Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รวมข้อสอบ

รวมข้อสอบ

Published by audamnat.rd, 2020-08-22 08:32:46

Description: รวมข้อสอบที่ผ่านการสอบทานเบื้องต้นแล้ว

Keywords: c8

Search

Read the Text Version

หน้า 201 จิตอาสาปนโตภาษี กลุม 2 ขอ สอบชดุ ท่ี 11 (ขอ 5 - 9) 5. ขอ ใดมใิ ช ขอกาํ หนดในการตรวจสภาพกจิ การ (1) ตองออกตรวจสภาพกิจการผูประกอบการแตละรายอยางนอยปละ 1 ครั้ง (2) การออกตรวจสภาพกิจการ ณ สถานประกอบการตองดําเนินการใหไดอยางนอย 1 สถานประกอบการ/วัน/ทีมยอย (3) ตองมกี ารวางแผนการออกตรวจสภาพ (4) ถูกทุกขอ ขอ นเ้ี กา ลา สมยั แลว 6. ผูถูกตรวจสอบยัน หมายความวา บุคคลใด (1) ผซู อ้ื สินคาหรือผรู บั บรกิ ารจากผูประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลคาเพมิ่ ท่ีออกใบกํากับภาษี (2) ผูประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่มที่ออกใบกํากับภาษีใหแกผูซื้อสินคาหรือรับบริการ (3) ถูกทัง้ ขอ (1) และ (2) (4) ผดิ ทง้ั ขอ (1) และ (2) เฉลย (3) ถกู ตอ งแลว อา งองิ : แนวทางปฏบิ ตั กิ รมสรรพากรท่ี มก. 1/2550 เรอ่ื ง การสอบยนั ใบกาํ กบั ภาษี ลว.28 ม.ี ค. 2550 แกไ ขเพม่ิ เตมิ โดย แนวทางปฏบิ ตั กิ รมสรรพากร ท่ี มก.25/2554 ลว. 31 ส.ค. 2554 และ แกไ ขเพม่ิ เตมิ โดย แนวทางปฏบิ ตั ิ กรมสรรพากร ท่ี มก.58/2560 ลว. 31 ม.ี ค . 2560 7. การกาํ กบั ดแู ลผเู สยี ภาษโี ดยใกลช ดิ เปนรายผปู ระกอบการ และใหเ ปน ปจ จบุ นั ขอ ใดตอไปน้ี มใิ ชแ นวทางปฏบิ ตั ใิ นการกาํ กบั ดแู ล (1) ตองออกตรวจสภาพกิจการของผูประกอบการแตละราย อยางนอยปละครั้ง (2) การกํากับดูแล สามารถสลับทีมกํากับดูแลได ตลอดระยะเวลาที่อธิบดีกําหนด (3) มอบหมายรายผูประกอบการใหทีมกํากับดูแล ตองมอบหมายรายกลุมประเภทกิจการตามความเหมาะสม หากกลมุ ประเภท กิจการใดมีปริมาณรายมาก ใหเฉลี่ยและมอบหมายทีมกํากับดูแลอื่นได (4) การกํากับดูแลบนระบบเครือขา ยรัษฎากร ตองติดตามขอมูลการยื่นชําระภาษขี องผูประกอบการบนระบบเครือขา ยฯ และ บันทกึ ความเห็นบนระบบเครือขายฯ วาจะดําเนินการกับผูประกอบการแตละรายอยางไร ขอ นเ้ี กา ลา สมยั แลว 8. วิธีการสงหมายเรียกหรือหนังสือแจงใหเสียภาษีอากรในครั้งแรกจะตองดําเนินการอยางไร (1) สงทางไปรษณียลงทะเบียนตอบรับ (2) ใหเ จา พนกั งานสรรพากรนาํ ไปสง ณ ภมู ลิ าํ เนาหรือถน่ิ ทอ่ี ยหู รอื สาํ นักงานของบคุ คลนน้ั ในเวลาใดก็ได (3) ใชวิธีปดหมายหรือหนังสือแจงในที่ซึ่งเห็นไดงาย ณ ที่อยูหรือสํานักงานของบุคคลนั้น (4) ถูกทุกขอ เฉลย (1) ถูกตองแลว อา งองิ : มาตรา 8 หมายเรยี ก หนงั สอื แจง ใหเ สยี ภาษอี ากรหรอื หนงั สอื อน่ื ซึง่ มถี งึ บคุ คลใดตามลกั ษณะน้ี ใหส ง โดยทางไปรษณยี ล งทะเบยี นตอบรบั หรอื ใหเ จา พนกั งานสรรพากร นาํ ไปสง ณ ภมู ลิ ําเนาหรอื ถน่ิ ทอ่ี ยู หรอื สาํ นกั งานของบคุ คลนน้ั ใน ระหวา งพระอาทติ ยข น้ึ ถงึ พระอาทติ ยต ก หรอื ในเวลาทาํ การของบคุ คลนน้ั ถา ไมพ บผรู บั ณ ภมู ลิ าํ เนา หรอื ถน่ิ ทอ่ี ยู หรอื สาํ นกั งานของ ผรู บั จะสง ใหแ กบ คุ คลใดซ่ึงบรรลุนติ ิภาวะแลว และอยหู รือทํางานในบา น หรือสํานกั งานทป่ี รากฏวาเปน ของผูรับนัน้ กไ็ ด กรณไี มส ามารถสง ตามวธิ ใี นวรรคหนง่ึ ได หรอื บคุ คลนน้ั ออกไปนอกราชอาณาจกั ร ใหใ ชว ธิ ปี ด หมาย หนงั สอื แจง หรอื หนังสืออ่นื แลว แตกรณี ในที่ซง่ึ เห็นไดงา ย ณ ทอ่ี ยูหรอื สํานักงานของบคุ คลนั้น หรอื บานทบ่ี คุ คลนนั้ มชี ่ืออยูในทะเบียนตามกฎหมายวา ดวยการทะเบียนราษฎรครั้งสุดทาย หรือโฆษณาขอความยอในหนงั สือพิมพที่จําหนายเปนปกติในทองที่นนั้ ก็ได เมื่อไดปฏิบัติตามวิธีดังกลาวขางตนแลว ใหถือวาเปนอันไดรับแลว (พระราชกําหนดแกไ ขเพม่ิ เติม (ฉบบั ท่ี 14) พ.ศ. 2529 ใชบ งั คบั 1 ก.พ. 2529 เปน ตน ไป)

หนา้ 202 9.การอุทธรณการประเมินภาษีอากร ของเจาพนักงานประเมิน ตองอุทธรณเมื่อใด (1) ภายใน 15 วัน นับแตวันไดรับแจงการประเมิน (2) ภายใน 30 วัน นับแตวันไดรับแจงการประเมิน (3) ภายใน 7 วัน นับแตวันไดรับแจงการประเมิน (4) ภายใน 1 เดือน นับแตวันไดรับแจงการประเมิน เฉลย (2) ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 30 ในการอทุ ธรณการประเมนิ ภาษอี ากรทอ่ี าํ เภอไมม หี นา ทป่ี ระเมนิ ใหอ ทุ ธรณภ ายใน กาํ หนดเวลาสามสบิ วนั นบั แตว ันไดร บั แจง การประเมิน

หนา้ 203 จิตอาสาปน โตภาษี กลุม 2 ขอ สอบชดุ ท่ี 3-4 ขอ สอบ วชิ า ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คล ชดุ ท่ี 3 1. ขอ ใดไมถ กู ตอ ง ผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลจากกาํ ไรสทุ ธิ ไดแ ก ก. บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สวนนติ บิ คุ คลทต่ี ง้ั ขน้ึ ตามกฎหมายไทย ข. บริษัทหรือหางหุนสวนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของตางประเทศและเขามาประกอบกิจการในที่อื่น ๆ รวมทั้ง ประเทศไทย ค.บริษัทหรือหางหุนสวนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของตางประเทศและเขามาประกอบกิจการในประเทศไทย กระทํากิจการขนสง ผานประเทศตาง ๆ ง. กจิ การรว มคา เฉลย ค. ถกู ตอ งแลว อางอิง : มาตรา 67 การเสยี ภาษตี ามความในสว นน้ี ใหเ สยี ตามอตั ราทก่ี าํ หนดไวใ นบญั ชอี ตั ราภาษี เงนิ ไดท า ยหมวดน้ี เวน แตใ นกรณที บ่ี รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลตามมาตรา 66 วรรคสอง กระทาํ กจิ การขนสง ผา นประเทศ ตา งๆ ใหเ สียภาษเี ฉพาะกจิ การขนสงตามเกณฑ ดงั ตอ ไปน้ี (1) ในกรณรี บั ขนคนโดยสาร ใหเ สยี ภาษใี นอตั รารอ ยละ 3 ของคา โดยสารคา ธรรมเนยี ม และประโยชนอ ่ืนใดทเ่ี รยี ก เกบ็ ในประเทศไทยกอ นหกั รายจา ยใดๆ เนอ่ื งในการรบั ขนคนโดยสารนน้ั (2) ในกรณรี บั ขนของ ใหเ สยี ภาษใี นอตั รารอ ยละ 3 ของคา ระวาง คา ธรรมเนยี ม และประโยชนอ ่ืนใดทเ่ี รยี กเกบ็ ไมว า ในหรอื นอกประเทศไทยกอ นหกั รายจา ยใดๆ เนอ่ื งในการรบั ขนของออกจากประเทศไทยนน้ั 2. ขอใดไมถูกตอง บริษัทหรือหางหุนสวนนิติบุคคลดังตอไปนี้ใหเสียภาษีเงินไดนิติบุคคลในอัตรารอยละ 30 ของกําไรสุทธิ ก. บริษัทหรือหางหุนสวนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของตางประเทศและเขามาประกอบกิจการในประเทศไทย ข. กจิ การรว มคา ค. กิจการที่ดําเนินเปนการคาหรือหากําไร โดยรัฐบาลตางประเทศ องคการของรัฐบาลตางประเทศหรือนิติบุคคลท่ตี ั้งขึ้น ตามกฎหมายของตางประเทศและเขามาประกอบกิจการในประเทศไทย ง. บริษัทหรือหางหุนสวนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย โดยมีทุนจดทะเบียนชําระแลว ณ วันสุดทายของรอบ ระยะเวลาบัญชีไมเกิน 5 ลานบาทและมิใชบริษัทจดทะเบียน เดมิ เฉลย ง. ยงั ไมถ กู ตอง เนือ่ งจาก · ปจ จบุ นั อตั ราภาษมี กี ารเปลย่ี นแปลง จดั เกบ็ อตั รารอ ยละ 20 ของกาํ ไรสทุ ธิ ตามพระราชบญั ญตั แิ กไ ขเพ่ิมเตมิ ประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 42) พ.ศ. 2559 มผี ลบงั คบั ใชต ง้ั แตร อบระยะเวลาบญั ชที เ่ี รม่ิ ในหรอื หลงั วนั ท่ี 1 มกราคม 2559 เปน ตน ไป · บรษิ ัทหรอื หางหุน สวนนติ บิ ุคคลท่ตี ง้ั ข้ึนตามกฎหมายไทย โดยมีทุนจดทะเบยี นชาํ ระแลว ณ วันสดุ ทายของ รอบระยะเวลาบญั ชไี มเ กนิ 5 ลา นบาท และมรี ายไดจ ากการขายสนิ คา หรอื ใหบ รกิ ารในรอบระยะเวลาบญั ชไี มเ กนิ 30 ลา นบาท ไดร บั การยกเวน และลดอตั ราภาษสี าํ หรบั รอบระยะเวลาบญั ชที เ่ี รม่ิ ในหรอื หลงั 1 มกราคม 2561 เปน ตน ไปดงั น้ี ( ตามพระราชกฤษฎกี าฯ(ฉบับที่ 603) พ.ศ.2559) กาํ ไรสทุ ธิ (บาท) อตั ราภาษี (รอ ยละของกําไรสุทธ)ิ 1 – 300,000 ยกเวน เกิน 300,000 แตไมเกิน 3,000,000 15 เกิน 3,000,000 20 3. การคํานวณรายไดและรายจายของบริษัทหรือหางหุนสวนนิติบุคคลใหใชเกณฑสิทธิ หมายถึง ก. รายไดที่เกิดขึ้นในรอบระยะเวลาบัญชีใดและยังไมไดรับชําระในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น ข. รายจายที่เกี่ยวกับรายได ที่ไดจายไปในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น ค. รายไดที่เกิดขึ้นในรอบระยะเวลาบัญชีใด ไดรับชําระในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น ง. รายจายที่ไมเกี่ยวกับรายได และยังไมไดจายในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น

หนา้ 204 เฉลย ก. ถูกตองแลว อา งองิ มาตรา 65 วรรคสอง ประกอบคาํ สง่ั กรมสรรพากรที่ ท.ป.1/2528ฯ · มาตรา 65 วรรคสอง “การคาํ นวณรายไดและรายจา ยตามวรรคหนง่ึ ใหใ ชเ กณฑส ทิ ธ์ิ โดยใหนาํ รายไดท ่ี เกดิ ขน้ึ ในรอบระยะเวลาบญั ชใี ด แมว า จะยงั ไมไ ดร บั ชาํ ระในรอบระยะเวลาบญั ชนี น้ั มารวมคาํ นวณเปน รายไดใ นรอบ ระยะเวลาบญั ชนี ัน้ และใหน าํ รายจา ยทง้ั สน้ิ ทเ่ี กย่ี วกบั รายไดน น้ั แมจ ะยงั มไิ ดจ า ยในรอบระยะเวลาบญั ชนี น้ั มารวมคาํ นวณ เปน รายจา ยของรอบระยะเวลาบญั ชนี น้ั ” · คาํ สง่ั กรมสรรพากรท่ี ท.ป.1/2528ฯ ขอ 2 การคาํ นวณรายไดแ ละรายจา ยของบรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ ิ บคุ คล ใหใ ชเ กณฑส ทิ ธิ์โดยใหนาํ รายไดท เ่ี กดิ ขน้ึ ในรอบระยะเวลาบญั ชใี ด แมว า จะยงั ไมไ ดร บั ชาํ ระในรอบระยะเวลาบญั ชนี ้ัน มารวมคาํ นวณเปน รายไดใ นรอบระยะเวลาบญั ชนี น้ั และใหน าํ รายจา ยทง้ั สน้ิ ทเ่ี กย่ี วกบั รายไดน น้ั แมจ ะยงั ไมไ ดจ า ยในรอบ ระยะเวลาบญั ชนี น้ั มารวมคาํ นวณเปน รายจา ยของรอบระยะเวลาบญั ชนี น้ั 4. กรณีการตีราคาทรัพยสินเพิ่มขึ้นในการคํานวณกําไรสุทธิตามมาตรา 65 ทวิ ก. ใหน าํ ราคาท่ีตรี าคาเพม่ิ ขน้ึ มารวมคาํ นวณกําไรสทุ ธดิ ว ย ข. มใิ หน าํ ราคาทต่ี ีราคาเพ่ิมขน้ึ มารวมคาํ นวณกําไรสทุ ธิ ค. ใหน าํ ราคาทต่ี รี าคาเพม่ิ ข้ึนมาหักจากกาํ ไรสทุ ธิ ง. มใิ หน าํ ราคาทต่ี ีราคาเพม่ิ ข้ึนมารวมคํานวณกาํ ไรสุทธิ แตส ามารถหกั คา สึกหรอและคา เสื่อมราคาได เฉลย ข. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 65 ทวิ (3) ราคาทรพั ยสนิ อน่ื นอกจาก (6) ใหถ อื ตามราคาทพ่ี งึ ซอ้ื ทรพั ยสนิ นน้ั ได ตามปกติ และในกรณที ม่ี กี ารตรี าคาทรพั ยส นิ เพม่ิ ขน้ึ หา มมใิ หน าํ ราคาทต่ี รี าคาเพม่ิ ขน้ึ มารวมคาํ นวณกาํ ไรสทุ ธหิ รอื ขาดทนุ สทุ ธิ สวนทรัพยสินรายการใดมีสิทธิหักคาสึกหรอและคาเสื่อมราคา ก็ใหหักคาสึกหรอและคาเสื่อมราคาในการคํานวณกําไรสุทธิ หรอื ขาดทนุ สทุ ธติ ามหลกั เกณฑ วธิ กี าร เงอ่ื นไข และอตั ราเดมิ ทใ่ี ชอ ยกู อ นตรี าคาทรพั ยส นิ เพม่ิ ขน้ึ โดยใหห กั เพยี งเทา ท่ี ระยะเวลา และมูลคาตนทุนที่เหลืออยูสําหรับทรัพยสินนั้นเทานนั้ ( พระราชกาํ หนดแกไ ขเพม่ิ เติม (ฉบบั ท่ี 16) พ.ศ. 2534 ใชบ งั คบั สาํ หรบั รอบระยะเวลาบญั ชเี รม่ิ ในหรอื หลงั วนั ท่ี 1 ม.ค. 2535 เปน ตน ไป ) 5. การคํานวณเงินตราและทรัพยสิน ซึ่งมีคาเปนเงินตราตางประเทศที่เหลืออยูในวันสุดทายของรอบระยะเวลาบัญชีของบริษัท หรือหางหุนสวนนิติบุคคลใหคํานวณคาหรือราคาเปนเงินตราไทย ดังนี้ ก. ตามอตั ราถัวเฉลย่ี ทธ่ี นาคารพาณชิ ยข าย ข. ตามอัตราถัวเฉล่ยี ที่ธนาคารพาณิชยรับซื้อ ค. ตามอัตราถัวเฉล่ยี ของวันที่ไดเงินตราหรือทรัพยสินนั้นมา ง. ตามอัตราแลกเปลี่ยนในทองตลาด เฉลย ข. ถกู ตอ งแลว อางอิง : มาตรา 65 ทวิ (5) เงนิ ตรา ทรพั ยส นิ หรอื หนส้ี นิ ซง่ึ มคี า หรอื ราคาเปน เงนิ ตราตา งประเทศ ท่ี เหลอื อยใู นวนั สดุ ทา ยของรอบระยะเวลาบญั ชี ใหค าํ นวณคา หรอื ราคาเปน เงนิ ตราไทย ดงั น้ี (ก) กรณบี รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลนอกจาก (ข) ใหค าํ นวณคา หรอื ราคาของเงินตรา หรือทรพั ยสนิ เปนเงินตราไทย ตามอตั ราถวั เฉลย่ี ทธ่ี นาคารพาณชิ ยร บั ซอ้ื ซง่ึ ธนาคารแหง ประเทศไทยไดค าํ นวณไว และใหค าํ นวณคา หรือราคาของหน้สี ิน เปนเงินตราไทยตามอัตราถัวเฉลี่ยที่ธนาคารพาณิชยขาย ซึ่งธนาคารแหงประเทศไทยไดคํานวณไว (ข) กรณธี นาคารพาณชิ ย หรอื สถาบนั การเงนิ อน่ื ตามทร่ี ฐั มนตรกี าํ หนด ใหค าํ นวณคา หรอื ราคาของเงนิ ตรา ทรพั ยส นิ หรอื หนส้ี นิ เปน เงนิ ตราไทยตามอตั ราถวั เฉล่ียระหวา งอตั ราซอ้ื และอตั ราขายของธนาคารพาณชิ ยท ธ่ี นาคารแหง ประเทศไทย ไดคํานวณไว 6. ภาษีซื้อของบริษัทหรือหางหุนสวนนิติบุคคลที่เปนผปู ระกอบการจดทะเบียนที่ถือเปนรายจายตองหามโดยผลของกฎหมาย ตาม มาตรา 65 ตรี (6) ทวิ ไดแก ก. ภาษซี ื้อที่เกี่ยวของกับการประกอบกิจการโดยตรง ข. ภาษซี อ้ื ทเ่ี กดิ จากการซอ้ื ทรพั ยส ินทใ่ี ชใ นกจิ การและหักคา เสอ่ื มราคาได ค. ภาษซี ้ือทเ่ี กดิ จากรายจา ยเพ่ือการรบั รองหรือเพ่ือการอนั มลี กั ษณะทาํ นองเดยี วกนั ตามหลกั เกณฑแ ละเง่ือนไขทอ่ี ธบิ ดีกาํ หนด ง. ผิดทุกขอ เดิมเฉลย ค. ที่ถูกตอบ ก. และ ข. อางอิง : มาตรา 65 ตรี (6ทวิ) ภาษมี ลู คา เพม่ิ ทช่ี าํ ระหรอื พึงชาํ ระ และภาษซี อ้ื ของบรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลทเ่ี ปน ผปู ระกอบการจดทะเบยี น เวน แตภ าษมี ลู คา เพม่ิ และภาษซี อ้ื ของผปู ระกอบการจดทะเบยี นซง่ึ

หน้า 205 ตอ งเสียภาษตี ามมาตรา 82/16 ภาษซี ือ้ ทตี่ อ งหา มนํามาหกั ในการคาํ นวณภาษีมลู คา เพ่ิมตามมาตรา 82/5 (4) หรอื ภาษีซอ้ื อื่นตามที่กําหนดโดยพระราชกฤษฎีกา อาทเิ ชน 1. ภาษซี ือ้ ทเ่ี กดิ จากรายจา ยเพอ่ื การรบั รองหรอื เพอ่ื การอนั มลี กั ษณะทาํ นองเดยี วกนั 2. ภาษซี อ้ื ทเ่ี กดิ จากการซอ้ื เชา ซอ้ื เชา หรอื รบั โอนรถยนตน ง่ั และรถยนตโ ดยสารทม่ี ที น่ี ่ังไมเ กนิ 10 คน และภาษซี อ้ื ท่ี เกิดจากการซื้อสินคาหรือการรับบริการที่เกี่ยวของกับรถยนตนั่งและรถยนตโดยสารที่มีท่นี ั่งไมเกิน 10 คน ตามกฎหมายวาดวย พิกดั อัตราภาษีสรรพสามิต 3. ภาษซี อ้ื ตามใบกาํ กบั ภาษอี ยา งยอ 4. ภาษซี อ้ื ทเ่ี กดิ จากการซอ้ื ทรพั ยส ินเพอ่ื ใช หรอื จะใชใ นกจิ การประเภททไ่ี มต อ งเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ หรอื ภาษซี อ้ื ทเ่ี กดิ จากรายจายของกิจการประเภทที่ไมตองเสียภาษีมูลคาเพิ่ม 7. บริษัทหรือหางสวนนิติบุคคลที่ไมยื่นรายการประมาณการกําไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิ (ภ.ง.ด.51) ตามมาตรา 67 ทวิ (1) แหงประมวลรัษฎากรหรือยื่นรายการและชําระภาษี โดยแสดงประมาณการกําไรสุทธิขาดไปเกินกวารอยละ 25 ของกําไรสุทธิซ่งึ ได จากกจิ การหรอื เนอ่ื งจากกจิ การท่ีกระทาํ ในรอบระยะเวลาบญั ชนี ้ัน โดยไมม เี หตอุ นั สมควร บรษิ ทั หรอื หา งหุนสว นนติ บิ คุ คลนน้ั ตองเสียเงินเพิ่มรอยละเทาใดของจํานวนเงินภาษที ี่ตองชําระตามมาตรา 67 ทวิ (1) หรือของกึ่งหนึ่งของจํานวนเงินภาษีที่ตองเสีย ในรอบระยะเวลาบัญชีนั้นหรือของภาษีที่ชําระขาด ก.10 ข.15 ค.20 ง.รอยละ 1.5 ตอเดือน เฉลย ค. ถกู ตอ งแลว อางอิง : มาตรา 67 ตรี ในกรณที บ่ี รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนิตบิ คุ คล ไมย น่ื รายการและชาํ ระภาษตี าม มาตรา 67 ทวิ (1) หรอื ยน่ื รายการและชาํ ระภาษตี ามมาตรา 67 ทวิ(1) โดยแสดงประมาณการกาํ ไรสทุ ธขิ าดไปเกนิ รอ ยละ 25 ของกาํ ไรสทุ ธ ซิ ่ึงไดจ ากกจิ การหรอื เนอ่ื งจากกจิ การทก่ี ระทาํ ในรอบระยะเวลาบญั ชนี น้ั โดยไมม เี หตอุ นั สมควร บรษิ ทั หรอื หา ง หนุ สว นนติ บิ ุคคลนน้ั ตองเสยี เงนิ เพม่ิ อกี รอ ยละ 20 ของจาํ นวนเงนิ ภาษที ต่ี อ งชาํ ระตามมาตรา 67 ทวิ (1) หรอื ของกง่ึ หนง่ึ ของ จาํ นวนเงนิ ภาษที ต่ี อ งเสยี ในรอบระยะเวลาบญั ชนี น้ั หรอื ของภาษีทช่ี าํ ระขาดแลว แตก รณี ในกรณที บ่ี รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คล ไมย น่ื รายการและชาํ ระภาษตี ามมาตรา 67 ทวิ (2) หรอื ยน่ื รายการและ ชาํ ระภาษตี ามมาตรา 67 ทวิ (2) ไวไ มถ กู ตอ ง โดยไมม เี หตอุ นั สมควร ทาํ ใหจ าํ นวนภาษที ต่ี อ งชาํ ระขาดไป บรษิ ทั หรอื หา ง หนุ สว นนติ บิ คุ คลนน้ั ตอ งเสยี เงนิ เพม่ิ อกี รอ ยละ 20 ของจาํ นวนเงนิ ภาษที ต่ี อ งชาํ ระตามมาตรา 67 ทวิ (2) หรอื ของภาษที ช่ี าํ ระ ขาด แลว แตก รณี 8. บริษัทหรือหางหุนสวนนิติบุคคลทตี่ ั้งขึ้นตามกฎหมายของตางประเทศ มิไดประกอบกิจการในประเทศไทย แตไดรับเงินไดพึง ประเมินตามมาตรา 40(2)(3)(4)(5) หรือ (6) ที่จายจากหรือในประเทศไทย ใหบริษัทหรือหางหุนสวนนิติบุคคลนั้นเสียภาษี โดย ใหผูจายหักภาษีจากเงินไดพึงประเมินที่จายตามอัตราภาษีเงินได สําหรับบริษัทหรือหางหุนสวนนิติบุคคล แลวนําสงอําเภอทองที่ พรอมกับยื่นรายการตามแบบที่อธิบดีกําหนด ภายใน ก. 7 วนั นบั แตว นั ทจ่ี า ยเงินไดพ งึ ประเมนิ น้ัน ข. 7 วนั นบั แตเ ดอื นทจ่ี า ยเงินไดพ งึ ประเมนิ นน้ั ค.7 วนั นบั แตว นั ครบกาํ หนดการจา ยเงินไดพ งึ ประเมนิ นน้ั ง.7 วนั นบั แตว นั สน้ิ เดอื นของเดอื นท่ีจา ยเงนิ ไดพ งึ ประเมนิ นน้ั เฉลย ง. ถกู ตอ งแลว อางอิง : มาตรา 70 บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนิตบิ คุ คล ทต่ี ง้ั ขน้ึ ตามกฎหมายของตา งประเทศ มไิ ด ประกอบกจิ การในประเทศไทย แตไ ดร บั เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 (2)(3) (4) (5) หรอื (6) ทจ่ี า ยจากหรอื ในประเทศ ไทย ใหบ ริษทั หรือหา งหุนสว นนติ ิบุคคลนน้ั เสยี ภาษี โดยใหผ จู า ยหกั ภาษจี ากเงนิ ไดพ ึงประเมนิ ท่ีจายตามอัตราภาษเี งนิ ได สําหรับบริษัทหรือหางหุนสวนนิติบุคคลแลวนําสงอําเภอทองที่พรอมกับยื่นรายการตามแบบที่อธิบดีกําหนดภายในเจด็ วนั นบั แตว นั สน้ิ เดอื นของเดอื นทจ่ี า ยเงนิ ไดพ งึ ประเมินนน้ั ทง้ั น้ี ใหน าํ มาตรา 54 มาใชบ งั คบั โดยอนโุ ลม 9. บริษัทหรือหางหุนสว นนิติบุคคลซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายของตางประเทศ มีลูกจางหรือผกู ระทําการแทนหรือผูทําการติดตอ ในการประกอบกิจการในประเทศไทย ซึ่งเปนเหตุใหไดรับเงินไดหรือผลกําไรในประเทศไทย จะตองเสียภาษีเงินไดนิติบุคคล โดย ก. ใหลูกจาง หรือผูกระทําการแทน หรือผูทําการติดตอหักภาษี ณ ที่จายจากเงินไดที่ไดรับและนําสงอําเภอทองที่ภายใน 7 วนั นบั แตว นั สน้ิ เดือน ข. ใหลูกจาง หรือผูกระทําการแทน หรือผูทําการติดตอหักภาษี ณ ที่จาย จากกําไรสุทธทิ ี่ไดรับและนําสงอําเภอทองที่ ภายใน 7 วนั นบั แตวนั สน้ิ ป

หนา้ 206 ค. ใหล กู จา ง หรอื ผกู ระทาํ การแทน หรอื ผทู าํ การตดิ ตอ ยน่ื รายการและเสยี ภาษที ค่ี าํ นวณจากกาํ ไรสทุ ธเิ มอ่ื สน้ิ รอบ ระยะเวลาบญั ชี ง. ผิดทุกขอ เฉลย ค. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 76 ทวิ บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลซง่ึ ตง้ั ขน้ึ ตามกฎหมายของตา งประเทศ มี ลกู จา ง หรอื ผทู าํ การแทน หรอื ผูทาํ การตดิ ตอ ในการประกอบกจิ การในประเทศไทย ซง่ึ เปน เหตใุ หไ ดร บั เงนิ ไดห รอื ผลกาํ ไรใน ประเทศไทย ใหถ อื วา บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลนน้ั ประกอบกจิ การในประเทศไทย และใหถ อื วา บคุ คลผเู ปน ลกู จา ง หรอื ผทู าํ การแทน หรอื ผทู าํ การตดิ ตอ เชน วา นน้ั ไมว า จะเปน บคุ คลธรรมดา หรอื นติ บิ คุ คลเปน ตวั แทนของบรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว น นติ บิ คุ คล ซง่ึ ตง้ั ขน้ึ ตามกฎหมายของตางประเทศ และใหบ คุ คลนน้ั มหี นา ท่ี และความรบั ผิดในการย่ืนรายการและเสยี ภาษีตาม บทบญั ญตั ใิ นสว นน้ี เฉพาะทเ่ี ก่ียวกบั เงนิ ไดหรอื ผลกาํ ไรทก่ี ลา วแลว ในกรณที ก่ี ลา วในวรรคแรก ถา บคุ คลผมู หี นา ทแ่ี ละความรบั ผดิ ในการยน่ื รายการและเสยี ภาษไี มส ามารถจะคาํ นวณ กําไรสุทธิเพื่อเสียภาษี ตามบทบัญญัติในสวนนี้ได ใหนําบทบัญญตั ิวาดวยการประเมินภาษีตามมาตรา 71(1) มาใชบังคับโดย อนโุ ลม ในกรณกี ารประเมนิ ตามความในมาตราน้ี จะอทุ ธรณก ารประเมนิ กไ็ ด 10. กรณีรัฐบาล องคการของรัฐบาล เทศบาล สุขาภิบาล หรือองคการบริหารราชการสวนทองถิ่นเปนผูจายเงินไดพึงประเมิน ตามมาตรา 40 ใหกับบริษัทหรือหางหุนสวนนิติบุคคล ใหคํานวณหักภาษีเงินไดไว ณ ที่จาย ในอัตรารอยละเทาใด ก. 1 ข. 10 ค. 15 ง. 20 เฉลย ก. ถูกตองแลว อา งองิ : มาตรา 69 ทวิ ภายใตบ งั คบั มาตรา 70 ถารัฐบาล องคก ารของรัฐบาล เทศบาล สุขาภิบาล หรอื องคก ารบรหิ ารราชการสว นทอ งถน่ิ อน่ื เปน ผจู า ยเงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 ใหก บั บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลใด ใหค าํ นวณหกั ภาษเี งินไดไว ณ ทจ่ี ายในอตั รารอ ยละ 1 ภาษที ห่ี กั ไวน ใ้ี หถ อื เปน เครดติ ในการคาํ นวณภาษเี งนิ ไดข องบรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลตามรอบระยะเวลาบญั ชที ห่ี กั ไวนน้ั ในการนใ้ี หน าํ มาตรา 52 มาตรา 53 มาตรา 54 มาตรา 58 และ มาตรา 59 มาใชบ งั คับโดยอนโุ ลม ชดุ ท่ี 4 ขอ สอบ วชิ า ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คล 1. รอบระยะเวลาบญั ชโี ดยปกตกิ าํ หนดไว 12 เดอื น แตอ าจนอ ยกวา 12 เดอื น ได คอื ก กรณตี ั้งใหม, กรณขี อเปลี่ยนวันสุดทายของรอบระยะเวลาบัญชี ข กรณตี ง้ั ใหม, กรณเี ลกิ กจิ การ ค กรณีตั้งใหม, กรณีขอเปลี่ยนวันสุดทายของรอบระยะเวลาบัญชี, กรณีเลิกกิจการ ง กรณตี ั้งใหม, เพียงกรณีเดียว เฉลย ค. ถกู ตอ งแลว อา งอิง : มาตรา 65 และมาตรา 72 · มาตรา 65 เงนิ ไดท ีต่ อ งเสียภาษีตามความในสวนนคี้ ือกาํ ไรสทุ ธซิ ึง่ คาํ นวณไดจ ากรายไดจากกจิ การ หรือเนือ่ งจาก กจิ การ ทก่ี ระทาํ ในรอบระยะเวลาบญั ชหี กั ดว ยรายจายตามเงอ่ื นไขทร่ี ะบไุ วใ นมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี และรอบ ระยะเวลาบัญชีดังกลาวใหมีกําหนดสิบสองเดือน เวน แตใ นกรณดี งั ตอ ไปนจ้ี ะนอ ยกวา สบิ สองเดอื นกไ็ ด คือ (ก) บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลเรม่ิ ตง้ั ใหม จะถอื วนั เรม่ิ ตง้ั ถงึ วนั หนง่ึ วนั ใดเปน รอบระยะเวลาบญั ชแี รกกไ็ ด (ข) บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ ุคคลอาจยน่ื คาํ รอ งตอ อธบิ ดี ขอเปลย่ี นวันสุดทา ยของรอบระยะเวลาบญั ชี ใน

หนา้ 207 กรณเี ชน วา นใ้ี หอ ธบิ ดมี อี าํ นาจสง่ั อนญุ าต หรอื ไมอ นญุ าตสดุ แตจ ะเหน็ สมควร คาํ สง่ั เชน วา นน้ั ตอ งแจง ใหบ รษิ ทั หรอื หา ง หุน สว นนติ ิบคุ คลผยู ืน่ คํารองทราบภายในเวลาอนั สมควร และในกรณีทอ่ี ธบิ ดสี ่ังอนุญาต ใหบริษทั หรือหา งหุนสว นนิติบุคคล นั้นถือปฏิบัติตั้งแตรอบระยะเวลาบัญชีที่อธิบดีกําหนด · มาตรา 72 ในกรณีท่ีบรษิ ัทหรือหา งหุนสวนนติ ิบุคคลเลกิ กนั ใหผ ูชาํ ระบญั ชแี ละผจู ดั การมหี นา ทร่ี ว มกนั แจง ใหเ จา พนักงานประเมินทราบการเลิกของบริษัทหรือหางหุนสวนนติ ิบุคคลนั้นภายในสิบหาวันนับแตวันที่เจาพนักงานรับจดทะเบียน เลกิ ถา บคุ คลดงั กลา วแลว ไมป ฏบิ ตั ติ าม เจา พนกั งานประเมนิ อาจสง่ั ใหบ รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลนน้ั เสยี เงนิ ภาษเี พม่ิ ขน้ึ อกี 1 เทา ของจํานวนภาษที ต่ี อ งเสยี เงนิ นใ้ี หถ อื เปน คา ภาษี ในกรณที บี่ ริษัทหรือหา งหนุ สวนนติ ิบคุ คลเลิกกันดงั กลา วแลว เพอ่ื ประโยชนใ นการคาํ นวณภาษี ใหถ อื วา วนั ท่ี เจา พนกั งานรบั จดทะเบยี นเลกิ เปน วนั สดุ ทา ยของรอบระยะเวลาบญั ชี ใหผ ชู าํ ระบญั ชแี ละผจู ดั การมหี นา ทแ่ี ละความรบั ผดิ รว มกนั ในการยน่ื รายการและเสยี ภาษตี ามแบบ และภายในกาํ หนดเวลาทก่ี าํ หนดไวใ นมาตรา 68 และมาตรา 69 โดยอนโุ ลม 2. รอบระยะเวลาบญั ชโี ดยปกตกิ าํ หนดไว 12 เดอื น แตอ าจเกนิ กวา 12 เดอื น ได คอื ก กรณตี ั้งใหม ข กรณีเลิกกิจการ มีการชําระบัญชี และไดรับอนุมัติจากอธิบดีใหขยายเวลาออกไปได ค กรณีขอเปลี่ยนวันสุดทายของระยะเวลาบัญชี ง กรณตี ั้งใหม และขอเปลี่ยนวันสุดทายของรอบระยะเวลาบัญชี เฉลย ข. ถกู ตอ งแลว อางองิ : มาตรา 72 มาตรา 72 ในกรณที บ่ี รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลเลกิ กนั ใหผ ชู าํ ระบญั ชแี ละผจู ดั การมหี นา ทร่ี ว มกนั แจง ให เจา พนกั งานประเมนิ ทราบการเลกิ ของบรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลนน้ั ภายในสบิ หา วนั นบั แตว นั ทเ่ี จา พนกั งานรบั จด ทะเบยี นเลกิ ถา บคุ คลดงั กลา วแลว ไมป ฏบิ ตั ติ าม เจา พนกั งานประเมนิ อาจสง่ั ใหบ รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลนน้ั เสยี เงนิ ภาษเี พม่ิ ขน้ึ อกี 1 เทา ของจํานวนภาษที ีต่ อ งเสยี เงนิ นใ้ี หถ อื เปน คา ภาษี ในกรณที ี่บริษทั หรือหางหุนสว นนติ บิ คุ คลเลิกกันดงั กลา วแลว เพอ่ื ประโยชนใ นการคาํ นวณภาษี ใหถ อื วา วนั ท่ี เจา พนกั งานรบั จดทะเบยี นเลกิ เปน วนั สดุ ทา ยของรอบระยะเวลาบญั ชี ใหผ ชู าํ ระบญั ชแี ละผจู ดั การมหี นา ทแ่ี ละความรบั ผดิ รว มกนั ในการยน่ื รายการและเสยี ภาษตี ามแบบ และภายในกาํ หนดเวลาทก่ี าํ หนดไวใ นมาตรา 68 และมาตรา 69 โดยอนโุ ลม ถา ผชู าํ ระบญั ชแี ละผจู ดั การไมส ามารถยน่ื รายการ และเสยี ภาษภี ายในกาํ หนดเวลาตามความในวรรคกอ นได และได ยน่ื คาํ รอ งตอ อธบิ ดภี ายในสามสบิ วนั นบั แตว นั ทเ่ี จา พนกั งานรบั จดทะเบยี นเลกิ เมอ่ื อธบิ ดพี จิ ารณาเหน็ สมควรจะสง่ั ใหข ยาย ระยะเวลาออกไปอีกก็ได เฉพาะกรณีทม่ี กี ารชาํ ระบญั ชี อธบิ ดจี ะส่ังใหข ยายรอบระยะเวลาบญั ชอี อกไปอกี ดว ยกไ็ ด ในกรณที ห่ี า งหนุ สว นนติ บิ คุ คลเลกิ กนั โดยไมม กี ารชาํ ระบญั ชี ใหผ ูจดั การหา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลมหี นา ทแ่ี ละความรบั ผดิ เชน เดยี วกบั ผชู าํ ระบญั ชี รว มกบั ผเู ปน หนุ สว นซ่ึงมอี าํ นาจจดั การตามทบ่ี ญั ญตั ไิ วใ นสามวรรคกอ น 3. ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลเกบ็ จากทใ่ี ด ก นติ ิบุคคลทกุ แหง ข บริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ค บริษัทที่ตั้งข้นึ ตามกฎหมายตางประเทศทุกแหง ง ถกู ทง้ั ขอ ข และ ค เดมิ เฉลย ง. ทถ่ี กู ตอบ ข อา งองิ : มาตรา 66 วรรคหนง่ึ และวรรคสอง บรษิ ทั หรือหางหนุ สวนนติ ิบคุ คลทตี่ ั้งข้ึนตามกฎหมายไทย หรอื ที่ตง้ั ขึน้ ตามกฎหมายของตา งประเทศ และกระทํา กิจการในประเทศไทยตองเสียภาษีตามบทบัญญัติในสวนนี้ บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลทต่ี ง้ั ขน้ึ ตามกฎหมายของตา งประเทศ และกระทาํ กจิ การในทอ่ี น่ื ๆ รวมทง้ั ในประเทศ ไทย ใหเ สยี ภาษใี นกาํ ไรสทุ ธจิ ากกจิ การ หรอื เนอ่ื งจากกจิ การทไ่ี ดก ระทําในประเทศไทยในรอบระยะเวลาบญั ชแี ละ การ คาํ นวณกาํ ไรสทุ ธใิ หป ฏบิ ตั เิ ชน เดยี วกบั มาตรา 65 และมาตรา 65 ทวิ แตถ า ไมส ามารถจะคาํ นวณกาํ ไรสทุ ธดิ งั กลา วแลว ได ให นําบทบัญญัติวาดวยการประเมินภาษีตามมาตรา 71 (1) มาใชบังคับโดยอนโุ ลม 4. นิติบุคคลใดตอไปนี้มีหนาท่ตี องเสียภาษีเงินไดนิติบุคคล

หน้า 208 ก บรษิ ทั การบนิ ไทย จาํ กดั (มหาชน) ข การไฟฟานครหลวง ค การรถไฟแหงประเทศไทย ง ท้ังขอ ก และ ค เฉลย ก. ถกู ตอ งแลว เนอ่ื งจาก การไฟฟา นครหลวง และการรถไฟแหง ประเทศ ไมใ ช “บรษิ ทั หรอื หา งหนุ นติ บิ คุ คล ’’ ตาม มาตรา 39 สว นบรษิ ทั การบนิ ไทย จาํ กดั (มหาชน) เปน นติ บิ คุ คลตามมาตรา 39 จงึ มหี นา ทต่ี องเสยี ภาษตี ามมาตรา 66 5. บรษิ ทั สายการบนิ จมิ ม่ี จาํ กดั จดทะเบียนตามกฎหมายของประเทศองั กฤษ มสี าํ นักงานใหญ ในองั กฤษ และมสี าขาประกอบ กิจการทั่วโลก และเขามาตั้งสาขาในประเทศไทยประกอบกิจการขนสงระหวางประเทศ บริษัทตองเสียภาษีเงินไดนิติบุคคลใน ประเทศไทยหรอื ไม อยา งไร ก เสยี ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลจากฐานกาํ ไรสทุ ธิ ข เสยี ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลจากรายรบั กอ นหกั รายจา ย เนอ่ื งจากการขนสนิ คา ออกจากประเทศไทย และจากคา โดยสารท่ี เรียกเก็บในประเทศไทย ค เสียภาษีเงนิ ไดนิติบุคคลจากรายรับกอนหักรายจาย เนื่องจากการขนสินคาเขาและออกจากประเทศไทย และจากคา โดยสารทั้งท่เี รียกเก็บในประเทศไทยและตางประเทศ ง ไมตองเสียภาษีเงินไดนิติบุคคลในไทย เพราะไมใชบริษัท หางหุนสวนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฏหมายไทย เฉลย ข. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : ตามมาตรา 67 บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลตามมาตรา 66 วรรคสอง กระทาํ กจิ การ ขนสง ผา นประเทศตา งๆ ใหเ สยี ภาษเี ฉพาะกจิ การขนสง ตามเกณฑ ดงั ตอ ไปน้ี (1) ในกรณรี บั ขนคนโดยสาร ใหเ สยี ภาษใี นอตั รารอ ยละ 3 ของคา โดยสารคา ธรรมเนยี ม และประโยชนอ ืน่ ใดทเ่ี รยี ก เกบ็ ในประเทศไทยกอ นหกั รายจา ยใดๆ เนอ่ื งในการรบั ขนคนโดยสารนน้ั (2) ในกรณรี บั ขนของ ใหเสยี ภาษใี นอตั รารอ ยละ 3 ของคา ระวาง คา ธรรมเนยี ม และประโยชนอ ืน่ ใดทเ่ี รยี กเกบ็ ไมว า ในหรอื นอกประเทศไทยกอ นหกั รายจา ยใดๆ เนอ่ื งในการรบั ขนของออกจากประเทศไทยนน้ั 6. บริษัท สายเดินเรือ ดินสอ จํากดั เปนบริษัทตั้งขี้นตามกฎหมายตางประเทศประกอบกิจการขนสงทางเรือระหวา งประเทศ รายรับจากการขนสงระหวางประเทศตองเสียภาษีเงินไดนิติบุคคลในอัตรารอยละเทาไรของรายรับ ก 3 ข 10 ค 20 ง 30 เฉลย ก. ถกู ตอ งแลว อางอิง : มาตรา 67 บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลตามมาตรา 66 วรรคสอง กระทาํ กจิ การขนสง ผา นประเทศตา งๆ ใหเ สยี ภาษเี ฉพาะกจิ การขนสง ตามเกณฑ ดงั ตอ ไปน้ี (1) ในกรณรี บั ขนคนโดยสาร ใหเ สยี ภาษใี นอตั รารอ ยละ 3 ของคา โดยสารคา ธรรมเนยี ม และประโยชนอ ืน่ ใดทเ่ี รยี ก เกบ็ ในประเทศไทยกอ นหกั รายจา ยใดๆ เนอ่ื งในการรบั ขนคนโดยสารนน้ั (2) ในกรณรี บั ขนของ ใหเสยี ภาษใี นอตั รารอ ยละ 3 ของคา ระวาง คา ธรรมเนยี ม และประโยชนอ ืน่ ใดทเ่ี รยี กเกบ็ ไมว า ในหรอื นอกประเทศไทยกอ นหกั รายจา ยใดๆ เนอ่ื งในการรบั ขนของออกจากประเทศไทยนน้ั 7. กรณีตามขอ 6 ถามีรายรับจากการขนสินคาจากกรุงเทพฯไปหาดใหญ ตองเสียภาษรี อยละเทาใด ก 3 ของรายรบั ข 10 ของรายรับ ค 20 ของรายรับ ง. 30 ของกาํ ไรสทุ ธิ เดิมเฉลย ง. ที่ถูกตอบ ไมมีขอใดถูก · เนอื่ งจาก การรบั ขนของ จะเสียภาษใี นอตั รารอ ยละ 3 ของรายรบั ตอ งเปน การรบั ขนของออกจากประเทศ ตามมาตรา 67 (2) ในกรณรี บั ขนของ ใหเสยี ภาษใี นอตั รารอ ยละ 3 ของคา ระวาง คาธรรมเนยี ม และประโยชนอ น่ื ใดทเ่ี รยี กเกบ็ ไมว า ในหรอื นอกประเทศไทยกอ นหกั รายจา ยใดๆ เนอ่ื งในการรบั ขนของออกจากประเทศไทยนน้ั · ปจจบุ นั อตั ราภาษมี กี ารเปลย่ี นแปลง กรณเี ปน บรษิ ทั หรอื นติ บิ คุ คลทว่ั ไป ใหค าํ นวณภาษใี นอตั รา รอ ยละ 20 ของกาํ ไรสทุ ธิ ตามพระราชบญั ญตั แิ กไ ขเพม่ิ เตมิ ประมวลรษั ฎากร (ฉบบั ท่ี 42) พ.ศ. 2559 มผี ลบงั คบั ใชต ง้ั แต รอบระยะเวลาบญั ชที เ่ี รม่ิ ในหรอื หลงั วนั ท่ี 1 มกราคม 2559 เปน ตน ไป

หนา้ 209 8. กรณีตามขอ 6 รายรับจากการขนสงระหวางประเทศจากการขนสินคาจะตองเสียภาษี กรณีใด ก เฉพาะเรียกเก็บเงินในประเทศ ข เฉพาะเรียกเก็บเงินในตางประเทศ ค เฉพาะขนสินคาจากตางประเทศเขามาในประเทศไทย ง เฉพาะขนสินคาจากในประเทศไทยไปตางประเทศ เฉลย ง. ถกู ตอ งแลว อางอิง : มาตรา 67 (2) ในกรณรี บั ขนของ ใหเ สยี ภาษใี นอตั รารอ ยละ 3 ของคา ระวาง คา ธรรมเนยี ม และประโยชนอ น่ื ใดทเ่ี รยี กเกบ็ ไมว า ในหรอื นอกประเทศไทยกอ นหกั รายจา ยใดๆ เนอ่ื งในการรบั ขนของออกจากประเทศไทยนน้ั 9. กรณีตามขอ 6 รายรับจากการขนสินคาระหวางประเทศตองเสียภาษภี ายในกําหนดเวลาใด ก 15 วนั นบั แตส น้ิ เดอื นถดั ไป ข 2 เดือน นับแตหกเดือนแรกของรอบระยะเวลาบัญชี ค 150 วัน นับแตวันสุดทายของรอบระยะเวลาบัญชี ง ถูกท้ัง ข และ ค เฉลย ค. ถกู ตอ งแลว 10. บริษัท บาซู จํากัด ไมไดประกอบกิจการเลย จึงไมมีรายได ดังนี้ บริษัทฯ มีหนา ที่ตองยื่นแบบแสดงรายการและชําระภาษี หรอื ไม ก จะตองยนื่ แบบแสดงรายการตอเมื่อมีรายไดถึงเกณฑที่กําหนด ข ไมตองยื่นแบบแสดงรายการ และไมตองชําระภาษี ค ยื่นแบบแสดงรายการหรือไมก็ได แตไมตองชําระภาษี ง ยื่นแบบแสดงรายการแตไมตองชําระภาษี เฉลย ง. ถกู ตอ งแลว

หนา้ 210 จิตอาสาปนโตภาษี กลุม 2 ขอ สอบชดุ ท่ี 3-4 ชดุ ท่ี 3 ขอ สอบ วชิ า ภาษมี ูลคา เพม่ิ 1. ผปู ระกอบการใดทม่ี สี ทิ ธอิ อกใบเพม่ิ หน้ี จะตอ งเขา เงอ่ื นไขใด ก. กรณมี ีการเพ่ิมราคาขาย เน่ืองจากคํานวณราคาสินคา ตํ่ากวาทเ่ี ปนจรงิ ข. เปนผูประกอบการที่ไมจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่ม ค. กรณมี ีการลดราคาขาย เนอ่ื งจากคาํ นวณราคาสินคานอยกวา ทเ่ี ปน จรงิ ง. เปน ผปู ระกอบการจดทะเบยี น 1.5 % เฉลย ก. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 86/9 แหง ประมวลรษั ฎากร มาตรา 86/9 ใหผ ปู ระกอบการจดทะเบยี นทไ่ี ดข ายสนิ คา หรอื ใหบ รกิ ารไปแลว แตต อ งคาํ นวณภาษมี ลู คา เพม่ิ ใหม เนอ่ื งจาก มลู คา ของสนิ คา หรอื บรกิ ารมจี าํ นวนเพ่ิมขน้ึ เพราะเหตกุ ารณต ามทร่ี ะบไุ วใ นมาตรา 82/9 ออกใบเพม่ิ หนใ้ี หก บั ผซู อ้ื สนิ คา หรอื ผรู บั บรกิ ารในเดอื นภาษที เ่ี หตกุ ารณด งั กลา วเกดิ ขน้ึ เวน แตใ นกรณที ม่ี เี หตจุ าํ เปน ทไ่ี มส ามารถออกใบเพม่ิ หนไ้ี ดทันในเดอื นภาษีที่มี เหตกุ ารณด งั กลา วเกดิ ขน้ึ กใ็ หอ อกใบเพม่ิ หนใ้ี หก บั ผซู อ้ื สนิ คา หรอื ผรู บั บรกิ ารในเดอื นภาษถี ดั จากเดอื นทม่ี เี หตกุ ารณเ กดิ ขน้ึ 2. ผูประกอบการประสงคจะแจงเปดสถานประกอบการเพิ่มเติมจะตองแจงอยางไร ก. แจง กอ นวนั เปด สถานประกอบการเพม่ิ เตมิ ไมน อ ยกวา 15 วนั ข. แจง กอ นวนั เปด สถานประกอบการเพม่ิ เตมิ ไมนอ ยกวา 25 วนั ค. แจง กอ นวนั เปด สถานประกอบการเพม่ิ เตมิ ไมนอ ยกวา 30 วนั ง. แจง หลงั จากเปด กจิ การแลว เฉลย ก. ถูกตองแลว อา งองิ : มาตรา 85/7 แหง ประมวลรษั ฎากร มาตรา 85/7 ผปู ระกอบการจดทะเบยี นใดประสงคจ ะเปด สถานประกอบการเพม่ิ เตมิ ใหผ ปู ระกอบการจดทะเบยี นนน้ั แจง การ เปลี่ยนแปลงทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่ม ณ สถานที่ที่ไดจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่มไว กอนวันเปดสถานประกอบการเพิ่มเติมไมนอยกวาสิบหาวัน เพอ่ื ขอรบั ใบทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ สาํ หรบั สถานประกอบการนน้ั 3. กรณีผูประกอบการไมยื่นแบบ ภ.พ.30 ภายในกําหนดเวลา จะตองเสียเบี้ยปรับอยางไร ก. เสียเบี้ยปรับ 2 เทา ของภาษีที่ตองเสีย ข. เสียเบี้ยปรับ 3 เทา ของภาษีที่ตองเสีย ค. เสียเบี้ยปรับ 1 เทา ของภาษีที่ตองเสีย ง. เสียเบี้ยปรับ 1 เทา ของภาษีซื้อ เฉลย ก. ถูกตองแลว อา งองิ : มาตรา 89 (2) แหง ประมวลรษั ฎากร มาตรา 89 ใหผ มู หี นา ทเ่ี สยี ภาษี หรอื บคุ คลตามมาตรา 86/13 เสียเบย้ี ปรบั ในกรณแี ละตามอตั ราดงั ตอ ไปน้ี (1) ประกอบกจิ การโดยมไิ ดจ ดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ ตามมาตรา 85 หรอื มาตรา 85/1 หรอื ประกอบกจิ การเมอ่ื ถกู สง่ั เพกิ ถอนใบทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ ตามมาตรา 85/17 แลว ใหเ สยี เบย้ี ปรบั อกี สองเทา ของเงนิ ภาษที ่ีตอ งเสยี ในเดอื นภาษี ตลอดระยะเวลาท่ี ไมปฏิบัติตามบทบัญญัตดิ ังกลาว หรือเปนเงินหนึ่งพันบาทตอเดือนภาษีแลวแตอยางใดจะมากกวา (2) มไิ ดย น่ื แบบแสดงรายการภาษหี รอื แบบนาํ สง ภาษภี ายในกาํ หนดเวลา ใหเสยี เบย้ี ปรบั อกี สองเทา ของเงนิ ภาษีทต่ี อ งเสยี หรอื นาํ สง ในเดอื นภาษี 1

หน้า 211 4. บุคคลใดไมมีหนาที่เสียภาษีมูลคาเพิ่ม ก. ผูประกอบการที่อยูนอกราชอาณาจักรเขามาประกอบการขายสินคา หรือใหบริการในราชอาณาจักร เปนครั้งคราว ข. ผนู าํ เขา , สง ออก ค. ผูประกอบการ ง. ผรู บั โอนกจิ การ เฉลย ง. ถกู ตอ งแลว อางองิ : มาตรา 82 และ มาตรา 82/1 (1) แหง ประมวลรษั ฎากร มาตรา 82 ใหบุคคลดังตอไปนี้ เปน ผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ ตามบทบญั ญตั ใิ นหมวดน้ี (1) ผปู ระกอบการ (2) ผนู าํ เขา มาตรา 82/1 เพอ่ื ประโยชนใ นการจดั เกบ็ ภาษมี ลู คา เพม่ิ ใหบ คุ คลดงั ตอ ไปน้ี เปน ผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ ดว ย (1) ในกรณที ผ่ี ูประกอบการอยนู อกราชอาณาจกั ร และไดข ายสนิ คา หรอื ใหบ รกิ ารในราชอาณาจกั ร เปน ปกตธิ รุ ะโดยมี ตัวแทนอยูในราชอาณาจักรไดแก ตัวแทนดังกลาว 5. นาย ก. จดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่มและไดแจงเลิกเมื่อ 15 ม.ค. 46 โดยมิไดประกอบอาชีพที่อยูในบังคับตองเสียภาษีมูลคาเพิ่ม สินคาและ ทรพั ยส นิ คงเหลอื นาย ก. ไดโ อนกจิ การใหแ กน าย ข. กอ นเลกิ กจิ การ นาย ก. ตอ งเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ จากการโอนกิจการหรอื ไม ก. ไมตองเสียภาษีมูลคาเพิ่ม ข. ตองเสียภาษมี ูลคาเพิ่ม ค. ไมม ขี อ ใดถูกตอ ง ง. ถูกท้ัง ก. และ ข. เฉลย ข. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 77/1 (8)(ฉ) แหง ประมวลรษั ฎากร มาตรา 77/1 ในหมวดน้ี เวน แตข อ ความจะแสดงใหเ หน็ เปน อยา งอน่ื (1) \" บคุ คล \" หมายความวา บคุ คลธรรมดา คณะบคุ คลท่มี ิใชน ิตบิ คุ คล หรอื นิตบิ คุ คล : (8) \" ขาย \" หมายความวา จาํ หนา ย จา ย โอนสนิ คา ไมว า จะมปี ระโยชนห รอื คา ตอบแทนหรอื ไม และใหห มายความรวมถึง (ก) สญั ญาใหเ ชา ซอ้ื สนิ คา สญั ญาซอ้ื ขายผอ นชาํ ระทก่ี รรมสทิ ธใ์ิ นสนิ คา ยงั ไมโ อนไปยงั ผซู อ้ื เมอ่ื ไดส ง มอบสนิ คา ใหผ ู ซอ้ื แลว หรอื สญั ญาจะขายสนิ คา ทเ่ี ปน ไปตามหลกั เกณฑ และเงอ่ื นไขทอ่ี ธบิ ดกี าํ หนดโดยอนมุ ตั ริ ฐั มนตรี (ข) สงมอบสนิ คา ใหต วั แทนเพ่ือขาย (ค) สง สนิ คา ออกนอกราชอาณาจกั ร (ง) นาํ สนิ คา ไปใชไ มว า ประการใดๆ เวน แตก ารนาํ สนิ คา ไปใชเ พอ่ื การประกอบกจิ การของตนเอง โดยตรงตาม หลกั เกณฑ วธิ กี าร และเงอ่ื นไขทอ่ี ธบิ ดกี าํ หนด (จ) มสี นิ คา ขาดจากรายงานสนิ คา และวตั ถดุ บิ ตามมาตรา 87 (3) หรอื มาตรา 87 วรรคสอง (ฉ) มสี นิ คา คงเหลอื และหรอื ทรพั ยส นิ ทผ่ี ปู ระกอบการ มไี วใ นการประกอบกจิ การ ณ วนั เลกิ ประกอบกจิ การ แตไ ม รวมถงึ สนิ คา คงเหลอื และหรอื ทรพั ยส นิ ดงั กลา วของผปู ระกอบการซง่ึ ไดค วบเขา กนั หรอื ไดโ อนกจิ การทง้ั หมดใหแ กก นั ทง้ั น้ี ผปู ระกอบการใหมอ นั ไดค วบเขา กนั หรอื ผรู บั โอนกจิ การตอ งอยใู นบงั คบั ทต่ี อ งเสยี ภาษมี ลู คาเพม่ิ ตามมาตรา 82/3 (ช) กรณอี น่ื ตามทก่ี าํ หนดในกฎกระทรวง 2

หนา้ 212 6. บริษัท ก จํากัด เดือนกุมภาพันธ 2545 มีรายรับ 30 ลานบาท ยังไมเปนผูประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่มเนื่องจากบริษัทฯ ไดมายื่นคําขอจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่ม และไดรับอนุมัติใหเปนผูประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่มในวันที่ 20 มีนาคม 2546 สาํ หรบั เดอื นกมุ ภาพนั ธ 2546 บรษิ ทั ไดย น่ื แบบ ภ.พ.30 โดยภาษขี ายหกั ดว ยภาษีซอ้ื มภี าษที ช่ี าํ ระ 180,000 บาท ซง่ึ กรณดี งั กลา ว เปนการยื่นแบบฯ กอนการจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่ม ขอตอไปนี้ขอใดถูก ก. บริษัทฯไมมีสิทธิออกใบกํากับภาษี และไมตองนําสงภาษีขาย เพราะยังไมเปนผปู ระกอบการจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่มตามกฎหมาย ข. บริษัทฯ ออกใบกาํ กับภาษีได และตองนําสงภาษี โดยภาษีขาย หักดวยภาษีซื้อ เหลือเทาใด เปนภาษีที่ตองชําระ บวกดวยเบี้ยปรับ 2 เทา เงนิ เพม่ิ รอ ยละ 1.5 ตอ เดอื นของเงนิ ภาษที ต่ี อ งชาํ ระ ค. บริษัทฯ ไมมีสิทธิออกใบกํากับภาษี แตตองนําสงภาษีขาย และไมมีสิทธิเครดิต ภาษีซื้อ บวกเบี้ยปรับ 2 เทา เงินเพิ่มรอยละ 1.5 ตอเดือน ของเงินภาษีที่ตองชําระ ง. บริษัทฯ ไมตองชําระภาษีมูลคาเพิ่ม แตตองถูกปรับอาญาเปนเงิน 3,000 บาท เพียงสถานเดียว เฉลย ค. ถกู ตอ งแลว 7. คาํ วา “บคุ คล” ตามมาตรา 77/1 แหง ประมวลรษั ฎากร วา ดวยภาษีมลู คา เพม่ิ หมายความถงึ ก. เฉพาะบุคคลธรรมดาเทานั้น ข. บุคคลธรรมดา และคณะบุคคลที่มิใชนิติบุคคล ค. บุคคลธรรมดา คณะบุคคลที่มิใชนิติบุคคล หรือ นิติบุคคล ง. บุคคลธรรมดา และนิตบิ ุคคล เฉลย ค. ถกู ตอ งแลว อางอิง : มาตรา 77/1 (1) แหงประมวลรัษฎากร มาตรา 77/1 ในหมวดน้ี เวน แตข อ ความจะแสดงใหเ หน็ เปน อยา งอน่ื (1) \" บคุ คล \" หมายความวา บคุ คลธรรมดา คณะบคุ คลท่มี ิใชน ิตบิ คุ คล หรอื นิตบิ คุ คล 8. ขอใดไมใชการ “สงออก” ตามประมวลรัษฎากร ก. มิสเตอร ปเตอร ชาวเนเธอแลนด เดินทางมาเที่ยวประเทศไทย และไดซื้อเส้อื ผาจากโบเบ เปนเงิน 500,000 บาท แลวสงกลับ ประเทศเนเธอแลนดดวยตนเอง ข. บริษัท ก จํากัด ประกอบกิจการขายเครื่องจักสาน สงสินคาไปประเทศเบลเยี่ยมตามคําสั่งซื้อของมิสซีส แคทเธอรีน ค. การนาํ สนิ คา ในราชอาณาจกั รเขา ไปในเขตอตุ สาหกรรมสง ออกเฉพาะสนิ คา ทต่ี อ งเสยี อากรขาออก ง. การขายสนิ คา ของรา นคา ปลอดอากร King Power Duty Free ใหแ กผ เู ดนิ ทางออกไปนอกราชอาณาจกั ร เฉลย ก. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 77/1 (14) มาตรา 77/1 ในหมวดน้ี เวน แตข อ ความจะแสดงใหเ หน็ เปน อยา งอน่ื (14) \" สง ออก \" หมายความวา สงสนิ คา ออกนอกราชอาณาจกั รเพอ่ื สง ไปตา งประเทศและใหห มายความรวมถงึ (ก) การนาํ สนิ คา ในราชอาณาจกั รเขาไปในเขตปลอดอากรเฉพาะสนิ คา ทีต่ อ งเสยี อากรขาออกหรอื ทไ่ี ดร บั ยกเวน อากรขาออกตามกฎหมายวาดว ยศลุ กากร ทง้ั น้ี ตามหลกั เกณฑ วธิ กี าร และเงอ่ื นไขทอ่ี ธบิ ดกี าํ หนด (ข) การขายสนิ คาของคลงั สินคา ทณั ฑบ นประเภทรา นคา ปลอดอากรตามกฎหมายวาดว ยศลุ กากรท่ีขายใหแกผูที่ เดนิ ทางออก ไปนอกราชอาณาจกั ร ทง้ั น้ี ตามหลกั เกณฑ วธิ กี าร และเงอ่ื นไขทอ่ี ธบิ ดกี าํ หนด 9. ขอ ใดทไ่ี มใ ชใ บกาํ กบั ภาษี ตามประมวลรษั ฎากร ก. ใบกาํ กบั ภาษีอยา งยอ ข. ใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้ ค. ใบเสร็จรับเงินที่กรมสรรพากรออกให สําหรับการรับชําระภาษีมูลคาเพิ่ม ง. ใบเสร็จรับเงินทั่วไป เฉลย ง. ถกู ตอ งแลว อางอิง : มาตรา 86/6 มาตรา 86/9 มาตรา 86/10 และมาตรา 86/14 มาตรา 86/6 เพอ่ื อาํ นวยความสะดวกแกผ ปู ระกอบการจดทะเบยี นทป่ี ระกอบกจิ การขายสนิ คา ในลกั ษณะขายปลกี หรอื ประกอบ กิจการใหบริการในลักษณะบริการรายยอ ยแกบุคคลจํานวนมาก อธิบดีมอี ํานาจกําหนดลักษณะและหรือเง่อื นไขของการประกอบกิจการ 3

หนา้ 213 ดังกลาว ใหเปน กิจการคาปลกี และในกิจการคาปลกี การแสดงราคาสนิ คา หรือราคาคาบริการจะตองเปน การแสดงราคาทร่ี วม ภาษมี ลู คา เพ่ิมไวแ ลว ผูประกอบการจดทะเบียนที่ประกอบกิจการคาปลีก มีสิทธิออกใบกํากับภาษีอยางยอไดแตต วั แทนของผปู ระกอบการจดทะเบยี นจะ ออกใบกํากบั ภาษอี ยา งยอไมได มาตรา 86/9 ใหผ ปู ระกอบการจดทะเบยี นทไ่ี ดข ายสนิ คา หรอื ใหบ รกิ ารไปแลว แตต อ งคาํ นวณภาษมี ลู คา เพม่ิ ใหม เนอ่ื งจากมลู คา ของสนิ คา หรอื บรกิ ารมจี าํ นวนเพม่ิ ขน้ึ เพราะเหตกุ ารณต ามทร่ี ะบุไวใ นมาตรา 82/9 ออกใบเพม่ิ หนใ้ี หก บั ผซู อ้ื สนิ คา หรอื ผรู บั บรกิ ารใน เดอื นภาษที เ่ี หตกุ ารณด งั กลา วเกดิ ขน้ึ เวน แตใ นกรณที ม่ี เี หตจุ าํ เปน ทไ่ี มส ามารถออกใบเพม่ิ หนไ้ี ดท นั ในเดอื นภาษที ม่ี เี หตกุ ารณด งั กลา ว เกดิ ข้ึน กใ็ หอ อกใบเพม่ิ หนใ้ี หก บั ผซู อ้ื สนิ คา หรอื ผรู บั บรกิ ารในเดอื นภาษถี ดั จากเดอื นทม่ี เี หตกุ ารณเ กดิ ขน้ึ ใหน าํ มาตรา 86/4 วรรคสอง มาใชบ งั คบั และใหถ อื วา ใบเพม่ิ หนต้ี ามมาตรานเ้ี ปน ใบกาํ กบั ภาษี มาตรา 86/10 ใหผ ปู ระกอบการจดทะเบยี นทไ่ี ดข ายสนิ คา หรอื ใหบ รกิ ารไปแลว แตต อ งคาํ นวณภาษมี ลู คา เพม่ิ ใหมเ นอ่ื งจากมลู คา ของสนิ คา หรอื บรกิ ารมจี าํ นวนลดลง เพราะเหตกุ ารณต ามทร่ี ะบไุ วใ นมาตรา 82/10 ออกใบลดหนใ้ี หก บั ผซู อ้ื สนิ คา หรอื ผรู บั บรกิ ารใน เดอื นภาษที ีเ่ หตกุ ารณด งั กลา วเกดิ ขน้ึ เวน แตใ นกรณที ม่ี เี หตจุ าํ เปน ไมส ามารถออกใบลดหนไ้ี ดท นั ในเดอื นภาษที ม่ี เี หตกุ ารณด งั กลา ว เกดิ ข้ึน กใ็ หอ อกใบลดหนใ้ี หก บั ผซู อ้ื สนิ คา หรอื ผรู บั บรกิ ารในเดอื นภาษถี ดั จากเดอื นทม่ี เี หตกุ ารณเ กดิ ขน้ึ ใหน าํ มาตรา 86/4 วรรคสอง มาใชบ งั คบั และใหถือวาใบลดหนี้ตามมาตรานี้เปนใบกํากับภาษี มาตรา 86/14 ใบเสรจ็ รบั เงนิ ทก่ี รมสรรพากรออกใหสาํ หรบั การรับชาํ ระภาษมี ลู คา เพ่ิม ตามมาตรา 83/6 หรือตามมาตรา 83/7 และใบเสรจ็ รบั เงนิ ทก่ี รมศลุ กากร หรอื กรมสรรพสามติ ออกใหใ นการเรียกเกบ็ ภาษมี ลู คา เพม่ิ เพอ่ื กรมสรรพากรตามมาตรา 83/10 (1) หรอื (2) ใหถ อื เปนใบกํากบั ภาษี 10. มลู คา ของฐานภาษี หมายความรวมถงึ ก. สวนลดที่ผูประกอบการลดใหในขณะขายสินคา และไดหักออกจากราคาสินคาแลว ข. คา ชดเชยหรอื เงนิ อดุ หนนุ ตามท่ี อธบิ ดกี าํ หนด ค. ประโยชนใด ๆ ซึ่งอาจคิดคํานวณไดเปนเงิน ง. ภาษีขาย เฉลย ค. ถกู ตอ งแลว อา งอิง : มาตรา 79 มาตรา 79 ภายใตบงั คบั มาตรา 79/1 ฐานภาษีสําหรับการขายสินคา หรือการใหบ ริการ ไดแก มลู คาทัง้ หมดที่ผปู ระกอบการ ไดร บั หรอื พงึ ไดร บั จากการขายสนิ คา หรอื การใหบ รกิ าร รวมทง้ั ภาษสี รรพสามติ ตามทก่ี าํ หนดในมาตรา 77/1 (19) ถา มี ดว ย มลู คา ของฐานภาษใี หห มายความถงึ เงนิ ทรพั ยส นิ คา ตอบแทน คา บรกิ าร หรอื ประโยชนใ ด ๆ ซง่ึ อาจคดิ คาํ นวณไดเ ปน เงนิ มลู คา ของฐานภาษไี มใ หร วมถงึ (1) สว นลดหรอื คา ลดหยอ น ทผ่ี ปู ระกอบการจดทะเบยี นไดล ดใหใ นขณะขายสนิ คา หรอื ใหบ รกิ ารและไดห กั สว นลดหรอื คา ลดหยอนดังกลาวออกจากราคาสินคาหรือราคาคาบริการ โดยไดแสดงใหเห็นไวชัดแจงวาไดมีการหักสวนลดหรือคาลดหยอนไวใน ใบกาํ กบั ภาษใี นแตล ะครง้ั ทอ่ี อกแลว ทง้ั น้ี เวน แตส ว นลดหรอื คา ลดหยอ นในการขายสนิ คา หรอื ใหบ รกิ ารของผปู ระกอบการจดทะเบยี น ที่มีสทิ ธอิ อกใบกาํ กับภาษีอยา งยอ ตามมาตรา 86/6 หรอื มาตรา 86/7 ผปู ระกอบการจดทะเบยี นจะไมแ สดงสว นลดหรือคา ลดหยอน ดังกลาว ใหเห็นชัดแจงไวในใบกํากับภาษีอยางยอก็ได (2) คา ชดเชยหรอื เงนิ อดุ หนนุ ตามทอ่ี ธบิ ดกี าํ หนดโดยอนมุ ตั ริ ฐั มนตรี (3) ภาษขี าย (4) คา ตอบแทนทม่ี ลี กั ษณะ และเงอ่ื นไขตามทอ่ี ธบิ ดกี าํ หนดโดยอนมุ ตั ริ ฐั มนตรี ------------------------------------- 4

หนา้ 214 ชดุ ท่ี 4 ขอ สอบ วชิ า ภาษมี ูลคา เพม่ิ 1. ราคา ซี.ไอ.เอฟ. คือ ก. ราคาสนิ คาทอ่ี อกจากโรงงานผลติ ข. ราคาสนิ คา บวกคา ประกนั ภยั บวกคาขนสง ถงึ ดา นศลุ กากร ค. ราคาสินคาบวกคาประกันภัย ง. ราคาสนิ คา บวกคาขนสง เฉลย ข. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 79/2 มาตรา 79/2 ฐานภาษีสําหรับการนาํ เขาสนิ คา ใหเปนไปตามหลกั เกณฑด งั ตอไปน้ี (1) ฐานภาษสี าํ หรบั การนาํ เขา สนิ คา ทุกประเภท ไดแ ก มลู คา ของสนิ คา นาํ เขา โดยใหใ ชร าคา ซ.ี ไอ.เอฟ. ของสนิ คา บวกดว ย อากรขาเขา ภาษีสรรพสามิต ตามที่กําหนดในมาตรา 77/1(19) คาธรรมเนียมพิเศษตามกฎหมายวาดวยการสงเสริมการลงทุนและภาษี และคา ธรรมเนยี มอน่ื ตามทจ่ี ะไดก าํ หนดโดยพระราชกฤษฎกี า การนาํ เขา สนิ คา ทีผ่ นู าํ เขา ไดร บั ยกเวน หรอื ลดหยอ นอากรขาเขา ตามกฎหมายวา ดว ยการสง เสรมิ การลงทนุ หรอื ตามกฎหมาย อน่ื ใหน าํ อากรขาเขาซง่ึ ไดร บั ยกเวน หรอื ลดหยอ นดงั กลา วมารวมเปน มลู คา ของฐานภาษี ราคา ซ.ี ไอ.เอฟ. ไดแ กราคาสนิ คา บวกดว ยคา ประกนั ภยั และคา ขนสง ถงึ ดา นศลุ กากรทน่ี ําสนิ คา นั้นเขาในราชอาณาจักร 2. ขอใดไมตองเสียภาษีมูลคาเพิ่ม ก. ขายเสื้อผาเด็ก ข. ขายเครื่องประดับ ค. ขายหนงั สือพมิ พ นติ ยสารตา ง ๆ ง. ใหเชาเฟอรนิเจอร เฉลย ข. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 81 แหง ประมวลรษั ฎากร มาตรา 81 ใหย กเวน ภาษมี ลู คา เพม่ิ สําหรบั การประกอบกจิ การประเภทตา ง ๆ ดงั ตอ ไปน้ี (1) การขายสนิ คา ทม่ี ใิ ชก ารสง ออก หรอื การใหบ รกิ าร ดังตอ ไปน้ี (ก) การขายพชื ผลทางการเกษตร ไมว าจะเปน ลาํ ตน กง่ิ ใบ เปลือก หนอ ราก เหงา ดอก หวั ฝก เมลด็ หรอื สว นอน่ื ๆ ของ พชื และวตั ถพุ ลอยไดจ ากพชื ทง้ั น้ี ทอ่ี ยใู นสภาพสดหรอื รกั ษาสภาพไว เพอ่ื มใิ หเ สยี เปน การชว่ั คราวในระหวา งขนสง ดว ยการแชเ ย็น แชเ ยน็ จนแขง็ หรอื ดว ยการจดั ทาํ หรอื ปรงุ แตง โดยวธิ กี ารอน่ื หรอื รักษาสภาพไวเ พอ่ื มใิ หเ สียเพอ่ื การขายปลกี หรอื ขายสงดว ยวธิ กี ารแชเ ยน็ แชเ ยน็ จนแขง็ ทาํ ใหแ หง บด ทาํ ใหเ ปน ชน้ิ หรอื ดว ยวธิ อี น่ื ขา วสาร หรอื ผลติ ภณั ฑท ไ่ี ดจ ากการสขี า ว แตไ มร วมถงึ ไมซ งุ ฟน หรอื ผลติ ภณั ฑท ไ่ี ดจ ากการเลอ่ื ยไม หรอื ผลติ ภณั ฑอ าหารทบ่ี รรจกุ ระปอ ง ภาชนะ หรอื หบี หอ ทท่ี าํ เปน อตุ สาหกรรม ตามลกั ษณะ และ เง่ือนไขทอ่ี ธบิ ดกี าํ หนด : (ฉ) การขายหนงั สอื พมิ พ นติ ยสาร หรอื ตาํ ราเรียน 3. กิจการใดที่ไมตองจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่ม ก. มีรายรับไมเกิน 600,000 บาท ตอป ข. มีรายรับไมเกิน 1,000,000 บาท ตอป ค. มีรายรับไมเกิน 1,200,000 บาท ตอป ง. มีรายรับเกิน 1,200,000 บาทตอป เดมิ เฉลย ค. ทถ่ี กู ตอบ ไมม ขี อ ถกู อา งองิ : มาตรา 81/1 แหง ประมวลรษั ฎากร ประกอบกบั มาตรา 4 ของพระราชกฤษฎกี าฯ วาดวยการกําหนดมูลคาฐานภาษีของกิจการขนาดยอมซึ่งไดรับยกเวนภาษีมูลาเพิ่ม (ฉบับ 432) พ.ศ. 2548 มาตรา 4 มลู คา ของฐานภาษขี องกจิ การขนาดยอ มตามมาตรา 81/1 แหง ประมวลรษั ฎากร จะตอ งไมเ กนิ หนง่ึ ลา นแปดแสนบาทตอ ป 5

หนา้ 215 4. บริษัท มีนาน จํากัด สงสินคาเสื้อผาสําเร็จรูป ไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา บริษัทจะตองปฏิบัติอยางไร ก. บริษัทฯ ไมตองจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่ม เพราะไดรับยกเวน ข. บริษัทฯ ตองจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่ม แตไดรับยกเวนไมตองยื่นแบบแสดงรายการ ค. บริษัทฯตองจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่ม และยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี ในอัตรา รอยละ 7 ง. บริษัทฯ ตองจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่ม และยื่นแบบแสดงรายการ เสียภาษี ในอัตรา 0 เฉลย ง. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 80/1 (1) แหง ประมวลรษั ฎากร มาตรา 80/1 ใหใ ชอ ตั ราภาษรี อ ยละ 0 ในการคาํ นวณภาษมี ลู คา เพม่ิ สาํ หรบั การประกอบกจิ การประเภทตา ง ๆ ดงั ตอ ไปน้ี (1) การสงออกสินคาที่มิใชการสงออกสินคาซึ่งไดรับยกเวนภาษีมูลคาเพิ่มตามมาตรา 81(3) 5. บริษัท เอบี จํากัด เพิ่งเริ่มจดทะเบียนนิติบุคคล เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2545 อยูในระหวางกอสรางอาคารโรงงานเพื่อผลิตถังน้ําพลาสติก ขนาดใหญขายในประเทศ โดยกําหนดแผนงานวา จะสรางโรงงานเสร็จและเริ่มเดินเครื่องจักรผลิตสินคาไดในวันที่ 1 กุมภาพันธ 2546 บริษัทฯ จะตองยื่นคําขอจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่ม (ภ.พ.01) ไดเมื่อใด ก. หกเดือน กอนวันเริ่มประกอบกิจการขายสินคาหรือบริการ ข. วันที่เริ่มประกอบกิจการขายสินคาหรือบริการ ค. ภายใน 15 วนั นบั แตว นั เรม่ิ ประกอบกจิ การ ง. ภายใน 30 วนั นบั แตว นั เรม่ิ ประกอบกจิ การ เฉลย ก. ถูกตองแลว อา งองิ : มาตรา 85 แหง ประมวลรษั ฎากร ประกอบกบั ประกาศอธบิ ดฯี เกย่ี วกบั ภาษมี ลู คา เพม่ิ (ฉบบั ท่ี 57) เรอ่ื ง การกาํ หนดหลกั เกณฑ วธิ กี าร และเงอ่ื นไขเกย่ี วกบั การยน่ื คาํ ขอจดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ และ การออกใบทะเบยี น ภาษีมูลคาเพิ่ม · มาตรา 85 ผปู ระกอบการซง่ึ จะเรม่ิ ประกอบกจิ การขายสนิ คา หรอื ใหบ รกิ ารใหม สี ทิ ธยิ น่ื คาํ ขอจดทะเบยี น ภาษีมูลคาเพิ่มกอนวันเริ่มประกอบกิจการ · ประกาศอธบิ ดฯี เกย่ี วกบั ภาษมี ลู คา เพม่ิ (ฉบบั ท่ี 57) ขอ 1 ผปู ระกอบการซง่ึ จะเรม่ิ ประกอบกจิ การขายสนิ คา หรอื ใหบ รกิ าร ทอ่ี ยใู นบงั คบั ตอ งเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ มสี ทิ ธิ ยน่ื คาํ ขอจดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ กอ นวนั เรม่ิ ประกอบกจิ การไดใ นเมอ่ื (1) ผปู ระกอบการดงั กลา วมแี ผนงานท่ีสามารถพสิ จู นไ ดว า ไดเ ตรยี มการเพอ่ื ประกอบกจิ การขายสนิ คา หรอื ใหบ รกิ ารทอ่ี ยใู นบงั คบั ตอ งเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ และ (2) มกี ารดาํ เนนิ การเพอ่ื เตรียมประกอบกจิ การ อนั เปน เหตใุ หต อ งมกี ารซอ้ื สนิ คา หรอื รบั บรกิ ารทอ่ี ยใู นบงั คบั ตอ ง เสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ เชน การกอ สรางโรงงาน การกอ สรางอาคารสํานกั งาน หรอื การตดิ ตง้ั เครอ่ื งจกั ร ใหผ ปู ระกอบการตามวรรคหนง่ึ มสี ทิ ธยิ น่ื คาํ ขอจดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ ไดภายในกาํ หนดหกเดอื นกอ นวันเรม่ิ ประกอบกจิ การขายสนิ คา หรอื ใหบ รกิ าร เวน แตจ ะมสี ญั ญา หรอื หลกั ฐานทส่ี ามารถพสิ จู นไ ดว า จะดาํ เนนิ การกอ สรา งโรงงานหรอื อาคารสาํ นกั งานหรอื ตดิ ตง้ั เครอ่ื งจกั ร หรอื มกี ารกระทาํ ในลกั ษณะทาํ นองเดยี วกัน ใหม สี ทิ ธยิ น่ื คาํ ขอจดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ ไดภ ายใน เวลาทเ่ี หมาะสมและจาํ เปน ตอ การกอ สรา งโรงงานหรอื อาคารสาํ นักงานหรอื ตดิ ตง้ั เครอ่ื งจกั ร 6. การยายสถานประกอบการ จะตองดําเนินการอยางไร ก. แจง ปด สถานประกอบการเดมิ หลงั วนั ยา ย ไมนอ ยกวา 15 วนั แจง เปด สถานประกอบการแหง ใหม หลงั วันเปด ไมน อ ยกวา 15 วนั ข. แจง ปด สถานประกอบการเดมิ กอ นวนั ยา ย 15 วนั แจง เปด สถานประกอบการแหง ใหม กอนวนั เปด ไมนอ ยวา 15 วนั ค. แจง ปด สถานประกอบการเดมิ กอ นวนั ยา ยไมน อ ยกวา 30 วนั แจง เปด สถานประกอบการแหง ใหม กอนวนั เปด ไมนอ ยวา 30 วนั ง. แจง ปด สถานประกอบการเดมิ หลงั วนั ยา ยไมนอ ยกวา 30 วนั 6

หนา้ 216 แจงเปดสถานประกอบการแหงใหม หลังวันเปด ไมนอยวา 30 วัน เฉลย ข. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 85/8 แหง ประมวลรษั ฎากร มาตรา 85/8 ผปู ระกอบการจดทะเบยี นใดประสงคจ ะยายสถานประกอบการ ใหผ ปู ระกอบการจดทะเบยี นนน้ั แจง การ เปลย่ี นแปลงทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ ณ สถานทท่ี ไ่ี ดจ ดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ ไวกอนวันยายสถานประกอบการไมนอยกวาสิบหาวัน ใหผ ปู ระกอบการจดทะเบยี นทย่ี า ยสถานประกอบการแจง การเปด สถานประกอบการแหง ใหม ณ ทีว่ า การอาํ เภอทองทีท่ ส่ี ถาน ประกอบการแหงใหมตั้งอยู กอ นวนั เปด สถานประกอบการแหง ใหมไ มน อ ยกวา สบิ หา วนั เพอ่ื ขอรบั ใบทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ สาํ หรบั สถานประกอบการแหง ใหมน น้ั พรอ มกบั คนื ใบทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ ของสถานประกอบการเดมิ ใหน าํ มาตรา 85/6 วรรคสอง มาใชบ งั คบั 7. ผูประกอบการจดทะเบียนที่มีหนาที่ยื่นแบบ และชําระภาษีมูลคาเพิ่ม ตองเก็บรักษารายงาน ใบกํากับภาษี และเอกสารประกอบ ไวเปน เวลานานเทาใด ก. ไมนอ ยกวา 2 ป ข.ไมน อ ยกวา 3 ป ค. ไมนอยกวา 5 ป ง. ไมน อ ยกวา 10 ป เฉลย ค. ถกู ตอ งแลว อางอิง : มาตรา 87/3 แหงประมวลรัษฎากร มาตรา 87/3 ใหผูป ระกอบการจดทะเบยี นทมี่ ีหนาทีย่ ่นื แบบแสดงรายการภาษี และชาํ ระภาษี และผมู ีหนา ทตี่ องจดั ทํารายงาน ตามบทบญั ญตั ใิ นสว นน้ี เกบ็ และรกั ษารายงานใบกาํ กบั ภาษี สาํ เนาใบกาํ กบั ภาษี พรอ มท้ังเอกสารประกอบการลงรายงานดงั กลา ว หรอื เอกสารอน่ื ทอ่ี ธบิ ดกี าํ หนดไว ณ สถานประกอบการทจ่ี ดั ทาํ รายงานนน้ั หรอื สถานทอ่ี น่ื ทอ่ี ธบิ ดกี าํ หนด เปน เวลาไมน อ ยกวา หา ปนับแต วนั ทไ่ี ดย น่ื แบบแสดงรายการภาษหี รอื วนั ทาํ รายงานแลว แตก รณี 8. เจา พนกั งานมีอาํ นาจออกหมายเรยี ก ผมู หี นาทเ่ี สยี ภาษมี ลู การเพม่ิ และสง่ั ใหบ คุ คลเหลา นน้ั นําบญั ชเี อกสารหรอื เอกสารอนั ควรแกเ รอ่ื ง มาตรวจสอบไตส วน โดยตอ งใหเ วลาลวงหนา ก. ไมน อ ยกวา 7 วนั นบั แตว นั ไดร บั หมายเรยี ก ข. ไมน อยกวา 7 วนั นับแตวันออกหมายเรียก ค. ไมนอยกวา 10 วัน นบั แตวันไดรบั หมายเรียก ง. ไมนอยกวา 10 วัน นบั แตว ันออกหมายเรียก เฉลย ก. ถกู ตอ งแลว อางอิง : มาตรา 88/4 แหงประมวลรัษฎากร มาตรา 88/4 ในการดําเนินการของเจาพนักงานประเมินในสวนนี้ เจาพนักงานประเมินมีอํานาจออกหมายเรียกผูมีหนาที่เสีย ภาษี ผทู ําการแทน หรอื พยาน กบั มอี าํ นาจสง่ั บคุ คลเหลา นัน้ ใหน าํ บญั ชี เอกสาร หรอื หลกั ฐานอน่ื อนั ควรแกเ รอ่ื งมาตรวจสอบไตส วนได หรือออกคําสั่งใหพยานตอบคําถามเปนหนังสือ แตจะตอ งใหเ วลาลว งหนา ไมน อ ยกวา เจ็ดวนั นบั แตว นั ไดร บั หมายเรียกหรอื ไดรับคําส่ัง 9. กรณีผูประกอบการ ยื่นแบบแสดงรายการภายในกําหนดเวลา การประเมินของเจาพนักงานใหกระทําไดภายใน กําหนดเวลาใด ก. สองป นบั แตว ันยน่ื แบบแสดงรายการ ข. สองปน บั แตวนั สดุ ทาย แหง กาํ หนดเวลาย่ืนแบบแสดงรายการ ค. หาป นับแตวันยื่นแบบแสดงรายการ ง. หา ป นบั แตว นั สดุ ทายแหงกําหนดเวลายน่ื แบบแสดงรายการ เฉลย ข. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 88/6 แหง ประมวลรษั ฎากร มาตรา 88/6 การประเมนิ ของเจา พนกั งานประเมนิ ใหก ระทาํ ไดภ ายในกาํ หนดเวลา ดงั ตอ ไปน้ี (1) สําหรับผูประกอบการ ก) สองปน บั แตว นั สดุ ทา ยแหง กาํ หนดเวลายน่ื แบบแสดงรายการภาษี หรอื วนั สดุ ทา ยแหง กาํ หนดเวลาทร่ี ฐั มนตรี หรอื อธบิ ดขี ยายหรอื เลอ่ื นออกไป แลว แตว นั ใดจะเปน วนั หลงั ทง้ั น้ี เฉพาะในกรณที ผ่ี มู หี นา ทเ่ี สยี ภาษไี ดย น่ื แบบแสดงรายการภาษภี ายใน กําหนดเวลาดังกลาว 7

หนา้ 217 (ข) สองปน บั แตว นั ทผ่ี มู หี นา ทเ่ี สยี ภาษยี น่ื แบบแสดงรายการภาษี ทง้ั น้ี เฉพาะในกรณที ผ่ี มู หี นา ทเ่ี สยี ภาษยี น่ื แบบแสดง รายการภาษีหลังวันสุดทายแหงกําหนดเวลาดังกลา วใน (ก) แตตองไมเ กนิ สิบปนบั แตว นั สดุ ทาย แหง กําหนดเวลาย่นื แบบแสดงรายการภาษี (ค) สบิ ปน บั แตว นั สดุ ทา ยแหง กาํ หนดเวลายน่ื แบบแสดงรายการภาษี ในกรณที ผ่ี มู หี นา ทย่ี น่ื แบบแสดงรายการภาษมี ไิ ดย น่ื แบบแสดงรายการภาษี หรอื ทย่ี น่ื แบบแสดงรายการภาษี โดยแสดงฐานภาษตี าํ่ กวา มูลคา ทผ่ี ูประกอบการไดร บั หรอื พงึ ไดร บั เปน จาํ นวน เกินกวารอ ยละย่สี บิ หา ของฐานภาษที แ่ี สดงในแบบแสดงรายการภาษี 10. บริษัท A จํากัด ประกอบกิจการโดยมิไดจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่มแตยื่นแบบแสดงรายการ โดยภาษีขายหักดวยภาษีซื้อ บริษัท A จะตองรับผิดอยางไร ก. ปรับอาญา ไมเกิน 5,000 บาท แตเบี้ยปรับ เงินเพิ่มไมเ สีย เพราะถือวาไดยื่นแบบแสดงรายการแลว ข. ปรับอาญา ไมเกิน 5,000 บาท เบี้ยปรับ 1 เทา เงินเพิ่มรอยละ 1.5 ตอเดือน ค. ปรับอาญา ไมเกิน 5,000 บาท เบี้ยปรับ 2 เทา เงินเพิ่มรอยละ 1.5 ตอเดือน ง. ปรับอาญา ไมเกิน 5.000 บาท ไมใหเครดิตภาษซี ื้อ เบี้ยปรับ 2 เทา ของภาษีขายที่ตองชําระ เงินเพิ่มรอยละ 1.5 ตอเดือน เฉลย ง. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 90/2 (2) แหง ประมวลรัษฎากร กรณที บ่ี รษิ ทั ประกอบกจิ การโดยไมไ ดจ ดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ บรษิ ทั ตอ งรบั ผดิ ตามประมวลรษั ฎากร ดังน้ี 1. เสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ ในอตั รารอ ยละ 7.0 จากการขายสนิ คา หรอื ใหบ รหิ ารตามมาตรา 77/2(1) และมาตรา 80 แหง ประมวลรัษฎากร 2. เสยี เบย้ี ปรบั อกี 2 เทา ของเงนิ ภาษที ต่ี อ งเสียในเดอื นภาษตี ลอดระยะเวลาทป่ี ระกอบกจิ การโดยไมจ ดทะเบยี น ภาษีมูลคาเพิ่มหรือเงินหนึ่งพันบาทตอเดือนภาษี แลวแตอยางใดจะมากกวาตามมาตรา 89(1) แหงประมวลรัษฎากร 3. เสยี เงนิ เพม่ิ อกี รอ ยละ1.5 ตอ เดอื นหรอื เศษของเดอื นของเงนิ ภาษที ต่ี อ งชาํ ระโดยไมร วมเบ้ียปรบั ตามมาตรา 89/1 แหง ประมวลรัษฎากร 4. ตอ งระวางโทษปรบั ตามมาตรา 90/2 (2) มาตรา 90/2 บุคคลดงั ตอไปน้ี ฝา ฝน หรอื ไมป ฏบิ ตั ติ ามบทบญั ญตั ทิ ร่ี ะบไุ วต อ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ กนิ หนง่ึ เดอื น หรอื ปรบั ไม เกินหาพันบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ (2) ผปู ระกอบการใดซง่ึ มหี นา ทจ่ี ดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ ประกอบกจิ การโดยไมจ ดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ ตาม มาตรา 85/1 มาตรา 85/13 วรรคสอง หรือมาตรา 85/14 ---------------------------- 8

หนา้ 218 จติ อาสาปน โตภาษี กลมุ 2 ขอ สอบชดุ ท่ี 6-11 ชดุ ท่ี 6 ขอ สอบ วชิ า ภาษธี รุ กิจเฉพาะ 1. ภาษีธุรกิจเฉพาะจัดอยูในหมวดใดและลักษณะใดของกฎหมายประมวลรัษฎากร ก. หมวด 2 ลกั ษณะ 2 ข. หมวด 3 ลกั ษณะ 2 ค. หมวด 4 ลกั ษณะ 2 ง. หมวด 5 ลักษณะ 2 เฉลย ง. ถกู ตอ งแลว 2. กิจการที่ไมอยูในบังคับที่ตองเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา 91/2 ก. การธนาคาร ข. การรับประกันชีวิต ค. การรบั ประกันวนิ าศภยั ง. การขายหลักทรัพยต ามกฎหมายวาดวยตลาดหลักทรัพยแ หงประเทศไทย เฉลย ค. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 91/2 มาตรา 91/2 ภายใตบ งั คบั มาตรา 91/4 การประกอบกจิ การดงั ตอ ไปนใ้ี นราชอาณาจกั ร ใหอ ยใู นบงั คบั ตอ งเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะตามบทบัญญัติในหมวดนี้ (1) การธนาคาร ตามกฎหมายวาดวยการธนาคารพาณิชยหรือกฎหมายเฉพาะ (2) การประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร ตามกฎหมายวาดวยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจ หลักทรัพย และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร (3) การรบั ประกนั ชวี ติ ตามกฎหมายวา ดว ยการประกนั ชวี ิต (4) การรับจํานําตามกฎหมายวาดวยโรงรับจํานํา (5) การประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย เชน การใหกูยืมเงิน ค้ําประกัน แลกเปลี่ยนเงินตรา ออก ซื้อ หรือขายตั๋ว เงิน หรือรับสงเงินไปตางประเทศดวยวิธีตาง ๆ (6) การขายอสังหาริมทรัพยเปนทางคาหรือหากําไร ไมวาอสังหาริมทรัพยนั้นจะไดมาโดยวิธีใดก็ตาม ทั้งนี้ เฉพาะที่เปนไปตาม หลกั เกณฑ วธิ กี าร และเงอ่ื นไขตามทก่ี าํ หนดโดยพระราชกฤษฎีกา 1

หนา้ 219 (7) การขายหลกั ทรพั ยตามกฎหมายวา ดว ยตลาดหลกั ทรพั ยแ หง ประเทศไทยในตลาดหลกั ทรพั ย (8) การประกอบกจิ การอน่ื ตามทก่ี าํ หนดโดยพระราชกฤษฎกี า 3. กิจการใดที่ไมไดรับการยกเวนภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา 91/3 ก. กิจการของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแหงประเทศไทย ข. กิจการขายหลักทรัพยตามกฎหมายวาดวยตลาดหลักทรัพยแหงประเทศไทย ค. กิจการขายอสงั หาริมทรัพยในทางการคาและหากําไร ง. กิจการของบรรษัทบริหารสินทรัพยสถาบันการเงิน เฉลย ค. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 91/3 (2) และพระราชกฤษฎกี า (ฉบบั ท่ี 240) พ.ศ. 2534 ขอ 3 (1) และ (7) · มาตรา 91/3 ใหยกเวนภาษีธุรกิจเฉพาะสําหรับกิจการดังตอไปนี้ (2) กิจการของบรรษทั เงินทุนอุตสาหกรรมแหงประเทศไทย · พรฎ. (ฉบับที่ 240) “มาตรา 3 ใหย กเวน ภาษธี รุ กิจเฉพาะสาํ หรบั กจิ การดงั ตอ ไปน้ี (1) กิจการขายหลักทรัพยตามกฎหมายวาดวยตลาดหลักทรัพยแหงประเทศไทยในตลาดหลักทรัพย : “(7) กิจการของบรรษทั บริหารสินทรัพยสถาบันการเงิน” 4. แบบแสดงรายการที่ใชในการยื่นเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา 91/10 คือ ก. แบบ ภ.พ.30 ข. แบบ ภ.พ.40 ค. แบบ ภ.ธ.30 ง. แบบ ภ.ธ.40 เฉลย ง. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : ประกาศอธบิ ดฯี เกย่ี วกบั ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ (ฉบบั ท่ี 2) ขอ 1 ใหก าํ หนดแบบดงั ตอ ไปน้ี เปน แบบเกย่ี วกับภาษธี รุ กจิ เฉพาะ (1) แบบ ภ.ธ.01 แบบคาํ ขอจดทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะ (2) แบบ ภ.ธ.02 แบบคาํ ขอยน่ื แบบแสดงรายการภาษธี รุ กจิ เฉพาะรวมกนั (3) แบบ ภ.ธ.04 แบบคาํ ขอรบั ใบแทนใบทะเบยี นภาษธี รุ กิจเฉพาะ (4) แบบ ภ.ธ.09 แบบแจง การเปลย่ี นแปลงทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะ (5) แบบ ภ.ธ.40 แบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะ แบบแสดงรายการตามวรรคหนง่ึ ใหใ ชแ บบแสดงรายการทก่ี รมสรรพากร จดั พมิ พข น้ึ เทา นน้ั เวน แตอ ธบิ ดจี ะสง่ั การ เปนอยางอื่น 5. อํานาจการประเมินของเจาพนักงานฯ ตามหมวดภาษีธุรกิจเฉพาะใหกระทําไดภายในกําหนดเวลาเทาใด ก. สองปน บั แตวนั สดุ ทา ยแหง กาํ หนดเวลายน่ื แบบแสดงรายการภาษี ข. หา ปน บั แตว ันสดุ ทา ยแหง กาํ หนดเวลาย่ืนแบบแสดงรายการภาษี ค. เจด็ ปน บั แตว นั สดุ ทา ยแหง กําหนดเวลายน่ื แบบแสดงรายการภาษี ง. สิบปนับแตวันสุดทายแหงกําหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษี เฉลย ง. ถกู ตอ งแลว อางอิง : แนววินิจฉัย ที่ กค 0706/3560 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2549 2

หนา้ 220 ------------------------------------------ ชดุ ท่ี 7 ขอ สอบ วชิ า ภาษธี รุ กิจเฉพาะ 1. ในหมวดภาษีธุรกิจเฉพาะมีทงั้ หมดกี่มาตรา ก. 20 มาตรา ข. 21 มาตรา ค. 22 มาตรา ง. 23 มาตรา เฉลย ค. ถกู ตอ งแลว หมวด 5 ภาษีธุรกิจเฉพาะ มาตรา 91 เปนภาษีอากรประเมิน มาตรา 91/1 คํานิยาม รายรับ มลู คา ราคาตลาด ขาย มาตรา 91/2 กิจการที่ตองเสียภาษีธุระกิจเฉพาะ มาตรา 91/3 กจิ การท่ียกเวน มาตรา 91/4 กิจการเฉพาะอยางที่กําหนดใหเสียภาษีมูลคาเพิ่ม มาตรา 91/5 ฐานภาษี มาตรา 91/6 อัตราภาษี มาตรา 91/7 ผรู บั ผดิ ชอบกรณผี ูประกอบกจิ การอยนู อกประเทศ มาตรา 91/8 หลักเกณฑการคํานวณรายรับ ใหผมู ีหนาที่เสียภาษีสําหรับกิจการขายอสังหาริมทรัพยเปนทางคาหรือหากําไรเสยี ภาษีขณะที่จดทะเบียน มาตรา 91/9 ผูเสียภาษีกรณีการขายหลักทรัพย มาตรา 91/10 แบบ เวลา และสถานทช่ี าํ ระภาษีใหก รมทด่ี นิ เรยี กเกบ็ ภาษธี ุรกจิ เฉพาะเพอ่ื กรมสรรพากร มาตรา 91/11 การขอคืนภาษี มาตรา 91/12 การจดทะเบยี น มาตรา 91/13 กรณีไมตองจดทะเบียน มาตรา 91/14 หนาที่ทํารายงานแสดงรายรับ มาตรา 91/15 เหตทุ ท่ี าํ ใหป ระเมนิ ภาษี เบย้ี ปรบั เงนิ เพม่ิ มาตรา 91/16 อํานาจเจา พนักงาน มาตรา 91/17 ไมต อ งเสยี ภาษี 100 บาท มาตรา 91/18 โทษกรณไี มจ ดทะเบียน มาตรา 91/19 โทษกรณีไมจัดทํารายงาน มาตรา 91/20 โทษกรณที าํ รายงานไมเ ปน ไปตามหลกั เกณฑ มาตรา 91/21 ใหนําบทบัญญัติหมวด 4 มาใชบังคับ 2. ผูประกอบกจิ การท่ีไมต อ งจดทะเบียนภาษธี รุ กิจเฉพาะ ก. กจิ การขายหลักทรพั ยต ามมาตรา 91/2 (7) ข. กิจการที่ประกอบกิจการเปนการชั่วคราว 3

หนา้ 221 ค. การขายอสังหาริมทรัพยที่ผูขายมีไวประกอบกิจการตามมาตรา 4 (5) แหงพรฎ.342 ง. ถูกทุกขอ เฉลย ง. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 91/13 แหง ประมวลรษั ฎากร และ ขอ 1 (1) ของประกาศอธบิ ดฯี เกย่ี วกบั ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ เรอ่ื ง การกาํ หนดกจิ การทไ่ี มต องจดทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะ · มาตรา 91/13 ผูประกอบกิจการดังตอไปนี้ไมตองจดทะเบียนภาษธี ุรกิจเฉพาะ (1) ผูประกอบกิจการขายหลักทรัพยตามมาตรา 91/2 (7) (2) ผูประกอบกิจการที่ประกอบกิจการเปนการชั่วคราว (ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากรกําหนดกิจการที่ไมตองจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ) · ประกาศอธบิ ดฯี เกย่ี วกบั ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ เรอ่ื ง การกาํ หนดกจิ การทไ่ี มต อ งจดทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ขอ 1 กําหนดใหการประกอบกิจการดังตอไปนี้ เปนการประกอบกิจการชั่วคราว “(1) การขายอสงั หารมิ ทรพั ยท ผ่ี ขู ายมีไวใ นการประกอบกจิ การตามมาตรา 4(5) แหง พระราชกฤษฎกี า ออกตามความในประมวลรัษฎากร วาดวยการขายอสังหาริมทรัพย เปนทางคาหรือหากําไร (ฉบับที่ 342) พ.ศ. 2541 โดยการขาย อสังหาริมทรัพยดังกลาวมิใช การขายอสังหาริมทรัพยตามมาตรา 4(1) (2) (3) และ (4) แหงพระราชกฤษฎีกาออกตาม ความใน ประมวลรัษฎากร วาดวยการขายอสังหาริมทรัพยเปนทางคาหรือหากําไร (ฉบับที่ 342) พ.ศ. 2541” 3. ในปภาษี 2546 อัตราภาษีธุรกิจเฉพาะที่เรียกเก็บสําหรับกิจการขายอสังหาริมทรัพยเปนทางการคาหรือหากําไรคือ ก. รอ ยละ 0.1 ของยอดรายรบั กอนหกั รายจา ยใดๆ ข. รอยละ 0.2 ของยอดรายรับกอนหักรายจายใดๆ ค. รอยละ 3.0 ของยอดรายรับกอนหักรายจายใดๆ ง. รอยละ 3.3 ของยอดรายรับกอนหักรายจายใดๆ เดมิ เฉลย ก. ถกู ตอ งแลว · เนอ่ื งจากการลดอตั ราภาษแี ละคงจัดเก็บในอตั รารอ ยละ 0.1 เฉพาะการจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมเกย่ี วกบั อสังหาริมทรัพยที่ไดกระทําตั้งแตวันที่ 29 มีนาคม 2552 ถึงวันที่ 28 มีนาคม 2553 ตามพระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 488) พ.ศ. 2522 เรื่อง ลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะสําหรับการขายอสังหาริมทรัพยเปนทางคาหรือหากําไร ปจ จบุ นั จงึ เรยี กเกบ็ ในอัตรารอ ยละ 3.3 (รวมภาษที อ งถน่ิ ) · ปจ จบุ นั การลดอตั ราภาษธี รุ กจิ เฉพาะจดั เกบ็ ในอตั รารอ ยละ 0.1 ของรายรบั จากการขายอสงั หารมิ ทรพั ยเ ปน ทางการคา หรอื หากําไร เฉพาะการขายอสังหารมิ ทรพั ยท ต่ี ง้ั อยใู นเขตพฒั นาพเิ ศษเฉพาะกจิ ตามพระราชกฤษฎกี าร (ฉบบั ท่ี 624) พ.ศ. 2560 เรอ่ื ง การลดอตั ราและยกเวน รษั ฎากร เรอ่ื ง ลดอตั ราและยกเวน รษั ฎากรสาํ หรบั ภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดา ภาษเี งนิ ได นิติบุคคลและภาษีธุรกิจเฉพาะซึ่งมีสถานประกอบกิจการตั้งอยูในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ มาตรา 8 ใหล ดอตั ราภาษธี รุ กจิ เฉพาะตามมาตรา ๙๑/๖ (๓) แหงประมวลรษั ฎากร และคงจดั เกบ็ ในอตั รารอยละศนู ยจ ุด หนง่ึ สาํ หรบั รายรบั จากการขายอสงั หารมิ ทรพั ยเ ปน ทางคา หรอื หากาํ ไร ตามมาตรา ๙๑/๒ (๖) แหง ประมวลรษั ฎากร ทัง้ น้ี เฉพาะ การขายอสังหาริมทรัพยที่ตั้งอยูในเขตพัฒนาพิเศษ เฉพาะกิจที่ไดกระทําในระหวางวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ 4. รายรบั กอ นหกั รายจายใดๆ ทต่ี อ งเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะสําหรบั กจิ การขายอสงั หารมิ ทรพั ยเ ปน ทางการคา หรือหากาํ ไรคอื ราคาใด ก. ราคาขายทแ่ี จงไวใ นหนงั สอื ทด.16 ข. ราคาที่ซื้อขายกันจริงโดยสุจริต ค. ราคาประเมินทุนทรัพยท่เี จาพนักงานที่ดินเรียกเก็บตามมาตรา 49 ทวิ ง. พิจารณาจากทั้ง 3 ขอแลวแตอยางใดจะสูงกวา เฉลย ง. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : คาํ สง่ั กรมสรรพากรท่ี ป.82/2542 ขอ 6 ขอ 6 การคาํ นวณภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ใหค าํ นวณจากยอดรายรบั จากการขายอสังหารมิ ทรพั ยก อ นหกั รายจา ยใด ๆ ตาม อัตราภาษีธุรกจิ เฉพาะ (1) กรณรี าคาซอ้ื ขายอสงั หารมิ ทรพั ยต ามบนั ทกึ ถอ ยคาํ การชาํ ระภาษอี ากร (ท.ด.16) สงู กวา ราคาประเมนิ ทนุ ทรพั ยเ พอ่ื เรยี กเกบ็ คา ธรรมเนยี มจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมตามประมวลกฎหมายทด่ี นิ ซง่ึ เปน ราคาทใ่ี ชอ ยใู นวนั ทม่ี กี ารโอนนน้ั ให คํานวณภาษีธุรกิจเฉพาะตามราคาซื้อขายอสังหาริมทรัพยตามบันทึกถอยคําการชําระภาษีอากร (ท.ด.16) 4

หนา้ 222 (2) กรณรี าคาซอ้ื ขายอสงั หารมิ ทรพั ยต ามบนั ทกึ ถอ ยคาํ การชาํ ระภาษอี ากร (ท.ด.16) ตาํ่ กวา ราคาประเมนิ ทนุ ทรพั ยเ พอ่ื เรยี กเก็บคา ธรรมเนียมจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนิตกิ รรมตามประมวลกฎหมายทีด่ ิน ใหค ํานวณภาษีธรุ กิจเฉพาะตามราคาประเมนิ ทุนทรพั ย (3) ภายใตบ ังคบั (1) และ (2) กรณที เ่ี ปน การขายอสังหารมิ ทรพั ยท ต่ี ดิ จาํ นอง ใหค าํ นวณยอดรายรบั จากการขาย อสงั หารมิ ทรพั ยร วมกบั ภาระจาํ นองทต่ี ดิ กบั ทรพั ยด ว ย (4) กรณกี ารขายอสังหารมิ ทรพั ยท ผ่ี ซู อ้ื อสังหารมิ ทรพั ยต กลงเปน ผอู อกคา ภาษธี รุ กจิ เฉพาะและหรอื คา ธรรมเนยี มใน การจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมทผ่ี ขู ายอสงั หารมิ ทรพั ยม หี นา ทต่ี อ งเสยี ตามกฎหมายแทนผขู ายอสงั หารมิ ทรพั ย ใหน าํ เงนิ คา ภาษี ธรุ กจิ เฉพาะและหรอื คา ธรรมเนยี มทผ่ี ซู อ้ื ออกแทนใหด งั กลา วรวมกบั รายรบั ตาม (1)(2)หรอื (3) เปน ฐานภาษใี นการคาํ นวณภาษี ธุรกิจเฉพาะดวย (แกไ ขเพ่ิมเตมิ ตามคาํ สง่ั กรมสรรพากรท่ี ป.94/2543 สง่ั ณ วนั ท่ี 14 มกราคม พ.ศ.2543) แตอ ยา งไรกต็ าม หากปรากฏหลกั ฐานจากการตรวจสอบของเจา พนกั งานประเมนิ ในภายหลงั พบวา ราคาซอ้ื ขายทแ่ี ทจ รงิ ของอสังหารมิ ทรัพยดงั กลา วมีราคาสูงกวาราคาซือ้ ขายตามบันทึกถอ ยคําการชาํ ระภาษอี ากร (ท.ด.16) หรอื ราคาประเมนิ ทุนทรัพย เจา พนกั งานประเมนิ ยงั คงมอี าํ นาจในการตดิ ตามประเมนิ เรยี กเกบ็ ภาษธี รุ กจิ เฉพาะจากราคาซอ้ื ขายทแ่ี ทจ รงิ ทส่ี งู กวา ตอ ไปได อัตราภาษีธุรกิจเฉพาะใหคํานวณในอัตรารอยละ 3.3 (รวมภาษีทองถิ่น) 5.การขอคืนภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา 91/11 ใหกระทําไดภายในกําหนดเวลาใด ก. ภายใน 6 เดอื นนบั แตวนั พนกําหนดเวลายืน่ แบบฯ ข. ภายใน 1 ปน บั แตว นั พน กําหนดเวลายน่ื แบบฯ ค. ภายใน 3 ปนับแตวันพนกําหนดเวลายื่นแบบฯ ง. ภายใน 10 ปน บั แตว นั พน กําหนดเวลายน่ื แบบฯ เฉลย ค. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 91/11 แหง ประมวลรษั ฎากร มาตรา 91/11 การขอคนื ภาษธี รุ กิจเฉพาะ ใหกระทาํ ไดต ามเงอ่ื นไขดงั ตอ ไปน้ี (1) ใหผ มู หี นา ทเ่ี สยี ภาษมี สี ทิ ธยิ น่ื คาํ รอ งขอคนื ภาษี ภายในสามปนบั แตว นั พนกาํ หนดเวลายน่ื แบบแสดงรายการภาษี (2) คาํ รอ งขอคนื ภาษใี หเ ปน ไปตามแบบทอ่ี ธบิ ดกี าํ หนด และใหย น่ื ณ ทว่ี า การอาํ เภอทอ งท่ีทส่ี ถานประกอบการตง้ั อยู เวน แตใ นกรณที ผ่ี มู หี นา ทเ่ี สยี ภาษไี ดร บั อนมุ ตั จิ ากอธบิ ดใี หย น่ื แบบแสดงรายการภาษรี วมกนั ณ ทว่ี า การอาํ เภอทอ งทแ่ี หง ใดแหง หนง่ึ หรอื ณ สถานทอ่ี น่ื ตามมาตรา 91/10 วรรคส่ี กใ็ หย น่ื คาํ รอ งขอคนื ภาษี ณ ทแ่ี หง นน้ั ( ดูคําสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.113/2545 ) ------------------------------------------ ชดุ ท่ี 8 ขอ สอบ วชิ า ภาษธี รุ กิจเฉพาะ 1. การขายอสังหาริมทรัพยเปนทางคาหรือหากําไรที่ตองเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ซึ่งไมเขาลักษณะตาม (1) (2) (3) (4) หรือ (5) ที่ได กระทําภายในหาปนับแตวันที่ไดมาซึ่งอสังหาริมทรัพยนั้น ตามมาตรา 4 แหง พรฎ.(ฉบับที่ 342) พ.ศ. 2541 เวนแต ก. การขายหรือการถูกเวรคืนตามกฎหมายวาดว ยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย ข. การขายอสังหาริมทรัพยที่ไดมาทางมรดก ค. การโอนกรรมสิทธิหรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพยโดยไมมคี าตอบแทนใหแกบุตรบุญธรรม ง. ถกู ขอ ก และ ข เฉลย ง. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : พรฎ. (ฉบบั ท่ี 342) พ.ศ. 2541 มาตรา 4 มาตรา 4 ใหก ารขายอสงั หารมิ ทรพั ยเ ฉพาะทต่ี อ งจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละ นติ กิ รรมดงั ตอ ไปน้ี เปน การขายอสงั หารมิ ทรพั ยเ ปน ทางคาหรือหากําไรทีต่ องเสียภาษี ธรุ กิจเฉพาะตามมาตรา 91/2 (6) แหง ประมวลรษั ฎากร (1) การขายอสังหารมิ ทรพั ยข องผซู ง่ึ ไดร บั อนญุ าตใหท าํ การจดั สรรทด่ี นิ ตามกฎหมายวาดว ยการควบคมุ การจดั สรรทด่ี นิ (2) การขายหอ งชดุ ของผปู ระกอบกจิ การซง่ึ เปน ผขู อจดทะเบยี นอาคารชดุ ตามกฎหมายวาดว ยอาคารชดุ (3) การขายอสังหารมิ ทรพั ยท เ่ี ปน อาคารทส่ี รา งขน้ึ เพอ่ื ขาย รวมถงึ การ ขายทด่ี นิ อนั เปน ทต่ี ง้ั ของอาคารดงั กลาว (4) การขายอสังหารมิ ทรพั ยท ไ่ี มเ ขา ลกั ษณะตาม (1) (2) หรอื (3) เฉพาะกรณที ม่ี กี ารแบง ขายหรอื มกี ารแบง แยกไวเ พอ่ื ขาย โดยไดจ ดั ทาํ ถนนหรือสิ่ง สาธารณูปโภคอนื่ หรือใหค าํ มัน่ วา จะจัดใหม สี ่ิงดงั กลา ว (5) การขายอสังหารมิ ทรพั ยท ผ่ี ขู ายมไี วใ นการประกอบกจิ การเฉพาะของ นติ บิ คุ คลตามมาตรา 77/1 แหง ประมวล 5

หนา้ 223 รัษฎากร (6) การขายอสังหารมิ ทรพั ยท ไ่ี มเ ขา ลกั ษณะตาม (1) (2) (3) (4) หรอื (5) ทไ่ี ดก ระทาํ ภายในหา ปน บั แตว นั ทไ่ี ดมาซง่ึ อสงั หารมิ ทรพั ยน น้ั เวน แต (ก) การขายหรอื การถกู เวนคนื ตามกฎหมายวา ดว ยการเวนคนื อสงั หารมิ ทรพั ย (ข) การขายอสังหารมิ ทรพั ยท ไ่ี ดม าโดยทางมรดก (ค) การขายอสงั หาริมทรพั ยท ใ่ี ชเ ปนสถานทอ่ี ยอู าศยั อนั เปน แหลง สาํ คญั ทผ่ี ูขายมชี อ่ื อยใู นทะเบยี นบา นตาม กฎหมายวา ดว ยการทะเบยี นราษฎรเปน เวลา ไมน อ ยกวา หนง่ึ ปน บั แตว นั ทไ่ี ดม าซง่ึ อสงั หารมิ ทรพั ยน น้ั ในกรณที ท่ี ด่ี นิ และอาคารหรอื สง่ิ ปลกู สรางตาม (ค) ไดม าไมพ รอ มกนั กาํ หนดเวลาหา ปต ามความใน (6) ใหถ อื ตามระยะเวลาการไดม าซ่ึงทด่ี นิ หรอื อาคาร หรอื สง่ิ ปลกู สรา งทไ่ี ดม าภายหลัง (ง) การโอนกรรมสทิ ธห์ิ รอื สทิ ธคิ รอบครองในอสงั หารมิ ทรพั ยโ ดย ไมม คี า ตอบแทนใหแ กบ ตุ รชอบดว ย กฎหมายของตน แตไ มร วมถงึ บตุ รบญุ ธรรม (จ) การโอนกรรมสทิ ธห์ิ รอื สทิ ธคิ รอบครองในอสงั หารมิ ทรพั ยท าง มรดกใหแ กท ายาทโดยธรรมหรอื ผรู บั พนิ ยั กรรมซง่ึ เปน ทายาทโดยธรรม (ฉ) การโอนกรรมสทิ ธห์ิ รอื สทิ ธคิ รอบครองในอสงั หารมิ ทรพั ย ใหแ กส ว นราชการหรอื องคก ารของรฐั บาลตาม มาตรา 2 แหง ประมวลรษั ฎากรโดย ไมม คี า ตอบแทน (ช) การแลกเปลย่ี นกรรมสทิ ธห์ิ รอื สทิ ธคิ รอบครองในอสงั หารมิ ทรพั ย กบั สว นราชการหรอื องคก ารของรัฐบาล ตามมาตรา 2 แหง ประมวลรษั ฎากร เฉพาะใน กรณที ส่ี ว นราชการหรอื องคก ารของรฐั บาลนน้ั มไิ ดมกี ารจา ยคา ตอบแทนเปน อยา งอน่ื นอกจากอสังหาริมทรัพยที่แลกเปลี่ยนนนั้ 2. เหตุที่ทําใหถูกประเมินภาษี เบี้ยปรับ และเงินเพิ่ม ก. ผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษมี ิไดย น่ื แบบฯ ภายในเวลาทก่ี ฎหมายกาํ หนด ข. ผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษยี ่ืนแบบฯ ไมถ กู ตอ ง หรอื มขี อ ผดิ พลาดทาํ ใหจาํ นวนภาษที ต่ี องเสยี คลาดเคล่ือน ค. ผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษไี มป ฏบิ ัตติ ามหมายเรยี ก หรอื ไมย อมตอบคาํ ถามของเจา พนกั งานประเมนิ ง. ถูกทุกขอ เฉลย ง. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 91/15 มาตรา 91/15 เจา พนกั งานประเมนิ มอี าํ นาจประเมนิ ภาษเี บย้ี ปรบั และเงนิ เพม่ิ ตามหมวดน้ี ในเมอ่ื (1) ปรากฏแกเจาพนักงานประเมินวาผูมีหนาที่เสียภาษีมิไดยื่นแบบแสดงรายการภายในเวลาที่กฎหมายกําหนด (2) ในกรณเี จา พนกั งานประเมนิ มหี ลกั ฐานแสดงวา ผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษยี น่ื แบบแสดงรายการไมถ กู ตอ ง หรอื มขี อ ผดิ พลาด ทําใหจ าํ นวนภาษีท่ีตอ งเสียคลาดเคลื่อนไป หรือ (3) ผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษหี รอื ผมู หี นา ทย่ี น่ื แบบแสดงรายการแทนผปู ระกอบกจิ การ ไมป ฏบิ ตั ติ ามหมายเรียกของเจา พนกั งานประเมนิ หรอื ไมย อมตอบคาํ ถามของเจาพนกั งานประเมินโดยไมม เี หตผุ ลอนั สมควร หรอื ไมส ามารถแสดงหลกั ฐานเพอ่ื การคาํ นวณภาษี 3. ขอ ความใดกลา วไมถ กู ตอ ง ก. กิจการของการเคหะแหงชาติ เฉพาะการขายหรือใหเชาซื้ออสังหาริมทรัพยไดรับยกเวน ภาษีธรุ กิจเฉพาะ ข. ภาษีธุรกิจเฉพาะในเดือนภาษีใดมีจํานวนไมถึงหนึ่งรอยบาท (รวมภาษีทองถิ่น) เปนอันไมตองเสียสําหรับเดือนภาษีนั้น ค. การยื่นแบบฯ และการชําระภาษีธุรกิจเฉพาะใหยื่นภายในวันที่สิบหาของเดือนถัดไป ง. ผูมีหนาที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ มีหนาที่ทํารายงานแสดงรายรับกอนหักรายจายที่ตองเสียภาษี และรายรับที่ไมตองรวม คํานวณเพื่อเสียภาษี เฉลย ข. ถกู ตอ งแลว อางอิง : มาตรา 91/3 , 91/10 , 91/14 และมาตรา 91/17 มาตรา 91/3 ใหย กเวน ภาษธี รุ กจิ เฉพาะสําหรบั กจิ การดงั ตอ ไปน้ี (1) กจิ การของธนาคารแหง ประเทศไทย ธนาคารออมสนิ ธนาคารอาคารสงเคราะห และธนาคารเพอ่ื การเกษตรและสหกรณ การเกษตร........ (5) กจิ การของการเคหะแหง ชาติ เฉพาะการขายหรอื ใหเ ชา ซ้ืออสงั หารมิ ทรพั ย มาตรา 91/10 ใหผ มู หี นา ทเ่ี สยี ภาษยี น่ื แบบแสดงรายการภาษตี ามแบบทอ่ี ธบิ ดกี าํ หนด โดยใหย น่ื เปน รายเดอื นภาษี...... การยน่ื แบบแสดงรายการภาษแี ละการชาํ ระภาษสี ําหรบั เดอื นภาษใี ด ใหย น่ื ภายในวนั ทส่ี บิ หา ของเดอื นถดั ไป 6

หนา้ 224 มาตรา 91/14 ใหผ มู หี นา ทเ่ี สยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ มหี นา ทท่ี าํ รายงานแสดงรายรบั กอ นหกั รายจา ยทต่ี องเสยี ภาษี และรายรบั ทไ่ี ม ตอ งรวมคาํ นวณเพอ่ื เสยี ภาษี มาตรา 91/17 ภาษตี ามหมวดน้ี ถา ในเดอื นภาษใี ดมจี าํ นวนไมถ งึ หนง่ึ รอ ยบาทเปน อนั ไมต อ งเสยี สาํ หรบั เดอื นภาษนี น้ั (มาตรา 91/17 ไมไดกลาวกรณีรวมภาษีทองถิ่น) 4. แบบทไ่ี มใ ชเ กย่ี วกบั ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ก. แบบ ภ.ธ. 01 ข. แบบ ภ.ธ. 02 ค. แบบ ภ.ธ. 03 ง. แบบ ภ.ธ. 04 เฉลย ค. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : ประกาศอธบิ ดฯี เกย่ี วกบั ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ (ฉบบั ท่ี 2) ขอ 1 ใหก าํ หนดแบบดงั ตอ ไปน้ี เปน แบบเกย่ี วกับภาษธี รุ กจิ เฉพาะ (1) แบบ ภ.ธ.01 แบบคาํ ขอจดทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะ (2) แบบ ภ.ธ.02 แบบคาํ ขอยน่ื แบบแสดงรายการภาษธี รุ กจิ เฉพาะรวมกนั (3) แบบ ภ.ธ.04 แบบคาํ ขอรบั ใบแทนใบทะเบยี นภาษธี รุ กิจเฉพาะ (4) แบบ ภ.ธ.09 แบบแจง การเปลย่ี นแปลงทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะ (5) แบบ ภ.ธ.40 แบบแสดงรายการภาษธี ุรกจิ เฉพาะ แบบแสดงรายการตามวรรคหนง่ึ ใหใ ชแ บบแสดงรายการทก่ี รมสรรพากร จดั พมิ พข น้ึ เทา นน้ั เวน แตอ ธบิ ดจี ะสง่ั การ เปนอยางอื่น 5. ขอ ใดกลา วไวถ ูกตอ ง ก. การจดทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะใหย น่ื คาํ ขอจดทะเบยี นฯ ภายในสามสบิ วนั นบั แตว นั เรม่ิ ประกอบกจิ การ ข. ถา ผกู ระทาํ กจิ การมสี ถานประกอบการหลายแหง ใหย น่ื คําขอจดทะเบยี นฯ ณ ทส่ี าํ นกั งานสรรพากรพน้ื ทส่ี าขาทกุ แหง ทม่ี ี สถานประกอบการตั้งอยู ค. กรณผี กู ระทาํ กิจการมสี ถานประกอบการหลายแหง ใหย น่ื แบบแสดงรายการรวมกัน ณ ทส่ี าํ นกั งานใหญ ง. ถูกทุกขอ เฉลย ก. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 91/12 และมาตรา 91/10 มาตรา 91/12 บคุ คลซง่ึ ประกอบกจิ การทอ่ี ยใู นบงั คบั ตอ งเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ตามมาตรา 91/2 โดยกจิ การ นน้ั ไมไ ดร บั ยกเวน ตามมาตรา 91/3 และผปู ระกอบกจิ การไมไ ดร บั ยกเวน การจดทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะตามมาตรา 91/13 ตองจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะโดยใหยน่ื คาํ ขอจดทะเบยี นภาษธี ุรกจิ เฉพาะภายในสามสบิ วนั นบั แตว นั เรม่ิ ประกอบกจิ การ คาํ ขอจดทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะตามวรรคหนง่ึ ใหเ ปน ไปตามแบบทอ่ี ธบิ ดกี าํ หนดและใหย น่ื ณ ทว่ี า การ อําเภอทองที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู ถาผูกระทํากิจการมีสถานประกอบการหลายแหงใหยื่นคําขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ ณ ที่วาการอําเภอ ทองทที่ ี่สถานประกอบการที่เปน สํานักงานใหญตง้ั อยู มาตรา 91/10 ใหผ มู หี นา ทเ่ี สยี ภาษยี น่ื แบบแสดงรายการภาษตี ามแบบทอ่ี ธบิ ดกี าํ หนด โดยใหย น่ื เปน รายเดอื น ภาษี พรอ มกบั ชําระภาษี ถา มี ไมว าผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษจี ะมรี ายรบั ในเดอื นภาษหี รอื ไมก ต็ าม ถาผูม หี นาท่ีเสยี ภาษีมีสถานประกอบการหลายแหง การยื่นแบบแสดงรายการภาษแี ละการชําระภาษตี ามวรรค หนง่ึ ใหแ ยกยน่ื เปน รายสถานประกอบการ ทง้ั น้ี เวน แตผ มู หี นา ทเ่ี สยี ภาษจี ะยน่ื คาํ รอ งตอ อธบิ ดขี อยน่ื แบบแสดงรายการภาษี รวมกนั ณ ทว่ี า การอาํ เภอทอ งท่ีแหง ใดแหง หนง่ึ หรอื ณ สถานทท่ี อ่ี ธบิ ดกี าํ หนดตามวรรคสามกไ็ ด และเมอ่ื อธบิ ดพี จิ ารณา เห็นสมควรจะอนุมัติก็ได 7

หนา้ 225 ---------------------------------------- ชดุ ท่ี 9 ขอ สอบ วชิ า ภาษธี รุ กิจเฉพาะ 1. ขอ ใดคอื ความหมายของคาํ วา “ขาย” ตามหลกั เกณฑข องภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ก. หมายความรวมถึงโอนกรรมสทิ ธห์ิ รอื สทิ ธคิ รอบครองในอสงั หารมิ ทรพั ยไ มว า ดว ยวิธใี ด ข. หมายความรวมถึง สง สนิ คาออกนอกราชอาณาจกั ร ค. หมายความรวมถงึ สญั ญาจะขาย ขายฝาก แลกเปลย่ี น ให ใหเ ชา ซอ้ื หรอื จาํ หนา ย จา ย โอน ไมว า จะมปี ระโยชนต อบแทนหรอื ไม ง. หมายความรวมถึง สญั ญาใหเ ชาซอ้ื สินคา สญั ญาซ้ือขายผอ นชาํ ระท่ีกรรมสทิ ธใ์ิ นสินคา ยงั ไมโ อนไปยงั ผซู ้ือเมอ่ื ไดส ง มอบสนิ คา ใหผ ซู อ้ื แลว เฉลย ค. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 91/1 (4) (4) \" ขาย \" หมายความรวมถงึ สญั ญาจะขาย ขายฝาก แลกเปลย่ี น ให ใหเ ชา ซอ้ื หรอื จาํ หนา ยจา ยโอน ไมว า จะมี ประโยชนต อบแทนหรอื ไม 2. SBT คอื ภาษขี อ ใด ก. ภาษเี งินไดบุคคลธรรมดา ข. ภาษีเงินไดนิติบุคคล ค. ภาษีมูลคาเพิ่ม ง. ภาษีธุรกิจเฉพาะ เฉลย ง. ถกู ตอ งแลว อางอิง : ประมวลรัษฎากรฉบับภาษาอังกฤษ ภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดา( Personal Income Tax ) ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คล( Corporate Income Tax ) ภาษมี ลู คา เพ่ิม( Value Added Tax ) ภาษีธุรกิจเฉพาะ( Specific Business Tax ) 3. การประกอบกิจการใดดังตอไปนี้ ไมอยูในบังคับตองเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ก. การรับประกันชีวิตตามกฎหมายวาดวยการประกันชีวิต ข. การรับจํานําตามกฎหมายวาดวยโรงรับจํานํา ค. กจิ การของบรรษทั เงนิ ทนุ อตุ สาหกรรมแหง ประเทศไทย ง. การขายหลักทรัพยต ามกฎหมายวาดวยตลาดหลักทรัพยแ หงประเทศไทย เฉลย ค. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 91/3 มาตรา 91/3 ใหย กเวน ภาษธี รุ กจิ เฉพาะสําหรบั กจิ การดงั ตอ ไปน้ี (1) กิจการของธนาคารแหง ประเทศไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห และธนาคารเพื่อ การเกษตรและสหกรณการเกษตร (2) กจิ การของบรรษทั เงินทนุ อุตสาหกรรมแหง ประเทศไทย (3) กจิ การของสหกรณออมทรพั ย เฉพาะการใหก ยู มื แกส มาชิกหรอื แกส หกรณอ อมทรพั ยอ น่ื (4) กจิ การของกองทนุ สาํ รองเลย้ี งชพี ตามกฎหมายวา ดว ยกองทนุ สาํ รองเล (5) กิจการของการเคหะแหงชาติ เฉพาะการขายหรือใหเชาซื้ออสังหาริมทรัพย (6) กิจการรับจํานําของกระทรวง ทบวง กรม และราชการสวนทองถิ่น (7) กิจการอื่นตามมาตรา 91/2 ตามทกี่ ําหนดโดยพระราชกฤษฎีกา 4. ขอใดตอไปนี้ ไมตองจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ 8

หนา้ 226 ก. นายเอกขายบา นพรอ มทด่ี นิ จาํ นวน 1 หลงั ข. บริษัท ร่ํารวย จํากัด สรางหมูบานจัดสรรขาย ค. ธนาคาร ประกอบกจิ การใหก ยู มื เงิน ง. โรงรับจํานําใหบริการรับจํานํา เฉลย ก. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 91/2 มาตรา 91/2 ภายใตบ งั คบั มาตรา 91/4 การประกอบกจิ การดงั ตอ ไปนใ้ี นราชอาณาจกั ร ใหอ ยใู นบงั คบั ตอ งเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะตามบทบัญญัติในหมวดนี้ (1) การธนาคาร ตามกฎหมายวาดว ยการธนาคารพาณชิ ยห รือกฎหมายเฉพาะ (2) การประกอบธรุ กิจเงนิ ทนุ ธรุ กจิ หลกั ทรพั ย ธรุ กจิ เครดติ ฟองซเิ อร ตามกฎหมายวา ดว ยการประกอบธรุ กจิ เงนิ ทนุ ธรุ กจิ หลกั ทรพั ย และธรุ กจิ เครดติ ฟองซเิ อร (3) การรบั ประกนั ชวี ติ ตามกฎหมายวา ดว ยการประกนั ชวี ติ (4) การรับจํานําตามกฎหมายวาดวยโรงรับจํานํา (5) การประกอบกจิ การโดยปกตเิ ยย่ี งธนาคารพาณชิ ย เชน การใหก ยู มื เงนิ คาํ้ ประกนั แลกเปลย่ี นเงนิ ตรา ออก ซอ้ื หรอื ขายตว๋ั เงนิ หรอื รบั สง เงนิ ไปตา งประเทศดว ยวธิ ตี า ง ๆ (6) การขายอสงั หารมิ ทรพั ยเ ปน ทางคา หรอื หากาํ ไร ไมว าอสงั หาริมทรพั ยน น้ั จะไดม าโดยวธิ ใี ดกต็ าม ทง้ั น้ี เฉพาะทเ่ี ปน ไป ตามหลกั เกณฑ วธิ ีการ และเงอ่ื นไขตามทก่ี าํ หนดโดยพระราชกฤษฎกี า (7) การขายหลักทรัพยตามกฎหมายวาดวยตลาดหลักทรัพยแหงประเทศไทยในตลาดหลักทรัพย (8) การประกอบกิจการอื่นตามที่กําหนดโดยพระราชกฤษฎีกา 5. การขายอสังหาริมทรัพยตามขอใดไมตองเสยี ภาษีธุรกิจเฉพาะ ก. การขายอสงั หารมิ ทรพั ย ทเ่ี ปน อาคารทส่ี รา งขึ้นเพอ่ื ขาย ข. การขายอสังหาริมทรัพย ที่มีการแบงขาย โดยไดจัดทําถนนหรือสิ่งสาธารณูปโภคอื่น ค. การขายอสังหารมิ ทรพั ยท ไ่ี ดม าโดยทางมรดก ง. การขายหองชุดของผูประกอบการซึ่งเปนผูขอจดทะเบียนอาคารชุดตามกฎหมายวาดวย อาคารชดุ เฉลย ค. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : คาํ สง่ั กรมสรรพากรท่ี ป.82/2542 ขอ 4 (2) ขอ 4 การขายอสงั หารมิ ทรพั ยท ไ่ี มเ ขาลกั ษณะเปน การขายอสงั หารมิ ทรพั ย ตามขอ 3(1)(2)(3)(4) หรอื (5) และ เฉพาะกรณที เ่ี ขา ลกั ษณะดงั ตอ ไปน้ี ไมต อ งเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ (1) การขายหรือการถกู เวนคนื ตามกฎหมายวา ดว ยการเวนคนื อสงั หารมิ ทรพั ย (2) การขายอสังหารมิ ทรพั ยท ไ่ี ดม าโดยทางมรดก ------------------------------------------ ชดุ ท่ี 10 ขอ สอบ วชิ า ภาษธี รุ กิจเฉพาะ 1.การขอคนื ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ตอ งยน่ื คาํ รองขอคนื ภายในกว่ี นั ก. ภายใน 1 ป ข. ภายใน 3 ป ค. ภายใน 5 ป ง. ภายใน 10 ป เฉลย ข. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 91/11 มาตรา 91/11 การขอคนื ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ใหก ระทาํ ไดต ามเงอ่ื นไขดงั ตอ ไปน้ี (1) ใหผ มู หี นา ทเ่ี สยี ภาษมี สี ทิ ธยิ น่ื คาํ รอ งขอคนื ภาษี ภายในสามปนบั แตว นั พนกาํ หนดเวลายน่ื แบบแสดงรายการภาษี (2) คาํ รอ งขอคนื ภาษใี หเ ปน ไปตามแบบทอ่ี ธบิ ดกี าํ หนด และใหย น่ื ณ ทว่ี า การอาํ เภอทอ งท่ีทส่ี ถานประกอบการตง้ั อยู เวน 9

หนา้ 227 แตใ นกรณที ผ่ี มู หี นา ทเ่ี สยี ภาษไี ดร บั อนมุ ตั จิ ากอธบิ ดใี หย น่ื แบบแสดงรายการภาษีรวมกนั ณ ทว่ี า การอาํ เภอทอ งทแ่ี หง ใดแหง หนง่ึ หรอื ณ สถานทอ่ี น่ื ตามมาตรา 91/10 วรรคส่ี ก็ใหย น่ื คาํ รอ งขอคนื ภาษี ณ ทแ่ี หง นน้ั 2.การยื่นคําขอยื่นแบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะรวมกัน ใชแบบแสดงรายการใด ก. แบบ ภ.ธ.01 ข. แบบ ภ.ธ.02 ค. แบบ ภ.ธ.09 ง. แบบ ภ.ธ.40 เฉลย ข. ถกู ตอ งแลว อางอิง : ประกาศอธบิ ดฯี เกย่ี วกบั ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ (ฉบบั ท่ี 2) ขอ 1 ใหก าํ หนดแบบดงั ตอ ไปน้ี เปน แบบเกย่ี วกับภาษธี รุ กจิ เฉพาะ (1) แบบ ภ.ธ.01 แบบคาํ ขอจดทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะ (2) แบบ ภ.ธ.02 แบบคําขอยื่นแบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะรวมกัน (3) แบบ ภ.ธ.04 แบบคาํ ขอรบั ใบแทนใบทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะ (4) แบบ ภ.ธ.09 แบบแจง การเปลย่ี นแปลงทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะ (5) แบบ ภ.ธ.40 แบบแสดงรายการภาษธี รุ กจิ เฉพาะ แบบแสดงรายการตามวรรคหนง่ึ ใหใ ชแ บบแสดงรายการทก่ี รมสรรพากร จดั พมิ พข น้ึ เทา นน้ั เวน แตอ ธบิ ดจี ะสง่ั การเปน อยา งอน่ื 3.กรณไี มต อ งเสยี ภาษีธรุ กจิ เฉพาะในเดือนภาษใี ด ถา มจี ํานวนภาษที ต่ี อ งเสยี เปน จาํ นวนเทา ใด ก. ไมถงึ 1 บาท ข. ไมถงึ 5 บาท ค. ไมถ งึ 10 บาท ง. ไมถ งึ 100 บาท เฉพาะ ง. ถกู ตอ งแลว อางอิง : มาตรา 91/17 มาตรา 91/17 ภาษีตามหมวดนี้ ถาในเดือนภาษีใดมีจาํ นวนไมถ งึ หนง่ึ รอ ยบาทเปนอันไมตองเสียสาํ หรับเดอื นภาษีนน้ั 4.กจิ การในขอ ใดไมต อ งเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ก. ธนาคารพาณิชยไทย ข. บรษิ ทั เงนิ ทุนไทย ค. บรษิ ัทประกนั ภัยไทย ง. บรรษทั เงนิ ทนุ อตุ สาหกรรมแหง ประเทศไทย เฉพาะ ง. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 91/3 (2) มาตรา 91/3 ใหย กเวน ภาษธี รุ กจิ เฉพาะสําหรบั กจิ การดงั ตอ ไปน้ี (1) กจิ การของธนาคารแหง ประเทศไทย ธนาคารออมสนิ ธนาคารอาคารสงเคราะห และธนาคารเพอ่ื การเกษตรและ สหกรณการเกษตร (2) กจิ การของบรรษทั เงินทนุ อุตสาหกรรมแหง ประเทศไทย (3) กจิ การของสหกรณอ อมทรพั ย เฉพาะการใหก ยู มื แกส มาชกิ หรอื แกส หกรณอ อมทรพั ยอ น่ื (4) กจิ การของกองทนุ สาํ รองเลย้ี งชพี ตามกฎหมายวา ดว ยกองทนุ สาํ รองเล้ียงชพี (5) กจิ การของการเคหะแหง ชาติ เฉพาะการขายหรอื ใหเ ชา ซอ้ื อสงั หาริมทรพั ย (6) กจิ การรบั จาํ นาํ ของกระทรวง ทบวง กรม และราชการสว นทอ งถน่ิ (7) กจิ การอน่ื ตามมาตรา 91/2 ตามทก่ี าํ หนดโดยพระราชกฤษฎกี า 5. อัตราภาษีธุรกิจเฉพาะในขอใดไมถูกตอง 10

หนา้ 228 ก. รอยละ 0.1 ข. รอ ยละ 2 ค. รอยละ 2.5 ง. รอยละ 3 เฉลย ข. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 91/6 มาตรา 91/6 อตั ราภาษีธุรกจิ เฉพาะมีดงั ตอ ไปน้ี (1) รอ ยละ 0.1 สาํ หรบั รายรบั ตามมาตรา 91/5 (7) (2) รอ ยละ 2.5 สาํ หรบั รายรบั ตามมาตรา 91/5 (3) (ก) และมาตรา 91/5 (4) (3) รอ ยละ 3.0 สาํ หรบั รายรบั ตามมาตรา 91/5 นอกจากกรณตี าม (1) และ (2) ---------------------------------- ชดุ ท่ี 11 ขอ สอบ วชิ า ภาษธี รุ กิจเฉพาะ 1. ผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะในขอใดไมต อ งจดทะเบยี นภาษธี รุ กิจเฉพาะ ก. บริษัทหลักทรัพยไทย ข. บริษัทเครดิตฟองซิเอร ค. นิติบุคคลอาคารชุด ง. นติ บิ คุ คลทข่ี ายอาคารทใ่ี ชเ ปน สาํ นกั งาน เฉลย ง. ถกู ตอ งแลว 2. ดอกเบี้ยรับในขอใดตองเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ก. ดอกเบย้ี รบั ทไ่ี ดจ ากการใหก ยู มื เงินของบรษิ ทั ในเครอื เดยี วกัน ข. ดอกเบย้ี รบั ทไ่ี ดจ ากการนาํ เงินไปฝากธนาคาร ค. ดอกเบย้ี รบั ทไ่ี ดจ ากการใหก รรมการกยู มื ง. ดอกเบี้ยรับที่สหกรณออมทรัพยไดรับจากสมาชิกสหกรณ เฉลย ค. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 91/3 (3) และคาํ สง่ั กรมสรรพากรท่ี ป.26/2534 ขอ 2 และ ขอ 3 · มาตรา 91/3 ใหย กเวน ภาษธี รุ กจิ เฉพาะสาํ หรบั กจิ การดงั ตอไปน้ี (3) กจิ การของสหกรณออมทรพั ย เฉพาะการใหกยู มื แกส มาชกิ หรอื แกส หกรณอ อมทรพั ยอ น่ื · ป.26/2534 ขอ 2 กรณบี รษิ ทั ในเครอื เดยี วกนั ใหก ยู ืมเงนิ กนั เอง ไมว า จะนาํ เงนิ ของตนหรอื นาํ เงินทก่ี ยู มื จากบคุ คลอน่ื มา ใหกูยืมในระหวางกันเอง และไมวาจะคิดดอกเบี้ยในอัตราเทาใดก็ตาม ดอกเบี้ยที่เกดิ ขึ้นจากการกูยืมเงินในกรณีเชนนี้ ไมตอง นํามารวมคํานวณเปนรายรับเพื่อเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ขอ 3 กรณที บ่ี รษิ ทั หรอื หางหนุ สว นนติ บิ คุ คลนาํ เงนิ ทุน เงนิ กยู ืม เงนิ เพม่ิ ทนุ หรอื เงนิ อ่ืนทเ่ี หลอื อยไู ปฝาก ธนาคารหรือซื้อตั๋วเงินของสถาบันการเงินอื่น โดยไดรับดอกเบี้ยตามอัตราปกติ กรณีเชนนี้ไมถือวาดอกเบี้ยนั้นเปนรายรับที่ตองเสียภาษี ธุรกิจเฉพาะ แมวาบริษัทหรือหางหุนสวนนิติบุคคลนั้นจะประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชยก็ตาม 3. การขอคืนภาษีธุรกิจเฉพาะตองยื่นคํารองภายในระยะเวลาเทาใด ก. 3 ปนับแตวันพน กําหนดเวลายื่นแบบ ข. 3 ปนับแตวันสุดทายแหงปที่ยื่นแบบ ค. 6 เดอื นนบั แตวันพนกาํ หนดเวลาย่นื แบบ ง. 6 เดอื นนบั แตว นั สดุ ทา ยแหง ปท ย่ี น่ื แบบ เฉลย ก. ถกู ตอ งแลว อางอิง : มาตรา 91/11 มาตรา 91/11 การขอคนื ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ใหก ระทาํ ไดต ามเงอ่ื นไขดงั ตอ ไปน้ี (1) ใหผ มู หี นา ทเ่ี สยี ภาษมี สี ทิ ธยิ ่ืนคาํ รอ งขอคนื ภาษี ภายในสามปน บั แตว นั พน กาํ หนดเวลายน่ื แบบแสดงรายการภาษี (2) คํารองขอคืนภาษีใหเปนไปตามแบบที่อธิบดีกําหนด และใหยื่น ณ ที่วาการอําเภอทองที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู เวนแต 11

หน้า 229 ในกรณที ผ่ี มู หี นา ทเ่ี สยี ภาษไี ดร บั อนมุ ตั จิ ากอธบิ ดใี หย น่ื แบบแสดงรายการภาษรี วมกนั ณ ทว่ี า การอาํ เภอทอ งทแ่ี หง ใดแหง หนง่ึ หรือ ณ สถานทอ่ี น่ื ตามมาตรา 91/10 วรรคส่ี กใ็ หย น่ื คาํ รองขอคนื ภาษี ณ ทแ่ี หง นน้ั 4.การขายหลักทรัพยใครเปนผูยื่นแบบเพื่อชําระภาษีธุรกิจเฉพาะ ก. ตลาดหลักทรัพยแหงประเทศไทย ข. สมาชกิ ทเ่ี ปน ตวั แทนของผขู ายหลกั ทรพั ย ค. ผูขายหลักทรัพย ง. ผูซื้อหลักทรัพย เฉลย ข. ถกู ตอ งแลว อางองิ : มาตรา 91/9 มาตรา 91/9 ในกรณีกิจการขายหลักทรัพยตามมาตรา 91/2 (7) ใหส มาชกิ ทเ่ี ปน ตวั แทนของผขู ายหักภาษีธรุ กจิ เฉพาะ จากเงินทข่ี าย และยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชําระภาษีตามมาตรา 91/10 แทนผูขายในนามของตนเอง โดยผูขายไมตองยื่นแบบ แสดงรายการภาษอี กี และใหถ อื วา สมาชิกเปน ผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษธี รุ กิจเฉพาะในกรณีนด้ี ว ย 5. อาํ นาจเจา พนกั งานประเมนิ ในหมวด 4 มาตราใดไมถ กู นาํ มาใชใ นภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ก. มาตรา 88/3 ข. มาตรา 88/4 ค. มาตรา 88/5 ง. มาตรา 88/6 เฉลย ง. ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 91/21 (5) มาตรา 91/21 ใหน ําบทบัญญตั ใิ นหมวด 4 ดงั ตอไปน้ี มาใชบังคบั โดยอนุโลม (5) สว น 12 อาํ นาจเจาพนกั งานประเมนิ มาตรา 88/3 มาตรา 88/4 และมาตรา 88/5 ------------------------------------------ 12

หน้า 230 จติ อาสาปน โตภาษี กลมุ 2 ขอ สอบขอ ท่ี 47 - 93 ตวั อยา งขอทดสอบระดบั 8 47. ขอ ใดตอ ไปน้ี เปน คาํ รอ งขอคนื ภาษี (1) แบบ ภ.ง.ด. 50 *** (2) แบบ ภ.ง.ด. 55 (3) แบบ ภ.ง.ด. 52 (4) แบบ ภ.ง.ด. 53 เฉลย (1) ถกู ตอ งแลว 48. กําไรสุทธิของสํานักงานปฏิบัติการภูมิภาค สําหรับรายไดตอไปนี้ไมไดรับการลดอัตราภาษีเงินไดนิติบุคคลลงเหลือรอยละ 10 ของกําไรสุทธิ (1) รายไดจากการขายสินคาของสํานักงานปฏิบัติการภูมิภาค แกวิสาหกิจในเครือ หรือสาขาตางประเทศ ของสํานักงาน ปฏบิ ตั กิ ารภมู ภิ าค *** (2) รายไดจากการใหบริการของสํานักงานปฏิบัติการภูมิภาค แกวิสาหกิจในเครือ หรือ สาขาตางประเทศของสํานักงานปฏิบัติการ ภูมิภาค (3) คา สิทธิ์ที่ไดร บั จากวิสาหกิจในเครอื หรอื สาขาตางประเทศของสํานักงานปฏิบัติการภูมิภาค หรือจากบริษัท หรือ หางหุนสวนนิติ บุคคลที่เกี่ยวของ ทั้งนี้เฉพาะคาสิทธิท่เี กิดจากผลการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีของสํานักงานปฏิบัติการภูมิภาคที่กระทําขึ้นในประเทศไทย (4) ดอกเบี้ยที่ไดร บั จากวิสาหกิจในเครือ หรือสาขาตางประเทศของสํานักงานปฏิบัติการภูมิภาค ท้ังนี้เฉพาะดอกเบ้ียจากเงินกูยืมที่ สาํ นกั งานปฏบิ ตั กิ ารภมู ภิ าคไดก มู าเพอ่ื ใหก ยู มื ตอ เฉลย (1) ถกู ตอ งแลว อางองิ : พระราชกฤษฎกี า (ฉบบั ท่ี 508) พ.ศ. 2553

หน้า 231 49. นติ บิ คุ คลตอ ไปน้ี ไมม หี นา ทย่ี น่ื แบบ ภ.ง.ด. 51 (1) บริษัท จดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย (2) บริษัท ที่ไดรับการสงเสริมการลงทุน (3) มูลนิธิ *** (4) หา งหนุ สว นจาํ กดั เฉลย (3) ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 67 ทวิ แหง ประมวลรษั ฎากร เนอ่ื งจาก นติ บิ คุ คลทม่ี หี นา ทย่ี น่ื แบบ ภ.ง.ด.51 ตอ งเปน นติ บิ คุ คล ทเ่ี สยี ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลจากฐานกาํ ไรสทุ ธิ แตม ลู นธิ ิ เสยี ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลจากฐานรายรบั กอ นหกั รายจา ย 50. ระเบียบวาดวย การตรวจราชการสรรพากร พ.ศ. 2542 เปนไปตามระเบียบใด (1) ระเบยี บสาํ นกั นายกรฐั มนตรี (2) ระเบียบกระทรวงการคลัง *** (3) ระเบียบกรมสรรพากร (4) ระเบียบกรมบัญชีกลาง เดมิ เฉลย (2) ทถ่ี กู ตอบ (1) อา งองิ : ระเบยี บกรมสรรพากร วา ดวยการตรวจราชการ พ.ศ. 2552 เนอ่ื งจากระเบียบ วา ดว ย การตรวจ ราชการสรรพากรฉบบั กอ นๆ ถกู ยกเลกิ โดย ระเบยี บกรมสรรพากร วา ดว ยการตรวจราชการ พ.ศ. 2552 51. ขอใดตอไปนี้ ไมใชหลักการของหลักธรรมาภิบาล (1) หลกั นติ ริ ฐั *** (2) หลักคุณธรรม (3) หลักความโปรงใส (4) หลักความรับผดิ ชอบ เฉลย (1) ถกู ตอ งแลว

หน้า 232 52.ขอ ใดตอไปน้ี เปน คํากลา วทไ่ี มถ กู ตอง (1) KPI คือ ระบบการวดั ผลสําเร็จของงาน โดยเนนการสรางตัวชี้วัดเพื่อเปนดัชนใี นการวัดความสําเร็จในการปฏิบัติงาน (2) Q.CC หมายถงึ การใหพ นกั งานมารวมกลมุ กนั เอง เพอ่ื มาชว ยกนั คดิ วเิ คราะห หาทางแกไ ขปญหาการทาํ งาน (3) ไคเซ็น เปน เทคนิคในการบริหารที่มุงการเนนประสิทธิภาพในการทํางานอยางสม่ําเสมอ (4) ISO หมายถงึ ระบบคณุ ลกั ษณะทม่ี กี ารกาํ หนดขอ กาํ หนดใหเ ปน มาตรฐานในกระบวนการทาํ งานขององคก าร *** เฉลย (4) ถกู ตอ งแลว 53.แผนพัฒนาเศรษฐกิจแหงชาติฉบับที่ 9 จัดเปนแบบชนิดใด (1) แผนระยะยาว *** (2) แผนระยะกลาง (3) แผนระยะสั้น (4) แผนก่งึ ระยะยาว และระยะกลาง เฉลย (1) ถกู ตอ งแลว อา งองิ : เทยี บเคยี งกบั แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง ชาติ ฉบบั ท่ี 12

หน้า 233 54.แผนพัฒนาเศรษฐกิจแหงชาติฉบับที่ 9 ใชในชวงเวลาเทาใด (1) พ.ศ. 2544 – 2548 (2) พ.ศ. 2543 – 2547 (3) พ.ศ. 2542 – 2546 (4) พ.ศ. 2545 – 2549 *** ขอ นล้ี า สมยั แลว ปจ จบุ นั เปน แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง ชาติฉบบั ท่ี 12 ใชใ นชว งเวลา พ.ศ. 2560 – 2564 55. ขอ ใดตอ ไปนท้ี ม่ี ใิ ชค ณุ สมบตั ขิ องสมบตั ขิ องสาํ นกั งานบญั ชตี วั แทน (TAX AGENT) (1) ตอ งมปี ระสบการณใ นดา นการทาํ บญั ชเี ปน เวลาไมน อ ยกวา 5 ป และเปน สาํ นกั งานบญั ชตี วั แทนของผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษไี มน อ ย กวา 50 ราย ณ วนั ทข่ี ออนญุ าต (2) เปนผูทําบัญชีตามคุณสมบัติและเงื่อนไขของการเปนผูทําบัญชีตามมาตรา 7(6) แหง พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543 หรือผานการ อบรมทางดานกฎหมายภาษีอากรตามหลักสูตรที่อธิบดีกําหนด *** (3) ตองยื่นแบบแสดงรายการภาษีในนามของผูมีหนาที่เสียภาษีผานระบบเครือขายอินเทอรเน็ตทางเว็บไซดของกรมสรรพากร (4) ผิดทุกขอ เดมิ เฉลย (2) ทถ่ี กู ตอบ (1) อางอิง : ประกาศกรมฯ เรอ่ื ง กาํ หนดคณุ สมบตั ิ การขออนุญาต การออกใบอนญุ าต การตออายใุ บอนญุ าต และการขอออกใบแทนใบอนญุ าตเปน สํานกั งานบัญชีตวั แทนยน่ื แบบแสดงรายการภาษแี ละชาํ ระภาษีหรอื ดาํ เนนิ การอืน่ ใดตามท่อี ธบิ ดี กรมสรรพากรกาํ หนดในนามของผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษผี านระบบเครอื ขา ยอนิ เทอรเ นต็ ทางเวบ็ ไซต (Web Site) ของกรมสรรพากร htt://www.rd.go.th แกไ ขเพม่ิ เตมิ โดยประกาศกรมสรรพากร ลงวนั ท่ี 20 เมษายน 2552 ใชบ งั คบั ตง้ั แตว นั ท่ี 1 เมษายน 2552 เปน ตน ไป ดงั น้ี กรณเี ปน บคุ คลธรรมดา 1. เปน ผทู าํ บญั ชตี ามคณุ สมบตั แิ ละเง่ือนไขของการเปน ผทู าํ บญั ชตี ามพระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543 และผา นการอบรม ทางดานกฎหมายภาษีอากรตามหลักสูตรที่อธิบดีกรมสรรพากรกําหนด 2. มปี ระสบการณใ นดา นการทาํ บญั ชเี ปน เวลาไมนอ ยกวา 5 ป และเปน สาํ นกั งานบญั ชตี วั แทนของผมู ีหนา ทเ่ี สยี ภาษไี ม นอ ยกวา 30 ราย ณ วนั ทข่ี ออนญุ าตเปน สาํ นกั งานบญั ชีตวั แทน 3. ตอ งทาํ บญั ชใี หแ กผ มู หี นา ทเ่ี สยี ภาษแี ละย่ืนแบบแสดงรายการภาษใี นนามของผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษี โดยมไิ ดด าํ เนนิ การ ตรวจสอบและรบั รองบญั ชใี หแ กผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษใี นขณะทด่ี าํ เนนิ การเปน สาํ นกั งานบญั ชตี วั แทน 4. ไมเ ปน สาํ นักงานบญั ชตี วั แทนยน่ื แบบแสดงรายการภาษผี า นระบบเครอื ขา ยอนิ เทอรเ นต็ ทางเวบ็ ไซต (Web Site) ของ กรมสรรพากร www.rd.go.th ทอ่ี ยรู ะหวา งถกู สง่ั พกั หรอื ถกู เพกิ ถอน 5. มปี ระวตั กิ ารเสยี ภาษที ด่ี ี มกี ารเสยี ภาษสี อดคลอ งกบั สภาพความเปนจรงิ ของกิจการ และไมม พี ฤตกิ ารณห ลีกเลย่ี งภาษใี หน าํ

หนา้ 234 ความในขอ 1 - 4 มาใชบังคับกรณีสํานักงานบัญชีตัวแทนเปน คณะบุคคลที่มิใชนิติบุคคล หางหุนสว นสามัญ กองทุน มูลนิธิที่มิใชนิติบุคคล หนวยงานหรือกิจการของเอกชน ที่กระทําโดยบุคคลธรรมดาตั้งแต 2 คนขึ้นไปอันมิใชนิติบุคคลดวย กรณีเปนบรษิ ัทหรือหางหุนสว นนติ ิบุคคลทต่ี ้งั ขึ้นตามกฎหมายไทย 1. เปน ผทู าํ บญั ชตี ามคณุ สมบตั แิ ละเง่ือนไขของการเปน ผทู าํ บญั ชตี ามพระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543 และผา นการอบรม ทางดานกฎหมายภาษีอากรตามหลักสูตรที่อธิบดีกรมสรรพากรกําหนด 2. มปี ระสบการณใ นดา นการทาํ บญั ชีเปน เวลาไมนอ ยกวา 5 ป และเปน สาํ นกั งานบญั ชตี วั แทนของผมู ีหนา ทเ่ี สยี ภาษไี ม นอ ยกวา 30 ราย ณ วนั ทข่ี ออนญุ าตเปน สาํ นกั งานบญั ชีตวั แทน 3. ตอ งทาํ บญั ชใี หแ กผ มู หี นา ทเ่ี สยี ภาษแี ละย่ืนแบบแสดงรายการภาษใี นนามของผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษี โดยมไิ ดด าํ เนนิ การ ตรวจสอบและรบั รองบญั ชใี หแ กผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษใี นขณะทด่ี าํ เนนิ การเปน สาํ นกั งานบญั ชตี วั แทน 4. มที รพั ยส นิ สทุ ธมิ ากกวา หนส้ี ินสทุ ธสิ าํ หรบั รอบระยะเวลาบญั ชปี ส ดุ ทา ยกอ นยน่ื คําขอเปน สาํ นกั งานบญั ชตี วั แทน 5. ไมเ ปน สาํ นักงานบญั ชตี วั แทนยน่ื แบบแสดงรายการภาษผี า นระบบเครอื ขา ยอนิ เทอรเ นต็ ทางเวบ็ ไซต (Web Site) ของ กรมสรรพากร http://www.rd.go.th ท่ีอยูร ะหวา งถูกส่ังพักหรอื ถูกเพกิ ถอน 6. มปี ระวตั กิ ารเสยี ภาษที ด่ี ี มกี ารเสยี ภาษสี อดคลอ งกบั สภาพความเปนจรงิ ของกิจการ และไมม พี ฤตกิ ารณห ลีกเลย่ี งภาษี 56. รูปแบบของขอมูลอิเล็กทรอนิกส (1) จดหมายอเิ ล็กทรอนกิ ส (2) โทรสาร (3) วธิ กี ารแลกเปลย่ี นขอมลู ทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส (4) ถูกทกุ ขอ *** เฉลย (4) ถกู ตอ งแลว อา งองิ : คาํ สง่ั กรมสรรพากรท่ี ป.121/2545 เรอ่ื ง การจดั ทาํ และการจดั เกบ็ เอกสารหลกั ฐานตามประมวล รษั ฎากร ทม่ี ขี อ ความอยใู นรปู แบบของขอ มลู อเิ ลก็ ทรอนกิ ส 57. การติดตามและพิจารณาความเหมาะสมในการชําระภาษีของผูประกอบการในการกํากับดูแลบนระบบเครือขาย ใชฐานขอมูลการชําระภาษี ดงั น้ี (1) ขอ มลู ภ.พ.30, ภ.ง.ด.50, ภ.ง.ด.51, ภ.ง.ด.53, ภ.ง.ด.3, ภ.ง.ด.90, ภ.ง.ด.94 *** (2) ขอ มลู ภ.ง.ด.50, ภ.ง.ด.51, ภ.ง.ด.53, ภ.ง.ด.1, ภ.ง.ด.3, ภ.ง.ด.90, ภ.ง.ด.94 (3) ขอ มลู ภ.ง.ด.50, ภ.ง.ด.51, ภ.ง.ด.53, ภ.ง.ด.3, ภ.ง.ด.90, ภ.ง.ด.91, ภ.ง.ด.94 (4) ขอ มลู ภ.พ.30, ภ.ง.ด.53, ภ.ง.ด.90, ภ.ง.ด.94 ขอ นล้ี า สมยั แลว เนอ่ื งจาก ปจ จบุ นั ใชร ะบบแนะนาํ ควบคมุ และตดิ ตามผปู ระกอบการ ตามแนวปฏบิ ตั กิ รมสรรพากร ที่ มก.74/2560 แกไ ขเพม่ิ เตมิ โดย แนวปฏบิ ตั กิ รมสรรพากรท่ี มก.85/2561

หนา้ 235 58. ขอใดตอไปนี้จัดเปนกลยุทธการบริหารจัดเกบ็ ภาษีดานการใหบริการ (1) กลยทุ ธใ หค วามสาํ คญั กบั หนว ยงานเกบ็ ภาษขี นาดใหญ (2) กลยุทธการคืนภาษีมูลคาเพิ่มใหถูกตองและรวดเร็ว *** (3) กลยุทธการควบคุมและติดตามการยื่นชําระภาษีจากการหักภาษี ณ ที่จา ย (4) ถูกทุกขอ ขอ นล้ี า สมยั แลว 59. ตัวบงช้ตี องปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารการจัดเก็บภาษีอากร (1) คณุ ภาพการบริการและภาพลกั ษณใ นสายตาประชาชน (2) ปญหาความลาชาในการคืนภาษีมูลคาเพิ่ม (3) ปญ หาการทจุ ริตในการใชใ บกาํ กบั ภาษี (4) ถูกทกุ ขอ *** ขอ นล้ี า สมยั แลว 60. ตัวชี้วัดผลการดําเนินงานหลัก (Key Performance Indicators-KPIs) แสดงถึง ภารกิจที่องคกรจะตองปฏิบัติบนพื้นฐานของเปาหมายที่ได ตั้งไวและจะตองสามารถวัดไว และตองอธิบายผลไดอยางชัดเจน ขอใดตอไปนี้มิใชตัวชี้วัด (1) ความประหยดั (Economy) (2) ความตรงตอเวลา (Timeliness) (3) การปฏิบัติตามกฎหมาย (Compliance) (4) ถูกทกุ ขอ *** ขอ นล้ี า สมยั แลว 61. ขอ ความตอ ไปน้ี ขอ ใดถกู ตอ งตามแนวปฏบิ ตั กิ ารขอเอกสารหลักฐานผเู สยี ภาษี (1) ขอมูลสวนที่ตองรวบรวมเปนตัวเลขเพื่อหายอดรวมเปนรายเดือนหรือรายปใหเจาหนาที่ ขอใหผูเสียภาษีจัดทําในกระดาษทําการ เพื่อนําไปประกอบสํานวน (2) ขอ มลู เพ่ือพจิ ารณาประเดน็ ขอมลู กฎหมายเปน สญั ญาตา งๆ ใหผ เู สยี ภาษถี า ยเอกสารสง มอบใหท ง้ั หมด (3) ขอมูลภายในกรมสรรพากร หามมิใหขอขอมูลดังกลาวจากผูเสียภาษีเวนแตไมพบขอมูลในระบบเครือขายรัษฎากร *** (4) ถกู ทง้ั ขอ (2) และ ขอ (3) ขอ นล้ี า สมยั แลว 62. ลักษณะของกิจการขายสินคาหรือใหบริการรายยอย (1) ผูประกอบการที่มีสถานประกอบการเปนรถเข็น *** (2) ผูประกอบการท่ีมสี ถานประกอบการอยูใ นพืน้ ท่ที ่ีมีความหนาแนน สูง (3) ผูประกอบการที่ไมเคยมีรายรับในเดือนใดถึง 100,000 บาท (4) ถกู ทง้ั ขอ (1) และ ขอ (3) เดมิ เฉลย (1) ทถ่ี กู ตอบ (4) อา งองิ : ประกาศอธบิ ดฯี เกย่ี วกบั ภาษมี ลู คา เพ่ิม (ฉบบั ท่ี 154)

หนา้ 236 63. ขอ ใดมใิ ช ขอกาํ หนดในการตรวจสภาพกจิ การ (1) ตองออกตรวจสภาพกิจการผูประกอบการแตละรายอยางนอยปละ 1 ครั้ง (2) การออกตรวจสภาพกิจการ ณ สถานประกอบการตองดําเนินการใหไดอยางนอย 1 สถานประกอบการ/วัน/ทีมยอย *** (3) ตองมกี ารวางแผนการออกตรวจสภาพ (4) ถูกทุกขอ ขอ นล้ี า สมยั แลว เนอ่ื งจาก ปจ จบุ นั ใชร ะบบแนะนาํ ควบคมุ และตดิ ตามผปู ระกอบการ ตามแนวปฏบิ ตั กิ รมสรรพากร ที่ มก.74/2560 แกไ ขเพม่ิ เตมิ โดย แนวปฏบิ ตั กิ รมสรรพากรท่ี มก.85/2561 64. ระบบงานใดตอไปนี้ ไมใ ชระบบงานที่อยูบนเครือขาย Internet (1) ระบบขอมูลบัญชีเงินฝากของผูคางภาษีอากร (2) ระบบจองใชย านพาหนะ (3) ระบบทะเบียนทรัพยสิน (4) ระบบงานรายงานการตรวจสอบภายใน *** เฉลย (4) ถกู ตอ งแลว แตนาจะเปนระบบงาน บนเครือขาย Intranet

หน้า 237 65. ขอใดตอไปนี้ไมถูกตอง (1) พฒั นาศกั ยภาพของผเู สยี ภาษใี หม ปี ระสทิ ธภิ าพ เพอ่ื เสียภาษดี ว ยความสมคั รใจ *** (2) การพัฒนาใหกรมสรรพากรเปน e-Revenue (3) พัฒนาศกั ยภาพบคุ ลากรใหม ปี ระสทิ ธภิ าพ (4) กํากับดูแลผูเสียภาษี และดึงผูเสียภาษีรายใหมเขาสูระบบ ตอบ (1) ตามเฉลย ไมสามารถหาขออางอิงไดคะ 66. การคืนภาษีมูลคาเพิ่มระบบ Fast Track ขอใดตอไปนี้ถูกตอง (1) ผสู ง ออกทด่ี ี ภายใน 30 วนั กรณยี ่ืนทาง Internet (2) ผสู ง ออกทด่ี ี ภายใน 60 วนั กรณยี ่ืนทางกระดาษ (3) ผสู ง ออกขน้ึ ทะเบยี น ภายใน 30 วนั กรณยี น่ื ทาง Internet *** (4) ผสู ง ออกขน้ึ ทะเบยี น ภายใน 60 วนั กรณยี ่ืนทางกระดาษ เฉลย (3) ถกู ตอ งแลว อา งองิ : คาํ สง่ั กรมสรรพากรท่ี ท.128/2560 เรอ่ื ง หลกั เกณฑก ารจดั ระดับเปน ผปู ระกอบการสง ออกทด่ี แี ละ ผปู ระกอบการสง ออกขน้ึ ทะเบยี น 67. การคนื ภาษขี อใดตอ ไปนถ้ี กู ตอง (1) การคืนภาษีมูลคาเพิ่มเปนเช็ค (2) การคืนภาษีเงินไดนิติบุคคลเปนเช็ค (3) การคนื ภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดาเปน เชค็ *** (4) การคืนภาษีธุรกิจเฉพาะเปนเช็ค เฉลย (3) ถกู ตอ งแลว อา งองิ : แนวปฏบิ ตั กิ รมสรรพากรท่ี มจ.9/2555 เรอ่ื ง วธิ ปี ฏบิ ตั ใิ นการคนื ภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดาเปน เชค็

หนา้ 238 68. ผูตรวจสอบและรับรองบัญชี ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับการตรวจสอบและรับรองบัญชี ฯ หมายถงึ (1) ผสู อบบญั ชรี บั อนญุ าตและผชู วยตรวจสอบ (2) ผูสอบบัญชีรับอนุญาตและผูสอบบัญชีภาษีอากร *** (3) ผสู อบบญั ชภี าษอี ากรและสมหุ บ ญั ชี (4) ผสู อบบญั ชรี บั อนญุ าต และผมู หี นาทจ่ี ดั ทาํ บัญชตี าม พรบ.การบญั ชี พ.ศ.2543 เฉลย (2) ถกู ตอ งแลว อา งองิ : ประกาศอธบิ ดฯี เกย่ี วกบั การตรวจสอบและรบั รองบญั ชี เรอ่ื ง กําหนดระเบยี บเกย่ี วกบั การตรวจสอบ และรบั รองบญั ชมี าตรา 3 สตั ต แหง ประมวลรษั ฎกร

หนา้ 239 69. FAQ หมายถึง (1) คําตอบที่กรมสรรพากรตอบใหผูเสียภาษี (2) คําถามที่ผเู สียภาษีถามเขามาที่กรมสรรพากร (3) คําถามที่กรมสรรพากรตอบใหอยางรวดเร็ว (4) คาํ ถาม คาํ ตอบทีม่ ผี เู สียภาษถี ามเขามาบอ ย *** เฉลย (4) ถกู ตอ งแลว 70. ผูสอบบัญชีภาษีอากรสามารถรับรองงบการเงินของนิติบุคคลในขอใด (1) หางหุน สวนจดทะเบยี นท่มี ีทนุ ไมเกนิ 5 ลา นบาท หรอื สินทรัพยรวมไมเ กนิ 30 ลา นบาท หรอื รายไดรวมไมเ กิน 30 ลานบาท (2) หา งหนุ สว นจดทะเบยี นทม่ี ที นุ ไมเ กนิ 5 ลา นบาท สนิ ทรพั ยร วมไมเกนิ 30 ลา นบาท และรายไดร วมไมเ กนิ 30 ลา นบาท *** (3) บริษทั จาํ กดั ทีม่ ีทุนไมเ กิน 5 ลานบาท สนิ ทรัพยร วมไมเกิน 30 ลา นบาท และรายไดร วมไมเ กิน 30 ลา นบาท (4) หางหุน สวนจดทะเบยี นและบริษัทจาํ กัดที่มที ุนไมเ กิน 5 ลานบาท สินทรัพยร วมไมเ กนิ 30 ลา นบาท และรายไดรวมไมเกนิ 30 ลา นบาท เฉลย (2) ถกู ตอ งแลว อา งองิ : เวบ็ ไซต Internet > ผตู รวจสอบและรบั รองบญั ชี > ความรเู กย่ี วกบั ผสู อบบญั ชภี าษอี ากร 71.การรับสมัครผูสอบบัญชีภาษีอากร ปจจุบันกรมสรรพากรกําหนดใหรับสมัครดวยวิธีใด (1) รับสมัครดวยตนเอง (2) รับสมัครทางไปรษณีย (3) รบั สมคั รทาง Internet *** (4) ถูกทุกขอ เฉลย (3) ถกู ตอ งแลว

หน้า 240 72. แบบแสดงรายการภาษีใดทไี่ มสามารถยื่นทาง Internet ได (1) ภ.ง.ด. 52 (2) ภ.ธ. 40 (3) ภ.ง.ด. 36 (4) ภ.ง.ด. 1 ก. *** เฉลย (4) ถกู ตอ งแลว 73. การรับคําขอยื่นแบบแสดงรายการผานเครือขายอินเทอรเน็ต เจาหนาที่ผูรับคําขอยื่นแบบแสดงรายการผานเครือขายอินเทอรเน็ต (ภ.อ.01) จะตอง แนะนําผูเสียภาษีใหผูเสียภาษีเปดใชบริการ e – payment กับธนาคารที่เขารวมโครงการกับกรมสรรพากรซึ่งมีอยูหลายธนาคาร และ หนง่ึ ในธนาคารดงั กลา ว ไดแ ก (1) ธนาคารนครธน จาํ กดั (มหาชน) (2) ธนาคารไทยธนุ จํากดั (3) ธนาคารซติ แ้ี บงก จาํ กดั *** (4) ถูกทุกขอ เฉลย (3) ถกู ตอ งแลว

หนา้ 241 74. ผลการจัดเก็บรายไดในชวง 9 เดือนแรกของปงบประมาณ 2546 กรมสรรพากร สามารถจัดเก็บไดสงู กวาประมาณการ (1) 16.25% *** (2) 4.85% (3) 12.08% (4) 12.25% ขอ นล้ี า สมยั แลว ปจ จบุ นั ปง บประมาณ 2561 (เดอื นตลุ าคม 2560 – เดอื นกนั ยายน 2561) กรมสรรพากรจดั เกบ็ ไดส งู กวา ปงบประมาณ 2560 คดิ เปน รอ ยละ 7 75. โครงการ “ใบกํากับภาษีมีรางวัล” กรมสรรพากรไดดําเนินการจับรางวัลมาหลายครั้งแลว และการแถลงขาวเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2546 เปลี่ยนแปลงการจับรางวัลใบกํากับภาษีเปนดังนี้ (1) จับรางวัลเดือนละ 4 ครั้ง ทุกสัปดาห ทุกวันศุกรของทุกเดือน เริ่มตั้งแตเดือนสิงหาคม 2546 เปนตนไป (2) จบั รางวลั เดอื นละ 2 ครง้ั ทกุ สปั ดาหท ่ี 2 และ 4 ของทกุ เดอื น เรม่ิ ตง้ั แตเ ดอื นสงิ หาคม 2546 เปน ตน ไป *** (3) จับรางวัลเดือนละ 1 ครั้ง ทุกวนั ศุกรสิ้นเดือนของทุกเดือน โดยเริ่มตั้งแตสิ้นเดือนกรกฎาคม 2546 เปนตนไป (4) จบั รางวลั เดือนละ 4 ครง้ั ทกุ สปั ดาห ทกุ วนั ศกุ รข องทุกเดอื น เรม่ิ ตง้ั แตว นั ศกุ รท ่ี 25 กรกฎาคม 2546 เปน ตน ไป เดมิ เฉลย (2) แตปจจุบันโครงการ “ใบกํากับภาษีมีรางวัล” ยกเลิกแลว

หนา้ 242 76. โครงการ “ใบกาํ กบั ภาษมี รี างวลั ” หากผสู นใจสง ใบกาํ กบั ภาษเี ขารว มรางวลั ไปท่ี (1) ตู ปณ. 234 สามเสนใน พญาไท กรงุ เทพฯ 10400 (2) ตู ปณ. 345 สามเสนใน พญาไท กรงุ เทพฯ 10400 *** (3) สาํ นกั งานเลขานกุ ารกรม กรมสรรพากร ชน้ั 5 เลขท่ี 90 ซอยพหลโยธนิ 7 ถนนพหลโยธนิ เขตพญาไท กรงุ เทพฯ 10400 (4) ฝา ยประชาสมั พันธแ ละเผยแพร สาํ นกั งานเลขานกุ ารกรม กรมสรรพากร ชน้ั 5 เลขท่ี 90 ซอยพหลโยธนิ 7 ถนนพหลโยธนิ เขต พญาไท กรุงเทพฯ 10400 เดมิ เฉลย (2) ถกู ตอ งแลว แตป จ จบุ นั โครงการ “ใบกาํ กบั ภาษมี รี างวลั ” ยกเลกิ แลว 77. แนวทางปฏบิ ตั ใิ นการกาํ กบั ดแู ลผเู สยี ภาษโี ดยใกลชดิ เปน รายผปู ระกอบการและใหเ ปน ปจ จบุ ัน ฉบบั ท่ี 6/2546 ลงวนั ท่ี 23 กรกฎาคม 2546.......ขอความที่วา....... เมื่อติดตามขอมูลการยื่นชําระภาษีบนระบบเครือขายรัษฎากร และพิจารณาความเหมาะสมของการชําระภาษีแลว ใหห วั หนา ทมี ยอ ยบนั ทกึ ความเห็นตามผลการพิจารณาบนระบบเครือขา ยรษั ฎากร เมนู 1.1 ของระบบงานกาํ กบั ดแู ล โดยมเี งอ่ื นไขในการ บนั ทกึ ความเห็น วา อยา งไร (1) ผูประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่ม ใหบันทึกความเห็นทุกราย ทุกเดือน หรืออยางนอย 2 เดือนตอครั้ง โดยเลือกแบบ ภ.พ.30 เพื่อบันทกึ ความเห็น (2) นิติบุคคลไมมีหนาที่จดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่ม ใหบันทึกความเห็นทุกราย ทุกเดือนหรืออยางนอย 2 เดือนตอครั้ง โดยเลือกแบบ ภ.ง.ด.53 เพอ่ื บนั ทกึ ความเหน็ (3) บุคคลธรรมดาไมมีหนาที่จดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่มใหบันทึกความเห็นทุกราย อยางนอยปละ 2 ครั้ง โดยเลือกแบบ ภ.ง.ด.90 เพื่อ บันทึกความเห็น (4) ถูกทกุ ขอ *** ขอ นล้ี า สมยั แลว ปจจุบันใชแ นวทางปฏิบัติที่ มก.74/2560 แกไขเพิ่มเติมโดย แนวทางปฏิบตั ิที่ มก.85/2560 เรื่อง การแนะนํา ควบคมุ และ ติดตามผูประกอบการ ลงวนั ที่ 19 เมษายน 2560

หนา้ 243 78. นายภราดร ศรชี าพนั ธุ ไดร บั เงนิ รางวลั จากการแขง ขนั เทนนสิ ท่ีประเทศองั กฤษในป 2545 จาํ นวน 7,000,000.-บาท โดยนาํ ไปฝากไวท ่ี ธนาคารแหง ลอนดอน ประเทศองั กฤษ ตอ มาเมอ่ื วนั ท่ี 26 กรกฎาคม 2546 ไดร บั เงนิ รางวนั จากการแขง ขันเทนนสิ ทป่ี ระเทศสหรฐั อเมริกา จํานวน 8,000,000.-บาท และในป พ.ศ.2546 นายภราดร ศรีชาพันธุ อยูในประเทศไทย 197 วันและเนื่องจากทางครอบครัวมีความจําเปนจะ ทําธุรกิจเปดใหบริการสอนเทนนิส นายภราดร ศรีชาพันธุ จึงไดเบิกเงินที่ฝากไวกับ ธนาคารลอนดอน ประเทศอังกฤษท้ังหมด พรอมทั้งเงิน รางวัลที่ไดรับจากประเทศสหรัฐอเมริกาเขามาในประเทศไทยในป พ.ศ.2546 รวมเปนเงินจํานวนทั้งสิ้น 15,000,000.-บาท ปภาษี 2546 นาย ภราดร ศรีชาพนั ธุ ไมมีรายไดใดๆอีกเลย ขอใดกลาวถูกตอง (1) นายภราดร ศรชี าพนั ธุ ตอ งนาํ เงนิ จาํ นวน 8,000,000.-บาท มาคาํ นวณเสยี ภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดา สาํ หรบั ปภ าษี 2546 (2) นายภราดร ศรชี าพนั ธุ ตอ งนาํ เงิน จาํ นวน 15,000,000.-บาท มาคาํ นวณเสยี ภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดา สาํ หรบั ปภ าษี 2546 (3) นายภราดร ศรีชาพันธุ ไมตองนําเงิน จํานวน 15,000,000.-บาท มาคํานวณเสียภาษีเงินไดบุคคลธรรมดา สําหรับปภาษี 2546 (4) นายภราดร ศรชี าพนั ธุ ไมต อ งนาํ เงนิ จาํ นวน 15,000,000.-บาท มาคาํ นวณเสยี ภาษเี งนิ ไดบ คุ คล 78.ธรรมดา สาํ หรบั ปภ าษี 2546 เนอ่ื งจากไดร บั ยกยกเวน ตามอนสุ ญั ญาภาษซี อ นทง้ั ทง้ั ประเทศองั กฤษและประเทศสหรฐั อเมรกิ า เฉลย (1) ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 41 วรรคสอง และ วรรคสาม 79. บรษิ ทั หลกี เลย่ี ง การเสยี ภาษี จาํ กดั ถกู ประเมนิ เรยี กเกบ็ ภาษอี ากรเปนเงนิ จาํ นวน 2,000,000.-บาทบรษิ ทั ฯไมเ ห็นดว ยกบั การประเมนิ เรียกเก็บภาษีอากร จึงไดยื่นคําอุทธรณคัดคานการประเมินภายในกําหนดเวลา แตไมไดยื่นคํารองขอทุเลาการชําระภาษีอากรไว สําหรับภาษี อากรจาํ นวนดังกลาวในระหวางรอคําวินิจฉัยจากคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ บริษัทฯได มีการชําระเปนบางสวน เดือนละ 5,000.-บาท ทุก เดือน แตเนื่องจากจํานวนเงินที่ชําระตอเดือนนอยเกินไป เจาหนาที่จึงไดทําการสอบสวนทรัพย และพบวา บริษัทฯ มีกรรมสิทธิในที่ดินจํานวน 2 แปลง ที่ดินที่ตรวจสอบพบดังกลาว กรมสรรพากร จะทําการยึดและขายทอดตลาดไดหรือไม (1) สรรพากรภาค ที่ทรัพยน้นั ตั้งอยูมีอํานาจยึดและขายทอดตลาดที่ดินดังกลาว ตามมาตรา 12 แหงประมวลรัษฎากร ได (2) อธบิ ดกี รมสรรพากรหรอื ผทู อ่ี ธบิ ดกี รมสรรพากร มอบหมาย มอี าํ นาจยดึ และขายทอดตลาดทด่ี นิ ดงั กลา ว ตามมาตรา 12 แหง ประมวลรษั ฎากร ได เนอ่ื งจากถอื เปน หนภ้ี าษอี ากรคา งตามความในมาตรา 12 แหง ประมวลรษั ฎากร แลว *** (3) อธิบดีกรมสรรพากรหรือผูทอี่ ธิบดีกรมสรรพากร มอบหมาย ไมมีอํานาจยึดและขายทอดตลาดที่ดินดังกลาว เนื่องจากหนี้ดังกลาว อยูในระหวางอุทธรณคัดคานการประเมิน จึงเปนหนี้ที่ยังกําหนด จํานวนที่แนนอนไมได ประกอบกับผูคางอยูในระหวางการผอนชําระและยังไม ผิดนดั การผอนชําระ (4) อธิบดีกรมสรรพากร หรือสรรพากรภาค หรือผวู าราชการจังหวัด ที่ทรัพยนั้นตั้งอยมู ีอํานาจยึดและขายทอดตลาดที่ดินดังกลาว ตามมาตรา 12 แหงประมวลรัษฎากรได เฉลย (2) ถกู ตอ งแลว อา งองิ : มาตรา 12 แหง ประมวลรษั ฎากร ประกอบกบั ระเบยี บกรมสรรพากร วา ดว ยการใชม าตรการบังคบั ทาง ปกครอง พ.ศ. 2554 ขอ 15

หนา้ 244 80. เหตุใดประกาศกรมสรรพากร จึงไมถือเปนอนุบัญญัติหรือกฎหมายลูกตามประมวลรัษฎากร (1) เพราะมไิ ดอ าศยั อํานาจตามประมวลรษั ฎากรในการออกประกาศ *** (2) เพราะเปนแนวทางของเจาหนาที่ของ กรมสรรพากร เพื่อเปนแนวทางในการถือปฏิบัติเทานั้น (3) เพราะเพื่อใหผูที่เกี่ยวของถือปฏิบัติไดอยางถูกตองเทานั้น (4) เพราะเปนการออกมาเพื่อชี้แจงหรือขยายความกฎหมายหรืออนุบัญญัติใหมีความชัดเจน เฉลย (1) ถกู ตอ งแลว อางองิ : หนงั สอื 100 ถาม – ตอบ ความรูเกย่ี วกบั ประมวลรษั ฎากร ของอาจารยส เุ ทพ พงษพ ทิ กั ษ ขอ 22

หน้า 245 81. มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปนมหาวิทยาลัยของเอกชนที่ไดรับใหจัดตั้งโดยทบวงมหาวิทยาลัยไดซื้อที่ดินจํานวน 1 แปลง เมื่อป พ.ศ.2535 เพื่อใชในการกอสรางอาคารเรียนและใชเปนสถานที่ทําการรับจางทําการวิจัยเพื่อหารายไดใหมหาวิทยาลัยแตเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจ จึงไมอาจ ที่จะทําการกอสรางตอไปได จึงไดทําการไปเมื่อป พ.ศ.2546 ขอใดกลาวไวถูกตองในเรื่องการเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ (1) มหาวทิ ยาลยั อสั สมั ชญั ตอ งนาํ เงนิ ไดจ ากการขายทด่ี นิ แปลงดงั กลา วไปเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ *** (2) มหาวทิ ยาลยั อสั สมั ชญั ไมต อ งนาํ เงินไดจ ากการขายทด่ี นิ แปลงดงั กลา วไปเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะเนอ่ื งจากเงนิ ไดจากการขายทด่ี นิ ของมหาวิทยาลัย ไดรับยกเวนตามประมวลรัษฎากร (3) มหาวทิ ยาลยั อสั สมั ชญั ไมต อ งนาํ เงนิ ไดจ ากการขายทด่ี นิ แปลงดงั กลา วไปเสยี ภาษีธรุ กจิ เฉพาะเนอ่ื งจากเปน การทด่ี ินทไ่ี ดถ อื ครอง มาเกิน 5 ปแลว (4) ไมม ขี อ ใดกลาวถกู ตอ ง เฉลย (1) ถกู ตอ งแลว อางอิง : แนวคําวินิจฉัยที่ กค 0811/01694 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ 2541 [ปจจุบันพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 244) พ.ศ. 2534 ถูกยกเลิกโดย พระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 342) พ.ศ. 2541] 82. การเครดิตภาษีตามความในมาตรา 47 ทวิ แหงประมวลรัษฎากร ไมใหใชบังคับแกผูใด (1) ชาวตา งประเทศทเ่ี ขา มาทาํ งานในประเทศไทยเพยี งแค 4 เดอื นในปภ าษี (2) นาย ก.เปน คนไทยท่ีไปทาํ งานอยทู ต่ี า งประเทศตลอดปภ าษนี ้ัน *** (3) ผูที่มิไดมีภูมิลําเนาอยูในประเทศไทยหรือมไิ ดเปนผูอยูในประเทศไทย (4) ถูกทุกขอ เดมิ เฉลย (2) แตท างจติ อาสากลมุ 2 เหน็ วา (1) ถกู ตอ ง เนอ่ื งจาก มาตรา 47 ทวิ วรรคสาม ระบวุ า “ความในวรรคหนง่ึ และวรรคสอง มใิ หใ ชบ งั คบั แก ผมู เี งนิ ไดซ ง่ึ มไิ ดม ภี มู ลิ าํ เนาอยใู นประเทศไทย และมไิ ดเ ปน ผอู ยใู นประเทศไทย” ซง่ึ การไดร บั สทิ ธเิ ครดติ ภาษมี าตรา 47 ทวิ จะตอ งเขา องคป ระกอบทง้ั 2 ประเภท

หนา้ 246 ทง้ั นค้ึ วามหมายของคาํ วา “ผอู ยใู นประเทศไทย” ไดก าํ หนดไวต ามมาตรา 41 วรรคสาม แหง ประมวลรษ ฎากร “ผใู ดอยใู น ประเทศไทยชว่ั ระยะเวลาหนง่ึ หรอื หลายระยะ รวมเวลาทง้ั หมดถงึ หนง่ึ รอ ยแปดสบิ วนั ในปภ าษปี ใ ด ใหถ อื วา ผนู น้ั เปน ผอู ยใู นประเทศไทย” สําหรับความหมายของคําวา “ผูมีภูมิลําเนาในประเทศไทย” ประมวลรษฎากรมิไดใหความหมายไว จึงตองอางอิงตาม มาตรา 37 และมาตรา 41 แหง ประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย ซง่ึ การจะเปลย่ี นภมู ลิ าํ เนาจะตอ งมกี ารยา ยถน่ิ ทอ่ี ยพู รอ มดว ยเจตนา ปรากฏชดั แจง วา จะเปลย่ี นภมู ลิ าํ เนา ดงั นน้ั การไปทาํ งานตา งประเทศ ซง่ึ ไมไ ดม กี ารแสดงเจตนาวา จะเปลย่ี นภมู ลิ าํ เนา บคุ คลธรรมดา ดังกลา วจึงยังคงมภี มู ลิ าํ เนาอยูในประเทศไทย (เทียบเคียงคําพิพากษาฎีกาที่ 3545/2525 และแนววินิจฉัยที่ กค 0802 (กม)/568 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2537) 83. สินคาที่นักทองเที่ยวมีสิทธิขอคืนภาษีมูลคาเพิ่มได ตองเปน (1) สนิ คาทุกประเภท ทีไ่ มเ ปนสนิ คา ที่ไดรับ ยกเวน ภาษีมลู คา เพมิ่ โดยมลู คา ของสนิ คาทซ่ี อื้ ตองมจี าํ นวนรวมไมนอ ยกวา 5,000.- บาท (2) สินคาประเภทอญั มณที ป่ี ระกอบเปน ตวั เรอื น หรอื ทองรปู พรรณ นาฬกิ า แวน ตา ปากกา ทม่ี มี ลู คา สนิ คา แตล ะชน้ิ ตง้ั แต 10,000.- บาท โดยรวมภาษีมูลคาเพิ่ม *** (3) เปน สนิ คา ทน่ี กั ทอ งเทย่ี วนาํ ออกนอกประเทศพรอ มกบั การเดนิ ทางภายใน 45 วนั นบั จากวันซอ้ื สนิ คา โดยมมี ลู คาไมน อ ยกวา 5,000 บาท (4) สินคา หรือบริการใด ๆ ที่มมี ูลคาสินคาหรือบริการรวมไมนอยกวา 5,000 บาท โดยซื้อหรือรับบริการจากสถานประกอบการแตละ แหง ไมน อ ยกวา 2,000.- บาท เฉลย (2) ถกู ตอ งแลว อา งองิ : ระเบยี บกรมสรรพากร วา ดว ยการคนื ภาษมี ลู คา เพม่ิ ใหน กั ทอ งเทย่ี ว พ.ศ. 2551 84. กรมสรรพากรไดนําระบบทะเบียนทรัพยสินระบบใหมมาใชทดแทนระบบทะเบียนครุภัณฑ Version 1.1 เดิม เพื่อสนองนโยบายรัฐบาล E – govermant (1) ก .โปรแกรมการทํางานในระบบ Web Page ภายใตระบบ Intranet ของกรมสรพากร *** (2) ข. โปรแกรมระบบงานใชระบบ Stand Alone /ฝายบิหารงานทั่วไปเปนผูใชงานในระบบเทานั้น (3) ใชระบบ Web Application ภายใตระบบ Intranet โดยมีการจัดดับผูใชง าน (User) (4) ใชระบบ Web Application ภายใตระบบ Intranet ของกรมสรรพากรโดยมีจัดระดับผูใชงาน (User) เปน 3 ระดับ ขอ นล้ี า สมยั แลว เนอ่ื งจากปจ จบุ นั ใช ระบบทะเบยี นทรพั ยส นิ Version 3.0 85. ขอความที่ถูกตองท่ีสุดสําหรับหลักการภาษีธุรกิจ เฉพาะคือ (1) ภาษธี รุ กจิ เฉพาะเปน ภาษที างออ ม (IndirectTax) โดยกาํ หนดใหผ ปู ระกอบกจิ การทอ่ี ยใู นขา ยตอ งเสยี ภาษีธรุ กจิ เฉพาะ เปน ผมู ี หนาที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะโดยไมสามารถผลักผละภาษีไปยังบุคคลอื่นได แตสามารถนําภาษีทชี่ ําระมาถือเปนรายจายในงบกําไร หรือขาดทุน สทุ ธิได *** (2) ภาษธี รุ กจิ เฉพาะเปน ภาษอี ากรประเมนิ ซง่ึ กาํ หนดใหผ เู สยี ภาษีมหี นา ทย่ี น่ื แบบแสดงรายการภาษธี รุ กจิ เฉพาะ (ภ.ธ. 40 ) โดยท่ี ผูประกอบการธุรกิจจะนําคาภาษีธุรกิจเฉพาะ มาถือเปนรายจายในการดําเนินการ กําไรและขาดทุนสุทธิไมได (3) การคาํ นวณรายรบั เม่ือเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะใหค าํ นวณตามเกณฑส ิทธิ(Accrual Basic) เทา นน้ั (4) การคาํ นวณรายรบั เมอ่ื เสยี ธรุ กจิ เฉพาะใหเ ปน ไปตามหลกั วธิ กี ารหลกั เกณฑแ ละการปฏบิ ตั ทิ างบญั ชี86.โดยจะใหเ กณฑเ งนิ สด (Accrual Basic) กไ็ ด แตเ มอ่ื เลอื กปฏบิ ตั อิ ยา งไรแลว ใหถ อื ปฏบิ ตั อิ ยา งเดียวกนั ตลอดไป เวน แตจ ะรบั อนมุ ตั จิ ากอธบิ ดกี รมสรรพากร

หน้า 247 เดมิ เฉลย (1) ทางกลมุ จติ อาสา กลมุ 2 มคี วามเหน็ วา ตอบ (4) อา งองิ : มาตรา 91/8 วรรคสอง การคาํ นวณรายรบั ตามวรรคหนง่ึ ให เปน ไปตามวธิ กี ารหลกั เกณฑแ ละการปฏบิ ตั ทิ างบญั ชี และเพอ่ื ประโยชนใ นการคํานวณรายรบั เมอ่ื ไดเ ลอื ก ปฏบิ ตั เิ ปน อยา งใดแลว (เชน เลอื กใชเ กณฑเ งนิ สดหรอื เกณฑส ทิ ธิ เปน ตน ) ใหถ อื ปฏบิ ตั เิ ปน อยา งเดยี วตลอดไป เวน แตจ ะไดร บั อนมุ ตั จิ ากอธบิ ดกี รมสรรพากรให เปลี่ยนแปลง สว นคาํ ตอบขอ 2 คา ภาษธี รุ กจิ เฉพาะทบ่ี รษิ ทั ฯ พงึ ตองจา ยยอ มถอื เปน รายจา ยได ไมต อ งหา ม ตาม มาตรา 65 ตรแี หง ประมวลรษั ฎากร สว นคาํ ตอบขอ 1 ภาษที างออ ม คอื ภาษที เ่ี ราสามารถผลกั ภาระภาษที ง้ั หมดไปใหก บั ผบู รโิ ภคได โดยประกอบดว ยภาษหี ลกั ๆ 3 ประเภท ไดแ ก ภาษมี ลู คา เพม่ิ , ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ และ อากรแสตมป 86. ขอ ความใดตอ ไปนเ้ี ปน ขอ ความทถ่ี กู ตอ งท่ีสดุ ตามกฎหมายประมวลรษั ฎากรในการคาํ นวณภาษมี ลู คา เพม่ิ (1) ฐานภาษใี นการนาํ เขา สนิ คา คอื มลู คาของสนิ คา นาํ เขาใหใ ช ราคา C.I.F. ของสนิ คา บวกดว ยอากรขาเขา ภาษสี รรพสามติ คาธรรมเนียมพเิ ศษตามกฎหมายวาดวยการสงเสริมการลงทุน (2) ฐานภาษใี นการนาํ เขา สินคา คอื มลู คาของสินคา นาํ เขาใหใ ช ราคา (3) F.B.O. ของสินคา บวกดวยอากรขาเขา ภาษสี รรพสามิต คาธรรมเนียมพิเศษตามกฎหมายวาดวยการสงเสริมการลงทุน *** (4) ฐานภาษใี นการนาํ เขา สนิ คา คอื มลู คาของสนิ คา นาํ เขาใหใ ช ราคา C.I.F. ของสนิ คา บวกดว ยอากรขาเขา ภาษสี รรพสามติ คาธรรมเนียมพิเศษตามกฎหมายวาดวยการสงเสริมการลงทุนและภาษีและคาธรรมเนียมอื่น ๆ ตามที่จะไดกําหนดโดยพระราชกฤษฎีกาฐาน ภาษสี ําหรับการสง ออกไดแกราคา F.B.O. บอกดวยภาษีสรรพสามิต ตามมาตรา 77/1(19) แหงประมวลรัษฎากร และภาษีอ่นื ๆ ตามทจี่ ะ กาํ หนดโดยพระราชกฤษฎีกา รวมถงึ อากรขาออก เดมิ เฉลย (3) ทางกลุม 2 มคี วามเหน็ วา ไมม ขี อ ถกู มาตรา 79/2 ฐานภาษีสาํ หรบั การนาํ เขา สนิ คา ใหเ ปน ไปตามหลกั เกณฑด งั ตอ ไปน้ี (1) ฐานภาษสี าํ หรบั การนาํ เขา สินคา ทกุ ประเภท ไดแ ก มลู คา ของสนิ คา นาํ เขา โดยใหใ ชร าคา ซ.ี ไอ.เอฟ. ของสนิ คาบวกดว ย อากรขาเขา ภาษีสรรพสามิต ตามที่กําหนดในมาตรา 77/1(19) คาธรรมเนียมพิเศษตามกฎหมายวาดวยการสงเสริมการลงทุนและภาษีและ คาธรรมเนียมอื่นตามท่จี ะไดกําหนดโดยพระราชกฤษฎีกา การนําเขาสินคาที่ผูนําเขาไดรับยกเวนหรือลดหยอนอากรขาเขาตามกฎหมายวาดวย การสง เสรมิ การลงทุนหรอื ตามกฎหมายอ่ืน ใหน าํ อากรขาเขา ซง่ึ ไดร ับยกเวน หรอื ลดหยอ นดงั กลา วมารวมเปนมลู คา ของฐานภาษี ราคา ซ.ี ไอ.เอฟ. ไดแ กร าคาสนิ คา บวกดว ยคาประกนั ภยั และคา ขนสง ถงึ ดา นศลุ กากรทน่ี าํ สนิ คา นน้ั เขาในราชอาณาจกั ร 87. คณุ สมบตั ขิ องสาํ นกั งานบญั ชตี วั แทน (1) กรณีเปนบุคคลธรรมดาตองมีประสบการณในดานการทําบัญชีเปนเวลาและไมนอยกวา 3 ป และเปนสํานักงานบัญชีตัวแทนของผู มีหนา ท่ีเสยี ภาษีไมนอยกวา 50 ราย ณ วันที่ ขออนญุ าตเปน สาํ นักงานบัญชตี วั แทน (2) กรณีบุคคลธรรมดาตองเปนผูทําบัญชีตามคุณสมบัติและเงื่อนไข ของการเปนผูทําบัญชีตามมาตรา 7(6) แหงพระราชบัญญัติการทํา บัญชี 2543 และ ตองมีประสบการณในดานการทําบัญชเี ปนและไมนอยกวา 5 แ และเปนตัวแทนของผูมีหนาที่เสียภาษีไมนอยกวา 30 ราย (3) กรณเี ปนนิติบุคคล หัวหนา หรือกรรมการหรือหุนสวนผูรับผดิ ชอบในการใหบริการรับทําบัญชีตองเปนผูทําบัญชีตามมาตรา 7(6) แหง พระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ. 2543 โดยประกอบกจิ การรบั จางทาํ บญั ชใี หผ ูมหี นา ทเ่ี สยี ภาษเี ปนเวลาไมน อ ยกวา 5 ป และเปน สาํ นกั งาน ตวั แทนของผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษไี มนอ ยกวา 50 ราย ณ วนั ทข่ี ออนญุ าต *** (4) กรณเี ปนนิติบุคคล หัวหนา หรือกรรมการหรือหุนสวนผูรับผดิ ชอบในการใหบริการรับทําบัญชีตองเปนผูทําบัญชีตามมาตรา 7(6) แหงพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 โดยประกอบกิจการรับจางทําบัญชีใหผูมีหนาที่เสียภาษเี ปนเวลาไมนอยกวา 3 ป และเปน สาํ นกั งานตวั แทนของผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษไี มน อ ยกวา 50 ราย ณ วนั ทข่ี ออนญุ าต เดมิ เฉลย (3) ทถ่ี กู ตอบ ไมม ขี อ ใดถกู อางอิง : ประกาศกรมฯ เรอ่ื ง กาํ หนดคณุ สมบตั ิ การขออนุญาต การออกใบอนญุ าต การตออายุ ใบอนญุ าต และการขอออกใบแทนใบอนญุ าตเปน สาํ นกั งานบญั ชตี วั แทนยน่ื แบบแสดงรายการภาษแี ละชาํ ระภาษหี รอื ดาํ เนนิ การอน่ื ใด ตามทอ่ี ธบิ ดกี รมสรรพากรกําหนดในนามของผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษผี า นระบบเครอื ขา ยอนิ เทอรเ นต็ ทางเวบ็ ไซต (Web Site) ของ กรมสรรพากร htt://www.rd.go.th แกไ ขเพ่ิมเตมิ โดยประกาศกรมสรรพากร ลงวนั ท่ี 20 เมษายน 2552 ใชบ งั คบั ตง้ั แตว นั ท่ี 1 เมษายน 2552 เปน ตน ไป ดงั น้ี

หนา้ 248 กรณเี ปน บคุ คลธรรมดา 1. เปน ผทู าํ บญั ชตี ามคณุ สมบตั แิ ละเง่ือนไขของการเปน ผทู าํ บญั ชตี ามพระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543 และผา นการอบรม ทางดานกฎหมายภาษีอากรตามหลักสูตรที่อธิบดีกรมสรรพากรกําหนด 2. มปี ระสบการณใ นดา นการทาํ บญั ชเี ปน เวลาไมนอ ยกวา 5 ป และเปน สาํ นกั งานบญั ชตี ัวแทนของผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษไี มนอ ย กวา 30 ราย ณ วนั ทข่ี ออนญุ าตเปน สาํ นกั งานบญั ชตี วั แทน 3. ตอ งทาํ บญั ชใี หแ กผ มู หี นา ทเ่ี สยี ภาษแี ละย่ืนแบบแสดงรายการภาษใี นนามของผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษี โดยมไิ ดด าํ เนนิ การ ตรวจสอบและรบั รองบญั ชใี หแ กผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษใี นขณะทด่ี าํ เนนิ การเปน สาํ นกั งานบญั ชตี วั แทน 4. ไมเ ปน สาํ นักงานบญั ชตี วั แทนยน่ื แบบแสดงรายการภาษผี า นระบบเครอื ขา ยอนิ เทอรเ นต็ ทางเวบ็ ไซต (Web Site) ของ กรมสรรพากร www.rd.go.th ทอ่ี ยรู ะหวา งถกู สง่ั พกั หรอื ถกู เพกิ ถอน 5. มปี ระวตั กิ ารเสยี ภาษที ด่ี ี มกี ารเสยี ภาษสี อดคลอ งกบั สภาพความเปนจรงิ ของกิจการ และไมม พี ฤตกิ ารณห ลีกเลย่ี งภาษใี หน าํ ความในขอ 1 - 4 มาใชบังคับกรณีสํานักงานบัญชีตัวแทนเปน คณะบุคคลที่มิใชนิติบุคคล หางหุนสว นสามัญ กองทุน มูลนิธิที่มิใชนิติบุคคล หนวยงานหรือกิจการของเอกชน ที่กระทําโดยบุคคลธรรมดาตั้งแต 2 คนขึ้นไปอันมิใชนิติบุคคลดวย กรณีเปนบริษทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ ุคคลทตี่ ้ังข้ึนตามกฎหมายไทย 1. เปน ผทู าํ บญั ชตี ามคณุ สมบตั แิ ละเง่ือนไขของการเปน ผทู าํ บญั ชตี ามพระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543 และผา นการอบรม ทางดานกฎหมายภาษีอากรตามหลักสูตรที่อธิบดีกรมสรรพากรกําหนด 2. มปี ระสบการณใ นดา นการทาํ บญั ชเี ปน เวลาไมนอ ยกวา 5 ป และเปน สาํ นกั งานบญั ชตี ัวแทนของผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษไี มนอ ย กวา 30 ราย ณ วนั ทข่ี ออนญุ าตเปน สาํ นกั งานบญั ชตี วั แทน 3. ตอ งทาํ บญั ชใี หแ กผ มู หี นา ทเ่ี สยี ภาษแี ละย่ืนแบบแสดงรายการภาษใี นนามของผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษี โดยมไิ ดด าํ เนนิ การ ตรวจสอบและรบั รองบญั ชใี หแ กผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษใี นขณะทด่ี าํ เนนิ การเปน สาํ นกั งานบญั ชตี วั แทน 4. มที รพั ยส นิ สทุ ธมิ ากกวา หนส้ี ินสทุ ธสิ าํ หรบั รอบระยะเวลาบญั ชปี ส ดุ ทา ยกอ นยน่ื คําขอเปน สาํ นกั งานบญั ชตี วั แทน 5. ไมเ ปน สาํ นักงานบญั ชตี วั แทนยน่ื แบบแสดงรายการภาษผี า นระบบเครอื ขา ยอนิ เทอรเ นต็ ทางเวบ็ ไซต (Web Site) ของ กรมสรรพากร http://www.rd.go.th ท่ีอยูร ะหวา งถูกส่ังพักหรอื ถูกเพกิ ถอน 6. มปี ระวตั กิ ารเสยี ภาษที ด่ี ี มกี ารเสยี ภาษสี อดคลอ งกบั สภาพความเปนจรงิ ของกิจการ และไมม พี ฤตกิ ารณห ลีกเลย่ี งภาษี 88. ขอ ความทถ่ี ูกตอ งของ TA และ C.P.A (1) TA คือ ผูตรวจสอบและรับรองบัญชีตามมาตรา 3 สัตต แหงประมวลรัษฎากรโดยขึ้นทะเบียนกับสํานักงาน กบ. กรมพฒั นา ธรุ กจิ การคา และกรมสรรพากร (2) TA คอื ผตู รวจสอบและรบั รองบญั ชตี าม มาตรา 3 สตั ต แหง ประมวลรษั ฎากรโดยขน้ึ ทะเบยี นกบั กรมสรรพากร มสี ทิ ธลิ ง ลายมอื ชอ่ื รบั รองการตรวจสอบและรบั รองบญั ชีงบการเงนิ ของหวั หนา สว นจดทะเบยี นขนาดเลก็ *** (3) C.P.A. คือ ผตู รวจสอบและรับรองบัญชีตามมาตรา 3 สัตต แหงประมวลรัษฎากรโดยขึ้นทะเบียนกับสํานักงาน กบช. กรมพฒั นา ธุรกิจการคา สามารถลงลายมือชื่อรับรองการตรวจสอบ และรับรอบบัญชีงบการเงินของบริษัท หางหุนสวนจดทะเบียนขนาดใหญเทานั้น (4) อธิบดีกรมสรรพากร และ กบช. มีอํานาจ ในการสั่งถอนการ เปนผตู รวจสอบและรับรองบัญชีของ T.A. เฉลย (2) ถกู ตอ งแลว อางอิง : ประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร เกย่ี วกบั การตรวจสอบและรบั รองบญั ชี เรอ่ื ง กาํ หนดระเบยี บเกย่ี วกบั การ ตรวจสอบและรบั รองบญั ชตี ามมาตรา 3 สตั ต แหง ประมวลรษั ฎากร ขอ 4 “ผตู รวจสอบและรบั รองบญั ชี” ไดแ กบ คุ คลดงั ตอ ไปน้ี 4.1 “ผสู อบบญั ชรี บั อนญุ าต” (CPA) ตามกฎหมายเกย่ี วกบั การสอบบญั ชี ซง่ึ ตามประกาศนใ้ี หถ อื วา เปน ผไู ดร บั อนุญาตจากอธิบดีใหเปนผตู รวจสอบและรับรองบัญชีสําหรับบริษัทและหางหุนสวนนิติบุคคล 4.2 “ผสู อบบัญชภี าษอี ากร” (TA) ทข่ี อขน้ึ ทะเบยี นและไดร บั ใบอนญุ าตจากอธบิ ดี ใหเ ปน ผตู รวจสอบและรบั รอง บญั ชเี ฉพาะหา งหนุ สว นจดทะเบยี นทจ่ี ดั ตง้ั ขน้ึ ตามกฎหมายไทย ทไ่ี ดร บั ยกเวน ไมต อ งจดั ใหง บการเงนิ ไดร บั การตรวจสอบและแสดง ความเหน็ โดยผสู อบบญั ชรี บั อนญุ าต ตามกฎกระทรวง ออกตามความในพระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ. 2543

หนา้ 249 “ขอ 9 ”ผตู รวจสอบและรบั รองบญั ชี“ ทฝ่ี า ฝน ระเบยี บทอ่ี ธบิ ดกี าํ หนดในประกาศน้ี อธิบดีอาจพิจารณาสั่งถอนใบอนุญาต การเปน ผตู รวจสอบและรบั รองบญั ชเี สยี กไ็ ด“ ความแตกต่าง ผู้สอบบญั ชีภาษอี ากร ผู้สอบบญั ชีรับอนญุ าต 1. การขึนทะเบียน ตอ้ งเป็นผทู้ ีขึนทะเบียนและไดร้ ับใบอนุญาต เป็นผสู้ อบบญั ชีภาษอี ากรจาก ตอ้ งเป็นผทู้ ีขึนทะเบียนและไดร้ ับใบอนุญาต เป็นผสู้ อบบญั ชี อธิบดีกรมสรรพากร ตามคาํ สังกรมสรรพากรที ท.ป.98/2544ฯ รับอนุญาตจากสภาวชิ าชีพบญั ชี ตามพระราชบญั ญตั ิวชิ าชีพ พ.ศ.2547 2. สิทธิในการ สามารถตรวจสอบและรับรองบญั ชีเฉพาะห้างหุน้ ส่วนนิติบคุ คลขนาดเล็ก สามารถตรวจสอบและรบั รองบญั ชีบริษทั และหา้ งหุน้ ส่วนนติ ิ ปฏิบตั ิงาน (ทุนไม่เกนิ 5 ลา้ นบาท สินทรัพยร์ วมไมเ่ กนิ 30 ลา้ นบาท และรายไดร้ วมไม่ บคุ คลตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร เกนิ 30 ล้านบาท) 3. หลกั เกณฑใ์ น ปฎิบตั ิงานตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงือนไขทอี ธิบดกี รมสรรพากรกาํ หนด ปฏบิ ตั ิงานตามทีสภาวชิ าชีพบญั ชีกาํ หนดสาํ หรับการ การปฏบิ ตั ิงาน ตามคาํ สังกรมสรรพากรที ท.ป.122/2545ฯ สําหรับการตรวจสอบและ ตรวจสอบและรับรองบญั ชีบริษทั และหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล รับรองบญั ชีห้างหุน้ ส่วนนิติบุคคลขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ ปฏบิ ตั ิงานตามทีอธิบดกี รมสรรพากรกาํ หนด เช่นเดียวกบั ผสู้ อบบญั ชีภาษีอากรสาํ หรับการตรวจสอบและ รับรองบญั ชีห้างหุน้ ส่วนนิตบิ ุคคลขนาดเลก็ จดั ทาํ รายงานการตรวจสอบและรับรองบญั ชี ตามทีอธิบดีกรมสรรพากร จดั ทาํ รายงานของผสู้ อบบญั ชีรบั อนุญาตสาํ หรับการตรวจสอบ และรับรองบญั ชีบริษทั และห้างหุน้ ส่วนนิติบุคคลขนาดใหญ่ 4. การรายงานการ กาํ หนดไวใ้ นคาํ สงั กรมสรรพากรที ท.ป.122/2545ฯ สาํ หรับการ ตรวจสอบและ ตรวจสอบหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลขนาดเล็กสําหรับการตรวจสอบและรับรอง จดั ทาํ รายงานการตรวจสอบและรบั รองบญั ชีตามที รับรองบญั ชี บญั ชีห้างหุน้ ส่วนนติ ิบคุ คลขนาดเล็ก อธิบดกี รมสรรพากรกาํ หนดเช่นเดียวกบั ผสู้ อบบญั ชีภาษอี ากร สาํ หรับการตรวจสอบหา้ งหุน้ ส่วนนติ บิ ุคคลขนาดเลก็ 89. เพื่อใหการปฏิบัติงานเปนไปอยางมีประสิทธิภาพเกี่ยวกับการสั่งงดหรือลดเบี้ยปรับอธิบดีจะมีคําสั่ง ดังตอไปนี้ (1) มอบอํานาจใหเจาพนักงานเปนผูสั่งงดหรือลดเบี้ยปรับภาษีมูลคาเพิ่มโดยไมตองมีคํารองของผูนําเขาในกรณีที่ผนู ําเขาไมมีเจตนา หลีกเลี่ยงภาษีและเบี้ยปรับที่ตองเสียเพิ่ม ตามกฎหมายจํานวนไมเกิน 1,000 บาท ณ ใหลดเบี้ยปรับ ใหเสียรอยละ 50 ของเบี้ยปรับตามนัย คําสั่งกรมสรรพากรท่ี ทป. 120/2545 ลว. 10 ตลุ าคม 2545 (2) มอบหมายใหส รรพากรพน้ื ท่ี สาํ หรบั เขตทอ งทส่ี าํ นกั งานสรรพากรทอ งทน่ี น้ั ๆ สง่ั งด หรอื ลดเบย้ี ปรบั ภาษเี งนิ ได ภาษมี ลู คา เพ่ิม และภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ตามาตรา 22 มาตรา 26 และมาตรา 91/21(6) แหง ประมวลรษั ฎากร ไดไ มเ กนิ 100,000.- บาท ตามคาํ ส่ังกรมสรรพากรท่ี ทป. 121/2545 ลว. 10 ตลุ าคม 2545 *** (3) มอบหมายใหสรรพากรพื้นที่ สําหรับเขตทองที่สํานักงานสรรพากรทองที่นั้น ๆ สั่งงด หรือ ลดเบี้ยปรับภาษีเงินได ภาษีมูลคาเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามาตรา 22 มาตรา 26 และมาตรา 91/21(6) แหงประมวลรัษฎากร ไดไมเกิน 300,000.- บาท ตามคําสั่ง กรมสรรพากรที่ ทป. 121/2545 ลว. 10 ตุลาคม 2545 (4) มอบหมายใหสรรพากพื้นที่ สําหรับเขตทองที่สํานักงานสรรพากรพื้นที่นั้น ๆ มีอํานาจสั่งงดเบี้ยปรับภาษีธุรกิจเฉพาะ โดยไมตองมี คํารองของบุคคลที่ตองเสียเบี้ยปรับกรณีบุคคลธรรมดาขายอสังหาริมทรัพยที่เปนทาง การคาหรือหากําไรตามมาตรา 3(6) แหง พระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 340 ) ไดไมเกิน 500,000 บาท โดยการสั่งงดเบี้ยปรับใหงดไดกอนเจา พนักงานประเมินออกหนังสือการประเมินตามคําสั่งกรมสรรพากรที่ ทป. 127/2546 เฉลย (2) ถูกตองแลว อา งองิ : คาํ สง่ั กรมสรรพากรท่ี ท.ป. 121/2545 เรอ่ื ง มอบหมายใหส ง่ั และดาํ เนนิ การเกย่ี วกบั การพจิ ารณางด หรอื ลดเบย้ี ปรบั ภาษเี งนิ ไดภ าษมี ลู คา เพม่ิ และภาษธี รุ กจิ เฉพาะ

หน้า 250 ขอ 3 มอบหมายใหเจาพนักงานสั่งงดหรือลดเบี้ยปรับภาษีเงินได ภาษีมูลคาเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา 22 มาตรา 26 มาตรา89 และมาตรา 91/21(6) แหงประมวลรัษฎากร ได นอกเหนือไปจากหลักเกณฑที่อธิบดีกรมสรรพากรกําหนด สําหรับคํารองขอ งดหรือ ลดเบี้ยปรับที่มีจํานวนเบี้ยปรับเต็มอตั ราตามกฎหมาย ดังนี้ (1) ผอู าํ นวยการสาํ นกั ตรวจสอบภาษกี ลาง สําหรบั เขตทอ งทท่ี ว่ั ราชอาณาจกั รไมเ กิน 500,000.- บาท (2) ผอู าํ นวยการสาํ นกั บรหิ ารภาษธี รุ กจิ ขนาดใหญ สาํ หรบั ผปู ระกอบธรุ กจิ ขนาดใหญต ามทก่ี รมสรรพากรกาํ หนด ไม เกิน 500,000.- บาท “(3) สรรพากรภาค และนกั วชิ าการภาษี 9 ชช. ทป่ี ฏบิ ตั ริ าชการ ณ สาํ นกั งานสรรพากรภาค สาํ หรบั เขตทอ งทส่ี าํ นกั งาน สรรพากรภาคนั้น ไมเกิน 300,000.- บาท การสั่งและปฏิบัติราชการแทนอธบิ ดีกรมสรรพากรของนักวิชาการภาษี 9 ชช. ตามวรรคหนึ่ง สรรพากรภาคจะกําหนด หลักเกณฑในการสงั่ และปฏิบัติราชการแทนตามความเหมาะสมในแตละกรณีก็ได” (แกไขเพิ่มเติมโดยคําสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป.142/2547 ใชบังคับ 17 พฤศจิกายน 2547 เปนตนไป) (4)สรรพากรพน้ื ท่ี สําหรบั เขตทอ งทส่ี าํ นักงานภาษสี รรพากรพน้ื ทน่ี ้ันไมเ กนิ 100,000.-บาท สว นคาํ ตอบ (1) คำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 120/2545 เรอ่ื ง มอบหมายการสง่ั งดหรอื ลดเบย้ี ปรบั ภาษมี ลู คา เพม่ิ ตามประมวลรษั ฎากร กรณกี ารนําเขา (4) ในกรณีทผ่ี นู าํ เขา ไมม เี จตนาหลกี เลย่ี งภาษแี ละเบย้ี ปรบั ทต่ี อ งเสยี เตม็ อตั ราตามกฎหมายมจี าํ นวนไมเ กนิ 1,000.- บาท ใหง ด เบี้ยปรับภาษีมูลคาเพิ่ม สว นคาํ ตอบ (4) ตามคําสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป.127/2546 ขอ 1 มอบหมายใหสรรพากรพื้นที่ สําหรับเขตทองที่สํานักงานสรรพากรพื้นที่นั้นมีอํานาจสั่งงดเบี้ยปรับภาษีธุรกิจเฉพาะ โดย ไมตองมีคํารองขอบุคคลที่ตองเสียเบี้ยปรับ และไมจํากัดจํานวนเบี้ยปรับ ทั้งนี้ เฉพาะกรณีบุคคลธรรมดาขายอสังหาริมทรัพยที่เปนทางคาหรือ หากาํ ไร ตามมาตรา 3(6) แหงพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร วาดวยการขายอสังหาริมทรัพยที่เปนทางคาหรือหากําไร (ฉบับที่ 244) พ.ศ. 2534 หรือมาตรา 4(6) แหงพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร วาดวยการขายอสังหาริมทรัพยเปนทางคา หรือหากําไร (ฉบับที่ 342) พ.ศ. 2541 ที่ไดกระทําตั้งแตวันที่ 1 มกราคม 2535 ถึงวันที่ 30 มกราคม 2542 การสงั่ งดเบี้ยปรับตามวรรคหนึ่ง ให สง่ั ไดก อ นเจาพนกั งานประเมนิ มหี นงั สอื แจง การประเมนิ 90. วิธีการจัดซื้อจัดจา ง ไดกําหนดวา การรับหรือการจางกระทําได 6 วิธี ดวยวิธีตาง ๆ คือ (1) การซ้ือ หรอื การจา งโดยวิธตี กลงราคา ไดส าํ หรบั การจางครง้ั หนง่ึ ซ่ึงมรี าคา ไมเ กิน 50,000.- บาท (2) การซื้อหรือการจาง โดยวิธีสอบราคา ไดแก การซื้อหรือการจางครั้งหนึ่งซ่งึ มีราคา การซื้อหรือการจางครั้งหนึ่งซึ่งมีราคาเกิน 50,000.- บาท แตไมเกิน 1,000,000.- บาท (3) การซอ้ื หรือการจา ง โดยวธิ สี อบราคา ไดแ ก การซอ้ื หรอื การจา งครง้ั หนง่ึ ซง่ึ มรี าคา การซ้ือหรอื การจา งครง้ั หนง่ึ ซง่ึ มรี าคาเกนิ 100,000.- บาท แตไมเกิน 2,000,000.- บาท *** (4) การซื้อหรือการจางโดยวิธีการประกวดราคาไดแกการซื้อหรือการจางครั้งหนึ่งซึ่งมีราคาเกิน 1,000,000.- บาท ขอ นเ้ี กา แลว เนอ่ื งจากปจ จบุ นั ใช พระราชบญั ญตั กิ ารจดั ซอ้ื จดั จา งและการบรหิ ารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ.2560 พระราชบญั ญตั กิ ารจดั ซือจดั จ้างและการหารพสั ดภุ าครฐั พ.ศ. 2560 มีผลบงั คบั ใช้วนั ที 24 สงิ หาคม 2560 มผี ลให้ระเบยี บสาํ นกั นายกรฐั มนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ พ.ศ. 2535 และทีแก้ไขเพมิ เติม รวมถึงหนงั สือเวียน กฎ ข้อบงั คบั อืนใดทีเกียวข้องกบั การพสั ดุถูกยกเลิกไปทงั หมด จะนํามาใช้ได้ เพยี งเทา่ ทไี มข่ ดั หรือแย้งกบั พระราชบญั ญตั นิ ใี นชว่ งเวลาทยี งั มกี ฎระเบยี บ ไมค่ รอบคลมุ ไมค่ รบถ้วน ซงึ เป็นไปตามบทเฉพาะกาลนนั เอง วิธีการการจัดซอื จัดจ้างพัสดุ (ยกเว้นงานจ้างทปี รึกษา และงานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานกอ่ สร้าง) 1.วธิ ีประกาศเชิญชวนทวั ไป ได้แก่ การทหี นว่ ยงานของรฐั เชญิ ชวนผู้ประกอบการทวั ไปทมี ี คุณสมบตั ิตรงตามเงอื นไขทหี นว่ ยงานของรฐั กําหนดให้เข้ายืนข้อเสนอ 2. คัดเลือก ได้แก่ การทหี นว่ ยงานของรฐั เชญิ ชวนเฉพาะผู้ประกอบการทมี คี ณุ สมบตั ติ รงตามเงอื นไขทหี นว่ ยงานของรฐั กาํ หนด ซงึ ต้องไมน่ ้อย กวา่ สามรายให้เข้ายืนข้อเสนอเว้นแตใ่ นงานนนั มผี ้ปู ระกอบการทมี คี ณุ สมบตั ิตรงตามทกี ําหนดน้อยกวา่ สามราย 3.วิธีเฉพาะเจาะจง ได้แก่ การทหี นว่ ยงานของรฐั เชญิ ชวนผู้ประกอบการทมี ีคณุ สมบตั ิ ตรงตามเงือนไขทหี นว่ ยงานของรฐั กาํ หนดรายใดราย หนงึ ให้เข้ายืนข้อเสนอหรือให้เข้ามาเจรจาตอ่ รองราคา รวมทงั การจัดซอื จดั จ้างพสั ดุกับผ้ปู ระกอบการโดยตรงในวงเงินเล็กน้อยตามทีกําหนดในกฎกระทรวง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook