2 - 38 ธรรมปฏิบัติ ๕ สาย : อานาปานสติ เสนาสนะนน้ั ยอ มเปน สถานทเ่ี หมาะแกก ารเจรญิ อานาปานสตสิ มาธนิ น้ั ดว ยประการฉะน้ี. เพราะเหตุน้ัน “คำน้ีแสดงการที่ภิกษุน้ัน เลือกหาเสนาสนะท่ีเหมาะแกการเจริญอานาปานสตสิ มาธ.ิ ” อกี อยา งหนงึ่ เพราะอานาปานสตกิ มั มฏั ฐานนเ้ี ปน ยอดในประเภทแหงกรรมฐาน เปนปทัฏฐานแหงการบรรลุคุณพิเศษและเปนสุขวิหารธรรมในปจจุบันของพระสพั พญั พู ทุ ธเจา พระปจ เจกพทุ ธเจา และพระสาวก อนั พระโยคาวจรไมล ะชายบา นทอ่ี อื้ องึ ดว ยเสยี งสตรี บรุ ษุ ชา ง และมา เปน ตน จะเจรญิ ใหถ งึ พรอ ม ทำไมไ ดง า ยเพราะเสียงเปนขาศึกตอฌาน. (ค) คำวา “นง่ั คขู าเขา มาโดยรอบ” การนงั่ พบั ขาทง้ั ๒ โดยรอบ (คอื นง่ั ขดั สมาธ)ิอริ ยิ าบถนง่ั เปน อริ ยิ าบถทเ่ี หมาะสมทสี่ ดุ สำหรบั การเจรญิ ภาวนา คอื ทำใหส ามารถคดิ นกึอะไรไดอ ยา งแนว แน โดยไมต อ งหว งวา จะเซหรอื ลม อยา งในอริ ยิ าบถยนื ; และไมก อ ใหเ กดิอาการอยากหลบั หรอื ความหลงใหลอยา งอนื่ เหมอื นอริ ยิ าบถนอน (ง) คำวา “ตง้ั กายตรง” หมายความวา ใหน งั่ ตวั ตรง หมายความวา ตงั้ รา งกายสว นบนใหต รง คอื ใหก ระดกู สนั หลงั ๑๘ ทอ น จรดทสี่ ดุ ตอ ทสี่ ดุ . จรงิ อยู เมอ่ื นง่ั ดว ยอาการอยา งนนั้ แลว หนงั เนอื้ และเสน เอน็ ยอ มไมห งกิ งอ. เวลานนั้ เวทนาทง้ั หลายที่จะพึงเกิดข้ึนแกเธอในขณะๆ เพราะความหงิกงอแหงหนังเนื้อและเอ็นเหลานั้นเปนปจจัยนนั่ แล ยอ มไมเ กดิ ขนึ้ . เมอื่ เวทนาเหลา นนั้ ไมเ กดิ ขนึ้ จติ กม็ อี ารมณเ ปน อนั เดยี ว. กมั มฏั ฐานไมต กไป ยอ มเขา ถงึ ความเจรญิ รงุ เรอื ง. (จ) คำวา “ดำรงสตมิ นั่ ” ทเี่ รยี กวา “ปรมิ ขุ ” นน้ั หมายถงึ สตทิ ต่ี ง้ั มน่ั ในอารมณท ี่จะกำหนด ซง่ึ ในทน่ี ไ้ี ดแ กล มหายใจโดยตรง. ทา นจำกดั ความไวว า ทำจติ ใหเ ปน เอกคั คตาตอลมหายใจ คอื มลี มหายใจอยา งเดยี ว ทจี่ ติ กำลงั รสู กึ อยู หรอื กำหนดอยู. คำวา สติ ในทน่ี ้ีเปน เพยี งการกำหนดลว นๆ ยงั ไมเ กยี่ วกบั ความรู หรอื การพจิ ารณาแตอ ยา งใด เพราะเปนเพยี งขนึ้ ทเ่ี พง่ิ เรมิ่ กำหนดเทา นน้ั . โดยพฤตนิ ยั กค็ อื นงั่ ตวั ตรงแลว กเ็ รม่ิ ระดมความสงั เกตหรอื ความรสู กึ ทงั้ หมด ตรงไปยงั ลมหายใจ ทต่ี นกำลงั หายใจอยนู นั่ เอง ผกู ระทำไมจ ำเปนตอ งหลบั ตาเสมอไป กลา วคอื สามารถทำไดท งั้ ลมื ตา โดยทำใหต าของตนจอ งจบั อยทู ปี่ ลายจมกูของตน จนกระทง่ั ไมเ หน็ สงิ่ อนื่ ใด. อาศยั กำลงั ใจทเ่ี ขม แขง็ แลว ยอ มจะทำไดโ ดยไมย าก.
2 - 39 ธรรมปฏบิ ตั ิ ๕ สาย : อานาปานสติตาลมื อยู และมองอยทู ปี่ ลายจมกู กจ็ รงิ แตจ ติ ไมไ ดม ามองดว ย คงมงุ อยทู กี่ ารจะกำหนดลมหรอืตดิ ตามลมแตอ ยา งเดยี ว. การทำอยา งลมื ตา ยากกวา การหลบั ตา, ตอ งใชค วามพยายามมากในเบอื้ งตน แตแ ลว กไ็ ดผ ลคมุ กนั คอื งว งยาก และมกี ำลงั จติ เขม แขง็ กวา ในตอนหลงั ; หรอืกลา วอกี อยา งหนงึ่ กค็ อื เปน ผทู ส่ี ามารถดำรงสตไิ ดม น่ั คงกวา นน่ั เอง. พวกทต่ี ง้ั ใจจะทำอยา งเขม แขง็ ถงึ ขนาดเปน โยคที สี่ มบรู ณแ บบ ยอ มไดร บั การแนะนำใหเ รมิ่ ฝก อยา งลมื ตาทง้ั นน้ั . (ฉ) คำวา “ภกิ ษนุ นั้ เปน ผมู สี ตอิ ยนู นั่ เทยี ว” มสี ง่ิ ทตี่ อ งวนิ จิ ฉยั ตรงคำวา “มสี ต”ิ ถาถามวา มสี ตใิ นอะไรขนึ้ มากอ น กต็ อ งตอบวา มสี ตไิ ปตงั้ แตก ารหายใจ คอื มสี ตหิ ายใจเขา มสี ติหายใจออก. เมอื่ การหายใจเขา และออกถกู กำหนดอยเู พยี งใด ภกิ ษนุ นั้ กไ็ ดช อ่ื วา สโตการีคอื ผทู ำสติ อยเู พยี งนน้ั . ฉะนน้ั จะพดู กลบั กนั วา “มสี ตหิ ายใจ” หรอื “หายใจมสี ต”ิ กย็ อ มมคี วามหมายเทากนั . ลมหายใจเขา เรยี กวา อาปานะ, ลมหายใจออกเรยี กวา อานะ รวม ๒ คำเขา ดว ยกนัโดยวธิ สี นธติ วั หนงั สอื หรอื สนธทิ างเสยี งกต็ ามยอ มไดเ ปน คำเดยี ววา “อานาปานะ”; แปลวาลมหายใจเขา และออก. สตทิ กี่ ำหนดลมทง้ั เขา และออก นน้ั ชอื่ วา อานาปานสต.ิ ผกู ระทำสตเิ ชน นช้ี อื่ วา สโตการี ในทน่ี ้ี
2 - 40 ธรรมปฏบิ ตั ิ ๕ สาย : อานาปานสติ ภาคอานาปานสติภาวนา จตกุ กะท่ี ๑ กายานปุ ส สนาสตปิ ฏ ฐาน (ตง้ั แตก ารเรม่ิ กำหนดลม จนถงึ การบรรลฌุ าน) เมอ่ื พระผมู พี ระภาคเจา ไดต รสั ขอ ความอนั ปรารภถงึ ลกั ษณะและกริ ยิ าอาการของบคุ คลผเู รม่ิ ทำสตดิ งั นแ้ี ลว ไดต รสั ถงึ ลำดบั หรอื ระยะแหง การกำหนดลมหายใจ และสง่ิ ทเี่ นอื่ งกบัการกำหนดลมหายใจสบื ไปวา : (๑) ภกิ ษนุ นั้ เมอ่ื หายใจเขา ยาว กร็ สู กึ ตวั ทว่ั ถงึ วา “หายใจเขา ยาว”; เมอ่ื หายใจออกยาว กร็ สู กึ ตวั ทวั่ ถงึ วา “หายใจออกยาว”, (๒) ภกิ ษนุ นั้ เมอ่ื หายใจเขา สน้ั กร็ สู กึ ตวั ทวั่ ถงึ วา “หายใจเขา สนั้ ”; เมอ่ื หายใจออกสนั้ กร็ สู กึ ตวั ทว่ั ถงึ วา “หายใจออกสนั้ ”. (๓) ภกิ ษนุ นั้ ยอ มทำในบทศกึ ษาวา “เราเปน ผรู พู รอ มเฉพาะซง่ึ กายทงั้ ปวง จกั หายใจเขา ”; ยอ มทำในบทศกึ ษาวา “เราเปน ผรู พู รอ มเฉพาะซง่ึ กายทง้ั ปวง จกั หายใจออก”. (๔) ภกิ ษนุ นั้ ยอ มทำในบทศกึ ษาวา “เราเปน ผทู ำกายสงั ขารใหร ำงบั อยู จกั หายใจเขา ”; ยอ มทำในบทศกึ ษาวา “เราเปน ผทู ำกายสงั ขารใหร ำงบั อยู จกั หายใจออก”. ทงั้ ๔ ขอ นี้ เรยี กวา จตกุ กะที่ ๑ หรอื อานาปานสตหิ มวดท่ี ๑ ซง่ึ ควรจะไดร บั คำอธบิ ายอยา งละเอยี ดทวั่ ถงึ เสยี กอ นแตท จ่ี ะไดก ลา วถงึ จตกุ กะท่ี ๒ ท่ี ๓ เปน ลำดบั ไป. แมเ พยี งแตจตกุ กะท่ี ๑ นี้ กม็ คี ำอธบิ ายและเรอ่ื งทตี่ อ งปฏบิ ตั อิ ยา งยดื ยาว และทง้ั เปน การปฏบิ ตั ทิ ส่ี มบรู ณขนั้ หนงึ่ อยใู นตวั เอง หรอื ผปู ฏบิ ตั อิ าจจะยกั ไปสกู ารปฏบิ ตั ทิ เ่ี ปน วปิ ส สนาโดยตรงตอ ไป โดยไมต อ งผา นจตกุ กะที่ ๒ ที่ ๓ กเ็ ปน สง่ิ ทกี่ ระทำได; ฉะนนั้ จงึ เปน การสมควรทจี่ ะไดว นิ จิ ฉยัในจตกุ กะที่ ๑ น้ี โดยละเอยี ดเสยี ชนั้ หนงึ่ กอ น. อานาปานสติ หมวดท่ี ๑ นี้ มชี อื่ วา “กายานปุ ส สนา” อกี ชอ่ื หนง่ึ เพราะเหตวุ า มกี ายกลา วคอื ลมหายใจเขา -ออก เปน อารมณข องการกำหนดและพจิ ารณา และจดั เปน สตปิ ฏ ฐานขอ แรกแหง สตปิ ฏ ฐานทงั้ ๔ อนั มอี ธบิ ายดงั ตอ ไปน้ี :
2 - 41 ธรรมปฏิบตั ิ ๕ สาย : อานาปานสติตอน ๑ อานาปานสติ ขน้ั ทหี่ นงึ่ (การกำหนดลมหายใจยาว) อานาปานสตขิ น้ั ที่ ๑ น้ี มหี วั ขอ วา “ภกิ ษนุ น้ั เมอ่ื หายใจเขา ยาว กร็ สู กึ ตวั ทวั่ ถงึ วา ‘หายใจเขา ยาว’; เมอื่ หายใจออกยาว กร็ สู กึ ตวั ทว่ั ถงึ วา ‘หายใจออกยาว’”. (บาลวี า ทฆี ํ วา อสสฺ สนโฺ ต ทฆี ํ อสสฺ สามตี ิ ปชานาติ ทฆี ํ วา ปสสฺ สนโฺ ต ทฆี ํ ปสสฺ สามตี ิ ปชานาต.ิ ) อานาปานสตขิ อ นี้ กลา วถงึ การหายใจเขา -ออก ยาว เปน สว นสำคญั ฉะนนั้ สงิ่ ที่ควรทำความเขา ใจกค็ อื คำทวี่ า หายใจยาว นนั่ เอง. เพอ่ื ใหเ ปน การเขา ใจงา ยแกผ ปู ฏบิ ตั ิ ผูปฏบิ ตั คิ วรจะตอ งฝก หดั และสงั เกตการหายใจเขา -ออกใหย าวกวา ธรรมดาใหม ากทสี่ ดุ เทา ที่จะทำได เพอื่ จะใหท ราบวา ยาวทสี่ ดุ นน้ั เปน อยา งไรเสยี กอ น, แลว จะไดน ำไปเปรยี บเทยี บกบัการหายใจตามปรกตธิ รรมดาวา มนั ยาวสนั้ กวา กนั อยา งไร, แลว นำไปเปรยี บเทยี บกบั การหายใจทส่ี น้ั กวา ธรรมดา เชน การหายใจในเวลาเหนอ่ื ย เปน ตน วา มนั ยาวสน้ั กวา กนั อยา งไรตอ ไปอกี . และในทส่ี ดุ ควรจะมกี ารทดลองหายใจอยา งสน้ั ทสี่ ดุ เทา ทจ่ี ะใหส น้ั ได ดว ยการบงั คบัของเราเอง เพอื่ เปรยี บเทยี บกนั อกี ครงั้ หนงึ่ ในทส่ี ดุ กจ็ ะทราบไดว า คำวา หายใจยาว หรอืหายใจสนั้ นนั้ มคี วามหมายตา งกนั อยา งไร หรอื มตี วั จรงิ อยอู ยา งไร และจะเปน ผสู ามารถกำหนดลมหายใจทย่ี าวหรอื สนั้ ไดถ กู ตรงตามทต่ี อ งการ. ขอท่ีวาใหพยายามหายใจใหยาวท่ีสุดเทาที่จะหายใจไดนั้น มีขอท่ีตองควรกำหนดคือจะกนิ เวลานานประมาณ ๓๐-๔๐ วนิ าที ในระยะหนง่ึ ๆ เทา ทเี่ ราจะผอ นใหย าวได ทงั้ เขา และออก : และใหส งั เกตวา จะตอ งนง่ั ตวั ตรงจรงิ ๆ จงึ จะหายใจไดย าวถงึ ทส่ี ดุ จรงิ ๆ และ เมอ่ืหายใจเขาถึงที่สุดจริงๆ นั้นจะมีอาการปรากฏวาสวนทองแฟบถึงที่สุด สวนโครงอกพองออกถงึ ทสี่ ดุ , และโดยนยั ตรงกนั ขา ม เมอ่ื หายใจออกถงึ ทสี่ ดุ กจ็ ะปรากฏวา ทอ งปอ งออกไป สว นโครงอกแฟบ อยา งนจี้ งึ เรยี กวา ยาวถงึ ทสี่ ดุ จรงิ ๆ มคี วามหมายอยตู รงทว่ี า มกี ารหายใจทงั้ ยาว ทงั้ นาน. เพอ่ื เขา ใจเรอ่ื งนไ้ี ดถ งึ ทสี่ ดุ ควรพจิ ารณาเพอ่ื การเปรยี บเทยี บ เลยไปถงึ การหายใจสน้ั .คำวา “หายใจสน้ั ” จะมอี าการตรงกนั ขา ม คอื เมอ่ื หายใจเขา ทอ งปอ งออกไป, เมอ่ื หายใจออก
2 - 42 ธรรมปฏบิ ัติ ๕ สาย : อานาปานสติทอ งแฟบเขา มา พอเปน ทางสงั เกตไดว า ทเี่ ปน ดงั นี้ เปน เพราะหายใจเขา นอ ย จนไมถ งึ กบั ทำใหโครงอกตอนบน พองออกไปมาก หรอื หายใจออกนอ ย จนไมท ำใหโ ครงอกตอนบนแฟบเขาไปมาก อาการทป่ี รากฏทท่ี อ งจงึ แตกตา งกนั อยา งตรงกนั ขา ม ซง่ึ ผฝู ก หดั จะตอ งรจู กั สงั เกตใหด ี มฉิ ะนน้ั จะเขา ใจผดิ และสบั สนกนั ไปหมด. เกยี่ วกบั เรอื่ งน้ี อาจจะยตุ เิ ปน หลกั ทเ่ี รยี กวา“หายใจเขา สนั้ ” กค็ อื สน้ั เพยี งเทา ทที่ ำใหโ ครงอกขยายออกหนอ ยหนงึ่ แตไ มถ งึ กบั ทำใหทอ งแฟบ. ถา ถงึ กบั ทำใหท อ งแฟบ กเ็ รยี กวา หายใจเขา ยาว. ทเี่ รยี กวา “หายใจออกสน้ั ” กค็ อื หายใจออกหนอ ยหนงึ่ เพยี งทที่ ำใหโ ครงอกแฟบลงหนอ ยหนงึ่ แตไ มถ งึ กบั ทำใหทอ งปอ งออก. ถา ถงึ กบั ทำใหท อ งปอ งออก กเ็ รยี กวา เปน การหายใจออกยาว. ขอ เทจ็จรงิ อยตู รงทวี่ า โครงอกแฟบมากหรอื นอ ยนน่ั เอง; สว นทอ งนน้ั จะมอี าการตรงกนั ขา มกบัโครงอกเสมอไป ในเมอื่ มกี ารหายใจอยา งยาวทสี่ ดุ ทง้ั เขา และออก. ผมู กี ารศกึ ษาเกย่ี วดว ยอวยั วะเครอื่ งหายใจ มปี อดเปน ตน มาแลว เปน อยา งดี ยอ มอาจจะเขา ใจเรอื่ งนไ้ี ดด .ี คำวา “หายใจนาน” พระอรรถกถาจารยแ นะใหส งั เกตการหายใจของสตั ว ๒ ประเภท.สตั วป ระเภทแรก เชน ชา ง มรี ะยะหายใจนานกวา สตั วป ระเภทหลงั เชน หนู หรอื กระตา ย.การกำหนดเอาเวลาเปน หลกั เชน น้ี แมจ ะเรยี กวา หายใจชา หรอื เรว็ กต็ าม ผลยอ มเปน อยา งเดยี วกนั กบั คำวา หายใจยาวหรอื สน้ั . นก้ี ลา วเฉพาะในการปฏบิ ตั กิ ารกำหนดลมหายใจ; สว นขอ เทจ็ จรงิ ทวี่ า ลมจะเขา ไปมากหรอื นอ ยกวา กนั อยา งไรนนั้ เปน อกี เรอ่ื งหนงึ่ ตา งหาก. สงิ่ ทตี่ อ งการความสงั เกตในความแตกตา งอกี อยา งหนง่ึ กค็ อื “การหายใจเบา” หรอื“หนกั ” “หยาบ” หรอื “ละเอยี ด”. ถา หากลมกระทบพน้ื ผวิ แหง ชอ งหายใจรนุ แรง กเ็ รยี กวา หายใจหนกั หรอื หยาบ ถา หากกระทบพนื้ ผวิ เหลา นน้ั ไมร นุ แรง หรอื ถงึ กบั วา ไมร สู กึ วา กระทบกเ็ รยี กวา หายใจเบาหรอื ละเอยี ด. อาการทงั้ ๒ อยา งนี้ เปน สง่ิ ทคี่ วรศกึ ษาใหเ ขา ใจอยา งยงิ่ไวอ ยา งเดยี วกนั เพราะมเี รอื่ งทจี่ ะตอ งปฏบิ ตั ใิ นขอ ตอ ไปขา งหนา เกยี่ วกบั เรอ่ื งนี้.การกำหนดลมหายใจ บดั นี้ มาถงึ วธิ กี ารกำหนดลมหายใจ ในลกั ษณะทต่ี า งๆ กนั เปน ลำดบั ไป ดงั จะไดแยกวนิ จิ ฉยั ทลี ะบท :
2 - 43 ธรรมปฏิบัติ ๕ สาย : อานาปานสติ บทวา “เมอื่ หายใจเขา ยาว กร็ วู า หายใจเขา ยาว” หรอื “เมอ่ื หายใจออกยาว กร็ ูวา หายใจออกยาว” นนั้ มหี ลกั แหง การปฏบิ ตั คิ อื หลงั จากการทไ่ี ดซ กั ซอ มอวยั วะเครอื่ งหายใจตา งๆ มชี อ งจมกู เพดาน หลอดลมและปอดเปน ตน ใหอ ยใู นสภาพทปี่ รกตแิ ละเหมาะสมดแี ลวกป็ ลอ ยใหม กี ารหายใจตามปรกตธิ รรมดาบา ง บงั คบั ใหย าวกวา ธรรมดาบา ง ใหส น้ั กวาธรรมดาบา ง เปน การซกั ซอ มทางรา งกายโดยตรง วา ควรจะมอี ตั ราปรกตอิ ยา งไร ทเี่ ปน อตั ราปรกตถิ าวรไมย าวไมส น้ั เสยี กอ น แลว จงึ เรม่ิ กำหนดวา มนั ยาวหรอื สนั้ เทา ไร. ลมหายใจทสี่ นั้ หรอื ยาว น้ี ยอ มขน้ึ อยกู บั อารมณท างจติ และความผนั แปรทางรา งกายหรอื แมท ส่ี ดุ เพยี งแตก ารไปสนใจมนั เขา เทา นน้ั มนั กท็ ำใหก ารหายใจนน้ั สน้ั หรอื ยาว ออกไปไดก วา ธรรมดา. เพราะฉะนน้ั ในขน้ั แรกเราจะตอ งสงั เกตความสนั้ ยาว ทม่ี นั เปลย่ี นแปลงไปตามสงิ่ แวดลอ ม ซงึ่ กำลงั แวดลอ มอยใู นขณะนนั้ เชน ถา อารมณป รกตดิ ี การหายใจกย็ าวกวาเมอ่ื มอี ารมณร า ยเชน ความโกรธเปน ตน เขา ครอบงำ. หรอื เมอื่ รา งกายสบายดี ลมหายใจกย็ าวกวา เมอื่ รา งกายกำลงั ผดิ ปรกติ เพราะความเหนด็ เหนอ่ื ย เปน ตน . แมล มหายใจจะมีอาการอยูอยางนั้น อยางใดอยางหนึ่ง แตพอเราไปต้ังใจทำการกำหนดมันเขามันก็จะตองยาวกวา นนั้ อกี เปน ธรรมดา. เพราะฉะนน้ั ผปู ฏบิ ตั จิ ะตอ งรจู กั สงั เกตความพลกิ แพลงของลมหายใจในลกั ษณะอยา งนด้ี ว ย จงึ จะกำหนดความยาวหรอื สน้ั ไดโ ดยถกู ตอ ง หรอื อยา งนอ ยทส่ี ดุ กก็ ำหนดไดว า มนั ยาวกวา กนั เทา ไร แลว ทำการกำหนดไปเปน เวลานานพอสมควร กจ็ ะรจู กั ความสนั้ ยาวทแี่ นน อนยงิ่ ขนึ้ . ในขน้ั แรกๆ ควรจะหดั หายใจใหห ยาบทสี่ ดุ ใหย าวทสี่ ดุ เพอื่ ใหก ำหนดไดโ ดยงา ยวา ลมหายใจเองเปน อยา งไร ? ทางทม่ี นั กระทบนนั้ ถกู มนั กระทบอยา งไร ? กำลงั กระทบอยทู ตี่ รงไหน ? มอี าการเหมอื นกบั วา มนั ไปสดุ ลงทตี่ รงไหน ? หยดุ อยทู ต่ี รงไหน ? นานเทา ไร ? แลว จงึ หายใจกลบั ออกมาหรอื กลบั เขา ไปกต็ าม แลว แตก รณี. ถา หายใจเบาหรอืละเอยี ดไปตงั้ แตท แี รก กไ็ มม ที างทจ่ี ะสงั เกตสงิ่ เหลา นนั้ ได ทำใหก ำหนดลมหายใจไดโ ดยยากหรอื ถงึ กบั ลม เหลวไปกไ็ ด. ทางทดี่ ยี ง่ิ ไปอกี คอื ควรจะหายใจใหห ยาบหรอื หนกั จนกระทง่ัเกดิ มเี สยี งไดย นิ ทางหู ขนึ้ มาดว ยสว นหนง่ึ หกู เ็ ปน ประโยชนใ นการชว ยใหส ตกิ ำหนดลมหายใจไดงายข้ึนอีกแรงหน่ึง.
2 - 44 ธรรมปฏิบัติ ๕ สาย : อานาปานสติ โดยทแ่ี ทแ ลว คำวา “การกำหนดลมหายใจ” นน้ั เปน การกำหนดทพี่ นื้ ผวิ ทลี่ มกระทบนน้ั มากกวา ทจี่ ะกำหนดทตี่ วั ลม เพราะลมเปน สง่ิ ทลี่ ะเอยี ดออ น กำหนดยาก แตเ มอื่ มนั กระทบพน้ื ผวิ ซง่ึ เตม็ ไปดว ยเสน ประสาทเขา ทตี่ รงไหน กเ็ ปน การงา ยทจ่ี ะกำหนดวา ลมกำลงั อยทู น่ี น่ัหรอื เดนิ ไปถงึ ไหน. และยงิ่ เมอ่ื มเี สยี งทไี่ ดย นิ ทางหเู ขา มาชว ยดว ย กเ็ ปน การชว ยใหก ำหนดไดง า ยขน้ึ อกี วา หายใจครงั้ หนง่ึ ยาวหรอื นานเทา ไร. การหายใจหนกั ๆ ในขนั้ แรก จงึ เปน สง่ิทม่ี ปี ระโยชน ดงั น.ี้ แมใ นขนั้ ตอ ไป การหายใจยาวหรอื หนกั จนเคยชนิ เปน นสิ ยั กย็ งั มปี ระโยชนอยูน่ันเอง เพราะนอกจากจะเปนประโยชนทางอนามัยแกรางกายโดยเฉพาะแลว ยังเปนประโยชนใ นทางทจี่ ะทำใหเ ราฝก หดั ในบทฝก หดั ขนั้ ตอ ๆ ไป ไดอ ยา งงา ยดายเสมอไป จงึ ขอแนะนำใหฝ ก ในการหายใจใหย าวและหนกั อยเู ปน ปรกติ ตามโอกาสทจี่ ะพงึ กระทำได.การกำหนดลมหายใจดวยสติ ตอ ไปนี้ กม็ าถงึ ระยะแหง การฝก ในการกำหนดลมหายใจ ซงึ่ ยาวอยเู องแลว เพราะการท่ีเราไปกำหนดมันเขา. อาการทเ่ี รยี กวา “กำหนด” ในทนี่ ี้ ถา กลา วอยา งโวหารธรรมดากค็ อื การทเ่ี ราตงั้ จติกำหนดลมหายใจ ทก่ี ำลงั แลน เขา แลน ออกอยตู ามเรอื่ งตามราวของมนั เอง จะเรยี กวา เปน การสงั เกตลมหายใจวา กำลงั เปน อยอู ยา งไร ดงั นกี้ ไ็ ด แตเ ราไมน ยิ มเรยี กเชน นนั้ นยิ มเรยี กใหแนชัดลงไปเปนภาษากัมมัฏฐาน หรือภาษาท่ีใชในการสอนอภิธรรมวา เปนการผูกจิตไวท่ีลมหายใจ ดว ยเครอื่ งผกู คอื สตเิ ลย ทำใหเ กดิ มสี ง่ิ ทจ่ี ะตอ งศกึ ษาขนึ้ มาถงึ ๓ เรอื่ งเปน อยา งนอ ย คอื ลมหายใจ ๑ จติ ๑ สติ ๑ รวมเปน ๓ แลว ยงั จะตอ งศกึ ษาเรอ่ื งผลทเี่ กดิ ขน้ึ เพราะการทำเชน นน้ั วา มอี ยอู ยา งไร กอ่ี ยา ง ตามลำดบั ไป. ลมหายใจ มเี รอ่ื งราวอยา งไร เปน เรอ่ื งทก่ี ลา วถงึ แลว ขา งตน . สว นเรอื่ งจติ นน้ั หมายความวา เมอื่ กอ นน้ี สาละวนอยกู บั โลกยิ ารมณต า งๆ เดย๋ี วนถ้ี กู พรากหรอื ถกู เปลยี่ นมาใหเ ปนจติ ทต่ี ดิ อยกู บั ลมหายใจ ดว ยเครอื่ งผกู คอื สติ ไมใ หเ ปน จติ ทไี่ ปคลกุ คลอี ยกู บั โลกยิ ารมณด งั เชนเคย. สำหรบั สตนิ นั้ หมายถงึ เจตสกิ ธรรมซงึ่ เปน สมบตั ขิ องจติ อยา งหนง่ึ ในบรรดาสมบตั ิทงั้ หลายของจติ . เจตสกิ ธรรมขอ นเี้ ปน ฝา ยกศุ ล ทำหนา ทยี่ กจติ ขน้ึ หรอื ดงึ จติ มาผกู ไวก บั
2 - 45 ธรรมปฏิบตั ิ ๕ สาย : อานาปานสติลมหายใจ ซง่ึ ในทนี่ เี้ ปน รปู ธรรมบรสิ ทุ ธ์ิ ไมเ ปน ทตี่ ง้ั แหง อกศุ ล จติ จงึ พน จากความเปน อกศุ ลมาสคู วามเปน กศุ ล ดว ยอำนาจแหง เจตสกิ ธรรม อนั มชี อ่ื วา สติ นน้ั . อาการท่ีจิตถูกสติผูกไวกับอารมณ คือลมหายใจในท่ีนี้ แมเพียงเทานี้ก็เรียกไดวาการกำหนด คอื การกำหนดของจติ ทลี่ มหายใจดว ยอำนาจสต.ิ ในขน้ั นยี้ งั เปน เพยี งการกำหนดลว นๆ ไมเ ปน การพจิ ารณาแตป ระการใด และยงั ไมเ กย่ี วกบั ความรหู รอื ญาณ จงึ เรยี กแตเ พยี งวา การกำหนด หรอื ตรงกบั คำอกี คำหนงึ่ วา “บรกิ รรม” ลว นๆ จดั เปน อาการอยา งหนง่ึ ซง่ึตอ ไปขา งหนา จะถกู จดั เปน องคข องฌาน ทเ่ี รยี กวา “วติ ก”. ผศู กึ ษาถงึ เขา ใจไวเ สยี ดว ยวาคำวา “วติ ก” ในทนี่ ี้ มคี วามหมายอยา งน้ี มไิ ดห มายอยา งโวหารพดู ทวั่ ไป ซงึ่ หมายถงึ การคดิ นกึ ตรกึ ตรองเปน เรอ่ื งราวไป แตป ระการใดเลย. ทงั้ หมดนค้ี อื สง่ิ ทจ่ี ะตอ งทำความเขา ใจเกย่ี วกบั คำวา “กำหนด”.การเกิดของความรู. เมอ่ื มกี ารกำหนดในลกั ษณะเชน ทก่ี ลา วน้ี กแ็ สดงอยใู นตวั แลว วา ยอ มเปน ทางใหเ กดิความรู หรอื ความรสู กึ แกจ ติ ขน้ึ มาไดเ อง วา ลมหายใจนน้ั ยาวหรอื สน้ั เปน ตน . ขอ นอี้ ธบิ ายวา เมอ่ื ลมหายใจกแ็ ลน ไปแลน มาอยู และจติ กถ็ กู สตผิ กู ตดิ ไวก บั ลมหายใจ จติ จงึ มอี าการเหมอื นกบั พลอยแลน ไปแลน มา ตามไปดว ยกนั จงึ เกดิ “ความร”ู ขนึ้ ได โดยไมต อ งมกี ารคดิหรอื การพจิ ารณาเลย. ความรเู ชน นยี้ งั ไมค วรเรยี กวา “ญาณ” เปน เพยี งสมั ปชญั ญะ คอืความรสู กึ ตวั ทวั่ ถงึ วา มนั เปน อยา งไรในขณะนนั้ . แตถ งึ อยา งนนั้ กต็ าม บางทที า นกใ็ ชค ำวา“ญาณ” แกอ าการรเู ชน น้ี ในบางคมั ภรี บ า งเหมอื นกนั , ควรจะทราบไวก นั ความสบั สน. ทง้ั น้ีเพราะคำวา ญาณ นน้ั มคี วามหมายกวา งขวาง เอาไปใชก บั ความรชู นดิ ไหนกไ็ ด แตค วามหมายทแี่ ทน นั้ ตอ งเปน ความรทู างสตปิ ญ ญาโดยตรง. เมอ่ื คำวา “ญาณ” หรอื ความรู ใชไ ดก วา งขวางอยา งนี้ รวมกบั การทที่ า นไมอ ยากใชค ำอน่ื เพม่ิ เขา มาใหม ากมายและสบั สนโดยไมจ ำเปนอาจารยบ างพวกจงึ กลา ววา แมค วามรสู กึ ทเี่ กดิ ขน้ึ วา เรากำลงั หายใจยาว ดงั นเี้ ปน ตน กจ็ ดั เปนญาณอนั หนงึ่ ดว ยเหมอื นกนั ทำใหม กี ารกลา วไดว า ญาณไดป รากฏแลว แมแ ตใ นขณะทเ่ี รมิ่ทำอานาปานสติ พอสกั วา เมอื่ หายใจเขา ยาว กร็ สู กึ ตวั ทว่ั พรอ มวา เราหายใจเขา ยาว ดงั น.ี้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 642
Pages: