Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รวมข้อสอบ

รวมข้อสอบ

Published by audamnat.rd, 2020-08-22 08:32:46

Description: รวมข้อสอบที่ผ่านการสอบทานเบื้องต้นแล้ว

Keywords: c8

Search

Read the Text Version

หน้า 101 ชดุ ท่ี 4 1. บริษัทฯ จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทฯ เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2546 แตยังมิไดประกอบการ บริษัทฯ มีรายรับจาก การประกอบกจิ การขายอสงั หารมิ ทรพั ยเ ปน ทางคา หากาํ ไรตง้ั แตว นั ท่ี 4 กมุ ภาพนั ธ 2546 บรษิ ทั ฯ ตอ ง จดทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะภายในกาํ หนดเวลาใด ก. ภายใน 15 วนั นับแตวนั ท่ี 1 มกราคม 2546 ข. ภายใน 15 วนั นบั แตว ันที่ 4 กุมภาพนั ธ 2546 ค. ภายใน 30 วนั นับแตวนั ท่ี 1 มกราคม 2546 ง. ภายใน 30 วนั นบั แตวนั ท่ี 4 กุมภาพนั ธ 2546 อา งองิ : ตามมาตรา 91/12 แหง ประมวลรษั ฎากร ผมู หี นา ทจ่ี ดทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะตอ งยน่ื คาํ ขอจดทะเบยี น ภาษธี รุ กจิ เฉพาะภายใน 30 วนั นบั แตว นั เรม่ิ ประกอบกจิ การ คอื วนั ทเ่ี ริม่ มรี ายได 2. การประกอบกจิ การใดไมต อ งจดทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ก. ผปู ระกอบกจิ การขายหลกั ทรพั ยใ นตลาดหลกั ทรพั ยต ามมาตรา 91/2 (7) ข. การใหกยู มื เงนิ ของบรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลทม่ี ใิ ชธ นาคารพาณชิ ยต ามกฎหมายวา ดว ยธนาคาร พาณชิ ย ซง่ึ ใหก ยู มื เงนิ เปน ครง้ั คราวมาใชก ารประกอบกจิ การเปน ปกตธิ รุ ะ ค. การขายอสังหาริมทรัพยทผี่ ูขายมีไวในการประกอบกิจการ ง. ถูกทุกขอ อา งองิ : ตามมาตรา 91/13 แหง ประมวลรัษฎากร 3. บริษทั ฯ ประกอบกจิ การผลติ อวน แห บริษทั ฯ ไดถ กู การเวนคนื ทด่ี นิ บริษทั ฯ ไดร บั เงนิ คา ทดแทนจากการ คนื ทด่ี นิ 10,000,000 บาท ตอ งเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะอยา งไร ก. บรษิ ทั ฯ ตอ งจดทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะและตอ งนาํ รายรบั 10,000,000 บาท ยน่ื ภ.ธ.40 ณ สาํ นกั งานสรรพากรพน้ื ทส่ี าขาทบ่ี รษิ ทั ฯ ตง้ั อยู ข. บริษทั ฯ ไมต อ งจดทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะแตต อ งนํารายรบั 10,000,000 บาท ยน่ื ภ.ธ.40 ณ สาํ นกั งานสรรพากรพน้ื ทส่ี าขาทบ่ี รษิ ทั ฯ ตง้ั อยู ค. บริษัท ฯ ไมตองจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะแตตองนํารายรับ 10,000,000 บาท ยื่น ภ.ธ.40 ในขณะจดทะเบียนสทิ ธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสงั หารมิ ทรพั ยพ รอ มชาํ ระภาษตี อ เจา หนา ทผ่ี รู บั จดทะเบยี นสทิ ธิ ง. ไมต อ งเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะเนอ่ื งจากมไิ ดข ายอสงั หารมิ ทรพั ยโ ดยมงุ คา หากาํ ไร อา งองิ : ตามคาํ สง่ั กรมสรรพากร ท่ี ป.82/2542 ขอ 3 (5) 4. อตั ราภาษธี รุ กจิ เฉพาะสาํ หรบั กจิ การขายอสงั หารมิ ทรพั ย( รวมภาษสี ว นทอ งถน่ิ ) ก. 1.1 ข. 1.11 ค. 0.11 ง. 3.3 อา งองิ : ตามมาตรา 91/6 แหง ประมวลรษั ฎากร 5. การเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะหากภาษไี มถ งึ จาํ นวนใดไมต อ งเสยี ภาษสี าํ หรบั เดอื นนน้ั ก. 5 บาท ข. 20 บาท ค. 50 บาท ง. 100 บาท อา งองิ : ตามมาตรา 91/17 แหง ประมวลรัษฎากร

หนา้ 102 ชดุ ท่ี 5 1. ผมู ีหนา ทเ่ี สยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะตอ งจดั ทาํ รายงานแสดงรายรบั กอ นหกั รายจา ยและตอ งลงรายการในรายงาน ภายในกาํ หนดเวลาใด ก. 3 วนั ทาํ การนบั แตว นั ทม่ี รี ายรบั ข. 5 วนั ทาํ การนบั แตว นั ทม่ี รี ายรบั ค. 7 วนั ทาํ การนบั แตว นั ทม่ี รี ายรบั ง. 15 วนั ทาํ การนบั แตว นั ทม่ี รี ายรบั อา งองิ : ตามมาตรา 91/14 แหง ประมวลรัษฎากร 2. กิจการที่เกี่ยวกบั กิจการที่อยูในบงั คับเสียภาษีธรุ กิจเฉพาะตองนํารายรับมาเสียภาษมี ูลคาเพิ่มคือกิจการใด ก. การใหบ รกิ ารเชาอสังหารมิ ทรัพย ข. การใหบริการที่ปรึกษาทางธุรกจิ ค. การใหบรกิ ารนายหนา และตวั แทนซอ้ื ขายหลกั ทรพั ย ง. ถูกทุกขอ อา งองิ : ตามเฉลย ตอบ ง ความเห็นกลุม ตอบ ขอ ข และ ขอ ค พระราชกฤษฎกี าออกตามความในประมวล รษั ฎากรวา ดว ยการกาํ หนดกจิ การเฉพาะอยา งทเ่ี กย่ี วเนอ่ื งโดยตรง กบั กจิ การทอ่ี ยูในบงั คบั ตอ งเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะใหเ ปน กจิ การทต่ี อ งเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ (ฉบบั ท่ี 246) พศ 2534 3. ขอ ใดเปน การคา อสงั หารมิ ทรพั ยเ ปน ทางคา และหากาํ ไร ก. การขายอสังหาริมทรัพยท ี่ไดมาทางมรดก ข. การขายหรอื การถกู เวนคนื ตามกฎหมายวา ดว ยการเวนคนื อสงั หารมิ ทรพั ย ค. การโอนกรรมสทิ ธห์ิ รือสทิ ธค์ิ รอบครองในอสงั หารมิ ทรพั ยท างมรดกทายาทโดยธรรม ง. การโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิ์ครอบครองในอสังหาริมทรัพยโ ดยไมมีคาตอบแทนใหแกบุตรบุญธรรม อา งองิ : ตามพระราชกฤษฎีกา ฉบับที่ 342 4. ขอ ความใดกลา วถกู ตอ งเกย่ี วกบั การขอคนื ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ก. การขอคืนภาษีธุรกิจเฉพาะใชแบบ ค.10 ข. ผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะมสี ทิ ธขิ อคนื ไดภ ายใน 3 ปนบั แตว นั ทพ่ี น กาํ หนดเวลายน่ื แบบแสดง รายการ ค. ผไู มม หี นา ทเ่ี สยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะมสี ทิ ธขิ อคนื ภาษธี รุ กจิ เฉพาะภายใน 3 ปน บั แตว นั ทไ่ี ดย น่ื รายการ ง. ถูกทุกขอ

หนา้ 103 5. นาง ก. ไดร บั โอนทด่ี นิ มาโดยทางมรดกจากบดิ าเมอ่ื ป 2535 ตอ มาไดข ายทด่ี นิ ใหแ กน าย ข. เมอ่ื ป 2539 เวลา ไดย น่ื แบบแสดงรายการเพอ่ื เสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะเมอ่ื วนั ท่ี 27 กนั ยายน 2542 ตอ มาภายหลงั ทราบวา ตนไมม ี หนา ทต่ี อ งเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ จงึ ยน่ื คาํ รอ งขอคนื เงนิ ภาษี เมอ่ื วนั ท่ี 12 กมุ ภาพนั ธ 2544 ขอ ความใดกลา ว ถูกตอง ก. นาง ก. ไมม สี ิทธข์ิ อคนื เงนิ ภาษเี นอ่ื งจากเกนิ กาํ หนดเวลา 3 ปน บั แตว นั พน กาํ หนดเวลาการยน่ื รายการ ข. นาง ก. มสี ทิ ธขิ อคนื เงนิ ภาษเี นอ่ื งจากยน่ื คาํ รอ งขอคนื เงนิ ภาษภี ายใน 3 ปน บั แตว นั ทไ่ี ดย น่ื รายการ ค. นาง ก. มสี ทิ ธขิ อคนื เงนิ ภาษเี นอ่ื งจากยน่ื คาํ รอ งขอคนื เงนิ ภายใน 10 ปน บั แตว นั ทไ่ี ดย น่ื รายการ ง. นาง ก. มสี ทิ ธขิ อคนื เงนิ ภาษเี นอ่ื งจากยน่ื คาํ รอ งขอคนื เงนิ ภายใน 10 ปน บั แตว นั ทก่ี าํ หนดยน่ื แบบแสดง รายการ อา งองิ : ใชม าตรา 27 ตรี สาํ หรบั ผไู มม หี นา ทต่ี อ งเสยี

หนา้ 104 จิตอาสาปนโตฯ กลุม 1 ขอสอบชุดที่ 16 (ชุดที่ 1-46) 1. ผมู สี ทิ ธขิ อใชบ รกิ าร พมิ พแ ถบชอ่ื พนกั งานของหนว ยงานสาํ หรบั ปภ าษี 2546 ไดแ กข อ ใด (1) บรษิ ทั /หนว ยงาน ทอ่ี ยใู นความดแู ลของสาํ นกั บรหิ ารภาษธี รุ กจิ ขนาดใหญ (2) บรษิ ทั /หนว ยงาน ทไ่ี มใ ชห นว ยงานตาม ขอ (1) ซง่ึ มพี นกั งาน 50 คนขน้ึ ไป (3) บริษัท/หนวยงาน ที่เคยขอรับบริการฯ กับสํานักเทคโนโลยีสารสนเทศ (4) ถูกทุกขอ *** ขอสอบเกาไปแลว 2. แบบแสดงรายการตอ ไปนข้ี อ ใดเปน คาํ รอ งขอคนื ภาษไี ดท กุ แบบ (1) แบบภพ.30 แบบภงด.90 แบบภงด.91 แบบภงด.50 *** (2) แบบภพ.30 แบบภงด.90 แบบภงด.91 แบบภงด.94 แบบภงด. (3) แบบภพ.30 แบบภงด.90 แบบภงด.91 แบบภงด.50 แบบภงด.51 (4) แบบภพ.30 แบบภพ.36 แบบภงด.90 แบบภงด.91 แบบภงด.50 อา งองิ :

หนา้ 105 3. บรษิ ทั A จา ยเงนิ ไดที่ไมต องถกู หกั ภาษีเงินไดหกั ณ ทจี่ าย ใหแ ก บริษทั B แตบ ริษทั A ได หกั ภาษเี งนิ ไดแ ละ นาํ สง ไว ใครเปน ผมู สี ทิ ธขิ อคนื เงนิ ภาษดี งั กลา วและขอคนื อยา งไร (1) บริษัท A เปนผมู ีสิทธิขอคืนเงินภาษีโดยยื่นแบบ ค.10 (2) บริษัท B เปนผูมสี ิทธิขอคืนเงินภาษีโดยยื่นแบบ ค.10 (3) ใหบ รษิ ทั B นาํ ไปถอื เปน เครดติ หกั ออกจากภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คล ทต่ี อ งชาํ ระสาํ หรบั รอบระยะบญั ชที ่ี ถกู หกั ภาษเี งินไดด งั กลา ว หากมภี าษเี กนิ กวา ทต่ี อ งชาํ ระกใ็ หข อคนื ภาษดี งั กลา วไดโ ดยยน่ื คาํ รอ งขอคนื เงนิ ภาษี (แบบ ค.10 หรือแจงความประสงคขอคนื เงินภาษีในแบบ ภงด.50) *** (4) ไมม ขี อ ใดถกู อา งองิ :

หนา้ 106 4. ถา ตอ งการดาวนโ หลดแบบ อ.ส.4 หรอื อ.ส.4 ก หรอื อ.ส.4 ข ทา นจะแนะนาํ ผเู สยี ภาษใี หเ ขา เมนใู ดใน เว็บไซตกรมสรรพากร (1) เมนูบริการขอมลู (2) เมนูบริการอิเล็กทรอนกิ ส เลือก บริการแบบพิมพและเลือกแบบคํารอง/คําขอ ตามลําดบั *** (3) เมนบู รกิ ารอเิ ลก็ ทรอนกิ ส เลอื ก บรกิ ารแบบพมิ พและเลอื กแบบแสดงรายการภาษี ตามลาํ ดบั (4) ไมม ขี อ ใดถกู อา งองิ : เดิมเฉลยไว (2) ความเห็นกลมุ ตอบ (3) 5. การชาํ ระคา อากรแสตมปใ นการจดทะเบยี นโอนกรรมสทิ ธท์ิ ด่ี นิ ทต่ี อ งมีการเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ถา ผซู อ้ื กบั ผูขายทําสญั ญาตกลงใหผูซอ้ื เปน ผูจ า ยคา อากรแสตมป ผซู ือ้ มสี ทิ ธขิ อคนื คา อากรแสตมปไ ดห รอื ไมอ ยา งไร (1) ผูซื้อไมมีสทิ ธิขอคืน (2) ผขู ายมสี ทิ ธขิ อคนื แตเ พยี งผเู ดยี วเนอ่ื งจากเปน ผตู อ งเสยี อากรตามบญั ชที า ยหมวดอากรแสตมป (3) ผซู อ้ื มสี ทิ ธขิ อคนื แตต อ งพสิ จู นใ หเ จา พนกั งานเหน็ วา ตนเปน ผชู าํ ระคา อากรแสตมปด งั กลา ว *** (4) ไมม ขี อ ใดถกู อา งองิ : ตามมาตรา 107 แหง ประมวลรษั ฎากร

หนา้ 107 6. ปจจุบันการบันทกึ ขอมูลภาษีเงินไดหัก ณ ที่จาย ตามแบบ ภ.ง.ด.3 ภ.ง.ด.53 และแบบ4117 บันทึกดวย โปรแกรมอะไร และตอ งบนั ทกึ ใหแลวเสรจ็ ภายในกี่วนั (1) โปรแกรม TAXRD บนั ทกึ ใหแ ลว เสรจ็ ภายในวนั สน้ิ เดอื นถดั จากเดอื นทม่ี กี ารจา ยเงนิ ได (2) โปรแกรมบนั ทกึ ขอ มลู ภาษเี งนิ ได หกั ณ ทจ่ี า ย (CIT/WT) และตอ งบนั ทกึ ใหแ ลว เสรจ็ ภายในสน้ิ เดอื น ถดั จากเดอื นทม่ี กี ารจา ยเงนิ ได สาํ หรบั แบบทม่ี ผี ถู กู หกั ภาษตี ง้ั แต 10,000 รายขน้ึ ไปใหท าํ การบนั ทกึ ใหแ ลว เสรจ็ ไม เกนิ วนั ท่ี 5 นบั จากวนั สน้ิ เดอื นของเดอื นถดั จากเดอื นทม่ี กี ารจา ยเงนิ ได *** (3) โปรแกรมบันทึกขอมูลภาษีเงินได หัก ณ ที่จาย (CIT/WT) บันทึกใหแลวเสร็จไมเกินวันที่ 5 นับจากวัน สน้ิ เดอื นของเดอื นถดั จากเดอื นทม่ี กี ารจา ยเงนิ ได เกา ไป (4) ไมม ขี อ ถกู อา งองิ : เกาไปแลว ยกเลกิ ปจ จบุ นั ใช WHT/FDE รายละเอยี ดตามหนงั สอื ดว นทส่ี ดุ ท่ี กค 0724/มจ/ว399 ลว. 15 มีนาคม 2556 เรื่องการบันทึกขอมลู แบบยื่นรายการภาษีเงินไดหัก ณ ทจี่ ายตามโปรแกรมบันทึกขอมูล เต็มรูปแบบ 7. การยน่ื แบบแสดงรายการภาษเี งนิ ไดบ รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คล (ภ.ง.ด.51) ฉบบั ปรบั ปรงุ ใหม ผา น อนิ เทอรเ นต็ ไดต ง้ั แตเ มอ่ื ใด (1) 30 กรกฎาคม 2546 *** (2) 1 กรกฎาคม 2546 (3) 1 สิงหาคม 2546 (4) ไมม ขี อ ใดถกู อา งองิ : (1) ท่ีถกู ตอ ง ตอบ (3) 1 สค 46. ตามขาวปชส.38/2546 8. นายจา งทจ่ี า ยเงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(1) แหง ประมวลรษั ฎากรใหแ กพ นกั งานทเ่ี ปน คนตา งดา ว และ หกั ภาษเี งินได ณ ทจ่ี า ย ตามมาตรา 50(1) แหง ประมวลรษั ฎากร ซง่ึ เปน ผยู น่ื รายการตามมาตรา 59 แหง ประมวล รษั ฎากร ตอ งยน่ื แบบแจง ขอ ความอยา งไร (1) กรณกี ารจา ยเงนิ ไดใ หแ กค นตา งดา ว สาํ หรบั เงินไดข องเดอื นมกราคมของทกุ ป (2) กรณกี ารจา ยเงนิ ไดใ หแ กค นตา งดา วซง่ึ เขา ทาํ งานในระหวา งปภ าษี สาํ หรบั เงินไดร ะยะเวลาเตม็ เดอื น ของเดอื นทเ่ี ขา ทาํ งาน (3) กรณกี ารจา ยเงนิ ไดใ หแ กค นตา งดา วซง่ึ ออกจากงานในระหวา งปภ าษี สาํ หรบั เงนิ ไดร ะยะเวลาเตม็ เดอื นของเดอื นทอ่ี อกจากงาน (4) ถูกทุกขอ *** อา งองิ : ตามประกาศอธบิ ดฯี เกย่ี วกบั ภาษเี งนิ ได (ฉบบั ท่ี 123) เรือ่ ง กาํ หนดใหผ ยู น่ื รายการแจง ขอ ความตาม มาตรา 17 (2) แหงประมวลรษั ฎากร ขอ 2 (1) (2) (3)

หนา้ 108 9. คนตา งดา วผมู เี งนิ ไดจ ากการจา งแรงงานจากสาํ นกั งานปฏบิ ตั กิ ารภมู ภิ าคทต่ี อ งการยน่ื แบบแสดงรายการ ภาษี เงนิ ไดบ คุ คลธรรมดา ทา นจะแนะนาํ ใหย ืน่ ดว ยแบบใด (1) แบบ ภ.ง.ด. 91 (2) แบบ ภ.ง.ด. 90 (3) แบบ ภ.ง.ด. 95 *** (4) ไมต อ งยน่ื แบบใด ๆ 10. ระบบ Matrix Management เปน การบรหิ ารจดั การอยบู นพน้ื ฐานอะไร (1) ผูบ งั คบั บญั ชา 1 คน (2) ผูบ งั คบั บญั ชามากกวา 1 คน *** (3) ถกู ทัง้ ก และ ข (4) ไมมีขอถูกเลย 11. ผูประกอบกิจการบริการรับจา งมีรหสั กิจการ (ISIC CODE) อะไรบาง (1) 14099 210100 (2) 14099 320000 เกา ไป (3) 551000 320000 (4) 740000 930000 *** อา งองิ : เกา ไปแลว แตป จ จบุ นั ไดม กี ารเปลย่ี นแปลง ISIC CODE แลว 12. การจดั ตง้ั สาํ นกั งานบญั ชตี วั แทนจะตอ งไดร บั อนญุ าตจากใคร (1) อธิบดกี รมสรรพากร *** (2) อธบิ ดกี รมพฒั นาธรุ กจิ การคา (3) ปลัดกระทรวงการคลงั (4) ไมมีขอถูกเลย 13. การยน่ื แบบแสดงรายการของสาํ นกั งานบญั ชตี วั แทนสามารถยน่ื ไดท ใ่ี ดบา ง (1) ยน่ื ทส่ี าํ นกั งานสรรพากรพน้ื ทส่ี าขาทกุ สาขา (2) ยน่ื ทส่ี าํ นกั งานสรรพากรพน้ื ทส่ี าขาทเ่ี ปน ทต่ี ง้ั ของสาํ นกั งานบญั ชตี วั แทนเทา นน้ั (3) ยน่ื ผา นระบบเครอื ขา ยอนิ เตอรเ นท็ ทางเวบ็ ไซดข องกรมสรรพากรเทา นน้ั *** (4) ถูกทุกขอ อา งองิ : การขออนมุ ตั เิ ปน สานกั งานใหญข า มประเทศหรอื บรษิ ทั การคา ระหวา งประเทศ ใหก รอกคาํ ขอตามแบบ ส.ญ.ค.1 พรอมระบุประเภทกจิ การที่ขอรับสิทธิประโยชนทางภาษีและแนบไฟลอิเล็กทรอนิกสของเอกสาร ประกอบการพจิ ารณาและแผนธรุ กจิ ผา นระบบเครอื ขา ยอนิ เทอรเ นต็ ทางเวบ็ ไซตข องกรมสรรพากร www.rd.go.th

หน้า 109 14. การจดั ทาํ งบประมาณตามระบบผลงาน Output Budgeting หมายความวา อยา งไร (1) จดั ทาํ งบประมาณโดยกาํ หนดจากจาํ นวนรายได *** (2) การจดั ทาํ งบประมาณโดยกาํ หนดจากจํานวนรายจา ย (3) จดั ทาํ งบประมาณโดยกาํ หนดจากจาํ นวนรายไดห กั ดว ยรายจา ย (4) ไมม ขี อ ใดถกู 15. การตรี าคาทรพั ยส นิ ของทางราชการกาํ หนดใหม กี ารคดิ คา เสอ่ื มราคาทรพั ยส นิ และกําหนดจาํ นวนปท ค่ี าดวา จะใชง าน ในกรณที ท่ี รพั ยส นิ ยกเวน ทด่ี นิ รายการใดทห่ี มดอายกุ ารใชง าน จะตรี าคาทรพั ยส นิ อยา งไร (1) ไมต อ งตรี าคา *** (2) ตรี าคาใหค งเหลอื ในบญั ชี 1 บาท (3) ตรี าคาตามราคาตลาด (4) ไมม ขี อ ใดถกู อา งองิ : ตามหนงั สอื กค 0528.2/ว 91 ลว.16 พฤศจกิ ายน 2544 กรมบญั ชกี ลาง 16. ตามโครงการการใหบ รกิ ารพมิ พแ ถบชอ่ื พนกั งานของหนว ยงานไดก าํ หนดหนา ทใ่ี หห นว ยงานใดทาํ หนา ท่ี ประชาสัมพันธ โครงการ (1) ฝา ยบรหิ ารงานทว่ั ไปสาํ นกั งานสรรพากรพน้ื ทก่ี รงุ เทพมหานคร (2) สว นกาํ กบั ดแู ลผเู สยี ภาษี *** เกา ไป (3) สํานกั เทคโนโลยสี ารสนเทศกรมสรรพากร (4) ถูกทุกขอ 17. การตรวจคนื ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลจะตอ งดาํ เนนิ การใหแ ลว เสรจ็ ภายในกเ่ี ดอื นนบั แตว นั รบั แบบ (1) 6 เดอื น *** (2) 1 ป (3) 2 ป (4) ไมไ ดก าํ หนด 18. หนว ยงานทป่ี ระเมนิ ภาษอี ากรตอ งชแ้ี จงขอ เทจ็ จรงิ และเหตผุ ลการประเมนิ พรอ มทง้ั รบั สาํ นวนการประเมนิ ภาษอี ากรใหห นว ยงานพจิ ารณาอทุ ธรณ ภายในกว่ี นั (1) 15 วนั ทําการ *** (2) 7 วนั ทาํ การ (3) 3 วนั ทาํ การ (4) ไมไ ดก าํ หนดไว อา งองิ : ตามระเบียบกรมสรรพากร วาดว ยการอุทธรณแ ละการพิจารณาอุทธรณ ตามประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2546 ขอ 6>6.6

หนา้ 110 19. การจดั ทาํ คาํ วนิ จิ ฉยั ไมร บั คาํ อทุ ธรณน น้ั จะตอ งจดั ทาํ ทะเบยี นออกเลขทข่ี องคาํ วนิ จิ ฉยั ไมร บั คาํ อทุ ธรณ ตาม ระเบียบกําหนดไวอยางไร (1) ใชท ะเบยี นแยกตา งหากจากทะเบยี นการจดั ทาํ คาํ วนิ จิ ฉยั อทุ ธรณ (2) ใชท ะเบยี นรวมกบั ทะเบยี นการจัดทาํ คาํ วนิ จิ ฉยั อทุ ธรณโ ดยเรยี งลาํ ดบั ตอ เนอ่ื งกนั *** (3) ใชทะเบียนรวมกับทะเบียน การจัดทําคําขอทุเลาการเสียภาษีอากร (4) ใชท ะเบียนรวมกัน ทัง้ ขอ 2). และ ขอ 3). อา งองิ : ตามระเบียบกรมสรรพากร วาดว ยการอุทธรณแ ละการพิจารณาอุทธรณ ตามประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2546 ขอ 12 20. ขอใดที่ไมใชรางวัลเกี่ยวกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศภาครัฐที่กรมสรรพากรไดรบั (1) รางวลั ชนะเลศิ ดา นโครงการบรกิ ารประชาชนแบบออนไลนด เี ดน (2) รางวลั ชนะเลศิ ดา นโครงการไอทเี พอ่ื การบรหิ ารองคก รดเี ดน *** (3) รางวลั ชนะเลศิ ดา นการบรหิ ารจดั การภาครฐั สมยั ใหมด เี ดน (4) รางวลั ผบู รหิ ารไอทดี เี ดน อา งองิ : http://www.rd.go.th/fileadmin/html_internet/it/best_it1.html ประกาศผลโครงการรางวลั เทคโนโลยสี ารสนเทศ ภาครฐั ดเี ดน ครง้ั ท่ี 2 ประจาํ ป พ.ศ. 2545 เมอ่ื วนั ท่ี 11 มนี าคม 2546 ณ ศูนยการประชุม แหงชาติสิริกิติ์ ผลประกาศรางวัล 5 ประเภท มผี ูไดรับรางวลั ชนะเลิศเพียง 3 ประเภท โดยกรมสรรพากร ไดร บั รางวลั ชนะเลศิ ถงึ 2 ประเภท และยงั ไดร บั รางวลั ชมเชยอกี 1 ประเภท ดงั น้ี 1. รางวลั ชนะเลศิ โครงการบรกิ ารประชาชนแบบ on line ดเี ดน เรือ่ ง การใหบ รกิ ารยน่ื แบบ และชาํ ระ ภาษผี า นอนิ เทอรเ นต็ 2. รางวัลชนะเลิศ โครงการไอทีเพื่อการบริหารองคกรดีเดน เรื่อง ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศบน เครอื ขา ยรษั ฎากร (intranet) แกนนาํ เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพขององคก ร 3. รางวลั ชมเชย โครงการความรว มมอื ดเี ดน ดา นไอที เรอ่ื ง ระบบบญั ชี และการนาํ เงนิ สง คลงั ดว ยระบบ คอมพิวเตอร นอกจากนย้ี งั ไดม รี างวลั พเิ ศษ คอื รางวลั ผบู รหิ ารไอที ดเี ดน ผทู ไ่ี ดร บั รางวลั คอื นายศภุ รตั น ควฒั นก ลุ อธบิ ดี กรมสรรพากร 21. ขอ ใดทไ่ี มใ ชอ ตั ราภาษธี รุ กจิ เฉพาะทก่ี าํ หนดไวต ามประมวลรษั ฎากร (1) รอยละ 0.1 (2) รอยละ 2.5 (3) รอยละ 3 (4) รอยละ 3.3 *** อา งองิ : ตามมาตรา 91/6 แหง ประมวลรษั ฎากร อตั ราภาษธี รุ กจิ เฉพาะมดี งั ตอ ไปน้ี (1) รอยละ 0.1 สําหรบั รายรบั ตามมาตรา 91/5 (7) (2) รอยละ 2.5 สําหรบั รายรบั ตามมาตรา 91/5 (3) (ก) และมาตรา 91/5 (4) (3) รอ ยละ 3.0 สาํ หรบั รายรบั ตามมาตรา 91/5 นอกจากกรณตี าม (1) และ (2)

หน้า 111 22. การขออนมุ ตั อิ อกหมายเรยี กเมอ่ื ไดร บั อนมุ ตั แิ ลว ใหด าํ เนนิ การออกหมายเรยี กภายใน (1) 7 วนั (2) 15 วนั *** เกา ไป (3) 30 วนั (4) 60 วนั อา งองิ : ตามระเบยี บกรมสรรพากร วา ดว ยการตรวจสอบภาษอี ากรตามประมวลรษั ฎากร พ.ศ. 2550 ขอ 7 การ ออกหมายเรยี กตอ งดาํ เนนิ การใหแ ลว เสรจ็ ภายใน 20 วนั นบั แตว นั ทอ่ี นมุ ัตใิ หอ อกหมายเรยี กในแบบขออนมุ ตั ิ ออกหมายเรยี กตรวจสอบ (แบบ ต.ส.2) เวน แตผ มู อี าํ นาจจะสง่ั การเปน อยา งอน่ื 23. บริษทั ทาํ ดี จาํ กดั ไดย น่ื แบบ ภ.พ. 30 ภายในกาํ หนดระยะเวลา โดยไมม ยี อดขายและยอดซอ้ื แตต อ มา พบวา ในเดอื นภาษดี งั กลา ว บรษิ ทั ฯ มยี อดขายและยอดซอ้ื เกดิ ขน้ึ โดยมภี าษตี อ งชาํ ระเพม่ิ เตมิ แตพ น กาํ หนด ระยะเวลาการยน่ื แบบฯ เพม่ิ เตมิ แลว บรษิ ทั ฯ ตอ งรบั ผดิ ชอบในจาํ นวนเบย้ี ปรบั ทเ่ี กดิ ขน้ึ อยา งไร (1) ชาํ ระเบย้ี ปรบั จาํ นวน 1 เทา ของภาษขี ายทเ่ี กดิ ขน้ึ *** (2) ชาํ ระเบย้ี ปรบั จาํ นวน 2 เทา ของภาษขี ายทเ่ี กดิ ขน้ึ (3) ชาํ ระเบย้ี ปรบั จาํ นวน 1 เทา ของภาษขี ายหกั ดว ยภาษซี อ้ื (4) ชาํ ระเบย้ี ปรบั จาํ นวน 2 เทา ของภาษขี ายหกั ดว ยภาษซี อ้ื อา งองิ : ตามมาตรา 89 (4) แหงประมวลรัษฎากร 24. นายภาษี ไดว า จา งคณะตลก มาทาํ การแสดงในงานวนั เกดิ ของตนเอง เมอ่ื มกี ารจา ยคา จา งการแสดงดงั กลา ว นายภาษี ตอ งปฎบิ ตั เิ กย่ี วกบั การหกั ภาษี ณ ทจ่ี า ยอยา งไร (1) หกั ภาษี ณ ทจ่ี า ยและนาํ สง ในอตั รารอ ยละ 3 (2) หกั ภาษี ณ ที่จา ยและนําสงในอตั รารอยละ 5 *** (3) หกั ภาษี ณ ทจ่ี า ยและนาํ สง ในอตั รากา วหนา โดยถอื เสมอื นหนง่ึ วา ไดจ า ยทง้ั ป (4) ไมตอ งหกั ภาษี ณ ท่จี า ย อา งองิ : ตามคาํ ส่ังกรมสรรพากร ท่ี ป.102/2544 ขอ 7(2)(ก) 25. นายสอ่ื สาร ไดร บั เงนิ ปน ผลเปน หนุ สามญั ของ บรษิ ทั ทศท คอรป อเรชน่ั จาํ กดั (มหาชน) โดยมมี ลู คา ทก่ี าํ หนด ไวหุน ละ 10 บาท เม่ือวนั ที่ 1 มีนาคม 2547 แตจะตอ งถือครองไวเ ปน เวลา 3 ป จึงจะจําหนา ยหรอื โอนหนุ ดงั กลา วไดซ ง่ึ ในวนั ทไ่ี ดร บั หนุ ดงั กลา วมรี าคาซอ้ื ขายในตลาดหลกั ทรพั ยฯ ในราคา 100 บาท นายสอ่ื สาร มหี นา ท่ี ตอ งยน่ื แบบแสดงรายการเพอ่ื เสยี ภาษจี ากเงนิ ปน ผลดงั กลา วในปภ าษใี ด มลู คา หนุ เทา ใด (1) ปภาษี 2547 มลู คา หนุ ละ 10 บาท (2) ปภาษี 2547 มลู คา หนุ ละ 100 บาท *** (3) ปภาษี 2550 มลู คา หนุ ละ 10 บาท (4) ปภาษี 2550 มลู คา หนุ ละ 100 บาท อา งองิ : ความเหน็ สว นตวั . กรณี หนุ ปน ผล มองวา เขา ลกั ษณะเปน เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 39 แหง ประมวลรษั ฎากร และเขา ลกั ษณะเปน เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(4)(ข) แหง ประมวลรษั ฎากร และเห็นวา นา จะตอ งนาํ มารวมคาํ นวณถอื เปน รายไดเ พอ่ื เสยี ภาษใี นวนั ทไ่ี ดร บั คอื ปภ าษี 2547 ตามราคาตลาด

หนา้ 112 26. เจา พนกั งานผมู อี าํ นาจสัง่ งดหรอื ลดเบย้ี ปรบั ภาษเี งนิ ได ภาษมี ลู คา เพม่ิ และภาษธี รุ กจิ เฉพาะ สาํ หรบั คาํ รอ งขอ งดหรอื ลดเบ้ียปรบั ตามหลกั เกณฑท ีอ่ ธบิ ดกี าํ หนด จาํ นวน 1,000,000.00 บาท คอื (1) สรรพากรภาค (2) สรรพากรพน้ื ท่ี (3) สรรพากรพน้ื ทส่ี าขา (4) ถกู ทุกขอ *** อา งองิ : ตามคาํ สง่ั กรมสรรพากร ท่ี ท.ป.121/2545 ขอ 2 27. ผปู ระกอบการสง ออกทด่ี ตี ามทก่ี ฎหมายกาํ หนด จะไดร บั สิทธปิ ระโยชนใ นการไดร บั คนื ภาษมี ลู คา เพม่ิ กรณยี น่ื แบบแสดงรายการภาษมี ลู คา เพม่ิ ณ สาํ นกั งานสรรพากรพน้ื ทส่ี าขา ภายในกว่ี นั นบั แตว นั ยน่ื แบบ (1) 15 วนั (2) 30 วนั (3) 45 วนั *** (4) 60 วนั อา งองิ : ตามคําสัง่ กรมสรรพากร ท่ี ท.128/2560 ขอ 4 (1) (1.2) 28. กจิ การทเ่ี ขา ขา ยเปน วสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ ม หรอื SMEs ของกรมสรรพากร ไดแ ก บรษิ ทั หรอื หา ง หนุ สว นนติ บิ คุ คลทม่ี มี ลู คา ขน้ั สงู ของสนิ ทรพั ยถ าวรไมร วมทด่ี นิ สาํ หรบั ประกอบกจิ กรรมดา นการผลติ หรอื การ ใหบ รกิ าร และการจา งแรงงานไมเ กนิ (1) 50 ลานบาท, 100 คน (2) 100 ลานบาท, 100 คน (3) 100 ลานบาท, 00 คน (4) 200 ลานบาท, 200 คน *** อา งองิ : ตาม พระราชบญั ญตั สิ ง เสรมิ วสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ ม พ.ศ.2543 29. ขอใดไมใชสิทธิตามกฎหมายของผูมีหนาที่เสียภาษี (1) การผอ นชาํ ระภาษี (2) การขอทเุ ลาการชาํ ระภาษอี ากรโดยจดั ใหม หี ลกั ประกันการชาํ ระภาษดี ว ย (3) ของดหรือลดเบี้ยปรับและเงินเพิ่มภาษีอากร (4) ทุกขอถอื เปน สทิ ธิของผเู สียภาษี *** อา งองิ : ทุกขอถือเปนสิทธิของผูเสียภาษี ตาม www.rd.go.th>ความรูเรื่องภาษี>สิทธิและหนาที่ผูเสียภาษี 30. ใน WEBSITE INTRANET ของกรมสรรพากรมีระบบงานที่ใชใ นการปฏิบัตงิ านทั้งหมดกรี่ ะบบ (1) 9 ระบบ (2) 10 ระบบ *** (3) 11 ระบบ (4) 12 ระบบ อา งองิ : ปจจบุ ันนา จะ 14 ระบบ ตามหนา INTRANET>ระบบงาน

หนา้ 113 31. ผเู สยี ภาษที ช่ี าํ ระภาษอี ากรทาง INTERNET และมภี าษที ต่ี อ งชาํ ระเพม่ิ เตมิ สามารถชาํ ระภาษโี ดยวธิ ใี ดไดบ า ง (1) E – payment (2) E – pay (3) Tele Banking (4) ถกู ทุกขอ *** 32. หลักเกณฑใ นการพจิ ารณาเลอ่ื นขน้ั เงนิ เดอื นหรอื คา จา งครง่ึ ขน้ั ของขา ราชการและลกู จา งกรมสรรพากรใน ครง่ึ ปท แ่ี ลว มา ในขอ ใดตอ ไปนถ้ี กู ตอ ง (1) ไมล าหยดุ ราชการเกนิ 12 ครง้ั 25 วนั ทาํ การ ไมม าทาํ งานสายเกนิ 20 วนั (2) ไมล าหยดุ ราชการเกนิ 11 ครง้ั 25 วนั ทาํ การ ไมม าทาํ งานสายเกนิ 20 วนั (3) ไมล าหยดุ ราชการเกนิ 10 ครง้ั 23 วนั ทาํ การ ไมม าทาํ งานสายเกนิ 18 วนั *** (4) ไมล าหยดุ ราชการเกนิ 9 ครง้ั 23 วนั ทาํ การ ไมม าทาํ งานสายเกนิ 18 วนั 33. จาํ นวนรางวลั และเงนิ รางวลั ทจ่ี า ยตามโครงการ “ใบกาํ กบั ภาษมี รี างวลั ” ทจ่ี ายตง้ั แตเ ดอื น สงิ หาคม 2546 ใน ขอ ใดตอ ไปนถ้ี กู ตอ ง (1) จาํ นวน 11 รางวลั เปน จํานวนเงนิ 300,000 บาท เกา ไป (2) จาํ นวน 11 รางวลั เปน จํานวนเงนิ 600,000 บาท (3) จาํ นวน 55 รางวลั เปน จํานวนเงนิ 900,000 บาท (4) จาํ นวน 55 รางวลั เปน จํานวนเงนิ 1,200,000 บาท *** 34. คนตา งดา วทไ่ี ดร บั คา จา งแรงงานจากการปฏบิ ตั งิ านในสาํ นกั งานปฏบิ ตั กิ ารภมู ภิ าค (ROH) ตอ งถกู หกั เงนิ ได ณ ทจ่ี า ย ในอตั รารอ ยละเทา ใด (1) อตั รา 5 % (2) อตั รา 10 % (3) อตั รา 15 % *** (4) อตั รา 20 % อา งองิ : ตามพระราชกฤษฎกี า ฉบบั 405 มาตรา 4 35. สาํ นกั งานบญั ชตี วั แทนทไ่ี ดร บั ใบอนญุ าตจากอธบิ ดกี รมสรรพากร ใหจ ดั ตง้ั เปน สาํ นกั งานบญั ชตี วั แทนทม่ี ี หนา ทย่ี น่ื แบบแสดงรายการภาษใี นนามของผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษตี ามประเภทภาษที ไ่ี ดต กลงกบั ผเู สยี ภาษผี า นระบบ เครือขาย INTERNET ทาง WEBSITE ของกรมสรรพากร มรี ะยะเวลาการไดรบั อนุญาตจํานวนกี่ป (1) 1 ป นบั แตว นั ไดร บั ใบอนญุ าตจากอธบิ ดกี รมสรรพากร (2) 2 ป นบั แตว นั ไดร บั ใบอนญุ าตจากอธบิ ดกี รมสรรพากร *** (3) 3 ป นบั แตว นั ไดร บั ใบอนญุ าตจากอธบิ ดกี รมสรรพากร (4) 4 ป นบั แตว นั ไดร บั ใบอนญุ าตจากอธบิ ดกี รมสรรพากร อา งองิ : ตามประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร เรอ่ื ง กาํ หนดคณุ สมบตั ิ การขออนญุ าต การออกใบอนญุ าต การตอ อายใุ บอนญุ าต และการขอออกใบแทนใบอนญุ าตเปน สาํ นกั งานบญั ชตี วั แทน ลงวนั ท่ี 22 เมษายน 2546 ขอ 3 > 3.2

หนา้ 114 36. นกั แสดงภาพยนตรห รือโทรทศั นท ม่ี ภี มู ลิ าํ เนาอยใู นตา งประเทศไดร บั เงนิ ไดจ ากการแสดงภาพยนตห รอื โทรทศั นซ ง่ึ ดาํ เนนิ การถา ยทาํ ในประเทศไทยโดยบรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลทต่ี ง้ั ตามกฎหมายของ ตา งประเทศทไ่ี ดร บั อนญุ าตใหถ า ยทาํ ในประเทศไทย จากคณะอนกุ รรมการพจิ ารณาคาํ ขออนญุ าตถา ยทาํ ภาพยนตต า งประเทศในประเทศไทย ตอ งถกู หกั ภาษเี งนิ ได ณ ทจ่ี า ยในอตั ราเทา ใด และเมอ่ื ถงึ กาํ หนด ยน่ื แบบแสดงรายการเสยี ภาษเี งนิ ไดใ หไ ดร บั ยกเวน ไมต อ งนาํ เงนิ ไดม าคาํ นวณเปน เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ เฉพาะสว นท่ี ไมข อรบั ภาษที ถ่ี กู หกั ไวน น้ั คนื หรอื ไมข อเครดติ เงนิ ภาษที ถ่ี กู หกั ไวน น้ั ไมว า ทง้ั หมดหรอื บางสว น (1) 5% (2) 10%*** (3) 15% 4) ตามอตั ราภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดา อา งองิ : ตามคําสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 ขอ 9 37. การบรหิ ารราชการแผน ดนิ ระบบผวู า ราชการแบบ CEO เปน การบรหิ ารงานแบบใด (1) Horizontal Management (2) Hierarchy Management (3) Matrix Management *** (4) Key Performance Indicator 38. ตามพระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 387) บริษัทที่นําหลักทรัพยมาจดทะเบียนกบั ตลาดหลักทรัพย ตามขอบังคบั ตลาดหลกั ทรพั ยแ หง ประเทศไทย วา ดว ยการรบั หลกั ทรพั ยจ ดทะเบยี นใน “ตลาดหลกั ทรพั ยใ หม” ตง้ั แตว นั ท่ี 6 กนั ยายน 2544 ไดร บั สทิ ธเิ สยี ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลในอตั รารอ ยละเทา ใด เปนเวลา 5 รอบระยะเวลาบัญชี ตอเน่อื งกนั นบั แตรอบระยะเวลาบัญชีที่เรม่ิ ในหรอื หลังวันท่ี 6 กันยายน 2544 (1) อตั รา 15% (2) อตั รา 20% *** (3) อตั รา 25% (4) อตั รา 30% อา งองิ : ตามพระราชกฤษฎีกา ฉบับที่ 387 39. ขอ ใดตอ ไปน้ี ไมใ ชค าํ วา “ผใู ชบ รกิ าร” ตามความหมายในคาํ สง่ั ป.110/2545 ลงวนั ท่ี 31 มกราคม 2545 เรือ่ งการหกั ภาษเี งนิ ได ณ ทจ่ี า ย กรณกี ารจายเงนิ คา ขนสง สนิ คา ระหวา งประเทศใหแ กผ ปู ระกอบการกจิ การ ใหบ รกิ ารขนสง สนิ คา ระหวา งประเทศโดยเรอื เดนิ ทะเล และผปู ระกอบกจิ การใหบ รกิ ารขนสง สนิ คา ระหวา ง ประเทศโดยเรอื เดินทะเล (1) Shipper (2) Shipbroker *** (3) Consignee (4) Forwarder อา งองิ : ตามคาํ สง่ั กรมสรรพากร ท่ี ป.110/2545 คาํ วา ผใู ชบริการคอื (1) (3) และ (4)

หน้า 115 40. หนภ้ี าษอี ากรคา งจาํ นวนเทา ใดทอ่ี ธบิ ดกี รมสรรพากรมอี าํ นาจอนมุ ตั ใิ หจ าํ หนา ยหนภ้ี าษอี ากรได (1) หนภ้ี าษอี ากรไมเ กนิ 1 ลา นบาท (2) หนภ้ี าษอี ากรเกนิ 1 ลา นบาท (3) หนีภ้ าษอี ากรไมเ กิน 5 ลานบาท *** (4) หนภ้ี าษอี ากรเกนิ 5 ลา นบาท อา งองิ : ปจ จบุ นั อธบิ ดฯี มอี าํ นาจอนมุ ตั จิ าํ หนา ยหนไ้ี ดไ มเ กนิ 50 ลา นบาท ตามระเบยี บกระทรวงการคลงั วา ดว ย การจาํ หนา ยหนภ้ี าษอี ากร (ฉบบั ท่ี 2) ป 2547 41. ผูประกอบการสงออกที่ไดรับอนุมัตใิ หเปนผปู ระกอบการสงออกที่ดี ยื่นแบบ ภ.พ. 30 ทาง INTERNET ถามี ภาษมี ลู คา เพม่ิ ทข่ี อคนื เปน เงนิ สดจะไดร บั เงนิ คนื ภาษีภายในกว่ี นั นบั แตว นั ทย่ี น่ื แบบแสดงรายการภาษี (1) 15 วนั *** (2) 30 วนั (3) 45 วนั (4) 60 วนั อา งองิ : ตามคาํ สง่ั กรมสรรพากร ท่ี ท.128/2560 42. กจิ การตอ ไปนไ้ี มต อ งนาํ เงนิ ปน ผลหรอื เงนิ สว นแบง กาํ ไรทไ่ี ดจ ากกจิ การรว มคา ไปรวมคาํ นวณเสยี ภาษเี งนิ ได นติ บิ คุ คล (1) บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลทต่ี ง้ั ขน้ึ ตามกฎหมายตา งประเทศ (2) บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลทต่ี ง้ั ขน้ึ ตามกฎหมายตา งประเทศ และประกอบกจิ การในประเทศไทย (3) คณะบคุ คล (4) กิจการรวมคา อื่นที่ลงทุน อา งองิ : ตามพระราชกฤษฎกี า ฉบบั ท่ี 10 มาตรา 5 ทวิ 43. ขา ราชการทไ่ี ดร บั ราชการตดิ ตอ กนั มาแลว ไมน อ ยกวา 10 ป ใหม สี ทิ ธน์ิ าํ วนั ลาพกั ผอ นสะสม รวมกบั วนั ลา พักผอนในปปจจุบันไดไมเกินกี่วัน (1) 10 วนั (2) 20 วนั (3) 30 วนั *** (4) 40 วนั อา งองิ : ตามระเบยี บสาํ นกั นายก วา ดว ยการลาของขา ราชการ พ.ศ.2555 สว นท่ี 5 ขอ 24 วรรค 2 44. การทําลายเอกสารของกรมสรรพากร เปน สว นหนง่ึ ของงานสนบั สนนุ ระบบการบรหิ ารของกรมสรรพากร ในดา นใด (1) e-form (2) e-procurement (3) e-payment (4) e-Revenue ***

หนา้ 116 45. เปาหมายการทําลายเอกสาร ในปงบประมาณ 2546 ของกรมสรรพากร ที่ถูกตอ งคือ (1) ลดการเกบ็ รักษาเอกสารลง 30% (2) ลดการเกบ็ รกั ษาเอกสารลง 10% และเพม่ิ เนอ้ื ทใ่ี ชส อย 10% เกา ไป (3) ลดการเกบ็ รกั ษาเอกสารลง 30% และเพม่ิ เนอ้ื ทใ่ี ชส อย 10% (4) ลดการจัดเก็บรักษาเอกสารลง 20% และเพิ่มเนื้อที่ใชส อย 10% *** 46. ผูประกอบการตอไปนี้ ไมมีสิทธอิ์ อกใบกํากับภาษี (1) ผปู ระกอบการจดทะเบยี นขายสนิ คา ในราชอาณาจกั ร (2) ผูประกอบการจดทะเบียนใหบ ริการ ในราชอาณาจกั ร (3) ผปู ระกอบการจดทะเบยี นทท่ี รพั ยส นิ ถกู นาํ ออกขายทอดตลาด หรอื ขายโดยวธิ อี น่ื โดยบคุ คลอน่ื ตาม มาตรา 83/5 *** (4) ผูประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลคาเพมิ่ ที่เปนผูสงออก

หนา้ 117 จติ อาสาปิ นโตภาษี กลุ่ม ข้อสอบวชิ า ภาษเี งนิ ได้บคุ คลธรรมดา จาํ นวน ชดุ ชดุ ที . หลกั การในการจัดเกบ็ ภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดา ตามประมวลรัษฏากรใช้หลกั อะไรในการจัดเกบ็ ภาษี ก. หลกั สญั ชาติ หลกั ทรพั ย์สนิ ข. หลกั ถินทอี ยู่ หลกั ทรัพย์สิน ค. หลกั ทรัพย์สิน หลกั หน้าทีงานทีทํา ง. หลกั สญั ขาติ หลกั ถินทีอยู่ เดมิ เฉลย ข. ทถี กู ตอบ ไม่มีข้อใดถกู อ้างอิง : มาตรา . ผ้มู หี น้าทเี สยี ภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดาประเภทห้างห้นุ สว่ นสามญั และคณะบคุ คล มคี วามแตกต่างกนั อย่างไร ก. ห้างห้นุ สว่ นสามญั ต้องมีบคุ คลตงั แต่ คน ขนึ ไป เข้าทาํ กจิ การกนั คณะบคุ คลต้องมบี คุ คลมากกวา่ คนขนึ ไป เข้าทาํ กจิ การกนั ข. ห้างห้นุ ส่วนสามญั ต้องจดทะเบียน คณะบคุ คลไม่ต้องจดทะเบียน ค. ห้างห้นุ สว่ นสามญั ห้นุ สว่ นทกุ คนรบั ผดิ ในหนีของห้างโดยไมจ่ าํ กดั จาํ นวน คณะบคุ คลบคุ คลใน คณะบคุ คลรบั ผดิ จาํ กดั จํานวน ง. ห้างหุ้นส่วนสามญั มวี ัตถปุ ระสงค์แบ่งปันกาํ ไรอนั พงึ ได้จากกิจการทที าํ แต่คณะบคุ คลไม่มวี ตั ถปุ ระสงงค์ จะแบ่งกาํ ไรอนั จะพึงได้จากกจิ การทีทํา เฉลย ง. ถกู ต้องแล้ว . เงนิ ได้พงึ ประเมนิ ทีได้รับจากการประกอบกิจการเป็ นตัวแทนขายประกันชีวิต เป็ นเงินได้พงึ ประเมินประเภทใด ก. ประเภท มาตรา ( ) ข. ประเภท มาตรา ( ) ค. ประเภท มาตรา ( ) และประเภท มาตรา ( )

หนา้ 118 ง. ประเภท มาตรา ( ) หรืออาจเป็ นเงนิ ได้ประเภท มาตรา ( ) เฉลย ง. ถกู ต้องแล้ว อ้างอิง : คาํ สังกรมสรรพากรที ป. / . นายแดง มบี ตุ รชอบด้วยกฎหมาย คน คอื นาย ข และได้รบั นาย ค เป็ นบตุ รบญุ ธรรมอีก คน ตอ่ มานายแดงได้ยกทดี นิ ให้นาย ข. และนาย ค คนละ แปลง โดยไม่มีค่าตอบแทน ดงั นนั นาย ข และนาย ค ซงึ ได้รบั ทดี นิ คนละ แปลง จะต้องเสยี ภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดาหรือไม่ ก. นาย ข และนาค ค ไมต่ ้องเสยี ภาษีเพราะได้รบั การยกเว้นภาษี ข. นาย ข ไม่ต้องเสยี ภาษี แต่นาย ค ต้องเสยี ภาษี เพราะการยกให้กรณนี ีไมร่ วมบตุ รบญุ ธรรม ค. นาย ค ไม่ต้องเสยี ภาษี แต่นาย ข ต้องเสยี ง. นาย ข และนาย ค ต้องเสยี ภาษี เพราะกฎหมายไม่ยกเว้นให้ เดมิ เฉลย ข. ทีถกู ตอบ ไม่มีข้อใดถกู เนืองจาก กฎหมายมีการแก้ไขโดยตังแต่วนั ที กมุ ภาพนั ธ์ การโอน กรรมสิทธิหรือสทิ ธคิ รอบครองในอสงั หาริมทรัพย์โดยไม่มคี ่าตอบแทนให้แก่บตุ รชอบด้วยกฎหมาย ซึงไม่รวมบตุ ร บญุ ธรรม ผู้โอนจะได้รับยกเว้นภาษีเงนิ ได้ . เงนิ ได้พงึ ประเมนิ ประเภทใดบ้างทกี ฎหมายไมย่ อมให้หกั คา่ ใช้จ่าย ก. เงินได้พึงประเมินประเภทที และ ข. เงนิ ได้พงึ ประเมินประเภทที และ ค. เงินได้พึงประเมินประเภทที และ ง. เงินได้พงึ ประเมินประเภทที และ เดิมเฉลย ข. ทถี กู ตอบ ไม่มีข้อใดถกู เนอื งจากตงั แตป่ ี ภาษี เงนิ ได้พงึ ประเมนิ ตามมาตรา ( ) แหง่ ประมวล รษั ฎากร ได้แก่ ค่าแหง่ ก๊ดู วลิ ล์ คา่ แหง่ สทิ ธิ หรือสทิ ธอิ ยา่ งอนื ให้หกั คา่ ใช้จา่ ยเป็ นการเหมาร้อยละ แตร่ วมกนั ต้องไมเ่ กนิ , บาท เว้นแตจ่ ะแสดงหลกั ฐานและพิสจู นไ์ ด้วา่ มีค่าใช้จ่ายมากกวา่ นนั กย็ อมให้หกั ค่าใช้จา่ ยได้ตามความจาํ เป็ นและ

หน้า 119 สมควร ตามมาตรา ตรี แหง่ ประมวลรษั ฎากร แก้ไขเพมิ เตมิ โดย มาตรา แหง่ พระราชบญั ญตั ปิ ระมวลรษั ฎากร (ฉบบั ที ) พ.ศ. ประกอบกบั พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบบั ที ) พ.ศ. แก้ไชเพิมเตมิ โดยพระราชกฤษฎกี าฯ (ฉบบั ที ) พ.ศ. ซงึ มผี ลบงั คบั ใช้ตงั แตป่ ี ภาษี เป็ นต้นไป . นาย ก มภี ริยาจดทะเบยี นตามกฎหมายชอื นาง ข และอยดู่ ้วยตลอดปี ภาษี นาย ก ได้รบั เงนิ เดอื นจากบรษิ ทั แหง่ หนงึ เดอื น ละ , บาท นาง ข รบั ราชการมรี ายได้เดอื นละ , บาท และมรี ายได้จากคา่ เชา่ บ้านอีกเดอื นละ , บาท วนั นี นาย ก และนาง ข มเี งนิ ได้พงึ ประเมนิ ทจี ะต้องนาํ ไปเสยี ภาษีเทา่ ไร ถ้านาง ข ต้องการจะแยกยืนเสยี ภาษีต่างหากจากสามี ก. นาย ก มเี งนิ ได้พงึ ประเมนิ , บาท นาง ข มีเงนิ ได้พงึ ประเมนิ , บาท ข. นาย ก มเี งนิ ได้พงึ ประเมนิ , บาท นาง ข มเี งนิ ได้พงึ ประเมิน , บาท ค. นาย ก มเี งนิ ได้พงึ ประเมนิ , บาท นาง ข มเี งนิ ได้พงึ ประเมิน , บาท ง. นาย ก มเี งนิ ได้พงึ ประเมนิ , บาท นาง ข มเี งนิ ได้พงึ ประเมนิ , บาท เดมิ เฉลย ง. ทีถกู ตอบ ก. อ้างอิง : มาตรา ฉ แห่งประมวลรัษฎากร “มาตรา 57 ฉ ในการเกบ็ ภาษีเงนิ ได้จากสามแี ละภรยิ านนั ให้สามแี ละภริยาตา่ งฝ่ ายตา่ งมหี น้าทยี นื รายการ เกยี วกบั เงนิ ได้พงึ ประเมนิ ทีตนได้รบั ในระหวา่ งปี ภาษีทีลว่ งมาแล้วตามมาตรา ๕๖ ในกรณที เี งนิ ได้พงึ ประเมนิ ไมอ่ าจแยกได้อย่างชดั แจ้งว่าเป็ นของสามหี รือภรยิ าแต่ละฝ่ ายจาํ นวน เทา่ ใด ให้ถอื เป็ นเงนิ ได้พงึ ประเมนิ ของสามแี ละภริยาฝ่ ายละกงึ หนงึ เว้นแตเ่ งนิ ได้พงึ ประเมินตามมาตรา ๔๐ (๘) สามีและภริยาจะแบ่งเงินได้พงึ ประเมินเป็ นของแต่ละฝ่ ายตามสว่ นทีตกลงกนั ก็ได้ แต่รวมกันต้องไม่น้อย กวา่ เงนิ ได้พงึ ประเมนิ ทไี ด้รบั ถ้าตกลงกนั ไมไ่ ด้ ให้ถอื เป็ นเงนิ ได้พงึ ประเมนิ ของสามแี ละภริยา ฝ่ ายละกงึ หนงึ สามีและภริยาจะตกลงยนื รายการและเสยี ภาษีรวมกนั โดยให้ถอื เอาเงนิ ได้พงึ ประเมนิ ของตนเป็ น เงนิ ได้ของสามหี รอื ภริยาอกี ฝ่ ายหนงึ กไ็ ด้ หรือจะแยกยนื รายการและเสยี ภาษีเฉพาะสว่ นทเี ป็ นเงนิ ได้พงึ ประเมนิ ตามมาตรา ๔๐ (๑) โดยมใิ ห้ถอื เอาเป็ นเงนิ ได้ของอกี ฝ่ ายหนงึ กไ็ ด้แต่ถ้ามภี าษีค้างชาํ ระ สามแี ละภริยาต้องร่วมรบั ผดิ ในการเสยี ภาษีทคี ้างชําระนนั เมอื ได้เลอื กยนื รายการตามวรรคสองและวรรคสามในปี ภาษีใดแล้ว ให้ถอื วา่ เป็ นวธิ กี ารยนื รายการ สําหรับปี ภาษีนนั ตลอดไป เว้นแต่อธิบดีจะอนมุ ัติให้เปลียนแปลงวิธีการเลอื กยืนรายการดังกลา่ ว” ( พระราชกาํ หนดแก้ไขเพมิ เติม (ฉบับที 18) พ.ศ. 2556 ใช้บงั คบั สาํ หรบั เงนิ ได้ปี ภาษี 2555 เป็ นต้นไป ) 7. น.ส.แดง มอี าชพี เป็ นเภสชั กร ได้รบั เงนิ เดอื นจากบรษิ ทั ขายยาทตี นประจาํ อยู่ เดอื นละ , บาท และตอนเยน็ เปิ ดร้าน ขายยา มีรายได้โดยเฉลยี เดอื นละ , บาท นอกจากนนั น.ส.แดง มที ตี กึ แถวอีก ห้อง ได้ให้ผ้อู นื เชา่ ได้เงนิ กนิ เปลา่ จาํ นวน , บาท ดงั นนั น.ส.แดง จะต้องมเี งนิ ได้สว่ นไหนไปรบั เสยี ภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดาครงึ ปี ก. เงนิ ได้จากการเปิ ดร้ านขายยา ข. เงนิ ได้จากเงนิ เดอื น ร้านขายยา เงนิ กนิ เปลา่ ค. เงนิ ได้จากร้านขายยา และเงนิ กนิ เปลา่ ง. เงนิ ได้จากเงนิ เดอื น และร้านขายยา เดิมเฉลย ค ทีถกู ตอบ ก

หนา้ 120 . การประเมนิ ภาษีกอ่ นถงึ กาํ หนดเวลายนื รายการตามมาตรา ทวิ และมาตรา ทวิ กาํ หนดเวลาให้ผู้ต้องเสยี ภาษีชาํ ระ ภาษีภายในเวลาเท่าไร ก. มาตรา ทวิ วนั มาตรา ทวิ วนั ข. มาตรา ทวิ วนั มาตรา ทวิ วนั ค. มาตรา ทวิ วนั มาตรา ทวิ วนั ง. มาตรา ทวิ วนั มาตรา ทวิ วนั เฉลย ค. ถกู ต้องแล้ว . การตรวจสอบภาษีโดยวิธีพิเศษ โดยประเมินค่าสทุ ธิของทรัพย์สินมีเพิมขนึ (Net Worth) ตามมาตรา โดยให้เจ้าพนกั งาน ประเมนิ ใช้วธิ ีการพเิ ศษกาํ หนดยอดเงนิ ได้สทุ ธขิ นึ แล้วดาํ เนนิ การประเมนิ เรียกเกบ็ แจ้งไปยงั ผ้เู สยี ภาษี การดาํ เนนิ การดงั กลา่ ว จะต้องได้รบั ความยนิ ยอมจากบคุ คลใดก่อนจงึ จะดาํ เนนิ การได้ ก. รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงการคลงั ข. ปลดั กระทรวงการคลงั ค. อธบิ ดกี รมสรรพากร ง. สรรพากรพนื ที เฉลย ค. ถกู ต้องแล้ว อ้างอิง : มาตรา มาตรา 49 ในกรณที ผี ้มู เี งนิ ได้มไิ ด้ยนื รายการเงนิ ได้ หรอื เจ้าพนกั งานประเมนิ พจิ ารณาเห็นวา่ ผ้มู เี งนิ ได้ยนื รายการเงนิ ได้ตาํ กวา่ จาํ นวนทคี วรต้องยนื ให้เจ้าพนกั งานประเมินโดยอนมุ ัตอิ ธิบดีมอี าํ นาจทจี ะกาํ หนดจาํ นวนเงนิ ได้สทุ ธขิ นึ ทงั นี โดยถอื เงนิ หรือทรัพย์สินซึงเป็ นกรรมสิทธิหรือเข้ามาอยใู่ นครอบครองของผ้มู เี งนิ ได้ หรอื รายจา่ ยของผ้มู เี งนิ ได้ หรอื ฐานะความเป็ นอยู่ หรือ พฤติการณ์ของผ้มู ีเงินได้ หรือสถติ ิเงินได้ของผ้มู ีเงินได้เอง หรือของผ้อู ืนทีกระทํากิจการทํานองเดียวกบั ของผ้เู งินได้เป็ นหลกั ใน การพจิ ารณา แล้วทําการประเมนิ แจ้งจาํ นวนเงนิ ทตี ้องชําระไปยงั ผู้ต้องเสยี ภาษี ทงั นี ให้นาํ บทบญั ญตั ิมาตรา 19 ถงึ มาตรา 26 มาใช้บงั คบั โดยอนโุ ลม ( พระราชบญั ญัติแก้ไขเพิมเติม (ฉบับที 10) พ.ศ. 2496 ใช้บงั คบั ปี ภาษี 2496 เป็ นต้นไป )

หนา้ 121 . ในปี พ.ศ. นายแดงประกอบกจิ การค้าขายสนิ ค้าเบด็ เตลด็ ซือมาขายไป เป็ นเงนิ ทงั สนิ , , บาท นายแดง มี ภรยิ าทจี ดทะเบยี นสมรสถกู ต้องตามกฎหมายและมบี ตุ รผ้เู ยาว์ คน กาํ ลงั ศกึ ษาอยู่ ภริยาและบตุ รไมม่ เี งนิ ได้อนื ให้คาํ นวณ ภาษีทนี ายแดงจะต้องชาํ ระ ก. , บาท ข. , บาท ค. , บาท ง. , บาท ข้อนีล้าสมยั แล้ว เนืองจากกฎหมายมกี ารแก้ไขอตั ราค่าใช้จ่ายเป็ นการเหมาร้อยละ 60 ค่าลดหย่อนผู้มเี งนิ ได้ และ สามหี รือภรรยาของผู้มเี งนิ ได้ คนละ 60,000 บาท และค่าลดหย่อนบตุ ร คนละ 30,000 บาท ชดุ ที . นาย ก จา่ ยเงนิ คา่ ออกแบบสถาปัตยกรรมให้แก่ นาย ข ซงึ มไิ ด้เป็ นผ้อู ยใู่ นประเทศไทย นาย ก จะต้องหกั ภาษี ณ ทจี า่ ย ใน อตั ราเทา่ ไร ก. หกั ในอตั ราร้อยละ . ของเงนิ ทีจ่าย ข. หกั ตามอตั ราภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดา ค. หกั ในอตั ราร้อยละ . ของเงนิ ทีจา่ ย ง. หกั ในอตั ราร้อยละ . ของเงนิ ทีจา่ ย

หน้า 122 . ธนาคารจา่ ยเงนิ ดอกเบยี เงนิ ฝากให้แก่ น.ส. A ธนาคารจะต้องหกั ภาษี ณ ทจี า่ ย ในอตั ราเทา่ ไร ก. หกั ในอัตราร้อยละ . ของดอกเบยี เงนิ ฝาก ข. หกั ในอตั ราร้อยละ .0 ของดอกเบียเงินฝาก ค. หกั ตามอตั ราภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดา ง. หกั ในอตั ราร้อยละ . ของดอกเบียเงนิ ฝาก . สว่ นราชการได้จ่ายเงนิ ให้แก่ นาย B เป็ นคา่ ซอื โต๊ะ เก้าอี เป็ นจาํ นวน , บาท สว่ นราชการจะต้องหกั ภาษี ณ ทจี า่ ย ใน อตั ราเทา่ ไร ก. หกั ในอตั ราร้อยละ . ของดอกเบียเงนิ ฝาก ข. หกั ในอตั ราร้อยละ . ของดอกเบียเงนิ ฝาก ค. หกั ในอตั ราร้อยละ . ของดอกเบียเงนิ ฝาก ง. ไม่ต้องหกั ภาษี ณ ทีจ่าย เนืองจากจาํ นวนเงนิ ทีจ่ายมจี าํ นวนไม่ถงึ , บาท . น.ส.แสนดี ซงึ เป็ นพสี าวได้ยกทดี นิ จาํ นวน ไร่ ตรี าคาประเมนิ เป็ นเงนิ จาํ นวน , บาท ให้แก่ น.ส.โชคดี ผ้เู ป็ นน้องสาว อยากทราบวา่ ในกรณนี ีจะถอื วา่ ผู้ใดเป็ นผู้จา่ ยเงนิ ได้ ก. น.ส.แสนดผี ู้ให้เป็ นผู้จ่ายเงนิ ได้ ข. น.ส. โชคดี ผ้รู บั ให้เป็ นผู้จา่ ยเงนิ ได้ เพราะได้รบั ทดี นิ มาแม้ไม่ได้จา่ ยเงนิ แตใ่ ห้ถอื เสมอื นหนงึ วา่ ได้จา่ ยเงนิ คา่ ทดี นิ ค. ไมม่ ผี ้ใู ดเป็ นผ้จู า่ ยเงนิ ได้ เนอื งจากเป็ นการยกให้ไมไ่ ด้มกี ารจ่ายคา่ ทดี นิ แตอ่ ย่างใด ง. ทงั น.ส.แสนดี และ น.ส. โชคดี ถอื วา่ เป็ นผ้จู า่ ยเงนิ ได้ เพราะต้องเฉลียภาระภาษี . นายลาภลอย ได้สง่ ชินสว่ นสนิ ค้าของนายชอบแจก ไปชงิ โชค ปรากฏวา่ นายลาภลอยได้รบั รางวลั จากการชงิ โชคเป็ นเงิน , บาท อยากทราบวา่ เมอื นายชอบแจก จา่ ยเงนิ ชงิ โชคให้แกน่ ายลาภลอย จะต้องหกั ภาษี ณ ทจี า่ ยไว้หรือไม่ ในอตั รา เทา่ ไร ก. ต้องหกั ภาษี ณ ทจี า่ ย โดยหกั ตามอตั ราภาษิเงนิ ได้บคุ คลธรรมดา ข. ไมต่ ้องหกั ภาษี ณ ทจี า่ ย เนอื งจากนายชอบแจก เป็ นบคุ คลธรรมดา ไมม่ หี น้าทตี ้องหกั ภาษี ณ ทจี า่ ย ค. หกั ภาษี ณ ทจี ่าย โดยคาํ นวณหกั ในอ้ตราร้อยละ . ของทีจ่าย ง. ไมต่ ้องหกั ภาษี ณ ทจี า่ ย เพราะกฎหมายบญั ญตั ไิ ว้วา่ ไมต่ ้องหกั ภาษี ณ ทจี า่ ย . นกั แสดงสาธารณะหมายถงึ ผ้ใู ดบ้าง ก. นกั แสดงละคร , ภาพยนตร์ ข. นักร้อง , นักดนตรี ค. นกั กฬี าอาชพี ง. ถกู ทุกข้อ

หน้า 123 . อธบิ ดมี อี าํ นาจออกคําสงั ให้ผู้จา่ ยเงนิ ได้พงึ ประเมนิ ตามมาตรา ซงึ ไมม่ หี น้าทหี กั ณ ทจี า่ ย ให้มหี น้าทหี กั ภาษี ณ ทจี า่ ย อาํ นาจออกคําสงั ดงั กลา่ วจะต้องออกตามหลกั เกณฑ์ เงอื นไข และอตั ราทกี าํ หนดโดยกฎหมายลาํ ดบั ใด ก. กฎกระทรวง ข. พระราชบญั ญตั ิ ค. ประกาศกระทรวงการคลงั ง. พระราชกฤษฎีกา . นายลโี อนาโด นกั แสดงภาพยนตร์ชาวต่างประเทศได้เดนิ ทางเข้ามาแสดงภาพยนตร์ในประเทศไทย โดยบริษทั ถา่ ยทาํ ภาพยนตร์เป็ นนติ บิ คุ คลตามกฎหมายตา่ งประเทศ และได้บริษทั ฯ รบั อนญุ าตให้ถา่ ยทาํ ภาพยนตร์ในประเทศไทยจาก คณะอนกุ รรมการพจิ ารณาคาํ ขออนญุ าตถา่ ยภาพยนตร์ตา่ งประเทศ อยากทราบวา่ กรณดี งั กลา่ ว นายลโี อนาโด จะต้องถกู หกั ภาษี ณ ทจี า่ ย ในอตั ราเทา่ ไรของเงนิ ค่าแสดงภาพยนตร์ ก. อตั ราเงนิ ได้บคุ คลธรรมดา ข. อัตราร้อยละ . ค. อตั ราร้อยละ . ง. อัตราร้อยละ . เฉลย ค. ถกู ต้องแล้ว อ้างองิ : ท.ป.4/2528 ข้อ 9 (2) (ก) ขอ 9 ใหบุคคล บริษัท หรือหางหุนสวนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น หางหุนสวนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใชนิติบุคคล ซึ่ง เปนผูจายเงินไดพึงประเมินตามมาตรา 40 (8) แหงประมวลรัษฎากรใหแกผูรับซึ่งเปน (1) ผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดาหรอื ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลเฉพาะทเ่ี ปน รางวลั ในการประกวด การ แขง ขนั การชงิ โชค หรอื การอน่ื ใดอนั มลี ักษณะทาํ นองเดยี วกนั หกั ภาษี ณ ทจ่ี า ย โดยคาํ นวณหกั ไวใ นอตั รารอยละ 5.0 “ (2) นกั แสดงสาธารณะ “(ก) กรณมี ภี มู ลิ าํ เนาอยใู นตางประเทศ หกั ภาษี ณ ทจ่ี า ยโดยคาํ นวณหกั ไวต ามอตั ราท่ีกาํ หนดในบญั ชีอตั รา ภาษเี งินไดสําหรับบุคคลธรรมดา เวนแตน ักแสดงสาธารณะที่เปน นักแสดงภาพยนตรหรือโทรทัศนซึ่งมีภูมิลําเนาอยูในตางประเทศ เฉพาะกรณีที่มีการดําเนินการถายทํา ภาพยนตรหรือโทรทัศนในประเทศไทยโดยบริษัทหรือหางหุนสวนนิติบุคคลทตี่ ั้งขึ้นตาม กฎหมายของตางประเทศ และไดรับอนุญาตใหถายทําในประเทศไทยจากคณะอนุกรรมการพิจารณาคําขออนุญาตถายทํา ภาพยนตรตางประเทศในประเทศไทย ตามระเบียบคณะกรรมการสงเสริมอตุ สาหกรรมภาพยนตรไทย วาดวยการขออนุญาตถา ย ทําภาพยนตรตางประเทศในประเทศไทย พ.ศ. 2544 หักภาษี ณ ทจ่ี า ยโดยคํานวณหกั ไวใ นอัตรารอ ยละ 10.0” (แกไขเพิ่มเติมโดยคําสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.111/2545 ใชบังคับ 28 กันยายน 2545 เปนตนไป) . น.ส. เอ๋ ได้เข้าทาํ งานเป็ นพนักงาน บริษัท A ในเดือนตลุ าคม โดยได้รบั เงนิ เดอื นเดอื นละ , บาท อยากทราบวา่ บริษัท A คาํ นวณภาษีเงนิ ได้หกั ณ ทจี า่ ย โดยคาํ นวณหาจาํ นวนเงินเดอื นเสมอื นหนงึ วา่ ได้จ่ายทงั ปี เป็ นจํานวนเทา่ ไร ก. 3 x 10,000 = 30,000 บาท ข. 12 x 10,000 = 120,000 บาท ค. x 10,000 = 20,000 บาท ง. ผดิ ทุกข้อ

หนา้ 124 . บริษัท D ได้จา่ ยคา่ จ้างทาํ ของให้แก่ นาย C ดงั นนั บริษัท D จะต้องหกั ภาษี ณ ทจี า่ ย และนาํ สง่ กรมสรรพากรโดยใช้แบบ แสดงรายการใด ก. แบบ ภ.ง.ด. ข. แบบ ภ.ง.ด. ค. แบบ ภ.ง.ด. ง. แบบ ภ.ง.ด. ชดุ ที . ประเทศไทยใช้อตั ราภาษีแบบใดในการจดั เก็บภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดา ก. อตั ราก้าวหน้า ข. อตั ราถดถอย ค. อตั ราคงที ค. ถกู ทกุ ข้อ เดิมเฉลย ข. ทีถกู ตอบ ก . ด.ช. ดาํ อายุ ปี มรี ายได้จากคา่ เช่าทดี นิ ซงึ ได้รบั โดยทางมรดกจากคณุ ป่ ู ในปี เป็ นเงนิ ทงั สนิ , บาท จะต้องเสยี ภาษีหรือไม่ อยา่ งไร ก. ต้องเสยี ในนามของ ด.ช. ดาํ ผ้มู เี งนิ ได้ ข. ต้องเสยี โดยถอื เป็ นเงนิ ได้ของบดิ า ค. ไมต่ ้องเสยี เพราะยงั เป็ นผ้เู ยาว์ ง. ต้องเสยี โดยผู้แทนโดยชอบธรรมของ ด.ช. ดาํ . นายแดง เป็ นพนกั งานบริษทั ฯ มเี งนิ เดอื น เดอื นละ , บาท และถกู หกั ภาษี ณ ทจี า่ ยไว้ทกุ เดอื น ตอ่ มาได้เสยี ชวี ิตลงใน เดอื นตลุ าคม ดงั นี จะต้องยืนแบบแสดงรายการเพือเสียภาษีหรือไมอ่ ยา่ งไร ก. ไมต่ ้องเสยี เพราะผ้มู เี งนิ ได้ถงึ แกค่ วามตายกอ่ นการยนื แบบฯ ข. ต้องเสีย โดยผู้จดั การกองมรดกนายแดง เป็ นผู้ยืนแบบฯ แทน ค. ต้องเสยี โดยภรรยานายแดง เป็ นผ้ยู นื แบบฯ แทน ง. ต้องเสยี โดยนายจ้าง เป็ นผ้ยู นื แบบฯ แทน . นายโท อายุ ปี แต่งงานแล้ว ดงั นนั นายเอก ผ้เู ป็ นบิดา จะหักลดหย่อนสําหรับนายโทผ้เู ป็ นบุตรได้หรือไม่ ก. ได้ เป็ นเงนิ , บาท เพรายงั เป็ นผ้เู ยาว์ ข. ได้ เป็ นเงนิ , บาท ถ้ายงั ศกึ ษาอยู่ ค. ได้กงึ หนงึ เพราะแต่งงานแล้ว ง. หกั ไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็ นผู้เยาว์แล้ว

หนา้ 125 . MR.A ขาวอเมริกา มาทํางานในองค์การยเู นสโกของสหประชาชาตใิ นประเทศไทย เงนิ เดอื นที MR.A ได้รบั ต้องเสยี ภาษี หรือไม่ ก. ต้องเสยี ภาษีในประเทศไทย ถ้าอยถู่ งึ วนั ข. ต้องเสยี ถ้าเงนิ ได้จ่ายในประเทศไทย ค. ต้องเสยี ถ้าเข้าเงือนไขตาม ก และ ข ง. ไม่ต้องเสยี เพราะกฎหมายยกเว้นให้ . ช้อใดต่อไปนี ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ ก. ชาวนาเกลอื ขายเกลือทีทําเอง ข. ชาวนาชายข้าวทปี ลกู เอง ค. ชาวสวนขายผลไม้ทปี ลกู เอง ง. ถกู ทกุ ข้อ . เงนิ ได้ข้อใดอยใู่ นขา่ ยต้องยนื ภ.ง.ด. ก. คา่ นายหน้าและคา่ ขายของ ข. เงนิ ปันผลและค่าเชา่ บ้าน ค. ประกอบโรคศลิ ป์ และลขิ สทิ ธิ ง. รับเหมาก่อสร้ างและทาํ บัญชี . เงินบริจาคทีหักลดหย่อนได้ คือ ก. บริจาคเงนิ ให้พทุ ธมณฑล ข. บริจาคเงนิ ให้โบสถ์คริสต์ ค. บริจาคพดั ลมให้วดั ง. บริจาคเตยี งให้โรงพยาบาลของรฐั . นายหนงึ มเี งนิ ได้จากการรบั เหมากอ่ สร้าง จาํ นวน , , บาท หกั คา่ ใข้จา่ ยเป็ นการเหมา ร้อยละ ยนื แบบฯ หกั ลดหยอ่ นภรรยาและบตุ ร คน เป็ นเงนิ , บาท ได้บริจาคให้โรงพยาบาลศริ ิรราชในปี เดียวกนั เป็ นเงนิ , บาท ดงั นี นายหนึงสามารถหกั ลดหยอ่ นเงนิ บริจาคได้เทา่ ไร ก. , บาท ข. , บาท ค. , บาท ง. , บาท เดมิ เฉลย ข ทีถกู ตอบ ไม่มีข้อใดถกู เนืองจากกฎหมายมกี ารแก้ไขอตั ราค่าใช้จ่ายเป็ นการเหมาร้อยละ 60 และค่า ลดหย่อนผู้มเี งนิ ได้ และสามหี รือภรรยาของผู้มีเงนิ ได้ คนละ 60,000 บาท และค่าลดหย่อนบตุ ร คนละ 30,000 บาท

หนา้ 126 . กรณใี ดต้องเสยี ภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดา ก. บดิ า มารดา ยกทดี นิ ให้บตุ ร ข. บตุ รยกทดี นิ ให้บิดาร มารดา ค. ยกทดี ินให้วดั ไร่ ง. ทัง ข และ ค ชดุ ที . กรณใี ดไม่ได้รบั ยกเว้นภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดา ก. ทาํ งานองคก์ ารโทรศพั ท์ มบี ้านพกั โดยไมเ่ สยี คา่ เช่า ข. ทนุ การศกึ ษาทไี ด้รบั จากมหาวทิ ยาลยั ค. ค่าสอนพเิ ศษทีได้รับจากมหาวทิ ยาลยั ง. ถกู ทกุ ข้อ . เงนิ ได้ข้อใด สามารถเลอื กหกั คา่ ใช้จา่ ยตามจาํ เป็ นและสมควรได้ ก. ค่าลขิ สทิ ธิ ข. ค่านายหน้า ค. คา่ รบั ทาํ บญั ชี ง. ถกู ทงั ข และ ค . นายกร มเี งนิ ได้จากเงนิ เดอื น , บาท และเงนิ ได้จากคา่ นายหน้าอกี , บาท ได้จา่ ยเงนิ สะสมเข้ากองทนุ สาํ รองเลยี งชพี ในปี เดียวกนั เป็ นเงนิ , บาท เงนิ ได้พงึ ประเมินทใี ช้ ในการคาํ นวณภาษีของนายกร เป็ นเทา่ ไร ก. , บาท ข. , บาท ค. , บาท ง. , บาท เฉลย ข. ถกู ต้องแล้ว

หนา้ 127 . นายมงั กร เป็ นสตั วแพทย์ ขององค์การสวนสตั ว์ ได้รบั เงนิ เดอื นประจาํ และเปิ ดคลนี คิ รกั ษาสตั ว์ในวนั หยดุ ราชการ ดงั นี นาย มงั กรมเี งนิ ได้ประเภทใดบ้าง ก. ประเภท และ ข. ประเภท และ ค. ประเภท และ ง. ประเภท อยา่ งเดียว . นายชอบมภี รรยาและบตุ รโดยชอบด้วยกฎหมาย คน คนแรกอายุ ปี ถกู ศาลสงั ให้เป็ นคนไร้ความสามารถ คนทีสอง อายุ ปี กาํ ลงั ศกึ ษาอยทู่ โี รงเรยี นศกึ ษาผ้ใู หญ่ คนทสี าม อายุ ปี กาํ ลงั ศกึ ษาอยใู่ นโรงเรียนเอกชนแหง่ หนงึ ดงั นี นายชอบ จะสามารถหกั คา่ ลดหยอ่ นในการยนื แบบฯ ได้ทงั สนิ เทา่ ไร ก. , บาท ข. , บาท ค. , บาท ง. , บาท . เครดติ ภาษี ถอื เป็ น ก. เงนิ ได้พงึ ประเมนิ ข. ภาษีหัก ณ ทีจา่ ย ค. เงนิ ทนี าํ ไปหกั จากภาษีทตี ้องเสยี ง. ถกู ทัง ก และ ค เฉลย ง. ถกู ต้องแล้ว อ้างอิง : มาตรา ทวิ วรรคสอง เครดติ ภาษีทคี าํ นวณได้ตามความในวรรคหนึง ใหน้ าํ มารวมคํานวณเป็นเงินไดพ้ งึ ประเมินเพือเสยี ภาษีเงนิ ได้ตาม เกณฑใ์ นมาตรา 48 เป็ นเงนิ ภาษีทงั สนิ เทา่ ใด ให้นาํ เครดิตภาษีทีคํานวณไดด้ งั กลา่ วหกั ออกจากภาษีทีตอ้ งเสีย ถ้ายงั ขาดหรือ เหลือเท่าใดให้ผ้มู เี งนิ ได้เสยี ภาษีสาํ หรบั จาํ นวนทขี าด หรือมีสทิ ธิได้รับเงินจาํ นวนทีเหลอื นนั คืน . ผ้มู สี ทิ ธิได้รบั เครดติ ภาษี คอื ก. ผ้อู ยใู่ นประเทศไทยเกิน วัน ข. มสี ญั ชาติไทย ค. มภี มู ลิ าํ เนาในประเทศไทย

หน้า 128 ง. ถกู ทัง ก และ ค เฉลย ง. ถกู ต้องแล้ว อ้างอิง : มาตรา ทวิ วรรคสาม ความในวรรคหนงึ และวรรคสองมิให้ใช้บงั คบั แก่ผู้มเี งนิ ได้ซงึ มิได้มีภูมลิ าํ เนาอย่ใู นประเทศไทย และมไิ ด้เป็ นผู้ อย่ใู นประเทศไทย 8. นายสม เป็ นผ้อู ย่ใู นประเทศไทย ได้รับเงินปันผลจากบริษัทในต่างประเทศ ต้องนํามาเสียภาษีในประเทศไทยหรือไม่ ก. ต้องเสยี ทงั จํานวน เพราะเป็ นผ้อู ยู่ในประเทศไทย ข. ต้องเสยี หากนําเงนิ ปันผลดงั กล่าวเข้ามาในปี เดยี วกนั ค. ไมต่ ้องเสยี เพราะเป็ นเงนิ ทไี ด้รบั จากตา่ งประเทศ ง. ไมม่ ขี ้อถกู . นายมาก ขายสร้อยคอทองคําของตนให้แกเ่ พอื น เป็ นเงนิ , บาท นายมากต้องนาํ เงนิ ดงั กลา่ วมาเสยี ภาษีเงนิ ได้บคุ คล ธรรมดาหรอื ไม่ ก. ต้อง เพราะเงินได้ถึงเกณฑ์ยืนแบบฯ ข. ต้อง เพราะเป็ นเงนิ ได้พงึ ประเมนิ ค. ไม่ต้อง เพราะกฎหมายยกเว้น ง. ไมต่ ้อง เพราะไม่ได้มงุ่ ค้า . นายสมรกั ได้ร่วมตอบปัญหาทางทวี ี และได้รบั เงนิ รางวลั จาํ นวน , บาท พร้อมทงั ทวี ี มลู คา่ , บาท และถกู หกั ภาษี ณ ทจี า่ ย เงนิ ได้ดงั กลา่ วนายสมรกั ต้องยนื ภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดาตอนสนิ ปี หรือไม่ อยา่ งไร ก. ไมต่ ้อง เพราะถอื วา่ ได้โดยเสนห่ า ข. ยนื เฉพาะเงนิ รางวลั ไม่รวมสงิ ของ ค. ยืนตามมูลค่าทีได้รับทังเงนิ และสงิ ของ ง. ไมต่ ้องยนื เพราะถกู หกั ภาษี ณ ทจี า่ ยไว้แล้ว ชุดที . เงนิ ได้พงึ ประเมนิ หมายถงึ เงนิ ได้อนั เข้าลกั ษณะทตี ้องนาํ มาเสยี ภาษีเงนิ ได้นนั มลี กั ษณะเป็ นองค์ประกอบข้อใดบ้าง ก. เป็ นเงินสดหรือตราสารอันมีคา่ เป็ นเงินสดหรือเป็ นผลประโยชน์หรือเป็ นทรพั ย์สิน ข. ได้รบั จากหน้าทีงานทที าํ จากกจิ การทที ําผลได้จากทรพั ย์สนิ ค. ได้จากผ้ทู อี อกคา่ ภาษีให้ ได้จากประโยชน์อนื ใด อนั ทที าํ ได้เป็ นตวั เงนิ จากเครดติ หรอื สว่ นแบง่ กาํ ไรทไี ด้รบั จากนิติ บคุ คลทตี งั ขนึ ตามกฎหมายไทย ง. ถกู ทุกข้อ

หนา้ 129 . ผ้มู เี งนิ ได้ในตา่ งประเทศ จะต้องเสยี ภาษีในประเทศไทยเมอื ใด ก. นาํ เงนิ ได้เข้ามาในประเทศไทย ข. นาํ เงนิ ได้เข้าในปี ภาษีเดยี วกนั กบั ทเี กิดเงนิ ได้ ค. อยใู่ นประเทศไทย ไมน่ ้อยกวา่ วนั ง. ถกู ทังข้อ (ข) และ (ค) . “ผ้อู ย่ใู นประเทศไทย” มคี วามหมายครอบคลมุ เพยี งใด วนั ก. เป็ นผ้อู ย่ใู นประเทศไทยตลอดปี ภาษี ข. เป็ นผ้อู ยใู่ นประเทศไทยระยะเวลาหนงึ หรอื หลายระยะเวลาทงั หมด วนั ค. เป็ นผ้อู ยใู่ นประเทศไทยระยะเวลาหนงึ หรือหลายระยะเวลาทงั หมดไมน่ ้อยกวา่ ง. ถกู ทังข้อ (ก) และ (ค) 4. ผ้มู หี น้าทีเสยี ภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดาหมายถงึ ข้อใด ก. ผ้มู เี งนิ ได้พงึ ประเมนิ ตามเกณฑ์ทปี ระมวลรษั ฎากรกาํ หนดไว้ ข. ผ้โู อนกรรมสิทธิในอสงั หาริมทรพั ย์ โดยไม่มคี า่ ตอบแทน ค. ผ้มู ีเงินได้ทีเป็ นกองมรดกทียังไม่ได้แบ่ง ง. ถกู ทุกข้อ 5. นายสอนราม ได้รับเงินเดือนจากนายจ้าง และได้รบั เงนิ พเิ ศษเป็ นรางวลั ทมี อบหมายให้ฝึกอบรมวทิ ยากรต้นแบบ เงินที นายจ้างจา่ ยให้ถอื เป็ นเงนิ ได้ตามมาตราใด ก. 40(1) ข. 40(2) ค. 40(6) ง. 40(8) 6. นายแบรี นอทต์ ได้รบั เงนิ เดอื น โดยนายจ้างเป็ นผ้อู อกคา่ ภาษีแทน แตใ่ นเดอื นธนั วาคม 2545 นายจ้างตกลงจา่ ยเงนิ เดอื น พร้อมโบนัสให้ สําหรับค่าภาษีทีออกให้และโบนัส จะจา่ ยให้ในเดอื นมกราคม 2546 ถามวา่ เงนิ ภาษีและเงนิ โบนสั เป็ นเงนิ ได้ ประเภทใด ของปี ภาษีใด ก. มาตรา 40(1) ของปี ภาษี 2546 ข. มาตรา 40(2) ของปี ภาษี 2546 ค. เงนิ ภาษีออกให้เป็ นมาตรา 40(1) ของปี ภาษี 2545 เงนิ โบนสั เป็ นมาตรา 40(2) ของปี ภาษี 2546 ง. ทังเงนิ ภาษีและโบนัสเป็ น 40(1) ของปี 2545

หนา้ 130 7. เงินค่าลิขสทิ ธิเป็ นเงนิ ได้ตามมาตราใด หกั ค่าใช้จ่ายได้เท่าใด ก. มาตรา 40(3) หกั คา่ ใช้จ่าย 40% ไมม่ จี าํ กดั เพดาน ข. มาตรา 40(3) หกั คา่ ใช้จา่ ยไมไ่ ด้ ค. มาตรา 40(3) หกั คา่ ใช้จ่ายได้ 40% ไมเ่ กนิ 20,000 บาท ง. มาตรา 40(3) หกั คา่ ใช้จ่ายได้ 40% ไมเ่ กนิ 60,000 บาท เดมิ เฉลยข้อ ง ทีถกู ตอบ ไม่มขี ้อใดถกู เนืองจากแก้ไขเพิมเติมโดย พรฎ. (ฉบบั ที 634) พ.ศ.2560 ยอมให้หกั ค่าใช้จ่ายได้ 50% แต่รวมกนั ต้องไม่เกนิ 100,000 บาท \"มาตรา 4 ทวิ เงนิ ได้พงึ ประเมินตามมาตรา 40 (3) แห่งประมวลรัษฎากร ซงึ แก้ไขเพิมเติมโดย พระราชบญั ญัติแก้ไขเพิมเติมประมวลรัษฎากร (ฉบบั ที 16) พ.ศ. 2502 เฉพาะทเี ป็ นค่าแห่งก๊ดู วลิ ล์ ค่าแห่งลิขสิทธิ หรือสทิ ธอิ ย่างอืน ยอมให้หกั ค่าใช้จ่ายเป็ นการเหมาร้อยละ 50 แต่รวมกนั ต้องไม่เกนิ 100,000 บาท เว้นแต่ผู้มีเงนิ ได้จะแสดงหลกั ฐานต่อเจ้าพนักงานประเมนิ และพิสจู น์ได้ว่ามคี ่าใช้จ่าย มากกว่านัน ก็ยอมให้หักค่าใช้จ่ายได้ตาม ความจาํ เป็ นและสมควร ทังนี ให้นํามาตรา 65 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ซงึ แก้ไขเพิมเตมิ โดยพระราชบญั ญตั แิ ก้ไข เพิมเติมประมวลรัษฎากร (ฉบบั ที 31) พ.ศ. 2534 และมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร ซงึ แก้ไขเพิมเติมโดย พระราชกาํ หนดแก้ไขเพิมเตมิ ประมวลรัษฎากร (ฉบบั ที 17) พ.ศ. 2540 มาใช้บังคบั โดยอนโุ ลม แต่ถ้าตามหลกั ฐาน ทนี ํามาพสิ จู น์นันปรากฏว่ามรี ายจ่ายทีหกั ได้ตามกฎหมายน้อยกว่าอตั ราค่าใช้จ่ายทีกําหนดไว้ข้างต้น ก็ให้ถือว่ามี ค่าใช้จ่ายเพยี งเท่าหลกั ฐานทีนํามาพสิ ูจน์\" (แก้ไขเพิมเติมโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบบั ที 634) พ.ศ.2560 ให้ใช้บังคบั สําหรับเงนิ ได้พงึ ประเมนิ ประจาํ ปี ภาษี พ.ศ. 2560 ทจี ะต้องยนื รายการในปี พ.ศ. 2561 เป็ นต้นไป) 8. ตามมาตรา 40(4)(ข) กาํ หนดให้เงนิ ปันผลของบตุ รเป็ นเงนิ ได้ของ ก. ตนเอง ข. ของมารดา ค. ของบดิ า ง. ของบดิ าและมารดา 9. ดอกเบียทีบตุ รได้จากการฝากเงินกับธนาคารประเภททีต้องจ่ายคืนเมือทวงถามประเภทออมทรัพย์ถือเป็ นเงินได้ของผู้ใด ก. ตนเอง และได้รับยกเว้นภาษี ข. ของบิดา ซงึ ต้องนาํ มายนื ภาษี ค. ของมารดา ง. ของบดิ าและมารดา 10. เงนิ คา่ เชา่ บ้านทนี ายจ้างออกให้ ถอื เป็ นเงนิ ได้ทตี ้องนาํ มาคาํ นวณภาษี สามารถหกั คา่ ใช้จา่ ยได้ตามมาตราใด ก. มาตรา 42 ทวิ เงนิ ได้ตามมาตรา 40(1)(2) ข. มาตรา 42 ตรี เงนิ ได้ตามมาตรา 40(3) ค. มาตรา 43 เงนิ ได้ตามมาตรา 40(5) ง. มาตรา 46 เงนิ ได้ตามมาตรา 40(8)

หนา้ 131 ชดุ ที 6 1. มาตรา 47 แหง่ ประมวลรษั ฎากร บญั ญตั เิ กยี วกบั ก. การหกั ค่าใช้จ่าย ข. การหกั ค่าลดหย่อน ค. เครดติ ภาษีเงนิ ปันผล ง. อตั ราภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดา เดมิ เฉลย ค. ทีถกู ตอบ ข. มาตรา 45 คา่ ใช้จา่ ยสาํ หรบั คา่ รบั เหมา มาตรา 46 คา่ ใช้จา่ ยสาํ หรบั เงนิ ได้จากการอนื มาตรา 47 การหกั คา่ ลดหยอ่ น D มาตรา 47 ทวิ การเครดติ ภาษีสาํ หรบั เงนิ ปันผล มาตรา 48 วธิ คี าํ นวนภาษี 2. เงนิ ได้พงึ ประเมนิ มาตราใด ยนื ภาษีปี ละ 2 ครงั ก. 40(1)(2) ข. 40(3) ค. 40(4) ง. 40(5)(6)(7)(8) 3. การหกั ค่าใช้จ่ายตามสว่ น 2 หมวด 3 ลกั ษณะ 2 ในประมวลรษั ฎากรหกั ได้กวี ธิ ี ก. 2 วิธี ข. 3 วธิ ี ค. 4 วธิ ี ง. ถกู ทงั ก ข และ ค 4. การยอมให้เครดติ ภาษีตามมาตรา 47 ทวิ คอื หลกั การในข้อใด ก. ภาษีทีบริษัทหรือนิติบุคคลได้จ่ายไปแล้ว ในนามนติ บิ คุ คล และเสยี อกี ครงั เมอื จา่ ยเงนิ ปันผลให้แกบ่ คุ คลอกี ครัง จงึ เป็ นการซําซ้อน ข. เพือขจดั ปัญหาซําซ้อน จงึ ยอมให้คนื ภาษีเงนิ ได้ทเี กบ็ จากเงินปันผลหรือส่วนแบ่งกําไรของบริษัทหรือห้างห้นุ ส่วน นติ บิ คุ คล ค. เพอื สร้างความเป็ นธรรม ง. ถกู ทุกข้อ

หนา้ 132 5. การหกั ค่าใช้จ่ายตามความจาํ เป็ นและสมควร ให้นาํ มาตราใดมาบงั คบั ใช้โดยอนโุ ลม ก. มาตรา 42 ข. มาตรา 47 ค. มาตรา 65 ทวิ และ 65 ตรี ง. มาตรา 47 ทวิ 6. กรณจี ดทะเบียนหยา่ บนั ทกึ การหย่าวา่ บตุ รอยใู่ นความดแู ลของภรรยา แตส่ ามีเป็ นผ้อู อกคา่ ใช้จา่ ยให้ จะหกั คา่ ลดหยอ่ น บตุ รได้อยา่ งใด ก. สามี หกั คา่ ลดหยอ่ นได้เท่านนั ข. ภรรยา เท่านนั ทีหกั ลดหย่อนบุตรได้ ค. ทงั สามแี ละภรรยาต่างฝ่ ายต่างหกั ลดหย่อนได้ ง. ถกู ข้อ (ก)(ข) 7. การเครดิตตามมาตรา 47 ทวิ ไมใ่ ห้ใช้บงั คบั แก่ผ้ใู ด ก. ชาวตา่ งประเทศ เข้ามาทาํ งานในประเทศไทยเพยี ง 4 เดอื น ข. คนไทยซึงไปทํางานอยู่ต่างประเทศตลอดปี ภาษีนนั ค. ผ้ทู ีมิได้มีภูมิลําเนาอยู่ในประเทศไทยหรือมิได้เป็ นผ้อู ย่ใู นประเทศไทย ง. ถกู ทุกข้อ 8. ผ้มู เี งนิ ได้พงึ ประเมนิ มีสทิ ธเิ ลอื กเสยี ภาษีกรณใี ดบ้าง ก. กรณีได้เงินได้ประเภทดอกเบยี และยอมให้ถกู หกั ภาษีไว้ ข. ภรรยามเี งนิ ได้ประเภทเงนิ เดอื นอยา่ งเดียว ค. กรณเี งนิ บาํ เหนจ็ ทีจา่ ยครังเดียวเมอื ออกจากงาน ง. ถกู ทุกข้อ 9. ผ้มู เี งนิ ได้ทีอย่ใู นต่างประเทศ ผ้ใู ดเป็ นผู้มีหน้าทียืนแบบแสดงรายการ ก. ผ้แู ทนโดยชอบธรรม ข. ผ้อู นบุ าล ค. ผ้พู ทิ กั ษ์ ง. ผู้จดั การกจิ การอนั ก่อให้เกดิ เงนิ ได้พึงประเมนิ นัน 10. ภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดาจดั เกบ็ ในอตั รา ก. คงที ข. ถอยหลงั ค. คงทที อี าจลดลงได้เป็ นกรณี ง. ก้าวหน้า

หน้า 133 ชดุ ที 7 1. ราคา “ขาย” อสงั หาริมทรพั ย์กรณผี ้ขู ายเป็ นบคุ คลธรรมดา ในการคาํ นวณภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดา หกั ณ ทจี า่ ย ให้ใช้ ราคาใด ก. ราคาตลาด ข. ราคาทสี งู กวา่ ราคาประเมนิ ค. ราคาทตี าํ กวา่ ราคาประเมนิ ง. ราคาประเมนิ 2. กรณสี มรสระหวา่ งปี ภาษี สามี ภรรยาตา่ งฝ่ ายตา่ งมเี งนิ เดอื น ภรรยามบี ตุ รทีหักลดหย่อนก่อนจดทะเบียนสมรส 1 คน สามี สามารถนําบตุ รของภรรยามาหกั ลดหยอ่ นได้หรือไม่ เพยี งใด ก. หกั ไมไ่ ด้ เพราะเป็ นบตุ รของภรรยา ข. หกั ได้ฝ่ ายเดียว ภรรยาหกั ไมไ่ ด้ ค. หกั ลดหย่อนได้เตม็ จาํ นวน ง. หกั ได้คนละกงึ หนงึ เดมิ เฉลย ง. ทีถกู ตอบ ค. ตามกฎหมายใหม่ตาม ม.47 (1)(ค)(1) มาตรา 47 เงนิ ได้พงึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 เมอื ได้หกั ตามมาตรา 42 ทวิ ถงึ มาตรา 46 แล้ว เพือเป็ นการ บรรเทาภาระภาษี ให้หกั ลดหย่อนได้อกี ต่อไปนี (1) ลดหย่อนให้สําหรับ (ก) ผู้มเี งนิ ได้ ๖๐,๐๐๐ บาท (ข) สามหี รือภริยาของผู้มีเงนิ ได้ ๖๐,๐๐๐ บาท (ค) บตุ ร (๑) บตุ รชอบด้วยกฎหมายของผู้มเี งนิ ได้ หรือบตุ รชอบด้วยกฎหมายของสามหี รือภริยาของผ้มู ีเงนิ ได้ คนละ ๓๐,๐๐๐ บาท (๒) บตุ รบญุ ธรรมของผู้มเี งนิ ได้ คนละ ๓๐,๐๐๐ บาท แต่รวมกนั ต้องไม่เกนิ สามคน ในกรณผี ู้มเี งนิ ได้มบี ตุ รทงั (๑) และ (๒) การหกั ลดหย่อนสาํ หรับบตุ ร ให้นําบตุ รตาม (๑) ทังหมด มาหกั ก่อน แล้วจงึ นําบตุ รตาม (๒) มาหกั เว้นแต่ในกรณผี ู้มีเงนิ ได้มีบตุ รตาม (๑) ทมี ชี วี ติ อยู่รวมเป็ น จาํ นวนตังแต่สามคนขึนไป จะนาํ บตุ รตาม (๒) มาหกั ไม่ได้ แต่ถ้าบตุ รตาม (๑) มจี าํ นวนไม่ถงึ สามคนให้ นําบตุ รตาม (๒) มาหกั ได้ โดยเมือรวมกบั บตุ รตาม (๑) แล้วต้องไม่เกนิ สามคน การนับจาํ นวนบตุ ร ให้นับเฉพาะบตุ รทีมชี วี ติ อย่ตู ามลําดับอายุสูงสุดของบุตร โดยให้นับรวม ทงั บตุ รทีไม่อย่ใู นเกณฑ์ได้รับการหกั ลดหย่อนด้วย การหกั ลดหย่อนสาํ หรับบตุ ร ให้หกั ได้เฉพาะบตุ รซึงมีอายไุ ม่เกินยีสิบห้าปี และยงั ศกึ ษาอย่ใู น มหาวทิ ยาลยั หรือชันอดุ มศกึ ษา หรือซึงเป็ นผู้เยาว์ หรือศาลสังให้เป็ นคนไร้ความสามารถหรือเสมอื นไร้ ความสามารถอนั อยู่ในความอุปการะเลียงดู แต่มใิ ห้หกั ลดหย่อนสาํ หรับบตุ รดงั กล่าวทีมเี งนิ ได้พงึ ประเมนิ ในปี ภาษีทลี ่วงมาแล้วตังแต่ ๓๐,๐๐๐ บาทขึนไป โดยเงนิ ได้พงึ ประเมนิ นันไม่เข้าลกั ษณะตาม มาตรา ๔๒ การหกั ลดหย่อนสาํ หรับบตุ รดงั กล่าว ให้หกั ได้ตลอดปี ภาษไี ม่ว่ากรณที ีจะหกั ได้นันจะมอี ย่ตู ลอดปี ภาษหี รือไม่ และในกรณบี ตุ รบญุ ธรรมนันให้หกั ลดหย่อนในฐานะบตุ รบุญธรรมได้แต่ฐานะเดยี ว

หนา้ 134 3. ขนั เงินได้สทุ ธิตงั แต่ 100,000 บาท คาํ นวณภาษีในอตั ราใด เป็ นเงนิ เทา่ ใด ก. อตั รา 5% ภาษีคดิ เป็ นเงิน 5,000 บาท ข. อตั รา 10% ภาษีคดิ เป็ นเงิน 10,000 บาท ค. อตั รา 5% ภาษีคดิ เป็ นเงิน 1,000 บาท ง. ไม่มขี ้อใดถกู เดิมเฉลย ค. ทีถกู ตอบ ง. เนืองจากปี ภาษีปัจจบุ ัน ขนั เงนิ ได้สทุ ธติ ังแต่ 150,000 บาท ได้รับยกเว้นตาม พรฎ. (ฉบนั ที 470) พ.ศ. 2551 4. การคาํ นวณภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดาในข้อใด ไมไ่ ด้รบั ยกเว้นเงินได้สทุ ธิ 50,000 บาท ก. การคาํ นวณภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดา หกั ณ ทจี า่ ย ตามมาตรา 50(4) ข. การคาํ นวณภาษีเงนิ ได้จากการขายอสงั หาริมทรพั ย์ ตามมาตรา 48(4)(ข) ค. การคาํ นวรภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดา ตามมาตรา 48(2) ง. ถกู ทุกข้อ เดมิ เฉลย ง. ถกู ต้องแล้ว แต่เนืองจากปี ภาษีปัจจบุ นั ขนั เงนิ ได้สทุ ธติ งั แต่ 150,000 บาท ได้รับยกเว้นตาม พรฎ. (ฉบนั ที 470) พ.ศ. 2551 5. การขอคนื ภาษีเงินได้บคุ คลธรรมดาทีถกู หกั ณ ทจี า่ ย ไว้ตามมาตรา 3 เตรส อาศยั บทบญั ญัตใิ นมาตราใด ก. มาตรา 27 ตรี ข. มาตรา 63 ค. มาตรา 84 ง. มาตรา 91/21 6. บคุ คลธรรมดาถกู หกั ภาษี ณ ทจี า่ ยเกนิ ตามมาตรา 50 จะต้องขอคนื ให้ถกู ต้องอยา่ งไรตามประมวลรษั ฎากร ก. ขอคืนภายใน 3 ปี นบั แตว่ นั สดุ ท้ายแห่งกาํ หนดเวลายนื รายการ ตามาตรา 27 ตรี แหง่ ประมวลรษั ฎากร ข. ขอคืนภาษีใน 3 ปี นบั แตว่ นั สดุ ด้ายแหง่ ปี ภาษีซงึ ได้ถกู หกั ภาษีไว้เกนิ ตามมาตรา 63 แหง่ ประมวลรษั ฎากร ค. ขอคืนภายใน 10 ปี นบั แตว่ นั สดุ ท้ายแหง่ กาํ หนดเวลายนื รายการ แหง่ ประมวลแพง่ และพาณชิ ย์ ง. ถูกต้องข้อ ก. และข้อ ข. เดมิ เฉลย ข. ทีถกู ตอบ ไม่มขี ้อใดถกู เนืองจาก กฎหมายแก้ไขมาตรา 63 ใหม่

หนา้ 135 “มาตรา 63 บคุ คลใดถกู หักภาษีไว้ ณ ทจี ่ายและนําส่งแล้วเป็ นจาํ นวนเงนิ เกนิ กว่าทคี วรต้องเสยี ภาษี ตามส่วนนี บคุ คลนันมสี ทิ ธไิ ด้รับเงนิ จาํ นวนทเี กนิ นันคนื แต่ต้องยนื คาํ ร้องขอคนื ต่อเจ้าพนักงาน ประเมนิ ภายในสามปี นับแต่วนั สดุ ท้ายแห่งกาํ หนดเวลายืนรายการภาษีตามทีกฎหมายกาํ หนด บคุ คลใดทไี ม่มหี น้าทตี ้องยืนรายการเกยี วกบั เงนิ ได้พงึ ประเมนิ ในปี ภาษี แต่ถกู หักภาษีไว้ ณ ทีจ่ายและนําส่งแล้ว บคุ คลนันมสี ทิ ธไิ ด้รับเงินจาํ นวนทีถกู หักและนาํ ส่งไว้แล้วนันคนื แต่ต้องยนื คํา ร้องขอคนื ต่อเจ้าพนกั งานประเมนิ ภายในสามปี นับแต่วนั ที ๓๑ มีนาคม ของปี ถดั จากปี ทถี กู หักภาษี ไว้ ” ( พระราชบัญญตั ิแก้ไขเพิมเตมิ (ฉบบั ที ๓๘) พ.ศ. ๒๕๕๗ ณ วนั ที ๑๐ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๗ ) 7. นายไทเกอร์วดู สเ์ ข้ามาแขง่ กอลฟ์ ในประเทศไทย ได้รบั เงนิ รางวลั 30 ล้านบาท ต้องเสยี ภาษีในประเทศไทยอยา่ งไร ก. นกั กฬี าชาวตา่ งประเทศข้อมาแขง่ ขนั กฬี าในประเทศไทยได้รบั เงนิ ได้ตามมาตรา 40(8) ต้องถกู หกั ภาษี ณ ทจี า่ ย ตามมาตรา 3 เตรส แหง่ ประมวลรษั ฎากร ในอตั ราร้อยละ 5 ข. นกั กฬี าช่างต่างประเทศทีมิได้อย่ใู นประเทศไทย ได้สทิ ธิเลอื กเสยี ภาษีในประเทศไทยอตั ราร้อยละ 10 ตามพระราช กฤษฎีกา (ฉบับที409) ได้รบั เงนิ ได้ตามมาตรา 40(8) ต้องถกู หกั ภาษี ณ ทจี า่ ย ตามมาตรา 3 เตรส แหง่ ประมวลรษั ฎากร ใน อัตราร้อยละ 5 ค. นกั กฬี าชาวตา่ งประเทศได้รบั เงนิ ได้ตามมาตรา 40(8) ต้องถกู หกั ภาษี ณ ทจี า่ ย ตามมาตรา 50 แหง่ ประมวล รษั ฎากร ในอตั ราก้าวหน้า ง. นักกีฬาชาวต่างประเทศต้องถกู หักภาษี ณ ทีจ่าย ตามมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากรในอตั รา ก้าวหน้า 8. เงนิ ได้พงึ ประเมนิ หมายถงึ อะไร ก. เงนิ ได้อนั เข้าลกั ษณะพงึ เสยี ภาษี ตามมาตรา 39 แหง่ ประมวลรัษฎากร ข. เงนิ ได้อนั เข้าลกั ษณะพงึ เสยี ภาษี รวมถงึ ทรพั ย์ หรือประโยชน์อย่างอืนทีได้รับซึงอาจคิดคํานวณได้เป็ นเงิน ค. เงนิ ได้อันเข้าลกั ษณะพงึ เสยี ภาษี รวมถงึ ทรัพย์ หรือประโยชน์อย่างอืนทีได้รับซึงอาจคดิ คาํ นวณได้เป็ น เงนิ เงนิ ค่าภาษีอากรทีผู้อนื ออกแทนให้สาํ หรับเงนิ ได้ประเภทต่าง ๆ และเครดติ ภาษตี ามมาตรา 47 ทวิ แห่ง ประมวลรัษฎากร ง. เงนิ ได้อนั เข้าลกั ษณะพงึ เสยี ภาษี รวมถงึ ทรพั ย์ หรือประโยชน์อยา่ งอนื ทไี ด้รบั ซงึ อาจคดิ คาํ นวณเป็ นเงนิ เงนิ คา่ ภาษีอากรทีผู้จ่ายเงนิ หรือผ้อู ืนออกแทนให้สําหรับเงินได้ประเภทต่าง ๆ ตามมาตรา 40 แหง่ ประมวลรษั ฎากร 9. ผ้มู หี น้าทเี สยี อากรในข้อใดถกู ต้องทีสดุ ก. ผ้มู เี งนิ ได้พงึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 ในปี ภาษีทลี ว่ งมาแล้วจากแหลง่ เงนิ ได้ภายในประเทศ (Source Rule เนืองจากหน้าทีงานกิจการทีทําในประเทศไทย หรือเนอื งจากกิจการของนายจ้างในประเทศไทย หรือเนืองจากทรัพย์สินทีอย่ใู น ประเทศไทย ไมว่ า่ เงนิ ได้นนั จะจา่ ยในหรอื นอกประเทศ) ข. ผ้มู เี งนิ ได้ถงึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 จากแหลง่ เงนิ ได้นอกประเทศตามหลกั ถนิ ทอี ยู่ (Resident Rule เนอื งจาก หน้าทีงานกิจการทีทําในประเทศไทย หรือเนืองจากทรัพย์สินทีอยู่ในประเทศไทย เมอื นาํ เงนิ ได้พงึ ประเมนิ นนั เข้ามาในประเทศ ไทยในปี ภาษีนนั และต้องเป็ น “ผ้อู ยู่ในประเทศไทย” โดยอยใู่ นประเทศไทยชว่ งระยะเวลาหนงึ หรือหลายระยะรวมเวลาทงั หมด 180 วนั ในปี ภาษีนนั )

หนา้ 136 ค. ผ้มู เี งนิ ได้พงึ ประเมนิ ซงึ เป็ นผ้อู ยใู่ นประเทศไทย หรือหลายระยะรวมเวลาทงั หมด 180 วนั ในปี ภาษีใดให้ถอื ว่าผ้นู นั เป็ นผ้อู ยู่ในประเทศไทย และมหี น้าทเี สยี ภาษีตามมาตรา 48(1) และ(2) แหง่ ประมวลรษั ฎากร ง. ข้อ ก. และข้อ ข. 10. ผ้เู ยาว์ลงทนุ ซอื ห้นุ ในกองทนุ รวมศิริภญิ โญ 1 ในปี ตอ่ มาบรรลนุ ติ ภิ าวะได้รบั เงินปันผลตามมาตรา 40(ข) เป็ นจาํ นวนเงนิ 30,000 บาท เงนิ ปันผลทไี ด้รบั ต้องเสยี ภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดาอยา่ งไร ก. ผ้เู ยาว์ต้องนําเงินปันผลทีได้รับไปคํานวณรวมเป็ นเงินได้ของบิดา หรือมารดา ถ้าความเป็ นสามภี ริยาของบิดาและ มารดา มอี ยตู่ ลอดปี ภาษี ข. ผ้เู ยาว์ต้องนาํ เงนิ ปันผลทไี ด้รบั ไปคาํ นวณรวมเป็ นเงนิ ได้ของบดิ า หรือมารดา ผ้ใู ช้อาํ นาจปกครอง ถ้าความเป็ น สามภี ริยาของบดิ าและมารดามไิ ด้มอี ยตู่ ลอดปี ภาษี ค. ผู้เยาว์ต้องนําเงนิ ปันผลทีได้รับไปยืนแบบและชําระภาษีในนามของตนเองตามแบบ ภ.ง.ด.90 ง. ผ้เู ยาว์ไมต่ ้องนาํ เงนิ ปันผลทไี ด้รบั ไปยนื และชาํ ระภาษีแตอ่ ยา่ งใด เพราะเงนิ ปันผลจากกองทนุ รวมได้รบั ยกเว้นตาม มาตรา 42(24) แหง่ ประมวลรษั ฎากร ชดุ ที 8 1. กองมรดกของผ้ตู ายใช้เลขประจาํ ตวั ผ้เู สยี ภาษีอากรเลขใด ก. ใช้เลขประจาํ ตวั ผ้เู สยี ภาษีของผ้ตู ายระหว่างปี ภาษี คอื เลข 1 ข. กองมรดกของผ้ตู ายต้องมาขอเลขประจาํ ตวั ผ้เู สยี ภาษีอากรเลขใหมใ่ นนามกองมรดกของผ้ตู าย คอื เลข 1 ค. กองมรดกของผ้ตู ายต้องมาขอเลขประจาํ ตวั ผ้เู สยี ภาษีอากรเลขใหมใ่ นนามกองมรดกของผ้ตู าย คอื เลข 2 ง. ข้อ ก. และข้อ ข. 2. เงนิ ได้พงึ ประเมนิ ทไี ด้รบั ยกเว้นไมต่ ้องนาํ ไปรวมเสยี ภาษีตอ่ ไปนีข้อใดผดิ ก. เงนิ รางวัลสลากบํารุงกาชาดไทย และคา่ สินไหมทดแทนเพือการละเมิด ข. เงนิ ได้จากการขายหนว่ ยลงทนุ ในกองทนุ รวม ค. เงนิ ได้ของกองทนุ รวม ง. เงนิ ปันผลจากกองทุนรวม 3. ข้อใดต่อไปนีข้อใดผิด ก. ผ้มู เี งนิ ได้ซงึ เป็ นผ้อู ย่ใู นประเทศไทยมเี งนิ ได้ตามมาตรา 40(4)(ข) ทีได้รับจากบริษัทหรือกองทนุ รวม มีสทิ ธิเลอื ก เสยี ภาษีโดยถกู หกั ภาษี ณ ทจี า่ ยในอตั ราร้อยละ 10 ไมต่ ้องนาํ ไปรวมคาํ นวณในมาตรา 48(1) และ (2) อยา่ งหนงึ อยา่ งใดก็ได้ ทงั นีตามนยั มาตรา 48 (3) แหง่ ประมวลรษั ฎากร ข. ผู้มเี งนิ ได้พงึ ประเมนิ เฉพาะมาตรา 40(8) ทไี ด้รับจากการขายอสงั หาริมทรัพย์อนั เป็ นมรดก หรือ ที ได้มาโดยมิได้ม่งุ ทางการค้าหรือหากาํ ไร ค. นกั แสดงชาวตา่ งประเทศทีมากบั คณะถา่ ยทาํ ภาพยนตร์ในประเทศไทย มีสทิ ธิเลอื กเสยี ภาษีโดยยอมถกู หกั ภาษี ณ ทจี า่ ยในอตั ราร้อยละ 10 ไมต่ ้องนาํ ไปรวมคาํ นวณเงนิ ได้พงึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(1) และ (2) แหง่ ประมวลรษั ฎากร

หนา้ 137 ง. ผ้มู เี งนิ ได้จากสาํ หรบั เงนิ รางวลั สลากการกศุ ล มีสทิ ธิเลอื กเสยี ภาษีโดยยอมถกู หกั ภาษี ณ ทจี า่ ยในอตั ราร้อยละ 1 แล้ว ไมต่ ้องนําไปรวมคํานวณเงนิ ได้พงึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 (1) และ (2) (ตาม พรฎ. ฉบับที 10 มาตรา 5 จตทุ ศ) 4. การสง่ หมายเรียกตามมาตรา 8 แหง่ ประมวลรษั ฎากรมกี วี ธิ ี ได้แกว่ ธิ ีใดบ้าง ก. 4 วธิ ี คอื 1. วธิ สี ง่ โดยทางไปรษณยี ์ลงทะเบยี นตอบรบั 2. วธิ นี าํ ไปสง่ โดยเจ้าพนกั งานสรรพากร 3. วธิ ปี ิ ดหมาย หนงั สอื แจ้ง หรือหนงั สอื อืน 4. วธิ ีโฆษณาในหนงั สอื พมิ พ์ การสง่ ตามวธิ ีที 1 ถงึ วธิ ที ี 4 นนั จะต้องเรียงลาํ ดบั หรือไม่ก็ได้ ข. 4 วธิ ี คอื 1. วธิ สี ่งโดยทางไปรษณยี ์ลงทะเบียนตอบรับ 2. วธิ นี าํ ไปส่งโดยเจ้าพนักงานสรรพากร 3. วธิ ปี ิ ดหมาย หนังสอื แจ้ง หรือหนงั สืออนื 4. วธิ โี ฆษณาในหนังสอื พิมพ์ การส่งตามวิธที ี 3 ถงึ วธิ ที ี 4 นันจะต้องตามวธิ ที ี 1 หรือวธิ ที ี 2 ไม่ได้มาก่อนแล้ว ค. 5 วธิ ี คอื 1. วธิ สี ง่ โดยทางไปรษณยี ์ลงทะเบยี นตอบรบั 2. วธิ นี าํ ไปสง่ โดยเจ้าพนกั งานสรรพากร 3. วธิ ใี ห้มาตดิ ตอ่ รบั ทีสาํ นกั งานสรรพากรพนื ที 4. วธิ ปี ิ ดหมาย หนงั สอื แจ้ง หรือหนงั สอื อืน 5. วธิ ีโฆษณาในหนงั สอื พมิ พ์ การสง่ ตามวธิ ีที 1 ถงึ วธิ ที ี 4 นนั จะต้องเรียงลาํ ดบั หรือไม่ก็ได้ ง. 5 วธิ ี คอื 1. วธิ สี ง่ โดยทางไปรษณยี ์ลงทะเบยี นตอบรบั 2. วธิ นี าํ ไปสง่ โดยเจ้าพนกั งานสรรพากร 3. วธิ ใี ห้มาตดิ ตอ่ รบั ทีสาํ นกั งานสรรพากรพนื ที 4. วธิ ปี ิ ดหมาย หนงั สอื แจ้ง หรือหนงั สอื อืน 5. วธิ ีโฆษณาในหนงั สอื พมิ พ์ การสง่ ตามวธิ ที ี 3 ถงึ วธิ ที ี 4 นนั จะต้องตามวธิ ที ี 1 ถงึ วธิ ที ี 3 ไมไ่ ด้มากอ่ นแล้ว 5. ธนาคารกรงุ เทพฯ สาขาราชเทวี จา่ ยดอกเบียตวั เงนิ ให้กบั บจ.หลกั ทรัพย์ ยไู นเต็ด ตวั เงนิ (P/N) มมี ลู คา่ 1,000,000 บาท ตวั ครบกาํ หนดภายใน 1 ปี อตั ราดอกเบียหน้าตวั 5% เมอื ตวั ครบกาํ หนดธนาคารกรุงเทพได้จา่ ยดอกเบียจาํ นวน 50,000 บาท ธนาคารกรุงเทพฯ มหี น้าทหี กั ภาษี ณ ทจี า่ ยเพอื นาํ สง่ กรมสรรพากรตามแบบ ภ.ง.ด.53 จาํ นวนเงนิ เทา่ ใด ก. 500 บาท ข. 2,500 บาท ค. 5,000 บาท ง. ยกเว้นไมต่ ้องหกั ภาษี ณ ทจี า่ ย

หนา้ 138 6. นาย ก ได้รบั เงนิ รางวลั จากการทายผลฟตุ บอลโลก จาํ นวนเงนิ 1,000,000 บาท ต้องมหี น้าทเี สยี ภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดา อยา่ งไร ก. นาย ก ต้องนาํ เงนิ รางวลั ไปรวมเป็ นเงนิ ได้พงึ ประเมนิ เพอื เสยี ภาษีเงนิ ได้ประจาํ ปี ตามแบบ ภ.ง.ด.90 ตามมาตรา 48 (1) และ (2) แหง่ ประมวลรษั ฎากร ข. นาย ก ต้องนําเงนิ รางวลั ไปรวมเป็ นเงินได้พึงประเมนิ เพือเสยี ภาษเี งนิ ได้ครึงปี ตามแบบ ภ.ง.ด.94 และ เงนิ ได้ประจาํ ปี ตามแบบ ภ.ง.ด.90 ตามมาตรา 48 (1) และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร ค. นาย ก ไมต่ ้องนาํ เงนิ รางวลั ไปรวมเป็ นเงนิ ได้พงึ ประเมนิ เพอื เสยี ภาษีเงนิ ได้ประจาํ ปี ตามแบบ ภ.ง.ด.90 เพราะได้ ถกู หกั ภาษี ณ ทีจา่ ยตามมาตรา 3 เตรส แหง่ ประมวลรษั ฎากรไว้แล้ว ง. นาย ก ไมต่ ้องนาํ เงนิ รางวลั ไปรวมเป็ นเงนิ ได้พงึ ประเมนิ เพอื เสยี ภาษีเงนิ ได้ครงึ ปี ตามแบบ ภ.ง.ด.94 และเงินได้ ประจาํ ปี ตามแบบ ภ.ง.ด.90 เพราะได้ถกู หกั ภาษี ณ ทจี า่ ย ตามมาตรา 50 แหง่ ประมวลรษั ฎากร ไว้แล้ว 7. บริษทั กรุงไทย จาํ กดั ประกอบกจิ การซอื มาขายไป มภี าษีมลู คา่ เพมิ ประจาํ เดอื นมกราคม 2546 ต้องชาํ ระตามแบบ ภ.พ.30 (ภาษีขายหกั ภาษีซอื ) จาํ นวน 4,000 บาท แตบ่ ริษทั ฯ ได้นําภาษีซือทีชําระไว้เกินในเดือนธันวาคม 2545 มาใช้เป็ นเครดติ ภาษี ซอื ในการคาํ นวณภาษีมลู คา่ เพมิ ในเดอื นมกราคม 2546 จาํ นวน 2,000 บาท เป็ นผลให้บริษทั ฯ ชาํ ระภาษีตามแบบ ภ.พ.30 จาํ นวน 2,000 บาท แตจ่ ากการตรวจสอบข้อเทจ็ จริงปรากฏวา่ ภาษีซอื ทนี าํ มาใช้เครดติ นนั ไมม่ หี ลกั ฐานแตอ่ ย่างใด ดงั นนั บริษัทฯ ต้องรบั ผดิ ชาํ ระภาษีมลู คา่ เพมิ ดงั ตอ่ ไปนี (ตาม ป.81/2542 ข้อ 21 การคํานวณเบียปรับหรือเงินเพิมภาษีมูลค่าเพิม) ก. บริษัทฯ ต้องรับผิดชําระภาษีมูลค่าเพิม จาํ นวน 2,000 บาท พร้อมทงั เบียปรบั ตามมาตรา 89(3)(4) และเงินเพิม ตามมาตรา 89/1 แหง่ ประมวลรษั ฎากร ข. บริษทั ฯ ต้องรับผิดชําระภาษีมูลค่าเพิม จาํ นวน 2,000 บาท พร้อมทังเบียปรับตามมาตรา 89(4) และเงนิ เพิมตามมาตรา 89/1 แห่งประมวลรัษฎากร ค. บริษัทฯ ต้องรับผิดชําระภาษีมูลค่าเพิม จาํ นวน 2,000 บาท พร้อมทงั เงินเพิม ตามมาตรา 89/1 แหง่ ประมวล รษั ฎากร ง. บริษัทฯ ต้องรบั ผดิ ชาํ ระภาษีมลู คา่ เพมิ จาํ นวน 2,000 บาท 8. ภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดา เป็ นภาษีอยา่ งใด ก. ภาษีอากรประเมินและภาษีทางตรง ข. ภาษีอากรประเมนิ และภาษีทางอ้อม ค. ไมใ่ ชภ่ าษีอากรประเมนิ แตเ่ ป็ นภาษีทางตรง ง. ไมใ่ ชภ่ าษีอากรประเมนิ แตเ่ ป็ นภาษีทางอ้อม 9. คาํ วา่ “ภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดา” เป็ นการลดคาํ มาจากสว่ นใด หมวดใด ของลกั ษณะ 2 ก. ส่วน 2 หมวด 3 ข. สว่ น 3 หมวด 3 ค. สว่ น 2 หมวด 2 ง. สว่ น 3 หมวด 2

หน้า 139 10. ข้อใดไมใ่ ช่ความหมายของคาํ วา่ “เงนิ ได้พงึ ประเมิน” ตามมาตรา 40 ทตี ้องเสยี ภาษีตามหลกั แหลง่ เงนิ ได้ในประเทศไทย ที เป็ นเงนิ ได้เนอื งจากกรณใี ด ก. หน้าทีงานหรือกิจการทีทําในประเทศไทย ข. กจิ การของนายจ้างในประเทศไทย ค. ทรัพย์สินทีอย่ใู นประเทศไทย ง. ไม่มขี ้อใดถกู ชดุ ที 9 1. เงนิ แป๊ ะเจยี ะทีได้รบั จากการทาํ สญั ญาเชา่ 10 ปี จะต้องยืนแบบ ภ.ง.ด.93 หรือ ภ.ง.ด.94 หรือไม่ ก. ต้องยืนแบบ ภ.ง.ด.93 และยืนแบบ ภ.ง.ด.94 ข. ต้องยืนแบบ ภ.ง.ด.93 แต่ไม่ต้องยืนแบบ ภ.ง.ด.94 ค. ไม่ต้องยืนแบบ ภ.ง.ด.93 แต่ยืนแบบ ภ.ง.ด.94 ง. ไม่ต้องยืนแบบ ภ.ง.ด.93 และไม่ต้องยืนแบบ ภ.ง.ด.94 2. ลี โอ นา โด นกั แสดงภาพยนตร์ได้เข้ามาถ่ายทาํ ภาพยนตร์เรือง Catch me if you can พร้อมคณะฯ ซงึ ได้รบั อนมุ ตั จิ าก รัฐบาลไทย จะต้องถกู หัก ณ ทจี า่ ย ร้อยละเท่าใด ก. 5 ข. 10 ค. 3 ง. 2 3. เงนิ ปันผลทบี คุ คลธรรมดาได้รบั จากบริษทั ทไี ด้รบั การสง่ เสริมการลงทนุ ก. จะต้องนาํ มารวมคาํ นวณเป็ นเงนิ ได้ และได้รบั การเครดติ ภาษี ข. ไม่ต้องนํามารวมคาํ นวณเป็ นเงนิ ได้ ค. จะต้องนาํ มารวมคาํ นวณเป็นเงนิ ได้โดยได้รบั การเครดติ ภาษี หรือไมต่ ้องนาํ มารวมคาํ นวณเงนิ ได้กไ็ ด้ ง. ถกู ทกุ ข้อ เดมิ เฉลย ก. ทีถกู ตอบ ข ตามป.119/2545 ข้อ 2 กรณบี คุ คลธรรมดาได้รับเงนิ ได้พงึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(4)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร จากบริษทั หรือห้างหุ้นส่วนนติ บิ คุ คลทีตังขนึ ตามกฎหมายไทย บคุ คลธรรมดาผู้มีเงนิ ได้จะได้รับเครดติ ในการคาํ นวณภาษี โดย นําอตั ราภาษเี งนิ ได้ทบี ริษทั หรือห้างห้นุ ส่วนนติ ิบคุ คลนันต้องเสยี หารด้วยผลต่างของหนึงร้ อย ลบด้วยอตั ราภาษี เงนิ ได้ดังกล่าวนัน ได้ผลลัพธ์ เท่าใดให้คูณด้วยจาํ นวนเงนิ ปันผลหรือเงนิ ส่วนแบ่งของกาํ ไรทีได้รับ ผลลพั ธ์ทีได้เป็ น เครดติ ในการคาํ นวณภาษี ตามมาตรา 47 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร กรณบี คุ คลธรรมดาได้รับเงนิ ปันผลซงึ เป็ นเงนิ ได้พงึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(4)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร จากบริษทั หรือห้างหุ้นส่วนนติ บิ ุคคลทตี ังขึนตามกฎหมายไทย ซึงได้รับการส่งเสริมการลงทนุ ตามกฎหมายว่าด้วย การส่งเสริมการลงทนุ และเป็ นเงนิ ปันผลทีจ่ายจากกาํ ไรสทุ ธขิ องกิจการทีได้รับยกเว้นภาษีเงนิ ได้นิตบิ คุ คล ผู้ได้รับ เงนิ ปันผลไม่ได้รับเครดติ ภาษตี ามมาตรา 47 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร

หนา้ 140 4. ผ้เู สยี ภาษีสามารถยนื คําร้องขอคนื ภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดาได้ตามข้อใด ก. ภ.ง.ด.90 ข. ภ.ง.ด.91 ค. ค.10 ง. ทงั ก ข และ ค 5. การยนื คําร้องขอคนื ภาษีเงนิ ได้นติ บิ คุ คลสาํ หรบั รอบระยะเวลาบญั ชี 1 มกราคม 2540-31 ธนั วาคม 2540 และ 1 มกราคม 2541-31 ธนั วาคม 2541 จะต้องยนื คาํ ร้องกีฉบบั ก. 1 ฉบับ ข. 2 ฉบบั ค. 1 หรือ 2 ฉบับกไ็ ด้ ง. ผดิ ทุกข้อ 6. บุคคลทไี มไ่ ด้เป็ นผู้มอี าํ นาจลงนามแทน (ผ้แู ทน) ของผ้มู เี งนิ ได้บคุ คลธรรมดาในแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.90, ภ.ง.ด.91 ได้ คอื ใคร ดังต่อไปนี ก. ญาตพิ ีน้อง, ภริยา ข. ผ้จู ดั การมรดก, ทายาท ค. ตัวแทน ง. ทรัสตี 7. การยืนภาษีเงนิ ได้ครึงปี ตามแบบ ภ.ง.ด.94 ของสามภี ริยาทีจดทะเบยี นกนั โดยชอบด้วยกฎหมายนนั จะต้องดําเนนิ การอยา่ งไร ก. ให้ยืนแบบรวมกนั เพราะถอื ว่าเป็ นบคุ คลคนเดยี วกนั และเป็ นเงินได้ตามมาตรา 40(5)(6)(7)(8) ซงึ กฎหมายให้เงนิ ได้ของภรยิ าเป็ นเงนิ ได้ของสามี ข. ให้ยนื แบบรวมกนั เพราะความเป็ นสามภี ริยายงั คงมอี ยรู่ ่วมตลอดปี ภาษี ค. ให้ต่างฝ่ ายต่างยืนแบบ เพราะความเป็ นสามีภริยายังไม่ได้อย่รู ่วมกันตลอดปี ภาษี ง. ให้ตา่ งฝ่ ายตา่ งยนื แบบ เพราะ มิได้เป็ นหน้าทีของสามีทีจะต้องยืนแบบให้ภริยา 8. กรณเี งนิ ได้ทนี ายจ้างจา่ ยให้ครงั เดยี วเพราะเหตอุ อกจากงาน ซงึ ผ้มู เี งนิ ได้ชอบทจี ะเลอื กเสียภาษีโดยไม่ต้องนาํ ไปรวม คาํ นวณภาษีนนั ผ้มู เี งนิ ได้จะต้องทาํ งานมาเป็ นระยะเวลาเทา่ ใด ก. ไม่น้อยกว่า 5 ปี ข. เกนิ กวา่ 5 ปี ค. ไม่น้อยกว่า 4 ปี กบั อกี 180 วนั ง. ไมน่ ้อยกวา่ 4 ปี กบั อกี 183 วนั

หนา้ 141 9. ลกู จ้างได้ออกจากบริษทั ฯ เพราะเหตเุ กษียณอายุ ได้รบั เงนิ ค่าชดเชยตามกฎหมายวา่ ด้วยการคุ้มครองแรงงานมาเป็ นเงิน 500,000 บาท จะได้รบั ยกเว้นไมต่ ้องรวมคาํ นวณเพอื เสยี ภาษีเงนิ ได้หรือไม่ จาํ นวนเทา่ ใด ก. ไม่ได้รับยกเว้น ข. ได้รบั ยกเว้น เพยี งจาํ นวน 100,000 บาทเท่านนั ค. ได้รบั ยกเว้นเพยี งจาํ นวน 300,000 บาทเท่านนั ง. ได้รบั ยกเว้นทงั หมดจํานวน 500,000 บาท 10. เงนิ ได้พงึ ประเมนิ ข้อใดตอ่ ไปนไี มไ่ ด้รบั ยกเว้นให้นาํ มารวมคาํ นวณเพอื เสยี ภาษีเงนิ ได้ ก. คา่ เบยี เลยี ง หรือค่าพาหนะ ซงึ ลกู จ้างได้รบั จ่ายไปโดยสจุ ริตตามความจาํ เป็ น ข. เงนิ เพมิ พเิ ศษประจาํ ตาํ แหน่งสาํ หรับข้าราชการ ค. ดอกเบียเงนิ ฝากออมทรพั ย์ทไี ด้รบั จากสหกรณ์ ง. คา่ สนิ ไหมทดแทน เพือละเมิด ชดุ ที 10 1. กรณเี งนิ ได้พงึ ประเมนิ ตามข้อใดทสี ามภี ริยาตา่ งฝ่ ายตา่ งหกั คา่ ใช้จา่ ยได้ ก. ตามมาตรา 40(1) และ (2) ข. ตามมาตรา 40(3) และ (4) ค. ตามมาตรา 40(5) และ (6) ง. ตามมาตรา 40(7) และ (8) 2. ให้เรยี งลาํ ดบั การคํานวณภาษีตามแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.91 ก. เงนิ ได้พงึ ประเมนิ หกั คา่ ลดหยอ่ น หกั คา่ ใช้จา่ ย หกั เงนิ บริจาค ข. เงนิ ได้พงึ ประเมนิ หกั เงนิ บริจาค หกั คา่ ใช้จ่าย หกั คา่ ลดหยอ่ น ค. เงนิ ได้พึงประเมนิ หักค่าใช้จ่าย หกั ค่าลดหย่อน หกั เงนิ บริจาค ง. เงนิ ได้พงึ ประเมนิ หกั คา่ ใช้จา่ ย หกั เงนิ บริจาค หกั คา่ ลดหยอ่ น 3. แบบแสดงรายการภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดาสาํ หรบั ผู้มเี งนิ ได้กรณที วั ไป ก. 1 หน้า ข. 2 หน้า ค. 3 หน้า ง. 4 หน้า

หน้า 142 4. เงินได้พงึ ประเมินประเภทใดต่อไปนตี ้องยืนแบบแสดงรายการครึงปี ก. ตามมาตรา 40(3)(4)(5)(6) ข. ตามมาตรา 40(4)(5)(6)(7) ค. ตามมาตรา 40(5)(6)(7)(8) ง. ตามมาตรา 40(4)(5)(6)(7)(8) 5. กรณบี คุ คลถกู หกั ภาษีไว้ ณ ทจี า่ ย และนาํ สง่ แล้วเป็ นจาํ นวนเงินเกนิ กวา่ ทคี วรจะต้องเสยี ต้องยนื คาํ ร้องขอคนื ภายในเวลา เทา่ ใด ก. ภายใน 3 ปี นบั แต่วนั สดุ ท้ายแหง่ วนั สนิ รอบซงึ ถกู หกั ภาษีเกนิ ไป ข. ภายใน 3 ปี นบั แตว่ นั พ้นกาํ หนดเวลายนื แบบแสดงรายการ ค. ภายใน 5 ปี นบั แตว่ นั ทราบ ง. ภายใน 10 ปี นบั แตว่ นั ทถี กู หกั ภาษีไว้ เดมิ เฉลย ก. ทีถกู ตอบ ไม่มีข้อใดถกู เนืองจาก กฎหมายแก้ไขมาตรา 63 ใหม่ “มาตรา 63 บคุ คลใดถกู หกั ภาษีไว้ ณ ทจี า่ ยและนาํ สง่ แล้วเป็ นจาํ นวนเงนิ เกนิ กวา่ ทีควรต้องเสยี ภาษีตามสว่ นนี บคุ คลนนั มีสิทธิได้รับเงินจาํ นวนทเี กนิ นนั คืน แต่ต้องยืนคําร้องขอคืนต่อเจ้าพนกั งานประเมินภายในสามปี นบั แตว่ นั สดุ ทา้ ยแห่ง กําหนดเวลายืนรายการภาษีตามทีกฎหมายกําหนด บคุ คลใดทไี มม่ หี น้าทตี ้องยนื รายการเกยี วกบั เงนิ ได้พงึ ประเมนิ ในปี ภาษี แตถ่ กู หกั ภาษีไว้ ณ ทจี า่ ยและนาํ สง่ แล้ว บคุ คล นนั มีสิทธิได้รับเงินจํานวนทีถกู หกั และนําสง่ ไว้แล้วนนั คืน แตต่ ้องยืนคาํ ร้องขอคนื ต่อเจ้าพนกั งานประเมินภายในสามปี นบั แต่ วันที ๓๑ มนี าคม ของปี ถดั จากปี ทีถกู หกั ภาษีไว้ ” ( พระราชบญั ญตั แิ ก้ไขเพิมเตมิ (ฉบับที ๓๘) พ.ศ. ๒๕๕๗ ณ วันที ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ ) “มาตรา 63 บคุ คลใดถกู หกั ภาษีไว้ ณ ทจี า่ ยและนาํ สง่ แล้วเป็ นจาํ นวนเงนิ เกนิ กวา่ ทีควรต้องเสยี ภาษีตาม ส่วนนี บคุ คลนนั มีสทิ ธิได้รับเงินจํานวนทีเกินนนั คืน แตต่ ้องยืนคําร้องขอคืนต่อเจ้าพนกั งานประเมินภายใน สามปี นบั แต่วนั สดุ ทา้ ยแห่งกําหนดเวลายืนรายการภาษีตามทีกฎหมายกําหนด บคุ คลใดทไี มม่ หี น้าทตี ้องยนื รายการเกยี วกบั เงนิ ได้พงึ ประเมนิ ในปี ภาษี แตถ่ กู หกั ภาษีไว้ ณ ทจี า่ ยและ นาํ สง่ แล้ว บคุ คลนนั มีสทิ ธิได้รับเงินจํานวนทีถูกหักและนําสง่ ไว้แล้วนนั คืน แตต่ ้องยนื คาํ ร้องขอคนื ตอ่ เจ้า พนกั งานประเมนิ ภายในสามปี นบั แต่วนั ที ๓๑ มนี าคม ของปี ถดั จากปี ทถี กู หกั ภาษีไว้ ” ( พระราชบญั ญตั แิ ก้ไขเพิมเตมิ (ฉบับที ๓๘) พ.ศ. ๒๕๕๗ ณ วันที ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ ) 6. ผ้ใู ดต่อไปนไี ม่มีหน้าทีต้องยืนแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.90 ก. ผ้มู เี งนิ ได้ทเี ป็ นโสดตามมาตรา 40 (1) และ (8) มเี งนิ ได้พงึ ประเมนิ เกนิ 30,000 บาท แตไ่ มเ่ กนิ 50,000 บาท

หนา้ 143 ข. ผ้มู เี งนิ ได้ทมี คี ่สู มรสตามมาตรา 40 (2) มเี งนิ ได้พงึ ประเมนิ ฝ่ ายเดยี วหรือทงั สองฝ่ ายเกนิ 50,000 บาท แตไ่ มเ่ กนิ 60,000 บาท ค. กองมรดกทียงั มิได้แบง่ มเี งนิ ได้พงึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 (5) เกนิ 30,000 บาท แตไ่ มเ่ กิน 50,000 บาท ง. ห้างห้นุ สว่ นสามญั ทมี ีห้นุ สว่ นทงั หมด 3 คน มเี งนิ ได้พงึ ประเมนิ เกนิ 30,000 บาทแตไ่ มเ่ กนิ 50,000 บาท เดมิ เฉลย ข. ทถี กู ตอบ ไม่มีข้อใดถกู เนืองจาก กฎหมายมกี ารแก้ไข 7. ตารางอตั ราการหกั คา่ ใช้จา่ ยเป็ นการเหมาสาํ เหรบั เงนิ ได้พงึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(8) มที หั มดกีประเภท ก. 40 ข. 42 ค. 44 ง. 48 เดิมเฉลย ค ทีถกู ตอบ ไม่มีข้อใดถกู อ้างอิง : พรฎ. (ฉบบั ที 629) พ.ศ. 2560 มที งั หมด 43 ประเภท 8. จาํ นวนเงนิ ขนั ตาํ ทใี ห้หกั ภาษี ณ ทจี า่ ยและนาํ สง่ ตามมาตรา 3 เตรส คือข้อใด ก. 500 บาท ข. 800 บาท ค. 1,000 บาท ง. 10,000 บาท 9. ข้อใดไมใ่ ชว่ ตั ถปุ ระสงค์ในการหกั ภาษี ณ ทจี า่ ย ก. เพอื บรรเทาภาระไม่ต้องเสยี ภาษีในคราวเดยี ว ข. เพอื ให้รฐั บาลมีรายได้เข้าคลงั สมาํ เสมอ ค. เพือลดแรงกดดนั ในการหลกี เลยี งภาษี ง. เพอื สร้ างเงนิ ออมให้ระบบเศรษฐกิจ เฉลย ง. ถกู ต้องแล้ว

หนา้ 144 10. การหกั ภาษี ณ ทจี า่ ยเป็ นวธิ กี ารเสยี ภาษีเงนิ ได้ในลกั ษณะใด ก. ประเมินตนเอง ข. ประเมนิ โดยเจ้าพนกั งาน ค. เป็ นวธิ ชี ําระภาษอี ากรล่วงหน้า ง. ไมม่ ขี ้อถกู

หนา้ 145 จิตอาสาปน โตภาษี กลมุ 2 ขอ สอบชดุ ท่ี 2 (ขอ 47 – 93) 47. สามี ภรยิ า อยรู ว มกันตลอดปภ าษี รว มกนั กยู ืมเงนิ เพ่ือซอ้ื เชา ซ้ือ หรอื กอ สรา งบา น อาคารที่อยูอาศัย โดยสามีมีเงินไดฝายเดียว โครเปนผูนําดอกเบี้ยกูยืมมาหักลดหยอนได ก. สามนี าํ มาหกั ไดเ ตม็ จํานวนตามทจ่ี ายจรงิ แตไ มเ กนิ 50,000 บาท ข. ภรยิ านาํ มาหกั ไดเ ตม็ จํานวนตามทจ่ี ายจรงิ แตไ มเ กนิ 50,000 บาท ค. สามแี ละภรยิ า ตางฝายตา งนํามาหักไดเ ตม็ จํานวนตามทจ่ี ายจรงิ แตไ มเ กนิ 50,000 บาท ง. สามแี ละภรยิ าตา งฝายตา งนาํ มาหกั ไดค นละกง่ึ หนง่ึ รวมกนั ไมเ กนิ 50,000 บาท เดมิ เฉลย ก. ทถ่ี กู ตอบ ไมม ขี อ ใดถกู อา งองิ : ประกาศอธบิ ดฯี เกย่ี วกบั ภาษเี งนิ ได (ฉบบั ท่ี 167) ขอ 2 (8) กรณสี ามภี รยิ ารว มกนั กยู มื โดยสามหี รอื ภรยิ ามเี งนิ ไดฝ า ยเดยี ว ใหย กเวน ภาษใี หแ กผ มู เี งนิ ไดเ ตม็ จาํ นวน ตามท่จี า ยจรงิ แตไ มเกนิ 100,000 บาท 48.เงินไดที่ไมถือเปนการขายและการใหบริการ ไมตองเสียภาษีมูลคาเพิ่ม ตอไปนขี้ อใดถูกตองที่สุด ก. รางวัล สว นลด จากการสงเสริมการขาย ข.เงินทดลองจายและคืนเงินทดลอง ค. เงินชวยเหลือใหเปลา ง. ถูกหมดทุกขอ 49. การจัดเกบ็ ภาษีธุรกิจเฉพะมีรายการใดไดรับยกเวน ก.ธนาคารอาคารสงเคราะห ธนาคารแหงประเทศไทย ข.ธนาคารออมสนิ ธนาคารกรงุ ไทย ค. ธนาคารนําเขาและสง ออก บริษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแหงประเทศไทย ง. ถูกหมดทุกขอ 50.เหตุใดประกาศกรมสรรพากร จึงไมถือเปนอนุบญั ญัติหรือกฎหมายลูกตามประมวลรัษฎากร ก. เพราะมไิ ดอ าศยั อํานาจตามประมวลรษั ฎากรในการออกประกาศ ข. เพราะเปนแนวทางของเจาหนาที่ของกรมสรรพากร เพื่อเปนแนวทางในการถือปฏิบัติเทานั้น ค.เพราะเพื่อใหผูที่เกี่ยวของถือปฏิบัติไดอยางถูกตองเทานั้น ง. เพราะเปนการออกมาเพื่อช้แี จงหรือขยายความกฎหมายหรืออนุบัญญัติใหมีความชัดเจน 51. หลักการจัดเก็บภาษีเงินไดมี 3 หลัก คือ หลักรายได(Source Rule) หลักถิ่นที่อยู (Residence Rule) และหลักสัญชาติ(Nationality Rule) อยากทราบวาประเทศไทย ใชหลักใดในการจัดเก็บภาษีเงินได ก. หลักสัญชาติ(Nationality Rule) ข. หลักถิ่นที่อยู (Residence Rule) ค.หลกั รายได( Source Rule) ง.ขอ (2) และ(3) ถกู 52. กรณีใดที่ไมตองเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ก. เดอื นภาษนี นั้ มภี าษีทต่ี อ งเสยี นอ ยกวา 100 บาท ข. เดอื นภาษนี น้ั มภี าษที ต่ี อ งเสยี อยา งนอ ยเทา กบั 100 บาท ค. เดอื นภาษนี น้ั มภี าษที ต่ี อ งเสยี นอ ยกวา 200 บาท ง. เดอื นภาษนี น้ั มภี าษที ต่ี อ งเสยี อยา งนอ ยเทา กบั 200 บาท 53. การนาํ สินคา ในราชอาณาจกั รเขา ไปในเขตปลอดอากร ขอ ใดถกู ทส่ี ดุ

หนา้ 146 ก. ไดรับยกเวนภาษีมลู คาเพิ่ม ข. ไดรับยกเวน ภาษีมูลคาเพิม่ ในกรณที น่ี าํ ไปผลิตเพื่อสง ออกเทานน้ั ค. เสียภาษีมูลคาเพิ่มอัตรา 0 ง. เสยี ภาษมี ลู คาเพม่ิ อตั รา 0 ในกรณที ่ีนาํ ไปผลติ เพ่ือสง ออกเทา นน้ั 54. ดอกเบี้ยที่เกิดจากตั๋วเงิน ตั๋วสัญญาใชเงิน ที่ระบุชื่อผูเยาว ถือเปนเงินไดของใคร ก. ผเู ยาว ข. บิดา ค. มารดา ง. ผทู ใ่ี หค วามอปุ การะเลย้ี งดผู เู ยาว 55. เงินปนผลที่ไมสามารถเครดิตได คือ ก. เงินปนผลจากกิจการที่ไดรับสงเสริมการลงทนุ ข. เงินปนผลจากกองทุนรวมตามมาตรา 39 แหงประมวลรัษฎากร ค. เงินปนผลจากกองทุนที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัติหลักทรัพยและตลาดหักทรัพย ง. ถูกทุกขอ 56. ดอกเบี้ยจากการผิดนัดชําระราคาสินคา ที่ผูซื้อตองจายใหผูขายตามที่ตกลงกันไว จะตองเสียภาษีมูลคาเพิ่มและภาษีธุรกิจเฉพาะ หรอื ไมอ ยางไร ก) ตองเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ แตไมตองเสียภาษีมูลคาเพิ่ม ข) ตองเสียภาษีมูลคาเพิ่มโดยออกใบเพิ่มหนี้ แตไมตองเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ค) ไมต องเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ และไมต อ งเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ง) ตอ งเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ โดยออกใบกาํ กบั ภาษี แตไ มต อ งเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ใหอ า นขอ เทจ็ จรงิ ดังตอ ไปนี้ และตอบคําถามขอ 57 ถึงขอ 59 บริษัทฯ เปนผปู ระกอบการจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่ม ประกอบธุรกิจเปนตัวแทนจําหนายรถยนต สินคารถยนตของบริษัทฯ ถูก โจรกรรมไป 1 คนั บรษิ ทั ฯไดแ จง ความไวแ ลว มลู คา ตน ทนุ 1,000,000 บาท ราคาขาย 1,200,000 บาท สนิ คา ทถ่ี กู โจรกรรมไป บริษัทฯ ไดทําประกันภัยไวและจากความเสียหายดังกลาว บริษัทฯ เคลมเงินจากบริษัทประกันภัยฯ ได 700,000 บาท 57. สนิ คา ของบริษทั ฯ ทส่ี ญู หาย เนอ่ื งจากถกู โจรกรรมไปถอื เปนผลเสยี หายทบ่ี รษิ ทั ฯ มสี ทิ ธนิ าํ มลู คา ดงั กลา ว บันทึกเปนรายจายในการคํานวณภาษีเงินไดนิติบุคคลไดหรือไม ก) ได 500,000.- บาท ทไ่ี มส ามารถเคลมคา เสยี หายได ข) ได 500,000.- บาท ที่ไมสามารถเคลมคาเสียหายได เนื่องจากเปนผลเสียหายเนื่องจากการประกอบกิจการ ค) ได 300,000.- บาท ที่ไมสามารถเคลมคาเสียหายได ง) ได 300,000.- บาท ทไ่ี มส ามารถเคลมคาเสยี หายได เนอ่ื งจากเปน ผลเสยี หายเนอ่ื งจากการประกอบกจิ การ 58. สินคาที่ถูกโจรกรรมไป อยูในบังคับตองเสียภาษีมูลคาเพิ่มหรือไม ก) ตอ งเสยี จากฐานภาษี 1,000,000.- บาท เนอ่ื งจากสนิ คา ขาดจากรายงานถอื เปน การขาย ข) ตอ งเสียจากฐานภาษี 1,200,000.- บาท เน่อื งจากสนิ คา ขาดจากรายงานถือเปนการขาย ค) ตอ งเสยี จากฐานภาษี 300,000.- บาท ทไ่ี มส ามารถเคลมคาเสยี หายได ง) ไมต อ งเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ เนอ่ื งจากเปน ความเสยี หาย มใิ ชจ ากการขายสนิ คาหรอื ใหบ รกิ าร 59. บรษิ ทั ฯ มสี ทิ ธนิ าํ ภาษซี อ้ื ของสินคา ทถ่ี กู โจรกรรมไปหักออกจากภาษขี ายในการคาํ นวณภาษมี ลู คา เพม่ิ ไดห รอื ไม ก. ไมม สี ทิ ธนิ าํ ภาษีซอ้ื มาหัก เนอ่ื งจากมใิ ชภ าษซี ง่ึ เกย่ี วขอ งโดยตรงกบั การประกอบกจิ การ

หน้า 147 ข. มสี ทิ ธนิ าํ ภาษซี อ้ื มาหกั เนือ่ งจากเปน ภาษซี อ้ื เกย่ี วขอ งโดยตรงกบั การประกอบกจิ การ ค. ไมม สี ทิ ธนิ าํ ภาษีซอ้ื มาหัก เนอ่ื งจากไมม ีการขายสนิ คา ดงั กลา ว ง. มสี ทิ ธน์ิ าํ ภาษซี ้ือมาหกั เนอ่ื งจากมกี ารนําสง ภาษขี ายจากสนิ คา ทส่ี ูญหาย 60. คาใชจายตองหาม ตามมาตรา 65 ตรี (6) แหงประมวลรัษฎากร หามนําเบี้ยปรับ และหรือเงินเพิ่มภาษีอากร คาปรับทางอาญา ภาษีเงินได ของบริษัทฯ หรือหางหุนสวนนิติบุคคล ขอใดไมตองหาม ก. เงนิ เพม่ิ อากรขาเขา ทบ่ี รษิ ทั ฯ ชาํ ระใหก รมศลุ กากร ข. คาเปรียบเทียบปรับกรณีสินคาเกินจากบัญชี ค. เบี้ยปรับตามมาตรา 22 เงินเพมิ่ ภาษีอากรตามมาตรา 27 แหงประมวลรัษฎากร ง. เบี้ยปรับตามมาตรา 89 แหงประมวลรัษฎากร 61.บริษัทฯ ซื้อแมพิมพสําหรับปมขึ้นรูปชิ้นงาน ราคา 1,200,000 บาท สามารถที่จะปมขึ้นรูปได จํานวน 120,000 ชิ้น ซึ่งบริษัทฯ ไดใชปม ชิ้นงานครบ 120,000 ชิ้น ใน 2 ป บริษัทฯ จะหักคาสึกหรอและคาเสื่อมราคาอยางไร ก. บริษัทฯ คิดคาเสื่อมราคารอยละ 50 ตอป ของมูลคาตนทุน ข. บริษัทฯ คิดเปนคาใชจายในแตละรอบฯ ตามจํานวนชิ้นที่ผลิตได ชิ้นละ 10.- บาท ค. บรษิ ทั ฯ หกั เปน คา เสอ่ื มราคาไมเกนิ รอ ยละ 20 ตอ ป ของมลู คาตน ทนุ ง. บรษิ ทั ฯ สามารถเลอื กคาํ นวณคา เส่ือมราคาดว ยวธิ ใี ดวธิ หี นง่ึ ได หากเปลย่ี นวธิ กี ารคาํ นวณ ยน่ื ขออนุมัติอธบิ ดี 62.ทรัพยสินของบริษัทไดหักคาเสื่อมราคาตามพระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 145)พ.ศ.2527 หากชํารุดเสียหายจนใชงานไมไดแลวและมีอายุ ไมครบ5 ป บริษัทฯจะหักเปนคาใชจายทั้งจํานวนตามมูลคาที่เหลืออยูไดหรือไม ก. หักไดทั้งจํานวนตามมูลคาทรัพยสินสุทธิที่เหลืออยู ข. หักไดทั้งจํานวนถามีหลักฐานวาทรัพยสินดังกลาวมีการชํารุดจนใชงานไมได ค. หักไมไดเพราะไมไดแจงกับกรมสรรพากร ง. หกั ไมไ ด แตห ากไดม กี ารทาํ ลายหรอื ขายทรพั ยส นิ ดงั กลา ว กส็ ามารถหกั เปน คา ใชจ า ยได 63. ภาษซี อ้ื ขอใดทส่ี ามารถนําไปหักออกจากรายงานภาษขี ายได ก. ใบกํากับภาษคี าอาหารและเครื่องดื่มที่รับรองลูกคา ข. ใบแทนใบกํากับภาษี กรณีใบกํากับภาษีถูกทําลาย ค. สาํ เนาใบกาํ กบั ภาษี ง. ใบกาํ กบั ภาษีอยา งยอ (TAX INVOICE ABB) 64. บริษัทฯ สงสินคาเปนตัวอยางไปตางประเทศตามคําสั่งของสํานักงานใหญ โดยดําเนินการผาพิธีการศุลกากร บริษัทฯ ไมมีการเรียก เก็บเงินจากลูกคาและสินคาตัวอยางดังกลาวบริษัทฯ ไมไดรับกลับคืนมา การสงออก ดังกลาว บริษัทฯ มีภาระภาษีเงินไดนิติบุคคลและ ภาษมี ลู คาเพม่ิ อยางไร ก. บริษทั ฯ ไมต อ งนํามลู คาของสินคาดงั กลาวมาถือเปน รายไดใ นการคาํ นวณภาษเี งินไดน ติ บิ คุ คล และสามารถนาํ มาถอื เปนคา ใชจา ยได สวนภาษีมูลคาเพิ่ม การสงสินคาไปเปนตัวอยางดังกลาวถือเปนการขาย ตามมาตรา 77/1(8) และ (14) บริษัทฯ ตองนําไปรวมเปน ยอดขายจากการสง ออกในการยน่ื แบบ ภ.พ.30 ดว ย ข. บริษัทฯ ตองนาํ มลู คาของสินคา ดงั กลา วมาถือเปน รายไดในการคํานวณภาษีเงนิ ไดน ติ บิ ุคคล และสามารถนํามาถอื เปนคา ใชจ า ย ได สว นภาษมี ลู คา เพม่ิ การสง สนิ คา ไปเปน ตวั อยา งดงั กลาวถอื เปนการขาย ตามมาตรา 77/1(8) และ (14) บรษิ ทั ฯ ตอ งนาํ ไป รวมเปน ยอดขายจากการสง ออกในการยน่ื แบบ ภ.พ.30 ดว ย ค. บรษิ ทั ฯ ไมต อ งนํามลู คาของสินคาดงั กลาวมาถือเปน รายไดใ นการคาํ นวณหภาษเี งินไดน ติ บิ คุ คล และสามารถนาํ มาถอื เปนคา ใชจา ยได สวนภาษีมูลคาเพิ่ม การสงสินคาไปเปนตัวอยางดังกลาวไมถือเปนการขาย ตามมาตรา 77/1(8) และ (14) ง. ไมมีขอใดถูกตอง 65. คา ตอบแทนในขอ ใด ทต่ี อ งนาํ มารวมคาํ นวณมูลคา ของฐานภาษี

หนา้ 148 ก. มลู คา ของการใหบ รกิ ารเนอ่ื งจากการเปน นายหนา ตวั แทน ใหแ กผ ปู ระกอบการในตา งประเทศ ทง้ั น้ี เฉพาะในกรณที ่ี ผปู ระกอบการในตา งประเทศดงั กลา วขายสนิ คา หรอื ใหบ รกิ ารกบั ผซู อ้ื หรอื ผรู บั บรกิ ารในประเทศ ข. ของแถมทแ่ี จกใหแ กล กู คา ทม่ี ีการซอ้ื สนิ คา ของบรษิ ทั ค. ของทบี่ ริษัทฯนํามาแจกฟรีใหแกป ระชาชนทั่วไปตามหางสรรพสินคา ง. ถกู ทง้ั ขอ ก. และ ขอ ค. 66. รายการตอไปนี้ขอใดไมปรากฏในแบบแจงขอความของกรรมการ หรือผูเปนหุนสวน หรือผูจัดการ ในแบบแสดง รายการ ภ.ง.ด.50 หรือไม ก. การปฏิบัตเิ กี่ยวกับการหกั ภาษหี กั ณ ทจี่ าย ข. การตรวจนบั สนิ คา คงเหลอื ค. ผลขาดทุนสทุ ธิติดตอกันเกิน 3 รอบระยะเวลาบัญชี ง. การตั้งเจาหนี้หรือลุกหน้โี ดยไมมีตัวตนหรือมีตัวตนแตจํานวนเกินความเปนจริง 67. เงินไดพึงประเมินตามมาตรา 40(1) และ (2) ซึ่งเปนเงินที่นายจางจายใหครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงาน ขอใด ไมเขาเงื่อนไขที่ผูมี เงินไดจะเลือกเสียภาษีแยกตางหากจากเงินไดอื่นตามมาตรา 48(5) แหงประมวลรัษฎากร ก. ในกรณีทมี่ ีการจายเงินจากผูจายรายเดียวกันหลายครั้ง ไมวาจะแบงจายจากเงินประเภทเดียวกันหรือหลายประเภท ผูมีเงินได จะเลือกเสียภาษีตามมาตรา 48(5) แหงประมวลรัษฎากร ไดเฉพาะเงินไดที่ไดจายในปภาษีแรกที่มีการจายเงินไดดังกลาว เทา นัน้ ข. เปน เงนิ ไดท จ่ี ายใหเ น่ืองจากออกจากงานทม่ี รี ะยะเวลาทาํ งานไมน อยกวา 5 ป ค. ผูมีเงินไดจะเลือกเสียภาษีในกรณีนี้ไดเฉพาะกรณีที่ผูมีเงินไดไมนําเงินไดพึงประเมินดังกลาวไปรวมคํานวณภาษีตามมาตรา 48 (1) และ (2) แหงประมวลรัษฎากร ไมวาทั้งหมดหรือบางสวน ง. ผดิ ทกุ ขอ 68. บรษิ ทั ก. จาํ กดั ซอ้ื หนุ บรษิ ทั ข. จาํ กดั 2,400,000 หนุ @ 10 เปน เงนิ 24,000,000.- บาท ในป 2545 ตอ มาในป 2547 บรษิ ทั ข. จาํ กดั ถกู ฟอ งลมละลาย และขอเขา ฟน ฟกู จิ การ ผบู รหิ ารแผนฟนฟกู จิ การไดล ดทุนลง 4 : 1 ทาํ ใหบ รษิ ทั ก. จาํ กดั เหลอื มูลคา การลงทนุ เพยี ง 6,000,000. บาท บรษิ ทั ก. จาํ กดั ไดข ายหนุ ทง้ั หมด 600,000 หนุ ใหแ กบ ริษทั ค. หนุ ละ 3 บาท ตามราคาตลาด บรษิ ทั ก. จํากัด จะบันทึกผลขาดทุนอยางไรจึงถูกตองตามประมวลรัษฎากร ก. ในป 2545 บนั ทึกผลขาดทนุ 18,000,000.- บาท ข. ในป 2547 บนั ทกึ ผลขาดทนุ 4,200,000.- บาท ค. ในป 2547 บนั ทกึ ผลขาดทนุ 22,200,000.- บาท ง. ไมมีขอใดถูก 69. บรษิ ทั ก. มผี ลขาดทุนสทุ ธติ ดิ ตอ กนั 3 ป เปน เงนิ ทง้ั สน้ิ 200,000,000.- บาท ทาํ ใหม ผี ลขาดทนุ ในบญั ชขี าดทนุ สะสม เปน เงนิ 150,000,00.- บาท ในปท ่ี 4 บรษิ ทั ฯไดล ดทนุ ลงเพ่ือนาํ มาหกั กบั ผลขาดทนุ สะสมทง้ั หมด ดงั นน้ั บริษทั ก. จะสามารถนําผลขาดทนุ มาทผ่ี า น มานํามาหักออกจากผลกําไรสุทธิใน รอบระยะเวลาบัญชปี ที่ 4 ตาม ม.65 ตรี (12) แหงประมวลรัษฎากรอยางไร ก. ไมสามารถนําผลขาดทุนทงั้ หมดไมเกิน 5 รอบระยะเวลาบัญชีมาหักกําไรสุทธิในปที่ 4 ได ข. สามารถนาํ ผลขาดทนุ ทง้ั หมดไมเ กนิ 5 รอบระยะเวลาบญั ชมี าหกั จากผลกาํ ไรสทุ ธใิ นปท ่ี 4 ได ค. สามารถนาํ ผลขาดทนุ จาํ นวน 50,000,000.- บาทมาหกั ผลกาํ ไรสุทธใิ นปท ่ี 4 ได ง. ไมมีขอใดถูก 70. กรณที บ่ี รษิ ทั ก. ทาํ สญั ญารบั เหมากอ สรา งอาคารชดุ กบั บรษิ ทั ข. เปน เงนิ 560,000,000.- บาท เมอ่ื วนั ท่ี 16 ก.ค. 2547ระยะเวลาการกอ สรา งจะเสรจ็ ส้ินเมอ่ื วันท่ี 16 ก.ค. 2549 บรษิ ทั ข. จะตดิ อากรแสตมปเ ทาใด ก. ติดอากรแสตมป เปนเงิน 280,000 บาท ข. ตดิ อากรแสตมป เปน เงนิ 560,000 บาท ค. ติดอากรแสตมป เปนเงิน 30 บาท

หนา้ 149 ง. ไมมีขอใดถูก 71. บรษิ ทั ก. ทาํ สญั ญาเชารถยนตก บั บรษิ ัท ข. เดอื นละ 30,000 บาท เปน เวลา 3 ป โดยให บรษิ ทั ก. สามารถซอ้ื รถยนตด งั กลา วไดเ มอ่ื ครบกําหนดสัญญาเชา สัญญาดังกลาวจะตองติดอากรแสตมปอยางไร ก. ติดอากรแสตมป 1,080 บาท ข. ติดอากรแสตมป 540 บาท ค. ไมต องติดอากรแสตมป ง. ไมมีขอใดถูก 72. ขอใดมใิ ชความหมายของบริษัท หรือหางหุนสวนนิติบุคคล ตามมาตรา 39. แหงประมวลรัษฎากร ก. กิจการที่ดําเนินการรวมกันดําเนินทางการคา หรือหากําไรระหวางบริษทั กับบุคคลธรรมดา ข. กิจการซึ่งดําเนินทางการคาหรือหากําไร โดยรัฐบาลตางประเทศ ค. สหกรณเ คหสถานกรงุ เทพ ง. ถูกทุกขอ 73. บริษัท ก. จํากัดไดกอสรางอาคารโรงแรม ซึ่งในการกอสรางจะแลวเสร็จไมพรอมกัน โดยจะทําการตกแตงภายในเปนหอง ๆ หองใด ตกแตงเสร็จก็จะใหบริการทันที บริษัท ก. ควรใชหลักการใดในการคิดคาเสื่อมราคา ก. คิดคาเสื่อมราคาเปนหอง ๆ ตามที่แลวเสร็จ ข. คดิ คา เสอ่ื มราคาอาคารทง้ั หมดเมอ่ื กอ สรา งเสรจ็ ค. คิดคาเสื่อมราคาตามขอ ก. หรือ ขอ ข. ก็ได ง. ไมมีขอใดถูก 74. ขอใดดังตอไปนี้มิใชมูลเหตุของการออกใบลดหนี้ตามมาตรา 82/10 แหงประมวลรัษฎากร ก. ลดราคาเนื่องจากสินคาผดิ ขอตกลง ข. รับคืนสินคาชํารุด ค. ลดราคาสนิ คา เพอ่ื เปน การสง เสรมิ การขาย ง. คาํ นวณราคาผดิ พลาด 75. การประกอบกิจการประเภทใด ดังตอไปนเี้ ปนกิจการที่ไดรับยกเวนภาษีมูลคาเพิ่ม แตมีสทิ ธิ์แจงขอ จดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่มได ก. การใหบริการเชาอสังหาริมทรัพย ข. การสง ออกสนิ คาพชื ผลทางการเกษตร ค. การขายหนงั สอื พมิ พ นติ ยสาร ง. การใหบริการตามสัญญาจางแรงงาน 76. บริษัท เอกวิทย จํากัด บริจาคเครื่องคอมพิวเตอร จํานวน 5 เครื่อง มูลคา 80,000 บาท ใหแก โรงเรียนเอกชนแหงหนึ่งใน จังหวัด นครสวรรค ตอไปนี้ขอใดถูกตอง ก. บริษทั ฯไมส ามารถนําไปหกั เปนรายจายได เนอ่ื งจากเปน รายจายทม่ี ใิ ชร ายจา ยเพอ่ื หากาํ ไรหรือเพอ่ื กจิ การโดยเฉพาะ ข. บริษัทฯไมสามารถนําไปหกั เปนรายจายได เนอื่ งจากเปน รายจายสว นตวั ค. บรษิ ทั ฯสามารถนาํ ไปหกั เปน รายจา ยไดท ง้ั จาํ นวนเนอ่ื งจากเกย่ี วขอ งโดยตรงกบั การประกอบกจิ การ ง. บรษิ ทั ฯสามารถนาํ ไปหักเปน รายจา ยไดใ นสว นทไ่ี มเ กนิ รอ ยละ 2 ของกาํ ไรสทุ ธิ 77. บรษิ ทั ชาญชยั แมชชีนเนอรี จาํ กดั ซ้ือสมาชกิ สนามกอลฟ ราชพฤกษ 1 สมาชกิ ราคา 2,000,000 บาท โดยจาํ กดั เฉพาะกรรมการบาง คนใหเขาไปใชบริการได ไมวาจะนําบุคคลอื่นที่มิใชกรรมการ พนักงาน ลูกจาง หรือที่ปรึกษา เขาไปใชบริการดวยหรือไมก็ตาม การจาย คาสมาชิกสนามกอลฟดังกลาว หักเปนรายจายในการคํานวณกําไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินไดนิติบุคคลไดหรือไมอยางไร ก. หกั เปน รายจา ยในการคาํ นวณกาํ ไรสทุ ธไิ มไ ด เนอ่ื งจากเปน รายจา ยสว นตวั ตอ งหา มตามมาตรา 65 ตรี(3) ข. หกั เปน รายจายในการคํานวณกําไรสุทธิไมได เน่ืองจากเปนรายจายเพ่ือการลงทุน ตอ งหามตามมาตรา 65 ตรี(5) ค. หกั เปน รายจายในการคาํ นวณกําไรสทุ ธไิ ดไ มต องหา มตามมาตราใด

หนา้ 150 ง. หักเปนรายจายในการคํานวณกําไรสุทธิไดโดยเปนรายจายคารับรอง ซึ่งหลักเกณฑการหักคาใชจายตองเปนไปตามกฏกระทรวงฉบับที่ 143 78. ในการปฏบิ ตั งิ านกาํ กบั ดแู ลผเู สยี ภาษบี นงานกาํ กบั ดแู ล ขอ ใดไมถ กู ตอ ง ก. ออกตรวจสภาพกิจการภายใน 3 เดือนนับแตวันที่ทีมยอยบันทกึ “ตรวจสภาพกิจการ” บนระบบฯ และผูมีอํานาจสั่งการหรือผูที่ไดรับมอบหมายตองอนุมตั ิแลว ข. ระยะเวลาการตรวจสภาพกจิ การ ตอ งดาํ เนนิ การใหแ ลว เสรจ็ ภายใน 3 เดอื น นบั แตว นั ทท่ี มี ยอ ยบนั ทกึ ออกตรวจสภาพ กิจการบนระบบฯ ค. ในวนั ทอ่ี อกตรวจสภาพกจิ การใหท มี ยอ ยบนั ทกึ วนั เดอื น ปท อ่ี อกตรวจสภาพกจิ การตามทร่ี ะบใุ นหนงั สอื นาํ ตวั บนระบบฯ ง. ไมม ขี อใดไมถ ูกตอ ง 79. บรษิ ทั ก จาํ กดั ประกอบกจิ การซอ้ื มาขายไปในการขายสนิ คามกี ารใหเ ครดติ แกล กู คาในการชําระหนภ้ี ายใน 30 วนั หากพน กําหนด ลูกคาไมสามารถชําระหนี้ได จะคิดดอกเบี้ยจากหนี้ที่คางชําระดังกลาว ดอกเบยี้ รับจากการชําระราคาสินคาลาชา ดังกลาว มีภาระ ภาษมี ลู คาเพม่ิ ภาษีธรุ กจิ เฉพาะ อยา งไร ก. ภาษมี ลู คาเพม่ิ – บรษิ ทั ฯ ไมต อ งนาํ มารวมเปน มลู คา ของฐานภาษี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ – บรษิ ทั ฯ ไมต องนาํ มาเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ข. ภาษมี ลู คา เพม่ิ – บรษิ ทั ฯ ตอ งนาํ มารวมเปน มลู คา ของฐานภาษี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ – บรษิ ทั ฯ ไมต อ งนาํ มาเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ค. ภาษมี ลู คา เพม่ิ – บรษิ ทั ฯ ไมต อ งนาํ มารวมเปน มูลคาของฐานภาษี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ – บรษิ ทั ฯ ตอ งนาํ มาเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ง. ไมม ขี อ ใดถกู ตอ ง 80. บรษิ ทั ก จาํ กดั จายคา จา งทาํ ของแก บรษิ ทั ข จาํ กดั โดยไดห กั ภาษี ณ ทีจ่ า ยตามมาตรา 3 เตรส และไดอ อกหนงั สอื รบั รอง ภาษหี กั ณ ทจ่ี า ยใหแ ก บรษิ ทั ข จาํ กดั แลว แตไ มน าํ สงภาษหี กั ณ ทจ่ี า ยดงั กลา วตอ กรมสรรพากร บรษิ ทั ข จาํ กดั ไดน าํ ภาษที ถ่ี กู หกั ณ ทจ่ี าย ดังกลาวมาเปนเครดิตในการยื่นแบบ ภงด.50 ประจําป ไดหรือไม ก. บรษิ ทั ข จาํ กดั ไมส ามารถนาํ ภาษเี งนิ ไดท ถ่ี กู หกั ณ ทจ่ี า ยไวม าใชเ ปนเครดติ ในการยน่ื แบบ ภงด.50 ได เนอ่ื งจาก บรษิ ทั ก จาํ กดั ไมน าํ สง ภาษเี งนิ ไดข องบริษทั ข จาํ กดั ไว ข. บรษิ ทั ข จาํ กดั สามารถนาํ ภาษเี งนิ ไดท ถ่ี กู หกั ณ ทจ่ี า ยไวม าใชเ ปนเครดติ ในการยน่ื แบบ ภงด.50 ได เน่อื งจากมหี นังสอื รบั รองภาษหี กั ณ ที่จา ยและไดถ ูกหักภาษี ณ ทจี่ ายไวแลว ค. บรษิ ทั ข จาํ กดั สามารถนาํ ภาษเี งินไดท ถ่ี กู หัก ณ ทจ่ี ายไวม าใชเ ปนเครดติ ในการยน่ื แบบ ภงด.50 ได กต็ อ เมอ่ื ทางบริษทั ก จาํ กดั ตอ งไปนาํ สง ภาษเี งนิ ไดห กั ณ ท่ีจา ยใหค รบถว นกอ น ง. ถูกท้ังขอ ก. และ ขอ ค. 81. ป พ.ศ.2549 นายไทยมภี รยิ าจดทะเบยี นตามกฎหมาย นายไทยไดร บั เงนิ เดอื นจากบริษทั สยาม จํากดั เดอื นละ 30,000.- บาท และมีรายไดจากคาเชาบานเดือนละ 10,000.- บาท ตลอดปภริยาไมม ีเงินได นายไทยจายเงิน สมทบเขากองทุนประกันสังคม 5,400.- บาท บริจาคเงินบํารุงโรงพยาบาลรามาธิบดีเปนเงิน 20,000.- บาท ภริยาบริจาคเงินใหวัดชนะสงคราม 50,000.- บาท นายไทยตอง ชําระภาษีของปภาษี 2549 เปนเงิน ก. 14,860.- บาท ข. 18,674.- บาท ค. 19,860.- บาท ง. 24,860.- บาท 82. บริษัท ก จํากัด เปนผูสงออก มีรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต 1 มกราคม – 31 ธันวาคม บริษัทไดสงสินคา ไปขายตางประเทศ โดยออก ใบกํากบั สนิ คาหรือใบตราสง สินคาวันท่ี 30 ธันวาคม 2549 ใบขนขาออกเปนวันท่ี 4 มกราคม 2550 ชําระอากรขา ออกวนั ท่ี 6 มกราคม 2550 ไดร บั ชาํ ระเงนิ คา สนิ คา วนั ท่ี 6 กมุ ภาพนั ธ 2550 บรษิ ทั ตอ งบนั ทกึ รายไดจ ากการขายสนิ คา วนั ท่ี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook