หนา้ 51 4. บริษัท โคราชการโรงแรม จํากัด ประกอบกิจการโรงแรม เปนผูประกอบการจดทะเบียนภาษีมลู คาเพมิ่ ในการ คาํ นวณภาษมี ลู คา เพม่ิ อยากทราบวา ภาษซี อ้ื ในขอ ใด ไมใ หน าํ มาหกั ในการคาํ นวณภาษตี ามมาตรา 82/3 แหง ประมวลรัษฎากร (ภาษซี อ้ื ตอ งหา ม) ก. ภาษซี อ้ื ทเ่ี กดิ จากการซอ้ื เชา ซอ้ื เชา หรอื รบั โอนรถยนตน ง่ั และรถยนตโ ดยสารทม่ี ที น่ี ง่ั ไมเ กนิ 10 คน ตามกฎหมายวา ดว ยพกิ ดั อตั ราภาษสี รรพสามติ และภาษซี อ้ื ทเ่ี กดิ จากการซอ้ื สนิ คา หรอื การรบั บรกิ ารทเ่ี กย่ี วขอ ง กบั รถยนตน ง่ั และรถยนตโ ดยสารทม่ี ที น่ี ง่ั ไมเ กนิ 10 คน ตามกฎหมายวา ดว ยพกิ ดั อตั ราภาษสี รรพสามติ ข. ภาษซี อ้ื ทเ่ี กดิ จากการซอ้ื เชา ซอ้ื หรอื รบั โอนรถยนตท ม่ี ใิ ชร ถยนตน ง่ั และรถยนตโ ดยสารทม่ี ที น่ี ง่ั ไมเ กนิ 10 คน ตามกฎหมายวา ดว ยพกิ ดั อตั ราภาษสี รรพสามติ เพอ่ื ใชห รอื จะใชใ นกจิ การประเภททต่ี อ งเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ และตอ มาไดม กี ารดดั แปลงรถยนตด งั กลา วเปน รถยนตน ง่ั หรอื รถยนตโ ดยสารทม่ี ที น่ี ง่ั ไมเ กนิ 10 คน ตามกฎหมาย วา ดว ยพกิ ดั อตั ราภาษสี รรพสามติ ทง้ั น้ี เฉพาะทไ่ี ดก ระทาํ ภายในสามปน บั แตเ ดอื นภาษที ไ่ี ดร ถยนตไ วใ น ครอบครอง ค. ภาษีซื้อที่เกิดจากการกอ สรางอาคารหรืออสังหาริมทรัพยอื่นเพื่อใชหรือจะใชในกิจการประเภทที่ตอง เสียภาษมี ลู คา เพม่ิ และตอ มาไดข าย หรอื ใหเ ชา หรอื นาํ ไปใชใ นกจิ การประเภททไ่ี มต อ งเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ ทง้ั น้ี เฉพาะทไ่ี ดก ระทาํ ภายในสามปน บั แตเ ดอื นภาษที ก่ี อ สรา งเสรจ็ สมบรู ณ ง. ถูกทุกขอ (ตามประกาศอธบิ ดฯี เกย่ี วกบั ภาษมี ลู คา เพม่ิ (ฉบบั ท่ี 42) ) 5. เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตอ ไปน้ี ไมไ ดร บั ยกเวน ภาษเี งนิ ไดบ ุคคลธรรมดา ก. รางวลั ทน่ี ายจา งจา ยใหเ ปน สวสั ดกิ ารแกล กู จา ง เนอ่ื งจากการปฏบิ ตั หิ นา ทไ่ี ดด เี ดน ตามระเบยี บ เกย่ี วกบั สวสั ดกิ ารของพนกั งานหรอื ลกู จา ง (ไมไ ดม กี ารกาํ หนดไวต ามมาตรา 42 และตามกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 126) ข. รางวลั บตั รออมทรพั ยข องธนาคารเพอ่ื การเกษตรและสหกรณก ารเกษตร ค. รางวลั เพอ่ื การศกึ ษาหรอื คน ควา ในวทิ ยาการ รางวลั สลากกนิ แบง หรอื สลากออมสนิ ของรฐั บาล รางวลั ทท่ี างราชการจายใหใ นการประกวดหรอื แขง ขนั ซง่ึ ผรู บั มไิ ดม อี าชพี ในการประกวดหรอื แขง ขนั หรอื สนิ บนรางวลั ท่ี ทางราชการจายใหเ พอ่ื ประโยชนใ นการปราบปรามการกระทาํ ความผดิ หรอื รางวลั ทท่ี างราชการจา ยใหเ พอ่ื ประโยชนในการปองกันมิใหมีการกระทําผิดเกี่ยวกับภาษีอากร ง. รางวลั สลากบาํ รงุ กาชาดไทย เงนิ ไดจ ากการขาย หรอื สว นลดจากการซอ้ื สลากบาํ รงุ กาชาดไทย 6. บริษัทหรือหางหุนสวนนิติบุคคล ทมี่ ีสินทรัพยถาวรไมร วมที่ดินไมเกิน 200 ลานบาท และมีการจางงานไมเกิน 200 คน มสี ทิ ธหิ กั คา สกึ หรอและคา เสอ่ื มราคาไดใ นอตั ราเรง ตามขอ ใดตอ ไป ก. ทรัพยสินประเภทคอมพิวเตอรและอุปกรณคอมพิวเตอร รวมทั้งโปรแกรมคอมพิวเตอร หักรอยละ 40 ในวนั ทไ่ี ดม า สว นทเ่ี หลอื ทยอยหกั ภายใน 3 รอบระยะเวลาบญั ชี ข. ทรพั ยส นิ ประเภทอาคารโรงงาน หกั รอ ยละ 25 ในวนั ทไ่ี ดม า สว นทเ่ี หลอื ทยอยหกั ภายใน 20 รอบ ระยะเวลาบัญชี ค. ทรัพยสินประเภทเครื่องจักร และอปุ กรณเครื่องจกั ร หักรอยละ 40 ในวันที่ไดมา สวนที่เหลือ ทยอย หักภายใน 5 รอบระยะเวลาบัญชี ง. ถูกทุกขอ (ตามพระราชกฤษฎกี า ฉบบั ท่ี 145)
หนา้ 52 7. สทิ ธปิ ระโยชนท างภาษี เพอ่ื ชว ยพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ คนพกิ าร โดยใหบ รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คล หกั รายจา ยไดม ากกวา 1 เทา ของรายจา ย ขอ ใดตอ ไปนถ้ี กู ตอ ง ก. หกั 2 เทา ของรายจา ยในการจา งคนพกิ ารทม่ี บี ตั รประจาํ ตวั คนพกิ ารตามกฎหมายวา ดว ยการสง เสรมิ และพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ คนพกิ ารเขา ทาํ งานในสถานประกอบการ (ยกเวน ตามพระราชกฤษฎกี า ฉบบั ท่ี 499 มาตรา 3) ข. หกั 3 เทา ของรายจา ยในการจา งคนพกิ ารทม่ี บี ตั รประจาํ ตวั คนพกิ ารตามกฎหมายวา ดว ยการสง เสรมิ และพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ คนพกิ ารเขา ทาํ งานในสถานประกอบการเกนิ กวา รอ ยละ 60 ของลกู จา งในสถาน ประกอบการ และมกี ารจา งงานเกนิ กวา 180 วนั ในรอบระยะเวลาบญั ชี (ยกเวน ตามประกาศอธบิ ดฯี เกย่ี วกบั ภาษเี งนิ ได ฉบบั ท่ี 215) ค. หกั 2 เทา ของรายจา ย สาํ หรบั อปุ กรณ สง่ิ อาํ นวยความสะดวกหรอื บรกิ ารอน่ื ๆ เพอ่ื ใหค นพกิ ารเขา ถงึ และใชป ระโยชน ไมว า จะเปน อาคาร สถานท่ี ยานพาหนะ บรกิ ารขนสง หรอื บรกิ ารสาธารณะอน่ื ๆ (ยกเวน ตามพระราช กฤษฎกี า ฉบบั ท่ี 499) ง. ถูกทุกขอ 8. คา ตอบแทนทไ่ี ดร บั หรอื พงึ ไดร บั จากการขายสนิ คา หรอื การใหบ รกิ ารดงั ตอ ไปน้ี ไมต อ งนาํ มารวมคาํ นวณเปน มลู คา ของฐานภาษมี ลู คา เพม่ิ ก. มลู คา ของอาหารและเครอ่ื งดม่ื ทน่ี ายจา งจดั หาใหก บั พนกั งานหรอื ลกู จา งในระหวา งเวลาปฏบิ ตั งิ าน ตามระเบยี บเก่ียวกบั สวสั ดกิ ารของพนกั งานหรอื ลกู จา ง โดยมลู คา ของอาหารและเครอ่ื งดม่ื ดงั กลา วตอ งมรี าคาไม เกินสมควร ข. มลู คา ของเครอ่ื งแบบทผ่ี ปู ระกอบการจดทะเบยี นซง่ึ เปน นายจา งไดม อบใหแ กล กู จา งในจาํ นวนคนละไม เกนิ สองชดุ ตอ ป และเสอ้ื นอกในจาํ นวนคนละไมเ กนิ หนง่ึ ตวั ตอ ป ค. มลู คา ของทรพั ยส นิ หรอื สนิ คา ซง่ึ ผปู ระกอบการจดทะเบยี นบรจิ าคใหแ กส ว นราชการตามโครงการของ ทางราชการ เพอ่ื ชว ยเหลอื ผปู ระสบอทุ กภยั วาตภยั อคั คภี ัย หรอื ภยั ธรรมชาตใิ นลกั ษณะทาํ นองเดยี วกนั ง. ถูกทุกขอ (ตามประกาศอธบิ ดฯี เกย่ี วกบั ภาษมี ลู คา เพม่ิ ฉบบั ท่ี 40) 9. ขอ ใดตอ ไปนี้ เปน รายจายทบี่ ริษัทหรือหางหุนสว นนิตบิ คุ คล หักได 2 เทาของรายจา ย แตไมเกนิ รอ ยละ 10 ของกําไร สุทธิกอนหักรายจายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณะประโยชน และรายจายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา ก. รายจา ยในการจดั หาหนงั สอื หรอื สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส เพอ่ื สง เสรมิ การอา น สาํ หรบั โรงเรียน สถานศกึ ษา สถาบนั อดุ มศกึ ษา ทง้ั ของทางราชการและเอกชน (ยกเวน ตามประกาศอธบิ ดฯี เกย่ี วกบั ภาษเี งนิ ได ฉบบั ท่ี 209) ข. รายจา ยทจ่ี า ยใหอ งคก รปกครองสว นทอ งถน่ิ ในการจดั ตง้ั หรอื สนบั สนนุ การดาํ เนนิ งานของศนู ยพ ฒั นา เด็กเล็กในสังกัดองคกรปกครองสวนทองถิ่น (ยกเวน ตามพระราชกฤษฎกี า ฉบบั ท่ี 519) ค. รายจา ยในการจดั ใหคนพกิ ารไดร บั สิทธใิ นการเขา ถงึ และใชป ระโยชนจ ากสง่ิ อาํ นวยความสะดวกทเ่ี ปน ของสาธารณะ รวมทั้งสวสั ดิการและความชว ยเหลืออื่นจากรฐั (ยกเวน ตามพระราชกฤษฎกี า ฉบบั ท่ี 522) ง. ถูกทุกขอ
หนา้ 53 10. การยกเวน ภาษเี งินไดน ติ บิ คุ คล ขอ ใดถกู ตอ ง ก. ยกเวน ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คล สาํ หรบั กาํ ไรสทุ ธใิ นการดาํ เนนิ โครงการลดการปลอ ยกา ซเรอื นกระจก เฉพาะสว นทเ่ี กดิ จากการจาํ หนา ยคารบ อนเครดติ ไมว า จะทาํ ในหรอื นอกประเทศเปน เวลา 3 รอบระยะเวลาบญั ชี ตอ เนอ่ื งกนั เริม่ ตง้ั แต 1 ม.ค. 2553 เปน ตน มา (ยกเวน ตามพระราชกฤษฎกี า ฉบบั ท่ี 514) ข. ยกเวน ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คล สาํ หรบั เงนิ ไดท ไ่ี ดร บั ชดเชยจากรฐั บาล เงินหรอื ทรพั ยส นิ ทไ่ี ดร บั บรจิ าค กรณไี ดประสบอทุ กภัย วาตภัย อคั คีภยั หรอื ภยั ธรรมชาตอิ ่นื ทีเ่ กิดขึน้ ในประเทศไทย ตั้งแตวันที่ 1 ม.ค. 2554 เปนตน มา (ยกเวน ตามพระราชกฤษฎกี า ฉบบั ท่ี 527) ค. ยกเวน ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คล สาํ หรบั เงนิ ชว ยเหลือ และผลประโยชนอ ยา งอน่ื ทไ่ี ดร บั จากรฐั เพอ่ื ชดเชย ผลกระทบหรือความเสียหายอันเนอื่ งมาจากการชุมนุมทางการเมืองระหวางวันที่ 1 มี.ค. 2553 - 31 พ.ค. 2553 (ยกเวน ตามพระราชกฤษฎกี า ฉบบั ท่ี 522) ง. ถูกทุกขอ
หนา้ 54 จติ อาสาปน โตฯ กลมุ 1 ขอ สอบชดุ ท่ี 5 (ขอ 1-17) ขอ 1. ขอ ใดผิด ก. นายแพทย ก. และนายแพทย ข. จดั ตง้ั คณะบคุ คลเปน 2 คณะ แตท ง้ั 2 คณะบคุ คลประกอบไปดว ย บคุ คลทเ่ี ปน คนเดยี วกนั คอื นายแพทย ก. และนายแพทย ข. ถอื วา ทง้ั 2 คณะบคุ คลดงั กลา วเปน คณะบคุ คล เดียวกัน ข. เจาของกรรมสทิ ธร์ิ ว มแตล ะคน นาํ เงนิ ไดค า เชา ทด่ี นิ ไปยน่ื ในนามของแตล ะคน ถอื วา ยงั มไิ ดย น่ื แบบ แสดงรายการจงึ ตอ งยน่ื ในนามคณะบคุ คลใหม ค. นายแดงและนางดาํ เปน สามภี รยิ าอยรู ว มกนั ตลอดปภ าษไี ดท าํ หนงั สอื สญั ญาเขา หนุ สว นกนั เอง ดาํ เนนิ กจิ การหา งหนุ สว นสามญั ประกอบกจิ การจําหนา ยพชื ไรก ารเกษตร กรณนี เ้ี สยี ภาษใี นนามของหา งหนุ สว น สามัญ ง. นางขาว (ภรยิ า) ยน่ื แบบ ภ.ง.ด.91 โดยแจง วา คสู มรสมเี งนิ ไดแ ละนาํ เงนิ ไดข องนายฟา (สามี) ซง่ึ เปน คสู มรส มารวมคาํ นวณดว ย กรณนี ถ้ี อื ไดว า นางขาว ไดย น่ื แบบฯ ไวต ามกฎหมายแลว แตจ ะตอ งปรบั ปรงุ การ คาํ นวณภาษี สาํ หรบั นายฟา ถอื ไดว า มไิ ดย น่ื แบบฯ อธบิ าย : ( กรณดี งั กลา ว ความเปน สามภี รรยาถกู ตอ งตามกฎหมาย เงนิ ไดข องภรรยาถอื เปน ของสามี กรณนี ต้ี อ ง เสยี ภาษใี นนาม นายแดง ผเู ปน สามี) ขอ 2. นายเอ สญั ชาตอิ เมรกิ นั เขา มาทาํ งานในประเทศไทยเมอ่ื วนั ท่ี 1 สงิ หาคม 2550 ถงึ 31 มกราคม 2551 มี เงนิ ไดจ ากเงนิ เดอื นๆ ละ 100,000 บาท ขอ ใดถกู ตอ งทส่ี ดุ ก. ตอ งเสยี ภาษเี งนิ ไดใ หก บั ประเทศไทย เพราะอยใู นประเทศไทยเกนิ 180 วนั ข. ตอ งเสยี ภาษเี งนิ ไดใ หก บั ประเทศไทย เพราะเงนิ ไดเ กดิ ขน้ึ ในประเทศไทย ค. ไมตองเสียภาษีเงนิ ไดใ หก บั ประเทศไทย เพราะ ในแตล ะปภ าษี อยใู นประเทศไทยไมถงึ 180 วนั ง. ไมต อ งเสยี ภาษเี งนิ ไดใ หก บั ประเทศไทย สาํ หรบั ปภ าษี 2551 แตป ภ าษี 2550 ตอ งเสยี อธบิ าย : ถอื วา นายเอ มหี นา ทก่ี ารงานทท่ี าํ ในประเทศไทย ตามมาตรา 41 วรรคหน่ึง ขอ 3. นาย บี นกั ทอ งเทย่ี วตา งชาติ ไดเ ดนิ ทางเขา มาทอ งเทย่ี วในประเทศไทยและพาํ นกั ในประเทศไทยในป 2550 เปน เวลา 1 ป โดยไมไ ดป ระกอบอาชพี หรอื หารายไดใ นประเทศไทย โดยนาํ เงนิ ออมทเ่ี กบ็ สะสมไวซ ง่ึ เปน เงนิ ไดข องปก อ นๆ ทไ่ี ดจ ากตา งประเทศเขา มาใชจ ายในประเทศไทย ดงั น้ี ในปภ าษี 2550 ขอ ใดถกู ตอ ง ก. นาย บี ตอ งเสยี ภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดาใหก บั ประเทศไทย เนอ่ื งจากไดน าํ เงนิ ไดเ ขา มาในประเทศไทย ข. นาย บี ตอ งเสยี ภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดาใหก บั ประเทศไทย เนอ่ื งจากเปน ผอู ยใู นประเทศไทย ค. นาย บี ไมต อ งเสยี ภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดาใหก บั ประเทศไทย เนอ่ื งจากไดร บั ยกเวน ภาษเี งนิ ไดเ พราะ สงเสริมการทองเที่ยว ง. นาย บี ไมต อ งเสยี ภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดาใหก บั ประเทศไทย เนอ่ื งจากนาํ เงนิ ออมทเ่ี กบ็ สะสมไวซ ง่ึ เปน เงนิ ไดข องปก อ นๆ เขา มาใชจ า ยในประเทศไทย อธบิ าย : ถอื วา นายบี ไมเ ขา ขา ยตามเงอ่ื นไข หลกั เกณฑ ตามมาตรา 41 วรรคหน่ึง และวรรคสอง
หนา้ 55 ขอ 4. นางแปง เปน ขา ราชการของมหาวทิ ยาลยั แหง หนง่ึ ของรฐั บาล ไดร บั คา ตอบแทนเปน เงนิ เดอื นประจาํ จาก มหาวทิ ยาลยั อยแู ลว และไดร บั คา ตอบแทนจากการปฏบิ ตั งิ านในโครงการวจิ ยั จากมหาวทิ ยาลยั อกี ขอ ใดถกู ตอ ง ก. เงนิ เดอื นประจาํ เปน เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 (1) สว นคา ตอบแทนจากการปฏบิ ตั งิ านใน โครงการวจิ ยั เปน เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 (2) ข. เงนิ เดอื นประจาํ และคา ตอบแทนจากการปฏบิ ตั งิ านในโครงการวจิ ยั เปน เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตาม มาตรา 40 (1) ค. เงนิ เดอื นประจาํ และคา ตอบแทนจากการปฏบิ ตั งิ านในโครงการวจิ ยั เปน เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 (2) ง. เงนิ เดอื นประจาํ เปน เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 (1) สว นคา ตอบแทนจากการปฏบิ ตั งิ านใน โครงการวจิ ยั เปน เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 (3) อธบิ าย : ถอื วา นางแปง ไดร บั เงนิ เดอื น และคา ตอบแทน จากนายจา งคนเดยี วกนั ขอ 5. ในปภาษี 2550 นายรกั มบี ตุ รชอบดว ยกฎหมาย ดงั น้ี บตุ รคนท่ี 1 อายุ 30 ป ศาลสง่ั ใหเ ปน คนไรค วามสามารถ บตุ รคนท่ี 2 อายุ 24 ป กาํ ลงั ศกึ ษาอยู ม. รามคาํ แหง และ ไดร บั ดอกเบย้ี เงนิ ฝากประจาํ จากธนาคาร ออมสนิ ในป 2550 ตลอดทง้ั ป รวมทัง้ สน้ิ 15,000.- บาท บตุ รคนท่ี 3 อายุ 19 ป ไดร บั เงนิ ปน ผลจากบรษิ ทั ทต่ี ง้ั ขน้ึ ตามกฎหมายไทยแหง หนง่ึ ในป 2550 ตลอด ทง้ั ปร วมทง้ั ส้ิน 100,000 บาท บุตรคนที่ 4 อายุ 18 ป กําลังเรียนระดบั ป.ว.ช. ที่วิทยาลัยเอกชน บตุ รคนท่ี 5 อายุ 10 ป กาํ ลงั เรียนชน้ั ป. 4 โรงเรยี นอนบุ าลนครราชสมี า ดงั นน้ั นายรกั มสี ทิ ธหิ กั ลดหยอ นบตุ รไดก ค่ี น ก. 1 คน ข. 2 คน ค. 3 คน ง. หกั ลดหยอ นบตุ รไมไ ด อธบิ าย : ถอื วา นายรกั หกั บตุ รได 2 คนคอื คนท่ี 1 เนอ่ื งจากศาลสง่ั ไมจ าํ กดั อายุ และ คนท่ี 3 เนอ่ื งจากเงนิ ปนผลถอื เปน ของบดิ าตามมาตรา 40 (4) (ข) วรรคสอง แหง ประมวลรัษฎากร ไดบ ญั ญัตวิ า ใน กรณบี ตุ รชอบดว ยกฎหมายทย่ี งั ไมบ รรลนุ ติ ภิ าวะเปน ผมู เี งนิ ไดป ระเภทเงนิ ปน ผล และความเปน สามภี รยิ าของบดิ า มารดาไดม อี ยตู ลอดปภ าษี ใหถ อื วา เงินไดข องบตุ รดงั กลา วเปน ของบดิ า แตถ า ความเปน สามภี รยิ าของบดิ าและ มารดามไิ ดอ ยตู ลอดปภ าษี ใหถ อื วา เงินไดข องบตุ รดงั กลา วเปน เงนิ ไดข องบดิ าหรอื ของมารดาผอู าํ นาจปกครอง หรือของบดิ าโดยนติ นิ ยั เปน ผลเทา กบั บตุ รผเู ยาวไ มม เี งนิ ได ดงั นน้ั นาย รกั มสี ทิ ธนิ าํ บตุ รผเู ยาวด งั กลา วมาหกั ลดหยอ นไดต ามมาตรา 47(1)(ค) แหง ประมวลรัษฎากร สว นคนท่ี 2 หกั ไมไ ดเ นอ่ื งมรี ายได 15,000 บาท ซง่ึ ตาม มาตรา 42 กาํ หนดตง้ั แต 15,000 บาท
หนา้ 56 ขอ 6. ภรยิ า(ไมม เี งนิ ได) จดทะเบยี นรบั เดก็ เปน บตุ รบญุ ธรรม โดยสาม(ี ผมู เี งนิ ได) มหี นงั สอื แสดงความยนิ ยอมให ภรยิ าจดทะเบยี นรบั บตุ รบญุ ธรรมได แตส ามไี มไ ดจ ดทะเบยี นรบั เดก็ เปน บตุ รบญุ ธรรม ดงั น้ี สามซี ง่ึ เปน ผมู เี งนิ ไดม ี สทิ ธนิ าํ บตุ รบญุ ธรรมของภรยิ ามาหกั ลดหยอ นไดห รือไม ก. ได เนื่องจาก สามีไดมีหนงั สือแสดงความยินยอมใหภริยาจดทะเบียนรับบุตรบญุ ธรรมแลว ข. ได เนอ่ื งจาก ไมว า จะเปน บตุ รบญุ ธรรมของสามหี รอื ภรยิ ากห็ กั ลดหยอ นได ค. ไมไ ด ง. ถูกทั้งขอ ก. และ ข. อธบิ าย : กรณบี ุตรบุญธรรมตองไดรบั การจดทะเบียนรบั รองเปนบุตรบุญธรรม โดยผูที่จดทะเบียนรบั บุตรบุญ ธรรมจะเปน ผูม สี ทิ ธหิ กั ลดหยอ น โดยเรม่ิ หกั ไดต ง้ั แตป ภ าษที จ่ี ดทะเบยี นรบั บตุ รบญุ ธรรม สว นบดิ ามารดาทช่ี อบ ดว ยกฎหมายเดมิ ของบตุ รคนนน้ั ไมส ามารถหกั ลดหยอ นไดอ กี ขอ 7. ขอ ใดผิด ก. เงนิ ไดจ ากการโอนสทิ ธกิ ารเชา เปน เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(8) ข. เงนิ โบนสั ทจ่ี า ยแกผ ถู อื หนุ หรอื ผเู ปน หนุ สว นในบรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คล เปน เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(4)(ค) ค. เงนิ ไดจ ากการรบั จา งวาดภาพและเขยี นภาพขาย เปน เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(2) ง. ธนาคารกรงุ ไทย จาํ กดั จา ยคา เชา บา นใหพ นกั งาน คา เชา ดงั กลาวทพ่ี นกั งานไดร บั เปน เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(1) ของพนกั งาน อธบิ าย : เงนิ ไดจ ากการรบั จา งวาดภาพและเขยี นภาพขาย เปนเงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(3) ขอ 8. ในปภ าษี 2550 นาย ก. ทาํ งานเปน ลกู จา งในบรษิ ทั แหง หนง่ึ มเี งนิ ไดจ ากเงนิ เดอื นตลอดทง้ั ปภ าษจี าํ นวน ทง้ั สน้ิ 60,000 บาท และในปนน้ั ไดร บั คา นายหนา จากการขายทด่ี นิ จากนาย ข. อกี เปน เงนิ 1,000 บาท สว นภรยิ า ของนาย ก. ไมม เี งนิ ได กรณนี ้ี ก. นาย ก. ตอ งยน่ื แบบ ภ.ง.ด. 90 ข. นาย ก. ตอ งยน่ื แบบ ภ.ง.ด. 91 ค. นาย ก. ตอ งไมย น่ื แบบฯ เพอ่ื เสยี ภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดา เนอ่ื งจากในปภ าษดี งั กลา วมเี งนิ ไดพ งึ ประเมนิ ไมเ กนิ 100,000 บาท ง. ผิดทุกขอ อธบิ าย : ถอื วา นาย ก มีเงนิ ได 2 ประเภท คือ 40(1) และ 40(2) จึงตอ งยน่ื ภ.ง.ด. 90 ถอื วา รายไดร วมเกิน 60,000 บาท ตามกฎหมายในป 2550
หนา้ 57 ขอ 9. ในปภาษี 2550 นายรกั มบี ตุ รชอบดว ยกฎหมาย ดงั น้ี บุตรคนท่ี 1 อายุ 30 ป เปน บคุ คลวิกลจริต บตุ รคนท่ี 2 อายุ 24 ป กําลังศกึ ษาอยู ม. รามคาํ แหง และ ไดรบั ดอกเบ้ียเงนิ ฝากประจาํ 15,000.- บาท บตุ รคนท่ี 3 อายุ 19 ป ไดร บั เงินปน ผลจากบรษิ ทั ไทย100,000 บาท บตุ รคนที่ 4 อายุ 18 ป กําลังเรียนระดบั ปวช. ทว่ี ทิ ยาลัยเอกชน บุตรคนท่ี 5 อายุ 10 ป กําลงั เรยี นชน้ั ป. 4 โรงเรยี นอนุบาล นม. ดงั นน้ั นายรกั มสี ทิ ธหิ กั ลดหยอ นบตุ รไดก ค่ี น ก. 1 คน ข. 2 คน ค. 3 คน ง. หกั ลดหยอ นบตุ รไมไ ด อธบิ าย : ถอื วา นายรกั หกั บตุ รได 1 คนคอื คนท่ี 3 เนอ่ื งจากเงนิ ปนผลถอื เปน ของบดิ าตามมาตรา 40 (4) (ข) วรรคสอง แหง ประมวลรษั ฎากร ไดบ ญั ญัตวิ า ใน กรณบี ตุ รชอบดว ยกฎหมายทย่ี งั ไมบ รรลนุ ติ ภิ าวะเปน ผมู เี งนิ ไดป ระเภทเงนิ ปน ผล และความเปน สามภี รยิ าของบดิ า มารดาไดม อี ยตู ลอดปภ าษี ใหถ อื วา เงินไดข องบตุ รดงั กลา วเปน ของบดิ า แตถ า ความเปน สามภี รยิ าของบดิ าและ มารดามไิ ดอ ยตู ลอดปภ าษี ใหถ อื วา เงินไดข องบตุ รดงั กลา วเปน เงนิ ไดข องบดิ าหรอื ของมารดาผอู าํ นาจปกครอง หรือของบดิ าโดยนติ นิ ยั เปน ผลเทา กบั บตุ รผเู ยาวไ มม เี งนิ ได ดงั นน้ั นาย รกั มสี ทิ ธนิ าํ บตุ รผเู ยาวด งั กลา วมาหกั ลดหยอ นไดต ามมาตรา 47(1)(ค) แหง ประมวลรัษฎากร สว นคนท่ี 2 หกั ไมไ ดเ นอ่ื งมรี ายได 15,000 บาท ซง่ึ ตาม มาตรา 42 กาํ หนดตง้ั แต 15,000 บาท และ คนท่ี 1 เนอ่ื งจากอายเุ กนิ 25 ป ขอ 10. นายดาํ สญั ชาตไิ ทย มภี มู ลิ าํ เนาอยทู จ่ี งั หวดั นครราชสมี า ในปภ าษี 2550 นายดาํ ไปทาํ งานในประเทศ อริ กั ไมไ ดก ลบั มาประเทศไทย แตส ง เงนิ มาใหภ รยิ าในประเทศไทยทกุ ๆ เดอื น เดอื นละ 20,000 บาท กรณนี ้ี นาย ดํา ตองเสียภาษีใหกับประเทศไทยหรือไม ก. นายดาํ ตอ งเสยี ภาษใี หก บั ประเทศไทย เนอ่ื งจากนาํ เงนิ ไดเ ขา มาในประเทศไทย ข. นายดาํ ตอ งเสยี ภาษใี หก บั ประเทศไทย เนอ่ื งจาก มสี ญั ชาตไิ ทย ค. นายดาํ ตอ งเสยี ภาษใี หก บั ประเทศไทย เนอ่ื งจากมภี มู ลิ าํ เนาอยทู จ่ี งั หวดั นครราชสมี า ง. นายดาํ ไมต อ งเสยี ภาษใี หก บั ประเทศไทย เนอ่ื งจาก มไิ ดเ ปน ผอู ยใู นประเทศไทย อธบิ าย : ถอื วา นายดาํ มแี หลง เงนิ ไดน อกประเทศตามมาตรา 41 วรรคสอง เง่ือนไขกต็ อ เมอ่ื เขา องคป ระกอบทง้ั 2 ประการ ดงั ตอ ไปน้ี 1 ผูม ีเงนิ ไดเ ปน ผอู ยใู นประเทศไทย ในปภ าษีนั้นช่วั ระยะเวลาหนงึ่ หรือหลายระยะเวลา รวมทง้ั หมดถึง 180 วัน 2 ผมู ีเงนิ ได นาํ เงนิ ไดน น้ั เขา มาในประเทศไทย ในปภ าษนี น้ั ดว ย
หนา้ 58 ขอ 11. ประโยชนเ พม่ิ ทบ่ี รษิ ทั ฯ นายจา ง ใหก บั ลกู จา ง กรณใี ดตอ ไปน้ี ไดร บั ยกเวน ไมต อ งนาํ มารวมคาํ นวณภาษี เงนิ ไดบ คุ คลธรรมดา ก. บรษิ ทั ฯ เลย้ี งอาหารและเครอ่ื งดม่ื ใหแ กล กู จา ง โดยไมค ดิ คา ใชจ า ย ข. บรษิ ทั ฯ จดั รถรบั สง ลกู จา ง โดยไมค ดิ คา ใชจ า ย ค. บริษัทฯ พาพนกั งานไปทองเที่ยวเพื่อเปนรางวัลหรือเพื่อขอบคุณในการทุมเทในปที่ทํางาน ง. บรษิ ทั ฯ ใหเ ครอ่ื งแบบลกู จา ง (Uniform) จาํ นวนคนละ 2 ชดุ ตอ ป และเสอ้ื นอกคนละ 1 ตวั ตอ ป อธบิ าย : เปน ไปตามมาตรา 42 ( 17) แหง ประมวลรษั ฎากร ทต่ี ามกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 126(พ.ศ.2509) ขอ 2 (34) ขอ 12. คา ลดหยอ นบรจิ าคตอ ไปน้ี ขอ ใดหกั ลดหยอ นไมไ ด ก. บรจิ าคเงนิ ใหว ดั บา นไร โดยทางวดั มอบวตั ถมุ งคลให ข. บรจิ าคคอมพวิ เตอรใ หโ รงพยาบาลของรฐั บาล ค. บริจาคเงนิ ใหโ บสถต ามครสิ ตศ าสนา หรอื มสั ยดิ ในศาสนาอสิ ลาม ง. บรจิ าคเงนิ ใหส ถานอี นามยั ตาํ บล อธบิ าย : การบรจิ าคทใ่ี ชใ นบคุ คลธรรมดาตอ งบรจิ าคเปน เงนิ สด เทา นน้ั ขอ 13. การหกั ลดหยอ นบดิ าของผมู เี งนิ ได ขอ ใดไมใ ชห ลกั เกณฑแ ละเงอ่ื นไขตามกฎหมาย ก. บดิ า อายุ 60 ป ข้นึ ไป ข. บดิ า มเี งนิ ไดต ลอดทง้ั ป ไมเ กนิ 30,000 บาท ค. บดิ าตอ งมสี ญั ชาตไิ ทย ง. ถกู ทัง้ ขอ ก และ ข อธบิ าย : ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได (ฉบับที่ 136) ไมไดระบุไว ขอ 14. ในปภ าษี 2550 นายแดง อายุ 70 ป มเี งนิ ไดจ ากคา เชา บา นพกั ตลอดทง้ั ปท ง้ั สน้ิ 250,000 บาท หกั คา ใชจ า ยเปน การเหมา เปน โสดหกั คา ลดหยอ นเฉพาะสว นตวั ไดเ พยี ง 30,000 บาท ดงั น้ี นายแดงตอ งเสยี ภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดา ปภ าษี 2550 เปน เงนิ ภาษเี ทา ใด ก. 300 บาท ข. 1,250 บาท ค. 4,500 บาท ง. ไมม ภี าษที ต่ี อ งชาํ ระแตอ ยา งใด อธิบาย : นายแดงมอี ายุ 70 ป เปน ไปตามมาตรา 42 ( 17) แหง ประมวลรษั ฎากร ทต่ี ามกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 126 (พ.ศ. 2509) ขอ 2 (72) ใหย กเวน เงนิ ได 190,000 บาท 250,000-190,000 = 60,000*0.005 = 300
หนา้ 59 ขอ 15. ขอใดผดิ ก. กรมธรรมป ระกนั ชวี ติ ตลอดชพี ทม่ี กี าํ หนดเวลาชาํ ระเบย้ี ประกนั ตง้ั แต 10 ขน้ึ ไป หกั ลดหยอ นเบย้ี ประกนั ชวี ติ ได ข. บรษิ ทั ฯ ทเ่ี ปน นายจางออกเบย้ี ประกนั ชวี ติ ใหแ กล กู จา งซง่ึ เปน การประกนั ในนามของลกู จา งเปน ผเู อาประกันชวี ติ ยอ มนาํ เบย้ี ประกนั ชวี ติ ทน่ี ายจา งออกใหม าหกั ลดหยอ นได ค. นายดาํ ซง่ึ เปน ผมู เี งนิ ได เพง่ิ จดทะเบยี นสมรสกบั นางแดง (ไมม เี งนิ ได) เมอ่ื 14 ก.พ. 2550 ในปภ าษี 2550 นายดาํ หกั ลดหยอ นเบย้ี ประกนั ชวี ติ ของนางแดงซง่ึ เปน ภรยิ าไดเ ทา ทจ่ี า ยไปจรงิ แตไ มเ กนิ 10,000 บาท ง. บตุ รเปน ผเู อาประกนั ชวี ติ โดยบดิ าซง่ึ เปน ผมู เี งนิ ไดเ ปน ผจู า ยเบย้ี ประกนั ชวี ติ ดงั กลา ว ดงั นน้ั บดิ าไมม ี สทิ ธนิ าํ เบย้ี ประกนั ชวี ติ ของบตุ รมาหกั ลดหยอ นได อธิบาย : ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได (ฉบับที่ 172) ขอั 3 (2) ในกรณีคสู มรสของผมู เี งนิ ไดมี การประกนั ชวี ติ และ ความเปน สามภี รยิ าไดม อี ยตู ลอดปภ าษี สามหี รอื ภรยิ าซง่ึ เปน ฝา ยผมู เี งนิ ไดม สี ทิ ธหิ กั ลดหยอ น สาํ หรบั เบ้ียประกนั ชวี ติ ของสามหี รอื ภรยิ าฝา ยทไ่ี มม เี งนิ ไดต ามจาํ นวนทจ่ี า ยจรงิ แตไ มเ กนิ 10,000 บาท ตาม มาตรา 47(1)(ง) แหง ประมวลรษั ฎากร แตน ายดาํ มคี วามเปน สามภี รรยาไมต ลอดปภ าษไี มส ามารถหกั นางแดงได ขอ 16. นายดาํ สามเี ปน ผมู เี งนิ ได มไิ ดเ ปน ผมู ชี อ่ื เปน ผกู ยู มื เงนิ เพอ่ื ซอ้ื บา นรว มกบั ภรยิ าซง่ึ ไมม เี งนิ ได ดงั น้ี นาย ดาํ มสี ทิ ธนิ าํ ดอกเบย้ี เงนิ กดู งั กลา วมาหกั ลดหยอ นในการคาํ นวณภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดาหรือไม ก. มสี ทิ ธิ นาํ ดอกเบย้ี เงนิ กดู งั กลา วมาหกั ลดหยอ นได ข. ไมม สี ทิ ธิ นาํ ดอกเบย้ี เงนิ กดู งั กลา วมาหกั ลดหยอ นได ค. มสี ทิ ธิ เพยี งกง่ึ หนง่ึ เนอ่ื งจากบา นดงั กลา วเปน สนิ สมรส แมน ายดาํ จะไมไ ดเ ปน ผมู ชี อ่ื เปน ผกู ยู มื เงนิ เพอ่ื ซอ้ื บานรว มกบั ภรยิ ากต็ าม ง. ผิดทุกขอ อธิบาย :ตามประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร เกย่ี วกบั ภาษเี งนิ ได (ฉบบั ท่ี 165 166 167) ขอ 17. คา ลดหยอ นบรจิ าคตอ ไปน้ี ขอ ใดหกั ลดหยอ นไดต ามมาตรา 47(7) แหง ประมวลรษั ฎากร ก. บรจิ าคเงิน 10,000 บาท ใหก องทนุ ผสู งู อายตุ ามกฎหมายวา ดว ยผสู งู อายุ ข. บริจาคเงนิ 10,000 บาท ใหโ รงเรยี นอนบุ าลเอกชน โดยนายแดงเปน เจา ของโรงเรยี นดงั กลา ว ค. บริจาคเงิน 10,000 บาท ใหโรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่งเปนโรงพยาบาลของเอกชน ง. บรจิ าคเครอ่ื งมอื แพทยม ลู คา 10,000 บาท ใหส ถานอี นามยั ตาํ บล ซง่ึ เปน ของราชการ อธิบาย : ประกาศกระทรวงการคลงั วา ดว ยภาษเี งนิ ไดแ ละภาษมี ลู คา เพม่ิ (ฉบบั ท่ี 2) ขอ 2 จตั วา
หนา้ 60 จติ อาสาปน โตฯ กลมุ 1 ขอ สอบชดุ ท่ี 6 (ขอ 1-16) 1. การเลือกตั้งผูวากรงุ เทพมหานครกําหนดใหมกี ารเลือกตั้งวันที่ (1) 15 สิงหาคม 2547 (2) 22 สิงหาคม 2547 (3) 29 สิงหาคม 2547 (4) 24 สิงหาคม 2547 2. ประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร กาํ หนดใหผ มู หี นา ทเ่ี สยี ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คล เฉพาะบรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ ิ บคุ คล ทต่ี ง้ั ขน้ึ ตามกฎหมายไทย มสี ทิ ธยิ น่ื คาํ รอ งขอมเี ลขประจาํ ตวั ผเู สยี ภาษผี า นทางเครอื ขา ยอนิ เทอรเ นต็ ตง้ั แตว นั ท่ี (1) 30 มถิ ุนายน 2547 (2) 1 กรกฎาคม 2547 (3) 1 สิงหาคม 2547 (4) 1 กนั ยายน 2547 อา งองิ ตามประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร เรอ่ื งกาํ หนดหลกั เกณฑแ ละวธิ กี ารใหบ รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลมี และใชเ ลขประจาํ ตวั ในการปฏบิ ตั กิ ารตามประมวลรษั ฎากร ประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร เรอ่ื ง กาํ หนดหลกั เกณฑ และวธิ กี ารใหบ รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คล มแี ละใชเ ลขประจาํ ตวั ในการปฏบิ ตั กิ ารตามประมวลรษั ฎากรทง้ั น้ี ใหใ ชบ งั คบั ตง้ั แตว นั ท่ี 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 เปน ตน ไป 3. ระเบียบกรมสรรพากร วาดวยการงดหรือลดเบี้ยปรบั หรือเงินเพิ่มภาษีอากร ตามประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2547 หนว ยงานใดทไ่ี มใ ชห นว ยงานรบั คาํ รอ งของดหรอื ลดเบย้ี ปรบั หรอื เงนิ เพม่ิ (1) สาํ นักตรวจสอบภาษกี ลาง (2) สาํ นกั อทุ ธรณภ าษี (3) กรมศลุ กากร (4) กองคลงั อา งองิ ตอบ (4) ระเบียบกรมสรรพากรวาดวยการงดหรือลดเบี้ยปรับหรือเงินเพิ่มภาษีอากรตามประมวลรัษฏา กร พ.ศ. 2547 ขอ 9การดาํ เนนิ การของหนว ยงานรบั คาํ รอ งและหนว ยงานพจิ ารณาคาํ รอ ง 9.1 ยน่ื คาํ รอ งตอ เจา พนกั งานประเมนิ 9.2 ยน่ื คาํ รอ งตอ สาํ นกั งานสรรพากรพน้ื ทส่ี าขา 9.3 ยน่ื คาํ รอ งตอ สาํ นกั งานสรรพากรพน้ื ท่ี 9.4 ยน่ื คาํ รอ งตอ สาํ นกั งานสรรพากรภาค 9.5 ยน่ื คาํ รอ งตอ สาํ นกั บรหิ ารภาษธี รุ กจิ ขนาดใหญ 9.6 ยน่ื คาํ รอ งตอ สาํ นกั ตรวจสอบภาษกี ลาง 9.7 ยน่ื คาํ รอ งตอ สาํ นกั อทุ ธรณภ าษี 9.8 ยน่ื คาํ รอ งตอ กรมศลุ กากร
หนา้ 61 4. สาํ นกั งานสง เสรมิ วสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ ม จา ยเงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 (7) แหง ประมวล รษั ฎากร ใหก บั บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คล สาํ นกั งานฯมหี นา ทีต่ อ งหกั ภาษเี งนิ ได ณ ทจ่ี า ย ตามประมวล รษั ฎากร (1) มาตรา 3 เตรส (2) มาตรา 50 (3) มาตรา 69 ทวิ (4) มาตรา 70 อา งองิ ขอ หารอื หนงั สอื ท่ี กค 0706/9994 ลงวนั ท่ี 12 พฤศจกิ ายน 2545 เรอ่ื ง ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คล ภาษมี ลู คา เพม่ิ ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ และอากรแสตมปข องสาํ นกั งานสง เสรมิ วสิ าหกจิ ขนาด กลางและขนาดยอ ม เลขตู 65/32058 มาตรา 69 ทวิ ภายใตบ งั คบั มาตรา 70 ถา รฐั บาล องคก ารของรฐั บาล เทศบาล สขุ าภบิ าล หรอื องคก ารบรหิ ารราชการสว นทอ งถน่ิ อน่ื เปน ผจู า ยเงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 ใหก บั บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ ิ บคุ คลใด ใหค าํ นวณหกั ภาษเี งนิ ไดไ ว ณ ทจ่ี า ยในอตั รารอ ยละ 1 ภาษที ห่ี กั ไวน ใ้ี หถ อื เปน เครดติ ในการคาํ นวณภาษี เงนิ ไดข องบรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลตามรอบระยะเวลาบญั ชที ห่ี กั ไวน น้ั 5. ศนู ยอ าํ นวยการตอ สเู พอ่ื เอาชนะความยากจนแหง ชาติ (ศตจ.) ของอาํ เภอ แตง ตง้ั คณะผเู จรจาหนป้ี ระกอบดว ย ผแู ทนหลายหนว ยงาน ยกเวน . (1) พฒั นากร (2) ตาํ รวจ (3) ผูแทนธนาคาร (4) สัสดี อา งองิ ตอบ 4 การแตง ตง้ั คณะผเู จรจาหน้ี ศตจ. อาํ เภอเปน ผูแ ตง ตง้ั คณะผเู จรจาหน้ี ซง่ึ ประกอบดว ย 1.นายอําเภอหรือผูแทน 2.สรรพากร 3.พฒั นากร 4.ปลดั อบต.หรอื กาํ นนั ผใู หญบ า น 5.ผแู ทนธนาคาร 6.ตาํ รวจ 7.ตัวแทนกรรมการชุมชน(ถามี) (http://digi.library.tu.ac.th/thesis/po/0493/09CHAPTER_3.pdf) ยทุ ธศาสตรก ารพฒั นาเพอ่ื แกไ ขปญ หาความยากจน ตามแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง ชาติ ฉบบั ท่ี 9 (พ.ศ.2545 - 2549)
หนา้ 62 6. แบบแสดงรายการสาํ หรบั คนตา งดา ว ทท่ี าํ งานในสาํ นกั งานปฏบิ ตั ิ การภมู ภิ าค (ROH) ทใ่ี ชย น่ื เพอ่ื เสยี ภาษเี งนิ ไดป ระจําป คือแบบ? (1) ภ.ง.ด. 90 (2) ภ.ง.ด. 91 (3) ภ.ง.ด. 93 (4) ภ.ง.ด. 95 อา งองิ ตอบ 4 ตามแบบแสดงรายการภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดาสาํ หรบั คนตา งดา วผมู เี งนิ ไดจ ากการจา งแรงงาน บรกิ ารอเิ ลก็ ทรอนกิ ส>Download> แบบพมิ พ >ภาษเี งินไดบุคคลธรรมดา >ภ.ง.ด.95 www.rd.go.th ความรูเรื่องภาษี > ROH 7. ขอใดผิด การรับชาํ ระเงินดว ยเช็คประเภท ง. หนงึ่ ฉบับ (1) สามารถชาํ ระภาษไี ดห ลายประเภทของผเู สยี ภาษรี ายเดยี วกนั (2) จะตอ งเปน แบบแสดงรายการของผมู เี งินได และคสู มรสย่ืนแบบฉบบั เดยี วกนั แตแ ยกคาํ นวณภาษี (3) สามารถชาํ ระภาษไี ดป ระเภทเดยี วของผเู สยี ภาษรี ายเดยี วกนั (4) สามารถชาํ ระภาษไี ดห ลายประเภทจนครบจาํ นวนเงนิ ตามเชค็ ของผมู เี งนิ ไดแ ละคสู มรส อา งองิ : เชค็ ประเภท ง. เปน เชค็ ทผ่ี มู หี นา ทช่ี าํ ระเงนิ ภาษอี ากรเปน ผเู ซน็ จา ย ใชช าํ ระโดยตรง ซง่ึ ตอ งอยสู าํ นกั หกั บญั ชเี ดยี วกนั กบั . สส.ทจ่ี ะไปจา ย จา ยภาษรี ายเดยี วกนั ไดห ลายแบบ หลายฉบบั 8. Service Delivery Unit (SDU) หมายถงึ หนว ยงานการใหบริการภายในของระบบราชการทมี่ งุ เนน ในเรื่อง ประสทิ ธภิ าพ และคณุ ภาพของการดาํ เนนิ งาน มหี นว ยงานนาํ รอ ง คอื หนว ยงานใด (1) กรมสรรพากร (2) กรมธนารกั ษ (3) กรมศลุ กากร (4) กรมบัญชีกลาง อา งองิ : SDU จดั ตง้ั เพอ่ื พฒั นาการจดั หนว ยงานภาครฐั ในรปู หนว ยบรหิ ารรปู แบบพเิ ศษ ทดลองปฏบิ ตั ิ กบั 5 หนว ยงาน ไดแ ก สาํ นกั กษาปณ กรมธนารกั ษ. กองโรงพมิ พ สาํ นกั เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี สถาบนั สง เสรมิ การ บรหิ ารกจิ การบา นเมอื งทด่ี ี สาํ นกั งาน กพร. 9. บรษิ ทั ก. จา ยเงนิ ไดใ หก บั บรษิ ทั ตา งประเทศ เปน คา ออกแบบโรงงาน สาํ รวจสถานทต่ี ง้ั โรงงานออกแบบ เครอ่ื งจกั ร ตดิ ตง้ั เครือ่ งจกั ร ทดลองการผลติ ดแู ลรกั ษาการใช ฝก วศิ วกรไทย เงนิ ไดท จ่ี า ยถอื เปน เงนิ ไดต าม (1) มาตรา 40 (2) (2) มาตรา 40 (6) (3) มาตรา 40 (7) (4) มาตรา 40 (8) อา งองิ : คาํ พพิ ากษาฎกี าท่ี 3923/2531
หนา้ 63 คาํ พพิ ากษาฎกี าท่ี 3923/2531 บริษัท แปซิฟคพลาสติคส (ประเทศไทย) โจทก กรมสรรพากร จําเลย กฎหมายทเ่ี กย่ี วขอ ง ประมวลรษั ฎากร มาตรา 40 (3), 40 (6), 70 (4) เงนิ คาตอบแทนทีโ่ จทกจ า ยใหบ รษิ ัท ด. นติ บิ คุ คลตา งประเทศเปนคา บรกิ ารในการทีบ่ รษิ ัท ด. เปน ผดู าํ เนนิ การออกแบบแปลนและแผนผงั ในการสรา งโรงงานผลติ เมด็ พลาสตกิ ใหโ จทก รวมทง้ั การตดิ ตง้ั เครอ่ื งจกั รดว ย โดยไมป รากฏวา บรษิ ทั ด. ไดใ หเ ทคโนโลยอ่ี ยา งใดแกโ จทก มใิ ชเ ปน เงนิ คา สทิ ธติ ามประมวล รษั ฎากร มาตรา 40 (3) แตถ อื ไดว า เปน เงนิ คา บรกิ ารทางดา นวศิ วกรรมอนั เปน วชิ าชพี อสิ ระตามมาตรา 40(6) ซง่ึ หกั คา ใชจ า ยเปน การเหมาไดร อ ยละ 40 ตามมาตรา 70(4) ในชั้นที่โจทกอุทธรณตอคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ แมโจทกจะขอใหเพิกถอนการเสียเงิน เพม่ิ โดยขอมาลอย ๆ มไิ ดอ า งเหตอุ ยา งใด กถ็ อื วา โจทกไ ดก ลา วเปน การอทุ ธรณใ นประเดน็ เรอ่ื งเงนิ เพม่ิ ไวแ ลว โจทกจ งึ มอี าํ นาจฟอ งในประเดด็ เรอ่ื งเงนิ เพม่ิ ตอ ศาลได 10. นาย ข.ไดร บั สมั ปทานทาํ เหมืองแรแ ตม ไิ ดท าํ เอง ไดม อบใหบ รษิ ทั รบั ชว งไปทํา โดย นาย ข.ไดค า ตอบแทนเปน แร ในอตั ราสวนของแรท ผ่ี ลติ ไดแ รท ่ี นาย ข.ไดร บั เปน เงนิ ไดต าม (1) มาตรา 40 (2) (2) มาตรา 40 (5) (ก) (3) มาตรา 40 (6) (4) มาตรา 40 (8) อา งองิ : ขอ หารอื เลขทห่ี นงั สอื กค 0811/10226 ลงวนั ท่ี 30 กนั ยายน 2542 เลขทต่ี ู 62/28375 11. กรณยี น่ื คาํ ขอเฉลย่ี ทรพั ยท ศ่ี าลจงั หวดั นนทบรุ เี ปน ศาลทอ่ี อกหมายบงั คบั คดี ตามระเบยี บการดาํ เนนิ คดแี พง พ.ศ.2546 สาํ นกั งานสรรพากรภาคใดเปน ผมู อี าํ นาจในการยน่ื คาํ ขอเฉลย่ี ทรพั ย (1) สาํ นกั งานสรรพากรภาค 1 (2) สาํ นกั งานสรรพากรภาค 2 (3) สาํ นกั งานสรรพากรภาค 3 (4) สาํ นกั งานสรรพากรภาค 4 อา งองิ : ตอบ 4 ตามระเบยี บการดาํ เนนิ คดแี พง พ.ศ.2546 ขอ 5 (5.1.2/2) 5.1.2/2 กรณสี าํ นกั งานสรรพากร ภาคพจิ ารณาเหน็ ควรดาํ เนนิ คดี ใหจ ัดสง เร่ืองพรอ มเอกสารหลกั ฐานอน่ื ทเ่ี กย่ี วขอ งทง้ั หมด และใบแตง ทนายความ ซง่ึ ลงนามโดยสรรพากรภาคในฐานะปฏบิ ตั ริ าชการแทนอธบิ ดกี รมสรรพากร จาํ นวน 2 ฉบบั ใหส าํ นกั งานอยั การ สงู สดุ เพอ่ื แตง ตง้ั พนกั งานอยั การดาํ เนนิ การวา ตา งคดี ทง้ั นใ้ี หร บี ดาํ เนนิ การโดยดว นกอ นสทิ ธเิ รยี กรอ ง ขาดอายุ ความตามกฎหมายกรณคี ดแี พง ดงั กลา วอยใู นเขตอาํ นาจของศาลจงั หวดั อน่ื ใหส าํ นกั งานสรรพากรภาคตามวรรค หนง่ึ จดั สง เอกสารหลกั ฐานทเ่ี กย่ี วขอ งทง้ั หมดไปใหส าํ นกั งานสรรพากรภาคซง่ึ ควบคมุ สาํ นกั งานสรรพากรพน้ื ท่ีที่ อยใู นเขตอาํ นาจของศาลจงั หวดั นน้ั เพอ่ื ดาํ เนนิ การจดั สง เรอ่ื งพรอ มใบแตง ทนายความซง่ึ ลงนามโดยสรรพากรภาค ในฐานะปฏบิ ตั ริ าชการแทนอธบิ ดกี รมสรรพากร จาํ นวน2ฉบับใหส าํ นกั งานสรรพากรพน้ื ทเ่ี พอ่ื จดั สง เรอ่ื งให สาํ นกั งานอยั การจงั หวดั ดาํ เนนิ การวา ตา งคดตี อ ไป
หนา้ 64 5.1.3 การดาํ เนนิ การในชน้ั พนกั งานอยั การและการดาํ เนนิ กระบวนพจิ ารณาในชน้ั ศาลใหส าํ นกั งานสรรพากร ภาคหรอื สาํ นกั งานสรรพากรพน้ื ทม่ี อบหมายใหน ติ กิ รหรอื เจา หนา ทใ่ี นสงั กดั เปน ผปู ระสานงานกบั พนกั งานอยั การ ผวู า คดแี ละใหเ จา หนา ทท่ี เ่ี กย่ี วขอ งประสานงานรว มดว ยจนกวา คดจี ะถงึ ทส่ี ดุ 5.1.4 ใหส ํานกั งานสรรพากรภาคหรอื สาํ นกั งานสรรพากรพน้ื ทีแ่ จง ผลการดาํ เนนิ คดพี รอ มจดั สง สําเนาคาํ พพิ ากษาทไ่ี ดร บั จากสาํ นกั งานอยั การสงู สดุ หรอื สาํ นกั งานอยั การจงั หวดั แลว แตก รณใี หห นว ยงานทเ่ี กย่ี วขอ งทราบ เพอ่ื ดาํ เนนิ การตอ ไป และจดั สง สาํ เนาคาํ พพิ ากษาทถ่ี งึ ทส่ี ดุ ใหก รมสรรพากรดว ย 12. กรณที ห่ี นุ สว นผจู ดั การออกจากหา งหนุ สว นสามญั ยงั มหี นา ทร่ี บั ผดิ ในหนข้ี องหา งนบั แตอ อกจากหา งกป่ี (1) 1 ป (2) 2 ป (3) 5 ป (4) ไมม ขี อ ใดถกู อา งองิ : โจทยถ ามหา งหนุ สว นสามญั เปรยี บเสมอื น บคุ คลธรรมดาแตถ า เปน นติ บิ คุ คล 13. ในกรณที ก่ี รมสรรพากรไมไ ดเ ปน โจทกฟ อ งใหล กู หนท้ี ค่ี า งภาษอี ากรลม ละลาย แตจ ะตอ งยน่ื คาํ ขอรบั ชาํ ระหน้ี หากผคู า งมหี นก้ี บั กรมสรรพากรอยู 30,000.-บาท จะตอ งเสยี คา ธรรมเนยี มในการยน่ื คาํ ขอรบั ชาํ ระหนต้ี าม พระราชบญั ญตั ลิ ม ละลาย พ.ศ.2483 เทา ใด (1) 50 บาท (2) 100 บาท (3) 200 บาท (4) 5,000 บาท อา งองิ : ขอ นไ้ี มม ขี อ ถกู
หนา้ 65 14. เจาหนก้ี รมสรรพากรจะตอ งยน่ื คาํ ขอรบั ชาํ ระหนใ้ี นคดฟี น ฟกู จิ การภายในกาํ หนดเทา ใด (1) 30 วนั นบั แตว นั โฆษณาคาํ สง่ั ตง้ั ผทู าํ แผน (2) 1 เดอื น นบั แตว นั โฆษณาคาํ สง่ั ตง้ั ผูทาํ แผน (3) 60 วนั นบั แตว นั โฆษณาคาํ สง่ั ตง้ั ผทู าํ แผน (4) 2 เดอื น นบั แตว นั โฆษณาคาํ สง่ั พทิ กั ษท รัพย อา งองิ : 15. ขอ ใดตอ ไปนไ้ี มถ กู ตอ ง (1) พระราชบญั ญตั วิ ธิ ปี ฏบิ ตั ริ าชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ไมใ ชก บั การดาํ เนนิ งานเกย่ี วกบั นโยบายการ ตางประเทศ (2) พระราชบญั ญตั วิ ธิ ปี ฏบิ ตั ริ าชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ไมใ ชก บั องคก รทใ่ี ชอ าํ นาจตามรฐั ธรรมนญู โดยเฉพาะ (3) พระราชบญั ญัตวิ ิธปี ฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ใชกบั การดําเนนิ กิจการขององคก ารทางศาสนา (4) พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัตริ าชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ใชกับกรมสรรพากร อา งองิ : มาตรา ๔ พระราชบัญญัตินมี้ ิใหใชบงั คบั แก (๙) การดําเนินกิจการขององคการทางศาสนา การยกเวนไมใหน ําบทบัญญตั แิ หงพระราชบัญญตั ิน้ีมาใชบ งั คบั แกก าร ดาํ เนนิ กจิ การ
หนา้ 66 16. ขอ ใดตอ ไปนถ้ี กู ตอ ง (1) คาํ สง่ั ทางปกครองตอ งทาํ เปน หนงั สอื เทา นน้ั (2) คาํ สง่ั ทางปกครองอาจทาํ เปน หนงั สอื หรอื วาจาหรอื โดยการสอ่ื ความหมายในรปู แบบอ่ืนกไ็ ด (3) คาํ สง่ั ทางปกครองตอ งมขี อ ความหรอื ความหมายทช่ี ดั เจนเพยี งพอทจ่ี ะเขา ใจได (4) ถูกทั้งขอ (1) และ (2) อา งองิ : มาตรา ๓๔ คาํ สง่ั ทางปกครองอาจทาํ เปน หนงั สอื หรอื วาจาหรอื โดยการสอ่ื ความหมายในรปู แบบอน่ื ก็ได แตต อ งมขี อ ความหรอื ความหมายทช่ี ดั เจนเพยี งพอทจ่ี ะเขา ใจไดต ามมาตรา 34 ขอ 16 ขอเปลย่ี นเปน ถกู ทง้ั ขอ (2) และ (3)
หนา้ 67 จติ อาสาปน โตฯ กลมุ 1 ขอ สอบชดุ ท่ี 7 (ขอ 1-16) 1. ในประมวลรษั ฎากรทก่ี ลา วไวว า “ใหย กเวน ภาษฯี ตามสว น2 หมวด3 ในลกั ษณะ 2” นน้ั หมายถงึ ภาษอี ะไร (1) ภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดา (2) ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คล (3) ภาษีมูลคาเพิ่ม (4) ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ตอบ (1) อธบิ ายเพม่ิ เตมิ ภาษเี งนิ ไดนติ บิ คุ คล (สว น 3 หมวด 3 ลกั ษณะ2), ภาษมี ลู คา เพม่ิ (หมวด 4 ลกั ษณะ 2), ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ (หมวด 5 ลกั ษณะ 2) และอากรแสตมป (หมวด 6 ลกั ษณะ 2) 2. ในระบบ Intranet ของกรมสรรพากร หากทา นตอ งการทจ่ี ะคน หาแนววนิ จิ ฉยั ขอ กฏหมายทก่ี รมสรรพากรเคย ตอบไวจ ะคน หาในระบบโดยการเขา ไปคลกิ ในระบบอยา งไร (1) หัวขอ อางอิง ขอ หารอื กฎหมาย (2) หัวขออางอิง ขอหารือภาษีอากร (3) หัวขอ บรกิ ารขอ มลู ขอ หารือกฎหมาย (4) หัวขอบริการขอมลู ขอหารือภาษีอากร ตอบ (2) คาํ อธบิ าย ระบบ Intranet – อา งอิง – ขอ หารอื ภาษอี ากร 3. เงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ทไ่ี ดร บั การยกเวน ไมต อ งนาํ มารวมคาํ นวณเพอ่ื เสยี ภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดามบี ญั ญตั ฯิ อยใู น กฎหมายใด (1) พระรากฤษฎกี าฉบบั ท่ี126 (2) พระรากฤษฎกี าฉบบั ท่ี186 (3) กฎกระทรวงฉบบั ที่ 126 (4) กฎกระทรวงฉบบั ท่ี 186 ตอบ (3) ตาม ขอ 2 เปน เงนิ ไดต าม ม.42 (17) แหง ประมวลรษั ฎากร 4. นาย ก เปน ผูดาํ เนนิ รายการทางโทรทศั น ตง้ั แตเ ดอื น สงิ หาคม – ธนั วาคม 2546 มรี ายไดร วม 985,020 บาท เมอ่ื สน้ิ ป นาย ก. ยน่ื ภ.ง.ด.90 มสี ทิ ธหิ กั คา ใชจ า ยไดอ ยา งไร (1) เปน เงนิ ไดต ามมาตรา 40 (2) แหง ประมวลรัษฎากร หกั คา ใชจ า ยเปน การเหมาไดร อ ยละ 40 แตไ มเ กนิ 60,000 บาท (2) เปนเงนิ ไดต ามมาตรา 40(8) แหง ประมวลรษั ฎากร หกั คา ใชจ า ยไดต ามความจาํ เปน และสมควร (3) เปน เงนิ ไดต ามมาตรา 40(8) แหง ประมวลรษั ฎากร หกั คา ใชจ า ยเหมา คอื เงนิ ไดส ว นทไ่ี มเ กนิ 300,000 บาท รอ ยละ60 รายไดส ว นทเ่ี กนิ 300,000 บาท รอ ยละ 40 (4) ถูกทั้งขอ (2) และ (3)
หนา้ 68 ตอบ (4) ถกู ทง้ั ขอ (2) และ (3) ตามคาํ สง่ั กรมสรรพากร ท่ี ป.102/2544 ลงวนั ท่ี 5 มกราคม 2544 ขอ 1 คาํ วา “นกั แสดงสาธารณะ” หมายความวา นกั แสดงละคร ภาพยนตร วทิ ยุ โทรทัศน นกั รอ ง นกั ดนตรี นกั กฬี าอาชพี หรอื นกั แสดงเพอ่ื ความบนั เทิงใด ๆ ไมวา จะแสดงเดย่ี ว เปน หมหู รอื คณะ หรอื แขง ขนั เปน ทมี เชน นกั แสดงละครเวที นกั แสดงภาพยนตร นกั แสดงละครวทิ ยุ นกั แสดงละครโทรทศั นผดู าํ เนนิ รายการทางโทรทศั น นกั แสดงตลก นายแบบ นางแบบ นกั พดู รายการทอลค โชว นักมวยอาชพี นกั ฟตุ บอลอาชพี เปนตน ขอ 3 ในการเสียภาษเี งนิ ได บคุ คลธรรมดาของนกั แสดงสาธารณะตามขอ 2 ใหค าํ นวณหกั คา ใชจ า ยตามมาตรา 46 แหง ประมวลรษั ฎากร และมาตรา 8 แหง พระราชกฤษฎกี าออกตามความ ใน ประมวลรษั ฎากร วา ดว ยการกาํ หนดคา ใชจ า ยทย่ี อม ใหห กั จากเงนิ ไดพ งึ ประเมนิ (ฉบบั ท่ี 11) พ.ศ.2502 ดงั น้ี (1) หกั คา ใชจ ายไดต ามความจาํ เปน และสมควร หรอื (2) หกั คา ใชจ า ยเปน การเหมา ดงั น้ี (ก) สาํ หรบั เงินไดส ว นทไ่ี มเ กิน 300,000 บาท รอ ยละ 60 (ข) สาํ หรบั เงนิ ไดส ว นทเ่ี กนิ 300,000 บาท รอ ยละ 40 การหกั คา ใชจ า ยตาม (ก) และ (ข) รวมกนั ตอ งไมเ กิน 600,000 บาท 5. นายโคบาชิ มีถนิ่ ที่อยูในประเทศญปี่ ุน เขามาประเทศไทยปละไมเกิน 180 วัน มีทรัพยสินในประเทศไทยคือ อาคารโรงงานและใหบ รษิ ทั ไทยมารกู ิ จาํ กดั ซง่ึ เปน บรษิ ทั ทจ่ี ดทะเบยี นในประเทศไทย เชา อาคารโรงงานเพอ่ื ผลติ ชน้ิ สว น รถยนต ในอตั ราคา เชา เดอื นละ 256,000 บาท จา ยคา เชา ภายในวนั ท่ี 30 ของทกุ เดอื น โดยใหบ รษิ ทั ฯ โอนเงนิ คา เชา เขา บญั ชเี งนิ ฝากของนายโคบาชิ ธนาคารซากรุ ะ สาขากรงุ เทพ อยากทราบวา เม่ือจา ยเงนิ คา เชา บรษิ ทั ฯ ตอ งหกั ณ ทจ่ี า ย อยา งไร (1) หัก ณ ทจ่ี า ย 15 % และนําสง ดว ย ภ.ง.ด.3 (2) หัก ณ ทจ่ี า ย 5% และนําสง ดว ย ภ.ง.ด.3 (3) ไมต อ งหกั ณ ทจ่ี า ย ตามอนสุ ญั ญาเพอ่ื เวน การเกบ็ ภาษซี อ นไทย- ญป่ี นุ (4) ไมม ขี อ ใดถกู ตอบ (1) หกั ภาษี ณ ทจ่ี า ย 15% และนาํ สง ดว ย ภ.ง.ด.3 ตามมาตรา 50 (3) ในกรณเี งินไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 (5) และ (6) ทจ่ี า ยใหแ กผ รู บั ซง่ึ มไิ ดอ ยใู นประเทศไทย ใหค าํ นวณหกั ในอตั รารอ ยละ 15.0 ของ เงนิ ได 6. ขอ ใดตอ ไปน้ี ไดร บั ยกเวน ภาษเี งินได (1) เงินปนผลจากกําไรสะสม ซึ่งเกิดในชวงที่บริษัท ไดรับ BOI และมาจายเมื่อเวลาทเี่ กิน BOI แลว (2) ผลตอบแทนจากการโอนทรัพยสิน (3) เงินปนผลหรือเงินสวนแบง ของกําไรของบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย (4) เงนิ ปน ผลหรอื เงนิ สว นแบง ของกาํ ไรจากกจิ การโรงเรยี นเอกชน สถาบนั อดุ มศกึ ษาเอกชน และ กจิ การ In-House Training ตอบ (4) เงนิ ปน ผลหรอื เงนิ สว นแบง ของกาํ ไรจากกจิ การโรงเรยี นเอกชน สถาบนั อดุ มศกึ ษาเอกชน และ กจิ การ In-House Training ตามพระราชกฤษฎกี า ออกตามความในประมวลรษั ฎากรวา ดว ยการยกเวน รษั ฎากร (ฉบบั ท่ี 284) พ.ศ. 2538 แกไ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชกฤษฎกี า ฉบบั ท่ี 588 (พ.ศ.2558) ใชบ งั คบั 11 กรกฎาคม 2558 เปน ตน ไป
หนา้ 69 7. กิจการ SMEs ซื้อคอมพิวเตอรส ว นทเี่ ปน Hardware และอุปกรณตอเชื่อม เมือ่ 2 มีนาคม 2545 จะคํานวณคา เสอ่ื มราคาอยา งไร (1) หักตามวธิ ปี กติ 5 ป (2) หกั ทนั ที 40 % ของมลู คา ตน ทนุ สว นทเ่ี หลอื ใหค าํ นวณหกั ตามวธิ ปี กติ 3 ป (3) หกั ทนั ที 25 % ของมลู คา ตน ทนุ สว นทเ่ี หลอื ใหค าํ นวณหกั ตามวธิ ปี กติ 3 ป (4) หกั ทนั ที 20 % ของมลู คา ตน ทนุ สว นทเ่ี หลอื ใหค าํ นวณหกั ตามวธิ ปี กติ 5 ป ตอบ (2) หกั ทนั ที 40 % ของมลู คา ตน ทุน สว นทเ่ี หลอื ใหค าํ นวณหกั ตามวธิ ปี กติ 3 ป ตามพระราชกฤษฎกี า วา ดว ยการหกั คา สกึ หรอและคา เสอ่ื มราคาของทรพั ยส นิ (ฉบับท่ี 395) พ.ศ.2545 มาตรา 4 จตั วา (2) 8. ขอ ใดเปน คาํ ตอบทถ่ี กู ตอ ง (1) การนาํ สนิ คา จากเขต EPZ เขา ในประเทศ ตอ งเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ 7 % (2) ของที่ไมเกี่ยวกับการผลิต ถานําเขาในเขต EPZ เสียภาษีมูลคาเพิ่ม 0 % (3) การนาํ ของออกจากเขต EPZ หนึง่ ไปยงั เขต EPZ หนึง่ เสยี ภาษี 7 % (4) การสง สนิ คา ไปตา งประเทศ โดยทางไปรษณยี เสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ 0 % ตอบ (1) การนาํ สนิ คา จากเขต EPZ เขา ในประเทศ ตอ งเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ 7 % อา งองิ ขอ หารอื เลขทห่ี นงั สอื กค 0702/พ./4623 วนั ท่ี 4 สงิ หาคม 2551 เรอ่ื งภาษมี ลู คา เพม่ิ กรณกี ารนาํ สินคา เขา และออกเขตปลอดอากร 9. จากกฎกระทรวง129 ในกรณที บ่ี คุ คลใดตอ งเสยี เงนิ เพิม่ อากรจะตอ งชาํ ระภายในกว่ี นั นบั แตไ ดร บั แจง จากหนกั งานเจา หนา ท่ี (1) 7 วนั (2) 10 วนั (3) 15วนั (4) 20วนั ตอบ (2) 10 วัน ตามกฎกระทรวง 129 ขอ 3 บุคคลที่ตอ งเสียเงินเพิ่มอากรจะตองทําคํารองเปน หนงั สอื ยน่ื ตอ พนกั งานเจา หนา ท่ีชแ้ี จงเหตผุ ลทม่ี ไิ ดป ฏบิ ตั ติ ามบทบญั ญตั หิ มวด 6 และหมวด 7 ลกั ษณะ 2 โดย สจุ รติ มไิ ดม เี จตนาหลกี เลีย่ งอากรและยนิ ยอมชาํ ระเงนิ เพม่ิ อากรภายในสบิ วนั นบั แตว นั ไดร บั แจง จากพนกั งาน เจาหนา ทต่ี ามทพ่ี นกั งานเจาหนา ทจ่ี ะพจิ ารณาตามหลกั เกณฑด งั ตอ ไปน้ี (1) กรณีตราสารไดปดแสตมปแลวแตมิไดป ดแสตมปบรบิ ูรณเสียรอยละ 20 ของเงินเพมิ่ อากรทก่ี าํ หนดไวใ นมาตรา 113 หรอื มาตรา 114 (2) กรณตี ราสารมไิ ดป ด แสตมป เสยี รอ ยละ 25 ของเงนิ เพม่ิ อากรทก่ี าํ หนดไวใ นมาตรา 113 หรอื มาตรา 114 (3) กรณมี ไิ ดอ อกใบรบั ตามมาตรา 105 เสยี รอ ยละ 50 ของเงนิ เพม่ิ อากรทก่ี าํ หนดไวใ น มาตรา 114 (4) กรณีเจาของมหรสพเริ่มกระทํากจิ การใหม และไมเคยถกู เรียกเงินเพิ่มอากร เสียรอย ละ 20 ของเงนิ เพม่ิ อากรทก่ี าํ หนดไวใ นมาตรา 138 ทวิ หรอื มาตรา 140 (5) กรณนี อกจาก (4) เสยี รอ ยละ 25 ของเงนิ เพม่ิ อากรทก่ี าํ หนดไวใ นมาตรา 138 ทวิ หรอื มาตรา 140 ทวิ
หนา้ 70 ทง้ั น้ี เวน แตอ ธบิ ดกี รมสรรพากรจะพจิ ารณาอนมุ ตั ิ ใหเ สยี เงนิ เพม่ิ อากรนอ ยกวา (1) ถงึ (5) แตต อ งไมต าํ่ กวา รอ ยละ 1 ตอ เดอื นหรอื เศษของเดอื นของเงนิ อากรโดยเรม่ิ นบั แตว นั ทต่ี อ งปด แสตมปบ รบิ รู ณ หรอื วนั ทต่ี อ งเสยี อากรมหรสพ 10. จาก Road Map ของกรมสรรพากร กาํ หนดยทุ ธศาสตรท จ่ี ะเปน หนว ยงานอสิ ระทม่ี อี สิ ระจากระบบราชการ ในดา นงบประมาณและบคุ ลากรในป พ.ศ.ใด (1) พ.ศ. 2548 (2) พ.ศ. 2549 (3) พ.ศ. 2550 (4) พ.ศ 2552 11. ขอตอไปนี้ ไมใชชนิดของไวรัสคอมพิวเตอร (1) Worm (2) Trojan (3) Hoax (4) Puddle อธบิ ายเพม่ิ เตมิ Worm (วอรม (Worm) หรอื หนอนอนิ เทอรเ นต็ เปน ไวรสั คอมพวิ เตอรท ส่ี ามารถทาํ สาํ เนาหรอื เพม่ิ ปรมิ าณตวั เองไดโ ดยอตั โนมตั ิ เพอ่ื แพรก ระจายไปยงั เครือ่ งคอมพวิ เตอรอ น่ื ๆ ไดอ ยา งรวดเรว็ การ ปอ งกนั ไวรสั ประเภทนจ้ี งึ ตอ งตดิ ตง้ั หรอื อพั เดทโปรแกรมคน หาและกําจดั ไวรสั คอมพวิ เตอรใ หท นั สมัยอยเู สมอ อาการของเครอ่ื งคอมพวิ เตอรท ต่ี ดิ ไวรสั ประเภทน้ี คอื เครอ่ื งคอมพวิ เตอรจ ะทาํ งานชา ลงจนไมส ามารถใชง านได ไมส ามารถเชอ่ื มตอ กบั ระบบเครอื ขา ยได ตวั อยา งไวรสั ประเภทนไ้ี ดแ ก WORM_OPASERV.E, WORM_KWBOT.C, WORM_FRETHEM.M และ WORM_YAHA.K เปน ตน ) Trojan (มา โทรจนั หรอื ไวรสั โทรจนั ฮอรส (Trojan horse) เปน ไวรสั ชนดิ ทาํ งานแบบอตั โนมตั ิ ตามทไ่ี ดต ง้ั คา ไวห รอื รอรบั คาํ สง่ั จากระบบเครอื ขา ยตวั อยา งอาการของเครอ่ื งคอมพวิ เตอรท ต่ี ดิ ไวรสั ชนดิ น้ี คอื เครอ่ื งคอมพวิ เตอรจ ะปด หรอื รสี ตารท เครอ่ื งเองโดยไมไ ดส ง่ั และลบไฟลใ นระบบคอมพวิ เตอรเ อง เปน ตน มา โทร จนั มกั จะไมม กี ารขยายหรอื ทาํ สาํ เนาตวั เองเหมอื นไวรสั ประเภทอน่ื ๆ แตจ ะทาํ การซอ นตวั เองไวใ นทต่ี า งๆ ภายใน เครื่องคอมพิวเตอรเพื่อรอรับคําสั่งจากระบบเครือขาย โดยมีจุดประสงคในการขโมยขอมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร ทต่ี ดิ ไวรสั ) Hoax (โฮกซ (Hoax) เปนไวรสั ที่ไมกอใหเกิดความเสียหายมากมายนักเนื่องจากเปนไวรัสที่มี ลักษณะเหมือนจดหมายลูกโซ มลี ักษณะเปนอีเมลและการแชท โดยที่มีเนื้อหาหรือจุดประสงคเพื่อหลอกลวงผูอาน ทาํ ใหเ กดิ ความสบั สน วนุ วาย ขอ ความทใ่ี ชจ ะดนู า สนใจ ตน่ื เตน โดยอาจมกี ารอา งองิ ถงึ บรษิ ทั ใหญๆ เพอ่ื ใหผ รู บั เชอ่ื ถอื การปอ งกนั ไวรสั ประเภทนก้ี เ็ พยี งแตไ มต อ งสง ตอ ขอ ความหรอื ขอ มลู นน้ั )
หนา้ 71 12. ถา ตอ งการคน หาขอ มลู ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คล จะตอ งเขา ไปทเ่ี มนใู ดทห่ี นา จอหลกั ของระบบIntranet (1) บริการขอมลู (2) หองขาว (3) ระบบงาน (4) ขอ มูลภาษี ตอบ (1) บรกิ ารขอ มลู โดยเขา Intranet – บรกิ ารขอ มลู – คน หาขอ มลู ภาษี – Business Online 13. ยทุ ธศาสตรข องกรมสรรพากรขอ หนง่ึ คอื การใช IT เปน แกนนาํ ผลกั ดนั องคก ร โดยมตี วั ชว้ี ดั คอื (1) ผลการจดั เกบ็ ภาษตี ามประมาณการ (2) การเพมิ่ ระดบั ความพอใจในการใหบ รกิ ารแกป ระชาชน (3) การใช IT ในการใหบ รกิ ารในการบรหิ ารงานภายในองคก ร (4) การกาํ กบั ดแู ลผเู สยี ภาษดี ว ยความรวดเรว็ ขน้ึ 14. กรณบี รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลอน่ื จา ยเงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา40(8) แหง ประมวลรษั ฏากร เฉพาะทเ่ี ปน คา บรกิ ารใหก บั ธนาคารพาณชิ ยแ ละบรษิ ทั เงนิ ทนุ บรษิ ทั หลกั ทรพั ยห รอื บรษิ ทั เครดติ ฟองซเิ อร โดย เปน การจา ยคา บรกิ ารทเ่ี ขา ลกั ษณะเปน สญั ญาระยะยาว ขอ ใดตอ ไปนท้ี ถ่ี กู ตอ งทีส่ ดุ (1) การจา ยคา บรกิ ารในแตล ะครง้ั ตอ งมจี าํ นวนตง้ั แตห น่ึงพนั บาทขน้ึ ไปผจู า ยเงนิ ไดจ ง่ึ จะมหี นา ทต่ี อ งหกั ภาษเี งนิ ได ณ ทจ่ี า ย (2) การจา ยคา บรกิ ารครง้ั แรกไมถ งึ หนง่ึ พนั บาทผจู า ยเงนิ ไดไ มม หี นา ทีต่ อ งหกั ภาษเี งนิ ได ณ ทจ่ี า ย (3) การจา ยคา บรกิ ารหลายๆ ครง้ั ซง่ึ แตล ะครง้ั มจี ํานวนไมถ งึ หนง่ึ พนั บาท แตเ มอ่ื นาํ ไปรวมกนั แลว มจี าํ นวน ตง้ั แตห นง่ึ พนั บาทขน้ึ ไป ผจู า ยเงนิ มหี นา ทต่ี อ งหกั ภาษเี งนิ ได ณ ทจ่ี า ย (4) ผิดทุกขอ ตอบ (4) ผดิ ทกุ ขอ เนอ่ื งจากตามคาํ สง่ั กรมสรรพากร ท่ี ป.112/2545 ขอ 4 กรณบี รษิ ทั หรอื หา ง หนุ สว นนติ บิ คุ คล หรือนติ บิ คุ คลอน่ื จา ยเงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(8) แหง ประมวลรษั ฎากร เฉพาะทเ่ี ปน คา บรกิ ารใหก บั ธนาคารตามกฎหมายวา ดว ยการธนาคารพาณชิ ย และบรษิ ทั ตามกฎหมายวา ดว ยการประกอบ ธุรกิจเงินทุน ธุรกจิ หลักทรัพย และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร โดยเปนการจายคาบริการที่เขาลักษณะเปนสญั ญาระยะ ยาว หากการจา ยคา บรกิ ารไมถ งึ หนง่ึ พนั บาท ผจู า ยเงนิ ไมม หี นา ทต่ี อ งหกั ภาษเี งนิ ได ณ ทจ่ี า ย แตห ากการจา ย คา บรกิ ารในครง้ั ตอ ไปซง่ึ เมอ่ื นาํ ไปรวมกบั คา บรกิ ารครง้ั ทผ่ี า นมาทม่ี กี ารจา ยไปแลว เปน จาํ นวนตง้ั แตห นง่ึ พนั บาท ขน้ึ ไป ผจู า ยเงนิ มหี นา ทต่ี อ งหกั ภาษเี งนิ ได ณ ทจ่ี า ย ในอตั รารอ ยละ 3.0 ของคา บรกิ าร โดยจะตอ งนาํ เงนิ คา บรกิ ารทจ่ี า ยในครง้ั กอ น ๆ มารวมคาํ นวณเพอ่ื หกั ภาษเี งนิ ได ณ ทจ่ี า ยดว ย
หนา้ 72 15. กรณธี นาคารนาํ สง เงนิ ตามคาํ สง่ั อายดั ใหแ กก รมสรรพากรครบถว นแลว (1) ตอ งทาํ คาํ สง่ั ถอนอายดั เสนอ (2) ตอ งทาํ คาํ สัง่ ถอนอายดั กรณธี นาคารนาํ สง แลว ยงั คงมเี งนิ เหลอื อยใู นบญั ชเี งนิ ฝากของผคู า งภาษี (3) ไมต อ งนาํ คาํ สง่ั ถอนการอายดั เพราะเมอ่ื นาํ เงนิ สง ครบตามคาํ สง่ั อายดั แลว ถอื วา คาํ สง่ั อายดั นน้ั สน้ิ ผล (4) ไมต อ งนาํ คาํ ส่ังถอนการอายดั ทกุ กรณี ตอบ (3) ตอ งทาํ คาํ สง่ั ถอนอายดั เสนอ ตามระเบยี บกรมสรรพากรวา ดว ยการอายดั ทรพั ยส นิ ตามความใน มาตรา 12 แหง ประมวลรษั ฎากร พ.ศ. 2546 ขอ 17 การถอนคาํ สง่ั อายดั ทรพั ยส นิ เมอ่ื เจา พนกั งานไดร บั ชาํ ระคา ภาษอี ากรคา งจากผคู า งภาษอี ากรหรอื บคุ คลภายนอกผถู กู สง่ั อายดั ทรพั ยส นิ ไวค รบถว นแลว หรืออาจดว ยเหตอุ น่ื ใด เชน สทิ ธเิ รยี กรอ งของผคู า งภาษอี ากรอนั มตี อ บคุ คลภายนอกมไิ ดม อี ยจู รงิ ใหผ มู อี าํ นาจออกคาํ สง่ั อายดั มคี าํ สง่ั ถอนการอายดั ตามแบบ ภ.ส.21/1 ทอ่ี ธบิ ดกี าํ หนด หากมที รพั ยส นิ อยกู บั เจา พนกั งานกใ็ หค นื ใหแ กผ ถู กู อายดั ไป 16. อาํ นาจการจาํ หนา ยหนภ้ี าษอี ากรเปน อาํ นาจของ (1) สรรพากรภาคสาํ หรบั หนท้ี ม่ี จี าํ นวนไมเ กนิ 1,000,000.- บาท (2) สรรพากรภาคสาํ หรบั หนท้ี ม่ี จี าํ นวนไมเ กนิ 5,000,000.- บาท (3) อธบิ ดี สาํ หรบั หนท้ี ม่ี จี าํ นวนไมเ กนิ 50,000,000.- บาท (4) ถูกทั้ง ขอ (2) และ (3) ตอบ (4) ถูกทั้งขอ (2) และ (3) ตามระเบียบกระทรวงการคลัง วาดวยการจําหนายหนภี้ าษีอากร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2547 ขอ 3 ใหย กเลกิ ความใน 6.1 6.2 และ 6.3 ของขอ 6 แหง ระเบยี บกระทรวงการคลงั วา ดว ยการ จาํ หนา ยหนภ้ี าษอี ากร พ.ศ. 2545 และใหใ ชค วามตอ ไปนแ้ี ทน “6.1 หนภ้ี าษอี ากรทีม่ จี าํ นวนไมเ กนิ 5,000,000 บาท ใหส รรพากรภาค หรือ ผอู าํ นวยการสาํ นกั บรหิ ารภาษธี รุ กจิ ขนาดใหญ แลว แตก รณี เปน ผอู นญุ าตจาํ หนา ย 6.2 หนภ้ี าษอี ากรทีม่ จี าํ นวนไมเ กนิ 50,000,000 บาท ใหอ ธบิ ดเี ปน ผอู นญุ าต จาํ หนา ย 6.3 หนภ้ี าษอี ากรทีม่ จี าํ นวนเกินกวา 50,000,000 บาท ใหร องปลัดกระทรวง หรือ คณะกรรมการเพอ่ื พจิ ารณาและอนญุ าตจาํ หนา ยหนภ้ี าษอี ากรทร่ี องปลดั กระทรวงแตง ตง้ั เปน ผอู นญุ าตจาํ หนา ย”
หนา้ 73 จติ อาสาปน โตฯ กลมุ 1 ขอ สอบชดุ ท่ี 8 (ขอ 1-16) 1. เนอ่ื งจากกรมสรรพากรไดน าํ ระบบ IT มาใชใ นองคก ร ทาํ ใหเ กดิ ปญ หาเจา หนา ทเ่ี กดิ ความสบั สน ในการกาํ หนด รหสั ผใู ชง าน (User ID) ดงั นน้ั กรมสรรพากรจงึ ไดพ ฒั นาระบบตรวจสอบรหสั ผใู ชง าน (User ID) ใหถ กู ตอ ง จงึ ได สง่ั ใหเ จา หนา ทต่ี รวจสอบ และปรบั ปรงุ รหสั ผใู ชง าน (User ID) ใหถ กู ตอ งใหเ สรจ็ สน้ิ ภายในวนั ท่ี (1) 30 กรกฎาคม 2547 (2) 31 กรกฎาคม 2547 (3) 30 สิงหาคม 2547 (4) 31 สิงหาคม 2547 เกา ไป 2. ขน้ั ตอนการปรบั ปรงุ ตรวจสอบรหสั ผใู ชง าน (User ID) ผา นเครอื ขา ย เกา ไป (1) เขา หวั ขอเกีย่ วกบั กรมสรรพากร > ระบบงาน > ระบบตรวจสอบ User ID (2) เขาหัวขอระบบงาน > ระบบงานยอย > ระบบตรวจสอบ User ID (3) เขา หวั ขอ www.rd.go.th > ระบบงาน > ระบบงานยอ ย > ระบบตรวจสอบ User ID (4) เขาหัวขอDownload > ระบบงาน > ระบบตรวจสอบ User ID 3. การยื่นคําขอจดทะเบียนภาษีมูลคา เพิ่ม (ภ.พ.01) หรือ ภาษีธุรกิจเฉพาะ (ภ.ธ.01) มีกี่วิธี (1) 1 วธิ ี (2) 2 วธิ ี (3) 3 วธิ ี (4) ขอ 1 – 3 ถกู อา งองิ : 1 .ยื่นแบบคําขอผานทางอินเทอรเน็ตที่ www.rd.go.th 2. ยน่ื แบบคาํ ขอดว ยกระดาษ ณ หนว ยจดทะเบยี นทต่ี ง้ั สถานประกอบการ 4. การยน่ื คาํ ขอจดทะเบยี น ภ.พ.01, ภ.ธ.01 ผา นเครอื ขา ยทางเวป็ ไซด www.rd.go.th ผรู บั ผดิ ชอบในการเรยี กดู คาํ ขอจดทะเบยี นทางอนิ ทราเนต็ ทกุ วนั ไดแ ก (1) ทีมกํากับดูแล (2) ฝายวางแผน และประเมนิ (3) ฝายกรรมวธิ ี (4) ทีมบรหิ ารการสํารวจ อา งองิ : ตามขอ 7.1.1 ของแนวปฎบิ ตั กิ รมสรรพากรท่ี มจ 6/2550 เร่ืองการรบั คาํ ขอจดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ และภาษธี รุ กจิ เฉพาะผา นเครอื ขา ยอนิ เตอรเ นต็
หนา้ 74 5. การกาํ กบั ดแู ลผเู สยี ภาษโี ดยใกลช ดิ เปน รายผปู ระกอบการและใหเ ปน ปจ จบุ นั กรมสรรพากรไดก าํ หนดแนวทาง ปฏบิ ตั ิ ใหป ฏบิ ตั งิ านโดยใชแ นวทางปฏบิ ตั ทิ เ่ี ทา ใด (1) ท่ี มก.6/2546 ลงวนั ท่ี 23 ก.ค. 2546 เกา ไป (2) ท่ี มก.8/2546 ลงวนั ที่ 19 ส.ค. 2546 (3) ท่ี มก.9/2546 ลงวนั ท่ี 22 ส.ค. 2546 (4) ไมม ขี อ ใดถกู 6. กาํ หนดเวลาการตรวจสภาพกจิ การ เมอ่ื ไดก าํ หนดแผนงานการตรวจสภาพกจิ การและไดร บั อนมุ ตั จิ ากสรรพากร พื้นที่แลว ใหออกตรวจสภาพกิจการภายในกี่วัน (1) ออกตรวจภายใน 3 เดอื น นบั แตว นั บนั ทึกความเหน็ บนระบบเครอื ขา ย เกา ไป (2) ออกตรวจภายใน 3 เดอื น นบั แตว นั ออกตรวจสภาพกจิ การ (3) ออกตรวจภายใน 90 วนั นบั แตว นั บนั ทกึ ความเหน็ บนระบบเครอื ขา ย (4) ออกตรวจภายใน 90 วนั นบั แตว นั ออกตรวจสภาพกจิ การ 7. กาํ หนดเวลาการรายงานผลการตรวจสภาพกจิ การตอ ผบู งั คบั บญั ชา หากไมส ามารถสรปุ ผลการตรวจใหแ ลว เสรจ็ ได ใหร ายงานผลใหผ บู งั คบั บญั ชาทราบในเบอ้ื งตน กอ นโดยไมต อ งบนั ทกึ ในเมนู 1.3 ตอ เม่ือดาํ เนนิ การ จนกระทั่งยุติเรื่องการตรวจสภาพกจิ การ (ยุตสิ ํานวน) หรือแลวเสร็จ และผบู งั คบั บญั ชาของหนว ยงานอนมุ ตั แิ ลว จงึ บนั ทกึ ผลการตรวจ และวนั เดอื น ป ยุตเิ รอ่ื งในเมนู 1.3 ทันที (1) ภายใน 15 วนั ทาํ การนบั แตว นั ออกตรวจสภาพกจิ การ เกา ไป (2) ภายใน 15 วนั นบั แตว นั ออกตรวจสภาพกจิ การ (3) ภายใน 30 วนั ทาํ การนบั แตว นั ออกตรวจสภาพกจิ การ (4) ภายใน 30 วนั นบั แตว นั ออกตรวจสภาพกจิ การ 8. กรมสรรพากรไดก าํ หนดหลกั เกณฑก ารวดั ประสทิ ธภิ าพการปฏบิ ตั งิ าน ของการกาํ กบั ดแู ลผเู สยี ภาษี ในกลมุ สํานักงานสรรพากรภาค 1 - 3 ใหถ ือปฏบิ ตั ิ ตามหนงั สอื มก.ท่ี กค 0706 / ว. 1496 ลงวนั ท่ี 12 ก.พ. 2547 กาํ หนดให (1) การปฏบิ ตั งิ านบนเครอื ขา ยรษั ฎากร 45 คะแนน , การตรวจสภาพกจิ การ 45 คะแนน , การปรบั ปรงุ ฐาน ขอ มูล 10 คะแนน (2) การปฏบิ ตั งิ านบนเครอื ขา ยรษั ฎากร 40 คะแนน , การตรวจสภาพกจิ การ 40 คะแนน , การปรบั ปรงุ ฐานขอ มลู 20 คะแนน (3) การปฏบิ ตั งิ านบนเครอื ขา ยรษั ฎากร 35 คะแนน , การตรวจสภาพกจิ การ 35 คะแนน , การปรบั ปรงุ ฐานขอ มลู 30 คะแนน (4) การปฏบิ ตั งิ านบนเครอื ขา ยรษั ฎากร 50 คะแนน , การตรวจสภาพกจิ การ 50 คะแนน เกา ไป
หนา้ 75 9. แนวทางปฏบิ ตั กิ รมสรรพากรเรอ่ื งการวเิ คราะหแ ละตรวจนติ บิ คุ คลทม่ี ภี าษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลชาํ ระไวเ กนิ ไดก าํ หนดแนวปฏบิ ตั ทิ เ่ี ทา ใด (1) ท่ี มก.6 / 2546 เกา ไป (2) ท่ี มก.7 /2546 (3) ท่ี มก.8 / 2546 (4) ท่ี มก.9 /2546 10. การตดิ ตามนติ บิ คุ คลตง้ั ใหมเ ขา ระบบกาํ กบั ดแู ล กรมสรรพากรกาํ หนดใหผ รู บั ผิดชอบตดิ ตามนติ บิ คุ คลตง้ั ใหม ระบบเขา กาํ กบั ดแู ล คอื (1) ฝาย วผ. , ทีมกํากับดแู ล , ฝาย บท. (2) ฝาย บท. , ทีมกํากบั ดูแล เกา ไป (3) ฝาย วผ. , ทีมกาํ กบั ดูแล , ฝาย บท. , ฝาย ภค. (4) ทีมกาํ กบั ดูแล , ฝาย บท. , ฝาย วผ. 11. ขอ ใดไมใ ชค ณุ สมบตั ขิ องผปู ระกอบการขายสง (1) เปนบริษัทจํากัดหรือบริษทั มหาชนจดทะเบียนภาษีมลู คาเพมิ่ มีทุนชําระแลว 10 ลานบาท (2) ประกอบกจิ การมาไมน อ ยกวา 12 เดอื นสง สนิ คา ไปขายตา งประเทศไมต าํ่ กวา รอ ยละ 50 (3) ยน่ื แบบผา น internet และสาํ นกั งานสรรพากรพน้ื ทส่ี าขาจะไดร บั คนื ภาษภี ายใน 15 วนั และ 45 วนั นบั แตว นั ทย่ี น่ื แบบแสดงรายการ (4) ไดร บั สทิ ธเิ ปนเวลา 2 ปน บั แตเ ดอื นภาษที อ่ี ธบิ ดกี รมสรรพากรอนมุ ตั ิ อา งองิ : ตามคาํ สง่ั กรมสรรพากรท่ี ท.128/2560 12. บรษิ ทั เอ จาํ กดั เปน นติ บิ คุ คลตา งประเทศประกอบกจิ การขนสง ผา นประเทศตา งๆรวมทง้ั ประเทศไทยตอ งใช แบบอะไรยน่ื ชาํ ระภาษเี งนิ ไดแ ละยน่ื เมอ่ื ไร (1) แบบภ.ง.ด. 52 ภายใน 150 วนั นบั แตว นั สดุ ทายของรอบระยะเวลาบญั ชี (2) แบบ ภ.ง.ด. 50 ภายใน 150 วนั นบั แตว นั สดุ ทายของรอบระยะเวลาบญั ชี (3) แบบ ภ.ง.ด. 53 ภายในวนั ท่ี 7 ของเดือนถดั ไป (4) แบบ ภ.ง.ด. 54 ภายในวนั ท่ี 7 ของเดือนถดั ไป 13. ขอ ใดถกู ตอ งทส่ี ุด ในการจดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ และภาษธี รุ กจิ เฉพาะผา น internet (1) ยน่ื ไดท กุ วนั ถงึ เวลา 24.00น ภายในเวลาทก่ี ฎหมายกาํ หนด (2) ยน่ื เมอ่ื ไรกไ็ ดแ ตต อ งมเี ลขประจาํ ตวั ผเู สยี ภาษี (3) ยน่ื ไดทกุ วันตลอดเวลา 24 ชั่วโมงภายในเวลาท่กี ฎหมายกําหนดและตองมเี ลขประจําตวั ผเู สียภาษี (4) ยน่ื ขอกอ นวนั ทป่ี ระสงคจ ะเปน ผปู ระกอบการจดทะเบยี นลว งหนา ไมน อ ยกวา 30 วนั
หนา้ 76 14. ขอ ใดตอ ไปนถ้ี กู ตอ งทส่ี ดุ ในการท่ี บริษทั เรยี กเกบ็ คา ปรบั งานลา ชา เกนิ กาํ หนดตามเวลาในสญั ญา (1) ตอ งคาํ นวณเปน ฐานรายรบั ในการคาํ นวณภาษมี ลู คา เพม่ิ (2) เปน รายไดค า บรกิ ารนาํ มาคาํ นวณภาษมี ลู คา เพ่ิม (3) เปน รายไดจ ากการขายนาํ มาคาํ นวณภาษมี ลู คา เพม่ิ (4) ไมเ ขา ลกั ษณะรายไดจ ากการขายหรอื บรกิ าร อา งองิ : ตามมาตรา 79 วรรคสอง 15. บรษิ ทั ขายสนิ คา ใหห นว ยราชการไดร บั ชาํ ระคา สนิ คา เมือ่ วนั ท่ี 25 กรกฎาคม 2547 เปน เชค็ ลงวนั ท่ี15 มถิ นุ ายน 2547 บรษิ ทั ตอ งออกใบกาํ กบั ภาษแี ละใบเสรจ็ รบั เงนิ อยา งไร (1) ออกวนั ท่ี 15 มถิ นุ ายน 2547 (2) ออกวนั ท่ี 1 กรกฎาคม 2547 (3) ออกวนั ท่ี 25 กรกฎาคม 2547 (4) ออกวนั ท่ี 30 กรกฎาคม 2547 อา งองิ : ตามคาํ สง่ั กรมสรรพากรที่ ป 51/2537 16. ขอใดไมใชเอกสารประกอบการสงออก (1) Proforma Invoice หรือ Purchase Order (2) Letter of Credit (3) Packing List (4) Tax Invoice อา งองิ : ตามคาํ สง่ั กรมสรรพากรที่ ป 97/2543
หนา้ 77 จติ อาสาปน โตฯ กลมุ 1 ขอ สอบชดุ ท่ี 9 (ขอ 1-16) 1. บริษทั จดทะเบยี นในตลาดหลกั ทรพั ยแ หง ประเทศไทยกอ นป 2544 ในรอบระยะเวลาบญั ชปี 2547 คงจดั เกบ็ ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลในอตั ราใด (1) รอยละ 20 ของกําไรสุทธิ เกา ไป (2) รอยละ 25 ของกําไรสุทธิ (3) รอยละ 25 ของกําไรสุทธิเฉพาะสวนไมเกิน 300 ลาน (4) รอยละ 30 ของกําไรสุทธิ 2. การขอคนื เงนิ ภาษมี ลู คา เพม่ิ นกั ทอ งเทย่ี วจะขอคนื ภาษไี ดต อ งรวมเงนิ ตามแบบ ภ.พ.10 ทกุ ฉบบั ไดเ ทา ใด (1) ไมต ่าํ กวา 5,000 บาท (2) ตง้ั แต 5,000 บาทขน้ึ ไป (3) ตง้ั แต 20,000 บาท (4) ไมต ่าํ กวา 2,000 บาท อา งองิ : ระเบียบกรมสรรพากรวาดวยการคนื ภาษีมูลคาเพม่ิ ใหนักทอ งเที่ยว พ.ศ.2551 ขอ 9 3. อายกุ ารเกบ็ รกั ษาแบบแสดงรายการภาษหี กั ณ ทจ่ี า ยกาํ หนดตอ งเกบ็ รกั ษาไวก ป่ี (1) 1 ป (2) 2 ป (3) 5 ป (4) 10 ป อา งองิ : พระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ. 2543 มาตรา 5 ไดบ ญั ญตั ใิ หร ฐั มนตรวี า การกระทรวงพาณชิ ยร กั ษาการ ตามพระราชบญั ญตั ิ และตามมาตรา 14 ไดบ ญั ญตั ใิ หผ มู หี นา ทจ่ี ดั ทาํ บญั ชตี อ งเกบ็ รกั ษาบญั ชแี ละเอกสารทต่ี อ งใช ประกอบการลงบญั ชีไวเปนเวลาไมนอยกวาหาป นับแตวนั ปด บัญชีหรือจนกวาจะมกี ารสงมอบบัญชี และเพื่อ ประโยชนใ นการตรวจสอบ อธบิ ดมี อี าํ นาจกาํ หนดใหผ มู หี นา ทจ่ี ดั ทาํ บญั ชเี กบ็ รกั ษาบญั ชแี ละเอกสารทต่ี อ งใช ประอบการลงบญั ชไี วเ กนิ หา ป แตไ มเ กนิ เจด็ ปไ ด สว นการเกบ็ รกั ษาเอกสารภาษมี ลู คา เพม่ิ ตามประมวลรษั ฎากร มาตรา 87/3 กาํ หนดใหผ ปู ระกอบการจดทะเบยี นตอ งเกบ็ รกั ษาไวเ ปน เวลาไมน อ ยกวา หา ปน บั แตว นั ทไ่ี ดย น่ื แบบ แสดงรายการภาษหี รอื วนั ทาํ รายงาน แลว แตก รณแี ละในกรณที เ่ี หน็ สมควร อธบิ ดจี ะกาํ หนดใหเ กบ็ และรกั ษาไว เกนิ หา ป แตไ มเ กนิ เจด็ ป 4. บรษิ ทั A ไดจ า งนาย ก. มาเปน ท่ีปรกึ ษาทางดา นบญั ชภี าษอี ากร จายคา จา งใหเดือนละ 10,000 บาท เงนิ ไดท น่ี าย ก. ไดร บั เปน เงนิ ไดป ระเภทใด (1) มาตรา 40(1) (2) มาตรา 40(2) (3) มาตรา 40(6) (4) มาตรา 40(8)
หนา้ 78 5. บริษัท ก. จํากัด เปนบริษัทในประเทศไทย ประกอบกิจการขายสินคาทําสัญญาวาจางบริษัท A ใน ตา งประเทศใหเ ปน นายหนา ตดิ ตอ หาลกู คา ในตา งประเทศ บริษทั ก. จาํ กดั จา ยคา นายหนา ใหบ ริษทั A จะตอ งนาํ สง ภาษมี ลู คา เพม่ิ หรอื ไม (1) ไมต อ งยน่ื แบบนาํ สง ภาษมี ลู คา เพม่ิ เพราะเปน การกระทาํ ในตา งประเทศ (2) ไมต อ งยน่ื แบบนาํ สง ภาษมี ลู คา เพม่ิ เพราะเปน การกระทาํ ในตา งประเทศและมิไดใ ชบ รกิ ารในประเทศ (3) ตอ งยน่ื แบบนาํ สง ภาษมี ลู คา เพม่ิ เพราะเปน การกระทาํ ในตา งประเทศและใชบ รกิ ารในประเทศ (4) ตอ งยน่ื แบบนาํ สง ภาษมี ลู คา เพม่ิ เพราะเปน การจา ยเงนิ ไปตา งประเทศ อา งองิ : ตามคําสั่งกรมสรรพากร ที่ ป 104/2544 เรื่อง การเสียภาษีมูลคาเพิ่ม กรณีการใหบริการทกี่ ระทําใน ตา งประเทศ และไดม กี ารใชบ รกิ ารนน้ั ในราชอาณาจกั รตามมาตรา 77/2 แหง ประมวลรษั ฎากร และกรณี การ ใหบ รกิ ารทก่ี ระทาํ ในราชอาณาจกั รและไดม กี ารใชบ รกิ ารนน้ั ในตา งประเทศ ตามมาตรา 80/1(2) แหง ประมวล รัษฎากรขอ 6 (1) 6. ขอ ใดไมใ ชอ าํ นาจการพจิ ารณางดเบย้ี ปรบั ภาษมี ลู คา เพม่ิ ของสรรพากรภาค (1) ไมไดจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่ม แตยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลคาเพิ่มโดยเขาใจวาไดจดทะเบียนแลว (2) ไมไ ดจ ดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ เนอ่ื งจากเขา ใจวา เปน กจิ การทไ่ี ดร บั ยกเวน ภาษมี ลู คา เพม่ิ และเปน ผูประกอบการเปนบุคคลธรรมดา (3) ไมไ ดจ ดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ เนอ่ื งจากไมท ราบวา เมอ่ื รายรบั เกนิ 1,200,000 ตอ ปต อ งจดทะเบยี น ภาษีมูลคาเพิ่มและผูประกอบการเปนบุคคลธรรมดา (4) นาํ ภาษซี อ้ื ทเ่ี กดิ จากการซอ้ื ทรพั ยส นิ เพอ่ื ใชห รอื จะใชใ นกจิ การประเภททไ่ี มต อ งเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ หรอื นาํ ภาษที เ่ี กดิ จากรายจา ยของกจิ การประเภททไ่ี มต อ งเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ มาหกั ในการคาํ นวณภาษมี ลู คา เพม่ิ อา งองิ : คําสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.121/2545 เรื่อง มอบหมายใหสั่งและดําเนินการเกี่ยวกับการพจิ ารณางดหรือ ลดเบย้ี ปรบั ภาษเี งนิ ได ภาษมี ลู คา เพม่ิ และภาษธี รุ กจิ เฉพาะ และ คาํ สง่ั กรมสรรพากร ท่ี ท.ป.81/2542 เร่ือง หลักเกณฑก ารงดหรือลดเบี้ยปรับหรือเงินเพิ่มภาษเี งนิ ได ภาษมี ลู คา เพม่ิ และภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ตามมาตรา 22 มาตรา 26 มาตรา 67 ตรี มาตรา 89 และมาตรา 91/21 (6) แหง ประมวลรัษฎากร 7. หา งหนุ สว นเจรญิ ดี เปน หา งหนุ สว นทต่ี ง้ั ขน้ึ ตามกฎหมายไทยไดร บั รายไดเ งนิ ปน ผลจากบรษิ ทั ทต่ี ง้ั ขน้ึ ตาม กฎหมายไทย จะไดร บั ยกเวน ไมต อ งนาํ เงนิ ปน ผลมารวมคาํ นวณเปน รายไดเ สยี ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลหรอื ไม (1) ใหม สี ทิ ธนิ าํ รายไดเ งนิ ปน ผลไปรวมคาํ นวณเพอ่ื เสยี ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลเพยี งกง่ึ หนง่ึ (2) จะตอ งนาํ รายไดจ ากเงนิ ปนผลไปรวมคาํ นวณเพอ่ื เสยี ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลเตม็ จาํ นวนทไ่ี ดร บั (3) มสี ทิ ธไิ ดร บั ยกเวน ไมต อ งนาํ รายไดเ งนิ ปน ผลไปรวมคาํ นวณเปน รายไดท ง้ั จาํ นวน (4) มสี ทิ ธไิ ดร บั ยกเวน ไมต อ งนาํ รายไดเ งนิ ปน ผลไปรวมคาํ นวณเปน รายไดเ พยี งกง่ึ หนง่ึ 8. “กองทนุ รวม” ตามมาตรา 39 แหงประมวลรษั ฎากร จายเงนิ ปนผลใหผ ลู งทนุ ตอ งหกั ภาษเี งนิ ได ณ ท่ีจาย หรือไม (1) ไมต อ งหกั ภาษี ณ ทจ่ี า ย (2) ตองหักภาษี ณ ทีจ่ ายในอัตรารอยละ 1 (3) ตอ งหักภาษี ณ ท่ีจา ยในอตั รารอยละ 10 (4) ไมต อ งหกั ภาษเี งนิ ได ณ ทจ่ี า ยเนอ่ื งจากกองทนุ รวมไมม หี นา ทต่ี อ งเสยี ภาษี
หนา้ 79 9. กรณใี ดในขอ ตอ ไปนไ้ี มใ ชก ารประเมนิ ผลตามแผนยทุ ธศาสตรข องกรมสรรพากร (1) การจัดเก็บภาษีสรรพากรตามประมาณการ (2) การกาํ กบั ดแู ลผเู สยี ภาษตี ามรอบภาษี , การนาํ ผเู สยี ภาษรี ายใหมเ ขา ระบบ (3) ความสามารถในการลดคา ใชจ า ยในการจัดเกบ็ ภาษตี อ ผลการจดั เกบ็ ภาษี (4) การพฒั นาระบบ IT ใหมเ พอ่ื บรกิ ารผเู สยี ภาษแี ละบรหิ ารงานภายใน 10. คาํ รบั รองการปฏบิ ัตริ าชการ (Commitment) ระหวางกรมสรรพากรกับกระทรวงการคลงั มลี ักษณะเปน (1) สญั ญาฝา ยเดยี ว (2) คาํ รบั รองฝา ยเดยี ว (3) สญั ญา 2 ฝา ย (4) คํารับรอง 2 ฝาย อา งองิ : คาํ รับรองการปฎบิ ตั ิราชการ กรมสรรพากร ประจาํ ปงบประมาณ พ.ศ. 2558 ขอ 2 เปนคาํ รบั รองฝายเดยี ว 11. การพฒั นาระบบ IT ใหมเ พอ่ื บรกิ ารผเู สยี ภาษแี ละบรหิ ารงานภายในตามแผนยทุ ธศาสตรข องกรมสรรพากร ตอ งทาํ ใหไ ดก ร่ี ะบบงาน (1) 3 ระบบงาน เกา ไป (2) 5 ระบบงาน (3) 6 ระบบงาน (4) 4 ระบบงาน 12. วิสัยทัศนของกรมสรรพากรปจจุบัน คือ (1) ระบบงานมาตรฐานสากล บรกิ ารผเู สยี ภาษแี บบมเี จา ภาพ (2) ระบบงานมาตรฐานสากล มงุ พฒั นาระบบเศรษฐกจิ ของประเทศไทยใหแ ขง ขนั กบั ตา งประเทศ (3) ระบบงานมาตรฐานสากล จดั เกบ็ ภาษที ว่ั ถงึ เปน ธรรม (4) ระบบงานมาตรฐานสากล เพอ่ื บรกิ ารประชาชน และเกบ็ ภาษที ว่ั ถงึ เปน ธรรม 13. ระบบ IT ใหมที่กรมสรรพากรนํามาใชบ ริการผเู สียภาษตี ั้งแตวันที่ 1 ส.ค. 47 ไดแก (1) ระบบใหบ รกิ ารรบั จดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ และภาษธี รุ กจิ เฉพาะทางอนิ เทอรเ นต็ (2) ระบบงานใหบ รกิ ารประชาชนคดั ขอ มลู ภาษผี านทางอนิ เตอรเ นต็ (3) ระบบยน่ื คาํ รอ งขอมเี ลขบตั รประจาํ ตวั ผเู สยี ภาษอี ากรทางอนิ เตอรเ นต็ (4) ระบบขอมลู บัญชีเงินฝากของผูคางภาษี 14. GFMIS คือ (1) ระบบการบรหิ ารงานการคลังภาครฐั และระบบเบกิ จา ยดว ยระบบอเิ ล็กทรอนกิ ส (2) ระบบการบรหิ ารการเงนิ การคลงั ภาครฐั สอู เิ ลก็ ทรอนกิ ส (3) ระบบการบรหิ ารตนทนุ แบบฐานกิจกรรม (4) ระบบรายงานสาํ หรบั ผบู รหิ ารระดบั สงู
หนา้ 80 15. GFMIS เริ่มนํามาใชกับหนวยราชการทั่วประเทศตั้งแตวันที่ (1) 1 ตลุ าคม 2546 (2) 1 ตลุ าคม 2547 (3) 30 กนั ยายน 2546 (4) 30 กนั ยายน 2547 16. ขอใดไมใชวัตถุประสงคของหลักเกณฑและวิธีการบริหารกิจการบานเมืองที่ดี (1) เกิดผลสัมฤทธิ์ตอภารกิจของรัฐ (2) มีประสิทธิภาพและเกิดความคุมคาในเชิงภารกิจของรัฐ (3) สรา งขน้ั ตอนการปฏบิ ตั งิ านหลายขน้ั ตอน ปอ งกนั การทจุ รติ (4) มีการประเมินผลการปฏิบัติงานอยางสม่ําเสมอ
หนา้ 81 จติ อาสาปน โตฯ กลมุ 1 ขอ สอบชดุ ท่ี 10 (ขอ 1-4) 1. หนว ยงานทป่ี ระเมนิ ภาษอี ากรตอ งชแ้ี จงขอ เทจ็ จรงิ และเหตผุ ลการประเมนิ พรอ มทง้ั รบั สาํ นวนการประเมนิ ภาษอี ากรใหห นว ยงานพจิ ารณาอทุ ธรณภ ายในกว่ี นั (1) 15 วนั ทาํ การ (2) 7 วนั ทาํ การ (3) 3 วนั ทาํ การ (4) ไมไ ดก าํ หนดไว อา งองิ : ระเบียบกรมสรรพากร วา ดวยการอุทธรณและการพิจารณาอุทธรณ ตามประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2546 ขอ 6.6 เมอ่ื หนว ยงานทป่ี ระเมนิ ภาษอี ากรไดร บั แจง ตาม ขอ 6.5.2 แลว ใหช แ้ี จงขอ เทจ็ จรงิ และเหตผุ ลในการ ประเมนิ ภาษอี ากร พรอ มทง้ั ชแ้ี จงเหตผุ ลหกั ลา งขอ โตแ ยง ของผอู ทุ ธรณเ ปน รายประเดน็ แลว จดั สง สาํ นวนการ ประเมนิ ภาษอี ากรรายนน้ั ทง้ั หมดใหห นว ยงานพจิ ารณาอทุ ธรณ ภายใน 15 วนั ทาํ การ นบั แตว นั ทไ่ี ดร บั แจง จาก หนว ยงานรบั คาํ อทุ ธรณ 2. ขอ ใดไมใชสทิ ธติ ามกฎหมายของผมู หี นา ทเ่ี สยี ภาษี (1) การผอ นชาํ ระภาษี (2) การขอทเุ ลาการชาํ ระภาษอี ากรโดยจดั ใหม หี ลกั ประกันการชาํ ระภาษดี ว ย (3) ของดหรืดลดเบี้ยปรับและเงินเพิ่มภาษีอากร (4) ทุกขอถอื เปนสทิ ธิของผูเสียภาษี อา งองิ : จาก Internet กรมสรรพากร Navigator : ความรูเร่ืองภาษี>สิทธแิ ละหนาทผี่ เู สยี ภาษี > สิทธขิ องผูเสยี ภาษี 3. ผูประกอบการที่ตองกํากับดูแลไดแกผ ูที่มีหนาทเี่ สียภาษีอากรที่เปน (1) บุคคลธรรมดาทกุ ระบบ (2) บคุ คลธรรมดาเฉพาะทม่ี หี นา ทต่ี อ งเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ และนติ บิ คุ คลทกุ ราย (3) บคุ คลธรรมดาทม่ี เี งนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 (5)-(8) และมเี งนิ ไดต ามมาตราอน่ื แหง ประมวล รษั ฎากร ตามทอ่ี ธบิ ดกี าํ หนดรวมถงึ นติ บิ คุ คลเฉพาะรายทม่ี หี นา ทต่ี อ งเสียภาษมี ลู คา เพม่ิ (4) บคุ คลธรรมดาทม่ี เี งนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 (5)-(8) และมเี งนิ ไดต ามมาตราอน่ื แหง ประมวล รษั ฎากร ตามทอ่ี ธบิ ดกี าํ หนดรวมถงึ นติ บิ คุ คลทกุ ราย อา งองิ : เปนระเบียบกํากับดูแลเปนระเบียบเกา ปจ จุบัน เปน ระเบียบ การตรวจแนะนํา
หนา้ 82 4. บริษัท จําใจ จํากัด ไดรับหมายเรียก ตามมาตรา 19 แหงประมวลรัษฎากร เพื่อขอทําการตรวจสอบภาษี แต บรษิ ทั จาํ ใจ จํากดั ไมป ฏบิ ตั ติ ามหมายเรยี กหรอื คาํ สง่ั ของเจา หนกั งานประเมนิ โดยไมม เี หตผุ ลอนั สมควร เจาพนกั งานประเมนิ จงึ ไดท าํ การประเมนิ เรยี กเกบ็ ภาษี จาํ นวน 10,000,000 บาท ซง่ึ บรษิ ทั ฯ ไดร บั ทราบ การประเมนิ โดยชอบดว ยกฎหมายแลว เมอ่ื วนั ท่ี 1 สงิ หาคม 2546 บรษิ ทั ฯ ไมเ หน็ ดว ยกบั การประเมนิ ของ เจาพนกั งานประเมนิ จงึ มาขอยน่ื คาํ อทุ ธรณ เพอ่ื คดั คา นการประเมนิ ของเจา พนกั งานประเมนิ กรณดี งั กลา ว บริษทั ฯ สามารถยน่ื ไดห รอื ไมอ ยา งไร ภายในกาํ หนดเวลาเทา ใด (1) ยน่ื อทุ ธรณไ ด ภายในกาํ หนดเวลา 30 วนั นบั แตว นั ทไ่ี ดร บั ทราบการประเมนิ (2) ยื่นไมได เนื่องจากตองหามมิใหอ ุทธรณการประเมิน (3) ยน่ื ไมไ ด ถา มายน่ื เมอ่ื พน กาํ หนดเวลาการอทุ ธรณแ ลว (4) ยน่ื ได ถา อธบิ ดกี รมสรรพากรอนมุ ตั ใิ หย น่ื อา งองิ : มาตรา 21 ( แหง ประมวลรษั ฏากร) ถา ผตู อ งเสยี ภาษอี ากรไมป ฏบิ ตั ติ ามหมาย หรอื คาํ สง่ั ของ เจา พนกั งานประเมนิ ตามมาตรา 19 หรอื ไมย อมตอบคาํ ถามเมอ่ื ซกั ถามโดยไมม เี หตผุ ลอนั สมควร เจาพนกั งานประเมนิ มอี ํานาจประเมนิ เงนิ ภาษอี ากรตามทร่ี เู หน็ วา ถกู ตอ ง และแจง จาํ นวนเงนิ ซง่ึ ตอ งชาํ ระ ไปยังผูตองเสียภาษีอากร ในกรณีนหี้ ามมิใหอุทธรณการประเมิน
หนา้ 83 จิตอาสาปนโตฯ กลุม 1 ขอสอบชุดที่ 12 วิชาภาษีเงินไดนิติบุคคล (ชดุ ที่ 1-2) ชดุ ท่ี 1 1. ฐานภาษขี องภาษเี งินไดน ติ บิ คุ คล คอื ก. เงินไดสทุ ธิ ข. กําไรสุทธิ ค. รายรบั หรอื ยอดขายกอ นหกั รายจา ย ง. ขอ ข และ ค. อา งองิ : มาตรา 65 เงนิ ไดท ีต่ อ งเสยี ภาษตี ามความในสว นนค้ี อื กาํ ไรสทุ ธซิ ง่ึ คาํ นวณไดจ ากรายไดจ ากกจิ การ หรอื เนอ่ื งจากกจิ การ ทก่ี ระทาํ ในรอบระยะเวลาบญั ชหี กั ดว ยรายจา ยตามเงอ่ื นไขทร่ี ะบไุ วใ นมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี และรอบระยะเวลาบญั ชดี งั กลา วใหม กี าํ หนดสบิ สองเดอื น เวน แตใ นกรณดี งั ตอ ไปนจ้ี ะนอ ยกวา สบิ สองเดอื น กไ็ ด คอื มาตรา 71 ในกรณที ่ี (1) บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลใด ไมย น่ื รายการซง่ึ จาํ เปน ตอ งใชใ นการคาํ นวณ ภาษตี ามบทบญั ญตั ใิ นสว นน้ี หรอื มไิ ดท าํ บญั ชี หรือทาํ ไมค รบตามทก่ี าํ หนดไวใ นมาตรา 17 และมาตรา 68 ทวิ หรอื ไมน าํ บญั ชี เอกสารหรอื หลกั ฐานอน่ื มาใหเ จาพนกั งานประเมนิ ทาํ การไตส วนตามมาตรา 19 หรอื มาตรา 23 เจาพนกั งานประเมนิ มอี าํ นาจประเมนิ ภาษใี นอตั รารอ ยละ 5 ของยอดรายรบั กอ นหกั รายจา ยใดๆ หรอื ยอดขาย กอ นหักรายจา ยใด ๆ ของรอบระยะเวลาบญั ชี แลว แตอ ยา งใดจะมากกวา ถา ยอดรายรบั กอ นหกั รายจา ย หรอื ยอดขายกอ นหกั รายจา ยดงั กลาวไมป รากฏ เจา พนกั งานประเมนิ มอี าํ นาจประเมนิ โดยอาศยั เทยี บเคยี งกบั ยอดใน รอบระยะเวลาบญั ชกี อ นนน้ั ขน้ึ ไป ถา ยอดในรอบระยะเวลาบญั ชกี อ นไมป รากฏใหป ระเมนิ ไดต ามทเ่ี หน็ สมควร 2. รอบระยะเวลาบญั ชขี องบรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลมกี าํ หนด ก. 12 เดือน ข. นอ ยกวา 12 เดอื น ค. มากกวา 12 เดือน ง. ขอ ก. และขอ ข. อา งองิ : มาตรา 65 เงนิ ไดท ีต่ อ งเสยี ภาษตี ามความในสว นนค้ี อื กาํ ไรสทุ ธซิ ง่ึ คาํ นวณไดจ ากรายไดจ ากกจิ การ หรอื เนอ่ื งจากกจิ การ ทก่ี ระทาํ ในรอบระยะเวลาบญั ชหี กั ดว ยรายจา ยตามเงอ่ื นไขทร่ี ะบไุ วใ นมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี และรอบระยะเวลาบญั ชดี งั กลา วใหม กี าํ หนดสบิ สองเดอื น เวน แตใ นกรณดี งั ตอ ไปนจ้ี ะนอ ยกวา สบิ สองเดอื น กไ็ ด (ก) บรษิ ัทหรือหา งหุนสว นนิตบิ ุคคลเรม่ิ ตัง้ ใหม จะถือวันเร่มิ ตงั้ ถึงวนั หน่งึ วนั ใดเปน รอบระยะเวลา บัญชีแรกก็ได (ข) บริษทั หรอื หางหนุ สวนนติ ิบคุ คลอาจยนื่ คาํ รองตอ อธิบดี ขอเปลี่ยนวันสุดทายของรอบระยะเวลา บญั ชี ในกรณเี ชน วา นใ้ี หอ ธบิ ดมี อี าํ นาจสง่ั อนญุ าต หรือไมอ นญุ าตสดุ แตจ ะเหน็ สมควร คาํ สง่ั เชน วา นน้ั ตอ งแจง ให บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลผยู น่ื คาํ รอ งทราบภายในเวลาอนั สมควร และในกรณที อ่ี ธบิ ดสี ง่ั อนญุ าต ใหบ รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลนน้ั ถอื ปฏบิ ตั ติ ง้ั แตร อบระยะเวลาบญั ชที อ่ี ธบิ ดกี าํ หนด
หนา้ 84 3. การคาํ นวณรายไดแ ละรายจายของบรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลใหใ ช ก. เกณฑเงินสด ข. เกณฑสิทธิ ค. เกณฑคา งรบั ง. เกณฑค า งจา ย อา งองิ : มาตรา 65 วรรค 2 การคาํ นวณรายไดแ ละรายจา ยตามวรรคหนง่ึ ใหใ ชเ กณฑส ทิ ธ์ิ โดยใหน ํารายไดท ่ี เกดิ ขน้ึ ในรอบระยะเวลาบญั ชใี ด แมว า จะยงั ไมไ ดร บั ชาํ ระในรอบระยะเวลาบญั ชนี น้ั มารวมคาํ นวณเปน รายไดใ น รอบระยะเวลาบญั ชนี น้ั และใหนาํ รายจา ยทง้ั สิน้ ทเ่ี กย่ี วกบั รายไดน น้ั แมจ ะยงั มไิ ดจ า ยในรอบระยะเวลาบญั ชนี น้ั มา รวมคาํ นวณเปน รายจา ยของรอบระยะเวลาบญั ชนี น้ั 4. รายจายขอ ใดทต่ี อ งหา มตามประมวลรษั ฎากร ก. จา ยคา นายหนา รอยละ 7 ของกาํ ไรขน้ั ตน ข. จา ยเงนิ โบนสั แกพ นกั งานรอ ยละ 10 ของกาํ ไรสทุ ธิ ค. จา ยเงนิ บาํ เหนจ็ กรรมการไมเ กิน 1 ใน 10 ของเงนิ ปน ผล ง. ขอ ก. ขอ ข. และ ค. อา งองิ : ตอ งหามตามมาตรา 65 ตรี (19) รายจา ยใดๆ ทก่ี าํ หนดจา ยจากผลกาํ ไรทไ่ี ดเ มอ่ื สน้ิ สดุ รอบระยะเวลา บญั ชีแลว 5. ประมวลรษั ฎากร “ภายใน 150 วนั นบั แตว นั สดุ ทา ยของรอบระยะเวลาบญั ชี ใหบ รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ ิ บคุ คล ยน่ื รายการซง่ึ จาํ เปน ตอ งใชใ นการคาํ นวณภาษี” “เพอ่ื ประโยชนใ นการคาํ นวณภาษใี หบ ริษทั หรอื หา ง หุนสวนนิติบุคคลจัดทําบัญชีงบดุล บญั ชีทําการและบัญชีกําไรขาดทุนในรอบระยะเวลาบัญชี...............” บัญชีทําการ หมายถึง ก. บัญชีแยกประเภท ข. บญั ชลี กู หน้ี – เจา หน้ี ค. บัญชีเงินสด ง. บัญชีตนทุน 6. กรณบี รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลเลกิ กนั ใหผ ชู าํ ระบญั ชแี ละผจู ดั การมหี นา ทร่ี ว มกนั แจง ใหเ จา พนกั งาน ประเมนิ ทราบในกว่ี นั ตง้ั แตว นั ทเ่ี จา พนกั งานรบั จดทะเบยี นเลกิ ก. 7 วนั ข. 10 วนั ค. 15 วนั ง. 30 วนั อา งองิ : ตามมาตรา 72 วรรค 1 ในกรณที บ่ี รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลเลกิ กนั ใหผ ชู าํ ระบญั ชแี ละผจู ดั การมี หนา ทร่ี ว มกนั แจง ใหเ จา พนกั งานประเมนิ ทราบการเลกิ ของบรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลนน้ั ภายในสบิ หา วนั นบั แตว นั ทเ่ี จา พนกั งานรบั จดทะเบยี นเลกิ ถา บคุ คลดงั กลา วแลว ไมป ฏบิ ตั ติ าม เจา พนกั งานประเมนิ อาจสง่ั ใหบ รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลนน้ั เสยี เงนิ ภาษเี พม่ิ ขน้ึ อกี หนง่ึ เทา ของจาํ นวนภาษที ต่ี อ งเสยี เงนิ นใ้ี หถ อื เปน คา ภาษี
หนา้ 85 7. รอบระยะเวลาบัญชีของบริษัทสําเร็จ จํากัด คือ มกราคม - ธันวาคม และที่ประชุมมีมติเลิกบริษัทเมื่อวันที่ 30 มถิ นุ ายน 2545 แตจ ดทะเบยี นเลกิ บรษิ ทั เมอ่ื วนั ท่ี 15 กรกฎาคม 2545 ดงั นน้ั รอบระยะเวลาบญั ชสี ดุ ทา ยของ บรษิ ทั สาํ เร็จ จํากดั คือ ก. มกราคม - 30 มิถุนายน 2545 ข. มกราคม - 15 กรกฎาคม 2545 ค. มกราคม - ธนั วาคม 2545 ง. ขอ ก และขอ ข อา งองิ : มาตรา 72 วรรคสอง ในกรณที บ่ี รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลเลกิ กนั ดงั กลา วแลว เพอ่ื ประโยชนใ นการ คาํ นวณภาษใี หถ อื วา วนั ทเ่ี จา พนกั งานรบั จดทะเบยี นเลกิ เปน วนั สดุ ทา ยของรอบระยะเวลาบญั ชี ใหผ ชู าํ ระบญั ชี และผจู ดั การมหี นา ทแ่ี ละความรบั ผดิ รว มกนั ในการยน่ื รายการและเสียภาษตี ามแบบ และภายในกาํ หนดเวลาท่ี กาํ หนดไวใ นมาตรา 68 และมาตรา 69 โดยอนโุ ลม 8. กาํ หนดเวลายน่ื รายการซง่ึ จาํ เปน ตอ งใชใ นการคาํ นวณภาษใี นรอบระยะเวลาบญั ชสี าํ หรบั บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว น นติ บิ คุ คลทเ่ี ลกิ กนั คอื ภายในกว่ี นั นบั แตว นั สดุ ทา ยของรอบระยะเวลาบญั ชี ก. 30 วนั ข. 60 วนั ค. 90 วนั ง. 150 วนั อา งองิ : ตามมาตรา 68 ภายในหนง่ึ รอ ยหา สบิ วนั นบั แตว นั สดุ ทา ยของรอบระยะเวลาบญั ชี ใหบ รษิ ทั หรอื หา ง หนุ สว นนติ บิ คุ คลยน่ื รายการซง่ึ จาํ เปน ตอ งใชใ นการคาํ นวณภาษใี นรอบระยะเวลาบญั ชตี ามแบบทอ่ี ธบิ ดกี าํ หนด พรอมกับชําระภาษีตออําเภอ 9. บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลซง่ึ ตง้ั ขน้ึ ตามกฎหมายของตา งประเทศไดร บั เงนิ ไดห รอื ผลกาํ ไรในประเทศไทย ซง่ึ จะตอ งยน่ื แบบแสดงรายการเสยี ภาษจี ะตอ งมเี งอ่ื นไขดงั น้ี ก. มีลูกจางหรือผูกระทําการแทนหรือผทู ําการติดตอในประเทศไทย ข. มีสถานประกอบการถาวรในประเทศไทย ค. ขอ ก. และ ข. รวมกัน ง. ขอ ก. และ ข. อยางใดอยา งหนง่ึ อา งองิ : มาตรา 76 ทวิ บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลซง่ึ ตง้ั ขน้ึ ตามกฎหมายของตา งประเทศ มลี กู จา ง หรอื ผทู าํ การแทน หรอื ผทู าํ การตดิ ตอ ในการประกอบกจิ การในประเทศไทย ซง่ึ เปน เหตใุ หไ ดร บั เงนิ ไดห รอื ผลกาํ ไรใน ประเทศไทย ใหถ อื วา บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลนน้ั ประกอบกจิ การในประเทศไทย และใหถ อื วา บคุ คลผเู ปน ลกู จา ง หรอื ผทู าํ การแทน หรอื ผทู าํ การตดิ ตอ เชน วา นน้ั ไมว า จะเปน บคุ คลธรรมดา หรอื นติ บิ คุ คลเปน ตวั แทนของ บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คล ซง่ึ ตง้ั ขน้ึ ตามกฎหมายของตา งประเทศ และใหบ คุ คลน้ันมหี นา ท่ี และความรบั ผดิ ในการยน่ื รายการและเสยี ภาษตี ามบทบญั ญตั ใิ นสว นน้ี เฉพาะทเ่ี กย่ี วกบั เงนิ ไดห รอื ผลกาํ ไรทก่ี ลา วแลว ในกรณที ่ี กลา วในวรรคแรก ถา บคุ คลผมู หี นา ท่ีและความรบั ผดิ ในการยน่ื รายการและเสยี ภาษไี มส ามารถจะคาํ นวณกาํ ไร สทุ ธเิ พอ่ื เสยี ภาษี ตามบทบญั ญตั ใิ นสว นนไ้ี ด ใหน าํ บทบญั ญตั วิ า ดว ยการประเมนิ ภาษตี ามมาตรา 71(1) มาใช บงั คบั โดยอนโุ ลม ในกรณกี ารประเมนิ ตามความในมาตราน้ี จะอทุ ธรณก ารประเมนิ กไ็ ด
หนา้ 86 10. ตามขอ 7 บรษิ ทั สาํ เรจ็ จาํ กดั มที รพั ยส นิ คงเหลอื อยู ณ วนั เลกิ กจิ การหลงั หกั คา เสอ่ื มราคา 5,000,000 บาท แตร าคาตลาด 6,000,000 บาท ดงั นน้ั บรษิ ทั ฯตอ งแสดงราคาทรพั ยส นิ และงบดลุ เทา ใด ก. 5,000,000 บาท ข. 6,000,000 บาท ค. ราคาทรพั ยส นิ กอ นหกั คา เสอ่ื ม ง. ไมมีขอใดถูก อา งองิ : ตามมาตรา 74 ในกรณที บ่ี รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลเลกิ กนั หรอื ควบเขา กนั กบั บรษิ ทั หรอื หา ง หุนสวนนิติบุคคลอื่น การคํานวณกําไรสุทธิเพื่อคํานวณภาษีใหเปนไปตามวิธีการในมาตรา 65 มาตรา 65 ทวิ และ มาตรา 66 เวน แต (1) การตรี าคาทรพั ยส นิ (ก) ในกรณที เ่ี ลกิ บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คล ใหต ตี ามราคาตลาด ในวนั เลกิ
หนา้ 87 ชดุ ท่ี 2 1. ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คล มวี ธิ กี ารเสยี ภาษกี ว่ี ธิ ี ก. 2 วธิ ี ข. 3 วิธี ค. 4 วิธี ง. 5 วธิ ี อา งองิ : จากคลินกิ ภาษี กระทรวงการคลัง https://m.facebook.com/TaxClinicMOF/posts/892924697412393 2. ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลหกั ณ ทจ่ี า ยเกย่ี วขอ งกบั มาตราใดรวมกม่ี าตรา ก. 3 มาตรา ข. 4 มาตรา ค. 5 มาตรา ง. 6 มาตรา อา งองิ : 1. มาตรา 3 เตรส 2. มาตรา 69 ทวิ 3. มาตรา 69 ตรี 4. มาตรา 70 3. การยน่ื แบบภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลหกั ณ ทจ่ี า ยใชแ บบใดบา ง ก. ภ.ง.ด.53 , ภ.ง.ด.54 สวน ก ข. ภ.ง.ด.52 , ภ.ง.ด.53 ค. ภ.ง.ด.3 , ภ.ง.ด.54 ง. ภ.ง.ด.51 , ภ.ง.ด.52 อา งองิ : นา จะแกไ ข ภงด 54 สวน ก เปน ภงด 54 4. ภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลหัก ณ ทจ่ี า ยใหถ อื เปน เครดติ ในการคาํ นวณภาษตี ามรอบระยะเวลาทห่ี กั ไวไ ดแ กม าตราใด ก. มาตรา 60 มาตรา 69 ทวิ และมาตรา 69 ตรี ข. มาตรา 69 ทวิ มาตรา 69 ตรี และมาตรา 3 เตรส ค. มาตรา 69 ทวิ มาตรา 69 ตรี และมาตรา 70 ง. มาตรา 67 ทวิ มาตรา 70 และมาตรา 70 ทวิ อา งองิ : เฉลยไว ค คาํ ตอบทถ่ี ูกคอื ข มาตรา 69 ทวิ ภายใตบ งั คบั มาตรา 70 ถา รฐั บาล องคก ารของรฐั บาล เทศบาล สขุ าภบิ าล หรอื องคก าร บรหิ ารราชการสว นทอ งถน่ิ อน่ื เปน ผจู า ยเงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 ใหก บั บรษิ ทั หรือหา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลใด ใหค าํ นวณหกั ภาษเี งนิ ไดไ ว ณ ทจ่ี า ยในอตั รารอ ยละ 1 ภาษที ห่ี กั ไวน ใ้ี หถ อื เปน เครดติ ในการคาํ นวณภาษเี งนิ ไดข อง บริษทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลตามรอบระยะเวลาบญั ชที ห่ี กั ไวน น้ั ในการนใ้ี หน าํ มาตรา 52 มาตรา 53 มาตรา 54 มาตรา 58 และมาตรา 59 มาใชบ ังคบั โดยอนโุ ลม
หนา้ 88 มาตรา 69 ตรี ใหบ คุ คล หา งหนุ สว น บรษิ ทั สมาคม หรอื คณะบคุ คลผจู า ยเงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 (8) เฉพาะทจ่ี า ยใหก บั บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คล ซง่ึ ขายอสงั หารมิ ทรพั ย คาํ นวณหกั ภาษเี งนิ ไดไ ว ณ ท่ี จา ยในอตั รารอ ยละ 1 แลว นาํ สง พนกั งานเจา หนา ท่ีผูรับจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรมในขณะที่มีการจดทะเบียน และใหน ําความในมาตรา 52 วรรคสอง และวรรคสาม มาใชบ งั คบั โดยอนโุ ลม ภาษที ห่ี กั ไวแ ละนาํ สง ตามวรรค หนง่ึ ใหถ อื เปน เครดติ ในการคาํ นวณภาษเี งนิ ไดข องบรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คล ทถ่ี กู หกั ภาษตี ามรอบ ระยะเวลาบญั ชีท่หี กั ไวน ้ัน มาตรา 3 เตรส ใหน าํ ความในมาตรา 60 มาใชบ งั คบั โดยอนโุ ลม มผี ลทาํ ใหภ าษที ห่ี กั ไวต ามมาตรานถ้ี อื เปน เครดติ ในการคาํ นวณภาษเี งนิ ไดน ติ บิ คุ คลของบรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลในรอบระยะเวลาบญั ชที ห่ี กั ไว นน้ั (สว น มาตรา 70 ภาษหี กั ณ ทจ่ี า ย เปน ภาษเี งนิ ไดเ บด็ เสรจ็ เดด็ ขาด (Final tax) ซง่ึ ผมู เี งนิ ไดไ มต อ งย่ืน รายการเงินไดใ นประเทศไทยอกี ภาษใี นมาตรานไ้ี มถ อื เปน เครดติ ) 5. ผมู หี นา ทห่ี กั ภาษี ณ ทจ่ี า ยเปน บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลหรอื นติ บิ คุ คลอน่ื ซง่ึ เปน ผจู า ยเงนิ ไดพ งึ ประเมนิ กรณคี า เชา ตามมาตรา 40 (5) จะตอ งหกั อตั ราใด ก. 3% , 5% และ 10% ข. 1% , 3% และ 10% ค. 5% , 1% และ 10% ง. 5% และ 10% 6. บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลหรอื นติ บิ คุ คลอน่ื จา ยเงนิ คา จา งทาํ ของใหก บั บรษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลซง่ึ ตง้ั ขน้ึ ตามกฎหมายของตา งประเทศ ประกอบกจิ การในประเทศไทยโดยมไิ ดม สี าํ นกั งานสาขาตง้ั อยูเ ปน การถาวร ในประเทศไทยหกั ภาษเี งนิ ได ณ ทจ่ี า ยในอตั ราเทา ไร ก. 1% ข. 3% ค. 5% ง. 10% 7. บริษัทฯ หรอื หางหุนสวนนิติบุคคลที่ตงั้ ขึ้นตามกฎหมายของตางประเทศมิไดประกอบกจิ การในประเทศไทย แตไดรับเงินไดพงึ ประเมินตามมาตรา 40 (2) (3) (4) (5) และ (6) จากประเทศไทย หรือจายไปประเทศไทย ตอง หกั ภาษเี งนิ ได ณ ทจ่ี ายตามมาตรา ก. มาตรา 50 ข. มาตรา 3 ค. มาตรา 70 ทวิ 4 ง. มาตรา 70
หนา้ 89 8. กรมสรรพากรไดป รับปรุงกฎหมายการหัก ณ ที่จายเพิ่มเติมโดยมีผลบังคับใชตั้งแตวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2544 เปน ตน ไป ไดแ กก จิ การประเภทใดบา ง ก. เงินไดคาลิขสิทธิ์ ข. เงินไดโ ดยสารสาํ หรบั การขนสง ไมส าธารณะ ค. คา เบย้ี ประกนั วนิ าศ ง. ถูกทุกขอ อา งองิ : คําสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 เรอ่ื ง สง่ั ใหผ จู า ยเงนิ ไดพ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 แหง ประมวล รัษฎากรมหี นาที่หกั ภาษเี งนิ ไดหกั ณ ที่จาย ขอ 3/1 ขอ 12/3 ขอ 12/4 9. กรณไี มย น่ื แบบแสดงรายการภาษหี กั ณ ทจ่ี า ยภายในกาํ หนดเวลา จะตอ งมคี วามรบั ผดิ ชอบทางอาญามาตรา 35 ปรับไมเกินกี่บาท ก. 100 บาท ข. 200 บาท ค. 500 บาท ง. 2,000 บาท อา งองิ : ตามมาตรา 35 ผูใดไมป ฏบิ ตั ติ ามมาตรา 17 มาตรา 50 ทวิ มาตรา 51 หรอื มาตรา 69 เวน แตจ ะแสดงวา ไดมี เหตุสุดวิสัย ตองระวางโทษปรับไมเ กินสองพันบาท\" ( พระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเตมิ (ฉบบั ที่ 41) พ.ศ. 2559 ใชบ งั คบั 25 ก.พ. 2559 เปนตน ไป) 10. ความรบั ผดิ ชอบของผจู า ยภาษเี งนิ ไดห กั ณ ทจ่ี า ยทไ่ี มป ฏบิ ตั ติ ามประมวลกฎหมายรษั ฎากร จะตอ งรบั ผดิ ชอบ ตามมาตราใด ก. มาตรา 50 ข. มาตรา 52 ค. มาตรา 53 ง. มาตรา 54 อา งองิ : ตามมาตรา 54 ถา ผจู า ยเงนิ ตามมาตรา 50 และมาตรา 53 มไิ ดห กั และนาํ เงนิ สง หรอื ไดห กั และนาํ เงนิ สง แลว แตไ มค รบจาํ นวนทถ่ี กู ตอ ง ผจู า ยเงนิ ตอ งรบั ผดิ รว มกบั ผมู เี งนิ ไดใ นการเสยี ภาษที ต่ี อ งชาํ ระตามจาํ นวนเงนิ ภาษี ทม่ี ไิ ดห ักและนาํ สง หรอื ตามจาํ นวนทข่ี าดไปแลว แตก รณี ในกรณที ผ่ี จู ายเงนิ ไดห กั เงนิ ภาษไี วต ามมาตรา 50 หรือ มาตรา 53 แลว ใหผ มู เี งนิ ไดซ ง่ึ ตอ งเสยี ภาษพี น ความรบั ผดิ ทจ่ี ะตอ งชาํ ระเงนิ ภาษเี ทา จาํ นวนทผ่ี จู า ยเงนิ ไดห กั ไว แลว นน้ั และใหผ จู า ยเงนิ รบั ผดิ ชาํ ระเงนิ ภาษจี าํ นวนนน้ั แตฝ า ยเดยี ว ( พระราชบญั ญตั แิ กไ ขเพม่ิ เตมิ (ฉบบั ท่ี 16 ) พ.ศ. 2502 ใชบงั คบั 5 พ.ย. 2502 เปนตน ไป ) -------------------------------------
หนา้ 90 จติ อาสาปน โตฯ กลมุ 1 ขอ สอบชดุ ท่ี 13 วชิ าภาษมี ลู คา เพม่ิ (ชดุ ท่ี 1-2) ชดุ ท่ี 1 1. ภาษีมูลคาเพิ่ม เปนภาษีอากรประเภทใด ก. ภาษีการคาที่เกบ็ จากผูบริโภค ข. ภาษขี องผปู ระกอบการคา ค. ภาษีเก็บจากการประเมินราคาทรัพยสิน ง. ภาษีอากรประเมิน อา งองิ : มาตรา 77 แหง ประมวลรษั ฎากร ภาษมี ลู คา เพม่ิ เปน ภาษอี ากรประเมนิ 2. ผปู ระกอบการจดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ หมายถงึ ก. ผปู ระกอบการทย่ี น่ื คาํ ขอจดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ ข. ผปู ระกอบการมรี ายรบั ถงึ 1,200,000.- บาท ค. ผูประกอบกิจการขายสินคาหรือใหบริการ ง. บริษัทหรอื หางหุนสวนนิติบุคคล อา งองิ : มาตรา 77/1 (6) แหงประมวลรษั ฎากร (6) “ผปู ระกอบการจดทะเบยี น” หมายความวา ผปู ระกอบการทไ่ี ดจ ดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ ตามมาตรา 85 หรือมาตรา 85/1 หรือทไ่ี ดจ ดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ ชว่ั คราวตามมาตรา 85/3 3. ภาษขี าย หมายความถงึ ก. ภาษีมูลคาเพิ่มที่ผปู ระกอบการจดทะเบียนไดเรียกเก็บ หรือพึงเรียกเกบ็ จากผซู ื้อสินคาหรือผูรับบริการ ข. ภาษีมูลคาเพิ่มทผี่ ูประกอบการจดทะเบียนถูกผูประกอบการ จดทะเบียนอื่นเรียกเก็บตามมาตรา 82/4 วรรคส่ี ค. ภาษขี องผขู ายสนิ คา ง. ภาษที ผ่ี ขู ายมหี นา ทต่ี อ งชาํ ระในแตล ะเดอื นภาษี อา งองิ : มาตรา 77/1 (17) \" ภาษขี าย \"หมายความวา ภาษีมลู คา เพม่ิ ทผ่ี ปู ระกอบการจดทะเบยี นไดเ รยี กเกบ็ หรอื พงึ เรยี กเกบ็ จากผซู อ้ื สนิ คา หรอื ผรู บั บรกิ ารตามมาตรา 82/4 วรรคหนง่ึ และภาษมี ลู คา เพม่ิ ทผ่ี ปู ระกอบการจด ทะเบียนมีหนาที่เสียในกรณที ี่เปนการขายสินคาตาม (ง) (จ) (ฉ) หรือ (ช) ของ (8) หรือในกรณีทเี่ ปนการใหบรกิ าร ตาม (10) แตไ มร วมถงึ ภาษที ต่ี อ งเสยี ตามมาตรา 82/16 4. ความรบั ผิดชอบในการเกบ็ ภาษมี ลู คา เพม่ิ กรณขี ายสนิ คา เกดิ ขน้ึ เมอ่ื ใด ก. รบั เงนิ มัดจาํ คา สนิ คา ข. สง มอบสินคา ใหแ กผซู ื้อสินคา ค. วดั ถดั จากวนั ทน่ี าํ สนิ คา ในราชอาณาจกั รเขา ไปใน เขตอตุ สาหกรรมสง ออก ง. ขอ ก และ ขอ ข ถกู ตอ ง อา งองิ : มาตรา 78 ภายใตบ งั คบั มาตรา 78/3 ความรบั ผดิ ในการเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ ทเ่ี กดิ จากการขายสนิ คา ให เปน ไปตามหลกั เกณฑด งั ตอ ไปน้ี
หนา้ 91 (1) การขายสนิ คา นอกจากทอ่ี ยใู นบงั คบั ตาม (2) (3) (4) หรอื (5) ใหค วามรบั ผดิ ทง้ั หมดเกดิ ขน้ึ เมอ่ื สง มอบสนิ คา เวน แตก รณที ไ่ี ดม กี ารกระทาํ ดงั ตอ ไปนเ้ี กดิ ขน้ึ กอ นสง มอบสนิ คา กใ็ หถ อื วา ความรบั ผดิ เกดิ ขน้ึ เมอ่ื ไดม ี การกระทาํ น้ัน ๆ ดว ย (ก) โอนกรรมสิทธิ์สินคา (ข) ไดร บั ชาํ ระราคาสนิ คา หรอื (ค) ไดออกใบกํากบภาษี ทง้ั น้ี โดยใหค วามรบั ผดิ เกดิ ขน้ึ ตามสว นของการกระทาํ นน้ั ๆ แลว แตก รณใี ดเกดิ กอ น 5. ความรบั ผดิ ในการเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ กรณกี ารใหบ รกิ ารตามสญั ญาทก่ี าํ หนดคา ตอบแทนตามสว นของบรกิ าร ที่ทําเกิดขึ้นเมื่อใด ก. ไดช าํ ระราคาคา บรกิ าร ข. เมื่อออกใบกํากบั ภาษขี าย ค. ถงึ กาํ หนดเวลานาํ สง ภาษมี ลู คา เพม่ิ ง. ขอ ก และ ขอ ข ถกู ตอ ง อา งองิ : ตามมาตรา 78/1 (2) (ก) (2) การใหบ รกิ ารตามสญั ญาทก่ี าํ หนดคา ตอบแทนตามสว นของบรกิ ารทท่ี าํ ใหค วามรบั ผดิ ตามสว นของ บรกิ ารเกดิ ขน้ึ เมอ่ื ไดร บั ชาํ ระราคาคา บรกิ ารตามสว นของบรกิ ารทส่ี น้ิ สดุ ลง เวน แตก รณที ไ่ี ดม กี ารกระทาํ ดงั ตอ ไปน้ี เกดิ ขน้ึ กอ นไดร บั ชาํ ระราคาคา บรกิ ารตามสว นของบรกิ ารท่ีสิ้นสุดลง ก็ใหถือวาความรับผิดเกิดขึ้นเมื่อไดมีการ กระทาํ นน้ั ๆ ดว ย (ก) ไดอ อกใบกาํ กบั ภาษี หรอื (ข) ไดใ ชบ รกิ ารไมว า โดยตนเองหรอื บคุ คลอน่ื ทง้ั น้ี โดยให ความรบั ผดิ เกดิ ขน้ึ ตามสว นของการกระทาํ นน้ั ๆ แลว แตก รณี 6. ความรบั ผิดในการเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ กรณกี ารขายสนิ คา ทไ่ี มม รี ปู รา งเกดิ ขน้ึ เมอ่ื ใด ก. ไดโ อนกรรมสทิ ธส์ิ นิ คา ข. ไดท าํ สญั ญาระหวา งผซู อ้ื และผขู าย ค. วันที่สิ้นสุดการไดกรรมสทิ ธิ์สินคา ง. วันยกเลกิ กรรมสิทธิ์สินคา อา งองิ : ตามเฉลยตอบ ค ความเห็นกลุม เปลย่ี น ตอบ ก ตามกฎกระทรวง ฉ.189 พ.ศ.2534 ขอ (1) 7. ความรบั ผดิ ในการเสยี ภาษมี ลู คา เพิม่ กรณกี ารขายสนิ คา หรอื ใหบ รกิ ารนบั ตง้ั แตว นั ถดั จากวนั ทย่ี น่ื แบบแจง เลกิ การประกอบกจิ การนัน้ ผปู ระกอบการยงั คงตอ งรบั ผิดสําหรบั กรณีใด ก. ไมตองรบั ผิดในการเสียภาษีมูลคาเพิ่มเนื่องจากแจงเลิกประกอบการแลว ข. ยงั คงตอ งรบั ผดิ เสียภาษมี ลู คา เพม่ิ สาํ หรบั การขายสนิ คา และการใหบ รกิ ารดงั กลา ว ค. ไมม หี นา ทต่ี อ งเสยี ภาษมี ลู คา เพม่ิ ง. ขอ ก และ ขอ ข ถกู ตอ ง อา งองิ : ตามมาตรา 79/3 (5) การขายสนิ คา ในกรณผี ปู ระกอบการมสี นิ คา คงเหลอื และหรอื มที รพั ยส นิ ท่ี ผปู ระกอบการมไี วใ นการประกอบกจิ การ ณ วนั เลกิ ประกอบกจิ การ มลู คา ของฐานภาษใี หถ อื ตามราคาตลาดในวนั เลิกประกอบกิจการ
หนา้ 92 8. กรณตี ามขอ 7 ผปู ระกอบการมหี นา ทต่ี อ งปฏบิ ตั สิ าํ หรบั การขายสนิ คา หรอื การใหบ รกิ ารคอื ก. ตองออกใบกํากับภาษีขายและสงมอบใหแกผูซื้อสินคาหรือผูรบั บริการ ข. ไมมีหนาที่ออกใบกํากบั ภาษีถาผูซื้อสินคาไมรองขอ ค. ตอ งออกใบรบั ตามมาตรา 105 และใบสง ของตามมาตรา 105 จตั วา ง. มีสิทธิ์ออกใบกํากับภาษีใหกบั ผูซื้อสินคาหรือผรู ับบริการ อา งองิ : ตามคาํ สง่ั กรมสรรพากร ท่ี ป.66/2539 เรอ่ื งการแจง เลกิ ประกอบกจิ การตามมาตรา 85/15 แหง ประมวลรัษฎากร ขอ 1 วรรค 2 9. ในกรณที ใ่ี บทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ สญู หายถกู ทาํ ลาย หรอื ชาํ รดุ ในสาระสาํ คญั ผปู ระกอบการจดทะเบยี นตอ ง ปฏิบัติอยางไร ก. ยื่นคํารองขอจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่มใหม ข. ยน่ื คาํ ขอรบั ใบแทนใบทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ ค. ขอใบแทนฯ ภายในสบิ หา วนั นบั แตว นั ทท่ี ราบถงึ การสญู หาย ถกู ทาํ ลาย หรือชาํ รดุ ง. ขอ ข และ ขอ ค ถกู ตอ ง อา งองิ : ตามมาตรา 85/5 วรรคแรก ในกรณที ใ่ี บทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ สญู หาย ถกู ทาํ ลาย หรอื ชาํ ระใน สาระสาํ คญั ใหผ ปู ระกอบการจดทะเบยี นยน่ื คาํ ขอรบั ใบแทนใบทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ ณ สถานทท่ี ไ่ี ดจ ดทะเบยี น ภาษมี ลู คา เพม่ิ ไวภ ายในสบิ หา วนั นบั แตว นั ทท่ี ราบถงึ การสญู หาย ถกู ทาํ ลาย หรอื ชาํ รดุ 10. ผูประกอบการจดทะเบียนใดทมี่ ีสิทธิออกใบกํากับภาษอี ยางยอได ก. ตัวแทนของผูประกอบกิจการคาปลีก ข. ผูประกอบการจดทะเบียนที่ประกอบกิจการคาปลีก ค. ผูประกอบกิจการขนาดยอ ม ง. ขอ ก และ ขอ ข ถกู ตอ ง อา งองิ : ตามมาตรา 86/6 เพอ่ื อาํ นวยความสะดวกแกผ ปู ระกอบการจดทะเบยี นทป่ี ระกอบกจิ การขายสนิ คา ใน ลักษณะขายปลีก หรือประกอบกจิ การใหบริการในลักษณะบริการรายยอยแกบุคคลจํานวนมาก อธิบดีมีอํานาจ กาํ หนดลกั ษณะและหรอื เงอ่ื นไขของการประกอบกจิ การดงั กลา ว ใหเ ปน กจิ การคา ปลกี และในกจิ การคา ปลกี การ แสดงราคาสนิ คา หรอื ราคาคา บรกิ ารจะตอ งเปน การแสดงราคาทร่ี วมภาษมี ลู คา เพม่ิ ไวแ ลว
หนา้ 93 ชดุ ท่ี 2 1. ในการจดั ทาํ รายงานเกย่ี วกบั ภาษมี ลู คา เพม่ิ ของผปู ระกอบการจดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ ตอ งกระทาํ อยา งไร ก. จดั ทาํ ณ สาํ นกั งานใหญเ พยี งแหง เดยี ว ข. จดั ทาํ รายงานเปน รายสถานประกอบการ ค. ไมต อ งจดั ทาํ รายงาน ณ สาํ นกั งานสาขา ง. จดั ทาํ เฉพาะรายงาน ทเ่ี กดิ รายการ ณ สถานประกอบการนน้ั ๆ อา งองิ : ตามมาตรา 87 2. เจา พนกั งานประเมนิ มอี าํ นาจประเมนิ ภาษมี ลู คา เพม่ิ เบย้ี ปรบั และเงนิ เพม่ิ เมอ่ื ปรากฏแกเ จา พนกั งานฯ วา ก. ผูมีหนาที่เสียภาษมี ิไดยื่นแบบแสดงรายการ ข. ผูประกอบการไมสามารถแสดงใบกํากับภาษีซื้อ ค. ผปู ระกอบการซง่ึ ตอ งยน่ื คาํ ขอจดทะเบยี นภาษมี ลู คา เพม่ิ ตามมาตรา 85/1 มไิ ดจ ดทะเบยี น ภาษมี ลู คา เพม่ิ ง .ถูกทุกขอ อา งองิ : ตามมาตรา 88 3. ตามมาตรา 88/3 เจา พนกั งานประเมนิ มอี าํ นาจเขา ไปในสถานประกอบการของผปู ระกอบการกรณใี ดบา ง ก. สถานประกอบการ ไมวาจะเปนผูประกอบการจดทะเบียนหรือไม ข. ณ สถานประกอบการเทา นน้ั สถานทอ่ี น่ื ทเ่ี กย่ี วขอ งเขา ไมไ ด ค. ในเวลาระหวา งพระอาทติ ยข น้ึ และพระอาทติ ยต ก หรอื ระหวา งเวลาทาํ การของผปู ระกอบการ ง. ขอ ก และ ขอ ค ถกู ตอ ง อา งองิ : มาตรา 88/3 เจาพนกั งานประเมนิ มอี าํ นาจเขา ไปในสถานประกอบการของผปู ระกอบการ ไมว า จะเปน ผปู ระกอบการจดทะเบยี นหรอื ไม หรอื ในสถานทอ่ี น่ื ทเ่ี กย่ี วขอ งระหวา งพระอาทติ ยข น้ึ และพระอาทติ ยต ก หรอื ระหวา งเวลาทาํ การของผปู ระกอบการ และทาํ การตรวจสอบเพอ่ื ใหท ราบวา ผปู ระกอบการไดป ฏบิ ตั กิ ารโดย ถกู ตอ งตามบทบญั ญตั ใิ นหมวดนห้ี รอื ไม ในการนเ้ี จา พนกั งานประเมนิ มอี าํ นาจสง่ั ผปู ระกอบการ หรอื บคุ คลทอ่ี ยใู น สถานทน่ี น้ั ใหป ฏบิ ตั กิ าร เทา ทจ่ี าํ เปน เพอ่ื ประโยชนใ นการตรวจสอบเอกสารหลกั ฐานตา ง ๆ อนั ควรแกเ รอ่ื ง และมี อาํ นาจยดึ เอกสารหลกั ฐานเหลา นน้ั มาตรวจสอบไตส วนไดใ นการดาํ เนนิ การตามวรรคหนง่ึ ใหเ จา พนกั งานประเมนิ แสดงบตั รประจาํ ตวั พรอ มทง้ั หนงั สอื หรอื หลกั ฐานตอ ผทู เ่ี กย่ี วขอ งเมอ่ื เขา ไปทาํ การตรวจสอบ 4. กรณผี ปู ระกอบการมไิ ดย น่ื แบบแสดงรายการ ภ.พ.30 ภายในกาํ หนดเวลาตอ งรบั ผดิ เสยี เบย้ี ปรบั ตามมาตรา และอตั ราใด ก. ตองเสียเบี้ยปรบั ตามมาตรา 89 (2) ข. ตองเสยี เบีย้ ปรบั 1 เทาของเงนิ ภาษี ค. ตองเสียเบี้ยปรับ 2 เทาของเงินภาษี ง. ตองเสียเบี้ยปรบั ตามมาตรา 89 (2) อีก 2 เทาของเงินภาษี อา งองิ : ขอ ง เปน คาํ ตอบท่ชี ดั เจนกวา เมือ่ เปรยี บเทียบกับ ก และ ค มาตรา 89 ใหผ ูม หี นา ทเ่ี สยี ภาษี หรอื บคุ คลตามมาตรา 86/13 เสยี เบ้ียปรบั ในกรณแี ละตามอตั ราดงั ตอ ไปน้ี (2) มไิ ดย น่ื แบบแสดงรายการภาษหี รอื แบบนาํ สง ภาษภี ายในกาํ หนดเวลา ใหเ สยี เบย้ี ปรบั อกี สองเทา ของเงนิ ภาษที ต่ี อ งเสยี หรอื นาํ สง ในเดอื นภาษี
หนา้ 94 5. กรณผี ูป ระกอบการภาษมี ลู คา เพม่ิ ไมช าํ ระภาษหี รอื นาํ สง ภาษใี หค รบถว นภายในกาํ หนดเวลา ใหเ สยี เงนิ เพม่ิ อกี รอ ยละ 1.5 ตอ เดอื นหรอื เศษของเดอื นของเงนิ ภาษี ซง่ึ กาํ หนดไวต ามมาตราใด ก. มาตรา 27 ข. มาตรา 89 (3) ค. มาตรา 89 (4) ง. มาตรา 89/1 อา งองิ : มาตรา 89/1 บคุ คลใดไมช าํ ระภาษหี รอื นาํ สง ภาษใี หค รบถว นภายในกาํ หนดเวลาตามบทบญั ญตั ใิ นหมวด น้ี ใหเ สยี เงนิ เพม่ิ อกี รอ ยละ 1.5 ตอ เดอื น หรอื เศษของเดอื นของเงินภาษที ต่ี อ งชาํ ระหรอื นาํ สง โดยไมร วมเบย้ี ปรบั ในกรณที อ่ี ธบิ ดอี นมุ ตั ใิ หข ยายเวลาเสยี ภาษตี ามทก่ี าํ หนดในมาตรา 3 อฏั ฐ และไดม กี ารชาํ ระภาษหี รอื นาํ สง ภาษภี ายในกาํ หนดเวลาทข่ี ยายใหน น้ั เงนิ เพม่ิ ตามวรรคหนง่ึ ใหล ดลงเหลอื รอ ยละ 0.75 ตอ เดอื นหรอื เศษของ เดือน การคาํ นวณเงนิ เพม่ิ ตามวรรคหนง่ึ และวรรคสอง ใหเ รม่ิ นบั เมอ่ื พน กาํ หนดเวลายน่ื แบบแสดงรายการภาษี หรือยน่ื แบบนาํ สง ภาษตี ามสว น 7 จนถงึ วนั ชาํ ระภาษหี รอื นาํ สง ภาษแี ตเ งนิ เพม่ิ ทค่ี าํ นวณไดม ใิ หเ กนิ จาํ นวนภาษที ่ี ตอ งชาํ ระหรอื นาํ สง 6. กิจการใดที่ไมไดร ับการยกเวนภาษีมูลคาเพิ่ม ก. รักษาสัตว ข. การขายกุงแหง ปลาปน ค. การขายอาหารสตั ว ง. กิจการสวนสัตวของเอกชน อา งองิ : ตามเฉลยตอบ ค ความเหน็ กลมุ เปลย่ี น ตอบ ก การรกั ษาสตั วเ สยี ภาษมี ลู คา เพ่ิม 7. ผูไมมีสิทธิขอคืนเงินภาษีมูลคาเพิ่ม คือ ก. ผูถูกหักภาษีไว ณ ที่จาย ข. ผมู หี นา ทน่ี าํ สง ภาษี ซง่ึ ไดน าํ สง ภาษไี วเ กนิ ผดิ หรอื ซาํ้ ค. ผปู ระกอบการจดทะเบยี นทเ่ี สยี ภาษไี วเ กนิ ผดิ หรอื ซาํ้ ง. ผปู ระกอบการจดทะเบยี นทม่ี เี ครดติ ภาษเี หลอื อยใู นแตล ะเดอื นภาษี อา งองิ : ตามระเบียบกรมสรรพากรวาดวยการคืนเงินภาษีมลู คาเพิ่ม พ.ศ.2539 8. ขอใดไมใชใบกํากับภาษี ก. ใบแทน ข. ใบเพม่ิ หน้ี , ลดหน้ี ค. ใบกํากับภาษีอยางยอ ง. ใบกํากบั ภาษีเต็มรปู แบบ อา งองิ : มาตรา 77/1 (22) \"ใบกาํ กบั ภาษี \" หมายความรวมถงึ ใบกาํ กบั ภาษอี ยา งยอ ใบเพิม่ หน้ี ใบลดหน้ี ใบเสรจ็ รับเงนิ ทส่ี ว นราชการออกใหใ นการขายทอดตลาด หรอื ขายโดยวธิ อี น่ื ตามมาตรา 83/5 และใบเสรจ็ รบั เงิน ของกรมสรรพากร ของกรมศลุ กากร หรอื ของกรมสรรพาสามิต ทั้งนี้ เฉพาะสวนที่เปนภาษีมลู คาเพมิ่
หนา้ 95 9. ภาษซี อ้ื ในขอ ใดนาํ มาเครดติ ไมไ ด ก. ใบแทนใบกาํ กบั ภาษตี ามมาตรา 86/12 แหง ประมวลรษั ฎากร ข. ใบกํากับภาษีเต็มรูปแบบที่มีรายการครบถวนสมบูรณตามมาตรา 86/12 แหงประมวลรัษฎากรโดยไมม ี รายการแกไข ค. ใบเสร็จรับเงินคาภาษีมูลคาเพิ่มจากกรมศุลกากร ง. ใบกํากบั ภาษเี ดอื นเมษายน 2545 นาํ มาใชเ ดอื นตลุ าคม 2545 อา งองิ : ตามเฉลยตอบ ก ความเหน็ กลมุ เปลีย่ น ตอบ ข 10. ภาษซี อ้ื ในขอ ใด ไมใ หน าํ มาใชใ นการคาํ นวณภาษี ก. ภาษซี อ้ื เกดิ จากรายจา ย เพอ่ื การรบั รอง ข. ภาษีเกี่ยวขอ งโดยตรงกับการประกอบกจิ การ ค. ภาษีซื้อที่เกิดจากการเชาซื้อรถยนตที่มที ี่นั่งเกิน 10 ที่นั่ง ง. ภาษีซื้อที่เกิดจากการกอสรางอาคารเพอื่ ใชในกิจการ อา งองิ : มาตรา 82/5 ภาษซี อ้ื ในกรณดี งั ตอ ไปน้ี ไมใ หน าํ มาหกั ในการคาํ นวณภาษตี ามมาตรา 82/3 (4)
หนา้ 96 จติ อาสาปน โตฯ กลมุ 1 ขอ สอบชดุ ท่ี 14 วชิ าภาษธี รุ กจิ เฉพาะ (ชดุ ท่ี 1-5) ชดุ ท่ี 1 1. ภาษธี รุ กจิ เฉพาะอยใู นบทบญั ญตั ใิ ด แหง ประมวลรษั ฎากร และมกี ม่ี าตรา ก. หมวด 4 ลักษณะ 2 มี 22 มาตรา ข. หมวด 5 ลักษณะ 2 มี 24 มาตรา ค. หมวด 4 ลักษณะ 2 มี 21 มาตรา ง. หมวด 5 ลักษณะ 2 มี 22 มาตรา 2. “ ขาย ” ตามความหมายของภาษธี รุ กจิ เฉพาะ หมายถงึ อะไร ก. ขายฝาก , แลกเปลี่ยน , ให , โอนกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพยไมวาดวยวิธีใด และไมวาจะมีคาตอบแทนหรือไม ข. ขายฝาก , แลกเปลี่ยน , ให , โอนกรรมสิทธิ์ หรอื สิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพยใหแกสวนราชการ หรอื รฐั วสิ าหกจิ ทม่ี ใิ ชบ รษิ ทั หรอื หา งหนุ สว นนติ บิ คุ คลตามหลกั เกณฑ เงอ่ื นไข และราคาหรอื มลู คา ตามทก่ี าํ หนด โดยพระราชกฤษฎีกา ค. สญั ญาจะขาย , ขายฝาก , แลกเปลีย่ น , ให , ใหเ ชา ซอ้ื หรือจาํ หนา ยจา ยโอน ไมว า มปี ระโยชนต อบ แทนหรือไม ง. ถูกทุกขอ อา งองิ : ตามมาตรา 91/1 (4) แหง ประมวลรัษฎากร 3. การประกอบกิจการอะไรบางที่ตองเสียภาษีธรุ กิจเฉพาะ (ขอ ใดถกู ตอ งมากทส่ี ดุ ) ก. กิจการซื้อ และขายคืนหลักทรัพย , กิจการลสิ ซง่ิ ข. ธุรกิจแฟกเตอรริ่ง , การรับจํานํา ค. การประกอบธุรกจิ เงินลงทุน , กิจการจําหนายสลากกินแบงรัฐบาล ง. กจิ การธนาคาร และกจิ การภตั ตาคาร อา งองิ : ตามมาตรา 91/2 (2) และ (4) แหงประมวลรษั ฎากร 4. การประกอบกิจการอะไรบางที่ตองเสียภาษีธรุ กิจเฉพาะและภาษีมูลคาเพิ่ม (ขอ ใดถกู ตอ งมากทส่ี ดุ ) ก. การใหบริการเชาสังหาริมทรัพย , การใหบริการจัดจําหนายหลักทรัพย ข. การใหบริการที่ปรึกษาทางธุรกิจ , การประกอบธรุ กิจเยี่ยงธนาคารพาณิชย ค. การใหบรกิ ารใชบ ตั รเครดิต , การรับประกันชวี ิต ง. การใหบ รกิ ารนายหนา และตวั แทนซอ้ื ขายหลกั ทรพั ย , ธรุ กจิ แฟก เตอรร ง่ิ อา งองิ : ตามเฉลยขอ ก ความเหน็ กลมุ ตอบ ข ค ง เปน กจิ การทต่ี อ งเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะและภาษมี ลู คา เพม่ิ
หนา้ 97 5. กิจการใด ที่ไมไดรบั ยกเวนภาษีธรุ กิจเฉพาะ ก. กิจการของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแหง ประเทศไทย ข. กจิ การของบรรษทั เงนิ ทนุ อตุ สาหกรรมขนาดยอ ม ค. กิจการเงินทุนหลักทรัพย เครดิตฟองซิเอร ตามกฎหมายวาดวยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกจิ หลักทรัพย และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร ง. กจิ การขายหลกั ทรพั ย ตามกฎหมายวา ดว ยตลาดหลกั ทรพั ยแ หง ประเทศไทย ในตลาดหลกั ทรพั ย อา งองิ : ไมอ ยใู น พระราชกฤษฎกี าออกตามความในประมวลรษั ฎากรวา ดว ยการกําหนดกจิ การทไ่ี ดร บั ยกเวน ภาษี ธรุ กจิ เฉพาะ ฉบบั ท่ี 240 มาตรา 3 (1) ขอ ค อยใู นมาตรา 91/2(2) แหงประมวลรษั ฎากร
หนา้ 98 ชดุ ท่ี 2 1. บุคคลซึ่งประกอบกิจการที่อยูในบังคับตองเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตองจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะภายในกี่วัน ก. ภายใน 15 วนั นบั แตว นั เรม่ิ ประกอบการ ข. ภายใน 30 วนั นบั แตว นั เริม่ ประกอบการ ค. ภายใน 45 วนั นบั แตว นั เริม่ ประกอบการ ง. ภายใน 60 วนั นบั แตว นั เรม่ิ ประกอบการ อา งองิ : ตามมาตรา 91/12 แหงประมวลรัษฎากร 2. หลักการคาํ นวณภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ขอ ใดถกู ตอ งทส่ี ดุ ก. ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ = รายรับ – รายจา ย X อตั ราภาษี + (10% ของอตั ราภาษี) ข. ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ = รายรับ X อตั ราภาษี + (10% ของอตั ราภาษี) ค. ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ = รายได – รายจาย X อตั ราภาษี ง. ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ = รายได X อตั ราภาษี 3. จะตองใชแ บบแสดงรายการประเภทใด และระยะเวลาใดในการย่ืนแบบแสดงรายการภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ก. ใชแ บบ ภธ.30 ย่ืนแบบภายในวันที่ 7 ของเดอื นถดั ไป ข. ใชแบบ ภธ.40 ย่นื แบบภายในวนั ที่ 7 ของเดอื นถดั ไป ค. ใชแบบ ภธ.30 ยื่นแบบภายในวันที่ 15 ของเดือนถดั ไป ง. ใชแ บบ ภธ.40 ยืน่ แบบภายในวนั ที่ 15 ของเดอื นถดั ไป อา งองิ : ตามมาตรา 91/10 แหง ประมวลรัษฎากร 4. ขอ ใดถกู ตอ งทส่ี ดุ หากเดอื นภาษใี ดมจี าํ นวนเงนิ ภาษเี ทา ไรเปน อนั ไมต อ งเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะสาํ หรบั เดอื น ภาษนี น้ั ก. 20 บาท ข. 50 บาท ค. 100 บาท ง. 150 บาท อา งองิ : ตามเฉลย ตอบ ขอ ค ความเห็นกลุม ควร ตอบ ขอ ก ขอ ข ตามมาตรา 91/17แหงประมวลรัษฎากร 5. ขอ ใดถกู ตอ งทส่ี ดุ เกย่ี วกบั ระยะเวลาในการขอคนื ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ก. ยน่ื คาํ รอ งขอคนื ภาษี ภายใน 3 ป นบั แตว นั พน กาํ หนดการยน่ื แบบแสดงรายการภาษี ข. ยน่ื คาํ รอ งขอคนื ภาษี ภายใน 3 ป นบั แตว นั สน้ิ รอบระยะเวลาบญั ชี ค. ยน่ื คาํ รอ งขอคนื ภาษี ภายใน 3 ป นบั แตว นั ทย่ี น่ื แบบแสดงรายการภาษี ง. ยน่ื คาํ รอ งขอคนื ภาษี ภายใน 3 ป นบั แตว นั สน้ิ ปภ าษี อา งองิ : ตามมาตรา 91/11 แหง ประมวลรัษฎากร
หนา้ 99 ชดุ ที่ 3 1. กจิ การใดไดร บั การยกเวน ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ก. กจิ การธนาคารตามกฎหมายวา ดว ยการธนาคารพาณชิ ยห รอื กฎหมายเฉพาะ ข. การประกอบธุรกจิ เงินทุนธุรกิจหลักทรัพยธุรกิจเครดิตฟองซิเอร ค. การขายอสงั หารมิ ทรพั ยเ ปน การคา หรือหากาํ ไร ง. กิจการขายหลักทรัพยในตลาดหลักทรัพย อา งองิ : ตามพระราชกฤษฎกี าออกตามความในประมวลรษั ฎากรวา ดว ยการกาํ หนดกจิ การทไ่ี ดร บั ยกเวน ภาษี ธรุ กจิ เฉพาะ ฉบบั ท่ี 240 มาตรา 3 (1) 2. อายคุ วามประเมนิ เรยี กเกบ็ ภาษธี รุ กจิ เฉพาะขอ ใดถกู ตอ ง ก. 10 ปน บั แตว นั ยน่ื แบบแสดงรายการหรอื วนั พน กาํ หนดเวลายน่ื แบบแสดงรายการแลว แตก รณี ข. 5 ปต ง้ั แตว นั ยน่ื แบบแสดงรายการเสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ค. 3 ปน บั ตง้ั แตว นั ยน่ื แบบแสดงรายการหรอื วนั พน กาํ หนดเวลายน่ื แบบแสดงรายการแลว แตก รณี ง. 2 ปน บั ตง้ั แตว นั ยน่ื แบบแสดงรายการเพอ่ื เสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ อา งองิ : ตามมาตรา 193/31 แหง ประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย 3. ขอความใดไมถูกตอง ก. ดอกเบี้ยจากการประกอบกจิ การโรงรบั จํานําเสียภาษีธุรกจิ เฉพาะอัตรารอ ยละ 3 ข. ดอกเบย้ี จากการประกอบกจิ การเยย่ี งธนาคารพาณชิ ยเ สยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะอตั รารอ ยละ 3 ค. ดอกเบี้ยจากการประกอบกจิ การประกนั ชีวิตเสียภาษีธุรกจิ เฉพาะอัตรารอ ยละ 2.5 ง. รายรับจากการขายอสังหาริมทรัพยเสียภาษีธุรกิจเฉพาะอัตรารอยละ 0.1 อา งองิ : ตามมาตรา 91/6 แหง ประมวลรษั ฎากร (2) กาํ หนดให กจิ การโรงรบั จาํ นาํ เสยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะอตั รา รอยละ 2.5 4. ฐานรายรบั ในขอ ใดถกู ตอ ง ก. รายรบั จากการขายอสงั หารมิ ทรพั ยค อื ราคาประเมนิ ทนุ ทรพั ยห รอื ราคาทซ่ี อ้ื ขายกนั จรงิ แลว แตอ ยา งใด จะสูงกวาบวกภาษีธุรกิจเฉพาะทผี่ ูซื้อออกแทนผูขาย ข. รายรบั จากการประกอบกจิ การโรงรบั จาํ นาํ คอื ดอกเบ้ีย, คา ธรรมเนยี ม, คา ตอบแทนหรอื ประโยชนใ ดๆ อนั มมี ลู คา ทไ่ี ดร บั หรอื พงึ ไดร บั จากการขายของทจ่ี าํ นาํ หลดุ เปน สทิ ธิ ค. รายรับจากการประกันชีวิตคือ ดอกเบี้ย,คาธรรมเนียม,คาบริการ ง. ถูกตองทุกขอ อา งองิ : ตามมาตรา 91/5 แหง ประมวลรษั ฎากร
หนา้ 100 5. ขอ ความใดกลา วไวถ กู ตอ งเกย่ี วกบั การจดทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ก. คําขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะใชแบบ ภธ.01 ข. ผกู ระทาํ กจิ การมสี ถานประกอบการหลายแหง ใหย น่ื คาํ ขอจดทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ณ สรรพากร พน้ื ทส่ี าขา ทส่ี ถานประกอบการทเ่ี ปน สาํ นกั งานใหญต ง้ั อยู ค. ผมู ีหนา ทจ่ี ดทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะตอ งยน่ื คาํ ขอจดทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะภายใน 30 วนั นบั แต วันเริ่มประกอบกจิ การ ง. ถูกทุกขอ อา งองิ : ตามมาตรา 91/12 แหง ประมวลรัษฎากร
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 641
Pages: