รวมข้อสอบ

หน้า 551 4. บริษทั ปากชอ่ ง จาํ กดั ประกอบกจิ การใหบ้ ริการจองหอ้ งพกั โรงแรมทังในประเทศและตา่ งประเทศผา่ น ระบบเครือขา่ ยอนิ เตอร์เนต็ ใหแ้ กล่ กู คา้ คนไทยและชาวตา่ งชาติ กรณีการใหบ้ ริการจองหอ้ งพกั โรงแรม ตา่ งประเทศผา่ นทางอนิ เตอร์เนต็ ใหก้ บั ลกู คา้ คนไทยของบริษทั ฯ ขอ้ ใดต่อไปนีถกู ตอ้ ง ก. ไมเ่ ขา้ ลกั ษณะเป็นการใหบ้ ริการทกี ระทาํ ในราชอาณาจกั ร และไดม้ กี ารใชบ้ ริการนันในต่างประเทศ หากแตเ่ ป็นกรณีทีบริษทั ฯ ใหบ้ ริการแกผ่ รู้ บั บริการในประเทศไทย ซึงอยใู่ นบงั คบั ตอ้ งเสียภาษีมลู คา่ เพิมใน อตั รารอ้ ยละ 7.0 ดงั นนั บริษทั ฯ จึงไมม่ สี ิทธิใชอ้ ตั ราร้อยละ 0 ข. เขา้ ลกั ษณะเป็นการใหบ้ ริการทีกระทาํ ในราชอาณาจกั ร และไดม้ กี ารใชบ้ ริการนันในต่างประเทศ ดงั นนั บริษทั ฯ จึงไมม่ สี ิทธิใชอ้ ตั รารอ้ ยละ 0 ค. ไมเ่ ขา้ ลกั ษณะเป็นการใหบ้ ริการทกี ระทาํ ในราชอาณาจกั ร และไดม้ กี ารใชบ้ ริการนันในต่างประเทศ หากแตเ่ ป็นกรณีทีบริษทั ฯ ใหบ้ ริการแกผ่ รู้ บั บริการนอกประเทศไทย ดงั นัน บริษทั ฯ จงึ ไมม่ หี นา้ ทีเสีย ภาษมี ลู คา่ เพิมแตอ่ ยา่ งใด ง. เขา้ ลกั ษณะเป็นการใหบ้ ริการทกี ระทาํ ในราชอาณาจกั ร และไดม้ กี ารใชบ้ ริการนันในต่างประเทศ ดงั นัน บริษทั ฯ มสี ิทธิใชอ้ ตั รารอ้ ยละ 0 5. มหาวทิ ยาลยั ซึงเป็นหน่วยงานของรัฐ เปิ ดโรงแรมสาธิตเป็นสถานทีฝึกหดั ปฏบิ ตั งิ านโรงแรมเพอื สนบั สนุนการเรียนการสอนใหแ้ ก่นกั ศกึ ษา และเปิ ดใหบ้ ริการแก่บุคคลภายนอกดว้ ย ขอ้ ใดตอ่ ไปนีถกู ตอ้ ง ก. มหาวทิ ยาลยั ฯ มหี นา้ ทตี อ้ งเสียภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คล แตไ่ มอ่ ยใู่ นบงั คบั ตอ้ งเสียภาษมี ลู คา่ เพิม ข. มหาวทิ ยาลยั ฯ ไมม่ หี นา้ ทตี อ้ งเสียภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คล แต่อยใู่ นบงั คบั ตอ้ งเสียภาษมี ลู คา่ เพิม หาก มหาวทิ ยาลยั ฯ มรี ายไดห้ รือฐานภาษจี ากการประกอบกจิ การดงั กลา่ ว เกนิ 1,800,000 บาทตอ่ ปี จะตอ้ งจดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพิม ค. มหาวทิ ยาลยั ฯ มหี นา้ ทตี อ้ งเสียภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คล และอยใู่ นบงั คบั ตอ้ งเสียภาษมี ลู คา่ เพิม หาก มหาวทิ ยาลยั ฯ มรี ายไดห้ รือฐานภาษจี ากการประกอบกจิ การดงั กลา่ ว เกนิ 1,800,000 บาทตอ่ ปี จะตอ้ งจดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพิม ง. มหาวทิ ยาลยั ฯ ไมม่ หี นา้ ทีตอ้ งเสียภาษีเงินไดน้ ิตบิ คุ คล และไมอ่ ยใู่ นบงั คบั ตอ้ งเสียภาษมี ลู คา่ เพิม แบบทดสอบ กจิ การโรงแรม ชุดที 2 1. บริษทั ปากช่อง จาํ กดั ประกอบกจิ การโรงแรม จ่ายเบียประกนั ชวี ติ แทนกรรมการบริษทั ตามมติที ประชุมของบริษทั และเป็นกรณีทีบริษทั ตอ้ งจ่ายให้กรรมการทุกคนเป็นการทัวไปตามระเบียบของบริษทั และยงั มผี ลประโยชนท์ ีบริษทั ประกนั ชวี ติ จา่ ยคนื ใหผ้ เู้ อาประกนั ภยั ระหวา่ งอายกุ รมธรรมท์ กุ 5 ปี หรือทุกปี ขอ้ ใดต่อไปนีถกู ตอ้ ง

หนา้ 552 ก. เงินคา่ เบียประกนั ชวี ติ ทีบริษทั จา่ ยแทนกรรมการดงั กลา่ ว บริษทั มสี ิทธินาํ มาหกั เป็นรายจ่ายในการ คาํ นวณกาํ ไรสุทธิได(้ ไมต่ อ้ งหา้ ม) หากผรู้ บั ประโยชนต์ ามกรมธรรมค์ อื บริษทั เงินค่าเบียประกนั ทบี ริษทั จา่ ย แทนกรรมการกไ็ มถ่ อื เป็นประโยชนเ์ พิมของกรรมการแตอ่ ยา่ งใด สาํ หรับผลประโยชนท์ บี ริษทั ประกนั ชวี ติ จา่ ยคนื ระหวา่ งอายกุ รมธรรม์ 5 ปี หรือทกุ ปี ใหแ้ กผ่ เู้ อาประกนั ภยั ถอื เป็นเงนิ ทีไดจ้ ากการประกนั ภยั ไดร้ บั ยกเวน้ ไมต่ อ้ งนาํ มารวมคาํ นวณเพอื เสียภาษเี งนิ ไดต้ ามมาตรา 42(13) ข. เงินค่าเบียประกนั ชวี ติ ทีบริษทั จา่ ยแทนกรรมการดงั กลา่ ว บริษทั ไมม่ สี ิทธินาํ มาหกั เป็นรายจ่ายในการ คาํ นวณกาํ ไรสุทธิได้ (รายจา่ ยตอ้ งหา้ ม) หากผรู้ บั ประโยชนต์ ามกรมธรรมค์ อื บริษทั เงินคา่ เบียประกนั ที บริษทั จา่ ยแทนกรรมการกไ็ มถ่ อื เป็นประโยชนเ์ พิมของกรรมการแต่อยา่ งใด สาํ หรับผลประโยชนท์ บี ริษทั ประกนั ชีวิตจ่ายคืนระหว่างอายุกรมธรรม์ 5 ปี หรือทุกปี ใหแ้ ก่ผเู้ อาประกนั ภยั ถอื เป็นเงินทไี ดจ้ ากการ ประกนั ภยั ไดร้ บั ยกเวน้ ไมต่ อ้ งนาํ มารวมคาํ นวณเพอื เสียภาษีเงินไดต้ ามมาตรา 42(13) ค. เงินคา่ เบียประกนั ชวี ติ ทีบริษทั จา่ ยแทนกรรมการดงั กลา่ ว บริษทั ไมม่ สี ิทธินาํ มาหกั เป็นรายจ่ายในการ คาํ นวณกาํ ไรสุทธิได้ (รายจา่ ยตอ้ งหา้ ม) หากผรู้ บั ประโยชนต์ ามกรมธรรมค์ อื บริษทั เงินคา่ เบียประกนั ที บริษทั จา่ ยแทนกรรมการกไ็ มถ่ อื เป็นประโยชนเ์ พิมของกรรมการแตอ่ ยา่ งใด สาํ หรับผลประโยชนท์ บี ริษทั ประกนั ชีวิตจ่ายคืนระหว่างอายุกรมธรรม์ 5 ปี หรือทุกปี ใหแ้ ก่ผเู้ อาประกนั ภยั เป็นเงินไดท้ ีตอ้ งนาํ มารวม คาํ นวณเพอื เสียภาษีเงินไดด้ ว้ ย ง. เงินคา่ เบียประกนั ชวี ติ ทบี ริษทั จา่ ยแทนกรรมการดงั กลา่ ว บริษทั มสี ิทธินาํ มาหกั เป็นรายจ่ายในการ คาํ นวณกาํ ไรสุทธิได(้ ไมต่ อ้ งหา้ ม) ถงึ แมผ้ รู้ บั ประโยชนต์ ามกรมธรรมค์ ือบริษทั เงินค่าเบียประกนั ทบี ริษทั จ่ายแทนกรรมการก็ตอ้ งถือเป็นประโยชน์เพิมของกรรมการเป็นเงินไดพ้ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(1) สาํ หรับ ผลประโยชน์ทีบริษทั ประกนั ชีวิตจ่ายคืนระหว่างอายกุ รมธรรม์ 5 ปี หรือทุกปี ใหแ้ ก่ผเู้ อาประกนั ภยั ถอื เป็น เงินทไี ดจ้ ากการประกนั ภยั ไดร้ บั ยกเวน้ ไมต่ อ้ งนาํ มารวมคาํ นวณเพอื เสียภาษเี งนิ ไดต้ ามมาตรา 42(13) เหตุผล ตามขอ้ หารือ : กค 0702/9358 ลว.12 พฤศจิกายน 2552 2. บริษทั ปากชอ่ งการโรงแรม จาํ กดั ประกอบกิจการโรงแรม ไดเ้ ช่าทีดนิ นายชดั เจน โดยทาํ สญั ญาเช่าทีดนิ เป็นลายลกั ษณ์อกั ษร ขอ้ ใดต่อไปนีถกู ตอ้ ง ก. บริษทั ปากช่องการโรงแรม จาํ กดั ผเู้ ช่า มีหนา้ ทีชาํ ระอากรแสตมป์ อตั รา 1 บาท ตอ่ จาํ นวนเงนิ 1,000 บาท หรือเศษของ 1,000 บาท แห่งคา่ เชา่ หรือเงินกินเปลา่ หรือทังสองอยา่ งรวมกนั ตลอดอายกุ ารเช่า ข. นายชดั เจน ผใู้ ห้เช่า มีหนา้ ทีชาํ ระอากรแสตมป์ อตั รา 1 บาท ตอ่ จาํ นวนเงนิ 1,000 บาท หรือเศษของ 1,000 บาท แห่งคา่ เชา่ หรือเงินกินเปลา่ หรือทังสองอยา่ งรวมกนั ตลอดอายกุ ารเช่า

หนา้ 553 ค. นายชดั เจน ผใู้ ห้เช่า มีหนา้ ทีชาํ ระอากรแสตมป์ อตั รา 1 บาท ตอ่ จาํ นวนเงนิ 2,000 บาท หรือเศษของ 2,000 บาท แห่งคา่ เชา่ หรือเงินกินเปลา่ หรือทังสองอยา่ งรวมกนั ตลอดอายกุ ารเช่า ง. บริษทั ปากชอ่ งการโรงแรม จาํ กดั ผเู้ ช่า มหี นา้ ทีชาํ ระอากรแสตมป์ อตั รา 1 บาท ตอ่ จาํ นวนเงนิ 2,000 บาท หรือเศษของ 2,000 บาท แห่งคา่ เชา่ หรือเงินกินเปลา่ หรือทังสองอยา่ งรวมกนั ตลอดอายกุ ารเช่า เหตผุ ล ตามบญั ชอี ากรแสตมป์ ลกั ษณะแห่งตราสาร1. เช่าทีดนิ โรงเรือน สิงปลกู สร้างอยา่ งอนื หรือแพ 3. บริษทั โคราช จาํ กดั ประกอบกจิ การโรงแรม ตกลงจา่ ยคา่ ตอบแทนจากการใชท้ างภารจาํ ยอมบนทดี ิน ใหแ้ กบ่ ริษทั ปากชอ่ ง จาํ กดั ซึงเป็นบริษทั ในเครือ เป็นเงนิ 15 ลา้ นบาท ขอ้ ใดต่อไปนีถกู ตอ้ ง ก. คา่ ตอบแทนจากการใชท้ างภารจาํ ยอมทีบริษทั โคราช จาํ กดั จ่ายใหแ้ กบ่ ริษทั ปากช่อง จาํ กดั ถือเป็นเงิน ไดพ้ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(5) แห่งประมวลรษั ฎากร และถอื เป็นการจ่ายคา่ เชา่ ทดี ินทบี ริษทั ปากชอ่ ง จาํ กดั ไดร้ ับยกเวน้ ภาษีมลู ค่าเพิม แตเ่ มอื บริษทั โคราช จาํ กดั จา่ ยเงินดงั กลา่ วใหแ้ กบ่ ริษทั ปากชอ่ ง จาํ กดั บริษทั โคราช จาํ กดั มหี นา้ ทตี อ้ งหกั ภาษีเงินได้ ณ ทจี า่ ยในอตั รารอ้ ยละ 5.0 ข. คา่ ตอบแทนจากการใชท้ างภารจาํ ยอมทีบริษทั โคราช จาํ กดั จ่ายใหแ้ กบ่ ริษทั ปากชอ่ ง จาํ กดั ถอื เป็นเงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรษั ฎากร และถอื เป็นการจ่ายคา่ บริการทบี ริษทั ปากชอ่ ง จาํ กดั ไดใ้ หบ้ ริการแก่บริษทั โคราช จาํ กดั เขา้ ลกั ษณะเป็นการใหบ้ ริการ อยใู่ นบงั คบั ตอ้ งเสียภาษีมลู คา่ เพิม บริษทั ปากชอ่ ง จาํ กดั มหี นา้ ทีตอ้ งเรียกเกบ็ ภาษีมลู คา่ เพิมจากบริษทั โคราช จาํ กดั และเมอื บริษทั โคราช จาํ กดั จา่ ยเงินดงั กลา่ วใหแ้ ก่บริษทั ปากชอ่ ง จาํ กดั บริษทั โคราช จาํ กดั มหี นา้ ทีตอ้ งหกั ภาษเี งินได้ ณ ทจี า่ ยในอตั รา รอ้ ยละ 3.0 ค. คา่ ตอบแทนจากการใชท้ างภารจาํ ยอมทีบริษทั โคราช จาํ กดั จ่ายใหแ้ กบ่ ริษทั ปากชอ่ ง จาํ กดั ถอื เป็นเงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรษั ฎากร และไมอ่ ยใู่ นบงั คบั ตอ้ งเสียภาษมี ลู คา่ เพิม แต่เมอื บริษทั โคราช จาํ กดั จา่ ยเงนิ ดงั กลา่ วใหแ้ ก่บริษทั ปากชอ่ ง จาํ กดั บริษทั โคราช จาํ กดั มหี นา้ ทีตอ้ งหกั ภาษเี งนิ ได้ ณ ทจี า่ ยในอตั ราร้อยละ 3.0 ง. คา่ ตอบแทนจากการใชท้ างภารจาํ ยอมทีบริษทั โคราช จาํ กดั จ่ายใหแ้ กบ่ ริษทั ปากชอ่ ง จาํ กดั ถอื เป็นเงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรษั ฎากร และไมอ่ ยใู่ นบงั คบั ตอ้ งเสียภาษีมลู คา่ เพิม และเมอื บริษทั โคราช จาํ กดั จา่ ยเงนิ ดงั กลา่ วใหแ้ กบ่ ริษทั ปากชอ่ ง จาํ กดั บริษทั โคราช จาํ กดั ไมม่ หี นา้ ทตี อ้ งหกั ภาษี เงินได้ ณ ทจี า่ ยแต่อยา่ งใด เหตุผล ค่าตอบแทนจากการใชท้ างภาระจาํ ยอมทีบริษทั จา่ ยใหแ้ ก่บริษทั ก. ถอื เป็นเงินไดพ้ งึ ประเมนิ ตาม มาตรา 40(8) แห่งประมวลรษั ฎากร และ เขา้ ลกั ษณะเป็นการใหบ้ ริการตามมาตรา 77/1(10) แห่ง ประมวล รษั ฎากร อยใู่ นบงั คบั ตอ้ งเสียภาษมี ลู คา่ เพิมตามมาตรา 77/2 แห่งประมวลรษั ฎากร เมอื บริษทั จา่ ยเงนิ

หนา้ 554 ดงั กล่าวใหแ้ ก่บริษทั ก. มหี นา้ ทีตอ้ งหกั ภาษี ณ ทีจา่ ยในอตั รารอ้ ยละ 3 ตามขอ้ 12/1 ของคาํ สังกรมสรรพากร ที ท.ป.4/2528ฯ (กค 0706/52 ลงวนั ที 6 มกราคม 2546) 4. ผปู้ ระกอบการกจิ การโรงแรม ซึงเป็นคณะบุคคลหรือหา้ งหุน้ ส่วนสามญั หรือเจา้ ของคนเดียว ในการ คาํ นวณภาษีเงินไดบ้ คุ คลธรรมดา หกั คา่ ใชจ้ า่ ยอยา่ งไร ก. เลอื กหกั คา่ ใชจ้ า่ ยตามความจาํ เป็นและสมควร หรือหกั คา่ ใชจ้ า่ ยเป็นการเหมาร้อยละ 75 กไ็ ด้ ข. เลอื กหกั คา่ ใชจ้ า่ ยตามความจาํ เป็นและสมควร หรือหกั คา่ ใชจ้ า่ ยเป็นการเหมาร้อยละ 70 กไ็ ด้ ค. หกั คา่ ใชจ้ า่ ยเป็นการเหมารอ้ ยละ 70 เท่านนั ง. หกั คา่ ใชจ้ า่ ยตามความจาํ เป็นและสมควรเท่านัน ไมม่ ขี อ้ ใดถกู เหตุผล ตงั แต่ปี ภาษี เป็นตน้ ไป หกั คา่ ใชจ้ า่ ยเหมาไดร้ อ้ ยละ ตามมาตรา ( ) แห่งพระราชกฤษฎกี าฯ (ฉบบั ที ) พ.ศ. ) หรือตามจาํ เป็นและสมควร 5. บริษทั จาํ กดั ประกอบกจิ การโรงแรม ไดส้ ่งพนกั งานเขา้ ฝึกอบรมความปลอดภยั ในการทาํ งาน และจา่ ยเงิน คา่ ฝึกอบรมดงั กลา่ วใหก้ บั สมาคมฯ ทไี ดจ้ ดทะเบียนแลว้ เป็นนิตบิ คุ คลตามมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมาย แพง่ และพาณิชยแ์ ละประกอบกจิ การเป็นสถานฝึกอบรมฝีมอื แรงงานโดยมหี ลกั สตู รใชใ้ นการใหบ้ ริการ ศกึ ษาหรือฝึกอบรม ขอ้ ใดตอ่ ไปนีถกู ตอ้ ง ก. การจดั ฝึกอบรมเขา้ ลกั ษณะเป็นการรบั บริการ บริษทั ซึงเป็นผจู้ า่ ยเงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ ทีเป็นคา่ บริการ ใหแ้ ก่ผรู้ บั ซึงเป็นสมาคม ผจู้ า่ ยมหี นา้ ทีตอ้ งหกั ภาษี ณ ทีจา่ ย อตั รารอ้ ยละ 3 ข. การจดั ฝึกอบรมเขา้ ลกั ษณะเป็นการรบั จา้ งทาํ ของ บริษทั ซึงเป็นผจู้ า่ ยเงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ ทเี ป็นค่าจา้ งทาํ ของใหแ้ ก่ผรู้ บั ซึงเป็นสมาคม ผจู้ า่ ยมหี นา้ ทีตอ้ งหกั ภาษี ณ ทีจา่ ย อตั รารอ้ ยละ 10 ค. การจดั ฝึกอบรมเขา้ ลกั ษณะเป็นการรบั จา้ งทาํ ของ บริษทั ซึงเป็นผจู้ า่ ยเงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ ทเี ป็นค่าจา้ งทาํ ของใหแ้ ก่ผรู้ บั ซึงเป็นสมาคม ผจู้ า่ ยไมม่ หี นา้ ทีตอ้ งหกั ภาษี ณ ทีจา่ ย ง. การจดั ฝึกอบรมเขา้ ลกั ษณะเป็นการรบั จา้ งทาํ ของ บริษทั ซึงเป็นผจู้ า่ ยเงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ ทเี ป็นค่าจา้ งทาํ ของใหแ้ ก่ผรู้ บั ซึงเป็นสมาคม ผจู้ า่ ยมหี นา้ ทีตอ้ งหกั ภาษี ณ ทีจา่ ย อตั รารอ้ ยละ 3 เหตุผล ตามขอ้ 8(2) ของคาํ สังกรมสรรพากรที ท.ป.4/2528ฯ

หนา้ 555

หนา้ 556 ข้อ 90. บริษทั ซี. จาํ กดั ประกอบกจิ การแปรรูปสตั วน์ าํ ในการประกอบกจิ การ บริษทั ฯ ไดเ้ ช่าทีดนิ จาก บริษทั อนื ตงั แต่ปี 2546 และไดส้ ร้างอาคารบนทีดนิ ทีเช่า เพอื ดาํ เนินกจิ การโรงงานแปรรูปสตั วน์ าํ ต่อมา บริษทั ฯ ไดข้ ายอาคารดงั กลา่ วใหแ้ กผ่ ใู้ หเ้ ช่าซึงเป็นเจา้ ของทีดนิ การขายอาคารดงั กลา่ วไมไ่ ดม้ กี ารจด ทะเบยี นสิทธแิ ละนิตกิ รรม เนืองจากเป็นการขายใหก้ บั เจา้ ของทีดนิ ขอ้ ใดถกู ตอ้ ง ก. บริษทั ฯ ไมต่ อ้ งเสียภาษีธุรกจิ เฉพาะ เนืองจากไมเ่ ขา้ ลกั ษณะเป็นการขายอสงั หาริมทรัพยเ์ ป็นทาง คา้ หรือหากาํ ไร ข. บริษัทฯ ไม่ต้องเสียภาษธี ุรกจิ เฉพาะ เนอื งจากการขายอสังหาริมทรัพย์ดงั กล่าวไม่มกี ารจด ทะเบียนสิทธิและนติ กิ รรม ค. บริษทั ฯ ตอ้ งเสียภาษธี รุ กจิ เฉพาะ เนืองจากเขา้ ลกั ษณะเป็นการขายอสงั หาริมทรัพยเ์ ป็นทางคา้ หรือหากาํ ไร ง. ผดิ ทกุ ขอ้ เหตุผล หากการโอนกรรมสิทธิในอสงั หาริมทรพั ยด์ งั กลา่ วไมต่ อ้ งจดทะเบยี นสิทธิและนิตกิ รรมตอ่ พนกั งาน เจา้ หนา้ ทีผรู้ ับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม บริษทั B จงึ ไมม่ หี นา้ ทีตอ้ งเสียภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ทังนี ตาม มาตรา / ( ) และมาตรา / วรรคสาม แห่งประมวลรษั ฎากร ประกอบกบั มาตรา ( ) แห่งพระราช กฤษฎกี าฯ (ฉบบั ที ) พ.ศ. (กค / ลงวนั ที พฤศจิกายน เลขตู้ / ) ข้อ 91. ขอ้ ใดถกู ตอ้ ง ก. กรณีราคาซือขายอสงั หาริมทรัพยต์ ามบนั ทกึ ถอ้ ยคาํ การชาํ ระภาษีอากร (ท.ด.16) สูงกวา่ ราคา ประเมนิ ทนุ ทรพั ยเ์ พอื เรียกเกบ็ คา่ ธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิตกิ รรมตามประมวลกฎหมายทดี ิน ซึง เป็นราคาทีใชอ้ ยใู่ นวนั ทีมีการโอนนนั ให้คาํ นวณภาษีธุรกิจเฉพาะตามราคาซือขายอสงั หาริมทรพั ยต์ าม บนั ทกึ ถอ้ ยคาํ การชาํ ระภาษอี ากร (ท.ด.16) ข. กรณีราคาซือขายอสงั หาริมทรัพยต์ ามบนั ทกึ ถอ้ ยคาํ การชาํ ระภาษีอากร (ท.ด.16) ตาํ กว่าราคา ประเมนิ ทนุ ทรพั ยเ์ พอื เรียกเกบ็ คา่ ธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิตกิ รรมตามประมวลกฎหมายทดี ิน ให้ คาํ นวณภาษีธุรกจิ เฉพาะตามราคาประเมนิ ทนุ ทรพั ย์ ค. กรณีการขายอสงั หาริมทรัพยท์ ีผซู้ ืออสงั หาริมทรพั ยต์ กลงเป็นผอู้ อกคา่ ภาษีธุรกิจเฉพาะและหรือ คา่ ธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิตกิ รรมทีผขู้ ายอสงั หาริมทรพั ยม์ หี นา้ ทีตอ้ งเสียตามกฎหมายแทน ผขู้ ายอสงั หาริมทรพั ย์ ใหน้ าํ เงินคา่ ภาษีธุรกจิ เฉพาะและหรือคา่ ธรรมเนียมทผี ซู้ ือออกแทนใหด้ งั กลา่ วมารวม เป็นฐานภาษีในการคาํ นวณภาษีธุรกิจเฉพาะดว้ ย ง. ถูกทุกข้อ กรณีราคาซือขายอสงั หาริมทรพั ยต์ ามบนั ทึกถอ้ ยคาํ การชาํ ระภาษอี ากร (ท.ด.16) เขา้ ลกั ษณะเป็นการขาย อสงั หาริมทรพั ยเ์ ป็นทางคา้ หรือหากาํ ไร ตามมาตรา 4(6) แห่งพระราชกฤษฎกี าฯ (ฉบบั ที 342) พ.ศ.2541 ผรู้ ับซือฝากมหี นา้ ทีตอ้ งเสียภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ตามมาตรา 91/2(6) แห่งประมวลรัษฎากร โดยคาํ นวณภาษี

หนา้ 557 ธุรกจิ เฉพาะจากยอดรายรบั จากการขายอสงั หาริมทรัพยก์ อ่ นหกั รายจา่ ยใดๆ ตามอตั ราภาษธี ุรกจิ เฉพาะ ตาม ราคาทีสูงกว่าระหว่างราคาซือขายอสงั หาริมทรพั ยต์ ามบนั ทึกถอ้ ยคาํ การชาํ ระภาษีอากร (ท.ด.16) กบั ราคา ประเมนิ ทนุ ทรพั ยเ์ พอื เรียกเกบ็ คา่ ธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิตกิ รรมตามประมวลกฎหมายทดี ิน (กค 0811(กม.06)/953 ลงวนั ที 14 สิงหาคม 2544) และหากผซู้ ือเป็นผจู้ ่ายค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ ภาษอี ากร และคา่ ใชจ้ า่ ยในการโอนกรรมสิทธิตาม ขอ้ ตกลงในสญั ญาจะซือจะขาย บริษทั ผขู้ ายอสงั หาริมทรพั ยต์ อ้ งนาํ ค่าธรรมเนยี ม คา่ ภาษี รวมทงั คา่ ใชจ้ า่ ย ในการโอนกรรมสิทธิดงั กลา่ วมารวมเป็นรายไดใ้ นการคาํ นวณกาํ ไรสุทธิ เพอื เสียภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คล ตาม มาตรา 65 แห่งประมวลรษั ฎากร และตอ้ งนาํ มารวมเป็นรายรับทีตอ้ งเสียภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ตามมาตรา 91/5 แห่งประมวลรษั ฎากร ข้อ 92. กรณีผขู้ ายอสงั หาริมทรัพยซ์ ึงมหี นา้ ทีตอ้ งยนื แบบแสดงรายการภาษธี ุรกิจเฉพาะ และชาํ ระภาษี ธุรกจิ เฉพาะ มไิ ดย้ นื แบบฯ และชาํ ระภาษฯี ตอ่ เจา้ พนกั งานทีดนิ ผรู้ บั จดทะเบียนสิทธิและนิตกิ รรม หรือ ยนื แบบฯ พร้อมกบั ชาํ ระภาษีฯ ต่อเจา้ พนกั งานทีดินผรู้ ับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมแลว้ แต่ชาํ ระภาษีฯ ไวไ้ มถ่ กู ตอ้ งครบถว้ น ขอ้ ใดต่อไปนีไมถ่ กู ตอ้ ง ก. ถา้ ผขู้ ายอสงั หาริมทรพั ย์ มคี วามประสงคจ์ ะยนื แบบ ภ.ธ. 40 และชาํ ระภาษีฯ ใหถ้ กู ตอ้ งครบถว้ น กใ็ หย้ นื แบบฯ และชาํ ระภาษธี ุรกจิ เฉพาะ พรอ้ มกบั เบียปรบั และเงนิ เพิมตอ่ เจา้ พนกั งานทดี นิ ผรู้ ับจดทะเบียน สิทธิและนิติกรรม ข. ถ้าผ้ขู ายอสังหาริมทรัพย์ มคี วามประสงค์จะยนื แบบ ภ.ธ. 40 และชําระภาษีฯ ให้ถูกต้องครบถ้วน กใ็ ห้ยนื แบบฯ และชําระภาษีฯ พร้อมกบั เบียปรับและเงินเพมิ ณ สํานักงานสรรพากรพนื ทีสาขา ค. ในกรณีผขู้ ายอสงั หาริมทรัพยท์ ีมไิ ดย้ นื แบบ ภ.ธ. 40 ตอ่ เจา้ พนกั งานทดี นิ ฯ มคี วามประสงคจ์ ะ ยนื แบบฯ และชาํ ระภาษฯี ใหผ้ ขู้ ายอสงั หาริมทรัพยช์ าํ ระคา่ ปรบั ทางอาญา ณ สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขา ส่วนการยนื แบบฯ ใหด้ าํ เนินการตามยนื แบบฯ และชาํ ระภาษธี รุ กจิ เฉพาะ พรอ้ มกบั เบียปรบั และเงนิ เพิมต่อ เจา้ พนักงานทีดินผรู้ ับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ง. ไมถ่ กู ตอ้ งทุกขอ้ ตามขอ้ 5(2) ของคาํ สังกรมสรรพากรที ป.82/2542ฯ กรณียนื แบบแสดงรายการภาษธี รุ กจิ เฉพาะ และชาํ ระ ภาษธี รุ กิจเฉพาะแลว้ แตช่ าํ ระไวไ้ มถ่ กู ตอ้ งครบถว้ น ตอ้ งรบั ผดิ เสียเบียปรับ 1 เท่า และเงนิ เพิมอกี อตั ราร้อย ละ 1.5 ตอ่ เดอื น โดยใหย้ ืนแบบฯและชาํ ระภาษี พรอ้ มกบั เบียปรบั และเงนิ เพิมต่อเจา้ พนกั งานทีดินผรู้ ับจด ทะเบียนสิทธิและนิติกรรม

หนา้ 558 ข้อ 93. วนั เริมใชบ้ งั คบั ในการเรียกเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะของกรมทีดินเพือกรมสรรพากร ให้เริ มใชบ้ งั คบั สาํ หรับการจดทะเบียนสิทธิและนิตกิ รรม ตงั แตเ่ มอื ใด ก. ตงั แตว่ นั ที 1 มกราคม 2542 ข. ตงั แต่วนั ที 30 มกราคม 2542 ค. ตงั แต่วนั ที 31 มกราคม 2542 ง. ตงั แต่วนั ที 1 กมุ ภาพนั ธ์ 2542 คาํ สงั กรมสรรพากร ที ป. 82/2542 เรือง การเสียภาษีธุรกจิ เฉพาะสาํ หรบั การขายอสงั หาริมทรพั ยเ์ ป็นทางคา้ หรือหากาํ ไรตามมาตรา 91/2(6) แห่งประมวลรษั ฎากร ขอ้ 9 วนั เริมใชบ้ งั คบั ในการเรียกเกบ็ ภาษีธุรกิจ เฉพาะของกรมทดี นิ เพอื กรมสรรพากรใหเ้ ริมใชบ้ งั คบั สาํ หรบั การจดทะเบียนสิทธิและนิตกิ รรมตังแต่วนั ที 31 มกราคม 2542 ข้อ 94. นายแดง โอนกรรมสิทธิหรือสิทธิครอบครองในอสงั หาริมทรพั ยใ์ หแ้ ก่ส่วนราชการ โดยไมม่ ี คา่ ตอบแทน ขอ้ ใดต่อไปนี ถกู ตอ้ ง ก. นายแดง เสียภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดา และเสียภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ข. นายแดง เสียภาษีเงินไดบ้ คุ คลธรรมดา แต่ไมต่ อ้ งเสียภาษีธุรกจิ เฉพาะ ค.นายแดง ไมต่ อ้ งเสียภาษเี งนิ ไดบ้ คุ คลธรรมดา แต่ตอ้ งเสียภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ง. นายแดง ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และไม่ต้องเสียภาษีธุรกจิ เฉพาะ การโอนกรรมสิทธิหรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ ใหแ้ กส่ ่วนราชการ ตามมาตรา 2 แห่งประมวล รษั ฎากร โดยไมม่ คี ่าตอบแทน ผมู้ เี งินไดไ้ มม่ หี นา้ ทีตอ้ งเสียภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ตามมาตรา 91/8 วรรคสาม แห่งประมวลรษั ฎากร ประกอบกบั มาตรา 4(6)(ฉ) แห่งพระราชกฤษฎกี าฯ (ฉบบั ที 342) พ.ศ.2541 ข้อ 95. กรณีใดต่อไปนี ไมต่ อ้ งปิ ดอากรแสตมป์ บาท ก. ทาํ สัญญาซ่อมรถยนต์ จาํ นวนเงิน , บาท ข. ทาํ สญั ญากยู้ มื เงิน จาํ นวน บาท ค. ทําสัญญาเช่ารถยนต์แบบลสิ ซิง จํานวนเงิน , ง. ทาํ สญั ญาจาํ นาํ รถยนตโ์ ดยไมจ่ าํ กดั จาํ นวนหนีไว้ สญั ญาเช่าแบบลสิ ซิงไมต่ อ้ งเสียอากรแสตมป์ เนืองจากไมเ่ ขา้ ลกั ษณะแห่งตราสารทีตอ้ งเสียอากรแสตมป์ ตามบญั ชีอตั ราอากรแสตมป์

หนา้ 559 ข้อ 96. สัญญาซือขายเครืองจกั ร , บาท จะตอ้ งเสียอากรแสตมป์ เท่าใด ก. บาท ข. บาท ค. บาท ง. ไม่เสียอากรแสตมป์ แต่อย่างใด สัญญาซือขายไมต่ อ้ งเสียอากรแสตมป์ เนืองจากไมเ่ ขา้ ลกั ษณะแห่งตราสารทีตอ้ งเสียอากรแสตมป์ ตามบญั ชี อตั ราอากรแสตมป์ ข้อ 97. ขอ้ ใดต่อไปนีไมถ่ กู ตอ้ ง ก. กรณีบริษทั ก. ใหเ้ ช่าซือยานพาหนะใชแ้ ลว้ บริษทั ก. จะนาํ อากรแสตมป์ ปิ ดทบั ลงบนตราสาร หรือจะนาํ ตราสารไปชาํ ระอากรเป็นตวั เงนิ กย็ อ่ มทาํ ได้ ข. ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษมี ลู คา่ เพิมตอ้ งปิ ดแสตมป์ บริบูรณ์ตราสารสัญญาเช่าซือตามอตั ราที กาํ หนดในบญั ชีอตั ราอากรแสตมป์ ทุกจาํ นวน , บาท หรือเศษของ , บาท แห่งราคาทงั หมดโดยไม่ หกั เงนิ ชาํ ระลว่ งหนา้ (เงินดาวน์) และไมร่ วมภาษีมลู ค่าเพมิ ทีเรียกเก็บหรือพึงเรียกเก็บ ค. สัญญาเช่ารถยนต์ ต้องเสียอากรแสตมป์ ตามอัตราทกี ําหนดในบัญชอี ตั ราอากรแสตมป์ ทุก จํานวน , บาท หรือเศษของ , บาท แห่งราคาทังหมด ง. ทกุ ขอ้ ไมถ่ กู ตอ้ ง สัญญาเช่ารถยนต์ ไมต่ อ้ งปิดอากรแสตมป์ เนืองจาก ตามลกั ษณะตราสาร 1. แห่งบญั ชีอตั ราอากร แสตมป์ กาํ หนดให้ปิ ดอากรแสตมป์ กรณีเช่าทีดิน โรงเรือน สิงปลกู สรา้ งอยา่ งอนื หรือแพเท่านัน ข้อ 98. บริษทั ไดท้ าํ สญั ญารบั จา้ งกบั องคก์ ารบริหารส่วนทอ้ งถินและมสี ินจา้ งเกนิ , บาทโดยบริษทั ฯ ไดน้ าํ อากรแสตมป์ ปิดทบั สญั ญาดงั กลา่ ว ซึงเป็นตราสารทถี กู กาํ หนดใหช้ าํ ระอากรเป็นตวั เงนิ ดงั นันตรา สารดงั กลา่ วจงึ มไิ ดป้ ิ ดแสตมป์ บริบรู ณ์ บริษทั ฯ มหี นา้ ทีตอ้ งชาํ ระอากรเป็นตัวเงิน เมือชาํ ระอากรแสตมป์ เป็นตวั เงินถูกตอ้ งเรียบร้อยแลว้ บริษทั ฯ มีสิทธิขอคืนอากรแสตมป์ ทีเสียโดยวิธีปิ ดแสตมป์ ลงบนตราสาร ได้ ก. ภายใน เดือนนับแต่วันเสียอากรตามมาตรา ข. ภายใน ปี นบั แตว่ นั เสียอากรตามมาตรา ค. ภายใน ปี นบั แตว่ นั ชาํ ระค่าอากรแสตมป์ ตามมาตรา / แห่งประมวลกฎหมายแพง่ และ พาณิชย์ ง. ไมม่ สี ิทธิขอคนื อากรแสตมป์ แตอ่ ยา่ งใด อากรทชี าํ ระไวส้ ามารถขอคนื ไดภ้ ายใน 6 เดอื นนบั แตว่ นั เสียอากร ตามมาตรา 122 แห่งประมวลรษั ฎากร ข้อ 99. ขอ้ ใดไมถ่ กู ตอ้ ง ก. สญั ญาจดั ตงั คณะบุคคลชือวา่ \"สาํ นกั งานกฎหมาย ก. และบุตร สาํ นกั ที \" หากคณะบคุ คล ดงั กลา่ วไมม่ วี ตั ถปุ ระสงคจ์ ะแบ่งปันผลกาํ ไรอนั พงึ ไดจ้ ากกจิ การนัน ไมอ่ ยใู่ นบงั คบั ตอ้ งปิ ดอากรแสตมป์

หนา้ 560 ข. หนงั สือสญั ญาห้างหุน้ ส่วน อยใู่ นบงั คบั ตอ้ งปิ ดอากรแสตมป์ ค. ใบมอบอาํ นาจใหร้ บั เงนิ หรือสิงของแทน ไมอ่ ยใู่ นบงั คบั ตอ้ งปิ ดอากรแสตมป์ ง. พนั ธบตั รของรฐั บาลใด ๆ ทขี ายในประเทศไทย ไม่อย่ใู นบังคบั ต้องปิ ดอากรแสตมป์ -หนงั สือสญั ญาจดั ตงั หา้ งหุน้ ส่วน ตามลกั ษณะตราสาร 27.(ก) แห่งบญั ชีอตั ราอากรแสตมป์ ซึงตอ้ งเสียอากร แสตมป์ โดยผเู้ ป็นหุน้ ส่วนเป็นผมู้ หี นา้ ทีเสียอากรและขดี ฆา่ อากรแสตมป์ หากคณะบุคคลดงั กลา่ วไมม่ ี วตั ถปุ ระสงคจ์ ะแบ่งปันผลกาํ ไรอนั พงึ ไดจ้ ากกจิ การนนั ไมอ่ ยใู่ นบงั คบั ตอ้ งปิ ดอากรแสตมป์ -ใบมอบอาํ นาจใหร้ บั เงนิ หรือสิงของ ไมต่ อ้ งปิ ดอากรแสตมป์ เนืองจากไดร้ บั ยกเวน้ ตามลกั ษณะตราสาร 7.(3) ใบมอบอาํ นาจ แห่งบญั ชีอตั ราอากรแสตมป์ (กค 0702/5432 ลงวนั ที 29 สิงหาคม 2551) -ตามลกั ษณะตราสาร 2. แห่งบญั ชีอตั ราอากรแสตมป์ โอนใบหุน้ ใบหุน้ กู้ พนั ธบตั รและใบรับรองหนี ซึง บริษทั สมาคม คณะบคุ คลหรือองคก์ ารใด ๆ เป็นผอู้ อก คิดตามราคาหุน้ ทีชาํ ระแลว้ หรือตามราคาในตราสาร แลว้ แตอ่ ยา่ งใดจะมากกวา่ ทุกจาํ นวนเงิน 1,000 บาท หรือเศษของ 1,000 บาท เสียอากรแสตมป์ บาท ขอ้ 100. ขอ้ ใดต่อไปนี อยใู่ นบงั คบั ตอ้ งปิ ดอากรแสตมป์ ก. ใบแต่งทนาย ข. ใบมอบอาํ นาจซึงทนายความใหแ้ กเ่ สมยี นของตนเพอื เป็นตวั แทนดาํ เนินคดใี นศาล ค. ใบมอบฉันทะสําหรับให้ลงมตใิ นทีประชุมของบริษัท ง. ตวั จาํ นาํ ของโรงรบั จาํ นาํ ทีไดร้ บั อนุญาตตามกฎหมาย หนงั สือมอบฉนั ทะเขา้ ร่วมประชุมใหญ่สามญั ประจาํ ปี ในหน่วยงานต่างๆ เขา้ ลกั ษณะเป็นตราสารใบมอบ อาํ นาจ คือ ใบตงั ตวั แทน ซึงมไิ ดก้ ระทาํ ในรูปลกั ษณะตราสารสญั ญา อยใู่ นบงั คบั ตอ้ งเสียค่าอากรแสตมป์ ตามลกั ษณะแห่งตราสาร 7. แห่งบญั ชีอตั ราอากรแสตมป์ โดยผมู้ อบอาํ นาจเป็นผมู้ ีหน้าทีเสียอากรและผรู้ ับ มอบเป็นผขู้ ดี ฆา่ อากรแสตมป์ แบ่งเป็น 3 กรณี 1. กรณีมอบอาํ นาจใหบ้ ุคคลเดียวหรือหลายคน กระทาํ การครังเดียว เสียอากร 10 บาท 2. กรณีมอบอาํ นาจใหบ้ ุคคลเดียวหรือหลายคนร่วมกระทาํ การมากกว่าครังเดยี ว เสียอากร 30 บาท 3. กรณีมอบอาํ นาจใหก้ ระทาํ การมากกวา่ ครังเดียว โดยใหบ้ ุคคลหลายคนต่างคนต่างกระทาํ กิจการ แยกกนั ได้ คดิ ตามรายตวั บคุ คลทีรบั มอบคนละ 30 บาท (กค 0702/9954 ลงวนั ท3ี 0 พฤศจิกายน 2552) ข้อ 101. กจิ การของธนาคารขอ้ ใดตอ่ ไปนี ไมไ่ ดร้ บั ยกเวน้ ภาษธี รุ กิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ก. กจิ การของธนาคารเพอื การส่งออกและนาํ เขา้ แห่งประเทศไทย ข. กจิ การของธนาคารพฒั นาวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ มแห่งประเทศไทย ค. กิจการของธนาคารอาคารสงเคราะห์

หนา้ 561 ง. กจิ การของธนาคารกรุงไทย ตามมาตรา 91/2 ภายใตบ้ งั คบั มาตรา 91/4 การประกอบกจิ การดงั ตอ่ ไปนีในราชอาณาจกั ร ใหอ้ ยใู่ นบงั คบั ตอ้ งเสียภาษีธุรกจิ เฉพาะตามบทบญั ญตั ใิ นหมวดนี (1) การธนาคาร ตามกฎหมายว่าดว้ ยการธนาคารพาณิชย์ หรือกฎหมายเฉพาะ ข้อ 102. กรณีการโอนอสงั หาริมทรัพยท์ ีไดเ้ สียภาษีธุรกิจเฉพาะแลว้ และยงั ไดม้ กี ารเสียอากรแสตมป์ สาํ หรบั ใบรับจากการโอนอสงั หาริมทรพั ยซ์ ึงไดร้ บั ยกเวน้ อากรแสตมป์ กรณีเป็นการเสียอากรแสตมป์ โดย ไมม่ หี นา้ ทีตอ้ งเสีย จงึ มสี ิทธิขอคนื อากรแสตมป์ ได้ ก. ภายใน 6 เดอื น นบั แตว่ นั เสียคา่ อากรแสตมป์ ข. ภายใน 3 ปี นบั แตว่ นั เสียคา่ อากรแสตมป์ ค. ภายใน 5 ปี นบั แตว่ นั เสียคา่ อากรแสตมป์ ง. ภายใน 10 ปี นับแต่วันเสียค่าอากรแสตมป์ การขายอสงั หาริมทรัพยซ์ ึงตอ้ งเสียภาษีธุรกจิ เฉพาะ จะไดร้ บั ยกเวน้ อากรแสตมป์ หากชาํ ระอากรแสตมป์ ไว้ กส็ ามารถยนื คาํ รอ้ งขอคนื เงินภาษีอากร (แบบ ค.10) เป็นรายเดือนภาษี และขอคนื ไดภ้ ายใน 10 ปี นบั แต่ วนั ทไี ดเ้ สียอากรไว้ (ตาม คาํ พพิ ากษาฎกี าที 4687/2540) ข้อ 03. สญั ญาจา้ งทาํ ของทีรฐั บาลเป็นผวู้ า่ จา้ ง จะชาํ ระอากรเป็นตวั เงนิ แทนการปิ ดแสตมป์ จะตอ้ งมสี ินจา้ ง เป็นจาํ นวนเงินเท่าไร ก. ตงั แต่ 100,000 บาทขึนไป ข. เกนิ 100,000 บาท ค. ตงั แต่ 200,000 บาทขนึ ไป ง. เกนิ 200,000 บาท เหตุผล ประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร เกยี วกบั อากรแสตมป์ (ฉบบั ที 37) ข้อ 2 ใหก้ าํ หนดวธิ กี ารชาํ ระอากร เป็นตวั เงินแทนการปิ ดแสตมป์ ตามมาตรา 103(3) แห่งประมวลรัษฎากร สาํ หรับตราสารแห่งบญั ชีอตั รา อากรแสตมป์ ทา้ ยหมวด 6 ในลกั ษณะ 2 แห่งประมวลรษั ฎากร ดงั ตอ่ ไปนี “(๓) จา้ งทาํ ของ ตามลกั ษณะแห่งตราสาร ๔. แห่งบญั ชอี ตั ราอากรแสตมป์ ดงั ตอ่ ไปนี (ข) รฐั บาล องคก์ ารของรัฐบาล เทศบาล สุขาภบิ าล หรือองคก์ ารบริหารราชการส่วน ทอ้ งถินเป็นผวู้ ่าจา้ งและมีสินจา้ งตงั แต่ ๒๐๐,๐๐๐ บาทขึนไป” (แกไ้ ขเพิมเติมโดยประกาศอธิบดกี รมสรรพากรเกยี วกบั อากรแสตมป์ (ฉบบั ที ๕๔) ใชบ้ งั คบั ๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นตน้ ไป)

หนา้ 562 ข้อ 104. สญั ญารบั เหมากอ่ สร้างโรงงาน 2,000,000 บาท จะตอ้ งเสียอากรแสตมป์ เท่าใด ก. 1,000 บาท ข. 1,500 บาท ค. 2,000 บาท ง. ไมเ่ สียอากรแสตมป์ แต่อยา่ งใด เหตุผล บญั ชีอากรแสตมป์ ลกั ษณะตราสารที 4. จ้างทาํ ของ ทุกจาํ นวนเงิน 1,000 บาท หรือเศษของ 1,000 บาท แห่งสินจา้ งทีกาํ หนดไว้ เสียคา่ อากรแสตมป์ 1 บาท ข้อ 05. สญั ญาเช่าเครืองจกั ร คา่ เช่าตามสญั ญาเช่าดงั กลา่ ว 2,000,000 บาท จะตอ้ งเสียอากรแสตมป์ เท่าใด ก. 1,000 บาท ข. 1,500 บาท ค. 2,000 บาท ง. ไม่ต้องเสียอากรแสตมป์ แต่อย่างใด เหตุผล สญั ญาเช่า มใิ ช่สญั ญาเช่าซือ จงึ ไมเ่ ขา้ ลกั ษณะแห่งตราสารทีตอ้ งเสียอากรแสตมป์ ตามบญั ชีอตั รา อากรแสตมป์ @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ ขอให้โชคดีครับ.

หน้า 563 5. ในการพจิ ารณาคนื เงนิ ภาษมี ลู คา่ เพิมแก่ผปู้ ระกอบการส่งออกทสี ุจริตใหเ้ ป็นไปดว้ ยความสะดวก รวดเร็ว อนั จะเป็น ประโยชนแ์ ก่การส่งออกของประเทศ กรมสรรพากรจงึ ไดก้ าํ หนดใหผ้ ปู้ ระกอบการส่งออกทไี ดร้ บั การจดั ระดบั เพอื ผสู้ ่งออก ทดี ี และผสู้ ่งออกขึนทะเบียนไดร้ บั สิทธิประโยชนด์ งั นี ( ) ผสู้ ่งออกทีดยี นื แบบแสดงรายการภาษมี ลู คา่ เพิมผา่ นเครือขา่ ยอนิ เทอร์เนต็ จะไดร้ บั คืนภาษมี ลู ค่าเพิม ภายใน 15 วนั นบั แต่วนั ทยี นื แบบแสดงรายการภาษมี ลู คา่ เพิม ( ) ผสู้ ่งออกทีดยี นื แบบแสดงรายการภาษมี ลู คา่ เพิมผา่ นเครือขา่ ยอนิ เทอร์เนต็ จะไดร้ บั คืนภาษมี ลู ค่าเพิมภายใน 30 วนั นบั แต่วนั ทยี นื แบบแสดงรายการภาษมี ลู คา่ เพิม ( ) ผสู้ ่งออกขึนทะเบียนทยี นื แบบแสดงรายการภาษมี ลู คา่ เพิม ณ สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขา จะไดร้ ับคืน ภาษมี ลู คา่ เพิมภายใน 30 วนั นบั แต่วนั ทยี นื แบบแสดงรายการภาษมี ลู คา่ เพิม ( ) ถกู ทงั ขอ้ ( ) และ ( ) เดมิ เฉลย (4) ทีถกู ตอบ (1) ตามข้อ 4 ของคาํ สังกรมสรรพากรที ท.128/ ฯ ลงวนั ที 30 มนี าคม 2560 6. บริษทั ก. จาํ กดั ประกอบกจิ การขนส่งทางเรือระหวา่ งประเทศในการดาํ เนินงานไดจ้ า่ ยคา่ นายหนา้ ในการนาํ เรือเขา้ ท่าเรือ และค่านายหนา้ ในการหาผเู้ ช่าเรือ ในการจ่ายเงินไดด้ งั กลา่ วไปยงั ตา่ งประเทศ มหี นา้ ทตี อ้ งหกั ภาษีจากเงินไดพ้ งึ ประเมินทีจ่ายในอตั ราร้อยละเท่าใด ()1 ()5 ( ) 10 ( ) 15 ตอบ (4) ถูกต้องแล้ว นติ บิ ุคคลไทยจ่ายเงินค่านายหน้าไปต่างประเทศ ซึงถือเป็ นเงินได้พึงประเมนิ ตาม มาตรา 40(2) แห่ง ประมวลรัษฎากร อย่ใู นบังคบั ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ทีจ่าย ในอัตราร้อยละ 15 ตาม มาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร 7. กรณีเสียอากรหรือคา่ เพิมอากรเกนิ ไป กฎหมายกาํ หนดวา่ คา่ เสียเกนิ ไปตังแต่ 2 บาทขึนไป สาํ หรับตราสารลกั ษณะ เดยี วกนั หรือเรืองเดียวกนั ใหผ้ เู้ สียเกนิ ทาํ คาํ รอ้ งเป็นหนงั สือยนื ตอ่ พนกั งานเจา้ หนา้ ที ภายในกาํ หนดระยะเวลาเท่าใด ( ) ภายใน 3 เดอื น นบั แตว่ นั เสียภาษีอากร หรือคา่ เพิมอากร ( ) ภายใน 6 เดอื น นบั แตว่ นั เสียภาษอี ากร หรือคา่ เพิมอากร ( ) ภายใน 1 ปี นบั แต่วนั เสียภาษีอากร หรือคา่ เพิมอากร ( ) ภายใน 3 ปี นบั แต่วนั เสียภาษีอากร หรือคา่ เพิมอากร ตอบ (2) ถูกต้องแล้ว สําหรับผู้มีหน้าทเี สียอากรแสตมป์ ขอคนื ตาม มาตรา 122 ประมวลรัษฎากร

หน้า 564 2 8. การขอคนื ภาษธี ุรกจิ เฉพาะ ใหก้ ระทาํ ไดต้ ามกาํ หนดระยะเวลาเท่าใด ( ) ขอคืนภายใน 1 ปี นบั แต่วนั พน้ กาํ หนดเวลายืนแบบแสดงรายการภาษี ( ) ขอคืนภายใน 2 ปี นบั แต่วนั พน้ กาํ หนดเวลายืนแบบแสดงรายการภาษี ( ) ขอคืนภายใน 1 ปี นบั แต่วนั สุดทา้ ยแห่งปี ซึงชาํ ระภาษีเกนิ ไป ( ) ขอคืนภายใน 3 ปี นบั แต่วนั สุดทา้ ยแห่งปี ซึงชาํ ระภาษีเกนิ ไป เดมิ เฉลย (2) ทีถูกตอบ ไม่มีคาํ ตอบทีถูกต้อง การขอคืนภาษธี ุรกจิ เฉพาะจะต้องขอคืนภายใน 3 ปี นับแต่วนั พ้นกําหนดเวลา ยนื แบบแสดงรายการ ตาม มาตรา 91/11(1) ประมวลรัษฎากร 9. บริษทั ก. จาํ กดั ขายเสาเขม็ คอนกรีตอดั แรง พรอ้ มใหบ้ ริการรับจา้ งตอกเสาเขม็ โดยออกใบกาํ กบั ภาษีราคาค่าเสาเขม็ และค่าบริการตอกเสาเขม็ รวมเป็นราคาเดียวกนั ทางบริษทั ฯ จะมภี าระภาษีอยา่ งไร ( ) เสียภาษีมลู คา่ เพิมโดยถือวนั ทีบริษทั ฯ ส่งมอบเสาเขม็ ( ) เสียภาษีมลู คา่ เพิมโดยถอื วนั ทบี ริษทั ฯ ตอกเสาเขม็ เรียบรอ้ ย ( ) ไมอ่ ยใู่ นบงั คบั ตอ้ งถกู หกั ภาษี ณ ทีจา่ ย ( ) ถกู ทงั ขอ้ ( ) และ( ) ตอบ (4) ถูกต้องแล้ว ความรับผดิ ในการเสียภาษีมลู ค่าเพมิ สําหรับการขายสินค้าเกดิ ขนึ เมอื ส่งมอบสินค้า เว้นแต่ โอนกรม ชาํ ระ ออกใบ ตาม มาตรา (1) ประมวลรัษฎากร กรณตี ามคําถามเป็ นการขายสินค้าพร้อมตดิ ตงั แล้วออกใบกาํ กบั ภาษีรวม เป็ นราคาเดยี วกนั ถือเป็ นการขายสินค้าทงั จํานวน อย่ใู นบังคับต้องเสีย ภาษีมลู ค่าเพิมตาม มาตรา 77/2(1)ประมวลรัษฎากร และไม่อย่ใู นบงั คับต้องหกั ภาษีเงนิ ได้ ณ ทีจ่าย เนืองจากไม่มบี ทบัญญัติแห่ง ประมวลรัษฎากร กาํ หนดให้หักภาษีเงินได้ ณ ที จ่ายสําหรับการขายสินค้า ตาม มาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกบั ตามคาํ สังกรมสรรพากรที ทป. / ฯ 0. การขอคนื ภาษมี ลู คา่ เพิมสาํ หรับการขายสินคา้ หรือใหบ้ ริการ กรณีทีผปู้ ระกอบการจดทะเบียนมไิ ดข้ อคนื พร้อมกบั การยนื แบบแสดงรายการภาษขี องเดอื นภาษนี ัน มสี ิทธิยนื คาํ รอ้ งขอคนื ภาษภี ายในกาํ หนดระยะเวลาเท่าใด ( ) ภายใน 3 ปี นบั แต่วนั พน้ กาํ หนดเวลายืนแบบแสดงรายการสาํ หรับเดือนภาษีนนั ( ) ภายใน 3 เดอื น นบั แต่วนั พน้ กาํ หนดเวลายนื แบบแสดงรายการสาํ หรบั เดอื นภาษนี ัน ( ) ภายใน 6 เดอื น นบั แต่วนั พน้ กาํ หนดเวลายนื แบบแสดงรายการสาํ หรบั เดอื นภาษนี ัน ( ) ภายใน 1 ปี นบั แต่วนั ทพี น้ กาํ หนดเวลายนื แบบแสดงรายการสาํ หรับเดือนภาษนี ัน ตอบ (1) ถูกต้องแล้ว ตาม มาตรา 84/1(1) แห่งประมวลรัษฎากร 1. บริษทั ก. จาํ กดั ประกอบกิจการรบั เหมากอ่ สร้าง ไดร้ บั งานจากส่วนราชการ และไดถ้ กู หกั ภาษเี งนิ ได้ ณ ทีจา่ ยไว้ ปรากฏวา่ ในรอบระยะเวลาบญั ชดี งั กลา่ ว ผลการดาํ เนินงานมผี ลขาดทนุ สุทธิ จงึ มภี าษชี าํ ระไวเ้ กนิ และบริษทั ก. ไมไ่ ดข้ อคนื ภาษีไวต้ ามแบบแสดงรายการภาษี จะดาํ เนินการขอคืนภาษไี ดภ้ ายในกาํ หนดเวลาเทา่ ใด ( ) ภายใน 3 ปี นบั แต่วนั สุดทา้ ย แห่งกาํ หนดเวลายนื รายการตามทกี ฎหมายกาํ หนด ( ) ภายใน 10 ปี นบั แต่วนั สุดทา้ ย แห่งกาํ หนดเวลายนื รายการตามทกี ฎหมายกาํ หนด ( ) ภายใน 3 ปี นบั แตว่ นั สุดทา้ ย แห่งรอบระยะเวลาบญั ชซี ึงไดถ้ กู หกั ภาษเี กนิ ไป ( ) ภายใน 10 ปี นบั แตว่ นั สุดทา้ ยแห่งรอบระยะเวลาบญั ชซี ึงไดถ้ กู หกั ภาษเี กนิ ไป

หน้า 565 ตอบ (1) ถูกต้องแล้ว ตาม มาตรา 27 ตรี แห่งประมวล 3 รัษฎากร 2. กจิ การประเภทใดตอ่ ไปนี ไมไ่ ดร้ บั ยกเวน้ ภาษีมลู ค่าเพิม ( ) การใหบ้ ริการขนส่งระหวา่ งประเทศ ซึงมใิ ช่การขนส่งโดยอากาศยาน หรือเรือเดินทะเล ( ) การขายป๋ ุย , การขายปลาป่ น , อาหารสตั ว์ ( ) การใหบ้ ริการเชา่ อสงั หาริมทรพั ย์ ( ) ถกู ทุกขอ้ เดมิ เฉลย (4) ทีถกู ตอบ ไม่มีคาํ ตอบทีถกู ต้อง เพราะเป็ นกจิ การทีได้รับการยกเว้นภาษีมลู ค่าเพิมทงั หมด ตาม มาตรา 81(1) แห่งประมวลรัษฎากร 3. บริษทั ก. จาํ กดั จา่ ยค่านายหนา้ ใหบ้ ริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิตบิ คุ คลทีตังขึนตามกฎหมายของตา่ งประเทศ มไิ ด้ ประกอบกจิ การในประเทศไทย บริษทั ก. จะตอ้ งดาํ เนินการทางภาษอี ยา่ งไร ( ) หักภาษีจากเงินได้พึงประเมินทจี ่ายในอตั ราร้อยละ 15 และนาํ ส่งด้วยแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด. 54 ( ) หกั ภาษจี ากเงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ ทจี า่ ยในอตั รารอ้ ยละ 10 และนาํ ส่งดว้ ยแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด. 54 ( ) หกั ภาษจี ากเงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ ทจี า่ ยในอตั รารอ้ ยละ 15 และนาํ ส่งดว้ ยแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด. 53 ( ) หกั ภาษจี ากเงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ ทจี า่ ยในอตั รารอ้ ยละ 10 และนาํ ส่งดว้ ยแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด. 53 คาํ ตอบ ( ) ถกู ตอ้ งแลว้ เงินคา่ นายหนา้ ทีบริษทั จา่ ยใหบ้ ริษทั ตา่ งประเทศ ถอื เป็นเงินไดพ้ งึ ประเมนิ ตามมาตรา ( ) แห่งประมวลรษั ฎากร หากผรู้ บั อยใู่ นประเทศทีไมม่ อี นุสญั ญาภาษซี อ้ นกบั ไทย ผจู้ า่ ยเงนิ มหี นา้ ทีหกั ภาษจี ากเงินไดพ้ งึ ประเมนิ ทจี า่ ย ในอตั ราร้อยละ ตามมาตรา แห่งประมวลรษั ฎากร แต่หากจ่ายใหบ้ ริษทั ทีอยใู่ นประเทศทีมอี นุสญั ญาภาษีซอ้ นกบั ไทยเขา้ ลกั ษณะเป็น กาํ ไรจากธุรกจิ หากบริษทั ตา่ งประเทศไมม่ สี ถานประกอบการถาวรในไทย ผจู้ า่ ยเงนิ ไมต่ อ้ งหกั และนาํ ส่งภาษี ตามมาตรา แห่งประมวลรษั ฎากร แตอ่ ยา่ งใด 4. ในการขายอสงั หาริมทรพั ยเ์ ป็นทางคา้ และหากาํ ไรตามมาตรา91/2(6) ซึงตอ้ งเสียภาษธี รุ กิจเฉพาะ แตก่ ฏหมายไดก้ าํ หนด เสียภาษีธุรกิจเฉาะในขณะทีจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามมาตรา91/8วรรคสามโดยเริมตงั แตเ่ มอื ใด (1) พ.ศ 2540 ( ) พ.ศ 2541 ( ) พ.ศ 2542 ( ) พ.ศ 2543

หน้า 566 4 คาํ ตอบ ( ) ถกู ตอ้ งแลว้ มาตรา / ใหผ้ มู้ หี นา้ ทีเสียภาษธี รุ กิจเฉพาะเสียภาษีโดยคาํ นวณจากฐานภาษตี ามมาตรา / ในเดือนภาษขี องผมู้ หี นา้ ทีเสีย ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ตามอตั ราภาษที กี าํ หนดไวต้ ามมาตรา / แต่ผมู้ หี นา้ ทีเสียภาษีมสี ิทธิอทุ ธรณ์การประเมนิ ภาษตี าม บทบญั ญตั วิ า่ ดว้ ยการอทุ ธรณ์ในส่วน หมวด ลกั ษณะ การคาํ นวณรายรบั ตามวรรคหนึง ใหเ้ ป็นไปตามวธิ กี าร หลกั เกณฑแ์ ละการปฏบิ ตั ทิ างบญั ชี และเพอื ประโยชนใ์ นการ คาํ นวณรายรบั เมอื ไดเ้ ลอื กปฏบิ ตั เิ ป็นอยา่ งใดแลว้ ใหถ้ อื ปฏบิ ตั เิ ป็นอยา่ งเดียวกนั ตลอดไป เวน้ แตจ่ ะไดร้ บั อนุมตั จิ ากอธิบดใี ห้ เปลยี นแปลงได้ ( ดคู าํ สงั กรมสรรพากรที ป. / ) \"ความในวรรคหนึงและวรรคสอง มใิ หใ้ ชบ้ งั คบั แกผ่ มู้ หี นา้ ทีเสียภาษธี รุ กจิ เฉพาะสาํ หรับกจิ การขายอสงั หาริมทรพั ยเ์ ป็น ทางคา้ หรือหากาํ ไรตามมาตรา / ( ) และใหผ้ มู้ หี นา้ ทีเสียภาษกี รณีดงั กลา่ วเสียภาษีโดยคาํ นวณจากฐานภาษตี ามมาตรา / ( ) ในขณะทจี ดทะเบียนสิทธิและนิตกิ รรมเกยี วกบั อสงั หาริมทรัพยน์ ัน ตามอตั ราภาษที กี าํ หนดไวใ้ นมาตรา / รวมทัง มสี ิทธิอทุ ธรณ์การประเมนิ ภาษีตามบทบญั ญตั วิ า่ ดว้ ยการอทุ ธรณใ์ นส่วน หมวด ลกั ษณะ \" ( พระราชบญั ญตั แิ ก้ไขเพมิ เตมิ ประมวลรัษฎากร (ฉบบั ที ) พ.ศ. ใช้บงั คบั ม.ค. เป็ นต้นไป ) . จาก Road Map ของกรมสรรพากรไดก้ าํ หนดเป้ าทีจะยตุ กิ ารรับแบบและการชาํ ระภาษีทกุ ประเภทที สส ในปี พ.ศ.ใด (1) พ.ศ.2548 ( ) พ.ศ 2549 ( ) พ.ศ 2550 ( ) พ.ศ 2551 เดมิ เฉลย (2) เป็ นข้อสอบเก่า ปัจจุบนั ดู Roadmap RD 2020 6. จาก Road Map ของกรมสรรพากรไดก้ าํ หนดเป้ าทีจะใหเ้ จา้ หนา้ ทีสรรพากรทาํ งานแบบ Online Remote ตงั แต่ปี พ.ศใด ( ) พ.ศ.2548 ( ) พ.ศ 2549 ( ) พ.ศ 2550 ( ) พ.ศ 2551 เดมิ เฉลย (3) เป็ นข้อสอบเก่า ปัจจบุ นั ดู Roadmap RD 2020

หนา้ 567 5 97. ตามประกาศกระทรวงการคลงั ฉบบั ลงวนั ที 1 พ.ค 2541เรืองอตั ราแลกเปลียนเงินตราต่างประเทศเป็นเงินตราไทยตาม มาตรา9แห่งประมวลรัษฎากรนนั ขอ้ ใดตอ่ ไปนีเป็นขอ้ ทีถกู ( ) ให้ใชอ้ ตั ราแลกเปลยี นเงินตราตามอตั ราอา้ งอิงโดยเฉลียประจาํ วนั ทธี นาคารแห่งประเทศไทยประกาศไวเ้ ป็นอตั รา แลกเปลียนในการคาํ นวณเงินตราต่างประเทศเป็นเงินตราไทยของวนั ถดั ไป ( ) ใหใ้ ชอ้ ตั ราแลกเปลยี นเงินตราตามอตั ราอา้ งองิ ประจาํ วนั ทธี นาคารแห่งประเทศไทยประกาศไวเ้ ป็นอตั ราแลกเปลยี น ในการคาํ นวณเงินตราต่างประเทศเป็นเงินตราไทยของวนั ถดั ไป ( ) ให้ใชอ้ ตั ราแลกเปลยี นเงนิ ตราตามอตั ราอา้ งอิงโดยเฉลียประจาํ วนั ทธี นาคารแห่งประเทศไทยประกาศไวเ้ ป็นอตั รา แลกเปลียนในการคาํ นวณเงินตราต่างประเทศเป็นเงินตราไทยของก่อนวนั ถดั ไป ( ) ใหใ้ ชอ้ ตั ราแลกเปลยี นเงินตราตามอตั ราอา้ งองิ ประจาํ วนั ทธี นาคารแห่งประเทศไทยประกาศไวเ้ ป็นอตั ราแลกเปลยี น ในการคาํ นวณเงินตราต่างประเทศเป็นเงินตราไทยของก่อนวนั ถดั ไป เดมิ เฉลย (2) เป็ นข้อสอบเก่า ปัจจบุ นั ดู อตั ราแลกเปลียน ตามมาตรา แห่งประมวลรัษฎากร มีผลบังคบั ใช้ตงั แต่วันที มนี าคม ประกอบกบั คาํ สัง กรมสรรพากรที ป. / ฯ คอื

หน้า 568 6 . อตั ราแลกเปลยี นเงินตราของธนาคารพาณิชยท์ ี ตงั ขึนตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการธนาคารพาณิชยท์ ไี ดป้ ระกาศไว้ ในการคาํ นวณเงินตราต่างประเทศเป็นเงินตราไทยในแต่ละวนั . อตั ราแลกเปลยี นเงินตราตามอตั ราอา้ งองิ ประจาํ วนั ทธี นาคารแห่งประเทศไทยประกาศไวใ้ นการคาํ นวณเงนิ ตรา ตา่ งประเทศเป็นเงินตราไทยในแต่ละวนั การใชอ้ ตั ราแลกเปลียนเงินตราตามวิธีการตามวรรคหนึง เมือไดใ้ ชอ้ ตั ราแลกเปลียนเงินตราตามวิธีการหนึงวิธีการใด แลว้ ตอ้ งใชอ้ ตั ราแลกเปลยี นเงินตรานันตลอดไป เวน้ แต่จะไดร้ ับอนุมตั ิจากอธิบดีกรมสรรพากรจงึ จะเปลยี นแปลงวธิ ีการได้ 98. รูปภาพมาตรฐานของ e-revenue ทีถกู ตอ้ งคือ ( ) ตวั อกั ษรสีเหลอื ง มพี นื สนี าํ เงนิ และมอี ษั รตวั ใหญ่ 1ตวั ( ) ตวั อกั ษรสีนาํ เงิน มพี ืนสีเหลอื ง และมอี กั ษรตวั ใหญ่1ตวั ( ) ตวั อกั ษรสีเหลอื ง มพี ืนสีนาํ เงิน และมอี กั ษรตวั ใหญ่ 2 ตวั ( ) ตวั อกั ษรสีนาํ เงิน มพี ืนสีเหลอื ง และมอี กั ษรตวั ใหญ่ 2 ตวั คาํ ตอบ ( ) ถูกต้องแล้ว 99. ในหลกั ของธรรมาภบิ าล(Good Governance) ประกอบดว้ ย ( ) หลกั คุณธรรม นิตธิ รรม คุม้ คา่ โปร่งใส การมสี ่วนร่วม ( ) หลกั คุณธรรม คุม้ คา่ โปร่งใส การมสี ่วนร่วม มคี วามรบั ผดิ ชอบ ( ) หลักคุณธรรม นิตธิ รรม ค้มุ ค่า โปร่งใส การมสี ่วนร่วม มคี วามรับผดิ ชอบ ( ) หลกั คุณธรรม นิตธิ รรม คุม้ คา่ โปร่งใส การมสี ่วนร่วม มคี วามรับผดิ ชอบ มคี วามสะดวก ตอบ ( ) ถูกต้องแล้ว

หนา้ 569 7 ระบบบริหารจดั การบ้านเมืองทดี ี หรือธรรมาภิบาล (GOOD GOVERNANCE) หมายถึง แนวทางในการจดั ระเบยี บ เพอื ให้สังคมของประเทศทงั ภาครัฐ ภาคธุรกิจเอกชนและภาคประชาชน สามารถอย่รู ่วมกนั ได้อย่างสงบสุข และตงั อย่ใู น ความถูกต้องเป็ นธรรม ตามหลกั พนื ฐานการบริหารกิจการบ้านเมอื งทีดี ดังนี . หลกั นิติธรรม (The Rule of Law) . หลกั คุณธรรม (Morality) . หลกั ความโปร่งใส (Accountability) . หลกั การมสี ่วนร่วม (Participation) . หลกั ความรบั ผดิ ชอบ (Responsibility) . หลกั ความคุม้ คา่ (Cost 100. ในระบบIntranet ของกรมสรรพากรในหนา้ แรกของระบบมีเมนูหลกั ให้เลือกกีหวั ขอ้ ()5 ()6 ()7 ()8 ตอบ ( ) ถูกต้องแล้ว เมนูหลกั มี หัวข้อหลัก ได้แก่ )เกยี วกบั กรมสรรพากร ) ห้องข่าว ) บริการข้อมลู ) ระบบงาน ) Download 6) อ้างองิ ) www.rd.go.th

หนา้ 570 สาํ นกั งานสรรพากรภาค แบบทดสอบความรู้สาํ หรบั ขา้ ราชการสรรพากร ชุดที ขอ้ ทดสอบรวม 10 ขอ้ เลอื กคาํ ตอบทถี กู ตอ้ งเพยี งขอ้ เดยี ว _____________________________________________________________________________________ . ขอ้ ความต่อไปนี ขอ้ ใดไมใ่ ช่รายจา่ ยอนั มลี กั ษณะเป็นการลงทุน ( ) คา่ ขนส่งเครืองจกั รเขา้ มาจากต่างประเทศ เนืองจากการซือเครืองจกั รใหม่ ( ) คา่ ขนยา้ ยเครืองจกั ร เนืองจากการยา้ ยโรงงาน ( ) ค่าติดตงั และทดลองเดนิ เครืองจกั ร ( ) ดอกเบียเงินกยู้ มื เพอื การไดม้ าซึงเครืองจกั รในชว่ งเวลาทีทรพั ยส์ ินยงั ไมพ่ รอ้ มทีจะใชง้ าน ถกู ตอ้ งแลว้ ไมเ่ ขา้ ลกั ษณะตามมาตรา 65 ตรี (5) แห่งประมวลรษั ฎากร . ขอ้ ความใดต่อไปนี ขอ้ ใดมใิ ช่รายจา่ ยตอ้ งหา้ มตามมาตรา 65 ตรี (6) แห่งประมวลรษั ฎากร ( ) เบียปรบั ตามมาตรา 89 แห่งประมวลรษั ฎากร ( ) เงนิ เพิมตามมาตรา 27 แห่งประมวลรษั ฎากร เนืองจากนาํ ส่งภาษเี งนิ ไดห้ กั ณ ทจี า่ ยลา่ ชา้ ( ) ค่าภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลหกั ณ ทจี ่ายทีออกใหแ้ ก่ผรู้ ับ ( ) คา่ ปรบั ตามมาตรา 90 แห่งประมวลรษั ฎากร ถกู ตอ้ งแลว้ ตามมาตรา 65 ตรี (6) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบคาํ วินิจฉัยภาษีอากรที 10/2528ฯ . ขอ้ ความใดต่อไปนี ขอ้ ใดถือเป็นรายจ่ายในการคาํ นวณกาํ ไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิได้ ( ) โบนสั พนักงานทีกาํ หนดจ่ายจากจาํ นวนกาํ ไรสุทธิ ( ) โบนัสกรรมการทีกาํ หนดจ่ายจากกาํ ไรขนั ตน้ ( ) เงินรางวลั พนกั งานเพอื ตอบแทนผลการปฏบิ ตั งิ านตามความเหมาะสม ซึงไมม่ ขี อ้ กาํ หนดวา่ กจิ การตอ้ งจ่ายเป็น ประจาํ ทุกปี ( ) คา่ ภาษเี งินไดน้ ิตบิ คุ คลหกั ณ ทจี า่ ย ทีมไิ ดข้ อคนื ภายในกาํ หนดเวลา ถูกตอ้ งแลว้ 65 ทวิ แห่งประมวลรษั ฎากร . ขอ้ ความใดต่อไปนี ขอ้ ใดไมม่ สี ิทธิหกั เป็นรายจา่ ยไดเ้ พิมขึนตามประมวลรัษฎากร ( ) รายจา่ ยในการฝึกอบรมและพฒั นาพนกั งาน ( ) รายจ่ายในการวิจยั และพฒั นา ( ) รายจา่ ยค่าจา้ งคนพกิ าร ตามพระราชบญั ญตั ิฟื นฟสู มรรถภาพคนพกิ าร ( ) รายจา่ ยค่าขนส่งระหวา่ งประเทศ ของกจิ การทีไดร้ บั การส่งเสริมการลงทนุ ตามสิทธิทีปรากฏในบตั รส่งเสริมฯ ถกู ตอ้ งแลว้ 8 . ขอ้ ความใดต่อไปนี ขอ้ ใดทีเจา้ พนกั งานประเมนิ ไมม่ อี าํ นาจประเมนิ ตามมาตรา 65 ทวิ (4) แห่งประมวลรษั ฎากร ( ) การขายสินคา้ หรือใหบ้ ริการแก่ทางราชการในราคาตาํ กวา่ ราคาตลาด ( ) การให้กรรมการกยู้ ืมเงินโดยไมค่ ดิ ดอกเบีย

หนา้ 571 ( ) การใหบ้ ริษทั ในเครือเดยี วกนั กยู้ มื โดยไมค่ ดิ ดอกเบีย ( ) การให้บริษทั ในเครือเดียวกนั ใชท้ รัพยส์ ินหรือสถานทีโดยไม่คิดผลตอบแทน ถกู ตอ้ งแลว้ 65 ทวิ (4) แห่งประมวลรษั ฎากร 9 . ขอ้ ความใดต่อไปนี ขอ้ ใดไมถ่ กู ตอ้ งเกยี วกบั การคาํ นวณอตั ราแลกเปลยี นเงินตราต่างประเทศใหเ้ ป็น เงินตราไทยเพอื การคาํ นวณกาํ ไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิ ( ) กรณีนาํ เขา้ สินคา้ จากต่างประเทศ ใหใ้ ชอ้ ตั ราถวั เฉลียทีธนาคารพาณิชยข์ าย(Selling Rate) บนั ทึกค่าซือสินคา้ และ เจา้ หนีการคา้ ตา่ งประเทศ ( ) กรณีส่งออกสินคา้ ไปตา่ งประเทศ ใหใ้ ชอ้ ตั ราถวั เฉลยี ทธี นาคารพาณิชยร์ บั ซือ (Buying Rate) บนั ทึกค่าลกู หนี การคา้ ตา่ งประเทศ และยอดขายส่งออก ( ) กรณีกยู้ มื เงินจากตา่ งประเทศ ใหใ้ ชอ้ ตั ราถวั เฉลยี ทธี นาคารพาณิชยร์ บั ซือ (Buying Rate) บนั ทกึ เงนิ ฝากธนาคาร และใหใ้ ชอ้ ตั ราถวั เฉลยี ทธี นาคารพาณิชยข์ าย (Selling Rate) บนั ทึกเจา้ หนีเงินกยู้ มื จากต่างประเทศ โดยบนั ทกึ ส่วนต่างเป็น ผลขาดทนุ จากอตั ราแลกเปลียน ( ) กรณีรบั เงนิ คา่ ขายสินคา้ ในราชอาณาจกั รเป็นเงินตราต่างประเทศ ใหใ้ ชอ้ ตั ราอา้ งองิ ตามมาตรา 9 แห่งประมวล รัษฎากร ถกู ตอ้ งแลว้ 1. ขอ้ ความต่อไปนี ขอ้ ใดไมถ่ กู ตอ้ งเกยี วกบั กรณีถอื เป็นขายตามมาตรา 70 ตรี แห่งประมวลรษั ฎากร ( ) สินคา้ ทณั ฑบ์ นตามกฎหมายวา่ ภาษศี ลุ กากร ไมว่ า่ นาํ เขา้ ในราชอาณาจกั รหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจกั ร ไมถ่ อื เป็นการขายตามมาตรา 70 ตรี แห่งประมวลรษั ฎากร ( ) กรณีส่งสินคา้ ผา่ นแดน ไมถ่ อื เป็นการขายตามมาตรา 70 ตรี แห่งประมวลรษั ฎากร ( ) กรณีส่งคา้ ตวั อยา่ งหรือเพอื การวจิ ยั โดยเฉพาะออกไป ใหแ้ กผ่ ทู้ ีมใิ ช่บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิตบิ คุ คลในเครือ เดยี วกนั ถอื เป็นการขายตามมาตรา 70 ตรี แห่งประมวลรษั ฎากร ( ) กรณีส่งสินคา้ ไปฝากขายในตา่ งประเทศ ถอื เป็นการขายตามมาตรา 70 ตรี แห่งประมวลรษั ฎากร ถกู ตอ้ งแลว้ . กลมุ่ ภารกจิ ดา้ นรายไดก้ ระทรวงการคลงั กาํ หนดยทุ ธศาสตร์เชือมโยงขอ้ มลู ภาษี เพอื ใหส้ อดคลอ้ งกบั ยทุ ธศาสตร์ ของ กระทรวงการคลงั ดา้ นการปรบั ระบบบริหารจดั เกบ็ กระทรวงการคลงั กระทรวงการคลงั ไดด้ าํ เนินการ บรู ณาการ ระบบเชือมโยงขอ้ มลู เพอื เพิมความสะดวกตอ่ ผเู้ สียภาษีและเพิมประสิทธิภาพในการปฏบิ ตั งิ านและการ บริหารงาน ของ 3 กรมภาษไี ดแ้ ก่ ( ) กรมสรรพากร กรมธนารักษ์ กรมสรรพสามติ ( ) กรมสรรพากร กรมธนารักษ์ กรมศุลกากร ( ) กรมศลุ กากร กรมสรรพสามติ กรมสรรพากร ( ) กรมศุลกากร กรมธนารักษ์ กรมสรรพสามติ ถกู ตอ้ งแลว้ . ภาษีเงินไดบ้ คุ คลธรรมดามกี ารหกั ลดหยอ่ น กรี ูปแบบ

หนา้ 572 ( ) 4 รูปแบบ ( ) 5 รูปแบบ ( ) 6 รูปแบบ ( ) 8 รูปแบบ ถกู ตอ้ งแลว้ . นิตบิ คุ คลรูปแบบใดบา้ งทีจะตอ้ งยนื แบบ ภ.ง.ด. 50 ( ) นิตบิ คุ คลตามมาตรา 66 วรรค 1, มาตรา 66 วรรค 2 , มาตรา 76 ทวิ ( ) นิตบิ คุ คลตามมาตรา 66 วรรค 1 , มาตรา 67 , มาตรา 67 ตรี ( ) นิตบิ คุ คลตามมาตรา 66 วรรค 2 มาตรา 67 ทวิ มาตรา 67 ตรี ( ) นิตบิ คุ คลตามมาตรา 67 ทวิ มาตรา 67 ตรี มารตรา 76 ทวิ ถกู ตอ้ งแลว้ . บริษทั ไทยจา่ ยค่าลขิ สิทธิ ไปใหบ้ ริษทั ตา่ งประเทศ จะมปี ระเดน็ ใดบา้ ง ( ) เป็นการหักตามมาตรา 70 ซึงนิตบิ คุ คลกฎหมายไทยจา่ ยใหน้ ิตบิ คุ คลต่างประเทศทีมไิ ดป้ ระกอบกิจการในประเทศ ไทย อตั ราภาษี 15% และยืน ภ.ง.ด. 54 ( ) เป็นการหักตามมาตรา 70 ซึงนิตบิ คุ คลกฎหมายไทยจา่ ยใหน้ ิตบิ คุ คลต่างประเทศทีมไิ ดป้ ระกอบกิจการในประเทศ ไทย อตั ราภาษี 25% และยืน ภ.ง.ด. 54 ( ) เป็นการหักตามมาตรา 70 ซึงนิตบิ คุ คลกฎหมายไทยจา่ ยใหน้ ิตบิ คุ คลต่างประเทศทีมไิ ดป้ ระกอบกิจการในประเทศ ไทย อตั ราภาษี 30% และยืน ภ.ง.ด. 54 ( ) เป็นการหักตามมาตรา 70 ซึงนิตบิ คุ คลกฎหมายไทยจา่ ยใหน้ ิตบิ คุ คลต่างประเทศทีมไิ ดป้ ระกอบกิจการในประเทศ ไทย อตั ราภาษี 10% และยืน ภ.พ. 36 ถกู ตอ้ งแลว้ . ขอ้ ใดไมใ่ ช่นกั แสดงสาธารณะ ( ) นกั ดนตรี ( ) นางแบบ ( ) นกั รอ้ ง ( ) นกั จดั รายการวทิ ยุ ถกู ตอ้ งแลว้ . การฟ้ องลม้ ละลายในคดีนิติบคุ คล มลู หนีทีฟ้ องตอ้ งมจี าํ นวนเท่าใด ( ) 5,000,000 - บาท ( ) 2,000,000 - บาท ( ) 1,000,000 - บาท ( ) 500,000 - บาท ถกู ตอ้ งแลว้ . นาย ก. เป็นสมาชิกสหกรณก์ ารเกษตร ไดก้ เู้ งินจากสหกรณ์การเกษตรจาํ นวน 50,000 บาท จะตอ้ งปิ ดอากรแสตมป์

หนา้ 573 เท่าใด ( ) ปิ ดอากร 30 บาท ( ) ปิ ดอากร 40 บาท ( ) ปิ ดอากร 50 บาท ( ) ไมต่ อ้ งปิ ดอากรเพราะไดร้ บั ยกเวน้ ถกู ตอ้ งแลว้ . การคาํ นวณเงนิ ตราและทรัพยส์ ิน ซึงมคี า่ เป็นเงินตราต่างประเทศทีเหลอื อยใู่ นวนั สุดทา้ ยของรอบระยะเวลาบญั ชีของ บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิตบิ คุ คลใหค้ าํ นวณคา่ เป็นเงนิ ตราไทย ดงั นี ( ) อตั ราถวั เฉลียทีธนาคารพาณิชยข์ าย ( ) อตั ราถวั เฉลยี ทธี นาคารพาณิชยซ์ ือ ( ) อตั ราถวั เฉลียของวนั ทีไดร้ ับเงินตราหรือทรัพยส์ ินนนั มา ( ) ตามอตั ราแลกเปลียนในทอ้ งตลาด ถกู ตอ้ งแลว้ . ระบบขนส่งเอกสารอตั โนมตั ิทีกรมสรรพากรพฒั นานาํ มาใชใ้ นอาคารทีทาํ การกรมสรรพากร เพือให้เกิดความคุม้ ค่าและ ประหยดั ค่าใชจ้ ่ายมคี วามรวดเร็ว เรียกว่าระบบ ( ) เทเลคอมเทนเนอร์ ( ) เทเลลฟิ ท์ ( ) เทเลทรานสปอร์ต ( ) ผดิ ทกุ ขอ้ เดมิ เฉลย (3) ทีถกู ตอบ (2)

หนา้ 574 สํานักงานสรรพากรภาค แบบทดสอบความรู้สาํ หรับข้าราชการสรรพากร ชดุ ที ข้อทดสอบรวม ข้อ เลือกคาํ ตอบทีถกู ต้องเพยี งข้อเดียว _____________________________________________________________________________________ . เศรษฐกิจนอกระบบทไี มเ่ ป็นทางการ หมายถงึ ( ) เศรษฐกจิ ทไี มผ่ ดิ กฎหมายแตไ่ มม่ กี ฎหมายรองรับ ( ) ธุรกจิ ขนาดเลก็ หรือธุรกจิ ในครวั เรือนการเกษตรรายเลก็ ทใี ชแ้ รงงานในครวั เรือนเป็นหลกั ( ) ธุรกิจชุมชน เช่น กลุ่มหนึงตาํ บลหนึงผลติ ภณั ฑ์ ( ) ถกู ทงั ขอ้ (1),(2) และ(3) เฉลย (4) ถกู ตอ้ งแลว้ . ตามระเบยี บสาํ นกั นายกรัฐมนตรีวา่ ดว้ ยพนกั งานราชการ พ.ศ.2547 \"พนกั งานราชการ\"หมายถงึ ( ) ลกู จา้ งประจาํ ส่วนราชการ ( ) บุคคลซึงไดร้ บั การจา้ งตามสญั ญาจา้ งโดยไดร้ บั ค่าตอบแทนจากงบประมาณส่วนราชการ ( ) ผเู้ ชียวชาญพเิ ศษ ( ) ผชู้ าํ นาญการเฉพาะดา้ น เฉลย (2) ถกู ตอ้ งแลว้ ทงั นี ตามระเบยี บสาํ นกั นายกรฐั มนตรีวา่ ดว้ ยพนกั งานราชการ พ.ศ.2547 ขอ้ 3 . การจา้ งพนกั งานราชการใหก้ ระทาํ เป็นสญั ญาจา้ งไมเ่ กนิ คราวละกปี ี ( ) 2 ปี ( ) 4 ปี ( ) ไมเ่ กนิ 4 ปี หรือตามโครงการทมี ีกาํ หนดเวลาเริมตน้ และสินสุดไว้ ( ) ไมม่ ขี อ้ ใดถกู เดมิ เฉลย (4) ทีถกู ตอบ (3) ตามระเบยี บสาํ นกั นายกรฐั มนตรี วา่ ดว้ ยพนกั งานราชการ พ.ศ.2547 . ยทุ ธศาสตร์กรมสรรพากรประกอบดว้ ย ( ) IT เป็นแกนนาํ ผลกั ดนั องค์กร ( ) บริการผเู้ สียภาษีแบบมเี จา้ ภาพเพอื สร้างความสมคั รใจในการเสียภาษี ( ) สาํ รวจติดตามธุรกิจนอกระบบภาษี ( ) ถกู ทุกขอ้ ขอผา่ น ขอ้ มลู เก่าไป . วสิ ยั ทศั นข์ องกรมสรรพากร

หน้า 575 ( ) ระบบงานมาตรฐานสากล ( ) เพอื บริการประชาชน ( ) เกบ็ ภาษีทวั ถึงเป็นธรรม ( ) ถกู ทุกขอ้ ขอผา่ น ขอ้ มลู เก่าไป . พนั ธกิจของกรมสรรพากร ( ) จดั เกบ็ ภาษีอากรใหไ้ ดต้ ามประมาณการ ( ) ใหบ้ ริการและสรา้ งความสมคั รใจในการเสียภาษี ( ) เสนอแนะการใชน้ โยบายทางภาษอี ากรอยา่ งทัวถึงเป็นธรรม สามารถใชเ้ ป็นกลไกในการพฒั นา เศรษฐกจิ สงั คมและการแขง่ ขนั ของประเทศตอ่ กระทรวงการคลงั ( ) ถกู ทุกขอ้ เดมิ เฉลย (4) ทีถกู ตอบ (1) 9 . กรมสรรพากรไดจ้ ดั ทาํ ยุทธศาสตร์ขึน ยทุ ธศาสตร์ โดยกาํ หนดงาน/แผนงาน/โครงการ ที สอดคลอ้ งกบั ยทุ ธศาสตร์ระดบั ชาติและนโยบายของรฐั บาล อยากทราบวา่ ยทุ ธศาสตร์ดงั กลา่ วไดก้ าํ หนด ไวเ้ ป็นระยะเวลากปี ี ( ) ปี ( ) ปี ( ) ปี ( ) ปี เฉลย (2) ถกู ตอ้ งแลว้ . เพอื เป็นการอาํ นวยความสะดวกแกผ่ เู้ สียภาษอี ากร กรมสรรพากรไดก้ าํ หนดใหบ้ ุคคลใดมสี ิทธิยนื คาํ รอ้ งขอมเี ลขประจาํ ตวั และบตั รประจาํ ตวั ผเู้ สียภาษอี ากรผา่ นระบบเครือขา่ ยอนิ เตอร์เนต็ บน Website ของ กรมสรรพากรได้ ( ) บุคคลธรรมดา ( ) คณะบุคคล ( ) นิติบุคคล ( ) ผมู้ หี นา้ ทีจา่ ยเงินได้ ขอผา่ น ขอ้ มลู เก่าไป

หนา้ 576 . กลมุ่ ภารกจิ ดา้ นรายไดก้ ระทรวงการคลงั ไดก้ าํ หนดยทุ ธศาสตร์เชือมโยงขอ้ มลู ภาษขี อง กรมภาษี คือ กรมสรรพากร กรมศุลกากรและกรมสรรพสามิต เพือเป็นการบริการประชาชนในระบบ One-Stop Service ซึงประชาชนสามารถเรียกดขู อ้ มลู ไดท้ ีใด ( ) www.tax.mof.go.th ( ) http://tax.mof.go.th ( ) www.mof.go.th ( ) ขอ้ ( ) และ ( ) ถกู เดมิ เฉลย (4) ทีถกู ตอบ (3) . การดาํ เนินคดแี พง่ เกยี วกบั ภาษีอากร กรณีกรมสรรพากรเป็นโจทกฟ์ ้ องคดี ภายหลงั จาก สท. ส่ง เอกสารหลกั ฐานทเี กียวขอ้ งพร้อมทาํ ความเหน็ ไปยงั สภ. ในสงั กดั แลว้ การดาํ เนินการขนั ตอนต่อไปในขอ้ ใด ถกู ตอ้ ง ( ) สภ. – ส่งเรืองไปยงั สภ.1 ( ) สภ. - ส่งเรืองไปยงั สภ. ( ) สภ. – ส่งเรืองไปยงั สภ. ( ) ไมม่ ขี อ้ ใดถกู ตอ้ ง เฉลย (1) ถกู ตอ้ งแลว้ . กรณีชาํ ระภาษอี ากรดว้ ยเชค็ เมอื ธนาคารปฏเิ สธการจา่ ยเงินตามเชค็ หลงั จาก สท. ไดร้ บั เรืองจาก สส. แลว้ จะตอ้ งจดั ทาํ หนงั สือเตือนแจง้ ใหผ้ เู้ สียภาษีอากรนาํ เงนิ จาํ นวนตามเชค็ พร้อมเงินเพิมไปชาํ ระที สส. ภายในกีวนั ( ) วนั ( ) วนั ( ) วนั ( ) วนั เฉลย (3) ถกู ตอ้ งแลว้ . อาํ นาจในการอนุมตั ใิ หจ้ ่ายหนีภาษีอากรในขอ้ ใดต่อไปนีถกู ตอ้ ง ( ) หนีภาษอี ากรไมเ่ กนิ , , บาท ใหส้ รรพากรพนื ทเี ป็นผอู้ นุญาตใหจ้ าํ หน่าย ( ) หนีภาษอี ากรไมเ่ กนิ , , บาท ใหส้ รรพากรภาคเป็นผอู้ นุญาตใหจ้ าํ หน่าย ( ) หนีภาษอี ากรไมเ่ กนิ , , บาท ใหอ้ ธิบดกี รมสรรพากรเป็นผอู้ นุญาตใหจ้ าํ หน่าย ( ) หนีภาษอี ากรเกนิ , , บาทขึนไป ใหป้ ลดั กระทรวงการคลงั เป็นผอู้ นุญาตใหจ้ าํ หน่าย เฉลย (2) ถกู ตอ้ งแลว้

หนา้ 577 . กรณีสรรพากรพืนทมี หี นา้ ทีตรวจราชการ ณ สาํ นกั งานสรรพากรพืนทีสาขา การปฏบิ ตั ิในขอ้ ใดถกู ตอ้ ง (1) ตรวจเป็นรายเดือนหรือรายปี ( ) ตรวจเป็นรายไตรมาสหรือรายปี ( ) ตรวจเป็นรายปี ( ) ตรวจเป็นรายปี พร้อมกบั การตรวจตดั ปี และการตรวจตดั เดือนเงินรายไดแ้ ละรายจ่าย เฉลย (2) ถกู ตอ้ งแลว้ . เอกสารทีกาํ หนดในบญั ชกี าํ หนดอายกุ ารเกบ็ หนงั สือและสือขอ้ มลู แนบทา้ ยระเบียบกรมสรรพากร วา่ ดว้ ยการเกบ็ รกั ษาและการทาํ ลายเอกสารของกรมสรรพากร พ.ศ. ไดก้ าํ หนดอายกุ ารเกบ็ รกั ษาเอกสาร ตามบญั ชี ก.ไวเ้ ป็นระยะเวลาเท่าใด ( ) ไมเ่ กนิ ปี ( ) ไมเ่ กนิ ปี ( ) ไมเ่ กนิ ปี ( ) ไมเ่ กนิ ปี เฉลย (2) ถกู ตอ้ งแลว้ . การจดั งานดงั ตอ่ ไปนี ขา้ ราชการสรรพากรหรือลกู จา้ งสามารถออกบัตรเชิญหรือหนังสือเชิญไดโ้ ดยไม่ ตอ้ งขออนุญาตต่อกรมสรรพากร ( ) งานทาํ บุญขึนบา้ นใหม่ทีเป็นบา้ นหลงั แรกของตนเอง ( ) งานศพ ป่ ู ยา่ ตา ยาย ทีไมม่ ที ายาทหรือผอู้ ปุ การะ ( ) กรณีเป็นเจา้ ภาพจดั งานระลกึ คุณบิดา มารดา ( ) งานบรรพชาของพนี อ้ งร่วมสายโลหิตของตนเอง เฉลย (2) ถกู ตอ้ งแลว้ . หลกั เกณฑก์ ารเบิกค่าตอบแทนเหมาจ่ายการสาํ รวจ จะตอ้ งมจี าํ นวนรายในการสาํ รวจตามขอ้ ใด ( ) พืนทเี ป้ าหมาย ราย ตอ่ คนต่อวนั ( ) พืนทเี ป้ าหมาย ราย ตอ่ คนต่อวนั ( ) รายเป้ าหมาย ราย ตอ่ คนต่อวนั ( ) รายเป้ าหมาย ราย ต่อคนต่อวนั ขอผา่ น ขอ้ มลู เก่าไป

หนา้ 578 สํานกั งานสรรพากรภาค แบบทดสอบความรู้สําหรบั ข้าราชการสรรพากร ชุดที ข้อทดสอบรวม ข้อ เลอื กคาํ ตอบทถี ูกต้องเพยี งข้อเดยี ว _____________________________________________________________________________________ . เจา้ พนกั งานใชอ้ าํ นาจตามมาตราใด ทตี อ้ งหา้ มอุทธรณ์การประเมนิ ( ) มาตรา , , แห่งประมวลรษั ฎากร และมาตรา ( ) แห่ง พรบ.ภาษเี งนิ ไดป้ ิ โตรเลยี ม ( ) มาตรา , , , ( ) แห่งประมวลรัษฎากร ( ) มาตรา , , ( ) แห่งประมวลรัษฎากร และมาตรา ( ) แห่ง พรบ. ภาษเี งนิ ไดป้ ิ โตรเลยี ม ( ) ไมม่ ขี อ้ ใดถกู เฉลย (3) ถกู ตอ้ งแลว้ . กรมสรรพากรร่วมมือกบั ธนาคารแห่งโตเกียว-มติ ซบู ิชิ เปิ ดใหบ้ ริการยนื แบบชาํ ระภาษผี า่ นอนิ เตอร์เน็ต โดยรบั ชาํ ระภาษี ( ) ภาษีเงินได้ ภาษีมลู ค่าเพิม ( ) ภาษีเงินได้ ภาษีธุรกิจเฉพาะ ( ) ภาษเี งนิ ได้ ภาษีเงินไดห้ กั ณ ทจี ่าย ( ) ถกู ทุกขอ้ เฉลย (4) ถกู ตอ้ งแลว้ . ขอ้ ใดไมใ่ ช่พนั ธกจิ ของกรมสรรพากร ( ) จดั เกบ็ ภาษีอากรใหไ้ ดต้ ามประมาณการ ( ) ใหบ้ ริการประชาชนและเกบ็ ภาษที วั ถึงเป็นธรรม ( ) ใหบ้ ริการและสรา้ งความสมคั รใจในการเสียภาษ๊ ( ) เสนอแนะการใชน้ โยบายทางภาษอี ากรอยา่ งทัวถึงเป็นธรรม สามารถใชเ้ ป็นกลไกในการพฒั นา เศรษฐกจิ สงั คม และการแขง่ ขนั ของประเทศตอ่ กระทรวงการคลงั ขอผา่ นขอ้ มลู เก่าไป . ยทุ ธศาสตร์ของกรมสรรพากร ( ) บริการผเู้ สียภาษแี บบมเี จา้ ภาพเพอื สรา้ งความสมคั รใจ ( ) IT เป็นแกนนาํ ผลกั ดนั องค์กร ( ) สาํ รวจติดตามธุรกิจนอกระบบภาษี ( ) ถกู ทุกขอ้ ขอผา่ นขอ้ มลู เก่าไป

หนา้ 579 . ตวั ชีวดั เป้ าประสงคข์ องการใช้ IT เป็นแกนนาํ ผลกั ดนั องคก์ ร ( ) ผลการจดั เกบ็ ภาษีตามประมาณการ ( ) การกาํ กบั ดแู ลผเู้ สียภาษีตามรอบภาษีเพอื ใหก้ ารเสียภาษีเป็นปัจจบุ นั ( ) การเพิมจาํ นวนผเู้ สียภาษใี หเ้ ขา้ สู่ระบบมากขึน ( ) ถูกขอ้ ( ) และ ( ) ขอผา่ นขอ้ มลู เก่าไป . ตวั ชีวดั (KPIS) สาํ หรับเป้ าประสงค์ กรณีผเู้ สียภาษีไดร้ บั บริการทดี ี รวดเร็ว ( ) จาํ นวนระเบียบ คาํ สัง แนวปฏิบตั ิ และกฎหมาย ทีสามารถแกไ้ ขหรือยกเลกิ ( ) จาํ นวนรายผเู้ ขา้ ระบบ Internet ( ) จาํ นวนรายผเู้ สียภาษีทีเพิมขึน ( ) จาํ นวนผไู้ ดร้ ับคืนเงินภาษีภายในกาํ หนดเวลา ขอผา่ นขอ้ มลู เก่าไป . เงินทีเบิกจากคลงั ถา้ ไมไ่ ดจ้ า่ ยหรือจ่ายไมห่ มด ใหน้ าํ ส่งคนื คลงั ( ) ภายใน วนั ทาํ การ ( ) ภายใน วนั ทาํ การ ( ) ภายใน วนั ทาํ การ ( ) ภายใน วนั ทาํ การ เดมิ เฉลย (3) ทีถกู ตอบ (2) ภายใน 15 วนั ทาํ การ ตามแนวทางและวธิ ีการปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบียบ ระเบียบเบิก จา่ ยเงนิ จากคลงั การเกบ็ รกั ษาเงนิ และการนาํ เงินส่งคลงั พ.ศ.2551 ขอ้ 95 . การบริหารราชการ เพอื บรรลเุ ป้ าหมายตามการบริหารกจิ การบา้ นเมอื งทีดี ( ) ไมม่ ขี นั ตอนการปฏบิ ตั ิงานเกินความจาํ เป็น ( ) การใหบ้ ริการทดี แี ก่ประชาชน ( ) มกี ารประเมนิ ผลการปฏิบตั ริ าชการอยา่ งสมาํ เสมอ ( ) ขอ้ ( ) และ ( ) เฉลย (4) ถกู ตอ้ งแลว้ . การบริหารราชการส่วนกลาง ใชห้ ลกั การบริหารราชการแบบใด ( ) หลกั การรวมอาํ นาจในการบริหาร ( ) หลกั การแบ่งอาํ นาจในการบริหาร ( ) หลกั การกระจายอาํ นาจในการบริหาร ( ) ถกู ทุกขอ้

หนา้ 580 เฉลย (1) ถกู ตอ้ งแลว้ . การบริหารราชการซึงมอบอาํ นาจในการตดั สินใจ วนิ ิจฉยั การสังการ ใหแ้ กเ่ จา้ หนา้ ทีทีไปประจาํ ปฏบิ ตั งิ านในภูมภิ าคเป็นการบริหารราชการแบบใด ( ) การบริหารราชการส่วนกลาง ( ) การบริหารราชการส่วนภมู ภิ าค ( ) การบริหารราชการส่วนทอ้ งถิน ( ) ถกู ทงั ขอ้ เฉลย (2) ถกู ตอ้ งแลว้ . การบริหารราชการส่วนภมู ภิ าค จดั ระเบยี บบริหารราชการออกเป็น ( ) กระทรวง ทบวง กรม ( ) สาํ นกั กระทรวง ทบวง กรม ( ) จงั หวดั อาํ เภอ ( ) องคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั เทศบาล สุขาภบิ าล เฉลย (3) ถกู ตอ้ งแลว้ . การบริหารราชการส่วนทอ้ งถิน จดั ระเบียบบริหารราชการออกเป็น ( ) องคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั องคก์ ารบริหารส่วนส่วนตาํ บล ( ) กรุงเทพมหานคร เทศบาล ( ) กรุงเทพมหานคร การบริหารราชการเมอื งพทั ยา ( ) ถกู หมดทุกขอ้ เฉลย (4) ถกู ตอ้ งแลว้ . ตามระเบยี บกรมสรรพากรวา่ ดว้ ยการเกบ็ รกั ษาและการทาํ ลายเอกสารของกรมสรรพากร พ.ศ. ของแบบ ภ.ง.ด. ภ.ง.ด . ภ.ง.ด. และ ภ.ง.ด. ทีมกี ารถา่ ยเอกสารเกบ็ ไวต้ ามระบบ ไมโครฟิ ลม์ หรือ ระบบ IMAGE แลว้ กาํ หนดอายกุ ารเกบ็ รักษา ( ) ปี ( ) ปี ( ) ปี ( ) ปี เฉลย (1) ถกู ตอ้ งแลว้

หนา้ 581 . หนงั สือราชการมกี ปี ี ประเภท ( ) ประเภท ( ) ประเภท ( ) ประเภท ( ) ประเภท เฉลย (4) ถกู ตอ้ งแลว้ . สิงใดต่อไปนีทีไมไ่ ดอ้ ยใู่ นกระบวนการขยายฐานภาษีและสร้างความโปร่งใส ( ) ระบบงานกาํ กบั ดแู ลผเู้ สียภาษี ( ) การสาํ รวจตดิ ตามธุรกจิ นอกระบบภาษี ( ) การใชเ้ ลขประจาํ ตวั แห่งชาตกิ บั ผเู้ สียภาษี ( ) การใชม้ าตรการทางภาษกี บั ผกู้ ระทาํ ความผดิ เกียวกบั ยาเสพตดิ ขอผา่ นขอ้ มลู เก่าไป . ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ “คาํ สงั ทางปกครอง” ( ) หนงั สือเชิญพบ ( ) หนงั สือแจง้ การประเมนิ ภาษีอากร ( ) หนงั สือแจง้ การคืนเงนิ ภาษอี ากร ( ) คาํ สงั ยึดอายดั ทรัพยส์ ิน เฉลย (1) ถกู ตอ้ งแลว้

หนา้ 582 ชุดที ข้อสอบ วชิ า ภาษเี งนิ ได้นติ บิ ุคคล . การหกั ภาษี ณ ทีจา่ ยตามขอ้ ใดไมถ่ กู ตอ้ ง ก. บริษทั จา่ ยคา่ ขนส่ง หกั % ข. ธนาคารจ่ายดอกเบียเงินฝากใหน้ าย ก หกั % ค. บริษทั จา่ ยคา่ โฆษณา หกั 3 % ง. บริษทั จา่ ยค่าเบียประกนั วนิ าศภยั หกั 1 % เฉลย ค ถูกต้องแล้ว คาํ สังกรมสรรพากร ที ป. 6/2528 เรือง การหักภาษีเงินได้ ณ ทีจ่ายกรณีการจ่ายเงนิ ค่าโฆษณา เพือใหเ้ จา้ พนกั งานสรรพากรถือเป็นแนวทางปฏิบตั ิ สาํ หรับการหกั ภาษีเงินได้ ณ ทีจ่าย กรณีการจ่ายเงินไดค้ ่า โฆษณา ตามขอ้ 4(1) แห่งคาํ สังกรมสรรพากรที ท.ป.4/2528 เรือง สังใหผ้ จู้ า่ ยเงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 แห่งประมวล รัษฎากร มหี นา้ ทหี กั ภาษเี งนิ ได้ ณ ทจี า่ ย ลงวนั ที 3 มกราคม พ.ศ. 2528 กรมสรรพากรจึงมีคาํ สัง ดงั ตอ่ ไปนี “ข้อ 1 กรณีทบี ริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนติ บิ คุ คล หรือนติ บิ คุ คลอนื จา่ ยเงนิ ใหแ้ กผ่ ูม้ หี นา้ ทเี สียภาษเี งนิ ไดบ้ คุ คล ธรรมดา หรือภาษเี งนิ ไดน้ ติ บิ คุ คลเป็นคา่ โฆษณา ไมว่ า่ ผูน้ ันจะทาํ เองหรือให้ผอู้ ืนทาํ ให้ กรณีดงั กล่าว ใหผ้ ูจ้ ่ายเงินคาํ นวณหกั ภาษี ณ ทีจ่าย และนาํ ส่งในอตั ราร้อยละ 2.0 ของยอดเงินทีจ่ายนนั เวน้ แต่คา่ สือโฆษณาทีผรู้ ับเงินในฐานะเป็นนายหนา้ หรือ ตวั แทนไดจ้ ่ายแทนผูจ้ ่ายเงินไปตามจาํ นวนเงินทจี ่ายเงิน ผูจ้ ่ายเงินไม่ตอ้ งหักภาษี ณ ทีจ่าย ข้อ 2 กรณีผูร้ บั เงนิ ตามขอ้ 1 จ่ายเงินใหแ้ ก่สือโฆษณา เช่น หนงั สือพิมพ์ วิทยุ หรือโทรทศั น์ ทงั นี เฉพาะทเี ป็นผูม้ ี หนา้ ทเี สียภาษเี งนิ ไดบ้ คุ คลธรรมดา หรือภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล กรณีดงั กล่าวใหผ้ ูจ้ ่ายเงินคาํ นวณหกั ภาษี ณ ทีจ่าย และนาํ ส่งใน อตั ราร้อยละ 2.0 ของยอดเงินทีจ่ายนนั ” 2. ขอ้ ใดถกู ตอ้ ง ก. ธนาคารกรุงเทพ ซึงมสี าํ นกั งานใหญ่และสาขาทงั ในและตา่ งประเทศ จะเสียภาษจี ากฐานกาํ ไร สุทธิใหก้ บั ประเทศไทยเฉพาะสาํ นกั งานใหญ่และสาขาทีอยใู่ นประเทศไทย ข. ธนาคารซติ ีแบงค์ จดทะเบียนทตี า่ งประเทศ จะเสียภาษีจากฐานกาํ ไรสุทธิใหก้ บั ประเทศไทย เฉพาะสาขาของธนาคารทีอยใู่ นประเทศไทย ค. มลู นิธิและสมาคมไมต่ อ้ งเสียภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คลเพราะเป็นองคก์ รสาธารณกศุ ล ง. กจิ การทดี าํ เนินงานเป็นการคา้ หากาํ ไร โดยองคก์ ารของรัฐบาลต่างประเทศไมต่ อ้ งเสียภาษเี งินได้ นิตบิ คุ คลใหก้ บั ประเทศไทย เฉลย ข ถกู ตอ้ งแลว้ ทงั นี ตาม มาตรา 66 และ มาตรา 76 ทวิ บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิตบิ คุ คลซึงตังขึนตาม กฎหมายของต่างประเทศ มลี กู จา้ ง หรือผทู้ าํ การแทน หรือผทู้ าํ การติดต่อในการประกอบกจิ การในประเทศ ไทย ซึงเป็นเหตุใหไ้ ดร้ ับเงินไดห้ รื อผลกาํ ไรในประเทศไทย ใหถ้ ือว่าบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลนัน ประกอบกจิ การในประเทศไทย คาํ สงั กรมสรรพากร ที ป. 13/2529

หนา้ 583 3. นายวลิ เลยี มเป็นวศิ วกรชาวตา่ งประเทศ ไดร้ ่วมกบั บริษทั รบั เหมาไทย จาํ กดั ตงั กจิ การร่วมคา้ ไทย วลิ เลยี ม ประกอบกจิ การรับเหมาก่อสร้างคอนโดมเิ นียมและอาคารต่างๆ กจิ การร่วมคา้ ดงั กลา่ วจะตอ้ งเสียภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คลหรือไม่ หากตอ้ งเสียภาษจี ะตอ้ งเสียภาษีจากฐานภาษใี ด ก. เสียภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คล จากฐานเงินไดพ้ งึ ประเมนิ ข. เสียภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คล จากฐานรายไดก้ อ่ นหักรายจา่ ย ค. เสียภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คล จากฐานกาํ ไรสุทธิ ง. ไมเ่ สียภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คล แต่ตอ้ งนาํ รายรับไปเสียภาษเี งนิ ไดบ้ ุคคลธรรมดา เฉลย ค ถกู ต้องแล้ว กิจการร่วมค้าเป็นหน่วยเสียภาษีหน่วยหนึงแยกออกมาจากบริษทั ทีเขา้ ร่วมทาํ กจิ การร่วม ค้ามสี ถานะเป็นนิตบิ คุ คล ตามมาตรา 39 แห่งประมวลรษั ฎากร ซึงกจิ การร่วมค้าจะตอ้ งขอมีและใชเ้ ลข ประจาํ ตวั ผเู้ สียภาษขี องตนเองต่างหาก และมหี นา้ ทียนื แบบ ภ.ง.ด.50 เสียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลจากฐานกาํ ไร สุทธิภายใน 150 วนั นบั แตว่ นั สุดทา้ ยของรอบระยะเวลาบญั ชี ตามมาตรา 68 และ มาตรา 69 แห่งประมวล รัษฎากร 4. ขอ้ ใดไมถ่ กู ตอ้ ง สาํ หรบั บริษทั ทีจดทะเบียนในตา่ งประเทศ และประกอบกจิ การขนส่งระหวา่ งประเทศ ผา่ นประเทศตา่ งๆ รวมทงั ประเทศไทยดว้ ย ก. คา่ ขนคนโดยสารเฉพาะทีเรียกเกบ็ ในประเทศไทย จะตอ้ งนาํ มาเสียภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คล ข. คา่ ขนสินคา้ ออกไปจากประเทศไทย ตอ้ งเสียภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ ุคคลไมว่ า่ เรียกเกบ็ คา่ ขนสินค้าทีใด ค. คา่ ขนสินคา้ ออกไปจากประเทศไทย ตอ้ งเสียภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ ุคคลเฉพาะทเี รียกเกบ็ ในประเทศ ไทย ง. อตั ราภาษขี องกจิ การขนส่งระหวา่ งประเทศ คือ ร้อยละ 3 ของรายรบั เฉลย ค ถกู ตอ้ งแลว้ ฐานภาษสี าํ หรับการใหบ้ ริการขนส่งระหว่างประเทศ มดี งั นี 1. กรณีรบั ขนคนโดยสาร ไดแ้ ก่ มลู คา่ ของคา่ โดยสาร คา่ ธรรมเนียม และประโยชนอ์ นื ใดทีเรียกเกบ็ ใน ราชอาณาจกั รกอ่ นหกั รายจ่ายใดๆ เนืองในการรับขนคนโดยสารนัน 2. กรณีรบั ขนสินคา้ ไดแ้ ก่ มลู ค่าของคา่ ระวาง คา่ ธรรมเนียม และประโยชนอ์ นื ใดทีเรียกเกบ็ ไมว่ า่ ใน หรือนอกราชอาณาจกั รก่อนหักรายจ่ายใดๆ เนืองในการรับขนสินคา้ นันออกนอกราชอาณาจกั ร ตามมาตรา 79/1(2) แห่งประมวลรษั ฎากร 5. รายไดเ้ นืองจากกจิ การ หมายถงึ ก. รายไดจ้ ากการดาํ เนินกิจการตามกรอบวตั ถุประสงค์ เช่น การขายสินคา้ การใหบ้ ริการ การ ส่งออก ข. รายได้ทีไม่ได้ม่งุ ประสงค์จะก่อให้เกดิ ขนึ โดยตรงจากการประกอบกจิ การ ค. รายไดจ้ ากการลงทุนในตลาดหลกั ทรพั ย์ ง. ขอ้ ก. และ ข. ถกู เฉลย ข ถกู ตอ้ งแลว้ มาตรา 65 เงินไดท้ ีตอ้ งเสียภาษีตามความในส่วนนีคือกาํ ไรสุทธิซึงคาํ นวณไดจ้ าก รายไดจ้ ากกจิ การ

หนา้ 584 6. รายจา่ ยใดบา้ งตอ่ ไปนี เป็นรายจ่ายทีหกั ไดเ้ พิมขึน ก. ค่าประกนั ภยั หรือสญั ญาคุม้ กนั ใด ๆ หรือผลขาดทุนสุทธิยกมาไม่เกิน 5 ปี ข. รายจา่ ยเป็นคา่ ใชจ้ า่ ยในการส่งลกู จา้ งเขา้ รบั การศกึ ษาหรืออบรมในสถานศกึ ษาหรือสถานอบรม วชิ าชพี ทีราชการจดั ตงั ขึน ค. คา่ จา้ งคนพกิ ารเขา้ ทาํ งานตาม พ.ร.บ. ฟื นฟสู มรรถภาพคนพกิ าร ง. ข้อ ก,ข.ค. ถูก เฉลย ของเดมิ ตอบ ขอ้ ง ทถี กู ตอ้ งคอื ขอ้ ข และ ค ถูก รายจา่ ยทไี ดร้ บั สิทธิประโยชนท์ างภาษี ปกติรายจ่ายทีนาํ มาหกั เป็นรายจ่ายในการคาํ นวณกาํ ไรสุทธิตามเงือนไขทีกฎหมายกาํ หนดจะถือเป็นรายจ่ายไดเ้ ท่า จาํ นวนทีจ่าย แต่สาํ หรับรายจ่ายบางประเภททีรัฐตอ้ งการส่งเสริมและสนบั สนุนให้มีผลตอ่ การส่งเสริมดา้ นใดดา้ นหนึงกจ็ ะ กาํ หนดสิทธิประโยชน์ในทาง ภาษีอากรใหห้ ักรายจ่ายกรณีนนั ไดเ้ พิมซึงปัจจุบนั รายจ่ายประเภทที ไดร้ ับสนับสนุนดงั กล่าว มี ดงั นี 1.รายจ่ายเพอื สนบั สนุนการอาํ นวยความสะดวกและการทาํ งานของ คนพกิ าร ตามมาตรา18 แห่งพระราชบญั ญตั ิการฟื นฟู สมรรถภาพ คนพิการ พ.ศ.2524 2. รายจ่ายเพือการวิจยั เพือการวิจยั และพฒั นาเทคโนโลยี และนวตั กรรม 3. รายจ่ายเพือการฝึ กอบรม เพือพฒั นาฝี มือแรงงาน (ก) กรณีส่งลูกจา้ งเขา้ รับการศึกษาหรือฝึ กอบรมในสถานศึกษา หรือสถานฝึ กอบรมฝี มือแรงงาน (ข) กรณีบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนติ บิ คุ คลนายจา้ งเป็นผูฝ้ ึ กอบรม ลกู จา้ งของตนเอง 4. รายจ่ายเพือการฝึ กอาชีพของผดู้ าํ เนินการฝึ กตามกฎหมาย ว่าดว้ ยการส่งเสริมพฒั นาฝี มอื แรงงาน 5. รายจ่ายในการจดั หาหนงั สือหรือสืออิเลก็ ทรอนิกส์สาํ หรับ หอสมดุ หรือหอ้ งสมดุ ของบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิตบิ คุ คล 6. รายจ่ายในการจ้างผสู้ ูงอายุ (60 ปี ขึนไป) เป็นลูกจา้ ง 7. รายจ่ายเพือสนบั สนุนการศึกษา 8. รายจ่ายเพือสนับสนุนการจดั สร้างและบาํ รุงรักษาสนามเดก็ เล่น สวนสาธารณะหรือสนามกีฬา 9. รายจ่ายในการจดั หาหนงั สือหรือสืออิเลก็ ทรอนิกส์เพือส่งเสริม การอ่านใหแ้ ก่สถานศึกษา 10. รายจา่ ยบริจาคใหแ้ กก่ องทนุ พฒั นาครู 11. รายจ่ายทีไดจ้ ่ายให้แก่องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถินในการจัดตงั ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็

หนา้ 585 12. รายจ่ายการบริจาคใหแ้ กโ่ ครงการฝึ กอบรมวิชาชีพของสถาน พินิจและคมุ้ ครองเดก็ 13. รายจ่ายการบริจาคใหแ้ กก่ องทนุ บางกองทนุ นอกจากนี ยงั มีมาตรการทางภาษีทีเป็นมาตราชวั คราวใหห้ กั รายจ่าย ไดเ้ พิมขึนในบางช่วงเวลา เช่น 1. รายจ่ายเพือสนับสนุนองคก์ รกีฬา ในช่วงปี 2556-2558 2. รายจ่ายทีไดจ้ ่ายเป็นค่าจา้ งใหป้ ฏิบตั ิงานเกียวกบั บญั ชีแก่ นกั เรียนหรือนกั ศึกษาทีอยรู่ ะหว่างศึกษาในแผนกหรือสาขาวิชาบญั ชีทีไดร้ ับการรับรองจากสถาบนั การศึกษาในสังกดั กระทรวงศึกษาธิการ สาํ หรับรอบระยะเวลาบญั ชีทีเริมในหรือหลงั วนั ที 1 มกราคม 2559 แต่ไม่เกิน วนั ที 31 ธนั วาคม 2561 3. รายจ่ายเพือช่วยส่งเสริมการดาํ เนินกิจการบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วน นติ บิ คุ คลทีตงั ขึนตามกฎหมายไทยทีมีสินทรัพยถ์ าวร ซึงไม่รวมทีดินไม่เกินสองร้อยลา้ นบาทและมีการจา้ งแรงงานไม่เกิน สองร้อยคน(พีช่วยนอ้ ง) สาํ หรับรอบบญั ชี 1 มกราคม 2559 แต่ไม่เกิน 31 ธนั วาคม 2561 4. รายจ่ายเพือการซือและติดตงั กลอ้ งวงจรปิ ดในเขตพฒั นาพเิ ศษ เฉพาะกิจ สาํ หรับรอบบญั ชี 1 มกราคม 2559 แต่ไม่เกิน 31 ธนั วาคม 2563 5. รายจ่ายทีไดจ้ ่ายไปในการลงทนุ สําหรับโครงสร้างพืนฐาน หรือการพฒั นาและปรบั ปรุงแหลง่ ทอ่ งเทยี วในชนบท 6. รายจ่ายทีไดจ้ ่ายเพือการลงทุนในอุปกรณ์รับชาํ ระเงินทาง อิเลก็ ทรอนิกส์ 7. รายจ่ายทีไดจ้ ่ายเป็นค่าซือหรือจา้ งทาํ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือค่าใชบ้ ริการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ใหแ้ ก่ผูข้ ายหรือผู้ รับจา้ งทาํ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือผูใ้ หบ้ ริการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ทีไดร้ ับการขึนทะเบียนจากสาํ นกั งานส่งเสริม เศรษฐกจิ ดิจิทลั เฉพาะในส่วนทีไม่เกิน หนึงแสนบาท ทมี า : คาํ อธิบายประมวล เล่ม 1 หนา้ 2-336 ถึง 2-366 7. การจดั เกบ็ ภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คล มหี ลกั การจดั เกบ็ อยา่ งไร ก. นิตบิ คุ คลไทยตอ้ งเสียภาษใี หไ้ ทย ข. นิตบิ คุ คลต่างประเทศ รับรู้รายไดเ้ ฉพาะในไทย ค. นิตบิ คุ คลไทยทีมรี ายจา่ ยในต่างประเทศหกั เป็นรายจ่ายในประเทศไมไ่ ด้ ง. ข้อ ก. และ ข. ถกู เฉลย ง ถูกตอ้ งแลว้ ทงั นี ตาม มาตรา 66 บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คลทีตงั ขึนตามกฎหมายไทย หรือทีตงั ขึนตามกฎหมายของตา่ งประเทศ และกระทาํ กจิ การในประเทศไทยตอ้ งเสียภาษตี ามบทบญั ญตั ใิ นส่วนนี บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลทีตงั ขึนตามกฎหมายของต่างประเทศ และกระทาํ กิจการในทีอืนๆ รวมทงั ในประเทศไทย ใหเ้ สียภาษใี นกาํ ไรสุทธิจากกจิ การ หรือเนืองจากกจิ การทไี ดก้ ระทาํ ในประเทศไทยใน รอบระยะเวลาบญั ชแี ละ การคาํ นวณกาํ ไรสุทธิใหป้ ฏบิ ตั เิ ช่นเดยี วกบั มาตรา 65 และมาตรา 65 ทวิ แตถ่ า้ ไม่ สามารถจะคาํ นวณกาํ ไรสุทธิดงั กลา่ วแลว้ ได้ ใหน้ าํ บทบญั ญตั วิ า่ ดว้ ยการประเมนิ ภาษีตามมาตรา 71 (1) มาใช้ บงั คบั โดยอนุโลม

หนา้ 586 8. ฐานภาษีสาํ หรับบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล ไดแ้ ก่ ก. กาํ ไรสุทธิ ข. กาํ ไรทจี า่ ยออกไปจากประเทศไทย ค. 5% จากยอดรายไดก้ อ่ นหกั คา่ ใชจ้ า่ ย ง. ถกู ทุกขอ้ เฉลย ง ถกู ตอ้ งแลว้ การคาํ นวณภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คลจากฐานกาํ ไรสุทธิเป็นการคาํ นวณภาษจี ากกาํ ไรสุทธิ ซึง เป็นไปตามเงือนไขทีกาํ หนดไว้ ตามมาตรา 65 ทวิ และ มาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรษั ฎากร คณู ดว้ ยอตั ราภาษี ผมู้ ีหน้าทีเสียภาษีจากฐานกาํ ไรสุทธิ 1. บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลทีตงั ขึนตามกฎหมายไทย 2. บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลทีตงั ขึนตามกฎหมายของตา่ งประเทศและประกอบกจิ การใน ไทย ตามมาตรา 66 วรรคหนึง แห่งประมวลรษั ฎากร 3. บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิตบิ คุ คลซึงตังขึนตามกฎหมายของตา่ งประเทศมลี กู จา้ ง ผทู้ าํ การแทน หรือผทู้ าํ การตดิ ตอ่ ในการประกอบกจิ การในไทย ตามมาตรา 76 ทวิ แห่งประมวลรษั ฎากร คําสงั กรมสรรพากร ที ป. 8/2528 ข้อ 1กรณีการจา่ ยเงินค่าจ้างทําของให้แกผ่ ้รู บั จ้างทผี ู้วา่ จ้างจะต้องคํานวณหกั ภาษีเงินได้ ณ ทจี ่าย และนาํ สง่ ในอตั ราร้อยละ 5.0 ของยอดเงนิ ค่าจ้างทจี ่าย 4. กจิ การซึงดาํ เนินการเป็นทางคา้ หรือหากาํ ไร โดยรัฐบาลต่างประเทศองคก์ ารของรฐั บาล ตา่ งประเทศ หรือนิติบุคคลอนื ทีตงั ขึนตามกฎหมายของตา่ งประเทศ 5. กจิ การร่วมคา้ 9. ในกรณีทีบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิตบิ คุ คลเลกิ กนั กฎหมายใหถ้ อื วา่ วนั ทเี จา้ พนกั งานรบั จด ทะเบียนเลกิ เป็นวนั สุดทา้ ยของรอบระยะเวลาบญั ชี เป็นหนา้ ทีของผใู้ ดทีจะตอ้ งแจง้ ใหเ้ จา้ พนกั งาน ประเมนิ ทราบ ก. ใหผ้ ชู้ าํ ระบญั ชีเป็นผแู้ จง้ ข. ใหผ้ จู้ ดั การเป็นผแู้ จง้ ค. ให้ผ้ชู ําระบญั ชีและผ้จู ดั การร่วมกนั แจ้ง ง. ใหเ้ จา้ พนกั งานผรู้ บั จดทะเบียนเลกิ เป็นผแู้ จง้ เฉลย ค ถกู ต้องแล้ว ทงั นี ตามมาตรา 72 แห่งประมวลรษั ฎากร 10. รอบระยะเวลาบญั ชีในการคาํ นวณภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คลโดยปกตมิ กี าํ หนดระยะเวลาเท่าใด ก. 1 ปี ข. 12 เดอื น ง. 365 วนั ง. ถกู ทกุ ขอ้ เฉลย ข ถกู ตอ้ งแลว้ ทงั นี ตาม มาตรา 65 เงินไดท้ ีตอ้ งเสียภาษตี ามความในส่วนนีคอื กาํ ไรสุทธิซึงคาํ นวณได้ จากรายไดจ้ ากกจิ การ หรือเนืองจากกจิ การ ทีกระทาํ ในรอบระยะเวลาบญั ชีหกั ดว้ ยรายจ่ายตามเงือนไขทีระบุ ไวใ้ นมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี และรอบระยะเวลาบญั ชดี งั กลา่ วใหม้ กี าํ หนดสิบสองเดอื น

หนา้ 587 ข้อสอบ วชิ า ภาษเี งนิ ได้นติ บิ ุคคล ชุดที . ภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คลจดั เกบ็ จากฐานภาษีใดไดม้ ากทสี ุด ก. กาํ ไรสุทธิ ข. รายรบั ก่อนหกั รายจ่าย ค. เงินทจี า่ ยจากประเทศไทย ง. การจาํ หน่ายกาํ ไรไปต่างประเทศ เฉลย ก ถกู ตอ้ งแลว้ 2. ประมวลรัษฎากรกาํ หนดใหใ้ ชเ้ กณฑใ์ ด ในการคาํ นวณกาํ ไรสุทธิเพอื เสียภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คล ก. เกณฑเ์ งินสด ข. เกณฑส์ ิทธิ ค. เกณฑบ์ ญั ชีทีรับรองทวั ไป ง. เกณฑร์ ายไดก้ อ่ นหกั รายจา่ ย เฉลย ข ถกู ตอ้ งแลว้ ทงั นี ตาม คาํ สังกรมสรรพากร ที ท.ป. 1/2528 ขอ้ 2 การคาํ นวณรายไดแ้ ละรายจา่ ยของ บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล ใหใ้ ชเ้ กณฑส์ ิทธิโดยให้นาํ รายไดท้ ีเกิดขึนในรอบระยะเวลาบญั ชีใด แมว้ ่า จะยงั ไม่ไดร้ ับชาํ ระในรอบระยะเวลาบญั ชีนันมารวมคาํ นวณเป็นรายไดใ้ นรอบระยะเวลาบญั ชีนัน และใหน้ าํ รายจา่ ยทงั สินทเี กยี วกบั รายไดน้ ัน แมจ้ ะยงั ไมไ่ ดจ้ า่ ยในรอบระยะเวลาบญั ชีนัน มารวมคาํ นวณเป็นรายจ่ายของ รอบระยะเวลาบญั ชีนัน 3. บริษทั สยาม จาํ กดั จดทะเบียนตามกฎหมายไทย และไดไ้ ปตังสาขาทีประเทศญีป่ ุน บริษทั สยาม จาํ กดั มหี นา้ ทีเสียภาษีเงินไดน้ ิตบิ คุ คลจาก ก. กาํ ไรสุทธิทไี ดร้ บั ในประเทศไทย ข. กาํ ไรสุทธิทีไดร้ บั ในประเทศญีป่ นุ ค. กําไรสุทธทิ ไี ด้รับในประเทศไทยและประเทศญปี ่ นุ รวมกนั ง. กาํ ไรสุทธิทีไดร้ บั ในประเทศไทยและประเทศญีป่ นุ เฉพาะส่วนทนี าํ เขา้ ไทย เฉลย ค ถกู ตอ้ งแลว้ ทงั นี ตาม มาตรา 66 บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คลทีตงั ขึนตามกฎหมายไทย หรือทีตงั ขึนตามกฎหมายของตา่ งประเทศ และกระทาํ กจิ การในประเทศไทยตอ้ งเสียภาษตี ามบทบญั ญตั ใิ นส่วนนี บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลทีตงั ขึนตามกฎหมายของตา่ งประเทศ และกระทาํ กิจการในทีอืนๆ รวมทงั ในประเทศไทย ใหเ้ สียภาษใี นกาํ ไรสุทธิจากกจิ การ หรือเนืองจากกจิ การทไี ดก้ ระทาํ ในประเทศไทยใน รอบระยะเวลาบญั ชแี ละ การคาํ นวณกาํ ไรสุทธิใหป้ ฏบิ ตั เิ ช่นเดยี วกบั มาตรา 65 และมาตรา 65 ทวิ แตถ่ า้ ไม่ สามารถจะคาํ นวณกาํ ไรสุทธิดงั กลา่ วแลว้ ได้ ใหน้ าํ บทบญั ญตั วิ า่ ดว้ ยการประเมนิ ภาษีตามมาตรา 71 (1) มาใช้ บงั คบั โดยอนุโลม 4. รายจา่ ยใดตอ่ ไปนี หา้ มนาํ มาหกั เป็นค่าใชจ้ า่ ยทงั จาํ นวน ก. รายจา่ ยส่วนตวั ข. รายจา่ ยการกศุ ลสาธารณะ ค. ผลขาดทุนสุทธิยกมาไมเ่ กิน 5 รอบระยะเวลาบญั ชี ง. คา่ รบั รอง เฉลย ก ถูกต้องแล้ว รายจ่ายอนั มีลกั ษณะเป็นการส่วนตวั หรือการใหโ้ ดยเสน่หา บริษทั จะนาํ ไปถอื เป็นรายจ่าย ในการคาํ นวณกาํ ไรสุทธิเพอื เสียภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คลไมไ่ ด้ เพราะต้องห้ามตามมาตรา ตรี( ) แห่งประมวล รัษฎากร

หนา้ 588 5. บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลจะตอ้ งยนื แบบแสดงรายการภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลสินรอบ ระยะเวลาบญั ชีภายในกาํ หนดระยะเวลาเท่าใด นบั แตว่ นั สุดทา้ ยของรอบระยะเวลาบญั ชี ก. ภายใน 2 เดอื น ข. ภายใน 60 วนั ค. ภายใน 90 วนั ง. ภายใน 150 วนั เฉลย ง ถกู ตอ้ งแลว้ ผมู้ หี นา้ ทียนื แบบ ภ.ง.ด.50 ไดแ้ ก่ บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลทีตงั ขึนตามกฎหมาย ไทย หรือตงั ขึนตามกฎหมายของตา่ งประเทศ และกระทาํ กจิ การในไทย ตามมาตรา 66 แห่งประมวลรษั ฎากร กาํ หนดเวลาการยนื รายการเพอื เสียภาษจี ากฐานกาํ ไรสุทธิตอ้ งยนื แบบ ภ.ง.ด.50 ภายใน 150 วนั นบั แตว่ นั สุดทา้ ยของรอบระยะเวลาบญั ชี ตามมาตรา 68 และ มาตรา 69 แห่งประมวลรษั ฎากร 6. เกียวกบั รอบระยะเวลาบญั ชี ขอ้ ใดถกู ตอ้ ง ก. รอบระยะเวลาบญั ชีมี 12 เดือนเท่านนั ข. รอบระยะเวลาบญั ชีมากกวา่ 12 เดอื นกไ็ ด้ ค. รอบระยะเวลาบญั ชีนอ้ ยกวา่ 12 เดอื นกไ็ ด้ ง. ขอ้ ข. และ ค. เฉลย ง ถูกตอ้ งแลว้ ทงั นี ตาม มาตรา 65 เงินไดท้ ีตอ้ งเสียภาษตี ามความในส่วนนีคอื กาํ ไรสุทธิซึงคาํ นวณได้ จากรายไดจ้ ากกจิ การ หรือเนืองจากกิจการ ทีกระทาํ ในรอบระยะเวลาบญั ชีหกั ดว้ ยรายจ่ายตามเงือนไขทรี ะบุ ไวใ้ นมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี และรอบระยะเวลาบญั ชดี งั กลา่ วใหม้ กี าํ หนดสิบสองเดอื น เวน้ แตใ่ น กรณีดงั ต่อไปนีจะนอ้ ยกวา่ สิบสองเดือนกไ็ ด้ 7. การตงั ราคาทรัพยส์ ินหรือประโยชน์อืนใดเป็นเงิน ใหถ้ ือราคาหรือค่าอนั พึงมีในวนั ทีได รบั ทรพั ยส์ ินหรือประโยชนน์ ัน คาํ ว่า “ราคาหรือคา่ อนั พงึ มี” หมายถงึ ก. ราคาทซี ือทรัพยส์ ินนนั ข. ราคาตลาดของทรัพย์สิน ค. ราคาทนุ ของทรพั ยส์ ิน ง. ผดิ ทุกขอ้ เฉลย ข ถกู ตอ้ งแลว้ ทงั นี ตาม มาตรา 9 ทวิ แห่งประมวลรษั ฎากร เวน้ แตจ่ ะมบี ทบญั ญตั ไิ วเ้ ป็นอยา่ งอนื ถา้ จะตอ้ งตีราคาทรัพยส์ ินหรือประโยชน์อืนใดเป็นเงิน ใหถ้ ือราคาหรือค่าอนั พึงมีในวนั ทีไดท้ รพั ยส์ ินหรือ ประโยชนน์ นั 8. เงนิ ตรา ทรัพยส์ ินหรือหนีสิน ซึงมคี า่ หรือราคาเป็นเงินตราตา่ งประเทศ ทีรบั มาหรือจ่ายไปในระหวา่ งรอบ ระยะเวลาบญั ชี ใหค้ าํ นวณคา่ หรือราคาเป็นเงินตราไทยตามราคาใด ก. ราคาถวั เฉลียทีธนาคารพาณิชยร์ ับซือ ข. ราคาตลาด ค. ราคาถวั เฉลยี ระหวา่ งอตั ราซือและอตั ราขายของธนาคารพาณิชย์ ง. ราคาถวั เฉลียทีธนาคารพาณิชยข์ าย

หน้า 589 เฉลย ข ถกู ตอ้ งแลว้ ทงั นี ตาม มาตรา 9 ทวิ แห่งประมวลรษั ฎากร เวน้ แตจ่ ะมบี ทบญั ญตั ไิ วเ้ ป็นอยา่ งอนื ถา้ จะตอ้ งตีราคาทรัพยส์ ินหรือประโยชน์อืนใดเป็นเงิน ใหถ้ ือราคาหรือค่าอนั พึงมีในวนั ทีไดท้ รัพยส์ ินหรือ ประโยชนน์ นั 9. ราคาสินคา้ คงเหลอื ในวนั สุดทา้ ยของรอบระยะเวลาบญั ชี ใหค้ าํ นวณตามราคาใด ก. ราคาทนุ ข. ราคาทนุ หรือราคาตลาดแลว้ แตอ่ ยา่ งใดจะนอ้ ยกวา่ ค. ราคาตลาด ง. ผดิ ทกุ ขอ้ เฉลย ข ถกู ตอ้ งแลว้ หลกั ประมวลรัษฎากร ราคาสินค้าคงเหลอื ในวนั สุดทา้ ยของรอบระยะเวลาบญั ชีให้ คาํ นวณตามราคาทุนหรือราคาตลาดแลว้ แต่อยา่ งใดจะนอ้ ยกวา่ และใหถ้ อื ราคานีเป็นราคาสินค้าคงเหลอื ยกมา สาํ หรับรอบระยะเวลาบญั ชใี หมด่ ว้ ย ตามมาตรา 65 ทวิ(6) แห่งประมวลรษั ฎากร 10. บริษทั เริมกจิ การตงั แต่ปี 2543 ตอ่ มาในปี 2545 ไดย้ นื คาํ รอ้ งขอเปลยี นวนั สุดทา้ ยของรอบระยะเวลา บญั ชหี ลงั จากดาํ เนินกจิ การมาเกนิ กวา่ 6 เดอื น บริษทั จะตอ้ งยนื แบบ ภ.ง.ด. 51 , 50 หรือไม่ ก. ตอ้ งยนื แบบ ภ.ง.ด. และ ข. ไมต่ อ้ งยนื ทงั ภ.ง.ด. 51, 50 ค. ไมต่ อ้ งยนื แบบ ภ.ง.ด. 51 แต่ยนื ภ.ง.ด. 50 (ง) ง. ผดิ ทกุ ขอ้ เฉลย ก ถกู ตอ้ งแลว้ ทงั นี ตาม มาตรา 67 ทวิ เพอื ประโยชนใ์ นการจดั เกบ็ ภาษกี ่อนถงึ กาํ หนดเวลาตามมาตรา 68 ใหบ้ ริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิตบิ คุ คลยืนรายการตามแบบทีอธิบดกี าํ หนดพรอ้ มกบั ชาํ ระภาษตี อ่ อาํ เภอ ณ ทวี า่ การอาํ เภอทอ้ งที ภายในสองเดอื นนบั แตว่ นั สุดทา้ ยของรอบระยะเวลาหกเดอื นนบั แตว่ นั แรกของรอบ ระยะเวลาบญั ชีความในวรรคหนึงมิใหใ้ ชบ้ งั คบั แก่บริษทั หรือห้างหุน้ ส่วนนิติบุคคลซึงมีรอบระยะเวลาบญั ชี แรก หรือรอบระยะเวลาบญั ชสี ุดทา้ ยนอ้ ยกวา่ สิบสองเดือน ชุดที ข้อสอบ วชิ า ภาษเี งนิ ได้นติ บิ ุคคล . รายไดใ้ นขอ้ ใดตอ่ ไปนี ทีมลู นิธิสมาคมตอ้ งนาํ มารวมคาํ นวณเป็นรายได้ ก. คา่ ลงทะเบียน ข. ทรพั ยส์ ินทไี ดร้ บั บริจาค ค. ค่าบาํ รุงทีไดร้ ับจากสมาชิก ง. ผดิ ทกุ ขอ้ ตาม มาตรา ทวิ(13) มลู นิธิหรือสมาคมทีประกอบกจิ การซึงมรี ายได้ ไมต่ อ้ งนาํ เงินคา่ ลงทะเบียน หรือค่า บาํ รุงทีไดร้ ับจากสมาชิก หรือเงิน หรือทรัพยส์ ินทไี ดร้ บั จากการรับบริจาค หรือจากการใหโ้ ดยเสน่หา แลว้ แต่ กรณี มารวมคาํ นวณเป็นรายได้ 2. ขอ้ ความใดต่อไปนีถกู ตอ้ ง ก. ภาษเี งนิ ไดข้ องบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิตบิ คุ คลไมใ่ หถ้ อื เป็นรายจา่ ยในการคาํ นวณกาํ ไรสุทธิ ข. รายจา่ ยในการซ่อมแซมใหค้ งสภาพเดิมถอื เป็นรายจา่ ยในการคาํ นวณกาํ ไรสุทธิ ค. รายจา่ ยเพอื การกศุ ลสาธารณะหกั เป็นรายจ่ายไดไ้ มเ่ กนิ ร้อยละ 2 ของกาํ ไรสุทธิ ง. ถกู ทุกขอ้ 3. ขอ้ ความใดถือเป็น “เหตุอนั สมควร” ทีถอื เป็นแนวทางในการพจิ ารณาเกียวกบั การประมาณ

หนา้ 590 การกาํ ไรสุทธิขาดไปเกนิ รอ้ ยละ 25 ของกาํ ไรสุทธิ ก. กรณียนื แบบเสียภาษคี รึงปี ไวไ้ มน่ อ้ ยกวา่ กึงหนึงของภาษเี งนิ ไดท้ ีไดย้ นื ไวใ้ นรอบระยะเวลาบญั ชี ก่อน ข. กรณีนิตบิ คุ คลมรี ายไดเ้ ขา้ มาในช่วง 6 เดอื นหลงั ของปี โดยไมไ่ ดม้ กี ารคาดการณม์ าก่อนลว่ งหนา้ ค. ถกู ทงั ขอ้ ก. ข. ง. ผดิ ทุกขอ้ กรณีการพิจารณาเหตุอนั สมควร ตามมาตรา 67 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร ใหป้ ฏิบตั ิตามคาํ สงั กรมสรรพากรที ป.50/2537ฯ แกไ้ ขเพิมเตมิ โดยคาํ สังกรมสรรพากรที ป.152/2558ฯ ประกอบกบั แนวทางปฏบิ ตั ิ กรมสรรพากรที มก. 9/2550 เรือง การพจิ ารณาเหตอุ นั สมควรตามมาตรา 67 ตรี แห่งประมวลรษั ฎากร หมายเหตุ การพิจารณาเหตอุ นั สมควรตามมาตรา 67 ตรี แห่งประมวลรษั ฎากร ใหเ้ ป็นไปตามแนวทาง ปฏิบตั ิกรมสรรพากรที มก.53/2560ฯ โดยยกเลิกแนวทางปฏิบตั ิกรมสรรพากรที มก.9/2550ฯ ตงั แต่วนั ที 22 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2560 เป็นตน้ ไป 4. นิตบิ คุ คลใดเสียภาษจี ากฐานกาํ ไรสุทธิ ก. บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิตบิ คุ คลทีตงั ขึนตามกฎหมายไทย ข. บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลทีตงั ขึนตามกฎหมายของตา่ งประเทศและกระทาํ กจิ การในประเทศไทย ค. มลู นิธิสมาคม ง. ถกู ทงั ก และ ข ตาม มาตรา มาตรา และมาตรา ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร

หนา้ 591 ชุดที ข้อสอบ วิชา ภาษีมูลค่าเพมิ 1. ผทู้ ีไดร้ บั ยกเวน้ ไมต่ อ้ งจดทะเบียนภาษีมลู ค่าเพิม ไดแ้ ก่ ก. ผผู้ ลติ สินคา้ และส่งออกไปตา่ งประเทศ ข. ผปู้ ระกอบการทใี หบ้ ริการจากต่างประเทศและไดม้ กี ารใชบ้ ริการนันในราชอาณาจกั ร ค. ผปู้ ระกอบการทมี รี ายรับการขายสินคา้ หรือใหบ้ ริการไมเ่ กนิ 600,000 บาทตอ่ ปี ง. ถกู ทงั ขอ้ ก. และ ค. เฉลย ข ถกู ตอ้ งแลว้ มาตรา 85/3 ใหผ้ ปู้ ระกอบการดงั ตอ่ ไปนีไมต่ อ้ งจดทะเบียนภาษมี ลู คา่ เพิม (1) ผปู้ ระกอบการทีอยนู่ อกราชอาณาจกั ร และเขา้ มาประกอบกจิ การขายสินคา้ หรือใหบ้ ริการในราชอาณาจกั รเป็นครังคราว (2) ผปู้ ระกอบการทใี หบ้ ริการจากตา่ งประเทศและไดม้ กี ารใชบ้ ริการนันใน ราชอาณาจกั ร (3) ผปู้ ระกอบการอนื ตามทีอธิบดปี ระกาศกาํ หนดเมอื มเี หตุอนั สมควร อธิบดจี ะผอ่ นผนั ใหผ้ ปู้ ระกอบการตาม (1) หรือ (3) ซึงการประกอบกจิ การ ของผปู้ ระกอบการดงั กลา่ วมลี กั ษณะและวธิ กี ารตามทอี ธิบดกี าํ หนด มสี ิทธิขอจด ทะเบียนภาษีมลู คา่ เพิมเป็นการชวั คราวกไ็ ด้ การยนื คาํ ขอจดทะเบียนภาษมี ลู คา่ เพิมชวั คราว และการออกใบทะเบียน ภาษมี ลู คา่ เพิมชวั คราวใหเ้ ป็นไปตามแบบ หลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงือนไขที อธิบดีกาํ หนด ( ดปู ระกาศอธิบดกี รมสรรพากร เกยี วกบั ภาษีมลู คา่ เพิม (ฉบบั ที 43) ) เพือประโยชน์ในการปฏิบตั ิตามวรรคหนึง ให้อธิบดีมีอาํ นาจกาํ หนด หลกั เกณฑ์ และเงือนไขทจี ะพจิ ารณากาํ หนดวา่ การเขา้ มาประกอบกจิ การขาย สินคา้ หรือใหบ้ ริการในราชอาณาจกั รอยา่ งใด เป็นการเขา้ มาประกอบกจิ การขาย สินคา้ หรือใหบ้ ริการในราชอาณาจกั รเป็นครังคราว ( ดปู ระกาศอธิบดกี รมสรรพากร เกยี วกบั ภาษีมลู คา่ เพิม (ฉบบั ที 43) )

หนา้ 592 2. ผปู้ ระกอบการทมี สี ถานประกอบการหลายแห่งใหย้ นื คาํ ขอจดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพิม ณ ทใี ด ก. ทีวา่ การอาํ เภอทอ้ งทีทีมสี ถานประกอบการตังอยู่ ข. ทีวา่ การอาํ เภอใดกไ็ ด้ ค. ทีวา่ การอาํ เภอทอ้ งทีทีสถานประกอบการทเี ป็นสาํ นกั งานใหญ่ตังอยู่ ง. ถกู ทงั ขอ้ ก. และ ค. เฉลย ค ถกู ตอ้ งแลว้ ตามมาตรา และประกาศอธิบดฯี เกียวกบั ภาษมี ลู คา่ เพิม (ฉบบั ที ) แกไ้ ขเพิมเติมโดย ประกาศอธิบดฯี เกยี วกบั ภาษีมลู ค่าเพิม (ฉบบั ที ) “ขอ้ 4 ใหผ้ ปู้ ระกอบการยนื คาํ ขอจดทะเบียนภาษมี ลู ค่าเพิมตามแบบทีอธิบดกี รมสรรพากร กาํ หนด (1) กรณีสถานประกอบการตงั อยใู่ นเขตกรุงเทพมหานคร ใหย้ นื ณ สาํ นกั งานสรรพากรเขต สาํ นกั งานสรรพากรเขต(สาขา) หรือสาํ นกั งานภาษสี รรพากรพืนทที สี ถานประกอบการตงั อย”ู่ (แกไ้ ขเพิมเตมิ โดยประกาศอธิบดกี รมสรรพากร เกยี วกบั ภาษีมลู คา่ เพิม (ฉบบั ที 74) ใชบ้ งั คบั 1 มกราคม 2539 เป็นตน้ ไป) (2) กรณีสถานประกอบการตงั อยนู่ อกเขตทอ้ งทีกรุงเทพมหานคร ใหย้ นื ณ สาํ นกั งาน สรรพากรพืนทสี าขาในเขตทอ้ งทีทีสถานประกอบการตังอย\"ู่ (แกไ้ ขเพิมเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกยี วกบั ภาษีมลู คา่ เพิม (ฉบบั ที 139) ใชบ้ งั คบั 11 ตลุ าคม 2545 เป็นตน้ ไป) “(3) กรณีผปู้ ระกอบการทีอยใู่ นความรับผดิ ชอบของสาํ นกั บริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ ใหย้ นื ณ สาํ นกั บริหารภาษธี รุ กจิ ขนาดใหญ่” (แกไ้ ขเพิมเตมิ โดยประกาศอธิบดกี รมสรรพากร เกยี วกบั ภาษีมลู คา่ เพิม (ฉบบั ที 165) ใชบ้ งั คบั 16 สิงหาคม 2549 เป็นตน้ ไป) กรณีผปู้ ระกอบการมสี ถานประกอบการหลายแห่ง ใหย้ นื คาํ ขอจดทะเบียน ภาษมี ลู คา่ เพิม ณ สถานทีทกี าํ หนดตามวรรคหนึง แลว้ แตก่ รณี ซึงสถานประกอบการทเี ป็น สาํ นกั งานใหญ่ตงั อยู่ หากไมม่ สี ถานประกอบการทีเป็นสาํ นกั งานใหญ่ ใหผ้ ปู้ ระกอบการเลอื ก สถานประกอบการแห่งใดแห่งหนึงเป็นสาํ นกั งานใหญ่

หนา้ 593 3 .ผปู้ ระกอบการใดทีอธิบดีสงั เพกิ ถอนการจดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพิม ใหย้ นื ใบทะเบียนภาษีมลู ค่าเพิม ภายในกีวนั ก. ภายใน 7 วนั นบั แต่วนั ทไี ดร้ บั แจง้ การเพกิ ถอน ข. ภายใน 15วนั นบั แต่วนั ทไี ดร้ บั แจง้ การเพกิ ถอน ค. ภายใน 30วนั นบั แตว่ นั ทไี ดร้ บั แจง้ การเพกิ ถอน ง. ภายใน 45วนั นบั แต่วนั ทไี ดร้ บั แจง้ การเพกิ ถอน เฉลย ก ถกู ตอ้ งแลว้ มาตรา 85/17 ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนใดกระทาํ ผิดบทบญั ญตั ิในหมวดนี อธิบดมี อี าํ นาจสงั เพกิ ถอนการจดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพิมของผปู้ ระกอบการจด ทะเบียนนนั ได้ และใหแ้ จง้ การเพกิ ถอนดงั กลา่ วใหผ้ ปู้ ระกอบการทราบเป็น หนงั สือ ( ดูคาํ วินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉยั ภาษีอากร ที 34/6641 ) ใหผ้ ปู้ ระกอบการทไี ดร้ บั แจง้ ตามวรรคหนึงคนื ใบทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพิม ณ สถานทีทีไดจ้ ดทะเบียนภาษีมลู ค่าเพิมไว้ ภายในเจ็ดวนั นบั แต่วนั ทีไดร้ ับแจง้ การ เพกิ ถอน 4. ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนไมแ่ จง้ การเปิ ดสถานประกอบการเพิมเตมิ หรือเปิ ดสถานประกอบการภาย ใน เวลาทีกฎหมาย กาํ หนด มโี ทษอยา่ งไร ก. ตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กนิ 1,000 บาท ข. ตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กนิ 2,000 บาท ค. ตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กนิ 5,000 บาท ง. ตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กนิ 10,000 บาท ตอบ ขอ้ ค ถกู ตอ้ งแลว้ มาตรา / บคุ คลดงั ตอ่ ไปนี ฝ่ าฝืนหรือไมป่ ฏบิ ตั ติ ามบทบญั ญตั ทิ รี ะบไุ ว้ ตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กนิ หา้ พนั บาท ( ) ตวั แทนละเลยไมด่ าํ เนินการเกยี วกบั การจดทะเบียนของผปู้ ระกอบการทีอยนู่ อกราชอาณาจกั รตามมาตรา / ( ) ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนไมแ่ สดงใบทะเบียนภาษมี ลู คา่ เพิมตามมาตรา / ( ) ผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นไมแ่ จง้ การเปิดสถานประกอบการเพิมเติม หรือปิ ดสถานประกอบการตามมาตรา / วรรคหนึงหรือวรรคสอง ( ) ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนไมแ่ จง้ การโอนกจิ การบางส่วนหรือการรบั โอนกจิ การตามมาตรา /

หน้า 594 ( ) ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนไม่แจง้ การเลิกหรือการโอนกิจการทังหมดตามมาตรา / หรือ มาตรา / วรรคหนึง ( ) ตวั แทนผปู้ ระกอบการจดทะเบียนทอี ยนู่ อกราชอาณาจกั ร จดั ทาํ รายงานโดยไมเ่ ป็นไปตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงือนไขทกี าํ หนดตามมาตรา / 5. ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนไมจ่ ดั ทาํ รายงานภาษขี าย ภาษซี ือ รายงานสินคา้ และวตั ถดุ บิ มโี ทษอยา่ งไร ก. ตอ้ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ่ กนิ 6 เดอื น หรือปรับไมเ่ กนิ 10,000 บาท ข. ตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กนิ 20,000 บาท ค. ตอ้ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ่ กนิ 6 เดอื น หรือปรับไมเ่ กนิ 10,000 บาท หรือทงั จาํ ทงั ปรับ ง. ตอ้ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ่ กนิ 3 เดอื น หรอปรับไมเ่ กนิ 5,000 บาท หรือทงั จาํ ทงั ปรับ เฉลย ค ถกู ตอ้ งแลว้ มาตรา 87 ภายใตบ้ งั คบั ม. 87/1 และม. 87/2 ใหผ้ ปู้ ระกอบการจดทะเบียนมหี นา้ ทจี ดั ทาํ รายงานเกยี วกบั การ เสียภาษีมลู คา่ เพิมดงั ตอ่ ไปนี (1) รายงานภาษขี าย (2) รายงานภาษีซือ (3) รายงานสินคา้ และวตั ถดุ บิ เฉพาะผปู้ ระกอบการจดทะเบียนทปี ระกอบกจิ การขายสินคา้ ในกรณีผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นทีตอ้ งเสียภาษีตาม ม. 82/16 ใหม้ หี นา้ ทีจดั ทาํ รายงานมลู คา่ ของฐานภาษี และรายงานสินคา้ และวตั ถดุ บิ รายงานทีตอ้ งจดั ทาํ ตาม วรรคหนึงและวรรคสอง ใหเ้ ป็นไปตามแบบทอี ธิบดกี าํ หนด และให้ จดั ทาํ เป็นรายสถานประกอบการ วธิ ีลงรายการในรายงาน ใหเ้ ป็นไปตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงือนไขทีอธิบดกี าํ หนด และการ ลงรายการใหล้ งภายใน 3 วนั ทาํ การนบั แตว่ นั ทไี ดม้ าหรือจาํ หน่ายออกไปซึงสินคา้ หรือบริการนัน ทงั นี เวน้ แต่ในกรณีจาํ เป็นอธิบดีจะกาํ หนดเป็นอย่างอืน ตามทีเห็นสมควรก็ได้ มาตรา 90/3 บุคคลดงั ต่อไปนี ฝ่ าฝืนหรือไมป่ ฏบิ ตั ติ ามบทบญั ญตั ิ ทีระบไุ ว้ ตอ้ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ่ กนิ 6 เดอื น หรือปรับไมเ่ กนิ 10,000 บาท หรือทงั จาํ ทงั ปรับ (1) ตวั แทนผปู้ ระกอบการจดทะเบียนทอี ยนู่ อกราชอาณาจกั ร ออกใบกาํ กบั ภาษีโดยไมม่ สี ิทธิตาม ม. 86/2ว.2 (2) ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนใชเ้ ครืองบนั ทึกการเก็บเงินโดย ไมไ่ ดร้ บั อนุมตั ติ าม ม. 86/6 ว.6 หรือ ม. 86/7 (3) ผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นไมจ่ ดั ทาํ รายงานตาม ม. 87 หรือตามทีอธิบดกี าํ หนดตาม ม. 87/1

หนา้ 595 (4) ตวั แทนผปู้ ระกอบการจดทะเบียนทีอยนู่ อกราชอาณาจกั ร ไมจ่ ดั ทาํ รายงานตาม ม. 87/2 (5) ผขู้ ดั ขวางหรือไมอ่ าํ นวยความสะดวกแกก่ ารปฏบิ ตั งิ านของ เจา้ พนักงานประเมิน หรือขดั คาํ สังของเจา้ พนกั งานประเมนิ ตาม ม. 88/3 ว.1 . ผปู้ ระกอบการจดทะเบยี น ไมย่ นื แบบแสดงรายการภาษภี ายในกาํ หนดเวลาทีกฎหมายกาํ หนด มโี ทษ อยา่ งไร ก. ตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กนิ 300 บาท ข. ตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กนิ 500 บาท ค. ตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กนิ 1,000 บาท ง. ตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กนิ 2,000 บาท เฉลย ง ถกู ตอ้ งแลว้ มาตรา 90 บุคคลดงั ต่อไปนี ฝ่ าฝืนหรือไมป่ ฏบิ ตั ติ ามบทบญั ญตั ทิ รี ะบไุ ว้ ตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กนิ สองพนั บาท (1) ผไู้ มจ่ ดั ส่งสาํ เนาสญั ญาหรือเอกสารตามมาตรา 77/4 (2) (2) ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนไมย่ นื แบบแสดงรายการภาษตี ามมาตรา 83 หรือ มาตรา 83/1 (3) ผมู้ หี นา้ ทีเสียภาษไี มย่ นื แบบแสดงรายการภาษตี ามมาตรา 83/2 (4) ผมู้ หี นา้ ทียนื แบบแสดงรายการภาษไี มย่ นื แบบแสดงรายการภาษีตามมาตรา 83/3 (5) ผมู้ หี นา้ ทีนาํ ส่งเงินภาษีมลู คา่ เพิมไมน่ าํ ส่งภาษมี ลู คา่ เพิมตามมาตรา 83/5 มาตรา 83/6 หรือ มาตรา 83/7 (6) ผนู้ าํ เขา้ ไมย่ นื ใบขนสินคา้ ตามมาตรา 83/8 หรือมาตรา 83/9 (7) ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนไมแ่ จง้ การเปลยี นแปลงรายการทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพิม ตามมาตรา 85/6 (8) ผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นไมค่ นื ใบทะเบียนภาษมี ลู คา่ เพิม ตามมาตรา 85/7 วรรคสาม มาตรา 85/8 วรรคสอง มาตรา 85/15 วรรคสอง หรือมาตรา 85/17 วรรคสอง (9) ผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นไมแ่ จง้ การยา้ ยสถานประกอบการตามมาตรา 85/8 วรรคหนึง (10) ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนไมแ่ จง้ การหยดุ ประกอบกิจการชัวคราวตามมาตรา 85/12 (11) ผคู้ รอบครองทรพั ยม์ รดก ผจู้ ดั การมรดก หรือทายาทของผูป้ ระกอบการจดทะเบยี นไมค่ นื ใบ ทะเบียนภาษีมลู คา่ เพิม ตามมาตรา 85/16 วรรคสามหรือวรรคห้า (12) ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนออกใบกาํ กบั ภาษี ใบกาํ กบั ภาษีอยา่ งยอ่ ใบเพิมหนี หรือ ใบลดหนี โดยมีรายการในส่วนทีเป็นสาระสาํ คญั ไม่ครบถว้ นตามมาตรา 86/4 มาตรา 86/5 มาตรา 86/6 มาตรา 86/7 มาตรา 86/9 มาตรา 86/10 หรือ มาตรา 86/11 (13) ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนไมอ่ อกใบแทนใบกาํ กบั ภาษี ใบแทนใบเพิมหนี หรือใบแทนใบลดหนี

หนา้ 596 ตามมาตรา 86/12 (14) ผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นมสี ินคา้ เกนิ จากรายงานสินคา้ และวตั ถดุ บิ ตามมาตรา 87 (15) ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนจดั ทาํ รายงาน โดยไมเ่ ป็นไปตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงอื นไขที กาํ หนดตามมาตรา 87 หรือตามทีอธิบดกี าํ หนดตามมาตรา 87/1 (16) ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนจงใจไมเ่ กบ็ และรกั ษาใบกาํ กบั ภาษี หรือสาํ เนาใบกาํ กบั ภาษี หรือเกบ็ รกั ษาเอกสารดงั กลา่ ว โดยไมเ่ ป็นไปตามหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงือนไขทีกาํ หนดตาม มาตรา 87/3 . การยกเวน้ ภาษมี ลู คา่ เพิม กรณีใดตอ่ ไปนีไมม่ สี ิทธิขอเลอื กเขา้ ระบบ ก. การขายอาหารสตั ว์ ข. ผปู้ ระกอบการรายยอ่ ยทีมรี ายรบั ทงั ปี ไมเ่ กนิ 1,200,000 บาท ค. การขายหนงั สือพมิ พ์ ง. การขนส่งทางบกในประเทศ เฉลย ง ถกู ตอ้ งแลว้ อา้ งองิ ม.81, 81/3 (3) พรฎ 241/2534 มาตรา3 . บริษทั พลาสติกไทย จาํ กดั จดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพิมแบบเตม็ รูป นาํ เขา้ เครืองจกั รเพอื ผลติ สินคา้ ทีทาํ ดว้ ยพลาสติก โดยสินคา้ บางส่วนขายในประเทศไทย บางส่วนส่งออกไปขายตา่ งประเทศ จะตอ้ งเสีย ภาษมี ลู คา่ เพิมหรือไม่ อตั ราใด ก. นาํ เขา้ เสีย 7 % ขายในประเทศและส่งออกเสีย 0 % ข. นาํ เขา้ เสีย 0 % ขายในประเทศเสีย 7 % ส่งออกเสีย 0 % ค. นาํ เขา้ ยกเวน้ ภาษี ขายในประเทศยกเวน้ ภาษี ส่งออกยกเวน้ ภาษี ง. นาํ เขา้ เสีย 7% ขายในประเทศเสีย 7 % ส่งออกเสีย 0 % เฉลย ง ถกู ตอ้ งแลว้ มาตรา 80 ใหใ้ ชอ้ ตั ราภาษีรอ้ ยละ 10.0 ในการคาํ นวณภาษมี ลู คา่ เพิม สาํ หรบั การประกอบกจิ การดงั ต่อไปนี ทงั นี เวน้ แต่กรณีทีกาํ หนดไวใ้ นมาตรา 80/2 (1) การขายสินคา้ (2) การใหบ้ ริการ (3) การนาํ เขา้ อตั ราภาษีตามวรรคหนึง ใหล้ ดลงไดโ้ ดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา แต่ตอ้ งกาํ หนดอตั ราภาษีให้เป็นอตั รา ภาษเี ดียวกนั สาํ หรับการขายสินคา้ การใหบ้ ริการและการนาํ เขา้ ทุกกรณี ( ดพู ระราชกฤษฎกี า (ฉบบั ที 416) พ.ศ. 2546 ) ( ดพู ระราชกฤษฎกี า (ฉบบั ที 465) พ.ศ. 2550 ) ( ดพู ระราชกฤษฎกี า (ฉบบั ที 549) พ.ศ. 2555 )

หน้า 597 มาตรา 80/1 ใหใ้ ชอ้ ตั ราภาษรี อ้ ยละ 0 ในการคาํ นวณภาษีมลู คา่ เพิม สาํ หรับการประกอบกิจการประเภท ตา่ ง ๆ ดงั ตอ่ ไปนี (1) การส่งออกสินคา้ ทีมใิ ช่การส่งออกสินคา้ ซึงไดร้ บั ยกเวน้ ภาษมี ลู คา่ เพิมตามมาตรา 81(3) ( ดูคาํ สงั กรมสรรพากร ที ป.97/2543 ) 9. การคาํ นวณภาษมี ลู คา่ เพิม มวี ธิ ีการอยา่ งใด ก. ภาษีซือ = ภาษขี าย – ตน้ ทนุ ข. ภาษขี าย = ภาษีซือ + ตน้ ทุน ค. ภาษีทีตอ้ งชาํ ระ = ภาษีขาย – ภาษีซือ ง. ภาษีทีตอ้ งชาํ ระ = ภาษีซือ - ภาษขี าย เฉลย ค ถกู ตอ้ งแลว้ มาตรา 82/3 ภายใตบ้ งั คบั มาตรา 82/7 มาตรา 82/8 และมาตรา 82/16 ใหผ้ ปู้ ระกอบการเสียภาษมี ลู คา่ เพิม โดยคาํ นวณจากภาษีขายหักดว้ ยภาษีซือในแต่ละเดือนภาษี หากภาษขี ายมากกวา่ ภาษซี ือ ใหผ้ ปู้ ระกอบการชาํ ระภาษเี ทา่ กบั ส่วนต่างนัน หากภาษีซือมากกว่าภาษีขาย ใหเ้ ป็นเครดิตภาษีและให้ผปู้ ระกอบการนันมีสิทธิไดร้ ับคืนภาษี หรือนาํ ไป ชาํ ระภาษีมลู คา่ เพิมไดต้ ามส่วน 8 ภาษีซือทีมไิ ดน้ าํ ไปหกั ในการคาํ นวณภาษใี นเดอื นภาษตี ามวรรคหนึงเพราะมเี หตุจาํ เป็น ตามทอี ธบิ ดี กาํ หนด ให้มสี ิทธินาํ ไปหกั ในการคาํ นวณภาษีในเดือนภาษี หลงั จากนนั ไดต้ ามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และ เงือนไขทีอธิบดีกาํ หนด แตต่ อ้ งไมเ่ กินสามปี นบั จากวนั ทีไดม้ กี ารออกใบกาํ กบั ภาษี ( ดพู ระราชกฤษฎกี า (ฉบบั ที 10) พ.ศ. 2500) ( ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกียวกบั ภาษีมลู ค่าเพิม (ฉบบั ที 4) )

หน้า 598 . ผปู้ ระกอบการทอี ยนู่ อกราชอาณาจกั ร เขา้ มาประกอบกิจการขายสินคา้ หรือบริการในราช อาณาจกั ร เป็นครังคราว ประสงคจ์ ะขอจดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพิมเป็นการชวั คราว จะตอ้ งแนบ เอกสารใดบา้ ง ก. ทีตงั สาํ นกั งานในประเทศทีเป็นกรรมสิทธิของตนเอง ข. ตอ้ งส่งมอบสญั ญาทีทาํ กบั นิตบิ คุ คลไทย และหากมกี ารทาํ สญั ญากบั นิตบิ คุ คลไทยรายอนื อกี จะตอ้ งจด แจง้ สญั ญาเพิมเตมิ ภายใน 15 วนั ค. ใบทะเบียนภาษีมลู คา่ เพิมชวั คราวมีกาํ หนดเวลา 3 ปี ถา้ ประสงคจ์ ะขยายจะตอ้ งยนื คาํ รอ้ งขอขยายก่อน กาํ หนดเวลาสินสุดลง ง. ขอ้ ข. และ ขอ้ ค. ถกู เฉลย ง ถกู ตอ้ งแลว้ ประกาศอธิบดกี รมสรรพากร เกียวกบั ภาษีมลู ค่าเพิม (ฉบบั ที 43) เรือง กาํ หนดลกั ษณะและวธิ กี ารประกอบกจิ การในราชอาณาจกั รเป็นครังคราวและ กาํ หนดแบบ หลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงือนไข การยนื คาํ ขอจดทะเบียนภาษมี ลู คา่ เพิม ชวั คราวและการออกใบทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพิมชวั คราวตามมาตรา 85/3 แห่ง ประมวลรษั ฎากร ขอ้ 1 ใหผ้ ปู้ ระกอบการทีอยนู่ อกราชอาณาจกั ร และเขา้ มาประกอบกจิ การขายสินคา้ หรือใหบ้ ริการ ในราชอาณาจกั รเป็นครังคราวมกี าํ หนดเวลาในการประกอบกจิ การในราชอาณาจกั รเกิน 1 ปี แตไ่ ม่ เกิน 3 ปี มสี ิทธิยนื คาํ ขอจดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพิมชวั คราวได้ โดยใหย้ นื คาํ ขอตามแบบทีอธิบดี กรมสรรพากรกาํ หนดก่อนวนั เริมประกอบกิจการ “ความในวรรคหนึงมใิ หใ้ ชบ้ งั คบั สาํ หรบั ผปู้ ระกอบการทเี ป็นบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนติ ิ บุคคลทีตงั ขึนตามกฎหมายของตา่ งประเทศซึงมไิ ดม้ สี าํ นกั งานสาขาตังอยเู่ ป็นการถาวรในประเทศ ไทยและเขา้ มาประกอบกจิ การขายสินคา้ หรือใหบ้ ริการในราชอาณาจกั รเป็นครังคราวกบั กระทรวง ทบวง กรม ราชการส่วนทอ้ งถิน หรือรัฐวสิ าหกิจตามโครงการเงินกหู้ รือเงินช่วยเหลือจาก ตา่ งประเทศทมี ีกาํ หนดเวลาในการประกอบกิจการในราชอาณาจกั รเกนิ 3 เดอื น แตไ่ มเ่ กนิ 3 ปี มี สิทธิยนื คาํ ขอจดทะเบียนภาษีมลู ค่าเพิมชวั คราวได้ โดยใหย้ นื คาํ ขอตามแบบทีอธิบดกี รมสรรพากร กาํ หนดก่อนวนั เริมประกอบกจิ การ” (แกไ้ ขเพิมเตมิ โดยประกาศอธิบดกี รมสรรพากร เกยี วกบั ภาษีมลู คา่ เพิม (ฉบบั ที 112) ลงวนั ที 8 ธนั วาคม 2543 ใชบ้ งั คบั 8 ธนั วาคม 2543 เป็นตน้ ไป) ขอ้ 2 ผปู้ ระกอบการทีอยนู่ อกราชอาณาจกั รตามขอ้ 1 หมายถงึ ผปู้ ระกอบการทเี ป็นบริษทั หรือหา้ ง หุน้ ส่วนนิติบคุ คลทีตงั ขึนตามกฎหมายของตา่ งประเทศ และมไิ ดม้ สี าํ นกั งานสาขาตงั อยเู่ ป็นการ ถาวรในประเทศไทย สาํ นกั งานสาขาตงั อยเู่ ป็นการถาวรในประเทศไทยตามวรรคหนึงหมายความวา่

หนา้ 599 (1) มสี าํ นกั งานในประเทศไทยทีเป็นกรรมสิทธิของตนเอง (2) มกี ารประกอบธุรกิจอยา่ งอนื นอกจากการรบั จา้ งทาํ ของในประเทศไทยเป็นประจาํ เชน่ การซือขายสินคา้ หรือ (3) มกี ารจดั ตงั กองทุนสาํ รองเลียงชีพเพอื ลกู จา้ งในประเทศไทยตามมาตรา 65 ตรี (2) แห่ง ประมวลรษั ฎากร ขอ้ 3 ผปู้ ระกอบการตามขอ้ 1 ตอ้ งเขา้ มาดาํ เนินการขายสินคา้ หรือใหบ้ ริการในราชอาณาจกั ร โดย คสู่ ญั ญาอกี ฝ่ ายหนึงตอ้ งเป็นนิตบิ คุ คลตามมาตรา 77/1 (4) แห่งประมวลรษั ฎากร สญั ญาขายสินคา้ หรือใหบ้ ริการตามวรรคหนึง ตอ้ งจดั ทาํ เป็นลายลกั ษณ์อกั ษรโดย ผปู้ ระกอบการตอ้ งส่งมอบสญั ญาตอ่ กรมสรรพากรพร้อมกบั การยนื คาํ ขอจดทะเบียนภาษมี ลู คา่ เพิม หากตอ่ มาประสงคจ์ ะขายสินคา้ หรือใหบ้ ริการเพิมเติมจากสญั ญาทีไดท้ าํ ไวห้ รือมกี ารขายสินคา้ หรือใหบ้ ริการกบั บุคคลอืนทีมิใช่คู่สัญญาเดิม ผปู้ ระกอบการตอ้ งจดแจง้ สญั ญาเพิมเตมิ ตามแบบที อธิบดกี รมสรรพากรกาํ หนด ภายใน 15 วนั นบั แตว่ นั ทมี กี ารเพิมเตมิ สญั ญาหรือนบั แตไ่ ดม้ กี ารขาย สินคา้ หรือใหบ้ ริการกบั บุคคลอืนทีมิใช่คู่สัญญา ณ สถานทีทีไดจ้ ดทะเบียนภาษีมลู ค่าเพิมไวแ้ ลว้ ขอ้ 4 การยนื คาํ ขอจดทะเบียนภาษมี ลู คา่ เพิมชวั คราว ตอ้ งเป็นการยนื จดทะเบียนทีตอ้ งคาํ นวณ ภาษมี ลู คา่ เพิมตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรษั ฎากรเทา่ นนั ขอ้ 5 การยนื คาํ ขอจดทะเบียนภาษมี ลู คา่ เพิมและการออกใบทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพิม ใหเ้ ป็นไปตาม หลกั เกณฑ์ วิธีการ และเงือนไขทีอธิบดีกาํ หนดตามมาตรา 85 แห่งประมวลรษั ฎากร “ขอ้ 6 ใหถ้ อื วา่ วนั ทยี นื คาํ ขอจดทะเบียนภาษีมลู ค่าเพิมชวั คราวตามแบบทอี ธิบดกี าํ หนดเป็นวนั ที เริมเป็นผปู้ ระกอบการจดทะเบยี น เวน้ แต่ผปู้ ระกอบการทีเป็นบริษทั หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที ตงั ขึนตามกฎหมายของต่างประเทศซึงมไิ ดม้ สี าํ นกั งานสาขาตังอยเู่ ป็นการถาวรในประเทศไทยและ เขา้ มาประกอบกจิ การขายสินคา้ หรือใหบ้ ริการในราชอาณาจกั รเป็นครังคราวกบั กระทรวง ทบวง กรม ราชการส่วนทอ้ งถิน หรือรัฐวสิ าหกิจตามโครงการเงนิ กหู้ รือเงินชว่ ยเหลอื จากต่างประเทศ อธิบดีกรมสรรพากรจะสงั ใหว้ นั ทีเริมเป็นผปู้ ระกอบการจดทะเบียนเป็นอย่างอืนก็ได”้ (แกไ้ ขเพิมเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกียวกบั ภาษีมลู คา่ เพิม (ฉบบั ที 112) ลงวนั ที 8 ธนั วาคม 2543 ใชบ้ งั คบั 8 ธนั วาคม 2543 เป็นตน้ ไป) ขอ้ 7 ใหก้ าํ หนดระยะเวลาสินสุดของใบทะเบียนภาษมี ลู คา่ เพิมไวใ้ นใบทะเบียนภาษีมลู คา่ เพิม ชวั คราวดว้ ย และเมอื ระยะเวลาดงั กลา่ วสินสุดลง ใหถ้ ือว่าการเป็นผปู้ ระกอบการจดทะเบียนสินสุด ลงทนั ที หากผปู้ ระกอบการประสงคจ์ ะขยายเวลาการเป็นผปู้ ระกอบการจดทะเบียน ตอ้ งยนื คาํ รอ้ ง ขอขยายเวลาก่อนการเป็นผปู้ ระกอบการจดทะเบียนสินสุดลง

หนา้ 600 ชุดที ข้อสอบ วิชา ภาษีมูลค่าเพมิ 1. ผปู้ ระกอบกิจการประเภททีไดร้ บั ยกเวน้ ภาษมี ูลคา่ เพิม ประสงคจ์ ะขอจดทะเบียนภาษมี ลู คา่ เพิม จะตอ้ งดาํ เนินการอยา่ งไรบา้ ง ก. จะตอ้ งมรี ายรับเกนิ กวา่ 1,200,000 บาทตอ่ ปี ข. จะตอ้ งยนื คาํ ร้องเป็นหนงั สือแจง้ แกอ่ ธิบดเี พอื ขอจดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพิม ค. จะตอ้ งเสียภาษีมลู คา่ เพิมตงั แต่ 1 บาทแรกตงั แต่ไดร้ ับอนุมตั ิใหจ้ ดทะเบียนมลู ค่าเพิมเป็นตน้ ไป ง. ขอ้ ข. และ ขอ้ ค ถกู เฉลย ง ถกู ตอ้ งแลว้ จะตอ้ งยนื คาํ รอ้ งเป็นหนงั สือแจง้ แกอ่ ธบิ ดเี พอื ขอจดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพิมจะตอ้ งเสีย ภาษมี ลู คา่ เพิมตงั แต่ 1 บาทแรกตงั แต่ไดร้ ับอนุมตั ิใหจ้ ดทะเบียนมลู ค่าเพิมเป็นตน้ ไป มาตรา 81/3 ผปู้ ระกอบการซึงประกอบกจิ การทไี ดร้ บั ยกเวน้ ภาษีมลู คา่ เพิม ดงั ตอ่ ไปนี มสี ิทธิแจง้ ตอ่ อธิบดี ตามแบบทีอธิบดี กาํ หนดเพอื ขอจดทะเบียนภาษีมลู ค่าเพิมและเสียภาษีมลู คา่ เพิมตามหมวดนีได้ โดยตอ้ ง คาํ นวณภาษีมลู คา่ เพิมตามมาตรา 82/3 (1) กจิ การขายสินคา้ ตามทีระบไุ วใ้ นมาตรา 81 (1) (ก) ถงึ (ฉ) ( ดูคาํ สงั กรมสรรพากร ที ป.115/2545 ) (2) กจิ การขนาดยอ่ มตามมาตรา 81/1 (3) กจิ การอนื ตามทกี าํ หนดโดยพระราชกฤษฎกี า ( ดพู ระราชกฤษฎกี า (ฉบบั ที 241) พ.ศ. 2534 ) เมอื ผปู้ ระกอบการตามวรรคหนึงไดจ้ ดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพิมตามมาตรา 85/1 (2) แลว้ ผปู้ ระกอบการ ดงั กลา่ วจะเลกิ เสียภาษีมลู คา่ เพิมไดต้ ่อเมอื ไดใ้ ชส้ ิทธิขอถอนทะเบียนภาษีมลู ค่าเพิมตามมาตรา 85/10 (3) และอธิบดไี ดส้ ังถอนทะเบียนภาษีมลู คา่ เพิมแลว้ มาตรา 82 ใหบ้ ุคคลดงั ต่อไปนี เป็นผมู้ หี นา้ ทีเสียภาษมี ลู คา่ เพิมตามบทบญั ญตั ใิ นหมวดนี (1) ผปู้ ระกอบการ (2) ผนู้ าํ เขา้