พระสุตตันตปฎ ก อังคตุ รนิกาย ตกิ นิบาต เลม ๑ ภาค ๓ - หนาท่ี 381เหลือแตต อเทา นัน้ . บทวา พฺยสน อาปชชฺ ติ น้ี พระผมู พี ระภาคเจาตรสั หมายถงึ ตนไมน้ัน. กใ็ นบทวา เอวเมว โข นี้ มีขอ เปรยี บเทยี บดงั ตอไปน้ี ก็สตั วโ ลกพงึ เห็นเหมือนตน ไมต น ใดตนหน่ึง ในบรรดาตนรังเปน ตน อกุศลมูล ๓พงึ เหน็ เหมือนเถายานทราย ๓ เถา. เวลาทค่ี วามโลภเปนตน ยงั ไมประจวบทวาร พงึ เห็นเหมอื นการทเ่ี ถาวลั ยเ หลา นั้น โอบตน ไมข ึน้ ไปตรง ๆ ยังไมถงึ กง่ิ ไม. เวลาทค่ี วามโลภเปน ตน ดําเนนิ ไปดวยอํานาจแหงทวาร พึงเหน็เหมือนเวลาทเี่ ถาวัลยเ ลอ้ื ยไปตามแนวกงิ่ ไม. เวลาทค่ี วามโลภเปน ตนกลมุ รมุ จิตใจ พงึ เห็นเหมอื นเวลาทเ่ี ถาวัลยคลุมตนไม. เวลาทภี่ ิกษุตอ งอาบตั เิ ลก็ ๆ นอ ย ๆ ดวยอํานาจแหง กเิ ลสทั้งหลายท่ีมาประจวบทวารแลวพึงเห็นเหมือนเวลาทก่ี ิ่งเล็ก ๆ หลุดลงมา. เวลาท่ภี ิกษตุ องครุกาบัติ พึงเหน็ เหมอื นเวลาทก่ี ิ่งไมใ หญห ักลงมา. เวลาท่ีภิกษุตอ งอาบัติปาราชกิ แลวตกลงไปในอบายท้งั ๔ ตามลําดบั พงึ เห็นเหมอื นเวลาทต่ี นไมลมลงที่พนื้ ดินในเมอื่ โคนชมุ ฉ่าํ ไปดวยนาํ้ ทไี่ หลลงมาตามแนวเถาวลั ย. ธรรมฝายขาว (กศุ ลธรรม) พึงทราบโดยตรงขา มกบั ทกี่ ลาวมาแลว .แตในบทวา เอวเมว โข นี้ พงึ ทราบขอ เปรยี บเทียบดงั ตอไปนี้ สัตวโลกนี้พงึ เหน็ เหมอื นตนไมอ ยางใดอยางหนึง่ ในบรรดาตน รังเปนตน . อกศุ ลมูลทงั้ ๓ พงึ เหน็ เหมือนเถายานทราย ๓. พระโยคาวจร พึงเหน็ เหมือนบรุ ษุ ผูมาทําเถาวลั ยเ หลานน้ั ใหเปนไป (ขดุ เถาวลั ยท งิ้ ). ปญ ญาพึงเหน็ เหมอื นจอบ.พลงั แหงศรทั ธา พงึ เหน็ เหมอื นพลงั แหง จอบ. การขุดดวยวปิ ส สนา พึงเหน็เหมอื นการขุดดวยจอบ. เวลาทพ่ี ระโยคาวจร ใชว ิปสสนาญาณ ตดั รากของอวชิ ชา พงึ เหน็ เหมือนการตดั รากของเถาวัลย โดยการขดุ . เวลาทพ่ี ระโยคา-วจรเหน็ (รูปนาม) ดว ยสามารถแหงขนั ธ พึงเห็นเหมือนเวลาทีต่ ดั เถาวัลย
พระสุตตันตปฎ ก อังคุตรนกิ าย ติกนบิ าต เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ท่ี 382ใหเปนทอนนอยทอ นใหญ. เวลาท่พี ระโยคาวจรถอนกิเลสข้ึนไดด ว ยมคั คญาณพึงเห็นเหมอื นเวลาทีผ่ า เถาวลั ย. เวลาทีเ่ บญจขันธย งั ดาํ รงอยู พงึ เหน็เหมือนเวลาทําเถาวลั ยใ หเปน ขเ้ี ถา . เวลาทพ่ี ระโยคาวจร ดับอุปาทนิ นกขันธโดยการดบั ไมใหม ีปฏสิ นธิ แลว ไมถือปฏิสนธิในภพใหม พึงเหน็ เหมอื นเวลาทเี่ ขาโปรยขีเ้ ถาลงไปทพี่ ายใุ หญ ทาํ ใหไ มไ หเกิดอกี ฉะนน้ั แล. ในพระสตู รน้ีพระผูม พี ระภาคเจา ตรัสท้ังวฏั ฏะ และ ววิ ฏั ฏะ. จบอรรถกถามลู สตู รท่ี ๙ ๑๐. อุโปสถสูตร วา ดว ยอโุ บสถ ๓ อยา ง [๕๑๐] สมัยหนง่ึ พระผมู พี ระภาคเจาประทบั ณ บพุ พารามปราสาทของ (นางวิสาขา) มคิ ารมารดา กรุงสาวตั ถี ครัง้ นัน้ วนั อุโบสถนางวสิ าขา มิคารมารดา เขาไปเฝาพระผูมพี ระภาคเจา ฯลฯ พระผมู พี ระ-ภาคเจารับสง่ั ทกั นางวสิ าขา มิคารมารดา ผูน่งั ณ ทค่ี วรสวนหนึ่งแลว วาเชิญ วิสาขา มาจากไหนแตเ ชา . นางกราบทูลวา วนั นี้ขาพระพทุ ธเจารกั ษาอุโบสถ พระพุทธเจาขา . ตรสั พระธรรมเทศนาวา วสิ าขา อุโบสถ ๓ นี้ ๓ คืออะไร คอืโคปาลกอโุ บสถ (อุโบสถเยยี่ งโคบาล) นิคณั ฐอโุ บสถ (อโุ บสถเยีย่ งนคิ รนถ) อรยิ อโุ บสถ (อุโบสถเย่ยี งอริยะ).
พระสตุ ตนั ตปฎ ก อังคุตรนกิ าย ติกนิบาต เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ท่ี 383 โคปาลกอโุ บสถเปนอยา งไร. โคบาลมอบโคทัง้ หลายใหเจา ของทัง้ หลายในเวลาเยน็ แลว คํานึงอยา งน้วี า วันน้ี โคเทย่ี วหากนิ ในทโี่ นน ๆดมื่ นํา้ ในทีโ่ นน ๆ ทนี ้ี พรงุ นี้ โคจักเท่ยี วหากนิ ในท่โี นน ๆ จกั ดื่มนํ้าในทีโ่ นน ๆ ฉันใด คนรกั ษาอุโบสถบางคนกฉ็ ันนัน้ เหมือนกัน คาํ นงึ ไปอยางน้วี า วันน้นี ะ เราเคยี้ วกินขาทนียะสิ่งน้ี ๆ บรโิ ภคโภชนียะส่ิงนี้ ๆ ทีน้ีพรุงนี้ เราจักเคยี้ วกนิ ขาทนยี ะส่ิงน้ี ๆ จกั บรโิ ภคโภชนียะสงิ่ น้ี ๆ คนรักษาอุโบสถผูน ั้นมีใจไปกับความอยาก ใชว ันใหห มดไปดวยความอยากน้ัน วิสาขาโคปาลกอโุ บสถเปน อยางนแี้ ล อโุ บสถทร่ี ักษาอยา งน้ี เปนอโุ บสถทไ่ี มม ีผลมากไมม อี านิสงสมาก ไมเรอื่ งผลมาก ไมแผผ ลมาก นิคัณฐอโุ บสถเปนอยา งไร. มีอยู วสิ าขา สมณะจาํ พวกหน่งึ ชือ่นคิ รนถ เขาสอนสาวกใหถืออยางน้ีวา มา บรุ ษุ ผูเจรญิ สัตวเหลาใด ในทศิ ตะวนั ออก ตะวันตก เหนือ ใต อยูเกนิ เขต ๑๐๐ โยชนออกไปสเู จา จงลงทัณฑ (คือทําราย ฆา ตี ฯลฯ) ในสัตวเหลาน้ันได เขาสอนใหเอ็นดกู รณุ าสตั วบ างเหลา ไมเอน็ ดู กรณุ าสัตวบ างเหลาอยา งนี้ ในวนั อุโบสถเขาสอนสาวกอยา งน้วี า มา บุรษุ ผเู จริญ สูเจา จงเปล้อื งผาออกใหหมดแลวพูดอยางนว้ี า ขา ฯ ไมเกยี่ วขอ งตอ ใคร ๆ ทไ่ี หน ๆ และความกังวลในส่งิอะไร ๆ ท่ไี หน ๆ กไ็ มมี แตมารดาบิดาของเขาก็รอู ยวู า นีบ่ ตุ รของขา ฯตัวเขาเองกร็ อู ยวู า นีม่ ารดาบดิ าของขา ฯ อนึง่ บุตรภริยาของเขากร็ ูว าน่สี ามีของขา เขากร็ ูวา นีบ่ ุตรภริยาของขา . ทาสกรรมกรและคนอาศยั ของเขากร็ วู า น่นี ายของพวกขา . เขากร็ วู า นท่ี าสกรรมกรและคนอาศยั ของขา.ดว ยประการน้ี เขาสอนคนอ่นื ใหถ ือความจรงิ ในเวลาใด ก็ชอ่ื วา เขาสอนใหถ อื มุสาวาทในเวลานนั้ เรากลาวการสอนของเขาน้ีในฐานมสุ าวาท ลวงราตรีนัน้ แลว เขาชอื่ วา บริโภค (กนิ อยใู ชส อย) โภคะ เปน อยางของทเ่ี จาของ
พระสุตตนั ตปฎ ก องั คตุ รนกิ าย ตกิ นบิ าต เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ท่ี 384ไมใหน ั่นเอง เรากลา วการบรโิ ภคของเขานใ้ี นฐานอทินนาทาน วสิ าขานิคณั ฐอฺโบสถ เปน อยา งนแี้ ล อโุ บสถท่ีรกั ษาอยางน้ี เปน อโุ บสถทไ่ี มมีผลมาก ไมมอี านิสงสมาก ไมเรืองผลมาก ไมแ ผผ ลมาก. อรยิ อุโบสถเปน อยา งไร. วสิ าขา การทําจิตทเ่ี ศรา หมองใหผองแผวยอมมีไดด ว ยความพยายาม การทําจติ ท่เี ศราหมองใหผ องแผว ยอ มมไี ดดว ยความพยายามอยา งไร. อรยิ สาวกในพระธรรมวินัยน้ี ระลึกถงึ ตถาคตวาอิตปิ โส ภควา ฯ เป ฯ ภควา. เมื่อเธอระลกึ ถงึ ตถาคตอยู จิตยอ มผอ งใส ปราโมทยย อมเกดิ ขึน้ อปุ กเิ ลส (เคร่ืองเศราหมอง) แหงจติ เหลาใดมอี ยู อุปกเิ ลสเหลานั้นเธอยอ มละเสยี ได วิสาขา การทาํ ศรี ษะทส่ี กปรกใหสะอาดยอมมไี ดดว ยความพยายาม การทาํ ศีรษะท่ีสกปรกใหส ะอาดยอ มมไี ดด วยความพยายามอยางไร. ใชตะกรัน (น้ําผลไม) ดินเหนียว และนํ้า กับความพยายามทส่ี มกบั กิจอนั นัน้ ของตน (ประกอบกัน) การทาํ ศีรษะที่สกปรกใหสะอาดยอ มมไี ดดวยความพยายามอยา งนี้ฉนั ใด การทําจติ ทีเ่ ศรา หมองใหผ อ งแผว ยอ มมไี ดดว ยความพยายาม ฯลฯ อปุ กิเลสแหง จติ เหลา ใดมีอยู อุปกิเลสเหลานนั้ เธอยอ มละไดฉ นั นนั้ เหมอื นกัน อริยสาวกน้ี ชื่อวารกั ษาพรหมอโุ บสถ(อโุ บสถเนอื่ งดว ยพระพรหม) อยูรวมกับพระพรหม แลจติ ของเธอปรารภพระพรหม ยอมผอ งใส ปราโมทยย อ มเกิดขน้ึ อปุ กเิ ลสเหลาใดมีอยู อุปกิเลสเหลา นน้ั เธอยอ มละเสยี ได การทําจิตทเี่ ศรา หมองใหผองแผว ยอมมไี ดด ว ยความพยายามอยางนแ้ี ล วิสาขา การทําจิตท่ีเศรา หมองใหผ องแผวยอมมไี ดดวยความพยายาม(อกี ทางหน่ึง) การทําจิต ฯลฯ ดวยความพยายาม (อกี ทางหนง่ึ ) อยางไร.อริยสาวกในพระธรรมวินัยนี้ระลกึ ถึงพระธรรมวา สวฺ ากขาโต ฯ เป ฯวิ ฺูหิ เมอ่ื เธอระลกึ ถงึ พระธรรมอยู จติ ยอมผอ งใส ปราโมทยย อ มเกิด
พระสุตตันตปฎ ก องั คตุ รนิกาย ตกิ นิบาต เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ที่ 385อุปกิเลสแหงจิตเหลา ใดมอี ยู อุปกเิ ลสเหลานัน้ เธอยอมละเสียได วิสาขาการทํากายท่สี กปรกใหส ะอาดยอมมีไดด ว ยความพยายาม การทาํ กาย ฯลฯ ดว ยความพยายามอยา งไร. ใชฝ ุน หิน จุณ และนํ้า กับความพยายามทีส่ มกบั กิจอันนน้ั ของตน (ประกอบกนั ) การทาํ กายทส่ี กปรกใหสะอาดยอมมีไดด ว ยความพยายามอยางนี้ฉนั ใด การทาํ จติ ทีเ่ ศรา หมองใหผ องแผว ยอ มมไี ดดว ยความพยายาม ฯลฯ อุปกเิ ลสแหงจิตเหลา ใดมอี ยู อปุ กเิ ลสเหลา นนั้ เธอยอมละเสยี ไดฉนั น้นั เหมือนกัน อริยสาวกน้ีช่อื วา รกั ษาธมั มอโุ บสถ (อุโบสถเนอ่ื งดว ยพระธรรม) อยูรวมกบั พระธรรม และจิตของเธอปรารภพระธรรม ยอ มผอ งใสปราโมทยย อมเกิดขนึ้ อปุ กิเลสแหง จติ เหลาใดมีอยู อุปกิเลสเหลา นั้นเธอยอ มละเสยี ได การทาํ จิตทีเ่ ศรา หมองใหผ อ งแผว ยอ มมไี ดด วยความพยายาม (อีกทางหน่งึ ) อยา งนี้แล วสิ าขา การทําจิตที่เศราหมองใหผ อ งแผวยอมมไี ดด ว ยความพยายาม(อีกทางหนึง่ ) การทําจติ ฯลฯ ดว ยความพยายาม (อีกทางหนง่ึ ) อยา งไร.อรยิ สาวกในพระธรรมวินยั น้รี ะลึกถงึ พระสงฆวา พระสงฆสาวกของพระผูม-ีพระภาคเจาเปนผปู ฏิบัตดิ แี ลว เปนผูปฏบิ ัตติ รงแลว เปน ผูปฏิบตั เิ ปน ธรรมเปน ผปู ฏิบัติสมควร น้ีคือใคร คแู หง บรุ ุษส่ี บุรุษบคุ คลแปด น่ีพระสงฆสาวกของพระผมู ีพระภาคเจา เปน ผูควรของคาํ นบั เปน ผูควรของตอ นรับเปนผูค วรของทาํ บญุ เปน ผคู วรทําอัญชลี เปน นาบญุ ของโลกไมมีนาบญุอื่นย่งิ กวา. เมอ่ื เธอระลึกถงึ พระสงฆอ ยู จิตยอ มผองใส ปราโมทยยอ มเกดิ ข้ึนอุปกเิ ลสแหง จิตเหลา ใดมีอยู อุปกิเลสเหลาน้นั เธอยอมละเสียได วสิ าขาการทาํ ผา ที่สกปรกใหส ะอาด ยอมมไี ดด วยความพยายาม การทาํ ผา ฯลฯดวยความพยายามอยางไร. ใชดนิ เคม็ ขเี้ ถา โคมัย และน้ํา กับความพยายาม
พระสตุ ตนั ตปฎก องั คุตรนกิ าย ติกนบิ าต เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ที่ 386ทสี่ มกับกจิ อนั นัน้ ของตน (ประกอบกัน) การทําผา ฯลฯ ดวยความพยายามอยางนี้ฉนั ใด การทาํ จิต ฯลฯ ดวยความพยายาม (อกี ทางหนึ่ง) ฯลฯ อปุ กิเลสแหง จติ เหลา ใดมีอยู อปุ กเิ ลสเหลาน้ีเธอยอมละเสยี ไดฉ นั นน้ั เหมือนกันอริยสาวกน้ี ชื่อวารกั ษาสังฆอโุ บสถ อยูร ว มกบั พระสงฆ และจิตของเธอปรารภพระสงฆ ยอมผองใส ฯลฯ การทาํ จิต ฯลฯ ดว ยความพยายาม (อีกทางหนงึ่ ) อยา งนีแ้ ล. วสิ าขา การทําจติ ฯลฯ ดวยความพยายาม (อกี ทางหน่งึ ) การ-ทาํ จิต ฯลฯ ดวยความพยายาม (อกี ทางหนึง่ ) อยางไร. อริยสาวกในพระธรรมวินยั นีร้ ะลกึ ถึงศลี ของตน (อขณฑฺ ) อนั ไมข าด (อจฺฉทิ ฺท) ไมท ะลุ (อสพล)ไมต า ง (อกมมฺ าส) ไมพ รอย (ภุชสิ สฺ ) เปน ไท (วิฺ ปุ ปฺ สฏ )ผรู สู รรเสริญ (อปรามฏ) ไมถูกปรามาส (สมาธิส วตตฺ นกิ ) เปน ทางสมาธิเม่อื เธอระลกึ ถึงศีลอยู จิตยอ มผอ งใส ปราโมทยยอมเกดิ ขนึ้ อปุ กเิ ลสแหงจิตเหลาใดมอี ยู อปุ กิเลสเหลา นั้น เธอยอมละเสยี ได วสิ าขา การทาํ แวน ท่มี ัวใหใส ยอมมีไดค วามพยายาม การทําแวน ฯลฯ ดว ยความพยายามอยางไร. ใชนํ้ามนั ข้ีเถา และแปรง กับความพยายามที่สมกับกจิ อันน้นัของตน (ประกอบกัน) การทาํ แวน ฯลฯ ดว ยความพยายามอยา งนีฉ้ ันใดการทาํ จติ ฯลฯ ดวยความพยายาม (อีกทางหนงึ่ ) ฯลฯ อุปกเิ ลสเหลา นั้นเธอยอมละเสียไดฉ นั น้ันเหมือนกนั อรยิ สาวกนี้ชือ่ วา รกั ษาศีลอโุ บสถ อยกู บัศีล จติ ของเธอปรารภศลี ยอมผองใส ฯลฯ การทาํ จติ ฯลฯ ดวยความพยายาม(อกี ทางหนง่ึ ) อยา งนี้แล. วิสาขา การทาํ จติ ฯลฯ ดวยความพยายาม (อกี ทางหนง่ึ ) การทาํ จติ ฯลฯ ดวยความพยายาม (อีกทางหนึง่ ) อยา งไร. อรยิ สาวกในพระธรรมวินัยน้รี ะลกึ ถงึ เทวดา (และธรรมทีท่ าํ บคุ คลใหเ ปนเทวดา) วา มีอยู
พระสตุ ตนั ตปฎก องั คุตรนกิ าย ตกิ นิบาต เลม ๑ ภาค ๓ - หนาท่ี 387เทวดาเหลาจาตมุ หาราชกิ า... เหลาดาวดึงส... เหลายามา... เหลา ดสุ ติ ...เหลา นิมมานรดี... เหลา ปรนิมมติ วสวตั ดี... เหลาพรหมกายิก... เหลา ที่สงู ขนึ้ ไปกวา นนั้ เทวดาเหลา นัน้ ประกอบดว ยศรทั ธา ศลี สุตะ จาคะปญ ญาเชน ใด จตุ ิจากภพนจี้ ึงไดเ กิดในภพนัน้ ๆ ศรทั ธา ศีล สุตะจาคะ ปญ ญาเชน นัน้ ของเราก็มีอยูพรอมเหมือนกนั เมอ่ื เธอระลกึ ถึงศรัทธา ศีล สตุ ะ จาคะ และปญ ญา ของตนกบั ของเทวดาเหลาน้นัอยู จิตยอมผองใส ปราโมทยย อ มเกิดขึ้น อุปกิเลสแหง จิตเหลาใดมอี ยูอุปกเิ ลสเหลาน้ันเธอยอมละเสยี ได วสิ าขา การทาํ ทองท่หี มองใหผ อ ง ยอมมีไดด ว ยความพยายาม การทําทอง ฯลฯ ดวยความพยายามอยางไร ใชเตาดินเค็ม ดนิ เหลอื ง* สบู และคมี กบั ความพยายามท่ีสมกบั กจิ อันน้นั ของชาง(ประกอบกัน) การทําทอง ฯลฯ ดวยความพยายามอยา งน้ีฉันใด การทาํ จติฯลฯ อุปกิเลสแหงจติ เหลา ใดมอี ยู อปุ กเิ ลสเหลานั้นเธอยอมละเสียไดฉ ันนั้นเหมือนกนั อรยิ สาวกน้ี ช่อื วา รกั ษาเทวดาอโุ บสถ อยกู บั เทวดา จิตของเธอปรารภเทวดา ยอ มผองใส ปราโมทยย อมเกดิ ขึน้ อุปกิเลสแหงจติ เหลา ใดมอี ยู อปุ กเิ ลสเหลา นั้นเธอยอมละเสยี ได การทําจิต ฯลฯ ดวยความพยายามอยา งน้แี ล. วิสาขา อรยิ สาวกนน้ั แล ยอมพจิ ารณาเห็นดวยตนเองอยางนวี้ าพระอรหนั ตท้ังหลาย ละปาณาติบาตแลว เปน ผเู วน ขาดจากปาณาตบิ าต วางทอนไม วางศรัทธา มคี วามละอายบาป มีความเอ็นดเู ก้อื กลู อนเุ คราะหส รรพสัตวอยูตลอดชีพ แมเราในวนั นี้ กล็ ะปาณาตบิ าต เวน จากปาณาตบิ าต วางทอนไม วางศสั ตรา มคี วามละอายบาป มคี วามเอ็นดูเกอ้ื กลู อนเุ คราะหส รรพสัตวต ลอดคืน* เครุ ดินสอแดง ยางไม ก็วา
พระสตุ ตนั ตปฎก อังคตุ รนิกาย ตกิ นบิ าต เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ท่ี 388และวนั นี้ ดวยองคน้ี เราไดช ่ือวาปฏบิ ัตติ ามพระอรหันตท้งั หลายอยา งหน่ึงและอุโบสถก็จกั เปน อนั เรารกั ษาแลว พระอรหันตท ั้งหลาย ละอทินนาทานแลว เปน ผูเวน ขาดจากอทนิ -นาทาน ถอื เอาแตของทเี่ ขาให หวงั แตของท่ีเขาให มตี นอนั ไมเปนขโมยเปน ผูเปนอยสู ะอาดตลอดชพี แมเ ราในวนั นี้กล็ ะอทินนาทาน เวนจากอทินนาทาน ถือเอาแตของท่เี ขาให หวังแตข องท่เี ขาให มตี นอนั ไมเปน ขโมย เปนผเู ปนอยูสะอาดตลอดคนื และวนั นี้ ดว ยองคน ้ี เราชือ่ วาปฏิบตั ติ ามพระอรหนั ตทัง้ หลายอยางหน่ึงและอโุ บสถก็จักเปนอันเรารกั ษาแลว พระอรหันตทงั้ หลาย ละอพรหมจรรยแลว เปนพรหมจารี มีความประพฤติหา งไกล (จากอพรหมจรรย) เวน จากเมถุนอันเปน ธรรมของชาวบา นตลอดชีพ แมเ ราในวันนีก้ ็ละอพรหมจรรยเ ปนพรหมจารี มีความประพฤติหา งไกล (จากอพรหมจรรย) เวน จากเมถุน อนั เปน ธรรมของชาวบา นตลอดคืนและวนั น้ี ดวยองคน ี้ เราช่อื วา ปฏิบตั ติ ามพระอรหันตทง้ั หลายอยา งหนึง่และอโุ บสถก็จกั เปน อันเรารักษาแลว พระอรหนั ตทั้งหลายละมสุ าวาทแลว เปน ผูเวน ขาดจากมสุ าวาท พูดแตคําจรงิ พูดจริงเสมอ มถี อยคําม่ันคง เปนท่ีวางใจได ไมล วงโลกตลอดชพี แมเ ราในวันนี้ ก็ละมุสาวาท เวนจากมสุ าวาท พดู แตคําจริง พดูจริงเสมอ มีถอ ยคําม่ันคง เปนทว่ี างใจได ไมลวงโลก ตลอดคนื และวนั นี้ดวยองคน ้ี เราชอื่ วา ปฏิบตั ิตามพระอรหันตท ้งั หลายอยา งหน่งึ และอโุ บสถกจ็ กัเปนอนั เรารกั ษาแลว
พระสตุ ตันตปฎ ก อังคตุ รนิกาย ติกนบิ าต เลม ๑ ภาค ๓ - หนาท่ี 389 พระอรหนั ตทง้ั หลาย ละการด่ืมนํา้ เมาคือสรุ าเมรัยอนั เปนฐานแหงความประมาทแลว เปน ผเู วน ขาดจากการดืม่ น้ําเมาตลอดชพี แมเราในวันนี้ก็ละการดื่มน้าํ เมา เปน ผูเวนจากการดื่มนํา้ เมาตลอดคืนและวนั นี้ดว ยองคน ้ี เราไดช ่อื วา ปฏบิ ัตติ ามพระอรหนั ตทั้งหลายอยา งหนงึ่ และอโุ บสถก็จกั เปนอันเรารักษาแลว พระอรหันตทัง้ หลาย บรโิ ภคอาหารครง้ั เดียว งดอาหารในราตรี เวนจากการบริโภคผิดเวลาตลอดชีพ แมเราในวันน้กี บ็ รโิ ภคอาหารครง้ั เดยี ว งด-อาหารในราตรี เวน จากการบริโภคผดิ เวลา ตลอดคืนแตว นั นี้ ดวยองคนี้เราไดช ่ือวา ปฏิบัติตามพระอรหนั ตท้ังหลายอยา งหนึ่ง และอุโบสถกจ็ ักเปนอนัเรารักษาแลว พระอรหนั ตท้ังหลาย เวนขาดจากการฟอนรํา การขับรอ ง การประโคมดนตรแี ละดูการเลน จากการประดบั ตกแตง กายดว ยดอกไม ของหอมและเครือ่ งทาผิว อนั เปน ฐานแตงตัวตลอดชีพ แมเ ราในวนั นกี้ เ็ วน จากการฟอ นรํา การขบั รอ ง การประโคมดนตรี และดูการเลน จากการประดบัตกแตงกายดวยดอกไมของหอม และเครือ่ งทาผวิ อนั เปนฐานแตงตัว ตลอดคืนและวันน้ี ดวยองคน ี้ เราไดช่อื วา ปฏบิ ัตติ ามพระอรหันตทงั้ หลายอยา งหน่ึง และอุโบสถก็จักเปน อนั เรารกั ษาแลว พระอรหนั ตท้งั หลาย ละทน่ี อนสงู ท่ีนอนใหญแ ลว เปนผูเวนขาดจากท่นี อนสงู ทน่ี อนใหญ ใชทน่ี อนตํ่า บนเตียงบาง บนเครื่องลาดทําดวยหญาบา ง ตลอดชีพ แมเราในวนั นี้ ก็ละท่นี อนสงู ทนี่ อนใหญแ ลว เปนผเู วน จากท่นี อนสงู ที่นอนใหญ ใชท ่นี อนตํ่า บนเตยี งบาง บนเครอ่ื งลาดทําดว ยหญาบา ง ตลอดคืนและวันน้ี ดวยองคนี้ เราไดช ่อื วา ปฏบิ ัติตามพระอรหนั ตทั้งหลายอยางหนึ่ง และอโุ บสถกจ็ ักเปน อนั เรารกั ษาแลว .
พระสุตตันตปฎ ก องั คตุ รนกิ าย ติกนิบาต เลม ๑ ภาค ๓ - หนาที่ 390 วิสาขา อริยอุโบสถเปนอยา งนแี้ ล อุโบสถทีร่ กั ษาอยา งนี้ยอมมีผลมาก มีอานสิ งสมาก มีความรงุ เรอื งมาก มีความแผไ พศาลมาก มีผลมากเพียงไร มีอานสิ งสมากเพียงไร มีความรุง เรืองมากเพยี งไรมคี วามแผไ พศาลมากเพยี งไร. วสิ าขา ตา งวา ใครคนหน่ึง จะพงึ ไดครอบครองราชัยไอศวรรยา-ธิปตยแหงมหาชนบทท้ัง ๑๖ อันมรี ัตนะ ๗ ประการ เหลอื หลายน้ี มหา-ชนบท ๑๖ คืออะไรบาง คือ องั คะ มคธะ กาสี โกสละ วัชชี มัลละเจตี วังสะ กุรุ ปญจาละ มัจฉะ สรุ เสนะ อัสสกะ อวนั ตี คนั ธาระกมั โพชะ ราชสมบัติของผนู น้ั กห็ ามีคา เทา สวนที่ ๑๖ แหง อโุ บสถประกอบดว ยองค ๘ ไม นนั่ เพราะเหตอุ ะไร เพราะราชสมบัติของมนษุ ย เทียบกับทิพยสุขเขา แลว เปนของนิดหนอย วสิ าขา ๕๐ ปมนษุ ย เปนคนื หน่ึงกบั วนั หน่ึงของเทวดาเหลาจาต-ุมหาราชกิ าโดยราตรนี น้ั ๓๐ ราตรีเปน เดอื น โดยเดอื นนน้ั ๑๒ เดือนเปนปโดยปน ้ัน ๕๐๐ ปทพิ ย เปนประมาณอายุของเทวดาเหลาจาตุมหาราชกิ า ดูกอ นวสิ าขา ที่บคุ คลลางคนในโลกน้ี สตรหี รือบุรษุ ก็ตาม รกั ษาอุโบสถประกอบดวยองค ๘ แลว เพราะกายแตกตายไปจะพงึ ไปเกดิ อยูรว มกบั เทวดาเหลาจาตุ-มหาราซกิ า ทวี่ า ราชสมบัตขิ องมนุษยเ ทยี บกบั ทพิ ยสขุ เขา แลว เปนของนดิหนอ ย นัน้ เรากลาวหมายเอาขอนแ้ี ล วิสาขา ๑๐๐ ปมนุษย เปนคืนหน่ึงกบั วนั หนึง่ ของเทวดาเหลาดาวดงึ สโดยราตรนี ้นั ๓๐ ราตรีเปนเดือน โดยเดอื นน้นั ๑๒เดือนเปน ป โดยปน ้ัน ๑,๐๐๐ปท พิ ย เปน ประมาณอายุของเทวดาเหลา ดาวดงึ ส ดกู อ นวิสาขา ท่บี ุคคลลางคนในโลกน้ี สตรีหรอื บรุ ุษกต็ าม รักษาอุโบสถประกอบดว ยองค ๘ แลว
พระสุตตนั ตปฎก องั คตุ รนิกาย ติกนิบาต เลม ๑ ภาค ๓ - หนาที่ 391เพราะกายแตกตายไปจะพงึ ไปเกิดอยูรวมกับเทวดาเหลา ดาวดึงส ที่วา ราช-สมบตั ขิ องมนุษย เทยี บกบั ทพิ ยสขุ เขา แลว เปน ของนดิ หนอ ย น้ัน เรากลา วหมายเอาขอ นแ้ี ล วสิ าขา ๒๐๐ ปม นษุ ย เปนคืนหนง่ึ กับวันหนง่ึ ของเทวดาเหลา ยามาโดยราตรีน้ัน ๓๐ ราตรีเปน เดอื น โดยเดือนน้ัน ๑๒ เดือนเปน ป โดยปนน้ั๒,๐๐๐ ปทพิ ย เปน ประมาณอายุของเทวดาเหลายามา ดูกอ นวิสาขาท่ีบคุ คล ฯลฯ รว มกบั เทวดาเหลา ยามา ท่ีวา ราชสมบตั ิของมนษุ ย ฯลฯหมายเอาขอ นีแ้ ล วิสาขา ๔๐๐ ปมนษุ ยเ ปนคืนหนงึ่ กับวนั หนึง่ ของเทวดาเหลา ดสุ ติฯลฯ ๔,๐๐๐ ปท ิพยเปนประมาณอายุของเทวดาเหลาดสุ ติ ดกู อ นวิสาขาทบ่ี ุคคล ฯลฯ รวมกบั เทวดาเหลา ดุสติ ที่วา ราชสมบัตขิ องมนุษย ฯลฯหมายเอาขอ น้แี ล. วิสาขา ๘๐๐ ปมนุษยเ ปนคนื หนึง่ กบั วันหนงึ่ ของเทวดาเหลา นมิ มา-นรดี ฯลฯ ๘,๐๐๐ ปทพิ ยเ ปน ประมาณอายขุ องเทวดาเหลานิมมานรดี ดกู อนวสิ าขา ทบ่ี ุคคล ฯลฯ รว มกับเทวดาเหลานมิ มานรดี ท่ีวา ราชสมบตั ขิ องมนุษย ฯลฯ หมายเอาขอน้แี ล. วสิ าขา ๑,๖๐๐ ปมนุษย เปน คนื หน่ึงกบั วันหน่ึง ของเทวดาเหลาปรนมิ มติ วสวตั ดี ฯลฯ ๑๖,๐๐๐ ปท พิ ยเปนประมาณอายขุ องเทวดาเหลาปรนิมมิตวสวัตดี ดกู อนวิสาขา ที่บคุ คล ฯลฯ รวมกับเทวดาเหลา ปรนิมมติ -วสวัตดี ที่วาราชสมบตั ิของมนุษย ฯลฯ หมายเอาขอ น้แี ล. ไมฆ า สัตว ๑ ไมถือเอาของที่เจา ของ มิไดใ ห ๑ ไมพูดมุสา ๑ ไมดืม่ นาํ้ เมา ๑
พระสตุ ตนั ตปฎ ก องั คุตรนกิ าย ตกิ นิบาต เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ที่ 392 เวน จากเมถนุ อนั มิใชความประพฤตดิ ัง-พรหม ๑ ไมบริโภคอาหารในราตรแี ละอาหารผิดเวลา ๑ ไมป ระดับดอกไม ไมใ ชของหอม ๑ นอนบนเตียง (ท่ไี ดประมาณ)หรอื เคร่อื งลาดบนพื้น ๑ บัณฑติ ทัง้ หลายกลา วอุโบสถมีองค ๘ นี้ ซ่งึ พระพุทธเจาผูถงึ ทส่ี ดุ ทุกขท รงประกาศไว. พระจันทรแ ละพระอาทติ ยท น่ี าดูทั้งสอง โคจรสอ งแสงไปตลอดท่มี ปี ระมาณเทา ใด อน่งึ พระจนั ทรแ ละพระอาทติ ยขจดั มืดในอากาศสอ งอยูบ นฟา ทําใหร ุง-โรจนไปทั่วทิศ(ตลอดท่เี พียงใด)ทรพั ยอ นัใดมีอยูใ นระหวา ง (ทๆ่ี แสงสองถงึ ) น้ันเชนแกวมกุ ดา แกวมณี แกว ไพฑูรยอ นังาม ทองสงิ คี ทัง้ ทองกาญจนะ ทองท่ีเรยี กวา ชาตรปู ะ ทองหฏกะทรัพยเ หลา นน้ั(มคี า ) ไมถ งึ แมสวนท่ี ๑๖ แหง อโุ บสถอนั ประกอบดวยองค ๘ ดุจหมดู าวทง้ั หมด(สวา ง) ไมถ งึ สวนท่ี ๑๖ แหง แสงจันทรฉะน้ัน.
พระสุตตนั ตปฎก อังคตุ รนกิ าย ติกนิบาต เลม ๑ ภาค ๓ - หนาที่ 393 เพราะเหตุนน้ั แล หญิงและชายผูม ี ศีล พึงรักษาอโุ บสถอันประกอบดว ยองค ๘ ทําบญุ ท้งั หลายอนั มีสขุ เปนผลเถดิ จะ เปนผูไมถูกตเิ ตียน ยอ มเขา ถึงฐานะอัน เปน แดนสขุ . จบอุโปสถสูตรท่ี ๑๐ จบมหาวรรคที่ ๒ อรรถกถาอุโปสถสูตร พงึ ทราบวนิ จิ ฉัยในอุโปสถสตู รท่ี ๑๐ ดงั ตอ ไปนี้ :- บทวา ตทหโุ ปสเถ เทากับ ตสฺมึ อหุ อุโปสเถ คอื ต ทิวสอุโปสเถ แปลวา อโุ บสถในวนั นนั้ มอี ธิบายวา ในวนั นนั้ เปนวนั ปณ ณรสีอโุ บสถ บทวา อปุ สงกฺ มติ ความวา นางวสิ าขาอธฏิ ฐานองคอุโบสถแลวถือของหอมและระเบียบเปน ตน เขาไปเฝาแลว. บทวา หนฺท เปน นิบาตใชใ นอรรถวาเชอ้ื เชญิ .๑ บทวา ทิวา ทวิ สสฺ ความวา เวลาเที่ยงวนั ชื่อวายังวันอยู ไดแกใ นเวลาท่มี ีพระอาทิตยต ้งั อยูใ นทามกลาง. บทวา กุโต นุ ตฺวอาคจฺฉสิ ความวา พระผูมพี ระภาคเจาตรัสถามวา เธอจะไปทาํ อะไร. อโุ บสถทเ่ี ปรียบดว ยจางเลี้ยงโค เพราะมคี วามวิตกวาจะไมบรสิ ทุ ธ์ิชื่อวา โคปาลกอโุ บสถ. อุโบสถ คือการเขา จํา ของนคิ รนถทัง้ หลาย ชื่อวา๑. ปาฐะวา อุปสคฺคตฺเถ ฉบับพมา เปน วงสฺสคคฺ ตเฺ ถ
พระสุตตนั ตปฎก องั คตุ รนิกาย ติกนิบาต เลม ๑ ภาค ๓ - หนาท่ี 394นคิ ณั ฐอโุ บสถ. อุโบสถคอื การเขาจํา ของพระอริยเจาท้ังหลาย ชื่อวาอรยิ อโุ บสถ ฉะน้ีแล. บทวา เสยยฺ ถาป วิสาเข ความวา ดกู อ นวิสาขา เปรียบเหมือนบทวา สายณฺหสมเย สามกิ าน คาโว นิยยฺ าเทตวฺ า ความวา แทจ รงิลกู จา งเล้ยี งโค รบั โคมาเล้ยี ง เพราะคาจา งรายวนั โดยกาํ หนดไวว า ๕ วนั๑๐ วนั ครึง่ เดอื น หนง่ึ เดอื น ๖ เดอื น หรอื ๑ ป (จึงจะจาย) แตในพระสูตรน้ี ตรัสคําวา โคปาลกุโปสโถ นี้ ทรงหมายถึง ผูเลยี้ งวัวเพราะคา จา งรายวนั . บทวา นยิ ยฺ าเทตวฺ า ความวา มอบใหค ือพดู วา โคของทา นมจี ํานวนเทาน.้ี บทวา อิติ ปฏิสฺจกิ ขฺ ติ ความวา ไปถึงเรอื นของตนรับประทานอาหารแลว นอนบนเตยี ง พิจารณาอยา งน้ี. บทวา อภชิ ฌฺ า-สหคเตน ความวา สมั ปยุตดว ยตัณหา. บทวา เอว โข วิสาเข โคปาลกโุ ปสโถ โหติ ความวานเ้ี ปนอริยอุโบสถเหมอื นกัน แตเ พราะมีวิตกไมบรสิ ุทธิ์ จึงอยูในฐานะแหงโคปาลกอโุ บสถเทานน้ั . บทวา น มหปฺผโล ความวา ไมม ีผลมาก เพราะผลคือวิบาก. บทวา น มหานิส โส ความวา ชอ่ื วา ไมม อี านิสงสมากเพราะอานสิ งสคอื วิบาก. บทวา น มหาชุติโก ความวา ไมม ีแสงสวางมากเพราะแสงสวางคือวบิ าก. บทวา น มหาวปิ ฺผาโร ความวา ช่ือวา ไมแ ผไปมาก เพราะการแผไ ปแหงวบิ ากมีไมมาก. บทวา สมณชาติกา ไดแ ก หมสู มณะ. บทวา ปร โยชนสตความวา ไกลเกินกวา ๑๐๐โยชน คือเลยนนั้ ไป. บทวา เตสุ ทณฑฺ นกิ ขฺ ิปาหิความวา วางอาชญา คือเปน ผวู างอาชญาในสัตวทัง้ หลายเหลา นน้ั ที่อยเู กนิ๑๐๐ โยชนไป.
พระสตุ ตันตปฎ ก อังคุตรนกิ าย ติกนบิ าต เลม ๑ ภาค ๓ - หนาท่ี 395 บทวา นาห กวฺ จนิ ิ กสสฺ จิ กิจฺ น ตสมฺ ึ ความวา เราไมม ีความกังวลตอ ใครคนอื่นในทีไ่ หน ๆ อธบิ ายวา ปลิโพธ พระองคตรสั เรยี กวา ความกังวลเราเปนผูไ มม ีความกงั วล. บทวา น จ มม กฺวจินิ กิสฺมิจฺ ิ กิ ฺจน นตถฺ ิความวา เราไมม คี วามกังวล คอื ไมมีปลิโพธ ในสงิ่ ไร ๆ คือแมในบริขารอยา งหนงึ่ ในที่ไหน ๆ คอื ทัง้ ภายในและภายนอก มอี ธบิ ายวา เราตดั ความกงั วลไดข าดแลว. บทวา โภเค ไดแ ก เครื่องอุปโภคและบรโิ ภค มี เตยี งตัง่ ขาวยาคู และภัตรเปนตน. บทวา อทนิ นฺ เยว ปริภุชฺ ติ ความวาในวันรุงข้ึน เขาเมือ่ นอนบนเตียงกด็ ี นง่ั บนตัง่ กด็ ี ดม่ื ขาวยาคูกด็ ี ฉันอาหารกด็ ี ชื่อวา บริโภคโภคเหลานั้น ทเ่ี ขาไมไดใ หเลย. บทวา น มหปผฺ โล แปลวา ไรผ ล. กใ็ นบทวา น มหปผฺ โล น้ีมแี ตพ ยัญชนะเทาน้นั ทเ่ี หลืออยู สวนเน้ือความไมม ีเหลือเลย. เพราะวาอโุ บสถของผเู ขา จาํ อยา งนี้ ไมม ีวิบากผลทน่ี าปรารถนา นาใคร นาพอใจ แมเพียงเลก็ นอ ย เพราะฉะนัน้ นคิ ัณอโุ บสถ พึงทราบวาไมมีผลเลย. แมในบทท่ีเหลือ ก็มีนยั นี้เหมอื นกัน. ถามวา เพราะเหตไุ ร พระผูม พี ระภาคเจา จงึ ตรสั คําน้ีไววา จิตเศราหมองแลว ? ตอบวา เพราะวา ความทอี่ ุโบสถทผี่ ูม จี ิตบริสุทธิ์ เขาจาํ แลวมีผลมากเปนอันพระองคทรงอนญุ าตแลว เพราะทรงแสดงไวว า อโุ บสถที่ผมู ีจิตเศราหมองเขาจาํ แลว ยอมไมมีผลมาก. เพราะฉะนั้น พระผูมีพระภาคเจา ไดต รสัคําน้ไี วเพ่ือทรงแสดงกัมมฏั ฐานทเี่ ปนเหตุใหจติ บริสทุ ธ์ิ คอื กรรมฐานทเ่ี ปน เหตุชําระจิต. บรรดาบทเหลาน้ัน บทวา อปุ กฺกเมน ความวาดว ยความเพียรของบรุ ุษเฉพาะตน หรอื ดวยอบุ าย.
พระสตุ ตันตปฎก องั คุตรนิกาย ติกนิบาต เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ท่ี 396 บทวา ตถาคต อนสุ ฺสรติ ความวา ระลึกถึงพระคณุ ของพระตถาคตดวยเหตุ ๘ ประการ. กใ็ นบทวา ตถาคต อนุสฺสรติ นี้ ทานสงเคราะหเอาพระพุทธคุณทั้งหมด ท้ังทีเ่ ปนโลกยิ ะและโลกุตระไวดว ยคําวา อิติป โสภควา ซึ่งขยายความออกไปวา เพราะศลี แมนี้ พระผมู พี ระภาคเจาพระองคน้ันเพราะสมาธแิ มน ี้ พระผูม ีพระภาคเจาพระองคน ้ัน ทรงแสดงพระคุณท่ีเปนสว นพระองคเ ทานัน้ ดว ยมีอาทวิ า อรห ดงั น.ี้ บทวา ตถาคตอนุสสฺ รโต จติ ฺต ปสีทติ ความวา เมอ่ื เขาระลกึ ถงึ พระคุณของพระตถาคต-เจา ทัง้ ทีเ่ ปน โลกยิ ะและโลกุตระ จติ ตุปบาทยอ มผองใส. นิวรณทงั้ ๕ ช่ือวา อุปกเิ ลสแหง จิต. นํ้าคนั้ มะขามปอม ช่ือวากักกะ. บทวา ตชฺช วายาม ความวา ความพยายามเพื่อชโลม ขัดสีและลางดว ยตะกอนท่เี กิดจากนาํ้ คั้นมะขามปอมนัน้ อันสมควรแกนํา้ คั้นมะขามปอมน้ัน. บทวา ปริโยทปนา โหติ ความวา ยอ มเปนการทําความสะอาดจริงอยู พระผูมพี ระภาคเจาตรัสอยา งนี้ดวยพระพทุ ธประสงควา ถาประดับเครอ่ื งประดบั ไวบนศรี ษะท่สี กปรก เลน นักษัตร กไ็ มง าม แตถา ประดบั เครอ่ื งประดับบนศรี ษะที่สะอาดเลนนักษัตร ยอ มงดงาม (ฉันใด) ก็อโุ บสถผูมจี ติ เศรา หมองอธฏิ ฐาน๑ องคอ โุ บสถแลว เขา จํา จะไมมผี ลมาก แตอโุ บสถทผี่ มู จี ติ สะอาด๒อธฏิ ฐานองคอโุ บสถแลวเขา จาํ ยอมมผี ลมาก. ฉนั น้ันเหมือนกนั ดังน.ี้ บทวา พรฺ หมฺ โุ ปสถ อุปวสติ ความวา พระสัมมาสมั พุทธเจาเขาเรยี กกนั วา พระพรหม อโุ บสถน้ี ช่ือวา พรหมอโุ บสถ ดว ยสมาทานแหงการระลกึ ถงึ คณุ ของพระพรหมนน้ั เขาจํา พรหมอุโบสถน้ัน. บทวา พรฺ หฺมนุ า๑. ปาฐะวา กลิ ิฏจิตโฺ ต ฉบบั พมา เปน กลิ ิฏจติ เฺ ตน.๒. ปาฐะวา ปริสุทเฺ ธ ปน จิตฺเต ฉบับพมาเปน ปริสทุ เฺ ธน ปน จติ เฺ ตน.
พระสตุ ตันตปฎก อังคตุ รนกิ าย ตกิ นิบาต เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ที่ 397สทธฺ ึ ส วสติ ความวา คบหากับพระสมั มาสมั พทุ ธเจา. บทวา พฺรหมฺ ฺจสสฺอารพภฺ ความวา ปรารภสัมมาสมั พทุ ธเจา. บทวา ธมฺม อนสุ ฺสรติ ความวา ระลึกถงึ โลกตุ รธรรม พรอมกับพทุ ธพจน. บทวา โสตตฺ ึ ไดแกฝ นุ หินทค่ี นพบในแควนกุร.ุ ก็คนท้ังหลายผสมคล่ังเขากับฝนุ หนิ ทีค่ น พบในแควนกุรุ ปน เปน ลูกประคาํ เจาะรแู ลว เอาดา ยรอย จับสายพวงลกู ประคําทงั้ สองขา งแลวถหู ลัง. บทวา โสตตฺ ิจฺ ปฏิจจฺน้ี พระผมู ีพระภาคเจาตรสั หมายเอาพวงลูกประคาํ น้นั . บทวา จณุ ณฺ ไดแกจณุ ท่ใี ชเวลาอาบนํ้า. บทวา ตชชฺ วายาม ไดแกค วามพยายามทสี่ มกับกจินนั้ มีการไลทา ขดั สี และชําระลางเปนตน. บทวา ธมมฺ ุโปสถ ความวาอุโบสถนี้ พระผูมพี ระภาคเจา ตรสั เรยี กวา ธัมมอุโบสถ เพราะปรารภนวโลกุตรธรรม พรอมกบั พทุ ธพจนแลว เขาจํา. นักศึกษาควรวางบทวาปรโิ ยทปนา แมน ้ไี วเ ปนหลกั แลวประกอบความโดยนยั กอ นนนั่ แหละ. บทวา ส ฆ อนสุ สฺ รติ ความวา ระลึกถึงคณุ ของพระอรยิ บคุ คล๘ จําพวก. บทวา อสู ฺจ ปฏจิ จฺ ความวา อาศยั ไออบท่ใี หจับ โดยยกข้นึ เตาตม ๒-๓ ครง้ั . ปาฐะวา อสุ สฺ ดงั น้ีก็ม.ี ความหมายก็อยา งเดยี วกันน้ีแหละ. บทวา ขีร ไดแก ขีเ้ ถา . บทวา โคมย ไดแ ก เยีย่ วววั หรอืขี้แพะ. แมใ นบทวา ปริโยทปนา นี้ กพ็ ึงประกอบความ โดยนัยกอ นน่นั แหละ. บทวา สงฆฺ โุ ปสถ ความวา อโุ บสถน้ีตรสั เรียกวา สงั ฆอุโบสถเพราะปรารภคณุ ของพระอรยิ บคุ คล ๘ จําพวกแลว จงึ เขาจํา. บทวา สีลานิความวา เปน คฤหัสถท ่ีระลกึ ถึงศลี ของคฤหสั ถ เปนบรรพชิต ก็ระลึกถงึ ศลี ของบรรพชติ . อรรถาธิบายของบทวา อขณฑฺ านิ เปน ตน ขาพเจา ไดใหพสิ ดารแลว ในคมั ภรี วสิ ทุ ธมิ รรค.
พระสุตตนั ตปฎ ก อังคตุ รนกิ าย ติกนิบาต เลม ๑ ภาค ๓ - หนาที่ 398 บทวา วาลณฺฑุก ไดแ ก แปรงทเ่ี ขาทาํ ดวยขนหางมา หรือขนปอเปน ตน . บทวา ตชฺช วายาม ไดแก การทเี่ อานํ้ามนั ทา คะเนวาสนิมเปยกท่วั แลว เทข้ีเถาลงไป แลว พยายามเอาแปรงขัด. ผูศกึ ษาควรประกอบความอยา งน้ี โดยยดึ บทวา ปรโิ ยทปนา นเี้ ปน หลกั ดังตอ ไปน้ี. เหมือนอยางวา รางกาย ถึงจะตกแตงประดบั ประดาแลว (แต)เมื่อแวน (สาํ หรับสอง) สกปรก มองดูก็ไมง าม เมอ่ื แวนสะอาดจงึ จะงามฉันใด อุโบสถท่ีเขาจาํ แลว กเ็ ชนนั้นเหมือนกัน เมอื่ จิตเศรา หมอง ก็ไมม ีผลมาก เมอื่ จิตบรสิ ุทธจ์ิ ึงจะมีผลมาก ฉะน้แี ล. บทวา สลี ุโปสถ ความวาอโุ บสถทเี่ ขา จํา ดวยอาํ นาจแหง การระลึกถงึ ศลี ของตน ชื่อวา ศีลอุโบสถ.บทวา สีเลน สทฺธึ ความวา พรอ มกับศีล ๕ ศลี ๑๐ ของตน. บทวาสลี อารพภฺ ความวา ปรารภทัง้ ศลี ๕ ท้งั ศลี ๑๐. บทวา เทวตา อนสฺ ฺสรติ ความวา ระลึกถงึ คณุ มศี รทั ธาเปนตนของตน โดยตง้ั เทวดาไวในฐานะเปน พยาน. บทวา อกุ ฺก แปลวา เตา.บทวา โลณ ไดแ กดินเค็ม. บทวา เครกุ ไดแก ผงดนิ สอพอง. บทวานาฬกิ สณฑฺ าส ไดแ กสบู ทท่ี ําดว ยไมอ อ และคีมสําหรับคีบ. บทวา ตชชฺ วายาม ไดแ กความพยายามอันเหมาะสม มกี ารใสลงในเตา การสูบ และการใชคีมเข่ียเปนตน. นักศกึ ษาควรวาง บทวา ปริโยทปนา น้ีไวเปนหลักแลว ประกอบความโดยนัยกอนนั่นแหละ เพราะวาผตู กแตง ตัวดวยเคร่อื งประดบั ซง่ึ ทําดว ยทองคาํ ท่หี มอง เลน นักษตั ร ยอมไมง าม (แตถาแตง ตวั ดวยเครือ่ งประดบั ) ซ่ึงทําดวยทองท่ไี มห มอง เลน นักษตั รจงึ จะงามฉันใด ผูม จี ติ เศรา หมองกฉ็ ันนั้นเหมอื นกัน อุโบสถยอมไมมีผลมาก สว นผูมจี ิตบริสุทธ์ิ จึงจะมีผลมาก. บทวา เทวตูโปสถ ความวา อุโบสถท่ีบคุ คลระลึกถึงคณุ ธรรมของตน โดยตัง้ เทวดาไวในฐานะเปนพยาน แลวเขาจาํ
พระสตุ ตนั ตปฎ ก อังคตุ รนกิ าย ติกนบิ าต เลม ๑ ภาค ๓ - หนา ที่ 399ชื่อวา เทวดาอุโบสถ. คาํ ใดทเ่ี หลืออยูอันควรจะกลา วถงึ ในกัมมฏั ฐานมีพุทธานสุ ติเปนตน เหลา น้ี ทั้งหมด ขาพเจา ไดกลา วไวในคัมภรี วิสทุ ธิมรรคแลว เทียว. บทวา ปาณาติปาต ไดแ กการฆาสัตว. บทวา ปหาย ความวาละความทุศีล กลาวคอื เจตนาเปนเหตฆุ าสัตวนัน้ . บทวา ปฏิวิรตา ความวางดคอื เวนจากความเปนผูท ุศีลนนั้ ตัง้ แตเวลาท่ลี ะไดแลว. บทวา นิหิตทณฑฺ า นหิ ิตสตฺถา มีอธบิ ายวา ช่ือวา ทัง้ ทิง้ ทอ นไมท้ังทิ้งศาตรา เพราะไมถ ือทอนไม หรือศาสตรา เปนไปเพือ่ ฆา ผูอื่น. เวนทอ นไมเสยี แลว อปุ กรณท่เี หลือท้ังหมด พงึ ทราบวา ชื่อวา ศาสตรา ในบทวานิหติ ทณฑฺ า นหิ ติ สตถฺ า น้ี เพราะยงั สัตวท ัง้ หลายใหพ ินาศ. สวนการที่ภกิ ษุถอื ไมเทา คนแก มดี เหลาไมชําระฟน หรือตะไกร มิใชเพ่อื ตองการฆาผูอืน่ เพราะฉะนั้น ภกิ ษุเหลานั้นจดั วา วางทอ นไมแลว วางศาสตราแลวเหมอื นกนั . บทวา ลชชฺ ี ความวา ประกอบดวยความละอาย มีการรังเกยี จบาปเปนลักษณะ. บทวา ทฺยาปนฺนา ความวา ถึงความเอ็นดูคือความเปนผมู ีเมตตาจติ . บทวา สพฺพปาณภตู หิตานุกกมปฺ ความวา อนุเคราะหสัตวมชี ีวติ ท้งั ปวง ดวยประโยชนเก้อื กลู อธบิ ายวา มีจติ เกื้อกูลเหลาสัตวมีชีวติท้ังปวง เพราะความเปน ผูมใี จเอน็ ดูนั่นเอง.๑ บทวา อหมปฺ ชฺช ตัดบทเปน อห ป อชชฺ . บทวา อมิ นิ าปองฺเคน ไดแ กดวยองคคุณแมน ้.ี บทวา อรหต อนุกโรมิ ความวา เมื่อเดินตามหลังผูท่เี ดนิ ไปขางหนา ชอ่ื วา เดนิ ตามฉันใด แมเราก็ฉันน้ัน เมอ่ื บาํ เพ็ญคุณความดีน้ีภายหลังทพ่ี ระอรหันตท ั้งหลายบําเพญ็ มากอ น ชอ่ื วา เจริญรอยตามพระอรหันตเ หลา นั้น. บทวา อโุ ปสโถ จ เม อุปวตุ โฺ ถ ภวิสฺสติ๑. ปาฐะวา สพฺพปาณภูเต หิเตน อนกุ มฺปตาย ทฺยาปนนฺ าย ฉบับพมา เปน สพฺพปาณภเู ตหเิ ตน อนกุ มฺปกา ตาย เอว ทฺยาปนนฺ ตาย.
พระสุตตันตปฎ ก องั คตุ รนิกาย ติกนบิ าต เลม ๑ ภาค ๓ - หนาท่ี 400ความวา การทเ่ี รากระทาํ อยางนี้ จกั เปน อันช่ือวา เจรญิ รอยตามพระอรหนั ตดว ย จักช่ือวา เปนอนั เขา จําอุโบสถดวย. การถอื เอาส่งิ ของทเี่ จาของไมไ ดใ ห คอื ท่ีผอู นื่ หวงแหน ชอ่ื วาอทนิ นาทาน อธิบายวา ไดแกก ารขโมย คอื งานของโจร. ชอ่ื วา ทนิ นฺ าทายีเพราะถือเฉพาะแตข องที่เขาให. ช่อื วา ทินฺนปาฏิกงฺขี เพราะจาํ นงหวังแมด วยจติ เฉพาะของทีเ่ ขาให. ชอ่ื วา เถนะ เพราะลกั ขโมย ช่อื วา อเถนะเพราะไมลักขโมย ชอื่ วา เปน ผูสะอาด เพราะไมลกั ขโมยน่ันเอง. บทวาอตตฺ นา ไดแ กมีอตั ภาพ ทา นอธิบายวา ทําอัตภาพท่ีไมล ักขโมยใหสะอาดอย.ู บทวา อพฺรหฺมจรยิ ไดแ ก การประพฤตทิ ี่ไมป ระเสริฐ. ช่อื วาพฺรหฺมจารี เพราะประพฤติธรรมอันประเสริฐ คอื อาจาระอนั สูงสดุ . บทวาอาจารี ความวา ช่ือวา มีอาจาระช่ัว เพราะไมประพฤตติธรรมอันประเสริฐ.บทวา เมถุนา ไดแกอสทั ธรรมทถ่ี ึงการนบั วา เมถุน เพราะซอ งเสพดว ยธรรมอนั ไดน ามวา เมถนุ เพราะคลา ยกันโดยเปนกเิ ลสทก่ี ลมุ รุมจิต คือ ราคะ.บทวา คามธมมฺ า ไดแ กธ รรมของชาวบา น. บทวา มสุ าวาทา ความวา จากการพูดเหลาะแหละ คอื พดู คาํไรป ระโยชน. ชือ่ วา สจฺจวาที เพราะพูดความจริง. ช่อื วา สจฺจสนฺธาเพราะสบื ตอ สัจจะ ดวยสจั จะ อธิบายวา ไมพดู เท็จในระหวาง ๆ. เพราะวาผูใ ดบางคร้งั ก็พดู เท็จ บางครงั้ ก็พดู จรงิ ผนู ั้นชื่อวาไมสืบตอสจั จะดว ยสจั จะเพราะมมี สุ าวาทมาขีดคน่ั . เพราะฉะน้ัน เขาจึงไมชือ่ วา มีสจั จะตอ เนื่อง.แตค นเหลานี้ไมเ ปนเชน นัน้ สบื ตอ คาํ สัตยด วยคําสัตยอยา งเดียว โดยไมยอมพดู เท็จ แมเพราะเหตุแหง ชีวติ เพราะฉะนัน้ จงึ ชอื่ วา มสี ัจจะตอ เนือ่ ง.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 602
Pages: