Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รวมข้อสอบ

รวมข้อสอบ

Published by audamnat.rd, 2020-08-22 08:32:46

Description: รวมข้อสอบที่ผ่านการสอบทานเบื้องต้นแล้ว

Keywords: c8

Search

Read the Text Version

หนา้ 51 4. บริษัท โคราชการโรงแรม จํากัด ประกอบกิจการโรงแรม เปนผูประกอบการจดทะเบียนภาษีมลู คาเพมิ่ ในการ คาํ นวณภาษมี ลู คา เพม่ิ อยากทราบวา ภาษซี อ้ื ในขอ ใด ไมใ หน าํ มาหกั ในการคาํ นวณภาษตี ามมาตรา 82/3 แหง ประมวลรัษฎากร (ภาษซี อ้ื ตอ งหา ม) ก. ภาษซี อ้ื ทเ่ี กดิ จากการซอ้ื เชา ซอ้ื เชา หรอื รบั โอนรถยนตน ง่ั และรถยนตโ ดยสารทม่ี ที น่ี ง่ั ไมเ กนิ 10 คน ตามกฎหมายวา ดว ยพกิ ดั อตั ราภาษสี รรพสามติ และภาษซี อ้ื ทเ่ี กดิ จากการซอ้ื สนิ คา หรอื การรบั บรกิ ารทเ่ี กย่ี วขอ ง กบั รถยนตน ง่ั และรถยนตโ ดยสารทม่ี ที น่ี ง่ั ไมเ กนิ 10 คน ตามกฎหมายวา ดว ยพกิ ดั อตั ราภาษสี รรพสามติ ข. ภาษซี อ้ื ทเ่ี กดิ จากการซอ้ื เชา ซอ้ื หรอื รบั โอนรถยนตท ม่ี ใิ ชร ถยนตน ง่ั และรถยนตโ ดยสารทม่ี ที น่ี ง่ั ไมเ กนิ 10 คน ตามกฎหมายวา ดว ยพกิ ดั อตั ราภาษสี รรพสามติ เพอ่ื ใชห รอื จะใชใ นกจิ การประเภททต่ี อ งเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ และตอ มาไดม กี ารดดั แปลงรถยนตด งั กลา วเปน รถยนตน ง่ั หรอื รถยนตโ ดยสารทม่ี ที น่ี ง่ั ไมเ กนิ 10 คน ตามกฎหมาย วา ดว ยพกิ ดั อตั ราภาษสี รรพสามติ ทง้ั น้ี เฉพาะทไ่ี ดก ระทาํ ภายในสามปน บั แตเ ดอื นภาษที ไ่ี ดร ถยนตไ วใ น ครอบครอง ค. ภาษีซื้อที่เกิดจากการกอ สรางอาคารหรืออสังหาริมทรัพยอื่นเพื่อใชหรือจะใชในกิจการประเภทที่ตอง เสียภาษมี ลู คา เพม่ิ และตอ มาไดข าย หรอื ใหเ ชา หรอื นาํ ไปใชใ นกจิ การประเภททไ่ี มต อ งเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ ทง้ั น้ี เฉพาะทไ่ี ดก ระทาํ ภายในสามปน บั แตเ ดอื นภาษที ก่ี อ สรา งเสรจ็ สมบรู ณ ง. ถูกทุกขอ (ตามประกาศอธบิ ดฯี เกย่ี วกบั ภาษมี ลู คา เพม่ิ (ฉบบั ท่ี 42) ) 5. เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตอ ไปน้ี ไมไ ดร บั ยกเวน ภาษเี งนิ ไดบ ุคคลธรรมดา ก. รางวลั ทน่ี ายจา งจา ยใหเ ปน สวสั ดกิ ารแกล กู จา ง เนอ่ื งจากการปฏบิ ตั หิ นา ทไ่ี ดด เี ดน ตามระเบยี บ เกย่ี วกบั สวสั ดกิ ารของพนกั งานหรอื ลกู จา ง (ไมไ ดม กี ารกาํ หนดไวต ามมาตรา 42 และตามกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 126) ข. รางวลั บตั รออมทรพั ยข องธนาคารเพอ่ื การเกษตรและสหกรณก ารเกษตร ค. รางวลั เพอ่ื การศกึ ษาหรอื คน ควา ในวทิ ยาการ รางวลั สลากกนิ แบง หรอื สลากออมสนิ ของรฐั บาล รางวลั ทท่ี างราชการจายใหใ นการประกวดหรอื แขง ขนั ซง่ึ ผรู บั มไิ ดม อี าชพี ในการประกวดหรอื แขง ขนั หรอื สนิ บนรางวลั ท่ี ทางราชการจายใหเ พอ่ื ประโยชนใ นการปราบปรามการกระทาํ ความผดิ หรอื รางวลั ทท่ี างราชการจา ยใหเ พอ่ื ประโยชนในการปองกันมิใหมีการกระทําผิดเกี่ยวกับภาษีอากร ง. รางวลั สลากบาํ รงุ กาชาดไทย เงนิ ไดจ ากการขาย หรอื สว นลดจากการซอ้ื สลากบาํ รงุ กาชาดไทย 6. บริษัทหรือหางหุนสวนนิติบุคคล ทมี่ ีสินทรัพยถาวรไมร วมที่ดินไมเกิน 200 ลานบาท และมีการจางงานไมเกิน 200 คน มสี ทิ ธหิ กั คา สกึ หรอและคา เสอ่ื มราคาไดใ นอตั ราเรง ตามขอ ใดตอ ไป ก. ทรัพยสินประเภทคอมพิวเตอรและอุปกรณคอมพิวเตอร รวมทั้งโปรแกรมคอมพิวเตอร หักรอยละ 40 ในวนั ทไ่ี ดม า สว นทเ่ี หลอื ทยอยหกั ภายใน 3 รอบระยะเวลาบญั ชี ข. ทรพั ยส นิ ประเภทอาคารโรงงาน หกั รอ ยละ 25 ในวนั ทไ่ี ดม า สว นทเ่ี หลอื ทยอยหกั ภายใน 20 รอบ ระยะเวลาบัญชี ค. ทรัพยสินประเภทเครื่องจักร และอปุ กรณเครื่องจกั ร หักรอยละ 40 ในวันที่ไดมา สวนที่เหลือ ทยอย หักภายใน 5 รอบระยะเวลาบัญชี ง. ถูกทุกขอ (ตามพระราชกฤษฎกี า ฉบบั ท่ี 145)

หนา้ 52 7. สทิ ธปิ ระโยชนท างภาษี เพอ่ื ชว ยพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ คนพกิ าร โดยใหบ รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คล หกั รายจา ยไดม ากกวา 1 เทา ของรายจา ย ขอ ใดตอ ไปนถ้ี กู ตอ ง ก. หกั 2 เทา ของรายจา ยในการจา งคนพกิ ารทม่ี บี ตั รประจาํ ตวั คนพกิ ารตามกฎหมายวา ดว ยการสง เสรมิ และพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ คนพกิ ารเขา ทาํ งานในสถานประกอบการ (ยกเวน ตามพระราชกฤษฎกี า ฉบบั ท่ี 499 มาตรา 3) ข. หกั 3 เทา ของรายจา ยในการจา งคนพกิ ารทม่ี บี ตั รประจาํ ตวั คนพกิ ารตามกฎหมายวา ดว ยการสง เสรมิ และพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ คนพกิ ารเขา ทาํ งานในสถานประกอบการเกนิ กวา รอ ยละ 60 ของลกู จา งในสถาน ประกอบการ และมกี ารจา งงานเกนิ กวา 180 วนั ในรอบระยะเวลาบญั ชี (ยกเวน ตามประกาศอธบิ ดฯี เกย่ี วกบั ภาษเี งนิ ได ฉบบั ท่ี 215) ค. หกั 2 เทา ของรายจา ย สาํ หรบั อปุ กรณ สง่ิ อาํ นวยความสะดวกหรอื บรกิ ารอน่ื ๆ เพอ่ื ใหค นพกิ ารเขา ถงึ และใชป ระโยชน ไมว า จะเปน อาคาร สถานท่ี ยานพาหนะ บรกิ ารขนสง หรอื บรกิ ารสาธารณะอน่ื ๆ (ยกเวน ตามพระราช กฤษฎกี า ฉบบั ท่ี 499) ง. ถูกทุกขอ 8. คา ตอบแทนทไ่ี ดร บั หรอื พงึ ไดร บั จากการขายสนิ คา หรอื การใหบ รกิ ารดงั ตอ ไปน้ี ไมต อ งนาํ มารวมคาํ นวณเปน มลู คา ของฐานภาษมี ลู คา เพม่ิ ก. มลู คา ของอาหารและเครอ่ื งดม่ื ทน่ี ายจา งจดั หาใหก บั พนกั งานหรอื ลกู จา งในระหวา งเวลาปฏบิ ตั งิ าน ตามระเบยี บเก่ียวกบั สวสั ดกิ ารของพนกั งานหรอื ลกู จา ง โดยมลู คา ของอาหารและเครอ่ื งดม่ื ดงั กลา วตอ งมรี าคาไม เกินสมควร ข. มลู คา ของเครอ่ื งแบบทผ่ี ปู ระกอบการจดทะเบยี นซง่ึ เปน นายจา งไดม อบใหแ กล กู จา งในจาํ นวนคนละไม เกนิ สองชดุ ตอ ป และเสอ้ื นอกในจาํ นวนคนละไมเ กนิ หนง่ึ ตวั ตอ ป ค. มลู คา ของทรพั ยส นิ หรอื สนิ คา ซง่ึ ผปู ระกอบการจดทะเบยี นบรจิ าคใหแ กส ว นราชการตามโครงการของ ทางราชการ เพอ่ื ชว ยเหลอื ผปู ระสบอทุ กภยั วาตภยั อคั คภี ัย หรอื ภยั ธรรมชาตใิ นลกั ษณะทาํ นองเดยี วกนั ง. ถูกทุกขอ (ตามประกาศอธบิ ดฯี เกย่ี วกบั ภาษมี ลู คา เพม่ิ ฉบบั ท่ี 40) 9. ขอ ใดตอ ไปนี้ เปน รายจายทบี่ ริษัทหรือหางหุนสว นนิตบิ คุ คล หักได 2 เทาของรายจา ย แตไมเกนิ รอ ยละ 10 ของกําไร สุทธิกอนหักรายจายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณะประโยชน และรายจายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา ก. รายจา ยในการจดั หาหนงั สอื หรอื สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส เพอ่ื สง เสรมิ การอา น สาํ หรบั โรงเรียน สถานศกึ ษา สถาบนั อดุ มศกึ ษา ทง้ั ของทางราชการและเอกชน (ยกเวน ตามประกาศอธบิ ดฯี เกย่ี วกบั ภาษเี งนิ ได ฉบบั ท่ี 209) ข. รายจา ยทจ่ี า ยใหอ งคก รปกครองสว นทอ งถน่ิ ในการจดั ตง้ั หรอื สนบั สนนุ การดาํ เนนิ งานของศนู ยพ ฒั นา เด็กเล็กในสังกัดองคกรปกครองสวนทองถิ่น (ยกเวน ตามพระราชกฤษฎกี า ฉบบั ท่ี 519) ค. รายจา ยในการจดั ใหคนพกิ ารไดร บั สิทธใิ นการเขา ถงึ และใชป ระโยชนจ ากสง่ิ อาํ นวยความสะดวกทเ่ี ปน ของสาธารณะ รวมทั้งสวสั ดิการและความชว ยเหลืออื่นจากรฐั (ยกเวน ตามพระราชกฤษฎกี า ฉบบั ท่ี 522) ง. ถูกทุกขอ

หนา้ 53 10. การยกเวน ภาษเี งินไดน ติ บิ คุ คล ขอ ใดถกู ตอ ง ก. ยกเวน ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คล สาํ หรบั กาํ ไรสทุ ธใิ นการดาํ เนนิ โครงการลดการปลอ ยกา ซเรอื นกระจก เฉพาะสว นทเ่ี กดิ จากการจาํ หนา ยคารบ อนเครดติ ไมว า จะทาํ ในหรอื นอกประเทศเปน เวลา 3 รอบระยะเวลาบญั ชี ตอ เนอ่ื งกนั เริม่ ตง้ั แต 1 ม.ค. 2553 เปน ตน มา (ยกเวน ตามพระราชกฤษฎกี า ฉบบั ท่ี 514) ข. ยกเวน ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คล สาํ หรบั เงนิ ไดท ไ่ี ดร บั ชดเชยจากรฐั บาล เงินหรอื ทรพั ยส นิ ทไ่ี ดร บั บรจิ าค กรณไี ดประสบอทุ กภัย วาตภัย อคั คีภยั หรอื ภยั ธรรมชาตอิ ่นื ทีเ่ กิดขึน้ ในประเทศไทย ตั้งแตวันที่ 1 ม.ค. 2554 เปนตน มา (ยกเวน ตามพระราชกฤษฎกี า ฉบบั ท่ี 527) ค. ยกเวน ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คล สาํ หรบั เงนิ ชว ยเหลือ และผลประโยชนอ ยา งอน่ื ทไ่ี ดร บั จากรฐั เพอ่ื ชดเชย ผลกระทบหรือความเสียหายอันเนอื่ งมาจากการชุมนุมทางการเมืองระหวางวันที่ 1 มี.ค. 2553 - 31 พ.ค. 2553 (ยกเวน ตามพระราชกฤษฎกี า ฉบบั ท่ี 522) ง. ถูกทุกขอ

หนา้ 54 จติ อาสาปน โตฯ กลมุ 1 ขอ สอบชดุ ท่ี 5 (ขอ 1-17) ขอ 1. ขอ ใดผิด ก. นายแพทย ก. และนายแพทย ข. จดั ตง้ั คณะบคุ คลเปน 2 คณะ แตท ง้ั 2 คณะบคุ คลประกอบไปดว ย บคุ คลทเ่ี ปน คนเดยี วกนั คอื นายแพทย ก. และนายแพทย ข. ถอื วา ทง้ั 2 คณะบคุ คลดงั กลา วเปน คณะบคุ คล เดียวกัน ข. เจาของกรรมสทิ ธร์ิ ว มแตล ะคน นาํ เงนิ ไดค า เชา ทด่ี นิ ไปยน่ื ในนามของแตล ะคน ถอื วา ยงั มไิ ดย น่ื แบบ แสดงรายการจงึ ตอ งยน่ื ในนามคณะบคุ คลใหม ค. นายแดงและนางดาํ เปน สามภี รยิ าอยรู ว มกนั ตลอดปภ าษไี ดท าํ หนงั สอื สญั ญาเขา หนุ สว นกนั เอง ดาํ เนนิ กจิ การหา งหนุ สว นสามญั ประกอบกจิ การจําหนา ยพชื ไรก ารเกษตร กรณนี เ้ี สยี ภาษใี นนามของหา งหนุ สว น สามัญ ง. นางขาว (ภรยิ า) ยน่ื แบบ ภ.ง.ด.91 โดยแจง วา คสู มรสมเี งนิ ไดแ ละนาํ เงนิ ไดข องนายฟา (สามี) ซง่ึ เปน คสู มรส มารวมคาํ นวณดว ย กรณนี ถ้ี อื ไดว า นางขาว ไดย น่ื แบบฯ ไวต ามกฎหมายแลว แตจ ะตอ งปรบั ปรงุ การ คาํ นวณภาษี สาํ หรบั นายฟา ถอื ไดว า มไิ ดย น่ื แบบฯ อธบิ าย : ( กรณดี งั กลา ว ความเปน สามภี รรยาถกู ตอ งตามกฎหมาย เงนิ ไดข องภรรยาถอื เปน ของสามี กรณนี ต้ี อ ง เสยี ภาษใี นนาม นายแดง ผเู ปน สามี) ขอ 2. นายเอ สญั ชาตอิ เมรกิ นั เขา มาทาํ งานในประเทศไทยเมอ่ื วนั ท่ี 1 สงิ หาคม 2550 ถงึ 31 มกราคม 2551 มี เงนิ ไดจ ากเงนิ เดอื นๆ ละ 100,000 บาท ขอ ใดถกู ตอ งทส่ี ดุ ก. ตอ งเสยี ภาษเี งนิ ไดใ หก บั ประเทศไทย เพราะอยใู นประเทศไทยเกนิ 180 วนั ข. ตอ งเสยี ภาษเี งนิ ไดใ หก บั ประเทศไทย เพราะเงนิ ไดเ กดิ ขน้ึ ในประเทศไทย ค. ไมตองเสียภาษีเงนิ ไดใ หก บั ประเทศไทย เพราะ ในแตล ะปภ าษี อยใู นประเทศไทยไมถงึ 180 วนั ง. ไมต อ งเสยี ภาษเี งนิ ไดใ หก บั ประเทศไทย สาํ หรบั ปภ าษี 2551 แตป ภ าษี 2550 ตอ งเสยี อธบิ าย : ถอื วา นายเอ มหี นา ทก่ี ารงานทท่ี าํ ในประเทศไทย ตามมาตรา 41 วรรคหน่ึง ขอ 3. นาย บี นกั ทอ งเทย่ี วตา งชาติ ไดเ ดนิ ทางเขา มาทอ งเทย่ี วในประเทศไทยและพาํ นกั ในประเทศไทยในป 2550 เปน เวลา 1 ป โดยไมไ ดป ระกอบอาชพี หรอื หารายไดใ นประเทศไทย โดยนาํ เงนิ ออมทเ่ี กบ็ สะสมไวซ ง่ึ เปน เงนิ ไดข องปก อ นๆ ทไ่ี ดจ ากตา งประเทศเขา มาใชจ ายในประเทศไทย ดงั น้ี ในปภ าษี 2550 ขอ ใดถกู ตอ ง ก. นาย บี ตอ งเสยี ภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดาใหก บั ประเทศไทย เนอ่ื งจากไดน าํ เงนิ ไดเ ขา มาในประเทศไทย ข. นาย บี ตอ งเสยี ภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดาใหก บั ประเทศไทย เนอ่ื งจากเปน ผอู ยใู นประเทศไทย ค. นาย บี ไมต อ งเสยี ภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดาใหก บั ประเทศไทย เนอ่ื งจากไดร บั ยกเวน ภาษเี งนิ ไดเ พราะ สงเสริมการทองเที่ยว ง. นาย บี ไมต อ งเสยี ภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดาใหก บั ประเทศไทย เนอ่ื งจากนาํ เงนิ ออมทเ่ี กบ็ สะสมไวซ ง่ึ เปน เงนิ ไดข องปก อ นๆ เขา มาใชจ า ยในประเทศไทย อธบิ าย : ถอื วา นายบี ไมเ ขา ขา ยตามเงอ่ื นไข หลกั เกณฑ ตามมาตรา 41 วรรคหน่ึง และวรรคสอง

หนา้ 55 ขอ 4. นางแปง เปน ขา ราชการของมหาวทิ ยาลยั แหง หนง่ึ ของรฐั บาล ไดร บั คา ตอบแทนเปน เงนิ เดอื นประจาํ จาก มหาวทิ ยาลยั อยแู ลว และไดร บั คา ตอบแทนจากการปฏบิ ตั งิ านในโครงการวจิ ยั จากมหาวทิ ยาลยั อกี ขอ ใดถกู ตอ ง ก. เงนิ เดอื นประจาํ เปน เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 (1) สว นคา ตอบแทนจากการปฏบิ ตั งิ านใน โครงการวจิ ยั เปน เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 (2) ข. เงนิ เดอื นประจาํ และคา ตอบแทนจากการปฏบิ ตั งิ านในโครงการวจิ ยั เปน เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตาม มาตรา 40 (1) ค. เงนิ เดอื นประจาํ และคา ตอบแทนจากการปฏบิ ตั งิ านในโครงการวจิ ยั เปน เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 (2) ง. เงนิ เดอื นประจาํ เปน เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 (1) สว นคา ตอบแทนจากการปฏบิ ตั งิ านใน โครงการวจิ ยั เปน เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 (3) อธบิ าย : ถอื วา นางแปง ไดร บั เงนิ เดอื น และคา ตอบแทน จากนายจา งคนเดยี วกนั ขอ 5. ในปภาษี 2550 นายรกั มบี ตุ รชอบดว ยกฎหมาย ดงั น้ี บตุ รคนท่ี 1 อายุ 30 ป ศาลสง่ั ใหเ ปน คนไรค วามสามารถ บตุ รคนท่ี 2 อายุ 24 ป กาํ ลงั ศกึ ษาอยู ม. รามคาํ แหง และ ไดร บั ดอกเบย้ี เงนิ ฝากประจาํ จากธนาคาร ออมสนิ ในป 2550 ตลอดทง้ั ป รวมทัง้ สน้ิ 15,000.- บาท บตุ รคนท่ี 3 อายุ 19 ป ไดร บั เงนิ ปน ผลจากบรษิ ทั ทต่ี ง้ั ขน้ึ ตามกฎหมายไทยแหง หนง่ึ ในป 2550 ตลอด ทง้ั ปร วมทง้ั ส้ิน 100,000 บาท บุตรคนที่ 4 อายุ 18 ป กําลังเรียนระดบั ป.ว.ช. ที่วิทยาลัยเอกชน บตุ รคนท่ี 5 อายุ 10 ป กาํ ลงั เรียนชน้ั ป. 4 โรงเรยี นอนบุ าลนครราชสมี า ดงั นน้ั นายรกั มสี ทิ ธหิ กั ลดหยอ นบตุ รไดก ค่ี น ก. 1 คน ข. 2 คน ค. 3 คน ง. หกั ลดหยอ นบตุ รไมไ ด อธบิ าย : ถอื วา นายรกั หกั บตุ รได 2 คนคอื คนท่ี 1 เนอ่ื งจากศาลสง่ั ไมจ าํ กดั อายุ และ คนท่ี 3 เนอ่ื งจากเงนิ ปนผลถอื เปน ของบดิ าตามมาตรา 40 (4) (ข) วรรคสอง แหง ประมวลรัษฎากร ไดบ ญั ญัตวิ า ใน กรณบี ตุ รชอบดว ยกฎหมายทย่ี งั ไมบ รรลนุ ติ ภิ าวะเปน ผมู เี งนิ ไดป ระเภทเงนิ ปน ผล และความเปน สามภี รยิ าของบดิ า มารดาไดม อี ยตู ลอดปภ าษี ใหถ อื วา เงินไดข องบตุ รดงั กลา วเปน ของบดิ า แตถ า ความเปน สามภี รยิ าของบดิ าและ มารดามไิ ดอ ยตู ลอดปภ าษี ใหถ อื วา เงินไดข องบตุ รดงั กลา วเปน เงนิ ไดข องบดิ าหรอื ของมารดาผอู าํ นาจปกครอง หรือของบดิ าโดยนติ นิ ยั เปน ผลเทา กบั บตุ รผเู ยาวไ มม เี งนิ ได ดงั นน้ั นาย รกั มสี ทิ ธนิ าํ บตุ รผเู ยาวด งั กลา วมาหกั ลดหยอ นไดต ามมาตรา 47(1)(ค) แหง ประมวลรัษฎากร สว นคนท่ี 2 หกั ไมไ ดเ นอ่ื งมรี ายได 15,000 บาท ซง่ึ ตาม มาตรา 42 กาํ หนดตง้ั แต 15,000 บาท

หนา้ 56 ขอ 6. ภรยิ า(ไมม เี งนิ ได) จดทะเบยี นรบั เดก็ เปน บตุ รบญุ ธรรม โดยสาม(ี ผมู เี งนิ ได) มหี นงั สอื แสดงความยนิ ยอมให ภรยิ าจดทะเบยี นรบั บตุ รบญุ ธรรมได แตส ามไี มไ ดจ ดทะเบยี นรบั เดก็ เปน บตุ รบญุ ธรรม ดงั น้ี สามซี ง่ึ เปน ผมู เี งนิ ไดม ี สทิ ธนิ าํ บตุ รบญุ ธรรมของภรยิ ามาหกั ลดหยอ นไดห รือไม ก. ได เนื่องจาก สามีไดมีหนงั สือแสดงความยินยอมใหภริยาจดทะเบียนรับบุตรบญุ ธรรมแลว ข. ได เนอ่ื งจาก ไมว า จะเปน บตุ รบญุ ธรรมของสามหี รอื ภรยิ ากห็ กั ลดหยอ นได ค. ไมไ ด ง. ถูกทั้งขอ ก. และ ข. อธบิ าย : กรณบี ุตรบุญธรรมตองไดรบั การจดทะเบียนรบั รองเปนบุตรบุญธรรม โดยผูที่จดทะเบียนรบั บุตรบุญ ธรรมจะเปน ผูม สี ทิ ธหิ กั ลดหยอ น โดยเรม่ิ หกั ไดต ง้ั แตป ภ าษที จ่ี ดทะเบยี นรบั บตุ รบญุ ธรรม สว นบดิ ามารดาทช่ี อบ ดว ยกฎหมายเดมิ ของบตุ รคนนน้ั ไมส ามารถหกั ลดหยอ นไดอ กี ขอ 7. ขอ ใดผิด ก. เงนิ ไดจ ากการโอนสทิ ธกิ ารเชา เปน เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(8) ข. เงนิ โบนสั ทจ่ี า ยแกผ ถู อื หนุ หรอื ผเู ปน หนุ สว นในบรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คล เปน เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(4)(ค) ค. เงนิ ไดจ ากการรบั จา งวาดภาพและเขยี นภาพขาย เปน เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(2) ง. ธนาคารกรงุ ไทย จาํ กดั จา ยคา เชา บา นใหพ นกั งาน คา เชา ดงั กลาวทพ่ี นกั งานไดร บั เปน เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(1) ของพนกั งาน อธบิ าย : เงนิ ไดจ ากการรบั จา งวาดภาพและเขยี นภาพขาย เปนเงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(3) ขอ 8. ในปภ าษี 2550 นาย ก. ทาํ งานเปน ลกู จา งในบรษิ ทั แหง หนง่ึ มเี งนิ ไดจ ากเงนิ เดอื นตลอดทง้ั ปภ าษจี าํ นวน ทง้ั สน้ิ 60,000 บาท และในปนน้ั ไดร บั คา นายหนา จากการขายทด่ี นิ จากนาย ข. อกี เปน เงนิ 1,000 บาท สว นภรยิ า ของนาย ก. ไมม เี งนิ ได กรณนี ้ี ก. นาย ก. ตอ งยน่ื แบบ ภ.ง.ด. 90 ข. นาย ก. ตอ งยน่ื แบบ ภ.ง.ด. 91 ค. นาย ก. ตอ งไมย น่ื แบบฯ เพอ่ื เสยี ภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดา เนอ่ื งจากในปภ าษดี งั กลา วมเี งนิ ไดพ งึ ประเมนิ ไมเ กนิ 100,000 บาท ง. ผิดทุกขอ อธบิ าย : ถอื วา นาย ก มีเงนิ ได 2 ประเภท คือ 40(1) และ 40(2) จึงตอ งยน่ื ภ.ง.ด. 90 ถอื วา รายไดร วมเกิน 60,000 บาท ตามกฎหมายในป 2550

หนา้ 57 ขอ 9. ในปภาษี 2550 นายรกั มบี ตุ รชอบดว ยกฎหมาย ดงั น้ี บุตรคนท่ี 1 อายุ 30 ป เปน บคุ คลวิกลจริต บตุ รคนท่ี 2 อายุ 24 ป กําลังศกึ ษาอยู ม. รามคาํ แหง และ ไดรบั ดอกเบ้ียเงนิ ฝากประจาํ 15,000.- บาท บตุ รคนท่ี 3 อายุ 19 ป ไดร บั เงินปน ผลจากบรษิ ทั ไทย100,000 บาท บตุ รคนที่ 4 อายุ 18 ป กําลังเรียนระดบั ปวช. ทว่ี ทิ ยาลัยเอกชน บุตรคนท่ี 5 อายุ 10 ป กําลงั เรยี นชน้ั ป. 4 โรงเรยี นอนุบาล นม. ดงั นน้ั นายรกั มสี ทิ ธหิ กั ลดหยอ นบตุ รไดก ค่ี น ก. 1 คน ข. 2 คน ค. 3 คน ง. หกั ลดหยอ นบตุ รไมไ ด อธบิ าย : ถอื วา นายรกั หกั บตุ รได 1 คนคอื คนท่ี 3 เนอ่ื งจากเงนิ ปนผลถอื เปน ของบดิ าตามมาตรา 40 (4) (ข) วรรคสอง แหง ประมวลรษั ฎากร ไดบ ญั ญัตวิ า ใน กรณบี ตุ รชอบดว ยกฎหมายทย่ี งั ไมบ รรลนุ ติ ภิ าวะเปน ผมู เี งนิ ไดป ระเภทเงนิ ปน ผล และความเปน สามภี รยิ าของบดิ า มารดาไดม อี ยตู ลอดปภ าษี ใหถ อื วา เงินไดข องบตุ รดงั กลา วเปน ของบดิ า แตถ า ความเปน สามภี รยิ าของบดิ าและ มารดามไิ ดอ ยตู ลอดปภ าษี ใหถ อื วา เงินไดข องบตุ รดงั กลา วเปน เงนิ ไดข องบดิ าหรอื ของมารดาผอู าํ นาจปกครอง หรือของบดิ าโดยนติ นิ ยั เปน ผลเทา กบั บตุ รผเู ยาวไ มม เี งนิ ได ดงั นน้ั นาย รกั มสี ทิ ธนิ าํ บตุ รผเู ยาวด งั กลา วมาหกั ลดหยอ นไดต ามมาตรา 47(1)(ค) แหง ประมวลรัษฎากร สว นคนท่ี 2 หกั ไมไ ดเ นอ่ื งมรี ายได 15,000 บาท ซง่ึ ตาม มาตรา 42 กาํ หนดตง้ั แต 15,000 บาท และ คนท่ี 1 เนอ่ื งจากอายเุ กนิ 25 ป ขอ 10. นายดาํ สญั ชาตไิ ทย มภี มู ลิ าํ เนาอยทู จ่ี งั หวดั นครราชสมี า ในปภ าษี 2550 นายดาํ ไปทาํ งานในประเทศ อริ กั ไมไ ดก ลบั มาประเทศไทย แตส ง เงนิ มาใหภ รยิ าในประเทศไทยทกุ ๆ เดอื น เดอื นละ 20,000 บาท กรณนี ้ี นาย ดํา ตองเสียภาษีใหกับประเทศไทยหรือไม ก. นายดาํ ตอ งเสยี ภาษใี หก บั ประเทศไทย เนอ่ื งจากนาํ เงนิ ไดเ ขา มาในประเทศไทย ข. นายดาํ ตอ งเสยี ภาษใี หก บั ประเทศไทย เนอ่ื งจาก มสี ญั ชาตไิ ทย ค. นายดาํ ตอ งเสยี ภาษใี หก บั ประเทศไทย เนอ่ื งจากมภี มู ลิ าํ เนาอยทู จ่ี งั หวดั นครราชสมี า ง. นายดาํ ไมต อ งเสยี ภาษใี หก บั ประเทศไทย เนอ่ื งจาก มไิ ดเ ปน ผอู ยใู นประเทศไทย อธบิ าย : ถอื วา นายดาํ มแี หลง เงนิ ไดน อกประเทศตามมาตรา 41 วรรคสอง เง่ือนไขกต็ อ เมอ่ื เขา องคป ระกอบทง้ั 2 ประการ ดงั ตอ ไปน้ี 1 ผูม ีเงนิ ไดเ ปน ผอู ยใู นประเทศไทย ในปภ าษีนั้นช่วั ระยะเวลาหนงึ่ หรือหลายระยะเวลา รวมทง้ั หมดถึง 180 วัน 2 ผมู ีเงนิ ได นาํ เงนิ ไดน น้ั เขา มาในประเทศไทย ในปภ าษนี น้ั ดว ย

หนา้ 58 ขอ 11. ประโยชนเ พม่ิ ทบ่ี รษิ ทั ฯ นายจา ง ใหก บั ลกู จา ง กรณใี ดตอ ไปน้ี ไดร บั ยกเวน ไมต อ งนาํ มารวมคาํ นวณภาษี เงนิ ไดบ คุ คลธรรมดา ก. บรษิ ทั ฯ เลย้ี งอาหารและเครอ่ื งดม่ื ใหแ กล กู จา ง โดยไมค ดิ คา ใชจ า ย ข. บรษิ ทั ฯ จดั รถรบั สง ลกู จา ง โดยไมค ดิ คา ใชจ า ย ค. บริษัทฯ พาพนกั งานไปทองเที่ยวเพื่อเปนรางวัลหรือเพื่อขอบคุณในการทุมเทในปที่ทํางาน ง. บรษิ ทั ฯ ใหเ ครอ่ื งแบบลกู จา ง (Uniform) จาํ นวนคนละ 2 ชดุ ตอ ป และเสอ้ื นอกคนละ 1 ตวั ตอ ป อธบิ าย : เปน ไปตามมาตรา 42 ( 17) แหง ประมวลรษั ฎากร ทต่ี ามกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 126(พ.ศ.2509) ขอ 2 (34) ขอ 12. คา ลดหยอ นบรจิ าคตอ ไปน้ี ขอ ใดหกั ลดหยอ นไมไ ด ก. บรจิ าคเงนิ ใหว ดั บา นไร โดยทางวดั มอบวตั ถมุ งคลให ข. บรจิ าคคอมพวิ เตอรใ หโ รงพยาบาลของรฐั บาล ค. บริจาคเงนิ ใหโ บสถต ามครสิ ตศ าสนา หรอื มสั ยดิ ในศาสนาอสิ ลาม ง. บรจิ าคเงนิ ใหส ถานอี นามยั ตาํ บล อธบิ าย : การบรจิ าคทใ่ี ชใ นบคุ คลธรรมดาตอ งบรจิ าคเปน เงนิ สด เทา นน้ั ขอ 13. การหกั ลดหยอ นบดิ าของผมู เี งนิ ได ขอ ใดไมใ ชห ลกั เกณฑแ ละเงอ่ื นไขตามกฎหมาย ก. บดิ า อายุ 60 ป ข้นึ ไป ข. บดิ า มเี งนิ ไดต ลอดทง้ั ป ไมเ กนิ 30,000 บาท ค. บดิ าตอ งมสี ญั ชาตไิ ทย ง. ถกู ทัง้ ขอ ก และ ข อธบิ าย : ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได (ฉบับที่ 136) ไมไดระบุไว ขอ 14. ในปภ าษี 2550 นายแดง อายุ 70 ป มเี งนิ ไดจ ากคา เชา บา นพกั ตลอดทง้ั ปท ง้ั สน้ิ 250,000 บาท หกั คา ใชจ า ยเปน การเหมา เปน โสดหกั คา ลดหยอ นเฉพาะสว นตวั ไดเ พยี ง 30,000 บาท ดงั น้ี นายแดงตอ งเสยี ภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดา ปภ าษี 2550 เปน เงนิ ภาษเี ทา ใด ก. 300 บาท ข. 1,250 บาท ค. 4,500 บาท ง. ไมม ภี าษที ต่ี อ งชาํ ระแตอ ยา งใด อธิบาย : นายแดงมอี ายุ 70 ป เปน ไปตามมาตรา 42 ( 17) แหง ประมวลรษั ฎากร ทต่ี ามกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 126 (พ.ศ. 2509) ขอ 2 (72) ใหย กเวน เงนิ ได 190,000 บาท 250,000-190,000 = 60,000*0.005 = 300

หนา้ 59 ขอ 15. ขอใดผดิ ก. กรมธรรมป ระกนั ชวี ติ ตลอดชพี ทม่ี กี าํ หนดเวลาชาํ ระเบย้ี ประกนั ตง้ั แต 10 ขน้ึ ไป หกั ลดหยอ นเบย้ี ประกนั ชวี ติ ได ข. บรษิ ทั ฯ ทเ่ี ปน นายจางออกเบย้ี ประกนั ชวี ติ ใหแ กล กู จา งซง่ึ เปน การประกนั ในนามของลกู จา งเปน ผเู อาประกันชวี ติ ยอ มนาํ เบย้ี ประกนั ชวี ติ ทน่ี ายจา งออกใหม าหกั ลดหยอ นได ค. นายดาํ ซง่ึ เปน ผมู เี งนิ ได เพง่ิ จดทะเบยี นสมรสกบั นางแดง (ไมม เี งนิ ได) เมอ่ื 14 ก.พ. 2550 ในปภ าษี 2550 นายดาํ หกั ลดหยอ นเบย้ี ประกนั ชวี ติ ของนางแดงซง่ึ เปน ภรยิ าไดเ ทา ทจ่ี า ยไปจรงิ แตไ มเ กนิ 10,000 บาท ง. บตุ รเปน ผเู อาประกนั ชวี ติ โดยบดิ าซง่ึ เปน ผมู เี งนิ ไดเ ปน ผจู า ยเบย้ี ประกนั ชวี ติ ดงั กลา ว ดงั นน้ั บดิ าไมม ี สทิ ธนิ าํ เบย้ี ประกนั ชวี ติ ของบตุ รมาหกั ลดหยอ นได อธิบาย : ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได (ฉบับที่ 172) ขอั 3 (2) ในกรณีคสู มรสของผมู เี งนิ ไดมี การประกนั ชวี ติ และ ความเปน สามภี รยิ าไดม อี ยตู ลอดปภ าษี สามหี รอื ภรยิ าซง่ึ เปน ฝา ยผมู เี งนิ ไดม สี ทิ ธหิ กั ลดหยอ น สาํ หรบั เบ้ียประกนั ชวี ติ ของสามหี รอื ภรยิ าฝา ยทไ่ี มม เี งนิ ไดต ามจาํ นวนทจ่ี า ยจรงิ แตไ มเ กนิ 10,000 บาท ตาม มาตรา 47(1)(ง) แหง ประมวลรษั ฎากร แตน ายดาํ มคี วามเปน สามภี รรยาไมต ลอดปภ าษไี มส ามารถหกั นางแดงได ขอ 16. นายดาํ สามเี ปน ผมู เี งนิ ได มไิ ดเ ปน ผมู ชี อ่ื เปน ผกู ยู มื เงนิ เพอ่ื ซอ้ื บา นรว มกบั ภรยิ าซง่ึ ไมม เี งนิ ได ดงั น้ี นาย ดาํ มสี ทิ ธนิ าํ ดอกเบย้ี เงนิ กดู งั กลา วมาหกั ลดหยอ นในการคาํ นวณภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดาหรือไม ก. มสี ทิ ธิ นาํ ดอกเบย้ี เงนิ กดู งั กลา วมาหกั ลดหยอ นได ข. ไมม สี ทิ ธิ นาํ ดอกเบย้ี เงนิ กดู งั กลา วมาหกั ลดหยอ นได ค. มสี ทิ ธิ เพยี งกง่ึ หนง่ึ เนอ่ื งจากบา นดงั กลา วเปน สนิ สมรส แมน ายดาํ จะไมไ ดเ ปน ผมู ชี อ่ื เปน ผกู ยู มื เงนิ เพอ่ื ซอ้ื บานรว มกบั ภรยิ ากต็ าม ง. ผิดทุกขอ อธิบาย :ตามประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร เกย่ี วกบั ภาษเี งนิ ได (ฉบบั ท่ี 165 166 167) ขอ 17. คา ลดหยอ นบรจิ าคตอ ไปน้ี ขอ ใดหกั ลดหยอ นไดต ามมาตรา 47(7) แหง ประมวลรษั ฎากร ก. บรจิ าคเงิน 10,000 บาท ใหก องทนุ ผสู งู อายตุ ามกฎหมายวา ดว ยผสู งู อายุ ข. บริจาคเงนิ 10,000 บาท ใหโ รงเรยี นอนบุ าลเอกชน โดยนายแดงเปน เจา ของโรงเรยี นดงั กลา ว ค. บริจาคเงิน 10,000 บาท ใหโรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่งเปนโรงพยาบาลของเอกชน ง. บรจิ าคเครอ่ื งมอื แพทยม ลู คา 10,000 บาท ใหส ถานอี นามยั ตาํ บล ซง่ึ เปน ของราชการ อธิบาย : ประกาศกระทรวงการคลงั วา ดว ยภาษเี งนิ ไดแ ละภาษมี ลู คา เพม่ิ (ฉบบั ท่ี 2) ขอ 2 จตั วา

หนา้ 60 จติ อาสาปน โตฯ กลมุ 1 ขอ สอบชดุ ท่ี 6 (ขอ 1-16) 1. การเลือกตั้งผูวากรงุ เทพมหานครกําหนดใหมกี ารเลือกตั้งวันที่ (1) 15 สิงหาคม 2547 (2) 22 สิงหาคม 2547 (3) 29 สิงหาคม 2547 (4) 24 สิงหาคม 2547 2. ประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร กาํ หนดใหผ มู หี นา ทเ่ี สยี ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คล เฉพาะบรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ ิ บคุ คล ทต่ี ง้ั ขน้ึ ตามกฎหมายไทย มสี ทิ ธยิ น่ื คาํ รอ งขอมเี ลขประจาํ ตวั ผเู สยี ภาษผี า นทางเครอื ขา ยอนิ เทอรเ นต็ ตง้ั แตว นั ท่ี (1) 30 มถิ ุนายน 2547 (2) 1 กรกฎาคม 2547 (3) 1 สิงหาคม 2547 (4) 1 กนั ยายน 2547 อา งองิ ตามประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร เรอ่ื งกาํ หนดหลกั เกณฑแ ละวธิ กี ารใหบ รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลมี และใชเ ลขประจาํ ตวั ในการปฏบิ ตั กิ ารตามประมวลรษั ฎากร ประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร เรอ่ื ง กาํ หนดหลกั เกณฑ และวธิ กี ารใหบ รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คล มแี ละใชเ ลขประจาํ ตวั ในการปฏบิ ตั กิ ารตามประมวลรษั ฎากรทง้ั น้ี ใหใ ชบ งั คบั ตง้ั แตว นั ท่ี 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 เปน ตน ไป 3. ระเบียบกรมสรรพากร วาดวยการงดหรือลดเบี้ยปรบั หรือเงินเพิ่มภาษีอากร ตามประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2547 หนว ยงานใดทไ่ี มใ ชห นว ยงานรบั คาํ รอ งของดหรอื ลดเบย้ี ปรบั หรอื เงนิ เพม่ิ (1) สาํ นักตรวจสอบภาษกี ลาง (2) สาํ นกั อทุ ธรณภ าษี (3) กรมศลุ กากร (4) กองคลงั อา งองิ ตอบ (4) ระเบียบกรมสรรพากรวาดวยการงดหรือลดเบี้ยปรับหรือเงินเพิ่มภาษีอากรตามประมวลรัษฏา กร พ.ศ. 2547 ขอ 9การดาํ เนนิ การของหนว ยงานรบั คาํ รอ งและหนว ยงานพจิ ารณาคาํ รอ ง 9.1 ยน่ื คาํ รอ งตอ เจา พนกั งานประเมนิ 9.2 ยน่ื คาํ รอ งตอ สาํ นกั งานสรรพากรพน้ื ทส่ี าขา 9.3 ยน่ื คาํ รอ งตอ สาํ นกั งานสรรพากรพน้ื ท่ี 9.4 ยน่ื คาํ รอ งตอ สาํ นกั งานสรรพากรภาค 9.5 ยน่ื คาํ รอ งตอ สาํ นกั บรหิ ารภาษธี รุ กจิ ขนาดใหญ 9.6 ยน่ื คาํ รอ งตอ สาํ นกั ตรวจสอบภาษกี ลาง 9.7 ยน่ื คาํ รอ งตอ สาํ นกั อทุ ธรณภ าษี 9.8 ยน่ื คาํ รอ งตอ กรมศลุ กากร

หนา้ 61 4. สาํ นกั งานสง เสรมิ วสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ ม จา ยเงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 (7) แหง ประมวล รษั ฎากร ใหก บั บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คล สาํ นกั งานฯมหี นา ทีต่ อ งหกั ภาษเี งนิ ได ณ ทจ่ี า ย ตามประมวล รษั ฎากร (1) มาตรา 3 เตรส (2) มาตรา 50 (3) มาตรา 69 ทวิ (4) มาตรา 70 อา งองิ ขอ หารอื หนงั สอื ท่ี กค 0706/9994 ลงวนั ท่ี 12 พฤศจกิ ายน 2545 เรอ่ื ง ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คล ภาษมี ลู คา เพม่ิ ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ และอากรแสตมปข องสาํ นกั งานสง เสรมิ วสิ าหกจิ ขนาด กลางและขนาดยอ ม เลขตู 65/32058 มาตรา 69 ทวิ ภายใตบ งั คบั มาตรา 70 ถา รฐั บาล องคก ารของรฐั บาล เทศบาล สขุ าภบิ าล หรอื องคก ารบรหิ ารราชการสว นทอ งถน่ิ อน่ื เปน ผจู า ยเงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 ใหก บั บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ ิ บคุ คลใด ใหค าํ นวณหกั ภาษเี งนิ ไดไ ว ณ ทจ่ี า ยในอตั รารอ ยละ 1 ภาษที ห่ี กั ไวน ใ้ี หถ อื เปน เครดติ ในการคาํ นวณภาษี เงนิ ไดข องบรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลตามรอบระยะเวลาบญั ชที ห่ี กั ไวน น้ั 5. ศนู ยอ าํ นวยการตอ สเู พอ่ื เอาชนะความยากจนแหง ชาติ (ศตจ.) ของอาํ เภอ แตง ตง้ั คณะผเู จรจาหนป้ี ระกอบดว ย ผแู ทนหลายหนว ยงาน ยกเวน . (1) พฒั นากร (2) ตาํ รวจ (3) ผูแทนธนาคาร (4) สัสดี อา งองิ ตอบ 4 การแตง ตง้ั คณะผเู จรจาหน้ี ศตจ. อาํ เภอเปน ผูแ ตง ตง้ั คณะผเู จรจาหน้ี ซง่ึ ประกอบดว ย 1.นายอําเภอหรือผูแทน 2.สรรพากร 3.พฒั นากร 4.ปลดั อบต.หรอื กาํ นนั ผใู หญบ า น 5.ผแู ทนธนาคาร 6.ตาํ รวจ 7.ตัวแทนกรรมการชุมชน(ถามี) (http://digi.library.tu.ac.th/thesis/po/0493/09CHAPTER_3.pdf) ยทุ ธศาสตรก ารพฒั นาเพอ่ื แกไ ขปญ หาความยากจน ตามแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง ชาติ ฉบบั ท่ี 9 (พ.ศ.2545 - 2549)

หนา้ 62 6. แบบแสดงรายการสาํ หรบั คนตา งดา ว ทท่ี าํ งานในสาํ นกั งานปฏบิ ตั ิ การภมู ภิ าค (ROH) ทใ่ี ชย น่ื เพอ่ื เสยี ภาษเี งนิ ไดป ระจําป คือแบบ? (1) ภ.ง.ด. 90 (2) ภ.ง.ด. 91 (3) ภ.ง.ด. 93 (4) ภ.ง.ด. 95 อา งองิ ตอบ 4 ตามแบบแสดงรายการภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดาสาํ หรบั คนตา งดา วผมู เี งนิ ไดจ ากการจา งแรงงาน บรกิ ารอเิ ลก็ ทรอนกิ ส>Download> แบบพมิ พ >ภาษเี งินไดบุคคลธรรมดา >ภ.ง.ด.95 www.rd.go.th ความรูเรื่องภาษี > ROH 7. ขอใดผิด การรับชาํ ระเงินดว ยเช็คประเภท ง. หนงึ่ ฉบับ (1) สามารถชาํ ระภาษไี ดห ลายประเภทของผเู สยี ภาษรี ายเดยี วกนั (2) จะตอ งเปน แบบแสดงรายการของผมู เี งินได และคสู มรสย่ืนแบบฉบบั เดยี วกนั แตแ ยกคาํ นวณภาษี (3) สามารถชาํ ระภาษไี ดป ระเภทเดยี วของผเู สยี ภาษรี ายเดยี วกนั (4) สามารถชาํ ระภาษไี ดห ลายประเภทจนครบจาํ นวนเงนิ ตามเชค็ ของผมู เี งนิ ไดแ ละคสู มรส อา งองิ : เชค็ ประเภท ง. เปน เชค็ ทผ่ี มู หี นา ทช่ี าํ ระเงนิ ภาษอี ากรเปน ผเู ซน็ จา ย ใชช าํ ระโดยตรง ซง่ึ ตอ งอยสู าํ นกั หกั บญั ชเี ดยี วกนั กบั . สส.ทจ่ี ะไปจา ย จา ยภาษรี ายเดยี วกนั ไดห ลายแบบ หลายฉบบั 8. Service Delivery Unit (SDU) หมายถงึ หนว ยงานการใหบริการภายในของระบบราชการทมี่ งุ เนน ในเรื่อง ประสทิ ธภิ าพ และคณุ ภาพของการดาํ เนนิ งาน มหี นว ยงานนาํ รอ ง คอื หนว ยงานใด (1) กรมสรรพากร (2) กรมธนารกั ษ (3) กรมศลุ กากร (4) กรมบัญชีกลาง อา งองิ : SDU จดั ตง้ั เพอ่ื พฒั นาการจดั หนว ยงานภาครฐั ในรปู หนว ยบรหิ ารรปู แบบพเิ ศษ ทดลองปฏบิ ตั ิ กบั 5 หนว ยงาน ไดแ ก สาํ นกั กษาปณ กรมธนารกั ษ. กองโรงพมิ พ สาํ นกั เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี สถาบนั สง เสรมิ การ บรหิ ารกจิ การบา นเมอื งทด่ี ี สาํ นกั งาน กพร. 9. บรษิ ทั ก. จา ยเงนิ ไดใ หก บั บรษิ ทั ตา งประเทศ เปน คา ออกแบบโรงงาน สาํ รวจสถานทต่ี ง้ั โรงงานออกแบบ เครอ่ื งจกั ร ตดิ ตง้ั เครือ่ งจกั ร ทดลองการผลติ ดแู ลรกั ษาการใช ฝก วศิ วกรไทย เงนิ ไดท จ่ี า ยถอื เปน เงนิ ไดต าม (1) มาตรา 40 (2) (2) มาตรา 40 (6) (3) มาตรา 40 (7) (4) มาตรา 40 (8) อา งองิ : คาํ พพิ ากษาฎกี าท่ี 3923/2531

หนา้ 63 คาํ พพิ ากษาฎกี าท่ี 3923/2531 บริษัท แปซิฟคพลาสติคส (ประเทศไทย) โจทก กรมสรรพากร จําเลย กฎหมายทเ่ี กย่ี วขอ ง ประมวลรษั ฎากร มาตรา 40 (3), 40 (6), 70 (4) เงนิ คาตอบแทนทีโ่ จทกจ า ยใหบ รษิ ัท ด. นติ บิ คุ คลตา งประเทศเปนคา บรกิ ารในการทีบ่ รษิ ัท ด. เปน ผดู าํ เนนิ การออกแบบแปลนและแผนผงั ในการสรา งโรงงานผลติ เมด็ พลาสตกิ ใหโ จทก รวมทง้ั การตดิ ตง้ั เครอ่ื งจกั รดว ย โดยไมป รากฏวา บรษิ ทั ด. ไดใ หเ ทคโนโลยอ่ี ยา งใดแกโ จทก มใิ ชเ ปน เงนิ คา สทิ ธติ ามประมวล รษั ฎากร มาตรา 40 (3) แตถ อื ไดว า เปน เงนิ คา บรกิ ารทางดา นวศิ วกรรมอนั เปน วชิ าชพี อสิ ระตามมาตรา 40(6) ซง่ึ หกั คา ใชจ า ยเปน การเหมาไดร อ ยละ 40 ตามมาตรา 70(4) ในชั้นที่โจทกอุทธรณตอคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ แมโจทกจะขอใหเพิกถอนการเสียเงิน เพม่ิ โดยขอมาลอย ๆ มไิ ดอ า งเหตอุ ยา งใด กถ็ อื วา โจทกไ ดก ลา วเปน การอทุ ธรณใ นประเดน็ เรอ่ื งเงนิ เพม่ิ ไวแ ลว โจทกจ งึ มอี าํ นาจฟอ งในประเดด็ เรอ่ื งเงนิ เพม่ิ ตอ ศาลได 10. นาย ข.ไดร บั สมั ปทานทาํ เหมืองแรแ ตม ไิ ดท าํ เอง ไดม อบใหบ รษิ ทั รบั ชว งไปทํา โดย นาย ข.ไดค า ตอบแทนเปน แร ในอตั ราสวนของแรท ผ่ี ลติ ไดแ รท ่ี นาย ข.ไดร บั เปน เงนิ ไดต าม (1) มาตรา 40 (2) (2) มาตรา 40 (5) (ก) (3) มาตรา 40 (6) (4) มาตรา 40 (8) อา งองิ : ขอ หารอื เลขทห่ี นงั สอื กค 0811/10226 ลงวนั ท่ี 30 กนั ยายน 2542 เลขทต่ี ู 62/28375 11. กรณยี น่ื คาํ ขอเฉลย่ี ทรพั ยท ศ่ี าลจงั หวดั นนทบรุ เี ปน ศาลทอ่ี อกหมายบงั คบั คดี ตามระเบยี บการดาํ เนนิ คดแี พง พ.ศ.2546 สาํ นกั งานสรรพากรภาคใดเปน ผมู อี าํ นาจในการยน่ื คาํ ขอเฉลย่ี ทรพั ย (1) สาํ นกั งานสรรพากรภาค 1 (2) สาํ นกั งานสรรพากรภาค 2 (3) สาํ นกั งานสรรพากรภาค 3 (4) สาํ นกั งานสรรพากรภาค 4 อา งองิ : ตอบ 4 ตามระเบยี บการดาํ เนนิ คดแี พง พ.ศ.2546 ขอ 5 (5.1.2/2) 5.1.2/2 กรณสี าํ นกั งานสรรพากร ภาคพจิ ารณาเหน็ ควรดาํ เนนิ คดี ใหจ ัดสง เร่ืองพรอ มเอกสารหลกั ฐานอน่ื ทเ่ี กย่ี วขอ งทง้ั หมด และใบแตง ทนายความ ซง่ึ ลงนามโดยสรรพากรภาคในฐานะปฏบิ ตั ริ าชการแทนอธบิ ดกี รมสรรพากร จาํ นวน 2 ฉบบั ใหส าํ นกั งานอยั การ สงู สดุ เพอ่ื แตง ตง้ั พนกั งานอยั การดาํ เนนิ การวา ตา งคดี ทง้ั นใ้ี หร บี ดาํ เนนิ การโดยดว นกอ นสทิ ธเิ รยี กรอ ง ขาดอายุ ความตามกฎหมายกรณคี ดแี พง ดงั กลา วอยใู นเขตอาํ นาจของศาลจงั หวดั อน่ื ใหส าํ นกั งานสรรพากรภาคตามวรรค หนง่ึ จดั สง เอกสารหลกั ฐานทเ่ี กย่ี วขอ งทง้ั หมดไปใหส าํ นกั งานสรรพากรภาคซง่ึ ควบคมุ สาํ นกั งานสรรพากรพน้ื ท่ีที่ อยใู นเขตอาํ นาจของศาลจงั หวดั นน้ั เพอ่ื ดาํ เนนิ การจดั สง เรอ่ื งพรอ มใบแตง ทนายความซง่ึ ลงนามโดยสรรพากรภาค ในฐานะปฏบิ ตั ริ าชการแทนอธบิ ดกี รมสรรพากร จาํ นวน2ฉบับใหส าํ นกั งานสรรพากรพน้ื ทเ่ี พอ่ื จดั สง เรอ่ื งให สาํ นกั งานอยั การจงั หวดั ดาํ เนนิ การวา ตา งคดตี อ ไป

หนา้ 64 5.1.3 การดาํ เนนิ การในชน้ั พนกั งานอยั การและการดาํ เนนิ กระบวนพจิ ารณาในชน้ั ศาลใหส าํ นกั งานสรรพากร ภาคหรอื สาํ นกั งานสรรพากรพน้ื ทม่ี อบหมายใหน ติ กิ รหรอื เจา หนา ทใ่ี นสงั กดั เปน ผปู ระสานงานกบั พนกั งานอยั การ ผวู า คดแี ละใหเ จา หนา ทท่ี เ่ี กย่ี วขอ งประสานงานรว มดว ยจนกวา คดจี ะถงึ ทส่ี ดุ 5.1.4 ใหส ํานกั งานสรรพากรภาคหรอื สาํ นกั งานสรรพากรพน้ื ทีแ่ จง ผลการดาํ เนนิ คดพี รอ มจดั สง สําเนาคาํ พพิ ากษาทไ่ี ดร บั จากสาํ นกั งานอยั การสงู สดุ หรอื สาํ นกั งานอยั การจงั หวดั แลว แตก รณใี หห นว ยงานทเ่ี กย่ี วขอ งทราบ เพอ่ื ดาํ เนนิ การตอ ไป และจดั สง สาํ เนาคาํ พพิ ากษาทถ่ี งึ ทส่ี ดุ ใหก รมสรรพากรดว ย 12. กรณที ห่ี นุ สว นผจู ดั การออกจากหา งหนุ สว นสามญั ยงั มหี นา ทร่ี บั ผดิ ในหนข้ี องหา งนบั แตอ อกจากหา งกป่ี  (1) 1 ป (2) 2 ป (3) 5 ป (4) ไมม ขี อ ใดถกู อา งองิ : โจทยถ ามหา งหนุ สว นสามญั เปรยี บเสมอื น บคุ คลธรรมดาแตถ า เปน นติ บิ คุ คล 13. ในกรณที ก่ี รมสรรพากรไมไ ดเ ปน โจทกฟ อ งใหล กู หนท้ี ค่ี า งภาษอี ากรลม ละลาย แตจ ะตอ งยน่ื คาํ ขอรบั ชาํ ระหน้ี หากผคู า งมหี นก้ี บั กรมสรรพากรอยู 30,000.-บาท จะตอ งเสยี คา ธรรมเนยี มในการยน่ื คาํ ขอรบั ชาํ ระหนต้ี าม พระราชบญั ญตั ลิ ม ละลาย พ.ศ.2483 เทา ใด (1) 50 บาท (2) 100 บาท (3) 200 บาท (4) 5,000 บาท อา งองิ : ขอ นไ้ี มม ขี อ ถกู

หนา้ 65 14. เจาหนก้ี รมสรรพากรจะตอ งยน่ื คาํ ขอรบั ชาํ ระหนใ้ี นคดฟี น ฟกู จิ การภายในกาํ หนดเทา ใด (1) 30 วนั นบั แตว นั โฆษณาคาํ สง่ั ตง้ั ผทู าํ แผน (2) 1 เดอื น นบั แตว นั โฆษณาคาํ สง่ั ตง้ั ผูทาํ แผน (3) 60 วนั นบั แตว นั โฆษณาคาํ สง่ั ตง้ั ผทู าํ แผน (4) 2 เดอื น นบั แตว นั โฆษณาคาํ สง่ั พทิ กั ษท รัพย อา งองิ : 15. ขอ ใดตอ ไปนไ้ี มถ กู ตอ ง (1) พระราชบญั ญตั วิ ธิ ปี ฏบิ ตั ริ าชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ไมใ ชก บั การดาํ เนนิ งานเกย่ี วกบั นโยบายการ ตางประเทศ (2) พระราชบญั ญตั วิ ธิ ปี ฏบิ ตั ริ าชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ไมใ ชก บั องคก รทใ่ี ชอ าํ นาจตามรฐั ธรรมนญู โดยเฉพาะ (3) พระราชบญั ญัตวิ ิธปี ฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ใชกบั การดําเนนิ กิจการขององคก ารทางศาสนา (4) พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัตริ าชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ใชกับกรมสรรพากร อา งองิ : มาตรา ๔ พระราชบัญญัตินมี้ ิใหใชบงั คบั แก (๙) การดําเนินกิจการขององคการทางศาสนา การยกเวนไมใหน ําบทบัญญตั แิ หงพระราชบัญญตั ิน้ีมาใชบ งั คบั แกก าร ดาํ เนนิ กจิ การ

หนา้ 66 16. ขอ ใดตอ ไปนถ้ี กู ตอ ง (1) คาํ สง่ั ทางปกครองตอ งทาํ เปน หนงั สอื เทา นน้ั (2) คาํ สง่ั ทางปกครองอาจทาํ เปน หนงั สอื หรอื วาจาหรอื โดยการสอ่ื ความหมายในรปู แบบอ่ืนกไ็ ด (3) คาํ สง่ั ทางปกครองตอ งมขี อ ความหรอื ความหมายทช่ี ดั เจนเพยี งพอทจ่ี ะเขา ใจได (4) ถูกทั้งขอ (1) และ (2) อา งองิ : มาตรา ๓๔ คาํ สง่ั ทางปกครองอาจทาํ เปน หนงั สอื หรอื วาจาหรอื โดยการสอ่ื ความหมายในรปู แบบอน่ื ก็ได แตต อ งมขี อ ความหรอื ความหมายทช่ี ดั เจนเพยี งพอทจ่ี ะเขา ใจไดต ามมาตรา 34 ขอ 16 ขอเปลย่ี นเปน ถกู ทง้ั ขอ (2) และ (3)

หนา้ 67 จติ อาสาปน โตฯ กลมุ 1 ขอ สอบชดุ ท่ี 7 (ขอ 1-16) 1. ในประมวลรษั ฎากรทก่ี ลา วไวว า “ใหย กเวน ภาษฯี ตามสว น2 หมวด3 ในลกั ษณะ 2” นน้ั หมายถงึ ภาษอี ะไร (1) ภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดา (2) ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คล (3) ภาษีมูลคาเพิ่ม (4) ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ตอบ (1) อธบิ ายเพม่ิ เตมิ ภาษเี งนิ ไดนติ บิ คุ คล (สว น 3 หมวด 3 ลกั ษณะ2), ภาษมี ลู คา เพม่ิ (หมวด 4 ลกั ษณะ 2), ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ (หมวด 5 ลกั ษณะ 2) และอากรแสตมป (หมวด 6 ลกั ษณะ 2) 2. ในระบบ Intranet ของกรมสรรพากร หากทา นตอ งการทจ่ี ะคน หาแนววนิ จิ ฉยั ขอ กฏหมายทก่ี รมสรรพากรเคย ตอบไวจ ะคน หาในระบบโดยการเขา ไปคลกิ ในระบบอยา งไร (1) หัวขอ อางอิง ขอ หารอื กฎหมาย (2) หัวขออางอิง ขอหารือภาษีอากร (3) หัวขอ บรกิ ารขอ มลู ขอ หารือกฎหมาย (4) หัวขอบริการขอมลู ขอหารือภาษีอากร ตอบ (2) คาํ อธบิ าย ระบบ Intranet – อา งอิง – ขอ หารอื ภาษอี ากร 3. เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ทไ่ี ดร บั การยกเวน ไมต อ งนาํ มารวมคาํ นวณเพอ่ื เสยี ภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดามบี ญั ญตั ฯิ อยใู น กฎหมายใด (1) พระรากฤษฎกี าฉบบั ท่ี126 (2) พระรากฤษฎกี าฉบบั ท่ี186 (3) กฎกระทรวงฉบบั ที่ 126 (4) กฎกระทรวงฉบบั ท่ี 186 ตอบ (3) ตาม ขอ 2 เปน เงนิ ไดต าม ม.42 (17) แหง ประมวลรษั ฎากร 4. นาย ก เปน ผูดาํ เนนิ รายการทางโทรทศั น ตง้ั แตเ ดอื น สงิ หาคม – ธนั วาคม 2546 มรี ายไดร วม 985,020 บาท เมอ่ื สน้ิ ป นาย ก. ยน่ื ภ.ง.ด.90 มสี ทิ ธหิ กั คา ใชจ า ยไดอ ยา งไร (1) เปน เงนิ ไดต ามมาตรา 40 (2) แหง ประมวลรัษฎากร หกั คา ใชจ า ยเปน การเหมาไดร อ ยละ 40 แตไ มเ กนิ 60,000 บาท (2) เปนเงนิ ไดต ามมาตรา 40(8) แหง ประมวลรษั ฎากร หกั คา ใชจ า ยไดต ามความจาํ เปน และสมควร (3) เปน เงนิ ไดต ามมาตรา 40(8) แหง ประมวลรษั ฎากร หกั คา ใชจ า ยเหมา คอื เงนิ ไดส ว นทไ่ี มเ กนิ 300,000 บาท รอ ยละ60 รายไดส ว นทเ่ี กนิ 300,000 บาท รอ ยละ 40 (4) ถูกทั้งขอ (2) และ (3)

หนา้ 68 ตอบ (4) ถกู ทง้ั ขอ (2) และ (3) ตามคาํ สง่ั กรมสรรพากร ท่ี ป.102/2544 ลงวนั ท่ี 5 มกราคม 2544 ขอ 1 คาํ วา “นกั แสดงสาธารณะ” หมายความวา นกั แสดงละคร ภาพยนตร วทิ ยุ โทรทัศน นกั รอ ง นกั ดนตรี นกั กฬี าอาชพี หรอื นกั แสดงเพอ่ื ความบนั เทิงใด ๆ ไมวา จะแสดงเดย่ี ว เปน หมหู รอื คณะ หรอื แขง ขนั เปน ทมี เชน นกั แสดงละครเวที นกั แสดงภาพยนตร นกั แสดงละครวทิ ยุ นกั แสดงละครโทรทศั นผดู าํ เนนิ รายการทางโทรทศั น นกั แสดงตลก นายแบบ นางแบบ นกั พดู รายการทอลค โชว นักมวยอาชพี นกั ฟตุ บอลอาชพี เปนตน ขอ 3 ในการเสียภาษเี งนิ ได บคุ คลธรรมดาของนกั แสดงสาธารณะตามขอ 2 ใหค าํ นวณหกั คา ใชจ า ยตามมาตรา 46 แหง ประมวลรษั ฎากร และมาตรา 8 แหง พระราชกฤษฎกี าออกตามความ ใน ประมวลรษั ฎากร วา ดว ยการกาํ หนดคา ใชจ า ยทย่ี อม ใหห กั จากเงนิ ไดพ งึ ประเมนิ (ฉบบั ท่ี 11) พ.ศ.2502 ดงั น้ี (1) หกั คา ใชจ ายไดต ามความจาํ เปน และสมควร หรอื (2) หกั คา ใชจ า ยเปน การเหมา ดงั น้ี (ก) สาํ หรบั เงินไดส ว นทไ่ี มเ กิน 300,000 บาท รอ ยละ 60 (ข) สาํ หรบั เงนิ ไดส ว นทเ่ี กนิ 300,000 บาท รอ ยละ 40 การหกั คา ใชจ า ยตาม (ก) และ (ข) รวมกนั ตอ งไมเ กิน 600,000 บาท 5. นายโคบาชิ มีถนิ่ ที่อยูในประเทศญปี่ ุน เขามาประเทศไทยปละไมเกิน 180 วัน มีทรัพยสินในประเทศไทยคือ อาคารโรงงานและใหบ รษิ ทั ไทยมารกู ิ จาํ กดั ซง่ึ เปน บรษิ ทั ทจ่ี ดทะเบยี นในประเทศไทย เชา อาคารโรงงานเพอ่ื ผลติ ชน้ิ สว น รถยนต ในอตั ราคา เชา เดอื นละ 256,000 บาท จา ยคา เชา ภายในวนั ท่ี 30 ของทกุ เดอื น โดยใหบ รษิ ทั ฯ โอนเงนิ คา เชา เขา บญั ชเี งนิ ฝากของนายโคบาชิ ธนาคารซากรุ ะ สาขากรงุ เทพ อยากทราบวา เม่ือจา ยเงนิ คา เชา บรษิ ทั ฯ ตอ งหกั ณ ทจ่ี า ย อยา งไร (1) หัก ณ ทจ่ี า ย 15 % และนําสง ดว ย ภ.ง.ด.3 (2) หัก ณ ทจ่ี า ย 5% และนําสง ดว ย ภ.ง.ด.3 (3) ไมต อ งหกั ณ ทจ่ี า ย ตามอนสุ ญั ญาเพอ่ื เวน การเกบ็ ภาษซี อ นไทย- ญป่ี นุ (4) ไมม ขี อ ใดถกู ตอบ (1) หกั ภาษี ณ ทจ่ี า ย 15% และนาํ สง ดว ย ภ.ง.ด.3 ตามมาตรา 50 (3) ในกรณเี งินไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 (5) และ (6) ทจ่ี า ยใหแ กผ รู บั ซง่ึ มไิ ดอ ยใู นประเทศไทย ใหค าํ นวณหกั ในอตั รารอ ยละ 15.0 ของ เงนิ ได 6. ขอ ใดตอ ไปน้ี ไดร บั ยกเวน ภาษเี งินได (1) เงินปนผลจากกําไรสะสม ซึ่งเกิดในชวงที่บริษัท ไดรับ BOI และมาจายเมื่อเวลาทเี่ กิน BOI แลว (2) ผลตอบแทนจากการโอนทรัพยสิน (3) เงินปนผลหรือเงินสวนแบง ของกําไรของบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย (4) เงนิ ปน ผลหรอื เงนิ สว นแบง ของกาํ ไรจากกจิ การโรงเรยี นเอกชน สถาบนั อดุ มศกึ ษาเอกชน และ กจิ การ In-House Training ตอบ (4) เงนิ ปน ผลหรอื เงนิ สว นแบง ของกาํ ไรจากกจิ การโรงเรยี นเอกชน สถาบนั อดุ มศกึ ษาเอกชน และ กจิ การ In-House Training ตามพระราชกฤษฎกี า ออกตามความในประมวลรษั ฎากรวา ดว ยการยกเวน รษั ฎากร (ฉบบั ท่ี 284) พ.ศ. 2538 แกไ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชกฤษฎกี า ฉบบั ท่ี 588 (พ.ศ.2558) ใชบ งั คบั 11 กรกฎาคม 2558 เปน ตน ไป

หนา้ 69 7. กิจการ SMEs ซื้อคอมพิวเตอรส ว นทเี่ ปน Hardware และอุปกรณตอเชื่อม เมือ่ 2 มีนาคม 2545 จะคํานวณคา เสอ่ื มราคาอยา งไร (1) หักตามวธิ ปี กติ 5 ป (2) หกั ทนั ที 40 % ของมลู คา ตน ทนุ สว นทเ่ี หลอื ใหค าํ นวณหกั ตามวธิ ปี กติ 3 ป (3) หกั ทนั ที 25 % ของมลู คา ตน ทนุ สว นทเ่ี หลอื ใหค าํ นวณหกั ตามวธิ ปี กติ 3 ป (4) หกั ทนั ที 20 % ของมลู คา ตน ทนุ สว นทเ่ี หลอื ใหค าํ นวณหกั ตามวธิ ปี กติ 5 ป ตอบ (2) หกั ทนั ที 40 % ของมลู คา ตน ทุน สว นทเ่ี หลอื ใหค าํ นวณหกั ตามวธิ ปี กติ 3 ป ตามพระราชกฤษฎกี า วา ดว ยการหกั คา สกึ หรอและคา เสอ่ื มราคาของทรพั ยส นิ (ฉบับท่ี 395) พ.ศ.2545 มาตรา 4 จตั วา (2) 8. ขอ ใดเปน คาํ ตอบทถ่ี กู ตอ ง (1) การนาํ สนิ คา จากเขต EPZ เขา ในประเทศ ตอ งเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ 7 % (2) ของที่ไมเกี่ยวกับการผลิต ถานําเขาในเขต EPZ เสียภาษีมูลคาเพิ่ม 0 % (3) การนาํ ของออกจากเขต EPZ หนึง่ ไปยงั เขต EPZ หนึง่ เสยี ภาษี 7 % (4) การสง สนิ คา ไปตา งประเทศ โดยทางไปรษณยี  เสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ 0 % ตอบ (1) การนาํ สนิ คา จากเขต EPZ เขา ในประเทศ ตอ งเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ 7 % อา งองิ ขอ หารอื เลขทห่ี นงั สอื กค 0702/พ./4623 วนั ท่ี 4 สงิ หาคม 2551 เรอ่ื งภาษมี ลู คา เพม่ิ กรณกี ารนาํ สินคา เขา และออกเขตปลอดอากร 9. จากกฎกระทรวง129 ในกรณที บ่ี คุ คลใดตอ งเสยี เงนิ เพิม่ อากรจะตอ งชาํ ระภายในกว่ี นั นบั แตไ ดร บั แจง จากหนกั งานเจา หนา ท่ี (1) 7 วนั (2) 10 วนั (3) 15วนั (4) 20วนั ตอบ (2) 10 วัน ตามกฎกระทรวง 129 ขอ 3 บุคคลที่ตอ งเสียเงินเพิ่มอากรจะตองทําคํารองเปน หนงั สอื ยน่ื ตอ พนกั งานเจา หนา ท่ีชแ้ี จงเหตผุ ลทม่ี ไิ ดป ฏบิ ตั ติ ามบทบญั ญตั หิ มวด 6 และหมวด 7 ลกั ษณะ 2 โดย สจุ รติ มไิ ดม เี จตนาหลกี เลีย่ งอากรและยนิ ยอมชาํ ระเงนิ เพม่ิ อากรภายในสบิ วนั นบั แตว นั ไดร บั แจง จากพนกั งาน เจาหนา ทต่ี ามทพ่ี นกั งานเจาหนา ทจ่ี ะพจิ ารณาตามหลกั เกณฑด งั ตอ ไปน้ี (1) กรณีตราสารไดปดแสตมปแลวแตมิไดป ดแสตมปบรบิ ูรณเสียรอยละ 20 ของเงินเพมิ่ อากรทก่ี าํ หนดไวใ นมาตรา 113 หรอื มาตรา 114 (2) กรณตี ราสารมไิ ดป ด แสตมป เสยี รอ ยละ 25 ของเงนิ เพม่ิ อากรทก่ี าํ หนดไวใ นมาตรา 113 หรอื มาตรา 114 (3) กรณมี ไิ ดอ อกใบรบั ตามมาตรา 105 เสยี รอ ยละ 50 ของเงนิ เพม่ิ อากรทก่ี าํ หนดไวใ น มาตรา 114 (4) กรณีเจาของมหรสพเริ่มกระทํากจิ การใหม และไมเคยถกู เรียกเงินเพิ่มอากร เสียรอย ละ 20 ของเงนิ เพม่ิ อากรทก่ี าํ หนดไวใ นมาตรา 138 ทวิ หรอื มาตรา 140 (5) กรณนี อกจาก (4) เสยี รอ ยละ 25 ของเงนิ เพม่ิ อากรทก่ี าํ หนดไวใ นมาตรา 138 ทวิ หรอื มาตรา 140 ทวิ

หนา้ 70 ทง้ั น้ี เวน แตอ ธบิ ดกี รมสรรพากรจะพจิ ารณาอนมุ ตั ิ ใหเ สยี เงนิ เพม่ิ อากรนอ ยกวา (1) ถงึ (5) แตต อ งไมต าํ่ กวา รอ ยละ 1 ตอ เดอื นหรอื เศษของเดอื นของเงนิ อากรโดยเรม่ิ นบั แตว นั ทต่ี อ งปด แสตมปบ รบิ รู ณ หรอื วนั ทต่ี อ งเสยี อากรมหรสพ 10. จาก Road Map ของกรมสรรพากร กาํ หนดยทุ ธศาสตรท จ่ี ะเปน หนว ยงานอสิ ระทม่ี อี สิ ระจากระบบราชการ ในดา นงบประมาณและบคุ ลากรในป พ.ศ.ใด (1) พ.ศ. 2548 (2) พ.ศ. 2549 (3) พ.ศ. 2550 (4) พ.ศ 2552 11. ขอตอไปนี้ ไมใชชนิดของไวรัสคอมพิวเตอร (1) Worm (2) Trojan (3) Hoax (4) Puddle อธบิ ายเพม่ิ เตมิ Worm (วอรม (Worm) หรอื หนอนอนิ เทอรเ นต็ เปน ไวรสั คอมพวิ เตอรท ส่ี ามารถทาํ สาํ เนาหรอื เพม่ิ ปรมิ าณตวั เองไดโ ดยอตั โนมตั ิ เพอ่ื แพรก ระจายไปยงั เครือ่ งคอมพวิ เตอรอ น่ื ๆ ไดอ ยา งรวดเรว็ การ ปอ งกนั ไวรสั ประเภทนจ้ี งึ ตอ งตดิ ตง้ั หรอื อพั เดทโปรแกรมคน หาและกําจดั ไวรสั คอมพวิ เตอรใ หท นั สมัยอยเู สมอ อาการของเครอ่ื งคอมพวิ เตอรท ต่ี ดิ ไวรสั ประเภทน้ี คอื เครอ่ื งคอมพวิ เตอรจ ะทาํ งานชา ลงจนไมส ามารถใชง านได ไมส ามารถเชอ่ื มตอ กบั ระบบเครอื ขา ยได ตวั อยา งไวรสั ประเภทนไ้ี ดแ ก WORM_OPASERV.E, WORM_KWBOT.C, WORM_FRETHEM.M และ WORM_YAHA.K เปน ตน ) Trojan (มา โทรจนั หรอื ไวรสั โทรจนั ฮอรส (Trojan horse) เปน ไวรสั ชนดิ ทาํ งานแบบอตั โนมตั ิ ตามทไ่ี ดต ง้ั คา ไวห รอื รอรบั คาํ สง่ั จากระบบเครอื ขา ยตวั อยา งอาการของเครอ่ื งคอมพวิ เตอรท ต่ี ดิ ไวรสั ชนดิ น้ี คอื เครอ่ื งคอมพวิ เตอรจ ะปด หรอื รสี ตารท เครอ่ื งเองโดยไมไ ดส ง่ั และลบไฟลใ นระบบคอมพวิ เตอรเ อง เปน ตน มา โทร จนั มกั จะไมม กี ารขยายหรอื ทาํ สาํ เนาตวั เองเหมอื นไวรสั ประเภทอน่ื ๆ แตจ ะทาํ การซอ นตวั เองไวใ นทต่ี า งๆ ภายใน เครื่องคอมพิวเตอรเพื่อรอรับคําสั่งจากระบบเครือขาย โดยมีจุดประสงคในการขโมยขอมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร ทต่ี ดิ ไวรสั ) Hoax (โฮกซ (Hoax) เปนไวรสั ที่ไมกอใหเกิดความเสียหายมากมายนักเนื่องจากเปนไวรัสที่มี ลักษณะเหมือนจดหมายลูกโซ มลี ักษณะเปนอีเมลและการแชท โดยที่มีเนื้อหาหรือจุดประสงคเพื่อหลอกลวงผูอาน ทาํ ใหเ กดิ ความสบั สน วนุ วาย ขอ ความทใ่ี ชจ ะดนู า สนใจ ตน่ื เตน โดยอาจมกี ารอา งองิ ถงึ บรษิ ทั ใหญๆ เพอ่ื ใหผ รู บั เชอ่ื ถอื การปอ งกนั ไวรสั ประเภทนก้ี เ็ พยี งแตไ มต อ งสง ตอ ขอ ความหรอื ขอ มลู นน้ั )

หนา้ 71 12. ถา ตอ งการคน หาขอ มลู ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คล จะตอ งเขา ไปทเ่ี มนใู ดทห่ี นา จอหลกั ของระบบIntranet (1) บริการขอมลู (2) หองขาว (3) ระบบงาน (4) ขอ มูลภาษี ตอบ (1) บรกิ ารขอ มลู โดยเขา Intranet – บรกิ ารขอ มลู – คน หาขอ มลู ภาษี – Business Online 13. ยทุ ธศาสตรข องกรมสรรพากรขอ หนง่ึ คอื การใช IT เปน แกนนาํ ผลกั ดนั องคก ร โดยมตี วั ชว้ี ดั คอื (1) ผลการจดั เกบ็ ภาษตี ามประมาณการ (2) การเพมิ่ ระดบั ความพอใจในการใหบ รกิ ารแกป ระชาชน (3) การใช IT ในการใหบ รกิ ารในการบรหิ ารงานภายในองคก ร (4) การกาํ กบั ดแู ลผเู สยี ภาษดี ว ยความรวดเรว็ ขน้ึ 14. กรณบี รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลอน่ื จา ยเงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา40(8) แหง ประมวลรษั ฏากร เฉพาะทเ่ี ปน คา บรกิ ารใหก บั ธนาคารพาณชิ ยแ ละบรษิ ทั เงนิ ทนุ บรษิ ทั หลกั ทรพั ยห รอื บรษิ ทั เครดติ ฟองซเิ อร โดย เปน การจา ยคา บรกิ ารทเ่ี ขา ลกั ษณะเปน สญั ญาระยะยาว ขอ ใดตอ ไปนท้ี ถ่ี กู ตอ งทีส่ ดุ (1) การจา ยคา บรกิ ารในแตล ะครง้ั ตอ งมจี าํ นวนตง้ั แตห น่ึงพนั บาทขน้ึ ไปผจู า ยเงนิ ไดจ ง่ึ จะมหี นา ทต่ี อ งหกั ภาษเี งนิ ได ณ ทจ่ี า ย (2) การจา ยคา บรกิ ารครง้ั แรกไมถ งึ หนง่ึ พนั บาทผจู า ยเงนิ ไดไ มม หี นา ทีต่ อ งหกั ภาษเี งนิ ได ณ ทจ่ี า ย (3) การจา ยคา บรกิ ารหลายๆ ครง้ั ซง่ึ แตล ะครง้ั มจี ํานวนไมถ งึ หนง่ึ พนั บาท แตเ มอ่ื นาํ ไปรวมกนั แลว มจี าํ นวน ตง้ั แตห นง่ึ พนั บาทขน้ึ ไป ผจู า ยเงนิ มหี นา ทต่ี อ งหกั ภาษเี งนิ ได ณ ทจ่ี า ย (4) ผิดทุกขอ ตอบ (4) ผดิ ทกุ ขอ เนอ่ื งจากตามคาํ สง่ั กรมสรรพากร ท่ี ป.112/2545 ขอ 4 กรณบี รษิ ทั หรอื หา ง หนุ สว นนติ บิ คุ คล หรือนติ บิ คุ คลอน่ื จา ยเงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(8) แหง ประมวลรษั ฎากร เฉพาะทเ่ี ปน คา บรกิ ารใหก บั ธนาคารตามกฎหมายวา ดว ยการธนาคารพาณชิ ย และบรษิ ทั ตามกฎหมายวา ดว ยการประกอบ ธุรกิจเงินทุน ธุรกจิ หลักทรัพย และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร โดยเปนการจายคาบริการที่เขาลักษณะเปนสญั ญาระยะ ยาว หากการจา ยคา บรกิ ารไมถ งึ หนง่ึ พนั บาท ผจู า ยเงนิ ไมม หี นา ทต่ี อ งหกั ภาษเี งนิ ได ณ ทจ่ี า ย แตห ากการจา ย คา บรกิ ารในครง้ั ตอ ไปซง่ึ เมอ่ื นาํ ไปรวมกบั คา บรกิ ารครง้ั ทผ่ี า นมาทม่ี กี ารจา ยไปแลว เปน จาํ นวนตง้ั แตห นง่ึ พนั บาท ขน้ึ ไป ผจู า ยเงนิ มหี นา ทต่ี อ งหกั ภาษเี งนิ ได ณ ทจ่ี า ย ในอตั รารอ ยละ 3.0 ของคา บรกิ าร โดยจะตอ งนาํ เงนิ คา บรกิ ารทจ่ี า ยในครง้ั กอ น ๆ มารวมคาํ นวณเพอ่ื หกั ภาษเี งนิ ได ณ ทจ่ี า ยดว ย

หนา้ 72 15. กรณธี นาคารนาํ สง เงนิ ตามคาํ สง่ั อายดั ใหแ กก รมสรรพากรครบถว นแลว (1) ตอ งทาํ คาํ สง่ั ถอนอายดั เสนอ (2) ตอ งทาํ คาํ สัง่ ถอนอายดั กรณธี นาคารนาํ สง แลว ยงั คงมเี งนิ เหลอื อยใู นบญั ชเี งนิ ฝากของผคู า งภาษี (3) ไมต อ งนาํ คาํ สง่ั ถอนการอายดั เพราะเมอ่ื นาํ เงนิ สง ครบตามคาํ สง่ั อายดั แลว ถอื วา คาํ สง่ั อายดั นน้ั สน้ิ ผล (4) ไมต อ งนาํ คาํ ส่ังถอนการอายดั ทกุ กรณี ตอบ (3) ตอ งทาํ คาํ สง่ั ถอนอายดั เสนอ ตามระเบยี บกรมสรรพากรวา ดว ยการอายดั ทรพั ยส นิ ตามความใน มาตรา 12 แหง ประมวลรษั ฎากร พ.ศ. 2546 ขอ 17 การถอนคาํ สง่ั อายดั ทรพั ยส นิ เมอ่ื เจา พนกั งานไดร บั ชาํ ระคา ภาษอี ากรคา งจากผคู า งภาษอี ากรหรอื บคุ คลภายนอกผถู กู สง่ั อายดั ทรพั ยส นิ ไวค รบถว นแลว หรืออาจดว ยเหตอุ น่ื ใด เชน สทิ ธเิ รยี กรอ งของผคู า งภาษอี ากรอนั มตี อ บคุ คลภายนอกมไิ ดม อี ยจู รงิ ใหผ มู อี าํ นาจออกคาํ สง่ั อายดั มคี าํ สง่ั ถอนการอายดั ตามแบบ ภ.ส.21/1 ทอ่ี ธบิ ดกี าํ หนด หากมที รพั ยส นิ อยกู บั เจา พนกั งานกใ็ หค นื ใหแ กผ ถู กู อายดั ไป 16. อาํ นาจการจาํ หนา ยหนภ้ี าษอี ากรเปน อาํ นาจของ (1) สรรพากรภาคสาํ หรบั หนท้ี ม่ี จี าํ นวนไมเ กนิ 1,000,000.- บาท (2) สรรพากรภาคสาํ หรบั หนท้ี ม่ี จี าํ นวนไมเ กนิ 5,000,000.- บาท (3) อธบิ ดี สาํ หรบั หนท้ี ม่ี จี าํ นวนไมเ กนิ 50,000,000.- บาท (4) ถูกทั้ง ขอ (2) และ (3) ตอบ (4) ถูกทั้งขอ (2) และ (3) ตามระเบียบกระทรวงการคลัง วาดวยการจําหนายหนภี้ าษีอากร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2547 ขอ 3 ใหย กเลกิ ความใน 6.1 6.2 และ 6.3 ของขอ 6 แหง ระเบยี บกระทรวงการคลงั วา ดว ยการ จาํ หนา ยหนภ้ี าษอี ากร พ.ศ. 2545 และใหใ ชค วามตอ ไปนแ้ี ทน “6.1 หนภ้ี าษอี ากรทีม่ จี าํ นวนไมเ กนิ 5,000,000 บาท ใหส รรพากรภาค หรือ ผอู าํ นวยการสาํ นกั บรหิ ารภาษธี รุ กจิ ขนาดใหญ แลว แตก รณี เปน ผอู นญุ าตจาํ หนา ย 6.2 หนภ้ี าษอี ากรทีม่ จี าํ นวนไมเ กนิ 50,000,000 บาท ใหอ ธบิ ดเี ปน ผอู นญุ าต จาํ หนา ย 6.3 หนภ้ี าษอี ากรทีม่ จี าํ นวนเกินกวา 50,000,000 บาท ใหร องปลัดกระทรวง หรือ คณะกรรมการเพอ่ื พจิ ารณาและอนญุ าตจาํ หนา ยหนภ้ี าษอี ากรทร่ี องปลดั กระทรวงแตง ตง้ั เปน ผอู นญุ าตจาํ หนา ย”

หนา้ 73 จติ อาสาปน โตฯ กลมุ 1 ขอ สอบชดุ ท่ี 8 (ขอ 1-16) 1. เนอ่ื งจากกรมสรรพากรไดน าํ ระบบ IT มาใชใ นองคก ร ทาํ ใหเ กดิ ปญ หาเจา หนา ทเ่ี กดิ ความสบั สน ในการกาํ หนด รหสั ผใู ชง าน (User ID) ดงั นน้ั กรมสรรพากรจงึ ไดพ ฒั นาระบบตรวจสอบรหสั ผใู ชง าน (User ID) ใหถ กู ตอ ง จงึ ได สง่ั ใหเ จา หนา ทต่ี รวจสอบ และปรบั ปรงุ รหสั ผใู ชง าน (User ID) ใหถ กู ตอ งใหเ สรจ็ สน้ิ ภายในวนั ท่ี (1) 30 กรกฎาคม 2547 (2) 31 กรกฎาคม 2547 (3) 30 สิงหาคม 2547 (4) 31 สิงหาคม 2547 เกา ไป 2. ขน้ั ตอนการปรบั ปรงุ ตรวจสอบรหสั ผใู ชง าน (User ID) ผา นเครอื ขา ย เกา ไป (1) เขา หวั ขอเกีย่ วกบั กรมสรรพากร > ระบบงาน > ระบบตรวจสอบ User ID (2) เขาหัวขอระบบงาน > ระบบงานยอย > ระบบตรวจสอบ User ID (3) เขา หวั ขอ www.rd.go.th > ระบบงาน > ระบบงานยอ ย > ระบบตรวจสอบ User ID (4) เขาหัวขอDownload > ระบบงาน > ระบบตรวจสอบ User ID 3. การยื่นคําขอจดทะเบียนภาษีมูลคา เพิ่ม (ภ.พ.01) หรือ ภาษีธุรกิจเฉพาะ (ภ.ธ.01) มีกี่วิธี (1) 1 วธิ ี (2) 2 วธิ ี (3) 3 วธิ ี (4) ขอ 1 – 3 ถกู อา งองิ : 1 .ยื่นแบบคําขอผานทางอินเทอรเน็ตที่ www.rd.go.th 2. ยน่ื แบบคาํ ขอดว ยกระดาษ ณ หนว ยจดทะเบยี นทต่ี ง้ั สถานประกอบการ 4. การยน่ื คาํ ขอจดทะเบยี น ภ.พ.01, ภ.ธ.01 ผา นเครอื ขา ยทางเวป็ ไซด www.rd.go.th ผรู บั ผดิ ชอบในการเรยี กดู คาํ ขอจดทะเบยี นทางอนิ ทราเนต็ ทกุ วนั ไดแ ก (1) ทีมกํากับดูแล (2) ฝายวางแผน และประเมนิ (3) ฝายกรรมวธิ ี (4) ทีมบรหิ ารการสํารวจ อา งองิ : ตามขอ 7.1.1 ของแนวปฎบิ ตั กิ รมสรรพากรท่ี มจ 6/2550 เร่ืองการรบั คาํ ขอจดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ และภาษธี รุ กจิ เฉพาะผา นเครอื ขา ยอนิ เตอรเ นต็

หนา้ 74 5. การกาํ กบั ดแู ลผเู สยี ภาษโี ดยใกลช ดิ เปน รายผปู ระกอบการและใหเ ปน ปจ จบุ นั กรมสรรพากรไดก าํ หนดแนวทาง ปฏบิ ตั ิ ใหป ฏบิ ตั งิ านโดยใชแ นวทางปฏบิ ตั ทิ เ่ี ทา ใด (1) ท่ี มก.6/2546 ลงวนั ท่ี 23 ก.ค. 2546 เกา ไป (2) ท่ี มก.8/2546 ลงวนั ที่ 19 ส.ค. 2546 (3) ท่ี มก.9/2546 ลงวนั ท่ี 22 ส.ค. 2546 (4) ไมม ขี อ ใดถกู 6. กาํ หนดเวลาการตรวจสภาพกจิ การ เมอ่ื ไดก าํ หนดแผนงานการตรวจสภาพกจิ การและไดร บั อนมุ ตั จิ ากสรรพากร พื้นที่แลว ใหออกตรวจสภาพกิจการภายในกี่วัน (1) ออกตรวจภายใน 3 เดอื น นบั แตว นั บนั ทึกความเหน็ บนระบบเครอื ขา ย เกา ไป (2) ออกตรวจภายใน 3 เดอื น นบั แตว นั ออกตรวจสภาพกจิ การ (3) ออกตรวจภายใน 90 วนั นบั แตว นั บนั ทกึ ความเหน็ บนระบบเครอื ขา ย (4) ออกตรวจภายใน 90 วนั นบั แตว นั ออกตรวจสภาพกจิ การ 7. กาํ หนดเวลาการรายงานผลการตรวจสภาพกจิ การตอ ผบู งั คบั บญั ชา หากไมส ามารถสรปุ ผลการตรวจใหแ ลว เสรจ็ ได ใหร ายงานผลใหผ บู งั คบั บญั ชาทราบในเบอ้ื งตน กอ นโดยไมต อ งบนั ทกึ ในเมนู 1.3 ตอ เม่ือดาํ เนนิ การ จนกระทั่งยุติเรื่องการตรวจสภาพกจิ การ (ยุตสิ ํานวน) หรือแลวเสร็จ และผบู งั คบั บญั ชาของหนว ยงานอนมุ ตั แิ ลว จงึ บนั ทกึ ผลการตรวจ และวนั เดอื น ป ยุตเิ รอ่ื งในเมนู 1.3 ทันที (1) ภายใน 15 วนั ทาํ การนบั แตว นั ออกตรวจสภาพกจิ การ เกา ไป (2) ภายใน 15 วนั นบั แตว นั ออกตรวจสภาพกจิ การ (3) ภายใน 30 วนั ทาํ การนบั แตว นั ออกตรวจสภาพกจิ การ (4) ภายใน 30 วนั นบั แตว นั ออกตรวจสภาพกจิ การ 8. กรมสรรพากรไดก าํ หนดหลกั เกณฑก ารวดั ประสทิ ธภิ าพการปฏบิ ตั งิ าน ของการกาํ กบั ดแู ลผเู สยี ภาษี ในกลมุ สํานักงานสรรพากรภาค 1 - 3 ใหถ ือปฏบิ ตั ิ ตามหนงั สอื มก.ท่ี กค 0706 / ว. 1496 ลงวนั ท่ี 12 ก.พ. 2547 กาํ หนดให (1) การปฏบิ ตั งิ านบนเครอื ขา ยรษั ฎากร 45 คะแนน , การตรวจสภาพกจิ การ 45 คะแนน , การปรบั ปรงุ ฐาน ขอ มูล 10 คะแนน (2) การปฏบิ ตั งิ านบนเครอื ขา ยรษั ฎากร 40 คะแนน , การตรวจสภาพกจิ การ 40 คะแนน , การปรบั ปรงุ ฐานขอ มลู 20 คะแนน (3) การปฏบิ ตั งิ านบนเครอื ขา ยรษั ฎากร 35 คะแนน , การตรวจสภาพกจิ การ 35 คะแนน , การปรบั ปรงุ ฐานขอ มลู 30 คะแนน (4) การปฏบิ ตั งิ านบนเครอื ขา ยรษั ฎากร 50 คะแนน , การตรวจสภาพกจิ การ 50 คะแนน เกา ไป

หนา้ 75 9. แนวทางปฏบิ ตั กิ รมสรรพากรเรอ่ื งการวเิ คราะหแ ละตรวจนติ บิ คุ คลทม่ี ภี าษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลชาํ ระไวเ กนิ ไดก าํ หนดแนวปฏบิ ตั ทิ เ่ี ทา ใด (1) ท่ี มก.6 / 2546 เกา ไป (2) ท่ี มก.7 /2546 (3) ท่ี มก.8 / 2546 (4) ท่ี มก.9 /2546 10. การตดิ ตามนติ บิ คุ คลตง้ั ใหมเ ขา ระบบกาํ กบั ดแู ล กรมสรรพากรกาํ หนดใหผ รู บั ผิดชอบตดิ ตามนติ บิ คุ คลตง้ั ใหม ระบบเขา กาํ กบั ดแู ล คอื (1) ฝาย วผ. , ทีมกํากับดแู ล , ฝาย บท. (2) ฝาย บท. , ทีมกํากบั ดูแล เกา ไป (3) ฝาย วผ. , ทีมกาํ กบั ดูแล , ฝาย บท. , ฝาย ภค. (4) ทีมกาํ กบั ดูแล , ฝาย บท. , ฝาย วผ. 11. ขอ ใดไมใ ชค ณุ สมบตั ขิ องผปู ระกอบการขายสง (1) เปนบริษัทจํากัดหรือบริษทั มหาชนจดทะเบียนภาษีมลู คาเพมิ่ มีทุนชําระแลว 10 ลานบาท (2) ประกอบกจิ การมาไมน อ ยกวา 12 เดอื นสง สนิ คา ไปขายตา งประเทศไมต าํ่ กวา รอ ยละ 50 (3) ยน่ื แบบผา น internet และสาํ นกั งานสรรพากรพน้ื ทส่ี าขาจะไดร บั คนื ภาษภี ายใน 15 วนั และ 45 วนั นบั แตว นั ทย่ี น่ื แบบแสดงรายการ (4) ไดร บั สทิ ธเิ ปนเวลา 2 ปน บั แตเ ดอื นภาษที อ่ี ธบิ ดกี รมสรรพากรอนมุ ตั ิ อา งองิ : ตามคาํ สง่ั กรมสรรพากรท่ี ท.128/2560 12. บรษิ ทั เอ จาํ กดั เปน นติ บิ คุ คลตา งประเทศประกอบกจิ การขนสง ผา นประเทศตา งๆรวมทง้ั ประเทศไทยตอ งใช แบบอะไรยน่ื ชาํ ระภาษเี งนิ ไดแ ละยน่ื เมอ่ื ไร (1) แบบภ.ง.ด. 52 ภายใน 150 วนั นบั แตว นั สดุ ทายของรอบระยะเวลาบญั ชี (2) แบบ ภ.ง.ด. 50 ภายใน 150 วนั นบั แตว นั สดุ ทายของรอบระยะเวลาบญั ชี (3) แบบ ภ.ง.ด. 53 ภายในวนั ท่ี 7 ของเดือนถดั ไป (4) แบบ ภ.ง.ด. 54 ภายในวนั ท่ี 7 ของเดือนถดั ไป 13. ขอ ใดถกู ตอ งทส่ี ุด ในการจดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ และภาษธี รุ กจิ เฉพาะผา น internet (1) ยน่ื ไดท กุ วนั ถงึ เวลา 24.00น ภายในเวลาทก่ี ฎหมายกาํ หนด (2) ยน่ื เมอ่ื ไรกไ็ ดแ ตต อ งมเี ลขประจาํ ตวั ผเู สยี ภาษี (3) ยน่ื ไดทกุ วันตลอดเวลา 24 ชั่วโมงภายในเวลาท่กี ฎหมายกําหนดและตองมเี ลขประจําตวั ผเู สียภาษี (4) ยน่ื ขอกอ นวนั ทป่ี ระสงคจ ะเปน ผปู ระกอบการจดทะเบยี นลว งหนา ไมน อ ยกวา 30 วนั

หนา้ 76 14. ขอ ใดตอ ไปนถ้ี กู ตอ งทส่ี ดุ ในการท่ี บริษทั เรยี กเกบ็ คา ปรบั งานลา ชา เกนิ กาํ หนดตามเวลาในสญั ญา (1) ตอ งคาํ นวณเปน ฐานรายรบั ในการคาํ นวณภาษมี ลู คา เพม่ิ (2) เปน รายไดค า บรกิ ารนาํ มาคาํ นวณภาษมี ลู คา เพ่ิม (3) เปน รายไดจ ากการขายนาํ มาคาํ นวณภาษมี ลู คา เพม่ิ (4) ไมเ ขา ลกั ษณะรายไดจ ากการขายหรอื บรกิ าร อา งองิ : ตามมาตรา 79 วรรคสอง 15. บรษิ ทั ขายสนิ คา ใหห นว ยราชการไดร บั ชาํ ระคา สนิ คา เมือ่ วนั ท่ี 25 กรกฎาคม 2547 เปน เชค็ ลงวนั ท่ี15 มถิ นุ ายน 2547 บรษิ ทั ตอ งออกใบกาํ กบั ภาษแี ละใบเสรจ็ รบั เงนิ อยา งไร (1) ออกวนั ท่ี 15 มถิ นุ ายน 2547 (2) ออกวนั ท่ี 1 กรกฎาคม 2547 (3) ออกวนั ท่ี 25 กรกฎาคม 2547 (4) ออกวนั ท่ี 30 กรกฎาคม 2547 อา งองิ : ตามคาํ สง่ั กรมสรรพากรที่ ป 51/2537 16. ขอใดไมใชเอกสารประกอบการสงออก (1) Proforma Invoice หรือ Purchase Order (2) Letter of Credit (3) Packing List (4) Tax Invoice อา งองิ : ตามคาํ สง่ั กรมสรรพากรที่ ป 97/2543

หนา้ 77 จติ อาสาปน โตฯ กลมุ 1 ขอ สอบชดุ ท่ี 9 (ขอ 1-16) 1. บริษทั จดทะเบยี นในตลาดหลกั ทรพั ยแ หง ประเทศไทยกอ นป 2544 ในรอบระยะเวลาบญั ชปี  2547 คงจดั เกบ็ ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลในอตั ราใด (1) รอยละ 20 ของกําไรสุทธิ เกา ไป (2) รอยละ 25 ของกําไรสุทธิ (3) รอยละ 25 ของกําไรสุทธิเฉพาะสวนไมเกิน 300 ลาน (4) รอยละ 30 ของกําไรสุทธิ 2. การขอคนื เงนิ ภาษมี ลู คา เพม่ิ นกั ทอ งเทย่ี วจะขอคนื ภาษไี ดต อ งรวมเงนิ ตามแบบ ภ.พ.10 ทกุ ฉบบั ไดเ ทา ใด (1) ไมต ่าํ กวา 5,000 บาท (2) ตง้ั แต 5,000 บาทขน้ึ ไป (3) ตง้ั แต 20,000 บาท (4) ไมต ่าํ กวา 2,000 บาท อา งองิ : ระเบียบกรมสรรพากรวาดวยการคนื ภาษีมูลคาเพม่ิ ใหนักทอ งเที่ยว พ.ศ.2551 ขอ 9 3. อายกุ ารเกบ็ รกั ษาแบบแสดงรายการภาษหี กั ณ ทจ่ี า ยกาํ หนดตอ งเกบ็ รกั ษาไวก ป่ี  (1) 1 ป (2) 2 ป (3) 5 ป (4) 10 ป อา งองิ : พระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ. 2543 มาตรา 5 ไดบ ญั ญตั ใิ หร ฐั มนตรวี า การกระทรวงพาณชิ ยร กั ษาการ ตามพระราชบญั ญตั ิ และตามมาตรา 14 ไดบ ญั ญตั ใิ หผ มู หี นา ทจ่ี ดั ทาํ บญั ชตี อ งเกบ็ รกั ษาบญั ชแี ละเอกสารทต่ี อ งใช ประกอบการลงบญั ชีไวเปนเวลาไมนอยกวาหาป นับแตวนั ปด บัญชีหรือจนกวาจะมกี ารสงมอบบัญชี และเพื่อ ประโยชนใ นการตรวจสอบ อธบิ ดมี อี าํ นาจกาํ หนดใหผ มู หี นา ทจ่ี ดั ทาํ บญั ชเี กบ็ รกั ษาบญั ชแี ละเอกสารทต่ี อ งใช ประอบการลงบญั ชไี วเ กนิ หา ป แตไ มเ กนิ เจด็ ปไ ด สว นการเกบ็ รกั ษาเอกสารภาษมี ลู คา เพม่ิ ตามประมวลรษั ฎากร มาตรา 87/3 กาํ หนดใหผ ปู ระกอบการจดทะเบยี นตอ งเกบ็ รกั ษาไวเ ปน เวลาไมน อ ยกวา หา ปน บั แตว นั ทไ่ี ดย น่ื แบบ แสดงรายการภาษหี รอื วนั ทาํ รายงาน แลว แตก รณแี ละในกรณที เ่ี หน็ สมควร อธบิ ดจี ะกาํ หนดใหเ กบ็ และรกั ษาไว เกนิ หา ป แตไ มเ กนิ เจด็ ป 4. บรษิ ทั A ไดจ า งนาย ก. มาเปน ท่ีปรกึ ษาทางดา นบญั ชภี าษอี ากร จายคา จา งใหเดือนละ 10,000 บาท เงนิ ไดท น่ี าย ก. ไดร บั เปน เงนิ ไดป ระเภทใด (1) มาตรา 40(1) (2) มาตรา 40(2) (3) มาตรา 40(6) (4) มาตรา 40(8)

หนา้ 78 5. บริษัท ก. จํากัด เปนบริษัทในประเทศไทย ประกอบกิจการขายสินคาทําสัญญาวาจางบริษัท A ใน ตา งประเทศใหเ ปน นายหนา ตดิ ตอ หาลกู คา ในตา งประเทศ บริษทั ก. จาํ กดั จา ยคา นายหนา ใหบ ริษทั A จะตอ งนาํ สง ภาษมี ลู คา เพม่ิ หรอื ไม (1) ไมต อ งยน่ื แบบนาํ สง ภาษมี ลู คา เพม่ิ เพราะเปน การกระทาํ ในตา งประเทศ (2) ไมต อ งยน่ื แบบนาํ สง ภาษมี ลู คา เพม่ิ เพราะเปน การกระทาํ ในตา งประเทศและมิไดใ ชบ รกิ ารในประเทศ (3) ตอ งยน่ื แบบนาํ สง ภาษมี ลู คา เพม่ิ เพราะเปน การกระทาํ ในตา งประเทศและใชบ รกิ ารในประเทศ (4) ตอ งยน่ื แบบนาํ สง ภาษมี ลู คา เพม่ิ เพราะเปน การจา ยเงนิ ไปตา งประเทศ อา งองิ : ตามคําสั่งกรมสรรพากร ที่ ป 104/2544 เรื่อง การเสียภาษีมูลคาเพิ่ม กรณีการใหบริการทกี่ ระทําใน ตา งประเทศ และไดม กี ารใชบ รกิ ารนน้ั ในราชอาณาจกั รตามมาตรา 77/2 แหง ประมวลรษั ฎากร และกรณี การ ใหบ รกิ ารทก่ี ระทาํ ในราชอาณาจกั รและไดม กี ารใชบ รกิ ารนน้ั ในตา งประเทศ ตามมาตรา 80/1(2) แหง ประมวล รัษฎากรขอ 6 (1) 6. ขอ ใดไมใ ชอ าํ นาจการพจิ ารณางดเบย้ี ปรบั ภาษมี ลู คา เพม่ิ ของสรรพากรภาค (1) ไมไดจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่ม แตยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลคาเพิ่มโดยเขาใจวาไดจดทะเบียนแลว (2) ไมไ ดจ ดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ เนอ่ื งจากเขา ใจวา เปน กจิ การทไ่ี ดร บั ยกเวน ภาษมี ลู คา เพม่ิ และเปน ผูประกอบการเปนบุคคลธรรมดา (3) ไมไ ดจ ดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ เนอ่ื งจากไมท ราบวา เมอ่ื รายรบั เกนิ 1,200,000 ตอ ปต อ งจดทะเบยี น ภาษีมูลคาเพิ่มและผูประกอบการเปนบุคคลธรรมดา (4) นาํ ภาษซี อ้ื ทเ่ี กดิ จากการซอ้ื ทรพั ยส นิ เพอ่ื ใชห รอื จะใชใ นกจิ การประเภททไ่ี มต อ งเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ หรอื นาํ ภาษที เ่ี กดิ จากรายจา ยของกจิ การประเภททไ่ี มต อ งเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ มาหกั ในการคาํ นวณภาษมี ลู คา เพม่ิ อา งองิ : คําสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.121/2545 เรื่อง มอบหมายใหสั่งและดําเนินการเกี่ยวกับการพจิ ารณางดหรือ ลดเบย้ี ปรบั ภาษเี งนิ ได ภาษมี ลู คา เพม่ิ และภาษธี รุ กจิ เฉพาะ และ คาํ สง่ั กรมสรรพากร ท่ี ท.ป.81/2542 เร่ือง หลักเกณฑก ารงดหรือลดเบี้ยปรับหรือเงินเพิ่มภาษเี งนิ ได ภาษมี ลู คา เพม่ิ และภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ตามมาตรา 22 มาตรา 26 มาตรา 67 ตรี มาตรา 89 และมาตรา 91/21 (6) แหง ประมวลรัษฎากร 7. หา งหนุ สว นเจรญิ ดี เปน หา งหนุ สว นทต่ี ง้ั ขน้ึ ตามกฎหมายไทยไดร บั รายไดเ งนิ ปน ผลจากบรษิ ทั ทต่ี ง้ั ขน้ึ ตาม กฎหมายไทย จะไดร บั ยกเวน ไมต อ งนาํ เงนิ ปน ผลมารวมคาํ นวณเปน รายไดเ สยี ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลหรอื ไม (1) ใหม สี ทิ ธนิ าํ รายไดเ งนิ ปน ผลไปรวมคาํ นวณเพอ่ื เสยี ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลเพยี งกง่ึ หนง่ึ (2) จะตอ งนาํ รายไดจ ากเงนิ ปนผลไปรวมคาํ นวณเพอ่ื เสยี ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลเตม็ จาํ นวนทไ่ี ดร บั (3) มสี ทิ ธไิ ดร บั ยกเวน ไมต อ งนาํ รายไดเ งนิ ปน ผลไปรวมคาํ นวณเปน รายไดท ง้ั จาํ นวน (4) มสี ทิ ธไิ ดร บั ยกเวน ไมต อ งนาํ รายไดเ งนิ ปน ผลไปรวมคาํ นวณเปน รายไดเ พยี งกง่ึ หนง่ึ 8. “กองทนุ รวม” ตามมาตรา 39 แหงประมวลรษั ฎากร จายเงนิ ปนผลใหผ ลู งทนุ ตอ งหกั ภาษเี งนิ ได ณ ท่ีจาย หรือไม (1) ไมต อ งหกั ภาษี ณ ทจ่ี า ย (2) ตองหักภาษี ณ ทีจ่ ายในอัตรารอยละ 1 (3) ตอ งหักภาษี ณ ท่ีจา ยในอตั รารอยละ 10 (4) ไมต อ งหกั ภาษเี งนิ ได ณ ทจ่ี า ยเนอ่ื งจากกองทนุ รวมไมม หี นา ทต่ี อ งเสยี ภาษี

หนา้ 79 9. กรณใี ดในขอ ตอ ไปนไ้ี มใ ชก ารประเมนิ ผลตามแผนยทุ ธศาสตรข องกรมสรรพากร (1) การจัดเก็บภาษีสรรพากรตามประมาณการ (2) การกาํ กบั ดแู ลผเู สยี ภาษตี ามรอบภาษี , การนาํ ผเู สยี ภาษรี ายใหมเ ขา ระบบ (3) ความสามารถในการลดคา ใชจ า ยในการจัดเกบ็ ภาษตี อ ผลการจดั เกบ็ ภาษี (4) การพฒั นาระบบ IT ใหมเ พอ่ื บรกิ ารผเู สยี ภาษแี ละบรหิ ารงานภายใน 10. คาํ รบั รองการปฏบิ ัตริ าชการ (Commitment) ระหวางกรมสรรพากรกับกระทรวงการคลงั มลี ักษณะเปน (1) สญั ญาฝา ยเดยี ว (2) คาํ รบั รองฝา ยเดยี ว (3) สญั ญา 2 ฝา ย (4) คํารับรอง 2 ฝาย อา งองิ : คาํ รับรองการปฎบิ ตั ิราชการ กรมสรรพากร ประจาํ ปงบประมาณ พ.ศ. 2558 ขอ 2 เปนคาํ รบั รองฝายเดยี ว 11. การพฒั นาระบบ IT ใหมเ พอ่ื บรกิ ารผเู สยี ภาษแี ละบรหิ ารงานภายในตามแผนยทุ ธศาสตรข องกรมสรรพากร ตอ งทาํ ใหไ ดก ร่ี ะบบงาน (1) 3 ระบบงาน เกา ไป (2) 5 ระบบงาน (3) 6 ระบบงาน (4) 4 ระบบงาน 12. วิสัยทัศนของกรมสรรพากรปจจุบัน คือ (1) ระบบงานมาตรฐานสากล บรกิ ารผเู สยี ภาษแี บบมเี จา ภาพ (2) ระบบงานมาตรฐานสากล มงุ พฒั นาระบบเศรษฐกจิ ของประเทศไทยใหแ ขง ขนั กบั ตา งประเทศ (3) ระบบงานมาตรฐานสากล จดั เกบ็ ภาษที ว่ั ถงึ เปน ธรรม (4) ระบบงานมาตรฐานสากล เพอ่ื บรกิ ารประชาชน และเกบ็ ภาษที ว่ั ถงึ เปน ธรรม 13. ระบบ IT ใหมที่กรมสรรพากรนํามาใชบ ริการผเู สียภาษตี ั้งแตวันที่ 1 ส.ค. 47 ไดแก (1) ระบบใหบ รกิ ารรบั จดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ และภาษธี รุ กจิ เฉพาะทางอนิ เทอรเ นต็ (2) ระบบงานใหบ รกิ ารประชาชนคดั ขอ มลู ภาษผี านทางอนิ เตอรเ นต็ (3) ระบบยน่ื คาํ รอ งขอมเี ลขบตั รประจาํ ตวั ผเู สยี ภาษอี ากรทางอนิ เตอรเ นต็ (4) ระบบขอมลู บัญชีเงินฝากของผูคางภาษี 14. GFMIS คือ (1) ระบบการบรหิ ารงานการคลังภาครฐั และระบบเบกิ จา ยดว ยระบบอเิ ล็กทรอนกิ ส (2) ระบบการบรหิ ารการเงนิ การคลงั ภาครฐั สอู เิ ลก็ ทรอนกิ ส (3) ระบบการบรหิ ารตนทนุ แบบฐานกิจกรรม (4) ระบบรายงานสาํ หรบั ผบู รหิ ารระดบั สงู

หนา้ 80 15. GFMIS เริ่มนํามาใชกับหนวยราชการทั่วประเทศตั้งแตวันที่ (1) 1 ตลุ าคม 2546 (2) 1 ตลุ าคม 2547 (3) 30 กนั ยายน 2546 (4) 30 กนั ยายน 2547 16. ขอใดไมใชวัตถุประสงคของหลักเกณฑและวิธีการบริหารกิจการบานเมืองที่ดี (1) เกิดผลสัมฤทธิ์ตอภารกิจของรัฐ (2) มีประสิทธิภาพและเกิดความคุมคาในเชิงภารกิจของรัฐ (3) สรา งขน้ั ตอนการปฏบิ ตั งิ านหลายขน้ั ตอน ปอ งกนั การทจุ รติ (4) มีการประเมินผลการปฏิบัติงานอยางสม่ําเสมอ

หนา้ 81 จติ อาสาปน โตฯ กลมุ 1 ขอ สอบชดุ ท่ี 10 (ขอ 1-4) 1. หนว ยงานทป่ี ระเมนิ ภาษอี ากรตอ งชแ้ี จงขอ เทจ็ จรงิ และเหตผุ ลการประเมนิ พรอ มทง้ั รบั สาํ นวนการประเมนิ ภาษอี ากรใหห นว ยงานพจิ ารณาอทุ ธรณภ ายในกว่ี นั (1) 15 วนั ทาํ การ (2) 7 วนั ทาํ การ (3) 3 วนั ทาํ การ (4) ไมไ ดก าํ หนดไว อา งองิ : ระเบียบกรมสรรพากร วา ดวยการอุทธรณและการพิจารณาอุทธรณ ตามประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2546 ขอ 6.6 เมอ่ื หนว ยงานทป่ี ระเมนิ ภาษอี ากรไดร บั แจง ตาม ขอ 6.5.2 แลว ใหช แ้ี จงขอ เทจ็ จรงิ และเหตผุ ลในการ ประเมนิ ภาษอี ากร พรอ มทง้ั ชแ้ี จงเหตผุ ลหกั ลา งขอ โตแ ยง ของผอู ทุ ธรณเ ปน รายประเดน็ แลว จดั สง สาํ นวนการ ประเมนิ ภาษอี ากรรายนน้ั ทง้ั หมดใหห นว ยงานพจิ ารณาอทุ ธรณ ภายใน 15 วนั ทาํ การ นบั แตว นั ทไ่ี ดร บั แจง จาก หนว ยงานรบั คาํ อทุ ธรณ 2. ขอ ใดไมใชสทิ ธติ ามกฎหมายของผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษี (1) การผอ นชาํ ระภาษี (2) การขอทเุ ลาการชาํ ระภาษอี ากรโดยจดั ใหม หี ลกั ประกันการชาํ ระภาษดี ว ย (3) ของดหรืดลดเบี้ยปรับและเงินเพิ่มภาษีอากร (4) ทุกขอถอื เปนสทิ ธิของผูเสียภาษี อา งองิ : จาก Internet กรมสรรพากร Navigator : ความรูเร่ืองภาษี>สิทธแิ ละหนาทผี่ เู สยี ภาษี > สิทธขิ องผูเสยี ภาษี 3. ผูประกอบการที่ตองกํากับดูแลไดแกผ ูที่มีหนาทเี่ สียภาษีอากรที่เปน (1) บุคคลธรรมดาทกุ ระบบ (2) บคุ คลธรรมดาเฉพาะทม่ี หี นา ทต่ี อ งเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ และนติ บิ คุ คลทกุ ราย (3) บคุ คลธรรมดาทม่ี เี งนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 (5)-(8) และมเี งนิ ไดต ามมาตราอน่ื แหง ประมวล รษั ฎากร ตามทอ่ี ธบิ ดกี าํ หนดรวมถงึ นติ บิ คุ คลเฉพาะรายทม่ี หี นา ทต่ี อ งเสียภาษมี ลู คา เพม่ิ (4) บคุ คลธรรมดาทม่ี เี งนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 (5)-(8) และมเี งนิ ไดต ามมาตราอน่ื แหง ประมวล รษั ฎากร ตามทอ่ี ธบิ ดกี าํ หนดรวมถงึ นติ บิ คุ คลทกุ ราย อา งองิ : เปนระเบียบกํากับดูแลเปนระเบียบเกา ปจ จุบัน เปน ระเบียบ การตรวจแนะนํา

หนา้ 82 4. บริษัท จําใจ จํากัด ไดรับหมายเรียก ตามมาตรา 19 แหงประมวลรัษฎากร เพื่อขอทําการตรวจสอบภาษี แต บรษิ ทั จาํ ใจ จํากดั ไมป ฏบิ ตั ติ ามหมายเรยี กหรอื คาํ สง่ั ของเจา หนกั งานประเมนิ โดยไมม เี หตผุ ลอนั สมควร เจาพนกั งานประเมนิ จงึ ไดท าํ การประเมนิ เรยี กเกบ็ ภาษี จาํ นวน 10,000,000 บาท ซง่ึ บรษิ ทั ฯ ไดร บั ทราบ การประเมนิ โดยชอบดว ยกฎหมายแลว เมอ่ื วนั ท่ี 1 สงิ หาคม 2546 บรษิ ทั ฯ ไมเ หน็ ดว ยกบั การประเมนิ ของ เจาพนกั งานประเมนิ จงึ มาขอยน่ื คาํ อทุ ธรณ เพอ่ื คดั คา นการประเมนิ ของเจา พนกั งานประเมนิ กรณดี งั กลา ว บริษทั ฯ สามารถยน่ื ไดห รอื ไมอ ยา งไร ภายในกาํ หนดเวลาเทา ใด (1) ยน่ื อทุ ธรณไ ด ภายในกาํ หนดเวลา 30 วนั นบั แตว นั ทไ่ี ดร บั ทราบการประเมนิ (2) ยื่นไมได เนื่องจากตองหามมิใหอ ุทธรณการประเมิน (3) ยน่ื ไมไ ด ถา มายน่ื เมอ่ื พน กาํ หนดเวลาการอทุ ธรณแ ลว (4) ยน่ื ได ถา อธบิ ดกี รมสรรพากรอนมุ ตั ใิ หย น่ื อา งองิ : มาตรา 21 ( แหง ประมวลรษั ฏากร) ถา ผตู อ งเสยี ภาษอี ากรไมป ฏบิ ตั ติ ามหมาย หรอื คาํ สง่ั ของ เจา พนกั งานประเมนิ ตามมาตรา 19 หรอื ไมย อมตอบคาํ ถามเมอ่ื ซกั ถามโดยไมม เี หตผุ ลอนั สมควร เจาพนกั งานประเมนิ มอี ํานาจประเมนิ เงนิ ภาษอี ากรตามทร่ี เู หน็ วา ถกู ตอ ง และแจง จาํ นวนเงนิ ซง่ึ ตอ งชาํ ระ ไปยังผูตองเสียภาษีอากร ในกรณีนหี้ ามมิใหอุทธรณการประเมิน

หนา้ 83 จิตอาสาปนโตฯ กลุม 1 ขอสอบชุดที่ 12 วิชาภาษีเงินไดนิติบุคคล (ชดุ ที่ 1-2) ชดุ ท่ี 1 1. ฐานภาษขี องภาษเี งินไดน ติ บิ คุ คล คอื ก. เงินไดสทุ ธิ ข. กําไรสุทธิ ค. รายรบั หรอื ยอดขายกอ นหกั รายจา ย ง. ขอ ข และ ค. อา งองิ : มาตรา 65 เงนิ ไดท ีต่ อ งเสยี ภาษตี ามความในสว นนค้ี อื กาํ ไรสทุ ธซิ ง่ึ คาํ นวณไดจ ากรายไดจ ากกจิ การ หรอื เนอ่ื งจากกจิ การ ทก่ี ระทาํ ในรอบระยะเวลาบญั ชหี กั ดว ยรายจา ยตามเงอ่ื นไขทร่ี ะบไุ วใ นมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี และรอบระยะเวลาบญั ชดี งั กลา วใหม กี าํ หนดสบิ สองเดอื น เวน แตใ นกรณดี งั ตอ ไปนจ้ี ะนอ ยกวา สบิ สองเดอื น กไ็ ด คอื มาตรา 71 ในกรณที ่ี (1) บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลใด ไมย น่ื รายการซง่ึ จาํ เปน ตอ งใชใ นการคาํ นวณ ภาษตี ามบทบญั ญตั ใิ นสว นน้ี หรอื มไิ ดท าํ บญั ชี หรือทาํ ไมค รบตามทก่ี าํ หนดไวใ นมาตรา 17 และมาตรา 68 ทวิ หรอื ไมน าํ บญั ชี เอกสารหรอื หลกั ฐานอน่ื มาใหเ จาพนกั งานประเมนิ ทาํ การไตส วนตามมาตรา 19 หรอื มาตรา 23 เจาพนกั งานประเมนิ มอี าํ นาจประเมนิ ภาษใี นอตั รารอ ยละ 5 ของยอดรายรบั กอ นหกั รายจา ยใดๆ หรอื ยอดขาย กอ นหักรายจา ยใด ๆ ของรอบระยะเวลาบญั ชี แลว แตอ ยา งใดจะมากกวา ถา ยอดรายรบั กอ นหกั รายจา ย หรอื ยอดขายกอ นหกั รายจา ยดงั กลาวไมป รากฏ เจา พนกั งานประเมนิ มอี าํ นาจประเมนิ โดยอาศยั เทยี บเคยี งกบั ยอดใน รอบระยะเวลาบญั ชกี อ นนน้ั ขน้ึ ไป ถา ยอดในรอบระยะเวลาบญั ชกี อ นไมป รากฏใหป ระเมนิ ไดต ามทเ่ี หน็ สมควร 2. รอบระยะเวลาบญั ชขี องบรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลมกี าํ หนด ก. 12 เดือน ข. นอ ยกวา 12 เดอื น ค. มากกวา 12 เดือน ง. ขอ ก. และขอ ข. อา งองิ : มาตรา 65 เงนิ ไดท ีต่ อ งเสยี ภาษตี ามความในสว นนค้ี อื กาํ ไรสทุ ธซิ ง่ึ คาํ นวณไดจ ากรายไดจ ากกจิ การ หรอื เนอ่ื งจากกจิ การ ทก่ี ระทาํ ในรอบระยะเวลาบญั ชหี กั ดว ยรายจา ยตามเงอ่ื นไขทร่ี ะบไุ วใ นมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี และรอบระยะเวลาบญั ชดี งั กลา วใหม กี าํ หนดสบิ สองเดอื น เวน แตใ นกรณดี งั ตอ ไปนจ้ี ะนอ ยกวา สบิ สองเดอื น กไ็ ด (ก) บรษิ ัทหรือหา งหุนสว นนิตบิ ุคคลเรม่ิ ตัง้ ใหม จะถือวันเร่มิ ตงั้ ถึงวนั หน่งึ วนั ใดเปน รอบระยะเวลา บัญชีแรกก็ได (ข) บริษทั หรอื หางหนุ สวนนติ ิบคุ คลอาจยนื่ คาํ รองตอ อธิบดี ขอเปลี่ยนวันสุดทายของรอบระยะเวลา บญั ชี ในกรณเี ชน วา นใ้ี หอ ธบิ ดมี อี าํ นาจสง่ั อนญุ าต หรือไมอ นญุ าตสดุ แตจ ะเหน็ สมควร คาํ สง่ั เชน วา นน้ั ตอ งแจง ให บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลผยู น่ื คาํ รอ งทราบภายในเวลาอนั สมควร และในกรณที อ่ี ธบิ ดสี ง่ั อนญุ าต ใหบ รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลนน้ั ถอื ปฏบิ ตั ติ ง้ั แตร อบระยะเวลาบญั ชที อ่ี ธบิ ดกี าํ หนด

หนา้ 84 3. การคาํ นวณรายไดแ ละรายจายของบรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลใหใ ช ก. เกณฑเงินสด ข. เกณฑสิทธิ ค. เกณฑคา งรบั ง. เกณฑค า งจา ย อา งองิ : มาตรา 65 วรรค 2 การคาํ นวณรายไดแ ละรายจา ยตามวรรคหนง่ึ ใหใ ชเ กณฑส ทิ ธ์ิ โดยใหน ํารายไดท ่ี เกดิ ขน้ึ ในรอบระยะเวลาบญั ชใี ด แมว า จะยงั ไมไ ดร บั ชาํ ระในรอบระยะเวลาบญั ชนี น้ั มารวมคาํ นวณเปน รายไดใ น รอบระยะเวลาบญั ชนี น้ั และใหนาํ รายจา ยทง้ั สิน้ ทเ่ี กย่ี วกบั รายไดน น้ั แมจ ะยงั มไิ ดจ า ยในรอบระยะเวลาบญั ชนี น้ั มา รวมคาํ นวณเปน รายจา ยของรอบระยะเวลาบญั ชนี น้ั 4. รายจายขอ ใดทต่ี อ งหา มตามประมวลรษั ฎากร ก. จา ยคา นายหนา รอยละ 7 ของกาํ ไรขน้ั ตน ข. จา ยเงนิ โบนสั แกพ นกั งานรอ ยละ 10 ของกาํ ไรสทุ ธิ ค. จา ยเงนิ บาํ เหนจ็ กรรมการไมเ กิน 1 ใน 10 ของเงนิ ปน ผล ง. ขอ ก. ขอ ข. และ ค. อา งองิ : ตอ งหามตามมาตรา 65 ตรี (19) รายจา ยใดๆ ทก่ี าํ หนดจา ยจากผลกาํ ไรทไ่ี ดเ มอ่ื สน้ิ สดุ รอบระยะเวลา บญั ชีแลว 5. ประมวลรษั ฎากร “ภายใน 150 วนั นบั แตว นั สดุ ทา ยของรอบระยะเวลาบญั ชี ใหบ รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ ิ บคุ คล ยน่ื รายการซง่ึ จาํ เปน ตอ งใชใ นการคาํ นวณภาษี” “เพอ่ื ประโยชนใ นการคาํ นวณภาษใี หบ ริษทั หรอื หา ง หุนสวนนิติบุคคลจัดทําบัญชีงบดุล บญั ชีทําการและบัญชีกําไรขาดทุนในรอบระยะเวลาบัญชี...............” บัญชีทําการ หมายถึง ก. บัญชีแยกประเภท ข. บญั ชลี กู หน้ี – เจา หน้ี ค. บัญชีเงินสด ง. บัญชีตนทุน 6. กรณบี รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลเลกิ กนั ใหผ ชู าํ ระบญั ชแี ละผจู ดั การมหี นา ทร่ี ว มกนั แจง ใหเ จา พนกั งาน ประเมนิ ทราบในกว่ี นั ตง้ั แตว นั ทเ่ี จา พนกั งานรบั จดทะเบยี นเลกิ ก. 7 วนั ข. 10 วนั ค. 15 วนั ง. 30 วนั อา งองิ : ตามมาตรา 72 วรรค 1 ในกรณที บ่ี รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลเลกิ กนั ใหผ ชู าํ ระบญั ชแี ละผจู ดั การมี หนา ทร่ี ว มกนั แจง ใหเ จา พนกั งานประเมนิ ทราบการเลกิ ของบรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลนน้ั ภายในสบิ หา วนั นบั แตว นั ทเ่ี จา พนกั งานรบั จดทะเบยี นเลกิ ถา บคุ คลดงั กลา วแลว ไมป ฏบิ ตั ติ าม เจา พนกั งานประเมนิ อาจสง่ั ใหบ รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลนน้ั เสยี เงนิ ภาษเี พม่ิ ขน้ึ อกี หนง่ึ เทา ของจาํ นวนภาษที ต่ี อ งเสยี เงนิ นใ้ี หถ อื เปน คา ภาษี

หนา้ 85 7. รอบระยะเวลาบัญชีของบริษัทสําเร็จ จํากัด คือ มกราคม - ธันวาคม และที่ประชุมมีมติเลิกบริษัทเมื่อวันที่ 30 มถิ นุ ายน 2545 แตจ ดทะเบยี นเลกิ บรษิ ทั เมอ่ื วนั ท่ี 15 กรกฎาคม 2545 ดงั นน้ั รอบระยะเวลาบญั ชสี ดุ ทา ยของ บรษิ ทั สาํ เร็จ จํากดั คือ ก. มกราคม - 30 มิถุนายน 2545 ข. มกราคม - 15 กรกฎาคม 2545 ค. มกราคม - ธนั วาคม 2545 ง. ขอ ก และขอ ข อา งองิ : มาตรา 72 วรรคสอง ในกรณที บ่ี รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลเลกิ กนั ดงั กลา วแลว เพอ่ื ประโยชนใ นการ คาํ นวณภาษใี หถ อื วา วนั ทเ่ี จา พนกั งานรบั จดทะเบยี นเลกิ เปน วนั สดุ ทา ยของรอบระยะเวลาบญั ชี ใหผ ชู าํ ระบญั ชี และผจู ดั การมหี นา ทแ่ี ละความรบั ผดิ รว มกนั ในการยน่ื รายการและเสียภาษตี ามแบบ และภายในกาํ หนดเวลาท่ี กาํ หนดไวใ นมาตรา 68 และมาตรา 69 โดยอนโุ ลม 8. กาํ หนดเวลายน่ื รายการซง่ึ จาํ เปน ตอ งใชใ นการคาํ นวณภาษใี นรอบระยะเวลาบญั ชสี าํ หรบั บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว น นติ บิ คุ คลทเ่ี ลกิ กนั คอื ภายในกว่ี นั นบั แตว นั สดุ ทา ยของรอบระยะเวลาบญั ชี ก. 30 วนั ข. 60 วนั ค. 90 วนั ง. 150 วนั อา งองิ : ตามมาตรา 68 ภายในหนง่ึ รอ ยหา สบิ วนั นบั แตว นั สดุ ทา ยของรอบระยะเวลาบญั ชี ใหบ รษิ ทั หรอื หา ง หนุ สว นนติ บิ คุ คลยน่ื รายการซง่ึ จาํ เปน ตอ งใชใ นการคาํ นวณภาษใี นรอบระยะเวลาบญั ชตี ามแบบทอ่ี ธบิ ดกี าํ หนด พรอมกับชําระภาษีตออําเภอ 9. บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลซง่ึ ตง้ั ขน้ึ ตามกฎหมายของตา งประเทศไดร บั เงนิ ไดห รอื ผลกาํ ไรในประเทศไทย ซง่ึ จะตอ งยน่ื แบบแสดงรายการเสยี ภาษจี ะตอ งมเี งอ่ื นไขดงั น้ี ก. มีลูกจางหรือผูกระทําการแทนหรือผทู ําการติดตอในประเทศไทย ข. มีสถานประกอบการถาวรในประเทศไทย ค. ขอ ก. และ ข. รวมกัน ง. ขอ ก. และ ข. อยางใดอยา งหนง่ึ อา งองิ : มาตรา 76 ทวิ บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลซง่ึ ตง้ั ขน้ึ ตามกฎหมายของตา งประเทศ มลี กู จา ง หรอื ผทู าํ การแทน หรอื ผทู าํ การตดิ ตอ ในการประกอบกจิ การในประเทศไทย ซง่ึ เปน เหตใุ หไ ดร บั เงนิ ไดห รอื ผลกาํ ไรใน ประเทศไทย ใหถ อื วา บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลนน้ั ประกอบกจิ การในประเทศไทย และใหถ อื วา บคุ คลผเู ปน ลกู จา ง หรอื ผทู าํ การแทน หรอื ผทู าํ การตดิ ตอ เชน วา นน้ั ไมว า จะเปน บคุ คลธรรมดา หรอื นติ บิ คุ คลเปน ตวั แทนของ บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คล ซง่ึ ตง้ั ขน้ึ ตามกฎหมายของตา งประเทศ และใหบ คุ คลน้ันมหี นา ท่ี และความรบั ผดิ ในการยน่ื รายการและเสยี ภาษตี ามบทบญั ญตั ใิ นสว นน้ี เฉพาะทเ่ี กย่ี วกบั เงนิ ไดห รอื ผลกาํ ไรทก่ี ลา วแลว ในกรณที ่ี กลา วในวรรคแรก ถา บคุ คลผมู หี นา ท่ีและความรบั ผดิ ในการยน่ื รายการและเสยี ภาษไี มส ามารถจะคาํ นวณกาํ ไร สทุ ธเิ พอ่ื เสยี ภาษี ตามบทบญั ญตั ใิ นสว นนไ้ี ด ใหน าํ บทบญั ญตั วิ า ดว ยการประเมนิ ภาษตี ามมาตรา 71(1) มาใช บงั คบั โดยอนโุ ลม ในกรณกี ารประเมนิ ตามความในมาตราน้ี จะอทุ ธรณก ารประเมนิ กไ็ ด

หนา้ 86 10. ตามขอ 7 บรษิ ทั สาํ เรจ็ จาํ กดั มที รพั ยส นิ คงเหลอื อยู ณ วนั เลกิ กจิ การหลงั หกั คา เสอ่ื มราคา 5,000,000 บาท แตร าคาตลาด 6,000,000 บาท ดงั นน้ั บรษิ ทั ฯตอ งแสดงราคาทรพั ยส นิ และงบดลุ เทา ใด ก. 5,000,000 บาท ข. 6,000,000 บาท ค. ราคาทรพั ยส นิ กอ นหกั คา เสอ่ื ม ง. ไมมีขอใดถูก อา งองิ : ตามมาตรา 74 ในกรณที บ่ี รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลเลกิ กนั หรอื ควบเขา กนั กบั บรษิ ทั หรอื หา ง หุนสวนนิติบุคคลอื่น การคํานวณกําไรสุทธิเพื่อคํานวณภาษีใหเปนไปตามวิธีการในมาตรา 65 มาตรา 65 ทวิ และ มาตรา 66 เวน แต (1) การตรี าคาทรพั ยส นิ (ก) ในกรณที เ่ี ลกิ บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คล ใหต ตี ามราคาตลาด ในวนั เลกิ

หนา้ 87 ชดุ ท่ี 2 1. ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คล มวี ธิ กี ารเสยี ภาษกี ว่ี ธิ ี ก. 2 วธิ ี ข. 3 วิธี ค. 4 วิธี ง. 5 วธิ ี อา งองิ : จากคลินกิ ภาษี กระทรวงการคลัง https://m.facebook.com/TaxClinicMOF/posts/892924697412393 2. ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลหกั ณ ทจ่ี า ยเกย่ี วขอ งกบั มาตราใดรวมกม่ี าตรา ก. 3 มาตรา ข. 4 มาตรา ค. 5 มาตรา ง. 6 มาตรา อา งองิ : 1. มาตรา 3 เตรส 2. มาตรา 69 ทวิ 3. มาตรา 69 ตรี 4. มาตรา 70 3. การยน่ื แบบภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลหกั ณ ทจ่ี า ยใชแ บบใดบา ง ก. ภ.ง.ด.53 , ภ.ง.ด.54 สวน ก ข. ภ.ง.ด.52 , ภ.ง.ด.53 ค. ภ.ง.ด.3 , ภ.ง.ด.54 ง. ภ.ง.ด.51 , ภ.ง.ด.52 อา งองิ : นา จะแกไ ข ภงด 54 สวน ก เปน ภงด 54 4. ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลหัก ณ ทจ่ี า ยใหถ อื เปน เครดติ ในการคาํ นวณภาษตี ามรอบระยะเวลาทห่ี กั ไวไ ดแ กม าตราใด ก. มาตรา 60 มาตรา 69 ทวิ และมาตรา 69 ตรี ข. มาตรา 69 ทวิ มาตรา 69 ตรี และมาตรา 3 เตรส ค. มาตรา 69 ทวิ มาตรา 69 ตรี และมาตรา 70 ง. มาตรา 67 ทวิ มาตรา 70 และมาตรา 70 ทวิ อา งองิ : เฉลยไว ค คาํ ตอบทถ่ี ูกคอื ข มาตรา 69 ทวิ ภายใตบ งั คบั มาตรา 70 ถา รฐั บาล องคก ารของรฐั บาล เทศบาล สขุ าภบิ าล หรอื องคก าร บรหิ ารราชการสว นทอ งถน่ิ อน่ื เปน ผจู า ยเงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 ใหก บั บรษิ ทั หรือหา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลใด ใหค าํ นวณหกั ภาษเี งนิ ไดไ ว ณ ทจ่ี า ยในอตั รารอ ยละ 1 ภาษที ห่ี กั ไวน ใ้ี หถ อื เปน เครดติ ในการคาํ นวณภาษเี งนิ ไดข อง บริษทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลตามรอบระยะเวลาบญั ชที ห่ี กั ไวน น้ั ในการนใ้ี หน าํ มาตรา 52 มาตรา 53 มาตรา 54 มาตรา 58 และมาตรา 59 มาใชบ ังคบั โดยอนโุ ลม

หนา้ 88 มาตรา 69 ตรี ใหบ คุ คล หา งหนุ สว น บรษิ ทั สมาคม หรอื คณะบคุ คลผจู า ยเงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 (8) เฉพาะทจ่ี า ยใหก บั บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คล ซง่ึ ขายอสงั หารมิ ทรพั ย คาํ นวณหกั ภาษเี งนิ ไดไ ว ณ ท่ี จา ยในอตั รารอ ยละ 1 แลว นาํ สง พนกั งานเจา หนา ท่ีผูรับจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรมในขณะที่มีการจดทะเบียน และใหน ําความในมาตรา 52 วรรคสอง และวรรคสาม มาใชบ งั คบั โดยอนโุ ลม ภาษที ห่ี กั ไวแ ละนาํ สง ตามวรรค หนง่ึ ใหถ อื เปน เครดติ ในการคาํ นวณภาษเี งนิ ไดข องบรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คล ทถ่ี กู หกั ภาษตี ามรอบ ระยะเวลาบญั ชีท่หี กั ไวน ้ัน มาตรา 3 เตรส ใหน าํ ความในมาตรา 60 มาใชบ งั คบั โดยอนโุ ลม มผี ลทาํ ใหภ าษที ห่ี กั ไวต ามมาตรานถ้ี อื เปน เครดติ ในการคาํ นวณภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลของบรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลในรอบระยะเวลาบญั ชที ห่ี กั ไว นน้ั (สว น มาตรา 70 ภาษหี กั ณ ทจ่ี า ย เปน ภาษเี งนิ ไดเ บด็ เสรจ็ เดด็ ขาด (Final tax) ซง่ึ ผมู เี งนิ ไดไ มต อ งย่ืน รายการเงินไดใ นประเทศไทยอกี ภาษใี นมาตรานไ้ี มถ อื เปน เครดติ ) 5. ผมู หี นา ทห่ี กั ภาษี ณ ทจ่ี า ยเปน บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลหรอื นติ บิ คุ คลอน่ื ซง่ึ เปน ผจู า ยเงนิ ไดพ งึ ประเมนิ กรณคี า เชา ตามมาตรา 40 (5) จะตอ งหกั อตั ราใด ก. 3% , 5% และ 10% ข. 1% , 3% และ 10% ค. 5% , 1% และ 10% ง. 5% และ 10% 6. บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลหรอื นติ บิ คุ คลอน่ื จา ยเงนิ คา จา งทาํ ของใหก บั บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลซง่ึ ตง้ั ขน้ึ ตามกฎหมายของตา งประเทศ ประกอบกจิ การในประเทศไทยโดยมไิ ดม สี าํ นกั งานสาขาตง้ั อยูเ ปน การถาวร ในประเทศไทยหกั ภาษเี งนิ ได ณ ทจ่ี า ยในอตั ราเทา ไร ก. 1% ข. 3% ค. 5% ง. 10% 7. บริษัทฯ หรอื หางหุนสวนนิติบุคคลที่ตงั้ ขึ้นตามกฎหมายของตางประเทศมิไดประกอบกจิ การในประเทศไทย แตไดรับเงินไดพงึ ประเมินตามมาตรา 40 (2) (3) (4) (5) และ (6) จากประเทศไทย หรือจายไปประเทศไทย ตอง หกั ภาษเี งนิ ได ณ ทจ่ี ายตามมาตรา ก. มาตรา 50 ข. มาตรา 3 ค. มาตรา 70 ทวิ 4 ง. มาตรา 70

หนา้ 89 8. กรมสรรพากรไดป รับปรุงกฎหมายการหัก ณ ที่จายเพิ่มเติมโดยมีผลบังคับใชตั้งแตวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2544 เปน ตน ไป ไดแ กก จิ การประเภทใดบา ง ก. เงินไดคาลิขสิทธิ์ ข. เงินไดโ ดยสารสาํ หรบั การขนสง ไมส าธารณะ ค. คา เบย้ี ประกนั วนิ าศ ง. ถูกทุกขอ อา งองิ : คําสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 เรอ่ื ง สง่ั ใหผ จู า ยเงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 แหง ประมวล รัษฎากรมหี นาที่หกั ภาษเี งนิ ไดหกั ณ ที่จาย ขอ 3/1 ขอ 12/3 ขอ 12/4 9. กรณไี มย น่ื แบบแสดงรายการภาษหี กั ณ ทจ่ี า ยภายในกาํ หนดเวลา จะตอ งมคี วามรบั ผดิ ชอบทางอาญามาตรา 35 ปรับไมเกินกี่บาท ก. 100 บาท ข. 200 บาท ค. 500 บาท ง. 2,000 บาท อา งองิ : ตามมาตรา 35 ผูใดไมป ฏบิ ตั ติ ามมาตรา 17 มาตรา 50 ทวิ มาตรา 51 หรอื มาตรา 69 เวน แตจ ะแสดงวา ไดมี เหตุสุดวิสัย ตองระวางโทษปรับไมเ กินสองพันบาท\" ( พระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเตมิ (ฉบบั ที่ 41) พ.ศ. 2559 ใชบ งั คบั 25 ก.พ. 2559 เปนตน ไป) 10. ความรบั ผดิ ชอบของผจู า ยภาษเี งนิ ไดห กั ณ ทจ่ี า ยทไ่ี มป ฏบิ ตั ติ ามประมวลกฎหมายรษั ฎากร จะตอ งรบั ผดิ ชอบ ตามมาตราใด ก. มาตรา 50 ข. มาตรา 52 ค. มาตรา 53 ง. มาตรา 54 อา งองิ : ตามมาตรา 54 ถา ผจู า ยเงนิ ตามมาตรา 50 และมาตรา 53 มไิ ดห กั และนาํ เงนิ สง หรอื ไดห กั และนาํ เงนิ สง แลว แตไ มค รบจาํ นวนทถ่ี กู ตอ ง ผจู า ยเงนิ ตอ งรบั ผดิ รว มกบั ผมู เี งนิ ไดใ นการเสยี ภาษที ต่ี อ งชาํ ระตามจาํ นวนเงนิ ภาษี ทม่ี ไิ ดห ักและนาํ สง หรอื ตามจาํ นวนทข่ี าดไปแลว แตก รณี ในกรณที ผ่ี จู ายเงนิ ไดห กั เงนิ ภาษไี วต ามมาตรา 50 หรือ มาตรา 53 แลว ใหผ มู เี งนิ ไดซ ง่ึ ตอ งเสยี ภาษพี น ความรบั ผดิ ทจ่ี ะตอ งชาํ ระเงนิ ภาษเี ทา จาํ นวนทผ่ี จู า ยเงนิ ไดห กั ไว แลว นน้ั และใหผ จู า ยเงนิ รบั ผดิ ชาํ ระเงนิ ภาษจี าํ นวนนน้ั แตฝ า ยเดยี ว ( พระราชบญั ญตั แิ กไ ขเพม่ิ เตมิ (ฉบบั ท่ี 16 ) พ.ศ. 2502 ใชบงั คบั 5 พ.ย. 2502 เปนตน ไป ) -------------------------------------

หนา้ 90 จติ อาสาปน โตฯ กลมุ 1 ขอ สอบชดุ ท่ี 13 วชิ าภาษมี ลู คา เพม่ิ (ชดุ ท่ี 1-2) ชดุ ท่ี 1 1. ภาษีมูลคาเพิ่ม เปนภาษีอากรประเภทใด ก. ภาษีการคาที่เกบ็ จากผูบริโภค ข. ภาษขี องผปู ระกอบการคา ค. ภาษีเก็บจากการประเมินราคาทรัพยสิน ง. ภาษีอากรประเมิน อา งองิ : มาตรา 77 แหง ประมวลรษั ฎากร ภาษมี ลู คา เพม่ิ เปน ภาษอี ากรประเมนิ 2. ผปู ระกอบการจดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ หมายถงึ ก. ผปู ระกอบการทย่ี น่ื คาํ ขอจดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ ข. ผปู ระกอบการมรี ายรบั ถงึ 1,200,000.- บาท ค. ผูประกอบกิจการขายสินคาหรือใหบริการ ง. บริษัทหรอื หางหุนสวนนิติบุคคล อา งองิ : มาตรา 77/1 (6) แหงประมวลรษั ฎากร (6) “ผปู ระกอบการจดทะเบยี น” หมายความวา ผปู ระกอบการทไ่ี ดจ ดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ ตามมาตรา 85 หรือมาตรา 85/1 หรือทไ่ี ดจ ดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ ชว่ั คราวตามมาตรา 85/3 3. ภาษขี าย หมายความถงึ ก. ภาษีมูลคาเพิ่มที่ผปู ระกอบการจดทะเบียนไดเรียกเก็บ หรือพึงเรียกเกบ็ จากผซู ื้อสินคาหรือผูรับบริการ ข. ภาษีมูลคาเพิ่มทผี่ ูประกอบการจดทะเบียนถูกผูประกอบการ จดทะเบียนอื่นเรียกเก็บตามมาตรา 82/4 วรรคส่ี ค. ภาษขี องผขู ายสนิ คา ง. ภาษที ผ่ี ขู ายมหี นา ทต่ี อ งชาํ ระในแตล ะเดอื นภาษี อา งองิ : มาตรา 77/1 (17) \" ภาษขี าย \"หมายความวา ภาษีมลู คา เพม่ิ ทผ่ี ปู ระกอบการจดทะเบยี นไดเ รยี กเกบ็ หรอื พงึ เรยี กเกบ็ จากผซู อ้ื สนิ คา หรอื ผรู บั บรกิ ารตามมาตรา 82/4 วรรคหนง่ึ และภาษมี ลู คา เพม่ิ ทผ่ี ปู ระกอบการจด ทะเบียนมีหนาที่เสียในกรณที ี่เปนการขายสินคาตาม (ง) (จ) (ฉ) หรือ (ช) ของ (8) หรือในกรณีทเี่ ปนการใหบรกิ าร ตาม (10) แตไ มร วมถงึ ภาษที ต่ี อ งเสยี ตามมาตรา 82/16 4. ความรบั ผิดชอบในการเกบ็ ภาษมี ลู คา เพม่ิ กรณขี ายสนิ คา เกดิ ขน้ึ เมอ่ื ใด ก. รบั เงนิ มัดจาํ คา สนิ คา ข. สง มอบสินคา ใหแ กผซู ื้อสินคา ค. วดั ถดั จากวนั ทน่ี าํ สนิ คา ในราชอาณาจกั รเขา ไปใน เขตอตุ สาหกรรมสง ออก ง. ขอ ก และ ขอ ข ถกู ตอ ง อา งองิ : มาตรา 78 ภายใตบ งั คบั มาตรา 78/3 ความรบั ผดิ ในการเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ ทเ่ี กดิ จากการขายสนิ คา ให เปน ไปตามหลกั เกณฑด งั ตอ ไปน้ี

หนา้ 91 (1) การขายสนิ คา นอกจากทอ่ี ยใู นบงั คบั ตาม (2) (3) (4) หรอื (5) ใหค วามรบั ผดิ ทง้ั หมดเกดิ ขน้ึ เมอ่ื สง มอบสนิ คา เวน แตก รณที ไ่ี ดม กี ารกระทาํ ดงั ตอ ไปนเ้ี กดิ ขน้ึ กอ นสง มอบสนิ คา กใ็ หถ อื วา ความรบั ผดิ เกดิ ขน้ึ เมอ่ื ไดม ี การกระทาํ น้ัน ๆ ดว ย (ก) โอนกรรมสิทธิ์สินคา (ข) ไดร บั ชาํ ระราคาสนิ คา หรอื (ค) ไดออกใบกํากบภาษี ทง้ั น้ี โดยใหค วามรบั ผดิ เกดิ ขน้ึ ตามสว นของการกระทาํ นน้ั ๆ แลว แตก รณใี ดเกดิ กอ น 5. ความรบั ผดิ ในการเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ กรณกี ารใหบ รกิ ารตามสญั ญาทก่ี าํ หนดคา ตอบแทนตามสว นของบรกิ าร ที่ทําเกิดขึ้นเมื่อใด ก. ไดช าํ ระราคาคา บรกิ าร ข. เมื่อออกใบกํากบั ภาษขี าย ค. ถงึ กาํ หนดเวลานาํ สง ภาษมี ลู คา เพม่ิ ง. ขอ ก และ ขอ ข ถกู ตอ ง อา งองิ : ตามมาตรา 78/1 (2) (ก) (2) การใหบ รกิ ารตามสญั ญาทก่ี าํ หนดคา ตอบแทนตามสว นของบรกิ ารทท่ี าํ ใหค วามรบั ผดิ ตามสว นของ บรกิ ารเกดิ ขน้ึ เมอ่ื ไดร บั ชาํ ระราคาคา บรกิ ารตามสว นของบรกิ ารทส่ี น้ิ สดุ ลง เวน แตก รณที ไ่ี ดม กี ารกระทาํ ดงั ตอ ไปน้ี เกดิ ขน้ึ กอ นไดร บั ชาํ ระราคาคา บรกิ ารตามสว นของบรกิ ารท่ีสิ้นสุดลง ก็ใหถือวาความรับผิดเกิดขึ้นเมื่อไดมีการ กระทาํ นน้ั ๆ ดว ย (ก) ไดอ อกใบกาํ กบั ภาษี หรอื (ข) ไดใ ชบ รกิ ารไมว า โดยตนเองหรอื บคุ คลอน่ื ทง้ั น้ี โดยให ความรบั ผดิ เกดิ ขน้ึ ตามสว นของการกระทาํ นน้ั ๆ แลว แตก รณี 6. ความรบั ผิดในการเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ กรณกี ารขายสนิ คา ทไ่ี มม รี ปู รา งเกดิ ขน้ึ เมอ่ื ใด ก. ไดโ อนกรรมสทิ ธส์ิ นิ คา ข. ไดท าํ สญั ญาระหวา งผซู อ้ื และผขู าย ค. วันที่สิ้นสุดการไดกรรมสทิ ธิ์สินคา ง. วันยกเลกิ กรรมสิทธิ์สินคา อา งองิ : ตามเฉลยตอบ ค ความเห็นกลุม เปลย่ี น ตอบ ก ตามกฎกระทรวง ฉ.189 พ.ศ.2534 ขอ (1) 7. ความรบั ผดิ ในการเสยี ภาษมี ลู คา เพิม่ กรณกี ารขายสนิ คา หรอื ใหบ รกิ ารนบั ตง้ั แตว นั ถดั จากวนั ทย่ี น่ื แบบแจง เลกิ การประกอบกจิ การนัน้ ผปู ระกอบการยงั คงตอ งรบั ผิดสําหรบั กรณีใด ก. ไมตองรบั ผิดในการเสียภาษีมูลคาเพิ่มเนื่องจากแจงเลิกประกอบการแลว ข. ยงั คงตอ งรบั ผดิ เสียภาษมี ลู คา เพม่ิ สาํ หรบั การขายสนิ คา และการใหบ รกิ ารดงั กลา ว ค. ไมม หี นา ทต่ี อ งเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ ง. ขอ ก และ ขอ ข ถกู ตอ ง อา งองิ : ตามมาตรา 79/3 (5) การขายสนิ คา ในกรณผี ปู ระกอบการมสี นิ คา คงเหลอื และหรอื มที รพั ยส นิ ท่ี ผปู ระกอบการมไี วใ นการประกอบกจิ การ ณ วนั เลกิ ประกอบกจิ การ มลู คา ของฐานภาษใี หถ อื ตามราคาตลาดในวนั เลิกประกอบกิจการ

หนา้ 92 8. กรณตี ามขอ 7 ผปู ระกอบการมหี นา ทต่ี อ งปฏบิ ตั สิ าํ หรบั การขายสนิ คา หรอื การใหบ รกิ ารคอื ก. ตองออกใบกํากับภาษีขายและสงมอบใหแกผูซื้อสินคาหรือผูรบั บริการ ข. ไมมีหนาที่ออกใบกํากบั ภาษีถาผูซื้อสินคาไมรองขอ ค. ตอ งออกใบรบั ตามมาตรา 105 และใบสง ของตามมาตรา 105 จตั วา ง. มีสิทธิ์ออกใบกํากับภาษีใหกบั ผูซื้อสินคาหรือผรู ับบริการ อา งองิ : ตามคาํ สง่ั กรมสรรพากร ท่ี ป.66/2539 เรอ่ื งการแจง เลกิ ประกอบกจิ การตามมาตรา 85/15 แหง ประมวลรัษฎากร ขอ 1 วรรค 2 9. ในกรณที ใ่ี บทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ สญู หายถกู ทาํ ลาย หรอื ชาํ รดุ ในสาระสาํ คญั ผปู ระกอบการจดทะเบยี นตอ ง ปฏิบัติอยางไร ก. ยื่นคํารองขอจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่มใหม ข. ยน่ื คาํ ขอรบั ใบแทนใบทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ ค. ขอใบแทนฯ ภายในสบิ หา วนั นบั แตว นั ทท่ี ราบถงึ การสญู หาย ถกู ทาํ ลาย หรือชาํ รดุ ง. ขอ ข และ ขอ ค ถกู ตอ ง อา งองิ : ตามมาตรา 85/5 วรรคแรก ในกรณที ใ่ี บทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ สญู หาย ถกู ทาํ ลาย หรอื ชาํ ระใน สาระสาํ คญั ใหผ ปู ระกอบการจดทะเบยี นยน่ื คาํ ขอรบั ใบแทนใบทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ ณ สถานทท่ี ไ่ี ดจ ดทะเบยี น ภาษมี ลู คา เพม่ิ ไวภ ายในสบิ หา วนั นบั แตว นั ทท่ี ราบถงึ การสญู หาย ถกู ทาํ ลาย หรอื ชาํ รดุ 10. ผูประกอบการจดทะเบียนใดทมี่ ีสิทธิออกใบกํากับภาษอี ยางยอได ก. ตัวแทนของผูประกอบกิจการคาปลีก ข. ผูประกอบการจดทะเบียนที่ประกอบกิจการคาปลีก ค. ผูประกอบกิจการขนาดยอ ม ง. ขอ ก และ ขอ ข ถกู ตอ ง อา งองิ : ตามมาตรา 86/6 เพอ่ื อาํ นวยความสะดวกแกผ ปู ระกอบการจดทะเบยี นทป่ี ระกอบกจิ การขายสนิ คา ใน ลักษณะขายปลีก หรือประกอบกจิ การใหบริการในลักษณะบริการรายยอยแกบุคคลจํานวนมาก อธิบดีมีอํานาจ กาํ หนดลกั ษณะและหรอื เงอ่ื นไขของการประกอบกจิ การดงั กลา ว ใหเ ปน กจิ การคา ปลกี และในกจิ การคา ปลกี การ แสดงราคาสนิ คา หรอื ราคาคา บรกิ ารจะตอ งเปน การแสดงราคาทร่ี วมภาษมี ลู คา เพม่ิ ไวแ ลว

หนา้ 93 ชดุ ท่ี 2 1. ในการจดั ทาํ รายงานเกย่ี วกบั ภาษมี ลู คา เพม่ิ ของผปู ระกอบการจดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ ตอ งกระทาํ อยา งไร ก. จดั ทาํ ณ สาํ นกั งานใหญเ พยี งแหง เดยี ว ข. จดั ทาํ รายงานเปน รายสถานประกอบการ ค. ไมต อ งจดั ทาํ รายงาน ณ สาํ นกั งานสาขา ง. จดั ทาํ เฉพาะรายงาน ทเ่ี กดิ รายการ ณ สถานประกอบการนน้ั ๆ อา งองิ : ตามมาตรา 87 2. เจา พนกั งานประเมนิ มอี าํ นาจประเมนิ ภาษมี ลู คา เพม่ิ เบย้ี ปรบั และเงนิ เพม่ิ เมอ่ื ปรากฏแกเ จา พนกั งานฯ วา ก. ผูมีหนาที่เสียภาษมี ิไดยื่นแบบแสดงรายการ ข. ผูประกอบการไมสามารถแสดงใบกํากับภาษีซื้อ ค. ผปู ระกอบการซง่ึ ตอ งยน่ื คาํ ขอจดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ ตามมาตรา 85/1 มไิ ดจ ดทะเบยี น ภาษมี ลู คา เพม่ิ ง .ถูกทุกขอ อา งองิ : ตามมาตรา 88 3. ตามมาตรา 88/3 เจา พนกั งานประเมนิ มอี าํ นาจเขา ไปในสถานประกอบการของผปู ระกอบการกรณใี ดบา ง ก. สถานประกอบการ ไมวาจะเปนผูประกอบการจดทะเบียนหรือไม ข. ณ สถานประกอบการเทา นน้ั สถานทอ่ี น่ื ทเ่ี กย่ี วขอ งเขา ไมไ ด ค. ในเวลาระหวา งพระอาทติ ยข น้ึ และพระอาทติ ยต ก หรอื ระหวา งเวลาทาํ การของผปู ระกอบการ ง. ขอ ก และ ขอ ค ถกู ตอ ง อา งองิ : มาตรา 88/3 เจาพนกั งานประเมนิ มอี าํ นาจเขา ไปในสถานประกอบการของผปู ระกอบการ ไมว า จะเปน ผปู ระกอบการจดทะเบยี นหรอื ไม หรอื ในสถานทอ่ี น่ื ทเ่ี กย่ี วขอ งระหวา งพระอาทติ ยข น้ึ และพระอาทติ ยต ก หรอื ระหวา งเวลาทาํ การของผปู ระกอบการ และทาํ การตรวจสอบเพอ่ื ใหท ราบวา ผปู ระกอบการไดป ฏบิ ตั กิ ารโดย ถกู ตอ งตามบทบญั ญตั ใิ นหมวดนห้ี รอื ไม ในการนเ้ี จา พนกั งานประเมนิ มอี าํ นาจสง่ั ผปู ระกอบการ หรอื บคุ คลทอ่ี ยใู น สถานทน่ี น้ั ใหป ฏบิ ตั กิ าร เทา ทจ่ี าํ เปน เพอ่ื ประโยชนใ นการตรวจสอบเอกสารหลกั ฐานตา ง ๆ อนั ควรแกเ รอ่ื ง และมี อาํ นาจยดึ เอกสารหลกั ฐานเหลา นน้ั มาตรวจสอบไตส วนไดใ นการดาํ เนนิ การตามวรรคหนง่ึ ใหเ จา พนกั งานประเมนิ แสดงบตั รประจาํ ตวั พรอ มทง้ั หนงั สอื หรอื หลกั ฐานตอ ผทู เ่ี กย่ี วขอ งเมอ่ื เขา ไปทาํ การตรวจสอบ 4. กรณผี ปู ระกอบการมไิ ดย น่ื แบบแสดงรายการ ภ.พ.30 ภายในกาํ หนดเวลาตอ งรบั ผดิ เสยี เบย้ี ปรบั ตามมาตรา และอตั ราใด ก. ตองเสียเบี้ยปรบั ตามมาตรา 89 (2) ข. ตองเสยี เบีย้ ปรบั 1 เทาของเงนิ ภาษี ค. ตองเสียเบี้ยปรับ 2 เทาของเงินภาษี ง. ตองเสียเบี้ยปรบั ตามมาตรา 89 (2) อีก 2 เทาของเงินภาษี อา งองิ : ขอ ง เปน คาํ ตอบท่ชี ดั เจนกวา เมือ่ เปรยี บเทียบกับ ก และ ค มาตรา 89 ใหผ ูม หี นา ทเ่ี สยี ภาษี หรอื บคุ คลตามมาตรา 86/13 เสยี เบ้ียปรบั ในกรณแี ละตามอตั ราดงั ตอ ไปน้ี (2) มไิ ดย น่ื แบบแสดงรายการภาษหี รอื แบบนาํ สง ภาษภี ายในกาํ หนดเวลา ใหเ สยี เบย้ี ปรบั อกี สองเทา ของเงนิ ภาษที ต่ี อ งเสยี หรอื นาํ สง ในเดอื นภาษี

หนา้ 94 5. กรณผี ูป ระกอบการภาษมี ลู คา เพม่ิ ไมช าํ ระภาษหี รอื นาํ สง ภาษใี หค รบถว นภายในกาํ หนดเวลา ใหเ สยี เงนิ เพม่ิ อกี รอ ยละ 1.5 ตอ เดอื นหรอื เศษของเดอื นของเงนิ ภาษี ซง่ึ กาํ หนดไวต ามมาตราใด ก. มาตรา 27 ข. มาตรา 89 (3) ค. มาตรา 89 (4) ง. มาตรา 89/1 อา งองิ : มาตรา 89/1 บคุ คลใดไมช าํ ระภาษหี รอื นาํ สง ภาษใี หค รบถว นภายในกาํ หนดเวลาตามบทบญั ญตั ใิ นหมวด น้ี ใหเ สยี เงนิ เพม่ิ อกี รอ ยละ 1.5 ตอ เดอื น หรอื เศษของเดอื นของเงินภาษที ต่ี อ งชาํ ระหรอื นาํ สง โดยไมร วมเบย้ี ปรบั ในกรณที อ่ี ธบิ ดอี นมุ ตั ใิ หข ยายเวลาเสยี ภาษตี ามทก่ี าํ หนดในมาตรา 3 อฏั ฐ และไดม กี ารชาํ ระภาษหี รอื นาํ สง ภาษภี ายในกาํ หนดเวลาทข่ี ยายใหน น้ั เงนิ เพม่ิ ตามวรรคหนง่ึ ใหล ดลงเหลอื รอ ยละ 0.75 ตอ เดอื นหรอื เศษของ เดือน การคาํ นวณเงนิ เพม่ิ ตามวรรคหนง่ึ และวรรคสอง ใหเ รม่ิ นบั เมอ่ื พน กาํ หนดเวลายน่ื แบบแสดงรายการภาษี หรือยน่ื แบบนาํ สง ภาษตี ามสว น 7 จนถงึ วนั ชาํ ระภาษหี รอื นาํ สง ภาษแี ตเ งนิ เพม่ิ ทค่ี าํ นวณไดม ใิ หเ กนิ จาํ นวนภาษที ่ี ตอ งชาํ ระหรอื นาํ สง 6. กิจการใดที่ไมไดร ับการยกเวนภาษีมูลคาเพิ่ม ก. รักษาสัตว ข. การขายกุงแหง ปลาปน ค. การขายอาหารสตั ว ง. กิจการสวนสัตวของเอกชน อา งองิ : ตามเฉลยตอบ ค ความเหน็ กลมุ เปลย่ี น ตอบ ก การรกั ษาสตั วเ สยี ภาษมี ลู คา เพ่ิม 7. ผูไมมีสิทธิขอคืนเงินภาษีมูลคาเพิ่ม คือ ก. ผูถูกหักภาษีไว ณ ที่จาย ข. ผมู หี นา ทน่ี าํ สง ภาษี ซง่ึ ไดน าํ สง ภาษไี วเ กนิ ผดิ หรอื ซาํ้ ค. ผปู ระกอบการจดทะเบยี นทเ่ี สยี ภาษไี วเ กนิ ผดิ หรอื ซาํ้ ง. ผปู ระกอบการจดทะเบยี นทม่ี เี ครดติ ภาษเี หลอื อยใู นแตล ะเดอื นภาษี อา งองิ : ตามระเบียบกรมสรรพากรวาดวยการคืนเงินภาษีมลู คาเพิ่ม พ.ศ.2539 8. ขอใดไมใชใบกํากับภาษี ก. ใบแทน ข. ใบเพม่ิ หน้ี , ลดหน้ี ค. ใบกํากับภาษีอยางยอ ง. ใบกํากบั ภาษีเต็มรปู แบบ อา งองิ : มาตรา 77/1 (22) \"ใบกาํ กบั ภาษี \" หมายความรวมถงึ ใบกาํ กบั ภาษอี ยา งยอ ใบเพิม่ หน้ี ใบลดหน้ี ใบเสรจ็ รับเงนิ ทส่ี ว นราชการออกใหใ นการขายทอดตลาด หรอื ขายโดยวธิ อี น่ื ตามมาตรา 83/5 และใบเสรจ็ รบั เงิน ของกรมสรรพากร ของกรมศลุ กากร หรอื ของกรมสรรพาสามิต ทั้งนี้ เฉพาะสวนที่เปนภาษีมลู คาเพมิ่

หนา้ 95 9. ภาษซี อ้ื ในขอ ใดนาํ มาเครดติ ไมไ ด ก. ใบแทนใบกาํ กบั ภาษตี ามมาตรา 86/12 แหง ประมวลรษั ฎากร ข. ใบกํากับภาษีเต็มรูปแบบที่มีรายการครบถวนสมบูรณตามมาตรา 86/12 แหงประมวลรัษฎากรโดยไมม ี รายการแกไข ค. ใบเสร็จรับเงินคาภาษีมูลคาเพิ่มจากกรมศุลกากร ง. ใบกํากบั ภาษเี ดอื นเมษายน 2545 นาํ มาใชเ ดอื นตลุ าคม 2545 อา งองิ : ตามเฉลยตอบ ก ความเหน็ กลมุ เปลีย่ น ตอบ ข 10. ภาษซี อ้ื ในขอ ใด ไมใ หน าํ มาใชใ นการคาํ นวณภาษี ก. ภาษซี อ้ื เกดิ จากรายจา ย เพอ่ื การรบั รอง ข. ภาษีเกี่ยวขอ งโดยตรงกับการประกอบกจิ การ ค. ภาษีซื้อที่เกิดจากการเชาซื้อรถยนตที่มที ี่นั่งเกิน 10 ที่นั่ง ง. ภาษีซื้อที่เกิดจากการกอสรางอาคารเพอื่ ใชในกิจการ อา งองิ : มาตรา 82/5 ภาษซี อ้ื ในกรณดี งั ตอ ไปน้ี ไมใ หน าํ มาหกั ในการคาํ นวณภาษตี ามมาตรา 82/3 (4)

หนา้ 96 จติ อาสาปน โตฯ กลมุ 1 ขอ สอบชดุ ท่ี 14 วชิ าภาษธี รุ กจิ เฉพาะ (ชดุ ท่ี 1-5) ชดุ ท่ี 1 1. ภาษธี รุ กจิ เฉพาะอยใู นบทบญั ญตั ใิ ด แหง ประมวลรษั ฎากร และมกี ม่ี าตรา ก. หมวด 4 ลักษณะ 2 มี 22 มาตรา ข. หมวด 5 ลักษณะ 2 มี 24 มาตรา ค. หมวด 4 ลักษณะ 2 มี 21 มาตรา ง. หมวด 5 ลักษณะ 2 มี 22 มาตรา 2. “ ขาย ” ตามความหมายของภาษธี รุ กจิ เฉพาะ หมายถงึ อะไร ก. ขายฝาก , แลกเปลี่ยน , ให , โอนกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพยไมวาดวยวิธีใด และไมวาจะมีคาตอบแทนหรือไม ข. ขายฝาก , แลกเปลี่ยน , ให , โอนกรรมสิทธิ์ หรอื สิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพยใหแกสวนราชการ หรอื รฐั วสิ าหกจิ ทม่ี ใิ ชบ รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลตามหลกั เกณฑ เงอ่ื นไข และราคาหรอื มลู คา ตามทก่ี าํ หนด โดยพระราชกฤษฎีกา ค. สญั ญาจะขาย , ขายฝาก , แลกเปลีย่ น , ให , ใหเ ชา ซอ้ื หรือจาํ หนา ยจา ยโอน ไมว า มปี ระโยชนต อบ แทนหรือไม ง. ถูกทุกขอ อา งองิ : ตามมาตรา 91/1 (4) แหง ประมวลรัษฎากร 3. การประกอบกิจการอะไรบางที่ตองเสียภาษีธรุ กิจเฉพาะ (ขอ ใดถกู ตอ งมากทส่ี ดุ ) ก. กิจการซื้อ และขายคืนหลักทรัพย , กิจการลสิ ซง่ิ ข. ธุรกิจแฟกเตอรริ่ง , การรับจํานํา ค. การประกอบธุรกจิ เงินลงทุน , กิจการจําหนายสลากกินแบงรัฐบาล ง. กจิ การธนาคาร และกจิ การภตั ตาคาร อา งองิ : ตามมาตรา 91/2 (2) และ (4) แหงประมวลรษั ฎากร 4. การประกอบกิจการอะไรบางที่ตองเสียภาษีธรุ กิจเฉพาะและภาษีมูลคาเพิ่ม (ขอ ใดถกู ตอ งมากทส่ี ดุ ) ก. การใหบริการเชาสังหาริมทรัพย , การใหบริการจัดจําหนายหลักทรัพย ข. การใหบริการที่ปรึกษาทางธุรกิจ , การประกอบธรุ กิจเยี่ยงธนาคารพาณิชย ค. การใหบรกิ ารใชบ ตั รเครดิต , การรับประกันชวี ิต ง. การใหบ รกิ ารนายหนา และตวั แทนซอ้ื ขายหลกั ทรพั ย , ธรุ กจิ แฟก เตอรร ง่ิ อา งองิ : ตามเฉลยขอ ก ความเหน็ กลมุ ตอบ ข ค ง เปน กจิ การทต่ี อ งเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะและภาษมี ลู คา เพม่ิ

หนา้ 97 5. กิจการใด ที่ไมไดรบั ยกเวนภาษีธรุ กิจเฉพาะ ก. กิจการของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแหง ประเทศไทย ข. กจิ การของบรรษทั เงนิ ทนุ อตุ สาหกรรมขนาดยอ ม ค. กิจการเงินทุนหลักทรัพย เครดิตฟองซิเอร ตามกฎหมายวาดวยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกจิ หลักทรัพย และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร ง. กจิ การขายหลกั ทรพั ย ตามกฎหมายวา ดว ยตลาดหลกั ทรพั ยแ หง ประเทศไทย ในตลาดหลกั ทรพั ย อา งองิ : ไมอ ยใู น พระราชกฤษฎกี าออกตามความในประมวลรษั ฎากรวา ดว ยการกําหนดกจิ การทไ่ี ดร บั ยกเวน ภาษี ธรุ กจิ เฉพาะ ฉบบั ท่ี 240 มาตรา 3 (1) ขอ ค อยใู นมาตรา 91/2(2) แหงประมวลรษั ฎากร

หนา้ 98 ชดุ ท่ี 2 1. บุคคลซึ่งประกอบกิจการที่อยูในบังคับตองเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตองจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะภายในกี่วัน ก. ภายใน 15 วนั นบั แตว นั เรม่ิ ประกอบการ ข. ภายใน 30 วนั นบั แตว นั เริม่ ประกอบการ ค. ภายใน 45 วนั นบั แตว นั เริม่ ประกอบการ ง. ภายใน 60 วนั นบั แตว นั เรม่ิ ประกอบการ อา งองิ : ตามมาตรา 91/12 แหงประมวลรัษฎากร 2. หลักการคาํ นวณภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ขอ ใดถกู ตอ งทส่ี ดุ ก. ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ = รายรับ – รายจา ย X อตั ราภาษี + (10% ของอตั ราภาษี) ข. ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ = รายรับ X อตั ราภาษี + (10% ของอตั ราภาษี) ค. ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ = รายได – รายจาย X อตั ราภาษี ง. ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ = รายได X อตั ราภาษี 3. จะตองใชแ บบแสดงรายการประเภทใด และระยะเวลาใดในการย่ืนแบบแสดงรายการภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ก. ใชแ บบ ภธ.30 ย่ืนแบบภายในวันที่ 7 ของเดอื นถดั ไป ข. ใชแบบ ภธ.40 ย่นื แบบภายในวนั ที่ 7 ของเดอื นถดั ไป ค. ใชแบบ ภธ.30 ยื่นแบบภายในวันที่ 15 ของเดือนถดั ไป ง. ใชแ บบ ภธ.40 ยืน่ แบบภายในวนั ที่ 15 ของเดอื นถดั ไป อา งองิ : ตามมาตรา 91/10 แหง ประมวลรัษฎากร 4. ขอ ใดถกู ตอ งทส่ี ดุ หากเดอื นภาษใี ดมจี าํ นวนเงนิ ภาษเี ทา ไรเปน อนั ไมต อ งเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะสาํ หรบั เดอื น ภาษนี น้ั ก. 20 บาท ข. 50 บาท ค. 100 บาท ง. 150 บาท อา งองิ : ตามเฉลย ตอบ ขอ ค ความเห็นกลุม ควร ตอบ ขอ ก ขอ ข ตามมาตรา 91/17แหงประมวลรัษฎากร 5. ขอ ใดถกู ตอ งทส่ี ดุ เกย่ี วกบั ระยะเวลาในการขอคนื ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ก. ยน่ื คาํ รอ งขอคนื ภาษี ภายใน 3 ป นบั แตว นั พน กาํ หนดการยน่ื แบบแสดงรายการภาษี ข. ยน่ื คาํ รอ งขอคนื ภาษี ภายใน 3 ป นบั แตว นั สน้ิ รอบระยะเวลาบญั ชี ค. ยน่ื คาํ รอ งขอคนื ภาษี ภายใน 3 ป นบั แตว นั ทย่ี น่ื แบบแสดงรายการภาษี ง. ยน่ื คาํ รอ งขอคนื ภาษี ภายใน 3 ป นบั แตว นั สน้ิ ปภ าษี อา งองิ : ตามมาตรา 91/11 แหง ประมวลรัษฎากร

หนา้ 99 ชดุ ที่ 3 1. กจิ การใดไดร บั การยกเวน ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ก. กจิ การธนาคารตามกฎหมายวา ดว ยการธนาคารพาณชิ ยห รอื กฎหมายเฉพาะ ข. การประกอบธุรกจิ เงินทุนธุรกิจหลักทรัพยธุรกิจเครดิตฟองซิเอร ค. การขายอสงั หารมิ ทรพั ยเ ปน การคา หรือหากาํ ไร ง. กิจการขายหลักทรัพยในตลาดหลักทรัพย อา งองิ : ตามพระราชกฤษฎกี าออกตามความในประมวลรษั ฎากรวา ดว ยการกาํ หนดกจิ การทไ่ี ดร บั ยกเวน ภาษี ธรุ กจิ เฉพาะ ฉบบั ท่ี 240 มาตรา 3 (1) 2. อายคุ วามประเมนิ เรยี กเกบ็ ภาษธี รุ กจิ เฉพาะขอ ใดถกู ตอ ง ก. 10 ปน บั แตว นั ยน่ื แบบแสดงรายการหรอื วนั พน กาํ หนดเวลายน่ื แบบแสดงรายการแลว แตก รณี ข. 5 ปต ง้ั แตว นั ยน่ื แบบแสดงรายการเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ค. 3 ปน บั ตง้ั แตว นั ยน่ื แบบแสดงรายการหรอื วนั พน กาํ หนดเวลายน่ื แบบแสดงรายการแลว แตก รณี ง. 2 ปน บั ตง้ั แตว นั ยน่ื แบบแสดงรายการเพอ่ื เสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ อา งองิ : ตามมาตรา 193/31 แหง ประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย 3. ขอความใดไมถูกตอง ก. ดอกเบี้ยจากการประกอบกจิ การโรงรบั จํานําเสียภาษีธุรกจิ เฉพาะอัตรารอ ยละ 3 ข. ดอกเบย้ี จากการประกอบกจิ การเยย่ี งธนาคารพาณชิ ยเ สยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะอตั รารอ ยละ 3 ค. ดอกเบี้ยจากการประกอบกจิ การประกนั ชีวิตเสียภาษีธุรกจิ เฉพาะอัตรารอ ยละ 2.5 ง. รายรับจากการขายอสังหาริมทรัพยเสียภาษีธุรกิจเฉพาะอัตรารอยละ 0.1 อา งองิ : ตามมาตรา 91/6 แหง ประมวลรษั ฎากร (2) กาํ หนดให กจิ การโรงรบั จาํ นาํ เสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะอตั รา รอยละ 2.5 4. ฐานรายรบั ในขอ ใดถกู ตอ ง ก. รายรบั จากการขายอสงั หารมิ ทรพั ยค อื ราคาประเมนิ ทนุ ทรพั ยห รอื ราคาทซ่ี อ้ื ขายกนั จรงิ แลว แตอ ยา งใด จะสูงกวาบวกภาษีธุรกิจเฉพาะทผี่ ูซื้อออกแทนผูขาย ข. รายรบั จากการประกอบกจิ การโรงรบั จาํ นาํ คอื ดอกเบ้ีย, คา ธรรมเนยี ม, คา ตอบแทนหรอื ประโยชนใ ดๆ อนั มมี ลู คา ทไ่ี ดร บั หรอื พงึ ไดร บั จากการขายของทจ่ี าํ นาํ หลดุ เปน สทิ ธิ ค. รายรับจากการประกันชีวิตคือ ดอกเบี้ย,คาธรรมเนียม,คาบริการ ง. ถูกตองทุกขอ อา งองิ : ตามมาตรา 91/5 แหง ประมวลรษั ฎากร

หนา้ 100 5. ขอ ความใดกลา วไวถ กู ตอ งเกย่ี วกบั การจดทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ก. คําขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะใชแบบ ภธ.01 ข. ผกู ระทาํ กจิ การมสี ถานประกอบการหลายแหง ใหย น่ื คาํ ขอจดทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ณ สรรพากร พน้ื ทส่ี าขา ทส่ี ถานประกอบการทเ่ี ปน สาํ นกั งานใหญต ง้ั อยู ค. ผมู ีหนา ทจ่ี ดทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะตอ งยน่ื คาํ ขอจดทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะภายใน 30 วนั นบั แต วันเริ่มประกอบกจิ การ ง. ถูกทุกขอ อา งองิ : ตามมาตรา 91/12 แหง ประมวลรัษฎากร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook