขดังต่อไปนี้ (1) ให้ผู้เช่ายกกรรมสิทธอ์ิ าคารหรือสิ่งกอ่ สรา้ งใหอ้ งคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ิน

ระเบยี บมหาดไทยว่าด้วยการจดั หาประโยชน์ในทรัพยส์ นิ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ 513 พ.ศ. 2543 (2) ใหผ้ ู้เช่าได้รบั สิทธิการเชา่ อาคารหรอื สงิ่ กอ่ สรา้ งมกี าหนดไมเ่ กินสามปีนบั แต่วนั ลงนามสญั ญา เชา่ (3) ให้ผู้เช่าประกันอัคคีภัยอาคารหรือส่ิงก่อสร้างในอัตราไม่ต่ากว่าราคาทุนก่อสร้างที่องคก์ ร ปกครองส่วนท้องถิ่นกาหนดในนามขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินเป็นผู้เอาประกันและผุ้รับประโยชน์ ตลอดอายสุ ญั ญาเชา่ โดยผู้เชา่ เปน็ ผู้ชาระเบยี้ ประกันภยั แทนผ้ใู หเ้ ช่าทั้งสิ้น (4) ให้ผู้เช่าชาระค่าภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษีบารุงท้องที่หรือภาษีอ่ืนใด ตลอดจน คา่ ธรรมเนยี มและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เกย่ี วกบั การเชา่ แทนผุ้ใหเ้ ช่าทัง้ สิน้ ถ้ามีเหตุจาเป็นและเพื่อประโยชน์ของทางราชการ ท่ีจะให้อาคารหรือส่ิงก่อสร้างยังคงเป็น กรรมสิทธ์ิของผู้เช่าและให้ผู้เช่าประกันอัคคีภัยหรือสิ่งก่อสร้างในอัตราต่ากว่าทุนก่อสร้าง ให้องค์กร ปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ที่จัดหาประโยชน์เสนอคณะกรรมการจดั หาประโยชน์ตามข้อ 15 วรรคหนงึ่ พิจารณา และให้สภาทอ้ งถ่ินอนุมัติ ข้อ 8 ภายใต้บังคับตามข้อ 6 การให้เช่าให้ดาเนินการโดยวิธีประมูล ตามวิธีการและเงื่อนไข ดังตอ่ ไปนี้ (1) ใหป้ ดิ ประกาศหรือใบแจง้ ความเรอ่ื งดังกลา่ วโดยเปดิ เผย ณ สานกั งานขององคก์ ร (2) ใหม้ ีหลกั ประกันซองประมูลโดยมีมูลคา่ เปน็ จานวนเงินไม่ต่ากวา่ รอ้ ยละหา้ แต่ไม่เกินกวา่ รอ้ ย ละสิบของประโยชน์ตอบแทนขั้นตา่ ตามข้อ 15 (1) (3) ให้ผู้ประมูลได้ไปทาสัญญาเช่ากับองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินภายในสิบห้าวันนับแต่วันท่ี ได้รับแจ้งจากองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินหากไม่ไปทาสัญญาเช่าภายในกาหนดดังกล่าว หรือไม่วาง หลกั ประกันสญั ญาเช่าตามขอ้ 17 ในวนั ทาสัญญาให้องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ินรบิ หลกั ประกันตาม (2) (4) เงือ่ นไขอ่นื ๆ ตามที่ผ้มู ีอานาจอนุมัติกาหนดเป็นกรณี ๆ ไป ขอ้ 9 ประกาศหรอื ใบแจง้ ความตามขอ้ 8 (1) อย่างนอ้ ยใหแ้ สดงรายการดังตอ่ ไปนี้ (1) รายละเอียดเก่ียวกับอสังหาริมทรพั ย์ที่จะให้เชา่ (2) คุณสมบัติของผู้เข้าประมูลต้องมีภูมิลาเนาหรือถ่ินท่ีอยู่เป็นหลักแหล่งมีอาชีพม่ันคงและ เช่ือถือได้และไม่เป็นผู้ได้รับเอกสทิ ธ์ิหรอื ความค้มุ กนั ซงึ่ อาจปฏิเสธไม่ยอมขึ้นศาลเว้นแต่รฐั บาลของผเู้ ขา้ ประมูลจะไดม้ คี าสัง่ ใหส้ ละเอกสทิ ธห์ิ รือความคมุ้ กนั เช่นว่าน้ัน (3) ใหผ้ เู้ ขา้ ประมูลเสนอประโยชน์ตอบแทนการให้เชา่ ทจ่ี ะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (4) กาหนดวนั เวลาและสถานท่รี ับซอง ปดิ การรับซองและเปดิ รบั ซองประมลู

514 (5) จานวนเงินทกี่ าหนดเปน็ หลักประกันซอง สถานทีร่ ับหลกั ประกนั ซองและใหก้ าหนดเงื่อนไข ด้วยว่าถ้าผู้ประสงค์ประมูลได้ไม่ไปทาสัญญาเช่ากับองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินภายในกาหนดองค์กร ปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ จะริบหลกั ประกนั ซอง (6) กาหนดใหผ้ ู้ประมูลไดว้ างหลักประกันสัญญาเช่าตามอตั ราทก่ี าหนดไวใ้ นข้อ 17 (7) ในเสนอราคาประมูลให้ลงจานวนเป็นตัวเลขและตัวหนังสือถ้าตัวเลขและตัวหนังสือไม่ ตรงกนั ให้ถือตวั หนังสอื เปน็ สาคัญ (8) ซองประมูลต้องผนึกใหเ้ รยี บรอ้ ยกอ่ นย่ืน (9) กาหนดให้ผู้เข้าประมูลหรือผู้แทนซึ่งได้รับมอบหมายเป็นหนังสือยื่นซองประมูลต่อ คณะกรรมการรับซองประมูล (10) ให้ระบุสถานท่ีที่ผู้เข้าประมูลจะติดต่อ เพ่ือขอทราบรายละเอียดเก่ียวกับการประมูล อสงั หารมิ ทรพั ย์ที่จะใหเ้ ช่า และแบบสัญญาเช่า (11) ใหส้ งวนสิทธิไว้ดว้ ยว่าองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นทรงไว้ซ่งึ สทิ ธิท่ีจะใหผ้ ู้ประมลู รายใดก็ได้ เช่าอสังหาริมทรพั ย์ท่ีทาการประมูล โดยไม่จาเป็นต้องให้ผู้ท่ีเสนอประโยชน์ตอบแทนสงู สดุ เสมอไป หรือ ยกเลกิ การประมูลครงั้ นั้นกไ็ ด้ ท้งั น้ี ผู้เข้าประมลู ไม่มีสทิ ธิเรยี กรอ้ งค่าเสียหายใด ๆ ขอ้ 10 การประมูลตามขอ้ 6 ใหแ้ ต่งตง้ั คณะกรรมการเพอ่ื ดาเนนิ การเร่ืองดงั กล่าว ดังตอ่ ไปนี้ (1) คณะกรรมการรบั ซองประมลู (2) คณะกรรมการเปดิ ซองประมูล คณะกรรมการตามวรรคหน่ึงแต่ละคณะ ให้ประกอบด้วยประธานกรรมการหน่ึงคนซ่ึงเป็น พนกั งานสว่ นทอ้ งถนิ่ ตง้ั แตร่ ะดับ 3 หรือเทยี บเท่าขึ้นไปและกรรมการอกี อย่างน้อยสองคนซึ่งเปน็ พนกั งาน ส่วนทอ้ งถ่นิ ตัง้ แต่ระดับ 3 หรือเทียบเท่าข้นึ ไปและคณะกรรมการอกี อย่างนอ้ ยสองคนซึง่ เปน็ พนักงานสว่ น ท้องถ่ิน หากไม่สามารถแตง่ ตั้งพนักงานส่วนทอ้ งถิ่นทาหน้าท่ีดังกล่าวได้ เน่ืองจากมพี นักงานส่วนท้องถิน่ ไม่เพียงพอ หรือมีแต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าท่ีได้ หรือกรณีจาเป็นหรือเพ่ือประโยชน์ขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น จะแตง่ ตงั้ ขา้ ราชการอ่ืนเปน็ ประธานกรรมการหรือกรรมการกไ็ ด้ การประมูลรายเดยี วกนั ห้ามแต่งตงั้ ผู้ซ่ึงเปน็ ประธานกรรมการหรือกรรมการในคณะกรรมการ ตาม (1) เปน็ ประธานกรรมการหรือกรรมการในคณะกรรมการ (2) ข้อ 11 การประชมุ เพือ่ ปรกึ ษาและปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ของคณะกรรมการตาม ข้อ 10 และขอ้ 15 แต่ ละคณะต้องมีกรรมการพร้อมกนั ไม่น้อยกว่ากงึ่ หนงึ่ ของจานวนกรรมการทง้ั หมดให้ประธานกรรมการแต่ ละกรรมการแตล่ ะคนมีเสยี งหนง่ึ ในการลงมติ มตขิ องคณะกรรมการดงั กล่าวใหถ้ ือเสียงข้างมาก

ระเบยี บมหาดไทยวา่ ดว้ ยการจดั หาประโยชนใ์ นทรัพยส์ นิ ขององค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน 515 พ.ศ. 2543 ขอ้ 12 คณะกรรมการรับซองประมูลใหม้ หี น้าที่ ดงั ต่อไปน้ี (1) รับซองประมูลโดยใหล้ งทะเบียนไว้เป็นหลักฐานและบันทึกไว้ที่หน้าซองประมูลว่าเป็นของ ผู้ใด แล้วให้ลงลายมือช่อื กากับไวด้ ว้ ย (2) ตรวจสอบหลักประกันซองประมูลร่วมกับเจ้าหน้าที่การเงินเมื่อถูกต้องแล้วให้เจ้าหน้าท่ี การเงินออกใบให้แก่ผบู้ ยืน่ ซองประมลู ไวเ้ ปน็ หลักฐาน (3) รับเอกสารต่าง ๆ ตามเง่ือนไขทกี่ าหนดไว้ในประกาศหรือใบแจ้งความเรอื่ งการประมูล (4) เม่อื พ้นกาหนดระยะเวลารบั ซองประมูล หา้ มรับซองประมลู อกี และให้รบี สง่ มอบซองประมลู ท้ังหมด เอกสารต่าง ๆ ต่าง (3) พร้อมด้วยบันทึกรายงานการรับซองประมูลต่อคณะกรรมการเปิดซอง ประมลู เพือ่ ดาเนินการต่อไป ข้อ 13 คณะกรรมการเปดิ ซองประมูลให้มีหนา้ ท่ี ดังต่อไปน้ี (1) เปดิ ซองประมลู โดยเปดิ เผยตอ่ หนา้ ผเู้ ขา้ ประมลู หรอื ผแู้ ทนซึ่งมีอยใู่ นขณะเวลาเปดิ ซอง และ ให้บันทึกประโยชน์ตอบแทนจากใบเสนอราคาประมูลทุกฉบับไว้ในบัญชีเปรียบเทยี บประโยชน์ตอบแทน และให้ลงลายมือชอ่ื กากับไวด้ ว้ ย (2) ตรวจสอบคุณสมบตั ิของผเู้ ข้าประมลู และเอกสารตา่ ง ๆ ว่าเป็นไปตามเงื่อนไขในประกาศ หรอื ใบแจ้งความเรอื่ งการประมูลหรอื ไม่ (3) พิจารณาใบเสนอราคารายทเี่ สนอโดยถกู ต้องตาม (2) (4) พิจารณาคัดเลือกผู้เสนอประโยชน์ตอบแทนการให้เช่าสูงสุดและให้อยู่ในดุลพินิจของ คณะกรรมการเปิดซองท่ีจะต่อรองประโยชน์ตอบแทนการให้เช่าหรือไม่ก็ได้โดยคานึงถึงประโยชน์ตอบ แทนข้ันต่าตามข้อ 15 (1) เป็นเครื่องประกอบการพิจารณา ถ้ามีผู้เสนอประโยชน์ตอบแทนการให้เช่าสูงสุดเท่ากันหลายราย ให้คณะกรรมการเปิดซอง ประมลู เรียกผเู้ สนอประโยชน์ตอบแทนการให้เชา่ สูงสดุ ดังกลา่ วมาเสนอประโยชน์ตอบแทนการใหเ้ ช่าใหม่ พรอ้ มกันด้วยวธิ ยี น่ื ซองประมูลหรือโดยวาจา (5) เสนอความเห็นพร้อมท้ังเอกสารเกี่ยวกับการประมูลที่ได้รับไว้ทั้งหมดให้ผู้บริหารท้องถ่ิน พจิ ารณาอนุมตั ิ ข้อ 14 การประมูลใหเ้ ชา่ ตามขอ้ 6 หากไม่มผี ้ใู ดมาประมลู หรอื มผี ้เู ขา้ ประมูลแตเ่ สนอประโยชน์ ตอบแทนให้องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ ต่ากว่าทกี่ าหนดตาม ข้อ 15 (1) ใหผ้ ู้บรหิ ารท้องถนิ่ สง่ั ยกเลิกการ ประมูลครั้งนัน้

516 ในกรณีท่ีมีผู้ประมูลเพียงรายเดียว และคณะกรรมการเห็นว่ามีเหตุผลสมควรท่ีจะดาเนินการ ตอ่ ไป ให้ดาเนนิ การตามขอ้ 13 (4) โดยอนุโลม ข้อ 15 ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินท่ีจัดหาประโยชน์จากอสงั หาริมทรัพย์ดาเนินการเสนอ ผวู้ ่าราชการจังหวัด หรือนายอาเภอหรือปลัดอาเภอผู้เปน็ หัวหนา้ ประจากิ่งอาเภอกรณีองค์การบรหิ ารสว่ น ตาบล แต่งต้ังคณะกรรมการจัดหาประโยชน์จากทรัพย์สินขององค์การบริหารส่วนท้องถ่ินขึ้นคณะหนง่ึ ประกอบดว้ ย ผู้บริหารท้องถนิ่ ที่จัดหาประโยชน์ เป็นประธานกรรมการ ผ้แู ทนองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ที่จัดหาประโยชน์ ผู้แทนส่วนราชการท่ีเกี่ยวข้อง และผู้ทรงคุณวุฒิซ่งึ มีความรแู้ ละประสบการณ์กบั การ กาหนดอัตราค่าเชา่ มีจานวนตามความเหมาะสมเปน็ กรรมการ ใหค้ ณะกรรมการมีอานาจหน้าที่ ดงั นี้ (1) กาหนดประโยชนต์ อบแทนขั้นต่าของการจะให้เช่าอสงั หารมิ ทรพั ย์ขององค์กรปกครองส่วน ท้องถน่ิ ล่วงหนา้ ไวโ้ ดยคานึงถึงสภาพและทาเลขของอสงั หาริมทรัพย์นัน้ (2) กาหนดหลักเกณฑ์การเช่าและการต่ออายุสัญญาเช่าอสังหารมิ ทรัพย์ขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ระยะเวลาการใหเ้ ช่าและต่ออายุสัญญาเช่าและอัตราค่าเช่า ภายหลังการต่ออายุสัญญาเช่า อสงั หาริมทรัพยข์ ององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ท้ังนี้ ใหก้ าหนดไว้ล่วงหนา้ ก่อนเช่าละการตอ่ อายุสัญญา เช่าทกุ ครัง้ (3) กาหนดค่าตอบแทนการต่ออายุสัญญาเช่า การให้เช่าช่วง การโอนสิทธิ การเช่า และการ เปลีย่ นตัวผู้เช่าอสังหาริมทรัพยน์ ัน้ การเชา่ อสงั หารมิ ทรัพย์ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นต้องมีประโยชน์ตอบแทนไม่ต่ากวา่ อัตรา ท่ีคณะกรรมการจัดหาประโยชน์กาหนด เว้นแต่กรณมี เี หตจุ าเปน็ ใหค้ ณะกรรมการพิจารณาอนมุ ตั ิโดยเสยี ง ขา้ งมาก ยกเว้นเปน็ กรณเี ฉพาะรายไป ข้อ 16 หลกั ประกันซองหรือหลักประกันสัญญา ให้ใชห้ ลักประกนั อย่างหน่ึง อยา่ งใด ดังต่อไปน้ี (1) เงนิ สด (2) เช็คทธ่ี นาคารรับรองหรือเช็คท่ธี นาคารสงั่ จา่ ยซึ่งเป็นเช็คลงวนั ท่ใี ช้เช็คนัน้ ชาระตอ่ เจ้าหน้าท่ี หรอื ก่อนวันน้ันไม่เกนิ สามวันทาการ (3) หนังสอื คา้ ประกนั ของธนาคารภายในประเทศไทยตามแบบที่กาหนดท้ายระเบยี บน้ี (4) พนั ธบตั รรฐั บาลไทย ขอ้ 17 ใหอ้ งค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ เรียกเก็บหลกั ประกนั สัญญาเช่าอสงั หารมิ ทรพั ยจ์ ากผูเ้ ช่า ในอัตราไม่ตา่ กว่าร้อยละห้าแตไ่ มเ่ กินรอ้ ยละสบิ ของประโยชนต์ อบแทน

ระเบยี บมหาดไทยว่าดว้ ยการจดั หาประโยชนใ์ นทรพั ยส์ ินขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิน่ 517 พ.ศ. 2543 ข้อ 18 สัญญาเช่าอสังหาริมทรพั ย์ขององค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินใหเ้ ปน็ ไปตามแบบตัวอยา่ ง ทา้ ยระเบียบน้ี กรณีไม่อาจทาสญั ญาเช่าตามวรรคหน่ึงได้และจาเปน็ ต้องร่างสัญญาเช่าใหมใ่ ห้องค์กรปกครอง สว่ นทอ้ งถิน่ ส่งรา่ งใบแจ้งความพรอ้ มท้งั ร่างสญั ญาเช่านน้ั ปให้สพนักงานอัยการสงู สดุ พจิ ารณากอ่ น เว้นแต่ ทาสญั ญาเช่าตามแบบทีเ่ คยผ่านการพิจารณาของอยั การจังหวดั หรือสานกั งานอยั การสงู สุดแลว้ ข้อ 19 การตอ่ อายุสัญญาเช่าอสังหารมิ ทรพั ย์ขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิน่ (1) มีกาหนดไม่เกินสามปี ให้ผ้บู ริหารท้องถนิ่ เปน็ ผูม้ อี านาจอนุมัติ (2) มีกาหนดเกนิ สามปี ให้สภาทอ้ งถิ่นเป็นผ้อู นมุ ตั ิ ข้อ 20 การให้เช่าช่วง การโอนสทิ ธิการเช่าหรอื การเปลยี่ นตัวผเู้ ชา่ อสงั หาริมทรัพย์ขององคก์ ร ปกครองส่วนท้องถิ่น (1) อายสุ ัญญาเช่าทเ่ี หลอื อยไู่ มเ่ กินสามปี ใหผ้ ู้บรหิ ารท้องถ่ินเปน็ ผอู้ านาจอนุมตั ิ (2) อายุสญั ญาเชา่ ทเ่ี หลืออยเู่ กนิ สามปี ให้สภาท้องถน่ิ มีอานาจอนุมัติ ข้อ 21 เว้นแต่จะกาหนดไว้เปน็ อย่างอ่ืน การเปล่ียนตวั ผู้เช่าตามข้อ 20 จะกระทาไดก้ ็ต่อเมอ่ื ผู้ เช่าเดิมตายหรอื สาบสญู กอ่ นทีส่ ญั ญาเช่าจะส้นิ สุดและใหบ้ ันทึกตอ่ ท้ายสญั ญาเชา่ เดมิ โดยระบสุ าเหตุของ การเปลย่ี นตวั ผู้เช่าดว้ ย ขอ้ 22 ให้องคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ินเรยี กเกบ็ คา่ ตอบแทนการตอ่ อายุสญั ญาเชา่ การใหเ้ ขา่ ช่วง การโอนสิทธิการเช่าและการเปลีย่ นตัวผูเ้ ช่าและการเปลี่ยนตัวผู้เช่าจากผุ้เช่าอสังหาริมทรัพย์ขององค์กร ปกครองสว่ นท้องถนิ่ ได้ตามอัตราทค่ี ณะกรรมการจัดหาประโยชนข์ ององค์กรส่วนทอ้ งถิ่นนั้นกาหนด ข้อ 23 หากผู้เช่าอสงั หาริมทรัพย์ขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นประสงค์จะต่ออายสุ ัญญาเช่า ให้ท้องถิ่นแจง้ ให้ผู้เช่าใหย้ ่ืนคาขอต่ออายุสัญญาเช่าพรอ้ มทั้งเสนอประโยชน์ตอบแทนใหอ้ งค์กรปกครอง สว่ นท้องถน่ิ พิจารณาก่อนทีส่ ญั ญาเชา่ เดิมจะสน้ิ สดุ ไม่นอ้ ยกวา่ หกสิบวัน ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินพิจารณาคาขอดังกล่าว ถ้าเป็นหลักเกณฑ์ตามข้อ 15 (2) แล้ว เสนอผู้มอี านาจอนุมตั ติ ามข้อ 19 หากองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นเหน็ คาขอต่ออายุสัญญาเช่าตามวรรคหนึ่งไมอ่ ยู่ในหลักเกณฑ์ ตามข้อ 15 (2) ก็ให้ดาเนินการให้เช่าอสงั หาริมทรัพย์ตามขอ้ 6 ขอ้ 24 การให้เชา่ ช่วงหรอื โอนสิทธิการเช่าอสงั หารมิ ทรัพยจ์ ะกระทาได้ก็ต่อเมอื่ ค่สู ัญญาได้ตกลง กันโดยระบุไว้ในสัญญาเช่าเดิมว่าผใู้ ห้เช่ายิมยอมให้ผู้เช่านาอสังหาริมทรัพย์ที่เช่าไปให้บุคคลอ่ืนเช่าช่วง

518 หรือโอนสทิ ธกิ รรมสิทธก์ิ ารเช่าได้และใหบ้ ันทึกตอ่ ทา้ ยสญั ญาเช่าเดิมแสดงความยินยอมระหว่างผเู้ ช่ากับผู้ เช่าชว่ งหรือผู้โอนสทิ ธกิ ารเชา่ กับผ้รู บั โอนสทิ ธิการเชา่ ตามแนบท้ายระเบยี บนี้ ข้อ 25 การให้เช่าอสงั หาริมทรพั ย์ขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น ให้ผู้บริหารท้องถ่ินกาหนด หลกั เกณฑแ์ ละเงือ่ นไขการให้เชา่ ให้เหมาะสมกบั สภาพและลกั ษณะของอสังหารมิ ทรพั ยท์ ีใ่ หเ้ ชา่ ก่อนการ เช่าทุกคร้งั บทเฉพาะกาล ข้อ 26 องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินใดดาเนินการเรื่องเก่ียวกับสัญญาการจัดหาประโยชน์ใน ทรัพยส์ ินขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่ ยงั ไมแ่ ลว้ เสร็จในวนั ท่ีระเบียบน้ีใชบ้ ังคบั กใ็ ห้ดาเนินการต่อไปตาม ระเบียบเดิมจนกว่าจะดาเนนิ การทาสัญญาแลว้ เสรจ็ ประกาศ ณ วนั ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 ชานิ ศกั ดเิ ศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ ฯ รกั ษาราชการแทน

แนวข้อสอบระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าดว้ ยการจัดหาประโยชน์ในทรพั ย์สินขององค์กร 519 ปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ พ.ศ. 2543 แนวข้อสอบระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจดั หาประโยชน์ในทรพั ย์สินขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2543 1. ระเบียบกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการจัดหาประโยชนใ์ นทรัพยส์ นิ ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ พ.ศ. 2543 มีทัง้ หมดกหี่ มวด ก. 1 หมวด ข. 2 หมวด ค. 3 หมวด ง. 4 หมวด 2. ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าดว้ ยการจดั หาประโยชนใ์ นทรัพยส์ ินขององคก์ รปกครองส่วนท้องถ่นิ พ.ศ. 2543 ออกระเบียบทง้ั หมดก่ีข้อ ก. 20 มาตรา ข. 22 มาตรา ค. 26 มาตรา ง. 28 มาตรา 3. “ประโยชน์ตอบแทน” หมายความถึงข้อใด ก. ส่งิ ของ ข. เงิน ค. คา่ เช่า ง. ถกู ทุกขอ้ 4. “องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน” หมายความถึงขอ้ ใด ก. องค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ข. เทศบาล ค. องค์การบริหารสว่ นตาบล ง. ถูกทกุ ข้อ

520 5. ข้อใดไม่ใช่หมวดในระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ด้วยการจัดหาประโยชนใ์ นทรพั ยส์ นิ ขององค์กร ปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน พ.ศ. 2543 ก. ขอ้ ความทวั่ ไป ข. การจดั หาประโยชนใ์ นทรัพยส์ นิ ค. ข้อ ก และ ข ง. ไมม่ ีขอ้ ใดถูก 6. การให้เช่าอสงั หาริมทรัพย์ขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ให้ดาเนนิ การโดยวิธใี นข้อใด ก. วิธีประมลู ข. วิธีจบั จอง ค. วิธเี จรจา ง. ไมม่ ขี อ้ ใดถกู 7. การใหเ้ ช่าอสงั หาริมทรพั ย์ขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ทม่ี กี าหนดไมเ่ กิน 3 ปี ใครเปน็ ผูอ้ นมุ ตั ิ ก. ผบู้ รหิ ารทอ้ งถน่ิ ข. สภาท้องถนิ่ ค. ปลัดกระทรวง ง. รองปลัดกระทรวง 8. การใหเ้ ชา่ อสงั หาริมทรัพยข์ ององค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ ที่มกี าหนดเกิน 3 ปี ใครเป็นผอู้ นุมตั ิ ก. ผู้บริหารท้องถิ่น ข. สภาทอ้ งถน่ิ ค. ปลัดกระทรวง ง. รองปลดั กระทรวง 9. ขอ้ ใดคือเงื่อนไขของการใหเ้ ชา่ ทดี่ นิ เพอ่ื กอ่ สรา้ งอาคารทมี่ ีลักษณะถาวร ก. ผเู้ ช่าตอ้ งยกกรรมสทิ ธ์ิอาคารนนั้ ใหก้ ับองคก์ รปกครองส่วนท้องถ่นิ ข. ผเู้ ชา่ จะไดร้ บั สทิ ธิการเชา่ อาคารนน้ั ไมเ่ กิน 3 ปนี บั จากวนั ลงนามสัญญาเชา่ ค. ผู้เชา่ ต้องทาประกนั อคั คีภยั อาคารน้ันในอัตราไมต่ ่ากวา่ ราคาทุนของอาคารนนั้ ทีอ่ งค์กร ปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ กาหนด ง. ถูกทุกข้อ

แนวข้อสอบระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจัดหาประโยชนใ์ นทรัพยส์ ินขององค์กร 521 ปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ พ.ศ. 2543 10. ข้อใดไมใ่ ช่เงือ่ นไขของการใหเ้ ชา่ ท่ีดนิ เพ่อื กอ่ สรา้ งอาคารท่ีมลี ักษณะถาวร ก. ผู้เช่าไม่ตอ้ งเสียภาษีโรงเรอื นและท่ดี นิ ข. ผ้เู ช่าจะไดร้ บั สทิ ธิการเชา่ อาคารนั้นไม่เกิน 3 ปีนับจากวันลงนามสัญญาเช่า ค. ผเู้ ช่าตอ้ งทาประกนั อัคคีภัยอาคารนัน้ ในอัตราไมต่ ่ากว่าราคาทุนของอาคารนนั้ ทอ่ี งค์กร ปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ กาหนด ง. ถูกทกุ ขอ้ 11. ขอ้ คือวธิ กี ารให้เช่าอสงั หารมิ ทรพั ย์ขององค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน ก. ปดิ ประกาศโดยเปิดเผย ณ สานกั งานขององค์กร ข. มหี ลกี ประกันซองไม่ตา่ กวา่ รอ้ ยละ 5 แต่ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ 10 ค. ผู้เชา่ ตอ้ งมาทาสัญญาเชา่ กบั องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภายใน 15 วันนับแต่ไดร้ บั แจง้ ง. ถูกทกุ ข้อ 12. ประกาศหรอื ใบแจง้ เรือ่ งการเชา่ อสงั หารมิ ทรพั ย์ขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ ตอ้ งแสดงรายการใน ขอ้ ใด ก. รายละเอียดเกย่ี วกบั อสังหารมิ ทรัพยท์ จ่ี ะใหเ้ ช่า ข. คณุ สมบัตขิ องผเู้ ช่าตอ้ งมีภมู ลิ าเนาเปน็ หลกั แหลง่ มอี าชพี มัน่ คงและเชือ่ ถือได้ ค. กาหนดวนั เวลาและสถานที่รบั ซอง ปดิ การรบั ซองและเปดิ ซองประมลู ให้ชดั เจน ง. ถกู ทุกข้อ 13. ประกาศหรือใบแจ้งเรื่องการเช่าอสงั หารมิ ทรัพย์ขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ ตอ้ งแสดงรายการใน ข้อใด ก. ใบสญั ญาประมลู ใหล้ งตัวเลขและตัวหนังสือใหช้ ัดเจน ข. ต้องผนกึ ซองประมลู ให้เรยี บร้อย ค. ระบสุ ถานที่ทีผ่ เู้ ขา้ ประมลู จะสามารถตดิ ตอ่ ได้ ง. ถกู ทุกข้อ 14. ขอ้ ใดคือหนา้ ทีข่ องคณะกรรมการรบั ซองประมลู ก. ลงทะเบียนรบั ซองประมลู เพอื่ เปน็ หลักฐานและรบี สง่ มอบซองประมลู ข. ใหเ้ จ้าหน้าที่การเงนิ ออกใบรบั ใหแ้ กผ่ ู้ยน่ื ซองประมลู หลงั จากตรวจสอบหลกั ประกันถกู ตอ้ ง ค. รับเอกสารตามเงื่อนไขทไ่ี ดป้ ระกาศ ง. ถูกทุกข้อ

522 15. ขอ้ ใดคอื หน้าทขี่ องคณะกรรมการเปิดซองประมลู ก. เปิดซองประมูลต่อหน้าผปู้ ระมลู หรอื ผู้แทนพรอ้ มบนั ทึกประโยชน์ตอบแทนจากใบเสนอราคา ประมูล ข. ตรวจสอบคณุ สมบตั ิของผู้เขา้ ประมลู ค. พจิ ารณาใบเสนอราคาใหถ้ กู ต้อง ง. ถูกทกุ ข้อ 16. ข้อใดคือหลกั ประกันซองหรอื หลกั ประกันสญั ญา ก. เงินสด ข. เช็คทธี่ นาคารรับรอง ค. พันธบตั รรัฐบาลไทย ง. ถูกทุกข้อ 17. ขอ้ ใดถกู ต้องเกี่ยวกับการประมลู เชา่ อสงั หารมิ ทรพั ย์ ก. หากทมี่ ผี เู้ ข้าประมลู รายเดียวใหท้ าการยกเลิกทันที ข. หากผู้เข้าประมลู ทง้ั หมดเสนอผลตอบแทนตา่ กวา่ ทก่ี าหนดให้ยกเลกิ การประมลู ค. ขอ้ ก และ ข ถูกตอ้ ง ง. ไม่มขี ้อใดถกู 18. องคก์ รปกครองสว่ นท้องถนิ่ สามารถเรยี กเกบ็ หลกั ประกันสญั ญาเช่าอสงั หารมิ ทรพั ยจ์ ากผเู้ ชา่ ในอตั รา ใด ก. ไม่ต่ากวา่ ร้อยละ 5 ข. ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ 10 ค. ไม่ต่ากว่ารอ้ ยละ 10 ง. ข้อ ก และ ข ถกู ตอ้ ง 19. ในกรณีทผ่ี เู้ ช่าอสงั หาริมทรพั ย์ขององคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่ ตอ้ งการจะตอ่ สญั ญาเช่า ใหย้ ่นื คาขอ ตอ่ อายุกอ่ นสญั ญาเดิมจะสน้ิ สดุ ภายในกว่ี ัน ก. 30 วนั ข. 60 วนั ค. 90 วนั ง. 120 วนั

แนวขอ้ สอบระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการจัดหาประโยชน์ในทรัพยส์ นิ ขององคก์ ร 523 ปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ พ.ศ. 2543 20. ในกรณีที่ระเบยี บนีย้ งั ไม่บงั คบั ใช้ข้อใดถูกต้อง ก. ใหร้ อจนกวา่ ระเบียบนีจ้ ะแล้วเสรจ็ ข. ใหใ้ ช้ระเบยี บเดมิ ไปก่อนจนกว่าระเบยี บนจ้ี ะถกู บงั คบั ใช้ ค. ให้ชะลอไปกอ่ นจนกว่าระเบียบนจี้ ะแล้วเสรจ็ ง. ไมม่ ขี ้อใดถูก

524 เฉลยแนวข้อสอบระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจดั หาประโยชนใ์ นทรพั ยส์ ินขององคก์ ร ปกครองสว่ นท้องถิ่น พ.ศ. 2543 1. ข 5. ง 9. ง 13. ง 17. ก 2. ค 6. ก 10. ก 14. ง 18. ง 3. ง 7. ก 11. ง 15. ง 19. ข 4. ง 8. ข 12. ง 16. ง 20. ข

ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยแผนท่ีภาษีและทะเบียนทรพั ยส์ นิ ขององคก์ รปกครองส่วน 525 ท้องถ่ินพ.ศ. 2550 ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าดว้ ยแผนท่ภี าษีและทะเบยี นทรพั ยส์ ินขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน พ.ศ. 2550 โดยท่เี ป็นการสมควรปรบั ปรงุ ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจดั ทาการปรบั ข้อมูลการใช้ และการเก็บรกั ษาแผนทภี่ าษีและทะเบียนทรัพยส์ นิ ของเทศบาลและเมอื งพทั ยาพ.ศ. 2537 อาศัยอานาจ ตามความในมาตรา 69 และมาตรา 77 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 6 แห่ง พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา พ.ศ. 2542 มาตรา 5 และมาตรา 88 วรรคสอง แห่ง พระราชบัญญัติสภาตาบลและองค์การบรหิ ารส่วนตาบล พ.ศ. 2537 รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย จงึ ออกระเบียบไว้ ดงั ตอ่ ไปนี้ ขอ้ 1 ระเบียบนเี้ รียกวา่ “ระเบียบกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยแผนทีภ่ าษีและทะเบยี นทรพั ยส์ นิ ขององค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ พ.ศ. 2550” ข้อ 2[1] ระเบียบนใ้ี หใ้ ช้บังคบั ตัง้ แต่วันท่ี 1 มกราคม พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป ข้อ 3 ให้ยกเลิกระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจดั ทา การปรบั ข้อมลู การใช้และการ เกบ็ รกั ษาแผนทีภ่ าษีและทะเบยี นทรัพยส์ นิ ของเทศบาลและเมืองพัทยา พ.ศ. 2537 บรรดาระเบียบ ขอ้ บงั คับ และคาสั่งอืน่ ๆ ในส่วนที่ได้กาหนดไว้แลว้ ในระเบียบนีห้ รอื ซึ่งขัดหรือ แยง้ กบั ระเบียบน้ี ให้ใช้ระเบยี บนแ้ี ทน ขอ้ 4 ในระเบยี บน้ี “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” หมายความว่า เทศบาล องค์การบริหารสว่ นตาบล เมืองพัทยา และองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินอ่ืนที่มีกฎหมายจัดตั้งขึ้น แต่ไม่รวมถึงองค์การบริหารส่วนจังหวัดและ กรุงเทพมหานคร “ศูนย์สนับสนุนการปฏิบัติงานแผนท่ีภาษีและทะเบียนทรัพย์สิน” หมายความว่า องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นซ่ึงกระทรวงมหาดไทยหรือจังหวัดได้แต่งต้ังให้มีหน้าท่ีให้คาแนะนาช่วยเหลือ สนบั สนุนหรือตดิ ตามผลการดาเนินการแผนที่ภาษีและทะเบยี นทรพั ยส์ นิ ขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ “ผ้บู ริหารท้องถ่ิน” หมายความว่า นายกเทศมนตรี นายกองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล นายกเมอื ง พทั ยา และผูบ้ ริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินอ่นื ท่มี ีกฎหมายจัดต้ังข้ึน “ปลดั องคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ ” หมายความว่า ปลัดเทศบาล ปลดั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล ปลัดเมอื งพทั ยา และปลัดองค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นอ่นื ทมี่ กี ฎหมายจัดตง้ั ข้ึน “หัวหน้าหน่วยงานคลัง” หมายความว่า ผู้อานวยการสานักการคลัง ผู้อานวยการกองคลัง หัวหน้ากองคลงั และหวั หน้าส่วนการคลัง ขององค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ แล้วแตก่ รณี

526 “หัวหน้าหน่วยงานช่าง” หมายความว่า ผู้อานวยการสานักการช่าง ผู้อานวยการกองช่าง หวั หน้ากองช่าง และหัวหน้าส่วนโยธา ขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ แล้วแต่กรณี “หัวหน้าหน่วยงานสาธารณสุข” หมายความว่า ผู้อานวยการสานักการสาธารณสุขและ สิ่งแวดล้อม ผู้อานวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม หัวหน้ากองสาธารณสุข และหัวหน้าส่วน สาธารณสุข ขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ินแลว้ แต่กรณี “แผนที่ภาษี” หมายความว่า แผนท่ีท่ีแสดงตาแหน่ง ลักษณะ ขนาด ของแปลงที่ดิน อาคาร โรงเรือน สิ่งปลูกสร้าง เส้นทางคมนาคม แหล่งน้า และอ่ืนๆ ในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน เพ่ือใช้ ประโยชน์ในการจัดเก็บภาษีอากร ค่าธรรมเนียมและใบอนุญาตต่างๆ และเป็นฐานข้อมูลในการพัฒนา ท้องถน่ิ “ทะเบียนทรัพย์สนิ ” หมายความว่า ทะเบียนท่ีแสดงรายการทรพั ย์สนิ และการใช้ประโยชนใ์ น ทรัพย์สิน ประกอบด้วย ข้อมูลเกี่ยวกับท่ีดิน อาคาร โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้าง ป้าย และการประกอบ การคา้ ของเจา้ ของทรัพย์สินแต่ละคน “ทะเบียนคุมผู้ชาระภาษี” หมายความว่า ทะเบียนที่แสดงรายการชาระภาษีของเจ้าของ ทรัพย์สินผู้อยู่ในข่ายต้องชาระภาษีอากร ค่าธรรมเนียมและใบอนุญาตต่างๆ ตามกฎหมายให้แก่องค์กร ปกครองส่วนทอ้ งถิ่น “แผนท่ีแม่บท” หมายความว่า แผนที่เบ้ืองต้นของแต่ละเขตย่อยหนึ่งๆ ท่ีจัดทาข้ึนจากระวาง ท่ีดิน ซ่ึงอยู่ในเขตขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ิน เพื่อใช้ประโยชน์ในการนาเดินสารวจข้อมูลภาคสนาม และการจัดทาแผนที่ภาษี “เขต” หมายความวา่ การจดั แบง่ พ้นื ที่เขตองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ โดยใชแ้ นวถนน คู คลอง ลักษณะทางธรรมชาติอ่ืนๆ หรือแนวขอบเขตของแปลงท่ีดินออกเป็นเขตต่างๆ มีขนาดและรูปร่างตาม ความเหมาะสม แต่ทั้งนี้ในเขตหน่ึงๆ เม่ือจัดทาเขตย่อยจะต้องไม่เกิน 26 เขตย่อย ช่ือเขตกาหนดด้วย ตัวเลขสองหลักเริม่ จากเลข 01 เรียงตามลาดบั “เขตย่อย” หมายความว่า การจัดแบง่ พื้นที่ภายในเขต โดยใช้แนวถนน คู คลอง หรือลักษณะ ทางธรรมชาติอ่นื ๆ ในกรณีท่ีไม่มลี ักษณะทางธรรมชาติให้ใช้แนวขอบเขตของแปลงท่ดี ินแบง่ ออกเป็นเขต ย่อยต่างๆ มีขนาดและรูปร่างตามความเหมาะสมภายในกรอบกระดาษไขมาตรฐาน A 1 ช่ือเขตย่อย กาหนดด้วยอักษร A ถงึ Z เรยี งตามลาดับ “เลขประจาแปลงที่ดิน” หมายความว่า หมายเลขแสดงลาดับแปลงท่ีดินในเขตย่อย กาหนด ด้วยเลขสามหลกั โดยเรมิ่ จากเลข 001 เรยี งตามลาดับจากซ้ายไปขวาและจากบนลงล่าง

ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ด้วยแผนทภี่ าษีและทะเบียนทรพั ยส์ นิ ขององคก์ รปกครองสว่ น 527 ท้องถ่ินพ.ศ. 2550 “รหัสแปลงทด่ี นิ ” หมายความว่า ช่อื เรียกแปลงทดี่ ินในระบบแผนทภ่ี าษีและทะเบยี นทรัพย์สิน ประกอบดว้ ย เลขเขตนาหน้า ตามด้วยตัวอักษรเขตย่อย และเลขประจาแปลงที่ดนิ “ข้อมูลภาคสนาม” หมายความว่า ข้อมลู ทไ่ี ดจ้ ากการสารวจเกีย่ วกับขอ้ มลู ที่ดนิ ขอ้ มลู โรงเรอื น และส่งิ ปลูกสรา้ งต่างๆ ข้อมลู ป้าย ขอ้ มลู การประกอบการค้าและอ่ืนๆ ของแปลงท่ดี นิ แต่ละแปลง ข้อ 5 ให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยรกั ษาการตามระเบียบน้ี ให้มีอานาจตีความการปฏิบัติตาม ระเบียบน้ี กาหนดหลกั เกณฑ์ วธิ ปี ฏิบตั ิ และวินิจฉัยปัญหา เพอื่ ดาเนินการให้เป็นไปตามระเบยี บนี้ หมวด 1 คณะกรรมการและอานาจหนา้ ที่ ข้อ 6 ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งต้ังคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง เรียกว่า “คณะกรรมการ อานวยการแผนท่ีภาษแี ละทะเบยี นทรัพยส์ นิ จังหวัด”ประกอบด้วย (1) รองผู้ว่าราชการจงั หวัด ประธานกรรมการ (2) เจา้ พนักงานทีด่ ินจังหวดั กรรมการ (3) ปา่ ไมจ้ งั หวดั กรรมการ (4) ธนารกั ษ์พน้ื ที่จังหวัด กรรมการ (5) พาณิชยจ์ งั หวัด กรรมการ (6) ผแู้ ทนเทศบาล กรรมการ (7) ผูแ้ ทนเมอื งพัทยา กรรมการ (8) ผแู้ ทนองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล กรรมการ (9) นายอาเภอ กรรมการ (10) ทอ้ งถิ่นจงั หวัด กรรมการและเลขานุการ (11) หัวหนา้ กลุ่มงานสง่ เสรมิ และพฒั นาทอ้ งถนิ่ กรรมการและผชู้ ว่ ยเลขานกุ าร ใหผ้ วู้ ่าราชการจงั หวัดแตง่ ตั้งกรรมการตาม (1) (6) (8) และ (9) ตามทเ่ี หน็ สมควร

528 ข้อ 7 ให้คณะกรรมการอานวยการแผนที่ภาษีและทะเบียนทรัพย์สินจังหวัดมีอานาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้ (1) พิจารณาคัดเลือกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นท่ีมีศักยภาพในการจัดทาแผนที่ภาษีและ ทะเบียนทรัพย์สิน เสนอผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งต้ังเป็นศูนย์สนับสนุนการปฏิบัติงานแผนที่ภาษีและ ทะเบียนทรัพย์สิน โดยกาหนดจานวนให้เหมาะสมกับจานวนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นท่ีอยู่ในความ รบั ผิดชอบ (2) ประสานงานกับองคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่ หรอื หน่วยงานอนื่ ท่เี ก่ียวข้อง เพอื่ ใหก้ ารจัดทา แผนที่ภาษแี ละทะเบียนทรัพยส์ ินขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ ดาเนินการไปดว้ ยความเรียบรอ้ ย (3) สนับสนุน ให้คาปรกึ ษาแนะนา กากบั ดูแล ติดตาม และประเมินผลการจดั ทาแผนทภ่ี าษแี ละ ทะเบียนทรัพย์สินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมกับศูนย์สนับสนุนการปฏิบัติงานแผนท่ีภาษีและ ทะเบยี นทรัพย์สิน ข้อ 8 ในองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินแต่ละแห่งให้มคี ณะกรรมการดาเนนิ งานแผนที่ภาษีและ ทะเบยี นทรพั ยส์ ิน ประกอบด้วย (1) รองนายกองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่น ประธานกรรมการ ทีผ่ ู้บริหารทอ้ งถิน่ มอบหมาย (2) ปลดั องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน รองประธานกรรมการ (3) หัวหนา้ หนว่ ยงานช่าง กรรมการ (4) หวั หน้าหน่วยงานสาธารณสุข กรรมการ (5) หัวหน้างานทะเบียนราษฎร กรรมการ (6) หวั หน้าหนว่ ยงานคลัง กรรมการและเลขานุการ (7) หัวหนา้ ฝ่ายพฒั นารายไดห้ รือ กรรมการและ หวั หนา้ งานผลประโยชนห์ รือ ผชู้ ว่ ยเลขานกุ าร หวั หนา้ งานจดั เกบ็ รายได้ ขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่นแลว้ แต่กรณี (8) หวั หนา้ ฝ่ายหรอื หวั หน้างานแผนท่ภี าษี กรรมการและ และทะเบียนทรัพย์สิน ผู้ช่วยเลขานกุ าร

ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยแผนทภ่ี าษแี ละทะเบียนทรพั ยส์ ินขององค์กรปกครองสว่ น 529 ท้องถิ่นพ.ศ. 2550 ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นแลว้ แตก่ รณี ให้คณะกรรมการตามวรรคหนึ่งมีหน้าทใี่ นการจัดทา การปรบั ข้อมูล การใช้ และการเกบ็ รกั ษา แผนท่ีภาษแี ละทะเบยี นทรัพยส์ นิ ตลอดจนควบคุมตดิ ตามประเมินผลการดาเนนิ งาน ข้อ 9 ใหผ้ ้บู ริหารท้องถ่นิ แตง่ ตง้ั เจ้าหนา้ ทเ่ี พอ่ื ปฏบิ ัติงานต่างๆ ดงั ต่อไปน้ี (1) การเตรียมการให้แต่งต้ังจากเจ้าหน้าท่ีของหน่วยงานคลังและสานักงานปลัดขององค์กร ปกครองส่วนท้องถน่ิ (2) การจัดทาแผนทแี่ ม่บทใหแ้ ตง่ ต้งั จากเจ้าหน้าทข่ี องหน่วยงานชา่ ง (3) การคัดลอกข้อมูลทด่ี ินและการสารวจภาคสนามให้แต่งต้ังจากเจา้ หน้าที่ของหน่วยงานชา่ ง หนว่ ยงานคลัง และหน่วยงานสาธารณสขุ (4) การจดั ทาแผนที่ภาษีให้แตง่ ตงั้ จากเจ้าหน้าท่ีของหนว่ ยงานชา่ ง (5) การจัดทาทะเบียนทรัพย์สินและทะเบียนคุมผู้ชาระภาษีให้แต่งตั้งจากเจ้าหน้าท่ีของ หนว่ ยงานคลงั (6) การปรับปรุงข้อมูลให้แต่งต้ังจากเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานช่าง หน่วยงานคลัง หน่วยงาน สาธารณสุข และหน่วยงานทะเบยี นราษฎร ในกรณีที่มีความจาเป็นไมส่ ามารถดาเนนิ การใหแ้ ลว้ เสรจ็ ตามระยะเวลาท่ีกาหนดในโครงการได้ ให้ขอความเหน็ ชอบจากผวู้ า่ ราชการจังหวัดเพอ่ื ขยายระยะเวลาในการดาเนินงาน ข้อ 10 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นศูนย์สนับสนุนการปฏิบัติงานแผนที่ ภาษีและทะเบียนทรัพย์สินให้เจ้าหน้าท่ีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้ นเป็นเจ้าหน้าท่ีประจาศูนย์ สนับสนนุ การปฏบิ ัตงิ านแผนที่ภาษีและทะเบยี นทรัพย์สิน ศูนย์สนับสนุนการปฏิบัติงานแผนท่ีภาษีและทะเบียนทรัพย์สิน มีหน้าท่ีส่งเสริมสนับสนุนให้ คาแนะนา ในการจดั ทา การปรบั ข้อมลู การใช้ และการเก็บรักษาแผนทีภ่ าษแี ละทะเบยี นทรัพยส์ ินให้แก่ องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ และช่วยเหลอื จงั หวัดในการตดิ ตามผลเก่ยี วกับการปฏิบัตงิ านแผนท่ภี าษีและ ทะเบียนทรัพยส์ ิน หมวด 2 การจดั ทาแผนที่แมบ่ ท แผนทภ่ี าษแี ละทะเบียนทรพั ยส์ ิน

530 ขอ้ 11 ให้องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่ินดาเนินการจดั ทาแผนทีภ่ าษแี ละทะเบยี นทรพั ย์สนิ ภายใน หน่ึงรอ้ ยแปดสบิ วัน นบั แตว่ นั ท่รี ะเบียบกระทรวงมหาดไทยฉบบั น้ีบังคบั ใช้ หรอื ภายในหน่ึงร้อยแปดสบิ วนั นับแต่วันท่ีมีพระราชบญั ญัติ พระราชกฤษฎีกาหรือประกาศกระทรวงมหาดไทยจดั ตงั้ หรือเปลี่ยนแปลง เขตองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินมีผลบังคับใช้ โดยให้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจาปี หรือจ่ายขาดเงิน สะสมตามความจาเปน็ ข้อ 12 การดาเนินการตามข้อ 11 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาจจะจ้างพนักงานจ้างตาม โครงการจดั ทาแผนทภี่ าษีและทะเบียนทรัพย์สินได้ตามความเหมาะสมกับปรมิ าณงานและระยะเวลาของ โครงการ เมื่อจัดทาแผนท่ีภาษีและทะเบียนทรพั ย์สินเสร็จแลว้ องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่ินสามารถจ้าง พนักงานจ้างตามภารกิจ เพ่ือปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการปรับข้อมูลและการเก็บรักษาแผนท่ีภาษีและ ทะเบียนทรพั ย์สินก็ได้ ข้อ 13 การจดั ทาแผนทแี่ มบ่ ท ให้ดาเนนิ การดังน้ี (1) ตรวจสอบแนวเขตในแผนทเ่ี ขตขององค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ ใหถ้ ูกต้องตรงตามแผนทท่ี า้ ย กฎหมายหรอื พระราชกฤษฎีกาหรือประกาศกระทรวงมหาดไทย (2) แบ่งพื้นทใี่ นแผนทแ่ี นวเขตขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นออกเปน็ เขตและในแตล่ ะเขตให้ แบง่ ออกเปน็ เขตย่อย (3) จัดทาตารางระวางที่ดนิ ทาบทับแผนทแี่ นวเขตขององค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ โดยใช้ข้อมูล ระวางทด่ี นิ จากสานกั งานทดี่ นิ จังหวดั หรอื อาเภอ เพ่ือให้ทราบรายชือ่ ระวางทัง้ หมดในเขตองค์กรปกครอง ส่วนทอ้ งถิน่ ในมาตราส่วนท่เี หมาะสม (4) จัดทาแนวเขตขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถนิ่ ในระวางที่ดนิ ทอ่ี ยู่ในเขตองคก์ รปกครองสว่ น ทอ้ งถ่ิน (5) แบ่งเขตในระวางท่ดี ินภายในแนวเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินและแต่ละเขตให้แบง่ เป็น เขตยอ่ ย (6) แผนที่แม่บทของเขตย่อยหนึ่งให้ใช้มาตราส่วน 1 ต่อ 1,000 เป็นหลัก กรณีเขตย่อยใดไม่ สามารถใช้มาตราส่วนดังกล่าวได้ อาจจะปรับย่อหรือขยายได้โดยใช้มาตราส่วนที่เหมาะสมของแต่ละ องคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ (7) การจดั ทาแผนที่แมบ่ ทให้คดั ลอกรูปแปลงทดี่ นิ เลขทดี่ นิ และหนา้ สารวจจากระวางทีด่ ินท่มี ี การปรับมาตราส่วนตาม (6) ในแต่ละเขตยอ่ ยแล้วใหก้ าหนดเลขประจาแปลงทด่ี นิ แตล่ ะแปลง

ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยแผนที่ภาษีและทะเบียนทรัพยส์ นิ ขององคก์ รปกครองส่วน 531 ท้องถิน่ พ.ศ. 2550 ขอ้ 14 การคดั ลอกขอ้ มลู ทด่ี นิ ใหด้ าเนนิ การรวบรวมขอ้ มลู เกีย่ วกับ ชื่อเจ้าของทดี่ ิน ที่อยู่ เลขท่ี เอกสารสทิ ธิ์ เลขที่ดิน หน้าสารวจ ตาแหน่งท่ีต้ัง และจานวนเน้ือทขี่ องแปลงที่ดนิ แต่ละแปลงจากระวาง แผนที่และสารบบท่ีดินของสานักงานที่ดนิ จังหวัดหรืออาเภอบนั ทึกลงในแบบสารวจข้อมูลเก่ียวกบั ทีด่ นิ (ผ.ท.1) ตามแบบทา้ ยระเบยี บน้ี ข้อ 15 การสารวจขอ้ มูลภาคสนาม ใหใ้ ช้แผนทีแ่ ม่บทในการนาเดินสารวจขอ้ มลู ดงั นี้ (1) ข้อมูลท่ีดิน ให้ใช้แบบสารวจข้อมูลเก่ียวกับท่ีดิน (ผ.ท.1) ตามแบบท้ายระเบียบนี้ในการ จัดเก็บรวบรวมรายละเอยี ดของท่ีดิน ลักษณะการใช้ และการใช้ประโยชน์ของทีด่ ิน ซึ่งแบบสารวจข้อมูล เกีย่ วกับทีด่ นิ 1 ฉบบั ใหใ้ ช้บนั ทกึ รายละเอียดเกี่ยวกับท่ดี นิ 1 แปลง (2) ข้อมูลโรงเรอื นหรือสง่ิ ปลูกสร้าง ให้ใช้แบบสารวจข้อมลู เกี่ยวกับโรงเรือนหรือสิ่งปลกู สรา้ ง (ผ.ท.2) ตามแบบท้ายระเบียบนี้ ในการจัดเก็บรวบรวมรายละเอยี ดของโรงเรอื นหรือสงิ่ ปลูกสร้างการใช้ ประโยชน์และจัดทาผงั บรเิ วณท่ีตั้งโรงเรือนหรือส่ิงปลกู สร้างบนแปลงท่ีดิน ซ่ึงแบบสารวจข้อมลู เก่ยี วกบั โรงเรอื นหรือส่งิ ปลูกสร้าง 1 ฉบับ ให้ใช้บันทึกรายละเอียดเก่ียวกับโรงเรือนและสิง่ ปลูกสรา้ งของเจา้ ของ โรงเรือนหรือส่งิ ปลกู สรา้ งแตล่ ะราย (3) ข้อมูลป้ายและใบอนุญาตต่างๆ ให้ใช้แบบสารวจข้อมูลเก่ียวกับป้ายและใบอนุญาตต่างๆ (ผ.ท.3) ตามแบบทา้ ยระเบียบน้ี ในการจดั เกบ็ รวบรวมรายละเอียดของป้าย ชือ่ และทอี่ ยูข่ องเจ้าของป้าย หรือผู้ครอบครองป้าย และจัดเก็บรวบรวมรายละเอียดของลักษณะกิจการประกอบการค้าที่ต้องขอ อนุญาต ซ่ึงแบบสารวจข้อมูลเกี่ยวกบั ปา้ ยและใบอนุญาตต่างๆ 1 ฉบับ ให้ใช้บันทึกรายการรายละเอยี ด เกย่ี วกบั ป้ายหรอื ใบอนุญาตต่างๆ ของเจา้ ของปา้ ยหรอื ใบอนญุ าตแต่ละราย (4) จัดทาผังบริเวณแสดงตาแหน่งท่ีตั้งของโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างบนแปลงท่ีดิน โดยใช้ มาตราส่วนทีเ่ หมาะสมและวางทศิ ไว้ให้ชัดเจน เอกสารข้อมลู ภาคสนามทที่ าการบนั ทกึ ขอ้ มลู ใหร้ วบรวมเก็บไว้ดว้ ยกันตามรายแปลงที่ดิน ข้อ 16 การจัดทาแผนท่ีภาษี ให้หน่วยงานช่างจัดทาแผนท่ีภาษีจากข้อมูลแผนท่ีแม่บทโดย คดั ลอกแปลงทีด่ ินจากแผนที่แมบ่ ทท่ปี รับแก้ไขจากการเดนิ สารวจภาคสนาม และจัดเรียงลาดบั เลขประจา แปลงทด่ี นิ ใหม่ ลงในกระดาษไขมาตรฐาน A 1 ตามแบบแผนที่ภาษี (ผ.ท.7) ท้ายระเบียบนี้ แผนท่ีภาษีจานวนหน่ึงฉบับบรรจุข้อมูลแปลงที่ดินหน่ึงเขตย่อย ประกอบด้วย รูปแปลงที่ดิน เลขประจาแปลงที่ดิน รูปผังโรงเรือนหรือสิ่งปลกู สรา้ ง และเลขที่บ้าน พร้อมท้ังลงลายมือช่ือ วัน เดือน และปี ของผู้เขยี นกากบั ไว้ด้วย ใหห้ ัวหน้าหนว่ ยงานชา่ งขององค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินหรอื ผู้ที่ได้รับมอบหมายเปน็ ลายลกั ษณ์ อกั ษรตรวจสอบความถกู ต้องแล้วลงลายมอื ชอื่ วัน เดอื น และปี กากบั ไว้ดว้ ย

532 ข้อ 17 การจดั ทาทะเบียนทรัพย์สิน ใหใ้ ช้ขอ้ มูลในแบบสารวจข้อมลู เกี่ยวกับทีด่ นิ โรงเรือนหรือ สิ่งปลกู สร้าง ปา้ ยและการประกอบการค้าซงึ่ ได้จากการสารวจข้อมูลภาคสนามทีไ่ ด้ผา่ นการตรวจสอบแลว้ บันทึกลงในแบบทะเบียนทรัพยส์ นิ เปน็ รายบุคคล ตามแบบทะเบียนทรพั ย์สิน (ผ.ท.4) ท้ายระเบียบน้ี ใหห้ ัวหนา้ หน่วยงานคลงั ขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ ลงลายมอื ชอ่ื วัน เดอื น และปกี ากบั ไว้ ทา้ ยรายการทุกรายการในทะเบยี นทรพั ย์สิน ข้อ 18 ใหห้ น่วยงานคลังตรวจสอบรายการทรพั ย์สินในทะเบียนทรพั ย์สนิ หากเจา้ ของทรัพยส์ นิ รายใดมีทรัพย์สินอยู่ในขา่ ยตอ้ งเสียภาษี ใหจ้ ัดทาทะเบียนคมุ ผู้ชาระภาษีของเจ้าของทรัพยส์ ินนัน้ ตามแบบ ทะเบียนคมุ ผู้ชาระภาษี (ผ.ท.5) ท้ายระเบียบนี้ ข้อ 19 ให้หนว่ ยงานคลงั จัดทาบัญชคี ุมทะเบียนทรพั ยส์ นิ และทะเบียนคุมผู้ชาระภาษีตามแบบ บญั ชคี มุ ทะเบยี นทรพั ยส์ นิ และทะเบยี นคมุ ผชู้ าระภาษี (ผ.ท.6) ทา้ ยระเบยี บน้ี และบญั ชีคมุ แปลงทด่ี นิ และ ขอ้ มลู การประมาณการเสียภาษีตามรายเขตยอ่ ยตามแบบบัญชีคมุ แปลงที่ดนิ และขอ้ มลู การประมาณการ เสยี ภาษี (ผ.ท.17) ท้ายระเบยี บนี้ หมวด 3 การใช้แผนท่ีภาษแี ละทะเบียนทรพั ย์สิน ข้อ 20 ให้องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน ใช้แผนที่ภาษีและทะเบียนทรัพย์สินเป็นข้อมูลในการ จัดเก็บภาษี ตรวจสอบ ติดตาม และเร่งรัดจัดเก็บภาษีให้ครบถ้วน ถูกต้อง และเป็นธรรมต่อเจ้าของ ทรัพยส์ ิน โดยทกุ ฝ่ายทุกงานท่เี กยี่ วขอ้ งเป็นผู้รับผิดชอบร่วมกันตามท่หี ัวหน้าหนว่ ยงานคลงั มอบหมาย ข้อ 21 ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปรับปรุงข้อมูลให้พร้อมสมบูรณ์และแจ้งเจ้าของ ทรัพยส์ ินท่ีอยู่ในข่ายตอ้ งชาระภาษตี ามทะเบียนคุมผชู้ าระภาษีทราบก่อนเดอื นมกราคมของปภี าษี ข้อ 22 เม่ือมผี ้มู ายื่นแบบแสดงรายการเสยี ภาษี ให้เจ้าหนา้ ที่ผูม้ ีหนา้ ทรี่ บั ผิดชอบจดั เกบ็ รายได้ ตรวจสอบรายการข้อมูลทรัพย์สินในแบบแสดงรายการเสียภาษีกับข้อมูลทรัพย์สินในทะเบียนทรพั ย์สนิ และการประเมินภาษีในทะเบียนคุมผู้ชาระภาษีใหถ้ กู ตอ้ ง แล้วเสนอเจ้าพนักงานประเมิน หากรายการข้อมูลทรัพย์สินในแบบแสดงรายการเสียภาษีกับข้อมูลทรัพย์สินในทะเบียน ทรัพย์สนิ และทะเบยี นคุมผูช้ าระภาษีไม่สอดคล้องกัน ให้งานแผนท่ีภาษีและทะเบยี นทรัพย์สินตรวจสอบ สอบถาม หรือแจ้งเป็นหนังสือถึงผู้ย่ืนแบบแสดงรายการเสียภาษี เพื่อแสดงรายการเพิ่มเติมหรือนา พยานหลกั ฐานมาสนับสนนุ ข้อความในรายการนนั้

ระเบียบกระทรวงมหาดไทยวา่ ด้วยแผนทีภ่ าษแี ละทะเบยี นทรพั ยส์ นิ ขององค์กรปกครองส่วน 533 ท้องถ่นิ พ.ศ. 2550 ข้อ 23 เจ้าพนักงานประเมนิ ตอ้ งประเมนิ ภาษีตามรายการทรัพย์สนิ ในทะเบยี นทรพั ยส์ ินและ บันทึกการประเมินภาษใี นทะเบียนคุมผูช้ าระภาษี การจัดเก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข ให้หน่วยงาน สาธารณสุขประสานงานกับหน่วยงานคลงั เพ่ือขอข้อมูลการประกอบกจิ การค้าในทะเบยี นทรัพย์สนิ เพอ่ื นาไปใช้ประโยชน์ในการเรง่ รัดจัดเก็บค่าธรรมเนียมและใบอนุญาต ตามประเภทของกิจการและเมอื่ ออก ใบอนุญาตแล้วให้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามที่ได้กาหนดไว้ในข้อบัญญัติหรือข้อกาหนดขององค์กร ปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ข้อ 24 ทะเบียนทรัพย์สินฉบับใด ท่ีมีทรัพย์สินทุกรายการ อยู่ในข่ายได้รับการยกเว้นไม่ต้อง ชาระภาษี ให้ทาเคร่ืองหมายด้วยกระดาษสีแดงที่มุมขวาด้านบนของทะเบียนทรัพย์สินและต้อง ทาการ ตรวจสอบใหมท่ ุกปกี อ่ นถงึ ปีภาษี หากอยูใ่ นข่ายต้องเสยี ภาษใี ห้ดาเนนิ การตามขอ้ 18 ข้อ 25 ทะเบียนคุมผู้ชาระภาษีฉบับใด ที่มีการชาระภาษีตามรายการของทรัพย์สิน ที่มีอยู่ ครบถ้วนทุกประเภทแล้วให้ทาเคร่ืองหมายด้วยกระดาษสีเขียวที่มุมขวาด้านบนของทะเบียนคุมผู้ชาระ ภาษี และถอดเคร่ืองหมายดังกลา่ วออกเมื่อถงึ ปภี าษีปใี หม่ ให้เจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่รับผดิ ชอบจัดเกบ็ รายได้บันทึกรายการยื่นแบบแสดงรายการชาระภาษี การแจง้ ประเมนิ และการชาระเงนิ ค่าภาษีหรอื คา่ ธรรมเนียมลงในทะเบยี นคุมผูช้ าระภาษใี ห้ครบถ้วน ข้อ 26 เม่ือสิ้นสุดระยะเวลาการยื่นแบบแสดงรายการเพ่ือชาระภาษี ให้องค์กรปกครองสว่ น ทอ้ งถิ่นคัดรายช่ือผูท้ ยี่ งั ไม่มายื่นแบบแสดงรายการเพือ่ ชาระภาษี หรอื ยน่ื แบบแล้วยงั ไมไ่ ดม้ าชาระภาษีให้ ครบถว้ น จากทะเบยี นคุมผชู้ าระภาษี แลว้ จัดทาหนงั สือเร่งรดั โดยเร็ว ข้อ 27 ในกรณที ่ีผูใ้ ดมาขอคัดลอกหรือสาเนาข้อมูลแผนทภ่ี าษีและทะเบียนทรพั ย์สินให้องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นเรียกเก็บค่าธรรมเนียมได้ โดยออกเป็นข้อบัญญัติ สาหรับอัตราค่าธรรมเนียมให้ ผ้บู ริหารทอ้ งถนิ่ เปน็ ผู้พิจารณาและกาหนดตามความเหมาะสม แต่ท้งั นใี้ หอ้ ยภู่ ายใตก้ ฎหมายว่าด้วยข้อมูล ขา่ วสารของราชการ หมวด 4 การปรบั ขอ้ มูลแผนทภี่ าษีและทะเบยี นทรพั ยส์ นิ ข้อ 28 เมื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินจัดทาแผนท่ีภาษีและทะเบียนทรัพย์สินแล้วให้ หนว่ ยงานคลงั เป็นหน่วยงานรบั ผดิ ชอบปรบั ขอ้ มลู ในแผนทีภ่ าษแี ละในทะเบยี นทรพั ย์สนิ ให้เปน็ ปัจจุบนั อยู่ เสมอ

534 กรณีหน่วยงานคลงั ไมม่ บี คุ ลากรปรับข้อมลู ในแผนทภ่ี าษี ให้หน่วยงานช่าง เป็นผ้รู ับผิดชอบ ข้อ 29 ให้หน่วยงานท่ีเกีย่ วข้องกับการปรบั ข้อมูลภายในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรายงาน การเปล่ยี นแปลงข้อมูลสง่ ใหห้ นว่ ยงานคลงั เพือ่ ปรบั ขอ้ มูลในแผนท่ีภาษแี ละทะเบียนทรัพยส์ นิ ภายในวนั ที่ ห้าของทุกเดอื น กรณีมีปัญหาอุปสรรคในการปรับข้อมูล ให้หน่วยงานคลังเสนอคณะกรรมการตามข้อ 8 พิจารณาตามอานาจหน้าที่ ข้อ 30 การแก้ไขเปลยี่ นแปลงรายการข้อมูลในทะเบียนทรพั ย์สนิ ให้ใช้วิธี “ขีดฆ่า” ข้อความ เดิมด้วยหมึกสีแดง แล้วบันทึกข้อความใหม่ ให้หัวหน้าหน่วยงานคลังหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมายเป็ นลาย ลักษณ์อักษร ลงลายมือช่ือ วัน เดือน และปี กากับไว้ ท้ังข้อความท่ีได้ขีดฆ่าและข้อความใหม่และเมื่อ รายการทรัพย์สินเพ่ิมข้ึนหรือเปลย่ี นแปลงการใช้ประโยชน์ซ่ึงเข้าข่ายต้องเสียภาษี ให้ถอดเคร่ืองหมาย กระดาษสแี ดงตามข้อ 24 ออกจากทะเบยี นทรัพยส์ นิ หมวด 5 การเกบ็ รกั ษาขอ้ มลู แผนทภ่ี าษแี ละทะเบยี นทรพั ยส์ ิน ขอ้ 31 แบบสารวจข้อมลู เก่ยี วกบั ทด่ี นิ โรงเรือน ป้าย และคา่ ธรรมเนยี มใบอนุญาตตา่ งๆ พรอ้ ม ท้งั เอกสารที่ใชใ้ นการจัดทาและเอกสารท่ใี ชใ้ นการปรบั ขอ้ มูล ให้จดั เก็บรวบรวมเป็นรายแปลงที่ดินในแฟม้ เรียงตามลาดับรหัสแปลงท่ีดนิ และรวมไวใ้ นแฟ้มโดยใหม้ จี านวนตามความเหมาะสมแต่ไมค่ วรเกินแฟ้มละ หน่งึ รอ้ ยแปลงทด่ี นิ เรยี งเปน็ รายเขตย่อยและเขตตามลาดับ ข้อ 32 ทะเบียนทรัพยส์ ินและทะเบยี นคุมผู้ชาระภาษี ให้จัดเกบ็ ตามรหัสชื่อเจา้ ของทรพั ยส์ นิ เรยี งตามตัวอักษรและตวั เลข เพือ่ ความสะดวกในการจดั เกบ็ ภาษี ข้อ 33 แผนท่ีภาษีต้นฉบับ ให้จัดเก็บเรียงตามลาดับเขตและเขตย่อย ห้ามนาออกใช้ เว้นแต่ กรณีนาไปเพ่อื พมิ พ์หรือทาสาเนาคูฉ่ บับ หรือเพอ่ื แก้ไขปรบั ปรุงเนื่องจากมกี ารเปล่ยี นแปลงเกยี่ วกับขอ้ มลู ในแผนท่ภี าษฉี บบั นนั้ ข้อ 34 ให้งานแผนที่ภาษีและทะเบยี นทรพั ย์สิน หน่วยงานคลัง หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเปน็ ผู้รับผิดชอบในการเก็บรักษา มิให้มีการทาลายหรือทาให้สูญหายแก่เอกสารในแฟ้มข้อมูลแปลงท่ีดิน ทะเบยี นทรพั ยส์ ิน ทะเบยี นคุมผชู้ าระภาษีและแผนท่ีภาษี

ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าดว้ ยแผนท่ภี าษีและทะเบียนทรพั ยส์ ินขององค์กรปกครองส่วน 535 ท้องถิ่นพ.ศ. 2550 เมื่อนาแผนทภ่ี าษีหรือทะเบียนทรพั ย์สนิ ไปใช้ในการปฏิบัติงาน และได้ดาเนินการแล้วเสรจ็ ให้ นาส่งคนื เจา้ หนา้ ทผ่ี รู้ ับผิดชอบโดยเรว็ องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินใดยังไมไ่ ด้กาหนดโครงสรา้ งงานแผนที่ภาษีและทะเบียนทรัพย์สิน ใหห้ ัวหน้าหน่วยงานคลังออกคาสั่งแตง่ ต้งั ให้บคุ ลากรในหน่วยงานมหี นา้ ท่รี ับผิดชอบ ขอ้ 35 ทะเบียนทรัพยส์ ินทไี่ ดจ้ าหน่ายรายการทรัพย์สนิ หมดสิน้ แลว้ และไมม่ ภี าษีค้างชาระให้ แยกเก็บไว้ รวมท้ังทะเบียนคุมผู้ชาระภาษีของเจ้าของทรัพย์สินดังกล่าว เม่ือครบหน่ึงปีให้แต่งตั้ง คณะกรรมการ เพอ่ื ตรวจสอบและควบคมุ การทาลาย บทเฉพาะกาล ข้อ 36 เทศบาลซงึ่ ไดร้ ับการแต่งต้ังใหเ้ ป็นศนู ย์สนบั สนุนการปฏบิ ัตงิ านแผนที่ภาษแี ละทะเบยี น ทรัพย์สินก่อนระเบียบนี้ใช้บังคับ ให้ถือว่าเป็นศูนย์ปฏิบัติงานแผนท่ีภาษีและทะเบียนทรัพย์สินตาม ระเบยี บนี้ ข้อ 37 การจัดทาแผนที่ภาษีและทะเบียนทรัพย์สินขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินท่ีได้ ดาเนินการอยูก่ ่อนระเบียบน้ใี ชบ้ ังคบั ให้ถอื ว่าเป็นการดาเนนิ การตามระเบยี บนี้ ประกาศ ณ วนั ท่ี 28 ธันวาคม พ.ศ. 2550 พลเอก สุรยทุ ธ์ จุลานนท์ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย

536 แผนท่ีภาษีและทะเบียนทรัพยส์ ิน ความสาคัญของแผนท่ภี าษีและทะเบยี นทรพั ย์สิน การสนบั สนุนใหอ้ งค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นดาเนินการจดั ทาแผนที่ภาษีและทะเบียนทรัพย์สนิ นั้นมีวัตถุประสงค์หลัก เพ่ือให้นาไปใช้เป็นเคร่ืองมือในการพัฒนาประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ ได้แก่ ภาษีบารุงท้องท่ี ภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษีป้าย และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตตามกฎหมายการ สาธารณสุข และนอกจากนั้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยังสามารถนาไปใช้ ในการวางแผนการ บรหิ ารงานในด้านๆ อ่นื ได้ เชน่ การวางแผนดา้ นการพัฒนาโครงสร้างพนื้ ฐานต่างๆ การวางแผนด้านการ พัฒนาชมุ ชน การวางแผนด้านการวางผงั เมอื ง การวางแผนป้องกนั ภัยสาธารณะหรอื ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั ต่างๆ ฯลฯ โดยแผนที่ภาษีและทะเบียนทรัพย์สินจะรวบรวมรายละเอียดข้อมูลเก่ยี วกับทรัพย์สินต่างๆ ของประชาชนทัง้ ของบุคคลและนติ บิ ุคคลภายในเขตองคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่นไว้ แผนที่ภาษีและทะเบียนทรัพย์สินจะมีส่วนประกอบอยู่ 2 ส่วนด้วยกัน คือ แผนท่ีภาษี และ ทะเบียนทรัพย์สิน โดยแผนท่ีภาษี เป็นแผนท่ีท่ีแสดงตาแหน่ง ลักษณะ ขนาด ของแปลงท่ีดิน อาคาร โรงเรือน สิ่งปลูกสร้าง เส้นทางคมนาคม แหล่งนา้ และอื่นๆ ภายในเขตองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน และ ทะเบียนทรัพย์สิน เป็นทะเบียนทีแ่ สดงรายการทรพั ย์สนิ และการใช้ประโยชน์ในทรพั ย์สิน ประกอบดว้ ย ข้อมลู เกีย่ วกบั ท่ีดิน อาคาร โรงเรอื นหรือส่ิงปลกู สรา้ ง ป้าย และการประกอบการคา้ ของเจ้าของทรัพยส์ นิ แต่ละคน โดยขอ้ มลู ทง้ั 2 ส่วนดงั กลา่ ว จะเชื่อมกนั ด้วยรหสั แปลงทีด่ นิ ซงึ่ จะอธิบายในรายละเอยี ดตอ่ ไป ความเป็นมาของแผนทีภ่ าษีและทะเบยี นทรพั ย์สนิ การจดั ทาแผนท่ภี าษแี ละทะเบยี นทรัพยส์ นิ เร่มิ เมอ่ื ปี 2520 โดยกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการ ให้เทศบาลดาเนินการจัดทาแผนที่ภาษีและทะเบยี นทรพั ย์สิน เพื่อใช้เป็นเครื่องมอื ในการจัดเก็บรายได้ การติดตามเรง่ รดั ภาษี แต่แนวทางการปฏิบัติในขณะน้ันยังไม่มีความชัดเจนและเทศบาลแตล่ ะแห่งกย็ งั มี ความแตกต่างกันในหลายด้าน เช่น วิธีการ พ้ืนท่ี บุคลากร งบประมาณ ฯลฯ จึงทาให้การดาเนินการไม่ ประสบผลสาเร็จเท่าที่ควร ในปี 2525 – 2529 แผนที่แม่บทกระทรวงมหาดไทย (ฉบับท่ี 3) ได้กาหนดแนวทางปฏิบัติเพื่อ สนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนาระบบแผนที่ภาษีและทะเบียนทรัพย์สินมาใช้ปรับปรุง ประสิทธิภาพทางการคลัง ซ่ึงในขณะน้ันได้รับการสนับสนุนเงินกจู้ ากธนาคารโลก จานวน 31 ล้านบาท เศษ เพื่อจัดทาแผนท่ีภาษีและทะเบียนทรัพย์สินในเทศบาลท่ัวประเทศและเมืองพัทยา ซ่ึงผลการ ดาเนนิ งานปรากฏวา่ เทศบาลและเมืองพัทยาสามารถนาแผนทภี่ าษแี ละทะเบียนทรพั ยส์ นิ ไปใชใ้ นการเพิ่ม ประสิทธภิ าพการจัดเก็บรายได้ไดอ้ ยา่ งเป็นทนี่ า่ พอใจ

แผนที่ภาษีและทะเบียนทรพั ยส์ ิน 537 ในปี 2537 กระทรวงมหาดไทย ได้ออกระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจัดทา การปรับ ขอ้ มูล การใช้ และการเก็บรกั ษาแผนทภ่ี าษแี ละทะเบียนทรพั ย์สินของเทศบาลและเมืองพัทยา พ.ศ. 2537 ขึ้น เพื่อให้เทศบาลและเมอื งพทั ยาถอื เป็นแนวทางปฏิบัติ และในปี 2542 ได้ขยายผล การดาเนนิ การไปยงั องคก์ ารบริหารส่วนตาบล จานวน 161 แห่ง ปัจจุบันกระทรวงมหาดไทย ได้ปรับปรุงแนวทางการปฏิบัติงานการจัดทาแผนท่ีภาษี และ ทะเบียนทรพั ย์สินให้มคี วามชัดเจนและสะดวกต่อนาไปใช้ในการดาเนินการมากยงิ่ ขึ้น โดยไดอ้ อกระเบียบ กระทรวงมหาดไทยว่าด้วยแผนท่ภี าษีและทะเบียนทรพั ย์สินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2550 และให้องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นนาแผนท่ีภาษีและทะเบียนทรพั ยส์ ินไปใช้ เปน็ ข้อมลู ในการจดั เก็บภาษี ตรวจสอบ ติดตาม และเรง่ รดั จัดเกบ็ ภาษีใหค้ รบถ้วน ถูกตอ้ ง และ เป็นธรรมต่อเจ้าของทรพั ย์สินอย่างมี ประสิทธภิ าพ แผนทภ่ี าษแี ละทะเบียนทรพั ยส์ นิ คืออะไร? แผนทภ่ี าษีและทะเบียนทรัพย์สิน คือเครอ่ื งมอื ที่ถกู พัฒนาขน้ึ มาเพอ่ื ใช้เพม่ิ ประสทิ ธิภาพในรับ ชาระภาษีของ องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น มเี ปา้ หมายที่ขอ้ มูลเกี่ยวกับทรพั ยส์ นิ ภายในท้องถิน่ ทเ่ี ก่ยี วข้อง กับภาษี ที่จัดเก็บ และผ้มู กี รรมสทิ ธ์ิในทรพั ยส์ นิ นั้นๆ ทีม่ ีหนา้ ท่ีชาระภาษี โดยจัดเกบ็ ข้อมูลอย่างเป็นระบบ ถกู ต้อง เป็นปจั จุบัน และครบถว้ น - จัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ จะทาให้ผู้ใช้งานสามารถนาข้อมูลดังกล่าวไปใช้งานได้อย่าง รวดเรว็ (บริการรบั ชาระได้อยา่ งรวดเรว็ ) - จัดเกบ็ ขอ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ งและเป็นปัจจุบัน จะทาให้สามารถประเมนิ ภาษีได้อยา่ งถกู ตอ้ งและเป็น ธรรม - จัดเก็บข้อมูล ท่ีครบถ้วน จะทาให้สามารถติดตามทรัพย์สินที่ยังไม่ได้ชาระภาษี(จัดเก็บได้ เพิ่มขึ้น) มีจุดเริ่มต้นเมอื่ ปี พ.ศ.2520 กระทรวงมหาดไทยได้สัง่ การใหเ้ ทศบาลท่วั ประเทศจดั ทาทะเบยี น ทรัพย์สินขึ้น เพ่ือนามาใช้เป็นเคร่ืองมือจัดเก็บรายได้ ติดตาม เร่งรัดภาษี แต่แนวทางปฏิบัติยังไม่มีการ กาหนดแน่ชดั ตอ่ มาไดม้ กี ารกาหนดแนวทางปฏบิ ัติเพ่อื สนับสนุนใหอ้ งคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น นาแผนที่ ภาษแี ละทะเบียนทรัพยส์ นิ มาใชป้ รับปรุงประสทิ ธภิ าพทางด้านการคลงั ใน แผนแม่บทกระทรวงมหาดไทย ฉบับท่ี 3(พ.ศ.2525-2529) จงึ ได้มีการศึกษาและพฒั นาจนถงึ ปัจจบุ นั ประกอบด้วย แผนท่ีภาษี คือข้อมูลเชิงพื้นท่ีท่แี สดงรูปร่างและตาแหน่งท่ีต้ังของทรัพย์สิน รวมถึงข้อมลู ทาง กายภาพที่แสดงถึงตาแหน่งท่ีตั้งของทรัพย์สินภายในเขตปกครอง โดยมีการจัดแบ่งพื้นท่ีภายในเขต ปกครองออกเปน็ เขต(Zone) และเขตย่อย(Block) เพอ่ื ให้สะดวกในการจัดเกบ็ เอกสารและค้นหา ทะเบียนทรัพย์สิน คือข้อมูลรายละเอียดเก่ียวกับทรัพย์สินของผ้มู ีกรรมสทิ ธิ์แต่ละราย โดยมี การจัดเกบ็ อย่างเป็นระบบ

538 จดั ทาแผนท่ีภาษีและทะเบยี นทรัพย์สนิ ทาไม หลายท่านคงสงสยั ว่าเราทาแผนที่ภาษแี ละทะเบียนทรัพยส์ ินไปทาไม และองค์กรปกครองส่วน ท้องถน่ิ จะได้ประโยชนอ์ ะไร เนอื่ งจากหนว่ ยงานบางแหง่ ตอ้ งลงทุนงบประมาณจานวนมากเพอื่ จดั ทา แต่ สามารถจัดเก็บภาษีไดน้ ้อยนิดเม่อื เทียบกบั งบประมาณที่ลงทุนไป เดีย่ วผมจะตอบคาถามนใ้ี หห้ ลายคนได้ เขา้ ใจมากขึ้น แล้วจะทาอยา่ งไรจงึ จะสามารถจดั ทาแผนทภ่ี าษีและทะเบียนทรัพยส์ นิ ใหส้ ามารถใช้ งานได้ และใช้งบประมาณน้อย แผนที่ภาษีและทะเบียนทรัพย์สิน เป็นระบบสารสนเทศเชิงพ้ืนที่ที่เรารู้จกั กันในนาม “ระบบ สารสนเทศภมู ิศาสตร์” เน่ืองจากประกอบดว้ ยขอ้ มลู 2 ประเภท คือ ขอ้ มลู เชงิ บรรยาย(ทะเบยี นทรพั ยส์ นิ ) และข้อมลู เชงิ พื้นที(่ แผนทภ่ี าษ)ี โดยท่ขี ้อมลู ทงั้ สองจะมคี วามสัมพันธ์กันทาให้สามารถสบื คน้ ข้อมลู ไปมาได้ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ ดังนนั้ ระบบสารสนเทศชนดิ น้จี งึ สามารถนาไปประยุกต์ใช้งานในด้านต่างๆ ไดอ้ ย่างมี ประสิทธภิ าพ โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ การนาไปใชใ้ นการตรวจสอบขอ้ มูลทรัพย์สินท่อี ยู่ในข่ายชาระ ภาษี และ ยงั มไิ ด้ชาระ ซึง่ จะทาใหส้ ามารถตดิ ตามและจัดเก็บภาษีไดเ้ พ่มิ ขน้ึ นอกจากน้ยี ังสามารถนาไปใชต้ รวจสอบ ตาแหน่งที่ต้ังของทรพั ย์สนิ ทีส่ นใจ ซ่ึงจะมีผลต่ออัตราภาษีที่จะนามาใช้ในการประเมินภาษี (ทาเลภาษ/ี หน่วยท่ดี นิ ) เหลา่ นีจ้ ึงเปน็ เหตุผลทสี่ ว่ นกลางพยายามผลกั ดนั ให้ทอ้ งถิ่นจดั ทาระบบดงั กลา่ ว นอกจากนี้หน่วยงานที่จะดาเนินการจัดทาระบบดังกล่าวยังต้อง พิจารณาถึงการนาระบบ ดงั กลา่ วมาใช้งานในการบริการรับชาระภาษไี ดอ้ ย่างมี ประสิทธิภาพ ไม่ใช้เพียงแคท่ าใหม้ รี ะบบเทา่ นน้ั สิ่งทีค่ วรทราบเกย่ี วกับระบบงานแผนที่ภาษแี ละทะเบยี นทรพั ย์สิน - ระบบแผนที่ภาษีและทะเบยี นทรพั ย์สนิ จาเป็นต้อง มขี ้อมูลทงั้ หมด (ครบถว้ น)จึงจะสามารถ ใช้งานได้ใชห่ รือไม่? ตอบ ไม่ใช่ เพราะไม่มีหน่วยงานใดจะมีข้อมูลครบถ้วนเนื่องจากข้อมูลดังกล่าวมีการเปล่ียน แปลงตลอดเวลา นอกนีถ้ ึงมีขอ้ มลู ไมค่ รบถว้ นหนว่ ยงานต่างๆ กย็ ังสามารถจดั เก็บภาษไี ด้ ดงั นน้ั ระบบแผน ที่ภาษีและทะเบียนทรัพย์สนิ สามารถทาข้อมูลไปใช้งานไปได้ แต่จะใช้ระบบดังกล่าวเป็นเครื่องมือในการ ตดิ ตามขอ้ มูลใหค้ รบถว้ น…. - จาเป็นตอ้ งจดั ทาแผนทก่ี ่อนจดั ทาขอ้ มลู ทะเบียน ทรพั ยส์ นิ หรือไม่? ตอบ ไม่ เพราะถ้าเราต้องการนาระบบดังกล่าวไปใช้งานบริการรับชาระภาษีเป็นหลัก นอกจากนี้ระบบแผนที่ภาษีและทะเบียนทรพั ย์สนิ กไ็ ม่จาเป็นต้องมีข้อมลู ครบถ้วน ดังนั้นข้อมูลท่ีจาเปน็ และสาคัญท่สี ุดคือข้อมูลทะเบียนทรพั ย์สิน เพราะถ้าไม่มีข้อมูลดังกลา่ วจะไม่สามารถเก็บภาษีได้ แต่ไม่มี ขอ้ มูลแผนท่กี ส็ ามารถเกบ็ ภาษีได้

แผนท่ีภาษแี ละทะเบียนทรพั ยส์ นิ 539 ประโยชนท์ ี่ไดจ้ ากแผนทภ่ี าษแี ละทะเบยี นทรัพย์สิน แผนท่ภี าษี - ทาให้ทราบขอบเขตการปกครองของหน่วยงานในระดบั แปลงที่ดนิ - ทาใหท้ ราบทรพั ยส์ นิ ทอี่ ยภู่ ายในขอบเขตปกครองของหน่วยงาน - ทาใหท้ ราบตาแหนง่ ที่ ต้งั ของทรพั ยส์ ินที่สนใจ (ทาเลภาษี-การประเมนิ ภาษที ี่ถูกต้อง) - ทาให้ทราบทรัพย์สินที่ยังมิได้ชาระภาษี - แผนทภ่ี าษี เป็นเครอื่ งมือทใี่ ชใ้ นการเพมิ่ รายการทรัพย์สินท่ตี ้องชาระภาษี(เพ่มิ ราย ใหม่ และ เพม่ิ ยอดภาษี) ทะเบียนทรพั ย์สิน - ทาให้ทราบรายละเอยี ดของทรพั ยส์ ินที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นปัจจบุ ันของผู้มีกรรมสิทธ์ิ แตล่ ะราย - ทาให้ทอ้ งถิ่นสามารถบริการรับชาระภาษไี ดอ้ ยา่ งรวดเรว็ - ทะเบียนทรพั ยส์ นิ เปน็ เครอื่ งมอื ทใี่ ชใ้ นการบริการรบั ชาระภาษี

540 เทคนิคการเตรยี มตวั สอบสัมภาษณ์ การสอบแข่งขัน การสอบคัดเลือก การคัดเลือก เป็นวิธีการสรรหาบุคคลเข้าทางานทั้งใน ภาคเอกชน และภาคราชการ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ภาคราชการมรี ะเบยี บ กฎหมายท่เี ก่ียวข้อง ใหด้ าเนินการ สรรหาบุคคล เขา้ รบั ราชการด้วยระบบคณุ ธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ การสอบแข่งขันเพ่ือบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ เป็นวิธีการที่สว่ นราชการใช้สรรหาบคุ คลทว่ั ไป เขา้ รบั ราชการ หลักเกณฑ์วธิ ีการ หลกั สูตรเปน็ ไปตามกฎหมายของหนว่ ยงานน้ันๆ กาหนด เช่น การสอบ แข่งขันบุคคลเพื่อบรรจุแต่งต้ังเป็นข้าราชการ ปัจจุบันได้กาหนด ให้มีสอบ ข้อเขียน และสอบสัมภาษณ์ โดยหลกั สูตรสอบข้อเขยี นประกอบดว้ ย ภาคความรูค้ วามสามารถทั่ว ไป ภาคความรู้ความสารถทีใ่ ช้เฉพาะ ตาแหนง่ และภาคความเหมาะสมกับตาแหน่งโดยการสอบสัมภาษณ์ โดยในแตล่ ะภาคได้กาหนดเรอื่ งหรือ หัวข้อที่จะวัดเอาไว้ เกณฑ์การผ่านและรายละเอียดอ่ืนๆ หรือการสอบ แข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับ ราชการ หรือส่วนราชการอื่นก็ทานองเดียวกัน ท่ังน้ีเป้าหมายของการสอบแข่งขันก็เพ่ือให้ได้บุคคลท่ีมี ความรูค้ วามสามารถ เจตคติทด่ี ี เขา้ มาทางานราชการนน่ั เอง เพ่ือให้บรรลุเป้าหมายของการสอบ น่ันคือเป็นผู้ท่ีสามารถสอบได้หรือสอบผ่าน มีชื่อในบัญชี รายชื่อ ผู้สอบแข่งขนั ได้ หรือผไู้ ด้รับการบรรจุแต่งต้ัง ดังนั้นจาเป็นต้องเตรยี มความพร้อมในหลายๆ ด้าน กลา่ วคอื 1. การจัดหาเอกสารหรอื หนงั สอื สาหรับเตรยี มสอบ หนังสือหรอื เอกสารท่ีใชใ้ นการอ่านเตรียมสอบเป็นสงิ่ ทสี่ าคญั และจาเป็นมากเพราะหากมี หนังสือแต่ เปน็ หนงั สอื ทเี่ ก่า ล้าสมัย เนอ้ื หาไม่ตรงตามหลักสตู ร ก็จะเสียเวลาโดยเปลา่ ประโยชนท์ าให้เกดิ ความสบั สน สง่ ผลตอ่ การสอบอย่างแน่นอน วธิ ีการหาหนังสอื หรือเอกสารเตรียมสอบ มดี ังน้ี 1) หนงั สอื หรอื เอกสารมเี น้ือหาท่ีตรงตามหลักสตู รสอบแขง่ ขนั ฯ 2) เป็นหนังสือท่ีใหม่ มีเน้ือหาสาระใหม่ ทันต่อเหตุการณ์ปัจจุบันในระดับประเทศและ ระดับโลก 3) ควรเลอื กหนังสอื ทั้งท่มี ีเนื้อหาโดยละเอยี ด เน้อื หาสรปุ อ่านแล้วเข้าใจงา่ ย หรือหนงั สอื ท่ี มแี นวข้อสอบให้ฝึกทา 4) ควรเลือกหนงั สอื หลายๆ เลม่ เจ้าของหรอื ผูแ้ ตง่ ทเ่ี ชอื่ ถอื ได้ 5) ภาคความรู้ความสามารถทั่วไป ควรเลือกหนังสือประเภทน้ีโดยเฉพาะ เช่น หนังสือวัด ความถนัด ทางการเรียน หนังสอื ความสามารถทวั่ ไป หรือหนังสอื ประเภท Aptitude test

เทคนิคการเตรียมตวั สอบสมั ภาษณ์ 541 6) ภาควิชาเฉพาะวุฒิหรือวิชาเอก ควรเสือกหนังสือ ตาราเรียน หนังสือสรุปเน้ือหา หรอื หนังสือเตรียม สอบเข้าเรียนระดับช้ันต่างๆ ไม่ควรยึดหนังสือเตรียมสอบฯเป็นหลักเพราะเน้ือหามีนอ้ ย หรือข้อสอบท่ีนามา เป็นตัวอยา่ งจะเป็นข้อสอบเกา่ ล้าสมยั 7) หนังสือรวมข้อสอบฯ หรือหนังสือทีม่ ีตัวอย่างข้อสอบให้ฝึกทา ก็เป็นส่ิงจาเปน็ ควรมไี ว้ เพือ่ ฝกึ ทกั ษะการทาขอ้ สอบ เพือ่ เป็นการทบทวนความ 8) ทกั ษะการทาข้อสอบ เพือ่ เปน็ การทบทวนความ 2. วธิ ีการอา่ นหนงั สอื อย่างไรให้จาได้เร็ว มีเอกสารหรือหนังสอื สาหรับใชเ้ ตรยี มสอบทีม่ คี ณุ ภาพและจานวนมาก จะไมก่ ่อประโยชน์อะไร ใน การสอบเลยหากไม่อ่านหนังสือนั้น ดังนั้นส่ิงท่ีจะทาให้มีความรู้ ความเข้าใจ คือ การอ่าน การเขียน การฟัง การพูด และการฝกึ ทา เพราะคนเราจะจาหรอื เข้าใจในเน้ือหาตอ้ งใช้เรยี นรหู้ ลายๆ วธิ ี เทคนคิ การ อา่ นหนงั สอื มดี งั นี้ 1. ศึกษาหลักสูตรการสอบแข่งขนั ฯ ให้เข้าใจและจัดหมวดหมู่ของเนื้อหา หนังสือ และ วิธีการศึกษาภาคความรู้ความสามารถทั่วไป ควรศึกษาโดยวิธีฝึกทาข้อสอบ ดูเฉลยและทาความเข้าใจ เร่ืองไหน ที่ยากควรทาจดุ สงั เกตไวใ้ นหนงั สอื หรือบนั ทกึ สรปุ วธิ กี ารหรือหลกั การหาคาตอบไวใ้ นสมดุ บนั ทกึ ใชท้ บทวนในคราวตอ่ ไป 2. วิชาการศึกษา ควรศึกษาเป็นเรื่องๆ ตามกรอบหลักสูตรสอบฯโดยใช้หนังสือหรือ เอกสารหลายๆ เล่มประกอบกัน(ไม่ควรอ่านหนังสือท่ีละเล่มแต่ควรอ่านที่ละเร่ือง) ทาจุดสังเกต (เน้น ความสาคัญ) ไวใ้ นหนังสือหรอื สรุปเน้ือหาไว้ในสมดุ บันทกึ ใชท้ บทวนในคราวตอ่ ไป 3. วิชากฎหมายการศึกษา ควรศึกษาเฉพาะกฎหมายท่ีระบุในหลักสูตรฯ ในประเด็น สาคัญและเรือ่ งที่ ใช้ในการปฏิบัติงาน บันทึกเรอื่ งหรอื ประเดน็ สาคญั เอาไว้ทบทวนในคราวต่อไป ควรฝึก ทาขอ้ สอบ จะทาให้จดจาได้ (แต่อยา่ ทอ่ งข้อสอบ) 4. วิชาเอกหรือวิชาเฉพาะวุฒิ ควรศกึ ษาในสองลักษณะ คือ ลกั ษณะการจดั การเรียนการ สอนวิชานั้น และเน้ือหาสาระของวิชานั้นๆ ในประเด็นสาคัญ สรุปและบันทึกสาระสาคัญเอาไว้ฝึกทา ขอ้ สอบ วชิ าน้ันๆ 5. ควรวางแผนในการศึกษาหรืออ่านหนังสือทั้งในเรื่องสถานท่ี เวลา เนื้อหาวิชาตาม ความถนัดและ ความสะดวกของตนเอง เช่น สถานที่เหมาะหากเป็นเวลากลางวัน ควรเป็นท่ีห้องสมุด สถาบันการศึกษา เพราะเงียบ ไม่มีเสียงรบกวน ไม่ทาให้เสียสมาธิ มีหนังสือให้ด้นคว้า มีบริการ อนิ เตอรเ์ น็ต หรอื สอ่ื อยา่ งอืน่

542 6. เวลาทเี่ หมาะสาหรบั อ่านหนังสือทีบ่ ้านควรจะเปน็ ตอนเช้าประมาณ 04.00 -06.00 นาฬิกา เพราะเปน็ เวลาที่สงบเงียบ สมองได้พักผอ่ นมาแล้ว ความจดจาและความเขา้ ใจจะมีสูง 7. การแบ่งเน้ือหาในการศึกษาก็เป็นเร่ืองท่ีสาคัญและคนส่วนมากมักละเลยและให้ ความสาคัญเรื่องใด เรื่องหนง่ึ เกินไป จนพบปญั หาวา่ ดูหนังสือไมท่ ัน ไมค่ รอบคลุมหลักสูตรฯ 8. นอกจากการศึกษาเอกสารแล้วสื่อเอกสารอย่างอื่นก็เป็นสิ่งจาเป็น เช่น การพบปะ พดู คุยแลกเปลี่ยน ความรกู้ ับเพือ่ น การสอบถามหรือปรกึ ษาคับครู อาจารย์ หรือผรู้ ู้ฯ การเขา้ รับการอบรม สัมมนา (ติวสอบฯ) เป็นส่ิงจาเปน็ สาหรับผ้ทู ่ีไม่มีประสบการณ์ในการสอบเพราะจะได้รคู้ วามเคล่ือนไหว เทคนคิ วธิ ีการตา่ งๆ หรอื การศกึ ษาโดยสอ่ื วีดีทัศน์ เทปคาบรรยาย เปน็ ตน้ 9. การติดตามความเคล่ือนไหวทางการศึกษา สังคม เศรษฐกิจ การเมืองการปกครอง เป็นส่ิงสาคัญและ จาเป็นมากเพราะเนื้อหาเหลา่ น้ีจะกาหนดในหลกั สตู รสอบฯ และออกข้อสอบทุกครัง้ เร่ืองเหล่านี้จะ ไม่มีในหนังสือแน่นอนเพราะเป็นเรื่องใหม่ เหตุการณ์ปัจจุบัน วิธีการศึกษาที่ดีที่สุด คือ ตดิ ตามข่าว สารทางโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ วิทยุ หรอื ตามอนิ เตอรเ์ น็ต 3.จะสมคั รสอบแขง่ ขนั ทไ่ี หนดี การเลือกสถานทีห่ รือภูมิภาคในการสมัครสอบแข่งขันฯ เป็นสิ่งสาคัญ เพราะนั่นหมายถงึ โอกาสที่ จะสอบผ่านหรือข้ึนบญั ชีเป็นผสู้ อบได้ และเมอื่ ได้รับบรรจุแตง่ ตงั้ แลว้ จะตอ้ งใชช้ วี ิตอยูท่ ีน่ น้ั อยา่ ง น้อยก็ หนึ่งถึงสองปีกว่าจะสามารถขอย้ายได้ บางคนโอกาสจังหวะไม่เหมาะอาจจะอยู่หลายปี ปัญหา ต่างๆ อาจจะตามมาได้ ดังนั้นสิ่งที่ต้องคานึงถึงในการเลือกสถานที่หรอื ภูมิภาคในการสมคั รสอบแข่งขนั คอื 1.จานวน อตั ราตาแหน่งท่วี า่ งและจะเรียกบรรจุ ประวัติในการบรรจุแต่งตั้งโยกย้ายของภูมิภาคน้ัน เช่น จังหวัดหนองคายเคยมี ประวตั ิเรียก บรรจุแต่งตั้งบอ่ ยและจานวนมากเนอ่ื งจากมีการโยกยา้ ยบ่อยทาใหต้ าแหนง่ วา่ ง เปน็ ตน้ 2. ความสะดวกสบายหรือปญั หาท่จี ะตามมาเม่อื ไดบ้ รรจแุ ต่งตง้ั แล้ว เชน่ ปัญหาในเร่ือง ความเป็น อยู่ อาหารการกิน ภาษาท่ีใช้ การปรับตัว ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การคมนาคม เป็นตน้ อน่งึ วิธีการท่นี ิยมใชก้ ันมาก คือ สมคั รสอบไว้หลายๆ ท่ี (ประมาณ 2-3 ที่) แลว้ ค่อยตัดสนิ ใจ เลือก สนามหรือภูมิภาคสอบฯ หลังจากที่ทราบผลการมีสิทธิสอบฯ และจานวนผู้เข้าสอบฯ ซ่ึงเป็นคู่ แข่งขันแล้ว 4. วางแผนในการสอบอยา่ งไรใหไ้ ดผ้ ล

เทคนิคการเตรยี มตัวสอบสมั ภาษณ์ 543 การวางแผนในการสอบในท่ีนั้น หมายถึง เมื่อได้ไปสมัครสอบฯ และมีสิทธิในการเข้า สอบแข่งขันแล้ว การวางแผนการสอบต้ังแต่การเดินทาง การเข้าที่พัก การไปสู่สนามสอบหรือหอ้ งสอบ การทาขอ้ สอบและ การเดินทางกลบั ดังน้ัน เมื่อทราบและเลือกสถานท่ีหรือภมู ิภาคในการสอบแล้ว ควร วางแผนว่าจะเดินทางวนั ใด เดินทางไป กับใคร สถานทพี่ กั ทไี่ หน ตอ้ งเตรียมให้พร้อม ควรออกเดินทางไป ถึงสถานที่หรอื ภูมภิ าคสอบฯ อย่างน้อย 1 วัน เพ่ือจะไดม้ ีเวลาพักผ่อน ไปสู่สนามสอบฯ ส่วนสถานที่พกั หากไม่มีบา้ นญาติพนี่ ้อง ควรจองไวแ้ ตเ่ นนิ่ ๆ เพราะถา้ จงั หวัดใดหากเปน็ สนามสอบฯ โรงแรมหรือทีพ่ ักใน จังหวัดนั้นมกั จะมผี ู้เขา้ พักเต็มหมดแลว้ การพัก ท่ีวัดหรือท่อี น่ื ๆ อันไม่เหมาะสมหรือเดินทางท้ังคนื ไมไ่ ด้ พักผอ่ น ย่อมเปน็ ส่งิ ไมด่ แี น่ เตรียมเอกสาร วสั ดุ อุปกรณ์ หรือของใช้สว่ นตวั ให้เรียบรอ้ ยก่อนออกเดินทาง สงิ่ ท่จี ะลมื ไมไ่ ด้ คือ บัตรประจาตวั ผ้เู ข้าสอบฯ ปากกา ดนิ สอ และยางลบ (ใช้สาหรบั ฝนหรอื ระบายขอ้ สอบ) ยารกั ษา โรคประจา ตัว(ถา้ ม)ี และหนงั สือหรอื สรปุ ยอ่ เน้อื หาท่ีได้จัดทาไวแ้ ล้ว กอ่ นวันสอบจรงิ ควรไปดสู นามสอบว่าอยทู่ ใ่ี ด จะเดนิ ทางจากท่ีพกั โดยเส้นทางใด ใชเ้ วลา เท่าไร ห้องสอบห้องใดและเลขทน่ี ่ังสอบเท่าไร อยู่ตรงจุดไหน พักกลางวันจะไปรบั ประทานอาหารกลาง วนั ที่ไหน เปน็ ดน้ คืนก่อนสอบ ให้ทบทวนเนื้อหาตามหลักสูตรสอบฯ เล็กน้อย หลังจากนั้นใหร้ ีบเข้านอน เพ่ือให้ร่าง กายได้พักผ่อนให้เพียงพอ ตื่นเช้าสมองจะได้แจ่มใส เพราะ จะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการ วเิ คราะห์และทา ขอ้ สอบ ในวนั สอบ หลงั จากทาภารกิจสว่ นตวั เรียบร้อย ควรไปถงึ สนามสอบกอ่ นเวลาสอบ อย่าง น้อย 1 ช่ัวโมง เพ่ือจะได้มีความพร้อม ตรวจสอบความแน่นอนของห้องสอบอีกครงั้ หนึ่ง ตรวจเช็ควสั ดุ อุปกรณใ์ นการ สอบ บตั รประจาตัวผเู้ ขา้ สอบ ยังมีครบหรือไม่ หากไมม่ ี กจ็ ะไดม้ ีเวลาจัดหาไดท้ ัน ไม่วติ ก กงั วลกับการสอบเกินไป (ลกั ษณะอยา่ งน้ีพบเห็นมาก) ก่อนถึงเวลาสอบประมาณ 5-10 นาที ควรตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้งหนึ่ง เข้า ห้องน้าทาภารกิจ ส่วนตัวให้เรียบร้อย ก่อนถึงเวลาเข้าห้องสอบและกรรมการคุมห้องสอบเรียกเข้าห้อง สอบฯ เม่ืออยู่ในห้องสอบใหป้ ฏิบตั ิตามระเบียบของการสอบ หรือตามท่ีกรรมการคุมห้องสอบ ชี้แจง ใหต้ ัง้ สติ ใหด้ ี มสี มาธแิ ละวางแผนการท่าขอ้ สอบ (ตามหวั ขอ้ ต่อไป) 5. การบริหารจัดการระหวา่ งทาขอ้ สอบกรณีข้อสอบเป็นปรนัย (ชนิดตัวเลือก) การบริหารจัดการระหว่างทาข้อสอบเป็นศาสตร์อย่างหน่ึง ท่ีจะทาให้การสอบเป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพ ผู้เข้าสอบสว่ นใหญ่ไมค่ านงึ ถึงจดุ นห้ี ากไมไ่ ด้ฝกึ มากอ่ น เม่อื มาทาข้อสอบจริง ยิ่งเมือ่ ขอ้ สอบ

544 ที่ทาน้ันยากหรือไม่ตรงกับที่ได้อ่านหรือเตรียมมา ย่ิงจะเกิดความต่ืนเต้น โอกาส ที่ทาให้ผิดพลาด ทา ขอ้ สอบไมค่ รบ (หมดเวลากอ่ น) จะมสี งู การบรหิ ารจดั การระหวา่ งทาขอ้ สอบ มดี ังนี้ 1. กรอกข้อมลู ในกระดาษคาตอบใหถ้ ูกต้อง เรียบร้อย โดยเฉพาะการกรอกข้อมูลด้วย วิธีการฝนด้วย ดินสอ หลังจากกรอกข้อมลู เสร็จให้ตรวจสอบอีกครง้ั หน่ึงโดยเฉพาะเลขท่ีประจาตวั สอบ เพราะมีหลายต่อ หลายคร้ังที่ผู้เข้าสอบทาข้อสอบได้ แต่ไม่มีชื่อในบัญชีผู้สอบผ่าน เหตุเพราะลืมกรอก ข้อมูลใน กระดาษคาตอบ หรือกรอกผิดพลาดนัน้ เอง 2. เปดิ ข้อสอบ เมื่อได้รับอนญุ าตจากผคู้ ุมห้องสอบ ตรวจสอบความเรียบรอ้ ยของขอ้ สอบ ว่ามกี ขี่ อ้ มกี ่ี หน้าครบทกุ หน้าหรือทุกข้อหรือไม่ 3. การบรหิ ารเวลาในการสอบโดยตรวจสอบเวลาทจ่ี ะใช้ในการทาข้อสอบ แล้วคานวณ ระยะเวลาใน การทาขอ้ สอบ (โดยปกตมิ าตรฐานข้อสอบจะใชเ้ วลาทาขอ้ ละ 1 นาที ) ให้ชาเลืองดนู าฬิกา ขณะทาข้อสอบ เป็นระยะ เชน่ ประมาณ 10-50 ข้อต่อครั้ง ทั้งนเี้ พอ่ื เป็นการควบคุมเวลาในการสอบทาให้ ทาข้อสอบทันเวลา และครบทกุ ข้อ (จะพบบอ่ ยมากเมื่อหมดเวลาการทาขอ้ สอบแลว้ แต่ยงั เหลือข้อสอบอกี 20-30 ข้อ) 4. ทาขอ้ สอบทีละขอ้ โดยอ่านคาถามและทาความเข้าใจอย่างละเอียดอ่านให้หมดคาถาม (2เท่ียว) 5. อย่ารีบเร่งตัดสินใจ แล้วค่อยวิเคราะห์ตัวเลือกแต่ละตวั เลือก ตามหลักการ (ในบทที่ 2) เมื่อเลือกคาตอบแล้ว ให้กากบาทหรือฝนในช่องของกระดาษคาตอบอย่างประณีต ในกรณีท่ีแก้ไข เพม่ิ เตมิ ใหท้ าตามคาแนะนาท่ี บอกไว้ในกระดาษคาตอบ ข้อสอบข้อใดทส่ี งสยั ให้ทาจดุ สงั เกต เชน่ ดอกจัน ไว้ทห่ี นา้ ข้อสอบในกระดาษ คาถาม โดยให้ความสาคัญ เชน่ 1 ดอกจัน คือ สงสัย 2 ดอกจัน คอื สงสัยมาก เป็นต้น แต่ถึงแม้จะเป็นข้อ สงสัยกต็ ้องกากบาท (ฝนหรือระบาย) กระดาษคาตอบห้ามข้ามข้อ เพราะจะ ทาให้ไม่หลงลมื เมื่อทาไมท่ ัน (เพราะหมดเวลา) หรืออาจจะทาให้สบั สนกากบาทผิดข้อได้เพราะหากข้าม บางขอ้ 6. ในกรณที ่ขี ้อสอบบางขอ้ ยากมาก ไมส่ ามารถทาได้ อยา่ ใชเ้ วลากับขอ้ น้ันๆ นานเกินไป จนทาให้เสีย เวลา (เกิน3นาที) ต้องให้ความสาคัญคับข้อสอบทุกข้อ เพราะ ข้อสอบแต่ละข้อคะแนน เท่ากันและข้อสอบ ข้อถัดไปหรือข้อท้ายๆ อาจเป็นข้อสอบที่งา่ ย จะทาให้เสียโอกาส (ตามหลักการใน หวั ข้อต่อไป) 7. กรณีข้อสอบท่ีต้องใชว้ ิธีคานวณหรือจาเปน็ ต้องขดี เขียนเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความเข้าใจ ใหข้ ดี เขียนลงใน กระดาษคาถามได้ (อย่าใสใ่ จกับข้อห้ามทีบ่ อกว่าห้ามขีดเขยี นใดๆ ลงบนขอ้ สอบเกนิ ไปนกั ) 8. เม่ือทาข้อสอบครบทุกข้อแล้ว หากยังเหลือเวลาอย่าเพ่ิงรีบออกจากห้องสอบให้ กลบั มาทบทวนขอ้ ท่ียากหรือยงั ทาไมไ่ ด้โดยสงั เกตจากข้อทาเครอ่ื งหมายดอกจันเอาไว้

เทคนิคการเตรยี มตวั สอบสมั ภาษณ์ 545 9. ใหท้ าข้อสอบจนหมดเวลา อยา่ ปลอ่ ยเวลาใหเ้ สียไป เพราะ เวลาทุกนาทีมคี า่ สาหรับผู้ เข้าสอบ เมือ่ ใกล้จะหมดเวลาสอบ (จะมีประกาศเสียงตามสายหรอื กรรมการคุมหอ้ งสอบบอก เชน่ เหลอื เวลา 5 นาที) ให้ตรวจสอบกระดาษคาตอบอีกคร้งั หนึ่ง โดยเฉพาะอย่างย่ิงประเดน็ เก่ยี วกบั การกรอกชอ่ื สกุล รหัสหรือเลขประจาตัวผู้เขา้ สอบ การลงลายมอื ช่ือผเู้ ข้าสอบ (ถา้ ม)ี ไดต้ อบข้อสอบ (กากบาทฝนหรอื ระบาย ดินสอ) ทุกขอ้ หรือไม่ 10. หากใกล้หมดเวลาสอบแล้วยังทาไม่เสรจ็ หรือข้อสอบจานวนมาก ให้ใช้วิธีการเดา (รายละเอียดใน หวั ข้อถัดไป) และเผ่อื เวลาไว้ 1-2 นาที เพือ่ ตรวจสอบตามทก่ี ลา่ วในขอ้ 8 6. การบรหิ ารจัดการระหวา่ งทาขอ้ สอบกรณีข้อสอบเปน็ อัตนยั (อธิบาย) ข้อสอบประเภทอัตนัย (อธิบาย) ไม่ค่อยพบในการสอบแข่งขัน ทั้งน้ีเพราะผู้เข้าสอบ จานวนมาก ไม่สะดวกในการตรวจข้อสอบ ความแปรปรวน หรือความคาดเคล่อื นจะมีสูง อาจเปน็ ช่องทาง ให้มีการทุจริตได้ดังนั้นจึงไม่นิยมกัน แต่ข้อสอบประเภทน้ีนิยมใช้ออกในการสอบคัดเลือกที่ผู้เข้าสอบ จานวนน้อยและมจี ดุ ประสงค์เพอ่ื วัดความรคู้ วามสามารถ วิสัยทัศน์หรือแนวทางอย่างใดอยา่ งหนึ่ง เช่น คัดเลือกผู้บริหารสถาน ศึกษา บุคลากรทางการศึกษา ระดับหัวหน้ากลุ่มหรือหัวหน้างาน เป็นต้น แต่ อยา่ งไรกแ็ ล้วแต่ผู้เตรียมสอบ เผ่อื มโี อกาสตอ้ งใช้ ดงั นี้ 1. ตรวจสอบดูว่าข้อสอบมีกหี่ นา้ คาถามครบทกุ ข้อหรอื ไม่ 2. อ่านคาชแี้ จงให้เขา้ ใจ โดยเฉพาะประเด็นให้ทากี่ขอ้ การกาหนดจานวนหน้าของ กระดาษคาตอบ 3. ให้ทาข้อที่งา่ ยกอ่ น เพราะ หากทาตามลาดับข้ออาจใช้เวลาในการคดิ ข้อแรกๆ นาน เกนิ ไป ทาให้ เสียเวลา อาจหมดเวลาก่อน ในขณะท่ขี อ้ อ่นื อาจง่ายและใชเ้ วลาในการทานอ้ ยกวา่ 4. เมื่อเลือกข้อทจี่ ะทาก่อนหลังแล้ว ให้อ่านคาถามให้ชัดเจนถึงประเด็นคาถามว่า ถาม อะไร ที่ไหน อย่างไร เมื่อไร แต่ส่วนมากคาถามมักจะถามถึงอะไร(ความหมาย ความสาคัญ ประโยชน์) และ หรืออย่างไร (การดาเนินการ ปัญหา อุปสรรค) ตัวอย่างคาถาม เช่น หมายถึงอะไร จะดาเนินการ อย่างไรให้อธบิ ายพอสังเขป ใหบ้ อกข้ันตอนดาเนินการโดยละเอยี ด เป็นต้น 5. วางกรอบหรือทิศทางของคาตอบว่าจะตอบอะไรก่อนหลัง ควรอธิบายให้ชัดเจน กะทัดรัด แต่ตรง ประเด็นมากท่ีสุด ไม่ควรบรรยายแบบน้าท่วมทุ่ง เพ่ือให้ไต้คาตอบมากๆ ครบจานวน หนา้ กระดาษ เทา่ นน้ั 6. กรอบของคาตอบ การอธิบายโดยท่ัวไปจะเริ่มต้นท่ีเกร่ินนา รายละเอียดของเรื่อง และการสรุป โดยส่วนที่เป็นรายละเอียดให้นาหลักการ ทฤษฎีมาประกอบการอธิบายความหมาย

546 ความสาคัญ หรือความเป็นมา การดาเนินการ (โดยใช้หลักการ ทฤษฎีประกอบ) ผลของการดาเนนิ การ ปญั หา อุปสรรค หรอื ข้อเสนอแนะ 7. การอธิบายถึงโครงการหรือช้ินงานที่ดีเด่นหรือภูมิใจ ควรเริ่มจากความเป็นมา หลักการทฤษฎี รายละเอียดการดาเนินการ ผลการดาเนินงาน ประโยชน์ท่ีได้หรือการนาไปประยุกตใ์ ช้ ปัญหา อุปสรรคหรือข้อเสนอแนะ (ถา้ มี) ความจาเป็นอยา่ งหนึง่ ที่เป็นเร่ืองสาคญั ของการตอบข้อสอบแบบบรรยาย คือ การเขยี น ต้องเขียน อย่างบรรจง ประณีตท่ีสุดเท่าท่ีจะทาไต้ เพราะ อย่าลืมว่าข้อสอบประเภทน้ีใช้คนตรวจ หาก อ่าน ง่ายก็จะเป็นการอานวยความสะดวกต่อผู้ตรวจ ถึงแม้จะตอบไม่ตรงประเด็น แต่เช่ือว่าน่าจะดีกว่า ตอบอยา่ งดีเยี่ยมแตเ่ ขียนหนงั สือหวดั อ่านไม่ออก เวยี นหวั จะทาให้เสียคะแนนเปลา่ ๆ 7. เทคนคิ ในการเขา้ สอบสัมภาษณ์ หลักเกณฑก์ ารสอบสัมภาษณแ์ ละการให้คะแนน การสอบสัมภาษณเ์ ปน็ วธิ กี ารประเมินความเหมาะสมกับตาแหนง่ ตามหลกั สตู ร สอบแข่งขันหรือ สอบคดั เลือกบคุ คลเข้ารบั ราชการหรอื เล่อื นตาแหนง่ ใหส้ งู ขึ้นของส่วนราชการต่างๆ โดยท่ัวไปการพจิ ารณา ความเหมาะสมกบั ตาแหนง่ จะพิจารณาในตา้ นตา่ งๆ ดังนี้ 1. ประวตั ิส่วนตวั ประวัตกิ ารศกึ ษา ประวัติการทางาน (ถา้ ม)ี ประสบการณ์การทางาน (ถ้าม)ี 2. บคุ ลิกภาพดา้ นตา่ งๆ รวมทัง้ อปุ นิสัยของผทู้ ี่จะเปน็ ขา้ ราชการหรอื พนกั งาน 3. ทว่ งทีวาจา ปฏภิ าณไหวพริบ 4. คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และเจตคติ 5. ความรทู้ ่ีเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบตั งิ านในหนา้ ที่ 6. ความร้ใู นเรือ่ งการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ 7. อน่ื ๆ ตามหน่วยงานผสู้ อบฯกาหนด การให้คะแนนของการสอบสัมภาษณ์โดยท่ัวไป (คะแนนเต็ม 50 คะแนน ) การให้ คะแนนของ กรรมการสอบสัมภาษณ์ จะกาหนดชว่ งของคะแนนที่จะให้ไวอ้ ย่างชัดเจน เชน่ กาหนดความ ต่างของคะแนน ผู้เข้าสอบฯ ไม่เกิน 3 คะแนน ( ต่าสุด 47 สูงสุด 49 ) หรือ 5 คะแนน (ต่าสุด 45 สูงสุด 49) มักไมน่ ยิ มให้ คะแนนเต็ม 50 เพราะโดยหลักการแลว้ จะไม่มใี ครที่เย่ยี มยอดดังนน้ั ผู้เขา้ สอบสมั ภาษณ์ จึงไม่ต้องวิตกหรือกังวลมากนัก ส่ิงท่ีทาให้สอบได้หรือสอบตกไม่ได้อยู่ที่ การสอบสัมภาษณ์แต่อยู่ท่ีการ สอบข้อเขียนต่างหากการเตรียมตัวและวิธีการเข้าสอบสมั ภาษณ์ให้ได้คะแนนมากท่ีสุด ดังท่ีได้กล่าวมา