Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_09

tripitaka_09

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:38

Description: tripitaka_09

Search

Read the Text Version

พระวนิ ยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 501อยางนว้ี า พระผเู ปน เจา ช่อื โนน แสดงอาการไมนาเลอื่ มใสแกภิกษณุ ีทั้งหลายการทาํ พระผเู ปนเจานน้ั ใหเ ปนผอู ันภกิ ษณุ ีไมพ งึ ไหว ยอ มชอบใจแกสงฆภกิ ษนุ ั้น ยอมเปน ผอู นั ภิกษณุ ีท้งั หลายกระทําใหเ ปน ผูอ ันตนไมค วรไหว ดว ยสวดประกาศเพียงเทาน้ี จาํ เดมิ แตน้นั ภิกษนุ น้ั อนั ภกิ ษุณแี มเ หน็ แลวไมพงึไหวอ ยา งที่เห็นสามเณรแลว ไมไหวฉ ะนัน้ . อนั ภกิ ษุน้นั เม่อื จะประพฤติชอบ ไมพงึ ไปสสู ํานกั ภกิ ษุณี พงึ เขาไปหาสงฆหรือบุคคลผูหนึง่ ในสาํ นกั น่ันแล น่ังกระโหยงประนมมอื ขอขมาโทษวา ขอภกิ ษุณสี งฆจงอดโทษแกขา พเจา . ภิกษุน้ัน พึงไปสสู ํานักภิกษณุ ีกลา ววา ภกิ ษุนน้ั ขอโทษพวกทาน. จําเดมิ แตน นั้ ภกิ ษุณที งั้ หลายพึงไหวภกิ ษนุ ัน้ . ความสงั เขปในภิกขุนิกขนั ธกะนี้ เทาน้ี แตขาพเจา จกั กลาวความพิสดาร ในกมั มวิภังค. บทวา โอภาเสนตฺ ิ มีความวา ภิกษุฉัคพคั คียย อ มชักชวนภิกษณุ ีทั้งหลาย ดว ยอสัทธรรม. หลายบทวา ภกิ ฺขนุ หี ิ สทฺธึ สมปฺโยเชนฺติ มีความวา ภิกษุฉพั พัคคยี ช ว ยชกั จงู บุรุษกบั ภกิ ษณุ ีดวยอสัทธรรม. การทาํ ใหเปน ผูอ นั ภิกษณุ ีท้ังหลายไมพงึ ไหว มนี ยั ดังกลา วแลว นน่ั แล. บทวา อาวรณ ไดแ ก การกดี กัน มีการหามมใิ หเขา ในสาํ นักเปน ตน . บทวา น อาทยิ นตฺ ิ มคี วามวา ภิกษุณีพวกฉัพพัคคยี  ไมย อมรบั เองโดยชอบ. วนิ ิจฉยั ในคําวา โอวาท เปตุ นี้ พึงทราบดงั นี้:-

พระวินัยปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 502 โอวาทอนั ภิกษไุ มพงึ ไปงดทส่ี ํานกั ภกิ ษุณี แตพึงบอกภิกษณุ ีทงั้ หลายผมู าเพอ่ื ประโยชนแ กโ อวาท วา ภกิ ษณุ ีชอ่ื โนน มอี าบตั ิตดิ ตัว เรางดโอวาทแกภ ิกษุณีนน้ั เธอทั้งหลายอยา ทาํ อโุ บสถกบั ภิกษุณีน้ัน. ทัณฑกรรมแมในการเปดกายเปนตน มีนัยดังกลาวแลวเหมอื นกนั . คําวา น ภิกขฺ เว ภิกฺขุนิยา โอวาโท น คนฺตพฺโพ เปนอาทขิ าพเจาไดกลา วเสร็จแลว ในวรรณนาแหง ภิกขุนวี ิภังค. [วาดว ยการแตงตวั เปน ตน] ขอวา ผาสเุ ก นเมนฺติ มคี วามวา ภิกษณุ ที ั้งหลาย ใชประคดอกคาดซโ่ี ครง เพื่อประโยชนท จี่ ะดัด อยา งหญงิ คฤหสั ถเพงิ่ รนุ สาว คาดดวยผา คาดนมฉะนน้ั . บทวา เอกปรยิ ายกต ไดแก ประคดทีค่ าดไดร อบเดียว. สองบทวา วิลิเวน ปฏเฏน ไดแ ก ผาแถบทีท่ อดว ยตอกไมไ ผอยา งละเอียด. บทวา ทสุ ฺสปฏเฏน . ไดแก ผาแถบขาว บทวา ทุสสฺ เวณิยา ไดแ ก ชองทีท่ าํ ดว ยผา . บทวา ทสุ สฺ วฏฏิยา ไดแ ก เกลยี วที่ทาํ ดว ยผา. ในผา แถบเลก็ เปนตน ผากาสาวะผนื เลก็ พึงทราบวา ชื่อวาผา แถบเลก็ . บทวา อฏ ลิ เฺ ลน ไดแ ก กระดูกเเขง แหง โค. บ้นั สะเอวเรยี กตะโพก. สองบทวา หตถฺ  โกฏฏ าเปนตฺ ิ ไดแก ใหท ุบปลายแขนแตงใหงามดวยชนนกยงู เปน ตน . บทวา หตถฺโกจฉฺ  ไดแก หลงั มือ.

พระวินยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 503 บทวา ปาท ไดแก แขง . บทวา ปาทโกจฺฉ ไดแก หลังเทา. การไลหนา เปน ตน มนี ัยดังกลาวแลว นนั้ แล. สองบทวา อวงคฺ  กโรนตฺ ิ มคี วามวา ภิกษณุ พี วกฉัคพัคคยี เขยี นลวดลายหนั หนาลงลางท่ีหางตา ดวยไมป ายยาตา. บทวา วเิ สสก มคี วามวา ภกิ ษุณเี หลา นน้ั ทํารปู สตั วแปลก ๆ มีทรวดทรงงดงาม ท่แี กม . บทวา โอโลกนเกน มีความวา เปด หนา ตา งแลดถู นน. สองบทวา สาโกเก ตฏิ นฺติ มีความวา เปด ประตู ยนื เยย่ี มอยูคร่ึงตวั . บทวา สนจฺจ มคี วามวา ใหท าํ การมหรสพดว ยนักระบํา. สองบทวา เวสึ วุฏ เปนฺติ มีความวา ไดทง้ั หญิงนครโสเภณ.ี สองบทวา ปานาคาร เปนฺติ มคี วามวา ยอมชายสุรา. สองบทวา สนู  เปนฺติ มคี วามวา ยอ มชายเนือ้ . บทวา อาปณ มคี วามวา ยอ มออกรานสินคา ตา ง ๆ หลายอยาง. สองบทวา ทาส อุปฏ าเปนตฺ ิ มีความวา ยอมรบั ทาสแลว ยงัทาสนั้น ใหท าํ การรบั ใชสองของตน. แมใ นทาสเี ปน ตน กม็ ีนัยเหมอื นกนั . สองบทวา หรติ กปตฺตกิ  ปกณี นฺติ มคี วามวา ยอ มขายของสดและของแหง. มคี ําอธบิ ายวา ยอมออกรานขายของเปดแลว แล. กถาวา ดว ยจีวรเขยี วทั้งปวงเปนตน ไดก ลาวแลวแล. [วาดวยการปลงบรขิ าร] ในขอ วา ภิกฺขนุ ี เจ ภิกฺขเว กาล กโรนตฺ ิ เปน อาทิ มีวนิ จิ ฉัยนอกพระบาลี ดังตอไปนี้ :-

พระวินัยปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 504 ก็ถา วา ในสหธรรมกิ ทง้ั ๕ ผูใ ดผูห น่ึง เมื่อจะทา กาลกริ ิยาจงึ สั่งวาโดยสมยั ท่ีขาพเจา ลวงไป บริขารของขา พเจาจงเปนของพระอุปช ฌาย หรอื วาจงเปนของพระอาจารย หรือวา จงเปนของสัทธิวิหาริก หรือวา จงเปน ของอันเตวาสิก หรือวา จงเปน ของมารดา หรือวา จงเปน ของบดิ า หรือวาจงเปนของใคร ๆ อ่ืน บริขารของผูน น้ั ไมเปน ของชนเหลา น้นั คงเปน ของสงฆเทา นั้น เพราะวาการใหโดยกาลทีล่ วงไป (แหงตน) ของสหธรรมกิ ทัง้ ๕ยอมใชไมไ ด ของพวกคฤหสั ถ ใชได . ภิกษุทํากาลกริ ยิ าในสํานกั ของภิกษณุ ี บริขารของเธอ ยอ มเปน ของภิกษทุ ้ังหลายเทาน้นั . ภิกษณุ ที าํ กาลกิริยาในสํานกั ของภกิ ษุบริขารของเธอ ยอมเปน ของภกิ ษุณีทั้งหลายเทานั้น. บทวา ปรุ าณมลฺลี มีความวา เปน ภริยาของนกั มวย ในกาลกอนคอื ในครั้งเปน คฤหสั ถ. บทวา ปรุ สิ พฺยฺชน มีความวา นมิ ิตของบรุ ษุ จะเปนอวยั วะท่ีปกปดก็ตาม มิไดป กปดกต็ าม คอื จะเปน ของที่สิ่งไร ๆ กําบงั ก็ตาม มไิ ดกําบงั กต็ าม. ถา ภกิ ษุณี เพงดูความคดิ ใหเกิดขนึ้ วา นิมติ ของบุรุษอยูท่ีนี่ ตอ งทุกกฏ. [วา ดวยอามสิ ทีเ่ ขาถวายเฉพาะตน] อามิสใดที่เขาบอกถวายวา ทา นจงบริโภคเอง อามสิ น้ันชื่อวาของทีเ่ ขาถวาย เพือ่ ประโยชนแ กการบริโภคเฉพาะตน เม่ือภิกษุใหอามิสนั้นแกผ ูอื่นเปนทกุ กฏ. แตถอื เอาสว นดเี สียกอนแลว จงึ ใหค วรอย.ู ถา วา อามิสนนั้ ไมเปน ทสี่ บาย จะสละเสียทั้งหมด กค็ วร. จะบริโภคจีวรเสยี วนั หนึ่ง หรือ ๒ วันแลว จึงให กค็ วร. แมใ นบาตรเปนตน ก็มีนัยเหมอื นกัน.

พระวนิ ัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 505 [วา ดวยฐานะแหงของทร่ี ับประเคน] ขอวา ภกิ ขฺ ูหิ ภิกขฺ ุนหี ิ ปฏคิ ฺคหาเปตวฺ า มีความวา อามสิ ท่ภี กิ ษุรบั ประเคนเก็บไวเ ม่ือวันวาน เมื่ออนปุ สัมบันอื่นไมมีในวันนีภ้ ิกษณุ ที ้งั หลายพึงใหภ กิ ษรุ บั ประเคนแลว ฉนั . เพราะวา อามสิ ทีภ่ กิ ษุรบั ประเคนแลว ยอ มตัง้ อยู ในฐานะแหงอามสิ ทยี่ งั มไิ ดร บั ประเคน สําหรับภิกษุณี. แมส าํ หรบัภกิ ษุ ก็มนี ยั เหมือนในภกิ ษณุ นี น่ั แล. [วาดวยการน่งั ] สองบทวา อาสน สงคฺ ายนตฺ ิโย มคี วามวา ภกิ ษณุ ีทั้งหลายเมอ่ืยังกันและกนั ใหถือเอาทน่ี ่งั . สองบทวา กาล วีตนิ าเมสุ ความวา มัวใหรูปหนง่ึ ลกุ ขน้ึ ใหอกี รปู หนง่ึ น่ังอยู ไดยังเวลาฉนั ใหลวงเลยไปเสยี . วนิ ิจฉัยในคาํ วา อฏนฺน ภกิ ขุนีน ยถาวุฑฺฒ น้ี พงึ ทราบ หากวา ภกิ ษณุ ี ๘ รปู นั่งในทใี่ กล ภกิ ษณุ อี นื่ ท่เี ปนไปภายในแหงภกิ ษุณีเหลานัน้ มา. เธอยอ มไดเ พื่อยังภิกษุณผี ูออนกวา ตนใหล ุกขนึ้ แลว นงั่แทน. ฝายภกิ ษณุ ใี ด เปนผอู อนกวาภกิ ษณุ ที ้งั ๘ รูป ภิกษณุ นี ้นั แมห ากจะมพี รรษา ๖๐ ยอ มไดเพอ่ื นั่งตามลําดบั แหงผูมาเทาน้นั . ขอวา อญฺ ตฺถ ยถาวุฑฒฺ  น ปฏิพาหิตพพฺ  มคี วามวา ในท่แี จกปจจัย ๔ แหง อนื่ นอกจากโรงเลี้ยง ใครจะหา มภิกษุแกวา เรามากอนแลว ถอื เอาส่ิงไร ๆ ไมได. การถือเอาตามลําดบั ผูแกนั่นแลจงึ ควร. กถาวา ดว ยปวารณา ขาพเจา ไดก ลา วแลวแล.

พระวนิ ยั ปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 506 ยานทกุ ชนิด อันพระผูมีพระภาคเจาทรงอนุญาตแลว ดว ยคําวาอิตฺถียตุ ตฺ  เปน อาท.ิ บทวา ปาฏงกฺ ึ ไดแ ก เปลผา . [วาดว ยการอุปสมบทดวยทูต] การอปุ สมบทดว ยทูต ยอ มควร เพราะอนั ตรายอยางใดอยางหน่งึบรรดาอันตราย ๑๐ อยา ง. ในเวลาจบกรรมวาจา ภิกษณุ ีนั้นจะยืนหรอื นัง่ อยูก็ตาม ตน่ื อยหู รือหลับอยกู ็ตาม ในสาํ นกั ภิกษณุ ี, เธอยอมเปนผูอปุ สมบทแลวแท. ในทันทนี ้นั ภกิ ษุสงฆพ งึ บอกสวนแหง วันมีคําวา เงา เปน ตน แกภิกษุณที ตู ผมู าแลว . [วา ดวยโรงเกบ็ ของเปน ตน] บทวา อทุ ฺโทสโิ ต ไดแก โรงเกบ็ ของ. บทวา น สมมฺ ติ ไดแก ไมพ อ. บทวา อปุ สฺสย ไดแ ก เรือน. บทวา นวกมมฺ  มีความวา เราอนญุ าตใหภ ิกษุณที าํ การสรา งใหมเพ่อื ประโยชนแ กส งฆ. สองบทวา ตสฺสา ปพพฺ ชิตาย ไดแ ก ในเวลาทีห่ ญิงน้นั บวชแลว. หลายบทวา ยาว โส ทารโก วิฺตุ  ปาปณุ าติ มีความวา(เราอนุญาตใหเลีย้ งดู) จนกวา ทารกนัน้ จะสามารถขบเคย้ี วบรโิ ภคและอาบไดตามธรรมดาของตน. สองบทวา เปตฺวา สาคาร ไดแก เวนเพียงหองเรอื นท่เี ปนสหไสย. พระผูมพี ระภาคเจา ทรงแสดงวา ภกิ ษณุ ผี เู ปน เพ่ือน พงึ ปฏบิ ตั ใิ น

พระวนิ ัยปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 507ทารกน้นั เหมอื นที่ปฏิบัติในบรุ ษุ อืน่ . ภกิ ษณุ ีผเู ปน มารดา ยอ มไดเพื่อยงัทารกน้ันใหอ าบ ใหด่มื และใหบ ริโภค เพอ่ื แตง ตัวทารกและใหเ พอ่ื นอนกกทารกนน้ั ไวท ่ีอก. [วาดว ยลาสิกขาเปน ตน ] ดว ยคําวา ยเทว สา วพิ ฺภนฺตา พระผมู พี ระภาคเจา ทรงแสดงวาเพราะภิกษณุ นี ้ัน สกึ แลว นงุ ผา ขาว ดว ยความยินดีพอใจของตน ฉะนน้ั แลเธอจึงมิใชภ ิกษณุ ี, เธอมิใชภ กิ ษุณี เพราะการลาสิกขาหามิได. เธอยอ มไมไ ดอุปสมบทอีก. ขอ วา สา อาคตา น อปุ สมฺปาเทตพพฺ า มีความวา กภ็ กิ ษุณีนน้ั อนั สงฆไมพึงใหอุปสมบทอยา งเดียวเทา น้ัน หามิไดล เธอยอ มไมไดแ มซ่งึ บรรพชา. ฝายนางผนู งุ ขาวสึกไป ยอมไดเ พยี งบรรพชา. [วาดว ยยนิ ดกี ารอภิวาทเปนตน ] ในบทวา อภวิ าทน เปนอาทิ มีความวา บุรษุ ท้ังหลาย เม่อื จะนวดเทา ยอมไหว ยอมปลงผม, ยอมตัดเล็บ, ยอ มทาํ การรกั ษาแผล,ภิกษณุ ีทั้งหลาย รังเกียจการน้ัน ทง้ั หมด จึงไมย ินด.ี ในคําวา อภิวาทน เปนตนนั้น อาจารยบ างพวกกลาววา ถาวาเปน ผูอนั ราคะครอบงําแลว เปนผมู ีความกาํ หนัดกลา ขางภิกษณุ ฝี ายเดียวหรือทง้ั ๒ ขาง, เปน อาบตั ิตามวัตถุแท พระอาจารยพ วกหน่ึงกลา ววา ในการไหวเ ปน ตน น้ี ไมม อี าบตั ิ.พระอรรถกถาจารยท้ังหลายแสดงอาจริยวาทอยา งน้ี กลา วไวใ นอรรถกถาวาการไหวเปนตน น้ี พระผมู พี ระภาคเจา ทรงอนญุ าตจําเพาะแกภ กิ ษุณีทงั้ หลาย จงึ

พระวินยั ปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 508สมควร. คําแหง อรรถกถานี้ เปนประมาณ. เพราะวาการบุรษุ ทง้ั หลายไหวเปน ตน เปน กิจสมควร โดยพระบาลีวา ภิกษุท้ังหลายเราอนญุ าตใหภิกษณุ ียนิ ดี ดงั น้ีแล. สองบทวา ปลลฺ งเฺ กน นสิ ที นตฺ ิ ไดแ ก นงั่ ขดั สมาธ.ิ บทวา อฑฺฒปลลฺ งฺก ไดแก นง่ั ขัดสมาธิทบเทาขา งเดียว. วนิ จิ ฉัยในคําวา เหฏ าวิวเฏ อุปริปฏิจฉฺ นฺเน น้ี พงึ ทราบดังน้ี :- ถา วา เปนหลมุ ทเี่ ขาขุด และเพียงแตไ มเรียบขางบนเทานนั้ ปรากฏในทิศทงั้ ปวง จะถา ยอจุ จาระในหลมุ แมเ ห็นปานนัน้ ก็ควร. สองบทวา กุกกฺ สุ  มตฺตกิ  ไดแ ก รําและดินเหนยี ว. คาํ ทเี่ หลือในทท่ี ้งั ปวง ดนิ ท้ังนน้ั ฉะนั้นแล. ภิกขนุ ิกขนั ธกวรรณนา จบ

พระวินัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 509 ปญจสติกขันธกะ เรื่องพระมหากสั สปเถระ สงคายนาปรารภคําของพระสภุ ัททวุฑฒบรรพชติ [๖๑๔] ครั้งนัน้ ทานพระมหากสั สปช้แี จงแกภิกษทุ ัง้ หลายวา ทา นท้ังหลาย ครง้ั หนึ่ง เราออกจากเมืองปาวาเดินทางไกล ไปเมืองกุสินารากบัภกิ ษุสงฆหมูใหญประมาณ ๕๐๐ รปู ครง้ั น้นั เราแวะจากทาง นงั่ พกั อยูที่โคนไมแหงหนึง่ อาชีวกผหู นง่ึ ถอื ดอกมณฑารพในเมอื งกสุ ินาราเดนิ ทางไกลมาสูเ มอื งปาวา เราไดเห็นอาชวี กนน้ั เดินมาแตไกลเทยี ว ครัน้ แลวไดถ ามอาชีวกนั้นวา ทานทราบขา วพระศากของเราบางหรือ อาชีวกตอบวา ทา นขอรับผมทราบ พระสมณโคดมปรนิ พิ พานได ๗ วนั ท้งั วนั นีแ้ ลว ดอกมณฑารพน้ีผมถือมาจากทป่ี รนิ พิ พานนน้ั บรรดาภกิ ษเุ หลานนั้ ทา นท่ยี งั ไมป ราศจากราคะบางพวกประคองแขนคราํ่ ครวญดุจมีเทา ขาดลมลงกลงิ้ เกลือกไปมาราํ พันวาพระผมู ีพระภาคเจา เสดจ็ ปรินพิ พานเรว็ นกั พระสุคตเสดจ็ ปรนิ พิ พานเร็วนกัดวงตาหายไปจากโลกเรว็ นกั สวนพวกท่ีปราศจากราคะแลว มสี ติสัมปชัญญะยอมอดกลน้ั ได ดวยคดิ วา สงั ขารทั้งหลายไมเ ทีย่ ง สงิ่ ที่เที่ยงนน้ั จะไดในสังขารน้แี ตไหนเลา ทา นท้งั หลาย ครงั้ น้นั เราไดกลาวกะภิกษทุ ง้ั หลายวาอยา เลยทา นทัง้ หลาย อยา โศกเศรา รํ่าไรเลย น้ันพระผมู ีพระภาคเจาไดตรัสบอกไวกอ นแลวมใิ ชห รือวา ความนนั้ ตาง ความเวน ความเปน อยางอ่ืนจากสตั วและสังขารทร่ี ักท่ชี อบใจทั้งปวงทีเดียวยอมมี สิง่ ทีเ่ พยี งนน้ั จะไดในสงั ขารนัน้ แคไหน สิง่ ใดเกดิ แลว มีแลว เปนปจ จยั ปรงุ แตงแลวตอ งมีความแตกสลายเปนธรรมดา ขอท่จี ะปรารถนาวา ส่งิ นั้นอยาไดส ายเลย นไี้ มเปน

พระวนิ ัยปฎก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 510ฐานะทม่ี ีได ครงั้ นน้ั พระสุภัททวุฑฒบรรพชติ นงั่ อยใู นบริษัทน่นั เธอไดกลา วกะภิกษุทัง้ หลายวา พอเถิด ทานทั้งหลาย อยา โศกเศรา รํา่ ไรไปเลย พวกเราพนไปดแี ลว จากพระมหาสมณะน้ัน ดวยวาพวกเราถูกเบียดเบยี นวา สงิ่ น้ีควรแกพ วกเธอ สิง่ นไ้ี มค วรแกพวกเธอ ก็บัดน้ี พวกเราปรารถนาจะทําสง่ิ ใดกท็ าํ สงิ่ นน้ั ได ไมปรารถนานําจกั ทําส่งิ ใด กไ็ มท ําสงิ่ น้นั เอาเถดิ ทา นท้งั หลายพวกเราจงสงั คายนาพระธรรมและพระวินัยเถิด ในภายหนา สภาวะมใิ ชธรรมจักรงุ เรอื่ ง ธรรมจกั เสือ่ มถอย สภาวะมิใชวนิ ยั จกั รุง เร่อื ง วินยั จกั เสือ่ มถอยภายหนาอธรรมวาทบี คุ คลจะมีกําลัง ธรรมวาทบี ุคคลจักเสือ่ ม อวนิ ยวาทีบคุ คลจักมีกําลงั วินยั วาทีบคุ คลจักเสื่อมกําลัง. สมมตภิ ิกษุ ๕๐๐ รูป [๖๑๕] ภิกษุท้งั หลายกลา ววา ถา กระนน้ั ขอพระเถระ จงคดั เลอื กภกิ ษทุ ้งั หลายเถดิ ขอรบั ครงั้ นน้ั ทา นพระมหากสั สป จึงคดั เลือกพระอรหนั ตได ๕๐๐ รูป หยอ นอยอู งคห นงึ่ ภกิ ษุทง้ั หลายไดก ลาวกะทานพระมหากสั สปวา ทานเจา ขา ทานพระอานนทน ้ยี ังเปนเสกขบคุ คลอยูกจ็ ริง แตไ มล ุอาํ นาจฉนั ทาคติ โทสาคติ โมหาคติ ภยาคติและทา นไดเรียนพระธรรมและพระวนิ ัยเปนอนั มากในสํานกั พระผูมีพระภาคเจา เพราะเหตนุ นั้ ขอพระเถระจงคัดเลอื กทา นพระอานนทเ ขาดวยเถดิ ลําดบั นัน้ พระมหากสั สปจงึ คดั เลือกทานพระ-อานนทเ ขาดวย จึงพระเถระทั้งหลายปรึกษากนั วา พวกเราจกั สงั คายนาพระ -ธรรมและพระวนิ ยั ท่ีไหนดีหนอ ครนั้ แลว เห็นพรอ มกนั วา พระนครราชคฤห มีโคตรคามมาก มเี สนาสนะเพียงพอ สมควรแทท พี่ วกเราจะอยูจ ําพรรษาในพระนครราชคฤห สังคายนาพระธรรมและพระวนิ ัย ภกิ ษพุ วกอื่นไมควรเขาจําพรรษาในพระนครราชคฤห

พระวินยั ปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 511 ครงั้ นน้ั ทา นพระมหากัสสปประกาศใหสงฆท ราบดวยญตั ตทิ ตุ ิยกรรมวาจา วา ดังนี้ :- ญตั ตทิ ุตยิ กรรมวาจา ทานทง้ั หลาย ขอสงฆจ งฟงขาพเจา ถาความพรอมพรั่งของสงฆงทแี่ ลว สงฆพงึ สมมตภิ กิ ษุ ๕๐๐ รปู น้ี ใหจาํ พรรษาในพระ -นครราชคฤห เพอ่ื สงั คายนาพระธรรมและพระวินยั ภกิ ษุพวกอ่นื ไมพงึ จาํ พรรษาในพระนครราชคฤห นีเ้ ปน ตน ทา นทัง้ หลาย ขอสงฆจ งฟงขา พเจา สงฆสมมตภิ ิกษุ ๕๐๐รปู นี้ ใหจ ําพรรษาในพระนครราชคฤห เพื่อสังคายนาพระธรรมและพระวินยั ภกิ ษพุ วกอ่ืนไมพงึ จาํ พรรษาในพระนครราชคฤห การสมมตภิ กิ ษุ ๕๐๐ รูปนี้ ใหจาํ พรรษาในพระนครราชคฤห เพือ่สงั คายนาพระธรรมและพระวนิ ยั ภิกษุพวกอืน่ ไมพ งึ จาํ พรรษาในพระนครราชคฤหช อบแกทานผูใ ด ทานผนู ั้นพงึ เปน ผนู ิ่ง ไมชอบแกท า นผูใด ทา นผูน ้ันพงึ พูด. สงฆสมมติภกิ ษุ ๕๐๐ รปู นี้ ใหจาํ พรรษาในพระนครราชคฤหเพอ่ื สังคายนาพระธรรมและพระวินยั ภกิ ษพุ วกอื่นไมพงึ จําพรรษาในพระนครราชคฤห ชอบแกสงฆ เหตนุ น้ั จงึ นิง่ ขา พเจา ทรงความนีไ้ วด วยอยา งน.้ี เรอื่ งปฏสิ ังขรณเ สนาสนะท่ีชํารดุ ทรดุ โทรม [๖๑๖] ครง้ั นัน้ พระเถระทง้ั หลายไดไ ปพระนครราชคฤห เพ่ือสังคายนาพระธรรมและพระวินัย แลว ปรกึ ษากันวา ทานท้ังหลาย พระผมู ี

พระวนิ ัยปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 512พระภาคเจาทรงสรรเสรญิ การปฏิสังขรณเสนาสนะทช่ี ํารุดทรุดโทรมไว ถา กระไรพวกเราจกั ปฏิสงั ขรณเ สนาสนะที่ชาํ รดุ ทรดุ โทรมในเดือนตน แลว จกั ประชุมสงั คายนาพระธรรมและพระวินยั ในเดอื นทา มกลาง ครงั้ นนั้ พระเถระไดปฏิสงั ขรณเ สนาสนะทช่ี าํ รดุ ทรุดโทรมในเดือนตน . พระอานนทส าํ เรจ็ พระอรหัต [๖๑๗] ครั้งนั้น ทา นพระอานนทค ดิ วา พรงุ น้เี ปนวันประชุม ขอท่ีเรายงั เปนเสกขบุคคลอยจู ะพึงไปสูท ป่ี ระชุมนั้น ไมค วรแกเ รา จงึ ยังราตรีเปน สวนมากใหล ว งไปดว ยกายคตาสติ ในเวลาใกลร งุ แหง ราตรจี ึงเอนกายดวยต้ังใจวา จกั นอน แตศีรษะยงั ไมท นั ถงึ หมอนและเทายงั ไมท ันพนจากพน้ื ในระหวา งนั้น จิตไดหลดุ พนจากอาสวะ. เพราะไมถ อื มนั่ คร้งั น้นั ทานพระ-อานนทเปนพระอรหนั ตไดไ ปสทู ่ีประชุม. พระอุบาลีวสิ ชั นาพระวนิ ัย [๖๑๘] คร้ังนนั้ ทา นพระมหากัสสปประกาศใหส งฆท ราบดวยญตั ติ-กรรมวาจา วา ดงั นี:้ - ญตั ติกรรมวาจา ทา นท้ังหลาย ขอสงฆจ งฟงขา พเจา ถาความพรอมพร่งัของสงฆถงึ ที่แลว ขา พเจาจะพงึ ถามพระวินยั กะพระอุบาลี. ทา นพระอบุ าลี ประกาศใหส งฆท ราบดวยญตั ตกิ รรมวาจา วาดังน้ี :-

พระวนิ ยั ปฎก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 513 ญตั ตกิ รรมวาจา ทา นเจา ขา ขอสงฆจงฟง ขาพเจา ถาความพรอมพรง่ั ของสงฆถึงทแ่ี ลว ขา พเจา อนั ทา นพระมหากัสสปถามพระวนิ ยั แลว จะพงึ วิสัชนา. ลําดบั นั้น ทานพระมหากัสสปไดถ ามทานพระอุบาลวี า ทานอบุ าลีปฐมปาราชกิ สิกขาบท พระผูมพี ระภาคเจาทรงบญั ญัตทิ ไี่ หน. อ.ุ ในเมอื งเวสาลี ขอรบั ม. ทรงปรารภใคร อุ. ทรงปรารภพระสทุ นิ กลันทบตุ ร ม. ในเพราะเรอ่ื งอะไร อ.ุ ในเพราะเมถุนธรรม. ตอ จากนัน้ ทานพระมหากสั สปถามวัตถุ นทิ าน บุคคล บัญญัติอนุบัญญตั ิ อาบัติ อนาบัติ แหงปฐมปาราชิกสกิ ขาบทกะทา นพระอุบาลี แลวถามตอไปวา ทตุ ยิ ปาราชิกสิกขาบท พระผมู ีพระภาคเจาทรงบญั ญัติที่ไหน. อุ. ในพระนครราชคฤห ขอรบั ม. ทรงปรารภใคร อุ. ทรงปรารภพระธนยิ ะ กุมภการบตุ ร ม. ในเพราะเร่ืองอะไร อ.ุ ในเพราะอทินนาทาน. ตอจากนน้ั ทานพระมหากัสสปถามวัตถุ นทิ าน บคุ คล บัญญตั ิอนุบัญญตั ิ อาบัติ อนาบัติ แหง ทุติยปาราชิกสิกขาบทกะทานพระอุบาลี แลว

พระวินัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 514ถามตอ ไปวา ทานพระอบุ าลี ตตยิ ปาราชกิ สกิ ขาบท พระผูมพี ระภาคเจาทรงบัญญัติท่ไี หน. อุ. ในพระนครเวสาลี ขอรับ ม. ทรงปรารภใคร อุ. ทรงปรารภภกิ ษุมากรูปดว ยกัน ม. ในเพราะเรื่องอะไร อ.ุ ในเพราะมนุสสวคิ คหะ. ตอ จากน้นั ทานพระมหากสั สปถามวตั ถุ นทิ าน บุคคล บัญญติอนบุ ัญญัติ อาบัติ อนาบตั ิ แหงตติยปาราชกิ สิกขาบทกะทา นพระอบุ าลี แลวถามตอ ไปวา จตทุ ถปาราชิกสกิ ขาบท พระผูมีพระภาคเจาทรงบญั ญตั ทิ ี่ไหน. อ.ุ ในพระนครเวสาลี ขอรับ ม. ทรงปรารภใคร อุ. ทรงปรารภพวกภกิ ษจุ าํ พรรษาอยใู กลฝง แมนาํ้ วัคคุมุทา ม. ในเพราะเรือ่ งอะไร อ.ุ ในเพราะอตุ รมิ นุสธรรม. ตอ จากนั้น ทา นพระมหากสั สปถามวัตถุ นทิ าน บุคคล บญั ญตั ิอนุบัญญตั ิ อาบตั ิ อนาบตั ิ แหงจตตุ ถปาราชกิ สิกขาบทกะทา นพระอบุ าลี แลวถามอุภโตวินัยโดยอุบายน้นั แล ทานพระอุบาลผี อู ันทานพระมหากสั สปถามแลวถามแลว ไดวสิ ัชนาแลว . พระอานนทว ิสัชนาพระธรรม [๖๑๙] ครง้ั นนั้ ทานพระมหากัสสปประกาศใหสงฆท ราบดวยญตั ต-ิกรรมวาจา วา ดังนี้:-

พระวนิ ัยปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 515 ญตั ตกิ รรมวาจา ทานทัง้ หลาย ขอสงฆจ งฟงขา พเจา ถา ความพรอมพร่งั ของสงฆถงึ ทแี่ ลว ขา พเจาจะพึงถามกรรมกะทานพระอานนท . ทา นพระอานนท ประกาศใหส งฆทราบดวยญัตติกรรมวาจา วา ดงั น:ี้ - ญตั ติกรรมวาจา ทา นเจาขา ขอสงฆจ งฟงขาพเจา ถา ความพรอมพรง่ั ของสงฆถ ึงท่แี ลว ขา พเจาอันทา นพระมหากัสสปถามธรรมแลว จะพึงวสิ ชั นา. ครงั้ นั้น ทานพระมหากัสสปถามทานพระอานนทว า ทานอานนทพรหมชาลสตู ร พระผูม พี ระภาคเจาตรัสทไ่ี หน. อา. ตรัสในพระตาํ หนกั ในพระราชอทุ ยานอัมพลัฏฐิกาในระหวา งกรงุราชคฤห และเมืองนาลนั ทาตอกัน ขอรับ ม. ทรงปรารภใคร อา. ทรงปรารภสุปปย ปริพาชก และพรหมทตั ตมาณพ. ลาํ ดบั นน้ั ทา นพระมหากัสสปไดถามนทิ าน และบคุ คลแหง พรหมชาลสูตรกะทานพระอานนท แลวถามตอไปวา ทา นอานนท สามญั ญผลสูตรพระผมู ีพระภาคเจาตรสั ท่ไี หน. อา. ทวี่ ิหารชวี กมั พวัน เขตกรงุ ราชคฤห ขอรับ ม. ตรสั กบั ใคร อา. กบั พระเจาอชาตสตั ตุ เวเทหิบตุ ร.

พระวนิ ยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 516 ลาํ ดับนัน้ ทา นพระมหากัสสป ถามนทิ าน และบคุ คลแหง สามญั ญผล-สูตรกะทา นพระอานนท แลว ถามตลอดนกิ าย ๕ โดยอบุ ายน้ันแล ทา นพระอานนทผูอ นั ทานพระมหากัสสปถามแลว ถามแลว ไดว สิ ัชนาแลว . เรื่องสิกขาบทเลก็ นอ ย [๖๒๐] ครง้ั นั้น ทา นพระอานนทไดช ้แี จงตอพระเถระทง้ั หลายวาทานเจาขา เมอ่ื จวนจะปรนิ ิพพาน พระผมู ีพระภาคเจา ไดต รสั กะขาพเจาวาดกู อ นอานนท เม่ือเราลว งไป สงฆห วังอยูจะพึงถอนสกิ ขาบทเลก็ นอ ยเสยี กไ็ ดพระเถระท้ังหลายถามวา ทา นพระอานนท ก็ทานทลู ถามพระผูมพี ระภาคเจาหรอื เปลาวา พระพุทธเจา ขา สกิ ขาบทเหลาไหน เปน สกิ ขาบทเลก็ นอย ทา นพระอานนทตอบวา ขาพเจา ไมไ ดท ลู ถามพระผูมพี ระภาคเจาวา พระพุทธเจา ขากส็ กิ ขาบทเหลา ไหน เปนสิกขาบทเล็กนอย. พระเถระบางพวกกลาวอยางน้ีวา เวนปาราชิก ๔ นอกนั้นเปนสิกขาบทเลก็ นอ ย. พระเถระบางพวกกลา วอยางนี้วา เวนปาราชกิ ๔ เวน สงั ฆาทเิ สส ๑๓นอกนนั้ เปนสิกขาบทเล็กนอย. พระเถระบางพวกกลาวอยางน้ีวา เวนปาราชกิ ๔ เวน สงั ฆาทิเสส ๑๓เวน อนยิ ต ๒ นอกน้ัน เปนสกิ ขาบทเลก็ นอ ย. พระเถระบางพวกกลาวอยา งน้ีวา เวน ปาราชิก ๔ เวน สังฆาทิเสส ๑๓เวน อนยิ ต ๒ เวนนสิ สัคคยิ ปาจติ ตยี  ๓๐ นอกน้นั เปนสิกขาบทเลก็ นอย. พระเถระบางพวกกลาวอยางน้ีวา เวน ปาราชกิ ๔ เวน สังฆาทเิ สส ๑๓เวนอนิยต ๒ เวนนสิ สคั คิยปาจติ ตีย ๓๐ เวนปาจิตตยี  ๙๒ นอกนั้นเปนสิกขาบทเล็กนอ ย.

พระวนิ ยั ปฎก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 517 พระเถระบางพวกกลาวอยางนีว้ า เวน ปาราชกิ ๔ เวน สังฆาทิเสส ๑๓เวน อนยิ ต ๒ เวนนสิ สัคคิยปาจติ ตยี  ๓๐ เวนปาจติ ตยี  ๙๒ เวนปาฎิเทสนียะ ๔นอกนั้นเปนสกิ ขาบทเลก็ นอย. เรื่องไมบ ัญญตั ิและไมถอนพระบญั ญัติ [๖๒๑] คร้ังน้นั ทา นพระมหากัสสปประกาศใหสงฆท ราบดวยญตั ต-ิทุตยิ กรรมวาจา วา ดังน้ี:- ญตั ติทุติยกรรมวาจา ทา นทัง้ หลายขอสงฆจ งฟงขา พเจา สิกขาบทของพวกเราท่ีปรากฏแกคฤหสั ถม อี ยู แมพวกคฤหัสถก็รูวา สิ่งนีค้ วรแกพ ระสมณะเช้ือสายพระศากยบุตร สง่ิ น้ไี มค วร ถาพวกเราจักถอนสิกขาบทเลก็ นอ ยเสยี จกั มีผกู ลาววา พระสมณะโคดมบญั ญตั สิ ิกขาบทแกสาวกทั้งหลายเปนกาลชัว่ คราว พระศาสดาของพระสมณะเหลา นยี้ งั ดํารงอยตู ราบใด สาวกเหลาน้ียงั ศึกษาในสิกขาบทท้งั หลายตราบนั้น เพราะเหตุทพี่ ระศาสดาของพระสมณะเหลา นปี้ รนิ พิ พานแลว พระสมณะเหลา นจ้ี งึ ไมศกึ ษาในสกิ ขาบททง้ั หลายในบัดนี้ ถา ความพรอ มพรงั่ของสงฆถึงที่แลว สงฆไมพ งึ บัญญัติสง่ิ ท่ไี มท รงบญั ญัติ ไมพ ึงถอนพระบญั ญัตทิ ี่ทรงบัญญัติไวแ ลว พึงสมาทานประพฤติ ในสกิ ขาบททง้ั หลายตามทที่ รงบัญญตั แิ ลว น้เี ปน ญตั ต.ิ ทา นทัง้ หลาย ขอสงฆจ งฟง ขาพเจา สกิ ขาบทของพวกเราท่ีปรากฏแกค ฤหสั ถมีอยู แมพวกคฤหสั ถก ร็ วู า ส่งิ นีค้ วรแกพระสมณะ

พระวนิ ัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 518เชอื้ สายพระศากยบุตร ส่งิ นี้ไมค วร ถา พวกเราจกั ถอนสิกขาบทเล็กนอ ยเสยี จกั มีผูกลา ววา พระสมณโคดมบญั ญตั สิ กิ ขาบทแกส าวกทง้ั หลายเปน กาลช่ัวคราว พระศาสดาของพระสมณะเหลา นีย้ ังดํารงอยตู ราบใด สาวกเหลา นยี้ ังศึกษาในสกิ ขาบททง้ั หลายตราบนั้นเพราะเหตทุ พ่ี ระศาสดาของพระสมณะเหลา นปี้ รินิพพานแลว พระ-สมณะเหลาน้จี ึงไมศกึ ษาในสกิ ขาบททง้ั หลายในบดั นี้ สงฆไมบ ญั ญตั ิสิ่งทไี่ มทรงบญั ญตั ิ ไมถ อนพระบญั ญตั ิที่ทรงบัญญัตแิ ลว สมาทานประพฤติในสกิ ขาบททง้ั หลายตามที่ทรงบัญญัตไิ วแ ลว การไมบ ญั ญตั ิสิง่ ทไ่ี มท รงบญั ญตั ิ ไมถ อนพระบญั ญัติที่ทรงบญั ญตั ไิ วแลว สมาทานประพฤติในสิกขาบททัง้ หลายตามทง้ั ทรงบัญญัตแิ ลว ชอบแกท า นผูใ ด ทานผูนนั้ พงึ เปนผนู ่ิง ไมชอบแกทา นผใู ด ทานผูน นั้ พึงพูด. สงฆไมบญั ญัตสิ ง่ิ ที่ทรงบัญญัติ ไมถอนพระบัญญัตติ ามท่ีทรงบญั ญตั แิ ลว สมาทานประพฤติในสิกขาบททง้ั หลายตามท่ที รงบัญญัติแลว ชอบแกสงฆ เหตนุ นั้ จึงนง่ิ ขาพเจาทรงความนีไ้ ว ดว ยอยา งนี.้ ปรบั อาบัตทิ ุกกฏแกพ ระอานนท [๖๒๒] ครง้ั นน้ั พระเถระทงั้ หลายไดก ลาวกะทานพระอานนทวาทา นอานนท ขอ ทที่ านไมท ูลถามพระผูมพี ระภาคเจา วา พระพทุ ธเจา ขา ก็สกิ ขาบทเหลา ไหน เปนสกิ ขาบทเล็กนอ ย น่ีเปน อาบตั ทิ กุ กฏแกทา น ทา นจงแสดงอาบตั ิทุกกฏนน้ั . ทา นพระอานนทก ลา ววา ทานเจาขา เพราะระลกึ ไมได ขา พเจาจงึมไิ ดทูลถามพระผมู พี ระภาคเจา วา พระพทุ ธเจา ขา สกิ ขาบทเหลา ไหน เปน

พระวนิ ยั ปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 519สกิ ขาบทเล็กนอย ขาพเจา ไมเ หน็ เหตุที่ไมไ ดท ลู ถามนนั้ วา เปน อาบัติทุกกฏ แตเพราะเช่อื ทานท้งั หลาย ขาพเจายอมแสดงอาบตั ิทุกกฏนนั้ . พระเถระทัง้ หลายกลา วตอ ไปวา ทานพระอานนท ขอ ทีท่ านเหยยี บผา วสั สกิ สาฎกของพระผูมพี ระภาคเจาเยบ็ แมน ก้ี เ็ ปน อาบตั ิทกุ กฏแกท า น ทานจงแสดงอาบัติทกุ กฏนนั้ . ทา นพระอานนทกลาววา ทา นเจาขา ขาพเจา เหยยี บผาวสั สิกสาฎกของพระผูมีพระภาคเจาเยบ็ โดยมิไดเ คารพกห็ ามิได ขา พเจาไมเหน็ เหตุท่เี หยียบนน้ัวาเปน อาบัติทกุ กฏ แตเพราะเชอื่ ทา นทง้ั หลาย ขา พเจายอมแสดงอาบัติทุกกฏน้นั . พระเถระทัง้ หลายกลา วตอไปวา ทานพระอานนท ขอ ท่ีทา นใหม าตุคามถวายบงั คมพระสรรี ะของพระผูมีพระภาคเจากอ น พระสรีระของพระผมู ีพระ-ภาคเจา เปอ นนํ้าตาของพวกนางผูร องไหอยู แมนีก้ ็เปน อาบตั ทิ กุ กฏน้นั . ทานพระอานนทกลาววา ทานเจาขา ขา พเจาคดิ วา มาตคุ ามเหลา น้ีอยาไดอ ยูจ นเวลาพลบค่ํา จึงใหพ วกมาตคุ ามถวายบงั คมพระสรรี ะของพระผมู ีพระภาคเจา กอ น ขา พเจา ไมเ ห็นเหตุท่ีใหมาตคุ ามถวายบงั คมพระสรีระของพระผมู ภี าคเจานั้น วาเปนอาบตั ิทกุ กฏ แตเ พราะเชอ่ื ทา นทง้ั หลาย ขา พเจายอมแสดงอาบตั ินั้น. พระเถระท้ังหลายกลาวตอ ไปวา ทานพระอานนท ขอ ทพ่ี ระผูม ีพระ-ภาคเจา ทรงทาํ นมิ ติ อนั หยาบ ทรงทําโอกาสอันหยาบอยู ทานไมทลู ออนวอนพระผูมพี ระภาคเจา วา ขอพระผมู ีพระภาคเจา จงทรงดาํ รงอยู ตลอดกปั ขอพระสคุ ตจงทรงดาํ รงอยูต ลอดกปั เพอ่ื ประโยชนแกชนมาก เพื่อความสขุ แกชนมาก เพอื่ อนุเคราะหสัตวโ ลก เพอ่ื ประโยชน เพื่อเกื้อกลู เพือ่ ความสขุ

พระวินัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 520แกเ ทวดาและมนษุ ยท้งั หลาย แมน้ี กเ็ ปน อาบตั ทิ กุ กฏแกทาน ทา นจงแสดงอาบัตทิ ุกกฏนัน้ . ทานพระอานนทกลา ววา ทา นเจาขา ขาพเจาถูกมารดลใจ จึงไมไดทลู ออนวอนพระผูมพี ระภาคเจาวา ขอพระผมู พี ระภาคเจา ทรงดาํ รงอยูต ลอดกปั ขอพระสุคตจงทรงดาํ รงอยตู ลอดกปั เพอ่ื ประโยชนแ กชนมาก เพื่อความสุขแกช นมาก เพือ่ อนเุ คราะหแกส ตั วโลก เพอื่ ประโยชน เพ่อื เก้ือกูล เพือ่ความสขุ แกเ ทวดาและมนษุ ยทง้ั หลาย ขา พเจาไมเหน็ เหตนุ ัน้ วา เปนอาบัติทกุ กฏแตเพราะเชื่อทานทั้งหลาย ขาพเจายอมแสดงอาบตั ทิ ุกกฏน้นั . พระเถระทั้งหลายกลาวตอ ไปวา ทา นอานนท ขอท่ที า นไดท ําการขวนขวายใหม าตคุ ามบวชในพระธรรมวินยั ทพี่ ระตถาคตทรงประกาศแลว แมนกี้ ็เปน อาบตั ทิ ุกกฏแกท า น ทานจงแสดงอาบัตทิ ุกกฏนั้น. ทานพระอานนทกลาววา ทา นเจา ขา ขา พเจาทําการขวนขวายใหมาตคุ ามบวชในพระธรรมวนิ ัยทพี่ ระตถาคตทรงประกาศแลวดว ยคิดวาพระนางมหาปชาบดโี คตมีน้ี เปนพระเจาแมนํา้ ของพระผมู ีพระภาคเจา เปน ผูประคับประคอง เลี้ยงดูทรงประทานขรี ธาราแกพ ระผูม ีพระภาคเจา เม่ือพระพุทธ-มารดาทวิ งคต ไดยังพระผมู พี ระภาคเจาใหเ สวยถัญญธารา ขา พเจา ไมเหน็เหตนุ น้ั วาเปนอาบตั ทิ ุกกฏ แตเพราะเชอ่ื ทา นท้งั หลาย ขาพเจายอมแสดงอาบททุกกฏนนั้ . เรอื่ งพระปรุ าณเถระ [๖๒๓] สมัยน้นั ทานพระปุราณะเทีย่ วจาริกในชนบททกั ขณิ าคิรีพรอ มดว ยภกิ ษสุ งฆหมูใหญป ระมาณ ๕๐๐ รปู คราวเมอ่ื พระเถระท้งั หลายสังคายนาพระธรรมและพระวินัยเสรจ็ แลว ไดพกั อยใู นชนบททักขิณาคริ ีตาม

พระวนิ ยั ปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 521เถราภริ มย แลว เขา ไปหาพระเถระทัง้ หลาย ท่พี ระวหิ ารเวฬวุ นั อนั เปนสถานท่ีพระราชทานเหย่อื แกกระแต เขตพระนครราชคฤห แลว ไดกลาวสัมโมทนียะกับพระเถระท้งั หลายแลว นั่ง ณ ทค่ี วรสว นขางหนึ่ง พระเถระทงั้ หลายไดก ลาวกะทา นพระปุราณะผูน่ัง ณ ทค่ี วรสว นขางหน่ึงวา ทา นปรุ าณะ พระเถระทง้ั หลายไดสงั คายนาพระธรรมและพระวินัยแลว ทา นจงรับรูพ ระธรรมและพระวนิ ัยนั้นท่ีพระเถระท้งั หลายสงั คายนาแลว. ทา นพระปรุ าณะกลา ววา ทานทงั้ หลาย พระเถระทัง้ หลาย สังคายนาพระธรรมและพระวินยั เรยี บรอ ยแลวหรอื แตว า ขา พเจา ไดฟ ง ไดรบั มาเฉพาะพระพักตรพระผมู ีพระภาคเจา ดว ยประการใด จกั ทรงไวดวยประการนัน้ [๖๒๔] คร้ังน้ัน ทา นพระอานนทไดกลา วกะพระเถระท้ังหลายวาทานเจาขา เมือ่ จวนเสด็จปรินิพพาน พระผูมีพระภาคเจาตรสั กะขา พเจาอยางน้ีวา ดกู อนอานนท ถาเชน น้ัน เมอื่ เราลว งไปแลว สงฆจงลงพรหมทณั ฑแกแกภ กิ ษฉุ นั นะ. พระเถระท้ังหลายกลา ววา ทา นอานนท ทา นทลู ถามพระผมู ีพระภาค-เจา หรือวา พระพุทธเจาขา กพ็ รหมทณั ฑเ ปน อยางไร พระอานนทตอบวา ทา นเจา ขา ขาพเจาทูลถามพระผมู ีพระภาคเจาแลววา พรหมทณั ฑเปนอยา งไร พระพุทธเจาขา พระผมู ีพระภาคเจา ตรสั วาดูกอนอานนท ภกิ ษุฉันนะพงึ พูดตามปรารถนา ภกิ ษุท้งั หลาย ไมพงึ วา กลา วไมพ งึ สงั่ สอน ไมพ งึ พร่าํ สอนภกิ ษุฉันนะ. ทานพระเถระทงั้ หลายกลาววา ทานอานนท ถาเชนนัน้ ทานนั้นแหละจงลงพรหมทณั ฑแกพระฉันนะ.

พระวนิ ยั ปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 522 พระอานนทปรึกษาวา ทานเจาขา ขาพเจาจะลงพรหมทัณฑแ กพ ระ-ฉนั นะไดอ ยา งไร เพราะเธอดุราย หยาบคาย. พระเถระทั้งหลายกลาววา ทา นอานนท ถา เชน นั้น ทา นจงไปกบัภิกษุหลาย ๆ รูป ทานพระอานนทรบั เถระบญั ชาแลว โดยสารเรอื ไป พรอมกับภิกษุหมูใหญป ระมาณ ๕๐๐ รูป ถงึ เมอื งโกสัมพี ลงจากเรอื แลว ไดนง่ั ณโคนไมแ หงหนงึ่ ใกลพ ระราชอุทยานของพระเจาอเุ ทน. เรือ่ งพระเจา อเุ ทน [๖๒๕] คร้ังนั้น พระเจา อเุ ทนกบั พระมเหสี ประทับอยใู นพระราช-อุทยานพรอมดว ยขา ราชบรพิ าร พระมเหสขี องพระเจา อเุ ทนไดสดับขา ววาพระคณุ เจาอานนท อาจารยข องพวกเรา น่งั อยูท ีโ่ คนไมแหง หนงึ่ ใกลพ ระราช-อุทยานจึงกราบทลู พระเจาอุเทนวา ขอเดชะ ขา ววา พระคุณเจา อานนทอาจารยข องพวกหมอ มฉนั น่ังอยูที่โคนไมแหงหนึ่งใกลพระราชอทุ ยาน พวกหมอ มฉันปรารถนาจะไปเย่ยี มพระคณุ เจา อานนท พระเจา ขา พระเจา อุเทนตรสั วา ถาเชน นนั้ พวกเธอจงเยีย่ มพระสมณะอานนทเ ถิด ลําดับนนั้ พระมเหสขี องพระเจาอเุ ทน ไดเ ขา ไปหาทา นพระอานนทแลวถวายอภิวาท นั่ง ณ ท่ีควรสวนขางหนง่ึ ทา นพระอานนทช แ้ี จงใหพระมเหสีของพระเจาอุเทนผนู ั่ง ณ ทคี่ วรสวนขางหนึ่ง เหน็ แจา สมาทาน อาจหาญราเริงดว ยธรรมีกถา. ครั้งนน้ั พระมเหสขี องพระเจาอุเทนอนั ทา นพระอานนทช แี้ จงใหเ หน็แจง สมาทาน อาจหาญ ราเริง ดว ยธรรมีกถา แลวไดถวายผา หม ๕๐๐ ผนืแกท า นพระอานนท คร้นั ชน่ื ชมยนิ ดภี าษิตของทานพระอานนทแลว ลุกจากอาสนะถวายอภวิ าท ทําประทกั ษิณ แลว เขาไปเฝาพระเจา อุเทน.

พระวนิ ยั ปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 523 [๖๒๖] ครั้งนนั้ พระเจา อเุ ทนไดท อดพระเนตรเห็นพระมเหสีเสด็จมาแตไ กลเทยี ว คร้นั แลว ไดต รสั ถามวา พวกเธอเยี่ยมพระสมณะอานนทแลว หรือ พระมเหสกี ราบทลู วา พวกหมอ มฉนั ไดเ ยย่ี มพระคณุ เจาอานนทแลวพระเจา ขา อุ. พวกเธอไดถวายอะไร แกพ ระสมณะอานนทบาง ร . พวกหมอมฉันไดถ วายผาหม ๕๐๐ ผืน แกพ ระคณุ เจา อานนทพระเจาขา พระเจา อเุ ทนทรงเพง โทษ ตเิ ตียน โพนทะนาวา ไฉน พระสมณะ-อานนทจ งึ รบั จวี รมากถึงเพยี งนนั้ พระสมณะอานนทจักทําการคา ขายผา หรอืจกั ต้ังรา นคา แลว เสดจ็ เขาไปหาทา นพระอานนท ทรงปราศรยั กบั ทานพระ-อานนท ครนั้ ผา นการปราศรัยพอใหร ะลกึ ถึงกนั แลว ประทบั นัง่ ณ ที่ควรสว นขางหนงึ่ แลว ตรัสถามวา ทานพระอานนท มเหสขี องขาพเจา มาหาหรอื อา. พระมเหสขี องพระองคมาหา มหาบพิตร อ.ุ กพ็ ระนางไดถวายอะไร แกท านพระอานนทบาง อา. ไดถวายผา หม แกอ าตมภาพ ๕๐๐ ผนื มหาบพิตร อุ. ก็ทานพระอานนทจ ักทําอะไรกะจีวรมากมายเพยี งน้นั อา. อาตมภาพจกั แจกใหแ กภิกษุทั้งหลาย ทมี่ ีจีวรคร่ําครา มหาบพติ ร อุ. ทานพระอานนท กท็ า นจกั ทาํ อยางไรกะจวี รทเี่ กาครํ่าเหลาน้ันตอ ไป อา. อาตมภาพจักทําผาเหลา นั้น ใหเปนผาดาดเพดาน มหาบพติ ร อ.ุ ทา นพระอานนท ทานจกั ทําอยางไรกะผาดาดเพดานเกาเหลา นัน้

พระวินัยปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 524 อา. อาตมภาพจักทาํ ผา เหลา นน้ี นั้ ใหเปน ผาปฟู ูก อุ . ทานพระอานนท ทา นจักทําอยางไรกะผา ปูฟูกทีเ่ กา เหลาน้นั อา. อาตมภาพจกั ทาํ ผา เหลาน้นั ใหเปนผา ปูพนื้ มหาบพิตร อุ . ทา นพระอานนท ทา นจกั ทาํ อยางไรกะผาปูพ้ืนที่เกาเหลาน้ัน อา. อาตมภาพจักทําผาเหลาน้ันใหเ ปน ผาเช็ดเทา มหาบพติ ร อ.ุ ทานพระอานนท ทานจกั ทาํ อยางไรกะผา เช็ดเทาที่เกา เหลานัน้ อา. อาตมภาพจกั ทาํ ผา เหลา นั้นใหเมนผาเชด็ ธุลี มหาบพิตร อุ. ทานพระอานนท ทานจกั ทาํ อยา งไรกะผาเชด็ ธุลที ีเ่ กาเหลาน้นั อา. อาตมภาพจักโขลกผา เหลาน้นั ขยาํ กับโคลนแลวฉาบทาฝา มหา-บพิตร ครั้งนนั้ พระเจา อเุ ทนทรงพระดาํ รวิ า พระสมณะเชอ้ื สายพระศากย-บตุ รทั้งหลายนาํ ผา ไปแยบคายดี ไมเก็บผา เชา เรอื นคลงั แลว ถวายผาจํานวน๕๐๐ ผืน แมอน่ื อีกแกท า นพระอานนท ก็ในคราวนี้บรขิ ารคอื จีวรบังเกดิ แกทานพระอานนทเ ปน คร้ังแรก คือผา ๑,๐๐๐ ผืน เกดิ ข้ึนแลว . ลงพรหมฑณั ฑ [๖๒๗] ครง้ั นน้ั ทา นพระอานนทเ ขา ไปยงั วดั โฆสิตาราม ครนั้ แลวนัง่ บนอาสนะที่เขาปูลาดไว ทานพระฉนั นะเขา ไปหาทานพระอานนทอ ภวิ าทแลว นง่ั ณ ท่ีควรสวนขางหนึง่ ทานพระอานนทไ ดกลาวกะทานพระฉันนะผูน ัง่ณ ที่ควรสว นขา งหน่ึงวา ทา นฉันนะ สงฆล งพรหมทณั ฑแกทา นแลว . ฉ. ทานพระอานนท ก็พรหมทณั ฑเ ปนอยางไร อา. ทา นฉนั นะ ทา นปรารถนาจะพูดคําใด พงึ พดู คาํ น้ัน ภิกษุทั้ง-หลายไมพ ึงวา กลาว ไมพงึ ตักเตอื น ไมพ งึ พรา่ํ สอนทา น

พระวนิ ัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 525 ฉ. ทานพระอานนท ดวยเหตเุ พยี งท่ีภกิ ษทุ ั้งหลายไมวากลา ว ไมต กัเตือน ไมพร่าํ สอนขา พเจาน้ี เปนอันสงฆก ําจัดขา พเจา แลว มิใชหรอื แลวสลบลม ลง ณ ทนี่ นั้ เอง ตอมา ทา นพระฉันนะ อึดอัด ระอา รงั เกียจอยูดว ยพรหมทณั ฑจงึ หลีกออกอยูแ ตผ เู ดียว ไมประมาท มเี พยี ร มตี นสงไปอยู ไมนานเทาไรนกัไดท ําใหแจง ซง่ึ คุณพิเศษอนั ยอดเยย่ี ม เปน ที่สุดพรหมจรรย ที่กลุ บุตรท้งั หลายออกจากเรือนบวชโดยชอบตอ งประสงค ดว ยปญญาอนั ยง่ิ ดว ยตนเองในปจ จุบันน้ีแหละเขา ถงึ อยแู ลว ไดร ชู ดั แลว วา ชาติสิ้นแลว พรหมจรรยอ ยูจ บแลว กิจทคี่ วรทาํ ไดท ําเสร็จแลว กจิ อื่นอีกเพ่ือความเปน อยางนีไ้ มมี ก็แล ทา นพระฉันนะไดเ ปน พระอรหันตรปู หนง่ึ บรรดาพระอรหันตท้ังหลาย ครน้ั ทา นพระฉนั นะบรรลุพระอรหตั แลว เขา ไปหาทานพระอานนทแลว กลา ววา ทา นพระอานนท ขอทา นจงระงบั พรหมทัณฑแกผ มในบัดนี้เถดิ ทานพระอานนทก ลา ววา ทา นฉนั นะ เมอ่ื ใด ทานทาํ ใหแ จง ซึง่พระอรหัตแลว เมื่อน้ันพรหมทัณฑข องทา นก็ระงับแลว. [๖๒๘] กใ็ นการสงั คายนาพระวนิ ัยนี้ มภี กิ ษุ ๕๐๐ รปู ไมห ยอ นไมเกนิ เพราะฉะนน้ั การสังคายนาพระวนิ ยั คร้งั น้ี บณั ฑิตจงึ เรยี กวา แจง ๕๐๐ดังนี้แล. ปญจสตกิ ขันธกะ ที่ ๑๑ จบ ในขนั ธกะน้ีมี ๒๓ เรอื่ ง

พระวนิ ยั ปฎก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 526 หวั ขอประจําขนั ธกะ [๖๒๙] เรื่องเม่อื พระสมั พทุ ธปรินพิ พานแลว พระเถระช่อื กสั สปผูรักษาพระสัทธรรม ไดช แ้ี จงกะหมภู กิ ษถุ ึงถอยคําท่ีพระสภุ ทั ทะกลาวหมิ่นพระ-ธรรมวินยั เมื่อเดนิ ทางไกลจากเมอื งปาวา พวกเราจักสงั คายนาพระสทั ธรรม ในภายหนาอธรรมจกั รุง เร่ือง เรือ่ งเลอื กสรรภิกษุ ๕๐๐ รูปหยอ นหนงึ่ เรอื่ งเลือกพระอานนท เรอื่ งอยูใกลถา้ํ อนั อดุ มเพือ่ ทาํ สังคายนาพระธรรมวินยั เร่อื งถามวนิ ยั กะพระอุบาลี เร่ืองถามพระสูตรกะพระอานนทผูฉลาด เรื่องพระสาวกของพระชินะเจาไดท ําสังคายนาพระไตรปก ฎ เรอ่ื งอาบัตเิ ลก็ นอยตาง ๆ เรอ่ื งปฏิบตั ิตามพระบญั ญัติ เรอ่ื งไมท ูลถาม เรื่องเหยียบ เรื่องใหไหว เรอ่ื งไมท ูลขอเรอื งใหมาตคุ ามบวช เรอื่ งขา พเจายอมรับอาบัตทิ ุกกฏ เพราะเธอทานทงั้ หลายเรอ่ื งพระปรุ าณะ เรื่องพรหมทัณฑ เรอื่ งพระมเหสีกับพระเจา อเุ ทน เร่อื งผามาก เร่อื งผาเกา เร่ืองผา ดาดเพดาน เรอื่ งผาปูฟกู เร่อื งผาลาดพนื้ เรอื่ งผา เชด็ เทา เร่ืองผาเชด็ ธุลี เรือ่ งผา ขยํากบั โคน เรือ่ งผา ๑,๐๐๐ ผืนเกดิ แกพระอานนทเปนคร้งั แรก เรื่องพระฉนั นะถูกลงพรหมทณั ฑไดบ รรลสุ ัจจะ ๔พระเถระผเู ชยี่ วชาญ ๕๐๐ รูป ฉะน้ัน จงึ เรยี กวาแจง ๕๐๐. หวั ขอประจําขันธกะ จบ

พระวนิ ัยปฎก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 527 ปญ จสตกิ ักขนั ธก วรรณนา วนิ ิจฉัยในปญจสตกิ กั ขันธกะ พงึ ทราบดังนี:้ - สองบทวา ปฺจ นิกาเย ปุจฉฺ ิ มคี วามวา ทา นพระมหากสั สปะถามนกิ าย ๕ คอื ทีฆนกิ าย มชั ฌิมนกิ าย องั คุตตรนกิ าย สงั ยุตตนิกายขุททกนกิ าย. คําอยางนว้ี า เวน ปาราชิก ๔ เสีย สกิ ขาบททเ่ี หลือ เปน สกิ ขาบทเลก็และเลก็ นอย เปนอาทิ พระสังคาหกเถระทงั้ หลายกลา วแลว โดยปรยิ าย เพ่อืแสดงความทส่ี ิกขาบททัง้ ปวง อนั ทา นฟงรวบรวมเอาไว ไมละท้งิ แมสกิ ขาบทเดยี ว. หลายบทวา อทิ  โว สมณาน มคี วามวา นี้ สมควรแกส มณะทัง้ หลาย. โว อกั ษร ใชในอรรถสักวายังบทใหเตม็ . บทวา ธูมกาลก มีความวา ควนั แหง จิตกาธารเปนทีป่ รนิ ิพพานของพระสมณะ ยงั ปรากฏอยูเพียงใด, กาลเพยี งน้นั เปนกาลแหง สกิ ขาบทท่ีพระสมณะทรงบญั ญัตแิ ลว แกสาวกท้ังหลาย. คําวา อทิ  ป เต อวโุ ส อานนทฺ ทกุ ฺกฏ น้ี อนั พระเถระท้ังหลาย เพียงแตจะตวิ า กรรมนอี้ ันทานทําไมดแี ลว จึงกลา วแลว, หาไดกลา วหมายถึงอาบัติไม. อันพระเถระเหลานัน้ จะไมรจู ักอาบตั ิ และมใิ ชอ าบตั ิหามไิ ด.

พระวินัยปฎก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 528 จริงอยู ในบัดนีเ้ อง ทา นพระมหากสั สปะไดป ระกาศคาํ นวี้ า สงฆไ มบัญญัตสิ ิกขาบทท่พี ระผมู พี ระภาคเจาไมท รงบญั ญัติไว. ไมเลิกถอนสิกขาบทท่ีพระผมู ีพระภาคเจา ทรงบัญญัติแลว. อนึง่ แมคาํ วา เทเสหิ ต อาวุโส ทกุ กฺ ฏ น้ี อันพระเถระทั้งหลาย กลาวหมายถึงความประสงคน วี้ า ทานจงปฏญิ ญาการไมทูลถามน้ันวาเปน การทาํ เสยี อยา งนวี้ า ทานผเู จรญิ ขา พเจา ทําไมดีจรงิ จะกลา วหาถึงการแสดงอาบัติ หามิได. ฝายพระเถระไมท ูลถามแลว เพราะระลกึ ไมได หาใชเพราะไมเ อือ้เฟอ ไม; เพราะฉะนั้น ทา นเมือ่ กําหนดไมไ ด แมซ่งึ ความเปนการทําเสียเพราะไมทลู ถามน้นั ๆ จึงกลาววา ขา พเจา ไมเห็นควานทาํ เสยี นั้น เมอื่ จะแสดงความเคารพในพระเถระทั้งหลาย จึงกลาววา แตขา พเจาเชื่อ* ทานท้ังหลายขอแสดงความทาํ เสยี นัน้ . มีคาํ อธบิ ายวา ทานทงั้ หลายกลา วอยางใด, ขาพเจา ยอมปฎิญญาอยา งนั้น. ในสถานทั้ง ๔ แมท่เี หลอื มีนัยเหมอื นกัน. ทานพระอานนทกลาววา มา ยมิ า วิกาเล อเหสุ โดยอธบิ ายวาการไปในเวลาวกิ าลของสตรี อยาไดม ีแลว . สองบทวา รโชหรณ กรสิ สฺ าม มีความวา อาตมภาพทั้งหลายจักชุบนํ้าบิดแลวเชด็ พน้ื ท่ีทําบริกรรม. สองบทวา น กลุ ว คเมนตฺ ิ มีอธิบายวา สมณศากยบตุ รเหลา น้ีไมเ กบ็ งาํ ไวในคลัง.* ในโยชนาเปน สทธฺ าย.

พระวนิ ัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 529 สองบทวา ยทคเฺ คน ตยา มีความวา ถาวา พระอรหตั อนั ทานทําใหแ จง แลว ในกาลเรม่ิ แรกทเี ดยี ว ฉะนี้แล. คาํ ใดทีจ่ ะพึงกลา ว ซ่งึ ยังเหลือ จะพงึ มีในปญ จสตกิ กกั ขนั ธกะน้ี คาํ นนั้ขาพเจา ไดกลา วในนทิ านวรรณนาเสร็จแลว. ปญจสตกิ ักขนั ธก วรรณนา จบ










































Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook