พระสตุ ตนั ตปฎ ก สังยตุ ตนกิ าย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนา ท่ี 101รูปชอื่ วา สาสวะ เพราะเปนไปกบั ดว ยอาสวะทั้งหลายทท่ี ําอารมณเปนไป ชือ่ วา อุปาทานียะ เพราะพงึ ยึดมนั่ . ในที่น้ี รปู ขันธท านกลา ววาเปนกามาพจร ธรรมทเ่ี ปนไปในภูมิ ๓ ท่เี หลือ ทานกลา วดว ยอาํ นาจการประพฤติวปิ สสนา. ในท่นี พี้ ึงทราบวนิ ิจฉยั อยางนี้ รูปจดั เขาในขนั ธดว ยอรรถวาเปน กอง เวทนาเปนตนทงั้ ท่ีมอี าสวะทั้งทไ่ี มม อี าสวะ จัดเขาในอุปาทานขันธ ดว ยอรรถวาเปนกองธรรมท่ีมอี าสวะ ท้งั หมดจัดเขาในขันธดวยอรรถวา เปน กอง. แตใ นทนี่ ธี้ รรมท่เี ปนไปในภมู ิ ๓ จัดเขา ในอปุ าทานขันธ ดว ยอรรถวา เปนกองธรรมมอี าสวะ. จบ อรรถกถาปญ จขันธสูตรที่ ๖ ๗. โสณสูตรท่ี ๑ วา ดว ยขันธ ๕ มใิ ชของเรา [๙๗] ขา พเจา ไดส ดับมาแลวอยา งนี้ :- สมยั หนึง่ พระผมู ีพระภาคเจาประทับอยู ณ พระวิหารเวฬุวันกลนั ทกนิวาปสถาน กรงุ ราชคฤห ครงั้ นนั้ แล คฤหบดีบุตรชื่อโสณะเขา ไปเฝา พระผูมีพระภาคเจาถึงทีป่ ระทบั ถวายบังคมพระผมู ีพระภาคเจานง่ั ณ ที่ควรสว นขางหนึง่ ครัน้ แลว พระผูมพี ระภาคเจา ไดต รัสกะคฤหบดีบตุ รช่ือโสณะวา ดกู อ นโสณะ ก็สมณะหรือพราหมณเหลาใดเหลาหนึง่ ยอ มพิจารณาเห็นวา เราเปน ผปู ระเสรฐิ กวาเขา พิจารณาเหน็ วา เราเปน ผเู สมอเขา หรือพิจารณาเหน็ วา เราเปน ผเู ลวกวาเขาดว ยรูปอนั ไมเทย่ี ง เปน ทุกข มีความแปรปรวนเปน ธรรมดา ทเ่ี ปน ดังน้ีมใิ ชอนื่ ไกล นอกจากการไมเ ห็นธรรมตามความเปน จรงิ ยอ มพจิ ารณา
พระสุตตนั ตปฎก สังยตุ ตนกิ าย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนา ที่ 102เหน็ วา เราเปนผปู ระเสริฐกวา เขา พจิ ารณาเหน็ วา เราเปน ผูเสมอเขาหรือพิจารณาเห็นวา เราเปนผูเ ลวกวา เขา ดวยเวทนาอันไมเทยี่ ง...ดวยสญั ญาอันไมเ ท่ยี ง... ดว ยสงั ขารอันไมเท่ียง... ดว ยวิญญาณอันไมเ ทย่ี ง เปนทุกข มคี วามแปรปรวนเปน ธรรมดา ท่ีเปนดังนม้ี ใิ ชอ ืน่ ไกลนอกจากการไมเหน็ ธรรมตามความเปนจริง. [๙๘] ดกู อ นโสณะ กส็ มณะหรอื พราหมณเหลาใดเหลาหนงึ่ยอมไมพ ิจารณาเห็นวา เราเปน ผูประเสริฐกวา เขา ไมพ จิ ารณาเหน็ วาเราเปน ผูเสมอเขา หรือไมพจิ ารณาเห็นวา เราเปนผูเ ลวกวาเขา ดว ยรปูอันไมเท่ยี ง เปน ทกุ ข มีความแปรปรวนเปน ธรรมดา ท่เี ปนดังน้มี ิใชอ่ืนไกล นอกจากการเห็นธรรมตามความเปน จรงิ ยอมไมพจิ ารณาเหน็ วา เราเปนผูประเสริฐกวา เขา ไมพ ิจารณาเหน็ วา เราเปนผูเสมอเขาหรือไมพ จิ ารณาเห็นวา เราเปน ผเู ลวกวา เขา ดวยเวทนาอนั ไมเที่ยง...ดวยสญั ญาอันไมเ ท่ียง... ดว ยสังขารอันไมเที่ยง... ดว ยวิญญาณอันไมเทยี่ ง เปน ทุกข มคี วามแปรปรวนเปนธรรมดา ทเี่ ปนดงั นมี้ ใิ ชอ ื่นไกลนอกจากการเหน็ ธรรมตามความเปน จรงิ . [๙๙] พระผมู พี ระภาคเจาตรัสถามวา ดูกอ นโสณะ ทา นจะสําคัญความขอ นนั้ เปน ไฉน รปู เทีย่ งหรอื ไมเ ที่ยง ? คฤหบดีบุตรชื่อ โสณะทลู วา ไมเทยี่ งพระเจา ขา. พ. ก็ส่งิ ใดไมเทยี่ ง สิ่งนน้ั เปน ทุกขห รือเปนสุขเลา ? ส. เปนทกุ ข พระเจา ขา. พ. ก็ส่งิ ใดไมเที่ยงเปนทุกข มีความแปรปรวนเปน ธรรมดาควรหรอื หนอทจี่ ะพจิ ารณาเห็นส่ิงน้นั วา นน่ั ของเรา เราเปน นน่ันั่นตัวตนของเรา ?
พระสุตตนั ตปฎก สังยตุ ตนิกาย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนา ที่ 103 ส. ขอนนั้ ไมค วรเลย พระเจาขา . พ. เวทนาเทีย่ งหรือไมเ ทย่ี ง ? ส. ไมเท่ียง พระเจา ขา ฯลฯ พ. สญั ญาเทย่ี งหรือไมเท่ียง ? ส. ไมเ ท่ียง พระเจาขา ฯลฯ พ. สงั ขารเทีย่ งหรอื ไมเ ทย่ี ง ? ส. ไมเ ท่ยี ง พระเจาขา ฯลฯ พ. วญิ ญาณเท่ยี งหรือไมเทย่ี ง ? ส. ไมเท่ยี ง พระเจาขา . พ. ก็สิ่งใดไมเ ท่ียง สงิ่ น้ันเปนทุกขห รอื เปน สุขเลา ? ส. เปน ทกุ ข พระเจาขา. พ. กส็ ิ่งใดไมเ ท่ยี ง เปน ทกุ ข มีความแปรปรวนเปน ธรรมดาควรหรอื หนอท่ีจะพจิ ารณาเห็นสงิ่ นน้ั วา น่ันของเรา เราเปน น่ันน่นั ตัวตนของเรา ? ส. ขอนัน้ ไมควรเลย พระเจาขา. [๑๐๐] ดูกอ นโสณะ เพราะเหตนุ ้ันแล ทา นพึงเหน็ ดวยปญญาอนั ชอบตามความเปนจริงอยางนว้ี า รูปอยา งใดอยางหนง่ึ เปน อดตีอนาคต และปจ จุบัน เปน ภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอยี ดเลวหรอื ประณีต อยูในทไ่ี กลหรอื ใกล รูปทัง้ หมด นั่นไมใ ชข องเราเราไมเปน นนั่ น่นั ไมใชตวั ตนของเรา เวทนาอยา งใดอยา งหนึง่ ...สัญญาอยางใดอยา งหนง่ึ ... สงั ขารเหลาใดเหลา หนึง่ ... วิญญาณ
พระสตุ ตันตปฎก สงั ยุตตนกิ าย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนา ท่ี 104อยา งใดอยางหน่ึง เปน อดตี อนาคต ปจจบุ ัน เปน ภายในหรือภายนอกหยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต อยใู นทไ่ี กลหรอื ใกล วญิ ญาณทัง้ หมดนัน่ ไมใชของเรา เราไมเปนนั่น นน่ั ไมใ ชต ัวตนของเรา. ดกู อ นโสณะ อริยสาวกผูไ ดสดบั แลว เห็นอยูอ ยางนี้ ยอมเบือ่ หนา ยแมในรปู แมในเวทนา แมในสญั ญา แมใ นสงั ขาร แมในวญิ ญาณ เมื่อเบ่อื หนา ยยอมคลายกําหนดั เพราะคลายกาํ หนัด จิตยอ มหลุดพน เม่อื จิตหลดุ พนแลว ก็มีญาณหยั่งรวู า หลุดพนแลว ยอ มทราบชัดวา ชาติสิ้นแลว พรหมจรรยอยจู บแลว กิจท่คี วรทาํ ทําเสร็จแลวกจิ อืน่ เพื่อความเปน อยา งนี้มไิ ดม .ี จบ โสณสูตรที่ ๗ ๘. โสณสูตรท่ี ๒วาดว ยผคู วรยกยองและไมค วรยกยองเปน สมณพราหมณ [๑๐๑] ขา พเจาไดส ดับมาแลวอยา งน้ี :- สมัยหนงึ่ พระผูมพี ระภาคเจา ประทบั อยู ณ พระวหิ ารเวฬุวนักลนั ทกนวิ าปสถาน กรงุ ราชคฤห ครั้งนั้นแล คฤหบดีบุตรช่อื โสณะเขาไปเฝาพระผมู พี ระภาคเจาถึงทป่ี ระทับ ถวายบงั คมพระผูมพี ระภาคเจาแลวน่ัง ณ ที่ควรสวนขางหนึ่ง ครน้ั แลว พระผมู พี ระภาคเจา ไดต รัสกะคฤหบดบี ุตรชือ่ โสณะวา ดูกอ นโสณะ กส็ มณะหรือพราหมณเหลาใดเหลา หนึง่ ไมทราบชดั รูป ไมท ราบชัดเหตุเกดิ แหง รปู ไมทราบชัดความดับแหง รปู ไมทราบชดั ขอ ปฏบิ ัตใิ หถงึ ความดบั แหง รูป ไมท ราบชดั เวทนา... ไมท ราบชัดสัญญา... ไมทราบชัดสังขาร... ไมทราบชดัวิญญาณ ไมทราบชัดเหตุเกิดแหงวิญญาณ ไมทราบชดั ความดบั แหง
พระสุตตนั ตปฎ ก สังยตุ ตนิกาย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนาท่ี 105วญิ ญาณ ไมทราบชดั ขอ ปฏบิ ัตใิ หถงึ ความดบั แหง วญิ ญาณ ดกู อ นโสณะ สมณะหรอื พราหมณเ หลานี้ เราไมย กยองวาเปนสมณะในหมูสมณะ หรอื วาเปน พราหมณใ นหมูพราหมณ อน่งึ ทานเหลานน้ั หาทาํใหแจงซง่ึ ประโยชนแหงความเปน สมณะ หรอื ประโยชนแ หง ความเปนพราหมณ ดวยปญญาอนั รยู ิ่งเองในปจจบุ นั เขาถงึ อยูไม. [๑๐๒] ดูกอ นโสณะ สวนสมณะหรอื พราหมณเ หลาใดเหลาหน่งึทราบชัดรูป ทราบชัดเหตเุ กดิ แหงรูป ทราบชดั ความดบั แหงรูปทราบชดั ขอ ปฏบิ ตั ิใหถงึ ความดบั แหง รปู ทราบชัดเวทนา... ทราบชดัสญั ญา... ทราบชดั สังขาร... ทราบชดั วิญญาณ ทราบชดั เหตุเกิดแหงวิญญาณ ทราบชัดความดบั แหงวิญญาณ ทราบชดั ขอ ปฏบิ ตั ิใหถงึความดบั แหงวญิ ญาณ ดกู อนโสณะ สมณะหรอื พราหมณเ หลา น้แี ลเรายกยองวาเปนสมณะในหมสู มณะ และวาเปนพราหมณในหมูพราหมณ อนง่ึ ทานเหลา นน้ั ยอมทาํ ใหแจงซึ่งประโยชนแ หงความเปนสมณะและประโยชนแ หงความเปน พราหมณ ดว ยปญ ญาอันรูย ิ่งเองในปจจบุ ันเขาถงึ อยู จบ โสณสตู รท่ี ๒ อรรถกถาโสณสตู รท่ี ๑-๒ ในโสณสูตรท่ี ๑ มวี ินจิ ฉัยดังตอไปนี้ :- บทวา เสยโฺ ยหมสฺมิ ความวา เราไดเ ปน ผปู ระเสริฐสงู สดุ .บทวา กิมฺตรฺ ยถาภตู สสฺ อทสสฺ นา ความวา อะไรจะพึงเปนอยา งอ่ืนนอกจากการไมเหน็ ธรรมตามความเปนจริง. อธบิ ายวา การไมรูการไมเหน็ นัน่ แลจะพึงมี. บดั น้พี ระผมู ีพระภาคเจาเมือ่ จะเริ่มแสดงประเภท
พระสุตตนั ตปฎ ก สงั ยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนา ที่ 106แหงวชริ ะอนั จะหมุนเวยี น ๓ รอบ แกทา นพระโสณะนัน้ จงึ ตรสัมีอาทิวา ดูกอ นโสณะ เธอสําคญั ขอนนั้ เปน อยา งไร ? โสณสตู รที่ ๒มอี รรถต้ืนท้งั นั้น. จบ อรรถกถาโสณสตู รท่ี ๗-๘ ๙. นันทขิ ยสูตรท่ี ๑วา ดวยการสนิ้ ความยนิ ดีเปนเหตหุ ลดุ พน จากทุกข [๑๐๓] กรงุ สาวตั ถ.ี พระผมู ีพระภาคเจาไดต รสั วา ดกู อ นภกิ ษทุ ้ังหลาย ภิกษเุ หน็ รูปอันไมเทีย่ งนัน่ แหละ วาไมเ ที่ยง ความเหน็ของเธอนั้นเปน สัมมาทฏิ ฐิ เมอื่ เธอเห็นโดยชอบ ยอ มเบอื่ หนา ย เพราะสิ้นความยินดี จงึ สนิ้ ความกําหนัด เพราะส้นิ ความกําหนดั จงึ สิ้นความยินดีเพราะสน้ิ ความยินดแี ละความกาํ หนดั จิตหลุดพนแลว เรยี กวาหลุดพนดแี ลว ดกู อ นภิกษุทง้ั หลาย ภกิ ษุเห็นเวทนาอันไมเท่ยี งนั่นแหละ วาไมเท่ยี ง ฯลฯ เห็นสญั ญาอนั ไมเที่ยงนน่ั แหละวาไมเทีย่ ง ฯลฯ เห็นสังขารอนั ไมเทย่ี งนน่ั แหละ วา ไมเที่ยง ฯลฯ เหน็ วิญญาณอนั ไมเทยี่ งน่นั แหละวา ไมเทยี่ ง ความเห็นของเธอน้ันเปนสัมมาทิฏฐิ เมอื่ เธอเห็นโดยชอบยอ มเบือ่ หนาย เพราะสน้ิ ความยนิ ดี จงึ สิ้นความกาํ หนัด เพราะส้นิความกําหนดั จงึ สิ้นความยินดี เพราะส้ินความยินดแี ละความกาํ หนดัจติ หลุดพน แลว เรยี กวาหลุดพนดแี ลว . จบ นนั ทขิ ยสตู รที่ ๑
พระสุตตนั ตปฎก สังยุตตนกิ าย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนา ที่ 107 ๑๐. นนั ทิขยสูตรท่ี ๒วา ดวยการส้นิ ความยินดเี ปนเหตหุ ลดุ พน จากทกุ ข [๑๐๔] กรงุ สาวัตถี. พระผูมีพระภาคเจาไดตรัสวา ดกู อนภิกษุท้งั หลาย เธอท้ังหลายจงทาํ ไวในใจซึง่ รปู โดยอบุ ายอันแยบคายและจงพิจารณาเหน็ ความไมเ ท่ยี งแหงรูป ตามความเปนจรงิ เมือ่ ภกิ ษุทาํ ไวในใจซึ่งรูปโดยอุบายอันแยบคาย และพจิ ารณาเหน็ ความไมเทยี่ งแหง รูป ตามความเปน จริง ยอมเบ่อื หนา ยในรปู เพราะสิน้ ความยนิ ดีจงึ ส้ินความกาํ หนัด เพราะส้นิ ความกําหนดั จึงส้ินความยินดี เพราะสิน้ ความยินดีและความกาํ หนัด จติ หลุดพน แลว เรยี กวา หลดุ พน ดีแลวดกู อนภกิ ษทุ ัง้ หลาย เธอทงั้ หลายจงทาํ ไวใ นใจซง่ึ เวทนาโดยอุบายอันแยบคาย ฯลฯ ซ่ึงสัญญาโดยอบุ ายอันแยบคาย ฯลฯ ซ่ึงสงั ขารโดยอุบายอันแยบคาย ฯลฯ ซึง่ วญิ ญาณโดยอบุ ายอนั แยบคาย และจงพจิ ารณาเห็นความไมเที่ยงแหงวิญญาณ ตามความเปนจรงิ เม่ือภกิ ษุทําไวใ นใจซง่ึวิญญาณโดยอุบายอนั แยบคาย และพิจารณาเหน็ ความไมเ ทย่ี งแหงวญิ ญาณตามความเปน จริง ยอมเบ่อื หนายในวิญญาณ เพราะส้นิความยินดี จงึ ส้ินความกาํ หนัด เพราะสน้ิ ความกําหนัด จึงส้ินความยินดีเพราะส้ินความยนิ ดีและความกําหนดั จิตหลดุ พนแลว เรียกวา หลดุ พนดแี ลว. จบ นนั ทขิ ยสูตรที่ ๒ จบ อัตตทีปวรรคที่ ๕
พระสุตตันตปฎก สงั ยุตตนกิ าย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนา ท่ี 108 อรรถกถานันทิขยสตู รที่ ๑ - ๒ ในสตู รที่ ๑- ๒ มีวนิ ิจฉัยดงั ตอ ไปนี้ :- คาํ วา นนทฺ กิ ฺขยา ราคกฺขโย, ราคกฺขยา นนทฺ ิกฺขโย เพราะความเพลิดเพลินสิน้ ไป ราคะก็สิน้ ไป. เพราะราคะส้ินไป ความเพลิดเพลนิก็สิน้ ไปนี้ ทา นกลา วไวเพอ่ื กระทาํ ใหตางจากอรรถแหงคําเหลานี้วานนทฺ ิ หรอื วา ราโค. อน่ึง บุคคลเม่อื เบอื่ หนา ยดวยนพิ พทิ านปุ สสนาชอื่ วา ยอมละนันทิ ความเพลดิ เพลนิ เมือ่ คลายความกาํ หนดั ดวยวริ าคานุปสสนา ช่ือวายอมละราคะ. ดว ยอนั ดับคาํ เพียงเทานี้ พระผมู ีพระภาคเจา ทรงใหวปิ ส สนาจบลงแลว ทรงแสดงมรรคจติ ในทน่ี ีว้ า เพราะราคะสิน้ ไป นนั ทิก็ส้นิ ไปดังน้ีแลวแสดงผลจิตวา เพราะนนั ท-ิ ราคะสิ้น จิตหลุดพน แลวแล. จบ อรรถกถานนั ทขิ ยสูตรที่ ๑ ๒ จบ อัตตทีปวรรค จบ อรรถกถามูลปณ ณาสก รวมพระสตู รทมี่ ใี นวรรคน้ี คือ ๑. อตั ตทีปสูตร ๒. ปฏปิ ทาสตู ร ๓. อนจิ จสตู รท่ี ๑ ๔. อนจิ จ-สตู รที่ ๒ ๕. สมนปุ ส สนาสตู ร ๖. ปญ จขนั ธสตู ร ๗. โสณสูตรท่ี ๑๘. โสณสูตรที่ ๒ ๙. นันทขิ ยสตู รที่ ๑ ๑๐. นนั ทิขยสตู รที่ ๒. จบ มลู ปณณาสก รวมวรรคทมี่ ีในมูลปณ ณาสกน ี้ คอื ๑. นกลุ ปต ุวรรค ๒. อนจิ จวรรค ๓. ภารวรรค ๔. นตมุ หากวรรค๕. อตั ตทีปวรรค.
พระสุตตันตปฎก สงั ยุตตนิกาย ขนั ธวารวรรค เลม ๓ - หนาท่ี 109 มัชฌมิ ปณ ณาสก อุปายวรรคท่ี ๑ ๑. อปุ ายสูตรวาดว ยสง่ิ ทเ่ี ปน ความหลดุ พน และไมหลุดพน [๑๐๕] ขาพเจา ไดส ดับมาแลว อยา งนี้ สมยั หนึง่ พระผูมีพระภาคเจาประทบั อยู ณ พระวหิ ารเชตวนัอารามของทา นอนาถบิณฑกิ เศรษฐี กรงุ สาวตั ถี ณ ท่ีน้นั แล พระผมู -ีพระภาคเจา ไดตรสั วา ดูกอนภิกษทุ ัง้ หลาย ความเขาถงึ ดว ยอาํ นาจตณั หา มานะ ทฏิ ฐิ เปน ความไมห ลดุ พน ความไมเขาถงึ เปนความหลุดพน ดูกอนภกิ ษุทัง้ หลาย วญิ ญาณที่เขาถงึ รปู ก็ดี เมือ่ ต้ังอยูพงึ ต้ังอยู วญิ ญาณท่ีมรี ูปเปนอารมณ มรี ปู เปนท่ตี ั้ง มคี วามยนิ ดเี ปน ที่เขา ไปซองเสพ พึงถงึ ความเจริญงอกงามไพบูลย ฯลฯ วญิ ญาณทีม่ ีสงั ขารเปน อารมณ มีสงั ขารเปนทต่ี ้งั มีความยนิ ดีเปน ที่เขาไปซองเสพพึงถึงความเจรญิ งอกงามไพบลู ย ดกู อ นภิกษทุ ั้งหลาย ผใู ดพงึ กลาวอยางน้วี า เราจักบัญญัตกิ ารมา การไป จุติ อุปบตั ิ หรอื ความเจริญงอกงามไพบลู ยแ หง วญิ ญาณ เวน จากรูป เวทนา สญั ญา สงั ขารขอนไี้ มเปน ฐานะทจ่ี ะมไี ด ดูกอนภิกษทุ ้งั หลาย ถา ความกาํ หนดั ในรปู ธาตุ ในเวทนาธาตุ ในสญั ญาธาตุ ในสังขารธาตุ ในวิญญาณธาตุเปนอันภกิ ษลุ ะไดแ ลว ไซร เพราะละความกาํ หนดั เสียได อารมณยอ มขาดสญู ท่ีต้งั แหงวญิ ญาณยอ มไมมี วญิ ญาณอันไมมที ่ีตง้ัไมง อกงาม ไมแ ตงปฏสิ นธิ หลุดพน ไป เพราะหลดุ พน ไป จึงดาํ รงอยู
พระสุตตันตปฎก สงั ยตุ ตนิกาย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนา ที่ 110เพราะดาํ รงอยู จงึ ยินดีพรอม เพราะยนิ ดีพรอม จงึ ไมส ะดุง เมอ่ืไมสะดุง ยอ มดบั รอบเฉพาะตนเทา นั้น ภิกษุนนั้ ยอ มทราบชดั วาชาตสิ ิน้ แลว พรหมจรรยอ ยูจบแลว กิจท่คี วรทําทาํ เสร็จแลว กิจอืน่เพอื่ ความเปนอยางนี้มิไดม .ี จบ อปุ ายสตู รท่ี ๑ อรรถกถาอุปายสูตรท่ี ๑ ในอุปายสตู รท่ี ๑ แหงอุปายวรรคมีวินจิ ฉยั ดังตอไปนี้ :- บทวา อุปาโย ไดแ ก เขาถึงขันธ ๕ ดว ยอาํ นาจ ตัณหา มานะและทิฏฐิ บทวา วิ ฺ าณ ไดแ ก กรรมวิญญาณ (วิญญาณที่เกิดแตกรรม). บทวา อาปชเฺ ชยฺย ไดแกพ ึงใหกรรมยอยยบั ไปแลวถึงความเจรญิ เปน ตนโดยความเปน ธรรมชาติสามารถรง้ั ปฏสิ นธิมาได.เหตใุ นการไมถ อื เอาบทวา วิ ฺาณปู าย ทา นไดกลาวไวแ ลวน่ันแล.บทวา โวจฉฺ ชิ ชฺ ตารมมฺ ฌ ความวา อารมณยอ มขาดลง เพราะความไมสามารถร้งั ปฏสิ นธิมา. บทวา ปติฏ า วิ ฺาณสฺส ความวากรรมวิญญาณยอมไมม ีทต่ี ัง้ อาศยั . บทวา ตทปฺปติฏ ิต ตัดบทเปนต อปฺปติฏิต . บทวา อนภิส ขจจฺ วิมุตฺต ความวา ไมปรงุ แตง ปฏิสนธิหลดุ พน ไป. จบ อรรถกถาอปุ ายสตู รที่ ๑ ๒. พชี สูตร วา ดว ยอุปมาวญิ ญาณดว ยพืช [๑๐๖] กรงุ สาวตั ถ.ี พระผมู ีพระภาคเจา ตรัสวา ดูกอ นภกิ ษุทง้ั หลาย พืช ๕ อยางน้ี ๕ อยา งเปน ไฉน คือ พืชงอกจากเหงา ๑
พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยตุ ตนกิ าย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนา ที่ 111พชื งอกจากลาํ ตน ๑ พชื งอกจากขอ ๑ พชื งอกจากยอด ๑ พืชงอกจากเมล็ด ๑ ดกู อ นภิกษุทัง้ หลาย ก็พืช ๕ อยางนี้ มไิ ดถกู ทาํ ลาย ไมเ นาไมถกู ลมแดดทาํ ใหเสยี ยังเพาะข้นึ อนั บุคคลเก็บไวดี แตไ มม ดี นิไมม นี ้ํา พืช ๕ อยาง พงึ ถงึ ความเจรญิ งอกงามไพบูลยไ ดหรือ ? ภกิ ษเุ หลาน้นั กราบทลู วา ขอ นัน้ ไมไ ด พระพุทธเจาขา. พ. ดูกอนภิกษุท้ังหลาย พืช ๕ อยางน้ี มิไดถูกทําลาย ฯลฯอนั บคุ คลเก็บไวดี และมดี ิน มนี าํ้ พชื ๕ อยางน้ี พึงถึงความเจรญิงอกงามไพบลู ยไ ดหรอื ? ภิ. ได พระพทุ ธเจา ขา. [๑๐๗] พ. ดูกอนภิกษุทั้งหลาย เธอทง้ั หลายพงึ เห็นวิญญาณฐติ ิ ๔ เหมอื นปฐวธี าตุ พงึ เห็นความกาํ หนัดดวยอํานาจความเพลนิเหมอื นอาโปธาตุ พงึ เห็นวญิ ญาณพรอ มดวยอาหาร เหมอื นพืช ๕ อยางดกู อนภกิ ษุท้งั หลาย วญิ ญาณทเี่ ขา ถงึ รปู กด็ ี เมอื่ ต้งั อยู พงึ ตงั้ อยูวิญญาณทม่ี ีรปู เปนอารมณ มีรปู เปน ทต่ี ้งั มีความยนิ ดีเปนท่เี ขาไปซองเสพ พึงถงึ ความเจริญงอกงามไพบลู ย ดูกอนภิกษทุ ้งั หลายวิญญาณท่เี ขา ถงึ เวทนาก็ดี ฯลฯ วิญญาณที่เขาถงึ สญั ญาก็ดี ฯลฯวิญญาณทเ่ี ขา ถึงสงั ขารกด็ ี เมือ่ ตั้งอยู พงึ ตง้ั อยู วญิ ญาณทม่ี ีสงั ขารเปน อารมณ มสี ังขารเปนทต่ี ั้ง มีความยินดีเปนทเี่ ขาไปซองเสพพงึ ถงึ ความเจรญิ งอกงามไพบลู ย ดกู อนภิกษุทง้ั หลาย ผใู ดพึงกลาวอยางนีว้ า เราจกั บญั ญตั กิ ารมา การไป จตุ ิ อุปบัติ หรอื ความเจริญงอกงามไพบูลยแ หงวญิ ญาณ เวน จากรปู เวทนา สญั ญา สงั ขารขอนไี้ มเปน ฐานะท่ีจะมไี ด ดกู อนภกิ ษุทงั้ หลาย ถาความกาํ หนัดในรปู ธาตุ ในเวทนาธาตุ ในสญั ญาธาตุ ในสงั ขารธาตุ ในวิญญาณธาตุ
พระสตุ ตนั ตปฎก สังยตุ ตนิกาย ขนั ธวารวรรค เลม ๓ - หนา ท่ี 112เปนอันภกิ ษุละไดแลว ไซร เพราะละความกาํ หนัดเสียได อารมณยอมขาดสญู ท่ีตงั้ แหง วิญญาณยอมไมม ี วิญญาณอนั ไมม ีท่ตี ้งั น้นั ไมง อกงามไมแตง ปฏสิ นธิ หลุดพนไป เพราะหลดุ พน ไป จงึ ดํารงอยู เพราะดํารงอยูจงึ ยนิ ดพี รอม เพราะยินดพี รอ ม จงึ ไมส ะดุง เมือ่ ไมสะดุง ยอ มดับรอบเฉพาะตนเทาน้นั เธอยอมเธอทราบชดั วา ชาติสน้ิ แลว พรหมจรรยอยูจ บแลว กจิ ทค่ี วรทําทําเสร็จแลว กจิ อน่ื เพื่อความเปน อยา งน้มี ิไดมี. จบ พชี สตู รที่ ๒ อรรถกถาพชี สูตรที่ ๒ ในพชี สตู รท่ี ๒ มวี นิ จิ ฉยั ดงั ตอไปนี้ :- บทวา พีชชาตานิ ไดแก พืชทั้งหลาย. บทวา มูลพชี ไดแกพืชเกดิ แตราก มีวานนํา้ วา นเปราะ ขมิน้ ขงิ เปนตน . บทวา ขนฺธพีชไดแ ก พืชเกดิ แตลาํ ตน มีตน โพธิ ตน ไทรเปน ตน. บทวา ผลุพชี ไดแกพืชเกิดแตข อ มี ออ ย ไมไผ ไมออ เปนตน . บทวา อคฺคพีช ไดแก พชืเกิดแตยอด มีผกั บุง แมงลัก เปน ตน . บทวา พีชพีช ไดแ ก พชื เกิดแตเ มล็ดคอื ปพุ พัณณชาตมสี าลแี ละขา วเจา เปน ตน และอปรัณณชาตมีถว่ั เขยี วและถ่วั ราชมาส เปนตน . บทวา อกฺขณฺฑานิ ไดแก ไมแ ตกตง้ั แตเวลาที่พชื แตกแลว ยอ มไมส ําเร็จประโยชนแ กพ ชื . บทวาอปูตกิ านิ ไดแก ไมเนา เพราะชุมดวยนา้ํ . จรงิ อยู. พชื ที่เนา ยอ มไมสาํ เร็จประโยชนแกพ ืช. บทวา อวาตาตปปฺปตานิ ความวา ไมถ ูกลมและแดดกราด ปราศจากธลุ ี ไมเ ปยกชมุ จริงอยู พืชทเ่ี ปนกากไมมีธลุ ียอ มไมสําเร็จประโยชนแกพ ชื . บทวา สาราทานิ ไดแ ก พืชท่ีมีสาระคอื ทีม่ ีแกน อยูแ ลว จริงอยพู ชื ท่ีไมมแี กน ยอ มไมส ําเร็จประโยชนแ กพ ชื .
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 616
Pages: