พระวนิ ัยปฎก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 214 ตนไมของพวกภกิ ษุมผี ล. ตน ไมข องพวกชาวบา นยงั ไมท นั เผล็ดผล,พึงยอมรบั แท ดว ยเลง็ เห็นวา ตน ไมข องพวกชาวบา น ยงั ไมเผลด็ ผลก็จริงแตไ มน านกจ็ กั เผล็ดผล. ตน ไมข องพวกชาวบานมีผล, ตน ไมข องพวกภกิ ษุยงั ไมทันเผลด็ ผลพึงกลาววา ตนไมของพวกทานมผี ลมใิ ชหรือ ? ถาเขาถวายวา รับเถิด ทา นผูเจรญิ จกั เปน บุญแกพ วกขา พเจา . สมควรใหภ ิกษสุ งฆทราบแลวรับไว.อารามกับอารามพงึ แลกกันดว ยประการฉะน้ี. อารามวัตถกุ ็ดี วิหารกด็ ี วหิ ารวัตถกุ ด็ ี กบั อารามพงึ แลกกัน โดยนัยนี้ แล. อน่งึ อาราม อารามวตั ถุ วหิ าร และวหิ ารวตั ถุ กพ็ งึ แลกกบั อารามวัตถุ ทใี่ หญก ต็ าม เล็กกต็ าม โดยนยั น้ี เหมอื นกนั ฉะนี้แล. วิหารกบั วิหารจะแลกกนั อยางไร เรอื นของสงฆอ ยภู ายในบา นปราสาทของชาวบานอยูกลางวัด ทั้ง ๒ อยางวา โดยราคาเปนของเทา กัน. หากวา ชาวบานขอเอาปราสาทนน้ั แลกเรือนนั้นสมควรรบั เรอื นของพวกภิกษมุ ีราคามากกวา. และเมอ่ื ภิกษกุ ลา ววา เรอื นของพวกเรามีราคามากกวา , เขาตอบวา เรือนของพวกทา นมีราคา มากกวา ก็จรงิแตไ มส มควรแกบ รรพชิต บรรพชติ ไมสามารถอยูในเรือนนั้นได; สวนเรอื นนส้ี มควร ขอทานทั้งหลายจงรบั เถดิ ; แมอ ยา งน้ี ก็ควรรบั . ถา เรอื นของชาวบา น, มีราคามาก ภกิ ษุพึงกลา ววา เรอื นของพวกทาน มีราคามากมิใชห รือ แตเ มอ่ื เขาตอบวา ชางเถดิ ทานผเู จรญิ , จกั เปนบุญแกพ วกขา พเจา , โปรดรบั เถดิ ดงั นี้สมควรรับ. วิหารกบั วิหาร พึงแลกกนั อยางนี.้ วหิ ารวตั ถุก็ดี อารามกด็ ี อารามวัตถกุ ็ดี พงึ แลกกับวิหาร โดยนยั น้แี ล.
พระวนิ ยั ปฎก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 215 อนงึ่ วหิ าร วหิ ารวัตถุ อารามและอารามวตั ถุ กพ็ ึงแลกกบั วิหาร-วตั ถุ ที่มรี าคามากก็ตาม มรี าคานอ ยก็ตาม โดยนยั นี้เหมอื นกันฉะนแี้ ล พงึทราบการแลกถาวรวตั ถกุ ับถาวรวตั ถุอยางนี้กอ น. สวนวนิ จิ ฉยั ในการแลกครุภณั ฑกบั ครภุ ณั ฑ พึงทราบดังตอ ไปน้ี:- เตยี งตั่งจะใหญหรอื เลก็ กต็ าม โดยทีส่ ุดมีเทาเพยี ง ๔ น้วิ แมท ่พี วกเดก็ชาวบา นซึง่ ยังเลนในโรงฝุนทาํ ยอมเปนครุภณั ฑ จาํ เดมิ แตเวลาท่ีถวายสงฆแ ลว . แมถ า พระราชาและราชมหาอมาตยเปน ตน ถวายเพียงคราวเดยี วเทานัน้ ท้ังรอยเตยี งหรอื พันเตยี ง, เตยี งทีเ่ ปนกัปปยะะทั้งหมดพึงรบั ไว. ครัน้ รับแลวพงึ แจกตามลาํ ดับผแู ก วา ทา นจงใชสอยโดยเปนเครอ่ื งใชข องสงฆ. อยาใหเ ปน สว นตัวบคุ คล. แมจ ะตั้งเตียงทเ่ี กนิ ไวใ นเรอื นคลงั เปน ตน แลว เกบ็ บาตรจีวร ก็ควร. เตยี งทเ่ี ขาถวายนอกสีมา วา ขา พเจาถวายแกสงฆ ดังน้ี พงึ ใหไวใ นสถานท่อี ยูข องพระสังฆเถระ. ถาในสถานท่อี ยูของพระสังฆเถระนน้ั มีเตยี งมาก,ไมม ีการที่ตอ งใชเตียง ; ในสถานที่อยขู องภิกษุใด มีการทีต่ องใชเ ตียง, พงึใหไ วในสถานทอี่ ยูของภิกษุนน้ั ส่งั วา ทานจงใชส อยเปน เครือ่ งใชสอยของสงฆ. เตยี งมีราคามาก คือ ตรี าคาต้งั รอ ยหรือพนั กหาปณะ จะแลกเตียงอนื่ยอ มไดต ้งั รอยเตียง ควรแลกเอาไว. มิใชแ ตเ ตียงเดยี วเทานัน้ แมอารามอารามวตั ถุ วิหาร วหิ ารวตั ถุ ตั่ง ฟูกและหมอน ก็ควรแลก. แมในตั่งฟกู และหมอนกน็ ัยน้ี . แมใ นเตียงตง่ั ฟูกหมอนเหลา นี้ สิง่ ทีเ่ ปน กัปปยะและอกัปปยะมีนยั ดังกลาวแลว น่ันแล. ในกปั ปยะและอกับบปยะนน้ั ทเี่ ปน อกปั ปยะไมค วรใชสอย. ท่ีเปนกปั ปย ะ พงึ ใชสอยเปนเคร่อื งใชของสงฆ. ที่เปนอกัปปยะหรือทเ่ี ปนกปั ปย ะมี
พระวินยั ปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 216คามาก พงึ แลกเอาวตั ถุทกี่ ลาวแลว ไว. ขน้ึ ชอ่ื วา ฟกู และหมอน ทไี่ มจ ัด เปนครุภัณฑ ยอ มไมมี. ครภุ ณั ฑ ๓ อยา งนี้ คอื หมอโลหะ อา งโลหะ กระทะโลหะจะใหญหรือเลก็ ก็ตาม โดยท่ีสุดแมจุนํา้ เพยี งฟายมอื หนึ่ง ยอมเปน ครภุ ัณฑเ หมอื นกัน. สว นขวดโลหะทีท่ าํ ดวยเหลก็ ทองแดง สาํ ริด ทองเหลืองอยางใดอยางหนง่ึ จนุ ้ําไดบาทหนึ่ง ในเกาะสงิ หล แจกกนั ได. ท่ชี ื่อวาบาทหนง่ึ จุน้ําประมาณ ๕ ทะนานมคธ. ทจี่ นุ ้าํ เกินกวาน้นัเปน ครภุ ณั ฑ, ภาชนะโลหะท่ีมาในบาลีเทา นีก้ อน. สว นนํา้ เตา ทอง กระโถน กระบวย ทัพพี ชอ น ถาด จาน ชามผอบ อัง้ โล และทัพพีตกั ควนั เปน ตน แมมิไดม าในบาลี จะเลก็ หรือใหญก ็ตาม เปน ครภุ ณั ฑหมดทุกอยา ง. แตภ ณั ฑะเหลาน้ี คอื บาตรเลก็ ภาชนะทองแดง เปน ของควรแจกกันได ภาชนะกาววาวทท่ี ําดว ยสาํ รดิ หรือทองเหลืองควรใชสอยเปนเครื่องใชข องสงฆ. หรือเปน คหิ ิวกิ ตั ิ ไมควรใชส อย เปนเครอื่ งใชส ว นตัวบคุ คล. ในมหาปจจรีแกวา ภาชนะสํารดิ เปนตน ทีเ่ ขาถวายสงฆจะรักษาไวใชเ องไมควร, พึงใชส อยโดยทํานองคหิ ิวิกัตเิ ทา นน้ั สวนในสิ่งขอโลหะทีเ่ ปนกัปปยะแมอน่ื ยกเวน ภาชนะกาววาวเสยี กลอ งยาทา ไมป ายยาตา ไมค วกั หูเข็ม เหลก็ จาร มีดนอ ย เหล็ก หมาด กุญแจ ลกู ดาล หว งไมเทา กลอ งยานัตถุ สวาน รางโลหะ แผน โลหะ แทงโลหะ ส่งิ ของโลหะทที่ ําคางไวแมอ ยา งอืน่ เปนของควรแจกกันได. สว นกลอง ยาสบู ภาชนะโลหะ โคมมีดา ม โคมต้ัง โคมแขวน รปู สตรีรูปบุรษุ และรูปสัตวเ ดยี รจั ฉานหรอื สงิ่ ของโลหะเหลาอ่นื พงึ ติดไวตามฝาหรือ
พระวินยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 217หลังคาหรือบานประตูเปน ตน , สง่ิ ของโลหะทง้ั ปวง โดยท่สี ดุ จนกระท่งั ตะปูยอมเปนครุภัณฑเหมือนกนั แมตนเองไดมาก็ไมควรเก็บไวใ ชอยางเคร่ืองใชสวนตวั บคุ คล. ควรใชอยา งเครือ่ งใชข องสงฆ หรอื ใชเ ปน คหิ วิ ิกัติ. แมในสง่ิ ของดีบกุ กม็ นี ัยเหมอื นกนั . จานและขนั เปน ตน ท่ที าํ ดว ยหินออ น เปน ครภุ ัณฑเหมอื นกนั , สว นหมอหรอื ภาชนะน้ํามนั ทีใ่ หญ เกนิ กวา จนุ ํ้ามันบาทหน่งึ ขึ้นไปเทานัน้ เปนครุภัณฑ. ภาชนะทองคาํ เงิน นาก และแกว ผลกึ และเปนคิหวิ ิกตั ิ กไ็ มควร,ไมจ ําตอ งกลาวถึงใชอ ยา งเครื่องใชข องสงฆ หรืออยางเครื่องใชสว นตวั บุคคล.แตดวยเครื่องใชส าํ หรับเสนาสนะ ส่ิงของทกุ อยางทงั้ ทีค่ วรจับตอ ง ท้งั ทีไ่ มควรจบั ตอง จะใชสอยก็ควร. ในมีดเปน ตน มีดที่ไมอาจใชทําการใหญอยา งอ่นื ได ยกการตดั ไมสฟี น หรือการปอกออ ยเสีย เปนของควรแจกกนั ได. มีดทที่ าํ ดวยอาการอยา งใดอยา งหน่ึง ซง่ึ ใหญก วานน้ั เปน ครภุ ณั ฑ. สว นขวาน โดยทส่ี ุดแมเปน ขวานสาํ หรบั ตัดเอ็นของพวกแพทยย อ มเปนครุภณั ฑเหมอื นกัน. ในผ่ึงมวี นิ จิ ฉยั เชน ขวานนั่นเอง. สว นผง่ึ ท่ที าํ โดยสงั เขปวา เปนอาวธุเปนอนามาส. จอบโดยที่สุด แมข นาด ๔ นว้ิ ยอ มเปนครภุ ัณฑแท. ส่วิ มีปากเปนเหลี่ยมกด็ ี มปี ากเปนรางกด็ ี โดยทสี่ ุดแมเ หล็กเจาะดามไมกวาด เปน ของเขา ดา มไว เปน ครภุ ณั ฑแท. แตเ หล็กเจาะดา มไมกวาดไมมีดา ม มีแตตวั เทานั้น เปนของอาจใสฝกรกั ษาไวไ ด เปนของควรแจก.ึแมเ หล็กแหลมก็สงเคราะหดว ยสงิ่ น้นั เอง.
พระวินัยปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 218 มดี เปน ตน เปน ของท่ีชนเหลา ใดถวายไวในวิหาร, ถาชนเหลานนั้เมอ่ื ถูกไฟไหมเ รือน หรือถูกโจรปลน จงึ กลา ววา ทา นผูเจริญจงใหเ ครื่องมอืแกพ วกขาพเจา เถดิ , แลว จกั คืนใหอ กี , ควรให. ถาเขานาํ มาสง , อยาพึงหา ม,แมเขา. ไมนาํ มาสงกไ็ มพ งึ ทวง. เครอ่ื งมือทาํ ดว ยโลหะทุกอยาง มที ง่ั คอ น คมี และคนั ชงั่ เปนตน ของชา งไม ชา งกลงึ ชา งสาน ชางแกว และชางบบุ าตร เปน ครภุ ัณฑจาํ เดมิ แตกาลท่ถี วายสงฆแลว. แมในเคร่ืองมอื ของชา งดีบุก ชางหนัง กม็ นี ยัเหมือนกนั . สว นความท่แี ปลกกันดงั น้:ี - เครอื่ งมือเหลา นน้ั คือ ในพวกเคร่อื งมอื ของชา งดีบุกเลา มดี ตดั ดีบกุในพวกเคร่ืองมือของชางทอง มดี ตัดทอง ในพวกเครือ่ งมอื ของชา งหนึ่ง มีดเล็กสําหรบั ตัดหนังท่ีฟอกแลว เปน สิง่ ที่ควรแจก. แมใ นเคร่ืองมอื ของกลั บกและชางชนุ เวน กรรไกรใหญ แหนบใหญและมดี ใหญเ สีย ควรแจกทุกอยาง. กรรไกรใหญเ ปนตน เปน ครุภณั ฑ. วินจิ ฉยั ในเถาวลั ยเ ปนตน พงึ ทราบดงั นี:้ - เถาวัลยชนดิ หน่ึง มหี วายเปนตน ประมาณเพียงครึ่งแขน ท่เี ขาถวายสงฆกต็ าม ที่เกิดข้ึนในธรณีสงฆน น้ั กต็ าม ซึ่งสงฆรกั ษาปกครองไว เปนครภุ ณั ฑ. เถาวัลยน ั้น เมื่อการงานของสงฆและการงานที่เจดยี ทําเสรจ็ แลว ถาเปนของเหลอื , จะนอมเขาไปในการงานสว นตวั บุคคลบา ง ก็ควร. แตเถาวลั ยทส่ี งฆไ มรกั ษาไมเปน ครุภณั ฑเลย.
พระวินยั ปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 219 เชือกหรือพวนทที่ าํ เสรจ็ ดว ยดา ย ปอ ปา น เส้ียนมะพรา วและหนังก็ดี เชือกเกลียวเดียวหรอื ๒ เกลียว ที่เขาฟนปา นหรือเสีย้ นมะพรา วทาํ กด็ ียอมเปน ครุภัณฑ จาํ เดมิ แตเวลาท่เี ขาถวายสงฆแลว . สวนดายท่ีเขามิไดฟ น ถวาย และปอปา นแลเสีย้ นมะพราวแจกกนั ได. อนงึ่ เชอื กและพวนเปน ตน เหลา นน้ั เปน ของทช่ี นเหลาใดถวาย,ชนเหลา น้นั จะยมื ไปดวยกรณยี กิจของตน ไมค วรหวงหา ม. ไมไ ผชนดิ ใดชนดิ หนึ่ง โดยทส่ี ดุ แมข นาดเทาเขม็ ไม* ยาว ๘ นวิ้ท่เี ขาถวายสงฆ หรอื ทีเ่ กิดในธรณีสงฆน้นั ซึง่ สงฆร ักษาปกครองไว เปนครุภณั ฑ. เมื่อการงานของสงฆและการงานท่เี จดยี ทาํ เสร็จแลว แมไ มไผน้ันยังเหลือ จะใชในการงานเปนสว นตวั บคุ คล กค็ วร. ก็ในภัณฑะ คือ ไมไผน ้ี ของเชน นี้ คือ กระบอกนํ้ามนั จนุ ํ้ามนั บาทหนง่ึ ไมเทา คานรองเทา คนั รม ซรี ม เปนของแจกกนั ได. พวกชาวบา นผูถูกไฟไหมเรือนฉวยเอาไป ไมควรหาม. เมือ่ ภิกษจุ ะถือเอาไมไ ผทีส่ งฆร ักษาปกครอง ตองทาํ ถาวรวัตถทุ ่เี ทา กนั หรือเกนิ กวาโดยที่สดุ ทาํ ผาตกิ รรม แมด ว ยทรายซงึ่ มรี าคาเทาไมไ ผนั้น แลวจงึ ถอื เอา.เมื่อจะไมท ําผาตกิ รรมถือเอา ตอ งใชสอยในวดั นน้ั เทา น้ัน. ในเวลาทจ่ี ะไปตองเก็บไวในที่อยขู องสงฆกอน จงึ คอ ยไป. ภกิ ษุผถู ือเอาไปดว ยความหลงลืมตองสงคืน. ไปสูประเทศอ่นื แลว พึงเก็บไวใ นท่ีอยขู องสงฆใ นวัดทีไ่ ปถึงเขา. หญา นัน้ คอื หญา ชนิดใดชนิดหนึง่ ทนี่ อกจากหญา มงุ กระตายและหญาปลอง. กใ็ นทใ่ี ด ไมม ีหญา ในทน่ี ้ัน เขามงุ ดว ยใบไม เพราะฉะนั้นแมใ บไมก ส็ งเคราะหดวยหญาเหมือนกนั .* สุจทิ ณฑก เขม็ ไม (สําหรับเย็บของใหญ เชนใบเรือ) ไมกลดั (?).
พระวินยั ปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 220 ในหญา มุงกระตายเปนตน หญาชนิดใดชนิดหน่งึ แมมีประมาณกาํ มือหนึ่ง แมใ นใบไมม ีใบตาลเปน แมใบเดยี ว ทีเ่ ขาถวายสงฆห รอื ทเ่ี กิดในธรณีสงฆนน้ั หรอื เปน หญา ท่เี กดิ แตส วนหญา ของสงฆภ ายนอกอาราม ซ่ึงสงฆรกั ษาปกครอง เปน ครภุ ณั ฑ. เมือ่ การงานของสงฆ หรอื การงานที่เจดียทาํ เสร็จแลว หญาแมน น้ั ยงัเหลือ จะใชในการงานเปนสวนตวั บุคคล กค็ วร. พวกชาวบานผูถูกไฟไหมเรือนฉวยเอาไป ไมค วรหา ม. ในลานเปลา แมขนาดเพียง ๘ นว้ิ ก็เปนครภุ ณั ฑเ หมอื นกัน, ดินเหนียว จะเปนดินธรรมดาหรอื ดนิ ๕ สี หรือปูนขาวกต็ ามทีหรือบรรดายางสนและชนั เปน ตน ยางชนดิ ใดชนิดหนงึ่ ทเี่ ขานํามาถวายในท่ีซึง่ หาไดยากก็ดี ท่ีเกดิ ในธรณสี งฆน ้นั กด็ ี ขนาดเทาผลตาลสุก ซึ่งสงฆร ักษาปกครองไว เปน ครภุ ัณฑ. เมื่อการงานของสงฆ หรือการงานของเจดียท า เสร็จแลว ยางแมน ้นั ท่ีเหลือ จะใชใ นการงานเปนสว นตวั บุคคล กค็ วร. สว นหิงคุ รง หรดาล มโนศิลา และแรพลวง เปนของควรแจกกัน. วินจิ ฉัยในสิ่งของคอื ไม พึงทราบดงั น:ี้ - ในกรุ นุ ทแี กว า ภัณฑะไมช นิดใดชนิดหน่งึ แมขนาดเทา เขม็ ไมยาว๘ น้ิว เขาถวายสงฆในที่ซงึ่ หาไดยาก หรอื เกิดในธรณสี งฆน ้ัน ซึ่งสงฆรักษาคุมครอง น้เี ปนครภุ ัณฑ. สว นในมหาอรรถกถา สงเคราะหข องแปลกทท่ี ําดว ยวตั ถเุ ปน ตน วาไมจรงิ ไมไผ หนัง และศิลา แมทกุ อยา งดว ยภณั ฑะไม แลว กลา ววนิ จิ ฉัยแหง ภัณฑะไม จําเดิมแตบ าลนี วี้ า เตน โข ปน สมเยน สงฆฺ สฺสอาสนทฺ ิโก อุปฺปนฺโน โหต.ิ
พระวินยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 221 ในมหาอรรถกถานั้น ไขความดงั นี้ :- ในของเหลา น้นั กอ น คือ ตัง่ ๔ เหล่ียมจตุรสั ต่ังมีพนัก ๓ ดาน ต่ังหวายต่ังสามัญ ตง่ั ขาทราย ต่งั กา นมะขามปอม ตัง่ มีพนกั ดานเดียว ต้งั กระดานเกาอี้ คงยัดฟาง ชนิดใดชนิดหนงึ่ เล็กหรือใหญกต็ าม ทเ่ี ขาถวายสงฆแลวเปน ครภุ ณั ฑ. อนงึ่ แมตั่งท่ยี ัดดวยใบตองเปน ตน สงเคราะหใ นต่ังเหลาน้นั ดว ยต่ังยัดฟาง. เกาอที้ ่ีหมุ ดวยหนังเสือโครงกด็ ี บดุ ว ยรปู สัตวรา ยก็ดี ขลิบดวยรัตนะกด็ ี เปนครุภณั ฑเ หมอื นกัน. ในของเหลาน้ัน คอื กระดานจงกรม กระดานยาว กระดานซักจีวรกระดานรองทบุ ตลุมพุกสําหรับทบุ เขยี งรองตัดไมสฟี น ไมคอน ถงั ไมรางยอ ม กระโถน สมกุ ไมจ รงิ หรือสมุกงา หรอื สมกุ ไมไ ผ มีเทากต็ ามไมมเี ทา กต็ าม หีบ ขวดมีขนาดไมเ กนิ จนุ ้าํ บาทหน่ึง รางนํ้า ไหน้าํ กระ-บวย ทพั พี ขนั นาํ้ สงั ขตักนํ้า ชนิดใดชนิดหนง่ึ ที่ถวายสงฆแลว เปนครุภัณฑ, สว นภานะที่ทาํ ดว ยสังขแ จกกันได. หมอน้ําทท่ี าํ ดวยไม กเ็ หมือนกนั . เสวยี นเชด็ เทา จะทาํ ดว ยไมหรือทาํ ดวยใบตาลเปนตน กต็ ามที เปนครุภณั ฑท ้งั หมด. ในของเหลา น้ี คือ เชงิ บาตร ฝาบาตร พดั ใบตาล พดั วีชนี ผอบกระเชา ไมกวาดดา มยาว ไมก วาดดา มสน้ั อยางใดอยางหนึ่ง จะเลก็ หรอื ใหญกต็ าม ทําดวยของอยางใดอยา งหนง่ึ มไี มจรงิ ไมไ ผ ใบไมแ ละหนังเปนตนเปนครุภณั ฑเหมือนกนั ..
พระวินัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 222 บรรดาเครือ่ งเรอื นมีเสา ชือ่ บันได และกระดานเปน ตน เครอ่ื งเรอื นอยางใด อยางหนึ่ง ซง่ึ ทาํ ดวยไมก ต็ าม ทาํ ดวยศลิ ากต็ าม เสอ่ื ลําแพนชนดิ ใดชนดิ หนึง่ ท่เี ขาถวายสงฆแลว เปน ครภุ ณั ฑส มควรทําใหเ ปนเครื่องลาดฟน . สว นหนังแพะ ซึ่งแมมีคตอิ ยางเคร่อื งปลู าด ก็เปนครุภัณฑเหมือนกัน .หนงั ทีเ่ ปน กัปปยะ เปน ของควรแจกกันได. แตในกุรนุ ท่แี กว า หนังทุกชนิดมขี นาดเทา เตยี ง เปน ครุภณั ฑ. ครกสาก กระดงั หินบด ลกู หินบด รางศลิ า อา งศลิ า ภณั ฑะของชางหูกเปนอาทิทกุ อยาง มกี ระสวย ฟม และกระทอเปน ตน เครือ่ งทาํ นาทกุ อยางลอ เลอื่ นทกุ อยา ง เปน ครุภัณฑท ั่งนั้น. เทาเตียง แมแครเตียง เทา ต่งั แมแครต่งั ดามมดี และสวานเปนตนในของเหลานี้ อยางใดอยางหนึ่งซึ่งถากขา งไวย ังไมท นั เสร็จ แจกกนั ได แตทถี่ ากเกล้ียงเกลาแลว เปนครุภณั ฑ. อน่ึง ของเชนนี้ คอื ดา มมีดที่ทรงอนุญาต ดามและปก กลด ไมเทารองเทา ไมส ไี ฟ กระบอกกรอง กระตกิ นา้ํ ทรงมะขามปอม หมอ นา้ํ ทรงมะขามปอม กระตกิ นํ้าลกู น้ําเตา หมอ น้ําหนงั หมอนา้ํ ทรงน้ําเตา กระติกนํา้ทาํ ดว ยเขา จนุ ้ําไมเกนิ บาทหนงึ่ แจกกนั ไดท ุกอยา ง เขอื่ งกวานน้ั เปนครภุ ณั ฑ. งาชางหรอื เขาชนิดใดชนิดหน่ึง ยังมิไดเกลา คงอยอู ยางเดมิ แจกกันได. ในเทา เตียงเปน ตน ท่ีทาํ ดวยงาชางและเขาเหลานน้ั มีวินิจฉัยเชนกับทีม่ ีมาแลวในหนหลังน่นั เอง. ของเชนนี้ คอื กลกั ใสห งิ คุ กลกั ใสยาตา แมถากเกลาเสร็จแลวลกู ดมุ รังดุม แทนยาตา ดา มยาตา กราดกวาดนํ้า ทุกอยางแจกกนั ไดท งั้ นั้น. วนิ จิ ฉยั ในของทที่ าํ ดวยดนิ พงึ ทราบดงั น:้ี -
พระวนิ ยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 223 เครื่องอุปโภค และบรโิ ภคของมนุษยทั้งปวง คือภาชนะดิน มีหมอฝาละมีเปนตน กระถางสาํ หรบั ระบมบาตร เชิงกราน ปลอ งควัน โคมมีดามโคมตั้ง อิฐสําหรบั กอ กระเบ้อื งสาํ หรับมุง กระเบื้องหลบ เปนครภุ ัณฑจําเดมิ แตเ วลาท่ีถวายสงฆแ ลว . ก็ในของท่ที ําดวยดิน ของเชนนี้ คอื หมอ บาตร ภาชนะ คนโท-ปากกวา ง คนโทสามัญ ขนาดเขือ่ งไมเ กินกวาจุน้ําบาทหนึ่ง เปน ของทแ่ี จกกันได. อน่ึง แมใ นของโลหะ พึงทราบวนิ ิจฉยั เหมือนในของดิน. คนโทนํา้บวกเขากบั สว นทีแ่ จกกนั ไดเ หมือนกัน. อนปุ ุพพกี ถาในครุภัณฑน้ี เทา น้ี. [วาดว ยนวกรรม] บทวา ภณฺฑกิ าธานมตฺเตน มคี วามวา ภิกษุชาวเมอื งอาฬวียอมใหน วกรรม (คือสรางใหม) ดวยเพยี งประกอบส่ิงท่ีปด ท่ีอาศยั อยแู หง นกพริ าบซ่ึงทาํ เหนือบานประต.ู บทวา ปรภิ ณฺฑถรณมตเฺ ตน คอื ดวยเพยี งทําการฉาบทาดว ยโคมยั และชโลมดวยนา้ํ ฝาด. บทวา ธมู กาลกิ มคี วามวา ภกิ ษุชาวเมอื งอาฬวี ยอ มอปโลกนใหที่อยูท่ีสรางทาํ แลว น้ี ในเวลาแหง ควนั อยา งนี้วา ควันแหงจติ รกรรมของทอ่ี ยนู นั้ ยังไมปรากฏเพียงใด, ทีอ่ ยนู จ้ี งเปน ของภิกษนุ นั้ เพยี งนน้ั . วนิ ิจฉยั ในบทวา วิปฺปกต นี้ พึงทราบดังนี้ :- กลอนท้งั หลาย ยงิ่ มไิ ดเอาขนึ้ เพียงใด ท่ีอยูช่อื วา ทําคางเพยี งนัน้ .แตครัน้ เมื่อกลอนทง้ั หลายไดเอาข้นึ แลว ทอ่ี ยชู ื่อวาทาํ แลว โดยมาก, เพราะฉะน้นั จําเดมิ แตเ วลาท่ีเอากลอนขน้ึ แลวไปน้นั ไมค วรใหท าํ ใหม. เจา ของจกั ขอแรงภกิ ษุ ใหช วยสรา งอกี นดิ หนอยเทา นัน้ .
พระวินยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 224 ขอวา ขุทฺทเก วหิ าเร กมมฺ โอโลเกตฺวา ฉปฺปณจฺ วสสฺ กิ มีความวา ภิกษุพึงตรวจดงู านแลวใหน วกรรม ๔ ป สาํ หรับท่ีอยูขนาด ๔ ศอก,๕ ป สําหรบั ทอ่ี ยู ๕ ศอก, ๖ ป สาํ หรบั ที่อยู ๖ ศอก, สวนอัฑฒโยคะ(คือ เพงิ ) เปนของมขี นาด ๗- ๘ ศอก เพราะฉะนั้น ในเพงิ นี้ พระผมู ีพระภาคเจาจึงตรัสวา ๗-๘ ป. ก็ถา เพิงนน้ั มขี นาด ๙ ศอก, พึงใหน วกรรม๙ ปก็ได. อนง่ึ พงึ ใหน วกรรม ๑๐ ป หรอื ๑๑ ป สาํ หรบั ทอ่ี ยหู รือปราสาทเกามขี นาด ๑๐ ศอกหรอื ๑๑ ศอก. แตพ ึงใหน วกรรม ๑๒ ปเทาน้นั สําหรบั ทอี่ ยูหรอื ปราสาทมขี นาด ๑๒ ศอก หรอื แมเชนโลหะปราสาท ซ่ึงเขือ่ งเกนิ กวานนั้ , ไมพงึ ใหนวกรรมใหยงิ่ กวา ๑๒ ปนัน้ ไป. นวกัมมกิ ภกิ ษุไดที่อยูนัน้ ภายในกาลฝน, ไมไ ดเ พอ่ื จะหามหวงในอตุ ุกาล. ถา ท่อี ยูน้นั ชํารุด, พงึ บอกแกเจา ของอาวาสหรือแกใคร ๆ ผเู กิดในวงศของเขาวา ทีอ่ ยขู องพวกทานทรุดโทรม ทา นจงซอมแซมทีอ่ ยูน นั้ . ถา วาเขาไมสามารถ ภิกษทุ ัง้ หลายพึงชกั ชวนญาตหิ รอื อปุ ฏฐากชวยซอ มแซม. ถาแมญาตแิ ละอปุ ฏ ฐากเหลานน้ั ก็ไม สามารถ พึงซอมแซมดว ยปจ จยั ของสงฆ แมเมอื่ ปจจัยของสงฆนนั้ ไมมี ก็พงึ จําหนา ยอาวาส* หลงั หนง่ึเสยี ซอ มแซมอาวาสทเี่ หลอื ไว. แมจําหนายอาวาสเปนอนั มากเสีย ซอ มแซมอาวาสหลงั หนงึ่ ไวกค็ วรเหมอื นกนั . ในคราวทุพภกิ ขภยั เมือ่ ภกิ ษทุ ้งั หลายพากันหลกี ไปเสยี อาวาสท้งั ปวงจะทรุดโทรม เพราะฉะนัน้ พึงจําหนายอาวาสเสียหลังหนง่ึ หรอื ๒ หลัง* กฎุ ิ (?)
พระวินยั ปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 225หรอื ๓ หลงั แลว บริโภคยาคภู ัตและจีวรเปนตน จากอาวาสทีจ่ าํ หนา ยเสยี น้นัรกั ษาอาวาสท่ยี งั เหลอื ไวเ ถดิ . สว นในกรุ นุ ทีแกวา เมอ่ื ปจจยั ของสงฆไ มม ี พึงส่งั ภิกษุรปู หนงึ่ วาทานจงถือเอาท่พี อเตยี งอนั หนึ่ง สาํ หรบั ทา นซอ มแซมเถดิ . หากวา ภิกษุน้นั ตอ งการมากกวา นั้น พึงใหสว นท่ี ๓ (ใน ๔ สว น)หรือกึง่ หนง่ึ ก็ได ใหซ อ มแซมเถดิ . หากวา เธอไมปรารถนาดวยเหน็ วา ในที่อยูน้ี เหลอื แตเพยี งเสาเทานัน้การที่จะตองทาํ มาก พึงบอกใหเธอซอ มแซมวา ทานจงซอ มแซมเปนสว นตัวของทา นเทานนั้ เถิด เพราะวา แมเม่ือเปนเชนน้ี กจ็ ักยงั มีที่เก็บของสงฆด วยจกั มีสถานเปน ทอี่ ยูข องภิกษุใหมท งั้ หลายดวย. กแ็ ล อาวาสอนั ภกิ ษทุ ง้ั หลายซอมแซมแลว อยางน้ัน ยอมเปนของสวนตวั บคุ คล ในเมอ่ื ภกิ ษนุ ้นั ยงั มชี ีวิตอยู, เมื่อภิกษนุ นั้ มรณภาพแลว ยอ มตกเปนของสงฆแท. หากวา ภกิ ษนุ ัน้ เปน ผปู ระสงคจะให (เปนทอ่ี ย)ู แกสทั ธวิ ิหาริกท้ังหลาย. สงฆพึงตรวจดกู ารงานแลวพึงยกสว นท่ี ๓ หรือกง่ึ หน่งึ ใหเธอซอ มแซมเปน สว นตวั . จริงอยู เธอยอ มไดเ พือ่ ใหส ว นน้นั แกส ัทธวิ ิหารกิ ทัง้ หลาย. กเ็ มื่อผูซอมแซมอยา งน้นั ไมมี, พึงใหซ อ มแซมตามนัยที่วา พงึ จาํ หนายอาวาสหลงัหน่ึงเสยี ดงั น้ีเปนตน . คําแมนด้ี วย คําอ่ืนดวยทา นกลาวไวในกุรนุ ทนี ัน้ แล. ภิกษุ ๒ รูป ถือเอาพนื้ ทขี่ องสงฆ แผว ถางแลวสรา งเสนาสนะเปนของสงฆ พ้ืนทีน่ ั้นภกิ ษใุ ดจองกอ น, ภกิ ษนุ นั้ เปน เจา ของ. แมเธอทั้ง ๒ รปูสรางเปน สว นตัวบุคคล ภิกษผุ จู องกอ นนน่ั แลเปน เจา ของ.
พระวนิ ัยปฎก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 226 ภิกษุผจู องพื้นท่กี อ นนัน้ สรา งเปนของสงฆ อกี รปู หนงึ่ สรา งเปนสวนตัวบคุ คล. หากวา ทสี่ รา งเสนาสนะอ่นื ๆ ยังมีมาก แมเ ธอสรา งเปนสวนตวับุคคล ก็ไมค วรหา ม. แตเ มื่อท่ีอนั เหมาะเชนนั้นแหง อนื่ ไมมี อันภกิ ษุผูส รา งเปน ของสงฆน้ันแล พึงหามเธอเสยี แลว สรางเถดิ . กเ็ ครอ่ื งใช มที พั สัมภาระเปน ตน ท่ีจะตอ งใชสอยหมดไปในสถานเปน ที่สรา งอาวาสของสงฆน น้ั ของภกิ ษนุ ัน้ สงฆพงึ ยอมใหแกเ ธอ. อนึง่ ถา วา ในอาวาสท่สี รางเสรจ็ แลว ก็ดี ในสถานท่ีจะสรา งอาวาสก็ดีมตี นไมท่ีอาศัยรมไดและมีผล, พึงอปโลกนใ หโ คนเสยี เถิด. ถา ตนไมเ หลาน้นัเปนของบุคคล, พงึ บอกแกเ จาของ. ถา เจา ของไมย อมให, พึงบอกเพยี งครัง้ท่ี ๓ แลว ใหโคนเสีย ดวยยอมรบั วา พวกเราจกั ใหม ูลคา ราคาตน ไม. ฝา ยภกิ ษใุ ด ไมถ อื เอาเครื่องใชแมมาตรวา เถาวลั ยข องสงฆใ หสรางท่ีอยูเปนสว นตัว ในพื้นท่ขี องสงฆ ดว ยเครือ่ งอปุ กรณท ําตนหามา, เปนของสงฆกง่ึ หน่งึ เปนของบุคคลกงึ่ หนงึ่ . ถา เปน ปราสาท,* ปราสาทช้นั ลา งเปนของสงฆ ชน้ั บนเปน ของบุคคล. ถา ภกิ ษุใด ตองการปราสาทชนั้ ลา ง, ปราสาทชน้ั ลา งยอ มเปนของภิกษนุ นั้ . ถาเธอตองการท้งั ชน้ั ลา งท้ังช้นั บน ยอ มไดชัน้ ละกึง่ หนึ่งทั้ง ๒ ชัน้ . ภิกษุใหส รางเสนาสนะ ๒ แหง เปนของสงฆแหง หน่ึง, เปนของบคุ คลแหงหนึง่ . หากวาภกิ ษุใหสรา งดวยทัพสัมภาระเปนของสงฆซ ึง่ เกิดข้ึนในวัด, เธอยอ มไดส ว นท่ี ๓. หากวา ภิกษทุ าํ การกอตอ ขึน้ ใหมในทีซ่ ่งึ ไมไ ดทําไวก ด็ ี ตอ หนา มุขข้ึนภายนอกฝากด็ ี,กงึ่ หนึ่งเปน ของสงฆ ก่งึ หน่ึงเปนของ* ปราสาท หมายความวา เรอื นชน้ั ต้ังแต ๒ ช้นั ขึ้นไป ไมไดห มายวา ปราสาทราชมณเฑยี รอยางความไทย.
พระวนิ ัยปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 227เธอ. ถาวาสถานท่ีใหญไมเ สมอ เปน ทซี่ ่งึ ภกิ ษพุ นู ใหเสมอ แสดงทางเดินในทซ่ี ึ่งมใิ ชทาง สงฆไมเ ปน ใหญในท่ีน้ัน . [วาดว ยสทิ ธแิ หง นวกมั มกิ ะ] ในขอ วา เอก วรเสยฺย นี้ มีความวา ในสถานทีใ่ หนวกรรมกด็ ีในสถานทถี่ ึงตามลาํ ดบั พรรษากด็ ี ภิกษผุ ูซอ มแซมปรารถนาเสนาสนะใด ยอมไดเ สนาสนะนน้ั , เราอนุญาต ใหถือเอาเสนาสนะที่ดีแหงหนึง่ . ขอวา ปรโยสิเต ปกฺกมติ ตสฺเสว ต มคี วามวา เมือ่ ภกิ ษนุ ัน้กลบั มาจาํ พรรษาอกี เสนาสนะนน้ั เปนของเธอเทา นนั้ ตลอดภายในพรรษาแตเมือ่ เธอไมมา สทั ธิวิหารกิ เปนตน จะถือเอาไมไ ด. บทวา นาภิหรนตฺ มีความวา ภกิ ษทุ ัง้ หลายไมก ลานํา (เสนาสนะ)ไปใชใ นท่ีอ่นื . บทวา คตุ ตฺ ตฺถาย มีความวา เราอนญุ าตใหขนเสนาสนะ. มีเตยี งและตงั่ เปน ตน ในทีอ่ ยูนั้นไปในท่อี ่นื เพ่ือประโยชนแ กค วามคมุ ครองเสนาสนะนน้ั . เพราะเหตุนน้ั เม่ือภกิ ษุนําไปในที่อื่นแลวใชสอยเปน สังฆบริโภคเสนาสนะนั้นเสียหายไป ก็เปน อันเสียหายไปดวยดี เกาไป ก็เปน อันเกาไปดวยดี ถาเสนาสนะน้ัน ยังไมเ สียหาย พึงเกบ็ งําไวตามเดิมอีก ในเม่ือทีอ่ ยูนน้ั ไดป ฏสิ งั ขรณเ สรจ็ แลว. เม่อื ภกิ ษใุ ชส อยเปน เครอ่ื งใชสวนตวั เสนาสนะนั้น เสยี หายไปก็ดี เกาไปก็ดี เปน สนิ ใช. เมอ่ื ท่อี ยนู ้นั ไดป ฏิสังขรณเสร็จแลว ตองใชใหท เี ดยี ว. หากวา ภกิ ษุถือเอาทัพสมั ภาระท้ังหลายมกี ลอนเปน ตน จากสังฆิ-กาวาสนนั้ ประกอบในสงั ฆิกาวาสอนื่ ท่ปี ระกอบแลว กเ็ ปน อันประกอบดว ยด.ีแตภ ิกษผุ ปู ระกอบในอาวาสสวนตัว ตอ งใหราคาหรอื ตอ งเอากลบั คนื ไวต ามเดมิ
พระวินยั ปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 228 ภกิ ษุมีเถยยจิตถอื เอาเตียงและตง่ั เปน ตน จากท่อี ยทู ่ีถกู ละทง้ิ พระวนิ ัยธรพงึ ปรบั ดวยราคาภัณฑะ ในขณะทย่ี กขึน้ ทเี ดียว. เมอ่ื ภกิ ษุถือเอาใชส อยเปน สังฆบริโภค ดวยต้ังใจวา จักคนื ใหใ นเวลาที่ภิกษผุ ูเจาถิ่นมาอีก เสยี หายไป กเ็ ปน อันเสียหายไปดว ยดี เกา ไป กเ็ ปน อนัเกา ไปดว ยด,ี ถา ไมเ สียหาย พึงคนื ไวตามเดมิ , เมื่อภิกษใุ ชสอยเปนเครอ่ื งใชส วนตัว เสยี หายไป เปนสินใช. ทพั สมั ภาระมปี ระตหู นาตางเปนตน ที่ภิกษถุ อื เอาจากทอี่ ยทู ่ีถูกละทิง้ นนั้ ไปประสมใชในสงั ฆกิ าวาส หรือในอาวาสสวนตัว ตอ งคนื ใหแ ท. บทวา ผาตกิ มฺมตถฺ าย คือ เพือ่ ประโยชนแ กก ารทําใหเ พ่มิ ขน้ึ .กเ็ สนาสนะมเี ตียงและตงั้ เปน ตนนั้นเอง ทมี่ รี าคาเทากนั หรือมากกวา เปนผาตกิ รรม ยอมควรในคาํ วา เพือ่ ประโยชนแ กผ าตกิ รรม น้ี . [วาดว ยการใชเสนาสนะ] เครอ่ื งเช็ดเทา มีสัณฐานคลา ยลูกลอ ซ่ึงทําหมุ ดว ยผากัมพลเปนตนช่ือวา จักกล.ี ขอวา อลฺเลหิ ปาเทหิ มีความวา น้ํายอ มปรากฏในทีซ่ ง่ึ เทาเชนใดเหยียบแลว, พ้ืนก็ดี เสนาสนะก็ดี ทีท่ าํ ดว ยการโบกฉาบ อนั ภิกษุไมพ ึงเหยียบดวยเทา เชน นัน้ . แตถาวา ปรากฏแคเ พียงรอยนา้ํ จาง ๆ เทา นนั้น้ําหาปรากฏไม ควรจะเหยยี บได. อนึ่ง จะเหยยี บผา เชด็ เทา แมด ว ยเทาอันเบยี กชุม ก็ควรเหมอื นกัน. ภิกษุผสู วมรองเทา ไมควรเหยียบในท่ซี งึ่ จะพึงเหยียบดวยเทาท่ีลา งแลว ทีเดยี ว.
พระวินัยปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 229 ขอวา โจฬเกน ปลเิ วเตุ มคี วามวา ทฟ่ี น ปนู ขาวหรือทีพ่ น้ื ที่โบกฉาบ ถาไมม ีเสือ่ ออนหรอื เสื่อลําแพน, พึงเอาผา พนั เทา (เตยี งและตงั่ )เสยี . เมอ่ื ผา นั้นไมม ี แมใบไมกค็ วรลาด. และเปนทุกกฏแกภิกษผุ ูไ มล าดอะไร ๆ เลย วางลงไป. กถ็ า วา ภกิ ษผุ เู จา ถนิ่ ในอาวาสนัน้ วางบนพื้นแมลาดแลว แตใชสอยท้ังทีม่ เี ทามไิ ดลา ง, จะใชสอยอยางนั้นบา ง กค็ วร. ขอวา น ภกิ ขฺ เว ปริกมฺมกตา ภิตฺติ มคี วามวา ฝาทท่ี าขาวหรือฝาท่ที ําจติ รกรรมกต็ าม ไมค วรพงิ , และจะไมค วรพิงแตฝาอยา งเดยี วเทานน้ั หามิได, แมประตูก็ดี หนา ตางกด็ ี พนกั อิงกด็ ี เสาศิลาก็ดี เสาไมก็ดีภกิ ษุไมร องดว ยจีวรหรอื ของบางอยา งแลว ยอ มไมไ ดเ พอ่ื จะพิงเหมอื นกนั . ขอวา โธตปาทถา มคี วามวา ภกิ ษุเปน ผมู ีเทาลางแลว ยอ มรงั เกยี จทจ่ี ะนอน ในทซ่ี ่ึงจะพงึ เหยยี บดว ยเทาทล่ี างแลว. ปาฐะวา โธตปาทเกบา งกม็ .ี คําวา โธตปาทเก นั้น เปน ช่อื ของท่จี ะพึงเหยียบดว ยเทา ท่ีลางแลว . ขอ วา ปจฺจตฺถรติ ฺวา มีความวา พน้ื ที่โบกฉาบกด็ ี เสนาสนะมีเคร่ืองรองพื้นกด็ ี เตยี งต่ังของสงฆก็ดี ตองเอาเครอ่ื งปลู าดของตนลาดรองเสียกอน จึงคอ ยนอน. ถา แมเม่อื ภิกษกุ ําลังหลับ เคร่ืองปูลาดถลกเลกิ ไป อวัยวะแหง สรีระบางสวนถูกเตยี งหรือตั่งเขา , เปนอาบตั ิเหมือนกัน. แตเ มอื่ ขนถกู เปน อาบตั ิตามจาํ นวนขน.* แมเมอ่ื พงิ ดว ยมุง ใชส อยเปน ใหญกม็ นี ัยเหมือนกัน. แตจะถูก* ถา ปรับอาบตั ิเพยี งจาํ นวนครง้ั จักพอดกี ระมัง ? เพราะในการปรับอาบตั อิ ่ืน ทา นไมปรบัดว ย เสนขนอยา งนี้ .
พระวินยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 230หรือเหยียบดวยฝา มอื ฝาเทา ควรอยู. เตียงตงั่ กระทบกายของภิกษผุ กู าํ ลงั ขนไปไมเปนอาบตั .ิ [วาดว ยสงั ภตั ] ขอ วา น สกฺโกนติ สงฆฺ ภตตฺ กาตุ มคี วามวา ก็แลชนทงั้ หลายไมส ามารถทําภตั เพ่ือสงฆท ั้งมวลได. วินิจฉยั ในคําวา อิจฺฉนฺติ อทุ เทสภตตฺ เปนตน พึงทราบดังน้ี:- ชนทงั้ หลายปรารถนาจะทาํ ภัต เพือ่ ภกิ ุทต่ี นได ดว ยการเจาะจงอยา งนว้ี า ขอทา นจงใหภิกษรุ ูป ๑ หรือ ๒ รปู ฯลฯ หรอื ๑๐ รูปเจาะจงจากสงฆ. ชนอกี พวกหนง่ึ ปรารถนาจะกําหนดจาํ นวนภกิ ษอุ ยางนน้ั เหมือนกนันมิ นตแลวทาํ ภตั เพื่อภิกษเุ หลานั้น. อีกพวกหน่งึ ปรารถนาจะกําหนดสลาก นมิ นตแ ลวทําภตั เพ่ือภิกษุเหลา นัน้ . อกี พวกหนงึ่ ปรารถนาจะทําภตั เพอื่ ภิกษุรูป ๑ หรอื ๒ รปู ฯลฯหรอื ๑๐ รูป กะไวอยา งนว้ี า ปกขกิ ภัต อโุ ปสถกิ ภัต ปาฏิปทกิ ภตั ภัตมีประมาณเทา นี้ ไดโวหารนวี้ า อุทเทสภตั นิมนั ตนภัต ดว ยประการฉะนี้. อนงึ่ แมห ากวา ชนเหลา นน้ั ไมส ามารถจะทาํ สังฆภตั ไดในคราวทพุ ภกิ ขภยั , แตจกั สามารถทําสงั ฆภัตไดอีกในคราวมีภิกษาหาไดงา ย ; เพราะฉะนน้ั พระผูมพี ระภาคเจาจึงทรงรวมแมซ ง่ึ สงั ฆภัตน้นั ไวในจํานวนดว ย ตรสั วาภิกษทุ ัง้ หลาย เราอนญุ าตสังฆภตั อุทเทสภัต ดังนเี้ ปนตน .
พระวนิ ัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 231 บรรดาภัตเหลานั้น ในสงั ฆภตั ไมมีลาํ ดับเปน ธรรมดา, เพราะฉะน้นัในสงั ฆภตั นั้น ภกิ ษุท้ังหลายไมค วรกลาวอยา งน้ีวา ๑๐ วัน หรือ ๑๒ วันทงั้ วันน้ีแลว เฉพาะทพี่ วกเราฉัน, บัดนที้ านจงนิมนตภ ิกษุมาจากท่ีอนื่ เถดิ .ทง้ั ไมไ ดเพอ่ื จะกลาวอยา งนีว้ า ในวันกอน ๆ พวกเราไมไ ดเ ลย, บดั นท้ี านจงใหพ วกเรารบั สงั ฆภัตนั้นบา ง ดังน้ี. เพราะวา สงั ฆภัตนัน้ ยอ มถงึ แกภกิ ษุผมู าแลว ๆ เทาน้นั . [วา ดว ยอทุ เทสภัต] สวนในอุทเทสภตั เปน ตน มนี ยั ดงั น้ี :- เมอ่ื พระราชาหรอื มหาอมาตยข องพระราชา สงคนไปนิมนตวา ทานจงเจาะจงสงฆ นมิ นตมาเทานร้ี ูป ดงั นี้ พระภัตตทุ เทสก พงึ แจง เวลาถามหาลาํ ดบั , ถา ลาํ ดบั มี พึงใหร ับตง้ั แตล ําดบั น้นั , ถาไมมีพงึ ใหรับท้งั แตเถรอาสนลงมา, พระภัตตทุ เทสกอ ยา พึงขา มลาํ ดบั แมแหง ภกิ ษผุ ูถอื เทีย่ วบิณฑบาตเสยี .อันภกิ ษุผถู อื เทีย่ วบณิ ฑบาตเหลา นนั้ เมื่อจะรักษาธดุ งค จกั ใหขามเสยี เอง. เม่ือใหรับอยูโดยวธิ อี ยางน้ี พระมหาเถระผูมปี กตเิ ฉื่อยชา มาภายหลัง,อยา กลาวกะทา นวา ทา นผเู จรญิ ขาพเจากาํ ลงั ใหภ กิ ษุ ๒๐ พรรษารับ, ลําดับของทานเลยไปเสยี แลว . พงึ เวนลาํ ดบั ไว ใหพ ระมหาเถระเหลานนั้ รบั เสร็จแลว จงึ ใหร ับตามลําดบั ในภายหลัง. ภกิ ษุท้ังหลายไดฟงขา ววา ทีส่ าํ นกั โนน อุทเทสภัตเกิดขึน้ มาก จึงพากันมาแมจ ากสํานกั ซงึ่ มีระยะค่นั กันโยชนหนึ่ง พึงใหภิกษุเหลา นั้นรบัจําเดิมแตส ถานทพ่ี วกเธอมาทันแลว ๆ ยนื อยู. เม่อื อนั เตวาสิกเปน ตน จะรบั แทนอาจารยและอุปชฌายแมผ มู าไมท นัแตเขา อุปจารสมี าแลว พึงใหรบั เถิด.
พระวนิ ัยปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 232 พวกเธอกลา ววา ทา นจงใหร บั แทนภกิ ษทุ ง้ั หลายผตู ้ังอยนู อกอปุ จารสมี า, อยา ใหรับ. แตถ า วา ภิกษุผูอ ยทู ี่ประตูสํานกั หรือท่ภี ายในสาํ นกั ของตนเปน ผูเนอื่ งเปน อันเดยี วกันกบั ภกิ ษุทง้ั หลายผูเขาอปุ จารสีมาแลว . สีมาจัดวาขยายออกดวยอํานาจบรษิ ทั เพราะฉะนั้น พึงใหรบั . แมใหแกสงั ฆนวกะแลว ก็ควรใหภกิ ษทุ งั้ หลายผูมาภายหลงั รับเหมอื นกนั . แตเ มื่อสวนท่ี ๒ ไดย กขน้ึ สูเถรอาสนแ ลว สว นท่ี ๑ ยอ มไมถึงแกภ กิ ษผุ ูมาทหี ลงั . พึงใหรับตามลาํ ดบั พรรษาต้งั แตสวนท่ี ๒ ไป. ในสํานักหน่งึ อทุ เทสภตั ท่ที ายกกําหนดสถานท่แี จกภัตไวแหง หนึง่ แลวบอกในทีใ่ ดท่หี น่งึ ในอปุ จารสมี าแมมีประมาณคาวตุ หน่ึง ตองใหรับในสถานที่แจกภตั นน้ั แล. ทายกผูห น่งึ สงขา วแกภกิ ษุรูปหนึ่งวา เฉพาะพรงุ น้ี ขอทานเจาะจงสงฆส ง ภกิ ษไุ ป ๑๐ รูป. ภกิ ษนุ น้ั พงึ บอกเนือ้ ความนน้ั แกพ ระภัตตทุ เทสกถา วันนัน้ ลมื เสยี , รุงข้นึ ตอ งบอกแตเ ชา . ถาลมื เสียแลวจะเขา ไปบณิ ฑบาตจงึ ระลกึ ได, สงฆยงั ไมกา วลว งอปุ จารสมี าเพียงใด, พึงใหร ับเน่อื งดวยลําดับตามปกตใิ นโรงฉนั เพียงน้นั . แมถาภิกษุทง้ั หลาย ผูกา วลว งอปุ จารสมี าไปแลว เปน ผเู น่ืองเปนแถวเดียวกันกบั ภิกษทุ งั้ หลายผูต้ังอยใู นอปุ จารสมี า คอื เดนิ ไปไมท้ิงระยะกันและกัน๑๒ ศอก. พงึ ใหรับเนอ่ื งดวยลาํ ดบั ตามปกติ แตเ ม่ือความเนอื่ งเปนแถวเดียวกันเชนนนั้ ของภกิ ษทุ ง้ั หลายไมม,ี ตนระลึกไดใ นทใ่ี ดภายนอกอปุ จารสมี า, พึงจดัลําดับใหมใ หถ อื เอาในท่นี ัน้ . เมอ่ื ระลกึ ไดท ี่โรงฉันภายในบาน พึงใหถือเอาตานลําดับในโรงฉัน. ระลกึ ไดในท่ใี ดท่ีหน่งึ กพ็ ึงใหถอื เอาแท จะไมใหถอื เอาไมควร. เพราะวา ในวนั ที่ ๒ จะไมไ ดภตั น้ัน.
พระวินยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 233 หากวา ทายกบางคนเหน็ ภิกษุทง้ั หลายออกจากทีอ่ ยขู องตนไปสสู ํานกัอ่นื จึงขอใหแจกอทุ เทสภตั . ภกิ ษทุ ั้งหลายในภายในทใ่ี กลเคยี งกบั ภิกษุท้งั หลายผูตง้ั อยใู นอุปจารสมี าเปน ผเู นื่องเปนแถวเดยี วกัน ตามนยั ที่กลาวแลวนั้นเองเพยี งใด, พึงใหถือเอาดวยอาํ นาจลําดับในทอ่ี ยขู องคนนัน่ แลเพยี งน้นั . สวนอทุ เทสภัต ท่ีทายกถวายภิกษุทั้งหลายผตู ้ังอยนู อกอุปจาร เม่ือเขากลาววา ทานเจา ขา ขอทา นจงแสดงภิกษเุ พียงเทา น้ีรูปจากสงฆ ดังน้ี พึงใหถอื เอาตามลําดบั แหงภิกษผุ มู าทัน. แมภิกษุผูตงั้ อยูใ นทไ่ี กล โดยนยั คอื เน่ืองเปน แถวเดยี วกนั ไมท ิง้ระยะกัน ๑๒ ศอกนอกอุปจารน้นั นัน่ แล พงึ ทราบวา ผมู าทนั เหมือนกัน. ถา ภิกษุทงั้ หลายไปสูส ํานักใด, เขาบอกแกภ ิกษุทงั้ หลายผูเขา ไปในสาํ นักน้นั แลว ; พงึ ถือเอาดว ยอํานาจลาํ ดับแหงสาํ นกั น้ัน. แมถา ทายกคนใดคนหนึ่ง พบภิกษุทปี่ ระตูบาน หรือทถ่ี นน หรอื ที่ทาง ๔ แพรง หรอื ในละแวกบาน จึงบอกภตั ทีจ่ ะพงึ แสดงจากสงฆ ใหภกิ ษุทั้งหลายผอู ยภู ายในอปุ จารในทน่ี ้ันถือเอา. ก็บรรดาอปุ จารแหง ประตบู า นเปน ตน นี้ อุปจารเรือน พงึ ทราบดว ยอํานาจแหง เรอื นเหลาน้ี คือ:- เรอื นหลงั เดยี ว มอี ปุ จารเดียว, เรอื นหลงั เดียว ตางอปุ จารกัน.เรือนตางหลงั กนั มีอุปจารเดยี วกนั , เรอื นตา งหลังกนั ตา งอปุ จารกัน. ในเรือนเหลาน้ัน เรอื นใดของสกุลหนง่ึ เปนท่ีพึงใชส อย (แตออกโดยประตูเดียวกนั ) เรือนน้ัน ชื่อวา มีอุปจารเดียวในรว มในแหงแดนกาํ หนดช่วั กระดง ตก.
พระวนิ ยั ปฎก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 234 อุทเทสลาภที่เกดิ ขึน้ ในเรอื นน้นั ยอ มถึงแกภ กิ ษทุ ้ังปวงผยู นื อยู แมดว ยภิกขาจารวตั รในอุปจารนั้น น้ีช่อื วาเรอื นหลงั เดยี วมอี ุปจารเดยี ว. สว นเรือนใดหลังเดยี ว เขากัน้ ฝาตรงกลาง เพอ่ื ตองการอยูสบายสําหรับภรรยา ๒ คน ทาํ ประตูสําหรบั ใชส อยคนละทาง, อุทเทสลาภทเี่ กิดขึ้นในเรือนนน้ั ไมถ งึ แกภ กิ ษุผูอ ยภู ายในหอ งฝาดา นหน่งึ ถึงแกภกิ ษผุ นู งั่ อยูใ นท่ีน้ันเทาน้นั นี้ช่อื วาเรอื นหลังเดยี ว ตา งอปุ จารกนั . สว นในเรอื นใด เขานมิ นตภ ิกษเุ ปนอนั มากใหนง่ั เนือ่ งเปน กระบวนเดยี วกนั ต้งั แตภายในเรือนจนเตม็ หลามไปถึงเรอื นเพ่อื นบา นผคู ุนเคย. อทุ -เทสลาภที่เกิดขึ้นในเรือนนั้น ถงึ แกภิกษุทว่ั ทุกรปู . เรือนแมใดของตางสกลุ เขาไมท าํ ฝากนั กลางใชส อยทางประตเู ดยี วกันนน่ั เอง, แมในเรอื นนนั้ ก็มนี ยั นแี้ ล. นี้ช่ือวา ตางเรือนมีอุปจารเดียวกนั . ก็อุทเทสลาภใด เกดิ ขนึ้ แกภกิ ษทุ งั้ หลายผูน ง่ั ในเรอื นตา งสกลุ , ภิกษุทง้ั หลายยอมเห็นกนั ทางชองฝากจ็ รงิ , ถงึ กระนัน้ อทุ เทสลาภนน้ั ยอมถงึ แกภกิ ษุทงั้ หลายผูน่ังในเรือนนนั้ ๆ เทา นนั้ . นี้ชือ่ วาตางเรอื นตางอุปจารกนั . อนึ่ง ภกิ ษุใดไดอทุ เทสภตั ทปี่ ระตบู า น ถนน และทาง ๔ แพรงสถานใดสถานหน่ึง, เมอ่ื ภกิ ษุอื่นไมม ี จึงใหถงึ แกตนเสยี แลว จะไดอุทเทส-ภัตอ่นื ในทน่ี นั้ นน่ั เอง แมในวันรุง ขนึ้ . ภิกษนุ ั้นเหน็ ภิกษุอน่ื ใดเปนนวกะหรือแกก ต็ าม พึงใหภ กิ ษนุ น้ั รับ. ถา วา ไมม ใี คร ๆ เลย, ถงึ แกต นแลวฉันเถิด. หากวา เม่ือภิกษทุ ั้งหลายนงั่ คอยเวลาอยทู โ่ี รงฉนั อุบาสกบางคนมากลา ววา ทา นจงใหบ าตรทีเ่ จาะจงจากสงฆ ทา นจงใหบาตรเฉพาะจากสงฆทานจงใหบ าตรของสงฆ. อทุ เทสบาตรควรใหภ ิกษุรบั ตามลาํ ดับ แลว ใหไปเถิด. แมใ นคาํ ทเ่ี ขากลาววา ทานจงใหภ ิกษเุ จาะจงจากสงฆ ทา นจงใหภ ิกษุเฉพาะจากสงฆ ทา นจงใหภ ิกษุเปนของสงฆ กม็ ีนัยเหมือนกัน.
พระวนิ ัยปฎก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 235 ก็ในเรือ่ งอทุ เทสภัตน้ี จําตอ งปรารถนาพระภตั ตทุ เทสก ผูมีศีลเปนทร่ี กั มีความละอาย มคี วามฉลาด. ภิกษผุ ูภ ัตตุทเทสกนั้น พึงถามถึงลําดบั ๓คร้ัง ถาไมมใี คร ๆ ทราบลําดับ พงึ ใหถ ือเอาท่ีเถรอาสน. แตถาภกิ ษบุ างรูปกลา ววา ขาพเจา ทราบภกิ ษุ ๑๐ พรรษาได พงึ ถามวา ผมู ีอายุ ๑๐ พรรษามีไหม ? ถาภกิ ษุไดฟง คําของเธอจึงบอกวา เรา ๑๐ พรรษา เรา ๑๐ พรรษาแลว มากนั มาก. อยาพึงกลา ววา ถงึ แกท า น ถึงแกทาน พึงสง่ั วา พวกทานจงเงียบเสียงท้ังหมด แลว จัดตามลาํ ดบั . ครน้ั จัดแลว พงึ ถามอุบาสกวา ทา นตอ งการภิกษเุ ทา ไร ? เมื่อเขาตอบวา เทา นเ้ี จาขา แลวอยา พึงกลาววา ถึงแกท า น ถงึ แกทาน พงึ ถามถึงจาํ นวนพรรษา ฤดู สวนแหงวันและเงาของภิกษผุ มู าใหมก วาทุกรปู . ถาเมือ่ กําลงั ถามถึงเงาอยู ภิกษผุ แู กก วารูปอน่ื มาถึง, พงึ ใหแ กเธอถาเม่ือถามถงึ เงาเสร็จแลว สงั่ วา ถงึ ทา นดวย ดงั นี้ ภกิ ษุผูแ กกวา มาถงึ ก็หาไดไม. จริงอยู เม่อื ภกิ ษุผูแกกวา นงั่ ดวยความชกั ชา แหง ถอ ยคํากด็ ี หลับเสียกด็ ี อุทเทสภตั ที่ใหภ กิ ษุผูใ หมกวา ถอื เอาแลว กเ็ ปน อนั ใหถ อื เอาเสยี แลวดว ยดี, ขา มเลยไปเสีย กเ็ ปน อนั ขามเลยไปดวยดี เพราะวา ธรรมดาของท่ีควรแจกกันนนั้ ยอมถึงแกภ ิกษผุ ูมาทนั เทาน้ัน, ความเปน ผมู าทนั ในท่นี ้นัพึงกําหนดดวยอุปจา. ก็แล ภายในโรงฉัน เครอ่ื งลอ มเปน อุปจาร. ลาภยอมถึงแกภิกษุผูอยใู นอปุ จารนน้ั ฉะนแี้ ล. ทายกบางคน ใชคนใหน าํ อุทเทสบาตร ๘ บาตรมาจากโรงฉัน บรร-จโุ ภชนะประณตี เตม็ ๗ บาตร ใสน ้ําเสยี บาตรหนงึ่ สง ไปยังโรงฉันคนถือมา
พระวนิ ยั ปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 236ไมพดู วา กระไร ประเคนไวในมือภิกษุทั้งหลายแลวหลีกไป. ภัตใดภิกษใุ ดไดแลว ภตั นัน้ ยอ มเปนของภกิ ษนุ นั้ นน่ั แล. สว นนํ้าภิกษใุ ดได พงึ งดลาํ ดบั แมที่ขามเลยไปแลวของภกิ ษุนั้นเสยีใหเธอถอื เอาอุทเทสภตั สว นอน่ื . ก็แล เธอไดอ ทุ เทสภัตสวนน้นั จะทรามกต็ าม ประณตี กต็ าม มีไตรจวี รเปนบรวิ ารกต็ าม ภตั น้ัน ยอมเปนของเธอทัง้ นั้น. จรงิ อยู ลาภเชนน้เี ปนบญุ พเิ ศษของเธอ, แคเ พราะนาํ้ ไมใชอามิสเพราะฉะนัน้ เธอจงึ ตองไดอ ุทเทสภตั อืน่ แตถาชนผถู ือมานั้นกลาววา ทา นผเู จริญ ไดย ินวา ภตั ทง้ั ปวงนี้ทานจะแบง กันฉนั เองเถดิ ดงั น้ี แลวจงึ ไป. นํ้าอนั ภกิ ษุทงั้ ปวงพงึ แบง กนั ด่ืม. แตเ มื่อทายกกลา ววา ทานเจาะจงเฉพาะสงฆใ หพระมหาเถระ ๘ รปู ,ใหภ กิ ษุปูนกลาง, ใหภ ิกษใุ หม, ใหสามเณรผูมีปครบ. ใหภ กิ ษุผูก ลาวมัชญมิ -นกิ ายเปนตน จงใหภ กิ ษุผูเปนญาตขิ องขาพเจา. ภกิ ษผุ ภู ตั ตทุ เทสกพ ึงชี้แจงวา อบุ าสก ทานพูดอยางนี้, แตลําดับของทานเหลา นัน้ ยงั ไมถ ึง ดังนีแ้ ลว พงึ ใหเ นือ่ งดวยลําดับนัน้ เอง. อนงึ่ เมอ่ื ภิกษุหนมุ และสามเณรไดอทุ เทสภตั กันแลว. ถา ในเรอื นของพวกทายก มีการมงคล, พงึ สัง่ วา พวกเธอจงนมิ นตอ าจารยแ ละอุปช ฌายของเธอมาเถิด. กใ็ นอุทเทสภัตใด สว นท่ี ๑ ถงึ แกสามเณร สวนรองถึงแกพ ระมหา-เถระทั้งหลาย. ในอุทเทสภัตนนั้ สามเณรยอม. ไมไ ดเ พอ่ื จะไปขา งหนาดว ยทาํ -ในใจวา เราทัง้ หลายไดส วนท่ี ๑ พงึ ไปตามลาํ ดบั เดินน่ันแล.
พระวินยั ปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 237 เมือ่ ทายกกลา ววา ทานจงเจาะจงจากสงฆม าเองเถิด ดังนี้ ภิกษพุ ึงกลา ววา สาํ หรับเรา ทา นจักทราบไดโ ดยประการอ่ืนบา ง แตล าํ ดับยอมถึงอยางน้ี แลว พึงใหถ อื เอาดวยอํานาจแหงลาํ ดับนนั่ แล. หากวา เขากลา ววา ทานจงใหบาตรท่อี ุทิศจากสงฆ ดงั น้ี เมอ่ืบาตรอันพระภตั ตทุ เทสกย ังไมท ันส่งั ใหถือ ก็ฉวยเอาบาตรของภิกษรุ ปู ใดรปูหน่งึ บรรจุเต็มนํามา. แมอ ทุ เทสภัตท่ีเขานาํ มาแลว พงึ ใหถ อื เอาตามลําดับเหมือนกนั . ชนผูหนึ่ง ซง่ึ เขาใชไปวา ทา นจงนาํ บาตรเจาะจงสงฆม า ดงั นี้กลาววา ทา นเจา ขา ทา นจงมอบบาตรใบหนึ่ง เราจกั นาํ นิมนั ตนภัตมาถวายถา ชนนน้ั ภิกษุทง้ั หลายทราบวา ผนู ้มี าจากเรือนอุทเทสภตั จึงถามวา ทานมาจากเรือนโนน มิใชหรือ ? จึงตอบวา ถูกแลว ทานผเู จรญิ ไมใชน ิมนั ตน-ภตั เปนอุทเทสภัต, พงึ ใหถ อื เอาตามลาํ ดบั . ฝา ยชนใด ซ่งึ ส่งั เขาวา จงนาํ บาตรลกู หนึง่ มา จงึ ยอนถามวา จะนาํบาตรอะไรมา ไดรับตอบวา จงนาํ มาตามใจชอบของทาน ดงั น้ี แลว มา;ชนน้ี ช่ือ วสิ สฏฐั ทตู (คือทตู ทเี่ ขายอมตามใจ) เขาตอ งการบาตรเฉพาะสงฆหรอื บาตรตามสําดับ หรือบาตรสว นตัวบคุ คล อนั ใด พึงใหบาตรนนั้ แกเขา. ผูห นึ่งเปน คนโงไมฉลาด ซงึ่ เขาใชไ ปวา จงนาํ บาตรเฉพาะสงฆม าดังน้ี ไมเ ขาใจท่จี ะพูด จงึ ยนื นง่ิ อยู ภกิ ษุไมค วรถามเขาวา ทา นมาหาใครหรือวา ทานจกั นําบาตรของใครไป เพราะวา เขาถกู ถามอยางนน้ั แลว จะพึงตอบเลียนคาํ ถามวา มาหาทา น หรอื วา จักนําบาตรของทา นไป. เพราะเหตทุ ก่ี ลา วนั้น ภิกษุเหลาอื่นจะพากนั ชงั ไมพ ึงแลดูภิกษนุ น้ั กไ็ ด. ทเี่ หมาะควรถามวา ทา นจะไปไหน ? หรอื วา ทานเทย่ี วทําอะไร.
พระวนิ ยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 238 เมือ่ เขาตอบวา มาเพอ่ื ตอ งการบาตรเฉพาะสงฆ ดงั น้ี พึงใหภกิ ษุถอื เอาแลว ใหบ าตรไป. ท่ีจัดวา ลําดับโกงมอี ยูช นดิ หนงึ่ . จริงอยู ในพระราชนิเวศนห รือในเรอื นของราชมหาอํามาตย ถวายอุทเทสภตั อยางประณีตยิง่ ๘ ที่เปน นติ ยภิกษุทงั้ หลายจัดอุทเทสภตั เหลาน้นั ใหเปน ภัตท่ีจะพงึ ถงึ แกภ ิกษุรปู ละคร้ัง ฉนัตามลําดับแผนกหนงึ่ . ภิกษบุ างพวกคอยกําหนดลาํ ดบั ของตนวา พรงุ น้ีแล จกั ถึงแกพ วกเราดงั น้ี แลว ไป. คร้นั เมื่อภิกษเุ หลา น้ัน ยงั มทิ ันจะมา ภกิ ษุอาคันตกุ ะเหลา อ่ืนมาน่ังที่โรงฉัน. ในขณะนน้ั เอง ราชบุรษุ พากนั กลา ววา ทา นจงใหบาตรสาํ หรับปณตี ภัต พวกภิกษุอาคันตุกะไมท ราบลําดบั จะใหภ กิ ษุทั้งหลายถอื เอา. ในขณะนน้ั เอง ภกิ ษุผูทราบลาํ ดับกพ็ ากนั มา จงึ ถามวา ทา นใหถ อื เอาอะไร. ภิกษอุ าคนั ตกุ ะตอบวา ปณตี ภตั ในพระราชนิเวศน ตัง้ แตพรรษาเทาไรไป ? ตัง้ แตพ รรษาเทานี้ไป. พวกภิกษผุ ูท ราบลาํ ดบั พงึ หามวา อยาพึงใหถ อื แลวใหถอื เอาตามลาํ ดับ. ภกิ ษุท้งั หลายผูทราบลาํ ดับมาแลว ในเม่อื ภิกษุอาคันตกุ ะใหภิกษุท้ังหลายถือเอาแลว ก็ดี, มาแลวในเวลาที่จะใหบ าตรก็ด,ี มาแลว ในเวลาท่ใี หไปแลวก็ด,ี มาแลวใน เวลาท่รี าชบรุ ษุ ยังบาตรใหเตม็ นาํ มาจากพระราชนเิ วศนกด็ ,ี มาแลว ในเวลาทภ่ี ิกษอุ าคนั ตกุ ะท้งั หลายถอื บิณฑบาต ซ่ึงพระราชาทรงใชร าชบุรษุ ไปวา วนั นี้ ภกิ ษทุ ง้ั หลายจงมาเองเถดิ ดงั นแี้ ลว ทรงประเคนบณิ ฑบาตในมอื ของภกิ ษุทัง้ หลายน่ันแล มาแลว ก็ดี พงึ หามวา อยาฉันแลว พึงใหภ ิกษทุ ง้ั หลายถือเอาตามลาํ ดับ เถดิ .
พระวนิ ัยปฎก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 239 หากวา พระราชาทรงนมิ นตภ ิกษอุ าคันตกุ ะเหลา นั้น ฉนั แลว ยังบาตรของพวกเธอใหเตม็ แลว ถวายดว ย. ภตั ทเี่ ธอนํามา พงึ ใหถ อื เอาตามลําดบัแตถา มีภัตเพียงเล็กนอยที่เขาใสในบาตร ดว ยคดิ วา ภิกษุทง้ั หลายอยา ไปมอืเปลา. ภัต ไมพ ึงใหถ ือเอา. พระมาหาสมุ ัตเถระกลา ววา ถา ฉันเสรจ็ แลว มีบาตรเปลากลบั มา ภตัท่พี วกเธอฉนั แลว ยอมเปนสินใชแกพวกเธอ. ฝา ยพระมหาปทมุ ตั เถระกลา ววา ในการฉันปณีตภัตนี้ ไมม กี ิจเนอ่ื งดว ยสนิ ใช. ภิกษุผูไมท ราบลาํ ดบั พึงนัง่ รอจนกวาภกิ ษุผูทราบจะมา, แมเ ม่ือเปนเชนน้ี ภัตทฉี่ ันแลว เปน อนั ฉนั แลวดวยดี, แตไมพ ึงใหเธอถือเอาภัตอ่นืในท่ี ๆ ถงึ เขาในบัดนี้. บิณฑบาตหนึง่ มีราคาหนงึ่ รอ ย มไี ตรจีวรเปนบริวารถึงแกภกิ ษุไมมพี รรษา. และภกิ ษุในวิหารจดไววา บณิ ฑบาตเหน็ ปานน้ี ถึงแกภ กิ ษไุ มมีพรรษา ถา วา ตอ ลว งไป ๖๐ ป บณิ ฑบาตเหน็ ปานนั้นอ่ืน จึงเกดิ ขึน้ อกี ไซร. ถามวา บิณฑบาตน้ี จะพึงใหถอื เอาตามลาํ ดบั ภกิ ษผุ ไู มม ีพรรษาหรอื วา จะพึงใหถ อื เอาตามลําดบั ภิกษผุ มู พี รรษา ๖๐ ? ตอบวา ในอรรถกถาทั้งหลายทา นกลาววา พงึ ใหถ อื เอาตามลําดับภิกษุผมู ีพรรษา ๖๐ เพราะวา ภกิ ษุนี้รบั ลําดับแลวกแ็ กไปเอง. ภกิ ษรุ ปู หนึง่ ฉันอทุ เทสภตั แลว (ลาสิกขา) เปนสามเณร ยอ มไดเพือ่ ถือเอาภตั นน้ั อันถงึ ตามลาํ ดบั แหง สามเณรอีก. ไดย นิ วา ภิกษนุ ้ีชอื่ วาผตู กเสยี ในระหวา ง. ฝา ยสารเณรรูปใด มีปบริบรู ณ จักไดอุทเทสภตั ในวนั พรุง แตเ ธออุปสมบทเสยี ในวนั นี้ ลําดับของสามเณรรปู น้ัน เปน อันเลยไป.
พระวนิ ัยปฎก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 240 อทุ เทสภัตถงึ แกภกิ ษรุ ูปหน่ึง, แตบ าตรของเธอไมเปลา, เธอจึงใหมอบบาตรของภกิ ษุอน่ื ซ่งึ นง่ั ใกลก ันไปแทน. ถาวา ชนเหลา น้นั นําบาตรน้นั ไปเสยี ดวยความเปน ขโมย, เปนสนิ ใชแกเ ธอ. แตถ า วา ภิกษนุ น้ั ยอมใหไ ปเองวา เราใหบ าตรของเราแทนทา นน้ไี มเ ปนสนิ ใช. แมถา วา ภกิ ษนุ น้ั เปนผไู มม ีความตอ งการดวยภตั น้ัน จงึ บอกกะภิกษอุ นื่ วา ภตั ของเราพอแลว , เราใหภัตน้ันแกท าน ทา นจงสง บาตรไปใหนํามาเถดิ สิ่งใดเขานํามาจากทน่ี นั้ , สง่ิ นั้นทั้งหมด ยอ มเปนของภิกษผุ เู จา ของบาตร. หากวา คนทน่ี าํ บาตรไปเลยลักไปเสยี , กเ็ ปนอันลักไปดว ยด,ี ไมเ ปนสินใช เพราะเธอไดใ หภ ัตแกเจา ของบาตร. ในสํานักมีภิกษุ ๑๐ รูป ใน ๑๐ รูปนัน้ เปนผถู ือปณฑปาติกธดุ งคเสีย๙ รปู รปู ๑ รับ* เมอ่ื ทายกกลา ววา ทานจะบอกบาตรสําหรับอทุ เทสภัต ๑๐บาตร ภิกษผุ ถู อื บณิ ฑปาติกธุดงค ไมส ามารถจะใหถ ือเอา ภิกษนุ อกนี้รับดว ยคิดวา อทุ เทสภตั ท้งั หมดถงึ แกเรา ดงั น้ี ลําดับไมม ี. หากวา เธอรบั เอาใหถงึ ทล่ี ะสวน ๆ ลาํ ดับยอมคงอย.ู ภิกษุน้นัคร้นั รับแลวอยา งน้นั ใหเขานํามาทงั้ ๑๐ บาตรแลว ถวาย ๙ บาตรแกภิกษุผูถ ือบิณฑปาติกธุดงคว า ขอทานผูเจรญิ จงทําความสงคเ คราะหแ กขาพเจาภตั เชนนี้ จัดเปนภตั ที่ภิกษุถวาย ภิกษุผถู อื บิณฑปาตกิ ธุดงคสมควรรับ. หากวา อบุ าสกน้ัน นมิ นตว า ทา นผเู จริญพงึ ไปเรือน และภกิ ษุน้นัชวนภกิ ษุเหลานน้ั วา มาเถดิ ทานผเู จรญิ จงเปน เพื่อนขา พเจา ดังนแ้ี ลว ไป* สาทยิ นโก-(ส+อาทยิ นโก).
พระวนิ ยั ปฎก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 241ยงั เรอื นของอบุ าสกน้นั เธอไดสิง่ ใดทใี่ นเรือนนน้ั สง่ิ นัน้ ทัง้ หมด ยอมเปนของเธอเทาน้ัน ภิกษุนอกนีย้ อมไดข องท่ีเธอถวาย. หากวา อุบาสกน้นั นิมนตใหน ง่ั ในเรอื นแลว และถวายน้าํ ทกั ษโิ ณทกแลวถวายยาคูและของขบเค้ยี วเปน ตนแกภ กิ ษุเหลา น้นั ยาคูเปนตน น้นั ยอมควรแกภ ิกษุผถู ือบณิ ฑปาติกธุดงคนอกน้ี เฉพาะดว ยถอ ยคําของภกิ ษุนั้นที่วา ทานผเู จริญ ชนทั้งหลายถวายสิง่ ใด ทา นจงถอื เอาสงิ่ นนั้ เถดิ ดังน.้ี พวกทายกบรรจุภตั ลงในบาตรจนเต็มแลว ถวายเพ่อื ตองการใหถ อืเอาไป ภตั ท้งั หมดยอ มเปน ของภกิ ษนุ น่ั เทาน้ัน ภตั ทภี่ กิ ษุนน้ั ให จงึ ควรแกพวกภกิ ษนุ อกน.ี้ แตถา วา ภกิ ษผุ ถู อื บิณฑปาติกธดุ งคเหลานั้น อนั ภิกษนุ นั้ เผดียงไวแตใ นสาํ นกั วา ทา นผูเ จรญิ จงรบั ภกิ ษุของขา พเจา และสมควรทําตามถอ ยคาํ ของพวกชาวบาน ดังน้ี จึงไปไซร พวกเธอฉันภตั ใดในทนี่ ัน้ และนาํ ภตัใดในที่นั้นไป ภัตนัน้ ทั้งหมดเปนของพวกเธอเทา นั้น. แมถ า วา พวกเธอออ นภกิ ษุน้ันมิไดเผดียงวา ทา นจงรับภกิ ษาของขา พเจา แตไ ดร บั เผดียงวา สมควรทําตามคาํ ของพวกชาวบาน ดังน้ี จงึ ไป.หากวา พวกชาวบา นฟง ภกิ ษุรูปหน่ึงในภกิ ษุเหลา นนั้ ผูทาํ อนโุ มทนาดวยเสยี งอนั ไพเราะ และเลอื่ มใสในอาการอนั สงบระงบั ของพระเถระทงั้ หลาย จงถวายสมณบริขารเปน อนั มาก ลาภนี้ เกดิ ขนึ้ เพราะความเล่ือมใสในเหลาพระเถระจัดเปน สว นพเิ ศษ เพราะฉะนน้ั ยอ มถึงแกภ กิ ษทุ ั่วกนั . ทายกผหู น่งึ นาํ บาตรท่ใี หเ ฉพาะสงฆแ ลว ใหถ ือเอาตามลาํ ดับไปบรรจบุ าตรเต็มดว ยขาทนียะและโภนยี ะอันประณตี นาํ มาถวายวา ทานเจาขาสงฆทงั้ ปวงจงบรโิ ภคภตั นี้ ภิกษทุ ั้งปวงพึงแบงกนั ฉนั แตต อ งงดลาํ ดับ แมท ่ีลว งไปแลวของภิกษผุ เู จาของบาตรเสยี ใหอ ุทเทสภตั อ่ืน.
พระวินัยปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 242 หากวา ทายกกลาววา ขอทา นจงมอบบาตรเปน ของเฉพาะสงฆทง้ั ปวงใหก อนทีเดียว พึงมอบใหบ าตรเปนของภิกษุลัชชีรูปหน่งึ และเมอื่ เขานํามาแลว กลา ววา สงฆท ้งั ปวงจงบริโภค ดงั นีพ้ ึงแบง กันฉัน . อน่ึง ทายกผนู ําภตั มาดวยถาดหนงึ่ ถวายวา ขา พเจา ขอถวายภัตเฉพาะสงฆ อยา ใหรปู ละคาํ พงึ ใหกะใหพอยังอตั ภาพใหเ ปนไปแกภ ิกษุรปู หน่งึ ตามลําดบั . หากวา เขานําภตั มาแลว ไมทราบวาจะพูดอยา งไรจงึ เปนผนู ิง่ อย,ูอยาถามเขาวา ทา นนาํ มาเพ่อื ใคร ? ทานประสงคจะถวายใคร ? เพราะวาเขาจะพึงตอบเลียนคําถามวา นํามาเพ่ือทา น ประสงคจะถวายทาน. เพราะเชนน้นั ภกิ ษุเหลาอน่ื จะพากันชังภกิ ษุนนั้ จะไมพ ึงเอาใจใสเ ธอ แมซ ่ึงเปนผูควรเอ้ยี วคอแลด.ู แตถา ภิกษถุ ามวา ทานจะไปไหน ทานเทีย่ วทาํ อะไร ? ดังน้ี เขาจะตอบวา ขาพเจาถอื เอาอทุ เทสภตั มา ภิกษุลชั ชีรูปหนง่ึ พึงใหถ อื เอาตามลําดบั . ถา ภัตท่เี ขานาํ มามมี าก และพอแกภิกษทุ ง้ั ปวง ไมตองใหถ อื เอาตามลําดบั . พงึ ถวายเต็มบาตรตั้งแตเ ถรอาสนลงมา. เม่ือทายกกลา ววา ขอทานจงมอบบาตรที่เฉพาะสงฆให อยาถามวาทานจะนาํ อะไรมา ? พงึ ใหถือเอาตามลาํ ดับปกตนิ ั่นแล. สวนขาวปายาสหรอื บณิ ฑบาตมรี สอันใด สงฆไ ดอ ยเู ปน นติ ย, สําหรบัโภชนะประณตี เชน น้ัน พงึ จดั ลาํ ดบั ไวแ ผนกหนง่ึ . ยาคพู รอมทัง้ ของบรวิ ารก็ดีผลไมทีม่ รี าคามากก็ดี ของขบเคย้ี วทป่ี ระณีตก็ดี ควรจดั ลาํ ดบั ไวแ ผนกหนึ่งเหมือนกัน. แตภตั ยาคผู ลไมแ ละของขบเคีย้ วตามปกติ ควรจดั ลาํ ดับเปนอนัเดียวกนั เสีย.
พระวินยั ปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 243 เม่อื ทายกกลา ววา ขาพเจาจักนาํ เนยใสมา สําหรบั เนยใสทัง้ ปวง ควรเปน ลาํ ดับเดียวกัน. นํา้ มันทัง้ ปวงกเ็ หมือนกนั อน่งึ เมอื่ เขากลา ววา ขาพเจาจักนาํ นาํ้ ผึ้งมา สาํ หรับน้ําผึ้งควรเปนลาํ ดบั อันเดียวกัน. นา้ํ ออ ยและเภสัชมีชะเอมเปนตน กเ็ หมือนกัน. ถามวา ถา พวกทายกถวายของหอมและระเบยี บเฉพาะสงฆ, จะควรแกภ ิกษุผถู อื ปณ ฑปาตกิ ธุดงคหรอื ไมค วร ? พระอาจารยท ้ังหลายกลาววา ควร เพราะทา นหา มแตอ ามสิ เทานนั้แตไ มควรถอื เอาเพราะเขาถวายเฉพาะสงฆ. อุทเทสภตั ตกถา จบ [นิมนั ตนภัต] นมิ นั ตนภตั ถาเปน ของสวนบุคคล, ผูร ับเองนั้นแลเปนใหญ สวนทีเ่ ปนของสงฆ พึงใหถอื เอาตามนยั ทีก่ ลาวแลวในอุทเทสภัตนนั่ แล. แตใ นนมิ ันตนภัตนี้ ถา เปน ทูตผูฉลาด เขาไมกลา ววา ทานผเู จริญขอทานทง้ั หลายจงรบั ภัตสาํ หรบั ภิกษสุ งฆใ นพระราชนเิ วศน กลาววา ขอทา นทั้งหลายจงรบั ภิกษา ดงั นีไ้ ซร ภัตนั้น ยอมควรแมแ กภกิ ษผุ ถู ือปณฑปาตกิ -ธดุ งค. ถาทตู ไมฉลาดกลา ววา ขอทา นทงั้ หลายจงรับภัต ดังนี้. พระภตั ตุท-เทสกเ ปน ผฉู ลาด ไมอ อกช่อื วา ภัต กลาวแตวา ทา นจงไป ทานจงไปดงั น้ี แมอ ยา งน้ี ภัตนน้ั ยอ มควรแกภ ิกษผุ ถู ือปณ ฑปาตกิ ธดุ งค. แตเมือ่ พระภตั ตุทเทสกกลา ววา ภตั ถึงแกพ วกทานตามลาํ ดับ ดังนี้ไมควรแกภ ิกษุถอื ปณฑปาติกธดุ งค.
พระวินัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 244 ถาคนทง้ั หลาย ผมู าเพ่ือจะนิมนต เขาไปยังโรงฉัน แลวกลาววา ทานจงใหภ กิ ษุ ๘ รูป หรือวา ทานจงใหบ าตร ๘ บาตร แมอ ยา งน้ี กค็ วรแกภกิ ษผุ ูถ ือปณ ฑปาตกิ ธุดงค. พระภตั ตทุ เทสกพ งึ กลา ววา ทานดวย นมิ นตไ ป. แตเ ขากลา ววา ทานจงใหภ ิกษุ ๘ รปู ทา นทัง้ หลายจงรบั ภตั หรือทา นจงใหบาตร ๘ บาตร ทานท้งั หลายจงรบั ภัตดงั นี้ พระภตั ตุทเทสกพงึ ใหภิกษุทัง้ หลายถือเอาตามลาํ ดบั . และเมอ่ื จะใหถ อื เอา ตัดบทเสยี ไมออกชื่อวาภัต พดู แตว า ทา นดวย ทานดวยนมิ นตไ ป ดงั น้ี ควรแกภ ิกษุผถู อื ปณฑ-ปาติกธดุ งค. แตเ ม่อื เขากลาววา ทา นเจาขา ทา นจงใหบ าตรของพวกทาน นิมนตทานมา ดังนี้ พงึ รับวา ดลี ะ อบุ าสก แลวไปเถดิ . เม่ือเขากลาววา ทานท้ังหลายเจาะจงเฉพาะจากสงฆม าเถิด ดงั นี้ พงึใหถอื เอาตามลําดับ. อนึ่ง เมือ่ เขามาจากเรอื นนมิ นั ตนภตั เพ่ือตอ งการบาตร พงึ ใหบาตรตามลําดับ โดยนยั ทีก่ ลา วแลวในอทุ เทสภตั นัน้ แล. ทายผหู นึง่ ไมกลาววา จงใหบาตรตามลาํ ดับจากสงฆ กลาวแคเ พียงวาทานจงใหบ าตรใบหนึ่ง ดังน้ี เมอื่ ยงั ไมท ันใหถ ือเอาบาตร กฉ็ วยเอาบาตรของภกิ ษุรปู ใดรปู หนง่ึ ไปบรรจเุ ตม็ นาํ มา ภัตน้ัน เปนของภกิ ษผุ ูเ จา ของบาตรเทา นน้ั อยา ใหถ อื เอาตามลาํ ดับเหมอื นในอทุ เทสภัต. แมใ นนิมันตนภัตน้ี ทายกใดมาแลว ยืนนง่ิ อยู ทายกนนั้ อันภิกษไุ มพงึ ถามวา ทา นมาหาใคร หรือวา ทา นจกั นําบาตรของใครไป ? เพราะวาเขาจะพงึ ตอบเลยี นคําถามวา ขาพเจา มาหาทา น จักนาํ บาตรของทา นไป เพราะเชนนน้ั ภิกษุนน้ั จะพงึ ถูกภิกษุทงั้ หลายเกลียดชงั .
พระวนิ ัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 245 แตค ร้นั เม่อื ภกิ ษถุ ามวา ทา นจะไปไหน ทา นเทยี่ วทําอะไร ? เมอื่เขาตอบวา มาเพ่ือตอ งการบาตร ดังนี้ พึงถอื เอาบาตรตามลาํ ดบั เรียงตัวกันเหมอื นกนั . ถาเขานํามาแลวกลา ววา ขอพระสงฆทัง้ ปวงจงฉัน พงึ แบงกันฉนั ตอ งงดลาํ ดับแมท ่ลี ว งไปแลว ของภิกษุผเู จาของบาตรเสยี ใหเธอถือเอาภตั เนื่องในลาํ ดับอนื่ ใหม. ทายกผูหนง่ึ นาํ ภตั มาดวยถาดแลว กลา ววา ขาพเจา ถวายสงฆ พงึแบงกนั โดยสงั เขปเปนคํา ๆ ตงั้ ตน แตล าํ ดบั แหงอาโลปภัตไป. อนง่ึ ถา เขานงิ่ อยู ภกิ ษอุ ยา ถามเขาวา ทานนํามาเพื่อใคร ทานประสงคจ ะถวายใคร ? และถา เม่อื ภิกษถุ ามวา ทา นจะไปไหน ? ทานเทีย่ วทาํ อะไร ? เขาจงึ ตอบวา ขาพเจานําภตั มาเพ่ือสงฆ ขา พเจานําภตั มาเพ่อืพระเถระ ดงั น้ี พึงรบั แลวแบง ใหต ามลาํ ดับแหงอาโลปภัต. กถ็ า วา ภตั ท่เี ขานาํ มาอยางน้นั มีมาก พอแกส งฆทง้ั สิ้น น้ีช่ือวาอภิหฏภกิ ฺขา (ภาษาทเี่ ขานาํ มาพอ) ยอ มควรแกภ ิกษุผูถ อื ปณฑปาติกธุดงคไมมกี ิจที่จะตองถามถึงลาํ ดบั . พึงถวายเต็มบาตรตงั้ แตเ ถรอาสนล งมา. อบุ าสกสง ขา วไปถึงพระสังฆเถระก็ดี ภิกษผุ ูมชี ่ือเสียงเน่ืองดว ยคนั ถ-ธุระและธุดงคก็ดี พระภัตตุทเทสกก ็ดี วา ทานจงพาภกิ ษมุ า ๘ รปู เพอ่ืประโยชนแกการรบั ภัตของขา พเจา. แมหากวา ขา วน้ันจะเปน ขาวท่ีญาตแิ ละอปุ ฏ ฐากสง ไปกด็ ี ภกิ ษุ ๓ รปู(มีพระสังฆเถระเปนตน ) นี้ ยอ มไมไ ดเ พ่ือจะสอบถามเขา. ลําดับเปนอันยกข้นึ ทีเดียว. พงึ ใหนมิ นตภกิ ษุ ๘ รูปจากสงฆ มตี นเปน ที่ ๙ ไปเถิด เพราะเหตุไร ? เพราะวา ลาภอาศยั ภิกษเุ หลา นั้น จงึ เกิดขึน้ แกภิกษุสงฆ.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 564
Pages: