พระสุตตนั ตปฎ ก สังยุตตนิกาย ขนั ธวารวรรค เลม ๓ - หนาที่ 386ไมใชข องตน พงึ ใสใ จวา ทรดุ โทรม เพราะหมายความวา ยอ ยยับพงึ ใสใ จวาวา ง เพราะหมายความวา วา งจากสตั ว พงึ ใสใ จวา เปน อนตั ตาเพราะไมม ีอัตตา. ในท่นี พ้ี ึงทราบอธบิ ายเพ่ิมเตมิ อยางนีว้ า พระผูมีพระภาคเจาตรสั ถึงการใสใ จวา ไมเทีย่ ง ดวยสองบทวา อนจิ จฺ โต ปโ ลกโต (ไมเ ทีย่ งแตกสลาย) ตรสั ถงึ การใสใจวา เปน อนัตตา ดวยสองบทวา สฺุโตอนตฺตโต (วาง, เปน อนตั ตา) ตรัสถงึ การใสใ จวาเปน ทุกข ดว ยบทท่ีเหลอื . บททเ่ี หลอื ในพระสตู รนี้ มคี วามหมายงายแล. จบ อรรถกถาสลี สตู รท่ี ๑๐ ๑. สตุ วาสูตร วา ดวยธรรมที่ควรใสใ จโดยแยบคาย [๓๑๕] สมัยหนง่ึ ทา นพระสารบี ตุ ร และทานพระมหาโกฏฐติ ะอยู ณ ปา อสิ ปิ ตนมฤคทายวัน กรุงพาราณสี ครง้ั น้นั แล ทา นพระมหา-โกฏฐิตะออกจากที่พักในเวลาเย็น เขาไปหาทานพระสารีบตุ รถงึ ท่อี ยู ฯลฯไดถ ามวา ทานพระสารีบุตร ภกิ ษผุ ูไดส ดับแลว ควรกระทาํ ธรรมเหลาไหนไวใจโดยแยบคาย ? ทานพระสารีบตุ รตอบวา ทา นโกฏฐติ ะ ภกิ ษุผไู ดสดับแลวควรกระทําอปุ าทานขนั ธ ๕ ไวในใจโดยแยบคาย โดยความเปน ของไมเ ท่ยี ง ฯลฯ โดยเปน อนัตตา อุปาทานขันธ ๕ เปนไฉน ? อปุ าทานขนั ธคอื รูป ฯลฯ อุปาทานขันธคอื วญิ ญาณ ทานโกฏฐติ ะภิกษผุ ูไ ดส ดบั แลว ควรกระทาํ อปุ าทานขนั ธ ๕ เหลา นีไ้ วใ นใจ
พระสตุ ตันตปฎก สังยตุ ตนกิ าย ขนั ธวารวรรค เลม ๓ - หนา ที่ 387โดยแยบคาย โดยความเปน ของไมเท่ียง ฯลฯ โดยเปน อนตั ตา ทา น-โกฏฐติ ะ ขอ นี้เปนฐานะท่ีจะมีได คือ ภกิ ษุผูไดสดบั แลว กระทาํอุปาทานขันธ ๕ เหลา นีไ้ วใ นใจโดยแยบคาย โดยความเปน ของไมเทย่ี งฯลฯ โดยเปน อนัตตา พึงกระทําใหแจง ซึ่งโสดาปตตผิ ล. [๓๑๖] โก. ทา นพระสารีบตุ ร ภกิ ษผุ ูเปน พระโสดาบนั เลาควรกระทาํ ธรรมเหลาไหนไวในใจโดยแยบคาย ? สา. ทา นโกฏฐติ ะ แมภกิ ษุผูเปน โสดาบนั กค็ วรทําอปุ าทานขนั ธ ๕เหลานน้ี ัน่ แล ไวใ นใจโดยแยบคาย โดยความเปน ของไมเท่ียง ฯลฯ โดยเปน อนตั ตา ทา นโกฏฐิตะ ขอ น้กี ็เปน ฐานะทจี่ ะมไี ดคอื ภกิ ษผุ เู ปนโสดาบัน กระทาํ อุปาทานขนั ธ ๕ เหลาน้ไี วใ นใจโดยแยบคายโดยความเปนของไมเ ทย่ี ง ฯลฯ โดยเปนอนัตตา พึงกระทาํ ใหแจง ซึ่งสกทาคามผิ ล ฯลฯ อนาคามิผล ฯลฯ อรหตั ตผล. [๓๑๗] โก. ทา นพระสารีบุตร ภกิ ษผุ เู ปนอรหันตเ ลาควรกระทําธรรมเหลา ไหนไวใ นใจโดยแยบคาย ? สา. ทา นโกฏฐิตะ แมภิกษผุ เู ปน อรหันต กค็ วรทาํ อุปาทานขนั ธ ๕เหลา น้ีน่ันแล ไวในใจโดยแยบคาย โดยความเปน ของไมเ ที่ยง เปนทุกขเปนดงั โรค เปนดังลูกศร เปน ความคับแคน เปนอาพาธ เปน อน่ืเปนของทรุดโทรม เปน ของสูญ เปน อนัตตา ทา นโกฏฐิตะ กิจทจี่ ะพึงทําใหยงิ่ ขน้ึ ไป หรือการส่ังสมกิจท่ีกระทําแลว ยอมไมมแี กพ ระอรหันตและแมถ งึ ธรรมเหลา น้ี ท่ีภิกษผุ เู ปนพระอรหันตเ จรญิ แลว กระทําใหมากแลว ก็เปนไปเพื่ออยูเปนสขุ ในปจ จบุ นั และเพือ่ สตสิ มั ปชญั ญะเทา นั้น. จบ สตุ วาสตู รท่ี ๑๑
พระสุตตันตปฎก สงั ยตุ ตนกิ าย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนา ท่ี 388 อรรถกถาสุตวาสูตรท่ี ๑๑ ในสตุ วาสตู รที่ ๑๑ ก็เหมือนกนั คือ มีความหมายงา ย. แตว าในสตู รท่ี ๑๐ พระผูมีพระภาคเจา ตรัสปาริสุทธศิ ลี ไวดว ยบทวาสลี วตา ในสูตรที่ ๑๑ น้ี ตรัสกรรมฐานไวด วยบทวา สุตวตา นี้แลเปนขอท่แี ตกตางกนั . จบ อรรถกถาสตุ วาสูตรที่ ๑๑ ๑๒. กัปปสตู รท่ี ๑วา ดว ยการรกู ารเหน็ เปน เหตไุ มมอี หังการ มมงั การ และมานานสุ ยั [๓๑๘ ] กรุงสาวัตถี. ครงั้ น้นั แล ทานพระกปั ปะเขา ไปเฝาพระผมู ีพระภาคเจาถงึ ทปี่ ระทบั ฯลฯ ครัน้ แลว ไดท ลู ถามพระผมู -ีพระภาคเจา วา ขาแตพ ระองคผ เู จรญิ เม่อื บุคคลรอู ยอู ยา งไร เหน็ อยูอยา งไรหนอแล จงึ จะไมมี อหงั การ มมังการ และมานานุสยั ในกายทม่ี ีใจครองน้ี และในสรรพนิมติ ภายนอก ? พระผมู ีพระภาคเจาตรัสตอบวา ดูกอนกัปปะ รปู เวทนา สัญญาสังขาร วิญญาณ อยางใดอยา งหนึ่ง ทั้งที่เปน อดีต อนาคต และปจจุบนัเปนภายในกด็ ี ภายนอกกด็ ี หยาบก็ดี ละเอียดก็ดี เลวก็ดี ประณตี กด็ ีมีอยูใ นท่ไี กลก็ดี ในทใี่ กลกด็ ี อรยิ สาวกเห็นสง่ิ ทง้ั หมดน้ัน ดว ยปญ ญาอันชอบ ตามความเปน จริงอยา งนว้ี า นน่ั ไมใ ชของเรา เราไมใ ชนัน่น่นั ไมใ ชอ ตั ตาของเรา ดูกอ นกปั ปะ เมือ่ บุคคลรอู ยอู ยา งนี้ เห็นอยู
พระสตุ ตันตปฎ ก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนาท่ี 389อยา งนแี้ ล จงึ ไมมีอหังการ นมงั การ และมานานสุ ยั ในกายท่มี ีใจครองนี้และในสรรพนิมิตภายนอก. จบ กัปปสูตรท่ี ๑ อรรถกถากปั ปสูตรที่ ๑ กัปปสตู รที่ ๑ (มเี นื้อความ) เหมอื นกับราหโุ ลวาทสตู รนั่นแล. จบ อรรถกถากปั ปสูตรที่ ๑ ๑๓. กปั ปสตู รท่ี ๒วา ดว ยการรูก ารเหน็ เปนเหตุปราศจากอหังการ มมงั การ และ มานานุสัย [๓๑๙] กรงุ สาวัตถี. คร้งั นน้ั แล ทา นพระกัปปะเขาไปเฝาพระผูมีพระภาคเจาถึงทป่ี ระทับ ฯลฯ คร้ันแลวไดทูลถามพระผูม-ีพระภาคเจาวา ขาแตพ ระองคผ เู จรญิ เมอื่ บุคคลรูอ ยอู ยางไร เหน็ อยูอยา งไรหนอแล มนสั จึงจะปราศจาก อหังการ มมังการ และมานานุสยัในกายทม่ี ใี จครองนี้ และในสรรพนมิ ติ ภายนอก กาวลวงมานะดว ยดีสงบระงบั พน วิเศษแลว ? พระผูมพี ระภาคเจา ตรสั ตอบวา ดูกอนกปั ปะ รปู เวทนา สญั ญาสงั ขาร วญิ ญาณ อยางใดอยา งหนงึ่ ท้งั ท่ีเปนอดตี อนาคต และปจ จบุ นัเปน ภายในก็ดี ภายนอกกด็ ี หยาบก็ดี ละเอยี ดก็ดี เลวก็ดี ประณตี ก็ดีมอี ยูในทไ่ี กลกด็ ี ในทใ่ี กลก ็ดี อรยิ สาวกเห็นสง่ิ ทัง้ หมดน้ัน ดวยปญ ญา
พระสุตตนั ตปฎ ก สังยุตตนกิ าย ขนั ธวารวรรค เลม ๓ - หนาที่ 390อันชอบตามความเปน จริงอยา งน้ีวา นน่ั ไมใชข องเรา เราไมใ ชน น่ันน่ั ไมใชอ ตั ตาของเราอยางนแี้ ลว จงึ หลดุ พนเพราะไมถ ือมนั่ ดูกอนกปั ปะ เมอื่ บุคคลรอู ยอู ยา งนี้ เหน็ อยอู ยา งนแี้ ล มนสั จึงปราศจากอหังการ มมังการ และมานานุสัย ในกายที่มใี จครองน้ี และในสรรพนมิ ติภายนอก กาวลวงนานะดวยดี สงบระงับ พนวิเศษแลว. จบ กัปปสตู รท่ี ๒ จบ ธรรมกถิกวรรค อรรถกถากปั ปสตู รที่ ๒ กปั ปสูตรที่ ๒ (มเี นอ้ื ความ) เหมอื นกบั ราหุโลวาทสตู รนน่ั แล. จบ อรรถกถากปั ปสูตรที่ ๒ จบ อรรถกถาธรรมกถิกวรรคที่ ๒ รวมพระสูตรทีม่ ีในวรรคนี้คือ ๑. อวิชชาสูตร ๒. วิชชาสูตร ๓. ธรรมกถิกสตู รท่ี ๑ ๔.ธรรมกถกิ สูตรท่ี ๒ ๕. พนั ธนสูตร ๖. ปริมจุ จิตสตู รที่ ๑ ๗. ปรมิ จุ -จติ สูตรที่ ๒ ๘. สังโยชนสตู ร ๙. อปุ าทานสตู ร ๑๐. สีลสูตร ๑๑.สตุ วาสตู ร ๑๒. กปั ปสูตรที่ ๑ ๑๓. กปั ปสตู รที่ ๒
พระสุตตันตปฎ ก สังยุตตนกิ าย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนาที่ 391 อวิชชาวรรคที่ ๓ ๑. สมทุ ยธรรมสตู รท่ี ๑วาดว ยความของอวชิ ชา และวิชชา [๓๒๐] กรงุ สาวัตถี. ครั้งน้ันแล ภิกษุรูปหน่งึ เขาไปเฝาพระผูมพี ระภาคเจา ถึงท่ปี ระทบั ฯลฯ ครัน้ แลว เธอไดน ั่ง ณ ที่สมควรสวนขางหนึง่ ไดท ูลถามคํานี้กะพระผูมีพระภาคเจาวา ขาแตพ ระองคผเู จริญ ที่เรียกวา อวิชชา อวชิ ชา ดังนี้ อวิชชาเปน ไฉนหนอแล และบคุ คลเปนผปู ระกอบดวยอวชิ ชา ดว ยเหตเุ พียงเทา ไร ? พระผูมพี ระภาคเจาตรัสตอบวา ดกู อนภกิ ษุ ปถุ ุชนผูไมไดส ดบัแลวในโลกน้ี ยอ มไมร ูชัดตามความเปนจรงิ ซ่ึงรูปอันมคี วามเกดิ ขึ้นเปน ธรรมดาวา รปู มีความเกิดขึ้นเปน ธรรมดา ยอมไมรชู ัดตามความเปน จรงิ ซ่งึ รปู อนั มคี วามเสือ่ มไปเปน ธรรมดาวา รปู มคี วามเส่อื มไปเปนธรรมดา ยอมไมรชู ดั ตามความเปนจรงิ ซ่ึงรูปอันมีความเกิดขึ้นและความเสอ่ื มไปเปน ธรรมดาวา รปู มคี วามเกดิ ขึน้ และความเส่ือมไปเปน ธรรมดา ยอ มไมรชู ัดตามความเปนจรงิ ซงึ่ เวทนา... ยอ มไมร ชู ดัตามความเปนจรงิ ซง่ึ สญั ญา... ยอมไมรูชัดตามความเปน จรงิ ซงึ่สังขาร...ยอ มไมร ชู ดั ตามความเปนจริงซง่ึ วิญญาณ อันมีความเกดิ ข้ึนเปน ธรรมดาวา วิญญาณมีความเกดิ ขนึ้ เปน ธรรมดา ยอมไมร ชู ดั ตามความเปน จรงิ ซึ่งวญิ ญาณอนั มคี วามเสอ่ื มไปเปน ธรรมดาวา วญิ ญาณมคี วามเสอื่ มไปเปนธรรมดา. ยอมไมรูชดั ตามความเปนจริงซึง่วิญญาณอันมีความเกิดข้ึน และความเสื่อมไปเปนธรรมดาวา วิญญาณมีความเกิดขึ้นและความเสอ่ื มไปเปนธรรมดา ดกู อ นภกิ ษุ นี้เรียกวาอวิชชา และบคุ คลเปนผปู ระกอบดว ยอวชิ ชาดวยเหตเุ พยี งเทานี.้
พระสุตตันตปฎ ก สังยตุ ตนกิ าย ขนั ธวารวรรค เลม ๓ - หนา ท่ี 392 [๓๒๑] เม่ือพระผูมพี ระภาคเจา ตรัสอยา งนแี้ ลว ภิกษุนน้ัทลู ถามคาํ นกี้ ะพระผมู ีพระภาคเจา วา ขา แตพ ระองคผ ูเจรญิ ท่ีเรยี กวาวชิ ชา วชิ ชา ดังน้ี วิชชาเปน ไฉนหนอแล และบคุ คลเปน ผปู ระกอบดว ยวชิ ชา ดว ยเหตเุ พยี งเทาไร ? พระผูม ีพระภาคเจา ตอบวา ดูกอนภิกษุ อรยิ สาวกผูไดสดบั แลว ในธรรมวินัยน้ี ยอ มรชู ัดตามความเปน จริง ซ่งึ รปู อนั มคี วามเกิดข้นึ เปน ธรรมดาวา รูปมคี วามเกิดขนึ้ เปนธรรมดา ยอ มรชู ัดตามความเปน จริง ซึ่งรปู อนั มีความเสอ่ื มไปเปนธรรมดาวา รูปมีความเสือ่ มไปเปนธรรมดา ยอมรูช ดั ตามความเปน จรงิ ซึง่ รูป อันมคี วามเกดิ ขน้ึและความเสอ่ื มไปเปนธรรมดาวา รปู มีความเกดิ ข้นึ และความเส่ือมไปเปน ธรรมดา ยอ มรูชดั ตามความเปนจริงซง่ึ เวทนา... ยอมรชู ัดตามความเปน จรงิ ซึง่ สัญญา... ยอ มรูช ัดตามความเปนจริงซ่งึ สังขาร...ยอมรชู ัดตามความเปน จรงิ ซึ่งวิญญาณ อนั มีความเกดิ ขนึ้ เปน ธรรมดาวา วิญญาณมคี วามเกดิ ขน้ึ เปน ธรรมดา ยอ มรูชดั ตามความเปน จรงิ ซ่ึงวญิ ญาณอนั มีความเส่ือมไปเปน ธรรมดาวา วญิ ญาณมีความเส่อื มไปเปน ธรรมดา ยอ มรชู ัดตามความเปน จรงิ ซึ่งวญิ ญาณ อันมีความเกิดขึน้และความเสอ่ื มไปเปน ธรรมดาวา วิญญาณมคี วามเกดิ ข้นึ และความเสือ่ มไปเปนธรรมดา ดูกอนภิกษุ น้เี รียกวา วชิ ชา และบคุ คลเปนผูประกอบไปดว ยวชิ ชา ดวยเหตเุ พยี งเทานแ้ี ล. จบ สมุทยธรรมสูตรที่ ๑หมายเหตุ อรรถกถาอวิชชาวรรคท่ี ๓ ตง้ั แตสูตรท่ี ๑ ถงึ สูตรที่ ๑๐ทานแกร วมกันไว โปรดดตู อนทายของวรรคน้ี
พระสตุ ตนั ตปฎก สงั ยตุ ตนิกาย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนา ท่ี 393 ๒. สมทุ ยธรรมสตู รท่ี ๒ วา ดว ยความหมายของอวิชชา [๓๒๒] สมัยหน่ึงทา นพระสารีบตุ ร และทานพระมหาโกฏฐิตะอยู ณ ปาอิสปิ ตนมฤคทายวนั กรงุ พาราณสี. ครง้ั นน้ั แล ทาน-พระมหาโกฏฐิตะ ออกจากทพี่ กั ในเวลาเยน็ ไดเ ขาไปหาทา นพระสารบี ตุ รถึงที่อยู ฯลฯ ไดถ ามทา นพระสารีบตุ รวา ดูกอนทานพระสารีบุตรทีเ่ รียกวา อวชิ ชา อวิชชา ดังนี้ อวิชชา เปนไฉนหนอแล และบุคคลเปนผปู ระกอบดวยอวชิ ชา ดว ยเหตเุ พยี งเทาไร ? ทานพระสารีบุตรตอบวา ดกู อ นทา นผมู อี ายุ... ดูกอนทานผูม ีอายุนีเ้ รียกวา อวิชชา และบคุ คลเปน ผปู ระกอบดวยอวิชชา ดว ยเหตเุ พยี รเทาน้แี ล. จบ สมุทยธรรมสตู รที่ ๒ ๓. สมทุ ยธรรมสูตรที่ ๓ วาดวยความหมายของวิชชา [๓๒๓] สมยั หน่งึ ทา นพระสารีบุตรและทา นพระมหาโกฏฐติ ะอยู ณ ปาอสิ ิปตนมฤคทายวัน กรุงพาราณสี ครงั้ นนั้ แล ทา นพระ-มหาโกฏฐิตะออกจากทีพ่ กั ในเวลาเย็น ไดเขาไปหาทา นพระสารบี ุตรถึงทีอ่ ยูฯลฯ แลว ไดก ลาวคํานีก้ ะทา นพระสารีบตุ รวา ดกู อ นทา นพระสารบี ตุ รทเี่ รียกวา วชิ ชา วชิ ชา ดงั น้ี วชิ ชาเปนไฉนหนอแล และบุคคลเปนผูประกอบดว ยวชิ ชา ดวยเหตุเพยี งเทาไร ?
พระสุตตนั ตปฎก สังยตุ ตนกิ าย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนา ท่ี 394 ทา นพระสารบี ตุ ร ตอบวา ดูกอ นทานผูม อี ายุ... ดูกอ นทา นผมู อี ายุน้ีเรยี กวา วชิ ชา และบุคคลเปน ผูป ระกอบดว ยวชิ ชา ดวยเหตเุ พยี งเทานแ้ี ล. จบ สมุทยธรรมสตู รที่ ๓ ๔. อัสสาทสูตรที่ ๑ วา ดวยความหมายของอวิชชา [๓๒๔] เหตเุ กิด (ของพระสูตร) ก็เปนเชนนนั้ แหละ. ทานพระมหาโกฏฐติ ะ นัง่ ณ ท่ีควรสว นขา งหนึง่ แลว ไดถามทา น-พระสารีบตุ รวา ดกู อนทา นพระสารีบตุ ร ท่ีเรียกวา อวิชชา อวชิ ชาดงั น้ี อวชิ ชาเปนไฉนหนอแล และบคุ คลเปนผปู ระกอบดว ยอวชิ ชาดว ยเหตุเพียงเทาไร ? ทา นพระสารีบุตรตอบวา ดกู อนทานผมู อี ายุ ปุถชุ นผูไมไ ดส ดบัแลวในโลกน้ี ยอ มไมร ชู ดั ตามความเปน จริง ซ่งึ คณุ โทษ และอบุ ายเปนเคร่อื งสลัดออกแหงรปู ยอ มไมร ชู ดั ตามความเปนจรงิ ซ่งึ คุณ โทษและอุบายเปน เคร่ืองสลัดออกแหง เวทนา... แหง สญั ญา... แหงสังขาร...แหงวญิ ญาณ ดูกอนทานผูมีอายุ นี้เรยี กวา อวชิ ชา และบคุ คลเปนผูประกอบดวยอวชิ ชา ดว ยเหตุเพียงเทา นแี้ ล. จบ อัสสาทสตู รท่ี ๑ ๕. อสั สาทสตู รที่ ๒ วา ดวยความหมายของวชิ ชา [๓๒๕] เหตุเกดิ (ของพระสตู ร) ก็เปนเชนน้ันแหละ. ทาน-พระมหาโกฏฐิตะ นัง่ ณ ที่ควรสวนขา งหน่งึ แลวไดถ ามทานพระสารบี ุตร
พระสุตตันตปฎ ก สังยตุ ตนกิ าย ขนั ธวารวรรค เลม ๓ - หนาท่ี 395วา ดูกอ นทานพระสารีบุตร ท่ีเรยี กวา วชิ ชา วิชชา ดงั นี้ วิชชาเปนไฉนหนอแล และบคุ คลเปน ผูประกอบดว ยวิชชา ดว ยเหตุเพยี งเทา ไร ? ทานพระสารีบุตร ตอบวา ดกู อนทานผูมีอายุ อรยิ สาวกผูไ ดสดบั แลวในธรรมวนิ ัยน้ี ยอมรชู ดั ตามความเปน จรงิ ซ่งึ คณุ โทษและอุบายเปน เคร่ืองสลัดออกแหง รูป ยอ มรชู ดั ตามความเปน จริงซงึ่ คณุ โทษ และอบุ ายเปนเคร่ืองสลัดออกแหง เวทนา... แหงสญั ญา...แหง สังขาร... แหงวญิ ญาณ ดกู อนทานผมู ีอายุ นเ้ี รยี กวา วิชชาและบคุ คลเปนผูป ระกอบดวยวชิ ชา ดวยเหตเุ พยี งเทาน้แี ล. จบ อัสสาทสูตรท่ี ๒ ๖. สมุทยธรรมสูตรท่ี ๑ วา ดว ยความหมายของอวิชชา [๓๒๖] เหตเุ กดิ (ของพระสูตร) ก็เปนเชน นน้ั แหละ. ทา น-พระมหาโกฏฐติ ะนัง่ ณ ทีค่ วรสว นขา งหนึ่ง แลวไดถามทานพระสารีบุตรวา ดูกอ นทานพระสารีบตุ ร ทีเ่ รียกวา อวชิ ชา อวิชชา ดังน้ี อวชิ ชาเปนไฉนหนอแล และบคุ คลเปนผูประกอบดวยอวชิ ชา ดว ยเหตเุ พยี งเทาไร ? ทานพระสารบี ุตรตอบวา ดูกอนทานผูมีอายุ ปุถชุ นผูไ มไดส ดับแลวในโลกนี้ ยอ มไมรูชดั ตามความเปนจริง ซง่ึ ความเกดิ ข้นึ ความดบั ไปคณุ โทษ และอุบายเปนเครือ่ งสลดั ออกแหง รูป ยอ มไมรชู ัดตามความเปน จรงิ ซึ่งความเกิดข้นึ ความดบั ไป คุณ โทษ และอุบายเปน เคร่อื งสลดั ออกแหง เวทนา... แหง สัญญา... แหง สงั ขาร... แหง วิญญาณดกู อนทานผูม อี ายุ นเ้ี รียกวา อวิชชา และบคุ คลเปน ผปู ระกอบดวยอวชิ ชา ดวยเหตเุ พียงเทานแ้ี ล. จบ สมุทยธรรมสูตรท่ี ๑
พระสุตตันตปฎ ก สังยตุ ตนิกาย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนา ที่ 396 ๗. สมุทยธรรมสูตรท่ี ๒ วาดว ยความหมายของวิชชา [๓๒๗] เหตุเกิด (ของพระสูตร) ก็เปน เชนนั้นแล. ทานพระมหาโกฏฐติ ะน่ัง ณ ที่ควรสวนขา งหนึง่ แลวไดถามทานพระสารบี ตุ รวา ดกู อ นทานพระสารีบุตร ทีเ่ รยี กวา วชิ ชา วิชชา ดงั น้ี วชิ ชาเปน ไฉนหนอแล และบุคคลเปนผูประกอบดว ยวชิ ชา ดว ยเหตุเพียงเทาไร ? ทา นพระสารีบตุ รตอบวา ดกู อ นทา นผูมีอายุ อรยิ สาวกผูไดสดับแลวในพระธรรมวนิ ัยนี้ ยอมรูชดั ตามความเปนจริงซึง่ ความเกดิ ขึน้ความดบั ไป คณุ โทษ และอุบายเคร่อื งสลดั ออกแหงรปู ยอมรูช ัดตามความเปน จรงิ ซึง่ ความเกิดขึ้น ความดบั ไป คุณ โทษ และอุบายเปน เครื่องสลดั ออกแหง เวทนา... แหงสัญญา... แหง สังขาร... แหง วญิ ญาณดูกอนทานผมู อี ายุ นีเ้ รยี กวา วิชชา และบุคคลเปนผูป ระกอบดวยวชิ ชาดวยเหตุเพยี งเทานีแ้ ล. จบ สมุทยธรรมสตู รที่ ๒ ๘. โกฏฐติ สูตรที่ ๑วา ดวยความหมายของอวิชชา และวิชชา [๓๒๘] สมัยหน่งึ ทา นพระสารีบุตรและทา นมหาโกฏฐิตะอยู ณ ปาอิสิปตนมฤคทายวนั กรงุ พาราณสี ครัง้ น้นั แล ทา นพระสารีบตุ รออกจากท่ีพักในเวลาเยน็ ไดเ ขา ไปหาทา นพระมหาโกฏฐิตะถึงที่อยูฯลฯ แลวไดถามทา นพระมหาโกฏฐติ ะวา ดูกอนทานโกฏฐติ ะ ทเี่ รยี กวาอวชิ ชา อวชิ ชา ดงั น้ี อวิชชาเปนไฉนหนอแล. และบุคคลเปน ผูประกอบดว ยอวชิ ชา ดว ยเหตเุ พียงเทาไร ?
พระสตุ ตนั ตปฎก สังยตุ ตนิกาย ขนั ธวารวรรค เลม ๓ - หนา ท่ี 397 ทานพระมหาโกฏฐิตะตอบวา ดูกอนทานผมู อี ายุ ปุถชุ นผูไ มไดสดบั แลวในโลกนี้ ยอ มไมร ชู ดั ตามความเปนจริงซ่งึ คุณ โทษ และอบุ ายเปน เครอื่ งสลัดออกแหง รปู ยอ มไมรชู ดั ตามความเปน จรงิ ซ่งึ คุณโทษ และอุบายเปน เคร่อื งสลดั ออกแหงเวทนา... แหง สัญญา...แหงสังขาร... แหงวญิ ญาณ ดกู อนทา นผมู ีอายุ น้ีเรยี กวา อวิชชา และบุคคลเปน ผปู ระกอบดว ยอวิชชา ดว ยเหตเุ พยี งเทา นี้แล. [๓๒๙] เมือ่ ทา นพระมหาโกฏฐติ ะกลา วอยางน้แี ลว ทา น-พระสารบี ตุ รจงึ ไดถามวา ดกู อนทานโกฏฐิตะ ที่เรยี กวา วิชชา วชิ ชาดังน้ี วชิ ชาเปน ไฉนหนอแล และบุคคลเปน ผปู ระกอบดวยวชิ ชาดวยเหตเุ พยี งเทา ไร ? ทา นพระมหาโกฏฐิตะตอบวา ดกู อ นทา นผูมีอายุ อรยิ สาวกผไู ดสดับแลวในธรรมวินัยน้ี ยอมรชู ัดตามความเปน จริง ซ่งึ คณุ โทษและอบุ ายเปน เคร่อื งสลดั ออกแหง รปู ยอ มรูชดั ตามความเปน จรงิซึ่งคุณ โทษ และอุบายเปนเครือ่ งสลัดออกแหงเวทนา... แหง สญั ญา...แหง สังขาร... แหงวญิ ญาณ ดูกอ นทานผมู ีอายุ น้เี รียกวาวิชชา และบุคคลเปนผูประกอบดว ยวิชชา ดว ยเหตเุ พียงเทานแ้ี ล. จบ โกฏฐติ สูตรที่ ๑ ๙. โกฏฐติ สูตรที่ ๒วาดวยความหมายของอวชิ ชา - วชิ ชา [๓๓๐] เหตุเกดิ (แหง พระสูตร) ก็เปน เชน นั้นแล. ทา นพระสารบี ตุ รนง่ั ณ ทคี่ วรสว นขางหนงึ่ แลวไดถามทา นพระมหาโกฏฐิ ติ ะวาดกู อ นทานโกฏฐิตะ ทเ่ี รยี กวา อวิชชา อวชิ ชา ดังนี้ อวชิ ชาเปน ไฉน
พระสุตตันตปฎก สังยตุ ตนิกาย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนาที่ 398หนอแล และบุคคลเปน ผปู ระกอบดวยอวชิ ชา ดวยเหตเุ พียงเทา ไร ? ทา นพระมหาโกฏฐติ ะตอบวา ดูกอนทา นผมู ีอายุ ปุถุชนผไู มไ ดสดบั แลวในโลกน้ี ยอ มไมรชู ดั ตามความเปน จรงิ ซ่ึงความเกิด ความดบัคุณ โทษ และอุบายเปนเครื่องสลดั ออกแหงรูป ยอ มไมรูชัดตามความเปน จริง ซงึ่ ความเกดิ ความดับ คณุ โทษ และอุบายเปน เครือ่ งสลดั ออกแหง เวทนา... แหงสัญญา... แหง สงั ขาร... แหงวญิ ญาณ ดกู อ นทานผูมีอายุนเี้ รียกวา อวชิ ชา และบุคคลเปนผปู ระกอบดว ยอวชิ ชา ดวยเหตเุ พยี งเทานแี้ ล. [๓๓๑] เมือ่ ทา นมหาโกฏฐิ ิตะกลาวอยางนแ้ี ลว ทานพระสารบี ตุ รจงึ ไดถามวา ดูกอ นทานโกฏฐิตะ ท่ีเรยี กวา วิชชา วิชชา ดังน้ี วชิ ชาเปนไฉนหนอแล และบคุ คลเปน ผปู ระกอบดว ยวชิ ชา ดวยเหตเุ พียงเทาไร ? ทา นพระมหาโกฏฐติ ะตอบวา ดกู อนทานผูม อี ายุ อรยิ สาวกผูไดสดับแลว ในธรรมวินัยนี้ ยอ มรชู ัดตามความเปนจริงซ่ึงความเกดิความดับ คุณ โทษ และอบุ ายเปนเครื่องสลดั ออกแหง รปู ยอ มรชู ัดตามความเปน จรงิ ซงึ่ ความเกิด ความดบั คุณ โทษ และอุบายเปนเครอ่ื งสลดั ออกแหง เวทนา... แหงสัญญา... แหงสงั ขาร... แหง วิญญาณดูกอนทานผูม ีอายุ นเ้ี รียกวาวิชชา และบุคคลเปน ผูป ระกอบดว ยวชิ ชาดวยเหตุเพยี งเทานแ้ี ล. จบ โกฏฐิตสตู รที่ ๒ ๑๐. โกฏฐิตสูตรที่ ๓วาดวยความหมายของอวชิ ชา และวชิ ชา [๓๓๒] เหตเุ กดิ (แหงพระสตู ร) ก็เปน เชนนน้ั แหละ. ทา น-พระสารบี ตุ ร น่งั ณ ทคี่ วรสว นขา งหน่ึง แลว ไดถามทานพระมหาโกฏฐิตะ
พระสตุ ตันตปฎ ก สงั ยตุ ตนกิ าย ขนั ธวารวรรค เลม ๓ - หนาท่ี 399วา ดกู อนโกฏฐิตะ ท่เี รียกวา อวชิ ชา อวชิ ชา ดังนี้ อวชิ ชาเปนไฉนหนอแลและบคุ คลเปนผปู ระกอบดว ยอวิชชา ดวยเหตเุ พียงเทาไร ? ทา นพระมหาโกฏฐติ ะกลาววา ดกู อ นทานผมู ีอายุ ปุถุชนผูไมไ ดส ดับแลวในโลกน้ี ยอมไมร ูชัดซึง่ รูป ยอ มไมรูช ัดซึ่งเหตเุ กิดแหงรูปยอ มไมร ูช ัดซงึ่ ความดับแหงรปู ยอ มไมร ชู ัดซ่ึงขอปฏบิ ัติ เครือ่ งใหถึงความดับแหง รูป ยอมไมรูชัดซึง่ เวทนา... ซ่งึ สัญญา... ซ่งึ สงั ขาร... ซึ่งวญิ ญาณ ยอ มไมรชู ัดซ่งึ เหตเุ กิดแหงวิญญาณ ยอมไมรชู ดั ซ่งึ ความดับแหงวญิ ญาณ ยอมไมรูชัดซ่งึ ขอ ปฏบิ ัติ เครื่องใหถึงความดบั แหงวิญญาณดกู อนทานผูมีอายุ นีเ้ รยี กวา อวชิ ชา และบคุ คลเปน ผูประกอบดว ยอวชิ ชา ดว ยเหตเุ พยี งเทานแี้ ล. [๓๓๓] เมอ่ื ทานมหาโกฏฐิตะ กลาวอยางน้แี ลว ทา นพระสารีบตุ รจงึ ไดก ลาวคาํ นี้ กะทา นพระมหาโกฏฐติ ะวา ดูกอ นทานโกฏฐิตะทเี่ รียกวา วชิ ชา วิชชา ดงั นี้ วชิ ชาเปน ไฉนหนอแล และบุคคลเปนผปู ระกอบดวยวิชชา ดวยเหตุเพียงเทา ไร ? ทา นพระมหาโกฏฐิตะตอบวา ดูกอ นทานผูม อี ายุ อริยสาวกผูไ ดส ดบั แลวในธรรมวินยั นี้ยอ มรชู ัดซง่ึ รปู ยอ มรูชัดซึ่งเหตุเกิดแหงรปู ยอ มรชู ัดซ่ึงความดับแหง รูปยอ มรูช ดั ซึง่ ขอ ปฏิบตั ิเครื่องใหถึงความดบั แหงรปู ยอมรชู ัดซง่ึ เวทนา...ซงึ่ สัญญา...ซึ่งสงั ขาร...ซ่งึ วญิ ญาณ ยอ มรูชัดซึง่ เหตุเกิดแหงวิญญาณยอ มรชู ัดซึง่ ความดบั แหงวญิ ญาณ ยอ มรชู ัดซง่ึ ขอปฏบิ ตั เิ คร่ืองใหถึงความดบั แหง วิญญาณ ดกู อ นทา นผมู อี ายุ นี้เรยี กวาวชิ ชา และบคุ คลเปนผปู ระกอบดวยวชิ ชา ดว ยเหตเุ พยี งเทา นี้แล. จบ โกฏฐติ สตู รที่ ๓ จบ อวชิ ชาวรรค
พระสุตตนั ตปฎ ก สังยตุ ตนกิ าย ขันธวารวรรค เลม ๓ - หนาที่ 400 อรรถกถาอวิชชาวรรคอรรถกถาสูตรท่ี ๑ ถึงสตู รที่ ๑๐ เร่มิ ดวยสมุทยธรรมสตู ร อวิชชาวรรค มีความหมายงายท้งั นั้น. ก็ในวรรคน้ี พระผมู ี-พระภาคเจา ตรสั สัจจะ ๔ ไวในทุก ๆ สตู ร (คือแตสูตรที่ ๑ - ถึงสูตรที่ ๑๐) แล. จบ อรรถกถาอวิชชาวรรคที่ ๓ รวมพระสูตรทีม่ ีในวรรคนี้คอื ๑. สมทุ ยธรรมสูตรท่ี ๑ ๒. สมทุ ยธรรมสตู รท่ี ๒ ๓. สมุทย-ธรรมสตู รที่ ๒ ๔. อัสสาทสตู รท่ี ๑ ๕. อสั สาทสตู รท่ี ๒ ๖. สมทุ ย-ธรรมสูตรที่ ๑ ๗. สมุทยธรรมสตู รท่ี ๒ ๘. โกฏฐติ สตู รที่ ๑๙. โกฏฐิตสูตรที่ ๒ ๑๐. โกฏฐติ สูตรท่ี ๓.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 616
Pages: