Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_09

tripitaka_09

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:38

Description: tripitaka_09

Search

Read the Text Version

พระวนิ ัยปฎก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 151เสนาสนะแกภกิ ษุอาคนั ตกุ ะและภกิ ษผุ เู ตรียมเดินทาง ยอมลาํ บาก เราตกลงจะมอบเสนาสนะของสงฆท ง้ั หมดแกภิกษุรปู หน่ึง เราจักใชส อยเสนาสนะของเธอภกิ ษุ เหลา นั้นไดม อบหมายเสนาสนะของสงฆท ุก ๆ อยาง แกภ กิ ษรุ ปู หนึง่ ภกิ ษุ-อาคันตกุ ะไดกลาวคาํ นก้ี ะภกิ ษเุ จาถ่นิ เหลาน้ันวา ทานทั้งหลายโปรดจัดเสนาสนะใหพ วกผม ภิกษุเจา ถ่ินตอบวา เสนาสนะของสงฆไมมี ขอรับ พวกผมมอบแกภ ิกษรุ ปู หน่งึ หมดแลว ทานอาคันตกุ ะ: ก็พวกทา นแจกจา ยเสนาสนของสงฆหรือ ขอรบั เจาถ่ิน : เปน เชน นั้น ของรบั บรรดาภกิ ษทุ เี่ ปนผมู ักนอ ย .. .ตางกเ็ พง โทษ ตเิ ตียน โพนทะนาวาไฉนภกิ ษุ จงึ ไดแ จกจา ยเสนาสนะของสงฆเลา จงึ กราบทลู เรือ่ งน้นั แดพระผมู ีพระภาคเจา พระผูม พี ระภาคเจา ทรงสอบถามวา ดูกอนภกิ ษทุ ้งั หลาย ขาววา พวกภกิ ษแุ จกจายเสนาสนะของสงฆ จริงหรือ ภกิ ษุท้งั หลายทลู รับวา จรงิ พระพุทธเจา ขา ของทีไ่ มค วรแจก ๕ หมวด พระผมู ีพระภาคพุทธเจาทรงติเตียนวา ดกู อนภกิ ษทุ ง้ั หลาย ไฉนโมฆบรุ ุษเหลา น้ัน จงึ แจกจายเสนาสนะของสงฆเลา การกระทาํ ของโมฆบุรษุเหลา นนั้ ไมเ ปน ไปเพอื่ ความเลอ่ื มใสของชุมชนที่ยงั ไมเล่อื มใส... ครน้ัแลว ทรงทาํ ธรรมกี ถารบั สงั่ กะภกิ ษทุ งั้ หลายวา ดกู อ นภกิ ษุทัง้ หลาย ของทไ่ี มควรแจกจาย ๕ หมวดนอี้ ันภิกษไุ มค วรแจกจายใหไป แมส งฆ คณะ หรอืบคุ คล แจกจายไปแลว ก็ไมเ ปนอนั แจกจา ย รูปใดแจกจาย ตอ งอาบัติถลุ ลจั จยั

พระวินัยปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 152 ของไมควรแจกจาย ๕ หมวด อะไรบาง คืออาราม พ้นื ที่อาราม น้ีเปน ของทีไ่ มควรแจกจา ยหมวดท่ี ๑ สงฆก ็ดี คณะก็ดี บุคคลก็ดี ไมค วรแจกจา ยใหไ ป แมแ จกจา ยไปแลว ก็ไมเปน อนั แจกจาย รปู ใดแจกจาย ตอ งอา-บัติถลุ ลจั จัย วิหาร พน้ื วิหาร นเ้ี ปน ของที่ไมค วรแจกจายหมวดท่ี ๒ สงฆก ็ดี คณะก็ดี บคุ คลกด็ ี ไมควรแจกจา ยใหไ ป แมแ จกจา ยไปแลว ก็ไมเปนอันแจกจา ยรปู ใดแจกจาย ตองอาบตั ถิ ลุ ลัจจัย เตยี ง ตัง่ ฟกู หมอน นี้เปนของทีไ่ มค วรแจกจา ยหมวดท่ี ๓ สงฆกด็ ีคณะกด็ ี บุคคลก็ดี ไมควรแจกจายใหไ ป แมแจกจายไปแลว ก็ไมเ ปนอันแจกจา ย รปู ใดแจกจาย ตองอาบตั ิถลุ ลจั จัย หมอโลหะ อา งโลหะ กระถางโลหะ กระทะโลหะ มีด ขวาน ผึง่จอบ สวา น นเี้ ปน ของท่ไี มควรแจกจายหมวดที่ ๔ สงฆก ด็ ี คณะก็ดี บคุ คลก็ดี ไมควรแจกจา ยใหไป แมแ จกจา ยไปแลว กไ็ มเปน อนั แจกจาย รปู ใดแจกจา ย ตองอาบตั ถิ ลุ ลจั จัย เถาวลั ย ไมไผ หญา ปลอง หญามงุ กระตา ย หญา สามัญ ดนิ เคร่ืองไม เครื่องดิน นีเ้ ปนของทไ่ี มค วรแจกจาย หมวดที่ ๕ สงฆก ็ดี คณะก็ดีบคุ คลกด็ ี ไมควรแจกจายใหไป แมแ จกจา ยไปแลว ก็ไมเ ปนอนั แจกจาย รปูใดแจกจาย ตองอาบัติถลุ ลัจจัย ดูกอ นภิกษทุ ัง้ หลาย ของทีไ่ มค วรแจกจา ยมี ๕ หมวดนี้แล สงฆก็ดีคณะก็ดี บคุ คลก็ดี ไมควรแจกจายใหไ ป แมแ จกจายไปแลว กไ็ มเ ปน อันแจกจา ย รูปใดแจกจาย ตอ งอาบัตถิ ุลลัจจยั

พระวินัยปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 153 เรื่องภกิ ษุแบงของท่ีไมควรแบง [๒๙๓] ครั้นพระผมู ีพระภาคเจาประทบั อยู ณ พระนครสาวตั ถี ตามพทุ ธาภิรมยแลว เสดจ็ จารกิ ทางกิฏาคิรชี นบท พรอมกบั ภิกษสุ งฆหมูใหญ ประมาณ ๕๐๐ รูป ท้ังพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ภกิ ษพุ วกพระอสั สชิและพระปนุ ัพพสกุ ะไดท ราบขาวแลวกลา วกันวา พระผมู พี ระภาคเจา เสด็จสูก ฏิ าคิร-ีชนบทพรอ มกบั ภกิ ษุสงฆห มูใหญประมาณ ๕๐๐ รูป ทั้งพระสารบี ุตรและโมค-คัลลานะ เชญิ เถดิ ! พวกเราตกลงแบงเสนาสนะของสงฆใ หห มด เพราะพระสารี-บุตรและพระโมคคัลลานะมีความปรารถนาลามก ไปสอู าํ นาจแหงความปรารถนาอันช่วั ชา พวกเราจะไดไมต อ งจัดหาเสนาสนะถวายทา น ภกิ ษเุ หลา นนั้ ไดแ บงเสนาสนะของสงฆหมดแลว คร้ันพระผมู พี ระภาคเจาเสด็จจาริกโดยลาํ ดับ ไดถึงชนบทกิฏาคิรแี ลว จงึ รับส่งั กะภกิ ษทุ ้งั หลายวา ดูกอ นภิกษุท้ังหลาย พวกเธอจงไปหาภกิ ษุพวกอัสสชิและปุนพั พสกุ ะแลว บอกอยางนวี้ า ทา นทงั้ หลายพระผมู พี ระภาคเจา เสด็จมาพรอมดวยยภิกษสุ งฆห มูใหญประมาณ ๕๐๐ รปู ท้ังพระสารบี ตุ ร และพระโมคคัลลานะ ขอทานจงจดั หาเสนาสนะถวายพระผมู ีพระภาคเจา ภิกษสุ งฆและพระสารีบตุ รพระโมคคลั ลานะ ภกิ ษุเหลาน้นั รับสนองพระดาํ รัสแลวเขา ไปหาภกิ ษุพวกพระอสั สชิและพระปุนพั พสุกะ ครั้นแลวไดแจง วา ทา นทง้ั หลาย พระผูมพี ระภาคเจาเสดจ็ มาพรอมกับภกิ ษุสงฆห มใู หญประมาณ ๕๐๐ รูป ทง้ั พระสารบี ุตรและโมคคลั ลานะ ก็แลพวกทา นจงจดั หาเสนาสนะถวายพระผูมีพระภาคเจาภิกษสุ งฆ และพระสารีบุตรพระโมคคัลลานะภิกษุพวกพระอัสสชิ และพระปุนพั พสกุ ะตอบวา ทา นทัง้ หลาย เสนาสนะของสงฆไ มม ี พวกผมแบงกนั หมดแลว พระผูม พี ระภาคเจาเสด็จมาดีแลว พระองคทรงพระประสงคจ ะประทับในวิหารใดก็จักประทบั ในวหิ ารนน้ั พระสารีบตุ ร

พระวนิ ัยปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 154และพระโมคลั ลานะ มีความปรารถนาลามก ไปสูอํานาจของความปรารถนาอนั ชั่วชา พวกผมจักไมจัดหาเสนาสนะถวายทาน ภ. ทานท้ังหลาย พวกทานแบงเสนาสน ะของสงฆห รือ อ. เปนเชน นั้น ขอรบั บรรดาภิกษุทเี่ ปนผูมักนอ ย... ตา งกเ็ พง โทษ ติเตยี น โพนทะนาวาไฉนภกิ ษพุ วกพระอัสสชแิ ละพระปนุ ัพพสกุ ะจึงไดแ บง เสนาสนะของสงฆเ ลาแลว กราบทูลเรอ่ื งนนั้ แดพ ระผมู พี ระภาคเจา . . . พระผมู พี ระภาคเจาทรงสอบถามวา ดูกอ นภิกษุทั้งหลาย ขาววา ภิกษุพวกอสั สชิ และปุนัพพสกุ ะ แบงเสนาสนะของสงฆ จรงิ หรือ ภิกษุทงั้ หลายกราบทูลวา จริง พระพทุ ธเจา ขา ของที่ไมควรแบง ๕ หมวด พระผูมีพระภาคเจา ทรงตเิ ตียนวา ดูกอนภิกษุทัง้ หลาย ไฉนภิกษุโมฆบรุ ษุ เหลา นัน้ จงึ ไดแ บง เสนาสนะของสงฆเ ลา การกระทาํ ของโมฆบุรุษเหลาน้นั นั่นไมเ ปน ไปเพ่ือความเลอ่ื มใสของชมุ ชนที่ยังไมเลื่อมใส . .. ครนั้แลว ทรงทําธรรมกี ถา รบั สัง่ กะภกิ ษุท้ังหลายวา ดกู อ นภิกษุท้ังหลาย ของที่ไมค วรแบง มี ๕ หมวดน้ี สงฆก ็ดี คณะก็ดี บุคคลกด็ ี ไมค วรแบง แมแ บงไปแลว กไ็ มเ ปนอนั แบง รูปใดแบงตองอาบตั ิถลุ ลัจจยั ของไมควรแบง ๕ หมวดอะไรบาง คืออาราม พื้นทอ่ี ารามน้เี ปน ของไมค วรแบงหมวดที่ ๑ สงฆก ็ดีคณะกด็ ี บคุ คลก็ดี ไมค วรแบง แมแบง แลว ก็ไมเปนอนั แบง รปู ใดแบงตอ งอาบัตถิ ลุ ลัยจัย

พระวนิ ยั ปฎก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 155 วหิ าร พ้ืนที่วิหาร น้เี ปนของไมควรแบง หมวดท่ี ๒ สงฆกด็ ี คณะก็ดี บคุ คลกด็ ี ไมควรแบง แมแ บงแลว กไ็ มเ ปนอนั แบง รูปใดแบง ตอ งอาบตั ถิ ุลลจั จัย เตียง ตงั่ ฟกู หมอน น้ีเปน ของไมควรแบงหมวดท่ี ๓ สงฆกด็ ีคณะก็ดี บคุ คลกด็ ี ไมค วรแบง แมแ บง แลว กไ็ มเ ปน อันแบง รปู ใดแบงตอ งอาบัตถิ ลุ ลัจจยั หมอ โลหะ อา งโลหะ กระถางโลหะ กระทะโลหะ มดี ขวาน ผ่งึจอบ สวา น นเี้ ปน ของไมควรแบง หมวดที่ ๔ สงฆก ด็ ี คณะกด็ ี บคุ คลกด็ ีไมค วรแบง แมแบงแลว กไ็ มเปนอนั แบง รปู ใดแบง ตองอาบัตถิ ลุ ลจั จัย เถาวลั ย ไมไ ผ หญาปลอง หญามุงกระตาย หญา สามัญ ดิน เคร่ืองไม เครอื่ งดิน น้เี ปนของไมควรแบง หมวดที่ ๕ สงฆก ็ดี คณะกด็ ี บุคคลก็ดีไมค วรแบง แมแบง แลว ก็ไมเปนอนั แบง ตองอาบัติถลุ ลจั จัย ดูกอนภกิ ษทุ ั้งหลาย ของท่ีไมค วรแบง ๕ หมวดน้ีแล สงฆก ด็ ี คณะกด็ ี บุคคลก็ดี ไมควรแบง แมแ บงแลว กไ็ มเ ปน อันแบง รูปใดแบง ตอ งอาบัติถลุ ลัจจยั . [๒๙๔] ครั้นพระผูมีพระภาคเจา ประทบั อยู ณ กิฏาคริ ชี นบทตามพุทธาภริ มยแ ลว เสด็จจาริกทางเมืองอาฬวี เสด็จจาริกโดยลาํ ดบั ถงึ เมอื งอาฬวีแลว ทราบวาพระองคป ระทบั อยทู ่อี คั คาฬวเจดีย เขตเมืองอาฬวนี ั้น. เรอ่ื งภิกษุชาวเมอื งอาฬวีใหนวกรรม [๒๙๕] สมัยนน้ั ภิกษชุ าวเมอื งอาฬวียอมใหน วกรรมเหน็ ปานน้ีคือ :-

พระวินยั ปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 156ใหนวกรรม ดว ยเหตเุ พยี งวางกอ นดินบางใหน วกรรม ดว ยเหตเุ พียงฉาบฝาบา งใหนวกรรม ดวยเหตุเพยี งประตบู า งใหนวกรรม ดว ยเหตเุ พียงตดิ สายยบู างใหน วกรรม ดว ยเหตเุ พียงติดกรอบเช็ดหนาบางใหนวกรรม ดวยเหตุเพยี งทาสีขาวบางใหน วกรรม ดวยเหตเุ พียงสขี าวบา งใหนวกรรม ดวยเหตเุ พียงทาสดี ําบา งใหนวกรรม ดวยเหตุเพียงทาสเี หลอื งบาง .ใหน วกรรม ดว ยเหตุเพียงมงุ หลงั คาบางใหนวกรรม ดว ยเหตุเพยี งผูกมดั หลงั คาบางใหนวกรรม ดวยเหตุเพยี งปด บังทอ่ี าศัยแหงนกพิราบบา งใหนวกรรม ดวยเหตเุ พียงปฏิสังขรณส ง่ิ ชาํ รดุ ผพุ งั บา งใหนวกรรม ดว ยเหตเุ พยี งขดั ถูบางใหนวกรรม ๒๐ ปบ างใหน วกรรม ๓๐ ปบ างใหนวกรรม ตลอดชวี ิตบางใหน วกรรมวหิ ารท่สี รางเสร็จแลว ยังอยใู นเวลาแหง ควันกม็ ี บรรดาภกิ ษุทีเ่ ปนผมู กั นอ ย ตา งกเ็ พงโทษ ติเตียน โพนทะนาวา ไฉน ภกิ ษุชาวเมืองอาฬวี จงึ ไดใ หน วกรรมเหน็ ปานน้ี คอื :-ไดไ หนวกรรม ดวยเหตเุ พยี งวางกอนดินบางไดใหน วกรรม ดวยเหตุเพียงฉาบทาฝาบางไดใหน วกรรม ดว ยเหตุ เพียงตงั้ ประตูบาง

พระวินยั ปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 157ไดใหนวกรรม ดว ยเหตุเพยี งตดิ สายยบู า งไดใหน วกรรม ดว ยเหตุเพียงคดิ กรอบเชด็ หนา บา งไดใ หนวกรรม ดวยเหตุเพยี งทาสขี าวบา งไดใ หน วกรรม ดวยเหตเุ พียงทาสดี าํ บางไดใ หนวกรรม ดว ยเหตุเพียงทาสเี หลืองบางไดใหนวกรรม ดว ยเหตเุ พียงมงุ หลงั คาบา งไดใหนวกรรม ดวยเหตเุ พยี งผูกมัดหลังคาบางไดใ หนวกรรม ดวยเหตุเพียงปด บังท่อี าศัยแหงนกพิราบบางไดใหนวกรรม ดวยเหตุเพยี งปฏสิ งั ขรณส ิง่ ชาํ รุดผพุ งั บา งไดใ หน วกรรม ดวยเหตุเพียงขัดถบู า งไดใ หนวกรรม ๒๐ ปบา งไดใหนวกรรม ๓๐ ปบา งไดใ หนวกรรม ตลอดชวี ติ บางไดใหน วกรรมวหิ ารท่สี รา งเสรจ็ แลว ยงั อยูในเวลาแหง ควนั ก็มี จึงภกิ ษุเหลา นนั้ กราบทูลเร่ืองนน้ั แดพ ระผูมพี ระภาคเจา ...พระผูม พี ระภาคเจา ทรงสอบถามวา ดูกอนภิกษุท้ังหลาย ขา ววา ภกิ ษุชาวเมอื งอาฬวี . . . จรงิ หรือ. .ภิกษทุ ้ังหลายกราบทูลวา จรงิ พระพุทธเจาขาพระผูมีพระภาคพทุ ธเจา ทรงตเิ ตยี น. . . คร้นั แลว ทรงทาํ ธรรมกี ถารบั สง่ั กะภิกษุท้งั หลายวา ดกู อ นภิกษุทั้งหลายภิกษไุ มพึงใหน วกรรม ดว ยเหตุเพียงวางกอ นดนิภิกษไุ มพ งึ ใหนวกรรม ดว ยเหตเุ พยี งฉาบทาฝาภกิ ษุไมพงึ ใหนวกรรม ดว ยเหตเุ พยี ง ต้ังประตู

พระวินยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 158 ภกิ ษุไมพ งึ ใหนวกรรม ดวยเหตุเพียงตดิ สายยู ภิกษุไมพ งึ ใหน วกรรม ดวยเหตุเพยี งตดิ กรอบเชด็ หนา ภิกษุไมพึงใหน วกรรม ดว ยเหตเุ พยี งทาสขี าว ภกิ ษุไมพ งึ ใหนวกรรม ดว ยเหตุเพียงทาสีดาํ ภกิ ษไุ มพึงใหนวกรรม ดวยเหตเุ พียงทาสีเหลือง ภกิ ษุไมพ งึ ใหนวกรรม ดวยเหตเุ พยี งมงุ หลังคา ภิกษุไมพึงใหนวกรรม ดว ยเหตุเพยี งผูกมดั หลงั คา ภกิ ษุไมพงึ ใหน วกรรม ดว ยเหตเุ พียงปด บังที่อาศัยแหงนกพิราบ ภกิ ษไุ มพ ึงใหน วกรรม ดว ยเหตุเพียงปฏสิ ังขรณสิ่งชาํ รดุ ผุพัง ภิกษุไมพ งึ ใหนวกรรม ดว ยเหตเุ พยี งขัดถู ไมพ ึงใหนวกรรม ๒๐ ป ไมพ ึงใหน วกรรม ๓๐ ป ไมพึงใหนวกรรม ตลอดชีวติ ไมพงึ ใหนวกรรมวิหารทีส่ รางเสร็จแลว ยงั อยใู นเวลาแหงควัน รปูใดใหนวกรรม ตอ งอาบัตทิ กุ กฏ. ดกู อ นภกิ ษุทั้งหลาย เราอนุญาตใหนวกรรมวิหารทีย่ งั ไมไดท าํ หรือท่ีทําคางไวเ ฉพาะวิหารเลก็ ไหต รวจดงู านแลว ใหนวกรรม ๕-๖ ป เรือนมงุแถบเดียว ใหต รวจดูงานแลว ใหนวกรรม ๗- ๘ ป วหิ ารใหญหรอื ปราสาทใหต รวจดงู านแลวใหน วกรรม ๑- ๒ ป. ใหนวกรรมวิหารทงั้ หลัง [๒๙๖] สมยั น้ัน ภิกษุทัง้ หลายใหนวกรรม วหิ ารทงั้ หลังจึงกราบทูลเรือ่ งนนั้ แดพระผูมพี ระภาคเจา พระผมู ีพระภาคเจา รับสั่งวา ดูกอ นภิกษุท้ังหลาย ภิกษไุ มพ ึงใหนวกรรมวิหารท้ังหลัง รปู ใดให ตอ งอาบตั ทิ กุ กฏ.

พระวินัยปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 159 [๒๙๗] สมยั นนั้ ภกิ ษุท้งั หลายใหน วกรรม ๒ ครัง้ แกวิหาร ๑ หลังจงึ กราบทลู เรือ่ งน้นั แดพ ระผมู ีพระภาคเจา พระผมู ีพระภาคเจา รบั ส่งั วา ดูกอ นภิกษุทงั้ หลาย ภิกษุไมพึงใหน วกรรม ๒ คร้งั แกว ิหาร ๑ หลัง รปู ใดใหตองอาบตั ิทกุ กฏ. [๒๙๘] สมยั น้ัน ภิกษทุ ัง้ หลายถอื เอานวกรรมแลว ใหภกิ ษุรูปอื่นอยูจงึ กราบทูลเร่อื งนัน้ แดพระผมู พี ระภาคเจา พระผูมพี ระภาคเจา รับสงั่ วาดกู อ นภิกษทุ ัง้ หลาย ภกิ ษถุ อื เอานวกรรมแลว ไมพึงใหภ ิกษรุ ูปอ่นื อยู รูปใดใหอยู ตองอาบัติทุกกฎ. [๒๙๙] สมัยนนั้ ภกิ ษุทง้ั หลายถอื เอานวกรรมแลว เกียดกนั เสนาสนะของสงฆ จงึ กราบทลู เรอ่ื งนั้นแดพ ระผมู ีพระภาคเจา พระผูมีพระภาคเจา รบัส่ังวา ดูกอนภกิ ษทุ ้ังหลาย ภิกษุถือเอานวกรรมแลว ไมพ ึงเกียดกนั เสนาสนะของสงฆ รูปใดเกยี ดกัน ตองอาบัตทิ ุกกฏ. ดกู อนภกิ ษทุ ้งั หลาย เราอนญุ าตใหถอื ที่นอนอยางดีแหง หน่ึง. [๓๐๐] สมยั นน้ั ภกิ ษุทั้งหลายใหนวกรรม แกวิหารที่ตัง้ อยูนอกสีมาจงึ กราบทูลเรอื่ งนัน้ แดพ ระผูมพี ระภาคเจา พระผูมีพระภาคเจา รับสง่ั วาดกู อนภิกษุทง้ั หลาย ภกิ ษุไมพ ึงใหนวกรรม แกวหิ ารทีท่ ้งั อยูนอกสีมา รปู ใดให ตองอาบตั ิทกุ กฏ. [๓๐๑] สมยั นั้น ภิกษุทงั้ หลายถอื เอานวกรรมแลว เกียดกนั ตลอดกาลทงั้ ปวง จงึ กราบทลู เรอื่ งน้ันแดพ ระผมู ีพระภาคเจา พระผมู พี ระภาคเจารบั สัง่ วา ดกู อนภกิ ษุท้ังหลาย ภิกษถุ ือเอานวกรรมแลว ไมพ ึงเกยี ดกันตลอดกาลทัง้ ปวง รูปใดเกียดกนั ตอ งอาบตั ทิ ุกกฏ. ดกู อ นภกิ ษุทั้งหลาย เราอนุญาตใหเ กยี ดกันเฉพาะ ๓ เดอื นฤดูฝน ไมใหเ กียดกนั ตลอดฤดกู าล.

พระวนิ ัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 160 ภกิ ษุถอื เอานวกรรมแลว หลีกไปเปน ตน [๓๐๒] สมัยน้ัน ภกิ ษทุ ง้ั หลายถอื เอานวกรรมแลว หลีกไปบาง สึกเสยี บา ง ถงึ มรณภาพบา ง ปฏญิ าณเปนสามเณรบาง ปฏญิ าณเปน ผบู อกลาสกิ ขาบา ง ปฏิญาณเปน ผตู อ งอนั เตมิ วตั ถุบา ง ปฏิญาณเปนผูว กิ ลจริตบา งปฏิญาณเปนผูม ีจิตฟงุ ซา นบา ง ปฏิญาณเปน ผกู ระสบั กระสา ยเพราะเวทนาบา งปฏิญาณเปนผถู กู ยกวตั รฐานไมเห็นอาบตั ิบา ง ปฏญิ าณเปนผูถ ูกยกวัตรฐานไมกระทาํ คอื อาบตั ิบา ง ปฏิญาณเปนผูถกู ยกวตั รฐานไมสละคืนทฏิ ฐิอนั ลามกบา งปฏิญาณเปนบณิ เฑาะกบา ง ปฏญิ าณเปน ลกั เพศบาง ปฏิญาณเปน ผูเ ขา รีตเดียรถียบา ง ปฏญิ าณเปนสตั วดริ ัจฉานบาง ปฏิญาณเปนผฆู า มารดาบาง ปฏิญาณเปนผูฆ าบดิ าบา ง ปฏิญาณเปน ผฆู าพระอรหนั ตบ า ง ปฏิญาณเปน ผปู ระทษุรา ยภกิ ษุณบี า ง ปฏิญาณเปนผูทําลายสงฆบ า ง ปฏญิ าณเปนผูทาํ โลหติ ุปบาทบา งปฎญิ าณเปน อุภโทพยัญชนกบาง ภกิ ษุทง้ั หลายจึงกราบทลู เรือ่ งนนั้ แดพระผมู -ีพระภาคเจา. [๓๐๓] พระผมู พี ระภาคเจารับส่งั วา ดูกอ นภิกษทุ ั้งหลาย ก็ภิกษุในธรรมวนิ ัยนี้ถอื เอานวกรรมแลว หลกี ไป สงฆพงึ มอบใหแ กภิกษรุ ูปอื่นดวยส่ังวา อยาใหของสงฆเสียหาย. ดกู อ นภิกษทุ ัง้ หลาย อน่งึ ภกิ ษุในธรรมวนิ ัยน้ี ถอื เอานวกรรมแลวสึก ถงึ มรณภาพ ปฏญิ าณเปน สามเณร ปฏญิ าณเปนผูบอกลาสิกขา ปฏญิ าณเปน ผตู องอนั ทิมวตั ถุ ปฏิญาณเปน ผูวิกลจรติ ปฏิญาณเปนผมู จี ิตฟงุ ซานปฏิญาณเปน ผกู ระสับกระสายเพราะเวทนา ปฏญิ าณเปนผูถูกยกวัตรฐานไมเหน็อาบัติ ปฏิญาณเปนผถู ูกยกวตั รฐานไมก ระทําคนื อาบตั ิ ปฏญิ าณเปนผูถกู ยกวตั รฐานไมส ละคืนทฎิ ฐอิ นั ลามก ปฏญิ าณเปน บัณเฑาะก ปฏญิ าณเปนผลู ักเพศปฏิญาณเปน ผูเ ขารตี เดียรถยี  ปฏญิ าณเปน สัตวดิรจั ฉาน ปฏิญาณเปน ผูฆามารดา ปฏิญาณเปนผฆู า บดิ า ปฏิญาณเปน ผฆู า พระอรหนั ต ปฏญิ าณเปนผู

พระวนิ ยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 161ประทษุ รา ยภกิ ษุณี ปฏิญาณเปนผูทาํ ลายสงฆ ปฏญิ าณเปน ผทู าํ โลหิตปุ บาทปฏิญาณเปน อุภโตพยัญชนก สงฆพ งึ มอบใหแ กภ ิกษุรูปอืน่ ดว ยสั่งวา อยา ใหของสงฆเสยี หาย. [๓๐๔] ดูกอ นภิกษุทงั้ หลาย อนงึ่ ภกิ ษุในธรรมวินยั นี้ ถือเอานว-กรรมแลวหลีกไปในเม่ือยงั ทาํ ไมเสรจ็ สงฆพ ึงมอบใหแกภกิ ษุรูปอืน่ ดว ยสง่ั วาอยาใหข องสงฆเ สียหาย. ดกู อนภิกษุทั้งหลาย อนง่ึ ภกิ ษุในธรรมวินัยนี้ ถอื เอานวกรรมแลวสกึ ในเมื่อทํายงั ไมเสรจ็ . . . ถึงมรณภาพ ปฏญิ าณเปนอุภโตพยญั ชนก สงฆพ งึมอบใหแกภ ิกษุรปู อื่นดว ยส่งั วา อยาใหข องสงฆเ สียหาย. [๓๐๕] ดกู อ นภกิ ษุทงั้ หลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยน้ี ถอื เอานว-กรรมแลว หลีกไปในเมอ่ื ทาํ เสรจ็ แลว นวกรรมนน้ั ตกเปน ของภิกษนุ ัน้ เอง. [๓๐๖] ดกู อ นภิกษทุ ้ังหลาย อน่ึง ภิกษใุ นธรรนวนิ ยั น้ี ถือเอานวกรรมแลว พอทําเสร็จแลว กส็ กึ ถงึ มรณภาพ ปฏญิ าณเปนสามเณรปฏิญาณเปนผูบ อกลาสกิ ขา ปฏญิ าณเปน ผตู องอันตมิ วัตถุ สงฆเ ปน เจาของ. [๓๐๗] ดูกอนภกิ ษทุ ้ังหลาย อนงึ่ ภิกษุในธรรมวนิ ยั น้ี ถอื เอานวกรรมแลว พอทําเสรจ็ ก็ปฎญิ าณเปนผูว กิ ลจริต ปฏญิ าณเปน มจี ิ ฟุงซานปฏิญาณเปนผกู ระสับกระสายเพราะเวทนา ปฏิญาณเปน ผูถูกยกวัตรฐานไมเหน็อาบตั ิ ปฏญิ าณเปน ผถู ูกยกวัตรฐานไมก ระทําคืนอาบัติ ปฏญิ าณเปน ผถู ูกยกวตั รฐานไมสละคนื ทิฎฐอิ นั ลามก นวกรรมนนั้ ตกเปนของภกิ ษนุ ้ันเอง. [๓๐๘] ดกู อ นภกิ ษุท้งั หลาย อนึ่ง ภิกษใุ นธรรมวนิ ัยน้ี ถอื เอานวกรรมแลว พอทําเสร็จ กป็ ฏิญาณเปนบัณเฑาะก ปฏิญาณเปนผลู ักเพศปฏญิ าณเปน ผูเขา รตี เดยี รถยี  ปฏิญาณเปนสัตวดิรจั ฉาน ปฏญิ าณเปนผูฆ ามารดาปฏญิ าณเปนผฆู า บิดา ปฏญิ าณเปนผฆู า พระอรหันต ปฏิญาณเปนผูป ระทษุ รา ย

พระวินัยปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 162ภกิ ษุณี ปฏญิ าณเปน ผทู าํ ลายสงฆ ปฏญิ าณเปนผทู าํ โลหิตปุ บาท ปฏิญาณเปนอภุ โตพยัญชนก สงฆเ ปนเจา ของแล. ใชเ สนาสนะผิดสถานท่ี [๓๐๙] สมยั น้ัน ภกิ ษทุ ั้งหลายใชส อยเสนาสนะอนั เปนเคร่อื งใชสาํ หรบั วหิ ารของอุบาสกคนหน่งึ ในวหิ ารหลงั อื่น ครัง้ นน้ั อุบาสกนนั้ จึงเพง โทษ ตเิ ตียน โพนทะนาวา ไฉนพระคณุ เจา ท้งั หลาย จึงไดเอาเครือ่ งใชในวหิ ารแหง หน่งึ ไปใชใ นวหิ ารอีกแหงหนึ่ง ภกิ ษทุ ้ังหลายกราบทลู เร่ืองน้ันแดพระผูมีพระภาคเจา พระผูมีพระภาคเจา รบั สงั่ วา ดกู อนภกิ ษุทั้งหลายเครอื่ งใชในวหิ ารแหงหนง่ึ ภกิ ษุไมพึงเอาไปใชในวหิ ารอกี แหงหน่งึ รปู ใดใชตอ งอาบตั ิทกุ กฏ. พุทธานุญาตใหขอยืมเสนาสนะ [๓๑๐] สมัยนัน้ ภิกษุท้ังหลายรงั เกียจทจ่ี ะรักษาโรงอโุ บสถบาง ที่น่ังประชมุ บาง จงึ นั่งบนพ้นื ดนิ ท้งั รา งกาย ทง้ั จวี ร ยอ มเปรอะเปอ นดว ยฝุนภิกษุทงั้ หลายกราบทูลเรื่องนน้ั แดพระผมู ีพระภาคเจา พระผูม พี ระภาคเจา รบัส่งั วา ดกู อนภิกษทุ ้ังหลาย เราอนุญาตใหน ําไปใชฐานเปน ของขอยมื . พทุ ธานุญาตใหเ กบ็ เสนาสนะไปรกั ษา [๓๑๑] สมยั นั้น มหาวหิ ารของสงฆชํารดุ ภิกษุท้ังหลายรงั เกยี จไมนาํ เสนาสนะออกไป จงึ กราบทลู เรื่องนนั้ แดพระผมู พี ระภาคเจา พระผูมี-พระภาคเจา รบั ส่งั วา ดูกอนภกิ ษุทงั้ หลาย เราอนญุ าตใหนําไปเพื่อเก็บรักษาไวได.

พระวินัยปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 163 พทุ ธานญุ าตใหแลกเปล่ียน [๓๑๒] สมัยนัน้ ผา กัมพลมีราคามาก เปน บรขิ ารสําหรับเสนาสนะเกดิ ขน้ึ แกสงฆ ภิกษทุ ั้งหลายกราบทูลเรอ่ื งน้ันแดพระผมู ีพระภาคเจา พระผูมีพระภาคเจา รบั สง่ั วา ดูกอนภกิ ษทุ ง้ั หลาย เราอนุญาตใหแ ลกเปล่ยี นเพื่อประโยชนแ กผาตกิ รรมได. [๓๑๓] สมยั นั้น ผามรี าคามาก เปน บรขิ ารสาํ หรับเสนาสนะเกิดขึ้น นแกส งฆ ภกิ ษทุ ั้งหลายกราบทูลเร่อื งนน้ั แดพระผูมีพระภาคเจา พระผูม ีพระภาคเจารับสั่งวา ดกู อ นภิกษทุ ั้งหลาย เราอนญุ าตใหแลกเปลี่ยนเพ่อื ประโยชนแ กผาติกรรมได. พุทธานญุ าตผาเชด็ เทา [๓๑๔] สมยั น้ัน หนงั หมีบงั เกดิ แกส งฆ ภกิ ษุทง้ั หลายกราบทลู เรือ่ งน้นั แดพระผมู ีพระภาคเจา พระผมู พี ระภาคเจา รบั สัง่ วา ดูกอนภกิ ษุทัง้ หลายเราอนุญาตใหท าํ เปน ผา เชด็ เทา. [๓๑๕] สมัยตอ มา เคร่อื งเช็ดเทา รปู วงลอบงั เกดิ แกสงฆ ภิกษุทั้งหลายกราบทลู เรื่องนั้นแดพ ระผูม ีพระภาคเจา พระผูมีพระภาคเจา รบั ส่ังวาดกู อนภกิ ษุทั้งหลาย เราอนุญาต ใหทาํ เปนผา เช็คเทา . [๓๑๖] สมยั ตอมา ผาทอ นนอยบังเกดิ แกสงฆ ภิกษุทงั้ หลายกราบทลูเรื่องนน้ั แดพ ระผมู ีพระภาคเจา พระผมู ีพระภาคเจา รับส่ังวา ดกู อนภิกษุทง้ั หลาย เราอนุญาตใหท าํ เปน ผาเชด็ เทา. มีเทา เปอ นหามเหยียบเสนาสนะ [๓๑๗] สมัยนัน้ ภกิ ษทุ ้ังหลายเหยยี บเสนาสนะดวยเทาทยี่ ังมิไดล า งเสนาสนะเปรอะเปอน ภกิ ษทุ ้งั หลายกราบทูลเร่ืองนั้นแดพ ระผูมีพระภาคเจา

พระวนิ ัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 164พระผูม พี ระภาคเจา รบั สง่ั วา ดูกอนภิกษทุ ง้ั หลาย ภิกษไุ มพงึ เหยยี บเสนาสนะดว ยเทา ที่ยังมิไดล าง รปู ใดเหยยี บ ตองอาบัติทกุ กฏ. มีเทาเปยกหา มเหยียบเสนาสนะ [๓๑๘] สมยั ตอ มา ภิกษุทั้งหลายเหยยี บเสนาสนะดวยเทา ทีย่ งั เปย กเสนาสนะเปรอะเปอ น ภิกษทุ ้ังหลายกราบทูลเร่ืองนั้นแดพระผมู ีพระภาคเจาพระผมู ีพระภาคเจา รบั ส่ังวา ดูกอนภิกษทุ ้ังหลาย ภิกษุไมพงึ เหยียบเสนาสนะดวยเทาที่ยงั เปยก รูปใดเหยียบ ตองอาบตั ทิ ุกกฏ. สวมรองเทาหามเหยยี บเสนาสนะ [๓๑๙า สมยั ตอ มา ภกิ ษุทัง้ หลายสวมรองเทา เหยียบเสนาสนะเสนาสนะเปรอะเปอน ภกิ ษทุ งั้ หลายกราบทูลเรื่องน้ันแดพระผมู พี ระภาคเจาพระผูม พี ระภาคเจา รับส่งั วา ดกู อ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย ภกิ ษสุ วมรองเทา ไมพึงเหยียบเสนาสนะ รูปใดเหยียบ ตองอาบัตทิ กุ กฏ. ทรงหา มถม เขฬะบนพน้ื ท่ีขดั ถู [๓๒๐] สมยั นัน้ ภิกษทุ ้ังหลายถม เขฬะบนพ้ืนที่ขัดถูแลว ความงามยอมเสียไป ภิกษุทง้ั หลายกราบทลู เร่ืองนน้ั แดพระผูมพี ระภาคเจา พระผมู ีพระภาคเจา รบั ส่ังวา ดูกอนภิกษุทัง้ หลาย ภกิ ษุไมพึงถม เขฬะบนพ้นื ทข่ี ัดถูแลว รูปใดถม ตอ งอาบัติทกุ กฏ ดกู อนภิกษทุ ง้ั หลาย เราอนญุ าตกระโถน พุทธานญุ าตผา พันเทา เตียงต่งั [๓๒๑] สมัยนัน้ ทง้ั เทา เตียง ทัง้ เทาตง่ั ยอมครูดพนื้ ท่ีขดั ถูแลวภกิ ษทุ ั้งหลายกราบทูลเรือ่ งน้นั แดพระผมู ีพระภาคเจา พระผมู พี ระภาคเจารบั สง่ั วา ดกู อนภกิ ษทุ ัง้ หลาย เราอนญุ าตใหใชผ า พัน.

พระวินยั ปฎก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 165 [๓๒๒] สมยั ตอมา ภิกษุทัง้ หลายพงิ ฝาท่ีขัดถแู ลว ความงามยอ มเสียไป ภกิ ษทุ ้ังหลายกราบทลู เรอื่ งนั้นแดพระผูมีพระภาคเจา พระผมู ีพระภาคเจารบั ส่ังวา ดกู อนภิกษุทั้งหลาย ภกิ ษุไมพึงพิงฝาทข่ี ัดถูแลว รปู ใดพงิ ตอ งอาบตั ทิ ุกกฏ ดกู อนภิกษทุ งั้ หลาย เราอนญุ าตพนกั อิง พนักอิงสวนลา งครดู พ้ืนและสวนบนครดู ฝา ภิกษุทั้งหลายกราบทลู เรื่องนนั้ แดพระผูมีพระภาคเจาพระผมู พี ระภาคเจา รับสงั่ วา ดกู อนภิกษุทง้ั หลาย เราอนญุ าตใหใชผ า พันทั้งขางลางและขางบน. พุทธาญาตใหปลู าดนอน [๓๒๓] สมยั น้นั ภกิ ษทุ ้ังหลายลางเทา แลว ยอ มรังเกียจท่ีจะนอน จึงกราบทูลเร่อื งนั้นแดพระผมู พี ระภาคเจา พระผูมีพระภาคเจา รบั สงั่ วา ดกู อ นภิกษุทง้ั หลาย เราอนญุ าตใหป ูลาดกอนแลว นอน พทุ ธานญุ าตภัตร [๓๒๔] ครั้งนั้น พระผมู ีพระภาคเจาประทับอยทู ีเ่ มอื งอาฬวีตามพระพทุ ธาภิรมย แลวเสด็จจาริกทางกรุงราชคฤห เสด็จจารกิ โดยลาํ ดบั ถึงกรงุ ราชคฤห ทราบวา พระองคป ระทบั อยู ณ พระเวฬุวันวิหารอนั เปนสถานท่ีพระราชทานเหยือ่ แกก ระแต เขตกรงุ ราชคฤหนนั้ . [๓๒๕] สมัยตอ มา กรงุ ราชคฤหมขี า วแพง ประชาชนไมส ามารถจะทาํ สงั ฆภตั ร แตป รารถนาจะทาํ อุทเทสภตั ร นิมนั ตนภตั ร สลากภตั ร ปก ขิก-ภัตร อุโปสถกิ ภตั ร ปาฎปิ ทิกภัตร ภกิ ษุทั้งหลายกราบทูลเร่ืองนนั้ แดพ ระผูมีพระภาคเจา พระผูมพี ระภาคเจา รับส่งั วา ดูกอ นภกิ ษุทัง้ หลาย เราอนญุ าตสงั ฆภตั ร อุทเทสภัตร นมิ ันตนภตั ร สลากภตั ร ปก ขกิ ภัตร อโุ ปสถกิ ภตั รปาฏิปทิกภตั ร.

พระวินัยปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 166พุทธานญุ าตใหส มมติภตั ตุเทสก[๓๒๖] สมัยน้นั พระฉพั พัคคียร บั ภตั ตาหารดี ๆ ไวส ําหรบั พวกตนใหภ ัตตาหารเลว ๆ แกภิกษทุ งั้ หลาย ภิกษุทงั้ หลายกราบทูลเรื่องนนั้ แดพ ระผูมีพระภาคเจา พระผูมพี ระภาคเจา รบั สั่งวา ดกู อ นภกิ ษุทงั้ หลาย เราอนญุ าตใหสมมตภิ ิกษุที่ประกอบดวยองค ๕ เปนภตั ตเุ ทสก คือ :-๑. ไมถงึ ความลําเอียงเพราะความชอบพอ .๒. ไมถงึ ความลาํ เอยี งเพราะความเกลียดชัง๓. ไมถ งึ ความลาํ เอียงเพราะความงมงาย๔. ไมถ งึ ความลําเอียงเพราะความกลัว และ๕. รูจกั ภตั รทแี่ จกแลวและยังมไิ ดแ จก .วธิ ีสมมติ[๓๒๗] ดูกอนภิกษุทงั้ หลาย กแ็ ล สงฆพ งึ สมมติอยางนี้ พงึ ขอรอ งภกิ ษุกอน คร้นั แลว ภกิ ษผุ ฉู ลาด ผูสามารถ พงึ ประกาศใหส งฆทราบดวยญตั ตทิ ตุ ยิ กรรมวาจา วา ดงั น้ี :-กรรมวาจาสมมติทานเจา ขา ขอสงฆจงฟง ขาพเจา ถา ความพรอมพรงั่ ของสงฆถงึ ท่แี ลว สงฆพ ึงสมมตภิ ิกษุมชี ือ่ นี้เปนภัตตเุ ทสก น้ีเปนญัตติทานเจาขา ขอสงฆจ งฟง ขา พเจา สงฆส มมตภิ กิ ษุมชี อื่ นเี้ ปนภตั ตเทสก การสมมตภิ กิ ษุมีชื่อนเ้ี ปน ภัตตุเทสก ชอบแกท านผูใ ดทานผนู นั้ พงึ เปน ผนู ิ่ง ไมช อบแกท านผูใ ด ทา นผนู ้นั พงึ พูด

พระวนิ ยั ปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 167 ภิกษมุ ชี ่อื นี้ สงฆส มมตเิ ปนภตั ตเุ ทสก แลว ชอบแกสงฆเหตนุ ั้นจงึ นิง่ ขาพเจาทรงความนไี้ ว ดว ยอยางน้ี. วธิ ีแจกภตั ร [๓๒๘] ครง้ั นัน้ พระภัตตุเทสกมีความสงสัยวา จะพึงแจกภตั รอยางไรหนอ จึงกราบทูลเรือ่ งนั้น แดพระผูมพี ระภาคเจา พระผมู พี ระภาคเจารับส่งั วา ดกู อนภกิ ษุท้งั หลาย เราอนุญาตใหเ ขยี นชอื่ ลงในสลากหรอื แผน ผารวมเขาไว แลวจงึ แจกภัตร. สมมตภิ กิ ษเุ ปนผแู ตงตัง้ เสนาสนะเปนตน [๓๒๙] สมยั นัน้ สงฆไมม ีภกิ ษแุ ตงตัง้ งเสนาสนะ... ไมมีภิกษุผรู กั ษาเรือนคลงั . . ไมม ีภิกษผุ ูร บั จวี ร... ไมม ีภิกษผุ แู จกจวี ร. .. ไมมภี ิกษุผูแ จกขา วยาคู . . . ไมม ีภิกษุผูแจกผลไม . .. ไมมภี กิ ษุผูแจกของเค้ียว ของเคย้ี วทย่ี งั มไิ ดแ จกยอมเสยี ภกิ ษทุ ั้งหลายกราบทูลเรอื่ งนั้นแดพ ระผมู พี ระภาคเจา พระผมู พี ระภาคเจา รบั สง่ั วา ดกู อนภิกษุทัง้ หลาย เราอนญุ าตใหส มมติภิกษทุ ่ีประกอบดวยองค ๕ เปน ผแู จกของเคี้ยว คอื :- ๑. ไมถงึ ความลาํ เอยี งเพราะความชอบพอ ๒. ไมถ งึ ความลําเอยี งเพราะความเกลียดชงั ๓. ไมถ ึงความลําเอียงเพราะความงมงาย

พระวนิ ัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 168 ๔. ไมถ ึงความลําเอยี งเพราะความกลวั และ ๕. รจู กั ของเคย้ี วทแ่ี จกแลวและยงั มไิ ดแจก. วิธีสมมติ [๓๓๐] ดกู อนภิกษทุ ้ังหลาย กแ็ ล สงฆพ งึ สมมตอิ ยางนี้ พึงขอรองภิกษกุ อน ครน้ั แลว ภิกษผุ ฉู ลาด ผูส ามารถ พงึ ประกาศใหส งฆท ราบดว ยญัตติทุติยกรรมวาจา วาดงั น้ี :- กรรมวาจาสมมติ ทา นเจาขา ขอสงฆจงฟง ขาพเจา ถาความพรอ มพรัง่ ของสงฆถึงทีแ่ ลว สงฆพึงสมมตภิ กิ ษุมชี ่อื น้เี ปน ผูแจกของเค้ยี ว นี้เปนญัตต.ิ ทานเจา ขา ขอสงฆจงฟง ขาพเจา สงฆสมมติภกิ ษุมชี ือ่ เปนผแู จกของเค้ียว การสมมติภกิ ษุมชี อื่ น้เี ปน ผูแจกของเคี้ยวชอบแกท า นผใู ด ทานผนู ัน้ พงึ เปนผนู ิ่ง ไมชอบแกทา นผใู ด ทานผนู ้ันพงึ พดู . ภิกษุมีชื่อน้ี สงฆสมมตเิ ปน ผแู จกของเคยี้ วแลว ชอบแกส งฆเหตุน้นั จงึ น่งิ ขา พเจา ทรงความน้ีไว ดว ยอยา งนี้. สมมตภิ ิกษเุ ปนผูแจกของเล็กนอ ย [๓๓๑] สมยั นน้ั บรขิ ารเล็กนอยเกดิ ขนึ้ ในเรอื นคลังของสงฆ ภกิ ษุทง้ั หลายกราบทลู เรอ่ื งนน้ั แดพ ระผูม ีพระภาคเจา พระผมู ีพระภาคเจา รับสง่ั วาดูกอ นภิกษุท้ังหลาย เราอนญุ าตใหส มมตภิ กิ ษทุ ี่ประกอบดวยองค ๕ เปน ผูแจกของเล็กนอย คือ :-

พระวินัยปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 169 ๑. ไมถึงความลําเอียงเพราะความชอบพอ ๒. ไมถึงความลําเอียงเพราะความเกลยี ดชัง ๓. ไมถ ึงความลําเอยี งเพราะความงมงาย ๔. ไมถ งึ ความสําเอียงเพราะความกลวั และ ๕. รูจกั ของทีแ่ จกแลว และมไิ ดแ จก. วิธีสมมติ [๓๓๒] ดูกอนภกิ ษทุ ั้งหลาย ก็แล สงฆพ ึงสมมติอยางน้ี พงึ ขอรอ งภกิ ษุกอ น คร้นั แลว ภกิ ษุผฉู ลาด ผูสามารถ พงึ ประกาศใหส งฆทราบดวยญตั ตทิ ุติยกรรมวาจา วา ดงั น้ี :- กรรมวาจาสมมติ ทานเจา ขา ขอสงฆจ งฟงขา พเจา ถาความพรอ มพรงั่ ของสงฆถึงท่ีแลว สงฆพ งึ สมมติภิกษมุ ชี อื่ น้เี ปนผแู จกของเล็กนอ ยน้ีเปนญตั ติ. ทา นเจา ขา ขอสงฆจ งฟงขา พเจา สงฆสมมติภิกษมุ ชี ือ่ นเ้ี ปนผแู จกของเลก็ นอย การสมมติภิกษุมชี อ่ื นเ้ี ปนผูแจกของเล็กนอ ยชอบแกทา นผูใด ทา นผนู ้ันพึงเปนผนู ง่ิ ไมชอบแกท านผูใด ทา นผูน้นั พึงพูด. ภกิ ษมุ ีชอื่ น้ี สงฆสมมตเิ ปน ผูแ จกของเล็กนอยแลว ชอบแกส งฆ เหตนุ ั้นจึงนงิ่ ขาพเจาทรงความนีไ้ ว ดวยอยางนี้.

พระวินยั ปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 170 ของเล็กนอยทค่ี วรแจก [๓๓๓] อันภิกษุผแู จกของเลก็ นอ ยนัน้ เขม็ เลม หนึง่ กค็ วรให มดี ก็ควรให รองเทา ก็ควรให ประคดเอวก็ควรให สายโยกบาตรก็ควรให ผา -กรองนํ้ากค็ วรให ธมกรกก็ควรให ผา กุสิก็ควรให ผา อฑั ฒกสุ กิ ็ควรใหผามณฑลก็ควรให ผา อฑั ฒมณฑลก็ควรให ผา อนุวาตกค็ วรให ผาดานสะกัดกค็ วรให ถา เนยใส นา้ํ มนั น้ําผงึ้ หรอื น้ําออ ยของสงฆมอี อยู ควรใหลิม้ ไดคราวเดียว ถา ตองการอกี กค็ วรใหอีก ถาตองการแมอกี ก็ควรใหอกี พุทธานญุ าตใหสมมตภิ ิกษเุ ปน ผูแจกผาเปนตน [๓๓๔] สมัยนั้น สงฆไมมภี กิ ษผุ ูแจกผา ... ไมม ีภิกษผุ ูแจกบาตร. . . ไมมภี กิ ษผุ ใู ชค นวดั ... ไมมภี ิกษุผใู ชสามเณร. ..สามเณรท้ังหลายอนั ภกิ ษไุ มใช ยอ มไมท าํการงาน ภกิ ษทุ ้ังหลายกราบทูลเร่อื งนั้นแดพระผูมพี ระภาคเจา พระผูมพี ระภาคเจา รับส่ังวา ดูกอ นภกิ ษุทงั้ หลาย เราอนุญาตใหสมมตภิ ิกษุทปี่ ระกอบดว ยองค ๕ เปน ผใู ชส ามเณร คือ :- ๑. ไมถงึ ความลําเอียงเพราะความชอบพอ ๒. ไมถ งึ ความลําเอยี งเพราะความเกลียดชัง ๓. ไมถ งึ ความลําเอยี งเพราะความงมงาย ๔. ไมถ ึงความลําเอยี งเพราะความกลัว และ ๕. รูจกั การงานท่ใี ชแลว และยังมไิ ดใช.

พระวนิ ยั ปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 171 วิธีสมมติ [๓๓๕] ดกู อนภกิ ษทุ ้งั หลาย ก็แล สงฆพงึ สมมตอิ ยา งนี้ พึงขอรอ งภิกษกุ อน ครั้น แลว ภิกษุผูฉ ลาด ผูสามารถ พงึ ประกาศใหส งฆท ราบดว ยญตั ตทิ ตุ ยิ กรรมวาจา วา ดงั น้ี :- กรรมวาจาสมมติ ทานเจา ขา ขอสงฆจงฟงขาพเจา ถาความพรอ มพร่งั ของสงฆถึงทแ่ี ลว สงฆพงึ สมมตภิ กิ ษมุ ชี ่อื นี้เปน ผูใชส ามเณร นีเ้ ปนญัตต.ิ ทานเจาขา ขอสงฆ จงฟง ขา พเจา สงฆสมมติภิกษชุ อ่ื นเ้ี ปนผูใชส ามเณร การสมมติภกิ ษมุ ชี ่อื น้เี ปน ผูใชสามเณร ชอบแกท านผูใด ทานผนู น้ั พึงเปน ผูนงิ่ ไมช อบแกท า นผใู ด ทา นผนู ั้นพึงพดู . ภิกษมุ ชี ่ือนี้ สงฆสมมติเปนผูใชสามเณรแลว ชอบแกส งฆเหตนุ ัน้ จึงนิง่ ขา พเจา ทรงความน้ี ดวยอยา งนี.้ ภาณวาร ท่ี ๓ จบ เสนาสนขนั ธกะ ที่ ๖ จบ หวั ขอประจําขันธกะ [๓๓๖] ๑. เร่อื งพระพุทธเจาผปู ระเสรฐิ ยังมิไดท รงบัญญตั ิวิหาร ในครง้ั นน้ั สาวกของพระชนิ เจาเหลานั้นอยใู นท่นี ั้น ๆ ยอ มออกมาจากท่อี ยู ๒.เรอ่ื งเศรษฐีคหบดเี หน็ ภิกษุเหลา นั้นแลวไดกลา วแกภ ิกษทุ ้งั หลาย ดังนีว้ าขา พเจา จะใหส รางวหิ าร ทานทงั้ หลายพึงอยู ภิกษุทลู ถามพระโลกนายก ๓.

พระวนิ ัยปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 172เร่ืองพระผูม ีพระภาคเจาทรงอนุญาตทเี่ รน ๕ อยา ง คอื ก. วหิ าร ช. เรอื นมงุแถบเดยี ว ค. เรอื นช้ัน ง. เรือนโลน จ. ถา ๔. เร่ืองเศรษฐสี รา งวิหาร๖๐ หลัง ๕. เรื่องมหาชนสรางวิหารไมมีบานประตู ๖. เรื่องภกิ ษุไมระวัง๗. เรอื่ งทรงอนุญาตบานประตู ๘. เรอ่ื งทรงอนุญาตกรอบเช็ดหนา ครก-รองรบั เดอื ยประตู หว งขางบน ๙. เร่ืองทรงอนุญาตชองเชอื กชัก และเชอื กสาํ หรบั ชกั ๑๐. เร่อื งทรงอนุญาตสายยู ไมห ัวลงิ ล่มิ กลอน ๑๑. เรือ่ งทรงอนุญาตชอ งลกู ดาลทาํ ดวยโลหะ ไม และเขา ๑๒. เรอื่ งทรงอนุญาตลิ่มยนต ๑๓. เร่ืองหลงั คาฉาบดว ยดิน ทั้งขา งนอกขา งใน ๑๔. เรือ่ งหนา ตา งมีชุกชี หนา ตางมตี าขาย หนา ตางมีซ่กี รง ๑๕. เร่ืองผา ผืนเลก็ สาํ หรับหนาตาง๑๖. เรอื่ งมูลีห่ นาตาง ๑๗. เรอื่ งทรงอนุญาตเครื่องปูลาด ๑๘. เรอ่ื งทรงอนุญาตแผนกระดานคลา ยต่ัง ๑๙. เรือ่ งทรงอนุญาตเตยี งถกั หรอื สาน ๒๐.เรือ่ งทรงอนุญาตเตยี งมแี นแครสอดเขา ในเทา ๒๑. เรอื่ งทรงอนญุ าตตัง่ มีแม-แครส อดเขา ในเทา ๒๒. เรือ่ งทรงอนุญาตเตยี งมแี มแ ครต ดิ กบั เทา ๒๓.เรีอ่ งทรงอนุญาตตงั่ มีแมแครติดกบั เทา ๒๔. เรื่องทรงอนุญาตเตยี งมเี ทาดงั่กามปู ๒๕. เรอื่ งทรงอนุญาตตั่งมเี ทาดง่ั กา มปู ๒๖. เรอื่ งทรงอนุญาตเตียงมีเทาจดแมแคร ๒๗. เร่ืองทรงอนุญาตตงั่ มีเทาจดแมแคร ๒๘. เร่ืองทรงอนญุ าตมา สี่เหลย่ี ม ๒๙. เรอ่ื งทรงอนุญาตมาสเ่ี หลย่ี มชนิดสูง ๓๐. เรอ่ื งทรงอนญุ าตมาสเี่ หลยี่ มชนดิ สูงมพี นักสามดา น ๓๑. เรอื่ งทรงอนุญาตมา ส่ีเหล่ียมมีพนักสามดานชนดิ สงู ๓๒. เร่ืองทรงอนุญาตตัง่ หวาย ๓๓. เรอื่ งทรงอนุญาตตงั่ หมุ ดวยผา ๓๔. เรอ่ื งทรงอนุญาตตงั่ ขาทราย ๓๕. เรอ่ื งทรงอนญุ าตต่ังกา นมะขามปอม ๓๖. เรอื่ งทรงอนญุ าตแผน กระดาน ๓๗. เร่ืองทรงอนุญาตเกา อ้ี ๓๘. เรอ่ื งทรงอนุญาตต่งั ฟาง ๓๙. เรอ่ื งทรงหามนอน

พระวินยั ปฎก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 173บนเตยี งสูง ๔๐. เร่ืองภกิ ษุนอนเตียงตํ่าถกู งกู ัด จงึ ทรงอนุญาตเขยี งรองเทาเตียง ๔๑. เรื่องทรงอนุญาตเขยี งรองเทา เตยี งสงู ๘ น้วิ เปน อยา งยง่ิ ๔๒.เรอ่ื งทรงอนุญาตดา ยสาํ หรับถกั เตยี ง ๔๓. เรอ่ื งทรงอนุญาตใหเจาะตวั เตยี งแลวถกั เปน ตาหมากรกุ ๔๔. เรอื่ งทรงอนญุ าตใหทําเปน ผา รองพื้น ๔๕.เร่ืองทรงอนุญาตใหร อ้ื ออกทาํ เปน หมอน ๔๖. เรอื่ งทรงหามใชห มอนกง่ึ กาย๔๗. เรือ่ งมีมหรสพบนยอดเขา ทรงอนญุ าตฟูก ๕ ชนดิ ๔๘. เร่อื งทรงอนญุ าตผา สําหรบั เสนาสนะ ๔๙. เร่ืองทรงอนุญาตเตยี งและตัง่ บุ ๕๐. เรอื่ งฟกู ยอยลงขา งลาง ๕๑. เร่ืองโจรลกั เลกิ ผาหุมนาํ ไป ทรงอนญุ าตใหท าํ รอยไว๕๒. เร่อื งทรงอนญุ าตใหพ ิมพรอยนิ้วมอื ๕๓. เร่อื งท่อี ยอู าศัยของพวกเดียรถยี  ทรงอนญุ าตสีขาว สีดํา ทําบริกรรมดว ยสเี หลือง ในวหิ าร ๕๔.เรื่องทรงอนญุ าตดนิ ปนแกลบ ๕๕. เร่อื งทรงอนุญาตดินละเอยี ด ๕๖. เร่ืองทรงอนญุ าตยางไม ๕๗. เรือ่ งทรงอนญุ าตดินปนราํ ๕๘. เรื่องทรงอนุญาตแปง เมลด็ พันธผุ ักกาด ๕๙. เรอ่ื งทรงอนุญาตขผ้ี ้ึงเหลว ๖๐. เร่อื งขผี้ ้งึ เหลวหนา ทรงอนญุ าตใชผ า เชด็ ๖๑. เรื่องพืน้ หยาบสีดาํ ไมจ ับ ทรงอนุญาตดนิ ขยุไสเดือน ๖๒. เร่ืองทรงอนุญาตยางไม ๖๓. เรื่องรูปภาพ ๖๔. เรอ่ื งวิหารมีพ้นื ทต่ี า่ํ ๖๕. เร่ืองกอ ๖๖. เรือ่ งภิกษุข้ึนลงพลดั ตก ๖๗. เรอื่ งวหิ ารมีพ้ืนโลง โถง ทรงอนญุ าตฟากกงึ่ หน่งึ ๖๘. เรอื่ งทรงอนุญาตหอ งอกี ๓ หอง๖๙. เรือ่ งวิหารเล็ก ๗๐. เรอื่ งเชิงฝา ๗๑. เรือ่ งฝนสาด ๗๒. เรอื่ งภิกษุรอ งโวยวาย ๗๓. เรือ่ งไมเดอื ยตดิ ฝา ๗๔. เรอ่ื งราวจีวร ๗๕. เร่ืองระเบยี งกบั ฝาคาํ้ ๗๖. เรือ่ งทรงอนญุ าตราวสําหรับยึด ๗๗. เรือ่ งผงหญามนี ัยดงั กลาวแลว ในหนหลัง ๗๘. เรอ่ื งทีก่ ลางแจง นาํ้ ฉนั ถกู แดดเผาทรงอนุญาตโรงน้ําฉนั ๗๙. เรอ่ื งภาชนะนา้ํ ฉนั ๘๐. เร่อื งวหิ าร ๘๑.เรอ่ื งซมุ ๘๒. เรือ่ งบริเวณ เรอ่ื งโรงไฟ ๘๓. เรอ่ื งอาราม ๘๔. เร่อื ง

พระวนิ ยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 174ซุมประตมู นี ัยดังกลาวแลวในหนหลัง ๘๕. เร่อื งอนาถบิณฑิกคหบดีมศี รทั ธาผองใส ไดไ ปสูป าสตี วัน ไดเหน็ ธรรมแลว ทลู อาราธนาสมเด็จพระนายกพรอมกับภิกษุสงฆใ นระหวา งหนทางไดช กั ชวนประชาชนใหสรา งอาราม ๘๖.เรอื่ งพระผูมีพระภาคเจาประทับอยใู นเมอื งเวสาลี เรอื่ งนวกรรม เรื่องพระศษิ ยของพระฉพั พัคคียรีบไปจองเสนาสนะ ๘๗. เร่อื งใครควรไดภ ตั รอันเลศิ ๘๘.เรือ่ งติดตริ พรหมจรรย ๘๙. เร่อื งบคุ คลไมค วรไหว ๙๐. เรอื่ งพระศิษยของพระฉพั พคั คียเกยี ดกนั เสนาสนะ ๙๑. เรอ่ื งประชาชนตกแตง ปูที่นัง่ ที่นอนสูงใหญใ นละแวกบาน ๙๒. เรื่องเตยี งดังหนุ นนุ ๙๓. เรอื่ งพระผูมีพระภาคเจา เสด็จเมอื งสาวัตถี อนาถบิณฑกิ คหบดสี รา งอารามถวาย ๙๔. เรอื่ งเกิดโกลาหลในโรงภตั ร ๙๕. เรอ่ื งพระอาพาธ ๙๖. เรื่องทน่ี อนดี ๙๗.เร่อื งอางเลศ ๙๘. เรอื่ งพระสัตตรสวัคคียซอ มวิหารอยูจําพรรษาในที่นั้น ๙๙.เรือ่ งภิกษุมคี วามสงสัยวา ใครหนอควรใหถ อื เสนาสนะ ๑๐๐. เร่ืองเสนาสน-คาหาปกภกิ ษุมีความสงสัยวา ควรใหถอื เสนาสนะอยา งไรหนอ ๑๐๑. เรือ่ งใหแจกตามจาํ นวนวหิ าร ๑๐๒. เรือ่ งใหแจกตามจํานวนบริเวณ ๑๐๓. เร่อื งทรงอนญุ าตใหแจกสวนเพ่มิ แตไมปรารถนาก็อยา ให ๑๐๔. เรือ่ งใหภกิ ษุอยนู อกสมี า ๑๐๕. เร่อื งทรงหา มเกยี ดกนั เสนาสนะตลอดกาลเปนนติ ย ๑๐๖.เรอ่ื งการใหถือเสนาสนะ ๓ ประการ ๑๐๗. เร่อื งพระอุปนันทศากยบุตร ๑๐๘.เร่ืองพระผูม พี ระภาคเจา ทรงสรรเสรญิ พระวนิ ยั ๑๐๙. เร่อื งภิกษุยืนเรยี นพระวินัย ๑๑๐. เรื่องทรงอนุญาตใหน ่งั อาสนะเสมอกนั ๑๑๑. เร่อื งภิกษุมีอาสนะเสมอกันทําเตยี งตั่งหกั ๑๑๒. ทรงอนุญาตใหน ั่งได ๓ รปู และ ๒ รูป๑๑๓. เรอ่ื งทรงอนุญาตใหน งั่ บนอาสนะยาวรวมกับผูน ีอาสนะไมเ สมอกันได ๑๑๔. เรือ่ งทรงอนญุ าตใหใ ชสอยปราสาทมเี ฉลยี งรอบ ๑๑๕. เร่ืองสมเด็จพระอยั ยิกา ๑๑๖. เร่อื งภิกษเุ จาถิน่ ในหางเมืองสาวตั ถแี บง เสนาสนะของสงฆ

พระวินยั ปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 175๑๑๗. เรอื่ งกฏิ าคิรีชนบท ๑๑๘. เรอ่ื งภิกษุชาวเมืองอาฬวีใหนวกรรมดว ยเหตเุ พยี งวางกอ นดินฉาบทาฝา ต้ังประตู ตดิ สายยู ตดิ กรอบเชด็ หนา ทาํ ใหมีสขี าว สดี าํ สเี หลือง มุงหลังคา ผูกมัดหลงั คา ปด บังทอ่ี าศัยแหง นกพิราบปฏสิ งั ขรณสิ่งชาํ รดุ ผพุ ัง ขดั ถู ใหน วกรรมทงั้ ๒๐ ป ๓๐ ป ตลอดป ช่วั เวลาควนั ขึน้ ในเมือ่ วหิ ารสําเร็จแลว เรือ่ งพระผูมีพระภาคเจาทรงอนญุ าตใหนวกรรมแกว หิ ารท่ยี ังไมไ ดท าํ ท่ีทาํ ยังไมเสร็จ ใหต รวจการงานในวหิ ารเลก็แลว ใหน วกรรม ๕-๖ ป ใหตรวจการงานในวหิ ารมุงแถบเดียว แลวใหนวกรรม ๗-๘ ป ใหตรวจการงานในวหิ ารหรือปราสาทใหญ แลวใหน วกรรม๑๐ ป ๑๒ ป ๑๑๙. เรอื่ งภกิ ษุใหนวกรรมวหิ ารทั้งหลงั ๑๒๐. เรอื่ งภกิ ษุใหน วกรรม ๒ แกว ิหารหน่ึงหลัง ๑๒๑. เรอื่ งภิกษถุ ือนวกรรมแลว ใหภ กิ ษุอื่นอยู ๑๒๒. เรอื่ งภกิ ษุถอื นวกรรมแลว เกียดกนั เสนาสนะของสงฆ ๑๒๓.เรอื่ งภกิ ษใุ หน วกรรมแกว หิ ารท่ตี ง้ั อยูนอกสมี า ๑๒๔. เรือ่ งภกิ ษุถือเอานวกรรมแลวเกยี ดกนั ตลอดฤดูกาล ๑๒๕. เรอ่ื งภกิ ษถุ ือเอานวกรรมแลวหลกี ไปเสยี บางสกึ เสียบาง มรณภาพบาง ปฏิญาณเปนสามเณรบาง บอกลาสิกขาบา ง ตอ งอันติมวัตถบุ า ง วกิ ลจรติ บา ง มีจิตฟุงซา นบาง กระสบั กระสา ยเพราะเวทนาบา ง ถกู ยกวตั รฐานไมเ ห็นอาบตั ิบาง ฐานไมทาํ คนื อาบัตบิ าง ฐานไมส ละคืนทฏิ ฐิอันลามกบา ง ปฏญิ าณเปนบัณเฑาะกบ า ง เปนเถยยสงั วาสบาง เขา รีตเดยี รถยี บ า ง เปนสัตวด ริ ัจฉานบาง เปน ผูฆามารดาบาง เปนผฆู าบดิ าบางผูฆ าพระอรหันตบาง ผูประทุษรายภกิ ษุณีบาง ผทู าํ ลายสงฆบาง ผูท าํ โลห-ิตปุ บาทบา ง เปน อภุ โตพยญั ชนกบา ง พึงมอบแกภ ิกษอุ ืน่ ดวยส่งั วา อยาใหของสงฆเสียหาย เมื่อยังไมเ สรจ็ ควรมอบใหแกภกิ ษอุ ื่น เมือ่ ทาํ เสรจ็ แลวหลกี ไป นวกรรมเปนของภิกษนุ นั้ นงั่ เอง สกึ ถงึ มรณภาพ ปฏิญาณเปนสามเถร บอกลาสกิ ขา ตองอนั ติมวัตถุ สงฆเปนเจา ของ วกิ ลจริต มีจติ ฟงุ ซา น

พระวินยั ปฎก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 176กระสบั กระสา ยเพราะเวทนา ถูกยกวัตร ฐานไมเ หน็ อาบัติ ฐานไมทําคืนอาบัติฐานไมสละคนื ทิฎฐิอันลามก นวกรรมน้ันตกเปน ของภิกษุนัน้ นั่นเอง เปนบัณเฑาะก เปนเถยยสังวาส เขา รตี เดยี รถีย เปนสตั วด ริ จั ฉาน ฆา มารดาฆาบิดา ฆา พระอรหันต ประทษุ รา ยภิกษณุ ี ทําลายสงฆ ทาํ โลหิตปุ บาทปฏิญาณเปน อภุ โตพยญั ชนก สงฆเปนเจา ของ ๑๒๖. เรือ่ งภกิ ษนุ ําเสนาสนะไปใชใ นทอี่ ่นื ๑๒๗. เร่ืองภิกษรุ ังเกยี จ ๑๒๘. เรือ่ งวหิ ารใหญชาํ รุด ๑๒๙.เรื่องผา กมั พล ๑๓๐. เรอ่ื งผามรี าคามาก ๑๓๑. เรอื่ งหนงั หมุ ๑๓๒. เรอ่ี งผา เชด็ เทารูปวงลอ ๑๓๓. เรื่องผาผืนเล็ก ๑๓๔. เรอื่ งภกิ ษุ เหยียบเสนาสนะเรื่องเทาเปยก ๑๓๖. เรอ่ื งสวมรองเทา ๑๓๗. เรอื่ งถมเขฬะ ๑๓๘. เรือ่ งเทาเตยี งตงั่ ครดู ฟน ๑๓๙. เรื่องภกิ ษุพิงฝา ทรงอนญุ าตพนักองิ พนักองิครดู ฝาอีก ๑๔๐. เรอ่ื งลา งเทา ทรงอนญุ าตใหป ูเครอ่ื งลาดนอน ๑๔๑.เรื่องประทบั ในกรงุ ราชคฤห ประชาชนไมอาจถวายสังฆภตั ร ๑๔๒. เร่ืองแจกภัตรเลว สมมตพิ ระภัตตเุ ทสก เร่ืองแจกภตั รอยา งไร ๑๔๓. เรอ่ื งสมมติภิกษุเปนผูทงั้ เสนาสนะ สมมติภกิ ษเุ ปน ผูร กั ษาเรอื นคลงั .. . เปนผูรับจีวร...เปนผรู บั แจกจีวร . . . เปน ผแู จกขา วยาคู . . . เปน ผแู จกผลไม... เปน ผแู จกของเค้ยี ว . . . เปนผแู จกของเล็กนอ ย . . . เปน ผูแจกผา . . . เปนผแู จกบาตร...เปน ผูใชค นวัด. .. เปนผูใ ชสามเณร พระผูมพี ระภาคเจา ผูทรงครอบงาํซง่ึ สรรพธรรม ทรงรจู ักโลก มพี ระหทยั เกอ้ื กลู เปน ผนู าํ ชั้นเยย่ี ม ทรงบัญญัติแลวเพื่อหลีกเรน เพ่อื ความสุข เพ่อื เพง และเพือ่ เหน็ แจง ดงั น้ีแล. หวั ขอประจาํ ขันธกะ จบ

พระวินยั ปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 177 เสนาสนักขันธกวรรณนา [วินิจฉัยในเสนาสนักขันธกะ] วินิจฉัยในเสนาสนกั ขันธกะ พงึ ทราบดังน้ี :- บทวา เสนาสนะเปน ของยังมไิ ดท รงบญั ญัติ ไดแก เปน ของยงั มิไดอ นุญาต . ที่อยทู ่เี หลือ พนจากเรือนมุงแถบเดียวเปน ตน ไป ชอื่ วหิ าร. เรอื นมุงแถบเดยี วน้ัน ไดแก เรอื นทีโ่ คง ดงั ปกครุฑ. ปราสาทนนั้ ไดแก ปราสาทยาว. เรือนโลนนน้ั ไดแก ปราสาทน่งั เอง แตม เี รอื นยอดตง้ั อยูบ นพนื้บนอากาศ. ถาํ้ นน้ั ไดแก ถ้าํ อิฐ ถํ้าศลิ า ถํา้ ไม ถํา้ ดนิ คําวา เพ่ือสงฆท้งั ๔ ทิศทม่ี าแลว และยังไมม า คือเพ่ือสงฆผอู ยูใน ๔ ทศิ ทั้งทม่ี าแลว ทั้งท่ยี งั มิไดม า. [วาดว ยวิหารทาน] วินจิ ฉัยในอนุโมทนาคาถา พึงทราบดงั น้ี :- สองบทวา เย็น รอน พระผมู ีพระภาคเจา ตรัสวา ดวยอํานาจฤดูผดิสวนกนั . ลมเจอื หยาดนา้ํ ทา นเรยี กวา ลมในสสิ ิรฤดู ในคํานีว้ า สสิ ิเร จาปวฎุ ิโย. ฝนนน้ั คือ ฝนทเี่ กดิ แตเมฆโดยตรงนน่ั เอง.














































Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook