คูมือปฏิบัติสมถวิปสสนากัมมัฏฐาน ๕ สาย พุทโธ อานาปานสติ ยุบหนอ พองหนอ รูปนาม สัมมาอรหัง จัดพิมพโดย วัดหลวงพอสดธรรมกายาราม อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรีDhammaintrend รว่ มเผยแพรแ่ ละแบง่ ปันเป็ นธรรมทาน
คมู อื ปฏบิ ตั ิ สมถวปิ ส สนากมั มฏั ฐาน ๕ สายISBN : 978-974-401-963-9จำนวน ๖๔๘ หนาพมิ พค รงั้ ท่ี ๑ : พฤษภาคม ๒๕๕๓จำนวน ๓,๐๐๐ เลมจดั พมิ พโ ดย : วดั หลวงพอ สดธรรมกายารามอำเภอดำเนนิ สะดวก จงั หวดั ราชบรุ ี ๗๐๑๓๐โทรศพั ท ๐-๓๒๒๕-๓๖๓๒ กดตอ ๒๒๐/๑๙๑,๐๘-๓๐๓๒-๘๙๐๗ โทรสาร ๐-๓๒๒๕-๔๙๕๔www.dhammakaya.orgจดั ทำรปู เลม /เรยี งพมิ พ :กองงานสอื่ สง่ิ พมิ พ วดั หลวงพอ สดฯภคั กร เมอื งนลิ เพชรเกษมการพมิ พพมิ พท ี่ : บรษิ ทั เพชรเกษม พรนิ้ ตง้ิ กรปุ จำกดั๑๘/๔๙ ถ.ทรงพล ต.ลำพยา อ.เมอื ง จ.นครปฐม ๗๓๐๐๐โทร.๐-๓๔๒๕-๙๗๕๘, ๐-๓๔๒๕-๙๗๕๙ โทรสาร ๐-๓๔๒๕-๓๔๖๕โทรสายดว น ๐-๓๔๒๕-๙๑๑๑ สายดว นมอื ถอื ๐-๑๘๕๒-๗๕๕๕www.pkprinting.com
สัมโมทนียกถา ตามทคี่ ณะกรรมการบรหิ าร ศนู ยป ระสานงานสำนกั ปฏบิ ตั ธิ รรมประจำจงั หวดั แหงประเทศไทย (ศปท.) โดย ทา นเจา คณุ พระราชญาณวสิ ฐิ ประธานคณะกรรมการบรหิ าร ไดมมี ตใิ หจ ดั ทำ “หนงั สอื คมู อื การปฏบิ ตั ธิ รรม (สมถวปิ ส สนากมั มฏั ฐานตามแนวสตปิ ฏ ฐาน ๔)”ของสำนกั ปฏบิ ตั ธิ รรมใหญ ๕ สำนกั คอื สำนกั พทุ โธ สำนกั อานาปานสติ สำนกั ยบุ พองสำนกั รปู นาม และสำนกั สมั มาอรหงั โดยใหร วบรวมขอ มลู จากสำนกั ปฏบิ ตั ธิ รรมทง้ั ๕ นน้ัมาเรียบเรียงขึ้น เพื่อเปนแนวทางการศึกษาสัมมาปฏิบัติพระสัทธรรมของพระพุทธเจาตามแบบท่ีสำนักใหญ ๕ สำนัก ตางเลือกถือธรรมเปนอารมณสมถวิปสสนากัมมัฏฐานตามจรติ อธั ยาศยั ของตน เปน แนวทางปฏบิ ตั ภิ าวนาและสอนศษิ ยานศุ ษิ ยส บื ตอ ๆ กนั มานนั้ บดั น้ี ศปท. ไดจ ดั ทำหนงั สอื คมู อื ดงั กลา วเสรจ็ เรยี บรอ ย และไดผ า นการพจิ ารณาของคณะกรรมการทปี่ รกึ ษาและคณะกรรมการบรหิ าร ศปท. เพอ่ื ขอคำแนะนำในการปรบั ปรงุ แกไ ขแลว ศปท. จกั ไดน ำเสนอตอ มหาเถรสมาคม เพอ่ื ขอประทานเมตตาพจิ ารณา “รบั ทราบ” แลว จกัไดจ ดั พมิ พ ออกเผยแพรใ หเ ปน ประโยชนแ กก ารศกึ ษาสมั มาปฏบิ ตั ขิ องพทุ ธบรษิ ทั ผสู นใจในธรรมตอ ไป ขาพเจาเห็นวา หนังสือคูมือการปฏิบัติธรรม (สมถวิปสสนากัมมัฏฐานตามแนวสตปิ ฏ ฐาน ๔) ของสำนกั ปฏบิ ตั ธิ รรมใหญ ๕ สำนกั ท่ี ศปท. ไดร วบรวมขอ มลู จาก ๕ สำนกัใหญมาเรยี บเรยี งขนึ้ เพอ่ื จดั พมิ พเ ปน เลม เพอื่ นำออกเผยแพรน น้ั มคี ณุ ประโยชนแ กก ารศกึ ษา-สัมมาปฏิบัติพระสัทธรรมของพระพุทธเจาเปนอยางย่ิง และประการสำคัญท่ีสุด คือใหผ สู นใจศกึ ษาสมั มาปฏบิ ตั ไิ ดม โี อกาสเลอื กวธิ ปี ฏบิ ตั ิ (สมถวปิ ส สนากมั มฏั ฐาน) ตามจรติ อธั ยาศยัของตน ประการ ๑ และยงั มหี นงั สอื “คมู อื การศกึ ษาสมั มาปฏบิ ตั ไิ ตรสกิ ขาตามแนวสตปิ ฏ ฐาน ๔”ท่ี ศปท. ไดต งั้ คณะอนกุ รรมการรวบรวมขอ มลู และเรยี บเรยี งขนึ้ ตามแนวอรรถาธบิ ายในคมั ภรี ปกรณว เิ ศษ “วสิ ทุ ธมิ รรค” ไวเ ปน คมู อื การศกึ ษาสมั มาปฏบิ ตั ิ เพอ่ื ใหเ ปน ทเี่ ขา ใจหลกั และวธิ กี ารปฏบิ ตั สิ มถวปิ ส สนากมั มฏั ฐาน ตลอดถงึ ผลของการปฏบิ ตั ิ ทเี่ ปน มาตรฐานเดยี วกนัใหผ สู นใจในการศกึ ษาสมั มาปฏบิ ตั ไิ ดอ าศยั หนงั สอื คมู อื ดงั กลา ว เปน แนวทางปฏบิ ตั ใิ หต รง(อชุ ปุ ฏปิ นโฺ น) ตามพระสทั ธรรมของพระพทุ ธเจา โดยไมห ลงทาง และใหส ามารถปฏบิ ตั ไิ ด
ถกู ตอ งตรงทาง (ญายปฏปิ นโฺ น) เพอ่ื ใหถ งึ ธรรมทค่ี วรรู ไดแ ก สมั มาปฏปิ ทามรรค เปน ตน และเพอ่ื ใหบ รรลธุ รรมทคี่ วรบรรลไุ ดเ ปน อยา งดี อกี ประการ ๑ ขา พเจา จงึ ขออนโุ มทนาสาธกุ ารดว ยเปน อยา งยง่ิ ทศี่ นู ยป ระสานงานสำนกั ปฏบิ ตั ธิ รรมประจำจงั หวดั แหง ประเทศไทย (ศปท.) โดย พระราชญาณวสิ ฐิ ประธานคณะกรรมการบรหิ ารศนู ยฯ เจา อาวาส และ เจา สำนกั ปฏบิ ตั ธิ รรมประจำจงั หวดั ราชบรุ ี แหง ท่ี ๑ (โดยมตมิ หาเถรสมาคม) วดั หลวงพอ สดธรรมกายาราม อ.ดำเนนิ สะดวก จ.ราชบรุ ี และคณะผจู ดั ทำหนงั สอื คมู อืการปฏบิ ตั ธิ รรมฯ ของสำนกั ปฏบิ ตั ธิ รรมใหญๆ ๕ สำนกั ดงั กลา ว และขออนโุ มทนาสาธกุ ารกบั ผรู ว มเปน เจา ภาพอปุ ถมั ภก ารจดั พมิ พห นงั สอื ดงั กลา วน้ี ใหเ ปน ประโยชนแ กก ารศกึ ษาสมั มา-ปฏบิ ตั ขิ องสาธชุ นพทุ ธบรษิ ทั ใหก วา งขวางออกไปยงิ่ ขนึ้ ไดเ ปน ประโยชนแ กก ารสบื บวรพระพทุ ธ-ศาสนาใหเ จรญิ และมน่ั คงสบื ไป ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยจงไดโปรดดลบันดาลประทานพร ใหคณะผูจัดทำคณะกรรมการบรหิ าร และกรรมการทป่ี รกึ ษา ศปท. ผชู ว ยพจิ ารณาใหข อ แนะนำ อกี ทง้ั คณะเจา ภาพอปุ ถมั ภบำรุงการจัดพิมพหนังสือนี้ทุกทาน จงเจริญรุงเรืองในพระสัทธรรมของพระพทุ ธเจา ดว ยการไดศ กึ ษาสมั มาปฏบิ ตั ธิ รรม ไดพ น ไปจากไตรวฏั ฏะ (กเิ ลสวฏั ฏะ กรรมวฏั ฏะ และวปิ ากวฏั ฏะ) และไดถ งึ มรรค ผล นพิ พาน ตามรอยบาทพระพทุ ธองค และขอจงเจรญิ ดว ยอายุ วรรณะ สขุ ะพละ ปฏภิ าณ ธรรมสาร/ธนสารสมบตั ิ ปรารถนาสงิ่ ใดโดยชอบ กอปรดว ยเหตปุ จ จยั ฝา ยบญุ กศุ ลของจงสำเรจ็ สมมโนรถ ตามปรารถนาทกุ ประการ เทอญ (สมเดจ็ พระมหารชั มงั คลาจารย) กรรมการมหาเถรสมาคม แมก องบาลสี นามหลวง เจา คณะใหญห นเหนอื อธบิ ดสี งฆ วดั ปากน้ำ ภาษเี จรญิ ประธานคณะกรรมการทปี่ รกึ ษา ศนู ยป ระสานงานสำนกั ปฏบิ ตั ธิ รรมประจำจงั หวดั แหง ประเทศไทย (ศปท.) ๙ ธนั วาคม ๒๕๕๒
แบบถงึ พระไตรสรณคมน และแบบวธิ นี ง่ั สมาธภิ าวนาสายพทุ โธ ของ หลวงปมู น่ั ภรู ทิ ตโฺ ต โดยพระญาณวสิ ษิ ฎส มทิ ธวิ รี าจารย (พระอาจารยส งิ ห ขนตฺ ยาคโม) วดั ปา สาลวนั อ.เมอื ง จ.นครราชสมี า 1-1
1-2 ธรรมปฏบิ ตั ิ ๕ สาย : พทุ โธ คณะผรู วบรวม ๑. พระมหาพสิ ฐิ เอก เสฏฐ ธมโฺ ม ป.ธ.๙ ๒. พระมหาอธโิ ชค สโุ ชโต ป.ธ.๘ ๓. พระมหาชนิ ณฐั พนธ วชริ วโํ ส ป.ธ.๗ ๔. พระมหาสมชาติ สชุ าโต ป.ธ.๓ ๕. พระมหาพพิ ฒั พงศ ฐติ ธมโฺ ม ป.ธ.๖1-2
1-3ธรรมปฏบิ ัติ ๕ สาย : พทุ โธ 1-3
1-4
คำนำ พระกมั มฏั ฐานสายพทุ โธ กค็ อื อานาปานสั สตกิ มั มฏั ฐานนนั่ เอง แตพ ระเถราจารยข องไทยไดน ำเอาพทุ ธคณุ ซงึ่ เปน กมั มฏั ฐานอยา งหนง่ึ ทเ่ี รยี กวา “พทุ ธานสุ สต”ิ มาประกอบกบั อานาปานสั สติเพอื่ ใหจ ติ เปน สมาธงิ า ยขนึ้ เมอ่ื ปฏบิ ตั เิ หน็ ผลดว ยตนเองแลว จงึ ไดน ำมาสอนศษิ ยานศุ ษิ ยใ หไ ดผลดเี ปน ลำดบั สบื มา และเปน ทนี่ ยิ มกนั แพรห ลายมาจนทกุ วนั น้ี แตเ นอ่ื งจากการเจรญิ ภาวนาสายพทุ โธในประเทศไทยมมี ากหลายสำนกั แตล ะสำนกั อาจจะเหมอื นกนั หรอื แตกตา งกนั ไปบา งเลก็ นอ ยในสว นเบอื้ งตน คอื ขนั้ สมถะ สว นในขนั้ วปิ ส สนากล็ ว นเปน อนั เดยี วกนั (แมก รรมฐานสายอน่ื กเ็ ชน เดยี วกนั ) ดงั นนั้ จงึ ขอนำเอาเฉพาะพระกรรมฐานสายพทุ โธ ทมี่ คี รบู าอาจารยผ มู ชี อื่ เสยี งและมศี ษิ ยานศุ ษิ ยน ยิ มนบั ถอื และปฏบิ ตั ติ ามเปน จำนวนมากมานำเสนอไวใ นทน่ี ้ี คอื สายของพระอาจารยม น่ั ภรู ทิ ตโฺ ต เนอื่ งดว ยวา หากจะนำวธิ ขี องครบู าอาจารยตา งๆ ทใ่ี ชค ำภาวนาวา “พทุ โธ” มาลงไวท ง้ั หมด กเ็ หน็ วา เปน การเหลอื วสิ ยั สำหรับขอมูลหลักปฏิบัติพระกัมมัฏฐานสายพุทโธ ของพระอาจารยม่ัน ภูริทตฺโต ท่ีมีหลักฐานเปนแบบแผนมาแตเดิมนั้น ไดรับความเอ้ือเฟอจากวัดปาสาลวัน นำมามอบให ซ่ึงหลวงพอ พธุ ฐานโิ ย (ศษิ ยท มี่ ชี อื่ เสยี งรปู หนงึ่ ของพระอาจารยม น่ั ) ไดส บื ทอดและแสดงเทศนาไวเปน หลกั ปฏบิ ตั ทิ พ่ี ระอาจารยเ สารแ ละพระอาจารยม นั่ (อาจารยแ ละศษิ ย) ไดป รกึ ษากนั มอบหมายใหพ ระอาจารยส งิ ห ขนตฺ ยาคโม และพระอาจารยม หาปน ปญฺ าพโล ผเู ปน ลกู ศษิ ยร ว มกนั เขยี นขนึ้ ไวเ ปน หลกั ในการปฏบิ ตั ิ ทงั้ แบบการถงึ ไตรสรณคมน และแบบวธิ นี งั่ สมาธภิ าวนา นบั วา หาไดไมง า ยนกั ในปจ จบุ นั ทจ่ี ะไดพ บตำรบั ตำราทคี่ รบู าอาจารยช นั้ ตน ๆ ทเ่ี ปน ลกู ศษิ ยข องพระอาจารยมน่ั ไดเ รยี บเรยี งไว ดงั นน้ั จงึ นำมาลงไวท งั้ ๒ แบบตามตน ฉบบั เพอื่ ใหท า นผทู สี่ นใจไดน ำไปศึกษาปฏิบัติสืบไป พระมหาพสิ ฏิ ฐเ อก เสฏฐ ธมโฺ ม หัวหนาคณะผูรวบรวม 1-5
สารบัญ แบบถึงพระไตรสรณคมน ........................................................................................................ ๙ วิธีรักษาพระไตรสรณคมน ............................................................................................................. ๑๓ ตอ งไหวพ ระ นง่ั สมาธทิ กุ วนั .......................................................................................................... ๑๔ แผเมตตาตนและผูอื่น .................................................................................................................... ๑๔ วิธีบูชาดอกไมธูปเทียน .................................................................................................................. ๑๖ แบบวิธีน่ังสมาธิภาวนา ........................................................................................................ ๑๗ ท่ีมาแหงการภาวนา ...................................................................................................................... ๑๗ ประเภทแหงการภาวนา ................................................................................................................ ๑๘ สมถภาวนา ๓ อยา ง ..................................................................................................................... ๑๘ สมถะคืออะไร ................................................................................................................................. ๑๘ ธรรมที่ตองเจริญอยูเปนนิตย ....................................................................................................... ๒๐ การฝกสมาธิภาวนา .............................................................................................................. ๒๑ วิธีน่ังสมาธิภาวนา......................................................................................................................... ๒๑ ต้ังสติลงตรงหนา ...........................................................................................................................๒๒ รวมจติ เขา ตงั้ ไวใ นจติ ..................................................................................................................๒๒ สำรวจแลวนึก ............................................................................................................................... ๒๓ ภวงั ค ..................................................................................................................................... ๒๔ วิธีออกจากสมาธิ ......................................................................................................................... ๒๗ อรยิ มรรคสมงั คี ..................................................................................................................... ๒๙ วิธีตกแตงอริยมรรค ......................................................................................................................๓๑ วิธีเดินจงกรมภาวนา ............................................................................................................ ๓๔ นิมิตสมาธิ ............................................................................................................................. ๓๖ วิธีแกนิมิตสมาธิ .............................................................................................................................๓๘ ญาตปริญญาวิธี .............................................................................................................................๓๙1-6
ตีรณปริญญาวิธี ............................................................................................................................. ๔๑แกปฏิภาคนิมิตภายนอก................................................................................................................ ๔๑แกปฏิภาคนิมิตภายใน .................................................................................................................. ๔๒วิธีพิจารณาโครงกระดูก ................................................................................................................ ๔๕พิจารณารวมศูนยกลาง................................................................................................................. ๔๖เจริญปหานปริญญาวิธี ................................................................................................................. ๔๗ตัวอยางคำสอนเร่ืองการเจริญภาวนา ของพระอาจารยม่ัน ภูริทตฺโต ...................................... ๕๐บรรณานุกรม .................................................................................................................................๕๓ 1-7
1-8
แบบถึงพระไตรสรณคมน พระพทุ ธเจา ทรงพระมหากรณุ า ประดษิ ฐานพระพทุ ธศาสนาลงในโลก ยอ มทรงวางระเบยี บแบบแผนไวค รบบรบิ รู ณแ ลว แบบถงึ พระไตรสรณคมนก ม็ แี ลว แตข าดผนู ำ จงึ ไมไดถ อื เปน หลกั ปฏบิ ตั สิ บื มาจนถงึ สมยั ปจ จบุ นั ทกุ วนั นี้ เนอื่ งดว ยเหตนุ ้ี จงึ จำเปน ตอ งนำมาลงไวเ ปน แบบปฏบิ ตั สิ บื ไป พทุ ธบรษิ ทั ทง้ั ๔ คอื ๑. พระภกิ ษุ และสามเณร ๒. พระภกิ ษณุ ี และสามเณรี ๓. อบุ าสก ๔. อบุ าสกิ า ทง้ั ๔ จำพวก เมอ่ื นอ มตนเขา มานบั ถอื พทุ ธศาสนาน้ี ยอ มประกาศปฏญิ าณตนถงึพระไตรสรณคมน ทกุ คนตลอดไป ตามแบบทพ่ี ระองคไ ดท รงพระมหากรณุ าโปรดพระเจา พมิ พสิ ารกบั ทงั้ บรวิ าร ๑๑ นหตุและทรงโปรดสงิ คาลมาณพนน้ั พระองคท รงตรสั เทศนาจบลงแลว พระเจา พมิ พสิ าร กบัทงั้ บรวิ าร ๑๐ นหตุ ไดส ำเรจ็ โสดาปต ตผิ ล อกี นหตุ หนงึ่ นน้ั ถงึ พระไตรสรณคมน สวนสิงคาลมาณพ เมื่อฟงธรรมเทศนาจบลง ก็ไดประกาศปฏิญาณตนถึงพระ-ไตรสรณคมนด งั ตอ ไปนี้ คอื เปลง วาจาวา “เอสาหํ ภนเฺ ต สจุ ริ ปรนิ พิ พฺ ตุ มปฺ ตํ ภควนตฺ ํ สรณํ คจฉฺ ามิ ธมมฺ จฺ ภกิ ขฺ สุ งฆฺ จฺ อปุ าสกํ (อปุ าสกิ )ํ มํ สงโฺ ฆ ธาเรตุ อชชฺ ตคเฺ ค ปาณเุ ปตํ สรณํ คตํ ฯ ทตุ ยิ มปฺ เอสาหํ ... ตตยิ มปฺ เอสาหํ ... อชชฺ ตคเฺ ค ปาณเุ ปตํ สรณํ คต”ํ แปลความวา 1-9
1 - 10 ธรรมปฏิบตั ิ ๕ สาย : พุทโธ “ขา พเจา ขอถงึ พระผมู พี ระภาคเจา แมป รนิ พิ พานนานมาแลว กบั พระธรรมและพระอรยิ สงฆส าวก วา เปน ทพี่ ง่ึ ทร่ี ะลกึ ทนี่ บั ถอื ของขา พเจา ตลอดสน้ิ ชวี ติ ขอสงฆจ งจำไว ซงึ่ ขา พเจา วา เปน อบุ าสก (อบุ าสกิ า) ตง้ั แตน เี้ ปน ตน ไปตราบเทา สนิ้ ชวี ติ ” ตามแบบที่พระพุทธองคไดทรงตรัสแกพระอรหันตขีณาสพพุทธสาวก ๖๐ องค ณปา อสิ ปิ ตนมฤคทายวนั ใกลเ มอื งพาราณสี ทสี่ ง ไปประกาศพระพทุ ธศาสนา เพอื่ ใหส ำเรจ็ กจิบรรพชาอปุ สมบทแกก ลุ บตุ รทงั้ ปวง ดว ยวธิ ใี หถ งึ พระไตรสรณคมนน ้ี และในสมยั นกี้ ไ็ ดถ อื เปนแบบถงึ พระไตรสรณคมน ทง้ั อบุ าสกอบุ าสกิ า และบรรพชาเปน สามเณร พระอาจารยผูนำใหถึงพระไตรสรณคมนนี้ พึงแนะนำพร่ำสอนใหรักษาความสัตยความจรงิ ในพระไตรสรณคมนอ ยา งยงิ่ ดงั ตอ ไปน้ี คอื ๑. สอนใหน ง่ั คกุ เขา กราบ ดว ยเบญจางคป ระดษิ ฐ ๓ ครงั้ แลว เตอื นใหร กั ษาความจรงิ วา เวลานเี้ ปน เวลารกั ษาความสตั ยค วามจรงิ คอื รา งกายทน่ี งั่ คกุ เขา ประนมมอื อยบู ดั นี้พงึ ทราบวา เปน รา งกายทจ่ี ะประกาศตน ถงึ พระไตรสรณคมนจ รงิ ๆ ๒. วาจาทก่ี ลา วถงึ คณุ พระพทุ ธเจา พระธรรม พระสงฆ ในกาลบดั นี้ พงึ ทราบวาเปน วาจาทไี่ ดป ระกาศตนถงึ พระไตรสรณคมนจ รงิ ๓. นำ้ ใจทน่ี อ มนกึ ถงึ คณุ พระพทุ ธเจา พระธรรม พระสงฆ พงึ ทราบวา เปน น้ำใจจรงิ ๔. พงึ ตง้ั เปน ความสตั ยอ ธษิ ฐานไวใ นใจวา ขา พเจา นบั ถอื เอา คณุ พระพทุ ธเจา พระธรรมพระสงฆ ทง้ั ๓ เปน สรณะ ทพี่ งึ่ ทร่ี ะลกึ ทนี่ บั ถอื ของขา พเจา ตงั้ แตบ ดั นเี้ ปน ตน ไปตราบเทาสิ้นชีวิต เมอ่ื ตง้ั เปน ความสตั ยแ ลว พงึ นำใหถ งึ พระไตรสรณคมน ดงั ตอ ไปน้ี อรหํ สมมฺ าสมพฺ ทุ โฺ ธ ภควา พทุ ธฺ ํ ภควนตฺ ํ อภวิ าเทมิ ฯ (กราบลงครงั้ หนง่ึ ) สวฺ ากขฺ าโต ภควตา ธมโฺ ม ธมมฺ ํ นมสสฺ ามิ ฯ (กราบลงครงั้ หนงึ่ ) สปุ ฏปิ นโฺ น ภควโต สาวกสงโฺ ฆ สงฆฺ ํ นมามิ ฯ (กราบลงครงั้ หนงึ่ ) นำวา นโม ๓ จบ นโม ตสสฺ ภควโต อรหโต สมมฺ าสมพฺ ทุ ธฺ สสฺ ฯ
1 - 11 ธรรมปฏบิ ตั ิ ๕ สาย : พุทโธ นำวา ถงึ พระไตรสรณคมน พทุ ธฺ ํ สรณํ คจฉฺ าม,ิ ธมมฺ ํ สรณํ คจฉฺ าม,ิ สงฆฺ ํ สรณํ คจฉฺ าม,ิ ทตุ ยิ มปฺ พทุ ธฺ ํ สรณํ คจฉฺ าม,ิ ทตุ ยิ มปฺ ธมมฺ ํ สรณํ คจฉฺ าม,ิ ทตุ ยิ มปฺ สงฆฺ ํ สรณํ คจฉฺ าม,ิ ตตยิ มปฺ พทุ ธฺ ํ สรณํ คจฉฺ าม,ิ ตตยิ มปฺ ธมมฺ ํ สรณํ คจฉฺ าม,ิ ตตยิ มปฺ สงฆฺ ํ สรณํ คจฉฺ าม,ิ แปลความวา ขา พเจา ขอถงึ พระพทุ ธเจา กบั ทง้ั พระธรรม และพระอรยิ สงฆ สาวกวา เปน สรณะทพี่ งึ่ ทรี่ ะลกึ ทนี่ บั ถอื ของขา พเจา ตงั้ แตบ ดั นเี้ ปน ตน ไปตราบเทา สนิ้ ชวี ติ ของขา พเจา นแ้ี ล ฯ นำระลกึ ถงึ พระพทุ ธคณุ อติ ปิ โส ภควา อรหํ สมมฺ า สมพฺ ทุ โฺ ธ วชิ ชฺ าจรณสมปฺ นโฺ น สคุ โต โลกวทิ ู อนตุ ตโฺ รปรุ สิ ทมมฺ สารถิ สตถฺ า เทวมนสุ สฺ านํ พทุ โฺ ธ ภควาติ ฯ กราบลงหมอบนงิ่ อยวู า กาเยน วาจาย ว เจตสา วา พทุ เฺ ธ กกุ มมฺ ํ ปกตํ มยา ยํ พทุ โฺ ธ ปฏคิ คฺ ณหฺ ตุ อจจฺ ยนตฺ ํ กาลนตฺ เร สวํ รติ ุ ํ ว พทุ เฺ ธ ฯ จบพระพทุ ธคณุ แลว เงยขนึ้ นำระลกึ ถงึ คณุ พระธรรม สวฺ ากขาโต ภควตา ธมโฺ ม สนทฺ ฏิ ฐ โิ ก อกาลโิ ก เอหปิ สสฺ โิ ก โอปนยโิ ก ปจฺจตฺตํเวทติ พโฺ พ วิ ฺ หู ตี ิ ฯ
1 - 12 ธรรมปฏบิ ตั ิ ๕ สาย : พุทโธ กราบหมอบลงนงิ่ อยวู า กาเยน วาจาย ว เจตสา วา ธมเฺ ม กกุ มมฺ ํ ปกตํ มยา ยํ ธมโฺ ม ปฏคิ คฺ ณหฺ ตุ อจจฺ ยนตฺ ํ กาลนตฺ เร สวํ รติ ุํ ว ธมเฺ ม ฯ จบพระธรรมคณุ แลว เงยขนึ้ นำระลกึ ถงึ คณุ พระอรยิ สงฆส าวก สปุ ฏปิ นโฺ น ภควโต สาวกสงโฺ ฆ อชุ ปุ ฏปิ นโฺ น ภควโต สาวกสงโฺ ฆ ญายปฏปิ นโฺ น ภควโต สาวกสงโฺ ฆ สามจี ปิ ฏปิ นโฺ น ภควโต สาวกสงโฺ ฆ ยททิ ํ จตตฺ าริ ปรุ สิ ยคุ านิ อฏฐ ปรุ สิ ปคุ คฺ ลา เอส ภควโต สาวกสงโฺ ฆ อาหเุ นยโฺ ย ปาหเุ นยโฺ ย ทกขฺ เิ ณยโฺ ย อชฺ ลกี รณโี ย อนตุ ตฺ รํ ปุ ญฺ กเฺ ขตตฺ ํ โลกสสฺ าติ ฯ กราบหมอบลงนงิ่ อยวู า กาเยน วาจาย ว เจตสา วา สงเฺ ฆ กกุ มมฺ ํ ปกตํ มยา ยํ สงโฺ ฆ ปฏคิ คฺ ณหฺ ตุ อจจฺ ยนตฺ ํ กาลนตฺ เร สวํ รติ ุํ ว สงเฺ ฆ ฯ จบสงั ฆคณุ แลว เงยขนึ้ กราบ ๓ หน นงั่ พบั เพยี บประนมมอื ฟง คำสงั่ สอนในระเบยี บวธิ รี กั ษาและปฏบิ ตั ไิ ตรสรณคมนต อ ไป ผทู ไ่ี ดป ฏญิ าณตน ถงึ คณุ พระพทุ ธเจา พระธรรม พระสงฆ แลว ชอื่ วา เปน “พทุ ธบรษิ ทั ”ชายเปน อบุ าสก หญงิ เปน อบุ าสกิ า ในพระพทุ ธศาสนา มหี นา ทจี่ ะตอ งปฏบิ ตั พิ ระพทุ ธศาสนาสบื ตอ ไป
1 - 13 ธรรมปฏบิ ตั ิ ๕ สาย : พุทโธวธิ รี กั ษาพระไตรสรณคมน วธิ รี กั ษาพระไตรสรณคมนไ มใ หข าดและไมใ หเ ศรา หมอง ดงั นี้ ๑. เปน ผตู ง้ั อยใู นความเคารพ ๖ ประการคอื เคารพในพระพทุ ธเจา ๑ เคารพในพระธรรม ๑ เคารพในพระอรยิ สงฆส าวก ๑ เคารพในความไมป ระมาท ๑ เคารพในไตรสกิ ขา ๓ คอื ศลี สมาธิ ปญ ญา ๑ เคารพในปฏสิ นั ถาร การตอ นรบั ๑ ตองเปนผูมีความเล่ือมใสนับถือพระรัตนตรัยเปนสรณะท่ีพึ่งที่ระลึกของตนจริงๆถา ประมาทเมอ่ื ไร กข็ าดจากคณุ พระรตั นตรยั เมอ่ื นนั้ ๒. เวน จากการนบั ถอื พระภมู ติ า งๆ คอื ไมน บั ถอื ภตู ผิ ี ปศ าจ พระภมู เิ จา ท่ี เทวบตุ รเทวดา มนต กลคาถา วชิ าตา งๆ ตอ ไป ถา นบั ถอื เมอื่ ไร กข็ าดจากคณุ พระรตั นตรยั เมอื่ นนั้ ๓. ไมเ ขา รดี เดยี รถยี นคิ รนถ คอื ไมน บั ถอื ลทั ธวิ ธิ ี ศาสนาอน่ื ภายนอกพระพทุ ธศาสนามาเปนสรณะที่พึ่งที่ระลึกของตน สืบตอไป ถานับถือเขารีดเดียรถียเม่ือไรก็ขาดจากพระรตั นตรยั เมอ่ื นน้ั ๔. ไมนับถือลัทธิศาสนาพราหมณ คือ ไมดูไมดูหมอ แตงแกแตงบูชา เสียเคราะหเสยี เขญ็ เปน ตน ถา นบั ถอื เมอื่ ไร กเ็ ศรา หมองในคณุ พระรตั นตรยั เมอื่ นนั้ ๕. เปน ผเู ชอ่ื กรรม เชอ่ื ผลของกรรม เชน เชอื่ วา ทำชวั่ ไดช วั่ ทำดไี ดด ี เปน ตน ตลอดจนความเชอ่ื ความตรสั รขู องพระสมั มาสมั พทุ ธเจา เปน ทส่ี ดุ ไมเ ชอ่ื มงคลตนื่ ขา ว ตอ งเปน ผมู สี มาธเิ สมอ ถา ขาดสมาธเิ มอื่ ไรกข็ าดศรทั ธาความเชอ่ื เมอื่ นนั้ ถา ขาดศรทั ธาความเชอ่ื เมอ่ื ไร กเ็ ศรา หมองในคณุ พระรตั นตรยั เมอ่ื นนั้
1 - 14 ธรรมปฏบิ ัติ ๕ สาย : พทุ โธตอ งไหวพ ระ นง่ั สมาธทิ กุ วนั ทา นสอนใหป ฏบิ ตั ใิ จของตนเอง เพราะคณุ พระพทุ ธเจา พระธรรม พระสงฆ ทง้ั ๓ น้ีสำเรจ็ ดว ยใจ ลว นเปน คณุ สมบตั ขิ องใจทง้ั นนั้ ทา นจงึ สอนใหป ฏบิ ตั ใิ จของตนใหเ ปน คนหมน่ั คนขยนั ไหวพ ระทกุ วนั นง่ั สมาธทิ กุ วนั “ปฐมํ ยามํ จงกฺ มาย นสิ ชชฺ ํ อาวรณเิ ยหิ ธมเฺ มหิ จติ ตฺ ํ ปรโิ สเธต”ิ เวลากอ นเขา นอนตอนหวั ค่ำใหเ ดนิ จงกรมแลว ทำพธิ ี ไหวพ ระเจรญิ พรหมวหิ าร นง่ั สมาธภิ าวนาทำใหจ ติ สงบและตงั้ มน่ั เปน สมาธกิ อ นเขา นอน “อฑฒฺ รตตฺ ํ จงกฺ มาย นสิ ชชฺ ํ อาวรณเิ ยหิ ธมเฺ มหิ จติ ตฺ ํ ปรโิ สเธต”ิ เวลาเทย่ี งคนื นอนตนื่ ขน้ึ เปน เวลาทส่ี งบสงดั ดี ใหเ ดนิ จงกรม ทำพธิ ไี หวพ ระ เจรญิ พรหมวหิ าร นงั่ สมาธภิ าวนา ทำจติ ใหส งบ และตงั้ มน่ั เปน สมาธแิ นว แน จงึ นอนตอ ไปอกี “ปจฉฺ มิ ํ ยามํ จงกฺ มาย นสิ ชชฺ ํ อาวรณเิ ยหิ ธมเฺ มหิ จติ ตฺ ํ ปรโิ สเธต”ิ เวลาปจ จบุ นั สมยั จวนใกลร งุ ใหล กุ ขนึ้ แตเ ชา ลา งหนา เชด็ หนา เรยี บรอ ย แลว ทำพิธีไหวพระเจริญพรหมวิหาร น่ังสมาธิ ภาวนาทำจิตใหสงบและตั้งม่ันเปนสมาธิแนวแนแลว เดนิ จงกรมตอ ไปอกี จนแจง เปน วนั ใหม จงึ ประกอบการงานตอ ไป ฯแผเ มตตาตน ขอเราจงเปน ผมู คี วามสขุ ๆ เถดิ ขอเราจงเปน ผปู ราศจากทกุ ขท ง้ั ปวงเถดิ อหํ สขุ โิ ต โหมิ ขอเราจงเปน ผปู ราศจากเวรทง้ั ปวงเถดิ นทิ ทฺ กุ โฺ ข โหมิ ขอเราจงเปน ผปู ราศจากความเบยี ดเบยี นทงั้ ปวงเถดิ อเวโร โหมิ ขอเราจงปราศจากความลำบากยากเขญ็ ทงั้ ปวงเถดิ อพยฺ าปชโฺ ฌ โหมิ ขอเราจงเปน ผมู คี วามสขุ ตลอดทกุ เมอ่ื เถดิ อนโี ฆ โหมิ สขุ ี อตตฺ านํ ปรหิ รามิ
1 - 15 ธรรมปฏิบตั ิ ๕ สาย : พทุ โธ เจรญิ เมตตาผอู นื่สพเฺ พ สตตฺ า สตั วท ง้ั หลายทเ่ี ปน เพอื่ นทกุ ข เกดิ แกเ จบ็ ตาย ดว ยกนั ทงั้ หมดทง้ั สนิ้สขุ ติ า โหนตฺ ุ จงเปน สขุ ๆ เถดิสพเฺ พ สตตฺ า สตั วท งั้ หลายทเี่ ปน เพอื่ นทกุ ข เกดิ แกเ จบ็ ตาย ดว ยกนั ทงั้ หมดทง้ั สนิ้อเวรา โหนตฺ ุ จงอยา ไดเ ปน ผมู เี วรแกก นั และกนั เลยสพเฺ พ สตตฺ า สตั วท ง้ั หลายทเ่ี ปน เพอื่ นทกุ ข เกดิ แกเ จบ็ ตาย ดว ยกนั ทงั้ หมดทง้ั สนิ้อพยฺ าปชฌฺ า โหนตฺ ุ จงอยา ไดเ ปน ผเู บยี ดเบยี นแกก นั และกนั เลยสพเฺ พ สตตฺ า สตั วท งั้ หลายทเี่ ปน เพอ่ื นทกุ ข เกดิ แกเ จบ็ ตาย ดว ยกนั ทง้ั หมดทง้ั สนิ้อนฆี า โหนตฺ ุ จงอยา มคี วามลำบากยากแคน ทงั้ ปวงเถดิสพเฺ พ สตตฺ า สตั วท งั้ หลายทเี่ ปน เพอ่ื นทกุ ข เกดิ แกเ จบ็ ตาย ดว ยกนั ทง้ั หมดทงั้ สนิ้สขุ ี อตตฺ านํ ปรหิ รนตฺ ุ จงเปน ผมู คี วามสขุ ตลอดทกุ เมอื่ เถดิ เจรญิ กรณุ าสพเฺ พ สตตฺ า สตั วท งั้ หลายทเ่ี ปน เพอ่ื นทกุ ข เกดิ แกเ จบ็ ตาย ดว ยกนั ทง้ั หมดทงั้ สนิ้สพพฺ ทกุ ขา ปมุ จฺ นตฺ ุ จงเปน ผพู น จากทกุ ขท ง้ั ปวงเถดิ เจรญิ มทุ ติ าสพเฺ พ สตตฺ า สตั วท งั้ หลายทเ่ี ปน เพอื่ นทกุ ข เกดิ แกเ จบ็ ตาย ดว ยกนั ทง้ั หมดทงั้ สนิ้ลทธฺ สมปฺ ตตฺ โิ ต มา วคิ จฉฺ นตฺ ุ จงอยา ไดป ราศจากสมบตั อิ นั ตนไดเ กดิ แลว เถดิ เจรญิ อเุ บกขาสพเฺ พ สตตฺ า สตั วท งั้ หลายทเ่ี ปน เพอื่ นทกุ ข เกดิ แกเ จบ็ ตาย ดว ยกนั ทงั้ หมดทง้ั สนิ้กมมฺ สสฺ กา เปน ผมู กี รรมเปน ของตนกมมฺ ทายาทา มกี รรมเปน ผใู หผ ลกมมฺ โยนี มกี รรมเปน แดนเกดิกมมฺ พนธฺ ู มกี รรมเปน ผตู ดิ ตามกมมฺ ปฏสิ รณา มกี รรมเปน ทพ่ี งึ่ อาศยัยํ กมมฺ ํ กรสิ สฺ นตฺ ิ จกั ทำกรรมอันใดไวกลยฺ าณํ วา ปาปกํ วา จกั ทำกรรมทเี่ ปน บญุ หรอื เปน บาปตสสฺ ทายาทา ภวสิ สฺ นตฺ ิ เราจกั เปน ผรู บั ผลของกรรมนน้ั ๆ
1 - 16 ธรรมปฏิบตั ิ ๕ สาย : พุทโธวธิ บี ชู าดอกไมธ ปู เทยี น ยมหํ สมมฺ าสมพฺ ทุ ธํ ภควนตฺ ํ สรณํ คโต (ผหู ญงิ ใหเ ปลยี่ น คโต เปน คตา) พระผมู พี ระภาคเจา พระองคเ ปน ผตู รสั รแู ลว เองโดยชอบพระองคใ ด ขา พเจา ถงึ แลววา เปน ทพ่ี งึ่ กำจดั ภยั ไดจ รงิ อมิ นิ า สกกฺ าเรน ตํ ภควนตฺ ํ อภปิ ชู ยามิ ฯ ขา พเจา บชู าพระผมู พี ระภาคเจา พระองคน นั้ ดว ยเครอ่ื งสกั การะอนั นี้ (กราบลงครง้ั หนงึ่ ) ยมหํ สวฺ ากขฺ าตํ ภควตา ธมมฺ ํ สรณํ คโต (ผหู ญงิ ใหเ ปลยี่ น คโต เปน คตา) พระธรรมที่พระผูมีพระภาคเจาตรัสเทศนาไวดีแลวเหลาใด ขาพเจาถึงแลววาเปนทพี่ ง่ึ กำจดั ภยั ไดจ รงิ อมิ นิ า สกกฺ าเรน ตํ ธมมฺ ํ อภปิ ชู ยามิ ฯ ขา พเจา บชู าพระธรรมเหลา นน้ั ดว ยเครอื่ งสกั การะอนั น้ี (กราบลงครง้ั หนง่ึ ) ยมหํ สปุ ฏปิ นนฺ ํ สงฆฺ ํ สรณํ คโต (ผหู ญงิ ใหเ ปลยี่ น คโต เปน คตา) พระสงฆส าวกของพระผมู พี ระภาคเจา เปน ผปู ฏบิ ตั ดิ แี ลว หมใู ด ขา พเจา ถงึ แลว วาเปน ทพี่ ง่ึ กำจดั ภยั ไดจ รงิ อมิ นิ า สกกฺ าเรน ตํ ภควนตฺ ํ อภปิ ชู ยามิ ฯ ขา พเจา บชู าพระสงฆห มนู นั้ ดว ยเครอื่ งสกั การะอนั น้ี (กราบลงครงั้ หนงึ่ )
1 - 17 ธรรมปฏิบตั ิ ๕ สาย : พทุ โธ แบบวธิ นี ง่ั สมาธภิ าวนา ภาวนา เปน ชอ่ื แหง ความเพยี ร ทน่ี กั ปฏบิ ตั ใิ นพระพทุ ธศาสนาไดถ อื เปน ขอ ปฏบิ ตั ดิ ีปฏบิ ตั ชิ อบอยา งยงิ่ ไมม ขี อ ปฏบิ ตั อิ น่ื ดยี ง่ิ ขน้ึ ไปกวา ท่ีมาแหงการภาวนา ภาวนานี้ มมี าใน สมั มปั ปธาน ๔ ประการ คอื ๑. ปหานปธาน เพยี รสละบาปอกศุ ล ใหข าดจากสนั ดาน ๒. สงั วรปธาน เพยี รสำรวมระวงั รกั ษา ไมใ หบ าปเกดิ ขน้ึ ในสนั ดาน ๓. ภาวนาปธาน เพยี รภาวนา ใหบ ญุ กศุ ลเกดิ ขน้ึ ในสนั ดาน ๔. อนรุ กั ขนาปธาน เพยี รรกั ษาบญุ กศุ ลทเ่ี กดิ ขนึ้ แลว ไมใ หเ สอ่ื มสญู อนั ตรธาน ขอ ท่ี ๓ แหง สมั มปั ปธาน ความวา ภาวนาปธาน เพยี รบำเพญ็ บญุ กศุ ลใหเ กดิ ในสนั ดานน้ี เปนขอปฏิบัติดีปฏิบัติชอบในพระพุทธศาสนาอยางดียิ่ง ไมมีขอปฏิบัติอ่ืนดีย่ิงข้ึนไปกวาพทุ ธบรษิ ทั ทงั้ ๔ จะเวน เสยี มไิ ด จำเปน ตอ งบำเพญ็ ภาวนาปธานทกุ คนตลอดไป จงึ เปน ไปเพอื่ พน จากทกุ ขใ นวฏั ฏสงสาร สำเรจ็ พระอมตมหานครนฤพาน หรอื สำเรจ็ มรรคผลธรรมวเิ ศษบรรลจุ ตปุ ฏสิ มั ภทิ าญาณ แตกฉานในหอ งพระไตรปฎ ก ดว ยการบำเพญ็ ภาวนาปธานนท้ี ง้ั นน้ัถาไมไดบำเพ็ญภาวนาปธานนี้แลว ก็ไมเปนไปเพื่อพนจากทุกขในวัฏฏสงสาร คือไมสำเร็จพระนพิ พานเลยเปน อนั ขาด อนง่ึ ภาวนาปธาน น้ี เปน ยอดแหง ขอ ปฏบิ ตั ดิ ปี ฏบิ ตั ชิ อบทง้ั ปวง คอื พทุ ธบรษิ ทัทง้ั ๔ เมอื่ มกี ารบำเพญ็ ทาน และรกั ษาศลี ใหบ รสิ ทุ ธดิ์ แี ลว จำเปน ตอ งมกี ารบำเพญ็ ภาวนาหรือเหลาพระภิกษุสามเณร เมื่อไดบรรพชาอุปสมบทในพระพุทธศาสนาแลว ตองบำเพ็ญสมั มปั ปธานทง้ั ๔ ประการมี ภาวนาปธานเปน ยอด คอื บำเพญ็ ศลี สมาธิ ปญ ญา ใหถ งึ พรอ มดว ยความไมป ระมาท คำวา “ภาวนา” แปลวา ทำใหเ กดิ ใหม ี ใหเ ปน คอื ทำกาย วาจา ใจ ใหเ ปน ศลี
1 - 18 ธรรมปฏิบัติ ๕ สาย : พุทโธสมาธิ ปญ ญา หรอื ทำขนั ธสนั ดานของตนทเี่ ปน ปถุ ชุ น ใหเ ปน พระอรยิ บคุ คลในพระพทุ ธศาสนาหรอื มฉิ ะนนั้ กก็ ระทำขนั ธสนั ดานของตน ทเี่ ปน พระโพธสิ ตั วใ หไ ดต รสั รพู ระอนตุ ตรสมั มา-สมั โพธญิ าณ เปน พระสมั มาสมั พทุ ธเจา ขน้ึ ในโลก นบั วา กระทำใหเ ปน ไปในธรรมวนิ ยั ทง้ั ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขนั ธท เี ดยี วประเภทแหง การภาวนา พระอนรุ ทุ ธาจารยเ จา แยกประเภทภาวนาตามลำดบั ชน้ั ไวเ ปน ๒ ประการ ๑. สมถภาวนา ทำใจใหม สี ตสิ มั ปชญั ญะ สงบจากกามารมณ ตงั้ มน่ั เปน สมาธภิ าวนา ๒. วปิ ส สนาภาวนา ทำใจทม่ี สี ตสิ มั ปชญั ญะ และสมาธบิ รบิ รู ณแ ลว ใหเ กดิ มปี ญ ญา ในเบอื้ งตน น้ี จะกลา วสมถภาวนากอ นแลว จงึ จะกลา ววปิ ส สนาภาวนา โดยลำดบัเมอ่ื ภายหลงัสมถภาวนา ๓ อยา ง ในพระคมั ภรี อภธิ มั มตั ถสงั คหะ พระอนรุ ทุ ธาจารยเ จา แยกประเภทแหง สมถภาวนาไวเ ปน ๓ ประการ คอื ๑. บรกิ รรมภาวนา เวลานงั่ สมาธภิ าวนา ใชบ รกิ รรมบทใดบทหนงึ่ ๒. อปุ จารภาวนา จติ ตงั้ มน่ั เปน อปุ จารสมาธิ ๓. อัปปนาภาวนา จติ ตง้ั มน่ั เปน อปั ปนาสมาธิสมถะคอื อะไร ในเรอ่ื ง สมถภาวนาวธิ ี มวี ธิ ปี ฏบิ ตั ลิ ะเอยี ดมาก แตใ นบทเนอ้ื ความยอ น้ี จะกลา วเฉพาะใจความยอ ๆ พอใหท ราบลว งหนา ไวว า สมถะคอื อะไร พระสมถกรรมฐานทงั้ ๔๐ ประการ คอื อบุ ายภาวนาใหจ ติ เปน สมาธิ เมอ่ื กลา วถงึ เรอื่ งทจ่ี ติ เปน สมาธิ ดำเนนิ ถกู ในหนทางอรยิ มรรคอรยิ ผลแลว กเ็ ปน อนัถกู ตอ งแลว ในพระสมถกรรมฐานทงั้ ๔๐ ประการ
1 - 19 ธรรมปฏบิ ัติ ๕ สาย : พทุ โธ อกี ประการหนงึ่ พระสมถกรรมฐานทง้ั ๔๐ ประการเหลา น้ี มอี าจารยบ างจำพวกสอนคณะศษิ ยานศุ ษิ ยข องตน ใหข น้ึ พระสมถกรรมฐานทงั้ ๔๐ ประการ เปน หอ งๆ ไป ครบทงั้ ๔๐ ประการ เปน ๔๐ หอ ง กระทำใหค ณะสานศุ ษิ ยเ ขา ใจผดิ และถอื เปน ถกู คอื ถอื เอาวา พระกรรมฐานทง้ั ๔๐ หอ ง ใครไดข นึ้ หอ งไหนกไ็ ดแ ตห อ งนนั้ ไมไ ดค รบทงั้ ๔๐ หอ ง ถา ตอ งการใหค รบทง้ั ๔๐ หอ ง ตอ งขน้ึ ไปทลี ะหอ งๆ จนครบทง้ั ๔๐ หอ ง จงึจะไดพ ระกรรมฐาน ๔๐ ประการ ดงั นี้ เปน การสอนผดิ และเขา ใจผดิ ถอื ผดิ เปน ถกู จากพระบรมศาสดาจารย เปน อยา งยง่ิ ความจรงิ พระธรรมวนิ ยั ทง้ั ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขนั ธ เปน ธรรมแทง เดยี วกนั สมเด็จพระสัพพัญูบรมครูเจา พระองคทรงเปนพระวิภัชชวาที คือ พระองคทรงจำแนกขนั ธ ๕ คอื กาย กบั ใจ ในตวั ของมนษุ ยค นเดยี วเทา นน้ั เปน ทงั้ พระธรรมทงั้ พระวนิ ยัครบจำนวน ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขนั ธ รวมกนั เขา กเ็ ปน ธรรมแทง เดยี วกนั เม่ือพระธรรมวินัย เปนธรรมแทงเดียวกันอยูแลว อาจารยบางจำพวกมาสอนใหแตกตา งออกไปเปน หอ งๆ ไมส อนใหร วมเปน แทง เดยี วกนั ชอื่ วา สอนผดิ จากพระบรมศาสดา-จารยเ ปน อยา งยง่ิ อีกประการหนึ่ง นักปฏิบัติใหมท้ังหลายยังไมรูช้ันภูมิแหงจิต ตัดสินไมไดวาสมถกรรมฐานเพยี งแคไ หน เมอื่ ไรจะถงึ วปิ ส สนากรรมฐานสกั ที ครนั้ ไดน ง่ั สมาธิ บงั เกดิมีความรูนิดๆ หนอยๆ ก็เขาใจวาตนไดวิปสสนาญาณเสียแลว ก็เปนผูหลงผิดติดอยูในสมถกรรมฐานตลอดไป เนอื่ งดว ยเหตนุ ้ี จงึ จำเปน ตอ งกลา วเนอ้ื ความยอ ของสมถะไวด งั ตอ ไปนี้ สมเดจ็ พระสพั พญั บู รมครเู จา เมอ่ื พระองคท รงตรสั รพู ระอนตุ ตรสมั มาสมั โพธญิ าณเปน พระพทุ ธเจา ขนึ้ ในโลกแลว พระองคย อ มทรงรแู จง วา เวไนยสตั วท ง้ั หลาย ลว นเปนผหู ลงขอ งอยใู นวฏั ฏสงสาร ไมเ หน็ หนทางพระนพิ พาน จงึ เอาตนใหพ น จากทกุ ขไ มไ ด เม่ือพระองคทรงพระมหากรุณาโปรดเวไนยสัตวทั้งหลายใหพนจากทุกขภัยในวฏั ฏสงสาร จงึ จำเปน ตอ งตะลอ มเอาน้ำใจของเวไนยสตั วท งั้ หลาย ใหส งบจากเครอื่ งขอ ง
1 - 20 ธรรมปฏบิ ัติ ๕ สาย : พทุ โธรวมเขา สวู ถิ หี นทางพระนพิ พาน ซง่ึ เปน หนทางเอกในโลก ไมม หี นทางอนื่ ยง่ิ ไปกวา และเปนทางอนั เกษมจากโยคะทงั้ ปวง วธิ ที พี่ ระองคท รงตะลอ มเอาจติ ใหส งบจากเครอื่ งขอ ง รวมเขา สวู ถิ หี นทางพระนพิ พานนี้แลเปนวิธีสำคัญ จึงจำเปนตองทรงพระมหากรุณาตรัสเทศนาส่ังสอนใหเจริญพระสมถกรรมฐาน ๔๐ ประการ บทใดบทหน่ึง เฉพาะเปนที่สบายแกจริตหรือนิสัยของตนเทา นนั้ ไมใ ชใ หข น้ึ เปน หอ งๆ ไปจนครบ ๔๐ หอ ง เมอื่ ไดพ ระสมถกรรมฐานเปน ทส่ี บายแกจ รติ ของตนแลว พระองคท รงพระมหากรณุ าตรสั เทศนาโปรดใหน ง่ั สมาธภิ าวนาทเี ดยี ว วธิ นี ง่ั สมาธภิ าวนา มแี จง อยใู นบทนงั่ สมาธขิ า งหนา ขอ ทนี่ กั ปฏบิ ตั ใิ หมท ง้ั หลาย จะพงึ วนิ จิ ฉยั วา พระสมถกรรมฐานเพยี งแคไ หน เมอื่ ไหรจะถงึ วปิ ส สนากรรมฐานสกั ที ขอ นใ้ี หพ งึ วนิ จิ ฉยั ในวธิ นี งั่ สมาธภิ าวนา ซง่ึ กลา วตอ ไปในบทนง่ัสมาธขิ า งหนาธรรมทต่ี อ งเจรญิ อยเู ปน นติ ย นกั ปฏบิ ตั ทิ ง้ั หลายในพระพทุ ธศาสนานี้ พงึ เปน ผมู ศี ลี เปน ทรี่ กั มวี ตั รปฏบิ ตั พิ รอ มบรบิ รู ณ และมธี รรมซง่ึ มอี ปุ การะมาก เปน ทเี่ จรญิ อยู จงึ เปน ผเู จรญิ รงุ เรอื งธรรมมอี ปุ การะมาก มหี ลายประการ แตจ ะกลา วในทนี่ เ้ี ฉพาะ ๓ ประการ คอื๑. อปปฺ มาโท อมตํ ปทํ พงึ เปน ผไู มป ระมาท ซงึ่ เปน บทธรรมอนั ไมต าย๒. สตมิ า ปรมิ ขุ สตึ พงึ เปน ผมู สี ตเิ ฉพาะหนา เสมอ๓. สมปฺ ชาโน พงึ เปน ผมู สี มั ปชญั ญะ รจู ติ เสมอธรรม ๓ ประการเหลา นี้ เปน ธรรมมอี ปุ การะมาก นกั ปฏบิ ตั ยิ อ มเจรญิ อยเู ปน นจิ
1 - 21 ธรรมปฏิบตั ิ ๕ สาย : พทุ โธ การฝก สมาธภิ าวนาปพุ พภาค (เบอื้ งตน ) แหง การปฏบิ ตั ิ นกั ปฏบิ ตั ิ ฝา ยคฤหสั ถ พงึ ประกาศปฏญิ าณตน ถงึ พระไตรสรณคมน เปน อบุ าสกอบุ าสกิ า กอ น แลว สมาทานศลี ๕ หรอื ศลี ๘ ใหบ รสิ ทุ ธิ์ กราบพระหรอื ไหวพ ระเสรจ็ แลวเจรญิ พรหมวหิ าร ๔ จบแลว จงึ นง่ั สมาธภิ าวนาตอ ไป นกั ปฏบิ ตั ฝิ า ยบรรพชติ พงึ ทำการบรรพชาอปุ สมบทใหบ รบิ รู ณ ดว ยสมบตั ิ ๕ ประการคอื วตั ถสุ มบตั ิ ญตั ตสิ มบตั ิ อนสุ าวนาสมบตั ิ สมี าสมบตั ิ ปรสิ สมบตั ิ ชำระศลี ใหบ รสิ ทุ ธิ์ ทำวตั รสวดมนต เจรญิ พรหมวหิ าร ๔ จบแลว จงึ นงั่ สมาธติ อ ไปวธิ นี ง่ั สมาธภิ าวนา พระพุทธพจนในโอวาทปาติโมกข “อธิ อรยิ สาวโก โวสสฺ คคฺ ารมมฺ ณํ กรติ วฺ า ลภติ สมาธึ ลภติ จติ ตฺ สเฺ สกคคฺ ตนตฺ ิ ความวา “พระอริยสาวก ในพระธรรมวินัยน้ี กระทำกรรมฐานคือน่ังสมาธิ ภาวนา มกี ารสละลงเปน อารมณ ยอ มไดส มาธิ ไดค วามทจ่ี ติ มธี รรมชาติ เปน หนง่ึ ” ดงั นี้ วิธีน่ังสมาธิภาวนา ทานสอนใหน่ังขัดสมาธิ เอาขาเบ้ืองขวาวางทับขาเบ้ืองซายมอื เบอ้ื งขวาวางทบั มอื เบอ้ื งซา ย “อชุ ุํ กายํ ปณธิ าย” พงึ ตงั้ กายใหต รง คอื อยา นง่ั ใหก ม นกั เปน คนหนา ควำ่ หนา ต่ำไมด ี และอยา นงั่ เงยหนา นกั เปน คนหนา สงู เกนิ ไป ไมพ อดพี องาม ทง้ั อยา ใหเ อยี งไปขา งซา ย ขา งขวา ขา งหนา ขา งหลงั ตงั้ ตวั ใหเ ทยี่ งตรงจรงิ ๆ อยา กดและอยา ขม อวยั วะรา งกายแหง ใดแหง หนง่ึ ใหล ำบากกายเปลา ๆ พงึ วางกายใหส บายเปน ปกตเิ รยี บรอ ย
1 - 22ธรรมปฏิบตั ิ ๕ สาย : พทุ โธ ขอ ทต่ี งั้ กายใหต รงน้ี พงึ ดรู ปู พระพทุ ธเจา นงั่ สมาธเิ ปน ตวั อยา ง เมอื่ นงั่ ตง้ั ตวั ตรงดแี ลว อชุ ุํ จติ ตฺ ํ ปณธิ าย พงึ ตง้ั จติ ใหต รง คอื ตง้ั สตลิ งตรงหนากำหนดรซู งึ่ จติ เฉพาะหนา ไมส ง จติ ใหฟ งุ ซา นไปเบอ้ื งหนา อนาคตกาล อนั ยงั มาไมถ งึ และไมใ หฟ งุ ซา นไปเบอื้ งหลงั อดตี กาล อนั ลว งไปแลว กเ็ ปน อนั ลว งไปแลว ทง้ั ไมใ หฟ งุ ซา นไปเบอื้ งบน เบอ้ื งลา ง เบอื้ งซา ย เบอื้ งขวา ทงั้ ไมใ หฟ งุ ซา นไปในทางตา ทางหู ทางจมกู ทางลนิ้ ทางกาย ทางใจ ทางใดทางหนงึ่ พงึ เปน ผมู สี ติ กำหนดจติ รวมเขา ตงั้ ไวใ นจติ จนกวา จติ จะเปน เอกคั คตาจติตง้ั สตลิ งตรงหนา (พระอาจารย ผนู ำพงึ อธบิ ายตรงนใี้ หแ จง ) จติ เปน ผรู โู ดยธรรมชาติ เปน แตเ พยี งสกั วา รู คอื รสู กึ รนู กึ รคู ดิ รรู อ น รเู ยน็รไู ดเ หน็ ไดย นิ ไดฟ ง และรดู มกลนิ่ ลม้ิ รส สมั ผสั ถกู ตอ ง สงิ่ สารพดั ทงั้ ปวง แตจ ติ นน้ั ไมร จู กั พนิ จิ พจิ ารณา วนิ จิ ฉยั ตดั สนิ อะไรไมไ ดท ง้ั นนั้ จงึ เปน อนั วา จติ นี้ไมร จู กั ดี ไมร จู กั ชว่ั ไมร จู กั ผดิ ไมร จู กั ถกู สติ เปน ตวั ผรู ู มอี ำนาจอยเู หนอื จติ สามารถรเู ทา ทนั จติ และรเู รอ่ื งของจติ ไดด วี าเวลานจี้ ติ ดี เวลานจ้ี ติ ไมด ี ตลอดมคี วามสามารถทำการปกครองจติ ของเราใหด ไี ดจ รงิ ๆ นกั ปฏบิ ตั ใิ นพระพทุ ธศาสนานี้ พงึ กำหนดเอาตวั ผรู มู อี ำนาจอยเู หนอื จติ นนั้ มาตง้ัลงตรงหนา เปน สติ ทำหนา ทกี่ ำหนดรซู งึ่ จติ และรวมเอาดวงจติ เขา ตง้ั ไวใ นจติ พยายามจนกวา จติ จะรวมเปน หนงึ่ ทา นจงึ จะเปน ผมู สี ตสิ มั ปชญั ญะพรอ มบรบิ รู ณ ในขณะเดยี วกนัรวมจติ เขา ตง้ั ไวใ นจติ สาธุ สพพฺ ตถฺ สวํ โร สพพฺ ทกุ ขฺ า ปมจุ จฺ ต”ิ “มนสา สวํ โร สาธุ สพพฺ ตถฺ สวํ โุ ต ภกิ ขฺ ุ
1 - 23 ธรรมปฏบิ ตั ิ ๕ สาย : พทุ โธ แปลความวา “สำรวมเอาจติ เขา ตงั้ ไวใ นจติ ได เปน การดี และสำรวมระวงั ไมใ ห จติ ฟงุ ซา นไปในทท่ี ง้ั ปวงไดเ ปน การดี ภกิ ษผุ สู ำรวมระวงั รกั ษารอบคอบ ในทที่ ง้ั ปวงแลว ยอ มเปน ผพู น จากทกุ ขท ง้ั ปวง” ดงั น้ี วธิ รี วมจติ พงึ เปน ผมู สี ตติ ง้ั ไวเ ฉพาะหนา กำหนดรซู ง่ึ จติ ซง่ึ เปน ตวั ผรู โู ดยธรรมชาติท่ีรูสึก รูนึก รูคิด อยูเฉพาะหนา และพึงพิจารณาหรือระลึกในใจวาพระพุทธเจาอยูในใจพระธรรมอยใู นใจ พระอรยิ สงฆส าวกอยใู นใจ เมอื่ พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ อยใู นใจของเรานแี้ ลว เราไมต อ งกงั วลวนุ วายอะไร และไมต อ งสง ใจไปสทู อี่ น่ื เราจะตอ งทำความตกลง กำหนดเอาแตใ จของเราดวงเดยี วเทา นใี้ หไ ด เมอื่ ตกลงดงั น้ี พงึ ตงั้ สตลิ งตรงหนา กำหนดเอาตวั ผรู คู อื จติ เฉพาะหนา นกึ คำบรกิ รรมภาวนากรรมฐานบทใดบทหนงึ่ ซงึ่ เปน ทสี่ บายแกจ ติ ของตน บรกิ รรมภาวนาสบื ไปสำรวจแลว นกึ กอ นแตจ ะนกึ คำบรกิ รรมภาวนา พงึ ตรวจดใู หร แู นเ สยี กอ นวา สตไิ ดก ำหนดจติ ถกู แลวหรอื ยงั เมอ่ื รวู า สตไิ ดก ำหนดจติ ถกู แลว แตจ ติ ยงั ไมส งบและยงั ไมร วม พงึ ตรวจดจู ติ ตอ ไป วา จติ ทย่ี งั ไมร วมเปน เพราะเหตใุ ด เพราะเปน เพราะจติ ของเรายงัไมต กลงเชอ่ื มน่ั ตอ คณุ พระรตั นตรยั อยา งนน้ั หรอื หรอื จติ ของเรายงั ฟงุ ซา นไปในอารมณอ ะไร ถา จติ ของเราตกลงเชอ่ื มน่ั ตอ คณุ พระรตั นตรยั วา พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ อยูในใจของเรานจี้ รงิ แลว กเ็ ปน อนั นกึ คำบรกิ รรมภาวนาไดแ ลว แตถ า ยงั ไมต กลง และไมเ ชอ่ื มน่ั ตอ คณุ รตั นตรยั วา มใี นใจของเราจรงิ กน็ กึ คำบรกิ รรมภาวนาไมไ ด ถงึ แมน กึ ไป กไ็ มส งบ และไมร วมเปน หนงึ่ ลงได จำเปน ตอ งพจิ ารณา ใหร ูรอบคอบเสยี กอ นวา จติ ของเราคดิ ไปตามอารมณอ ะไร ในอารมณท จี่ ติ คดิ ไปนน้ั เปน อารมณทนี่ า รกั หรอื เปน อารมณท นี่ า เกลยี ด เมอ่ื ทราบวา จติ ของเราตดิ อยใู นความรกั กด็ ี หรอื ตดิ อยใู นความเกลยี ดกด็ ี พงึ ทราบเถดิ วา จติ ของเราลำเอยี ง จงึ ไมต กลง และไมส งบ
1 - 24 ธรรมปฏบิ ัติ ๕ สาย : พุทโธ เมอ่ื ทราบความจรงิ ดงั นแ้ี ลว พงึ ปฏบิ ตั ดิ ปี ฏบิ ตั ชิ อบดงั ตอ ไปนคี้ อื ตงั้ สตลิ งเปน คนกลาง กำหนดเอาดวงจติ เขา มาตง้ั ไวเ ปน กลาง ทำความรเู ทา สว นทงั้ ๒คอื รเู ทา ทงั้ สว นความรกั ทงั้ สว นความเกลยี ด ตงั้ ตรงแนว แนอ ยทู เี่ ฉพาะหนา เมอื่ มสี ตเิ ปน กลาง จติ กย็ อ มเปน กลาง เมอื่ จติ เปน กลาง และไดท ำความรเู ทา สว นทง้ั ๒ รวมเอาจติ เขา มาตงั้ ไวเ ฉพาะหนา ทงั้ ไดแ ลเหน็ คณุ พระรตั นตรยั แลว จติ นนั้ปราศจากนวิ รณแ ลว วา งจากอารมณด ี นกึ คำบรกิ รรมภาวนา บทใดบทหนง่ึ ซงึ่ เปน ทส่ี บายของตน เปน ตน วา “พทุ โฺ ธ ธมโฺ มสงโฺ ฆๆ” ๓ จบ แลว รวมลงเอาคำเดยี ววา “พทุ โฺ ธๆ” เปน ตน เปน อารมณ นกึ อยแู ตใ นใจไมอ อกปากคอื ไมใ หม เี สยี ง มสี ตจิ ดจอ ตอ จติ จรงิ ๆ จนจติ ของเราตกลงสภู วงั คเ อง ใหห ยดุ คำบรกิ รรมนน้ั เสยี แลว มสี ตติ ามกำหนดเอาจติ ในภวงั คใ หต ง้ั มนั่ เปน สมาธติ อ ไปภวงั ค ในเบอื้ งตน นี้ จะกลา วเรอื่ ง ภวงั ค ใหท ราบกอ น แลว จงึ จะกลา วเรอื่ ง วธิ กี ำหนดรูซง่ึ จติ ตกลงสภู วงั คเ อง ใหท ราบเมอ่ื ภายหลงั คำวา “ภวงั ค” แปลวา จติ ดวงเดมิ คอื จติ เมอ่ื แรกเขา สปู ฏสิ นธใิ นครรภข องมารดาแลว จติ ตง้ั ภวงั ค ขนึ้ เปน ตวั ภพ เหตนุ น้ั จติ ทตี่ กลงสภู วงั คแ ลว จงึ เรยี กวา จติ ดวงเดมิ อนงึ่ หนา ทขี่ องจติ ในเวลาอยใู นภวงั คน ี้ จติ มหี นา ทท่ี ำการสรา งภพ คอื สบื ตอ อายุใหเจริญรุงเรือง ไมทำการรับรูรับเห็นในทางตา ทางหู ทางจมูก ทางล้ิน หรือทางกายภายนอก มนษุ ยท กุ คน เมอื่ เขา สปู ฏสิ นธใิ นครรภข องมารดา จติ ตง้ั ภวงั คข น้ึ เปน ตวั ภพแลว จงึไดป ระสตู เิ ปน ชาตมิ นษุ ยม า ในทนี่ ี้ ประสงคจ ะแสดงชอ่ื ของภวงั ค ใหผ ปู ฏบิ ตั ไิ ดท ราบไวท งั้ ๔ ชอ่ื ในลำดบั แหงขณะจติ ขอ ๑-๒-๓ กบั ขอ ท่ี ๑๐ แหง ขณะจติ ๑๗ ขณะ ดงั ตอ ไปน้ี
1 - 25 ธรรมปฏบิ ัติ ๕ สาย : พทุ โธ ๑. อตตี ภวงั คะ จติ อยใู นภวงั ค ปลอ ยอารมณล ว งไปเปลา ๆ ตง้ั แต ๑ ขณะ ถงึ ๑๕ ขณะจติ ๒. ภวงั คจลนะ จติ เคลอ่ื นไหวตวั จะออกจากภวงั ค ๓. ภวงั คปุ จ เฉท จติ ขาดจากความไหวๆ ตวั ๔. ปญ จทวาราวชั ชนะ จติ ตกสทู วารทงั้ ๕ ๕. สนั ตรี ณะ จติ ใครค รวญในอารมณ ๖. สมั ปฏจิ ฉนั นะ จติ นอ มรบั อารมณ ๗. โวฏฐพั พนะ จติ ทต่ี กลงจะถอื เอาอารมณ ๘. กามาพจรชวนะ จติ กามาพจร แลน เนอ่ื งๆ กนั ไป ๗ ขณะจติ ๙. ตทาลมั พนะ จติ รบั เอาอารมณไ ดส ำเรจ็ ความปรารถนา ๑๐. ภวงั คปาทะ จติ ตกลงสภู วงั คเ ดมิ อกี เรอื่ ง ภวงั คจ ติ กบั เรอื่ ง ขณะจติ ทกี่ ลา วมาน้ี เปน จติ ของสามญั มนษุ ยท ว่ั ไปในโลกทย่ี งั ไมไ ดป ระพฤตปิ ฏบิ ตั พิ ระพทุ ธศาสนาเลย กเ็ ปน อยอู ยา งนนั้ อนง่ึ เรอื่ งจติ ทอ่ี อกจากภวงั คแ ละตกเขา สภู วงั ค ดังขอ ทกี่ ลา วแลว ในขณะจติ ๑๗ขณะนน้ั เปน เรอื่ งที่ จติ ออกเรว็ เขา เรว็ มากทส่ี ดุ และออกอยทู กุ เวลาเขา อยทู กุ เวลาท่ีกะพรบิ ตา จนสามญั มนษุ ยท งั้ หลายไมส ามารถตามรทู นั ได แมน ยั นต าเมอ่ื ดสู งิ่ ของอนั หนง่ึ ๆ อยแู ลว จะสา ยสายตาไปดสู ง่ิ อนื่ อกี จติ กต็ กเขา สูภวงั คก อ นแลว ออกจากภวงั ค จงึ ดสู งิ่ อน่ื ตอ ไปได เปน การรวดเรว็ จนเราไมร สู กึ วา ออกเมอื่ ไร เขา เมอื่ ไร นกั ปฏบิ ตั ใิ นพระพทุ ธศาสนานี้ มปี ระสงคจ ะทำจติ ใหเ ปน สมาธิ มปี ญ ญาปรชี าญาณรแู จง แทงตลอดในพระธรรมวนิ ยั จงึ จำเปน ตอ งกำหนดใหร จู ติ ทต่ี กลงสภู วงั คเ อง วิธีกำหนดใหรูจิตท่ีตกลงสูภวังค พึงมี “สติ” กำหนดใหรู จิต ในเวลาที่กำลังนึกคำบรกิ รรมภาวนาอยนู นั้ ครน้ั เมอื่ เรามี สติ กำหนดจอ ตอ คำบรกิ รรมจรงิ ๆ จติ ของเรากย็ อ มจดจอ ตอ คำบรกิ รรมดว ยกนั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 642
Pages: