พระสตุ ตันตปฎ ก สังยตุ ตนกิ าย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนาท่ี 251 [๑๙๖] ภ. ดกู อ นตสิ สะ เธอจะสาํ คัญความขอน้นั เปนไฉนโสกะ ปรเิ ทวะ ทกุ ข โทมนสั และอุปายาส ยอ มเกดิ ขน้ึ แกบ คุ คลผูปราศจากความกาํ หนดั ความพอใจ ความรักใคร ความกระหายความเรา รอน ความทะเยอทะยานในรปู เวทนา สัญญา สงั ขาร วญิ ญาณเพราะความทว่ี ิญญาณแปรปรวนเปน อยา งอ่ืนไป ใชไ หม ? ต. ไมใ ชอ ยา งนั้น พระเจาขา . ภ. ดลี ะ ๆ ตสิ สะ ก็ขอ นย้ี อ มเปนอยางนี้ สาํ หรับบคุ คลผูปราศจากความกาํ หนัดในวญิ ญาณ ดกู อนตสิ สะ เธอจะสาํ คัญความขอนัน้ เปน ไฉน รูปเทยี่ งหรือไมเ ทย่ี ง ? ต. ไมเ ทย่ี ง พระเจา ขา ฯลฯ. ภ. เวทนา สัญญา สงั ขาร วญิ ญาณ เที่ยงหรือไมเทีย่ ง. ต. ไมเท่ียง พระเจา ขา. ภ. เพราะเหตุนั้นแล ติสสะ อรยิ สาวกผไู ดสดบั แลว เห็นอยูอยา งนี้ ฯลฯ กิจอ่นื เพอ่ื ความเปน อยา งน้มี ไิ ดม ีอกี . [๑๙๗] ภ. ดกู อ นตสิ สะ เปรยี บเหมือนมีบรุ ษุ ๒ คน คนหน่ึงไมฉ ลาดในหนทาง คนหนึ่งฉลาดในหนทาง บรุ ษุ คนทไ่ี มฉลาดในหนทางนนั้ จึงถามทางบรุ ุษผูฉลาดในหนทาง บุรษุ ผูฉ ลาดในหนทางน้นัพงึ บอกอยา งนวี้ า ดูกอ นบุรษุ ผเู จรญิ ทานจงไปตามทางนแ้ี หละสกั ครูหนง่ึ แลวจักพบทาง ๒ แพรง ในทาง ๒ แพรงนัน้ ทานจงละทางซา ยเสีย ถอื เอาทางขวา ไปตามทางนนั้ สักครูห นง่ึ แลวจกั พบราวปาอันทึบ ทานจงไปตามทางนั้นสักพกั หนึ่งแลวจักพบที่ลุมใหญมีเปอกตม จงไปตามทางนนั้ สกั ครูหนงึ่ แลว จกั พบหนองบงึ จงไปตามทางน้นั สกั ครหู นง่ึ แลวจกั พบภมู ิภาคอนั ราบร่นื ดกู อ นตสิ สะ เรากระทาํ
พระสุตตนั ตปฎ ก สงั ยตุ ตนิกาย ขนั ธวารวรรค เลม ๓ - หนาที่ 252อุปมานแ้ี ล เพื่อใหเขา ใจเนอ้ื ความ ในขอน้มี ีอธิบายอยางนี้ คําวา บรุ ษุผไู มฉลาดในหนทางน้แี ล เปน ชื่อแหงปถุ ชุ น คาํ วาบรุ ษุ ผฉู ลาดในหนทางนีแ้ ล เปนชือ่ แหงตถาคตอรหันตสมั มาสมั พุทธเจา คําวา ทาง๒ แพรง นแี้ ล เปนช่อื แหง วิจิกิจฉา คําวาทางซายนีแ้ ล เปนชื่อแหงมรรคผิดอันประกอบดว ยองค ๘ คือ มจิ ฉาทิฏฐิ ฯลฯ มจิ ฉาสมาธิ คาํ วาทางขวาน้ีแล เปน ช่อื แหง อรยิ มรรคอนั ประกอบดว ยองค ๘ คือสมั มาทิฏฐฯิ ลฯ สัมมาสมาธิ คาํ วาราวปาอันทบึ น้แี ล เปน ชือ่ แหงอวชิ ชา คําวาที่ลมุ ใหญมีเปอกตมน้ีแล เปน ชอื่ แหง กามทั้งหลายคาํ วาหนองบึงน้แี ล เปน ช่อื แหงความโกรธและความคับแคน คาํ วาภูมิภาคอนั ราบรืน่ น้แี ล เปน ชอื่ แหง นิพพาน เธอจงยินดเี ถดิ ติสสะเธอจงยนิ ดเี ถิด ติสสะ ตามโอวาทของเราตามความอนเุ คราะหของเราตามคาํ พรา่ํ สอนของเรา พระผมู ีพระภาคเจา ไดตรัสพระพทุ ธพจนน ้แี ลวทา นพระตสิ สะปล้มื ใจช่นื ชมพระภาษิตของพระผูมีพระภาคเจา ฉะน้แี ล. จบ ตสิ สสูตรที่ อรรถกถาตสิ สสตู รที่ ๒ พงึ ทราบวนิ ิจฉยั ในตสิ สสูตรที่ ๒ ดงั ตอไปนี้ : พระติสสเถระ บทวา มธรุ กชาโต วยิ ความวา (รา งกายของผม) ไมเหมาะแกก ารงาน (ไมคลองตวั ) เหมอื นเกดิ มภี าระหนัก. บทวา ทสิ าป ความวา ทา นพระตสิ สะกลาววา แมทิศท้ังหลายก็ไมปรากฏ คือไมแจมแจง แกผมอยา งน้ีวา นท้ี ศิ ตะวันออก นท้ี ิศใต. บทวา ธมปฺ าป ม น ปฏิภนฺติ ความวา ทา นพระติสสะกลา ววาแมปรยิ ัตธิ รรมท้งั หลาย กไ็ มป รากฏแกผม สิ่งท่ีเรียนไดแ ลว สาธยาย
พระสตุ ตนั ตปฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนา ที่ 253ไดแลว กไ็ มปรากฏ (ลมื หมด). บทวา วิจิกิจฉฺ า ความวา ไมใช วจิ ิกจิ ฉา (ความสงสัย)อยา งสําคัญ เนื่องจากวา ทา นไมเ กิดความสงสยั วา \"ศาสนานําสตั วออกจากทกุ ขไ ดหรือไมห นอ\" แตทา นมีความคดิ อยา งนวี้ า ''เราจกัสามารถบําเพญ็ สมณธรรมไดหรอื หนอ หรอื จักทําไดแ ตเพยี งครองบาตรและจวี รเทา นน้ั \"๑ กามทง้ั หลายมรี สอรอยนอย บทวา กามานเมต อธวิ จน ความวา เมือ่ บุคคลมองดสู ระนอ ยทล่ี าดลุม มีแตเพียงนาดู นา รื่นรมย แต (ถา ) บุคคลใดลงไปในสระนอ ยที่ลาดลมุ นี้ สระนั้นก็จะฉุดลากผนู นั้ ใหถงึ ความพินาศ๒ เพราะสระนอยนัน้ มีปลาดชุ กุ ชมุ ฉันใด ในกามคุณ ๕ กฉ็ ันน้นั เหมอื นกนั (คือ)ทวารทัง้ หลายมีจกั ษทุ วารเปนตน ๓ มีแตเพียงความนารืน่ รมย ในเพราะ (เห็น) อารมณ (เปนตน) แต (ถา ) บคุ คลใด ติดใจในกามคุณ ๕ น้ีมันก็จะลากจูงบคุ คลนน้ั ไปยัดใสใ นทคุ คติภมู ิ มนี รกเปนตน น่ันแล.เพราะวา กามทัง้ หลายมีรสอรอ ยนอย มที กุ ขมาก มีความคบั แคนมากในกามเหลานี้ มีโทษยงิ่ ๆ ขน้ึ ไปอกี พระผมู ีพระภาคเจา ทรงอาศัยอํานาจประโยชนดังวามาน้ี จงึ ตรัสวา กามานเมต อธิวจน . บทวา อหมนุคคฺ เหน ความวา เราตถาคตจะอนุเคราะหดวยการอนุเคราะหดว ยธรรมและอามิส.๑. ปาฐะวา ปตฺตจวี ร ธรายนมตฺตเมว เชงิ อรรถเปน ปตตฺ จีวรธารณมตฺตเมว แปลวา ตามเชงิ อรรถ๒. ปาฐะวา ปาเปนฺติ เชงิ อรรถและฉบับพมาเปน ปาเปติ แปลตามนยั หลัง๓. ปาฐะวา จกฺขทุ ฺวาราทนี ิ ฉบับพมาเปน จกขฺ ุทวฺ าราทนี แปลตามฉบบั พมา
พระสุตตนั ตปฎก สงั ยตุ ตนกิ าย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนา ที่ 254 บทวา อภินนฺทิ คือรบั เอา และไมใ ชแครับเอาอยา งเดียว(เทานัน้ ) ยงั ชนื่ ชมดวย. ก็ทา นพระติสสะ ไดร บั การปลอบใจจากสํานักพระศาสดาน้ีแลวพากเพยี รพยายามอยไู มกี่วัน กไ็ ดสําเร็จเปนพระอรหนั ต. จบ อรรถกถาติสสสตู รท่ี ๒ ๓. ยมกสูตรวา ดวยพระขีณาสพตายแลวสูญหรือไม [๑๙๘] สมัยหนึ่ง ทา นพระสารีบตุ ร อยทู ีพ่ ระวหิ ารเชตวนัอารามของทานอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรงุ สาวตั ถี กโ็ ดยสมยั น้นั แลยมกภิกษุเกดิ ทฏิ ฐอิ ันชัว่ ชา เห็นปานนีว้ า เรายอ มรทู ว่ั ถึงธรรมตามท่ีพระผูมีพระภาคเจา ทรงแสดงแลววา พระขีณาสพเมอ่ื ตายไปแลว ยอ มขาดสญู ยอมพินาศ ยอมไมเ กดิ อกี ภิกษหุ ลายรูป ไดฟ ง แลว วาไดยนิ วา ยมกภิกษุเกดิ ทฏิ ฐอิ ันช่วั ชาเหน็ ปานน้ีวา เรารูถงึ ธรรมตามท่ีพระผูม ีพระภาคเจา ทรงแสดงแลววา พระขณี าสพ เมือ้ ตายไปแลวยอมขาดสูญ ยอ มพนิ าศ ยอมไมเกดิ อีก ครงั้ นน้ั ภิกษุเหลา นน้ั จึงพากนัเขา ไปหาทานยมกภกิ ษถุ งึ ที่อยู ไดสนทนาปราศรยั กบั ทา นยมกภิกษุคร้นั ผา นการสนทนาปราศรยั ชวนใหระลกึ ถึงกนั ไปแลว จึงนงั่ ณที่ควรสวนขางหนง่ึ ครั้นแลวจึงถามทานยมกภกิ ษวุ า ดูกอนทานยมกะทราบวา ทา นเกิดทฏิ ฐอิ ันชวั่ ชา เห็นปานนี้วา เรารูทวั่ ถงึ ธรรมตามท่ีพระผมู พี ระภาคเจาทรงแสดงแลววา พระขีณาสพเมอ่ื ตายไปแลวยอมขาดสญู ยอมพนิ าศ ยอมไมเกดิ อีก จริงหรอื ทานยมกะกลาววาอยา งนนั้ อาวโุ ส.
พระสตุ ตันตปฎก สังยตุ ตนิกาย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนา ท่ี 255 ภ.ิ ดกู อนอาวุโสยมกะ ทานอยา ไดพูดอยางน้นั อยาไดกลา วตพู ระผูม ีพระภาคเจา เพราะการกลาวตพู ระผูม ีพระภาคเจาไมดเี ลย เพราะพระผูมพี ระภาคเจาไมพึงตรัสอยา งนี้วา พระขีณาสพเมือ่ตายไปแลว ยอมขาดสญู ยอมพนิ าศ ยอ มไมเ กิดอกี . ทานยมกะ เมือ่ ถกู ภิกษุเหลานน้ั กลาวแมอ ยา งนี้ ยังขืนกลา วถึงทิฏฐอิ นั ชัว่ ชาน้นั อยา งหนักแนน อยางน้ันวา เรารูทวั่ ถงึ ธรรมตามท่ีพระผมู ีพระภาคเจาทรงแสดงแลววา พระขีณาสพเม่อื ตายไปแลวยอ มขาดสญู ยอ มพินาศ ยอ มไมเ กดิ อกี . ภิกษเุ หลา นั้นไมอาจเพอ่ื จะทาํ ทา นยมกะ ใหถอนทฏิ ฐอิ นั ชั่วชาน้ันได จงึ ลกุ จากอาสนะเขา ไปหาทานพระสารบี ุตรจนถงึ ท่อี ยู ครนั้ แลวจงึ กลาวกะทานพระสารบี ุตรวา ขาแตท า นสารบี ุตร ยมกภกิ ษเุ กดิ ทฏิ ฐิอนั ชั่วชา เหน็ ปานนว้ี า เรารทู ่วั ถึงธรรมตามท่พี ระผูมีพระภาคเจาทรงแสดงแลว วา พระขีณาสพเม่อื ตายไปแลว ยอมขาดสูญ ยอ มพนิ าศยอมไมเกิดอีก ขอโอกาสนิมนตทา นพระสารบี ตุ รไปหายมกภิกษถุ งึ ทีอ่ ยูเพือ่ อนเุ คราะหเ ถดิ ทานพระสารบี ตุ รรับนมิ นตโ ดยดุษณภี าพ. [๑๙๙] คร้งั น้ัน เวลาเย็น ทา นพระสารบี ตุ รออกจากท่พี ักแลวเขาไปหาทา นยมกะถงึ ท่อี ยู ไดส นทนาปราศรยั กบั ทานยมกะ ครนั้ ผานการสนทนาปราศรยั พอใหร ะลึกถึงกนั ไปแลว จึงนง่ั ณ ท่ีควรสวนขา งหน่ึง แลวไดถ ามทา นยมกะวา ดกู อนอาวุโสยมกะ ทราบวาทานเกิดทิฏฐอิ นั ชว่ั ชา เห็นปานนีว้ า เรารูท ่วั ถงึ ธรรมตามท่พี ระผมู ี-พระภาคเจา ทรงแสดงแลว วา พระขีณาสพเม่อื ตายไปแลว ยอมขาดสญูยอ มพินาศ ยอมไมเกดิ อีก ดังน้ี จริงหรอื ทานยมกะตอบวา อยางน้ันแลทานสารบี ุตร.
พระสุตตันตปฎ ก สังยตุ ตนกิ าย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนา ท่ี 256 สา. ดกู อ นทานยมกะ ทานจะสาํ คญั ความขอ นน้ั เปนไฉนรปู เที่ยงหรอื ไมเ ท่ียง ? ย. ไมเ ทยี่ ง ทาน ฯลฯ. สา เวทนา สัญญา สงั ขาร วญิ ญาณ เทย่ี งหรือไมเทีย่ ง ? ย. ไมเทย่ี ง ทา น ฯลฯ. สา เพราะเหตุนี้นน้ั แล ยมกะ พระอริยสาวกผูไ ดส ดบั แลวเหน็ อยอู ยางนี้ ฯลฯ รูช ดั วา ฯลฯ กจิ อืน่ เพ่ือความเปนอยา งนี้มไิ ดม อี กี . [๒๐๐] สา. ดูกอนทานยมกะ ทานจะสําคัญความขอ นน้ั เปน ไฉนทานเหน็ รปู วาเปนสตั วเปนบคุ คลหรอื ? ย. ไมใชอยางนน้ั ทาน. สา. ทานเห็นเวทนาวาเปน สัตวเ ปนบคุ คลหรือ ? ย. ไมใชอ ยางนน้ั ทา น. สา. ทานเหน็ สญั ญาวาเปน สตั วเปนบคุ คลหรอื ? ย. ไมใ ชอยา งน้ัน ทาน. สา. ทานเหน็ สังขารวา เปน สตั วเ ปนบุคคลหรอื ? ย. ไมใชอ ยา งน้นั ทาน. สา. ทา นเห็นวญิ ญาณวา เปน สัตวเ ปน บุคคลหรือ ? ย. ไมใ ชอยางนนั้ ทาน. [๒๐๑] สา. ดกู อ นทานยมกะ ทา นจะสําคญั ความขอ นน้ั เปน ไฉนทานเห็นวาสัตวบคุ คลมใี นรูปหรอื ? ย. ไมใ ชอยา งน้นั ทา น.
พระสุตตันตปฎก สังยุตตนิกาย ขนั ธวารวรรค เลม ๓ - หนา ท่ี 257 สา. ทา นเหน็ วา สัตวบ คุ คลตา งหากจากรูปหรอื ? ย. ไมใชอ ยา งนน้ั ทาน. สา. ทานเหน็ วา สัตวบ คุ คลมีในเวทนาหรอื ? ย. ไมใ ชอยางน้นั ทาน. สา. ทา นเหน็ วา สัตวบคุ คลตา งหากจากเวทนาหรือ ? ย. ไมใชอยางนนั้ ทา น. สา. ทานเหน็ วา สัตวบคุ คลมใี นสญั ญาหรือ ? ย. ไมใชอ ยางน้ัน ทา น. สา. ทา นเห็นวาสตั วบ คุ คลตา งหากจากสญั ญาหรอื ? ย. ไมใชอ ยา งนั้น ทาน. สา. ทานเห็นวาสัตวบคุ คลมีในสงั ขารหรือ ? ย. ไมใ ชอยางน้ัน ทาน. สา. ทา นเหน็ วาสัตวบคุ คลตางหากจากสังขารหรอื ? ย. ไมใชอยางน้ัน ทา น. สา. ทา นเหน็ วาสตั วบ ุคคลมใี นวญิ ญาณหรือ ? ย. ไมใ ชอยา งนน้ั ทา น. สา. ทา นเห็นวาสตั วบุคคลตา งหากจากวิญญาณหรือ ? ย. ไมใชอ ยางนั้น ทาน. [๒๐๒] สา. ดกู อนยมกะ ทา นจะสําคญั ความขอน้ันเปนไฉนทานเหน็ รปู เวทนา สัญญา สงั ขาร วิญญาณ วาเปนสัตวบ ุคคลหรอื ?
พระสตุ ตันตปฎก สงั ยุตตนกิ าย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนาที่ 258 ย. ไมใชอยางนั้น ทาน. [๒๐๓] สา. ดกู อนทา นยมกะ ทา นจะสําคญั ความขอนัน้ เปนไฉนทานเห็นวา สตั วบคุ คลนน้ี ัน้ ไมมรี ปู ไมมเี วทนา ไมม ีสัญญา ไมม ีสังขารไมมีวญิ ญาณ หรือ ? ย. ไมใชอ ยางนั้น ทา น. สา. ดูกอนทา นยมกะ กโ็ ดยท่จี ริง โดยทีแ่ ท ทานจะคนหาสตั วบุคคลในขนั ธ ๕ เหลา นี้ในปจจุบันไมไดเลย ควรแลหรือทที่ านจะยืนยนัวา เรารูทัว่ ถึงธรรมตามท่พี ระผูม พี ระภาคเจา ทรงแสดงแลว วาพระขีณาสพเมอื่ ตายไปแลว ยอ มขาดสูญ ยอ มพนิ าศ ยอมไมเกดิ อีก. ย. ขา แตท านสารีบตุ ร เม่ือกอ นผมไมร อู ยา งนี้ จึงไดเ กดิ ทฏิ ฐิอันชวั่ ชาอยา งน้ัน แตเ ดยี๋ วนผี้ มละทฏิ ฐอิ ันชว่ั ชา นน้ั ไดแ ลว และผมกไ็ ดบรรลุธรรมแลว เพราะฟงธรรมเทศนาน้ีของทา นพระสารบี ุตร. [๒๐๔] สา. ดกู อ นทานยมกะ ถา ชนท้ังหลายพงึ ถามทา นอยางนว้ี า ทานยมกะ ภกิ ษผุ ทู ี่เปนพระอรหันตขณี าสพ เมอื่ ตายไปแลวยอมเปน อะไร ทา นถกู ถามอยา งนนั้ จะพึงกลาวแกวา อยางไร ? ย. ขาแตทานสารีบตุ ร ถาเขาถามอยา งนัน้ . ผมพึงกลาวแกอยา งนว้ี า รูปแลไมเ ท่ยี ง สิ่งใดไมเ ทยี่ ง สิ่งน้ันเปนทุกข สิ่งใดเปน ทกุ ขสิ่งนน้ั ดบั ไปแลว ถงึ แลวซ่งึ การตงั้ อยูไมได เวทนา สญั ญา สงั ขารวิญญาณไมเ ทีย่ ง สิง่ ใดไมเที่ยง ส่ิงนนั้ เปนทุกข สิ่งใดเปน ทุกข สิ่งน้ันดับไปแลว ถงึ แลวซึ่งการต้งั อยไู มไ ด. ขา แตทานสารีบตุ ร ผมถกู เขาถามอยา งนั้น พงึ กลา วแกอ ยา งน.ี้
พระสุตตันตปฎ ก สงั ยุตตนกิ าย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนา ท่ี 259 [๒๐๕] สา. ดีละ ๆ ยมกะ ถาอยางนัน้ เราจักอปุ มาใหทา นฟงเพอ่ื หย่งั รูความขอน้ันใหย ง่ิ ๆ ขึน้ . ดกู อ นทานยมกะ เปรียบเหมือนคฤหบดีหรือบุตรของคฤหบดีผมู ่งั คง่ั มที รัพยม าก มีโภคะมาก และเขารกั ษาตวั กวดขัน เกิดมบี ุรุษคนหนงึ่ ประสงคค วามพนิ าศ ประสงคความไมเ ปน ประโยชน ประสงคค วามไมป ลอดภยั อยากจะปลงชวี ติ เขาเสีย เขาพึงมคี วามคดิ อยางน้วี า คฤหบดีและบตุ รคฤหบดีน้ี เปนคนมั่งคัง่มีทรพั ยม าก มีโภคะมาก และเขามกี ารรักษาอยา งกวดขัน การที่จะอกุ อาจปลงชวี ติ น้ีไมใชเ ปนการทําไดง า ยเลย อยากระน้ันเลย เราพงึ ใชอุบายปลงชีวิต บรุ ุษนัน้ พงึ เขาไปหาคฤหบดีหรอื บตุ รคฤหบดีนัน้แลว พงึ กลาวอยา งนี้วา ผมขอเปนคนรับใชท า น คฤหบดหี รอื บตุ รคฤหบดีน้นั พึงรับบรุ ษุ น้นั ไวใ ช เขาพงึ รบั ใชเรยี บรอ ยดีทุกประการ คอืมีปรกติตน่ื กอ น นอนทีหลัง คอยฟงคําส่ัง ประพฤตใิ หเปนที่พอใจกลา วแตวาจาเปนท่รี ักใคร คฤหบดหี รอื บตุ รคฤหบดีนัน้ เชือ่ เขาโดยความเปน มติ ร โดยความเปน สหาย และถึงความไววางใจในเขา. เมื่อใดบรุ ุษนัน้ พึงคิดวา คฤหบดหี รือบตุ รคฤหบดีไวใจเราดแี ลว เม่ือนน้ับุรุษน้นั รูว า คฤหบดีหรือบุตรคฤหบดีอยูในทล่ี ับ พึงปลงชีวติ เสยี ดว ยศาตราอันคม. ทา นยมกะ ทา นจะสาํ คญั ความขอนั้นเปนไฉน ?ในกาลใด บุรษุ นน้ั เขาไปหาคฤหบดหี รอื บตุ รคฤหบดีโนน แลว กลาวอยางนว้ี า ผมขอรับใชท าน แมในกาลนั้น เขากช็ ่ือวา เปนผฆู าอยแู ลวก็แตคฤหบดหี รือบตุ รคฤหบดนี ้ันหารจู กั บุรษุ ผฆู าวา เปน ผูฆา เราไมในกาลใด บุรษุ นัน้ ตื่นกอ น นอนทีหลัง คอยฟงคาํ สงั่ ประพฤติใหเปนที่พอใจ กลา วแตว าจาเปนที่รกั ใคร แมใ นกาลน้นั เขากช็ อื่ วาเปน ผฆู า อยูแ ลว ก็แตค ฤหบดีหรอื บตุ รคฤหบดีนน้ั หารูจกั บุรษุ ผฆู า น้ันวา เปน ผูฆ าเราไม และในกาลใด บุรษุ น้นั รูวา คฤหบดหี รือบุตรคฤหบดี
พระสุตตนั ตปฎก สังยุตตนิกาย ขนั ธวารวรรค เลม ๓ - หนา ท่ี 260นน้ั อยใู นทล่ี บั จงึ ปลงชีวิตเสยี ดว ยศาตราอันคม แมในกาลนน้ัเขาเปน ผูฆานั่นเอง กแ็ ตคฤหบดี หรอื บตุ รคฤหบดนี น้ั หารจู กั บรุ ษุ นัน้วาเปนผฆู าเราไม. ย. อยา งน้นั ทาน. [๒๐๖] สา. ดูกอ นทานยมกะ ขออปุ มาน้ฉี นั ใด ปถุ ุชนผมู ิไดสดบัไมไดเ ห็นพระอรยิ ะทั้งหลาย ไมฉลาดในอริยธรรม ไมไดร ับแนะนาํ ในอรยิ ธรรม ไมไดเหน็ สตั บุรุษทั้งหลาย ไมฉลาดในสัปปุริสธรรม ไมไ ดรบั แนะนําในสปั ปรุ ิสธรรม กฉ็ ันนน้ั เหมอื นกัน ยอมเหน็ รปู โดยความเปนอัตตา ยอมเห็นอตั ตามรี ูป ยอ มเห็นรูปในอตั ตา หรือยอ มเห็นอัตตาในรูป ยอ มเห็นเวทนาโดยความเปนอัตตา ฯลฯ ยอมเห็นสัญญาโดยความเปน อัตตา ฯลฯ ยอ มเหน็ สังขารโดยความเปน อตั ตา ยอมเหน็วิญญาณโดยความเปนอตั ตา ยอมเห็นอตั ตามีวญิ ญาณ ยอ มเหน็วิญญาณในอตั ตา หรอื ยอ มเหน็ อัตตาในวิญญาณ เขายอ มไมร ูชดั ตามความเปน จรงิ ซ่ึงรูป เวทนา สัญญา สงั ขาร วิญญาณ อนั ไมเทย่ี งวาไมเ ทยี่ ง ยอ มไมรูชดั ตามความเปนจริงซ่งึ รูป เวทนา สญั ญา สงั ขารวญิ ญาณ อนั เปน ทุกขวา เปนทกุ ข ยอมไมรชู ัดตามความเปนจริงซ่งึรูป เวทนา สัญญา สงั ขาร วิญญาณ อนั เปนอนัตตาวา เปนอนตั ตายอมไมร ชู ัดตามความเปน จรงิ ซ่ึงรปู เวทนา สญั ญา สงั ขาร วิญญาณอันปจ จยั ปรงุ แตงวา อนั ปจ จยั ปรุงแตง ยอมไมรูช ดั ตามความเปนจริงซง่ึรูป เวทนา สญั ญา สงั ขาร วญิ ญาณ อันเปนผฆู า วาเปน ผฆู า เขายอมเขา ไปถอื มัน่ ยึดมั่นซ่ึงรปู เวทนา สัญญา สงั ขาร วิญญาณวา เปนตัวตนของเรา อปุ าทานขันธ ๕ เหลานี้ อันปถุ ชุ นนน้ั เขา ไปถือม่นั ยืดมัน่ แลวยอมเปน ไปเพือ่ ส่ิงมิใชประโยชนเ ก้อื กูล เพ่อื ทกุ ขต ลอดกาลนาน.
พระสุตตันตปฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนาที่ 261 [๒๐๗] ดูกอนทา นยมกะ สว นพระอรยิ สาวกผูสดับแลวไดเห็นพระอรยิ ะท้งั หลาย ฉลาดในอริยธรรม ไดร บั แนะนาํ ในอรยิ ธรรมดีแลว ไดเห็นสตั บุรุษทง้ั หลาย ฉลาดในสัปปรุ สิ ธรรม ไดร บั แนะนาํ ในสปั ปุรสิ ธรรมดแี ลว ยอมไมเ ห็นรูปโดยความเปน อัตตา ยอ มไมเหน็อัตตามรี ูป ยอ มไมเ ห็นรูปในอตั ตา หรือยอมไมเหน็ อัตตาในรูปยอมไมเ หน็ เวทนาโดยความเปนอตั ตา ฯลฯ ยอมไมเ ห็นสญั ญาโดยความเปนอัตตา ฯลฯ ยอ มไมเ ห็นสังขารโดยความเปนอัตตา ฯลฯยอ มไมเ ห็นวิญญาณโดยความเปน อัตตา ยอ มไมเห็นอัตตามีวญิ ญาณยอ มไมเหน็ วิญญาณในอตั ตา หรอื ยอ มไมเห็นอัตตาในวญิ ญาณ เขายอมรูชัดตามความเปนจรงิ ซึ่งรปู เวทนา สญั ญา สังขาร วญิ ญาณอันไมเที่ยงวา ไมเ ท่ยี ง ยอ มรูชดั ตามความเปน จริงซงึ่ รปู เวทนา สัญญาสังขาร วิญญาณ อันเปน ทกุ ขวา เปน ทกุ ข ยอมรูช ดั ตามความเปน จริงซ่งึรปู เวทนา สญั ญา สงั ขาร วญิ ญาณ อันเปน อนัตตาวา เปน อนตั ตายอ มรูช ดั ตามความเปน จริงซึง่ รปู เวทนา สญั ญา สงั ขาร วิญญาณอันปจจยั ปรงุ แตง วาปจ จัยปรงุ แตง ยอมรูชัดตามความเปน จรงิ ซึ่งรปู เวทนา สัญญา สังขาร วญิ ญาณ อนั เปนผูฆา วาเปน ผฆู า เขายอ มไมเขา ไปถือม่ัน ยึดมนั่ ซ่ึงรปู เวทนา สญั ญา สงั ขาร วิญญาณวาเปน ตวั ตนของเรา อุปาทานขันธ ๕ เหลา น้ี อันอรยิ สาวกน้ัน ไมเขา ไปถอื ม่นั ยดึ มน่ั แลว ยอมเปนไป เพื่อประโยชนเก้อื กูล เพอื่ สุขตลอดกาลนาน. ย. ขาแตทานสารบี ุตร ขอ ท่เี พ่ือนพรหมจรรยทัง้ หลายของทานผมู อี ายทุ ั้งหลาย ผเู ชน น้นั เปนผูอ นเุ คราะห ใครป ระโยชน เปนผูวา กลาวพรํ่าสอน ยอ มเปน อยางน้ันแท ก็แลจิตของผมหลุดพน แลวจากอาสวะทัง้ หลาย ไมถือมน่ั เพราะไดฟ งธรรมเทศนานขี้ องทานสารบี ุตร. จบ ยมกสตู รท่ี ๓
พระสตุ ตันตปฎก สังยตุ ตนกิ าย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนาที่ 262 อรรถกถายมกสตู รท่ี ๓ พงึ ทราบวนิ จิ ฉยั ในยมกสูตรที่ ๓ ดงั ตอ ไปน้ี :- ทฏิ ฐขิ องพระยมกะ บทวา ทิฏ คิ ต ความวา กถ็ าพระยมกะนั้น จะพึงมคี วามคดิอยางน้ีวา สงั ขารทงั้ หลายเกดิ ขนึ้ และดบั ไป ความเปนไปแหง สงั ขารนั่นแหละ ท่ไี มเ ปนไป มีอยู (ความคดิ ดังวา มาน)ี้ ยังไมค วรเปนทิฏฐิ(แต) ควรเปนญาณทที่ องเท่ียวไปในคาํ สอน (ศาสนา). แตเ พราะพระยมกะนนั้ ไดมคี วามคิดวา สตั วข าดศนู ย สตั วพินาศฉะนน้ั ความคดิ น้นั จึงเปน ทิฏฐ.ิ บทวา ถามสา ปรามาสา ความวา ดว ยพลังของทฏิ ฐิ และดวยการลูบคลาํ ดว ยทิฏฐิ. บทวา เยนายสมฺ า สารีปุตฺโต ความวา เมอ่ื ปจจนั ตชนบทเกดิ จลาจล เจาหนา ท่ีไมสามารถปราบปรามใหสงบราบคาบไดจึงไปหาเสนาบดี หรือไมก ็ไปเฝาพระราชา ฉันใด เมอื่ พระเถระน้นัสับสนดวยอาํ นาจทิฏฐิ ภกิ ษเุ หลาน้นั ไมส ามารถจะกาํ หราบเธอไดจึงพากนั เขา ไปหาพระสารีบุตร ผเู ปนพระธรรมเสนาบดี ของพระธรรมราชาจนถึงทอ่ี ย.ู พระสารบี ตุ รสอนพระยมกะ บทวา เอว พฺยาโข๑ ความวา พระยมกะไมสามารถจะกลาวไดเต็มปาก (พดู ออ มแอม) ตอหนา พระ (สารบี ุตร) เถระเหมอื นที่กลาวในสํานกั ภกิ ษุเหลา น้ันได จึงกลา วดว ยหวั ใจทีห่ อ เหีย่ ววา๑. บาลีเปน เอว ขวฺ าห
พระสตุ ตันตปฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนา ที่ 263เอว พฺยาโข๑ (เปน อยางน้นั แล) ดังน้ี. ในตอนนี้ พระสารีบตุ รไดก ลาวอุปมาเปรยี บเทียบไวดังนว้ี าดูกอนผูมอี ายุ ทานสาํ คญั ความขอ นนั้ เปน ไฉน ? พระเถระไดฟ ง คาํ ของพระยมกะนน้ั ดงั นแ้ี ลว คดิ วา ภิกษนุ ้ีไมเห็นโทษในลัทธขิ องตน เราจักทาํ โทษนัน้ ใหป รากฏแกเ ธอดว ยการแสดงธรรมดงั นี้ แลวเรมิ่ แสดงเทศนามปี รวิ ัฏ ๓ (เทศนา ๓ รอบ). ถามวา เพราะเหตุไร พระสารีบตุ รจงึ เริ่มคํานไ้ี วว า ดกู อนยมกะผมู อี ายุ ทา นสาํ คัญขอ นั้นเปนไฉน ? ทานพิจารณาเหน็ รปูวา เปนสตั วห รือ ? ตอบวา เริ่มไว เพ่อื ใหบรรลุธรรมเนยี มการซกั ถาม. เพราะวาพระเถระสาํ เร็จเปนพระโสดาบนั ในเวลาจบเทศนามปี รวิ ฏั ๓. เวลาน้นั พระสารบี ตุ รกลา วคําวา ทา นสําคัญความขอน้นั เปน ไฉนเปน ตนไว กเ็ พอ่ื ใหพระยมกะนน้ั ไดบ รรลถุ งึ ธรรมเนยี มในการซักถาม. บทวา ตถาคโต คอื สตโฺ ต (แปลวา สัตว) . พระสารบี ุตรเถระประมวล (รวบรวม) ขนั ธ ๕ เหลาน้ี คือรปู เวทนา สญั ญา สังขาร วิญญาณ มาแลวถามวา ทา นพิจารณาเห็นขนั ธ ๕ เหลานี้วา เปน สัตวห รอื ? รูปประโยควา เอตถฺ จ เต อาวุโส นี้ เปนสัตตมีวิภัตตแิ สดงถงึการซักถามของพระเถระ มีคาํ อธบิ ายดงั น้ีวา กเ็ มือ่ ในปจจบุ นั ทานยังหาสัตวไ มได ตามความเปน จริง ตามสภาพทถี่ องแทในทีน่ ค้ี ือ ในฐานะมีประมาณเทา นี้.๑ บาลเี ปน เอว ขวุ าห
พระสตุ ตันตปฎ ก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนา ท่ี 264 พระสารีบตุ ร (เถระ) ประสงคจะใหพระยมกะพยากรณค วามเปนพระอรหันต จึงถามคาํ ถามน้วี า สเจ ต อาวุโส ดังนเี้ ปนตน . บทวา ย ทกุ ขฺ ต นิรทุ ฺธ ความวา สง่ิ ใดเปน ทกุ ข สง่ิ น้นั แลดับไปแลว ไมม สี ัตวท่ีจะชอ่ื วา ดบั ตา งหาก ขา พเจาพึงพยากรณอ ยางน้.ี บทวา เอตสฺเสว อตถฺ สสฺ ความวา ปฐมมรรค (โสดาปตติมรรค)นั้น อยางนี้. บทวา ภยิ ฺโยโสมตตฺ าย าณาย ความวา เพ่ือประโยชนแกญ าณมีประมาณยิง่ อธบิ ายวา เพ่อื ประโยชนแ กการทาํ มรรค ๓ช้นั สงู พรอ มทง้ั วปิ ส สนาใหแจมแจง . บทวา อารกฺขสมปฺ นโฺ น คือ ถงึ พรอ มดวยการอารกั ขาภายในและการอารกั ขาภายนอก. บทวา อโยคกเฺ ขมกาโม คือ ไมป รารถนาความเกษม (ปลอดภยั )จากโยคะ ๔. บทวา ปสยฺห คือ ขมขู ไดแ ก ขม ขี.่ บทวา อนปุ ขชชฺ คือ ลกั ลอบเขาไป. ในบทวา ปพุ พฺ ฏุ ายี เปน ตน พึงทราบวินิจฉัยดงั ตอ ไปนี้ :- บรุ ษุ ทช่ี ือ่ วา ปุพพฺ ุฏ ายี เพราะหมายความวา เห็นคหบดี หรอืบุตรคหบดี มาแตไ กลก็ลกุ จากทนี่ ง่ั กอน. ท่ีช่อื วา ปจฉฺ านิปาตี เพราะหมายความวา ใหท นี่ งั่ แกคหบดีหรือบุตรคหบดนี ้นั แลว เมอื่ ทานนั่ง (ตนเอง) จึงหยอ นตัวลง คือน่ังทหี ลัง. (อกี อยา งหนึ่ง) บุรษุ นัน้ ต่นื ขึน้ แตเชา ตรู แลว จดั แจงวา
พระสตุ ตันตปฎ ก สังยตุ ตนกิ าย ขนั ธวารวรรค เลม ๓ - หนา ที่ 265พวกเจาจาํ นวนเทาน้ี จงไปไถนา จํานวนเทา นจี้ งไปหวาน ดงั น้ีช่อื วาลุกขึ้นกอนใครหมด เพราะเหตนุ ัน้ จึงชื่อวา ปพุ พฺ ฏุ ายี. บรุ ษุ น้นี นั้ ชอ่ื วา ปจฉฺ านิปาตี เพราะเมอื่ คนงานทั้งหมดกลบั ไปยงั ทอี่ ยขู องตน ๆ แลว (ตนเอง) ก็ยงั จดั การอารักขารอบเรอื นปด ประตนู อนทหี ลงั เขาหมด. ที่ช่อื วา กกึ ารปฏิสาวี เพราะหมายความวา มองดหู นาคหบดีหรอื บุตรคหบดี คลา ยจะถามวา จะใหผ มทําอะไรครับทาน (จะให)ผมทําอะไรครับทาน (จากนั้น) กค็ อยฟงคําสง่ั วา จะใหทาํ อะไร๑. ที่ช่ือวา มนาปจารี เพราะหมายความวา ประพฤติสงิ่ ทถี่ ูกใจ. ทีช่ ื่อวา ปยวาที เพราะหมายความวา พดู วาจาท่นี า รกั . บทวา มิตฺตโตป น ทเหยฺย ความวา (คหบดหี รอื บุตรคหบดี)พึงเชอื่ วา บุรุษน้ีเปนมิตรของเรา. บทวา วิสสฺ าส อาปชฺเชยยฺ ความวา (คหบดีหรือบตุ รคหบด)ีพงึ ทาํ กจิ ทง้ั หลายมดี ่ืมกนิ รวมกันเปน ตน จึงเปนผูคุนเคยกนั . บทวา ส วิสสฺ ฏโ แปลวา คนุ เคยกันดี. อุปมาเปรียบเทียบ ในบทวา เอวเมว โข น้ี มขี ออุปมาเปรยี บเทียบดงั ตอไปนี้ :- พาลปุถุชนผูมิไดสดบั (ธรรมของพระอรยิ ะ) ในเวลาทอ่ี าศยัวัฏฏะ (ยังเวยี นวา ยตายเกดิ ) เปรยี บเหมือนบุตรคหบดผี โู งเขลา.๑. ปาฐะวา กึ การณ ฉบบั พมา เปน กึ การ แปลตามฉบบั พมา
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 616
Pages: