พระสุตตันตปฎก องั คุตรนิกาย จตุกนิบาต เลม ๒ - หนา ที่ 101ดวยอริยวงศ เกี่ยวดว ยปณ ฑบาตสนั โดษ. บทเปนตน วา วณณฺ วาที ดังน้ีพึงทราบโดยนยั ทก่ี ลาวแลว . ในบทวา เสนาสเนน น้ี พงึ รูจกั เสนาสนะ พึงรจู กั เขตเสนาสนะพึงรจู ักสันโดษดว ยเสนาสนะ พึงรูจักธดุ งคทเ่ี กยี่ วดวยเสนาสนะ. ในขอเหลานั้น ขอ วา เสนาสนะ ไดแ ก เสนาสนะ ๑๕ เหลา นี้ คือ ๑. เตียง ๒. ตัง่ ๓. ฟกู ๔. หมอน ๕. วิหาร ๖. เรือนมงุ ดานเดียว ๗. ปราสาท ๘. ปราสาทโลน ๙. ถาํ้ ๑๐. ที่เรน ๑๑. ปอม ๑๒. เรอื นโถง ๑๓. พุมไผ ๑๔. โคนตน ไม ๑๕. หรอื ที่ ๆ พวกภกิ ษหุ ลีกออกไป. ขอวา เขตแหง เสนาสนะ ไดแก เขต ๖ คอื โดยสงฆบ าง คณะบา ง ญาติบา ง มติ รบาง ทรัพยของตนบาง ผา บังสุกลุ บาง. ขอวา เสนาสนสันโดษ ไดแ ก สนั โดษในเสนาสนะ ๑๕ มวี ิตกั ก-สันโดษเปน ตน. สนั โดษเหลาน้นั พึงทราบโดยนยั ทีก่ ลาวแลว ในบิณฑบาต.
พระสตุ ตนั ตปฎก องั คตุ รนกิ าย จตุกนิบาต เลม ๒ - หนาท่ี 102สวนธุดงค ๕ ท่ีเก่ียวดว ยเสนาสนะ คอื อารัญญกิ งั คะ รกุ ขมลู ิกงั คะอพั โภกาสิกงั คะ โสสานิกังคะ ยถาสันถตกิ ังคะ. เรอื่ งพสิ ดารของธดุ งคเหลาน้ัน กลา วไวแลวในคมั ภรี ว สิ ทุ ธมิ รรค. ภกิ ษผุ บู ําเพ็ญมหาอริยวงศเ กี่ยวดว ยเสนาสนะสนั โดษ ยอ มรกั ษาธดุ งค ๕ เหลา นน้ั ไวไ ด เมือ่ รกั ษาธุดงคเหลานี้ยอมช่ือวา เปน ผสู ันโดษดว ยมหาอรยิ วงศเ กย่ี วดวยเสนาสนะสนั โดษสวนคลิ านปจ จยั ก็อยใู นบณิ ฑบาตนน่ั เอง. ภกิ ษพุ ึงยนิ ดใี นคิลานปจ จัยนั้นดวยยถาลาภสนั โดษ ยถาพลสันโดษ ยถาสารปุ ปสนั โดษเทา นนั้ . เนสัชชิ-กังคะ ยอมจัดเขาอรยิ วงศข อยนิ ดใี นภาวนา ดว ยประการฉะน.้ี สมดงั คําท่ีทา นกลาววา ปฺจ เสนาสเน วุตตฺ า ปจฺ อาหารนิสสฺ ติ า เอโก วริ ยิ สฺุตฺโต เทวฺ จ จวี รนิสฺสติ า ธดุ งค ๕ อยา ง ทา นกลา วไวใ น เสนาสนะ ๕ อยาง อาศยั อาหาร อยา งหนึง่ ประกอบดว ยความเพียร และ ๒ อยาง อาศัยจีวร ดังน้ี. พระผูม ีพระภาคเจา ตรสั อริยวงศคือจีวรสันโดษเปนขอแรก เหมือนทรงปลู าดแผน ดิน เหมอื นทรงทําทองทะเลใหเตม็ และเหมือนทรงขยายอากาศใหกวา งออกแลว จึงตรัสปณ ฑปาตสันโดษเปน ขอ ทีส่ อง เหมือนทรงใหพ ระจนั ทรอุทัยขึ้น และเหมอื นทรงทาํ พระอาทิตยใหโ ลดข้ึน ตรสั อรยิ วงศค อื เสนาสนะ-สนั โดษเปนขอ ทสี่ าม เหมือนทรงยกภเู ขาสิเนรุ บดั นี้ เพื่อตรสั อรยิ วงศคอื ยินดีในภาวนาเปน ขอที่สี่ ที่ประดบั ดว ยนยั พันหนง่ึ ทรงเรมิ่ เทศนาวา ปุนจ ปร ภกิ ขฺ เว ภกิ ฺขุ ภาวนาราโม โหติ เปน ตน . ในบทวา ภาวนาราโมน้นั ความยนิ ดี ชอื่ วา อารามะ อธิบายวาความยินดยี ิ่ง. ชือ่ วา ภาวนารามะ เพราะภิกษุน้ัน ยินดีในภาวนาการเจริญ
พระสุตตนั ตปฎก อังคตุ รนกิ าย จตกุ นบิ าต เลม ๒ - หนาท่ี 103ชอ่ื วาภาวนารตะ เพราะยินดีแลว ในภาวนา. ชอ่ื วาปหานารามะ เพราะยินดใี นปหานะการละ ๕ อยาง อีกอยา งหน่ึง ชื่อวา ภาวนารามะ เพราะเจรญิ อยจู ึงยนิ ดีชื่อวา ปหานารามะ เพราะละอยจู ึงยนิ ดี. ในภาวนาและปหานะนี้ พงึ ทราบความอยางนี.้ จริงอยู ภกิ ษุนเี้ จรญิ สตปิ ฏฐาน ๔ อยยู อ มยินดี อธบิ ายวา ยอ มไดความยินดี. เจริญสัมมปั ปธาน ๔ อยกู ็เหมือนกนั เม่ือเจรญิ อทิ ธิบาท ๔อินทรยี ๕ พละ ๕ โพชฌงค ๗ อนปุ ส สนา ๗ มหาวปิ สสนา ๑๘ โพธ-ิปก ขิยธรรม ๓๗ เจรญิ การแจกอารมณ ๓๘ อยูยอมยนิ ดี ยอ มไดความยนิ ด.ีอนงึ่ ละกิเลสมีกามฉันทะเปน ตนอยู ก็ยินดไี ดค วามยินด.ี สว นในอริยวงศ๔ เหลา นี้ วนิ ยั ปฎกทั้งสิน้ เปน อนั ตรัสดว ยธดุ งค ๑๓ และความสันโดษดวยปจจัย ๔ ดว ยอรยิ วงศสามขอ แรกกอ น. สองปฎกที่เหลือ ตรสั ดวยอริยวงศขอยนิ ดใี นภาวนา. ก็ภิกษุเมือ่ กลา วอรยิ วงศข อยินดีในภาวนานี้ พงึ กลาวโดยเนกขมั มบาลใี นปฏิสัมภิทามรรค พงึ กลา วโดยปริยายแหงทสตุ ตรสตู รในทฆี นิกาย พงึ กลาวโดยปรยิ ายแหงสตปิ ฏฐานสูตรในมัชฌมิ นิกาย พึงกลา วโดยปรยิ ายแหง นทิ เทสในอภธิ รรม. บรรดาคาํ เหลา น้ัน คําวา ปฏิสมฺภิทามคเฺ ค เนกฺขมฺมปาลยิ าไดแก พึงกลา วตามเนกขมั มบาลใี นปฏสิ ัมภทิ ามรรคอยางน้ีวา เธอเมือ่ เจรญิเนกขัมมะ กย็ ินดี ละกามฉันทะ กย็ นิ ดี เมือ่ เจรญิ อพั ยาบาท ก็ยนิ ดี ละพยาบาทก็ยินดี เม่ือเจริญอาโลกสัญญา ก็ยนิ ดี ละถีนมทิ ธะ กย็ นิ ดี เมือ่ เจริญอวิกเขปะความไมฟ งุ ซา น กย็ นิ ดี ละอทุ ธัจจะ ก็ยนิ ดี เม่ือเจริญธัมมวิวัฏฐานะการกาํ หนดธรรม กย็ ินดี ละ วิจิกิจฉา กย็ นิ ดี เมื่อเจริญญาณ กย็ ินดี ละอวิชชา กย็ ินดีเมอ่ื เจริญปราโมทย กย็ นิ ดี ละอรตคิ วามรษิ ยา กย็ ินดี เมอ่ื เจรญิ ปฐมฌานก็ยนิ ดี ละนิวรณ ๕ ก็ยนิ ดี เมอื่ เจริญทตุ ยิ ฌาน กย็ นิ ดี ละวติ กวจิ าร กย็ นิ ดีเมอื่ เจริญตตยิ ฌานก็ยนิ ดี ละปติ ก็ยนิ ดี เมื่อเจริญจตตุ ถฌานก็ยนิ ดี ละสุข
พระสุตตันตปฎ ก อังคุตรนกิ าย จตกุ นิบาต เลม ๒ - หนาที่ 104ทุกข ก็ยินดี เมอ่ื เจรญิ อากาสานัญจายตนสมาบตั กิ ็ยินดี ละรูปสัญญา ปฏิฆ-สญั ญา นานตั ตสัญญา กย็ ินดี เมือ่ เจรญิ วญิ ญาณัญจายตนสมาบตั ิ ฯลฯเนวสัญญานาสัญญายตนสมาบัติ ก็ยินดี ละอากญิ จัญญายตนสัญญากย็ นิ ดี. เมือ่ เจริญอนิจจานุปส สนา กย็ ินดี ละนิจจสัญญากย็ ินดี เมอื่ เจริญทกุ ขานปุ สสนา กย็ นิ ดี ละสุขสญั ญากย็ นิ ดี เมื่อเจริญอนตั ตานุปส สนา ก็ยินดีละอัตตสญั ญาก็ยินดี เม่อื เจรญิ นพิ พทิ านุปสสนา ก็ยินดี ละนนั ทิกย็ นิ ดีเมื่อเจริญวริ าคานปุ สสนา กย็ ินดี ละราคะก็ยินดี เมือ่ เจรญิ นิโรธานุปสสนาก็ยินดี ละสมทุ ัยกย็ นิ ดี เมื่อเจรญิ ปฏนิ สิ สคั คานุปส สนา กย็ ินดี ละอาทานะกย็ นิ ดี เมือ่ เจรญิ ขยานปุ สสนา กย็ นิ ดี ละฆนสญั ญากย็ นิ ดี เมื่อเจริญวยา-นปุ สสนา กย็ นิ ดี ละอายุหนะเห็นวา เจริญขึน้ กย็ นิ ดี เมื่อเจรญิ วิปริณามา-นุปสสนา ก็ยินดี ละธวุ สัญญาก็ยินดี เมือ่ เจรญิ อนิมติ ตานปุ สสนา กย็ ินดีละนมิ ติ ก็ยินดี เมื่อเจรญิ อปั ปณิหติ านปุ สสนา กย็ ินดี ละปณธิ ิก็ยินดี เมอื่ เจริญสุญญตานปุ สสนา กย็ ินดี ละอภนิ ิเวสกย็ ินดี เม่ือเจรญิ อธปิ ญ ญาธรรมวปิ ส สนาก็ยินดี ละสาราทานาภินิเวสกย็ นิ ดี เม่ือเจริญยถาภูตญาณทสั สนะ ก็ยินดีละสมั โมหาภินเิ วสก็ยนิ ดี เมอ่ื เจริญอาทีนวานปุ ส สนา กย็ ินดี ละอาลยาภนิ เิ วสกย็ ินดี เมอ่ื เจรญิ ปฏิสงั ขานุปส สนา กย็ นิ ดี ละอัปปฎสิ งั ขะกย็ ินดี เมื่อเจรญิววิ ัฎฎานปุ ส สนา กย็ ินดี ละสังโยคาภนิ เิ วสกย็ นิ ดี เม่ือเจรญิ โสดาปต ติมรรคกย็ นิ ดี ละกิเลสทต่ี ้ังอยแู หง เดียวอนั มรรคเหน็ แลวกย็ ินดี เมือ่ เจริญสกทาคามมิ รรค ก็ยนิ ดี ละกิเลสอยา งหยาบกย็ ินดี เมอื่ เจรญิ อนาคามมิ รรค ก็ยินดีละกเิ ลสที่รวมดวยอนสุ ัยก็ยนิ ดี เม่ือเจรญิ อรหัตมรรค ก็ยินดี ละสรรพกิเลสกย็ นิ ดี ดงั น.ี้ คําวา ทฆี นิกาเย ทสตุ ตฺ รสตุ ฺตนฺตปริยาเยน ไดแ ก พึงกลาวโดยปรยิ ายแหง ทสุตตรสตู รในทีฆนกิ ายอยา งน้วี า เม่ือเจรญิ ธรรมอยา งหน่ึง
พระสตุ ตันตปฎ ก องั คตุ รนกิ าย จตกุ นบิ าต เลม ๒ - หนาท่ี 105กย็ นิ ดี ละธรรมอยางหนง่ึ กย็ นิ ดี ฯลฯ เมือ่ เจริญธรรม ๑๐ กย็ นิ ดี ละธรรม๑๐ กย็ ินดี เมือ่ เจรญิ ธรรมอยางหน่งึ ก็ยินดเี ปน ไฉน ? คอื กายคตาสติท่ีประกอบดว ยความแชม ชน่ื ช่ือวา เจริญธรรมอยางหน่งึ ก็ยนิ ดี เมอื่ ละธรรมอยางหน่งึ กย็ ินดเี ปนไฉน ? คอื อัสมมิ านะ ชอื่ วา ละธรรมอยา งหนง่ึ นก้ี ็ยนิ ดีเมอ่ื เจริญธรรม ๒ ก็ยนิ ดเี ปนไฉน ? ฯลฯ เม่ือเจรญิ ธรรม ๑๐ ก็ยินดเี ปนไฉนคอื กสณิ ายตนะ ๑๐. ช่ือวาเจริญธรรม ๑๐ เหลานี้ก็ยินด.ี เมื่อละธรรม ๑๐ก็ยนิ ดีเปน ไฉน ? คอื มิจฉัตตะ ๑๐ ชอ่ื วา ละธรรม ๑๐ เหลาน้ีก็ยนิ ดี ภกิ ษุเปนผมู ภี าวนาเปน ทยี่ นิ ดอี ยา งนี้แล. คําวา มชฺฌิมนิกาเย สตปิ ฏานสุตฺตนตฺ ปรยิ าเยน ไดแ กพงึ กลาวโดยปริยายแหงสตปิ ฏ ฐานสตู ร ในมชั ณิมนิกายอยางนว้ี า ดูกอนภิกษุท้ังหลาย หนทางนี้เปนหนทางไปอันเอก ฯลฯ เขาไปตง้ั อยเู ฉพาะหนา แกเ ธอแตเพยี งสกั วาญาณ แตเ พียงสกั วา ความอาศยั ระลึก. เธอยอมมสี นั ดานอันตัณหาและทิฏฐิไมอ าศัยอยู และไมถอื มน่ั อะไร ๆ ในโลก. ดูกอนภกิ ษุทง้ั หลายภิกษุเปน ผูมีภาวนาเปนทีย่ ินดี ยนิ ดีแลวในภาวนาอยา งนแี้ ล. เปนผูมีปหานะเปนที่ยินดี ยินดีแลวในปหานะ. อกี ขอหนึ่ง ภกิ ษเุ มือ่ เดนิ กร็ ูชดั วา เรากาํ ลังเดิน. ฯลฯ อีกขอ หนึ่ง เหมอื นอยางวา ภิกษุพึงเห็นสรรี ะทเ่ี ขาท้งิ ไวแ ลวในปา ชา ฯลฯ เปน ของผุ เปนจณุ . เธอก็นอมเขา มาสูกายนแ้ี ลวา ถึงรางกายนีก้ ม็ ีอยางนเ้ี ปน ธรรมดาเปน อยางนี้ ไมลว งความเปนอยางน้ีไปได.อยา งนี้ ภิกษยุ อ มพิจารณาเห็นกายในกายเปนภายในบาง ฯลฯ ดกู อ นภกิ ษุทง้ั หลาย ภิกษเุ ปน ผูมภี าวนาเปน ท่ยี ินดีอยา งนแ้ี ล. คําวา อภธิ มเฺ ม นิทฺเทสปริยาเยน บณั ฑติ พึงกลาวโดยปรยิ ายแหง นทิ เทสอยางนวี้ า เธอเมอ่ื เหน็ สงั ขตธรรมแมท้งั ปวง โดยความเปน ของ
พระสุตตนั ตปฎก องั คุตรนกิ าย จตุกนิบาต เลม ๒ - หนา ที่ 106ไมเ ที่ยง เปนทกุ ข เปน โรค เปน ผี โดยความเปน สังกเิ ลส เศราหมองยอ มยนิ ด.ี ภิกษุเปน ผูมภี าวนาเปนทีย่ ินดีอยางนีแ้ ล. บทวา เนวตตฺ านกุ กฺ เสติ ความวา ภิกษุยอ มไมท ําการยกตนอยา งนี้วา เมื่อเราทาํ กรรมในวปิ สสนาวาไมเท่ียง เปน ทกุ ข เปน อนตั ตามาตลอด๖๐ ป ๗๐ ป ถงึ ปจ จบุ นั น้ี ใครเลา จะเปน ผเู สมอเราดังน้ี. บทวา โน ปรวมฺเภติ ความวา ยอ มไมท าํ การขมคนอืน่ อยางนวี้ า แมเ พียงวิปสสนาวาไมเ ท่ียง เปน ทุกขดังนี้ กไ็ มม ี ทําไมพวกเหลา นจ้ี งึ ละเลยกมั มัฏฐานเที่ยวไปดงั นี.้ บททีเ่ หลือมีนัยอนั กลา วแลวท้ังน้ัน. บทวา อิเม โข ภกิ ขฺ เว จตฺตาโร อรยิ ว สา ความวา พระผูม ีพระภาคเจา ทรงยกั เย้อื งพระสูตรวา ดูกอ นภิกษทุ ั้งหลาย อรยิ วงศ ๔ เหลา นี้เปน วงศข องพระอริยะ เปนเช้ือสายของพระอริยะ เปนทางของพระอรยิ ะ เปนหนทางไปของพระอรยิ ะ ดังนี้ บดั น้ี เมื่อทรงแสดงอิสระโดยภกิ ษุผูบําเพญ็มหาอริยวงศ จงึ ตรสั วา อิเมหิ จ ปน ภิกฺขเว เปน ตน . ในบทเหลา น้นับทวา เสฺวว อรตึ สหติ ความวา เธอเทา นั้น ยอมย่าํ ยคี รอบงาํ ความไมยนิ ดี ความไมยินดียิ่ง ความเออื มระอาเสียได. บทวา น ต อรติ สหติความวา ช่อื วา ความไมยินดี ในการเจริญอธิกุศล ในเสนาสนะท่สี งัดนน้ั ใดความไมย นิ ดนี ั้น ยอมไมสามารถจะยํ่ายีครอบงําภกิ ษนุ น้ั ได. บทวา อรตริ -ติสโห ความวา ภิกษุผูมปี ญญายอมยา่ํ ยี สามารถครอบงาํ ความไมย นิ ดีและความยนิ ดใี นกามคณุ ๕. บดั นี้ เมือ่ ทรงถือเอายอดธรรมดว ยคาถาท้งั หลาย จึงตรสั คําวา นารตีเปนตน. ในบทเหลาน้ัน บทวา ธีร คอื ผมู ีความเพียร. บทวา นารตีธรี ส หติ น้เี ปนคํากลาวเหตุแหง บทแรก. เพราะเหตุทค่ี วามไมย ินดี ไมย า่ํ ยีภิกษผุ ูมปี ญ ญา คือ ยอมไมสามารถจะยํา่ ยี คือ ครอบงาํ ภิกษุผูมปี ญญาได
พระสตุ ตันตปฎ ก อังคตุ รนิกาย จตกุ นบิ าต เลม ๒ - หนาท่ี 107ฉะน้ัน ความไมยินดจี ึงหาย่ํายภี ิกษผุ ูมีปญ ญาไดไม. บทวา ธโี ร หิ อรตสึ โหความวา เพราะเหตทุ ่ภี กิ ษเุ ปนผูขม ความไมย นิ ดไี ด ช่อื วา ผูมีปญ ญา เพราะขมความไมยนิ ดีได ฉะนั้น เธอจงึ ขม ความไมยนิ ดีได. บทวา สพพฺ กมมฺ -วิหายิน ความวา ภิกษุผสู ละกรรมเปน ไปในภูมสิ ามท้งั ปวงแลว คือ ตัดขาดทางรอบดา นแลว . บทวา ปนุณณฺ โก นวิ ารเย ความวา ราคะกด็ ีโทสะกด็ ี อะไรเลาจะมาขดั ขวางผบู รรเทากิเลสทงั้ หลายไดแ ลว . บทวา เนกฺขชมโฺ พนทสฺเสว โก น นินฺทิตุมรหติ ความวา ใครเลาจะติบุคคลนนั้ผหู ลดุ พน จากโทษทจ่ี ะพงึ ติ ดุจแทงทองคาํ ธรรมชาติทเ่ี รียกวา ชมพูนุท.บทวา พฺรหฺมนุ าป ปส สิโต ความวา ถงึ พรหมก็สรรเสรญิ บุคคลนั้น.เวลาจบเทศนา ภกิ ษสุ หี่ มื่นรปู ก็ดํารงอยใู นพระอรหตั . จบอรรถกถาอรยิ วังสสตู รที่ ๘ ๙. ธัมมปทสูตร วา ดว ยธรรมบทท่บี ณั ฑิตสรรเสริญ ๔ [๒๙] ดูกอ นภกิ ษุทงั้ หลาย ธรรมบท (ขอธรรม) ๔ ขอ นีป้ รากฏวาเปน ขอ ธรรมอนั เลิศ ยัง่ ยืนเปน แบบแผนมาแตเกากอ น ไมถ ูกทอดทงิ้ แลวไมเคยถูกทอดทิ้งเลย (ในอดตี กาล) ไมถ ูกทอดทิง้ อยู (ในปจจบุ ันกาล)จักไมถูกทอดท้ิง (ในอนาคตกาล) สมณพราหมณท งั้ หลายที่เปนผูรูไ มค ัดคานแลว ธรรมบท ๔ ขอ คอื อะไรบา ง คอื อนภิชฌา อพยาบาท สัมมาสติสมั มาสมาธิ นีแ้ ลธรรมบท ๔ ขอ ที่ปรากฏวาเปน ขอ ธรรมอนั เลิศ ฯลฯสมณพราหมณทั้งหลายท่เี ปนผูรไู มค ดั คา นแลว.
พระสตุ ตันตปฎ ก อังคุตรนิกาย จตกุ นบิ าต เลม ๒ - หนาท่ี 108 พึงเปนผไู มมอี ภชิ ฌา มีใจไมพ ยา บาท มีสติ มีจิตแนว แน มั่นอยใู นภายใน. จบธมั มปทสตู รที่ ๙ อรรถกถาธัมมปทสตู ร พงึ ทราบวินิจฉัยในธรรมปทสูตรท่ี ๙ ดงั ตอ ไปนี้ :- บทวา ธมมฺ ปทานิ คอื สวนแหงธรรม. ในบทวา อนภชิ ฺฌาเปนตน พงึ ทราบอนภิชฌา โดยเปน ขาศึกของอภิชฌา. อัพยาบาทโดยเปนขาศกึ ของพยาบาท สมั มาสติโดยเปนขา ศกึ ของมจิ ฉาสติ พึงทราบสมั มาสมาธิโดยเปน ขา ศึกของมจิ ฉาสมาธ.ิ บทวา อนภิชฺฌาลุ คือไมมีตัณหา. บทวา อพยฺ าปนฺเนน เจตสาความวา มจี ิตไมล ะปกติภาพตลอดกาลทงั้ ปวง. บทวา สโต เอกคฺคจติ ตฺ สสฺความวา ผูประกอบดวยสตมิ จี ิตแนว แนในอารมณเ ดียว. บทวา อชฺฌตตฺ สสุ มาหิโต ความวา ผูมจี ิตต้งั มนั่ อยดู ว ยดีในภายในแนน อน. ตรสั วัฏฏะและววิ ัฏฏะไวทั้งในพระสูตร ทงั้ ในคาถา. จบอรรถกถาธมั มปทสตู รท่ี ๙
พระสุตตนั ตปฎ ก อังคตุ รนิกาย จตุกนบิ าต เลม ๒ - หนา ที่ 109 ๑๐. ปรพิ าชกสูตร วาดว ยตรสั ธรรม ๔ แกปริพาชก [๓๐] สมยั หนึ่ง พระผูมีพระภาคเจา ประทบั อยู ณ ภเู ขาคชิ ฌกฎูกรุงราชคฤห สมัยน้นั ปรพิ าชกผูม ชี ือ่ เสยี งปรากฏหลายคนอยูท ีอ่ ารามปรพิ าชกแทบฝงแมน ้าํ สัปปนี คอื ปริพาชกช่ืออันนภาระ ช่ือวธระ ช่อื สกุลทุ ายแิ ละปริพาชกมีช่ือเสียงปรากฏอ่นื อกี ครงั้ นนั้ เวลาเยน็ พระผูม ีพระภาคเจา เสดจ็ออกจากที่เรนแลว เสดจ็ ไปอารามปรพิ าชกน้ัน คร้ันเสด็จถึงแลว ประทบั นง่ั ณอาสนะท่ีเขาจัดไวแ ลว จึงตรัสกะปรพิ าชกทัง้ หลายวา ปริพาชกท้งั หลาย ธรรมบท ๔ ขอ นี้ ปรากฏวาเปนขอธรรมอนั เลิศฯลฯ สมณพราหมณทั้งหลายทีเ่ ปนผรู ไู มค ัดคานแลว ธรรมบท ๔ ขอคอือะไรบาง คอื อนภิชฌา อพยาบาท สัมมาสติ สมั มาสมาธิ นีแ้ ลธรรมบท ๔ ขอ ทีป่ รากฏวาเปน ขอธรรมอันเลิศ ฯลฯ สมณพราหมณทัง้ หลายทเี่ ปน ผูร ูไมค ดั คา นแลว. ปรพิ าชกท้ังหลาย ผใู ดจะพงึ กลาววา ขา พเจาจักเลกิ ถอนธรรมบทคอื อนภิชฌาเสียแลว บัญญัติ (แตงตงั้ ยกยอง) สมณะหรือพราหมณผ ูม ีอภชิ ฌาผกู าํ หนดั กลา ในกามทั้งหลาย (วาเปนคนด)ี ดังนี้ ในชอ่ื น้เี ราจะวากะผูน้ันวา จงมา จงกลา ว จงพดู เถดิ เราจะคอยดูอานุภาพ ปรพิ าชกท้งั หลายขอที่ผูน น้ั นะ จักเลกิ ถอนธรรมบทคอื อนภิชฌาเสียแลว บญั ญัตสิ มณะหรอืพราหมณผมู อี ภิชฌาผูมคี วามกาํ หนดั กลา ในกามท้งั หลาย (วาเปนคนดี นัน่เปน ไปไมได.
พระสุตตนั ตปฎก องั คตุ รนิกาย จตกุ นิบาต เลม ๒ - หนา ที่ 110 ปรพิ าชกท้ังหลาย ผูใ ดจะพึงกลา ววา ขาพเจา จกั เลิกถอนธรรมบทคอื อพยาบาทเสียแลว บญั ญตั ิสมณะหรือพราหมณผ มู จี ิตพยาบาทมีน้ําใจดุราย(วาเปน คนดี) ดงั นี้ ในขอนี้เราจะวา กะผนู นั้ วา จงมา จงกลา ว จงสําแดง เราจะคอยดูอานภุ าพ ปริพาชกท้ังหลาย ขอท่ผี ูนัน้ นะ จกั เลิกถอนธรรมบทคืออพยาบาทเสยี แลว บญั ญตั ิสมณะหรือพราหมณผูมีจติ พยาบาทมนี ํา้ ใจดรุ า ย (วาเปนคนด)ี นน่ั เปน ไปไมได ปรพิ าชกท้งั หลาย ผใู ดจะพงึ กลาววา ขา พเจา จกั เลิกถอนธรรมบทคือสมั มาสตเิ สยี แลว บัญญตั สิ มณะหรอื พราหมณผูหลงลมื สติ ไมม สี ัมปชัญญะ(วา เปน คนด)ี ดงั น้ี ในขอ นีเ้ ราจะวากะผูนัน้ วา จงมา จงกลา ว จงพูดเถดิเราจะคอยดอู านภุ าพ ปริพาชกท้ังหลาย ขอทผ่ี นู น้ั นะ จักเลิกถอนธรรมบทคือสมั มาสติเสียแลว บญั ญัติสมณะหรือพราหมณผหู ลงลืมสตไิ มม สี ัมปชญั ญะ(วา เปนคนด)ี น่ันเปน ไปไมได. ปริพาชกทงั้ หลาย ผใู ดจะพงึ กลา ววา ขาพเจา จักเลกิ ถอนธรรมบทคอื สมั มาสมาธิเสยี แลว บญั ญตั สิ มณะหรอื พราหมณผ ูไมม ีสมาธิ มจี ติ หมุนไปผิด(วาเปนคนด)ี ดงั น้ี ในขอนีเ้ รากะวา กะผูนน้ั วา จงมา จงกลา ว จงพดู เถิดเราจะคอยดูอานุภาพ ปริพาชกท้งั หลาย ขอ ทผ่ี ูน ัน้ นะ จักเลกิ ถอนธรรมบทคือสมั มาสมาธิเสียแลว บัญญตั ิสมณะหรอื พราหมณผูไมมสี มาธิ มีจิตหมนุไปผดิ (วาเปน คนด)ี นน่ั เปน ไปไมได. ปรพิ าชกทง้ั หลาย ผใู ดมาสาํ คัญเหน็ ธรรมบท ๔ ขอ นีว้ า เปนขอควรติควรคดั คาน ผูนนั้ ยอ มไดรบั คําติฉนิ อนั สมแกเ หตุ ตกอยใู นฐานะอันนาติเตยี น ๔ ประการในปจ จุบันนี้ ๔ ประการคอื อะไรบา ง คอื
พระสุตตนั ตปฎก องั คุตรนกิ าย จตกุ นบิ าต เลม ๒ - หนาที่ 111 ถาผูนัน้ ติเตยี นคัดคานธรรมบทคอื อนภชิ ฌาไซร สมณะหรอื พราหมณเหลาใด เปน ผมู อี ภิชฌามีความกาํ หนดั กลาในกามทงั้ หลาย สมณะหรือพราหมณเหลา น้ันกต็ อ งเปน ทบ่ี ูชา... เปนที่ยกยอ งของผูนั้น ถาผูนั้นตเิ ตยี นคัดคา นธรรมบทคืออพยาบาทไซร สมณะหรอื พราหมณเหลา ใด เปนผมู ีจติ พยาบาทมใี จดรุ า ย สมณะหรือพราหมณเหลา นน้ั กต็ องเปนท่บี ชู า . . . เปนทยี่ กยองของผูน ัน้ ถา ผูน ัน้ ตเิ ตียนคดั คา นธรรมบทคอื สมั มาสตไิ ซร สมณะหรือพราหมณเหลา ใดเปน ผหู ลงลมื สติไมมสี มั ปชญั ญะ สมณะหรือพราหมณเหลานั้นกต็ อ งเปน ท่บี ชู า. . . เปน ทีย่ กยองของผนู ้ัน ถาผูนัน้ ติเตยี นคดั คานธรรมบทคือสมั มาสมาธไิ ซร สมณะหรือพราหมณเหลา ใดเปน ผไู มมีสมาธิ มีจติ หมุนไปผดิ สมณะหรือพราหมณเหลา นน้ั กต็ อ งเปนท่ีบูชา. . . เปน ท่ยี กยอ งของผูนั้น ผใู ดมาสําคญั เหน็ ธรรมบท ๔ ขอ น้วี า เปน ขอควรติควรคัดคาน ผูนั้นยอ มไดรบั คาํ ติฉินอันสมแกเหตุ ตกอยใู นฐานะทน่ี า ติเตียน ๔ ประการน้ี ในปจ จุบนั นแ่ี ล ปริพาชกท้ังหลาย แมแ ตปริพาชกชือ่ วัสสะและภญั ญะ ชาวชนบทอุกกละ ผูเ ปน อเหตุกวาทะ อกริ ยิ วาทะ นัตถิกวาทะ ยงั ไมสาํ คัญเห็นธรรมบท๔ ขอ น้ีวาเปนขอควรตคิ วรคัดคาน นนั่ เพราะเหตอุ ะไร เพราะกลัวถกู นินทาวารายและเกลียดชัง ผไู มพยาบาท มีสตทิ กุ เม่ือ มใี จ ต้งั ม่นั ในกายใน ศึกษาในอนั กาํ จดั อภชิ ฌา เรยี กวา ผูไมประมาท. จบปริพาชกสูตรท่ี ๑๐ จบอุรเุ วลวรรคท่ี ๓
พระสุตตนั ตปฎก อังคุตรนิกาย จตุกนิบาต เลม ๒ - หนา ท่ี 112 อรรถกถาปริพาชกสูตร พึงทราบวนิ จิ ฉัยในปริพาชกสูตรที่ ๑๐ ดังตอ ไปนี้ :- บทวา อภิฺ าตา ไดแก ผมู ีช่ือท่ีรจู กั กันคอื ปรากฏ. บทวาอนฺนภาโร เปน ตน เปนช่ือของปรพิ าชกเหลา นั้น. บทวา ปฏสิ ลฺลานาวุฏโิ ต ไดแก พระผูมีพระภาคเจา เสด็จออกจากผลสมาบตั .ิ กผ็ ลสมาบตั ิน้นัทานประสงคว า ท่ีเรนในทนี่ ี้. บทวา ปจฺจกขฺ าย คอื คัดคาน. บทวาอภิชฺฌาลุ คือผูมีตณั หา. บทวา กาเมสุ ติพพฺ สาราค ความวา ผูม ีราคะความกําหนดั มากในวตั ถุกาม. บทวา ตมห ตตฺถ เอว วเทยฺย ความวาเมือ่ เขากลาวคาํ น้นั เราจะกลา วอยางน้ใี นเหตนุ ้ัน . บทวา ปฏิกฺโกสติ พพฺ มฺเยยฺ ความวา ผใู ดมาสําคญั วาควรคัดคาน คือวาควรหาม. บทวาสหธมมฺ ิกา ไดแกพ รอ มกบั เหตุ บทวา วาทานปุ าตา ความวา กเ็ บยี ดเบียนวาทะทป่ี ระกอบดว ยธรรม ก็ตกไปตามวาทะทีไ่ มประกอบดวยธรรม อธิบายวาประพฤติตามวาทะ. บทวา คารยฺหา านา คือปจจัยอนั ควรตเิ ตียน. บทวาอาคจฉฺ นตฺ ิ คอื ยอมเขาถึง. บทวา อุกกฺ ลา คอื ชาวชนบทอุกกละ. บทวา วสสฺ ภฺา คอืปรพิ าชก ๒ คน ชือ่ วัสสะ และภัญญะ. บทวา อเหตกุ วาทา ความวาทัง้ ๒ คนเปน ผูมวี าทะเปน ตน อยา งน้ีวา เหตุไมม ี ปจ จยั ไมม ี เพ่ือความหมดจดแหงสัตวท ง้ั หลายดังน้.ี บทวา อกริ ิยวาทา ความวา ผูมีวาทะปฏเิ สธกิริยวาทะอยา งนวี้ า เม่ือบุคคลทาํ อยู บาปไมชื่อวาอันบุคคลทําดังน้.ี บทวานตถฺ ิกวาทา ความวา ผูมวี าทะเปน ตน อยา งนี้วา ทานที่ทายกใหแ ลวไมม ผี ลดงั น้ี . คนทัง้ ๒ เหลาน้นั เปน ผดู ิ่งลงในทัสนะทงั้ ๓ เหลา น.้ี ถามวา ก็ใน
พระสุตตันตปฎก องั คตุ รนกิ าย จตุกนบิ าต เลม ๒ - หนา ที่ 113คนเหลา นัน้ กําหนดไดอยา งไร ? ตอบวา ก็ผใู ดถือลัทธเิ หน็ ปานนี้ นั่งสาธยายพจิ ารณาอยใู นสถานที่พกั กลางคืนและทพี่ ักกลางวนั มิจฉาสตขิ องผนู ั้นยอมต้งั ม่ันอยใู นอารมณน ั้นวา เหตไุ มม ี ปจ จัยไมม ี เมื่อบุคคลทําอยู บาปยอมไมช อ่ื วา อันบคุ คลทาํ ฯลฯ ทานทท่ี ายกใหแลวไมม ผี ล ฯลฯ เพราะกายแตกยอ มขาดสูญ ดงั นี้ จิตยอมแนวแน ชวนจิตท้ังหลายยอ มแลน ไป ในชวนจติที่หน่งึ ผูนนั้ ยังเปน ผแู กไขได ในชวนจติ ทีส่ องเปนตน กอ็ ยางนน้ั ในชวนจิตทเี่ จ็ด ผนู ั้นแมพระพุทธเจาท้งั หลายก็แกไขไมไ ดไ มก ลบั มา ยอ มเปน เชนเดยี วกับอรฏิ ฐภกิ ษแุ ละกณั ฏกสามเณร. บรรดาทสั นะ ๓ อยา งนั้น บางคนหยัง่ สทู สั นะเดยี ว บางคน ๒ ทสั นะ บางคน ๓ ทสั นะ เขายอ มช่อื วานยิ ตมิจฉาทิฏฐิกะทัง้ นนั้ เขาตองหา มทางสวรรค และตองหา มทางพระนิพพานไมค วรจะไปสูส วรรค ในลําดบั แหงอัตภาพนัน้ จะตองกลาวไปไย ถงึ พระ-นิพพานเลา . อธบิ ายวา สตั วผ ูน้ีเปน ผเู ฝาแผน ดิน ชอ่ื วาเปน ตอในวฏั ฏะ.โดยมากสตั วเ ห็นปานนไี้ มอ อกจากภพ. ถึงวสั สะ และภญั ญะปริพาชกกเ็ ปนเชน น.้ี บทวา นินฺทาพฺยาโรสนาอุปารมฺภภยา ความวา เพราะตนกลวันนิ ทา กลวั เกลยี ดชัง และกลัวเขาวา รายดงั นี้ . บทวา อภชิ ฌฺ าวนิ เย สิกฺข ความวา พระอรหัต เรยี กวาธรรมเคร่ืองกาํ จดั อภชิ ฌา ผูศึกษาในพระอรหตั อยู เรยี กวา ผูไ มประมาทดังนี.้ ตรัสท้ังวฏั ฏะท้ังววิ ัฏฏะไวใ นพระสตู รแลว จึงตรสั ผลสมาบัตไิ วในพระคาถา ดวยประการฉะนี้. จบอรรถกถาปริพาชกสตู รท่ี ๑๐ จบอุรุเวลวรรควรรณนาท่ี ๓
พระสตุ ตนั ตปฎก อังคตุ รนิกาย จตกุ นบิ าต เลม ๒ - หนา ท่ี 114 รวมพระสูตรท่มี ีในอรุ เุ วลวรรคนี้ คือ ๑. ปฐมอรุ เุ วลสูตร ๒. ทตุ ิยอรุ เุ วลสตู ร ๓. โลกสตู ร ๔ กาฬก-สูตร ๕. พรหมจริยสตู ร ๖. กุหสตู ร ๗. สันตฏุ ฐสิ ูตร ๘. อรยิ วังสสูตร๙. ธัมมปทสตู ร ๑๐. ปริพาชกสตู ร และอรรถกถา.
พระสุตตนั ตปฎ ก องั คุตรนิกาย จตุกนบิ าต เลม ๒ - หนาที่ 115 จักกวรรคที่ ๔ ๑. จักกสูตร วาดวยจกั ร ๔ [๓๑] ดกู อนภกิ ษทุ ัง้ หลาย จักร (คือธรรมดุจลอ รถ) ๔ ประการนี้เปน เหตุใหเ ทวดาและมนษุ ยทัง้ หลายผูประกอบพรอ มแลว ไดจกั ร (ทจี่ ะหมนุนําไปสูความเจรญิ ) ๔ ประการ เปนเหตุใหเ ทวดาและมนุษยทั้งหลายผปู ระกอบพรอ มแลว ถงึ ความใหญค วามไพบลู ยใ นโภคทรพั ยทั้งหลายไมน านเลย จักร๔ ประการ คืออะไร คือ ปฏิรปู เทสวาสะ (ความอยูในถ่ินที่เหมาะ) ๑สัปปรุ สิ ูปส สยะ (ความพึง่ พงิ สตั บรุ ษุ ) ๑ อตั ตสมั มาปณธิ ิ (ความตั้งตนไวช อบ) ๑ ปพุ เพกตปญุ ญตา (ความเปน ผูมีความดีอันไดทาํ ไวก อ น) ๑น้แี ลจักร ๔ ซงึ่ เปน เหตใุ หเ ทวดาและมนุษยท ้ังหลายผปู ระกอบพรอ มแลวไดจกั ร ๔ ประการ เปนเหตุใหเทวดาและมนษุ ยท้งั หลายผปู ระกอบพรอ มแลวถึงความใหญความไพบลู ยในโภคทรพั ยท งั้ หลายไมนานเลย นรชนพึงอยูในถนิ่ ทเี่ หมาะ พึงทาํ อารยชนใหเ ปนมิตร ถงึ พรอมดว ยความ ตง้ั ตนไวชอบ มคี วามดีอันไดท ําไวก อ น ขาวเปลือก ทรัพย ยศ เกียรติ และความ สขุ ยอมพรั่งพรูมาสนู รชนผนู น้ั . จบจักกสตู รท่ี ๑
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 634
Pages: