พระวินยั ปฎก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 72แหงสกลุ เพื่อกลุ ทาสี ภกิ ษพุ วกนัน้ ฉันอาหารในภาชนะเดยี วกันบาง ดื่มนาํ้ในขนั เดียวกันบา ง นงั่ บนอาสนะเดยี วกนั บา ง นอนบนเตยี งเดยี วกันบา ง นอนรว มเครือ่ งลาดเดียวกนั บาง นอนคลมุ ผาหมผนื เดียวกนั บา ง นอนรว มเครือ่ งลาดและคลุมผาหมรว มกันบา ง กับกุลสตรี กุลธิดา กุมารแี หง สกลุ สะใภแ หงสกุล กลุ ทาสี ฉนั อาหารในเวลาวิกาลบาง ดม่ื นา้ํ เมาบา ง ทัดทรงดอกไมข องหอมและเคร่อื งลบู ไลบ าง ฟอ นราํ บาง ขับรอ งบาง ประโคมบา ง เตนรําบางฟอนรํากับหญงิ ฟอนราํ บา ง ขับรองกบั หญงิ ฟอ นราํ บา ง ประโคมกับหญงิ ฟอนราํ บาง เตน ราํ กับหญงิ ฟอ นราํ บาง . . . ฟอนราํ กบั หญิงเตนราํ บา ง ขับรอ งกบัหญงิ เตนราํ บา ง ประโคมกับหญิงเตนรําบาง เตนราํ กบั หญงิ เตน รําบาง เลนหมากรกุ แถวละแปดตาบาง แถวละสบิ ตาบา ง เลนหมากเกบ็ บา ง เลน ชงิ นางบางเลนหมากไหวบา ง เลนโยนหวงบา ง เลน ไมห ง่ึ บาง เลนฟาดใหเ ปนรปู ตาง ๆบาง เลน สกาบา ง เลนเปา ใบไมบ า ง เลนไถนอย ๆ บาง เลน หกคะเมนบา งเลนไมกังหันบาง เลน ตวงทรายดว ยใบไมบา ง เลน รถนอ ย ๆ บาง เลนธนูนอยบาง เลนเขยี นทายบา ง เลน ทายใจบา ง เลนเลียนคนพกิ ารบาง หดั ขชี่ า งบา งหัดข่ีมา บาง หดั ขีร่ ถบา ง หัดยงิ ธนูบาง หัดเพลงอาวุธบาง วงิ่ ผลัดชางบางวงิ่ ผลัดมาบาง วงิ่ ผลัดรถบา ง ว่งิ ขบั กนั บาง ว่ิงเปย วกันบาง ผวิ ปากบา งปรบมือบาง ปลํ้ากันบาง ชกมวยกันบาง ปูลาดผาสงั ฆาฏิ ณ กลางสถานที่เตน รํา แลวพูดกบั หญิง ฟอนราํ อยา งน้ีวา นองหญงิ เธอจงฟอ นรํา ณ ท่นี ้ีดังนี้บาง ใหก ารคาํ นับบาง ประพฤติอนาจารมีอยางตาง ๆ บาง ภิกษทุ งั้ หลายกราบทูลเรอื่ งนั้นแดพ ระผูม ีพระภาคเจา. พระผูม พี ระภาคเจา ตรัสวา ดกู อ นภกิ ษทุ งั้ หลาย ภิกษุไมพ ึงประพฤติอนาจารมอี ยา งตาง ๆ รูปใดประพฤติ พงึ ปรบั อาบตั ิตามธรรม.
พระวินัยปฎก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 73 พุทธานุณาตเครอ่ื งโลหะเปนตน [๑๙๖] สมัยตอ มา เมื่อทานพระอุรุเวลกัสสปบวชแลว เครอ่ื งโลหะเคร่ืองไม เคร่อื งดิน บงั เกิดแกสงฆเปน อันมาก ครั้งนน้ั ภกิ ษุทงั้ หลายคดิวา เครื่องโลหะชนดิ ไหน พระผมู ีพระภาคเจา ทรงอนญุ าต ชนิดไหนไมท รงอนุญาต เคร่ืองไมช นิดไหน ทรงอนญุ าต ชนิดไหนไมท รงอนุญาต เคร่ืองดนิ ชนดิ ไหน ทรงอนุญาต ชนิดไหน ไมท รงอนญุ าต จงึ กราบทลู เร่ืองน้ันแดพระผูมพี ระภาคเจา ลาํ ดับน้ัน พระผูมีพระภาคเจาทรงทําธรรมีกถาในเพราะเหตุเปน เคา -มลู นน้ั ในเพราะ.เหตุแรกเกดิ นน้ั แลวรับสัง่ กะภกิ ษุทัง้ หลายวา ดกู อนภิกษุทง้ั หลาย เราอนุญาตเครือ่ งโลหะทุกชนิด เวน เครือ่ งประหาร อนญุ าตเคร่อื งไมท กุ ชนิด เวนเกาอี้นอนมีแคร บัลลงั ก บาตรไมแ ละเขียงไม อนญุ าตเครอ่ื งดินทกุ ชนดิ เวนเครอื่ งเช็ดเทา และกฎุ ที ่ที ําดว ยดนิ เผา. ขุททกวตั ถขุ นั ธกะท่ี ๕ จบ หวั ขอ ประจําธกะ [๑๙๗] ๑. เร่ืองขดั สีกายทตี่ นไม ๒. ขัดสีกายที่เสา ๓. ขดั สกี ายทีฝ่ า๔. อาบน้ําในท่ีไมค วร ๕. อาบนํา้ ขัดสีกายดว ยมือทาํ ดว ยไม ๖. ขัดสกี ายดว ยจุณหินสีดงั พลอยแดง ๗. ผลัดกันถตู วั ๘. อาบนาํ้ ถูดว ยไมบังเวียน ๙. ภกิ ษุเปน หดิ ๑๐. ภกิ ษชุ รา ๑๑. ถูหลงั ดวยฝามือ ๑๒. เคร่ืองตมุ หู ๑๓. สังวาล๑๔. สรอยคอ ๑๕. เครื่องประดับเอว ๑๖. ทรงวลัย ๑๗. ทรงสรอ ยตาบ๑๘. ทรงเครือ่ งประดบั ขอ มือ ๑๙. ทรงแหวนประคับน้ิวมอื ๒ . ไวผมยาว๒๑. เสยผมดวยแปรง ๒๒ . เสยผมดวยมอื ๒๓. เสยผมดว ยนาํ้ มนั ผสมขี้ผ้งึ
พระวนิ ัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 74๒๔. เสยผมดว ยน้ํามันผสมนํ้า ๒๑. สอ งเงาหนา ในแวน ในขนั น้ํา ๒๖. แผลเปน ทห่ี นา ๒๗. ผัดหนา ๒๘. ทาหนา ถูหนา ผัดหนา เจมิ หนา ยอ มตวัยอ มหนา ยอมท้งั หนา ท้ังตัว ๒๙. โรคนัยนต า ๓๐. มหรสพ ๓๑. สวดเสยี งยาว ๓๒. สวดสรภัญญะ ๓๓. หมผาขนสัตว มขี นชา งนอก ๓๘. มะมว งท้งัผล ๓๕. ชนิ้ มะมวง ๓๖. มะมวงลว น ๓๗. เรอ่ื งงู ๓๘. ตัดองคก าํ เนิด๓๙. บาตรไมจ นั ทน ๔๐. เรอ่ื งบาตรตาง ๆ ๔๑. บังเวียนรองบาตร ๔๒บังเวยี นทองรองบาตร หนาไป ทรงอนุญาตใหก ลงึ ๔๓. บังเวียนรองบาตรวิจติ ร ๔๔. บาตรเหม็นอบั ๔๕. บาตรมกี ลน่ิ เหม็น ๔๖. วางบาตรไวในทีรอ น ๔๗. บาตรกลิ้งตกแตก ๔๘. เก็บบาตรไวท กี่ ระดานเลยี บ ๔๙. เกบ็บาตรไวร มิ กระดานเลยี บนอกฝา ๕๐. หญารองบาตร ๕๑. ทอ นผา รองบาตร๕๒. แทนเกบ็ บาตร หมอ เกบ็ บาตร ๕๓. ถงุ บาตรและสายโยกเปน ดา ยถัก๕๔. แขวนบาตรไว ท่ไี มเดอื ย ๕๕. เกบ็ บาตรไวบนเตียง ๕๖. เกบ็ บาตรไวบนตง่ั วางบาตรไวบนคัก ๕๘. เก็บบาตรไวบ นกลด ๕๙. ถอื บาตรอยผู ลกัประตเู ขาไป ๖๐. ใชก ะโหลกนํ้าเทาแทนบาตร ๖๑. ใชก ระเบอื้ งหมอแทนบาตร ๖๒. ใชกะโหลกผีแทนบาตร ๖๓. ใชบ าตรตางกระโถน ๖๔. ใชม ดีตัดจวี ร ๖๕. เรือ่ งใชมีดดา ม ๖๖. ใชด ามมดี ทาํ ดว ยทอง ๖๗. ใชช้นั ไกและไมกลดั เย็บจีวร กลอ งเข็ม แปงขา วหมาก ฝนุ หิน ข้ีผ้ึง ผามัดขีผ้ ึง้ ๖๘. จวี รเสยี มุม ผกู สะดงึ ขงึ สะดงึ ในทไี่ มเ สมอ ขงึ สะดึงทพ่ี ืน้ ดิน ขอบสะดงึ ชํารดุและไมพ อ ทําเครอ่ื งหมายและตบี รรทดั ๖๙. ไมลางเทา เหยียบสะดงึ ๗๐.เทา เปยกเหยยี บสะดงึ ๗๑. สวมรองเทา เหยยี บสะดึง ๗๒. ใชนิว้ มือรบั เขม็๗๓. ปลอกน้วิ มือ ๗๔. กลองสําหรบั เก็บเคร่อื งเย็บผา และสายโยก เปน ดายถกั๗๕. เยบ็ จีวรในที่แจง โรงโมส ะดงึ ตาํ่ ถมพ้ืนใหส งู ขนึ้ ลงลําบาก ๗๖. ผง
พระวนิ ยั ปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 75หญาท่มี งุ ตกเกลอ่ื น พระวินายกทรงอนญุ าตใหร ื้อลงฉาบดวยดนิ ทัง้ ขา งใน ทําใหม สี ขี าว สดี ํา สเี หลือง จาํ หลกั เปนพวงดอกไม เครอื ไม ฟนมังกร ดอก-จอกหา กลีบ ราวจวี ร สายระเดียงจวี ร ๗๗. ท้ิงไมสะดงึ แลวหลกี ไป ไมสะดึงหักเสียหาย คล่อี อก ๗๘. เก็บสะดึงไวท่ีฝากุฏิ ๗๙. ใชบ าตรบรรจุเข็ม มดีเครอ่ื งยาเดนิ ทาง ถงุ เกบ็ เครื่องยา สายโยกเปน ดา ยถกั ๘๐. ใชผา กายพันธผกู รองเทา ถุงเก็บรองเทา สายโยกเปน ดา ยถกั ๘๑. นาํ้ ในระหวา งทางเปนอกัปปยะ ผากรองนา้ํ กระบอกกรองนา้ํ ๘๒. ภิกษสุ องรูปเดนิ ทางไปเมอื ง-เวสาลี ๘๓. พระมหามนุ ีทรงอนุญาตผากรองนํ้ามขี อบและผาลาดลงบนน้ํา๘๔. ยงุ รบกวน ๘๕. อาหารประณีต เกิดโรคมาก หมอชีวกทลู ขออนญุ าตสรา งที่จงกรมและเรือนไฟ ๘๖. ทีจ่ งกรมขรขุ ระ ๘๗. พืน้ ทจี่ งกรมตาํ่ ทรงอนญุ าตใหกอกรุดินทถ่ี ม ๓ ชนดิ ขนึ้ ลงลําบาก ทรงอนุญาตบันไดและราวสําหรบั ยดึ ๘๘. ทรงอนญุ าตรัว้ รอบท่ีจงกรม ๘๙. จงกรมในทแ่ี จง ผงหญาหลนเกล่อื น ทรงอนุญาตใหรื้อลงฉาบดวยดินทาํ ใหม ี สีขาว สีดาํ สเี หลืองจาํ หลักเปน พวงดอกไม เครือไม ฟน มังกร ดอกจอกหา กลีบ ราวจีวร สาย-ระเดยี งจวี ร ๙๐. ทรงอนญุ าตใหถ มเรอื นไฟใหสงู กัน้ กรุ บันได ราวบันไดบานประตู กรอบเชด็ หนา ครกรองเดือยประตูหว งขางบน สายยู ไมห วั ลงิกลอน ล่ิม ชอ งดาล ชอ งชักเชอื ก เชอื กชกั กอ ฝาเรือนไฟใหต ํ่า และปลองควนั ๙๑. เรือนไฟต้งั อยกู ลาง ทรงอนุญาตดนิ ทาหนา รางละลายดินดนิ มีกล่ินเหมน็ ๙๒. ไฟลนกาย ทรงอนุญาตท่ขี งั นํา้ ขันทักนา้ํ เรือนไฟไหมเกรยี ม พื้นทีเ่ ปน ตม ทรงอนญุ าตใหล าง ทาํ ทอ ระบายนา้ํ ๙๓. ต่ังรองนัง่ ในเรอื นไฟ ๙๔. ทาํ ซมุ ๙๕. ทรงอนญุ าตโรยกรวดแร วางศลิ าเลียบทอระบายน้ํา ๙๖. เปลอื ยกายไหวกนั . ๙๗. วางจีวรไวบนพน้ื ดนิ ฝนตกเปย ก
พระวนิ ยั ปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 76๙๘. ทรงอนุญาตเครื่องกาํ บงั ๓ ชนดิ ๙๙. บอนํา้ ๑๐๐. ใชผา กายพันธแ ละเถาวลั ยผูกภาชนะตักน้ํา ทรงอนญุ าตคนั โพง ระหัดชัก ระหัดถีบ ภาชนะตักน้าํ แตก ทรงอนญุ าตถงั นา้ํ ทําดวยโลหะไมแ ละทอ นหนัง ๑๐๑. ทรงอนุญาตศาลาใกลบ อนํา้ ๑๐๒. ทรงอนุญาตฝาปด บอ กน ผงหญา ๑๐๓. ทรงอนุญาตรางไม ๑๐๔. ทรงอนุญาตทอ ระบายนํา้ และกาํ แพงก้ัน นํ้าขงั ล่ืน ทรงอนุญาตทอระบายน้ํา ๑๐๕. เนื้อตัวตกหนาว ทรงอนญุ าตผา ชบุ น้ํา ๑๐๖. ทรงอนญุ าตสระนํา้ นํา้ ในสระเกา ทรงอนุญาตใหทําทอ ระบายน้าํ ๑๐๗. ทรงอนญุ าตเรือนไฟมปี น ลม ๑๐๘. ไมอยูปราศจากผานสิ ที นะ ๔ เดอื น ๑๐๙. นอนบนท่ีนอนอันเดยี รดาษดว ยดอกไม ๑๑๐. ไมร บั ประเคนดอกไมข องหอม ๑๑๑. ไมตอ งอธษิ ฐานสันถตั ขนเจียมหลอ ๑๑๒. ฉนั จังหนั บนเตยี บ ๑๑๓. ทรงอนญุ าตโตก ๑๑๔. ฉันจงั หนั และนอนรว มกนั ๑๑๕. เจาวฑั ฒลิจฉวี ๑๑๖. โพธิ-ราชกมุ าร พระพุทธเจาไมท รงเหยียบผา ๑๑๗. หมอ น้าํ ปุม ไมสาํ หรับเช็ดเทาและไมก วาด ๑๑๘. ทรงอนญุ าตที่เชด็ เทาทําดวยหิน กรวดกระเบ้ือง หนิฟองนํ้า ๑๑๙. ทรงอนญุ าตพดั โบก พดั ใบตาล ๑๒๐. ไมป ดยงุ แสจ ามรี๑๒๑. ทรงอนุญาตรม ๑๒๒. ไมม รี มไมสบาย ๑๒๓. ทรงอนญุ าตรม ในวัดรวม ๓ เรือ่ ง ๑๒๔. วางบาตรไวในสาแหรก ๑๒๕. สมมตสิ าแหรก สมมติไมเทา และสาแหรก ๑๒๖. โรคเรอ ๑๒๗. เมลด็ ขา วเกลือ่ น ๑๒๘. ไวเ ลบ็ ยาว๑๒๙. ตดั เล็บ นวิ้ มอื เจบ็ ตดั เลบ็ จนถึงเลือด ทรงอนุญาตใหต ดั พอดเี นอ้ื๑๓๐. ขัดเลบ็ ทั้ง ๒๐ นวิ้ ๑๓๑. ไวผมยาว ทรงอนุญาตมีดโกน หนิ ลับมดี โกนปลอกมีดโกน ผาพันมีดโกน เครือ่ งมือโกนผมทุกอยา ง ๑๓๒. ตดั หนวดไวหนวด ไวเ ครา ไวหนวดสเ่ี หลี่ยม ขมวดกลุม ขนหนาอก ไวกลุมขนทองไวหนวดเปน เขีย้ วโงง โกนขนในทีแ่ คบ ๑๓๓. อาพาธโกนขนในที่แคบได
พระวนิ ัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 77๑๓๔. ตดั ผมดวยกรรไกร ๑๓๕. ศีรษะเปนแผล ๑๓๖. ไวขนจมูกยาว๑๓๗. ถอนขนจมกู ดวยกอ นกรวด ๑๓๘. เรื่องถอนผมหงอก ๑๓๙. เร่ืองมลูหจู ุกชอ งหู ๑๔๐. ใชไ มแคะหู ๑๔๑. เรื่องส่งั สมเครอื่ งโลหะกับไมปา ยยาตา๑๔๒. น่งั รัดเขา ๑๔๓. ผา รัดเขา ดายพนั ๑๔๔. ผา รดั ประคด ๑๔๕. ภกิ ษุใชร ดั ประคดเปนเชือกหลายเสน ประคดถกั เปนศีรษะงนู ํ้า ประคดกลมคลายเกลยี วเชอื ก ประคดคลา ยสังวาล ทรงอนุญาตรัดประคดแผน ผา และรัดประคดกลม ชายผารัดประคดเกา ทรงอนญุ าตใหเย็บทบ ถกั เปนหว ง ทส่ี ุดหวงรัดประคดเกา ทรงอนญุ าตลกู ถวิน ๑๔๖. ทรงอนุญาตลูกดุม และรังดมุ๑๔๗. ทาํ ลูกดุมตาง ๆ ๑๔๘. ติดแผน ผา รองลกู ดมุ และรังดมุ ๑๔๙. นุง ผาอยางคฤหสั ถ คือ นุงหอยชายเหมือนงวงชา ง นงุ ปลอยชายคลา ยหางปลา นุงปลอยชายเปนสแี่ ฉก นงุ หอยชายคลายกา นตาล นุงยกกลบี ตง้ั รอ ย ๑๕๐. หมผาอยางคฤหสั ถ ๑๕๑. นงุ ผาเหน็บชายกระเบน ๑๕๒. หาบของสองขา ง ๑๕๓.ไมช าํ ระฟน ๑๕๔. ไมชําระฟนตสี ามเณร ๑๕๕. ไมช ําระฟนติดคอ ๑๕๖.จุดไฟเผากองหญา ๑๕๗. จดุ ไฟรบั ๑๕๘. ขน้ึ ตน ไม ๑๕๙. หนชี า ง ๑๖๐.ภาษาสนั สกฤต ๑๖๑. เรียนโลกายตศาสตร ๑๖๒. สอนโลกายตศาสตร ๑๖๓.เรียนดิรัจฉานวิชา ๑๖๔. สอนดริ ัจฉานวิชา ๑๖๕. ทรงจาม ๑๖๖. เรอ่ื งมงคล๑๖๗. ฉันกระเทยี ม ๑๖๘. อาพาธเปนลม ฉันกระเทยี มได ๑๖๙. อารามสกปรกมกี ลน่ิ เหม็น น่ังปส สาวะลําบาก ทรงอนญุ าตเขียงรองเทา ถา ยปส สาวะภกิ ษุทงั้ หลายละอาย หมอ ปสสาวะไมมีฝาปด มีกล่ินเหมน็ ถายอุจาระลงในทนี่ ั้น ๆ มีกลนิ่ เหมน็ หลุมถายอุจจาระพัง ทรงอนญุ าตใหถ มขอบปากใหสงูและใหกอ กรุ บนั ได ราวสาํ หรับยดึ นัง่ รมิ ๆ ถา ยอุจจาระ นัง่ ริม ๆ ถา ยอจุ จาระลาํ บาก ทรงอนุญาตเขยี งรองเทา ถา ยอุจจาระ ถา ยปส สาวะออกไปขา ง
พระวินยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 78นอก ทรงอนญุ าตรางรองปสสาวะ ไมช าํ ระ ตะกรารองรบั ไมชําระ หลมุวัจจกุฎีไมไดป ด ทรงอนญุ าตฝาปด ๑๗๐. วจั จกฎุ ี บานประตู กรอบเช็ดหนาครกรบั เดือยบานประตู หวงขางบน สายยู ไมห วั ลิง กลอน ลม่ิ ชองดาลชองเชือกชกั เชอื กชกั ผงหญาตกลงเกล่อื น ทรงอนญุ าตใหร ้อื ลงฉาบดวยดนิทง้ั ขา งบนขางลา ง ทาํ ใหม สี ขี าว สดี ํา สีเหลอื ง จําหลักเปนพวงดอกไมเครอื ไม ฟน มงั กร ดอกจอกหา กลบี ราวจีวร สายระเดยี ง ๑๗๑. ภิกษชุ ราทุพพลภาพ ๑๗๒. ทรงอนุใหลอมเครื่องลอม ๑๗๓. ทรงอนุญาตซุมประตูวจั จกุฎี โรยกรวดแร วางศลิ าเลียบ น้ําขัง ทรงอนญุ าต ทอระบายนาํ้ หมอนา้ํ ชําระ ขนั ตักนา้ํ ชาํ ระ นงั่ ชาํ ระลําบาก ละอาย ทรงอนุญาตฝาปด ๑๗๔.พระฉพั พคั คยี ประพฤตอิ นาจาร ๑๗๕. ทรงอนุญาตเครอ่ื งโลหะ เวน เคร่อื งประหาร พระมหามนุ ีทรงอนญุ าตเคร่อื งไมทั้งปวง เวน เกาอน้ี อนมีแคร บัลลังกบาตรไมแ ละเขียงไม พระตถาคตผทู รงอนุเคราะห ทรงอนญุ าตเครื่องดนิ แมทั้งมวล เวน เครอื่ งเชด็ เทา และกฎุ ีทที่ าํ ดวยดนิ เผา. นเิ ทศแหงวตั ถใุ ด ถาเหมือนกับขา งตน นักวินัยพงึ ทราบวตั ถุน้ันวาทานยอไวใ นอทุ าน โดยนัย. เรื่องในขุททกวทั ถขุ นั ธกะ ที่แสดงมานม้ี ี ๑๑๐ เร่อื ง พระวนิ ัยธรผูศึกษาดีแลว มีจติ เกือ้ กูล มีศีลเปน ทรี่ ักดวยดี มปี ญ ญาสองสวา งดังดวงประทปี เปนพหูสตู ควรบชู า จะเปนผดู าํ รงพระสัทธรรม และอนเุ คราะหแกเหลาสพรหมจารีผูม ศี ลี เปนที่รกั . หัวขอประจาํ ขันธกะ จบ
พระวินยั ปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 79 ขุททกวตั ถุขันธกวรรณนา [วา ดว ยการอาบนํา้ ] วินจิ ฉัยในขุททกวัตถุขนั ธกะ พึงทราบดังน้ี:- บทวา มลฺลมฏุ กิ า ไดแ ก นักมวยผชู กกันดว ยหมดั . บทวา คามปูฏวา ไดแ ก ชนชาวเมอื งผูประกอบเนอื ง ๆ ซง่ึ การประดบั ยอมผวิ , ปาฐะวา คามโปตกา ก็มี เน้อื ความเหมอื นกนั . บทวา ถมฺเภ ไดแก เสาทเ่ี ขาปก ไวท ีท่ าเปนที่อาบนํา้ บทวา กฑุ เฺ ฑ ไดแก บรรดาฝาอิฐฝาศิลาและฝาไม ฝาชนดิ ใดชนดิ หนึ่ง. ชนทงั้ หลายถากตน ไมใหเ ปนเหมือนแผน กระดานแลว ตดั ใหเ ปนรอยโดยอาการอยา งกระดานหมากรุก แลวปก ไวท ท่ี าเปน ทอ่ี าบ, ทา เชนนชี้ อื่อฏั ฐานะ ในคาํ วา ภกิ ษฉุ พั พัคคีย ยอ มอาบที่ทาอนั เปนอฏั ฐานะ ชนทัง้ หลายเรี่ยรายจณุ แลวสีกายทท่ี า น้นั . บทวา คนฺธพฺพหตฺถเกน มีความวา ภกิ ษุฉัพพคั คยี ยอ มอาบดวยมอื ทีทําดวยไม ทเี่ ขาตั้งไวท ท่ี า เปนทอี่ าบ, ไดยนิ วา ชนทั้งหลายเอามือไมนนั้ ถือจุณถูตวั . บทวา กุรุวินฺทกสุตตฺ ยิ า ทานเรียกกาํ กลม ๆ ทชี่ นท้งั หลายขยําเคลาจุณแหงศลิ ามสี ีดังพลอยแดง ดว ยครง่ั ทําไว. ชนท้ังหลายจบั กาํ กลม ๆ นัน้ทีป่ ลาย ๒ ขา งแลว ถตู ัว.
พระวนิ ัยปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 80 ขอ วา วคิ คยหฺ ปรกิ มฺม การาเปนติ มคี วามวา ภกิ ษุฉพั พคั คียเอาตวั กับตัวสเี ขากะกนั และกัน. บงั เวยี นกระดานท่ที าํ โดยทรวดทรงอยา งกนถว ยจักเปนฟน มังกร เรยี กช่ือวา มลั ลกะ, บงั เวียนกระดานทีจ่ ักเปน ฟนน้ี ไมควรแมแกภิกษุผูอาพาธ. บงั เวียนกระดานทไ่ี มไ ดจ กั เปนฟน ช่ืออกตมัลลกะ, บงั เวียนกระดานทไ่ี มไ ดจักเปน ฟน นี้ ไมค วรแกภกิ ษุผไู มอาพาธ. สวนแผนอฐิ หรือแผนกระเบ้อื ง ควรอย.ู บทวา อกุ กฺ าสกิ ไดแก เกลียวผา . เพราะเหตุน้ัน ภกิ ษุรูปใดรูปหน่งึ ผูอาบนาํ้ จะถหู ลังดว ยเกลียวผาสําหรบั อาบ กค็ วร. การบรกิ รรมดวยมอื เรยี กวา ปถุ ปุ าณิก . เพราะเหตุน้นั ภกิ ษุทัง้ ปวงจะทาํ บรกิ รรมหลังดวยมอื ควรอยู [วา ดว ยการแตงตัวเปน ตน] คําวา วลฺลกิ า นี้ เปนช่ือแหงเคร่อื งประดับหเู ปน ตนวา แกว มกุ ดาและตมุ หทู ่หี อยออกจากห.ู ก็แล จะไมค วรแตต ุมหูอยา งเดยี วเทา นั้นหามไิ ด,เคร่อื งประดบั หอู ยางใดอยา งหนึ่ง โดยท่สี ดุ แมเปน ใบตาล กไ็ มควร. สายสรอ ยชนดิ ใดชนดิ หนึ่ง ชื่อวา สงั วาล. เครื่องประดับสําหรับแตงทค่ี อ ชนิดใดชนิดหนึง่ ช่ือวา สรอ ยคอ. เคร่ืองประดับเอวชนดิ ใดชนดิ หนึ่ง โดยทส่ี ดุ แมเ พยี งเปนสายดา ยชอื่ วา สายรัดเอว. วลยั ช่อื วา เข็มขัด. บานพบั (สาํ หรบั รัดแขน) เปนตน ปรากฏชดั แลว เคร่ืองประดับไมเ ลอื กวาชนิดใดชนิดหนึง่ ไมค วร. วนิ ิจฉยั ในคาํ วา ทมุ าสกิ วา ทวุ งคฺ ลุ วา น้ี พงึ ทราบดงั น้ี:-
พระวนิ ยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 81 หากวา ภายใน ๒ เดอื น ผมยาวถึง ๒ นิว้ ไซร, ตองปลงเสยี ภายใน๒ เดือนเทานน้ั , จะปลอยใหย าวเกิน ๒ นิ้วไป ไมค วร. แมถ าไมย าว, จะปลอยใหเกินกวา ๒ เดือนไปแมว ันเดยี ว กไ็ มไดเหมือนกัน นเ้ี ปนกาํ หนดอยา งสงู ท่พี ระผูมีพระภาคเจาตรสั ดว ยบททง้ั ๒ดวยประการฉะน้.ี แตหยอ นกวา กําหนดนน้ั ขนึ้ ชอ่ื วา ความสมควร ไมม หี ามิได. สองบทวา โกจเฺ ฉน โอสณฺเหนตฺ ิ มคี วามวา ภกิ ษฉุ ัพพัคคียใชแปรงเสยผมทาํ ใหเ รยี บ. บทวา ผณเกน มคี วามวา ภิกษุฉพั พคั คยี ใชห วอี ยา งใดอยางหนึง่มีหวีงาเปน ตน เสยผมใหเรยี บ. บทวา หตฺถผณเกน มีความวา ภิกษฉุ ัพพัคคยี เม่ือจะใชม ือน่ันเองตา งหวี จึงเสยผมดว ยนวิ้ มอื ทง้ั หลาย. บทวา สติ ถฺ เตลเกน มคี วามวา ภกิ ษุฉพั พัคคีย เสยผมดวยของเหนยี วอยางใดอยางหนึ่ง มีขี้ผึง้ และยางเปนตน . บทวา อุทกเตลเกน มคี วามวา ภกิ ษุฉัพพัคคยี เสยผมดวยนาํ้ มนัเจอื น้าํ , เพื่อประโยชนแ กการประดับ ปรับทกุ กฏทุกแหง, แตพ งึ ชบุ มอื ใหเปย กแลว เชด็ ศรี ษะ เพื่อยังผมทม่ี ีปลายงอนใหราบไปตามลําดับ, จะเอามืออนั เปย กเชด็ แมซ่ึงศีรษะท่ีรอ นจดั ดวยความรอ นและเปอ นธลุ ี กค็ วร. วนิ จิ ฉยั ในคําวา น ภกิ ขฺ เว อาทาเส วา อทุ กปตเฺ ต วาพึงทราบดังนี:้ - เงาหนายอ มปรากฏในวัตถุเหลา ใด วัตถเุ หลาน้นั ท้ังหมด แมมแี ผนสาํ ริดเปน ตน ยอมถึงความนบั วา กระจกเหมือนกนั , แมวตั ถมุ นี ้ําสม พะอมูเปน ตน ยอ มถึงความนับวา ภาชนะนํา้ เหมอื นกัน เพราะฉะนั้น จึงเปน ทกุ กฏแกภกิ ษุผแู ลดู (เงาหนา) ในท่ีใดท่ีหนึ่ง.
พระวินยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 82 บทวา อาพาธปจจฺ ยา มคี วามวา เราอนญุ าตใหภกิ ษดุ เู งาหนาเพ่อืรูวา แผลของเรามีผิวเตม็ หรอื ยงั กอน. (ในปรุ ามอรรถกถา) กลา ววา สมควรมองดเู งาหนา เพือ่ ตรวจดูอายุสังขารอยางนี้วา เราแกห รอื ยังหนอ ดังนกี้ ไ็ ด. สองบทวา มุข อาลมิ เฺ ปนฺติ มีความวา ภกิ ษฉุ ัพพัคคยี ยอ มผดัดวยเครืองผัดหนา สาํ หรับทาํ ใหห นามผี ิวผดุ ผอ ง. บทวา อุมมฺ ทฺเทนตฺ ิ มคี วามวา ยอมไลห นา ดว ยเครือ่ งไลตาง ๆ. บทวา จุณฺเณนฺติ มีความวา ยอมทา ดวยจุณสาํ หรับทาหนา. หลายบทวา มโนสิลกาย มุข ลเฺ ฉนตฺ ิ มคี วามวา ยอมทาํการเจมิ เปนจุด ๆ เปน ตน ดว ยมโนศลิ า. การเจมิ เหลานนั้ ยอมไมควร แมดวยวตั ถมุ ีหรดาลเปน ตนแท. การยอมตวั เปนตน ชดั เจนแลว ปรับทกุ กฏในทท่ี ้ังปวง. [วาดว ยการฟอ นและขบั เปน ตน] วินิจฉัยในคําวา น ภกิ ขฺ เว นจฺจ วา เปน อาทิ พงึ ทราบดงั น้ี:- เปนทกุ กฏแกภ กิ ษุผไู ปเพอื่ ดกู ารฟอนอยางใดอยา งหน่งึ โดยท่สี ดุแมก ารฟอ นแหงนกยงู . เม่อื ภิกษฟุ อนแมเ องก็ตาม ใหผูอื่นฟอนกต็ าม เปนทุกกฏเหมือนกนั . แมก ารขบั อยา งใดอยา งหนึง่ เปนการขับของคนฟอนก็ตามเปนการขับทดี่ ี (คอื เนื่องเฉพาะดวยอนิจจธรรมเปน ตน ) กต็ าม โดยทีส่ ุดแมการขับดวยฟนก็ไมควร. ภกิ ษคุ ิดวา เราจกั ขบั แลวรอ งเสยี งเปลา ในสว นเบ้ืองตนเพลงขบัแมก ารรอ งเสยี งเปลา น้ัน ก็ไมค วร. เม่อื ภิกษขุ ับเองกต็ าม ใหผ ูอนิ ขับก็ตามเปน ทกุ กฏเหมอื นกัน. แมก ารประโคม อยา งใดอยา งหน่ึง ก็ไมควร. แตเม่ือ
พระวนิ ัยปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 83รําคาญหรอื ตั้งอยใู นทน่ี ารงั เกียจ จึงดีดน้ิวมอื ก็ตาม ตบมอื กต็ าม, ในขอ นั้นไมเ ปนอาบัติ ไมเปนอาบัติแกภิกษผุ ูอยูภ ายในวัด เหน็ การเลน ทุกอยา งมกี ารฟอ นเปนตน . เมื่อภิกษุออกจากวดั ไปสวู ดั (อื่น) ดว ยต้งั ใจวา เราจักดู ดงั นี้ เปนอาบัตแิ ท. นง่ั อยทู อ่ี าสนศาลาแลวเห็น, ไมเปนอาบตั ิ. ลุกเดินไปดวยคิดวาเราจักดู เปน อาบัติ. แมย นื อยทู ีถ่ นนเหลยี วคอไปดู เปน อาบัตเิ หมือนกัน. [วา ดว ยสรภญั ญะ] บทวา สรกุตฺตึ ไดแก ทาํ เสียง. สองบทวา ภงโฺ ค โหติ มีความวา ไมอ าจเพื่อจะยงั สมาธทิ ีต่ นยงัไมได ใหเกิดขึน้ , ไมอ าจเพอื่ จะเขาสมาธิทีต่ นไดแ ลว . ขอวา ปจฺฉมิ า ชนตา เปนอาทิ มีความวา ประชุมชนในภายหลงัยอมถงึ ความเอาอยา งวา อาจารยกด็ ี อุปช ฌายก็ดี ของเราทงั้ หลายขบั แลวอยา งน้ี คือ ขบั อยางนั้นเหมอื นกนั . วินิจฉยั ในขอวา น ภกิ ฺขเว อายตเกน น้ี พึงทราบดงั นี้ :- เสยี งขบั ที่ทาํ ลายวัตร (คอื วธิ ีเปล่ยี นเสยี ง) นน้ั ๆ ทาํ อกั ขระใหเสียชอ่ื เสยี งขบั อันยาว. สว นในธรรม วตั รสําหรบั สตุ ตนั ตะก็มี วตั รสําหรับชาดกก็มี วัตรสาํ หรับคาถากม็ ี การทยี่ ังวตั รนัน้ ใหเสีย ทาํ เสยี งใหยาวเกินไปไมควร. พงึ แสดงบทและพยญั ชนะใหเ รียบรอ ยดว ยวตั ร (คือการเปลีย่ นเสียง)อนกลมกลอ ม. บทวา สรภฺ คอื การสวดดวยเสียง. ไดย นิ วา ในสรภญั ญะมวี ตั ร ๓๒ มตี รังควตั ร (ทํานองดงั คลน่ื ) โทหกวตั ร (ทาํ นองดังรดี นมโค)คลิวตั ร (ทํานองดังของเล่ือน) เปนตน . ในวัตรเหลานั้นภิกษุยอมไดเ พ่ือใชวตั รท่ตี นตองการ.
พระวนิ ยั ปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 84การทไี่ มย ังบทและพยญั ชนะใหเ สยี คอื ไมทาํ ใหผ ดิ เพย้ี นเปล่ยี นโดยนยัทเ่ี หมาะ ซึ่งสมควรแกสมณะนน้ั แล เปน ลักษณะแหงวตั รท้งั ปวง.สองบทวา พาหริ โลมึ อุณฺณึ มคี วามวา ภกิ ษุฉพั พคั คยี หม ผาปาวารขนสตั วเอาขนไวขา งนอก. เปนทกุ กฎแกภกิ ษุผทู รงอยา งนัน้ . จะหมเอาขนไวข างใน ควรอยู. .สมณกัปปกถา ไดกลา วไวแลว ในอรรถกถาแหง ภูตคามสกิ ขาบท.หลายบทวา น ภกิ ฺขเว อตฺตโน องคฺ ชาต มีความวา เปนถลุ ลจั จยั แกภ กิ ษผุ ูตัดองคชาตเทานนั้ . แมเ ม่อื ภกิ ษุตดั อวยั วะอ่นื อยางใดอยางหน่งึ มีหจู มูกและนวิ้ เปนตนก็ตาม ยังทุกขเ ชนน้นั ใหเ กิดขนึ้ ก็ตาม เปนทกุ กฏ. แตไ มเปน อาบตั ิแกภ กิ ษุผกู อกโลหติ หรือตัดอวัยวะเพราะถูกงูหรอื รา นกัดเปนตน ก็ตาม เพราะปจ จัยคอื อาพาธอยางอ่นื ก็ตาม. [วา ดว ยบาตร]สามบทวา จนทฺ นคณฺี อุปฺปนฺนา โหติ มีความวา ปมุ ไมจ ันทนเปน ของเกดิ ข้นึ แลว.ไดย ินวา ราชคหเศรษฐีนน้ั ใหขึงขา ยทั้งเหมอื นํา้ และใตน้าํ แลวเลนในแมน ํ้าคงคา. ปมุ ไมจันทนอันกระแสแหง แมนํ้านน้ั พดั ลอยมาติดท่ีขา ย.บรุ ษุ ท้ังหลายของเศรษฐีนัน้ ไดนาํ ปมุ ไมจ ันทนนน้ั มาให. ปุมไมจันทนน ้นัเปนของเกิดข้นึ ดวยประการฉะน.ี้อทิ ธิปาฏหิ าริย คือ การแผลง พระผมู ีพระภาคเจา ทรงหา มแลวในบทวา อทิ ธฺ ิปาฏหิ ารยิ น้.ีสว นฤทธ์ิทีส่ าํ เรจ็ ดวยอาํ นาจอธิษฐานพึงทราบวา ไมไดทรงหา ม.วนิ จิ ฉยั ในคาํ วา น ภกิ ฺขเว โสวณฺณมโย ปตโฺ ต เปน ตนพึงทราบดังน้ี:-
พระวนิ ัยปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 85 กถ็ า วา คฤหสั ถท ้งั หลาย ทาํ กับขา วใสในภาชนะมจี านทองคาํ เปน ตนนอ มเขา ไปถวายในโรงครวั , ไมค วรแมเพอ่ื จะถกู ตอง. อนึง่ ภาชนะทงั้ หลาย มจี านเปน ตน ทท่ี ําดว ยแกวผลกึ ทาํ ดวยกระจกและทําดว ยสาํ ริดเปน ตน ยอมไมควร แตเพยี งใชเ ปนของสวนตวั เทาน้ันใชเปน ของสงฆ หรอื เปน คิหิวกิ ัติ (คอื เปนของคฤหัสถ) ควรอย.ู บาตร แมเ ปน วกิ ารแหง ทองแดง กไ็ มค วร สวนภาชนะควร. คําทงั้ ปวงทว่ี า ดงั น้ี ๆ ทานกลา วไวใ นกรุ ุนท.ี สว นบาตรทแี่ ลวดวยแกว มีแกว อินทนลิ เปนตน พระผูมพี ระภาคเจาตรสั ในบทวา มณมิ โย นี้. บาตรแมลว นแลวดวยทองหา ว ทานรวมเขา ในบทวา ก สมโย น้ี คําวา เพอ่ื กลึง นี้ พระผูมีพระภาคเจาตรสั เพอื่ ประโยชนแกก ารทาํใหบาง บังเวยี นปกตนิ ั้น ไดแ ก บังเวยี นทจี่ ักเปน ฟนมงั กร. บทวา อาวตตฺ ติ วฺ า ไดแก กระทบกนั และกนั . วนิ ิจฉยั ในคําวา ปตฺตาธารกฺ นี้ พึงทราบดงั นี้ :- ในกรุ นุ ทกี ลา ววา บนเชิงบาตรท่ีเน่ืองกบั พ้ืน ซึ่งทําดว ยงาเถาวลั ยและหวายเปนตน ควรวางซอน ๆ กนั ได ๓ บาตร บนเชิงไม ควรวางซอ นกนั ได ๒ บาตร. สวนในมหาอรรถกถากลาววา บนเชงิ บาตรท่เี นอื่ งกับพ้นื ไมเปนโอกาสแหงบาตร ๓ ใบ จะวางแต ๒ ใบ ก็ควร. แมในเชงิ บาตรไมและเชงิบาตรทอ นไม ซ่งึ ตกแตงเกลยี้ งเกลาดี ก็มีนยั เหมอื นกัน.
พระวินยั ปฎก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 86 ก็แล เชงิ บาตรไมทค่ี ลา ยปลายเครื่องกลงึ และเชงิ บาทรทอนไมท ี่ผูกดวยไม ๓ ทอ น ไมเ ปนโอกาสแหง บาตรแมใบเดียว. แมวางบนเชิงนั้นแลวกต็ องนัง่ เอามือยึดไวอยา งน้นั . สวนบนพน้ื พึงคว่าํ วางไวแตใบเดยี วเทา นั้น. บทวา มิฒนฺเต ไดแก รมิ เฉลียงและกระดานเลยี บเปนตน . กถ็ าวาบาตรกลิง้ ไปแลว จะคางอยบู นริมกระดานเลียบนน่ั เอง; จะวางบนกระดานเลยี บอนั กวางเห็นปานนนั้ ก็ควร. บทวา ปรภิ ณฑฺ นเฺ ต ไดแ ก รมิ กระดานเลยี บอนั แคบซ่งึ เขาทําไวท่ีขา งภายนอก. วนิ จิ ฉยั แมในกระดานเลยี บอันแคบน้ี ก็พึงทราบตามนยั ทกี่ ลาวแลวในกระดานเลียบนัน่ แล. บทวา โจฬก ไดแก ผาทีเ่ ขาปูลาดแลววางบาตร. กเ็ มอื่ ผาน้นั ไมมี ควรวางบนเส่อื ลาํ แพนหรอื บนเสอื ออน หรอื บนพน้ื ท่เี ขาทาขัดดว ยดินเหนยี ว หรือบนพ้นื เหน็ ปานนน้ั ซึ่งจะไมประทุษรายบาตร หรอื บนทรายก็ได. แตเมือ่ ภกิ ษวุ างในทมี่ ีดนิ รว นและฝนุ เปน ตน หรอื บนพื้นที่คมแข็งตองทกุ กฏ. โรงสาํ หรับเก็บบาตรน้นั จะกอดวยอิฐหรือทาํ ดวยไม ก็ควร. หมอสาํ หรับเกบ็ สงิ่ ของ ทรวดทรงคลา ยอางนํา้ มีปากกวาง เรียกวาหมอ สําหรบั เก็บบาตร. สองบทวา โย ลคเฺ คยยฺ มคี วามวา เปนอาบัตทิ ุกกฏแกภ กิ ษุผูแขวนบาตรในทีใ่ ดท่ีหนงึ่ . จะผูกแขวนไวแ มท ีร่ าวจีวร กไ็ มควร. เตยี งและต่ัง จะเปนของที่เขาทําไวั เพือ่ วางสง่ิ ของเทาน้นั หรอื เพือ่นงั่ นอน ก็ตามที, เปน ทุกกฏแกภกิ ษผุ ูวางบาตรบนเตียงหรือตั่งอนั ใดอนั หนึ่ง.
พระวินัยปฎก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 87 แตจ ะมดั รวมกบั ของอื่นวางไว ควรอย.ู หรอื จะผกู ที่แมแครหอยไวก็ควร. จะผูกแลว วางขางบนเตยี งและตัง่ ไมค วรเหมอื นกัน. กถ็ าวา เตยี งหรอื ต่งั เปน ของที่เขายกข้นึ พาดเปนน่งั รานบนราวจีวรเปน ตน , จะวางบนเตียงหรอื ตง่ั นน้ั . กค็ วร. จะเอาสายโยกคลองบนจะงอยบาแลว วางบนตกั ก็ควร. ถึงบาตรทค่ี ลองบนจะงอยบา แมเ ตม็ ดวยขาวสุก ก็ไมควรวางบนรม. แตจะวางบาตรชนิดใดชนิดหน่งึ หรือบนรมทผี่ กู มัดเปนรา นมา ควรอยู. วนิ จิ ฉัยในคาํ วา ปตฺตหตเฺ ถน พึงทราบดังนี:้ - บาตรของภกิ ษใุ ดอยูในมือ ภิกษนุ ัน้ แล ชอ่ื วาผมู บี าตรในมืออยา งเดยี วหามิได, อน่ึง ภกิ ษุผูมีบาตรอยูในมอื ยอ มไมไ ดเ พอ่ื ผลกั บานประตอู ยางเดียวเทานนั้ หามิได. แตอันทจ่ี รงิ เมอื่ บาตรอยใู นมอื หรอื บนหลงั เทา หรือที่อวยั วะแหงสรีระอนั ใดอนั หนง่ึ ภกิ ษุยอมไมไดเ พือ่ จะผลักบานประตูหรือเพ่อื จะถอดลิ่มสลกัหรือเพือ่ จะเอาลกู กญุ แจไขแมก ุญแจ ดว ยมือหรือดวยหลงั เทา หรอื ดวยศรี ษะหรอื ดว ยอวัยวะแหง สรีระอนั ใดอนั หนง่ึ . แตคลองบาตรบนจะงอยบา แลว ยอมไดเ พ่อื เปดบานประตตู ามความสบายแท. กะโหลกนาํ้ เตา เรยี กวา ตมุ พฺ กฏาห จะรกั ษากะโหลกน้ําเตา น้นัไว ไมค วร. กแ็ ลไดม าแลว กจ็ ะใชเ ปน ของยืม ควรอยู. แมใ นกระเบ้ืองหมอ ก็มนี ัยเหมอื นกนั . กระเบ้อื งหมอ เรยี กวา ฆฏกิ ฏาห. คาํ วา อพภฺ มุ ฺเม นี้ เปน คําแสดงความตกใจ. วินจิ ฉยั ในบทวา สพพฺ ป สุกูลิเกน นี้ พึงทราบดังน้ี :-
พระวนิ ัยปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 88 จีวร เตียง และตั่ง เปนของบังสกลุ ยอมควร. สวนของทจ่ี ะพึงกลืนกิน อันเขาใหแลวนั่นแล พึงถือเอา. บทวา จลกานิ ไดแ ก อามิสทจ่ี ะทง้ิ คายออกไมกลืน. บทวา อฏ กิ านิ ไดแ ก กา งปลาหรอื กระดูกเน้อื . บทวา อุจฉฺ ิฏโทก ไดแก น้ําบวนปาก. เมอื่ ภิกษผุ ูใชบ าตรขนทิ้งซ่งึ ส่ิงใดสิ่งหนง่ึ ในอามิสทเ่ี ปนเดนเปนตนน้นั เปนทุกกฏ ภกิ ษยุ อมไมไ ด แมเพื่อจะทําบาตรใหเ ปน กระโถนลา งมอื จะใสแ มซ่ึงนํ้าลางมอื ลางเทาลงในบาตรแลวนาํ ไปเท กไ็ มค วร. จะจบั บาตรท่ีสะอาด ไมเ ปอน ดว ยมอืทีเ่ ปอ น ก็ไมควร. แตจ ะเอามือซายเทนํา้ ลงในบาตรท่สี ะอาดนแี้ ลว อมเอาน้าํ อม ๑ แลวจึงจับดวยมอื ท่เี ปอ น ควรอย.ู จริงอยู แมด ว ยเหตุเพยี งเทา นี้บาตรน้นั ยอ มเปน บาตรเปอ นดว ย. อนึ่ง จะลา งมอื ท่เี ปอ นดว ยนาํ้ ขา งนอกแลว จึงจับ (บาตร) ควรอยู เม่อื ฉนั เน้ือปลาและผลาผลเปนตน อยู ในของเหลาน้ัน สิ่งใดเปนกา งหรอื กระดูกหรือเปนเดน เปนผใู ครจะทิ้งเสีย จะเอาส่งิ น้นั วางลงในบาตรยอมไมได. สว นส่ิงใด ยงั อยากจะฉนั ตอไปอกี จะเอายาสิ่งน้ันวางลงในบาตรก็ได. จะวางเนอื้ ทม่ี กี ระดกู และปลาท่ีมีกางเปนตน ในบาตรนน้ั และเอามอืปลอนออกฉัน กค็ วร. แตส ิง่ ใดสิง่ หนง่ึ ท่ีเอาออกจากปากแลว ยังอยากจะฉันอกีจะเอาส่งิ นัน้ วางในบาตรไมได. ชิ้นขิงและช้ินมะพรา วเปนตน กัดกินแลวจะวางอีกกไ็ ด. [วา ดวยมีดและเข็ม] บทวา นมตก ไดแ ก ทอ นผาสาํ หรับหอมีด. บทวา ทณฑฺ สตถฺ ก ไดแ ก มีดท่เี ขาดามอยา งใดอยางหน่งึ เปนมดีพับหรอื มีดอ่ืนกไ็ ด.
พระวนิ ัยปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 89 สองบทวา กณณฺ กติ าโย โหนฺติ คือ เปน ของอันสนมิ จับ. สองบทวา กณิ ฺเณน ปเู รตุ มคี วามวา เราอนุญาตใหบ รรจใุ หเ ต็มดว ยผงเปนแปงเหลา. บทวา สตฺตุยา มคี วามวา เราอนญุ าตใหบรรลุใหเตม็ ดวยผงแปง เจอืดวยขมิน้ . แมจ ลุ แหง ศิลา เรียกวา ผงหิน. ความวา เราอนญุ าตใหบ รรจใุ หเตม็ ดว ยผงศลิ านนั้ . สองบทวา มธสุ ติ ฺถเกน สาเรตุ มคี วามวา เราอนญุ าตใหพ อก(เขม็ ) ดวยขีผ้ ึ้ง. สองบทวา สริตกมฺป ปริภิชชฺ ติ มีความวา ขีผ้ ึ้งท่ีพอกไวน้นัแตกกระจาย. บทวา สริตสิปาฏก ไดแ ก ผา หอ ขีผ้ ึ้ง คอื ปก มีด. ในกุรนุ ทก่ี ลาววา และผูกมดี กอ็ นุโลมตามผา หอเขม็ น้นั . [วาดวยไมส ะดึง] ไมส ะดงึ นั้น ไดแ ก แมสะดึงบาง เส่อื หวายหรือเสอ่ื ลําแพนอยา งใดอยางหนง่ึ ที่จะพึงปูบนแมสะดงึ น้ันบา ง. เชือกผูกไมส ะดงึ นน้ั ไดแ ก เชอื กสําหรบั ผูกจีวรที่ไมส ะดงึ เม่อื เย็บจวี ร ๒ ชั้น. สองบทวา กนิ นปปฺ โหติ มคี วามวา ไมส ะดึงทท่ี ําตามขนาดของภิกษทุ ี่สงู จีวรของภิกษุทเ่ี ตย้ี เม่ือขงึ ลาดบนไมส ะดึงน้นั ยอมไมพอ คอืหลวมอยภู ายในเทาน้นั , อธบิ ายวา ไมถ ึงไมขอบสะดึง. บทวา ทณฺฑกิน มคี วามวา เราอนุญาตใหผ ูกสะดึงอน่ื ตามขนาดของภิกษผุ ูเ ตยี้ นอกนี้ ในทามกลางแหงแมส ะดงึ ยาวนั้น.
พระวินยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 90 บทวา วิทลก ไดแ ก การพับชายโดยรอบแหงเส่อื หวายทําใหเปน๒ ชน้ั พอไดข นาดกับกระทงสะดงึ . บทวา สลุ าก ไดแ ก ซ่ไี มส าํ หรับสอดเขาในระหวางแหง จีวร ๒ ชน้ั . บทวา วินทฺธนรชฺชุ ไดแก เชอื กที่มัดแมสะดึงเลก็ กับแมสะดงึใหญ ทไี่ มส ะดงึ นนั้ . บทวา วนิ ทุธนสุตฺตก ไดแก ดายทีต่ รึงจวี รตดิ กับแมสะดึงเล็ก. สามบทวา วินทธฺ ติ ฺวา จีวร สิพฺเพตุ มีความวา เราอนญุ าตใหตรึงจวี รทแี่ มส ะดงึ น้นั ดวยดายน้ันแลว เยบ็ . สองบทวา วิสมา โหนฺติ มีความวา ดวยเกษยี นบางแหง เล็กบางแหงใหญ. บทวา กฬมิ พฺ ก ไดแ ก วตั ถมุ ใี บตาลเปน ตนอยา งใดอยา งหน่ึงสําหรบั ทําการวัดขนาด. บทวา โมฆสุตฺตก ไดแ ก การทําแนวเครอ่ื งหมาย ดวยเสนบรรทัคขมนิ้ ดงั การทาํ แนวเคร่อื งหมายทีไ่ ม ดวยเสน บรรทดั ดําของพวกชางไมฉ ะน้ัน. สองบทวา องคฺ ุลยิ า ปฏคิ ฺคณฺหนตฺ ิ มคี วามวา ภิกษทุ ั้งหลาย(เย็บจีวร) รับปากเขม็ ดวยน้วิ มือ. บทวา ปฏคิ ฺคห ไดแ ก สนับแหง น้ิวมือ. ภาชนะมถี าดและผอบเปน ตน อยางใดอยางหน่งึ ชอ่ื ภาชนะสําหรบั ใสและกระบอก. บทวา อุจฺจวตฺถุก มีความวา เราอนุญาตใหภกิ ษุถมดนิ ทําพ้นื ที่ใหสงู .
พระวินยั ปฎก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 91 หลายบทวา โอคมุ เฺ พตวฺ า อุลฺลิตฺตาวลติ ตฺ กาตุ มีความวาเราอนญุ าตใหภ ิกษุรอ้ื หลังคาเสียแลว ทาํ ระแนงใหท ึบ โบกทั้งขา งในและขา งนอกดว ยดินเหนยี ว. บทวา โคฆ สกิ าย มคี วามวา เราอนญุ าตใหภิกษใุ สไ มไ ผหรือไมจรงิไวข างในแลว มวนแมส ะดึงกับไมนน้ั . บทวา พนฺธนรชฺชุ ไดแ ก เชอื กสาํ หรบั มัดแมสะดงึ ท่มี ว นแลวอยา งนั้น [วา ดวยเครอื่ งกรอง] ผา กรองท่ผี กู ติดกับไม ๓ อัน ช่อื กระชอนสําหรบั กรอง. ขอ วา โย น ทเทยฺย มคี วามวา ภกิ ษุใดไมใหผ ากรองแกภ กิ ษุผไู มมผี า กรองน่นั แล, เปนอาบตั แิ กภ กิ ษุนัน้ แท. ฝา ยภกิ ษุใด เมื่อผา กรองในมอื ของตนแมมอี ยู แตยังยืม ไมอยากใหก็อยาพึงใหภ ิกษุนน้ั . บทวา ทณฑฺ กปรสิ สฺ าวน มีความวา พึงผูกผากับไมท ท่ี ําดังแมบันไดข้ันกลาง ซงึ่ ผูกติดบนขา ๔ ขา แลว เทนาํ้ ลงตรงกลางไมท ด่ี งั เคร่ืองกรองดางของพวกชางยอ ม. น้าํ น้นั เต็มทั้ง ๒ หอ งแลว ยอมไหลออก. ภิกษุทง้ั หลาย[๓๔๓] ลาดผากรองใดลงในน้าํ แลวเอาหมอ ตกั นํา้ ผากรองนน้ั ช่อื โอตฺถรกิ . จรงิ อยู ภิกษุทั้งหลายผูกผา ตดิ กบั ไม ๔ อนั ปก หลกั ๔ หลกั ลงในนา้ํ แลว ผกู ผากรองนั้นตดิ กบั หลักน้ัน ใหรมิ ผาโดยรอบทั้งหมดพนจากนํ้าตรงกลางหยอนลง แลว เอาหมอตกั นํ้า. เรอื นทท่ี าํ ดว ยจีวร เรยี กวา มุงกันยุง.
พระวนิ ยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 92 [วา ดวยจงกรมและเรอื นไฟ] บทวา อภิสนฺนกายา คอื ผูม ีกายหมกั หมมดวยสิ่งอนั เปนโทษมีเสมหะเปน ตน . เสาสาํ หรับใสล ิ่ม ขนาดเทา กับบานประตูพอดี เรียกช่ือวา อัคคฬวัฏฎิเสาสาํ หรับใสลิม่ นนั้ เปน เสาทเ่ี ขาเจาะรูไว ๓-๔ รู แลว ใสลม่ิ . หว งสาํ หรบั ใสดาล ที่เขาเจาะบานประตแู ลว ตรงึ ติดทีบ่ านประตนู ัน้เรียกช่อื วา สลักเพชร. ล่มิ ทเี่ ขาทําชองท่ตี รงกลางสลกั เพชรแลว สอดไว ชอ่ืสูจกิ า กลอนที่เขาตดิ ไวข า งบนสลกั เพชร ชื่อฆฎกิ า. สองบทวา มณฑฺ ลิก กาตุ มคี วามวา เราอนุญาตใหก อพน้ื ใหต าํ่ . ปลองควนั นั้น ไดแก ชอ งสาํ หรับควันไฟออก. บทวา วาเสตุ มคี วามวา เราอนุญาตใหอบดว ยของหอมท้ังหลาย. อุทกนธิ านนน้ั ไดแ ก ที่สําหรับขงั น้ํา ภกิ ษใุ ชห มอตักนํา้ ขังไวในนนั้ แลว เอาขนั ตักนาํ้ ใช. ซุม นํา้ ไดแก ซมุ ประต.ู วินจิ ฉัยในคาํ วา ติสโฺ ส ปฏิจฉฺ าทโิ ย น้ี พงึ ทราบดงั นี้ :- เครื่องปกปด คอื เรือนไฟ ๑ เคร่ืองปกปด คือ นํ้า ๑ ควรแกภิกษผุ ูทําบรกิ รรมเทานนั้ . ไมค วรในสามจี ิกรรมท้ังหลายมีอภิวาทเปนตนท่ยี งัเหลอื . เคร่อื งปกปด คือ ผา ควรในกรรมท้ังปวง ขอวา นา้ํ ไมมีน้นั ไดแก ไมมสี าํ หรบั อาบ. I บทวา ตุล ไดแ ก คนั สําหรบั โพงเอานาํ้ ขนึ้ ดงั คันชงั่ ของพวกชาวตลาด. [๓๔๔] ยนตทเ่ี ทียมโค หรอื ใชมือจับชกั ดว ยเชือกอนั ยาว เรยี กวาระหดั .
พระวนิ ัยปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 93 ยนตทมี่ หี มอ ผกู ตดิ กบั ซี่ เรียกวา กังหัน. ภาชนะท่ีทําดวยหนงั ซ่ึงจะพึงผูกตดิ กับคันโพงหรือระหดั ชื่อวาทอนหนงั . สองบทวา ปากฏา โหติ มีความวา บอน้ําครํา เปนที่ไมไ ดลอ ม. บทวา อทุ กปุ ฉฺ นี มคี วามวา เครื่องเช็ดนํา้ ทําดวยงาก็ดี ทําดว ยเขาก็ดี ทําดว ยไมก ด็ ี ยอ มควร. เมื่อเครือ่ งเชด็ นา้ํ นั้นไมมี จะใชผา ซับน้ํากค็ วร. บทวา อทุ กมาตกิ ไดแก ล ารางสําหรับนํ้าไหล. เรือนไฟท่ตี ิดปนลมโดยรอบ เรียกชอ่ื วา เรอื นไฟไมมีรอยมงุ . คําวา เรอื นไฟไมมรี อยมงุ น้นั เปนชอ่ื แหงเรอื นไฟท่มี หี ลังคาทําเปนยอด ติดปน ลมท่ีมณฑลชอฟาบนกลอนท้งั หลาย. สองบทวา จาตมุ มฺ าส นิสีทเนน มคี วามวา ภกิ ษุไมพึงอยปู ราศจากผานสิ ที นะตลอด ๔ เดอื น. บทวา ปุปฺผาภกิ ณิ ฺเณสุ มีความวา ภกิ ษุไมพ ึงนอนบนที่นอนที่เขาประดบั ดวยดอกไม. บทวา นมตก มีความวา เครอื่ งปนู ง่ั คลายสนั ถตั ที่ทํา คือทอดว ยขนเจียม พึงใชส อย โดยบรหิ ารไวอยา งทอนหนัง. [วาดว ยการฉนั ] ชอื่ วา อาสิตฺตกูปธาน นนั้ เปนคําเรียก ลุง ท่ที าํ ดวยทองแดงหรือดวยเงนิ . อนึ่ง ลุง น้ัน แมทําดว ยไม กไ็ มควร เพราะเปนของทีท่ รงหา มแลว . เคร่อื งรองทําดวยไมท ้ังทอ น เรียกวา โตก. แมเ ครื่องรองทท่ี าํ ดวยใบกระเชาและตะกรา กน็ ับเขา ในโตกน้เี หมือนกัน.
พระวนิ ัยปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 94 [๓๔๕] จรงิ อยู วตั ถุมีไมเสาเปน ตน นัน้ จาํ เดมิ แตท ี่ถึงความรวมลงวา เปนเครื่องรอง มีชองเจาะไวข า งในกต็ าม เจาะไวโดยรอบก็ตาม ควรเหมือนกนั . วินจิ ฉยั ในคําวา เอกภาชเน นี้ พงึ ทราบดังนี้ :- หากวา ภกิ ษุรปู หน่ึงถอื เอาผลไม หรือขนมจากภาชนะไป, คร้นั เมื่อภิกษุนนั้ หลีกไปแลว การท่ภี กิ ษนุ อกนี้จะฉนั ผลไมหรือขนมทย่ี งั เหลอื ยอ มควร. แมภ กิ ษนุ อกจากน้ี จะถือเอาอกี ในขณะนน้ั กค็ วร. [วาดว ยการควํา่ บาตร] วนิ จิ ฉัยในคําวา อฏ หงฺเคหิ นพ้ี ึงทราบดังน:้ี - การท่สี งฆค วํ่าบาตรในภายในสีมา หรอื ไปสูภ ายนอกสีมาควํา่ บาตรในทีท่ ้ังหลายมีแมน ้าํ เปน แกอุบาสกผปู ระกอบแมดวยองคอันหน่ึง ๆ ยอมควรทง้ันนั้ . กแ็ ล เมือ่ บาตรอันสงฆควํ่าแลวอยา งน้ัน ไทยธรรมไร ๆ ในเรอื นของอุบาสกนัน้ อันภิกษุทั้งหลายไมพึงรบั . พงึ สงขา วไปในวัดแมเ หลาอ่ืนวาทานทง้ั หลายอยา รบั ภิกษา ในเรือนของอุบาสกโนน ก็ในการทีจ่ ะหงายบาตร ตองใหอ ุบาสกนน้ั ขอเพยี งคร้ังท่ี ๓ ใหอบุ ายสกนน้ั ละหตั ถบาสแลว หงายบาตรดวยญัตตทิ ุติยกรรม. [เรอ่ื งโพธิราชกมุ าร] สองบทวา ปุรกฺขิตวฺ า ไดแ ก จดั ไวโดยความเปน ยอด. บทวา ส หรนตฺ ุ มีความวา ผาทง้ั หลายอันทา นจงมว นเสยี . บทวา เจฬปฏิก ไดแ ก เครอ่ื งปลู าด คอื ผา
พระวินัยปฎก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 95 ไดย ินวา โพธิราชกุมารนน้ั ปูลาดแลวดวยความมงุ หมายน้ีวา ถาวาเราจักไดบตุ ร, พระผมู ีพระภาคเจา จักทรงเหยียบผนื ผาของเรา. จริงอยู โพธริ าชกมุ ารน้นั ไมส มควรไดบุตร; เพราะเหตุนั้น พระผูมีพระภาคเจาจึงไมทรงเหยยี บ. หากวา พระองคพงึ ทรงเหยยี บไซร, ภายหลงั เม่อื กมุ ารไมไ ดบตุ ร จะพงึ ถอื ทฏิ ฐิวา พระผูม พี ระภาคเจา น้ี มใิ ชพระสพั พัญู. น้เี ปน เหตุในการทพ่ี ระผูม พี ระภาคเจาไมทรงเหยยี บกอน. ฝา ยภกิ ษุท้ังหลายเลา เธอเหลา ใด ไมรอู ยู พึงเหยยี บ, เธอเหลาน้ันพงึ เปน ผถู กู พวกคฤหัสถด หู มนิ่ , เพราะเหตุนน้ั พระผมู พี ระภาคเจาจึงทรงบญั ญตั ิสิกขาบท เพื่อปลดภิกษทุ ั้งหลายจากความดูหมิ่น. น้ีเปน เหตุในการทรงบญั ญัตสิ กิ ขาบท. ขอวา มงคฺ ลตถฺ าย ยาจยิ มาเนน มคี วามวา สตรจี ะเปน ผปู ราศครรภ หรือเปน ผมู ีครรภแกกต็ ามท,ี อนั ภิกษซุ ึง่ เขาออนวอนเพื่อตอ งการมงคลในฐานะเห็นปานน้นั สมควรเหยยี บ. [วา ดว ยเครือ่ งเชด็ เทา] เครือ่ งปูลาด เปน ของท่เี ขาลาดไวใ กลทลี่ างเทา เพื่อประโยชนทจ่ี ะเหยยี บดว ยเทา ซ่งึ ลางแลว ช่อื วาเครอื่ งลาดสําหรับเทา ท่ีลางแลว . ภิกษุควรเหยียบเคลือ่ งลาดนน้ั . วตั ถุท่มี ที า ทางคลายฝก บัว ซึง่ เขาทําใหหนามตัง้ ขน้ึ เพือ่ เชด็ เทาชื่อวาเครอื่ งเชด็ เทา , เครือ่ งเช็คเทา นั้น จะเปนของกลม หรือตางโดยสณั ฐานมี ๔ เหลี่ยมเปน ตน ก็ตามที เปน ของทที่ รงหามทัง้ นนั้ เพราะเปน ของอุดหนุนแกความเปน ผูมกั มาก; ไมค วรรบั ไมควรใชสอย. ศิลา เรยี กวา กรวด แมห ินฟองนํ้า ก็ควร.
พระวินยั ปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 96 [วา ดว ยพดั ] พัดเรียกวา วธิ ูปน แปลวา วตั ถุสําหรบั โบก. สวนพดั มีดา มอยา งใบตาล จะเปน ของท่ีสานดว ยใบตาลหรือสานดว ยเสน ดอกไมไ ผแ ละเสน ตอกงาหรือทาํ ดว ยขนหางนกยูง หรอื ทาํ ดว ยจัมมวิกัติท้งั หลายกต็ ามที ควรทุกอยา ง. พดั ปดยงุ นนั้ แมมีดามทําดว ยงาหรอื เขาก็ควร. แมพดั ปดยุงท่ที ําดว ยยานแหงไมเกดและใบมะพดู เปนตน สงเคราะหเ ขา กับพัดท่ีทาํ ดว ยเปลอื กไม. [วา ดว ยรม] วินิจฉยั ในคาํ วา คลิ านสฺส ฉตตฺ น้ี พึงทราบดังน้ี:- ภกิ ษใุ ด มคี วามรอ นในกาย หรือมคี วามกลมุ ใจ หรอื มตี าฟางกด็ ีหรอื อาพาธบางชนิดอยางอน่ื ท่เี วน รม เสยี ยอ มเกิดข้ึน, ภกิ ษุนน้ั ควรกางรมในบา นหรือในปา. อนึง่ เมื่อฝนตก จะกางรม เพ่ือรักษาจวี ร และในทคี่ วรกลัวสตั วร ายและโจร จะกางรม เพือ่ ปองกนั ตนบา ง ก็ควร. สว นรม ทที่ ําดวยใบไมใบเดียว ควรในท่ีทง้ั ปวงทีเดียว. [วา ดวยทณั ฑสมมตเิ ปน ตน ] บทวา อสุ สิ สฺ ตดั บทวา อสิ อสฺส แปลวา ดาบของโจรนน้ั . บทวา วิโชตลติ ไดแ ก สองแสงอย.ู วินิจฉยั ในคําวา ทณฺฑสมฺมตึ นี้ พงึ ทราบดงั น:ี้ - ไมคาน ควรแกประมาณ คือยาว ๔ ศอกเทา นนั้ อนั สงฆพงึ สมมติให. ไมคานทีห่ ยอนหรือเกินกวา ๔ ศอกน้ัน แมเ วนจากการสมมติ กค็ วรแกภิกษทุ ัง้ ปวง. สว นสาแหรก ไมควรแกภิกษุผไู มอ าพาธ. สงฆจ งึ สมมติใหเ ฉพาะแกภ กิ ษุผอู าพาธเทา นน้ั .
พระวินัยปฎก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 97 [วา ดวยภิกษผุ ูมักอว ก] วินิจฉัยในคาํ วา โรมฏ กสฺส นี้ พงึ ทราบดังน:้ี - เวน ภิกษุผนู ักอวกเสีย เปน อาบัตแิ กภ ิกษุท้ังหลายทีเ่ หลือ ผยู ังอาหารทอ่ี ว กออกมาใหค า งอยูใ นปากแลวกลนื กิน. แตถ า วา อาหารทีอ่ ว กออกมานน้ัไมทันคาง ไหลลงลําคอไป ควรอย.ู คําวา ย ทยี มาน น้ี ขา พเจาไดพ รรณนาไวแ ลว ในโภชนวรรค. [วาดวยมดี ตดั เล็บ] สองบทวา กปุ ปฺ กริสสฺ ามิ มีความวา เราจักทาํ ซง่ึ เสยี ง. ไมม อี าบตั ิเพราะตัดเลบ็ ดวยเล็บเปน ตน . แตพ ระผูม พี ระภาคเจา ทรงอนญุ าตมดี ตดั เลบ็ กเ็ พ่ือรกั ษาตวั . บทวา วสี ตมิ ฏ มคี วามวา ภกิ ษฉุ ัพพัคคีย ใหแ ตง เล็บทง้ั ๒๐ใหเกล้ยี งดวยการขดู . บทวา มลมตตฺ มีความวา เราอนญุ าตใหแ คะแตม ลู เลบ็ ออกจากเล็บ. [วาดวยผมและหนวด] บทวา ขุรสิปาฏิก ไดแก ฝกมีดโกน. สองบทวา มสสฺ ุ วปปฺ าเปนตฺ ิ มีความวา ภกิ ษฉุ พั พคั คยี ใ หต ัดหนวดดวยกรรไกร. สองบทวา มสฺส วฑฺฒาเปนตฺ ิ ไดแ ก ใหแตงหนวดใหยาว เคราท่ีคางท่เี อาไวยาวดงั เคราแพะ เรียกวา หนวดดังพขู นโค. บทวา จตรุ สฺสก ไดแ ก ใหแ ตงหนวดเปน ๔ มมุ . บทวา ปรมิ ุข ไดแก ใหท ําการขมวดกลุมแหงขนทอ่ี ก. บทวา อฑฒฺ รกุ ไดแก เอาไวกลุม ขนทที่ อ ง.
พระวินัยปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 98 สองบทวา อาปตตฺ ิ ทกุ ฺกฏสสฺ มคี วามวา เปน อาบตั ิทุกกฏในที่ทงั้ ปวงมีตัดหนวดเปน ตน . หลายบทวา อาพาธปฺปจฺจยา สมฺพาเธ โลม มีความวา เราอนุญาตใหน าํ ขนในทแี่ คบออก เพราะปจจยั คอื อาพาธมีฝแผลใหญและแผลเล็กเปน ตน . หลายบทวา อาพาธปปฺ จฺจยา กตตฺ รกิ าย มคี วามวา เราอนุญาตใหต ัดผมดวยกรรไกร เพราะปจจยั คอื อาพาธดวยอาํ นาจแหงโรคท่ศี รี ษะ คือฝแ ผลใหญและแผลเลก็ . ไมมีอาบัติ เพราะถอนขนจมูกดวยวตั ถุมกี รวดเปนตน สว นแหนบพระผมู ีพระภาคเจา ทรงอนญุ าตเพ่ือรักษาตัว. วนิ จิ ฉยั ในขอ วา น ภกิ ฺขเว ปลิต คาหาเปตพฺพ น้ี พึงทราบดังนี้ :- ขนใดขนึ้ ท่คี ิ้ว หรือทหี่ นาผาก หรือที่ดงหนวด เปนของนา เกลียดขนเชน นัน้ ก็ตาม จะหงอกก็ตาม ไมหงอกก็ตาม สมควรถอนเสยี . บทวา ก สปตถฺ ริกา ไดแก พอ คาเครอื่ งสํารดิ . บทวา พนฺธนมตฺต ไดแก ปลอกแหง มีดและไมเ ทา เปนตน . [วา ดวยประคดเอว] วินิจฉัยในคาํ วา น ภิกฺขเว อกายพนฺธเนน น้ี พงึ ทราบดังน:ี้ - ประคดเอว อันภกิ ษุผมู ิไดค าดออกไปอยู คนระลกึ ไดใ นท่ใี ดพึงคาดในท่นี ั้น, คิดวา จกั คาดที่อาสนศาลา ดงั นี้ จะไปกค็ วร, นึกไดแลวไมค วรเทย่ี วบณิ ฑบาต ตลอดเวลาท่ยี ังมไิ ดคาด. ประคดเอวมีสายมาก ชือ่ กลาพกุ . ประคดเอวคลายหวั งูนํ้า ชอ่ื เทฑฑฺ ุภก .
พระวนิ ัยปฎ ก จลุ วรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 99 ประคดเอวท่ีถักทําใหม ีสัณฐานกลมดงั ตะโพน ชื่อ มรุ ชช . ประคดเอวทม่ี ีทรวดทรงดังสงั วาล ชือ่ มททฺ วีณ . จริงอยู ประคดเอวเชนน้ี แมชนิดเดียวก็ไมค วร ไมจ าํ ตองกลา วถึงมากชนิด. วนิ ิจฉยั ในคําวา ปฏฏ ิก สูกรนฺตก น้ี พึงทราบดังน้ี. ประคดแผน ทท่ี อตามปกติ หรอื ถักเปน กางปลา ยอมควร. ประคดท่ีเหลอื ตา งโดยประคดตาชางเปนตน ไมควร. ขึ้นชอ่ื วา ประคดไสส กุ ร เปน ของมที รวดทรงคลายไสส ุกรและฝกกญุ แจ. สวนประคดเชือกเสนเดยี วและประคดกลม อนโุ ลมตามประคดไสสกุ ร. คําทวี่ า \"ภกิ ษุทั้งหลาย เราอนญุ าตการถกั ดา ยใหก ลม การถกั ดงั สายสังวาล\" น้ี ทรงอนุญาตเฉพาะท่ชี ายทงั้ ๒. ก็ในชายกลมและชายดังสายสังวาลน้ีชายดังสายสังวาล เกิน ๔ ชาย ไมค วร. การทบเขามาแลว เย็บขอบปาก ซงึ่ โสภก . การเยบ็ โดยสณั ฐานดงั วงแหวน ชอ่ื คุณก . จริงอยู ชายประคดทเี่ ย็บอยางน้ัน ยอ มเปนของแนน . รวมในหว งเรียกวา ปวนนโฺ ต. [วา ดว ยการนุงหม] ผานุง ท่ที ําชายพกมีสณั ฐานดังงวงชาง ใหห อ ยลงไปต้ังแตส ะดือเหมอื นการนุงของสตรีชาวโจลประเทศ ชื่อวานงุ เปนงวงชาง. ผา นงุ ท่หี อ ยปลายไวขา ง ๑ หอ ยชายพกไวขา ง ๑ ชอื่ วา นุงเปนหางปลา. นงุ ปลอยชายเปน ๔ มมุ อยางนี้ คอื ขา งบน ๒ มมุ ขางลา ง ๒ มมุช่ือวานงุ เปน ๔ มมุ .
พระวินยั ปฎ ก จุลวรรค เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 100 นุงหอ ยลงไป โดยทาทางดงั กานตาล ชื่อวานุง ดังกา นตาล. ผา ผืนยาวใหมวนเปนชัน้ ๆ นุงโจงกระเปน ก็ดี นงุ ยกกลบี เปน ลอนๆทข่ี า งซา ยและขา งขวาก็ด.ี ช่อื วายกกลบี ตั้งรอ ย. แตถาวา ปรากฏเปน กลีบเดยี วหรือ ๒ กลบี ตั้งแตเขา ขึน้ ไป ยอมควร. สองบทวา ส เวลิย นิวาเสนตฺ ิ มีความวา ภกิ ษุฉพั พัคคียนุงหยกั รั้ง ดงั นกั มวยและกรรมกรเปนตน . การนุงหยกั ร้งั นั้น ยอมไมค วรแกภิกษุ ทัง้ ผูอาพาธ ทงั้ ผูเ ดนิ ทาง. ภกิ ษทุ ั้งหลายผกู ําลังเดินทาง ยกมุมขา ง ๑ หรือ ๒ ขา งขึน้ เหน็บบนสบง หรอื นงุ ผากาสาวะผนื ๑ อยา งน้ัน ไวขา งน้นั แลว นงุ อีกผนื ๑ ทบัขา งนอกแมอ นั ใด การนุงหม เหน็ ปานน้ัน ทงั้ หมด ไมควร. ฝายภิกษุผูอ าพาธ จะนงุ โจงกระเบนผา กาสาวะไวข า งใน แลว นงุ อีกผืน ๑ ทบั ขางนอก ก็ได. ภกิ ษผุ ูไมอาพาธ เม่ือจะนุง ๒ ผนื พึงซอนกนั เขาเปน ๒ ช้นันงุ . ดวยประการอยา งนี้ พงึ เวนการนุง ทั้งปวงทีพ่ ระผมู ีพระภาคเจาทรงหามในขุททกวตั ถุขันธกะน้ี และทพ่ี ระอรรถกถาจารยห ามในเสขิยวณั ณนา* ปกปดใหไดมณฑล ๓ ปราศจากวกิ าร นุงใหเ รยี บรอ ย. เธอเม่ือทาํ ใหว ิการอยางใด-อยา งหนง่ึ ไมพนทุกกฏ. การท่ีไมห ม ดงั การหม ของคฤหสั ถทที่ รงหามไวอ ยา งน้ีวา ภิกษุท้ังหลาย ภกิ ษไุ มพึงหมอยางคฤหสั ถ ดังน้ี หม จัดมมุ ทัง้ ๒ ใหเสมอกนัชื่อวา หมเรยี บรอ ย. การหม เรยี บรอ ยนั้น อันภิกษพุ ึงหม. * สมนฺต. ทตุ ยิ . ๔๙๒.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 564
Pages: