Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือรางวัลยกย่องจุฬา 2564

หนังสือรางวัลยกย่องจุฬา 2564

Published by Research Chula, 2022-05-26 03:54:53

Description: หนังสือรางวัลยกย่องจุฬา 2564

Search

Read the Text Version

รางวัลผลงานวจิ ยั ดีเดน่ ของนสิ ติ ระดับปรญิ ญาโท ผลงานวทิ ยานพิ นธเ์ ร่ือง การสญู เสยี ลักษณะกอ้ งในหนว่ ยเสยี งสกัดกนั้ -กอ้ งในภาษาไทยทีพ่ บในหมิงสอื ลู่ DEVOICING OF VOICED OBSTRUENTS IN SIAMESE AS ATTESTED IN MING SHILU โดย นายชินกฤต ตั้งศิริวฒั นากลุ อาจารยท์ ี่ปรกึ ษาหลัก รองศาสตราจารย์ ดร.พิทยาวัฒน์ พิทยาภรณ์ แหลง่ ทุนท่ไี ดร้ บั ทนุ สนบั สนนุ การวจิ ัยและการน�ำเสนอผลงานต่างประเทศ หน่วยวจิ ัยภาษาศาสตรเ์ อเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ คณะอักษรศาสตร์ 600 ยกย่องเชดิ ชเู กียรติบุคลากรแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั ประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๖๔

ผลงานวิจัยโดยสรปุ วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มุ่งไขปริศนาเร่ืองช่วงเวลาท่ีเกิดการสูญเสียลักษณะก้องในหน่วยเสียงสกัดกั้น-ก้อง ในภาษาไทย ผ่านการศึกษาการถ่ายถอดเสียงกัก-ก้องในช่ือบุคคลภาษาไทยด้วยอักษรจีนท่ีพบในบันทึก เร่ืองจริงแห่งราชวงศ์หมิง (หมิงสือลู่) ในข้ันแรกผู้วิจัยเสนอรูปภาษาไทยของช่ือที่ถ่ายถอดเป็นตัวอักษรจีน โดยเปรียบเทียบการตคี วามของ Wade (๒๐๐๐, ๒๐๐๕) และ วนิ ยั พงศศ์ รเี พยี ร (๒๕๖๐) กับราชทินนาม ทพี่ บในกฎหมายตราสามดวง จากนนั้ จงึ เปรยี บเทยี บเสยี งอา่ นภาษาไทยกบั เสยี งอา่ นอกั ษรจนี ตามการออกเสยี ง ภาษาจีน ๔ ถ่นิ คือ จนี กลาง เซยี่ งไฮ้ กวางต้งุ ฮกเกีย้ น วิทยานิพนธ์ฉบบั นใ้ี ชว้ ธิ ีหาเสียงปฏภิ าคระหว่างเสียง กัก-ก้องดั้งเดิมในภาษาไทยกับพยัญชนะต้นภาษาจีนท่ีใช้ถ่ายถอดเสียง ผลการศึกษาพบว่าการสูญเสีย ลักษณะก้องในหน่วยเสียงสกัดก้ัน-ก้องในภาษาไทยซึ่งเปลี่ยนแปลงสัทลักษณะของหน่วยเสียงกัก-ก้องด้ังเดิม ให้กลายเป็นเสียงกกั -ไม่กอ้ ง-พน่ ลมในปัจจบุ ัน เกิดขึ้นในระหว่างครสิ ตศกั ราช ๑๔๔๐ ถงึ ๑๔๘๐ โดยประมาณ อ้างองิ จากการใชเ้ สียงกัก-ไมก่ อ้ ง-พน่ ลมในภาษาจีนเพ่ือถา่ ยถอดเสียงกัก-ก้องดัง้ เดมิ ในภาษาไทย อีกทั้งยงั พบ ว่าการเปล่ียนแปลงทางเสียงดังกล่าวเกิดข้ึนอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงระยะหน่ึงร้อยปีเศษจึงเสร็จสมบูรณ์ วิทยานิพนธ์ฉบับน้ีนับเป็นงานวิจัยแรกท่ีศึกษาการเปลี่ยนแปลงทางเสียงในภาษาไทยจากหลักฐานจีนแบบ ข้ามสมัย ภาพท่ี 1 ยกย่องเชิดชูเกียรตบิ คุ ลากรแหง่ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๖๔ 601

ภาพที่ 2 ภาพที่ 3 ส่ิงทดี่ ีเดน่ ของงานวิจยั วิทยานพิ นธฉ์ บับนี้นบั ว่ามคี ุณูปการอยู่ ๓ ประการด้วยกัน แบ่งเปน็ คุณูปการตอ่ วงวิชาการภาษาศาสตร์ ท้ังในระดบั ประเทศและในระดับโลก และคณุ ปู การต่อชาติ อันดับแรก วิทยานิพนธ์ฉบับนี้นับว่ามีคุณูปการต่อวงวิชาการไทยโดยเฉพาะในสาขาภาษาศาสตร์ ภาษาไทยและภาษาตระกูลไทย เน่ืองจากวิทยานิพนธ์ฉบับน้ี ๑) ยุติประเด็นข้อถกเถียงท่ีมีมาอย่างยาวนาน ในวงการภาษาศาสตร์ภาษาไทยเชิงประวัติ อีกทั้ง ๒) ค�ำตอบท่ีได้ในวิทยานิพนธ์ฉบับน้ีต่อประเด็นปัญหา ดังกล่าว ได้มาจากหลักฐานประเภทลายลกั ษณ์อักษร อันเป็นหลักฐานเชงิ ประจักษ์ นอกจากน้ี ๓) ตัวขอ้ ค้นพบ ของวิทยานิพนธ์ช้ินนี้มีนัยยะถึงวิวัฒนาการระบบเสียงแบบเดียวกันที่พบในภาษาตระกูลไทอื่นๆ ไม่จ�ำเพาะ แตภ่ าษาไทยเท่านั้น จึงเปน็ ประโยชน์ตอ่ ความเข้าใจพัฒนาการด้านระบบเสียงของภาษาตระกูลไทอน่ื ๆเชน่ กัน อันดับถัดมา วิทยานิพนธ์ฉบับน้ีนับว่ามีคุณูปการต่อวงวิชาการภาษาศาสตร์ในระดับโลก เน่ืองจาก วิทยานิพนธ์ฉบับน้ีได้ออกแบบระเบียบวิธีวิจัยเพ่ือศึกษาการเปล่ียนแปลงทางเสียงจากเอกสารโบราณแบบ ขา้ มภาษา (โดยมากมกั เปน็ เอกสารแบบทวภิ าษา) ทสี่ ามารถนำ� ไปปรบั ปรงุ พฒั นา และตอ่ ยอดได้ เพอ่ื การศกึ ษา การเปลี่ยนแปลงทางเสยี งของภาษาอ่ืนๆทวั่ โลก ผา่ นการศกึ ษาหลักฐานเอกสารโบราณ จงึ นับเป็นงานต้นแบบ ส�ำหรับการศกึ ษาในแนวทางดงั กล่าวใหก้ บั วงวชิ าการภาษาศาสตรใ์ นระดับโลก 602 ยกยอ่ งเชิดชูเกียรติบคุ ลากรแห่งจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๖๔

ภาพท่ี 4 ท้ายที่สุดจึงกล่าวได้ว่าวิทยานิพนธ์ฉบับน้ีมีคุณปการต่อชาติ เน่ืองจาก ๑) ข้อค้นพบในวิทยานิพนธ์ ฉบับน้เี พิ่มพูนตอ่ ยอดความรคู้ วามเขา้ ใจด้านวิวัฒนาการดา้ นระบบเสยี งของภาษาไทยอนั มีเอกลักษณ์และเป็น มรดกร่วมของคนชาติไทย ที่ได้รับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษไทย ๒) เป็นงานวิจัยผลิตในไทยที่สามารถเป็น แบบอย่างให้กับวงวิชาการภาษาศาสตร์ในระดับโลก โดยเฉพาะด้านการศึกษาภาษาศาสตร์เชิงประวัติหรือ การเปล่ียนแปลงทางภาษาแบบขา้ มสมยั จงึ เทา่ กบั เปน็ การสรา้ งช่อื เสยี งให้กับประเทศอีกทางหน่ึง ยกยอ่ งเชดิ ชเู กยี รติบุคลากรแห่งจุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ 603

รางวลั ผลงานวิจัยดีเดน่ ของนิสติ ระดบั ปริญญาโท ผลงานวิทยานพิ นธ์เรือ่ ง ความสมั พันธร์ ะหว่างภาษาและภาพตวั แทนบคุ คลพน้ โทษในวาทกรรม สนบั สนุนบุคคลพ้นโทษในสื่อสาธารณะ The relationship between language and representations of ex-convicts in supportive media discourse โดย นายนครนิ ทร์ ส�ำเภาพล อาจารยท์ ่ีปรกึ ษาหลกั รองศาสตราจารย์ ดร.ศิรพิ ร ภักดผี าสุข แหลง่ ทุนที่ได้รบั หน่วยปฏบิ ตั กิ ารวจิ ยั “ไทยวิทรรศน”์ เพอ่ื การศึกษาภาษา วรรณคดี และคตชิ นไทย 604 ยกยอ่ งเชิดชูเกียรตบิ ุคลากรแห่งจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๖๔

ผลงานวจิ ยั โดยสรุป วทิ ยานพิ นธฉ์ บบั นมี้ วี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ ศกึ ษาความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งภาษากบั ภาพตวั แทนของบคุ คลพน้ โทษ ดว้ ยแนวคดิ วาทกรรมวเิ คราะหเ์ ชงิ วพิ ากษต์ ามแนวภาษาศาสตร์ โดยใชข้ อ้ มลู วาทกรรมทมี่ เี นอ้ื หาสนบั สนนุ บคุ คล พ้นโทษจากส่ือท่ีเผยแพร่สู่สาธารณชน ท้ังส่ือมวลชนและส่ือของภาครัฐ ผลการวิเคราะห์พบว่าวาทกรรมชุด ดังกล่าวใชก้ ลวธิ ีทางภาษาต่าง ๆ ทส่ี ื่อให้เห็นภาพตัวแทนบุคคลพ้นโทษ ๒ ด้านหลกั ดา้ นแรกคือภาพตวั แทน ด้านบวกซึ่งเป็นเสมือนเคร่ืองสนับสนุนให้คนกลุ่มนี้กลายเป็น “คนดี” ท่ีสามารถกลับคืนสู่สังคมได้ ได้แก่ การเป็นคนดีและไม่ได้กระท�ำผิดโดยสันดาน เป็นผู้ผ่านกระบวนการบ�ำบัดฟื้นฟูอย่างดี เป็นผู้ท่ีกลับตัวกลับใจ เป็นคนดีแล้ว และบางส่วนเป็นผู้ประสบความส�ำเร็จในการด�ำเนินชีวิต ด้านต่อมาคือภาพตัวแทนด้านลบ ที่ส่ือให้เห็นความเป็น “คนเดิม” ท่ียังไม่เปลี่ยนแปลง จนเป็นตัวขัดขวางไม่ให้คนกลุ่มน้ีคืนสู่สังคมได้อย่าง ราบรน่ื ไดแ้ ก่ การเปน็ ผมู้ ปี ระวตั กิ ารกระทำ� ความผดิ ตดิ ตวั เปน็ คนทย่ี งั ไมเ่ ปลย่ี นแปลงพฤตกิ รรมและมแี นวโนม้ จะกระท�ำผิดซ้�ำ และเป็นบุคคลท่ีน่าหวาดกลัวและมักสร้างความเดือดร้อนแก่สังคม นอกจากน้ียังพบภาพ ตัวแทนท่ีมีหลายแง่มุมรวมอยู่ด้วย คือ บุคคลพ้นโทษเป็นผู้ด้อยโอกาสท่ีสังคมไม่ยอมรับและประสบปัญหา การด�ำเนินชีวิต ในกระบวนการผลิตวาทกรรมสนับสนุนบุคคลพ้นโทษ อาจมีปัจจัยทางสังคมวัฒนธรรมหลาย ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการประกอบสร้างภาพตัวแทนต่าง ๆ ทั้งงานราชทัณฑ์ไทย นโยบาย “คืนคนดีสู่สังคม” ปัญหาในกระบวนการบ�ำบัดฟื้นฟูผู้ต้องขังและวาทกรรมข่าวเก่ียวกับความล้มเหลวในการจัดการเรือนจ�ำ ข้อจ�ำกัดในด้านการประกอบอาชีพ อคติเดิมในสังคม วาทกรรมอื่นท่ีแข่งขันกับวาทกรรมสนับสนุนบุคคลพ้น โทษ แนวคิดเรอื่ งกฎแหง่ กรรม และแนวคดิ เรอื่ งความเมตตากรณุ า ผลการวจิ ยั ชใ้ี หเ้ หน็ วา่ การสอ่ื สารกบั คนในสงั คมเพอ่ื มงุ่ “คนื คนดสี สู่ งั คม” ไมไ่ ดป้ รากฏเพยี งภาพตวั แทน ที่สนับสนุนบุคคลพน้ โทษเท่านนั้ แต่ยังพบรูปภาษาหลายลักษณะทแ่ี ฝงภาพ “คนเดมิ ” ไปพรอ้ มกันดว้ ย โดยที่ ผู้ผลิตวาทกรรมอาจจะไม่รู้เท่าทัน ท�ำให้สังคมเกิดความหวาดหว่ัน วิตกกังวล ตอกย้�ำอคติเดิม ท้ายท่ีสุดคือ ไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างย่ังยืน และท�ำให้บุคคลพ้นโทษไม่สามารถกลับไปด�ำเนินชีวิตในสังคมได้เฉกเช่น คนทัว่ ไป ยกยอ่ งเชดิ ชูเกียรตบิ คุ ลากรแห่งจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ 605

606 ยกยอ่ งเชดิ ชเู กียรตบิ คุ ลากรแหง่ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๖๔

ส่งิ ทดี่ เี ด่นของงานวจิ ยั บุคคลพ้นโทษเป็นกลุ่มคนท่ีมีไม่น้อยในสังคม หากพวกเขาได้รับโอกาส ก็อาจกลายเป็นก�ำลังส�ำคัญ ในการพัฒนาประเทศได้ แต่ในปัจจุบันคนกลุ่มนี้กลับถูก “ตีตรา” ถูกปิดกั้นโอกาสและไม่ได้รับการยอมรับ เทา่ ทคี่ วร จนสง่ ผลให้พวกเขาถกู ผลักเขา้ สวู่ งั วนของการท�ำผดิ ซ้�ำ ส่วนหนง่ึ เปน็ เพราะคนในสังคมยงั มีข้อกังวล และอคติ ท้ังน้ี คนส่วนใหญ่ในสังคมอาจจะไม่มีโอกาสได้ปฏิสัมพันธ์กับบุคคลพ้นโทษโดยตรง หากแต่น่าจะมี ความรับรู้เก่ียวกับคนกลุ่มน้ีผ่านการน�ำเสนอภาพตัวแทนท่ีปรากฏในวาทกรรมต่าง ๆ เช่น ข่าวหรือบทความ เก่ียวกับบุคคลพ้นโทษ ภาพตัวแทนบุคคลพ้นโทษท่ีน�ำเสนอในวาทกรรมจึงมีบทบาทส�ำคัญต่อความรับรู้ ความเขา้ ใจ และทัศนคตทิ ีค่ นในสังคมสว่ นใหญ่จะมตี อ่ บคุ คลพน้ โทษ วทิ ยานพิ นธเ์ รอ่ื งนเ้ี ลง็ เหน็ ประเดน็ สำ� คญั ทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ อคตติ อ่ บคุ คลพน้ โทษ กลา่ วคอื แมใ้ นการนำ� เสนอขา่ ว เชงิ สนบั สนนุ บคุ คลพน้ โทษไมว่ า่ จะเปน็ โดยสอื่ มวลชนหรอื สอ่ื ภาครฐั กย็ งั ปรากฏการนำ� เสนอภาพตวั แทนทแ่ี ฝง ความหวาดกลวั ความนา่ วิตกกงั วล อนั นำ� ไปสกู่ ารสร้างความรูส้ ึกเชิงลบเก่ยี วกับบคุ คลพน้ โทษโดยทีผ่ ู้น�ำเสนอ ข่าวอาจจะไม่ได้ตัง้ ใจ ไมท่ นั สงั เกตเหน็ และไมไ่ ด้ตระหนักถึงผลกระทบทเ่ี กดิ ขึน้ การวเิ คราะห์กลวิธที างภาษา ในการน�ำเสนอภาพตัวแทนบุคคลพ้นโทษในวาทกรรมสนับสนุนบุคคลพ้นโทษจึงช่วยสร้างองค์ความรู้ส�ำคัญ ที่ท�ำให้ผู้รับสารได้ “รู้เท่าทัน” การแฝงอคติบางประการเกี่ยวกับบุคคลพ้นโทษในข่าวและบทความเหล่านั้น และน่าจะชว่ ยท�ำให้ผูผ้ ลิตวาทกรรมหลกั ในสังคมเกดิ ความตระหนกั รแู้ ละเพิ่มความรอบคอบระมัดระวังในการ น�ำเสนอขา่ วเพื่อลดทอนการเกดิ อคติดงั กลา่ ว วทิ ยานิพนธน์ เ้ี ลือกใชก้ รอบแนวคิดวาทกรรมวิเคราะหเ์ ชิงวพิ ากษ์ซง่ึ เหมาะสมกบั ประเดน็ การวิจยั มกี าร วเิ คราะหก์ ลวธิ ที างภาษาในตวั บทวาทกรรมอยา่ งละเอยี ด ผลการศกึ ษาชว่ ยแสดงใหเ้ หน็ การประกอบสรา้ งภาพ ตัวแทนบุคคลพ้นโทษผ่านกลวิธีทางภาษาในแง่มุมต่าง ๆ ซ่ึงสามารถส่งผลต่อความรับรู้และทัศนคติของผู้รับ สารที่มีต่อบุคคลพ้นโทษ นอกจากน้ี ผลการวิจยั ทไ่ี ดน้ ่าจะมีสว่ นช่วยกระตนุ้ ให้เกดิ ความระมดั ระวงั ในการใช้ ภาษาเพอื่ การสอ่ื สารในวาทกรรมสาธารณะ อกี ท้ังช่วยชีใ้ ห้เห็นความสำ� คัญของการรับสารอยา่ งมวี ิจารณญาณ สถานทต่ี ิดต่อ ภาควิชาภาษาไทย คณะอกั ษรศาสตร์ โทรศัพท์ ๐๘-๑๑๘๘-๙๖๕๗ E-mail: [email protected] ยกยอ่ งเชิดชเู กียรตบิ คุ ลากรแหง่ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ 607

รางวัลศูนยเ์ ช่ยี วชาญเฉพาะทาง (CE) ที่มผี ลงานดีเดน่ ช่ือศูนย์ ศนู ย์เชย่ี วชาญเฉพาะทางการวจิ ัยและพฒั นาวคั ซนี จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั Center of Excellence in Vaccine Research and Development or Chula Vaccine Research Center (Chula VRC) หวั หนา้ ศูนย์ รองศาสตราจารย์ ดร. แพทยห์ ญิงกนิษฐา ภทั รกลุ สงั กดั คณะแพทยศาสตร์ 608 ยกยอ่ งเชิดชูเกยี รติบุคลากรแห่งจุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๖๔

ความเปน็ มาของศนู ยฯ์ ศนู ยเ์ ชยี่ วชาญเฉพาะทางการวจิ ยั และพฒั นาวคั ซนี จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั (Chula Vaccine Research Center, Chula VRC) ก่อตั้งอย่างเป็นทางการในปี ๒๕๖๐ ภายใต้การดูแลให้ค�ำปรึกษาของ ศาสตราจารย์ นายแพทยเ์ กยี รติ รกั ษร์ ุ่งธรรม ประกอบดว้ ยอาจารย์และนกั วิจัยทส่ี นใจในการวิจัยและพัฒนาวคั ซีนมาท�ำงาน ร่วมกัน เพื่อแลกเปล่ียนความรู้และประสบการณ์ท�ำให้เกิดความเข้มแข็งของทีมวิจัย การวิจัยมุ่งเน้นไปท่ีการ พฒั นาวคั ซีนสำ� หรบั โรคติดเช้ือ เชน่ เอชไอวี ไขเ้ ลือดออก โรคฉ่ีหนู (เลปโตสไปโรซสิ ) และโคโรนา่ สายพันธ์ใุ หม่ (COVID-19) วณั โรค และวคั ซนี สำ� หรับโรคไมต่ ิดเชือ้ เช่น โรคภมู แิ พ้ไรฝนุ่ วิสยั ทศั นข์ องศูนย์ฯ ศูนย์เช่ียวชาญเฉพาะทางการวิจัยและพัฒนาวัคซีน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ก�ำหนดพันธกิจและ วสิ ยั ทศั นไ์ ว้ คือ การพัฒนาวัคซีนทม่ี ีประสทิ ธภิ าพดี ปลอดภัย และราคาย่อมเยา เป้าหมายของศนู ย์ฯ ๑. พัฒนาวัคซีนต้นแบบ ท้ังที่ใช้ในการรักษา และท่ีใช้ในการป้องกัน ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น DNA, mRNA, หน่วยย่อยของโปรตีน (subunit protein) ต่อโรคที่เป็นปัญหาระดับภูมิภาคและระดับโลก เช่น COVID-19, โรคไข้เลือดออก (dengue fever), โรคฉ่ีหนู (leptospirosis), วัณโรค, มะเร็งปากมดลูก และ โรคภมู แิ พไ้ รฝนุ่ (house dust mite) ๒. ทดสอบวัคซีนต้นแบบในระดับก่อนคลินิกในสัตว์ทดลอง เช่นหนู mice, หนู hamster และ non-human primate ๓. ทดสอบวคั ซนี ตน้ แบบในระดบั Phase I clinical trial ๔. รว่ มมือกบั สถาบันระดับชาตแิ ละระดบั นานาชาตใิ นการพัฒนาและทดสอบวคั ซนี ๕. รว่ มมอื กบั ภาคเอกชนในระดับอตุ สาหกรรม เพอ่ื การถา่ ยทอดเทคโนโลยแี ละการจ�ำหน่ายวคั ซีน ๖. สร้างนกั วิจัยรุน่ ใหมส่ ำ� หรับงานวจิ ยั และพัฒนาวคั ซนี ในประเทศไทย บคุ ลากรในศนู ย์ฯ (เฉพาะอาจารย์และนกั วจิ ัย) ๑. ศาสตราจารย์ นายแพทยเ์ กียรติ รกั ษ์รุ่งธรรม ๒. ศาสตราจารย์ ดร.ธนาภัทร ปาลกะ ๓. รองศาสตราจารย์ ดร. แพทยห์ ญงิ กนิษฐา ภัทรกลุ ๔. รองศาสตราจารย์ ดร.ชุตธิ ร เกตุลอย ๕. รองศาสตราจารย์ ดร. แพทยห์ ญิงศิวะพร บณุ ยทรัพยากร ๖. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.เอกชัย พรหมเพชร ยกยอ่ งเชดิ ชูเกียรติบคุ ลากรแหง่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๖๔ 609

๗. ดร.สณุ ี ศิริวชิ ยกุล ๘. ดร.สปุ ราณี บรู ณประดษิ ฐ์กลุ ผลงานวจิ ยั โดยสรปุ (ย้อนหลัง ๕ ป)ี การวจิ ยั และพฒั นาวคั ซนี สำ� หรบั โรคตดิ เชอื้ และโรคไมต่ ดิ เชอื้ เชน่ โรคโคโรนา่ สายพนั ธใ์ุ หม่ (COVID-19), โรคไข้เลือดออก, โรคฉี่หนู (เลปโตสไปโรซสิ ) และ โรคภูมิแพไ้ รฝนุ่ ๑. พัฒนาวัคซีน COVID-19 (ChulaCoV) ชนิด mRNA โดยได้ทดสอบความสามารถในการกระตุ้น ภมู คิ ุม้ กนั และความปลอดภยั ของวัคซีนในหนทู ดลองและใน non-human primate ๒. พัฒนา nanoparticle-based dengue DNA vaccine ๓. พัฒนา subunit vaccine ของโรคฉี่หนู ๔. พัฒนาวคั ซนี ปอ้ งกนั และรักษาโรคภูมแิ พไ้ รฝนุ่ ผลงานตพี ิมพ์ และผลกระทบ (ย้อนหลงั ) ๕ ปี จ�ำนวนเรือ่ ง จำ� นวนบทความ รวม ปี ๒๕๖๐ ปี ๒๕๖๑ ปี ๒๕๖๒ ปี ๒๕๖๓ ปี ๒๕๖๔ ๓๑ มี impact factor ๑ ๔ ๔ ๑๗ ๕ - ไมม่ ี impact factor - - - - - ผลงานตพี มิ พ์ 610 ยกย่องเชิดชเู กยี รติบคุ ลากรแห่งจฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๖๔

การอา้ งอิง การผลิตบณั ฑิต นสิ ิต ปกี ารศกึ ษา รวม ปี ๒๕๕๙ ปี ๒๕๖๐ ปี ๒๕๖๑ ปี ๒๕๖๒ ปี๒๕๖๓ ๗ ปรญิ ญาโท ๒ ๑ ๑ ๓ ๒ ๒ ปรญิ ญาเอก ๑ ๑ หลังปรญิ ญาเอก ๑ ๑ ผลกระทบ (impact) ท่มี ีตอ่ สงั คม/การใชป้ ระโยชน์ ศนู ยฯ์ มีผลงานวิจัยทเี่ ปน็ ประโยชนท์ างด้านเศรษฐกจิ สังคม อุตสาหกรรม และงานบรกิ ารวชิ าการ ดังน้ี ๑. พัฒนา COVID-19 vaccine (ChulaCoV) และได้ทดสอบท้ังระดับก่อนคลินิก (Pre-clinical) ใน สตั วท์ ดลอง และระดบั คลนิ กิ ระยะท่ี ๑ (Clinical Trial phase I) ในมนษุ ย์ ๒. พฒั นาวัคซนี ไข้เลือดออกชนดิ DNA และทดสอบในระดับก่อนคลินกิ (Pre-clinical) ในสตั วท์ ดลอง ๓. พฒั นา subunit vaccine ของโรคฉหี่ นู และทดสอบในระดบั กอ่ นคลนิ กิ (Pre-clinical) ในสตั วท์ ดลอง ๔. พัฒนาวัคซีนป้องกันและรักษาโรคภูมิแพ้ไรฝุ่น และทดสอบในระดับก่อนคลินิก (Pre-clinical) ใน สตั ว์ทดลอง ยกย่องเชดิ ชูเกียรตบิ คุ ลากรแห่งจุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ 611

ความรว่ มมือกับหนว่ ยงานภายนอก หนว่ ยงานในประเทศ Chula VRC รว่ มมือกับคณะต่าง ๆ ภายในจฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย (คณะแพทยศาสตร์, เภสัชศาสตร์, สัตวแพทยศาสตร์, วิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์) และมหาวิทยาลัยหลายแห่งในประเทศไทย เช่น มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ ธนบรุ ี มหาวิทยาลัยขอนแก่น และสถาบนั อื่น ๆ เช่น สถาบันวจิ ยั วิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ทหาร (Armed Forces Research Institute of Medical Sciences – AFRIMS) หนว่ ยงานตา่ งประเทศ • Vaccine Research Center (VRC), National Institute of Allergy and Infectious Diseases (NIAID), National Institute of Health, USA • Department of Adjuvant and Antigen Research, U.S. Military HIV Research Program, Walter Reed Army Institute, USA • The Perelman School of Medicine, University of Pennsylvania, USA • University of Copenhagen, Denmark • Medical University of Bialystok, Poland • University of Western Australia, Australia • Vaccine Formulation Laboratory (VFL), Switzerland • School of Pharmaceutical Sciences Geneva-Lausanne (EPGL), Center Medical University, Switzerland • Faculty of Medicine in Saint-Etienne, France • University of Tokyo, Japan • University of Liege, Belgium • Universiti Putra Malaysia, Malaysia • London School of Hygienic and Tropical Medicine, UK 612 ยกย่องเชดิ ชูเกยี รติบุคลากรแห่งจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๖๔

สถานทตี่ ดิ ต่อ อาคาร อปร ช้ัน ๑๐ คณะแพทยศาสตร์ โทรศพั ท์ ๐-๒๒๕๖-๔๕๗๙ โทรสาร ๐-๒๖๕๒-๓๑๐๐ E-mail: [email protected], [email protected] ยกยอ่ งเชดิ ชูเกยี รติบคุ ลากรแหง่ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ 613

รางวลั ศูนย์เชีย่ วชาญเฉพาะทาง (CE) ที่มผี ลงานดเี ด่น ช่ือศูนย์ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางวิศวกรรมธรณเี ทคนคิ และธรณสี ง่ิ แวดลอ้ ม Centre of Excellence in Geotechnical and Geoenvironmental Engineering หัวหน้าศูนย์ ศาสตราจารย์ ดร.สุเชษฐ์ ลขิ ิตเลอสรวง สังกดั ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ 614 ยกยอ่ งเชดิ ชูเกียรตบิ ุคลากรแหง่ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั ประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๖๔

ความเปน็ มาของศูนยฯ์ ศนู ยเ์ ชย่ี วชาญเฉพาะทางวศิ วกรรมธรณเี ทคนคิ และธรณสี งิ่ แวดลอ้ ม จดั ตง้ั ขนึ้ ทจ่ี ฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั โดยเร่ิมด�ำเนินการเมื่อ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยเร่ิมแรกเป็นหน่วยปฏิบัติการวิจัยวิศวกรรมธรณีเทคนิค และได้ยกระดับเป็นศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางวิศวกรรมธรณีเทคนิคและธรณีส่ิงแวดล้อม เม่ือ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๑ มีขอบเขตในการค้นคว้าท่ีเกี่ยวข้องกับวิศวกรรมธรณีเทคนิคและธรณีสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมถึง แบบจ�ำลองของวัสดุทางธรณี ลักษะของความเค้นความเครียดของดิน การวิเคราะห์เชิงตัวเลขทางวิศวกรรม ธรณี วศิ วกรรมงานทาง การปรบั ปรงุ คณุ ภาพดนิ วศิ วกรรมแผน่ ดนิ ไหว และชวี วศิ วกรรมดนิ โดยเนน้ ทกี่ ารสรา้ ง ความก้าวหน้าทางด้านวิชาการเพ่ือการออกแบบนวัตกรรมท่ีสามารถน�ำไปใช้งานจริงในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ซ่ึงงานวิจัยจะตอบโจทย์ความต้องการทางอุตสาหกรรมโดยร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนตลอดจนองค์กร ท่ไี ม่แสวงผลก�ำไรในการขับเคลอื่ นงานวิจัยเชิงนวัตกรรม วสิ ยั ทศั นข์ องศนู ยฯ์ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางวิศวกรรมธรณีเทคนิคและธรณีสิ่งแวดล้อมได้ก�ำหนดพันธกิจและวิสัยทัศน์ไว้ ๓ ประการคือ ๑. เป็นฐานความรู้ด้านวิศวกรรมธรณีเทคนิคท่ีก่อให้เกิดนวัตกรรมความเป็นเลิศทางวิชาการ และ สนบั สนุนยทุ ธศาสตรค์ วามรู้ของจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ๒. สร้างบรรยากาศการค้นคว้าวิจัยและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระหว่างนิสิต คณาจารย์ นักวิจัย ตลอดจนหน่วยงานภาครฐั และภาคเอกชนท่ีมีความร่วมมอื ด้วย ๓. สรา้ งเครือขา่ ยความรแู้ ละความร่วมมือดา้ นงานวิจยั ในระดบั ชาติและนานาชาติ เปา้ หมายของศนู ยฯ์ ศูนย์เช่ียวชาญเฉพาะทางวิศวกรรมธรณีเทคนิคและธรณีสิ่งแวดล้อม มีเป้าหมายในการด�ำเนินงาน เพ่ือ ทจ่ี ะสรา้ งฐานขอ้ มลู และเผยแพรอ่ งคค์ วามรดู้ า้ นวศิ วกรรมธรณเี ทคนคิ และธรณสี ง่ิ แวดลอ้ ม ทงั้ ผลติ ผลงานวจิ ยั เชิงประจักษ์ในรูปแบบของ บทความวิชาการที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติในฐานข้อมูล WoS และ SCOPUS ผลงานทนี่ ำ� เสนอในทป่ี ระชมุ วชิ าการระดบั นานาชาติ และยงั ผลติ งานวจิ ยั ทสี่ ามารถนำ� ไปใชเ้ ปน็ ประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศทั้งในภาครัฐและเอกชน นอกจากนั้นยังผลิต บัณฑิตสาขาวิศวกรรมธรณีเทคนิคในระดับมหาบัณฑิตและดุษฎีบัณฑิตสู่ตลาดแรงงาน เพื่อตอบสนองต่อการ พัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศ และรวมไปถึงการพัฒนาไปสู่ศูนย์เช่ียวชาญเฉพาะทางด้าน วิศวกรรมธรณีเทคนิคชั้นน�ำระดับนานาชาติ และมีความร่วมมือกับองค์กรด้านวิศวกรรมธรณีเทคนิคช้ันน�ำ ระดบั ชาติและนานาชาติ ยกยอ่ งเชิดชูเกียรติบุคลากรแหง่ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๖๔ 615

บุคลากรในศูนยฯ์ (เฉพาะอาจารยแ์ ละนกั วิจยั ) ๑. ศาสตราจารย์ ดร.สเุ ชษฐ์ ลิขติ เลอสรวง ๒. ศาสตราจารย์ ดร.บญุ ชัย อุกฤษฏชน ๓. รองศาสตราจารย์ ดร.ฐิรวตั ร บุญญะฐี ๔. อาจารย์ ดร.วีรยทุ ธ โกมลวลิ าศ ๕. ดร.วรี เดช ธนพลังกร ๖. นางสาวกมลรัตน์ งามเจริญ ศาสตราจารย์ ดร.สเุ ชษฐ์ ลขิ ติ เลอสรวง ดร.บศุญาสชตยั รอาจุกาฤรษยฏ์ ชน ดรรอ.ฐงริศวาตัสรตรบาญุ จาญระยฐ์ ี ดร.วรี ยอทุ าธจาโกรมย์ลวลิ าศ ดร.วรี เดช ธนพลงั กร นางสาวกมลรัตน์ งามเจรญิ ผลงานวิจัยโดยสรุป (ย้อนหลงั ๕ ป)ี ผลงานวจิ ัยยอ้ นหลัง ๕ ปี ของศนู ย์เชีย่ วชาญเฉพาะทางวศิ วกรรมธรณเี ทคนิคและธรณีส่งิ แวดล้อม เปน็ การพัฒนางานวิจยั เพื่อสามารถนำ� ไปใช้ประโยชน์ทัง้ ภาครัฐและเอกชน โดยมีกลมุ่ งานวจิ ยั ดงั น้ี ๑. การวเิ คราะหเ์ ชิงตวั เลขทางธรณกี ลศาสตร์ และแบบจ�ำลองดิน ๒. การวเิ คราะห์ความเชื่อมั่นทางวศิ วกรรมธรณี ๓. การศกึ ษาสมบัติพลวัตของดนิ และวศิ วกรรมแผน่ ดินไหวของประเทศไทย ๔. การวเิ คราะหด์ ินถลม่ จากฝน และการวิเคราะหเ์ สถียรภาพของลาดดนิ ๕. การปรับปรุงคุณภาพดินและการเสรมิ ก�ำลงั ดนิ ๖. การพัฒนานวัตกรรมในการก่อสรา้ งและวัสดุกอ่ สรา้ ง 616 ยกยอ่ งเชดิ ชูเกยี รตบิ คุ ลากรแห่งจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๖๔

ผลงานตีพมิ พ์ และผลกระทบ (ยอ้ นหลงั ) ๕ ปี จำ� นวนเรื่อง จำ� นวนบทความ รวม ปี ๒๕๖๐ ปี ๒๕๖๑ ปี ๒๕๖๒ ปี ๒๕๖๓ ปี ๒๕๖๔ ๙๐ มี impact factor ๑๓ ๑๘ ๑๘ ๑๗ ๒๔ ๔๓ ไมม่ ี impact factor ๖ ๗ ๙ ๗ ๑๔ ผลงานตพี มิ พ์ รวม ๑๓๓ ผลงาน การอ้างอิง รวม ๑,๗๘๖ คร้งั ยกย่องเชดิ ชูเกียรติบุคลากรแหง่ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๖๔ 617

การผลิตบัณฑิต นสิ ิต ปีการศกึ ษา รวม ปี ๒๕๕๙ ปี ๒๕๖๐ ปี ๒๕๖๑ ปี ๒๕๖๒ ป๒ี ๕๖๓ ๑๒ ปริญญาโท ๑ ๒ ๕ ๑ ๓ ๕ ๔ ปรญิ ญาเอก ๑ ๒ ๐ ๐ ๒ หลังปรญิ ญาเอก ๐ ๐ ๑ ๑ ๒ ผลกระทบ (impact) ทมี่ ีตอ่ สังคม/การใชป้ ระโยชน์ ศูนยฯ์ มีผลงานวิจัยที่เปน็ ประโยชนท์ างด้านเศรษฐกจิ สังคม อุตสาหกรรม และงานบริการวิชาการ ดงั นี้ ๑. โครงการ “จัดท�ำชุดความรู้โครงการประยุกต์ใช้หญ้าแฝกร่วมกับวิธีกลและพืชอื่นเพื่อป้องกันภัย ดินถล่ม” โดยความร่วมมือระหวา่ ง มูลนิธชิ ัยพฒั นา ส�ำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการ อันเน่ืองมาจากพระราชดำ� ริ (กปร.) กรมพัฒนาท่ดี นิ บริษัท ปตท. จำ� กดั (มหาชน) เพ่อื ถ่ายทอดบทเรียนจาก โครงการดงั กล่าวตามแนวทางวิชาการ และเผยแพรส่ ู่สาธารณชน ๒. พัฒนาการทดสอบมาตรฐานชดุ PPE เพ่ือใหบ้ ุคลากรทางการแพทย์ใช้งานชุด PPE ไดอ้ ย่างปลอดภัย โดยการทดสอบมาตรฐานชดุ PPE น้ี เปน็ โจทยว์ จิ ยั จากสภากาชาดไทยเพ่อื แก้ปัญหาการขาดแคลนชุดป้องกนั บุคลากรทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพในการใช้งาน ในการจดั ตงั้ หน่วยทดสอบชดุ PPE ตามมาตรฐานสากล ๓. โครงการ การจัดการปญั หาการเปล่ียนแปลงสภาพภูมอิ ากาศและภยั พิบัติ (Climate Change and Disaster Management) ด�ำเนินการและเปล่ียนความรู้ในพื้นท่ีชุมชนโดยทีมงานวิจัยในพ้ืนที่ได้เข้าร่วมเป็น วิทยากรในการประชมุ กบั ชุมชน ร่วมกับ หน่วยงานในท้องถิ่น ทงั้ องค์การบริหารส่วนต�ำบล และกรมปอ้ งกัน และบรรเทาสาธารณภยั จังหวัดนา่ น ๔. ผลงานการใชแ้ บคทีเรีย MICP ในงานกอ่ สรา้ ง (Utilisation of bacteria for microbially induces calcium carbonate precipitation (MICP) in construction materials) เป็นส่วนหน่ึงในผลงาน อนุสิทธิบัตร เรื่อง สปอร์ของแบคทีเรียที่ห่อหุ้มด้วยสารประกอบอัลจิเนตในรูปไมโครแคปซูลเพื่อใช้ในการ ซ่อมแซมตัวเองของคอนกรีต และกระบวนการเตรยี ม ความรว่ มมอื กบั หนว่ ยงานภายนอก หน่วยงานในประเทศ ๑. มลู นธิ ชิ ยั พฒั นา ๒. บริษทั ปตท. จำ� กัด (มหาชน) ๓. กรมทรัพยากรธรณี 618 ยกย่องเชิดชเู กียรติบุคลากรแหง่ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๖๔

๔. มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ ๕. มหาวิทยาลัยมหดิ ล ๖. มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ๗. มหาวิทยาลัยพระจอมเกลา้ พระนครเหนอื ๘. มหาวทิ ยาลยั พระจอมเกลา้ ธนบรุ ี ๙. มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าลาดกระบงั หนว่ ยงานตา่ งประเทศ ๑. Disaster Prevention Research Institute, Kyoto University, Japan ๒. Tokyo Institute of Technology, Japan ๓. Kansai University, Japan ๔. Hokkaido University, Japan ๕. Yokohama National University, Japan ๖. Shenzhen University, China ๗. Zhejiang University, China ๘. The Hong Kong University of Science and Technology, Hong Kong ๙. The Hong Kong Polytechnic University, Hong Kong ๑๐. National Kaohsiung University of Science and Technology, Taiwan ๑๑. Nanyang Technological University, Taiwan ๑๒. University of Wollongong, Australia ๑๓. Universiti Sains Malaysia, Malaysia ๑๔. University of Bengkulu, Indonesia ๑๕. Bandung Institute of Technology, Indonesia ๑๖. Ho Chi Minh City University of Technology, Vietnam ๑๗. Mientrung University of Civil Engineering, Vietnam สถานทต่ี ดิ ตอ่ ภาควชิ าวิศวกรรมโยธา คณะวศิ วกรรมศาสตร์ โทรศัพท์ ๐-๒๒๑๘-๖๓๔๓ โทรสาร ๐-๒๒๕๑-๗๓๐๔ E-mail: [email protected] ยกย่องเชดิ ชูเกยี รติบคุ ลากรแหง่ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ 619

รางวลั ศูนย์เชยี่ วชาญเฉพาะทาง (CE) ทม่ี ีผลงานดเี ดน่ ช่อื ศนู ย์ ศนู ยเ์ ชยี่ วชาญเฉพาะทางดา้ นเศรษฐศาสตร์สาธารณสขุ Center of Excellence for Health Economics หัวหน้าศนู ย์ รองศาสตราจารย์ ดร.ชันทาล แฮรเ์ บอร์โฮลส์ (Chantal Herberholz, Ph.D. Assoc. Prof.) สงั กัด คณะเศรษฐศาสตร์ 620 ยกย่องเชิดชูเกียรตบิ คุ ลากรแหง่ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย ประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๖๔

ความเป็นมาของศูนยฯ์ ศูนย์เศรษฐศาสตร์สาธารณสุข มุ่งเน้นและขยายการฝึกอบรมและการวิจัยในสาขาเศรษฐศาสตร์สาธารณสุข คณะ เศรษฐศาสตร์ ได้จดั ตั้งศูนย์เศรษฐศาสตรส์ าธารณสขุ อย่างเปน็ ทางการใน พ.ศ. ๒๕๓๓ ได้รบั การสนับสนนุ จาก TDR และบรติ ชิ เคานซลิ ในชว่ งเวลาส้นั ๆ กจิ กรรมของศูนย์ฯ ไดเ้ ติบโตขึ้นมา โดยในช่วงปลาย พ.ศ. ๒๕๓๖ ศูนยฯ์ ถกู ก�ำหนดใหเ้ ป็นศนู ยค์ วาม ร่วมมือทางเศรษฐศาสตร์สาธารณสุขขององค์การอนามัยโลก โดยมีความรับผิดชอบระดับภูมิภาคและระดับโลก (ถึงวันท่ี ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๕) วิสัยทัศน์ของศนู ย์ฯ ศนู ยเ์ ชยี่ วชาญเฉพาะทางดา้ นเศรษฐศาสตรส์ าธารณสขุ ไดก้ ำ� หนดพนั ธกจิ และวสิ ยั ทศั นไ์ วค้ อื The center is committed to the development of the applications of health economics research to the realm of health formulation and the process of health sector reform, primarily through its education and training program. Its commitment aims at strengthening the health economics research capacity and expertise within Thailand and the surrounding Southeast Asian community. This is done through fostering and enhancing greater international research collaboration in health economics at the global level. เป้าหมายของศูนยฯ์ ๑. To develop expertise and commitment to the application of health economics in the formulation of health care policies, in planning resource allocation and in health care delivery processes in the region and Thailand. ๒. To strengthen health economics research capacity in Thailand and Southeast Asia, particularly with respect to economic analysis and evaluation in the control of tropical diseases. ๓. To encourage research in economic analysis and evaluation of disease control, with special attention to tropical diseases. ๔. To provide advisory and information services, particularly in Southeast Asia and other regions on health economics research. ๕. To foster international research collaboration in health economics on a global level. บคุ ลากรในศูนย์ฯ (เฉพาะอาจารยแ์ ละนกั วิจยั ) ๙. ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ นายแพทย์ดารุจ อนวิ รรตนพงศ์ ๑๐. นายปรเมศร์ รงั สิพล ๑. ศาสตราจารย์ ดร.ศิรเิ พ็ญ ศุภกาญจนกันติ ๑๑. นางสาวนภาพร ศรเี คลอื บ ๒. รองศาสตราจารย์ ดร.โสตถธิ ร มลั ลิกะมาส ๑๒. รองศาสตราจารย์ ดร.พจมาน พศิ าลประภา ๓. รองศาสตราจารย์ ดร.ชันทาล แฮร์เบอรโ์ ฮลส์ ๑๓. นางสาวภทั ราวดี วฒุ มิ าพรพงศ์ ๔. รองศาสตราจารย.๋ ดร.นพพล วทิ ย์วรพงศ์ ๑๔. นายสริ วิ ชิ ญ์ พันธ์ุศักดิ์ ๕. รองศาสตราจารย์.ดร.กรรณกิ าร์ ดำ� รงคพ์ ลาสทิ ธ์ิ ๑๕. นางสาวแกว้ เจยี ร คณุ วพานิชกลุ ๖. รองศาสตราจารย.์ ดร.ธัชนนั ท์ โกมลไพศาล ๑๖. นางสาวนภัสสร แสนชัย ๗. ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.วาสิลีออส ซกี อ๊ ส ๘. นายชินพรรธน์ สทิ ธกิ รชยาพงษ์ ยกย่องเชิดชเู กยี รติบคุ ลากรแหง่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั ประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ 621

๑๗. นายรชตริฉาด ต่อศิรสิ ขุ ๑๙. นายอาทิตย์ ว่องวทิ ย์การ ๑๘. นายวชั ระ เพชรดนิ ๒๐. นายธนวฒั น์ ปิน่ นราทพิ ย์ ผลงานทนุ วิจัยโดยสรปุ (ย้อนหลัง ๕ ปี) ๒๐๒๑ ๑. Komonpaisarn, T. (2021). The study of gambling addiction among Thai gamblers using the Thai Gambling Behavior and Impact Survey of 2019. Center for Gambling Studies, Faculty of Economics, Chulalongkorn University. ๒. Ministry of Public Health of Thailand, World Health Organization (WHO), United Nations Development Programme (UNDP), and United Nations Inter-Agency Task Force (UNIATF) on the Prevention and Control of NCDs. (2021). Prevention and control of non-communicable diseases in Thailand: The case for investment. WHO and UNDP. [Witvorapong, N., research team member] ๓. Sriratanaban, J., Woratanarat, T., Witvorapong, N., Ngamkiatpaisarn, S., Woratanarat, P., Jirathananuwat, A., Ocharos, L., Thongmuang, J., & Wimuttichai, V. (2021). Responses to and preparation for the COVID-19 crisis in the Thai health system: Hospital operations and socioeconomic impacts within the health system. Health Systems Research Institute. ๔. Supakankunti, S., Perngparn, U., Areesantichai, C., & Sitikornchayarpong, C. (2021). Estimating the social and economic losses of narcotics: Phase II. Office of the Narcotics Control Board, Ministry of Justice. ๕. Supakankunti, S., & Sitikornchayarpong, C. (2021). Assessment of the project entitled Prototype Development Project to Convey Effective District Health System Management to Achieve Sustainable Development Goals (DHS StartUP Project). Thai Health Promotion Foundation. ๖. Supakankunti, S., Phisalprapa, P., & Sitikornchayarpong, C. (2021). An analysis of administration in medical compensation for health insurance of stateless people. Division of Health Economics and Health Security, Ministry of Public Health. ๗. Witvorapong, N. (2021). Longevity expectations, death anxiety and consumer behaviors: A case study of Bangkok. KhonThai 4.0 (under National Research Council of Thailand). ๘. ศภุ กาญจนกนั ต,ิ ศ., แฮรเ์ บอรโ์ ฮลส,์ ช., & รตสิ ขุ พมิ ล, ว. (๒๐๒๒). การพฒั นาการทอ่ งเทยี่ วเชงิ สรา้ งสรรคอ์ ยา่ งยง่ั ยนื ศก.ยอ่ ย ศกึ ษาทรพั ยากรและศกั ยภาพการทอ่ งเทยี่ วเชงิ สขุ ภาพแบบสรา้ งสรรค์ จ.นา่ น. ทนุ จฬุ าฯ ๒๐๐ ป-ี วจิ ยั สถาบนั เอเซยี -จฬุ าฯ. ๒๐๒๐ ๑. Damrongplasit, K., & Komonpaisarn, T. (2020). The study of relationship between family structure, child healthcare utilization, and child development outcome among children under five years old in Thailand. Thai Health Promotion Foundation. ๒. Herberholz, C. (2020). Statelessness, nationalitylessness and mental health among the Lahu, Akha and Tai-Yai in Chiang Mai province, Northern Thailand, supported by the Ratchadaphiseksomphot Fund, Chulalongkorn University. 622 ยกย่องเชิดชูเกียรตบิ ุคลากรแห่งจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๖๔

๓. Komonpaisarn, T. (2020a). The estimation of economic cost of tobacco smoking in Thailand, 2017. The Tobacco Control Research and Knowledge Management Center (TRC), Faculty of Medicine Ramathibodi Hospital, Mahidol University under the Thai Health Promotion Foundation. ๔. Komonpaisarn, T. (2020b). The social cost of gambling in Thailand, 2019. Center for Gambling Studies and Office of the Thai Health Promotion Foundation (ThaiHealth). ๕. Supakankunti, S. (2020). Rapid capacity needs assessment report on sustainable financing and resilient systems for health security in the East Asia and Pacific region. World Bank. ๖. Supakankunti, S., Pongpanich, S., Herberholz, C., and Phisalprapa, P. (2020). โครงการวิเคราะห์ ขอ้ มลู แนวทางและหลักเกณฑใ์ นการพจิ ารณาและกำ� หนดชุดสทิ ธิประโยชนข์ องระบบหลักประกนั สุขภาพ. กองเศรษฐกิจสขุ ภาพ และหลกั ประกนั สขุ ภาพ สำ� นักงานปลัดกระทรวง. ๗. Witvorapong, N. (2020). End-of-life decisions and Thai society: Lessons from experiences of other countries. KhonThai 4.0 (under National Research Council of Thailand). ๘. Yothasamut, J., Witvorapong, N., Khantha, S. & Uansri, S. (2020). External evaluation of the ‘Health Promotion in the Health Service System’ Plan (Plan 12). Thai Health Promotion Foundation. ๙. ศุภกาญจนกันติ, ศ., & พิศาลประภา, พ. (๒๕๖๓). การวิเคราะห์ความค้มุ คา่ การบรกิ ารทางการแพทยเ์ พอ่ื ก�ำหนด รายการชดุ สทิ ธปิ ระโยชน์ และชดุ สทิ ธปิ ระโยชนฯ์ เสรมิ ในระบบประกนั สขุ ภาพภาครฐั ดว้ ยอวยั วะเทยี มและอปุ กรณท์ างการแพทย.์ กองเศรษฐกจิ สขุ ภาพและหลักประกนั สุขภาพ สนงปลดั กระทรวง. ๒๐๑๙ ๑. Aung, M., Moolphate, S., Yuasa, M., Aung, T., Koyanagi, Y., and Supakankunti, S. (2019). Enhancing family based long term care with a model of community integrated intermediary care (CIIC) service for Thai older adults in Chiang Mai, Thailand research to accelerate Universal Health Coverage (UHC) in light of population ageing in ASEAN countries. WHO funded Project. ๒. Chaiyasong, S., Witvorapong, N., Jankotkeaw, J., Markchang, K., & Tobgay, T. (2019). Review of alcohol pricing and taxation policies in Bhutan. WHO-SEARO. ๓. Supakankunti, S., Herberholz, C., Damrongplasit, K., Witvorapong, N., Komonpaisarn, T., and 17 other researchers (2019) ผลการศกึ ษาความเป็นไปไดแ้ ละพัฒนากรอบการประเมนิ ผลลัพธแ์ ละผลกระทบ ในวาระครบ ๒๐ ปี สสส.. สำ� นักงานกองทุนสนบั สนุนการสร้างเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.). ๔. ศภุ กาญจนกันติ, ศ., Herberholz, C., และ เอยี่ มเพชราพงศ์, ธ. (๒๕๖๒) โครงการจ้างทป่ี รกึ ษาศกึ ษาความ เปน็ ไปไดข้ องโครงการ PPP (Public-Private Partnership) การสรา้ งอาคารศนู ยก์ ารแพทย์ ๑๘ ชน้ั บรเิ วณอาคารเวชปฏบิ ตั คิ รอบครวั กบั อาคารศนู ยก์ ารแพทย์ศกึ ษาท่มี ีความประสงค์ให้เอกชนร่วม ลงทุน ๕. ศุภกาญจนกันติ, ศ., Herberholz, C., และ เอ่ียมเพชราพงศ,์ ธ. (๒๕๖๒) การศกึ ษาวิเคราะหโ์ ครงการให้ เอกชน รว่ มลงทุนก่อสร้างอาคารสนบั สนนุ และบรกิ ารทางการแพทย์ขนาด ๑๗ ชน้ั โรงพยาบาลระยอง ๖. ศุภกาญจนกันต,ิ ศ., อารียส์ นั ติชยั , จ., ตรรี ัตน์, น., & พ่งึ ปาน, อ. (๒๕๖๒). ประเมินความสญู เสียทางเศรษฐกิจและ สงั คมอนั เนอื่ งมาจากยาเสพติด. ส�ำนกั งานคณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ ป.ป.ส. ระยะท่ี ๑. ยกยอ่ งเชดิ ชเู กยี รตบิ ุคลากรแหง่ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๖๔ 623

๒๐๑๘ ๑. Supakankunti, S., Herberholz, C., & Komonpaisarn, T. (2018) Changes in the economic structure: Impacts on national health insurance system, access to health services, human security and long-term elderly care in Thailand. Bangkok: Chula Unisearch. ๒. วิทยว์ รพงศ์, น., ศภุ กาญจนกันต,ิ ศ., & โกมลไพศาล, ธ. (2561). โครงการจัดท�ำฐานขอ้ มลู บรกิ ารสุขภาพ. สา นกั งานนโยบายและยุทธศาสตรก์ ารคา้ กระทรวงพาณิชย.์ ๓. ศภุ กาญจนกนั ต,ิ ศ., & ดารงคพ์ ลาสทิ ธ,ิ์ ก. (2561). โครงการสำ� รวจนกั วชิ าการและนกั วจิ ยั ดา้ นเศรษฐศาสตรส์ ขุ ภาพ และการเรียนการสอนดา้ นเศรษฐศาสตร์สขุ ภาพ ในประเทศไทย. สานักงานกองทนุ สนบั สนุนการสร้างเสรมิ สุขภาพ (สสส.). ๔. ศภุ กาญจนกนั ต,ิ ศ., Herberholz, C., และ เอีย่ มเพชราพงศ,์ ธ. (2561) โครงการจ้างที่ปรึกษาเพ่ือศกึ ษาความเปน็ ไปได้ในการให้เอกชนรว่ มลงทุนส�ำหรบั ศนู ยก์ ารแพทยเ์ ฉพาะทาง (Specialized Medical Center) ศูนย์รังสรี กั ษา โรงพยาบาล สมทุ รสาคร ๒๐๑๗ ๑. Chaiwat, T., Tambunlertchai, K., Witvorapong, N., Lekfuangfu, N. W., Potipiti, T., Sujarittanonta, T., Sampattavanija, S., & Manprasert, S. (2017). Measuring Social Norms and Social Preferences using Lab Experiments. Center for Behavioral and Experimental Economics, Chulalongkorn University. ๒. Herberholz, C., & Supakankunti, S. (2017). The first decade of ART integration into Thailand’s Universal Health Coverage Scheme: Lessons learned and comparisons for the national immunization program (funded by ThinkWell). ผลงานตีพมิ พ์ และผลกระทบ (ยอ้ นหลงั ) ๕ ปี จ�ำนวนเร่อื ง จำ� นวนบทความ รวม ปี ๒๐๒๑ ปี ๒๐๒๐ ปี ๒๐๑๙ ปี ๒๐๑๘ ปี ๒๐๑๗ ๑๘ Q1 ๕ ๕ ๔ ๒ ๒ ๑๑ ๓ Q2 ๕ ๑ ๓ ๑ ๑ Q3 ๒ ๑ การผลติ บัณฑติ นิสิต ปีการศึกษา รวม ปี ๒๕๕๙ ปี ๒๕๖๐ ปี ๒๕๖๑ ปี ๒๕๖๒ ปี ๒๕๖๓ ๒๒ ๓ ปรญิ ญาโท ๕ คน ๘ คน ๙ คน ๑ ปริญญาเอก ๑ คน ๑ คน ๑ คน หลังปริญญาเอก ๑ คน 624 ยกย่องเชดิ ชูเกยี รติบุคลากรแห่งจฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย ประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๖๔

ผลกระทบ (impact) ทม่ี ีตอ่ สงั คม/การใชป้ ระโยชน์ • Institutional Facebook page (https://www.facebook.com/cheeconchula/) • Presentations, invited talks, etc. • Appointment to national committees • Peer reviews (for national and international journals) ความร่วมมอื กบั หน่วยงานภายนอก หนว่ ยงานในประเทศ ๑. ส�ำนักงานกองทนุ สนบั สนนุ การวจิ ยั (ส.ก.ว.) ๒. โรงพยาบาลสมุทรสาคร ๓. โรงพยาบาลหาดใหญ่ ๔. สำ� นักงานกองทุนสนับสนุนการสรา้ งเสริมสขุ ภาพ (สสส.) ๕. ส�ำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การคา้ กระทรวงพาณชิ ย์ ๖. กองเศรษฐกจิ สุขภาพและหลกั ประกนั สขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสขุ ๗. สำ� นกั งานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรงสาธารณสุข ๘. ส�ำนักงานหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) หนว่ ยงานต่างประเทศ Member of the Asia Pacific Network for Health Systems Strengthening (ANHSS) and Public Private Partnership cluster. Other participating institutions include the Chinese University of Hong Kong, Asian Institute of Management (AIM) of the Philippines, China National Health Development Research Center (CNHDRC), and Gadjah Mada University (UGM) of Indonesia. สถานทตี่ ิดตอ่ คณะเศรษฐศาสตร์ โทรศัพท์ ๐-๒๒๑๘-๖๒๘๑ โทรสาร ๐-๒๒๑๘-๖๒๐๑ E-mail: [email protected] ยกยอ่ งเชดิ ชเู กียรติบคุ ลากรแห่งจฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๖๔ 625

รางวัลหน่วยปฏิบัตกิ ารวจิ ยั (RU) ท่ีมผี ลงานดีเดน่ ชอื่ หนว่ ย หนว่ ยปฏิบัติการวจิ ยั ความผดิ ปกตขิ องกระดกู Skeletal Disorders Research Unit หวั หนา้ หน่วย รองศาสตราจารย์ ดร.สุธาดา ลอตินนั ทน์ สังกัด คณะทนั ตแพทยศาสตร์ 626 ยกย่องเชดิ ชูเกยี รตบิ ุคลากรแห่งจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย ประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๖๔

ความเป็นมาของหนว่ ยฯ หน่วยปฏิบัติการวิจัยความผิดปกติของกระดูกได้ถูกก่อต้ังข้ึนใน พ.ศ. ๒๕๖๑ หลังจากประสบความส�ำเร็จในงานวิจัย ท่โี ดดเด่นจากการรวมกลุ่มนกั วิจยั ทีเ่ ช่ยี วชาญจากหลายสาขาของกล่มุ วิจยั (STAR) ตัง้ แต่ พ.ศ. ๒๕๕๘ วสิ ัยทัศนข์ องหนว่ ยฯ หน่วยปฏิบัติการวิจัยมีแนวทางในการแก้ปัญหาสุขภาพในเร่ืองความผิดปกติของกระดูก เช่น ภาวะกระดูกพรุน โรคข้อเข่าเส่ือม เพ่ือน�ำไปสู่ความเข้าใจของปัจจัยพันธุกรรมท่ีเป็นสาเหตุของโรค โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อการป้องกันและ รกั ษาโรค โดยมเี ครือข่ายความร่วมมอื ทงั้ ระดับชาติ และนานาชาตใิ นการแลกเปล่ียนความรู้ เป้าหมายของหน่วยฯ หน่วยปฏิบัติการวิจัยของเรามีเป้าหมายเพ่ือพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ให้ครอบคลุมถึงการวิจัยเชิงลึกที่ทันต่อสถานการณ์ ปจั จุบันและเทคโนโลยที ีม่ คี ณุ ภาพสงู และเผยแพรง่ านวจิ ัยในระดับนานาชาติ บุคลากรในหนว่ ยฯ (เฉพาะอาจารย์และนกั วิจยั ) ๑. รองศาสตราจารย์ ดร.สธุ าดา ลอตนิ ันทน์ ๒. รองศาสตราจารย์ ทันตแพทย์ ดร.จรี สั ย์ สจุ ริตกลุ ๓. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ แพทยห์ ญิง ดร.รังสมิ า เหรยี ญตระกลู ๔. ดร.ปาริชาติ โตจริง ๕. นางสาวภญิ ญดา โพธ์อิ น้ ๖. นายจิณณธรรม เพช็ ร์คง ผลงานวิจัยโดยสรุป (ย้อนหลัง ๕ ปี) ผลงานวิจยั เก่ยี วขอ้ งกบั โปรตนี โรคทางพันธุกรรมทีท่ �ำใหเ้ กิดโรคกระดูกพรุน และโรคขอ้ เข่าเสอื่ ม ๑. โปรตีนคาเทปซินเค การให้นมลูกมีผลเหนี่ยวน�ำให้เกิดการสลายกระดูกเพ่ือให้มีแคลเซียมอย่างเพียงพอไปให้ลูกซ่ีง กระบวนการน้ีเกี่ยวข้องกับเซลล์กระดูกออสติโอไซต์และการสลายแอ่งฝังตัวของออสติโอไซต์ กลไกที่ออสติโอไซต์ท�ำให้เกิด การสูญเสียกระดูกยงั ไม่ทราบแน่ชดั ออสตโิ อไซตม์ กี ารแสดงออกของยนี ที่เหมอื นกบั เซลล์สลายกระดกู ได้แก่ ยนี คาเทปซนิ เค ซึ่ง ยนี นจ้ี ะมกี ารแสดงออกเพม่ิ ขน้ึ ในชว่ งใหน้ มลกู จากการศกึ ษาพบวา่ การขาดคาเทปซนิ เคในออสตโิ อไซตช์ ว่ ยปอ้ งกนั การเพม่ิ ขนาด ของแอ่งฝังตัวของออสติโอไซต์ การสูญเสียกระดูกฟองน้�ำและกระดูกทึบ การลดความแข็งของกระดูกท่ีเกิดขึ้นในช่วงให้นมลูก การขาดคาเทปซินเคในออสติโอไซต์ยังเพ่ิมระดับพาราไธรอยด์รีเรสเตดเปปไทด์ฮอร์โมน ป้องกันการลดระดับของพาราไธรอยด์ ฮอรโ์ มน และเพมิ่ ระดบั ของวติ ามนิ ดใี นเลอื ดเพอ่ื รกั ษาระดบั ของแคลเซยี มผา่ นทางนำ�้ นมไปชว่ ยพฒั นาการเจรญิ เตบิ โตของกระดกู ในลกู นอ้ ย ๒. โรคเอสแอลอี ผูป้ ว่ ยโรคลูปัสมคี วามเสย่ี งสงู เพิ่มขนึ้ ตอ่ การสลายของกระดูกเบา้ ฟัน (alveolar bone loss) เนือ่ งจาก ภาวะปริทันต์อักเสบซึ่งอาจเป็นผลมาจากการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อเช้ือแบคทีเรียในช่องปากและการอักเสบ ในการ ศกึ ษาคร้ังนีม้ ีวัตถุประสงค์เพอ่ื ศึกษาว่ายายบั ยัง้ TNF-α สามารถปอ้ งกนั การสลายของกระดูกขากรรไกรล่างในหนลู ูปัสทขี่ าดยีน FcγRIIb หรือไม่ ผลการศกึ ษาพบวา่ หนอู ายุ ๖ เดือนท่ขี าดยนี FcγRIIb มกี ารลดลงของปรมิ าตรกระดกู ฟองน้ำ� และกระดกู ทึบ แตเ่ ม่ือให้ยา Etanercept ซง่ึ เปน็ ยายับยง้ั TNF-α สามารถเพ่มิ ปรมิ าตรกระดกู ฟองน�้ำ แต่ไมเ่ พิ่มปริมาตรกระดกู ทบึ ในหนูปกติ ยกย่องเชดิ ชูเกียรติบุคลากรแห่งจฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย ประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ 627

และสามารถเพิ่มทั้งปริมาตรกระดูกฟองน�้ำและความหนาของกระดูกทึบในหนูท่ีขาดยีน FcγRIIb Etanercept สามารถเพิ่ม ระดับ PTH ในเลือดของหนูท่ีขาดยีน FcγRIIb อีกด้วย การศึกษาคร้ังน้ีแสดงให้เห็นว่าการขาดยีน FcγRIIb เหน่ียวน�ำให้ เกดิ ภาวะกระดกู บาง ซง่ึ เปน็ ผลมาจากการเพมิ่ ขนึ้ ของ pro-inflammatory cytokines และยา Etanercept มปี ระสทิ ธผิ ลในการ ปอ้ งกนั การสลายของกระดูกขากรรไกรล่างในหนทู ขี่ าดยีน FcγRIIb ดงั น้ัน ยาท่ยี ับยัง้ TNF-α นา่ จะสามารถใชร้ กั ษาการสลาย ของกระดูกขากรรไกรล่างในผู้ปว่ ยลูปสั ท่มี ีภาวะปริทันตอ์ ักเสบได้ ผู้ปว่ ยโรคเอสแอลอี (SLE) มีการสร้าง pro-inflammatory cytokines เพมิ่ ข้นึ น�ำไปส่กู ารเกิดภาวะโรคปรทิ ันต์อักเสบ และการสลายของกระดูกเบ้าฟัน (alveolar bone loss) อย่างไรก็ตามกลไกในการเกิดโรคดังกล่าวยังไม่ทราบแน่ชัด เราได้มี การศึกษาหายีนเป้าหมายใหม่ในการรักษาการสลายกระดูกที่เก่ียวข้องกับโรคลูปัสด้วยวิธีเทคโนโลยีอาร์เอ็นเอซีเควนซ่ิง (RNA-seq) ในหนูจำ� ลองโรคภมู ิคุ้มกนั บกพรอ่ ง ผลการศกึ ษาแสดงใหเ้ หน็ ถึงการแสดงออกของยีนท่แี ตกตา่ งกัน (DEGs) จำ� นวน มาก ซึ่งพบว่ามกี ารแสดงออกเพม่ิ ข้ึน ๒,๗๑๐ ยนี และลดลง ๒,๒๕๒ ยนี ผลวิเคราะหจ์ ากฐานขอ้ มลู GO และ KEGG พบวา่ มี การแสดงออกลดลงของยีนทเี่ กีย่ วขอ้ งกับกระบวนการ osteoclast differentiation, bone mineralization, ossification และ myeloid cell development ยีนทเี่ ก่ียวขอ้ งกับวถิ ีสญั ญาณ Hedgehog, TNFα, NF-κB และ Notch signaling pathway มกี ารแสดงออกลดลงดว้ ยเช่นกนั ทงั้ นี้ยงั พบวา่ ยนี Sufu และ Serpina12 ซ่งึ เป็นยนี ทม่ี ีการแสดงออกลดลง มหี นา้ ทสี่ �ำคญั ต่อ การรักษาสมดลุ ของกระดูก การแสดงออกของ Sufu และ Serpina12 สมั พันธก์ บั Hedgehog signaling proteins การตรวจ สอบด้วยวธิ ี Gene knockdown พบวา่ ยีน Sufu และ Serpina12 เก่ยี วขอ้ งกบั ขบวนการสลายกระดูกและการสรา้ งกระดกู ตาม ล�ำดับ อีกท้ังระดับของยีนในเซลล์สลายกระดูก และเซลล์สร้างกระดูก มีการลดลงในเซลล์ท่ีขาด Sufu และ Serpina12 จาก ผลการศึกษาพบว่าการเปลี่ยนแปลงของวิถีสัญญาณ Hedgehog signaling มีบทบาทส�ำคัญในการเกิดพยาธิสภาพของภาวะ กระดกู บางในหนูจำ� ลองโรคภมู คิ ุ้มกันบกพรอ่ ง ๓. โรคธาลาสซีเมีย ผู้ป่วยโรคธาลาสซีเมียมีภาวะเส่ียงต่อการเกิดโรตไตเรื้อรังซึ่งเก่ียวข้องกับโรคกระดูกพรุนและ โรคปริทันต์ การศึกษาคร้ังนี้มีวัตถุประสงค์เพ่ือประเมินการเปล่ียนแปลงของกระดูกขากรรไกรและกระดูกต้นขาในหนูท่ีตัดยีน เบต้า=โกลบินเพียง ๑ อัลลีลหลังจากท่ีตัดไต ๕/๖ ส่วน หนูธาลาสซีเมียท้ังเพศผู้และเมียมีภาวะซีด ผลเลือดตรวจพบค่ายูเรีย ไนโตรเจน ครเี อตินนี แคลเซยี ม และฟอสฟอรัสปกติ หลังตัดไตมีผลท�ำให้ระดับของยูเรยี ไนโตรเจนในเลือดเพิ่มขึน้ ท้งั ในหนปู กติ และหนูที่เปน็ โรคธาลาสซเี มีย โดยหนูเพศผู้ที่เป็นโรคธาลาสซีเมยี มรี ะดับสงู ขึ้นมาก ระดับของครเี อตินนี เพ่ิมข้ึนในหนปู กติที่ไม่ใช่ ธาลาสซีเมียหลังตัดไตหนูธาลาสซีเมียท้ังเพศผู้และเมียมีการสูญเสียกระดูกฟองน�้ำในกระดูกขากรรไกรแต่ไม่มีผลต่อกระดูก เนื้อแน่น เมื่อตัดไตท�ำให้ปริมาตรกระดูกฟองน้�ำและความหนาของกระดูกเนื้อแน่นลดลง หนูธาลาสซีเมียมีความต้านทานต่อ การสูญเสียกระดูกฟองน้�ำหลังตัดไต แต่ความหนาและความหนาแน่นของกระดูกเนื้อแน่นลดลงในหนูเพศผู้ท่ีเป็นธาลาสซีเมีย หลังตัดไต เมื่อพิจารณาถึงกระดูกต้นขาการตัดไตท�ำให้ปริมาตรกระดูกฟองน้�ำลดลงซ่ึงคล้ายกับในกระดูกขากรรไกรในหนูปกติ เท่าน้นั นอกจากนี้ยังเพมิ่ จำ� นวนเซลลส์ รา้ งและสลายกระดูก ระดบั ของ FGF23 และ Erythropoietin ในเลอื ดเพิม่ ขึ้นอยา่ งมาก ในหนูธาลาสซีเมีย เมื่อตัดไตระดับของ Erythropoietin ลดลงโดยท่ี FGF23 ไม่เปล่ียนแปลงในหนูธาลาสซีเมีย เม่ือฉีด Erythropoietin ในหนูปกติมผี ลให้ลดปรมิ าตรกระดูกฟองน�้ำ ดงั นัน้ จากการศึกษานีพ้ บวา่ การลดระดับของ Erythropoietin ใน หนธู าลาสซีเมยี ทต่ี ัดไตนา่ จะมีสว่ นชว่ ยป้องกนั การสญู เสียกระดกู ฟองนำ้� ๔. โรคข้อเข่าเส่ือม เป็นโรคท่ีเกิดจากการเสื่อมสลายของกระดูกอ่อนผิวข้อ อันมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยได้แก่ อายุ นำ�้ หนกั พนั ธกุ รรม หรอื แมแ้ ตก่ จิ วตั รประจำ� วนั ลกั ษณะสำ� คญั ของโรคขอ้ เสอ่ื มนเ้ี กดิ จากการสกึ กรอ่ นหรอื แตกหกั ของกระดกู ออ่ น ผิวข้อ และไปสัมผัสกับเน้ือเย่ือรอบๆข้อ ท�ำให้เกิดการกระตุ้นเซลล์บริเวณน้ันให้สร้าง immune mediators โดยในการศึกษา พบวา่ T cell ทีพ่ บในเนอ้ื เยือ่ ไขมนั ของผูป้ ่วยข้อเข่าเส่ือมน้ันจะสามารถหล่ัง cytokines ไดแ้ ก่ IL-1β, IL-6, TNF-α, IL-17, IFN-γ ซึ่งเป็นตัวหลักที่ท�ำให้เกิดการอักเสบและการท�ำลายกระดูกอ่อน โดย T cell จากเลือดของคนปกติ จะหลั่ง cytokine 628 ยกยอ่ งเชิดชูเกียรติบุคลากรแหง่ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๖๔

เหล่าน้นี อ้ ยมาก ในขณะเดยี วกนั เมอ่ื กระตุ้นเซลล์ด้วย เพปไทด์ proteoglycan ชนดิ aggrecan (เพปไทด์ p263-280) พบวา่ T cell ในข้อของผู้ปว่ ยสามารถหลงั่ IL-6 ไดม้ ากขน้ึ ด้วย นอกจาก cytokine แล้วยังพบว่าในน�ำ้ ไขข้อของผปู้ ่วยยงั มี cytotoxic mediators ได้แก่ soluble FAS, perforin, และ granzyme B ในปริมาณที่สูง โดยสารเหล่าน้ีมีผลต่อการตายของเซลล์ โดยเฉพาะอยา่ งยิง่ การตายของเซลล์กระดกู ออ่ น เมอื่ ศึกษารปู แบบของ ตวั รับบนผิว T cell (T cell repertoire) พบวา่ T cell ทอี่ ยใู่ นเนอื้ เยอ่ื ไขมนั ในขอ้ และในเลอื ดมรี ปู แบบของตวั รบั ทตี่ า่ งกนั แตเ่ มอื่ เทยี บกบั ในเนอ้ื เยอื่ ไขมนั ในขอ้ ของคนไขด้ ว้ ยกนั เองแลว้ พบวา่ รปู แบบของตวั รบั บนผวิ เซลลม์ คี วามใกลเ้ คยี งกนั มาก แสดงใหเ้ หน็ วา่ ในขอ้ ของผปู้ ว่ ยขอ้ เขา่ เสอ่ื มนนั้ อาจจะมปี จั จยั บางอยา่ ง ทท่ี �ำให้เกิดการคัดเลือกรูปแบบของ T cell ได้ ในอีกแง่มุมหนึ่งเซลล์กระดูกอ่อนนอกจากจะควบคุมการสร้างและสลายสารที่เป็นองค์ประกอบหลักในกระดูกอ่อนแล้ว ยงั เปน็ สว่ นสำ� คญั ตอ่ การกระตนุ้ การตอบสนองของระบบภมู คิ มุ้ กนั ดว้ ย โดยพบวา่ เซลลก์ ระดกู ออ่ นสามารถตอบสนองตอ่ เพปไทด์ proteoglycan ชนิด aggrecan (เพปไทด์ p16-31 และ p263-280) ใหส้ ร้าง IL-1β, IL-6, TNF-α รวมท้ังมกี ารแสดงออกของ costimulatory molecule (CD80, CD86) ซ่ึงเป็นคุณสมบัตหิ นง่ึ ของเซลล์ทท่ี �ำหน้าทใ่ี นการน�ำเสนอแอนตเิ จนให้แก่ T cell ซึ่ง เมื่อน�ำเซลล์กระดกู ออ่ นนไี้ ปเล้ยี งร่วมกับ T cell ทีแ่ ยกจากเนือ้ เยื่อไขมันในขอ้ ของผปู้ ่วยข้อเขา่ เสื่อมแล้วพบวา่ เซลล์กระดกู อ่อน สามารถน�ำเสนอเพปไทดใ์ ห้แก่ T cell และท�ำให้เกดิ T cell proliferation ได้ จากการทดลองแสดงให้เห็นว่า proteoglycan ชนดิ aggrecan อาจจะเปน็ แอนตเิ จนตวั หนงึ่ ทม่ี คี วามสำ� คญั ทท่ี ำ� ใหเ้ กดิ การกระตนุ้ เซลลภ์ ายในขอ้ คณุ สมบตั ทิ เี่ ปลยี่ นไปของเซลล์ ภายในขอ้ เหล่าน้ีล้วนส่งผลให้เกดิ การสลายกระดกู ออ่ นทม่ี ากขน้ึ และมีความรนุ แรงของโรคมากข้ึนดว้ ย ผลงานตพี ิมพ์ และผลกระทบ (ยอ้ นหลงั ) ๕ ปี จำ� นวนเรื่อง จ�ำนวนบทความ รวม ๓๑ ปี ๒๕๖๐ ปี ๒๕๖๑ ปี ๒๕๖๒ ปี ๒๕๖๓ ปี ๒๕๖๔ มี impact factor ๔ ๕ ๔ ๕ ๑๓ ไม่มี impact factor - - - - - ผลงานตีพิมพ์ ๑๒ ผลงาน ยกย่องเชดิ ชูเกียรตบิ คุ ลากรแหง่ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ 629

การอ้างอิง ๒๑๖ ครงั้ การผลติ บณั ฑติ นิสติ ปีการศกึ ษา รวม ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ ๒๕๖๐ ๒๕๖๑ ๒๕๖๒ ๑๑ ปรญิ ญาโท ๓ ๓ ๓ ๑ ๑ ๖ ๒ ปริญญาเอก - - - ๓ ๓ หลงั ปรญิ ญาเอก (ถ้าม)ี - ๑ - ๑ ผลกระทบ (impact) ทีม่ ีต่อสงั คม/การใชป้ ระโยชน์ ทำ� ให้เกดิ แนวความคิดท่จี ะนำ� ผลการวิจยั ไปประยกุ ต์ใช้ทางการแพทย์ สามารถเสนอแนวความคิดในการพัฒนายาเพอ่ื ใช้ แก้ปญั หาเรื่องกระดกู พรุนและการเกิดพงั ผืดในผ้ปู ว่ ยโรคไตเร้ือรัง และเพม่ิ โอกาสของนกั วจิ ยั ไทยร่นุ ใหมใ่ นการเรียนร้เู ทคโนโลยี สมยั ใหม่ 630 ยกย่องเชดิ ชูเกยี รตบิ ุคลากรแห่งจุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๖๔

ความร่วมมอื กับหนว่ ยงานภายนอก หนว่ ยงานในประเทศ หนว่ ยปฏบิ ตั กิ ารวจิ ยั รว่ มมอื กบั ศาสตราจารยน์ ทที พิ ย์ กฤษณามระ ภาควชิ าสรรี วทิ ยา และ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.สมยศ ศรีดรุ ง ภาควชิ ากายวิภาคศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหดิ ล หน่วยงานตา่ งประเทศ หน่วยปฏิบัติการวิจัยร่วมมือกับ Prof. Dr. Roland Baron ณ. Department of Oral Medicine, Infection and Immunity, Harvard School of Dental Medicine, USA และ Assoc. Prof. Matthew B. Greenblatt ณ. Department of Pathology and Laboratory Medicine, Weill Cornell Medicine, USA สถานท่ตี ดิ ตอ่ ภาควชิ าสรรี วทิ ยา คณะทนั ตแพทยศาสตร์ โทรศัพท์ ๐๘-๖๓๖๙-๔๑๕๔ โทรสาร ๐-๒๒๑๘-๘๖๙๑ E-mail: [email protected] ยกย่องเชิดชูเกยี รติบคุ ลากรแห่งจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๖๔ 631

รางวัลหนว่ ยปฏิบัตกิ ารวิจัย (RU) ท่มี ผี ลงานดเี ดน่ ชอ่ื หนว่ ย หนว่ ยปฏบิ ัติการวจิ ัยระบบโครงข่ายไฟฟา้ สมารท์ กรดิ Smart Grid Research Unit (SGRU) หวั หน้าหน่วย รองศาสตราจารย์ ดร.แนบบุญ หุนเจรญิ สังกัด ภาควชิ าวิศวกรรมไฟฟา้ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ 632 ยกย่องเชดิ ชเู กยี รตบิ คุ ลากรแหง่ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๖๔

ความเป็นมาของหนว่ ยฯ ทิศทางการพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าแบบสมาร์ทกริด ได้รับความสนใจทั่วโลก ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๕๓ เพื่อเพม่ิ ความเชอ่ื ถอื ไดแ้ ละเพิ่มประสทิ ธิภาพในทุกสว่ นของระบบโครงข่ายไฟฟ้า และเพือ่ รองรบั การเชอื่ มโยง ก�ำลงั ผลิตไฟฟา้ จากพลังงานหมุนเวียน ให้ไดใ้ นปริมาณสูง สง่ ผลต่อการชว่ ยลดการปลอ่ ยกา๊ ซเรือนกระจก ทั้งนี้ ในประเทศไทย กระทรวงพลงั งาน โดย สำ� นักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และการไฟฟ้าท้ัง ๓ แหง่ ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) จดั ท�ำแผนท่นี �ำทางการพัฒนาระบบโครงขา่ ยไฟฟา้ สมาร์ทกริด (Smart Grid Roadmap) ของประเทศ และของแต่ละหน่วยงาน โดยมีคณาจารย์และนกั วจิ ัยจากภาควชิ าวศิ วกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ และ จากสถาบันวจิ ยั พลงั งาน จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย เขา้ ไปมีสว่ นรว่ มในการจดั ทำ� แผนทนี่ ำ� ทางดังกลา่ ว พรอ้ ม กบั ไดด้ ำ� เนนิ การวจิ ยั ในหวั ขอ้ ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ระบบโครงขา่ ยไฟฟา้ สมารท์ กรดิ มาอยา่ งตอ่ เนอื่ ง รว่ มกบั หนว่ ยงาน ภายนอกที่เป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ ต่อมาจึงได้จัดต้ังขึ้นเป็น หน่วยปฏิบัติการวิจัยระบบโครงข่ายไฟฟ้า สมาร์ทกริด (Smart Grid Research Unit: SGRU) โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากส�ำนักบริหารวิจัย จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ต้งั แต่ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๖๑ จนถงึ ปจั จบุ นั วิสยั ทศั นข์ องหนว่ ยฯ เพ่ือพัฒนาให้เป็นศูนย์เช่ียวชาญชั้นน�ำในระดับภูมิภาค ในด้านเทคโนโลยีและการประยุกต์ใช้ระบบ โครงข่ายไฟฟ้า สมาร์ทกริด เพ่ือการบูรณาการก�ำลังผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy: RE) และการเพ่ิมประสิทธิภาพการผลิตและการใช้พลังงาน (Energy Efficiency: EE) โดยค�ำนึงถึง ปจั จยั ท้ังในด้านกายภาพ ดา้ นไซเบอร์ และมิติทางสังคม เพ่ือชว่ ยตอบโจทย์การพฒั นาอย่างย่งั ยืน เป้าหมายของหนว่ ยฯ • เพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรด้านการวิเคราะห์ ออกแบบ และพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้า สมารท์ กริด ให้แกป่ ระเทศ • เพิ่มคุณภาพและปริมาณผลงานวิจัย/ ผลงานวิชาการ ด้านระบบโครงข่ายไฟฟ้าสมาร์ทกริดที่จะส่ง ผลกระทบส�ำคญั เปน็ ประโยชนต์ ่อสังคม ใหแ้ กม่ หาวทิ ยาลัย • สรา้ งความรว่ มมือกับหนว่ ยงานท่ีเป็นหุ้นสว่ นเชงิ กลยทุ ธ์ ทงั้ ในและต่างประเทศ • ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานช้ันน�ำในระดับนานาชาติ เพื่อช่วยพัฒนาระบบ โครงข่ายไฟฟ้าสมาร์ทกรดิ ในประเทศไทย ยกยอ่ งเชดิ ชเู กียรตบิ ุคลากรแหง่ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๖๔ 633

บุคลากรในหนว่ ยฯ (เฉพาะอาจารย์และนักวจิ ยั ) ๑. รองศาสตราจารย์ ดร.แนบบุญ หุนเจริญ (หวั หน้าหนว่ ยฯ) ๒. รองศาสตราจารย์ ดร.วนั เฉลมิ โปรา (รองหัวหน้าหนว่ ยฯ) ๓. ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.สมบรู ณ์ แสงวงคว์ านิช (ผ้รู ว่ มหนว่ ยฯ ๑) ๔. รองศาสตราจารย์ ดร.จติ โกมทุ สง่ ศริ ิ (ผรู้ ว่ มหนว่ ยฯ ๒) ๕. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ชาญณรงค์ บาลมงคล (ผ้รู ่วมหนว่ ยฯ ๓) ๖. รองศาสตราจารย์ ดร.สรุ ชัย ชยั ทัศนีย์ (ผู้รว่ มหนว่ ยฯ ๔) ๗. อาจารย์ ดร.พิสิษฐ์พล จิรพงศานานุรกั ษ์ (ผรู้ ว่ มหนว่ ยฯ ๕) ๘. รองศาสตราจารย์ ดร.มณศิ า พพิ ัฒนสมพร (ผรู้ ่วมหนว่ ยฯ ๖) ผลงานวจิ ยั โดยสรปุ (ยอ้ นหลงั ๔ ป)ี ผลงานตีพิมพ์ปีที่ ๑ ๑. Srivorakul, Anuwat, and Surapong Suwankawin. \"A synchro-perspective-based high- frequency voltage injection method for position-sensorless vector control of doubly fed induction machines.\" IEEE Transactions on Industry Applications 54, no. 4 (2018): 3326-3337. ๒. Nguyen, Anh Thi, Surachai Chaitusaney, and Akihiko Yokoyama. \"Optimal strategies of siting, sizing, and scheduling of BESS: voltage management solution for future LV network.\" IEEJ Transactions on Electrical and Electronic Engineering 14, no. 5 (2019): 694-704. ดูผลงานตีพมิ พป์ ที ี่ ๒-๔ เพิ่มเติมได้ท่ี shorturl.at/hpqyR ผลงานตีพิมพ์ และผลกระทบ (ยอ้ นหลงั ) ๕ ปี จ�ำนวนเร่ือง จำ� นวนบทความ รวม ปี ๒๕๖๐ ปี ๒๕๖๑ ปี ๒๕๖๒ ปี ๒๕๖๓ ปี ๒๕๖๔ มี impact factor - ๒ ๕ ๑๐ ๒๖ ๙ ๒๘ ไมม่ ี impact factor - - ๑๕ ๑๓ - 634 ยกย่องเชิดชูเกียรตบิ คุ ลากรแห่งจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๖๔

ผลงานตีพิมพ์ ๕๔ ผลงาน การอา้ งองิ ๒๘๗ คร้ัง การผลิตบณั ฑติ นสิ ิต ปกี ารศกึ ษา รวม ปี ๒๕๖๐ ปี ๒๕๖๑ ปี ๒๕๖๒ ปี ๒๕๖๓ ปี ๒๕๖๔ ๑๑ ปรญิ ญาโท ๑ ๑ ๑ ๕ ๓ ๑ ๑ ปริญญาเอก - - - - ๑ หลังปริญญาเอก (ถา้ ม)ี - - - - ๑ ยกย่องเชิดชูเกียรติบุคลากรแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ 635

ผลกระทบ (impact) ทม่ี ีตอ่ สงั คม/การใช้ประโยชน์ การน�ำผลการศึกษาวิจัยไปจัดฝึกอบรมเพื่อพัฒนาขีดความสามารถให้แก่บุคลากรจากภาครัฐหรือ รฐั วิสาหกจิ ภาคเอกชน/ภาคอตุ สาหกรรม สถาบนั การศึกษาวจิ ยั รวมถึงเปิดใหผ้ สู้ นใจท่ัวไปมโี อกาสเขา้ รับการ ฝกึ อบรม โดยจดั การฝกึ อบรมรว่ มกบั ศนู ยเ์ ชยี่ วชาญพเิ ศษเฉพาะดา้ นเทคโนโลยไี ฟฟา้ กำ� ลงั คณะวศิ วกรรมศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั โครงการวจิ ยั หรอื โครงการบรกิ ารวชิ าการทที่ ำ� ใหแ้ ก่ หรอื รว่ มกบั หนว่ ยงานจากภาคอตุ สาหกรรม ภาครฐั และภาคเอกชน พร้อมกบั การถา่ ยโอนเทคโนโลยี (Technology Transfer) เพื่อสรา้ งมูลค่าทางเศรษฐกจิ เชน่ ระบบการจดั การพลงั งานสำ� หรบั อาคาร (CU-BEMS) ถา่ ยทอดให้แก่ บริษัท เอน็ ดอี าร์ โซลูชนั่ (ประเทศไทย) การแบ่งปันข้อมูล (Data Sharing) ลกั ษณะการใช้พลงั งานไฟฟ้าของอาคาร แก่สาธารณะ เพื่อใช้สำ� หรบั การ ศึกษาวิจยั ด้านระบบการจัดการพลังงานสมยั ใหม่ โดยใชข้ ้อมลู เป็นฐาน โดยนสิ ติ นักศกึ ษา นักวิจัย และผ้สู นใจ ทัว่ ไป สามารถดาวน์โหลดขอ้ มูลไดผ้ ่านเว็บไซต์ https://sgrudata.github.io จดั ทำ� คอรส์ เรยี นออนไลน์ CHULA MOOC รายวชิ า Introduction to Smart Grid เพอื่ สง่ เสรมิ การเรยี น รู้ตลอดชีวิต เข้าถึงไดท้ ุกที่ ทุกเวลา ส�ำหรับผูส้ นใจการพัฒนาและการประยุกต์เทคโนโลยีดา้ นสมาร์ทกรดิ โดย ไดร้ ับการสนบั สนุนจากศูนย์นวัตกรรมการเรยี นรู้ จฬุ าฯ ความร่วมมือกับหนว่ ยงานภายนอก หน่วยงานในประเทศ ๑. บริษัท ซเี มนส์ (SIEMENS) จ�ำกัด: หวั ข้อ Cooperation on the usage of SINCAL Software for the sole purpose of education on ‘Power System Planning and Analytics’ ๒. ศนู ยเ์ ทคโนโลยอี เิ ลก็ ทรอนกิ สแ์ ละคอมพวิ เตอรแ์ หง่ ชาติ (NECTEC): หวั ขอ้ Internet of Things (IOT) Academic Network Partnership 636 ยกย่องเชิดชูเกยี รติบคุ ลากรแห่งจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๖๔

๓. ฝา่ ยระบบควบคมุ และปอ้ งกนั การไฟฟา้ ฝา่ ยผลติ แหง่ ประเทศไทย: หวั ขอ้ Power System Dynamics, Operation and Control; Wide Area Monitoring System (WAMS) ๔. ฝ่ายควบคุมระบบไฟฟ้าก�ำลัง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย: หัวข้อ Renewable Energy Forecast ๕. Strategic and Operation Aerospace Research Center (SOAR), Geo-Informatics and Space Technology Development Agency (GISTDA): หวั ข้อ ภาพถา่ ยดาวเทียมเพ่อื การประมวลผลเมฆและการ พยากรณก์ ารเคลอ่ื นทข่ี องเมฆ ๖. บริษัท อมิ แพค โซล่าร์ จำ� กัด และบริษัท อมิ แพคท์ โซลา่ ร์ กรปุ๊ (ประเทศไทย) จ�ำกัด: หวั ข้อ การ ประมาณค่าความเข้มแสงอาทิตย์และอุณหภูมิในบริเวณต่างๆ ของประเทศไทย เพื่อใช้ประมาณค่าก�ำลังผลิต ไฟฟ้าจากพลงั งานแสงอาทติ ย์ หนว่ ยงานตา่ งประเทศ ๑. Hawai’i Natural Energy Institute (HNEI), USA: หัวขอ้ Energy Storage for Grid Support, Renewable Energy Integration, Grid Modernization and Resilience ๒. China Electric Power Research Institute (CEPRI), Nanjing, China: หัวข้อ Smart Grid and Renewable Energy Forecast สถานทต่ี ดิ ต่อ หนว่ ยปฏบิ ัติการวิจยั ระบบโครงข่ายไฟฟ้าสมารท์ กรดิ (SGRU) ภาควชิ าวิศวกรรมไฟฟา้ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ โทรศัพท์ ๐-๒๒๑๘-๖๕๒๙ โทรสาร ๐-๒๒๑๘-๖๕๒๙ E-mail: [email protected] ยกยอ่ งเชดิ ชูเกยี รติบุคลากรแห่งจฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๖๔ 637

รางวัลหนว่ ยปฏบิ ัติการวิจยั (RU) ทีม่ ผี ลงานดีเดน่ ชอื่ หน่วย หน่วยปฏิบตั กิ ารวจิ ัยนวตั กรรมวสั ดุก่อสร้าง Innovative Construction Materials Research Unit หวั หน้าหนว่ ย รองศาสตราจารย์ ดร.พิชชา จองววิ ัฒสกุล สงั กดั คณะวิศวกรรมศาสตร์ 638 ยกย่องเชิดชูเกยี รติบุคลากรแห่งจุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๖๔

ความเปน็ มาของหนว่ ยฯ หนว่ ยปฏบิ ตั กิ ารวจิ ยั นวตั กรรมวสั ดกุ อ่ สรา้ งกอ่ ตง้ั ขน้ึ เมอื่ วนั ที่ ๑ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยเนน้ ศกึ ษา วิจัยและพัฒนานวตั กรรมท่ีเกี่ยวข้องกับวัสดุก่อสรา้ ง วิสัยทัศนข์ องหนว่ ยฯ หนว่ ยปฏบิ ตั กิ ารวิจัยนวัตกรรมวสั ดุก่อสร้างได้กำ� หนดพันธกจิ และวสิ ยั ทศั น์ไว้ ๓ ประการ คือ ๑. ผลิตงานวิจัยที่สร้างองค์ความรู้ใหม่ด้านวัสดุก่อสร้างเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการ และสามารถ น�ำไปใช้ประโยชนไ์ ดใ้ นอตุ สาหกรรม ๒. ผลิตบัณฑติ ระดับบัณฑิตศึกษาท่มี คี วามรคู้ วามเชย่ี วชาญเรื่องวัสดกุ อ่ สรา้ ง ๓. เผยแพรอ่ งคค์ วามร้ทู ี่เกย่ี วข้องกบั วสั ดุกอ่ สรา้ งสสู่ งั คม เป้าหมายของหนว่ ยฯ หน่วยปฏิบัติการวิจัยนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างมีเป้าหมายในการผลิตผลงานวิจัยคุณภาพสูงทางด้านวัสดุ กอ่ สรา้ งและเป็นแหลง่ อ้างองิ ของวงวชิ าการในระดบั นานาชาติ บคุ ลากรในหน่วยฯ ๑. ศาสตราจารย์ ดร.บญุ ไชย สถิตมน่ั ในธรรม ภาควชิ าวศิ วกรรมโยธา คณะวศิ วกรรมศาสตร์ ๒. รองศาสตราจารย์ ดร.วทิ ิต ปานสุข ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ ๓. รองศาสตราจารย์ ดร.พิชชา จองววิ ฒั สกลุ ภาควิชาวศิ วกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ ยกย่องเชิดชเู กยี รติบคุ ลากรแห่งจุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๖๔ 639

ผลงานวจิ ยั โดยสรุป (ย้อนหลัง ๕ ป)ี ใน ๔ ปีท่ีผ่านมา หน่วยปฏิบัติการวิจัยนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างได้ตีพิมพ์ผลงานวิจัยในวารสารวิชาการ ระดับนานาชาตใิ นกลุ่มอันดบั สงู สดุ ร้อยละ ๑๐ (Top 10%) จำ� นวน ๒๐ บทความ และในวารสารวชิ าการใน กล่มุ อันดับสูงสดุ ร้อยละ ๒๕ (Quartile ๑) อีกจ�ำนวน ๔ บทความ โดยคลอบคลมุ หัวขอ้ วิจยั ดงั ตอ่ นี้ • คอนกรีตทผี่ ลติ จากของเหลอื ใช้จากอตุ สาหกรรม/ขยะพลาสติก • คอนกรตี ซอ่ มแซมรอยร้าวไดด้ ว้ ยตัวเอง (Self-healing concrete) • จีโอพอลิเมอร์คอนกรีต (Geopolymer concrete) • คอนกรีตเสริมเสน้ ใย (Fiber reinforced concrete) • คอนกรีตผสมวสั ดุนาโน (Concrete containing nano materials) • คอนกรตี กนั รังสี (Concrete for radiation shielding) • คอนกรตี จากการพมิ พส์ ามมิติ (3D-printed concrete) • การพัฒนาแผ่นผา้ ใบคอนกรตี (Geosynthetic Cementitious Composite Mat, GCCM) • การเสรมิ ก�ำลงั โครงสร้างคอนกรตี ดว้ ยแท่งพอลิเมอร์เสริมเส้นใย ผลงานตีพิมพ์ และผลกระทบ (ยอ้ นหลัง) ๕ ปี จ�ำนวนเรื่อง จำ� นวนบทความ รวม ปี ๒๕๖๐ ปี ๒๕๖๑ ปี ๒๕๖๒ ปี ๒๕๖๓ ปี ๒๕๖๔ มี impact factor - ๔ ๔ ๖ ๑๔ ๒๘ ๗ ไมม่ ี impact factor - ๑ ๑ ๓ ๒ 640 ยกยอ่ งเชิดชเู กียรตบิ คุ ลากรแห่งจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๖๔

ผลงานตีพิมพ์ ๓๕ ผลงาน การอ้างอิง ๓๕๔ ครั้ง ยกยอ่ งเชดิ ชูเกียรตบิ ุคลากรแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ 641

การผลติ บณั ฑิต นสิ ติ ปกี ารศึกษา รวม ๒๕๕๙ ๒๕๖๐ ๒๕๖๑ ๒๕๖๒ ๒๕๖๓ ๑๙ ปรญิ ญาโท - - ๖ ๖ ๗ ๑ ๘ ปริญญาเอก - - ๑ - - หลงั ปรญิ ญาเอก (ถา้ มี) - - ๒ ๓ ๓ ผลกระทบ (impact) ท่มี ีต่อสงั คม/การใชป้ ระโยชน์ • บุคลากรในหน่วยฯ ไดร้ ่วมกับบรษิ ัทในการพัฒนาผลติ ภัณฑว์ ัสดกุ อ่ สรา้ ง • สร้างบุคลากรวิจัย (นกั วิจัยและนิสติ ) ท่ีมีความรู้ ความเชยี่ วชาญด้านวสั ดุก่อสรา้ ง • บุคลากรในหน่วยฯได้มีส่วนร่วมในการเผยแพร่ความรู้ในรูปแบบของการบรรยาย การเป็นวิทยากร การอบรม และการประชุมวชิ าการ ความรว่ มมือกับหน่วยงานภายนอก หน่วยงานในประเทศ • บริษทั ปูนซิเมนตไ์ ทย จ�ำกัด (มหาชน) • บริษัท ผลิตภัณฑ์และวตั ถกุ ่อสรา้ ง จ�ำกัด • มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น 642 ยกย่องเชิดชเู กียรตบิ ุคลากรแหง่ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๖๔

• มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกลา้ พระนครเหนอื • มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกลา้ ธนบุรี • มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ • มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ • มหาวทิ ยาลยั มหิดล • สำ� นักงานปรมาณูเพ่อื สันติ • ศูนยเ์ ทคโนโลยโี ลหะและวสั ดุแห่งชาติ ส�ำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแหง่ ชาติ หน่วยงานตา่ งประเทศ • British Council (UK) • Tokyo Institute of Technology (Japan) • Waseda University (Japan) • Eindhoven University of Technology (Netherlands) • Industrial University of Ho Chi Minh City (Vietnam) • Tien Giang University (Vietnam) สถานทต่ี ิดตอ่ ภาควิชาวศิ วกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ โทรศพั ท์ ๐-๒๒๑๘-๖๕๗๐ โทรสาร ๐-๒๒๕๑-๗๓๐๔ E-mail: [email protected] ยกย่องเชิดชเู กยี รติบุคลากรแหง่ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๖๔ 643

คนดี ศรีจฬุ าฯ



รางวลั ยกย่องเชดิ ชเู กยี รตบิ ุคลากร สายปฏบิ ัตกิ าร “คนดี ศรจี ุฬาฯ” ประเภทบคุ คล กลมุ่ . (ก) กลุม่ บรหิ ารจดั การระดบั กลาง ประเภทผอู้ �ำนวยการสำ� นกั ผู้อ�ำนวยการฝ่าย หรอื เทียบเทา่ นางปรียานชุ ปันฉิม ต�ำแหน่ง เจา้ หน้าท่ีสำ� นกั งาน ระดับ P๖ ตำ� แหนง่ บริหาร รองผอู้ �ำนวยการ ฝา่ ยบริหาร หนว่ ยงาน ศูนยบ์ ริการสุขภาพแห่งจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั เริ่มปฏบิ ตั งิ านในจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั วนั ท่ี ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ นำ้�หน่งึ มุง่ ม่นั ชูเชิด คิดและท�ำ ใจเดียวกนั ความเป็นเลศิ คณุ ธรรม เพอ่ื สงั คม 646 ยกย่องเชิดชูเกยี รติบคุ ลากรแห่งจฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๖๔

ผลงานท่โี ดดเดน่ (ย้อนหลัง ๓ ปี) พ.ศ. ๒๕๖๑ ระบบเบกิ สวสั ดิการรกั ษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๖๒ ระบบเวชระเบียนดิจิทัล พ.ศ. ๒๕๖๓ ๑) โครงการตรวจคดั กรองโรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (Coronavirus Disease 2019 : COVID-19) ตามมาตรการปอ้ งกันและเฝ้าระวงั การแพร่ระบาดของเช้อื โรค COVID-19 จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๔ ๒) โครงการจามจรุ ี ๙ บรรเทาฝนุ่ ๓) โครงการวัคซีนไขห้ วดั ใหญ่ ๔) โครงการวัคซนี โควดิ -๑๙ เพอ่ื ประชาคมจุฬา คตพิ จน์ท่ยี ดึ ถือในการปฏิบัติงานและการปฏิบัตติ น “CUHC Team Work” การมารวมกันเปน็ จดุ เรม่ิ ต้น การรกั ษารว่ มกนั คอื ความกา้ วหน้า การท�ำงานรว่ มกันคอื ความส�ำเร็จ ปณธิ านความดีทีจ่ ะปฏบิ ตั ิตอ่ ไป ลงมือทำ� ใหด้ ที สี่ ุด ยกย่องเชิดชเู กียรติบุคลากรแห่งจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย ประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ 647

รางวัลยกย่องเชิดชเู กียรติบคุ ลากร สายปฏบิ ตั ิการ “คนดี ศรจี ุฬาฯ” ประเภทบคุ คล กลมุ่ บรหิ ารจดั การระดับกลาง ประเภทผู้อำ� นวยการสำ� นัก ผู้อำ� นวยการฝา่ ย หรือ เทียบเท่า นางวภิ า หอมศิริ ต�ำแหน่ง เจา้ หน้าทบี่ รกิ ารการศึกษา ต�ำแหน่งบรหิ าร ผอู้ �ำนวยการฝา่ ยวชิ าการ หน่วยงาน ฝา่ ยวชิ าการ คณะอกั ษรศาสตร์ เรมิ่ ปฏิบัตงิ านในจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย วันที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๔ น�้ำ หน่งึ มงุ่ มน่ั ชเู ชิด คดิ และท�ำ ใจเดียวกัน ความเปน็ เลิศ คุณธรรม เพอื่ สังคม 648 ยกยอ่ งเชดิ ชเู กียรติบุคลากรแหง่ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั ประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๖๔

ผลงานที่โดดเดน่ (ย้อนหลงั ๓ ปี) พ.ศ. ๒๕๖๑ • วิเคราะห์สถานภาพนสิ ิตใหม่ ระดบั ปริญญาตรี ช้ันปที ี่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๑ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั • คูม่ อื ปฏิบตั ิงานยอดเย่ยี มตามยทุ ธศาสตร์ประจ�ำปี ๒๕๖๑ • คมู่ ือการปรบั ปรงุ หลักสตู รอกั ษรศาสตรบัณฑิต ส�ำหรบั ภาควิชาสาขาวชิ า พ.ศ. ๒๕๖๒ • รางวลั คู่มอื ปฏบิ ัตกิ าร ประเภทดีเดน่ ประจำ� ปี ๒๕๖๒ • คมู่ อื ปฏบิ ตั งิ าน “การศกึ ษาระดบั บณั ฑติ ศกึ ษา คณะอกั ษรศาสตร์ จฬุ าฯ สำ� หรบั อาจารย”์ • คู่มอื ปฏิบัติงาน “การด�ำเนินการเกย่ี วกับการสอบ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ” พ.ศ. ๒๕๖๓ • รางวลั ผลงานพฒั นากระบวนการทำ� งาน ประจ�ำปี ๒๕๖๓ ระดับดี • Infographic แสดงกระบวนการทำ� งานของฝ่ายวิชาการ คติพจนท์ ่ียึดถือในการปฏบิ ัติงานและการปฏิบัติตน ด้านนำ�้ หน่งึ ใจเดียวกนั ความมนี �้ำใจ คอื หวั ใจของการประสานงาน ดา้ นมงุ่ มน่ั ความเปน็ เลิศ บันไดสู่ความส�ำเร็จ ประเมินจากความมุ่งมั่นท่ีแรงกล้า ความฝันท่ีท้าทาย และวิธีการรับมือกับความ ล้มเหลวในชวี ิต ดา้ นชูเชิดคุณธรรม ความสำ� เร็จไมใ่ ชก่ ุญแจสคู่ วามสุข แต่ความสุขต่างหากทีเ่ ป็นกุญแจสคู่ วามส�ำเร็จ ดา้ นคดิ และทำ� เพ่ือสงั คม คนท่ีส�ำเร็จทุกคน คอื คนทีเ่ จอปญั หาแต่แก้ไดส้ �ำเร็จ ปณธิ านความดีทจี่ ะปฏิบตั ติ ่อไป เรยี นรู้สงิ่ ใหม่ ๆ จากการอา่ นหนงั สอื หรือไปทำ� กจิ กรรมจติ อาสาท่ตี วั เองสนใจ ยกยอ่ งเชิดชูเกยี รตบิ ุคลากรแหง่ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั ประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ 649


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook