พระสตุ ตันตปฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ที่ 371จงถามกะเรา เราจะกระทาํ ทส่ี ดุ แหง ปญหานั้น ๆ แกท า น. หรือวา ดกู อนภกิ ษุ ถา อยา งนน้ั เธอจงนง่ั บนอาสนะของตนถามปญ หาตามทต่ี อ งการเถดิ . หรอื วา ความสงสัยทุก ๆ ขอ ของพราหมณพ าวรีก็ดี ของพวกทานทั้งปวงก็ดี อะไร ๆ ในใจท่ีพวกทานปรารถนา จงถามเถิด เราเปดโอกาสแลว . หรือวา ดูกอนสภยิ ะ ทา นตอ งการถามปญหาขอ ใดขอ หนง่ึ ในใจจงถามกะเรา เราจะกระทําที่สดุ แหง ปญ หานัน้ ๆ แกท าน. พระพุทธเจา ทัง้ หลายยอมปวารณาอยางสัพพัญปู วารณา แกยกั ษจอมคน เทวดา สมณะ พราหมณ และปรพิ าชกทัง้ หลายนัน้ ๆ. ก็ขอนี้ไมอศั จรรย เพราะพระผูมีพระภาคเจา ทรงบรรลุพุทธภูมแิ ลวจงึปวารณาอยา งนัน้ . แมเ มอื่ ดํารงอยูใ นญาณระดับภมู พิ ระโพธสิ ตั ว ถกู ฤาษีทง้ั หลายขอรองใหแ กปญหาเพอื่ ประโยชนแ กท า วสกั กะเปน ตน อยา งนีว้ า ดกู อ นโกณฑัญญะ ทานจะพยากรณป ญ หาทัง้ หลายที่พวกฤาษีดี ๆวอนขอ ดกู อนโกณฑญั ญะ นเ้ี ปน มนุษยธรรม การที่มาหาความเจริญน้เี ปนหนา ทท่ี ่ีตอ งรบั เอา. ในเวลาเปนสรภังคดาบส อยางนวี้ า เราเปด โอกาสแลว ขอทานผูเจริญท้ังหลาย จงถามปญ หาขอใดขอหนึง่ ท่ีใจปรารถนาเถดิ เราจกั พยากรณป ญหาน้ัน ๆ ของพวกทา น เพราะเราเองรูท้งั โลกนีแ้ ละโลกอ่นื . และในสมั ภวชาดก มีพราหมณผูส ะอาดเที่ยวไปทัว่ ชมพูทวปี ๓ ครัง้ไมพ บผทู จ่ี ะแกป ญ หาได คร้ันพระโพธิสัตวใหโ อกาสแลว เวลานนั้ พระ
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ทีฆนกิ าย สลี ขันธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนาที่ 372โพธิสัตวเกดิ มาได ๗ ป เลนฝุน อยใู นถนน นงั่ คบู ลั ลังกก ลางถนนนัน่ เองปวารณาอยา งสพั พัญูปวารณาวา เชญิ เถิด เราจักบอกแกทา นอยางคนฉลาดบอก และพระราชายอ มทรงทราบขอน้ันวา จกั ทาํ ไดห รอื ไม. เมือ่ พระผูมพี ระภาคเจา ทรงปวารณาสพั พญั ปู วารณาอยางนแี้ ลวพระเจาอชาตศัตรูทรงพอพระทัย เมือ่ จะทลู ถามปญหา ไดก ราบทูลวายถา นุ โข อิมานิ ภนฺเต ดังนเ้ี ปนตน. ในบทเหลา นน้ั ศิลปะน่นั แหละ ช่ือสปิ ปายตนะ. บทวา ปถุ สุ ิปปฺ ายตนานิ แปลวา ศิลปศาสตรเ ปนอันมาก. บทวา เสยฺยถที ความวา ก็ศลิ ปศาสตรเ หลา น้นั อะไรบา ง ? ดว ยบทวา หตฺถาโรหา เปน ตน พระเจา อชาตศัตรทู รงแสดงเหลา ชนท่ีอาศัยศลิ ปะนั้น ๆ เลย้ี งชีพ. ดวยวาพระองคมพี ระราชประสงคดังนวี้ า ผลแหง ศิลปะทป่ี ระจกั ษเพราะอาศยั ศิลปะนน้ั ๆ ยอมปรากฏแกผูท่ีเขา ไปอาศัยศิลปะเลยี้ งชพี เหลานีฉ้ ันใด ขา แตพ ระองคผเู จริญ พระองคอ าจท่จี ะประกาศสามญั ญผลทีป่ ระจักษใ นปจ จบุ นั เหมือนฉันนัน้ ไดหรือไมห นอ ดงั น้ี. เพราะฉะน้ัน พระเจาอชาตศตั รจู งึ ทรงเร่ิมศลิ ปศาสตรท ้ังหลายมาแสดงคนทเี่ ขาไปอาศยั ศิลปะเลยี้ งชีพ. ในบทเหลา นน้ั ดวยบทวา หตฺถาโรหา ยอมแสดงถึงอาจารยฝ กชา ง หมอรักษาชา ง และคนผกู ชางเปน ตนทั้งหมด. บทวา อสสฺ าโรหา ไดแกครูฝก มา หมอรกั ษามา และคนผกูมา เปน ตน ทงั้ หมด. บทวา รถกิ า ไดแ กครูฝกพลรถ ทหารรถ และคนรกั ษารถ
พระสุตตนั ตปฎ ก ทฆี นกิ าย สีลขนั ธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนาที่ 373เปนตนทง้ั หมด. บทวา ธนคุ ฺคหาไดแก ครูฝก พลธนู และคนแมนธน.ู บทวา เจลกา ไดแกผเู ชญิ ธงชยั ไปขางหนา ในสนามรบ. บทวา จลกา ไดแ กผ ูจัดกระบวนทพั อยางนว้ี า พระราชาอยูตรงน้ี มหาอํามาตยช ่อื โนน อยูตรงน้ี. บทวา ปณฺฑทายิกา ไดแ กทหารใหญทก่ี ลาตายเกง กาจ. ไดยนิ วาทหารพวกนั้นเขากองทัพขาศึก ตดั ศีรษะขาศกึ เหมอื นกอ นขา วแลวนําไปอธบิ ายวา กระโดดพรวดออกไป. อกี อยางหนงึ่ คําวา ปณฑฺ ทายกิ า นี้เปนชือ่ ของผูท่ถี ือถาดอาหารเขา ไปใหแ กท หาร ทา มกลางสงความ. บทวา อคค จ ราชปตุ ฺตา ไดแ กพ วกราชบตุ รทเ่ี ขาสงครามมชี ่ือวา อุคคะ - อคุ คตะ. บทวา ปกขฺ นทฺ โิ น ไดแ ก ทหารเหลา ใดกลา ววา พวกเราจะนําศีรษะหรืออาวธุ ของใคร ๆ มา ครน้ั ไดรับคําสั่งวา ของคนโนน ก็แลนเขาสสู งคราม นาํ ส่ิงทสี่ ่ังนนั้ น่นั แหละมาได ทหารเหลา น้ชี อื่ วา ปกฺขนฺทโิ นดวยอรรถวา แลนไป ( หนว ยจโู จม ). บทวา มหานาคา ไดแกเปน ผูกลา มากเหมอื นพระยานาค. คาํ วา มหานาคา นี้ เปน ชื่อของหมทู หารทีแ่ มเ มอื่ ชางเปนตน วิ่งมาตรงหนา กไ็ มถ อยกลับ. บทวา สูรา ไดแก กลา ทส่ี ดุ ซ่ึงคลมุ ดวยตาขายก็ตาม สวมเกราะหนังก็ตาม กส็ ามารถขามทะเลได. บทวา จมมฺ โยธิโน ไดแ กพวกที่สวมเส้อื หนงั หรือถอื โลห นังสาํ หรับตานลกู ธนรู บ.
พระสุตตันตปฎก ทีฆนิกาย สลี ขันธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนาท่ี 374 บทวา ทาสกิ ปตุ ฺตา ไดแ กพ วกลกู ทาสในเรือน ซึง่ รักนายเปน กําลงั . บทวา อาฬาริกา ไดแกพวกทําขนม. บทวา กปฺปก า ไดแกพวกชา งกัลบก. บทวา นฺหาปกา ไดแ กพ นกั งานเครอ่ื งสรง. บทวา สูทา ไดแ กพ วกทาํ อาหาร. พวกชางดอกไมเ ปน ตน แจม แจง อยแู ลว . บทวา คณกา ไดแกพวกพูดไมมีชอ งใหถาม. บทวา มุทธฺ กิ า ไดแ กพ วกอาศยั วชิ านบั หัวแมมือเลีย้ งชีพ. บทวา ยานิ วาปนฺ านิป ไดแกพวกชา งเหล็ก ชางฉลุงาและชา งเขยี นลวดลายเปน ตน . บทวา เอว คตานิ ไดแกเปนไปอยางน.้ี บทวา เต ทฏิ เ ว ธมเฺ ม ความวา พวกพลชางเปนตน เหลานั้นแสดงศิลปศาสตรมากอยา งเหลานั้น ไดสมบตั ิมากจากราชสกุล เขาไปอาศยั ผลแหงศลิ ปะทเ่ี ห็นประจกั ษน ั่นแหละเล้ยี งชพี อยไู ด. บทวา สเุ ขนตฺ ิ แปลวา ทาํ ใหเปน สขุ . บทวา ปเณนฺติ ไดแกท าํ ใหเ อบิ อ่มิ มีเรี่ยวแรงและกาํ ลัง. บทวา อุทธฺ คคฺ ิกา เปนตน มีวนิ ิจฉยั ดังตอไปน้ี ทชี่ ่อื วา อุทธฺ คฺคิกา เพราะอรรถวา มผี ลเลิศเหนอื ผลที่เกิดสูงขึน้ ไป. ชือ่ วา โสวคฺคิกา เพราะอรรถวา ควรซึ่งอารมณดีเลิศ. ที่ชอ่ื วา สขุ วปิ ากา เพราะอรรถวา มีสขุ เปนวิบาก.
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ทีฆนิกาย สีลขนั ธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 375 ทีช่ อื่ วา สคคฺ ส วตฺตนกิ า เพราะอรรถวา ยังธรรม ๑๐ ประการคือ รูป เสยี ง กล่ิน รส โผฏฐัพพะ อายุ วรรณะ สขุ ยศ และความยิ่งใหญอยา งดีเลศิ ใหเ ปนไป คอื ใหเ กิด อธิบายวา ตัง้ ทักษิณาทานเห็นปานนน้ั ไว. ในบทวา สามฺ ผล น้ี โดยปรมัตถ สามญั ญะ หมายถงึ มรรคสามัญญผล หมายถงึ อริยผล. เหมอื นอยางท่ีพระผมู ีพระภาคเจาตรัสไววาดูกอนภิกษทุ งั้ หลาย กส็ ามัญญะเปนไฉน มรรคประกอบดว ยองค ๘ ที่เปน อริยะน้แี หละเปน สามัญญะ มรรคประกอบดวยองค ๘ ทีเ่ ปน อริยะคอื อะไรบาง คอื สมั มาทิฏฐิ ฯ ล ฯ สมั มาสมาธิ ดกู อ นภิกษทุ งั้ หลายน้ีเรียกวา สามัญญะ ดูกอนภิกษทุ ้ังหลาย ก็สามัญญผลเปนไฉน ? โสดา-ปต ตผิ ล ฯ ล ฯ อรหัตตผล น้ีแหละเปนสามัญญผล พระราชาองคน้ีมิไดถ งึ สามญั ญผลนั้น ก็พระองคต รัสถามทรงหมายถงึ สามัญญผลทเี่ ปรยี บดวยทาสและชาวนาซึง่ มมี าไดอยางสงู . ครั้งนัน้ พระผูมีพระภาคเจามไิ ดทรงวิสชั นาปญหาทนั ที ทรงพระดาํ รวิ า อาํ มาตยข องพระราชาเหลานี้ที่เปนสาวกของอัญญเดยี รถียมากหลายมาในท่นี ี้ พวกอํามาตยเหลานั้น เม่ือเรากลา วแสดงฝายดําและฝายขาว จกั ตเิ ตียนวา พระราชาของพวกเราเสดจ็ มาในทน่ี ีด้ ว ยอตุ สาหะใหญตงั้ แตพระองคเ สดจ็ มาแลว พระสมณโคดมตรัสความโกลาหลของสมณะใหเปนเร่ืองสมณะทะเลาะกันเสีย จักไมฟงธรรมโดยเคารพ แตเมือ่ พระราชาตรสั พวกอาํ มาตยจักไมอ าจตเิ ตียน จักอนุวัตรตามพระราชาเทาน้นัธรรมดาชาวโลกยอ มอนุวตั รตามผูเปนใหญ ตกลงเราจะทําใหเปน ภาระของพระราชาแตผเู ดียว เมอ่ื พระผมู พี ระภาคเจาทรงกระทาํ ใหเปน ภาระ
พระสุตตนั ตปฎก ทฆี นกิ าย สลี ขันธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนาที่ 376ของพระราชา จงึ ตรสั วา อภิชานาสิ โน ตฺว ดงั น้เี ปน ตน. ในบทเหลา นน้ั บทวา อภชิ านาสิ โน ตฺว เทา กบั อภชิ านาสินุ ตฺว และ โน ศพั ทน้ี พงึ ประกอบดวยบท ปุจฺฉติ า ขางหนา .อธิบายวา มหาบพติ ร ปญ หามีพระองคเคยถามสมณพราหมณเหลา อ่ืนบา งหรอื หนอ. พระองคย ังจําไดถงึ ภาวะท่ีถามปญ หาน้นั พระองคม ไิ ดทรงลมื สมณพราหมณเ หลาน้ันหรือ. บทวา สเจ เต อครุ ความวา ถาสมณพราหมณน ้นั ๆ พยากรณอยา งไร การที่พระองคตรัสอยา งน้นั ในท่นี ้ีจะไมเปน การหนักพระทัยแกพระองค. อธิบายวา ถา จะไมมคี วามไมผ าสกุ อะไร ๆ ขอใหพ ระองคตรสัเถิด. บทวา น โข เม ภนฺเต นี้ พระราชาตรสั หมายถงึ อะไร ?หมายถึงวา ก็การกลาวในสาํ นักของบัณฑติ เทียมทั้งหลาย ยอ มเปนความลาํ บาก. บณั ฑติ เทียมเหลานัน้ ยอ มใหโ ทษทุก ๆ บททกุ ๆ อักษรทีเดยี ว.สว นทา นทีเ่ ปนบัณฑติ แท ฟงถอยคําแลว ยอมสรรเสริญคาํ ท่ีกลา วดี ในถอยคําที่กลาวไมดี ผิดบาลผี ดิ บทผดิ อรรถและผิดพยญั ชนะตรงแหงใด ๆบัณฑติ แทย อ มชวยทําใหถ กู ตรงแหง นน้ั ๆ. กข็ ้ึนชอ่ื วาบณั ฑติ แทอยางพระผูมีพระภาคเจา ยอ มไมม .ี เพราะฉะนน้ั พระเจาอชาตศตั รูจงึ ทลู วาณ ทที่ ี่พระผูมพี ระภาคเจาหรือทานผูเปรียบดวยพระผูมพี ระภาคเจา ประ-ทบั นงั่ อยู หมอ มฉันไมหนักใจ พระเจาขา. ในบทวา เอกมทิ าห น้ี ตัดบทเปน เอก อธิ อห แปลวาสมัยหนง่ึ ณ กรุงราชคฤหนี้ หมอ มฉัน . บทวา สมฺโมทนีย กถ สาราณยี วตี ิสาเรตฺวา ความวา
พระสุตตนั ตปฎ ก ทีฆนกิ าย สลี ขนั ธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 377ยงั ถอยคาํ ทีใ่ หเกิดความบนั เทิง ควรใหระลกึ ถึงกันจบลงแลว. ในคาํ วา กโรโต โข มหาราช การยโต เปน ตน มวี นิ ิจฉัยดังตอไปน.ี้ บทวา กโรโต ไดแ กก ระทําดวยมอื ของตน. บทวา การยโต ไดแกบงั คบั ใหทาํ . บทวา ฉนิ ฺทโต ไดแกตดั มอื เปน ตน ของตนอนื่ . บทวา ปจโต ไดแ กใ ชอ าชญาเบียดเบียนบา ง คุกคามบาง. บทวา โสจยโต ความวา ทาํ เขาใหเ ศราโศกเองบา ง ใชใ หผ อู ืน่ทําใหเขาเศราโศกบา ง ดวยการลกั สิง่ ของของผูอ่ืนเปนตน . บทวา กิลมยโต ความวา ใหเ ขาลาํ บากเองบาง ใชใหผอู ่นื ทําใหเขาลาํ บากบาง ดวยการตัดอาหารและใสเรอื นจาํ เปน ตน . บทวา ผนฺทโต ผนทฺ าปยโต ความวา ในเวลาท่ผี ูกมดั ผูอ่ืนซง่ึด้ินรนอยู แมต นเองกด็ ้ินรน ทาํ ผูอ่นื ใหด ้นิ รน. บทวา ปาณมติปาตาปยโต ความวา ฆา เองบาง ใหผ อู น่ื ฆาบางซง่ึ สัตวม ชี วี ติ . ในทุกบท พึงทราบเนื้อความดวยสามารถแหงการกระทาํ เองและการใหผ ูอ่นื กระทาํ นนั่ แหละ ดวยประการฉะน.้ี บทวา สนธฺ ึ ไดแกท่ีตอเรอื น. บทวา นลิ ฺโลป ไดแ กป ลน ยกใหญ. บทวา เอกาคารกิ ไดแกล อมปลน เรอื นหลังเดยี วเทา นน้ั . บทวา ปรปิ นฺเถ ไดแ กย ืนดักอยูทีท่ างเพ่อื ชงิ ทรัพยข องคนท่ีผานไปมา. ดว ยคําวา กโรโต น กรยิ ติ ปาป แสดงวา แมเ มอ่ื ทาํ ดว ย
พระสุตตนั ตปฎก ทีฆนกิ าย สลี ขนั ธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ที่ 378เขา ใจวา เราทาํ บาปอยางใดอยา งหนง่ึ บาปไมเ ปนอันทํา บาปไมมี.แตส ตั วท ัง้ หลายเขาใจกนั เองอยา งน้วี า เราทํา. บทวา ขรุ ปรยิ นเฺ ตน ความวา ใชจกั รทม่ี กี งคมเหมอื นมีดโกนหรอื มวี งกลมคม เชนคมมดี โกน. บทวา เอกม สขล ไดแกก องเนือ้ กองเดยี ว. บทวา ปุชฺ เปน ไวพจนข องบทวา ขล น่นั เอง. บทวา ตโตนทิ าน ความวา มกี ารทําใหเ ปน ลานเนือ้ อันเดยี วกันเปนเหตุ. บทวา ทกฺขิณ ความวา พวกมนษุ ยในฝงขวาเปนคนหยาบชาทารุณ ทานกลาววา หนนโฺ ต เปนตน หมายถงึ มนษุ ยเ หลา นน้ั . พวกมนุษยใ นฝง ซา ยเปนคนมศี รทั ธาเลอ่ื มใส นับถอื พระพุทธพระธรรม พระสงฆ เปนของตน ทานกลา วคาํ วา ททนโฺ ต เปน ตนหมายถึงมนุษยเ หลาน้นั . บรรดาบทเหลา น้ัน บทวา ยชนโฺ ต ไดแ กทําการบูชาใหญ บทวา ทเมน ไดแ กดว ยการฝกอนิ ทรียหรอื ดว ยอโุ บสถกรรม. บทวา สฺ เมน ไดแกด วยการสํารวมศลี . บทวา สจฺจวาเจน ไดแ กดว ยการพูดคาํ จรงิ . บทวา อาคโม ความวา มา คอื เปนไป. ครูปรู ณกัสสปปฏเิ สธการทําบาปและบุญนั่นเอง แมโ ดยประการท้ังปวง. ทีช่ อื่ วา เมือ่ ถูกถามถึงมะมวง ตอบขนนุ สาํ มะลอ ไดแ กคนที่เมื่อ
พระสตุ ตันตปฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ที่ 379ถกู ถามวา มะมว งเปน เชน ไร หรอื ลําตนใบดอกผลของมะมว งเปน เชน ไรดงั น้แี ลว ตอบวา ขนุนสํามะลอเปน อยางน้ี ลาํ ตนใบดอกผลของขนนุสาํ มะลอเปน อยา งน้ี. บทวา วชิ เิ ต ไดแ กในประเทศทีอ่ ยูในอาํ นาจปกครอง. บทวา อปสาเทตพพฺ ความวา พึงเบยี ดเบยี น. บทวา อนภนิ นทฺ ติ วฺ า ไดแกไ มท าํ การสรรเสริญอยา งนีว้ า ดลี ะ ๆ. บทวา อปฺปฏกิ โฺ กสิตวฺ า ไดแ กไ มห ามอยางนว้ี า แนะ คนโงทา นพูดไมด.ี บทวา อนคุ คฺ ณฺหนฺโต ไดแ กไ มถอื เอาเปน สาระ. บทวา อนกิ ฺกุชฺเชนฺโต ไดแ กไ มเก็บไวใ นใจวา นีเ้ ปน นสิ สรณะน้ีเปนปรมัตถ เพราะถอื เปนสาระไดท ีเดยี ว. แตพระเจา อชาตศตั รทู รงศึกษาพยญั ชนะแลว ทรงท้ิงเสยี . ในวาทะของ ครูมกั ขลิโคสาล มวี ินจิ ฉยั ดงั ตอ ไปน้ี คาํ วา ปจจฺ โย เปน ไวพจนของคาํ วาเหตุ. แมดว ยบทวา ไมม เี หตุ ไมม ปี จ จัยทงั้ ๒ เปน อันครูมกั ขลโิ คสาลปฏิเสธปจจัยแหงความเศราหมองของกายทจุ รติ เปน ตน และปจจัยแหงความบรสิ ทุ ธ์ขิ องกายสจุ ริตเปน ตน ท่มี อี ยนู น่ั แล. บทวา อตฺตกาเร ความวา การกระทาํ ของตนเอง สตั วเ หลาน้ีถงึ ความเปน เทพก็ดี มารก็ดี พรหมก็ดี การตรัสรเู ปนพระสาวกก็ดีการตรัสรูเ ปนพระปจเจกพทุ ธเจา กด็ ี ความเปนพระสัพพญั ูกด็ ี ดว ยกรรมท่ีตนกระทําแลวอันใด ครูมักขลโิ คสาลปฏเิ สธกรรมอันนัน้ . ดว ยบทท่ี ๒ (นตฺถิ ปรกาเร) เปน อนั ครมู ักขลิโคสาลปฏเิ สธ
พระสตุ ตันตปฎก ทีฆนกิ าย สีลขันธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 380การกระทาํ ของผอู น่ื คือชนทีเ่ หลือลงเวน พระมหาสัตว อาศยั โอวาทา-นศุ าสนีของผูอ ่นื ซ่ึงเปนการการทําของผูอื่น ตั้งแตส รา งความโสภาคยของมนุษยจนบรรลพุ ระอรหัต. คนพาลน้ชี ือ่ วา ยอ มใหการประหารในชินจักร ดว ยประการฉะน.ี้ บทวา นตถฺ ิ ปรุ ิสกาเร ความวา สตั วท้งั หลายยอมถึงสมบัติท้งั หลาย ซึง่ มปี ระการดังกลาวแลว ดว ยการกระทําของบรุ ษุ ใด ครูมักขลิโคสาลปฏเิ สธการกระทําของบุรุษแมน ้ัน. บทวา นตฺถิ พล ความวา สัตวทัง้ หลายตง้ั อยใู นกาํ ลงั ของตนอันใดกระทาํ ความเพยี รแลว ถงึ สมบัติเหลาน้ัน ครมู กั ขลิโคสาลปฏเิ สธกาํ ลังอันนั้น. บทวา นตถฺ ิ วิริย เปนตนท้ังหมด เปนไวพจนข องบทวา ปุรสิ -การ แตบทเหลา นี้ ถอื เอาไวแ ผนกหน่ึง ดวยสามารถการปฏเิ สธคําท่ีเปน ไปอยา งน้ีวา นเ้ี ปนไปดว ยความเพียรของบรุ ุษ น้ีเปนไปดว ยเร่ียวแรงของบุรษุ นเ้ี ปน ไปดวยความบากบั่นของบรุ ุษ. ดวยบทวา สพเฺ พ สตตฺ า ทานรวมเอา อูฐ โค ลา เปน ตน ไมเหลือเลย. ดว ยบทวา สพเฺ พ ปาณา ทา นกลาวดว ยคาํ เปนตนวา ปาณะมีอินทรยี เ ดียว ปาณะมี ๒ อนิ ทรีย. ดว ยบทวา สพฺเพ ภูตา ทา นกลา วหมายเอาภตู ท้ังหลายบรรดาท่ีเกดิ ในฟองไขและเกิดในมดลูก. ดวยบทวา สพฺเพ ชวี า ทา นกลา วหมายเอาขาวสาลี ขาวเหนียวและขา วละมานเปน ตน ก็ในชีวะเหลา นน้ั ครมู ักขลโิ คสาลน้ัน เขา ใจวา
พระสตุ ตนั ตปฎก ทฆี นิกาย สีลขนั ธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 381ชวี ะ โดยที่งอกได. บทวา อวสา อพลา อวิริยา ความวา ชวี ะเหลานั้นไมม อี ํานาจหรือกาํ ลังหรือความเพยี รของตน. ในบทวา นิยติ สงคฺ ติ ภาวปริณตา น้ี วนิ ิจฉัยวา นิยติ ไดแ กเ คราะห. สงคฺ ติ ไดแ กการไปในภพน้นั ๆ ของอภชิ าติทัง้ ๖. ภาวะ ไดแกส ภาวะนน่ั เอง. ความแปรไปตามเคราะห ตามความประจวบและตามสภาวะ ถึงความเปนประการตาง ๆ ครูมกั ขลโิ คสาลแสดงวา กผ็ ใู ดพึงเปนดว ยประการใด ผูนัน้ ยอ มเปนดวยประการนั่นแหละ ผูใดไมพงึ เปน ผนู ัน้ยอ มไมเปน . ดวยบทวา ฉเสวฺ วาภิชาติสุ ครูมกั ขลิโคสาลแสดงวา ผดู งั อยูในอภชิ าติ ๖ นั่นแล ยอมเสวยสขุ และทุกข ภูมิทีใ่ หเกดิ สุขเกิดทุกขแหงอน่ืไมม .ี บทวา โยนิปฺปมขุ สตสหสฺสานิ ความวา กําเนิดทีเ่ ปน ประธานคอื กาํ เนิดชัน้ สูงสุด ๑,๔๐๖,๖๐๐. บทวา ปฺจ จ กมฺมุโน สตานิ ไดแกกรรม ๕๐๐. ครูมกั ขลโิ คสาลแสดงทิฏฐทิ ่ีไรป ระโยชน ดวยเหตเุ พียงตรกึ อยา งเดยี ว. แมในบทวา ปจฺ จ กมฺมานิ ตีณิ จ กมมฺ านิ เปน ตน ก็นยั นี้เหมือนกัน. แตอ าจารยบ างพวกกลาววา บทวา ปจฺ กมฺมานิ นน้ั ทาน
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ทฆี นิกาย สีลขนั ธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนาท่ี 382กลา วหมายอนิ ทรีย ๕ และกรรม ๓ ทา นกลาวหมายกายกรรมเปน ตน. กใ็ นบทวา กมฺเม จ อุปฑฺฒกมเฺ ม จ นี้ ครูมกั ขลโิ คสาลนัน้มลี ัทธิวา กายกรรมและวจีกรรม เปนกรรม มโนกรรมเปน ครึ่งกรรม. บทวา ทวฺ ฏปิ ฏปิ ทา ความวา ครมู ักขลโิ คสาล กลาววาปฏปิ ทา ๖๒. บทวา ทวฺ ฏ นตฺ รกปฺปา ความวา ในกปั หนง่ึ มีอนั ตรกปั ๖๔. แตครมู กั ขลโิ คสาลนี้ ไมรอู นั ตรกปั อกี ๒ อนั ตรกัป จึงกลา วอยา งน.้ี บทวา ฉฬาภิชาติโต ความวา ครูมักขลโิ คสาล กลาวถงึ อภชิ าติ๖ เหลานี้ คอื อภชิ าตดิ าํ อภชิ าตเิ ขยี ว อภชิ าตแิ ดง อภิชาตเิ หลอื งอภชิ าติขาว อภิชาติขาวย่ิง. ในอภิชาติ ๖ เหลาน้ัน พวกฆาแพะ พวกฆา นก พวกฆา เนื้อพวกฆา หมู พวกพราน พวกฆา ปลา พวกโจร พวกฆาโจร พวกผูคมุกห็ รือคนอน่ื ๆ บางพวกทม่ี กี ารงานหนกั นี้ ครูมกั ขลโิ คสาล เรียกวาอภชิ าติดาํ เขาเรยี กภิกษุทัง้ หลายวา อภิชาตเิ ขียว. ไดย นิ วา ภกิ ษุเหลานัน้ เอาหนามใสใ นปจจยั ๔ ฉัน. อนึ่ง ครูมักขลิโคสาลเรียกภิกษุท้ังหลายวา มคี วามประพฤติดั่งหนาม. นแ้ี หละเปนแนวของผูท ีค่ รูมกั ขลโิ คสาลกลา วถงึ . อกี อยา งหนึง่ ครมู ักขลิโคสาลกลา ววา บรรพชติ เหลา นัน้ ชอ่ื วาผมู ีความประพฤติดัง่ หนาม. ครมู กั ขลโิ คสาลกลาววา พวกนคิ รนถทม่ี ผี า ผนื เดียว ช่อื อภิชาติแดง. ไดยนิ วา พวกอภชิ าติแดงเหลานี้ขาวกวา ๒ พวกขางตน. พวกคฤหสั ถทีน่ ุงขาว เปนสาวกของพวกอเจลก เรยี กวาอภิชาติ
พระสุตตันตปฎก ทฆี นิกาย สีลขนั ธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 383เหลอื ง. ครูมักขลโิ คสาล ทาํ ผใู หปจ จัยแกตนใหเ ปน ผูเจรญิ ที่สุดกวานคิ รนถทัง้ หลายอยางน้.ี เขาเรียกอาชวี กชายและอาชีวกหญิง วา อภิชาตขิ าว.ไดยินวา พวกอภชิ าตขิ าวเหลา นั้นขาวกวา ๔ พวกขางตน . ทา นกลา ววานันทะ วัจฉะ กีสะ สงั กจิ จะ ทา นมกั ขลโิ คสาลเปนอภิชาติขาวย่งิไดยินวา ทา นเหลานั้นขาวกวา ทานอื่น ๆ ทงั้ หมด. บทวา อฏ ปรุ ิสภมู โิ ย ความวา ครมู กั ขลโิ คสาลกลาววา ภูมิ๘ เหลา นค้ี ือ มันทภมู ิ ขิฑฑาภมู ิ ปทวมี งั สภมู ิ อุชคุ ตภมู ิ เสขภมู ิ สมณภูมิชนิ ภูมิ ปน นภมู ิ เปน ปุริสภูมิ. ในภูมิ ๘ นั้น ต้งั แตว นั ตลอดมาใน ๗ วนั สัตวท ั้งหลายยังมึนงงอยู เพราะออกมาจากท่คี ับแคบ ครมู ักขลโิ คสาลเรียกคนภูมนิ ้วี า มันท-ภูม.ิ สวนผทู มี่ าจากทุคคตยิ อมรอ งไหสง เสียงอยูเนือง ๆ ผทู ่ีมาจากสุคติระลึกถึงสคุ ตนิ ัน้ เสมอ ยอ มหัวเราะ นชี้ อ่ื วา ขิฑฑาภมู ิ. เดก็ ที่จับมอื หรือเทาของมารดาบิดา หรอื จับเตียงหรอื ตงั่ แกวงเทาบนพ้ืน ชื่อวา ปทวมี งั สกูมิ. เด็กในเวลาทส่ี ามารถเดินได ชอื่ วา อุชคุ ตภมู .ิ ในเวลาศึกษาศลิ ปะทั้งหลาย ชื่อวา เสขภมู ิ. ในเวลาออกจากเรือนบวช ชอ่ื วา สมณภูมิ. ในเวลาท่คี บหาอาจารยแ ลวรูว ชิ า ชอ่ื วา ชนิ ภมู ิ. สมณะผูไ มม รี ายได เรยี กวา ปน นภูมิ ดงั ท่กี ลาวไวว า ภกิ ษุก็ดีพวกปน นกะหรือชนิ ะก็ดี ไมก ลาวขออะไร ๆ.
พระสตุ ตันตปฎ ก ทฆี นกิ าย สลี ขนั ธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ที่ 384 บทวา เอกูนปฺาส อาชวี กสเต ไดแกความประพฤติของอาชีวก๔,๙๐๐. บทวา ปริพฺพาชกสเต ไดแกป ริพาชกท่บี รรพชา ๑๐๐ พวก. บทวา นาควาสสเต ไดแ กมณฑลของนาค ๑๐๐ มณฑล. บทวา วเี ส อนิ ฺทฺริยสเต ไดแกอ นิ ทรยี ๒,๐๐๐. บทวา ตเึ ส นริ ยิ สเต ไดแ กนรก ๓,๐๐๐. ดว ยบทวา รโชธาตโุ ย ทา นกลา วหมายเอาฐานท่ีเปรอะเปอ นธุลีมหี ลงั มอื หลังเทาเปนตน . ดวยบทวา สตฺตสฺ ีคพฺภา ทา นกลา วหมายเอา อฐู โค ลาแพะ สัตวเ ลีย้ ง เน้อื กระบอื . ดว ยบทวา คตฺตอสฺคี พฺภา ทานกลาวหมายเอาขา วสาลี ขาวเปลือก ขา วเหนียว ขา วละมาน ขาวฟา ง ลกู เดือย และหญา กบั แก. ดว ยบทวา นคิ ฺคณฺิคพฺภา ทานกลาวหมายเอาพชื ทีม่ ที องเกดิ ทขี่ อมีออ ย ไมไผ และไมอ อ เปนตน. ดวยบทวา สตฺตเทวา ทา นกลาววา เทวดาจาํ นวนมาก. แตครูมกั ขลิโคสาลเรียกวา สตั ว. แมม นษุ ยท ้งั หลายที่ไมม ที ่สี ุด ครมู ักขล-ิโคสาลก็เรยี กวา สตั ว. ดวยบทวา สตฺตปสาจา ครมู ักขลิโคสาลกลาววา พวกสตั วใ หญ ๆชื่อวา ปศ าจ. ดวยบทวา สรา ไดแกสระใหญ. ครมู ักขลโิ คสาลกลา วระบุสระชอ่ื กณั ณมุณฑกะ สระช่อื รถการะ สระชื่ออโนตตั ตะ สระช่ือสหี -ปปาตะ สระชอ่ื ฉทั ทนั ต สระช่ือมันทากินี และสระชอ่ื กณุ าละ.
พระสุตตนั ตปฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนาที่ 385 บทวา ปวุฏา ไดแกปลอง. บทวา ปปาตา ไดแ กเหวใหญ. บทวา ปปาตสตานิ ไดแ กเหวเลก็ ๑๐๐ เหว. บทวา สปุ นา ไดแ กฝ นใหญ. บทวา สปุ น สตานิ ไดแ กฝนเลก็ ๑๐๐ ฝน. บทวา มหากปปฺ โ น ไดแ กมหากัป. ในบทวา มหากปปฺ โ น นั้น ครมู ักขลิโคสาลกลา ววา ทุกๆ รอ ยป คนนําน้าํ หยาดหนง่ึ ไปจากสระใหญประมาณเทา นี้ ดวยปลายหญา คาทาํ สระนํา้ นนั้ ใหไ มมนี ้ํา ๗ คร้ัง เปนมหากัปหนงึ่ . มหากัปเห็นปานน้สี ิ้นไป ๘ ลา น ๘ แสนครง้ั ทงั้ คนโงท ั้งคนฉลาดยอมสิน้ ทกุ ขได. นี้เปนลัทธิของครมู กั ขลโิ คสาล. ไดย ินวา แมบณั ฑิตกไ็ มอ าจบริสทุ ธ์ิ ในระหวา งได. แมค นพาลกไ็ มเ ลยกาลนานน้ันไปได. บทวา สีเลน ไดแ กด ว ยศีลอเจลกหรอื ศลี อ่ืนอยา งใดอยา งหน่งึ . บทวา วตฺเตน ไดแกดวยวตั รเชน นน้ั แหละ. บทวา ตเปน ไดแกดว ยการบําเพ็ญตบะ. ผูใดบรสิ ทุ ธ์ิกลางคันดว ยสาํ คัญวา เราเปนบัณฑิต ผนู น้ั ชอื่ วา บมสิ่งซึ่งไมม ีทีทาวา จะสุกได. ผูใ ดลว งเลยเวลาท่ีกะไววา เรายังโงไป ผนู ้ันชอ่ื วา สัมผัสถูกตองกรรมทอี่ าํ นวยผลแลว ทําใหส้นิ สดุ ได. บทวา เหว นตถฺ ิ ไดแกไ มม อี ยางน้.ี ดว ยวา ครูมกั ขลโิ คสาลยอ มแสดงทั้ง ๒ อยางน้นั วาไมอ าจการทาํ ได.
พระสตุ ตนั ตปฎก ทีฆนิกาย สลี ขันธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนาที่ 386 บทวา โทณมิเต ไดแ กเหมอื นดวงดวยทะนาน. บทวา สุขทกุ เฺ ข ไดแ กส ขุ และทุกข. บทวา ปริยนตฺ กเต ไดแกท ําที่สุดตามกาลมีประมาณดงั กลา วแลว . บทวา นตถฺ ิ หานวฑฺฒเน ไดแกไ มม คี วามเส่ือมและความเจรญิ .อธบิ ายวา สังสารวฏั มไิ ดเ ส่ือมสําหรับบัณฑิต มิไดเจรญิ สาํ หรบั คนพาล. บทวา อกุ กฺ สาวกฺก เส ไดแ กท้งั สูงท้ังต่ํา บทน้ีเปนไวพจนข องความเส่ือมและความเจรญิ . บดั น้ี เมอื่ จะยังความนั้นใหสาํ เรจ็ ดว ยอุปมา ครมู ักขลิโคสาลจงึกลา ววา เสยยฺ ถาป นาม เปน ตน . ในพระบาลีน้ัน บทวา สุตฺตคุเล ไดแกกลุม ดา ยท่ีเขามว นไว. ดวยบทวา นพิ เฺ พยิ มานเมว ปเลติ ครมู ักขลโิ คสาลแสดงวาเลยกาลทก่ี ลา วแลว ไมมีใครจะไปได อุปมาเหมอื นคนยืนบนภเู ขาหรอืยอดไม ซดั กลมุ ดายใหคลอ่ี อกไปตามประมาณของดา ย เมอื่ ดา ยหมดแลวดายกห็ ยุดอยตู รงน้นั ไมไ ปอีกฉะนัน้ . ในวาทะของครูอชิตเกสกัมพล มีวินิจฉัยดงั ตอไปน้ี ดว ยคาํ วา นตถฺ ิ ทนิ นฺ นนั้ ครอู ชิตเกสกมั พล กลา วหมายเอาความไรผลของทานท่ใี หแ ลว . การบชู าให เรยี กวา ยิฏฐะ. บทวา หุต ประสงคเ อาสักการะอยางเพยี งพอ. ทัง้ ๒ ขอ น้ัน ครอู ชติ เกสกมั พลปฏเิ สธไปถึงความไรผ ลทีเดยี ว. บทวา สุกตทุกกฺ ฏาน ความวา กรรมทีท่ าํ ดีทาํ ชัว่ ไดแกกศุ ลและอกุศล.
พระสตุ ตนั ตปฎก ทีฆนกิ าย สลี ขันธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 387 ดว ยบทวา ผล วปิ าโก ครูอชติ เกสกมั พลกลา ววา สิง่ ใดทเ่ี รียกกนั วา ผล ก็ดี วา วบิ าก กด็ ี ส่ิงน้นั ไมม .ี บทวา นตฺถิ อย โลโก ความวา โลกนไ้ี มมสี ําหรับคนทีอ่ ยูโ ลกอน่ื . บทวา นตถฺ ิ ปรโลโก ความวา โลกอนื่ ไมม แี มส ําหรบั คนที่อยูโลกน้.ี ครูอชติ เกสกมั พลแสดงวา สตั วทกุ จาํ พวกยอมขาดสูญในภพนน้ั ๆนัน่ แหละ. ดวยบทวา นตฺถิ มาตา นตถฺ ิ ปต า ครูอชิตเกสกมั พลกลาวหมายถึงความไรผลแหงการปฏบิ ตั ิชอบ และการปฏิบัตผิ ดิ ในมารดาบดิ าเหลานัน้ . ดวยบทวา นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา ครอู ชิตเกสกัมพล กลาววาชอื่ วา สตั วท ี่จุติแลวอบุ ตั ิ ไมม.ี บทวา จาตุมมฺ หาภตู โิ ก ไดแ กส ําเรจ็ แตมหาภตู รูป ๔. บทวา ปวี ปวกี าย ไดแ กปฐวีธาตุที่เปนภายในติดตามปฐวีธาตุที่เปน ภายนอก. บทวา อนุเปติ แปลวา ตดิ ตาม. บทวา อนุปคจฺฉติ เปน ไวพจนข องบทวา อนุเปติ นั่นเอง ความวา อนคุ จฉฺ ติ ดังน้กี ็มี. ดวยบททัง้ ๒ ครอู ชติ เกสกมั พลแสดงวา อุเปติ อุปคจฉฺ ต.ิ แมใ น อาโปธาตุ เปนตน กน็ ยั นี้แหละ. บทวา อนิ ฺทฺรยิ านิ ไดแ กอ ินทรียท้ังหลายมีใจเปน ที่ ๖ ยอ มเล่ือนลอยไปสูอ ากาศ.
พระสุตตนั ตปฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ที่ 388 บทวา อาสนทฺ ิปจฺ มา ไดแกม เี ตียงนอนเปน ที่ ๕. อธิบายวาเตียงและบุรุษ ๔ คนทีย่ ืนถือขาเตียงท้ัง ๔. บทวา ยาวาฬาหนา ไดแกแคป า ชา. บทวา ปทานิ ไดแ กบ ทแสดงคุณและโทษทเี่ ปน ไปโดยนัยเปนตนวา ผนู ีเ้ ปน ผมู ีศลี อยางน้ี เปนผูท ศุ ลี อยา งน้.ี อีกอยา งหนึง่ สรีระนนั่ เองทา นประสงคเ อาวา ปทานิ ในบทวา ปทานิ น้.ี บทวา กาโปตกานิ ไดแ กเ ทา เตยี งสเี หมือนนกพิราบ. อธบิ ายวามสี เี หมอื นปก นกพิราบ. บทวา ภสฺสนตฺ า ไดแ กมเี ถา เปน ทส่ี ดุ . อีกอยา งหน่งึ บาลีก็อยางนเี้ หมอื นกนั . บทวา หุตโิ ย ไดแ กท านทบ่ี ุคคลใหแ ลว ตา งโดยของตอ นรับแขก เปนตนอันใด ทานน้นั ท้ังหมดยอ มมีเถา เปน ทีส่ ดุ เทานัน้ ไมใหผ ลเกินไปกวานั้น. บทวา ทตตฺ ปุ ฺ ตตฺ ไดแกทานอนั คนเซอะ คือมนษุ ยโ ง ๆบญั ญัติไว. อธิบายวา ทานนี้อันคนโงค ือคนไมมีความรูบญั ญัติไว มิใชบัณฑิตบัญญัติ ครูอชติ เกสกัมพลแสดงวา คนโงใหท าน คนฉลาดรับทาน. บรรดาครทู ง้ั ๖ น้นั ปูรณะชแี้ จงวา เมอื่ ทําบาปก็ไมเ ปนอันทาํชื่อวา ยอ มปฏเิ สธกรรม. อชิตะชีแ้ จงวา เพราะกายแตก สัตวยอมขาดสูญ ช่ือวา ปฏเิ สธวบิ าก. มกั ขลิชแี้ จงวา ไมมีเหตุ ชื่อวา ปฏเิ สธท้ังกรรมและวบิ ากท้งั ๒.
พระสุตตนั ตปฎ ก ทีฆนิกาย สลี ขันธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนาที่ 389 ในขอนนั้ แมเ ม่ือปฏิเสธกรรม กช็ ่ือวาปฏเิ สธวบิ ากดว ย. แมเ ม่ือปฏิเสธวิบาก ก็ช่อื วา ปฏิเสธกรรมดว ย. ดังนนั้ เจา ลทั ธแิ มทง้ั หมดนนั้ วาโดยอรรถ ก็คอื ปฏเิ สธทัง้ กรรมและวบิ ากของกรรมทง้ั ๒ ยอมเปนอเหตกุ วาทะดวย เปน อกริ ยิ วาทะดว ย เปนนัตถกิ วาทะดว ย. ก็บคุ คลเหลา ใดถือลทั ธขิ องเจา ลทั ธเิ หลา น้นั นง่ั สาธยายพิจารณาในทพ่ี กั กลางคืนในที่พักกลางวัน บคุ คลเหลานน้ั ยอ มมีมจิ ฉาสติจดจอ อยูในอารมณนั้นวา ทาํ บาปไมเปนอนั ทํา เหตุไมมี ปจ จยั ไมม ี สตั วตายแลว ขาดสูญ ดงั น้ี ยอมมจี ิตแนว แน ชวนะท้ังหลายยอมแลนไป ในปฐม-ชวนะ ยงั พอเยยี วยาได. ในชวนะที่ ๒ เปนตนกเ็ ชน กัน. ครน้ั แนวแนในชวนะที่ ๗ แมพ ระพทุ ธเจา ทง้ั หลายก็ทรงเยียวยาไมไ ด มีอนั ไมก ลับเปนธรรมดา เชนสามเณรอริฏฐะ และ ภกิ ษุกณั ฏกะ. ในนยิ ตมิจฉาทฏิ ฐิทั้ง ๓ นนั้ บางคนด่งิ ลงสทู ศั นะเดยี ว บางคน๒ ทัศนะ บางคน ๓ ทศั นะกม็ ี เม่อื ดง่ิ ลงไปในทศั นะเดียวกด็ ี ใน ๒๓ ทัศนะก็ดี ยอมเปน นยิ ตมจิ ฉาทฏิ ฐิ หา มทางสวรรคและหา มทางนิพพาน ไมควรไปสวรรคแมใ นภพทต่ี ดิ ตอกนั นั้น จะกลา วไปไยถึงนิพพานเลา สตั วน ้ีช่ือวา เปน ตอวฏั ฏะ เปนผเู ฝาแผน ดนิ โดยมากคนมีทฏิ ฐิเห็นปานน้ี ออกจากภพไมไ ด. เพราะฉะนนั้ บัณฑิตผเู ห็นประจักษห วังความเจริญ พงึ เวนอกลั ยาณปถุ ุชนใหห างไกล เหมอื นคนเวนหาง งูมีพษิ รา ยฉะน้ัน. ในวาทะของครปู กุทธกัจจายนะ มวี ินจิ ฉัยดงั ตอไปนี้ บทวา อกฏา แปลวา ไมม ีใครทํา.
พระสุตตันตปฎ ก ทีฆนกิ าย สลี ขนั ธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนาท่ี 390 บทวา อกฏวธิ า แปลวา ไมมีวิธีที่ใครทําไว. อธิบายวา ถึงจะใหใคร ๆ ทาํ วา จงทาํ อยา งน้ี กไ็ มเปนอันทํา. บทวา อนิมฺมติ า ไดแ กไ มมีใครเนรมติ แมด วยฤทธิ.์ บทวา อนิมฺมาตา ไดแกไมม ใี ครใหเ นรมติ . อาจารยบางพวกกลา วบทวา อนิมมฺ าเปตพพฺ า บทนน้ั ไมป รากฏในบาลแี ละในอรรถกถา. ๓ บทมีบทวา วฌฺ า เปนตน มีเนื้อความดังกลาวแลว นัน่ แหละ. บทวา น อิ ชฺ นตฺ ิ ความวา ไมห ว่ันไหว เพราะตั้งมัน่ เหมอื นเสาระเนียด. บทวา น วิปริณมนติ ไดแ กไ มละปรกต.ิ บทวา น อฺ มฺ พยฺ าพาเธนฺติ ไดแกไมกระทบกันและกัน. บทวา นาล ไดแกไ มสามารถ. ในบทวา ปวีกาโย เปนตน กองดินหรอื ดนิ รวมกัน ก็คือดินน่งั เอง. บทวา ตตฺถ ไดแกนกายซึ่งมีชีวะเปนที่ ๗ เหลา นัน้ . บทวา สตฺตนนฺ เยว กายาน ความวา ศสั ตรายอมเขาไปตามระหวางคอื ชองซอกของกายทัง้ ๗ เหมอื นอยา งศัสตราทฟ่ี น ลงไปในกองถั่วเขยี วเปนตน ยอมเขาไปตามระหวางถว่ั เขยี วเปน ตนฉะนนั้ . ครูปกุทธกัจจายนะแสดงวา ในสตั วนกิ ายนนั้ มเี พยี งสัญญาวาเราจะปลงสตั วน จี้ ากชีวติ อยางเดียวเทา นน้ั (หาใชเปนการปลงชวี ิตไม ). ในวาทะของนคิ รนถนาฏบุตร มวี ินิจฉยั ดังตอ ไปนี้ บทวา จาตยุ ามส วรส วุโต ความวา สํารวมทง้ั ๔ ดา น.
พระสุตตันตปฎ ก ทฆี นกิ าย สีลขันธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนาที่ 391 บทวา สพฺพวาริวารโิ ต จ ความวา เปนผูหา มน้าํ ทั้งปวง. อธิบายวา เปน ผูหา มนา้ํ เย็นทั้งหมด. ไดยนิ วา ครนู คิ รนถนาฏบุตรน้นั เขา ใจวาน้าํ เยน็ มีสัตวมีชีวิตฉะนัน้ จงึ ไมใชนํา้ เย็นน้ัน. บทวา สพพฺ วารยิ ุตโต ไดแกป ระกอบดวยเคร่ืองกั้นบาปท้งั ปวง. บทวา สพพฺ วาริธโุ ต ไดแ กกาํ จดั บาปดว ยเคร่ืองก้ันบาปทั้งปวง. บทวา สพฺพวาริผุฏโ ไดแกอนั เครอื่ งกนั บาปทัง้ ปวงตองแลว . บทวา คตตฺโต ไดแกมีจติ ถงึ ท่สี ุด. บทวา ยตตฺโต ไดแ กมีจติ สํารวมแลว. บทวา ิตตฺโต ไดแ กม จี ติ ต้ังม่นั ดแี ลว . ในวาทะของครนู คิ รนถนาฏบตุ รน้ี มีบางอยา งท่เี ขากันกบั ศาสนาไดบา ง. แตเ พราะเปนลัทธไิ มบริสทุ ธิ์ จงึ เกิดเปนทฏิ ฐทิ ง้ั หมดเลย. วาทะของครสู ญชัยเวลฏั ฐบุตร มีนัยดังกลาวแลว ในอมราวิกเขป-วาทะ (ในพรหมชาลสูตร) นั่นแล. บทวา โสห ภนเฺ ต เปนตน ความวา ขา แตพระองคผ ูเจรญิ หมอ มฉันไมไ ดสาระในวาทะของเดยี รถียท ้ังหลาย เหมือนค้ันทราย ไมไดน ํา้ มันจึงขอทูลถามพระผมู ีพระภาคเจา. บทวา ยถา เต ขเมยยฺ ความวา ตามที่พอพระทยั . บทวา ทาโส ไดแกท าสในเรอื นเบีย้ ทาสทซี่ ้อื มาดวยทรัพย ทาสที่เปนเชลยศกึ และทาสท่ีสมคั รเปน ทาสเอง อยา งใดอยา งหน่งึ . บทวา กมมฺ กาโร ไดแกไ มเกียจครานทําการงานเสมอทเี ดยี ว.
พระสตุ ตนั ตปฎก ทีฆนิกาย สีลขนั ธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 392 ชอื่ วา ปพุ พฺ ฏุ ายี ดว ยอรรถวา เห็นนายแตไกล ลกุ ขน้ึ กอ นทนั ท.ี ช่อื วา ปจฉฺ านปิ าตี ดวยอรรถวา ลกุ ขึน้ อยา งน้แี ลวปอู าสนะใหนายทาํ กจิ ที่ควรทํามีลางเทา เปนตน แลวจงึ พักผอน คอื นอนในภายหลงั . อีกนยั หนึ่ง ช่อื วา ปพุ พฺ ฏุ ายี ดวยอรรถวา ลุกขน้ึ กอน เมอื่ นายยงั ไมล กุ จากท่ีนอน. ชอ่ื วา ปจฉฺ านิปาตี ดว ยอรรถวา ทาํ กิจท้งั ปวงตัง้ แตเ ชาตรูจ นนายเขา นอนในราตรี ตนจึงพกั ผอ น คือนอนในภายหลงั . ชอ่ื วา กกึ ารปฏิสฺสาวี ดวยอรรถวา คอยเฝาฟงบญั ชาจะโปรดใหทําอะไรดวยต้งั ใจอยา งนี้วา เราจะทําอะไร. ชอื่ วา มนาปจารี ดวยอรรถวา ทาํ แตก ริ ิยาทนี่ าพอใจเทา นัน้ . ช่อื วา ปยวาที ดวยอรรถวา พูดแตคาํ ท่นี ารักเทานัน้ . ชอื่ วา มุขมลุ ฺลโิ ก ดวยอรรถวา คอยดูหนานายทีแ่ จม ใสราเริง. บทวา เทโว มเฺ ไดแ กเหมอื นเทวดา. บทวา โส วตสฺสาห ปฺุานิ กเรยยฺ ความวา แมเรานนั้ หนอก็พงึ เปนพระเจาแผน ดนิ อยา งองคน้ี ถา เราทําบญุ ทั้งหลาย. ปาฐะวา โส วตสสฺ าย ดงั นก้ี ็มี ความก็อยางนีเ้ หมอื นกนั . ดวยบทวา ยนฺนนู าห แสดงความคิดอยา งน้วี า ถาเราจักใหทานแมต ลอดชีวิตเรา ก็ไมอาจะใหแ มเ พียงสวนหนึ่งในรอ ยของทานที่พระราชาพระราชทานในวนั เดยี วได จงึ ทาํ อตุ สาหะในบรรพชา. บทวา กาเยน ส วุโต ไดแ กสาํ รวมกาย ปดประตูมใิ หอกศุ ลเขาไปได.
พระสุตตนั ตปฎก ทฆี นิกาย สีลขันธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ที่ 393 แมใ น ๒ บทท่ีเหลือกน็ ยั น้ีแหละ. บทวา ฆาสจฺฉาทนปรมตาย ความวา ดว ยความมอี าหารและเครือ่ งนงุ หม เปน อยา งยง่ิ คืออยา งสูง. อธบิ ายวา เพอื่ ประโยชนแกการบวชน้ีจรงิ ๆ จึงละอเนสนา สนั โดษดวยสัลเลขปฏิบตั ิอยา งเลศิ . บทวา อภิรโต ปวเิ วเก ความวา ยินดใี นวิเวก ๓ อยา ง ซ่งึ ทานกลาวไวอ ยางนี้วา กายวิเวก สาํ หรับผทู มี่ กี ายปลีกออกเพ่อื ความสงัด ๑จติ ตวเิ วก สาํ หรับผทู ย่ี ินดีการออกจากกาม ถึงความผองแผว อยางย่ิง ๑อุปธวิ เิ วก สาํ หรับบคุ คลหมดกเิ ลส หมดเคร่ืองปรงุ แตง ๑ ละความคลกุ คลดี ว ยหมู ปลีกกายอยูคนเดียว ละความเกลือกกลัว้ ดว ยกเิ ลสทางใจอยคู นเดียวดว ยอํานาจสมาบตั ิ ๘ เขา ผลสมาบตั หิ รอื นโิ รธสมาบัตแิ ลวบรรลุพระนิพพานอย.ู บทวา ยคเฺ ฆ เปน นบิ าต ใชใ นอรรถวา เตอื น. บทวา อาสเนนป นมิ นเฺ ตยฺยาม ความวา ควรจะจดั อาสนะสาํ หรบันง่ั แลว กลาววา นมิ นตน ่ังบนอาสนะนี้. บทวา อภนิ มิ นเฺ ตยยฺ ามป น ความวา ควรจะเชือ้ เชญิ เขาเขามา.ในการน้ัน มีการเช้อื เชญิ ๒ อยาง คือ ดว ยวาจาอยาง ๑ ดว ยกายอยา ง ๑. จรงิ อยู ทายกที่กลาววา ขาพเจา ขอแจงใหท ราบ ทานตอ งการสงิ่ ใดเชน จวี รเปน ตน โปรดบอกในขณะท่ที า นตอ งการทกุ คร้งั ดงั น้ี ชอ่ื วาเชื้อเชิญใหมาดว ยวาจา. สว นทายกที่สงั เกตเห็นวา จีวรเปนตนขาดแคลนจึงถวายจีวรเหลานั้นดวยกลา ววา โปรดรบั จวี รนี้ ดังน้ี ชื่อวา เช้ือเชญิ เขามาดว ยกาย. ทานกลาววา อภินิมนเฺ ตยยฺ ามป น หมายเอาการเช้ือเชิญท้ัง ๒
พระสุตตนั ตปฎ ก ทฆี นกิ าย สลี ขันธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนาท่ี 394อยา งน้นั . ก็ยาเปนท่สี บายแกค นไขอยา งใดอยางหน่ึง ชือ่ วา คิลานเภสชชฺ -ปริกฺขาร ในท่นี ้ี กค็ วามแหงคํากลาวไวแ ลว ในวสิ ทุ ธมิ รรค. บทวา รกขฺ าวรณคตุ ฺตึ ไดแ กก ารคุมครอง กลาวคือการรักษาและการปอ งกนั . กก็ ารคุม ครองที่เปน การรักษาและปองกันนี้นนั้ หาใชจัดบุรษุ ถอือาวุธยนื รกั ษาไว จะชือ่ วา คุม ครองเปน ธรรมไม เปน แตเ พียงจัดการรักษามใิ หคนหาฟน คนเก็บใบไมเ ปน ตน เขา ไปในวิหารในเวลาอัน ไมสมควรหรือมิใหพ รานเน้ือเปนตน จับเนอ้ื หรือปลาในเขตวิหาร ก็ชื่อวาคุมครองเปน ธรรม. ทา นกลา ววา ธมฺมิก หมายถึงการคุม ครองเปนธรรมทีก่ ลาวแลวนนั้ . บทวา ยทิ เอว สนฺเต ความวา ถาเมือ่ ทาสของพระองคไ ดรับปฏสิ ันถารมีอภิวาทเปน ตนจากสํานกั ของพระองคเ ชนน้ัน. คาํ วา อทธฺ า เปน คําจาํ กัดความลงไปสว นเดียว. บทวา ปม ความวา เมอ่ื กลาวถงึ ท่ี ๑ ยอมแสดงวา ยังมีทีอ่ ื่นๆตอ ไป. ดว ยบทวา ปม น่นั แหละ พระราชาจงึ ทูลวา สกกฺ า ปน ภนเฺ ตอฺ ป ดงั นเ้ี ปนตน . ชอ่ื วา ชาวนา ดวยอรรถวา ไถนา. ชื่อวา คฤหบดี ดวยอรรถวา เปน ใหญเฉพาะเรือน คือเปนหัวหนา เพียงในเรือนหลังเดียว. ชอ่ื วา ผเู สยี คาอากร ดว ยอรรถวา กระทาํ คา อากร กลาวคอื พลีให.
พระสุตตันตปฎก ทฆี นกิ าย สีลขนั ธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ที่ 395 ช่ือวา ผูเพมิ่ พูนพระราชทรัพย ดว ยอรรถวา เพิ่มพนู กองขาวเปลือกและกองทรพั ย. บทวา อปฺป วา ไดแกนอ ย โดยทีส่ ดุ แมเพียงขาวสารทะนานหน่งึ . บทวา โภคกขฺ นธฺ ไดแกก องโภคะ. บทวา มหนตฺ วา ไดแ กไ พบลู ย. เพ่อื แสดงวา กก็ ารท่ีจะละโภคะมากไปบวช ทําไดยาก ฉนั ใดโภคะแมน อยกล็ ะไปบวชไดย าก ฉันนนั้ ทานจึงกลา วไวเสยี ทัง้ ๒ อยาง. กจ็ ะวนิ จิ ฉัยในวาระแหง ทาส : เพราะเหตทุ ่ีทาสไมเปนอสิ ระแมแกคน จะปวยกลา วไปไยถึงโภคะทัง้ หลาย กท็ รพั ยใ ดของทาสนนั้ ทรัพยนั้นกเ็ ปน ของนายนน่ั เอง ฉะนน้ั จงึ มิไดถือวา เปนโภคะ. เครอื ญาติกค็ อื ญาตนิ นั่ แหละ. ขอวา สกฺกา ปน ภนเฺ ต อฺมป ทิฏเ ว ธมเฺ ม ความวา ในทีน่ ี้พระเจาอชาตศตั รมู ิไดท ูลวา เอวเมว. หากจะถามวา ขอนัน้ เพราะเหตไุ ร. แกว าเพราะถา เมือ่ พระเจาอชาตศตั รทู ูลวา เอวเมว พระผมู -ีพระภาคเจากจ็ ะทรงแสดงสามัญญผลโดยอุปมาท้งั หลายเหน็ ปานนั้น ตลอดวนั แมท้ังส้นิ หรือยิ่งข้นึ ไปกวานัน้ อยางเพยี งพอ พระเจาอชาตศัตรจู ะมวัสดับพระดํารัสของพระผมู พี ระภาคเจา อยูในที่นน้ั ไมมที ีส่ ้ินสุดโดยแท. แมถึงอยา งนั้น เนื้อความกจ็ กั มีอยเู ทา นัน้ เอง. พระเจาอชาตศัตรมู ีพระดาํ ริดงั น้ี เม่ือจะทูลถามใหว ิเศษขน้ึ ไป จงึ มิไดทูลวา เอวเมว แตท ลู ยิ่งขึ้นไปวา อภิกกฺ นฺตตร ปณตี ตร ดงั นี้ . ในพระบาลนี น้ั บทวา อภิกฺกนตฺ ตร ไดแกท่ีนาพอใจกวา คือประเสริฐยิ่งกวา.
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ทีฆนิกาย สลี ขนั ธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนาท่ี 396 บทวา ปณีตตร ไดแ กส ูงสดุ กวา . บทวา เตนหิ เปน นบิ าต ใชใ นอรรถวา สงเสรมิ . จรงิ อยู พระผมู ีพระภาคเจา เมอื่ จะทรงสงเสริมในการฟง จึงไดตรสั กะพระเจา อชาตศตั รูนน้ั อยางน้ี. บทวา สุณาหิ ความวา ขอพระองคจ งพึงสามญั ญผลทีด่ ีกวาและประณตี กวา. ก็ในบทวา สาธกุ มนสกิ โรหิ น้ี คําวา สาธกุ และ สาธุ นี้มีอรรถอยางเดยี วกัน. ก็สาธศุ พั ทนี้ แปลไดหลายอยาง เชน ขอโอกาส รบั คํา ทําใหรา เรงิ ดี และทําใหม นั่ เปนตน . ทีแ่ ปลวา ขอโอกาส เชนในประโยควา สาธุ เม ภนเฺ ต ภควาสงฺขติ ฺเตน ธมฺม เทเสตุ ขาแตพระองคผ เู จรญิ ดังขา พระองคขอโอกาสขอพระผูม ีพระภาคเจา โปรดแสดงธรรมโดยยอ แกข าพระองค ดงั นเ้ี ปน-ตน . ทแี่ ปลวา รับคาํ เชน ในประโยควา สาธุ ภนเฺ ตติ โข โส ภกิ ฺขุภควโต ภาสิต อภนิ นฺทติ วฺ า อนุโมทติ ฺวา ภกิ ษุน้ันรบั คาํ วา ดีละ พระเจาขา แลว ชนื่ ชมอนโุ มทนาภาษติ ของพระผมู ีพระภาคเจา ดงั นีเ้ ปนตน. ท่ีแปลวา ทาํ ใหราเริง เชน ในประโยควา สาธุ สาธุ สารีปตุ ฺตดแี ลว ดแี ลว สารบี ุตร ดังนี้เปน ตน. ท่ีแปลวา ดี เชนในคาถาเปนตน วา สาธุ ธมฺมรุจี ราชา สาธุ ปฺญาณวา นโร สาธุ มติ ฺตานมทฺทพุ โฺ ภ ปาปสฺสากรณ สุข
พระสตุ ตันตปฎก ทีฆนกิ าย สีลขนั ธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 397 พระราชาใฝธรรม ดี นระผูมีปญ ญา ดี ผไู มป ระทษุ รายมิตร ดี การไมทาํ บาป ดี. ท่แี ปลวา ทําใหมั่น เชนในประโยควา เตนหิ พรฺ าหมฺ ณ สาธกุ สณุ าหิ ดกู อ นพราหมณ ถา อยา งนัน้ ทานจงพึงใหด ี สาธุกศพั ทนนั่แหละ บางทา นแปลวา บังคบั กม็ ี. แมในท่ีนี้พงึ ทราบวา แปลวาทาํ ใหมั่นน้แี หละดว ย แปลวา บงั คบั ดว ย. แมจ ะแปลวา ดี ก็ควร. จรงิ อยู โดยแปลวาทาํ ใหมัน่ ยอมสองความวา จงฟงธรรมนี้ใหม นั่ยดึ ถอื ไวอยา งด.ี โดยแปลวา บงั คับ ยอมสองความวา จงฟงตามบังคับของเรา. โดยแปลวา ดี ยอ มสองความวา จงพึงธรรมนีใ้ หดี คอื ใหไดเน้อืถอยกระทงความ. บทวา มนสิกโรหิ ความวา จงนึกรวบรวม. อธบิ ายวา จงมจี ิตแนวแนเ งี่ยโสตต้งั ใจ. อีกอยา งหนึง่ คําวา สุณาหิ ในพระบาลีนี้ เปน การหา มความฟุงซานแหงโสตินทรีย. คาํ วา สาธุก มนสกิ โรหิ เปน การหามความฟุง ซานแหงมนินทรียโดยประกอบใหมนั่ ในมนสิการ. แลใน ๒ คําน้ี คําตน หา มถอื พยัญชนะคลาดเคล่อื น คาํ หลังหามถืออรรถคลาดเคล่อื น. แลดว ยคําตน ชกั ชวนใหฟง ธรรม ดว ยคาํ หลงั ชักชวนใหจําและ
พระสตุ ตนั ตปฎก ทฆี นิกาย สลี ขันธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนาท่ี 398ไตรต รองธรรมทฟี่ ง แลวเปนตน. แลดวยคําตน แสดงวา ธรรมนพี้ รอมพยญั ชนะ เพราะฉะนั้นจึงควรฟง ดวยคําหลังแสดงวาธรรมนีพ้ รอ มอรรถ เพราะฉะนัน้ จงึ ควรใสใจไวใหด.ี อกี อยางหนึ่ง บทวา สาธกุ พงึ ประกอบดวยบททง้ั ๒ (วา สาธุกสณุ าหิ สาธุก มนสกิ โรห)ิ . เพราะธรรมน้ลี กึ โดยธรรม และลกึ โดยเทศนา ฉะนั้น จึงตอ งฟงใหด ี และเพราะธรรมนีล้ ึกโดยอรรถและลกึ โดยปฏเิ วธ ฉะน้ัน จงึ ตอ งใสใจใหด ี พึงประกอบเนือ้ ควานอยางนีแ้ ล. บทวา ภาสิสฺสามิ ความวา เราจกั กลาวแสดงสามญั ญผลท่ไี ดปฏิญญาไวอ ยา งนว้ี า อาจ มหาบพิตร ดงั นี้ โดยพสิ ดาร. บทวา เทสิสฺสามิ เปน การแสดงโดยยอ. บทวา ภาสิสสฺ ามิ เปน การแสดงโดยพิสดาร. เพราะเหตนุ นั้ พระวังคสี เถระจงึ กลา ววา พระผูมพี ระภาคเจาเทศนาโดยยอบาง ตรสั โดยพสิ ดารบาง พระสรุ เสยี งกงั วาน ไพเราะเหมือนเสยี งนกสาลิกา พระปฏภิ าณก็ไว. เม่อื พระผูมีพระภาคะเจา ตรัสอยางน้แี ลว พระเจาอชาตศัตรูเวเทหิ-บตุ ร เจา แผน ดินมคธก็เกดิ พระอุตสาหะรบั พรอ มพระพทุ ธดํารสั อธิบายวา รบั เฉพาะแลว . ครงั้ นน้ั พระผูม ีพระภาคเจา ไดต รสั พระดํารัสนีแ้ ก พระเจา-อชาตศตั รูนั้น. อธบิ ายวา ไดตรัสพระสูตรท้ังสน้ิ มีคาํ วา อิธ มหาราช
พระสุตตันตปฎ ก ทีฆนกิ าย สีลขนั ธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ที่ 399เปนตน ท่คี วรจะตรสั ในบดั นี้. บทวา อธิ ในพระบาลนี นั้ เปน นบิ าต ใชในอรรถอา งถงึ ทองถนิ่ .อธิ ศพั ทน น้ี นั้ บางแหง ทา นกลาวหมายถงึ โลก อยา งท่กี ลา ววา พระตถาคตยอ มเกดิ ขึ้นในโลกนี้. บางแหง หมายถงึ ศาสนา อยา งที่ตรัสวา ดกู อ นภิกษุทัง้ หลาย สมณะที่ ๑ มใี นศาสนานเ้ี ทา น้ัน สมณะท่ี ๒ ก็มีในศาสนาน้.ี บางแหงหมายถงึ โอกาส อยา งทีก่ ลา ววา เมอื่ เราเปนเทวดาดาํ รงอยใู นโอกาสนี้ เราตอ อายไุ ดอีกจริง ๆ จงทราบ อยา งนเี้ ถดิ ทา น. บางแหง เปนเพยี งปทปูรณะเทาน้นั อยางท่ตี รัสวา ดูกอนภิกษทุ ง้ั -หลาย เราบรโิ ภคแลว หา มภัตแลว. กใ็ นทีน่ ี้ พงึ ทราบวา ตรัสหมายถึงโลก. บทวา มหาราช ความวา พระผมู พี ระภาคเจา ตรสั เรียกวา มหา-บพิตรอีก เพ่อื ทรงแสดงเทศนาตามท่ที รงปฏิญญาไว. คําน้ีมีอธบิ ายวาดกู อ นมหาบพิตร ตถาคตยอ มเกดิ ข้ึนในโลกน้ี เปน พระอรหนั ต. ....เปนผเู บกิ บานแลว เปนผจู ําแนกพระธรรม. ตถาคต ศัพทใ นพระบาลนี ัน้ ตรสั ไวใ นพรหมชาลสตู ร ศัพทว าอรห เปนตน กลาวไวใ นวิสทุ ธมิ รรคโดยพิสดาร. กใ็ นพระบาลีวา โลเก อปุ ฺปชฺชติ นี้ คาํ วา โลกมี ๓ อยาง คอืโอกาสโลก สตั วโลก สงั ขารโลก. แตในทีน่ ้ีประสงคส ตั วโลก. พระตถาคตแมเมือ่ เกิดในสตั วโลก จะไดเกดิ ในเทวโลกหรอื พรหมโลกกห็ าไม
พระสุตตนั ตปฎก ทีฆนกิ าย สีลขันธวรรค เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 400ยอมเกิดในมนษุ ยโลกเทาน้นั . แมใ นมนษุ ยโลก ก็ไมเกดิ ในจักรวาลอน่ืยอมเกิดในจกั รวาลน้ีเทา น้นั . แมใ นจักรวาลนีน้ ้นั กไ็ มเ กดิ ในทท่ี ่ัวไปยอมเกดิ ในมชั ฌมิ ประเทศ โดยยาว ๓๐๐ โยชน โดยกวา ง ๒๕๐ โยชนโดยวงรอบ ๙๐๐ โยชน ซึง่ ทานกําหนดไวอ ยา งนว้ี า ทศิ ตะวันออกมนี คิ มช่อื ชังคละ, ตอ จากนิคมชอ่ื ชงั คละนัน้ มีนคิ มชื่อมหาสาละ, ตอจากนนั้เปน ปจ จันตชนบท, รว มในเปนมชั ฌิมชนบท. ทิศตะวันออกเฉยี งใตมแี มนาํ้ ชือ่ สลั ลวดี, ตอจากนั้นเปน ปจจันตชนบท, รว มในเปนมัชฌมิ -ชนบท. ในทศิ ใตมนี คิ มช่ือเสตกัณณิกะ, ตอ จากนนั้ เปนปจ จันตชนบท,รว มในเปนมัชฌิมชนบท. ทศิ ตะวนั ตกมพี ราหมณคามชอ่ื ถูนะ, ตอ จากนน้ั เปน ปจจัยนตชนบท, รวมในเปนมัชฌิมชนบท. ทศิ เหนือมีภูเขาชือ่อสุ ีรธชะ, ตอจากนั้นเปนปจ จนั ตชนบท, รวมในเปนมชั ฌมิ ชนบท.และมิใชแ ตพ ระตถาคตเทานนั้ พระปจเจกพทุ ธเจาทงั้ หลาย พระอคั ร-สาวกทงั้ หลาย พระอสีตมิ หาเถระทง้ั หลาย พระพทุ ธมารดา พระพทุ ธ-บดิ า พระเจาจักรพรรดิ พราหมณแ ละคฤหบดที ม่ี หี ลักฐานอืน่ ๆ ยอ มเกิดในมชั ฌมิ ประเทศนเ้ี ทานัน้ . ในคําวา ตถาคโต โลเก อปุ ฺปชฺชติ นั้น พระตถาคต ตัง้ แตเสวยขาวมธปุ ายาสทน่ี างสชุ าดาถวายจนถึงอรหัตตมรรค ชอื่ วายอมอบุ ัติเมอ่ื บรรลอุ รหัตตผล ชือ่ วา อุบตั แิ ลว หรอื วาต้ังแตมหาภเิ นษกรมณจนถึงอรหัตตมรรค หรือวาตั้งแตภพชัน้ ดุสิตจนถึงอรหตั ตมรรคหรือวา ต้ังแตบาทมลู ของพระพุทธเจา ที่ปงกรจนถึงอรหตั ตมรรค ช่อื วายอ มอุบตั ิ เมอ่ืบรรลุอรหัตตผล ชอ่ื วาอบุ ตั ิแลว. คาํ วา อปุ ฺปชชฺ ติ ในพระบาลีนี้ทานกลา ว
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 585
Pages: