พระสุตตันตปฎ ก องั คตุ รนกิ าย จตกุ นิบาต เลม ๒ - หนา ท่ี 81 ๖. กหุ สตู ร วา ดวยภกิ ษผุ ูนบั ถอื และไมนับถือตลอด [๒๖] ดกู อนภิกษทุ ัง้ หลาย ภิกษุเหลาใดหลอกลวง ดอ้ื รั้น พลา มเพอไวต วั เยอ หยง่ิ ใจไมมนั่ ภิกษุเหลานนั้ นบั วา ไมน บั ถอื เรา และช่ือวาออกไปนอกพระธรรมวินัยนีแ้ ลว ภกิ ษุเหลา นน้ั ยอมไมถ งึ ความเจรญิ งอกงามไพบลู ยใหพระธรรมวินยั นี้. สวนภิกษเุ หลา ใดไมห ลอกลวง ไมพลามเพอ ฉลาด ไมดือ้ ร้นัใจมน่ั คงดี ภิกษเุ หลานั้นนบั วานับถือเรา และไมออกไปนอกพระธรรมวนิ ยั นี้ภกิ ษุเหลานนั้ ยอมถงึ ความเจริญงอกงามไพบูลยใ นพระธรรมวินยั น้ี ภิกษเุ หลา ใดหลอกลวง ดอ้ื รนั้ พลามเพอ ไวต วั เยอ หยิง่ และใจไมมัน่ ภิกษุเหลา นั้น ยอ มไมง ก งามในพระธรรม ท่ีพระสัมมาสมั พทุ ธเจา สมบตั ิ ภิกษุเหลาใดไมหลอกลวง ไม พลา มเพอ ฉลาด ไมด นิ้ รน ใจมน่ั คงดี ภิกษเุ หลานนั้ แล ยอนงอกงามในพระ. ธรรมทีพ่ ระสมั มาสมั พุทธเจาทรงแสดง แลว . จบกุหสตู รท่ี ๖
พระสุตตันตปฎ ก องั คตุ รนิกาย จตกุ นบิ าต เลม ๒ - หนาที่ 82 อรรถกถากุหสตู ร พึงทราบวินิจฉยั ในกหุ สูตรที่ ๖ ดงั ตอไปน้ี :- บทวา กหุ า แปลวา ผหู ลอกลวง. บทวา ถทฺธา ไดแก ดือ้ รัน้ดวยความโกรธ และมานะ. บทวา ลปา ไดแก พดู พลา ม. บทวา สิงคฺ ีความวา ผูประกอบดว ยกเิ ลสที่ปรากฏเสมือนเขาสตั ว ทที่ า นกลาวอยา งนวี้ าบรรดากเิ ลสเหลา นน้ั การไวตัวเปนไฉน ? คอื การไวต วั ภาวะคือการไวตัวภาวะคือการไวในตัวในอิริยาบถ ๔ กริ ยิ าวางทาในอริ ิยาบถ ๔ ภาวะคือความมคี นแวดลอม กิรยิ าวางทากบั คนแวดลอ ม. บทวา อนุ นฺ ฬา ความวา เปนดจุ ไมออทีช่ ูขน้ึ คอื ยกมานะเปลา ๆ ขึน้ ตั้ง. บทวา อสมาหิตา ความวาไมไดแ มเพียงเอกคั คตาจิต. บทวา น เม เต ภกิ ฺขเว ภิกฺขู มามกาความวา ภกิ ษุเหลาน้นั ของเรา ไมใชเ ปนสมบัตขิ องเรา. กบ็ ทน้วี า เต มยฺหตรสั เพราะบวชอุทศิ พระศาสดา. บทวา เต โข เม ภกิ ขฺ เว ภกิ ฺขู มามกาความวา กต็ รสั เพราะบวชอทุ ศิ ตนในศาสนาแมน้ี แตตรสั วา มามกา เพราะเปนผูปฏบิ ตั ชิ อบ. บทวา วุฑฒฺ ึ วิรุฬหฺ ึ เวปุลฺล อาปชชฺ นฺติ ความวาภกิ ษเุ หลา น้ัน ยอมถงึ ความเจรญิ เพราะเจริญดว ยศีลาทคิ ุณ ความงอกงามเพราะไมหวนั่ ไหว ความไพบูลย เพราะแผไ ปในที่ทกุ สถาน. กภ็ กิ ษเุ หลา นนี้ ัน้ยอมงอกงามจนถึงอรหัตมรรค เมอ่ื บรรลพุ ระอรหัตผลแลว ชื่อวา งอกงาม.ท้ังในพระสูตรนี้ ท้งั ในคาถา ตรัสท้ังวัฏฏะท้ังววิ ฏั ฏะ ดวยประการฉะนี้. จบอรรถกถากุหสูตรที่ ๖
พระสุตตนั ตปฎก อังคตุ รนิกาย จตกุ นิบาต เลม ๒ - หนา ท่ี 83 ๗. สนั ตฏุ ฐิสูตร วา ดวยสันโดษดวยปจจยั ๔ [๒๗] ดูกอ นภิกษทุ ้งั หลาย ปจ จัย ๔ อยา งน้ีเปนของเลก็ นอยดวยหางายดวย ไมม ีโทษดว ย ปจจยั ๔ อยางคอื อะไร คือ ผาบงั สุกุล อาหารทไ่ี ดม าโดยเทยี่ วบณิ ฑบาต เสนาสนะโคนไม ยานา้ํ มตู รเนา นแี้ ลปจ จยั ๔ อยา ง เปนของเลก็ นอ ยดว ย หางา ยดวย ไมมโี ทษดว ย เมื่อภกิ ษุเปน ผสู ันโดษดว ยปจจยั เล็กนอยและหางาย เรากลา วความสันโดษของเธอน้วี าเปนองคแหงความเปนสมณะอยางหน่งึ . ภกิ ษผุ สู นั โดษดว ยปจจยั อันหาโทษ มิได เลก็ นอยและหางา ย ยอ มไมม คี วาม ทุกขใ จเพราะเรอ่ื งเสนาสนะ จวี ร ขาว นาํ้ จะไปทศิ ใดกไ็ มเ ดอื ดรอน. ธรรมเหลาใดท่พี ระผูมพี ระภาคเจา ตรสั ไว สมควรแกค วามเปน สมณะ ธรรม เหลา นัน้ เปน อนั ภกิ ษุผสู นั โดษ ผูไมป ระ- มาทนนั้ กําหนดไวไดแลว. จบสนั ตฏุ ฐิสตู รที่ ๗
พระสุตตันตปฎก องั คุตรนกิ าย จตกุ นบิ าต เลม ๒ - หนาที่ 84 อรรถกถาสนั ตฏุ ฐสิ ตู ร พึงทราบวินิจฉยั ในสนั ตฏุ ฐิสตู รที่ ๗ ดังตอไปน้ี :- บทวา อปปฺ านิ แปลวา ของเล็กนอ ย. บทวา สลุ ภานิ แปลวาพงึ ไดโ ดยงา ย คือใครกส็ ามารถจะไดในทแ่ี หงใดแหงหนึ่ง. บทวา อนวชฺชานิแปลวา ไมม ีโทษ. บทวา ปณฺฑิยาโลปโภชน ไดแก อาหารท่ีเที่ยวไปดว ยกาํ ลงั ปลีแขง ไดน าสักวาเปน คาํ ขา ว. บทวา ปตู ิมตุ ฺต ไดแ ก น้ํามตู รอยา งใดอยา งหน่งึ . กายแมมีผวิ ดังทอง เขากเ็ รียกวา กายเนาฉนั ใด แมน ้าํ มูตรที่ใหมเอ่ียม เขากเ็ รยี กวานํา้ มตู รเนาฉนั น้ัน. บทวา วิฆาโต ไดแ ก ความคบั แคน อธบิ ายวา จติ ไมม ที ุกข. บทวา ทสิ า น ปฏิหฺ ติ ความวาภกิ ษใุ ดเกิดความคดิ ข้นึ วา เราไปท่ชี ือ่ โนน จกั ไดจ วี รเปนตน จิตของภิกษนุ ้ันชอ่ื วา ยอมเดอื ดรอ นตลอดทศิ . ภิกษใุ ด ยอมไมเกดิ ความคดิ อยางน้นั จติของภกิ ษุน้นั ชื่อวา ไมเ ดือดรอนตลอดทศิ . บทวา ธมมฺ า คือปฏบิ ัติติธรรม.บทวา สามฺสฺสานโุ ลมกิ า ไดแก สมควรแกส มณธรรม. บทวาอธคิ ฺคหติ า ความวา ธรรมเหลานน้ั ทัง้ หมด ยอมเปนอนั ภิกษุผูมีจิตสันโดษกาํ หนดไว อยูแ ตภายใน ไมไ ปภายนอก. จบอรรถกถาสันตฏุ ฐิสูตรที่ ๗
พระสุตตันตปฎ ก อังคุตรนิกาย จตุกนิบาต เลม ๒ - หนาท่ี 85 ๘. อรยิ วังสสตู ร วาดว ยอริยวงศ ๔ ประการ [๒๘] ดูกอนภิกษทุ ้งั หลาย อรยิ วงศ ๔ ประการน้ี ปรากฏวาเปนธรรมอันเลิศ ยั่งยืนเปนแบบแผนมาแตเ กากอน ไมถ กู ทอดทิ้งแลว ไมเคยถกู ทอดทิง้ เลย (ในอดีตกาล) ไมถ ูกทอดทงิ้ อยู (ในปจจุบนั กาล) จกั ไมถูกทอดท้งิ (ในอนาคตกาล) สมณพราหมณท้ังหลายที่เปนผรู ไู มค ัดคา นแลวอริยวงศ ๔ ประการ คืออะไรบาง คือ ภิกษใุ นพระธรรมวนิ ัยนี้เปนผูส ันโดษดวยจวี รตามมตี ามได และเปนผูสรรเสริญความสนั โดษดวยจวี รตามมตี ามได ไมท ําอเนสนาการแสวงหาไมสมควร เพราะจีวรเปน เหตุ ไมไดจ ีวรกไ็ มท รุ นทุราย ไดจ ีวรแลวกไ็ มตดิ ใจสยบพัวพนั เห็นสวนทเ่ี ปน โทษ ฉลาดในอุบายท่จี ะถอนตัวออก บริโภค(จวี รนั้น) อน่ึง ไมยกตนไมข มผูอ่ืน เพราะความสนั โดษดว ยจีวรตามมตี ามไดนั้น ก็ภกิ ษใุ ดเปนผูฉลาดไมเกียจคราน มสี มั ปชญั ญะ มีสตมิ ั่นในความสนั โดษดวยจวี รตามมีตามไดนัน้ ภิกษุน้เี ราเรยี กวา ผูสถิตอยใู นอริยวงศ อนั ปรากฏวาเปนธรรมเลศิ มาเกากอน. อกี ขอ หนง่ึ ภกิ ษเุ ปน ผสู ันโดษดว ยบิณฑบาตตามมตี ามได และเปน ผูสรรเสรญิ ความสันโดษดว ยบิณฑบาตตามมตี ามได ไมทําอเนสนาการแสวงหาไมสมควรเพราะบิณฑบาตเปนเหตุ ไมไดบณิ ฑบาตก็ไมทรุ นทุรายไดบณิ ฑบาตแลวก็ไมต ดิ ใจสยบพวั พัน เหน็ สวนที่เปน โทษ ฉลาดในอุบายท่ีจะถอนตัวออก บรโิ ภค (บิณฑบาตนั้น) อน่ึง ไมยกตนไมข มผูอนื่ เพราะ.ความสนั โดษดว ยบณิ ฑบาตตามมตี ามไดนั้น ก็ภกิ ษใุ ดเปนผูฉ ลาดไมเ กยี จราน
พระสุตตันตปฎก องั คตุ รนกิ าย จตกุ นิบาต เลม ๒ - หนาที่ 86สัมปชญั ญะ มีสติมนั่ ในความสันโดษดว ยบณิ ฑบาตตามมตี ามไดนั้น ภิกษนุ ี้เราเรียกวา ผูส ถติ อยใู นอริยวงศ อันปรากฏวา เปนธรรมเลิศมาแตเ กากอน. อกี ขอหน่งึ ภิกษเุ ปน ผสู นั โดษดวยเสนาสนะตามมีตามได และเปนผูส รรเสรญิ ความสันโดษดวยเสนาสนะตามมีตามได ไมทาํ อเนสนาการแสวงหาไมส มควรเพราะเสนาสนะเปน เหตุ ไมไดเ สนาสนะก็ไมทรุ นทุรายไดเ สนาสนะแลวกไ็ มต ดิ ใจสยบพัวพนั เห็นสว นที่เปนโทษ ฉลาดในอบุ ายท่ีจะถอนตัวออกบรโิ ภค (เสนาสนะนั้น ) อนง่ึ ไมยกตนไมข มผูอื่น เพราะความสันโดษดว ยเสนาสนะตามมตี ามไดน น้ั กภ็ กิ ษใุ ดเปน ผูฉ ลาดไมเ กียจคราน มีสัมปชญั ญะ มสี ตมิ นั่ ในความสนั โดษดวยเสนาสนะตามมตี ามไดนั้น ภกิ ษนุ ้ีเราเรียกวา ผูสถติ อยใู นอริยวงศ อันปรากฏวาเปนธรรมเลิศมาแตเ กากอน. อกี ขอหน่งึ ภิกษุเปน ผูมีภาวนา (การบาํ เพ็ญกศุ ล) เปน ทีย่ นิ ดียินดีแลวในภาวนา เปนผมู ีปหานะ (การละอกศุ ล) เปน ที่ยนิ ดี ยินดีแลวในปหานะ อนง่ึ ไมย กตนไมขม ผูอ ื่นเพราะความเปนผูม ภี าวนาเปนที่ยินดีเพราะความยนิ ดใี นภาวนา เพราะความเปนผูม ปี หานะเปน ท่ียินดี เพราะความยนิ ดีในปหานะนั้น กภ็ กิ ษุใดเปน ผูฉลาดไมเ กียจครา น มสี มั ปชัญญะ มีสตมิ ั่นในความยนิ ดีในภาวนาและปหานะน้นั ภกิ ษุนี้เราเรยี กวาผูสถติ อยใู นอริยวงศอนั ปรากฏวา เปน ธรรมเลิศมาแตเ กากอ น. ภกิ ษุทั้งหลาย น้ีแลอริยวงศ ๔ ประการ ทป่ี รากฏวาเปน ธรรมเลศิยง่ั ยนื เปน แบบแผนมาแตเ กากอ น ไมถูกทอดทง้ิ แลว ไมเคยถูกทอดทิ้งเลย(ในอดีตกาล) ไมถูกทอดทิ้งอยู (ในปจจบุ นั กาล) จักไมถ กู ทอดท้งิ (ในอนาคตกาล) สมณพราหมณทง้ั หลายท่ีเปน ผรู ูไมคัดคา นแลว. ภิกษทุ งั้ หลาย กแ็ ลภิกษุผปู ระกอบพรอ มดวยอริยวงศ ๔ ประการน้ีแมห ากอยูในทิศตะวันออก...ทศิ ตะวันตก...ทิศเหนอื ...ทศิ ใต เธอยอ ม
พระสตุ ตันตปฎ ก อังคตุ รนกิ าย จตุกนบิ าต เลม ๒ - หนาท่ี 87ยาํ่ ยคี วามไมย นิ ดเี สียได ความไมยนิ ดหี าย่ํายเี ธอไดไม ท่ีเปน เชนนัน้ เพราะเหตุอะไร เพราะเหตุวาภกิ ษุผูมปี ญญายอมเปน ผขู น ไดท้ังความไมย ินดที ั้งความยินดี. ความไมย ินดหี ายํา่ ยภี ิกษผุ มู ีปญญา ไดไม ความไมย ินดีหาครอบงาํ ภิกษผุ ูมี ปญ ญาไดไม แตภกิ ษผุ มู ีปญญายํา่ ยคี วาม ไมยินดีได เพราะภิกษผุ ูม ีปญ ญาเปน ผูข ม ความไมย ินดไี ด. ใครจะมาขดั ขวางภกิ ษผุ ลู ะกรรม ทง้ั ปวง ผถู ายถอน (กเิ ลส) แลว ไว (มิให บรรลวุ ิมตุ ต)ิ ได ใครจะควรติภิกษุ (ผู บริสุทธ์ิ) ดุจแทงทองชมพูนทุ นั้นเลา แม เหลาเทวดากย็ อ มชมถึงพรหมก็สรรเสรญิ . จบอรยิ วังสสตู รท่ี ๘ อรรถกถาอรยิ วงั สสตู ร อรยิ วังสสตู รท่ี ๘ ตง้ั ขึ้นมอี ัธยาศัยของพระองคเปน อัตถุปปต ตเิ หตุเกดิ เรื่อง ไดย ินวา พระผูมีพระภาคเจา ประทบั นัง่ เหนอื บวรพุทธาสนท ี่เขาจดั ถวาย ณ ธรรมสภา พระเชตวนั มหาวิหาร ตรัสเรยี กภิกษสุ ่ีหมนิ่ รปู ผนู งั่แวดลอมวา ภกิ ขฺ เว ดังนีแ้ ลว จงึ ทรงเรม่ิ มหาอรยิ วงั สสตู รนวี้ า จตฺตาโรเมภิกฺขเว อรยิ ว สา เปน ตน ดวยอํานาจอัธยาศัยของพระองคบาง ของบคุ คล
พระสุตตันตปฎก อังคุตรนกิ าย จตุกนิบาต เลม ๒ - หนา ที่ 88อนื่ บาง. ในบทเหลาน้นั บทวา อริยว สา คอื วงศของพระอริยะทง้ั หลาย.อริยวงศท่แี ปดแมน ี้ เปน สายของพระอรยิ ะ ชื่อวา เปน ประเพณีเชื้อสายของพระอรยิ ะ เหมอื นขตั ตยิ วงศ พราหมณวงศ เวสสวงศ สทุ ทวงศ สมณวงศกลุ วงศ ราชวงศฉ ะนั้น . ก็วงศน้นี ัน้ ทานกลาววา เปน ยอดของวงศเหลา น้ีเหมอื นกลน่ิ กระลาํ พักเปนตน เปน ยอดของไมมีกล่นิ เกิดทร่ี ากเปนตน . ถามวา กค็ นเหลาไหน คืออรยิ ะ วงศของอรยิ ะ. ตอบวา พระ-พุทธเจาทงั้ หลาย พระปจเจกพทุ ธเจา ทั้งหลาย และสาวกของพระตถาคตทัง้ หลาย ทา นเรยี กวา พระอริยะ วงศข องพระอริยะเหลา นั้นจึงรวมเรยี กวาอริยวงศ. กอนแตกาลน้ไี ป ในท่ีสุดส่อี สงไขยยิง่ ดวยแสนกัป เกิดพระพทุ ธเจาข้ึน ๔ พระองค คือ พระตัณหังกระ ๑ พระเมธงั กระ ๑ พระสร-ณงั กระ ๑ พระทีปง กระ ๑ ดังน้ี วงศข องพระอริยะเหลา นัน้ รวมช่ือวาอรยิ วงศ. ภายหลังแตปรินิพพานของพระพทุ ธเจา เหลา น้ัน ลว งไปหน่ึงอสงไขยเกิดพระพทุ ธเจาพระนามวา โกณฑัญญะ ฯลฯ ในกัปน้เี กดิ พระ-พทุ ธเจาขนึ้ ๔ พระองค คือ พระกกสุ นั ธะ ๑ พระโกนาคมนะ ๑พระกัสสปะ ๑ พระผูมพี ระภาคเจา โคตมะของพวกเรา ๑ ดงั นี้ วงศของพระอรยิ ะเหลานนั้ รวมช่ือวา อริยวงศ. อกี อยา งหนึ่ง วงศของพระ-อริยะท้ังหลาย คอื พระพทุ ธเจาทกุ พระองค ปจ เจกพทุ ธเจา และพุทธสาวกทง้ั อดีต อนาคต และปจจุบันรวมชื่อวา อรยิ วงศ. กแ็ ลวงศแ หงพระอรยิ ะเหลา นี้นัน้ ชอ่ื วา อคคฺ ฺา ไดแ ก พงึ รูว าลํ้าเลศิ . ช่อื วา รตฺตฺ า ไดแ ก พึงรูวา ประพฤติมานานแลว . ชอื่ วาว สฺา ไดแก พึงรูวาเปน วงศ คือ เช้ือสาย. ชอ่ื วา โปราณา ไดแกมใิ ชเกิดขึน้ เดย๋ี วนี้. ชอื่ วา อส กิณฺณา ไดแ ก มิใชก ระจัดกระจาย มิใชถ ูก
พระสตุ ตนั ตปฎ ก องั คุตรนกิ าย จตกุ นิบาต เลม ๒ - หนา ท่ี 89ทอดทิง้ . บทวา อส กณิ ฺณปพุ พฺ า ไดแก ไมเคยกระจดั กระจาย พระพทุ ธเจาในอดีตไมเ คยทอดทิ้งดว ยเขาใจวา ประโยชนอะไรดว ยอรยิ วงศเ หลา นี้. บทวาน ส กยิ นตฺ ิ ไดแ กแมบดั น้ี ทานเหลา นน้ั ก็ไมทอดท้ิง. บทวา น ส กิยสิ สฺ นตฺ ิไดแก แมพระพทุ ธเจาในอนาคต กจ็ กั ไมท อดทิ้ง. สมณพราหมณเหลาใดทเ่ี ปน ผรู ูใ นโลก อรยิ วงศเ หลา น้อี นั สมณพราหมณเ หลาน้นั ไมค ดั คา นแลวคือ สมณพราหมณผรู ไู มตําหนิ ไมต ิเตียนแลว . บทวา สนฺตุฏโ โหติ ความวา เปน ผสู ันโดษดว ยปจจัยสันโดษ.บทวา อิตริตเรน ความวา เปนผสู นั โดษดวยปจ จยั หยาบ ละเอยี ดเศรา หมอง ประณีต ถาวรและเกา อยา งใดอยางหนึ่ง. โดยทแ่ี ท ภิกษุยอ มเปนผสู นั โดษดวยปจ จัยตามทไ่ี ดแลวเปน ตน ตามมีตามได คอื อยา งใดอยางหน่ึงก็ในจวี รสนั โดษมีสามคอื ยถาลาภสนั โดษ ยนิ ดตี ามที่ได ยถาพลสนั โดษยนิ ดีตามกําลัง ยถาสารปุ ปสันโดษ ยนิ ดตี ามสมควร. แมใ นบิณฑบาตเปนตน ก็นยั น้เี หมอื นกนั . เรื่องพสิ ดารแหง สันโดษเหลานน้ั พึงทราบโดยนัยที่ทานกลาวแลว ในพระสตู รนีว้ า ดูกอนภิกษทุ ั้งหลาย กุศลธรรมทีย่ งัไมเ กดิ ขน้ึ ยอ มเกิดขึ้นแกภ ิกษผุ ูสันโดษดังน้ีเปนตน . ดงั นัน้ ทา นหมายถึงสนั โดษสามเหลานี้ จึงกลา ววา ภกิ ษุเปนผสู นั โดษดวยจีวรตามมตี ามได คอื เปนผูส ันโดษดวยจวี รตามทีไ่ ดแ ลวเปนตนอยา งใดอยางหนง่ึ ดงั น้ี. ก็ในจวี รสันโดษน้ี ภกิ ษพุ ึงรูจ ักจีวร พึงรจู กั เขตจวี รพึงรจู กั บงั สุกลุ จวี ร พึงรจู ักสนั โดษดว ยจีวร พงึ รูจักธุดงคท่เี กย่ี วกับจวี ร.ในขอเหลา น้นั ขอ วา พึงรจู กั จวี ร ไดแก พงึ รูจ ักกบั ปย จวี ร ๑๒ ชนิดเหลา นค้ี อื จีวร ๖ ทท่ี าํ ดวยเปลือกไมเปนตน และจวี รอนั อนโุ ลม ๖ ที่ทําดว ยผา เนื้อดีเปน ตน และพงึ รจู ักอกปั ปยจีวรเปนตนอยา งน้ีคือ จวี รท่ีทําดวย
พระสุตตันตปฎก องั คตุ รนิกาย จตกุ นิบาต เลม ๒ - หนาท่ี 90เปลอื กไมกรอง จีวรทําดว ยปอ จวี รทําดว ยแผน ไมก รอง ผากัมพลทําดว ยผมคนผาใบลาน หนังเสอื ปกนกเคา ผา ทําดวยตน ไม ผาทาํ ดวยเถาวลั ย ผาทําดว ยตะไครน าํ้ ผาทําดวยตนกลว ย ผาทําดว ยไมไ ผ. ขอวา พึงรูจ ักเขตจีวร ไดแก พงึ รจู ักเขต ๖ โดยการเกิดข้ึนอยา งน้ีคือ เกิดโดยสงฆบ าง คณะบา ง ญาตบิ า ง มติ รบาง ทรัพยข องตนบางบงั สุกลุ บา ง และพงึ รจู กั เขต ๘ ดวยมาตกิ า ๘. ขอ วาพึงรจู กั บงั สกุ ุลจีวร ไดแ ก พึงทราบผา บงั สุกลุ ๒๓ อยา งคือ ๑. ผาทเ่ี ขาทิ้งไวในปา ชา ๒. ผา ทเ่ี ขาท้ิงในตลาด ๓. ผา ที่เขาท้งิ ตามทางรถ ๔. ผา ทเี่ ขาทิ้งในกองขยะ ๕. ผา เชค็ ครรภม ลทนิ ของหญงิ ตลอดบุตร ๖. ผาอาบนํา้ ๗. ผาที่เขาทง้ิ ไวต ามทา อาบนาํ้ หรอื ทา ขาม ๘. ผาทเ่ี ขาหอ คนตายไปปา ชา แลว นํากลับมา ๙. ผาถูกไฟไหมแ ลวเขาท้งิ ๑๐. ผาทโ่ี คเค้ยี วแลวเขาท้ิง ๑๑. ผา ปลวกกัดแลวเขาทง้ิ ๑๒. ผาหนูกัดแลว เขาท้งิ ๑๓. ผา รมิ ขาดแลว เขาทิ้ง ๑๔. ผาขาดชายแลวเขาท้งิ ๑๕. ผาท่ีเขาทาํ เปน ธง ๑๖. ผา ทีเ่ ขาบูชาไวท ีจ่ อมปลวก
พระสตุ ตันตปฎก อังคุตรนกิ าย จตกุ นบิ าต เลม ๒ - หนาที่ 91 ๑๗. ผาของภกิ ษดุ ว ยกนั ๑๘. ผาท่คี ลื่นทะเลซัดข้นึ ฝง ๑๙. ผาทเี่ ขาทง้ิ ๆ ไวในทรี่ าชาภเิ ษก ๒๐. ผา ท่ตี กอยูในหนทาง ๒๑. ผาทถี่ กู ลมหอบไป ๒๒. ผา สาํ เรจ็ ดว ยฤทธ์ิ ๒๓. ผา ทเ่ี ทวดาถวาย. กใ็ นเร่ืองผาน้ี พึงทราบวนิ ิจฉยั ดงั ตอไปนี้ บทวา โสตถฺ ยิ คอืผาทเี่ ขาหอครรภมลทินไปท้งิ . บทวา คตปจฺจาคต ความวา ผา ที่เขาหอคนตายนาํ ไปปาชาแลวนาํ กลับมา. บทวา ธชาหฏ คือผาทเี่ ขาใหย กเปน ธงข้ึนแลว นํากลบั มาจากท่ีนนั้ . บทวา ถปู คือ ผา ที่เขาบูชาไวท่ีจอมปลวกบทวา สามทุ ฺทิย คอื ผา ทค่ี ลื่นทะเลซดั ขน้ึ ฝง . บทวา ปถกิ คือ ผาพวกคนเดินทาง ทุบดวยแผนหินหม ไปเพราะกลวั โจร. บทวา อิทฺธิมย คอืจีวรของเอหภิ ิกษุ. บททีเ่ หลือ ชดั แจงแลว แล. ขอ วา พึงรจู ักจีวรสนั โดษ ความวา จีวรสนั โดษในจีวรมี ๒๐ คือ ๑. สนั โดษดวยการตรกึ ๒. สันโดษดวยการเดนิ ทาง ๓. สนั โดษดว ยการแสวงหา ๔. สันโดษดวยการได ๕. สนั โดษดว ยการรับพอประมาณ ๖. สนั โดษดวยการเวน จากความโลเล ๗. สันโดษตามได
พระสุตตนั ตปฎก องั คุตรนกิ าย จตุกนบิ าต เลม ๒ - หนาท่ี 92 ๘. สันโดษตามกําลงั ๙. สนั โดษตามสมควร ๑๐. สันโดษดว ยนา้ํ ๑๑. สันโดษดวยการซกั ๑๒. สนั โดษดว ยการทาํ ๑๓. สนั โดษดว ยการกะประมาณ ๑๔. สนั โดษดว ยดา ย ๑๕. สนั โดษดว ยการเยบ็ ๑๖. สนั โดษดวยการยอม ๑๗. สนั โดษดว ยการทาํ กัปปะ ๑๘. สันโดษดวยการใชส อย ๑๙. สันโดษดวยการเวน จากการสะสม ๒๐. สนั โดษดวยการสละ. ในสันโดษ ๒๐ เหลา นน้ั อันภกิ ษุผูยินดี อยูจาํ พรรษาตลอดไตรมาสแลว ตรึกเพียงหน่ึงเดือนก็ควร. ดว ยวาเธอปวารณาแลว ยอ มทําจวี รในเดอื นที่เกิดจวี ร. ภิกษผุ ถู ือผาบังสุกุลเปน วตั ร ยอ มทาํ ไดโ ดยก่งึ เดือนเทานั้น.การตรกึ สน้ิ กาลหนง่ึ เดอื นหรอื ก่ึงเดือนดวยประการดงั นี้ ช่ือวา วิตักกสนั โดษ.ก็อันภิกษุผูยนิ ดดี วยวติ กั กสนั โดษ พึงเปน เชน กับพระเถระผูถือผาบงั สุกลุเปนวัตร ผูอยทู ป่ี าจีนขณั ฑราชีวิหาร. ไดยนิ วา พระเถระ มาดวยหวังวา จักไหวพ ระเจดยี ในเจตยิ บรรพต-วิหาร ไหวพ ระเจดียแ ลวคดิ วา จีวรของเราเกา เราจักไดในท่ีอยขู องภิกษุมากรูป ทานไปยังมหาวิหาร พบพระสังฆเถระแลว จึงถามถงึ ทพ่ี กั แลว อยูในวหิ ารนน้ั ในวันรุงขึน้ จึงถอื เอาจีวรมาไหวพระเถระ พระเถระกลาววา
พระสุตตันตปฎ ก อังคตุ รนกิ าย จตุกนิบาต เลม ๒ - หนาที่ 93อะไร ผูมีอายุ. ทานตอบวา ทา นผเู จริญ กระผมจักไปยังประตบู าน พระ-เถระกลา ววา ผูม ีอายุ แมเ รากจ็ ักไป. ทา นรบั วา ดลี ะขอรับ แลว จึงเดนิ ไปยนื อยูท ซ่ี ุมประตแู หงมหาโพธิ คิดวา เราจักไดจวี รท่ีชอบใจ ในทอ่ี ยูของคนผมู ีบุญทั้งหลาย แลวคิดวา ความตรกึ ของเราไมบ รสิ ุทธิ์ จึงกลับเสียจากทน่ี ่ันเอง ในวันรุงข้ึน ไปสูท่ีใกลเนิน ช่อื เปนนัมพนะ ในวันรงุ ข้นึกลับจากประตูดานทิศเหนอื แหง มหาเจดียอ ยางนัน้ เหมอื นกัน แมใ นวันท่ี ๔ก็ไดไ ปยิ่งสํานกั พระเถระ. พระเถระคิดวา การตรกึ ของภิกษนุ ้ี จักไมบรสิ ุทธ์ิดงั นีแ้ ลว ถือเอาจวี ร ถามปญ หา เขา ไปสบู า นกบั ภกิ ษุนนั้ น่นั เอง. กใ็ นราตรนี ัน้ มนุษยคนหนึ่ง ปวดอจุ จาระแลวถายอุจจาระรดผาจึงผา นนั้ ไวใ นกองขยะ พระเถระผถู ือผา บงั สุกุลเปน วัตร เหน็ ผา น้ันทีห่ มแู มลงวนั หัวเขยี วไตตอม จงึ ประคองอญั ชล.ี พระมหาเถระถามวา ผูมีอายุ ทาํ ไมทา นจงึประคองอญั ชลีแกกองขยะ. พระเถระนน้ั ตอบวา ทา นผเู จริญ กระผมมไิ ดประคองอัญชลีแกก องขยะ กระผมประคองแกพระทศพล พระบดิ าของกระผมพระทศพลผูทรงถอื เอาผา ทเ่ี ขาคลุมรางนางปณุ ณทาสที ิ้งแลวเปน ผาบังสกลุ ทรงสลัดสัตวเ ลก็ ๆ ประมาณตมุ พะหน่ึง แลวทรงถอื เอาจากปาชา ทรงทาํ กจิ ทที่ ําไดยากแลว. พระมหาเถระ คิดวา ความตรกึ ของพระเถระผถู ือผาบังสุกลุ เปนวตั รบริสทุ ธิ์แลว แมพ ระเถระผถู ือบงั สกุ ุลเปน วัตร ก็ยนื อยู ณ ท่นี น้ั น่นั เองเจรญิ วิปส สนา บรรลผุ ลทงั้ สามแลว ถือเอาผาผืนนัน้ กระทําเปน จวี รหม แลวไปสูปาจนี ขณั ฑราชวี หิ าร ไดบรรลพุ ระอรหัตอนั เปนผลเลิศแลว . กก็ ารท่ภี ิกษุ เมือ่ จะไปเพอื่ ตอ งการจีวร ไมคดิ วา เราจักไดในทไ่ี หนไปโดยมีกมั มัฏฐานเปนใหญเทานั้น ช่อื วา คมนสนั โดษ (สันโดษดว ยการไป). กก็ ารท่ีภิกษเุ มอ่ื จะแสวงหาจีวร ไมแ สวงหากบั ภิกษุธรรมดาพาภกิ ษุผมู คี วามละอายนารกั ไปแสวง ซึ่งวา ปริเยสนสันโดษ สันโดษดว ย
พระสตุ ตันตปฎก องั คตุ รนิกาย จตุกนิบาต เลม ๒ - หนาท่ี 94การแสวงหา. การทภ่ี ิกษแุ สวงหาอยูอ ยา งน้ี เห็นจวี รท่ที ายกนํามาแตไกล ไมตรึกอยา งน้วี า จีวรน้นั จกั นา ชอบใจ จวี รนัน้ จกั นาพอใจ แลวยินดีดวยจวี รทห่ี ยาบหรือละเอยี ดเปนตน ตามท่ตี นไดแลวเทานน้ั ช่ือวา ปฎิลาภสันโดษสนั โดษดว ยการได. การทภี่ ิกษแุ มเมอื่ ถือเอาจีวรทีค่ นไดแ ลว อยางน้ี ยนิ ดดี ว ยจีวรสักวาเพียงพอแกตนเองวา ผา เทานี้ จักเปนจวี ร ๒ ชน้ั ผา เทา นี้ จกั เปนจวี รช้นั เดยี ว ดังนี้เทา น้นั ช่ือวา มัตตปฏิคคหณสนั โดษ สนั โดษดวยการรับเอาแตพ อดี. อน่ึง การทภ่ี กิ ษุแสวงหาจีวรอยู ไมคิดวา เราจกั ไดจวี รทีน่ าพอใจ ทีป่ ระตูเรอื นของคนโนน แลวเทยี่ วไปตามลําดบั ประตู ชื่อวา โลลุปป-ววิ ัชชนสันโดษ สนั โดษดว ยการเวน ความโลเลเสีย. การท่ีภิกษุอาจยังอัตภาพใหเปน ไป ดวยจวี รทีเ่ ศราหมอง หรือประณตีอยา งใดอยางหนง่ึ ยงั อัตภาพใหเ ปน ไปดว ยจวี รอนั ตนไดแ ลว อยางนัน่ แลชอ่ื วา ยถาลาภสันโดษ สันโดษดว ยปจ จยั ตามได. การรูจ ักกําลังของตนแลวยังอัตภาพใหเ ปน ไปดวยจวี รทีส่ ามารถจะใหเ ปนไปได ชื่อวา ยถาพลสันโดษสนั โดษดวยปจ จยั ตามกาํ ลงั . การทีภ่ ิกษุถวายจวี รท่ีชอบใจแกภกิ ษุอื่นแลว ยังอัตภาพใหเ ปน ไปดว ยจีวรอยางใดอยางหนงึ่ ของตน ช่อื วา ยถาสารุปปสันโดษสนั โดษดว ยปจจยั ตามสมควร การไมเลือกวา น้ําในทไี่ หนชอบใจ ในที่ไหนไมชอบใจ ดงั นีแ้ ลวซกั จีวรดวยนาํ้ ท่สี มควรซักไดอ ยางใดอยางหนง่ึ ชื่อวา อทุ กสันโดษ สนั โดษดวยนา้ํ . ภิกษคุ วรเวน นํ้าทข่ี นุ ดวยดินเหลือง ยางไมและใบไมเ นา. อันการที่ภิกษุผูจ ะซักจีวร ไมทุบดว ยไมคอนเปน ตน ขยาํ ดว ยมอื ซัก ชือ่ วา โธวน-สนั โดษ สันโดษดวยการซกั . อน่งึ จะซักจีวรท่ีไมส ะอาด แมด วยนาํ้ ที่ใสใบไมต มใหรอนก็ควร การที่ภิกษุซกั ทาํ อยูอยา งนี้ ไมยงั จิตใหกําเรบิ วา จวี รน้หี ยาบ จวี รน้ลี ะเอยี ดดังนแ้ี ลว กระทําโดยวิธีทใ่ี หเพียงพอเทา นน้ั ช่อื วา
พระสุตตนั ตปฎ ก องั คตุ รนกิ าย จตกุ นบิ าต เลม ๒ - หนา ท่ี 95กรณสนั โดษ สันโดษดวยการทาํ . การทาํ จวี รพอปดมณฑลสามเทา นั้น ชื่อวาปริมาณสันโดษ สันโดษดวยประมาณ. อนึ่ง การท่ไี มเที่ยวไปโดยคดิ วาเราจกั แสวงหาดายท่ีชอบใจ เพ่อื ทําจวี รแลว ถือดา ยชนดิ ใดชนิดหน่ึงนนั่ แลที่บุคคลนาํ มาวางไวท ถี่ นนเปนตน หรอื ทเ่ี ทวสถาน หรอื ทเี่ ขานํามาวางไวแทบเทา แลว ทาํ ชื่อวา สตุ ตสันโดษ สนั โดษดวยดาย. ในเวลาตดิ ผากุสิ พงึ สอยเยบ็ ๗ ครง้ั ในท่ีมีประมาณหน่งึ น้ิว. ดว ยวาเม่ือเธอทําอยูอยา งนี้ ภกิ ษุใดไมเปนสหาย แมภ ิกษนุ ั้นก็ไมเ สียธรรมเนียม.แตในทีป่ ระมาณสามนิว้ กค็ วรสอยเยบ็ ๗ คร้งั . เมอื่ เธอทาํ อยูอ ยางนี้ แมภิกษุผูเดินทาง กพ็ งึ เปน สหายแท. ภิกษุใดไมเปน สหาย ภิกษนุ ั้น กย็ อ มเสยีธรรมเนยี ม น้ีชื่อวา สพิ พนสนั โดษ สนั โดษดวยการเย็บ. ก็ภกิ ษผุ ูจะยอมจีวร ไมค วรเทีย่ วแสวงหานา้ํ ยอมไทรดําเปน ตน เธอไดนาํ้ ยอมมนี ้ํายอมไมพะยอมขาวเปน ตน อยา งใดอยา งหนง่ึ ก็พึงยอมดว ยน้าํ ยอ มน้นั . เมื่อไมไ ดอยางนัน้ พงึ ถอื เอานํา้ ยอมทีพ่ วกชาวบานถอื เอาปอแลว ทง้ิ ไวในปา หรอื กากนาํ้ ยอ มท่ีพวกภกิ ษุตมทิง้ ไว แลว จึงยอม น้ชี ือ่ วา รชนสนั โดษ สนั โดษดว ยการยอ ม. การท่ภี ิกษุถือเอาสีเขยี ว สีเปอ กตม สดี ํา สีคล้าํ อยา งใดอยางหนึง่ทํากัปปะ (พนิ ทุ) อันปรากฏชัดแกค นผนู ัง่ อยูบนหลงั ชา ง ช่อื วา กัปปสนั โดษสันโดษดว ยกัปปะ. การใชส อยพอปกปด อวัยวะทท่ี าํ ควานละอายใหกาํ เริบเทานัน้ ชือ่ วาปริโภคสันโดษ สนั โดษดว ยการใชส อย. พระมหาสิวเถระกลาววา ก็ภิกษุไดผ า แลว แตยงั ไมไดดายหรือเข็มหรือผูทาํ จะเกบ็ ไวกค็ วร แตเมื่อไดเ ขม็เปนตน จะเกบ็ ไวไมค วร แมจ วี รทท่ี าํ แลว ถาเธอประสงคจะใหแกส หธรรมกิมีอนั เตวาสกิ เปนตน แตอันเตวาสิกเหลานนั้ ยังอยไู มพ รอ มกัน จะเกบ็ ไวจ นกวาจะมากค็ วร เมอ่ื อนั เตวาสิกเปนตน พอมาถงึ แลว ควรใหท ีเดียว เมือ่ ไม
พระสตุ ตนั ตปฎ ก อังคุตรนกิ าย จตกุ นิบาต เลม ๒ - หนาที่ 96อาจจะให ควรอธษิ ฐานไว เม่อื ไตรจีวรอ่ืนมีอยู จะอธษิ ฐานแมเ ปนผา ปูนอนก็ควร ดวยวาจีวรที่ไมอ ธิษฐานนั่นแล ยอมเปนสนั นธิ แิ ท จวี รทอ่ี ธษิ ฐานแลวไมเปน สันนิธิ นช้ี อ่ื วา สันนธิ ปิ รวิ ัชชนสนั โดษ สนั โดษดว ยการเวน การสะสม. อนึง่ อันภิกษเุ มอื่ จะสละไมควรใหเพราะเห็นแกห นา พึงตัง้ อยใู นสาราณยี ธรรม แลว สละใหดงั น้ี นีช้ อื่ วา วิสัชชนสันโดษ สนั โดษดวยการสละ. ขอวา พงึ รูจกั ธุดงคทัง้ หลายทเ่ี กย่ี วดว ยจวี ร ไดแ กป ง สกุ ลุ ิกงั คะ องคแหง ภิกษผุ ูทรงผาบังสกุ ุลเปนวตั ร และเตจีวรกังคะองคแหง ภิกษผุ ูทรงไตรจีวรเปนวตั ร. พึงทราบเรอื่ งพสิ ดารแหงธดุ งคเหลา น้นั ในคัมภีรวสิ ุทธิมรรค.ภิกษุเมอื่ บําเพญ็ มหาอรยิ วงศเก่ยี วดว ยจีวรสนั โดษ ช่อื วา ยอมรกั ษาธุดงคส องเหลา นไี้ วไ ด เมื่อรักษาธุดงคเหลานั้น ยอ มเปนผสู นั โดษดว ยมหาอรยิ วงศคือจวี รสันโดษ ดว ยประการฉะน.้ี บทวา วณณฺ วาที ความวา ภกิ ษุรปู หน่งึ เปนผูสันโดษ แตไมก ลา วสรรเสริญสันโดษ. รปู หน่งึ ไมส ันโดษ แตก ลาวสรรเสรญิ สนั โดษ.รูปหนึง่ ท้งั ไมสันโดษ ทงั้ ไมก ลาวสรรเสรญิ สนั โดษ. รปู หน่งึ ยอ มเปนผสู นั โดษดว ย กลา วสรรเสริญสันโดษดวย. เพอื่ ทรงแสดงสันโดษน้นั จงึ ตรสั วาอิตรติ รจวี รลนฺตฏุ ยิ า จ วณฺณวาที ดงั น้ี. บทวา อเนสน ความวา ไมท ําการแสวงหาอนั ไมส มควรนานา-ประการตา งโดยเปนทตู การรบั ใชสง ขา ว. บทวา อปปฺ ฏิรูป แปลวา ไมส มควรบทวา อลทธฺ า จ แปลวา ไมไดแลว . ภิกษุบางรูปคิดวา เราจกั ไดจ ีวรอยา งไรหนอ อยูรวมกับพวกภิกษผุ ูมบี ญุ ทั้งหลาย ทําการหลอกลวงยอ มหวาดสะดุง อยา งใด ภิกษผุ สู ันโดษไมไดจ ีวร ยอมไมหวาดสะดุง อยางนัน้บทวา ลทธฺ า จ ความวา ไดโดยธรรม โดยสมาํ่ เสมอ. บทวา อคธิโตคอื ปราศจากเครือ่ งรอ ยคือโลภะ. บทวา อมจุ ฉฺ โิ ต ความวา ไมถงึ ความ
พระสตุ ตนั ตปฎ ก อังคุตรนิกาย จตุกนิบาต เลม ๒ - หนา ที่ 97สยบดว ยตณั หามีประมาณยิ่ง. บทวา อนชฺฌาปนโฺ น ความวา ผอู นั ตณั หาไมครอบงาํ ไมร ัดรงึ ไว. บทวา อาทนี วทสฺสาวี ความวา เหน็ โทษในอาบัติที่เน่ืองดว ยอเนสนาและในการบรโิ ภค ลาภทหี่ มกมนุ . บทวา นิสฺสรณ-ปโฺ ความวา รูชัดถงึ อบุ ายท่จี ะถอนตนออกซ่งึ ท่ีทานกลาววา เพียงเพื่อบาํ บดั ความหมายเทานน้ั . บทวา อิตรติ รจีวรสนฺตุฏ ิยา ความวา เพราะสนั โดษดว ยจวี รอยา งใดอยา งหน่งึ . บทวา เนวตฺตานกุ ฺก เสติ ความวา ยอ มไมยกตนวาเราทรงผา บังสกุ ลุ เปนปกติ เราถือวงศข องภกิ ษุผทู รงผาบังสกุ ุลเปนปกตใิ นโรงอุปสมบท ใครเลาจะเสมอเราดงั น้.ี บทวา โน ปร วมเฺ ภติ ความวาไมข มคนอื่นอยางน้วี า สวนภกิ ษอุ ืน่ ๆ เหลานน้ั ไมท รงบงั สกุ ลกิ ะ หรอื วาภกิ ษุเหลา นั้นไมมีแมเ พยี งทรงผาบงั สุกุล. บทวา โย หิ ตตถฺ ทกฺโข ความวาภกิ ษุใดมที กั ษะ คอื ฉลาดสามารถในภาวะกลา วสรรเสรญิ เปน ตน ในจวี รสันโดษนนั้ . บทวา อนลโส ความวา เวน ความเกียจครา นโดยการทาํ ตดิ ตอกัน .บทวา สมปฺ ชาโน ปตสิ ฺสโต ความวา ประกอบดว ยปญญาคอื สัมปชญั ญะและสต.ิ บทวา อรยิ ว เส โิ ต ไดแ ก ตง้ั มั่นแลวในอรยิ วงศ. บทวา อติ รติ เรน ปณฺฑปาเตน คือ ดว ยบิณฑบาตอยางใดอยา งหน่งึ .ก็ในบิณฑบาตสันโดษนี้ ภกิ ษุพงึ รจู ักบิณฑบาต พึงรจู กั เขตของบณิ ฑบาตพงึ รจู กั สนั โดษดวยบณิ ฑบาต พงึ รจู กั ธุดงคท ี่เก่ียวดว ยบณิ ฑบาต. ในขอเหลาน้นั ขอวา บิณฑบาตไดแ ก บณิ ฑบาต ๑๖ คือ ขาวสุก ขนมสด ขา ว-สัตตุ ปลา เน้ือ นํ้านม นมสม เนยใส เนยขน นาํ้ มนั นํา้ ผ้งึ น้าํ ออ ยขา วยาคู ของควรเคยี้ ว ของควรลิม้ ของควรเลีย.
พระสุตตันตปฎก อังคุตรนกิ าย จตกุ นิบาต เลม ๒ - หนา ท่ี 98 ขอวา เขตของบณิ ฑบาต ไดแก เขตของบิณฑบาต ๑๕ คอื๑. สงั ฆภตั ๒. อทุ เทสภตั๓. นิมันตนภัต ๔. สลากภตั ๕. ปกขิกภตั ๖. อุโปสถกิ ภัต ๗. ปาฏิปทิกภตั ๘. อาคนั ตุกภัต ๙. คมิกภตั ๑๐. คิลานภัต ๑๑. คิลานปุ ฏฐากภัต ๑๒. ธรุ ภัต๑๓. กุฏิภัต ๑๔. วิหารภัต. ขอวาบณิ ฑบาตสนั โดษ ไดแก สนั โดษในบณิ ฑบาต ๑๕ คือ ๑. วติ กั กสนั โดษ๒. คมนสนั โดษ ๓. ปรเิ ยสนสนั โดษ๔. ปฏิลาภสันโดษ๕. ปฏิคคหณสนั โดษ๖. มตั ตปฏิคคหณสันโดษ๗. โลลุปปวิวชั ชนสนั โดษ
พระสตุ ตนั ตปฎก องั คุตรนกิ าย จตุกนบิ าต เลม ๒ - หนา ที่ 99 ๘. ยถาลาภสนั โดษ ๙. ยถาพลสนั โดษ ๑๐. ยถาสารปุ ปสนั โดษ ๑๑. อุปการสันโดษ ๑๒. ปริมาณสันโดษ ๑๓. ปรโิ ภคสนั โดษ ๑๔. สนั นธิ ปิ ริวัชชนสนั โดษ ๑๕. วิสชั ชนสันโดษ. ในสนั โดษเหลาน้ัน ภกิ ษุผูยนิ ดลี างหนาเสรจ็ แลว จึงตรกึ . สว นปณ-ฑปาตกิ ภิกษไุ ปพรอ มกับคณะในเวลาบาํ รุงพระเถระตอนเย็นคดิ เทา นี้วา พรงุ นี้จกั เทีย่ วบณิ ฑบาตในที่ไหน ในบานโนน เจา ขา ดงั นแ้ี ลว ไมพึงตรึกตอจากน้นั .อัน ภิกษผุ เู ทยี่ วไปรปู เดียว พึงยนื ตรึกในโรงวติ ก. เมอ่ื เธอตรกึ ตอจากน้ันยอ มชื่อวา เคล่ือนหา งไกลจากอริยวงศ นช้ี อ่ื วา วติ กั กสันโดษ สันโดษดวยการตรกึ . เมือ่ เขา ไปเพอื่ บิณฑบาต ก็ไมค ิดวาเราจกั ไดใ นทไี่ หน พึงไปโดยมุงกัมมฏั ฐานเปนใหญ นชี้ อ่ื วา คมนสนั โดษ สันโดษดว ยการไป. เม่อื แสวงหากไ็ มพาภกิ ษุธรรมดาไป พงึ พาภกิ ษผุ ลู ะอายนา รกั เทา นั้นไปแสวง นี้ ช่อื วาปริเยสนสนั โดษ สนั โดษดวยการแสวงหา. เธอเห็นบณิ ฑบาตท่เี ขานาํ มาแตไ กล ไมพ งึ เกดิ จิตคดิ วา น่ันของชอบใจ ไมชอบใจดงั น้ี น้ี ชอ่ื วาปฏลิ าภสนั โดษ สันโดษดวยการได. เธอไมค ิดวา เราจักรบั สงิ่ น้ีท่ีชอบใจจักไมร ับสงิ่ น้ีทไ่ี มชอบใจดงั นี้ แลวพงึ รบั อยางใดอยา งหนึง่ ทีพ่ อยงั อัตภาพใหเปนไปเทา นัน้ นี้ ช่อื วา ปฏคิ คหณสันโดษ สนั โดษดว ยการรบั . กใ็ นปฏคิ คหณสันโดษปจ จยั นี้ ไทยธรรมมีมาก ทายกประสงคจ ะถวายนอย เธอ
พระสตุ ตนั ตปฎ ก อังคุตรนิกาย จตกุ นิบาต เลม ๒ - หนา ท่ี 100พงึ รบั แตนอย. ไทยธรรมมีมาก ทัง้ ทายกประสงคจ ะถวายมาก. เธอพึงรบัแตพอประมาณเทาน้นั . ไทยธรรมมไี มม ากท้งั ทายกประสงคจ ะถวายนอ ย เธอพงึ รบั แตนอ ย. ไทยธรรมมไี มมาก สว นทายกประสงคจ ะถวายมาก เธอพึงรบัโดยประมาณ. ดวยวา ภกิ ษุผไู มร ูจ ักประมาณในการรบั ยอ มทําลายความเส่ือมใสของพวกมนุษยย งั ศรัทธาไทยใหต ก ไมท ําตามคําสอน ยอมไมสามารถจะยดึ เหน่ยี วจิตแมของมารดาผูบ งั เกดิ เกลา ไวไ ด. เธอรูจกั ประมาณแลว พงึ รับดวยอาการอยางนแ้ี ล น้ี ช่ือวา มตั ตปฏิคคหณสนั โดษ สนั โดษดว ยการรบั พอประมาณ. การท่ภี กิ ษไุ มไปเฉพาะตระกลู ม่งั คัง่ เทา นั้น เดินไปตามลาํ ดบัประตู นชี้ ่ือวา โลลปุ ปววิ ัชชนสันโดษ สันโดษดว ยการเวน จากความโลเล.ยถาลาภสนั โดษเปนตน มนี ัยอันกลา วไวในจีวรแลว . การบรโิ ภคบณิ ฑบาตแลวรอู ุปการะอยา งน้ีวา เราจักรกั ษาสมณธรรมดังน้ี บริโภค ชอื่ วา อุปการสนั โดษ สันโดษดวยอปุ การะ. เธอไมพึงรบับาตรทีเ่ ขาบรรจเุ ตม็ มาถวาย เม่ืออนุปสัมบันมี พงึ ใหอ นปุ สัมบนั นัน้ รบั เมื่อไมม ี เธอใหเขานําออกเสยี บา ง รบั แตพอรับได นี้ช่ือ ปรมิ าณสันโดษ สันโดษดว ยประมาณ. การบรโิ ภคดวยคิดอยางนีว้ า เปนการบรรเทาความหวิ นีเ้ ปนอุบายถายถอนในความหวิ น้ี น้ชี อ่ื วา ปรโิ ภคสันโดษ สันโดษดว ยการบรโิ ภค.เธอไมพงึ เกบ็ ไวบ รโิ ภค นช้ี อ่ื วา สันนธิ ิปริวัชชนสันโดษ สันโดษดว ยการเวน จากสะสม. เธอไมเหน็ แกหนา ตง้ั อยใู นสาราณยี ธรรม พึงสละ นีช้ ื่อวาวสิ ชั ชนสนั โดษ สันโดษดว ยการสละ. สวนธุดงค ๕ ทีเ่ กยี่ วดว ยปณฑบาตคอื ปณ ฑปาตกิ งั คะ สปทานจารกิ งั คะ เอกาสนกิ ังคะ ปตตปณ ฑ-ิกังคะ ขลูปจฉาภัตติกงั คะ. ธดุ งคเหลานั้นมีเร่ืองพสิ ดาร อนั กลา วไวแลวในคมั ภีรวิสุทธมิ รรค. ภิกษุผูบาํ เพ็ญมหาอรยิ วงศเ กย่ี วดว ยปณฑบาตสันโดษยอ มรักษาธุดงค ๕ เหลาน้ี เมอ่ื รกั ษาธดุ งค ๕ เหลา น้ี ชอื่ วาเปนผูสนั โดษ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 634
Pages: