Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_35

tripitaka_35

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:34

Description: tripitaka_35

Search

Read the Text Version

พระสตุ ตนั ตปฎก อังคตุ รนิกาย จตุกนบิ าต เลม ๒ - หนา ท่ี 351๔. อฏุ ฐานสูตร วา ดว ยบคุ คล ๔ จาํ พวก[๑๓๔] ดกู อนภิกษุทั้งหลาย บคุ คล ๔ จําพวกนี้มีปรากฏอยใู นโลก๔ จาํ พวกเปน ไฉน คอือุฏานผลปุ ชีวี น กมฺมผลุปชวี ี บุคคลจําพวกหน่งึ ดํารงชีพอยดู วย ผลของความหมนั่ มใิ ชด าํ รงชพี อยู ดวยผลของกรรมกมฺมผลปุ ชีวี น อฏุ  านผลุปชีวี บุคคลจาํ พวกหนึ่งดาํ รงชีพอยดู วยผล ของกรรม มิใชด าํ รงชพี อยดู ว ยผล ของความหมน่ัอฏุ านผลุปชีวี เจว กมมฺ ผลปุ ชีวี จ บคุ คลจาํ พวกหน่ึงดํารงชพี อยูดว ยผล ของความหมน่ั บา ง ดวยผลของ กรรมบา งเนว อฏุ านผลปุ ชีวี น กมมฺ ผลปุ ชีวี บคุ คลจําพวกหนึ่งดํารงชีพอยดู ว ยผล ของความหมั่นก็มใิ ช ดวยผลของ กรรมก็มิใช.น้ีแล บุคคล ๔ จําพวก มปี รากฏอยใู นโลก. จบอุฏฐานสูตรท่ี ๔

พระสตุ ตนั ตปฎก องั คุตรนกิ าย จตกุ นิบาต เลม ๒ - หนา ท่ี 352อรรถกถาอุฏฐานสูตรพงึ ทราบวินิจฉัยในอุฏฐานสตู รท่ี ๔ ดงั ตอไปนี้ :-บุคคลจําพวกหน่งึ ใชวันเวลาใหล วงไป ดว ยความเพยี รคือความหมั่นเทานน้ั ไดอะไรมาเพียงเปนผลของความเพยี รนนั้ ทหี่ ลงั่ ออกมาเลย้ี งชวี ิตเขาอาศยั แตความหมั่นนัน้ ไมไ ดผ ลบุญอะไร บคุ คลจําพวกน้ี ชือ่ วา ดาํ รงชีพอยดู ว ยผลของความหม่นั มใิ ชดาํ รงอยดู วยผลของกรรม.สวนเหลา เทวดาแมทัง้ หมด ต้ังแตเทวดาช้นั จาตมุ มหาราชเปนตน ไป เพราะเขา ไปอาศัยผลบุญดาํ รงชพี เวนความเพยี รคอื ความหมนั่ ชอ่ื วา ดํารงชพี อยูดวยผลของกรรมมใิ ชดํารงชพี อยูดวยผลของความหมั่น. อิสระชนมีพระราชามหาอาํ มาตยของพระราชาเปน ตน ชือ่ วา ดาํ รงชีพอยดู วยผลของความหมน่ั และดาํ รงชีพอยดู วยผลของกรรม. พวกสัตวนรกดาํ รงชพี อยูดว ยผลของความหมั่นก็มิใช ดว ยผลของกรรมกม็ ิใช. ผลบุญน่นั แล ทา นประสงควาผลของกรรมในสูตรน้ี ผลบญุ นั้นไมมีแกพวกสตั วนรกเหลานน้ั . จบอรรถกถาอฏุ ฐานสูตรที่ ๔ ๕. สาวัชชสตู รวา ดวยบุคคล ๔ จําพวก[๑๓๕] ดกู อ นภิกษทุ ั้งหลาย บุคคล ๔ จําพวกน้ีมีปรากฏอยใู นโลก๔ จาํ พวกเปน ไฉน คือสาวชฺโช บุคคลมโี ทษวชชฺ พหโุ ล บุคคลมีโทษมากอปปฺ วชโฺ ช บคุ คลมโี ทษนอยอนวชฺโช บคุ คลไมม ีโทษ

พระสตุ ตนั ตปฎ ก องั คุตรนิกาย จตกุ นบิ าต เลม ๒ - หนา ที่ 353 บุคคลมีโทษเปน อยางไร ? บุคคลบางคนในโลกนป้ี ระกอบดว ยกาย-กรรมอันมโี ทษ วจกี รรมอนั มีโทษ มโนกรรมอันมโี ทษ อยา งนี้แล บุคคลมโี ทษ บคุ คลมีโทษมากเปนอยางไร ? บุคคลบางคนในโลกน้ปี ระกอบดวยกายกรรม วจกี รรม มโนกรรม อันมีโทษเปน สว นมาก ท่ีไมม ีโทษเปนสวนนอย อยางนแี้ ล บคุ คลมีโทษมาก บุคคลมีโทษนอ ยเปนอยา งไร ? บคุ คลบางคนในโลกนี้ประกอบดวยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม อนั ไมม ีโทษเปนสว นมาก ทมี่ ีโทษเปนสว นนอย อยา งนแ้ี ล บุคคลมโี ทษนอย บุคคลไมมีโทษเปน อยางไร ? บุคคลบางคนในโลกน้ปี ระกอบดว ยกายกรรมอนั ไมม โี ทษ วจีกรรมอนั ไมม ีโทษ มโนกรรมอันไมมีโทษ อยางนีแ้ ล บคุ คลไมมโี ทษ. ภกิ ษทุ ัง้ หลาย นแ้ี ลบุคคล ๔ จาํ พวก มีปรากฏอยใู นโลก. จบสาวชั ชสตู รที่ ๕ อรรถกถาสาวัชชสูตร พึงทราบวนิ จิ ฉยั ในสาวัชชสตู รท่ี ๕ ดงั ตอ ไปนี้ :- คนจาํ พวกที่หนง่ึ ไดแ ก ปถุ ุชนคนโงเขลา จําพวกที่สอง ไดแกโลกิยปุถชุ นผูบาํ เพญ็ กศุ ลในระหวา ง ๆ จาํ พวกทีส่ าม ไดแก พระโสดาบนั ถึงพระสกทาคามแี ละอนาคามี ก็รวมกับคนจาํ พวกทส่ี ามน้นั เหมอื นกัน จาํ พวกท่สี ่ี ไดแ กพ ระขีณาสพ จรงิ อยู พระขณี าสพนั้น หาโทษมไิ ดโ ดยสวนเดยี ว. จบอรรถกถาสาวชั ชสูตรท่ี ๕

พระสุตตันตปฎก อังคตุ รนิกาย จตุกนบิ าต เลม ๒ - หนา ที่ 354 ๖. ปฐมสีลสตู ร วา ดวยบุคคล ๔ จําพวก [๑๓๖] ดูกอ นภิกษุท้งั หลาย บุคคล ๔ จําพวกนี้ มีปรากฏอยใู นโลก๔ จาํ พวกเปน ไฉน คือ บุคคลบางคนเปนผูไมทาํ ใหบรบิ ูรณในศีล ไมท าํ ใหบ ริบรู ณในสมาธิไมท าํ ใหบ รบิ รู ณใ นปญญา ๑ บคุ คลบางคนเปน ผทู ําใหบ รบิ รู ณใ นศลี แตไ มทาํ ใหบ ริบรู ณใ นสมาธิไมทาํ ใหบรบิ รู ณในปญญา ๑ บคุ คลบางคนเปน ผูทําใหบ รบิ ูรณใ นศลี ทําใหบ ริบูรณใ นสมาธิ แตไมทําใหบ ริบูรณใ นปญญา ๑ บคุ คลบางคนเปน ผทู ําใหบ ริบูรณใ นศลี ทาํ ใหบรบิ ูรณในสมาธิทาํ ใหบ ริบรู ณใ นปญญา ๑ นแี้ ล บุคคล ๑ จําพวก มีปรากฏอยูในโลก. จบปฐมสีลสตู รท่ี ๖ อรรถกถาปฐมสีลสูตร พึงทราบวินิจฉยั ในปฐมสีลสตู รที่ ๖ ดังตอไปนี้ :- คนจําพวกท่หี น่งึ ไดแกโลกิยมหาชน จําพวกทีส่ อง ไดแกพระ-โสดาบนั และพระสกทาคามี ผบู ําเพ็ญวปิ ส สนาลว น จําพวกทีส่ าม ไดแ กพระอนาคามี จรงิ อยู พระอนาคามีนนั้ เพราะเหตทุ ่ีไดฌานท่ีทาํ อุปบตั ิใหเกิด

พระสุตตนั ตปฎ ก อังคุตรนิกาย จตกุ นบิ าต เลม ๒ - หนา ที่ 355แมขณะน้นั ฉะนั้น ทานแมบ าํ เพ็ญวปิ ส สนาลวน กท็ าํ ใหบ ริบรู ณใ นสมาธิโดยแท จําพวกทส่ี ่ี ไดแ กพ ระขณี าสพเทา นน้ั จรงิ อยู พระขีณาสพน้ันชอื่ วาทาํ ใหบ รบิ รู ณในศีลสมาธิและปญญาทัง้ หมด เพราะทานละธรรมที่เปนขา ศกึ ตอ ศีลเปนตนทงั้ หมดไดแ ลว . จบอรรถกถาปฐมสลี สูตรท่ี ๗ ๗. ทุตยิ สีลสูตร วาดว ยบุคคล ๔ จาํ พวก [๑๓๗] ดกู อ นภิกษุทั้งหลาย บคุ คล ๔ จาํ พวกนี้ มปี รากฏอยใู นโลก๔ จาํ พวกเปน ไฉน คือ บุคคลบางคนเปนผูไมหนักในศีล สมาธิ ปญญา ไมม ศี ีล สมาธิปญ ญาเปนอธปิ ไตย ๑ บุคคลบางคนเปนผหู นกั ในศลี มศี ีลเปน อธปิ ไตย แตไมหนักในสมาธิ ปญญา ไมมสี มาธิ ปญ ญาเปน อธปิ ไตย ๑ บุคคลบางคนเปนผหู นักในศีล สมาธิ มีศีล สมาธิ เปนอธปิ ไตยแตไมหนักในปญ ญา ไมมีปญญาเปน อธปิ ไตย ๑ บคุ คลบางคนเปน ผหู นักในศลี สมาธิ ปญ ญา มีศีล สมาธิ ปญ ญาเปน อธปิ ไตย ๑ นี้แลบคุ คล ๔ จําพวก มีปรากฏอยใู นโลก. จบทตุ ิยสีลสูตรที่ ๗ แมใ นทุติยสีลสตู รท่ี ๗ พงึ ทราบการกาํ หนดบคุ คล โดยนยั อันกลา วแลวในปฐมสีลสตู รที่ ๖.


























































































Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook