Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_34

tripitaka_34

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:35

Description: tripitaka_34

Search

Read the Text Version

พระสุตตนั ตปฎก อังคุตรนกิ าย ตกิ นิบาต เลม ๑ ภาค ๓ - หนาท่ี 251 ผูใดสมบูรณดวยศีลวตั ร สงตนไป แลว มีจติ เปนสมาธิ ผูใดมีจติ มคี วามชาํ - นาญ เปน เอกัคคตา ต้ังมน่ั ดีแลว ผูใดตรสั รู ปุพเพนิวาสญาณ เหน็ สวรรคและอบาย บรรลถุ ึงธรรมเปน ที่ส้นิ ไปแหงชาติเปนมนุ ี ผูอ ยจู บพรหมจรรย เพราะรดู วยปญญา อันยิ่ง และเปน พราหมณผูไดวชิ ชา ๓ เรายอมกลาวผูเ ชน น้ันวา ผูไดวชิ ชา ๓ หากลาวตามคาํ ท่ีพดู กันอยางอ่นื ไม. ดกู อนพราหมณ ผูไดว ิชชา ๓ ในอรยิ วินัยเปน อยางนีแ้ ล. ชา. ขาแตพ ระโคดมผเู จรญิ ผูไ ดว ชิ ชา ๓ ของพวกพราหมณเ ปนอยา งหนึง่ ก็แหละผไู ดวชิ ชา ๓ ในอริยวินยั เปน อยา งหนึ่ง ขา แตพ ระโคดมผเู จรญิ ผไู ดว ชิ ชา ๓ ของพวกพราหมณไ มถ ึงสวนที่ ๑๖ ซง่ึ จาํ แนกเปน ๑๖ครงั้ ของผูไดวิชชา ๓ ในอรยิ วินัยนี้ ขา แตพระโคคมผูเจรญิ ภาษติ ของพระองคแ จม แจง นัก ฯสฯ ขอทา นพระโคดมโปรดทรงจาํ ขาพระองคว า เปนอบุ าสกผถู งึ สรณะตลอดชีวติ จําเดมิ แตวันนเ้ี ปนตน ไป. จบชานุโสณีสูตรที่ ๙

พระสุตตนั ตปฎ ก องั คตุ รนกิ าย ตกิ นบิ าต เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ท่ี 252 อรรถกถาชานุสโสณสี ูตร พึงทราบวนิ จิ ฉัยใน ชานุสโสณีสูตรท่ี ๙ ดงั ตอไปน้ี:- บทวา ยสฺสสฺสุ เทากับ ยสสฺ ภเวยฺยุ (ของผใู ดพงึ มี). ในบทวายฺโ เปนตน มีอธบิ ายวา ไทยธรรมชื่อวายญั เพราะตอ งบชู า. คําวายญั นเี้ ปนชอื่ ของไทยธรรม. บทวา สทฺธ ไดแ กภัตตาหารทอ่ี ุทศิ เพื่อผตู าย.บทวา ถาลปิ าโก ไดแ ก ภัตตาหารทจี่ ะพงึ ใหแ กบ ริษทั อื่น. ข้ึนช่ือวาไทยธรรมทุกอยา ง ที่เหลือจากทีก่ ลาวแลว ชอื่ วา ไทยธรรม. บทวา เตวิชฺเชสุ พฺราหมฺ เณสุ ทาน ทเทยฺย ความวาทานทง้ั หมดน้ี ควรใหใ นผูม ีวิชชา ๓. พระผมู ีพระภาคเจาทรงแสดงวา พราหมณผมู ีวชิ ชา ๓ เทาน้ัน ควรไดรับ (ทาน). บททเ่ี หลอื ในพระสูตรนี้ มีนัยดังกลา วแลวในหนหลงั . จบอรรถกถาชานุสโสณสี ูตรท่ี ๙ ๑๐. สงั คารวสตู ร วาดวยบญุ ปฏิปทาที่มผี ลมาก [๕๐๐] ครงั้ นัน้ แล สงั คารวพราหมณไ ดเ ขา ไปเฝาพระผูม ีพระภาคเจาถึงท่ีประทับ ไดปราศรยั กบั พระผูมพี ระภาคเจา ครั้นผานการปราศรยั พอใหระลกึ ถึงกนั ไปแลว นง่ั ณ ทีค่ วรสวนขา งหน่ึง ครัน้ แลวไดก ราบทลู วาขาแตพระโคดมผเู จริญ พวกขาพระองคช อ่ื วา พราหมณ ยอมบูชายัญเองบา งใหคนอืน่ บชู าบาง ขา แตพระโคดมผเู จรญิ ในบรรดาบคุ คลเหลานัน้ ผทู บ่ี ชู า

พระสตุ ตนั ตปฎ ก อังคตุ รนกิ าย ตกิ นบิ าต เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ท่ี 253ยัญเองและผทู ีใ่ ชใหค นอื่นบชู าทกุ คน ชื่อวา เปน ผูป ฏบิ ัติปฏิปทาเปน เหตุใหเกิดบุญ อนั มียญั เปนเหตุ ซงึ่ มกี าํ เนดิ แตส รีระเปน อันมาก อนง่ึ ผใู ดออกจากสกลุ ใด บวชเปน บรรพชติ ฝก แตค นเดียว ทําตนใหสงบแตค นเดยี ว ทําตนใหดบั ไปแตคนเดียว เม่ือเปน เชน นี้ ผูน ้ันช่ือวา มีปฏิปทาเปน เหตุใหเกดิ บุญอันมบี รรพชาเปน เหตุ ซงึ่ มีกาํ เนดิ แตสรีระอันเดยี ว. พระผมู ีพระภาคเจาตรัสวา ดูกอนพราหมณ ถากระน้นั เราจักขอถามทานในขอ นี้ ทานจงเฉลยปญ หานนั้ ตามทีท่ านเห็นควร ดูกอนพราหมณ ทา นจะสําคัญความขอ นัน้ เปน ไฉน พระตถาคตเสดจ็ อุบัตใิ นโลกนี้ เปน พระอรหันตตรสั รเู องโดยชอบ ถงึ พรอมดว ยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดแี ลว ทรงรูแ จงโลกเปน สารถฝี ก บุรุษทค่ี วรฝก ไมม ผี อู นื่ ยง่ิ กวา เปนศาสดาของเทวดาและมนษุ ยทง้ั หลายทรงเบกิ บานแลวเปน ผูจ าํ แนกธรรม พระตถาคตอรหตั สัมมาสมั พทุ ธ-เจาพระองคนน้ั ไดต รัสไวอยา งนี้วา เราดําเนนิ ไปแลว ตามมรรคน้ี ตามปฏปิ ทาน้ีทาํ ธรรมอันยอดเยยี่ มซ่ึงเปนทีส่ ุดแหงพรหมจรรย ใหแ จง ชัดดวยปญ ญาอันยิ่งเองแลว สอนประชาชนใหร ูต าม มาเถิด ถงึ ทา นท้ังหลายกจ็ งปฏิบตั ิตามอาการที่ทา นท้ังหลายปฏบิ ตั ไิ ดแ ลว ก็จกั ทําธรรมอันยอดเยี่ยมซ่งึ เปน ท่สี ดุ แหง พรหม-จรรยใหแจงชดั ดวยปญ ญาอันย่ิงของตนแลว เขา ถงึ อยู พระศาสดาพระองคนี้ทรงแสดงธรรมไวด ังน้ี ทง้ั ผูอืน่ ตา งปฏิบตั ิเพ่ือความเปน อยา งนน้ั กผ็ ูแสดงและผปู ฏิบัตนิ นั้ มมี ากกวารอ ย มมี ากกวาพนั มมี ากกวา แสน ดกู อนพราหมณทานจะสําคัญ ความขอ นนั้ เปนไฉน เม่ือเปนดังทีไ่ ดกลาวมาแลว นี้ บุญปฏปิ ทาซึ่งมบี รรพชาเปนเหตนุ นั้ ยอมจะมกี ําเนดิ แตสรรี ะเดยี ว หรือมีกาํ เนิดแตส รรี ะเปนอนั มาก. สัง. ขา แตพ ระโคดมผูเจรญิ เมอื่ เปนเชนดงั ตรัสมาฉะน้ี บญุ ปฏิปทาท่ีมีบรรพชาเปนเหตนุ ี้ ยอมมีกาํ เนดิ แตสรรี ะเปน อนั มาก.

พระสตุ ตนั ตปฎ ก อังคตุ รนิกาย ติกนิบาต เลม ๑ ภาค ๓ - หนาที่ 254 เมอื่ สงั คารวพราหมณกราบทูลอยางนแี้ ลว ทา นพระอานนทไ ดถ ามสงั คารวพราหมณวา ดกู อ นพราหมณ บรรดาปฏปิ ทา ๒ อยา งน้ี ทานชอบใจปฏิปทาอยางไหนซ่งึ มคี วามตอ งการนอ ยกวา มีความรเิ รม่ิ นอยกวา แตว ามีผลและอานสิ งสมากมาย เมอ่ื ทา นพระอานนทถ ามอยางน้ี สงั คารวพราหมณไ ดกลาววา ทา นพระโคดมฉนั ใด ทา นพระอานนทก ฉ็ ันนัน้ ทานทั้ง ๒ นี้เราควรบชู า เราควรสรรเสรญิ แมครง้ั ที่ ๒ ทานพระอานนทไดถามวาดูกอ นพราหมณ เรามิไดถามทานอยางนีว้ า ทา นควรบูชาใคร หรอื วา ทานควรสรรเสริญใคร แตเราถามทา นอยางน้ีวา ดกู อ นพราหมณ บรรดาปฏิปทา๒ อยางนี้ ทา นชอบปฏิปทาอยางไหน ซง่ึ มีความตองการนอยกวา มีความรเิ รม่ิ นอ ยกวา แตวา มีผลและอานิสงสม ากมาย ถึงครง้ั ท่ี ๒ สังคารวพราหมณก็ไดก ลา ววา ทานพระโคดมฉันใด ทา นพระอานนทก ็ฉันนน้ั ทานท้ัง ๒ นี้เราควรบูชา เราควรสรรเสริญ แมค รง้ั ท่ี ๓ ทา นพระอานนทไดกลาววาดกู อนพราหมณ เรามิไดถามทา นอยางนว้ี า ทานควรบูชาใคร ทานควรสรรเสรญิ ใคร แตเ ราถามทา นอยางนี้วา ดูกอ นพราหมณ บรรดาปฏปิ ทา ๒อยางนี้ ทานชอบปฏปิ ทาอยา งไหน ซึง่ มีความตอ งการนอ ยกวา มคี วามรเิ ริม่นอ ยกวา แตว า มีผลและอานิสงสม ากมาย ถึงคร้งั ท่ี ๓ สงั คารวพราหมณก ็ไดกลาววา ทานพระโคดมฉันใด ทา นพระอานนทกฉ็ ันนน้ั ทานทงั้ ๒ น้ี เราควรบชู า เราควรสรรเสรญิ . ลาํ ดบั นน้ั แล พระผมู ีพระภาคเจาไดทรงดาํ รวิ า สังคารวพราหมณถูกอานนทถ ามปญหาทชี่ อบแลว นง่ิ เสีย ไมเฉลยถึง ๓ ครง้ั แล ถากระไรเราควรจะชว ยเหลอื จงึ ไดตรัสถามสังคารวพราหมณว า ดกู อนพราหมณ วนั น้ีพวกทีม่ าน่งั ประชุมกันในราชบริษัทในราชสํานัก ไดพดู สนทนากนั ขนึ้ ในระหวา งวาอยางไร สังคารวพราหมณก ราบทูลวา ขา แตพระโคดมผูเจริญ วนั นี้

พระสตุ ตันตปฎก องั คตุ รนกิ าย ตกิ นิบาต เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ที่ 255พวกที่มาน่ังประชมุ กันในราชบรษิ ัทในราชสํานกั ไดพ ดู สนทนากันข้ึนในระหวางวา เขาวาเมือ่ กอ นภิกษุทีแ่ สดงอทิ ธิปาฏิหารยิ ไดมนี อ ยมาก และอุตร-ิมนุษยธรรมมีมากมาย ทกุ วันน้ี ภกิ ษทุ ่แี สดงปาฏิหารยิ ไดมมี ากมาย และอุตริ-มนษุ ยธรรมมีนอ ยมาก ขา แตพ ระโคดมผเู จริญ ทุกวันนี้ พวกทีม่ านัง่ ประชุมกนั ในราชบรษิ ัทในราชสาํ นักไดพูดสนทนากันข้นึ ในระหวางวา ดังนแ้ี ล. วา ดวยปาฏหิ าริย ๓ อยา ง พ. ดกู อนพราหมณ ปาฏหิ ารยิ  ๓ อยางนี้ ๓ อยา งเปนไฉน คอือทิ ธปิ าฏหิ ารยิ  ฤทธเ์ิ ปนอศั จรรย๑ อาเทสนาปาฏิหารยิ  ดกั ใจเปน อัศจรรย๑อนุสาสนปี าฏหิ าริย คําสอนเปนอศั จรรย๑ ดูกอนพราหมณ ก็อิทธปิ าฏิหารยิ เปนไฉน ดกู อนพราหมณ ภกิ ษบุ างรปู ในธรรมวนิ ัยน้ี ยอ มแสดงฤทธ์ไิ ดเ ปนอนั มาก คอื คนเดยี วเปน หลายคนก็ได หลายคนเปนคนเดยี วกไ็ ด ทําใหปรากฏกไ็ ด ทาํ ใหหายไปกไ็ ด ทะลุฝากาํ แพงภเู ขาไปไดไมตดิ ขัดเหมือนไปในที่วา งก็ได ผดุ ขนึ้ ดาํ ลง แมใ นแผนดินเหมอื นในน้าํ ก็ได เดนิ บนน้ําไมแ ตกเหมอื นเดนิ บนดินกไ็ ด เหาะไปในอากาศเหมอื นนกก็ได ลูบคลําพระจันทรพระอาทติ ยซ งึ่ มีฤทธ์ิมีอานุภาพมากดว ยฝามือกไ็ ด ใชอ าํ นาจทางกายไปตลอดพรหมโลกกไ็ ด ดกู อ นพราหมณ น้เี รยี กวา อทิ ธิปาฏิหาริย. ดูกอนพราหมณ กอ็ าเทสนาปาฏิหาริยเปนไฉน ดกู อนพราหมณ ภิกษุบางรูปในธรรมวนิ ยั น้ี พูดดกั ใจไดโดยนิมิตวา ใจของทา นเปนอยางน้ีบา งใจของทา นเปนเชนนีบ้ า ง จติ ของทานเปนดวยประการฉะนบ้ี า ง ถงึ หากเธอจะพูดดักใจกะคนเปน อนั มากกด็ ี คําท่ีเธอพดู นนั้ กเ็ ปนเชนนนั้ หาเปนอยา งอ่ืนไปไม ดูกอนพราหมณ ก็ภกิ ษบุ างรูปในธรรมวินยั น้ี พูดดักใจโดยนมิ ิตไมไ ดเลย ก็แตวา พอไดย นิ เสียงมนุษย อมนษุ ย หรือเทวดาเขา แลวยอมพดู ดกั ใจไดวา ใจของทา นเปนอยา งนบี้ า ง ใจของทานเปนเชนนบี้ า ง

พระสตุ ตันตปฎก องั คตุ รนกิ าย ติกนิบาต เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ท่ี 256จิตของทานเปนดวยประการฉะนีบ้ า ง ถึงหากเธอจะพดู ดักใจกะคนเปนอันมากก็จรงิ คําทีเ่ ธอพูดน้ันกเ็ ปน เชน นัน้ หาเปนอยางอื่นไม ดกู อนพราหมณ กภ็ กิ ษุบางรปู ในธรรมวินัยน้ี พูดดกั ใจโดยนิมติ ไมไดเ ลย ถึงไดยนิ เสยี งมนุษยอมนษุ ย หรอื เทวดาเขาแลว กพ็ ูดดกั ใจไมไ ดเลย แตวาพอไดย ินเสยี งวิตกวจิ ารของบคุ คลผูตรึกตรองเขา แลว ยอ มพูดดกั ใจไดวา ใจของทานเปนอยางนี้บาง ใจของทา นเปน เชน นีบ้ าง จิตของทา นเปน ดวยประการฉะน้ีบา ง ถึงหากเธอจะพูดดักใจกะคนเปน อันมากกจ็ ริง คาํ ท่ีเธอพดู นนั้ กเ็ ปน เชนน้ัน หาเปนอยางอน่ื ไปไม ดูกอ นพราหมณ กภ็ กิ ษุบางรูปในธรรมวนิ ยั น้ี พดู ดักใจโดยนิมติไมไดเ ลย ถงึ ไดย นิ เสยี งมนษุ ย อมนุษยห รอื เทวดาเขา แลว ก็พูดดกั ใจไมไ ดถงึ ไดยนิ เสียงวิตกวจิ ารของบคุ คลผตู รึกตรองเขา แลว กพ็ ูดดักใจไมได ก็แตว ากาํ หนดรใู จของผทู ี่เขาสมาธิ อนั ไมม วี ิตกวิจาร ดวยใจของตนวา ทา นผูน ี้ต้งัมโนสังขารไวดว ยประการใด จักตรกึ วติ กชื่อโนนในลาํ ดบั จิตนีด้ ว ยประการนน้ัถงึ หากเธอจะพดู ดักใจกะคนเปน อนั มากกจ็ รงิ คาํ ท่เี ธอพูดนัน้ ก็เปนเชน นนั้หาเปนอยางอน่ื ไปไม ดูกอ นพราหมณ นเี้ รียกวา อาเทสนาปาฏิหารยิ  ดูกอนพราหมณ กอ็ นุสาสนีปาฏหิ ารยิ เ ปน ไฉน ดกู อนพราหมณ ภกิ ษุบางรูปในธรรมวนิ ัยนี้ พร่ําสอนอยอู ยา งนวี้ า จงตรกึ อยา งน้ี อยา ไดต รกึ อยา งน้ีจงมนสิการอยา งนี้ อยา ไดม นสิการอยา งนี้ จงละสิง่ น้ี จงเขาถึงสง่ิ นี้อยู ดกู อนพราหมณ นีเ้ รียกวา อนุสาสนีปาฏิหารยิ . ดกู อนพราหมณ ปาฎหิ าริย ๓ อยา งนแี้ ล ดกู อ นพราหมณ บรรดาปาฏหิ ารยิ ท้งั ๓ อยางนี้ ทานชอบปาฏิหาริยอ ยา งไหนซึง่ ดีกวา และประณตี กวา สัง. ขา แตพระโคดมผเู จริญ บรรดาปาฏิหาริย ๓ อยา งนน้ั ปาฏหิ ารยิ ทภ่ี ิกษุบางรูปในธรรมวินัยน้ี ฯลฯ ใชอํานาจทางกายไปตลอดพรหมโลกกไ็ ด

พระสตุ ตันตปฎก อังคุตรนิกาย ตกิ นบิ าต เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ท่ี 257ดังน้นี ้นั ผใู ดแสดงอิทธิปาฏหิ าริยน้ีได แสดงฤทธิเ์ ปนอันมาก ผนู ั้นยอ มชอบใจปาฏหิ ารยิ น นั้ ปาฏหิ ารยิ ทีผ่ ูใ ดแสดงได และเปนของผูนน้ั น้ี ยอมปรากฏแกขาพระองค เหมอื นกบั รูปลวง ปาฏหิ าริยทภี่ กิ ษุบางรปู ในธรรมวินยั นี้พูดดักใจไดย ินโดยนิมติ วา ใจของทา นเปน อยางน้ีบา ง ใจของทานเปนเชนนบี้ า งจติ ของทานเปนดวยประการฉะนี้บา ง ถงึ เธอจะพดู ดักใจกะชนเปนอนั มากกด็ ีคําทีเ่ ธอพดู นั้นก็เปนเชนน้ันหาเปนอยา งอืน่ ไม ขา แตพระโคดมผเู จริญ ก็ภกิ ษุบางรปู ในธรรมวนิ ยั น้ี พูดดกั ใจโดยนิมิตไมไดเลย ... แตว า พอไดย นิ เสียงมนุษย อมนษุ ยห รือเทวดาเขาแลว ก็พดู ดกั ใจได ... แมว าไดยนิ เสียงมนษุ ยอมนษุ ย หรอื เทวดาเขา แลว พดู ดักใจไมไ ด แตว าไดย นิ เสียงวติ กวจิ ารของบุคคลผูต รกึ ตรองเขา แลว ก็พดู ดกั ใจได ... ถึงไดยนิ เสยี งวติ กวิจารของบุคคลผูตรกึ ตรองเขาแลว กพ็ ดู ดักใจไมไ ด แตวา กําหนดรูใ จของผอู ่นื ทเ่ี ขา สมาธิอนั ไมมวี ติ กวิจารดว ยใจของตนวา ทา นผูนตี้ ้ังมโนสงั ขารดวยประการใด จกัตรกึ วติ กช่ือโนนในลําดบั จิตนดี้ ว ยประการน้นั ถึงหากเธอจะพูดดักใจกะคนเปน อนั มากก็ดี คาํ ท่เี ธอพดู นัน้ กเ็ ปน เชน น้ัน หาเปนอยา งอน่ื ไปไม ผูใดแสดงปาฎิหารยิ น ี้ได ผูนนั้ ยอ มชอบใจปาฎิหารยิ น้ัน ปาฏิหาริยท่ีผใู ดแสดงไดและเปน ของผูนน้ั นี้ ยอมปรากฏแกข า พระองคเ หมือนกบั รปู ลวง ขา แตพระ-โคดมผูเ จรญิ บรรดาปาฏหิ าริยทงั้ ๓ อยางน้ี ปาฏหิ าริยที่ภกิ ษุบางรูปในธรรมวินยั น้ี พร่าํ สอนอยูอ ยา งนวี้ า จงตรึกอยางนี้ อยาไดต รึกอยา งน้ี จงมนสกิ ารอยา งนี้ อยา ไดมนสิการอยา งน้ี จงละสง่ิ นเ้ี สีย จงเขาถงึ สิ่งนี้อยูควรแกข าพระองค ทง้ั ดกี วา และประณตี กวา ขา แตพระโคดมผูเจริญนา อศั จรรย ไมเ คยมี ทที่ า นพระโคดมตรสั ดแี ลว และขาพระองคจะจําไววาทานพระโคดมประกอบดวยปาฏิหารยิ  ๓ อยางนี้ เพราะทานพระโคดมแสดงฤทธิ์ไดเ ปนอนั มาก ฯลฯ ใชอํานาจทางกายไปตลอดพรหมโลกกไ็ ด เพราะ

พระสุตตันตปฎ ก องั คุตรนิกาย ติกนบิ าต เลม ๑ ภาค ๓ - หนาท่ี 258ทานพระโคดมกาํ หนดรใู จของผทู ่ีเขา สมาธิ อันไมมีวิตกวจิ ารดวยใจของพระองคว า ทา นผูน ีต้ ัง้ มโนสังขารไวดวยประการใด จกั ตรกึ วติ กชอื่ โนนในลาํ ดับจิตน้ดี ว ยประการน้นั เพราะทา นพระโคดมทรงพรํา่ สอนอยอู ยางนวี้ าจงตรกึ อยา งนี้ อยา ไดต รกึ อยางนี้ จงมนสกิ ารอยา งน้ี อยา มนสกิ ารอยา งน้ีจงละสงิ่ นีเ้ สยี จงเขาถึงสิ่งนอ้ี ยู. พ. ดกู อนพราหมณ ทา นไดกลา ววาจาทค่ี วรนําไปใกลเราแนแ ทเทยี วแล เออกเ็ ราจกั พยากรณแ กทานวา เพราะเราแสดงฤทธ์ิไดเ ปนอนั มากฯลฯ ใชอํานาจทางกายไปตลอดพรหมโลกก็ได ดูกอ นพราหมณ เพราะเรากําหนดรใู จของผูทีเ่ ขาสมาธิ อันไมมีวติ กวิจารดว ยใจของตนวา ทานผูนีต้ ั้งมโนสังขารไวด ว ยประการใด จกั ตรึกวิตกชื่อโนนในลําดับจิตน้ีดวยประการนั้นเพราะเราพราํ่ สอนอยูอยา งนีว้ า จงตรึกอยางน้ี อยา ตรึกอยา งน้ี จงมนสกิ ารอยางน้ี อยามนสกิ ารอยางน้ี จงละสงิ่ น้ีเสยี จงเขา ถงึ สง่ิ นีอ้ ย.ู สงั . ขา แตพระโคดมผูเ จริญ ก็แมภ กิ ษอุ น่ื รูปหน่งึ ผูประกอบดวยปาฏหิ ารยิ  ๓ อยา งนี้ นอกจากทานพระโคดม มอี ยูหรอื . พ. ดูกอนพราหมณ ไมใชมรี อ ยเดยี ว ไมใ ชสองรอย ไมใชสามรอ ยไมใ ชส่ีรอ ย ไมใชหารอย ท่แี ทภ ิกษุผปู ระกอบดวยปาฏหิ ารยิ  ๓ อยา งน้ี มีอยูมากมายทีเดียว. สัง. ขาแตพ ระโคดมผูเ จรญิ ก็บดั นี้ ภิกษุเหลาน้นั อยูไหน. พ. ดูกอนพราหมณ อยใู นหมูภ ิกษุนี้เองแหละ. สัง. ขาแตพ ระโคดมผูเ จรญิ ภาษติ ของพระองคแ จม แจงนกั ขา แตพระโคดมผูเจริญ ภาษติ ของพระองคแ จม แจง นัก พระองคท รงประกาศธรรมโดยอเนกปรยิ าย เปรียบเหมือนบคุ คลหงายของทค่ี วํา่ เปด ของท่ปี ด บอกทาง

พระสุตตันตปฎก อังคตุ รนิกาย ติกนิบาต เลม ๑ ภาค ๓ - หนาที่ 259แกผ ูหลงทาง หรอื สองประทปี ในท่มี ดื ดวยตงั้ ใจวา คนมจี กั ษจุ ักมองเห็นรปูฉะนนั้ ขาแตพระโคคมผเู จริญ ขา พระองคน ้ีขอถงึ ทานพระโคดม กับทั้งพระธรรมและพระภิกษุสงฆเ ปนสรณะ ขอทา นพระโคดมโปรดทรงจาํ ขาพระองควา เปนอุบาสกผถู งึ สรณะตลอดชวี ติ จําเดมิ แตวันนเ้ี ปนตนไป. จบสงั คารวสตู รท่ี ๑๐ จบพราหมณวรรคท่ี ๓ อรรถกถาสงั คารวสูตร พึงทราบวนิ จิ ฉัยในสังคารวสตู รท่ี ๑๐ ดงั ตอไปน้ี:- บทวา สงฺคารโว ไดแ ก พราหมณผ ดู ูแล ผูทําการปฏิ-สังขรณข องเกา ในกรงุ ราชคฤห มชี ่ืออยา งน.ี้ บทวา อุปสงฺกมิ ความวาพราหมณร ับประทานอาหารเชา แลว มีมหาชนหอ มลอ ม เขาไปเฝาพระผมู ีพระภาคเจา . บทวา อสสฺ ุ ในคาํ วา มยมสสฺ ุ น้ี เปน เพียงนิบาต คือเปนบทแสดงความน้ีวา ขา แตพ ระโคดมผเู จริญ ขาพระองคท งั้ หลาย ชือ่ วาพราหมณ. บทวา ยฺ  ยชาม ความวา ขนึ้ ชอ่ื วา ยญั ประกอบไปดวยการฆา สตั วอ ยา งนี้ ชุดละ ๔ ตัว ชดุ ละ ๘ ตวั ชุดละ ๑๖ ตวั ชุดละ ๓๒ ตัวชดุ ละ ๖๔ตัว ชุดละ ๑๐๐ ตัว และชดุ ละ ๕๐๐ ตัว มอี ยใู นลัทธิภายนอก(พระพุทธศาสนา). พระผูมีพระภาคเจา ตรัสหมายเอายัญนนั้ น่ันแหละ. บทวาอเนกสารีรกิ  ไดแ ก เนือ่ งดว ยคนมาก. บทวา ยทิท เทา กบั ยา เอสาแปลวา นใี้ ด. บทวา ยฺ าธกิ รณ ความวา มีการบชู ายัญเปนเหตุ และ


















































































Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook